35 ประเภทของการจัดรายการนาํ เทีย่ วตามเกณฑอาณาเขตการจดั นําเท่ยี วและนกั ทองเทย่ี ว สามารถแบงได 3 ประเภท ดังน้ี 1) Domestic Tour 2) Inbound Tour 3) Outbound Tour 1) Domestic Tour คือการจัดรายการนาํ เทยี่ วในประเทศ สาํ หรับนกั ทองเท่ียวทเี่ ปน ประชากรในประเทศนนั้ เชน การจัดรายการนาํ เทย่ี วในประเทศไทย สําหรับนักทอ งเทยี่ ว ชาวไทย การทองเทย่ี วประเภทนี้ไดรบั การสงเสริมจากรฐั บาลอยา งตอ เน่อื ง เนื่องจาก ตองการสงเสรมิ การพฒั นาเศรษฐกจิ และการกระจายรายไดไ ปสูภ ูมภิ าคตางๆ ในประเทศ และเปนการลดการนําเงนิ ตราออกนอกประเทศจากการทอ งเทีย่ วแบบ Outbound Tour ซึ่งจะกลา วตอไป 2) Inbound Tour คอื การจัดรายการนําเทยี่ วในประเทศ สาํ หรับนกั ทองเทย่ี วชาว ตางประเทศ หรือการนาํ นักทองเทีย่ วชาวตางประเทศเดินทางมาทองเทย่ี วในประเทศ เชน การจดั รายการนําเที่ยวเพ่ือเยยี่ มชมพระบรมมหาราชวงั – วัดพระแกว – และลองเรือชมวิถี ชีวติ รมิ ฝง แมน า้ํ เจาพระยา สถานที่ทอ งเทย่ี วเหลานี้เปน เอกลักษณท างศิลปและ วัฒนธรรมของไทย ซึง่ ไดรบั ความนยิ มจากนกั ทองเทย่ี วชาวตา งชาตเิ ปนจํานวนมาก หรอื แทบจะเรียกไดว าหากนกั ทอ งเทย่ี วชาวตา งชาตมิ าแลว ไมไ ดมาเยยี่ มชมสถานทเ่ี หลา น้ถี ือ วา มาไมถงึ เมอื งไทย การทองเที่ยวประเภทนีก้ ไ็ ดร ับการสง เสรมิ จากภาครัฐเชน กนั เนื่องจากเปน การทอ งเทยี่ วท่ีสามารถสรางรายไดท่ีเปน เงินตราตา งประเทศใหแกป ระเทศ ไทยเปน จาํ นวนและชวยลดการขาดดุลทางการคา อีกทงั้ ยงั ชวยกระตนุ เศรษฐกิจและสรา ง รายไดใ หแกป ระชาชนในระดบั ภูมภิ าคและทอ งถ่ินเปนจาํ นวนมากอกี ดว ย นอกจากนั้น การทองเทยี่ วประเภทนยี้ ังเปน สวนสาํ คญั ในการสง เสรมิ การแลกเปลย่ี น เรียนรูด า น วัฒนธรรม ซงึ่ นาํ ไปสกู ารสรา งเสรมิ ความเขาใจและความสมั พันธอันดีตอกันระหวา ง ประชาชนจากหลากหลายประเทศทวั่ โลก 3) Outbound Tour คอื การจัดรายการนําเทย่ี วเพื่อไปเย่ียมชมสถานทที่ อ งเทย่ี วใน ตางประเทศ สาํ หรบั นกั ทอ งเทย่ี วชาวไทย 10 อันดบั ประเทศทน่ี ักทองเท่ยี วชาวไทยนยิ ม เดนิ ทางไปไดแก ประเทศญปี่ ุน ไตหวนั นิวซีแลนด เบลเยียม ฝรงั่ เศส สวิสเซอแลนด สหรฐั อเมรกิ า สาธารณรฐั ประชาชนจนี และ องั กฤษ (www.Thaitravelcenter.com) การ ทองเทีย่ วประเภทน้เี ปน การเกดิ โลกทัศนและสรา งเสริมประสบการณใ นการสัมผัสและ เรียนรูวถิ ชี วี ิตและวฒั นธรรม รวมถึงทรัพยากรการทองเท่ียวทางธรรมชาติและลกั ษณะภูมิ
36 ประเทศของประเทศตา งๆ ซึง่ มีความแตกตา งจากประเทศไทย แตอ ยางไรกด็ ี การ ทอ งเท่ียวประเภทนี้เปน กิจกรรมท่ีทาํ ใหเงนิ รั่วไหลออกนอกประเทศเปน จาํ นวนมาก ดังน้ัน จงึ ควรจาํ กัดการจบั จา ยใชส อยในตางประเทศ โดยเฉพาะการซือ้ สนิ คา ยห่ี อ ชนั้ นาํ หรือ สนิ คา แบรนดเนมจากตางประเทศ ซึง่ มีราคาสูงมากเมื่อเปรยี บเทยี บกบั สินคา ของคนไทย ท่ีผลิดในประเทศไทยในระดบั คณุ ภาพใกลเ คียงกนั ประเภทของการจัดรายการนาํ เทยี่ วตามเกณฑป ระเภทนักทอ งเทย่ี ว สามารถแบง ได 2 ประเภท ดังนี้ 1) Package Tour คอื การจดั รายการนําเทีย่ วแบบสาํ เรจ็ รปู โดยมีการกาํ หนดสถานที่ ทอ งเท่ยี ว กิจกรรม ระเวลาและกาํ หนดการ รวมถึงยานพาหนะและคาใชจ า ยในการ ทองเท่ียวไวเ รยี บรอยเลว สําหรบั นักทองเที่ยวโดยทว่ั ไปทส่ี นใจสามารถเลอื กซ้อื รายการนําเทย่ี วแบบสาํ เร็จรปู นไ้ี ดและกลุม นกั ทอ งเท่ยี วทเ่ี ดินทางทอ งเทีย่ วรว มกนั โดยสว นใหญจ ะเปนคนทไ่ี มร จู ักกนั มากอ น คอื ตางคนตา งมาซอื้ รายการนาํ เทย่ี วและ เดนิ ทางทอ งเทย่ี วรว มกนั การจัดรายการนําเทย่ี วแบบนม้ี ักจะมกี ารกําหนดจาํ นวน นกั ทอ งเทย่ี วเพอ่ื ความคมุ ทนุ ในการใหบรกิ ารนาํ เทย่ี วแตละครงั้ รายการนาํ เทยี่ วแบบ นี้มักจะไมม กี ารเปล่ยี นแปลงหากไมม คี วามจําเปน จริงๆ เนือ่ งจากเปน เหมอื นขอ ตกลง ท่ใี หไ วก บั นกั ทอ งเทีย่ วทีซ่ อ้ื รายการนําเทยี่ วนนั้ ๆ หากนาํ เทย่ี วโดยไมต รงกบั รายการ นําเที่ยวหรอื กาํ หนดการทแี่ จง ไวก ับนกั ทองเทย่ี ว โดยไมไดรับความยนิ ยอมจากลูก ทัวรถือวา เปน การผิดสญั ญาและอาจนาํ มาซ่ึงการฟองรอ งได 2) Group Tour คอื การจัดรายการนําเทยี่ วเพื่อตอบสนองความตอ งของนักทองเทยี่ ว ทมี่ าเปนหมูค ณะ เชน กลมุ นกั เรียน นกั ศึกษา กลมุ ประชุมสมั มนา หรอื กลมุ คนที่ รวมตวั กนั เพ่อื ตอ งการเดินทางทอ งเที่ยว รายการทอ งเทีย่ วแบบนม้ี ีความยดื หยนุ มากกวารายการนาํ เที่ยวแบบสาํ เรจ็ รูป ซ่งึ อาจมกี ารเปลี่ยนแปลงไดท ้งั ดา นแหลง ทอ งเท่ียว ทพี่ กั อาหาร และกจิ กรรมตา งๆ ท่ีเก่ียวขอ ง ขึ้นอยูก บั ความตอ งการและ งบประมาณของลกู คาหรือนกั ทอ งเทยี่ ว การคดิ ราคาการนาํ เท่ียวก็จะคดิ เปนรายหวั หรือรายบุคคล โดยอาจไดร บั สว นลดจะมากหรอื นอยข้ึนอยูกบั จํานวนนกั ทอ งเทย่ี ว การตอรอง และรายละเอยี ดของรายการนําเท่ยี วทต่ี อ งการ 3) Independent Tour or Private Tour คอื การจดั รายการนาํ เทย่ี วตามความตองการ ของนักทอ งเทย่ี วทม่ี าใชบ รกิ ารแบบรายบคุ คลหรอื คสู ามภี รรยา หรือครอบครัว หรือ กลมุ นกั ทองเทย่ี วทม่ี จี ํานวนนอย ประมาณ 1-5 คน การทองเทยี่ วแบบนจี้ ะมคี วาม ยืดหยนุ ตามความตองการของนกั ทอ งเทยี่ ว นกั ทอ งเที่ยวที่มาดว ยกันรูจักกนั ดแี ละ
37 ยนิ ดีจะเดนิ ทางทอ งเทยี่ วรวมกัน คาใชจา ยในการทอ งเทยี่ วแบบน้มี กั จะมรี าคาสงู กวา การทองเทยี่ วแบบกลมุ หรือหมูคณะข้นึ อยกู บั พาหนะทใ่ี ชในการเดนิ ทาง แหลง ทอ งเท่ยี ว และกจิ กรรมดานการทองเทย่ี ว 4) Incentive Tour คอื การจดั รายการนําเทยี่ วใหแ กบ รษิ ทั หา งรา น หรอื โรงงาน เพ่อื เปน รางวลั ใหแ กพ นกั งาน การตดิ ตอ จะเกิดข้นึ ระหวา งผูประกอบการตางๆ ทีต่ อ งการจัด นาํ เท่ยี วเพ่ือเปน รางวลั แกพ นักงานของตน กับธรุ กิจนาํ เท่ียว ซงึ่ จะมกี ารพูดคุยและตก ลงกนั เรอ่ื งสถานทีทองเทยี่ ว พาหนะในการเดนิ ทาง ท่พี กั อาหาร และกจิ กรรมอนื่ ๆ ท่ี เกีย่ วขอ ง โดยการคิดราคาจะเปนราคาแบบเหมาจายรายบคุ คลหรือตอ หัว โดยบริษทั หรอื ผปู ระกอบการจะเปน ผอู อกคาใชจายใหก บั พนกั งานของตน นอกจากนน้ั ธุรกจิ นาํ เทยี่ วยังมกี ารบริการตางๆ ไวสําหรบั นกั ทองเทยี่ วรายบคุ คลตาม ความตองการ เชน การรบั จองตัว๋ เครื่อง การรับจองทพี่ กั การบริการใหเ ชาพาหนะในการเดนิ ทาง เปน ตน ซง่ึ การบรกิ ารเหลา นี้ นกั ทอ งเที่ยวสามารถซื้อหรือใชบ ริการตามที่ตองการ หากไมต อ งการ ซื้อรายการนําเที่ยวที่จัดไวเ รยี บรอยแลว กส็ ามารถใชบรกิ ารอื่นๆ และเดินทางทองเท่ยี วดว ยตนเอง หรือจะขอคําแนะนําและขอ มูลจากธุรกิจนาํ เท่ยี วดวยกไ็ ด ประเภทของการจดั รายการนําเที่ยวตามเกณฑว ัตถุประสงคดา นการทอ งเทย่ี วและ แหลง ทอ งเทีย่ ว สามารถแบง ได หลายประเภท ดงั น้ี 1) Eco tour การทองเทีย่ วเชิงนิเวศ คือ “การทอ งเท่ยี วในแหลงธรรมชาติทมี่ ีเอกลกั ษณ เฉพาะถน่ิ และแหลง วัฒนธรรม ท่เี ก่ียวเนอื่ งกบั ระบบนเิ วศ โดยมีกระบวนการเรยี นรูรว มกันของผทู ี่ เก่ยี วขอ งภายใตก ารจดั การส่งิ แวดลอ มและการทองเทยี่ วอยา งมสี ว นรว มของทองถน่ิ เพ่ือมงุ เนน ให เกดิ จิตสาํ นกึ ตอ การรักษาระบบนิเวศอยา งยงั่ ยนื ” (วิมล จิโรจพนั ธุ และคณะ, 2548) องคประกอบ หลกั ของการจดั รายการนาํ เท่ยี วเชิงนิเวศ คอื แหลงทอ งเทย่ี วทางธรรมชาติ การสัมผสั และเรยี นรู เกยี่ วกับส่งิ แวดลอมและวัฒนธรรมในพ้ืนท่ีนนั้ ๆ และสงิ่ ที่สาํ คัญคอื ขอ พงึ ปฏบิ ตั ิของนักทองเทย่ี ว เกี่ยวกบั การแตงกายและการปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบของแตละสถานทอี่ ยางเครง ครดั และละเวน การปฏบิ ัตติ ามขอหา มตา งๆ เชน การขีดเขียน การเกบ็ ใบไม กอนหนิ หรือของปา และการทง้ิ ขยะ เปนตน หลองทอ งเทย่ี วทน่ี กั ทองเทย่ี วนยิ มทอ งเทีย่ วเชงิ นเิ วศ ไดแก อทุ ยานแหง ชาติตางๆ ซ่ึงเปน แหลงทรัพยากรธรรมชาตทิ สี ําคัญของประเทศทีม่ ีความหลากหลายดา นระบบนเิ วศและมคี วาม สวยงามทางธรรมชาติ เชน อุทยานแหง ชาตดิ อยอนิ ทนนท อทุ ยานแหง ชาตหิ ว ยนาํ้ ดัง และอุทยาน แหงชาตเิ ขาใหญ เปน ตน
38 2) Adventure Tour คอื การทองเทีย่ วแบบผจญภัย โดยสวนใหญม ักจะเปนกจิ กรรมที่ ทําในแหลงทอ งเทยี่ วทางธรรมชาติ เพ่อื ความสนกุ สนานและความตน่ื เตน ซึง่ เหมาะกบั หนุม สาวที่ อยใู นวนั รุน ที่ตอ งการความเปลกใหม ทา ทายและอยากลอง ตวั อยางกิจกรรมการทอ งเที่ยวแบบ ตื่นเตนผจญภยั ไดแก การเดนิ ปา การปนเขา การลอ งแกง การลองแพ เพ่อื เทยี่ วชมความงามของ ธรรมชาติและส่งิ แวดลอม การทอ งเท่ยี วประเภทนีอ้ าจจดั อยใู นการทองเทย่ี วเชงิ นิเวศก็ได แตวา จะ เนน กิจกรรมทต่ี ่ืนเตนและทาทายเปนสาํ คญั 3) Agro Tour การทอ งเทย่ี วเชงิ เกษตร คือการทองเทย่ี วในแหลง เกษตรกรรม เรอื กสวน ไรน าและฟารม ปศสุ ัตว เพอ่ื ประสบการณทแี่ ปลกใหม และเรยี นรูว ถิ ีชวี ิตเกษตรกร ตวั อยา งแหลง ทองเที่ยวเชงิ เกษตรทีไดร ับความนยิ ม ไดแ ก นาขา ว ไรส ม ไรอ งุน ฟารมนกกระจอกเทศ และฟารม โคนม กจิ กรรมทีน่ ักทองเท่ยี วสามารถทาํ ไดค อื การเย่ยี มชมพนื้ ท่ีทางการเกษตร วธิ ีการทาํ การเกษตรและฟารมปศสุ ัตว รวมไปถงึ การทดลองปฏบิ ตั ิจรงิ และการซื้อสินคาทางการเกษตรเปน ของฝากของทร่ี ะลึก 4) Diving Tour คือ การทองเท่ียวที่เนนกจิ กรรมดํานาํ้ เพอื่ ชน่ื ชมความงามของธรรมชาติ ใตทองทะเล การดาํ นา้ํ มี 2 ประเภทใหญๆ คอื การดาํ ผิวนาํ้ (Snorkeling) ละการดํานํ้าลกึ (Scuba Diving) การดาํ ผวิ นา้ํ ไมจ าํ เปน ตองการไดร ับการฝกฝนและเรยี นรมู ากนกั เพยี งแตการ แนะนาํ วธิ กี ารและการใชอปุ กรณท ี่จาํ เปน ก็เพียงพอ สว นการดาํ นา้ํ ลกึ นกั ทอ งเทย่ี วควรไดรับการ เรยี นรูและฝกฝนเปน อยา งดกี อนทีจ่ ะดาํ นาํ้ อกี ทงั้ มัคคเุ ทศกก็ควรมคี วามชาํ นาญและสามารถให คาํ แนะนาํ นักทอ งเทยี่ วไดเกยี่ วกับสถานทแ่ี ละสิ่งที่สามารถพบไดใ ตนาํ้ รวมถึงวิธการในการปอ งกนั ตวั และแกปญ หาหากมอี ันตรายเกดิ ขึน้ สถานทที่ ่ีนกั ทอ งเทยี่ วนิยมไปดาํ น้ํา ไดแก หมเู กาะสุรนิ ทร หมูเกาะสมิ ิลนั จงั หวัดพงั งา เปน ตน 5) Cruise Tour การทอ งเทย่ี วโดยการลอ งเรือสาํ ราญ คอื การทอ งเทยี่ วทางน้ําเพ่อื ชม ธรรมชาติและทํากจิ กรรมตา งๆ บนเรอื ซ่งึ เปนสถานทที่ น่ี กั ทอ งเทีย่ วใชช วี ติ และทาํ กจิ กรรมระหวา ง การเดนิ ทางทอ งเทยี่ ว อาจมีการแวะทอ งเท่ียวตามเมอื งทา ตางๆ ท่ีผา นไปตามท่กี าํ หนด 6) Study Tour คอื การทศั นศกึ ษา หรือการทอ งเท่ยี วเพ่อื การศกึ ษาหาความรู ข้ึนอยกู ับ วตั ถปุ ระสงคใ นการจัด โดยทวั่ ไปการจัดรายการนาํ เทย่ี วเพือ่ การทัศนศึกษา จะประกอบไปดวย แหลง ทองเทย่ี วตางๆ ไดแ ก พิพธิ ภัณฑ สถานทที่ อ งเทีย่ วทางธรรมชาติ และสถานทที่ อ งเท่ียวทาง ประวัติศาสตรและศลิ ปวัฒนธรรม
39 7) Sightseeing Tour การทอ งเท่ยี วแบบชนื่ ชมธรรมชาติดว ยสายตามากกวา การทาํ กจิ กรรมอ่ืนๆ การทองเที่ยวประเภทนมี้ กั จะใชพ านหะในการเดนิ ทางมากกวา การเดินเนอื่ งจาก พ้นื ที่มีขนาดใหญ เชน การน่ังรถ 8) City Tour คือ การทองเทย่ี วเพอื่ ชมเมืองและวิถชี วี ติ ผคู น อาจเปนการทอ งเทยี่ วทาง รถยนต รถไฟ หรอื การเดนิ เพื่อใหไ ดพ บเหน็ สง่ิ กอสราง ถนนหนทาง และวถิ ชี วี ติ ชมุ ชนเมอื ง ปจจบุ ันน้ตี ามเมอื งทองเที่ยวหลกั จะจดั รถบสั หรอื รถชมเมอื งไวคอยบรกิ าร โดยเดินทางไปยงั สถานทตี่ า งๆ ทม่ี คี วามสาํ คญั และมีการบรรยายประกอบจากมคั คเุ ทศกห รือจากเครื่องบันทกึ เสยี ง เพ่อื ใหน ักทอ งเที่ยวไดช มเมอื งและสถานท่ีสําคญั ไดอ ยา งทว่ั ถงึ ในระยะเวลาจํากัด พรอ มท้งั ได ความรเู กยี่ วกบั ประวัติความเปนมาและความสาํ คัญดว ย โดยทัว่ ไปการชมเมอื งมกั จะใชเวลาคร่งึ วันหรือหน่ึงวนั ในการชม 9) Cultural tour การทอ งเทีย่ วเชงิ วัฒนธรรม คอื การทองเทยี่ วตามสถานทีท่ เ่ี ปน แหลง ศิลปวัฒนธรรม เชน วดั วาอาราม ปราสาทราชวงั แหลง โบราณคดี อุทยานประวตั ิศาสตร พิพธิ ภัณฑ และวถิ ีชวี ิตชมุ ชนตางๆ ทีม่ ีเอกลกั ษณโ ดดเดน และความนา สนใจ ตัวอยา งแหลง ทองเที่ยวทางวัฒนธรรม ไดแ ก อุทยานประวตั ิศาสตรพระนครศรอี ยธุ ยา อทุ ยานประวัติศาสตร สทุ ัย ศรสี ชั นาลัย กาํ แพงเพชร แหลงโบราณคดีบา งเชียง ชาวเขาเผา กระเหรีย่ ง ชาวเขาเผา มง วถิ ี ชวี ิตชุมชนริมนาํ้ และตลาดนํา้ เปน ตน 10) Spa and Medical Tour การทอ งเที่ยวเพอื่ สขุ ภาพ ในปจจบุ นั ผูคนรวมถึง นักทอ งเทย่ี วไดใ หค วามสาํ คญั และความสนกบั สุขภาพทงั้ ดานรา งกายและจติ ใจของตนเองมากขน้ึ ดงั นน้ั กิจกรรมตางๆ ดานการทองเทยี่ วทส่ี งเสริมสขุ ภาพกายและใจทด่ี กี ็เปน ส่ิงทีไ่ ดร ับความนยิ ม เชน การนวดแผนไทย การบาํ บดั ดวยนํา้ การบาํ บัดดวยกลิ่น อาหารเพือ่ สขุ ภาพ กจิ กรรมเหลานี้ สามารถสอดแทรกอยใู นรายการนาํ เทย่ี วประเภทตา งๆ ได เพ่อื ใหน กั ทอ งเทย่ี วไดผอ นคลาย นอกจากประเภทการจัดรายการนําเที่ยวท่ีกลาวมาแลว ยังมีประเภทการทองเท่ียวอีก มากมายท่ีไดรับการพัฒนาข้ึนอยางตอเน่ืองตามความตองการของนักทองเที่ยว และการจัด รายการนําเท่ียวไมจําเปนตองมีวัตถุประสงคเดียวเสมอไป อาจเปนการนําเสนอแหลงทองเท่ียว และกิจกรรมท่ีมีความหลากหลาย ทั้งนี้ทั้งน้ันก็ขึ้นอยูกับความตองการของนักทองเท่ียวและความ เหมาะสมในการจดั รายการภายในเสน ทางและระยะเวลาทีก่ ําหนด
40 8. ขอดแี ละขอ จาํ กดั ของการใชบรกิ ารธุรกิจนําเทย่ี ว จากการที่ธุรกิจนําเท่ียวมีการบริการตางๆท่ีสามารถตอบสนองความตองการของ นักทองเที่ยวอีกทั้งธุรกิจนําเที่ยวยังเปนตัวกลางระหวางธุรกิจตางๆในอุตสาหกรรมการทองเท่ียว และนักทองเท่ียวท่ีมีอํานาจในการตอรองราคากับธุรกิจท่ีพัก รานอาหาร และการขนสงและธุรกิจ อ่ืนๆที่เก่ียวของกับการท่ีนักทองเที่ยวใชบริการธุรกิจทองเท่ียวโดยเฉพาะการซ้ือรายการนําเท่ียวมี ขอดีดงั ตอไปน้ี 1. ประหยดั คา ใชจ ายมากกวาการไปทอ งเท่ียวดวยตนเอง 2. รูคาใชจายทแ่ี นน อน งบไมบานปลาย 3. ไดรับความสะดวกตลอดการเดินทางทองเท่ียว 4. ไมตอ งกงั วลเร่อื งทีพ่ ัก,อาหารและการเดินทาง 5. ไดรบั ความรูเกยี่ วกบั แหลง ทอ งเท่ียว 6. ไดร ับความปลอดภยั 7. ไมจําเปนตองมีเพ่ือนไปดวยก็สามารถเดินทางรวมกับคนอ่ืนๆที่ซ้ือการนําเที่ยว เดยี วกนั 8. ไดพ บเพือ่ นใหมกบั คนอื่นๆที่รว มเดินทางดว ยกัน ถงึ แมนักทอ งเทย่ี วจะไดร ับการบริการและการอํานวยความสะดวกจากธุรกิจท่ีพักและ มคั คเุ ทศกต ามทีไ่ ดก ลา วไวแ ล แตการใชบรกิ ารธุรกจิ นําเทยี่ วกม็ ีขอ จํากดั ในดานตา งๆดังน้ี คือ 1. สถานที่ทองเท่ียวที่ไมสามารถเลือกไดตามใจชอบเฉพาะบุคคลเพราะถูกกําหนดไว แลว ในรายการนําเท่ยี ว 2. ระยะเวลาในการเท่ียวชมแตละสถานที่ไมสามารถเลือกไดตามใจชอบเฉพาะบุคคล เพราะถกู กําหนดไวแ ลว ในรายการนําเทีย่ ว 3. ท่ีพักไมสามารถเลือกไดตามใจชอบเฉพาะบุคคลเพราะถูกกําหนดไวแลวในรายการ นาํ เท่ยี ว 4. อาหารท่ีไมสามารถเลือกไดตามใจชอบเฉพาะบุคคลเพราะถูกกําหนดไวแลวใน รายการนาํ เทย่ี ว
41 5. เพื่อนรวมเดินทางก็อาจจะเปนบุคคลที่เราไมชอบ แตก็ตองรวมเดินทางในการ ทองเทยี่ วดวย 9. สถิติธุรกิจนําเท่ียวในประเทศไทย ประกอบไปดวยจํานวนธุรกิจนําเท่ียวทั้งหมดในประเทศ ไทย ธุรกิจนําเทยี่ วรายใหม และธุรกจิ นาํ เทีย่ วทข่ี อยกเลิกใบอนุญาต 9.1 ธุรกิจนําเที่ยวในประเทศไทย มีทั้งหมดจํานวน 8,208 ราย แบงเปน ธุรกิจนําเท่ียว เฉพาะพ้ืนที่จํานนวน 3,479 ราย ธุรกิจนําเท่ียวในประเทศ (Domestic Tour) จํานวน 1,066 ราย ธุรกิจนําเที่ยวแบบตางประเทศ (Inbound Tour) จํานวน 1,446 ราย และ ธุรกิจนําเที่ยวแบบ ตางประเทศ (Outbound Tour) จํานวน 2,217 รวย กราฟแทงท่ี 2.1 แสดงจํานวนธุรกิจนําเที่ยวท่ี 4 ประเภท ตามที่กลาวขางตน 4000 3479 3200 2400 2217 1600 1446 1066 800 0 Domestic Inbound Outbound เฉพาะพน้ื ท่ี กราฟแทงท่ี 2.4: จํานวนธุรกิจนําเที่ยวท้ังหมดในประเทศไทย แยกตามประเภทธุรกิจนํา เท่ียว แหลง ขอ มลู ฐานขอมูลธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก สํานักงานทะเบียนธุรกิจนําเท่ียวและ มัคคุเทศกก ลาง ขอ มลู ณ วันท่ี 3 มิถุนายน 2553
42 9.2 ธุรกิจนําเท่ียวรายใหมในประเทศไทย สําหรับธุรกิจนําเที่ยวรายใหมที่ไดรับ ใบอนุญาตภายในระยะเวลาประมาณ 2 ป ระหวางวันที่ 6 เมษายน 2551 ถึง วันท่ี 3 มิถุนายน 2553 มจี าํ นวนทั้งสิน้ 4,309 ราย แบงเปน ธุรกิจนําเท่ียวเฉพาะพื้นท่ีจํานนวน 1,699 ราย ธุรกิจนํา เท่ียวในประเทศ (Domestic Tour) จํานวน 536 ราย ธุรกิจนําเที่ยวแบบตางประเทศ (Inbound Tour) จํานวน 1,399 ราย และ ธุรกิจนําเที่ยวแบบตางประเทศ (Outbound Tour) จํานวน 745 ราย กราฟแทงท่ี 2.2 แสดงจํานวนธรุ กจิ นาํ เทยี่ วที่ 4 ประเภท ตามที่กลาวขางตน 1700 1629 1399 1360 745 1020 536 Inbound Outbound 680 Domestic 340 0 เฉพ าะพ้ื นท่ี กราฟแทงที่ 2.5: จํานวนธุรกิจนําเท่ียวรายใหมในประเทศไทย แยกตามประเภทธุรกิจนํา เทยี่ ว ระหวางวันที่ 6 เมษายน 2551 ถงึ วนั ท่ี 3 มิถุนายน 2553 แหลง ขอ มลู ฐานขอมูลธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก สํานักงานทะเบียนธุรกิจนําเท่ียวและ มคั คเุ ทศกกลาง ขอมูล ณ วนั ท่ี 3 มถิ นุ ายน 2553 9.3 ธรุ กจิ นาํ เทยี่ วทข่ี อยกเลิกใบอนุญาต ถึงแมว าจาํ นวนธรุ กิจนาํ เที่ยวในประเทศ ไทยจะมีเปน จาํ นวนกวา 8,000 ราย และเปนธุรกจิ นาํ เทย่ี วรายใหมมากกวา 50% หรือ 4,309 ราย แตจ ํานวนธุรกจิ ที่ขอยกเลกิ ใบอนญุ าตประกอบธุรกิจนาํ เทยี่ วระหวา งปเ ดยี วกนั กับธรุ กิจนาํ เทยี่ ว รายใหม (ระหวางวนั ท่ี 6 เมษายน 2551 ถงึ วนั ที่ 3 มถิ นุ ายน 2553) มีจาํ นวนถงึ 2,409 ราย หรอื มากกวา 50% ของธรุ กจิ นําเทย่ี วรายใหมทเ่ี กดิ ข้นึ ในชว งระยะเวลาเดียวกนั โดยธุรกจิ นําเท่ียวท่ีขอ ยกเลิกใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เทยี่ วแบง ตามประเภท มดี ังน้ี ธรุ กิจนาํ เทย่ี วเฉพาะพน้ื ที่จาํ นน
43 วน 767 ราย ธุรกจิ นําเทย่ี วในประเทศ (Domestic Tour) จาํ นวน 283 ราย ธรุ กิจนาํ เทยี่ วแบบ ตา งประเทศ (Inbound Tour) จํานวน 136 ราย และ ธรุ กิจนําเท่ียวแบบตา งประเทศ (Outbound Tour) จาํ นวน 1,223 ราย กราฟแทงท่ี 2.3 แสดงจาํ นวนธุรกิจนาํ เทยี่ วทงั้ 4 ประเภท ตามทก่ี ลา ว ขา งตน 1300 1223 1040 780 767 520 283 136 Outbound Domestic Inbound 260 0 เฉพ าะพ้ื นท่ี กราฟแทงท่ี 2.6: จํานวนธุรกิจนําเท่ียวในประเทศไทยท่ีขอยกเลิกใบอนุญาตประกอบ ธุรกจิ นาํ เทยี่ ว ระหวา งวันท่ี 6 เมษายน 2551 ถงึ วันที่ 3 มิถนุ ายน 2553 แหลงขอมูล ฐานขอมูลธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก สํานักงานทะเบียนธุรกิจนําเที่ยวและ มคั คุเทศกกลาง ขอมลู ณ วันท่ี 3 มิถนุ ายน 2553 สรปุ ทา ยบท ธุรกิจนําเที่ยวเปนธุรกิจหนึ่งที่มีบทบาทสําคัญตออุตสาหกรรมทองเท่ียวท้ังในดาน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดลอม ธุรกิจนําเท่ียวสามารถจําแนกออกไดเปน 4 ประเภท ตามประเภทใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเท่ียว ไดแก ธุรกิจนําเท่ียวเฉพาะพื้นที่ ธุรกิจนําเที่ยว ภายในประเทศ (Specific Area Tour Company) ธุรกิจนําเท่ียวแบบตางประเทศ (Inbound Tour Company) และธุรกิจนําเท่ียวแบบตางประเทศ (Outbound Tour Company) ธุรกิจนําเท่ียวแต ละประเภทเหลาน้ีนอกจากจะมีการจัดรายการนําเท่ียวและนํานักทองเท่ียวไปเท่ียวตามสถานท่ี ทองเท่ยี วตางๆ แลว ยังมีการบริการอ่ืนๆ เพื่อตอบสนองความตองการของนักทองเที่ยว ไดแก การ รับจองหองพัก การรับจองตั๋วเครื่องบิน การบริการรถเชา การบริการขอมูลดานการทองเที่ยว เปน ตน แตอยางไรก็ดี การใชบริการของธุรกิจนําเท่ียวก็มีท้ังขอดีและขอจํากัดตามท่ีกลาวมาแลว
44 ดังนั้น ส่ิงท่ีธุรกิจนําเท่ียวควรทําคือการปรับปรุงคุณภาพการบริการและพัฒนารูปแบบของการ บริการใหส อดคลองกบั ความตอ งการนักทอ งเทย่ี ว ในปจ จบุ นั ธรุ กิจนําเท่ียวในประเทศไทยไดมีการ เจริญเติบโตและเพิ่มจํานวนมากข้ึน โดยเฉพาะในระยะไมก่ีปท่ีผานมาที่ธุรกิจนําเท่ียวเพิ่มจํานวน ข้ึนมากกวา 50% ของธุรกิจนําเท่ียวท้ังหมดในปจจุบัน ในขณะเดียวกัน ก็มีธุรกิจนําเที่ยวอีก จํานวนไมนอยท่ีเลิกกิจการ ดังนั้น การประกอบธุรกิจนําเท่ียว จึงควรมีการศึกษาสถานการณและ ปจ จยั แวดลอ มตา งๆ ทเี่ ก่ยี วขอ งและปรับตัวเพื่อความอยรู อดและผลกําไรของธรุ กจิ ตอ ไป คําถามทบทวน 1. จงบอกความหมายและอธบิ ายขอบขา ยการบริการของธรุ กจิ นําเท่ยี ว 2. ประเภทของธรุ กิจนําเท่ียวมอี ะไรบาง จงอธบิ าย 3. รปู แบบของการจดั รายการนาํ เทีย่ วมีอะไรบา ง จงอธบิ าย 4. จงบอกขอดแี ละขอจาํ กดั ของการใชบรกิ ารธุรกจิ นาํ เทย่ี ว 5. จงอธิบายแนวโนม การเจริญเตบิ โตของธุรกิจนาํ เทย่ี วในประเทศไทย
45 เอกสารอางองิ พระราชบัญญตั ธิ รุ กิจนําเทย่ี วและมคั คเุ ทศก พ.ศ.2551 ธเนศ ศรีสถิตย, (2550) หนว ยท่ี 5 การจัดการธรุ กิจนาํ เทย่ี ว, การจดั การธุรกิจในแหลงทองเทย่ี ว, มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช สํานักงานทะเบียนธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศกกลาง ฐานขอมูลธุรกิจนําเท่ียวและมัคคุเทศก จํานวนธุรกิจนําเที่ยวทั้งหมดในประเทศไทย แยกตามประเภทธุรกิจนําเท่ียว ระหวาง วันท่ี 6 เมษายน 2551 ถงึ วนั ที่ 3 มิถนุ ายน 2553ขอ มลู ณ วันที่ 3 มถิ นุ ายน 2553 สํานักงานทะเบียนธรุ กจิ นาํ เท่ียวและมัคคเุ ทศกก ลาง ฐานขอมลู ธุรกิจนาํ เทย่ี วและมคั คุเทศก จาํ นวนธุรกจิ นาํ เทยี่ วรายใหมในประเทศไทย แยกตามประเภทธุรกิจนาํ เทย่ี ว ระหวา ง วันท่ี 6 เมษายน 2551 ถงึ วนั ที่ 3 มถิ นุ ายน 2553 ขอ มลู ณ วนั ท่ี 3 มถิ ุนายน 2553 สาํ นักงานทะเบียนธรุ กจิ นาํ เทย่ี วและมคั คุเทศกก ลาง ฐานขอมูลธุรกจิ นาํ เทยี่ วและมัคคุเทศก จาํ นวนธุรกจิ นาํ เทยี่ วในประเทศไทยทขี่ อยกเลิกใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ นาํ เทยี่ ว ระหวา งวันท่ี 6 เมษายน 2551 ถงึ วนั ท่ี 3 มถิ ุนายน 2553 ขอ มลู ณ วนั ท่ี 3 มถิ นุ ายน 2553
46 แผนบรหิ ารการสอนประจําบทที่ 3 หวั ขอ เนื้อหา 1. ประเภทใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เทย่ี ว 2. คณุ สมบัตขิ องผขู อรบั ใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ นาํ เทยี่ ว 3. เอกสารประกอบการขอรับใบอนญุ าตประกอบธุรกิจนาํ เทย่ี ว 4. สาํ นกั ทะเบียนธรุ กิจนาํ เท่ียวและมัคคเุ ทศกแ ละการยน่ื ขอจดทะเบียน 5. ขน้ั ตอนการออกใบอนญุ าตประกอบธุรกิจนําเทยี่ ว 6. ตัวอยา งใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ นาํ เทย่ี ว 7. ขอ กาํ หนดเกี่ยวกับการประกอบธรุ กจิ นาํ เทยี่ ว 8. การส้ินสุดใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ นาํ เทย่ี ว วตั ถปุ ระสงคเ ชงิ พฤติกรรม 1. ผูเ รียนสามารถอธิบายประเภทใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ นําเทยี่ วได 2. ผูเรยี นสามารถอธิบายคุณสมบัติของผขู อรบั ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาํ เทีย่ วได 3. ผูเรียนสามารถอธิบายเอกสารประกอบการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนํา เท่ยี วได 4. ผูเรยี นสามารถอธบิ ายขั้นตอนและการย่ืนขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเทย่ี วได 5. ผูเรียนสามารถอธิบายขอกําหนดเก่ียวกับการประกอบธุรกิจนําเที่ยวและการ ส้นิ สุดใบอนญุ าตประกอบธุรกิจนาํ เท่ียวได วิธสี อนและกิจกรรมการเรียนการสอน 1. วธิ ีสอน 1.1 การบรรยายโดยใช PowerPoint Presentation ประกอบ 2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 2.1 การมอบหมายใหน ักศกึ ษากรอกขอ มลู ในแบบฟอรม การขอใบอนญุ าตประกอบ ธรุ กิจนาํ เทย่ี ว
47 ส่อื การเรยี นการสอน 1. PowerPoint Presentation 2. Website เกี่ยวกบั การจดั ตงั้ และการจดทะเบียนธุรกจิ นําเท่ยี ว การวดั และประเมินผล 1. การเขา ชนั้ เรียนและการตรงตอ เวลา 2. กจิ กรรมเดี่ยว คะแนนดิบ 10 คะแนน
48 บทท่3ี การจดั ตง้ั ธรุ กจิ นําเทย่ี ว 1. บทนํา ธุรกิจนําเท่ียวในประเทศไทยจัดต้ังขึ้นตามพระราชบัญญัติธุรกิจนําเที่ยวและ มัคคุเทศก พ.ศ.2551 หลังจากที่ไดยกเลิกพระราชบัญญัติธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก พ.ศ.2535 และ พระราชบญั ญตั ธิ รุ กจิ นาํ เทยี่ วและมคั คุเทศก (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 เดิมการทองเที่ยวแหงประเทศไทย เปนหนวยงานท่ีรับจดทะเบียนธุรกิจนําเท่ียวและ มัคคุเทศกและทาํ หนา ที่ควบคุมดแู ลธรุ กิจนาํ เทย่ี วใหด ําเนนิ ธุรกิจตามกฎหมาย แตเ นอ่ื งจากมีการ ปรับปรุงระบบและโครงสรางการบริหารราชการและหนวยงานของรัฐในป พ.ศ.2545 จึงไดมีการ จัดตั้งกระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา และกําหนดใหสํานักทะเบียนธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก ทําหนาท่ีดําเนิน การเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตตออายุใบอนุญาต สั่งพักหรือเพิกถอน ใบอนุญาตการรับชําระคาธรรมเนียมเกี่ยวกับธุรกิจนําเท่ียว และมัคคุเทศก รวมท้ังการวาง หลักประกันของผูประกอบธุรกิจนําเท่ียว และการออกใบอนุญาตอื่นๆ ท่ีเก่ียวของกับธุรกิจนํา เทย่ี วและมัคคุเทศก (สาํ นกั ทะเบียนธุรกจิ นําเท่ียวและมัคคุเทศก, 2549) 1. ดําเนินการจัดทํา เก็บรักษา บันทึกและติดตามแกไขขอมูลและประวัติของธุรกิจ นาํ เทย่ี วและมคั คุเทศก 2. ประสาน สงเสริมและสนับสนุนหนวยงานท่ีเกี่ยวของ เพื่อใหการประกอบธุรกิจ นําเท่ียวและมัคคเุ ทศกใ หเ ปน ไปตามทีก่ ฎหมายกําหนด 3. ดําเนิน การเก่ียวกับงานเลขานุการของคณะกรรมการธุรกิจนําเที่ยวและ มัคคุเทศก และคณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการธุรกิจนําเท่ียวและมัคคุเทศก แตงตง้ั เพอื่ ใหเ กดิ ความรคู วามเขาใจเก่ียวกับการจดั ตั้งและจะทะเบยี นธุรกจิ นําเที่ยว ในบทน้ี จงึ มีเน้อื หาครอบคลุมประเดน็ ตางๆ ดังน้ี 9. ประเภทใบอนญุ าตประกอบธรุ กิจนาํ เทย่ี ว 10. คณุ สมบตั ขิ องผขู อรับใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เทย่ี ว 11. เอกสารประกอบการขอรบั ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เที่ยว 12. สาํ นักทะเบียนธรุ กจิ นาํ เที่ยวและมคั คุเทศกและการยน่ื ขอจดทะเบียน 13. ข้นั ตอนการออกใบอนุญาตประกอบธรุ กิจนาํ เที่ยว 14. ตวั อยา งใบอนญุ าตประกอบธุรกิจนาํ เทยี่ ว
49 2. ประเภทใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เที่ยว ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาํ เที่ยวมี ๔ ประเภท ไดแ ก 1) ใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ นําเทย่ี วเฉพาะพน้ื ที่ รหสั 13/***** หลักประกัน10,000 บาท สามารถประกอบธรุ กิจนาํ เทยี่ วไดเ ฉพาะจงั หวดั ทีข่ อจดทะเบยี นและจงั หวัดใกลเคยี ง ซง่ึ อยูใ นพน้ื ทเี่ ดยี วกนั เทา นั้น จาํ กัดการใหบ รกิ ารไดเ ฉพาะคนไทย 2) ใบอนุญาตประกอบธรุ กิจนําเทีย่ วในประเทศ (Domestic) รหสั 12/***** หลกั ประกนั 50,000 บาท สามารถประกอบธรุ กิจนาํ เทย่ี วทกุ จังหวดั ในประเทศไทยและใหบริการ ไดเ ฉพาะคนไทย 3) ใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ นําเทย่ี วตางประเทศ (Inbound) รหสั 14/***** หลักประกนั 100,000 บาท สามารถประกอบธรุ กิจนาํ เท่ียวทกุ จงั หวดั ในประเทศไทยและใหบ รกิ าร ชาวตา งประเทศ หรอื การบรกิ ารนําชาวตางชาตเิ ขา มาทองเท่ยี วในประเทศไทย 4) ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาํ เทยี่ วตา งประเทศ (Outbound) รหสั 11/***** หลกั ประกนั 200,000 บาท สามารถประกอบธรุ กิจนาํ เทย่ี วทง้ั ในและตางประเทศ ใหบ ริการไดท ง้ั ชาวไทยและชาวตา งประเทศ ตารางที่ 3.1 ประเภทใบอนญุ าตประกอบธรุ กิจนําเท่ยี ว ประเภทใบอนญุ าตประกอบ รหัส หลักประกัน คาธรรมเนียมในการ ขอรับใบอนญุ าต ธุรกจิ นําเทย่ี ว 100 บาท 300 บาท เฉพาะพน้ื ท่ี 13/xxxxx 10,000 บาท 500 บาท 500 บาท ในประเทศ (Domestic) 12/xxxxx 50,000 บาท ตางประเทศ (Inbound) 14/ xxxxx 100,000 บาท ตา งประเทศ (Outbound) 11/ xxxxx 200,000 บาท 3. คุณสมบัตขิ องผขู อรบั ใบอนุญาตประกอบธุรกจิ นําเท่ียว ผสู ามารถขอรับใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นําเท่ียวคือบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลหรือ บุคคลที่ไดรับการจดทะเบียนตามกฎหมาย ไดแก หางหุนสวนสามัญ หางหุนสวนจํากัด บริษัท จาํ กดั และบริษทั มหาชนจาํ กดั
50 3.1 คณุ สมบตั ิของบุคคลธรรมดาทสี่ ามารถขอรบั ใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ นาํ เที่ยว มีดงั น้ี 1) มอี ายยุ ่สี บิ ปบ รบิ ูรณใ นวันยน่ื คําขอรบั ในอนุญาตประกอบธุรกิจนาํ เทยี่ ว 2) มสี ญั ชาตไิ ทย 3) มภี มู ลิ ําเนาหรือถ่ินท่ีอยูใ นประเทศไทย 4) ไมเ ปน บคุ คลลม ละลายหรอื อยใู นระหวา งถูกพทิ กั ษท รัพย 5) ไมเปนคนวิกลจรติ หรือจิตฟนเฟอนไมสมประกอบ หรือเปน คนไรค วามสามารถ หรือเสมือนไรค วามสามารถ 6) ไมเ ปนผทู อ่ี ยรู ะหวา งถูกสงั่ พกั ใชใบอนุญาตประกอบธุรกจิ นําเที่ยวและยงั ไมพ น กาํ หนดหา ป นับถงึ วนั วนั ทย่ี ืน่ ขอรบั ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เทย่ี ว 7) ไมเคยถกู เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกจิ นาํ เทย่ี วเนือ่ งจากความผดิ ฐานชงิ ทรัพย ปลนทรพั ย ฉอโกง โกงเจา หน้ี หรือยกั ยอกทรพั ย หรอื ความผิดฐานฉอ โกง ประชาชน 8) ไมเ ปนผูทเ่ี คยถกู เพกิ ถอนใบอนุญาตและยงั ไมถึงหาป นบั ถงึ วนั ทย่ี น่ื ขอรบั ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เทย่ี ว 3.2 คณุ สมบตั ิของนิตบิ ุคคลที่สามารถขอรบั ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เทย่ี ว มดี งั น้ี • เปนนติ ิบุคคลตามกฎหมายไทยโดยมวี ัตถปุ ระสงคเพ่อื ประกอบกิจการเกย่ี วกบั การ ทอ งเทย่ี ว • ถาเปน หา งหนุ สวนนิติบคุ คล ผเู ปนหนุ สวนแบบไมจาํ กัดความรับผดิ ชอบตอ งเปนผมู ี สญั ชาตไิ ทย • ถา เปน บรษิ ัทจํากดั และบรษิ ทั มหาชนจาํ กัด บคุ คลธรรมดาสัญชาติไทยตอ งมีหนุ สว นไม นอยกวารอยละหา สิบของทนุ บรษิ ัท และกรรมการของบริษทั เกนิ ครึง่ หนง่ึ ตองเปน ผมู ี สัญชาติไทยและไมม ลี กั ษณะตอ งหา มตามคณุ สมบตั ขิ องบุคคลธรรมดาทีส่ ามารถขอรบั ใบอนุญาตประกอบธุรกจิ นําเท่ียวตามท่กี ลา วมาแลว ขางตน
51 4. เอกสารประกอบการขอรบั ใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ นาํ เที่ยว (http://www.tourismcentre.go.th/) ไดแก 1) แบบคําขอใบอนญุ าตประกอบธรุ กิจนาํ เทยี่ ว 2) หนงั สือจัดต้ังเปน หา งหนุ สว นสามัญหรอื คณะบุคคล 3) สาํ เนาบัตรประจาํ ตัวประชาชน พรอมรับรองสาํ เนาถกู ตอ ง 4) สาํ เนาทะเบยี นบา นของผูมอี ํานาจ พรอมรบั รองสาํ เนาถกู ตอง 5) รปู ถา ยดานหนาสาํ นกั งาน 2 รูป 6) แผนทตี่ ั้งสาํ นกั งาน 7) หลักฐานแสดงกรรมสิทธ์ิหรอื สทิ ธิครอบครองของสถานที่ท่ีใชเ ปน สาํ นกั งาน 8) หนงั สือมอบอาํ นาจ (ถา ม)ี และสําเนาบัตรประชาชน 9) หนงั สือคา้ํ ประกันสาํ หรบั ผขู อใบอนุญาตรายใหม 10) ใบนําสง หลกั ประกัน 2 แผน 11) คาธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ นาํ เท่ียว
52
53 ภาพท่ี 3.2 แบบคําขอใบอนญุ าตประกอบธุรกิจนําเท่ยี วบคุ คลธรรมดา ท่มี า http://www.tourismcentre.go.th/
54 ภาพที่ 3.3 แบบฟอรม รายละเอียดทตี่ ัง้ สํานักงานสาขา ทีม่ า http://www.tourismcentre.go.th/
55 ภาพที่ 3.4 แบบฟอรมภาพถายสํานักงานแสดงเลขทีต่ ั้งและปา ยช่ือสํานกั งาน ทมี่ า http://www.tourismcentre.go.th/
56 ภาพท่ี 3.5 แบบฟอรม แผนท่ีตง้ั สาํ นักงาน ท่มี า http://www.tourismcentre.go.th/
57
58 ภาพท่ี 3.6 หนังสอื ยินยอมใหใชส ถานทเี่ ปนที่ตัง้ สาํ นกั งาน ทีม่ า http://www.tourismcentre.go.th/
59 ภาพที่ 3.7 หนังสือมอบอํานาจ ที่มา http://www.tourismcentre.go.th/
60 ภาพท่ี 3.8 (ตัวอยา ง) หนงั สอื คํา้ ประกันธนาคาร ท่ีมา http://www.tourismcentre.go.th/
61 ภาพท่ี 3.9 ใบนาํ สงหลกั ประกัน ที่มา http://www.tourismcentre.go.th/
62 5. การยนื่ ขอจดทะเบยี น การย่ืนขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยว สามารถยื่นไดที่สํานักทะเบียนธุรกิจนํา เที่ยวและมัคคุเทศก ซึ่งมีสํานักงานต้ังอยูในหลากหลายพื้นท่ีเพ่ืออํานวยความสะดวกใหแกผูที่ ตองการประกอบธรุ กิจนําเทย่ี ว ดังนี้ 1) กรุงเทพและจังหวัดภาคกลาง ยื่นขอ ฯ สํานักทะเบียนธุรกิจนําเท่ียวและมัคคุเทศก กรุงเทพฯ 2) จังหวัดอนื่ ยนื่ ขอ ณ สาํ นกั ทะเบียนธุรกิจนําเท่ยี วและมคั คุเทศก ประจาํ ภูมิภาค 2) ภาคเหนือ อําเภอเมอื ง จังหวดั เชียงใหม 3) ภาคใตฝงตะวันออก อาํ เภอหาดใหญ จังหวัดสงขลา 4) ภาคใตฝ ง ตะวนั ตก อําเภอเมือง จงั หวดั ภูเกต็ 5) ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื อาํ เภอเมือง จงั หวดั นครราชสมี า 6. กระบวนการออกใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ นาํ เทย่ี ว กระบวนออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเท่ียวใชเวลาภายใน 1 ช่ัวโมง สําหรับ ระยะเวลาในการออกใบอนุญาตเปน มัคคุเทศก ภายในเวลา 16 นาที โดยมีขั้นตอนในการพจิ ารณา และออกใบอนุญาตฯ ดงั แผนภาพท่ี 3.10
63 การยืน่ คําขอ / ตรวจเอกสาร เจา หนาที่ตรวจสอบความครบถวนของเอกสาร บันทึกขอมลู เขา สรู ะบบ เจาหนาทีบ่ ันทกึ ขอ มลู เขาสรู ะบบ ตรวจสอบคุณสมบัติ ตรวจสอบความถกู ตองโดยการเชอื่ มระบบขอมลู ตรวจสอบขอ กฎหมาย นติ กิ รตรวจสอบความตอ งโดยการเชอื่ มระบบขอมลู ใหค วามเหน็ ชอบ / ผา นเรือ่ ง หวั หนา กลมุ ทะเบียนธรุ กิจนําเที่ยว / มคั คเุ ทศก จา ยคาธรรมเนยี ม / วางหลักประกนั หัวหนา กลมุ บริหารงานท่วั ไป อนมุ ัติ / ออกใบอนุญาต นายทะเบียนกลาม / สาขา แผนภาพที่ 3.10 กระบวนการออกใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ นาํ เที่ยว ที่มา http://www.tourismcentre.go.th/ 7. ตวั อยา งใบอนญุ าตประกอบธรุ กิจนําเท่ียว ตวั อยา งใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ นาํ เทย่ี วดังท่ีปรากฎในหนา ถดั ไป
64 ภาพท่ี 3.11 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยวของบริษทั หนมุ สาวทัวร จาํ กดั ทม่ี า http://www.noomsaotours.com
65 8. อตั ราคา ธรรมเนยี ม อตั ราคา ธรรมเนยี มของใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เทยี่ ว ใบอนุญาตเปน มคั คเุ ทศก และการตอ อายุ มดี งั นี้ 1) ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เทยี่ ว ฉบับละ 3,000 บาท 2) ใบแทนใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ นาํ เทยี่ ว ฉบับละ 1,000 บาท 3) ใบอนุญาตเปน มัคคุเทศก ฉบับละ 1,500 บาท 4) ใบแทนใบอนญุ าตเปน มคั คเุ ทศก ฉบับละ 500 บาท 5) คาธรรมเนยี มประกอบธรุ กจิ นาํ เท่ียวรายสองป ครงั้ ละ 1,500 บาท 6) การตออายใุ บอนญุ าตเปน มคั คุเทศก ครง้ั ละ 1,500 บาท 9. ขอ กาํ หนดสาํ หรบั ผูป ระกอบการธรุ กจิ นาํ เท่ยี ว ขอกาํ หนดสาํ หรับผูประกอบการธรุ กจิ นาํ เทย่ี ว ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนําเท่ียวและ มคั คเุ ทศก พ.ศ.2551 มดี ังน้ี 1. ผูประกอบธุรกิจนําเที่ยวตองแสดงใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเท่ียวไวในท่ีเปดเผย เหน็ ไดงา ย ณ สถานประกอบการที่ระบุไวในใบอนุญาตประกอบธรุ กิจนําเทีย่ ว 2. ผูประกอบธุรกิจนําเท่ียวตองไมกระทําการใดอันจะกอใหเกิดความเสียหายแก อุตสาหกรรมทองเทย่ี ว แหลง ทองเทย่ี ว หรอื นักทอ งเทีย่ ว 3. การโฆษณาเกี่ยวกับรายการนําเที่ยว ผูประกอบธุรกิจนําเท่ียวตองจัดทําเปนเอกสาร และมรี ายละเอียดดังนี้ เปนอยางนอ ย 1) ชื่อผูประกอบธุรกิจนําเท่ียว สถานที่ และเลขที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนํา เทยี่ ว 2) ระยะเวลาทีใ่ ชใ นการทอ งเท่ยี ว 3) คา บรกิ ารและวิธกี ารชําระคา บริการ 4) ลกั ษณะและประเภทของยานพาหนะที่ใชใ นการเดินทาง 5) จดุ หมายปลายทางและที่แวะพกั รวมทัง้ สถานทีส่ ําคญั ในการนาํ เท่ียว 6) ลกั ษณะและประเภทของท่พี กั และจํานวนครั้งของอาหารทจ่ี ดั ใหบ ริการ 7) จาํ นวนมคั คเุ ทศกหรอื ผูนาํ เท่ียว ในกรณที ีจ่ ดั ใหมมี ัคคเุ ทศกหรือผูน าํ เทยี่ ว 8) จํานวนนักทองเท่ียวขั้นต่ําสําหรับการนําเที่ยว ในกรณีมีเการกําหนดจํานวน นกั ทองเที่ยวขนั้ ต่าํ ไวแ ปนเงือ่ นไข 4. การเปลี่ยนแปลงรายการนําเท่ยี วใหผ ดิ ไปจากทีไดโ ฆษณาไว ผูประกอบธุรกิจนําเท่ียว ตองแจงใหนักทองเท่ียวทราบกอนรับชําระเงินคาบริการ การเปลี่ยนแปลงรายการนํา
66 เที่ยวภายหลังท่ีไดรับการชําระเงินจากนักทองเที่ยวแลว หากนักทองเที่ยวไมประสงค จะเดินทาง ผูประกอบธุรกิจนําเท่ียวตองคืนเงินที่รับชําระคาบริการแลวใหแก นกั ทอ งเท่ียวและไมห กั คาใชจ ายใดๆ ทัง้ สิ้น 5. การยกเลกิ การเดินทางทองเท่ียวมี 2 สาเหตุ 1) ในกรณที ี่นักทองเทย่ี วชาํ ระเงินคา บรกิ ารแลว ไมวา ทง้ั หมดหรอื บางสว น แตไม สามารถเดินทางทองเท่ียวไดตามที่กําหนด หรือ ยกเลิกการเดินทาง ดวย เหตุผลเฉพาะตัวบุคคลของนักทองเที่ยว โดยมิใชความผิดของผูประกอบ ธุรกิจนําเที่ยว ใหผูประกอบธุรกิจนําเที่ยวจายเงินคืนแกนักทองเท่ียวไมนอย กวาอัตราตามหลักเกณฑทีค่ ณะกรรมการประกาศกาํ หนด 2) ถาการยกเลิกการนําเที่ยวเกิดจากกรณีมีนักทองเท่ียวไมครบตามจํานวนขั้น ตํ่าที่กําหนดไว หรือเกิดจากเหตุใดๆ อันเปนความผิดพลาดของ ผูประกอบการธุรกิจนําเท่ียว ใหผูประกอบการธุรกิจนําเที่ยวจายเงินคืนใหแก นักทอ งเท่ียวทงั้ หมด โดยไมห กั คาใชจ ายใดๆ ทง้ั สนิ้ 6. ในระหวางการนําเท่ียว ผูประกอบธุรกิจนําเท่ียวจะเปลี่ยนแปลงรายการนําเที่ยวไมได เวนแตจะไดรับความยินยอมจากนักทองเท่ียวหรือเปนเหตุสุดวิสัย หากมีการ เปลี่ยนแปลงรายการนําเท่ียว ผูประกอบการธุรกิจนําเที่ยวตองคืนเงินใหแก นักทองเท่ียวตามสัดสวน เวนแตผูประกอบการธุรกิจนําเที่ยวไดเปลี่ยนแปลงรายการ นําเทยี่ วซงึ่ มีคาใชจ า ยเทา เดิมหรอื สงู กวาเดมิ 7. ผูประกอบธุรกิจนาํ เทีย่ วจะเรียกเก็บคาบริการอ่ืนใดนอกเหนือจากท่ีกําหนดหรือตกลง กันไวล ว งหนาไมได 8. ในกรณีผูประกอบธุรกิจนําเที่ยวหรือมัคคุเทศกชี้ชวนใหนักทองเที่ยวไปในสถานที่หรือ ทํากิจกรรมอื่นใดนอกเหนือจากที่ระบุไวในการโฆษณา ผูประกอบธุรกิจนําเท่ียวหรือ มัคคุเทศกตองแจงคาบริการที่ตองจายใหนักทองเท่ียวทราบลวงหนาและจะเรียกเก็บ คา บรกิ ารเกินทแ่ี จงไวมไิ ด 9. หามไมใหผูประกอบธุรกิจนําเท่ียวจัดบริการนําเที่ยวใหแกนักทองเท่ียวท่ีเดินทางมา จากตางประเทศโดยไมไ ดร บั คาบรกิ ารหรอื รับคาบรกิ ารในอัตราท่ีเห็นไดวาไมเพียงพอ กับคา ใชจา ยตามหลักเกณฑที่คณะกรรมการประกาศกาํ หนด 10. หามไมใ หผ ปู ระกอบธรุ กจิ นาํ เท่ียวมอบหมายใหม ัคคเุ ทศก ผนู ําเทีย่ ว หรือบุคคลอื่นใด นํานักทองเท่ียวในความรับผิดชอบของตนไปทองเที่ยว โดยเรียกเก็บเงินจาก มคั คุเทศก ผนู าํ เท่ียว หรือบุคคลอ่ืนนน้ั หรือโดยใหบุคคลดังกลาวรับผิดชอบคาใชจาย
67 เกี่ยวกับการเดินทาง คาที่พัก คาอาหาร หรือคาอํานวยความสะดวกอื่นใดของ นักทอ งเท่ยี ว ไมว าทัง้ หมดหรอื บางสว น 11. ในการจัดใหมีมัคคุเทศกหรือผูนําเท่ียวเดินทางไปกับนักทองเที่ยว ผูประกอบการตอง ใชมคั คุเทศกซง่ึ ไดร บั ใบอนุญาตเปนมัคคเุ ทศกต ามประเภททีเ่ หมาะสม 12. ผูประกอบธุรกจิ นําเท่ียวตอ งจัดใหม ีการประกันอุบัติเหตุใหแกนักทองเท่ียว มัคคุเทศก และผูนําเที่ยวในระหวา งการเดินทางทอ งเที่ยว 13. ใหผูประกอบการธุรกิจนําเท่ียวชําระคาธรรมเนียมประกอบธุรกิจนําเท่ียวทุกสองป ตามทกี่ าํ หนด 14. ผูประกอบธุรกิจนําเที่ยวที่ไมชําระคาธรรมเนียมภายในระยะเวลาท่ีกําหนดใหเสียเงิน เพม่ิ เติมอกี รอ ยละสองตอ เดือน และถา พนสามเดือนแลวยังมิไดชําระ ใหนายทะเบียน สั่งพักใบอนุญาตดังกลาวจนกวาจะชําระคาธรรมเนียมและเงินเพิ่ม ซึ่งตองไมเกินหก เดือนนับแตวันสั่งพักใบอนุญาต เมื่อพนกําหนดหกเดือนแลว ถาผูถูกส่ังพักใช ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยวยังมิไดชะระคาธรรมเนียมและเงินเพ่ิมใหนาย ทะเบียนสัง่ เพกิ ถอนใบอนญุ าต การสิ้นสุดใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ นาํ เทย่ี ว เมอ่ื ผปู ระกอบการธุรกจิ นําเทย่ี ว 1. ตายหรือสิ้นสดุ ความเปนนิติบคุ คล 2. เลกิ ประกอบกจิ การ 3. ถกู เพกิ ถอนใบอนญุ าตประกอบธุรกิจนาํ เทีย่ ว ผูประกอบการธุรกิจนําเท่ียวซึ่งประสงคจะเลิกกิจการใหแจงนายทะเบียนทราบและ สงคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยวแกนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแตวันที่เลิกประกอบ กจิ การ สรุปทา ยบท ธุรกิจนําเท่ยี วเปนธรุ กิจทมี่ กี ารควบคุมดแู ลและตองดําเนินการขอใบอนุญาตประกอบ ธรุ กิจตามพระราชบญั ญัตธิ รุ กิจนําเทยี่ วและมคั คเุ ทศก พ.ศ.2551 หนวยงานที่มีหนา ที่ในการรับจด ทะเบยี นและออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยวคือ สํานักทะเบียนธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก กระทรวงการทอ งเท่ยี วและกฬี า การยนื่ ขอใบอนญุ าตสําหรบั ผูประกอบการรายใหมตองมีการวาง หลักประกันตามประเภทของธรุ กจิ นําเท่ยี ว เพือ่ เปนเงินสํารองในการชดใชคาเสียหายที่อาจเกิดขึ้น จากการดําเนินการของธุรกิจนําเท่ียว ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเท่ียวมีอายุสองป นับแตวันท่ี ออกใบอนุญาต และการสิ้นสุดของใบอนุญาตจะเกิดข้ึนในกรณีผูประกอบการเสียชีวิตหรือส้ินสุด
68 ความเปนนิติบุคคล (ในกรณีธุรกิจนําเที่ยวเปนนิติบุคคล), ผูประกอบการเลิกกิจการ และ ผูป ระกอบการถกู เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ นําเท่ยี ว คําถามทบทวน 1) ใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ นําเที่ยวมีกีป่ ระเภท อะไรบาง และแตล ะประเภทตอ งมี การวางหลกั ประกนั และจา ยคาธรรมเนียมในการขอใบอนุญาตเทา ใด จงอธบิ าย 2) จงอธบิ ายคณุ สมบตั ขิ องผูทม่ี สี ิทธิขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาํ เทย่ี ว ในกรณที ่ี เปนบุคคลธรรมดา และนติ ิบคุ คล 3) เอกสารที่ใชป ระกอบการยนื่ ขอใบอนุญาตประกอบธุรกจิ นําเทยี่ วมอี ะไรบา ง 4) จงอธบิ ายขั้นตอนการยนื่ ขอใบอนุญาตประกอบธุรกจิ นาํ เทยี่ วพรอ มทง้ั หนว ยงาน ท่รี บั ยนื่ จดทะเบยี น 5) จงอธิบายขอกาํ หนดเกี่ยวกบั การดาํ เนนิ ธรุ กิจนาํ เทยี่ วตามพระราชบญั ญตั ิธรุ กิจ นาํ เท่ียวและมคั คุเทศก พ.ศ.2551 6) ใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ นําเทย่ี วจะสน้ิ สุดลงในกรณีใดบา ง
69 เอกสารอางองิ พระราชบัญญตั ิธรุ กจิ นําเทยี่ วและมัคคเุ ทศก พ.ศ.2535 พระราชบญั ญตั ิธรุ กิจนาํ เทย่ี วและมัคคุเทศก พ.ศ.2545 พระราชบัญญตั ิธรุ กิจนาํ เทยี่ วและมัคคเุ ทศก พ.ศ.2551 บริษทั หนมุ สาวทวั ร จํากัด (ไมปรากฎป) ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาํ เท่ียว สืบคนออนไลน ณ วนั ท่ี 2 มีนาคม 2554 จาก http://www.noomsaotours.com/program.php?pno=5 สํานักทะเบียนธรุ กิจนําเทีย่ วและมคั คุเทศก (2549) การจดทะเบียนธุรกจิ นาํ เทย่ี วและมัคคุเทศก http://www.tourismcentre.go.th
70 แผนบรหิ ารการสอนประจําบทที่ 4 หวั ขอเนอ้ื หา 1. ความหมายและองคประกอบของการจดั การธรุ กจิ นาํ เท่ียว 2. กระบวนการจัดการธุรกจิ นาํ เทยี่ ว 3. การวิเคราะหธรุ กจิ นําเทยี่ ว 4. เทคนิคการพัฒนาธุรกิจนําเท่ียวเพื่อความอยูรอดและเพ่ิมความสามารถในการ แขง ขนั 2) Total Quality Management 3) Balance Scorecard 4) Benchmarking วตั ถปุ ระสงคเชงิ พฤติกรรม 1. ผเู รยี นสามารถอธิบายความหมายและองคประกอบของการจดั การธุรกิจนําเทย่ี ว 2. ผูเรยี นสามารถอธบิ ายกระบวนการจัดการธรุ กจิ นาํ เทีย่ ว 3. ผูเรยี นสามารถอธบิ ายและวิเคราะหธุรกิจนาํ เท่ยี วได 4. ผูเรียนสามารถอธิบายเทคนิคการพัฒนาธุรกิจนําเท่ียวเพื่อความอยูรอดและเพ่ิม ความสามารถในการแขง ขนั วธิ สี อนและกจิ กรรมการเรยี นการสอน 1. วธิ สี อน 1) การบรรยายโดยใช PowerPoint Presentation ประกอบ 2) การมอบหมายใหนกั ศึกษาคนควา ขอมลู เพิม่ เติมเกย่ี วกบั การจัดการธรุ กจิ นาํ เทยี่ ว 3) การนาํ เสนอผลงานเพื่อการแลกเปล่ยี นเรยี นรูในชน้ั เรียน
71 2. กิจกรรมการเรียนการสอน 1) ก า ร ม อ บ ห ม า ย ใ ห นั ก ศึ ก ษ า ค น ค ว า ข อ มู ล เ ก่ี ย ว กั บ ธุ รกิ จ นํ า เ ท่ี ย ว ใ น ด า น 1) โครงสรางองคกร 2) ขอมูลการรับสมัครงาน และ 3) แนวทางการควบคุมคุณภาพ ของธุรกิจนาํ เท่ยี ว 2) ผเู รยี นนําเสนอขอมูลท่ีศึกษาคนควาหนา ช้ันเรียน พรอ มท้งั ถาม-ตอบ สื่อการเรยี นการสอน 1) PowerPoint Presentation 2) Website เก่ียวกบั ธรุ กจิ นาํ เทย่ี ว 3) ตัวอยางเอกสารและแบฟอรม ประกอบการยน่ื ขอใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ นาํ เทยี่ ว การวดั และประเมินผล 1) การเขาชน้ั เรยี นและการตรงตอ เวลา 2) กิจกรรมเดยี่ ว 10 คะแนน 1) การศกึ ษาขอ มูล 2) การนาํ เสนอและตอบคําถาม 3) ความรแู ละประโยชนทีไ่ ดรับจากการศึกษา
72 บทที่ 4 การจดั การธุรกจิ นําเท่ยี ว 1. บทนาํ ธุรกิจนําเท่ียวเปนธุรกิจหน่ึงในอุตสาหกรรมทองเท่ียวที่เนนการใหบริการและการอํานวยความ สะดวกแกนักทองเท่ียวในดานการจัดรายการนําเที่ยว การเดินทาง ที่พัก และการบริการอ่ืนๆ ที่ เกีย่ วขอ งกับการทองเท่ียว เพ่อื ใหน ักทองเทย่ี วไดรบั ความสะดวกและไดรับประสบการณที่ดีในการ เดินทางทองเที่ยว การดําเนินธุรกิจนําเที่ยวจะประสบความสําเร็จหรือความลมเหลว ปจจัยหลัก อยางหนึ่งที่สําคัญคือ การจัดการ การจัดการธุรกิจนําเที่ยวมีวัตถุประสงคหลัก เพื่อตอบสนอง ความตองการของนักทองเที่ยว และทําใหนักทองเที่ยวไดรับการบริการที่ดีและไดรับความ ประทับใจในการทองเท่ียว ดังนั้น การเรียนรูเกี่ยวกับหลักการและวิธีการบริหารจัดการที่ดีและมี ประสทิ ธิภาพ จงึ เปนสิ่งทส่ี าํ คัญ 2. ความหมายของการจัดการ (Management) จาการศึกษาโดย รศ.ดร.พยอม วงศสารศรี (2542 หนา 33-36) ความหมายของการ จดั การ (Management) ประกอบดวย 3 ประเด็นหลกั ดังนี้ 1. “การจัดการเปน ศิลปะของการใชบุคคลอนื่ ทํางานใหแกองคกร (Management is an art of getting things done through others)” 2. “การจัดการเปนกระบวนการ (Management as a process)” หมายถึง การ จัดการเปนกระบวนการท่ีมีความสัมพันธระหวางการปฏิบัติงานหรือการ ดําเนินงานเพื่อใหบรรลุเปาหมายตามท่ีองคกรกําหนด โดยกระบวนการจัดการ ตามที่ Henri Fayol กําหนด ประกอบไปดว ย 5 ข้ันตอน คือ 1) การวางแผน (Planning) 2) การจัดองคก ร (Organizing) 3) การส่ังงานและการบงั คบั บัญชา (Directing) 4) การประสานงาน (Coordinating) 5) การควบคมุ (Controlling) นอกจากน้ี ยังมีกระบวนการจัดการท่ีไดจากการศึกษาของ Gulick ซึ่งกลาววา กระบวนการจดั การประกอบไปดวย 7 ประการ ไดแ ก 1) การวางแผน (Planning) 2) การจัดองคก ร (Organizing) 3) การจัดคนเขา ทาํ งาน (Staffing)
73 4) การสัง่ การหรอื การอํานวยการ (Directing) 5) การประสานงาน (Coordinating) 6) การนาํ เสนอรายงาน (Reporting) 7) การงบประมาณ (Budgeting) 3. “การจดั การคอื กลุมของผูจดั การ (Management as a group of managers)” หมายถงึ การทาํ หนา ทก่ี ารบรหิ ารจดั การควรมีการประสานงานระหวา งผูบริหาร ทั้งระดบั ตน ระดบั กลาง และระดบั สูง รวมถงึ สมาชกิ ในองคก รเพอื่ ใหการ ดาํ เนนิ งานเปน ไปในทศิ ทางเดียวกนั โดยภาพรวมแลว การจดั การ (Management) หมายถงึ ศิลปและกระบวนการในการ ใชทรัพยากรตา งๆ ในองคกร ไดแ ก บคุ ลากร งบประมาณ เวลา และวตั ถุดิบตา งๆ ใหเ กดิ ประโยชน สงู สุดและบรรลุวตั ถุประสงคต ามที่องคกรกําหนด สาํ หรบั การจดั การธรุ กจิ นาํ เท่ยี ว (Travel Agency Management) หมายถงึ ศลิ ป และกระบวนการการใชท รพั ยากรในธรุ กิจนําเทยี่ ว ไดแก บุคลากร งบประมาณ เวลา และเครอื ขาย ทางธุรกจิ รวมถึงองคประกอบตา งๆ เพ่อื ทาํ ใหเกดิ การบริการท่ีมีคณุ ภาพ สามารถตอบสนองความ ตองการของนกั ทอ งเทยี่ วได และสามารถทาํ ใหธ ุรกิจนาํ เทย่ี วมีผลกาํ ไรและบรรลวุ ัตถุประสงคตาม เปาหมายท่ีกาํ หนด 3. ส่ิงสาํ คญั ในการจัดการธุรกิจนําเทย่ี วทผี่ ปู ระกอบการควรทราบคือ 1) ธุรกจิ นาํ เทีย่ วเปนธุรกิจทใ่ี หบ ริการแกน ักทอ งเทย่ี วเปนหลัก ซงึ่ ลักษณะสาํ คญั ของ งานบริการ คือ 1) เปนนามธรรมสัมผัสไดดวยใจและความรูสึก 2) การใหบริการ และการรับบริการมักจะเกิดขึ้นพรอมกัน 3) การบริการไมสามารถผลิตและ จัดเก็บไวไดดังเชน สินคาท่ัวๆ ไป และ 4) การบริการมีความหลากหลายและมี การเปลี่ยนแปลงอยูเสมอ ข้ึนอยูกับผูใหบริการ ผูรับบริการ และสภาพแวดลอม ตางๆ ท่เี ก่ยี วขอ ง 2) ความประทับแรกพบ (First Impression) เปนส่ิงท่ีสําคัญสําหรับงานบริการ หาก นักทองเที่ยวหรือลูกคาไดรับความประทับในการติดตอและการบริการต้ังแตคร้ัง แรกกจ็ ะเปน การสรา งความรสู ึกและภาพลกั ษณท่ีดีใหแกธุรกิจนําเที่ยว แตในทาง ตรงกันขาม หากนักทองเท่ียวไดรับประสบการณที่ไมดีในการใชบริการก็จะเกิด ความรูสึกในดานลบและยากที่จะเปลี่ยนแปลงใหเปนไปในทางบวก แตอยางไรก็
74 ดี การสรางความประทับใจใหแกนักทองเที่ยวหรือผูมาใชบริการควรทําอยาง สมํ่าเสมอ มิใชเพียงแคคร้ังแรกเทานั้น เพราะถึงแมวาการสรางความประทับ ใหแกลูกคาเปนเร่ืองยาก แตการรักษาลูกคาและทําใหลูกคาประทับใจและเกิด ความจงรักภกั ดตี อธรุ กจิ ตลอดไปเปนเรอ่ื งที่ยากกวา 3) เมอ่ื ธรุ กิจนําเท่ียวเปนงานบริการและการสรางความประทับใจใหกับนกัทองเที่ยว เปนสงิ่ ทีส่ าํ คัญ การใหบ ริการและบุลากรที่ทํางานในธุรกิจนําเท่ียวก็สวนประกอบ ที่สําคัญในการใหบริการ ดังน้ัน การสรางมาตรฐานและพัฒนาคุณภาพการ บริการจึงเปนส่ิงที่สําคัญ ซ่ึงควรมีการพัฒนาอยางตอเนื่องและทันตอเหตุการณ องคประกอบหลักของการพัฒนาคุณภาพการใหบริการ ไดแก การพัฒนา บุคลากร เทคโนโลยี และการสํารวจความตองการและความพึงพอใจของ นักทองเท่ียวหรือผูใชบริการอยางสมํ่าเสมอ เพื่อใหการบริการมีคุณภาพ ได มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความตองการของลูกคา ไดเ ปนอยา งดี 4) ส่ิงที่นักทองเท่ียวคาดหวังจากการบริการและการบริการท่ีดีมีคุณภาพ ควรมี ลักษณะดงั น้ี - ความสะดวก - รวดเรว็ - ถูกตอง แมนยาํ - อัธยาศยั ไมต รี ความสุภาพ ออ นนอ ม ความเปนมิตร - ความมีนา้ํ ใจในการชวยเหลือและอาํ นวยความสะดวกอยางจริงใจ - ความกระตอื รอื รนในการใหบ ริการและชว ยเหลอื ลูกคาในการแกไขปญหา - การเอาใจใสและใหความสําคัญกับลกู คาหรอื ผมู าใชบรกิ าร 5) องคประกอบสําคัญในการดําเนินธุรกิจนําเท่ียว ไดแก บุคลากร (Man) งบประมาณ (Money) ทรัพยากรท่ีจําเปนตองใช (Material) คูคา เครือขาย หรือ พันธมิตรทางธุรกิจ (Commercial Network) และวิธีการบริหารจัดการและการ ดําเนนิ งาน (Method) 6) องคป ระกอบของการบรหิ ารจดั การ ไดแ ก Input Process and Output - Input คือปจจัยตางๆ ที่องคจัดหามาเพื่อใหการดําเนินธุรกิจ บรรลุวัตถุประสงค ไดแก บุคลากร งบประมาณ อุปกรณสํานักงาน สิง่ อํานวยความสะดวก อาคารสถานที่ เปน ตน - Process คือ กระบวนการและข้ันตอนในการดําเนินงานเพ่ือให ไดผ ลผลิตหรือการบริการตามทีต่ อ งการ
75 - Output คือ ผลผลติที่ไดจากปจจัยนําเขาและกระบวนการ ดําเนินงาน ถาเปนในแงธุรกิจนําเที่ยว ผลผลิตที่ไดคือ การบริการ ความสะดวกสบายและความพึงพอใจของผูนักทองเที่ยวหรือผุใช บรกิ าร 4. ความสาํ คญั ของการจดั การ จากการศึกษาโดย รศ.ดร.พยอม วงศสารศรี (2542 หนา 38) การจัดการมี ความสาํ คัญตอองคก รและธุรกจิ ดังน้ี 1) “การจัดการเปนสมองขององคกร” ท่ีสงผลตอความสําเร็จขององคกรตาม เปาหมายที่กําหนด การจัดการท่ีดีจําเปนตองมีการวางแผนและการตัดสินใจ อยางมีประสิทธิภาพ ผานการคิด วิเคราะห ศึกษาขอมูล และการคาดการณใน อนาคตไดอยางแมนยํา รวมถึงการกําหนดกลยุทธเพ่ือการนําองคกรไปสู เปา หมายท่ีกาํ หนด 2) “การจัดการเปนเทคนิควิธีการ” หรือศิลปะในการผลักดันและสงเสริมใหบุคลากร ในองคกรรวมกันทาํ งานอยา งมปี ระสิทธิภาพ เพื่อความสําเร็จขององคก ร 3) “การจัดการเปนการกําหนดขอบเขตการทํางานของสมาชิกในองคกร” เพื่อใหการ ปฏบิ ตั งิ านเปน ไปอยา งราบร่นื และมปี ระสทิ ธิภาพ ไมใ หเ กดิ การทาํ งานที่ซ้ําซอน 4) “การจัดการเปนการแสวงหาวิธีการท่ีดีที่สุด” เพื่อการปฏิบัติงานอยางมี ประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ลและการนําองคก รไปสเู ปา หมายท่กี ําหนด 5. กระบวนการจัดการ ข้ันตอนหรือกระบวนการในการจัดการที่เปนท่ีไดรับการยอมรับและเปนที่นิยมในการ นําไปใชกันท่ัวไป ประกอบไปดวย 5 ขั้นตอน ไดแก 1) การวางแผน (Planning), 2) การจัด โครงสรางองคกร (Organizing), 3) การจัดคนเขาทํางาน (Staffing), 4) การส่ังการหรือการ มอบหมายงาน(Directing), และ 5) การควบคุม และการติดตามและประเมินผล (Controlling) แผนภาพดานลางแสดงข้ันตอนและกระบวนการจัดการ ซ่ึงควรมีการดําเนินงานอยางตอเน่ืองเพ่ือ การปรบั ปรงุ และการพัฒนาองคก รในระยะยาว
76 1. Planning 2. Organizing 5. 3. Staffing Controlling 4. Directing แผนภาพท่ี 4.1 กระบวนการจดั การ ที่มา ปรบั ปรุงจาก รศ.ดร.พยอม วงศสารศรี (2542 หนา 35) แนวทางการจดั การตามขน้ั ตอนและกระบวนการจดั การ มีดังนี้ 1) การวางแผน (Planning) คือ การกาํ หนดทิศทางและแนวทางในการปฏบิ ัติงาน ความสาํ คัญของการวางแผน คอื 1. ลดความไมแนน อนและปญ หาทจี่ ะเกดิ ข้ึนในอนาคต 2. ทาํ ใหเ กดิ การยอมรับแนวคดิ ใหมๆ 3. ทาํ ใหก ารดําเนินงานบรรลเุ ปาหมาย 4. ลดความสูญเสียและการทาํ งานซาํ้ ซอ น 5. ทําใหเ กิดความชัดเจนในการทาํ งาน ประโยชนข องการวางแผน คอื 1. สง ผลตอการบรรลเุ ปาหมาย 2. ประหยดั 3. ลดความไมแนน อน 4. เปน เกณฑในการควบคุม
77 5. สงเสรมิ ใหเกดิ นวัตกรรมและการสรา งสรรค 6. พฒั นาแรงจงู ใจ 7. พัฒนาการแขงขนั 8. ทาํ ใหเ กดิ การประสานงาน ขอ จํากดั ของการวางแผน 1. ขอ มลู 2. วสิ ยั ทัศน การคาดการณ 3. ใชเวลา สิน้ เปลอื งคา ใชจ า ย ทาํ ใหเกดิ ความลาชา 4. เปน ขอจํากดั ใหเ กดิ ความคิดรเิ ริ่ม 5. การตอ ตานตอ การเปล่ยี นแปลง หลกั การพื้นฐานในการวางแผน 1. สนับสนนุ นโยบาย วตั ถปุ ระสงค และเปา หมายขององคก าร 2. ระดมความคดิ อยางรอบดา นบนพ้นื ฐานของ ขอมลู วิสยั ทศั น และการตัดสนิ ใจอยาง ถูกตอง 3. คํานงึ ถึงความเปน ไปได 4. คิดใหญ ทาํ เลก็ 5. มีความยืดหยนุ พรอ มรบั การเปลย่ี นแปลง 6. มแี ผนสํารอง ขั้นตอนในการวางแผน 1. การศกึ ษาขอ มูลที่เกย่ี วขอ ง 2. กาํ หนดวัตถปุ ระสงค 3. ขอบเขตในการวางแผน 4. วเิ คราะหจ ุดแขง็ จดุ ออน โอกาส และขอ จาํ กัดขององคก ร 5. กําหนดกลยทุ ธแ ละสรางทางเลอื ก 6. ประเมนิ ทางเลือก 7. พัฒนาแผนปฏบิ ตั ิการ 8. กําหนดแนวทางการประเมนิ ผลและการควบคมุ 9.
78 2) การจัดองคก ร (Organizing) การจัดองคก ร (Organizing) คอื การจัดและแบง สายการทาํ งานออกเปนฝา ยหรือแผนกตาม ขอบเขตภาระงานและความรับผดิ ชอบ เพอ่ื ประสิทธิภาพในการดําเนนิ งานและการสั่งการ รวมถงึ การติดตามและประเมินผล ฝา ยหรอื แผนกตางๆ ในธุรกิจนาํ เทย่ี วโดยทัว่ ๆ ไดแ ก แผนกบคุ คลและ มัคคุเทศก แผนกจัดรายการนาํ เทยี่ ว ซึ่งอาจจะแบงเปน รายการนาํ เทยี่ วแบบ In Bound, Out Outbound และ Domestic Tour ขน้ึ อยกู บั ขนาดของบริษัทและการใหบริการ แผนกรบั จองหองพกั และต๋ัวเครอ่ื งบิน แผนกรถเชา แผนกการตลาด แผนกบญั ชี และแผนกอํานวยการ ซึ่งประกอบดว ย ผูจัดการ ผชู ว ยผูจัดการ และเลขา อยา งไรก็ดี การแบงสายงานหรือแผนกตางๆ ในธุรกจิ นาํ เทยี่ ว จะมากหรือนอ ย หรอื มีแผนกอะไรบา ง ข้นึ อยกู บั ขนาดขององคกรและประเภทการใหบ ริการของ ธุรกจิ นาํ เทยี่ ว หากเปน ธรุ กจิ ขนาดใหญแ ละการบรกิ ารท่ีหลากหลายครบวงจร แผนกและสายงาน ตางๆ กจ็ ะมากตามไปดวย ในทางกลับกนั หากเปน ธรุ กจิ ขนาดเลก็ และมกี ารบรกิ ารท่ีจาํ กดั การ ดาํ เนนิ งานและแผนกตางๆ กจ็ ะมไี มมากนกั เพื่อใหเ หมาะสมกบั การดําเนินงานและผลของการ ปฏบิ ัติงานท่ีตอ งการ แผนภาพท่ี 4.2 แสดงถึงตวั อยา งโครงสรา งองคก รของธรุ กิจนาํ เทยี่ ว ซงึ่ แตละ บริษัทอาจมีแผนกตางๆ มากหรอื นอ ยกวานแี้ ละอาจมแี ผนกตางๆ ทแี่ ตกตางกนั ไป ตามความ เหมาะสมของการใหบริการและการดาํ เนนิ งาน
79 Genera Managi Secretary แผนภาพท่ี 4.2 ตัวอยางโครงสรา งองคก รของธรุ กิจนาํ เทยี่ ว
9 al Manager (GM) ing Director (MD) Personnel and Tour Guide Tour operation Domestic Tour Inbound Tour Outbound Tour Ticketing Sale and Marketing / Reservation Accounting
80 3) การจดั คนเขาทาํ งาน (Staffing) การจัดคนเขาทํางาน (Staffing) คือการจัดหาหรือมอบหมายใหบุคลากรทํางานในตําแหนงและ หนาทต่ี างๆ ตามทก่ี ําหนดไวในโครงสรางขององคกร หัวใจหลักสาํ คัญของการจดั คนเขา ทาํ งาน คอื การจดั คนใหเหมาะสมกบั ความสามารถและลกั ษณะงาน เพื่อดึงศักยภาพของบุคคลออกมาใชใน การทํางานใหเกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Put the right man in the right job) องคประกอบหรือสวน สําคัญในการจัดหาและมอบหมายใหบุคลากรทํางานในตําแหนงหนาที่ที่เหมาะสมกับความรู ความสามารถและประสบการณ คือ การกําหนดภาระและขอบขายการทํางาน (Job description) และกําหนดคุณสมบัติของผูที่จะมาทํางานในตําแหนงงานนั้นๆ (Job specification) นอกจากน้ัน ยังเกี่ยวของกับการพัฒนาบุคลากร (Human Resources Development) การรักษาบุคลากร (Retention) และการสรา งแรงจูงใจในการทาํ งาน (Motivation) 4) การสงั่ การหรือการมอบหมายงาน (Directing) การสง่ั การหรอื การมอบหมายงาน (Directing) เปน หวั ใจสาํ คญั ของการจดั การนอกเหนอื จากกร วางแผน การจัดองคก ร และการจัดคนเขา ทาํ งาน ตามท่กี ลา วขา งตน และการควบคุม ที่จะกลา ว ตอ ไป การส่งั การหรอื การมอบหมายงาน เปน ศาสตรและศิลปข องผบู รหิ ารหรือผจู ดั การในการใช บุคลากรในองคกรเพื่อการทาํ งานอยา งมีประสทิ ธภิ าพและประสิทธิผล สิ่งที่เก่ยี วขอ งและสง ผลตอ การสง่ั การหรอื การมอบหมายงาน ไดแก การสือ่ สาร แรงกระตุน หรอื แรงจงู ในในการทาํ งาน การ ติดตามและประเมนิ ผล รวมถึง ความเคารพ ความศรทั ธา และความเชอื่ ถอื ท่ผี ใู ตบ งั คับบัญชามี ตอ หวั หนา หรอื ผูจัดการ หวั หนา ผจู ดั การ หรือ ผสู งั่ การ สามารถแบง ออกไดเปน 2 ประเภทใหญ ซ่ึงสงผลการปฏบิ ัติงานของผใู ตบ งั คบั บญั ชาอยางยงิ่ คอื 1) หวั หนา ทช่ี อบน่ังอยบู นหวั ลกู นอง และ 2) หวั หนา ท่ีชอบน่ังอยใู นใจลกู นอง หวั หนา ประเภทแรก คอื บคุ คลทชี่ อบสั่งการ มงุ เรือ่ งงานเปน หลัก ไมใ หค วามสาํ คัญกบั ความรูสึกและจติ ใจของลกู นอ ง วางตวั เปน เจา นาย มกี ารแบง ชนชน้ั ระหวา งหวั หนา กับลูกนอง หรอื ผูบรหิ ารกับผูใตบงั คบั บัญชา สว นหวั หนา ประเภททสี่ อง คือหวั หนา ท่ีเอาใจเขามาใสใ นเรา คํานงึ ถงึ ความรูส กึ และความตอ งการของลกู นอ ง ใหเกียรตลิ ูกนอ ง สรา ง บรรยากาศในการทาํ งานใหเปนแบบธรรมาภิบาล คือ มคี วามโปรง ใส ยตุ ธิ รรม คํานงึ ถงึ การมสี ว น รว ม ถกู ตองตามกฎระเบยี บและจริยธรรม 5) การควบคมุ (Controlling) การควบคมุ (Controlling) คอื กระบวนการและวิธกี ารในการติดตามและประเมนิ ผลการ ดาํ เนนิ งาน เพอื่ การตรวจสอบอยางตอเนอื่ งและเปน ระยะ การแกไขปญ หาอยา งทันทว งทเี มอ่ื มี ความผิดพลาดเกิดขน้ึ การปรบั เปล่ียนกลยทุ ธห รอื แนวทางการทาํ งานหากสง่ิ ทท่ี าํ อยไู มป ระสบ
81 ความสาํ เร็จ และเพื่อการใหอ งคบรรลุเปา หมายตามทก่ี ําหนดไดภ ายในระยะเวลาและทรัพยากรท่ี กําหนดอยา งมีประสิทธภิ าพและประสทิ ธิผล โดยสรปุ ผลแลว ข้ันตอนในการบรหิ ารจดั การอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ อยา งนอ ยจาํ เปนตอ งประกอบไป ดวย 4 ขัน้ ตอน ดงั นี้ 1) การวางแผน (Plan), 2) การดาํ เนินการ (Do), 3) การติดตามและ ประเมินผล (Check), และ 4) การแกไ ขปรับปรงุ (Act) ซงึ่ ขัน้ ตอนตางๆ เหลา น้ี จาํ เปนตองมีการ ดําเนนิ การอยา งเปน ข้นั ตอนและตอ เน่อื งเพอ่ื การปรบั ปรงุ แกไ ข และการพฒั นาองคกรหรอื ธรุ กิจ นาํ เท่ียวอยา งตอเน่อื งและยง่ั ยนื หากขาดขน้ั ตอนใดขน้ั ตอนหนงึ่ การบรหิ ารจัดการธุรกจิ กย็ ากทจ่ี ะ มีประสทิ ธภิ าพและประสบความสาํ เร็จตามท่ีตงั้ เปา หมายได 6. เทคนิคการพฒั นาธุรกิจนําเทย่ี วเพ่อื ความอยูร อดและเพ่มิ ความสามารถในการแขง ขนั Total Quality Management (TQM) Total Quality Management (TQM) คอื การระบบการทาํ งานทเี่ นน คณุ ภาพ การพฒั นา องคกรอยา งตอ เน่อื ง และทกุ คนในองคกรมสี วนรว ม โดยมงุ ตอบสนองความตองการและการสราง ความพงึ พอใจใหแกลกู คา ซง่ึ เปน การสรางโอกาสทางธุรกิจ ความไดเปรียบในการแขง ขัน และการ พัฒนาองคก รอยางย่งั ยนื หลกั การสําคญั ของ TQM คอื 1. การใหค วามสาํ คัญและมุงตอบสนองความตองการของลกู คา 2. การมสี ว นรวมของสมาชกิ ในองคกรในการดําเนนิ งานและปรบั ปรุงพัฒนาองคกร 3. การพัฒนาอยา งตอ เน่ือง 4. การดาํ เนนิ งานตามวงจรคณุ ภาพ PDCA (Plan Do Check Act) แนวทางการดําเนินงานตามหลกั การ TQM 1. ผบู ริหารมภี าวะผูนาํ (Leadership) 2. บคุ ลากรไดรับการพัฒนาและฝก อบรม (Education and Training) 3. การจดั โครงการองคก รท่ดี ี เหมาะสมและสนับสนนุ การดําเนนิ งานอยา งมี ประสิทธิภาพ (Supportive Structure) 4. มชี อ งทางในการติดตอ ส่อื สารอยา งมปี ระสทิ ธิภาพ (Communication) 5. มกี ารพจิ ารณารางวัลและความดีความชอบ (Reward and Recognition) 6. การใชก ระบวนการทางสถติ ใิ นการควบคมุ และตรวจสอบการดาํ เนนิ งาน (Statistical Process and Control)
82 7. เนนการทาํ งานเปนทมี (Teamwork) Balance Score Card (BSC) Balance Score Card (BSC) คือ การบรหิ ารจดั การท่ีเนน ความสมดลุ โดยการแปลง วสิ ยั ทัศนและกลยุทธไปสกู ารปฏิบตั อิ ยางสมดุล โดยมรี ูปแบบการวดั ผลการดําเนินงานขององคกร ระบบใหมท เ่ี กดิ จากการวิเคราะหว ิเคราะหว ิสัยทศั นและกลยทุ ธขององคกร โดยการใชเ คร่ืองมือใน ดา นการเงนิ (Financial Perspective), ลูกคา (Customer Perspective), กระบวนการภายใน (Internal Process Perspective), และการเรยี นรูและการพฒั นา (Learning and Growth Perspective) องคประกอบของการบรหิ ารจัดการ Balance Score Card (BSC) ประกอบดว ย 1. วัตถุประสงค (Objectives) คอื สง่ิ ทอี่ งคก รตองการท่จี ะบรรลุหรือตองการไปใหถ งึ 2. ตัวชว้ี ัด (Measures or Key Performance Indicators) ไดแ ก ตัวช้วี ดั ของ วตั ถปุ ระสงคในแตละดา น ซง่ึ ตวั ชว้ี ดั เหลา นเ้ี ปน เครอ่ื งมือทจี่ ะบอกวาองคกรบรรลุ วตั ถปุ ระสงคใ นแตละดานหรอื ไม มากนอยอยา งไร 3. เปา หมาย (Targets) ไดแ กตัวเลขหรือเปาหมายเชงิ ปรมิ าณทอ่ี งคก รตอ งการจะบรรลุ ของแตละตัวชี้วดั 4. ความคดิ ริเรมิ่ (Initiatives) เพอ่ื การบรรลุเปาหมายทีต่ อ งการ 5. แผนการดําเนนิ งาน 4 ดา น ไดแก ดา นการเงนิ ดา นลกู คา ดา นกระบวนการบริหาร ภายในองคก ร และดา นการเรยี นรูและการพัฒนาบุคลากร ประโยชนข องการจดั ทาํ Balance Score Card (BSC) 1. ทําใหว สิ ยั ทศั น ภารกจิ และกลยทุ ธขององคกรมคี วามชัดเจนและสามารแปรไปสู แนวทางดาํ เนนิ งานอยา งชัดเจน และเปนที่เขา ใจในทิศทางเดียวกัน 2. ทําใหเกิดการสอื่ สารเกี่ยวกบั วัตถปุ ระสงคเชงิ กลยทุ ธและเช่อื มโยงกบั มาตรการที่จะ ใชว ัดผลไดช ดั เจน 3. ทําใหเ กดิ การวางแผนและการกาํ หนดเปา หมาย รวมถงึ การสรางสรรคกจิ กรรมเชงิ กล ยุทธใ นรปู แบบตา งๆ รวมทง้ั กิจกรรมที่ใชว ัดผลหรอื ตัวช้ีวัด ทั้งมาตรการทีเ่ ปน ตวั เงนิ และไมใ ชตัวเงนิ
83 4. ทําใหเกิดการยอนกลับและการเรยี นรแู กผ ูบริหาร เพอ่ื ใหทราบวา ไดม กี ารปฏิบตั ติ าม แผนกลยทุ ธท ไ่ี ดก าํ หนดหรอื ไมและไดผ ลอยา งไร ระบบนย้ี งั ชว ยใหท ราบไดว ากลยุทธ ท่กี าํ หนดสามารถทาํ ใหองคกรอยรู อดและประสบความสําเรจ็ หรอื ได Benchmarking Benchmarking คือ การเทียบเคียงหรือเปรียบเทียบสมรรถนะระหวา งองคก รกับตวั อยางท่ี ดเี พือ่ การเรยี นรแู ละนาํ มาใชในการพฒั นาองคกร โดยมีวตั ถุประสงคเ พอื่ การแสวงหาตวั อยา งหรอื วธิ ีการปฏบิ ตั ทิ ด่ี ีกวา เดมิ รวมถงึ การทําความเขา ใจกบั กระบวนการและวิธกี ารปฏบิ ัตติ า งๆ ท่ี ผลกั ดนั ใหเกดิ ผลการปฏิบตั ิงานท่ดี ี ท้ังน้ี องคกรตางๆ จะปรบั ปรุงผลการดาํ เนนิ งานของตนโดย การเลือกสรรและนาํ วธิ กี ารปฏบิ ัตทิ ี่เปนเลศิ เหลา นัน้ ไปใชใ นกระบวนการทาํ งาน ซง่ึ ไมใชก าร ลอกเลียนแบบ แตเปน การเรียนรแู ละการสรางสรรคผ ลงานใหมเ พอ่ื การประยกุ ตใชใ นองคก รอยา ง เหมาะสม ความสาํ คญั ของ Benchmarking คอื 1. การหาขอเทจ็ จรงิ ดวยการเรยี นรวู ธี กี ารปฏบิ ตั ิงานทีม่ รี ะบบท่ีดที สี่ ดุ 2. เปนวธิ กี ารสรา งเปา หมายในการปฏิบัตงิ านและการพฒั นางานใหม คี ุณภาพทดี่ ี ขนึ้ 3. เปนกระบวนการเปรยี บเทยี บธรุ กิจหรือองคก รเรากบั ธุรกิจทีด่ ที ี่สุดในอุตสาหกรรม เดียวกนั ในดา นตา งๆ 4. เปน เครื่องมือใหมสําหรับระบบงานทต่ี อ งการคณุ ภาพ มกี ารคนควา และพยายาม เรยี นรูจากตนแบบทด่ี ี 5. กระบวนการเปรียบเทยี บดา นผลผลติ การบริการ และวธิ กี ารปฏบิ ัติงาน กับคูแขง แนวทางการเปรียบเทยี บสมรรถนะระหวางธุรกจิ หรอื องคก ร (Benchmarking) ควร มกี ารกาํ หนดวาจะเปรยี บเทยี บกับใคร ในดา นใด เพอื่ อะไร 1. Strategy การเปรียบเทยี บกลยุทธในการดําเนนิ งาน 2. Process การเปรยี บเทียบกระบวนการดําเนินงาน 3. Product การเปรยี บเทียบสนิ คา รวมถงึ การบรกิ าร 4. Performance การเปรยี บเทยี บผลการดาํ เนินงาน 5. Internal Benchmarking การเปรียบเทยี บการดาํ เนนิ งานของหนว ยงานหรอื แผนก ตางๆ ภายในองคก ร 6. Competitive Benchmarking การเปรยี บเทียบระหวา งองคกรกบั คูแ ขง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220