135ฝึกอบรมจบในแต่ละสว่ นของเน้ือหา อยใู่ นระดบั ดมี าก (คะแนนเฉลย่ี = 21.41) และคา่ ประสทิ ธภิ าพ(E1) เท่ากบั 82.37 สว่ นคา่ ประสทิ ธภิ าพหลงั เสรจ็ สน้ิ การฝึกอบรมไดร้ ะดบั ความรอู้ ยใู่ นระดบั ดมี าก(คะแนนเฉลย่ี = 22.33) และคา่ ประสทิ ธภิ าพ (E2) เทา่ กบั 85.89 จากการทดสอบความรภู้ ายหลงั เสรจ็ สน้ิ การฝึกอบรม ไดร้ ะดบั ความรอู้ ยใู่ นระดบั ดมี าก(คะแนนเฉลย่ี = 22.33) ไดค้ า่ ประสทิ ธภิ าพ 85.89 โดยแสดงว่าคา่ ประสทิ ธภิ าพของหลกั สตู รฝึกอบรมการออกแบบและสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ ไดค้ า่ ประสทิ ธภิ าพ 82.37/85.89 หมายถงึ คา่ประสทิ ธภิ าพ E1 เทา่ กบั 82.37 แสดงถงึ ผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรม มคี วามรู้ การออกแบบและสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ ในแตล่ ะสว่ นของเน้ือหาในหลกั สตู รอยใู่ นระดบั ดมี าก (คะแนนเฉลย่ี = 21.41)และคา่ ประสทิ ธภิ าพ E2 เทา่ กบั 85.89 แสดงถงึ ผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรม มคี วามรู้ การออกแบบและสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ หลงั เสรจ็ สน้ิ การฝึกอบรมอยใู่ นระดบั ดมี าก (คะแนนเฉลย่ี = 22.33) โดยสามารถใหป้ ระโยชน์แก่ผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมทเ่ี ขา้ รบั การฝึกอบรม และทาํ ใหก้ ารพฒั นาหลกั สตู รฝึกอบรมไดผ้ ลสาํ เรจ็ ออกมาดี โดยมคี วามสอดคลอ้ งกบั หลกั การของสมเกยี รติ พว่ งรอด (2544:132)ทก่ี ลา่ ววา่ การฝึกอบรมเป็นกระบวนการทจ่ี ดั ขน้ึ เพมิ่ พนู ความรู้ ความชาํ นาญ และเปลย่ี นแปลงทศั นคตใิ นการปฏบิ ตั งิ านไดด้ ขี น้ึ ซง่ึ จะนําไปสกู่ ารเพมิ่ พนู ประสทิ ธภิ าพในการปฏบิ ตั งิ านต่อไปทงั้ ในปจั จบุ นั และในอนาคต 2. ความคดิ เหน็ ต่อหลกั สตู รฝึกอบรมการออกแบบและสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ ในขณะฝึกอบรมจบในแต่ละสว่ นของเน้ือหาของหลกั สตู ร โดยผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมมคี วามคดิ เหน็ วา่ ในเน้ือหาและรายละเอยี ดของหลกั สตู รฝึกอบรม ใหค้ วามรใู้ นดา้ นของความสาํ คญั ของการออกแบบและสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ มากขน้ึ โดยมคี วามสอดคลอ้ งกบั หลกั การของฐรี ะ ประวาลพฤกษ์ (2538:4) ทก่ี ลา่ ววา่ การฝึกอบรมหมายถงึ กระบวนการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพบคุ คลใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ ทกั ษะและทศั นะคตเิ พม่ิ ขน้ึ ทาํ ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมการทาํ งานในขอบเขตของการปฏบิ ตั งิ านเฉพาะดา้ น อนั มผี ลตอ่ ความสาํ เรจ็ ขององคก์ ารและสอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของ ภาณุ พรพรหมประธาน (2545:115-119) ทไ่ี ดส้ รา้ งหลกั สตู รฝึกอบรมการควบคุม ตรวจซอ่ ม และบาํ รงุ รกั ษา ระบบอาณตั สิ ญั ญาณและโทรคมนาคม เพอ่ื การเดนิ รถสาํ หรบัพนกั งานเทคนิคและนายตรวจสายบรรจุใหม่ ของการรถไฟแหง่ ประเทศไทย ทไ่ี ดท้ าํ การศกึ ษาประสทิ ธผิ ลของหลกั สตู ร โดยประเมนิ สมรรถภาพในการปฏบิ ตั งิ านของผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมและความคดิ เหน็ ต่อการใชห้ ลกั สตู รฝึกอบรม ซง่ึ พนกั งานเทคนิคและนายตรวจสายบรรจุใหม่ มคี วามรู้ความสามารถและดา้ นเทคนิควธิ กี ารเฉลย่ี สงู กวา่ คะแนนก่อนการฝึกอบรม ในดา้ นของความคดิ เหน็ต่อการใชห้ ลกั สตู รฝึกอบรมพบวา่ ทงั้ 2 ดา้ นมคี วามเหมาะสมอยใู่ นระดบั ดมี ากข้อเสนอแนะ จากการวจิ ยั ครงั้ น้ีมขี อ้ เสนอแนะเกย่ี วกบั การพฒั นาหลกั สตู รฝึกอบรมการออกแบบและสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ ดงั น้ี
136 1. หลกั สตู รฝึกอบรมการออกแบบและสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ ทไ่ี ดส้ รา้ งขน้ึ นนั้ มีรายละเอยี ดของเน้ือหาทม่ี คี วามเหมาะสมสามารถนําไปใชฝ้ ึกอบรมได้ โดยสอดคลอ้ งกบัประสทิ ธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80 ความรคู้ วรมกี ารพฒั นาเน้อื หาในหลกั สตู รใหม้ คี วามชดั เจนเพมิ่ มากขน้ึ ในเน้ือหาการออกแบบใหม้ เี น้ือหาครอบคลุมแมพ่ มิ พใ์ นแตแ่ บบมากกว่าน้ตี ่อไป 2. หลกั สตู รฝึกอบรมการออกแบบและสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ ทไ่ี ดส้ รา้ งขน้ึ นนั้ มีรายละเอยี ดของเน้ือหาทม่ี เี หมาะสมสามารถนําไปใชเ้ ป็นหลกั สตู รฝึกอบรมใหก้ บั บุคลากรในองคก์ รทต่ี อ้ งการใหบ้ ุคลากรไดเ้ พม่ิ พนู ความรใู้ นการทจ่ี ะออกแบบแมพ่ มิ พห์ รอื การสรา้ งแมพ่ มิ พเ์ พอ่ื ใหม้ ีความเขา้ ใจถงึ ชน้ิ สว่ นแต่ละชน้ิ มคี วามสาํ คญั อยา่ งไร แตค่ วรมกี ารปรบั เพมิ่ -ลดเน้ือหาของหลกั สตู รใหเ้ หมาะสมกบั ประเภทและชนิดแมพ่ มิ พ์ 3. หลกั สตู รฝึกอบรมการออกแบบและสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ สามารถนําไปใช้ฝึกอบรมใหก้ บั บุคลากรในหน่วยงานของรฐั และเอกชนทม่ี รี ปู แบบการปฏบิ ตั งิ านในดา้ นการจดัฝึกอบรมทางอุตสาหกรรมแมพ่ มิ พแ์ ละสถาบนั การศกึ ษาข้อเสนอแนะสาํ หรบั การวิจยั ครงั้ ต่อไป ควรมกี ารปรบั ปรงุ เน้ือหาการพฒั นาหลกั สตู รฝึกอบรมการออกแบบและสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดีพลาสตกิ ใหม้ เี น้ือการออกแบบครอบคลุมและมคี วามชดั เจนในมพี มิ พแ์ ต่ละชนิด
136บรรณานุกรม
137บรรณานุกรมเกศรนิ มนูญผล. (2544). การพฒั นาหลกั สตู รฝึกอบรมครเู พอื่ เสรมิ สมรรถภาพ ดา้ นการจดั ทาํ หนงั สอื เสรมิ ประสบการณ์ทสี่ อดคลอ้ งกบั ทอ้ งถนิ่ . ปรญิ ญานิพนธ์ กศ.ม.(อุตสาหกรรม ศกึ ษา). กรงุ เทพฯ: บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ. ถา่ ยเอกสาร.เฉลมิ พล คงจนั ทร.์ (2540). การพฒั นาหลกั สตู รฝึกอบรมเทคโนโลยรี ถยนตไ์ ฟฟ้า สาํ หรบั นกั ศกึ ษาชา่ งยนต.์ ปรญิ ญานิพนธ์ กศ.ม. (อตุ สาหกรรมศกึ ษา) กรงุ เทพฯ: บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ. ถ่ายเอกสาร.ชชู ยั สมทิ ธไิ กร. (2540). การฝึกอบรมบุคลากรในองคก์ ร. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .ชาลี ตระกาลกลู . (2539). การออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ีด1. กรงุ เทพฯ: สมาคมสง่ เสรมิ เทคโนโลยี (ไทย-ญป่ี ุน่ ).ชาลี ตระกาลกลู . (2537). การออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ีด2. กรุงเทพฯ: สมาคมสง่ เสรมิ เทคโนโลยี (ไทย-ญป่ี ุน่ ).ชยั รตั น์ แกว้ ดว้ ง. (2538). เทคโนโลยกี ารออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ . กรงุ เทพฯ: สาํ นกั พฒั นา อุตสาหกรรมสนบั สนุนการสง่ เสรมิ อุตสาหกรรม กระทรวงอตุ สาหกรรม.ฐรี ะ ประวาลพฤกษ.์ (2538). การพฒั นาบคุ คลและการฝึกอบรม. กรงุ เทพฯ: สาํ นกั งานสถาบนั ราชภฏั .บรรเลง ศรนิลและชาตรี รตั นวงศ.์ (ม.ป.พ.). คมู่ อื การออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ . กรุงเทพฯ: สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนือ.พวงรตั น์ ทวรี ตั น์. (2540). วธิ กี ารวจิ ยั ทางพฤตกิ รรมศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร.์ พมิ พค์ รงั ท7่ี . กรงุ เทพฯพฒั นา สขุ ประเสรฐิ . (2540). กลยทุ ธใ์ นการฝึกอบรม. กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร.์
138พชิ ติ ฤทธจิ รณู . (2544). วธิ กี ารวจิ ยั ทางพฤตกิ รรมศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร.์ พมิ พค์ รงั ท7่ี . กรงุ เทพฯ.ภาณุ พรพรหมประธาน. (2545). สรา้ งหลกั สตู รฝึกอบรมการควบคมุ ตรวจซ่อม และบาํ รุงรกั ษา ระบบอาณตั สิ ญั ญาณและโทรคมนาคม เพอื่ การเดนิ รถสาํ หรบั พนกั งานเทคนิคและ นายตรวจสายบรรจุใหมข่ องการรถไฟแหง่ ประเทศไทย. ปรญิ ญานิพนธ์ กศ.ม. (อุตสาหกรรมศกึ ษา). กรงุ เทพฯ: บณั ฑติ วยิ าลยั มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ. ถา่ ยเอกสาร.พสุ โลหารชุนพรอ้ มคณะ. (1991). การออกแบบการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ และการออกแบบ เชงิ วเิ คราะห.์ กรุงเทพฯ: สถาบนั พฒั นาอุตสาหกรรมเครอ่ื งจกั รกลและโลหะการ กรม สง่ เสรมิ อุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม.พสุ โลหารชุนพรอ้ มคณะ. (2531). การออกแบบการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ . กรุงเทพฯ: สถาบนั พฒั นาอุตสาหกรรมเครอ่ื งจกั รกลและโลหะการ กรมสง่ เสรมิ อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม.รววี รรณ ชนิ ะตระกลู . (2535). วธิ วี จิ ยั การศกึ ษา. กรงุ เทพฯ: คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรม สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ฯ ลาดกระบงั .ราํ ไพพรรณ อภชิ าตพิ งศช์ ยั . (2545). การฝึกอบรมในงานสง่ เสรมิ การเกษตรการวางแผนและการ จดั การ. เชยี งใหม:่ พี อาร์ คอมพวิ เตอร.์วเิ ชยี ร จนั ทะโชต.ิ (2540). การพฒั นาหลกั สตู รการป้องกนั ยาเสพตดิ สาํ หรบั นกั ศกึ ษา อุตสาหกรรมศกึ ษา สถาบนั ราชภฏั อดุ รธานี. ปรญิ ญานิพนธ์ กศ.ม. (อุตสาหกรรมศกึ ษา). กรุงเทพฯ: บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ. ถ่ายเอกสาร.สมเกยี รติ พว่ งรอด. (2544). การบรหิ ารงานบคุ คล. ปตั ตานี: มติ รภาพปตั ตานี.สมคดิ บางโม. (2540). เทคนิคการฝึกอบรมและการประชุม. พมิ พค์ รงั ท2่ี . กรงุ เทพฯ: วทิ ยาพฒั น์.สมชาย หริ ญั กติ ต.ิ (2542). การบรหิ ารทรพั ยากรมนุษย์ ฉบบั สมบรู ณ์. กรุงเทพฯ: ธรี ะฟิลม์ และไซเทก็ ซ.์
139สมชาติ กจิ ยรรยง. (2545). เทคนิคการเป็นวทิ ยากรฝึกอบรมฝึกอบรม. กรุงเทพฯ: มลั ตอิ นิ ฟอรช์ นั่ เทคโนโลย.ีสนั ทศั น์ วงศม์ าก. (2541). การพฒั นาหลกั สตู รชา่ งเทคนิคระบบการสอื่ สารใยแกว้ นําแสงของ องคก์ ารโทรศพั ทแ์ หง่ ประเทศไทย. ปรญิ ญานิพนธ์ กศ.ม.(อุตสาหกรรมศกึ ษา). กรงุ เทพฯ: บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ. ถ่ายเอกสาร.องอาจ พงษ์พสิ ทิ ธบ์ ุปผา. (2541). การพฒั นาหลกั สตู รฝึกอบรมเพอื่ เสรมิ สรา้ งพฤตกิ รรมผนู้ ําทาง การเกษตรสาํ หรบั นกั เรยี นโครงการอาชวี ศกึ ษา เพอื่ พฒั นาชนบท (อศ.กช.). ปรญิ ญานิพนธ์ กศ.ม. (อุตสาหกรรมศกึ ษา). กรงุ เทพฯ: บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ. ถ่ายเอกสาร.Belofsky, Harold. (1995). Plastics: Product Design and Process Engineering. Munich Vienna, New York: Hanser Publishers.Linder, E. and Unger, P. (1993). Gastrow Injection Molds 108 Proven Designs. Munich Vienna, New YorkHanser Publishers.Menges, George and Mohern, Paul. (1993). How to Make Injection Mold. Munich Vienna, New York: Hanser Publishers.Bertuleit and others. (1995). Training in Injection Molding. Munich Vienna, New York: Hanser Publishers.Rees, Herbert. (1995). Mold Engineering. Munich Vienna, New York: Hanser Publishers.Rees, Herbert. (1996). Understanding Product Design for Injection Molding. Munich Vienna, New York: Hanser Publishers.
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 138ภาคผนวก
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 139ภาคผนวก ก
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 140โครงการฝึ กอบรมในหลกั สูตร การออกแบบและการสรา้ งแม่พิมพฉ์ ีดพลาสติกช่อื โครงการ โครงการฝึกอบรมในหลกั สตู ร การออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ 1. หลกั การของหลกั สตู รฝึ กอบรม การจดั ทาํ หลกั สตู ร การออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ โดยหลกั สตู รทจ่ี ดั ทาํ ขน้ึ เป็นการนําหลกั การ รปู แบบ และเทคนิคการฝึกอบรม มาจดั ทาํ เป็นหลกั สตู รฝึกอบรม และหลกั สตู รทจ่ี ดั ทาํ ขน้ึ จะประกอบดว้ ยเน้ือหาของการออกแบบ คอื ความรพู้ น้ื ฐานดา้ นพลาสตกิ เครอ่ื งฉดี พลาสตกิ ความรดู้ า้ นการฉีดพลาสตกิ การออกแบบแมพ่ มิ พ์ การวเิ คราะหใ์ นการออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ การตรวจแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิและการบาํ รงุ รกั ษาเพอ่ื ใหใ้ นเน้ือหาของการฝึกอบรมการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ มีประสทิ ธภิ าพมากขน้ึ 2. วตั ถปุ ระสงคข์ องหลกั สตู รฝึ กอบรม 2.1 เพอ่ื พฒั นาหลกั สตู รการฝึกอบรม การออกแบบ และการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ สาํ หรบัช่างเทคนิค ดา้ นแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ 2.2 เพอ่ื ศกึ ษาประสทิ ธภิ าพของหลกั สตู รฝึกอบรม การออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ ดา้ นความรใู้ นทฤษฎกี ารออกแบบ การประกอบของผูท้ ผ่ี า่ นการฝึกอบรมหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ 3. เนื้อหาหลกั สตู ร 3.1 พลาสตกิ 3.1.1 พน้ื ฐานดา้ นงานฉีดพลาสตกิ 3.1.1.1 ประวตั คิ วามเป็นมาของพลาสตกิ 3.1.1.2 กระบวนการฉีดพลาสตกิ 3.1.1.3 การฉดี พลาสตกิ 3.1.2 ความรดู้ า้ นเครอ่ื งฉดี พลาสตกิ 3.1.2.1 เครอ่ื งฉีดแบบควบคมุ ดว้ ยมอื 3.1.2.2 เครอ่ื งฉีดแบบ ซเี อน็ ซี 3.2 แมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ 3.2.1 แมพ่ มิ พส์ องแผน่ 3.2.2 แมพ่ มิ พส์ ามแผน่ 3.2.3 แมพ่ มิ พแ์ บบแยก 3.3 การออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ 3.3.1 การออกแบบโครงสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ 3.3.2 การกาํ หนดแนวแยกแม่พมิ พ์ 3.3.3 การออกแบบชน้ิ สว่ น 3.3.3 การออกแบบเบา้ แมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ 3.4 การวเิ คราะหใ์ นการออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ 3.4.1 การวเิ คราะหว์ สั ดทุ าํ แม่พมิ พ์ 3.4.2 การวเิ คราะหค์ ุณสมบตั ใิ นการขน้ึ รปู
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 141 3.4.3 การวเิ คราะหม์ าตรการป้องกนั การสกึ หรอของเบา้ 3.4.4 การวเิ คราะหค์ วามสมดุลยก์ ารไหลของน้ําพลาสตกิ3.5 การตรวจสอบแมพ่ มิ พ์3.6 การบาํ รงุ รกั ษาแม่พมิ พ์4. คณุ สมบตั ิของผเู้ ข้ารบั การฝึ กอบรม 4.1 เป็นบคุ คลทเ่ี คยทาํ งานดา้ นแม่พมิ พฉ์ ีด มปี ระสบการณ์ทาํ งาน ไมเ่ กนิ 6 เดอื น 4.2 เป็นบคุ คลทก่ี าํ ลงั ศกึ ษาอยใู่ นสาขาแม่พมิ พ์ ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี และระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ขนั้ สงู5. ระยะเวลาในการดาํ เนิ นการฝึ กอบรม ระยะฝึกอบรม 2 วนั แบง่ เป็นวนั ละ 7 ชม.6. แผนจดั ดาํ เนินการฝึ กอบรม 6.1 ขนั้ เตรยี มการฝึกอบรม 6.1.1 จดั ทาํ หลกั สตู รฝึกอบรม 6.1.2 อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการฝึกอบรม 6.2.1.1 คอมพวิ เตอร์ 1 ชุด 6.2.1.2 โปรแกรมเขยี นแบบ3 มติ ิ (Unigraphics NX2) 6.2.1.3 แมพ่ มิ พ์ 2 ชุด 6.2.1.4 ชน้ิ งานตวั อยา่ ง 6.2.1.5 เครอ่ื งฉีดพลาสตกิ 1 เครอ่ื ง 6.2.1.6 เมด็ พลาสตกิ 6.1.3 เสนอ อนุมตั ิ จดั การฝึกอบรม 6.2 ขนั้ ดาํ เนินการฝึกอบรม 6.2.1 ตดิ ตอ่ ประสานงานกบั หน่วยงานทจ่ี ะทาํ การจดั การฝึกอบรม 6.2.2 แจง้ หน่วยงานและผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรม 6.2.3 จดั เตรยี มเอกสาร อุปกรณ์ และแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ 6.2.4 ดาํ เนนิ การฝึกอบรม 6.2.5 ประเมนิ การฝึกอบรม
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 142ปฏิทินปฏิบตั ิงาน ตุลาคม 2548 ธนั วาคม 2548 มกราคม 2549 กุมภาพนั ธ์ 2549ขนั้ ตอนการดาํ เนินงาน 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 41. จดั ทาํ หลกั สตู ร2. เสนอขออนุมตั จิ ดั การ ฝึกอบรม3. ตดิ ต่อประสานงานกบั หน่วยงานจดั ฝึกอบรม4. แจง้ หน่วยงานและผเู้ ขา้ ฝึกอบรม5. จดั เตรยี มเอกสาร อุปกรณ์และแมพ่ มิ พ์ ฉดี พลาสตกิ6. ดาํ เนนิ การฝึกอบรม7.ประเมนิ ผลการฝึกอบรม 7. วิธีการฝึ กอบรม ในการดาํ เนินการฝึกอบรมเป็นการฝึกอบรมในแบบทฤษฎกี ารบรรยายโดยผวู้ จิ ยั และผเู้ ชย่ี วชาญในดา้ นการออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ 7.1 วธิ กี ารประเมนิ ผล 7.1.1 แบบทดสอบความรรู้ ะหวา่ งการฝึกอบรมตามเกณฑ์ 80/80 7.1.2 แบบทดสอบความรหู้ ลงั การฝึกอบรมตามเกณฑ์ 80/80
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 143ตาราง แผนการสอนหลกั สตู รฝึ กอบรมการออกแบบและสรา้ งแม่พิมพฉ์ ีดพลาสติก วนั ท่ี เวลา รปู แบบ เน้ือหาวชิ า จาํ นวนชวั่ โมง27 ม.ค. 2549 8.00 – 10.30 2.5 ชม. 10.30 – 11.30 ทฤษฎี ความรพู้ น้ื ฐานดา้ นพลาสตกิ28 ม.ค. 2549 11.30 – 12.00 ทฤษฎี ความรพู้ น้ื ฐานดา้ นเครอ่ื งฉีด 1.0 ชม. 13.00 – 14.30 ทฤษฎี ชนิดเครอ่ื งฉดี พลาสตกิ ทใ่ี ชใ้ นงาน 30 นาที 14.30 – 16.00 08.00 – 11.00 ฉีดพลาสตกิ 1.5 ชม. ทฤษฎี แมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ 1.5 ชม. 11.00 – 15.00 2.0 ชม. ทฤษฎี การออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ 15.00 – 15.30 3.0 ชม. 15.30 – 15.45 ทฤษฎี การวเิ คราะหใ์ นการออกแบบแมพ่ มิ พ์ 15.45 – 16.00 ฉีดพลาสตกิ 30 นาที 15 นาที ทฤษฎี ขนั้ ตอนการออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ีด 15 นาที พลาสตกิ ทฤษฎี การตรวจสอบแมพ่ มิ พ์ การตรวจสอบชน้ิ สว่ นแมพ่ มิ พ์ ทฤษฎี การบาํ รงุ รกั ษาแมพ่ มิ พ์
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 144 คาํ นํา ในปจั จุบนั อุตสาหกรรมแมพ่ มิ พไ์ ดม้ กี ารพฒั นาอยา่ งรวดเรว็ หลกั สตู รฝึกอบรม การออกแบบแม่พมิ พฉ์ ีดพลาสตกิ และการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ โดยเฉพาะการศกึ ษาแมพ่ มิ พใ์ นปจั จุบนั จาํ เป็นตอ้ งพฒั นาหลกั สตู รให้มคี วามทนั สมยั เพอ่ื รองรบั กบั การเจรญิ เตบิ โตของอุตสาหกรรมสาขาแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ เนือหาหลกั สตู รการฝึกอบรม การออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ มุง่ เน้นดา้ นวธิ กี ารออกแบบและขอ้ ผดิ พลาดอนั เกดิ จากการออกแบบ และยงั เสรมิ เนือหาดา้ นพนื ฐานงานฉีดพลาสตกิ เน้นเนือหาสาํ หรบั ผเู้ ขา้รบั การฝึกอบรมใหม้ คี วามรมู้ ากขนึ โดยหลกั สตู รทจ่ี ดั ขนึ เป็นหลกั สตู รเรง่ รดั ระยะเวลาในการฝึกอบรมใชเ้ วลา2วนัทงั นีหลกั สตู รฝึกอบรม การออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ เน้นเนือหาทส่ี ามารถอ่านแลว้เขา้ ใจไดง้ า่ ย เน่ืองจากผสู้ รา้ งหลกั สตู รไดเ้ น้นภาพประกอบกบั การบรรยาย เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจมากขนึหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแม่พมิ พฉ์ ีดพลาสตกิ สาํ เรจ็ ได้ ตอ้ งขอขอบคณุ สาํ นกั หอสมุดมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ สาํ นกั หอสมดุ สถาบนั พระจอมเกลา้ พระนครเหนือ สมาคมแมพ่ มิ พ์ และเจา้ หน้าทท่ี กุทา่ นไว้ ณ ทน่ี ีดว้ ย เรวตั ร มีสถิตย์
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 145 สารบญั หน้าความรเู้ บอ้ื งตน้ งานฉดี พลาสตกิ 1ประวตั คิ วาเป็นมาของพลาสตกิ 2การฉดี พลาสตกิ 6เครอื งฉดี พลาสตกิ 8การไหลของน้ําพลาสตกิ 18หลกั เกณฑก์ ารเลอื กวสั ดุเหลก็ 29ขอ้ พจิ ารณาในการเลอื กวตั ถุดบิ พลาสตกิ 30ชนิดของพลาสตกิ ทใี ชท้ วั ไป 33หลกั เกณฑท์ วั ไปในการออกแบบชน้ิ งานพลาสตกิ 39ตารางความหนาของผนงั ของของผลติ ภณั ฑพ์ ลาสตกิ 41การระบายอากาศในแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ 48แมพ่ มิ พช์ นิดต่างๆ 52การออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ และหลกั เกณฑก์ ารวเิ คราะห์ 54ขนั้ ตอนการออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ 88วธิ กี ารออกแบบแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิชน้ิ สว่ นของแมพ่ มิ พ์ 89การหล่อเยน็ แม่พมิ พแ์ ละผลกระทบต่อชน้ิ งาน 98การออกแบบระบบหล่อเยน็ ในแมพ่ มิ พ์ 100การตรวจสอบแมพ่ มิ พ์ 103การบาํ รงุ รกั ษาแมพ่ มิ พ์ 106ภาคผนวก 108
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 146ความรเู้ บอื งต้นงานฉีดพลาสติก งานฉีดพลาสตกิ เป็นลกั ษณะกระบวนการผลติ ช้นิ งานพลาสตกิ โดยเคร่อื งฉีดพลาสตกิ ทํางานเป็นรอบๆกระบวนการเรมิ่ จาก พลาสตกิ ในรปู ผงหรอื เมด็ พลาสตกิ ถกู สง่ เขา้ ไปในสว่ นป้อนและควบคุมปรมิ าณ ก่อนท่ีจะค่อยๆ หลอมเหลวในสว่ นทม่ี อี ณุ หภมู ติ ่างๆ กนั แลว้ จงึ ฉีดเขา้ ไปในแม่พมิ พด์ ว้ ยแรงสง่ ของลกู สบู หรอื เกลยี วอดัพลาสตกิ เหลว (หรอื เรยี กว่าน้ําพลาสตกิ ) จะไหลเต็มแม่พมิ พก์ ลายเป็นพลาสตกิ แขง็ สุดทา้ ยจงึ นําออกจากแมพ่ มิ พ์ เป็นชน้ิ งานสาํ เรจ็ ปรมิ าณพลาสตกิ ทฉ่ี ีด ขนาดของชน้ิ งาน ความเป็นเน้ือเดยี วกนั ของน้ําพลาสตกิ และคุณภาพของชน้ิ งาฉีดพลาสตกิ ไดร้ บั การปรบั ปรงุ อย่างมากหลงั จาก ค.ศ. 1950 เม่อื มกี ารนําเครอ่ื งฉีดแบบเกลยี วอดั มาใชแ้ ทนท่ีเครอ่ื งฉดี แบบลกู สบู งานฉีดพลาสตกิ จะเกย่ี วขอ้ งกบั เครอ่ื งฉีด แม่พมิ พ์ เมด็ พลาสตกิ และชน้ิ งาน ตอ้ งใชค้ วามสามารถอยา่ งมากในดา้ นเทคนิค และอาศยั ประสบการณ์สงู เพอ่ื ใหไ้ ดช้ น้ิ งานทม่ี คี ุณภาพสม่าํ เสมอและใชง้ านไดด้ ี ช้นิ งานจะดหี รอื ไม่ ขน้ึ อยู่กบั แม่พมิ พท์ ่ใี ช้ฉีด ดงั นัน้ ผู้ออกแบบแม่พมิ พแ์ ละช่างทําแม่พมิ พ์ จงึ มีความสาํ คญั ต่องานน้ี และคุณภาพและความเช่อื ถอื ไดข้ องแม่พมิ พ์ มผี ลต่อความสวยงามของชน้ิ งานและต้นทุนการผลิตหนังสอื เล่มน้ีมีส่วนช่วยในการถ่ายทอดความรู้ ทงั้ ท่เี ป็นพ้ืนฐานและท่ีได้มกี ารพฒั นาข้นึ ใหม่ ให้แก่ผอู้ อกแบบแมพ่ มิ พ์ และชา่ งทาํ แมพ่ มิ พ์ งานฉีดพลาสตกิ ไดพ้ ฒั นาไปอยา่ งมาก ในเวลา 25 ปีทผ่ี ่านมา เครอ่ื งฉีดพลาสตกิ ทม่ี คี วามแม่นยําสงู เครอ่ื งฉีดแบบเกลยี วอดั การนําคอมพวิ เตอรม์ าควบคุมเครอ่ื งฉีด เพอ่ื ใหก้ ารปรบั ตงั้ และควบคุมตวั แปรในการฉดี พลาสตกิ เป็นไปอยา่ งสม่าํ เสมอ การผลติ พลาสตกิ ชนิดใหมแ่ ละการปรบั ปรงุ คุณสมบตั ิ ทาํ ใหฉ้ ีดชน้ิ งานไดพกิ ดั วามเผอ่ื ทล่ี ะเอยี ดและโครงสรา้ งมคี ุณภาพสม่าํ เสมอ ปจั จุบนั น้ี สามารถฉีดชน้ิ งานพลาสตกิ ซง่ึ ไม่สามารถฉีดไดเ้ ม่อื 5 ถงึ 10 ปีทแ่ี ลว้ การฉีดพลาสตกิ สองสีชน้ิ งานทางวศิ วกรรมทม่ี พี กิ ดั ความเผอ่ื ละเอยี ดมาก โครงสรา้ งผลกึ สม่าํ เสมอเป็นเน้ือเดยี ว มคี ุณสมบตั ทิ นความรอ้สงู และความเสยี ดทานต่าํ เหลา่ น้มี สี ว่ นชว่ ยพฒั นาอุตสาหกรรมพลาสตกิประวตั ิความเป็นมาของพลาสติก วสั ดุพลาสติกสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ตามอนุพนั ธ์และการสงั เคราะห์ พลาสติกท่ีได้จากธรรมชาติ เชน่ fiber (1859) celluloid ประมาณปี ค.ศ. 1870 และ artificial horn (1897) พลาสตกิ ทท่ี าํ จากcellulose ไดพ้ ฒั นาขน้ึ มาตงั้ แต่ปี ค.ศ.1910 ซง่ึ พลาสตกิ เหลา่ น้ียงั มที ใ่ี ชอ้ ยใู่ นปจั จุบนั และเป็นคแู่ ขง่ ทส่ี าํ คญั ของพลาสตกิ แผน่ บางทใ่ี ชใ้ นอุตสาหกรรมบรรจภุ ณั ฑ์ พลาสตกิ ชนิด thermoses มาก จากการคน้ พบของ L.H. Backhand ในปี ค.ศ. 1910 ซง่ึ บางทเี รยี กว่าBacdbile การผลติ พลาสตกิ ในปจั จุบนั หรอื ทเ่ี รยี กว่า thermoplastic ไดเ้ รม่ิ มาตงั้ แต่ปี ค.ศ. 1922 โดย H.
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 147Staudinger ไดว้ างรากฐานการผลติ โดยใชก้ รรมวธิ ี polymerization . {PS} (1930) polyvinyl chloride [PVC](1931) polyetylene {high pressure} [LDPE] (1930) [HDPE] (1953) และ low pressure polyethylene[LLDPE] (1970) ทงั้ ชนิดทเ่ี ป็น Homopolymer Copolymer และพลาสตกิ ผสม มกี ารใชก้ นั มากกว่า 60% ของจาํ นวนพลาสตกิ ทงั้ หมด พลาสตกิ ทใ่ี ชใ้ นงานวศิ วกรรม กระบวนการผลติ จะมคี วามซบั ซอ้ นกวา่ กระบวนการผลติ ดงั กลา่ วมาแลว้ขา้ งตน้ กระบวนการดงั กลา่ วคอื polyaddition และ polycondensation เป็นตน้ พลาสตกิ ทางวศิ วกรรมน้ีสามารถผลติ ใหไ้ ดค้ ุณสมบตั ติ ามทต่ี ้องการ ซ่งึ อาจจะมคี ุณสมบตั คิ ลา้ ยกบั ยาง หรอื คลา้ ยกบั thermoses หรอืthermoplastics ได้ ตวั อยา่ งเช่น พลาสตกิ ทม่ี ชี อ่ื ทางการคา้ เหลา่ น้ี Lexan, Noryl (Feneral Electric Plastic).Joplin (Mitsubishi Gas & Chemicals Ind. Co.), Hostadur (HOECHST A.G.), U;tradir (BASF A.G.), Tedur(BAYER) A.G. และอน่ื ๆ อกี โครงสรา้ งของพลาสตกิ ชนิดต่าง ๆ ดงั กล่าวมาแลว้ ขา้ งตน้ ดงั รปู ท่ี 1 รายละเอียดจะไดก้ ล่าวในบทต่อไป รปู ท่ี 1 โครงสรา้ งและการเรยี งตวั ของโมเลกุลของพลาสตกิ ชนิดตา่ ง ๆกระบวนการฉีดพลาสติก (The Injection Molding Process) การฉีดพลาสตกิ คอื การทําใหพ้ ลาสตกิ หลอมละลายดว้ ยความรอ้ น จนกระทงั่ กลายเป็นของเหลวแลว้ ทาํ การฉดี พลาสตกิ ทเ่ี หลวนัน้ เขา้ สแู่ ม่พมิ พด์ ว้ ยความดนั สงู หลงั จากนนั้ พลาสตกิ จะค่อย ๆ เยน็ ตวั จนกระทงั่กลายเป็นของแข็งมีรูปร่างตามแบบ แม่พมิ พ์จะเปิดออก ช้ินงานก็จะถูกดนั ออกมา นําไปตกแต่งเป็นช้ินงานสาํ เรจ็ รปู ซง่ึ ในการกระทุง้ ออกมานนั้ ทางเขา้ (sprue) และทางวง่ิ (runner) ทเ่ี ยน็ ตวั พรอ้ ม ๆ กบั ชน้ิ งานกจ็ ะหลดุ ออกมาดว้ ยกนั
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 148 รปู ที่ 2 เป็นการแสดงขนั้ ตอนการฉีดพลาสตกิ ดว้ ยเครอ่ื งฉีดพลาสตกิ แบบเกลยี วอดั (Screw type injection molding machine)ในรปู แบบการแสดงขนั้ ตอนการทาํ งานของกระบวนการฉีดตามขนั้ ตอนตา่ ง ๆ มดี งั น้ี 1. แม่พิมพป์ ิ ด (Mold clamping) การเรม่ิ ตน้ ของกระบวนการฉีด เรมิ่ ตงั้ แต่แม่พมิ พป์ ิด โดยอาศยั แรงปิดจากเครอ่ื งฉีดพลาสตกิ หลงั จาก ตรวจดแู ลว้ ไมม่ สี ง่ิ แปลกปลอมตดิ คา้ งอยบู่ รเิ วณผวิ หน้าประกบของแมพ่ มิ พ์ 2. ฉีด (Injection) หลงั จากหวั ฉีด (Nozzle) และแม่พมิ พ์ (Mold) เคล่อื นอยตู่ ําแหน่งฉีดแลว้ เกลยี วสง่ ในกระบอกอดั เครอ่ื งฉีดพลาสตกิ (cylinder) ซง่ึ มพี ลาสตกิ หลอมเหลวอยภู่ ายใน (ในรปู ตามขนั้ ตอนท่ี 4) เกลยี วนําสง่ จะ อดั น้ําพลาสตกิ ทห่ี ลอมเหลวเขา้ สแู่ มพ่ มิ พ์ จากหวั ฉีด (Nozzle) เขา้ สทู่ างเขา้ (Sprue) และทางวง่ิ (Runner) เขา้ สแู่ บบชน้ิ งาน (Cavity) 3. การรกั ษาความดนั (ความดนั ตาม) (Pressure holding) ขนั้ ตอนการคงความดนั นนั้ เป็นการรกั ษาความดนั ฉีดพลาสตกิ ภายในแม่พมิ พร์ ะยะหน่ึงก่อน ดว้ ยเกลยี ว อดั เพอ่ื ชดเชยกบั การหดตวั ของพลาสตกิ ใน cavity ซง่ึ จะเยน็ ตวั กลายเป็นของแขง็
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 1494. การระบายความรอ้ น (Cooling, Plasticizing and metering)เม่อื ฉีดพลาสตกิ เตม็ แบบ (cavity) พลาสตกิ จะเรมิ่ เยน็ ตวั เป็นของแขง็ ระบบหล่อเยน็ จะเรมิ่ ทาํ งานเพ่อืระบายความรอ้ นออกจากชน้ิ งาน เพอ่ื ใหช้ น้ิ งานเยน็ ตวั รกั ษาสภาพรปู ทรงได้ จนกระทงั่ สามารถนําออกจากแม่พมิ พไ์ ด้ ในสว่ นของกระบอกอดั เมด็ พลาสตกิ ในถงั ป้อน (hopper) กจ็ ะไหลลงส่กู ระบอกอดัเมด็ พลาสตกิ จะถูกเกลยี วบดและได้รบั ความรอ้ นจนหลอมละลาย ค่อย ๆ เคล่อื นตวั ไปสหู่ วั ฉีด โดยเกลยี วอดั คอ่ ย ๆ ดนั พลาสตกิ ทห่ี ลอมเหลวไปเรอ่ื ย ๆ เพอ่ื ฉีดเขา้ สแู่ มพ่ มิ พต์ อ่ ไป5. เปิ ดแมพ่ ิมพ์ (Mold Release and Removal)เม่ือช้นิ งานกลายเป็นของแขง็ แล้ว แม่พมิ พ์ก็จะถูกเปิดออก ช้ินงานภายในแม่พมิ พ์จะถูกตวั กระทุ้ง(Ejector) ดนั ออกมาขา้ งนอก ซง่ึ ในการทาํ แม่พมิ พจ์ ะออกแบบกลไกตวั กระทุง้ (Ejector) เอาไวภ้ ายในตวั ดว้ ย a) b) รปู ที่ 3 สว่ นประกอบของชน้ิ สว่ นแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ a) แสดงการฉีดพลาสตกิ เหลวเขา้ สแู่ ม่พมิ พ์ b) แมพ่ มิ พเ์ ปิดออก ชน้ิ งานจะถกู กระทุง้ ออกมา จากรปู ท่ี 3 แม่พมิ พฉ์ ีดพลาสตกิ ประกอบดว้ ย ทางเขา้ พลาสตกิ (Sprue) ทางวงิ่ (Runner) และรนู ้ํพลาสตกิ เขา้ (Gate) ซง่ึ เป็นสว่ นประกอบสาํ คญั ของชน้ิ งานพลาสตกิ การฉดี พลาสตกิ ทเ่ี ป็นพวกเทอรโ์ มพลาสตกิชน้ิ งานทเ่ี สยี หาย เราสามารถนํา sprue หรอื runner ไปบดแลว้ กลบั นําไปใชใ้ หมไ่ ดอ้ กี ในแมพ่ มิ พช์ ุดหน่ึง ๆ สามารถทจ่ี ะฉีดชน้ิ งานไดร้ ะหว่าง 10,000 – 1,000,000 ชน้ิ เวลาทใ่ี ชใ้ นการฉีดในรอบหน่ึงเราเรยี กวา่ Shot โดย Shot หน่ึง ๆ อาจใชเ้ วลา 2 – 10 นาที บางทอี าจเรยี กวา่ cycle time ซง่ึเราจะใชว้ ธิ นี ้ีตลอด ในการผลติ ช้นิ งานจํานวนมาก ๆ จงึ มกี ารหาวธิ ที จ่ี ะผลติ โดยวธิ อี ตั โนมตั ใิ นการฉีดพลาสตกิออกมาแนะนําอยหู่ ลายวธิ ี
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 150 เพอ่ื ความรวดเรว็ ในการทาํ แมพ่ มิ พฉ์ ดี ในปจั จบุ นั มรี ปู รา่ งทย่ี งุ่ ยากสลบั ซบั ซอ้ นยง่ิ ขน้ึ จงึ ไดม้ กี ารผลติช้นิ ส่วนแม่พมิ พ์สาํ เรจ็ รปู ออกมา ตามขนาดมาตรฐานเพ่อื การจําหน่ายในทอ้ งตลาดและหาซ้อื ไดง้ ่าย แต่กเ็ ป็นช้นิ ส่วนทวั่ ๆ ไป ถ้าเป็นรูปแบบพเิ ศษจําเป็นต้องผลติ ข้นึ มาเอง ในปจั จุบนั ผลติ ภณั ฑ์ได้มกี ารนําไปใช้อย่างกวา้ งขวางในดา้ นการผลติ ชน้ิ ส่วนรถยนต์ ชน้ิ ส่วนอุตสาหกรรม เคร่อื งมอื ทางการแพทย์ เป็นตน้ ในรปู ท่ี 4 เป็นตวั อยา่ งของชน้ิ สว่ นพลาสตกิ ทน่ี ําไปใชใ้ นรถยนต์รปู ที่ 4 ชน้ิ สว่ นพลาสตกิ ทป่ี ระกอบในรถยนต์
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 151การฉี ดพลาสติ ก การฉีดแบบ Intrusion (The Intrusion Method) กรรมวธิ ีการฉีดแบบน้ี ได้ดัดแปลงมาจากการฉีดแบบธรรมดา คอื พลาสติกเหลวจะถูกฉีดเข้าในแม่พมิ พด์ ว้ ยความเรว็ สงู กว่าปกติ โดยทวั่ ไป จะใชม้ ากในการฉีดช้นิ งานทม่ี ผี นังบาง แต่อยา่ งไรกต็ ามไม่มขี อ้แตกต่างกนั มากนัก กบั การฉีดช้นิ งานทม่ี คี วามหนากรรมวธิ กี ารฉีดแบบน้ี มใี นประเทศองั กฤษ ตงั้ แต่ปี ค.ศ.1950 สาํ หรบั การผลติ ถงั บรรจุขนาดใหญ่ ทม่ี ผี นงั หนา โดยใชพ้ ลาสตกิ ชนิด LDPE ในปจั จุบนั น้ี วธิ กี ารน้ีถูกนํามาใชม้ ากในอุตสาหกรรมการผลติ ขอ้ ตอ่ ของทอ่ PVC การฉีดแบบ Injection pressing (The Injection Pressing Method) ในการฉีดชน้ิ งานพลาสตกิ ทม่ี ขี นาดใหญ่ ซ่งึ เครอ่ื งฉีดทใ่ี ชไ้ ม่มแี รงฉีดและแรงประกบแมพ่ มิ พเ์ พยี งพออาจทําได้ด้วยการลดแรงประกอบแม่พิมพ์ในตอนแรกของกระบวนการฉีด และไม่ต้องใช้แรงฉีดสูงมากนักในทนั ทีท่ีพลาสติกหลอมเหลวถูกฉีดเข้าไปเต็มแม่พิมพ์ แม่พมิ พ์จะถูกอัดเข้าด้วยแรงกระแทกอีกครงั้ หน่ึงเทคนิคอนั น้ีไดจ้ ดทะเบยี นลขิ สทิ ธใิ นประเทศเยอรมนั แมพ่ มิ พส์ าํ หรบั ใชก้ บั เคร่อื งฉีดแลว้ อดั น้ี จะตอ้ งมลี กั ษณะพเิ ศษ คอื จะตอ้ งมรี ะยะเพอ่ื ใหแ้ ม่พมิ พเ์ อนชดิ กนั ได้ และเสน้ แบ่งระหว่างแมพ่ มิ พ์ (parting line) จะตอ้ งไมช่ ดิกนั รปู ท่ี 5 การทาํ งานของ Injection pressing a) At the Injection Cycle b) At the Pressing Cycle วธิ กี ารน้ี นอกจากจะใชก้ บั ช้นิ งานทม่ี พี น้ื ทม่ี าก ๆ แลว้ ยงั สามารถใช้กบั งานทวั่ ๆ ไปและจะทาํ ให้แรงดนั ประกบบนผวิ งาน มคี วามสม่าํ เสมอทวั่ กนั ทงั้ ชน้ิ งาน ทาํ ใหไ้ ดช้ น้ิ งานทไ่ี มม่ คี วามเคน้
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 152การฉีดพลาสติกสาํ หรบั เทอรโ์ มพลาสติกที่ขยายตวั ได้ (Injection Moulding of ExpandableThermoplastic) เทอรโ์ มพลาสตกิ ทข่ี ยายตวั ได้ ใชใ้ นการฉีดพลาสตกิ ครงั้ แรกในเยอรมนั ราว ค.ศ. 1960 สว่ นใหญ่มกั ใชก้ บั งานทม่ี คี วามหนามาก การฉีดชน้ิ งานทม่ี เี น้ือโครงสรา้ งเป็นลกั ษณะโฟม (แขง็ แกร่งภายนอก ภายในมีโครงสรา้ งเป็นลกั ษณะเหมอื นโฟม) เรม่ิ เป็นทน่ี ิยมใชก้ นั มากในสหรฐั อเมรกิ า ใชใ้ นงานทาํ เฟอรน์ ิเจอร์ วทิ ยุ ตู้ทวี แี ละงานอ่นื ๆ ทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ยๆ กบั ตวั อย่างดงั กล่าว และเป็นทน่ี ิยมใชก้ นั มากในยุโรป ความหนาทน่ี ้อยทส่ี ดุสาํ หรบั งานเทอรโ์ มพลาสตกิ ทม่ี โี ครงสรา้ งโฟมน้ีคอื ประมาณ 4 มลิ ลเิ มตร โดยทม่ี ผี วิ แกรง่ ภายนอกหนาประมาณ 1 – 1.25 มลิ ลเิ มตร ขอ้ ไดเ้ ปรยี บของการฉีดแบบน้ี คอื สามารถฉีดชน้ิ งานทม่ี คี วามหนาทแ่ี ตกต่างกันได้ โดยไม่เห็นรอย ยิ่งไปกว่านัน้ เทอร์โมพลาสติกท่ีมีโครงสร้างโฟมนัน้ มีความแข็งแกร่งกว่าชนิดท่ีมีโครงสรา้ งตนั เวลาทใ่ี ชใ้ นการหลอ่ เยน็ ของการฉีดงานชนิดน้ี จะนานกวา่ การฉีดพลาสตกิ ทม่ี โี ครงสรา้ งทวั่ ๆ ไป (a) Locking Force Cylinder. (b) Locking Cylinder.(c) Locking. (d) Hydraulics for Reciprocarting Locking Unit. (e) & (g) Platen. (f) Nozzle Locking.(h) Accumulator. ( i ) Plastifying Unit. ( l ) Hopper. (k) Vertical Adjustment. (n) Compressed Gas Bolle(m) Screw Drive.รปู ท่ี 6 เครอ่ื งฉีดพลาสตกิ ชนิดเทอรโ์ มพลาสตกิ โฟม ปรมิ าตรชว่ งชกั 19,000 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร แรงดนั น้ําพลาสตกิ 1,100 บาร์ แรงกดอดั แม่พมิ พ์ 6,000 N ระยะแม่พมิ พเ์ ปิดสุด 1,200 มลิ ลเิ มตร ขนาดหน้าแปลน 1,900 x 1,900 มลิ ลเิ มตร
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 153การฉีดพลาสติกเทอรโ์ มเซท็ (Injection Moulding of Thermoset) เคร่อื งฉีดพลาสตกิ ทใ่ี ชร้ ะบบเกลยี วอดั เป็นทน่ี ิยมกนั มาก เพราะว่าเครอ่ื งฉีดชนิดน้ียงั เหมาะสมกบั การฉีดพลาสตกิ เทอรโ์ มเซท็ ฟินอล/ฟอรม์ าลดไี ฮด์ เมลามนี /ฟอรม์ าลดไี ฮด์ และสารอลิ าสโตเมอร์ ดงั นนั้ จงึ ทาํ ให้มกี ารใชพ้ ลาสตกิ ชนิดน้ี ในการฉีดชน้ิ งานต่าง ๆ มากยงิ่ ขน้ึเครอื่ งฉีดพลาสติก (Injection Moulding Machine) ลกั ษณะของเครอ่ื งฉีดพลาสตกิ ทใ่ี ชก้ นั อยใู่ นปจั จุบนั น้ี อาศยั หลกั การเดยี วกนั กบั เครอ่ื งฉีดในยุคแรกท่ีเป็นแบบแนวตงั้ ซง่ึ เป็นลขิ สทิ ธขิ องอเมรกิ า คอื ชุดฉีด ชุดประกบ และแม่พมิ พ์ จะทํางานรว่ มกนั เป็นหน่วยเดยี วหน่วยน้ีจะรวมกบั ชุดขบั และชน้ิ สว่ นเคลอ่ื นท่ี เป็นระบบการทาํ งานทส่ี มั พนั ธก์ นัชดุ หลอมพลาสติกและชดุ ฉีดของเคร่อื งฉีดแบบลกู สบู (Plunger Type) ระบบการหลอมพลาสตกิ และชุดฉีดมกั จะอย่รู ่วมกนั ระบบฉีดจะทาํ หน้าทห่ี ลอมพลาสตกิ ดว้ ย ในกรณีของเครอ่ื งฉีดชนิดกระบอกอดั พลาสตกิ ผลหรอื เมด็ จะถกู หลอมละลายโดยการนําความรอ้ นเขา้ มา และความรอ้ นทเ่ี กดิ จากการฉีกขาดของพลาสตกิ ในการเคล่อื นทข่ี องเกลยี ว ในระบบเกลยี วอดั ทําใหพ้ ลาสตกิ หลอมละลายเป็นเน้ือเดยี วกนั ดกี ว่า ยงั ผลใหค้ ุณภาพของงานพลาสตกิ ทฉ่ี ีดออกมามคี ุณภาพสงู ขน้ึ ในเครอ่ื งฉีดระบบกระบอกอดัระบบการหลอมละลายและหน่วยฉีดจะรวมเขา้ ดว้ ยกนั ในขณะทําการอดั สาํ หรบั ระบบเกลยี ว พลาสตกิ จะหลอมละลาย ในขณะทเ่ี กลยี วหมุนอยู่ และพลาสตกิ ทห่ี ลอมละลายจะถูกอดั ไปอย่บู รเิ วณหวั ฉีด ต่อจากนนั้ จงึ ถูกฉีดเขา้ สู่แมพ่ มิ พ์ โดยการเคลอ่ื นทไ่ี ปขา้ งหน้าของเกลยี วทงั้ ชดุเครอื่ งฉีดพลาสติกแบบลกู สบู (Plunger Type)1) Heated Hozzle; 2) Cylinder Heating; 3) Cylinder;4) Volumetric Metering Device; 5) Hydraulic Cylinder for Injection Unit;6) Mould Opening Cylinder; 7) Injection Plunger รปู ที่ 7 เครอ่ื งฉดี พลาสตกิ ชนิดลกู สบู
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 154 สว่ นทห่ี ลอมพลาสตกิ ในกระบอกฉีดของเคร่อื งฉีดแบบลูกสบู พลาสตกิ จะไหลไปตามกระบอกฉีดและหลอดละลายภายใตแ้ รงดนั โดยลูกสูบและความรอ้ นจากไฟฟ้า ดา้ นในของกระบอกฉีด (บางครงั้ กใ็ ชข้ องเหลวชว่ ยถ่ายเทความรอ้ น หรอื ใชก้ ารเหน่ียวนํา) อุณหภมู ภิ ายนอกถงึ ศูนยก์ ลางจะแตกต่างกนั ทงั้ น้ีขน้ึ อยกู่ บั ปจั จยับางอย่าง คอื ความหนาของชนั้ พลาสตกิ การนําความรอ้ น ระดบั อุณหภูมิ ความดนั และอตั ราการหลอมของพลาสตกิ สําหรบั การนําความรอ้ นค่าหน่ึง (หา้ มเกนิ อุณหภูมสิ งู สุดเพราะพลาสตกิ มขี ดี จํากดั ทางดา้ นความรอ้ น)ประสทิ ธภิ าพการหลอมเหลวจะเพม่ิ ขน้ึ เม่อื เพม่ิ อตั ราส่วนพน้ื ทผ่ี วิ ต่อปรมิ าตรของพลาสตกิ ด้วยเหตุน้ีจงึ มกี ารแบง่ ปรมิ าณของพลาสตกิ เหลว โดยใชต้ อรป์ ิโด ดงั รปู ท่ี 8 ตอรป์ ิโดมลี กั ษณะเป็นซ่ี ๆ ดงั แสดงไวใ้ นรปู แต่มีขอ้ เสยี คอื พลาสตกิ สว่ นน้ีจะเป็นฉนวนและทาํ ใหก้ ารนําความรอ้ นลดลงทุกครงั้ ทม่ี กี ารฉีด พลาสตกิ สว่ นน้ีจะปะปนเขา้ ไปในชน้ิ งานจะมองเหน็ เป็นเสน้ รอยขว่ น (dark streaks) เคร่อื งฉีดแบบลูกสบู ยงั คงใชก้ ารประกอบชุดตอรป์ ิโดเขา้ กบั ช่องพลาสตกิ ดว้ ยเกลยี วหรอื เช่อื มตดิการอุ่นเมด็ พลาสตกิ จะกระทาํ ก่อนท่จี ะถงึ ตอรป์ ิโด ความสามารถของกระบอกหลอมพลาสตกิ แบบตอรป์ ิโดจงึ มีขดี จาํ กดั เพราะพน้ื ทถ่ี ่ายเทความรอ้ นจะขน้ึ อยกู่ บั ความจุของกระบอกฉีด จงึ ตอ้ งใชว้ ธิ กี ารฉีดโดยลกู สบู จะอดั ซ้ําๆกนั หลายๆ ครงั้ จนกว่าจะเตม็ คาวติ ้ี แต่ปรมิ าณความรอ้ นทถ่ี ่ายเทกย็ งั มขี ดี จํากดั ปญั หาน้ีสามารถทจ่ี ะแก้ไขโดยเคร่อื งฉีดพลาสตกิ แบบ transfer ซ่ึงพฒั นาขน้ึ ในอเมรกิ า สาํ หรบั การฉีดขนาดใหญ่ เช่น ผนังดา้ นในตูเ้ ยน็เคร่อื งแบบน้ีมกี ระบอกฉีดท่วี างเอยี ง พรอ้ มดว้ ยตอรป์ ิโด ซ่ึงเคล่อื นทเ่ี พ่อื หลอมพลาสตกิ ซ้ําๆ กนั หลายครงั้ แลสง่ ไปทก่ี ระบอกเพ่อื ทาํ การฉีด โดยพลาสตกิ เหลวเคลอ่ื นทผ่ี ่านลกู บอลหรอื ลน้ิ กนั กลบั แบบลกู เล่อื น การใชเ้ กลยี วหมุนช่วยหลอมพลาสตกิ ดว้ ยเกลยี ว (Extruder) จะวางขนานกบั แนวนอน วางเอยี งหรอื แนวดง่ิ ในลกั ษณะท่ีสมั พนั ธก์ บั การทาํ งานของกระบอกฉดี แบบลกู สบูรปู ท่ี 8 บรเิ วณกระบอกหลอมพลาสตกิ ทเี ป็นซห่ี รอื หลายครบี พรอ้ มดว้ ยตอรป์ ิโด
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 155เคร่ืองฉีดพลาสติกแบบเกลียวอดั (Reciprocating Screw Injection Machine) เพอ่ื เพม่ิ ขดี ความสามารถของเครอ่ื งฉีดพลาสตกิ ใหส้ งู ขน้ึ และปรบั ปรงุ คุณภาพของน้ําพลาสตกิ จงึ มกี าพฒั นาให้เกลียวหลอมพลาสติกควบคู่ไปกับการเคล่ือนท่ี เช่นเดียวกับลูกสูบท่ใี ช้ฉีด (เกลียวเล่ือนไปมาได้)หลกั การน้ีเป็นลขิ สทิ ธขิ องฝรงั่ เศส ลกั ษณะการออกแบบคอื ชุดเกลยี วจะหมุนและเคล่อื นทไ่ี ปตามแนวแกนดว้ ย เคร่อื งฉีดแบบน้ีไดร้ บัความนิยมอย่างรวดเรว็ ในยุโรป ในขณะท่ปี ระเทศอเมรกิ ายงั ลงั เลทจ่ี ะนํามาใช้ในปจั จุบนั น้ีเคร่อื งฉีดแบบน้ีได้กลายเป็นตน้ แบบสาํ หรบั เครอ่ื งฉีดชน้ิ งานทม่ี ขี นาดเลก็ จนถงึ ชน้ิ งานทม่ี ขี นาดใหญ่มาก โดยขนาดใหญ่สดุ ทเ่ี คยฉดี กนั มามนี ้ําหนกั ถงึ 25 กโิ ลกรมั โครงสรา้ งและการทาํ งานของชุดเกลยี วอดั แสดงในรปู ท่ี 9 รปู ท่ี 9 โครงสรา้ งและการทาํ งานของเครอ่ื งฉีดแบบเกลยี วอดั ในประเทศเยอรมนั เรมิ่ สรา้ งเครอ่ื งฉีดแบบน้ีในปี ค.ศ. 1956 ขณะทป่ี ระเทศองั กฤษเรม่ิ ใชเ้ ครอ่ื งฉีดแบบเกลยี วอดั ทช่ี ุดฉีดมเี กลยี วคู่ เหตุทเ่ี ลอื กเคร่อื งฉีดแบบเกลยี วคู่ เพราะคดิ ว่ามขี อ้ ดคี อื สามารถป้องกนั การรวั่ของน้ําพลาสตกิ ในขณะฉดี ไดด้ กี วา่ แบบเกลยี วเดย่ี ว ขอ้ แตกต่างจากเคร่อื งฉีดแบบเกลยี วเด่ยี วก็คอื เคร่อื งฉีดแบบเกลยี วคู่ไม่สามารถควบคุมน้ําหนกั ขอพลาสติกท่ีฉีดและแรงดนั ฉีดให้มีขนาดต่างๆ โดยการเปล่ียนกระบอกฉีด เพราะเกลียวท่ีขบกันอยู่จะต้องมีเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง ระยะระหวา่ งแกนของเกลยี วและระยะพทิ ซท์ ส่ี มั พนั ธก์ นั ในเคร่อื งฉีดแบบเกลยี วเดย่ี ว การปรบั น้ําหนกั พลาสตกิ ทฉี่ ีดภายในชว่ งหนึ่ง โดยแรงดนั ฉีดคงที่ ทํไดด้ ว้ ยการปรบั ระยะเคล่อื นอดั ของเกลยี ว หากน้ําหนกั ทฉ่ี ดี นอกเหนือจากน้ี กอ็ าจเปลย่ี นกระบอกหลอมพลาสติทงั้ ชุดใหฉ้ ีดไดป้ รมิ าตรมากขน้ึ หรอื น้อยลง วธิ นี ้ีจะทาํ ใหแ้ รงดนั ฉดี และความเรว็ ในการฉดี เปลย่ี นไปดว้ ย โดยการใชว้ าลว์ ทป่ี ้องกนั การไหลกลบั ในระบบเกลยี วเดย่ี ว (single screw) กส็ ามารถทาํ ใหแ้ น่นและป้องกนั การซมึ ไดด้ กี ว่าของระบบเกลยี วคู่ (twin screw) เพราะเหตุว่าการใชว้ าลว์ ทป่ี ้องกนั การไหลกลบั ในระบบเกลยี วคนู่ นั้ ยากตอ่ การสรา้ ง ในรปู ท่ี 10 แสดงใหเ้ หน็ วา่ วงแหวนของวาลว์ ทป่ี ้องกนั การไหลกลบั จะปิดใหท้ นั ที
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 156 - PX (Fring – Fsegment) + R > P X Fring - R = แรงเสยี ดทานระหวา่ งแหวนกบั กระบอกฉีด รปู ท่ี 10 วาลว์ ป้องกนั การไหลกลบั ในเครอ่ื งฉีดแบบเกลยี วเครื่องฉีดพลาสติกชนิดพิเศษ (Special Purpose Injection Moulding Machines) รปู ท่ี 11 เครอ่ื งฉดี พลาสตกิ ในยคุ ปจั จุบนั
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 157 เครอ่ื งฉีดพลาสตกิ ชนิดพเิ ศษสาํ หรบั การฉีด Thermoplastic ทม่ี สี ว่ นผสมของ Blowing Agents หรอื ท่ีรจู้ กั กนั ทวั่ ไปวา่ การฉีดโฟมเป็นแบบทใ่ี ชฉ้ ดี Thermoplastic ทม่ี ี Blowing Agents โดยวธิ ผี สมเป็นเน้ือเดยี วกนั ลกั ษณะพเิ ศษของเครอ่ื งฉีดชนิดน้ีกค็ อื ชุดฉีดจะมชี ุดรวบรวมน้ําพลาสตกิ ระบบนี้จะควบคมุ การหลอละลายของน้ําพลาสตกิ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และน้ําพลาสตกิ หลอมเป็นเน้ือเดยี วกนั ไดด้ ี อกี ทงั้ ความยาวทง่ี านของเกลยีจะคงทต่ี ลอดเวลาของการสง่ น้ําพลาสตกิ (เกลยี วจะไมม่ กี ารเลอ่ื นไปมาดงั เช่นเครอ่ื งฉีดทวั่ ไป) พลาสตกิ จะถกู อดัเขา้ ไปในชุดรวบรวมน้ําพลาสตกิ (ดรู ปู ท่ี 11) ซง่ึ ต่อถงึ แม่พมิ พ์ โดยผ่านทางรขู อง Needle Shut – Off Valve ท่ีควบคุมดว้ ย Hydraulic วาลว์ ทม่ี รี กู วา้ งกบั ระบบไฮดรอลกิ สท์ ไ่ี ดข้ นาด จะทาํ ใหเ้ วลาในการฉีดลดลงได้ เครอ่ื งฉดี แรงดนั ต่าํ จะใชก้ บั ชน้ิ งานหนา ทม่ี คี วามหนาตงั้ แต่ 5 มลิ ลเิ มตร ขน้ึ ไป พลาสตกิ ทเ่ี หมาะกบัการฉีดโฟมคอื PS, ABS, PE, PP, PA, EVA, PPO, PC เครอ่ื งฉีดแบบพเิ ศษดงั กลา่ วมาแลว้ น้ีจะมปี ระกบแมพ่ มิ พเ์ พยี ง 40 – 50 % ของเครอ่ื งฉดี แรงดนั สงู ทม่ี ขี นาดหน้าแปลนเทา่ กนั เคร่อื งฉีดแรงดนั สูง ใช้ฉีดเทอร์โมพลาสติกซ่ึงไหลตัวยาก และช้นิ งานท่ีหนาไม่เกิน 6 มิลลิเมตรโครงสรา้ งของชุดฉีดทม่ี ชี ุดรวบรวมน้ําพลาสตกิ ยงั ชว่ ยในการเตรยี มน้ําพลาสตกิ สาหรํ บั การฉดี โฟมใหเ้ ป็นไปไดด้ อีดว้ ย การฉีดโฟมทร่ี จู้ กั กนั ดคี อื - การฉดี โดยใชแ้ รงดนั ต่าํ - การฉีดโดยมแี รงดนั สวนจากก๊าซ Blowing agents สามารถทจ่ี ะทาํ ไดท้ งั้ แบบเคมหี รอื ฟิสกิ ส์ Blowing agents แบบเคมจี ะผสมกบั เมด็พลาสตกิ ก่อนเทลงใน Hopper หรอื ใสล่ งใน Throat ในลกั ษณะเป็นผง แป้งเปียก หรอื เหลว โดยทวั่ ไปจะใช้Blowing agents แบบเคมี เพราะงานฉีดสว่ นมากจะมคี ุณภาพดี นอกจากเตมิ Blowing agents ลงไปในพลาสตกิ แลว้ ในทางปฏบิ ตั ยิ งั ใชก้ ารฉีด Blowing agents แบบฟิสกิ สเ์ ขา้ ไปท่เี กลยี วภายในกระบอกฉีดBlowing agents น้ี อาจเป็นก๊าซ เช่น ไนโตรเจน หรอื ของเหลว เชน่ Fluorinated Hydrocarbons โดยใสใ่ นปรมิ าณพอเหมาะและผสมกบั น้ําพลาสตกิ ไนโตรเจนจะใชไ้ ดด้ โี ดยเฉพาะกบั การฉดี ชน้ิ งานทบ่ี าง ชุดสําหรบั เติมก๊าซไนโตรเจน ประกอบด้วยเคร่อื งอดั อากาศ เกลยี วท่มี รี ูปร่างและความยาวพเิ ศษหวั ฉดี อุปกรณ์วดั ปรมิ าณ ชุดควบคุมดว้ ยไฮดรอลกิ สแ์ ละไฟฟ้า ขอ้ ดขี องการเตมิ ก๊าซไนโตรเจน ใชไ้ ดด้ กี บั การฉีดชน้ิ งานทบ่ี างมาก แต่สาํ หรบั ชน้ิ งานทห่ี นาแลว้ การเตมิ ก๊าซดว้ ยวธิ เี คมหี รอื Blowing agents จะดกี วา่ การฉดี ชน้ิ งานทม่ี โี ครงสรา้ งเป็นโฟม สามารถใชเ้ ครอ่ื งฉีดพลาสตกิ ทวั่ ไปได้ โดยตดิ ตงั้ อุปกรณ์ สาํ รวมน้ําพลาสตกิ เขา้ กบั Blowing agents ขอ้ ดขี องเครอ่ื งฉดี แบบน้ีกค็ อื ใชฉ้ ดี ไดท้ งั้ โครงสรา้ งโฟมและโครงสรา้ งตนั
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 158 รปู ที่ 12 ตวั อยา่ งของการฉีดโฟม a. หน้าตดั ของชน้ิ งานทฉ่ี ีดเป็นชน้ิ ๆ ผวิ ชนั้ นอกมสี ตี า่ งจากโฟมเน้ือใน ซง่ึ เป็นพลาสตกิ ชนิดเดยี วกนั b. หน้าตดั ของฝาครอบหลอดไฟ ผวิ นอกเป็นพลาสติกชนิด PBTP ชนิดไม่เสรมิ แรง เน้ือในเป็น PBTP ชนิดเสรมิ ใบแกว้ ความหนา 15 มลิ ลเิ มตร เน้ือในเป็นพลาสตกิ ชนิดเดยี วกนั และตนั c. หน้าตดั ของชน้ิ งานทฉ่ี ีดดว้ ยแรงดนั ต่าํ d. หน้าตดั ของชน้ิ งานทฉ่ี ีดโดยมแี รงดนั สวนของก๊าซเครอ่ื งฉีดพลาสติกเป็นชนั ๆ (Multi-Component Injection Moulding Machine) เครอ่ื งฉดี พลาสตกิ แบบน้ี สามารถฉดี โครงสรา้ งเป็นชนั้ ๆ ซง่ึ มลี กั ษณะพเิ ศษ โดยการใชพ้ ลาสตกิ ต่างชนิดหรอื ชนิดเดยี วกนั มาประกอบกนั ลกั ษณะโครงสรา้ งทฉ่ี ดี ไดจ้ ะเป็นดงั น้ี - ผวิ ชนั้ นอกตนั เน้ือในเป็นโฟม - ผวิ ชนั้ นอกและเน้อื ในตนั - ผวิ ชนั้ นอกเป็นโฟม เน้ือในตนั การใชง้ านในปจั จุบนั น้ีสว่ นใหญ่เป็นการฉีดโครงสรา้ งทป่ี ระกอบดว้ ยผวิ ชนั้ นอกตนั และเน้ือในเป็นโฟมขอ้ ดขี องช้นิ งานทฉ่ี ีดด้วยวธิ นี ้ี คอื ทําใหค้ ุณสมบตั ขิ องโครงสรา้ งโฟม พรอ้ มกบั ผวิ ทเ่ี หมอื นการฉีดชน้ิ งานตดัการฉีดแบบน้เี รยี กวา่ การฉีดแบบแซนวชิ จะใชป้ ระโยชน์ไดม้ าคอื สาํ หรบั ชน้ิ งานทม่ี คี วามหนากวา่ 4 มลิ ลเิ มตรควรฉีดแบบโครงสรา้ งทเ่ี น้ือในเป็นโฟม เพอ่ื กนั การเกดิ Sink Mark ในบรเิ วณทเ่ี ปลย่ี นความหนาหรอื มคี รบี ในกรณีน้ีสามารถฉีดไดโ้ ดยไม่มแี รงดนั ตาม แต่การฉีดชน้ิ งานทห่ี นาตงั้ แต่ 1 – 4 มลิ ลเิ มตร มกั ใหม้ เี น้ือในตนั ในกรณีน้ี การป้องกนั การเกดิ Sink Mark ทาํ ไดเ้ ชน่ เดยี วกบั การฉดี พลาสตกิ ตดั คอื การใหแ้ รงดนั ตาม การฉีดพลาสติกเป็นชนั้ มกี ารพฒั นากรรมวธิ ีต่าง ๆ มาก ไม่สามารถนํามาอธิบายได้ทงั้ หมด จึงยกตวั อยา่ งของการฉดี วธิ ี Two – channel ทพ่ี ฒั นาโดยบรษิ ทั Battenfeild มาอธบิ าย
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 159 ชน้ิ งานทฉ่ี ดี ดว้ ยกรรมวธิ ี Two – channel น้ีพลาสตกิ ทเ่ี น้ือในจะมกี ารกระจายตวั อยา่ งสม่าํ เสมอ ซง่ึ ทํไดโ้ ดย จดั ช่วงการฉีดผวิ เน้ือในไปพรอ้ มกนั ช่วงการฉีดพลาสตกิ ชนั้ นอกและชนั้ ในซง่ึ ควบคุมความเรว็ และเวลาอยา่ งแม่นยาํ แบบ Closed – loop จงึ ทาํ ใหก้ ารไหลของน้ําพลาสตกิ มคี วามเรว็ คงทใ่ี นขณะทฉ่ี ดี พลาสตกิ เน้ือใจะเรม่ิ ฉีดเขา้ ไป ก่อนทก่ี ารฉีดผวิ นอกจะเสรจ็ วธิ นี ้ีช่วยควบคุมความเรว็ และแรงดนั ของน้ําพลาสตกิ ภายในคาวติ ้ีเป็นผลใหช้ น้ิ งานทไ่ี ดม้ ผี วิ เรยี บรอ้ ย ปราศจากรอยตอ่ และขอ้ บกพรอ่ ง รปู ท่ี 13 แสดงหวั ฉีดแบบ Two – channel พลาสตกิ ทเ่ี ป็นผวิ นอกจะถูกฉีดผ่าน Hopper เขา้ ไปในหวั ฉีด พลาสตกิ เน้ือในทเ่ี ป็นโฟมหรอื ตนั (สเี ทา) จะถูกฉีดเขา้ ไปในหวั ฉีดดา้ นในทม่ี ศี ูนยเ์ ดยี วกนั โดยผ่านตวัป้อน รปู ท่ี 13 หวั ฉดี แบบ Two – channel สาํ หรบั การฉีดพลาสตกิ เป็นชนั้ ๆ โดยการทาํ งานทเ่ี ป็นอสิ ระตอ่ กนั ของหวั ฉีดทงั้ A และ B หวั ฉีดแบบร่วมศูนยเ์ ป็นลกั ษณะพเิ ศษของหวั ฉีดแบบ Two – channel ของเครอ่ื งฉีด Battenfeildหวั ฉีดคมู่ ชี ุดปิดทป่ี ลาย การฉีดจะควบคมุ โดยการทาํ งานทเ่ี ป็นอสิ ระตอ่ กนั ทงั้ หวั ฉดี (A) และ (B) ดงั รปู ท่ี 14
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 160 รปู ท่ี 14 การควบคมุ การฉีดเป็นชนั้ ๆ a. ฉีดพลาสตกิ โครงสรา้ งตนั b. ฉดี พลาสตกิ ผวิ สว่ นนอกและเน้ือในพรอ้ มกนั c. ฉดี พลาสตกิ ทเ่ี ป็นเน้ือใน (โครงสรา้ งโฟมหรอื ตนั ) ถา้ ใชห้ วั ฉดี เพยี งชดุ เดยี ว ในการฉดี ชน้ิ งานทวั่ ไป หวั ฉดี อกี ชุดจะปิด เขม็ ปิดหวั ฉดี จะทาํ งานโดยไฮดรอลกิ ส์ ชว่ งเปิดของหวั ฉีดทงั้ สองสามารถปรบั ไดท้ ุกระยะ ตวั เรอื นสาํ หรบั อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ตอ้ งมผี วิ ป้องกนั ทเ่ี รยี กว่า Electro – Magnetic InterferenceShielding (EMI) อาจทาํ ไดโ้ ดยการเคลอื บสี หรอื เคลอื บผวิ ดว้ ยสารป้องกนั อาจใชพ้ ลาสตกิ ทน่ี ําไฟฟ้าได้ แลว้เคลอื บสเี พอ่ื ความสวยงาม ดว้ ยวธิ ฉี ีดเป็นชนั้ จะใชพ้ ลาสตกิ ทน่ี ําไฟฟ้าเป็นเน้ือใน สว่ นผวิ นอกจะใชพ้ ลาสตกิ ในการป้องกนั ประจุไฟฟ้าและ Electro - magnetic Interference สว่ นผสมของพลาสตกิ ทใ่ี ชไ้ ดด้ ี คอื - Carbon Black ทเ่ี ป็นนําไฟฟ้าได้ - แถบอลมู เิ นียม - เสน้ ใยเหลก็ กลา้ รปู ที่ 15 ตวั อยา่ งของชน้ิ งานทเ่ี ป็น ชนั้ ๆ ทม่ี ี Electromagnetic – Interference Shielding
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 161รปู ท่ี 15 แสดงตวั อยา่ งของชน้ิ งานทฉ่ี ดี เป็นชนั้ ๆ ทม่ี ี Electromagnetic – Interference Shielding a. หน้าตดั ของชน้ิ งาน : ผวิ เป็นพลาสตกิ PPO ทม่ี ี carbon black 35% b. หน้าตดั ของชน้ิ งาน : ผวิ เป็นพลาสตกิ ผสม PC กบั ABS เน้ือในเป็นพลาสตกิ ผสม PC กบั ABS ทม่ี แี ถบอลมู เิ นียม 40% c. หน้าตดั ของชน้ิ งาน : ผวิ เป็นพลาสตกิ ABS ชนิดทนไฟ เน้ือในเป็นพลาสตกิ ABS ทนไฟทม่ี เี สน้ ใยเหลก็ กลา้ 14%เครือ่ งฉีดพลาสติกแบบ CNC (CNC Controlled Injection Molding Machine) เครอ่ื งฉีดพลาสตกิ แบบใหม่ จะมกี ารตดิ ตงั้ ชุดควบคุม Computer Numerical Control (CNC) ดว้ ยคอมพวิ เตอรจ์ ะควบคุม และตรวจสอบตวั แปรสาํ หรบั ฉีดพลาสตกิ ชนิดต่าง ๆ ค่าตวั แปรเฉพาะของพลาสตกิ และช้นิ งานแต่ละชนิด สามารถเก็บไวเ้ พ่อื ใชส้ ําหรบั การปรบั ตงั้ เคร่อื งฉีด เม่อื ต้องการจะฉีดช้นิ งานนัน้ อกี เคร่อื งคอมพวิ เตอรอ์ าจประกอบรวมเขา้ กบั เครอ่ื งฉีดหรอื แยกเป็นชุดกไ็ ด้ รปู ท่ี 16 แสดงเครอ่ื งฉีดทม่ี คี อมพวิ เตอรใ์ นตวัรปู ท่ี 17 แสดงชดุ คอมพวิ เตอรแ์ ยกตา่ งหาก ทงั้ คอมพวิ เตอรใ์ นตวั และแยกต่างหากจะขน้ึ อยกู่ บั ขนาดและแบบของเครอ่ื งฉดี หรอื แตกต่างกนั ไปตามบรษิ ทั ผผู้ ลติ
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 162 รปู ที่ 16 เครอ่ื งฉดี พลาสตกิ ทม่ี ชี ุดควบคุมดว้ ยคอมพวิ เตอรใ์ นตวั เครอ่ื งฉีดพลาสตกิ บางแบบจะมชี ุดฉีดทห่ี มุนจากแนวนอนไปเป็นแนวดงิ่ ได้ (เครอ่ื งฉีด ARBURG) ซง่ึอยา่ งไรกต็ ามเครอ่ื งฉีดแบบน้ียงั คงมแี รงประกบแม่พมิ พแ์ ละปรมิ าณการฉดี ขนาดปานกลาง รปู ท่ี 17 เครอ่ื งฉีดทม่ี ชี ุดฉดี ตงั้ ฉากกบั การเคลอ่ื นเปิดแมพ่ มิ พ์ (การวางลกั ษณะน้ีมกั ใชก้ บั การฉดี ชน้ิ งานทม่ี โี ลหะฝงั เชน่ อุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นตน้ )เครื่องฉีดพลาสติกแบบ CNC (CNC Controlled Injection Molding Machine) เครอ่ื งฉีดพลาสตกิ แบบใหม่ จะมกี ารตดิ ตงั้ ชุดควบคุม Computer Numerical Control (CNC) ดว้ ยคอมพวิ เตอรจ์ ะควบคุม และตรวจสอบตวั แปรสาํ หรบั ฉีดพลาสตกิ ชนิดต่าง ๆ ค่าตวั แปรเฉพาะของพลาสตกิ และช้นิ งานแต่ละชนิด สามารถเกบ็ ไว้เพ่อื ใช้สําหรบั การปรบั ตงั้ เคร่อื งฉีด เม่อื ต้องการจะฉีดช้นิ งานนัน้ อกี เคร่อื งคอมพวิ เตอรอ์ าจประกอบรวมเขา้ กบั เครอ่ื งฉีดหรอื แยกเป็นชุดกไ็ ด้ รปู ท่ี 16 แสดงเคร่อื งฉีดทม่ี คี อมพวิ เตอรใ์ นตวัรปู ท่ี 17 แสดงชุดคอมพวิ เตอรแ์ ยกต่างหาก ทงั้ คอมพวิ เตอรใ์ นตวั และแยกต่างหากจะขน้ึ อยกู่ บั ขนาดและแบบของเครอ่ื งฉีด หรอื แตกตา่ งกนั ไปตามบรษิ ทั ผผู้ ลติ
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 163 รปู ท่ี 21 รปู แบบการไหลน้ีเรยี กว่าการไหลแบบลกู โป่ง หรอื แบบน้ําพุ (Fountuin Effect or Bubble flow)เพราะหน้าการไหลคลา้ ยลกู โปง่ ทก่ี ําลงั พองตวั ออกดว้ ยพลาสตกิ ทร่ี อ้ นดนั ตรงกลาง ชนั้ พลาสตกิ ทแ่ี ขง็ ตวั เกดิ จากการพองตวั ออกน้ี และมคี วามเคน้ เฉือนต่ํา จงึ มรี ะดบั Orientation ตกคา้ งอยไู่ ดอ้ กี หากจะพจิ ารณาจุดทเ่ี รมิ่ ต้นทางการไหล พลาสตกิ ร้อนจะไหลอย่างต่อเน่ืองเขา้ สู่คาวติ ้ี โดยเฉพาะ ขณะผ่านเกจท่เี ล็ก และเกดิ ความรอ้ นเพมิ่ ขน้ึ จากการไหลเสยี ดทาน ระหวา่ งน้ําพลาสตกิ กบั ผวิ คาวติ ้ี ในชว่ งแคบ ๆ ขณะเดยี วกนั ความรอ้ นสญู เสยี ไทางชนั้ พลาสติกแขง็ สู่แม่พมิ พ์ท่เี ยน็ กว่า จงึ เป็นการชดเชยความรอ้ นต่อกนั ในช่วงเรมิ่ ต้นชนั้ พลาสติกแขง็ ท่มี ีความบางมาก ความรอ้ นจงึ ถ่ายเทออกอยา่ งรวดเรว็ เป็นผลใหช้ นั้ แขง็ ของพลาสตกิ มคี วามหนาเพม่ิ ขน้ึ จนทาํ ให้การถ่ายเทความรอ้ นลดลง หลงั จากผา่ นไประยะหน่ึงแลว้ ชนั้ พลาสตกิ แขง็ จะมคี วามหนาคงท่ี การถ่ายเทความรอ้ นระหว่างน้ําพลาสตกิ กบั แมพ่ มิ พ์ จะเหลอื เพยี งการสญู เสยี ดว้ ยวธิ กี ารนําความรอ้ นเพยี งอยา่ งเดยี ว ซึง่ จเท่ากบั ความรอ้ นทเ่ี พม่ิ ขน้ึ จากการเสยี ดสรี ะหว่างน้ําพลาสตกิ กบั ผวิ แมพ่ มิ พท์ ําใหเ้ กดิ ความสมดุลทางความรอ้ นขน้ึดงั ในรปู ท่ี 22 2. ช่วงเพมิ่ แรงดนั เป็นชว่ งทน่ี ้ําพลาสตกิ เตม็ แมพ่ มิ พ์ ทาํ ใหค้ วามดนั ในแมพ่ มิ พเ์ พมิ่ ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็เกลยี วของกระบอกสบู จะเคล่อื นทช่ี า้ ลง แต่เคล่อื นทไ่ี ปได้ เน่ืองจากพลาสตกิ เป็นวสั ดุทส่ี ามารถอดั ตวั ได้ ความดนั จะเพม่ิ ถงึ สงู สุดของแรงฉีด (Injectoin Pressure) โดยทวั่ ไปแลว้ สามารถจะอดั ตวั ไดอ้ กี 15 % (ตามรปู ท่ี 20และ 21) การอดั ตวั พลาสตกิ เราสามารถพสิ จู น์ได้ โดยกนั้ หวั ฉีดไวแ้ ลว้ กดป่มุ ฉีดพลาสตกิ เม่อื ใหแ้ รงดนั เกลย่ี วจะเคล่อื นทไ่ี ปขา้ งหน้า แต่จะสปรงิ กลบั เม่อื ปล่อยแรงดนั ซ่ึงไม่เหมอื นกบั น้ําทอี่ ดั ตวั ไม่ได้ แตน่ ํ้าพลาสตกิ จะคล้กบั แก๊ส 3. ช่วงฉีดชดเชย ช่วงการฉีดชดเชยนนั้ จะต่อหลงั จากช่วงเพม่ิ แรงดนั ช่วงน้ีเกดิ จากพลาสตกิ ทไ่ี หลเข้าสู่แม่พิมพ์ จะเรม่ิ เย็นตัว และหดตัวด้วย จึงจําเป็นต้องมีเน้ือพลาสติกมาเสรมิ แทนท่ีสวนท่ีหดตัวไปเพราะฉะนัน้ ในการฉีดจาํ เป็นตอ้ งคงความดนั ฉีดไปช่วงหน่ึง จนกว่าการเยน็ ตวั ของพลาสตกิ จะถงึ จุดทไ่ี มส่ ามารถอดั เขา้ ไปไดแ้ ลว้ โดยทวั่ ๆ ไป ตวั กําหนดเวลาจุดน้ี กค็ อื การเยน็ ตวั ของเกจนัน่ เอง ช่วงการฉีดชดเชยน้ีจะเตมิ น้ํพลาสตกิ เขา้ ไปปรมิ าตร 25 % ของการฉีด Shot หน่ึง ซ่งึ จะเหน็ ไดจ้ ากชน้ิ งานทฉ่ี ีดไมเ่ ตม็ สว่ นปลายไหลของ
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 164พลาสตกิ จะหดตวั มาก และจะเหน็ ความแตกต่างระหว่างปรมิ าตรของชน้ิ งานกบั ปรมิ าตรของคาวติ ท้ี ห่ี ดตวั น้ีจะถกูฉดี ชดเชย จะเหน็ วา่ ปรมิ าตรทฉ่ี ีดเพม่ิ เพยี ง 15 % ในชว่ งเพมิ่ แรงดนั ไม่เพยี งพอทจ่ี ะชดเชยปรมิ าตรทห่ี ดตวั ไป 25% จงึ ตอ้ งมกี ารฉดี ชดเชยรปู แบบการไหลในขณะฉีด ในขณะฉีดพลาสตกิ โดยทวั่ ไปช่างฉีดจะไม่ค่อยสนใจรปู แบบการไหล ไม่ได้มองลกึ ไปถงึ รายละเอยี ดของการไหลมากนัก ทาํ ใหไ้ ม่สามารถจะวเิ คราะห์ รายละเอยี ดวธิ กี ารไหลเขา้ สคู่ าวติ ้ไี ดอ้ ย่างไรอาจเป็นเพราะเราไม่สามารถมองเหน็ พลาสตกิ ขณะทไ่ี หลไนแม่พมิ พไ์ ด้ จงึ ไม่ค่อยตรวจสอบจุดน้ีมากนัก แต่ถา้ ใชค้ อมพวิ เตอรม์ าวเิ คราะห์ การไหลกจ็ ะมองเหน็ ภาพทช่ี ดั เจนยงิ่ ขน้ึ วธิ กี ารทดลองในการฉีดพลาสตกิ โดยการใช้พลาสตกิ สองสีเตมิ เมด็ พลาสตกิ สแี ดงในจาํ นวนเลก็ น้อย ลงไปในกระบอกฉีดทว่ี ่างแลว้ ตามดว้ ยพลาสตกิ สเี ขยี วหรอื เมด็ ต่างสกี นัแลว้ ทาํ การฉีดพลาสตกิ ตามปกติ น้ําพลาสตกิ จะไหลจากหวั ฉีดจนเตม็ Sprue และ Runner แลว้ เขา้ สคู่ าวติ ้ีรูปแบบ บรเิ วณสว่ นหน้า หรอื หวั ไหลจะเป็นรูปลูกโป่ง ผวิ ของพลาสตกิ สว่ นน้ีจะสมั ผสั กบั ผวิ แม่พมิ พท์ เ่ี ยน็ ตวักว่าจะกลางเป็นของแขง็ อย่างรวดเรว็ ถ้าหากเสน้ ทางท่ยี าวมาก หน้าไหลน้ีจะเย็นตวั และแขง็ ตวั กลายเป็นรูปทรงกลม และหมุนไปเร่อื ย ๆ ตามแรง ท่ีฉีดมาเร่ือย ๆ แต่ถ้ายงั ไม่เย็นตัวมากนัก ท่ีแกนกลางก็ยังหลอมเหลวอยู่ พลาสตกิ ทฉ่ี ีดมาเรอ่ื ย ๆ แต่ถา้ ยงั ไมเ่ ยน็ ตวั มากนัก ทแ่ี กนกลางกย็ งั หลอมเหลวอยู่ พลาสตกิทฉ่ี ีดตามเขา้ ไปจะไหลเขา้ ไปตามแกนกลางของแกนรูปลูกโปร่งน้ี และไล่พลาสตกิ ทเ่ี ยน็ ตวั ใหไ้ ปประกบกบั ผวิขา้ งคาวติ ้ี แลว้ กลายเป็นหน้าไหลใหม่อกี อย่างน้ีเร่อื ย ๆ ส่วนทไ่ี หลออกไปบา้ งนอกประกบกบั ผวิ ของคาวติ ้กี จ็ ะกลายเป็นผวิ แขง็ น้ีก็จะกลายเป็นฉนวนความรอ้ นท่กี ัน้ อุณหภูมริ ะหว่างแกนแลางท่ีกําลงั หลอมเหลวอยู่อย่างยาวนานขน้ึ พลาสตกิ ทฉ่ี ีดเพมิ่ เขา้ ไปกจ็ ะไหลไปตามแกนกลางทก่ี ําลงั หลอมเหลวอยอู่ ย่างยาวนานขน้ึ พลาสตกิทฉ่ี ีดเพมิ่ เขา้ ไปกจ็ ะไหลไปตามแกนกลางเหลา่ น้ีตลอดไป ตามรปู ท่ี 21 รปู ที่ 22 ส่วนความหนาของชนั้ พลาสตกิ ทแ่ี ขง็ ตวั ระหว่างผวิ คาวติ ้กี บั แกนของพลาสตกิ ทห่ี ลอมเหลวอยู่จะมีความแตกต่างกนั ถ้าอตั ราการฉีดชา้ การไหลจะทําใหเ้ กดิ ความรอ้ น จากการเตมิ เขา้ มาของพลาสตกิ และความเสยี ดทานต่ํา การสญู เสยี ความรอ้ นจะมเี ทา่ เดมิ เมอ่ื ไดร้ บั ความรอ้ นน้อย ชนั้ พลาสตกิ จะแขง็ และหนาขน้ึ แตถ่ ้อตั ราการฉีดเรว็ จะไดร้ บั ความรอ้ นจากพลาสตกิ ทไ่ี หลตามมาอยา่ งรวดเรว็ ทําใหช้ นั้ พลาสตกิ บางขน้ึ แต่กจ็ ะอยู่
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 165ในขดี จาํ กดั ดว้ ยเหมอื นกนั ถา้ น้ําพลาสตกิ และแมพ่ มิ พม์ อี ุณหภมู สิ งู จะทาํ ใหล้ ะความหนาของชนั้ พลาสตกิ แขง็ ได้ซง่ึ วธิ กี ารน้ีสามารถทจ่ี ะทดสอบไดโ้ ดยใชก้ ารฉีดพลาสตกิ สองสี รปู ที่ 23ความเค้นเฉือนจากการไหล (Flow Shear Stress) ในการไหลของพลาสตกิ มกั จะเกดิ ความสบั สนกบั ระหว่างระดบั ความเคน้ Orientation ของพลาสตกิ ขณะพลาสตกิ ไหลก็จะเกดิ ความเคน้ เฉือน จากการไหลของเหลวชนิดอ่นื กเ็ หมอื นกนั ขณะเกดิ การไหลกจ็ ะเกดิ ความเคน้ เฉือน จากการเคลอ่ื นไหวของโมเลกุลพลาสตกิ เรยี กวา่ ความเคน้ เฉือนจากการไหลความเคน้ น้ีจะทาํ ใหพ้ ลาสตกิ เกดิ Orientation คอื ทาํ ใหโ้ มเลกุลเคลอ่ื นท่ี วางแนวไปในทศิ ทางการไหลความเคน้ เฉือนการไหลภายในแม่พมิ พฉ์ ีด จะแปรคา่ สงู สุดทด่ี า้ นนอกทต่ี ดิ กบั ผวิ แม่พมิ พ์ และลดลงจนกลายเป็นศูนยท์ ก่ี ง่ึ กลางของเสน้ ทางการไหลหมายเหตุ ความเคน้ เฉือน คอื แรงตอ่ พน้ื ทส่ี ะสมในเน้ือพลาสตกิ ทไ่ี หล อยา่ สบั สนกบั อกั ตราเฉือน ซง่ึ เป็นอตั ราการเฉือนของชนั้ พลาสตกิ บนชนั้ ถดั ไป อตั ราเฉือนเป็นศูนย์ทด่ี ้านนอกสุด ท่พี ลาสตกิ แขง็ ตวั และเพมิ่ จนถึงคา่ สงู สดุ ระหวา่ งสว่ นของเหลวทไ่ี หลกบั สว่ นทแ่ี ขง็ ยดึ อยกู่ บั ท่ี และลดลงทก่ี ง่ึ กลาง (รปู ท่ี 24) รปู ที่ 24 อตั ราเฉือนของน้ําพลาสตกิ (Shear Rate) ถ้าน้ําพลาสตกิ หยดุ ไหล และปลอ่ ยใหพ้ ลาสตกิ คอ่ ย ๆ เยน็ ตวั อยา่ งชา้ ๆ จะมเี วลาให้ Orientationเกดิ การคลาย ทาํ ให้ Orientation เหลอื คา้ งอยใู่ นระดบั ต่ํา ตรงกนั ขา้ ม ถา้ พลาสตกิ มคี วามเคน้ และพลาสตกิ เย็
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 166ตวั แขง็ ทนั ที (Hard Cooling) Orientation และความเคน้ กจ็ ะเหลอื ตกคา้ งอยภู่ ายในพลาสตกิ เกอื บทงั้ หมด ดงัรปู ท่ี 25 รปู ที่ 25 เม่อื พจิ ารณา Orientation จากผวิ แม่พมิ พ์จนกระทงั่ ก่งึ กลางของการไหล น้ําพลาสตกิ ชนั้ ทเี่ ป็พลาสตกิ แขง็ จะเกดิ ความเคน้ เฉือนต่ํา จงึ มี Orientation น้อย ชนั้ พลาสตกิ ทอ่ี ยถู่ ดั จากชนั้ พลาสตกิ แขง็ ในสว่ นทต่ี ดิ กนั กบั ส่วนทเ่ี หลว จะเกดิ ความเคน้ เฉือนสงู สุด และจะกลายเป็นพลาสตกิ แขง็ ทนั ทที ห่ี ยุดไหล Orientationเกอื บทงั้ หมดจงึ คา้ งอยูถ่ ดั เขา้ ไปอกี จนถงึ กง่ึ กลางความเคน้ เฉือนจะลดลง และอตั ราการเยน็ ตวั จะต่ํากวา่ มาก ทํใหม้ เี วลามากกว่าสาํ หรบั การคลาย Orientation ดงั นัน้ Orientation ทค่ี า้ งอย่จู งึ ลดลงมาจนกระทงั่ ถงึ กง่ึ กลางรปู แบบของ Orientation จะมผี ลต่อระดบั ความเคน้ ตกคา้ ง พลาสตกิ ทม่ี ี Orientation มากมกั จะหดตวั มากกว่าพลาสตกิ ทม่ี ี Orientation น้อย ทผ่ี วิ ในของชนั้ พลาสตกิ แขง็ พลาสตกิ ทม่ี ี Orientation ทต่ี ่าํ กวา่ ชนั้ พลาสติแขง็ จะเกดิ สภาพถูกดงึ จากชนั้ พลาสตกิ ท่ี Orientation น้ี กเ็ ป็นสาเหตุทาํ ใหเ้ กดิ ความเคน้ ตกคา้ ง และกเ็ ป็นสาเหตุใหญ่ทท่ี าํ ใหเ้ กดิ การโคง้ งอ หรอื บดตวั ของชน้ิ งานพลาสตกิช่วงเพ่ิมแรงดนั (The pressurization Phase) การไหลของพลาสตกิ เขา้ สแู่ มพ่ มิ พใ์ นช่วงเพมิ่ แรงดนั คลา้ ยกบั ชว่ ยฉีดเตม็ แม่พมิ พแ์ ต่อตั ราการไหลจะลดลงมา ขณะทแ่ี รงดนั ภายในแมพ่ มิ พจ์ ะสงู ขน้ึ ทาํ ใหช้ นั้ พลาสตกิ แขง็ หนาขน้ึช่วงฉีดชดเชย (The Compensating Phase) การไหลในช่วงน้ีจะไม่แน่นอน พิจารณาการฉีดรูปจานในรูปท่ี 26 จากรูป ถ้าลองพิจารณาว่าพลาสตกิ น่าจะไหลไปถงึ บรเิ วณทข่ี อบหนาอย่างสม่ําเสมอ โดยผา่ นสว่ นบาง แตใ่ นทางปฏบิ ตั ถิ า้ นํามาพจิ ารณใหด้ แี ลว้ พลาสตกิ จะไหลแตกแขนงคลา้ ยแม่น้ํา (รปู ท่ี 27) ซง่ึ พลาสตกิ ทไ่ี หลจะแบง่ เป็นกลุม่ กอ้ นเซกเตอรข์ องวงกลม ไม่ไดร้ าบเรยี บสม่าํ เสมอตามแนวรศั มอี ยา่ งคลน่ื นํ้า คลา้ ยรอย Melt line ขนาดเลก็ อนั เกดิ จากความแตกตา่ งของ Pressure ภายในสว่ นชน้ิ งานพลาสตกิ และผลจะตามมาในเรอ่ื งของการชดเชยการหดตวั
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 167รปู ท่ี 26 รปู ที่ 27ผลของสภาพการฉีดพลาสติก (Effect of Molding Condition) สภาพการฉีด (Molding Condition) เป็นสง่ิ จาํ เป็นอย่างยง่ิ ในการฉีด พลาสตกิ จะสง่ ผลต่อคุณภาพของช้ินงานโดยตรงเสมอ ซ่ึงสภาพการฉีดน้ี ผู้ควบคุมการฉีดเป็นผู้รบั รู้ และต้องรูผ้ ลกระทบต่อช้ินงานจากสภาพการฉดี น้ีดว้ ยเสมอ ตวั แปรเหลา่ น้ี คอื อุณหภมู แิ มพ่ มิ พ,์ อุณหภูมนิ ้ําพลาสตกิ , เวลาฉีด, ความเรว็ ในการฉีดและความดนั ต่าง ๆอณุ หภมู ิแม่พิมพ์ (Mold Temperature) การเพม่ิ อุณหภูมแิ ม่พมิ พม์ ผี ลคลา้ ยกบั การเพม่ิ อุณหภูมนิ ้ําพลาสตกิ เพยี งแต่ไมม่ ผี ลกระทบตอ่ แรงดนัและระดบั ความเคน้ จะน้อยกว่า นอกจากวา่ อุณหภมู แิ ม่พมิ พจ์ ะสงู จนใกลถ้ งึ อุณหภูมทิ พ่ี ลาสตกิ เรมิ่ แขง็ ตวั แต่ผลต่อเวลาในการหลอ่ เยน็ จะยาวนานขน้ึ มาก กว่าการเพม่ิ อุณหภมู ิ น้ําพลาสตกิ ขอ้ ดขี องการเพมิ่ อณุ หภมู แิ มพ่ มิ พ์คอื ใชอ้ ตั ราการฉีดอยา่ งชา้ ๆ ไดโ้ ดยไมท่ าํ ใหพ้ ลาสตกิ เยน็ ตวั เรว็ เกนิ ไปรปู ท่ี 28 รปู ท่ี 29
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 168เวลาท่ีใช้ในการฉีด (Fill Time) ในกราฟรปู ท่ี 28 แสดงผลของอตั ราฉีดในอตั ราต่าง ๆ ทม่ี ผี ลต่อแรงดนั ฉีด เตม็ เป็นความตอ้ งการทม่ี ีความขดั แยง้ ต่อกนั คอื ถา้ หากอตั ราการฉีดทส่ี งู มาก กจ็ ะเกดิ อตั ราการตดั เฉือนภายในทส่ี งู เช่นกนั จงึ ตอ้ งใช้แรงฉีดทส่ี งู ขน้ึ ไปอกี จงึ จะเตม็ คาวติ ้ี ถา้ อตั ราการฉีดลดลงจะเกดิ การเฉือนทต่ี ่ํากวา่ แต่จะสญู เสยี ความรอ้ น ทีมากกว่าทําใหอ้ ุณหภูมนิ ้ําพลาสตกิ ต่ําลง ความหนืดจะเพมิ่ ขน้ึ เวลาฉีดนนั้ จาเํป็น ตอ้ งใชแ้ รงดนั สงู กวา่ ปกติ เพืตอ้ งจาํ กดั ความเรว็ ใหพ้ อเหมาะ เมอ่ื แรงดนั ในการฉีดสงู อตั ราการไหลจะสงู ดว้ ย ถา้ เวลาฉีดนาน จาํ เป็นตอ้ งใช้แรงดนั สูงข้นึ อีก เพราะน้ํา พลาสตกิ ทปี่ ลายทางไหลมอี ุณหภมู ติ ํ่าเกนิ ไประหวา่ งสองจดุ น้ีจะมชี ว่ งพอดี ถา้อธบิ ายทวั่ ๆ ไปในการควบคุมตวั แปรเหล่าน้ี คอื การทํางานต้องมปี จั จยั คอื ความเรว็ เวลา อุณหภูมิ และความดนั เป็นตวั ควบคุมใหไ้ ดท้ กุ อยา่ งสมดลุ ย์ เหมาะสมกบั ชน้ิ งานใหช้ น้ิ งานออกมาทม่ี คี ุณภาพมากทส่ี ดุการแปรเปล่ียนความเค้น (Stress Varies) ลกั ษณะการเปลย่ี นแปลงความเคน้ นนั้ สามารถทจ่ี ะพจิ ารณาไดใ้ นชว่ งของการไหลว่า ช่วงนนั้ เป็นช่วงของการเรมิ่ ตน้ หรอื จุดสน้ิ สดุ ของการไหลเพราะ ความเคน้ นัน้ จะเกดิ เกย่ี วขอ้ งกบั อุณหภมู เิ วลาเยน็ ตวั แรงดนั ในการฉดี ดว้ ย เม่อื เรม่ิ ตน้ การไหล ความรอ้ นยงั ไม่สญู เสยี ไปมากนัก ความเคน้ ภายใน จะขน้ึ อยู่กบั อตั ราการไหลนัน้ คอื ถ้าน้ําพลาสตกิ ไหลเขา้ ระดบั ความเคน้ ภายในจะต่ํา สว่ นทป่ี ลายทางไหล จะมคี วามขดั แยง้ ความเคน้ ทเกดิ ขน้ึ ในเสน้ ทางการไหล ระหวา่ งอตั ราการเฉือนทส่ี งู อนั เกดิ จากน้ําพลาสตกิ ทฉ่ี ีดมาในชว่ งเวลาสนั้ กบั อตั รากาเฉือนทฉ่ี ีดมาเป็นเวลานาน และอุณหภมู ติ ่าํการรกั ษาแรงดนั ตามและช่วงเวลาท่ีให้แรงดนั การทดลองในเรอ่ื งการรกั ษาแรงดนั (Holding Pressure) และเวลาทใ่ี ชน้ ัน้ โดยการใชเ้ คร่อื งฉีดพลาสตกิ ทม่ี ตี วั ควบคุมการฉีดเตม็ เป็นหลกั หลงั จากนัน้ กใ็ ห้ การควบคุมช่วงฉีดเตม็ คงทต่ี ลอดและปรบั เปลย่ี นแรงดนั ตาม และเวลาการรกั ษา แรงดนั ในระดบั ต่าง ๆ นําผลของชน้ิ งานทไ่ี ดไ้ ปวเิ คราะหส์ รปุ ผลชน้ิ งานทม่ี นี ้ําหนัเทา่ กนั แต่ฉีดดว้ ยแรงดนั ตาม (Holding Pressure) และเวลา Holding Time ทแ่ี ตกต่างกนั คอื บางชน้ิ ฉีดดว้ ยแรงดนั ความถส่ี งู และใชเ้ วลาสนั้ ๆ บางชน้ิ กใ็ ช้ Holding Pressure ต่าํ Holding Time เวลานาน
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 169 ขอ้ สรปุ รปู ที่ 30 ในการทดลองกระบวนการน้ี แรงดนั Hydrostatic หรอื แรงดนั โดยรอบ ไม่ทาํ ใหเ้ กดิ ความเคน้ ถา้วางพลาสตกิ ช้นิ หน่ึงในถงั อดั ความดนั และส่งแรงดนั กระทําต่อช้นิ พลาสตกิ นัน้ แรงดนั โดยรอบจะไม่ทําใหเ้ กดิความเคน้ ภายในตอ่ ชน้ิ งาน รปู ที่ 31 สาเหตุของความเคน้ ท่เี กิดขน้ึ ในช้นิ งานพลาสตกิ คอื การไหลพลาสตกิ ขณะกําลงั แขง็ ตวั มกี ารเคลอ่ื นตวั ขณะทเ่ี รม่ิ จบั ตวั กนั ภายในโครงสรา้ งเน้ือพลาสตกิ เม่อื มแี รงมากระทาํ ขณะแขง็ ตวั และเปลย่ี นแรงกระทาํนนั้ กลายเป็นความเคน้ ทนั ที สภาพเชน่ น้ีจะเกดิ ขน้ึ ระหวา่ งชว่ งใหแ้ รงดนั ตาม หรอื ชว่ งฉดี ชดเชย
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 170 รปู ที่ 32การไหลกลบั (Back Flow) การเกดิ สภาพไหลกลบั คอื สภาพท่เี กดิ ขน้ึ ภายในคาวติ ้ขี ณะฉีดพลาสตกิ เม่อื อดั แรงดนั ฉีดเขา้ ไปภายในคาวติ ด้ี ว้ ยแรงดนั สงู มาก เม่อื พลาสตกิ เกอื บจะเตม็ คาวติ ้ี กจ็ ะถงึ ช่วงเพมิ่ แรงดนั อดั พลาสตกิ อกี ประมาณ15 % เขา้ ไปในแม่พมิ พ์ ถา้ แรงดนั ตามมากเกนิ ไป จะเกดิ แรงดนั สะทอ้ นกลบั ออกมา (Back Flow) พลาสตกิ จะไหลยอ้ นกลบั ออกจากแม่พมิ พส์ ู่ Runner ซง่ึ สภาวะอยา่ งน้ีจะเกดิ ขน้ึ ไม่บ่อยนัก การไหลยอ้ นกลบั น้ีจะมผี ลเชน่ เดยี วกบั การไหลไปขา้ งหน้า คอื เกดิ ความเคน้ จากการไหล และแขง็ ตวั รปู ท่ี 33 การฉีดช้ินงานท่ดี ีท่ีสุด คือ ให้แรงดนั ในการฉีดในระดบั ท่ีเหมาะสม ในระดบั ท่ีพอเหมาะและคงแรงดนั นนั้ ไวใ้ นเวลามส่ี นั้ ทส่ี ดุ เพอ่ื ลด Sink Mark ใหน้ ้อยลง จนเป็นทย่ี อมรบั ได้ และใหร้ ะบบ Runner และเกจ แขง็ ตวั จนพลาสตกิ ไมส่ ามารถไหลผา่ นเขา้ ไปไดอ้ กี แลว้การงอโค้ง (Warping) ในการออกแบบช้นิ ส่วนพลาสตกิ นัน้ ประการแรกต้องคํานึงมากท่ีสุด ก็คอื การรกั ษารูปทรงของช้นิ งานให้ได้ตามท่ตี ้องการ หลงั จากการถอดออกจากแม่พมิ พ์แล้ว การเสยี รูปของช้นิ งาน ส่วนมากจะเสยีรูปลกั ษณะการบิดตวั การหดตวั และการงอโค้ง สาเหตุหลกั ของการงอโค้ง เกิดจากการหดตัวในอัตราท่ี
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 171แตกต่างกนั ภายในชน้ิ งานขณะชน้ิ งานเยน็ ตวั น้ําพลาสตกิ จะมเี ปอรเ์ ซน็ ตห์ ดตวั อยแู่ ลว้ ถา้ หากชน้ิ งานบรเิ วณใบรเิ วณหน่ึง เกดิ การหดตวั ต่างจากบรเิ วณอ่นื ซ่งึ สงั เกตไดง้ า่ ย คอื อตั ราการเยน็ ตวั ต่างกนั มากชน้ิ งานจะงอโคง้ ตวั อยา่ งเชน่ ถา้ บรเิ วณหน่ึงเกดิ Overpacking ขณะทบ่ี รเิ วณอน่ื Packing น้อยกว่า การหดตวั ทงั้ สองบรเิ วณจะต่างกนั ชน้ิ งานจงึ เกดิ การงอโคง้ รปู ท่ี 34 รปู ที่ 35 การงอโคง้ เกดิ จากสาเหตุตา่ งๆจากการทดลองโดยการฉีดพลาสตกิ ทเ่ี หลวลงบนแผน่ โลหะท่เี ย็น เปรยี บเหมอื นผิวแม่พมิ พ์ท่ีมอี ุณหภูมติ ่าํ กวา่ และเกดิ การเยน็ ตวั พลาสตกิ ทฉ่ี ีดลงมา
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 172 การเยน็ ตวั ท่แี ตกต่างกนั ของพลาสตกิ ทท่ี ดลอง โดย ส่วนท่ีติดกับแม่พิมพ์จะเย็นตัวแข็งตัว และดึงเน้ือ พลาสตกิ ส่วนทร่ี อ้ นมาเสรมิ หรอื ชดเชยกบั การหดตวั เพอ่ื รกั ษารปู ทรงตามแบบสว่ นทเ่ี ยน็ ตวั หลงั จะเกดิ การการหดตวั ตามเปอรเ์ ซน็ ต์การหดตวั ปกติ แตไ่ มส่ ามารถหาเน้ือจากสว่ นอ่นื มาชดเชย ทาํ ใหม้ กี ารหดตวั เอง เป็นผลทาํ ใหด้ งึ เน้ือสว่ นอ่นื ใหเ้ สยี รปู รา่ ง สง่ ผลใหส้ ว่ นต่างๆ เกดิ การงอโคง้ ขน้ึรปู ที่ 36 การงอโคง้ อสิ ระของพลาสตกิ อนั เกดิ จากอตั ราการเยน็ ตวั ทต่ี า่ งกนัหลกั เกณฑก์ ารพิจารณาเลือกวสั ดุ (เหลก็ ) ในการทาํ แม่พิมพฉ์ ีดพลาสติก หลกั เกณฑก์ ารพิจารณา เหลก็ ชบุ แขง็ ทวั ่ ๆ ไป เหลก็ ชุบแขง็ อย่างดี เหลก็ ทนต่อ อายใุ ช้งานสนั ๆ อายใุ ช้งานยาวนาน สารเคมีทนทานแรงอดั ต่าํ ดมี าก(Compression Strenge) ดีความหนาทนทานต่อการสกึ หรอ ดมี าก(Wear Resistance) ต่าํ ปานกลางความแขง็ (Hardness) สงู ต่าํ ปานกลาง
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 173ความทนทานสารเคมกี ดั กรอ่ น ต่าํ ต่าํ ดี(Corrosion Resistance)ความเหนียว (Toughness) สงู ปานกลาง ต่าํความยากงา่ ยของการขน้ึ รปู ปานกลาง – ดี ดี ดี(Machinabillity)ความยากงา่ ยของการขดั เงา ปานกลาง – ดี ดี ดี(Polishability)ความสะดวกในการเช่อื ม(Weldability) ปานกลาง ต่าํ ต่าํความยากงา่ ยของการชุบแขง็ ปานกลาง ปานกลาง - ดี ปานกลาง(Nitriding Ability)No. Name Standard Material Hardness Surface Remarks roughness 1 Fixed botom plate Article on S55C HR C16 6S – 125 Main mold Themarker Main mold 2 Fixed retainer JISB5 106 S50,SCM440 HR C10- 6 – 35 Main mold Plate< Cavity SK7,S55C 22 6 – 35 JISB5 106 S50C,SCM440 HR C10- 6 – 35 Explained later 3 Movable retainer SK7,S55C 22 6S – 125 Hardbness after Plate JISB5 106 S50,SCM440 HR C10- 125 – 255 SK7,S55C 22 6S – 125 Quenching 4 Backing plate Article on S55C HR C16 HR C16 The marker 5 Spacetr block Article on Article on HR C16 6.35 The marker The marker 1.65 6 Ejector plate Article on S55C HR C16 35 (upper) The marker 35 Article on S55C HR C16 7 Ejector plate The marker (lower) Many Above HR JISB5 111 S50,SK7,S55C C40 8 Movble relainer JISB5 112 S50,SK5,SCM4 Above HR Plate S55C,SK7 C55 JISB5 107 SK3,SK52,SUJ2 Above HR 9 Core SK5,SKS310 Locating retainer JISB5 110 SK3,SK52,SUJ211 Sprue bushing12 Guide pin13 Guide bushing
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 174 SK5,SKS3 C5514 Sprue lock pin Article on SK4,SKS2,SKD6 Above HR 35 Identical to the15 Ejector pin The marker 1 C57 Ejector pin16 Return pin17 Stop pin JISB5 108 SK3,KS2,SACMI Above HR 35 . C55 SK5,SKS3 JISB5 109 SK3,SKS2,SK5, Above HR 35 SK53 C55 S45C ตารางท่ี 7 แสดงรายช่อื ชน้ิ สว่ น และวสั ดทุ าํ แมพ่ มิ พต์ ามมาตรฐาน JISการใช้อลมู ิเนียมผสมทาํ แม่พิมพฉ์ ีดพลาสติก วสั ดุทาํ แมพ่ มิ พน์ อกจากจะเป็นเหลก็ ดงั ทก่ี ลา่ วมาแลว้ ในปจั จบุ นั ไดน้ ําโลหะอยา่ งอน่ื ๆมาใชใ้ นการท่ีแม่พมิ พอ์ กี ดว้ ย ในรปู แบบโลหะผสม ซ่งึ กย็ งั มขี อ้ จํากดั อยบู่ า้ ง แต่กเ็ รมิ่ มกี ารพฒั นาไปเรอ่ื ยๆ โลหะทน่ี ํามาทําแม่พมิ พ์ฉีดได้แก่ อลูมเิ นียมผสมและเลรเิ ลียมผสมทองแดง แต่ก็สามารถนํามาใช้สําหรบั ทําช้ินส่วนบางช้ินเทา่ นนั้ เชน่ CAVITY Mould Base สว่ นชน้ิ สว่ นอน่ื ๆ กย็ งั เป็นเหลก็ แมพ่ มิ พฉ์ ีดทน่ี ิยมอลมู เิ นียมทําในปจั จุบนัเช่น แม่พมิ พฉ์ ีดพน้ื รองเทา้ แมพ่ มิ พฉ์ ีดตน้ แบบทไ่ี ม่ละเอยี ดแลว้ นําไปตกแต่งภายหลงั ซง่ึ แม่พมิ พเ์ หล่าน้ีราคาไม่ค่อยแพงมากนัก การขน้ึ รปู ง่าย อายุแม่พมิ พไ์ ม่มากนัก ฉะนัน้ การใชอ้ ลูเนียมผสม สําหรบั ทําแม่พมิ พ์ฉีดพลาสตกิ ยงั ตอ้ งคน้ ควา้ ตอ่ ไปการใชอ้ ลมู เิ นียมผสมในการทาํ แมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิAluminium Alloyสว่ นผสม สงั กะสี (Zn) 5.6% แมกนีเซยี ม (Mg) 2.5% ทองแดง (Cu) 1.6% โครเมยี ม (Ce) 0.25%การนําความรอ้ น สมั ประสทิ ธกิ ารนําความรอ้ น 121 W/m ๐ C ท่ี 20 ๐ Cดกี วา่ เหลก็ ประมาณ 2.21 เทา่การขยายตวั เชงิ เสน้ 2 เทา่ ของเหลก็Tensile Strength 540 MpaCompression Strength 540 MpaElongation 10 %Young’s Modulus of Elasticity 72,000 MpaHardness 145 BHN
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 175ขอ้ เสยี - ใชง้ านนาน ๆ ทอ่ี ณุ หภมู สิ งู ๆ ความแขง็ แกรง่ จะลดลงไป - ไมท่ นต่อกรดและดา่ งมาก ๆ - ไมท่ นตอ่ สารเคมี เช่น - Arsenie Acid – Chlorine – Copper Sunphate - Hydrochloric Acid – Hydrobroric Acid – Hydrofluoric Acid - Caustic Potash – Lead Nitrate – Mercry – Sodium Phosphate
ขอ้ พิจารณาในการเลือกวตั ถดุ ิบพลาสติ กหวั ข้อสภาพแวดลอ้ มทใี ชง้ าน นอกสถานท ี แสงแดด ฝน นํา ฝนุ่ นําแขง็ แสง เสอื มสภาพโดยแสงอุลตรา้ ไวโอเลต เสอื ก๊าซ การกดั เซาะ ก๊าซไอนํา ความชนื ควา นํา นํายาลา้ ง สารเคมี นํายาละลาย ด ของเหลว พษิ ทองแดง สกึ หรอ สมั ผสั อุณหภมู ทิ ใี ชง้ าน เวลาปกต,ิ เวลาปกติ เวลาไมป่ กติ อุณภมู เิ ยน็ คณุ การใชง้ าน สงู สดุ ,ตาํ สดุ ขยายตวั ดว้ ยความรอ้ น เปราะดว้ ยอุณหความละเอยี ดของขนาด เวลาปกต,ิ เวลาปกติ ไมป่ กติ อยกู่ บั ที เคลอื นไหว รปู ลกั ษณ์ภายนอก สงู สดุ ความสนั สะเทอื น การชนกระแทก ขอ้ จาํ กดั คา่ พกิ ดั เผอื อุณหภมู ิ ความชนื ความอมุ้ นํา นํามนั ความน่าเชอื ถอื พนื ผวิ สี รปู ทรง รปู แบบ ความเงางาม รอยขดี กฎหมายมาตรฐาน กฎหมาย UL กฎหมายสาธารณสขุ อาหา สขุ ภาพ กฎหมายป้ องกนั สงิ ของใหญ่ ค อายกุ ารใชง้ าน ต่างประเทศ นานาชาติ ระยะเวลาประกนั คุณภาพ ระยะเวลาทซี มคี าํ รอ้ งเรยี นจากลกู คา้
จดุ ปัญหา หมายเหตุ เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ ทะเลทราย, แถบรอ้ ย,ทหี นาว อมสภาพโดยกมั มนั ตภาพรงั สี crack เปลยี นสหี ายใส ชายฝงั ทะเลามแหง้ ดดู นํา ละลาย Stress crackณสมบตั ดิ ว้ ยลงดว้ ยความรอ้ น แปรรปู ดว้ ยความรอ้ น ในตโู้ ชวก์ ระจก หภมู ติ ํา การขนถ่ายสนิ คา้ การใชง้ าน ว ทาํ ซําครงั แลว้ ครงั เลา่ ความเหนือยลา้ creepน อยกู่ บั ที เคลอื นยา้ ย ฤดรู อ้ น และฤดหู นาว แหง้ แลง้ดขว่ น ความสกปรก ความเป็นสนิ คา้ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 176 าร กฎหมายกวดขนั เครอื งใชไ้ ฟฟ้ า กฎหมายพนื ฐาน ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ผลติ ภณั ฑใ์ นประเทศ ความปลอดภยัซอ่ มเสยี เงนิ ระบบการบรกิ ารเมอื ผลติ ภณั ฑเ์ สยี หรอื
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 177ชนิดของพลาสติกที่ใช้ทวั ่ ไปและการใช้งานพลาสติก พลาสตกิ เทอรโ์ มเซท็ (Thermoset Material) พลาสตกิ เทอรโ์ มเซท็ ทใ่ี ชก้ นั อยทู่ วั่ ไปและการใชง้ าน คอื PF = Phenol – formaldehyde เป็นพลาสติกท่ีรู้จกั กันมานานในนามของเบเกลไล้ท (Bakelite) เรยี กตามช่อื ของผคู้ น้ พบ คอื Mr. Bakeland และ ไดจ้ ดทะเบยี นUF = Urea – formaldehyde ลขิ สทิ ธใิ นปี ค.ศ. 1909 ทป่ี ระเทศอเมรกิ า PF เป็นเรซนิ พวกMF = Melamine – formadehyde Phenol – formaldehyde เป็นพลาสตกิ เทอรโ์ มเซท็ ทถ่ี กู ทส่ี ดุ มกี าร คงตวั ของขนาดดมี ากและทนความรอ้ นไดด้ ี เกรดทวั่ ไปจะทนไดถ้ งึ 150ºC เกรดพเิ ศษจะทนไดถ้ งึ 300 ºC แต่มเี พยี ง 2 สคี อื สดี าํ และ น้ําตาล ทนความรอ้ นและคงขนาดไวไ้ ดไ้ มด่ เี ท่า PF แต่สามารถ ทาํ ไดเ้ กอื บ ทกุ สี ทนการขดู ขดี ไดไ้ ม่ดเี ทา่ PF แต่ราคาถกู กวา่ เป็นชนิดทแ่ี ขง็ ทส่ี ุด ทนต่อการขดู ขดี ไดด้ กี ว่าชนิดอ่นื ดงั นัน้ จงึ ใช้ ทาํ ภาชนะใส่อาหารและเคร่อื งใชใ้ นครวั เป็นพลาสตกิ ทม่ี รี าคาแพง ทส่ี ดุ ในกลมุ่ เทอรโ์ มเซท็PE = Polyester resin ทนต่อแรงกระแทกสงู ใชท้ าํ ตวั เรอื นและครอบสาํ หรบั เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า และอุปกรณ์ภายในบา้ น เป็นฉนวน ทนแรงสงู สามารถนํามาเสรมิ ใยแกว้ ได้เทอรโ์ มพลาสตกิ (Thermoplastic Material) เทอรโ์ มพลาสตกิ เป็นวสั ดุทใ่ี ช้ในการขน้ึ รปู ด้วยการฉีด เป่าและอดั รดี มกี ารผลติ พลาสตกิ ชนิดน้ีหลายเกรดและคุณมสี มบตั ติ ่างกนั เช่น เกรดทใ่ี ชฉ้ ีด เปา่ เกรดออ่ น แขง็ ความหนาแน่นต่าํ -สงู ไม่ไหมไ้ ฟ เสรมิ แรงดว้ ยเสน้ ใยต่างๆ ได้ เป็นตน้ABS = Acrylonitrile – styreneคา่ หดตวั โดยเฉลย่ี : 0.4 – 0.6 % จดั อยใู่ นกลุม่ ของ Styrene-Polymeride ตา้ นแรงกระแทกอุณหภมู หิ ลอมเหลว : 200 – 280 ºC ไดด้ ี ทนความรอ้ นดมี คี วามเงาและแสงผา่ นไดย้ ากทนต่ออุณหภมู แิ มพ่ มิ พ์ : 60 – 90 ºC สารไฮโดรคารบ์ อน (เชน่ น้ํามนั ) ดงั นนั้ จงึ ใชส้ าํ หรบั ทาํ(ถา้ ตอ้ งการใหผ้ วิ เงามากใหใ้ ช้ ชน้ิ สว่ นรถยนต์ เฟอรน์ ิเจอร์ ภาชนะในครวั เรอื น ครอบอุณหภมู สิ งู กวา่ น้ี) หลอดไฟ เป็นต้น สามารถนํามาเคลือบผวิ ด้วยวิธีทาง : 1.05 g/cm3 ไฟฟ้า โดยไมต่ อ้ งเตรยี มผวิ กอ่ นเคลอื บความหนาแน่น
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 178CA = Cellulose – acetateคา่ หดตวั ดจู ากค่มู อื ของผผู้ ลติ จดั อยใู่ นกลมุ่ ของ Cellulose – esler คอ่ นขา้ งแขง็ และทนอุณหภมู หิ ลอมเหลว : 180 – 230 ºC ขดู ขดี มคี วามเคน้ ภายในต่าํ ดงั นัน้ จงึ ใชส้ าํ หรบั การฉีด-อุณหภมู แิ มพ่ มิ พ์ : 40 – 50 ºC หมุ้ ชน้ิ สว่ นโลหะ เชน่ เครอ่ื งมอื พวกไขควง คมี หวั เขม็ - : 1.33 g/cm3 ขดั หวี กระดุมและขอใชส้ ว่ นตวั อน่ื ๆ เป็นตน้ความหนาแน่นCAB = Cellulose – acetate – butyrateคา่ หดตวั และตวั แปรในการฉีด คุณสมบตั แิ ละการใชง้ านคลา้ ย CA นอกจากน้ียงั ใชก้ นั มากในอุตสาหกรรมแปรรปู ไฮโดรคารบ์ อนโดยทาํ เป็นทอ่เหมอื นกบั CA : 1.19 g/cm3 หรอื สายสง่ เพราะทนต่อการยอ่ ยสลายดว้ ยพาราฟินไดด้ ี ใชท้ าํ ชน้ิ สว่ นภายในรถยนต์ เชน่ พวงมาลยั ครอบความหนาแน่น หลอดไฟ แผน่ ตกแตง่ รว่ มกบั อะลมู เิ นียมCP = Cellulose – Propionateคา่ หดตวั ดจู ากคมู่ อื ของผผู้ ลติ มคี ณุ สมบตั คิ ลา้ ยกบั CAB ใชท้ าํ กรอบแวน่ ตาอยา่ งดีอุณหภมู หิ ลอมเหลว : 130 – 180 ºC พลาสตกิ ผสมของ CP – IR ใชท้ าํ แว่นตาสาํ หรบั งานอุหณภมู แิ มพ่ มิ พ์ : 50 – 60 ºC เชอ่ื ม เกรดทม่ี สี ว่ นผสมของ CP – EVA ใชท้ าํ เครอ่ื งใช้ ในงานกรองแสง อุปกรณ์แพทยท์ ท่ี นความรอ้ นคอ่ นขา้ ง สงู อยา่ งไรกต็ ามหากไดร้ บั ความรอ้ นสงู ประกอบกบั ผล : 1.21 g/cm3 จากความชน้ื กม็ โี อกาสเสยี รปู ไดง้ า่ ยความหนาแน่นPA = Polyamideคา่ หดตวั ใหด้ จู ากค่มู อื ของผผู้ ลติ ไนลอ่ น ทนแรงกระแทกได้ ใชง้ านไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวางอุณหภมู หิ ลอมเหลว : 230 – 290 ºC โดยเฉพาะในสาขาวศิ วกรรมเครอ่ื งกลไฟฟ้า เน่อื งจากรบัอุณหภมู แิ มพ่ มิ พ์ : 40 – 60 ºC แรงจากการเคลอ่ื นทไ่ี ดด้ ี เชน่ เฟืองทใ่ี ชง้ านโดยไมเ่ กดิ เสยี งใบพดั ชน้ิ สว่ นขบั เคลอ่ื น ลกู เบย้ี ว ฉนวนหมุ้ ลวด และสายเคเบลิ ชน้ิ สว่ นรถยนต์ ทท่ี นต่อน้ํามนั เชอ้ื เพลงิ ไดข้ อ้ ต่อของทอ่ นอกจากน้ียงั ใชใ้ นอุตสาหกรรมอาหารความหนาแน่น : 1.02 – 1.14 g/cm3 และบรรจภุ ณั ฑ์PB = Poly – butene : 0.8 – 0.95 % ทนความรอ้ นไดด้ ี ใชท้ าํ ทอ่ และขอ้ ต่อของทอ่ สาํ หรบั น้ํา กาํ หนดตวั โดยเฉลย่ี : 190 – 220 ºC รอ้ นภาชนะบรรจุภณั ฑส์ าํ หรบั อาหาร ทผ่ี า่ นกรรมวธิ ที าง อุณหภมู หิ ลอมเหลว : 70 – 90 ºC ความรอ้ น เป็นตน้ อุณหภมู แิ มพ่ มิ พ์ : 0.91 g/cm3 ความหนาแน่น
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ีดพลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 179PBTP = Poly – butylene – terphthalateคา่ หดตวั โดยเฉลย่ี : 1.5 – 2.5% ดดู ซบั ความชน้ื ไดม้ าก พลาสตกิ ทเ่ี กบ็ ไวใ้ นทถ่ี กู อากาศหากมใี ยแกว้ เสรมิ แรง : 0.4 – 0.8% ก่อนใชต้ อ้ งอบใหแ้ หง้ ท่ี อณุ หภมู ิ 120 ºC เป็นเวลา 5อุณหภมู หิ ลอมเหลว : 245 – 265 ºC ชม.ใชท้ าํ ชน้ิ สว่ นเครอ่ื งจกั รกล เครอ่ื งใชภ้ ายในบา้ นทใ่ี ช้ : 30 – 60 ºC งานทค่ี วามรอ้ นสงู สวทิ ซไ์ ฟฟ้า ขอ้ ต่อหวั เทยี น ชน้ิ สว่ นอุณหภมู แิ มพ่ มิ พ์ : 1.31 g/cm3 พลาสตกิ ทม่ี คี วามแมน่ ยาํ และทนการกระแทกไดด้ ีความหนาแน่นPC = Poly carbonateคา่ การหดตวั ในทกุ ทศิ ทาง : 0.7 – 0.8 % ดดู ซบั ความชน้ื ไดม้ าก หากเกบ็ ไวใ้ นทถ่ี กู อากาศก่อนใช้อุณหภมู หิ ลอมเหลว : 280 – 320 ºC ตอ้ งอบใหแ้ หง้ ทอ่ี ุณหภมู 1ิ 20 ºC เป็นเวลา 3 – 5 ชม.อุณหภมู แิ มพ่ มิ พ์ : 30 – 60 ºC การหดตวั ของพลาสตกิ ผสมใยแกว้ จะขน้ึ กบั ทศิ ทางการ : 1.2 g/cm3 ไหลโดยมคี า่ ในทางการไหล 0.25 – 0.45 % ใชท้ าํความหนาแน่น สว่ นประกอบของไฟสว่ นทาง หมวกนิรภยั ภาชนะบรรจุน้ํ ด่มื ขวดนมเดก็ ช้นิ ส่วนทางไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ท่ี ทนแรงกระแทกได้ ฉนวนทท่ี นแรงดงึ ใชห้ มุ้ ชน้ิ สว่ นโลหะ ตู้สวทิ ซ์บอรด์ แผ่นเปิดเคร่อื งมอื วดั กล้องถ่ายรูป เคร่อื ง กฬี า อุปกรณ์เกย่ี วกบั ความปลอดภยั เป็นตน้PTFC = Polyctor – tetrafluor – ethylene มชี อ่ื เรยี กอกี อยา่ งหน่ึงวา่ TEFLON เป็นผลพลอยไดจ้ าก คา่ การหดตวั ดจู ากคมู่ อื ของผผู้ ลติ การวจิ ยั ดา้ นอวกาศ ไมไ่ วไฟ ทนสภาพอากาศและการ อุณหภมู หิ ลอมเหลว : 200 – 280 ºC กดั กรอ่ นไดด้ มี าก ทงั้ ยงั ทนต่อ น้ํายาทาํ ละลายไดด้ ว้ ย มี อุณหภมู แิ มพ่ มิ พ์ : 80 - 130 ºC ตวั ประกอบความเสยี หายทงั้ Static และ dynamic สงู ความหนาแน่น : 2.07 – 2.12 g/cm3 มากจงึ ใช้ทําแบริง่ ท่ีไม่มีสารหล่อล่นื ซีลสําหรบั ส่วนท่ี ขน้ึ อยกู่ บั เกรด เคล่ือนท่ีโดยเฉพาะกบั งานท่ีมีอุณหภูมิสูงสุดและต่ําสดุ ใชเ้ คลอื บเพอ่ื ไม่ใหต้ ดิ ผวิ ของงานบางอยา่ ง เชน่ หมอ้ หุง ขา้ วและกระทะอุตสาหกรรมเคมี และชุดเคร่อื งมือ ปฏบิ ตั กิ าร ชน้ิ สว่ นเคร่อื งจกั รกลและวศิ วกรรม ทม่ี คี วาม แมน่ ยาํ ชน้ิ สว่ นอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละคอมพวิ เตอร์ ฉนวนหุม้ สายเคเบลิ อุตสาหกรรมอวกาศและการบนิ
เอกสารหลกั สตู รการออกแบบและการสรา้ งแมพ่ มิ พฉ์ ดี พลาสตกิ จดั ทาํ โดย เรวตั ร มสี ถติ ย์ 180PETB = Poly ethyiene terephtalateคา่ หดตวั โดยเฉลย่ี มคี ุณสมบตั คิ ลา้ ยกบั PBTB ใชฉ้ ดี ชน้ิ งานทก่ี รองแสงอุณหภมู หิ ลอมเหลว : 260 - 280 ºC สาํ หรบั งานทต่ี อ้ งการความแม่นยาํ ทางแสงมาก ๆ ใชเ้ ปา่อุณหภมู แิ มพ่ มิ พ์ : 120 - 140 ºC ขวดขนาดใหญ่กว่า 1 – 2 ลติ ร ซ่งึ เหมาะสําหรบัเครอ่ื งดม่ื ความหนาแน่น : 1.33 g/cm3 ทม่ี คี ารบ์ อเนต เป็นตน้PE = Polyethyleneคา่ การหดตวั เฉลย่ี : 1.5 – 3.0 % จดั อยใู่ นกลมุ่ ของ Polyolefine Polyethylene ทผ่ี ลติ ขน้ึ มี เกรด เชน่ PE-LD คอื PE ทม่ี คี วามหนาแน่นต่าํขน้ึ อยกู่ บั เกรดทใ่ี ช้ PE-LD คอื PE ทม่ี คี วามหนาแน่นสงู มใี ชก้ นั ทวั่ ไป ในงานฉีดพลาสตกิ พลาสตกิ พวก Polyolefineอุณหภมู หิ ลอมเหลว งา่ ยต่อการฉีด แตเ่ น่ืองจากการหดตวั ทแ่ี ตกตา่ งกนั ในทศิ ทางการไหล และทศิ ทางตงั้ ฉากกบั การไหลPE-LD ผนงั หนา 220 – 260 ºCPHD ผนงั บาง 180 – 220 ºCPE-H D ผนงั หนา 260 – 300 ºCPE-LD ผนงั บาง 240 – 280 ºCอุณหภมู แิ มพ่ มิ พ์ : 30 – 70 º CPMMA = Acrylic หรอื Polymetyl methacrylate เรยี กอกี อยา่ งหน่ึงวา่ PLEXIGLASS มคี วามสามารถใน คา่ หดตวั ดไู ดจ้ ากคมู่ อื ผผู้ ลติ การไหลต่าํ จงึ ตอ้ งใชห้ วั ฉีดขนาดใหญ่ ดดู ซบั ความชน้ื ได้ อุณหภมู หิ ลอมเหลว : 160 – 230 ºC มากหากเกบ็ ไวใ้ หถ้ กู อากาศ ก่อนใชต้ อ้ งนํามาอบใหแ้ หง้ อุณหภมู แิ มพ่ มิ พ : 50 – 90 ºC ทอ่ี ณุ หภมู ิ 70 – 100 º C เป็นเวลาท่ี 4 – 5 ชม. (ขน้ึ อยู่ ความหนาแน่น : 1.13 – 1.18 g/cm3 กบั เกรด) ความหนาของชนั้ พลาสตกิ ทอ่ี บแหง้ ตอ้ งไม่ เกนิ 40 มม. อุณหภูมแิ ม่พมิ พส์ งู จะมผี ลต่อรอบของการ ฉีด แต่สามารถลดความเค้นภายในได้ ทนความร้อนได้ พอสมควร แสงลอดผ่านได้ดีกว่า มีความทนทานต่อ สารเคมี และกรดท่ีมีความเข้มข้นปานกลาง เกือบทุก เกรดจะใช้เพ่ือบรรจุอาหารเกรดท่ีไม่มีการปรบั ปรุงจะ แตกรา้ วไดง้ ่าย เน่ืองจากความเคน้ ภายใตส้ ภาพแวดลอ้ ม ทแ่ี น่นอน ฉีดได้ยากเน่ืองจากมคี วามหนืดต่ํา จําเป็นตอ้ ใช้ Runner และ Gate ทม่ี ขี นาดใหญ่กวา่ การฉีดเทอรโ์ ม พลาสตกิ ชนิดอน่ื ใชท้ าํ ชน้ิ สว่ นทป่ี ระกอบกบั แสงสว่างทุก ชนิด เพราะมคี วามโปรงแสงและทนความรอ้ น ช้นิ ส่วนท่ี แม่นยําในอุตสาหกรรมเคร่ืองจักรกล งานท่ีเก่ียวกับ อุตสาหกรรมเคร่อื งจกั รกล งานทเ่ี ก่ยี วกบั การแพทยแ์ ละ การรกั ษากระดกู แผ่นพลาสตกิ สาํ หรบั ขน้ึ รปู ภาชนะดว้ ย สุญญากาศ อุปกรณ์การเขยี นแบบ เคร่อื งเขยี น อุปกรณ์ วดั และเลนส์ เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345