Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 000 สรุปการฝึก RDF 65 (รวม)

000 สรุปการฝึก RDF 65 (รวม)

Published by godskolak, 2022-06-22 13:16:03

Description: 000 สรุปการฝึก RDF 65 (รวม)

Search

Read the Text Version

เพือ่ การฝกึ ชุดท่ี ของ ชดุ หน้า ๑๘ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทักษผ์ าเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ - มีคาํ สงั่ เตอื นใหหนวย ถ. และ ป.มีการลวงทางวิทยแุ ละเปลย่ี นรหสั รบั สงวทิ ยุ - หนวยระดับกองพลสั่งการใหหนวยในพ้ืนท่ีเตรียมอาวุธ, กระสุน, หนากากปองกันไอพิษ ให พรอมปฏบิ ัติการทกุ เวลา - มีการสงหนวยดกั ฟงเขาในพนื้ ท่ปี ฏิบัติการ - ในการรุกขนาดใหญจะมีการปฏิบัติการกอวินาศกรรมบอนทําลาย การแทรกซึม เพื่อรวมกําลัง เปนกลุมกอนในพน้ื ท่ีภายใน และในพืน้ ท่ีเขตหลงั ของขาศึกอยางกวางขวาง เพื่อสนบั สนนุ การเขาตี ฉ.การเตรยี มการเขาตี - จะมีการลาดตระเวนโดยละเอียด เพื่อใหสามารถคนพบจุดออนในการตัง้ รับของขาศึก การโจมตี จุดออนทางปกหรอื ดานหลังของทต่ี ้ังขาศกึ ตาง ๆ จะทําใหการเขาตี โดยสวนรวมประสบความสาํ เรจ็ - หนวยปฏิบัติการพิเศษจะแทรกซึมเขาไปทางปกหรือหลังขาศึกกอนเขาตี เพื่อตัดเสนทางสง กําลงั ขดั ขวางการเพิ่มเตมิ กาํ ลงั และการเคล่ือนท่ีกองหนุนของขาศกึ - การรวมกาํ ลงั ใหเหนือกวา และจัดวางกาํ ลงั เปนระลอกกระทาํ เพือ่ ใหเกดิ แรงหนุนเนอ่ื งการเขาตี ในทางลึก กําลังระลอกแรกจะพยายามเจาะเขายดึ ท่หี มายหลังแนวของขาศึก - จะใชการเขาตหี ลายทศิ ทางพรอม ๆ กัน เพื่อสนับสนุนสวนเขาตีหลักและกอใหเกิดควาสับสน ฝายตั้งรบั - การปฏบิ ัติในเวลากลางคืน และการสงกําลงั ในเวลากลางคนื จะเนนการปฏิบัติในการรักษา ความปลอดภัย และจะดาํ รงไวดวยการควบคุมวินัยการติดตอส่อื สารอยางเขมงวด - หากมีการเคล่ือนยายหนวยเขาหรือออก เปนส่ิงบอกเหตุวาจะมกี ารปฏบิ ัตกิ ารทางทหาร - มีการเพม่ิ กําลงั และนําหนวยใหมเขามาในพื้นทป่ี ฏบิ ตั กิ าร - มกี ารนาํ กาํ ลังและยานยนตจาํ นวนมากเขามาในพน้ื ทปฏ่ี ิบัตกาิ รโดยทางลับ - มีการเคล่อื นยายขบวนลําเลียงขนาดเล็กมาขางหนา ในเวลากลางคนื บอยครง้ั - มหี นวยลาดตระเวนเขามาในพื้นท่ีปฏิบัตกิ ารมากข้ึน - มีการวางกาํ ลงั เปนระลอกในพ้ืนที่ขางหนา - มกี ารยงิ ป. เพอ่ื หาหลักฐาน - มกี ารนํา ปตอ. และอาวธุ พื้นสูอากาศเขามาในพนื้ ทขี่ างหนา - มีการแยกวางกําลงั ป. เพือ่ สนบั สนุนกรมในแนวหนา เพ่ือการฝึก

เพอื่ การฝึก ชุดท่ี ของ ชดุ หน้า ๑๙ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทักษผ์ าเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ - มกี ารแยกหรือสมทบหนวย ถ. ใหหนวยในแนวหนา ช.การดําเนนิ การเขาตี - การเขาตี หนวยเคลือ่ นทจ่ี ากทร่ี วมพลในตอนพลบคํา่ เขาแนวออกตีกอน ป.ยิงเตรียม หนวย ป. จะเขาวางกําลงั กอนเวลาออกตี ๒๔ ช่ัวโมง โดยวางลาํ้ ไปขางหนาใหระยะยิง อยูในดนิ แดนขาศกึ - ยุทธวิธีการเขาตี ภายหลังการยิงเตรียม (ในบางครั้งอาจจะไมมีการ ยิงเตรียม เพื่อหวังผลใน การจโู จม) การเขาตีจะเร่มิ ในตอนดึกหรอื ใกลรงุ - กําลังระลอกแรกรุกไปขางหนา ภายใตการยิง ป.คุมครองและอาวุธยิงสนับสนุน เพ่ือเจาะผาน แนวตั้งรับที่มีจุดออนหรือจุดท่ีมีการตานทานท่ีนอยท่ีสุดเม่ือสามารถเจาะผานไดสําเร็จก็จะรุกเขาสูที่หมาย ในทาง ลึกตอไปอยางรวดเร็ว (ระลอกที่สองจะขยายชองเจาะ) โดยออมผานหยอมตานทานและท่ีม่ันท่ีตั้งรับ แข็งแรง หาก ประสบกับการตีโตตอบจากฝายขาศึก ก็จะเคลื่อนยายกองหนุนเขาปฏิบัติการอยางรวดเร็ว ภายใตการยงิ คมุ ครอง อยางหนาแนน - กําลังระลอกท่ีสอง จะถูกใชเพิ่มเติมใหกับกําลังระลอกแรกในการยึดที่หมายของกองพลและ รับผิดชอบยึดที่หมายขั้นตอไป การปฏิบัติของกําลังระลอกที่สองจะกระทํากอนที่กําลังระลอกแรกจะหมดแรง หนุนเน่ือง เพ่ือดํารงความเร็วในการรุกใหคงที่ กําลังระลอกที่สองอาจจะปฏิบัติการในทันทีท่ีกําลังระลอกแรก ประสบการตานทานอยางหนักจากขาศึก ซ.การไลติดตามและขยายผล เพื่อการทําลาย โดยการจัดกําลังสวนหน่ึงไลติดตาม จัดกาํ ลังสวน หนึ่งดํารง การปะทะไวกับขาศึก ในขณะที่กําลังอีกสวนหนึ่งจะเคลื่อนที่ไปตามเสนทางขนานกับการถอยของ ขาศึก และ พยายามรกุ ขึน้ ขางหนาใหได เพ่ือมงุ เขาตดั และทําลายกําลังขาศึกออกเปนสวน ๆ เพื่อการฝึก

เพ่ือการฝึก ชุดที่ ของ ชุด หน้า ๒๐ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทักษ์ผาเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ด.การรบดวยวธิ ตี ั้งรบั ยุทธวิธี ประเทศชมพูจะไมนิยมทําการรบดวยวิธีต้ังรบั ดังน้ันถาไมมีกําลังเพยี งพอท่ีจะรักษาพ้นื ที่ จะไม ยึดพื้นที่นั้นไว การตั้งรับมักจะกระทําในรูปของการรบหนวงเวลาดวยกําลังขนาดเล็ก ในการต้ังรับ ประเทศชมพู จะทําการ ดัดแปลงฐานท่ีม่ันใหแข็งแรงท้ังบังเกอร และ สนามเพลาะ ตลอดจน มีการสรางฐาน ลวงในบรเิ วณใกลเคยี ง และ เมื่อทราบวาขาศึกจะทําการเขาตี ประเทศชมพูจะยิงอาวุธหนักตามหลังขาศกึ เพื่อ ทําใหการเคล่ือนกําลังเขาหาฐาน ปฏิบัติการเร็วข้ึน และขาดความ ระมัดระวัง ขาศึกมักจะสูญเสียจากกับ ระเบิดและเกิดความเหนื่อยลากอนท่ีจะเขาถึงท่ีหมาย และเมื่อขาศึก เคลื่อนท่ีเขาสูพ้ืนท่ีสังหาร ประเทศชมพู จะระดมยิงดวยอาวุธประจําหนวย เชน RPG-๒, RPG-๗ กระทบกับตนไมเพื่อให ระเบิดใสขาศึก และจะใช ระเบิด ขวางจากสนามเพลาะ โดยขาศึกไมอาจเห็นตัวได ดวยการซอนพรางอยางดี ฝายคอมมิวนิสตเน นการรบดวย วธิ ีรุก เชื่อวาเปนวิธีที่นาํ ไปสูชัยชนะขั้นเด็ดขาด อยางไร กต็ ามกย็ ังไมทิ้งหลกั การ ต้งั รับ ไดมีการ พัฒนาหลักนิยมการต้ังรับ โดยอาศัยประสบการณจากการรบในสงคราม รวมทั้งการพัฒนาเทคนิค แบบใหม แบบของการตง้ั รบั มี ๒ แบบ คือ แบบประณีต และแบบเรงดวน ๑) วตั ถุประสงคการตัง้ รบั - รอการเพม่ิ เติมทรพั ยากรเม่ือถูกขาศึกบังคับใหตองหยุดชะงักช่ัวคราวในระหวางการรุก - ปองกนั ปกของรปู ขบวน - ขับไลการรกุ โตตอบของฝายขาศึก เพอื่ การฝึก

เพอื่ การฝกึ ชดุ ที่ ของ ชุด หน้า ๒๑ ของ ๒๖ หน้า อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทักษ์ผาเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ๒) หลักการตั้งรับ หลักนิยมการต้ังรับ กระทําเพื่อใหไดเวลา และเพื่อออมกําลัง ณ พื้นท่ีหนึ่ง แลวใช ปฏิบัติการรุกในพื้นท่ีอ่ืน เสริมความม่ังคงตอความสําเร็จ ขับไลฝายเขาตี ซึ่งมีกําลังเหนือกวา ประกอบ ดวย หลกั การดังน้ี - มีการสนบั สนุนซึง่ กันและกนั - จัดท่มี ่นั แข็งแรงใชกําลังขนาดกองพันมคี วามสมบรู ณในตัวเอง - ใชอาวธุ ตอสูรถถังเปนหลกั ในพ้ืนที่ม่ันตงั้ รบั หลัก - ท่มี ัน่ หลักแข็งแรงจะไดรบั การเพิม่ เตมิ กําลงั ดวยปนใหญ - ชองวางที่ม่ันแข็งแรง มแี นวยิงระวงั ปองกนั - สรางเครอื่ งกีดขวางลํา้ ไปขางหนา เพอื่ บบี ขาศึกใหเคลื่อนทีเ่ ขามาในพน้ื ท่ีอันตราย - มกี ารตดิ ตอสื่อสารอยางกวางขวาง - กองหนนุ ใชหนวยยานเกราะเปนหลัก คลองแคลว ในการเคล่อื นท่ี ๓) การดําเนนิ การต้งั รบั แบบประณตี และเรงดวน - วางกําลังในทางลึก โดยแบงเปนสวนระวังปองกันและแนวตานทานหลัก แนวตั้งรับที่สอง และ สาม แตละแนวจะวางกําลังในลกั ษณะมกี ารชวยเหลือซ่ึงกันและกนั การประกอบกําลังจะจดั ในรปู กองพัน อสิระ ซ่ึงสามารถชวยเหลือตนเองไดดวย จะประกอบกําลังดวยกองพันปนเล็กยานยนต ปนใหญ เครื่องยิงลูก ระเบดิ และรถถงั แตละแนวมีกองหนนุ ขนาดใหญ สามารถเคลื่อนยายดวยยานยนต - กําลังในพ้ืนท่ีระวังปองกัน มีหนาที่ในการทําลายร้ังหนวง และทําใหหนวยท่ีรุกเขามา จําเปนตองจัดกําลังใหม กอนท่ีจะถึงแนวตานทานหลัก กําลังสวนน้ีวางกําลังเต็มกวางดานหนาเพียงพอ ท่ีจะ ไมใหขาศกึ ใชการยิงมายงั แนวตานทานหลกั ได ตามปกติการวางกําลงั จะมแี นวลกึ ๒๐ - ๓๐ ม. - แนวตานทานหลัก วางกําลังในลักษณะอาศัย และใชประโยชนจากภูมิประเทศมากท่ีสุด และ ปกติจะวางกําลังหลังเคร่ืองกีดขวางทางธรรมชาติ กําลังสวนน้ีมคี วามมุงหมายท่ีจะหยุดการเขาตี แนวน้ีมี ความ ลึก ๑๕ กม. การประกอบกําลังประกอบดวย หนวยทหารราบยานยนต หนวยยานเกราะ หนวยปนใหญ หนวย ตอตานรถถงั และหนวยปองกันภยั ทางอากาศ - แนวตั้งรบั ทส่ี อง จะวางกําลงั ในทางลึกประมาณ ๑๐ กม. หางจากแนวหลงั สดุ ของแนวตัง้ รับ หลัก ๘ - ๑๐ กม.กําลังสวนน้ีจะวางเตรียมไว มีความมุงหมายท่ีจะตรึงกําลังท่ีจะเจาะผานแนวตั้งรับหลักไว จนกวาการตีโตตอบกําลังแนวท่ีสามจะเขาปฏิบัติการ กําลังสวนนี้จะประกอบดวยหนวยทหารราบ-ยานยนต เพ่อื การฝึก

เพื่อการฝกึ ชุดที่ ของ ชดุ หนา้ ๒๒ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทกั ษผ์ าเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ และกําลังกองหนุนมหี นวยรถถังซ่งึ เสรจ็ ภารกิจจากพืน้ ทีร่ ะวังปองกัน - แนวตั้งรับที่สาม จะวางหางจากแนวต้ังรับที่สอง ๘ - ๑๐ กม. กําลังลึกประมาณ ๑๐ กม. กําลังสวนนมี้ ีความมุงหมายที่จะปฏิบตั ิการตโี ตตอบ ในกรณีทต่ี ีไมสําเรจ็ วางกําลังตานทานโดยใชแนวต้ังรบั ทใ่ี ช กาํ ลงั พลจัดเตรียมไวและรอกาํ ลังทจี่ ัดสาํ หรับการตอตานจากหนวยขางหลัง ต.การรบดวยวิธรี นถอย การรนถอย แยกออกเปน ๓ แบบ คือ การรบหนวงเวลา การถอนตัวและการถอย โดยทั่วไปการ ถอนตัวเฉพาะตําบลจะสั่งการโดยหนวยเหนือและในการต้ังรับแบบประณีต การปฏิบัติการน้ี จะกระทําโดย ความ มุงหมายที่จะใหขาศึกเกิดจุดออนจากการระดมยิงของฝายตน โดยการบีบผลักดันใหขาศึกเขามาอยูใน บริเวณ พืน้ ท่ีเปาหมายท่ีเหมาะสมหรอื ใหขาศึกจาํ ตองมีการจดั ระเบยี บ ๑) การรบหนวงเวลา ปฏิบัติเพ่ือแลกพื้นที่กับเวลา และทําความเสียหายใหมากที่สุดแกขาศึกโดย ไม ยอมปฏิบัติการรบติดพัน การซุมโจมตี การวางกับดัก จะกระทําเทาที่มีโอกาส การตานทานจะกระทำ อยางต อเนอื่ งเพอ่ื มิใหขาศึกเจาะผานได หรือทําใหขาศกึ จําตองรวมกําลังสําหรับการเขาตีอยางมรี ะเบียบ เพ่ือจะให การรบหนวงเวลาเปนไปตามแผน จะมีการยิงในระยะไกล การใชเพลิง ทุนระเบิดเคร่ืองกีดขวางและ การซุม โจมตีในทางลึก กําลงั สวนแรกจะเขาปะทะในระยะไกล เพ่ือทาํ ใหเสียหายหรือทาํ ใหขาศกึ จําตองปรบั กําลงั เมื่อ ขาศึกเริ่มรุกใหหนวยยานยนตโจมตีตอปก และเมอื่ ขาศึกเขามาในระยะที่อาวุธทั้งหลายสามารถประสานไดก็จะ ระดมยิงอยางหนักโดยอาวุธทุกชนิด เพ่ือทําความสูญเสียใหมากที่สุด ถาเปนไปไดก็จะทําการขยายผล การใช เพ่อื การฝึก

เพือ่ การฝึก ชดุ ท่ี ของ ชุด หน้า ๒๓ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทกั ษผ์ าเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ เครือ่ งกดี ขวาง ซึ่งคุมครองดวยการยงิ จะเปนการเพ่ิมขดี ความสามารถในการรบหนวงเวลา กําลังสวนที่สองและ กองหนนุ ยานเกราะจะทําหนาทีต่ ีโตตอบ หรือกําบังในเวลาถอนตัวจากการปะทะของ สวนแรก ๒) การถอนตัว จะกระทําจากหลังไปหนา หนวยแรก คือ หนวยสนับสนุนการชวยรบ ปนใหญ การถอน ตวั จะกระทําภายใตการซอนพรางหรืออาศัยความมืดและการทํากอน ๑ หรอื ๒ คนื กอนกําลังของ หนวย ใน แนวหนา ก) การวางแผนจะกระทําอยางละเอียดเทาที่มีเวลา การถอนตัวจะกระทําในเวลากลางคืน หรือใช ควนั กาํ บงั ใชปนใหญยิงคุมครองและเขาตที ่หี มายจํากดั ดวย ถ. เพื่อชวยการถอนตัว ข) สวนระวังหลังจะจัดเพ่ือการถอนตัว กําลังจะประกอบดวยหนวย ป., ถ., ยานเกราะ เพิ่มเติม กําลังดวยกําลังรถถัง และทหารชาง หนวยนี้จะจัดในลักษณะแข็งแรงเชิงรุก และคลองตัว สามารถปฏิบัติการ เปนอิสระได ค) สวนระวังหลังน้ีจะยึดท่ีมั่นและถอนตัวลงตามที่ม่ันตามลําดับขั้น เมื่อขาศึกเพ่ิมความกดดัน สวน ระวงั หนาจะทาํ ใหขาศึกชาลง โดยวิธกี ารใชระเบดิ ทาํ ลาย ทาํ ลายสะพาน ดวยการใช ป.การใชเพลงิ และ ระเบิด เคมี ง) การใชกําลังในการปองกันปกอยางกวางขวาง ท่ีปองกนั มิใหโอบลอมกําลังสวนนี้จะ ประกอบดวย รถถงั และหนวยเคลื่อนที่ดวยยานยนตเพม่ิ เตมิ กาํ ลัง หนวยตอตานรถถัง ปนใหญ และทหารชาง จ) ทุก ๆ ภูมิประเทศสําคัญตามเสนทางถอนตัว เชน ชองแคบ ทาขามและทางแยก จะถูกยึด รักษา ไวดวยกาํ ลังจนกวากําลังสวนใหญจะผาน และสวนระวงั หลังจะมาถงึ ๓) การถอย การถอยจะพิจารณาภายหลังจากที่ผละออกจากการปะทะ และไมถูกกดดัน ประกอบดวย การถอนตวั และจัดรปู ขบวนเดนิ ทางยทุ ธวธิ ี ปฏิบัติคงเหมือนรูปขบวนการรุกเขาปะทะ แตตรง ขามกันโดยใหมี การระวงั หลังมีกําลงั แขง็ แรง เพียงพอทจี่ ะคุมกนั กําลังสวนใหญได เพอ่ื การฝึก

เพือ่ การฝึก ชุดที่ ของ ชุด หนา้ ๒๔ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทกั ษ์ผาเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ถ.การรบในสภาพปาภูเขา ใชการรบนอกแบบ ใชหนวยระดับ กองพัน ดวยการสงหนวยระดับ มว.และ กองรอยเขาสู พื้นที่ปฏิบัติการหากฝายตรงขามมีกําลัง/อาวุธมากกวา ใหรองขอกําลังเพ่ิมเติมจากกองพัน และ อาวุธหนักยิง สนับสนุน หากถูกตานทานกดดันอยางหนักจะถอนกําลังโดยกระจายกันหลบหนีอยางรวดเร็ว เพอ่ื ใหยากแก การตดิ ตาม ไปเขาสูพนื้ ทร่ี วมพลท่กี ําหนดไว แลวจัดระเบยี บพื้นทวี่ างกาํ ลงั พลใหม ท.การยุทธสะเทินน้ําสะเทินบก สปป.ลาว ไมมีทางออกทะเล จึงไมมีกองเรือขนาดใหญ มีเพียงการ ลว. ในแมนํ้าเทานั้น กาํ ลัง ทางเรือจึงมีหนาที่ ลว.ในแมน้ํา และ สนับสนุนหนวยกําลังทางบกในการลําเลียงพลขาม ลําน้ํา ไมมขี ีด ความสามารถถึงขั้นการยุทธสะเทินน้ําสะเทินบกและกําลังทางเรือก็จะไปขึ้นการบังคับบัญชากับ หนวยในพนื้ ท่ี น.การยุทธขามลําน้ํา ประเทศชมพู ไมมีความชํานาญในสงครามตามแบบ และไมมีการจัดหรือวางกําลัง เพ่ือความมุงหมายการ ยุทธขนาดใหญขามลําน้ําจึงเปนจุดออนเปนอยางมาก เพราะขาดประสบการณ ความ รวดเร็วในการเคล่ือนท่ี การลาดตระเวนอยางตอเน่อื งและขาดเรือที่เปนยุทโธปกรณหลักในการปฏบิ ัตกิ ารยทุ ธ บ.การสนบั สนุนของ ทบ. ๑) ยานเกราะ และรถถัง เปนหนวยสนับสนุนหลักทางยุทธวิธี โดยเฉพาะในการรุก และการ รนถอย พัน.ถ. ในลาวมเี พยี ง ๒ กองพันสนบั สนุน ๒) ปนใหญ เปน หนวยการรบหลกั ของกาํ ลังดําเนินกลยทุ ธชวยหนวยทหารราบในแนวหนา ๓) ปตอ.เปนหนวยปองกันภัยทางอากาศ โดยมีผูเชี่ยวชาญจากตางประเทศ มาใหคํา แนะนํา ควบคุม การยงิ และท่ีปรกึ ษาโดย ๑ พนั .ปตอ. ปองกนั ๑ กรม ร. ๔) ทหารชาง สนับสนุนการดําเนินกลยุทธ ท้ังรุก การเขาตีและรนถอย เคร่ืองกีดขวาง กวาด ลางวัตถุ เพอ่ื การฝึก

เพ่ือการฝกึ ชุดท่ี ของ ชดุ หนา้ ๒๕ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ประกอบ แผนยุทธการพิทักษผ์ าเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ระเบิด และการสรางเสนทางการสงกําลงั บํารงุ ๕) การส่ือสาร สนบั สนุนท้ังกอนและในขณะทําการรบ ๖) หนวย รพศ.ใชเปนหนวยดําเนินกลยุทธสงทางอากาศดวยการโดดรม ลาดตระเวน และ ทํา สงคราม จติ วทิ ยาควบคูกันไปดวย ท้ังนเี้ พอ่ื มุงหมายใหฝายตรงขาม และประชาชนในพื้นท่ีอทิ ธิพลของฝายตรงขาม เกิด ความแตกแยก ๗) หนวยปฏิบัติการขาวใช ลว. แทรกซึม เพื่อหาขาวจากประชาชน และฝายตรงขามหลีกเลี่ยง การ ปะทะ สามารถซอนพรางฝายตรงขามได หนวยขาวจะจัดในระดับ บก.ทหารแขวง และ พล.๑ - ๓ ตอหนวย ขา่ ว ๑ หนวย ป.การสนบั สนนุ ของกาํ ลังทางเรอื ๑) สปป.ลาว ไมมีอาณาเขตติดตอกับทะเล มีแตแมน้ําโขงซ่ึงเปนแมนํ้าก้ันเขตแดน ระหวางไทย - ลาว จึงใชเปนเสนทางนํ้าที่สําคัญ โดยเฉพาะในชวงฤดูฝนไมสามารถใชทางบกสัญจรไปมาได ในปจจุบัน ประเทศ ชมพู แกปญหาโดยใชเรือยนตเพลายาวมาแทนเปนจํานวนมาก เน่ืองจากจัดหาไดงาย และใชเทคโนโลยตี ่ํา ๒) ภารกิจของกองกําลงั ทางเรือใชเรือยนตเพลายาวดัดแปลงโจมตีในเวลากลางคืน เพ่ือใหฝาย ตรงขาม ตง้ั รบั ไมทัน นอกจากน้ันยังใชกําลงั ทางเรอื สนับสนนุ กาํ ลงั พลแทรกซึมข้นึ ฝงอีกดวย ผ.การสนับสนุนของกําลังทางอากาศ การสนับสนุนทางอากาศของลาวยังมีความจําเปนเพื่อทดแทนทาง บกและทางนํ้า ลาวได พยายาม สรางสนามบินข้ึนประมาณ ๒๐ แหง ซึ่งเปนสนามบินขนาดเล็กใชไดเฉพาะ ฤดูกาล และอํานวยประโยชนทางดานทหาร ขึ้นอยูในความควบคุมกํากับดูแลของกระทรวงปองกันประเทศ การสนับสนุนทาง อากาศของลาวมีจุดออนอยูมาก เพราะภูมิประเทศเปนอุปสรรค เน่ืองจากพื้นท่ีสวนใหญเป นที่ราบสูง และภูเขา สนามบินท่ีมีอยูไมไดมาตรฐานสากล เครอื่ งบินมีจํานวนนอย อุปกรณการบินลาสมัย ขาด อะไหล และเจาหนาท่ี ผูชํานาญการ การติดตอทางอากาศมีขีดจํากัด กําลังทางอากาศของ สปป.ลาว เปนหน วยกําลังขนาดเล็ก จัดกําลังสวนใหญสําหรับสนับสนุนการปฏิบัติของหนวยกําลังภาคพื้น ในภารกิจขนสง/ ลําเลียงทางอากาศ ลาดตระเวนทางอากาศ และโจมตีทางอากาศ โดยวางกําลัง บ.รบ ไวที่สนามบินเชียงขวาง เพียงแห่งเดียว สวน บ. และ ฮ.ลําเลียง วางกําลังไวที่สนามบินเวียงจันทน และ มีการวางกําลังท่ีสนามบินอื่น เปนครั้งคราว เพอื่ สนบั สนนุ หนวยกําลงั ภาคพืน้ ตามแผนยุทธการ ฝ.ยทุ ธวธิ ี ของ ประเทศชมพูในการปราบปรามขบวนการตอตานรฐั บาลลาว ๑) การจัด การแบงพื้นที่ และการจัดกําลังเขาทําการปราบปรามกลุมตอตาน รัฐบาลลาว (ขตล.) เพื่อการฝึก

เพ่ือการฝึก ชดุ ที่ ของ ชดุ หน้า ๒๖ ของ ๒๖ หนา้ อนุผนวก ๓ (ทำเนียบกำลังรบ) ประกอบ ผนวก ข (ข่าวกรอง) ประกอบ แผนยทุ ธการพิทักษ์ผาเมือง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ประเทศชมพู จะแบงพ้ืนที่ ซึ่งครอบคลุมสถานการณการกอการรายท้ังหมด ออกเปนพ้ืนท่ีเปาหมาย แตละ พน้ื ที่ เปาหมายจะกาํ หนดแนวรบยอย ๆ ขึ้น แตละ บก.แนวรบนี้ เรียกวา “บก.ดานรบ”มักจะใชช่ือตามช่ือของ หมูบานหรือช่ือเมือง เปนชื่อของ บก.ดานรบ เหตุผล ที่แบงเปน บก.ดานรบ เพ่ือสะดวกในการควบคุมบังคับ บัญชา, การสงกําลงั บํารุงและการสงกลับ ในแตละ บก.ดานรบ จะบรรจุ กําลัง ประเทศชมพู สนธิกําลังประจํา ถนิ่ ชุด ละประมาณ ๕๐ - ๖๐ คน ๒) ยุทธวิธี ในสถานการณปจจบุ ัน กองทัพประชาชนลาว ไดผสมผสานยุทธวธิ ีการรบตามแบบ และการ รบแบบกองโจรเขาดวยกัน โดยการจดั เปนชุดปฏิบตั กิ ารขนาดเลก็ (ชป.) เพอื่ ลาดตระเวนหาขาว และ ซุมโจมตี โดยเฉพาะในภารกิจการกวาดลางกลุมขบวนการตอตานรัฐบาลลาว (ขตล.) ใชการรบนอกแบบเปนหลัก ทั้งนี้ เพ่ือลดการสูญเสียกําลังพลและงบประมาณ หลักนิยมทางยุทธวิธีของ ประเทศชมพูกอนจะมีการโจมตี ทุกคร้ัง มกั จะใชชุดลาดตระเวนขนาดเล็กแทรกซึมเขาไปหาขาวเก่ียวกับท่ตี ้ังการวางกําลัง ตลอดจนการเคล่ือนไหวของ ฝายตรงขามใหแนชดั กอน ใชกําลงั ขนาดเล็ก ประมาณ ๑๐ - ๒๐ คน เขาโจมตีโฉบฉวยจากน้ันจะใชกําลงั สวน ใหญ เขาทาํ การโจมตซี ้ำอีกระลอกหน่ึง ผลการปฏบิ ัติจะรายงานตรงตอ บก.ทหารแขวง หรอื หนวยควบคุมทาง ยทุ ธวิธี เพ่ือการฝึก

ลบั มาก (เพอื่ การฝกึ ) ชุดท่ี ๖ ๖ของ ชุด หน้า ๑ ของ ๖ หนา้ ผนวก ค (แนวความคดิ ในการปฏิบตั ิ) ประกอบ แผนเผชญิ เหตุ -ทภ.๓ อา้ งถงึ ๑. แผนเผชญิ เหตุ - ทบ. ๒. แผนพัฒนา ทบ.ปี พ.ศ.๒๕๕๕ – พ.ศ.๒๕๕๙ ๓. แผนปอ้ งกันชายแดนประจำปขี อง ศปก.ทภ.๓ ๑. กลา่ วท่วั ไป ภัยคุกคามด้านตะวันออกของประเทศน้ำเงิน ในส่วนที่ ทภ.๓ รับผิดชอบตั้งแต่ จว.ช.ม. ถึง จว.พ.ล. อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความม่นั คงและความสงบเรยี บร้อยตามแนวชายแดนได้ตลอดเวลา เนอ่ื งจาก ความไม่ชัดเจนของแนวเขตแดนและการอ้างสิทธิในพ้ืนที่ตามแนวชายแดน ทภ.๓ ต้องดำเนินการ ป้องกันชายแดนตั้งแต่ยามปกติเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่าง ภัยคุกคามกับการจัดกำลังป้องกันชายแดน ประจำปี การปฏิบัตติ ามแผนเชิญเหตุนเี้ ป็นการปฏิบัติ ท่ีต่อเนื่องกับการปฏิบัติตามแผนป้องกันชายแดน ในกรณีท่ีเกิดภัยคุกคามจากทหารประเทศชมพูรุกล้ำอธิปไตย หรือการเข้ามายึดภูมิประเทศสำคัญ บริเวณที่มีปัญหาเส้นเขตแดน ซ่ึง ทภ.๓ จำเป็นต้องใช้มาตรการทางทหารเข้าผลักดันข้าศึกออกนอก ประเทศอย่างได้เปรียบ ควบคู่กับการใช้มาตรการเจรจาของหน่วยเหนือ เพ่ือให้ความขัดแย้งยุติลง และ ไม่ทำใหก้ ารสู้รบขยายตวั เปน็ สงครามขนาดใหญ่ ๒. แนวความคิดในการปฏิบตั ิ ก. เจตนารมณข์ อง มทภ.๓ ความมุ่งหมาย ตอ้ งการเอาชนะกำลงั ข้าศึกทีร่ ุกล้ำดนิ แดนโดยเรว็ จำกดั ขอบเขตการสู้รบ ไม่ให้ การรบยืดเย้ือและขยายตัวออกไปเปน็ สงครามขนาดใหญ่ วธิ ีการ โดยใชก้ ำลังผสมเหล่าท่ีจัดเตรียมไว้ปฏบิ ัติการอย่างรวดเร็ว รุนแรง และเด็ดขาด แสวงหา ความริเร่ิมทุกข้ันตอน พิจารณาใช้กำลังทางอากาศ และอาวุธการยิงสนับสนุนท้ังปวง สนับสนุนการ ปฏบิ ัติการของหน่วยทางพืน้ ดนิ ให้มากท่สี ุด ในการเอาชนะ ผลักดนั และเขา้ ยึดภมู ิประเทศสำคัญเพ่ือยุติ การรบ รวมท้ังเตรียมการเข้ายึดที่หมายสำคัญนอกประเทศ เพ่ือให้ได้เปรียบในการเจรจาต่อรองของ หน่วยเหนอื ผลลัพธ์สุดทา้ ยที่ตอ้ งการ คือ กำลังขา้ ศกึ ที่รุกล้ำดินแดนถูกผลกั ดนั ออกนอกเขตประเทศ โดยฝา่ ย เราสามารถสถาปนาความมั่นคงตามแนวชายแดนไว้ได้ในเวลาท่ีเร็วท่ีสุด ก่อนที่ขา้ ศึกจะเพ่ิมเติมกำลังใน ระดบั ยุทธการ ข. ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิ แบ่งออกเป็น ๒ ข้นั ตอน คือ ๑) ข้ันเตรียมการ ใช้กำลังป้องกันชายแดนของ ทภ.๓ ซึ่งปฏิบัติตามพันธกิจ ๔ ประการ ต้ังแต่ยามปกติ รวมทั้งใช้กำลัง ร้อย.คทร.ทภ.๓ เพื่อป้องกัน ขัดขวาง และขับไล่ข้าศึกให้ออกนอกประเทศน้ำเงิน หากมีการรุก ลบั มาก (เพือ่ การฝึก)

ลบั มาก (เพอ่ื การฝึก) ชดุ ที่ ๖ ๖ของ ชดุ หน้า ๒ ของ ๖ หนา้ (ผนวก ค (แนวความคิดในการปฏิบตั ิ) ประกอบ แผนเผชิญเหตุ -ทภ.๓) ล้ำอธิปไตยด้วยกำลังไม่เกินระดับกองร้อย หากไม่สามารถขับไล่ออกไปได้ให้ยับยั้งข้าศึกไว้ไม่ให้ขยายพื้นท่ี ออกไปได้ ๒) ขน้ั ปฏิบตั ิการ ก) ใช้ กรม ร./กรม ม. เฉพาะกิจของ ทภ. หรือร้องขอ ทบ. ในการใช้ หน่วยพร้อมรบ เคล่ือนท่ีเรว็ ของ ทบ.เข้าปฏิบัตกิ าร เพื่อเอาชนะ และผลักดัน ขศ.โดยเรว็ แล้วสถาปนาความม่นั คงแนว ชายแดน จากน้นั ใหส้ ่งมอบพน้ื ที่ปฏบิ ตั ิการให้กับ กรม ม.ฉก. ของ ทภ.๓ ตอ่ ไป ข) หาก กรม ร./ม.ฉก. ของ ทภ. หรือ หน่วยพร้อมรบเคล่ือนท่ีเร็วของ ทบ. ไม่สามารถ เอาชนะ และผลักดันข้าศึกไดส้ ำเร็จ ใหย้ ับยัง้ และจำกัด ขศ. ไวม้ ิให้ขยายพน้ื ที่ออกไป ทบ. อาจพจิ ารณา ใชก้ องหนุนของ ทบ. เข้าปฏบิ ัตกิ ารหรือประกาศใช้แผนป้องกันประเทศ หากเอาชนะได้สำเร็จ ทบ. อาจพิจารณาใช้กำลัง กรม ม.ฉก.,กรม ร.ฉก. และ กองพลพร้อม รบของ ทบ. ขยายผลรุกออกนอกประเทศ ค. การใช้กำลัง ทุกขั้นตอนมุ่งเน้นการใช้ความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ีทั้งทางพ้ืนดินและทาง อากาศ รวมท้ังการใชอ้ ำนาจการยิงตามกำลังทีม่ อี ยตู่ ามแผนอยา่ งเต็มขีดความสามารถดังน้ี ๑) ในข้ันเตรียมการ เป็นการปฏิบัติโดยใช้กำลังป้องกันชายแดนประจำปีของ ศปก.ทภ.๓ และ กองร้อยเตรียมพร้อมของ ทภ.๓ รวมท้ังกำลงั ของ ร้อย.รพศ. และ ร้อย.จจ. ของ นสศ. ๒) ในข้ันปฏบิ ัตกิ ารเป็นการปฏิบัติโดยใชก้ ำลังเฉพาะกิจท่ีจดั เตรียมไว้ได้แก่ หน่วยพรอ้ มรบเคลือ่ นท่ี เร็วของ ทบ.หรือ กรม ร.ฉก. หรือ กรม ม.ฉก.ของ ทภ.๓ โดยมีหน่วยสนับสนุนการรบท่ี ทบ. จัดเตรียมไว้ เพ่ิมเติมได้แก่ พัน.ปนร., พัน.ปตอ.ผสม, ๑ ชุด ฮ.ติดอาวุธ หรือ ฮ.โจมตี, ๑ ร้อย.ขกท. และกองหนุนของ ทบ. ไดแ้ ก่ ๑ กรม ร.ฉก. ของ ทภ.๒, พล.ร.๙ ง. การปฏิบตั ิการดา้ นการขา่ ว ทุกระดับหน่วยให้ทำการแสวงประโยชน์จากขีดความสามารถของกำลัง นสศ. ที่ปฏิบัติการพิเศษ ในพื้นท่ีระวังป้องกัน และการใช้ระบบเฝ้าตรวจของกำลังป้องกนั ชายแดนที่มีอยู่ตัง้ แต่ตามปกติ พร้อมทั้ง วางแผนแสวงประโยชน์จากระบบต่าง ๆ ท่ีมีอยใู่ น ทบ. จ. การดำเนินกลยทุ ธ ๑) การเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดนในข้ันเตรียมการ เป็นการแก้ปัญหาการรุกล้ำอธิปไตยใน ข้ันต้น หากข้าศึกรุกล้ำด้วยกำลังไม่เกินระดับกองร้อย พื้นที่ใดพื้นท่ีหน่ึงหรือหลายพ้ืนท่ี ฝ่ายเราจะ ปฏิบัติการเชิงรุกโดยใช้กำลังป้องกันชายแดนและกำลังกองร้อยเตรียมพร้อมของ ทภ. ซึ่งได้แก่ ร้อย.ร., รอ้ ย.ม. และ ร้อย.ป. รวมทั้ง ร้อย.รพศ. และ ร้อย.จจ. ทำการขับไล่ออกนอกเขตนำ้ เงินหรือสกัดกน้ั ไวใ้ น ขัน้ ตน้ ลบั มาก (เพอื่ การฝกึ )

ลบั มาก (เพอื่ การฝกึ ) ชดุ ที่ ๖ ๖ของ ชดุ หน้า ๓ ของ ๖ หนา้ (ผนวก ค (แนวความคดิ ในการปฏบิ ตั )ิ ประกอบ แผนเผชิญเหตุ -ทภ.๓) ๒) ถ้าหากประเมินผลสถานการณ์แล้วเห็นว่ากำลังฝ่ายเราท่ีมีอยู่ตามแผนนี้ อาจเอาชนะได้ไม่ เด็ดขาดในขั้นปฏิบัติการ ให้ยับย้ังข้าศึกอย่างออมกำลังแต่ให้ได้เวลาอย่างเพียงพอในการเตรียมการเข้าสู่ ข้นั ท่ี ๓ (ขน้ั ป้องกนั ประเทศ) ตามแผนปอ้ งกนั ประเทศ(แผนพิทักษน์ ้ำเงิน – ทภ.๓) ตอ่ ไป ๓) ในขั้นการปฏิบัติการตามแผนนี้การจัดกำลังต้องให้มีอำนาจกำลังรบสูงสุดในทุกๆด้าน พร้อม กับใช้ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนท่ีทั้งทางอากาศและทางพื้นดินเข้าดำเนินการกลยุทธต่อท่ีหมาย อย่างประสานสอดคล้อง เพื่อเอาชนะข้าศึกให้ได้อย่างรวดเรว็ ด้วยการรบเพียงครง้ั เดียว หรือดำรงความ ได้เปรยี บทางยทุ ธวิธีไว้หากการสู้รบยดื เย้ือ ๔) กำลงั เฉพาะกิจของ ทภ. อาจใชว้ ิธกี ารรบแตกหักต่อข้าศึกทเ่ี ป็นกำลงั เผชิญหน้าพร้อมกับยดึ ท่ี หมายสำคัญนอกประเทศไว้ แต่ในบางกรณี ทภ.๓ อาจใช้กำลังบางส่วนยับยั้งข้าศึกไว้เพื่อรอการทำลาย ด้วยอำนาจการยงิ ของอาวุธยิงสนับสนุนและการโจมตีทางอากาศ แต่จะใชก้ ำลงั เฉพาะกิจเข้ายึดที่หมาย สำคัญนอกประเทศบริเวณใกล้เคียงหรือทางด้านอ่ืนท่ีเห็นว่าจะทำให้ได้เปรียบสูงกว่า ทั้งทางด้าน การทหารและการเจรจาตอ่ รอง ๕) ในกรณีเกิดภัยคุกคาม ๒ พนื้ ท่ี พร้อมกันในเขต ทภ.๓ จะเลือกพ้ืนท่ีปฏิบัติการท่ีไดเ้ ปรียบการ รบแตกหักต่อ ๑ ท่ีหมาย โดยกดดันหรือร้ังหน่วงที่หมายท่ีเหลือไว้ แล้วใช้การบีบบังคับด้วยการเจรจา หรอื ทำการรบแตกหักในโอกาสตอ่ ไป ช. การยิงสนับสนุน การประกอบกำลังเฉพาะกิจจะต้องให้มีอำนาจการยิงของอาวุธประเภท ค. และ ป. อย่างสมบูรณ์ในตัวเอง โดย ทบ. จะเพ่ิมอำนาจการยิงให้กับหน่วยโดยใช้กำลัง พัน.ปนร., ชุด ฮ. ติด อาวุธหรือ ฮ. โจมตี รวมท้งั กำลงั ทางอากาศของ ทอ. ซ. การป้องกันภัยทางอากาศ การประกอบกำลังเฉพาะกิจจะต้องมีอาวุธต่อสู้อากาศยานประเภทลำ กลอ้ ง และอาวธุ นำวิถีตามสัดส่วน คือ ๑ มว.ปตอ.ต่อ ๑ กองพนั คทร., ๑ ร้อย.ปตอ. ต่อ ๑ กรม ร.ฉก./ กรม ม.ฉก. หรือตามสัดส่วนที่ นปอ. จะพิจารณาสนับสนุน พร้อมท้ังจัดต้ังระบบเรดาร์แจ้งเตือนภัยทาง อากาศระดบั ต่ำของ ศปภอ.ทบ. ประจำพ้ืนที่อยา่ งน้อย ๑ ระบบ เขา้ ปฏบิ ตั ิการตามแผนนี้ ด. การปฏิบัติการพิเศษ : นสศ.ปฏิบัติการพิเศษในพ้ืนที่ระวังป้องกัน โดยดำเนินการรวบรวมข้อมูล ข่าวสาร ต่อเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี สนับสนุนแนวความคิดในการสถาปนาความมั่นคงตาม แนวชายแดน และใช้กำลงั ฉก.ปพ. สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของ ทภ.๓ ที่ปฏิบตั ติ ามแผนเผชญิ เหตุ – ทบ. ในขั้นท่ี ๒ ในการปฏบิ ัติการโดยตรงและกอ่ วินาศกรรมต่อเป้าหมายตามบัญชีเป้าหมายยุทธศาสตร์ และเปา้ หมายตามเหตุการณ์ ในพ้นื ท่รี ะวงั ป้องกัน เพ่อื ลดศกั ยภาพในการทำสงครามของฝ่ายตรงข้ามลง ใหไ้ ด้ในห้วงเวลาทีก่ ำหนด โดยมีแนวความคดิ ในการปฏิบัตดิ ังนี้ ลบั มาก (เพื่อการฝึก)

ลบั มาก (เพ่ือการฝกึ ) ชดุ ท่ี ๖ ๖ของ ชดุ หน้า ๔ ของ ๖ หน้า (ผนวก ค (แนวความคิดในการปฏบิ ัต)ิ ประกอบ แผนเผชญิ เหตุ -ทภ.๓) ๑) ข้ันที่ ๑ ข้ันเตรียมการ : เป็นการปฏิบัติตั้งแต่ยามปกติตามแนวความคิดในการสถาปนาความ มั่นคงตามแนวชายแดน ตามพันธกิจ ๔ ประการของ ทบ. โดย ศปก.นสศ. ปฏิบัติการพิเศษในพ้ืนที่ระวัง ป้องกันพร้อมท้ังสนับสนุนการเฝ้าตรวจและการป้องกันชายแดน, การจัดระเบียบพ้ืนที่ชายแดนและการ เสริมสร้างความสมั พันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยปฏิบัตติ ามแผนยุทธการ ๑/๑(น้ำเงินเสรี) – นสศ. คือ ก) ปฏิบัติการพิเศษในพื้นที่ระวงั ปอ้ งกัน เน้นการรวบรวมขอ้ มูลข่าวสารเพอ่ื การแจ้งเตือนทาง ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี เตรียมความพร้อมของข้อมูลเป้าหมาย จัดเตรียมตัวแทนและข่ายปฏิบัติการพิเศษ เพือ่ สนับสนนุ การปฏบิ ตั ิการรกุ ออกนอกประเทศของฝ่ายเรา ข) จดั กำลงั ๑ รอ้ ย.รพศ. และ ๑ ร้อย.จจ. เป็นหน่วยเตรียมพร้อม สนับสนนุ ทภ. เม่อื ส่งั ๒) ข้ันท่ี ๒ ขั้นปฏิบัติการ : เป็นการปฏิบัติเม่ือฝ่ายตรงข้ามยังคงดำรงการรุกล้ำเขตแดนน้ำเงินซึ่ง ทบ.จะสั่งใช้หน่วยพร้อมรบเคล่ือนที่เร็วของ ทบ. และ/หรือ กรม ร.ฉก. ของ ทภ. ให้เข้าสกัดกั้น ผลักดัน ทำลายกำลังข้าศึก ออกจากเขตแดนน้ำเงิน และเตรียมรุกออกนอกประเทศ ยึดหรือควบคุมภูมิประเทศ สำคัญบริเวณแนวชายแดน เพื่อให้ได้เปรยี บทางยทุ ธวิธี และการตอ่ รองทางการเมือง รวมท้งั เพอ่ื ให้เก้ือกูล ต่อการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศ โดยใช้กำลัง ฉก.ปพ. เป็นความพยายามหลักในการลดศักยภาพ การทำสงครามของฝา่ ยตรงข้าม ดว้ ยการ ก) จัดหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ (ฉก.ปพ.) ประกอบด้วย ๒ ร้อย.รพศ., ๑ ร้อย.จจ., ๑ มว.ปพ., ๑ มว.ปจว.ฉก. และ ๑ ชุดส่ือสารทางยุทธวิธี พร้อม ณ ท่ีต้ังปกติ เพ่ือขยายผลการปฏิบัติการ พิเศษในพ้ืนท่ีระวังป้องกันและสนับสนุนภารกิจของ ทภ. ท่ีปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ –ทบ. ในขั้นที่ ๒ เมื่อ ส่ัง ข) จัดกำลงั ร้อย.รพศ. และ ร้อย.จจ. ปฏิบัตกิ ารโดยตรงต่อเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ ตามบัญชี เป้าหมาย และข่ายก่อวินาศกรรม รวมท้ังปฏิบัติการรบกวน ขัดขวาง และจำกัดเสรีในการใช้เส้นทางใน พ้นื ท่สี ่วนหลังของฝ่ายตรงข้าม สนบั สนนุ การปฏบิ ัตขิ อง ทภ.๑ หรอื ทภ.๒ เมอ่ื ส่ัง ต. การสงครามอิเลคทรอนิคส์ การปฏิบัติจะกระทำต่อเป้าหมายทางการบังคับบัญชา การข่าวและ ระบบทางเป้าหมายของข้าศึก เพ่ือรบกวนและลดประสทิ ธิภาพในการรบ ถ. การใช้กองหนุน ทภ.๓ จะใช้กองหนุนของ ทภ.๓ เป็นอันดับแรกและจะขอกำลังกองหนุนของ ทบ. เมื่อเกินขีดความสามารถของ ทภ.๓ โดย ทบ. จะใช้กำลัง พล.ร.๙ และ กรม ร.ฉก.ของ ทภ.๒ เข้า ปฏิบตั ิการโดยขึน้ อย่วู า่ การปฏิบัตจิ ะอยู่พ้นื ที่ใดดังนี้ ๑) ถา้ หากเกิดการปฏิบตั ใิ นพนื้ ท่ี ทภ.๑ ทบ. จะให้ พล.ร.๙ เปน็ กองหนุน ลบั มาก (เพ่ือการฝกึ )

ลบั มาก (เพ่อื การฝึก) ชดุ ที่ ๖ ๖ของ ชดุ หน้า ๕ ของ ๖ หน้า (ผนวก ค (แนวความคิดในการปฏบิ ตั )ิ ประกอบ แผนเผชิญเหตุ -ทภ.๓) ๒) ถ้าหากเกิดการปฏิบัติในพื้นที่ ทภ.๓ หรือ ทภ.๔ หรือเกิดขน้ึ พร้อมกัน ทบ. จะให้ พล.ร.๙ และ กรม ร.ฉก.ของ ทภ.๒ เปน็ กองหนนุ ๓) ถ้าหากเกิดการปฏิบัติพร้อมกันทั้งด้าน ทภ.๑ และด้าน ทภ.๓ หรือ ทภ.๔ ทบ. จะให้ พล.ร.๙ เป็นกองหนุนของ ทภ.๑ และ กรม ร.ฉก.ของ ทภ.๒ เปน็ กองหนนุ ของ ทภ.๓ หรอื ทภ.๔ ท. การใช้กำลังตามระบบการต่อสู้เบด็ เสรจ็ ให้ปฏิบตั โิ ดย ๑) ผสมผสานกำลังรบหลัก กำลังประจำถิ่น และกำลังประชาชนให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการ ปอ้ งกันประเทศตัง้ แต่ยามปกติ โดยคำนงึ ถึงขดี ความสามารถที่มีอยู่ ๒) กำลงั ประจำถน่ิ และกำลงั ประชาชน ใช้ในการเฝา้ ตรวจ แจ้งเตือน และยบั ย้ังข้ันต้นหรือผลกั ดัน ตามขีดความสามารถสูงสุดในการผลักดันและทำลายข้าศึก โดยการผสมเหล่าและปฏิบัติการร่วมกับเหล่า ทพั อื่น ๓) การขอใช้กำลงั ทางอากาศจาก ทอ. จะใชใ้ นขั้นท่ี ๒ (ข้ันปฏบิ ัติการ) เปน็ หลัก ๔) แสวงหาความร่วมมือกับส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนท้ังประเทศให้สนับสนุนการ ปฏบิ ัติทางทหาร น. การปฏิบัติเชงิ รกุ ให้ปฏิบัติโดย ๑) พยายามทุกวิถีทางท่ีจะเป็นฝ่ายครองความริเริ่มให้ได้ทั้งในข้นั เตรยี มการ และขั้นปฏิบัตกิ าร ๒) ปฏบิ ตั กิ ารเชิงรุกดา้ นการขา่ วดว้ ยการเฝา้ ตรวจพื้นทชี่ ายแดน และการปฏิบตั ิการพิเศษในพ้ืนที่ ระวงั ปอ้ งกนั ๓) ปฏิบัตกิ ารเชงิ รกุ ดา้ นการปฏิบัติการจติ วทิ ยากอ่ น ระหวา่ งและภายหลงั การปฏิบตั ิการ ๔) ปฏิบัติการเชิงรุกด้วยการใช้กำลังเข้ายึดที่หมายสำคัญในดินแดนข้าศึกบริเวณใกล้เคียง พื้นท่ี การรบเป็นมาตรการหน่ึงท่ีหน่วยตอ้ งพรอ้ มปฏิบัติ เพ่ือใหเ้ กดิ ผลดตี ่อการยทุ ธและก่อให้เกิดขอ้ ได้เปรียบ เมือ่ เข้าสู่การเจรจา โดยกำหนดทีห่ มายสำคญั นอกประเทศไว้ ๓ ทีห่ มาย คือ ก) ท่ีหมาย ก บริเวณ เมืองไชยบุรี ประเทศชมพู ด้านตรงข้ามภูสามเส้า อ.แม่สาย จว.น.น. ข) ท่ีหมาย ข บรเิ วณ เมืองทุ่งมไี ชย ประเทศชมพู ดา้ นตรงขา้ ม อ.บ้านโคก จว.อ.ต. ค) ที่หมาย ค บริเวณ เมืองแก่งเสา ประเทศชมพู ด้านตรงข้าม บ.ร่มเกล้า อ.ชาตรการ จว.พ.ล. บ. เนน้ การปกปดิ และการลวงทางยุทธวธิ ีในทกุ ขัน้ ตอน ให้ปฏิบตั ิโดย ๑) รักษาความลับเพ่ือปกปิดเจตนารมณ์ท้ังปวงให้นานที่สุด ก่อนปฏิบัติการข้ันสุดท้ายเพ่ือให้ เกิดผลในทางจโู่ จม นับตั้งแต่การเตรียมกำลังได้แกก่ ารฝกึ ทบทวนทางยุทธวิธีก่อนออกปฏบิ ัติการการฝึก ลบั มาก (เพ่อื การฝึก)

ลบั มาก (เพอ่ื การฝกึ ) ชดุ ท่ี ๖ ๖ของ ชุด หนา้ ๖ ของ ๖ หน้า (ผนวก ค (แนวความคดิ ในการปฏบิ ตั )ิ ประกอบ แผนเผชญิ เหตุ -ทภ.๓) ใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษ และการทดสอบความพร้อมรบไปจนถึงการใช้กำลัง ซึ่งได้แก่ การเคลื่อนย้ายกำลัง การวางกำลงั และการเข้าปฏิบัตกิ าร ซงึ่ ทุกข้นั ตอนจะตอ้ งใช้มาตรการรักษาความลบั อย่างเคร่งครดั ๒) วางแผนการลวงทางยุทธวิธีควบคู่กับแผนดำเนินกลยุทธ เพื่อหันเหความสนใจของข้าศึก โดย พิจารณาใช้การปฏิบัติที่เตรียมไว้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงการลวงทางอิเลคทรอนิคส์ และ การลวงทางการสอ่ื สาร ป. ใชม้ าตรการจากเบาไปหนกั ให้ปฏิบตั ิตามกรณี ดงั นี้ ๑) หากฝ่ายตรงข้ามไม่มีเจตนาในการรุกล้ำดินแดนย่อมจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยใช้การ เจรจาทั้งสองฝา่ ยในทกุ ระดับ เพื่อให้ฝา่ ยตรงข้ามถอนกำลงั ออกไปและอาจไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งใช้ความรุนแรง ๒) หากฝ่ายตรงข้ามมีเจตนาที่จะรุกล้ำดินแดนหรือจะก่อให้เกิดความรุนแรงจะต้องใช้กำลังท่ีมีอยู่ ในพ้ืนที่เข้าขัดขวาง โดยทันทีพร้อมกับแจ้งเตือนข้าศึกให้ถอนกำลังออกไปโดยมิชักช้าเพื่อยุติการ เผชิญหน้า แตจ่ ะต้องมีการชดใชห้ รอื ตอบโต้อย่างเหมาะสมถา้ ก่อให้เกดิ การสญู เสยี ต่อฝ่ายเรา ๓) หากมาตรการสถานเบาไมเ่ ป็นผลใหใ้ ชก้ ำลังผลักดัน หรอื ยับย้ังไว้เพ่ือไม่ใหข้ า้ ศึกขยายพ้นื ที่ยึด ครองออกไป และใช้กำลังขั้นต่อไปท่ีมีขีดความสามารถสูงสุด เข้าปฏิบัติการเพ่ือผลักดันข้าศึกให้ได้ผล อย่างเด็ดขาด ๔) เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า กำลังตามแผนน้ีจะไม่เพียงพอท่ีจะเอาชนะข้าศึกได้อย่างเด็ดขาด ทภ.๓ จะขออนมุ ตั ิ ทบ. ในการใช้กองหนนุ ของ ทบ. เขา้ ปฏิบัติการ ๕) ทุกหน่วยจะต้องตระหนักเสมอว่ามาตรการจากเบาไปหาหนัก แม้จะเป็นหนทางหน่ึงในการ ปอ้ งกันความขดั แย้งระดับตำ่ ไม่ให้ขยายตวั เป็นการสู้รบขนาดใหญ่ โดยไม่จำเปน็ แต่ก็ไมใ่ ชก่ ารปฏิบัตใิ น ลักษณะเพิ่มเติมกำลังเข้าปฏิบัติการอย่างปลีกย่อยทีละหน่วย ซ่ึงจะทำให้การสู้รบยืดเย้ือและไม่ กอ่ ให้เกดิ ผลแตกหกั โดยเรว็ ไดต้ ามวตั ถุประสงค์ -------------------------------------------- ลบั มาก (เพอ่ื การฝึก)

เพอ่ื การฝึก ชดุ ท่ี ของ ๗๕ ชุด หน้า ๑ ของ ๑ หนา้ อนผุ นวก ๑ (แผ่นบริวารยุทธการ) ประกอบ ผนวก ค (แนวความคิดในการปฏิบัติ) ประกอบ แผนยทุ ธการ พทิ ักษ์ผาเมอื ง ๑-๒ RDF – ทภ.๓ ทิศเหนอื เพอื่ การฝกึ

ลบั มาก (เพ่ือการฝกึ ) ชดุ ท่ี ๖ ของ ชุด หน้า ๑ ของ ๓ หน้า ผนวก ง (การยิงสนบั สนนุ ) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ๑. สถานการณ์ ก. ฝ่ายขา้ ศึก : ผนวก ข (การขา่ วกรอง) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ ข. ฝ่ายเรา ๑) ทบ. ปฏิบัติการรบร่วมบริเวณชายแดนน้ำเงิน-ชมพู ตั้งแต่วัน ว. เพ่ือป้องกันพ้ืนที่ทางบก จาก การรกุ ล้ำดนิ แดนด้วยกำลังทหาร ๒) ทภ.๓ ป้องกัน ขัดขวาง ผลกั ดันและขบั ไลข่ ้าศึกซึ่งรุกล้ำดินแดนให้ออกนอกเขตบริเวณชายแดน เพ่ือสถาปนาความม่นั คงบริเวณพ้ืนท่ชี ายแดน ตั้งแต่วัน ว. ๓) ทอ. ลาดตระเวนทางอากาศ ครองอากาศและปฏิบตั ิการรว่ มกับเหลา่ ทพั อนื่ ค. หน่วยขน้ึ สมทบ : ในขน้ั ที่ ๒ ทบ. จัดหน่วยขน้ึ สมทบ ทภ.๓ ดงั น้ี ๑) พล.ป. จัดหน่วยข้นึ สมทบ ทภ.๓ เมื่อสัง่ ได้แก่ ก) ๑ พนั .ปนร.๓๔ ขนาด ๑๕๕ มม. ข) รอ้ ย.ป.คปม.(-) ซึง่ ประกอบดว้ ย (๑) ๑ ชดุ UAV (๒) ๑ ชดุ เรดาร์ AN/TPQ-๓๖ (๓) ๑ ชดุ เรดาร์ RASIT (๔) ๒ หมเู่ ครอ่ื งมอื ทำงานแผนทีอ่ ตั โนมตั ิ (PADS) ๒) ศบบ. จัด ๑ ชุด ฮ.โจมตี ขึน้ สมทบ ทภ.๓ เม่ือสงั่ ๒. ภารกิจ หนว่ ยยงิ สนบั สนุน ให้การสนับสนุนการยงิ ด้วยกระสุนธรรมดา และกระสุนพิเศษตอ่ ทภ.๓ ในการป้องกัน ขัดขวาง ผลักดัน และขับไลข่ ้าศกึ ซึงรกุ ลำ้ อธปิ ไตยบรเิ วณแนวชายแดน เพ่ือสถาปนาความม่นั คงบริเวณพน้ื ทีช่ ายแดน ตั้งแต่วัน ว. ๓. การปฏบิ ตั ิ ก. แนวความคิดในการปฏิบตั ิ : ผนวก ค (แนวความคิดในการปฏิบัติ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ- ทภ.๓ ซ่ึง แบ่งข้นั การปฏิบตั เิ ป็น ๒ ข้ันคือ ๑) ข้ันท่ี ๑ ขั้นเตรียมการ เป็นการใช้กำลังป้องกันชายแดน ประจำปีของ ทภ.๓ และใช้กองร้อย เตรียมพรอ้ มของ ทภ.๓ เข้าปฏบิ ัตกิ าร ๒) ขัน้ ที่ ๒ ขั้นปฏิบตั กิ าร ซง่ึ แบง่ การใชห้ น่วยตามลำดบั ดงั นี้ (ก) หนว่ ยพร้อมรบเคล่ือนท่เี รว็ ของ ทภ.๓ ลบั มาก (เพอ่ื การฝกึ )

ลบั มาก (เพื่อการฝกึ ) ชุดที่ ๖ ของ ชุด หน้า ๒ ของ ๓ หน้า (ผนวก ง (การยิงสนบั สนนุ ) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓) (ข) กรม ร./ม.ฉก.ของ ทภ.๓ (ค) จดั ต้ัง กกล.ฉก.รว่ ม ทภ.๓ เม่ือมีการประกาศใชแ้ ผนป้องกนั ประเทศในวนั ร. ข. การสนับสนุน ป.สนาม ๑) กล่าวทว่ั ไป ก) ลำดบั ความเร่งด่วนในการยงิ สนับสนุน (๑) ในขั้นที่ ๑ ลำดับความเร่งด่วนในการยิงสนับสนุนให้กบั กองร้อยเตรียมพรอ้ มของ ทภ.๓ ทเี่ ข้าปฏบิ ัติการ, กกล.นเรศวร/กกล.ผาเมอื ง ตามภยั คุกคามตามลำดับ (๒) ในขั้นท่ี ๒ ลำดับความเร่งด่วนในการยิงสนับสนุนให้กับหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วหรือ กรม ร./ม.ฉก. ตามสถานการณ์การใช้กำลงั ข) ลำดับความเรง่ ด่วนในการต่อตา้ น ป.,ค. และจรวดขา้ ศึก (๑) ป.,ค. และจรวดข้าศึก ซึ่งมีผลต่อกำลังในพื้นที่ระวังป้องกันและกำลังในแนวต้านทานของ ฝา่ ยเรา (๒) ป.,ค. และจรวดข้าศึก ซ่ึงมีผลต่อการดำเนินกลยุทธ์ เพื่อรุกเขา้ ยึดท่ีหมายสำคัญในดินแดน ข้าศึก ๒) การจัด ป.ทำการรบ ก) ขน้ั ท่ี ๑ (๑) พล.ร.๔ จัด รอ้ ย.ป.เตรยี มพร้อม สง่ มอบให้ ศปก.ทภ.๓ เมอื่ ส่งั (๒) พล.ม.๑ จัด ร้อย.ป.เตรียมพรอ้ ม ส่งมอบให้ ศปก.ทภ.๓ เมื่อสงั่ ข) ขน้ั ที่ ๒ (๑) ๑ พัน.ปนร.๓๔ ขนาด ๑๕๕ มม. : ขนึ้ สมทบ ทภ.๓ เมอ่ื ส่งั (๒) รอ้ ย.ป.คปม.(-) : ขึน้ สมทบ ทภ.๓ เมอ่ื สั่ง ๓) คำแนะนำพิเศษ : การขยายโครงข่ายงานแผนท่ี เป็นความริเริ่มของหมู่แผนท่ี ทันทีที่เข้าท่ีตั้งยิงพึง ใหค้ วามสำคัญกบั หลักฐานรว่ มทางแผนท่ีของหมุดหลักฐานแผนทเ่ี ร่ิมตน้ ระหว่างทุกระดบั หน่วยท่ีรับผิดชอบ ๔. การช่วยรบ ก. ผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ ข. อัตรากระสุนทใี่ ชไ้ ด้ - ปกบค. ๑๐๕ มม. จำนวน ๖๐ นดั - กปกค. ๑๕๕ มม. จำนวน ๓๕ นัด ลบั มาก (เพ่อื การฝกึ )

ลบั มาก (เพอื่ การฝกึ ) ชดุ ที่ ๖ ของ ชุด หนา้ ๓ ของ ๓ หนา้ (ผนวก ง (การยงิ สนบั สนุน) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓) - เครอ่ื งยงิ จรวด ๒.๗๕ นวิ้ จำนวน ๙ นดั ๕. การบงั คับบัญชาและการสือ่ สาร ก. การบงั คบั บัญชา ๑) ผนวก ฉ (การบังคับบัญชา) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ๒) ทุกหน่วยรายงานท่ีตัง้ ตามสายการบังคบั บัญชาในโอกาสแรกท่เี ขา้ ทต่ี ้ัง ข. การสื่อสาร : ผนวก ช (การติดต่อส่อื สาร) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ลบั มาก (เพอื่ การฝึก)

ลบั มาก (เพ่อื การฝกึ ) ชดุ ท่ี ๖๖ ของ ชดุ หน้า ๑ ของ ๑๐ หน้า ผนวก จ (การชว่ ยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ อา้ งถงึ ๑. แผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ๒. แผนทีป่ ระเทศน้ำเงิน ๑ : ๒๕๐,๐๐๐ ระวางครอบคลุม ๑๗ จว.ภาคเหนือ ๑. สถานการณ์ ก. ฝา่ ยขา้ ศึก : ผนวก ข (การข่าวกรอง) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ข. ฝ่ายเรา : แผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ค. สมมุตฐิ าน ๑) ทางยุทธวธิ ี ก) ความขัดแย้งในขณะท่ีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศน้ำเงินกับประเทศชมพู ยังอยู่ในระดับปกติและ การสู้รบจำกัดขอบเขตอยู่เฉพาะบริเวณที่มีความขัดแย้ง โดยไม่ขยายเปน็ สงครามขนาดใหญ่ ข) ความขดั แย้งทางทหารระหว่างประเทศน้ำเงนิ และประเทศแดงเกิดขึ้นไม่เกิน ๒ พื้นท่ี ภายในห้วง เวลาเดยี วกัน ค) ฝา่ ยเราสามารถครองอากาศเฉพาะตำบลได้ ในหว้ งเวลาทีต่ อ้ งการ ง) ประเทศแดงไมใ่ ช้ขีดความสามารถด้านสงครามเคมีและชวี ะ ๒) ทางการกำลงั พล : อนุผนวก ๑ (การกำลงั พล) ๓) ทางกิจการพลเรือน : อนุผนวก ๒ (กิจการพลเรือน) ๔) ทางการสง่ กำลงั บำรุง ก) ทบ. สามารถสนบั สนุนการเคล่ือนย้ายกำลังของ ทภ.๓ ตามทไี่ ด้รบั การร้องขอ ข) ทภ.๓ ได้รับการสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงเพิ่มเติมจาก ทบ. เพื่อเพ่ิมขีดความสามารถในการ สง่ กำลังบำรุง ของ ทภ.๓ ตามแผนทว่ี างไว้ ค) พล.ร.๗ อย่ใู นระหวา่ งการเสริมสร้างหนว่ ยสนับสนุนทางการสง่ กำลังบำรุงตามนโยบาย ของ ทบ. ๒. ภารกจิ ทภ.๓ สนับสนุนทางการช่วยรบ ในการป้องกัน ขัดขวาง ผลักดัน และขับไล่ข้าศึกซึ่งรุกล้ำดินแดนให้ออก นอกเขตนำ้ เงนิ บริเวณแนวชายแดนน้ำเงนิ -แดง โดยเร็ว เพอ่ื สถาปนาความมน่ั คงบรเิ วณพ้ืนที่ชายแดน ๓. กลา่ วทั่วไป ก. แนวความคิดในการปฏิบัติ ทภ.๓ สนับสนุนทางการช่วยรบให้กับหน่วยที่เข้าปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ โดยแบ่งขั้นการ ปฏบิ ัตอิ อกเป็น ๒ ข้นั ดังน้ี ลบั มาก (เพือ่ การฝึก)

ลบั มาก (เพือ่ การฝกึ ) ชุดที่ ๖๖ ของ ชดุ หนา้ ๒ ของ ๑๐ หน้า (ผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓) ๑) ข้ันที่ ๑ (ข้ันเตรียมการ) เป็นการปฏิบัติต้ังแต่ยามปกติของกำลังป้องกันชายแดน ประจำปีของ ทภ.๓ และการใช้กองร้อยเตรียมพร้อมของ ทภ.๓ ก) สนับสนุนสิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ท่ีจำเป็น เพื่อการทรงชีพและปฏิบัติการให้กับกำลังป้องกัน ชายแดนประจำปขี อง ทภ.๓ ข) รวบรวมความต้องการส่ิงอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ท่ีจำเป็นเพื่อการทรงชีพและปฏิบัติการของ กองร้อยเตรียมพร้อมของ ทภ.๓ และเสนอความต้องการไปยงั ทบ. ค) วางแผน ประสานงาน และกำกับดูแลหน่วยส่งกำลังในพื้นที่ และหน่วยต่างๆ ของ ทภ.๓ ที่จะเข้า ปฏิบัตกิ ารตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ ใหม้ สี งิ่ อปุ กรณ์และยุทโธปกรณ์ครบตามอัตรา และระดับสะสมท่ีกำหนด ง) เตรียมการและวางแผนสนับสนุนการเคลื่อนย้าย และสนับสนุนทางการช่วยรบให้กับหน่วยท่ีจะ เขา้ ปฏบิ ัติการตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ ๒) ขั้นที่ ๒ (ขน้ั ปฏบิ ัติการ) เปน็ การปฏบิ ัติของหนว่ ย กรม ร./ม.ฉก. และกองหนนุ ของ ทบ. ก) สนับสนุนการเคล่ือนย้ายและสนับสนุนทางการช่วยรบให้กับหน่วยท่ีปฏิบัติการตามแผน เผชิญ เหตุ – ทภ.๓ โดยกำหนดความเร่งด่วนในการส่งกำลังบำรุง ให้กับ หน่วยพร้อมรบเคล่ือนที่เร็วของ ทบ., กรม ร./ม.ฉก.ทภ.๓ ทีจ่ ดั จาก พล.ม.๑, พล.ร.๔ และ พล.ร.๗ ตามลำดบั ข) ขอรับการสนบั สนุนหนว่ ยสนบั สนุนทางการชว่ ยรบเพิ่มเติมจาก ทบ. ค) เตรยี มปฏบิ ัตกิ ารตามแผนพิทักษ์น้ำเงนิ – ทภ.๓ ข. บชร.๓ ๑) ขนั้ ที่ ๑ (ข้นั เตรียมการ) ก) สนับสนุนทางการสง่ กำลังบำรุงให้กับกำลังป้องกันชายแดนประจำปีของ ทภ.๓ ข) สนบั สนุนการเคล่อื นยา้ ยและการส่งกำลังบำรุงให้กบั กรม ร./ม.ฉก. ของ ทภ.๓ เมอ่ื เขา้ ปฏิบตั กิ าร ค) เร่งรัดกรมฝา่ ยยุทธบรกิ ารที่เก่ียวข้อง สนับสนนุ สิ่งอปุ กรณ์ให้กับ กรม ร./ม. ฉก. ให้ครบตามอัตรา และระดบั สะสมทก่ี ำหนด ง) เบิก-รับ ส่ิงอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์จากกรมฝ่ายยุทธบริการที่เก่ียวข้องแล้วแจกจ่ายให้กับหน่วย ของ ทภ.๓ ท่ีปฏิบตั ิการตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ จ) เตรียมสะสมส่งิ อุปกรณท์ ่ีจำเปน็ เช่น สป.๑ (เสบียงประเภท ค), สป.๓ และ สป.๕ ช) ประสาน มทบ. และ จทบ. ในการจดั ตงั้ ตำบลสง่ กำลังในพนื้ ทข่ี องหนว่ ยน้ันๆ ซ) เตรียมสนับสนุนการเคลื่อนย้าย กรม ร./ม.ฉก., กองหนุนของ ทบ. และกำลังส่วนอ่ืนๆ ของ ทบ. ทจ่ี ะเขา้ ปฏิบตั ิการตามแผนเผชญิ เหตุ -ทภ.๓ ลบั มาก (เพ่อื การฝึก)

ลบั มาก (เพื่อการฝกึ ) ชุดท่ี ๖๖ ของ ชุด หน้า ๓ ของ ๑๐ หนา้ (ผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) ด) เตรียมจัดต้ัง สย.บชร.๓ จำนวน ๒ ส่วนแยก เพ่ือสนับสนุนให้กับ กรม ร./ม.ฉก., กองหนุนของ ทบ. และกำลังส่วนอื่นๆ ของ ทบ. ที่เข้าปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ - ทภ.๓ โดยในข้ันต้นให้จัดต้ังในพื้นท่ี รบั ผดิ ชอบ ของ จทบ.ต.ก. จำนวน ๑ สว่ นแยก และ พืน้ ท่รี ับผดิ ชอบของ มทบ.๓๓ จำนวน ๑ ส่วนแยก ๒) ขั้นท่ี ๒ (ขัน้ ปฏิบตั กิ าร) ก) สนับสนนุ ทางการส่งกำลังบำรุงให้กบั หนว่ ยที่ปฏิบัตกิ ารตามแผนเผชิญเหตุ - ทภ.๓ ข) สนับสนุนการเคลื่อนย้าย กรม ร./ม.ฉก., กองหนุนของ ทบ. และกำลังส่วนอ่ืนๆ ของ ทบ. เม่ือ ได้รบั การรอ้ งขอ ค) จัดต้งั สย.บชร.๓ เพอ่ื สนับสนุน กรม ร./ม.ฉก. และ/หรือ กองหนุนของ ทบ. ทเี่ ข้าปฏบิ ัติการ ง) เตรยี มการสนบั สนนุ หน่วยสนับสนุนโดยตรง ให้กบั กรม ร.ฉก.ทภ.๓ (พล.ร.๗) เมือ่ สั่ง จ) เตรียมปฏิบัติการตามแผนพทิ ักษน์ ้ำเงิน – ทภ.๓ ค. พล.ร.๔ ๑) ขัน้ ที่ ๑ (ขัน้ เตรียมการ) ก) ประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องสนับสนุนส่ิงอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ให้กับหน่วยของตนที่จะเข้า ปฏิบัตกิ ารตามแผนเผชญิ เหตุ - ทภ.๓ ใหค้ รบตามอัตรา และระดับสะสมที่กำหนด ข) เสนอความต้องการส่ิงอุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นเพ่ือการทรงชีพและปฏิบัติการของหน่วย ในความรับผิดชอบทจี่ ัดต้งั เป็น กองรอ้ ยเตรยี มพร้อมของ ทภ.๓ ค) เสนอความต้องการ สป.๓ และ สป.๕ ที่ต้องใชป้ ฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ สำหรับ สป. ๓ ให้เสนอความต้องการตั้งแต่การเคล่ือนย้ายหน่วย จากท่ีต้ังปกติจนถึงข้ันปฏิบัติการและกำหนดตำบลท่ีจะ ขอรับการสนับสนุนการเติม สป.๓ ระหว่างการเคล่ือนย้าย ง) เตรียมการเคลื่อนย้าย กรม ร.ฉก. ที่จะเข้าปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ - ทภ.๓ โดยขอรับการ สนับสนุนการเคลื่อนย้ายจากหนว่ ยสง่ กำลังในพ้ืนที่ จ) สนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุง ให้กับหน่วยในความรับผิดชอบท่ีจัดตั้งเป็นกองร้อยเตรียมพร้อม ของ ทภ.๓ เมอ่ื เขา้ ปฏบิ ัตกิ าร ๒) ขัน้ ที่ ๒ (ข้ันปฏบิ ัตกิ าร) ก) เคลื่อนยา้ ย กรม ร.ฉก. เขา้ ปฏิบตั กิ ารตามแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ข) สนับสนนุ ทางการส่งกำลังบำรุงใหก้ บั กรม ร.ฉก.ท่เี ข้าปฏบิ ัติการ ค) เตรียมการปฏิบตั ติ ามแผนพิทักษ์น้ำเงิน – ทภ.๓ ง. พล.ร.๗ ลบั มาก (เพอ่ื การฝึก)

ลบั มาก (เพอื่ การฝกึ ) ชุดที่ ๖๖ ของ ชดุ หนา้ ๔ ของ ๑๐ หนา้ (ผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓) ๑) ขั้นท่ี ๑ (ขน้ั เตรียมการ) ก) ประสานหน่วยท่ีเก่ียวข้อง สนับสนุนส่ิงอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ให้กับหน่วยของตนที่จะเข้า ปฏิบตั ิการตามแผนเผชิญเหตุ - ทภ.๓ ให้ครบตามอัตรา และระดบั สะสมที่กำหนด ข) เสนอความต้องการสิ่งอุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์ท่ีจำเป็นเพื่อการทรงชีพและปฏิบัติการของหน่วย ในความรบั ผดิ ชอบที่จัดต้ังเป็น กองรอ้ ยเตรยี มพร้อมของ ทภ.๓ ค) เสนอความต้องการ สป.๓ และ สป.๕ ที่ตอ้ งใช้ปฏบิ ัตกิ ารตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ สำหรับ สป. ๓ ให้เสนอความต้องการตั้งแต่การเคลื่อนย้ายหน่วย จากท่ีต้ังปกติจนถึงขั้นปฏิบัติการและกำหนดตำบลท่ีจะ ขอรับการสนับสนุนการเตมิ สป.๓ ระหว่างการเคลื่อนย้าย ง) เตรียมการเคล่ือนย้าย กรม ร.ฉก. ท่ีจะเข้าปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ - ทภ.๓ โดยขอรับการ สนบั สนนุ การเคลอ่ื นยา้ ยจากหน่วยสง่ กำลังในพ้ืนท่ี จ) สนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุง ให้กับหน่วยในความรับผิดชอบที่จัดตั้งเป็นกองร้อยเตรียมพร้อม ของ ทภ.๓ เม่อื เขา้ ปฏบิ ตั กิ าร ฉ) เตรยี มรับการสนับสนนุ หน่วยสนบั สนุนโดยตรง จาก บชร.๓ ๒) ข้นั ที่ ๒ (ข้ันปฏิบตั กิ าร) ก) เคลอื่ นยา้ ย กรม ร.ฉก. เข้าปฏบิ ัตกิ ารตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ ข) สนับสนนุ ทางการสง่ กำลังบำรงุ ให้กบั กรม ร.ฉก. ท่ีเขา้ ปฏิบัติการ ง) เตรียมการปฏิบตั ิตามแผนพิทกั ษ์นำ้ เงิน – ทภ.๓ จ. พล.ม.๑ ๑) ขน้ั ท่ี ๑ (ขน้ั เตรยี มการ) ก) ประสานหน่วยท่ีเกี่ยวข้อง สนับสนุนส่ิงอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ให้กับหน่วยของตนที่จะเข้า ปฏบิ ัตกิ ารตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ ใหค้ รบตามอตั ราและระดับสะสมที่กำหนด ข) เสนอความต้องการสิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ท่ีจำเป็นเพ่ือการทรงชีพและปฏิบัติการของหน่วย ในความรับผดิ ชอบทีจ่ ัดตั้งเปน็ กองรอ้ ยเตรยี มพร้อมของ ทภ.๓ ค) เสนอความต้องการ สป.๓ และ สป.๕ ท่ีต้องใชป้ ฏบิ ัตกิ ารตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ สำหรับ สป. ๓ ให้เสนอความต้องการตั้งแต่การเคล่ือนย้ายหน่วยจากท่ีต้ังปกติจนถึงขั้นปฏิบัติการและกำหนดตำบลท่ีจะ ขอรบั การสนับสนุนการเติม สป.๓ ระหว่างการเคลื่อนย้าย ง) เตรียมการเคลื่อนย้าย กรม ม.ฉก. ที่จะเข้าปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ โดยขอรับการ สนบั สนุนการเคล่ือนย้ายจากหน่วยสง่ กำลังในพื้นท่ี ลบั มาก (เพือ่ การฝึก)

ลบั มาก (เพ่ือการฝึก) ชดุ ท่ี ๖๖ ของ ชุด หน้า ๕ ของ ๑๐ หน้า (ผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) จ) สนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุง ให้กับหน่วยในความรับผิดชอบท่ีจัดตั้งเป็นกองร้อยเตรียมพร้อม ของ ทภ.๓ เพ่อื เขา้ ปฏบิ ตั ิการ ๒) ขน้ั ท่ี ๒ (ขนั้ ปฏบิ ัตกิ าร) ก) เคล่ือนยา้ ยหน่วย กรม ม.ฉก. เขา้ ปฏิบตั ิการตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ ข) สนับสนุนทางการส่งกำลังบำรงุ ให้กับหนว่ ย กรม ม.ฉก.ท่ีเขา้ ปฏบิ ัติการ ค) เตรยี มปฏิบัติการตามแผนพิทักษน์ ้ำเงิน – ทภ.๓ ฉ. มทบ./จทบ. ๑) ข้นั ที่ ๑ (ข้ันเตรียมการ) ก) สนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงให้กับหน่วยท่ีปฏิบัติตามแผนป้องกันชายแดนประจำปีของ ทภ.๓ และกองร้อยเตรียมพร้อมของ ทภ.๓ เมอ่ื เขา้ ปฏิบัติการ ข) เตรยี มสนับสนนุ ทางการส่งกำลงั บำรุงให้กบั หนว่ ยที่จะเขา้ ปฏบิ ตั กิ ารตามแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ค) เปน็ ตำบลสง่ กำลงั ของ ทภ.๓ เมอ่ื สง่ั ๒) ข้ันท่ี ๒ (ขน้ั ปฏบิ ัติการ) ก) สนับสนนุ ทางการส่งกำลังบำรงุ ให้กับหนว่ ยท่ีปฏิบัตกิ ารตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ ข) สนบั สนนุ การเคล่อื นย้ายให้กับหนว่ ยท่ปี ฏิบัติตามแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ เมื่อได้รบั การรอ้ งขอ ค) เตรียมปฏิบัตติ ามแผนพทิ ักษ์น้ำเงิน – ทภ.๓ ช. ทภ.๒, นสศ., นปอ. พล.ม.๒ และ พล.ป. ๑) ขัน้ ที่ ๑ (ขัน้ เตรียมการ) ก) ประสานหน่วยที่เก่ียวข้องสนับสนุนส่ิงอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ให้กับหน่วยของตนท่ีจะเข้า ปฏิบัตกิ าร ตามแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ใหค้ รบตามอัตราและระดับสะสมทก่ี ำหนด ข) เสนอความต้องการ สป.๓ และ สป.๕ ที่จะต้องใช้ในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ สำหรับ สป.๓ ให้เสนอความต้องการต้ังแต่การเคล่ือนย้ายหน่วยจากที่ตั้งปกติ จนถึงขั้นปฏิบัติการและกำหนด ตำบลทจี่ ะขอรับการสนบั สนุนการเติม สป.๓ ระหว่างการเคล่ือนย้าย ค) เตรียมเคลื่อนย้ายหน่วยเข้าปฏิบัติการตามแผนโดยให้ขอรับการสนับสนุนการเคลื่อนย้ายจาก หน่วยส่งกำลังในพ้ืนท่ีของตน (ทภ.๓ จะให้การสนับสนุนการเคล่ือนย้ายเมื่อหน่วยเคล่ือนย้ายเข้ามาในพ้ืนที่ ทภ.๓) ง) สง่ สถานภาพอาวธุ และยทุ โธปกรณ์ให้ ทภ.๓ เพอ่ื เปน็ ข้อมลู ในการสนับสนุนทางการส่งกำลงั บำรงุ ๒) ขน้ั ท่ี ๒ (ขั้นปฏิบัตกิ าร) ลบั มาก (เพื่อการฝกึ )

ลบั มาก (เพ่ือการฝกึ ) ชดุ ที่ ๖๖ ของ ชุด หน้า ๖ ของ ๑๐ หน้า (ผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) ก) เคลอื่ นยา้ ยหนว่ ยเข้าปฏิบัติตามแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ข) ขอรับการสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงจากตำบลส่งกำลัง และ/หรือ สย.บชร.๓ ในพื้นที่ที่ หนว่ ยเข้าปฏบิ ัตกิ าร ซ. กกล.นเรศวร, กกล.ผาเมอื ง ๑) ขัน้ ท่ี ๑ (ขั้นเตรยี มการ) ก) ปฏบิ ตั ิการตามแผนป้องกันชายแดนประจำปี ข) เตรียมให้การสนับสุนนทางการส่งกำลังบำรุงต่อหน่วยต่างๆ ที่เข้าปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ - ทภ.๓ ตามขอบเขตความรับผดิ ชอบ ๒) ขั้นท่ี ๒ (ขัน้ ปฏบิ ตั กิ าร) ก) ปฏิบตั กิ ารตามแผนปอ้ งกนั ชายแดนประจำปี ข) ให้การสนับสุนนทางการส่งกำลังบำรุงต่อหน่วยต่างๆ ที่เข้าปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ -ทภ.๓ ตาม ขอบเขตความรับผิดชอบ ๔. ยทุ โธปกรณ์และบริการ ก. การส่งกำลงั การดำเนินการเกี่ยวกับการจัดหา การแจกจ่าย การจำหน่าย และการควบคุม ให้ยึดถือปฏิบัติตาม ระเบยี บคำสั่งของ ทบ. ท่ีมีผลบงั คบั ใช้อยู่ในปจั จุบัน สำหรบั การกำหนดความต้องการส่ิงอปุ กรณ์ให้ปฏบิ ตั ิดังน้ี ๑) สป.๑ ก) ปฏิบัติตามระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการส่งกำลัง สป.๑ ในสนาม ปี ๓๕ เว้นกรณีท่ี ทบ. ได้กำหนด ระเบียบหรอื อนมุ ัติหลักการไวโ้ ดยเฉพาะ ให้ถือปฏิบตั ิตามระเบียบหรืออนุมตั ิหลักการที่เกี่ยวข้องเรื่องน้ัน ข) การสะสมเสบยี ง (๑) กำลังป้องกันชายแดนประจำปี สะสมข้าวสารและเสบียงประเภท ข (อาหารกระป๋อง) ๓ วัน สง่ กำลัง และเสบียง ค (อาหารสำเร็จรปู หรอื MRE) ๑ วันส่งกำลัง (๒) กองร้อยเตรียมพร้อมของ ทภ.๓ และกำลังในขั้นที่ ๑ (ขั้นเตรียมการ) หากไม่มีข้อจำกัดด้าน งบประมาณ ใหส้ ะสมเสบยี งไวท้ ีห่ นว่ ยในวงรอบ ๑ ปี ดังนี้ (ก) กองรอ้ ย เสบียงประเภท ค ๑ วนั ส่งกำลงั (ข) กองพัน เสบียงประเภท ข ๑ วันส่งกำลัง และเสบียงประเภท ค ๑ วันส่งกำลัง รวม ๒ วนั สง่ กำลงั และเช้อื เพลิง ๑ วนั ส่งกำลัง ลบั มาก (เพอื่ การฝึก)

ลบั มาก (เพือ่ การฝกึ ) ชดุ ท่ี ๖๖ ของ ชดุ หนา้ ๗ ของ ๑๐ หน้า (ผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) (ค) กองพล เสบียงประเภท ข ๓ วันส่งกำลัง และเสบียงประเภท ค ๑ วันส่งกำลัง รวม ๔ วัน ส่งกำลงั และเช้ือเพลงิ ๑ วันสง่ กำลงั ค) การเบิกเสบยี ง (๑) เสบียงประเภท ข เบิกตามเกณฑส์ ะสม และทำการเบิกทดแทนทันทีเมื่อใชไ้ ป (๒) เสบยี งประเภท ค. ซงึ่ กำหนดไวใ้ นอตั ราพิกัดให้ทำการเบิกทดแทนทันทีเม่ือใช้ไป ๒) สป.๒ และ ๔ ก) ทุกหน่วยท่ีออกปฏิบัติการ ต้องนำสิ่งอุปกรณ์ตามที่กำหนดไว้ใน อจย. รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ตาม อัตราพิกดั และตามอัตราอนุมตั ิให้สะสมไปด้วย ข) การขอเบิกทดแทนหน่วยจะต้องเร่งดำเนินกรรมวิธีการขออนุมัติจำหน่ายเสียก่อน แล้วขอเบิก ทดแทนทนั ที ค) การขอเบิกส่ิงอุปกรณ์ที่เกินอัตรา, ส่ิงอุปกรณ์รายการควบคุมและสิ่งอุปกรณ์ท่ีขาดแคลน ให้เสนอ ผา่ นตามสายการบงั คบั บัญชา ง) การเบิก-รับ ให้ปฏิบัติตามระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการส่งกำลัง สป.๒ และ ๔ พ.ศ.๒๕๓๔ และ ระเบียบ ทบ. วา่ ดว้ ยการส่งและรบั สป. พ.ศ.๒๕๕๒ จ) การสะสม สป.๒ และ ๔ ให้เพง่ เลง็ สป. ป้อมสนามเปน็ หลกั ๓) สป.๓ ก) ยึดถือตามระเบียบคำสง่ั หรืออนุมัติหลกั การของ ทบ. ท่ใี ช้บงั คับอยใู่ นปจั จบุ ัน ข) นำ้ มันท่ีกำหนดอตั รา,เครดติ และเกณฑจ์ า่ ยไวแ้ ล้ว ใหเ้ บิกตามสายการส่งกำลัง ค) นำ้ มันทม่ี ไิ ดก้ ำหนดอัตรา,เครดติ และเกณฑจ์ ่าย ใหเ้ สนอความต้องการตามสายการบงั คับบัญชา ง) การเบกิ -รับ ให้ปฏบิ ัตติ ามระเบียบ ทบ. วา่ ด้วยการสง่ กำลัง สป.๓ สาย พธ.พ.ศ.๒๕๕๑ ๔) สป.๕ ก) หน่วยท่ีออกปฏิบัติการต้องนำกระสุนตามอัตรามูลฐานไปด้วย เมื่อหน่วยเร่ิมเคลื่อนย้ายจากท่ีต้ัง ปกติ ใหถ้ ือคำสั่งการเคลอ่ื นย้ายเป็นคำสั่งอนุมัติใชก้ ระสุนมลู ฐานของหน่วยได้ ตามสถานการณ์ทางยทุ ธวิธี ข) กรณีท่ีหน่วยจำเป็นต้องมีกระสุนเกินกว่าอัตรากระสุนมูลฐานชั่วคราว ให้รายงานตามสายการ บงั คบั บัญชาถึง ทภ.๓ โดยกำหนดห้วงระยะเวลาทแี่ น่นอนไปด้วย ค) การเบิกทดแทน (๑) หน่วยใช้ เม่ือใช้ สป.๕ ในอัตรามูลฐานไปแล้ว ให้ขออนุมัติจำหน่าย และเบิกทดแทนจาก ตำบลส่งกำลังหรอื หนว่ ยส่งกำลังท่ีสนบั สนนุ โดยแนบสำเนารายงานขออนุมัตจิ ำหนา่ ยไปด้วยทกุ ครั้ง ลบั มาก (เพอ่ื การฝกึ )

ลบั มาก (เพอื่ การฝกึ ) ชุดท่ี ๖๖ ของ ชดุ หน้า ๘ ของ ๑๐ หนา้ (ผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓) (๒) ตำบลส่งกำลังหรือหน่วยส่งกำลัง รวบรวมหลักฐานจำหน่ายกระสุนท่ีใช้ไป พร้อมขอเบิก ทดแทนจากคลงั หน่วยเหนือต่อไป โดยแนบสำเนาหลกั ฐานการขออนมุ ัติจำหน่ายไปพร้อมกับใบเบิก ง) การเบกิ พิเศษ (๑) การเบิกนอกอัตรา เมื่อ ทบ. อนุมัติจ่ายแล้ว ให้ปฏิบัติตามระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการส่งกำลัง สป.๕ พ.ศ.๒๕๔๒ (๒) การเบิกเร่งด่วน ให้หน่วยแจ้งความต้องการ โดยใช้เครื่องมือส่ือสารที่เหมาะสม ระบุรหัสหรือ ลำดับ, รายการ รวมท้ังจำนวน สป.๕ ให้ทราบ เม่อื ได้รับอนมุ ตั ิแล้ว หนว่ ยจ่ายจะทำใบเบกิ อตั โนมตั ิให้ จ) อัตรากระสนุ ทใี่ ช้ได้ (๑) กปบค.๑๐๕ มม. ๖๐ นดั /กระบอก/วนั (๒) กปกค.๑๕๕ มม. ๓๕ นดั /กระบอก/วัน (๓) เคร่อื งยิงจรวด ๒.๗๕ นว้ิ ๙ นดั /กระบอก/วนั (๔) กระสุนชนดิ อื่นๆ ตามอตั รากระสนุ มูลฐาน ข. การซ่อมบำรุง ๑) การซ่อมบำรุงในสนาม ต้องจำกัดให้มีน้อยที่สุด ด้วยการจัดเตรียมยุทโธปกรณ์ที่ใช้ราชการได้ดี เทา่ น้นั ไปปฏบิ ตั ิการ ๒) ทุกหน่วยทำการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ในความรับผิดชอบตามระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการซ่อมบำรุง ยุทโธปกรณ์ พ.ศ.๒๕๒๔ ด้วยขีดความสามารถของหน่วยที่มีอยู่ โดยการนำช้ินส่วนซ่อมตามอัตราพิกัดของ หนว่ ยไปดว้ ย หากเกนิ ขดี ความสามารถใหส้ ่งซ่อมตามสายการส่งกำลงั ค. การขนสง่ ๑) ให้ใชก้ ารขนสง่ ทางถนนและทางรถไฟเป็นหลัก การขนส่งทางอากาศใช้กรณีจำเปน็ และเร่งดว่ น ๒) ให้หน่วยพิจารณาใช้ยานพาหนะในอัตราของหน่วยก่อน หากไม่เพียงพอให้ขอรับการสนับสนุนจาก หน่วยส่งกำลังในพืน้ ที่ ๓) ในกรณีที่หน่วยส่งกำลังในพื้นที่ ไม่สามารถให้การสนับสนุนการขนส่งตามคำขอของหน่วยได้ให้ รายงานตามสายการบงั คับบัญชาถึง ทภ.๓ ๕. การส่งกลับสายแพทย์และการรักษาพยาบาล ก. การส่งกลับ ๑) นโยบายส่งกลับ ก) ทภ.๓ จำนวน ๓๐ วัน ลบั มาก (เพือ่ การฝกึ )

ลบั มาก (เพอ่ื การฝึก) ชดุ ท่ี ๖๖ ของ ชุด หนา้ ๙ ของ ๑๐ หน้า (ผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) ข) กองพล จำนวน ๒๐ วนั ๒) ให้ใชก้ ารสง่ กลับทางถนนและทางรถไฟเปน็ หลัก การสง่ กลบั ทางอากาศให้ใชก้ รณีจำเป็นและเร่งด่วน ๓) หน่วยแพทย์ท่ีอยู่ข้างหลัง รับผิดชอบในการส่งกลับจากหน่วยข้างหน้ามายังหน่วยของตน โดยหน่วย แพทยท์ ่ีอยู่ข้างหลัง จะต้องจัดเตรียมชุดส่งกลับไปรอรบั อยู่ท่ีหนว่ ยข้างหนา้ ณ ตำบลและเวลาที่คาดว่าจะมกี าร ส่งกลับผู้ปว่ ยเจ็บเกิดขน้ึ โดยไมต่ อ้ งรอการร้องขอจากหนว่ ยข้างหนา้ ๔) หากหน่วยข้างหลังไม่สามารถดำเนินการส่งกลับได้ และมีผู้ป่วยเจ็บเกิดขึ้น ซ่ึงจำเป็นจะต้องส่งกลับ โดยเร็ว ให้ ผบ.หนว่ ยที่มีผู้ปว่ ยเจบ็ เกิดขนึ้ รับผดิ ชอบในการส่งกลบั ๕) หากมีผู้ป่วยเจ็บจำนวนมากเกิดขึ้น ผบ.หน่วยจะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทันที โดยการใช้กำลังพล และเครื่องมือทุกชนิดท่ีตนมีอยู่เข้าแก้ปัญหา พร้อมกันนั้นจะต้องรายงานด่วนถึงเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน จำนวน ผู้ป่วยเจบ็ , อาการทวั่ ๆ ไป ของผูป้ ่วยเจ็บ ให้ผบู้ ังคับบัญชาตามลำดบั ช้ันทราบ ข. การรกั ษาพยาบาล ๑) ให้ใช้หน่วยรักษาพยาบาลและ รพ.ทหารบกในอัตราเป็นหลัก ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้การรักษา พยาบาลจาก รพ.พลเรือนในท้องถิ่น ต้องเป็นกรณีเร่งด่วนและจำเป็นในระยะเวลาหน่ึงเท่าน้ัน และรายงานให้ ทภ.๓ ทราบ ๒) หน่วยรักษาพยาบาลในสนาม จะต้องรับผู้ป่วยเจ็บไว้รักษาพยาบาลภายในไม่เกินนโยบายส่งกลับ ผู้ป่วยเจ็บที่ต้องใช้เวลารักษาพยาบาลเกินกว่านโยบายส่งกลับ ให้หน่วยรักษาพยาบาลน้ัน ๆ ให้การรักษา พยาบาลขั้นต้น จนผ้ปู ่วยเจ็บสามารถสง่ กลับไปยังหน่วยข้างหลังไดโ้ ดยปลอดภัย แล้วทำการสง่ กลับไปยังหน่วย ข้างหลังโดยเร็วทีส่ ดุ ๓) การรกั ษาพยาบาลเชลยศกึ ให้ปฏบิ ัตติ ามอนสุ ญั ญาเจนีวาปี พ.ศ.๒๔๙๒ ค. การเวชกรรมป้องกัน ๑) ผบ.หนว่ ยทุกระดับ รบั ผิดชอบการเวชกรรมป้องกนั สุขศาสตรส์ ่วนบุคคล และการสุขาภบิ าล ในสนาม รวมทง้ั จัดใหม้ ีการดูแลทางทนั ตกรรมใหแ้ ก่กำลังพลด้วย ๒) ก่อนออกปฏิบัติการ กำลังพลทุกนายต้องผ่านการดำเนินกรรมวิธที างการแพทย์ และเวชกรรมป้องกัน เชน่ การตรวจหมูเ่ ลือด, การให้ภมู คิ ุม้ กนั โรคทางเดินอาหาร/บาดทะยัก และการป้องกันมาลาเรีย ข. เบด็ เตล็ด ๑) แผนนมี้ ผี ลบงั คับใช้ในการวางแผนเตรียมการ และประสานงานเม่ือได้รับและปฏบิ ัติเมื่อสั่ง ๒) การรายงาน ก) รายงานทนั ทเี มื่อมีการเปลย่ี นแปลงท่ตี ้งั ลบั มาก (เพอ่ื การฝึก)

ลบั มาก (เพอ่ื การฝกึ ) ชุดที่ ๖๖ ของ ชดุ หนา้ ๑๐ ของ ๑๐ หนา้ (ผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) ข) รายงานสถานภาพการชว่ ยรบ (๑) ปดิ รายงานเวลา ๑๘๐๐ และส่งถึง ทภ.๓ กอ่ นเวลา ๒๔๐๐ (๒) รายงานดว่ น ใหร้ ายงานทันทีดว้ ยเครื่องมือส่ือสารท่เี ร็วท่สี ุด (๓) รปจ. การส่งกำลังบำรุง สนบั สนนุ หนว่ ยปฏบิ ตั ิราชการสนาม ทบ. พ.ศ.๒๕๓๑ มผี ลบังคับใช้ ๓) การบริการ ก) การก่อสร้าง : ให้พจิ ารณาใชส้ ่ิงอำนวยความสะดวกในท้องถ่นิ ใหม้ ากทส่ี ุด การขอรับการสนับสนุน เพมิ่ เตมิ จากหนว่ ยเหนือ ให้กระทำเมื่อมีความจำเป็นอยา่ งแทจ้ ริงเท่านนั้ ข) แรงงาน (๑) ให้ใชแ้ รงงานของหนว่ ยเป็นลำดับแรก (๒) การใช้แรงงานในท้องถ่ิน ให้พิจารณากระทำเฉพาะในกรณีจำเป็น โดยจะต้องได้รับการ ทดสอบความไว้วางใจจากเจา้ หน้าทฝ่ี ่ายข่าวกรองของหน่วยแล้วเท่าน้ัน ๗. การกำลงั พล : อนุผนวก ๑ ๘. กจิ การพลเรือน : อนุผนวก ๒ ๙. การบังคับบัญชาและการส่ือสาร ก. การบงั คับบัญชา ๑) บก.ทภ.๓ ตงั้ อย่ทู ่ีคา่ ยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จว.พ.ล. ๒) บชร.๓, มทบ. และ จทบ. ในพน้ื ท่ี ทภ.๓ ตัง้ อยู่ ณ ทีต่ ั้งปจั จุบนั ข. การสอื่ สาร ผนวก ช (การส่ือสาร และอเิ ลคทรอนิกส์) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ อนุผนวก : ๑. การกำลงั พล ๒. กิจการพลเรอื น ลบั มาก (เพอ่ื การฝกึ )

ลบั มาก (เพือ่ การฝึก) ชดุ ท่ี ๖๖ ของ ชุด หนา้ ๑ ของ ๕ หนา้ (อนุผนวก ๑ (การกำลงั พล) ประกอบผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ– ทภ.๓) อา้ งถึง ๑. แผนเผชิญเหตุ – ทบ. ๒. ระเบียบปฏบิ ัตปิ ระจำกองทัพบก วา่ ด้วยการกำลังพล พ.ศ.๒๕๓๒ (รปจ.ทบ.(กพ.๓๒)) ๓. ระเบียบปฏิบัตปิ ระจำกองทัพภาคที่ ๓ ว่าด้วยการกำลงั พล พ.ศ.๒๕๓๒ (รปจ.ทภ.๓ (กพ.๓๒)) ๔. แผนทป่ี ระเทศนำ้ เงนิ และอนิ โดจนี มาตราสว่ นและระวางทเี่ กยี่ วข้อง ๑. สถานการณ์ : แผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ๒. ภารกิจ ประสานและดำเนินการด้านกิจการกำลังพล เพื่อสนับสนุนหน่วยต่างๆ ในการปฏิบัติภารกิจตามแผน เผชิญเหตุ – ทภ.๓ ๓. กลา่ วทว่ั ไป ก. ความม่งุ หมาย เพ่ือกำหนดนโยบายการปฏิบตั ิดา้ นการกำลังพลในการสนบั สนนุ แผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ข. ให้ยึดถือ กฎ ข้อบังคับ คำสั่งระเบียบและแบบธรรมเนียมว่าด้วยการนั้น ในยามปกติเป็นแนวทางใน การปฏิบัติ ๔. งานในหน้าที่ ก. การรักษายอดกำลังพล ๑) หนว่ ยรักษายอดกำลังพล ให้มีความพรอ้ มรบไม่น้อยกวา่ ๙๐% ของอตั ราเตม็ ๒) การบันทกึ และรายงาน ก) รายงานยอดกำลงั พลประจำวัน หน่วยระดับกองพันหรือกองร้อยอสิ ระ รายงานตามสายการบังคับ บัญชาจนถงึ หนว่ ยระดับกองพล โดยตัดยอดเวลา ๑๘๐๐ คงเก็บไวท้ ก่ี องพลไม่ต้องสง่ ถงึ ทภ.๓ ข) รายงานกำลงั พลประจำสปั ดาห์ นขต.ทภ.๓ รายงานตามผนวก ก. รปจ.ทภ.๓ (กพ.๓๒) โดยตัด ยอดในวันศุกร์เวลา ๑๘๐๐ ของแต่ละสัปดาห์ ส่งถึง ทภ.๓ ภายในวันเสาร์ของแต่ละสัปดาห์ โดย ทภ.๓ รวบรวมส่งถึง ทบ. (ฝกพ.ศปก.ทบ.) ภายในวันจันทร์ของสปั ดาหต์ ่อไป ค) รายงานทันทีเมื่อมีเหตุการณ์คือการสูญเสียกำลังพล (เว้นการสูญเสียทางธุรการ) การเกิด อันตรายอย่างร้ายแรงแก่กำลังพลตั้งแต่ระดับกองร้อยข้ึนไป เกิดโรคระบาด เกิดอัคคีภัย เกิดข้อพิพาท ระหว่างทหารกับตำรวจ หรือทหารกับประชาชนในท้องถ่ินจนถึงข้ันเกิดจลาจลในท้องท่ี โดยให้หน่วยระดับ กองพนั ขน้ึ ไป รายงานโดยตรงตอ่ ทบ. (ฝกพ.ศปก.ทบ.) และ ทภ.๓ ง) รายงานตามระยะเวลา นขต.ทภ.๓ รายงานตามผนวก ค รปจ.ทภ.๓ (กพ.๓๒) ในรอบ ๑ เดือน ปิด รายงานวันสุดท้ายของเดือนเวลา ๑๘๐๐ ส่งถึง ทภ.๓ ภายในวันที่ ๕ ของเดือนถดั ไป โดย ทภ.๓ รวบรวมรายงาน สง่ ถึง ทบ. (ฝกพ.ศปก.ทบ.) ภายในวนั ที่ ๗ ของเดอื นถัดไป ลบั มาก (เพอื่ การฝกึ )

ลบั มาก (เพื่อการฝกึ ) ชดุ ที่ ๖๖ ของ ชดุ หนา้ ๒ ของ ๕ หน้า (อนุผนวก ๑ (การกำลงั พล) ประกอบผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ– ทภ.๓) ข. การจดั การกำลังพล ๑) การดำเนินการกำลังพล ก) การบรรจุ เลื่อน ลด ปลด ย้าย และการส่ังพักราชการ คงใช้ระเบียบข้อบังคับ คำส่ังและแบบ ธรรมเนียมของ ทบ. ยามปกติ โดยใหเ้ ร่งการดำเนนิ การให้ทันกบั สถานการณ์ ข) การออกคำสั่งให้กำลังพลปฏบิ ัติหน้าท่ีราชการในสนาม มทภ.๓ เป็นผอู้ อกคำสั่งบรรจุกำลังพล ปฏิบัติหน้าท่ีป้องกันประเทศ ตาม ผนวก ฉ รปจ.ทภ.๓ (กพ.๓๒) เพ่ือเป็นหลักฐานสำหรับการตรวจสอบ ต่อไป ๒) เชลยศึกและพลเรือนผ้ถู กู กักกัน ก) การปฏบิ ัตติ ่อเชลยศึก และพลเรอื นผถู้ กู กักกัน ให้ปฏบิ ตั ติ ามอนสุ ญั ญาเจนีวา ฉบบั ๑๒ ส.ค.๒๔๙๒ และระเบยี บ ทบ. ว่าด้วยการปฏิบัตติ ่อเชลยศกึ พ.ศ.๒๕๑๓ ข) ชุดซักถามเชลยศึกปฏิบัติหน้าท่ีร่วมอยู่กับท่ีควบคุมเชลยศึกของ ทภ.๓ หรือกองพลแล้วแต่ กรณี เวน้ มทภ.๓ จะสั่งการเปน็ อยา่ งอ่ืน ค) แต่ละระดับหน่วยซักถามเชลยศึกตามความจำเป็น และให้รีบส่งตังกลับตามสายการส่งกลับ เชลยศกึ ไปยงั ที่ควบคมุ เชลยศึกของ ทภ.๓ ง) ห้ามยึดส่ิงของส่วนตัว เครื่องประดับ เงิน และของมีค่าอื่นๆ ของเชลยศึกไว้เป็นกรรมสิทธ์ิส่วน ตัวอย่างเด็ดขาด จ) เชลยศกึ ทบี่ าดเจบ็ ให้จัดการรักษาพยาบาลหรอื ส่งกลับทางสายการแพทย์ในโอกาสแรกเท่าท่จี ะ ทำได้ ฉ) การวินิจฉัยสถานภาพของผู้ท่ีถูกจับว่าเป็นเชลยศึกหรือไม่ ถ้ากรณีเป็นท่ีสงสัย ให้ถือตาม ความเหน็ ของเจ้าหนา้ ท่ซี กั ถาม หรอื เจ้าหน้าทข่ี า่ วกรองทางทหารทเี่ กี่ยวข้อง ๓) กำลังพลพลเรอื น ก) การใชล้ กู จา้ งพลเรือน จะตอ้ งได้รบั อนมุ ัตจิ าก ทบ. (ศปก.ทบ.) ก่อน ข) การเกณฑ์แรงงานพลเรือน ให้กระทำเท่าท่ีจำเป็นและเป็นไปตาม พ.ร.บ.การเกณฑ์ช่วย ราชการทหาร พ.ศ.๒๕๓๐ ค) พึงระมดั ระวงั เป็นพิเศษ ในการตดิ ต่อกับประชาชนในท้องถน่ิ และการใช้ลูกจ้างพลเรอื นซึง่ อาจ เป็นฝ่ายตรงข้าม และอาจก่อให้เกดิ อันตรายแก่หน่วยได้ ค. การพฒั นาและการรกั ษาขวญั ๑) การลาและการพักผ่อน ลบั มาก (เพื่อการฝกึ )

ลบั มาก (เพื่อการฝึก) ชดุ ที่ ๖๖ ของ ชดุ หนา้ ๓ ของ ๕ หนา้ (อนุผนวก ๑ (การกำลังพล) ประกอบผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ– ทภ.๓) ก) ไม่มีนโยบายให้ทหารลากิจ ตลอดระยะเวลาปฏิบัติหนา้ ที่ป้องกันประเทศ เว้นแต่เม่ือเกิดความ จำเป็นอยา่ งแท้จรงิ ใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพินิจของ ผบ.หนว่ ยระดบั ผบ.พัน.หรือเทยี บเทา่ ข้ึนไป ข) ทหารที่ปฏิบัติภารกิจในสนามเกิน ๒ เดือนขึ้นไป ให้พิจารณาหมุนเวียนลาพักผ่อนได้ไม่เกิน ร้อยละ ๒๐ ครั้งละไมเ่ กิน ๗ วนั โดยไมน่ ับวันเดินทาง ท้งั น้ตี อ้ งไมใ่ หเ้ สยี ผลการปฏิบัตทิ างดา้ นยุทธการ ค) ศนู ย์การพกั ผอ่ นหย่อนใจของ ทภ.๓ หากมีการจดั ตั้ง จะแจ้งใหท้ ราบภายหลงั ง) การตง้ั คา่ ยพกั ผ่อนของกองพล ต้องขออนมุ ัติจาก ทภ.๓ ล่วงหนา้ ๒) การไปรษณยี ์ ก) ให้ปฏิบัติตามคำชี้แจง ทบ. เรื่องการฝากส่งไปรษณีย์และพัสดุไปรษณีย์สำหรับทหาร ที่ปฏิบัติ ราชการชายแดน ลง ๑๔ ก.ค.๑๙ ข) เมื่อไม่สามารถใช้บริการไปรษณีย์ของการส่ือสารแห่งประเทศน้ำเงินได้โดยตรง ทบ. จะ ดำเนนิ การบรกิ ารไปรษณยี ใ์ ห้ถงึ ทภ.๓ หรือกองพลต่อจากนั้นหน่วยเหนอื ดำเนินการใหห้ น่วยรอง ๓) บรกิ ารรา้ นค้า ให้หน่วยเปิดบรกิ ารรา้ นค้าข้นึ ได้ ตามความเหมาะสม ๔) บริการบันเทิง ก) หนว่ ยจดั การบันเทิงให้แก่ทหารตามความเหมาะสม ข) มทบ., จทบ. จดั บรกิ ารบนั เทงิ แก่หน่วยทหารในพื้นที่ตามความเหมาะสม ๕) สิทธกิ ำลงั พล ก) ผบ.หน่วย จะต้องให้กำลังพลทุกนายจัดทำเอกสารที่เก่ียวกับการขอรับสิทธ์ิต่างๆ ให้เรียบร้อย กอ่ นออกปฏิบัตกิ ารในสนาม ข) การขอบำเหน็จ เคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ สิทธกิ ำลังพลอนื่ ๆ ใหป้ ฏบิ ัตติ ามแบบธรรมเนียมว่าด้วย การน้นั ๆ และใหถ้ อื เปน็ เร่อื งด่วนทีต่ อ้ งรีบดำเนินการ ๖) พธิ กี ารทางศาสนา ก) การประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ให้กระทำทันทีทีโ่ อกาสอำนวย โดยให้ อศจ.ของหนว่ ย เป็น ผูป้ ระกอบพธิ ี สำหรับทหารที่นับถือศาสนาอ่นื ๆ ใหป้ ระกอบศาสนกิจของตนไดใ้ นโอกาสอันควร ข) จัดให้มีการอบรมจิตใจให้ทหารมีความเชื่อมั่นใน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการ ปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อยา่ งนอ้ ยเดือนละ ๑ คร้ัง ๗) การจดั การศพ และทะเบยี นศพ ก) ส่งศพ ทรัพย์สินส่วนตัว พร้อมเอกสารต่างๆ ไปยังตำบลรวบรวมศพท่ีใกล้ท่ีสุด ในโอกาสแรก เท่าที่สามารถกระทำได้ บางกรณอี าจส่งข้ามขนั้ ตอนของสายการส่งศพกลับก็ได้ ลบั มาก (เพื่อการฝกึ )

ลบั มาก (เพื่อการฝึก) ชุดที่ ๖๖ ของ ชดุ หนา้ ๔ ของ ๕ หนา้ (อนุผนวก ๑ (การกำลังพล) ประกอบผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ– ทภ.๓) ข) เงนิ สดทต่ี ิดตัวศพถา้ เกิน ๑๐๐ บาท ให้แยกนำสง่ ผกง. เพ่อื มอบใหแ้ กญ่ าติ ค) จทบ., มทบ. ซ่ึงรับผิดชอบพ้ืนที่ท่ีหน่วยต้นสังกัดต้ังอยู่ หรือพื้นที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิต ประกอบพิธีศพให้ตามลัทธิศาสนา สำหรับผู้ถึงแก่กรรมที่เป็นพุทธศาสนิกชนหลังจากประกอบพิธีศพข้ันต้น แลว้ ใหเ้ กบ็ ศพไว้รอกระทำพิธพี ระราชทานเพลิงศพเปน็ สว่ นรวมในโอกาสต่อไป ง) การฝงั ศพเรง่ ด่วนห้ามกระทำ เว้นแต่มคี วามจำเป็นทางยุทธวิธีอย่างแท้จรงิ และต้องไดร้ ับอนุมัติ จากผบู้ ังคับบัญชาก่อน จ) ศพพลเรือนที่ช่วยราชการทหาร ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับศพทหาร ส่วนศพพลเรือนอ่ืนๆ ให้ ตดิ ตอ่ เจา้ หนา้ ท่ีทอ้ งถิ่นดำเนินการ ฉ) กำลังพลต่างเหล่าที่เสียชีวิตในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ประสานกับเหล่าทัพต้นสังกัดเพ่ือดำเนินการ เกยี่ วกบั ทะเบยี นศพ ช) ศพข้าศกึ ใหร้ วบรวมพร้อมทรพั ย์สิน และเอกสารติดตวั ท่ีใช้เปน็ หลักฐานในการพิสูจน์ทราบ สง่ ไป ยงั ตำบลรวบรวมศพทใ่ี กล้ท่ีสุด โดยแยกออกจากศพของฝา่ ยเรา โดยรวบรวมศพไวแ้ ล้วนำศพไปยัง เม่ือการสู้รบ ยุติให้เตรียมส่งมอบศพ และส่งหลกั ฐานเป็นรายศพแกฝ่ า่ ยขา้ ศึกตามทไี่ ด้ตกลงกัน ง. การรักษา วินัย กฎ ขอ้ บังคับ และคำสง่ั ๑) กฎ ขอ้ บงั คับ และคำส่ัง ก) ทหารทุกคนต้องปฏิบัติตาม กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่งและแบบธรรมเนียมของทางราชการ และไมป่ ระพฤติตนขัดต่อธรรมเนยี มประเพณขี องท้องถนิ่ ข) ให้กำหนดมาตรการป้องกันมิให้ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้าสิ่งของท่ีผิดกฎหมาย และเม่ือมี อาชญากรรมเกิดข้ึนในเขตรับผิดชอบ ใหด้ ำเนนิ การตามกฎหมาย ๒) การักษาวินยั ก) ให้ ผบ.หน่วยระดับ ผบ.พล. หรือเทียบเท่า กำหนดเขตห้ามทหารเข้าไปในแหล่งที่มีสถิติ อาชญากรรมสูง ข) ให้กำหนดเวลาห้ามทหารออกนอกหน่วยในเวลากลางคืน เสริมด้วยการควบคุมและตรวจบัตร อนญุ าต ๓) การสารวัตรทหาร ก) ให้ทุกหน่วยจัดทำแผนหรือโครงการป้องกันอาชญากรรมของหน่วย เพ่ือป้องกันมิให้ทหาร กลายเป็นอาชญากรรม ลบั มาก (เพอื่ การฝึก)

ลบั มาก (เพื่อการฝึก) ชุดที่ ๖๖ ของ ชุด หนา้ ๕ ของ ๕ หน้า (อนุผนวก ๑ (การกำลังพล) ประกอบผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ– ทภ.๓) ข) ให้หน่วยระดับกองพลข้ึนไป จัดตั้งสถานีควบคุมหรือสายตรวจทหารพลัดหน่วยขึ้นในเขต รับผดิ ชอบ ๔) การศาลทหาร เมื่อยงั มไิ ด้จัดตงั้ ศาลอาญาศึก การพจิ ารณาพิพากษาคดีอาญาต่อทหาร กระทำผดิ ให้ดำเนินคดใี นศาลทหารตามภาวะปกติ จ. การจัดการภายในกองบัญชาการ ๑) การจัดระเบียบภายใน บก. ทุกแห่ง ให้จัดให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว ได้ผล สูงสุดมี ความคล่องตัว และปลอดภยั ๒) เม่อื มีการจัดตง้ั หรอื ยา้ ยท่ตี ง้ั บก.หน่วยในสนาม ใหร้ ายงานตามสายการบังคบั บัญชาถงึ ทภ.๓ เพอ่ื จะได้ รายงานให้ ทบ. (ศปก.ทบ.) ทราบตอ่ ไป ฉ. เบ็ดเตล็ด ๑) หลกี เล่ยี งการใช้ศาสนสถาน, โบราณสถาน เปน็ ที่ตัง้ หน่วย ๒) ให้การรับรองและให้การระวังป้องกันตามสมควรแก่ผู้ส่ือข่าวสงคราม และผู้มาเยี่ยมชมหน่วยเพื่อ ผลทางจิตวิทยา ๓) หน่วยทหารทุกหน่วยจะต้องได้รับการอบรมในเร่ืองวัฒนธรรม และประเพณีของท้องถ่ินก่อนเข้า ปฏบิ ัตกิ ารรบ ๕. การบังคับบญั ชาและการสือ่ สาร ก. การบงั คบั บญั ชา ๑) บก.ทภ.๓ ตั้งอยู่ทคี่ า่ ยสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช จว.พษิ ณุโลก ๒) บชร.๓, มทบ. และ จทบ. ในพน้ื ที่ ทภ.๓ ตั้งอยู่ ณ ท่ีต้ังปัจจุบนั ข. การสือ่ สาร ผนวก ช ลบั มาก (เพอ่ื การฝึก)

ลบั มาก (เพื่อการฝกึ ) ชุดที่ ของ ชุด หน้า ๑ ของ ๓ หนา้ (อนุผนวก ๒ (กจิ การพลเรือน) ประกอบผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) อา้ งถึง ๑. แผนเผชิญเหตุ – ทบ. ๒. แผนปอ้ งกนั ภยั ฝ่ายพลเรือน พ.ศ.๒๕๔๐ ๓. นโยบายการปฏบิ ตั ิการจติ วทิ ยาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๔๐ – ๒๔๔๔ ๔. พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.๒๔๕๗ ๕. แผนท่ีประเทศน้ำเงนิ ๑ : ๒๕๐,๐๐๐ ระวางครอบคลมุ ๑๗ จงั หวดั ภาคเหนอื ๑. สถานการณ์ : แผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ๒. ภารกจิ ทภ.๓ อำนวยการ ประสานงาน และดำเนินการด้านกิจการพลเรือนในพื้นที่รับผิดชอบ เพ่ือสนับสนุนหน่วย ตา่ งๆ ในการปฏบิ ตั ิตามแผนเผชิญเหตุ - ทภ.๓ ๓. กลา่ วท่วั ไป ก. แนวความคิดในการปฏบิ ตั ิ ๑) การดำเนนิ การกิจการพลเรอื น เพื่อปกป้อง ขัดขวาง ผลักดันและขับไล่ข้าศึก ซ่ึงรุกล้ำดินแดน ให้ออก นอกเขตน้ำเงิน บริเวณแนวชายแดนน้ำเงิน-แดง โดยเร็วที่สุด ประกอบด้วย การควบคุมประชาชน เพ่ือป้องกัน การกีดขวางการยุทธ การควบคุมความสงบเรียบร้อย การควบคุมการอพยพประชาชน การดำเนินการต่อผู้ลี้ภัย อำนวยการควบคุมการบรรเทาทุกข์ อันเกดิ จากอุบัติภยั และสาธารณภัย การป้องกนั และฟื้นฟูสาธารณูปโภค ๒) เป้าหมายการดำเนินงานด้านกิจการพลเรือนได้แก่ การป้องกันการกีดขวางการยุทธ, การได้รับความ ร่วมมือจากส่วนราชการพลเรือนและประชาชนในพื้นที่ และการป้องกันและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนใน พ้นื ทีจ่ ากการรบ ตามลำดับ ๓) การจัดต้ังตำบลรวบรวมพลเรือน โดยประสานกับส่วนราชการพลเรือนอย่างใกล้ชิด และดำเนินการ ควบคมุ ผลู้ ้ีภัยอย่างเข้มงวด ๔) ใหท้ ุกฝ่ายรายงานด่วนเม่ือมีเหตุการณร์ นุ แรงที่เกย่ี วข้องกับประชาชน ๕) ความมีวินยั ของทหารมีผลสำคญั ยิ่งต่องานด้านกจิ การพลเรือน ๖) การปฏิบัติการจิตวิทยา มุ่งกระทำต่อข้าศึกท่ีเผชิญหน้า, ประชาชนในพ้ืนที่และทหารฝ่ายเรา ตามลำดบั ข. การมอบอำนาจ ผบ.นขต.ทภ.๓ มีอำนาจในการควบคุมและปกครองพ้ืนที่รับผิดชอบ ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.กฎ อัยการศกึ พ.ศ.๒๔๕๗ แตท่ ั้งน้ี ใหป้ ระสานกบั ส่วนราชการพลเรอื นโดยใกลช้ ิด ลบั มาก (เพอ่ื การฝึก)

ลบั มาก (เพ่ือการฝกึ ) ชดุ ท่ี ของ ชดุ หน้า ๒ ของ ๓ หนา้ (อนผุ นวก ๒ (กจิ การพลเรือน) ประกอบผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) ค. คำแนะนำในการประสาน ๑) มอบหมายความรับผิดชอบและหนา้ ท่ีในการดำเนนิ การต่อประชาชน ใหเ้ จ้าหนา้ ท่ีส่วนราชการพล เรอื นในพ้ืนทโ่ี ดยเรว็ ทสี่ ุดเท่าทีจ่ ะทำได้ ๒) การควบคมุ พลเรอื นและผู้ลี้ภัยในการอพยพฝ่ายเรา ใหใ้ ชเ้ ส้นทางตามแผนปอ้ งกนั ภยั ฝ่ายพลเรอื น ที่ไมใ่ ชเ่ สน้ ทางหลักการรกุ และเส้นทางหลักการสง่ กำลงั โดยใชเ้ สน้ ทางสำรองใหม้ ากทีส่ ดุ ๓) ให้ทุกหน่วยรายงานด่วนเม่อื มเี หตุการณร์ ุนแรงเก่ยี วกบั ประชาชนและผู้ลภี้ ัย ๔. งานในหน้าท่ี ก. การปฏบิ ัตกิ ารกิจการพลเรือน ๑) ด้านการปกครอง ก) ส่งเสริมและสนับสนุนส่วนราชการพลเรือนในพื้นท่ีรับผิดชอบ โดยการปฏิบัติการของทหารให้ กระทำเทา่ ท่จี ำเปน็ และรายงานให้ทราบกอ่ นทุกครั้ง ข) หา้ มประชาชนออกจากบ้านยามวิกาล ตงั้ แต่ ๑๙๐๐ – ๐๖๐๐ ของวันใหม่ ค) การรักษาความสงบเรียบร้อยในพ้ืนที่ ให้ใช้เจ้าหน้าท่ีตำรวจ และส่วนราชการพลเรือนให้มาก ทส่ี ดุ ง) การกำหนดมาตรการและพื้นที่หวงห้าม ให้กระทำเท่าที่จำเป็น โดยให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ประชาชนนอ้ ยทีส่ ุด ๒) ด้านเศรษฐกิจ ก) หลีกเลย่ี งการใชท้ รัพยากรในท้องถ่ินของประชาชน โดยใหก้ ระทำเทา่ ทจี่ ำเปน็ เทา่ นนั้ ข) กวดขนั การคา้ ตลาดมดื และการกกั ตุนสินคา้ ทงั้ ภายในหนว่ ยและภายในพ้ืนท่ีรบั ผดิ ชอบ ค) การดำเนนิ การตอ่ ทรพั ย์สนิ ของประชาชน ให้กระทำตาม รปจ. และกฎหมายทีเ่ กีย่ วขอ้ ง ๓) ดา้ นสังคมจติ วิทยาและหน้าที่พเิ ศษ ก) การสนับสนุน สป. และยานพาหนะทางทหารต่อประชาชน สามารถกระทำได้ภายใน ขีด ความสามารถของหน่วยทีม่ ีอยู่ โดยกระทำเทา่ ทจ่ี ำเปน็ เทา่ นัน้ ข) การอพยพพลเรอื น พยายามใชเ้ จา้ หนา้ ท่ีและยานพาหนะของฝา่ ยพลเรือนใหม้ ากที่สดุ ค) การสนับสนุนการบริการด้านการรักษาพยาบาล และส่งกลับทางการแพทย์ ให้มุ่งกระทำใน กรณีเร่งดว่ น และฉกุ เฉินเท่านั้น ง) หลีกเล่ยี งการทำความเสียหายต่อปชู นียสถานและพน้ื ท่สี ำคญั ตา่ งๆ ลบั มาก (เพ่อื การฝึก)

ลบั มาก (เพือ่ การฝกึ ) ชุดที่ ของ ชุด หน้า ๓ ของ ๓ หนา้ (อนผุ นวก ๒ (กิจการพลเรือน) ประกอบผนวก จ (การช่วยรบ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) ข. การปฏบิ ัตกิ ารจติ วทิ ยา ๑) การ ปจว. ใหก้ ระทำทุกข้ันตอนการปฏิบัติ โดยเพ่งเลง็ เป็นพิเศษในการทำลายขวัญและกำลงั ใจใน การต่อสูข้ องฝ่ายตรงข้าม และเสรมิ สร้างขวญั และกำลังใจของฝ่ายเรา ๒) การ ปจว. ควรมุ่งก่อให้เกิดความได้เปรียบเหนือฝ่ายข้าศึก และสนับสนุนการปฏิบัติของฝ่ายเรา ทกุ วถิ ีทาง ค. การประชาสมั พนั ธ์ ๑) ควบคมุ และอำนวยการในการใชเ้ ครอ่ื งมือประชาสัมพนั ธ์ในพ้ืนที่รับผิดชอบ ให้เกิดประโยชน์สงู สุด ต่อฝ่ายเรา ๒) การแถลงข่าวให้แก่ส่ือมวลชนและประชาชนในพื้นท่ีรับผิดชอบ ควรกระทำร่วมกับเจ้าหน้าท่ีส่วน ราชการพลเรือนในพน้ื ที่ ตอ้ งรายงานให้ทราบโดยทนั ที ง. การปลูกฝงั อดุ มการณท์ างการเมือง ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ดำเนินการอบรมกำลังพลเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในระบอบ การปกครอง ขนบธรรมเนียมประเพณแี ละข้อมูลท่ีควรทราบต่างๆ โดยสร้างความสำนึกในหนา้ ทใี่ ห้กบั ทหาร ในการปฏิบตั ติ นใหเ้ หมาะสมเพือ่ ใหพ้ ้นจากการโฆษณาชวนเชอ่ื ของฝ่ายตรงขา้ ม ๕. การบงั คับบัญชาและการส่อื สาร : แผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ลบั มาก (เพอ่ื การฝกึ )

ลบั มาก ชุดที่ ๖๖ ของ ชดุ (เพอื่ การฝึก) หน้า ๑ ของ ๑ หนา้ ผนวก ฉ (การบังคับบญั ชา) ประกอบ แผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ ๑. การบงั คบั บัญชา บก.กองทัพน้ำเงนิ RDF ๒. เคร่ืองหมาย สายการบงั คับบัญชาตามปกติ ขึน้ ควบคุมทางยทุ ธการ ประสานการปฏบิ ัติ ลบั มาก (เพ่อื การฝกึ )

ลบั มาก (เพอ่ื การฝกึ ) ชดุ ท่ี ๖๖ ของ ชุด หน้า ๑ ของ ๓ หนา้ ผนวก ช (การส่อื สาร) ประกอบ แผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ อ้างถงึ ๑. แผนเผชญิ เหตุ – ทบ. ๒. แผนท่ีประเทศไทย มาตราส่วน ๑ : ๒๕๐,๐๐๐ ๓. แผนป้องกันภยั ทางอากาศ ทบ. ที่ ๑/๓๐ ๑. สถานการณ์ ก. ฝ่ายข้าศกึ : ผนวก ข (ขา่ วกรอง) ข. ฝ่ายเรา ๑) ผนวก ก (การจัดเฉพาะกจิ ) ประกอบแผนพทิ ักษน์ ำ้ เงนิ – ทภ.๓ ๒) ระบบการสื่อสารท่ีวางใช้งานไว้แล้วในปัจจบุ ันมีดังน้ี ก) ขา่ ยการสอ่ื สารของ บก.ทง. ข) ขา่ ยการสอื่ สารของ ทอ. ค) ขา่ ยการส่ือสารของสำนกั งานตำรวจแห่งชาติ ง) ขา่ ยการสอื่ สารของกระทรวงมหาดไทย จ) ข่ายการส่อื สารขององค์การโทรศพั ท์ บริษัท ทโี อที จำกัด (มหาชน) ฉ) ขา่ ยการส่ือสารของการไฟฟ้าฝ่ายผลติ ค. หนว่ ยขน้ึ สมทบและหน่วยแยก : ผนวก ก (การจดั เฉพาะกิจ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ - ทบ. ๒. ภารกิจ ทภ.๓ จัดต้ัง ปฏิบัติการและบำรุงรักษาระบบการส่ือสารสนับสนุนการปฏิบัติการป้องกัน ขัดขวาง ผลักดันและขับไล่ข้าศึกซ่ึงรุกล้ำดินแดนให้ออกนอกเขตประเทศน้ำเงิน บริเวณชายแดนประเทศน้ำเงิน-ชมพู ในพน้ื ทีร่ ับผิดชอบโดยเรว็ เพ่ือสถาปนาความมนั่ คงบรเิ วณพื้นทชี่ ายแดน ๓. การปฏิบตั ิ ก. แนวความคดิ ในการปฏบิ ตั ิ ในขั้นการเตรียมการให้ใช้ระบบการส่ือสารทหารตามปกติ ท่ีวางไว้แล้วในปัจจุบันเป็นหลัก สำหรับ ระบบการสือ่ สารของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองคก์ รพลเรือนอื่นๆ ใหเ้ ตรียมการประสานใช้ ตง้ั แต่ ยามปกติ เพื่อสนับสนนุ การสื่อสารท่ีมอี ยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สดุ หากมีสถานการณ์ความขัดแย้งรนุ แรง มากขึ้น ให้หน่วยวางระบบการส่ือสารเพิ่มเติมตามสถานการณ์ทางยุทธวิธี โดยใช้ระบบการสื่อสารทางยุทธวิธี เป็นหลัก เสริมด้วยระบบการสื่อสารท่ีมีอยู่ในพ้ืนที่กับเพ่ิมเติมด้วยระบบการนำสาร โดยให้เน้นมาตรการ รักษา ความปลอดภัยทางการส่ือสาร ซึ่งแบง่ ออกได้ ๒ ข้ันตอน คอื ลบั มาก (เพ่อื การฝึก)

ลบั มาก (เพอ่ื การฝึก) ชดุ ท่ี ๖๖ ของ ชดุ หน้า ๒ ของ ๓ หน้า (ผนวก ช (การสื่อสาร) ประกอบ แผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓) ๑) ข้ันท่ี ๑ : ข้นั เตรียมการ ก) ใชร้ ะบบการส่ือสารทางทหารทุกระบบ ทม่ี ีอยใู่ นปจั จบุ ันเปน็ หลกั ข) ประสานการใช้ข่ายการส่ือสารของส่วนราชการ และใช้รัฐวิสาหกิจสนับสนุนการส่ือสารทาง ทหารให้แนน่ แฟน้ ย่ิงขึน้ ทัง้ นีเ้ พอ่ื เสริมการปฏบิ ัตใิ นการสถาปนาความม่ันคงตามแนวชายแดน ค) การจัดเตรียมเคร่ืองมือสื่อสารทางยุทธวิธี ให้พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติเพ่ือวางการสื่อสาร เพ่มิ เตมิ ใหส้ ามารถอำนวยการยทุ ธ์ได้ตลอดเวลา ง) เตรียมข้อมูลทางการส่ือสารทั้งปวง รวมท้ังฝึกเจ้าหน้าที่ให้มีความเข้าใจ ในระบบการส่ือสาร อ่ืนๆ ในพน้ื ท่ี รวมทง้ั มาตรการรักษาความปลอดภยั ทางการส่ือสาร จ) เชื่อมโยงระบบการส่ือสารของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในพ้ืนที่ เข้ากับระบบการส่ือสาร ทางยทุ ธวธิ ี ๒) ข้ันท่ี ๒ : ขั้นปฏบิ ัติการ ก) การจัดต้ังข่ายการส่ือสาร ตามอนุผนวก ส่วนระบบการส่ือสารในข้ันเตรียมการยังคงดำรงการ ใช้งานต่อไป ข) ในระหว่างผลักดนั ทำลาย และขับไลข่ ้าศึกออกนอกเขตแดน รวมทั้งสถาปนาความม่ันคง ให้ใช้ ข่ายการสื่อสารทางวิทยุยุทธวิธีเป็นหลัก การส่ือสารทางสายยุทธวิธีเป็นรอง เสริมด้วยการนำสาร และหาก สถานการณ์อำนวย ให้จัดตงั้ ขา่ ยทางสายยุทธวิธขี ึ้นได้ ใหด้ ำเนินการทันที ข. พล.ร.๔ และ พล.ม.๑ ๑) ดำรงการสื่อสารกับ ทภ.๓ ตามอนผุ นวก ๒) จัดต้ังศูนย์การสื่อสารปฏิบัติการส่ือสารระหว่างหน่วยเหนือ หน่วยรอง หน่วยข้างเคียง หน่วยขึ้นสมทบ และ หน่วยขึน้ ควบคมุ ทางยุทธการ ๓) เช่ือมโยงระบบการส่ือสารทั้งปวงในพ้ืนท่ี เข้ากับระบบการสื่อสารทางยุทธวิธี เพื่อควบคุมและการ ประสานการปฏบิ ตั ิ ๔) ใช้สถานีวิทยุกระจายเสียง ที่อยู่ในความรับผิดชอบในการแจ้งเตือนภัยและกระจายข่าวการปฏิบัติใน พน้ื ทสี่ ่วนหลังสนบั สนุนการปฏบิ ัติทางจิตวิทยา การประชาสัมพันธท์ างยุทธศาสตรแ์ ละยุทธวธิ ี ค. บชร.๓ ๑) ดำรงการสอื่ สารกับ ทภ.๓ ตามอนุผนวก ๒) เชอ่ื มโยงระบบการสื่อสารทัง้ ปวงในพ้ืนที่ เขา้ กบั ระบบการส่ือสารทางยทุ ธวธิ ี ง. มทบ.๓๕, ๓๘, ๓๙ ลบั มาก (เพือ่ การฝึก)

ลบั มาก (เพ่อื การฝกึ ) ชุดท่ี ๖๖ ของ ชุด หน้า ๓ ของ ๓ หนา้ (ผนวก ช (การส่ือสาร) ประกอบ แผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓) ๑) ดำรงการส่ือสารกับ ทภ.๓ ตามอนผุ นวก ๒) เชอ่ื มโยงระบบการส่ือสารทัง้ ปวงในพนื้ ที่ เข้ากับระบบการส่ือสารทางยุทธวิธี จ. ส.พัน.๒๓ ๑) จัดต้ังศนู ย์การสอ่ื สารสนับสนุน ทภ.๓ โดยปฏิบัติงาน ๒๔ ชม. ๒) จัดตัง้ ข่ายการส่ือสารทางยุทธวิธีระหว่าง ทภ.๓ กบั หน่วยเหนือ หน่วยรอง หน่วยข้างเคียง หน่วยข้ึน สมทบ และหน่วยข้ึนควบคมุ ทางยุทธการ ๓) เตรียมชดุ ส่ือสารเคล่อื นท่ีประจำผบู้ ังคับบัญชา ใหพ้ ร้อมปฏบิ ัตเิ มอ่ื ส่ัง ฉ. คำแนะนำในการประสาน ๑) ทุกหนว่ ยตรวจสอบระบบการสอ่ื สารใหส้ ามารถตดิ ต่อกันได้ตลอดเวลา ๒) ข่าวแจง้ เตอื นภยั ใหถ้ ือว่ามีความเร่งดว่ นสูง ๓) การรักษาความปลอดภัยทางการส่ือสาร ให้ทุกหน่วยยึดถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดเพ่งเล็งเป็นพิเศษใน เร่ืองการใช้ประมวลลับ, รหัส และระเบียบการปฏิบัติในการรับ-ส่งข่าว โดยยึดถือระเบียบว่าด้วยการรักษา ความปลอดภยั แหง่ ชาตเิ ก่ียวกับการสื่อสาร พ.ศ.๒๕๒๕ ๔) หนว่ ยท่ีมสี ถานีวทิ ยุประจำถนิ่ ให้สนบั สนุนการปฏิบตั ิของ ทภ.๓ ทุกขน้ั การปฏบิ ัติ ๔. การช่วยรบ : ผนวก จ ๕. การบังคับบัญชาและการส่อื สาร ก. การบังคับบญั ชา : ผนวก ฉ ข. การส่ือสาร : นปส. ปจั จุบนั มผี ลบงั คับใช้ อนผุ นวก ๑ ข่ายบังคับบญั ชา/ยทุ ธการ ๒ ข่ายธุรการ/ส่งกำลงั บำรุง ลบั มาก (เพ่ือการฝึก)

ลบั มาก (เพอ่ื การฝกึ ) ชุดท่ี ๖๖ ของ ชดุ หนา้ ๑ ของ ๑ หนา้ (อนุผนวก ๑ (ข่ายบังคบั บัญชา/ยุทธการ ระบบ SSB ทภ.๓/ศปก.ทภ.๓) ประกอบ ผนวก ช (การสื่อสาร) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) พล.ร.๔ กกล.นเรศวร ทน.๓ ตชด.ภาค ๓ ทภ.๓/ศปก.ทภ.๓ พล.ร.๗ นรข.เขต ช.ร. พล.ม.๑ ศปภอ.ทบ.๓ กกล.ผาเมอื ง RDF พล.พฒั นา ๓ ลบั มาก (เพอ่ื การฝกึ )

ลบั มาก (เพื่อการฝกึ ) ชุดท่ี ๖๖ ของ ชดุ หนา้ ๑ ของ ๑ หนา้ อนุผนวก ๒ (ข่ายธรุ การ/ส่งกำลงั บำรุง ระบบ SSB ทภ.๓/ศปก.ทภ.๓) ประกอบ ผนวก ช (การสือ่ สาร) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) มทบ.๓๕ บชร.๓ สย.๑ มทบ.๓๘ ทภ.๓/ศปก.ทภ.๓ บชร.๓ สย.๒ มทบ.๓๙ ลบั มาก (เพื่อการฝกึ )

ลบั มาก (เพ่อื การฝกึ ) ชุดที่๖ ๖ของ ชุด หนา้ ๑ ของ ๓ หนา้ ผนวก ซ (การปฏบิ ัตกิ ารพิเศษ ) ประกอบ แผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓ ๑. กลา่ วทั่วไป การป้องกันชายแดนด้านทิศตะวันออกเป็นการปฏิบัติซ่ึง ทบ. ต้องดำเนินการตั้งแต่ยามปกติ เพื่อให้พรอ้ มต่อการแก้ไขปญั หาทงั้ ปวงทจี่ ะส่งผลกระทบต่อความม่ันคงตามแนวชายแดน เน่ืองจากพื้นที่ แนวชายแดนด้านทิศตะวันตกของไทยยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนของเส้นเขตแดน, ปัญหาอัน เนื่องมาจากการกวาดล้างชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนของทหารประเทศแดง ปัญหายาเสพติด, ปญั หา แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง โดยผิดกฎหมาย และปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ในรูปแบบต่างๆ การปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุน้ี เป็นการปฏิบัติที่ต่อเนื่องกับการปฏิบัติตามแผนป้องกันชายแดน และ แหล่งผลประโยชน์ฝ่ังไทย ซึ่ง ทบ. จำเป็นต้องใช้มาตรการทางทหารเข้าผลักดันข้าศึกออกนอกประเทศ โดยเรว็ ทสี่ ุด รวมทง้ั ให้ไดเ้ ปรยี บในการเจรจาตอ่ รองทางการเมอื งต่อไป ๒. แนวความคดิ ในการปฏิบัติการพเิ ศษ ก. เจตนารมณ์ของ ผบ.นสศ. ต้องการให้การปฏิบัติการพิเศษในพ้ืนที่ระวังป้องกันเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพต้ังแต่ยามปกติ โดยมุ่งเน้นการแจ้งเตือนภัยทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธี การมี ความพร้อมของตัวแทน ข่ายปฏิบัติการพิเศษ และข้อมูลพื้นที่ปฏิบัติการ เพ่ือให้เกิดความมั่นใจได้ว่า ฝา่ ยเราสามารถจะลดศักยภาพในการทำสงครามของฝ่ายตรงข้ามลงได้ในห้วงเวลาท่ีกำหนด ทั้งน้ีในการ ปฏิบัติจะต้องให้ความสำคัญในการปกปิด การลวง และการรักษาความลับในทุกข้ันตอนการปฏิบัติ ผลลัพธ์สุดท้ายท่ีต้องการ คือสามารถลดศักยภาพในการทำสงครามของฝ่ายตรงข้ามลงได้ในห้วงเวลาที่ กำหนด ข. กลยุทธ์ : นสศ. ปฏิบัติการพิเศษในพ้ืนที่ระวังป้องกันโดยดำเนินการรวบรวมข่าวสาร ต่อ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี สนับสนุนแนวความคิดในการสถาปนาความมั่นคงตาม แนวชายแดน และใช้กำลัง ฉก.ปพ. สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของ ทภ. ที่ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ - ทบ. ในขั้นที่ ๒ ในการ ปฏิบัติการโดยตรงต่อเป้าหมายทางยทุ ธศาสตร์/ยุทธวิธี ปรับการยิง ป.สนาม รวมท้งั การชีเ้ ปา้ ให้กับการ โจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายภาคพื้นดิน รวมทั้งการเฝ้าตรวจและแจ้งเตือนการปฏิบัติของฝ่ายตรงข้าม ในพืน้ ที่ระวังป้องกนั ใหก้ บั หนว่ ยรบตามแบบ ค. ข้นั การปฏิบตั ิ : แบ่งออกเป็น ๒ ข้ันตอน ๑) ขั้นที่ ๑ ข้ันเตรียมการ : เป็นการปฏิบัติตั้งแต่ยามปกติ ตามแนวความคิดในการสถาปนา ความมัน่ คงตามแนวชายแดน ตามพนั ธกิจ ๔ ประการของกองทัพบกโดย ศปก.นสศ.ปฏบิ ตั กิ ารพเิ ศษ ใน พ้ืนท่ีระวังป้องกันพร้อมท้ังสนับสนุนการเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน, การจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน และ การเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพ่ือนบ้าน โดยการปฏิบัติตามแผนยุทธการ ๑/๑ (น้ำ เงินเสร)ี คอื ลบั มาก (เพอ่ื การฝกึ )

ลบั มาก (เพ่อื การฝกึ ) ชุดที่ ของ ชดุ หนา้ ๒ ของ ๓ หนา้ (ผนวก ซ (การปฏิบตั ิการพิเศษ) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓) ก) ปฏิบัติการพิเศษในพื้นท่ีระวังป้องกัน เน้นการรวบรวมข้อมูลข่าวสารเพื่อการ แจ้งเตือนทางยุทธศาสตร์และทางยุทธวิธี เตรียมความพร้อมของข้อมูลเป้าหมาย จัดเตรียมตัวแทนและ ขา่ ยปฏบิ ตั ิการพิเศษ เพื่อสนับสนุนการปฏิบตั ิการรุกออกนอกประเทศของฝ่ายเรา ข) จัดกำลัง ๑ ร้อย.รพศ.เตรียมพร้อม และ ๑ ร้อย.จจ. เตรียมพร้อม สนับสนุน ทภ.เมื่อ สั่ง ๒) ขั้นท่ี ๒ ขน้ั ปฏิบัตกิ าร : เป็นการปฏิบัติเมื่อฝ่ายตรงขา้ มยังคงดำรงการรุกลำ้ เขตแดนไทย ซ่ึง ทบ. จะส่ังใช้หน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วของ ทบ. และ/หรือ กรม ร. ฉก.ของ ทภ. ให้เข้าสกัดก้ัน ผลักดันทำลายกำลังข้าศึก ออกจากเขตแดนน้ำเงิน และเตรียมรุกออกนอกประเทศ ยึดหรือควบคุมภูมิ ประเทศท่ีสำคัญบริเวณแนวชายแดน เพ่ือให้ได้เปรียบทางยุทธวิธี และการต่อรองทางการเมือง รวมท้ัง เพอื่ ใหเ้ กื้อกูลต่อการปฏิบตั ิตามแผนปอ้ งกนั ประเทศ โดยใช้กำลงั ฉก.ปพ. เปน็ ความพยายามหลักในการ ลดศกั ยภาพการทำสงครามของฝ่ายตรงข้าม ด้วยการ.- ก) จัดหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ (ฉก.ปพ.) ประกอบด้วย ๒ ร้อย.รพศ., ๑ รอ้ ย.จจ., ๑ มว.ปพ., ๑ มว.ปจว.ฉก. และ ๑ ชุดสอื่ สารทางยุทธวิธี พร้อม ณ ทต่ี ั้งปกติ เพื่อขยายผลการ ปฏิบัตกิ ารพเิ ศษในพ้ืนที่ระวงั ปอ้ งกันและสนับสนุนภารกจิ ของ ทภ.๓ เม่อื สง่ั (๑) ปฏิบัติการพิเศษในพ้ืนท่ีระวังป้องกัน เพื่อรบกวน ขัดขวาง และทำลายความหนุน เนือ่ งการรกุ ของฝา่ ยตรงข้าม (๒) ปฏิบัติการโดยตรงต่อเป้าหมายทางยุทธศาสตร์/ยุทธวิธี เพื่อสนับสนุนการ ปฏิบัติการของ ทภ.๓ (๓) ปรับการยิง ป.สนาม รวมท้ังการช้ีเป้าให้กับการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมาย ภาคพน้ื ดิน ทัง้ เป้าหมายตามแผนและเป้าหมายตามเหตุการณ์ รวมทัง้ รายงานผลการปฏิบัติ (๔) เฝ้าตรวจและแจ้งเตือนการปฏิบัติของฝ่ายตรงข้ามในพ้ืนที่ระวังป้องกัน ให้กับ หน่วยรบตามแบบ (๕) สนบั สนนุ การปฏิบตั ิการขา่ วสารของฝ่ายเรา ข) จัดกำลัง ร้อย.รพศ. และ ร้อย จจ. ปฏิบัติการโดยตรงต่อเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ ตามบัญชีเป้าหมาย และข่ายก่อวินาศกรรมของ บก.ควบคุม ๕ รวมท้ังปฏิบัติการรบกวนขัดขวาง และ จำกัดเสรใี นการใช้เส้นทางในพนื้ ทสี่ ่วนหลงั ของฝา่ ยตรงขา้ ม สนบั สนุนการปฏบิ ัตขิ อง ทภ.๓ เม่ือส่งั ง. การใช้กำลัง : ทุกขั้นตอนการปฏิบัติมุ่งเน้นการใช้ความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ีท้ังทาง ภาคพ้ืนดิน และทางอากาศ รวมทั้งการใช้อำนาจการยิง เน้นการปฏิบัติอย่างจู่โจมเพื่อให้ได้เปรียบต่อ ขา้ ศึก และการรักษาความลับ เป็นส่ิงท่ีสำคัญยิ่ง หน่วยปฏิบัติการจะต้องเตรียมการต้ังแต่ยามปกติ โดย ใช้ข้อมูลพื้นที่ปฏิบัติการ และข้อมูลอ่ืนๆ ของฝ่ายตรงข้าม จากกำลังป้องกันชายแดนประจำปี ให้เกิด ประโยชน์สูงสดุ ลบั มาก (เพือ่ การฝกึ )

ลบั มาก (เพอ่ื การฝึก) ชดุ ที่ ของ ชดุ หนา้ ๓ ของ ๓ หนา้ (ผนวก ซ (การปฏบิ ัตกิ ารพเิ ศษ) ประกอบแผนเผชิญเหตุ – ทภ.๓) ๑) ขั้นที่ ๑ (เตรียมการ) เป็นการปฏิบัตโิ ดยกำลงั ป้องกันชายแดนประจำปี ตามแผนยุทธการ ท่ี ๑/๑ (น้ำเงินเสรี) ดำเนินการจัดต้ังข่ายงาน ตัวแทน จัดเตรียมข้อมูลพ้ืนท่ีปฏิบัติการ จัดทำบัญชี เป้าหมาย ที่จะต้องปฏิบัติการโดยใช้กำลังตัวแทน และกำลังของหน่วยรบพิเศษโดยตรงรวมทั้งการ เสริมสร้างความพร้อมรบของ ร้อย.รพศ. และ ร้อย.จจ. ให้พร้อมปฏิบัติในพ้ืนที่ระวังป้องกันในความ รับผดิ ชอบตามทแ่ี บง่ มอบ ๒) ขั้นท่ี ๒ (ปฏิบัติการ) : เป็นการปฏิบัติของ ฉก.ปพ. โดยการแปรสภาพจากกำลังป้องกัน ชายแดนประจำปี ของ บก.ควบคุม ๕ และหนว่ ยพร้อมรบท่เี ตรียมไว้ ประกอบดว้ ย ก) ๒ รอ้ ย.รพศ. ข) ๑ รอ้ ย.จจ. ค. ๑ มว.ปพ. ง) ๑ มว.ปจว.ฉก. จ) ๑ ชดุ สื่อสารทางยุทธวธิ ี จ. การปฏิบัติการพิเศษ : นสศ. ปฏิบัติการพิเศษต่อฝ่ายข้าศึกในพื้นท่ีระวังป้องกัน เพ่ือสนับสนุนการปฏิบัติการด้านการข่าว, การปฏิบัติทางยุทธวิธี และการปฏิบัติการจิตวิทยา เพื่อลด ศักยภาพในการทำสงครามของข้าศึก โดยขยายผลจากการปฏิบัติในยามปกติ ซ่ึงกำลังป้องกันชายแดน ประจำปี ของหน่วยสามารถตอบสนองไดด้ ังน.้ี - ๑) สามารถสนับสนุนข้อมูลพ้ืนท่ีปฏิบัติการที่ทันสมัยของพ้ืนที่ล่อแหลม ตามแผนน้ี และ พนื้ ที่ลอ่ แหลมอนื่ ๆ ซ่งึ อาจเกดิ ขึน้ ในอนาคต ใหก้ ับ ทภ๑., ทภ.๓, ทภ.๔ และ นขต.นสศ. ได้ ๒) พิสูจน์ทราบ/ยืนยันที่ตั้ง การวางกำลัง ตลอดจนเวลาที่เร็วท่ีสุด ในการเคล่ือนย้าย ถงึ พน้ื ท่ปี ฏบิ ตั กิ ารของกำลังเพ่ิมเตมิ ของฝา่ ยตรงข้าม ๓) จัดตั้งกำลังตัวแทนในพื้นที่ระวังป้องกัน และพ้ืนที่การรบ การจัดเตรียมข่ายปฏิบัติการ พิเศษเพื่อสนบั สนนุ การปฏบิ ตั กิ ารพเิ ศษของ นสศ. -------------------------- ลบั มาก (เพอ่ื การฝึก)

ลบั มาก ชดุ ท่ี ๖๖ ของ ชดุ (เพื่อการฝกึ ) หนา้ ๑ ของ ๒ หนา้ ผนวก ด (รายการแจกจ่าย) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓ จำนวน หมายเหตุ ชดุ ท่ี หนว่ ย ๑ ๑ ตวั จริง ๑ ๒ คูฉ่ บับ ๔ ๓-๖ กยก.ทภ.๓ ๑ ๗ กกพ.ทภ.๓ ๑ ๘ กขว.ทภ.๓ ๑ ๙ กกบ.ทภ.๓ ๑ ๑๐ กกร.ทภ.๓ ๑ ๑๑ กปช.ทภ.๓ ๑ ๑๒ ฝทพ.ศปก.ทภ.๓ ๑ ๑๓ แผนก ป. ทภ.๓ ๑ ๑๔ แผนก ช. ทภ.๓ ๑ ๑๕ ผทส.ทภ.๓ ๑ ๑๖ แผนก บ. ทภ.๓ ๑ ๑๗ ช.๓ ๑ ๑๘ ทน.๓ ๒ ๑๙-๒๐ พล.ร.๔ ๑ ๒๑ ร.๔ ๑ ๒๒ ร.๑๔ ๒ ๒๓-๒๔ พล.ร.๗ ๑ ๒๕ ร.๗ ๑ ๒๖ ร.๑๗ ๑ ๒๗ ป.๔ ๒ ๒๘-๒๙ พล.ม.๑ ๑ ๓๐ ม.๒ ๑ ๓๑ ม.๓ ๑ ๓๒ ป.๒๑ ๑ ๓๓ พล.พฒั นา ๓ ๒ ๓๔-๓๕ บชร.๓ ลบั มาก (เพ่ือการฝกึ )

ลบั มาก (เพื่อการฝกึ ) ชดุ ท่ี ๖๖ ของ ชดุ หนา้ ๒ ของ ๒ หนา้ (ผนวก ด (รายการแจกจ่าย) ประกอบแผนเผชญิ เหตุ – ทภ.๓) จำนวน หมายเหตุ ลำดับ หน่วย ๑ ๑ ๓๖ มทบ.๓๑ ๑ ๓๗ มทบ.๓๒ ๑ ๓๘ มทบ.๓๓ ๑ ๓๙ จทบ.ต.ก. ๑ ๔๐ จทบ.ช.ร. ๑ ๔๑ พล.ร.๓ ๑ ๔๒ รพศ.๕ ๑ ๔๓ พล.ป. ๑ ๔๔ ศปภอ.ทบ.๓ ๑ ๔๕ พล.ม.๒ ๑ ๔๖ ศปก.ทบ. ๑ ๔๗ ศบบ. (บทบ.ยว.๓) ๑ ๔๘ ศสอต.๓ ๑ ๔๙ บก.ตชด.ภาค ๓ ๑ ๕๐ ส.พนั .๒๓ ๑ ๕๑ ยก.ทบ./ฝยก.ศปก.ทบ. ๑ ๕๒ กพ.ทบ./ฝกพ.ศปก.ทบ. ๑ ๕๓ ขว.ทบ./ฝขว.ศปก.ทบ. ๑ ๕๔ กบ.ทบ./ฝกบ.ศปก.ทบ. ๑ ๕๕ กร.ทบ./ฝกร.ศปก.ทบ. ๑ ๕๖ สปช.ทบ. ๑ ๕๗ ยก.ทอ./ฝยก.ศปก.ทอ. ๑ ๕๘ ทภ.๑ ๑ ๕๙ พล.๑ รอ. ๑ ๖๐ พล.ร.๙ ๑ ๖๑ ทภ.๒ ๔ ๖๒ หนว่ ยพร้อมรบเคลอื่ นทเ่ี ร็วของ ทบ. ๖๓ – ๖๖ อะไหล่ ลบั มาก (เพ่ือการฝกึ )

สรปุ ผลการฝึกหน่วยพรอ้ มรบเคลอ่ื นท่เี ร็วของ ทบ. หน้าท่ี 395 ของ 583 หนา้ Rapid Deployment Force (RDF) ผนวก ง คำสั่งยุทธการ 1/65 (เคลอื่ นยา้ ยเข้าพน้ื ทก่ี ่อกำลงั รอ้ ย.ตชด.ท่ี 314)

ลบั มาก (เฉพาะการฝึก) ชุดท่ี ของ ๓๖ ชุด หนา้ ๑ ของ ๑๓ หนา้ หน่วยพรอ้ มรบเคล่อื นท่ีเร็วของ ทบ. อ.เมือง จ.ลพบุรี (QS 765415) พ.ค.๖๕ ยก. แผนยุทธการที่ ๑/๖๕ (เคลอ่ื นย้ายเขา้ พืน้ ท่ีกอ่ กำลงั รอ้ ย.ตชด.๓๑๔) อา้ งถงึ : ๑. แผนเผชญิ เหตุ – ทบ. ๒. แผนพิทกั ษ์นำ้ เงิน – ทภ.๓ ๓. แผนปอ้ งกันชายแดนประจำปีของ ทภ.๓ ๔. แผนท่ีประเทศไทย มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ ระวาง อ.ฟากท่า 5141I, บ้านน้ำมวบ 5145I, บ้าน น้ำหนำ่ 5145II, บา้ นนาขุม 5244IV, บา้ นวังสมั พันธ์ (บ้านโคก) 5245III, บ้านบอ่ เบ้ยี 5245IV ๑. สถานการณ์ ก. ข้าศกึ ๑) สถานการณ์ทว่ั ไป : ก) ประเทศฟา้ และประเทศขาว พยายามเขา้ มามีบทบาทในบริเวณภาคพื้นแปซิฟิก เพื่อรกั ษาผลประโยชน์ ของทั้ง ๒ ประเทศ รวมถงึ บริเวณภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ซงึ่ เปน็ ฐานกำลัง/พ้ืนท่ีสำคัญท่มี หาอำนาจทั้งสองต่าง เข้ามามบี ทบาทในพ้ืนที่ ซ่งึ ประเทศฟ้า พยายามสร้างความสมั พนั ธก์ ับประเทศในภูมภิ าคเอเชีย อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความรว่ มมือทางการทหารในภมู ภิ าค รวมถึงประเทศน้ำเงิน โดยเฉพาะในหว้ งปี ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕ ไดม้ ี การเพิ่มเตมิ การฝกึ ทางการทหารร่วมกับประเทศน้ำเงินจำนวนมาก ในส่วนของประเทศขาว พยายามเขา้ มามีบทบาท ในพื้นทเ่ี อเชียตะวันออกเฉยี งใต้ โดยให้การสนบั สนนุ การช่วยเหลอื และการส่งเสริมการลงทนุ ในภูมทิ ี่ แกก่ ลุม่ ประเทศ ในเครือข่าย โดยเฉพาะประเทศชมพู ที่มกี ารเขา้ ไปพัฒนาและส่งเสรมิ การลงทนุ ในทุก ๆ ดา้ น รวมถึงความร่วมมือด้าน การทหาร เป็นอย่างมาก สำหรบั การเข้ามามบี ทบาทของ ประเทศฟา้ และ ประเทศขาว เพอื่ รักษาเสถยี รภาพและ อำนาจทางการทหารและเป็นการรกั ษาผลประโยชน์ของประเทศในภมู ิภาคผ่านประเทศตัวแทนในภูมภิ าคที่ให้การ สนบั สนนุ ข) พน้ื ที่ ๓ หมบู่ ้าน ประกอบด้วย บ.ใหม่, บ.กลาง และ บ.สว่าง เดิมตง้ั อยู่ใน ต.มว่ งเจด็ ตน้ กงิ่ อ.บ้านโคก จว.อ.ต. ปัจจุบนั ตั้งอยูใ่ น ต.บ่อเบย้ี อ.บ้านโคก จว.อ.ต.ทง้ั ๓ หมู่บา้ น เปน็ หมบู่ า้ นขนาดเลก็ ตัง้ อยู่บริเวณพรมแดน ประเทศน้ำเงนิ – ซึ่งมีพ้นื ทที่ าบทับประมาณ ๒๓ ตร.กม. และมปี ระชากรประมาณ ๑,๑๐๐ คน เดิมไมม่ ีเจา้ หน้าทขี่ อง ประเทศน้ำเงนิ เขา้ ไปประจำการ เพราะเป็นเขตอิทธพิ ลของผูก้ ่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เม่ือสถานการณ์การก่อการรา้ ย ของคอมมวิ นสิ ต์ไดเ้ ริ่มสงบลงในปี พ.ศ.๒๕๒๕ ประเทศน้ำเงิน โดยให้ พล.ม.๑ ไดเ้ ริม่ สร้างถนนเสน้ ทางสาย ยุทธศาสตร์ เพื่อความมั่นคงตามแนวชายแดน จาก อ.เวยี งสา จว.น.น. ผ่าน บ.นำ้ มวบ – บ.นำ้ ป้ี – บ.สาลี่ อ.สา ลบั มาก (เฉพาะการฝกึ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook