Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้2565

แผนการจัดการเรียนรู้2565

Published by wirat pimpa, 2022-08-05 16:26:50

Description: แผนการจัดการเรียนรู้2565

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา การออกแบบเทคโนโลยีและวิทยาการคำนวณ 2 ว22103 ปีการศึกษา 2565 นายวิรัตน์ พิมพา ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา นนทบุรี

บันทกึ ข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนเตรยี มอดุ มศึกษาพัฒนาการ นนทบรุ ี อำเภอเมือง จงั หวดั นนทบรุ ี ท่ี วนั ท่ี 9 พฤษภาคม 2565 เรอื่ ง ขออนุญาตใช้แผนการจดั การเรียนรู้ เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรียนเตรยี มอุดมศกึ ษาพัฒนาการ นนทบุรี ด้วยข้าพเจ้า นายวิรัตน์ พิมพา ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดทำ และปรับแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณและการออกแบบเทคโนโลยี 2 รหัสวิชา ว22103 ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตใช้แผนการจัดการเรียนรู้และสื่อประกอบการ จัดกิจกรรมการเรียนการสอน จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดพิจารณา (นายวริ ัตน์ พิมพา) ครูผูส้ อน ความเห็นของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ ความเหน็ ของหวั หน้างานนิเทศติดตามประเมินผล ................................................................... ............................................................................... ลงชอื่ ......................................................... (นายชวลิต สุจรติ ) ลงชอ่ื ........................................................... (นางชบาไพร สืบสำราญ) เรยี น ผู้อำนวยการโรงเรียน 1. เพอื่ โปรดทราบ 2. .............................................. ลงชื่อ................................................  อนุญาต  ไมอ่ นญุ าต (นางบณุ ฑรกิ ศรีบุญเรือง) รองผ้อู ำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ ลงชือ่ ........................................................... (นางธราภรณ์ พรหมคช) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นเตรียมอุดมศึกษาพฒั นาการ นนทบุรี

คำอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 รายวชิ า การออกแบบเทคโนยีและวิทยาการคำนวณ 2 รหัสวชิ า ว22103 จำนวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาแนวคิดเชงิ คำนวณ การแก้ปญั หาโดยใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณ การเขียนโปรแกรมท่ีมีการใช้ ตรรกะและฟังก์ชัน องค์ประกอบและหลักการท างานของระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสื่อสารแนว ทางการปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาท่ีไม่เหมาะสม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ วิธีการ สร้างและกำหนดสิทธคิ วามเป็นเจ้าของผลงานนำแนวคิดเชิงคำนวณไปประยุกต์ใชใ้ นการเขียนโปรแกรม หรือการแก้ปัญหาในชีวิตจริง สร้างและกำหนดสิทธิ์การใช้ข้อมูล ตระหนักถึงผลกระทบในการเผยแพร่ ข้อมูล ศึกษาสาเหตุหรือปจจัยท่ีทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี เลือกใชเทคโนโลยีโดยคํานึงถึง ผลกระทบท่ีเกิดขึ้นตอชีวิต สังคม และส่ิงแวดลอม ประยุกตใชความรูทักษะ และทรัพยากร โดยวิเคราะห เปรียบเทียบและเลือกขอมูลที่จําเปนเพื่อออกแบบวิธีการแกปญหาในดานพลังงาน ส่ิงแวดลอม การเกษตรและอาหาร และสรางชิ้นงานหรือพัฒนาวิธีการโดยใชกระบวนการออกแบบเชิง วศิ วกรรม รวมทง้ั เลือกใชวัสดุ อปุ กรณ เคร่อื งมอื ในการแกปญหาไดอยางถูกตองเหมาะสม และปลอดภยั มาตรฐานตวั ชว้ี ดั ว 4.1 เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ว 4.1 ม.2/1 คาดการณแ์ นวโนม้ เทคโนโลยีท่จี ะเกิดขึน้ โดยพจิ ารณาจากสาเหตุหรือปจั จัย ท่ีส่งผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยแี ละวิเคราะห์ เปรยี บเทียบตัดสินใจ เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ีเกดิ ขึน้ ต่อชวี ิตสงั คมและสิง่ แวดล้อม ว 4.1 ม.2/2 ระบุปญั หาหรือความต้องการในชุมชนหรอื ท้องถน่ิ สรปุ กรอบของปญั หา รวบรวมวเิ คราะห์ข้อมลู และแนวคิดทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับปญั หา ว 4.1 ม.2/3 ออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา โดยวิเคราะหเ์ ปรียบเทียบ และตดั สนิ ใจเลือกข้อมลู ทจี่ ำเปน็ ภายใตเ้ ง่อื นไขและทรัพยากรทม่ี อี ยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ ผอู้ ื่นเขา้ ใจ วางแผนข้ันตอนการทำงานและดำเนนิ การแก้ปัญหาอย่างเป็นขนั้ ตอน ว 4.1 ม.2/4 ทดสอบ ประเมินผล และอธบิ ายปญั หาหรอื ข้อบกพรอ่ งทเ่ี กิดขึ้น ภายใต้กรอบ เง่ือนไขพร้อมทงั้ หาแนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข และนำเสนอผลการแก้ปัญหา ว 4.1 ม.2/5 ใช้ความรู้และทักษะเกย่ี วกับวัสดุอุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไกไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ เพอื่ แก้ปัญหาหรือพัฒนางานได้อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั ว 4.2 เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ว 4.2 ม.2/1 ออกแบบอัลกอริทึมท่ีใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาหรือการทำงานที่พบ ในชวี ิตจริง ว 4.2 ม.2/1 ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใชต้ รรกะและฟงั ก์ชันในการแก้ปญั หา ว 4.2 ม.2/3 อภปิ รายองคป์ ระกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอรแ์ ละ เทคโนโลยีการส่อื สารเพ่ือประยุกตใ์ ช้งานหรอื แก้ปัญหาเบ้ืองตน้ ว 4.2 ม.2/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มคี วามรบั ผดิ ชอบ สร้างและแสดงสทิ ธิ์ ในการเผยแพรผ่ ลงาน รวม 9 ตวั ช้ีวัด

โครงสร้าง กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทย รายวชิ า การออกแบบเทคโนโลยแี ละวทิ ยาการคำนวณ 2 รหัสว อตั ราส่วนคะแนนเกบ็ ระหว่างภาค : กลางภา ชอ่ื ครูผสู้ อน นา ภาคเรียนท่ี 1 ป สปั ดาหท์ ี่ ช่ือหน่วยการเรียน จำนวนคาบ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั 1-2 ระบบคอมพิวเตอรแ์ ละ 4 ว 4.2 ม.2/3 อภปิ ราย เทคโนโลยกี ารส่ือสาร องค์ประกอบและหลักการทำงา ของระบบคอมพวิ เตอร์และ เทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อ ประยกุ ต์ใชง้ านหรือแกป้ ัญหา เบอ้ื งต้น ว 4.2 ม.2/4 ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอย่างปลอดภัย มีควา รับผดิ ชอบ สรา้ งและแสดงสิทธใ์ิ การเผยแพรผ่ ลงาน

1 งรายวิชา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วชิ า ว22103 จำนวน 1.0 หน่วยการเรยี น ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 าค : คะแนนสอบปลายภาค = 60 : 20 : 20 ายวริ ัตน์ พิมพา ปกี ารศกึ ษา 2565 เร่อื ง/สาระการเรียนรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน การประเมินผล นำ้ หนัก คะแนน องค์ประกอบและหลักการ ออกแบบโปสเตอร์ แบบ 5 าน ทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ถา้ พ่อ-แม่ ไม่ได้อยู่ ประเมนิ ผลงาน เทคโนโลยีการสื่อสาร การ ในใจจะเปน็ อะไร ประยกุ ตใ์ ช้งานและการ ในคอม แก้ปญั หาเบื้องตน้ ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั โดย เลอื กแนวทางปฏบิ ัติเมื่อพบ าม เนือ้ หาท่ีไมเ่ หมาะสม เช่น แจ้ง ใน รายงานผู้เก่ยี วข้อง ปอ้ งกันการ เขา้ มาของขอ้ มูลที่ไมเ่ หมาะสม ไมต่ อบโต้ไมเ่ ผยแพร่ การใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งมี

สปั ดาหท์ ่ี ชือ่ หน่วยการเรียน จำนวนคาบ มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด 3-4 การออกแบบอัลกอ 4 ว 4.2 ม.2/1 ออกแบบอลั กอริท ริทมึ เพ่ือการแก้ปัญหา ทีใ่ ช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการ แก้ปัญหา หรือการทำงาน ที่พบ 5-14 การเขียนโปรแกรม ชีวิตจรงิ Python 20 ว 4.2 ม.2/2 ออกแบบและเขียน โปรแกรม ทีใ่ ช้ตรรกะและฟังก์ช ในการแก้ปัญหา 15 สอบก 16 การเปลี่ยนแปลงของ 2 ว4.1 ม.2/1 คาดการณ์แนวโนม้ เทคโนโลยี เทคโนโลยีทจ่ี ะเกดิ ข้นึ โดย พิจารณาจาก สาเหตุหรือปจั จัยท ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงของ

เร่ือง/สาระการเรยี นรู้ ชิน้ งาน/ภาระงาน การประเมนิ ผล 2 นำ้ หนัก ความรับผิดชอบเชน่ ตระหนัก ใบงานเรอ่ื ง หยิบ ตรวจใบงาน คะแนน ถึงผลกระทบในการเผยแพร่ ยกยา้ ย ตรวจใบงาน ข้อมูล การสร้างและแสดงสทิ ธิ์ ใบงานเรอื่ ง รหัส ตรวจใบงาน 5 ความเปน็ เจา้ ของผลงาน การ จำลอง แบบประเมนิ 5 กำหนดสทิ ธิการใช้ข้อมูล ใบงานเรอ่ื ง กล่อง ผลงาน 5 ทึม การนำแนวคดิ เชงิ คำนวณมาใช้ ใส่ตัวเลข ในการแกป้ ัญหาเพอ่ื ใหเ้ กิดผล ใบงานเรอ่ื ง เขยี น ตรวจใบงาน 10 บใน ลพั ธข์ องการแกป้ ญั หาท่ีมี โปรแกรม ประสทิ ธภิ าพ 20 น การออกแบบและเขียน ใบงาน เรอ่ื งการ 5 ชัน โปรแกรมทมี่ ีการใชต้ รรกะและ เปลย่ี นแปลงของ ฟังกช์ นั ซอฟต์แวรท์ ีใ่ ชใ้ นการ เทคโนโลยี เขยี นโปรแกรม ไดแ้ ก่ python เพ่อื นำมาใชใ้ นการแกป้ ัญหา อย่างเป็นขนั้ ตอน จะช่วยให้ แกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพ กลางภาค ม เทคโนโลยีมีการพัฒนาอยา่ ง ตอ่ เนอ่ื ง เพ่ือตอบสนองความ ท่ี ตอ้ งการของมนษุ ย์และสังคม เพื่อสร้างความสะสวกสบายต่อ

สปั ดาห์ที่ ชือ่ หน่วยการเรยี น จำนวนคาบ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั เทคโนโลยแี ละวิเคราะห์ เปรยี บเทียบ ตดั สนิ ใจเลือกใช้ เทคโนโลยี โดยคำนงึ ถึงผลกระท ทเี่ กิดขน้ึ ต่อชวี ิต สังคม และ สิง่ แวดล้อม 17-18 กระบวนการออกแบบ 4 ว4.1 ม2/2 ระบปุ ญั หาหรือความ เชิงวิศวกรรม ต้องการในชุมชนหรอื ท้องถิ่น สร กรอบของปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่ เก่ยี วขอ้ งกบั ปัญหา ว4.1 ม.2/3 ออกแบบวธิ กี าร แกป้ ญั หา โดยวเิ คราะห์ เปรยี บเทียบและตัดสนิ ใจเลือก ข้อมลู ที่จำเปน็ ภายใตเ้ ง่ือนไขแล ทรัพยากรที่มีอยู่ นำเสนอแนวท การ แก้ปญั หาใหผ้ ้อู ่ืนเข้าใจ วางแผน ขน้ั ตอนการทำงานและ ดำเนิน การแก้ปัญหาอย่างเป็น ขน้ั ตอน ว4.1 ม.2/4 ทดสอบ ประเมนิ ผล และอธบิ ายปัญหาหรือข้อบกพร

3 เร่อื ง/สาระการเรยี นรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน การประเมนิ ผล นำ้ หนกั คะแนน ชวี ิต รวมถึงเพอื่ แก้ปญั หาต่าง ใบงาน เรือ่ ง ตรวจใบงาน 5 ๆ ท่ีเกดิ ขน้ึ ในสงั คมใหด้ ีข้นึ ผลกระทบของ ทบ กว่าเดมิ อีกท้งั ยังเป็นตวั การ เทคโนโลยี สำคญั ในการเขา้ มาเสริม ปัจจัยพืน้ ฐานในการดำรงชวี ิต เป็นอย่างดี ม การระบปุ ัญหา จำเป็นตอ้ งมี งานกลุม่ นำเสนอ แบบประเมิน 10 รปุ การวิเคราะหส์ ถานการณข์ อง กระบวนการ นำเสนอผลงาน ปญั หาเพื่อสรุปกรอบของ ออกแบบเชงิ ปญั หา แลว้ ดำเนนิ การสบื ค้น วศิ วกรรม รวบรวมข้อมลู ความรจู้ าก ศาสตรต์ า่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วข้อง เพื่อ นำไปสกู่ ารออกแบบแนว ทางการแก้ปัญหา ซึ่งการ ละ ออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา ทาง นัน้ ทำได้หลากหลายวิธี และ ต้องกำหนดข้ันตอนระยะเวลา ะ ในการทำงานก่อนดำเนินการ แกป้ ญั หาจะช่วยให้การทำงาน สำเร็จได้ตามเป้าหมาย และลด ล ขอ้ ผิดพลาดของการทำ งานที่ รอ่ ง อาจเกิดขน้ึ ได้ จากน้นั ต้องมี

สปั ดาห์ท่ี ชอ่ื หน่วยการเรยี น จำนวนคาบ มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด ท่ีเกดิ ขึน้ ภายใต้กรอบเง่ือนไข พร้อมทงั้ หาแนวทางการปรับปร แก้ไข และนำเสนอผลการ แกป้ ญั หา 19 วัสดแุ ละอุปกรณ์ของ 2 ว4.1 ม.2/5 ใช้ความรู้ และทักษ เทคโนโลยี เก่ยี วกบั วสั ดุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมือ กลไก ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส เพ่ือแกป้ ญั หาหรือพัฒนางานได้ อย่างถูกต้อง เหมาะสม และ ปลอดภัย 20 สอบป รวมคะแน

เรือ่ ง/สาระการเรยี นรู้ ชนิ้ งาน/ภาระงาน การประเมินผล 4 ตรวจใบงาน น้ำหนัก การทดสอบและประเมินเปน็ ใบงาน เรือ่ ง วสั ดุ คะแนน รุง การตรวจสอบช้นิ งาน หรือ อุปกรณ์ เครอื่ งมือ 10 วธิ กี ารวา่ สามารถแกป้ ญั หาได้ ตามวัตถุประสงคภ์ ายใต้กรอบ 20 ของปญั หาเพื่อหาข้อบกพร่อง 100 และดำเนินการปรบั ปรงุ ให้ สามารถแก้ไขปัญหาได้ ษะ ซ่ึงวัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติ อ แตกต่างกนั เช่น ไม้โลหะ ส์ พลาสตกิ จึงต้องมีการวเิ คราะห์ สมบตั เิ พ่ือ เลือกใช้ให้เหมาะสม กับลักษณะของงานท่ีจะนำมา ทำ ซง่ึ อปุ กรณแ์ ละเคร่ืองมือ ในการสรา้ งช้นิ งานหรอื พัฒนา วิธกี ารมีหลายประเภท ต้องมี การเลือกใชใ้ ห้ถูกต้องเหมาะสม และปลอดภยั รวมทง้ั รู้จักเก็บ รักษา ปลายภาค นน

โครงร่าง กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทย รายวิชา วิทยาการคำนวณและการออกแบบเทคโนโลยี 2 รหสั วิช อตั ราสว่ นคะแนนเก็บระหวา่ งภาค : กลางภาค : คะแนนสอบป ภาคเรียนที่ 1 ปกี สปั ดาห์ท่ี หนว่ ยการเรียน จำนวน มาตรฐาน คาบ ตัวชี้วัด/ผ การเรียน 1-2 ระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีการสอ่ื สาร 4 ว 4.2 ม.2/3 ว 4.2 ม.2/4 3-4 การออกแบบอลั กอรทิ ึมเพื่อการแก้ปญั หา 4 ว 4.2 ม.2/1 5-14 การเขยี นโปรแกรม Python 20 ว 4.2 ม.2/2

5 งการสอน ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชา ว22103 จำนวน 1.0 หน่วยการเรียน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ปลายภาค = 60 : 20 : 20 ช่อื ครูผู้สอน นายวริ ัตน์ พมิ พา การศึกษา 2565 น/ เรอ่ื ง/สาระการเรยี นรู้ ชิ้นงาน/ภาระ การประเมินผล คะแนน ผล งาน 5 นรู้ 5 3 องคป์ ระกอบและหลกั การ ออกแบบ แบบประเมินผล 5 5 4 ทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ โปสเตอร์ถา้ พ่อ- งาน 10 เทคโนโลยีการส่ือสาร แม่ ไม่ได้อยู่ใน ใจจะเป็นอะไร ในคอม 1 การนำแนวคดิ เชิงคำนวณมาใช้ ใบงานเรอ่ื ง ตรวจใบงาน ในการแก้ปัญหาเพื่อใหเ้ กิดผล หยิบยกย้าย ลัพธข์ องการแก้ปญั หาท่ีมี ใบงานเรือ่ ง ตรวจใบงาน ประสทิ ธิภาพ รหัสจำลอง 2 การออกแบบและเขียน ใบงานเรอ่ื ง ตรวจใบงาน โปรแกรมที่มีการใช้ตรรกะและ กลอ่ งใส่ตวั เลข ฟังก์ชัน ซอฟต์แวร์ทใี่ ชใ้ นการ ใบงานเร่ือง ตรวจใบงาน

15 สอบก 16 การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี 2 ว4.1 ม.2/1 17-18 กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม 4 ว4.1 ม2/2 ว4.1 ม.2/3 ว4.1 ม.2/4 19 วสั ดุและอุปกรณ์ของเทคโนโลยี 2 ว4.1 ม.2/5 20 สอบป รวมคะแน

เขียนโปรแกรม ได้แก่ python เขยี นโปรแกรม 6 เพอ่ื นำมาใชใ้ นการแก้ปัญหา 20 5 อย่างเป็นขั้นตอน จะชว่ ยให้ 5 10 แกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ 10 กลางภาค 20 100 1 เทคโนโลยีมกี ารพฒั นาอย่าง ใบงาน เรอื่ งการ ตรวจใบงาน ตอ่ เน่ือง เพื่อตอบสนองความ เปลย่ี นแปลง ตอ้ งการของมนุษย์และสงั คม ของเทคโนโลยี เพอ่ื สร้างความสะสวกสบายต่อ ใบงาน เรื่อง ตรวจใบงาน ผลกระทบของ เทคโนโลยี กระบวนการออกแบบเชงิ งานกล่มุ แบบประเมิน 3 วศิ วกรรม การระบุปัญหา นำเสนอ นำเสนอผลงาน 4 รวบรวมข้อมลู ออกแบบ กระบวนการ แนวทางการแกป้ ัญหา ออกแบบเชงิ วางแผนและดำเนนิ การ วศิ วกรรม แกป้ ัญหาทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรุง นำเสนอวิธกี าร แก้ปัญหา 5 วสั ดุและอุปกรณ์ ไมโ้ ลหะ ใบงาน เรื่อง ตรวจใบงาน พลาสตกิ จงึ ต้องมีการวเิ คราะห์ วัสดุ อุปกรณ์ สมบตั ิเพ่ือ เลอื กใช้ให้เหมาะสม เครอื่ งมือ ปลายภาค นน

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 . รายวิชา การออกแบบฯและวิทยการคำนวณ2 รหัสวิชา ว 22103 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2565 . หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง แนวคิดเชงิ คำนวณ จำนวน 2 คาบ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวติ จรงิ อยา่ งเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/1 ออกแบบอลั กอรทิ มึ ทใี่ ช้แนวคิดเชงิ คำนวณ ในการแกป้ ญั หาหรอื การทำงานท่ีพบใน ชวี ติ จริง 2. จุดประสงค์การเรียนรสู้ ู่ตัวช้ีวัด 1. บอกความหมายของแนวคิดเชิงคำนวณได้ (K) 2. อธิบายองค์ประกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณได้ (K) 3. เขียนภาพการทำงานขององค์ประกอบแนวคดิ เชิงคำนวณได้ (P) 4. สนใจใฝร่ ้ใู นการศกึ ษา (A) 3. สาระสำคญั แนวคิดเชิงคำนวณ คือ แนวคิดในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ อย่างเปน็ ระบบ และเปน็ กระบวนการท่มี ี ลำดบั ข้นั ตอนชดั เจน โดยกระบวนการแก้ปัญหาดังกลา่ วน้เี ป็นกระบวนการทม่ี นษุ ย์ และคอมพวิ เตอร์ สามารถเขา้ ใจร่วมกันได้ ซง่ึ แนวคดิ เชิงคำนวณนเ้ี ป็นแนวคิดทสี่ ำคัญสำหรบั การพฒั นาซอฟต์แวร์ คอมพวิ เตอร์ เพราะการเขยี นโปรแกรมถา้ ไม่ได้เกิดขนึ้ จากแนวคดิ เชงิ คำนวณ จะทำใหโ้ ปรแกรม คอมพิวเตอร์ทำงานช้าไมต่ รงตามทีต่ ้องการ ดังนัน้ จงึ ควรนำแนวคิดเชิงคำนวณเข้ามาใช้ในการแกป้ ัญหา เพือ่ ให้เกิดผลลัพธ์ของการแก้ปญั หาที่มปี ระสิทธภิ าพ 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน(ให้เลือกเขียนเฉพาะหวั ข้อที่สอดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนในแต่ละหนว่ ย และต้องประเมนิ ไดจ้ ริง)  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี  ความสามารถในการสือ่ สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

5. ทักษะนักเรียนในศตวรรษที่ 21  ทักษะด้านการเรยี นรู้และนวัตกรรม  ทกั ษะด้านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี  ทกั ษะด้านชวี ิตและอาชีพ 6. การบูรณาการการเรียนรู้  หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  โรงเรียนคณุ ธรรม  สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน  โรงเรียนสจุ ริต/ตา้ นทุจรติ  อื่น ๆ (ระบ)ุ ..........................................................................  สงิ่ แวดล้อม 7. การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน (ใหเ้ น้นผู้เรียนเปน็ สำคัญด้วยวธิ ีการสอน เทคนิคการสอน กระบวนการสอนท่หี ลากหลายเหมาะสมกบั รายวิชา) ขั้นนำ ขน้ั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 1. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 แนวคดิ เชงิ คำนวณกับการแก้ปญั หา เพอ่ื วัดความรู้เดมิ ของนักเรียนกอ่ นเขา้ สูก่ ิจกรรม 2. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อวา่ “นักเรยี นคดิ วา่ มนษุ ยน์ ำแนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกตใ์ ช้ ในชวี ิตประจำวันไดอ้ ย่างไร” (แนวตอบ : สามารถนำแนวคิดเชงิ คำนวณมาประยกุ ต์ใช้ในด้านการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวนั ด้านการเรียน และด้านการทำงาน) ข้ันสอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นกั เรยี นศึกษาความหมายและองค์ประกอบของแนวคดิ เชิงคำนวณ จากหนังสือเรยี นรายวิชา พ้ืนฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่ืองแนวคดิ เชงิ คำนวณ กบั การแกป้ ญั หา หรอื ศึกษาเพม่ิ เตมิ ผ่านทางอินเทอร์เน็ตจากเครื่องคอมพิวเตอรข์ องตนเอง ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 2. ครสู มุ่ นักเรียน 3-4 คน ออกมาอธิบายความหมายและองค์ประกอบท้ัง 4 ข้อของแนวคิดเชงิ คำนวณตามทนี่ ักเรยี นได้ศึกษา 3. จากนัน้ ครูอธิบายเพิม่ เติมเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจมากยิ่งขึน้ ว่า“อาชีพบรุ ุษไปรษณยี จ์ ะต้องนำ จดหมายหรือพสั ดุจดั ส่งไปตามทีอ่ ยู่ทไ่ี ด้ระบุไว้แตเ่ นอ่ื งจากจดหมายหรอื พสั ดทุ ่ีต้องจดั ส่ง มจี ำนวนมาก ทำใหบ้ รุ ุษไปรษณียต์ อ้ งทำการจดั หมวดหมู่ตามบ้านเลขท่ี เพอ่ื ใหส้ ะดวกต่อ การหยิบและรวดเร็วในการทำงาน ดังนนั้ อาชีพบรุ ุษไปรษณยี จ์ ึงเป็นหนึ่งในหลายอาชีพ ทอี่ าศยั แนวคดิ เชิงคำนวณมาใช้ในการทำงาน เพอื่ ให้ไดง้ านออกมาอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ มากทส่ี ุด”

4. ครนู ำบตั รภาพ เรื่อง องคป์ ระกอบแนวคดิ เชิงคำนวณให้นักเรยี นดเู พื่อใหน้ ักเรียนไดเ้ ห็น ภาพการทำงานขององค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณ พร้อมยกตวั อย่างประกอบเพ่อื ให้นักเรยี น เขา้ ใจมากย่ิงข้ึน ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 5. ครซู กั ถามนักเรียนเพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจว่า“องคป์ ระกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณแบ่งออก เป็นกอี่ งค์ประกอบอะไรบา้ ง” (แนวตอบ : องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณแบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. แนวคิดการแยกย่อย 2. แนวคิดการหารูปแบบ 3. แนวคิดเชงิ นามธรรม 4. แนวคิดการออกแบบขั้นตอนวธิ ี) 6. นักเรยี นทำใบงานท่ี 1.1.1 เรอ่ื ง องคป์ ระกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณ โดยเขยี นภาพ การทำงานขององคป์ ระกอบแนวคิดเชงิ คำนวณจากสถานการณ์ท่ีกำหนดให้ Note วัตถุประสงค์ของกจิ กรรมเพือ่ ให้นกั เรยี น - มที ักษะการส่ือสารโดยการแลกเปล่ียนความคิดเห็นรว่ มกันภายในชั้นเรียนผ่าน การคิดวเิ คราะห์ในการแก้ปัญหาท่ีถูกต้องจากสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ - มที ักษะการสืบคน้ ข้อมูล โดยให้นักเรียนแต่ละคนสืบคน้ ข้อมูลจากทางอินเทอร์เนต็ เพ่ือสบื เสาะหาความรู้เพิ่มเตมิ ภายใต้หวั ข้อท่ีไดร้ บั มอบหมาย - มที กั ษะการคิดเชิงคำนวณ โดยใหน้ ักเรียนพิจารณาจากสถานการณ์ทีก่ ำหนดให้ และเขยี นอธิบายออกมาผา่ นแนวคิดในรูปแบบตา่ ง ๆ ของแนวคดิ เชิงคำนวณได้อย่างถูกตอ้ ง และเหมาะสม ข้นั สรุป ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลงานนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และ การทำใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลการทำใบงานท่ี 1.1.1 3. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ เก่ียวกบั แนวคิดเชงิ คำนวณว่า“แนวคดิ เชิงคำนวณไม่ได้เปน็ กระบวนการทางความคดิ เฉพาะนักวทิ ยาศาสตร์หรอื นักพฒั นาซอฟต์แวรค์ อมพวิ เตอร์ แต่สามารถนำมาประยุกต์ใชใ้ นการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชวี ติ ได้” 8. สือ่ การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เร่ือง แนวคิดเชิงคำนวณกับการแก้ปัญหา 2. ใบงานที่ 1.1.1 เร่อื ง องค์ประกอบของแนวคดิ เชิงคำนวณ

3. บัตรภาพ เร่อื ง องคป์ ระกอบแนวคดิ เชิงคำนวณ 4. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ 9. การวดั และประเมินผล ดา้ น วิธีการวดั ผลและการประเมินผล เครอื่ งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัด ใบงานท่ี 1.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ความรู้ (K) ตรวจใบงานที่ 1.1.1 แบบประเมนิ ระหวา่ งการจัด ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น กิจกรรม เกณฑ์ ทกั ษะ/ ประเมินระหวา่ งการจัดกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน กระบวนการ (P) การทำงานรายบคุ คล เกณฑ์ คุณธรรม จรยิ ธรรม สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน และค่านิยม (A) รายบุคคล เกณฑก์ ารประเมิน ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ 1 ดา้ น 5432 ความรู้ (K) แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) เรียนรูท้ ่ี1 เร่ือง แนวคิดเชิงคำนวณ กับการแก้ปัญหา การประเมินระหวา่ งการจักจิ กรรม คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม (A) พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล การแปลความหมาย ระดบั 4 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพดีมาก ระดบั 5 หมายถึง มีระดับคุณภาพดีเยี่ยม ระดบั 2 หมายถงึ มีระดับคุณภาพปานกลาง ระดับ 3 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพดี ระดบั 1 หมายถึง มีระดับคุณภาพพอใช้ 10. บันทึกผลหลังการสอน 10.1 สรปุ ผลการเรยี นการสอน 1. นักเรยี นจำนวน........................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้...............คน คิดเป็นรอ้ ยละ................................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์............................คน คิดเป็นร้อยละ................................. ได้แก่ 1........................................................................................... 2. ........................................................................................ 3. .......................................................................................... นักเรยี นท่ีมคี วามสามารถพิเศษไดแ้ ก่ 1. .......................................................................................... 2. ..........................................................................................

2. นักเรียนมคี วามร้คู วามเขา้ ใจ (K) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นักเรยี นมคี วามรเู้ กิดทักษะ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. นกั เรียนมเี จตคติ คา่ นยิ ม คุณธรรมจริยธรรม (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.2 ปญั หา/อปุ สรรค (ผลการประเมนิ ท่ีไม่เปน็ ไปตามจุดประสงคส์ ูต่ วั ช้ีวัด คุณลักษณะหรอื สมรรถนะ ของผเู้ รียน) ............................................ ................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................... ................................... 10.3 แนวทางแกไ้ ข /แนวทางการพัฒนา (แนวทางการแก้ปญั หา/พัฒนานักเรียนใหไ้ ด้ ตามตวั ช้วี ัด คณุ ลกั ษณะ หรือสมรรถนะของผู้เรยี น) .......................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ . ลงชอ่ื . ( นายวิรตั น์ พมิ พา ) ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ

ความเห็นของหัวหนา้ ของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ ไดต้ รวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ...................................................................แล้วมีความคิดเห็น ดงั น้ี 1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้  เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม  ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี  นำไปใชไ้ ด้จรงิ  ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ ............... ลงช่ือ . ( นายชวลิต สจุ รติ ) หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี . ความคิดเห็นรองผู้อำนวยการ กลุ่มบริหารวิชาการ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................ ......................................... ลงชอ่ื .......................................................... ( นางบุณฑริก ศรีบุญเรือง) รองผูอ้ ำนวยการ กลุ่มงานบริหารวิชาการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 . รายวชิ า การออกแบบฯและวิทยการคำนวณ2 รหสั วชิ า ว 22103 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2565 . หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชงิ คำนวณ จำนวน 2 คาบ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงอย่างเป็นขน้ั ตอนและ เปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรกู้ ารทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รูเ้ ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม ตัวชี้วดั ม. 2/1 ออกแบบอลั กอรทิ ึมท่ีใช้แนวคดิ เชิงคำนวณ ในการแกป้ ญั หาหรือการทำงานท่ีพบใน ชวี ิตจริง 2. จดุ ประสงค์การเรยี นร้สู ู่ตวั ช้ีวดั 1. บอกวิธกี ารแก้ปญั หาการเขา้ แถวตามลำดับความสูงของนกั เรียนให้เร็วท่สี ุดได้ (K) 2. บอกวิธกี ารแก้ปัญหาการจัดเรยี งเส้ือผา้ ใหห้ าง่ายที่สุดได้ (K) 3. เขียนวธิ กี ารแกป้ ญั หาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณได้ (P) 4. เล็งเหน็ ถงึ ความสำคญั ของการแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ (A) 3. สาระสำคญั แนวคดิ เชงิ คำนวณเป็นกระบวนการทม่ี ลี ำดับขนั้ ตอนชดั เจนถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปญั หาต่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขึน้ ใน ชวี ติ ประจำวันอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเปน็ ปญั หาการเข้าแถวตามลำดบั ความสงู ของนักเรียน หรือปญั หา การจดั เรียงเสือ้ ผา้ 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน(ใหเ้ ลือกเขียนเฉพาะหวั ข้อทสี่ อดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนในแต่ละหนว่ ย และตอ้ งประเมินได้จรงิ )  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี  ความสามารถในการสอื่ สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5. ทักษะนักเรียนในศตวรรษที่ 21  ทักษะด้านการเรยี นรู้และนวตั กรรม

 ทกั ษะด้านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี  ทกั ษะด้านชวี ิตและอาชีพ 6. การบูรณาการการเรยี นรู้  หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง  โรงเรยี นคุณธรรม  สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น  โรงเรยี นสุจริต/ต้านทจุ รติ  อนื่ ๆ (ระบ)ุ ..........................................................................  ส่ิงแวดล้อม 7. การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน (ใหเ้ น้นผ้เู รียนเปน็ สำคญั ด้วยวธิ กี ารสอน เทคนิคการสอน กระบวนการสอนทห่ี ลากหลายเหมาะสมกบั รายวชิ า) ครูถามคำถามประจำหัวข้อเพื่อกระตุ้นความสนใจของนกั เรียนว่า“แนวคิดเชิงคำนวณมีสว่ นชว่ ยการ เรยี งลำดบั ข้อมูลอยา่ งไร” (แนวตอบ : แนวคิดเชิงคำนวณเปน็ การคิดอยา่ งมรี ะบบและเป็นกระบวนการท่ีมีลำดบั ขั้นตอน ท่ีชดั เจน ทำใหก้ ารเรยี งลำดับขอ้ มลู มีความแมน่ ยำ ถูกตอ้ ง) ขน้ั สอน ขนั้ ที่ 1 กำหนดปญั หา 1. ครถู ามคำถามท้าทายความคิดของนักเรียนวา่ “นักเรยี นสามารถเขียนวิธกี ารแก้ปัญหาโดยใช้ แนวคดิ เชิงคำนวณไดห้ รอื ไม่” (แนวตอบ : นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นโดยตอบตามประสบการณ์ของตนเอง) ขัน้ ท่ี 2 ทำความเข้าใจปัญหา 2. นักเรยี นและครูร่วมกนั ทบทวนความรเู้ ดมิ ที่ไดเ้ รียนในชวั่ โมงท่แี ล้วเก่ยี วกับการแกป้ ัญหา โดยใช้องคป์ ระกอบของแนวคดิ เชิงคำนวณจากหนังสือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื งแนวคิดเชงิ คำนวณกับการแก้ปัญหา ขั้นท่ี 3 ดำเนินการศกึ ษาคน้ คว้า 3. นักเรยี นศึกษาตัวอย่างปญั หาการเข้าแถวตามลำดับความสูงของนักเรียนใหเ้ รว็ ทสี่ ุดจาก หนังสอื เรยี น 4. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน หรอื ตามความเหมาะสม จากน้ันใหน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ แก้ปญั หาโดยใชอ้ งคป์ ระกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณท้ัง 4 ขอ้ รว่ มกนั 5. ครใู หน้ ักเรยี นศึกษาความรู้เสริมจากเน้อื หาเพ่ือขยายความรขู้ องผ้เู รยี น (Com Sci Focus) เรื่อง การเรียงลำดับแบบเลือก 6. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมเก่ียวกบั การเรยี งลำดับแบบเลอื กว่า “การเรียงลำดบั แบบเลอื ก เป็นข้ันตอน การเรียงลำดบั อยา่ งงา่ ย โดยใช้วธิ ีการเปรยี บเทยี บ ซึ่งจะพบเห็นโดยมากในวชิ าคณติ ศาสตร์ ในเร่ือง การเรยี งลำดับจากมากไปหาน้อยหรอื จากนอ้ ยไปหามาก เป็นตน้ ”

7. นักเรียนศึกษาตัวอยา่ งปัญหาการจัดเรียงเสื้อผา้ ใหห้ าง่ายท่ีสุดโดยใช้องคป์ ระกอบของแนวคดิ เชงิ คำนวณตามลำดับการวเิ คราะห์ทั้ง 4 ข้อ 8. ครูส่มุ นักเรยี น 2-3 คน เพ่ือสรุปการจดั เรยี งเส้ือผ้าใหห้ างา่ ยทีส่ ดุ ตามขัน้ ตอนการวเิ คราะห์ โดยใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณ ข้ันที่ 4 สังเคราะหค์ วามรู้ 9. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสยั และครูให้ความร้เู พม่ิ เตมิ ในส่วนนั้นหรอื ใหน้ ักเรียน ศึกษาความรู้เพม่ิ เติมจากอนิ เทอร์เน็ตทเี่ ครอื่ งคอมพวิ เตอร์ของตนเอง 10. นกั เรียนทำกจิ กรรมทีส่ อดคล้องกับเน้ือหา โดยการฝึกปฏบิ ตั เิ พ่ือพฒั นาความรแู้ ละทักษะ การเรียนรู้ (Com Sci Activity) โดยให้นกั เรียนอธบิ ายการนำแนวคิดเชิงคำนวณมาใช้ แก้ปญั หาของสถานการณ์ตามที่โจทย์กำหนด ขน้ั ท่ี 5 สรุปและประเมนิ คา่ ของคำตอบ 11. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรุปเน้ือหาเพ่ือใหผ้ เู้ รยี นได้ทบทวนสาระสำคัญประจำหน่วยการเรียนรู้ ที่ 1 เรือ่ ง แนวคิดเชงิ คำนวณกับการแกป้ ัญหา ข้ันที่ 6 นำเสนอและประเมนิ ผลงาน 12. ครูประเมินผลนกั เรยี นจากการสงั เกตการตอบคำถาม สำรวจพฤติกรรมการทำงาน และ สมุดประจำตวั ของนักเรียน Note วัตถุประสงคข์ องกจิ กรรมเพื่อให้นกั เรยี น - มีทักษะการทำงานรว่ มกัน โดยใช้กระบวนการกลุม่ ในการทำกจิ กรรมเพื่อ เปดิ โอกาสให้นักเรียนได้สื่อสารและแลกเปลย่ี นข้อมลู ร่วมกันในการวเิ คราะหก์ ารแกป้ ญั หา โดยใช้องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ - มีทักษะการสงั เกตจากการศึกษาตัวอย่างปญั หาการเข้าแถวตามลำดับความสูงของ นักเรยี นใหเ้ ร็วทส่ี ุดและตวั อย่างปัญหาการจัดเรยี งเสอ้ื ผา้ ให้หางา่ ยท่ีสุดโดยใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณจากหนงั สือเรยี น - มีทกั ษะการแก้ปญั หาจากสถานการณ์ทกี่ ำหนดใหผ้ ่านการคิดเชงิ คำนวณ - มที กั ษะการสบื คน้ ข้อมลู โดยให้นกั เรยี นแต่ละคนสืบค้นข้อมูลจากทางอนิ เทอร์เน็ต เพ่ือสืบเสาะหาความรูเ้ พ่มิ เติมภายใตห้ ัวข้อที่ได้รับมอบหมาย

ขนั้ สรปุ 1. นกั เรยี นตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเอง โดยพจิ ารณาข้อความว่าถูกหรือผดิ หากนกั เรียน พจิ ารณาไมถ่ ูกต้องให้นักเรียนกลบั ไปทบทวนเนือ้ หาตามหัวข้อท่ีกำหนดให้ 2. นกั เรียนทำแบบฝึกหัดประจำหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 โดยให้นกั เรียนตอบคำถามให้ถูกต้องและ บนั ทกึ ลงในสมุดประจำตัว พร้อมทำชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรือ่ ง การแก้ปัญหาโดยใช้ แนวคิดเชงิ คำนวณ เพือ่ ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นและนำมาสง่ ในชวั่ โมงถดั ไป 3. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง แนวคดิ เชิงคำนวณกบั การแก้ปัญหา 8. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง แนวคดิ เชิงคำนวณกั้บการแก้ปัญหา 2. เครื่องคอมพวิ เตอร์ 9. การวดั และประเมินผล ด้าน วธิ กี ารวัดผลและการประเมินผล เครอื่ งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั ความรู้ (K) ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น แบบทดสอบหลงั เรียน ประเมนิ ตามสภาพจริง ทกั ษะ/กระบวนการ ตรวจชิน้ งาน/ภาระงาน แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน (P) (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) เกณฑ์ คุณธรรม จรยิ ธรรม สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น และค่านยิ ม (A) ทำงานกลมุ่ เกณฑ์ เกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 1 ดา้ น 5432 แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการ ความรู้ (K) เรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณ ทักษะ/กระบวนการ (P) กับการแก้ปัญหา การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง การแก้ปัญหาโดย ใช้แนวคิดเชงิ คำนวณ คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (A) พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง มรี ะดับคุณภาพดีมาก ระดบั 5 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพดเี ยยี่ ม ระดบั 2 หมายถึง มีระดบั คุณภาพปานกลาง ระดับ 3 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพดี ระดบั 1 หมายถึง มรี ะดับคุณภาพพอใช้

10. บนั ทึกผลหลังการสอน 10.1 สรุปผลการเรยี นการสอน 1. นกั เรยี นจำนวน........................คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนร.ู้ ..............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์............................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................................. ได้แก่ 1. ........................................................................................... 2. ........................................................................................... นกั เรียนท่ีมคี วามสามารถพิเศษไดแ้ ก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นักเรียนมีความรคู้ วามเข้าใจ (K) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรยี นมีความรเู้ กดิ ทกั ษะ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. นกั เรยี นมีเจตคติ ค่านยิ ม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.2 ปญั หา/อปุ สรรค (ผลการประเมนิ ท่ีไม่เปน็ ไปตามจดุ ประสงค์สูต่ วั ช้ีวดั คุณลักษณะหรือสมรรถนะ ของผ้เู รยี น) ............................................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 10.3 แนวทางแก้ไข /แนวทางการพัฒนา (แนวทางการแก้ปัญหา/พฒั นานักเรียนใหไ้ ด้ ตามตวั ช้ีวัด คุณลกั ษณะ หรือสมรรถนะของผู้เรยี น) ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............ . ลงชื่อ . ( นายวริ ตั น์ พิมพา ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ

ความเหน็ ของหัวหน้าของหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นร้ขู อง...................................................................แลว้ มีความคดิ เห็น ดังน้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม  ยงั ไม่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี  นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ...................................................................................................................................... ................. ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ลงชอ่ื . ( นายชวลติ สจุ ริต ) หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี . ความคดิ เห็นรองผู้อำนวยการ กลมุ่ บริหารวิชาการ ..................................................................................................................................................................... ....................................................................... ..................................................................................... ......... ................................................................................................................................................................. .... ลงชื่อ.......................................................... ( นางบุณฑริก ศรบี ุญเรอื ง) รองผู้อำนวยการ กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ

ใบงานท่ี 1.1.1 เรื่อง องคป์ ระกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณ คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนเขยี นภาพการทำงานตามแนวคดิ ต่างๆ ขององค์ประกอบแนวคดิ เชิงคำนวณ เพอื่ แกป้ ญั หาจากสถานการณ์ที่กำหนดให้ สถานการณ์ ใหน้ กั เรยี นเขยี นภาพการทำงาน ตามแนวคดิ การแยกย่อย (Decomposition) ณ หมบู่ า้ นแสนสุข ผู้ใหญบ่ า้ นกำลังคิดหาวิธีการ ประกาศครอบครวั ตัวอยา่ ง ท่ีจะทำให้ชาวบ้านเข้าใจ โดยมคี รอบครวั ตัวอยา่ งจำนวน 2 ครอบครัว ครอบครวั แรก คือ ครอบครัวของนายม่งิ และนางแยม้ มีลูกสาว 1 คนชือ่ สรอ้ ย ส่วนครอบครวั ทสี่ อง คือ ครอบครวั ของนายขวัญ และนางเรยี ม มีลกู ชายชื่อกลา้ สถานการณ์ ให้นกั เรียนเขียนภาพการทำงาน ตามแนวคดิ การหารปู แบบ (Pattern Recognition) ครนู กกำลงั คิดหาวธิ ีการทำสรุปจากการสำรวจงาน อดิเรกของนักเรยี นจำนวน 100 คน โดยผลการสำรวจ มดี ังน้ี มีนกั เรยี นที่ชอบชมภาพยนตร์อยู่ 28 คน ชอบฟงั เพลง 46 คน ชอบเล่นเกม 6 คน และชอบออก กำลงั กาย 20 คน

สถานการณ์ ให้นกั เรยี นเขยี นภาพการทำงาน ตามแนวคิดเชงิ นามธรรม (Abstraction) ครฟู า้ ใสมอบหมายใหว้ ีระแยกสว่ นภาพวาดโดยตดั สว่ น ทเี่ ป็นรายละเอียดตา่ งๆ ออกไป ซึง่ วีระไม่เข้าใจ และ ภาพวาดทีค่ รูฟา้ ใสมอบหมายใหว้ ีระคอื รปู ภาพ ดงั ตอ่ ไปนี้ สถานการณ์ ให้นกั เรยี นเขียนภาพการทำงาน ตามแนวคิดการออกแบบข้นั ตอนวิธี เขยี วไมเ่ ข้าใจข้ันตอนการทอดไขเ่ จยี วท่ีแดงอธบิ าย โดยขน้ั ตอนการทอดไข่เจยี วท่แี ดงอธิบายมีดงั นี้ (Algorithm Design) ขนั้ แรกตอกไขใ่ สช่ ามและใสเ่ ครอื่ งปรงุ รส ตีไขผ่ สมให้ เขา้ กนั ตั้งกระทะเทนำ้ มันนำไขล่ งในกระทะ จากน้ัน กลบั ด้านไขแ่ ละตรวจสอบวา่ ไข่สุกหรือไม่ ถา้ สุกแลว้ ให้ ตกั ใสจ่ านเสริ ฟ์ แต่ถา้ ยงั ไมส่ กุ ใหท้ อดต่อจนกระท่ังสกุ จงึ คอ่ ยทำการตักใส่จานเพ่อื เสริ ์ฟ

ใบงานท่ี1.1.1 เฉลย เรือ่ ง องคป์ ระกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณ คำชี้แจง : ให้นักเรยี นเขียนภาพการทำงานตามแนวคิดตา่ งๆ ขององคป์ ระกอบแนวคิดเชิงคำนวณ เพอื่ แก้ปัญหาจากสถานการณ์ทีก่ ำหนดให้ สถานการณ์ ใหน้ กั เรียนเขยี นภาพการทำงาน ตามแนวคิดการแยกยอ่ ย (Decomposition) ณ หมูบ่ า้ นแสนสขุ ผใู้ หญ่บา้ นกำลงั คดิ หาวิธีการ ประกาศครอบครวั ตัวอย่าง ท่ีจะทำใหช้ าวบ้านเข้าใจ ครอบครวั นายมิง่ ด.ญ.สรอ้ ย โดยมคี รอบครัวตัวอย่างจำนวน 2 ครอบครัว 1 นางแยม้ ครอบครวั แรก คือ ครอบครวั ของนายม่ิง และนางแย้ม มีลกู สาว 1 คนชื่อสร้อย ส่วนครอบครัวทส่ี อง คือ หมู่บ้าน ครอบครวั ของนายขวญั และนางเรียม มีลูกชายช่อื กล้า แสนสขุ ครอบครวั นายขวญั ด.ช.กล้า 2 นางเรยี ม สถานการณ์ ให้นักเรียนเขียนภาพการทำงาน ตามแนวคดิ การหารูปแบบ (Pattern Recognition) ครูนกกำลังคดิ หาวธิ กี ารทำสรุปจากการสำรวจงาน อดิเรกของนักเรยี นจำนวน 100 คน โดยผลการสำรวจ ออก ชมภาพยนตร์ มีดงั น้ี มนี กั เรยี นทชี่ อบชมภาพยนตรอ์ ยู่ 28 คน กาลงั กาย 28% ชอบฟังเพลง 46 คน ชอบเลน่ เกม 6 คน และชอบออก กำลังกาย 20 คน 20% เล่นเกม 13% ฟังเพลง 39%

สถานการณ์ ใหน้ กั เรยี นเขียนภาพการทำงาน ตามแนวคิดเชงิ นามธรรม (Abstraction) ครูฟา้ ใสมอบหมายให้วีระแยกส่วนภาพวาดโดยตดั ส่วน ท่ีเป็นรายละเอยี ดตา่ งๆ ออกไป ซ่ึงวีระไม่เขา้ ใจ และ ภาพวาดท่คี รูฟ้าใสมอบหมายใหว้ ีระคอื รูปภาพ ดงั ต่อไปน้ี สถานการณ์ ให้นักเรียนเขยี นภาพการทำงาน ตามแนวคิดการออกแบบขนั้ ตอนวธิ ี เขยี วไม่เข้าใจขน้ั ตอนการทอดไข่เจยี วท่ีแดงอธิบาย โดยขัน้ ตอนการทอดไข่เจยี วท่แี ดงอธิบายมีดงั นี้ (Algorithm Design) ข้นั แรกตอกไขใ่ สช่ าม และใส่เครอ่ื งปรงุ รส ตีไขผ่ สมให้ เข้ากนั ตง้ั กระทะเทน้ำมันนำไขล่ งในกระทะ จากน้ัน เริม่ ต้น กลับด้านไขแ่ ละตรวจสอบวา่ ไขส่ ุกหรอื ไม่ ถา้ สุกแลว้ ให้ ตกั ใส่จานเสริ ์ฟ แต่ถ้ายงั ไม่สกุ ให้ทอดต่อจนกระทั่งสกุ ตอกไข่ใส่ชาม จึงคอ่ ยทำการตักใส่จานเพื่อเสริ ฟ์ ใสเ่ ครื่องปรุง ตีไขผ่ สมใหเ้ ข้ากัน ตั้งกระทะเทน้ำมนั นำไขล่ งในกระทะ ทอดไขเ่ จยี วตอ่ กลบั ด้านไข่ ไมส่ ุก สกุ หรือไม่ สุก ตกั ใสจ่ านเสิร์ฟ สิ้นสดุ

บตั รภาพ เรอื่ ง องค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณ ? แนวคดิ การแยกย่อย (Decomposition) 

แนวคดิ การหารปู แบบ (Pattern Recognition)  แนวคิดเชงิ นามธรรม (Abstraction) แนวคดิ การออกแบบขนั้ ตอนวิธี (Algorithm Design)

ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง การแกป้ ัญหาโดยใช้แนวคิดเชงิ คำนวณ คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นบอกวิธกี ารแกป้ ญั หาจากสถานการณท์ กี่ ำหนดให้ โดยใช้แนวคิดเชงิ คำนวณ สถานการณท์ ี่ 1: คุณครูฉววี รรณส่ังใหน้ ายแดงจดั แถวเพ่ือนร่วมช้ันตามลำดับความสูง ปรากฏวา่ นายแดง จัดแถวได้ช้ามากทำให้เสยี เวลาในการเรยี น นักเรยี นมวี ธิ กี ารแกป้ ญั หาให้นายแดงอย่างไร วิธกี ารแกป้ ญั หาโดยใช้แนวคดิ เชิงคำนวณ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ........................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... .............................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................

สถานการณ์ท่ี 2: ฟา้ ใสต้องการหาชุดกระโปรงสชี มพูในต้เู ส้อื ผา้ แตป่ รากฏวา่ ฟ้าใสหาไม่เจอ จงึ ตอ้ งรื้อ เสื้อผา้ ออกมากองไวข้ ้างนอกตู้เส้อื ผ้าท้ังหมด นักเรียนมีวธิ กี ารจัดเรยี งเสอ้ื ผา้ ใหฟ้ า้ ใส อยา่ งไร เพื่อใหฟ้ า้ ใสหาเส้อื ผา้ ได้ง่ายท่สี ุด วิธีการแกป้ ญั หาโดยใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ........................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... ....................

ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย เร่ือง การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคดิ เชิงคำนวณ คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นบอกวิธีการแก้ปัญหาจากสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ โดยใช้แนวคิดเชงิ คำนวณ สถานการณท์ ่ี 1: คณุ ครฉู วีวรรณส่งั ใหน้ ายแดงจดั แถวเพ่ือนร่วมชั้นตามลำดบั ความสูง ปรากฏว่านายแดง จัดแถวไดช้ ้ามากทำใหเ้ สียเวลาในการเรียน นักเรยี นมวี ธิ ีการแก้ปัญหาใหน้ ายแดงอย่างไร วธิ ีการแกป้ ญั หาโดยใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณ ..1.....แ...น..ว...ค..ิด...ก..า..ร..แ...ย..ก...ย..่อ..ย....(..D...e..c..o...m....p..o...s..i.t.i.o...n...)................................................... ................................................. ...........ข..ั้น...ต..อ..น...ท...ี่ .1.....ก..ำ..ห...น...ด..น...กั ..เ.ร..ีย...น..ค...น..แ...ร..ก..เ.ป...็น..น...ัก..เ.ร..ยี...น..ต...ำ..แ..ห...น..ง่..ห...ล..กั................................................................... ...........ข..้ัน...ต..อ..น...ท...่ี .2.....แ..บ...่ง..น..ัก...เ.ร..ยี..น...อ..อ...ก..เ.ป...น็....2....ก..ล..่มุ....ด...ัง.น...ี้........................................................................................ ..............................ก...ล..ุ่ม...ท..่ี..1...น...ัก..เ.ร..ีย...น..ท...ีส่..งู..น...อ้ ..ย..ก...ว..า่..ต..ำ..แ...ห..น...่ง..ห..ล...ัก..ใ..ห..ต้...้ัง.แ...ถ..ว..อ...ย..ู่ท...า..ง.ซ..้า..ย..ข...อ..ง..ต..ำ..แ...ห..น...่ง..ห..ล...กั ................ ..............................ก...ล..ุม่...ท..่ี..2...น...ัก..เ.ร..ีย...น..ท...ีส่..งู..ม...า.ก...ก..ว..่า..ห...ร..อื ..เ.ท...่า..ก..บั...ต..ำ..แ...ห..น...ง่..ห..ล...ัก..ใ..ห..้ต...้งั ..แ..ถ..ว..อ...ย..ู่ท...า..ง..ข..ว..า..ข..อ...ง..ต..ำ..แ..ห...น...่ง.ห...ล. ัก ...........ข..นั้...ต..อ..น...ท...ี่ .3.....ท...งั้ ...2...ก...ล..มุ่...ท..ำ..ซ...้ำ..จ..น..แ...บ..่ง..ก...ล..ุ่ม...ไ.ม...ไ่ .ด..้อ...ีก..แ...ล..ะ..น...ัก..เ.ร..ีย...น..เ..ข..้า..แ..ถ...ว..เ.ร..ีย..ง.ต...า..ม..ล...ำ..ด..บั...ค..ว..า..ม...ส..ูง..ไ.ด...ถ้ ..ูก..ต...้อ..ง... ..2.....แ...น..ว...ค..ิด...ก..า..ร..ห...า..ร..ูป...แ..บ...บ....(..P..a..t..t..e..r..n....R..e..c...o..g..n...i.t.i.o...n...)....................................... ................................................. ...........ก..ล..ุม่...น..ัก...เ.ร..ยี..น...ท...่ีม..ีค...ว..า..ม..ส...ูง.น...้อ..ย..ก...ว..่า..ต..ำ..แ...ห..น...่ง..ห..ล...กั .....ต..ำ..แ..ห...น...ง่ .ห...ล...ัก......ก..ล...ุ่ม..น...ัก..เ.ร..ีย...น..ท...่ีม..ี.ค..ว..า..ม..ส...ูง..ม..า..ก..ก...ว..า่............ ..................................................................................................................ห...ร..ือ..เ.ท...า่ .ก...ับ..ต...ำ..แ..ห...น..่ง..ห...ล..ัก........................ ..3.....แ...น..ว...ค..ดิ...เ.ช...งิ .น...า..ม...ธ..ร..ร..ม....(..A...b..s..t..r.a..c...t.i.o...n..)........................................................................................................... ...........ก..า..ร..เ.ร..ีย...ง.ล...ำ..ด..ับ...ค..ว..า..ม...ส..งู..ข..อ...ง..น..ัก...เ.ร..ยี ..น...จ..ะ..ส...น..ใ..จ..แ..ค..่ล...ำ..ด..ับ...ค..ว..า..ม...ส..งู..เ.ท...า่ ..น..้นั....แ...ล..ะ..ไ..ม..่ส...น..ใ..จ..ส..งิ่..ท...่ีไ.ม...่จ..ำ..เ.ป...็น................ ..........ต...อ่..ก...า..ร..จ..ัด..แ...ถ..ว..ข..อ...ง..น..ัก...เ.ร..ีย..น....เ.ช...น่ ....ช..ือ่....น..า..ม...ส..ก...ลุ ...เ..พ..ศ....อ..า..ย...ุ .น...ำ้ ..ห..น...ัก....เ.ป...น็ ..ต...น้ .................................................... ..4.....แ...น..ว...ค..ิด...ก..า..ร..อ...อ..ก...แ..บ...บ..ข...นั้...ต..อ...น..ว...ธิ ..ี.(..A...l.g..o...r.i.t..h..m......D...e..s..i.g..n...).............................................................................. ..ล...ำ..ด..บั...ข..ั้น...ต..อ...น..ใ..น..ก...า..ร..แ..ก..้ป...ญั...ห...า..ม..ีด...งั ..น..้ี................................................................................................................... ................1.....ก..ำ..ห...น...ด..น...ัก..เ.ร..ยี ...น..ค...น..แ...ร..ก..ท...า..ง.ซ...้า..ย..ส..ุด...เ.ป...็น..ต...ำ..แ..ห...น..่ง..ห...ล..ัก........................ ................................................. ................2.....ท...ำ..ก..า..ร..แ..บ...ง่ ..ก..ล..มุ่...น...กั ..เ.ร..ยี..น...โ..ด..ย..น...กั..เ..ร..ีย..น...ท..ี่ม...ีค..ว..า..ม...ส..ูง..น..อ้...ย..ก...ว..่า..ต..ำ..แ..ห...น...่ง.ห..ล...ัก..ใ..ห..้ต...ง้ั ..แ..ถ..ว..อ...ย..ู่ท...า..ง.ซ...า้ ..ย..ข..อ...ง..... ................ต...ำ..แ..ห...น..ง่..ห...ล..กั....แ..ล...ะ..น..ัก...เ.ร..ยี..น...ท..ี่ม...คี ..ว..า..ม...ส..ูง..ม..า..ก...ก..ว..่า..ห...ร..ือ..เ..ท..่า..ก...บั ..ต...ำ..แ..ห...น..่ง..ห...ล..กั..ใ..ห...้ต..้ัง..แ..ถ...ว..อ..ย..ู่ท...า..ง..ข..ว..า..ข...อ..ง....... ................ต...ำ..แ..ห...น..่ง..ห...ล..ัก.......................................................................................... ................................................. ................3.....ท...ำ..ซ..ำ้..ข..ั้น...ต..อ...น..ท...่ี.1....แ..ล...ะ..ข..นั้...ต..อ...น..ท...ี่ .2....ไ.ป...เ.ร..่ือ...ย..ๆ....จ..น...ก..ร..ะ..ท...่ัง..ไ.ม...่ส..า..ม..า..ร..ถ..แ..บ...ง่..ก..ล...ุ่ม..ไ..ด..้อ...ีก............................ และได้แถวทีเ่ รียงลำดับความสงู จากนอ้ ยไปหามาก

สถานการณท์ ี่ 2: ฟา้ ใสต้องการหาชุดกระโปรงสชี มพูในตูเ้ สอ้ื ผา้ แต่ปรากฏวา่ ฟ้าใสหาไม่เจอ จึงตอ้ งร้ือ เสอ้ื ผ้าออกมากองไวข้ ้างนอกตเู้ ส้อื ผา้ ทัง้ หมด นักเรยี นมีวธิ กี ารจัดเรียงเสอื้ ผ้าใหฟ้ า้ ใส อยา่ งไร เพอ่ื ให้ฟา้ ใสหาเสอ้ื ผ้าไดง้ ่ายท่สี ุด วิธกี ารแก้ปญั หาโดยใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณ .1......แ..น...ว..ค...ิด..ก...า..ร..แ..ย...ก..ย..อ่...ย....(.D...e...c..o..m....p...o..s..i.t..i.o..n...)..................................................... ................................................. .........ข...นั้ ..ต...อ..น...ท..ี่..1....ต...ัง้..ว..ัต..ถ...ุป..ร..ะ..ส...ง..ค..์ห...ล..กั...ใ.น...ก..า..ร..ค..น้...ห...า.ว..่า..จ...ะ..ค..น้...ห..า..เ..ส..ื้อ..ผ...า้ ..จ..า..ก..อ...ะ..ไ.ร....เ.ช..่น....ค...น้ ..ห...า..จ..า..ก...ส..ี.ห...ร..อื..ป...ร..ะ..เ.ภ...ท.. ..............................เ.พ...ื่อ...ก..ำ..ห...น..ด...เ.ป...็น..เ.ก...ณ...ฑ...์ใ..น..ก...า.ร...แ..บ...ง่ .ก...ล..ุม่...เ.ส..้ือ...ผ..า้............................................................................ .........ข...นั้ ..ต...อ..น...ท..ี่..2....แ...บ..่ง..ก...ล..มุ่...เ.ส..้ือ...ผ..า้..ต..า..ม...ว..ัต..ถ...ปุ ..ร..ะ..ส...ง..ค..์ท...ี่ไ.ด...้ต..ั้ง..ไ..ว..้ ............................................................................. .........ข...ั้น..ต...อ..น...ท..่ี..3....จ...ัด..เ.ร..ยี...ง..เ.ส..อ้ื...ผ..้า..ต..า..ม...ท..ไี่..ด..้แ..บ...ง่..ก..ล...ุ่ม..ไ..ว..้ .......................................................................................... .2......แ..น...ว..ค...ิด..ก...า..ร..ห..า...ร..ปู ..แ...บ...บ....(.P...a..t..t.e...r.n....R...e..c..o...g..n..i.t..i.o...n..).......................................................................................... .........ห...า..ว..ตั..ถ...ุป..ร..ะ..ส...ง..ค..์ใ..น..ก...า..ร..ค..น้...ห..า.....แ..บ...่ง..ก..ล..่มุ...เ.ส...อ้ื ..ผ..า้..ต...า..ม..ว..ตั...ถ..ุป...ร..ะ..ส..ง..ค...์ ....จ..ดั ..เ..ร..ยี ..ง..เส...อ้ื ..ผ..้า..ต...า..ม..ท...่ีแ..บ...ง่..ก..ล..ุ่ม................... .3......แ..น...ว..ค...ดิ ..เ..ช..ิง..น...า..ม..ธ...ร..ร..ม....(.A...b...s..t.r.a...c..t.i.o...n...)............................................................................................................ .........ก...า..ร..จ..ดั ..เ..ร..ยี ..ง..เ.ส..้อื...ผ..า้..จ..ะ..ส...น..ใ..จ..แ...ค..่ก..า..ร..แ...บ..ง่..ก...ล..มุ่..เ..ส..ื้อ..ผ...า้ ..ต..า..ม...ว..ัต..ถ..ุป...ร..ะ..ส...ง..ค..์.ส...่ิง.ท...ส่ี..น..ใ..จ..ค...อื ...ป...ร..ะ..เ..ภ..ท...ข..อ...ง.เ..ส..้ือ..ผ...้า...ส...ี ... .........แ..ล...ะ..ส..ิง่..ท...ีไ่ .ม...่ส..น...ใ.จ....แ..ล...ะ..ไ.ม...่จ..ำ..เ.ป...็น..ต...อ่..ก...า..ร..จ..ัด..เ..ร..ยี ..ง..เ.ส..อ้ื...ผ..้า...ค...อื....ข..น...า.ด....ย...หี่ ..้อ....เ.ป...น็..ต..น้............................................... .4......แ..น...ว..ค...ิด..ก...า..ร..อ..อ...ก..แ...บ..บ...ข..น้ั...ต...อ..น...ว..ธิ..ี..(.A...l.g..o...r..i.t.h...m.....D...e..s..i.g..n...)....................................................................... ......... .........ล..ำ..ด...บั ..ข...้ัน..ต...อ..น...ใ.น...ก..า..ร..แ...ก..้ป...ัญ...ห..า..ม...ดี..งั..น...้ี ....................................................... ..................................................... ...............1.....ห...า..ว..ตั...ถ..ปุ ...ร..ะ..ส..ง..ค..ใ์..น...ก..า..ร..ค..น้...ห...า..เ.ส..ื้อ...ผ..า้ .................................................... ................................................. ...............2.....แ...บ..่ง..ก...ล..ุ่ม..เ..ส..อ้ื..ผ...า้ ..ต..า..ม...ว..ตั ..ถ..ปุ...ร..ะ..ส...ง.ค...์................................................................................. ...................... ...............3.....จ...ัด..เ.ร..ยี...ง..เ.ส..้อื...ผ..า้..ต..า..ม...ท..ี่แ...บ..่ง..ก...ล..มุ่...เ.ส..้อื..ผ...า้ .................................................................................................... ...............4.....จ...ัด..เ.ข...า้ ..ต..เู้.ส...อ้ื ..ผ...า้ .ใ..ห...เ้ .ร..ีย..บ...ร..้อ..ย................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่อง ทต่ี รงกับระดับคะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคิดเห็น  2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผ้อู ื่น   3 การทำงานตามหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รับมอบหมาย  4 ความมนี ้ำใจ   5 การตรงต่อเวลา     รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ............/.................../................ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่อง ที่ตรงกับระดบั คะแนน ลำดบั ที่ ชอื่ –สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม ของนักเรียน ความคดิ เห็น ฟงั คนอนื่ ตามท่ไี ด้รับ สว่ นรว่ มใน 15 มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน ผลงานกลุ่ม 321321321321321 ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............./.................../............... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พึงประสงค์ดา้ น 32 1 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อ กษตั รยิ ์ โรงเรียน 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา 3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเี่ กีย่ วกบั สถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามทโ่ี รงเรยี นจัดขนึ้ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ที่ถกู ตอ้ งและเป็นจรงิ 2.2 ปฏิบตั ใิ นส่ิงท่ีถกู ตอ้ ง 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครวั 6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั 7. รกั ความเปน็ ไทย 4.1 รู้จกั ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้ 8. มีจิตสาธารณะ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เช่ือฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ 4.4 ต้ังใจเรยี น 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและสิ่งของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และรู้คณุ คา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จกั ช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแลรกั ษาทรัพย์สมบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของห้องเรยี นและ โรงเรียน ลงช่ือ..................................................ผูป้ ระเมนิ ............/.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดีมาก พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติบางครัง้ 30–40 พอใช้ ต่ำกวา่ 30 ปรับปรุง

แบบประเมินช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) ว 4.2 ม.2/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหา หรือการทำงานทพ่ี บในชีวิตจรงิ รายการ เกณฑ์การประเมิน (ระดับคุณภาพ) ระดับ ประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) คุณภาพ 1. องค์ประกอบของ บอกวิธกี าร บอกวธิ ีการ บอกวธิ กี าร ไม่สามารถบอก แนวคดิ เชิงคำนวณ แก้ปัญหาของแตล่ ะ แก้ปัญหาของแตล่ ะ แก้ปญั หาของแตล่ ะ วิธกี ารแกป้ ญั หาของ ดีมาก องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ แต่ละองคป์ ระกอบ แนวคดิ เชิงคำนวณ แนวคิดเชิงคำนวณ แนวคิดเชิงคำนวณ ของแนวคดิ เชงิ ได้ดมี าก ได้ดี ได้ค่อนขา้ งดี คำนวณได้ ดี 2. การแก้ปัญหาการเข้า สามารถบอกขนั้ ตอน สามารถบอกข้นั ตอน สามารถบอกขัน้ ตอน ไม่สามารถบอก แถวตามลำดบั การแกป้ ัญหาการเข้า การแกป้ ัญหาการเข้า การแกป้ ญั หาการเขา้ ขั้นตอน แถวตามลำดับไดด้ ี แถวตามลำดบั ได้ดี แถวตามลำดบั ได้ การแกป้ ัญหาการเขา้ พอใช้ มาก ค่อนขา้ งดี แถวตามลำดบั ได้ 3. การแก้ปัญหาการ สามารถบอกข้นั ตอน สามารถบอกขั้นตอน สามารถบอกขน้ั ตอน ไม่สามารถบอก จดั เรยี ง การแก้ปญั หาการจดั การแกป้ ัญหาการจดั การแก้ปญั หาการจดั ขัน้ ตอน เสือ้ ผ้า การแกป้ ัญหาการจัด ปรับปรุง เรียงเสือ้ ผา้ ไดด้ มี าก เรียงเสือ้ ผา้ ได้ดี เรยี งเส้ือผา้ ได้ คอ่ นข้างดี เรียงเส้ือผ้าได้ 4. ความสมบรู ณข์ อง ผลงานมคี วาม ผลงานมีความ ผลงานมคี วาม ผลงานมีความ ผลงาน ครบถ้วน สมบรู ณด์ ี ครบถ้วน สมบรู ณ์ ครบถว้ น สมบรู ณด์ ี ครบถ้วน สมบรู ณ์ มาก ค่อนขา้ งดี เปน็ บางสว่ น นอ้ ย 5. สง่ งานตรงเวลา สง่ ภาระงานภายใน สง่ ภาระงานช้ากวา่ ส่งภาระงานชา้ กว่า ส่งภาระงานช้ากว่า เวลา กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วนั กำหนดเกิน 3 วนั ทก่ี ำหนด ขึ้นไป เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16 - 20 ดีมาก 10 - 15 ดี 7 - 9 พอใช้ 1 - 6 ปรับปรุง

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 3 . รายวิชา การออกแบบฯและวทิ ยการคำนวณ2 รหสั วชิ า ว 22103 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2565 . หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื ง การออกแบบโปรแกรม จำนวน 2 คาบ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจรงิ อย่างเปน็ ขัน้ ตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมจี ริยธรรม ตัวช้วี ดั ม.2/1 ออกแบบอัลกอรทิ ึมท่ใี ชแ้ นวคิดเชิงคำนวณ ในการแกป้ ัญหาหรือการทำงานที่พบใน ชวี ิตจริง 2. จุดประสงค์การเรยี นรสู้ ตู่ วั ชว้ี ัด 1. บอกความหมายของแนวคิดเชิงคำนวณได้ (K) 2. อธิบายองคป์ ระกอบของแนวคิดเชิงคำนวณได้ (K) 3. เขียนภาพการทำงานขององค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณได้ (P) 4. สนใจใฝร่ ใู้ นการศกึ ษา (A) 3. สาระสำคญั แนวคดิ เชงิ คำนวณ คือ แนวคิดในการแกป้ ญั หาตา่ ง ๆ อยา่ งเปน็ ระบบ และเปน็ กระบวนการทีม่ ี ลำดับขั้นตอนชัดเจน โดยกระบวนการแกป้ ัญหาดงั กลา่ วนีเ้ ป็นกระบวนการทม่ี นษุ ย์ และคอมพวิ เตอร์ สามารถเข้าใจรว่ มกนั ได้ ซ่งึ แนวคิดเชงิ คำนวณนเี้ ปน็ แนวคิดท่สี ำคัญสำหรับการพฒั นาซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์ เพราะการเขยี นโปรแกรมถ้าไม่ไดเ้ กดิ ขึน้ จากแนวคดิ เชิงคำนวณ จะทำใหโ้ ปรแกรม คอมพวิ เตอร์ทำงานชา้ ไมต่ รงตามที่ต้องการ ดังน้ันจึงควรนำแนวคดิ เชิงคำนวณเข้ามาใช้ในการแก้ปัญหา เพอ่ื ใหเ้ กดิ ผลลพั ธข์ องการแก้ปญั หาท่มี ปี ระสทิ ธิภาพ 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน(ใหเ้ ลอื กเขียนเฉพาะหวั ข้อท่สี อดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนในแต่ละหน่วย และตอ้ งประเมนิ ไดจ้ ริง)  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

5. ทักษะนักเรียนในศตวรรษที่ 21  ทักษะด้านการเรยี นรู้และนวัตกรรม  ทกั ษะด้านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี  ทกั ษะด้านชีวิตและอาชีพ 6. การบูรณาการการเรียนรู้  หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  โรงเรียนคณุ ธรรม  สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน  โรงเรียนสจุ ริต/ตา้ นทุจรติ  อื่น ๆ (ระบ)ุ ..........................................................................  สงิ่ แวดล้อม 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน (ให้เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญด้วยวธิ ีการสอน เทคนิคการสอน กระบวนการสอนท่หี ลากหลายเหมาะสมกับรายวิชา) ขั้นนำ ขน้ั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 แนวคดิ เชงิ คำนวณกับการแก้ปญั หา เพอ่ื วัดความรู้เดมิ ของนักเรยี นกอ่ นเขา้ สูก่ จิ กรรม 2. ครูถามคำถามประจำหวั ข้อวา่ “นักเรยี นคดิ วา่ มนษุ ยน์ ำแนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกตใ์ ช้ ในชวี ิตประจำวันไดอ้ ย่างไร” (แนวตอบ : สามารถนำแนวคิดเชงิ คำนวณมาประยกุ ต์ใช้ในด้านการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวนั ดา้ นการเรยี น และด้านการทำงาน) ข้ันสอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นกั เรยี นศึกษาความหมายและองค์ประกอบของแนวคดิ เชิงคำนวณ จากหนังสือเรยี นรายวิชา พ้ืนฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่ืองแนวคดิ เชงิ คำนวณ กบั การแก้ปญั หา หรือศกึ ษาเพม่ิ เติมผ่านทางอินเทอร์เน็ตจากเครื่องคอมพิวเตอรข์ องตนเอง ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 2. ครูสมุ่ นักเรียน 3-4 คน ออกมาอธิบายความหมายและองค์ประกอบท้ัง 4 ข้อของแนวคิดเชงิ คำนวณตามทนี่ ักเรยี นได้ศึกษา 3. จากนัน้ ครอู ธิบายเพิม่ เติมเพือ่ ให้นักเรียนเขา้ ใจมากยิ่งขึน้ ว่า“อาชีพบรุ ุษไปรษณยี จ์ ะต้องนำ จดหมายหรือพสั ดุจดั ส่งไปตามที่อยู่ทไ่ี ด้ระบุไว้แตเ่ นอ่ื งจากจดหมายหรอื พสั ดทุ ่ีต้องจดั ส่ง มจี ำนวนมาก ทำใหบ้ รุ ุษไปรษณยี ต์ อ้ งทำการจดั หมวดหมู่ตามบ้านเลขท่ี เพอ่ื ใหส้ ะดวกต่อ การหยิบและรวดเร็วในการทำงาน ดังนนั้ อาชีพบรุ ุษไปรษณยี จ์ ึงเป็นหนึ่งในหลายอาชพี ทอี่ าศยั แนวคดิ เชิงคำนวณมาใช้ในการทำงาน เพอื่ ให้ไดง้ านออกมาอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ มากทส่ี ุด”

4. ครนู ำบตั รภาพ เร่ือง องคป์ ระกอบแนวคดิ เชิงคำนวณให้นักเรียนดเู พ่ือให้นักเรียนไดเ้ ห็น ภาพการทำงานขององค์ประกอบแนวคิดเชิงคำนวณ พร้อมยกตวั อยา่ งประกอบเพ่ือใหน้ ักเรียน เขา้ ใจมากย่ิงข้ึน ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 5. ครซู กั ถามนักเรียนเพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจว่า“องคป์ ระกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณแบ่งออก เป็นกอี่ งค์ประกอบอะไรบา้ ง” (แนวตอบ : องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณแบ่งออกเปน็ 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. แนวคิดการแยกย่อย 2. แนวคดิ การหารูปแบบ 3. แนวคิดเชิงนามธรรม 4. แนวคิดการออกแบบขัน้ ตอนวธิ ี) 6. นักเรยี นทำใบงานที่ 1.1.1 เร่อื ง องคป์ ระกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ โดยเขียนภาพ การทำงานขององคป์ ระกอบแนวคิดเชงิ คำนวณจากสถานการณ์ที่กำหนดให้ Note วัตถุประสงค์ของกิจกรรมเพ่อื ให้นกั เรยี น - มที ักษะการส่ือสารโดยการแลกเปล่ียนความคิดเห็นร่วมกันภายในช้นั เรียนผา่ น การคิดวเิ คราะห์ในการแกป้ ัญหาท่ีถูกต้องจากสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ - มที กั ษะการสบื ค้นข้อมลู โดยให้นักเรียนแต่ละคนสบื ค้นข้อมลู จากทางอินเทอรเ์ นต็ เพ่ือสบื เสาะหาความรู้เพม่ิ เติมภายใต้หวั ข้อท่ีไดร้ บั มอบหมาย - มที ักษะการคิดเชงิ คำนวณ โดยใหน้ ักเรยี นพิจารณาจากสถานการณ์ที่กำหนดให้ และเขยี นอธิบายออกมาผ่านแนวคิดในรูปแบบตา่ ง ๆ ของแนวคดิ เชงิ คำนวณได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม ข้นั สรุป ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลงานนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และ การทำใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลการทำใบงานที่ 1.1.1 3. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ เก่ียวกบั แนวคิดเชงิ คำนวณว่า“แนวคดิ เชิงคำนวณไมไ่ ด้เปน็ กระบวนการทางความคดิ เฉพาะนักวทิ ยาศาสตรห์ รอื นักพฒั นาซอฟตแ์ วร์คอมพิวเตอร์ แต่สามารถนำมาประยุกตใ์ ชใ้ นการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชวี ติ ได้” 8. สือ่ การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนรายวิชาพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ือง แนวคิดเชิงคำนวณกับการแกป้ ัญหา 2. ใบงานที่ 1.1.1 เร่อื ง องค์ประกอบของแนวคดิ เชิงคำนวณ

3. บัตรภาพ เรอื่ ง องคป์ ระกอบแนวคดิ เชงิ คำนวณ 4. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ 9. การวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวดั ด้าน วิธีการวัดผลและการประเมินผล เครอื่ งมอื วัดและประเมนิ ผล ตรวจใบงานท่ี 1.1.1 ใบงานที่ 1.1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ความรู้ (K) ตรวจใบงานท่ี 1.1.2 ใบงานท่ี 1.1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ใบงานท่ี 1.1.3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.1.3 แบบประเมินระหว่างการจัด ระดับคุณภาพ 2 กิจกรรม ผา่ นเกณฑ์ ทกั ษะ/ ประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 กระบวนการ (P) การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ คณุ ธรรม จริยธรรม สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน และคา่ นิยม (A) รายบุคคล เกณฑก์ ารประเมิน ประเด็นการประเมนิ 5 ระดับคุณภาพ 1 ด้าน 432 ประเมินระหวา่ งการจดั กจิ กรรม ความรู้ (K) การเรียนรู้ 1. การออกแบบขั้นตอน การทำงานโดยใช้ภาษาธรรมชาติ ทักษะ/กระบวนการ (P) 2. การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน โดยใช้รหสั จำลอง 3. การออกแบบ ข้ันตอนการทำงานโดยใช้ผงั งาน การประเมนิ ระหว่างการจัด กจิ กรรม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ ม (A) พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพดีมาก ระดบั 5 หมายถงึ มีระดับคุณภาพดีเย่ียม ระดบั 2 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพปานกลาง ระดับ 3 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพดี ระดับ 1 หมายถึง มีระดับคุณภาพพอใช้ 10. บนั ทึกผลหลงั การสอน คิดเป็นร้อยละ................................. 10.1 สรุปผลการเรยี นการสอน คดิ เปน็ ร้อยละ................................. 1. นกั เรยี นจำนวน........................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้...............คน ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์............................คน

ไดแ้ ก่ 1. ........................................................................................... 2. ........................................................................................... 3. ........................................................................................... นกั เรียนที่มคี วามสามารถพเิ ศษไดแ้ ก่ 1. .......................................................................................... 2. .......................................................................................... 2. นักเรียนมีความร้คู วามเข้าใจ (K) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรยี นมคี วามรเู้ กิดทักษะ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. นักเรยี นมเี จตคติ คา่ นยิ ม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.2 ปญั หา/อปุ สรรค (ผลการประเมินทีไ่ ม่เป็นไปตามจุดประสงค์สู่ตวั ช้ีวัด คุณลักษณะหรอื สมรรถนะ ของผู้เรยี น) ............................................ ................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................... ................................... 10.3 แนวทางแกไ้ ข /แนวทางการพัฒนา (แนวทางการแกป้ ัญหา/พัฒนานักเรียนให้ได้ ตามตัวชว้ี ัด คุณลักษณะ หรือสมรรถนะของผู้เรียน) .......................................................................................... ................................................... ............................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ . ลงช่ือ . ( นายวริ ตั น์ พิมพา ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ

ความเห็นของหัวหน้าของหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ได้ตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ...................................................................แลว้ มีความคดิ เห็น ดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ยังไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป 3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ........................................................................................... ............................................................ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... . ลงช่ือ . ( นายชวลิต สจุ รติ ) หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี . ความคิดเหน็ รองผู้อำนวยการ กลุ่มบริหารวชิ าการ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ลงชือ่ .......................................................... ( นางบณุ ฑริก ศรบี ุญเรือง) รองผูอ้ ำนวยการ กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 . รายวิชา การออกแบบฯและวทิ ยการคำนวณ2 รหสั วิชา ว 22103 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2565 . หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ตัวแปรภาษาไพทอน จำนวน 2 คาบ ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวติ จรงิ อยา่ งเปน็ ขนั้ ตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ร้เู ท่าทัน และมจี ริยธรรม ตวั ช้วี ัด ม. 2/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใชต้ รรกะและฟงั ก์ชนั ในการแก้ปัญหา 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้สตู่ วั ชี้วัด 1. อธบิ ายความหมายของตัวแปรไดถ้ ูกต้อง (K) 2. สามารถตัง้ ชอื่ ตัวแปรตามกฎการต้งั ชื่อได้ถูกต้อง (P) 3. เหน็ ถงึ ประโยชน์และความสำคัญของการเขยี นโปรแกรมโดยใชภ้ าษาไพทอน (A) 3. สาระสำคัญ การเขียนโปรแกรมในภาษาไพทอนนน้ั จะต้องใช้ตัวแปรมาช่วยในการเก็บข้อมลู ต่าง ๆ โดยตัวแปร เปรยี บเสมอื นภาชนะท่ีใชเ้ ก็บข้อมูล และข้อมลู เหลา่ น้ันสามารถเปล่ียนแปลงไดต้ ามความตอ้ งการของ ผเู้ ขยี น 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน(ใหเ้ ลือกเขียนเฉพาะหัวขอ้ ทสี่ อดคล้องกับกิจกรรมการเรียนในแต่ละหนว่ ย และตอ้ งประเมนิ ไดจ้ ริง)  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี  ความสามารถในการส่อื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5. ทกั ษะนักเรียนในศตวรรษท่ี 21  ทกั ษะด้านการเรยี นร้แู ละนวตั กรรม  ทกั ษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี  ทกั ษะด้านชวี ิตและอาชีพ

6. การบูรณาการการเรียนรู้  หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง  โรงเรียนคณุ ธรรม  สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น  โรงเรียนสุจริต/ต้านทุจรติ  อ่นื ๆ (ระบ)ุ ..........................................................................  สง่ิ แวดล้อม 7. การจดั กิจกรรมการเรียนการสอน (ใหเ้ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั ดว้ ยวธิ กี ารสอน เทคนิคการสอน กระบวนการสอนทห่ี ลากหลายเหมาะสมกบั รายวิชา) ข้ันนำ ข้ันที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมจากชวั่ โมงทีแ่ ลว้ เกีย่ วกับการออกแบบขัน้ ตอนการทำงานของโปรแกรม 2. ครูถามกระต้นุ ความสนใจของนกั เรยี นว่า“จากการออกแบบขัน้ ตอนการทำงานของโปรแกรม ทไ่ี ด้เรยี นมาแล้ว นกั เรยี นคดิ ว่าสามารถนำไปเขียนในโปรแกรมอะไรบ้างท่นี ักเรยี นรูจ้ ัก” (แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดลุ ยพนิ ิจของ ครผู ู้สอน เชน่ โปรแกรม Scratch โปรแกรม Python เป็นต้น) 3. ครวู าดรปู คอมพิวเตอรล์ งบนกระดานหน้าช้ันเรียน และถามคำถามประจำหวั ข้อกับนักเรียนว่า “ถา้ เปรยี บคอมพิวเตอรเ์ ป็นรา่ งกายมนุษย์ จะเปรียบหนว่ ยประมวลผลกลางกบั อวยั วะใด” (แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณข์ องตนเอง โดยคำตอบที่ถูกตอ้ ง คือ สมอง) 4. ครอู ธิบายเพื่อเชือ่ มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี นว่า“การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ในภาษาไพทอน เหมาะสำหรับผเู้ ริม่ ตน้ เขยี นโปรแกรมไปจนถึงการประยุกต์ใช้งานในระดับสงู เน่ืองจากเป็น ภาษาทม่ี ีโครงสรา้ งและไวยากรณ์คอ่ นขา้ งง่าย ไมซ่ ับซอ้ น ทำให้ง่ายตอ่ การทำความเข้าใจ ดังน้ัน จงึ ต้องใช้หนว่ ยประมวลผลกลางในการคิดคำนวณค่อนข้างมากกวา่ จะเขยี นโปรแกรม ไดส้ ำเร็จ” ข้นั สอน ข้ันท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. ครถู ามนักเรยี นวา่ “ถา้ นักเรยี นตอ้ งการเขียนโปรแกรมเพ่ือคำนวณหาค่าข้อมลู ต่าง ๆ น้ัน นกั เรยี นรู้หรือไมว่ า่ ข้อมูลท่เี รานำมาใช้ในการคำนวณ จะถูกเกบ็ ไว้ที่ส่วนใดในโปรแกรม” (แนวตอบ : ข้อมูลทนี่ ำมาใช้ในโปรแกรมนั้นจะถูกเก็บไวใ้ นตวั แปร) 2. นกั เรยี นศึกษาข้อมลู เกยี่ วกบั ตัวแปรในภาษาไพทอนและการต้งั ชอ่ื ตัวแปรในภาษาไพทอน จากหนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่ือง การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ย ภาษา Python หรือสบื ค้นจากอินเทอร์เน็ตที่เครอื่ งคอมพิวเตอร์ของตนเอง ขัน้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 3. ครูอธบิ ายถงึ การต้งั ช่ือตวั แปรทีด่ ีในโปรแกรมภาษาไพทอน ซ่ึงมี 2 รปู แบบ คือ Camel Case เป็นรปู แบบการต้งั ชื่อที่มีการใชภ้ าษาองั กฤษตัวพิมพ์เล็กและตัวพมิ พ์ใหญส่ ลับกันไป เชน่

calculateGrade , computerScore เปน็ ต้น และแบบ Snake Case เป็นรปู แบบการตั้งชอ่ื ตวั แปรทแ่ี ยกคำดว้ ยเครื่องหมายขีดเส้นใต้ (Underscore) “_” เช่น calculate_grade , computer_score เป็นตน้ ข้นั สอน ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 4. ครอู ธิบายถงึ วธิ กี ารสรา้ งและกำหนดคา่ ให้กบั ตวั แปรว่า“โปรแกรมภาษาไพทอนมีการสร้าง และกำหนดค่าให้กับตัวแปรที่แตกตา่ งจากโปรแกรมอืน่ เน่ืองจากภาษาไพทอนเปน็ ภาษา ประเภท Dynamically-typed Language หมายถงึ ภาษาท่ีมีการสรา้ งตัวแปร โดยไม่ต้องมี การกำหนดชนิดของตวั แปร ชนิดของตัวแปรจะถูกกำหนดด้วยขอ้ มูลท่เี ก็บไวใ้ น ตวั แปรโดย อตั โนมัติ ซ่ึงจะต่างจากโปรแกรมอน่ื ท่จี ะตอ้ งกำหนดชนิดของตัวแปรกอ่ น จากนน้ั จึงจะทำการ กำหนดคา่ ให้ตวั แปรได้ สำหรับรูปแบบการสรา้ งและกำหนดค่าตวั แปร” ดงั นี้ ชอ่ื ตวั แปร = คา่ ทเี่ กบ็ ไวใ้ นตัวแปร หรอื นพิ จน์ หรือตวั แปรอน่ื ๆ 5. ครอู ธบิ ายถึงชนดิ ขอ้ มลู ของตัวแปร ซง่ึ ประกอบด้วยข้อมลู ทเี่ ปน็ ตัวเลขจำนวนเต็ม ตวั เลข จำนวนจรงิ และขอ้ มูลทีเ่ ปน็ อักขระหรือข้อความทม่ี ักจะถูกใช้งานบอ่ ยจากหนังสือเรยี น 6. ครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ เกีย่ วกับชนิดขอ้ มลู ของตัวแปรว่า“ชนดิ ของข้อมูลพื้นฐานในภาษาไพทอน แบ่งออกเป็น 5 ชนดิ ใหญ่ ๆ ได้แก่ number, string, list, tuple และ dictionary ซึ่งเป็น ตัวแปรทั่ว ๆ ไป แต่ภาษาไพทอนยอมให้มีตัวแปร list, tuple, dictionary ทีผ่ สมกันได้ เรียกว่าชนดิ complex” ข้นั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 7. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามข้อสงสยั และครูให้ความร้เู พม่ิ เติมในส่วนนนั้ 8. ครูให้นกั เรยี นทำใบงานท่ี 2.2.1 เรอ่ื ง ตัวแปรในภาษาไพทอน โดยใหน้ ักเรยี นตอบคำถาม ท่ีกำหนดให้โดยละเอียด Note วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรมเพ่อื ใหน้ ักเรยี น - มีทักษะการสืบค้นข้อมูล โดยใหน้ กั เรยี นแต่ละคนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เนต็ เพอื่ สบื เสาะหาความร้ตู ามหัวข้อท่ีได้รับมอบหมาย - มที กั ษะการสงั เกต โดยให้นักเรียนสงั เกตเกยี่ วกับการตง้ั ชือ่ ตัวแปรจากหนังสือเรียน เพอื่ นำไปปรบั ใชใ้ นการเรยี นได้อย่างเหมาะสม - มีทกั ษะการคิดวิเคราะห์ โดยให้นกั เรยี นพิจารณาเนื้อหาจากการสบื ค้นหรือศึกษา ขอ้ มูลจากแหลง่ ข้อมูลตา่ ง ๆ เช่น หนังสอื เรยี น อนิ เทอรเ์ น็ต เป็นตน้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook