ชดุ การเรียนรู้ หลกั สูตรอบรมศนู ยส์ ุขภาพดีวยั ทางานและผ้นู าสุขภาพ Wellness Center & Health Leader ถ โครงการขบั เคลอ่ื นสขุ ภาวะคนทางานในสถานประกอบการอย่างมสี ว่ นรว่ ม (Healthy Living)
โดย สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสุขและองค์กรภาคเี ครือข่าย ภายใต้การสนับสนนุ ของสานักงานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ นายแพทย์ภัทรพล จงึ สมเจตไพศาล รายช่อื คณะทางาน นายแพทย.์ จุมภฏ พรมสดี า แพทย์หญิง หรรษา รกั ษาคม ทป่ี รกึ ษาระดบั กระทรวง กระทรวงสาธารณสขุ นายเอกชยั เพียรศรวี ชั รา รองอธบิ ดกี รมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสุข นางสาวนันทาวดี วรวสุวสั ผอู้ านวยการกองโรคจากการประกอบอาชพี และสง่ิ แวดลอ้ ม กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ ดร.อรพนั ธ์ อนั ตมิ านนท์ ผู้อานวยการสานกั สง่ เสรมิ สุขภาพ กรมอนามยั กระทรวง สาธารณสุข นางสาวร้งุ ประกาย วฤิ ทธชิ์ ยั ผูอ้ านวยการกองส่งเสรมิ และพฒั นาสขุ ภาพจติ กรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ นายยุทธพงษ์ ขวญั ช้นื รองผู้อานวยการ ศนู ย์พฒั นาและประเมนิ คณุ ภาพการ นายรุ่งกาญจน์ รณหงษา ให้บรกิ ารอาชวี เวชกรรมและเวชกรรม สง่ิ แวดลอ้ ม นางอญั ชลนิ ทร์ ปานศริ ิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นางสาวภวมยั กาญจนจริ างกูร นักวชิ าการสาธารณสุขชานาญการ สานักโรคจากการประกอบอาชพี และสง่ิ แวดลอ้ ม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ นกั วชิ าการสาธารณสุขเช่ยี วชาญด้านสง่ เสรมิ พฒั นา(รก) กองสุขศกึ ษา กรมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ นักวชิ าการสาธารณสขุ ชานาญการพเิ ศษ กองสขุ ศกึ ษา กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ นักวชิ าการสาธารณสขุ ชานาญการพเิ ศษ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ นักสงั คมสงเคราะห์ชานาญการ กรมสขุ ภาพจติ กระทรวง สาธารณสขุ
นางกลั ยกร ไชยมงคล นักวชิ าการสาธารณสุขปฏบิ ตั กิ าร กรมสขุ ภาพจติ กระทรวง สาธารณสขุ สารบญั โครงสร้างหลกั สูตร หน้า ชุดความรู้ที่ 1 ผ้นู าสขุ ภาพ (Health leader): บทบาทและสมรรถนะ ๑ ๕ ผู้นิพนธ์ นายแพทยภ์ ทั รพล จงึ สมเจตไพศาล ทปี่ รกึ ษาระดบั กระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ๒๐ ชดุ ความรทู้ ่ี 2 แนวคิด หลกั การและกลวิธกี ารสรา้ งเสริมสุขภาพและป้องกนั โรคใน สถานประกอบการ ๓๓ ผู้นพิ นธ์ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ ๖๘ ชดุ ความรทู้ ่ี 3 สขุ ภาวะองคร์ วมของวยั ทางาน (Total worker health) ๗๙ ผู้นพิ นธ์ ดร.อรพนั ธ์ อนั ตมิ านนท์ และรุ้งประกาย วฤิ ทธช์ิ ยั กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ ๑๐๔ ชดุ ความร้ทู ี่ 4 การปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมสขุ ภาพและการเพ่ิมความรอบรูด้ ้าน สุขภาพ ผ้นู พิ นธ์ กองสุขศกึ ษา กรมสนบั สนุนบรกิ ารสุขภาพ ชุดความรทู้ ่ี 5 การส่งเสริมสขุ ภาพจิตและการป้องกนั สขุ ภาพจิตในสถาน ประกอบการ ผู้นิพนธ์ กรมสขุ ภาพจติ ชุดความรูท้ ี่ ๖ การจดั การโควิด–๑๙ ในสถานประกอบการ
ภาคผนวก ๑๓๓
๑ หลกั สูตรอบรมศนู ยส์ ุขภาพดีวยั ทางานและผ้นู าสุขภาพ Wellness Center & Health Leader ช่ือหลกั สูตร หลกั สูตรอบรมศนู ย์สขุ ภาพดวี ยั ทางานและผนู้ าสขุ ภาพ Wellness Center & Health Leader หลกั การและเหตผุ ล ปัญหาสุขภาพของวยั ทางานในประเทศไทย เป็นปัญหาทส่ี าคญั ท่ตี ้องอาศยั การจดั การเชิงระบบและความ ร่วมมอื จากภาคเี ครอื ข่ายทุกภาคสว่ นท่เี ก่ยี วขอ้ ง ปัจจุบนั วยั ทางานต้องเผชญิ กบั ปัญหาด้านสขุ ภาพทส่ี าคญั ซ่ึงไดแ้ ก่ ปัญหาการเจ็บป่วยดว้ ยโรคจากการประกอบอาชพี ซง่ึ ได้แก่ โรคปอดจากฝุ่นหนิ โรคจากพษิ โลหะหนกั โรคปอดจาก แร่ใยหนิ โรคกระดูกและกล้ามเนื้อ โรคจากสารทาละลายอนิ ทรยี ์ โรคประสาทหูเส่อื มจากเสียงดงั นอกจากนย้ี ังพบ ปัญหาทางดา้ นสขุ ภาพจติ โดยพบว่าวยั ทางานตอ้ งเผชญิ กับการป่วยเป็นโรคซมึ เศร้า โรคเครยี ด และโรควติ กกงั วล นอกจากน้ปี ัญหาสุขภาพจากการเจ็บป่วยด้วยโรคนอกเหนือจากการทางาน ยงั คงเป็นปัญหาทม่ี ีแนวโน้มเพม่ิ สูงข้นึ จากการมวี ถิ ีชวี ติ และพฤตกิ รรมสุขภาพท่เี ปล่ยี นแปลงไป โดยพบวา่ วยั ทางานเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ตดิ ตอ่ เรอ้ื รังเพ่ิม สูงข้นึ ทาให้เกดิ การเจ็บป่วยเร้อื รงั และเป็นสาเหตุของความพกิ ารและเสียชีวิต ซึ่งได้แก่ โรคหลอดเลือดสมองคดิ โรคหวั ใจขาดเลอื ด โรคทางเดนิ หายใจอดุ กนั้ เร้อื รงั เบาหวาน และความดนั โลหติ สงู จากสถติ โิ รคไม่ตดิ ตอ่ เร้อื รังใน ประเทศ พบว่า ส่วนมากเป็นกลุ่มประชากรวัยทางาน ซึ่งการเจ็บป่วยของวัยทางานย่อมส่งผลกระทบต่อการ เจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ และก่อใหเ้ กดิ ปัญหาสงั คมตามมา การจดั การกบั ปัญหาสุขภาพของวยั ทางานเป็นเร่อื งท่หี น่วยงานทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชนต่างก็เลง็ เห็นถึง ความความสาคญั ของการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพของคนทางานท่มี ผี ลต่อการสร้างผลผลิต และความกา้ วหน้าขององค์กร และสงั คมโดยรวม การพฒั นาสุขภาวะของวัยทางานในประเทศไทย จึงใช้แนวคดิ ของการมีส่วนร่วมโดยเน้นความ รว่ มมอื ในการดแู ลสุขภาพวยั ทางานจากกลุ่มผู้มสี ่วนได้ส่วนเสยี ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั การใช้ประโยชนจ์ ากผลผลติ ท่แี รงาน สร้างข้นึ และภาคส่วนท่เี ก่ยี วขอ้ งกับระบบบรกิ ารสุขภาพซงึ่ มหี น้าท่โี ดยตรงในการให้บรกิ ารสุขภาพท่เี อ้อื ต่อ วยั
๒ ทางานและสถานประกอบการ โดยพบว่าตงั้ แต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ กรมควบคุมโรค โดยกองการประกอบอาชีพและ สงิ่ แวดล้อม ไดด้ าเนินการภายใต้โครงการศูนย์สุขภาพดวี ยั ทางาน (Wellness Center) ซ่งึ เป็นมาตรการเชงิ สมัครใจ สาหรบั โรงพยาบาลและสถานประกอบการ โดยถูกจดั ตงั้ ขน้ึ ในโรงพยาบาล และสถานประกอบการ เน้นการใหบ้ รกิ าร ภายใต้แนวคดิ (สุขภาพแบบองค์รวม : Total worker health) ซงึ่ จะนาไปส่กู ารมสี ุขภาพร่างกายและจติ ใจท่สี มบูรณ์ ของประชากรวยั ทางานทงั้ ในสถานประกอบการ และในปี ๒๕๖๔ ได้เกิดการดาเนินการต่อยอดการเสริมสร้างสุข ภาวะของคนทางานในสถานประกอบการ ซ่งึ เป็นท่มี าของโครงการขบั เคลอ่ื นสขุ ภาวะคนทางานในสถานประกอบการ อยา่ งมสี ่วนรว่ ม (Healthy Living) ด้วยความรว่ มมอื ขององค์กรต่างๆ ไดแ้ ก่ หอการคา้ แหง่ ประเทศไทย สานักวชิ าการ กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคมุ โรค กรมอนามยั กรมสขุ ภาพจติ กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ สานกั งานประกนั สงั คม และสานกั งานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.) ซง่ึ โครงการ Healthy Living มเี ป้าหมายสาคญั เพ่อื ศกึ ษา วเิ คราะห์และพฒั นาแนวทางปฏิบัตกิ ารเสรมิ สร้างสขุ ภาวะของคนทางานทุกกลุ่มวัยในสถานประกอบการ โดยการ ประยุกต์ใช้เคร่อื งมือสุขภาพเชิงบูรณาการ 4 เคร่อื งมือ ให้เป็นนวัตกรรมของการเสรมิ สร้างสขุ ภาวะคนทางานใน สถานประกอบการ ได้แก่ Wellness Center ของกรมควบคมุ โรค 10 package ของกรมอนามยั การตรวจสุขภาพ 14 รายการของสานักงานประกนั สังคม และความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ด้านการให้คาปรกึ ษาปัญหา สุขภาพจิต ซึ่งได้แก่ โปรแกรมสร้างสุขวัยทางานในสถานประกอบการ การพฒั นาเคร่อื งมือประเมนิ สุขภาพจิต เบอ้ื งต้น ไดแ้ ก่ Checkin.dmh.go.th (ตรวจเชค็ สขุ ภาพใจ) . Application: Mental Health Check Up เป็นต้น การท่จี ะขับเคล่อื นให้โครงการ Healthy Living ครงั้ น้ีให้สามารถบรรลุถึงเป้าหมายท่สี าคญั ในการสง่ เสรมิ และสนับสนุนการขบั เคล่อื นสขุ ภาวะของคนทางานในสถานประกอบการอย่างมีสว่ นร่วมด้วยเคร่อื งมอื สุขภาพเชงิ บูรณาการ ให้เกดิ ผลเชิงผลลัพธ์ และเชิงกระบวนการ เกดิ การพฒั นาสถานประกอบการให้เป็นองค์กรสขุ ภาวะต้น แบบอย่างมีส่วนร่วม (Healthy Living) เกดิ การสร้างและส่งเสรมิ เครอื ข่ายในการส่งเสริมคุณภาพชวี ติ คนทางานใน สถานประกอบการไดน้ นั้ จาเป็นอยา่ งยงิ่ ท่จี ะต้องมกี ลไกทส่ี าคญั คอื การมี ๑) ผนู้ าสขุ ภาพหรอื Health Leader ท่มี ี ความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีทักษะในการสรา้ งเสรมิ สุขภาพและป้องกนั โรค การจดั การกบั ปัจจยั เส่ยี งและสง่ิ คุกคาม สุขภาพ ตลอดจนสามารถให้บริการด้านสุขภาพ ทงั้ การคดั กรองภาวะสุขภาพ การให้คาแนะนา คาปรกึ ษาในการ ปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมสุขภาพ ๒) ศูนยส์ ขุ ภาพดีวัยทางาน (Wellness Center) ท่เี ป็นศูนยก์ ลางในการดูแลสุขภาพ อย่างเป็นองค์รวมให้แก่วยั ทางานในสถานประกอบการ ดงั นนั้ เพ่อื ใหเ้ กดิ การขับเคล่อื นโครงการ Healthy Living ในสถานประกอบการและก่อให้เกดิ ระบบการดูแล สุขภาวะวยั ทางานอยา่ งต่อเน่อื งและยงั่ ยนื เกดิ องค์กรสุขภาวะต้นแบบตามหลกั เกณฑ์โดยมี Health Leader และ Wellness Center ทม่ี ศี กั ยภาพ คณุ ภาพ และสมรรถนะตามเกณฑ์และมาตรฐานทก่ี าหนดไว้ จงึ ตอ้ งมกี ารพฒั นา “หลกั สตู รอบรมศนู ยส์ ุขภาพดวี ยั ทางานและผนู้ าสุขภาพ Wellness Center & Health Leader” ข้นึ เพ่อื ในการพฒั นา ความสามารถของบคุ ลากรในสถานประกอบการท่เี ป็น Health Leader ใหม้ คี วามเช่ยี วชาญในการจัดการความเส่ยี ง
๓ และปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมรายบุคคลและรายกลุ่ม มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในเทคนิควธิ กี ารต่างๆ โดยบูรณาการความรู้ ทางด้านทฤษฎีและการฝึกปฏิบตั ิ มาใช้ในการจดั การความเส่ียงและปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรม วัยทางานในสถาน ประกอบการ และพัฒนางานรูปแบบการบริการสุขภาพท่สี อดคล้องกบั ปัญหาในบรบิ ทของสถานประกอบการและ นโยบายของประเทศได้อยา่ งตอ่ เน่อื งและมปี ระสทิ ธภิ าพ วตั ถปุ ระสงคข์ องหลกั สตู ร ๑) เพอ่ื สร้างและพฒั นาศกั ยภาพของผู้นาสขุ ภาพในการให้บรกิ ารสุขภาพแก่วยั ทางานภายใต้แนวคดิ สุข ภาวะองค์รวม การพฒั นาความรอบรู้ดา้ นสขุ ภาพ การใหค้ าปรกึ ษาเพอ่ื ปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รและสามารถ จดั การความเส่ยี งทส่ี าคญั ของโรคจากการประกอบอาชพี โรคทไ่ี ม่ได้เกดิ จากการประกอบอาชพี โดยตรง และโรคอุบตั ใิ หม่ท่สี ่งผลกระทบต่อวยั ทางาน ๒) เพ่อื สร้างเสรมิ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในแนวทางของการดาเนนิ งาน “ศนู ย์สขุ ภาพดีวยั ทางานในสถาน ประกอบการ” ท่เี นน้ การเป็นศนู ยก์ ลางในการให้บรกิ ารสุขภาพแก่วยั ทางานในสถานประกอบท่ี ครอบคลมุ ทงั้ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การปกป้องสงิ่ คกุ คามสขุ ภาพ การปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมสขุ ภาพท่ี สอดรบั กบั บรบิ ทของสถานประกอบการ ๓) เพ่อื ให้วยั ทางานในสถานประกอบการได้รบั การพฒั นาสุขภาพเกดิ การปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมสขุ ภาพ ลดความเสย่ี ง ป้องกนั และชะลอภาวะแทรกซ้อน ๔) เพอ่ื ให้เกดิ การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ การสรา้ งเครอื ขา่ ยรว่ มกนั ในภาคเี ครอื ข่ายทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การพฒั นา สุขภาวะวยั ทางานในสถานประกอบการ เพ่อื ใหเ้ กดิ การพฒั นาต่อเน่อื งและยงั่ ยนื กลมุ่ เป้าหมาย ผนู้ าสุขภาพในสถานประกอบการ ซง่ึ เป็นบุคลากรของสถานประกอบการ ได้แก่ เจ้าหนา้ ท่ดี า้ นความ ปลอดภยั เจ้าหน้าทฝ่ี ่ายบคุ คล เจ้าหนา้ ทผ่ี ู้รบั ผดิ ชอบด้านการดแู ลสขุ ภาพ (แพทย์/พยาบาล) เป็นต้น วิธดี าเนินการ บรรยาย (ออนไลน)์ และฝึกอบรม หน่วยการเรยี นรู้ ความรแู้ ละทฤษฎที ่ีสาคัญ ทักษะดา้ นเทคนคิ กลวิธี
๔ ชุดความรทู้ ่ี 1 ผูน้ าสุขภาพ (Health leader): บทบาทและสมรรถนะ จานวน 2 ชวั่ โมง ชดุ ความร้ทู ่ี 2 แนวคดิ หลกั การและกลวธิ ีการสร้างเสรมิ สขุ ภาพและป้องกนั โรคในสถานประกอบการ จานวน ๒ ชวั่ โมง ชดุ ความรู้ท่ี 3 สขุ ภาวะองคร์ วมของวยั ทางาน (Total worker health) จานวน ๒ ชวั่ โมง ๓๐ นาที oookmu จานวน ๒ ชดุ ความรู้ท่ี 4 การปรบั เปล่ยี นพฤติกรรมสขุ ภาพและการเพม่ิ ความรอบร้ดู ้านสขุ ภาพ ชวั่ โมง จานวน ๒ ชวั่ โมง ชุดความรทู้ ่ี 5 การสง่ เสรมิ สุขภาพจิตและการป้องกนั สุขภาพจิตในสถานประกอบการ ตารางระยะเวลาการอบรม /กาหนดการอบรมใช้เวลาตลอดหลกั สตู รการอบรม การเรยี นรูด้ ว้ ยระบบ Online ใช้ระยะเวลา จานวน ๑๐ ชวั่ โมง ๓๐ นาที การเรยี นรดู้ ว้ ยระบบ On-site ใชร้ ะยะเวลา จานวน ๑ วนั (๗ ชวั่ โมง ๓๐ นาท)ี รวมระยะเวลาเรียนรู้ทงั้ ส้ิน ๑๘ ชวั่ โมง การวดั ประเมินผล ผเู้ ขา้ รบั การอบรมจะต้องผ่านการทาแบบทดสอบของทกุ หน่วยเรยี นรู้ คดิ เป็นร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะไดร้ บั 1. ผูเ้ ขา้ รบั การอบรมไดร้ บั การพฒั นาศกั ยภาพเป็นผูน้ าดา้ นสขุ ภาพ โดยมคี วามรู้และทกั ษะใหมๆ่ ในการ ดาเนินงานดา้ นการสร้างเสรมิ สขุ ภาพและป้องกนั โรค การจดั การความเสย่ี งและการปรบั เปลย่ี น พฤตกิ รรมสขุ ภาพของวยั ทางานในสถานประกอบการ 2. เกดิ การพฒั นาการเรยี นรู้ การจดั การความรู้ การสรา้ งเครอื ข่ายการเรยี นรูร้ ว่ มกนั กบั ภาคเี ครอื ข่ายท่ี เก่ยี วขอ้ ง ตอ่ ยอดส่กู ารพฒั นานโยบาย แนวทางในการพฒั นาสุขภาวะอยา่ งเป็นองค์รวมให้แก่วยั ทางาน ในสถานประกอบการ สิ่งทีผ่ อู้ บรมจะไดร้ บั ประกาศนยี บตั ร/หนงั สอื รบั รอง “ผผู้ ่านการอบรมหลกั สูตรรอบรมศูนยส์ ุขภาพดวี ยั ทางานและผู้นาสุขภาพ Wellness Center & Health Leader
๕ ชดุ ความรู้ที่ 1 ผนู้ าสุขภาพ (Health leader): บทบาทและสมรรถนะ ผ้นู ิพนธ์ นายแพทยภ์ ทั รพล จึงสมเจตไพศาล ท่ปี รึกษาระดบั กระทรวง กระทรวงสาธารณสขุ บทนา ผู้นาสุขภาพ หรือ (Health leader) นับเป็นกลไกสาคญั ของการขบั เคล่อื นสุขภาวะของวัยทางานในสถาน ประกอบการ การมสี ุขภาวะท่ดี ขี องวยั ทางานในสถานประกอบการจะเชอ่ื มโยงกบั ปัจจยั ตา่ งๆ มากมาย ทงั้ ปัจจยั ด้าน ตวั บคุ คล สภาพแวดล้อม และระบบการจดั การดูแลสขุ ภาพของสถานประกอบการเอง โดยปัจจยั ดา้ นตวั บุคคลและ สภาพแวะล้อมในงานนนั้ มคี วามสัมพนั ธก์ ันตลอดเวลาและจะสง่ ตอ่ ภาวะสขุ ภาพของบคุ คล ดงั นนั้ ระบบการจดั การ ดูแลสุขภาพของสถานประกอบการจงึ จาเป็นต้องมบี ุคคลสาคญั ท่ที าหน้าท่เี ป็นผู้นาด้านสุขภาพ (Health Leader) โดยมบี ทบาทสาคญั ในการสร้างเสรมิ สุขภาพ การป้องกนั ปัญหาสุขภาพของวยั ทางานให้คงไวซ้ ง่ึ การมสี ุขภาพดีทงั้
๖ ทางด้านร่างกายและจิตใจ หน่ึงในบุคคลท่สี าคัญซ่ึงเป็นส่วนหนึ่งของระบบการจดั การดูแลสุขภาพของสถาน ประกอบการ ภายใต้แนวคดิ “ศูนยส์ ุขภาพดวี ยั ทางาน หรอื Wellness center” ปัจจุบันพบว่าปัญหาสุขภาพของวัยทางานอันเน่ืองมาจากพฤตกิ รรมเส่ยี งทงั้ พฤติกรรมเส่ียงจากการ เจ็บป่วยดว้ ยโรคจากการทางาน ไดแ้ ก่ โรคปอดจากฝุ่นหนิ โรคจากพษิ โลหะหนัก โรคกระดูกและกล้ามเน้อื โรคจาก สารทาละลายอนิ ทรยี ์ โรคประสาทหูเส่อื มจากเสยี งดงั เป็นตน้ การเจ็บป่วยดว้ ยโรคนอกเหนืองานอนั เน่อื งมาจากการ มวี ถิ ีชวี ติ และพฤตกิ รรมสุขภาพท่เี ปล่ยี นแปลงไป สง่ ผลใหเ้ กดิ การเจบ็ ป่วยด้วยโรคไมต่ ดิ ตอ่ เร้อื รงั ได้แก่ โรคหลอด เลอื ดสมอง รองลงมาคอื โรคหวั ใจขาดเลือด โรคทางเดนิ หายใจอุดกนั้ เร้อื รงั เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ตามลาดับ สาเหตุส่วนใหญเ่ กดิ จากการมีพฤตกิ รรมท่ไี ม่เหมาะสม อาทิ การรับประทานอาหารท่มี ีรสชาดหวานจดั เค็มจัด มนั จดั การไม่ออกกาลังกาย ขาดการพกั ผ่อนอย่างเพียงพอ รวมถึงการมพี ฤติกรรมสูบบุหร่ี ด่มื อลั กอฮอล์ เป็นตน้ ซึง่ ลว้ นสง่ ผลกระทบตอ่ ภาวะสุขภาพของคนวยั ทางาส่งผลถึงครอบครัว ชมุ ชนและสถานประกอบการ สง่ ผล ให้เกดิ ปัญหาทางดา้ นเศรษฐกจิ จากการขาดแคลนแรงงานและผลกระทบตอ่ สงั คมตามมาอกี ด้วย วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ เพอ่ื ให้ผ้เู รยี น 1. เขา้ ใจถงึ ความหมายและความสาคญั ของผู้นาสขุ ภาพ (Health leader) ในสถานประกอบการ 2. บอกบทบาทของผ้นู าสุขภาพ (Health leader) กบั การพฒั นาสขุ ภาวะคนทางานในสถานประกอบการ ได้ 3. บอกหนา้ ท่คี วามรบั ผดิ ชอบของผนู้ าสขุ ภาพ (Health leader) ได้ 4. อธบิ ายสมรรถนะของผู้นาสขุ ภาพ (Health leader) ในการดาเนนิ งานด้านสุขภาวะะคนทางานในสถาน ประกอบการได้ เค้าโครง/สาระสาคญั 1. ความหมายและความสาคญั ของผนู้ าสุขภาพ (Health leader) กบั การพฒั นาสุขภาวะวยั ทางานในสถาน ประกอบการ 1.1 ความหมายของ ผ้นู าด้านสุขภาพ (Health Leader) ผนู้ าด้านสุขภาพ หรอื Health Leader หมายถงึ
๗ • ผู้ท่มี ีความรู้ความสามารถในการเปล่ยี นแปลงตนเองไปสู่การมีสุขภาวะท่ดี ี และสามารถกระตนุ้ ผลกั ดนั และขบั เคล่อื นองค์กร หรอื คนในองคก์ ร/สถานประกอบการให้เกดิ การเปล่ยี นแปลงไปสู่การมีพฤติกรรม สขุ ภาพอนามยั ทพ่ี งึ ประสงค์ • บุคลากรของสถานประกอบการท่ไี ด้รับมอบหมายให้ทาหน้าท่ีเป็นผู้นาด้านสขุ ภาพ และมคี วาม รบั ผดิ ชอบในการดูแลสุขภาพของตนเองและเพอ่ื นร่วมงาน ตามแนวทางของศนู ยส์ ุขภาพดีวยั ทางาน (wellness center) ซึ่งผู้ท่ีทาหน้าท่ีเป็นผู้นาด้านสุขภาพ หรือ Health Leader อาจเป็นเจ้าหน้าท่ีด้านบุคลากร (HR) เจา้ หน้าท่คี วามปลอดภยั (จป.) เจ้าหนา้ ทป่ี ระจาหอ้ งพยาบาลหรอื เจา้ หน้าท่ที ่ไี ด้รบั มอบหมายจากเจ้าของสถาน ประกอบการ ๑.๒ ผนู้ าสขุ ภาพ (Health Leader) กบั สถานการณ์สขุ ภาพของวยั ทางานในสถานประกอบการ ในการดาเนินงานของผู้นาสุขภาพในสถานประกอบการ จาเป็นอย่างยิ่งท่ผี ู้นาสุขภาพจะต้องมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเบ้อื งต้นเก่ยี วกบั สถานการณ์ท่เี ป็นปัญหาสุขภาพของวยั ทางาน ซ่ึงการทาเขา้ ใจเก่ยี วกบั โรคและความ เจบ็ ป่วยทพ่ี บบ่อยในกลุ่มวยั ทางานจะทาให้ผู้นาสุขภาพสามารถนามาวางแผน ออกแบบกจิ กรรมสขุ ภาพท่สี ามารถ ส่งเสรมิ สุขภาพและป้องกนั โรคในวยั ทางานในสถานประกอบการได้ โดยโรคและความเจบ็ ป่วยของวยั ทางาน สามารถ แบ่งออกเป็น ๑) โรคจากการประกอบอาชพี หรอื โรคเน่อื งจากการทางาน และ ๒) โรคทไ่ี ม่ได้เกิดจากการประกอบ อาชพี โดยตรงหรอื เรยี กว่าโรคและความเจ็บป่วยนอกงาน และ ๓) โรคอบุ ตั ใิ หม่ ซ่งึ มสี ถิตแิ ละรายละเอยี ดดงั น้ี ๑) โรคจากการประกอบอาชพี จากรายงานสถานการณโ์ รคจากการประกอบอาชพี ปี 2560 พบวยั ทางานมกี ารเจ็บป่วยด้วยโรค ต่างๆ ดงั น้ี โรคปอดจากฝุ่นหนิ (Silicosis) พบอตั ราป่วย 0.32 ต่อแสนคน โรคจากพษิ โลหะหนัก พบอตั ราป่วย 0.003 ต่อแสนคน โรคปอดจากแร่ใยหนิ (Asbestosis) พบอตั ราป่วย 0.27 ตอ่ แสนคน โรคกระดกู และกล้ามเนื้อ พบ อตั ราป่วย 166.77 ตอ่ แสนคน โรคจากสารทาละลายอนิ ทรีย์ พบอตั ราป่วย 0.03 ตอ่ แสนคนโรคประสาทหูเสอ่ื มจาก เสยี งดงั พบอตั ราป่วย 79.91 ต่อแสนคน และปัญหาทางด้านสุขภาพจติ พบวา่ วยั ทางานกว่า 300 ล้านคนป่วยเป็น โรคซึมเศร้า และกว่า 260 ล้านคนมีภาวะวติ กกังวล ส่งผลให้เกดิ ค่าความสูญเสยี ทางเศรษฐกจิ ถึงปีละ 1 พันล้าน เหรยี ญสหรฐั ฯ ภายในปีค.ศ. 2030 มกี ารคาดการณ์ว่าทวั่ โลกจะเสยี ค่าใช้จ่ายจาก “วิกฤตโรคซมึ เศร้า” เป็นจานวน กว่า 16 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ยงั พบอีกว่า ประเทศไทยในปี 2561 ปัญหาท่วี ัยทางานขอรับบริการสายด่วน สุขภาพจติ มากเป็นอนั ดบั 1 ได้แก่ เรอ่ื ง ความเครยี ด วติ กกงั วล โดยมจี านวนเพมิ่ ขน้ึ เกอื บสองเท่าตวั และด้านการ บาดเจบ็ จากการทางานของวยั ทางาน ขอ้ มูลของกองทุนเงนิ ทดแทน ปี 2559 พบวา่ มอี ตั ราการประสบอนั ตราย 3.04 ต่อ 1,000 ราย
๘ ๒) โรคทไี่ ม่ไดเ้ กิดจากการประกอบอาชีพโดยตรงหรอื เรียกว่าโรคและความเจ็บป่ วยนอกงาน จากการสารวจพบว่า วยั ทางานยังต้องเผชญิ กบั การเจ็บป่วยด้วยโรคท่เี กิดจากวถิ ีชวี ติ และการมี พฤตกิ รรมสุขภาพท่เี หมาะสม ไดแ้ ก่ กลุ่มโรคไมต่ ดิ ต่อเร้อื รงั อาทิ โรคความดนั โลหติ สงู โรคเบาเหวาน โรคหวั ใจ และหลอดเลอื ด โรคหลอดเลอื ดสมอง เป็นตน้ โรคไม่ตดิ ตอ่ ท่กี ล่าวมา นับเป็นสาเหตุของการเสยี ชวี ติ ไม่น้อยกวา่ 36 ล้านคนทวั่ โลกในแตล่ ะปี หรอื คดิ เป็นสดั ส่วนรอ้ ยละ 63 ของสาเหตุการตายทงั้ หมด สาหรบั ประเทศไทยมผี เู้ สยี ชีวิต จากโรคไม่ตดิ ตอ่ เร้อื รงั ถงึ รอ้ ยละ 75 หรอื ประมาณ 320,000 คนตอ่ ปี เฉลย่ี ชวั่ โมงละ 37 คน อนั ดบั หน่งึ คอื โรคหลอด เลอื ดสมองคดิ เป็นรอ้ ยละ 4.59 หรอื ประมาณ 28,000 คน รองลงมาคอื โรคหวั ใจขาดเลอื ด โรคทางเดนิ หายใจอุดกนั้ เร้อื รงั เบาหวาน และความดนั โลหติ สงู โดยมแี นวโน้มการเจบ็ ป่วยและการเสยี ชวี ติ เพม่ิ ขน้ึ ท่สี าคญั ส่วนมากเป็นกลุ่ม ประชากรวัยทางาน นอกจากโรคทางกายแล้ว ยงั พบปัญหาทางด้านสุขภาพจติ ได้แก่ โรคซึมเศร้า มีความเครยี ด วติ กกงั วล เป็นต้น ๓) โรคอุบตั ิใหมท่ ส่ี ง่ ผลกระทบต่อวยั ทางาน ปัจจุบนั โรคอบุ ตั ใิ หม่ท่สี ง่ ผลกระทบต่อคนทกุ กลุม่ วยั โดยเฉพาะวยั ทางานทวั่ โลกและประเทศไทย คอื โรคโคโรนาไวรสั 2019 นับเป็นโรคอบุ ตั ิใหม่ท่ตี ดิ ต่อจากคนสู่คนผ่านระบบทางเดนิ หายใจ การสมั ผัสเช้อื โรค การ แพรเ่ ชอ้ื แบบคนส่คู น จากละอองฝอยจากน้ามกู น้าลาย เสมหะเป็นชอ่ งทางหลกั ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 25 มนี าคม ๒๕๖๔ พบยอดผู้ตเิ ช้อื สะสมทวั่ โลกอยู่ท่ี ๑๒๕,๔๒๔,๑๓๖ คน เสยี ชวี ิตสะสมทวั่ โลกอยู่ท่ี ๒,๗๕๖,๖๒๒ คน ขณะท่ยี อด สะสมผู้ติดเช้อื ในประเทศอยู่ท่ี ๒๘,๔๔๓ คน (ศูนย์บรหิ ารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๖๓) จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคยอ่ มผลกระทบตอ่ ระบบบรกิ ารสุขภาพ ตลอดจนสง่ ตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ทวั่ โลก เกดิ การชะงกั ของอตุ สาหกรรมตา่ งๆ ชะลอการผลติ ในภาคอตุ สาหกรรมทวั่ โลก ประชาชนจะต้องเสียค่าใชจ้ ่ายกบั การซอ้ื อปุ กรณป์ ้องกนั เช่น ตอ้ งซือ้ หนา้ กากอนามยั หรอื เจลลา้ งมือ กกั ตวั อยู่กบั บ้านทาให้ขาดรายได้ และท่สี าคัญส่งผลกระทบตอ่ วยั ทางานทาให้เกิดการเลกิ จ้างงาน การหยุดงาน ทาให้สูญเสยี รายได้ และบางรายเกดิ ความเจ็บป่วยด้วยโรคโควดิ -19 การทราบถึงสถานการณ์ปัญหาและความต้องการด้านสุขภาพของวัยทางาน จะทาให้ผู้นาสุขภาพใน สถานประกอบการสามารถวางแผนการทางานร่วมกับภาคส่วนท่เี ก่ียวขอ้ ง ซึ่งได้แก่ เจ้าหน้าท่คี วามปลอดภัย เจ้าหน้าท่ดี ้านบุคลากร ผู้บรหิ าร/เจ้าของสถานประกอบการ ตลอดจนบุคลากรสาธารณสุข ร่วม กนั วางแผน จดั กจิ กรรมทงั้ ในรูปแบบของกจิ กรรมสร้างเสริมสุขภาพทางกายและทางจิต กจิ กรรมป้องกนั และควบคุมโรคทงั้ โรคใน งาน โรคนอกเหนืองาน รวมถึงโรคตอ่ ตอ่ โรคระบาดตา่ งๆ ไดอ้ กี ด้วย
๙ ๑.๓ ผ้นู าสุขภาพ (Health Leader) เป็นกลไกที่สาคญั ของโครงการขบั เคล่อื นสขุ ภาวะคนทางาน ในสถานประกอบการอยา่ งมสี ว่ นรว่ ม (Healthy Living) จากสถานการณ์ด้านสุขภาพของวยั ทางานดังท่ไี ด้กล่าวมาแล้วนัน้ ส่งผลให้หน่วยงานทงั้ ภาครัฐและ ภาคเอกชนของประเทศไทย ต่างก็เล็งเห็นความสาคญั ของสุขภาพของคนทางานท่มี ีผลต่อการสรา้ งผลผลติ และ ความก้าวหน้าขององค์กร และสงั คมโดยรวม จึงได้ร่วมมอื กนั มุ่งแก้ไขปัญหาและสร้างความร่วมมือในการกาหนด นโยบาย ระเบยี บขอ้ บงั คบั มาตรการ ตลอดจนจดั ทาโครงการและกจิ กรรมเพ่อื สร้างเสริมสุขภาวะวยั ทางานมาอย่าง ต่อเน่อื งนนั้ ในปี ๒๕๖๔ จงึ ได้เกดิ แนวคดิ ในการพฒั นา “โครงการขบั เคล่อื นสุขภาวะคนทางานในสถานประกอบการ อย่างมีส่วนร่วม (Healthy Living)” ด้วยการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สานักวชิ าการ สาธารณสุข สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรมอนามยั ก รมสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพ สานักงานประกนั สงั คม สสส. และหอการค้าไทย (รูปภาพท่ี ๑) โดยมวี ตั ถปุ ระสงคส์ าคญั เพอ่ื 1) เกดิ “ศนู ยก์ ลาง” ในการให้คาปรกึ ษา และดูแล ส่งเสรมิ สขุ ภาพทค่ี รอบคลุมในทุกมติ ิ ทงั้ ทางด้านโรค จากการทางาน โรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ โรคป้องกนั ได้ด้วยวคั ซีน และ ปัญหาด้านสุขภาพจิต (สขุ ภาพแบบองคร์ วม : Total worker health) ใหแ้ ก่วยั ทางานในสถานประกอบการ 2) เกดิ กลไก หรอื platform การเช่อื มโยงการดาเนนิ งานในการดแู ลและสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ระหวา่ ง สถาน ประกอบการ กบั หน่วยบรกิ ารสาธารณสุข จนไปนาสู่การดาเนินงานส่งเสริมสุขภาพในองค์ กรท่ี ยงั่ ยนื 3) เกดิ การบูรณาการการดาเนนิ งานด้านส่งเสรมิ สขุ ภาพ การป้องกนั ควบคุมโรค ระหว่างหน่วยงาน สาธารณสขุ สว่ นกลาง และ พ้นื ท่ี รวมถงึ การบูรณาการระหว่างกระทรวงทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
๑๐ สป. กรมอนามัย คร. สบส. สปส.หอการค้า กรมสขุ ภาพจิต สภาอุตสาหกรรม สมอ. รปู ท่ี ๑ กรอบแนวคดิ โครงการขบั เคล่ือนสขุ ภาวะคนทางานในสถานประกอบการอยา่ งมสี ่วนร่วม (Healthy Living) (สานกั วชิ าการสาธารณสุข สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๖๔) จากกรอบแนวคิดดังรูปท่ี ๑ จะทาให้เหน็ ถึงความสาคัญของ “ผู้นาสุขภาพ (Health Leader)” ใน ฐานะท่เี ป็นกลไกหลกั ในการขับเคล่อื นสุขภาวะของคนทางานในสถานประกอบการ โดยผู้นาสุขภาพจะเป็นผ้ทู ่ที า หน้าท่ใี นการ ๑) สร้างความตระหนักในการดูแลสขุ ภาพของเพอ่ื นพนักงาน ๒) เป็นผู้นาในการดูแลสุขภาพตนเอง และครอบครวั และ ๓) สร้างเสรมิ สุขภาพในการทางานและมแี บบแผนการใช้ชีวติ ท่เี หมาะสม ซง่ึ การดาเนินงานของ ผู้นาสุขภาพนนั้ จะดาเนินงานผ่านศูนย์สุขภาพดีวยั ทางาน (wellness center) ท่มี ุ่งเน้นการปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรม ของพนักงาน ปรบั เปลย่ี นสภาพแวดลอ้ มและสถานท่ใี นการทางานให้มคี วามเหมาะสมเอ้อื ต่อการวถิ ีการทางานและ วถิ ชี วี ติ ดา้ นอ่นื ๆ ศูนยส์ ุขภาพดวี ยั ทางานจงึ เป็นศนู ย์ท่มี ุ่งเนน้ การให้บรกิ ารด้านสขุ ภาพแก่วัยทางานอยา่ งครบวงจร ตงั้ แต่การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ การให้บรกิ าร 10 package ตามสิทธิประโยชน์ในหลักประกันสุขภาพ/ ประกนั สงั คม การทางานด้านสุขภาพโดยใช้เครอ่ื งมอื การประเมินภาวะสขุ ภาพทงั้ ทางด้านร่างกายและจติ ใจแก่วยั ทางาน การออกแบบกจิ กรรม นวตั กรรมเพอ่ื การสร้างเสรมิ สุขภาพและการป้องกนั โรค การประเมนิ ผล ตดิ ตามผล
๑๑ การดาเนินงานและการรายงานผลลพั ธ์/ผลผลติ ท่เี กดิ ข้นึ กับเครือข่ายการประสานงานของโครงการฯ เป็นต้น ซ่ึง ผลลัพธ์ท่สี าคญั จากโครงการการขบั เคล่อื นสุขภาวะของคนทางานในสถานประกอบการแบบมีสว่ นร่วม ( Healthy Living) ในครงั้ นี้ จะกอ่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาองค์กรสอู่ งคก์ รสุขภาวะ องค์กรต้นแบบแหง่ การมสี ุขภาวะท่ดี ีแบบองค์รวม นามาซ่งึ การเพม่ิ ผลผลติ เพมิ่ รายได้ (การผลติ ) ลดรายจา่ ย (ดา้ นสขุ ภาพ) ให้แกภ่ าคส่วนอุตสาหกรรม เศรษฐกจิ และ สงั คมของประเทศ ๑.๔ ผ้นู าสุขภาพ (Health Leader) กบั การดาเนินงานของศูนย์สุขภาพดีวัยทางาน (wellness center) สาหรบั การดาเนินงานหรอื สถานท่กี ารให้บรกิ ารสุขภาพของผนู้ าสุขภาพในสถานประกอบการนัน้ ควรมกี ารจดั สถานท่ใี หบ้ รกิ ารท่เี หมาะสมตามบรบิ ทของสถานประกอบ อาทิ อาจใช้หอ้ งรกั ษาพยาบาลหรอื สถานท่ที ่ี มคี วามเป็นส่วนตวั มีบรเิ วณท่สี ามารถจดั กิจกรรมทงั้ ในด้านการรกั ษาพยาบาล การสร้างเสรมิ สุขภาพในรูปแบบ ต่างๆ ซึ่งแนวทางหลกั ในการบรหิ ารจัดการศนู ย์สุขภาพดวี ัยทางานในสถานประกอบการท่เี ป็นพน้ื ฐาน (สานักโรค จากการประกอบอาชพี และสง่ิ แวดล้อม, มปก.) มดี งั น้ี 1) ควรเนน้ เป็นลกั ษณะท่เี ป็น จุดบรกิ ารสขุ ภาพแบบแบบองค์รวม ผสมผสาน (Holistic) ในการส่งเสริม สุขภาพ ป้องกนั โรค ทุกด้าน สาหรบั ลูกจ้างในสถานประกอบการ โดยอาจผสานการดาเนินงานในหอ้ งรกั ษาพยาบาล ให้เป็น “ห้องส่งเสรมิ สุขภาพ” หรอื ผสานการดาเนินงานใน คลนิ กิ ความปลอดภยั ฯ ใหเ้ ป็น “ศูนย์จดั การสขุ ภาพและ ความปลอดภยั ” ในองค์กร 2) รูปแบบ วธิ กี ารจดั ศูนยฯ์ ควรเป็นลกั ษณะท่ดี งึ ดดู น่าสนใจ ให้ความรู้สกึ ท่ีมาใช้บรกิ ารแล้วสบาย ชวน เชญิ จงู ใจใหล้ ูกจา้ งอยากมาใช้บรกิ าร จดั ช่วงเวลาในการให้บรกิ ารท่สี ะดวก เหมาะสมกบั เวลาของลูกจา้ งในองคก์ ร 3) มพี น้ื ท่สี าหรบั การสอน สาธติ ฝึกหดั การปฏบิ ตั ติ น สาหรบั แพคเกจการส่งเสรมิ สุขภาพในรูปแบบ ต่างๆได้อย่างชดั เจน เพ่อื ให้ลูกจา้ งท่ีเข้ารว่ มแพคเกจการสง่ เสรมิ สขุ ภาพนนั้ สามารถเขา้ ใจถงึ วิธีการปฏบิ ัตติ นได้ อย่างถูกต้อง จนนาไปสูก่ ารปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสมตอ่ ไป 4) เนน้ ใหม้ กี ารเขา้ ถงึ ไดง้ ่าย มผี ูใ้ ห้คาปรกึ ษาและแนะนาตลอดเวลาในศูนยส์ ขุ ภาพดวี ยั ทางาน ศูนย์สุขภาพดีวัยทางาน เป็นสถานท่สี าคัญในการให้บรกิ ารด้านสุขภาพกายและจติ แก่บุคคลากรทาง สถานประกอบการทุกระดบั ดังนัน้ เพ่อื ให้เกิดการจดั ตงั้ ศูนย์สุขภาพดีวัยทางานท่ีมีมาตรฐาน จึงมีการกาหนด องค์ประกอบของการจดั ตงั้ ศนู ย์สุขภาพดีวยั ทางานในสถานประกอบการ ดงั น้ี
๑๒ องค์ประกอบของการจดั ตงั้ ศูนยส์ ุขภาพดีวยั ทางานในสถานประกอบการ 1. มกี ารกาหนดนโนบายการดาเนินงานท่ชี ดั เจน โดยสถานประกอบการจะต้องให้ความสาคญั กบั การ ดาเนนิ งานของศนู ยส์ ุขภาพดวี ยั ทางาน มกี ารกาหนดนโนบายและเป้าประสงค์ทช่ี ดั เจน โดยเฉพาะการมนี โยบาย ให้ศูนย์สุขภาพดีวัยทางาน เป็น “ศูนย์กลางด้านสุขภาพ” ในการให้คาปรึกษาและส่งเสริม ดูแลสุขภาพท่ี ครอบคลุมในทุกมติ ิ (สุขภาพแบบองค์รวม : Total worker health) และเน้นการมีส่วนร่วมของวัยทางานทุก ระดบั ในสถานประกอบการ 2. มโี ครงสรา้ งและผู้รบั ผดิ ชอบท่ชี ดั เจน - โครงสร้างการบรหิ ารจดั การ - สถานท่ี - บคุ ลากร/ผ้ใู หบ้ รกิ าร ซง่ึ ไดแ้ ก่ เจา้ หนา้ ทค่ี วามปลอดภยั ในการทางานทุกระดบั เจา้ หนา้ ท่ฝี ่าย บุคคลและธุรการหรอื ทรพั ยากรมนุษย์ แพทย์ และพยาบาลประจาห้องรกั ษาพยาบาลแพทย/์ พยาบาล 3. มแี ผนปฏบิ ตั งิ านท่ชี ดั เจน - แผนบรหิ ารจดั การงบประมาณ - แผนการดาเนินงานท่คี รอบคลมุ ทงั้ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพและการป้องกนั โรค 4. มรี ูปแบบกจิ กรรมการดาเนนิ งาน - ท่สี อดรบั กบั แนวคดิ สุขภาวะวยั ทางานแบบองค์รวม (total worker health) ใหค้ วามสาคญั กบั การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (Health promotion) การปกป้องสง่ิ คุกคามสุขภาพ (Health protection) เป็นตน้ 5. การกากบั ตดิ ตาม การประเมนิ ผล ศูนยส์ ุขภาพดีวัยทางานจะตอ้ งมรี ะบบการตดิ ตาม การ ประเมนิ ผลตามตวั ช้วี ดั ตา่ งๆ โดยจะต้องจดั ทารายงานหรอื ระบบสาคญั ดงั นี้ ๕.๑ พฒั นาระบบการจดั เกบ็ ขอ้ มูล การทาฐานขอ้ มูล ๕.๒ การวิเคราะห์ การนาเสนอขอ้ มูล และรายงานขอ้ มลู
๑๓ ๕.๓ การประเมนิ ผลตามตัวช้วี ดั ท่สี าคญั ได้แก่ ตวั ช้วี ดั ดา้ นสขุ ภาพขอ้ มลู การเจ็บป่วย สถติ กิ ารมา ทางาน การลาป่วย การเจบ็ ป่วยด้วยโรคตา่ งๆ การวเิ คราะห์โดยใช้หลกั เศรษฐศาสตร์ด้านสุขภาพอยา่ งง่าย เชน่ เม่อื วยั ทางานสขุ ภาพดขี ้นึ วนั ลาป่วยลดลง มกี ารลดต้นทนุ ดา้ นการจ้างงานทดแทนหรอื ไม่ มกี ารเพมิ่ ผลผลติ ผล ประกอบการหรอื ไม่ รวมถึงการประเมนิ ตวั ชว้ี ดั อาทิ การลาป่วย การขาดงาน การใชบ้ รกิ ารห้องพยาบาล อตั รา การเกดิ อบุ ตั เิ หตุ มีแนวโน้มลดลงอยา่ งไร รวมถึงการประเมนิ ผลผลติ ท่ไี ดจ้ ากการดาเนินงาน อาทิ เกดิ นวตั กรรม การบรกิ ารสขุ ภาพใหมๆ่ เกดิ ชดุ การบรกิ ารสขุ ภาพหรอื กจิ กรรมดา้ นสขุ ภาพทก่ี อ่ ให้เกดิ การเรยี นรู้ การสรา้ ง ความรอบรรู้ ่วมกนั ในสงั คมของสถานประกอบการ เป็นต้น รูปที่ ๒ แนวคดิ การจดั ตงั้ ศนู ย์สขุ ภาพดีวยั ทางาน (กองโรคจากการประกอบอาชพี และสง่ิ แวดล้อม, 2564) ตวั อยา่ งกจิ กรรมการจดั บรกิ ารในศูนยส์ ุขภาพดีวยั ทางาน
๑๔ รปู ที่ ๓ กิจกรรมการดาเนนิ งานศนู ย์สุขภาพดวี ยั ทางาน (กองโรคจากการประกอบอาชพี และสง่ิ แวดล้อม, 2564) กจิ กรรมการดาเนินงานของศูนยส์ ุขภาพดวี ยั ทางาน จงึ ประกอบด้วยกจิ กรรมท่สี าคญั ดงั นี้ (รปู ท่ี ๓) 1. การคดั กรองสขุ ภาพ (Screening) เน้นการคดั กรองความเส่ยี งด้านต่างๆ อาทิ โรคจากการประกอบอาชพี โรคไม่ตดิ ต่อเร้อื รงั โรคตดิ ต่อ พฤตกิ รรมเส่ยี งและคุกคามสุขภาพ ไดแ้ ก่ สูบบหุ ร่ี ด่มื สรุ า สุขภาพช่องปาก สขุ ภาพจติ เป็นตน้ 2. วิเคราะห์ สรปุ ผลและวางแผน (Analysis, Summary and Planning) เมอ่ื ได้ประเมนิ คดั กรองภาวะสุขภาพ แล้ว ตอ้ งสามารถวเิ คราะห์ แปลและสรุปขอ้ มูลภาวะสขุ ภาพทงั้ ในส่วนของข้อมูลท่เี ป็นปัญหาและความ ต้องการด้านสุขภาพ สมรรถนะและสุขภาะทงั้ ด้านกายและจติ ใจของวยั ทางาน หลงั จากนัน้ สามารถ วางแผนในการจดั การดูแลสุขภาพ ทงั้ แผนรายบุคคลและแผนรายกลมุ่ ทงั้ ในส่วนแผนระยะสนั้ ระยะยาว แผนเชงิ รกุ เป็นต้น 3. การให้การบริการ/การปฏิบตั ิการ (Intervention) มกี จิ กรรทใ่ี ห้การสนับสนุน ใหค้ าปรกึ ษา แนะนา และใช้ ชดุ แพคเกจสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพเพ่อื ป้องกนั โรคพ้นื ฐานท่พี บ สามารถให้แนะนาทเ่ี ป็นปัญหาเฉพาะรายบุคคล (การ ออกกาลังกาย โภชนการ การเสรมิ ภูมิคุ้มโรค การลดเหล้า บุหร่ี การลดความเครยี ด ฯ) สามารถออกแบบตาม ลกั ษณะเฉพาะบุคคลท่แี ตกต่างกนั ได้ และการประสาน สง่ ต่อ เช่อื มโยงกบั หน่วยบริการสาธารณสขุ ในกรณีท่มี ี
๑๕ 4. การมีระบบติดตาม (Monitoring) การพัฒนาระบบติดตาม การประเมินผล โดยเฉพาะการติดตามภาวะ สขุ ภาพ ทงั้ กลุม่ เส่ยี ง กลุ่มท่มี ปี ัญหาสุขภาพ ผลของการปรบั เปล่ยี นพฤติกรรมสุขภาพ จะทาใหเ้ กดิ การ พัฒนาคุณภาพการดูแลอย่างตอ่ เน่ือง ระบบตดิ ตามท่ดี คี วรให้ความสาคญั กับระบบการบนั ทึกข้อมลู ทงั้ การบันทึกในลักษณะเป็นลายลกั ษณ์อักษร การบนั ทึกลงสมุดสุขภาพ การจัดทาฐานขอ้ มูลอิเล็คทอนิค เพ่อื ติดตามภาวะสุขภาพได้อย่างต่อเน่ือง พร้อมกับการประเมนิ ผล ลงบนั ทึกโปรแกรมการสร้างเสริม สุขภาพหรอื กจิ กรรมตา่ งๆ ๒. บทบาทหน้ าท่ีของผู้นาด้านสุขภาพ (Health leader) กับการพัฒนาสุขภาวะวัยทางานในสถาน ประกอบการ บทบาททส่ี าคญั ของผู้นาด้านสขุ ภาพ (Health leader) ในสถานประกอบการ มดี งั นี้ ๑. ผนู้ าการเปลี่ยนแปลงเชิงรุก (Change agents) ผู้นาสุขภาพในสถานประกอบการจะปฏบิ ตั หิ น้าท่โี ดยเน้นการสร้างการมสี ่วนร่วมเพ่อื ก่อให้เกิดการ เปล่ยี นแปลงการจดั บรกิ ารหรือกจิ กรรมด้านสุขภาพท่เี อ้อื ต่อคนทางาน เน้นการส่งเสริมให้คนทางานมสี ุขภาพดี รว่ มกบั มสี ง่ิ แวดลอ้ มทเ่ี ออ้ื ต่อการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาวะ
๑๖ ดังนัน้ ผู้นาสุขภาพในสถานประกอบการจงึ ต้องค้นหาวธิ กี ารจดั การใหม่ๆ เพ่อื การปรับเปล่ยี นการ จดั บรกิ ารสุขภาพทท่ี าให้คนในสถานประกอบการมสี ขุ ภาวะทด่ี ี โดยเนน้ - สง่ เสรมิ ให้คนทางานในสถานประกอบการหรอื องคร์ ชุมชนมองเหน็ ปัญหาและศกั ยภาพของตนเอง และสามารถจดั การกบั ปัญหาสขุ ภาพของตนเองได้ - เป็นผู้ช้แี นะและสนับสนุนให้เกิดการใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ในสถานประกอบการมาสนับสนุนการ ปรบั เปลย่ี นระบบบรกิ ารสขุ ภาพ ๒. ต้นแบบด้านสุขภาพ (Role Model) ผนู้ าสุขภาพในสถานประกอบการจะต้องปฏบิ ตั ติ นเป็นผนู้ าและเป็นสมาชกิ ในการทางานรว่ มกนั กบั ภาคี ต่างๆ ในสถานประกอบการหรอื องค์รเพ่อื ผลกั ดนั ใหเ้ กดิ การสร้างเสรมิ สุขภาพ ผู้นาสุขภาพในสถานประกอบการจะต้องปฏิบตั ิตนเป็นตวั อย่างและแบบอย่างด้านการสร้างเสริม สุขภาพและมพี ฤตกิ รรมการสร้างเสรมิ สุขภาพทเ่ี หมาะสม เชน่ ออกกาลงั กายอย่างสมา่ เสมอ งดเว้นการสบู บุหร่แี ละ สารเสพตดิ งดด่มื อลั กอฮอล์ หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมเสย่ี งทส่ี ่งผลกระทบต่อสขุ ภาพ เป็นต้น ผู้นาสุขภาพในสถานประกอบการเป็นผู้นาในการคดิ ค้นพัฒนานวัตกรรมการสร้างเสรมิ สุขภาพ หรือ จดั ทาโครงการ กจิ กรรมสร้างเสรมิ สุขภาพทเ่ี หมะสมกบั เพ่อื นร่วมงาน ๓. ผ้สู ่ือสารและให้ความรูด้ า้ นสขุ ภาพ (Educator/Health Communicator) ผู้นาสุขภาพในสถานประกอบการมบี ทบาทเป็นผู้ส่อื สารด้านสขุ ภาพ โดยสามารถให้คะแนะนา ให้ ความรู้ด้านสุขภาพเบอ้ื งตน้ ทงั้ ความรู้ด้านการสรา้ งเสรมิ สุขภาพและการป้องกนั โรคทางด้านรา่ งกาย และการสร้าง เสรมิ สุขภาพจติ โดยผู้นาสุขภาพในสถานประกอบการอาจใช้กลวธิ ตี ่างๆ ในการเผยแพร่ความรขู้ อ้ มลู ข่าวสาร ได้แก่ การใหค้ าแนะนาความร้ผู ่านเสยี งตามสาย การจดั ทาบอรด์ หรอื สอ่ื ใหค้ วามรูด้ ้านสขุ ภาพตา่ งๆ การให้ความรู้ข่าวสาร ด้านสขุ ภาพผ่านทางช่องทางการส่อื สารออนไลน์ Facebook line หรอื Application เป็นตน้ ๔. การเป็นผเู้ อ้อื อานวยความสะดวกและประสานงาน (facilitator and coordinator) ผู้นาสขุ ภาพในสถานประกอบการเป็นผ้สู นับสนุนและช่วยเอ้อื อานวยความสะดวก ทงั้ ในด้านการหนุน เสรมิ เชงิ วชิ าการ อาทิ การเชญิ วทิ ยากรดา้ นสุขภาพจากสถานบรกิ ารมาเป็นวทิ ยากรอบรมให้ความรดู้ ้านสุขภาพแก่ เพอ่ื นรว่ มงาน การเป็นผจู้ ดั หา เชอ่ื มประสานในการเตรยี ม อปุ กรณเ์ ครอ่ื งใช้ เทคโนโลยี สถานท่ี ในการจดั กจิ กรรม ดา้ นการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ เช่น จดั หน่วยตรวจสขุ ภาพประจาปี จดั เตรยี มสถานท่ใี นการทากจิ กรรมทช่ี ่วยสนบั สนุน
๑๗ การดาเนินงานในการสร้างเสรมิ สุขภาพ เชน่ การจดั คา่ ยสนั ทนาการ การเตน้ แอโรบคิ การออกกาลงั กายทเ่ี หมาะสม กบั วยั ทางานในกลุ่มต่างๆ ท่แี ตกต่างหลากหลายตามกลุ่มวยั ลกั ษณะการทางาน ช่วงเวลาการทางาน เป็นต้น นอกจากนัน้ ผู้นาสุขภาพในสถานประกอบการจะต้องทาหน้าท่ีเป็นผู้ประสานงาน ติดต่อส่อื สาร ระหวา่ งหน่วยงานกบั องค์กรทงั้ ภายในภายนอกหน่วยงาน การประสานเครอื ขา่ ยความร่วมมอื ด้านสขุ ภาพ ทาหน้าท่ี ในการสนบั สนุน ประสานให้มกี ารเช่อื มโยงระหว่างเครอื ขา่ ยกับเครอื ขา่ ย เพ่อื เสรมิ ให้เครอื ข่ายมคี วามเขม้ แข็งมาก ขน้ึ เชน่ ประสานเครอื ข่ายศูนยส์ ุขภาพดีวยั ทางานกบั ภาคีทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชนในการขับเคล่อื นศนู ย์สุขภาพดี วยั ทางานให้เป็นศูนย์ตน้ แบบทม่ี กี ารพฒั นากจิ กรรมหรอื นโยบายเพอ่ื สุขภาพของคนทางานอย่างยงั่ ยนื ๕. ผ้ใู ห้การดูแล (caregiver/provider) ผนู้ าสขุ ภาพในสถานประกอบการสามารถปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทของการเป็นนักสรา้ งเสริมสุขภาพโดยมุ่ง ผลลัพธ์ให้วยั ทางานมสี ุขภาพดี โดยสามารถให้บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพเบ้อื งต้น โดยเฉพาะการคดั กรองสขุ ภาพ ได้แก่ การชงั่ น้าหนัก วดั ส่วนสูง การคานวณค่าดชั นีมวลกาย (BMI) การวดั ความดันโลหิตและสามารถแปลผลขนั้ ตน้ ได้ การเจาะค่าน้าตาลในเลอื ดปลายนิว้ และแปลผลขนั้ ต้น การประเมนิ ภาวะสุขภาพโดยใช้แบบคัดกรองต่างๆ ได้แก่ แบบประเมนิ ภาวะเครยี ด แบบประเมนิ ภาวะซึมเศรา้ เป็นต้น ๖. การเป็นทีป่ รึกษา (consultant) ผู้นาสุขภาพในสถานประกอบการ สามารถเป็นผู้ให้คาปรกึ ษาแก่เพอ่ื นผ้รู ่วมงานในสถานประกอบการ ทงั้ ในด้านสุขภาพและด้านการจัดการอน่ื ๆ เช่น การให้คาปรึกษาเก่ยี วกับแนวทางการจดั การสขุ ภาพตนเอง การ ปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมสขุ ภาพ การจดั การความเครยี ดและการผ่อนคลายความเครยี ด การไปรบั การรกั ษาพยาบาล ตามสทิ ธปิ ระโยชน์จากการประกนั สงั คม เป็นต้น ผู้นาสขุ ภาพจะเป็นผ้ใู หค้ าปรกึ ษาและเสรมิ หนุนใหค้ นทางานในสถานประกอบการมคี วามรู้ความเขา้ ใจใน การจดั การด้านสุขภาพ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพท่เี หมาะสมสอดคล้องกบั ลักษณะและบรบิ ทของสถานประกอบการ โดยใช้หลกั ในการเป็นผู้ใหค้ าปรกึ ษาทด่ี ี คอื ให้แนวทาง วางแผนรว่ มกนั และสง่ เสรมิ ให้ผรู้ บั คาปรกึ ษาสามารถหา แนวทาง ตดั สนิ ใจในการดาเนนิ การหรอื แกป้ ัญหาไดด้ ว้ ยตนเอง ๗. ผ้พู ิทกั ษ์สิทธิ (advocator) ผู้นาสุขภาพในสถานประกอบการจะต้องดารงตนเป็นผู้พทิ กั ษ์สิทธิ์ทงั้ สทิ ธขิ องตนเองและสทิ ธิของ เพอ่ื นร่วมงาน โดยสามารถปฏบิ ตั ดิ งั น้ี
๑๘ ๑) นาเสนอข้อมูลข่าวสารแก่วัยทางานในสถานประกอบการ องค์กร ชุมชน สงั คม และผู้เก่ยี วขอ้ ง ระดบั นโยบายเพ่อื กอ่ ให้เกดิ กระแสสงั คมทจ่ี ะกอ่ ให้เกิดการเปล่ยี นแปลง หรอื การใหข้ อ้ มลู ข่าวสาร ดา้ นสทิ ธแิ์ ละหลกั ประกนั สขุ ภาพทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ เพอ่ื นร่วมงานในทุกระดบั ๒) การระดมพลงั สร้างแรงจูงใจ รวมถึงการปลกุ จติ สานกึ รว่ มกนั ของกลมุ่ วยั ทางานและองคก์ รเพ่อื ให้ เกดิ การดาเนินกจิ กรรมท่จี ะส่งผลให้เกดิ การเปล่ยี นแปลงพฤตกิ รรมสุขภาพเชงิ บวก ระบบบรกิ าร และสงิ่ แวดลอ้ มใหม่ทเ่ี อ้อื ต่อสขุ ภาพ ในสถานประกอบการ ๓) จดั กระบวนการเรยี นรู้ การสร้างความรูเ้ พ่อื เพ่มิ พนู พลงั อานาจและศกั ยภาพของบุคคลและองค์กร ในการกาหนดปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาทงั้ ด้านสุขภาพ ระบบบริการสุขภาพ และ สง่ิ แวดล้อมในสถานประกอบการ ทงั้ น้ีเพ่อื ให้ระบบการพัฒนาและจัดการสุขภาพในองคก์ รเกดิ ความเป็นธรรม และมีประสทิ ธิภาพ เท่าเทียมท่ที ุกคนสามารถเข้าถึงและได้รบั การดูแลให้เกดิ สุข ภาวะได้ ๓. “๗ หน้าทีค่ วามรบั ผิดชอบของผนู้ าสขุ ภาพ” (7 Steps to be Health Leader) 1. ศกึ ษาเรยี นรู้บทบาทหน้าทข่ี อง Health Leader ในการเป็นผูน้ าดา้ นสุขภาพในสถานประกอบการ 2. พฒั นารูปแบบ wellnesss center ท่เี หมาะสมในสถานประกอบการ ตามมาตรฐานของกระทรวง สาธารณสขุ 3. จดั ทาแผนพฒั นาและกจิ กรรมส่งเสรมิ สขุ ภาพ 4. คดั กรองเจา้ หนา้ ท่ผี ู้ปฏบิ ตั เิ พ่อื จดั กจิ กรรมทเ่ี หมาะสมในแต่ละกล่มุ ทงั้ กลุ่มปกติ กลุ่มเสย่ี งและกลุ่ม ผปู้ ่วย ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข มี 4 กจิ กรรม ไดแ้ ก่ 4.1 กจิ กรรมทางกายเพอ่ื ลดค่าดชั นมี วลกาย (BMI) 4.2 กจิ กรรมสง่ เสรมิ ความสขุ ในการทางาน (กจิ กรรมสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ ) 4.3 กจิ กรรมการดูแลสุขภาพในกลุ่มผปู้ ่วยเบาหวานหรอื ความดนั หรอื การตดิ เหล้าหรอื การสูบบุหร่ี เพอ่ื ให้ผู้ป่วยมสี ุขภาพดขี น้ึ ลดการพง่ึ ยา ผลเลอื ดดขี น้ึ เป็นตน้ 4.4 นวตั กรรมกจิ กรรมเพอ่ื ส่งเสรมิ สขุ ภาพ 5. จัดทาแผนปรับปรุงสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยเสนอเจ้าของสถานประกอบการเพ่อื เพิ่ม ประสทิ ธภิ าพในการทางาน ป้องกนั การตดิ เช้อื โควดิ -19 ในสถานประกอบการ 6. จัดทารายงาน ขอ้ มูลกิจกรรมและผลการดาเนินการ ส่งให้กับทมี พ่เี ล้ยี ง (wellnesss center ของ สถานประกอบการ) และกระทรวงสาธารณสุขเพ่อื วเิ คราะห์ ประเมนิ สถานการณแ์ ละการสนบั สนุนจากศูนย์วชิ าการ ของกระทรวงสาธารณสขุ
๑๙ 7. รว่ มเป็นเครอื ข่ายการเรยี นรรู้ ่วมกนั กบั wellnesss centerอ่นื ๆและกระทรวงสาธารณสุข ๔. สมรรถนะท่สี าคญั ของผ้นู าด้านสขุ ภาพ (Health leader) ในการพฒั นาสุขภาวะะวยั ทางานในสถาน ประกอบการ สมรรถนะของผู้นาด้านสุขภาพ (Health leader) ในการพฒั นาสุขภาวะะวยั ทางานในสถานประกอบการ มดี งั น้ี สมรรถนะท่สี าคญั ของผ้นู าดา้ นสุขภาพ (Health leader) ๑. เป็นผนู้ าท่ดี ี เป็นผู้รเิ รม่ิ ในการเปล่ยี นแปลง ๒. มคี วามรกั ในงานและภารกจิ ท่ที า มคี วามมงุ่ มนั่ เหน็ ความสาคญั ของงานท่ที า ๓. มจี ติ อาสา พร้อมทจ่ี ะทางานเพอ่ื สว่ นรว่ ม ๔. มมี านุษยสมั พนั ธ์และมที กั ษะในการสอ่ื สารทด่ี ี ๕. มคี วามคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ มใี จรกั ในการพฒั นากจิ กรรมสรา้ งเสรมิ สุขภาพ ๖. เป็นนักวางแผน นักออกแบบ และนกั จดั การท่ดี ี ๗. มีความรู้ในหลกั เชงิ วิชาการ ได้แก่ การสร้างเสรมิ สุขภาพและการป้องกนั โรคในกลุ่มวยั ทางาน แนวคิดสุข ภาวะองค์รวม (total worker health) การสร้างเสรมิ สขุ ภาพจติ ระบบหลกั ประกนั สขุ ภาพ เป็นตน้ และความรู้เชิง กระบวนการทางานเพอ่ื สงั คม ได้แก่ การสร้างเครอื ขา่ ย การมสี ่วนร่วม การพฒั นาขอ้ เสนอสูน่ โยบาย เป็นต้น ๘. มคี วามสามารถในการสร้างเสรมิ พลงั อานาจทงั้ ในระดบั บคุ คล กลุม่ และเครอื ขา่ ย ๙. สามารถค้นหาและใช้ทนุ ทางสงั คมใหเ้ ป็นประโยชน์ในการพฒั นางานสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพในสถานประกอบการ ๑๐.เป็นผ้ใู ห้คาปรกึ ษาและเป็นพ่ีเลย้ี งในการทางานเพ่อื การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาวะวยั ทางานแบบองค์รวม ๑๑.มคี วามสามารถในการทางานเป็นทมี ทางานแบบภาคหี ้นุ สว่ น และเป็นนักประสานงานท่ดี ี ๑๒.สามารถพฒั นากจิ กรรม/โครงการสูก่ ารเป็นนวตั กรรม ๔. แนวคิดภาวะผ้นู ากับการเป็นผ้นู าสุขภาพ (Health Leader) สรปุ แนวคิดสาคญั ภาวะผ้นู ากบั การเป็นผ้นู าสขุ ภาพ (Health Leader)
๒๐ ๕.๑ ความสาคญั แนวคิดทฤษฎกี ารเป็นผ้นู า ภาวะผ้นู า ภาวะผู้นาเป็นองค์ประกอบหลกั ท่สี าคัญท่ที าให้ผู้นาสุขภาพ หรอื Health Leader สามารถขับเคล่อื นการ พฒั นาสุขภาวะแบบองคร์ วมของคนในองค์กรได้ โดยภาวะผู้นา จะหมายถงึ การทบ่ี ุคคลใดบุคคลหนง่ึ พยายามใช้ อทิ ธพิ ลของตน กระตุน้ ช้นี า ผลกั ดนั ให้บคุ คลอ่นื เตม็ ใจและกระตอื รอื ร้นในการทาสง่ิ ต่างๆ ตามตอ้ งการ ให้สาเรจ็ ตามเป้าหมาย องคป์ ระกอบของ ภาวะผู้นา สามารถแยกตามตวั อกั ษร LEADERSHIP ไดด้ งั นี้ L = Love ความรกั หมายถึง ผู้นาต้องเรมิ่ ด้วยการมีความรักเสียก่อน คอื รกั ในหน้าท่กี ารงาน รักผู้ร่วมงาน รกั ผู้ใตบ้ งั คบั บญั ชา รกั ความก้าวหน้า รกั ความยุติธรรม E = Education and Experience หมายถึง คุณสมบตั ิทางด้านการศกึ ษาและประสบการณ์ท่ดี ี เป็นแบบอย่างและสามารถ สงั ่ สอนแนะนาผูใ้ ต้บงั คบั บญั ชาไดถ้ ูกต้อง A = Adaptability หมายถงึ ความสามารถในการปรบั ตวั ให้เข้ากบั สถานการณ์ สง่ิ แวดล้อม รจู้ กั การแก้ปัญหาเฉพาะ หนา้ D = Decisiveness หมายถงึ มคี วามสามารถในการพจิ ารณาตดั สินใจได้รวดเร็ว ถกู ตอ้ ง แน่นอน กล้าไดก้ ลา้ เสยี E = Enthusiasm ความกระตือรือร้น มีความตัง้ อกตัง้ ใจในการปฏิบัติงานและสนับสนุนชักนา (Encourage) ให้ ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาปฏิบตั ิงานอย่างจรงิ จงั ด้วย R = Responsibility เป็นผู้มีความรบั ผดิ ชอบทงั้ ในหน้าท่คี วามรบั ผดิ ชอบของตนเองและใตบ้ ังคบั บญั ชา ไม่ทอดท้งิ หรอื ปัดความรบั ผดิ ชอบให้ผอู้ นื่ S = Sacrifice and sincere ต้องเป็นผู้เสยี สละเพอ่ื สว่ นรวม จรงิ ใจ ซ่ึงจะทาใหผ้ ู้ใตบ้ งั คบั บญั ชาเกิดความเคารพนับถอื H = Harmonize เป็นผู้มคี วามนุ่มนวล ผ่อนปรน เพ่อื เสริมสร้างความสามัคคีและความเขา้ ใจอันดีต่อกันในหมู่ ผู้รว่ มงาน อาจรวมถงึ การถอ่ มตวั (Humble) ตามกาลเทศะอนั ควร
๒๑ I = Intellectual capacity เป็นผู้มีความเฉลียวฉลาด มีไหวพรบิ ทันคนทนั ต่อเหตุการณ์ เป็นผู้รอบรู้ และมคี วามคิด รเิ รมิ่ P = Persuasiveness เป็นผู้มศี ิลปะในการจูงใจคน ซึ่งจาเป็นจะต้องใช้หลกั จติ วทิ ยา (Psychology) และต้องมอี านาจ (Power) ในตวั เองพอสมควร กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. บรรยาย 2. วเิ คราะห์สถานการณ์ 3. ทาแบบทดสอบ โจทย์สถานการณ์การเรียนรู้ คณุ A อายุ 35 ปี ทางานในสถานประกอบการแห่งหนึง่ มจี านวนพนักงานทงั้ สน้ิ 1,200 คน คณุ A ทางานใน ตาแหน่งเจ้าหน้าท่คี วามปลอดภัยในสถานประกอบการแห่งนี้มา ๕ ปี รู้สกึ มคี วามสุขกับการไดไ้ ปทางาน และ ต้องการเหน็ เพอ่ื นรว่ มงานทกุ คนในสถานประกอบการมคี วามสุขดว้ ยเช่นเดยี วกนั ในปีท่ผี ่านมา สถานประกอบการของคุณ A ได้เขา้ ร่วมโครงการขับเคล่อื นสุขภาวะวยั ทางานในสถาน ประกอบการ และได้กาหนดให้มีการจดั ตงั้ “ศูนย์สุขภาพดีวยั ทางาน (Wellness Center)” ข้นึ คุณ A จึงได้รบั มอบหมายจากเจ้าของสถานประกอบการใหท้ าหนา้ ท่ี “ผนู้ าสุขภาพ หรอื Health Leader” ซ่งึ คณุ A มคี วามสนใจ และเต็มใจทจ่ี ะทาหน้าทด่ี งั กล่าว จงึ ไดศ้ กึ ษาขอ้ มลู จากค่มู อื การจดั ตงั้ ศูนย์สุขภาพดีวยั ทางาน จากการศกึ ษาภาวะสุขภาพของพนกั งานในสถานประกอบการย้อนหลงั ๓ ปี คณุ A พบว่า พนักงานสว่ นใหญ่ มอี ายุอยูใ่ นช่วง ๓๐ – ๔๐ ปี เพศชายมากกว่าเพศหญิง จากพนักงานจานวน ๑,๒๐๐ คน มผี ้ทู ม่ี สี ขุ ภาพดจี านวน ๘๑๔ คน มภี าวะเส่ยี งจานวน ๒๙๑ คน (มคี ่าดชั นีมวลกายเกนิ , มคี ่าความดนั โลหติ สูง, มรี ะดบั น้าตาลในเลอื ดสงู และมพี ฤตกิ รรมสบู บหุ ร่ี ดม่ื อลั กอฮอล์และด่มื เครอ่ื งด่มื ชูกาลงั เป็นต้น) ภาวะป่วยจานวน 95 คน (เจบ็ ป่วยด้วย
๒๒ โรคเบาหวาน, ความดนั โลหติ สงู , ปวดกระดกู และกลา้ มเน้อื , ไขมนั ในเลอื ดสูง, โรคกระเพาะอาหารอกั เสบ) และ พบวา่ มผี ้ปู ่วยด้วยโรคซึมเศร้าร่วมกบั เป็นโรคกระเพาะอาหารจานวน 6 คน ระยะเวลาการเรียนรู้ จานวน 2 ชวั่ โมง การเรยี นรู้ผา่ นระบบออนไลน์ ส่ือการเรียนรู้ 1. Power point 2. ใบงาน 3. กรณีตวั อยา่ งเพอ่ื การเรยี นรู้ 4. คลปิ วดี โี อ เร่อื งสถานการณส์ ุขภาพวยั ทางาน การวดั ประเมินผลการเรยี นรู้ แบบทดสอบจานวน 10 คะแนน เอกสารอ้างอิง กองสนบั สนุนสขุ ภาพภาคประชาชน กรมสนบั สนุนบรกิ ารสุขภาพ. (๒๕๖๓). ผู้นาการสร้างสขุ ภาพแบบมสี ่วนรว่ ม. นนทบุร:ี กระทรวงสาธารณสุข. (เอกสารอดั สาเนา) ปิยะธดิ า นาคะเกษียร. (๒๕๕๙). การพฒั นาเครอื ข่ายการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ ใน: วจิ ติ ร ศรสี ุพรรณ วลิ าวณั ย์ เสนา รตั น์, ขนษิ ฐา นันทบตุ ร, ศริ พิ ร ขมั ภลขิ ติ และวงษจ์ นั ทร์ เพชรวเิ ชษฐเ์ ชยี ร. 7 ชุดการเรยี นรู้การพยาบาลเพอ่ื การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ โครงการขบั เคลอ่ื นวชิ าชพี การพยาบาลเพ่อื การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ. กรงุ เทพฯ : มาตา การพมิ พ์, 2559.
๒๓ ศูนยบ์ รหิ ารสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย. (๒๕๖๓).สถานการณ์ การตดิ เชอ้ื COVID-19 ในประเทศไทย ขอ้ มลู วนั ท่ี ๒๕ มนี าคม ๒๕๖๔ กรมควบคุมโรค กระทรวง สาธารณสขุ . สบื ค้นจากhttp://www.moicovid.com/25/03/2021/uncategorized/2875/ ศนู ย์ศกึ ษาพฒั นาการเศรษฐกจิ สถาบนั บนั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร.์ (2563). เศรษฐกจิ ตดิ โควดิ เรอ้ื รงั : ทศิ ทาง เศรษฐกจิ และการปรบั ตวั ของตลาดแรงงานไทย. สบื ค้นจาก http://www.nida.ac.th/th/index.php/nida- about/covid- สานักโรคจากการประกอบอาชพี และสง่ิ แวดล้อม กรมควบคมุ โรค. (๒๕๖๔). แนวทางการดาเนินงาน “ศูนยส์ ขุ ภาพดี วยั ทางานในสถานประกอบการ” Company’s Wellness Center. สบื คน้ จาก http://envocc.ddc.moph.go.th/uploads/wellness/wellness_an2562.pdf สานักวชิ าการสาธารณสขุ สานักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ . (๒๕๖๔). โครงการขบั เคล่อื นสขุ ภาวะคนทางานใน สถานประกอบการอย่างมสี ว่ นร่วม (Healthy Living). นนทบุ ร:ี กระทรวงสาธารณสขุ (เอกสารอดั สาเนา) ชดุ ความรทู้ ่ี 2 แนวคิด หลกั การและกลวิธี การสรา้ งเสริมสุขภาพและป้องกนั โรคในสถานประกอบการ ผนู้ ิพนธ์ เอกชยั เพียรศรีวชั รา อญั ชลินทร์ ปานศิริ กรมอนามยั แนวคิดสาคญั
๒๔ สุขภาพเป็นองค์ประกอบท่สี าคญั ของการดารงชวี ติ ทุกคนจะต้องดูแลสุขภาพของตนเองเป็นอย่างดี เพ่อื ให้ ตนเองเป็นผทู้ ่มี สี ขุ ภาพดใี นทุก ๆ ดา้ น จะทาใหส้ ามารถดารงชวี ติ อยู่ในสงั คมไดอ้ ย่างปกตสิ ุขตามศกั ยภาพท่ตี นมีอยู่ สุขภาพเป็นเร่อื งท่มี ีความเก่ยี วข้องกับตัวบุคคล สังคม และส่ิงแวดล้อม หากปัจจยั ดงั กล่าวขาดความสมดุลก็จะ กอ่ ให้เกดิ เป็นปัญหาสขุ ภาพได้ การทจ่ี ะมภี าวะสุขภาพท่พี งึ ปรารถนานนั้ บคุ คลจะต้องมแี นวคดิ เก่ยี วกับสุขภาพท่ี ถูกต้องและเป็นระบบ การทจ่ี ะมสี ุขภาพท่ดี ไี ด้นนั้ จะตอ้ งมสี ุขภาวะทางร่างกาย สุขภาวะทางจติ สุขภาวะทางสงั คม และสุขภาวะทางจติ วญิ ญาณ ท่มี คี วามสมั พนั ธ์เก่ยี วขอ้ งกนั โดยทบ่ี คุ คลทจ่ี ะมสี ุขภาพดไี ดน้ นั้ จะตอ้ งมปี ัจจยั ทางสุข ภาวะเหลา่ นดี้ ี ปัจจยั สาคญั ท่จี ะส่งผลต่อสุขภาพ ซ่ึงเป็นปัจจยั ทร่ี ่วมกนั กาหนดสภาวะสุขภาพของแต่ละบคุ คลและมี อทิ ธพิ ลสาคญั คอื ปัจเจกบุคคล สภาพแวดลอ้ ม และการบรกิ ารสขุ ภาพ การท่บี คุ คลจะมสี ุขภาพดไี ดน้ นั้ มไิ ดข้ น้ึ อยู่ กบั องค์ประกอบใด หรอื ปัจจยั ใดปัจจยั หน่งึ เพยี งอยา่ งเดยี ว แตเ่ ป็นผลรวมจากปัจจยั หลาย ๆ ดา้ นเหลา่ นีร้ ว่ มกนั บาง ปัจจยั สามารถปรบั เปลย่ี นได้ คอื พฤตกิ รรมสุขภาพ โดยใช้กระบวนการเรยี นรู้ท่จี ะสร้างเสรมิ สนับสนุนด้านสุขภาพ โดยให้บุคคลมีการปฏบิ ตั แิ ละการพฒั นาสุขภาพ ตลอดจนจัดการสิ่งแวดล้อมและปัจจยั ท่มี ีผลกระทบต่อสุขภาพ เพ่อื ให้บรรลุการมสี ุขภาพท่ดี ี กลวิธที ่นี ามาใช้ สร้างเสรมิ สขุ ภาพและป้องกนั โรค คือ การสร้างนโยบายสาธารณะ การสร้างสง่ิ แวดลอ้ มท่เี ออ้ื กบั การดูแลสขุ ภาพ การเสรมิ สร้างความเขม้ แขง็ ขององค์กร การพฒั นาทกั ษะส่วนบุคคล และการใหบ้ รกิ ารสขุ ภาพเชงิ รกุ วตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ เพ่ือให้ผเู้ รียน มีความรู้ความเขา้ ใจด้านสุขภาพ ในประเด็นแนวคิด/หลักการทางทฤษฎี เพ่อื เป็นกรอบแนวคดิ ในการ นาไปใช้ขบั เคลอ่ื นการดาเนนิ งานส่งเสรมิ สขุ ภาพในสถานประกอบการ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เม่อื ส้นิ สุดการอบรมผ้เู ขา้ รบั การอบรมสามารถ 1. อธบิ ายหรอื บอกความหมายของสขุ ภาพ การส่งเสรมิ สขุ ภาพ และพฤตกิ รรมสุขภาพ พร้อมทงั้ ยกตวั อยา่ ง พฤตกิ รรมสุขภาพท่ดี แี ละไม่ดที ส่ี ่งผลกระทบตอ่ สขุ ภาพได้ 2. วเิ คราะหป์ ัจจยั ท่มี ผี ลกระทบตอ่ สุขภาพได้ 3. อธบิ ายและยกตัวอยา่ งการดาเนนิ งานสง่ เสรมิ สุขภาพในบรบิ ทของสถานประกอบการ โดยประยกุ ต์ใชก้ ล ยทุ ธการสง่ เสรมิ สุขภาพตามแนวคดิ ของออตตาวาได้ ขอบเขตเนื้อหา 1. ความหมายของสุขภาพ การส่งเสรมิ สุขภาพ และพฤตกิ รรมสุขภาพ 2. ปัจจยั ท่มี ผี ลตอ่ สุขภาพ
๒๕ 3. กลยุทธการดาเนินงานส่งเสรมิ สุขภาพตามประกาศ “กฎบตั รออตตาวา” (Ottawa charter for Health Promotion) ในบรบิ ทของสถานประกอบการ 1. ความหมายของสขุ ภาพ การส่งเสริมสขุ ภาพ และพฤติกรรมสุขภาพ 1.1 ความหมายของสขุ ภาพ สุขภาพ ตามคานิยามขององค์การอนามัยโลกแห่ง (WHO) หมายถึง สภาวะอันสมบูรณ์ของภาวะทาง กาย จติ การดารงชวี ติ ในสงั คมอย่างปกตสิ ุข จะเหน็ ได้ว่า สขุ ภาพ นนั้ ไม่ได้หมายถึงความปราศจากโรคหรอื ความ บกพร่องเพียงอย่างเท่านัน้ แต่ยงั รวมไปถึงสุขภาพจิตท่ดี ี เพ่อื การดาเนินชีวติ อย่างปกตสิ ุขอีกด้วย ต่อมาในท่ี ประชุมสมชั ชาองค์การอนามยั โลก ต่อมาเม่อื เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2541 ได้มมี ตใิ ห้เพิ่มคาว่า สุขภาวะทางจิต วญิ ญาณเขา้ ไป ในคาจากดั ความของสขุ ภาพเพมิ่ เตมิ ดว้ ย ตามพระราชบญั ญตั สิ ขุ ภาพแหง่ ชาติ 2550 คาว่า สขุ ภาพ หมายถงึ ภาวะท่มี คี วามพร้อมสมบรู ณ์ ทงั้ ทางร่างกาย กล่าวคอื การมรี า่ งกายท่แี ขง็ แรง ไมเ่ ป็นโรค ไม่พกิ าร มคี วามคล่องแคล่ว และมกี าลงั พร้อมทงั้ การมี สภาพแวดลอ้ มทส่ี ่งเสรมิ สขุ ภาพ ดงั นนั้ จงึ อาจสรุปไดว้ ่า สุขภาพประกอบไปด้วยสว่ นสาคญั 4 มติ ิ คอื (รูปท่ี ๔) มติ ทิ ่ี 1 สุขภาพกาย หมายถึง ปราศจากโรคใดๆ ทางร่างกาย ไม่มีอาการปวดศีรษะ เจ็บปวด หรือ อาการใดๆ ขอ้ ต่อ กล้ามเนอื้ หวั ใจ ปอด ตบั กระเพาะหรอื ระบบใดๆ ต้องสามารถทางานได้ตามปกติ มรี า่ งกายท่ี แขง็ แรง มภี ูมติ า้ นทานโรค ถ้าเกดิ ความเจ็บป่วยกส็ ามารถฟ้ืนคนื ไดอ้ ย่างรวดเรว็ ไม่มภี าวะบง่ ช้ใี ดๆ ทจ่ี ะเจบ็ ป่วย มิติท่ี 2 สุขภาพจิต หมายถึง สภาพของจิตใจท่ีสามารถจะปรับตัวให้มีความสุขอยู่กับสังคมและ ส่ิงแวดล้อมได้ดี มีสัมพันธภาพอันดีกับบุคคลอ่นื ควบคุมอารมณ์ได้ มีอารมณ์มัน่ คง ทนต่อภาวะเครียดใน ชวี ติ ประจาวนั ยอมรบั ความจรงิ ของชวี ติ โดยไมม่ ขี อ้ ขดั แย้งภายในจติ ใจ และไมข่ ดั กบั สภาพความเป็นจรงิ ในสงั คมท่ี บุคคลนนั้ ดารงชพี อยู่ มคี วามสุข มคี วามหวงั พอใจในตนเองและการอย่ใู นโลกน้ี มติ ิท่ี 3 สุขภาพสงั คม หมายถึง อยู่ในสงั คมได้อย่างปกตแิ ละมคี วามสมั พันธ์ท่ดี ตี ่อครอบครวั เเละ เพ่อื นๆ ในสงั คม มบี ทบาทหนา้ ท่ี มคี ณุ ค่า มปี ระโยชน์ตอ่ สงั คม มคี วามชว่ ยเหลอื เกอ้ื กลู ซ่ึงกนั และกนั มติ ทิ ่ี 4 สขุ ภาพจติ วญิ ญาณ หมายถงึ ความรูท้ วั่ เท่าทนั และความเขา้ ใจ สามารถแยกไดใ้ นเหตุผลแห่ง ความดคี วามชวั่ ความมปี ระโยชน์และความมโี ทษ ซ่งึ นาไปสคู่ วามมจี ติ อนั ดงี าม และเออ้ื เฟ้ือเผ่อื แผ่ ดงั นนั้ อาจกลา่ ว ได้ว่า ภาวะสมบรู ณ์ของจติ วญิ ญาณในทน่ี ้หี มายถงึ การมศี ลี ธรรมเป็นเคร่อื งยดึ เหนยี่ ว
๒๖ ซงึ่ สขุ ภาพ สามารถเปล่ยี นแปลงได้ตลอดเวลาของช่วงชีวติ แต่ละมติ มิ คี วามเช่อื มโยงกนั หากมติ ใิ ด บกพรอ่ งหรอื มปี ัญหา ยอ่ มสง่ ผลกระทบตอ่ มติ อิ น่ื ๆดว้ ย เช่น ถ้ารา่ งกายสมบรู ณ์และแขง็ แรงดี จติ ใจก็จะเป็นสุข สด ช่นื แจ่มใส เบิกบาน แต่ถ้าร่างกายอ่อนแอ เจ็บไขไ้ ด้ป่วยบ่อยๆ จิตใจก็จะหดหู่ ไม่สดช่นื แจ่มใส ดังนัน้ คนเราถา้ จติ ใจไม่สบายไม่เป็นสขุ มคี วามเครยี ด มคี วามวติ กกงั วลใจ กจ็ ะมผี ลต่อร่างกาย เชน่ กนิ ไมไ่ ด้ นอนไม่หลบั อาหาร ไม่ยอ่ ย ร่างกายซูบผอม หน้าซีดเซียวเศรา้ หมอง รปู ท่ี ๔ แสดงความเช่อื มโยงของสุขภาพในแตล่ ะมติ ิ (ประเวศ วะสี , 2552) ความหมายของการสง่ เสริมสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพ (Health Promotion) หมายถึง กระบวนการเพ่ิมความสามารถของคนในการ ควบคมุ ดแู ลและพฒั นาสขุ ภาพของตนเองให้ดขี ้นึ ซึง่ แตล่ ะบคุ คลหรอื กลุ่มบุคคลจะต้องมคี วามสามารถท่จี ะบอกและ ตระหนักถึงความปรารถนาของตนเอง ท่จี ะสนองความตอ้ งการตา่ งๆ ของตนเอง และสามารถท่จี ะเปล่ยี นแปลงหรอื ปรบั ตนใหเ้ ขา้ กบั สงิ่ แวดล้อม การสง่ เสรมิ สขุ ภาพอนามยั ของพนกั งาน คอื งานสง่ เสรมิ และธารงรกั ษาสุขภาพและความสามารถในการ ทางานของคนงาน ปรับปรุงสภาพแวดล้อมและการทางานให้ดขี ้นึ การพฒั นาองค์กรและวัฒนธรรมขององค์กร เพ่อื ให้พนักงานมสี ขุ ภาพอนามยั ท่ดี ี อนั จะส่งผลต่อองคก์ รหลายด้านทงั้ ดา้ นผลผลติ ภาพลกั ษณ์ขององคก์ ร 1.2 ความหมายของพฤติกรรมสุขภาพ
๒๗ พฤตกิ รรมสุขภาพ หมายถึง การกระทา หรอื การปฏบิ ตั ขิ องบคุ คลท่มี ผี ลตอ่ สุขภาพ ซงึ่ แสดงออกได้ 2 ลกั ษณะ คอื ลกั ษณะท่ี 1 การปลกู ฝังพฤตกิ รรมสขุ ภาพ โดยจะต้องดาเนนิ การเพ่อื ให้ไดม้ าซ่ึงพฤตกิ รรมท่ตี อ้ งการ คอื การกระทาในลกั ษณะท่เี ป็นผลดตี ่อสขุ ภาพ เช่น การออกกาลงั กาย การเล้ยี งลูกด้วยนมแม่ และการไม่กระทาใน สง่ิ ทเ่ี ป็นผลเสยี ต่อสขุ ภาพ เช่น การสบู บหุ ร่ี การดม่ื เคร่อื งด่มื แอลกอฮอล์ ลกั ษณะท่ี 2 การปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมสุขภาพ โดยจะตอ้ งดาเนินการเพ่อื ปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมสุขภาพท่ี ไม่เหมาะสม ให้เป็นพฤตกิ รรมสุขภาพท่เี หมาะสม โดยพฤตกิ รรมสุขภาพทไ่ี มเ่ หมาะสม ได้มาจากการกระทาในสง่ิ ท่ี เป็นผลเสยี ต่อสุขภาพ และการไม่กระทาในสง่ิ ท่เี ป็นผลดตี อ่ สขุ ภาพ เชน่ การกนิ อาหารลดหวาน มนั เคม็ ดงั นนั้ พฤตกิ รรมสขุ ภาพ จงึ มผี ลต่อการเจ็บป่วยและการเกดิ โรค ถ้าบุคคลมพี ฤตกิ รรมสขุ ภาพท่เี หมาะสม ก็ จะลดโอกาสของการเกดิ โรค ในทางกลบั กนั ถ้ามพี ฤตกิ รรมสุขภาพทไ่ี ม่ดี ยอ่ มทาให้มโี อกาสเกดิ โรค หรอื เกดิ การ เจ็บป่วย โดยเฉพาะอย่างยิง่ โรคไม่ติดต่อต่างๆท่มี ีสาเหตุมาจากพฤตกิ รรมสุขภาพท่ไี ม่ดี เช่น ความดนั โลหติ สงู โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด โรคเบาหวาน 1.3 ประเภทของพฤติกรรมสขุ ภาพ พฤตกิ รรมสขุ ภาพในภาวะปกติ 1.3.1 พฤตกิ รรมป้องกนั (Preventive health behavior) หมายถงึ การกระทา หรอื การแสดงออกของ บุคคลเพ่อื ดารงไว้ซ่ึงผู้มสี ุขภาพดี โดยมีวตั ถุประสงค์เพ่อื ป้องกนั ไม่ให้เกดิ การเจ็บป่วย กระทาในขณะท่ยี งั ไม่มี อาการของการเจ็บป่วย เช่น การหลกี เลย่ี งการตดิ เช้อื โดยการใช้เครอ่ื งป้องกนั หรอื ไมค่ ลุกคลกี บั ผู้ท่มี ีเชอ้ื การไม่ สูบบุหร่ี การไม่ด่มื สุรา การควบคุมน้าหนัก การใช้เข็มขดั นิรภัย การสวมหมวกกันน็อค การขบั รถให้ถูกกฎ จราจร การประเมินสภาพตัวเองโดยการใช้เคร่ืองมือแพทย์ เช่น การตรวจสุขภาพประจาปี การตรวจฟัน ทกุ 6 เดอื น การตรวจเลอื ดก่อนแต่งงาน เป็นตน้ 1.3.2 พฤตกิ รรมส่งเสรมิ สุขภาพ (Promotive health behavior ) หมายถึง การกระทา ท่ี แสดงออกในภาวะทร่ี า่ งกายปกติ แตต่ ้องการให้สมบรู ณ์มากขน้ึ เช่น การออกกาลงั กาย การเลอื กรบั ประทานอาหาร ท่ถี ูกสขุ ลกั ษณะครบถว้ นตามหลกั โภชนาการ การผ่อนคลายความเครยี ด พฤตกิ รรมสุขภาพเม่อื เจบ็ ป่วย 1.3.3 พฤตกิ รรมการรักษาพยาบาล หมายถึง การกระทาของบุคคลเมอ่ื รสู้ กึ ว่าตนเองป่วย หรอื ไม่ สบาย จึงแสวงหาการตรวจวินิจฉัยเพอ่ื ให้ตนเองทราบว่าป่วยเป็นอะไร และค้นหาแนวทางแกไ้ ขตามสภาวะการณ์
๒๘ เพ่อื ทจ่ี ะทาให้อาการป่วยดขี ้นึ หรอื หายเป็นปกติ เช่น การกนิ ยาตามแพทยส์ งั่ การควบคุมอาหาร การมาพบแพทย์ ตามนดั 1.3.4 พฤตกิ รรมการฟื้นฟูสภาพ หมายถงึ การรกั ษาและชว่ ยเหลอื ทางการแพทย์ เพ่อื ให้สมรรถภาพ การทางานสามารถกลบั มาใชง้ านได้ตามปกติ หรอื ใกล้เคยี งปกติ ซ่งึ ข้นึ อยู่กบั ระดบั ความพกิ ารของแต่ละบุคคล จงึ จาเป็นต้องมกี ารฝึกฝนเพอ่ื ให้เกดิ ความชานาญยงิ่ ๆ ข้นึ ไป ต้องทาอย่างตอ่ เน่อื ง ในขณะเดยี วกนั กต็ ้องป้องกนั ความ พกิ ารท่อี าจเกดิ เพม่ิ ข้นึ อกี เชน่ การฟ้ืนฟูสมรรถภาพวยั ทางานท่เี กดิ โรคหรอื บาดเจบ็ จากการทางาน 2. ปจั จยั ทีม่ ีผลต่อสุขภาพ การเปล่ยี นแปลงของสุขภาพข้นึ อยู่กบั ปัจจยั หลายอย่าง ปัจจัยเหล่าน้ีอาจทาให้สุขภาพเปล่ยี นแปลงไป ในทางทด่ี ขี ้นึ หรอื เลวลงกไ็ ด้ ปัจจยั ทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภาพ ประกอบด้วย การเปล่ยี นแปลงของสุขภาพข้นึ อยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ปัจจัยเหล่าน้ีอาจทาให้สุขภาพเปล่ยี นแปลงไป ในทางทด่ี ขี น้ึ หรอื เลวลงกไ็ ด้ ปัจจยั ทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภาพ ประกอบดว้ ย 2.1 ปัจเจกบุคคล เป็นปัจจยั ท่เี ก่ยี วกบั บุคคลโดยตรง ซึ่งบางปัจจยั ไมส่ ามารถเปล่ยี นแปลงได้ เป็นสิ่งท่ี เป็นมาตงั้ แตเ่ กดิ และจะเป็นอยเู่ ชน่ น้ีตลอดไป หรอื อาจเปล่ยี นแปลงได้ซ่ึงเป็นผลจากการเรยี นรู้ 2.1.1 พนั ธุกรรม การถ่ายทอดทางพนั ธุกรรมนนั้ เป็นท่ยี อมรบั ว่าทาให้มผี ลต่อสขุ ภาพของวยั ผู้ใหญ่ และวยั สูงอายุมาก ทงั้ ในทางบวกและทางลบ ในทางบวกเช่น การมอี ายยุ นื ยาวเชอ่ื วา่ เป็นพนั ธกุ รรม (บรรลุ ศริ พิ านชิ และคณะ 2531 : 70) ส่วนผลในทางลบคือ ทาให้เกิดผลเสยี ต่อสุขภาพ ได้แก่ โรคท่ถี ่ายทอดมาทางยนี ส์ทงั้ หลาย เช่น เบาหวาน ฮีโ มฟี เลีย ทาลัส ซีเมีย เป็ น ต้น ปั จ จัยทาง พัน ธุก ร ร มเป็ น ปั จ จัยท่ีไม่อ าจ แก้ไขได้ 2.1.2 เช้อื ชาติ บางเช้อื ชาตปิ ่วยเป็นโรคบางโรคมากกว่าเชอ้ื ชาตอิ ่นื ๆ เช่น โรคโลหติ จางบางชนิด เป็น ใ น ค น ผิ ว ด า ม า ก ก ว่ า ผิ ว ข า ว 2.1.3 เพศ โรคบางโรคพบบ่อยในเพศใดเพศหนึ่ง โรคท่พี บบอ่ ยในเพศหญิง เช่น น่ิวในถุงน้าดี โรค ของตอ่ มไทรอยด์ โรคกระดกู พรุน โรคขอ้ อกั เสบ รูมาตอยด์ โรคท่พี บบ่อยในชาย เช่น โรคกระเพาะอาหาร ไสเ้ ล่อื น โรคทางเดนิ หายใจ โรครดิ สดี วงทวาร เป็นตน้ 2.1.4 อายุและระดบั พฒั นาการ (Age and development level) โรคเป็นจานวนมากแตกต่างกนั ตาม อายุ เช่น วัยกลางคนเป็นโรคหลอดเลือดเล้ียงหัวใจตบี มากกว่าวยั หนุ่มสาว พัฒนาการทางด้านรา่ งกาย และจิตใจ ภาระงานพัฒนาการของแต่ละวัยจะมผี ลกระทบต่อสุขภาพ ทงั้ สุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้ใหญ่และผ้สู ูงอายุ วัยรุ่นเป็นวัยท่ีอยู่ในระยะของการเรียน การเลียนแบบ และทดลองเข้าสู่บทบาทของความเป็นผู้ใหญ่ ความ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ทาให้ตดั สนิ ใจปฏบิ ัตสิ ่ิงตา่ งๆ ผดิ พลาดไปโดยไม่ทันยงั้ คดิ ทาให้มีผลเสียต่อสขุ ภาพได้ เช่น การ
๒๙ ววิ าท ยกพวกตกี นั การตดิ ยาเสพตดิ การตดิ เชอ้ื จากการร่วมเพศ เป็นตน้ สง่ิ เหลา่ น้ีมแี รงผลกั ดนั มาจากพฒั นาการ ทางร่างกายและจติ ใจ ซึง่ ทาใหเ้ กดิ ผลเสยี ต่อสขุ ภาพ ในวยั ผู้ใหญ่ ภาระงานพฒั นาทาใหเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพทงั้ ทาง ร่างกายและจติ ใจ เพราะเป็นวยั ทต่ี อ้ งเลอื กอาชพี ประกอบอาชพี เลอื กคู่ครอง ปรบั ตวั ในชวี ติ สมรส ปรบั ตวั เพ่อื ทาหน้าท่บี ิดามารดาทาให้เกดิ ความเครียด ความวิตกกังวล และอาจได้รบั อนั ตรายจากการประกอบอาชพี อกี ด้วย 2.1.5 ปัจจยั ทางสรรี วทิ ยา (Physiological factors) การลดลงของฮอร์โมนต่างๆในรา่ งกายท่ที าให้เกดิ การเส่อื มของอวยั วะตา่ งๆในรา่ งกาย 2.1.6 ความเช่อื เป็นส่วนหนึ่งของการดาเนนิ ชวี ติ ความเช่อื เม่อื เกิดขน้ึ แล้วมกั จะเปล่ยี นแปลงยาก ความเช่อื ดงั กล่าวอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ บุคคลจะปฏิบัตติ ามความเช่อื เหล่านี้อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะอยู่ใน สถานการณเ์ ซ่นใดกต็ าม และจะร้สู กึ ไม่พอใจถ้าใครไปบอกว่าสงิ่ ท่เี ขาเช่อื นนั้ เป็นสง่ิ ท่ไี มถ่ ูกตอ้ ง หรอื แนะนาให้เขา เลกิ ปฏบิ ตั ติ ามความเชอ่ื หรอื ให้ปฏิบตั ิในสง่ิ ท่ตี รงข้ามกบั ความเช่อื การปฏบิ ตั ติ ามความเชอ่ื จะทาใหบ้ คุ คลมคี วาม มนั่ ใจและร้สู กึ ปลอดภยั ถา้ ต้องฝืนปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทข่ี ดั กบั ความเชอ่ื จะรสู้ กึ ไมป่ ลอดภยั เกรงวา่ จะเป็นอนั ตราย ความเช่อื ท่พี บได้ทวั่ ๆ ไปเก่ียวกบั สุขภาพ ได้แก่ เช่อื ว่าถ้ารบั ประทานไข่ขณะท่เี ป็นแผล จะทาให้แผลนัน้ เป็นแผลเป็นทน่ี ่า เกลยี ดเม่อื หาย เช่อื วา่ การด่มื เบยี ร์วนั ละ 12 แกว้ จะชว่ ยป้องกนั การตดิ เชอ้ื ของลาไส้ เช่อื ว่าถา้ ดม่ื น้ามะพร้าวขณะมี ประจาเดอื น จะทาใหเ้ ลอื ดประจาเดอื นหยุดไหล เป็นตน้ ความเช่ือเหลา่ น้ีบางอย่างมผี ลกระทบต่อสุขภาพมาก แต่ บางอยา่ งไมม่ ผี ลเสยี หายตอ่ สุขภาพ 2.1.7 เจตคติ เป็นความรู้สึกของบุคคลต่อสง่ิ ต่างๆ อาจเป็นบุคคล สิ่งของหรอื นามธรรมใดๆ กไ็ ด้ การเกดิ เจตคตอิ าจเกดิ จากประสบการณ์ หรอื เรยี นรู้จากบคุ คลใกลต้ วั ก็ได้ เจตคตมิ ผี ลกระทบต่อสุขภาพ เน่อื งจาก เป็นสงิ่ ท่อี ยูเ่ บอ้ื งหลงั การประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ่างๆ เชน่ ถ้าประชาชนมเี จตคตทิ ่ไี มด่ ตี อ่ สถานบรกิ ารสาธารณสขุ กอ็ าจจะ ไม่ไปใช้บริการจากสถานท่นี นั้ หรอื เจตคตติ ่อการรกั ษาแผนปัจจบุ ันไม่ดีกจ็ ะไม่ยอมรบั การรกั ษาเม่อื ป่วย เป็นต้น หรือเม่อื มีเจตคติไม่ดีต่อเจ้าหน้าท่ี เม่อื เจ้าหน้าท่แี นะนาการปฏิบตั ิตนเพ่อื สุขภาพ บุคคลนัน้ อาจจะไม่ยอมรบั ฟัง หรอื ไม่ปฏบิ ตั ติ าม ซง่ึ ทาใหม้ ผี ลตอ่ สุขภาพได้ 2.1.8 ค่านิยม คือการให้คุณค่าต่อสงิ่ ใดสงิ่ หนึ่ง ค่านิยมของบุคคลได้รบั อทิ ธพิ ลมาจากสงั คม บุคคล พยายามแสดงออกถึงคา่ นิยมของตนทุกครงั้ ทม่ี โี อกาส ค่านิยมของสงั คมใดสงั คมหนึง่ จะมอี ทิ ธพิ ลต่อการประพฤติ ปฏบิ ตั ขิ องบคุ คลในสงั คมนนั้ ๆ อยา่ งมาก ค่านิยมทม่ี ผี ลกระทบตอ่ สขุ ภาพ เชน่ ค่านยิ มของการดม่ื เหลา้ สบู บหุ ร่ี ซ่ึง แสดงถึงความมีฐานะทางสังคมสูง ค่านิยมของการเท่ยี วโสเภณีว่าแสดงถึงความเป็นชายชาตรี ค่านิยมท่ชี ่วย ส่งเสรมิ สขุ ภาพ คอื คา่ นิยมของความมสี ุขภาพดี 2.1.9 พฤตกิ รรมหรอื แบบแผนการดาเนนิ ชวี ติ พฤติกรรมสุขภาพ (Health behavior) หรอื สุขปฏิบัติ (Health Practice) พฤตกิ รรมหรือ แบบ แผนการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั นนั้ เป็นองคป์ ระกอบท่มี อี ทิ ธพิ ลต่อสุขภาพมากทส่ี ุด เพราะเป็นองค์ประกอบทส่ี ามารถ
๓๐ เปลย่ี นแปลงได้ เชน่ พฤตกิ รรมการรบั ประทานอาหาร นสิ ยั การรบั ประทานอาหารเป็นการถา่ ยทอดทางวฒั นธรรม ซ่งึ แตกตา่ งกนั ไปตามลกั ษณะทอ้ งถิ่น และความชอบของแตล่ ะคน พฤตกิ รรมการรบั ประทานมผี ลกระทบต่อสุขภาพ มาก บางคนรบั ประทานอาหารจุบจบิ ชอบรบั ประทานอาหารประเภทขบเคย้ี ว ชอบอมทอฟฟี่ ซึง่ จะมผี ลทาให้ฟันผุ บางคนไม่ชอบรบั ประทานอาหาร ประเภทผกั และผลไม้ ทาให้มีกากอาหารน้อย ทาให้เส่ยี งต่อการป่วยเป็นมะเรง็ ลาไส้ อาหารท่ไี ม่สะอาดทาให้ท้องเสยี อาหารสุกๆ ดบิ ๆ เช่น ปลาดบิ ก้อย ปลา ทาให้เป็นโรคพยาธิ บางคนชอบ อาหารท่มี ไี ขมนั สงู อาจทาให้เป็นโรคอ้วน หรอื ไขมนั อุดตนั ในเสน้ เลอื ดเป็นตน้ บางคนชอบหรอื ไม่ชอบอาหารบาง ประเภททาให้ไดอ้ าหารไมค่ รบถ้วน การพกั ผ่อนและการนอนหลับ ผู้ทพ่ี กั ผอ่ นหรอื นอนหลบั ไม่เพียงพอจะมผี ลเสีย ต่อสุขภาพ ผู้ท่อี ดนอนจะรู้สกึ หนักมนึ ศรี ษะรู้สกึ เหมอื นตวั ลอยควบคุมสตไิ ม่ได้ ไม่สนใจสงิ่ แวดล้อม ไม่สามารถ ควบคุมตนเองให้ทางานอย่างมปี ระสิทธภิ าพได้ ถ้าต้องทางานท่ีต้องระมัดระวงั อันตราย เช่น งานในโรงงาน อุตสาหกรรม จะมีผลให้ร่างกายได้รบั อุบัตเิ หตุ เช่น เคร่อื งจกั รตัดนิ้วมือ หรืออุบตั เิ หตุอ่นื ๆ ได้ พฤติกรรมทาง เพศ การตอบสนองความต้องการทางเพศเป็นความตอ้ งการพน้ื ฐานของมนุษย์ท่มี ผี ลกระทบตอ่ สขุ ภาพไดถ้ ้าบุคคล นนั้ มพี ฤตกิ รรมทางเพศทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง เชน่ สาสอ่ นทางเพศ พฤตกิ รรมรกั รว่ มเพศ หรอื มพี ฤตกิ รรมทางเพศ 2.2 ปัจจยั ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment Factors) คอื ส่ิงต่างๆท่อี ยู่รอบตัวเรา เป็นสงิ่ ท่เี กดิ ข้นึ เองตาม ธรรมชาติ และสง่ิ ท่มี นุษย์สร้างข้นึ มที งั้ สง่ิ มชี วี ติ และไมม่ ชี วี ติ ประกอบด้วย 2.2.1 สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพ คอื สงิ่ แวดล้อมทไ่ี มม่ ีชวี ติ เช่น ลกั ษณะภมู ศิ าสตรท์ แ่ี ตกต่างกนั ทาให้ เกดิ ฤดกู าลแตกตา่ งกนั และอณุ หภูมขิ องแต่ละพน้ื ท่แี ตกต่างกนั ซึง่ มผี ลกระทบต่อสุขภาพของบคุ คลโดยตรง สภาพ ภูมศิ าสตร์บางแหง่ เอ้อื อานวยใหส้ งิ่ มชี วี ติ บางอย่างเจรญิ เตบิ โตได้ดี เชน่ โรคพยาธติ ่างๆ ไขม้ าลาเรยี ซง่ึ ประเทศใน เขตหนาวจะไม่ประสบกับปัญหาสุขภาพเหล่านี้ การเปล่ียนแปลงของฤดูกาลทาให้บุคคลต้องปรับตัวต่อ สภาพแวดล้อมในแต่ละฤดูกาล ทาใหค้ นบางคนเกดิ การเจ็บป่วยข้นึ เชน่ ในฤดูฝนประชาชนจะป่วยเป็นไขห้ วัดกนั มาก ในฤดูหนาวมกั ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้กนั มาก ส่วนฤดูร้อนทาให้ไดร้ บั อนั ตรายจากการถูกสตั ว์มพี ษิ กัด ต่อยหรอื อุบตั เิ หตุจากการจมน้า สภาพท่อี ยู่อาศัยหรือบ้าน เป็นสง่ิ แวดล้อมท่อี ยู่ใกล้ตัวคนมากท่สี ุด ลกั ษณะบ้านท่ชี ่วย ส่งเสรมิ สุขภาพ คอื มกี ารระบายอากาศได้ดี อยู่หา่ งไกลจากแหล่งอตุ สาหกรรม ไม่มเี สยี งรบกวน มกี ารกาจดั ขยะท่ี ถูกวธิ ี มีท่อระบายน้าและมีการระบายน้า ไม่มนี ้าท่วมขงั มีส้วมท่ถี ูกสุขลักษณะ มีน้าด่มื น้าใช้ท่สี ะอาด มีความ ปลอดภยั จากโจรผู้ร้ายและอาชญากรรม ใช้วสั ดุก่อสรา้ งท่มี คี วามคงทนถาวร ภายในบ้านได้รบั การจดั วางสงิ่ ของ เคร่อื งใช้ต่างๆ อย่างเป็นระเบยี บปลอดภัยจากการเกิดอุบัติเหตุ ได้รบั การดูแลรกั ษาความสะอาดเป็นอย่างดี มี สถานท่สี าหรบั อานวยความสะดวกในการทากจิ กรรมตา่ งๆ และมคี วามเป็นส่วนตวั สภาพบ้านทไ่ี มถ่ กู สุขลกั ษณะจะ กอ่ ให้เกดิ ปัญหาสุขภาพแก่ผ้อู ยู่อาศยั ทงั้ ในดา้ นการเจ็บป่วยดว้ ยโรคตดิ เชอ้ื ตา่ งๆ และอบุ ตั เิ หตทุ เ่ี กดิ ข้นึ ไดจ้ ากความ ประมาท เช่นไฟไหม้ น้าร้อนลวก การพลดั ตก หกลม้
๓๑ 2.2.2 สง่ิ แวดลอ้ มทางชวี ภาพ คอื สงิ่ แวดล้อมท่มี ชี ีวติ มอี ทิ ธพิ ลตอ่ สุขภาพของคนเรา สง่ิ มชี วี ติ มที งั้ พชื และสตั ว์ บางอย่างมคี ณุ บางอย่างมโี ทษ เชน่ เชอ้ื โรคทงั้ หลาย หนอนพยาธติ ่างๆ เป็นตน้ 2.2.3 สง่ิ แวดล้อมทางเศรษฐกจิ ได้แก่ อาชพี รายได้ ฐานะทางการเงนิ ของแตล่ ะคน ซึ่งจะมอี ทิ ธพิ ลต่อ สุขภาพ คนรวย คนฐานะปานกลาง คนยากจน จะมวี ถิ ีการดาเนนิ ชวี ติ ทแ่ี ตกต่างกนั การเกดิ โรคจะแตกต่างกนั ด้วย 2.2.4 สง่ิ แวดลอ้ มทางสงั คม (social environment) ไดแ้ ก่ นโยบายทางการเมอื ง ทางด้านสาธารณสุข ขนบธรรมเนยี มประเพณี วฒั นธรรม โดยเฉพาะปัจจุบนั วฒั นธรรมการกนิ ของคนไทยเปล่ยี นแปลงไป คนไทยนิยม บรโิ ภคอาหารฝรงั่ และอาหารขยะมากข้นึ ทาใหเ้ กดิ โรคอว้ น โรคความดนั โลหติ สงู โรคหวั ใจ และโรคเบาหวานตามมา 2.3 ปัจจัยด้านระบบการจัดการสาธารณสุขและการบรกิ ารสุขภาพ หมายถึง การจัดบริการทางด้าน การแพทยแ์ ละสาธารณสุขท่มี อี ยู่ของรฐั ทงั้ ดา้ นการสง่ เสรมิ สุขภาพ การป้องกนั โรค การรกั ษาพยาบาล และการ ฟื้นฟูสภาพ ในการท่จี ะส่งเสรมิ ให้คคลท่อี าศัยอยู่ในชุมชนนัน้ ๆ หรือประเทศนัน้ ๆ มีสุขภาพท่ดี ี และเท่าเทียมกนั สง่ เสรมิ ใหท้ ุกคนมสี ทิ ธเิ ท่าเทยี มกนั ในการเขา้ ถงึ ระบบการบรกิ ารทางการแพทย์ รูปท่ี ๕ แสดงความเช่อื มโยงระหว่างสุขภาพและปัจจยั กาหนดสขุ ภาพ ดงั นนั้ การมสี ุขภาพดจี ะต้องอาศยั ปัจจยั หลายอย่างประกอบกนั การเขา้ ใจเกย่ี วกบั ปัจจยั ทม่ี ผี ลกระทบ ต่อสุขภาพ จะช่วยให้คนร้จู กั ปรบั ปรุงให้ตนเองมสี ขุ ภาพท่ดี ที ่สี ุด โดยหลกี เล่ยี งปัจจยั เส่ยี งตา่ งๆ มสี ่วนร่วมในการ ดูแลและปรบั ปรงุ สง่ิ แวดลอ้ มให้เหมาะสมกบั การดารงชวี ติ เพอ่ื การมสี ุขภาพดตี ลอดไป
๓๒ 3. กลยุทธการดาเนินงานส่งเสริมสุขภาพตามประกาศ “กฎบตั รออตตาวา” (Ottawa charter for Health Promotion) ในบริบทของสถานประกอบการ การประชมุ ทเ่ี มอื งออตตาวา ประเทศแคนาดา เป็นการประชมุ ระหวา่ งประเทศเก่ยี วกบั การสง่ เสริมสุขภาพท่ี จดั ข้นึ เป็นครงั้ แรก ระหว่างวันท่ี 17-21 พฤศจกิ ายน ค.ศ.1986 โดยมชี ่อื การประชุมว่า \" The first International Conference on Health promotion\" และทป่ี ระชมุ ไดอ้ อกกฎบตั ร (charter) ในการดาเนนิ งานเพ่อื ให้บรรลสุ ุขภาพดี ถ้วนหน้า ในปี พ.ศ.2543 การประชุมครงั้ นี้สะท้อนให้เหน็ ถึงความเคล่อื นไหวในวงการสาธารณสขุ ทวั่ โลก Ottawa Charter for Health promotion ท่กี าหนดข้นึ นับว่าได้จุดแนวคดิ และท่มี าของนโยบายด้านการส่งเสรมิ สุขภาพของ หลายประเทศ กฎบตั รนไี้ ด้กาหนดกลยุทธทส่ี าคญั ในการดาเนินงานส่งเสรมิ สุขภาพไวด้ งั นี้ 1. สร้างนโยบายสาธารณะ นโยบาย เป็นสิ่งท่แี สดงความห่วงใยอย่างชดั เจนในเร่อื งสุขภาพ พร้อมท่จี ะ รับผิดชอบต่อผลกระทบทางสุขภาพ ท่อี าจเกดิ ข้นึ จากนโยบายนัน้ ขณะเดยี วกนั ก็เป็นนโยบายท่ีมุ่งสร้างเสริม สงิ่ แวดลอ้ มทงั้ ทางสงั คม และกายภาพท่เี ออ้ื ต่อการมีชีวติ ท่มี ีสขุ ภาพดี และมงุ่ ให้ประชาชนมีทางเลอื ก และสามารถ เขา้ ถึงทางเลอื กทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ สุขภาพดไี ด้ 2. สร้างสงิ่ แวดล้อมท่เี อ้อื ต่อสุขภาพ ส่งิ แวดล้อมเป็นปัจจยั สาคญั ท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพ นอกจากการหลกี หนี หรอื ปกป้องตนเอง หรือปกป้องสงั คมให้พ้นจากสง่ิ แวดล้อมท่ไี ม่ดีแล้ว ในสภาพของคนทงั้ สังคม การปรบั ปรุง สง่ิ แวดลอ้ ม ไมส่ รา้ งปัญหาต่อสุขภาพ 3. เพมิ่ ความสามารถของชุมชน การส่งเสรมิ สขุ ภาพ ไม่สามารถทาให้สาเร็จได้โดยแพทย์ และพยาบาล หรอื เจ้าหนา้ ท่สี าธารณสุขเท่านนั้ งานหลายอยา่ งตอ้ งการการมสี ่วนรว่ มของชมุ ชน 4. พฒั นาทกั ษะส่วนบุคคล การทาให้คนมีความรู้ ความสามารถ ความเขา้ ใจในการควบคมุ ปัจจยั ก่อโรค ตอ้ งมกี ระบวนการในการสร้างความรู้ ความเขา้ ใจ ใหค้ นร้จู กั และมคี วามสามารถ (ทกั ษะ) ในการดแู ลสขุ ภาพตนเอง 5. ปรบั ระบบบรกิ ารสุขภาพ การบริการทางการแพทย์ มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เน้นการ จดั บรกิ ารสง่ เสรมิ สุขภาพ การป้องกนั โรค ควบคไู่ ปกบั การให้การบรกิ ารรกั ษา จากกลยทุ ธดงั กล่าว สามารถนามาประยุกตใ์ ชเ้ พอื่ การสง่ เสริมสุขภาพในสถานประกอบการ ดงั น้ี 1. การกาหนดนโยบายสาธารณะเพ่อื การดาเนนิ งานส่งเสรมิ สุขภาพ สถานประกอบการควรมนี โยบายท่ี เอ้อื ตอ่ การมสี ขุ ภาพทด่ี ขี องพนักงานในโรงงาน เป็นนโยบายทเ่ี ป็นลายลกั ษณ์อกั ษร มวี ธิ กี ารจดั ทาท่ใี ห้ความสาคญั กบั การมสี ว่ นรว่ มของพนักงาน ผบู้ รหิ ารลงนามประกาศ หรอื ประชาสมั พนั ธ์ใหท้ ราบอยา่ งทวั่ ถึง สาระของนโยบาย สนั้ และกระทดั รดั ใช้ภาษาท่งี ่ายต่อการเข้าใจ แสดงให้เห็นถึงความตงั้ ใจและมุ่งมนั่ ในการสร้างเสริมสุขภาพ กาหนดจุดมุ่งหมาย (และสรุปให้เหน็ ว่าจะมุ่งสู่จุดมุ่งหมายอย่างไร) แสดงความต้องการท่จี ะทาให้เกดิ การปรับปรุง เปล่ยี นแปลง อธบิ ายทม่ี าหรอื เหตุผลท่จี ะตอ้ งมนี โยบาย มรี ายช่อื คณะทางานอาจแบ่งนโยบาย ออกเป็น 3 ด้าน คอื
๓๓ 1.1 นโยบายด้านสงิ่ แวดลอ้ มทส่ี วยงามและปลอดภยั มกี ารลงทุนเพ่อื จดั สภาพแวดลอ้ มทงั้ ภายใน และ ภายนอกอาคาร หรอื มกี จิ กรรมสง่ เสรมิ และอนุรกั ษส์ ง่ิ แวดล้อม 1.2 นโยบายด้านการปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรม มกี ารกาหนดกฎระเบียบต่างๆ เพ่อื ใช้เป็นขอ้ กากับให้ คนทางานแสดงพฤติกรรมสุขภาพ เช่น กฎเร่อื งการห้ามสูบบุหร่ขี ณะทางาน กฎการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกนั ส่วน บุคคล กฎการสวมหมวกกันน็อคในการขับขี่จักรยานยนต์ รวมทงั้ การจดั เตรยี มสงิ่ อานวยความสะดวกเพ่ือให้ คนทางานแสดงพฤตกิ รรมสง่ เสรมิ สุขภาพ เช่น จัดเตรียมสนามกฬี าและอุปกรณ์กฬี า จดั ให้มีกิจกรรมการแข่งขนั กฬี าภายในและระหว่างสถานประกอบการ รวมทงั้ แขง่ ขนั กบั ชมุ ชน 1.3 นโยบายด้านสวัสดกิ ารเพ่อื สร้างขวัญและกาลังใจในการทางาน ได้แก่ การทาประกันสุขภาพให้ คนทางานนอกเหนอื จากประกนั สงั คมซึ่งมอี ย่แู ลว้ ตามกฎหมายแรงงาน การส่งเสรมิ ให้ได้มโี อกาสในการพฒั นาความ ชานาญและทักษะขนั้ สูงข้นึ โดยการส่งไปฝึกอบรมทงั้ ในประเทศและต่างประเทศ การจัดบรกิ ารอาหารราคาถกู มี คณุ ภาพและถกู สุขลกั ษณะ ตลอดจนจดั บรกิ ารทพ่ี กั อาศยั ในราคาถกู ภายในสถานท่ที างาน หรอื จดั บรกิ ารรถรบั ส่งแก่ พนกั งานทม่ี ที พ่ี กั หา่ งไกลจากสถานท่ที างาน การกาหนดระเบยี บ หรอื ขอ้ ควรปฏบิ ตั ติ ่อนโยบายการสง่ เสริมสุขภาพของคนทางานนนั้ อาจมหี รอื ไม่มีใน สถานประกอบการแต่ละแห่ง ในกรณีท่สี ถานประกอบการแห่งใดมกี ฎระเบียบให้คนทางานปฏบิ ตั ิ ก็อาจเป็นแรง กระตุน้ ให้คนทางานแสดงพฤตกิ รรมนนั้ ออกมาได้ดียงิ่ ขน้ึ เชน่ ถา้ สถานประกอบการมนี โยบายรณรงค์ให้คนทางาน สวมหมวกกนั นอ็ คขณะขับข่จี กั รยานยนต์ พร้อมทงั้ มกี ารกาหนดระเบยี บบางประการกากบั ออกมาด้วย เชน่ ถ้าไม่ สวมหมวกนิรภยั จะตอ้ งถกู หกั เงนิ สวสั ดกิ ารทจ่ี ดั ให้ เป็นตน้ 2. การจัดส่ิงแวดล้อมทัง้ ทางกายภาพและสังคมท่ีเอ้ือต่อสุขภาพของคนทางาน (Create Supporting Environment) ด้านสง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพโรงงานมมี าตรการในการควบคมุ อนั ตรายจากเครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ใน การปฏิบัตงิ านท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพสูง มีแผนการตรวจสอบและการปรบั ปรุงเปล่ยี นแปลงและการซ่อมบารงุ เครอ่ื งมอื เคร่อื งจกั รท่ชี ดั เจน มกี ารออกแบบเคร่อื งจกั รให้เอ้อื ตอ่ สุขภาพ นอกจากสงิ่ แวดล้อมท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั ความปลอดภัย ภายในโรงงานโดยตรงแลว้ ยงั มสี งิ่ แวดล้อมทเ่ี ก่ยี วขอ้ งซงึ่ ทางโรงงานอุตสาหกรรมไดก้ าหนดใหม้ กี ารควบคุมดูแลให้ ถูกสุขลกั ษณะเช่นกนั เช่น ในสถานท่อี อกกาลงั กาย ในโรงอาหาร เป็นต้น ด้านสง่ิ แวดล้อมทางสงั คม โรงงานไดม้ ี กจิ กรรมสร้างความสัมพนั ธ์ระหว่างโรงงานกบั พนักงาน ความสัมพนั ธร์ ะหว่างพนกั งานกับพนักงาน โดยมกี าร แขง่ ขนั กฬี า หรอื จดั งานสงั สรรค์ 3. การเสรมิ สรา้ งดา้ นความเข้มแขง็ ของสุขภาพวัยทางาน (การขบั เคลอ่ื นการทางานโดยใชพ้ ลงั กล่มุ ) การ พัฒนาใดๆ ก็ตาม จะสาเร็จผลได้ดี และมคี วามยงั่ ยนื จาเป็นต้องอาศยั คนมาร่วมกนั ทางานเป็นทมี เป็นกลุ่ม เป็น
๓๔ ชมรม หรือคณะกรรมการ ย่งิ มีการรวมกลุ่มท่เี ข้มแขง็ หลากหลาย และเพมิ่ จานวนมากข้นึ ก็จะย่ิงเป็นผลดตี อ่ การ สร้างเสรมิ สุขภาพ ดงั นนั้ สถานประกอบการควรใหก้ ารส่งเสรมิ สนบั สนุนการรวมกลุ่ม และกจิ กรรมของกลุ่มให้เต็มท่ี เทา่ ท่สี ามารถจะทาได้ ตวั อยา่ งของกล่มุ เพ่อื สุขภาพ เช่น ชมรมกฬี าชนิดต่างๆ ชมรมดนตรี ชมรมศลิ ปวัฒนธรรม ชมรมศาสนา ชมรมช่วยเหลอื พฒั นาชุมชน กลุ่มอาหารสขุ ภาพ กลุ่มตา้ นภยั ยาเสพตดิ กลุ่มผูป้ ่วยโรคเบาหวาน และ ชมรมผใู้ กลเ้ กษยี ณ เป็นต้น นอกจากกลุ่ม และชมรมท่มี เี ป้าหมายทางด้านสขุ ภาพโดยตรงแล้ว กรรมการ หรอื กลุ่ม งานต่างๆ ในองค์กร ก็ควรจะได้รบั การสนับสนุนช้แี นะ ให้พิจารณาเอามิตทิ างด้านสุขภาพ เข้าไปในกลุ่ม หรือ คณะกรรมการนัน้ ๆ ด้วย เช่น กลุ่มคุณภาพงาน นอกจากมุ่งเพิ่มผลผลิต และคุณภาพแล้ว ในกระบวนการก็ควร พิจารณาถึงเร่อื งสุขภาพด้วย หรือแม้แต่จะพจิ ารณาทาเร่อื งสุขภาพของคน ในกลุ่มเป็นเอกเทศ ก็ควรได้รับการ สนับสนุน 4. การพฒั นาทกั ษะสว่ นบุคคลด้านสขุ ภาพ โรงงานจะต้องเสรมิ สร้างหรอื จดั การเรยี นรเู้ พอ่ื สรา้ งทกั ษะทาง สุขภาพ ฝึกฝนทกั ษะให้กบั พนกั งานทุกคน ในการปฏบิ ตั งิ านทด่ี เี พอ่ื ป้องกนั และควบคมุ สขุ ภาพของคนงาน ทกั ษะท่่ี โรงงานจัดให้แก่พนักงานตามลาดับความสาคัญ คอื ทกั ษะด้านความปลอดภยั ทกั ษะด้านการเลิกสบู บุหร่ี ทักษะ ด้านการออกกาลังกาย ทักษะด้านความเครยี ด ทกั ษะด้านการงดสรุ าและเครอ่ื งด่มื มนึ เม า ทกั ษะด้านการบรโิ ภค อาหาร ทกั ษะด้านการการป้องกนั โรคตดิ ต่อและเอดส์ 5. การให้บรกิ ารสขุ ภาพเชงิ รกุ หรอื การปรบั เปลย่ี นบรกิ ารสุขภาพภายในสถานประกอบการให้ครอบคลุม ทงั้ ด้านการสง่ เสรมิ สขุ ภาพ การป้องกนั โรค ควบคู่ไปกบั การรกั ษาพยาบาลโรคง่ายๆ ในปัจจบุ นั บรกิ ารสุขภาพท่ี โรงงานจัดบริการให้แก่พนักงาน จะเน้นเร่อื งการรกั ษาโรคและมีการตรวจสุขภาพประจาปี ควรปรบั ให้มกี าร จดั บรกิ ารส่งเสรมิ สขุ ภาพมากกวา่ การรกั ษาพยาบาล เช่น การใหข้ ่าวสารขอ้ มูลความรู้ตา่ งๆ โดยมมี ุมความรู้ การจดั บอร์ด เสยี งตามสาย หรอื ทางอนิ เตอร์เนต การจดั มมุ นมแมใ่ นสถานประกอบการ
๓๕ ข้อดขี องการสง่ เสริมสุขภาพในสถานประกอบการ สาหรบั คนทางาน 1. สะดวกในการ เขา้ ร่วมและเสยี ค่าใช้จา่ ยน้อย 2. สะดวกตอ่ การได้รบั ขอ้ มลู ทางสขุ ภาพ รวมทงั้ ไดข้ อ้ มลู ตรงกบั ความสนใจและเก่ยี วขอ้ งกบั คนงานโดยตรง 3. ผรู้ ว่ มงานทุกคนสามารถทจ่ี ะร่วมสนับสนุน ให้กาลงั ใจ และเป็นส่วนหนง่ึ ในการเปล่ยี นแปลงพฤตกิ รรม ในกจิ กรรมนนั้ ด้วย 4. คนงานและผู้ร่วมงาน สามารถทจ่ี ะผลกั ดนั ใหเ้ กดิ เป็นนโยบายของโรงงาน ในการทจ่ี ะส่งเสรมิ สขุ ภาพของ คนงาน สาหรบั นายจา้ ง/สถานประกอบการ 1. สามารถลดค่าใชจ้ า่ ยในการรกั ษาพยาบาล 2. เพม่ิ กาลังผลติ และผลผลติ สงู ข้นึ คุณภาพสนิ ค้าและบรกิ ารดขี ้นึ เพราะเม่อื คนงานมีสุขภาพดจี ะลดการลา ป่วย ลดผลกระทบจากการลาป่วย หยุดงานน้อยลง และการมสี ุขภาพดี จะทาใหก้ ารทางานมปี ระสทิ ธภิ าพ ข้นึ
๓๖ 3. การมสี ขุ ภาพทด่ี ขี องคนงาน ทาใหค้ นงานอยูท่ างานเป็นเวลานานขน้ึ ไมเ่ ปล่ยี นงานบ่อย กอ่ ใหเ้ กดิ ความรกั ความผูกพนั กบั โรงงาน/องคก์ ร สะสมประสบการณ์ในงาน พฒั นางาน ไมต่ ้องหมนุ เวยี นคนงานบอ่ ยๆ ซึ่งจะ ทาให้ไดแ้ รงงานท่ขี าดประสบการณ์ 4. การมกี จิ กรรมส่งเสรมิ สุขภาพ ทาให้นายจ้างมภี าพลกั ษณ์ท่ดี ี ในสายตาของคนทางาน โดยทวั่ ไปลกั ษณะของกจิ กรรมในด้านการสง่ เสรมิ สขุ ภาพ มกั จะมลี กั ษณะดงั นี้ คอื 1. ใชค้ วามรู้ทางด้านสุขภาพขนั้ พ้นื ฐาน โดยการใช้วตั ถดุ บิ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ท่มี อี ยู่ในโรงงาน หรอื สนับสนุนจากสถานบรกิ ารทางดา้ นสาธารณสุขทม่ี อี ยใู่ นพ้นื ท่ี 2. การประสานขอความร่วมมือโดยใช้องค์กรต่างๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ งท่มี อี ยู่ในพ้นื ท่มี าร่วมสนับสนุนโครงงาน เช่น โรงพยาบาล ศนู ยส์ ุขภาพชุมชน โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตาบล แรงงานจังหวดั มหาวทิ ยาลยั เป็นต้น 3. สง่ เสรมิ ใหค้ นงานระดบั ต่างๆ ของโรงงานเขา้ มามสี ่วนร่วม ทงั้ ในดา้ นการวางแผน และดาเนินการ 4. จดั ดาเนนิ การให้เป็นโครงการหลกั ขน้ึ มา โดยทต่ี ้องมกี ารจดั ระบบการบรหิ ารจดั การอย่างเป็นรูปธรรม ชดั เจน ซ่งึ จะต้องไดร้ บั การสนับสนุนจากเจ้าของโรงงาน หรอื นายจา้ ง 5. กระตุ้นให้คนงานมคี วามสนใจและมสี ่วนร่วม 6. วางแผนและจดั การดาเนินงาน ในกจิ กรรมท่เี กย่ี วขอ้ งกบั การปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรม และการป้องกนั โรค 7. กระตุ้นให้คนงานเกิดความตระหนักในปัญหาทางสุขภาพท่ีตนเองประสบอยู่ โดยเฉพาะกรณีท่ีไม่ สามารถหลกี เล่ยี ง หรอื ปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมของคนงานได้ ดงั นนั้ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพ จงึ มคี วามสาคญั ต่อการดาเนินชวี ติ ของบคุ คลทกุ คนทต่ี ้องการเป็นคนมสี ุขภาพดี การมสี ุขภาพท่ดี สี มบูรณ์จะเป็นทุนในการประกอบกจิ กรรมและภารกจิ ในชีวิตประจาวัน ตามบทบาทหน้าท่คี วาม รับผดิ ชอบของตนเองได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ การดาเนินงานทางด้านสขุ ภาพในปัจจุบนั มุ่งเน้นระบบสขุ ภาพเป็น ระบบสรา้ งนาซ่อม กล่าวคอื จากเดมิ การดาเนินงานดา้ นสุขภาพจะเป็นระบบตงั้ รบั คอื รอให้เกดิ การเจบ็ ป่วยแล้วจงึ นามาซอ่ ม หรอื นามารกั ษา ทาใหป้ ระชาชนคนไทยเจบ็ ป่วยและตายกอ่ นวยั อนั ควร เกดิ การสูญเสยี ทางเศรษฐกจิ เป็น จานวนมาก แต่ปัจจุบนั เป็นระบบเชงิ รกุ พยายามทาทุกวถิ ที างท่จี ะทาใหค้ นมสี ุขภาพดใี ห้มากท่สี ดุ ซ่งึ ทุกคนจะตอ้ งมี ความรู้เก่ียวกับสุขภาพและมีการปฏิบัตติ นหรือมพี ฤตกิ รรมสุขภาพท่ีถูกต้อง โดยมีการปฏบิ ัตทิ ่ีจะหลีกเล่ยี ง พฤตกิ รรมเสย่ี ง หรอื งดการกระทาท่เี ส่ยี งหรอื อาจเป็นอนั ตรายตอ่ สุขภาพ เชน่ มกี ารออกกาลงั กายเป็นประจา การ กนิ อาหารทถ่ี ูกหลักโภชนาการการ กนิ อาหารทส่ี ะอาด ปลอดภยั ไมม่ สี ารพษิ ปนเป้ือน การส่งเสรมิ สขุ ภาพจิต การ จดั การกบั ความเครยี ดด้วยตนเอง การลดความเสย่ี งจากการป้องกนั และหลกี เลย่ี งสารเสพตดิ และอบายมุขตา่ งๆ เป็น ตน้ หน่วยงานตา่ งๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การดาเนนิ งานในเรอ่ื งสุขภาพ ได้ใหค้ วามสาคญั กบั การส่งเสรมิ สุขภาพมาโดย
๓๗ ตลอด ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากปัจจบุ นั มกี ารดาเนินการสร้างกระแสในเรอ่ื งการสร้างสขุ ภาพอยา่ งต่อเน่อื ง ทาใหป้ ระชาชนมี ความต่นื ตวั เกดิ ความตระหนัก และมกี ารปฏบิ ตั ติ ัวในการดูแลสุขภาพของตนเองมากขน้ึ สง่ิ ตา่ งๆ ดงั กลา่ วลว้ นเป็น การส่งเสริมสุขภาพทงั้ ส้นิ ถ้ามีการส่งเสรมิ สุขภาพอย่างต่อเน่ืองจะทาให้บุคคลไม่เจ็บป่ วย หรือเป็นโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคท่สี ามารถป้องกนั ได้ เช่น โรคไม่ตดิ ต่อเร้อื รัง หรอื โรคท่เี กดิ จากวถิ ชี ีวติ ได้แก่ โรคหลอดเลอื ดหวั ใจ โรคความดนั เลอื ดสูง โรคเบาหวาน และโรคอ้วนลงพงุ เป็นต้น ลดอตั ราการป่วยดว้ ยโรคท่เี กดิ จากวถิ ีชีวติ ใหน้ ้อยลง ได้ สามารถลดคา่ ใช้จา่ ยในการรกั ษาพยาบาล ลดอตั ราการขาดงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. บรรยาย 2. ดูคลปิ วดี โี อ ระยะเวลาการเรยี นรู้ จานวน 2 ชวั่ โมง การเรยี นรู้ผา่ นระบบออนไลน์ สือ่ การเรยี นรู้ การวดั ประเมินผลการเรยี นรู้ แบบทดสอบจานวน 10 ขอ้ เอกสารอ้างอิง อาพล จนิ ดาวฒั นะ (2552) การสร้างนโยบายสาธารณะเพ่อื สขุ ภาพแบบมสี ่วนรว่ ม. พมิ พ์ครงั้ ท่ี 4 บรษิ ัท บี ยอนดพ์ บั ลสิ ชงิ่ จากดั รศ.ดารวิ รรณ เศรษฐธี รรม รศ.กาญจนา นาถะพนิ ธุ รศ.ดร.วรรณภา อชิ ดิ ะ (2547) ปัจจยั ท่มี ผี ลตอ่ สภาวะสขุ ภาพ สถาบนั วจิ ยั ระบบสาธารณสุข
๓๘ พระราชบญั ญตั สิ ขุ ภาพแหง่ ชาตพิ .ศ.2550. (2550). ราชกจิ จานุเบกษา เล่มท่ี 24 ตอน 16 มนี าคม 2550. ประเวศ วะสี บนเสน้ ทางใหมก่ ารส่งเสรมิ สขุ ภาพ อภวิ ฒั น์ชวี ติ และสงั คม ตลุ าคม 2542 พมิ พค์ รงั้ ท่ี 3 กรุงเทพ โรงพมิ พ์หมอชาวบา้ น 48 หนา้ World Health Organization. (1998). Geneva: WHO. ชดุ ความรู้ท่ี 3 สขุ ภาวะองคร์ วมของวยั ทางาน (Total worker health) ผนู้ ิพนธ์ ดร.อรพนั ธ์ อนั ติมานนท์ อาจารยร์ ุง้ ประกาย วิฤทธ์ิชยั กรมควบคมุ โรค วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ เพ่ือให้ผเู้ รียน 1. ระบปุ ระโยชน์ของ Wellness Center 2. อธบิ ายแนวทางการจดั ตงั้ Wellness Center ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามบรบิ ทขององค์กร ๓. ระบุแนวคดิ สขุ ภาวะองค์รวมของคนทางาน (Total Worker Health : TWH) ได้ 2. ยกตวั อย่างโปรแกรม Total Worker Health ได้ 3. ประยุกตใ์ ช้หลกั การสุขภาวะองคร์ วมของคนทางาน (Total Worker Health : TWH) เพ่อื ดแู ลสุขภาพ คนทางานผา่ น wellness center ได้ ๔. ประเมนิ และการจดั การความเสย่ี งทางสุขภาพแบบองค์รวม (ดา้ นโรคต่างๆ ด้านความปลอดภยั
๓๙ และดา้ นสขุ ภาพจติ ) ได้ ๕. ประยุกตใ์ ชห้ ลกั การประเมนิ และการจดั การความเสย่ี งทางสุขภาพแบบองคร์ วม เพอ่ื ค้นหาความเส่ยี งได้ ครบทุกมติ ิ และนาไปสูก่ ารจดั การความเสย่ี งทต่ี รงกบั ปัญหาท่แี ท้จรงิ ขององคก์ ร ผ่าน wellness center ได้ ๖. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นสามารถประยกุ ต์ใชแ้ นวคดิ สุขภาวะองคร์ วมของคนทางานไปต่อยอด พฒั นาการดาเนินงาน Wellness Center ขององคก์ รได้ เค้าโครง/สาระสาคญั ๑. แนวคิดศนู ย์สขุ ภาพดีวยั ทางาน (Wellness Center) ๑.1 การจดั โปรแกรม Wellness Wellness คอื การมสี ขุ ภาพท่ดี ี แขง็ แรงสมบูรณ์ (English-Thai London Dictionary) Wellness (ความสุขสมบูรณ์) เป็นสภาวะท่ีแสดงถึงความสมบูรณ์ของการเช่อื มโยงระหว่างร่างกาย ความคิด อารมณ์ สงั คม และจติ (ซึ่งในท่นี ้ีหมายถึงความเช่อื ความศรทั ธา รวมไปจนถึงความผูกพนั ) ท่บี ุคคลใช้ ดาเนนิ ชวี ติ ยงิ่ ความสมบรู ณ์นนั้ มคี วามสมดุลมากขน้ึ เท่าใด เรยี กวา่ ยงิ่ มี high-level ของ wellness มากขน้ึ เทา่ นัน้ ดงั นนั้ การท่เี ราจะมคี วามสุขสมบรู ณ์ในปัจจุบนั ได้นัน้ อาจต้องมกี ารเปลย่ี นพฤตกิ รรมบางอยา่ ง เชน่ พฤตกิ รรมการ ป้องกนั โรค พฤตกิ รรมการดูแลตวั เองเมอ่ื เกดิ การเจบ็ ป่วย เป็นตน้ ๑.2 ประโยชน์ของการจดั โปรแกรม Wellness ทงั้ นี้ประโยชนข์ องการจัดโปรแกรม wellness ได้แก่ ลูกจ้างสุขภาพดที าให้การทางานเต็มท่ี ผลผลติ ของ สถานประกอบการเพม่ิ ข้นึ ลูกจา้ งรสู้ กึ มคี ุณคา่ เพม่ิ ระยะเวลาในการคงอยู่ในสถานท่ที างานเดมิ ไมเ่ ปลย่ี น งานบ่อย เน่ืองจากลูกจ้างได้รับการดูแลสุขภาพ ลดความเส่ยี งตอ่ การเกดิ โรคต่างๆ ลดวนั ลาป่วย และเพิม่ ความสนิทสนม ระหว่างเพอ่ื นร่วมงานในการทากจิ กรรมต่างๆ ๑.3 รปู แบบการจดั บริการ wellness 1) Wellness clinic มลี กั ษณะเป็นการจดั บรกิ ารเช่อื มต่อการจดั บรกิ ารทางการแพทยท์ ่มี อี ยู่ 2) Wellness center เน้นการจดั บรกิ าร wellness เป็นการจาเพาะ โดยจดั ตามกลมุ่ เป้าหมายท่ชี ดั เจน เช่น กลมุ่ เป้าหมายท่มี ฐี านะทางเศรษฐกจิ ท่ดี ี (elite or private wellness center) หรอื การจดั บรกิ ารบรู ณาการ ไปกบั การ จดั บรกิ ารการแพทยท์ างเลอื กหรอื แพทยพ์ ้นื บา้ น การจดั บรกิ ารท่มี งุ่ เนน้ กล่มุ ผ้สู ูงอายุหรอื ผู้พกิ าร หรอื สถานะสุขภาพ จาเพาะ รวมไปถึงการจดั บรกิ ารท่มี ุง่ เน้นกลุ่มชาติพนั ธจุ์ าเพาะ หรือ wellness ท่แี บ่งตาม สถานท่ี เช่น workplace wellness program, school wellness program เป็นต้น
๔๐ ๑.4 กิจกรรมการให้บริการ 1) การประเมนิ สขุ ภาพ โดยเนน้ ท่พี ฤตกิ รรมการดแู ลสุขภาพ พฤตกิ รรมเสย่ี งตา่ งๆ 2) ให้บรกิ ารโปรแกรมทางสุขภาพ เช่น การออกกาลงั กาย การรบั ประทานอาหารเพ่อื สุขภาพ การลด น้าหนกั การเลกิ บหุ ร่ี แอลกอฮอล์หรอื สงิ่ เสพตดิ อ่นื ๆ การจดั การความเครยี ด ฯลฯ 3) ให้คาปรกึ ษาหรอื สนับสนุนเกย่ี วกบั การพฒั นาพฤตกิ รรมทางสขุ ภาพ 4) การให้วคั ซีนป้องกนั โรคตามกล่มุ อายุ 5) ให้คาปรกึ ษาและส่งต่อเก่ยี วกับการเจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคจากการทางาน โรคตดิ ตอ่ หรอื โรคไมต่ ดิ ตอ่ เร้อื รงั ๑.5 ทมี งาน ได้แก่ ทมี ของหน่วยบรกิ ารสขุ ภาพ และของสถานประกอบการ 1) หน่วยบริการสุขภาพ ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักจติ วิทยา นักกาหนดอาหาร (dietitians) หรอื นกั โภชนาการ (nutritionist) นักวทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า (sport scientist) นักบาบดั ในสาขาต่างๆ โคช้ สุขภาพ (health coach or wellness coach) ทงั้ น้ี wellness coach เป็นผทู้ ่มี บี ทบาทสาคญั ท่จี ะช่วยให้เหน็ ประเดน็ ปัญหาอย่างชดั เจน รวมทงั้ ตระหนักถึงความจาเป็นในการปรบั ปรุงตนเองหรอื ปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรม ช่วยวางหรอื กาหนดเป้าหมายให้ ชดั เจน ระดมสมองหรอื แลกเปลย่ี นขอ้ คดิ เหน็ เพ่อื ใหเ้ หน็ กจิ กรรมท่จี ะกระทาต่อไป วางขนั้ ตอนในการดาเนนิ กจิ กรรม สร้างแรงจูงใจหรอื ขอ้ ตกลงท่จี ะดาเนนิ กจิ กรรมท่วี างไวใ้ ห้ประสบความสาเรจ็ รวมทงั้ วางกาหนดเวลาในการดาเนิน กจิ กรรม โดย wellness coach จะตอ้ งได้รบั การฝึกอบรมก่อนท่จี ะมาใหบ้ รกิ าร 2) สถานประกอบการ ประกอบด้วย ผูบ้ รหิ าร ฝ่ายทรพั ยากรบคุ คล ทมี งานอาชวี อนามยั ความปลอดภยั และสขุ ภาพ เช่น เจ้าหน้าท่คี วามปลอดภยั ในการทางาน แพทย์ พยาบาล ผแู้ ทนชมรม/คลบั ตา่ งๆ ผแู้ ทนลูกจา้ งจาก แผนกต่างๆ ๑.6 กลวิธใี นการดาเนินงาน wellness programs 1) พฒั นาตวั ช้วี ดั ผลงาน และเป้าหมาย เชน่ อตั ราการป่วยของลูกจ้างลดลง รอ้ ยละ 10 ต่อปี 2) พฒั นาโปรแกรม กาหนด เป้าหมาย วตั ถุประสงค์ 3) หาแหล่งสนบั สนุนการดาเนินงานตามโปรแกรม 4) ประเมนิ ความเส่ยี ง เชน่ ความเสย่ี งทพ่ี นกั งานในการไมเ่ ขา้ ร่วมโปรแกรมฯ 5) ประชาสมั พนั ธ์และใหข้ อ้ มูลต่างๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง และรบั ฟังขอ้ เสนอแนะต่างๆ 6) ประเมนิ ผลโปรแกรม ทงั้ นก้ี ารดาเนินงานจะเก่ยี วขอ้ ง 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ระดบั บุคคล (individual) สงิ่ แวดล้อม (environment)
๔๑ และองคก์ ร (organization) ยกตวั อย่าง การดาเนนิ งาน wellness ในสถานประกอบการ ทท่ี างกรมควบคุมโรคมกี าร ดาเนนิ งานสนั้ ๆ 2. แนวคิดสุขภาวะองคร์ วมของคนทางาน (Total Worker Health : TWH) การดาเนนิ งานเพอ่ื ดูแลสุขภาพผู้ประกอบอาชพี ทผ่ี า่ นมานนั้ เนน้ ผลกระทบทางสขุ ภาพทเ่ี กดิ จากการ สมั ผสั กบั ปัจจยั เสย่ี งจากการประกอบอาชีพเป็นหลกั ตามความหมายของ “อาชวี อนามยั ”หรอื “occupational health” โดยแยกปัญหาสุขภาพท่เี กดิ จากการทางาน และสขุ ภาพทวั ่ ไปออกจากกัน แต่ในความเป็นจรงิ ใน แต่ละวนั คนทางานจะมกี ารทากจิ กรรมต่างๆ หลายกจิ กรรมดว้ ยกนั และพบวา่ แค่ประมาณ ร้อยละ 40 ของ เวลาทงั้ หมดท่ใี ช้ในการทางาน (รายละเอยี ดตามแผนภาพท่ี 2-1) ดังนัน้ สภาวะสขุ ภาพของคนทางาน จึงมี ปัจจยั หลายๆ อย่างเขา้ มาเก่ยี วขอ้ งโดยการทางานเป็นปัจจยั หนึ่งทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ดว้ ยเหตนุ ้ปี ัจจยั ทเ่ี ก่ยี วกบั งาน (work-related factors) และปัจจยั ด้านสุขภาพ (health factors) ท่อี ยู่นอกเวลาการทางานมีผลต่อสภาวะ สขุ ภาพคนทางาน (รายละเอยี ดตามแผนภาพท่ี 2-2) การส่งเสริมให้คนทางานมสี ุขภาพดี นอกเหนือจาก ปกป้องสุขภาพจากปัจจยั เส่ียงจากการทางาน แลว้ และการป้องกนั และการสง่ เสรมิ สขุ ภาพทเ่ี กดิ จากปัจจยั นอกงาน เพอ่ื ใหเ้ กดิ การดูแลสขุ ภาพองค์รวมจงึ มี ความสาคญั เป็นอย่างมาก
๔๒ National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH) ซ่งึ เป็นองคก์ รทม่ี หี นา้ ท่รี บั ผดิ ชอบด้าน การส่งเสรมิ ความรู้ และการวจิ ัยทางด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภยั ของสหรัฐอเมริกา จึงได้จัดทา โครงการ Total Worker Health (TWH) ซง่ึ เป็นโครงการดแู ลสุขภาพของคนทางานแบบองคร์ วม ทร่ี วมเร่อื ง อาชีวอนามัยและความปลอดภัยเข้ากับเร่อื งการส่งเสริมสุขภาพ (health promotion) จาก occupational health จึงกลายมาเป็น worker health โดยให้ความหมาย ว่า A Total Worker Health approach is defined as policies, programs, and practices that integrate protection from work related safety and health hazards with promotion of injury and illness–prevention efforts to advance worker well-being. หมายความถงึ นโยบาย โปรแกรม และการปฏิบัติท่บี ูรณาการการคุ้มครอง ด้านอาชีวอนามยั และความ ปลอดภยั เข้ากับการส่งเสรมิ สุขภาพในการป้องกนั การบาดเจบ็ และเจ็บป่ วยของคนทางาน เพ่อื ยกระดบั เร่อื งสุขภาพและความเป็นอยู่ ข้อสงั เกตท่ีต้องยา้ คือ TWH เป็นเร่อื งการบรู ณาการ (1) การคุ้มครองทาง อาชีวอนามยั และความปลอดภยั เขา้ กบั (2) การส่งเสริมสขุ ภาพ ถ้าขาดซึ่งการบูรณาการสองสิ่งน้ี กไ็ ม่ เป็ น TWH ดงั นั้นเพ่ือไม่ให้นาเรื่องน้ีไปใช้ในลักษณะท่ีแตกต่างไปจากแนวคิดท่ี NIOSH กาหนดไว้ NIOSH จงึ กาหนด TWH TM เป็นเครื่องหมายการค้าของเรอ่ื งนี้ โดยไมไ่ ด้มเี จตนาวา่ ใครจะมาใช้คาน้ี ไม่ได้ เพียงแต่ใหเ้ ขา้ ใจกนั ว่า เมือ่ พบคานี้กใ็ หท้ ราบวา่ เป็นเร่ืองการบรู ณาการของสองเรื่องท่ี NIOSH กาหนดไวน้ นั่ เอง ทงั้ นี้ NIOSH ไดส้ รปุ เหตุผลความสาคญั ของการดาเนินงาน TWH ไวด้ งั นี้
๔๓ ▪ สขุ ภาพคนทางานจะมคี วามเสยี่ งมากยง่ิ ขน้ึ เมอ่ื สมั ผสั ทงั้ ปัจจยั เสย่ี งในงาน และมพี ฤตกิ รรม สุขภาพทเ่ี สยี่ ง มขี อ้ มูลท่แี สดงให้เหน็ ว่าการสมั ผสั สารเคมใี นขณะทางานทค่ี วบคู่ไปกบั การมี พฤตกิ รรมสุขภาพทไ่ี มด่ นี นั้ จะมผี ลให้มคี วามเสย่ี งต่อการได้รบั อนั ตรายจากสารเคมมี ากขึ้น เช่น พนักงานท่ที างานกับสารเบนซนี และเป็นคนทส่ี ูบบุหร่ดี ้วยนัน้ จะมีโอกาสท่ไี ด้รบั สาร เบนซินทงั้ ท่มี ีในบุหรแ่ี ละท่ฟี ้งุ กระจายในขณะทางานหรอื ในบางกรณี ควนั บุหร่กี ับสารเคมี บางชนิด จะมผี ลต่อสุขภาพแบบเสริมฤทธิ์ (synergistic effect) เช่น คนท่หี ายใจเอาควัน บหุ รแ่ี ละแรใ่ ยหนิ เขา้ สรู่ า่ งกายในเวลาเดยี วกนั เป็นต้น ▪ คนทางานท่ที างานท่มี คี วามเสยี่ งมากกค็ อื กลุ่มคนท่มี พี ฤตกิ รรมสขุ ภาพท่เี สย่ี งดว้ ยเช่นกนั มี งานวิจัยหลายช้นิ ในสหรัฐอเมริกาท่พี บว่าคนงานท่ที างานท่มี ีความเสยี่ งมาก (งานท่มี ี อันตราย) หรอื คนงานท่มี กี ารศกึ ษาน้อย ซ่งึ ส่วนใหญ่ก็จะได้ทางานทอ่ี นั ตราย หรอื ต้องใช้ แรงงานมาก ส่วนใหญ่คนกลุ่มน้ีจะมพี ฤติกรรมสุขภาพท่ไี ม่ดี เช่น มีการสูบบุหร่แี ละด่ืม มากกว่า คนทท่ี างานไมอ่ นั ตราย จงึ ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมไมด่ ไี ปดว้ ย ๒.2 โปรแกรม TWH ตวั อย่างโปรแกรม TWH ท่สี ามารถนาไปปรบั ใช้ให้เหมาะกบั บรบิ ทของสถานประกอบการ สิ่งคุกคามใน ผลกระทบตอ่ สุขภาพ ปัจจยั นอกงานท่จี ะ โปรแกรม TWH งาน ส่งเสริมใหเ้ กิดผล กระทบต่อสุขภาพ โปรแกรมการป้องกนั ระบบทางเดนิ สารเคมี ฝุ่น หายใจพรอ้ มกบั เนน้ การลดการสูบ มากข้ึน บุหร่ี Clean air and tobacco free โรคระบบทางเดนิ การสบู บุหร่ี workplace หายใจจากการทางาน (ดาเนนิ การในสถานประกอบการท่ี เสย่ี งต่อโรคระบบทางเดนิ หายใจ จากการทางานเป็นหลกั )
๔๔ ส่ิงคุกคามใน ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ ปัจจยั นอกงานท่จี ะ โปรแกรม TWH งาน ส่งเสริมให้เกิดผล โรคพษิ ตะกวั่ กระทบตอ่ สุขภาพ -โปรแกรมการป้องกนั โรคพษิ ตะกวั่ สารตะกวั ่ ความดนั โลหติ สงู พร้อมกบั เนน้ การลดการสูบบุหร่ี มากข้ึน -โปรแกรมการป้องกนั โรคพษิ ตะกวั่ สารประกอบ โรคพษิ จากสารทา พรอ้ มกบั ลดปัจจยั เสย่ี งอน่ื ๆ ทเ่ี ป็น อนิ ทรยี ์ระเหย ละลายอนิ ทรยี ์ การสบู บุหร่ี สาเหตขุ องโรคความดนั โลหติ สูง งา่ ย (ระบบประสาทและ โรคความดนั โลหติ สูง โปรแกรมการป้องกนั โรคพษิ จาก ความร้อน สมอง) สารทาละลายอนิ ทรยี พ์ ร้อมกบั เนน้ Heat stroke การด่มื แอลกอฮอล์ การลดการดม่ื แอลกอฮอล์ แสงสวา่ งไม่ เพยี งพอ eyestrain ภาวะอ้วน Weight control program โรคประจาตวั เช่น อาชพี เส่ยี ง firefighters, bakery การยศาสตร์ โรคกระดูกและ โรคความดนั โลหติ สูง workers, farmers, construction กลา้ มเน้ือทม่ี สี าเหตุ โรคหวั ใจ workers, miners, boiler room จากการทางาน workers, หลอ่ หลอมโลหะ ผลติ ใช้สายตากบั กจิ กรรม แกว้ ผลติ จาระบี เป็นตน้ ตา่ งๆ (มอื ถอื ) โครงการอนุรกั ษส์ ายตา ( เช่น สถานประกอบการท่มี กี ารใช้ -โรคประจาตวั เช่น สายตาในการมองชน้ิ งานระยะใกล้ ขอ้ อกั เสบ (arthritis) เช่น ผลติ ช้นิ สว่ นอิเล็คทรอนกิ ส์, Jewelry ) โปแกรมทางดา้ นการยศาสตร์เน้น การ บูรณาการการป้องกนั โรคอ่นื ๆ
๔๕ สิ่งคุกคามใน ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ ปจั จยั นอกงานทจ่ี ะ โปรแกรม TWH งาน ส่งเสริมให้เกิดผล กระทบต่อสุขภาพ มากขึ้น หรอื โรคกระดกู และ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั ท่าทางการทางาน กลา้ มเน้ืออ่นื ๆ เชน่ การลดน้าหนัก -ภาวะอว้ น ความเครยี ด เครยี ดจากการทางาน เครยี ดจากสาเหตุอ่นื Work-life stress management ๆทม่ี ผี ลตอ่ การทางาน ระดบั องคก์ ร (ในงาน) เชน่ เครยี ดจาก ระดบั บคุ คล (นอกงาน) ครอบครวั สถานประกอบการท่นี ่าจะมี ความเครยี ดสงู เชน่ มสี ถิตกิ ารลา ป่วย สถิตอิ บุ ตั เิ หตุสูง อบุ ตั เิ หตจุ าก บาดเจบ็ การดม่ื แอลกอฮอล์ โปรแกรมการป้องกนั อบุ ตั เิ หตจุ าก การทางานกบั การทางาน โดยเน้นการปรบั ยานพาหนะ พฤตกิ รรมสขุ ภาพเพอ่ื ลด ละ เลกิ เช่น ขบั รถ การด่มื แอลกอฮอล์ โฟลคลฟิ ท์ ทมี่ า: ปรบั จาก NIOSH ๓.3 ขนั้ ตอนการดาเนินงาน โดยขนั้ ตอนการดาเนนิ งานในสถานท่ที างาน (รวมทงั้ โรงพยาบาลท่ดี าเนนิ การดแู ลบุคลากรสุขภาพของ โรงพยาบาลเอง) มดี งั น้ี (1) จดั ตงั้ คณะทางาน หรอื ทบทวนทมี โดยต้องมเี จ้าหนา้ ทฝ่ี ่ายบุคคล เป็นทมี ดว้ ย (2) ทบทวน ปรบั นโยบายเพ่อื ให้สอดคลอ้ ง และสนบั สนุนการดาเนินงานตามแผนงาน หรือกจิ กรรมท่มี ่งุ จะ ให้เกดิ ในองคก์ ร (3) การประเมนิ ความเส่ยี ง โดยเป็นแบบ holistic risk assessment โดยมกี ารประเมนิ ด้านต่างๆ ดงั นี้ • Personal health เช่น เพศ อายุ การสูบบุหร่ี น้าหนักเกนิ ตงั้ ครรภ์ โรคประจาตวั (e.g., diabetes
๔๖ mellitus, high blood pressure, asthma, colour blindness, allergies) • สภาพแวดล้อมการทางาน เชน่ การทางานท่สี งู การทางานซา้ ๆ การทางานในท่ลี น่ื เสยี งดงั สมั ผสั สารเคมี • Work organization เช่น work overload, prolonged working hours, shift work, การจดั การ returning to work, การฝึกอบรม, การสอ่ื สารความเส่ยี ง และระบบการจ่ายเงนิ สาหรบั การทางาน เป็นตน้ (4) วเิ คราะหข์ อ้ มูลจากการประเมนิ และพฒั นาโปรแกรมดาเนินงาน (intervention) ตามความเส่ยี งท่พี บ (5) การตดิ ตาม ประเมนิ ผล หลงั ส้นิ สดุ กจิ กรรมในแต่ละครงั้ ภาพรวมกจิ กรรม เชน่ ประเมนิ ทกุ สน้ิ ปี การ ประเมนิ ผลลพั ธ์ อาจแบ่งเป็น 2 ระดบั ไดแ้ ก่ รายบคุ คล โดยใชแ้ บบสอบถาม หรอื การวดั โดยตรง เชน่ น้าหนัก ระดบั ไขมนั ในเลอื ด เป็นต้น รายกลุ่ม เช่น สถติ กิ ารเกดิ อุบตั เิ หตุ จานวนกล่มุ เสย่ี ง กล่มุ ป่วยดว้ ยโรคไม่ตดิ ต่อ อตั ราการคง อยู่ หรอื ลาออกของพนกั งาน (6) การบนั ทกึ ผลการดาเนินงาน และขอ้ เสนอแนะ โดยบนั ทกึ ผลการประเมนิ ตา่ งๆ กอ่ นเรม่ิ โครงการ และ บนั ทกึ ผลการจดั กจิ กรรมตา่ งๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง (ฉายคลปิ วดี ที ศั น์ประกอบ) สรปุ โปรแกรมการดูแลสุขภาพองคร์ วม (TWH) ขนั้ ตอนการดาเนินงานจะเหมอื นกบั wellness program แตก่ าร ประเมินพฤติกรรมเส่ยี งทางด้านสุขภาพจะครอบคลุมถึงการสมั ผสั ส่งิ คุกคามจากการทางานด้วย และลกั ษณะของ โปรแกรมทเ่ี สนอใหอ้ งค์กรดาเนินงานจะเป็นโปรแกรมเพ่อื ลดความเส่ยี งนอกงานร่วมกบั ความเส่ยี งในงาน โดยเป็น การบรู ณาการระหว่างการส่งเสรมิ สุขภาพกบั การปกป้องคุม้ ครองอนั ตรายจากการทางาน เพ่อื ให้เกดิ การดูแลสุขภาพ คนทางานแบบองคร์ วมทงั้ มติ ใิ นงานและนอกงาน 3. การประเมินและการจดั การความเสี่ยงทางสขุ ภาพแบบองค์รวม ในการประเมินและจัดการความเสย่ี งทางสขุ ภาพแบบองค์รวมนัน้ จาเป็นทีอย่างยงิ่ ท่ผี ู้ประเมนิ จะต้องทา ความเขา้ ใจนยิ ามความหมายของคาหรอื ขอ้ ความท่เี กย่ี วขอ้ งกบั สุขภาพแบบองคร์ วม ซึง่ ได้แก่ ๑. นิยามศพั ท์ที่เกี่ยวขอ้ งขอ้ ง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187