หลกั สตู รสถานศกึ ษา การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2555) ที่ หัวเร่ือง ตวั ชว้ี ดั เน้อื หา จำนวน ช่ัวโมง 2 หน้าทพ่ี ลเมือง 1.รแู้ ละเขา้ ใจความสำคัญ 1.1 ความเปน็ มา หลักการเจตนารมณ์ ของรฐั ธรรมนญู แห่ง ของรฐั ธรรมนูญ 40 ราชอาณาจกั รไทย 1.2 โครงสร้าง และสาระสำคัญของ 2. ร้แู ละเขา้ ใจหลกั คุณธรรม รฐั ธรรมนญู จริยธรรมของการอยูร่ ว่ มกนั 1. 3 การปฏริ ปู การเมือง และจดุ เด่น 3. มีส่วนร่วมทางการเมือง ของรฐั ธรรมนญู ท่เี กีย่ วกบั สิทธิ การปกครองตามระบอบ เสรีภาพหน้าทีข่ องประชาชน ประชาธปิ ไตยอันมี 2. หลักการอยู่ร่วมกนั ตามวิถีทาง พระมหากษัตรยิ เ์ ปน็ ประมุข ประชาธปิ ไตยบนพนื้ ฐานของคณุ ธรรม 4. รู้และเขา้ ใจหลักสิทธิ จริยธรรม มนษุ ยชน 3.สถานการณ์ และการมีสว่ นร่วม 5. การมสี ว่ นร่วมในการ ทางการเมืองการปกครองตามระบอบ คุม้ ครองปกป้องตนเอง และ ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ ผอู้ ื่นตามหลกั สทิ ธิมนุษยชน เป็นประมขุ 6. ตระหนักถึงประโยชนข์ อง 4.หลกั สิทธมิ นษุ ยชน การมีสว่ นรว่ มในการ 5. การมีส่วนร่วมในการคุ้มครอง คมุ้ ครองปกป้องตนเอง และ ตนเอง และผู้อื่นตามหลักสทิ ธิ ผู้อ่นื ตามหลกั สทิ ธมิ นุษยชน มนุษยชน 6.ประโยชน์ของการมีส่วนรว่ มในการ คมุ้ ครองฯ (ยกตวั อยา่ ง) 7. การเมืองการปกครองส่วนท้องถิน่ 8. กฎหมายการเลือกตั้งส่วนท้องถนิ่ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 94 สำนักงาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2555) คำอธิบายรายวชิ า สาระการพฒั นาสงั คม หมวดวชิ า สค21003 การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาตอนต้น จำนวนหน่วยกิต 1 หน่วย --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ หลักการพฒั นาชุมชน สงั คม สามารถวิเคราะห์ ข้อมูล และกำหนดแนวทางการ พฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ใหส้ อดคล้องกบั สภาพการเปล่ียนแปลงของเหตุการณป์ จั จบุ ัน ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเกยี่ วกบั เร่อื งดงั ต่อไปนี้ 1. ความหมาย ความสำคัญ ของข้อมูล ประโยชน์ของข้อมลู ตนเอง ชมุ ชน สงั คม 2. เทคนิคและวธิ ีการจดั เกบ็ ข้อมูล เช่น การจดั เวทีประชาคม การสำรวจข้อมูลการประชาพิจารณ์โดยใช้ แบบสอบถาม การสบื คน้ ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ฯลฯ 3. การวิเคราะหข์ ้อมลู เพอื่ การจดั ทำแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม 4. การจดั ทำแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคมและการนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ จดั ใหผ้ ูเ้ รยี นฝกึ ทกั ษะจากการปฏิบตั ิจรงิ การเกบ็ ข้อมูล การวเิ คราะห์ข้อมลู การจัดทำแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม โดยการเขา้ รว่ มสังเกตการณใ์ นสถานการณ์จริง หรือจาการสรา้ งสถานการณจ์ ำลอง จดั ทำเวที ประชาคม และการศึกษาดงู าน เปรียบเทยี บการจัดทำแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม ระหว่างกลุม่ ระหวา่ ง ชุมชน การวัดและประเมินผล ประเมนิ จากผลงาน และการมีสว่ นรว่ มในการจดั ทำแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 95 สำนกั งาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา สค21003 การพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ****************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจ หลกั การพฒั นาชุมชน สังคม สามารถวเิ คราะห์ ข้อมลู และกำหนดแนวทางการ พฒั นาตนเอง ครอบครวั ชุมชน สังคม ให้สอดคล้องกับสภาพการเปลย่ี นแปลงของเหตกุ ารณ์ปัจจบุ ัน ที่ หัวเรือ่ ง ตวั ชวี้ ดั เนื้อหา จำนวน ชวั่ โมง 1 พฒั นาชมุ ชน สังคม 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ 1.หลักการพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม หลักการพัฒนา ชมุ ชน 2. ความหมาย ความสำคัญ 40 สังคม ประโยชน์ของข้อมลู ด้าน 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ - ภูมศิ าสตร์ และเห็นความสำคัญของ - ประวตั ศิ าสตร์ ขอ้ มลู ตนเอง ครอบครัว - เศรษฐศาสตร์ ชุมชน สังคม - การเมอื งการปกครอง 3.วเิ คราะห์และอธิบาย - ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี ขอ้ มลู - หนา้ ท่ีพลเมอื ง 4. เกดิ ความตระหนกั และมี - ทรพั ยากร ส่งิ แวดลอ้ ม สว่ นรว่ มในการจัดทำ - สาธารณสุข แผนพัฒนาชมุ ชน สงั คม - การศึกษา 5. กำหนดแนวทางการ 3. วิธกี ารจดั เกบ็ วิเคราะห์ข้อมูลดว้ ย พัฒนาตนเองครอบครัว วิธกี ารทห่ี ลากหลาย และเผยแพร่ ชมุ ชน สังคม ข้อมูล 6. นำศกั ยภาพ ของประเทศ 4. การมีส่วนรว่ มในการวางแผนพัฒนา ไทยใน 5 ดา้ นมาเชอื่ มโยงสู่ ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สังคม งานอาชีพ 5. การจดั เก็บข้อมูลพน้ื ฐานของ ประชากรในชุมชน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 96 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) ที่ หวั เรื่อง ตวั ชวี้ ดั เนอ้ื หา จำนวน ชัว่ โมง 6.1 เทคนคิ การมีสว่ นร่วมในการจัดทำ แผน เช่น - การจัดทำเวทีประชาคม - การประชุมกล่มุ ย่อย - การสัมมนา - การสำรวจประชามติ - การประชาพิจารณ์ ฯลฯ 6.2 การจดั ทำแผน -ทิศทาง นโยบาย - โครงการ - ผู้รบั ผดิ ชอบ - จัดลำดบั ความสำคญั ฯลฯ 6.3 การเผยแพร่สกู่ ารปฏบิ ัติ - การเขยี นรายงาน - การเขียนโครงงาน ฯลฯ 7. การจดั ทำแผนในการพฒั นาอาชีพ ของตนเองและชมุ ชนภายใน สถานการณ์การแพรร่ ระบาดของโรค ตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 8. การพฒั นาอาชีพในชุมชนและ สงั คม - อาเซียนกับการพัฒนาอาชีพ - จดุ เดน่ ของประเทศไทยในการ ผลักดนั เศรษฐกิจสร้างสรรค์ - ศกั ยภาพประเทศไทยกับการพัฒนา อาชีพ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หนา้ 97 สำนักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2555) คำอธบิ ายรายวชิ า และรายละเอยี ดคำอธิบายรายวชิ า ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 98 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) สาระทักษะการเรยี นรู้ สาระทกั ษะการเรียนรเู้ ปน็ สาระเก่ยี วกบั การพัฒนาทักษะการเรยี นรู้ของผเู้ รียนในด้านการเรียนรู้ ดว้ ยตนเองการใชแ้ หลง่ เรียนรู้การจัดการความรกู้ ารคิดเป็นและการวจิ ัยอย่างงา่ ยโดยมวี ัตถุประสงคเ์ พื่อให้ผเู้ รยี น สามารถกำหนดเป้าหมายวางแผนการเรียนรดู้ ว้ ยตนเองเขา้ ถึงและเลือกใชแ้ หล่งเรยี นรู้จัดการความรกู้ ระบวนการ แกป้ ญั หาและตดั สินใจอยา่ งมีเหตุผลทสี่ ามารถใชเ้ ป็นเคร่ืองมือในการช้ีนำตนเองในการเรียนรแู้ ละการประกอบ อาชีพให้สอดคล้องกบั หลักการพนื้ ฐานและการพฒั นา 5 ศักยภาพของพ้ืนทใ่ี น5 กล่มุ อาชีพคือเกษตรกรรม อตุ สาหกรรมพาณิชยกรรมความคดิ สรา้ งสรรค์การอำนวยการ (การบรหิ ารจัดการและบริการ) ตามยุทธศาสตร์ กระทรวงศกึ ษาธิการได้อยา่ งต่อเนื่องตลอดชีวิต สาระทักษะการเรยี นรู้ ประกอบด้วย 5 มาตรฐาน ดงั น้ี มาตรฐานท่ี 1.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดตี ่อการเรียนรดู้ ้วยตนเอง มาตรฐานที่ 1.2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทด่ี ีต่อการใชแ้ หล่งเรียนรู้ มาตรฐานท่ี 1.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดตี ่อการจัดการความรู้ มาตรฐานที่ 1.4 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทดี่ ีต่อการคดิ เปน็ มาตรฐานท่ี 1.5 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติทีด่ ตี อ่ การวิจยั อยา่ งง่าย มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย และผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวงั ในแตล่ ะมาตรฐาน มาตรฐานที่ 1.1 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทด่ี ตี ่อการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั สามารถประมวลความรทู้ ำงานบน 1. ประมวลความรูแ้ ละสรปุ เป็นสารสนเทศ ฐานขอ้ มูลและมีความชำนาญในการ 2. ทำงานบนฐานขอ้ มูลด้วยการแสวงหาความรูจ้ นเป็นลักษณะ อ่านฟังจดบนั ทึกเปน็ สารสนเทศอยา่ ง นสิ ัย คล่องแคล่วรวดเรว็ 3. มีความชำนาญในทักษะการอ่านทกั ษะการฟงั และทักษะการ จดบันทึกอย่างคล่องแคล่วรวดเรว็ 4. สามารถนำความรู้ความเข้าใจในเรื่อง 5 ศักยภาพของพื้นท่ี และหลักการพนื้ ฐานตามยุทธศาสตร์ตามกระทรวงศกึ ษาธิการ 2555 ไปเพ่มิ ขดี ความสามารถการประกอบอาชีพโดยเน้นที่ กลมุ่ อาชีพใหม่ให้แข่งขันได้ในตลาดสากล ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 99 สำนักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2555) มาตรฐานที่ 1.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ตี อ่ การใชแ้ หล่งเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง สามารถวางแผนและใช้แหล่งเรยี นรู้ 1. วางแผนการใชแ้ หลง่ เรยี นร้ตู ามความต้องการจำเปน็ ของแต่ ไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่วจนเป็นลกั ษณะนสิ ยั ละบุคคล 2. ใชแ้ หลง่ เรยี นรูจ้ ากเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมตามความ ตอ้ งการจำเปน็ 3. ใช้แหล่งเรยี นรู้อย่างแคล่วคลอ่ งจนเปน็ ลกั ษณะนิสัย 4. สามารถวางแผนและเลือกใชแ้ หล่งเรียนรเู้ พ่ือพฒั นาอาชีพ ของตนเองและท้องถนิ่ ได้อย่างรวดเรว็ เหมาะสมกับ ความสามารถเช่นการหาตำแหน่งงานวา่ งจากอินเทอร์เนต็ ฯลฯ มาตรฐานที่ 1.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดตี อ่ การจัดการความรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง สามารถสรปุ องคค์ วามรู้ใหมน่ ำไป 1. ออกแบบผลติ ภัณฑส์ รา้ งสูตรสรุปองคค์ วามรใู้ หม่ของ สรา้ งสรรค์สงั คมอุดมปัญญา ขอบเขตความรู้ 2. ประพฤติตนเป็นบคุ คลแหง่ การเรยี นรู้ 3. สามารถจดั ทำแผนท่ีความคดิ เก่ยี วกับอาชีพในด้านต่างๆของ ชมุ ชนเชน่ เกษตรกรรมอุตสาหกรรมพาณชิ ยกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์การบรหิ ารจดั การได้อย่างถกู ต้อง 4.สร้างสรรค์สังคมอุดมปญั ญา ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 100 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) มาตรฐานที่ 1.4 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทดี่ ตี อ่ การคิดเปน็ มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวัง ความสามารถในการฝึกทกั ษะการคิด 1. อธบิ ายหรอื ทบทวนปรัชญาคิดเปน็ และการใช้ระบบข้อมูล เปน็ ท่ีซบั ซ้อนเชื่อมโยงกบั คณุ ธรรม ทางวิชาการตนเองและสังคมส่งิ แวดล้อมมาวเิ คราะห์สังเคราะห์ จรยิ ธรรมทเ่ี ก่ยี วข้องกบั ปรชั ญาคดิ เปน็ เพอื่ ประกอบกระบวนการคิดการตดั สนิ ใจในการแก้ปัญหา และสามารถระบถุ ึงปัญหาอุปสรรคการ 2. อธิบายและปฏิบัติการใช้เทคนคิ วิธกี ารฝกึ ทักษะการคิดเปน็ พฒั นากระบวนการคิดเปน็ และการ ท่ีซบั ซอ้ นและนำคณุ ธรรมจริยธรรมท่ีเก่ยี วข้องมาส่งเสริม แกไ้ ข กระบวนการคดิ เป็นให้มากข้ึน 3. อภิปรายถกแถลงถงึ ปัญหาและอุปสรรคในการใช้ กระบวนการคิดเปน็ ประกอบการแกป้ ัญหา 4. เชื่อมโยงปรัชญาคดิ เป็นกระบวนการเรียนรกู้ ารศึกษานอก ระบบ 5. บอกลักษณะของคนคิดเป็นได้อยา่ งนอ้ ย8 ประการ 6. สามารถนำความรคู้ วามเข้าใจในเรอ่ื ง 5ศักยภาพของพ้ืนท่ี และหลกั การพ้นื ฐานตามยทุ ธศาสตรต์ ามกระทรวงศกึ ษาธิการ 2555 ไปเพ่มิ ขีดความสามารถการ ประกอบอาชีพโดยเน้นท่กี ลุ่มอาชีพใหมใ่ ห้แข่งขนั ได้ในตลาด สากล มาตรฐานท่ี 1.5 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการวจิ ัยอยา่ งง่าย มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง สามารถวางแผนการวิจัยดำเนินการ 1. ออกแบบการวิจัยเพอ่ื คน้ หาความรคู้ วามจรงิ ท่ีต้องการ ตามแบบแผนอยา่ งถูกต้อง คำตอบ 2. ดำเนินการตามแบบแผนการวจิ ยั และวเิ คราะห์ข้อมลู สรุป สารสนเทศความรคู้ วามจรงิ ท่ีตอ้ งการคำตอบ 3. ใชก้ ระบวนการวจิ ัยอยา่ งง่ายเพือ่ เพม่ิ ศักยภาพและขีด ความสามารถในการประกอบอาชีพสร้างรายไดท้ ่ีม่งั ค่งั และ มั่นคง ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 101 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2555) สาระความรู้พ้ืนฐาน สาระความรู้พนื้ ฐาน เปน็ สาระเก่ยี วกับภาษาและการส่อื สาร คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สาระทกั ษะการเรียนรู้ ประกอบด้วย 2 มาตรฐาน ดังนี้ มาตรฐานที่ 2.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพ้นื ฐานเกย่ี วกบั ภาษาและการสื่อสาร มาตรฐานที่ 2.2 มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะพนื้ ฐานเกย่ี วกบั คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวงั ในแตล่ ะมาตรฐาน มาตรฐานที่ 2.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะพนื้ ฐานเกีย่ วกับภาษาและการสื่อสาร รายวิชาภาษาไทย มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง การฟังการดู 1. เห็นคณุ ค่าของส่อื ในการฟงั และดู 1. สามารถเลอื กส่อื ในการฟังและดูอย่าง 2. วจิ ารณค์ วามสมเหตสุ มผลการลำดับความและความเปน็ ไปได้ สรา้ งสรรค์ ของเร่ืองทีฟ่ งั และดู 2. สามารถฟงั และดูอยา่ งมีวิจารณญาณ 3. นำเสนอความรคู้ วามคดิ เห็นท่ไี ดจ้ ากการฟงั และดู 3. เปน็ ผูม้ มี ารยาทในการฟงั และดู 4. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผ้มู มี ารยาทในการฟงั และดู การพดู 1. สามารถพูดท้ังทีเ่ ป็นทางการและไม่ 1. ใช้ศิลปะการพูดทเ่ี ป็นทางการและไม่เป็นทางการได้อยา่ ง เป็นทางการโดยใชภ้ าษาถกู ต้องเหมาะสม เหมาะสมกับโอกาสและบคุ คล 2. สามารถแสดงความคดิ เห็นเชิง 2. วเิ คราะห์ประเมนิ คา่ การใชภ้ าษาพูดจากส่อื ต่างๆ วิเคราะหแ์ ละประเมนิ ค่าการใชภ้ าษาพดู 3. ปฏิบัติตนเป็นผู้มมี ารยาทในการพดู จากสื่อต่างๆ 3. มีมารยาทในการพดู ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 102 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศกึ ษา การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั การอ่าน 1. ตคี วามแปลความและขยายความเรือ่ งท่ีอา่ น 1. สามารถอ่านอย่างมีวิจารณญาณ 2. วเิ คราะห์วิจารณค์ วามสมเหตุสมผลการลำดับความคิดและ จดั ลำดับความคดิ จากเรอื่ งที่อ่าน ความเป็นไปได้ของเร่ืองที่อา่ น 2. สามารถศกึ ษาภาษาถิน่ สำนวน 3. อธิบายความหมายของภาษาถิ่นสำนวน สุภาษิตทปี่ รากฏใน สุภาษิตทีม่ อี ยู่ในวรรณคดวี รรณกรรม วรรณคดวี รรณกรรมปัจจุบนั วรรณกรรมท้องถิ่น ปัจจบุ นั และวรรณกรรมทอ้ งถ่ิน 4. วเิ คราะหว์ จิ ารณ์ประเมนิ ค่าวรรณคดีวรรณกรรมปัจจบุ นั 3. สามารถวเิ คราะหว์ ิจารณ์ประเมินค่า วรรณกรรมท้องถ่ินในฐานะทเี่ ป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ องคป์ ระกอบของวรรณคดีวรรณกรรม แลว้ นำไปประยุกต์ใชใ้ นการดำเนินชวี ติ ปจั จุบนั วรรณกรรมท้องถนิ่ 5. เลือกใชส้ อ่ื ในการคน้ ควา้ หาความรทู้ ่ีหลากหลาย 4. สามารถค้นควา้ หาความรู้จากสอ่ื 6. มีมารยาทในการอา่ นและมีนิสัยรกั การอา่ น ส่ิงพิมพ์และสื่อสารสนเทศ 5. ปฏบิ ัติตนเป็นผ้มู ีมารยาทในการอา่ น และนสิ ัยรักการอา่ น การเขียน 1. รแู้ ละเขา้ ใจหลักการเขยี นประเภท 1. กรอกแบบพมิ พ์ประเภทต่างๆได้ถูกต้องเขียนย่อความ ตา่ งๆโดยใช้คำในการเขยี นได้ตรง เรยี งความจดหมายเขียนอธิบายช้แี จงโน้มนา้ วใจแสดง ความหมายและถูกตอ้ งตามอักขระ ทัศนะและการเขยี นเชิงสร้างสรรค์โดยใช้หลักการเขยี นและ วธิ แี ละระดับภาษา โวหารตา่ งๆไดถ้ กู ตอ้ งตามอักขระวธิ แี ละระดบั ภาษา 2. สามารถวพิ ากษ์วจิ ารณแ์ ละประเมนิ 2. แตง่ คำประพันธป์ ระเภทร้อยกรองได้ถูกต้องตามฉนั ทลักษณ์ งานเขยี นของผ้อู ่นื เพื่อนำมาพัฒนางาน และใช้ถ้อยคำท่ีไพเราะ เขยี น 3. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผูม้ ีมารยาทในการเขยี นและมีการจดบันทึก 3. สามารถแต่งคำประพันธ์ประเภทร้อย อย่างสมำ่ เสมอ แกว้ และร้อยกรอง 4. มมี ารยาทในการเขียนและนสิ ยั รกั การเขยี น ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 103 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2555) มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวงั หลกั การใช้ภาษา 1. ร้แู ละเข้าใจธรรมชาติของภาษา 1. อธบิ ายธรรมชาตขิ องภาษาและใช้ประโยคตามเจตนาของ 2. สามารถใชภ้ าษาสร้างมนุษยสัมพันธ์ การ ในการปฏิบตั งิ านร่วมกบั ผ้อู ืน่ และ สือ่ สาร ใช้คำราชาศพั ทค์ ำสภุ าพได้ถูกต้อง 2. เลือกใช้ถ้อยคำสำนวนสภุ าษิตคำพงั เพยให้ตรงความหมาย ตามฐานะของบุคคลวรรณคดี 3. ใช้ประโยคไดถ้ ูกต้องตามเจตนาของผู้สง่ สาร 4. ใช้คำสภุ าพและคำราชาศพั ทใ์ หถ้ กู ต้องตามฐานะและบุคคล วรรณกรรม 1. สามารถวเิ คราะหแ์ ละเห็นคณุ คา่ 1. วิจารณ์และอธบิ ายคุณค่าวรรณคดวี รรณกรรมปจั จบุ นั วรรณคดวี รรณกรรมปจั จุบันและ และวรรณกรรมทอ้ งถนิ่ วรรณกรรมท้องถน่ิ โดยใชห้ ลักการพินจิ วรรณคดี ภาษาไทยกับการประกอบอาชีพ 1. ใชค้ วามรดู้ ้านการพดู ภาษาไทยเพ่ือ 1. ใช้ความรู้การพดู ภาษาไทยเปน็ ชอ่ งทางในการประกอบ การประกอบอาชพี อาชีพ 2. ใชค้ วามร้ดู ้านการเขยี นภาษาไทยเพื่อ 2. ใช้ความรูก้ ารเขยี นภาษาไทยเปน็ ช่องทางการประกอบ การประกอบอาชพี อาชพี รายวชิ าภาษาตา่ งประเทศ มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวัง มคี วามรคู้ วามเข้าใจทักษะและเจตคติ 1. เขา้ ใจเก่ยี วกับภาษาทา่ ทางฟังพูดอา่ นเขียนดว้ ยประโยคท่ี เกย่ี วกับภาษาท่าทางการฟังพูดอา่ น ซบั ซอ้ นมากขึ้นในชวี ิตประจำวนั และงานอาชีพ เขียนภาษาต่างประเทศด้วยประโยคที่ 2. ปฏบิ ัตติ นไดถ้ กู ต้องตามมารยาทและวฒั นธรรมของเจา้ ของ ซับซอ้ นมากข้ึนในชีวติ ประจำวันและ ภาษา งานอาชพี ของตนถูกต้องตามหลกั 3. มที กั ษะที่ถกู ต้องตามหลกั ภาษาวัฒนธรรมและกาลเทศะของ ภาษาวัฒนธรรมและกาลเทศะของ เจ้าของภาษา เจา้ ของภาษา ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 104 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) มาตรฐานที่ 2.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะพื้นฐานเกย่ี วกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี รายวชิ าคณิตศาสตร์ มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวัง มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั จำนวน 1. ระบหุ รอื ยกตวั อยา่ งเกยี่ วกับจำนวนและการดำเนินการเลข และการดำเนนิ การเลขยกกำลังทมี่ ี ยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะเซตและการให้เหตุผล เลขช้ีกำลังเปน็ จำนวนตรรกยะเซตและ อตั ราส่วนตรีโกณมติ ิการใช้เคร่อื งมือและการออกแบบผลติ ภัณฑ์ การให้เหตผุ ลอตั ราส่วนตรโี กณมติ ิ สถิติเบอ้ื งตน้ และความนา่ จะเป็น และการนำไปใช้การใช้เคร่อื งมือและ 2. สามารถคิดคำนวณและแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั จำนวนจริงเลข การออกแบบผลติ ภัณฑ์สถิตเิ บือ้ งต้น ยกกำลังอัตราสว่ นตรีโกณมติ ิสถติ ิและความน่าจะเปน็ และความน่าจะเปน็ เชื่อมโยงกับงาน 3. มีความสามารถในการเชือ่ มโยงความรูต้ า่ งๆทางคณติ ศาสตร์ อาชพี ในสงั คมและอาเซยี นได้ กบั งานอาชพี ได้สามารถวเิ คราะหง์ านอาชพี ในสังคมและกลุ่ม ประชาคมอาเซยี นที่ใช้ทกั ษะทางคณิตศาสตร์ได้ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หนา้ 105 สำนกั งาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) รายวิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวงั มีความรู้ความเข้าใจทกั ษะและเห็น 1. ใช้ความรู้และกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์วธิ ีการทาง คณุ ค่าเกยี่ วกบั กระบวนการทาง วิทยาศาสตรท์ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เจตคติทาง วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยสี ่งิ มชี ีวติ ระบบ วทิ ยาศาสตรก์ ารทำโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ละนำผลไปใชไ้ ด้ นเิ วศทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ 2. อธิบายเก่ยี วกับการแบง่ เซลลพ์ นั ธกุ รรมและการถ่ายทอดทาง สิ่งแวดลอ้ มในท้องถน่ิ และประเทศสาร พันธกุ รรมการผา่ เหล่าความหลากหลายทางชวี ภาพเทคโนโลยี แรงพลงั งานกระบวนการเปลี่ยนแปลง ชวี ภาพการใช้ประโยชน์และผลกระทบทเ่ี กดิ จากการใช้ ของโลกและดาราศาสตร์มีจติ เทคโนโลยีชีวภาพต่อสงั คมและสิง่ แวดล้อมได้ วทิ ยาศาสตร์และนำความรู้ไป 3. อธิบายเกย่ี วกบั ปญั หาท่ีเกิดจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ใช้ประโยชน์ในการดำเนนิ ชวี ิตและการ สงิ่ แวดล้อมในระดบั ท้องถ่นิ ประเทศและโลกปรากฏการณ์ทาง พัฒนาส่อู าชพี ชา่ งไฟฟ้า ธรณวี ทิ ยาทีม่ ีผลกระทบต่อชวี ติ และสิ่งแวดลอ้ มวางแผนและ ปฏิบตั ิร่วมกับชุมชนเพอ่ื ป้องกันและแก้ไขปัญหา ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มได้ 4.อธบิ ายเกีย่ วกับโครงสร้างอะตอมตารางธาตสุ มการและ ปฏกิ ิรยิ าเคมที ่ีพบในชวี ิตประจำวันคาร์โบไฮเดรตไขมันและ โปรตีนปิโตรเลยี มและผลติ ภณั ฑ์พอลเิ มอร์สารเคมกี ับชีวติ การ นำไปใชแ้ ละผลกระทบต่อชวี ิตและสิ่งแวดลอ้ มได้ 5.อธบิ ายเกี่ยวกับแรงและความสัมพนั ธข์ องแรงกบั การเคลอื่ นท่ี ในสนามโน้มถว่ งสนามแม่เหลก็ สนามไฟฟ้าการเคลื่อนที่แบบ ตา่ งๆและการนำไปใชป้ ระโยชน์ได้ 6. อธิบายเก่ยี วกบั สมบัตปิ ระโยชนแ์ ละมลภาวะจากเสยี ง ประโยชนแ์ ละโทษของธาตุกัมมนั ตรังสีต่อชีวิตและสงิ่ แวดลอ้ ม ได้ 7. ศกึ ษาคน้ ควา้ และอธิบายเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยอี วกาศใน การศกึ ษาปรากฏการณต์ า่ งๆบนโลกและในอวกาศ 8. อธบิ ายออกแบบวางแผนทดลองทดสอบปฏิบตั กิ ารเร่ือง ไฟฟา้ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและปลอดภัยคิดวเิ คราะห์เปรยี บเทยี บข้อดี ขอ้ เสียของการตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมแบบขนานแบบผสม ประยุกต์และเลอื กใชค้ วามรู้และทักษะอาชีพช่างไฟฟา้ ให้ เหมาะสมกับด้านบริหารจดั การและการบริการเพื่อนำไปสู่การ จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 106 สำนักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) คำอธบิ ายรายวชิ า สาระความร้พู ้นื ฐาน หมวดวชิ า พต31001 ภาษาองั กฤษเพื่อชวี ิตและสงั คม ระดบั ชั้น มธั ยมศึกษาตอนปลาย จำนวนหนว่ ยกติ 5 หน่วย --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกย่ี วกบั ภาษาท่าทาง การฟงั พูด อ่าน เขยี น ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคทีซ่ ับซ้อนมากข้ึนในชีวติ ประจำวัน และงานอาชีพของตน ถูกต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และ กาลเทศะของเจ้าของภาษา ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเก่ียวกบั เรอ่ื งดงั ต่อไปน้ี 1. การตคี วามหมายจากนำ้ เสียงของผู้อืน่ วา่ มคี วามร้สู กึ ดใี จ เสยี ใจ พงึ พอใจ ไมพ่ ึงพอใจซาบซึ้ง ผิดหวัง ปรารถนาดี ช่ืนชมหรือเหน็ ใจ และการใชน้ ้ำเสยี งแสดงความรสู้ กึ ของตวั เองในโอกาสต่าง ๆ การอ่าน ทำความ เขา้ ใจและปฏิบตั ติ ามข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในสลากสินค้า การพูดทางโทรศัพทใ์ นสถานการณ์ตา่ ง ๆ ที่ถูกต้อง การเปรยี บเทียบความแตกตา่ งระหวา่ งวัฒนธรรมอังกฤษและวฒั นธรรมไทย รวมทัง้ สามารถปฏิบตั ิตนได้ถูกต้อง ตามวฒั นธรรมและประเพณีต่าง ๆ 2. การอ่านและวเิ คราะห์ขอ้ มูลจากส่อื ต่าง ๆ เช่น หนงั สอื พิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ ในดา้ นต่าง ๆ ท่ีหลากหลาย การสบื ค้นข้อมูลจาก Internet เพอ่ื นำมาใช้ประโยชนใ์ นการดำรงชวี ิตในสังคม การรับและตอบ e-mail ทัง้ ในเร่อื งสว่ นตัว ในการศึกษาและในการประกอบอาชีพ วิธกี ารแลกเปล่ยี นข้อมูลขา่ วสารและความรู้ ตา่ ง ๆ กบั ผู้อ่ืน ทั้งอยา่ งเป็นทางการและไม่เปน็ ทางการ โดยเขา้ ใจโครงสรา้ งของประโยคทีซ่ บั ซ้อน (Complex Sentence) และใช้ Tense ตา่ ง ๆ ในการแสวงหาขา่ วสาร ขอ้ มลู ความรแู้ ละในการสื่อสารได้อย่าง ถกู ต้องและเหมาะสมกบั สถานการณ์ การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ เน้นการฟงั พูด อ่าน เขยี น จากสถานการณจ์ รงิ หรอื สถานการณจ์ ำลอง โดยใช้ส่ือท่ีเหมาะสมและ สอดคลอ้ งกับเนื้อหาในการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล พจิ ารณาจากความสามารถในการนำความรู้และทักษะไปใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 107 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2555) รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา พต31001 ภาษาองั กฤษเพอ่ื ชีวิตและสังคม จำนวน 5 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ****************************************************************************** มาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกย่ี วกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาตา่ งประเทศ ด้วยประโยคที่ซบั ซ้อนมากข้ึนในชวี ิตประจำวนั และงานอาชพี ของตน ถกู ต้องตามหลกั ภาษาวัฒนธรรม และ กาลเทศะของเจา้ ของภาษา ท่ี หัวเรอื่ ง ตวั ชว้ี ัด เน้ือหา จำนวน 1 Everyday English ช่วั โมง ตคี วามหมายจากน้ำเสียง 1. การออกเสียงพยัญชนะต้นคำ - ของผู้อนื่ และร้จู ักใช้น้ำเสยี ง ท้ายคำ 18 ในการแสดงความร้สู ึก 1.1 ทบทวนการออกเสียง พยัญชนะ ระหวา่ งการสนทนา ไดแ้ กด่ ี ตน้ คำท่ียาก เช่น เสยี ง s z ch sh ใจ เสยี ใจพงึ พอใจ ไมพ่ ึง - sit, see, soon พอใจ ซาบซึ้ง ผดิ หวงั - zebra, zero, zoo ปรารถนาดี ช่นื ชมและ - cheap, chat, choose เหน็ ใจ - ship, shoe, shut etc. 1.2 การอา่ นออกเสียงทา้ ยคำท่ี ถกู ตอ้ ง เช่น เสียง [d] , [t] , หรือ [id] เม่ือเปน็ กริยา ช่อง 2 และ past participle เชน่ - moved, turned, loved - walked, talked, knocked - wanted, rented, waited etc. ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 108 สำนกั งาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) ที่ หวั เรอ่ื ง ตัวชว้ี ัด เน้อื หา จำนวน ชว่ั โมง 2. การออกเสียงหนัก-เบา (Stress) วธิ ีการออกเสียงหนัก-เบา ของคำใน ลกั ษณะตา่ ง ๆ เช่น คำเดีย่ วคำประสม ในลักษณะต่าง ๆ เปน็ ต้น ว่าคำ ประเภทใดจะต้องออกเสยี งเน้นที่ พยางค์แรก พยางค์กลางหรอื พยางค์ หลงั 3. การออกเสียงตามระดับเสียงสงู -ต่ำ (Intonation) วธิ กี ารออกเสยี งของประโยคลักษณะ ตา่ ง ๆซึง่ จะตอ้ งออกเสยี งสงู -ตำ่ ให้ ถูกต้องเพื่อให้สื่อความหมายทผี่ ้พู ดู ตอ้ งการ ประโยคประเภทเดยี วกัน ถา้ ออกเสียงสูง-ตำ่ ต่างกันจะให้ความรสู้ ึก ท่ีตา่ งกนั 4. การบันทึกการอ่าน เช่น ขา่ ว ประจำวนั เรือ่ งท่ีน่าสนใจ วัฒนธรรม ประเพณีในท้องถ่ิน 5. การออกเสียงเช่ือมโยง (Linking Sound) วธิ ีการอา่ นออกเสียงเช่ือมโยง ระหวา่ งคำในภาษาองั กฤษที่ถูกตอ้ ง ตามกฎเกณฑ์ของภาษาอังกฤษ เช่น - Ten years ago. - Far away etc. 6. การแสดงความดีใจ/เสียใจ การใชค้ ำ วลแี ละรปู ประโยคทจ่ี ะ นำมาใชใ้ นการแสดงความดีใจและ เสยี ใจในโอกาสต่าง ๆได้ถกู ต้อง เช่น แสดงความดใี จทีไ่ ด้พบกันอีกคร้ังหรือ แสดงความเสียใจที่ทำผดิ เปน็ ตน้ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 109 สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) ที่ หัวเรือ่ ง ตวั ช้ีวดั เนือ้ หา จำนวน ชวั่ โมง ตวั อย่าง คำวลี และรปู ประโยค เช่น - Congratulations! - Sorry. Glad is hear about that. - Sorry about that. - I’m glad to...................... - I’m pleased to........................ - I love to........................... - I’m sorry to......................... - It’s my fault that..................7. การแสดงความพอใจ/ไมพ่ อใจ ให้รู้จกั คำ วลี และรปู ประโยคท่ีจะที่จะ นำมาใช้ในการแสดงความพอใจ/ไม่ พอใจในโอกาสต่าง ๆ ได้ถกู ต้อง เชน่ แสดงความพอใจ/ไม่พอใจในการรับ บรกิ ารเปน็ ตน้ ตัวอย่างคำ วลี และรปู ประโยค เช่น - Great! - Awful! - Good news! - How nice! - How terrible! - That’s fantastic! - I can’t stand it! - I’m very disappointed with............... - It’s ashamed that.................. ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 110 สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หัวเร่อื ง ตัวช้วี ัด เนอื้ หา จำนวน ชั่วโมง 8. การแสดงความปรารถนา/ เหน็ ใจ และการตอบรับ การใช้ คำ วลี และรูปประโยคที่จะ นำมาใชใ้ นการแสดงความปรารถนาดี/ เหน็ ใจในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ถูกต้อง เช่น การแสดงความระลึกถึง การแสดง ความเห็นใจเม่ือผอู้ ่ืนประสบปัญหา เป็น ตน้ ตวั อย่างคำ วลี และรปู ประโยค เช่น - Best wishes. - Take care. - Get well soon. - Good luck. - With sympathy. - We hope everything go well through this suffering period..- I understand how difficult it is. - It must be for you. - I feel sympathy for you. - Thank you for your hospitality - Thanks a million for............. - I’m very grateful to your................ - It’s very appreciative that.............................. - I’m very appreciated for................ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หนา้ 111 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) ที่ หวั เรื่อง ตัวชวี้ ัด เนอื้ หา จำนวน ชวั่ โมง 9. การแสดงความต้องการการเสนอ/ ใหค้ วามช่วยเหลอื /บริการ รวมท้งั การ ตอบรบั /ปฏิเสธ การ ใหค้ วาม ชว่ ยเหลือ/บรกิ าร การใช้คำ วลแี ละรูป ประโยคเพ่ือแสดงความต้องการ การ เสนอ/ใหค้ วามช่วยเหลอื /บริการ รวมทัง้ การตอบรับ/ปฏิเสธในการให้ ความช่วยเหลอื /บริการในโอกาสและ สถานที่ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ไดแ้ ก่ การซื้อสินค้า/บรกิ ารในรา้ น การสง่ั จอง ตัว๋ เครอ่ื งบนิ /รถไฟ/ภาพยนตร์/การ บรกิ ารในบริษัททวั ร์ การจองโรงแรม/ ทพี่ ัก การใช้บริการในท่ีทำการ ไปรษณยี /์ ธนาคาร/รา้ นอินเตอรเ์ น็ต ตวั อย่าง คำ วลี และรปู ประโยค เช่น - May I help you? - What can I do for you? - Let me.............................. - Shall I ...............................? - Is there anything I can do for you? - I would like......................... - I prefer................................. - I’d rather.............................. - How much..............................? - How about..............................? - I’m afraid..............................? - We recommend............................ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 112 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เร่ือง ตวั ชีว้ ัด เน้ือหา จำนวน ชวั่ โมง - Would you please..........................? - Please let me know......................... - It’s occupied. etc. 10. ภาษาในการแนะนำสินค้า และ บริการในท้องถิ่น 2 What should you อ่านและทำตามคำแนะนำ 1. การใช้พจนานุกรม (Dictionary) 6 do? ในการใช้คูม่ ือ ป้าย 1.1 ทบทวนการคา้ หาความหมายของ คำแนะนำวิธีการปรงุ ขอ้ คำศัพท์โดยเรียงตามตวั อกั ษรของ ควรระวงั และป้ายประกาศ คำศัพทท์ ่ีค้นหาจากa ถึง z 1.2 ให้อ่านวธิ ีการใช้พจนานุกรมและ ข้อมูลต่าง ๆ ทอ่ี ยใู่ นสว่ นหน้า (คำ ชี้แจงในการใช้) ของ Dictionary ให้ เขา้ ใจ 1.3 เมอ่ื คน้ หาคำศัพท์พบแลว้ ให้ศกึ ษา วิธีการอ่านออกเสยี งหนา้ ที่ของคำ ความหมายและ ตวั อย่างในการใช้ (ซง่ึ คำบางคำอาจจะทำ หน้าทไี่ ด้หลายอย่าง) และคำทม่ี ี ความหมายใกลเ้ คียงกัน เช่น drug (ดรัก) n. ยา ผลิตภัณฑ์ยา ยา เสพติด สนิ คา้ ท่เี ก่ยี วกบั สุขภาพที่ขาย ในรา้ นขายยา vt. ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 113 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เร่ือง ตัวชวี้ ดั เนือ้ หา จำนวน ชัว่ โมง drugged, drugging ผสมกบั ยา ทำให้ ตดิ ยา ทำให้ไดร้ บั พิษจากยา drug on the market สนิ ค้าทีม่ มี ากเกินความ ต้องการในตลาด 1.4 การค้นหาคำศัพทจ์ าก Internet 2. การวิเคราะห์ศัพทแ์ ละรูปประโยค ท่ใี ช้ในสัญลกั ษณ์ ป้ายประกาศ/ คำแนะนำในการใช้/ คำแนะนำ/คำเตือนต่าง ๆ 2.1 การวิเคราะห์ศัพท์โดยการรจู้ ัก ส่วนที่เป็นรากศัพท์(Root) อุปสรรค หรอื ทีค่ ำเตมิ ไปข้างหนา้ (Prefix) และ ปจั จยั หรือคำทเ่ี ติม ขา้ งหลงั (Suffix) โดยทราบ ความหมายของส่วนประกอบของ คำศัพท์ต่าง ๆ เหล่านัน้ กจ็ ะทราบ ความหมายของศัพท์ได้ เช่น Prefix : re = again anti = againsttele = far etc. Suffix : ant = person er = person who dom = condition ern = direction etc. 2.2 รูปประโยคที่ใชใ้ นสญั ลกั ษณ์/ป้าย ประกาศ/คำแนะนำในการใช้/ คำแนะนำ/คำเตือนตา่ ง ๆ ซึ่งจะใช้รูป ประโยคคำสงั่ (Imperative Sentence) ทัง้ ในลกั ษณะบอกเลา่ และ ปฏเิ สธ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หนา้ 114 สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศกึ ษา การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชีว้ ัด เนอื้ หา จำนวน ช่ัวโมง เชน่ - Don’t smoke. - No smoking. - No entry. - Put some oil in the pan, then put the garlic and stir until it become yellow. etc. 3. สัญลักษณแ์ ละปา้ ยประกาศตา่ ง ๆ (Signs & Notices) ร้จู กั ความหมาย ของสญั ลกั ษณ์และปา้ ยประกาศทพี่ บ ในชีวิตประจำวันและการประกอบ อาชีพ เช่น การปฏิบัติตนในแหล่ง ทอ่ งเทีย่ ว โรงแรม พพิ ธิ ภณั ฑ์ โรงงาน สำนกั งาน ยานพาหนะ เป็น ตวั อยา่ ง เช่น = Don’t take photograph. = Don’t take durian inside. = Handicapped = elevation or lift = do not disturb = no parking = danger = safety first = Disabled Symbol ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หนา้ 115 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ที่ หัวเร่ือง ตัวชว้ี ดั เนื้อหา จำนวน ชัว่ โมง 4. สลากยาและคู่มือในการใชอ้ ุปกรณ์ ต่าง ๆ(Instructions) การอ่าน ทำ ความเข้าใจและปฏิบตั ิตามคำแนะนำ ในการใช้ยาและอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีใช้ใน ชวี ิตประจำวนั เชน่ หม้อหงุ ข้าวไฟฟา้ เคร่ืองซักผ้า คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถอื เปน็ ต้น โดยใหเ้ ข้าใจ สำนวนหรอื โครงสร้างของประโยคท่ีมัก ใช้ เชน่ - Keep out of reach of children. - Take one tablet after each meal. - Shake well before use. การใช้ Active Voice และ Passive Voice Modal verb Direct Speech, Indirect speech, Conjunction และ Connective words ทส่ี ำคญั เช่น - You should have it directly after meal. - The doses must not be divided. - Don’t use if the package is open. - First open the can with the opener. Pull it in a bowl. Then put some chopped chili, lemon juice and fish sauce. After that mix them together. ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 116 สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ช้ีวดั เน้ือหา จำนวน ชัว่ โมง 3 Hello, could you ติดตอ่ ส่อื สารทางโทรศัพท์ 5. คำแนะนำและคำเตอื นตา่ ง ๆ tell me.............? ไดค้ ล่องแคล่ว (Tips and Warning) 8 รจู้ กั วธิ กี ารอา่ นและตคี วามคำแนะนำ คำชแี้ จง และคำอธบิ ายต่าง ๆ เชน่ พยากรณอ์ ากาศ ประกาศเตือนภยั คำแนะนำในการเข้าไปในสถานทต่ี า่ ง ๆ คำอธบิ ายสนิ ค้าและส่วนประกอบ หรือเคร่ืองปรงุ วิธกี ารปรงุ อาหาร เป็น ตน้ 6. การอ่านแผน่ ประชาสัมพันธ์การ แพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัส โคโรนา 2019 1. การติดตอ่ ทางโทรศัพท์กับผทู้ ่ี คนุ้ เคย รจู้ ักวิธกี ารพูดโตต้ อบทางโทรศพั ท์กับ เพ่ือน ญาติ พ่นี อ้ งและผู้ท่ีคนุ้ เคยใน เร่ืองตา่ ง ๆ โดยใช้สำนวนและภาษาที่ เหมาะสม เช่น - Is ……………. at home? - Could I speak to…… please? - May I speak to ……. please? - She/he is out. - Sorry, she’s not here now. - Would you like to wait? - Will you leave a message? - May I take a message for her/him? - Wait a minute, please.. ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 117 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ชีว้ ัด เนื้อหา จำนวน ชั่วโมง - Will you hole on? - Just a moment, please - Please tell ............... to call me at....................... 2. การติดต่อทางโทรศพั ท์เพ่ือสอบถาม ข้อมูลตา่ ง ๆ การใชส้ ำนวนภาษาทใี่ ชพ้ ูดทางโทรศัพท์ เพอื่ สอบถามข้อมลู ต่าง ๆ ท่ีต้องการ ทราบโดยใช้รปู ประโยคขอร้อง /ขอร้อง อย่างสภุ าพ (request,polite, request) ประโยค direct/ indirect speech ประโยคคำถามลักษณะตา่ ง ๆ ประโยคแสดงความคิดเห็นและการ ขอบคุณ เชน่ การสอบถามเส้นทาง การเดนิ ทางไปท่ีต่าง ๆ สอบถามตาราง รถไฟ เคร่ืองบิน สอบถามข้อมลู ด้าน การคุ้มครองผบู้ รโิ ภค/ สขุ ภาพอนามยั / พยากรณ์อากาศ เป็นต้น ตัวอย่างประโยคที่ใช้ - Hello, I’d like to ask about................ - Could you tell me.............., please? - Would you mind giving me the information about……….? - Can/Could you....................? - May/Can/Could I..................? - Don’t......................, please? - At what time.....................? - How many...........................? ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 118 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ชีว้ ัด เนอื้ หา จำนวน ชวั่ โมง - How far..............................? - How much..............................? - I need your help...................? - Pradon. - I think.............................. - Well, I must.............................. - In my opinion, .............................. - Thanks. /Thank you. - Sorry. /I’m sorry. - You’re welcome. 3. การตดิ ตอ่ ทางโทรศพั ท์เพ่ือการ ประกอบอาชีพ 1. วธิ ีการพดู โต้ตอบทางโทรศัพท์ เพ่ือ ถาม-ใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั การประกอบ อาชีพ โดยใช้สำนวนและภาษาที่ เหมาะสมในการสอบถามขอ้ มูลเก่ียวการ สมัครงาน การซื้อ-ขายสนิ คา้ การให้ ข้อมูลเก่ยี วกับคุณภาพและราคาของ สินคา้ การสง่ เสรมิ การขายการต่อรอง ราคา การรับและส่งของ ตวั อยา่ งประโยคที่ใช้ - Hello. I’d like to ask/know about...................... - Can/could you tell me about...........................? - May/Could I speak to.........., please? - Can/Could you inform me about..................? - What is the position required? ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 119 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) ที่ หัวเรื่อง ตัวช้วี ดั เนอื้ หา จำนวน ชั่วโมง - What is the qualification? - How can I apply for this position? - When is the dateline of the application? - Do I have to send the application form? - Should I also send the resume/reference? - When/Where will the interview take place? - What kind of goods are available? - How much does it cost? - How can I send the order? - Is there any discount? - How about the present promotion? - How about the quality? - Where/When can I buy this product? - What is the product’s significance? - Please let me know if................... - I’m interested in...........................- That’s very interesting. - I’m very appreciated......................... - When will I receive the product? ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 120 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรื่อง ตัวช้วี ดั เน้อื หา จำนวน ชั่วโมง 4 Cultural - How should I pay for the Difference 5 product? - By cash/check /credit. - Thanks for your interest /kindness/information. - It’s my pleasure. - You’re welcome. - Sorry. /I’m sorry. 2. การซ้อื -ขายสินคา้ ชุมชน รูปแบบ ออนไลน์ 1. ปฏิบัตติ นตามมารยาท 1. การใชภ้ าษาในการสื่อสารได้ วัฒนธรรมและประเพณีตา่ ง เหมาะสมตามมารยาททางสงั คมและ ๆ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา การใช้ 2. เปรยี บเทียบความ ภาษา นำ้ เสียงและภาษาท่าทางได้ แตกตา่ งระหว่างวัฒนธรรม อยา่ งเหมาะสมกบั บคุ คล เวลา สถานที่ องั กฤษกับวฒั นธรรมไทย และโอกาส เช่นการสัมผัสมอื การโบก มือ การใชส้ ีหนา้ ทา่ ทาง และนำ้ เสยี ง ประกอบการพดู การแนะนำตวั เอง การแสดงความรสู้ ึกในโอกาสต่าง ๆ การแตง่ กาย การรบั ประทานอาหาร รว่ มงานงานเล้ยี ง งานสงั สรรค์ และ กิจกรรมทางสังคมต่าง ๆ ตัวอยา่ ง เชน่ - Blow a kiss. (ส่งจบู ) - I love you. (ภาษาใบ้) - Be quiet. (เงยี บ) - That’s bad. (ยกหัวแมม่ ือ ชล้ี งไปท่ี พ้ืน) - How’s everything? - How have you been? ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 121 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรื่อง ตัวชว้ี ัด เน้อื หา จำนวน ชั่วโมง - What’s going on with your life? - How’s life? - What’s up? - May I introduce myself? - Let me introduce myself, ................. - Allow me to introduce………. to........ - Have you met......................? - Congratulations on................ - Happy Birthday.- Merry Christmas. - Happy New Year. - I’m sorry for......................... - May god bless you. - May god be with you. - I feel sorry............................... - Please pass my warm regards to..................... - Toast! - I wish you............................... - Would you mind................... - Please let me know............. - Would you please................. - May I have............................. - Can you help me.................. - You look smart. - How nice............................... - I wonder if.............................. - How to cook......................... etc. ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 122 สำนักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ที่ หัวเรอ่ื ง ตัวช้วี ดั เน้ือหา จำนวน ชัว่ โมง 2. ความเช่ือและขนบธรรมเนยี ม ประเพณขี องเจา้ ของภาษา 2.1 ความเปน็ มาของความเชื่อ ขนบธรรมเนียมและประเพณีตา่ ง ๆ ใน สังคมของเจ้าของภาษา การทำ กิจกรรมตามความเช่ือ ขนบธรรมเนยี ม และประเพณตี ่าง ๆ ในด้าน บทเพลง การแตง่ กาย อาหาร เคร่ืองด่ืมและการ ประกอบพิธีกรรมที่เก่ียวข้อง ได้แก่วนั ครสิ ตม์ าส วันขอบคุณพระเจ้า วนั วา เลนไทน์และวนั พอ่ 2.2 ความเปน็ มาของความเชอื่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณีต่าง ๆ ใน ชุมชน 3. การเปรยี บเทียบโครงสรา้ ง ภาษาไทยกับภาษาองั กฤษ เปรียบเทยี บลักษณะคำท่ีมาของคำ ความหมายและการประยกุ ต์คำใน ภาษาองั กฤษใชใ้ นภาษาไทยและคำใน ภาษาไทย ท่ีนำไปในภาษาอังกฤษ ตัวอยา่ งเชน่ - ศพั ทข์ องภาษาไทยสว่ นใหญ่มาจาก ภาษาบาลี/สันสกฤตในขณะที่ศพั ท์ของ ภาษาองั กฤษ สว่ นใหญจ่ ากภาษากรีก และโรมนั - คำในภาษาอังกฤษทีน่ ำมาใช้ใน ภาษาไทย เชน่ กโิ ลกรมั กิโลเมตร เซนติเมตร คำในภาษาไทยที่นำไปใชใ้ น ภาษาองั กฤษ เช่น Tom Yam Kung, Muai Thai เปน็ ต้น ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 123 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เร่ือง ตวั ชวี้ ัด เนือ้ หา จำนวน ชัว่ โมง โครงสรา้ งของประโยคตา่ งๆ - ประโยคความเดยี ว (Simple Sentence) - ประโยคความรวม (Compound Sentence) - ประโยคความซ้อน (Complex Sentence) - ประโยคความผสม (Compound- Complex Sentence) - การใช้ Transitive / intransitive/ auxiliary verbs - Tense ตา่ งๆ - ลกั ษณะของประโยคคำถาม - ประโยคเง่ือนไข - การใชส้ ันธาน (Conjunction) และ บพุ บท (Preposition) etc. 4. เปรยี บเทียบ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต บทกลอน ภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษ 4.1 คำและสำนวนท่ีไดร้ บั อิทธพิ ลจาก ศาสนา เชน่ - Oh, god! = คุณพระชว่ ย - Oh, my god! = พุทโธ ธัมโม สังโฆ etc. 4.2 คำพังเพย สุภาษิตท่ีมักจะใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั เช่น - It’s a piece of cake. = ปลอกกลว้ ยเข้าปาก - Silence is gold. = น่งิ เสียตำลึงทอง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หนา้ 124 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรื่อง ตวั ช้วี ัด เน้อื หา จำนวน ช่ัวโมง - Time and tide wait for no one. = เวลาและวารไี ม่เคยคอยใคร ลักษณะของบทกลอนภาษาไทยกับ ภาษาองั กฤษทเ่ี หมือนและแตกตา่ งกัน แรงบันดาลใจของกวใี นการแตง่ คำ ประพันธ์พร้อมตัวอย่างท่ีมักไดย้ นิ เสมอ ๆ เช่น Roses are red, violets are blue,sugar is sweet, but not as sweet as you. 6 Self - Sufficiency 1. ศกึ ษาค้นคว้าความรู้ 1. บทความเก่ียวกับเศรษฐกจิ พอเพยี ง 10 Economy และข้อมลู จากส่ือต่าง ๆ จากหนงั สือ หนงั สือพมิ พ์ หรือ 2. สืบค้นขอ้ มูลในด้านต่าง Websiteทเี่ กย่ี วข้อง ๆ จาก Internet 2. คำศพั ท์ วลี สำนวน ท่ีเกี่ยวขอ้ งกับ 3. เขา้ ใจและใชป้ ระโยค เศรษฐกิจพอเพียง เชน่ moral , ซับซ้อนในสถานการณต์ า่ ง moderation,reasonable, ๆ knowledge, saving เปน็ ต้น 4. การแลกเปลี่ยนข้อมูล 3. โครงสร้าง Conditional sentence ข่าวสารความรู้ (If -clause) 4. โครงสรา้ ง Imperative 5. การนำเสนอการนำเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ นรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ การตดิ คำขวญั การสมั ภาษณ์ การทำ Poster เปน็ ตน้ 6. การเล่นเกม Cross word 7. การใช้ Internet ในการสบื คน้ ข้อมูล ของแหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ ในอำเภอ พนสั นิคม ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 125 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชว้ี ัด เนือ้ หา จำนวน ช่วั โมง 7 Have you 1. ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ 1. แบบสอบถาม (Questionnaire) 12 exercised และข้อมลู จากส่ือต่าง ๆ today? 2. สบื ค้นข้อมลู ในดา้ นตา่ ง ๆ เกยี่ วกบั การดูแลสุขภาพจากหนังสือ จาก Internet 3. เข้าใจและใชป้ ระโยค หรอื Website เกี่ยวขอ้ ง ซับซอ้ นในสถานการณต์ า่ ง ๆ 4. ใช้ Tense ทีย่ ่งุ ยากและ 2. การอา่ นออกเสียง คำศัพท์ สำนวน ซบั ซอ้ น 5. แลกเปล่ียนข้อมลู วลที เี่ กี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น ข่าวสารความรทู้ ง้ั อยา่ งเปน็ ทางการและไม่เป็นทางการ aerobics, once, relaxed, health, healthy, firm, have a headache เปน็ ต้น 3. ประโยคท่ีเขยี นดว้ ย Modal Verb เช่นshould, must, ought to, had better, will เป็นต้น 4. Present Perfect Tense 5. การสำรวจแบบสอบถามเก่ียวกบั สุขภาพ บุคคลใกลช้ ิด แล้วนำเสนอ ขอ้ มูลเปน็ รูปกราฟหรือแผนภูมิ 6. การนำเสนอข้อมลู เกีย่ วกบั การตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 ของอำเภอ พนสั นคิ ม 8 Shall we save 1. ศกึ ษาค้นคว้าความรู้และ 1. บทความเก่ยี วกับการประหยัด 6 the energy? ข้อมูลจากส่ือตา่ ง ๆ 2. สืบค้นข้อมูลในดา้ นต่าง ๆ พลงั งาน(Energy Saving) จาก จาก Internet 3. เข้าใจและใชป้ ระโยค หนงั สอื หนังสอื พิมพห์ รือ Website ซับซอ้ นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ท่ีเกย่ี วข้อง 4. ใช้ Tense ท่ียงุ่ ยากและ ซบั ซ้อนได้อย่างถูกต้อง 2. เสยี ง คำศัพท์ วลี สำนวนที่ 5. แลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสาร ความรทู้ ัง้ อย่างเป็นทางการ เกย่ี วขอ้ งกับการประหยัดพลงั งาน และไมเ่ ปน็ ทางการ เชน่ reuse, recycle, plug in, unplug, turn on, turn off, reduce เป็นตน้ 3. โครงสร้าง เร่ือง Imperative + V1 _________. ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 126 สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หัวเรื่อง ตัวชี้วดั เนื้อหา จำนวน ชว่ั โมง 9 What have I 4. การพดู เชิญชวนใหร้ ว่ มมอื กนั done? 10 ประหยดั พลงั งาน เชน่ น้ำมันเชื้อเพลิง 10 What is your e- 10 mail แก๊สธรรมชาติ พลงั งานไฟฟ้า น้ำและ address? ทรัพยากรอืน่ ๆ 1. ศกึ ษาคน้ คว้าความรู้ 1. บทสนทนาเก่ียวกบั การไปตัดเส้อื และข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ 2. การอา่ นออกเสยี ง คำศัพท์ วลี 2. อ่านออกเสียงคำศัพท์ สำนวน ทเ่ี กี่ยวข้องกบั การไปตัดเสอื้ วลี สำนวน ได้อยา่ งถูกต้อง เชน่ measure, sleeves, seam, 3. เขา้ ใจและใช้ประโยค shorten เปน็ ต้น ซบั ซอ้ นในสถานการณ์ต่าง 3. โครงสร้าง have something done ๆ 4. โครงสรา้ ง Reported Speech 4. ใช้ Tense ทยี่ ุ่งยากและ 5. การเลา่ เรื่อง (สถานการณ์) ซบั ซอ้ น 5. แลกเปลี่ยนขอ้ มูล ข่าวสารความรู้ 1. การสบื ค้นข้อมูลด้าน 1. การขอมี e-mail ตา่ ง ๆ จาก Internet 2. การเปดิ /ปิด e-mail และรบั ส่ง 3. ภาษา e-mail e-mail 4. บทอ่านแนะนำตนเองท่ีพมิ พ์มาจาก 2. ศกึ ษาค้นคว้าความรู้ e-mail และข้อมลู จากสื่อต่าง ๆ 5. การสรา้ งประโยคคำถามจากคำตอบ 3. เข้าใจและใชป้ ระโยค ท่ีใหม้ า ซบั ซ้อนในสถานการณ์ต่าง 6. การถามและการตอบข้อมูลการ ๆ เปรียบเทยี บ 4. แลกเปลย่ี นข้อมูล 7. การเขยี นแนะนำตนเองถงึ Pen pal ข่าวสารความรทู้ งั้ อย่าง โดยสง่ ทาง e-mail เปน็ ทางการและไมเ่ ป็น 8. ประโยชน์ทไ่ี ด้จากการใช้ Internet ทางการ ด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ การตดิ ต่อสือ่ สาร ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 127 สำนกั งาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวชีว้ ัด เน้อื หา จำนวน 11 Natural Disaster ช่ัวโมง 1. ศึกษา ค้นคว้าความรู้ 1. บทอา่ นเกย่ี ว Earthquake, 12 Let’s Travel และข้อมูลจากส่ือตา่ ง ๆ Tornado หรือ Flood จาก 10 2. สบื ค้นขอ้ มูลในด้านต่าง หนงั สอื พิมพ์ หรือ Website ของ ๆ จาก Internet หนงั สอื พมิ พ์ The Nation หรอื 12 3. เข้าใจและใช้ประโยคที่ Bangkok Post ซบั ซ้อนในสถานการณ์ตา่ ง 2. คำศัพท์ วลี สำนวนทเ่ี กยี่ วข้อง เช่น ๆ ได้อย่างถกู ต้อง kill, injured, die, homeless, help, 4. การใช้ Tense ท่ียุ่งยาก shelter, landslide เป็นตน้ และซบั ซ้อน 3. Past Simple Tense, Past 5. แลกเปลยี่ นข้อมูล Continuous Tense และ Past ข่าวสารความรู้ ทง้ั เปน็ Perfect Tense. ทางการและไม่เป็น 4. Compound Sentence และ ทางการ Complex Sentence 5. การถามและการตอบคำถามจากบท 1 . ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ อ่าน และข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ 6. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ (Role 2. สืบค้นข้อมลู ในด้าน Play) เปน็ ผูส้ อื่ ขา่ ว นำเสนอข่าวท่ี ตา่ ง ๆ จาก Internet เกี่ยวกับ Natural Disaster และรับส่ง E-mail 7. การเลา่ ข่าวสถานการณ์การแพร่ 3. เข้าใจและใช้ประโยคท่ี ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา ซับซ้อนในสถานการณต์ ่าง 2019 ของอำเภอพนัสนคิ ม ๆ 1. ตารางเวลาของ Bus, Train, Airplane, Boat หรือ Subway จาก สอื่ ตา่ ง ๆ เช่น แผ่นพับ หนงั สือพิมพ์ หรือ Website ทเี่ กี่ยวข้อง 2. Asking & giving Information เชน่ - Could you please tell me................? - Please tell me.............................. ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 128 สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เร่ือง ตัวช้วี ดั เนอ้ื หา จำนวน ชว่ั โมง 13 Will it rain 4. ใช้ Tense ทย่ี ุง่ ยากและ - Excuse me. Do you tomorrow? ซับซอ้ นได้ know................? 10 5. แลกเปลย่ี นขอ้ มลู 3. การบอกทิศทาง (Direction) เช่น ขา่ วสารความรู้ - Go straight. - Keep walking to...................... 1. ศกึ ษาค้นควา้ ความรู้และ - Walk past.................................. ขอ้ มูลจากสอื่ ตา่ งๆ เช่น - It’s at the opposite หนงั สือพิมพภ์ าษาองั กฤษ of.......................... และWebsite - Next to.................................... 2. แลกเปลย่ี นข้อมลู 4. Past Simple Tense และ Past ขา่ วสารความรู้ทง้ั อยา่ งเป็น Simple Tense ทางการและไมเ่ ป็นทางการ 5. การเขยี นเล่าเรอ่ื งหรือประสบการณ์ 3. เข้าใจและใช้ประโยคที่ ในการท่องเที่ยว ซบั ซอ้ นในสถานการณ์ต่าง 6. การวางแผนการเดินทางท่องเทีย่ ว ๆ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 1. บทอา่ น การพยากรณ์อากาศ 4. สืบค้นข้อมูลในดา้ นตา่ ง (Weather Forecast) ท้งั ในประเทศ ๆ จาก Internet และต่างประเทศ 2. การถาม-ตอบ คำถามจากบทอา่ น การพยากรณ์อากาศ (Weather Forecast) 3. การถามและการขอข้อมูล (Asking & Giving Information) เสยี ง คำศัพท์ วลี สำนวนทมี่ ักใช้บ่อยๆ ในข่าวพยากรณ์อากาศ เชน่ shower, windy,heavy, scatter, stormy, sunrise, sunset, maximum, minimum, Northeast ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 129 สำนักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวช้ีวดั เน้อื หา จำนวน 14 Global Warming ชัว่ โมง 1. ศกึ ษาค้นควา้ ความรู้ 4. Parts of Speech การทำคำนาม 15 Urgently Wanted และข้อมลู จากสื่อต่าง ๆ Noun ให้เปน็ Adjective 10 2. สืบค้นขอ้ มูลในดา้ น 5. Website ทีเ่ ก่ยี วกบั การพยากรณ์ ต่างๆ จาก Internet อากาศ Role play เป็นผู้ประกาศข่าว 6 3. เขา้ ใจและใชป้ ระโยค การพยากรณ์อากาศ ซบั ซ้อนในสถานการณต์ ่าง 1. บทความเกย่ี วกับภาวะโลกร้อน ๆ (Global Warming) สาเหตขุ องภาวะ 4. ใช้ Tense ท่ียงุ่ ยากและ โลกร้อนหรือผลกระทบของภาวะโลก ซบั ซอ้ น รอ้ นจากหนังสือหรอื หนงั สือพิมพห์ รอื 5. แลกเปลย่ี นข้อมูล Website ที่เกย่ี วข้อง ข่าวสารความรทู้ ้งั อยา่ งเป็น 2. การอ่านออกเสียงคำศพั ท์ วลี ทางการและไม่เปน็ ทางการ สำนวน ทเี่ ก่ยี วข้อง เช่น temperature, increase, 1. ศึกษาคน้ คว้าความรู้ melt,burn, earth, hot เป็นต้น และข้อมูลจากส่ือต่าง ๆ 3. โครงสรา้ ง Passive Voice 2. สบื คน้ ขอ้ มลู ในดา้ นตา่ ง 4. บทสนทนาท่เี ก่ียวกับการป้องกัน ๆ จาก Internet และ หรอื ลดภาวะโลกรอ้ น รับส่ง 5. Mind map แสดงเหตผุ ลและ e-mail ผลกระทบของภาวะโลกร้อน 3. เข้าใจและใช้ประโยค 1. โฆษณาตำแหน่งงาน (Job ซบั ซอ้ นในสถานการณ์ต่าง Advertisement) จากหนงั สือ ๆ หนงั สือพิมพ์ หรอื Website เก่ียวขอ้ ง 2. คำศพั ท์ สำนวน วลี โครงสรา้ งที่ เกี่ยวขอ้ ง เช่น qualification, salary, graduation, age, photo, apple เปน็ ต้น 3. การเขียนประวตั ิ (Resume) เพือ่ สมัครงานการสง่ e-mail สมัครงาน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หนา้ 130 สำนักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรื่อง ตวั ชวี้ ัด เน้อื หา จำนวน ชัว่ โมง 4. การแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสารความรู้ท้ังอย่างเป็น ทางการและไมเ่ ป็นทางการ 16 ภาษาอังกฤษสำหรบั 1. ใชค้ ำศพั ท์เกยี่ วกับการ 1. คำศัพทเ์ กี่ยวกับการใหบ้ ริการนวด 5 พนกั งานนวดแผนไทย ให้บริการนวดแผนไทยได้ แผนไทย เช่น massage, relax etc. ถูกต้อง 2. สำนวนภาษาการกล่าวเชญิ ชวน 2. ใช้สำนวนภาษาในการ ลูกคา้ การนดั หมายลกู ค้า การให้ เชญิ ชวนนัดหมายลกู คา้ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั การบริการนวดแผน และการให้ขอ้ มูลเกีย่ วกบั ไทย เชน่ การนวดแผนไทย Come this way to the massage room. Please straight out your foot. Please check your belongings before you leave. Would you like to return for another massage later? 3. การแนะนำผู้ใช้บริการในการ ปฏบิ ัตติ นภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 131 สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรื่อง ตวั ช้ีวัด เน้ือหา จำนวน 17 ภาษาอังกฤษสำหรบั ชัว่ โมง พนักงานขาย 1. ผ้เู รียนสามารถใช้ถอ้ ยคำ 1. การโตต้ อบและชักชวนลูกคา้ เขา้ 10 สำนวนและประโยคตอบโต้ ชมร้านขายของท่ีระลึก ในการบอกข้อมลู ความ 2. การฝึกสนทนาในสถานการณ์ที่ ประสงค์ในการซื้อสนิ ค้าได้ กำหนดและการฝึกเรียงลำดับประโยค ในสถานการณด์ งั นี้ 3. การต่อรองราคาสนิ คา้ ในร้านค้า 1.1 การทักทายเชิญชวน 4. การฝึกเรยี งลำดับบทสนทนา ลูกค้า 5. การจองต๋วั รถโดยสาร รถไฟ 1.2 เจรจาซอ้ื ขายและ เคร่ืองบิน ตอ่ รองราคาสนิ ค้าได้ 6. การฝกึ เรยี งลำดับบทสนทนา 1.3 โต้ตอบในการซื้อขาย 7. แบบทดสอบท้ายบท ตั๋วโดยสาร บอกจุดหมาย 5. การแนะนำสินค้าประเภทตา่ ง ๆ ปลายทางสำหรับรถโดยสาร ของชุมชน เช่น เคร่ืองจกั สาน รถไฟ และเครื่องบนิ ได้ ผลติ ภณั ฑ์จากสตั ว์ ขนมไทย ฯลฯ 1.4 มีความร้คู วามเข้าใจ และสามารถนำความรู้ เกี่ยวกบั การเจรจาซือ้ ขาย ไปใชไ้ ด้ทกุ สถานการณ์ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 132 สำนักงาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2555) คำอธิบายรายวชิ า พว03010 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ จำนวน 3 หนว่ ยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 2.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจและทักษะพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งมีชีวิต ระบบ นิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม ในท้องถ่นิ ประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปล่ยี นแปลง ของโลก และดาราศาสตร์ มจี ิตวทิ ยาศาสตร์และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในการดำเนนิ ชวี ติ ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเก่ียวกับเร่ืองตอ่ ไปนี้ 1. ความหมาย ความสำคญั ประโยชน์และประเภทของโครงงาน 2. แนวคิดหลักการลำดบั ขัน้ ตอนการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ 3. การจัดทำเคา้ โครงของโครงงานวิทยาศาสตร์ 4. การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 5. การประเมินผลโครงงานวิทยาศาสตร์ การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาจากชุดการเรยี น ฝกึ ปฏิบตั ิจากผู้รแู้ ละจากเอกสารสอ่ื 2. บรรยาย การสาธิต การศกึ ษาค้นควา้ เปน็ กลุม่ รายบุคคล การอภิปราย การนำเสนอ การวัดและประเมนิ ผล 1. การสงั เกตพฤตกิ รรม การมสี ่วนรว่ ม ฝึกปฏบิ ัติ 2. รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ผลงาน ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 133 สำนกั งาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2555) รายละเอยี ดคำอธิบายรายวชิ า พว03010 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ จำนวน 3 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเหน็ คุณค่าเกย่ี วกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงิ่ มชี วี ิต ระบบ นเิ วศ ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม ในท้องถิน่ ประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลี่ยนแปลง ของโลก และดาราศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในการดำเนนิ ชวี ติ ที่ หวั เรือ่ ง ตัวชว้ี ัด เนอ้ื หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 โครงงาน 1. บอกความหมาย วิทยาศาสตร์ ความสำคัญ ประโยชนแ์ ละ 1. ความหมาย ความสำคญั ประโยชน์ 5 ประเภทของโครงงานได้ 2. รู้เข้าใจ ข้ันตอนการทำ และประเภทของโครงงาน โครงงานวิทยาศาสตร์ได้ 3. รู้เข้าใจ การจดั ทำเค้าโครง 2. แนวคิดหลกั การการทำโครงงาน 10 ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้ 3. กระบวนการข้นั ตอนการทำ 60 4. ร้เู ขา้ ใจการดำเนินงานตาม โครงงาน 25 หวั ขอ้ ท่ีกำหนดในการเขยี น - การเลอื กเนื้อหาท่ีสนใจ โครงงาน - การสร้างโครงงาน 5. นำความรู้ในการจดั ทำ - การลงมือปฏบิ ตั ิ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ไปใชใ้ น - การรายงานผลการดำเนินโครงงาน ชีวิตประจำวนั ได้ 4. การเขยี นเค้าโครงของโครงงาน 5. การประเมินผลโครงงาน 20 - เอกสารโครงงาน - กระบวนการทำงาน - ผลงาน / ชนิ้ งาน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 134 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2555) สาระการประกอบอาชีพ สาระการประกอบอาชีพ เปน็ สาระเกยี่ วกับการมองเห็นช่องทาง และการตดั สินใจประกอบอาชีพ เรยี นรู้ ทกั ษะในอาชีพ การจดั การอาชีพอยา่ งมีคุณธรรม และการพฒั นาอาชีพให้มีความมนั่ คง ประกอบด้วยมาตรฐานการ เรียนรู้ ดงั นี้ สาระการประกอบอาชีพ ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน ดังน้ี มาตรฐานที่ 3.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติที่ดใี นงานอาชีพ มองเหน็ ชอ่ งทางและตดั สนิ ใจ ประกอบอาชีพได้ตามความต้องการ และศักยภาพของตนเอง มาตรฐานท่ี 3.2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในอาชพี ทต่ี ัดสนิ ใจเลอื ก มาตรฐานท่ี 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจดั การอาชีพอย่างมีคุณธรรม มาตรฐานที่ 3.4 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการพฒั นาอาชีพให้มีความมน่ั คง มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั ในแต่ละมาตรฐาน มาตรฐานท่ี 3.1 มีความรู้ความเข้าใจและเจตคตทิ ด่ี ีในงานอาชพี มองเหน็ ชอ่ งทางและตดั สินใจประกอบ อาชพี ไดต้ ามความต้องการและศักยภาพของตนเอง มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง มคี วามรู้ความเขา้ ใจและเจตคติที่ดีใน 1. อธบิ ายความหมายความสำคัญวเิ คราะหล์ กั ษณะงานขอบขา่ ยงาน งานอาชพี วิเคราะหล์ ักษณะงาน อาชีพในชมุ ชนสังคมประเทศภมู ภิ าค 5 ทวีปไดแ้ ก่ทวีปเอเซียทวีป ขอบข่ายงานอาชีพในชุมชนสังคม ออสเตรเลียทวีปอเมริกาทวีปยโุ รปและทวปี อัฟรกิ าทจ่ี ะนำไปสู่ความ ประเทศและภมู ิภาค 5ทวปี ได้แก่ทวีป มนั่ คงทีเ่ หมาะสมกบั ศักยภาพ5 ดา้ นได้แกศ่ ักยภาพของ เอเชยี ทวีปออสเตรเลยี ทวีป ทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพ้นื ท่ศี ักยภาพของพ้นื ท่ีตามลักษณะ อเมรกิ าทวปี ยุโรปและทวปี อัฟริกาท่ี ภูมอิ ากาศศักยภาพของภูมปิ ระเทศและทำเลท่ีตงั้ ของแตล่ ะพื้นท่ี เหมาะสมกบั ศักยภาพ5 ด้านได้แก่ ศกั ยภาพของศลิ ปะวัฒนธรรมประเพณแี ละวิถีชีวติ ของแต่ละพ้นื ท่ี ศักยภาพของทรพั ยากรธรรมชาติใน ศักยภาพของทรพั ยากรมนุษย์ในแตล่ ะพน้ื ที่และสอดคลอ้ งกับชมุ ชน แต่ละพ้ืนท่ศี ักยภาพของพนื้ ท่ีตาม สงั คม ลักษณะภูมอิ ากาศศักยภาพของภูมิ 2. อธบิ ายเหตผุ ลปจั จยั ความจำเป็นในการนำอาชพี ไปส่คู วามม่นั คงท่ี ประเทศและทำเลท่ีต้ังของแต่ละพนื้ ที่ เหมาะสมกับศักยภาพของตนเองได้ ศักยภาพของศิลปะวฒั นธรรมประเพณี 3.ตรวจสอบระบบการตัดสนิ ใจขยายอาชพี และวิถีชีวติ ของแต่ละพื้นท่ีศกั ยภาพ 4. ปฏบิ ตั ิการวเิ คราะหเ์ พ่อื การขยายอาชพี ได้ ของทรพั ยากรมนษุ ย์ในแตล่ ะพืน้ ทีแ่ ละ สอดคลอ้ งกับชุมชนเพอื่ การขยาย อาชพี ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 135 สำนกั งาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2555) มาตรฐานท่ี 3.2 มีความรคู้ วามเขา้ ใจทักษะในอาชีพท่ตี ัดสินใจเลือก มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวัง มีความรคู้ วามเข้าใจทักษะในการขยาย 1. อธิบายทักษะท่เี กี่ยวข้องในกระบวนการผลติ และการตลาดท่ใี ช้ อาชพี เพอื่ สร้างความม่นั คงบนพ้ืน นวัตกรรมเทคโนโลยใี นการขยายอาชพี ท่ีตดั สินใจเลือก ฐานความร้ใู นกระบวนการผลิต 2. ตรวจสอบระบบความพร้อมในการขยายอาชีพให้มีความม่ันคง กระบวนการตลาดที่ใชน้ วัตกรรม เทคโนโลยีทเี่ หมาะสมมีความ หลากหลายทางชีวภาพพฒั นาตอ่ ยอด และประยุกตใ์ ช้ภูมิปัญญา มาตรฐานที่ 3.3 มีความรคู้ วามเขา้ ใจในการจดั การอาชีพอย่างมคี ณุ ธรรม มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรูท้ ีค่ าดหวัง มีความรู้ความเขา้ ใจและสามารถจัดทำ 1. อธบิ ายความหมายความสำคญั ของการจัดการอาชพี เพ่ือการ แผนงานและโครงการธุรกิจเพ่อื ขยาย ขยายอาชีพได้ อาชพี เข้าส่ตู ลาดการแข่งขนั 2. ดำเนินการจัดทำและหรอื ปรบั ปรุงแผนธุรกจิ ด้านการจัดการการ ตามศกั ยภาพ 5 ดา้ นไดแ้ ก่ศกั ยภาพ ผลติ หรือการบริการและดา้ นการจัดการการตลาดตามศกั ยภาพ5 ของทรัพยากรธรรมชาตใิ นแต่ละพนื้ ท่ี ด้านไดแ้ กศ่ ักยภาพของทรพั ยากรธรรมชาตใิ นแตล่ ะพนื้ ที่ศักยภาพ ศักยภาพของพ้ืนที่ตามลกั ษณะ ของพื้นท่ตี ามลักษณะภมู ิอากาศศกั ยภาพของภมู ิประเทศและทำเล ภมู อิ ากาศศักยภาพของภมู ปิ ระเทศ ที่ตงั้ ของแต่ละพื้นทีศ่ ักยภาพของศิลปวัฒนธรรมประเพณีและวิถชี ีวติ และทำเลทตี่ ้ังของแต่ละพ้นื ท่ีศกั ยภาพ ของแตล่ ะพ้นื ทศ่ี ักยภาพของทรพั ยากรมนษุ ย์ในแตล่ ะพน้ื ที่และ ของศลิ ปวฒั นธรรมประเพณแี ละวิถี แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ ชีวติ ของแต่ละพืน้ ที่ศักยภาพของ 3. ตรวจสอบระบบธุรกจิ เพ่ือการขยายอาชีพได้ ทรัพยากรมนุษยใ์ นแต่ละพื้นท่ีและ 4. ปฏิบตั กิ ารจดั ทำแผนและโครงการขยายอาชีพได้ แนวคิดปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอื่ สคู่ วามมน่ั คง ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนัสนคิ ม หน้า 136 สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศึกษา การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2555) มาตรฐานท่ี 3.4 มีความรคู้ วามเขา้ ใจในการพัฒนาอาชีพให้มีความมนั่ คง มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั มีความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาอาชพี 1. อธบิ ายความหมายความสำคัญความจำเป็นในการพัฒนาอาชพี ให้มี ให้มีผลิตภณั ฑห์ รืองานบริการสร้าง ผลิตภัณฑ์หรืองานบริการสรา้ งรายได้พอเพยี งต่อการดำรงชีวิตมเี งนิ รายได้พอเพยี งต่อการดำรงชีวิตมเี งิน ออมและมที นุ ในการขยายอาชีพ ออมและมีทุนในการขยายอาชีพ 2. วิเคราะห์ศกั ยภาพธุรกิจการตลาดการผลติ หรอื การบริการแผน ธุรกจิ เพ่อื สรา้ งธุรกจิ ให้มคี วามมั่นคง 3. อธบิ ายวธิ ีการตรวจสอบการพัฒนาอาชีพใหเ้ ขา้ สู่ความม่ันคง 4. ปฏิบตั กิ ารจัดทำแผนและโครงการพฒั นาอาชีพใหม้ ีความมน่ั คง ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 137 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศึกษา การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) คำอธิบายรายวิชา สาระการประกอบอาชีพ หมวดวิชา อช31003 พัฒนาอาชีพให้มคี วามมั่นคง ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย จำนวนหนว่ ยกติ 2 หนว่ ย --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนาอาชีพ ให้มผี ลิตภณั ฑห์ รืองานบริการ สร้างรายได้พอเพยี งต่อการ ดำรงชีวติ มีเงินออมและมที นุ ในการขยายอาชีพ ศกึ ษา และฝึกทักษะเก่ียวกับการพัฒนาอาชีพ เพ่ือให้มคี วามม่ันคง ดังนี้ คือ ความหมาย ความสำคัญ ความจำเปน็ ในการพฒั นาอาชพี ศักยภาพธรุ กิจของตนเอง ชุมชน ความจำเป็นและคุณค่าของการวเิ คราะห์ศกั ยภาพธุรกจิ การวเิ คราะห์ ตำแหน่งธุรกจิ (ระยะเรม่ิ ตน้ ระยะสร้างตวั ระยะทรงตวั ระยะตกต่ำหรือสงู ขึ้น) การวเิ คราะหธ์ ุรกจิ ตามศักยภาพ 5 ดา้ นได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพืน้ ที่ ศกั ยภาพของพ้นื ที่ตามลักษณะภูมอิ ากาศ ศักยภาพของ ภูมิประเทสและทำเลทีต่ ั้งของแต่ละพ้นื ท่ี ศกั ยภาพของศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณีและวิถีชีวติ ของแต่ละพน้ื ท่ี ศกั ยภาพของทรพั ยากรมนุษย์ในแตล่ ะพ้นื ท่บี นเส้นทางของเวลา การจัดทำแผนพัฒนาการตลาด การกำหนดทิศทางการตลาด การกำหนดเป้าหมายการตลาด การ กำหนดกลยทุ ธ์สูเ่ ปา้ หมายบนพน้ื ฐานศักยภาพธุรกจิ ทเ่ี ป็นอยู่ การวเิ คราะห์กลยุทธก์ ำหนดกิจกรรม แผนการ พัฒนาการตลาด การจดั ทำแผนพัฒนาการผลิตหรือการบริการ การกำหนดคณุ ภาพผลผลิตหรอื การบริการ การวเิ คราะห์ ทุนปัจจัยการผลติ หรือการบริการ การกำหนดเป้าหมายการผลติ หรือการบริการ การกำหนดแผนกิจกรรม พัฒนา ระบบการผลติ หรือการบรกิ าร การพฒั นาธรุ กิจเชิงรกุ ความจำ เป็นและคณุ คา่ ของธุรกจิ เชิงรกุ การแทรกความนิยมเข้าสคู่ วามตอ้ งการ แทจ้ ริงของผู้บริโภค รูปลักษณ์คุณภาพใหม่ เพิม่ ช่องทางเข้าถึงลกู คา้ ปฏิบตั ิการ จดั ทำแผน และโครงการพัฒนาอาชีพให้มคี วามมน่ั คง การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ เปน็ การศึกษาปฏบิ ตั จิ รงิ ด้วยการวเิ คราะห์ศักยภาพธรุ กจิ การจัดทำแผนพัฒนาการตลาด การจัดทำ แผนพฒั นาการผลติ การพฒั นาธุรกิจเชงิ รุก การพัฒนาองคก์ รใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ อาจสรา้ งสถานการณ์จำลองขน้ึ มา หรอื พาไปศึกษาของจริง เพื่อฝกึ ปฏบิ ตั แิ ละนำแผนปฏบิ ัติการตา่ ง ๆ เขา้ สู่วิถชี ีวติ หรอื ดำเนนิ การจรงิ ตามวถิ ชี วี ิต เพือ่ ผูเ้ รียนเกิดการเรียนรู้สามารถพฒั นาอาชพี ของตน หรอื ชุมชน ใหม้ คี วามมั่นคง (พออยู่ พอกนิ มรี ายได้ มกี าร ออม และมีทนุ ในการขยายอาชพี ) ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 138 สำนกั งาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) การวัดและประเมนิ ผล ประเมินจากสภาพจรงิ จากผลงานการเรียนรู้ และผลการเรยี นรู้ การจัดทำแผนและโครงการพัฒนาอาชีพ ใหม้ คี วามมน่ั คง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 139 สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศกึ ษา การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555) รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา อช11003 พฒั นาอาชพี ให้มีความมั่นคง จำนวน 2 หนว่ ยกติ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ****************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจในการพฒั นาอาชพี ให้มีผลติ ภัณฑห์ รอื งานบริการ สรา้ งรายได้พอเพียงตอ่ การดำรงชวี ิต มเี งินออมและมที นุ ในการขยายอาชพี ที่ หัวเร่ือง ตัวช้ีวดั เน้อื หา จำนวน 1 ศกั ยภาพธรุ กจิ ชวั่ โมง 1.อธิบายความหมาย 20 ความสำคญั และความ 1.ความหมาย ความสำคญั และความ จำเป็น จำเปน็ ของการพัฒนาอาชีพ ของการพฒั นาอาชพี เพื่อให้ 2.ความจำเปน็ ของการวเิ คราะห์ มคี วามม่ันคง ศกั ยภาพธุรกิจ 2.อธิบายความจำเปน็ และ 3.การวเิ คราะหต์ ำแหน่งธุรกจิ คณุ ค่าของการวิเคราะห์ - ระยะเริ่มต้น ศักยภาพของธรุ กิจ - ระยะสร้างตวั 3.วเิ คราะหต์ ำแหนง่ ธุรกจิ ใน - ระยะทรงตวั ระยะต่าง ๆ - ระยะตกต่ำหรอื สูงข้นึ 4.วิเคราะห์ธรุ กจิ ตาม 4.การวิเคราะหธ์ ุรกิจตามศักยภาพ 5 ศกั ยภาพ 5 ด้านไดแ้ ก่ ด้านได้แก่ ศกั ยภาพของ ศักยภาพของทรพั ยากร ทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพ้นื ที่ ธรรมชาติในแต่ละพ้นื ท่ี ศักยภาพของพ้ืนท่ีตามลักษณะ ศักยภาพของพ้ืนท่ีตาม ภมู อิ ากาศ ศักยภาพของภมู ิประเทศ ลกั ษณะภูมอิ ากาศ ศกั ยภาพ และทำเลทตี่ ้ังของแตล่ ะพ้นื ท่ี ศกั ยภาพ ของภมู ปิ ระเทศและทำเล ของศิลปะ วฒั นธรรม ประเพณีและ ท่ตี ั้งของแต่ละพืน้ ท่ี วถิ ีชวี ติ ของแตล่ ะพน้ื ท่ี ศักยภาพของ ศกั ยภาพของศิลปะ ทรัพยากรมนษุ ย์ในแต่ละพ้ืนทบ่ี น วัฒนธรรม ประเพณี เสน้ ทางของเวลา และวถิ ชี ีวิตของแตล่ ะพื้นท่ี 5. ตัวอยา่ งธรุ กจิ ท่ีดำเนนิ กิจการอยู่ใน ศักยภาพของทรพั ยากร ปัจจบุ นั มนุษย์ในแต่ละพ้นื ทีบ่ น 6. สนิ คา้ ในชุมชนทส่ี ามารถนำเขา้ สู่ เสน้ ทางของเวลา ตลาดการคา้ ออนไลนไ์ ด้ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 140 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2555) ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ชีว้ ดั เนอ้ื หา จำนวน ช่ัวโมง 7. การซอื้ ขาย-สินค้าชุมชนผ่านระบบ ออนไลน์ 2 การจัดทำแผนพัฒนา 1.กำหนดทิศทางการตลาด 1.การกำหนดทิศทางการตลาด 15 การตลาด 2.กำหนดเป้าหมาย 2.การกำหนดเปา้ หมายการตลาด การตลาด 3.การกำหนดกลยทุ ธ์สเู่ ปา้ หมาย 3.กำหนดกลยทุ ธ์สู่เป้าหมาย 4.การวเิ คราะห์กลยุทธ์ 4.วเิ คราะหก์ ลยุทธ์ 5.กิจกรรมและแผนการพัฒนาการ 5.กำหนดกจิ กรรมและ ตลาด แผนการพัฒนาการตลาด 6. การทำแผนการตลาดให้กับสินคา้ ชุมชนของอำเภอพนัสนคิ ม 3 การจัดทำแผนพฒั นา 1.อธิบายการกำหนด 1.การกำหนดทนุ การผลิตหรอื การ 15 การผลติ หรอื การ คณุ ภาพผลผลติ หรอื การ บรกิ าร บริการ บริการ 2.การวเิ คราะห์ทุนปัจจัยการผลิตหรอื 2.สามารถวเิ คราะห์ทนุ การบรกิ าร ปจั จัย 3.การกำหนดเป้าหมายการผลติ หรือ การผลิตหรือการบริการ การบรกิ าร 3.กำหนดเป้าหมายการผลิต 4.การกำหนดแผนกิจกรรม หรือการบรกิ าร 5.การพฒั นาระบบการผลติ หรือการ 4.กำหนดแผนกิจกรรมการ บรกิ าร ผลติ 5.พัฒนาระบบการผลิตหรือ การรกิ ารได้ 4 การพฒั นาธรุ กจิ เชงิ 1.อธิบายความจำเปน็ และ 1.ความจำเปน็ และคณุ คา่ ของธรุ กิจ 15 รุก คณุ ค่าของธุรกิจเชิงรกุ เชงิ รกุ 2.อธบิ ายการแทรกความ 2.การแทรกความนยิ มเข้าสคู่ วาม นิยมเขา้ สคู่ วามต้องการของ ตอ้ งการของผบู้ ริโภค ผบู้ ริโภคได้อย่างแทจ้ ริง 3.สรา้ งรูปลกั ษณ์คุณภาพสนิ ค้าใหม่ 3.อธิบายการสร้างรปู ลักษณ์ คุณภาพสนิ ค้าใหม่ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 141 สำนักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
หลกั สตู รสถานศกึ ษา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2555) ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ช้วี ัด เน้ือหา จำนวน ช่วั โมง 4.อธิบายการพฒั นาอาชีพ 4.การพฒั นาอาชีพให้มคี วามมน่ั คง ใหม้ คี วามมนั่ คง เข้มแข็ง ยง่ั ยนื (พออยู่ พอกิน มี รายได้ มกี ารออม และมีทุนในการ ขยายอาชีพ) 5. การออกแบบผลิตภัณฑใ์ หม่ใหเ้ ป็น ที่สนใจของตลาด โดยเนน้ ผลิตภณั ฑ์ ในชมุ ชน เช่น จักสาน ขนมไทย ผลติ ภณั ฑ์จากสตั วน์ ้ำ 6. การออกแบบผลิตภัณฑ์จักสานให้ เปน็ บรรจภุ ณั ฑ์ของสนิ ค้าอื่น 5 โครงการพัฒนาอาชีพ 1.วิเคราะหค์ วามเปน็ ไปไข 1.การวเิ คราะห์ความเป็นไปไดข้ อง 15 ใหม้ ีความม่นั คง อง แผนการตลาดและการผลติ หรอื การ แผนการตลาดและการผลิต บริการ หรือการบริการ 2.การเขียนโครงการการพฒั นาอาชพี 2.เขยี นโครงการการพฒั นา 3.การตรวจสอบความเปน็ ไปได้ของ อาชีพได้ โครงการ 3.ตรวจสอบความเปน็ ไปได้ 4.การปรบั ปรุงโครงการพฒั นาอาชีพ ของโครงการพัฒนาอาชีพ 4.ปรบั ปรุงโครงการพฒั นา อาชพี ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หนา้ 142 สำนกั งาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี
หลักสตู รสถานศกึ ษา การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2555) สาระทกั ษะการดำเนนิ ชวี ติ สาระทกั ษะการดำเนนิ ชวี ติ เป็นสาระเกย่ี วกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สขุ ศึกษา พลศกึ ษา ความ ปลอดภัยในการดำเนนิ ชวี ติ การมศี ลิ ปะและสุนทรยี ภาพ ด้านทศั นศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลปพ์ น้ื ฐาน ไทยและสากล ประกอบด้วยมาตรฐานการเรียนรู้ ดงั นี้ สาระทกั ษะการดำเนนิ ชวี ติ ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน ดงั นี้ มาตรฐานท่ี 4.1 มีความรู้ ความเข้าใจ เจตคติที่ดเี ก่ียวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และสามารถ ประยุกต์ใช้ในการดำรงชวี ิตได้อยา่ งเหมาะสม มาตรฐานที่ 4.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจและเจตคติที่ดเี กย่ี วกับการดูแล สง่ เสรมิ สขุ ภาพอนามยั และความ ปลอดภยั ในการดำเนินชีวิต มาตรฐานท่ี 4.3 มีความรู้ ความเข้าใจและเจตคติท่ดี ีเก่ียวกับศิลปะและสนุ ทรยี ภาพ มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย และผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวัง ในแตล่ ะมาตรฐาน มาตรฐานที่ 4.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ เจตคติท่ีดีเกีย่ วกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และสามารถ ประยุกต์ใชใ้ นการดำรงชีวิตได้อยา่ งเหมาะสม มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวัง ร้เู ขา้ ใจตระหนักและเหน็ คุณค่าปรัชญา 1. อธบิ ายแนวคดิ หลักการความหมายความสำคญั ของปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี งยอมรบั เศรษฐกิจพอเพยี งได้ ประยุกต์ใชใ้ นชุมชนและมีค้มุ กนั ในการ 2. บอกแนวทางในการนำปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป ดำเนนิ ชีวติ และการอยู่ร่วมกันใน ประยุกต์ใชใ้ นชุมชน ครอบครัวชุมชนและสังคมอย่างสันตสิ ขุ 3. เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ ามหลักเศรษฐกิจพอเพียง สรา้ งความร่วมมือในการพัฒนาชุมชน 4. ปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยา่ งในการดำเนินชวี ิตตามหลักปรชั ญา ท้องถนิ่ เศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน 5. เผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งใหช้ มุ ชนเห็นคณุ คา่ และนำไปปฏบิ ัติในการดำเนนิ ชวี ิต 6. มีส่วนร่วมในชมุ ชนในการปฏิบตั ิตนตามหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพยี ง 7. สามารถนำแนวคดิ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ ในการประกอบอาชีพได้ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนสั นคิ ม หน้า 143 สำนักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179