Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 000 สรุปการฝึก RDF 65 (รวม)

000 สรุปการฝึก RDF 65 (รวม)

Published by godskolak, 2022-06-22 13:16:03

Description: 000 สรุปการฝึก RDF 65 (รวม)

Search

Read the Text Version

(เพอ่ื การฝกึ ) ชุดท่ี ของ ชุด หนา้ ๓ ของ ๓๑ หนา้ อนุผนวก ๑ (วิเคราะห์พ้ืนที่ปฏิบตั ิการ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพทิ กั ษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ฉ) ความกดอากาศ : สรุปลกั ษณะอากาศและรายการแสงสวา่ งประจำเดอื นของ ขว.ทบ. ช) ความชื้นสัมพัทธ์ ในฤดูหนาวเป็นระยะที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ประเทศไทยอากาศโดยทั่วไปจะแห้งแล้งและหนาวเย็นความช้ืนสัมพัทธ์จะมีค่าสูงในตอนเช้าและจะลด ตำ่ ลงในห้วงสายถึงบา่ ย และเม่อื เปลี่ยนเข้าสู่ฤดูรอ้ นอากาศจะรอ้ นอบอ้าว ความช้นื สัมพัทธ์จะตำ่ ลงเป็น ห้วงท่คี วามชืน้ สมั พัทธ์จะมีค่าต่ำทสี่ ุดและในห้วงฤดูฝนจะมีค่าความช้นื สมั พัทธม์ ากทส่ี ดุ ซ) รายงานแสงสวา่ ง : สรุปลกั ษณะอากาศและรายการแสงสว่างประจำเดือนของ ขว.ทบ ข. ลกั ษณะภูมิประเทศ อำเภอบ้านโคก มีพ้ืนท่ี ๑,๐๕๕,๙๑๑ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๖,๕๙๙,๔๓๓ ไร่ อยู่ บริเวณท่ีราบลุ่มอยู่ตอนกลาง ล้อมรอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อนทั้งส่ีด้าน โดยมีทิวเขาทางด้านตะวันออก มีความสูงเกินกว่า ๗๐๐ เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางเป็นแนวพรมแดนก้ันระหว่างประเทศไทยกับ สาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาว มภี เู ขาทส่ี ำคญั คือ ดอยสูงเม่น สูง ๖๕๙ เมตรจากระดับนำ้ ทะเล ปานกลางอยู่ทางด้านตะวันออกของตำบลบ้านโคก ดอยหม่อนกว่าง สูง ๗๑๑ เมตรจากระดับน้ำทะเล ปานกลาง อยู่ทางตอนใต้ของตำบลม่วงเจ็ดต้น บริเวณท่ีราบลุ่มน้ำมีความสูงระดับ ๔๐๐ เมตรจาก ระดับนำ้ ทะเลปานกลาง เป็นที่ตง้ั ของชมุ ชนอำเภอบ้านโคก มีอาณาเขตติดตอ่ ดงั น้ี - ดา้ นทิศตะวันออกและตะวนั ตก ทศิ เหนอื ตดิ กบั สปป.ลาว.และ อ.นาน้อย จว.นา่ น - ทิศตะวันออกติดกบั บ.ผาแก้ว เมอื งปากลาย แขวงไชยบรุ ี สปป.ลาว - ทิศตะวันตกตดิ กับ บ.ห้วยกา้ นเหลือง อ.ฟากท่า และ อ.นาหมื่น จว.น่าน - ทิศใตต้ ิดกบั ต.เดน่ เหล็ก อ.นำ้ ปาด โดยมชี ่องทางทสี่ ำคญั ดังน.้ี - (เพื่อการฝกึ )

(เพื่อการฝกึ ) ชุดท่ี ของ ชดุ หนา้ ๔ ของ ๓๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (วเิ คราะห์พ้ืนที่ปฏิบตั กิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพิทกั ษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ -ช่องทางกว่ิ นกแซว (QA ๑๙๘๓๐๒) ต.บอ่ เบี้ย อ.บา้ นโคก จว.อุตรดติ ถ์ อยู่หา่ งจาก อ.บา้ นโคก ประมาณ ๕๔ กม. และอยู่ห่างจาก บ.ห้วยยาง ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๔ กม. และจาก ช่องทางกิ่วนกแซว – บ.สว่าง ระยะทางประมาณ ๕ กม. เส้นทางกว้างประมาณ ๒ เมตร เป็นเส้นทาง เดินเท้าเป็นเส้นทางเข้า-ออกตามธรรมชาติ ลัดเลาะไปตามสันเขา สองข้างทางเป็นป่าสลับกับไร่ของ ราษฎร ไมไ่ ด้รับอนุมตั ใิ หเ้ ปดิ เปน็ ชอ่ งทางเข้า-ออกชายแดน ราษฎรไทยมักจะใชพ้ ้ืนทีเ่ ปน็ ทเ่ี ลี้ยงวัว,ควาย ตามสันเขา และจะมีผู้ลักลอบใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบนำ รถจักรยานยนต์ , รถยนต์ ออก ราชอาณาจักร (เพ่อื การฝึก)

(เพอ่ื การฝกึ ) ชดุ ท่ี ของ ชดุ หนา้ ๕ ของ ๓๑ หน้า อนุผนวก ๑ (วิเคราะห์พ้ืนท่ีปฏบิ ัติการ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพทิ ักษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ - ช่องทางบ้านสว่างจุดที่ ๑ (QA ๒๐๖๓๐๐) ต.บ่อเบ้ีย อ.บ้านโคก จว.อุตรดิตถ์ อยู่ห่างจาก อ.บ้านโคก ประมาณ ๕๔ กม. และอยู่หา่ งจาก บ.ห้วยยาง ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๓.๕ กม. ห่างจากช่องทางก่ิวนกแซวประมาณ ๑ กม. และจากช่องทางบ้านสว่าง – บ.สว่าง ระยะทาง ประมาณ ๔ กม. เส้นทางกว้างประมาณ ๒ เมตร เป็นเส้นทางตามธรรมชาติที่รถยนต์ขับเคล่ือน ๔ ล้อ สามารถเข้า-ออก ลัดเลาะไปตามสันเขาได้ สองข้างทางเป็นป่าสลับกับไร่ของราษฎร ไม่ได้รับอนุมัติให้ เปิดเป็นช่องทางเข้า-ออกชายแดน ราษฎรไทยมักจะใช้พื้นท่ีเป็นท่ีเล้ียงวัว,ควาย ตามสันเขา และจะมีผู้ ลกั ลอบใช้เปน็ เสน้ ทางในการลกั ลอบนำ รถจกั รยานยนต์ , รถยนต์ ออกราชอาณาจกั ร (เพ่ือการฝึก)

(เพือ่ การฝกึ ) ชดุ ที่ ของ ชุด หน้า ๖ ของ ๓๑ หน้า อนุผนวก ๑ (วเิ คราะหพ์ ้ืนท่ีปฏบิ ตั กิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพทิ ักษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ -ช่องทางบ้านสว่างจุดท่ี ๒ (QA ๒๐๘๓๐๐) ต.บ่อเบี้ย อ.บ้านโคก จว.อุตรดิตถ์ อยู่ห่างจาก อ.บ้านโคก ประมาณ ๕๔ กม. และอยู่หา่ งจาก บ.ห้วยยาง ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๓.๕ กม. ห่างจากช่องทางบ้านสว่างจุดที่ ๑ ประมาณ ๒๐๐ ม. และจากช่องทางบ้านสว่างจุดท่ี ๒ – บ.สว่าง ระยะทางประมาณ ๔ กม. เส้นทางกวา้ งประมาณ ๒ เมตร เป็นเสน้ ทางตามธรรมชาติที่รถยนตข์ ับเคล่ือน ๔ ล้อ สามารถเข้า-ออก ลัดเลาะไปตามสันเขาได้ สองข้างทางเป็นป่าสลับกับไร่ของราษฎร ไม่ได้รับ อนุมัติให้เปิดเป็นช่องทางเข้า-ออกชายแดน ราษฎรไทยมักจะใช้พื้นท่ีเป็นที่เลี้ยงวัว,ควาย ตามสันเขา และจะมีผู้ลักลอบใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบนำ รถจักรยานยนต์ , รถยนต์ ออกราชอาณาจักร ปจั จุบันไดม้ กี ารนำหลักลายมาปิดกนั้ เสน้ ทางเพอ่ื ป้องกันไม่ให้รถยนตผ์ ่านเขา้ -ออกได้ (เพอ่ื การฝึก)

(เพอ่ื การฝกึ ) ชุดท่ี ของ ชุด หนา้ ๗ ของ ๓๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (วิเคราะหพ์ ้ืนท่ีปฏิบัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพิทักษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ - ช่องทางมหาราช (QA ๒๖๑๒๘๗) ต.บ่อเบ้ีย อ.บ้านโคก จว.อุตรดิตถ์ อยู่หา่ งจาก อ.บ้านโคก ประมาณ ๕๓ กม. มีถนนลาดยางกว้างประมาณ ๘ เมตร สามารถเคล่ือนท่ีด้วยขบวนยานยนต์ล้อและ สายพานได้ เป็นจุดผ่อนปรนชั่วคราวเพื่อให้ราษฎรทั้งสองประเทศผ่านเข้า-ออก และเปิดค้าขายกัน ใน วันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา ๐๖๐๐ – ๑๘๐๐ สินค้าฝั่ง สปป.ลาว จะเป็นสนิ คา้ การเกษตร ส่วนสินคา้ ฝงั่ ไทย เป็น สินค้าอุปโภค และบริโภค เป็นส่วนใหญ่ โดยมี จนท.ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นหน่วยงานท่ี รบั ผิดชอบ การค้าขายในพ้ืนที่แต่ละสัปดาห์วงเงินไม่เกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ปัจจุบันช่องทางจากช่อง มหาราช -บ้านใหม่,บ้านกลางและบ้านสว่าง เป็นถนนลูกรังกว้างประมาณ ๖ เมตร ระยะทาง ๓ กม. และจาก บา้ นใหม่ , บา้ นกลาง และบ้านสว่าง – เมอื งทุ่งมีไชย ระยะทาง ๗ กม. เป็นถนนลาดยางกว้าง ประมาณ ๘ เมตร ใชเ้ วลาประมาณ ๓๐ นาที (เพือ่ การฝึก)

(เพือ่ การฝึก) ชดุ ที่ ของ ชดุ หน้า ๘ ของ ๓๑ หน้า อนผุ นวก ๑ (วเิ คราะหพ์ ้ืนท่ีปฏบิ ัติการ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพทิ กั ษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ - ช่องทางบ้านใหม่ (QA ๒๒๘๒๙๒) ต.บ่อเบย้ี อ.บ้านโคก จว.อตุ รดิตถ์ อยู่ห่างจาก อ.บา้ นโคก ประมาณ ๕๔ กม. และอยู่ห่างจาก บ.ห้วยยาง ไปทางทศิ ตะวันออกเฉยี งเหนือประมาณ ๔ กม. และจาก ช่องทางห้วยยาง – บ.ใหม่ ระยะทางประมาณ ๔ กม. กว้างประมาณ ๒ เมตร เป็นช่องทางเดินเท้า ลกั ษณะคดเคี้ยวไปตามสนั เขา - ช่องหมาหลง (QA๒๖๕๒๘๔) เป็นเส้นทางเดินเท้าที่ราษฎรท้ังสองประเทศติดต่อ แลกเปลี่ยนสินค้ากัน แตป่ จั จุบนั ไดป้ ิดเส้นทางแลว้ หนั มาใช้ชอ่ งทางมหาราชแทนเพราะสะดวกกวา่ (เพื่อการฝกึ )

(เพอื่ การฝกึ ) ชดุ ท่ี ของ ชดุ หน้า ๙ ของ ๓๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (วิเคราะหพ์ ื้นที่ปฏบิ ตั กิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพิทักษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ -ช่องห้วยเดื่อ (QA๒๖๖๒๖๕) เป็นเส้นทางเดินเท้าท่ีราษฎรทั้งสองประเทศ เข้ามาหาของป่า และ ลา่ สัตว์ตลอดจนนำของปา่ ออกมาขายกันระหวา่ งราษฎรทง้ั สองประเทศ - ช่องทางหว้ ยไม้แดง ( QA ๒๖๐๐๔๐ ) บ.ม่วงเจ็ดตน้ ต.ม่วงเจ็ดตน้ อ.บ้านโคก จว.อตุ รดิตถ์ ติดตอ่ กบั บา้ นบม่ เลา เมอื งปากลาย สปป.ลาว เปน็ ช่องทางธรรมชาติ ทีป่ ระชาชนทง้ั สอง ฝ่ายใชป้ ระโยชน์ ไปมาหาสกู่ ันมาเป็นเวลาหลายปแี ลว้ ระยะทางจาก บ.มว่ งเจด็ ต้น ถงึ ช่องทาง ประมาณ ๖ กม. จากชอ่ งทางถึง บ้านบม่ เลา ประมาณ ๗ กม. (เพ่อื การฝกึ )

(เพอ่ื การฝึก) ชุดที่ ของ ชดุ หน้า ๑๐ ของ ๓๑ หน้า อนผุ นวก ๑ (วิเคราะห์พื้นที่ปฏิบัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพทิ ักษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ - ช่องกกกะบก (QA๒๗๓๐๕๔) บ.วังสัมพันธ์ ต.ม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก จว.อุตรดิตถ์ เป็น เส้นทางหลบหนี เข้าเมืองและทำการคา้ ขายส่ิงผิดกฎหมาย - จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ (QA ๒๙๒๐๒๗) บ.ม่วงเจ็ดต้น ต.ม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก จว.อุตรดิตถ์ หา่ งจากบา้ นโคกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ ๑๖ กม. ตรงข้ามกับ บ.ผาแกว้ เมืองปากลาย แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว เป็นช่องทางประเภท จุดผ่านแดนถาวร ไทย-ลาว เปิดให้บริการผ่านแดนได้ ทุกวัน ในเวลา ๐๖๐๐ – ๒๐๐๐ น. ซ่ึงสามารถนำยานพาหนะท่ีมีผู้ถือกรรมสิทธ์ิผ่านแดนได้ทุกประเภท รวมถึงบุคคลท่ีมีพาสปอร์ต หรือสามารถทำหนังสือผ่านแดนช่ัวคราวได้ ๓ วัน ๒ คืน หรือนำสินค้า จะเป็น สนิ ค้าการเกษตร , สินค้าอุปโภค และบริโภค เป็นสว่ นใหญ่ นำส่งไปค้าขายส่งไปยัง สปป.ลาว ได้ โดยมี ศุลกากรเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบสินค้าและยานพาหนะ และ สนง.ตรวจคนเข้าเมือง เป็น ผูร้ ับผิดชอบในการตรวจสอบการผา่ นแดนของบคุ คล สภาพเส้นทางสายภดู ู่ – ปากลาย ประมาณ ๓๘ ก.ม. กว้าง ๖ เมตร เป็นถนนลาดยางพื้นแข็ง (เส้นทางหมายเลข ๔ ปากลาย – แก่นท้าว แขวงไชยะบุรี) ขบวนยานยนต์และสายพานสามารถเคล่อื นท่ีผา่ นได้ (เพื่อการฝึก)

(เพือ่ การฝึก) ชุดที่ ของ ชดุ หน้า ๑๑ ของ ๓๑ หน้า อนผุ นวก ๑ (วเิ คราะห์พื้นท่ีปฏบิ ตั กิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพทิ กั ษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ สถานที ่ีบรเิ วณจดุ ผา่ นแดนถาวรภูดู่ (QA ๒๙๒๐๒๗) (เพอื่ การฝึก)

(เพอ่ื การฝึก) ชดุ ท่ี ของ ชดุ หน้า ๑๒ ของ ๓๑ หน้า อนุผนวก ๑ (วเิ คราะหพ์ ื้นที่ปฏิบัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพทิ ักษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ บริเวณทางแยก ต.ม่วงเจด็ ต้น เส้นทางเข้าไปจุดผา่ นแดนถาวรภูดู่ และสภาพเส้นทาง - ชอ่ งทางภทู งุ่ แล้ง (QV ๓๑๒๙๘๗) บ.มว่ งเจ็ดต้น หมู่ ๒ ต.มว่ งเจด็ ตน้ อ.บ้านโคก จว.อตุ รดติ ถ์ ระยะทางจาก บ.ม่วงเจ็ดต้น – ช่องทางภูทุ่งแล้งประมาณ ๙ กม. จากช่องทางภูทุ่งแล้ง – บ.ขอนแก่น ประมาณ ๘ ก.ม. เป็นช่องทางเดินเท้า ลกั ษณะภูมิประเทศผ่านภูเขาสงู ชัน ภูทงุ่ แลง้ ขบวนยานยนตแ์ ละ สายพานไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านได้ อยู่ตรงข้ามกับ บ.ขอนแก่น , บ.น้ำยาง และ บ.ปอนข้าม เมอื งปากลาย แขวงไชยะบรุ ี สปป.ลาว (เพื่อการฝกึ )

(เพ่อื การฝึก) ชดุ ที่ ของ ชดุ หนา้ ๑๓ ของ ๓๑ หนา้ อนุผนวก ๑ (วิเคราะห์พื้นท่ีปฏบิ ตั ิการ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพทิ ักษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ - ช่องทางภูฮี (QV๒๗๗๙๔๗) บ.น้ำแพ ต.บ้านโคก อ.บ้านโคก จว.อุตรดิตถ์ ตรงข้ามกับ บ.ห้วยบู ฮา เมืองแก่นท้าว แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ระยะทางจาก บ.น้ำแพ–ช่องทางภูฮีประมาณ ๓ กม. จาก ช่องทางภูฮี – บ.ห้วยบูฮาประมาณ ๘ กม. เป็นเส้นทางเดินเท้า สองข้างทางเป็นไร่ของราษฏร ไม่ได้รับ อนุมัติให้เปิดเป็นช่องทางเข้า–ออกชายแดน ราษฎรไทยและ สปป.ลาว มักจะใช้เป็นเส้นทางลักลอบไปมา หาส่กู นั ในลกั ษณะญาติ - ช่องทางห้วยคร่ัง (QV๒๕๗๙๑๖) บ.ห้วยคร่ัง ต.บ้านโคก อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ตรงข้ามกับ บ.วังปลา เมืองแก่นท้าว แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ระยะทาง จาก บ.ห้วยคร่ัง – ช่องทางห้วยครั่ง ประมาณ ๖ กม. จาก ช่องทางห้วยครั่ง – บ.วังปลาประมาณ ๑๑ กม. ถนนกว้างประมาณ ๓ เมตร ลกั ษณะเส้นทางเป็นเส้นทางเดินเท้า สองข้างทางเป็นปา่ เขา ไม่ได้รบั อนุมัติให้เปิดเป็นช่องทางเข้า-ออก ชายแดน ราษฎรไทยและ สปป.ลาว มักจะใช้เป็นทางลักลอบไปมาหาสู่กนั ในลักษณะญาติ (เพือ่ การฝกึ )

(เพอ่ื การฝกึ ) ชุดที่ ของ ชดุ หน้า ๑๔ ของ ๓๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (วิเคราะหพ์ ื้นที่ปฏิบัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพิทกั ษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ -ช่องทางหว้ ยต่าง ( QV๑๙๖๘๓๐ ) บ.โคกใน ต.บ้านโคก อ.บ้านโคก จว.อตุ รดิตถ์ ตรงข้ามกับ บ.ขอนแกน่ และ บ.หนองปะจดี เมอื งบอ่ แตน แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว เปน็ ช่องทางประเภทจดุ ผ่อน ปรนชายแดนไทย – ลาว ชั่วคราว ได้รับอนมุ ัตใิ หเ้ ปดิ เมอ่ื ๑๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๘ ตามประกาศจังหวดั อุตรดิตถ์ โดยความเห็นชอบของกระทรวงมหาดไทย เปิดให้ทำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าได้ สัปดาห์ละ ๑ วัน ในวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา ๐๖๐๐ – ๑๘๐๐ สินค้าจะเป็นสินค้าการเกษตร , สินค้าอุปโภค และบริโภค เป็นส่วนใหญ่ การค้าขายในวงเงิน ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท มีราษฎรไทย- สปป.ลาวเข้าทำการค้าขายแลกเปล่ียนสินค้า ประมาณ ๑๐๐ คน ระยะทางจาก อ.บ้านโคก – ช่องทางห้วยต่างประมาณ ๑๒ กม. สภาพเสน้ ทางเป็นทางลาดยาง กวา้ ง ๖ เมตร จากช่องทางห้วยต่าง – บ.ขอนแก่น เมอื งบอ่ แตนฯ ระยะทางประมาณ ๖ กม. เดิมเปน็ ทางเดนิ เทา้ ปัจจุบันไดป้ รับปรุงสภาพ เป็นเส้นทางลูกรงั อัดแน่น กวา้ ง ๖ เมตร ยานยนต์สามารถเคล่ือนท่ีผ่านเข้า-ออกได้ในฤดูแล้ง ในฤดูฝน จะเป็นอุปสรรคในการเคล่ือนท่ี (เพอื่ การฝกึ )

(เพ่อื การฝกึ ) ชุดท่ี ของ ชุด หน้า ๑๕ ของ ๓๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (วิเคราะห์พ้ืนที่ปฏบิ ตั กิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพิทกั ษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ช่องทางหว้ ยต่าง พกิ ดั QV๑๙๖๘๓๐ หลกั เขตประเทศไทย หลงั เขต สปป.ลาว หลกั เขตแนวชายแดนที่ ๕ – ๒๖ ชอ่ งทางห้วยต่าง พกิ ัด QV ๑๔๒๗๗๕ (เพือ่ การฝึก)

(เพ่ือการฝึก) ชุดที่ ของ ชดุ หนา้ ๑๖ ของ ๓๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (วเิ คราะหพ์ ื้นท่ีปฏิบัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพิทกั ษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ สภาพเสน้ ทางจาก ต.บา้ นโคก - ชอ่ งทางหว้ ยต่าง ฐานขุนศกึ ตชด.๓๑๗๒ และ หน่วยพทิ กั ษ์อทุ ยานแหง่ ชาติ ภ.สด.๔ (ห้วยตา่ ง) - ช่องทางห้วยไคร้ (QV๑๙๐๘๒๗) บ.ห้วยไคร้ ต.นาขุม อ.บ้านโคก จว.อุตรดิตถ์ ตรงข้ามกับ บ.ขอนแก่น และ บ.หนองปะจีด เมืองบ่อแตน แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ระยะทางจาก บ.ห้วยไคร้ – ช่องทางห้วยไคร้ ประมาณ ๑๑ กม. จากช่องทางห้วยไคร้ – บ.ขอนแก่นประมาณ ๖ กม. เป็นเส้นทาง เดินเท้าเป็นเส้นทางเข้า-ออกตามธรรมชาติ สองข้างทางเป็นไร่ของราษฎร ไม่ได้รับอนุมัติให้เปิดเป็น ช่องทางเข้า-ออกชายแดน ราษฎรไทยและ สปป.ลาว มักจะใช้เป็นเส้นทางลักลอบไปมาหาสู่กันใน ลักษณะญาติ และใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบนำ รถจักรยานยนต์ , รถยนต์ ออกราชอาณาจัก ร ปัจจุบันได้มกี ารทำประตูเหล็กปิดก้ันเสน้ ทาง เพ่ือปอ้ งกันการลกั ลอบนำรถออกนอกราชอาณาจกั ร (เพื่อการฝึก)

(เพ่อื การฝกึ ) ชดุ ที่ ของ ชุด หน้า ๑๗ ของ ๓๑ หนา้ อนุผนวก ๑ (วิเคราะหพ์ ื้นที่ปฏบิ ตั ิการ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพิทักษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ฐานชา้ งพลาย มว.ตชด.๓๑๗๓ และเส้นทางเขา้ ชอ่ งทางห้วยไคร้ -ชอ่ งทางห้วยน้ำปนู ( QV๑๔๖๗๙๙ ) บ.มว่ งชมุ ต.นาขุม อ.บ้านโคก จว.อตุ รดิตถ์ ตรงข้ามกับ บ.หนองปะจีด เมืองบ่อแตน แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ระยะทางจาก บ.ม่วงชมุ – ช่องทางห้วยน้ำปูน ประมาณ ๑๑ กม. จากช่องทางห้วยน้ำปูน – บ.หนองปะจีด ประมาณ ๕ กม. เป็นเส้นทางเดินเท้า ลักษณะเป็นเส้นทาง เข้า-ออก ตามธรรมชาติ สองข้างทางเป็นป่าและเขา ไม่ได้รับอนุมัติให้เปิดเป็น ช่องทางเข้า-ออกชายแดน ราษฎรไทยและ สปป.ลาว มักจะใช้เป็นเส้นทางลักลอบไปมาหาสู่กันใน ลักษณะญาติ และใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบนำ รถจักรยานยนต์ , รถยนต์ ออกนอกราชอาณาจักร การลักลอบลำเลยี งยาเสพตดิ เข้า-ออก ประเทศ (เพือ่ การฝกึ )

(เพื่อการฝึก) ชดุ ท่ี ของ ชดุ หน้า ๑๘ ของ ๓๑ หน้า อนุผนวก ๑ (วเิ คราะหพ์ ้ืนท่ีปฏบิ ตั ิการ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพทิ กั ษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ๑) ทส่ี งู ตำ่ และระบบทางนำ้ ไหล ก) ท่ีสงู ต่ำ (๑) ดอยขุนไผ่ ความสูงประมาณ ๑,๑๐๐ เมตร เปน็ เทอื กเขาทอดตดิ ต่อกบั ดอยสามเส้า ทอดเปน็ แนวยาวทางทิศตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ของ อ.บา้ นโคก เหนือบ้านบอ่ เบ้ยี ,บา้ นหว้ ยยาง ,บา้ นหว้ ยไผ่ (๒) ภหู ลกั หมนื่ ความสูง ๑,๐๕๓ เมตร เป็นเทอื กเขาตดิ ต่อกับ อ.นาน้อย ทอดแนวยาว ทางทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื (๓) ภูป่าจกิ เปน็ เทือกเขาทอดยาวตามแนวชายแดนอยูท่ างทศิ ตะวันออกของบา้ นบอ่ เบ้ีย ,บา้ นหว้ ยไผ่ ,บา้ นภูตา่ ง ทสี่ ำคญั คอื เนนิ ๘๑๙ พิกดั QA ๒๘๖๒๗๑ และเนนิ ๙๕๔ พกิ ดั QA ๓๐๕๒๗๔ (๔) ภูกระบก เปน็ เทอื กเขาทอดยาวกบั ภปู ่าจกิ ทอดยาวตามแนวชายแดนอยทู่ างทศิ ตะวันออกของบ้านปางคอม และทางทศิ เหนือ บา้ นวังสมั พันธ์ (๕) ภดู ู่ เป็นเทือกเขาทอดยาวตามแนวชายแดน อยู่ทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื บา้ นมว่ งเจ็ดต้น และบ้านวงั สมั พันธ์ (๖) ภูฮี เปน็ เทอื กเขาทอดยาวตามแนวชายแดน อยู่ทางทศิ ตะวนั ออก บา้ นนำ้ แพร (๗) ดอยสงู เมน่ เป็นเทือกเขาสงู อยทู่ างทศิ เหนอื ของ อ.บา้ นโคก ข) ระบบทางน้ำไหล ๑) แม่น้ำปาด เป็นแม่น้ำสายหลัก และใหญ่ที่สุดในพ้ืนที่มีต้นกำเนิดจากดอยภูทุ่งแล้ง ซ่ึงเป็นสันแนวชายแดนไทย – สปป.ลาว ไหลจากทางด้านทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตกผ่าน บ้านม่วงเจ็ดต้น, อ.บ้านโคก และอำเภอฟากท่า ความกว้างของแม่น้ำประมาณ ๖ – ๑๐ เมตร ลกึ ประมาณ ๐.๕ – ๒ เมตร เปน็ หนิ และทราย ราษฎรใชป้ ระโยชน์ในการเกษตรมีน้ำใชต้ ลอดปี ๒) หว้ ยไผ่ มตี ้นกำเนดิ ในพ้ืนที่ บ.หว้ ยยาง ต.บ่อเบี้ย ไหลมารวมกบั ลำหว้ ยเลา บรเิ วณ บ.หว้ ยไผ่ ๓) หว้ ยเลา มตี น้ กำเนดิ ในทอ้ งท่ี บ.บอ่ เบยี้ ต.บ่อเบ้ยี มีน้ำไหลตลอดปี (เพอ่ื การฝึก)

(เพ่อื การฝกึ ) ชุดที่ ของ ชดุ หน้า ๑๙ ของ ๓๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (วเิ คราะห์พ้ืนที่ปฏบิ ัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพิทักษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ๔) ในพนื้ ทป่ี ฏบิ ตั กิ าร ยังมีอา่ งเกบ็ นำ้ ท่สี ำคญั คอื อ่างเกบ็ นำ้ บา้ นนำ้ แพ ( QV๒๓๘๙๕๑ ) , อา่ งเกบ็ นำ้ ปาด (QV๒๖๕๐๐๖) , อา่ งเกบ็ นำ้ แม่ลกู ออ่ น (QV๒๐๑๙๔๗) , อา่ งเกบ็ นำ้ สุม (QA๑๘๔๙๗๑) , อา่ งเกบ็ นำ้ ห้วยคอหกั (QV๒๑๔๐๑๐) , อา่ งเก็บนำ้ หว้ ยเฮย้ี (QV๒๖๘๐๒๐) , อา่ งเกบ็ น้ำห้วยยาง (QA ๒๒๕๒๘๘) อ่างเกบ็ นำ้ ห้วยเฮย้ี (QV๒๖๘๐๒๐) ต.มว่ งเจด็ ตน้ อ.บา้ นโคก จว.อตุ รดติ ถ์ อา่ งเกบ็ นำ้ ห้วยยาง (QA ๒๒๕๒๘๘) ต.บอ่ เบี้ย อ.บ้านโคก จว.อ.ต. (เพ่ือการฝกึ )

(เพอ่ื การฝึก) ชดุ ที่ ของ ชุด หน้า ๒๐ ของ ๓๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (วิเคราะห์พื้นท่ีปฏบิ ัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพิทกั ษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ๒) ลักษณะพืชพนั ธุ์ไม้ ลักษณะทั่วไปของสภาพป่า อ.บ้านโคก เปน็ ป่าไม้ เบญจพรรณ มีสภาพ ป่ารกทึบสลับมากกับป่าโปร่ง ป่าไม้ถูกทำลายเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทำการเกษตรกรรม การทำไร่เล่ือนลอย ของคนในพื้นท่ี ที่ราบลุ่มใกล้ลำน้ำต่าง ๆ เป็นท่ีเพาะปลูก เช่น ทำนา , ข้าวโพด , ถั่วเหลือง , มะขาม , สับปะรด , มะม่วง , ลำใย , กลว้ ย , สวนสกั และสวนยางพารา ๓) ลักษณะผิวดิน สภาพผิวดินในพื้นที่ปฏิบัติการ บริเวณที่ราบลุ่มใกล้ลำน้ำต่าง ๆ เป็นดินกรวด ลกั ษณะผวิ ดนิ หยาบปานกลาง ใช้ในการจราจรได้เวน้ ระหวา่ งฝนตกหนักและหลงั ฝนตกใหม่ ๆ ในฤดูแล้ง พื้นดินแข็ง สภาพผวิ ดินบริเวณเนนิ เขาและเขาสงู เป็นดนิ ลูกรังและดินแดงลักษณะ ผิวดินหยาบใชก้ ารจราจร ได้เว้นห้วงเวลาฝนตกหนกั จะเป็นอปุ สรรคต่อการเคลอื่ นย้ายด้วยยานพาหนะได้ ๔) ลักษณะส่งิ ปลูกสร้าง ก) อาคารสง่ิ ปลูกสร้าง ทที่ ำการของสถานทีร่ าชการสร้างในลกั ษณะมั่นคงแข็งแรงด้วยอิฐหรือปูน ลักษณะหมู่บ้านปลูกรวมกันเป็นกลุ่ม ๆ ในพ้ืนท่ีราบ ใกล้บริเวณแหล่งน้ำลักษณะการปลูกสร้างจะเป็น บ้านถาวร และก่ึงถาวร ทั้งสองช้ันและชั้นเดียวหลังคามุงด้วยกระเบ้ืองหรอื สังกะสี ฝาผนังจะใช้อิฐผสม ซเี มนตห์ รอื ไม้ ท่ีวา่ การอำเภอบา้ นโคก (หลงั เกา่ ) ทีว่ า่ การอำเภอบ้านโคก (แหง่ ใหม)่ (เพือ่ การฝกึ )

(เพือ่ การฝกึ ) ชดุ ที่ ของ ชดุ หนา้ ๒๑ ของ ๓๑ หน้า อนุผนวก ๑ (วเิ คราะห์พ้ืนที่ปฏิบตั กิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพิทกั ษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ธกส.สาขา อ.บา้ นโคก สถานตี ำรวจภูธรบา้ นโคก ตลาดสด อ.บ้านโคก สนามกีฬาหนา้ ทว่ี า่ การอำเภอ ข) ถนนสายสำคัญคอื .- - ทางหลวงหมายเลข ๑๐๔๗ , ๑๑๒๓ , จาก จว.อตุ รดติ ถ์ – บ.น้ำพี้ อ.ทองแสนขัน – อ.ทา่ ปลา – อ.น้ำปาด – อ.ฟากท่า และ อ.บ้านโคก ระยะทาง ๑๘๐ ก.ม. สภาพเสน้ ทางเปน็ ถนนลาดยาง กวา้ ง ๘ เมตร ใชก้ ารได้ทกุ ฤดู (เพอื่ การฝกึ )

(เพอื่ การฝึก) ชดุ ท่ี ของ ชดุ หนา้ ๒๒ ของ ๓๑ หน้า อนุผนวก ๑ (วเิ คราะหพ์ ้ืนที่ปฏิบัติการ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพทิ ักษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ - ทางหลวงหมายเลข ๑๐๔๕ , ๑๐๔๖ ,๑๐๔๗ จาก จว.อุตรดิตถ์ – บ.ท้ายเข่ือน อ.ท่าปลา – อ.นำ้ ปาด – อ.ฟากทา่ – อ.บา้ นโคก ระยะทาง ๑๖๙ กม. สภาพเสน้ ทางเป็นถนนลาดยางกว้าง ๘ เมตร ใช้การได้ทกุ ฤดู ๕) ลกั ษณะอืน่ ๆ ก) การสงั คม อ.บา้ นโคก มชี ายแดนติดต่อกบั สปป.ลาว , อ.เวยี งสา , อ.นานอ้ ย จว.นา่ น (๑) ภาษาราษฎรในพืน้ ที่พูดภาษาไทยเหนือ และภาษาท้องถน่ิ (๒) การศึกษาของประชากร อ.บ้านโคก มีการศึกษาในระดับปานกลาง ส่วนมากจบ การศึกษาระดับมัธยม ปัจจุบัน อ.บ้านโคก ได้จัดให้มีการศึกษาทั้งสองทางคือ การจัดให้มีการศึกษาใน ระบบโรงเรียน และการศึกษาในนอกระบบโรงเรียน เช่น การศกึ ษาแบบเบด็ เสรจ็ ขั้นพ้นื ฐาน ตลอดจนให้ มที ่ีอา่ นหนังสอื พมิ พ์ประจำหมบู่ า้ น โดยแยกตามระดบั การศึกษา ดังน้ี.- (ก) ศนู ย์อบรมเด็กเลก็ กอ่ นเกณฑ์ จำนวน ๑ แหง่ (ข) ศนู ย์พฒั นาเดก็ เลก็ จำนวน ๑๕ ศนู ย์ (ค) โรงเรยี นตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน ๒ แหง่ (ง) โรงเรียนสังกดั สพฐ จำนวน ๑๖ แหง่ (จ) โรงเรียนสังกดั กรมสามญั ศกึ ษา จำนวน ๑ แหง่ (ฉ) ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรยี น จำนวน ๑ แหง่ (เพ่อื การฝกึ )

(เพ่ือการฝกึ ) ชุดที่ ของ ชุด หนา้ ๒๓ ของ ๓๑ หน้า อนุผนวก ๑ (วิเคราะห์พ้ืนท่ีปฏิบตั ิการ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพิทักษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ข) การบริการด้านสาธารณสุข โดยสถานบริการดังน้ี.- (๑) โรงพยาบาลขนาด ๓๐ เตียง จำนวน ๑ แหง่ (๒) สำนกั งานสาธารณสขุ อำเภอ จำนวน ๑ แหง่ (๓) สถานบริการสาธารณสขุ ชุมชน จำนวน ๔ แห่ง (๔) ศนู ยส์ าธารณสขุ มูลฐาน จำนวน ๒๘ แหง่ (๕) สถานีอนามยั จำนวน ๕ แห่ง (๖) ร้านขายยาแผนปัจจบุ นั จำนวน ๑ แห่ง ค) การสาธารณูปโภค ราษฎรในพ้นื ทใ่ี ช้น้ำอุปโภคจากประปาภูเขา,ประปาหม่บู ้าน ๒๘ แห่ง , บ่อน้ำซึม , บ่อบาดาล , อ่างเก็บน้ำ และลำห้วย ใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้บริการ ไปรษณีย์ จากท่ีทำการไปรษณยี ์โทรเลข และมบี รกิ ารโทรศัพท์ (เพอื่ การฝกึ )

(เพอ่ื การฝกึ ) ชุดท่ี ของ ชดุ หนา้ ๒๔ ของ ๓๑ หน้า อนุผนวก ๑ (วเิ คราะหพ์ ื้นที่ปฏบิ ัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพทิ ักษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ท่ีทำการไปรษณยี ์ และเสาโทรคมนาคมในพนื้ ท่ี ๖) การเมือง ความสนใจทางด้านการเมืองมีน้อยโดยเฉพาะบุคคลในพ้ืนที่ห่างไกล ความรู้ ทางด้านการเมือง การปกครองยังอยู่ในขั้นต่ำ ประชาชนส่วนมากยังไม่ให้ความสนใจทางด้านการเมือง ส่วนมากจะรับฟังข่าวสารจากทางโทรทัศนแ์ ละวทิ ยุ ไมม่ กี ารเคล่อื นไหวที่จะนำไปส่กู ารชุมนมุ ประท้วง ๗) การเศรษฐกิจ ราษฎร อ.บ้านโคก ส่วนใหญ่มีฐานะปานกลาง ประกอบอาชีพทางด้านการ เกษตรกรรมเป็นหลัก และประกอบอาชีพอ่ืน ๆ เช่น เล้ียงสัตว์ , รับจ้างหาของป่า , ค้าขายกับชุมชน ใหญ่ ๆ พื้นท่ีทำการเกษตรได้แก่ พื้นท่ีบริเวณเชิงเขา และท่ีราบลุ่มใกล้แม่น้ำ ซ่ึงเป็นพ้ืนท่ีรับน้ำฝน ท้ังหมด มีระบบชลประทานในพ้ืนท่ี พืชเศรษฐกิจได้แก่ ข้าว , ข้าวโพด , สวนมะขาม , สวนสัก และ สวนยางพารา ปม้ั น้ำมันในพนื้ ที่ อ.บ้านโคก (เพื่อการฝึก)

(เพื่อการฝกึ ) ชดุ ที่ ของ ชดุ หนา้ ๒๕ ของ ๓๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (วเิ คราะหพ์ ้ืนท่ีปฏิบัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพิทกั ษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ พน้ื ที่ทำการเกษตร ๘) ศาสนา สว่ นใหญน่ ับถอื ศาสนาพทุ ธรอ้ ยละ ๙๕ %, อ่ืน ๆ ๕ % ๙) จิตวิทยา ราษฎรในพ้ืนที่ อ.บ้านโคก เป็นเกษตรกรมีความรู้หนังสือพอสมควร สามารถ ตดิ ตอ่ สอื่ สารกันได้ และใหค้ วามรว่ มมอื กับเจา้ หน้าทร่ี ัฐเป็นอย่างดี ๑๐) อ่นื ๆ - การปกครอง อ.บา้ นโคก เดมิ เปน็ ตำบลบา้ นโคก เปน็ เขตการปกครองของ อ.ฟากท่า ต่อมา กระทรวงมหาดไทยไดป้ ระกาศจัดต้ังเปน็ กิ่งอำเภอบ้านโคกในปี ๒๕๓๐ ได้มีพระราชกฤษฎีกา ยกฐานะ เป็น อำเภอบ้านโคก แบ่งการปกครองออกเปน็ ๔ ตำบล ๓๑ หมู่บา้ น ซ่ึงมจี ำนวนประชากรดงั น้ี.- (เพื่อการฝึก)

(เพ่อื การฝึก) ชดุ ที่ ของ ชุด หน้า ๒๖ ของ ๓๑ หนา้ อนุผนวก ๑ (วิเคราะห์พื้นที่ปฏบิ ตั ิการ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพิทักษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ จำนวนประชากร ลำดับที่ ตำบล ประชากร รวม หมายเหตุ ชาย หญงิ ๓,๙๔๑ ๓,๒๘๘ ๑ บ้านโคก ๑,๙๘๖ ๑,๙๕๕ ๓,๗๒๗ ๒ นาขมุ ๓,๕๑๑ ๓ มว่ งเจด็ ต้น ๑,๖๙๑ ๑,๕๙๗ ๑๔,๔๖๗ ๔ บอ่ เบีย้ ๑,๘๙๒ ๑,๘๓๕ รวมทงั้ หมด ๑,๘๑๒ ๑,๖๙๙ ๗,๓๘๑ ๗,๐๘๖ ( ขอ้ มูล ณ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ) ปัจจุบนั ยงั แบ่งปกครองแบบกระจายอำนาจถึงระดับหมูบ่ ้าน ตำบล โดยเฉพาะการปกครอง มอี งค์การบรหิ ารส่วนตำบล ( อบต.) จึงทำให้การปกครองและการพัฒนากระจายถึงระดับท้องถ่ินทำให้ ฝา่ ยเราสามารถแสวงผลประโยชน์ต่อการปฏิบตั ิทางยุทธวธิ ีได้ หากมีการประสานงานอย่างใกล้ชิด ๓. ลักษณะของพืน้ ท่ที หาร ก. ลกั ษณะทางยทุ ธวิธี ๑) การตรวจการณแ์ ละพื้นทกี่ ารยิง ก) ลมฟ้าอากาศ ลมฟ้าอากาศในฤดูร้อน ตั้งแต่เดือน มี.ค. – พ.ค.จะเก้ือกูลต่อการตรวจ การณ์ ทางพื้นดินและทางอากาศ แตใ่ นหว้ งฤดูฝนและฤดูหนาว ต้ังแตเ่ ดือน มิ.ย. – ก.พ. หมอกและเมฆ ที่เกิดข้ึนจะทำให้ทัศนวิสัยจำกัดต่อการตรวจการณ์ทั้งทางพื้นดินและทางอากาศโดยเฉพาะในห้วงฤดู หนาว ตั้งแตเ่ ดือน พ.ย. – ก.พ. ในหว้ งเช้าจะมหี มอกหนาจัด ทำให้ทศั นวิสัยจำกดั ในการตรวจการณ์ทาง พืน้ ดนิ และทางอากาศ ข) ท่ีสูงต่ำ เทือกเขาตามแนวชายแดน ด้านทิศตะวันออกของพื้นท่ี อ.บ้านโคก มีเนินสูง เหมาะสม เป็นทตี่ รวจการณ์หลายแห่ง เขตบ้านบอ่ เบย้ี มเี นนิ ๗๒๒ พิกดั QA ๒๕๕๒๘๕ , เนนิ ๘๑๙ พกิ ัด QA๒๘๖๒๗๓ เขตบ้านม่วงเจด็ ต้น มีเนิน ๗๖๕ พิกัด QA ๒๙๓๐๔๕ และบรเิ วณภูทุ่งแล้ง ,ภูฮี,ช่องห้วยต่าง สามารถใช้เป็นท่ีตรวจการณไ์ ด้ดี ค) พืชพันธ์ุไม้ ลักษณะของพ้ืนท่ีปฏิบัติการเต็มไปด้วยภูเขาสูง , ป่าทึบและป่าเบญจพรรณ มีต้นไม้ขนาดใหญน่ านาชนดิ เชน่ ไม้ยาง , ไมแ้ ดง, ไม้มะคา่ , ไม้ชงิ ชนั เป็นต้น จะจำกดั ตอ่ การตรวจการณ์ (เพือ่ การฝึก)

(เพ่อื การฝกึ ) ชดุ ท่ี ของ ชดุ หน้า ๒๗ ของ ๓๑ หน้า อนุผนวก ๑ (วิเคราะห์พื้นท่ีปฏิบตั ิการ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพิทักษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ และการยงิ สภาพร้ัวต้นไม้ทึบจะมอี ย่ทู วั่ ไปของพ้ืนท่ี จะจำกดั ตอ่ การตรวจการณ์และ การยงิ อาวธุ วิถรี าบ อยา่ งมาก ตลอดจน ลดอำนาจการทำลายดว้ ยอาวธุ วถิ ีโค้งดว้ ย ง) สิ่งปลูกสร้าง ลักษณะทั่วไปของส่ิงปลูกสร้าง จะสร้างด้วยไม้ หลังคาจะมุงด้วยสังกะสี และหญ้าคา แต่บางส่วนจะสร้างด้วยอิฐผสมปูน เช่นโบสถ์ ,โรงเรียน ,หอระฆัง อาจจะใช้เป็นที่ ตรวจการณ์ไดด้ ี ๒) การกำบงั และการซ่อนพราง ก) ทสี่ งู ต่ำ ลกั ษณะพ้นื ทปี่ ฏิบัตกิ ารเปน็ ป่าทบึ ตามเทอื กเขา และพนื้ ทปี่ า่ ทบึ ตามเนนิ เขา และ ช่องทางตา่ ง ๆ ลดการตรวจการณท์ างพนื้ ดนิ และทางอากาศไดเ้ ป็นอยา่ งดี ตลอดจนลดอำนาจของ อาวธุ การยงิ ดว้ ยวถิ รี าบ และวิถโี คง้ ตลอดจนกำบงั จากการยงิ ด้วยอาวธุ ขนาดเลก็ ไดเ้ ปน็ อย่างดี ข) พืชพนั ธไุ์ ม้ ในพน้ื ทปี่ ฏิบตั ิการเปน็ ปา่ ทึบสลบั กบั ปา่ เบญจพรรณ และมีปา่ โปรง่ เปน็ หยอ่ ม ๆ ตลอดพ้นื ท่ที ้งั หมดจะมีสวนพืชไรข่ องชาวบ้าน เชน่ สวนมะมว่ ง, สวนมะขาม, กระจายอยตู่ าม พื้นที่ตา่ ง ๆ เหมาะสมจะเปน็ ทซ่ี ่อนพรางเปน็ อย่างดี ค) ลกั ษณะสงิ่ ปลูกสรา้ ง อาคารบ้านเรือนของราษฎรทป่ี ลูกสรา้ งจะเปน็ ทก่ี ำบงั จากอาวธุ ยงิ สนบั สนนุ ของฝ่ายตรงข้ามได้ เชน่ หมบู่ า้ น , โบสถ์ , ท่เี ปน็ อฐิ ผสมปนู กระจายอยตู่ ามหมู่บา้ นตา่ ง ๆ อาจจะดดั แปลงเป็นทมี่ ่นั ของฝ่ายเรากจ็ ะทำไดด้ กี ว่า ๓) เคร่ืองกีดขวาง ก) ที่สูงตำ่ ทางน้ำไหล (๑) เคร่ืองกีดขวางทางธรรมชาติ ลำห้วยต่าง ๆ จะเป็นอุปสรรคต่อการเคล่ือนที่ แต่ไม่ เป็นอุปสรรคมากนักเนอื่ งจากลำห้วยในพ้ืนที่ปฏบิ ัติการไม่มีความลึกเพียงพอห้วยท่ีสำคัญได้แก่ ห้วยไผ่, หว้ ยเหลา่ , ห้วยนำ้ ปาด , ห้วยนำ้ แพร , ห้วยหงษ์ (๒) เครื่องกีดขวางทีส่ รา้ งขน้ึ อาจจะเสริมความแขง็ แกรง่ ให้กับช่องทางตามชอ่ งทางต่างๆ ดว้ ยการขุดคู , สนามเพลาะ , การวางทุ่นระเบิด , กับระเบิด ตลอดจนการทำลายสะพานเป็นเคร่ืองกีด ขวางตอ่ ฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างดี ข) ลักษณะพืชพันธุ์ไม้ ลักษณะของพ้ืนที่ปฏิบัติการเต็มไปด้วยภูเขาสูง, ป่าทึบและ ป่าเบญจพรรณ มีต้นไม้ขนาดใหญ่นานาชนิดอยู่ท่ัวไปของทุกพ้ืนท่ีเป็นเคร่ืองกีดขวาง เพราะจำกัดการ เคลอ่ื นทใ่ี นภูมปิ ระเทศ ของยานพาหนะเป็นอยา่ งดี (เพอื่ การฝกึ )

(เพื่อการฝึก) ชุดท่ี ของ ชุด หน้า ๒๘ ของ ๓๑ หนา้ อนุผนวก ๑ (วิเคราะห์พ้ืนที่ปฏบิ ตั ิการ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพิทักษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ค) ลักษณะพ้ืนดิน ลักษณะพื้นดินในพ้ืนท่ีปฏิบัติการเป็นดินร่วนปนทราย ส่วนข้างล่าง ลงไป จะเปน็ ดินเหนียว ในฤดแู ลง้ ยานพาหนะสามารถผ่านได้สะดวก แต่ในฤดฝู นพื้นดินจะออ่ นและทรุด ตวั เมอ่ื รบั น้ำหนกั มาก ๆ จากยานพาหนะประเภทต่าง ๆ จะทำให้ยานพาหนะติดหลม่ ได้ ง) ลักษณะส่ิงปลูกสร้าง ถนนท่ีเป็นลูกรังในฤดูฝนอาจจะถูกน้ำกัดเซาะจะเป็นอุปสรรคใน การเคลื่อนที่จะต้องเตรียมการถมดิน , ถนนลาดยางบางสายฝนตกหนักอาจทำให้ดินข้างทางถล่มลงปิด ทับเส้นทาง ในการเคล่ือนที่และสะพานคอนกรีตเสริมเหลก็ หากจัดการเตรียมการทำลายไว้สามารถเป็น เครอื่ งกีดขวางของฝ่ายตรงข้ามได้ ๔) ภมู ปิ ระเทศสำคญั ก ) ภปู าจกิ (QA๒๗๓๒๕๒) , ภูกระบอก(QA๒๖๓๒๐๐) , ภูด(ู่ QA๒๘๕๐๕๕) , ดอยขนุ หว้ ยไผ่ (QA๑๘๖๒๕๙) ข) ปมคมนาคม สำคัญไดแ้ ก่ ทว่ี า่ การ อ.บ้านโคก และ สถานีตำรวจบ้านโคก จว.อุตรดิตถ์ ๕) แนวทางการเคลอ่ื นท่ี ก) แนวทางจากฝ่งั ตรงข้ามเข้าส่พู ้นื ท่ีมนั่ ฝา่ ยเรา (๑) เส้นทางจากเมอื งทุ่งมีไชย สามารถเขา้ สู่ประเทศไทยได้ ๒ ช่องทาง คือช่องทางบ้านใหม่ เข้าสู่บ้านห้วยยาง ของประเทศไทย และอีกช่องทางหนึ่งที่สะดวกกว่าคือช่องทางมหาราช เพราะการ เคลื่อนท่ีเขา้ สู่บ้านบ่อเบ้ีย เพ่ือควบคุมเส้นทางคมนาคม ทางหลวงหมายเลข ๑๑๒๓ และ เข้าทางหลวง หมายเลข ๑๐๔๗ เพราะเส้นทางถนนใช้การได้ทุกฤดูกาล ยานพาหนะสามารถผ่านได้ ทุกชนิด การ เคล่ือนยา้ ยกำลงั ขนาดใหญ่ได้รวดเรว็ เหมาะทีจ่ ะรกุ เข้ามาในประเทศไทย (๒) เส้นทางจากบ้านผาแก้ว เข้าสู่ช่องภูดู่ การเคลื่อนท่ีเข้าบ้านม่วงเจ็ดต้น เพื่อควบคุม เส้นทางคมนาคม ทางหลวงหมายเลข ๑๐๔๗ เข้า อ.บ้านโคก – อ.ฟากท่า - น้ำปาด เพราะเส้นทาง ถนนใช้การได้ทุกฤดูกาล ยานพาหนะสามารถผ่านได้ทุกชนิด การเคลื่อนย้ายกำลังขนาดใหญ่ได้รวดเร็ว เหมาะท่ีจะรกุ เข้ามาในประเทศไทย (๓) เส้นทาง บ.ขอนแก่น เมืองปากลาย เข้าสู่ช่องทางห้วยต่าง การเคลื่อนย้ายเข้าสู่ อ.บ้านโคก ที่ใกล้ที่สุด เพ่ือควบคุมเส้นทางคมนาคม ทางหลวงหมายเลข ๑๐๔๗ เข้า อ.บ้านโคก – อ.ฟากท่า – อ.น้ำปาด เพราะเส้นทางถนนใช้การได้ดีในฤดูแล้ง ยานพาหนะสามารถผ่านได้ทุกชนิด การเคลือ่ นย้ายกำลงั ขนาดใหญ่ ได้รวดเร็วเหมาะท่จี ะรกุ เขา้ มาในประเทศไทย ข) แนวทางของฝ่ายเราเข้าสู่ทีม่ ่นั ของฝ่ายตรงขา้ ม (เพือ่ การฝกึ )

(เพอื่ การฝกึ ) ชุดที่ ของ ชดุ หน้า ๒๙ ของ ๓๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (วิเคราะห์พ้ืนท่ีปฏิบัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพิทกั ษ์ผาเมือง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ (๑) เส้นทางหมายเลข ๑๑๒๓ บ.ห้วยน้อยกา – บ้านบ่อเบี้ย ผ่านช่องทางมหาราช พิกัด QA ๒๖๑๒๙๓ เปน็ เสน้ ทางถนนลาดยางกวา้ งประมาณ ๖ เมตร ส่วนถนนในฝั่ง สปป.ลาว เป็นถนนลกู รงั อัดแนน่ ยานพาหนะทุกประเภทรวมทั้งยานยนต์ ยานเกราะ รถถัง สามารถผา่ นได้ นับว่าเป็นเส้นทาง ยทุ ธศาสตร์ที่สำคญั เส้นหนงึ่ สามารถรุกออกนอกประเทศของหน่วยทหารขนาดใหญ่ได้ และเป็นเสน้ ทาง ใกล้เมืองทุ่งมีไชยใกลท้ ่สี ุด (๒) เส้นทาง บ้านมว่ งเจ็ดตน้ ผ่านชอ่ งทางภูดู่ สภาพเส้นทางในฝ่ายเรา เป็นเสน้ ทางลาด ยางกว้างประมาณ ๖ เมตร เส้นทางฝั่ง สปป.ลาว ปัจจุบัน กว้าง ๖ เมตร เป็นถนนลาดยางพื้นแข็ง ( เส้นทางหมายเลข ๔ ปากลาย – แก่นท้าว แขวงไชยะบรุ )ี สามารถใช้การไดด้ ีในทกุ ฤดู นับวา่ เปน็ เสน้ ทาง ยุทธศาสตร์ที่สำคัญเส้นหน่ึง ท่ีฝา่ ยเรา สามารถรุกออก นอกประเทศของหน่วยทหารขนาดใหญ่ได้ และ เปน็ เสน้ ทางใกล้ เมอื งปากลายใกลท้ ส่ี ดุ (๓) เส้นทางจาก อ.บ้านโคก ผ่านช่องทางห้วยต่าง ระยะทางจาก อ.บ้านโคก – ช่องทาง ประมาณ ๑๓ ก.ม. กว้างประมาณ ๖ เมตร สภาพเส้นทางในฝ่ายเรา เป็นถนนลาดยางพ้ืนแข็ง จนถึงช่องทาง เส้นทางฝั่ง สปป.ลาว เป็นถนนลำลอง สามารถใช้การได้ดีในฤดูแล้ง ส่วนในฤดูฝนดินจะ อ่อนเป็นอุปสรรคต่อการเคล่ือนท่ี นับว่าเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ท่ีสำคัญเส้นหนึ่ง ที่ฝ่ายเรา สามารถรุก ออกนอกประเทศของหน่วยทหารขนาดใหญไ่ ด้ และเป็นเสน้ ทางใกล้ เมืองแก่นทา้ ว เมืองบ่อแตน และ รุกเข้ายึดเสน้ ทางคมนาคม เส้นทางหมายเลข ๑๐๓ ของ สปป.ลาว ได้ ค. ลักษณะทางการชว่ ยรบ ๑) ด้านกำลังพล ราษฎรในพ้ืนที่ไม่น่าจะมีผลหรือทำให้เกิดความขัดแย้งกับราษฎรใน พื้นที่ราษฎรมคี วามรกั ชาติ และประชาธิปไตย มกี ารจัดต้ังกลุ่มพลงั มวลชนต่าง ๆ เชน่ อพป.ทสปช.อสม. เป็นตน้ ทำให้กลมุ่ พลังมวลชนสนบั สนุนภารกิจทหารได้ ๒) การส่งกำลังบำรุง เส้นทางหมายเลข ๑๐๔๗ จาก อ.เมือง จว.อุตรดิตถ์ – บ.น้ำพ้ี อ.ทองแสนขัน - อ.น้ำปาด – อ.ฟากท่า – อ.บ้านโคก เป็นเส้นทางลาดยางใช้สัญจรได้ทุกฤดูกาลและ เหมาะที่จะต้ังตำบลจ่าย สป.ต่าง ๆ ไมเ่ ป็นอปุ สรรคต่อฝา่ ยเราในการสนบั สนุนการชว่ ยรบการสง่ สป.ต่าง ๆ กระทำได้ท้ังทางพื้นดินและทางอากาศ เสบยี งอาหารสามารถจดั หาไดใ้ นพ้ืนที่ ๓) กิจการพลเรือน การประสานกับเจ้าหน้าท่ีบ้านเมือง จะกระทำได้ง่าย ประสานการ ปฏิบัติร่วมกันระหว่างทหารกับพลเรอื น สรุปโดยรวมไม่เป็นปัญหาขัดขวางการยุทธ์ได้ ราษฎรให้ความ รว่ มมอื กับเจ้าหนา้ ที่บ้านเมอื งเปน็ อย่างดีและไมก่ ระทบต่อการปฏบิ ตั ิการทางทหาร (เพอื่ การฝกึ )

(เพอื่ การฝึก) ชุดท่ี ของ ชุด หนา้ ๓๐ ของ ๓๑ หน้า อนผุ นวก ๑ (วิเคราะห์พ้ืนที่ปฏบิ ัตกิ าร) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนพิทกั ษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ๔. ผลของพน้ื ท่ปี ฏบิ ตั ิการ ก. ผลตอ่ การปฏิบัติการของฝา่ ยตรงขา้ ม ๑) การเขา้ ตแี นวทางการเขา้ ตดี ว้ ยกำลังหนว่ ยทหารขนาดใหญ่ จะใชเ้ สน้ ทางเขา้ ช่องทางมหาราช , ชอ่ งทางภดู ู่, ชอ่ งหว้ ยตา่ ง และยังมชี ่องทางแทรกซึมตามช่องทางเดนิ เท้า ซึ่งตามเส้นทางหรือชอ่ งทาง ฝ่ายเรา วางกำลงั ค้มุ ครองอยูแ่ ล้ว ๒) การต้ังรบั ภมู ปิ ระเทศทเี่ ปน็ ทส่ี งู มพี ืน้ ทกี่ ารยิงดี และตรวจการณด์ ี มกี ารดดั แปลงเปน็ ท่มี น่ั ที่ แขง็ แรง และมกี ารวางเครอื่ งกีดขวางฝา่ ยตรงขา้ มมีความชำนาญในการใชภ้ มู ิประเทศ ตลอดจนดดั แปลง ภมู ิประเทศไดด้ ี เป็นอปุ สรรคอยา่ งยง่ิ ต่อฝ่ายเราในการเขา้ ตี ๓) การรน่ ถอย สภาพภูมปิ ระเทศและสภาพเส้นทางเปน็ อปุ สรรคตอ่ การรน่ ถอย โดยเฉพาะใน ฤดฝู นจะจำกดั ในการร่นถอย ๔) การเพมิ่ เติมกำลงั ในสภาพภูมปิ ระเทศ และเสน้ ทางของฝา่ ยตรงขา้ มตลอดจนยานพาหนะ เป็นอปุ สรรคตอ่ การเพมิ่ เตมิ กำลงั ไดอ้ ย่างจำกดั โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ในฤดฝู น ๕) การใช้ นชค. สามารถใช้ นชค. กบั ราษฎรไดท้ ั้งทางอากาศและแหลง่ นำ้ เนื่องจากสภาพ อากาศมีความเร็วของลมเหมาะสม พืน้ ที่อยตู่ ามหุบเขาตลอดจนแหล่งนำ้ อยใู่ นพน้ื ทจี่ ำกดั งา่ ยต่อการใช้ นชค. ในแหลง่ น้ำ ข. ผลต่อการปฏิบตั ิของฝ่ายเรา ๑) แนวทางการเคลื่อนที่ที่ดีที่สุดเข้าหาที่ต้ังของข้าศึก เส้นทางในการรุกออกนอกประเทศด้วย ยานเกราะและรถถัง สามารถรุกออกได้เพียง ๓ เส้นทาง คือ เส้นทางจากบ้านบ่อเบ้ียผ่านช่องมหาราช เข้าสู่เมืองทุ่งมีไชย , เส้นทางจากช่องภูดู่ รุกออกนอกประเทศทางบ้านผาแก้ว เมืองปากลาย และ เส้นทางหมายเลข ๑๐๓ , เส้นทางห้วยต่าง รุกออกนอกประเทศเข้าสู่บ้านขอนแก่น บ้านห้วยบง , บ้านน้ำพุ บ้านนากอก เมืองปากลาย และเส้นทางหมายเลข ๑๐๓ เมืองบ่อแตน เส้นทางทั้งสามเส้น ง่ายต่อการตรวจการณ์ ๒) ท่ีม่ันตั้งรับท่ีดีที่สุดของฝ่ายเรา แนวทางการเคลื่อนที่ที่ดีที่สุด เข้าสู่พื้นที่ต้ังรับคือ การ เคล่ือนย้ายหน่วยทหารขนาดใหญ่และอาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดหนักด้วยยานยนต์ เคลื่อนย้ายตามถนน ทางหลวงหมายเลข ๑๐๔๗ เข้าสู่พื้นท่ีปฏิบัติการท่ีมั่นตั้งรับบริเวณตามช่องทางต่าง ๆ กองกำลังทหาร ขนาดใหญ่ และตำบลจ่าย สป.ต่างๆ น่าจะตั้งอยู่ท่ีกองร้อย ตชด.๓๑๗ พิกัด PV ๑๔๘๘๘๖ ติดทาง หลวงหมายเลข ๑๒๖๘ (เพอื่ การฝกึ )

(เพื่อการฝึก) ชดุ ที่ ของ ชุด หนา้ ๓๑ ของ ๓๑ หน้า อนผุ นวก ๑ (วิเคราะห์พ้ืนท่ีปฏบิ ัติการ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนพทิ กั ษ์ผาเมอื ง ๑- ๒ RDF –ทภ.๓ ๓) ลมฟ้าอากาศ เก้ือกูลหรือไม่ตอ่ ฝ่ายเรา หมอกและฝนในฤดูหนาว เป็นอุปสรรคต่อการเข้าตี เพราะจะทำให้ทัศนวิสัยจำกัด ฝนตกจะทำให้ปริมาณน้ำในลำห้วยเพ่ิมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้ง เส้นทาง ลำลองทำให้ดินนุ่มเป็นปัญหาในการเคล่ือนย้ายและการข้ามลำน้ำ ของหน่วยทหารตลอดจน เป็นอุปสรรคตอ่ การสง่ กำลงั บำรุงได้ ๔) อื่น ๆ ทีอ่ าจจะมผี ลกระทบ ******************************************** (เพือ่ การฝึก)

(เพ่ือการฝึก) ชุดที่ ของ ชุด หนา้ ๑ของ ๓ หน้า ใบแทรก ก (รายการแสงสว่าง) ประกอบอนุผนวก ๑ (วิเคราะหพ์ ื้นท่ีปฏิบัติการ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าว กรอง) ประกอบแผนยุทธการพิทักษ์ผาเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ รายการแสงสวา่ งในห้วงปฏิบัติการ (เดือน พ.ค.๖๕) วนั ที่ ก่อนเร่มิ เริ่ม เริ่ม อาทิตย์ อาทิตย์ สิ้นแสง สิน้ แสง หลังสน้ิ จนั ทร์ จนั ทร์ แสงเงิน แสงเงนิ แสงทอง ขึ้น ตก ทอง เงนิ แสงเงนิ ขึน้ ตก ๑๖ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๗๕๙ ๑๘๒๓ ๑๘๓๕ ๑๘๔๗ ๒๑๔๓ ๐๙๓๕ ๑๗ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๐ ๑๘๒๔ ๑๘๓๖ ๑๘๔๘ ๒๒๓๔ ๑๐๑๗ ๑๘ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๑ ๑๘๒๕ ๑๘๓๗ ๑๘๔๙ ๒๓๒๔ ๑๐๕๗ ๑๙ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๑ ๑๘๒๕ ๑๘๓๗ ๑๘๔๙ - ๑๑๓๕ ๒๐ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๒ ๑๘๒๖ ๑๘๓๘ ๑๘๕๐ ๐๐๑๒ ๑๒๑๔ ๒๑ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๒ ๑๘๒๖ ๑๘๓๘ ๑๘๕๐ ๐๑๐๐ ๑๒๕๓ ๒๒ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๓ ๑๘๒๗ ๑๘๓๙ ๑๘๕๑ ๐๑๔๘ ๑๓๓๔ ๒๓ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๔ ๑๘๒๘ ๑๘๔๐ ๑๘๕๒ ๐๒๓๗ ๑๔๑๗ ๒๔ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๔ ๑๘๒๘ ๑๘๔๐ ๑๘๕๒ ๐๓๒๖ ๑๕๐๒ ๒๕ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๕ ๑๘๒๙ ๑๘๔๑ ๑๘๕๓ ๐๔๑๖ ๑๕๕๑ ๒๖ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๕ ๑๘๒๙ ๑๘๔๑ ๑๘๕๓ ๐๕๐๖ ๑๖๔๑ ๒๗ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๖ ๑๘๓๐ ๑๘๔๒ ๑๘๕๔ ๐๕๕๕ ๑๗๓๓ ๒๘ ๐๕๕๗ ๐๖๐๙ ๐๖๒๑ ๐๖๔๕ ๑๘๐๖ ๑๘๓๐ ๑๘๔๒ ๑๘๕๔ ๐๖๔๓ ๑๘๒๗ ๒๙ ๐๕๕๖ ๐๖๐๘ ๐๖๒๐ ๐๖๔๔ ๑๘๐๗ ๑๘๓๑ ๑๘๔๓ ๑๘๕๕ ๐๗๒๙ ๑๙๒๑ ๓๐ ๐๕๕๖ ๐๖๐๘ ๐๖๒๐ ๐๖๔๔ ๑๘๐๗ ๑๘๓๑ ๑๘๔๓ ๑๘๕๕ ๐๘๑๕ ๒๐๑๖ ๓๑ ๐๕๕๖ ๐๖๐๘ ๐๖๒๐ ๐๖๔๔ ๑๘๐๘ ๑๘๓๒ ๑๘๔๔ ๑๘๕๖ ๐๘๕๙ ๒๑๑๑ (เพอ่ื การฝกึ )

(เพ่ือการฝึก) ชดุ ท่ี ของ ชดุ หน้า ๒ ของ ๓ หน้า ใบแทรก ก (รายการแสงสว่าง) ประกอบอนผุ นวก ๑ (วิเคราะห์พน้ื ทป่ี ฏิบัติการ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าว กรอง) ประกอบแผนยุทธการพทิ กั ษ์ผาเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ รายการแสงสว่างในห้วงปฏิบตั ิการ (เดือน มิ.ย.๖๕) วันที่ กอ่ นเรม่ิ เรม่ิ เร่ิม อาทติ ย์ อาทติ ย์ สิ้นแสง สิน้ แสง หลงั สิน้ จันทร์ จันทร์ แสงเงนิ แสงเงิน แสงทอง ขึน้ ตก ทอง เงนิ แสงเงิน ขึน้ ตก ๑ ๐๕๑๙ ๐๕๓๑ ๐๕๔๓ ๐๖๐๗ ๑๘๒๕ ๑๘๔๙ ๑๙๐๑ ๑๙๑๓ ๐๙๓๕ ๒๒๔๖ ๒ ๐๕๑๙ ๐๕๓๑ ๐๕๔๓ ๐๖๐๗ ๑๘๒๖ ๑๘๕๐ ๑๙๐๒ ๑๙๑๔ ๑๐๓๐ ๒๓๔๖ ๓ ๐๕๑๘ ๐๕๓๐ ๐๕๔๒ ๐๖๐๖ ๑๘๒๖ ๑๘๕๐ ๑๙๐๒ ๑๙๑๔ ๑๑๒๗ - ๔ ๐๕๑๗ ๐๕๒๙ ๐๕๔๑ ๐๖๐๕ ๑๘๒๖ ๑๘๕๐ ๑๙๐๒ ๑๙๑๔ ๑๒๒๕ ๐๐๔๔ ๕ ๐๕๑๖ ๐๕๒๘ ๐๕๔๐ ๐๖๐๔ ๑๘๒๖ ๑๘๕๐ ๑๙๐๒ ๑๙๑๔ ๑๓๒๒ ๐๑๓๙ ๖ ๐๕๑๖ ๐๕๒๘ ๐๕๔๐ ๐๖๐๔ ๑๘๒๖ ๑๘๕๐ ๑๙๐๒ ๑๙๑๔ ๑๔๑๙ ๐๒๓๐ ๗ ๐๕๑๕ ๐๕๒๗ ๐๕๓๙ ๐๖๐๓ ๑๘๒๗ ๑๘๕๑ ๑๙๐๓ ๑๙๑๕ ๑๕๑๓ ๐๓๑๗ ๘ ๐๕๑๔ ๐๕๒๖ ๐๕๓๘ ๐๖๐๒ ๑๘๒๗ ๑๘๕๑ ๑๙๐๓ ๑๙๑๕ ๑๖๐๖ ๐๔๐๑ ๙ ๐๕๑๓ ๐๕๒๕ ๐๕๓๗ ๐๖๐๑ ๑๘๒๗ ๑๘๕๑ ๑๙๐๓ ๑๙๑๕ ๑๖๕๗ ๐๔๔๒ ๑๐ ๐๕๑๓ ๐๕๒๕ ๐๕๓๗ ๐๖๐๑ ๑๘๒๗ ๑๘๕๑ ๑๙๐๓ ๑๙๑๕ ๑๗๔๗ ๐๕๒๒ ๑๑ ๐๕๑๒ ๐๕๒๔ ๐๕๓๖ ๐๖๐๐ ๑๘๒๗ ๑๘๕๑ ๑๙๐๓ ๑๙๑๕ ๑๘๓๖ ๐๖๐๒ ๑๒ ๐๕๑๑ ๐๕๒๓ ๐๕๓๕ ๐๕๕๙ ๑๘๒๘ ๑๘๕๒ ๑๙๐๔ ๑๙๑๖ ๑๙๒๖ ๐๖๔๑ ๑๓ ๐๕๑๑ ๐๕๒๓ ๐๕๓๕ ๐๕๕๙ ๑๘๒๘ ๑๘๕๒ ๑๙๐๔ ๑๙๑๖ ๒๐๑๔ ๐๗๒๑ ๑๔ ๐๕๑๐ ๐๕๒๒ ๐๕๓๔ ๐๕๕๘ ๑๘๒๘ ๑๘๕๒ ๑๙๐๔ ๑๙๑๖ ๒๑๐๓ ๐๘๐๒ ๑๕ ๐๕๐๙ ๐๕๒๑ ๐๕๓๓ ๐๕๕๗ ๑๘๒๘ ๑๘๕๒ ๑๙๐๔ ๑๙๑๖ ๒๑๕๒ ๐๘๔๔ (เพ่อื การฝึก)

(เพอ่ื การฝกึ ) ชุดที่ ของ ชดุ หน้า ๓ ของ ๓ หน้า ใบแทรก ก (รายการแสงสว่าง) ประกอบอนผุ นวก ๑ (วิเคราะห์พน้ื ทีป่ ฏบิ ัติการ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าว กรอง) ประกอบแผนยุทธการพทิ ักษผ์ าเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ รายการแสงสว่างในห้วงปฏิบัตกิ าร (เดอื น เม.ย.๖๐) วันที่ ก่อนเร่ิม เริ่ม เร่ิม อาทิตย์ อาทติ ย์ สน้ิ แสง ส้นิ แสง หลงั สน้ิ จันทร์ จนั ทร์ แสงเงนิ แสงเงนิ แสงทอง ขึ้น ตก ทอง เงนิ แสงเงนิ ข้นึ ตก ๑๖ ๐๕๐๘ ๐๕๒๐ ๐๕๓๒ ๐๕๕๖ ๑๘๒๘ ๑๘๕๒ ๑๙๐๔ ๑๙๑๖ ๒๒๔๑ ๐๙๒๙ ๑๗ ๐๕๐๘ ๐๕๒๐ ๐๕๓๒ ๐๕๕๖ ๑๘๒๙ ๑๘๕๓ ๑๙๐๕ ๑๙๑๗ ๒๓๓๐ ๑๐๑๕ ๑๘ ๐๕๐๗ ๐๕๑๙ ๐๕๓๑ ๐๕๕๕ ๑๘๒๙ ๑๘๕๓ ๑๙๐๕ ๑๙๑๗ - ๑๑๐๓ ๑๙ ๐๕๐๖ ๐๕๑๘ ๐๕๓๐ ๐๕๕๔ ๑๘๒๙ ๑๘๕๓ ๑๙๐๕ ๑๙๑๗ ๐๐๑๗ ๑๑๕๓ ๒๐ ๐๕๐๖ ๐๕๑๘ ๐๕๓๐ ๐๕๕๔ ๑๘๒๙ ๑๘๕๓ ๑๙๐๕ ๑๙๑๗ ๐๑๐๔ ๑๒๔๕ ๒๑ ๐๕๐๕ ๐๕๑๗ ๐๕๒๙ ๐๕๕๓ ๑๘๒๙ ๑๘๕๓ ๑๙๐๕ ๑๙๑๗ ๐๑๕๐ ๑๓๓๘ ๒๒ ๐๕๐๔ ๐๕๑๖ ๐๕๒๘ ๐๕๕๒ ๑๘๓๐ ๑๘๕๔ ๑๙๐๖ ๑๙๑๘ ๐๒๓๕ ๑๔๓๒ ๒๓ ๐๕๐๔ ๐๕๑๖ ๐๕๒๘ ๐๕๕๒ ๑๘๓๐ ๑๘๕๔ ๑๙๐๖ ๑๙๑๘ ๐๓๑๙ ๑๕๒๗ ๒๔ ๐๕๐๓ ๐๕๑๕ ๐๕๒๗ ๐๕๕๑ ๑๘๓๐ ๑๘๕๔ ๑๙๐๖ ๑๙๑๘ ๐๔๐๔ ๑๖๒๕ ๒๕ ๐๕๐๓ ๐๕๑๕ ๐๕๒๗ ๐๕๕๑ ๑๘๓๐ ๑๘๕๔ ๑๙๐๖ ๑๙๑๘ ๐๔๕๐ ๑๗๒๔ ๒๖ ๐๕๐๒ ๐๕๑๔ ๐๕๒๖ ๐๕๕๐ ๑๘๓๑ ๑๘๕๕ ๑๙๐๗ ๑๙๑๙ ๐๕๓๘ ๑๘๒๕ ๒๗ ๐๕๐๑ ๐๕๑๓ ๐๕๒๕ ๐๕๔๙ ๑๘๓๑ ๑๘๕๕ ๑๙๐๗ ๑๙๑๙ ๐๖๒๙ ๑๙๒๘ ๒๘ ๐๕๐๑ ๐๕๑๓ ๐๕๒๕ ๐๕๔๙ ๑๘๓๑ ๑๘๕๕ ๑๙๐๗ ๑๙๑๙ ๐๗๒๒ ๒๐๓๒ ๒๙ ๐๕๐๐ ๐๕๑๒ ๐๕๒๔ ๐๕๔๘ ๑๘๓๒ ๑๘๕๖ ๑๙๐๘ ๑๙๒๐ ๐๘๑๙ ๒๑๓๕ ๓๐ ๐๕๐๐ ๐๕๑๒ ๐๕๒๔ ๐๕๔๘ ๑๘๓๒ ๑๘๕๖ ๐๙๐๘ ๑๙๒๐ ๐๙๑๘ ๒๒๓๖ (เพอื่ การฝกึ )

เพือ่ การฝกึ ชุดที่ ของ ๗๕ ชุด หน้า ๑ ของ ๑ หน้า อนุผนวก ๒ (แผ่นบรวิ ารสถานการณ์ข้าศกึ ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทักษ์ ผาเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ทิศเหนือ เพื่อการฝกึ

เพอ่ื การฝกึ ชดุ ที่ ของ ชดุ หน้า ๑ ของ ๒๖ หน้า อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทกั ษผ์ าเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ๑.กำลงั : ก.กองทัพประเทศชมพู สถานภาพกำลงั พลประมาณ ๖๑,๕๐๐ คน เปนกําลังทหารบก ประมาณ ๕๘,๐๐๐ คน และ กําลังทหารอากาศ ประมาณ ๓,๕๐๐ คน (กําลังทางเรือ ประมาณ ๖๐๐ คน โอนไปข้ึนตรงกับ กระทรวงป้องกันความสงบ) แบงเปน ๒ เหลาทัพ คือ กาํ ลงั ทางบก และกําลงั ทางอากาศ ข.กำลงั ทางบก จัดระบบทางทหารตามยุทธศาสตรสงครามประชาชน โดยจัดแบงกําลงั ประกอบอาวุธ ตาม ขีดความสามารถและประสิทธิภาพในการรบ และความเรงดวนในความพรอมรบ แบ่งออกเป็น ๓ ส่วน คือ สว่ นบังคับบัญชาและอำนวยการ กำลงั ประมาณ ๙,๐๐๐ คน ส่วนกำลงั รบหลกั ประมาณ ๒๖,๐๐๐ คน และ กำลงั ประจำถน่ิ ประมาณ ๒๓,๐๐๐ คน ๑) กําลังรบหลัก เปนทหารประจําการท้ังสิ้น ประกอบดวย พล.ร.๑, ๒, ๓, ๔ และ พล.ร.๕ มีกําลัง ประมาณ ๒๖,๐๐๐ คน - พล.ร.๑ แบงกําลังออกเปน ๕ กรม.ร., ๑ กรม.ป. และหนวยสนับสนุน มีกําลัง ประมาณ ๖,๕๐๐ คน - พล.ร.๒ แบงกําลังออกเปน ๓ กรม.ร., ๑ กรม.ป. และหนวยสนับสนุน มีกําลัง ประมาณ ๔,๕๐๐ คน - พล.ร.๓ แบงกําลังออกเปน ๔ กรม.ร., ๑ กรม.ป. และหนวยสนับสนุน มีกําลัง ประมาณ ๖,๐๐๐ คน - พล.ร.๔ แบงกําลังออกเปน ๒ กรม.ร.๔๐๑, ๔๐๒ และหนวยสนับสนุน มีกําลังประมาณ ๔,๕๐๐ คน - พล.๕ แบงกําลังออกเปน ๒ กรม.ร.๕๐๑, ๕๐๒ ๙ พัน.ร. และหนวยสนับสนุน มีกําลังประมาณ ๔,๕๐๐ คน ๒) กำลังประจำถิ่น เปนกําลังทหารในทองถ่ิน จัดตั้งขึ้นเพื่อรักษาความสงบเรียบรอยใหแกประชาชน ข้ึนการ บังคับบญั ชากับ บก.ทหารแขวง และ เมอื ง สาํ หรับดานยทุ ธการ อยูในความควบคุมของหนวยกําลังรบ หลกั มี ๑๗ บก.ทหารแขวง และ ๑ นครหลวง, กาํ ลังประมาณ ๒๓,๐๐๐ คน ภาคเหนือ บก.ทหาร ข.พงสาลี, บก.ทหาร ข.หลวงน้ำทา, บก.ทหาร ข.อุดมไช, บก.ทหาร ข.บอแก วบก. ทหาร ข.หลวงพระบาง, บก.ทหาร ข.หวั พนั , บก.ทหาร ข.ไชยะบุรี, บก.ทหาร ข.เชียงขวาง ภาคกลาง บก.ทหาร ข.เวียงจันทน, บก.ทหารนครหลวงเวียงจันทน, บก.ทหาร ข.ไซสมบูน, บก. เพอ่ื การฝึก

เพ่ือการฝกึ ชุดที่ ของ ชดุ หนา้ ๒ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทักษผ์ าเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ทหาร ข.บอลคิ ําไช และ บก.ทหาร ข.คาํ มวน ภาคใต บก.ทหาร ข.สะหวันนะเขด, บก.ทหาร ข.สาละวัน, บก.ทหาร ข.เซกอง, บก.ทหาร ข.จําปา สกั , บก.ทหาร ข.อัดตะปอ กําลงั ประจาํ ถ่นิ เปนสวนหน่ึงของทหารประจําการ และเปนกําลงั เคลอ่ื นทีเ่ ร็วของทองถิ่น โดยจะใชกอง หลอนเปนผูนําพา และหาขาวในหมูบาน เปนหลักในการทําสงครามประชาชน ในทองถ่ิน แนวความคิดในการ ทาํ สงคราม ใหแขวงและเมือง เปนหนวยทางยทุ ธศาสตรในการปองกันใหเมืองเปนหนวยผลิตและสามารถเลี้ยง ตัวเองได กําลังประจําถิ่น เปนกําลังสําคัญสวนหน่ึงของกองทัพประชาชนปฏิวัติชมพู เจาแขวงและเจาเมือง เป็นผู้มีอํานาจสั่งใชกองกําลังทหารแขวงและเมอื งในเรื่องการทหารในพน้ื ท่ี แตเมื่อเกิดสงคราม กองกําลังทหาร แขวง ทหารเมอื ง จะขึ้นการควบคุมทางยทุ ธการกบั กําลังทหารหลัก ค. ลกั ษณะของหนวยทหารประจําถิ่น ๑) กองพันทหารแขวง แตละแขวงจะมีอยางนอย ๑ พัน.ทหารประเทศชมพู ทั้งน้ีข้ึนอยูกับสถานการณ จํานวนประชากร และงบประมาณของแขวง โครงสรางการจัดประกอบดวย ๓ – ๔ กองรอย กําลังทั้งกองพัน จะมปี ระมาณ ๒๐๐ คน (กองรอยละประมาณ ๓๐ – ๕๐ คน) ๒) กองรอยเอกราช (รอย.อร.) เปนกองรอยอิสระ การบังคับบัญชาในเวลาปกติจะขึ้นตรงตอ บก.ทหาร แขวง และ บก.ทหารเมอื ง มที ้ังหนวย ร.และหนวยพเิ ศษ (ดกั๊ กง) กําลังพลประมาณ ๓๐-๖๐ คน ง. การจัดตั้งกาํ ลังรบทหารชายแดน กองทัพประชาชนชมพู ของประเทศชมพู ตั้งแตเรม่ิ กอตง้ั และประกาศ เปนประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เม่ือ ๒ ธ.ค. ๒๕๑๘ เปนตนมา ยังไมมีกําลังรับผิดชอบ โดยตรงในการดูแลรักษาชายแดน กรมการเมืองศูนยกลางพรรค และรัฐบาลจึงมอบหมายใหกระทรวงปอง กันประเทศ จัดต้ังกําลังรบทหารชายแดนขึ้น โดยมีพิธีประกาศแตงตั้ง กําลังรบทหารชายแดน กองทัพ ประชาชนลาว ที่กระทรวงปองกันประเทศ โดยบรรจกุ าํ ลังทหารเมอื งตามแนว ชายแดนใน ๑๗ แขวง เปนกาํ ลัง รบทหารชายแดน เพ่ือชวยในการรักษาอํานาจอธิปไตยและพ้ืนแผนดินของ ประเทศใหม่ันคง โดยปฏิบัติหน าทป่ี องกันชายแดนระหวางประเทศ รวมท้ังเปนกําลังดูแลรกั ษาความสงบสุข ของประชาชนที่อาศัยอยูตามแนว ชายแดน ซงึ่ กําลงั รบทหารชายแดนดังกลาวจะขึน้ การควบคุมของกรมใหญ เสนาธิการและกองบัญชาการทหาร แขวง, นครหลวง และขน้ึ ตรงกับกรมชายแดนและแผนท่ี กรมใหญเสนาธิ การ กระทรวงปองกันประเทศ จ.จํานวนอาวุธยทุ โธปกรณของกองกําลังทางบก (โดยประมาณ) ๑) อาวธุ ปนของทหารราบ เพอ่ื การฝึก

เพ่ือการฝกึ ชดุ ท่ี ของ ชดุ หนา้ ๓ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทกั ษผ์ าเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ปพ.๙ มม. (MAKAROY) จาํ นวน ๒,๐๐๐ กระบอก ปลย. AK - ๔๗ จาํ นวน ๓๔,๐๐๐ กระบอก ปก. ๗.๖๒ (RPK) จํานวน ๕๐๐ กระบอก ปก. ๗.๖๒ (PK) จํานวน ๕๐๐ กระบอก ปกน. ๑๒.๗ มม. (DSHK) จาํ นวน ๕๐๐ กระบอก ๒) อาวธุ ของหนวย ปตอ. ปตอ.๑๒.๗ มม. จาํ นวน ๑๐๐ กระบอก ปตอ.๒๓ มม. จาํ นวน ๙๓ กระบอก ปตอ.๓๗ - ๒ จาํ นวน ๑๐๑ กระบอก ปตอ.๓๗ - ๔ อจว. จํานวน ๔ กระบอก ปตอ. ๕๗ มม. จาํ นวน ๔ กระบอก จรวดอกิ ารา - ๑ (Portable) จํานวน ๔ ระบบ หรอื หวั รบ (จรวด ๖๗ หัวรบ) จรวดเปโจลา (SA-๓) จาํ นวน ๖ หวั รบ (จรวด ๑๖ หวั รบ) จรวดสแตนรา ๒ - M จาํ นวน ๒๒ หัวรบ (จรวด ๗๘ หัวรบ) จรวดวิตาลา (SA - ๗) จํานวน ๓๘๕ กระบอก จรวดสแตนลา (ตดิ บนรถ) จาํ นวน ๑๑๔ กระบอก จรวดหลายลํากลอง BM - ๑๔ (๑๖ ทอยงิ ) จาํ นวน ๒๔ เคร่ือง จรวดหลายลํากลอง BM - ๒๑ (๔๐ ทอยงิ ) จํานวน ๘ เครอื่ ง ๓) หนวยยานเกราะ ถ.T - ๓๔ จาํ นวน ๔๕ คัน ถ.T - ๕๔ จํานวน ๓๐ คนั ถ.T - ๕๕ จํานวน ๑ คัน ถ.T - ๕๘ จาํ นวน ๑๑ คนั ถ.T - ๕๙ จาํ นวน ๖ คัน ถ.T - ๖๓ จํานวน ๓ คนั ถ.T - ๖๗ รถลาํ เลยี งพล จาํ นวน ๒ คัน เพอื่ การฝึก

เพื่อการฝึก ชุดท่ี ของ ชดุ หน้า ๔ ของ ๒๖ หน้า อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทักษผ์ าเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ถ.PT - ๗๖ จาํ นวน ๒๕ คนั รถหุมเกราะ BMP - ๑ จาํ นวน ๓ คนั รถหุมเกราะ BTR - ๖๐ PB จาํ นวน ๒๓ คนั รถหุมเกราะ BTR - ๑๕๒ จาํ นวน ๔๐ คนั รถหุมเกราะ BRDM - ๒ จํานวน ๒๘ คัน รถหุมเกราะ TYPE - ๖๓ จาํ นวน ๒ คัน รถหุมเกราะ M - ๘ จาํ นวน ๒๕ คนั ๔) หนวยปนใหญ ป.๗๘ ZIS - ๓ จาํ นวน ๙ กระบอก ป.๘๕ D ๔ จาํ นวน ๒๓ กระบอก ป.๑๐๕ มม. (M ๑๐๑) จาํ นวน ๔๕ กระบอก ป.๑๒๒ มม. (D - ๓๐) จาํ นวน ๔๐ กระบอก ป.๑๓๐ มม. (M - ๔๖) จํานวน ๑๐ กระบอก ป.๑๓๐ มม. (M - ๔๘) จํานวน ๓๐ กระบอก ป.๑๕๒ มม. (D - ๒๐) จํานวน ๓๖ กระบอก ป.๑๕๕ (M - ๑๔) จาํ นวน ๔๘ กระบอก ๕) หนวยบิน ทบ. บ.ลาํ เลยี ง AN - ๒ จํานวน ๔ เคร่ือง บ. ลําเลยี ง YAK - ๔๐ จํานวน ๑ เครือ่ ง บ.ลาํ เลียง HST - ๕๕๐ จํานวน ๑๐ เครอื่ ง ๒.กำลังเผชิญหนา้ : ก.เปน็ กำลังของ พล.ร.๒ จัดกำลัง กรม ร.๒๒ รับผิดชอบเมืองทุ่งมีไชย โดยฝา่ ยตรงข้ามวางกำลังเผชิญหน้า ประมาณ ๒ พัน.ร. จาก พัน.ร.๔๐๔, พัน.ร.๔๐๖, ๑ มว.ม.(ลว.) และอาวุธยิงสนับสนุน ๑ พัน.ป.ซึ่งเป็น นขต. ของ พล.ร.๒ ข.กำลังเพ่ิมเติม : สามารถเพ่ิมเติมกำลัง ด้วยกำลัง ๑ พัน.ร. ไดภ้ ายใน ๔๘ ช่ัวโมง และเพ่ิมเติมกำลังเข้าตี เพอื่ การฝึก

เพอ่ื การฝึก ชุดที่ ของ ชุด หน้า ๕ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทกั ษ์ผาเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ตอ่ แนวตา้ นทานของเรา ดว้ ยกำลัง ๓ กองพัน ภายในเวลา ๗๒ ช่วั โมง ค.ผงั การจดั เพอื่ การฝึก

เพอ่ื การฝกึ ชดุ ที่ ของ ชุด หนา้ ๖ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทักษผ์ าเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ๑) ส่วนกำลังรบหลัก เพ่ือการฝึก

เพื่อการฝกึ ชดุ ท่ี ของ ชดุ หน้า ๗ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทกั ษผ์ าเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ เพอ่ื การฝึก

เพื่อการฝกึ ชดุ ท่ี ของ ชดุ หน้า ๘ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทกั ษผ์ าเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ เพอ่ื การฝึก

เพื่อการฝกึ ชดุ ท่ี ของ ชดุ หน้า ๙ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทกั ษผ์ าเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ เพอ่ื การฝึก

เพื่อการฝึก ชดุ ท่ี ของ ชุด หน้า ๑๐ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทักษ์ผาเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ เพอ่ื การฝึก

เพอ่ื การฝึก ชุดท่ี ของ ชุด หน้า ๑๑ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทักษ์ผาเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ๒) กำลงั ทหารประจำถ่นิ เพ่ือการฝึก

เพอ่ื การฝึก ชุดท่ี ของ ชุด หน้า ๑๒ ของ ๒๖ หน้า อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทกั ษผ์ าเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ๓. ยทุ ธวธิ ี หลักนิยมทางยุทธวิธี ประเทศชมพู นําหลักนิยมทางทหารของประเทศน้ำตาลมาใช โดยผสมผสานยุทธวิธี การรบตาม แบบและการรบนอกแบบเขาดวยกัน การปฏิบัตจิ ัด ชป.ขนาดเล็ก เพ่ือ ลว.หาขาว ซุมโจมตีทําลาย และยึดพ้ืนท่ี ใช การรบนอกแบบเปนหลัก เพื่อลดการสูญเสียกําลังพล กอนการโจมตีทุกคร้ัง ประเทศชมพู จะใชชุด ลว. ขนาดเล็กแทรกซมึ หาขาวเกยี่ วกับท่ีตั้ง การวางกําลัง ตลอดจนการเคล่ือนไหวของฝายตรงขามให แนชดั กอนใชกําลังระดับ มว.เขาตี โฉบฉวยแลวจงึ ใชกําลังสวนใหญเขาตซี า้ํ อีกระลอกหน่งึ ทําการรบยืดเยอื้ จน ขา้ ศกึ ออนแอหลังจากนัน้ จึงทาํ สงครามตามแบบรกุ เขาทําลาย และยึดทห่ี มาย ซึ่งหลักนยิ มดงั กลาวมดี งั น้ี ก. หลักพื้นฐานการยุทธ ใชการดําเนนิ การทางจติ วทิ ยา และการเมืองควบคูไปกบั การทําสงคราม ใชความ รวดเร็ว ความคลองตัว การพราง และการจูโจม การเกาะติดขาศึก เม่ือฝายตนมีศักยภาพเหนือกวาขาศึก ถ าไม มัน่ ใจในความสาํ เรจ็ จะไมเขาตขี าศกึ พอทีจ่ ะกาํ หนดหลักการไดดงั นี้ ๑) หลักการรุก จะเนนการรุกทุกข้ันตอนของการทําสงคราม ดวยการวางแผนเตรียมการสืบ สภาพโดย ละเอียดกอนเขาตี ปดลับในการเคลอื่ นยายกาํ ลังใชภูมิประเทศ และทัศนะวสิ ยั ใหเปนประโยชน แมสถานการณ อาจจําเปนตองวางรูปขบวนในลักษณะของการต้ังรับ แตการตั้งรับจะคํานึงถึงหลักการรุกอยู เสมอ นั่นคือพร อมทีจ่ ะพลิกสถานการณใหเปนฝายรกุ ไดทุกเมื่อ ๒) หลักการรวมกําลัง จะรวมท้ังดานกําลังพลและอํานาจการยิง โดยวางกําลังเปนข้ัน (เปนระลอก) ให เหนือกวาขาศึก ณ ตําบลท่ีตองการ แตที่สําคัญย่ิงกวาน้ันคือ ความสามารถในการเปล่ียน เสนทางรุกไดอยา งรวดเร็ว เพอ่ื ทจ่ี ะขยายผล ณ จุดออนแอของขาศึกทค่ี นพบ ๓) หลักการจูโจมและการรักษาความปลอดภัย การจูโจมเปนหัวใจแหงความสําเร็จ โดยเนนการรักษา ความลับ ในเรื่องเปาหมาย, กลยุทธ, แนวทางเคลื่อนที่และทิศทางของการปฏิบัติในเวลา กลางคืน, การ เคลอื่ นที่อยางรวดเรว็ และวินยั ท่ีเขมงวดในการตดิ ตอสอ่ื สารทถ่ี อื เปนเร่ืองสาํ คัญ ๔) หลักการรวมอํานาจการยิง หนวยเหนือเปนผูประสาน และรวมอาํ นาจการยิงลักษณะ การสนับสนุน การยิงดวยอาวุธยิงเล็งตรง และเล็งจําลอง นอกจากน้ันยังเปนส่ิง บอกเหตุอันหนึ่งที่จะพิจารณา ถึงเสนทาง หลกั การรกุ ๕) หลักการดําเนินกลยุทธ การวางกําลังอยางรวดเร็วไมวาดวยยานยนตหุนเกราะ ยานยนต อ่ืน ๆ หรือดวยเทา เปนหลักพ้ืนฐานทางยุทธวิธีของกองทัพประชาชนลาว การดําเนิน ลยุทธดวยการเคล่ือนที่วาง กําลังอยางรวดเร็วตอชองท่ีเจาะทะลุทะลวงได และเปนคุณสมบัติประการหน่ึงในการปฏิบัติการยุทธของ เพื่อการฝึก

เพือ่ การฝกึ ชดุ ที่ ของ ชดุ หน้า ๑๓ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทักษผ์ าเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ กองทัพ ประชาชนลาว ๖) หลักการลาดตระเวน กอนการปฏิบัติการยุทธจะตองมีการลาดตระเวนอยาง ละเอียดในทางลึก ใชเครือ่ งมือและการปฏิบัติตาง ๆ อยางกวางขวาง ๗) หลักการควบคมุ ทเ่ี ขมงวดแตออนตัว กองทัพประชาชนลาว มกี ารควบคุมอยางเขมงวด ในการปฏิบตั ิ ใหเปนไปตามภารกิจตอหนวยรองในทุกระดับ แตลักษณะในการปฏิบัติของกองทัพประชาชนลาว คือมีความ ออนตัว การปฏิบัติเชนนี้ นาจะแสดงใหเห็นวาผูบังคับบัญชาอยูคอนไปขางหนา และมีระบบการ ติดตอสื่อสาร เพื่อส่ังการไดดี ทําใหหนวยสามารถปรับยุทธวิธี/รูปขบวนตามสถานการณได ในขณะที่ยังคงดํารง ความมุงห มายตามภารกจิ ทไ่ี ดรบั มอบ ๘) หลักการลวง จะใชการลวงในการปฏิบัติการทางทหาร โดยเฉพาะการรุกมักจะมีการยิง รบกวนดวย อาวุธหนักตอเปาหมายอื่น ๆ การใชกําลังขนาดยอมเขาตีเปาหมายหลาย ๆ เปาหมายหรือปฏิบัติการ การโฆษณาชวนเชือ่ เพ่ือหนั เหความสนใจตอเปาหมายหลักกอนเสมอ ๙) หลักการสงครามจิตวิทยา ใชสงครามจิตวิทยาควบคูกับการปฏิบัติการทางทหารเสมอ เพื่อ มุงให ฝายตรงขาม และ ประชาชนในพ้ืนที่ อิทธิพลของฝายตรงขาม เกิดความแตกแยก การยุยง, การหลบหนี, การหลกี เลีย่ ง, การเอาใจออกหาง และหันเหความสนใจของฝายตรงขาม ๑๐) หลักการยุทธรวม จะพยายามสนธิกําลัง และประสานการสนับสนุนการรบรวม ระหวางกําลังทาง บก, กาํ ลังทางเรือ, กําลงั ทางอากาศ และหนวยปองกนั ภยั ทางอากาศในทกุ ระดบั ทีเ่ กี่ยวของ ข.หลักนยิ มการจดั กาํ ลังเขาทำการรบ การจดั กําลังในการรุกเขาปฏิบัติการทางยทุ ธวธิ ี ๑) การจัดกําลังในการรุก ประเทศชมพูจะจัดกําลังเปนระลอก เพื่อใหสามารถปฏิบัตกิ ารรบในทางลึก ได ปรับการดําเนินกลยุทธอยางมีประสิทธิภาพ กําลังแตละระลอกมักจะประกอบดวยทหารราบ, ทหารปนใหญ, ทหารมายานเกราะ และทหารชาง กองหนุนจะสงวนกําลังไวเพื่อทดแทนหรือสนับสนุนกําลังรบหลัก ลักษณะ การจดั กาํ ลงั เปนระลอก โดยทวั่ ไปจะจดั กาํ ลังดังนี้ กําลังระลอกที่ ๑ เปนกําลังหลักในการเขาตี จะไดรับมอบใหยึดท่ีหมายในชั้นตน การจัด กําลัง ประกอบดวย กําลังรบประมาณคร่ึงหน่ึงถึงสองในสามสวนของกําลังรบท้ังหมด สนับสนุนดวยกําลังรถถัง และ ปนใหญ กาํ ลังระลอกท่ี ๒ เปนกาํ ลังท่ีจดั ไวเพ่ือรักษาแรงหนุนเนอ่ื งในการเขาตี เพือ่ ยดึ ท่ีหมายใน ข้นั ตนตอไป ดวยการเพ่ิมเติมกําลัง, ผลัดเปลี่ยนกําลัง การขยายผลแหงความสําเร็จใหกับกําลังระลอกแรก โดยเฉพาะ เพือ่ การฝึก

เพอ่ื การฝึก ชดุ ที่ ของ ชดุ หน้า ๑๔ ของ ๒๖ หน้า อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทกั ษ์ผาเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ทิศทางเขาตีหลัก หรือทศิ ทางเขาตีใหม ๒) กองหนุน เปนกําลังผสมเหลาที่มีขนาดเล็ก เม่ือเร่ิมตนการรบจะยังไมมอบภารกิจโดยเฉพาะ แตจะ เตรียมไวเมื่อเผชิญกับสถานการณที่ไมคาดคิด ปกติจะสงวนกําลังไวขยายผลในการเขาตีหรือยับย้ัง การตีเจาะ ลักษณะ การจดั มี ดังน.้ี ระดับกองพล จัดกองหนนุ ระดบั กองพัน ( + ) ระดบั กรม จัดกองหนนุ ระดับ กองรอย ระดับกองพัน จัดกองหนนุ ระดับ หมวด กองหนุนระดับกองพลอาจมี ๒ สวน คือ สวนที่อยูภายใตการบังคับบัญชาของกองพลโดยตรง อีก สวน หน่ึงขนึ้ การบังคับบญั ชาของหนวยท่สี ูงกวากองพล ค.หลักนยิ มการปฏิบัตกิ ารทางยุทธวิธี แบบของการรกุ การรบดวยวธิ รี กุ แบงออกเปน ๔ ลกั ษณะ คือ - การเคล่อื นทเข่ี าปะทะ - การรบปะทะ - การเขาตีเจาะ และการเขาตปีระสาน - การไลติดตามและขยายผล ประเภทที่ควรใหความสนใจเปนกรณพี ิเศษ เพ่อื ประโยชนตอการแจงเตอื น การตดิ ตาม ภาพสถานการณ การรุก คือ การเคล่ือนที่เขาปะทะและการเขาตีเจาะผาน (การเคล่ือนท่ีเขาปะทะและการรบปะทะ อาจจะจัด กําลงั รวมเปนการรบแบบเดยี วกนั ได) ๑) การเคล่อื นทีเ่ ขาปะทะ เปนการเคลื่อนทที่ างยุทธวิธีเพ่ือรกุ เขาหาฝายขาศึกในลักษณะแถว ตอน ปกติ กองพลจะไดรับมอบเสนทางเคลือ่ นที่ ๓ - ๔ เสนทาง (ระดับกรม ๑ - ๒ เสนทาง) โดยแบงกาํ ลงั ดงั น้ี ก) สวนลาดตระเวนของกองพล จะจัดกําลังจากกําลังหลักของกองพันลาดตระเวนมักจะมี กําลังจาก หนวยทหารชาง และหนวยปฏิบัติการพิเศษ มาสมทบเสมอ มีขีดความสามารถปฏิบัติการทางลึกหาง จาก กําลังสวนใหญ ภารกิจหลักคือการลาดตระเวนและการแจงเตือนเก่ียวกับขาศึก นอกจากสถานการณบังคับ ทั้งน้ีเพื่อใหสามารถซอนพรางเสนทางหลกั ในการเคล่ือนท่ี ใหไดนานท่ีสดุ ข) สวนระวงั ปองกนั หนา จะจัดกาํ ลงั จาก กรมที่เปนหนวยนาํ ในการเคลอื่ นท่ี ปกติจัดกําลงั ผสม เหล าระดับกองพัน มีภารกิจในการกวาดลาง การตานทานขนาดยอม, พิสูจนทราบที่ต้ังกําลังสวนหนึ่งของขาศึก และทําการระวังปองกันดานหนาของกําลังสวนใหญ หนวยยานเกราะจะเปนสวนหน่ึงของสวนระวังปองกัน เพอื่ การฝึก

เพ่ือการฝึก ชดุ ท่ี ของ ชดุ หนา้ ๑๕ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทักษ์ผาเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ หนาดวย ในเวลากลางคนื หรอื ภมู ปิ ระเทศบงั คับยานเกราะจะถอนตวั ไปอยูกับกาํ ลังสวนใหญ ค) กาํ ลังสวนใหญ ประกอบดวย หนวยระดับกรม ทจ่ี ะจดั กาํ ลังเปนระลอก และกองหนุน สนับสนุนด วยรถถัง, ปนใหญ, ปนตอสูอากาศยาน และมักจะมี บก.ทางยุทธวิธีของกองพล คอนไปอยูขาง หนาของ กาํ ลังสวนใหญดวย ง) สวนระวงั ปองกันทางปก/สวนระวังปองกันหลงั มีกาํ ลงั ตง้ั แตระดบั ตอนถึงระดับกองรอย ๒) การรบปะทะ คือ การรบระหวางกําลังของทั้งสองฝายเมื่อรุกเคลื่อนมาพบกัน ลักษณะ การปะทะ เปนการรบบนสถานการณท่ีไมกระจางชัด ความสําเร็จจะข้ึนอยูกับการปฏิบัติ ที่รนุ แรง และการ ประสานการ ใชอาวุธทุกชนิด เมื่อเกิดการปะทะจะปรับรูปขบวนออกทางขางเพ่ือลดจุดออนทางปก จะดํารง ความกดดัน โดยตรึงขาศึกไว ขณะท่ีสวนลาดตระเวน จะคนหาปก ท่ีเหมาะตอการโอบ ถาสวนลาดตระเวนพบ ปกที่ แข็งแรงของขาศึก กําลังระลอกแรกจะเขาตีตรงหนา กําลังระลอกท่ีสอง จะดําเนินกลยุทธเขาคุกคามปก ทั้ง สองขางของขาศกึ การรบปะทะมักจะเกิดกับหนวยระดับกองรอย จนถงึ ระดบั กรม ๓) การตีเจาะ และการเขาตี การตีเจาะผานใชเมื่อขาศึกมีการวางแผนตานทาน และต้ังรับใน ท่ีมั่นท่ี แข็งแรง หรือเม่ือตองการยึดท่ีหมายในขั้นแรก จะพยายามเจาะแนวเพ่ือเลื่อนพื้นที่การรบไปหลังแนว ฝายตรงขามแทนท่ีจะมุงความสนใจไปภูมิประเทศท่ีสําคัญ โดยใหกําลังสวนท่ีตามมารับผิดชอบแทน ข้ันตอไป จะปดลอมและทําลายที่หมายฝายตรงขามตอไป ปกติแลวจะใช พัน.ร. เปนหนวยหลักในการปฏิบัติการ ทางยุทธวิธี และ รอย.ป. ยิงสนับสนุน แตละ พัน.ร. จะสงกําลังขนาดกองรอยหรือขนาดหมวดเขาปฏิบัติการ หาก ฝายตรงขามมีกําลังมากกวา จะขอกําลังสนับสนุนจาก พัน.ร. แตลักษณะภูมิประเทศเปนปาเขา ขาดเสนทางคมนาคม ยากแกการเขาถึง ไมสะดวกในการเพิ่มเติมกําลัง ปจจัยตาง ๆ มีผลในการรวมกําลัง อาวุธ และอํานาจในการยิง ทาํ ไดไมรวดเรว็ จึงไมมีประสิทธภิ าพเทาทค่ี วรในการรวมกําลัง โดยเฉพาะอยางยิง่ ใน เวลากลางคืน หากเปน พ้ืนที่เนิน หรือพ้ืนที่สูง จะรวมกําลังเปนชุด ๆ ละ ๑๐ - ๒๐ คน ในการปฏิบัติการจะใช การรวมกําลังทหารประจําการเขากับกําลังประจําถ่ิน และกาํ ลังรบนอกแบบ ในการเขาตีท่ีมั่นจะรวมกาํ ลังใหมี จํานวน สามเทาของ ฝายตัง้ รบั โดยจะตง้ั บก.ประสานงาน ระหวางหนวยตอหนวย ระหวางกําลงั ทางบก กาํ ลัง ทางเรือ และ กําลัง ทางอากาศ ขึ้นช่ัวคราว เพ่ืออํานวยความสะดวก สําหรับการควบคุมการปฏิบัติ ระหวาง หนวย จะไดรวมอํานาจ การยิงสนับสนุนใหกับหนวยขนาดเล็ก ซึ่งปฏิบัติการอยูในพื้นท่ีปฏิบัติการแตละ หนวยเปนคร้ังคราว โดยเฉพาะ การยิงสนับสนุนใหกับหนวยทหารราบ ซ่ึงเปนหนวยปฏิบัติการหลัก ป. และ กําลังทางอากาศ จะใชอาวุธหลาย ชนิดวางไวใหมาก ณ ตําบลซุมโจมตีและเสนทางผาน ยิงทําลายขมขวัญ เพ่อื การฝึก

เพื่อการฝึก ชดุ ที่ ของ ชุด หน้า ๑๖ ของ ๒๖ หน้า อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทกั ษ์ผาเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ รบกวนฝายตรงขาม นอกจากนั้นยังมี การจัดกําลัง ติดตามสถานการณดานการขาวของฝายตรงขามอยาง ตอเน่อื ง โดย - จดั ชดุ ปฏิบตั ิการขาว ออกเปนชดุ ๆ ละ ๓ - ๕ คน - ใช ชดุ ลว. ลกึ เขาไปในพนื้ ทฝ่ีายตรงขาม - จดั ตั้งสายลบับรเิ วณแนวชายแดน และลกเึ ขาไปในพ้นื ทฝี่ายตรงขาม - จัดตง้ั หนวยขาวขนาดเล็กในพื้นที่ฝายตรงขาม มีการพรางอยางดี ใหยากตอการตรวจการณ ทางอากาศและภาคพนื้ - มกี ารดกัฟงทางการส่ือสาร เรดารเฝาตรวจแจงเตือนภัย - มีการออกขาวลวง จากขาวเปด เชน วิทยุ, โทรทัศน และสง่ิ พิมพ - การวเิ คราะหขาวตาง ๆ พรอมการประเมนิคา - การเฝาตรวจ - สายการทูตตาง ๆ ในพน้ื ทปร่ี ะเทศตรงขาม ง.แบบของการดาํ เนินกลยทุ ธมี ๒ แบบ คอื ๑) การเขาตีเจาะ นอกจากจะเปนแบบหนึ่งของการดําเนินกลยุทธแลว ยังเปนแบบพื้นฐานของการ ดําเนนิ กลยุทธอน่ื ๆ ดวย การตีเจาะอาจแบง ได ๒ แบบ คือ ก) การเจาะที่หมายเดียว ใชไดในทุกระดับ ใชกําลังสวนเขาตีหลักทําการเจาะที่หมายเดียว เพื่อทํา ใหทมี่ ัน่ ฝายตรงขามแยกจากกนั แลว เขายึดที่หมายในทางลึกตอไป ข) การเจาะหลายแหง มักใชในระดับกองพันหรือสูงกวา โดยใชกําลังสวนเขาตีหลักและสวนเขาตี สนบั สนุนดาํ เนนิ การเจาะแนวตงั้ รับหลาย ๆ แหง พรอม ๆ กันแลวยึดทห่ี มายตอไป ๒) การเขาตีโอบหรือการเขาตีทางปก เมื่อตองการผลการจูโจม มักจะเลือกใชแบบการเขาตีโอบหรอื การ เขาตีทางปก โอกาสที่จะเก้ือกูลตอการเขาตีคือจะตองมีขาวกรอง และการตอตานขาวกรองที่มีประสิทธิภาพ สภาพภูมิประเทศจะตองเก้ือกูลตอการปกปดกําบัง และมีพ้ืนที่เพียงพอในการดําเนินกลยุทธ กรมจะให ๑ กองพัน ทําการโอบปกเดียวควรจะมีพ้ืนท่ีกวางประมาณ ๑๐ -๑๕ กิโลเมตร เพราะจะตองมี ๒ กองพัน เขาดําเนิน กลยุทธ คือ ๑ กองพันท่ีโอบ และ ๑ กองพันที่ตรึงขาศึกอยูตรงหนาเปนตน แบบของการตีโอบ มอี ยู ๓ แบบคือ เพอ่ื การฝึก

เพือ่ การฝึก ชุดที่ ของ ชดุ หนา้ ๑๗ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทักษ์ผาเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ก) การเขาตีโอบปกเดียว จะใชกําลังบางสวนเขาตีตรงหนาและรวมอํานาจการยิงรุนแรง โดยใช กําลังสวนใหญเปนสวนเขาตีหลักโอบปกใดปกหน่ึง ในการเขาตีหลังที่หมายเพ่ือปดลอมและทําลายตอไป มกั กระทําในลักษณะท่ีมีส่ิงกีดขวางตามธรรมชาติสกดั ก้ันขาศึกอีกทางปกหน่ึงไวแลว ทําใหสามารถรวมอาํ นาจ กําลังรบเพื่อดําเนนิ กลยุทธในทศิ ทางเดียวได ข) การเขาตีโอบสองปก ใชกําลังสวนเขาตีตรงหนารวมอํานาจการยิงอยางรุนแรง และใช กําลังสวน ใหญเปนสวนเขาตีหลักโอบปกทั้งสองขาง เขาตีท่ีหมายเพ่ือปดลอมและทําลายตอไป มักกระทําเมื่อมี อํานาจ กาํ ลังรบทีเ่ หนอื กวา และมีพนื้ ทบี่ ริเวณกวางพอ ค) การเขาตีรูปคีม เกิดขึ้นในลักษณะท่ีไมสามารถทําการโอบปกท้ังสองปกได เนื่องจากหาปกเปด ของขาศึกไมไดจะทําการเจาะทางปกท้ังสองขาง รุกไปขางหลังจากน้ันจัดกําลังคลายรูปคีม คือสวนบนท้ังสอง ขางจะขัดขวางการเพ่มิ เตมิ กําลงั ของขาศึก ในขณะคีมสวนลางจะเขาตีและทาํ ลายเปาหมายตอไป จ.การเตรียมการรกุ (ส่งิ บอกเหตุ) - การใชหนวยปฏิบัติการพิเศษ/หนวยสืบขาว ลาดตระเวนพ้ืนที่ปฏิบัติการหาขาวเก่ียวกับที่ตั้ง การประกอบกาํ ลงั ของฝายตรงขามและขาวสารอนื่ ๆ โดยแนชัด - เม่ือหนวยสืบขาวถอนกลับ กรม หรือ กองพันที่ จะเขาปฏิบัติการจะสงชุดลาดตระเวน เขาพิสูจนอีกคร้ังหนึ่ง อาจมีการตรวจภูมิประเทศ ลาดตระเวนที่หมายอยางละเอียด โดย ผบ.หนวย เนนใน เรือ่ งเสนทางการเคลอื่ นยาย เสนทางการเขาตพี นื้ ท่อี ันตราย - การปฏิบตั ิการผดิ ปกติ หรอื เพม่ิ ความถี่ในการ ลว.อากาศ, ลว.หาขาว และ ลว.รบ - มกี ารประชมุ ผูบงั คับบัญชาหนวยระดับตาง ๆ บอยครัง้ - จะสับเปลย่ี นผูบัญชาการตามความเหมาะสม และตามความจาํ เปน - มีการฝกเขาตีทหี่ มายจําลอง ซอมการเขาตใี นเวลากลางคนื ของหนวยระดับหมู ถึงกองพนั - มีการเบิกสายโทรศพั ทเปนจาํ นวนมาก (ใชในการวางสายกอนเขาตปี ระสาน) - ปรับปรงุ เสนทางกอนเขาสูพน้ื ทีเ่ ปาหมาย - มีการรองขอการสนับสนนุ ดนิ ระเบดิ ประเภทตาง ๆ ฝกแค และสายชนวน - มกี ารลําเลียง สป.ประเภทตาง ๆ เขามาในพน้ื ท่ีต้ังผิดปกติ - กําลังพลที่จะเขาปฏิบัติการรบจะไดรับคําสั่งในการเตรียมนําเสบียงและกระสุนติดตัวโดยไม ตองสงกาํ ลังบํารงุ เปนระยะเวลา ๗ - ๙ วัน เพ่อื การฝึก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook