Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วอลเลย

วอลเลย

Published by สุภาวิตา ทองน้อย, 2019-09-19 00:42:15

Description: วอลเลย

Search

Read the Text Version

4.5.3 การเปลี่ยนแดนจะท�ำเมื่อภายหลังจากทีมใดทีมหนึ่งได้คะแนนที่ 8 ต�ำแหนง่ ของทมี ท่ีอยู่ทางซา้ ย จะน�ำไปไวท้ างดา้ นขวาสุดท้ังหมด 4.5.4 การเปล่ียนแดนหลังจากคะแนนท่ี 8 ผู้บันทึกจะด�ำเนินการต่อไป ในส่วนท่ี 3 ทางด้านขวาสุด และให้บันทึกล�ำดับการเสิร์ฟและคะแนนของทีม ซึ่งได้เร่ิมบันทึกไว้ ในส่วนที่ 1 ทางด้านซ้ายแล้ว คะแนนรวมของทีมน้ีเมื่อมีการเปลี่ยนแดน ให้น�ำไปบันทึกไว้ ในวงกลมช่อง “Points at Change” ซ่ึงอยู่ทางด้านบนขวาของส่วนท่ี 3 คะแนนท่ีได้ก่อน การเปลยี่ นแดนให้ปลอ่ ยวางไว้ 4.5.5 ในขณะทีมีการเปลี่ยนเสิร์ฟ ทีมซ่ึงได้สิทธิ์การเสิร์ฟท�ำคะแนนได้ ผู้บนั ทกึ จะขดี ครอ่ มคะแนนไปในช่องคะแนนและท�ำเครื่องหมายในชอ่ งเล็กๆ ในชอ่ งดว้ ย 4.5.6 ถ้ามีคะแนนเท่ากัน 14 : 14 จะต้องเล่นต่อไปจนมีฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง ท่ีมีคะแนนนำ� อยู่ 2 คะแนน เช่น 16 : 14, 17 : 15, …, 20 : 18 ฯลฯ (ดงั ภาพที่ 44) B A BStiTmAeRT 16 : 45 TEAM J , P , N SE I II III IV V VI I II III IV V VI I II III IV V VI3 1 6 4 2 T5 3 :: 5 :: 6 :: :: :: XR POINTS U , S , A TEAM tEiNmDe 17 : 05 POINTS hnePag TEAM POINTS AT CHANGE 17 : 05 POINTS 1 1:: 1::3 16854329710 11111111122609751483 desi 8 4 5 2 8 4 5 2 1 13 18765912340 11111111210196857423 11111112112415978306 82 :: :: :: :: :: :: :: 8 :: 12:: 13:: 3T:: 14 136 7 9 10 13 1122T:: 1112 14 183T:: 1124 4 :: 5 6 7 8 ภาพท่ี 44 แสดงตวั อยา่ งการบันทกึ เซตท่ี 5 4.6 การเปลย่ี นตัว (Substitution) การบนั ทกึ การเปลย่ี นตวั ผู้เล่นซึ่งเปน็ ผเู้ ร่ิมในเซตนนั้ มวี ธิ กี ารดงั น้ี 4.6.1 ใส่หมายเลขของผู้เล่นท่ีขอเปล่ียนตัวเข้าไว้ในช่องใต้หมายเลขผู้เล่น ทีอ่ อกจากสนาม 4.6.2 ในส่วนเดียวกันในช่องบนของ “Score at Change” (คะแนน เมื่อเปลี่ยนตัว) ให้บันทึกคะแนนของทั้งสองทีมในขณะท่ีขอเปลี่ยนตัว (ให้คะแนนของทีม ท่ขี อเปลี่ยนตัวอยทู่ างดา้ นซา้ ยและอีกทมี หนึ่งอยทู่ างดา้ นขวา) ซงึ่ ผเู้ ล่นที่ถกู เปลย่ี นตัวน้นั สามารถ เปล่ยี นกลับมาแทนไดอ้ ีก 4.6.3 ผู้บันทึกจะต้องแน่ใจว่า หมายเลขของผู้เล่นท่ีขอเปล่ียนตัวเข้าแทน ผู้เล่นส�ำรองน้ัน ตรงกับท่ีบันทึกไว้เหนือหมายเลขผู้เล่นที่ขอเปล่ียนตัวออกและหมายเลขผู้เล่นนี้ ให้วงกลมล้อมรอบเพ่ือแสดงว่าเขาไม่สามารถทจี่ ะขอเปลย่ี นตัวเขา้ ไดต้ ามปกตอิ ีกแล้วในเซตน้ัน 144 ค่มู อื ผ้ตู ัดสินกฬี าวอลเลยบ์ ล

4.6.4 ให้บันทึกคะแนนในขณะน้ันทันทีท่ีช่องล่างของช่องคะแนน เมื่อเปลี่ยนตัว (Substitutes Scores) 4.6.5 ตัวอย่าง ผู้เล่นหมายเลข 5 ของทีม B เปลี่ยนเข้าแทนหมายเลข 6 ในขณะท่ีคะแนน 3 : 7 และหมายเลข 6 เปล่ียนกลับเข้าในต�ำแหน่งเดิมอีกเมื่อคะแนน 7 : 9 เลขตัวแรกของคะแนนหมายถึงคะแนนของทีมทีข่ อเปลย่ี นตวั ขณะน้นั 4.6.6 การเปลย่ี นตวั กรณพี เิ ศษสำ� หรบั การบาดเจบ็ หรอื การแตง่ ตง้ั ตวั รบั อสิ ระใหม่ เขา้ แทนผเู้ ลน่ ตวั รบั อิสระทบ่ี าดเจ็บ จะต้องบันทึกในชอ่ งหมายเหตุ (Remarks) โดยผบู้ นั ทกึ จะตอ้ ง บนั ทกึ เกย่ี วกบั เซต ชอื่ ทมี หมายเลขและชอื่ ผเู้ ลน่ ทบ่ี าดเจบ็ และตวั รบั อสิ ระตวั ใหม่ หรือผูเ้ ล่นคนใหม่ และคะแนนขณะทเี่ ปลีย่ น 4.7 การขอเวลานอก (Time-Outs) ใตช้ อ่ งคะแนนของแตล่ ะทมี จะมชี ่องเลก็ 2 ชอ่ ง ทดี่ ้านบนมตี ัว T 4.7.1 ในขณะทท่ี มี นน้ั ขอเวลานอก ผบู้ นั ทกึ จะตอ้ งบนั ทกึ คะแนนของทงั้ สองทมี ในขณะน้ันลงในชอ่ งบน 4.7.2 ถา้ ทีมเดิมขอเวลานอกอกี (ครง้ั ท่ี 2) ผู้บันทกึ จะต้องบันทกึ คะแนนของ ท้งั สองทีมในขณะนนั้ ลงในช่องล่าง คะแนนตัวแรกเป็นคะแนนของทมี ทข่ี อเวลานอกขณะน้นั 4.7.3 ตวั อยา่ งเชน่ ทมี B ขอเวลานอกครง้ั ที่ 1 เมอ่ื คะแนน 7 : 12 และครงั้ ท่ี 2 เมื่อคะแนน 21 : 23 4.8 การบนั ทกึ การลงโทษ (Recording of Sanctions) 4.8.1 การผิดมารยาท (For Misconduct) 4.8.1.1 การลงโทษทุกชนิดจะต้องบันทึกลงในช่องด้านล่างซ้ายของ ใบบันทึก โดยการเขียนหมายเลขผู้เล่นที่ถูกลงโทษหรือต�ำแหน่งหน้าท่ีของเจ้าหน้าท่ีตามที่อยู่ ทางด้านลา่ งขวาต่อการลงโทษรายบคุ คลในชอ่ งทเ่ี หมาะสม “P” ส�ำหรบั การลงโทษ “E” สำ� หรับ การให้ออกจากการแข่งขนั และ “D” สำ� หรบั การตัดสทิ ธิ์จากการแข่งขนั และใส่อกั ษร A หรอื B ในช่องเพ่ือแสดงว่าเป็นทมี ใดและเซตท่ีเทา่ ไรและคะแนนในขณะที่ถูกลงโทษ 4.8.1.2 คะแนนท่ีได้จากการลงโทษในการท�ำผิดของฝ่ายตรงข้าม จะตอ้ งวงกลมรอบคะแนนนั้นในชอ่ งคะแนน 4.8.2 การลงโทษถ่วงเวลา (Delay Sanctions) 4.8.2.1 การลงโทษถ่วงเวลาจะต้องบันทึกลงในช่องด้านล่างซ้าย ของใบบันทึกโดยการเขียนอักษร “D” ลงในช่อง “W” ส�ำหรับการเตือน และ “P” ส�ำหรับ การลงโทษและใส่ตวั อักษร A หรือ B ในช่องเพือ่ แสดงวา่ เป็นทมี ใด เซตทเ่ี ทา่ ไร คะแนนในขณะที่ ถูกลงโทษ คมู่ ือผตู้ ัดสนิ กฬี าวอลเลย์บ ล 145

4.8.2.2 การลงโทษถ่วงเวลาที่มีต่อการเสียสิทธิ์การเล่นลูก ผู้บันทึก จะตอ้ งบนั ทกึ ตามกระบวนการ โดยการวงกลมคะแนนท่ไี ด้ในชอ่ งคะแนนหลงั จากทไ่ี ด้ใสล่ งในชอ่ ง การลงโทษดงั กลา่ วข้างบนแลว้ (ดงั ภาพท่ี 45) SANCTIONS ITMEAPMROAPER: RETQEAUMESTB W P(Warning) (Penalty) E D(Exposed) (Duration) AAAABBBAB SET SCORE DD AC 3311333 1112212472555 ::::::: 2267271015 D5 13 ภาพที่ 45 แสดงตัวอยา่ งวิธกี ารบันทึกการลงโทษ 5. ภายหลงั การแข่งขนั (After the match) ภายหลังการแข่งขันแต่ละเซตและเม่ือเสร็จส้ินการแข่งขัน ผู้บันทึกจะต้องบันทึก ในชอ่ งผล (Results) ดงั นี้ 5.1 ชื่อทมี A ในดา้ นซา้ ย และชอื่ ทีม B ในดา้ นขวาของช่องส่เี หล่ยี ม 5.2 ในช่องเวลาระหว่างเซต (Set Duration) ให้ใส่จ�ำนวนเวลาที่เล่นในแต่ละเซต และในช่อง Total set duration ให้ใสเ่ วลาเป็นนาทีจากจำ� นวนเวลาทเ่ี ลน่ ในแต่ละเซต 5.2.1 ช่วงเวลาของแต่ละเซต การแข่งขันแต่ละเซตเริ่มเม่ือสัญญาณนกหวีด ของผู้ตัดสินท่ีอนุญาตให้เสิร์ฟลูกแรกของเซตและสิ้นสุดเมื่อสัญญาณนกหวีดท่ีเป็นคะแนนสุดท้าย ของเซตนัน้ 5.2.2 ช่วงเวลาการแข่งขัน การแข่งขันเริ่มเม่ือสัญญาณนกหวีดของผู้ตัดสิน ที่อนุญาตให้เสิร์ฟลูกแรกของเซตที่ 1 และสิ้นสุดเม่ือสัญญาณนกหวีดท่ีเป็นคะแนนสุดท้าย ของเซตสดุ ทา้ ย 5.3 ในชอ่ งคะแนน (Points) ของแตล่ ะทมี ผบู้ นั ทกึ จะตอ้ งบนั ทกึ ลงในชอ่ งแตล่ ะเซต ตามคะแนนที่ทำ� ไดข้ องแต่ละทีม และในช่องสุดท้ายเป็นช่องรวมคะแนนของทุกเซตของแต่ละทมี 5.4 ในช่องที่มีตัว W ให้บันทึกตัว W ในแต่ละช่องของแต่ละเซตของทีมท่ีชนะ ในเซตน้นั จากนั้นใหบ้ นั ทึกผลรวมเซตท่ชี นะของแต่ละทีมในช่อง “Total” 146 ค่มู ือผู้ตดั สนิ กีฬาวอลเลยบ์ ล

5.5 ในช่องท่ีมีตัว S (การเปล่ียนตัว) ให้บันทึกจ�ำนวนการขอเปล่ียนตัวของแต่ละทีม ในแต่ละเซตและให้บันทึกผลรวมของการขอเปลี่ยนตัวของแต่ละทีมตลอดเวลาการเล่นในแถว “Total” 5.6 ในชอ่ งทม่ี ตี วั T (ขอเวลานอก) ใหบ้ นั ทกึ การขอเวลานอกของแตล่ ะทมี ในแตล่ ะเซต และบนั ทึกผลรวมของการขอเวลานอกของแต่ละทมี ในทุกเซตทเี่ ลน่ ในแถว “Total” 5.7 ให้บันทึกเวลาเริ่มและเวลาสิ้นสุดการแข่งขันในช่องด้านล่างและให้ระบุเวลา ทใี่ ชต้ ลอดการแข่งขันในช่องขวามือ 5.8 ในบรรทดั สดุ ทา้ ย จะตอ้ งบนั ทกึ ชอ่ื ทมี ทช่ี นะและทางดา้ นขวามอื ใหเ้ ขยี นจำ� นวน ของเซตท่เี สีย หมายเหตุ ในชอ่ งแตล่ ะชอ่ ง ถา้ ไมม่ จี ำ� นวนใหเ้ วน้ วา่ งไวเ้ ฉยๆ สว่ นในแถวรวม (Total) ถา้ ไม่มีจ�ำนวนให้ใส่ 0 (ดงั ภาพท่ี 46) TEAM U , S, A REASULBTSJ , P , N TEAM “T” S W 25PoPint SET Overal 22PoPint W S “T” ( 14 W 1 22 ) 25 42 11 35 2333 2 ( 28 ) 31 W 6 2 W 3 ( 37 ) 5 2 1 1 W 25 4 ( 18 ) 15 4 1 5 ( ) 4 13 3 106 ( 105 )mnTotal Set Duration 93 1 19 7 1M6atchh 02 mnScoring Time 1Ma7tchh E5nd6ingmTimne 1h 54 mnTotal Match Duration WINNER U , S, A 3 : 1 ภาพท่ี 46 แสดงตัวอยา่ งการบนั ทึกสรุปผลการแขง่ ขนั 5.9 การขออนุญาตบันทึก (การขออนุญาตบันทึกค�ำทักท้วงโดยหัวหน้าทีมจะอนุญาต จากผู้ตัดสินท่ี 1) การทักท้วงในระหว่างเวลาเล่น หัวหน้าทีม (Team Captain) จะบันทึกลงใน ช่องหมายเหตุ 5.10 ในตอนสดุ ทา้ ย ในชอ่ งเกย่ี วกบั การลงนามในชอ่ ง “Approval” จะตอ้ งลงนาม ตามลำ� ดบั ดงั น้ี คู่มอื ผ้ตู ัดสินกีฬาวอลเลย์บ ล 147

5.10.1 ผชู้ ว่ ยผบู้ ันทึกและผบู้ นั ทึก 5.10.2 หัวหนา้ ทีมท้ังสองทมี 5.10.3 ผ้ตู ัดสนิ ท่ี 2 5.10.4 ผูต้ ดั สนิ ที่ 1 เทคนคิ การเปน็ ผู้ช่วยผู้บันทกึ (Assistant Scorer) ผู้ช่วยผู้บันทึกจะท�ำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือผู้บันทึก เพ่ือให้การด�ำเนินงานการบันทึกผล การแขง่ ขนั เป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยจะน่ังอย่คู กู่ บั ผ้บู ันทึก มีความรบั ผดิ ชอบดงั น้ี 1. ก่อนเรมิ่ การแขง่ ขนั 1.1 จัดเตรยี มใบบนั ทึกส�ำรองซ่ึงมีขอ้ มลู ตา่ งๆ เหนือกับใบบันทกึ จรงิ 1.2 สำ� รวจอปุ กรณต์ า่ งๆ ทจี่ ำ� เปน็ เชน่ ปา้ ยพลกิ คะแนน นาฬกิ าจบั เวลา ใบตรวจสอบ การเปล่ยี นตวั ของผูเ้ ล่นตัวรับอสิ ระ 2. ระหวา่ งการแขง่ ขนั 2.1 ด�ำเนนิ การพลกิ ป้ายคะแนนใหส้ อดคล้องกับใบบันทึกจริง 2.2 ตรวจสอบการเปล่ียนตัวของผู้เล่นตัวรับอิสระ หากมีการผิดพลาดให้กดออด สัญญาณแจง้ ให้ผู้ตดั สินทราบ 2.3 จับเวลานอกทางเทคนิค 60 วินาที และกดออดให้สัญญาณ เม่ือหมดเวลา 60 วินาทีเต็ม 2.4 จบั เวลาชว่ งพกั ระหว่างเซต 3 นาที โดยกดออดใหส้ ญั ญาณเมอื่ เวลา 2.30 นาที 3. เมอื่ เสร็จส้ินการแข่งขัน ลงนามในใบบนั ทึก วธิ ีการบันทกึ เปลีย่ นตวั ผเู้ ล่นตวั รบั อสิ ระ ในใบบนั ทึกการเปล่ยี นตัวผ้เู ล่นตวั รับอสิ ระจะมชี ่องบนั ทกึ รวมอยู่ 5 เซต โดย 3.1 เซตท่ี 1 ดา้ นซา้ ยมอื เปน็ ทมี A ใหใ้ สช่ อื่ ทมี ลงในชอ่ ง และดา้ นขวามอื เปน็ ทมี B ให้ใสช่ ื่อทีมลงในช่อง 3.2 ในชอ่ ง Libero No. ใหใ้ สห่ มายเลขของตวั รบั อิสระของทีม A และทีม B 3.3 ถา้ ทมี ใดมกี ารเปลยี่ นแปลงตวั รบั อสิ ระเขา้ จะตอ้ งเขยี นหมายเลขผเู้ ลน่ ทเี่ ปลยี่ นออก ในช่อง P.No. และใสค่ ะแนนขณะทเ่ี ปล่ียนตัวออก 3.4 เมอ่ื ตวั รบั อสิ ระจะเปลยี่ นออก ตอ้ งเปลยี่ นกบั ผเู้ ลน่ ทเ่ี ปน็ คเู่ ทา่ นน้ั และใสค่ ะแนนที่ เปล่ียนตวั ออกในชอ่ งล่าง 3.5 ท�ำเช่นนต้ี อ่ ๆ ไปจนจบเซตทกุ ๆ เซต 148 คู่มือผู้ตัดสนิ กฬี าวอลเลย์บ ล

ภาพที่ 47 แสดงตวั อยา่ งใบบนั ทกึ การเปลีย่ นตวั ผ้เู ล่นตวั รับอิสระ เทคนคิ การเปน็ ผูป้ ระกาศ (Announcer) ผปู้ ระกาศเปน็ เจา้ หนา้ ทเี่ ทคนคิ ทท่ี ำ� หนา้ ทส่ี อ่ื สารและประชาสมั พนั ธร์ ายละเอยี ด หรอื ให้ ข้อมูลต่างๆ ใหท้ ีมและผชู้ มไดร้ ับทราบ 1. หนา้ ทข่ี องผปู้ ระกาศ 1.1 ประกาศประชาสัมพนั ธ์คู่แข่งขันประจ�ำวนั และวันอน่ื ๆ ทจ่ี ำ� เปน็ 1.2 ประกาศในชว่ งพิธีการก่อนการแข่งขนั ให้เปน็ ไปตามขน้ั ตอนของพธิ กี ารแขง่ ขนั 1.3 ประกาศในชว่ งการแขง่ ขนั เปน็ การประกาศเรอื่ งการเปลยี่ นตวั การขอเวลานอก เวลานอกทางเทคนคิ การเตือนหรือลงโทษและผลการแข่งขันในเซตนน้ั ๆ 1.4 ประกาศในช่วงสนิ้ สุดการแข่งขนั 2. วิธกี ารประกาศในชว่ งพธิ กี ารก่อนการแขง่ ขันและขณะแข่งขนั 2.1 ก่อนเวลา 17 นาที ประกาศประชาสมั พนั ธแ์ ละเชญิ ชวน 2.2 กอ่ นเวลา 4 นาที เมื่อหมดเวลาอบอุ่นร่างกายของทงั้ สองทมี แลว้ ผ้ตู ดั สินที่ 1 และ 2 จะน�ำนักกฬี าทง้ั สองทมี เดินเข้าสนาม เข้าแถวเป็นแถวหน้ากระดานแถวเดยี ว เมื่อนักกีฬา และผูต้ ดั สนิ เรม่ิ เดนิ ลงสนาม ผู้ประกาศเริม่ ประกาศดังนี้ “ตอ่ ไปจะเป็นการแข่งขนั วอลเลย์บอล.............(ช่ือการแขง่ ขัน)................. ประเภททีม......................(หญิงหรือชาย).......................คู่ท.ี่ .................. ระหวา่ งทมี ............................................กับ...........................................” ถ้าเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติในช่วงนี้ต้องประกาศให้ผู้ชมยืนเคารพธงชาติ ของทัง้ 2 ทมี ด้วย คู่มอื ผ้ตู ัดสินกฬี าวอลเลย์บ ล 149

2.3 ก่อนเวลา 2 นาที ช่วงแนะนำ� ผตู้ ดั สนิ เมื่อจบช่วงการบรรเลงของแตรฟันฟาร์หรอื ดนตรี (5 วนิ าที) ให้ประกาศดังน้ี “รายนามคณะกรรมการผู้ตัดสิน ผู้ตดั สนิ ที่ 1 ................................................................... ผตู้ ัดสนิ ท่ี 1 ...................................................................” ถา้ เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติต้องประกาศวา่ จากประเทศใดดว้ ย 2.4 กอ่ นเวลา 1 นาที ช่วงแนะน�ำนกั กีฬาและเจ้าหน้าที่ เม่ือจบชว่ งการบรรเลงของ แตรฟนั ฟาร์หรอื ดนตรี (5 วินาท)ี ให้ประกาศทมี ทไี่ ดเ้ สริ ์ฟก่อนดงั นี้ “รายนามนักกฬี าและเจ้าหนา้ ที่ทีม................................................................. หมายเลข.......................................................................................... หมายเลข.......................................................................................... หมายเลข.......................................................................................... หมายเลข.......................................................................................... หมายเลข.......................................................................................... หมายเลข.......................................................................................... ผูเ้ ล่นตัวรบั อิสระ หมายเลข............................................................................ หมายเลข..........................................................................................” หมายเหตุ : การประกาศน้ีจะประกาศเฉพาะผเู้ ลน่ 6 คนแรก ผูเ้ ลน่ ตวั รับอิสระและ ผ้ฝู กึ สอนเทา่ นน้ั เมอ่ื ประกาศเสรจ็ ทมี หน่ึง ให้ประกาศทีมต่อไปทนั ที 2.5 ขณะแข่งขนั “ทมี ................................ขอเปล่ยี นตวั หมายเลข......................ออก หมายเลข..................................(ช่อื นกั กีฬา)...............................เขา้ ” “ทีม...............................ขอเวลานอกครง้ั ที.่ ......................................” 150 คมู่ ือผ้ตู ดั สินกฬี าวอลเลย์บ ล

2.5.3 เวลานอกทางเทคนคิ “เวลานอกทางเทคนิคครั้งท.ี่ ..........................................................” หมดเวลานอกทางเทคนคิ ครงั้ ท่ี.....................................................” 2.5.4 การลงโทษผดิ มารยาท (รายบคุ คล) “ผเู้ ลน่ หมายเลข/เจา้ หนา้ ที่ (บอกตำ� แหนง่ )...................ทมี .................... ถกู ลงโทษ/ถูกใหอ้ อกจากการแข่งขัน/ถูกตัดสิทธิอ์ อกจากการแขง่ ขนั ” 2.5.5 การเตอื นหรอื การลงโทษถว่ งเวลา (ทั้งทมี ) “ทมี .......................................................................ถกู เตือนถว่ งเวลา ทมี ...................................................................ถกู ลงโทษถ่วงเวลา” 2.5.6 จบการแข่งขนั ในแต่ละเซต “ผลการแขง่ ขนั ในเซตท.ี่ ..............................ทีม................................. ชนะดว้ ยคะแนน...................................................................................” 2.5.7 สิน้ สดุ การแข่งขนั “สรปุ ผลการแข่งขนั ทมี ..................................................................... ชนะ..................................ต่อ................................เซต” 2.5.8 ภายหลังการแข่งขัน “ประกาศเชญิ ชวนชมการแข่งขันคู่ต่อไป ฯลฯ.....................................” คมู่ อื ผตู้ ัดสนิ กฬี าวอลเลยบ์ ล 151

เทคนิคการเป็นเจา้ หน้าทเี่ ชด็ พนื้ (Floor Mopping)retrBiaellverretrBiaellver SuArrfeaace WaArrem-aUp เจา้ หน้าท่เี ชด็ พนื้ เปน็ เจา้ หน้าที่เทคนคิ ที่ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ใี นสนามแขง่ ขัน โดยมวี ตั ถุประสงคห์ ลกั คือ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่นักกีฬาและเพื่อให้การแข่งขันสามารถด�ำเนินต่อไปได้ โดยไม่ล่าช้า MMMMMMqMoMppMerMs ซ่งึ เจ้าหนา้ ทีเ่ ชด็ พน้ื แบง่ ออกเปน็ 2 ลกั ษณะ คือ 1. เจ้าหน้าที่เช็ดพ้ืนท่ัวไป ประกอบด้วยเจ้าหน้าท่ีด้านละ 3 คน 2 ด้าน รวม 6 คน4Players’ bench จะท�ำหน้าที่เช็ดพื้นตามปกติขณะท่ีมีการขอหยุดการเล่น เช่น การขอเวลานอก เวลานอก3 ทางเทคนคิ หรอื เวลาพกั ระหวา่ งเซต โดยจะมีรปู แบบและวิธกี ารเช็ดพื้นดังนี้ (ดงั ภาพที่ 48) retrBiaellver CaTmVera ภาพท่ี 48 แสดงตัวอย่างวิธกี ารเชด็ พนื้M retr1isetver M (Feduation Internationale De Volleyball. 2001 : 33)2211 152 ค่มู อื ผตู้ ดั สนิ กีฬาวอลเลย์บ ล ret2rinedver refrBiaellver qM qM CaTmVera 4 Players’ bench 3 MMM SuArrfeaace MMopMpqerMs retrBiaellver retrBiaellver WaArrem-aUp

จากภาพท่ี 48 แสดงให้เหน็ ถงึ แบง่ ชว่ งตอนการเชด็ พนื้ เป็น 4 ชว่ ง ชว่ งท่ี 1 เจา้ หนา้ ท่ีเชด็ พื้นแต่ละด้านๆ ละ 3 คน ถือไม้เช็ดพ้นื ขนาดกว้าง 1 เมตร ไปยืน เข้าแถวที่เสน้ ขา้ ง (ดา้ นผตู้ ัดสนิ ที่ 2 ใหไ้ ม้เรยี งเป็นแถวหน้ากระดานภายในบรเิ วณเขตรุก จากน้นั เริม่ เชด็ พนื้ ไปพรอ้ มๆ กันทัง้ 6 คน ช่วงที่ 2 ให้เช็ดกลบั บรเิ วณเดมิ อกี 1 เท่ยี ว ชว่ งท่ี 3 ใหแ้ ต่ละชุดหมุนเป็นครึง่ วงกลม เพ่ือเช็ดบรเิ วณที่ต่อจากเส้นเขตรกุ ชว่ งท่ี 4 ให้แต่ละชุดหมนุ เป็นคร่งึ วงกลมเพอ่ื เชด็ กลับบริเวณแดนหลงั จากน้นั ใหเ้ ช็ดออกไป ท่บี ริเวณเขตสนามเลน่ หลังเสน้ หลัง เม่อื จบใหก้ ลับน่ังประจำ� ท่ีตามเดมิ 2. เจ้าหนา้ ที่เชด็ พ้นื เร็ว (Quick Mopper) เจา้ หนา้ ทเ่ี ชด็ พน้ื เรว็ มหี นา้ ทเ่ี ชด็ พนื้ หลงั การเลน่ แตล่ ะครง้ั จบลงดงั รายละเอยี ดตอ่ ไปนี้ (ทรงศกั ดิ์ เจรญิ พงศ์. 2538 : 29-30) 2.1 จ�ำนวน 1 ใน 3 คนของเจ้าหน้าที่เชด็ พนื้ ทั่วไป จะถูกกำ� หนดให้เป็นเจา้ หนา้ ที่ เชด็ พนื้ เรว็ 1 คน โดยอยใู่ นบรเิ วณใกลท้ ส่ี ดุ ในจำ� นวน 3 คนนน้ั และทบ่ี รเิ วณแดนหนา้ (ขา้ งละ 1 คน) รวม 2 คน นั่งอยหู่ น้าโต๊ะผบู้ ันทกึ เพื่อเช็ดพืน้ บริเวณเขตรกุ ทัง้ หมด 2.2 เจา้ หน้าทเี่ ชด็ พนื้ เร็วจะทำ� การเช็ดพนื้ ดว้ ยวิธีการดังนี้ 2.2.1 ขณะก�ำลังเล่นลูก เมื่อเจ้าหน้าท่ีเช็ดพื้นเร็วที่รับผิดชอบบริเวณนั้นๆ เห็นนักกีฬาล้มลงและเกิดการเปียก ณ ที่น้ัน เมื่อลูกตายให้เจ้าหน้าท่ีเช็ดพ้ืนเร็วยกมือข้ึน และ ว่ิงเข้าไปเช็ดพืน้ บริเวณน้นั ดว้ ยผา้ เชด็ พืน้ ขนาดกวา้ ง 1 × 1½ ฟตุ โดยท�ำอย่างรวดเรว็ ภายในเวลา ไม่เกนิ 8 วนิ าที 2.2.2 ถา้ เกดิ การเปยี กเปน็ พน้ื ทก่ี วา้ ง ใหเ้ จา้ หนา้ ทเี่ ชด็ พนื้ เรว็ ทรี่ บั ผดิ ชอบบรเิ วณ ใกล้เคยี งเข้าช่วยเหลอื ได้ 2.2.3 นักกีฬาหรือเจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธ์ิขอให้เจ้าหน้าท่ีเช็ดพื้นเร็วเข้าไปเช็ดพ้ืน ตามทน่ี กั กฬี าหรอื เจ้าหนา้ ที่ชี้แนะ 2.2.4 ผตู้ ดั สนิ จะตอ้ งไมเ่ ขา้ ไปรว่ มในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องเจา้ หนา้ ท่ี แตผ่ ตู้ ดั สนิ ที่ 1 มีอ�ำนาจทจ่ี ะควบคุมการทำ� งานของเจา้ หน้าทเ่ี ชด็ พื้น ให้ทำ� หน้าที่อย่างถกู ต้อง 2.4.5 ขณะแข่งขนั ถา้ ผ้คู วบคุมการแข่งขันพจิ ารณาเหน็ วา่ พน้ื สนามลน่ื อาจเกดิ อนั ตรายกบั นกั กฬี า สามารถขอใหผ้ ตู้ ดั สนิ ท่ี 2 เรยี กเจา้ หนา้ ทเ่ี ชด็ พนื้ ใหท้ ำ� การเชด็ พน้ื ไดเ้ มอ่ื ลกู ตาย คู่มอื ผ้ตู ัดสนิ กีฬาวอลเลยบ์ ล 153

เทคนิคการเป็นเจ้าหนา้ ทส่ี ง่ ลูกบอล (Ball Retriever) การแข่งขันแต่ละนัดใช้เจ้าหน้าท่ีส่งลูกบอล 6 คน โดยน่ังหรือยืนอยู่รอบสนาม ตามต�ำแหน่งดงั นี้ ต�ำแหนง่ ที่ 1 อยทู่ มี่ ุมสนามด้านขวามอื ของผู้ตดั สนิ ท่ี 1 ต�ำแหน่งที่ 2, 3, 4, 5 ใหน้ ับจากต�ำแหนง่ ที่ 1 ทวนเขม็ นาฬิกาขน้ึ ไป โดยต�ำแหน่งท่ี 3 อยู่หนา้ โต๊ะผู้บันทกึ และตำ� แหนง่ ท่ี 6 อยหู่ ลงั ผู้ตัดสินท่ี 1 1. หนา้ ทขี่ องเจา้ หน้าทสี่ ่งลูกบอล 1.1 เกบ็ ลกู บอลท่ีอยู่ในสนามและกล้ิงส่งต่อไปให้ต�ำแหน่งที่ 2 และ 5 (ท่ีมมุ สนาม ทั้งสองดา้ น) 1.2 ป้องกนั ไมใ่ ห้ลกู บอลเขา้ ไปในสนามแข่งขัน 1.3 ขณะทีม่ ีการเล่นลกู ไมค่ วรมกี ารกลงิ้ บอลส่งตอ่ กนั 1.4 รักษาลูกบอลท่ีใช้แข่งขันในช่วงพักระหว่างเซต ไม่อนุญาตให้ผู้เล่นน�ำลูกบอล แข่งขนั ไปใช้อบอนุ่ รา่ งกาย 1.5 เจ้าหน้าท่ีส่งลูกบอลต�ำแหน่งท่ี 2 และ 5 จะต้องท�ำความสะอาดลูกบอล ดว้ ยผา้ ตลอดเวลา 1.6 เจ้าหน้าทีส่ ง่ ลกู บอลตำ� แหนง่ ที่ 2 และ 4 จะตอ้ งไม่ส่งลูกบอลให้ตำ� แหน่งที่ 3 2. วิธีการส่งลกู บอล 2.1 การส่งลูกบอลระหว่างเจ้าหน้าที่ส่งลูกบอลด้วยกัน ให้ใช้วิธีกลิ้งส่งต่อกัน โดยไม่ให้ลกู บอลกระดอนไป 2.2 การสง่ ลูกบอลใหผ้ ู้เสริ ฟ์ ใหใ้ ช้วธิ ีการสง่ แบบลูกกระดอนใหผ้ เู้ สริ ์ฟ สรปุ ในการด�ำเนินการจัดการแข่งขัน เจ้าหน้าที่เทคนิคนับว่าเป็นกลุ่มที่มีความจ�ำเป็น และส�ำคัญไม่น้อยไปกว่าผู้ตัดสิน การแข่งขันจะด�ำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ราบรื่น ไม่ท�ำให้ การแข่งขันต้องหยุดชะงัก หรือล่าช้าออกไป เกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ของเจ้าหน้าท่ีเทคนิคทุกฝ่าย ซ่ึงประกอบด้วย ผู้ก�ำกับเส้น ผู้บันทึก ผู้ช่วยผู้บันทึก ผู้ประกาศ เจ้าหน้าทเ่ี ชด็ พ้นื และเจ้าหนา้ ท่ีส่งลกู บอล 154 คู่มอื ผ้ตู ดั สนิ กีฬาวอลเลย์บ ล

ก ตกิ าการแข่งขนั กีฬาวอลเลย์บอล ลักษณะของการแข่งขนั (Game Characteristic) วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่เล่นโดยทีมสองทีมบนสนามท่ีแบ่งแดนด้วยตาข่าย ลักษณะของ การแข่งขันอาจแตกต่างกันไดต้ ามสภาพที่จำ� เปน็ เพอื่ ใหเ้ ล่นกันได้อยา่ งแพร่หลาย จุดมุ่งหมายของการแข่งขัน คือ การส่งลูกบอลให้ข้ามตาข่ายไปตกลงบนพ้ืนในแดน ของทีมตรงข้าม และป้องกันไม่ให้ทีมตรงข้ามส่งลูกบอลข้ามตาข่ายมาตกลงบนพ้ืนในแดนของตน แตล่ ะทมี จะถกู ลกู บอลได้ 3 ครงั้ ในการสง่ ลกู บอลไปยงั แดนของทมี ตรงขา้ ม (ยกเวน้ การถกู ลกู บอล ในการสกัดก้นั ) การเล่นเร่ิมต้นด้วยการเสิร์ฟลูกบอล โดยผู้เสิร์ฟส่งลูกบอลข้ามตาข่ายไปยังทีมตรงข้าม การเล่นจะด�ำเนินไปจนกว่าลูกบอลจะตกลงบนพ้ืนในเขตสนามหรือนอกเขตสนามหรือทีม ไม่สามารถสง่ ลกู บอลกลบั ไปยังทมี ตรงขา้ มไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตามกตกิ า การแขง่ ขันวอลเลย์บอลน้นั ทมี ทช่ี นะการเล่นลกู จะได้ 1 คะแนน (Rally Point System) เมื่อทีมที่เป็นฝ่ายรับลูกเสิร์ฟชนะการเล่นลูก จะได้คะแนน 1 คะแนน และได้สิทธ์ิท�ำการเสิร์ฟ ผูเ้ ลน่ ทมี นนั้ ตอ้ งหมุนตามเข็มนาฬกิ าไป 1 ต�ำแหนง่ คมู่ ือผู้ตัดสนิ กีฬาวอลเลย์บ ล 155

สิ่ งอำ�นวยความสะดวกและอุปกรณ์ (Facilities and Equipment) กตกิ าขอ้ ท่ี 1 พืน้ ท่ีเลน่ ลกู (Playing Area) พื้นที่เล่นลูก รวมถึงสนามแข่งขันและเขตรอบสนาม ต้องเป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า และเหมอื นกนั ทุกสว่ น (1.1/ภาพที่ 1a/1b) 1.1 ขนาดของสนาม (Dimension) (ภาพท่ี 2) สนามแข่งขันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 18 x 9 เมตร ล้อมรอบด้วยเขต รอบสนามกวา้ งอย่างนอ้ ยทส่ี ุด 3 เมตร ทุกด้าน ที่ว่างส�ำหรับเล่นลูก คือ ที่ว่างเหนือพื้นที่เล่นลูก ซ่ึงไม่มีสิ่งกีดขวางสูงขึ้นไป อยา่ งน้อยทส่ี ดุ 12.50 เมตร จากพ้นื สนาม ส�ำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และ การแขง่ ขนั ทเี่ ปน็ ทางการ เขตรอบสนามตอ้ งกวา้ งอยา่ งนอ้ ย 5 เมตร จากเสน้ ขา้ ง และ 8 เมตร จากเส้นหลังท่วี า่ งเหนอื สนาม ส�ำหรบั เลน่ ลกู ต้องสงู จากพื้นสนามข้นึ ไปอยา่ งน้อย 12.50 เมตร 1.2 พนื้ ผวิ สนาม (Playing Surface) 1.2.1 พื้นผิวสนามต้องเรียบ เป็นพ้ืนราบและเหมือนกันตลอดทั้งสนาม ตอ้ งไม่เปน็ อันตรายจนเป็นเหตใุ ห้ผ้เู ล่นบาดเจบ็ และไม่อนุญาตให้แข่งขันบนพื้นสนามทขี่ รขุ ระหรอื ลืน่ ส�ำหรบั การแขง่ ขนั ระดบั โลกของสหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ และ การแขง่ ขนั ทเี่ ปน็ ทางการ อนญุ าตใหใ้ ชไ้ ดเ้ ฉพาะพนื้ ผวิ สนามทเ่ี ปน็ ไมห้ รอื พน้ื ผวิ สงั เคราะหเ์ ทา่ นน้ั พืน้ ผวิ สนามอื่นต้องได้รบั การรับรองจากสหพนั ธว์ อลเลย์บอลนานาชาติก่อน 1.2.2 สนามแขง่ ขันในรม่ พื้นผวิ สนามตอ้ งเป็นสมี ่วง ส�ำหรบั การแขง่ ขนั ระดบั โลกของสหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาต ิ และ การแขง่ ขนั ทเี่ ปน็ ทางการ เสน้ สนามตอ้ งเปน็ สขี าว สว่ นพนื้ ผวิ สนามแขง่ ขนั และบรเิ วณเขตรอบ สนามต้องเป็นสีอื่นแตกตา่ งกนั ออกไป (1.1/1.3) 1.2.3 สนามแข่งขันกลางแจ้ง อนุญาตให้พ้ืนผิวสนามลาดเอียงได้ 5 มิลลิเมตร ตอ่ 1 เมตร เพ่อื การระบายนำ้� ห้ามใชข้ องแขง็ ท�ำเส้นสนาม (1.3) 1.3 เส้นบนพน้ื สนาม (Lines on the Court) (ภาพท่ี 2) 1.3.1 เส้นทุกเส้นกว้าง 5 เซนติเมตร เป็นสีสว่างแตกต่างจากสีของพ้ืนผิวสนาม และสขี องเส้นอ่นื ๆ (1.2.2) 156 คมู่ อื ผตู้ ัดสินกีฬาวอลเลย์บ ล

1.3.2 เส้นเขตสนาม (Boundary line) เส้นข้าง 2 เส้น และเส้นหลัง 2 เส้น เป็นเสน้ ก�ำหนดเขตสนามแขง่ ขนั เส้นทั้งหมดต้องอยภู่ ายในเขตสนามแขง่ ขนั (1.1) 1.3.3 เส้นแบ่งแดน (Center line) ก่ึงกลางของเส้นแบ่งแดนจะแบ่งสนามแข่งขัน ออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน ขนาด 9 x 9 เมตร เส้นน้ีลากจากเส้นข้างด้านหน่ึงไปยังเส้นข้าง อีกดา้ นหนึง่ ใต้ตาขา่ ย (ภาพที่ 2) 1.3.4 เส้นเขตรุก (Attack line) แต่ละแดนของสนามจะมีเส้นเขตรุก ซ่ึงริมสุด ด้านนอกของเส้นน้ีจะลากห่างจากจุดกึ่งกลางของเส้นแบ่งแดน 3 เมตร เป็นเครื่องหมายของ เขตรกุ (1.3.3/1.4.1) ส�ำหรับการแข่งขนั ระดบั โลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแขง่ ขนั อย่างเป็นทางการ เส้นเขตรุกจะถูกลากต่อออกไปจากเส้นข้างทั้ง 2 เส้น เป็นเส้นประ กว้าง 5 เซนติเมตร ยาวเส้นละ 15 เซนติเมตร จ�ำนวน 5 เสน้ และเว้นช่องวา่ งระหวา่ งเส้นไว้ ชอ่ งละ 20 เซนติเมตร รวมความยาวข้างละ 1.75 เมตร เส้นเขตก�ำหนดส�ำหรับผู้ฝึกสอน (เป็นเส้นประต่อจากเส้นเขตรุกไปจนถึงเส้นหลัง ของสนาม ขนานและห่างจากเส้นข้าง 1.75 เมตร) เส้นประน้ียาวเส้นละ 15 เซนติเมตร ระยะหา่ งกนั แตล่ ะเสน้ 20 เซนตเิ มตร เปน็ เขตก�ำหนดส�ำหรบั ใหผ้ ฝู้ กึ สอนปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี (ภาพที่ 2) 1.4 เขตและพ้ืนทีต่ ่างๆ (Zone and Areas) (ภาพที่ 1b และภาพท่ี 2) 1.4.1 เขตรกุ (Front zone) (ภาพท่ี 2) เขตรุกแต่ละแดนจะถูกก�ำหนดจากก่ึงกลางของเส้นแบ่งแดนไปจนถึงริมสุด ด้านนอกของเส้นเขตรกุ (1.3.3/1.3.4) เขตรุก ถือเสมือนว่ามีความยาวต่อจากเส้นข้างท้ังสองข้างไปจนถึงริมสุด ของขอบเขตสนาม (1.1/1.3.2) 1.4.2 เขตเสิรฟ์ (Service zone) เขตเสริ ์ฟพนื้ ท่ีกว้าง 9 เมตร อยู่เลยเสน้ หลังแตล่ ะเส้นออกไปเขตเสิรฟ์ ก�ำหนด โดยเสน้ ขนานสน้ั ๆ 2 เสน้ ยาวเสน้ ละ 15 เซนตเิ มตร เสน้ ทง้ั สองนจ้ี ะตหี า่ งจากเสน้ หลงั 20 เซนตเิ มตร เสมอื นว่าเป็นแนวต่อจากเส้นข้าง และรวมอย่ใู นความกว้างของเขตเสริ ์ฟด้วย (1.3.2/ภาพที่ 1b) ในแนวลกึ เขตเสิร์ฟจะยาวออกไปจนถงึ ปลายสดุ ของเขตรอบสนาม (1.1) 1.4.3 เขตเปลี่ยนตวั (Substitution zone) เขตเปลี่ยนตัว ก�ำหนดโดยแนวต่อของเส้นรุกท้ังสองเส้นไปจนถึงโต๊ะผู้บันทึก (1.3.4/ภาพที่ 1b) คู่มอื ผตู้ ดั สินกีฬาวอลเลย์บ ล 157

1.4.4 เขตเปลีย่ นตัวรับอสิ ระ (Libero Replacement Zone) เขตเปลี่ยนตัวรับอิสระเป็นส่วนหน่ึงของเขตรอบสนามด้านเดียวกับม้านั่งของทีม กำ� หนดโดยเส้นทต่ี ่อจากเสน้ เขตรุกถึงเส้นหลงั (7.5.1ม 19.3.2.4ม ภาพที่ 1b) 1.4.5 พนื้ ท่อี บอนุ่ รา่ งกาย (Warm-up area) ส�ำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และ การแขง่ ขนั อยา่ งเปน็ ทางการ พน้ื ทอ่ี บอนุ่ รา่ งกาย ขนาด 3 x 3 เมตร จะอยทู่ นี่ อกเขตรอบสนาม ตรงมมุ สนามดา้ นเดียวกับม้าน่ังของผ้เู ล่นส�ำรอง (รปู 1a/1b) 1.4.6 พื้นท่ีลงโทษ (Penalty area) พน้ื ทล่ี งโทษขนาดประมาณ 1 x 1 เมตร มีเกา้ อี้ตัง้ ไว้ 2 ตวั อยใู่ นพนื้ ท่คี วบคุม การแขง่ ขนั แตอ่ ยูเ่ ลยแนวของเสน้ หลงั และมเี สน้ แดงกว้าง 5 เซนตเิ มตร กำ� หนดพ้นื ท่ี (ภาพท่ี 1a/ ภาพท่ี 1b) 1.5 อุณหภมู ิ (Temperature) อุณหภมู ิต่�ำสดุ ต้องไมต่ ำ�่ กวา่ 10 องศาเซลเซยี ส (50 องศาฟาเรนไฮต)์ การแขง่ ขนั ระดบั โลกของสหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ และการแขง่ ขนั อยา่ งเปน็ ทางการอณุ หภมู สิ งู สุดตอ้ งไมเ่ กนิ 25 องศาเซลเซยี ส (77 องศาฟาเรนไฮต)์ และอณุ หภูมิต�่ำสดุ ต้องไมต่ �่ำกวา่ 16 องศาเซลเซียส (61 องศาฟาเรนไฮต)์ 1.6 แสงสวา่ ง (Lighting) ส�ำหรับการแขง่ ขนั ระดบั โลกของสหพนั ธ์วอลเลยบ์ อลนานาชาติ และการแขง่ ขนั อย่างเป็นทางการ แสงสว่างบนพื้นที่เล่นลูกต้องมีความสว่าง 1,000-1,500 ลักซ์ โดยวัดที่ ระดบั ความสูงจากพน้ื สนาม 1 เมตร กตกิ าขอ้ ที่ 2 ตาข่ายและเสาขึงตาขา่ ย (Net and Posts) (ภาพที่ 3) 2.1 ความสงู ของตาข่าย (Height of the Net) 2.1.1 ตาขา่ ยถูกขึงเปน็ แนวตัง้ เหนือเส้นแบ่งแดน ส�ำหรับทีมชาย ขอบบนสุดต้องสูง จากพ้ืน 2.43 เมตร ทีมหญงิ สูง 2.24 เมตร (1.3.3) 2.1.2 ความสงู ของตาขา่ ย วดั ทกี่ ง่ึ กลางของสนามความสงู ของตาขา่ ย (ทเี่ หนอื เสน้ ขา้ ง ทงั้ สองดา้ น) ตอ้ งสงู เทา่ กนั แตจ่ ะตอ้ งสงู เกนิ กวา่ ความสงู ทกี่ ำ� หนด 2 เซนตเิ มตร (1.1/1.3.2/2.1.1) 2.2 โครงสรา้ ง (Structure) ตาข่ายมีความกว้าง 1 เมตร และยาว 9.50-10.00 เมตร (โดยมีความยาวเหลืออยู่ 25-30 เซนติเมตร จากแถบข้างแต่ละด้าน) ท�ำด้วยวัสดุสีด�ำเป็นตาสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 10 ตารางเซนติเมตร (ภาพท่ี 3) 158 คมู่ ือผตู้ ดั สินกีฬาวอลเลยบ์ ล

ทขี่ อบบนของตาขา่ ยมีแถบขนานกบั พื้นพบั 2 ชั้น สีขาวกวา้ ง 7 เซนติเมตร เยบ็ ติด ตลอดความยาวของตาข่าย ทีป่ ลายสุดแตล่ ะข้างเจาะรไู ว้ขา้ งละ 1 รู เพอื่ ร้อยเชอื กผกู กบั เสาขึงตาข่าย เพือ่ ดึงใหแ้ ถบบนสุดของตาขา่ ยตงึ ภายในแถบมีสายที่ยดื หยนุ่ ไดส้ ำ� หรับผูกกบั เสา เพ่ือท�ำใหส้ ่วนบนสุดของตาขา่ ยตึง ที่ชายล่างสุดของตาข่ายมีแถบขนานกับพ้ืนกว้าง 5 เซนติเมตร ภายในแถบมีสาย ทีย่ ืดหย่นุ ไดส้ ำ� หรบั ผกู กบั เสา เพอื่ ท�ำให้สว่ นลา่ งของตาขา่ ยตงึ 2.3 แถบข้าง (Side Bands) แถบสีขาว 2 เส้น ผกู ในแนวตัง้ กบั ตาขา่ ยหรือเสน้ ข้างทัง้ 2 เส้น (1.3.2/ภาพที่ 3) แถบขา้ งมขี นาดกวา้ ง 5 เซนติเมตร ยาว 1 เมตร และถือวา่ เปน็ สว่ นหนึ่งของตาขา่ ย 2.4 เสาอากาศ (Antennae) เสาอากาศเปน็ แทง่ กลมยดื หยนุ่ ได้ ยาว 1.80 เมตร เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 10 มลิ ลเิ มตร ทำ� ดว้ ยใยแก้วหรือวัสดุที่คลา้ ยคลงึ กนั ส่วนบนสุดของเสาอากาศที่ยื่นเลยเหนือตาข่ายขึ้นไป 80 เซนติเมตร จะเป็นแถบสี สลับกันเปน็ ช่วงๆ ยาวละ 10 เซนติเมตร นิยมใชส้ ีแดงและสีขาว เสาอากาศถือเป็นส่วนหน่ึงของตาข่ายและเป็นแนวขนานที่ก�ำหนดพื้นที่ข้ามตาข่าย (10.1.1/ภาพท่ี 3 และภาพท่ี 5) 2.5 เสาขงึ ตาข่าย (Posts) 2.5.1 เสาขงึ ตาข่ายยึดตดิ กบั พื้นสนาม ห่างจากเส้นขา้ ง 0.50-1.00 เมตร มีความสงู 2.55 เมตร สามารถปรบั ระดับได้ (ภาพที่ 3) ส�ำหรับการแข่งขนั ระดบั โลกของสหพนั ธ์วอลเลยบ์ อลนานาชาติ และการแข่งขัน อย่างเปน็ ทางการ เสาขงึ ตาข่ายต้องยดึ ติดกับพนื้ สนาม ห่างจากเส้นขา้ ง 1 เมตร เว้นแตจ่ ะไดร้ ับ การยินยอมจากสหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ 2.5.2 เสาขึงตาข่ายมีลักษณะกลมและเรียบยึดติดกับพื้น โดยไม่มีสายยึดเสา และต้องไม่เปน็ สง่ิ ทีก่ ่อให้เกิดอนั ตรายและไม่เปน็ ส่ิงกีดขวางใดๆ 2.6 อุปกรณอ์ ืน่ ๆ (Additional Equipment) อุปกรณอ์ ื่นใดให้ข้ึนอยู่กบั ข้อตกลงตามระเบียบของสหพันธ์วอลเลยบ์ อลนานาชาติ กตกิ าข้อที่ 3 ลูกบอล (Balls) 3. มาตรฐาน (Standard) ลกู บอลตอ้ งกลม ทำ� ดว้ ยหนงั ฟอกหรอื หนงั สงั เคราะหท์ ยี่ ดื หยนุ่ ได้ หอ่ หมุ้ ลกู ทรงกลม ท�ำดว้ ยยางหรือวสั ดุทค่ี ลา้ ยคลึงกนั ค่มู อื ผตู้ ัดสินกีฬาวอลเลยบ์ ล 159

สีของลูกบอลอาจเป็นสอี อ่ นๆ เหมอื นกนั ท้ังลูกหรืออาจเปน็ หลายสผี สมกนั ก็ได้ ลกู บอลซงึ่ ทำ� ดว้ ยวสั ดทุ เ่ี ปน็ หนงั สงั เคราะหม์ หี ลายสผี สมกนั ทใ่ี ชใ้ นการแขง่ ขนั ระดบั นานาชาติอย่างเป็นทางการ ตอ้ งมีมาตรฐานตามท่สี หพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาตกิ ำ� หนด ลูกบอลตอ้ งมีเสน้ รอบวงยาว 65-67 เซนตเิ มตร และมนี �ำ้ หนกั 260-280 กรมั ลกู บอลตอ้ งมีแรงดนั ลม 0.30-0.325 กิโลกรมั /ตารางเซนตเิ มตร 3.2 รปู แบบของลูกบอล (Uniformity of Balls) ลกู บอลทใี่ ชใ้ นการแขง่ ขนั ตอ้ งมเี สน้ รอบวง นำ�้ หนกั แรงอดั ชนดิ และสตี ามมาตรฐาน เดยี วกัน (3.1) การแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและรวมทั้งระดับชาติ หรอื การแขง่ ขนั ลกี (League) ของแตล่ ะประเทศตอ้ งใชล้ กู บอลทสี่ หพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ รบั รองเท่านั้น เว้นแตไ่ ด้รับการยนิ ยอมจากสหพันธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ 3.3 ระบบการใช้ลกู บอล 3 ลกู (Three-ball System) ส�ำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและการแข่งขัน อยา่ งเปน็ ทางการ จะใชล้ ูกบอล 3 ลูก โดยมีผกู้ ลิง้ ลูกบอล 6 คน ประจ�ำท่มี มุ ของเขตรอบสนาม ท้งั สมี่ มุ ๆ ละ 1 คน และหลงั ผตู้ ดั สินด้านละ 1 คน (ภาพที่ 10) 160 คมู่ อื ผู้ตัดสนิ กฬี าวอลเลย์บ ล

ผู้ เข้ารว่ มการแข่งขนั (Participants) กติกาข้อที่ 4 ทมี (Teams) 4.1 สว่ นประกอบของทีม (Team Composition) 4.1.1 ในการแขง่ ขนั ทีมประกอบดว้ ยผู้เล่นสูงสุด 12 คน รวมกบั - คณะผู้ฝึกสอน ประกอบดว้ ย ผู้ฝกึ สอน 1 คน ผชู้ ่วยผ้ฝู ึกสอนไมเ่ กนิ 2 คน - คณะแพทย์ ประกอบด้วย นักกายภาพบ�ำบัด 1 คน และแพทย์ 1 คน (4.1.1/5.2/5.3) เฉพาะผู้ท่ีมีรายช่ืออยู่ในใบบันทึกเท่านั้น ท่ีสามารถเข้าภายในบริเวณพ้ืนท่ี ควบคมุ และเขา้ ร่วมในการอบอุ่นรา่ งกายรวมถงึ การแข่งขนั ด้วย การแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและการแข่งขัน อย่างเป็นทางการ แพทยแ์ ละนักกายภาพบ�ำบดั ตอ้ งได้รับการรับรองจากสหพนั ธ์วอลเลย์บอล นานาชาติ กอ่ นการแข่งขนั 4.1.2 ผู้เล่นคนหนึ่งของทีมที่ไม่ใช่ตัวรับอิสระ ต้องเป็นหัวหน้าทีมและจะระบุไว้ ในใบบันทึกการแข่งขนั (5.1/19.1.3) 4.1.3 ผเู้ ลน่ ทมี่ ชี อ่ื อยใู่ นใบบนั ทกึ การแขง่ ขนั เทา่ นน้ั จงึ จะลงสนามและรว่ มการแขง่ ขนั ได้ เมอื่ ผู้ฝึกสอนและหัวหน้าทีม (Team Captain) ลงชอ่ื ในใบบนั ทึกการแข่งขันแล้วจะเปลยี่ นแปลง ผเู้ ลน่ อกี ไม่ได้ (1/5.11/5.22) 4.2 ต�ำแหนง่ ทอ่ี ยขู่ องทมี (Location of the Team) 4.2.1 ผู้เล่นท่ีไม่ได้ลงแข่งขันควรน่ังบนม้านั่งหรืออยู่ภายในพ้ืนที่อบอุ่นร่างกาย ของทีมตนเอง ผ้ฝู กึ สอนและผรู้ ว่ มทีมคนอนื่ ต้องนง่ั บนมา้ นง่ั แต่อาจลกุ จากมา้ น่งั ไดเ้ ป็นครง้ั คราว (1.4.5/5.2.3/7.3.3) มา้ นง่ั ของทมี ตง้ั อยดู่ า้ นขา้ งโตะ๊ ผบู้ นั ทกึ นอกเขตรอบสนาม (ภาพที่ 1a/ ภาพท่ี 1b) 4.2.2 เฉพาะผู้ร่วมทีมเท่าน้ันท่ีได้รับอนุญาตให้น่ังบนม้านั่งระหว่างการแข่งขัน และร่วมการอบอนุ่ ร่างกายกอ่ นการแขง่ ขนั (4.1.1/7.2) 4.2.3 ผ้เู ลน่ ทีไ่ ม่ได้ลงแข่งขันสามารถอบอุน่ รา่ งกายโดยไมใ่ ชล้ ูกบอลไดด้ งั นี้ 4.2.3.1 ระหวา่ งการแขง่ ขนั : ในพนื้ ทอ่ี บอนุ่ รา่ งกาย (1.4.5/8.1 ภาพที่ 1a/ภาพที่ 1b) 4.2.3.2 ระหว่างขอเวลานอกและเวลานอกทางเทคนิค : ในเขตรอบสนาม ดา้ นหลงั แดนของทมี ตนเอง (1.3.3/15.4) 4.2.4 ชว่ งพกั ระหวา่ งเซต ผเู้ ลน่ สามารถอบอนุ่ รา่ งกายโดยใชล้ กู บอลไดใ้ นเขตรอบสนาม ของทมี ตนเอง (18.1) คมู่ ือผู้ตัดสินกีฬาวอลเลยบ์ ล 161

4.3 เครอ่ื งแตง่ กาย (Equipment) เคร่ืองแต่งกายของผู้เล่น ประกอบด้วย เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ถุงเท้า (ชุดแข่งขัน) และรองเทา้ กฬี า 4.3.1 สีและแบบของเสื้อยืด กางเกงขาสั้นและถุงเท้าต้องเหมือนกันทั้งทีม (ยกเว้น ตัวรับอสิ ระ) ชุดแขง่ ขนั ต้องสะอาด (4.1/19.2) 4.3.2 รองเท้าต้องเบาและอ่อนนุ่ม พื้นเป็นยางหรือพ้ืนที่มีส่วนประกอบอื่นๆ ท่ไี ม่มีสน้ การแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและการแข่งขัน อย่างเป็นทางการ ในรนุ่ ทไี่ มจ่ �ำกดั อายุ จะไมอ่ นญุ าตใหใ้ ชร้ องเทา้ ทมี่ สี ี สว่ นใหญเ่ ปน็ สดี �ำทพ่ี น้ื ที่ ท�ำใหเ้ กดิ รอย 4.3.3 เสอื้ ผู้เลน่ ตอ้ งมหี มายเลขตงั้ แต่ 1-20 ส�ำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และ การแขง่ ขันอย่างเปน็ ทางการ เส้ือผเู้ ล่นจะตอ้ งมหี มายเลขตัง้ แต่ 1-20 4.3.3.1 ต้องติดหมายเลขที่กลางหน้าอกและกลางหลัง สีของหมายเลข ตอ้ งตดั กบั สีเสอื้ อยา่ งชดั เจน 4.3.3.2 หมายเลขด้านหน้าต้องสูงอย่างน้อยท่ีสุด 15 เซนติเมตร ด้านหลัง อย่างน้อยที่สุด 20 เซนติเมตรและความกว้างของแถบท่ีท�ำหมายเลขต้องกว้างอย่างน้อยที่สุด 2 เซนติเมตร ส�ำหรบั การแขง่ ขนั ระดบั โลกของสหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาตแิ ละการแขง่ ขนั อยา่ งเปน็ ทางการ หมายเลขของผเู้ ลน่ ตอ้ งมหี มายเลขซำ้� บนขากางเกงดา้ นขวา ความสงู 4-6 เซนตเิ มตร และแถบทท่ี �ำตวั เลขกวา้ งอยา่ งนอ้ ยทส่ี ดุ 1 เซนตเิ มตร เสอ้ื และกางเกงต้องเปน็ ไปตามข้อบังคับของ สหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ 4.3.4 หวั หนา้ ทมี ตอ้ งมแี ถบขนาด 8 x 2 เซนตเิ มตร ตดิ อยใู่ ตห้ มายเลขตรงหนา้ อกเสอื้ (5.1) 4.3.5 ห้ามใส่ชุดแข่งขันที่มีหมายเลขไม่ถูกต้องหรือชุดที่มีสีแตกต่างจากผู้เล่นอ่ืน (ยกเวน้ ตวั นบั อิสระ) หรือไมม่ หี มายเลข (19.2) 4.4 การเปลย่ี นเครอื่ งแตง่ กาย (Change of Equipment) ผู้ตัดสินท่ี 1 มอี �ำนาจทีจ่ ะอนุญาตให้ผู้เล่น 1 คน หรอื มากกวา่ : (23) 4.4.1 ลงแข่งขนั โดยไม่ใส่รองเทา้ ได้ ส�ำหรบั การแขง่ ขนั ระดบั โลกของสหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ และการแขง่ ขนั อย่างเป็นทางการ จะไม่อนุญาตให้ลงแข่งขันโดยไม่ใส่รองเทา้ 162 คู่มอื ผู้ตัดสินกีฬาวอลเลย์บ ล

4.4.2 เปลี่ยนชุดแข่งขันที่เปียกหรือช�ำรุดในช่วงพักระหว่างเซตหรือหลังจาก การเปล่ยี นตัวได้ โดยสี แบบและหมายเลขของชดุ ใหม่ตอ้ งเหมือนกับชุดเดิม (4.3/15.5) 4.4.3 สวมชุดวอร์มลงแข่งขันได้ถ้าอากาศหนาว โดยสีและแบบของชุดวอร์ม ต้องเหมือนกันทง้ั ทมี (ยกเว้นตัวรบั อิสระ) และมีหมายเลขตามกตกิ าขอ้ 4.3.3 (4.1.1/19.2) 4.5 ส่ิงของทห่ี า้ มสวมใส่ (Forbidden Objects) 4.5.1 ห้ามสวมใส่ส่ิงของ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการบาดเจ็บหรือช่วยให้ผู้เล่น ไดเ้ ปรยี บผอู้ ื่น 4.5.2 ผเู้ ลน่ อาจสวมแวน่ ตาหรอื เลนสไ์ ด้ โดยรบั ผดิ ชอบอนั ตรายทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ ดว้ ยตวั เอง กติกาขอ้ ที่ 5 ผูน้ ำ� ของทีม (Team Leader) ทง้ั หวั หนา้ ทมี และผฝู้ กึ สอนเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบความประพฤตแิ ละระเบยี บวนิ ยั ของผรู้ ว่ มทมี (20) ตัวรับอิสระจะเปน็ หวั หน้าทีมไมไ่ ด้ (19.1.3) 5.1 หัวหนา้ ทีม (Captain) 5.1.1 ก่อนการแข่งขัน หัวหน้าทีมเป็นผู้ลงชื่อในใบบันทึกการแข่งขันและเป็นผู้แทน ของทมี ในการเส่ยี ง (7.1/25.2.1.1) 5.1.2 ระหวา่ งการแขง่ ขนั และขณะอยใู่ นสนามแขง่ ขนั หวั หนา้ ทมี (Team Captain) ท�ำหน้าท่ีเป็นหัวหน้าทีมในสนามแข่งขัน (Game Captain) เมื่อหัวหน้าทีมไม่ได้เล่นอยู่ในสนาม ผู้ฝึกสอนหรือตัวหัวหน้าทีมเองต้องแต่งตั้งผู้เล่นคนหน่ึงที่อยู่ในสนาม แต่ต้องไม่ใช่ตัวรับอิสระ ท�ำหน้าท่ีหัวหน้าทีมในสนามแข่งขัน (Game Captain) และต้องรับผิดชอบไปจนกว่าหัวหน้าทีม (Team Captain) จะเปลี่ยนตวั กลับลงมาเล่นอีก หรอื จนกว่าจะส้ินสดุ ในเซตนัน้ (15.2.1/19.1.3) เมอ่ื ลกู ตาย หวั หนา้ ทมี ในสนามแขง่ ขนั เทา่ นน้ั ทมี่ สี ทิ ธเิ์ ปน็ ผแู้ ทนของทมี พดู กบั ผตู้ ัดสนิ เพื่อ (8.2) 5.1.2.1 ขอค�ำอธิบายในการตีความกติกาหรือกติกามาใช้และร้องขอหรือย่ืน ค�ำถามของเพ่ือนร่วมทีม ถ้าคำ� อธิบายไม่เปน็ ที่พอใจ หัวหน้าทีมในสนามแข่งขนั ตอ้ งขอสงวนสิทธิ์ บันทึกการทกั ท้วงอย่างเปน็ ทางการในใบบันทึกการแข่งขัน เมื่อการแข่งขนั สนิ้ สดุ ลง (23.2.4) 5.1.2.2 ขอสทิ ธ์ิ ก. เปลย่ี นชดุ และอปุ กรณก์ ารแขง่ ขนั บางสว่ นหรอื ทง้ั หมด (4.3/4.4.2) ข. ตรวจตำ� แหนง่ ผูเ้ ล่นของทีม (7.4) ค. ตรวจพน้ื สนาม ตาขา่ ย และลูกบอล เปน็ ต้น (1.2/2/3) 5.1.2.3 ถ้าผู้ฝึกสอนไม่อยู่เป็นผู้ท�ำหน้าท่ีขอเวลานอกและเปล่ียนตัวผู้เล่น (15.2.1/15.4/15.5) คมู่ อื ผู้ตัดสินกีฬาวอลเลย์บ ล 163

5.1.3 เมอ่ื สิ้นสุดการแขง่ ขันหวั หนา้ ทีมตอ้ ง : (6.3) 5.1.3.1 แสดงความขอบคณุ ผตู้ ดั สนิ และลงชอ่ื ในใบบนั ทกึ การแขง่ ขนั เพอ่ื รบั รอง ผลการแขง่ ขนั (25.2.3.3) 5.1.3.2 เม่ือมีการแจ้งกับผู้ตัดสินท่ี 1 ไว้แล้ว ก็สามารถยืนยันและบันทึก การทักท้วงอย่างเป็นทางการต่อผู้ตัดสินเก่ียวกับการน�ำกติกามาใช้หรือตีความกติกาลงในใบบันทึก การแข่งขนั (5.12.1/25.2.3.2) 5.2 ผ้ฝู ึกสอน (Coach) 5.2.1 ตลอดการแขง่ ขนั ผฝู้ กึ สอนเปน็ ผคู้ วบคมุ การเลน่ ของทมี ภายนอกสนามแขง่ ขนั เป็นผู้เลือกผู้เล่น 6 คนแรก เปล่ียนตัวผู้เล่นและขอเวลานอก ผู้ฝึกสอนท�ำหน้าท่ีดังกล่าวได้ โดยขอผา่ นทางผตู้ ดั สินที่ 2 (1.1/7.3.2/15.4/15.5) 5.2.2 ก่อนการแข่งขัน ผู้ฝึกสอนต้องบันทึกหรือตรวจสอบรายช่ือและหมายเลข ของผเู้ ลน่ ในใบบันทึกการแขง่ ขัน และลงชือ่ ในใบในทึกการแขง่ ขันนั้น (4.1/19.1.3/25.2.1.1) 5.2.3 ระหวา่ งการแข่งขนั ผู้ฝึกสอนต้อง 5.2.3.1 ยื่นใบส่งต�ำแหน่งของผู้เล่นท่ีลงช่ือแล้วให้ผู้ตัดสินที่ 2 หรือผู้บันทึก ก่อนการแขง่ ขนั ทกุ เซต (7.3.2) 5.2.3.2 นั่งที่ม้าน่ังของทีมซึ่งใกล้กับผู้บันทึกมากที่สุด แต่อาจลุกจากม้าน่ัง ได้เปน็ ครง้ั คราว (4.2) 5.2.3.3 ขอเวลานอกและเปล่ียนตวั ผู้เล่น (15.4/15.5) 5.2.3.4 ผู้ฝึกสอนรวมทั้งผู้ร่วมทีมอ่ืนๆ อาจให้ค�ำแนะน�ำผู้เล่นในสนามได้ โดยผู้ฝึกสอนอาจให้ค�ำแนะน�ำขณะที่ยืนหรือเดินภายในเขตเล่นลูก (Free Zone) ด้านหน้า ของม้าน่ังผู้เล่นส�ำรอง ตั้งแต่แนวที่ยื่นออกมาของเส้นเขตรุก จนถึงพ้ืนที่อบอุ่นร่างกาย แต่ต้อง ไม่รบกวนหรอื ถ่วงเวลาการแข่งขัน (1.3.4/1.4.5) ส�ำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและการแข่งขัน อย่างเป็นทางการ ผู้ฝึกสอนสามารถท�ำหน้าท่ี ณ บริเวณหลังเส้นประ ซึ่งเป็นเขตก�ำหนดให้ ผู้ฝึกสอนท�ำหนา้ ท่ี (ภาพที่ 1a/ภาพที่ 1b/2) 5.3 ผชู้ ว่ ยผู้ฝึกสอน (Assistant Coach) 5.3.1 ผู้ช่วยผฝู้ กึ สอนนง่ั บนม้านั่งของทมี แตไ่ มม่ สี ทิ ธใ์ิ ดๆ ทจี่ ะขอหยดุ การแข่งขนั 5.3.2 ถ้าผู้ฝึกสอนต้องออกจากการท�ำหน้าท่ีด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม รวมถึงการ ถูกลงโทษ แต่ไม่รวมถึงการลงสนามในฐานะผู้เล่น ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนอาจท�ำหน้าท่ีแทนผู้ฝึกสอน ในช่วงเวลาทผ่ี ูฝ้ ึกสอนต้องออกจากการทำ� หน้าที่ โดยการยืนยนั จากหวั หนา้ ทีม (Game Captain) 164 คู่มอื ผตู้ ัดสินกีฬาวอลเลย์บ ล

รู ป((TPoแlบaSบycioขnrอegงaกFPาooรrinแmtข, ่งaTขot)นั Win a Set and the Match) กตกิ าขอ้ ท่ี 6 การไดค้ ะแนน การชนะในแตล่ ะเซต และการชนะในแตล่ ะนดั 6.1 การไดค้ ะแนน (To Score a Point) 6.1.1 คะแนน ทีมจะได้คะแนนเม่อื : 6.1.1.1 ทำ� ให้ลกู บอลตกลงบนพื้นสนามในแดนของทมี ตรงข้าม (8.3/10.1.1) 6.1.1.2 ฝ่ายตรงข้ามทำ� ผดิ กติกา (6.1.2) 6.1.1.3 ฝา่ ยตรงขา้ มถูกท�ำโทษ (16.2.3/21.3.1) 6.1.2 การท�ำผิดกติกา ทีมท�ำผิดกติกาเมื่อกระท�ำลักษณะการเล่นที่ตรงข้ามกับ กตกิ าการแขง่ ขนั (หรอื ขดั กบั กตกิ าดว้ ยวธิ กี ารใดๆ) ผตู้ ดั สนิ จะพจิ ารณาการทำ� ผดิ นนั้ และจะตดั สนิ การทำ� ผิดกตกิ านัน้ ๆ ดงั น้ี 6.1.2.1 ถ้ามีการเล่นผิดกติกาสองอย่างหรือมากกว่าเกิดข้ึนต่อเนื่องกัน จะลงโทษเฉพาะการผิดกตกิ าท่ีเกดิ ขึ้นกอ่ นเทา่ นน้ั 6.1.2.2 ถา้ ทงั้ สองทีมเลน่ ผดิ กตกิ าสองอยา่ งหรือมากกวา่ พร้อมๆ กัน ท้งั สองทมี จะถอื ว่าเปน็ การกระทำ� ผดิ ท้ังคู่ (Double Fault) และจะเลน่ ลกู นนั้ ใหม่ (6.1.2/ภาพที่ 11 (23)) 6.1.3 การเลน่ และการส้ินสุดการเล่น (Rally and completed rally) การเล่น (Rally) เป็นลักษณะการเล่นท่ีเร่ิมต้นตั้งแต่ผู้เสิร์ฟท�ำการเสิร์ฟ จนกระท่ังลูกตาย การส้ินสุดการเล่น (A completed rally) เป็นลักษณะการเล่นที่สิ้นสุดลง ซึ่งมีผลต่อการได้คะแนน การเล่นจะเริ่มและสิน้ สดุ ลงด้วยสัญญาณนกหวดี จากผู้ตัดสิน (8.1/8.2) 6.1.3.1 ถ้าทมี ที่เปน็ ฝา่ ยเสริ ์ฟชนะการเลน่ ลกู จะไดค้ ะแนนและได้เสิร์ฟต่อ 6.1.3.2 ถ้าทีมท่ีเป็นรับลูกเสิร์ฟชนะการเล่นลูกจะได้คะแนนและได้เสิร์ฟ ในครัง้ ต่อไป 6.2 การชนะในแตล่ ะเซต (To Win a Set) (ภาพท่ี 11 (9)) ทีมท่ีท�ำได้ 25 คะแนนก่อน (ยกเว้นเซตตัดสิน) จะเป็นทีมชนะการแข่งขันเซตน้ัน ถ้าท�ำคะแนนได้ 24-24 คะแนนเท่ากัน จะต้องแข่งขันกันต่อไปจนกว่าทีมใดทีมหน่ึงท�ำคะแนนน�ำ อีกทมี หนึ่งอยา่ งนอ้ ยท่สี ดุ 2 คะแนน (26-24, 27-25, ...) (6.3.2) คู่มือผู้ตัดสินกีฬาวอลเลย์บ ล 165

6.3 การชนะในแตล่ ะนัด (To Win the Match) (ภาพท่ี 11 (9)) 6.3.1 ทีมทท่ี ำ� ได้ 3 เซต เป็นทีมทชี่ นะการแข่งขันนดั นัน้ (6.2) 6.3.2 ในกรณที ที่ ำ� ได้ 2-2 เซต เทา่ กนั การแขง่ ขนั ในเซตตดั สนิ (เซตท่ี 5) จะแขง่ ขนั กนั 15 คะแนน และตอ้ งมคี ะแนนนำ� อกี ทมี หนึง่ อย่างน้อยทสี่ ุด 2 คะแนน (7.1) 6.4 ทมี ทผี่ ดิ ระเบยี บการแขง่ ขนั และไมพ่ รอ้ มจะแขง่ ขนั (Default and Incomplete Team) 6.4.1 ถ้าทีมปฏิเสธที่จะแข่งขัน หลังจากได้รับแจ้งให้แข่งขันต่อ ทีมนั้นจะถูกแจ้ง ว่าท�ำผิดระเบียบการแข่งขันและปรับเป็นแพ้ในการแข่งขันนัดนั้น ด้วยผลการแข่งขัน 0-3 เซต และมีคะแนน 0-25 ในแต่ละเซต (6.2/6.3) 6.4.2 ทีมท่ีไม่มาปรากฏตัว ณ สนามแข่งขันตามเวลาที่ก�ำหนด โดยไม่มีเหตุผล อนั สมควร ถอื ว่าผิดระเบียบการแขง่ ขนั และมีผลการแข่งขันเช่นเดยี วกับกติกาขอ้ 6.4.1 6.4.3 ทีมที่ถูกแจ้งว่าไม่พร้อมจะแข่งขันในเซตใดเซตหน่ึง หรือการแข่งขันนัดใด นัดหนง่ึ จะแพใ้ นเซตน้ันหรอื การแขง่ ขนั นดั นัน้ ทมี ตรงข้ามจะได้คะแนนหรอื ไดท้ ้งั คะแนนและเซต เพื่อเป็นทีมชนะในเซตหรือการแข่งขันนัดนั้น ส่วนทีมที่ไม่พร้อมจะแข่งขันจะยังคงได้คะแนน และเซตท่ที �ำไวไ้ ด้ (6.2/6.3/7.3.1) กติกาข้อท่ี 7 โครงสรา้ งของการแข่งขนั (Structure of Play) 7.1 การเสย่ี ง (Toss) ก่อนการแข่งขันผู้ตัดสินที่ 1 จะท�ำการเสี่ยงเพ่ือตัดสินว่าทีมใดจะเสิร์ฟก่อนหรืออยู่ แดนใดในเซตที่ 1 (12.1.1) ถา้ ต้องแข่งขนั เซตตดั สินจะต้องท�ำการเส่ยี งใหม่อกี ครง้ั หนึ่ง (6.3.2) 7.1.1 การเสย่ี งตอ้ งทำ� โดยมหี วั หนา้ ทมี ทง้ั สองทมี ร่วมอยดู่ ว้ ย (5.1) 7.1.2 ผชู้ นะการเสย่ี งจะไดส้ ทิ ธ์เิ ลือกอย่างใดอยา่ งหน่ึงดังน้ี 7.1.2.1 เสิร์ฟหรือรบั ลูกเสริ ์ฟก่อน หรือ (12.1.1) 7.1.2.2 แดนใดแดนหน่งึ ของสนามกไ็ ด้ ผู้แพ้การเสีย่ งจะไดร้ บั ส่วนท่เี หลอื 7.1.3 ในกรณีที่ท�ำการอบอุ่นร่างกายไม่พร้อมกัน ทีมท่ีท�ำการเสิร์ฟก่อนจะท�ำการ อบอุ่นร่างกายทีต่ าขา่ ยก่อน (7.2) 7.2 การอบอ่นุ ร่างกาย (Warm-up Session) 7.2.1 กอ่ นการแขง่ ขนั ถา้ ทมี มสี นามอบอนุ่ รา่ งกายทจี่ ดั ไว้ ทมี จะทำ� การอบอนุ่ รา่ งกาย ทตี่ าขา่ ยพรอ้ มกนั ได้ 6 นาที ถา้ ไมม่ สี นามอบอนุ่ รา่ งกาย จะใชเ้ วลาอบอนุ่ รา่ งกาย 10 นาที 7.2.2 ถา้ หวั หนา้ ทมี มคี วามประสงคท์ จี่ ะอบอนุ่ รา่ งกายแยกกนั แตล่ ะทมี มสี ทิ ธอิ์ บอนุ่ รา่ งกายได้ 3 นาที หรือ 5 นาที ตามกติกาข้อ 7.2.1 (7.2.1) 166 ค่มู ือผู้ตดั สนิ กฬี าวอลเลย์บ ล

7.3 ต�ำแหน่งเรมิ่ ตน้ ของทีม (Team Starting Line-up) 7.3.1 ทีมต้องมผี ู้เลน่ ในสนาม 6 คน ตลอดเวลา (6.4.3) ตำ� แหนง่ เรมิ่ ตน้ ของทมี แสดงถงึ ลำ� ดบั การหมนุ ตำ� แหนง่ ของผเู้ ลน่ ในสนามลำ� ดบั นี้ จะคงอยตู่ ลอดเซตนน้ั (7.6) 7.3.2 ก่อนเรม่ิ การแขง่ ขนั แตล่ ะเซต ผูฝ้ ึกสอนตอ้ งแจ้งตำ� แหน่งเร่มิ ต้นของทีมตนเอง ในใบส่งต�ำแหน่ง ซึง่ เขยี นหมายเลขของผเู้ ลน่ และลงชือ่ ก�ำกับ แล้วสง่ ใหผ้ ้ตู ัดสนิ ที่ 2 หรอื ผบู้ ันทกึ การแขง่ ขัน (5.2.3.1/24.3.1/25.2.1.2) 7.3.3 ผู้เล่นท่ีไม่ได้อยู่ในใบส่งต�ำแหน่งเร่ิมต้นของทีม จะเป็นผู้เล่นส�ำรองในเซตน้ัน (ยกเว้นตวั รับอสิ ระ) (7.3.2/15.5) 7.3.4 เมอื่ ใบสง่ ตำ� แหนง่ เรม่ิ ตน้ เลน่ ถกู นำ� สง่ ใหผ้ ตู้ ดั สนิ ที่ 2 หรอื ผบู้ นั ทกึ การแขง่ ขนั แลว้ จะไม่อนุญาตให้มีการเปล่ียนแปลงใบส่งต�ำแหน่งอีก นอกจากเป็นการเปล่ียนตัวผู้เล่นตามปกติ (15.2.2/15.5) 7.3.5 ถ้าพบว่ามีการผิดพลาดระหว่างใบส่งต�ำแหน่งกับต�ำแหน่งของผู้เล่นในสนาม จะตอ้ งปฏบิ ตั ิดงั น้ี : (24.3.1) 7.3.5.1 ถ้าพบการผิดพลาดก่อนเร่ิมการแข่งขันของเซต ผู้เล่นต้องเปล่ียนตัว ให้เป็นไปตามใบสง่ ต�ำแหนง่ โดยไม่มกี ารลงโทษ (7.3.2) 7.3.5.2 ในท�ำนองเดียวกัน ถ้าพบว่ามีผู้เล่นอยู่ในสนาม โดยไม่ได้ระบุไว้ ในใบส่งต�ำแหน่ง ต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นในสนามให้เป็นไปตามใบส่งต�ำแหน่ง โดยไม่มีการลงโทษ เช่นกัน (7.3.2) 7.3.5.3 อย่างไรก็ตามถ้าผู้ฝึกสอนต้องการให้ผู้เล่นที่ไม่ได้ระบุไว้ในใบส่ง ต�ำแหน่งยังคงอยู่ในสนาม ผู้ฝึกสอนต้องขอเปลี่ยนตัวตามปกติ และต้องบันทึกลงในใบบันทึก การแขง่ ขนั 7.3.5.4 ถ้าพบว่าผู้เล่นท่ีอยู่ในสนามไม่มีช่ือในใบบันทึก ให้คงคะแนนของ ฝา่ ยตรงขา้ มไว้ และไดค้ ะแนนเพม่ิ อกี 1 คะแนน พรอ้ มทง้ั ไดส้ ทิ ธก์ิ ารเสริ ฟ์ ทมี ทท่ี ำ� ผดิ จะเสยี คะแนน และเซตท่ีม�ำได้ทั้งหมดตั้งแต่ผู้เล่นที่ไม่มีชื่อได้ลงสนาม พร้อมท้ังปรับเปลี่ยนใบส่งต�ำแหน่งใหม่ และส่งผ้เู ล่นทีม่ ีช่ือในใบบันทึกลงสนามแทนตำ� แหน่งผ้เู ล่นที่ไม่มีช่ือนั้น 7.4 ต�ำแหน่ง (Position) (ภาพที่ 4) ขณะท่ีผู้เสิร์ฟท�ำการเสิร์ฟ แต่ละทีมต้องอยู่ในแดนของตนเองตามล�ำดับการหมุน ต�ำแหนง่ (ยกเว้นผู้เสิร์ฟ) (7.6.1/8.1/12.4) 7.4.1 ต�ำแหน่งของผเู้ ล่น จ�ำแนกไดด้ ังน้ี คูม่ ือผู้ตัดสินกีฬาวอลเลย์บ ล 167

7.4.1.1 ผเู้ ลน่ แถวหนา้ 3 คน ทอี่ ยใู่ กลต้ าขา่ ยเปน็ ผแู้ ลน่ แถวหนา้ อยใู่ นตำ� แหนง่ ท่ี 4 (หนา้ ซ้าย) ต�ำแหน่งที่ 3 (กลางหน้า) และตำ� แหนง่ ที่ 2 (หน้าขวา) 7.4.1.2 สว่ นอกี 3 คน เปน็ ผเู้ ลน่ แถวหลงั อยใู่ นตำ� แหนง่ ท่ี 5 (หลงั ซา้ ย) ตำ� แหนง่ ที่ 6 (กลางหลงั ) และต�ำแหนง่ ที่ 1 (หลังขวา) 7.4.2 ความเกยี่ วขอ้ งของต�ำแหน่งระหว่างผู้เล่น 7.4.2.1 ผเู้ ลน่ แถวหลงั แตล่ ะคน ตอ้ งมตี ำ� แหนง่ อยหู่ า่ งจากเสน้ แบง่ แดนมากกวา่ คขู่ องตนเองท่ีเปน็ ผู้เลน่ แถวหน้า 7.4.2.2 ผู้เล่นแถวหน้าและแถวหลังแต่ละคู่ต้องอยู่ในต�ำแหน่งข้างเดียวกัน ตามลำ� ดับการหมุนต�ำแหนง่ ทร่ี ะบไุ วใ้ นกตกิ าขอ้ 7.4.1 7.4.3 ตำ� แหนง่ ของผเู้ ลน่ จะพจิ ารณาและควบคมุ จากตำ� แหนง่ ของเทา้ ทแี่ ตะพน้ื (ภาพท่ี 4) 7.4.3.1 ผเู้ ลน่ แถวหนา้ แตล่ ะคน ตอ้ งมสี ว่ นหนง่ึ สว่ นใดของเทา้ อยใู่ กลเ้ สน้ แบง่ แดน มากกวา่ เทา้ ของผเู้ ล่นแถวหลังทเี่ ป็นคูข่ องตน (1.3.3) 7.4.3.2 ผู้เล่นที่อยู่ทางขวา (หรือซ้าย) ต้องมีส่วนใดส่วนหน่ึงของเท้าใกล้กับ เสน้ ข้างทางขวา (หรือซา้ ย) มากกว่าผู้เลน่ ท่อี ยูใ่ นต�ำแหน่งกลางของแถวเดยี วกัน (1.3.2) 7.4.4 เมื่อท�ำการเสิร์ฟลูกบอลออกไปแล้ว ผู้เล่นสามารถเคล่ือนที่ไปอยู่ต�ำแหน่งใด กไ็ ดใ้ นแดนและเขตรอบสนามของตน 7.5 การผิดต�ำแหน่ง (Positional Fault) (ภาพที่ 4/ภาพที่ 11 (13)) 7.5.1 ทีมจะผิดต�ำแหน่ง ถ้าผู้เล่นคนใดคนหนึ่งไม่อยู่ในต�ำแหน่งท่ีถูกต้องขณะที่ ผเู้ สริ ์ฟท�ำการเสิร์ฟลูกบอล ซึง่ รวมถึงผูเ้ ลน่ ทอ่ี ยใู่ นสนามที่เปลีย่ นตัวผิดกติกาด้วย (7.3/7.4/15.9) 7.5.2 ถา้ ผเู้ สริ ฟ์ เสริ ฟ์ ผดิ กตกิ าขณะทที่ ำ� การเสริ ฟ์ จะถอื วา่ การเสริ ฟ์ ผดิ กตกิ าเกดิ ขนึ้ กอ่ นการผดิ ตำ� แหน่งของทีมตรงข้าม (12.4/12.7.1) 7.5.3 ถา้ การเสริ ฟ์ ผดิ กตกิ า หลงั จากทำ� การเสริ ฟ์ ออกไปแลว้ จะถอื วา่ การผดิ ตำ� แหนง่ เกิดขนึ้ ก่อน (12.7.2) 7.5.4 การผดิ ต�ำแหนง่ จะมผี ลตามมาดงั น้ี : 7.5.4.1 ทมี ถกู ทำ� โทษโดยเสยี คะแนนและฝา่ ยตรงขา้ มไดเ้ ปน็ ฝา่ ยเสริ ฟ์ (6.1.3) 7.5.4.2 ปรบั เปล่ยี นตำ� แหนง่ ของผู้เลน่ ใหถ้ กู ตอ้ ง (7.3/7.4) 7.6 การหมนุ ต�ำแหน่ง (Rotation) 7.6.1 ลำ� ดบั การหมนุ ตำ� แหนง่ จะเปน็ ไปตามใบสง่ ตำ� แหนง่ เรมิ่ ตน้ เลน่ ของทมี และควบคมุ ดว้ ยล�ำดับการเสริ ฟ์ และต�ำแหน่งของผเู้ ลน่ ตลอดทง้ั เซต (7.3/7.4.1/12.2) 168 คมู่ ือผู้ตัดสนิ กีฬาวอลเลยบ์ ล

7.6.2 เมื่อทมี รบั ลูกเสิรฟ์ ไดส้ ิทธท์ิ ำ� การเสิร์ฟ ผู้เลน่ ต้องหมุนตำ� แหน่งตามเขม็ นาฬกิ าไป 1 ต�ำแหน่ง ผู้เล่นต�ำแหน่งท่ี 2 จะหมุนไปต�ำแหน่งที่ 1 เพื่อท�ำการเสิร์ฟและผู้เล่นต�ำแหน่งที่ 1 หมนุ ไปตำ� แหน่งท่ี 6 เป็นต้น (12.2.2.2) 7.7 การหมุนต�ำแหนง่ ผดิ (Rotation Fault) (ภาพท่ี 11 (13)) 7.7.1 การหมนุ ตำ� แหนง่ ผดิ เกดิ ขนึ้ เมอ่ื การเสริ ฟ์ ไมเ่ ปน็ ไปตามลำ� ดบั การหมนุ ตำ� แหนง่ และมีผลตามมาดงั น้ี (7.6.1/12) 7.7.1.1 ทีมถูกทำ� โทษโดยฝ่ายตรงขา้ มได้คะแนนและได้เป็นฝา่ ยเสริ ฟ์ (6.1.3) 7.7.1.2 แกไ้ ขต�ำแหน่งของผู้เล่นให้ถกู ตอ้ ง (7.6.1) 7.7.2 ผู้บันทึกต้องหยุดการแข่งขันทันทีท่ีมีการผิดต�ำแหน่งเกิดขึ้นและคะแนน ทท่ี ำ� ไดท้ ง้ั หมดขณะผดิ ตำ� แหนง่ ตอ้ งยกเลกิ สว่ นคะแนนของทมี ตรงขา้ มใหค้ งไวต้ ามเดมิ (25.2.2.2) ถา้ คะแนนขณะผดิ ตำ� แหนง่ ไมส่ ามารถตรวจพบได้ ใหล้ งโทษเพยี งใหฝ้ า่ ยตรงขา้ ม ไดค้ ะแนนและเป็นฝา่ ยเสิรฟ์ เทา่ นัน้ (6.1.3) ค่มู ือผตู้ ดั สินกฬี าวอลเลย์บ ล 169

ลั กษณะของการเลน่ (Playing Action) กติกาขอ้ ท่ี 8 รูปแบบของการเล่น (States of Play) 8.1 ลูกบอลทอี่ ยูใ่ นการเลน่ (Ball in Play) ลกู บอลจะอยใู่ นการเลน่ ตง้ั แตข่ ณะทท่ี ำ� การเสริ ฟ์ โดยผตู้ ดั สนิ ท่ี 1 เปน็ ผอู้ นญุ าต (12.3) 8.2 ลกู บอลทีไ่ ม่ไดอ้ ยูใ่ นการเล่น (Ball out of Play) หรอื ลกู ตาย ลูกบอลไม่ได้อยู่ในการเล่นต้ังแต่ขณะที่มีการท�ำผิดกติกา ซึ่งผู้ตัดสินคนใดคนหนึ่ง จะเปน็ ผใู้ หส้ ญั ญาณนกหวีด การท�ำผดิ กตกิ าส้นิ สุดลงพรอ้ มๆ กบั สัญญาณนกหวีด 8.3 ลกู บอลลงในสนาม (Ball in) หรือลกู ดี (ภาพที่ 11(14) และภาพที่ 12 (1)) ลกู บอลลงในสนามเมอื่ ลกู บอลถกู พน้ื สนามแขง่ ขนั รวมทง้ั เสน้ เขตสนาม (1.1/1.3.2) 8.4 ลกู บอลออกนอกสนาม (Ball out) หรือลูกออก (ภาพท่ี 11(15)) ลกู บอลออกนอกสนามเมือ่ : 8.4.1 บางส่วนของลูกบอลตกลงพ้ืนนอกเส้นเขตสนามอย่างสมบูรณ์ (1.3.2/ ภาพท่ี 11 (15) และภาพที่ 12 (2)) 8.4.2 ลูกบอลถูกส่ิงกีดขวางท่ีอยู่ภายนอกสนาม เพดาน หรือผู้ท่ีไม่ได้แข่งขัน (ภาพที่ 11 (5) และภาพที่ 12 (4)) 8.4.3 ลูกบอลถูกเสาอากาศ เชือก เสา หรือตาข่ายที่อยู่นอกแถบข้าง (2.3/ ภาพท่ี 12 (4)/ภาพท่ี 5 และภาพที่ 11 (15)) 8.4.4 ลูกบอลข้ามตาข่ายทั้งลูกหรือเพียงส่วนใดส่วนหน่ึงของลูก นอกเขตแนว ข้ามตาข่ายที่ก�ำหนดให้ ยกเว้นกรณีกติกาข้อ 10.1.2 (10.1.1/ภาพท่ี 5/ภาพที่ 11 (15) และ ภาพที่ 12 (4)) 8.4.5 ลูกบอลลอดใต้ตาข่ายไปยังแดนของทีมตรงข้ามอย่างสมบูรณ์ (23.3.2.3f/ ภาพที่ 5 และภาพท่ี 11 (22)) กติกาข้อท่ี 9 การเล่นลกู บอล (Playing the Ball) แต่ละทีมต้องเล่นลูกบอลภายในพื้นท่ีเล่นลูกและพื้นที่ว่างเหนือตาข่ายของทีมตนเอง (ยกเว้นกติกาขอ้ 10.1.2) อย่างไรก็ตามผเู้ ล่นสามารถนำ� ลูกบอลกลับมาเล่นจากเขตรอบนอกได้ 170 คมู่ อื ผู้ตดั สินกฬี าวอลเลยบ์ ล

9.1 การถกู ลกู บอลของทมี (Team Hits) การถูกลูกบอล (A hit) เป็นการสัมผัสลูกบอลโดยผู้เล่นท่ีอยู่ในการเล่นทุกลักษณะ ทมี ถกู ลกู บอลไดม้ ากทสี่ ดุ 3 ครงั้ (นอกจากทำ� การสกดั กน้ั ตามกตกิ าขอ้ 14.4.1) เพอ่ื สง่ ลกู บอลกลบั ไปยงั ทมี ตรงข้าม ถา้ ถกู ลกู บอลมากกวา่ นี้ ถอื ว่าทีมผิดกติกา “ถูกลกู 4 ครง้ั ” 9.1.1 การถูกลกู บอลอย่างต่อเนอ่ื ง (Consecutive Contacts) ผเู้ ลน่ จะถกู ลกู บอล 2 ครงั้ ตดิ ตอ่ กนั ไมไ่ ด้ (ยกเวน้ กตกิ าขอ้ 9.2.3/14.2/14.4.2) (9.2.3/14.2/14.4.2) 9.1.2 การถกู ลูกบอลพร้อมกนั (Simulteneous Contacts) ผู้เลน่ 2 คน หรอื 3 คน อาจถกู ลูกบอลพรอ้ มๆกัน ได้ในเวลาเดยี วกัน 9.1.2.1 เม่อื ผเู้ ล่นทีมเดยี วกัน 2 คน หรอื 3 คน อาจถูกลูกบอลพร้อมๆ กัน จะถือว่าเป็นการถูกลูกบอล 2 คร้ัง หรือ 3 ครั้ง ยกเว้นเมื่อท�ำการสกัดก้ัน ถ้าผู้เล่นหลายคน ถงึ ลกู บอลพร้อมกัน แต่มผี ู้เล่นถูกลูกบอลเพยี งคนเดียว จะถอื ว่าถกู ลูกบอล 1 ครัง้ ถงึ แมว้ ่าผู้เล่น จะชนกนั ก็ไมถ่ ือว่าผดิ กตกิ า 9.1.2.2 เม่ือท้ังสองฝ่ายถูกลูกบอลพร้อมๆ กันเหนือตาข่ายและยังเล่นลูกน้ัน ตอ่ ไปได้ ทมี ทร่ี บั ลกู นน้ั สามารถถกู ลกู บอลไดอ้ กี 3 ครง้ั ถา้ ลกู บอลออกนอกสนาม จะถอื วา่ ทมี ทอี่ ยู่ ฝ่ังตรงข้ามกับลกู บอลเป็นฝา่ ยท�ำลกู บอลออกนอกสนาม 9.1.2.3 ถา้ การถกู ลกู บอลพรอ้ มๆ กนั ของทงั้ สองฝา่ ยเหนอื ตาขา่ ยและมกี ารพกั ลูกบอลเลน่ ลูกบอลนัน้ จะเลน่ ตอ่ ไป (9.1.2.2) 9.1.3 การถูกลกู บอลโดยมีการชว่ ยเหลอื (Assissted Hit) ภายในบริเวณพ้ืนที่เล่นลูก ไม่อนุญาตให้ผู้เล่นอาศัยเพื่อนร่วมทีมหรือส่ิงใดๆ ชว่ ยให้ไปถึงลกู บอล (1) อยา่ งไรกต็ ามผเู้ ลน่ ทกี่ ำ� ลงั จะทำ� ผดิ กตกิ า (ถกู ตาขา่ ยหรอื ขา้ มเสน้ แบง่ แดน ฯลฯ) อาจไดร้ ับการฉดุ หรอื ดึงโดยเพ่อื นรว่ มทีมได้ 9.2 ลักษณะของการถกู ลกู บอล (Characteristic of the Hit) 9.2.1 ลูกบอลอาจถกู ส่วนใดส่วนหนึง่ ของรา่ งกายได้ 9.2.2 การถกู ลกู บอลตอ้ งเปน็ การกระทบ ไมใ่ หจ้ บั และ/หรอื ทมุ่ ลกู บอลจะกระดอน กลบั ไปในทิศทางใดก็ได้ 9.2.3 ลกู บอลอาจถูกหลายส่วนของร่างกายได้ ถ้าการถกู น้นั เกดิ ข้นึ พรอ้ มๆ กนั ข้อยกเว้น : 9.2.3.1 ในการสกัดก้ัน ลูกบอลอาจถูกผู้สกัดกั้นคนเดียวหรือมากกว่า ติดตอ่ กันได้ ถ้าการถูกลกู บอลนัน้ เป็นลักษณะการถูกลกู บอลเพียงคร้งั เดียว (During one action) (14.1.1/14.2) ค่มู ือผ้ตู ัดสนิ กีฬาวอลเลยบ์ ล 171

9.2.3.2 การถูกลูกบอลครงั้ แรกของทีม (ยกเวน้ กตกิ าข้อ 9.2.4) ลกู บอล อาจถูกส่วนต่างๆ ของร่างกายต่อเนื่องกันได้ ถ้าการถูกลูกบอลเป็นลักษณะการถูกลูกคร้ังเดียว (During one action) (9.1/14.4.1) 9.2.4 ในขณะรับลูกเสิร์ฟ ถ้าเป็นการรับด้วยลูกมือบนด้วยนิ้วมือ (Overhand finger action) คอื การเซตลกู (Setting action) ในลกั ษณะสองจงั หวะ (Double contact) หรือ จับยดึ ลูก (Catch) ถอื วา่ เปน็ การทำ� ผดิ กตกิ า 9.3 การท�ำผดิ กตกิ าในการเลน่ ลกู บอล (Fault in Playing the Ball) 9.3.1 การถูกลูกบอล 4 ครง้ั (Four Hit) ทีมถูกลูกบอล 4 คร้ัง กอ่ นส่งลูกบอล ไปยังทมี ตรงขา้ ม (9.1/ภาพท่ี 11 (18)) 9.3.2 การถกู ลกู บอลโดยมกี ารชว่ ยเหลอื (Assissted Hit) ผเู้ ลน่ อาศยั เพอื่ นรว่ มทมี หรอื สง่ิ ของใดๆ ช่วยให้เขา้ ถงึ ลกู บอลภายในบรเิ วณพนื้ ทเ่ี ล่นลูก (9.1.3) 9.3.3 การจับลกู บอล (Catch) เป็นการจบั หรือท่มุ ลูกบอล ลูกบอลไมไ่ ด้กระดอน จากจดุ สัมผัส (9.2.2/ภาพที่ 11 (16)) 9.3.4 การถกู ลกู บอล 2 ครัง้ (Double Contact) ผู้เลน่ ถกู ลูกบอล 2 ครง้ั หรือ ลกู บอลถูกส่วนต่างๆ ของรา่ งกายหลายสว่ น (9.2.3/ภาพท่ี 11 (17)) กติกาขอ้ ท่ี 10 ลกู บอลที่บริเวณตาข่าย (Ball at The Net) 10.1 การข้ามตาขา่ ยของลูกบอล (Ball Crossing the Net) 10.1.1 ลูกบอลที่ส่งไปยังแดนของทีมตรงข้าม ต้องข้ามเหนือตาข่ายภายในพ้ืนที่ ส�ำหรับส่งลูกบอลข้ามตาข่าย พื้นท่ีส�ำหรับส่งลูกบอลข้ามตาข่าย คือ พื้นท่ีในแนวต้ังของตาข่าย ทีถ่ กู ก�ำหนดดว้ ยสิง่ ตอ่ ไปนี้ (10.2/ภาพท่ี 5) 10.1.1.1 สว่ นต่ำ� สดุ โดยขอบบนของตาขา่ ย (2.2) 10.1.1.2 ด้านขา้ ง โดยเสาอากาศและแนวสมมตุ ิที่สงู ขนึ้ ไป (2.4) 10.1.1.3 ส่วนบนสดุ โดยเพดาน 10.1.2 ลูกบอลท่ีข้ามแนวตาข่ายไปยังเขตรอบสนามของทีมตรงข้ามทุกส่วนของลูก หรือเพียงบางส่วนของลูกบอลภายนอกแนวข้ามตาข่าย ลูกบอลนั้นสามารถน�ำกลับมาเล่นต่อได้ โดยเลน่ ลกู ไมเ่ กนิ 3 ครั้ง ถา้ (9.1) 10.1.2.1 ผูเ้ ล่นตอ้ งไม่ถูกแดนของทีมตรงข้าม (11.2.2) 101.2.2 ลูกบอลท่ีน�ำกลับมา ต้องข้ามนอกเขตข้ามตาข่ายของลูกบอล ทางดา้ นเดยี วกนั ของสนามทงั้ ลกู หรอื เพยี งบางสว่ นของลกู ทมี ตรงขา้ มจะกดี ขวางการเลน่ ลกู นไ้ี มไ่ ด้ 172 ค่มู ือผูต้ ัดสินกฬี าวอลเลยบ์ ล

10.1.3 ลูกบอลท่ีก�ำลังจะเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้ามบริเวณใต้ตาข่าย เป็นลูกที่อยู่ในการเล่น จนกระท่ังลูกบอลท้ังลูกได้ผ่านแนวใต้ตาข่ายโดยสมบูรณ์ (ภาพท่ี 5/ ภาพที่ 11 (22)/23.3.2.3f) 10.2 การถกู ตาขา่ ยของลกู บอล (Ball Touching the Net) ลกู บอลอาจถูกตาข่ายได้ขณะทก่ี �ำลงั ข้ามตาข่าย (10.1.1) 10.3 ลกู บอลท่ชี นตาขา่ ย (Ball in the Net) 10.3.1 ลูกบอลท่ีพุ่งชนตาข่าย ยังเล่นต่อไปได้จนครบ 3 คร้ัง ตามก�ำหนด การเล่นลูก (9.1) 10.3.2 ถา้ ลกู บอลทำ� ใหต้ าของตาขา่ ยขาดหรอื ทำ� ใหต้ าขา่ ยหลดุ ใหย้ กเลกิ การเลน่ ลกู ครัง้ นัน้ และให้เล่นใหม่ กตกิ าข้อที่ 11 ผูเ้ ลน่ ทบ่ี ริเวณตาขา่ ย (Player at The Net) 11.1 การล�ำ้ เหนอื ตาขา่ ย (Reaching Beyond the Net) 11.1.1 ในการสกัดกั้น ผู้สกัดก้ันอาจล้�ำตาข่ายเข้าไปถูกลูกบอลได้ถ้าไม่กีดขวาง การเลน่ ลกู ของทีมตรงขา้ ม โดยไมถ่ ูกลูกบอลกอ่ นหรอื ขณะท่ีทีมตรงข้ามทำ� การรุก (14.1/14.3) 11.1.2 ภายหลังการรุก มอื ของผู้เลน่ อาจลำ�้ ตาข่ายได้ ถา้ ขณะถูกลูกบอลเป็นการ ถูกลกู บอลในแดนของทมี ตนเอง 11.2 การลำ้� ใต้ตาขา่ ย (Penetration under the Net) 11.2.1 อนุญาตให้ล้�ำเข้าไปในที่ว่างใต้ตาข่ายของฝ่ายตรงข้ามได้ ถ้าไม่กีดขวาง การเล่นของฝ่ายตรงขา้ ม 11.2.2 การล้�ำเส้นแบ่งแดนเข้าไปในแดนของทีมตรงข้าม (1.3.3/11.2.2.1/ ภาพที่ 11 (22)) 11.2.2.1 อนุญาตให้สัมผัสพื้นสนามของฝ่ายตรงข้ามด้วยเท้าหรือ สองเทา้ ได้ ทัง้ น้จี ะตอ้ งมีส่วนใดสว่ นหนง่ึ ของเทา้ น้นั สัมผัส หรอื อยเู่ หนอื เสน้ แบง่ แดน (1.3.3/ และภาพท่ี 11 (22)) 11.2.2.2 อนุญาตให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายที่อยู่เหนือเท้าข้ึนไปสัมผัส พน้ื สนามของฝา่ ยตรงขา้ มได้ ทงั้ นจ้ี ะตอ้ งไมก่ ดี ขวางการเลน่ ของฝา่ ยตรงขา้ ม (1.3.3/ 11.2.2.1/ ภาพท่ี 11 (22)) 11.2.3 ผเู้ ล่นอาจเข้าไปในแดนของทีมตรงขา้ มไดห้ ลังจากลกู ตายแล้ว (8.2) 11.2.4 ผเู้ ลน่ อาจเขา้ ไปในเขตรอบสนามของทีมตรงข้ามได้ ถ้าไม่กดี ขวางการเล่น ของทมี ตรงข้าม คมู่ ือผ้ตู ัดสนิ กฬี าวอลเลยบ์ ล 173

11.3 การถูกตาขา่ ย (Contact with the Net) 11.3.1 การถูกตาข่ายไม่ถือว่าผิดกติกา นอกจากเป็นการรบกวนการเล่นของ ทีมตรงข้าม (11.4.4/24.3.2.3/24.3.2.3c/ภาพที่ 3) 11.3.2 ผู้เล่นสามารถถูกเสา เชือก หรือส่วนอ่ืนๆ ท่ีอยู่นอกเสาอากาศรวมถึง ตัวตาข่ายได้ ท้งั น้จี ะต้องไมร่ บกวนการเลน่ ของทมี ตรงข้าม (ภาพท่ี 3) 11.3.3 ขณะท่ีลูกบอลพุ่งเข้าชนตาข่ายและท�ำให้ตาข่ายถูกผู้เล่น ไม่ถือว่าเป็น การทำ� ผดิ กตกิ า 11.4 ผเู้ ล่นท�ำผดิ บรเิ วณตาข่าย (Player fault at the Net) 11.4.1 ผเู้ ลน่ ถกู ลกู บอลหรอื ถกู ผเู้ ลน่ ทมี ตรงขา้ มในแดนของทมี ตรงขา้ มหรอื ระหวา่ ง ทที่ มี ตรงข้ามทำ� เกมรกุ (11.1.1/ภาพท่ี 11 (20)) 11.4.2 ผเู้ ลน่ รบกวนการเลน่ ของฝา่ ยตรงขา้ ม ในขณะทล่ี ำ้� แนวใตต้ าขา่ ยเขา้ ไป ในแดนของฝา่ ยตรงข้าม (11.2.1) 11.4.3 เท้าใดเท้าหน่ึงหรือสองเท้าของผู้เล่นล้�ำเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้าม โดยสมบรู ณ์ (11.2.2.2/ภาพท่ี 11 (22)) 11.4.4 ผู้เล่นรบกวนการเลน่ ของฝา่ ยตรงขา้ มโดย : (11.3.1) 11.4.4.1 ถูกขอบบนของตาข่ายหรือเสาอากาศส่วนท่ีอยู่เหนือตาข่าย ข้นึ ไป 80 เซนตเิ มตร ในขณะก�ำลังเลน่ ลูก หรอื (11.3.1/ภาพท่ี 11 (19)) 11.4.4.2 ใชต้ าขา่ ยเพือ่ ช่วยเหลอื ในขณะก�ำลังเล่นลกู บอล หรอื 11.4.4.3 กระท�ำในส่ิงที่ไม่ยุตธิ รรมต่อฝ่ายตรงขา้ ม หรอื 11.4.4.4 การกระท�ำในลกั ษณะทเี่ ปน็ การขดั ขวางความพยายามในการเลน่ ของฝา่ ยตรงข้าม กติกาขอ้ ท่ี 12 การเสริ ฟ์ (Service) การเสิร์ฟเป็นการน�ำลูกบอลเข้าสู่การเล่น โดยผู้เล่นต�ำแหน่งหลังขวาอยู่ในเขตเสิร์ฟ (8.1/12.4.1) 12.1 การเสิรฟ์ ครั้งแรกในแตล่ ะเซต (First Service in a Set) 12.1.1 การเสริ ์ฟครั้งแรกในเซตท่ี 1 และเซตตัดสิน (เซตท่ี 5) จะท�ำโดยผลมาจาก การเสยี่ ง (6.3.2/7.1) 12.1.2 ในเซตอน่ื ๆ ทมี ทไ่ี มไ่ ดเ้ สริ ฟ์ ลกู แรกในเซตทผี่ า่ นมาจะเปน็ ทมี ทท่ี ำ� การเสริ ฟ์ ลูกแรก 174 คู่มอื ผู้ตัดสินกฬี าวอลเลย์บ ล

12.2 ล�ำดบั การเสิรฟ์ (Service Order) 12.2.1 ลำ� ดบั การเสริ ฟ์ ของผเู้ ลน่ ตอ้ งเปน็ ไปตามทบี่ นั ทกึ ไวใ้ นใบสง่ ตำ� แหนง่ (7.3.1/7.3.2) 12.2.2 หลงั จากการเสริ ฟ์ ครง้ั แรกในแตล่ ะเซต ผเู้ ลน่ ทเี่ สริ ฟ์ ครง้ั ตอ่ ไปจะเปน็ ดงั น้ี (12.1) 12.2.2.1 เม่ือฝ่ายเสิร์ฟชนะการเล่นลูกน้ัน ผู้ที่ท�ำการเสิร์ฟอยู่แล้ว (หรือ ผเู้ ล่นส�ำรองทเี่ ปล่ียนตัวเขา้ มาแทน) จะท�ำการเสิรฟ์ ต่อ (6.1.3/15.5) 12.2.2.2 เมอ่ื ฝา่ ยรบั ลกู เสริ ฟ์ ชนะในการเลน่ ลกู นนั้ จะไดส้ ทิ ธทิ์ ำ� การเสริ ฟ์ และต้องหมุนต�ำแหน่งก่อนท�ำการเสิร์ฟ ผู้เล่นที่หมุนจากต�ำแหน่งหน้าขวาไปยังต�ำแหน่งหลังขวา จะเป็นผู้เสิร์ฟ (6.1.3/7.6.2) 12.3 การอนุญาตใหท้ �ำการเสิร์ฟ (Authorization of the Service) ผตู้ ดั สนิ ท่ี 1 เปน็ ผอู้ นุญาตใหท้ �ำการเสิรฟ์ หลังจากตรวจดูวา่ ทมี ทั้งสองทมี พร้อมจะ แข่งขันและผเู้ สริ ฟ์ ไดถ้ อื ลกู บอลไวแ้ ล้ว (12/ภาพที่ 11 (1)) 12.4 การปฏิบตั ใิ นการเสริ ฟ์ (Execution of the Service) (ภาพที่ 11 (10)) 12.4.1 จะต้องเสิร์ฟด้วยมือเดียวหรือส่วนใดส่วนหน่ึงของแขนเพียงข้างเดียว หลงั จากผ้เู สิร์ฟโยนหรอื ปล่อยลูกบอลออกจากมอื แล้ว 12.4.2 อนุญาตให้โยนหรือปล่อยลูกบอลเพ่ือท�ำการเสิร์ฟได้เพียงคร้ังเดียว แตอ่ นญุ าตใหเ้ ดาะหรอื เคลือ่ นไหวลูกบอลในมอื ได้ 12.4.3 ขณะทำ� การเสริ ฟ์ หรอื กระโดดเสริ ฟ์ ผเู้ สริ ฟ์ ตอ้ งไมถ่ กู พน้ื เขตสนาม (รวมทงั้ เส้นหลังด้วย) หรือพ้นื นอกเขตเสิรฟ์ (14.2/27.2.1.4/ภาพท่ี 12 (22)) หลงั จากทำ� การเสริ ์ฟแล้ว ผเู้ สริ ฟ์ สามารถเหยียบหรือถูกพ้ืนนอกเขตเสริ ์ฟ หรอื พืน้ ในเขตสนามได้ 12.4.4 ผเู้ สริ ฟ์ ตอ้ งทำ� การเสริ ฟ์ ลกู ภายใน 8 วนิ าที หลงั จากผตู้ ดั สนิ ที่ 1 เปา่ นกหวดี ให้ทำ� การเสิรฟ์ (12.3/ภาพท่ี 11 (12)) 12.4.5 การเสริ ์ฟก่อนสญั ญาณนกหวีดให้ยกเลิก และให้ทำ� การเสิร์ฟใหม่ (12.3) 12.5 การก�ำบัง (Screening) (ภาพท่ี 11 (12)) 12.5.1 ผู้เล่นของทีมท่ีท�ำการเสิร์ฟคนเดียวหรือหลายคนก็ตามต้องไม่บังทีมตรงขา้ ม เพอื่ มใิ หม้ องเห็นผเู้ สริ ์ฟหรือวถิ ขี องลูกบอล (12.5.2) 12.5.2 ถ้าเป็นผู้เล่นคนเดียวหรือหลายคนของทีมที่ท�ำการเสิร์ฟเคลื่อนไหวแขน กระโดด หรอื เคลื่อนทีไ่ ปข้างๆ ขณะท่กี �ำลังท�ำการเสริ ์ฟ หรือยืนเปน็ กลุ่มเพื่อบังผเู้ สริ ์ฟและวิถขี อง ลูกบอล (12.4/ภาพท่ี 6) คู่มอื ผ้ตู ดั สนิ กีฬาวอลเลยบ์ ล 175

12.6 การกระท�ำผิดระหวา่ งท�ำการเสิร์ฟ (Faults Made During the Service) 12.6.1 การเสิร์ฟที่ผิดกติกา การผิดกติกาต่อไปน้ีจะต้องเปลี่ยนเสิร์ฟ ถึงแม้ว่า ทมี ตรงขา้ มจะผิดตำ� แหนง่ (12.2.2.2/12.7.1) 12.6.1.1 ทำ� การเสิรฟ์ ผดิ ล�ำดับการเสิรฟ์ (12.2) 12.6.1.2 ทำ� การเสิร์ฟไม่ถกู ตอ้ ง (12.4) 12.6.2 การผดิ กติกาหลังจากเสิร์ฟ หลังจากเสิร์ฟลูกบอลออกไปอย่างถูกต้องแล้ว การเสิร์ฟน้ันจะผิดกติกา (ยกเว้นผู้เลน่ ผดิ ต�ำแหนง่ ) ถา้ : (12.4/12.7.2) 12.6.2.1 ลูกบอลถูกผู้เล่นของทีมท่ีท�ำการเสิร์ฟหรือไม่ข้ามผ่านพ้ืนที่ว่าง เหนอื ตาข่ายอยา่ งสมบูรณ์ (8.4.4/8.4.5/10.1.1/ภาพท่ี 11 (15)) 12.6.2.2 ลูก “ออก” (8.4/ภาพท่ี 11 (15)) 12.6.2.3 ลูกบอลผ่านเหนือการก�ำบัง (12.5/ภาพที่ 11 (12)) 12.7 การผิดกติกาหลังจากการเสิร์ฟและการผิดต�ำแหน่ง (Faults Made After the Service and Positional Fault) 12.7.1 ถ้าผู้เสิร์ฟท�ำการเสิร์ฟผิดกติกาขณะเสิร์ฟ (เสิร์ฟไม่ถูกต้องหรือผิดล�ำดับ การเสริ ์ฟ เปน็ ต้น) และทีมตรงขา้ มผิดตำ� แหนง่ การเสิรฟ์ ผดิ กตกิ าจะถูกท�ำโทษ (7.5.1/7.5.2/12.6.1) 12.7.2 ถ้าการเสิร์ฟกระท�ำไปอย่างถูกต้อง แต่เป็นลูกเสียในเวลาต่อมา (ลูกออก หรอื ผา่ นเหนอื การกำ� บงั เปน็ ตน้ ) จะถอื วา่ การผดิ ตำ� แหนง่ เกดิ ขนึ้ กอ่ น และจะทำ� โทษการผดิ ตำ� แหนง่ (7.5.3/12.6.2) กตกิ าข้อที่ 13 การรุก (Attack Hit) 13.1 การรุก (Attack Hit) (12/14.1.1) 13.1.1 การกระทำ� ใดๆ ทส่ี ง่ ลกู บอลไปยงั ทมี ตรงขา้ ม ยกเวน้ การเสริ ฟ์ และการสกดั กนั้ ถอื วา่ เป็นการรุก (ภาพท่ี 2) 13.1.2 ขณะทำ� การรกุ อนุญาตใหใ้ ชป้ ลายนว้ิ เล่นลูกได้ ถ้าการถกู ลกู เปน็ ไปอย่าง ชัดเจน และไมไ่ ดเ้ ป็นการจบั หรอื ทมุ่ ลกู บอลออกไป (9.2.2) 13.1.3 การรุกจะสมบูรณ์ เมื่อลูกได้ข้ามแนวดิ่งของตาข่ายไปแล้วท้ังลูก หรือ เมอ่ื ทีมตรงขา้ มถูกลูกบอล 13.2 ข้อจัดของการรุก (Restrictions of the Attack Hit) 13.2.1 ผู้เล่นแถวหน้าสามารถท�ำการรุกได้ทุกระดับความสูง ถ้าการถูกลูกบอล อยภู่ ายในแดนของตนเอง (ยกเวน้ กติกาข้อ 13.2.4) (7.4.1.1) 176 คมู่ อื ผู้ตัดสนิ กีฬาวอลเลยบ์ ล

13.2.2 ผเู้ ล่นแถวหลงั สามารถท�ำการรกุ ไดท้ กุ ระดบั ความสูงจากหลังแดนหนา้ โดย : (1.4.1/7.4.1.2/19.3.1.2/ภาพท่ี 8) 13.2.2.1 ขณะกระโดด เท้าข้างหนึ่ง (ท้ังสองข้าง) ต้องไม่แตะหรือ ข้ามเสน้ รุก (1.3.4) 13.2.2.2 หลงั จากตบลูกแลว้ สามารถลงยนื ในเขตรุกได้ (1.4.1) 13.2.3 ผู้เล่นแถวหลังสามารถท�ำการรุกในเขตรุกได้ ถ้าขณะถูกลูกบอลนั้น มสี ่วนของลูกบอลอยู่ตำ�่ กว่าขอบบนสดุ ของตาข่าย (1.4.1/7.4.1.2/ภาพที่ 8) 13.2.4 ไม่อนุญาตให้ผู้เล่นท�ำการรุกโดยสมบูรณ์จากลูกท่ีมาจากการเสิร์ฟของ ทมี ตรงขา้ ม โดยในขณะทำ� การรกุ ลกู บอลอยใู่ นเขตรกุ และอยเู่ หนอื ขอบบนสดุ ของตาขา่ ยทง้ั ลกู (1.4.1) 13.3 การรุกทผี่ ดิ กติกา (Fault of the Attack Hit) 13.3.1 ตบลกู บอลในแดนของทีมตรงข้าม (13.2.1/ภาพท่ี 11 (20)) 13.3.2 ตบลกู บอลออกนอกเขตสนาม (8.4/ภาพที่ 11 (15)) 13.3.3 ผู้เล่นแถวหลังท�ำการรุกโดยสมบูรณ์ในเขตรุก ขณะท่ีลูกบอลอยู่เหนือ ขอบบนสดุ ของตาข่ายท้งั ลกู (1.4.1/7.4.1.2/13.2.3/ภาพท่ี 11 (21)) 13.3.4 ผู้เล่นท�ำการรุกโดยสมบูรณ์จากลูกที่มาจากการเสิร์ฟของฝ่ายตรงข้าม โดยในขณะที่ลูกบอลอยู่ในเขตรุกและอยู่เหนือขอบบนสุดของตาข่ายทั้งลูก (1.4.1/13.2.4/ ภาพท่ี 11 (21)) 13.3.5 ตวั รบั อสิ ระทำ� การรกุ โดยสมบรู ณ์ ถา้ ขณะทำ� การรกุ ลกู บอลทงั้ ลกู อยเู่ หนอื ขอบบนสุดของตาข่าย (19.3.1.2/23.3.2.3d/ภาพที่ 11 (21)) 13.3.6 ผู้เล่นท�ำการรุกโดยสมบูรณ์ขณะลูกบอลอยู่เหนือขอบบนสุดของตาข่าย จากลกู ทต่ี วั รบั อสิ ระอยใู่ นแดนหนา้ และใชน้ วิ้ มอื สง่ ลกู บอลมาใหด้ ว้ ยการลกู มอื บน (1.4.1/19.3.1.4/ 23.3.2.3e และภาพที่ 11 (21)) กติกาข้อที่ 14 การสกัดกน้ั (Block) 14.1 การสกัดก้ัน (Blocking) 14.1.1 การสกัดก้ัน คือ การเล่นโดยผู้เล่นที่อยู่ชิดตาข่ายย่ืนมือขึ้นสูงกว่าระดับ สงู สดุ ของตาขา่ ย ทำ� การปอ้ งกนั ลกู บอลทจี่ ะมาจากทมี ตรงขา้ ม ผเู้ ลน่ แถวหนา้ เทา่ นนั้ ทไ่ี ดร้ บั อนญุ าต ให้ทำ� การสกดั กนั้ โดยสมบูรณ์ได้ โดยขณะทถี่ ูกลกู บอลนนั้ ส่วนของรา่ งกายตอ้ งอยู่เหนือขอบบนสุด ของตาขา่ ย (7.4.1.1) 14.1.2 ความพยายามทำ� การสกดั กน้ั คอื ลกั ษณะของการทำ� การสกดั กน้ั แตไ่ มถ่ กู ลกู บอล 14.1.3 การสกดั ก้นั โดยสมบรู ณ์ คือ การสกัดก้นั ทีผ่ สู้ กดั กั้นถกู ลกู บอล (ภาพท่ี 7) คู่มอื ผตู้ ดั สินกีฬาวอลเลยบ์ ล 177

14.1.4 การสกดั กนั้ เปน็ กลมุ่ คอื การสกดั กน้ั โดยผเู้ ลน่ สองหรอื สามคนทอ่ี ยใู่ กลค้ น การสกัดกน้ั จะสมบูรณ์เมอ่ื ผู้เล่นคนใดคนหนง่ึ ถกู ลูกบอล 14.2 การถูกลกู บอลขณะท�ำการสกดั ก้ัน (Block Contact) การถูกลูกบอลหลายครั้ง (อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง) โดยผู้สกัดกั้นคนเดียวหรือ มากกว่าอาจเกดิ ขึน้ ได้ ถา้ การถกู ลกู น้นั เปน็ ลักษณะท�ำการสกดั กัน้ เพียงครั้งเดียว (9.1.1/9.2.3) 14.3 การสกดั กน้ั ในแดนของทมี ตรงขา้ ม (Blocking within the Opponent’s Space) ในการสกดั กน้ั ผเู้ ลน่ สามารถยน่ื มอื และแขนลำ�้ เหนอื ตาขา่ ยได้ ถา้ ไมก่ ดี ขวางการเลน่ ของทีมตรงข้าม จะไม่อนุญาตให้ถูกลูกบอลในแดนของทีมตรงข้ามก่อนท่ีที่ตรงข้ามจะถูกลูกบอล เพื่อท�ำการรุกแล้ว (13.1.1) 14.4 การสกดั กนั้ และการถูกลกู บอลของทีม (Block and Team Hits) 14.4.1 การถูกลูกบอลโดยการสกัดกั้น จะไม่นับเป็นการถูกลูกบอลของทีม หลังจากถูกลูกบอลโดยการสกัดก้ันแล้ว ทีมน้ันยังถูกลูกบอลได้อีก 3 ครั้ง เพ่ือส่งลูกกลับไปยัง ทมี ตรงขา้ ม (9.1/14.4.2) 14.4.2 หลังจากท�ำการสกัดกั้น ผู้ถูกลูกแรกจะเป็นผู้เล่นคนใดคนหน่ึง รวมท้ัง ผเู้ ล่นท่ถี กู ลกู บอลในการก้ันด้วยกไ็ ด้ (14.4.1) 14.5 การสกัดกั้นลูกเสิร์ฟ (Blocking the Service) ห้ามสกัดกั้นลูกบอลทม่ี าจากการเสริ ์ฟของทมี ตรงข้ามเสิรฟ์ (ภาพที่ 11 (12)) 14.6 การสกัดกนั้ ท่ผี ิดกติกา (Blocking Fault) 14.6.1 ผู้สกัดกั้นถูกลูกบอลในแดนของทีมตรงข้าม ก่อนหรือพร้อมกับการถูกลูก เพ่ือทำ� การรุกของทีมตรงขา้ ม (ภาพท่ี 11 (12)/ 14.3) 14.6.2 ผู้เล่นแถวหลังหรือตัวรับอิสระท�ำการสกัดก้ันโดนสมบูรณ์ หรือร่วมกลุ่ม ทำ� การสกดั กัน้ โดยสมบรู ณ์ (14.1/14.5/19.3.1.3) 14.6.3 สกัดกั้นการเสิรฟ์ ของทมี ตรงขา้ ม (14.5/ภาพที่ 11 (12)) 14.6.4 ลูกบอลถูกสกัดก้นั แล้วออกนอกเขตสนาม (8.4) 14.6.5 สกดั ก้ันลกู บอลด้านนอกเสาอากาศในแดนของทมี ตรงขา้ ม 14.6.6 ตัวรับอิสระพยายามท�ำการสกัดกั้นด้วยตนเองหรือร่วมกับผู้เล่นอื่น (14.1.1/19.3.1.3) 178 คูม่ ือผตู้ ดั สินกฬี าวอลเลยบ์ ล

ก ารหยุดการแขง่ ขัน การหยดุ พกั และการถว่ งเวลา (Interruption and Delays) กติกาขอ้ ที่ 15 การหยุดการแขง่ ขนั ตามกตกิ า (Regular Game Interruption) การหยุดการแขง่ ขันตามกตกิ า ได้แก่ การขอเวลานอกและการเปลี่ยนตวั (15.4/15.5) ช่วงหยุดการแข่งขัน เป็นช่วงเวลาเม่ือส้ินสุดการเล่นลูก จนกระทั่งผู้ตัดสินที่ 1 ได้เปา่ นกหวดี 8.1/8.2) 15.1 จ�ำนวนครง้ั ของการขอหยดุ การแขง่ ขนั ตามกตกิ า (Number of Regular Interruption) แต่ละทีมจะขอเวลานอกได้อย่างมากไม่เกิน 2 คร้ังและเปล่ียนตัวผู้เล่น 6 คน ตอ่ เซต (6.2/15.4/15.5) 15.2 การขอหยดุ การแขง่ ขนั ตามกตกิ า (Request Regular Interruption) 15.2.1 ผู้ฝึกสอนหรือหัวหน้าทีมที่ลงแข่งขันเท่าน้ันท่ีขอหยุดการ แขง่ ขนั ได้ (5.1.2/5.2/5.3.2/15) การขอหยุดการแขง่ ขนั กระท�ำโดยแสดงสญั ญาณมอื เมือ่ ลกู ตาย และก่อนสัญญาณนกหวดี ใหท้ ำ� การเสริ ์ฟ (8.2/12.3/ภาพที่ 11 (4, 5)) สำ� หรบั การแขง่ ขนั ระดบั โลกของสหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ และรายการแข่งขนั ทเี่ ป็นทางการจะตอ้ งใช้ออดและสญั ญาณมอื เพอ่ื ขอเวลานอก 15.2.2 การขอเปลี่ยนตัวก่อนเร่ิมการแข่งขันของแต่ละเซตสามารถ ทำ� ได้ และต้องบนั ทกึ ไว้เหมอื นกับการขอเปลยี่ นตัวปกตใิ นเซตนั้น (7.3.4) 15.3 ล�ำดับของการหยดุ การแขง่ ขนั (Sequence of Interruption) 15.3.1 ทีมสามารถขอเวลานอกหนึ่งหรือสองคร้ังติดต่อกันได้ และตามด้วยการขอเปล่ียนตัวได้อีกด้วย โดยไม่ต้องรอให้มีการแข่งขันแทรกระหว่างการขอหยุด การแข่งขนั แตล่ ะครง้ั (15.4/15.5) 15.3.2 ไมอ่ นญุ าตใหท้ มี ขอเปลย่ี นตวั สองครง้ั ตดิ ตอ่ กนั ในชว่ งทขี่ อหยดุ การแข่งขันน้นั การเปล่ียนตวั แตล่ ะครัง้ จะเปลยี่ นครง้ั ละสองคนหรอื มากกวา่ ก็ได้ (15.5/15.6.1) คู่มอื ผู้ตัดสนิ กฬี าวอลเลย์บ ล 179

15.4 เวลานอกปกตแิ ละเวลานอกทางเทคนคิ (Time-outs and Technical Time-outs) 15.4.1 การขอเวลานอกจะตอ้ งทำ� โดยแสดงสญั ญาณมอื ในขณะทลี่ กู ตาย และกอ่ นสญั ญาณนกหวดี เพอ่ื การเสริ ฟ์ การขอเวลานอกแตล่ ะครง้ั ใชเ้ วลา 30 วนิ าที (6.1.3/8.2/12.3/ ภาพท่ี 11 (4)) ส�ำหรบั การแขง่ ขนั ระดบั โลกของสหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ และการแขง่ ขนั อยา่ งเปน็ ทางการ จะตอ้ งใชอ้ อดและแสดงสญั ญาณมอื เพอ่ื ขอเวลานอก (ภาพที่ 11 (4)) 15.4.2 ส�ำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอล นานาชาตแิ ละการแขง่ ขนั อยา่ งเปน็ ทางการ ระหวา่ งเซตท่ี 1 ถงึ 4 เมอื่ ทมี ใดน�ำไปถงึ คะแนนที่ 8 และคะแนนที่ 16 ในแตล่ ะรวมเซต จะใหเ้ วลานอกทางเทคนคิ โดยอตั โนมตั ิคร้ังละ 60 วนิ าที (15.3.1) 15.4.3 ในเซตตดั สนิ (เซตที่ 5) ไมม่ กี ารใหเ้ วลานอกทางเทคนคิ จะ มีเพยี งใหแ้ ตล่ ะทีมขอเวลานอกตามปกติได้ 2 ครง้ั ๆ ละ 30 วินาที (6.3.2) 15.4.4 ระหวา่ งการขอเวลานอก ผู้เลน่ ในสนามทุกคนตอ้ งออกไปอยู่ ทเี่ ขตรอบสนามใกล้ม้านัง่ ของทมี ตนเอง 15.5 การเปลี่ยนตัวผู้เลน่ (Player Substitution) (ภาพท่ี 11 (5)) 15.5.1 การเปล่ียนตัวเป็นการกระท�ำโดยผู้เล่น รวมถึงตัวรับอิสระ และคขู่ องเขา หลงั จากทผ่ี บู้ นั ทกึ ไดท้ ำ� การบนั ทกึ การขอเปลยี่ นตวั และเขา้ เลน่ แทนในตำ� แหนง่ ทเ่ี ปลยี่ น ตวั ออกมา (ภาพท่ี 11 (5)/15.10/19.3.2) 15.5.2 ขณะทม่ี กี ารเปลยี่ นตวั ผเู้ ลน่ ทบ่ี าดเจบ็ ทอี่ ยใู่ นสนาม ผฝู้ กึ สอน หรือ หัวหนา้ ทมี (Game caption) ควรแสดงสญั ญาณมอื ประกอบดว้ ย 15.6 ขอ้ จ�ำกดั ในการเปลยี่ นตวั (Limitation of Substitution) 15.6.1 ผเู้ ล่นทีเ่ ร่มิ เลน่ ในแต่ละเซต สามารถออกจากการเล่นไดเ้ พียง 1 ครัง้ และกลับเขา้ มาเล่นใหมใ่ นต�ำแหน่งเดิมได้อีก 1 คร้ัง (7.3.1) 15.6.2 ผู้เล่นส�ำรองสามารถเปล่ียนตัวกับผู้เล่นในแต่ละเซตได้เพียง 1 ครัง้ ต่อเซต และเขาจะสามารถเปลี่ยนตวั ออกได้กบั ผู้เลน่ ทเี่ ปน็ คู่เดมิ เท่านนั้ (7.3.1) 15.7 การเปล่ียนตัวทไ่ี ดร้ ับการยกเวน้ (Exceptional Substitution) ผเู้ ลน่ คนใด (ยกเวน้ ตวั รบั อสิ ระ) ทไ่ี มส่ ามารถเลน่ ตอ่ ได้ เนอื่ งจากบาดเจบ็ หรอื เจบ็ ปว่ ย จะตอ้ งเปลย่ี นตวั ตามปกติ ถา้ ไมส่ ามารถเปลยี่ นตวั ตามปกตไิ ด้ ทมี สามารถขอเปลยี่ นตวั ในกรณพี เิ ศษได้ ตามขอ้ ก�ำหนดของกติกา ข้อ 15.6 (15.6/19.4.3) 180 คู่มอื ผตู้ ัดสินกีฬาวอลเลย์บ ล

การเปล่ียนตัวที่ได้รับการยกเว้น หมายถึงผู้เล่นคนใดท่ีไม่ได้อยู่ในสนาม ขณะทม่ี กี ารบาดเจบ็ หรอื เจบ็ ปว่ ย (ยกเวน้ ตวั รบั อสิ ระ ตวั รบั อสิ ระคนที่ 2 หรอื ผเู้ ลน่ ปกตทิ เ่ี ปลยี่ นตวั กบั ตวั รบั อสิ ระ) สามารถเปลยี่ นตวั กบั ผเู้ ลน่ ทบี่ าดเจบ็ ได้ ผู้เล่นที่บาดเจ็บจะไม่สามารถกลับเข้าเล่น อีกในนดั น้นั การเปลยี่ นตวั กรณพี เิ ศษนี้ จะไมน่ บั เปน็ จำ� นวนครง้ั ของการเปลยี่ นตวั ตามปกติ แต่จะตอ้ งมกี ารบนั ทึกไว้ในใบบนั ทึก ซงึ่ เปน็ สว่ นของการเปลีย่ นตวั รวมในเซตนนั้ และในนัดน้ัน 15.8 การเปล่ียนตัวผู้เล่นท่ีถูกให้ออกหรือถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน (Substitution for Expulsion or Disqualification) ผู้เล่นท่ีถูกให้ออกหรือถูกตัดสิทธ์ิออกจากการแข่งขัน จะต้องเปลี่ยนตัว ตามปกตไิ ด้ ทีมจะตอ้ งถูกปรับเป็นไมพ่ ร้อมท่ีจะแข่งขัน (6.4.3/7.3.1/15.6/21.3.2/21.3.3) 15.9 การเปลี่ยนตัวท่ีผิดระเยียบ (Illegal Substitution) 15.9.1 การเปลี่ยนตัวจะผิดระเบียบ ถ้ามีการเปล่ียนตัวที่ไม่เป็นไป ตามกติกาข้อ 15.6 (ยกเว้นกรณีกติกาขอ้ 15.7) หรอื ในกรณีมผี เู้ ลน่ ท่ไี ม่มีช่ือลงเล่นด้วย 15.9.2 เมอ่ื ทมี มกี ารเปลย่ี นตวั ทผ่ี ดิ ระเบยี บและไดม้ กี ารเลน่ ตอ่ ไปแลว้ จะตอ้ งด�ำเนินการดงั นี้ (8.1/15.6) 15.9.2.1 ทีมถูกลงโทษโดยฝ่ายตรงข้ามได้คะแนนและเป็น ฝา่ ยเสิรฟ์ (6.1.3) 15.9.2.2 แกไ้ ขการเปลย่ี นตัวใหถ้ ูกตอ้ ง 15.9.2.3 ยกเลิกคะแนนของทีมที่ท�ำผดิ เม่ือมีการกระท�ำผิด เกิดขนึ้ คะแนนของฝา่ ยตรงข้ามใหค้ งไว้ 15.10 ขบวนการเปลีย่ นตัว (Substitution Procedure) 15.10.1 การเปล่ียนตวั จะตอ้ งท�ำในเขตเปลยี่ นตวั (1.4.3/ภาพที่ 1b) 15.10.2 การเปลยี่ นตวั จะใชเ้ วลาเทา่ ทจ่ี ำ� เปน็ เพอ่ื บนั ทกึ การเปลยี่ นตวั ผเู้ ลน่ ในใบบันทึกเท่านัน้ และอนญุ าตใหผ้ เู้ ลน่ ออกและเขา้ สนาม (15.10.3/25.2.2.3) 15.10.3a การขอเปลี่ยนตัวคือ การที่ผู้เล่นส�ำรองเข้าไปในเขตเปลี่ยนตัว พรอ้ มที่จะเลน่ ขณะทมี่ กี ารหยดุ การเลน่ ผฝู้ ึกสอนไม่จำ� เป็นต้องแสดงสัญญาณมือ ยกเวน้ การขอ เปล่ียนตวั ในกรณีบาดเจบ็ หรอื ก่อนเริม่ ตน้ เซต (1.4.3/7.3.3/15.6.3) 15.10.3b ถ้าผู้เล่นเข้าไปในเขตเปล่ียนตัวแล้ว แต่ไม่ขอเปลี่ยนตัว ทีมจะถูกทำ� โทษถว่ งเวลา (16.2) 15.10.3c การขอเปลี่ยนตัวจะรับทราบโดยสัญญาณออดจากผู้บันทึก หรือสัญญาณนกหวดี จากผูต้ ัดสนิ ท่ี 2 ผู้ตดั สนิ ท่ี 2 จะเปน็ ผอู้ นุญาตการเปล่ียนตวั นนั้ คมู่ ือผ้ตู ัดสินกีฬาวอลเลยบ์ ล 181

ส�ำหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และ การแขง่ ขนั อยา่ งเปน็ ทางการ ใหใ้ ชป้ า้ ยเปลย่ี นตวั เพอื่ อ�ำนวยความสะดวกในการเปลย่ี นตวั 15.10.4 ถ้าทีมต้องการขอเปล่ียนตัวพร้อมกันมากกว่า 1 คน ผเู้ ลน่ ทจ่ี ะเปลย่ี นตวั เขา้ ตอ้ งพรอ้ มทเ่ี ขตเปลยี่ นตวั พรอ้ มกนั เพอ่ื ใหเ้ หน็ วา่ เปน็ การขอในเวลาเดยี วกนั ในกรณีน้ีการเปล่ียนตัวจะท�ำเป็นคู่ๆ ถ้ามีผู้เล่นคนใดท่ีขอเปล่ียนตัวผิดกติกา ผู้เล่นคนน้ันจะต้อง ถกู ระงับการขอเปลยี่ นตัว และต้องถกู ทำ� โทษถว่ งเวลา (1.4.3/15.2.2) 15.11 การขออนุญาตท่ผี ดิ ระเบยี บ (Improper Request) 15.11.1 การขออนญุ าตหยดุ การเล่นจะผดิ ระเบียบเมอ่ื : (15) 15.11.1.1 ขอระหวา่ งทมี่ กี ารเลน่ หรอื ในขณะทม่ี กี ารเปา่ นกหวดี ใหเ้ สริ ์ฟหรอื ภายหลงั การเปา่ นกหวีดใหเ้ สิร์ฟ (6.1.3/15.2.1) 15.11.1.2 ขอโดยสมาชิกของทีมทไ่ี ม่มีสิทธ์ิ (15.2.1) 15.11.1.3 ขอเปล่ียนตัวผู้เล่นก่อนที่จะมีการเล่นหลังจาก การเปลยี่ นตวั ครง้ั กอ่ น (15.3.2) 15.11.1.4 ขอเวลานอกและเปลย่ี นตวั ผเู้ ลน่ เมอื่ จำ� นวนทมี่ สี ทิ ธ์ิ ขอได้หมดลง (15.1) 15.11.2 การขออนญุ าตทผี่ ดิ ระเบยี บครง้ั แรกของทมี ในนดั นนั้ ทไ่ี มเ่ ปน็ ผล หรอื ไมม่ ีการท�ำให้การเลน่ ตอ้ งลา่ ช้าจะได้รบั การปฏเิ สธโดยไมม่ ีผลใดๆ (15.11.3/16.1/25.2.2.6) 15.11.3 การขออนญุ าตทผ่ี ดิ ระเบยี บครง้ั ตอ่ ๆ มาของทมี เดมิ ในนดั นนั้ จะเปน็ การถว่ งเวลา (16) กตกิ าขอ้ ที่ 16 การถ่วงเวลาการแข่งขัน (Game Delays) 16.1 ชนดิ ของการถ่วงเวลาการแขง่ ขัน (Types of Delays) การกระทำ� ใดๆ ของทมี ทเ่ี ปน็ เหตใุ หก้ ารแขง่ ขนั ลา่ ชา้ ถอื วา่ เปน็ การถว่ งเวลา ประกอบดว้ ย 16.1.1 การเปลี่ยนตัวลา่ ชา้ (15.10.2) 16.1.2 เมื่อได้รับแจ้งให้เร่ิมการแข่งขันแล้ว ยังท�ำให้การขอหยุด การแขง่ ขนั เน่ินนานออกไปอกี (15) 16.1.3 ขอเปลีย่ นตวั ผดิ กตกิ า 16.1.4 ขอหยุดการแข่งขันผิดกตกิ าซำ�้ อีก (15.11.3) 16.1.5 การถว่ งเวลาการแขง่ ขนั โดยสมาชิกของทมี 182 คมู่ อื ผ้ตู ัดสนิ กีฬาวอลเลย์บ ล

16.2 บทท�ำโทษในการถ่วงเวลา (Delay Sanctions) (ภาพที่ 9) 16.2.1 การเตอื นถว่ งเวลา (Delay Warning) และการลงโทษถว่ งเวลา (Delay Penalty) เป็นการท�ำโทษ 16.2.1.1 การถูกทำ� โทษถ่วงเวลาจะมีผลตอ่ เนอ่ื งตลอดการแข่งขันนัดนัน้ 16.2.1.2 การถูกท�ำโทษและการถูกเตือนถ่วงเวลาต้องถูกบันทึกลงใน ใบบนั ทกึ การแขง่ ขนั (25.2.2.6) 16.2.2 การถ่วงเวลาครงั้ แรกของทมี ในนัดน้ัน จะถกู ท�ำโทษด้วยการ เตอื นถ่วงเวลา (Delay Warning) (4.1.1/ภาพที่ 11 (25)) 16.2.3 การถ่วงเวลาคร้ังท่ี 2 และครง้ั ต่อๆ ไปทกุ ชนดิ ในการแขง่ ขนั คร้ังเดียวกันโดยสมาชิกหรือผู้เล่นของทีมเดียวกัน ถือว่าเป็นการท�ำผิดกติกาและจะถูกท�ำโทษ ถ่วงเวลา (Delay Penalty) (6.1.3/ภาพท่ี 11 (25)) 16.2.4 การท�ำโทษถ่วงเวลาก่อนเริ่มต้นเซตหรือระหว่างเซตจะมีผล ในเซตถดั ไป (18.1) 16.2.5 การทำ� โทษกอ่ นเวลาเซตหรอื ระหวา่ งเซตจะมผี ลในเซตถดั ไป (18.1) กตกิ าขอ้ ท่ี 17 การหยดุ การแขง่ ขนั ทไ่ี ดร้ บั การยกเวน้ (Exceptional Interruptions) 17.1 การบาดเจ็บ (Injury) (8.1) 17.1.1 เม่ือมีอุบัติเหตุร้ายแรงขณะมีการเล่นลูก ผู้ตัดสินต้องหยุด การแข่งขนั ทันทแี ละอนุญาตใหพ้ ยาบาลลงไปในสนามได้ แล้วให้เลน่ ลูกน้ันใหม่ (6.1.3) 17.1.2 ถ้าผู้เล่นท่ีบาดเจ็บไม่สามารถเปล่ียนตัวตามกติกาหรือตาม ข้อยกเว้นจะอนุญาตให้พยาบาลผู้เล่นนั้นได้ 3 นาที แต่จะท�ำได้เพียงครั้งเดียวในการแข่งขันนัดน้ัน ส�ำหรับผู้เล่นคนเดิม (15.6/15.7/24.2.8) ถ้าพยายามแล้วยังเล่นต่อไปไม่ได้ จะถือว่าทีมน้ัน ไมพ่ ร้อมทำ� การแข่งขัน (6.4.3/7.3.1) 17.2 เหตขุ ัดข้องนอกเหนอื กตกิ าการแขง่ ขนั (External Interference) ถา้ มีเหตุขดั ขอ้ งนอกเหนือกติกาเกิดข้ึนระหว่างการแขง่ ขนั จะตอ้ งหยุด การแข่งขนั และใหเ้ ลน่ ลกู น้นั ใหม่ (6.1.3) 17.3 เหตุขดั ขอ้ งเป็นเวลายาวนาน (Prolonged Interruptions) 17.3.1 ถ้ามีเหตุไม่คาดฝันท�ำให้การแข่งขันหยุดลง ผู้ตัดสินท่ี 1 ฝ่ายจัดการแข่งขันและคณะกรรมการควบคุมการแข่งขันจะร่วมกันตัดสินใจให้การแข่งขันด�ำเนิน ตอ่ ไปตามปกติ คู่มือผตู้ ดั สินกฬี าวอลเลยบ์ ล 183

17.3.2 ถ้าต้องหยุดการเล่นครั้งเดียวหรือหลายๆ ครั้ง แต่รวมแล้ว ไมเ่ กิน 4 ชว่ั โมง : (17.3.1) 17.3.2.1 ถ้าการเล่นได้เริ่มใหม่ท่ีสนามเดิม เซตที่หยุดเล่น ไปจะถูกน�ำกลับมาเล่นตามปกติ โดยใช้คะแนนผู้เล่น (ยกเว้นผู้เล่นท่ีถูกให้ออกจากการแข่งขัน หรือถูกตัดสิทธ์ิออกจากการแข่งขัน) และต�ำแหน่งเดิม ผลการแข่งขันของเซตท่ีผ่านไปยังมีผล เหมือนเดิม (1/7.3) 17.3.2.2 ถ้าได้เร่ิมใหม่ท่ีสนามอื่น ให้ยกเลิกผลการแข่งขัน ในเซตท่ีหยุดเล่น แล้วเร่ิมต้นเล่นใหม่ตามต�ำแหน่งเดิม (ยกเว้นผู้เล่นท่ีถูกให้ออกจากการแข่งขัน หรือถูกตัดสิทธ์ิออกจากการแข่งขัน) และการลงโทษที่ได้บันทึกไว้ให้คงไว้เช่นเดิม ผลการแข่งขัน ของเซตท่ผี ่านไปยงั มผี ลเหมอื นเดมิ (7.3/21.4.1/ภาพท่ี 9) 17.3.3 ถา้ ตอ้ งหยดุ การแขง่ ขนั ครง้ั เดยี วหรอื หลายๆ ครงั้ รวมกนั แลว้ เกิน 4 ชว่ั โมง จะตอ้ งท�ำการแขง่ ขันนัดน้นั ใหม่ กตกิ าขอ้ ที่ 18 การหยดุ พกั และการเปล่ียนแดน (Intervals and Change of Courts) 18.1 การหยุดพกั ระหว่างเซต (Intervals) การหยุดพักระหว่างเซตจะพักเซตละ 3 นาที ระหว่างการหยุดพักนี้ จะท�ำการเปล่ียนแดน และบันทึกต�ำแหน่งเร่ิมแข่งขันลงในใบบันทึกผลการแข่งขัน (4.2.4/18.2/ 25.2.1.2) การหยุดพกั ระหว่างเซตที่ 2 และเซตท่ี 3 อาจขยายเวลาพักเป็น 10 นาทไี ด้ตามค�ำขอ ของฝ่ายจดั การแขง่ ขนั 18.2 การเปลยี่ นแดน (Change of Courts) (ภาพท่ี 11 (3)) 18.2.1 เม่ือการแข่งขันแต่ละเซตจบลง ทั้งสองทีมจะเปล่ียนแดน ยกเวน้ เซตตดั สิน (7.1) 18.2.2 ในเซตตดั สนิ เมอ่ื ทมี ใดทำ� ได้ 8 คะแนน จะทำ� การเปลย่ี นแดนทนั ที และตำ� แหนง่ ของผเู้ ล่นใหเ้ ป็นไปตามเดิม (6.3.2/7.4.1/25.2.2.5) ถ้าไม่ได้เปลี่ยนแดน เม่ือทีมน�ำท�ำคะแนนได้ 8 คะแนน จะต้องทำ� การเปล่ยี นแดนทันทีเมือ่ พบข้อผดิ พลาด ส่วนคะแนนใหเ้ ปน็ ไปตามเดมิ 184 คมู่ ือผ้ตู ดั สินกีฬาวอลเลย์บ ล

เล่นตัวรับอิสระ (The Libero Player) กติกาขอ้ ท่ี 19 ตวั รบั อิสระ (The Libero Player) 19.1 การแตง่ ตง้ั ตัวรบั อสิ ระ (Designation of the Libero) 19.1.1 แต่ละทีมมีสิทธิ์แต่งต้ังตัวรับอิสระท่ีรับลูกบอลได้ดีเป็นพิเศษ 2 คน จากรายชื่อผู้เลน่ (4.1.1) ส�ำหรบั การแขง่ ขนั ระดบั โลกของสหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ และการแขง่ ขนั อยา่ งเป็นทางการรนุ่ ไมจ่ �ำกดั อายุ เม่อื ทีมเลอื กทจ่ี ะมีผู้เล่นเกินกว่า 12 คน และ ทีมจะตอ้ งแต่งตงั้ ตัวรบั อิสระที่รบั ลกู บอลได้ดเี ปน็ พเิ ศษ 2 คน จากรายช่อื ผู้เลน่ 19.1.2 กอ่ นเรม่ิ การแขง่ ขนั ตอ้ งบนั ทกึ ตวั รบั อสิ ระทกุ คนลงในใบบนั ทกึ การแข่งขนั ทบี่ รรทัดซ่งึ จัดไวเ้ ปน็ พเิ ศษส�ำหรบั การนี้ ส�ำหรบั การแขง่ ขนั ระดบั โลกของสหพนั ธว์ อลเลยบ์ อลนานาชาติ และการแขง่ ขนั อยา่ งเปน็ ทางการ ผเู้ ลน่ ตวั รบั อสิ ระทกุ คนตอ้ งบนั ทกึ ลงในใบบนั ทกึ การแขง่ ขนั ทบี่ รรทัดซึ่งจัดไวเ้ ป็นพิเศษส�ำหรับการนเี้ ท่านนั้ 19.1.3 ตวั รบั อสิ ระทอี่ ยใู่ นสนาม เปน็ ตวั รบั อสิ ระทลี่ งเลน่ (Active Libero) ถ้าทีมมีตวั รับอสิ ระคนอืน่ จะทำ� หนา้ ทีเ่ ป็นตวั รบั อสิ ระคนท่ี 2 ของทมี (Second Libero) ตลอดเวลาจะมผี ู้เลน่ ตัวรับอสิ ระในสนามได้เพียงคนเดียว 19.2 เครอ่ื งแตง่ กาย (Equipment) ตัวรับอิสระต้องสวมชุดแข่งขัน (หรือเสื้อท่ีออกแบบพิเศษส�ำหรับตัวรับ อสิ ระ) อย่างน้อยที่สุดสเี ส้ือตอ้ งแตกต่างจากเพ่อื นรว่ มทีม แบบชดุ แข่งขนั ตัวรับอสิ ระอาจแตกต่าง จากคนอ่นื แตแ่ บบของหมายเลขบนชดุ แข่งขันต้องเหมือนกับของเพอื่ นร่วมทมี (4.3) ส�ำหรับการแขง่ ขันระดบั โลกของสหพนั ธว์ อลเลย์บอลนานาชาติ และ การแขง่ ขันอย่างเป็นทางการ ผู้เล่นตวั รบั อิสระทีไ่ ดร้ บั แต่งต้ังแทนถา้ เป็นไปได้ จะต้องสวมเส้ือ ที่มสี แี ละแบบเดยี วกับตวั รบั อิสระคนแรก แตต่ อ้ งเปน็ หมายเลขของตวั เอง 19.3 ลักษณะการเล่นของตัวรบั อิสระ (Actions Involving the Libero) 19.3.1 ลกั ษณะการเล่น 19.3.1.1 ตัวรับอิสระจะเปลี่ยนเข้าแทนผู้เล่นแดนหลัง คนใดกไ็ ด้ (7.4.1.2) คมู่ ือผตู้ ดั สินกฬี าวอลเลยบ์ ล 185

19.3.1.2 ตวั รบั อสิ ระถกู กำ� หนดใหท้ ำ� หนา้ ทเี่ หมอื นกบั ผเู้ ลน่ แดนหลังคนหน่ึง ไม่อนุญาตให้ท�ำการรุกโดยสมบูรณ์ ไม่ว่าจากจุดใดของสนาม (ท้ังภายในสนาม แข่งขัน และเขตเล่นลูก) ถ้าขณะถูกลูกบอลทุกส่วนของลูกบอลอยู่สูงกว่าขอบบนของตาข่าย (13.2.2/13.2.3/14.3.5) 19.3.1.3 ตวั รบั อสิ ระจะทำ� การเสริ ฟ์ สกดั กนั้ หรอื พยายาม ท�ำการสกัดกัน้ ไม่ได้ (12/14.1/14.6.2/14.6.6) 19.3.1.4 จะไมอ่ นญุ าตใหเ้ พอ่ื นรว่ มทมี ทำ� การรกุ โดยสมบรู ณ์ ในขณะที่ลูกบอลอยู่สูงกว่าขอบบนของตาข่าย ถ้าลูกน้ันมาจากการส่งด้วยมือของตัวรับอิสระ ที่อยู่ในแดนหน้าของทีมตนเอง เพ่ือนร่วมทีมสามารถท�ำการรุกได้อย่างเสรี (1.4.1/13.3.623.2.3 3d,e /ภาพท่ี 1b) 19.3.2 การเปล่ียนตัวรับอิสระ (Libero Replacements) 19.3.2.1 การเปลยี่ นตวั ทเี่ กยี่ วกบั ตวั รบั อสิ ระจะไมน่ บั จำ� นวน ครงั้ ท�ำนองเดียวกบั การเปลี่ยนตวั ตามปกติ (6.1.3, 15.5) จะไม่มกี ารจำ� กัดจำ� นวนคร้งั แต่ตอ้ งมีการสิ้นสุด การเลน่ ลูก 1 ครั้ง กอ่ น นอกจากถกู ลงโทษ และต้องไปในต�ำแหนง่ ที่ 4 หรือตวั รบั อสิ ระในสนาม (Acting Libero) ไม่สามารถเลน่ ต่อไปได้ (Unable to play) ทำ� ใหก้ ารเล่นนั้นตอ้ งหยุดลง 19.3.2.2 ผู้เล่นปกติท่ีเปล่ียนตัวกับตัวรับอิสระ สามารถ เปล่ยี นตวั กบั ตวั รบั อิสระนัน้ หรอื กบั ตวั รับอสิ ระคนอืน่ ได้ ตัวรับอิสระที่อยู่ในสนาม สามารถเปล่ียนตัวกับ ผูเ้ ล่นปกติท่เี ปลย่ี นออกหรอื เปลยี่ นกบั ตัวรบั อิสระคนท่ี 2 19.3.2.3 ขณะท่ีจะมีการเริ่มต้นในแต่ละเซต ตัวรับอิสระ จะต้องไมส่ นามจนกว่าผ้ตู ัดสนิ ที่ 2 ได้ตรวจสอบต�ำแหนง่ เรมิ่ ต้นแล้ว (7.3.2, 12.1) 19.3.2.4 การเปลี่ยนตัวรับอิสระจะต้องท�ำขณะลูกตาย และกอ่ นสัญญาณนกหวีดในการเสริ ์ฟ (8.2, 12.3) 19.3.2.5 การเปล่ียนตัวรับอิสระภายหลังสัญญาณนกหวีด ให้ท�ำการเสิร์ฟ แต่ก่อนท่ีผู้เสิร์ฟได้ท�ำการเสิร์ฟ ผู้ตัดสินต้องไม่ปฏิเสธ แต่อย่างไรก็ตามเม่ือส้ินสุด การเล่นลูกนั้นจะต้องแจ้งกับหัวหน้าทีมว่าเป็นการกระท�ำที่ไม่ถูกต้อง และถ้ามีการท�ำอีกในครั้งต่อไป จะถกู ทำ� โทษถ่วงเวลา (12.3/12.4/19.3.3.3) 19.3.2.6 การเปล่ียนตัวรับอิสระท่ีตัวล่าช้าครั้งต่อๆ ไป จะมีผลต่อการหยดุ เล่นทนั ที ทีมต้องถกู ท�ำโทษถว่ งเวลา ทมี ท่เี สิรฟ์ ครัง้ ต่อไปจะกำ� หนดโดยผลจาก การลงโทษถ่วงเวลา (16.2, ภาพที่ 9) 186 คมู่ ือผตู้ ดั สนิ กีฬาวอลเลย์บ ล

19.3.2.7 ตวั รบั อสิ ระและผเู้ ลน่ ทเี่ ปลย่ี นตวั ออก จะเขา้ และออก จากสนามได้ทีเ่ ขตเปล่ียนตัวตัวรบั อสิ ระเท่าน้นั (1.4.4/7.5.1/ภาพท่ี 1b) 19.3.2.8 การเปลยี่ นตวั รบั อสิ ระ จะตอ้ งบนั ทกึ ในใบควบคมุ ตัวรับอิสระ (26.2.2.1, 26.2.2.2) 19.3.2.9 การเปลย่ี นตวั รับอิสระทผ่ี ิดระเบยี บจะรวมถึง • เปลย่ี นตัวเม่ือไม่สน้ิ สดุ การเล่นลูก (6.1.3) • เปลี่ยนตัวกับผู้เล่นอื่นที่ไม่ได้เปล่ียนกับตัวรับ อสิ ระ หรอื ตวั รบั อสิ ระคนท่ี 2 (15.9) การเปลยี่ นตวั รบั อสิ ระทพ่ี บกอ่ นเรม่ิ เลน่ แรลลตี่ อ่ ไป ผตู้ ัดสนิ จะต้องแกไ้ ขใหถ้ ูกต้อง และทีมนั้นต้องถูกท�ำโทษถ่วงเวลา (ภาพท่ี 9) 19.4 การแต่งต้งั ตวั รบั อิสระใหม่ (Re-Desination of new Libero) 19.4.1 ตวั รบั อสิ ระทไ่ี มส่ ามารถเลน่ ตอ่ ไปได้ บาดเจบ็ ปว่ ย ถกู ใหอ้ อก จากการแข่งขนั (expelled) หรอื ถกู ตัดสทิ ธิอ์ อกจากการแข่งขนั (disqualified) (21.3.2/21.3.3/ ภาพท่ี 9) ผู้ฝึกสอนหรือหัวหน้าทีม ในกรณีท่ีผู้ฝึกสอนไม่มาท�ำหน้าท่ี สามารถแจง้ ว่าตวั รบั อิสระไม่สามารถเล่นต่อได้ในทุกกรณี (5.1.2.1/5.2.1) 19.4.2 ทีมท่มี ตี วั รับอสิ ระ 1 คน 19.4.2.1 ขณะทท่ี ีมมตี ัวรบั อิสระเพยี ง 1 คน ตามกตกิ าขอ้ 19.4.1 และตัวรับอิสระถูกแจ้งว่า ไม่สามารถเล่นต่อได้ ผู้ฝึกสอนหรือหัวหน้าทีม (ถ้าผู้ฝึกสอนไม่มา) สามารถตั้งผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสนามขณะท่ีมีการแต่งตั้ง (ยกเว้นผู้เล่นท่ีเปล่ียนกับ ตวั รบั อสิ ระ) ใหเ้ ปน็ ตัวรบั อิสระใหมแ่ ทนได้ 19.4.2.2 ถ้าตัวรับอิสระในสนาม (Acting Libero) ไม่สามารถเล่นต่อได้ สามารถเปล่ียนกับผู้เล่นปกติที่เปล่ียนออกได้ หรือเปล่ียนกับตัวรับอิสระ ทต่ี ง้ั ใหมไ่ ดท้ นั ที แตอ่ ยา่ งไรกต็ ามตวั รบั อสิ ระทถ่ี กู แจง้ วา่ ไมส่ ามารถเลน่ ตอ่ ไดน้ นั้ จะกลบั เขา้ มาเลน่ อกี ไมไ่ ดใ้ นนัดนน้ั ถา้ ตวั รบั อสิ ระทอ่ี ยนู่ อกสนามถกู แจง้ วา่ ไมส่ ามารถ เล่นต่อได้ เขาสามารถต้ังตัวรับอิสระใหม่แทนได้ แต่ตัวรับอิสระเดิมจะไม่สามารถกลับเข้าเล่นอีก ในนัดน้ัน 19.4.2.3 ผู้ฝึกสอนหรือหัวหน้าทีม (ถ้าผู้ฝึกสอนไม่มา) สามารถตดิ ต่อกับผ้ตู ดั สินคนท่ี 2 เพอ่ื แจ้งการตัง้ ตัวรับอิสระใหม่ (5.1.2.1/5.2.1) คมู่ อื ผู้ตัดสินกฬี าวอลเลยบ์ ล 187

19.4.2.4 ถ้าตัวรับอิสระที่ตั้งใหม่ไม่สามารถเล่นต่อได้ ทีมสามารถต้ังตวั รบั อิสระใหม่ไดอ้ ีก (19.4.1) 19.4.2.5 ถา้ ผฝู้ กึ สอนขออนญุ าตตง้ั ใหห้ วั หนา้ ทมี เปน็ ตวั รบั อิสระใหม่ได้ แต่หวั หน้าทีมนน้ั จะตอ้ งสละการเปน็ ผูน้ �ำของทมี ทงั้ หมด (5.1.2, 19.4.1) 19.4.2.6 ในกรณที ่ีมีการตง้ั ตวั รับอิสระใหม่ หมายเลขของ ตัวรับอิสระใหม่จะต้องบันทึกในใบบันทึกในช่องหมายเหตุและในใบควบคุมตัวรับอิสระ (หรือใน ใบบันทกึ แบบอเิ ลคทรอนิค) 19.4.3 ทีมทม่ี ตี วั รบั อิสระ 2 คน 19.4.3.1 ขณะทที่ มี ไดแ้ จง้ ใชต้ วั รบั อสิ ระ 2 คน ในใบบนั ทกึ แตค่ นหนง่ึ ไม่สามารถเล่นตอ่ ได้ ทมี มีสทิ ธิ์ท่จี ะเล่นด้วยตวั รบั อิสระเพยี งคนเดียว (4.1.1/19.1.1) จะไมอ่ นญุ าตให้ต้งั ตัวรับอสิ ระใหม่ นอกจากตวั รบั อสิ ระท่เี หลอื ไมส่ ามารถเลน่ ตอ่ ไป 19.5 สรปุ 19.5.1 ถ้าตัวรับอิสระถูกให้ออกจากการแข่งขันหรือถูกตัดสิทธิ์ ออกจากการแข่งขัน (Expulsion and Disqualification) เขาสามารถเปล่ียนตัวได้ทันทีกับ ตวั รับอสิ ระคนที่ 2 กรณีทีท่ มี ใช้ตัวรับอิสระคนเดยี ว ทีมสามารถใช้สทิ ธ์ขิ อต้งั ตัวรบั อิสระใหม่ได้ 188 คู่มือผูต้ ัดสนิ กีฬาวอลเลย์บ ล

ก ารปฏบิ ัตขิ องผู้ร่วมการแข่งขัน (Participant’s Conduct) กตกิ าข้อท่ี 20 ข้อก�ำหนดเร่อื งมารยาท (Requirements of Conduct) 20.1 ความมีน�ำ้ ใจนกั กีฬา (sportmanlike Conduct) 20.1.1 ผรู้ ว่ มการแขง่ ขันต้องมคี วามร้เู รอื่ ง “กติกาการแขง่ ขนั ” และ ปฏิบัติตามกติกาที่ก�ำหนด 20.1.2 ผู้ร่วมการแข่งขันต้องยอมรับการตัดสินของผู้ตัดสินด้วยน�้ำใจ นกั กฬี าโดยไมม่ กี ารโตแ้ ย้งด้วยความประพฤติของผู้มนี ้�ำใจนักกีฬา หากมขี อ้ สงสยั สามารถขอคำ� ชแ้ี จงจากผตู้ ดั สนิ ได้ โดยหวั หนา้ ทมี ในสนาม (Game Captain) เปน็ ผขู้ อคำ� ชแี้ จง (5.1.2.1) 20.1.3 ผรู้ ว่ มการแขง่ ขนั ตอ้ งละเวน้ การแสดงทา่ ทางหรอื ทศั นคตใิ ดๆ ท่ีมุง่ หมายใหม้ ีผลกระทบตอ่ การตดั สนิ ใจของผู้ตัดสินหรือปกปิดการท�ำผิดกตกิ าของทีมตนเอง 20.2 การเลน่ ทยี่ ุตธิ รรม (Fair Play) 20.2.1 ผู้ร่วมการแข่งขันต้องให้การยอมรับและความเอ้ือเฟื้อท้ัง ตอ่ ผตู้ ดั สนิ เจา้ หนา้ ทอ่ี นื่ ๆ คแู่ ขง่ ขนั เพอ่ื นรว่ มทมี และผชู้ ม เพอ่ื มงุ่ ใหก้ ารแขง่ ขนั เปน็ ไปอยา่ งยตุ ธิ รรม 20.2.2 ขณะที่ท�ำการแข่งขันสมาชิกในทีมสามารถให้ค�ำแนะน�ำกันได้ (5.2.3.4) กตกิ าขอ้ ท่ี 21 การผิดมารยาทและการลงโทษ (Misconduct and Its Sanctions) 21.1 การผิดมารยาทเลก็ น้อย (Minor Misconduct) การผิดมารยาทเลก็ นอ้ ย ไม่ตอ้ งมีการท�ำโทษ ผู้ตดั สินท่ี 1 ตอ้ งทำ� หน้าท่ี ปอ้ งกนั ทมี ไมใ่ หท้ ำ� ผดิ มารยาทจนถงึ ระดบั ทต่ี อ้ งถกู ลงโทษ โดยการเตอื นดว้ ยวาจาหรอื สญั ญาณมอื ตอ่ ผทู้ ท่ี ำ� ผดิ มารยาทหรอื ตอ่ ทมี ผา่ นทางหวั หนา้ ทมี ในสนามแขง่ ขนั (Game Captain) (5.1.2/21.3) ขน้ั ที่ 1 โดยการเตอื นดว้ ยวาจาผา่ นหวั หนา้ ทมี ขนั้ ที่ 2 โดยการใชใ้ บเหลอื งกบั บคุ คลทเี่ กยี่ วขอ้ ง การเตอื นนไ้ี มใ่ ชก่ ารลงโทษ แตเ่ ปน็ เครอ่ื งหมายแสดงวา่ สมาชกิ ของทมี และสมาชกิ คนอน่ื ๆ ในทมี ไดถ้ งึ ระดบั ทจ่ี ะถกู ลงโทษแลว้ จะตอ้ งมกี ารบนั ทกึ ในใบบนั ทกึ แตจ่ ะยงั ไมเ่ กดิ ผลทนั ที การเตอื นนไ้ี มใ่ ชก่ ารทำ� โทษและไมม่ ผี ลทนั ที ไมม่ กี ารบนั ทกึ ลงในใบบนั ทกึ การแข่งขัน คูม่ อื ผตู้ ัดสนิ กฬี าวอลเลย์บ ล 189

21.2 การผดิ มารยาททนี่ �ำไปสกู่ ารลงโทษ (Misconduct Leading to Sanctions) การท�ำผิดมารยาทของผู้เล่นต่อเจ้าหน้าท่ี ทีมตรงข้าม เพื่อนร่วมทีมหรือผู้ชม แบง่ ได้เป็น 3 ระดบั ตามความหนักเบาของความรุนแรง (4.1.1) 21.2.1 ความหยาบคาย (Rude Conduct) ได้แก่ การกระท�ำใดๆ ที่ไมส่ ุภาพไรค้ ณุ ธรรม และการแสดงดูหม่ิน 21.2.2 การก้าวร้าว (Offensive Conduct) ได้แก่ การสบประมาท ใชค้ ำ� พดู หรือทา่ ทางทเี่ ป็นการดถู ูกเหยยี ดหยาม 21.2.3 การใช้ความรุนแรง (Aggression) การท�ำร้ายร่างกายหรือ การรกุ รานหรอื พฤติกรรมข่มขู่ 21.3 ระดบั การลงโทษ (Sanction Scale) (ภาพที่ 9) การลงโทษทน่ี ำ� มาใช้ ขนึ้ อยกู่ บั การพจิ ารณาตดั สนิ ของผตู้ ดั สนิ และขนึ้ อยู่ กบั ความรนุ แรงของการกระท�ำและตอ้ งบันทึกลงในใบบันทกึ การแขง่ ขัน ประกอบดว้ ย การลงโทษการใหอ้ อกจากการแขง่ ขนั การตดั สทิ ธจิ์ ากการแขง่ ขนั มดี งั น้ี (21.2/25.2.2.6) 21.3.1 การลงโทษ (Penalty) (ภาพท่ี 11 (6)) การกระท�ำที่หยาบคายครั้งแรกในการแข่งขันโดยผู้เล่น คนใดคนหนง่ึ ของทมี จะถกู ทำ� โทษโดยฝา่ ยตรงขา้ มไดค้ ะแนนและการเสริ ฟ์ (4.1.1/21.2.1) 21.3.2 การใหอ้ อกจากการแขง่ ขนั ในเซตนน้ั (Expulsion) (ภาพท่ี (11)) 21.3.2.1 ผู้เล่นซง่ึ ถกู ลงโทษใหอ้ อกจากการแขง่ ขันในเซตนั้น จะลงแข่งขันในเซตน้ันต่อไปอีกไม่ได้ และต้องน่ังอยู่ในพ้ืนที่ลงโทษ โดยไม่มีผลอ่ืนใดตามมา (1.4.6/4.1.1/5.2.1/5.3.2/ภาพที่ 1a/ภาพท่ี 1b) ผู้ฝึกสอนท่ีถูกให้ออกจากการแข่งขันจะไม่มีสิทธิ์ ทำ� หนา้ ทใี่ นเซตน้นั และตอ้ งน่งั อยใู่ นพน้ื ทล่ี งโทษ 21.3.2.2 การแสดงความกา้ วรา้ วครงั้ แรก โดยสมาชกิ ทมี ใด คนใดคนหนง่ึ จะถกู ลงโทษใหอ้ อกจากการแขง่ ขนั ในเซตนน้ั โดยไมม่ ผี ลอน่ื ใดตามมา (4.1.1/21.2.2) 21.3.2.3 การแสดงมารยาทหยาบคายครง้ั ท่ี 2 ในการแขง่ ขนั นดั นนั้ โดยผ้เู ล่นคนเดียวกนั จะถูกลงโทษให้ออกจากการแข่งขนั ในเซตนั้น โดยไม่มผี ลอื่นใดตามมา (4.1.1/21.2.1) 21.3.3 การตดั สทิ ธใิ์ หอ้ อกจากการแขง่ ขนั ตลอดทง้ั นดั นนั้ (Disqualification) (ภาพที่ 11 (8)) 190 คมู่ อื ผูต้ ัดสินกฬี าวอลเลยบ์ ล

21.3.3.1 ผู้เล่นที่ถูกท�ำโทษตัดสิทธิ์ให้ออกจากการแข่งขัน ตลอดนดั นนั้ ต้องออกจากพ้นื ที่ควบคมุ การแขง่ ขัน (Competition Control Area) ในส่วนท่เี หลืออยู่ ของนัดนนั้ โดยไม่มีผลอ่ืนใดตามมา (4.1.1/ภาพท่ี 1a) 21.3.3.2 การใช้ความรุนแรงคร้ังแรก หรอื การรกุ ราน หรอื พฤตกิ รรมขม่ ขจู่ ะถกู ลงโทษใหอ้ อกจากการแขง่ ขนั ตลอดทงั้ นดั นนั้ โดยไมม่ ผี ลอนื่ ใดตามมา (21.2.3) 21.3.3.3 การแสดงความก้าวร้าวคร้ังท่ี 2 ในการแข่งขัน โดยสมาชิกทีมคนเดียวกันจะถูกลงโทษให้ออกจากการแข่งขันตลอดท้ังนัดน้ัน โดยไม่มีผลอื่นใด ตามมา (4.1.1/21.2.1) 21.4 การท�ำโทษเรอื่ งการผดิ มารยาท (Application of Misconduct Sanction) 21.4.1 การท�ำโทษผิดมารยาทเป็นการลงโทษรายบุคคลและมีผล ตลอดการแขง่ ขนั นดั น้นั และจะถูกบนั ทึกลงในใบบนั ทึกการแข่งขนั (21.3/25.2.2.6) 21.4.2 การกระทำ� ผดิ มารยาทโดยสมาชกิ ของทมี คนเดยี วกนั ในการแขง่ ขนั นัดเดียวกัน จะถูกลงโทษท่ีหนักข้ึนเป็นล�ำกับ (ผู้กระท�ำผิดจะถูกลงโทษสูงขึ้นทุกคร้ังที่มีการกระท�ำผิด มารยาทในแตล่ ะครงั้ (4.1.1/21.2/21.3/ภาพที่ 9) 21.4.3 การใหอ้ อกจากการแขง่ ขนั ในเซตนนั้ (Expulsion) หรอื การให้ ออกจากการแข่งขนั ในนัดนน้ั (Disqualification) จะทำ� ไดท้ ันที โดยไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารลงโทษใดๆ มากอ่ น แตข่ ้นึ อยู่กบั การแสดงความกา้ วร้าวหรือการใช้ความรุนแรง (21.2/21.3) 21.5 การผดิ มารยาทกอ่ นเรมิ ตน้ เซตและระหวา่ งเซต (Misconduct Before and Between Set) การผิดมารยาทที่เกิดขึ้นก่อนเร่ิมต้นเซตหรือระหว่างเซต จะถูกท�ำโทษ ตามกติกาข้อ 21.3 และมีผลในเซตถัดไป (18.1/21.2/21.3) 21.6 บทสรปุ เรอื่ งการผดิ มารยาท และการใชบ้ ตั รลงโทษ (Sanction Cards) (ภาพที่ 11 (6a,/6b/7/8)) การเตอื น (Warning) ไมม่ ีการท�ำโทษ • ข้ันท่ี 1 เตอื นดว้ ยปากเปลา่ • ขั้นที่ 2 โดยใชใ้ บเหลอื ง (21.1) การลงโทษ (Penalty) ทำ� โทษโดยใช้แดง (21.3.1) การใหอ้ อกจากการแข่งขันในเซตนนั้ (Expulsion) ทำ� โทษโดยใช้แดงและใบเหลอื งค่กู ัน (21.3.2) การตดั สิทธใ์ิ หอ้ อกจากการแข่งขนั นดั นน้ั (Disqualification) ทำ� โทษโดยใช้แดงและใบเหลืองแยกกัน (21.3.3) ค่มู อื ผูต้ ัดสนิ กีฬาวอลเลย์บ ล 191

ผู้ ตัดสนิ (Referees) กติกาขอ้ ที่ 22 คณะกรรมการตดั สนิ และการปฏิบตั ิหน้าที่ (Refereeing Corps and Procedures) 22.1 องคป์ ระกอบ (Composition) ฝ่ายทำ� หน้าทใี่ นการตดั สนิ แต่ละนัด ประกอบด้วยเจ้าหน้าท่ตี ่อไปนี้ ผตู้ ดั สนิ ที่ 1 (23) ผตู้ ดั สินที่ 2 (24) ผู้บนั ทึก (25) ผ้กู �ำกับเส้น 4 คน (หรอื 2 คน) (27) ต�ำแหนง่ ในสนามของเจ้าหน้าท่ีดังกลา่ วแสดงไว้ในภาพท่ี 10 ส�ำหรบั การแข่งขันระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และ การแข่งขันอยา่ งเปน็ ทางการต้องมผี ู้ชว่ ยบันทึกการแขง่ ขนั ดว้ ย (26) 22.2 ข้ันตอนการปฏิบัติหนา้ ที่ (Procedures) 22.2.1 ผู้ตัดสินท่ี 1 และผู้ตัดสินท่ี 2 เท่าน้ันที่สามารถเป่านกหวีด ระหวา่ งการแขง่ ขันได้ 22.2.1.1 ผู้ตัดสินท่ี 1 เป็นผู้ให้สัญญาณเสิร์ฟเพ่ือเริ่มเล่น (6.1.3/12.3) 22.2.1.2 ผู้ตัดสินท่ี 1 และผู้ตัดสินที่ 2 จะเป่านกหวีด ให้สัญญาณเสร็จสิ้นการเล่นลูกเมื่อแน่ใจว่ามีการท�ำผิดกติกาเกิดขึ้น และต้องแสดงลักษณะของ การกระท�ำผดิ นัน้ 22.2.2 ผู้ตัดสินที่ 1 และผู้ตัดสินที่ 2 จะเป่านกหวีดเมื่อลูกตาย เพอ่ื แสดงว่าจะอนุญาตหรอื ปฏเิ สธการขอหยุดเล่นของทมี (5.1.2/8.2) 22.2.3 ทันทีหลังจากการเป่านกหวีดให้สัญญาณเสร็จส้ินการเล่นลูก ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งแสดงสัญญาณมือ (22.2.1/28.1) 22.2.3.1 ผตู้ ดั สนิ ที่ 1 เปา่ นกหวดี ระบกุ ารกระทำ� ผดิ ผตู้ ดั สนิ ที่ 1 จะแสดง ก. ทีมทที่ ำ� การเสริ ฟ์ (12.2.2/ภาพที่ 11 (2)) ข. ลกั ษณะการกระทำ� ผิด 192 คู่มอื ผตู้ ดั สนิ กฬี าวอลเลย์บ ล

ค. ผู้กระทำ� ผดิ (ถ้าจำ� เปน็ ) ผูต้ ดั สินท่ี 2 จะท�ำสัญญาณซำ�้ ตามผู้ตัดสินท่ี 1 22.2.3.2 ผตู้ ดั สนิ ท่ี 2 เปา่ นกหวดี ระบกุ ารกระทำ� ผดิ ผตู้ ดั สนิ ท่ี 2 จะแสดง ก. ลกั ษณะการกระท�ำผดิ ข. ผูก้ ระทำ� ผิด (ถ้าจ�ำเปน็ ) ค. ทีมที่จะท�ำการเสิร์ฟตามสัญญาณมือของ ผตู้ ดั สนิ ที่ 1 (12.2.2) ในกรณนี ้ี ผตู้ ดั สนิ ที่ 1 จะไมแ่ สดงลกั ษณะของการ กระทำ� ผดิ และผกู้ ระทำ� ผิด แต่จะแสดงเฉพาะทมี ที่จะท�ำการเสิรฟ์ เทา่ นัน้ (ภาพท่ี 11 (2)) 22.2.3.3 ในกรณที ม่ี กี ารรกุ ทผ่ี ดิ ระเบยี บโดยผเู้ ลน่ แดนหลงั หรอื ตัวรบั อิสระ ผ้ตู ดั สินท้งั 2 คน จะแสดง ก. ลกั ษณะของการกระทำ� ผิด ข. ผูก้ ระทำ� ผดิ (ถ้าจำ� เป็น) ค. ทีมที่ท�ำการเสิร์ฟ ซึ่งช้ีน�ำโดยผู้ตัดสินที่ 1 (12.2.2/ภาพที่ 11 (2)) กติกาขอ้ ที่ 23 ผ้ตู ัดสนิ ท่ี 1 (First Referee) 23.1 ต�ำแหนง่ (Location) ผู้ตัดสินที่ 1 ท�ำหน้าที่โดยน่ังหรือยืนบนม้านั่งท่ีตั้งไว้ปลายสุดด้านหนึ่ง ของตาข่ายระดับสายตาต้องสูงกว่าขอบบนสุดของตาข่ายประมาณ 50 เซนติเมตร (ภาพท่ี 1a/ ภาพท่ี 1b/ภาพที่ 10) 23.2 อ�ำนาจหน้าท่ี (Authority) 23.2.1 ผู้ตัดสินที่ 1 ต้องควบคุมการแข่งขันตั้งแต่เร่ิมต้นจนส้ินสุด การแขง่ ขนั มีอ�ำนาจเหนือเจ้าหนา้ ทแ่ี ละผู้รว่ มทมี ทงั้ 2 ทีม (4.1.1/6.3) ระหวา่ งการแขง่ ขนั การตดั สนิ ใจของผตู้ ดั สนิ ที่ 1 ถอื เปน็ สนิ้ สดุ มอี �ำนาจกลับคำ� ตดั สนิ ของเจา้ หนา้ ทีท่ ุกคน เมื่อเหน็ วา่ เจ้าหนา้ ท่นี ัน้ ผิดพลาด ผู้ตัดสินที่ 1 มีอ�ำนาจเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าท่ี ซ่ึงเห็นว่าปฏิบัติ หน้าที่ไม่เหมาะสมได้ 23.2.2 ผตู้ ดั สนิ ที่ 1 ตอ้ งควบคมุ การทำ� งานของผกู้ ลง้ิ ลกู บอล ผเู้ ชด็ พน้ื (Floor Wipers) และผู้ถูพ้ืน (Moppers) (3.3) คูม่ ือผตู้ ัดสินกฬี าวอลเลย์บ ล 193


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook