Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 000 สรุปการฝึก RDF 65 (รวม)

000 สรุปการฝึก RDF 65 (รวม)

Published by godskolak, 2022-06-22 13:16:03

Description: 000 สรุปการฝึก RDF 65 (รวม)

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลการฝกึ หน่วยพรอ้ มรบเคลอื่ นที่เร็วของ ทบ. หน้าที่ 197 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 4. การเคลอื่ นย้ายเข้าทร่ี วมพลข้นั สดุ ท้าย หลังจากหนว่ ยประกอบกำลังทุกส่วนเข้าพ้ืนทีก่ ่อกำลัง และทำการทดสอบระบบการติดต่อสื่อสารเรียบร้อย หน่วยทำการฝึก/ทดสอบแผนในข้ันต่อไป คือ การเคล่ือนย้ายเข้าท่ีรวมพลข้ันสดุ ท้าย โดยปฏิบตั ิตามตารางการ เคล่อื นยา้ ย (ตารางทด) ทั้งนี้สามารถเคล่อื นยา้ ยเข้าที่รวมพลขน้ั สดุ ท้ายไดต้ ามแผนการเคลอื่ นย้าย ขอ้ สังเกตุ - เน่ืองจากเส้นทางเคล่ือนย้ายมีเส้นทางเดียวและลักษณะเสน้ ทางเป็นเส้นทางคดเค้ียว ลาดชันตามป่า ภูเขา การเคล่ือนย้ายด้วยขบวนยานพหานะขนาดใหญ่ พลขับต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น รวมถึงต้อง แบ่งขบวนเปน็ ตอนยอ่ ย ๆ เพือ่ ลดความคับคง่ั ในเส้นทาง - ขบวนของยานพาหนะขนาดใหญ่ ท่ีมีน้ำหนักมาก และเคล่ือนท่ีได้ช้า ต้องจัดลำดับเคลื่อนย้ายไว้ใน ขบวนหลงั เพอ่ื ไม่กดี ขวางขบวนอนื่ ๆ - ต้องควบคุมเรื่องระยะเวลาในการเคลื่อนยา้ ยขบวน และการเข้าท่ีรวมพลขั้นสดุ ท้ายให้เหมาะสมเพ่ือ ไม่ให้หน่วยเข้าที่รวมพลข้ันสุดท้ายเร็วจนเกินไป ทำให้ต้องใช้เวลาอยู่ในที่รวมพลข้ันสุดท้ายนาน จะสูญเสียใน เร่อื งของการรกั ษาความลบั และเกิดเปน็ เป้าหมายคุ้มคา่ ได้ การเคล่ือนย้ายเขา้ ทีร่ วมพลขั้นสดุ ทา้ ย

สรปุ ผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคลื่อนทีเ่ รว็ ของ ทบ. หนา้ ท่ี 198 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 5. การเขา้ ทรี่ วมพลข้ันสดุ ท้ายและทดสอบระบบการติดตอ่ ส่ือสาร การเข้าที่รวมพลข้ันสุดท้ายและการเข้าที่ตั้งของเคร่ืองมือต่าง ๆ สามารถเข้าที่รวมพลและที่ตั้งได้ตามแผน ตามรายละเอียดของหน่วยประกอบกำลัง ในส่วนของการติดต่อส่ือสาร สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างหน่วย และ ทก.ต่าง ๆ ได้ โดย มว.สส. ร.31 รอ. ทำการจุดต้ังรีทาร์น จำนวน 3 จุด เพ่ือให้การติดต่อสื่อสารระหว่าง หน่วยประกอบกำลังทุกหน่วยมีความครอบคลุม ซึ่งจุดรีทาร์นทั้ง 3 จุด จัดตั้งบริเวณต่าง ๆ คือ จุดชมวิว ภูแล ลาว (เนิน 1065) พิกัด QA 187274, เนิน ตรงข้าม รร.บ้าน บ่อเบี้ย (เนิน 823) พิกัด QA 274269, ดอยค้อ (เนิน 621) พิกัด QA 136038 นอกจากนี้ ฝสท.ร.31 รอ. ได้สำรวจและบันทึกข้อมูลสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ ซง่ึ ส่วนใหญ่สัญญาณจะมตี ามขา่ ยเส้นทาง และบริเวณโดยรอบชมุ ชน และมจี ุดอับสญั ญาณตา่ ง ๆ ตามหบุ เขา้ ท้งั น้หี น่วยปิดสถานการณก์ ารฝกึ ประมาณ 19.00 น. และเคลอื่ นย้ายเขา้ ทพี่ ักในพ้ืนทก่ี ่อกำลังต่อไป การเข้าท่รี วมพลขัน้ สุดท้ายและทดสอบระบบการตดิ ต่อสอ่ื สาร 6. การสรปุ ทบทวนหลงั การปฏบิ ัตขิ น้ั ต้น ภายหลังจากทดสอบแผนการปฏิบัติ ช่วงเช้าของวันที่ 1 มิ.ย. 65 เวลา 0830 หน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็ว ของ ทบ. ได้จัดการสรุปทบทวนหลังการปฏิบัติขั้นต้น ณ ร้อย.ตชด.ที่ 314 (พ้ืนที่ก่อกำลัง) เพื่อสรุปผลการ ปฏบิ ัติและข้อแกไ้ ขในการปรับปรงุ แผน/คำสั่งให้สมบูรณ์ ต่อไป 6.1 หัวขอ้ ในการทบทวนหลงั การปฏบิ ตั ิ (ทลป.) 6.1.1 การเคล่อื นย้าย จาก ท่ตี งั้ ปกติ เข้าพนื้ ทีก่ ่อกำลงั : 6.1.1.1 อุปสรรคตามเส้นทางมหี รือไม/่ อยา่ งไร

สรปุ ผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคลอื่ นที่เร็วของ ทบ. หนา้ ท่ี 199 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 6.1.1.2 สามารถผ่านจดุ ตา่ ง ๆ ได้ตามแผนหรอื ไม/่ อยา่ งไร 6.1.1.3 เขา้ พ้ืนทไ่ี ด้ตามแผนหรอื ไม่/อยา่ งไร 6.1.1.4 การตดิ ต่อส่ือสารในพนื้ ทีก่ อ่ กำลัง กับ ทก.ร.31 รอ. 6.1.2 การเคลือ่ นยา้ ยจาก พน้ื ท่ีกอ่ กำลงั เขา้ ทรพ.ขัน้ สดุ ท้าย มอี ปุ สรรคหรอื ไม/่ อยา่ งไร 6.1.3 เขา้ ทรพ.บริเวณใด/อยา่ งไร 6.1.4 มสี ัญญาณโทรศพั ทห์ รอื ไม่/อย่างไร 6.1.5 มีสัญญาณอนิ เตอรเ์ นต็ หรือไม/่ อยา่ งไร 6.1.6 การติดต่อสอื่ สาร 6.1.6.1 สามารถตดิ ต่อกับ ทก.หลกั ด้วย FM และ ICOM ได้หรือไม/่ อย่างไร 6.1.6.2 สามารถตดิ ต่อกบั ทก.ยว. ดว้ ย FM และ ICOM ได้หรอื ไม/่ อย่างไร 6.1.6.3 สามารถติดต่อกับ ทก.หลัง ดว้ ย FM และ ICOM ไดห้ รอื ไม/่ อย่างไร 6.1.6.4 การติดต่อสอื่ สารภายในหน่วย 6.1.7 อน่ื ๆ 6.2 สรุปทบทวน 6.2.1 การเคลือ่ นยา้ ย จาก ที่ตัง้ ปกติ เข้าพ้นื ท่กี อ่ กำลงั : 6.2.1.1 ทุกหน่วยสามารถเคลื่อนย้ายจากท่ีตั้งปกติเข้าพื้นที่ก่อกำลังได้ตามแผน อุปสรรคตาม เส้นทางมีไม่ 6.2.1.2 ทุกหนว่ ยสามารถผ่านจุดตา่ ง ๆ ได้ตามแผน 6.2.1.3 ทุกหน่วยสามารถเข้าพืน้ ทกี่ อ่ กำลงั ได้ตามแผน 6.2.1.4 การติดต่อสื่อสารในพื้นท่ีก่อกำลัง กับ ทก.ร.31 รอ. ทุกหน่วยสามารถติดต่อสื่อสารได้ ครอบคลุม 6.2.1.5 ขอ้ สงั เกตุ - ขบวนในการฝึกโดยไม่ใช้กำลังทหารไม่มีปัญหาขัดข้อง กรณีเป็นขบวนเต็มสำหรับ หน่วยในพื้นท่ี กทม. เกรงจะมีการติดขัดด้านการจราจร เห็นควรปรับเพิ่มเวลาเคลอื่ นย้ายออกจากหนว่ ยเร็วขึ้น อกี 1 ชม. - จุดคับขันตามเส้นทางบริเวณแยกตางฟ้า มีการปรับปรุงเส้นทาง ทำให้เส้นทาง การจราจรถูกบีบเส้นทาง และเคล่ือนที่ได้ช้า กรณีแผนจริง (ยานพาหนะเต็มขบวน) และยังคงมีการปรับปรุง เสน้ ทางอยู่ แผนการเคลอ่ื นยา้ ยจะไดร้ บั ผลกระทบทำใหช้ า้ กว่าเวลาท่กี ำหนด - เกิดการซ้อนทับกันในจุดพัก ระหว่างขบวนส่วนล่วงหน้าของหน่วยลำดับเคล่ือนย้าย ทา้ ย กบั ขบวนส่วนใหญ่ของหน่วยลำดับแรกของขบวน ท้ังนี้เน่ืองจากการทดเวลาระหวา่ งส่วนล่วงหน้า กับส่วน ใหญ่ เหลอื 1 ชว่ั โมง ในการฝกึ โดยไม่ใช้กำลงั ทหาร (แผนจริง 4 ชวั่ โมง) 6.2.2 การเคล่ือนยา้ ยจาก พนื้ ทกี่ อ่ กำลงั เข้า ทรพ.ขนั้ สุดทา้ ย 6.2.2.1 ทุกหน่วยสามารถเคล่ือนย้ายเข้าที่รวมพลข้นั สดุ ทา้ ยได้ตามแผน

สรปุ ผลการฝกึ หน่วยพร้อมรบเคลื่อนท่เี รว็ ของ ทบ. หน้าท่ี 200 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 6.2.2.2 ขอ้ สงั เกตุ - เส้นทางเป็นเส้นทางเดียวคดเคี้ยวและสูงชันตามลักษณะภูเขา พลขับต้องใช้ความ ระมดั ระวัง - ยานพาหนะขนาดใหญเ่ คล่ือนที่ไดช้ า้ โดยเฉพาะชว่ งเส้นทางท่สี ูงชนั - ต้องแบง่ ขบวนเป็นตอนการเดินยอ่ ย ๆ เพือ่ ลดความคับคั่งในเสน้ ทาง 6.1.4 มีสัญญาณโทรศัพท์ในพ้ืนที่มีสัญญาณโทรศัพท์เป็นห้วง ๆ โดยเฉพาะตามข่ายถนน และย่าน ชุมชน โดยสญั ญาณโทรศัพท์ที่มจี ำนวน 3 เครอื ข่าย เรียงตามลำดับ คือ AIS, TRUE และ DTAC ตามลำดบั 6.1.5 มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ตามโซนพ้ืนที่ตามสัญญาณโทรศัพท์ และตามส่วนราชการในพ้ืนที่มี สัญญาณอนิ เตอรเ์ นต็ ภายใน เช่น อบต.บ่อเบี้ย, รร.ตชด.ยอดโพธิท์ อง 1 เป็นต้น 6.1.6 การตดิ ต่อสอ่ื สาร 6.1.6.1 ระหว่างการเคล่ือนย้ายจากพ้ืนที่ก่อกำลังไปยังท่ีรวมพลขั้นสุดท้าย สามารถ ตดิ ต่อสอื่ สารได้ตลอดเส้นทาง 6.1.6.2 สามารถตดิ ต่อกับ ทก.หลัก ดว้ ย FM และ ICOM ได้ 6.1.6.3 สามารถติดตอ่ กับ ทก.ยว. ดว้ ย FM และ ICOM ได้ 6.1.6.4 สามารถตดิ ตอ่ กบั ทก.หลัง ด้วย FM และ ICOM ได้ 6.1.6.5 การตดิ ตอ่ สือ่ สารภายในหน่วยสามารถตดิ ต่อได้ 6.1.6.6 ข้อสงั เกตุ - มว.สส. ร.31 รอ. ทำการจุดต้งั รที าร์น จำนวน 3 จุด เพอ่ื ให้การติดต่อส่ือสารระหว่าง หน่วยประกอบกำลังทุกหน่วยมีความครอบคลุม ซ่ึงจุดรีทาร์นทั้ง 3 จุด จัดต้ังบริเวณต่าง ๆ คือ จุดชมวิว ภูแล ลาว (เนิน 1065) พิกัด QA 187274, เนิน ตรงข้าม รร.บ้าน บ่อเบี้ย (เนิน 823) พิกัด QA 274269, ดอยค้อ (เนนิ 621) พกิ ัด QA 136038

สรปุ ผลการฝกึ หน่วยพรอ้ มรบเคลือ่ นที่เรว็ ของ ทบ. หนา้ ท่ี 201 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) - มว.สส. ตรวจพบสัญญาณความถ่ีแซกซ้อนของฝ่ายตรงข้าม ทำให้ต้องปรับความถี่ ใหม่ แนวทางแก้ไข การทดสอบวิทยุสื่อสาร ร้อย.ขกท. มีขีดความสามารถ ค้นหาความถ่ีของวิทยุส่ือสาร ใน พ้ืนท่ีท่ีมีใช้งานทุกความถ่ีท้ังทาง VOICE และ DATA สามารถใช้เคร่ืองมือสื่อสารของใน อฉก. ร้อย ขกท.ท่ีมี เพื่อค้นหาความถ่ีเครื่องมือส่ือสารทุกชนิดในพื้นท่ี ของฝ่ายเรา และเพ่ือป้องกันฝ่ายตรงข้าม รู้ข่าวสารการเข้า พนื้ ทข่ี องฝา่ ยเรา สำหรับการพจิ ารณาใช้ความถ่ี ของฝา่ ยเราไมใ่ ห้ซอ้ นทับ 6.3 ผบ.หน่วยพรอ้ มรบเคล่ือนท่ีเร็วของ ทบ. สรปุ 6.3.1 ปัจจัยหลักในการพิจารณาเพอ่ื นำไปปรบั ปรุงแผน/คำสั่ง 6.3.1.1 เวลา 6.3.1.2 การส่ือสาร 6.3.1.3 การรกั ษาความลับ 6.3.2 สิ่งท่ีตอ้ งนำไปปรับปรงุ แผน/คำส่งั 6.3.2.1 เวลาที่ระบุไวใ้ นแผนการเคล่อื นยา้ ย 6.3.2.2 การส่อื สาร FM, ICOM 6.3.2.3 แผน่ บริวารสอ่ื สาร (ทำเปน็ สี แยกให้ชัด) 6.3.2.4 ทีต่ ้ังของจดุ พกั รถ 6.3.2.5 จดุ วาง สห./ตร. ให้ FM, ICOM 6.3.2.6 ชุดรีทรานส์ ต้องไปฝึก การเขา้ ประมวลลบั /ถอดรหัส 6.3.2.7 แผนเผชญิ เหตุของหน่วยบนิ 6.3.2.8 ลำดบั หนว่ ยในการเคลื่อนยา้ ย

สรุปผลการฝึกหน่วยพร้อมรบเคล่อื นทีเ่ ร็วของ ทบ. หนา้ ท่ี 202 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) การสรปุ ทบทวนหลังการปฏบิ ัตขิ ้ันต้น 7. การรบั ฟงั บรรยายพิเศษประสบการณ์การรบในพ้นื ท่ี จาก ผบ.มทบ.35 หลังจบการสรุปทบทวนหลังการปฏิบัติในข้ันต้น ณ พ้ืนท่ีก่อกำลัง (ร้อย.ตชด.ที่ 314) หน่วยและหน่วย ประกอบกำลังได้เคล่ือนย้ายไปยัง อ.เมอื ง จว.อตุ รดิตถ์ เพ่ือพัฒนาสัมพันธ์ร่วมกับหน่วยในพื้นท่ี ในการน้ีได้รับ เกียรติจาก ผบ.มทบ.35 (พล.ต.สัณธวัฒน์ วงศ์วัฒนะ) กรุณาให้เกียรติมาบรรยายประสบการณ์จากการรบใน พืน้ ที่ภาคเหนือในเหตุการณ์ต่าง ๆ และถ่ายถอดประสบการณ์/แนวคิดในการปฏบิ ัติ ทำให้ ผบ.หนว่ ยประกอบ กำลังไดเ้ ข้าใจพื้นที่รวมถึงการปฏิบัติการรบในพื้นท่ีสูงชันในพนื้ ท่ีภาคเหนือมากยิ่งข้ึน โดยประสบการณ์การรบ ท่ีสำคัญทก่ี รณุ าถ่ายประสบการณ์ประกอบด้วย เหตุการณ์การรบ บ.ร่มเกล้า อ.ชาติตระการ จว.พ.ล., การยึดภู ไฟไหม้ สปป.ลาว, การเข้าตีฐานปางหนุน บ.ปางมะหัน อ.แม่ฟ้าหลวง จว.ช.ร. และ พื้นที่ 3 หมู่บ้าน อ.บ้าน โคก จว.อ.ต.

สรปุ ผลการฝึกหนว่ ยพรอ้ มรบเคลอื่ นทีเ่ ร็วของ ทบ. หนา้ ที่ 203 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 7.1 เหตกุ ารณร์ บ บ.ร่มเกลา้ อ.ชาตติ ระการ จว.พ.ล. สถานการณ์ กรณีบ้านร่มเกล้า เกิดจากความขัดแย้งเร่ืองเขตแดน ระหว่าง ไทย และ สปป.ลาว บริเวณ บ.ร่มเกล้า อ.ชาติตระการ จว.พ.ล. ซ่ึงเปน็ พน้ื ทป่ี ่าภูเขาที่สลับซับซ้อน ประกอบกับ สปป.ลาวได้รบั การ ชว่ ยเหลือทางด้านทหารจากประเทศท่ี 3 ท่ใี ห้การสนับสนุน ซ่ึง พล.ต. สัณธวัฒน์ วงศ์วฒั นะ ในการรบในพืน้ ที่ บ.รม่ เกล้า ในขณะน้นั ดำรงตำแหนง่ รอง ผบ.รอ้ ย. 7.1.1 การเข้าตี ทม. 10 (เนิน 1182)

สรปุ ผลการฝึกหนว่ ยพรอ้ มรบเคลอ่ื นทเ่ี ร็วของ ทบ. หนา้ ที่ 204 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 7.1.1.1 การเข้าตี ทม.10 (เนิน 1182) ครั้งท่ี 1 การเข้าตี ทม.10 สถานการณ์ข้าศึก เป็นกำลังประมาณ 1 กองร้อย (-) ควบคุมพ้ืนที่ บริเวณ เนิน 1182 ฝา่ ยเราจัดกำลัง 1 พัน.ม. (-) ประกอบด้วย 2 ร้อย.ม. โดยแผนการปฏิบตั ิใหท้ ำการโอบล้อม ข้าศึก (เน่ืองจากทราบข่าวสารว่าข้าศึกส่วนนี้เป็นกำลังที่ยังไม่มีความพร้อมในการรบ) ไม่ให้สามารถส่งกำลัง เพ่ิมเติมได้ เพื่อกดดันให้ข้าศึกถอนตัว จึงแบ่งกำลังโอบล้อมใน 2 ทิศทาง (ตามภาพ) ต่อมาภายหลังเม่ือถึง บริเวณท่ีหมาย ไดร้ ับการส่งั การให้ทำการเขา้ ตี ผลการปฏบิ ัตไิ มส่ ามารถยึดท่หี มายได้ ฝา่ ยเราได้รับการสญู เสยี สรปุ บทเรียนจากการรบได้ ดงั นี้ - ข่าวสารขา้ ศกึ ไมถ่ ูกตอ้ ง - ไม่ไดต้ รวจภูมปิ ระเทศก่อนเข้าตี เนอ่ื งจากแผนเดิมให้โอบล้อมข้าศึกให้อดอาหารและ นำ้ แลว้ จงึ เข้าเข้าตี - ไมม่ ีการยงิ เตรียมทำลายที่มน่ั และระบบการตัง้ รับของขา้ ศึก - ภมู ปิ ระเทศเปน็ ปา่ และภเู ขาสูงชนั ไมเ่ ออื้ อำนวยตอ่ ฝา่ ยเขา้ ตี

สรุปผลการฝึกหนว่ ยพรอ้ มรบเคลื่อนทเี่ รว็ ของ ทบ. หนา้ ท่ี 205 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 7.1.1.2 การเขา้ ตี ทม.10 (เนิน 1182) คร้ังท่ี 2 ภายหลังการเข้าตีคร้ังที่ 1 ไม่สำเร็จ และมีกำลังพลสูญเสีย มีศพของกำลังพลบางส่วน ติดค้างอยู่ท่ีแนวปะทะ หลังจากถอนกำลังกลับลงมาได้ทำการปรับกำลังทดแทนตำแหน่งภายในหน่วย และ ได้รับภารกิจให้เข้าตีอีก 1 ครั้ง เพ่ือนำศพที่ติดค้างกลับลงมา และได้มีการปรับแนวการเข้าตีในทิศทางใหม่ (ตามภาพ) ผลการปฏิบัติไม่สามารถยึดที่หมายได้ ฝ่ายเราได้รับการสูญเสียเพิ่มเติม สรุปบทเรียนจากการ รบได้ ดังนี้ - ฝ่ายเรายิงเตรียมน้อยมาก ทำให้กำลังและระบบการตั้งรับของข้าศึกไม่ถูกทำลาย หรือลดความแขง็ แรงลง - ขาดกำลงั หนุนเนอื่ งในการเข้าตี เนื่องจากไม่มีการวางแผนการใช้กองหนนุ สรปุ ขอ้ แนะนำในการเข้าตที ่ีมัน่ ดดั แปลงแข็งแรง (แนวทางแก้ไขจากบทเรียน) - ทำการยิงเตรียมอยา่ งรุนแรง อยา่ งนอ้ ย 2 – 3 ชม. จนถงึ 2 – 3 วัน - รูปขบวนการรบ ในภูมิประเทศท่ีไม่สามารถใช้รูปขบวนหน้ากระดานระดับกองร้อย ควรใช้กำลงั ระดบั หมวดเขา้ ตเี ปน็ ระลอก - จดั กำลงั พล ทำหนา้ ทล่ี ำเลยี งผู้บาดเจบ็ โดยเฉพาะ - จดั กำลังและวางแผนการใชก้ องหนุน ใหต้ อ่ เน่อื งและอ่อนตัว

สรปุ ผลการฝึกหน่วยพร้อมรบเคลอ่ื นที่เร็วของ ทบ. หน้าท่ี 206 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 7.1.1.3 การยึดภไู ฟไหม้ สปป.ลาว จากการปฏิบัติต่อ ทม.10 เนิน 1182 ท้ัง 2 คร้ัง ไม่ประสบความสำเร็จ และฝ่ายเรา เกิดการสูญเสีย รวมถึง ผบ.ร้อย.ได้รับบาดเจ็บ จึงมีการปรับกำลังใหม่ และปรับแผนการปฏิบัติใหม่ เน่ืองจาก ผบ.ร้อย.ได้รับบาดเจ็บ พล.ต. สัณธวัฒน์ วงศ์วัฒนะ รอง ผบ.ร้อย. ขณะน้ันจึงปรับเป็น ผบ.ร้อย.แทนในสนาม เพือ่ นำกำลงั ปฏิบัติภารกจิ ตอ่ ไป การปรับแผนของฝ่ายเราเปลี่ยนการปฏิบัติใหม่ จากการเข้าตี เนิน 1182 ปรับเป็น เคล่ือนที่ลึกเข้าไปทางหลัง และเข้าไปยึดพ้ืนที่ทางลึกบริเวณภูไฟไหม้ ของฝ่ัง สปป.ลาว เพื่อโดดเดี่ยวข้าศึก บรเิ วณเนิน 1182 และดงึ กำลงั ข้าศกึ ทางหลงั ใหเ้ คล่อื นย้าย/โยกกำลังเพื่อเข้าตีต่อฝ่ายเรา การปฏิบัติของฝ่ายเราสามารถแทรกซึมผ่านแนวชายแดนเขา้ ยึดภไู ฟไหม้ได้สำเร็จ และ ได้วางกำลังตั้งรับบริเวณภูไฟไหม้ 2 มว. ทางด้านหลัง 1 มว.พร้อมด้วย ค.60 มม. และ ปก.93 ภายหลังเมื่อ ทหารฝั่ง สปป.ลาว ได้พยายามเข้าตตี ่อฝ่ายเราท่ียึดอยูบ่ ริเวณภูไฟไหม้ จงึ เกิดการรบปะทะกนั ขน้ึ ซ่ึง สปป.ลาว ใช้กำลงั ที่อยู่ทางหลัง บริเวณ ภูฮานเข้าปฏิบัติต่อฝ่ายเรา โดยมีการยิง ป. และ ค. มายังกำลังที่วางบริเวณภูไฟ

สรุปผลการฝึกหน่วยพร้อมรบเคล่อื นทเ่ี ร็วของ ทบ. หน้าท่ี 207 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) ไหม้อย่างต่อเน่ือง ทั้งนี้เน่ืองจากพ้ืนที่เป็นลักษณะภูเขา ท่ีมีความลาดชัน ป.และ ค. ท่ียิงใส่ฝ่ายเราจึงไม่มี ประสิทธภิ าพ ภายหลัง สปป.ลาว ได้มีการเคล่ือนย้ายกำลัง รวมถึง ป.และ ค. ขึ้นไปทางด้านเหนือ สำหรับเข้าปฏิบตั ติ ่อฝา่ ยเราอีกครั้ง เพ่ือใหท้ ศิ ทางยงิ ป.และ ค. ยิงไปตามแนวสนั เขา ซ่ึงจะสามารถปรับทิศทาง และตำบลกระสุนตกได้มีประสิทธิภาพกว่าการยิงทางด้านหน้าซ่ึงมีความลาดชัน รวมถึงการเคล่ือนท่ีของกำลัง ตามแนวสนั เขาสามารถเคล่อื นที่ได้ดกี ารเคลื่อนทต่ี ามแนวลาดชนั ผลการปฏิบัติฝ่ายเราสามารถต้านทานฝ่ายตรงข้ามไว้ได้ เน่ืองจากฝ่ายเราได้วางแผนการยิงใน ทิศทางที่คาดว่าข้าศึกจะเข้ามาไว้ครอบคลุมทำให้สามารถรักษาพ้ืนที่ไว้ได้ ส่งผลให้ข้าศึกต้องถอนตัวกลับ แต่ เนื่องจากพื้นที่อยู่หา่ งไกลจากแนวฝา่ ยเรามาก การส่งกำลงั บำรุงและการส่งกลับใชเ้ วลาค่อนข้างนาน ต่อมาฝา่ ย เราได้รบั คำสัง่ ให้ถอนกำลังออกจากพื้นทภ่ี ไู ฟไหม้ สรปุ บทเรยี นจากการรบได้ ดงั น้ี - ข้าศกึ ใหค้ วามสำคัญกับการยงิ เตรียม - การปฏิบตั หิ ่างไกลจากแนวฝ่ายเรามาก การส่งกลบั ใช้เวลานาน - ทหารลาวไม่ไดเ้ กง่ และหา้ วหาญ เข้าตีเหมือนฝึก ยงิ ไมก่ ีน่ ดั กถ็ อนตัว

สรุปผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคลอ่ื นทเี่ รว็ ของ ทบ. หนา้ ท่ี 208 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 7.2 การเขา้ ตฐี านปางหนุน บ.ปางมะหนั อ.แมฟ่ า้ หลวง จว.ช.ร. 7.2.1 สถานการณ์ด้านการข่าว ทพม. กำลังประมาณ 1 กองพัน (500 นาย) เข้ายึดฐานฯปางหนุน และเนินเขาดา้ น ทศิ ใต้ เพ่อื เขา้ ตี กกล. ไทยใหญ่ บริเวณดอยก่อวัน 7.2.2 ภารกิจ ฉก.ชป.92 เข้าตีเพื่อยึดฐานฯปางหมุน ใน 10 ก.พ.55 และช่วยเหลือ กพ.ร้อย.ทพ.จจ. 963 จำนวน 19 นาย ท่ีถูก ทพม. ควบคุมตัวอยใู่ นฐานฯปางหนุน

สรปุ ผลการฝกึ หน่วยพร้อมรบเคลือ่ นท่เี รว็ ของ ทบ. หนา้ ท่ี 209 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 7.2.3 การประกอบกำลงั 7.2.3.1 บก.ควบคมุ กกล.ผาเมอื ง 7.2.3.2 บก.ควบคมุ ฉก.ทพ.32 จำนวน 8 นาย (พ.อ.สมั พันธ์ ศรรี าชบัวผนั /ผบ.ฉก.ทพ.32) 7.2.3.3 บก.ควบคมุ ชป.92 จำนวน 3 นาย (พ.ท.สัณธวฒั น์ วงศว์ ฒั นะ/ผบ.บก.ควบคุม ชป.92) 7.2.3.4 ชุดปฏบิ ตั กิ ารจำนวน 8 ชป. (5 ชป.ทพ., 3 ชป.นทล. กกล.ผาเมอื ง) 7.2.4 การปฏิบัติ 7.2.4.1 กลยุทธ เข้าตีโดยใช้กำลัง 5 ชป.ทพ. เป็นส่วนเข้าตีหลักด้านทิศใต้เพื่อเข้ายึดฐานฯปางหนุน และ 3 ชป.นทล. เข้าตีรองด้านทิศเหนือเพอ่ื สกดั ก้นั การเพ่ิมเติมกำลังของ ทพม.จากฐานฯ บริเวณดา้ นทิศเหนือ โดยมกี ารปฏบิ ัติ ดงั นี้ - 10 ก.พ.44, 1800 เคลอ่ื นยา้ ยจากที่รวมพล บ.ปางมะหนั ถงึ ฐานออกตี เวลา 2200 - 11 ก.พ.44, 0300 กำลังพล ร้อย.ทพ.จจ.963 ท้ัง 19 นาย สามารถหลบหนีออกจาก ฐานฯปางหนนุ ถึง บ.ปางมะหนั - 11 ก.พ.44, 0700 ป. ฝ่ายเราเริ่มยิงทำลายกำลัง ทพม. ในฐานฯปางหนุน และ เนิน เขาด้านทิศใต้ ทำให้ ทพม. สูญเสียเป็นจำนวนมาก รวมท้ัง ผบ.พัน.คร.526 ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส จบภารกิจ การยิง เมือ่ เวลาประมาณ 1800

สรปุ ผลการฝึกหนว่ ยพร้อมรบเคลอ่ื นท่เี รว็ ของ ทบ. หน้าท่ี 210 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) - 12 ก.พ.44, 0700 ฉก.ชป.92 เข้าตีฐานฯปางหนนุ 7.2.4.2 สว่ นเขา้ ตหี ลกั เน่ืองจากภูมิประเทศเป็นสันเขาแคบ จำกัดการปรับรูปขบวนหน้ากระดาน จึงใช้ 3 ชป.ทพ. เป็นสว่ นดำเนนิ กลยุทธเคลื่อนท่ีนำ เข้ายึดทห่ี มาย และ 2 ชป.ทพ. เป็นฐานยิงและกำลังระลอกท่ี 2 ซ่ึง กำลังสว่ นนำสามารถเคล่ือนทเ่ี ขา้ ยดึ ฐานฯปางหนุน โดยมีการต้านทานจาก ทพม. เพยี งเลก็ น้อย 7.2.4.3 ส่วนเข้าตรี อง 3 ชป.นทล. เข้ายึดภูมิประเทศสำคัญ ด้านทิศเหนือห่างจากฐานฯ ปางหนุน ประมาณ 500 ม. เพอ่ื สกัดการเพ่ิมเติมกำลงั ของ ทพม. จากด้าน ทิศเหนือ และเข้ายึดฐานฯปางหนุน หากสว่ นเข้าตีหลัก เขา้ ตีไม่สำเร็จ ซง่ึ เม่ือส่วนเข้าตหี ลักสามารถยึดฐานฯปางหนุน ได้วางกำลังส่วนน้ีระวงั ป้องกันด้านทิศเหนือของ ฐานฯปางหนุน 7.2.4.4 การยงิ สนับสนนุ ส่วนอำนวยการยิงของกกล.ผาเมอื ง และ ร้อย ป. (ป.พัน.30) ยิงเตรียม ทำลายกำลัง ทพม. ตั้งแต่ 11 ก.พ.44, 0700 จนถงึ 11 ก.พ.44, 1800 ทำให้ ทพม. เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก กำลังพลท่เี หลอื ขวัญและกำลงั ใจไมด่ ี เนือ่ งจากมีการสญู เสียมาก 7.2.5 ผลการปฏบิ ัติ - สามารถยึดฐานฯปางหนุน คืนจาก ทพม. - กำลังพลที่ถูกควบคุมโดย ทพม. จำนวน 19 นาย สามารถ หลบหนีออกจากฐานมาได้โดย ปลอดภัย - กำลงั ฝ่ายเราปลอดภัย ไม่มีการสูญเสยี - ทพม. เสียชวี ติ และบาดเจบ็ จำนวนมาก 7.2.6 ข้อสังเกตท่ีสำคัญสำหรับการยิงอาวุธวิถีโค้งในพ้ืนที่สูงชัน การจับเป้าด้วยเครื่องมือ สัญญาณท่ี เหน็ กบั ความเปน็ จริงมคี วามแตกต่างกัน เน่ืองด้วยความตา่ งของพื้นระดับ

สรปุ ผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคลอื่ นที่เรว็ ของ ทบ. หน้าท่ี 211 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF)

สรุปผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคลอื่ นท่เี รว็ ของ ทบ. หนา้ ที่ 212 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 7.3 พื้นท่ี 3 หมู่บ้าน อ.บา้ นโคก จว.อ.ต. เม่ือ พ.ศ. 2527 กำลัง พล.ม.1 เคลื่อนย้ายจาก จว.น.น. ผ่าน อ.นาน้อย - บ.สาลี่ – ก่ิวนกแซว เข้าตี สามารถยดึ พนื้ ที่ บ.ใหม่ บ.กลาง บ.สวา่ งได้ทั้งหมด ต่อมา สปป.ลาว ฟอ้ ง UN ให้ไทยถอนกำลงั ออกจากพนื้ ที่ 7.3.1 ไทยถอนกำลังมาวางตามแนว บ.หว้ ยยาง - บ.บ่อเบีย้ ดังน้ี - บก.รอ้ ย. : บ.ห้วยไผ่ - ฐานพิชยั เผด็จศึก : บ.หว้ ยยาง - ฐานคาวบอย : บ.หว้ ยยาง - ฐานมหาราช : บ.บ่อเบ้ีย - ฐานเดอื นเพญ็ : บ.บอ่ เบย้ี - 1 มว.หนนุ : บ.หว้ ยยาง - 1 มว.หนุน : บ.ห้วยไผ่ - อาวธุ ยงิ สนบั สนนุ (ค.81) : บ.ห้วยยาง, บ.บ่อเบ้ยี (ฐานสถาพร) - บก.ควบคุม 171 : บ.หว้ ยไผ่ 7.3.2 การเขา้ ตี - เสน้ ทางเคลื่อนท่หี ลัก บ.บอ่ เบี้ย - ภูหวด - เสน้ ทางรอง บ.หว้ ยยาง - พืน้ ท่ี 3 หม่บู า้ น - เสน้ ทางรอง กวิ่ นกแซว - พืน้ ที่ 3 หมู่บ้าน

สรุปผลการฝึกหนว่ ยพรอ้ มรบเคลื่อนทเ่ี รว็ ของ ทบ. หน้าท่ี 213 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 7.3.3 การตัง้ รบั - ภมู ิประเทศสูงข่ม ตั้งแต่ บ.ห้วยยาง - บ.บ่อเบ้ยี - เนินภูหวด 7.3.4 การดำเนินกลยทุ ธ์ ใช้กำลังกองร้อยทหารม้าลาดตระเวนร่วมกับกำลังทหารราบ จู่โจมเข้ายึดเนินภูหวด และใช้ ทหารราบยดึ เนินเขาทเี่ ป็นภมู ปิ ระเทศสงู ขม่ เพ่อื ควบคมุ พืน้ ท่ีตง้ั แต่ บ.หว้ ยยาง - บ.บ่อเบยี้ การบรรยายพเิ ศษประสบการณก์ ารรบในพ้ืนท่ี โดย ผบ.มทบ.35

สรุปผลการฝึกหน่วยพร้อมรบเคลอ่ื นท่ีเร็วของ ทบ. หน้าท่ี 214 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 8. การแขง่ ขันฟุตบอลเช่อื มความสัมพันธ์ กับหน่วยในพนื้ ที่ หลังจบการบรรยายประสบการณ์การรบ หน่วยพร้อมรบเคล่ือนที่เร็วของ ทบ. ได้ร่วมเล่นฟุต กับกำลังพล ของ มทบ.35 โดยมี พล.ต.สัณธวัฒน์ วงศ์วัฒนะ ผบ.มทบ.35 นำกำลังพลร่วมเล่นฟุตบอล และ ผบ.หน่วย พร้อมรบเคล่ือนทเ่ี รว็ ของ ทบ. นำ ผบ.หน่วยประกอบกำลงั รว่ มเล่นฟุตบอล ทัง้ นีเ้ พ่ือสร้างความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง หน่วย และเป็นโอกาสอันนี้ท่ีผู้บังคับหน่วย และกำลังพลของท้ังสองส่วนจะได้สร้างความคุ้นเคยซึ่งกันและกัน จะเป็นประโยชน์อันดีในการประสานงานร่วมกัน กรณีท่ีมีโอกาสได้ปฏิบัติงานร่วมกัน หรือเม่ือหน่วยพร้อมรบ เคล่ือนที่เร็วของ ทบ.เข้าปฏิบัติการในพื้นท่ีบริเวณน้ี ซ่ึงบรรยากาศในการเล่นฟุตบอลเป็นยากาศของความเป็น กันเอง และผอ่ นคลาย การแข่งขนั ฟุตบอลเชื่อมความสัมพนั ธ์ กับหน่วยในพ้ืนที่

สรุปผลการฝกึ หน่วยพรอ้ มรบเคลือ่ นทีเ่ รว็ ของ ทบ. หน้าที่ 215 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 9. การทบทวนหลงั การปฏิบตั ิ เช้าวนั ท่ี 2 ม.ิ ย. 65 กอ่ นเคล่ือนย้ายกลบั ที่ต้ังปกติ กำหนดการทบทวนหลังการปฏบิ ตั ิ ซง่ึ เป็นการทบทวนใน ภาพรวมทุกขั้นการฝึก ต้ังแต่ประชุมเตรียมการ การตรวจภูมิประเทศ การจัดทำสถานการณ์การฝึก การฝึก ปัญหาท่ีบังคับการ และการฝึกโดยไม่ใช้กำลังทหาร โดยมี ผบ.หน่วยประกอบกำลัง กรรมการเหล่าสาย วทิ ยาการ (OC/T) และผู้สังเกตการณ์ฝึก จาก RDF ทภ. รว่ มการทบทวนหลังการปฏิบัติ และมี พล.ต.สามารถ คงสาย ผอ.สกฝ.ยศ.ทบ. เปน็ ประธาน โดยมหี ัวข้อในการทบทวนหลังการปฏบิ ัติ ดงั นี้ สำหรบั รายละเอยี ดในการทบทวนหลังการปฏิบตั จิ ะได้กล่าวต่อไปใน บทท่ี 7 การทบทวนหลงั การปฏิบตั ิ การทบทวนหลังการปฏบิ ตั ิ

สรุปผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคลอ่ื นทีเ่ ร็วของ ทบ. หน้าท่ี 216 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 10. การเคลอื่ นย้ายกลับทต่ี ั้งปกติ หลังจบการทบทวนหลังการปฏิบัติหน่วยและหน่วยประกอบกำลัง ทำการเคล่ือนย้ายกลับที่ตั้งปกติ ตาม เส้นทางตามแผนการเคล่ือนย้ายกลับ ท้ังน้ีทุกหน่วยได้เคลอ่ื นยา้ ยกลับถึงทต่ี ั้งปกติเรยี บร้อยทุกหน่วยใน 20.00 น. ของวันที่ 2 ม.ิ ย. 65 การเคลอื่ นย้ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การเคลือ่ นย้ายกลบั ทตี่ ้ังปกติ

บทที่ 7 การสรปุ ทบทวนหลงั การปฏิบัติ การทบทวนหลังการปฏิบัติ เพอื่ ทบทวนการฝึกท่ีผา่ นมา ขอ้ ดี ข้อแก้ไข และข้อสังเกต/แนะนำจากทกุ สว่ นท่ี เก่ียวข้อง เพ่ือนำไปพัฒนาปรับปรุงการฝึกในครั้งต่อไป รวมถึงการพัฒนาหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วของ ทบ. ให้มีความพร้อมและทันสมัยมากย่ิงขึ้นในทุก ๆ ด้าน พร้อมรองรับภารกิจต่อภัยคุกคามในหลากหลายรูปแบบ และมีความซับซ้อนมากข้ึน ในการน้ี ร.31 รอ. ได้ดำเนินการทบทวนหลังการปฏิบัติ ร่วมกับหน่วยประกอบ กำลัง ผู้สังเกตการณ์ กรรมการ และ OC/T เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์และครบคลุมในทุกขั้นการฝึก รวมถึงขอ้ เสนอแนะในการพฒั นาการฝึกในคร้งั ต่อไป 1. การทบทวนหลงั การปฏิบัติของหน่วย 1.1 ความเหมาะสม (ห้วง/ลำดับขั้น/พืน้ ท่ีการฝึก/พ้ืนทจ่ี ัดทำปัญหาฝกึ ) 1.1.1 ห้วงการฝึก และลำดับขั้นการฝึกมีความเหมาะสม ท้ังน้ีในการฝึกคร้ังนี้เป็นการปฏิบัติต่อเน่ือง ตามลำดับข้ันการฝึก คือ การตรวจภูมิประเทศและจัดทำสถานการณ์การฝึก, การฝึกปัญหาท่ีบังคับการ และ การฝกึ โดยไมใ่ ช้กำลังทหาร (ไม่มกี ารฝึกภาคสนาม) 1.1.1.1 ขอ้ ดี - เป็นการปฏิบัติตอ่ เนือ่ งตามลำดบั ขัน้ การฝกึ ในคราวเดยี ว - กอ.ตรวจสอบและกรรมการเหล่าสายวิทยาการ จัดและเดินทางเข้าสังเกตุการณ์ฝึก และตรวจสอบในคราวเดียว 1.1.1.2 ขอ้ จำกดั - กอ.ตรวจสอบและกรรมการเหล่าสายวิทยาการ จัดและเดินทางเข้าสังเกตการณ์ฝึก ต้องร่วมปฏิบตั ิในระยะเวลานาน (ตอ่ เนือ่ ง 17 พ.ค.-2 ม.ิ ย. 65) ประมาณ 3 สปั ดาห์ - ร.31 รอ. ในฐานะหน่วยทหารรักษาพระองค์ การฝึกต่อเนื่อง (3 สัปดาห์) มีภารกิจ ถวายงานแทรกซ้อน ท้ังน้ีในภาพร่วมการฝึกหน่วยสามารถดำเนินการได้ แต่ในส่วนของ ผบ.หน่วย ของ ร.31 รอ. และ นขต.ร.31 รอ. จะไม่ได้ร่วมการฝึกเนือ่ งจากต้องแยกภารกจิ ไปในส่วนภารกจิ ถวายงาน 1.1.1.3 ข้อพิจารณาเพ่ิมเติม พิจารณาจัดแบ่งการฝึกแต่ละห้วงการฝึก ออกเป็นทีละส่วน เพ่ือ ลดข้อจำกัดในการต้องปฏิบัติต่อเน่ือง และมีเวลาเก็บรายละเอียดเพ่ิมเติมก่อนท่ีจะปฏิบัติในลำดับขั้นการฝึก ตอ่ ไป โดยอาจพิจารณา แบ่งเป็น 3 หว้ งยอ่ ย โดยให้มกี ารเวน้ ระยะในแต่ละห้วง โดยกำหนดรา่ งตัวอย่าง ดังน้ี - การตรวจภูมิประเทศและจัดทำสถานการณ์การฝึก จำนวน 7 วัน (ตรวจภูมิประเทศ 4 วัน, จดั ทำสถานการณก์ ารฝึก 3 วัน) กำหนดห้วงใน ธ.ค.-ม.ค. - การฝึกปัญหาท่ีบังคับการ และการฝึกโดยไม่ใช้กำลังทหาร จำนวน 10 วัน (ฝึกปัญหา ทบ่ี ังคบั การ 6 วนั , การฝกึ โดยไมใ่ ช้กำลังทหาร 4 วัน) ห้วง ปลาย เม.ย.-ตน้ พ.ค. - การฝึกภาคสนาม จำนวน 11 วัน ห้วง พ.ค.-มิ.ย.

สรุปผลการฝกึ หน่วยพร้อมรบเคล่อื นทีเ่ ร็วของ ทบ. หน้าที่ 218 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 1.1.2 ห้วงการฝกึ ท่เี หมาะสมในปถี ัดไป และแนวทางการกำหนดการฝกึ ตามวงรอบประจำปี กำหนด แผนการฝึกใหส้ อดคล้องกับภารกิจของหน่วยและการฝกึ ตามวงรอบประจำปี โดยมแี นวทาง ดังนี้ 1.1.2.1 ภายหลังจบการฝึกหนว่ ยพรอ้ มรบเคลื่อนที่เรว็ ของ ทบ. (หว้ ง เม.ย.-พ.ค.) หน่วยนำผล การฝกึ และขอ้ ปรบั ปรงุ แก้ไขจากการทบทวนหลังการปฏบิ ัติ รวมถงึ ข้อสังเกต/แนะนำจากส่วนต่าง ๆ (โดยเฉพาะจากขัน้ การฝึกภาคสนาม) ไปกำหนดปรับปรุงการฝกึ ของหนว่ ยตามวงรอบประจำปี 1.1.2.2 ห้วง ม.ิ ย.-ก.ค. : นำขอ้ สงั เกต/ุ ปรบั ปรุงไปวางแผนการฝึกเพ่ิมเตมิ ใหก้ ับกำลงั พล เป็น รายบคุ คล/ตามตำแหนง่ ในการฝกึ ชำนาญการทางทหาร (ชกท.111 ระดบั 1-4) 1.1.2.3 ห้วง ก.ค.-ส.ค. : นำขอ้ สงั เกต/ุ ปรบั ปรุงไปวางแผนการฝึกเพิ่มเตมิ ในการฝกึ เปน็ หนว่ ย หมู่ ตอน หมวด 1.1.2.4 หว้ ง ต.ค. - พ.ย. : การตรวจพน้ื ที่และติดตอ่ ประสานงานกับหน่วยงานและส่วนราชการ จังหวัดชายแดนในพ้ืนที่รับผิดชอบของ ทภ.1-4 (ทั้ง 7 กองกำลัง) เพื่อประสานงานปรับปรุงข้อมูล/รับทราบ และปรับปรุงแผนรองรบั สถานการณ์ แนะตวั ผบ.หน่วยพร้อมรบเคลอ่ื นทีเ่ ร็วของ ทบ. และ ผบ.หนว่ ยประกอบ กำลัง ต่อ ผบ.กองกำลัง และ ทภ. รวมท้ังเป็นการปรับปรุงข้อมูลติดต่อประสานงานของ ผบ.หน่วย/ฝ่าย อำนวยการ และเจ้าหน้าที่ ระหว่างหน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็วของ ทบ. กับ ทภ.(กองกำลัง) ให้ทันสมัยเป็น ปจั จบุ ัน 1.1.2.5 ห้วง พ.ย.-ธ.ค. : นำข้อสังเกตุ/ปรบั ปรุงไปวางแผนการฝึกเพิ่มเติม ในการฝึกเป็นหน่วย กองรอ้ ย 1.1.2.6 ห้วง ธ.ค.-ม.ค. : การตรวจภูมิประเทศและจัดทำสถานการณ์การฝึก เป็นหน่วยพร้อม รบเคลอ่ื นทเี่ รว็ ของ ทบ. ประจำปี

สรุปผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคลื่อนที่เรว็ ของ ทบ. หนา้ ที่ 219 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 1.1.2.7 ห้วง มี.ค. : นำข้อสังเกตุ/ปรับปรุงไปวางแผนการฝึกเพิ่มเติม ในการฝึกเป็นหน่วย กองพนั 1.1.2.8 ห้วง ปลาย เม.ย. ต้น พ.ค. : การฝกึ ปัญหาที่บงั คับการ และการฝึกโดยไม่ใชก้ ำลังทหาร เป็นหน่วยพร้อมรบเคลือ่ นที่เร็วของ ทบ. ประจำปี 1.1.2.9 ห้วง พ.ค.-มิ.ย. : การฝึกภาคสนาม เปน็ หน่วยพรอ้ มรบเคลือ่ นทเ่ี ร็วของ ทบ. ประจำปี หมายเหตุ เม่อื ครบ 1 วงรอบ (1 ป)ี จะสามารถเตรียมความพร้อมของกำลงั ทง้ั เป็น บคุ คล เป็นหนว่ ยขนาดเลก็ (หมวด กองร้อย) หนว่ ยขนาดใหญ่ ได้ครบสมบรู ณ์ หนว่ ยพร้อมรบเคลื่อนทเ่ี รว็ ของ ทบ. จะมีความพร้อมรบอย่ตู ลอดเวลา 1.1.3 การฝึก STAFFEX&CPX ซ่ึงในคร้ังนี้เน้นไปที่ STAFFEX มากกว่า CPX เพื่อทบทวนขั้นตอนและ แนวทางการวางแผนของฝ่ายอำนวยการ เจ้าหน้าท่ีสายงาน รวมถึงหน่วยประกอบกำลังให้มีความเข้าใจและมี ความชำนาญในการปฏิบัติตาม รปจ. และแนวทางการใช้กำลังของหน่วยพร้อมรบเคลื่อนท่ีเร็วของ ทบ. ซึ่ง จะต้องวางแผนภายใต้เวลาท่ีจำกัด จากการฝึกในครั้งน้ี ฝ่ายอำนวยการและหน่วยประกอบกำลัง ได้ร่วมกัน วางแผนตามข้ันตอนการแสวงข้อตกลงใจ มีความเข้าใจในขั้นตอนและระบบในการวางแผน ตลอดจนมี ความคุ้นเคยในการประสานงานร่วมกัน เห็นควรพัฒนาการฝึกในคร้ังต่อไปเพ่ิมขั้นตอนวางแผนของกรมให้มี ความกระชับ และให้มีข้ันตอนในการวางแผนของหน่วยรอง ตามแนวทางการวางแผนคู่ขนาน รวมถึงให้มีการ ฝึกปญั หาท่ีบังคบั ในตอนทา้ ย ภายหลงั จากกรม และหนว่ ยรองจัดทำแผนเรียบร้อย ดังนี้ 1.1.3.1 ควรเพ่ิมห้วงการฝกึ การจดั ทำแผนและคำสัง่ ของหนว่ ยรองเพ่ิมเติมก่อนการซักซอ้ ม โดย ปรบั ลดระยะเวลา STAFFEX ของกรม เพือ่ ให้มเี วลาให้หน่วยรอง 1.1.3.2 เพิ่มการฝึกแก้ปัญหาท่ีบังคับการ เพื่อเป็นการทดสอบระบบการติดต่อสื่อสารระหว่าง หน่วย การแก้ปัญหาทางยุทธวิธีของหน่วย (เพิ่มความเข้าใจของหน่วยรอง, ระบบส่งกำลัง, งานด้านเอกสาร) โดยปรับลดระยะเวลา STAFFEX ของกรม เพ่ือให้มีเวลาให้หน่วยรอง และหลังการซักซ้อม เพิ่มการฝึก แก้ปัญหาท่ีบังคบั การ 1.1.3.3 เพิ่มให้มีการสอดแทรกการฝึก MAPEX ก่อนตรวจภูมิประเทศ เพื่อให้หน่วยได้แนวทาง ตรวจภูมิประเทศ โดยพิจารณาเพิ่มการฝึก MAPEX ก่อนตรวจภูมิประเทศ (เพ่ือให้มีร่างแผนเพ่ือเป็นโจทย์ใน การรวบรวมข้อมลู ในการตรวจภูมิประเทศ) 1.1.3.4 แสวงประโยชน์จากห้วงการฝึก ในการดำเนินการทดสอบใบขับข่ีให้กับกำลังพลของ หน่วยและหนว่ ยประกอบกำลัง เพ่อื ให้พลขับทุกนายมใี บขบั ขรี่ ถยนต์ทางทหาร และตรงกับชนิดรถทข่ี บั ขี่

สรุปผลการฝึกหน่วยพรอ้ มรบเคลอื่ นท่ีเรว็ ของ ทบ. หนา้ ที่ 220 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 1.1.4 พ้ืนท่ีจัดทำปัญหาการฝึก/ทำแผนรองรับสถานการณ์ มีความเหมาะสม สำหรับแผนการฝึกในปี ถัดไป (การฝึกหน่วยพร้อมรบเคล่ือนที่เร็วของ ทบ. ประจำปี 2566) เสนอพื้นท่ีจัดทำปัญหาการฝึก/ทำแผน รองรับสถานการณ์ ในพื้นที่ของ ทภ.4 เนื่องจากยังมีการฝึก/ทำแผนรองรับในพ้ืนท่ีค่อนข้างน้อย และเพื่อให้ หน่วยพร้อมรบเคลื่อนท่ีเร็วของ ทบ. ได้มีความคุ้นเคยในพื้นที่ หรืออาจพิจารณาตามความเร่งด่วนในการ รองรับสถานการณ์ตามแนวทาง ยก.ทบ. กรณีที่มีความเร่งด่วนในการใช้กำลังรองรับสถานการณ์ในพ้ืนที่อื่น ๆ เรง่ ดว่ นกวา่ (ปรับสถานการณภ์ ัยคุกคามทค่ี าดวา่ จะเกิดขนึ้ ) 1.2 ข้อดี/ข้อควรปรบั ปรงุ ในแตล่ ะขน้ั การฝกึ 1.2.1 ข้อดี 1.2.1.1 จัด นตต.ป.ระยะยิงไกล เข้าร่วมการฝึก ช่วยให้ พัน.ป.ชต. สามารถประสานและวาง แผนการยงิ สนับสนุนไดค้ รบท้วนสมบูรณ์มากยิ่งข้ึน อีกทั้งยังได้ฝึกการประสานงาน/ประสานรว่ มกัน รวมถงึ ป. ระยะยิงไกล ได้รว่ มวางแผนและทราบแผนการยงิ สนบั สนุนตามแผนเผชิญเหตุ 1.2.1.2 จัด ผู้แทน ทอ. ร่วมการฝึก และประสานแผนการใช้ห้วงอากาศและการสนับสนุนการ โจมตีทางอากาศ สามารถประสานและวางแผนการยิงสนับสนุนได้ครบถ้วน รวมถึงแผนการโจมตีทางอากาศ ผู้แทน ทอ. ให้ข้อแนะนำแนวทางการใช้ บ. และชุดสนับสนุนของ ทอ. ทำให้หน่วยและกำลังพลได้เห็นภาพ สนามรบที่ชัดเจนมายิ่งข้นึ มีความเข้าใจขีดความสามารถของ ทอ. ที่สามารถให้การสนับสนุนภารกิจ รวมทงั้ ได้ ให้ข้อแนะนำในการทำแผนการโจมตีทางอากาศในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้แผนการยิงสนับสนุนมีความครบถ้วน สมบรู ณ์ 1.2.1.3 จัด สห. ร่วมการฝกึ ในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการเคลื่อนยา้ ย - ทำให้ชุดควบคุมการเคล่ือนย้ายได้ฝึกประสานงานประสานแผนการสนับสนุน และ การวางกำลงั สห. ในการอำนวยความสะดวกการจราจรในการเคลอื่ นย้าย - ช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลือ่ นย้ายตามแผนในการฝึก

สรุปผลการฝึกหน่วยพรอ้ มรบเคลอื่ นทีเ่ รว็ ของ ทบ. หน้าที่ 221 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) - สห. จาก มทบ.ต่าง ๆ ในพ้ืนที่ได้ร่วมปฏิบัติกับหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วของ ทบ. ซึ่งหากมีการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุนี้จะช่วยให้การประสานงานและการปฏิบัติตามแผนเป็นไปได้อย่าง ราบร่นื ยงิ่ ข้ึน 1.2.1.4 จดั บชร.3 สย. และ มทบ.35 รว่ มการฝึก (ขอเพ่ิมเตมิ ) - ทำให้ชุดควบคุมการส่งกำลังและซ่อมบำรุงได้ฝึกประสานงานประสานแผนการ สนับสนุนในพ้ืนทตี่ ามแผน - หน่วยประกอบกำลังได้ปฏิบัติในการเบิกรับ สป. (สป.3) ตามแนวทางการส่งกำลัง และซอ่ มบำรงุ ตามแผน ทำให้ไดฝ้ ึกปฏบิ ตั แิ ละเหน็ ภาพการปฏิบัติทช่ี ดั เจนมากยง่ิ ขนึ้ - บชร. และ มทบ. ในพื้นท่ีได้ร่วมปฏิบัติกับหน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็วของ ทบ. ซ่ึง หากมีการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุนี้จะช่วยให้การประสานงานและการปฏิบัติตามแผนเป็นไปได้อย่างราบร่ืน ยงิ่ ขน้ึ 1.2.1.5 นำระบบการประชุมทางไกล (VTC) มาใช้ในการประชุม และประสานการปฏิบัติ เพื่อ แก้ปัญหาข้อจำกัดด้านท่ีตั้งหน่วยที่อยู่ห่างไกลกัน ทำให้หน่วย/หน่วยประกอบกำลัง หรือกองกำลังในพื้นที่ สามารถติดต่อประสานงานกันได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากย่ิงขึ้น ลดข้อจำกัดในเรื่องระยะทางของท่ีต้ังหน่วยที่ อยู่ห่างไกลกนั ลดธรุ การในการเดินทางและประหยัดงบประมาณ (สป.3) 1.2.1.6 มีการฝึกตามข้ันการฝึก ตั้งแต่การตรวจภูมิประเทศ จนถึง TEWT ทำให้หน่วยมีลำดับ การรวบรวมข้อมูลชัดเจน มีเวลาในการแสวงข้อตกลงใจในแผนการยิงของหน่วย ให้ขั้นการฝึกปัญหาท่ีบังคับ การ (CPX) รวมถึงส่วนที่เก่ียวข้องมาช่วยให้ข้อมูล (ทอ., นตต.ป.ระยะยิงไกล) ทำให้ได้แผนที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และได้นำแผนท่ีจัดทำมาทดสอบในการฝึกโดยไม่ใช้กำลังทหาร (TEWT) ทำให้หน่วยสามารถตรวจสอบได้ว่า สามารถนำหน่วยปฏิบัติการได้ตามแผนหรือไม่ ข้อขัดข้องของแผนนำไปสู่การปรับปรุงแผนให้มีความสมบูรณ์ มากยง่ิ ข้นึ ซง่ึ แผนทีป่ รบั ปรงุ เรยี บรอ้ ยแล้วนส้ี ามารถรวบรวมนำไปใชเ้ ป็นแผนเผชญิ เหตุในพนื้ ทตี่ ่อไป 1.2.1.7 เพ่ิมเติมการฝึกเรอ่ื งการควบคมุ ห้วงอากาศ และได้รับการแนะนำเพ่ิมเตมิ ทำให้มีความ เข้าใจเพ่ิมมากยิ่งข้ึน ในได้รบั การแนะนำและเรียนรู้เพิ่มเติมในการจัดทำแผนการควบคุมห้วงอากาศ และได้ฝึก ปฏบิ ตั ใิ นการวางแผน ทำใหห้ น่วยมอี งค์ความรเู้ พ่ิมย่งิ ขนึ้ 1.2.2 ข้อเสนอเพิ่มเตมิ 1.2.2.1 เหน็ ควรเพมิ่ เติมให้มกี ารฝึกภาคสนาม เพ่อื ใหห้ นว่ ยและหน่วยประกอบกำลงั ได้ร่วมฝึก ปฏิบัติทางยุทธวิธีในสนาม และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ซ่ึงจะเป็นการเตรียมความพร้อมของ หนว่ ยพรอ้ มรบเคลื่อนทเ่ี ร็วของ ทบ. ไดค้ รบถ้วนสมบูรณ์ในทกุ ดา้ น 1.2.2.2 ใหม้ ีการบูรณาการเพ่ิมขึ้น ในการฝึก จนท.ในส่วนของ ผู้ประสานการยิงสนับสนุน ของ ทุกส่วนเช่น ป.สนาม ,ร้อย.ค.หนัก,ฮ.ทบ.,บ.ทอ. เพื่อให้เกิดความชำนาญ ในกระบวนการประสานการยิง สนบั สนนุ ของอาวุธยงิ สนบั สนุนทกุ ชนดิ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสดุ ตอ่ ไป 1.2.2.3 จัด ศปภอ.ทบ.สย. ร่วมฝึก เพ่ือให้หน่วยได้ ปภอ. (ร้อย.ปตอ.) ได้ฝึกประสานงาน และ วางแผนการ ปภอ. ไดค้ รบถว้ น อีกทง้ั หน่วยและหน่วยประกอบกำลังไดเ้ ห็นภาพการปฏบิ ัติทชี่ ัดเจนยิ่งข้นึ

สรปุ ผลการฝึกหน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่เี รว็ ของ ทบ. หนา้ ที่ 222 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 1.2.2.4 ความพร้อมทางด้านเครื่องมือติดต่อสื่อสารของแต่ละหน่วย ไม่เพียงพอ ควรกำหนดให้ แตล่ ะหน่วยมขี ีดความสามารถดา้ นการตดิ ตอ่ ส่ือสารใหเ้ ทา่ ๆ กนั 1.2.2.5 ห้วงการทดสอบวิทยุสื่อสาร ร้อย.ขกท. มีขีดความสามารถค้นหาความถ่ีวิทยุท่ีมีใช้งาน ในพื้นที่ สามารถใช้ค้นหาความถี่ในพื้นที่ก่อน เพ่ือป้องกันฝ่ายตรงข้าม รู้ข่าวสารการเข้าพื้นที่ของฝ่ายเรา สำหรับการพจิ ารณาใชค้ วามถี่ของฝา่ ยเราต่อไป 1.2.2.6 ในห้วงของการวาดภาพการรบ War Game (ในขนั้ การแสวงข้อตกลงใจ) ในแต่ละ หป. ต้องกำหนด สถานะภาพของ สป.5 ในแต่ละห้วงเวลา ของหน่วยปฏิบัติ โดยคิดเป็น % ว่าใช้ไปเท่าไร และ คงเหลือเทา่ ไร ให้ชัดเจน เพ่ือประเมนิ /เตรียมวา่ จดุ ใดควรเป็นจุดเบกิ ของหน่วยปฏบิ ัติ เพื่อให้เกิดความสมจริง ในการสง่ กำลังของ สป.5 1.3 ข้อเสนอแนะในการพฒั นา / แนวทางการพัฒนา RDF ในอนาคต 1.3.1 ขอ้ เสนอแนะจากการฝึกหนว่ ยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็วของ ทบ. 1.3.1.1 การแก้ไขหนว่ ยช่อื หน่วยจาก มว.เรดาร์ เปน็ -------> มว.ป.คปม. 1.3.1.2 หน่วยบินเฉพาะกิจ แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งแบบอากาศยานในโครงสร้างการจัดหน่วยบิน เฉพาะกิจให้ครอบคลุมอากาศแต่ละแบบที่ ศบบ. มีเพ่ิมเติม ณ ปจั จบุ ัน เพ่ือให้มคี ำส่ังรองรับ สะดวกรวมเร็วใน การจัดกำลงั เข้าทำการฝึก หรือปฏบิ ตั ิภารกิจเมอื่ มเี หตุการณ์ 1.3.1.3 ร้อย.สร. แก้ไขด้านเครื่องมือส่ือสาร เพ่ิมเติมให้มีชุดเครื่องมือส่ือสารท่ีทันสมัย อีกท้ัง รถพยาบาลไม่มชี ุดวทิ ยุติดยานพหานะ ต้องเพ่ิมเติมให้มใี หค้ รบถว้ นเพ่อื ความพรอ้ มสำหรับการปฏิบตั ภิ ารกจิ 1.3.1.4 ชค.คย. เพิ่มชุดวิทยุสำหรับติดต่อ ณ จุดควบคุมต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางในการ ตดิ ตอ่ ส่ือสารหลัก สำหรับการตดิ ตอ่ ประสานงานกับ จนท.สห.ท่ปี ระจำในจดุ ควบคมุ ต่าง ๆ 1.3.1.5 ประสาน สย.บชร.3 และ กอง สพบ.พล.ร.4 ร่วมการฝึก เพื่อให้ชุดควบคุมการส่งกำลัง และซ่อมบำรุงได้ฝึกการประสานงานตามแผนการปฏิบัติ และช่วยให้เจ้าหน้าที่ส่งกำลังบำรุงของหน่วยและ หน่วยประกอบกำลังได้ฝึกปฏิบตั ิ ไดเ้ ข้าใจข้นั ตอนและเห็นภาพการประสานงานกบั หนว่ ยสนับสนุนในพื้นท่ี 1.3.1.6 หน่วยประกอบกำลังร่วมพิจารณาในการปรับปรุงแก้ไข อัตราการจัดเฉพาะกิจ RDF ของแตล่ ะหนว่ ยประกอบกำลงั ใหท้ นั สมยั และมคี วามสมบูรณ์ย่ิงข้ึน 1.3.1.7 ในการออกคำส่ังฝึกโดย ยศ.ทบ. จะขออนุญาตประสานให้ออกคำสั่งใหค้ รอบคุมถึงการ ส่งกำลงั ของหน่วยสนบั สนนุ ในพื้นท่ี เพอ่ื ใหง้ ่ายตอ่ การประสานงานกับหน่วยสนับสนุน 1.3.2 ขอ้ เสนอแนะในการพัฒนา / แนวทางการพัฒนา RDF ในอนาคต 1.3.2.1 พฒั นาดา้ นการส่งกำลังบำรงุ 1.3.2.2 พฒั นาดา้ นการตดิ ต่อส่ือสาร เครื่องมอื สอ่ื สาร 1.3.2.3 ฝึกดำรงขีดความสามารถและพัฒนาขีดความสามารถเพิ่มเติม ให้สอดคล้องตาม สถานการณท์ ี่มีการปรับเปล่ยี นไป

สรปุ ผลการฝึกหน่วยพร้อมรบเคลือ่ นทเี่ ร็วของ ทบ. หน้าที่ 223 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 1.3.2.4 จัดทำแผนรองรบั ใหค้ รอบคลุมทุกกองกำลัง (ท้ัง 4 ทภ.) 1.3.2.5 พัฒนาใหส้ ามารถปฏิบตั กิ ารไดห้ ลากหลายรูปแบบ หลากหลายภารกิจ 1.3.2.6 พัฒนารปู แบบและวิธกี ารเคล่ือนยา้ ยให้ได้หลากหลายรูปแบบ (หวั ใจของ RDF คือ การ เข้าสูพ่ น้ื ทไ่ี ด้รวดเรว็ และทันเวลา) 1.3.2.7 พัฒนาการฝึกเพิ่มเติม โดยให้มีการฝึกร่วมกันระหว่าง หน่วยพร้อมรบเคล่ือนที่เร็วของ ทบ. (ร.31 รอ.) และหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วของ ทบ. (ทภ.) เพ่ือพัฒนาแนวทางการใช้กำลังเพ่ิมเติม ซ่ึงจะ เป็นทางเลือกเพ่ิมเติมในการใช้กำลังของ ทบ. ในการตอบสนองต่อภัยคุกคาม โดยจัด RDF (-) (ร.31 รอ.) ฝึก รว่ มกับ พัน.RDF (ทภ.) สำหรบั พัน.RDF พิจารณาใช้ พัน.RDF ในพ้ืนท่ีตามสถานการณ์ เช่น เกิดเหตุการณ์ใน พื้นท่ี ทภ.3 ใช้ พัน.RDF (ทภ.3) + RDF (-) (ร.31 รอ.) เป็นต้น ทั้งนี้แนวทางนี้จะช่วยลดข้อจำกัดอื่น ๆ ลงได้ เช่น การประกอบกำลังของ RDF (ทภ.) จากแต่ละ ทภ. มีระยะทางไกล หรือ RDF ร.31 รอ. ติดภารกิจสำคัญ ของ ฉก.ทม.รอ.904 ต้องใช้ 1 พนั .ร. สำหรบั ภารกิจสำคญั น้ัน เปน็ ตน้

สรปุ ผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคล่อื นทีเ่ รว็ ของ ทบ. หน้าท่ี 224 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) โครงสร้างการจดั กำลงั ร่วมการฝกึ

สรุปผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคลือ่ นทเี่ ร็วของ ทบ. หน้าที่ 225 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 1.3.2.8 พัฒนาเพ่ิมเติมขีดความสามารถของกำลังพลใน ร้อย.อวบ.ของ พัน.ร. ซึ่งเป็นหน่วย กำลังรบในแนวหน้าที่จะได้รับการสนับสนับทางอากาศโดยใกล้ชิด ซึ่งจะต้องปฏิบัติงานร่วมกับชุดของ ทอ. ท่ี เข้าไปให้การสนับสนุน และการนำเข้าอากาศยานเข้าสู่ที่หมายได้อย่างถูกต้องเป็นส่ิงสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อมี ความคุ้นเคยและสามารถประสานงานกนั ได้อย่างสอดคล้องเหน็ ควรให้มีการฝึกร่วมกนั กบั ทอ. และสง่ กำลังพล ของหน่วยพร้อมรบเคล่ือนที่เร็วเข้ารับการฝึกหลักสูตรการรบร่วมอากาศ-ภาคพ้ืนดิน ของกองทัพอากาศ CAS (Close Air Support) เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานร่วมกันกับชุดของ ทอ. ได้เป็นอย่างดี หรือปฏิบัติทดแทนได้ กรณีจำเป็น 1.3.2.9 ในฐานะที่ ร.31 รอ. หน่วยหลักประกอบกำลังเป็นหน่วยพรอ้ มรบเคลอ่ื นท่ีเร็วของ ทบ. เปน็ หนว่ ยส่งทางอากาศทม่ี ีขีดความสามารถปฏิบตั กิ ารยทุ ธ์สง่ ทางอากาศ เพื่อใหส้ ามารถปฏิบัติการยทุ ธ์สง่ ทาง อากาศ ในระดับกองพันส่งทางอากาศ หรือกรมส่งทางอากาศได้อย่างสมบูรณ์ เป็นการเพิ่มวิธีการในการเข้าสู่ พื้นท่ีปฏิบัติการให้หลากหลายมากย่ิงขึ้น ซ่ึงจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็ว ของ ทบ.เพิ่มมากขึน้ โดยเหน็ ควรพัฒนาเพิ่มเตมิ ดังน้ี - ผู้ควบคุมการกระโดดร่ม (Jumpmaster) เป็นกำลังส่วนหน่ึง ของหน่วยส่งทาง อากาศ ทำหน้าท่ีในการควบคุมการกระโดดร่ม โดยจะต้องเป็นผทู้ ่ีผ่านการฝึกหลักสูตรผู้ควบคุมการกระโดดร่ม และจะต้องปฏิบัติหนา้ ทค่ี วบคมุ การกระโดดร่มในระยะไม่เกิน 6 เดือน กรณีเกินระยะ 6 เดือน จะต้องมีการฝึก ทบทวนก่อนปฏิบตั หิ น้าที่ควบคุมการกระโดดร่ม ซ่งึ ผ้คู วบคมุ การกระโดดรม่ จะเป็นผู้ควบคมุ หลักในขน้ั ตอนการ

สรปุ ผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคล่อื นทีเ่ ร็วของ ทบ. หน้าที่ 226 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) ปฏิบัติในการกระโดดร่ม ตั้งแต่การฝึกทบทวนการปฏิบัติภาคพื้น การกำหนดสนามกระโดดร่ม (การคำนวณ และกำหนดแนวสนามกระโดดร่ม) การตรวจการแต่งร่ม (JMPI) การควบคมุ การปฏิบัติบนอากาศยาน ตลอดจน การปฏิบัติอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง รวมไปถึงการกระโดดร่มด้วย โดยปกติ ผู้ควบคุมการกระโดดร่ม จะปฏิบัติ 2 ลักษณะ คือ กระโดดนำ หรือกระโดดตาม (ขึ้นกับแผนยุทธวิธี) ท้ังน้ี ร.31 รอ. ยังมีผู้ควบคุมการกระโดดร่มไม่ เพียงพอตามอตั ราส่วนมาตรฐานสำหรับ 1 กองพัน สอ. หรือมากกว่า เน่ืองด้วยไม่มีท่ีหนั่งในหลักสูตรผู้ควบคุม การกระโดดรม่ ของ รร.สพศ.ศสพ. เห็นควรให้ ทบ.พจิ ารณาเพิ่มทน่ี ัง่ ในหลักสูตรหลักสูตรผู้ควบคุมการกระโดด ร่ม ของ รร.สพศ.ศสพ. สำหรับกำลังพลของ ร.31 รอ. จำนวน 4-6 นาย ต่อรุ่น ในแผนการฝึกประจำปี ตาม แผนการฝึกของ รร.สพศ.ศสพ. เพ่ือให้หน่วยพร้อมรบเคลอื่ นท่เี ร็วของ ทบ. (ร.31 รอ.) สามารถพัฒนาผู้ควบคุม การกระโดดร่ม และมีกำลงั พลทดแทนอย่างต่อเนือ่ ง เพื่อพฒั นาเสริมสร้างขดี ความสามารถด้านการยุทธ์สง่ ทาง อากาศตอ่ ไป - ชุดโจมตีของ ทบ. (Army Assault Teams) คือ ส่วนที่มีบทบาทสำคัญในการ ลาดตระเวน เฝ้าตรวจ พิสูจน์ทราบเขตส่งลง/บินลง และท่ีรวมพล ตลอดจนกำหนดเส้นทางท่ีปลอดภัย รวมถึง พันธกิจอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นส่วนแรกท่ีเข้าไปในเขตส่งลง เพ่ือเตรียมรับและนำทางให้กับอากาศยาน โดยชุดโจมตี ของ ทบ. (Army Assault Teams) จะไปร่วมกับชุดควบคุมการรบของ ทอ. (Air Force Combat Control Teams) เพ่ือปฏิบัติงานร่วมกันรวมถึงให้การระวังป้องกันใหก้ ับชุดควบคุมการรบ หรือในบางภารกจิ ที่ ทอ. ไม่ จัดชุดควบคุมการรบ ชุดโจมตีของ ทบ. จะปฏิบัติหน้าท่ีเป็นชุดควบคุมการรบด้วย วิธีการเคลื่อนย้ายเข้าสู่เขต ส่งลงที่นิยมใช้ คอื การแทรกซึมทางอากาศเบื้องสงู เข้าสู่พื้นที่ ก่อนเร่ิมการยุทธ์ส่งทางอากาศ ซ่ึงในส่วนของ ร. 31 รอ. มีกำลังพลทีผ่ ่านการฝึกหลักสูตรแทรกซมึ ทางอากาศยังไม่เพียงพอในการจัดกำลงั เป็นชุดโจมตีของ ทบ. สำหรับ 1 กองพันส่งทางอากาศ และกำลังพลบางส่วนมีขีดความสามารถในการกระโดดร่มแบบกระตุกเองแต่

สรปุ ผลการฝึกหนว่ ยพรอ้ มรบเคลื่อนทเ่ี รว็ ของ ทบ. หน้าที่ 227 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) ไม่ผ่านการฝึกหลกั สูตร และที่ผ่านมาไม่มีที่นั่งฝึกศึกษาในหลกั สูตรของ ทบ. ทำให้การพัฒนาชุดโจมตีของ ทบ. สำหรับการปฏิบัติการยุทธ์ส่งทางอากาศของหน่วยมีข้อจำกัด รวมถึงการจัดกำลังพลเข้าทำหน้าที่ชุดโจมตีของ ทบ. มีข้อจำกัด (สามารถปฏิบัติได้แต่ไม่มีหลักสูตรรองรับ) เห็นควรให้ ทบ.พิจารณาเพิ่มที่น่ังในหลักสูตรแทรก ซึมทางอากาศ ของ รร.สพศ.ศสพ. สำหรับกำลังพลของ ร.31 รอ. จำนวน 1 ชุด 6 นาย ต่อรุ่น ในแผนการฝึก ประจำปี ตามแผนการฝึกของ รร.สพศ.ศสพ. เพื่อให้หน่วยพร้อมรบเคลื่อนท่ีเร็วของ ทบ. (ร.31 รอ.) สามารถ พัฒนาชุดโจมตีของ ทบ. และมีกำลังพลทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการ ยุทธ์สง่ ทางอากาศตอ่ ไป - พัฒนาหน่วยประกอบกำลังทุกส่วนให้มีขีดความสามารถด้านการยุทธ์ส่งทางอากาศ และพิจารณาปรับเป็นหน่วยส่งทางอากาศ โดยในระยะเร่ิมแรกอาจพิจารณาตามความจำเป็นเฉพาะส่วนท่ี จะตอ้ งเข้าส่พู ้ืนทีป่ ฏิบตั กิ ารรว่ มกับกำลงั ทหารราบเปน็ ส่วนแรก (สว่ นโจมต)ี เพอ่ื ให้ขีดความสามารถเพียงพอใน การในการจัดตั้งหัวอากาศ และการป้องกันหัวอากาศ สำหรับรองรับส่วนตาม และส่วนหลังท่ีจะตามเข้าไปใน หัวอากาศด้วยวิธีการอ่ืน ๆ เช่น การบินลง หรือด้วยยานพาหนะ เป็นต้น โดยเหน็ ควรใหม้ ีการจัดทำแผนพัฒนา แนวทาง/แนวคิดนเ้ี พือ่ เสนอแผนการพฒั นาต่อ ทบ.ต่อไป

สรุปผลการฝกึ หน่วยพรอ้ มรบเคลือ่ นทีเ่ รว็ ของ ทบ. หน้าท่ี 228 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 1.3.2.10 การยทุ ธ์เคลื่อนทที่ างอากาศ การปฏิบัติการยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ สำหรับการเคล่ือนย้ายกำลังรบเข้าปฏิบัติต่อท่ี หมายในทางปีก หรือทางลึก สามารถใช้ขยายผลในทางลึกต่อไปภายหลังจากส่งลงทางอากาศและสามารถ จัดตั้งหัวอากาศได้เรียบร้อย อีกท้ังสามารถใช้สำหรับการเพิ่มเติมกำลัง หรือการถอนกำลัง ซ่ึงเป็นการ เคล่ือนย้ายกำลังเพื่อขยายผลได้รวมเร็วและสามารถเข้าสู่พ้ืนท่ีได้หลายทิศทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่สมควรพัฒนา เพ่ิมเติมต่อไป และท่ีน่าสนใจ คือ สหรัฐอเมริกา มีหลักสูตรการยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ หรือ หลังสูตร Air Assault ใช้ระยะเวลาศึกษาประมาณ 11 วัน โดยมีการฝึกหลัก 3 ข้ัน คือ Combat Assault Phase (การ ปฏิบัติกับอากาศยาน), Sling Load Phase (การยกห้ิว) และ Rappel Phase (การลงทางด่ิง) ซ่ึงมีความ เหมาะสมท่ีควรผลักดันกำลังพลของหน่วยพร้อมรบเคลื่อนท่ีเร็วของ ทบ. ได้มีโอกาสเข้ารับการฝึก หลักสูตร ของ ทบ.สหรัฐฯ เพ่ือพัฒนาและขยายผลต่อยอดในการฝึกต่อไป รวมถึงเห็นควรให้มีการพัฒนาหลักสูตรการ ยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ หรือ หลังสูตร Air Assault ที่เป็นมาตรฐานของ ทบ.ไทย โดยเห็นควรให้มีการจัดทำ แผนพฒั นาแนวทาง/แนวคดิ นี้เพื่อเสนอแผนการพฒั นาต่อ ทบ.ตอ่ ไป หลกั สตู รการยุทธเคล่ือนทีท่ างอากาศ (Air Assault) ทบ.สหรัฐฯ ร่างหลักสูตรการยุทธเคลื่อนที่ทางอากาศ (Air Assault) (ร.31 รอ.)

สรปุ ผลการฝกึ หนว่ ยพร้อมรบเคลื่อนท่เี รว็ ของ ทบ. หน้าที่ 229 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 1.4 ผบ.หนว่ ยพรอ้ มรบเคลื่อนท่เี รว็ ของ ทบ. (ผบ.ร.31 รอ.) 1.4.1 พิจารณาปรับปรุงแผนเพ่ิมเติม จากผลการฝึกโดยไม่ใช้กำลังทหารเพ่ือให้แผนมีความสมบูรณ์ มากยง่ิ ข้นึ โดยกำหนดปัจจยั หลักในการพจิ ารณา ดงั น้ี 1.4.1.1 เวลา 1.4.1.2 การสื่อสาร 1.4.1.3 การรกั ษาความลับ 1.4.2 สง่ิ ที่ตอ้ งนำไปปรับปรุงแผนเพมิ่ เตมิ 1.4.2.1 เวลาทีร่ ะบไุ ว้ในแผนการเคลื่อนยา้ ย 1.4.2.2 การสื่อสาร FM, ICOM 1.4.2.3 แผ่นบริวารสือ่ สาร 1.4.2.4 ทต่ี ัง้ ของจดุ พกั รถ 1.4.2.5 จดุ วาง สห./ตร. ให้ FM, ICOM 1.4.2.6 ชดุ รีทรานส์ ต้องไปฝกึ การเข้าประมวลลบั /ถอดรหัส 1.4.2.7 แผนเผชิญเหตุของหน่วยบนิ 1.4.2.8 ลำดบั หน่วยในการเคล่อื นย้าย การช้ีแจงทบทวนหลงั การปฏิบัติของหนว่ ย/หน่วยประกอบกำลัง

สรปุ ผลการฝึกหน่วยพรอ้ มรบเคล่อื นทเ่ี รว็ ของ ทบ. หน้าท่ี 230 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 2. ขอ้ สงั เกตุของกรรมการเหลา่ สายวิทยาการ (กรรมการ และ OC/T) 2.1 ข้อแนะนำในการพฒั นากำลงั พลเพ่มิ เติม 2.1.1 ฝึกพลขับในการขบั ขี่ยานพาหนะในเวลากลางคนื (ใสก่ ล้อง NVG) 2.1.2 การยงิ ปนื ในเวลากลางคนื 2.1.3 การปฐมพยาบาล (เปน็ บุคคล, ชดุ พยาบาล) 2.2 กรรมการ พนั .บ.ฉก. 2.2.1 สมควรมีรถเติม สป.3 อากาศยานให้กับหน่วย เพื่อการปฏิบัติภารกิจได้อย่างต่อเนื่อง ในพ้ืนท่ี เตมิ สป.3 สว่ นหน้า 2.2.2 เพ่ิมแผนการเคล่ือนย้ายกำลังพลด้วยอากาศยาน เนื่องจากหน่วย RDF ใช้เวลาเป็นกรอบในการ ปฏิบตั ิ และลดการเหนอ่ื ยลา้ จากการเคล่อื นย้ายของกำลังพล 2.3 กรรมการ รอ้ ย.สร. 2.3.1 การวางแผนสอดคล้องกับหน่วยดำเนินกลยุทธ์ และสามารถสนับสนุนการรักษาพยาบาล และ สง่ กลับอยา่ งใกลช้ ดิ 2.3.2 ข้อเสนอแนะ จดั ทำปัญหาการฝึก เร่ืองการรกั ษาพยาบาล และการส่งกลบั ทาง สร. ได้จดั ทำใน แบบระบบไลนม์ ีการสอนเพมิ่ เตมิ การส่งกลับท้ังพน้ื ดนิ และทางอากาศ 2.3.3 เพิ่มเติมวิทยุส่ือสารให้ ร้อย.สร., วิทยุ, ชุดวิทยุ ติดตั้งบนรถยนต์ทหาร FM VRC 745 รถยนต์ พยาบาลตาม อจย.7 คนั รวมจำนวน 7 เคร่ือง 2.3.4 เพ่ิมเตมิ เปลพบั ชนิดสะพายหลัง Talon จำนวน 28 เปล (ประจำรถยนต์พยาบาลจำนวน 7 คนั ) 2.4 กรรมการ ชค.คย. 2.4.1 พลขบั ได้ฝึกขับในสถานที่จริง ทำใหท้ ราบสภาพปญั หาพน้ื ผิวถนน ปญั หาการจราจร ทำใหพ้ ลขับ สามารถคำนวณระยะเวลา และระยะทางได้ 2.4.2 ขอ้ ระมดั ระวงั การขบั รถในขบวนไมค่ วรแซงกันในขบวน 2.4.3 ข้อเสนอแนะ 2.4.3.1 ให้แต่ละขบวนจัดทำตารางนำขบวน เพื่อใช้เป็นข้อมูลของ ผบ.ขบวนในแต่ละขบวนใน การบงั คบั บัญชาภายในขบวนของตนเอง 2.4.3.2 จัดทำแผนทเี่ ส้นทางแจกจา่ ยพลขบั เพราะบางนายไมไ่ ด้มาตรวจภมู ิประเทศ 2.4.3.3 จัดทำข่ายวทิ ยุให้กบั ผบ. เพือ่ ทราบวา่ ขบวนแตล่ ะขบวนเคลอ่ื นย้ายถงึ จุดไหน 2.4.4 ขอ้ เพ่ิมเติม 2.4.4.1 พลขับทุกนายต้องมีใบขบั ขร่ี ถยนตท์ างทหาร และตรงกบั ชนิดรถทข่ี ับข่ี 2.4.4.2 เอกสารท่ีต้องนำติดรถเช่น สพ.110, ย.42, แบบรายงานอุบัติเหตุ และสำเนาประวัติ รถยนตท์ หารบก เปน็ ต้น 2.5 กรรมการ ชค.สก./ซบร.

สรปุ ผลการฝกึ หน่วยพร้อมรบเคล่ือนที่เรว็ ของ ทบ. หน้าที่ 231 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 2.5.1 หน่วยที่ออกปฏิบัติภารกิจในพื้นท่ีรับผิดชอบของหน่วยสนับสนุนใด จะต้องเข้ารับการสนับสนุน จากหน่วยสนับสนุนในพน้ื ทนี่ ั้น 2.5.2 การซ่อมฯ หน่วยมีการรายงานสถานภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้หน่วยสนับสนุนทราบ และจะ นำมาคิดเกณฑ์สะสมช้ินสว่ นซอ่ ม ตามอตั ราของหนว่ ย 2.5.3 สป.1 หน่วยได้จ่าย สป.1 ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจได้ 48 ชม. และเพ่ิมเติมได้ถึง 72 ชม. โดยไม่ขอรับการสนบั สนุน หน่วยมกี ารรายงานสถานภาพกำลังพลให้หน่วยสนับสนุนทราบ เพือ่ คิดเกณฑ์ สป.1 ไว้สนับสนุนเมอื่ มกี ารร้องขอ 2.5.4 สป.5 ข้อเสนอของหน่วยปฏิบัติ ควรกำหนดสถานภาพของ สป.5 ในแต่ละห้วงของเวลาโดยคิด เป็นเปอร์เซ็นต์ ว่าใช้ไปเท่าไรและคงเหลือเท่าไร สป.5 กระสุนมูลฐานเม่ือใช้ไปเกิน 1 ใน 3 ของอัตราเต็ม ต้อง ทำการเบกิ ทดแทน 2.6 กรรมการ ป.1 พนั .31 รอ. 2.6.1 เครือข่ายการติดตอ่ สื่อสาร ทกุ หน่วยมี นปส. เป็นของตัวเองท่ียงั ไมไ่ ด้นำมารวมกัน หากมีการใช้ การติดต่อทห่ี นาแน่นอาจมีการทบั ซ้อน หรอื มีการก่อกวนทางสัญญาณ เราจะใชอ้ ะไรในการตดิ ต่อส่ือสารซึ่งยัง ไมม่ ีการจัดระเบยี บอาจทบั ซอ้ นกับหน่วยในพน้ื ทไ่ี ด้ ควรจดั ทำระเบยี บใหเ้ ป็น รปจ. หรือ นปส. ขน้ึ มาใหม่ 2.6.2 ในการส่งกำลังในส่วนของ สป.5 และ สป.3 ท่ียังไม่ได้ประสานกับหน่วย บชร.ในพ้ืนท่ี ในเรื่อง ของการตั้งตำบลจ่ายทำให้การวางแผนการส่งกำลังของหน่วยย่อยไม่สามารถกระทำได้จริง เช่น สป.1, สป.3 และ สป.5 วางตรงไหนซึ่งไม่สามารถวางรามกันได้ เนอื่ งจากเสน้ ทางส่งกำลังของเราเป็นเส้นทางเดีย่ ว การชี้แจงทบทวนหลงั การปฏิบตั ิของ กรรมการเหล่าสายวิทยาการ (กรรมการ และ OC/T)

สรุปผลการฝกึ หนว่ ยพร้อมรบเคลอื่ นท่ีเรว็ ของ ทบ. หนา้ ท่ี 232 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 3. ข้อสรุปของ ผอ.สกฝ.ยศ.ทบ. (พล.ต.สามารถ คงสาย) 3.1 ฝึกเตรียมกำลังพลใน เร่ืองการยิงปืนในเวลากลางคืน และการฝึกขับรถในเวลากลางคืน โดยใช้กล้อง เวลากลางคืน 3.2 พิจารณาฝึกการติดต่อสื่อสาร และการส่งกำลัง อาจเพ่ิมทำการฝึกในห้วงการฝึกปัญหาท่ีบังคับการ (CPX) และหากมีการฝึกภาคสนาม จะกำหนดให้นำรถบรรทุกกระสุนของ พัน.ป. และ ร้อย.ค.หนัก บรรทุก กระสุนจริง และนำไปฝึก เพอ่ื หน่วยจะได้รู้วา่ กระสนุ ควรอยบู่ ริเวณใด ควรจะนำลงรถหรือไม่ 3.3 ในการฝึกครั้งต่อไปอาจเพม่ิ เติมเวลาในการฝึกปญั หาท่บี ังคับการ (CPX) เพ่อื ให้สามารถเสรมิ /แทรกการ ฝึกอื่น ๆ เพิ่มเติมได้มากยิ่งข้ึน เช่น การวางแผนของหน่วยรอง, การฝึกการติดต่อสื่อสาร (COMEX), การฝึก การส่งกำลัง (LOGEX) เปน็ ตน้ 3.4 เร่ืองของชุดควบคุมการส่งกำลังและซ่อมบำรุง หลักการคิดเกณฑ์ การเบิก สป.5 ตามห้วงเวลา ทำได้ ตามเกณฑ์ และในอนาคตให้เพิม่ เติม นตต. ของ บชร.ส่วนแยก เข้ามารว่ มการฝึกดว้ ย 3.5 เร่ืองการปอ้ งกนั ภัยทางอากาศ (ปภอ.) พิจารณาเพมิ่ เซลลข์ อง ศปภอ.ทบ.สย. เขา้ รว่ มการฝึก 3.6 เร่ืองของทหารช่าง ควรเพิ่มรถขุดคู และรถถากถาง ท้ังนี้หน่วยจะต้องวางแผนเร่ืองระบบการ เคลื่อนย้าย และระบบการใช้ 3.7 แนวความคิดท่ีต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบ วิธีการเคล่ือนย้ายเข้าสู่พื้นท่ีการรบให้เร็วข้ึน ให้ได้ หลากหลายรูปแบบวิธกี าร ซ่ึงอาจเพ่ิมการเคลื่อนย้ายทางอากาศ ใช้เคร่ืองบินในการสง่ ยานพาหนะ รวมถึงการ กระโดดรม่ แนวความคิดน้ีจะพยายามนำเสนอขึน้ ไปตามระบบวิชาการ 3.8 จดุ เด่นท่ีเห็นในการฝึกครั้งนี้ คอื ภาพของการวางแผนผสมเหลา่ ทสี่ มบูรณ์ ในการซักซอ้ มบนภูมิประเทศ จำลอง ท้ัง 2 กองพันแสดงถึงเคร่ืองมือทำการยุทธ์ผสมเหล่าได้โดยใช้ตารางประสานสอดคล้อง ผู้บังคับหน่วย จะไดเ้ หน็ ระบบปฏบิ ัตกิ ารสนามรบเกดิ อะไรข้ึน โดยประสานการติดตอ่ กบั นตต. ในการยทุ ธผ์ สมเหล่า 3.9 มกี ารจัดจงั หวะการรบท่ีดี มีการลวง มีการยงิ ข่ม มกี ารยืนยนั เป้าหมาย และการดำเนนิ กลยุทธ์ 3.10 ลักษณะที่หมายเป็นพื้นท่ีป่าภูเขา การใช้เทคนิคการเคลื่อนท่ีรูปขบวน หมู่ หมวด ในป่าภูเขา นั้น ค่อนข้างจำกัด การเคล่ือนท่ีบนถนนอาจพบกับกับระเบิด หน่วยต้องใช้เทคนิคในการเคล่ือนที่ และต้องฝึก เพิม่ เติมใหก้ ับหน่วยและกำลังพลในการปฏิบัตใิ นพนื้ ที่ลักษณะป่าภูเขา 3.11 การใช้ UAV ยืนยันเป้าหมาย การใช้เคร่ืองมือข่าวกรองของร้อย.ขกท. ของฝ่ายเราสามารถทำได้จริง ดังนั้นถ้าเรายืนยันเป้าหมายได้ การกำหนดพ้ืนท่ีโจมตี เป้าหมายยิงข่ม เป้าหมายในการยิงเตรียม ก็ม่ันใจว่า สามารถปฏิบตั ิไดจ้ รงิ 3.12 OPLAN แผนยุทธการมีกระบวนการวางแผนผสมเหล่าท่ีสมบูรณ์ และชุด TACP (ชสอต.) จาก คปอ. ทอ. ได้มาร่วมวางแผนการยงิ สนับสนนุ ร่วม JFIRE และ แผนการควบคุมหว้ งอากาศของ ทบ. A2C2 ณ ทก.กรม RDF ซึ่งเป็นไปตามหลักนิยมการปฏิบัติการร่วม อากาศ-พ้ืนดิน ส่งผลให้ แผนยุทธการ เกิดภาพการใช้กำลัง อำนาจของการรบรว่ มและรบผสมเหล่า อยา่ งชดั เจน เชอ่ื มนั่ ว่านำไปปฏิบัติได้จรงิ 3.13 การบูรณาการพลังอำนาจ ที่เกิดจากการวางแผนนี้ ได้จัดวางเครื่องมือต่าง ๆ ลงไปในสนามรบ อย่าง สอดคล้องต่อสถานการณ์ และปัจจัย METT-TC เปน็ การเพ่ิมทวีอำนาจกำลังรบให้แก่หน่วย RDF โดยมีการจัด

สรุปผลการฝึกหนว่ ยพร้อมรบเคลื่อนท่เี ร็วของ ทบ. หน้าท่ี 233 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) จงั หวะการรบอย่างเหมาะสม เชน่ CAP เคร่อื ง F16 จำนวน 4 เครื่อง (F16×4) ครองอากาศเฉพาะตำบล สนธิ กับงาน ปภอ.ของ ทบ., BAI (EA : พื้นท่ีโจมตีทางลึก), CAS และ CCA (EA : พ้ืนที่รบแตกหัก), UAV ทบ. เฝ้าตรวจสนามรบและปรับการยิง, ป.และ ค. ทำ JSEAD ยิงข่ม, ยิงรบกวน, ยิงเตรียม และ การลวง, พัน.ร. ผสม, ร้อย.ม.ลว.การดำเนินกลยุทธ์ทางพ้ืนดิน ภายใต้การจัดรูปแบบ (shaping) ทางยุทธวิธี และการยิง สนับสนนุ ร่วม (รปู แผ่นบรวิ าร การควบคมุ ห้วงอากาศและโจมตีร่วม) 3.1.14 รูปแบบการวางแผนผสมเหล่า และผลผลติ จากการฝึก หน่วย RDF ทบ. ในคร้ังน้ี สามารถนำไปเป็น ตวั อยา่ ง ใหแ้ ก่หลกั สตู รชั้นนายพนั รว่ ม ร-ม-ป-ช-ส (ปตอ.-บ.ทบ.) ในโอกาสทจี่ ะเปิดหลักสูตรนี้ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี 3.1.15 พิจารณาเพิ่มข้ันการฝึกภาคสนาม เพื่อให้หน่วยได้นำแผนที่จัดทำไปฝึกในสนาม รวมฝึกเพิ่มขีด ความสามารถของกำลังพลในการปฏิบัติทางยุทธวิธี รวมถึงการใช้เครื่องมือ/ยุทโธปกรณ์ในทางยุทธวิธี โดยจะ พจิ ารณาเสนอแผนการฝึกภาคสนามให้ ทบ.ต่อไป

สรปุ ผลการฝกึ หนว่ ยพรอ้ มรบเคล่อื นท่เี ร็วของ ทบ. หนา้ ที่ 234 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) การชี้แจงทบทวนหลังการปฏบิ ตั ขิ อง ผอ.สกฝ.ยศ.ทบ.

บทท่ี 8 สรุปผลการฝกึ และข้อเสนอแนวทางการพัฒนา จากผลการทบทวนหลังการปฏิบัติ ในการฝึกเป็นหน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็วของ ทบ. ประจำปี 2565 ร.31 รอ. ในฐานะหนว่ ยหลักในการประกอบกำลัง ได้รวบรวมขอ้ เสนอแนะ ข้อสงั เกต ตลอดจนข้อแนะนำ จาก หน่วยประกอบกำลัง รวมถงึ กรรมการเหล่าสายวิทยาการ ท่ไี ด้ให้ข้อเสนอแนวทางในการพัฒนาหน่วยพร้อมรบ เคล่อื นทเี่ รว็ ของ ทบ. ให้มีความทันสมยั มปี ระสิทธิภาพ สามารถรองรับภารกิจเพ่อื เอาชนะต่อภยั คกุ คามในโลก ท่ีมีความซับซ้อน ซึ่งคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการฝึกและการปฏิบัติงานของหน่วย รวมถึง ทบ. ต่อไปในอนาคต 1. ขอ้ เสนอแนะในการพัฒนา / แนวทางการพัฒนา RDF ในอนาคต 1.1 พฒั นาด้านการสง่ กำลงั บำรุง 1.2 พฒั นาดา้ นการตดิ ต่อสอื่ สาร เคร่อื งมือส่ือสาร 1.3 จัดทำแผนรองรับใหค้ รอบคลุมทกุ กองกำลัง (ทัง้ 4 ทภ.) 1.4 พัฒนาให้สามารถปฏบิ ตั ิการไดห้ ลากหลายรูปแบบ หลากหลายภารกิจ 1.5 ฝึกดำรงขีดความสามารถและพัฒนาขีดความสามารถเพ่ิมเติม ให้สอดคล้องตามสถานการณ์ท่ีมีการ ปรับเปลี่ยนไป 1.6 พัฒนารูปแบบและวิธีการเคลื่อนย้ายให้ได้หลากหลายรูปแบบ (หัวใจของ RDF คือ การเข้าสู่พ้ืนท่ีได้ รวดเร็วและทันเวลา)

สรุปผลการฝึกหนว่ ยพรอ้ มรบเคล่อื นทเ่ี ร็วของ ทบ. หนา้ ท่ี 236 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 1.7 พัฒนาการฝึกเพ่ิมเติม โดยให้มีการฝึกร่วมกันระหว่าง หน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วของ ทบ. (ร.31 รอ.) และหน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็วของ ทบ. (ทภ.) เพื่อพัฒนาแนวทางการใช้กำลังเพ่ิมเติม ซึ่งจะเป็นทางเลือก เพิ่มเติมในการใช้กำลังของ ทบ. ในการตอบสนองต่อภัยคุกคาม โดยจัด RDF (-) (ร.31 รอ.) ฝึกร่วมกับ พัน. RDF (ทภ.) สำหรับ พัน.RDF พิจารณาใช้ พัน.RDF ในพื้นท่ีตามสถานการณ์ เช่น เกิดเหตุการณ์ในพ้ืนที่ ทภ.3 ใช้ พัน.RDF (ทภ.3) + RDF (-) (ร.31 รอ.) เป็นต้น ท้ังนี้แนวทางน้ีจะช่วยลดข้อจำกัดอื่น ๆ ลงได้ เช่น การ ประกอบกำลังของ RDF (ทภ.) จากแต่ละ ทภ. มีระยะทางไกล หรือ RDF ร.31 รอ. ติดภารกิจสำคัญของ ฉก. ทม.รอ.904 ต้องใช้ 1 พนั .ร. สำหรับภารกิจสำคญั น้ัน เป็นต้น

สรปุ ผลการฝึกหน่วยพร้อมรบเคลือ่ นทีเ่ ร็วของ ทบ. หนา้ ท่ี 237 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) โครงสรา้ งการจดั กำลังร่วมการฝึก 1.8 การรบรว่ มอากาศพ้ืน-ดิน พฒั นาเพ่ิมเตมิ ขีดความสามารถของกำลงั พลใน รอ้ ย.อวบ.ของ พนั .ร. ซ่ึงเป็น หน่วยกำลังรบในแนวหน้าที่จะได้รับการสนับสนับทางอากาศโดยใกล้ชิด ซึ่งจะต้องปฏิบัติงานร่วมกับชุดของ ทอ. ที่เข้าไปให้การสนับสนนุ และการนำเข้าอากาศยานเขา้ สูท่ ่ีหมายไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเป็นส่ิงสำคญั อยา่ งยิง่ เพ่ือมี ความคุ้นเคยและสามารถประสานงานกันได้อย่างสอดคล้องเหน็ ควรให้มีการฝึกร่วมกันกบั ทอ. และส่งกำลังพล ของหน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็วเข้ารับการฝึกหลักสูตรการรบร่วมอากาศ-ภาคพื้นดิน ของกองทัพอากาศ CAS (Close Air Support) เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานร่วมกันกับชุดของ ทอ. ได้เป็นอย่างดี หรือปฏิบัติทดแทนได้ กรณจี ำเป็น

สรปุ ผลการฝึกหน่วยพรอ้ มรบเคล่อื นทเี่ รว็ ของ ทบ. หนา้ ที่ 238 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 1.9 การยุทธ์ส่งทางอากาศ ในฐานะที่ ร.31 รอ. หน่วยหลักประกอบกำลังเป็นหน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็ว ของ ทบ. เป็นหน่วยส่งทางอากาศที่มีขีดความสามารถปฏิบัติการยุทธ์ส่งทางอากาศ เพื่อให้สามารถปฏิบัติการ ยทุ ธ์สง่ ทางอากาศ ในระดับกองพันส่งทางอากาศ หรือกรมสง่ ทางอากาศไดอ้ ย่างสมบูรณ์ เป็นการเพิ่มวิธีการใน การเข้าสู่พ้ืนที่ปฏิบัติการให้หลากหลายมากยิ่งข้ึน ซ่ึงจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยพร้อมรบ เคลื่อนทเ่ี รว็ ของ ทบ.เพิม่ มากขึน้ โดยเหน็ ควรพัฒนาเพมิ่ เตมิ ดังน้ี 1.9.1 ผู้ควบคมุ การกระโดดรม่ (Jumpmaster) เป็นกำลังสว่ นหน่ึง ของหน่วยสง่ ทางอากาศ ทำหนา้ ท่ี ในการควบคุมการกระโดดร่ม โดยจะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกหลักสูตรผู้ควบคุมการกระโดดร่ม และจะต้อง ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการกระโดดร่มในระยะไม่เกิน 6 เดือน กรณีเกินระยะ 6 เดือน จะต้องมีการฝึกทบทวน กอ่ นปฏิบัติหน้าท่ีควบคุมการกระโดดร่ม ซ่ึงผ้คู วบคุมการกระโดดร่มจะเป็นผู้ควบคุมหลักในขั้นตอนการปฏิบัติ ในการกระโดดร่ม ต้ังแต่การฝึกทบทวนการปฏิบัติภาคพื้น การกำหนดสนามกระโดดร่ม (การคำนวณ และ กำหนดแนวสนามกระโดดรม่ ) การตรวจการแต่งร่ม (JMPI) การควบคุมการปฏิบัติบนอากาศยาน ตลอดจนการ ปฏิบัติอื่น ๆ ที่เก่ียวข้อง รวมไปถึงการกระโดดร่มด้วย โดยปกติ ผู้ควบคุมการกระโดดร่ม จะปฏิบัติ 2 ลักษณะ คือ กระโดดนำ หรือกระโดดตาม (ข้ึนกับแผนยุทธวิธี) ทั้งน้ี ร.31 รอ. ยังมีผู้ควบคุมการกระโดดร่มไม่เพียงพอ ตามอัตราส่วนมาตรฐานสำหรับ 1 กองพัน สอ. หรือมากกว่า เน่ืองด้วยไม่มีที่หนั่งในหลักสูตรผู้ควบคุมการ กระโดดรม่ ของ รร.สพศ.ศสพ. เห็นควรให้ ทบ.พิจารณาเพ่ิมที่นง่ั ในหลักสตู รหลกั สูตรผู้ควบคุมการกระโดดร่ม ของ รร.สพศ.ศสพ. สำหรับกำลังพลของ ร.31 รอ. จำนวน 4-6 นาย ต่อรุ่น ในแผนการฝึกประจำปี ตาม แผนการฝึกของ รร.สพศ.ศสพ. เพ่ือให้หนว่ ยพร้อมรบเคลอื่ นท่ีเร็วของ ทบ. (ร.31 รอ.) สามารถพัฒนาผู้ควบคุม การกระโดดร่ม และมีกำลังพลทดแทนอยา่ งตอ่ เนือ่ ง เพ่อื พฒั นาเสริมสรา้ งขดี ความสามารถดา้ นการยุทธ์สง่ ทาง อากาศตอ่ ไป

สรปุ ผลการฝกึ หน่วยพรอ้ มรบเคลอ่ื นท่เี รว็ ของ ทบ. หน้าท่ี 239 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 1.9.2 ชุดโจมตีของ ทบ. (Army Assault Teams) คือ ส่วนที่มีบทบาทสำคัญในการลาดตระเวน เฝ้า ตรวจ พิสจู น์ทราบเขตส่งลง/บนิ ลง และท่ีรวมพล ตลอดจนกำหนดเส้นทางที่ปลอดภัย รวมถึงพันธกิจอ่ืน ๆ ซึ่ง จะเป็นส่วนแรกท่ีเข้าไปในเขตส่งลง เพ่ือเตรียมรับและนำทางให้กับอากาศยาน โดยชุดโจมตีของ ทบ. (Army Assault Teams) จะไปร่วมกับชุดควบคุมการรบของ ทอ. (Air Force Combat Control Teams) เพ่ือ ปฏิบัตงิ านร่วมกันรวมถงึ ใหก้ ารระวังป้องกันใหก้ ับชุดควบคมุ การรบ หรือในบางภารกิจที่ ทอ. ไม่จดั ชุดควบคุม การรบ ชุดโจมตีของ ทบ. จะปฏิบัติหน้าที่เป็นชุดควบคุมการรบด้วย วิธีการเคลื่อนย้ายเข้าสู่เขตส่งลงท่ีนิยมใช้ คอื การแทรกซึมทางอากาศเบ้ืองสูงเข้าสพู่ ้ืนท่ี ก่อนเริ่มการยุทธ์ส่งทางอากาศ ซ่ึงในส่วนของ ร.31 รอ. มีกำลัง พลท่ีผ่านการฝึกหลักสูตรแทรกซมึ ทางอากาศยังไม่เพยี งพอในการจัดกำลังเป็นชดุ โจมตีของ ทบ. สำหรับ 1 กอง พันส่งทางอากาศ และกำลังพลบางส่วนมีขีดความสามารถในการกระโดดร่มแบบกระตุกเองแต่ไม่ผ่านการฝึก หลักสูตร และที่ผ่านมาไม่มีที่น่ังฝึกศึกษาในหลักสูตรของ ทบ. ทำให้การพัฒนาชุดโจมตีของ ทบ. สำหรับการ ปฏิบัติการยุทธ์ส่งทางอากาศของหน่วยมีข้อจำกัด รวมถึงการจัดกำลังพลเข้าทำหน้าท่ีชุดโจมตีของ ทบ. มี ขอ้ จำกดั (สามารถปฏิบัตไิ ด้แตไ่ ม่มีหลักสตู รรองรบั ) เห็นควรให้ ทบ.พจิ ารณาเพ่ิมท่นี ่ังในหลักสูตรแทรกซึมทาง อากาศ ของ รร.สพศ.ศสพ. สำหรบั กำลังพลของ ร.31 รอ. จำนวน 1 ชดุ 6 นาย ต่อรุ่น ในแผนการฝึกประจำปี ตามแผนการฝึกของ รร.สพศ.ศสพ. เพื่อให้หน่วยพร้อมรบเคลื่อนท่ีเร็วของ ทบ. (ร.31 รอ.) สามารถพัฒนาชุด โจมตีของ ทบ. และมกี ำลังพลทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพ่ือพัฒนาเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการยทุ ธ์ส่งทาง อากาศต่อไป

สรปุ ผลการฝึกหนว่ ยพร้อมรบเคลอื่ นทเ่ี ร็วของ ทบ. หนา้ ที่ 240 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 1.9.3 พัฒนาหน่วยประกอบกำลังทุกส่วนให้มีขีดความสามารถด้านการยุทธ์ส่งทางอากาศ และ พิจารณาปรับเป็นหน่วยส่งทางอากาศ โดยในระยะเร่ิมแรกอาจพิจารณาตามความจำเป็นเฉพาะส่วนที่จะต้อง เขา้ สู่พน้ื ที่ปฏิบตั กิ ารร่วมกับกำลงั ทหารราบเป็นส่วนแรก (ส่วนโจมตี) เพ่ือใหข้ ีดความสามารถเพยี งพอในการใน การจัดตั้งหัวอากาศ และการป้องกันหัวอากาศ สำหรับรองรับส่วนตาม และส่วนหลังที่จะตามเข้าไปในหัว อากาศด้วยวิธีการอ่ืน ๆ เช่น การบินลง หรือด้วยยานพาหนะ เป็นต้น โดยเห็นควรให้มีการจัดทำแผนพัฒนา แนวทาง/แนวคดิ นเี้ พอื่ เสนอแผนการพฒั นาต่อ ทบ.ตอ่ ไป 1.10 การยทุ ธ์เคลือ่ นทท่ี างอากาศ การปฏิบัติการยุทธ์เคล่ือนท่ีทางอากาศ สำหรับการเคลื่อนย้ายกำลังรบเข้าปฏิบัติตอ่ ท่ีหมายในทางปีก หรือทางลึก สามารถใช้ขยายผลในทางลึกต่อไปภายหลังจากส่งลงทางอากาศและสามารถจัดตั้งหัวอากาศได้ เรียบร้อย อีกทั้งสามารถใช้สำหรับการเพิ่มเติมกำลัง หรือการถอนกำลัง ซ่ึงเป็นการเคลื่อนย้ายกำลังเพ่ือขยาย ผลได้รวมเร็วและสามารถเข้าสู่พ้ืนที่ได้หลายทิศทาง ซ่ึงเป็นเรื่องท่ีสมควรพัฒนาเพิ่มเติมต่อไป และท่ีน่าสนใจ คือ สหรัฐอเมริกา มีหลักสูตรการยุทธ์เคล่ือนท่ีทางอากาศ หรือ หลังสูตร Air Assault ใช้ระยะเวลาศึกษา ประมาณ 11 วัน โดยมีการฝึกหลัก 3 ขั้น คือ Combat Assault Phase (การปฏิบัติกับอากาศยาน), Sling Load Phase (การยกหิ้ว) และ Rappel Phase (การลงทางด่ิง) ซึ่งมีความเหมาะสมท่ีควรผลักดันกำลังพลของ หน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วของ ทบ. ได้มีโอกาสเข้ารับการฝึก หลักสูตรของ ทบ.สหรัฐฯ เพ่ือพัฒนาและขยาย ผลต่อยอดในการฝึกต่อไป รวมถึงเห็นควรให้มีการพัฒนาหลักสูตรการยุทธ์เคล่ือนที่ทางอากาศ หรือ หลังสูตร Air Assault ที่เป็นมาตรฐานของ ทบ.ไทย โดยเห็นควรให้มีการจัดทำแผนพัฒนาแนวทาง/แนวคิดน้ีเพ่ือเสนอ แผนการพฒั นาต่อ ทบ.ต่อไป หลกั สตู รการยทุ ธเคล่ือนที่ทางอากาศ (Air Assault) ทบ.สหรฐั ฯ

สรุปผลการฝกึ หนว่ ยพร้อมรบเคลื่อนทีเ่ รว็ ของ ทบ. หนา้ ที่ 241 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) รา่ งหลกั สตู รการยุทธเคลื่อนที่ทางอากาศ (Air Assault) (ร.31 รอ.) 1.11 แนวทางการพัฒนาหน่วยพร้อมรบเคล่ือนที่เร็วของกองทัพบก เพ่ือรองรับกับสถานการณ์ในอนาคต ตามการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมของโลกภัยคุกคาม ท่ีหน่วยพร้อมรบเคล่ือนที่เร็วของกองทัพบก จะตอ้ งพิจารณาเพ่ิมเติม คือ 1.11.1 การขาดแคลนทรัพยากร ทำให้ประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศรอบบ้าน มีความต้องการในแย่งชิง พ้ืนท่ีที่มีทรัพยากรที่สำคัญ เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติของตนเอง ภายใต้ความร่วมมือ และการสนับสนุนจาก ประเทศมหาอำนาจ ซ่ึงมีการแบง่ ข้ัวกนั แบบชัดเจน 1.11.2 การพัฒนาทางเทคโนโลยีท่ีมีความรวดเร็ว มิติของการปฏิบัติการทางทหารได้รับผลกระทบ ตั้งแต่ในภาวะปกติ ท่ีอาจมีการโจมดีทาง cyber รวมถึงระบบการติดต่อส่ือสาร ซ่ึงน้ันหมายถึงประเทศที่มี เทคโนโลยีท่ีนำมาปรับใช้ในทางทหารท่ีเหนือกว่า ย่อมได้เปรียบประเทศท่ีไม่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงด้าน เทคโนโลยี 1.11.3 ความสำเร็จของการใช้กำลังทหารในอนาคต คือ การปฏิบตั ิการท่ีรวดเร็ว ในด้านขา่ วสาร และ การติดสิน ตกลงใจ ให้ปฏิบัติการต่อฝ่ายตรงข้ามก่อน การเหนือกว่าในด้านข้อมูลข่าวสาร ประกอบกับการ นำเอาหลักนิยมการรบในการปฏิบัติการทางทหาร แบบผสมผสาน และร่วมกัน ระหว่างเหล่าทัพ เพื่อลด จุดออ่ นของหนว่ ยตนเอง ด้วยขีดความสามารถของหนว่ ยอน่ื 1.12 ประเด็นและลำดับการพัฒนา การเตรียมกำลังและใช้กำลัง ของหน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็วของ กองทพั บก ในอนาคต 1.12.1 การใช้ระบบปฏบิ ัติการที่ใช้เครอื ข่ายเป็นศนู ย์กลาง (ตามแผนการปฏิบัติ NCO-RDF ปี 2566 - 2568) 1.12.2 การใชร้ ะบบปฏบิ ตั ิการในหลายมติ ิ (ตามแผนการปฏบิ ตั ิ MDO-RDF ปี 2568 -2570)

สรุปผลการฝกึ หน่วยพร้อมรบเคลื่อนท่เี ร็วของ ทบ. หน้าที่ 242 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 1.13 แนวทางในการปฏบิ ตั ขิ องหน่วยพร้อมรบเคล่ือนทีเ่ ร็วของทัพบก 1.13.1 เสรมิ สรา้ งและพัฒนาระบบการควบคุมบงั คับบัญชา C4ISR 1.13.2 เสริมสร้างและพัฒนาระบบอาวุธยงิ ภายในหน่วยพรอ้ มรบเคลือ่ นที่เร็วของกองทพั บก และการ ใช้กำลังทางอากาศ (ในกรณีท่มี ีอากาศยานของ ทอ.เข้ามาสนับสนนุ ) 1.13.3 เสริมสร้างและพัฒนาระบบการเชื่อมโยงของเครือข่าย(Network) ที่ปลอดภัย ภายในหน่วย พรอ้ มรบเคลื่อนท่ีเรว็ ของกองทัพบก และหน่วยงานจากเหล่าทัพอืน่ ท่มี าสนบั สนนุ ภารกิจ 1.13.4 เสริมสร้างและพัฒนา ระบบตรวจจับและแจ้งเตือน (Sensor) ให้กับหน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ี เร็วของกองทัพบก รวมถึงการแสดงผลการตรวจจับเหล่านั้นให้เป็นข่าวกรองการรบที่ชัดเจนสำหรับ ผบช.ใน การตกลงใจ 2. การพัฒนาด้านยุทโธปกรณข์ องหน่วย/หน่วยประกอบกำลงั 2.1 ร.31 รอ. ลำดบั สป. ภาพ จำนวน หนว่ ย ขอ้ มูล หมายเหตุ ขาดบรรจุ 1 ปืนซุ่มยงิ ขนาด 0.5 นวิ้ 3 กระบอก บรรจุใน มว.ลว. รอ้ ย.ลว./ฝต. 2 ปนื ซุ่มยงิ ขนาด 7.62 มม. 3 กระบอก บรรจใุ น มว.ลว. ขาดบรรจุ 3 กล้องเล็ง ติด ปลย.ขนาด ร้อย.ลว./ฝต. 5.56 มม.สำหรับ พลแมน่ ปืน 54 กลอ้ ง บรรจุใน ร้อย.อวบ. ขาดบรรจุ 4 ขาทราย ตดิ ปลย.ขนาด ตำแหนง่ หน.ชดุ /พล 5.56 มม.สำหรบั พลแมน่ ปืน แม่นปนื 5 การซ่อมบำรงุ อากาศยาน 54 อนั บรรจใุ น ร้อย.อวบ. ขาดบรรจุ ไร้นักบนิ ขนาดเล็กมาก (Mini UAV) ตำแหนง่ หน.ชุด/พล 6 เลเซอรช์ ้ีเปา้ ติด ปลย. แมน่ ปนื NightVision Triad C1 Class 1 1 ชุด บรรจใุ น มว.ลว. ชำรดุ 7 กลอ้ งกองร้อยชนิดเข็มทศิ รอ้ ย.ลว./ฝต. จากการ แบบ M2 สนบั สนุน ภารกิจ ทบ. 4 ชดุ มว.ลว.(3)/มว.รวป.(1) เพ่มิ เติม 6 ตวั บรรจุใน ร้อย.ค.หนัก, ทดแทน มว.ค.หนัก, ศอย.รอ้ ย.ค.หนัก กล้องกองร้อย ชนดิ เขม็ ทิศ แบบ M1

สรปุ ผลการฝกึ หนว่ ยพร้อมรบเคลื่อนท่เี รว็ ของ ทบ. หน้าที่ 243 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) ลำดับ สป. ภาพ จำนวน หน่วย ขอ้ มูล หมายเหตุ 8 กล้องตรวจการณ์ Vector 21 9 ตวั บรรจุใน ผตน.รอ้ ย.ค.หนกั ทดแทน กล้องตรวจ การณ์ LP 7 2.2 ร.31 พัน.1 รอ. ภาพ จำนวน หนว่ ย ขอ้ มูล หมายเหตุ ลำดับ สป. 54 กลอ้ ง บรรจุใน รอ้ ย.อวบ. ขาดบรรจุ 1 กลอ้ งเล็ง ตดิ ปลย.ขนาด 5.56 มม.สำหรับ พลแมน่ ตำแหนง่ หน.ชุด/พล ปืน แม่นปืน 2 ขาทราย ตดิ ปลย.ขนาด 5.56 มม.สำหรบั พลแม่น 54 อนั บรรจุใน รอ้ ย.อวบ. ขาดบรรจุ ปืน ตำแหน่ง หน.ชดุ /พล 3 ปืนซุ่มยงิ ขนาด 7.62 มม. แมน่ ปืน 4 เรดาร์เฝ้าตรวจภาคพืน้ แบบนำพาด้วยบุคคล 4 กระบอก บรรจุใน รอ้ ย.สสก. ขาดบรรจุ (มว.ลว.(หมู่ ซย.)) จำนวน 4 กระบอก 1 ชุด บรรจุใน รอ้ ย.สสก. ขาดบรรจุ (มว.ลว.) จำนวน 1 ชุด 5 อากาศยานไรน้ ักบนิ ขนาด 1 ชดุ บรรจใุ น ร้อย.สสก. ขาดบรรจุ เล็กมาก (Mini UAV) (มว.ลว.) 6 เปลพลาสติกมว้ นสำหรับ จำนวน 1 ชดุ เคลือ่ นย้ายผ้ปู ่วย 15 ชดุ บรรจเุ พมิ่ เติมใน มว. ขอเพิ่มเติม 7 อาวธุ ตอ่ สรู้ ถถังขนาดเบา สร. ครบนดั 180 กระบอก บรรจุใน ร้อย.อวบ. ขาดบรรจุ 8 อาวธุ นำวิถตี อ่ ส้รู ถถังขนาด และ รอ้ ย.สสก. กลาง บคุ คลนำพา 4 กระบอก บรรจุใน ร้อย.สสก. ขาดบรรจุ 9 เลเซอรช์ ้เี ปา้ ตดิ ปลย. (มว.ลว.) NightVision Triad C1 Class 1 10 ชุด มว.ปล.(9)/มว.ลว.(1) เพม่ิ เติม

สรปุ ผลการฝึกหน่วยพร้อมรบเคลอื่ นที่เรว็ ของ ทบ. หนา้ ท่ี 244 ของ 583 หน้า Rapid Deployment Force (RDF) 2.3 ร.31 พนั .2 รอ. ภาพ จำนวน หนว่ ย ขอ้ มูล หมายเหตุ ลำดับ สป. 54 กล้อง บรรจุใน รอ้ ย.อวบ. ขาดบรรจุ 1 กลอ้ งเลง็ ติด ปลย.ขนาด 5.56 มม.สำหรบั พลแม่น ตำแหนง่ หน.ชดุ /พล ปืน แมน่ ปนื 2 ขาทราย ติด ปลย.ขนาด 5.56 มม.สำหรับ พลแม่น 54 อัน บรรจุใน รอ้ ย.อวบ. ขาดบรรจุ ปืน ตำแหน่ง หน.ชดุ /พล 3 ปนื ซุม่ ยิง ขนาด 7.62 มม. แม่นปนื 4 กระบอก บรรจุใน รอ้ ย.สสก. ขาดบรรจุ (มว.ลว.(หมู่ ซย.)) จำนวน 4 กระบอก 4 เรดาร์เฝ้าตรวจภาคพ้ืน 1 ชดุ บรรจใุ น ร้อย.สสก. ขาดบรรจุ แบบนำพาด้วยบุคคล (มว.ลว.) จำนวน 1 ชุด 5 อากาศยานไรน้ ักบินขนาด 1 ชดุ บรรจใุ น ร้อย.สสก. ขาดบรรจุ เล็กมาก (Mini UAV) (มว.ลว.) 6 เปลพลาสติกมว้ นสำหรบั จำนวน 1 ชุด เคลื่อนย้ายผู้ปว่ ย 15 ชุด บรรจเุ พมิ่ เตมิ ใน มว. ขอเพ่ิมเติม สร. 7 อาวุธตอ่ สูร้ ถถังขนาดเบา 180 กระบอก บรรจใุ น รอ้ ย.อวบ. ขาดบรรจุ ครบนัด และ รอ้ ย.สสก. 8 อาวธุ นำวิถีตอ่ สรู้ ถถังขนาด 4 กระบอก บรรจุใน ร้อย.สสก. ขาดบรรจุ กลาง บคุ คลนำพา (มว.ลว.) 9 เลเซอร์ช้เี ปา้ ตดิ ปลย. 10 ชดุ มว.ปล.(9)/มว.ลว.(1) เพมิ่ เติม NightVision Triad C1 Class 1

สรปุ ผลการฝึกหน่วยพรอ้ มรบเคลอ่ื นที่เรว็ ของ ทบ. หนา้ ที่ 245 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 2.4 ร.31 พนั .3 รอ. ภาพ จำนวน หนว่ ย ขอ้ มูล หมายเหตุ ลำดับ สป. 54 กล้อง บรรจุใน ร้อย.อวบ. ขาดบรรจุ 1 กลอ้ งเลง็ ติด ปลย.ขนาด 5.56 มม.สำหรบั พลแม่น ตำแหนง่ หน.ชุด/พล ปืน แมน่ ปนื 2 ขาทราย ติด ปลย.ขนาด 5.56 มม.สำหรับ พลแมน่ 54 อัน บรรจใุ น ร้อย.อวบ. ขาดบรรจุ ปืน ตำแหน่ง หน.ชุด/พล 3 ปนื ซุม่ ยิง ขนาด 7.62 มม. แม่นปืน 4 กระบอก บรรจุใน รอ้ ย.สสก. ขาดบรรจุ (มว.ลว.(หมู่ ซย.)) จำนวน 4 กระบอก 4 เรดาร์เฝ้าตรวจภาคพ้ืน 1 ชดุ บรรจใุ น ร้อย.สสก. ขาดบรรจุ แบบนำพาด้วยบุคคล (มว.ลว.) จำนวน 1 ชดุ 5 อากาศยานไรน้ ักบนิ ขนาด 1 ชดุ บรรจุใน ร้อย.สสก. ขาดบรรจุ เล็กมาก (Mini UAV) (มว.ลว.) 6 เปลพลาสติกมว้ นสำหรบั จำนวน 1 ชุด เคลื่อนย้ายผู้ปว่ ย 15 ชุด บรรจเุ พ่ิมเตมิ ใน มว. ขอเพมิ่ เติม สร. 7 อาวุธตอ่ สูร้ ถถังขนาดเบา 180 กระบอก บรรจใุ น ร้อย.อวบ. ขาดบรรจุ ครบนัด และ ร้อย.สสก. 8 อาวธุ นำวิถีตอ่ สรู้ ถถังขนาด 4 กระบอก บรรจใุ น รอ้ ย.สสก. ขาดบรรจุ กลาง บคุ คลนำพา (มว.ลว.) 9 เลเซอร์ช้เี ปา้ ตดิ ปลย. 10 ชดุ มว.ปล.(9)/มว.ลว.(1) เพ่มิ เติม NightVision Triad C1 Class 1

สรปุ ผลการฝกึ หน่วยพร้อมรบเคลอ่ื นที่เร็วของ ทบ. หนา้ ที่ 246 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) 2.5 ป.1 พนั .31 รอ. ภาพ จำนวน หน่วย ข้อมูล หมายเหตุ ลำดับ สป. 22 ชุด เพอื่ ใช้เชื่อมต่อระบบ 1 ชดุ วิทยุ RT-9001 ควบคมุ การยิงใหม่ (IFCS+) สำหรับปนื ใหญ่ แบบ M119 2.6 ร้อย.ม.ลว. : ไม่มี ภาพ จำนวน หนว่ ย ข้อมูล หมายเหตุ 2.7 รอ้ ย.ช.สนาม 15 ชุด เป็นวิทยุส่ือสาร ปัจจบุ นั ยัง ลำดับ สป. 1 วิทยุ AN/PRC-730 Manpad ทใี่ ช้ใน ไดร้ บั ไม่ หนว่ ย RDF สามารถ ครบตาม ใชโ้ หมดความถ่ี ยอดใน เข้ารหัส หรอื ความถ่ี อจย. แบบก้าวกระโดดได้ ยอด 20 เคร่อื ง ไดร้ ับเพียง 5 เคร่ือง 2.8 ร้อย.ปตอ.(ผสม) ภาพ จำนวน หนว่ ย ขอ้ มูล หมายเหตุ ลำดับ สป. 15 ชดุ เปน็ วทิ ยสุ อื่ สาร ปจั จบุ นั ยงั 1 วิทยุ AN/PRC-730 Manpad ท่ีใช้ใน ได้รับไม่ครบ หน่วย RDF สามารถ ตามยอดใน อฉก. ใช้โหมดความถี่ ยอด 24 เข้ารหสั หรอื ความถ่ี เครอ่ื ง แบบก้าวกระโดดได้ ไดร้ ับเพียง 9 เครอ่ื ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook