แผนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์-รายวิชา-โลก-ดาราศาสตร์-และอวกาศ-ชั้นมัธยมศึกษาปีที่-5

0

ก รายงาน เรอื่ ง แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 จดั ทาโดย นางสาวเพราพนิต ย่ิงยวด รหัสนกั ศึกษา 6281114008 เลขท่ี 24หมูเ่ รียน D4 สาขาวชิ าฟสิ กิ ส(์ ค.บ. 4ป)ี คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภฏั บ้านสมเดจ็ เจ้าพระยา เสนอ อาจารย์ ดร.พัชรภี รณ์ บางเขยี ว รายงานฉบับนีเ้ ปน็ ส่วนหน่ึงของการศึกษารายวิชา“การจัดการเรยี นรแู้ ละการจัดการชั้นเรียน” ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 256

ก คานา รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ เล่ม ๓ นี้ จัดทาข้ึน เพื่อประกอบ การใช้ในการเรียนการสอนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชั้น มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ เล่ม ๓ โดยครอบคลมุ เนื้อหาตามผลการเรียนรแู้ ละสาระการเรยี นร้เู พิ่มเติม กลุ่มสาระ การเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในสาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ โดยมีตารางวเิ คราะห์ ผลการเรียนร้แู ละสาระการเรยี นรู้เพม่ิ เติม เพื่อการจัดทาหน่วยการเรียนรู้ในรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ มีแนวการจัดการเรียนรู้ การให้ความรู้ เพมิ่ เติมทจี่ าเปน็ สาหรับครูผูส้ อน รวมทง้ั การเฉลยคาถามและแบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรียน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือครูเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ และเป็นส่วนสาคัญในการพัฒนา คุณภาพและมาตรฐานการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิบุคลากรทาง การศึกษาและหนว่ ยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนเกยี่ วขอ้ งในการจัดทาไว้ ณ โอกาสนี้ นางสาวเพราพนิต ยงิ่ ยวด ผจู้ ดั ทา

สารบญั ข เรื่อง หน้า ก คานา ข สารบัญ 1 แผนการจัดการเรียนรู้ 4 คาอธิบายรายวิชา 5 โครงสร้างรายวชิ า 6 แผนการจัดกิจกรมการเรียนรู้ 1 22 แผนการจัดกจิ กรมการเรียนรู้ 2 35 แผนการจดั กิจกรมการเรียนรู้ 3 52 แผนการจดั กจิ กรมการเรียนรู้ 4 68 แผนการจัดกจิ กรมการเรยี นรู้ 5 82 แผนการจดั กจิ กรมการเรียนรู้ 6 แผนการจัดกิจกรมการเรียนรู้ 7 112 แผนการจดั กิจกรมการเรียนรู้ 8 142 เอกสารอ้างอิง ค

1 แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยรี าย วิชาโลกดาราศาสตร์ และอวกาศ 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 40 ช่ัวโมง ครผู ้สู อน นางสาว เพราพนิต ย่งิ ยวด 1.สาระ/ผลการเรยี นรู้ สาระ เข้าใจสมดุลพลังงานของโลก การหมุนเวียนของอากาศบนโลก การหมุนเวียนของน้าในมหาสมุทร การเกดิ เมฆ การเปล่ยี นแปลงภมู ิอากาศโลกและผลต่อสงิ่ มชี ีวติ และส่ิงแวดล้อม รวมทั้งการพยากรณอ์ ากาศ ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายปัจจัยสาคัญทมี่ ผี ลต่อการรบั และคายพลังงานจากดวงอาทิตยแ์ ตกต่างกนั และผลท่มี ีต่อ อณุ หภมู ิอากาศในแตล่ ะบรเิ วณของโลก 2. อธบิ ายกระบวนการทท่ี าใหเ้ กดิ สมดุลพลังงานของโลก 3.อธบิ ายผลของแรงเนือ่ งจากความแตกตา่ งของความกดอากาศ แรงคอริออลิส แรงสูศ่ นู ย์กลาง และแรงเสยี ดทานท่มี ีต่อการหมุนเวยี นของอากาศ 4. อธบิ ายการหมุนเวยี นของอากาศตามเขตละติจดู และผลทีม่ ีต่อภมู อิ ากาศ 5. อธิบายปจั จยั ท่ีทาใหเ้ กิดการแบง่ ช้นั นา้ ในมหาสมทุ ร 6. อธิบายปัจจัยท่ีทาใหเ้ กิดการหมนุ เวียนของน้าในมหาสมุทรและรปู แบบการหมุนเวยี นของนา้ ใน มหาสมุทร 7. อธบิ ายผลของการหมนุ เวียนของน้าในมหาสมุทรทมี่ ีต่อลักษณะลมฟ้าอากาศ สิง่ มีชีวิต และ ส่งิ แวดลอ้ ม

2 2.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 ด้านความรู้ (K) 2.1.1 อธบิ ายปจั จัยสาคัญที่มผี ลต่อการรับและคายพลังงานจากดวงอาทติ ย์แตกตา่ งกันและผลทีม่ ี ต่ออุณหภมู อิ ากาศในแตล่ ะบรเิ วณของโลก(K) -สณั ฐานและแกนเอียงของแกนหมนุ โลก -เมฆ และละอองลอย -แก๊สเรอื นกระจก -ลักษณะของพืน้ ผวิ โลกอุณหภูมิอากาศในแตล่ ะบริเวณของโลก 2.1.2 อธบิ ายกระบวนการท่ีทาใหเ้ กิดสมดลุ พลังงานของโลก(K) 2.1.3 อธิบายผลของแรงเน่ืองจากความแตกตา่ งของความกดอากาศ แรงคอริออลสิ แรงส่ศู นู ย์กลาง และแรงเสยี ดทานท่มี ีต่อการหมุนเวียนของอากาศ(K) 2.1.4 อธบิ ายผลของแรงท่เี กดิ จากการหมนุ รอบตัวเองของโลกกับการเคลื่อนทีข่ องอากาศ(K) 2.1.5 อธบิ ายผลของแรงสู่ศูนย์กลางกับการเคลอ่ื นทขี่ องอากาศ(K) 2.1.6 อธบิ ายผลของแรงเสียดทานกบั การเคลื่อนที่ของอากาศ(K) 2.1.7 อธิบายการหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูด และผลที่มีต่อภมู ิอากาศ(K) 2.1.8 อธบิ ายปจั จยั ทท่ี าใหเ้ กดิ การแบง่ ชน้ั น้าในมหาสมุทร(K) 2.1.9 อธิบายการจาแนกชน้ั ของนา้ ในมหาสมทุ ร(K) 2.1.10 อธบิ ายปจั จยั ทท่ี าให้เกิดการหมนุ เวยี นของนา้ ในมหาสมทุ รและรูปแบบการหมนุ เวยี นของ น้าในมหาสมทุ ร(K) 2.1.11 อธิบายปจั จัยและรปู แบบการหมนุ เวียนของนา้ ลึก(K) 2.1.12 อธิบายผลของการหมนุ เวยี นของนา้ ในมหาสมทุ รทม่ี ตี ่อลกั ษณะลมฟ้าอากาศ สง่ิ มชี ีวติ และ สิง่ แวดล้อม(K)

3 2.2 ด้านทักษะ (P) 2.2.1 นักเรยี นสามารถการหาความสมั พันธข์ องสเปซกบั สเปซและสเปซกบั เวลา(P) 2.2.2 นกั เรยี นสามารถการตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรุป (P) 2.2.3 นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์ และอธบิ ายการหมุนเวยี นอากาศตามแบบจาลองการหมุนเวียนอากาศ แบบทั่วไป(P) 2.2.4 นักเรยี นสามารถวิเคราะหข์ ้อมลู และอธิบายผลจากการหมุนเวียนของน้าผิวหน้ามหาสมทุ ร(P) 2.3 ด้านทัศนคติ (A) 2.3.1 นักเรยี นเหน็ คุณค่าความสาคัญของการรบั และคายพลงั งานจากดวงอาทิตย์แตกต่างกนั และผลท่ีมี ต่ออุณหภมู อิ ากาศในแต่ละบริเวณของโลก(A) 2.3.2 นักเรยี นเห็นคณุ ค่าความสาคัญต่อการเกดิ สมดุลพลงั งานของโลก(A) 2.3.3 นกั เรยี นตระหนกั ถึงการหมุนเวียนของอากาศและผลท่มี ตี อ่ ภมู ิอากาศ(A) 2.3.4 นักเรยี นตระหนักถงึ การหมุนเวียนของน้าในมหาสมุทรท่สี ่งผลต่อส่ิงแวดล้อม (A) 3.สาระสาคัญ เขา้ ใจสมดุลพลังงานของโลก การหมุนเวียนของอากาศบนโลก การหมุนเวียน ของนา้ ในมหาสมทุ ร การเกิดเมฆ การเปล่ียนแปลงภูมอิ ากาศโลกและผลต่อสิง่ มีชวี ติ และสงิ่ แวดลอ้ ม รวมท้งั การพยากรณ์อากาศ

4 คาอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ว 30201โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศึกษา 2564 เวลา 40ชวั่ โมงจานวน 1หนว่ ยกิต ศึกษาปัจจัยสาคัญที่มผี ลต่อการรับและคายพลังงานจากดวงอาทิตย์แตกต่างกันและผลที่มีต่ออุณหภูมิ อากาศในแต่ละบริเวณของโลก กระบวนการที่ทาให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก ผลของแรงเนื่องจากความ แตกต่างของความกดอากาศ แรงคอรอิ อลสิ แรงสูศ่ ูนยก์ ลาง และแรงเสยี ดทานทม่ี ตี ่อการหมนุ เวยี นของอากาศ การหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูด และผลที่มีต่อภูมิอากาศ ปัจจัยที่ทาให้เกิดการแบ่งชั้นน้า ใน มหาสมุทร ปัจจัยที่ทาให้เกิดการหมุนเวียนของน้าในมหาสมุทรและรปู แบบการหมุนเวียนของน้าในมหาสมุทร การหมนุ เวยี นของน้าในมหาสมุทรที่มีต่อลักษณะลมฟ้าอากาศ สิง่ มชี วี ติ และสงิ่ แวดล้อม ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง เสถยี รภาพอากาศและการเกิดเมฆ การเกิดแนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆ และลักษณะลมฟ้าอากาศท่ีเกี่ยวข้อง ปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศของโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมูลสนับสนุน เหตุการณ์ที่เป็น ผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก และนาเสนอแนวปฏิบัติของมนุษย์ที่มีส่วนช่วยในการชะลอการ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศบนแผนที่อากาศ ลักษณะลมฟ้าอากาศ เบ้ืองตน้ จากแผนท่ีอากาศและข้อมลู สารสนเทศอน่ื ๆ เพอ่ื วางแผนในการประกอบอาชีพและการดาเนินชีวิตให้ สอดคล้องกบั สภาพลมฟ้า อากาศ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การ วเิ คราะห์ การอภิปราย การอธบิ ายและการสรุปผล เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนา ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ของตนเอง ตลอดจนมจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมทถ่ี ูกต้อง

5 รายวชิ าเพิม่ เติม โครงสรา้ งรายวชิ า กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 32261 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ปกี ารศึกษา 2564 จานวน 40 ชั่วโมง หน่วยที่ ช่อื หน่วยการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) 1 สมดุลพลงั งานของโลก 12 2 1.กระบวนการท่ีทาให้เกิดสมดลุ พลังงานของโลก 4 2.ปจั จยั สาคัญท่สี ่งผลต่อการรับรังสดี วงอาทติ ย์ของพื้นผวิ โลก 8 3 การหมนุ เวียนของอากาศบนโลก 14 1.การเคลอ่ื นที่และการหมุนเวียนของอากาศ 6 2.การหมนุ เวียนของอากาศบนโลก 4 3.ความสมั พนั ธข์ องการหมุนเวยี นอากาศกบั ภูมิอากาศ 4 การหมุนเวยี นของน้าในมหาสมุทร 14 1.อณุ หภมู ิและความเค็มของมหาสมุทร 4 2.การหมุนเวียนนา้ ในมหาสมุทร 6 3.การหมุนเวียนนา้ ในมหาสมุทรกบั ลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศ 4 สอบปลายภาค 40 รวมท้ังหมด

6

7 แผนการจัดกจิ กรมการเรียนรู้ 1 สารระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รายวิชาว 32261 รายวชิ า โลกดาราศาสตร์ และอวกาศ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 สมดลุ พลังงานของโลก เร่ือง กระบวนการที่ทาใหเ้ กิดสมดุลพลังงานของโลก 1. สาระ / ผลการเรียนรู้ สาระ เขา้ ใจสมดลุ พลงั งานของโลก การหมนุ เวียนของอากาศบนโลก การหมนุ เวยี น ของนา้ ในมหาสมทุ ร การ เกิดเมฆ การเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศโลกและผลต่อสิ่งมีชีวติ และสิง่ แวดล้อม รวมท้ังการพยากรณอ์ ากาศ ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายกระบวนการรับและปลดปลอ่ ยพลงั งานของโลก 2. อธิบายกระบวนการท่ีทาให้เกดิ สมดลุ พลงั งานของโลก 2. สาระสาคัญ บริเวณต่าง ๆ ของโลกได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ในรูปของคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้าในปริมาณที่แตกต่างกนั เนื่องจากโลกมีสัณฐาน คล้ายทรงกลมและแกนหมุนโลกเอียงทามุมกับแนวตั้งฉากกับระนาบการโคจรของโลก รอบดวงอาทิตย์ส่งผลต่อการตกกระทบของรังสีดวงอาทิตย์ซึ่งส่วนที่ผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศ จนถึง พน้ื ผวิ โลก จะเกดิ กระบวนการสะท้อน ดดู กลืน และถา่ ยโอนพลังงาน แลว้ ปลดปลอ่ ยกลับสู่อวกาศแตกต่างกัน เนื่องจากปจั จยั ตา่ ง ๆ เชน่ ลักษณะของพ้ืนผิว ชนดิ และปรมิ าณของแกส๊ เรอื นกระจก ละอองลอย และเมฆ ทา ใหพ้ ้ืนผวิ โลก แตล่ ะบรเิ วณมีอุณหภมู อิ ากาศแตกต่างกัน 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) 1. อธบิ ายกระบวนการรับและปลดปล่อยพลังงานของโลก(K) 2. อธบิ ายสมดุลพลังงานของโลก(K)

8 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. ทักษะการสังเกต 2. การตงั้ สมมติฐาน 3. การตีความหมายข้อมลู และข้อสรปุ ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์(A)  1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  2. ซอ่ื สัตย์สุจริต  3. มีวนิ ัย  4. ใฝ่เรียนรู้  5. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง  6. มงุ่ มน่ั ในการทางาน  7. รกั ความเป็นไทย  8. มีจติ สาธารณะ 4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน  1. ความสามารถในการสือ่ สาร  2. ความสามารถในการคิด  3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.สาระการเรยี นรู้ กระบวนการรบั และปลดปลอ่ ยพลังงานของโลก 6. ภาระงาน/ช้นิ งาน - แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 7 เรื่องสมดลุ พลงั งาน - ใบงานที่ 1 เรอื่ ง ปจั จัยสาคัญท่ีส่งผลต่อการรบั รงั สีดวงอาทติ ย์ของผวิ โลก 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ หนว่ ยย่อยที่ 1 เรอื่ ง กระบวนการท่ที าใหเ้ กิดสมดลุ พลงั งานของโลก ข้ันนำเข้ำสู่บทเรียน (Engagement Phase) 1. ครูนำเขำ้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภิปรำยเก่ียวกบั ควำมสัมพนั ธ์ของช้นั บรรยำกำศ กบั อณุ หภมู ิเฉลี่ยของอำกำศ โดยเปรียบเทียบอุณหภูมิเฉล่ียของอำกำศบนโลกกบั ดวงจนั ทร์ และตอบคำถำม

9 อณุ หภมู เิ ฉลีย่ ของอากาศบนโลกและดวงจันทรแ์ ตกตา่ งกันหรอื ไม่ อย่างไร แนวคาตอบ แตกตา่ งกนั ปัจจุบันพบว่าโลกมอี ุณหภูมิเฉล่ยี ของอากาศประมาณ 15 องศาเซลเซยี ส แตกตา่ ง จากดวงจันทรท์ ่ีมีอุณหภมู เิ ลย่ี ของอากาศประมาณ -23 องศาเซลเซียส ข้นั สำรวจและค้นพบ (Exploration Phase) 1. นักเรียนสืบคน้ ขอ้ มูลกระบวนกำรที่ทำให้เกิดสมดุลพลงั งำนของโลก จำกหนงั สือเรียนรำยวิชำ โลก ดำรำศำสตร์ และอวกำศ เลม่ 3 และใบควำมรู้ 2. นกั เรียนทำใบงำนแบบฝึกทกั ษะ ข้นั อธบิ ำยและลงข้อสรุป ( Explanation Phase) 1 . นกั เรียนร่วมซกั ถำม และครูอธิบำยเพ่ิมเติมเก่ียวกบั ขอ้ มลู กระบวนกำรที่ทำใหเ้ กิดสมดุลพลงั งำนของ โลก เพ่ือใหน้ กั เรียนสรุปสำระสำคญั ลงในสมุดจดบนั ทึก ครตู รวจสอบความเขา้ ใจนกั เรียนเก่ยี วกับอตั ราสว่ นรังสสี ะท้อนโดยใช้คา������ ถามในหนงั สือเรยี นหนา้ 22 ดงั น้ี “ถ้าหมิ ะปกคลุมบรเิ วณข้วั โลกหลอมเหลวไปจนเหลือแต่พ้ืนดิน อตั ราสว่ นรังสีสะท้อนจะเปลีย่ นแปลงไป หรือไม่ อยา่ งไร” แนวคาตอบ อตั ราสว่ นรงั สสี ะท้อนจะเปล่ยี นแปลงไป ถา้ หมิ ะปกคลุมบริเวณข้ัวโลกหลอมเหลวไปจนเหลอื แต่ พื้นดนิ อตั ราส่วนรงั สสี ะทอ้ นโดยรวมของโลกจะลดตา่ ลง ข้นั ขยำยควำมรู้ (Expansion Phase) 1. นกั เรียนสนทนำซกั ถำมครูเกี่ยวกบั ขอ้ สงสยั ศึกษำเพิ่มเติมจำกใบควำมรู้เรื่องกระบวนกำรท่ีทำใหเ้ กิด สมดุลพลงั งำนของโลก และแบบฝึกทกั ษะ ข้นั ประเมิน (Evaluation) 1 . สังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้และกำรร่วมกิจกรรมของนกั เรียน 2. ครูสงั เกตกำรณ์ตอบคำถำมของนกั เรียน 3. ครูวดั ประเมินจำกกำรทำแบบฝึกหดั 8. ส่อื การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รายวชิ าเพิ่มเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.5 เล่ม 3

10 2. ใบความรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง กระบวนการท่ีทาให้เกิดสมดลุ พลงั งานของโลก 3. PowerPoint เรื่อง กระบวนการที่ทาให้เกดิ สมดลุ พลังงานของโลก 9. แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หอ้ งเรยี น 2. แหลง่ การเรียนรู้สนเทศ

11 10.การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ วิธีวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การประเมิน ส่ิงทต่ี อ้ งวัดผลและประเมนิ ผล - มีผลประเมิน คุณภาพระดบั ดี ด้านความรูค้ วามเข้าใจ (K) - การทา - ใบกิจกรรมฝึกทักษะ มากขึน้ ไป 1. กระบวนการรับและปลดปล่อยพลงั งาน ใบฝึก 1.1 - ทาคะแนน 80 % ทกั ษะ ขนึ้ ไป ของโลก - แบบทดสอบ - มผี ลประเมิน 2. สมดลุ พลงั งานของโลก คุณภาพระดบั ดีข้นึ ไป ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) - การ - แบบสังเกต 1. ทกั ษะการสงั เกต สงั เกต พฤติกรรม การทา - มีผลประเมิน 2. การตงั้ สมมติฐาน คุณภาพระดบั ดีขน้ึ 3. การตีความหมายข้อมูลและข้อสรปุ กิจกรรมฝึกทกั ษะ ไป ด้านคุณลกั ษณะ (A) - การ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 1. ซอื่ สัตย์สจุ รติ สงั เกต การเรียน 2. มีวินยั 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 5. ตรงตอ่ เวลา เกณฑ์กำรให้คะแนน ดีมำก ระดบั คะแนน 80-100% ดี ระดบั คะแนน 70-79% ปำนกลำง ระดบั คะแนน 60-69% พอใช้ ระดบั คะแนน 50-59 % ปรับปรุง ระดบั คะแนน 0 - 49%

12 แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ส่ิงที่ตอ้ งกำรวดั / คำอธิบำยคณุ ภำพ ประเมินผล ดี (3) พอใช้ (2) ดีมำก (4) ปรับปรุง (1) 1. เขำ้ เรียนตรงต่อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เขำ้ เรียนสำยเกิน 20 เวลำ เวลำสม่ำเสมอดี เวลำสม่ำเสมอ เขำ้ เวลำบ้ำงบำงคร้ัง นำที มำก เรียนสำยไม่เกิน 5 แต่เขำ้ เรียนสำยไม่ นำที เกิน 10 นำที 2. ใฝ่เรียนรู้ มีควำม มีควำม มีควำม มีควำมกระตือรือร้น กระตือรือร้นใน กำรเรียนดีมำก กระตือรือร้นใน กระตือรือร้นดีและ ในกำรเรียนดี มีกำร กำรเรียนมีกำรตอบ มีกำรตอบคำถำม ตอบคำถำมบำ้ งเป็น คำถำมในช้นั เรียน เกือบทุกคร้ัง บำงคร้ัง ทุกคร้ัง 3. มีระเบียบวนิ ยั ทำงำนเป็นระเบียบ ทำงำนเป็นระเบียบ ทำงำนเป็นระเบียบ ท ำ ง ำ น ไ ม่ เ ป็ น และถูกตอ้ งหมด และถูกตอ้ ง 80% และถกู ตอ้ ง 60% ระเบียบ และถูกตอ้ ง ข้นึ ไป ข้นึ ไป 40% ข้นึ ไป 4. ควำมรับผดิ ชอบ ทำงำนที่ไดร้ ับ ท ำ ง ำ น ท่ี ไ ด้ รั บ ท ำ ง ำ น ท่ี ไ ด้ รั บ ท ำ ง ำ น ที่ ไ ด้ รั บ มอบหมำยดีมีควำม มอบหมำยดีมีควำม มอบหมำยดีมีควำม มอบหมำยพอใช้มี ถกู ตอ้ งตรงเวลำ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ งเป็นบำงคร้ัง ควำมถกู ตอ้ งบำ้ ง 1. เขำ้ เรียนตรงต่อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เขำ้ เรียนสำยเกิน 20 เวลำ เวลำสม่ำเสมอดี เวลำสม่ำเสมอ เขำ้ เวลำบ้ำงบำงคร้ัง นำที มำก เรียนสำยไม่เกิน 5 แต่เขำ้ เรียนสำยไม่ นำที เกิน 10 นำที

13 เกณฑ์กำรตัดสินคะแนน ระดบั คุณภำพ ดีมำก ช่วงคะแนน ดี 13 - 16 พอใช้ 9 - 12 ปรับปรุง 5-8 0-4

14 เกณฑ์การประเมินแบบสังเกตพฤติกรรมระหว่างเรยี น รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ การทางานเป็นทีม 321 รับฟังความคิดเห็นของ รับฟังความคิดเห็นของ รับฟังความคิดเห็นของ ผู้อื่นเป็นอย่างดีมากและ ผู้อื่นเป็นส่วนใหญ่และ ผู้อื่นน้อยมากและมีส่วน ร่วมกันทางานจนงาน ร่วมกันทางานจนงาน ร่วมร่วมกันในการ สาเร็จลุล่วง สาเรจ็ ลุลว่ ง ท างานกลุ่มเพียง เลก็ นอ้ ย ความตรงตอ่ เวลาใน สง่ งานตรงเวลาทก่ี าหนด ส่งงานหลงั จากเวลาที่ สง่ งานหลังจากเวลาท่ี การส่งงาน กาหนด 1 วนั กาหนดมากกว่า 1 วนั เกณฑ์การประเมนิ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5-6 ระดบั คะแนนดี 3-4 ระดับคะแนนพอใช้ 1-2 ระดบั คะแนนปรับปรงุ ตง้ั แต่ระดับคะแนนพอใช้ข้นึ ไป เกณฑ์การผ่าน ผา่ น ไมผ่ ่าน สรุปผลการประเมิน

15 แบบสังเกตพฤติกรรมระหว่ำงเรียน คำชีแ้ จงใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวำ่ งเรียนแลว้ ทำเครื่องหมำย✓ลงในช่องท่ีตรงกบั คะแนน ลำดับ ชื่อ-สกุลผู้รับกำรประเมิน กำรทำงำนเป็ นทีม ควำมตรงต่อเวลำในกำรส่งงำน รวม 321 3 2 1 ดมี ำก ดี พอใช้ ดมี ำก ดี พอใช้ ช่ือ..................................................ผปู้ ระเมิน ....................../..................../....................

16 กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. บันทกึ ผลหลังการสอน สรุปผลการเรยี นการสอน นกั เรยี นทั้งหมดจานวน ......... คน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ข้อท่ี จานวนนักเรียนทีผ่ า่ น จานวนนักเรียนท่ไี มผ่ ่าน จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน ร้อยละ ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางการแก้ไข ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ลงช่ือ.................................................................... (………………………………………………………) ตาแหนง่ ครูวทิ ยฐานะ........................................

17 ลงชื่อ................................................................. (………………………………………………………) หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ลงช่อื ................................................................. (………………………………………………………) รองผอู้ านวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ได้ทาการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง...............................................................................แล้วมี ความคดิ เหน็ ดงั น้ี 1. เปน็ แผนการเรียนรทู้ ี่  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม  ยังไมเ่ นน้ ผเ็ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป 3. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ................................................................. (………………………………………………………) ผ้อู านวยการโรงเรียน

18 ใบความรู้ เรอ่ื ง กระบวนการทท่ี าให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก กระบวนการท่ีทาให้เกดิ สมดลุ พลงั งานของโลก โลกมีกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรบั พลังงานจากดวงอาทิตย์และปลดปล่อยพลังงานกลับสู่อวกาศท่ี ทาให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก พลังงานจากดวงอาทิตย์ที่เข้ามาสู่โลกบางส่วนจะสะท้อนกลับออกสู่อวกาศ ทันที ในขณะที่พลังงานบางส่วนหมุนเวียนอยู่ภายในโลกด้วยกระบวนการทางแสงและการถ่ายโอนความร้อน ก่อนที่พลังงานเหลา่ นั้นจะค่อย ๆ กลับสูอ่ วกาศ ซึ่งพลังงานที่โลกไดร้ ับจากดวงอาทิตย์จะเทา่ กบั พลังงานทีโ่ ลก ปลดปลอ่ ยกลับสู่อวกาศทาให้เกิดสมดลุ พลงั งาน (energy balance) เมื่อพลังงานจากดวงอาทิตย์เข้ามาสู่บรรยากาศของโลก ทั้งเมฆและองค์ประกอบต่าง ๆ ที่อยู่ใน บรรยากาศ รวมทั้งพื้นผิวโลกจะสะท้อนรังสีที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสงที่มองเห็นบางส่วนกลับสู่อวกาศ ในทันทีร้อยละ 29 ส่วนพลงั งานท่ีเหลอื ประมาณร้อยละ 71 จะถูกดดู กลืนโดยบรรยากาศ เมฆ และพืน้ ผิวโลก กอ่ นท่พี ลังงานจะถูกปล่อยกลับสู่อวกาศอีกครงั้ โดยการแผ่รังสีคล่ืนยาว พลังงานที่พื้นผิวโลกดูดกลืนไว้นั้นร้อยละ 71 จะถูกปลดปล่อยกลับออกมาในรูปรังสีอินฟราเรด ซึ่งเป็น พลังงานความร้อนที่มีช่วงคลื่นยาว พลังงานความร้อนส่วนหนึ่งประมาณร้อยละ 12 จะถูกปลดปล่อยออกสู่

19 อวกาศโดยตรงจากการแผ่รังสี สว่ นพลงั งานความร้อนส่วนที่เหลือจะถูกดูดกลืนไว้โดยแกส๊ เรือนกระจกและเมฆ ในบรรยากาศ รวมทั้งอยู่ในกระบวนการพาความร้อนทีท่ าให้อากาศเกิดการยกตวั ขึ้น และกระบวนการเปลี่ยน สถานะของน้าที่ทาให้เกิดเมฆส่วนบรรยากาศจะปลดปล่อยพลังงานความร้อนโดยการแผ่รังสีอินฟราเรดท่ี ดูดกลืนไว้ส่วนหน่ึงมายังพ้ืนผิวโลก จากนั้นพื้นผิวโลกจะดูดกลืนพลังงานดังกล่าวไว้ ในขณะเดียวกันพื้นผิวโลก ยงั คงได้รับพลงั งานจากดวงอาทิตย์ที่เข้ามาใหมท่ ุกวนั ซ่ึงพนื้ ผวิ โลกจะปลดปลอ่ ยพลังงานนี้โดยการแผ่รังสีเข้าสู่ บรรยากาศและกลับสู่อวกาศด้วยกระบวนการเดิมดังที่กล่าวมาข้างต้น ท้ายที่สุดบรรยากาศจะปลดป ล่อย พลงั งานกลบั สู่อวกาศประมาณรอ้ ยละ 59 จากกระบวนการทั้งหมดข้างต้นแสดงใหเ้ หน็ ว่า โลกไม่ได้ดูดกลืนพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่ผ่านเข้ามายงั บรรยากาศไว้ทั้งหมด จึงทาให้อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศและพื้นผิวโลกในช่วงเวลากลางวันไม่สูงมากจนเกินไป และพลังงานความร้อนท่ีถ่ายโอนระหว่างบรรยากาศและพื้นผิวโลกนี้เองที่ทาให้อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศและ พื้นผิวโลกในเวลากลางคืนไมล่ ดต่าจนเกนิ ไป

20 แบบฝึกหดั คำชี้แจง จงตอบคำถำมต่อไปน้ี 1. ถา้ โลกไมม่ ีกระบวนการปลดปล่อยพลังงานกลับส่อู วกาศ จะส่งผลต่ออุณหภมู เิ ฉลยี่ ของอากาศหรอื ไม่ อย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงสงั เกตรปู แลว้ ตอบคาถาม 2.1 อุณหภมู ิอากาศระหวา่ งปี พ.ศ. 1543 ถงึ ปี 2443 มีแนวโน้มเปน็ เช่นไร สังเกตจากส่งิ ใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

21 เฉลยแบบฝกึ หดั คำชีแ้ จง จงตอบคำถำมต่อไปน้ี 1. ถา้ โลกไมม่ ีกระบวนการปลดปล่อยพลงั งานกลับสอู่ วกาศ จะสง่ ผลต่ออุณหภูมเิ ฉลี่ยของอากาศหรือไม่ อยา่ งไร แนวคาตอบ พืน้ ผิวโลกได้รบั พลังงานจากดวงอาทติ ย์โดยตรงในรปู รังสคี ลื่นส้ัน นอกจากน้ันพื้นผวิ โลกยงั ได้รับ พลังงานทบ่ี รรยากาศแผ่กลับมาซึง่ พลังงานน้อี ยู่ในรูปของรังสีคลื่นยาว 2. จงสังเกตรูปแล้วตอบคาถาม 2.1 อณุ หภมู ิอากาศระหว่างปี พ.ศ. 1543 ถงึ ปี 2443 มีแนวโนม้ เปน็ เชน่ ไร สงั เกตจากสง่ิ ใด แนวคาตอบ อุณหภูมิเฉลยี่ ของอากาศระหว่างปี พ.ศ. 1543 ถึง ปี พ.ศ. 2443 มีแนวโนม้ คงท่ีหรอื เปลี่ยนแปลง น้อยสังเกตได้จากเสน้ แสดงอุณหภูมิเฉล่ยี ของอากาศในชว่ งเวลาดังกล่าวซงึ่ แตกตา่ งกนั ประมาณ 0.2 องศา เซลเซยี ส

22 แผนการจัดกจิ กรมการเรียนรู้ 2 สำรระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ และเทคโนโลยี รำยวชิ ำ ว 32261 รำยวิชำ โลกดำรำศำสตร์ และอวกำศ 2 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 5 ภำคเรียนท่ี 1 ปี กำรศึกษำ 2564 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 7 สมดุลพลงั งำนของโลก เร่ือง ปัจจยั สำคญั ทีส่ ่งผลต่อกำรรับรังสีดวงอำทติ ย์ของพื้นผิวโลก 1. สาระ / ผลการเรยี นรู้ สาระ เขา้ ใจสมดุลพลงั งานของโลก การหมุนเวยี นของอากาศบนโลก การหมุนเวยี น ของนา้ ในมหาสมทุ ร การ เกดิ เมฆ การเปล่ียนแปลงภมู ิอากาศโลกและผลต่อส่ิงมชี วี ิต และสง่ิ แวดล้อม รวมทั้งการพยากรณอ์ ากาศ ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายปัจจยั สาคญั ที่มีผลต่อการรับและคายพลังงานจากดวงอาทติ ยแ์ ตกต่างกนั และผลที่มีต่อ อณุ หภูมิอากาศในแตล่ ะบริเวณของโลก 2. อธิบายกระบวนการที่ทาให้เกดิ สมดลุ พลังงานของโลก 2. สาระสาคญั บริเวณต่าง ๆ ของโลกได้รบั พลงั งานจากดวงอาทิตยใ์ นรปู ของคลนื่ แม่เหล็กไฟฟา้ ในปริมาณที่แตกตา่ งกนั เน่ืองจากโลกมีสณั ฐาน คลา้ ยทรงกลมและแกนหมุนโลกเอียงทามุมกบั แนวต้งั ฉากกบั ระนาบการโคจรของโลก รอบดวงอาทิตยส์ ง่ ผลตอ่ การตกกระทบของรังสีดวงอาทติ ย์ซ่งึ สว่ นท่ผี ่านเขา้ มาในชั้นบรรยากาศ จนถงึ พ้ืนผิวโลก จะเกดิ กระบวนการสะทอ้ น ดดู กลนื และถ่ายโอนพลงั งาน แล้วปลดปลอ่ ยกลับสู่อวกาศแตกต่างกนั เนอ่ื งจากปัจจยั ต่าง ๆ เช่น ลกั ษณะของพ้นื ผวิ ชนดิ และปริมาณของแก๊ส เรอื นกระจก ละอองลอย และเมฆ ทาให้พน้ื ผวิ โลก แตล่ ะบริเวณมอี ณุ หภูมิอากาศแตกตา่ งกนั 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) 1 อธบิ ายปจั จัยสาคญั ทม่ี ีผลต่อการรับและคายพลงั งานจากดวงอาทิตย์แตกตา่ งกนั และผลทม่ี ีต่อ อณุ หภมู ิอากาศในแตล่ ะบริเวณของโลก(K)

23 -สัณฐานและแกนเอยี งของแกนหมนุ โลก -เมฆ และละอองลอย -แก๊สเรอื นกระจก -ลกั ษณะของพืน้ ผวิ โลกอณุ หภูมิอากาศในแตล่ ะบรเิ วณของโลก 2 อธิบายกระบวนการท่ที าใหเ้ กิดสมดุลพลังงานของโลก(K) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1. ทกั ษะการสังเกต 2. การตงั้ สมมตฐิ าน 3. การตคี วามหมายข้อมูลและข้อสรปุ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์(A)  1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  2. ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต  3. มีวนิ ยั  4. ใฝเ่ รยี นรู้  5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง  6. มงุ่ มน่ั ในการทางาน  7. รักความเปน็ ไทย  8. มีจิตสาธารณะ 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน  1. ความสามารถในการสือ่ สาร  2. ความสามารถในการคิด  3. ความสามารถในการแก้ปัญหา  4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.สาระการเรยี นรู้ ปัจจยั สาคญั ทีส่ ่งผลต่อการรับรงั สดี วงอาทติ ย์ของผวิ โลก - สัณฐานของโลกและการเอียงของแกนหมุนโลก - บรรยากาศ

24 - ลักษณะของพืน้ ผวิ โลก 6. ภาระงาน/ช้นิ งาน - แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 7 เรอ่ื งสมดลุ พลังงาน - ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง ปจั จัยสาคญั ท่สี ง่ ผลตอ่ การรบั รงั สีดวงอาทติ ย์ของผิวโลก 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ หน่วยย่อยที่ 1 เร่ือง ปจั จัยสาคญั ท่สี ่งผลต่อการรบั รงั สีดวงอาทติ ย์ของผวิ โลก ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน (Engagement Phase) 1. ครูนาเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยให้นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกีย่ วกบั ความสัมพนั ธ์ของชั้น บรรยากาศ กับอณุ หภมู เิ ฉลี่ยของอากาศ โดยเปรียบเทียบอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศบนโลกกบั ดวงจันทร์ ขน้ั สารวจและค้นพบ (Exploration Phase) 1. นักเรียนสืบค้นข้อมูลกระบวนการที่ทาให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก จากหนังสือเรียนรายวิชา โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 3 และใบความรู้ 2. นกั เรยี นทาใบงานแบบฝึกทักษะ ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป ( Explanation Phase) 1 . นกั เรียนรว่ มซกั ถาม และครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ เก่ยี วกบั ข้อมูลกระบวนการที่ทาใหเ้ กิดสมดุลพลังงานของโลก เพ่อื ใหน้ กั เรียนสรปุ สาระสาคัญลงในสมดุ จดบันทึก ขนั้ ขยายความรู้ (Expansion Phase) 1. นักเรยี นสนทนาซกั ถามครูเกยี่ วกบั ข้อสงสยั ศึกษาเพิ่มเติมจากใบความรเู้ รื่องกระบวนการทท่ี าให้เกิด สมดลุ พลงั งานของโลก และแบบฝึกทกั ษะ ขนั้ ประเมิน (Evaluation) 1 . สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรแู้ ละการร่วมกจิ กรรมของนักเรียน 2. ครูสงั เกตการณต์ อบคาถามของนักเรยี น 3. ครูวดั ประเมนิ จากการทาแบบฝกึ หดั

25 8. ส่อื การเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี น รายวชิ าเพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.5 เลม่ 3 2. ใบความรูท้ ี่ 1 เร่อื ง กระบวนการท่ีทาใหเ้ กดิ สมดลุ พลงั งานของโลก 3. PowerPoint เรอ่ื งกระบวนการทีท่ าใหเ้ กิดสมดลุ พลังงานของโลก 9. แหลง่ การเรียนรู้ 1. ห้องเรียน 2. แหลง่ การเรยี นรสู้ นเทศ

26 10.การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ส่ิงท่ีต้องวัดผลและประเมินผล วธิ วี ัด เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ - มีผลประเมนิ ดา้ นความรู้ความเข้าใจ (K) - การทา - ใบกจิ กรรมฝึกทกั ษะ คณุ ภาพระดบั ดี ใบฝกึ 1.1 มากขึน้ ไป ปจั จัยสาคญั ที่ส่งผลต่อการรบั รังสี ดวงอาทิตย์ ทกั ษะ - ทาคะแนน 80 % ของพ้ืนผวิ โลก - แบบทดสอบ ขน้ึ ไป - สัณฐานและแกนเอียงของแกนหมุนโลก - มผี ลประเมนิ คุณภาพระดบั ดีขึ้น - เมฆ และละอองลอย ไป - แก๊สเรือนกระจก - มีผลประเมนิ คุณภาพระดับดีขึ้น - ลกั ษณะของพ้นื ผิวโลก ไป ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) - การ - แบบสังเกต 1. ทกั ษะการสังเกต สังเกต พฤติกรรม การทา 2. การต้ังสมมติฐาน กจิ กรรมฝกึ ทักษะ 3. การตคี วามหมายข้อมลู และข้อสรุป ด้านคณุ ลกั ษณะ (A) - การ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 1. ซอื่ สตั ย์สุจริต สังเกต การเรียน 2. มีวนิ ยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งม่นั ในการทางาน 5. ตรงต่อเวลา

27 เกณฑ์กำรให้คะแนน ดีมำก ระดบั คะแนน 80-100% ดี ระดบั คะแนน 70-79% ปำนกลำง ระดบั คะแนน 60-69% พอใช้ ระดบั คะแนน 50-59 % ปรับปรุง ระดบั คะแนน 0 - 49%

28 แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ส่ิงที่ตอ้ งกำรวดั / คำอธิบำยคณุ ภำพ ประเมินผล ดี (3) พอใช้ (2) ดีมำก (4) ปรับปรุง (1) 1. เขำ้ เรียนตรงต่อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เขำ้ เรียนสำยเกิน 20 เวลำ เวลำสม่ำเสมอดี เวลำสม่ำเสมอ เขำ้ เวลำบ้ำงบำงคร้ัง นำที มำก เรียนสำยไม่เกิน 5 แต่เขำ้ เรียนสำยไม่ นำที เกิน 10 นำที 2. ใฝ่เรียนรู้ มีควำม มีควำม มีควำม มีควำมกระตือรือร้น กระตือรือร้นใน กำรเรียนดีมำก กระตือรือร้นใน กระตือรือร้นดีและ ในกำรเรียนดี มีกำร กำรเรียนมีกำรตอบ มีกำรตอบคำถำม ตอบคำถำมบำ้ งเป็น คำถำมในช้นั เรียน เกือบทุกคร้ัง บำงคร้ัง ทุกคร้ัง 3. มีระเบียบวนิ ยั ทำงำนเป็นระเบียบ ทำงำนเป็นระเบียบ ทำงำนเป็นระเบียบ ท ำ ง ำ น ไ ม่ เ ป็ น และถูกตอ้ งหมด และถูกตอ้ ง 80% และถกู ตอ้ ง 60% ระเบียบ และถูกตอ้ ง ข้นึ ไป ข้นึ ไป 40% ข้นึ ไป 4. ควำมรับผดิ ชอบ ทำงำนที่ไดร้ ับ ท ำ ง ำ น ท่ี ไ ด้ รั บ ท ำ ง ำ น ท่ี ไ ด้ รั บ ท ำ ง ำ น ที่ ไ ด้ รั บ มอบหมำยดีมีควำม มอบหมำยดีมีควำม มอบหมำยดีมีควำม มอบหมำยพอใช้มี ถกู ตอ้ งตรงเวลำ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ งเป็นบำงคร้ัง ควำมถกู ตอ้ งบำ้ ง 1. เขำ้ เรียนตรงต่อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เขำ้ เรียนสำยเกิน 20 เวลำ เวลำสม่ำเสมอดี เวลำสม่ำเสมอ เขำ้ เวลำบ้ำงบำงคร้ัง นำที มำก เรียนสำยไม่เกิน 5 แต่เขำ้ เรียนสำยไม่ นำที เกิน 10 นำที

29 เกณฑ์กำรตัดสินคะแนน ระดบั คุณภำพ ดีมำก ช่วงคะแนน ดี 13 - 16 พอใช้ 9 - 12 ปรับปรุง 5-8 0-4

30 เกณฑ์การประเมินแบบสังเกตพฤติกรรมระหว่างเรยี น รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ การทางานเป็นทีม 321 รับฟังความคิดเห็นของ รับฟังความคิดเห็นของ รับฟังความคิดเห็นของ ผู้อื่นเป็นอย่างดีมากและ ผู้อื่นเป็นส่วนใหญ่และ ผู้อื่นน้อยมากและมีส่วน ร่วมกันทางานจนงาน ร่วมกันทางานจนงาน ร่วมร่วมกันในการ สาเร็จลุล่วง สาเรจ็ ลุลว่ ง ท างานกลุ่มเพียง เลก็ นอ้ ย ความตรงตอ่ เวลาใน สง่ งานตรงเวลาทก่ี าหนด ส่งงานหลงั จากเวลาที่ สง่ งานหลังจากเวลาท่ี การส่งงาน กาหนด 1 วนั กาหนดมากกว่า 1 วนั เกณฑ์การประเมนิ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5-6 ระดบั คะแนนดี 3-4 ระดับคะแนนพอใช้ 1-2 ระดบั คะแนนปรับปรงุ ตง้ั แต่ระดับคะแนนพอใช้ข้นึ ไป เกณฑ์การผ่าน ผา่ น ไมผ่ ่าน สรุปผลการประเมิน

31 แบบสังเกตพฤติกรรมระหว่ำงเรียน คำชีแ้ จงใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวำ่ งเรียนแลว้ ทำเครื่องหมำย✓ลงในช่องท่ีตรงกบั คะแนน ลำดับ ชื่อ-สกุลผู้รับกำรประเมิน กำรทำงำนเป็ นทีม ควำมตรงต่อเวลำในกำรส่งงำน รวม 321 3 2 1 ดมี ำก ดี พอใช้ ดมี ำก ดี พอใช้ ช่ือ..................................................ผปู้ ระเมิน ....................../..................../....................

32 กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. บันทกึ ผลหลังการสอน สรุปผลการเรยี นการสอน นกั เรยี นทั้งหมดจานวน ......... คน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ข้อท่ี จานวนนักเรียนทีผ่ า่ น จานวนนกั เรียนท่ไี มผ่ า่ น จานวนคน ร้อยละ จานวนคน ร้อยละ ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางการแก้ไข ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .................................................................... (………………………………………………………) ตาแหนง่ ครูวทิ ยฐานะ........................................

33 ลงช่ือ................................................................. (………………………………………………………) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ลงชอื่ ................................................................. (………………………………………………………) รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ได้ทาการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง...............................................................................แล้วมี ความคดิ เหน็ ดงั น้ี 1. เปน็ แผนการเรียนรทู้ ี่  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม  ยังไมเ่ นน้ ผเ็ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป 3. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ................................................................. (………………………………………………………) ผู้อานวยการโรงเรียน

34

35 แผนการจัดกจิ กรมการเรียนรู้ 3 สารระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รายวชิ า ว 32261 รายวิชา โลกดาราศาสตร์ และอวกาศ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 8 การหมนุ เวยี นของอากาศบนโลก เรอื่ ง การเคลือ่ นทแ่ี ละการหมุนเวยี นของอากาศ 1. สาระ / ผลการเรยี นรู้ สาระ เขา้ ใจสมดุลพลงั งานของโลก การหมนุ เวยี นของอากาศบนโลก การหมนุ เวียน ของน้าในมหาสมทุ ร การ เกิดเมฆ การเปล่ียนแปลงภูมิอากาศโลกและผลต่อส่ิงมชี วี ติ และส่งิ แวดลอ้ ม รวมท้ังการพยากรณอ์ ากาศ ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายผลของแรงเนอ่ื งจากความแตกตา่ งของความกดอากาศ แรงคอรอิ อลิส แรงสู่ศูนยก์ ลาง และแรง เสียดทานท่มี ตี ่อการหมุนเวยี นของอากาศ 2. อธิบายการหมนุ เวียนของอากาศตามเขตละตจิ ูด และผลท่มี ีต่อภูมอิ ากาศ 2. สาระสาคัญ การหมุนเวียนของอากาศเกิดขึ้นจากความกดอากาศที่แตกต่างกันระหว่างสองบริเวณ โดยอากาศ เคล่อื นทจี่ ากบรเิ วณท่มี คี วามกดอากาศสูงไปยังบริเวณท่ีมคี วามกดอากาศต่าซ่ึงจะเห็นไดช้ ดั เจนในการเคล่ือนท่ี ของอากาศในแนวราบ และเมื่อพิจารณาการเคลื่อนที่ของอากาศในแนวดิ่งจะพบว่าอากาศเหนือบริเวณความ กดอากาศต่าจะมีการยกตัวขึ้น ขณะที่อากาศเหนือบริเวณความกดอากาศสูงจะจมตัวลงโดยการเคลื่อนที่ของ อากาศท้ังในแนวราบและแนวดงิ่ น้ีทาใหเ้ กิดเป็นการหมุนเวยี นของอากาศ การหมุนรอบตัวเองของโลกจะทาให้เกิดแรงคอริออลิสซึ่งมีผลให้ทิศทางการเคลื่อนที่ข องอากาศเบนไป โดยอากาศที่เคลื่อนที่ในบริเวณซีกโลกเหนือจะเบนไปทางขวาจากทิศทางเดิม ส่วนบริเวณซีกโลกใต้จะเบนไป ทางซ้ายจากทิศทางเดิม เช่น ลมค้า มรสุม แต่ละบริเวณของโลกมีความกดอากาศแตกต่างกันประกอบกับ อิทธิพลจากการหมุนรอบตัวเองของโลกทาให้อากาศในแต่ละซีกโลกเกิดการห มุนเวียนของอากาศตามเขต ละติจูด แบ่งออกเป็น ๓ แถบ โดยแต่ละแถบมีภูมิอากาศแตกต่างกัน ได้แก่ การหมุนเวียนแถบขั้วโลกมี ภูมิอากาศแบบหนาวเย็น การหมุนเวียนแถบละติจูดกลางมีภูมิอากาศแบบอบอุ่น และการหมุนเวียนแถบเขต รอ้ นมภี ูมอิ ากาศแบบรอ้ นชนื้

36 บริเวณรอยตอ่ ของการหมุนเวียนอากาศแตล่ ะแถบละติจูดจะมลี ักษณะลมฟ้าอากาศทีแ่ ตกต่างกัน เช่น บริเวณ ใกล้ศูนย์สูตรมีปริมาณหยาดน้าฟ้าเฉลี่ยสูงกว่าบริเวณอื่น บริเวณละติจูด ๓๐ องศา มีอากาศแห้งแล้ง ส่วน บรเิ วณละติจดู ๖๐ องศา อากาศมคี วามแปรปรวน 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) 1 อธิบายผลของแรงเนอ่ื งจากความแตกตา่ งของความกดอากาศ แรงท่เี กดิ จากการหมุนรอบตัวเองของ โลก แรงส่ศู ูนยก์ ลาง และแรงเสียดทานทม่ี ีต่อการหมนุ เวยี นของอากาศ(K) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. ทกั ษะการสังเกต 2. การต้งั สมมติฐาน 3. การตีความหมายข้อมูลและข้อสรปุ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์(A)  1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  2. ซื่อสตั ย์สุจรติ  3. มีวินยั  4. ใฝ่เรยี นรู้  5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มุ่งม่นั ในการทางาน  7. รักความเป็นไทย  8. มจี ิตสาธารณะ 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น  1. ความสามารถในการสือ่ สาร  2. ความสามารถในการคิด  3. ความสามารถในการแก้ปัญหา  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.สาระการเรยี นรู้ การเคลอ่ื นทีแ่ ละการหมุนเวียนของอากาศ

37 6. ภาระงาน/ช้นิ งาน - แบบทดสอบ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 8 การเคล่ือนท่ีและการหมุนเวียนของอากาศ - ใบงานท่ี 1 เรื่อง การเคล่อื นทแ่ี ละการหมนุ เวียนของอากาศ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ หนว่ ยย่อยที่ 1 เร่ือง การเคลอ่ื นท่แี ละการหมุนเวียนของอากาศ ข้ันนำเข้ำสู่บทเรียน (Engagement Phase) 1. ครูนำเขำ้ สู่บทเรียนโดยใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาภาพนาบทในหน้า 25 แล้วร่วมกันอภปิ รายตามความ คิดเหน็ ของตนเอง โดยใช้คาถามดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี “การท่แี ตล่ ะบรเิ วณบนโลกมีความเข้มรงั สีดวงอาทิตยแ์ ตกตา่ งกัน ส่งผลอย่างไรต่ออณุ หภูมิอากาศ” แนวคาตอบ บริเวณท่ีมีความเข้มรงั สดี วงอาทติ ย์มากจะมอี ุณหภูมสิ งู กว่าบริเวณที่มีความเข้มรงั สีดวงอาทิตย์ น้อย ข้นั สำรวจและค้นพบ (Exploration Phase) 1. นกั เรียนสืบคน้ ขอ้ มลู การเคลื่อนทแี่ ละการหมุนเวียนของอากาศ จำกหนงั สือเรียนรำยวิชำโลก ดำรำ ศำสตร์ และอวกำศ เล่ม 3 และใบควำมรู้ 2. นกั เรียนทำใบงำนแบบฝึกทกั ษะ ข้นั อธิบำยและลงข้อสรุป ( Explanation Phase) 1 . นกั เรียนร่วมซกั ถำม และครูอธิบำยเพิม่ เติมเก่ียวกบั ขอ้ มลู การเคล่ือนทแี่ ละการหมุนเวียนของอากาศ เพือ่ ใหน้ กั เรียนสรุปสำระสำคญั ลงในสมุดจดบนั ทึก ข้นั ขยำยควำมรู้ (Expansion Phase) 1. นกั เรียนสนทนำซกั ถำมครูเกี่ยวกบั ขอ้ สงสยั ศึกษำเพมิ่ เติมจำกใบควำมรู้เร่ืองการเคลื่อนท่แี ละการ หมนุ เวยี นของอากาศ และแบบฝึกทกั ษะ ข้นั ประเมิน (Evaluation) 1. สงั เกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้และกำรร่วมกิจกรรมของนกั เรียน

38 2. ครูสงั เกตกำรณ์ตอบคำถำมของนกั เรียน 3. ครูวดั ประเมินจำกกำรทำแบบฝึกหดั 8. สอื่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวชิ าเพิม่ เติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.5 เลม่ 3 2. ใบความรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง การเคลอ่ื นท่ีและการหมนุ เวียนของอากาศ 3. PowerPoint เร่อื ง การเคลื่อนท่ีและการหมนุ เวยี นของอากาศ 9. แหลง่ การเรียนรู้ 1. หอ้ งเรยี น 2. แหลง่ การเรยี นรสู้ นเทศ

39 10.การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ วธิ ีวดั เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมนิ สิ่งท่ีต้องวัดผลและประเมนิ ผล ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) - การทา - ใบกจิ กรรมฝึกทกั ษะ - มีผลประเมนิ 1. การหมนุ เวยี นของอากาศท่ีเปน็ ผลมาจาก ใบฝกึ 1.1 คณุ ภาพระดบั ดี ความแตกต่างของความกดอากาศ ทักษะ มากขน้ึ ไป 2. การเคล่อื นท่ีของอากาศทเี่ ป็นผล จากการ - แบบทดสอบ หมุนรอบตวั เองของโลก - ทาคะแนน 80 % ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ข้นึ ไป 1. ทักษะการสังเกต - การ - แบบสังเกต - มผี ลประเมิน 2. การตัง้ สมมตฐิ าน สงั เกต พฤติกรรม การทา คุณภาพระดับดีข้นึ 3. การตีความหมายข้อมลู และข้อสรปุ ไป ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) กจิ กรรมฝึกทักษะ 1. ซื่อสตั ยส์ ุจรติ 2. มวี นิ ยั - การ - แบบสงั เกตพฤติกรรม - มีผลประเมนิ 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. ม่งุ มนั่ ในการทางาน สังเกต การเรียน คุณภาพระดบั ดีขึ้น 5. ตรงตอ่ เวลา ไป

40 เกณฑ์กำรให้คะแนน ดีมำก ระดบั คะแนน 80-100% ดี ระดบั คะแนน 70-79% ปำนกลำง ระดบั คะแนน 60-69% พอใช้ ระดบั คะแนน 50-59 % ปรับปรุง ระดบั คะแนน 0 - 49%

41 แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ส่ิงที่ตอ้ งกำรวดั / คำอธิบำยคณุ ภำพ ประเมินผล ดี (3) พอใช้ (2) ดีมำก (4) ปรับปรุง (1) 1. เขำ้ เรียนตรงต่อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เขำ้ เรียนสำยเกิน 20 เวลำ เวลำสม่ำเสมอดี เวลำสม่ำเสมอ เขำ้ เวลำบ้ำงบำงคร้ัง นำที มำก เรียนสำยไม่เกิน 5 แต่เขำ้ เรียนสำยไม่ นำที เกิน 10 นำที 2. ใฝ่เรียนรู้ มีควำม มีควำม มีควำม มีควำมกระตือรือร้น กระตือรือร้นใน กำรเรียนดีมำก กระตือรือร้นใน กระตือรือร้นดีและ ในกำรเรียนดี มีกำร กำรเรียนมีกำรตอบ มีกำรตอบคำถำม ตอบคำถำมบำ้ งเป็น คำถำมในช้นั เรียน เกือบทุกคร้ัง บำงคร้ัง ทุกคร้ัง 3. มีระเบียบวนิ ยั ทำงำนเป็นระเบียบ ทำงำนเป็นระเบียบ ทำงำนเป็นระเบียบ ท ำ ง ำ น ไ ม่ เ ป็ น และถูกตอ้ งหมด และถูกตอ้ ง 80% และถกู ตอ้ ง 60% ระเบียบ และถูกตอ้ ง ข้นึ ไป ข้นึ ไป 40% ข้นึ ไป 4. ควำมรับผดิ ชอบ ทำงำนที่ไดร้ ับ ท ำ ง ำ น ท่ี ไ ด้ รั บ ท ำ ง ำ น ท่ี ไ ด้ รั บ ท ำ ง ำ น ที่ ไ ด้ รั บ มอบหมำยดีมีควำม มอบหมำยดีมีควำม มอบหมำยดีมีควำม มอบหมำยพอใช้มี ถกู ตอ้ งตรงเวลำ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ งเป็นบำงคร้ัง ควำมถกู ตอ้ งบำ้ ง 1. เขำ้ เรียนตรงต่อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เข้ำเรี ย นต ร ง ต่ อ เขำ้ เรียนสำยเกิน 20 เวลำ เวลำสม่ำเสมอดี เวลำสม่ำเสมอ เขำ้ เวลำบ้ำงบำงคร้ัง นำที มำก เรียนสำยไม่เกิน 5 แต่เขำ้ เรียนสำยไม่ นำที เกิน 10 นำที

42 เกณฑ์กำรตัดสินคะแนน ระดบั คุณภำพ ดีมำก ช่วงคะแนน ดี 13 - 16 พอใช้ 9 - 12 ปรับปรุง 5-8 0-4

43 เกณฑ์การประเมินแบบสังเกตพฤติกรรมระหว่างเรยี น รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ การทางานเป็นทีม 321 รับฟังความคิดเห็นของ รับฟังความคิดเห็นของ รับฟังความคิดเห็นของ ผู้อื่นเป็นอย่างดีมากและ ผู้อื่นเป็นส่วนใหญ่และ ผู้อื่นน้อยมากและมีส่วน ร่วมกันทางานจนงาน ร่วมกันทางานจนงาน ร่วมร่วมกันในการ สาเร็จลุล่วง สาเรจ็ ลุลว่ ง ท างานกลุ่มเพียง เลก็ นอ้ ย ความตรงตอ่ เวลาใน สง่ งานตรงเวลาทก่ี าหนด ส่งงานหลงั จากเวลาที่ สง่ งานหลังจากเวลาท่ี การส่งงาน กาหนด 1 วนั กาหนดมากกว่า 1 วนั เกณฑ์การประเมนิ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5-6 ระดบั คะแนนดี 3-4 ระดับคะแนนพอใช้ 1-2 ระดบั คะแนนปรับปรงุ ตง้ั แต่ระดับคะแนนพอใช้ข้นึ ไป เกณฑ์การผ่าน ผา่ น ไมผ่ ่าน สรุปผลการประเมิน

44 แบบสังเกตพฤติกรรมระหว่ำงเรียน คำชีแ้ จงใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวำ่ งเรียนแลว้ ทำเครื่องหมำย✓ลงในช่องท่ีตรงกบั คะแนน ลำดับ ชื่อ-สกุลผู้รับกำรประเมิน กำรทำงำนเป็ นทีม ควำมตรงต่อเวลำในกำรส่งงำน รวม 321 3 2 1 ดมี ำก ดี พอใช้ ดมี ำก ดี พอใช้ ช่ือ..................................................ผปู้ ระเมิน ....................../..................../....................

45 กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. บันทกึ ผลหลังการสอน สรุปผลการเรยี นการสอน นกั เรยี นทั้งหมดจานวน ......... คน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ข้อท่ี จานวนนักเรียนทีผ่ า่ น จานวนนักเรียนท่ไี มผ่ ่าน จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน ร้อยละ ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางการแก้ไข ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ลงช่ือ.................................................................... (………………………………………………………) ตาแหนง่ ครูวทิ ยฐานะ........................................

46 ลงช่ือ................................................................. (………………………………………………………) หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ลงชอื่ ................................................................. (………………………………………………………) รองผ้อู านวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ได้ทาการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง...............................................................................แล้วมี ความคดิ เห็นดงั น้ี 1. เปน็ แผนการเรียนรทู้ ี่  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม  ยังไมเ่ นน้ ผเ็ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป 3. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ................................................................. (………………………………………………………) ผ้อู านวยการโรงเรียน