แผนการจดั การเรยี นรู้ ว๓๑๒๐๕ ฟิสกิ ส์เพิ่มเตมิ ๑ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ จดั ทำโดย นางสาววิจติ ตา อำไพจิตต์ ครชู ำนาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต ๔
สว่ นราชการ บนั ทึกข้อความ ที่ โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม วันท่ี 16 พฤษภาคม 2562 เร่อื ง ขออนญุ าตใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ เรยี น ผู้อำนวยการโรงเรียนคลองหลวงวทิ ยาคม ตามที่ ข้าพเจ้านางสาววิจิตตา อำไพจิตต์ ตำแหน่งครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้รับ มอบหมายใหป้ ฏบิ ัติงานสอนในรายวิชาฟิสกิ ส์เพ่ิมเติม 1 รหัสวชิ า ว 31205 ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียน ท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 นั้น ผู้สอนได้วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชา สู่การจัดทำ โครงสร้างรายวิชาและแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาที่สอดคล้องกับหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลอง หลวงวิทยาคม พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขออนุญาตใช้แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์เพิม่ เติม 1 ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 เพ่อื ดำเนนิ การจดั การเรยี นการสอนต่อไป จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดทราบ วิจติ ตา ( นางสาววิจิตตา อำไพจติ ต์) ความคดิ เหน็ หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เหน็ ควรอนุญาต ☐ไม่เหน็ ควรอนุญาต …………………… ลงชือ่ ............................................ (นางอษุ ณีษ์ บุญทัศโร) ความคดิ เหน็ รองผ้อู ำนวยการกลุม่ บริหารวิชาการ เหน็ ควรอนุญาต ☐ไม่เห็นควรอนญุ าต …………………… ลงช่อื ............................................ ( นายอดุ มทรพั ย์ ใจดี ) ผ้ชู ว่ ยผูอ้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารวิชาการ ความคิดเห็นผู้อำนวยโรงเรียน ............................................................................................................................................................................. ☐ ยงั ไม่สมบรู ณ์/ต้องปรับปรุง อนุญาตให้ใช้แผนการจัดการเรยี นรใู้ นการจดั การเรียนการสอน ว่าทรี่ อ้ ยตรี ( เรงิ ฤทธิ์ ผดงุ พนั ธุ์ ) ผู้อำนวยการโรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม 16 พฤษภาคม 2562
แผนการจดั การเรยี นรู้ รหสั วิชา ว31205 รายวชิ า ฟสิ กิ ส์เพ่ิมเติม 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562 นางสาววจิ ิตตา อำไพจิตต์ ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
คำนำ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม ได้ใช้หลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช 2553 ตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 และได้ปรับปรุงหลกั สูตรสถานศึกษาอย่างต่อเน่อื ง ในปีการศึกษา 2561 ได้นำข้อเสนอแนะจากการประเมินหลักสูตรและนำนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลมาปรับปรุง เป็นหลักสูตร โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวง ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช 2560) เพอื่ ใช้เปน็ กรอบและทศิ ทางในการจัดการเรยี นการสอน และเป็นการนำหลกั สตู รไปสกู่ ารปฏิบัติ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ฟิสิกส์ เพิ่มเติม 1 รหัสวิชา ว 31205 ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 เลม่ น้ี ได้จัดทำตามหลกั สูตรโรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวง ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ซึ่งข้าพเจ้าได้วิเคราะห์มาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา โครงสรา้ งรายวชิ า เพื่อจัดทำหน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการ เรยี นรูเ้ ป็นรายช่ัวโมง มกี ารออกแบบการการเรียนร้ดู ้วยเทคนิค วธิ ีการสอนอยา่ งหลากหลายเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มี การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ท้งั ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และสมารถนะหลัก เพ่ือพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นให้บรรลเุ ปา้ หมายของหลักสตู ร วจิ ิตตา ( นางสาววจิ ติ ตา อำไพจติ ต์ ) ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการ
สารบญั หนา้ คำนำ 1 สารบัญ 2 4 ตอนที่ 1 การวิเคราะห์หลักสูตร 4 แบบการวิเคราะหเ์ พอ่ื จดั ทำคำอธบิ ายรายวิชา 6 คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน/เพมิ่ เติม 7 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรียน 7 โครงสร้างรายวชิ า 7 การวดั และประเมินผล สอื่ การเรียนรู้ 9 แหล่งเรียนรู้ 10 17 ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้และแผนการจดั การเรยี นรู้ 26 หน่วยการเรยี นท่ี 1 เร่ือง บทนำ 36 หน่วยการเรยี นที่ 2 เร่ือง การเคลื่อนที่แนวตรง 46 หน่วยการเรียนที่ 3 เรือ่ ง แรงและกฎการเคลอ่ื นที่ 50 หนว่ ยการเรยี นท่ี 4 เรอื่ ง สมดลุ กล 55 60 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 ธรรมชาติของฟิสิกส์ 65 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 หน่วยและการวดั 69 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 การวัดและการบนั ทึกผลการวัด 73 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เลขนัยสำคญั 78 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5 ความคลาดเคลื่อนของการวัด 82 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 การวเิ คราะห์ผลการทดลอง 87 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 7 การนำเสนอข้อมูลทางฟสิ กิ ส์ 92 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 ปรมิ าณตา่ งๆของการเคลื่อนที่ 1 97 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 ปริมาณต่างๆของการเคลอื่ นท่ี 2 102 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 อตั ราเรว็ ของการเคล่ือนท่ีแนวตรง 107 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 11 ความเรง่ 1 111 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 ความเร่ง 2 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 13 กราฟความเรว็ กับระยะทางสำหรับการเคลอื่ นที่ในแนวตรง แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 14 สมการการเคลื่อนที่ในแนวตรงด้วยความเร่งคงตัว แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 15 การตกแบบเสรี
สารบัญ (ต่อ) หนา้ 116 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 16 การเคลือ่ นทแี่ นวตรง 120 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 17 แรง 124 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 18 การหาแรงลัพธข์ องแรงสองแรงทที่ ำมมุ ต่อกัน 128 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 19 การหาแรงลพั ธโ์ ดยการสร้างรปู 133 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 20 การหาแรงลพั ธ์โดยการสรา้ งรูป 137 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 21 กฎการเคล่อื นท่ขี ้อท่ีหนึง่ ของนวิ ตัน 142 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 22 กฎการเคลือ่ นที่ข้อที่สองของนวิ ตนั 147 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 23 กฎการเคลือ่ นท่ขี อ้ ที่สามของนวิ ตัน 152 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 24 มวลและน้ำหนกั 157 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 25 กฎแรงดงึ ดดู ระหว่างมวลของนวิ ตนั 162 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 26 การเคลอ่ื นที่ของอนุภาคหรือวัตถุในสนามโน้มถว่ ง 168 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 27 แรงเสียดทาน 172 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 28 การนำกฎการเคลอื่ นทีข่ องนิวตันไปใช้ 177 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 29 การเคลอ่ื นที่ของวตั ถุบนพน้ื เอยี ง 182 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 30 การหาแรงปฏกิ ริ ิยาและการชง่ั นำ้ หนักในลฟิ ต์ 187 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 31 สภาพสมดุล 191 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 32 สมดลุ ตอ่ การเล่ือนที่ 196 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 33 สมดลุ ตอ่ การหมุน 201 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 34 โมเมนต์ของแรง 206 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 35 โมเมนต์ของแรงค่คู วบ 210 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 36 ศนู ย์กลางมวลและศูนยถ์ ่วง 215 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 37 สมดุลของวตั ถุ 219 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 38 เสถียรภาพของสมดุล 224 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 39 การนำหลกั สมดุลไปประยุกต์1 228 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 40 การนำหลักสมดุลไปประยกุ ต์2 ************************
หน้า 1 ตอนที่ 1 การวิเคราะหห์ ลกั สูตร
หนา้ 2 แบบการวเิ คราะห์เพือ่ จัดทำคำอธิบายรายวิชา รหสั วิชา ว31205 ชอ่ื รายวชิ า ฟสิ ิกส์เพิ่มเติม 1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 2.0 หน่วยกิต เวลา 80 ช่วั โมง ผสู้ อน นางสาววจิ ติ ตา อำไพจิตต์ โรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ K กระบวนการ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ (วชิ าเพ่มิ เตมิ ) PAC ความรู้ เนื้อหา 1. สบื คน้ และอธบิ ายการค้นหาความรู้ ความจำ ปรากฎการณธ์ รรมชาติ อธิบาย จติ วทิ ยาศาสตร์ การสอื่ สาร ทางฟิสิกส์ ประวัตคิ วามเปน็ มา ความเข้าใจ ธรรมชาตขิ องฟสิ ิกส์ ยกตวั อย่าง การคดิ รวมทง้ั พัฒนาการของหลักการและ พฒั นาการของ การใช้เทคโนฯ แนวคดิ ทางฟสิ ิกส์ทมี่ ผี ลการ หลกั การและแนวคดิ แสวงหาความรู้ใหม่และการพัฒนา ทางฟิสกิ ส์ เทคโนโลยี 2. วัดและรายงานผลการวัดปรมิ าณ ความจำ ปรมิ าณทางฟสิ กิ ส์ ทดลอง จิตวิทยาศาสตร์ การสื่อสาร ทางฟสิ กิ ส์ได้ถกู ตอ้ งเหมาะสม โดย ความเขา้ ใจ การวัดและความ อธิบาย การคดิ นำความคลาดเคล่ือนในการวดั มา นำไปใช้ คลาดเคล่ือนในการวัด วิเคราะห์ การแกป้ ญั หา พิจารณาในการนำเสนอผลด้วย การวิเคราะห์และแปล การใชเ้ ทคโนฯ รวมท้ังแสดงผลการทดลองในรูป ความหมายจากกราฟ ของกราฟ วิเคราะหแ์ ละแปล เส้นตรง ความหมายจากกราฟเส้นตรง 3. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ ความจำ ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง ทดลอง จติ วิทยาศาสตร์ การสื่อสาร ระหว่างตำแหนง่ การกระจดั ความเขา้ ใจ ตำแหน่ง การกระจดั อธิบาย การคิด ความเรว็ และความเร่งของการ นำไปใช้ ความเรว็ และความเรง่ คำนวณ การแกป้ ัญหา เคลอื่ นท่ีของวตั ถุในแนวตรงทมี่ ี ของการเคล่ือนท่ขี อง การใช้เทคโนฯ ความเร่งคงตวั จากกราฟและสมการ วตั ถใุ นแนวตรง รวมท้งั ทดลองหาค่าความเร่งโน้ม ความเรง่ โน้มถว่ ง ถ่วงของโลก และคำนวณปริมาณ ต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง 4. อธิบายแรงและผลของแรงลพั ธท์ ่ี ความจำ แรง อธิบาย จิตวิทยาศาสตร์ การสอ่ื สาร มีต่อการเคลื่อนท่ีของวัตถุ รวมท้งั ความเขา้ ใจ ผลของแรงลพั ธ์ที่มตี ่อ ทดลอง การคดิ ทดลองหาแรงลพั ธข์ องแรงสอง นำไปใช้ การเคลือ่ นทข่ี องวัตถุ คำนวณ การแก้ปัญหา แรงที่ทำมมุ ต่อกนั การใช้เทคโนฯ
หนา้ 3 ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ K กระบวนการ คุณลักษณะ สมรรถนะ (วิชาเพม่ิ เติม) A C ความรู้ เนอ้ื หา P 5. เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำตอ่ ความจำ แผนภาพของแรงที่ จติ วิทยาศาสตร์ การสอ่ื สาร วตั ถุอิสระ และอธิบายกฎการ ความเข้าใจ กระทำต่อวัตถุอสิ ระ เขยี น การคิด เคลือ่ นทข่ี องนวิ ตันและการใช้กฎ นำไปใช้ กฎการเคลอื่ นทขี่ องนวิ แผนภาพ จติ วทิ ยาศาสตร์ การแก้ปัญหา การเคลอ่ื นทีข่ องนิวตนั กับสภาพ ตนั ทดลอง การใชเ้ ทคโนฯ การเคลอ่ื นท่ีของวัตถุ รวมทั้ง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง อธบิ าย จิตวิทยาศาสตร์ ทดลองและอธบิ ายความสัมพันธ์ แรง มวล และความเรง่ จิตวิทยาศาสตร์ การส่ือสาร ระหว่างแรง มวล และความเร่ง วิเคราะห์ การคิด ตามกฎข้อทสี่ องของนิวตัน ความเขา้ ใจ แรงเสยี ดทานระหวา่ ง อธิบาย จิตวิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหา นำไปใช้ ผวิ สัมผสั ของวัตถุ ทดลอง 6. วิเคราะห์และอธิบายแรงเสยี ดทาน วเิ คราะห์ การทดลองหา การส่ือสาร ระหวา่ งผิวสัมผสั ของวตั ถุคู่หนง่ึ ๆ สมั ประสทิ ธ์ิความเสียด อธบิ าย การคดิ ในกรณีท่ีวัตถุหยุดนิ่งและวัตถุ ทาน คำนวณ การแก้ปญั หา เคลื่อนที่ รวมท้ังทดลองหา แรงเสยี ดทานไปใชใ้ น สมั ประสิทธค์ิ วามเสียดทาน ชวี ิตประจำวัน อธิบาย การสอ่ื สาร ระหวา่ งผิวสัมผสั ของวตั ถุค่หู นง่ึ ๆ คำนวณ การคดิ และนำความรเู้ ร่ืองแรงเสียดทาน ความจำ กฎความโนม้ ถ่วงสากล การแกป้ ญั หา ไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ความเข้าใจ ผลของสนามโนม้ ถ่วงที่ อธิบาย นำไปใช้ ทำให้วตั ถุมีนำ้ หนกั การสือ่ สาร 7. อธบิ ายกฎความโนม้ ถ่วงสากลและ การคิด ผลของสนามโน้มถ่วงท่ีทำใหว้ ตั ถมุ ี ความจำ สมดลุ กลของวัตถุ การแกป้ ญั หา นำ้ หนกั รวมท้งั คำนวณปรมิ าณ ความเขา้ ใจ โมเมนต์ แรงคคู่ วบ ต่าง ๆ ที่เก่ยี วขอ้ ง นำไปใช้ และผลของแรงคคู่ วบที่ มีตอ่ สมดุลของวตั ถุ 8. อธิบายสมดุลกลของวตั ถุ โมเมนต์ ความจำ การเขียนแผนภาพของ และผลรวมของโมเมนตท์ ม่ี ีตอ่ การ ความเขา้ ใจ แรงท่กี ระทำตอ่ วัตถุ หมนุ แรงคคู่ วบและผลของแรงคู่ นำไปใช้ อิสระ การทดลองและ ควบท่มี ตี อ่ สมดลุ ของวัตถุ เขียน อธบิ ายสมดลุ ของแรง แผนภาพของแรงทกี่ ระทำตอ่ วัตถุ สามแรง อสิ ระเมือ่ วัตถุอยใู่ นสมดลุ กลและ แรงทีก่ ระทำตอ่ วัตถุ คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ผา่ นศูนยก์ ลางมวลของ รวมทั้งทดลองและอธิบายสมดลุ วัตถุ และผลของศนู ย์ ของแรงสามแรง ถ่วงท่มี ตี อ่ เสถียรภาพ ของวัตถุ 9. สงั เกตและอธิบายสภาพการ เคลือ่ นทีข่ องวัตถุ เม่ือแรงท่กี ระทำ ตอ่ วตั ถผุ ่านศนู ยก์ ลางมวลของวัตถุ และผลของศูนยถ์ ว่ งทม่ี ตี ่อ เสถยี รภาพของวตั ถุ
หน้า 4 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เตมิ รหัสวิชา ว31205 ช่ือรายวชิ า ฟสิ ิกส์เพิ่มเติม 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 2.0 หน่วยกิต เวลา 80 ชัว่ โมง ผู้สอน นางสาววจิ ิตตา อำไพจิตต์ โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม ศกึ ษา สืบค้นและอธบิ ายการคน้ หาความรู้ทางฟิสกิ ส์ เกี่ยวกับประวัติความเปน็ มารวมทั้งพัฒนาการของ หลกั การและแนวคดิ ทางฟิสิกส์ มผี ลตอการแสวงหาความรูใหมและการพฒั นาเทคโนโลยี การวัดและการรายงาน ผลการวัดปริมาณทางฟสกิ ส หลกั การของกลศาสตรในเรอ่ื งการเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรง แรง การหาแรงลพั ธ ของแรงสองแรงที่ทํามมุ ตอกัน การเขยี นแผนภาพวตั ถุอิสระ กฎการเคล่อื นที่ของนวิ ตัน กฎความโนมถวงสากล แรงเสียดทานระหวางผิวสมั ผัสของวัตถคุ ูหน่ึง ๆ ในกรณีท่วี ตั ถุหยดุ นง่ิ และวัตถเุ คลอ่ื นทีก่ ารวดั ปริมาณทางฟิสิกส์ สมดลุ กลและเงอื่ นไขท่ที ําใหวัตถหุ รือระบบอยูในสมดลุ กล ศูนยกลางมวลของวตั ถแุ ละผลของศนู ยถวงทีม่ ตี อเส ถียรภาพของวัตถโุ มเมนต์ของแรงคู่ควบ โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา การสืบคนขอมูล การสงั เกต วิเคราะห เปรียบเทียบ อธิบาย อภปิ ราย และสรปุ มีความสามารถในการสำรวจ ตรวจสอบ การสบื ค้นข้อมูลและการอภปิ ราย เพอื่ เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสอ่ื สารสิ่งทเ่ี รียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ ปฏิบัตกิ ารทางวทิ ยาศาสตร์ แสวงหาความรใู้ หม่และการพฒั นา เทคโนโลยี รวมทงั้ ทกั ษะการเรยี นรูในศตวรรษที่ 21 ในดานการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ ดานการคิดและการแกปญหา ดานการสือ่ สาร สามารถสอื่ สารส่ิงที่เรียนรู และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวัน มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ มีจรยิ ธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นและอธบิ ายการคน้ หาความรทู้ างฟิสิกส์ ประวัตคิ วามเป็นมา รวมทั้งพัฒนาการของหลกั การและ แนวคดิ ทางฟสิ กิ ส์ที่มีผลการแสวงหาความรใู้ หมแ่ ละการพัฒนาเทคโนโลยี 2. วัดและรายงานผลการวัดปรมิ าณทางฟสิ กิ ส์ได้ถกู ตอ้ งเหมาะสม โดยนำความคลาดเคลื่อนในการวดั มา พจิ ารณาในการนำาเสนอผลด้วย รวมท้ังแสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะหแ์ ละแปล ความหมายจากกราฟเสน้ ตรง 3. ทดลองและอธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหวา่ งตำาแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเรง่ ของการเคล่ือนท่ี ของวัตถุในแนวตรงทีม่ ีความเรง่ คงตัวจากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่าความเรง่ โนม้ ถ่วงของโลก และคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 4. อธิบายแรงและผลของแรงลัพธท์ ่มี ตี ่อการเคล่ือนที่ของวัตถุ รวมทง้ั ทดลองหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงท่ี ทำมุมตอ่ กัน
หนา้ 5 5. เขียนแผนภาพของแรงทีก่ ระทำตอ่ วัตถุอิสระ และอธิบายกฎการเคล่ือนที่ของนิวตันและการใช้กฎการ เคล่อื นที่ของนิวตนั กบั สภาพการเคล่ือนทีข่ องวัตถุ รวมท้งั ทดลองและอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างแรง มวล และความเรง่ ตามกฎข้อท่ีสองของนิวตัน 6. วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถคุ หู่ นงึ่ ๆ ในกรณีที่วตั ถุหยดุ นงิ่ และวัตถุ เคลอื่ นท่ี รวมทัง้ ทดลองหาสัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหวา่ งผิวสัมผสั ของวตั ถุคู่หนงึ่ ๆ และนำาความรู้ เรือ่ งแรงเสียดทานไปใช้ในชวี ิตประจำวัน 7. อธิบายกฎความโนม้ ถว่ งสากลและผลของสนามโน้มถว่ งท่ีทำใหว้ ัตถมุ นี ้ำหนัก รวมทัง้ คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ ง 8. อธบิ ายสมดุลกลของวัตถุ โมเมนต์ และผลรวมของโมเมนต์ทม่ี ีตอ่ การหมนุ แรงคคู่ วบและผลของแรงคู่ ควบท่มี ตี อ่ สมดุลของวัตถุ เขียนแผนภาพของแรงท่ีกระทำตอ่ วัตถอุ ิสระเมือ่ วตั ถอุ ยู่ในสมดุลกลและ คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง รวมทั้งทดลองและอธิบายสมดุลของแรงสามแรง 9. สงั เกตและอธบิ ายสภาพการเคล่ือนท่ีของวตั ถุ เมื่อแรงที่กระทำตอ่ วัตถผุ า่ นศนู ยก์ ลางมวลของวตั ถุ และ ผลของศูนย์ถ่วงที่มีต่อเสถยี รภาพของวตั ถุ รวมทัง้ หมด 9 ผลการเรียนรู้
หน้า 6 โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ า ว31205 ฟสิ กิ ส์เพิ่มเตมิ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต เวลา 80 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาววจิ ติ ตา อำไพจติ ต์ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม ลำดับ ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระคำคญั เวลา น้ำหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 1 บทนำ 1. สบื ค้นและอธบิ ายการคน้ หาความรทู้ าง ฟิสิกส์เปน็ วิทยาศาสตร์ท่ศี กึ ษาหากฎตา่ งๆ เพือ่ อธบิ าย 12 15 ธรรมชาติ ฟิสิกส์ ประวัตคิ วามเป็นมา รวมทง้ั ปรากฏการณใ์ นธรรมชาติ จากการสงั เกตและรวบรวม เเละของ พฒั นาการของหลกั การและแนวคดิ ทาง ขอ้ มูลตา่ งๆ จากการวัดปริมาณกายภาพดว้ ยเครื่องมือ ฟิสิกส์ ฟิสิกสท์ ่ีมผี ลการแสวงหาความรู้ใหมแ่ ละการ โดยตรงหรอื ทางอ้อม ปรมิ าณทว่ี ดั ไดป้ ระกอบด้วยคา่ ท่ี พัฒนาเทคโนโลยี เปน็ ตัวเลขและหน่วยในระบบเอสไอ 2. วดั และรายงานผลการวดั ปริมาณทาง การทดลองมีความสำคญั ตอ่ การค้นหาความรู้ ขอ้ มลู ท่ี ฟิสิกสไ์ ด้ถูกตอ้ งเหมาะสม โดยนำความ ละเอียดและแมน่ ยำจะทำใหไ้ ด้ขอ้ สรปุ ท่ีนำไปสกู่ าร คลาดเคลือ่ นในการวัดมาพจิ ารณาในการนำา ค้นพบใหม่ แต่ในการวดั จะมคี วามคลาดเคลื่อน จงึ ควร เสนอผลด้วย รวมทัง้ แสดงผลการทดลองใน บันทกึ ผลการวดั อยา่ งเหมาะสมซ่งึ นำไปใชใ้ นการ รปู ของกราฟ วิเคราะหแ์ ละแปลความหมาย นำเสนอผล การเขยี นกราฟและลงขอ้ สรปุ รวมทงั้ มี จากกราฟเสน้ ตรง ทกั ษะในการรายงานผลการทดลอง 2 การ 3. ทดลองและอธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่าง ปริมาณท่เี กีย่ วข้องกับการเคล่ือนท่ี ได้แก่ การกระจัด 18 25 เคลอื่ นท่ี ตำาแหนง่ การกระจดั ความเรว็ และ ความเรว็ และความเร่ง ในการเคล่อื นท่แี นวตรงของ แนวตรง ความเรง่ ของการเคลื่อนทข่ี องวตั ถุในแนว วัตถดุ ้วยความเรง่ คงตัว การกระจัด ความเรว็ และ ตรงท่ีมคี วามเรง่ คงตวั จากกราฟและสมการ ความเรง่ มีความสมั พันธ์ ดงั สมการ v = u + at, รวมทัง้ ทดลองหาคา่ ความเรง่ โน้มถว่ งของ s = (v+u)1/2 t, s = ut + (1/2) at2 โลก และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ ง และ v2 = u2 + 2as 3 แรง 4. อธบิ ายแรงและผลของแรงลพั ธ์ท่มี ีต่อการ แรงเปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์ท่ีมที ้งั ขนาดและทศิ ทาง เมอื่ มี 30 35 และกฏการ เคล่อื นทข่ี องวตั ถุ รวมท้งั ทดลองหาแรงลัพธ์ แรงลัพธท์ ่ีไม่เป็นศูนย์กระทำตอ่ วตั ถุ จะทำใหว้ ตั ถมุ ี เคลอื่ นที่ ของแรงสองแรงที่ทำมมุ ต่อกนั ความเร่ง การแรงลัพธ์ท่กี ระทำตอ่ วัตถอุ าจทำได้โดย วธิ กี ารสร้างรปู และการคำนวณ 5. เขยี นแผนภาพของแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุ การเคล่ือนที่โดยทัว่ ไปของวัตถจุ ะเกี่ยวขอ้ งกับแรงท่ี อิสระ และอธิบายกฎการเคล่อื นท่ขี องนวิ ตนั กระทำต่อวัตถนุ ้นั กฎการเคล่ือนท่ขี องนวิ ตนั เป็น และการใชก้ ฎการเคลอื่ นท่ีของนิวตนั กับ ความรพู้ ื้นฐานทส่ี ำคญั สามารถนำไป หาใชห้ าปริมาณ สภาพการเคล่อื นทขี่ องวตั ถุ รวมทงั้ ทดลอง ต่างๆทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับแรงและการเคลื่อนที่ และอธบิ ายความสมั พันธ์ระหวา่ งแรง มวล และความเร่ง ตามกฎข้อที่สองของนิวตัน 6. วเิ คราะห์และอธบิ ายแรงเสยี ดทาน วตั ถุสองก้อนทส่ี ัมผัสกนั จะมีแรงเสียดทานเกิดขึ้นที่ ระหวา่ งผิวสมั ผัสของวตั ถุค่หู นง่ึ ๆ ในกรณีที่ ผิวสมั ผัสระหว่างผิววตั ถุสองก้อนในทศิ ทางตรงข้ามกบั วัตถุหยุดนง่ิ และวตั ถุเคลอ่ื นที่ รวมท้ังทดลอง ทิศทางการเคลอ่ื นที่หรือแนวโน้มทจี่ ะเคลอื่ นท่ีของวตั ถุ หาสมั ประสทิ ธ์คิ วามเสียดทานระหว่าง แรงเสียดทานท่ีกระทำต่อวตั ถุขณะอยู่นิ่ง เรยี กว่า แรง ผิวสมั ผัสของวตั ถคุ หู่ นง่ึ ๆ และนำาความรู้ เสียดทานสถิต แรงเสียดทานทีก่ ระทำต่อวัตถุขณะกำลัง เรื่องแรงเสียดทานไปใชใ้ นชวี ิตประจำาวัน เคลอ่ื นท่ี เรยี กวา่ แรงเสียดทานจลน์ การเพ่มิ หรือลดแรง เสยี ดทานมีผลต่อการเคลื่อนที่ของวตั ถุ
หนา้ 7 ลำดั ชื่อหนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระคำคญั เวลา น้ำหนัก บท่ี การเรยี นรู้ (สาระการเรียนรู้แกนกลาง) (ชวั่ โมง) คะแนน แรงและกฏ 7. อธิบายกฎความโนม้ ถว่ งสากลและผล วัตถุคู่หนึ่งๆ จะมแี รงกระทำร่วม ซ่งึ เปน็ แรงดงึ ดูด การเคลื่อน ของสนามโนม้ ถ่วงที่ทำให้วตั ถมุ ีน้ำหนกั ระหว่างมวลโดย กฏแรงดงึ ดูดระหว่างมวลของนวิ ตนั รวมทัง้ คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ วตั ถุทั้งหลายในเอกภพจะออกแรงดงึ ดูดซ่งึ กันและกัน ที่เกยี่ วขอ้ ง โดยขนาดของแรงดึงดดู ระหวา่ งวตั ถุคหู่ นงึ่ ๆ จะแปรผนั ตรงกบั ผลคูณระหว่างมวลวตั ถุท้ังสอง และจะแปรผกผนั กบั กำลงั สองของระยะทางระหว่างวตั ถุทงั้ สองนัน้ 4 สมดุลกล 8. อธบิ ายสมดุลกลของวัตถุ โมเมนต์ และ สภาพสมดลุ คือสภาพท่วี ตั ถสุ ามารถรักษาสภาพการ 20 20 ผลรวมของโมเมนต์ทมี่ ีตอ่ การหมนุ แรงคู่ เคล่ือนท่ใี หค้ งเดิม โมเมนต์ของแรงหรือทอรก์ มคี า่ ควบและผลของแรงคคู่ วบทมี่ ีต่อสมดลุ ของ เท่ากบั ผลคณู ระหว่างขนาดของแรงกบั ระยะทางจาก วตั ถุ เขียนแผนภาพของแรงทกี่ ระทำต่อวัตถุ แกนหมุนท่ีตงั้ ฉากกบั แนวแรง อสิ ระเมอื่ วัตถอุ ยใู่ นสมดลุ กลและคำนวณ สภาพสมดลุ ของวัตถุอธบิ ายได้ดว้ ยกฏการเคลื่อนทข่ี ้อท่ี ปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง รวมทงั้ ทดลอง 1 ของนวิ ตนั และโมเมนต์ของแรงซ่ึงเราสามารถนำ และอธิบายสมดุลของแรงสามแรง หลกั การต่าง ๆ ของสภาพสมดลุ ไปประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ สมดลุ กล 9. สงั เกตและอธิบายสภาพการเคลอื่ นที่ เมอ่ื ออกแรงในแนวระดับกระทำ ต่อวัตถุท่วี างบนพ้นื ล่ืน ของวตั ถุ เมือ่ แรงทก่ี ระทำต่อวัตถุผา่ น แล้วตถั เุ คลอ่ื นที่แบบเล่ือนที่ โดยไมห่ มนุ แนว แรงนัน้ จะ ศูนย์กลางมวลของวตั ถุ และผลของศูนย์ถ่วง ผ่านศูนยก์ ลางมวล และ ในกรณีทว่ี ัตถุอยู่ ในสนามโน้ม ทมี่ ตี ่อเสถียรภาพของวตั ถุ ถว่ งเดยี วกัน ศูนยกล์ างมวลและศนู ยถ์ ว่ งอยูท่ ่ีตำแหนง่ เดยี วกนั รวม 80 100 4. การวัดและประเมินผล 4.1 การประเมินระหวา่ งภาคและปลายภาค อัตราส่วน 70 : 30 4.1.1 การประเมินระหวา่ งภาค 70 คะแนน - ประเมนิ กอ่ นสอบกลางภาค 20 คะแนน - ประเมินกลางภาค 20 คะแนน - ประเมินหลงั สอบกลางภาค 20 คะแนน - ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของรายวิชา 10 คะแนน 4.1.2 การประเมนิ ปลายภาค 30 คะแนน 4.2 การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 4.3 การประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน
หน้า 8 5. สื่อการเรยี นรู้ 1) เอกสารประกอบการสอน รายวชิ าฟสิ กิ สเ์ พมิ่ เติม 1 ระดับชั้น ม.4 2) หนงั สอื เรยี นรายวชิ าฟสิ กิ สเ์ พิ่มเตมิ เลม่ 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 3) ส่อื power point เรื่อง ฟิสิกส์บทนำ 4) สื่อ power point เรือ่ ง การเคลือนที่แนวตรง 5) สือ่ power point เร่ือง แรงและกฏการเคลอื นท่ี 6) สื่อ power point เรื่อง สภาพสมดุล 6. แหล่งเรยี นรู้ 1) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ 2) หอ้ งสมดุ
หน้า 9 ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้
หน้า 10 หนว่ ยการเรยี นท่ี 1 เร่ือง บทนำ รหัสวชิ า ว 31201 ชื่อรายวิชา ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ เวลา 14 ช่วั โมง ผูส้ อน นางสาววิจิตตา อำไพจติ ต์ โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ สาระที่ 1 เขา้ ใจธรรมชาตทิ างฟิสิกส์ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลือ่ นทแี่ นวตรง แรงและกฎการ เคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการอนรุ ักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ กั ษ์ โมเมนตมั การเคล่อื นทแ่ี นวโค้ง รวมทงั้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. สบื ค้นและอธิบายการค้นหาความรู้ทางฟสิ ิกส์ ประวตั ิความเป็นมารวมทั้งพัฒนาการของ หลกั การและ แนวคดิ ทางฟิสกิ ส์ทม่ี ีผลต่อ การแสวงหาความรใู้ หม่และการพฒั นา เทคโนโลยี 2. วัดและรายงานผลการวัดปรมิ าณทางฟสิ กิ ส์ ไดถ้ กู ต้องเหมาะสม โดยนำความคลาดเคล่ือน ในการวดั มาพจิ ารณาในการนำเสนอผล รวมท้ัง แสดงผลการทดลองในรปู ของกราฟ วิเคราะห์ และ แปลความหมายจากกราฟเสน้ ตรง 2. สาระสำคัญ ฟิสิกส์หมายถึงเรื่องราวที่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติวิทยาศาสตร์หมายถึงองค์ความรู้และวิธีการหา ความรดู้ ้วยวธิ ีการของวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยหี มายถงึ การนำวิทยาศาสตรม์ าประยุกต์ใช้ประโยชน์หน่วยมาตรฐาน ท่ีใช้บอกปรมิ าณทางฟสิ ิกส์คือระบบเอสไอ ซง่ึ ใช้ทั้งหน่วยฐานและหน่วยอนุพัทธ์ความไม่แน่นอนในการวดั อาจเกิด จากเครอ่ื งมือ วธิ กี ารวัด ความสามารถของผวู้ ัด และประสบการณข์ องผู้วัดเลขนัยสำคญั คอื ตวั เลขท่ีมีความหมาย หรือมีความสำคญั ในปรมิ าณทแี่ สดง 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ฟิสิกส์เป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนงึ่ ท่ีศึกษาเกี่ยวกับ สสาร พลงั งาน อันตรกริ ิยาระหว่างสสารกับ พลังงาน และแรงพ้ืนฐานในธรรมชาติ การค้นคว้าหาความรู้ทางฟิสิกส์ ไดม้ าจากการสงั เกต การทดลอง และเก็บรวบรวม ขอ้ มูลมาวิคราะห์ หรอื จากการสรา้ งแบบจำลองทางความคดิ เพอ่ื สรุป เป็นทฤษฎี หลกั การหรือกฎ ความรู้เหล่าน้ี สามารถนำไปใช้อธบิ ายปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือทำนายสิง่ ทอี่ าจจะเกิดข้นึ ในอนาคต ประวัตคิ วามเป็นมาและ พัฒนาการของหลักการ และแนวคิดทางฟสิ ิกส์เปน็ พื้นฐานในการแสวงหา ความรู้ใหม่เพิ่มเติมรวมถึงการพัฒนา และความ กา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีกม็ ีสว่ นในการค้นหา ความรู้ใหม่ทางวิทยาศาสตร์ด้วย
หน้า 11 ความรู้ทางฟิสิกส์ส่วนหนึ่งได้จากการทดลอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการวัดปริมาณทางฟิสิกส์ซ่ึง ประกอบด้วยตวั เลขและหนว่ ยวดั ปริมาณทางฟิสิกส์สามารถวัดได้ด้วยเครื่องมือ ต่างๆโดยตรงหรือทางอ้อม หน่วยทใี่ ช้ในการวัด ปริมาณทางวทิ ยาศาสตร์คือระบบหนว่ ย ระหว่างชาติเรียกย่อว่าระบบเอสไอปริมาณทาง ฟิสิกส์ที่มีค่าน้อยกว่าหรือมากกว่า1มากๆนิยมเขียนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์หรือเขียนโดยใช้คำนำหน้าหน่วย ของระบบเอสไอ การเขียนโดยใช้สัญกรณ์วิทยาศาสตร์เป็นการเขียน เพื่อแสดงจำนวนเลขนัยสำคัญที่ถูกต้ อง การทดลองทางฟิสิกส์เกี่ยวกับการวัดปริมาณต่างๆการบันทึกปริมาณที่ได้จากการวัดด้วยจำนวน เลข นัยสำคญั ทเ่ี หมาะสม และคา่ ความคลาดเคล่ือน การวเิ คราะหแ์ ละการแปลความหมายจากกราฟ เ ช่ น การหาความชันจากกราฟเสน้ ตรง จดุ ตัดแกน พนื้ ที่ใต้กราฟ เปน็ ตน้ การวดั ปริมาณต่างๆจะมีความคลาดเคลื่อน เสมอขนึ้ อยูก่ บั เครื่องมอื วธิ กี ารวัดและประสบการณ์ ของผู้วดั ซ่ึงคา่ ความคลาดเคล่อื นสามารถแสดงในการรายงาน ผลท้งั ในรปู แบบตัวเลขและกราฟ การวัดควรเลอื กใช้เครอ่ื งมอื วดั ให้เหมาะสมกบั สิ่งที่ต้องการวัดเช่นการ วดั ความยาวของวตั ถุท่ีต้องการความละเอียดสูง อาจใชเ้ วอร์เนียรแ์ คลลิเปิร์ส หรือไมโครมิเตอร์ฟิสิกส์อาศัยหลัก คณติ ศาสตรเ์ ปน็ เคร่อื งมอื ในการศึกษา ค้นคว้าและการสอื่ สาร 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน/บูรณาการ - 4. สมรรถนะสำคญั และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 1. มีวินัย 2. มีจิตวทิ ยาศาสตร์ ไดแ้ ก่ ความสนใจใฝ่รู้ มงุ่ มั่น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ ในการทำงาน 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (ของหนว่ ยการเรยี น) 1. แบบทดสอบ เร่ือง คำอุปสรรคและประวัตคิ วามเปน็ มา 2. ทำการทดลองและนำเสนอผลการทดลอง เรอ่ื ง การวดั 3. แบบทดสอบประจำบทที่ 1 บทนำ
หน้า 12 6. การวัดและประเมินผล รายการวดั วิธวี ดั เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 6.1 การประเมินชนิ้ งาน/ ใบงาน ผ่านเกณฑ์ในระดบั แบบฝึกหดั เพ่ิมเติม ดี ขึน้ ไป ภาระงาน แบบประเมิน - - ใบงาน ตรวจใบงาน 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ผ่านเกณฑ์ในระดบั - แบบฝึกหดั เพิ่มเติม ตรวจแบบฝกึ หัด ใบงาน ดี ขน้ึ ไป แบบฝึกทักษะ - ทำการทดลองและนำเสนอ บนั ทึกผลการทดลอง ข้อคำถามอตั นัย ผ่านเกณฑใ์ นระดับ การเขยี นกราฟ รายงานการ ดี ข้ึนไป ผลการทดลอง แบบบนั ทึกสมรรณนะสำคัญ ทดลอง ของผู้เรียน ดา้ น ผา่ นเกณฑ์การ -ความสามารถในการสอ่ื สาร ประเมินในระดบั ดี 6.2 การประเมนิ ก่อนเรยี น -ความสามารถในการคดิ ขึ้นไป -ความสามารถในการใช้ 1. ทดสอบก่อนเรียน 1. ใชแ้ บบทดสอบก่อนเรียน เทคโนโลยี ผา่ นเกณฑ์ ได้คะแนนร้อยละ 6.3 การประเมนิ ระหว่างเรยี น แบบสังเกตพฤตกิ รรม 70 ประกอบด้วย - ด้านความรู้ 1) แต่งกายถกู ระเบียบ 2) เขา้ เรียนตรงเวลา . ใบงาน ใช้ตรวจคำตอบใบงาน 3) มีอุปกรณก์ ารเรยี นพรอ้ ม 4) ทำงานเสรจ็ ตรงตรามเวลา - ด้านกระบวนการ 5) ผลงานผา่ นตามเกณฑ์ . แบบฝึกทักษะ ใชต้ รวจแบบฝึกทกั ษะ 1. แบบทดสอบปรนยั ขอ้ คำถามอัตนยั - ด้านสมรรณนะสำคัญของ ตรวจแบบฝึกทักษะ โดยนำมา ผู้เรียน ประเมินรว่ มกับการ ใช้แบบบันทึกสมรรณนะสำคญั ของผเู้ รยี น ด้าน -ความสามารถในการส่อื สาร -ความสามารถในการคิด -ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ สังเกตพฤตกิ รรมในชัน้ เรยี น โดย ประสงค์ ใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรม มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน 6.4 การประเมินหลงั เรียน 1.ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น 1. ทดสอบหลงั เรยี น
7. กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ วิธสี อน/เทคนิคการสอน หนา้ 13 เรอื่ งท่ี ชอ่ื เรอ่ื ง การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เวลา การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) (ชว่ั โมง) 1 ธรรมชาติของฟสิ ิกส์ ทดลอง 2 หนว่ ยและการวัด การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 3 การวัดและการบันทกึ ผลการวัด การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 4 เลขนยั สำคัญ ทดลอง 2 5 ความคลาดเคล่อื นของการวัด การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 6 การวเิ คราะห์ผลการทดลอง 2 7 การนำเสนอขอ้ มลู ทางฟิสิกส์ 2 2 รวม 14 8. สอ่ื การเรียนร้/ู แหลง่ เรยี นรู้ แหลง่ เรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ 1. แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ 2. ห้องสมุด 1. หนงั สอื เรียนรายวิชาฟิสิกส์เพิม่ เติม เลม่ 1 ช้ัน มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 2. สอ่ื การเรียนรู้ PowerPoint 3. ใบความรู้ ลงชอ่ื .......................................................ผ้สู อน ( นางสาววิจติ ตา อำไพจิตต์) วันที่.................................................. ลงชอื่ .......................................................คู่นิเทศ ( นายตฤณธวิ ฒั น์ ภญิ โญชยั ภทั ร ) วันท่.ี .................................................
หนา้ 14 แบบประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน ที่ 1 บทนำ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ 1. สบื ค้นและอธิบายการคน้ หาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวตั ิความเปน็ มารวมทั้งพัฒนาการของ หลกั การและ แนวคิดทางฟิสิกสท์ มี่ ีผลตอ่ การแสวงหาความรู้ใหม่และการพัฒนา เทคโนโลยี 2. วัดและรายงานผลการวดั ปรมิ าณทางฟิสิกสไ์ ด้ถูกตอ้ งเหมาะสม โดยนำความคลาดเคลอื่ น ในการวดั มา พิจารณาในการนำเสนอผล รวมท้งั แสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะห์ และแปลความหมายจากกราฟ เส้นตรง รายการประเมิน 1. แบบทดสอบ เรือ่ ง คำอุปสรรคและประวัตคิ วามเป็นมา 2. ทำการทดลองและนำเสนอผลการทดลอง เรื่อง การวัด 3. แบบฝกึ หัด และใบงาน เกณฑ์การประเมนิ ระดับคุณภาพ รายการประเมิน 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ 1 (ปรับปรุง) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1.แบบทดสอบ คำตอบถูก แสดงวิธคี ิดได้ คำตอบถกู แสดงวิธีคดิ เหตผุ ลหรือการคำนวณ แสดงวิธคี ิดเล็กนอ้ ย แต่ยัง และสรุปคำตอบได้ถกู ตอ้ ง ได้ถูกต้อง แต่ไม่ได้ใส่ ผิดพลาด แต่มีแนวทางท่ี ไม่ไดค้ ำตอบ ชัดเจน หนว่ ยหรือสรปุ คำตอบ จะไดค้ ำตอบ 2.บนั ทกึ ผลการ ในรายงานผลการทดลองมี ในรายงานผลการ ในรายงานผลการ ในรายงานผลการทดลองมี ทดลอง การอธิบายผลการทดลอง ทดลองแสดงใหเ้ ห็นวา่ ทดลองมีการแสดงผล การแสดงผลการทดลอง ได้ชดั เจน มกี ารใชข้ ้อมลู นักเรียนมคี วามเขา้ ใจใจ การทดลองการสรุปผล ขาดการสรุปผล หรือไม่ จากแหลง่ ต่างๆ หรือจาก ผลการทดลองและรู้วา่ ยงั ไมส่ มบรู ณ์ หรือมกี าร สมบรู ณ์ หรือสบั สน การทดลองอื่นๆ ประกอบ จะอธบิ ายผลการทดลอง สรปุ ผล แตส่ รุปหลงั จาก คำอธิบาย นั้นอยา่ งไร ถกู ถามคำถาม 3. การเขียนกราฟ เขียนกราฟได้อยา่ งถกู ต้อง เขียนกราฟไดอ้ ย่าง เขียนกราฟได้อย่าง เขียนกราฟไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สมบูรณ์ครบถว้ นทุก ถูกต้อง ขาด ถูกต้อง ขาด ขาดองค์ประกอบกราฟ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบกราฟไป 1 องค์ประกอบกราฟไป 2 มากกวา่ 2 องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ 4.ทำการทดลอง การทดลองที่ใช้แสดงให้ การทดลองท่ใี ชแ้ สดงให้ การทดลองที่ใชแ้ สดงให้ การทดลองท่ีใช้แสดงให้ เห็นวา่ นักเรียนได้มีการ เห็นวา่ นักเรียนได้นำ เห็นว่านกั เรียนได้ใช้ เห็นว่านกั เรียนสามารถทำ วิเคราะหป์ ัญหาและ ความคดิ กระบวนการ กระบวนการทาง การทดลองไดเ้ มื่อได้รบั ออกแบบการทดลองได้ ทางวทิ ยาศาสตร์มาใชใ้ น วทิ ยาศาสตร์ แต่ ความช่วยเหลอื จากครู ดว้ ยตนเองและสามารถทำ การทดลองโดยมีการ จำเป็นตอ้ งช่วยในการ การทดลองไดอ้ ยา่ ง ควบคุมตัวแปรตา่ งๆ ควบคุมตัวแปร เหมาะสม
หนา้ 15 รายการประเมนิ 4 (ดมี าก) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรบั ปรงุ ) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ การพดู นำเสนอทำได้ หลังได้รับการสอนจาก 5. การนำเสนอ การพูดนำเสนอทำไดอ้ ยา่ ง การพดู นำเสนอได้รับการ การพูดนำเสนอ ครู ผลการ ชดั เจน ถูกต้อง ผฟู้ งั ให้ จัดเตรียมดว้ ยความ ทำได้หลงั จาก ทดลอง ความสนใจ มที า่ ทาง ชว่ ยเหลอื ได้รบั การสอน นำ้ เสียง และการสบ บางประการจากครู แต่มี จากครู มีการใช้ สายตาผฟู้ ังดมี าก การนำเสนอผลการทดลอง ท่าทาง น้ำเสียง การพูดมเี หตุ มีผล และใช้ และการสบ ทา่ ทางประกอบนำ้ เสียง สายตาผูฟ้ งั และการสบตาผฟู้ ังทำได้ดี เกณฑ์ระดบั คณุ ภาพด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์(A) ในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชา ว31205 ฟสิ กิ ส์ เพิม่ เตมิ 1 ดังนี้ 1 มวี ินัย หมายถึง 1) แตง่ กายถูกระเบียบของโรงเรยี น 2) เขา้ เรยี นตรงเวลา 2 ใฝ่เรียนรู้ หมายถึง มีความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรียน 3 มุ่งมน่ั ในการทำงาน หมายถึง 1) ทำงานเสร็จตรงตรามเวลา 2) ผลสำเร็จของงานผา่ นตามเกณฑ์ วธิ ี เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ระดบั ความหมาย เกณฑก์ ารผ่าน การประเมนิ การประเมนิ การประเมิน คะแนน การสงั เกต แบบสังเกต ปฏบิ ัตไิ ด้ 5 ขอ้ ดมี าก ระดับ พฤติกรรม ปฏบิ ัตไิ ด้ 4 ข้อ 10 ดี คะแนน 8 ปฏิบัติได้ 3 ข้อ 8 ปฏบิ ัตไิ ด้ 0-2 ข้อ 6 พอใช้ ขน้ึ ไป 0-4 ปรบั ปรุง
หนา้ 16 รายการประเมิน 4 (ดมี าก) ระดับคณุ ภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ ) สมรรถนะสำคัญ รายการพฤติกรรม มีพฤตกิ รรม มีพฤติกรรม มพี ฤตกิ รรม มพี ฤติกรรมตำ่ 1. มกี ารปรกึ ษาและวางแผนร่วมกันกอ่ นทำงาน ตง้ั แต่ 8 ขอ้ ตัง้ แต่ 5-7 ตั้งแต่ 4-2 กวา่ 2 ข้อ 2. มีการแบ่งหนา้ ท่ีอยา่ งเหมาะสมและสมาชกิ ทำ ตามหนา้ ทีท่ ุกคน ขอ้ ข้อ 3. มกี ารปฏบิ ตั งิ านตามข้นั ตอน 4. มีการให้ความชว่ ยเหลือกัน มีพฤตกิ รรมครบ ขาดพฤติกรรม ขาดพฤตกิ รรม ขาดพฤตกิ รรม 5. ผลงานเป็นไปตามวตั ถุประสงค์ทก่ี ำหนด ทุกขอ้ 1 ข้อ 2 ขอ้ 3 ข้อ 6. ผลงานเสร็จทนั ตามกำหนดเวลา 7. ผลงานมคี วามคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์ 8. ผลงานแสดงถงึ การนำความรู้ทไี่ ดม้ าประยุกต์ใช้ 9. สามารถใหค้ ำแนะนำกลุ่มอนื่ ได้ 10. การจัดวัสดุ อุปกรณ์ เรยี บรอ้ ย หลงั เลกิ ปฏิบตั ิงาน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์คา่ นิยม 12 ประการ รายการ 1. ซอ่ื สัตย์ สุจริตบนั ทึกผลและรายงานผลการ ทดลองตามความเปน็ จรงิ 2. ม่งุ ม่ันในการทำงานทำงานเสรจ็ ทนั เวลา 3. มวี ินัยเขา้ เรียนตรงเวลา 4. ใฝเ่ รยี นรศู้ ึกษาเพิม่ เตมิ จากแหล่งเรียนรอู้ นื่ 5. มจี ิตสาธารณะทำความสะอาดอุปกรณ์และ ห้องทดลอง คะแนนตดั สินระดบั คุณภาพ คณุ ภาพ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ระดับ 3 หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ดี คะแนน 9-10 หมายถงึ ดี ระดับ 2 หมายถงึ มีพฤตกิ รรมในระดบั ปานกลาง คะแนน 6-8 หมายถงึ ปานกลาง คะแนน 0-5 หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1 หมายถงึ มีพฤตกิ รรมในระดับ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ นรอ้ ยละ 60 (6 คะแนน)
หน้า 17 หนว่ ยการเรยี นท่ี 2 เรื่อง การเคล่ือนทีแ่ นวตรง รหสั วชิ า ว 31201 ชอ่ื รายวิชา ฟสิ กิ ส์เพ่มิ เตมิ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 จำนวน 2.0 หน่วยกิต เวลา 20 ชวั่ โมง ผู้สอน นางสาววจิ ิตตา อำไพจิตต์ โรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ สาระที่ 1 เขา้ ใจธรรมชาติทางฟิสกิ สป์ รมิ าณและกระบวนการวดั การเคลื่อนทแ่ี นวตรง แรงและกฎการ เคลื่อนที่ของนิวตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์ โมเมนตมั การเคล่ือนทแ่ี นวโค้ง รวมทงั้ นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ 3. ทดลองและอธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่าง ตำแหน่งการกระจัด ความเร็ว และความเร่ง ของการ เคล่อื นทขี่ องวัตถุในแนวตรงทม่ี คี วามเรง่ คงตวั จากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่า ความเร่งโน้มถ่วงของ โลกและคำนวณปริมาณตา่ งๆท่ีเกีย่ วขอ้ ง 2. สาระสำคญั การเคลื่อนที่ในแนวตรง เป็นการเคลื่อนที่ในแนวใดแนวหนึ่ง เช่น แนวราบหรือแนวด่ิงที่มีระยะทางการ กระจดั อตั ราเร็ว ความเรว็ ความเร่ง อย่ใู นแนวเส้นตรงเดียวกนั ระยะทาง (Distance) สามารถวดั ไดเ้ มือ่ ทราบตำแหน่งเรม่ิ ต้น ตำแหน่งสุดท้าย และเส้นทางการเคลอ่ื นที่ ของวัตถุนั้น อาจกล่าวได้ว่า ระยะทางเป็นระยะทางทั้งหมดที่ครอบคลุมการเคลื่อนที่ของวัตถุโดยไม่คำนึงถึง ทิศทางของการเคลอ่ื นท่ี โดยพจิ ารณาเฉพาะจำนวนหรือปรมิ าณเปน็ สำคญั ระยะทางจึงเป็นปรมิ าณ สเกลาร์ การกระจัด (Displacement) เป็นปริมาณที่บอกให้ทราบถึงการเปลี่ยนตำแหน่งใหม่เทียบกับตำแหน่ง เดมิ โดยระบทุ ง้ั ระยะหา่ งและทิศทาง การกระจัดจงึ เปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์ อัตราเร็ว (Speed) ของวตั ถุจะบอกเราวา่ วัตถุเคลือ่ นท่ไี ด้เร็วหรือชา้ ในทางฟิสิกสอ์ ัตราเร็วของวัตถุเป็น ระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ต่อหน่วยเวลา เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงระยะทาง หน่วยของอัตราเร็ววัดเป็นเมตร/ วนิ าที หรอื กโิ ลเมตร/ชวั่ โมง ความเรว็ (Velocity) เปน็ อตั ราการเปล่ยี นแปลงการกระจดั หรือการกระจัดทเ่ี ปล่ียนไปในหนึง่ หน่วยเวลา ทศิ ของความเร็วเป็นทิศเดียวกับทิศการเปลี่ยนการกระจัด เป็นปริมาณเวกเตอร์ และมีหน่วยเป็นเมตร/วนิ าที หรือ กิโลเมตร/ชัว่ โมง ความเร่ง (acceleration) หมายถึง ความเรว็ ท่ีเปลี่ยนแปลงไปในหนึ่งหน่วยเวลา เนอ่ื งจากความเร็วเป็น ปริมาณเวกเตอร์ ความเร่งจึงเป็นปริมาณเวกเตอร์ด้วย สำหรับความเร่งในช่วงเวลาการเคลื่อนที่ใดๆ เรียกว่า ความเรง่ เฉลยี่ (average acceleration) ซงึ่ เป็นอัตราสว่ นระหว่างความเร็วท่ีเปลีย่ นไปทง้ั หมดกับช่วงเวลาท่ีเกิด การเปลี่ยนความเรว็ น้ัน
หนา้ 18 การตกแบบเสรี เป็นการเคลื่อนที่ของวัตถุวัตถุภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลกเพียงแรงเดียว โดยไม่คิดแรง ต้านหรือแรงเสียดทานของอากาศ ความเร่งในการเคลื่อนที่ของวัตถุที่ตกแบบเสรี เรียกว่า ความเร่งโน้มถ่วงของ โลก 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง • ปริมาณที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ ได้แก่ ตำแหน่ง การกระจดั ความเร็ว และความเร่ง โดยความเร็วและ ความเร่งมีทั้งค่าเฉลี่ยและค่าขณะหนึ่งซึ่งคิดในช่วงเวลาสั้น ๆ สำหรับปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ แนวตรงดว้ ยความเรง่ คงตวั มคี วามสัมพนั ธ์ตามสมการ 1. v = u + at 2. S = ( u + v ) t 2 1 3. S = ut + 2 at2 4. v2 = u2 + 2aS • การอธิบายการเคลื่อนท่ีของวัตถสุ ามารถเขียนอยู่ในรปู กราฟตำแหน่งกับเวลา กราฟความเรว็ กับเวลา หรือกราฟความเรง่ กบั เวลา ความชันของเสน้ กราฟตำแหน่งกับเวลาเปน็ ความเร็ว ความชนั ของเส้นกราฟความเร็ว กับเวลาเป็นความเร่ง และพื้นที่ใต้เส้นกราฟความเร็วกับเวลาเป็นการกระจัด ใน กรณีที่ผู้สังเกตมีความเร็ว ความเร็วของวตั ถุทสี่ งั เกตได้เป็นความเรว็ ทเี่ ทียบกับผู้สงั เกต การตกแบบเสรีเป็นตัวอย่างหนง่ึ ของการเคลือ่ นที่ในหนึง่ มติ ทิ มี่ คี วามเร่งเท่ากบั ความเร่งโนม้ ถว่ งของโลก 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถ่นิ /บรู ณาการ - บูรณาการการ นำความร้ไู ปสรา้ งส่ิงประดิษฐ์ STEM 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินัย 2. ความสามารถในการคิด 2. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ ไดแ้ ก่ ความสนใจใฝ่รู้ มงุ่ มั่น 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ในการทำงาน
หน้า 19 5. ช้นิ งานหรือภาระงาน 1. ใบงาน 2. แบบฝกึ หัด 3. การทดลอง 6. การวัดและประเมินผล รายการวดั วธิ ีวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 6.1 การประเมินชิ้นงาน/ ใบงาน ผ่านเกณฑ์ในระดับ แบบฝึกหัดเพิม่ เตมิ ดี ขึน้ ไป ภาระงาน แบบประเมิน - - ใบงาน ตรวจใบงาน 1. แบบทดสอบก่อนเรียน ผ่านเกณฑ์ในระดับ - แบบฝึกหดั เพิม่ เตมิ ตรวจแบบฝกึ หดั ใบงาน ดี ขึ้นไป แบบฝกึ ทักษะ - ทำการทดลองและนำเสนอ บนั ทกึ ผลการทดลอง ขอ้ คำถามอตั นัย ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั การเขียนกราฟ รายงานการ ดี ขนึ้ ไป ผลการทดลอง แบบบันทึกสมรรณนะสำคัญ ทดลอง ของผเู้ รียน ด้าน ผา่ นเกณฑ์การ -ความสามารถในการสื่อสาร ประเมนิ ในระดบั ดี 6.2 การประเมินก่อนเรยี น -ความสามารถในการคิด ข้นึ ไป -ความสามารถในการใช้ 1. ทดสอบก่อนเรียน 1. ใช้แบบทดสอบกอ่ นเรียน เทคโนโลยี 6.3 การประเมินระหว่างเรยี น แบบสังเกตพฤติกรรม ประกอบดว้ ย - ดา้ นความรู้ 1) แตง่ กายถูกระเบยี บ 2) เขา้ เรียนตรงเวลา . ใบงาน ใชต้ รวจคำตอบใบงาน 3) มีอุปกรณก์ ารเรยี นพรอ้ ม 4) ทำงานเสร็จตรงตรามเวลา - ดา้ นกระบวนการ . แบบฝกึ ทักษะ ใช้ตรวจแบบฝึกทกั ษะ ข้อคำถามอตั นัย - ด้านสมรรณนะสำคัญของ ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ โดยนำมา ผู้เรียน ประเมินร่วมกับการ ใชแ้ บบบันทึกสมรรณนะสำคัญ ของผูเ้ รยี น ด้าน -ความสามารถในการสอ่ื สาร -ความสามารถในการคิด -ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ สังเกตพฤติกรรมในช้นั เรยี น โดย ประสงค์ ใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรม มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน
6.4 การประเมนิ หลังเรยี น 5) ผลงานผา่ นตามเกณฑ์ หนา้ 20 1. ทดสอบหลังเรียน 1.ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น 1. แบบทดสอบปรนัย ผ่านเกณฑ์ 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้คะแนนร้อยละ 70 เร่อื งที่ ชื่อเรื่อง วธิ ีสอน/เทคนคิ การสอน เวลา 1 ปรมิ าณต่างๆของการเคลอื่ นที่ การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) (ชว่ั โมง) 2 อัตราเรว็ ของการเคล่ือนท่แี นวตรง การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 4 2 และทดลอง 4 2 3 ความเรง่ การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 และทดลอง 2 4 ความสัมพันธ์ระหว่างกราฟความเร็ว การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 18 กับระยะทางสำหรับการเคลื่อนที่ใน และทดลอง แนวตรง 5 สมการการเคลื่อนที่ในแนวตรงด้วย การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ความเร่งคงตวั 6 การตกแบบเสรี การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) และทดลอง 7 การเคลอื่ นทแี่ นวตรง การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) รวม
หน้า 21 8. สื่อการเรียนรู/้ แหลง่ เรยี นรู้ แหลง่ เรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 2. ห้องสมุด 1. หนงั สือเรียนรายวิชาฟสิ กิ ส์เพิ่มเตมิ เล่ม 1 ช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี 4 2. ส่อื การเรียนรู้ PowerPoint 3. ใบความรู้ ลงช่อื .......................................................ผสู้ อน (นางสาววิจิตตา อำไพจติ ต์) วนั ที่.................................................. ลงชื่อ.......................................................คนู่ เิ ทศ ( นายตฤณธิวฒั น์ ภิญโญชัยภทั ร ) วนั ท.่ี .................................................
หนา้ 22 แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน ที่ 2 การเคล่อื นทแ่ี นวตรง ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ 3. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง ตำแหน่งการกระจัด ความเร็ว และความเร่ง ของการ เคลื่อนทขี่ องวัตถุในแนวตรงท่มี คี วามเรง่ คงตัวจากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่า ความเร่งโน้มถ่วงของ โลกและคำนวณปริมาณต่างๆทีเ่ กีย่ วขอ้ ง รายการประเมิน 1. แบบทดสอบประจำบท 2. แบบฝึกหัด และใบงาน 3. การทดลอง เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ รายการประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรับปรงุ ) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1.แบบทดสอบ คำตอบถกู แสดงวธิ ีคดิ ได้ คำตอบถกู แสดงวธิ คี ิดได้ เหตผุ ลหรอื การ แสดงวิธีคิด และสรุปคำตอบได้ ถกู ต้อง แต่ไมไ่ ดใ้ ส่หน่วย คำนวณผิดพลาด เลก็ น้อย แต่ยงั ถกู ต้อง ชดั เจน หรือสรุปคำตอบ แตม่ แี นวทางทีจ่ ะ ไมไ่ ดค้ ำตอบ ได้คำตอบ 2.บันทกึ ผลการทดลอง ในรายงานผลการทดลอง ในรายงานผลการทดลอง ในรายงานผลการ ในรายงานผลการ มกี ารอธบิ ายผลการ แสดงให้เหน็ ว่านกั เรียนมี ทดลองมกี าร ทดลองมกี าร ทดลองไดช้ ดั เจน มกี าร ความเข้าใจใจผลการ แสดงผลการ แสดงผลการ ใชข้ อ้ มูลจากแหล่งต่างๆ ทดลองและรู้ว่าจะอธิบาย ทดลองการ ทดลอง ขาดการ หรือจากการทดลองอน่ื ๆ ผลการทดลองนน้ั อย่างไร สรุปผลยังไม่ สรปุ ผล หรือไม่ ประกอบคำอธบิ าย สมบูรณ์ หรอื มี สมบรู ณ์ หรอื การสรุปผล แต่ สบั สน สรปุ หลงั จากถกู ถามคำถาม 3. การเขยี นกราฟ เขยี นกราฟได้อย่าง เขยี นกราฟได้อย่างถกู ตอ้ ง เขยี นกราฟได้ เขียนกราฟไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์ครบถว้ น ขาดองคป์ ระกอบกราฟไป อย่างถูกตอ้ ง ขาด ถกู ต้อง ขาด ทุกองคป์ ระกอบ 1 องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบกราฟ กราฟไป 2 มากกวา่ 2 องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ
หน้า 23 รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 4.ทำการทดลอง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) 5. การนำเสนอผล การทดลอง การทดลองทใี่ ช้แสดงให้ การทดลองท่ใี ช้แสดงให้ การทดลองทใ่ี ช้ การทดลองที่ใช้ เห็นวา่ นกั เรียนไดม้ กี าร เหน็ วา่ นกั เรยี นได้นำ แสดงให้เหน็ ว่า แสดงให้เหน็ ว่า วเิ คราะหป์ ัญหาและ ความคิดกระบวนการทาง นักเรียนไดใ้ ช้ นกั เรยี นสามารถทำ ออกแบบการทดลองได้ วิทยาศาสตร์มาใช้ในการ กระบวนการทาง การทดลองได้เมื่อ ด้วยตนเองและสามารถ ทดลองโดยมีการควบคุม วิทยาศาสตร์ แต่ ได้รับความ ทำการทดลองได้อยา่ ง ตวั แปรต่างๆ จำเปน็ ต้องชว่ ยใน ชว่ ยเหลอื จากครู เหมาะสม การควบคุมตัว แปร การพดู นำเสนอทำได้ การพูดนำเสนอได้รับการ การพดู นำเสนอ การพูดนำเสนอทำ อยา่ งชัดเจน ถูกตอ้ ง จัดเตรียมด้วยความ ทำได้หลังจาก ไดห้ ลังไดร้ บั การ ผ้ฟู งั ให้ความสนใจ มี ชว่ ยเหลอื บางประการจาก ได้รบั การสอน สอนจากครู ท่าทาง น้ำเสียง และการ ครู แตม่ กี ารนำเสนอผล จากครู มกี ารใช้ สบสายตาผูฟ้ ังดมี าก การทดลอง การพดู มเี หตุ ท่าทาง น้ำเสยี ง มผี ล และใช้ท่าทาง และการสบ ประกอบนำ้ เสยี งและการ สายตาผฟู้ ัง สบตาผู้ฟังทำไดด้ ี เกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค(์ A) ในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชา ว31205 ฟิสิกส์ เพิ่มเติม 1 ดังน้ี 1 มวี ินัย หมายถึง 1) แตง่ กายถูกระเบยี บของโรงเรียน 2) เขา้ เรยี นตรงเวลา 2 ใฝ่เรยี นรู้ หมายถึง มคี วามพร้อมดา้ นอปุ กรณ์การเรยี น 3 มงุ่ ม่ันในการทำงาน หมายถงึ 1) ทำงานเสร็จตรงตรามเวลา 2) ผลสำเร็จของงานผา่ นตามเกณฑ์ วธิ ี เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ระดับ ความหมาย เกณฑ์การผ่าน การประเมิน การประเมนิ การประเมนิ คะแนน การสังเกต แบบสังเกต ปฏิบตั ิได้ 5 ข้อ ดมี าก ระดบั พฤติกรรม ปฏิบตั ิได้ 4 ขอ้ 10 ดี คะแนน 8 ปฏิบัตไิ ด้ 3 ข้อ 8 ปฏิบัติได้ 0-2 ขอ้ 6 พอใช้ ขน้ึ ไป 0-4 ปรบั ปรุง
หน้า 24 รายการประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรงุ ) สมรรถนะสำคญั รายการพฤติกรรม มีพฤติกรรม มพี ฤตกิ รรม มีพฤติกรรม มีพฤตกิ รรมตำ่ 1. มีการปรึกษาและวางแผนร่วมกันกอ่ นทำงาน ต้ังแต่ 8 ข้อ ตง้ั แต่ 5-7 ข้อ ต้งั แต่ 4-2 ข้อ กว่า 2 ขอ้ 2. มกี ารแบ่งหนา้ ที่อยา่ งเหมาะสมและสมาชิกทำ ตามหน้าทท่ี ุกคน มพี ฤติกรรมครบ ขาดพฤตกิ รรม ขาดพฤติกรรม ขาดพฤตกิ รรม 3. มกี ารปฏบิ ัตงิ านตามขน้ั ตอน ทกุ ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4. มีการใหค้ วามชว่ ยเหลอื กนั 5. ผลงานเป็นไปตามวัตถุประสงคท์ ีก่ ำหนด 6. ผลงานเสร็จทนั ตามกำหนดเวลา 7. ผลงานมคี วามคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์ 8. ผลงานแสดงถงึ การนำความรทู้ ีไ่ ดม้ าประยุกต์ใช้ 9. สามารถใหค้ ำแนะนำกล่มุ อื่นได้ 10. การจดั วัสดุ อปุ กรณ์ เรยี บรอ้ ย หลงั เลกิ ปฏิบตั ิงาน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคค์ า่ นิยม 12 ประการ รายการ 1. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ บนั ทึกผลและรายงานผลการ ทดลองตามความเป็นจรงิ 2. มงุ่ มั่นในการทำงานทำงานเสร็จทันเวลา 3. มีวินัยเข้าเรยี นตรงเวลา 4. ใฝ่เรยี นรศู้ ึกษาเพิ่มเติมจากแหล่งเรยี นรูอ้ ืน่ 5. มจี ติ สาธารณะทำความสะอาดอุปกรณ์และ ห้องทดลอง
หน้า 25 คะแนนตดั สนิ ระดบั คุณภาพ คะแนนเตม็ 10 คะแนน คุณภาพ คะแนน 9-10 หมายถึง ดี ระดับ 3 หมายถึง มพี ฤติกรรมในระดบั ดี คะแนน 6-8 หมายถงึ ปานกลาง ระดบั 2 หมายถึง มพี ฤติกรรมในระดบั ปานกลาง คะแนน 0-5 หมายถงึ ปรบั ปรงุ ระดับ 1 หมายถงึ มพี ฤติกรรมในระดับ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ นรอ้ ยละ 60 (6 คะแนน)
หน้า 26 หนว่ ยการเรียนที่ 3 เร่ือง แรงและกฎการเคล่อื นที่ รหัสวิชา ว 31201 ชื่อรายวิชา ฟิสิกสเ์ พม่ิ เตมิ 1 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ เวลา ช่ัวโมง ผู้สอน นางสาววจิ ิตตา อำไพจิตต์ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 เข้าใจธรรมชาติทางฟสิ กิ ส์ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลอื่ นท่แี นวตรง แรงและกฎการเคล่ือนที่ ของนวิ ตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการอนรุ ักษ์พลังงานกล โมเมนตัม และกฎการอนุรกั ษ์ โมเมนตัม การเคลอื่ นที่แนวโค้ง รวมทง้ั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรยี นรู้ 4. ทดลองและอธบิ ายการหาแรงลพั ธข์ องแรงสอง แรงท่ีทำมมุ ต่อกัน 5. เขียนแผนภาพของแรงทกี่ ระทำต่อวตั ถอุ สิ ระทดลองและอธิบายกฎการเคล่ือนทข่ี องนิวตัน และการใช้ กฎการเคลือ่ นท่ขี องนวิ ตันกับสภาพการ เคลอ่ื นท่ีของวตั ถุ รวมทง้ั คำนวณปรมิ าณต่างๆท่เี ก่ยี วขอ้ ง 6. อธิบายกฎความโนม้ ถว่ งสากลและผลของ สนามโน้มถ่วงทท่ี ำให้วัตถมุ ีน้ำหนกั รวมทั้ง คำนวณปริมาณ ต่างๆท่ีเกีย่ วข้อง 7. วิเคราะห์อธบิ ายและคำนวณแรงเสียดทาน ระหว่างผวิ สัมผสั ของวัตถุคู่หนึง่ ๆในกรณีที่วัตถุ หยุดน่ิง และวัตถุเคลื่อนท่ีรวมทั้งทดลองหา สัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหวา่ งผิวสัมผัส ของวัตถุคู่หน่ึงๆและนำความรู้ เรื่องแรงเสียด ทานไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน 2. สาระสำคัญ ทดลองและอธิบายการหาแรงลพั ธ์ และอธิบายกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน อธบิ ายกฎความโน้มถ่วงสากล คำนวณแรงเสยี ดทาน ระหวา่ งผิวสมั ผัสของวตั ถคุ ู่หน่ึงๆในกรณที ว่ี ัตถุ หยดุ น่งิ และวัตถุเคลื่อนท่ี รวมทั้งทดลอง หา สัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหว่างผิวสัมผัส ของวัตถุคู่หนึ่งๆและนำความรู้เรื่องแรงเสียด ทานไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง แรงเปน็ ปริมาณเวกเตอรจ์ งึ มีท้งั ขนาดและทิศทาง กรณีทมี่ แี รงหลาย ๆ แรง กระทำตอ่ วตั ถุ สามารถหา แรงลัพธท์ ่กี ระทำต่อวัตถุ โดยใช้วิธีเขยี นเวกเตอรข์ องแรงแบบหางต่อหวั วิธีสรา้ งรปู สี่เหลี่ยมด้านขนานของแรง และวธิ ีคำนวณ สมบตั ิของวัตถทุ ี่ตา้ นการเปลย่ี นสภาพการเคลอ่ื นท่ี เรยี กวา่ ความเฉ่ือย มวลเป็นปริมาณทบ่ี อกให้ ทราบวา่ วตั ถุใดมคี วามเฉื่อยมากหรอื นอ้ ย การหาแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวตั ถุสามารถเขียนเปน็ แผนภาพของแรงที่ กระทำต่อวตั ถุอสิ ระได้กรณีที่ไม่มีแรงภายนอกมากระทำ วัตถุจะไมเ่ ปลี่ยนสภาพการเคลอื่ นทซ่ี ง่ึ เป็นไปตามกฎ การเคล่อื นที่ข้อทห่ี นึง่ ของนวิ ตนั กรณที ม่ี แี รงภายนอกมากระทำโดยแรงลัพธ์ ทก่ี ระทำต่อวัตถไุ มเ่ ปน็ ศนู ย์ วตั ถจุ ะ มคี วามเรง่ โดยความเร่งมีทิศทางเดยี วกบั แรงลพั ธ์ ความสมั พันธร์ ะหว่างแรงลพั ธ์ มวลและความเรง่ เขียนแทนได้
หน้า 27 ดว้ ยสมการ ΣF= maตามกฎการเคลื่อนทขี่ อ้ ท่ีสองของนวิ ตัน เมื่อวัตถุสองกอ้ นออกแรงกระทำต่อกนั แรงระหวา่ ง วัตถทุ งั้ สองจะมขี นาดเทา่ กนั แต่มีทิศทางตรงขา้ มและกระทำตอ่ วัตถคุ นละกอ้ น เรียกวา่ แรงคกู่ ริ ยิ า-ปฏกิ ิรยิ า ซึง่ เป็นไปตามกฎการเคลอ่ื นที่ ขอ้ ท่ีสามของนิวตนั และเกิดขน้ึ ได้ท้งั กรณที ่วี ตั ถุ ทง้ั สองสัมผัสกนั หรอื ไม่สัมผสั กนั ก็ได้ แรงดึงดูดระหว่างมวลเป็นแรงท่มี วลสองกอ้ นดงึ ดูดซึง่ กนั และกนั ดว้ ยแรงขนาดเท่ากันแตท่ ิศทางตรงข้าม และเปน็ ไปตามกฎความโน้มถ่วงสากล เขยี นแทนไดด้ ว้ ยสมการ F= Gm1m2/ R2 รอบโลกมสี นามโน้มถ่วงทำให้ เกดิ แรงโน้มถว่ ง ซึ่งเป็นแรงดงึ ดดู ของโลกทีก่ ระทำตอ่ วตั ถุ ทำใหว้ ตั ถุ มีนำ้ หนัก แรงท่ีเกดิ ข้ึนที่ผิวสมั ผัสระหว่างวัตถุสองก้อนในทิศทางตรงข้ามกับทิศทางการเคล่ือนที่หรือแนวโน้มที่จะ เคลอ่ื นทีข่ องวัตถุ เรยี กวา่ แรงเสยี ดทาน แรงเสียดทานระหว่างผิวสมั ผสั คู่หน่งึ ๆ ขน้ึ กบั สัมประสทิ ธิค์ วามเสยี ดทาน และแรงปฏิกิริยาต้งั ฉากระหว่างผวิ สัมผัสค่นู นั้ ๆ ขณะออกแรงพยายามแต่วตั ถุยังคงอยนู่ ่งิ แรงเสียดทานมีขนาด เทา่ กบั แรงพยายามทก่ี ระทำตอ่ วัตถนุ น้ั และแรงเสยี ดทานมีคา่ มากท่ีสุดเมอ่ื วตั ถุเรม่ิ เคลือ่ นท่ี เรียกแรงเสียดทานน้ี ว่าแรงเสยี ดทานสถิต แรงเสียดทานที่กระทำต่อวัตถุขณะกำลังเคล่ือนที่ เรียกว่าแรงเสยี ดทานจลน์ โดยแรงเสียด ทานที่เกิดระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หนึ่ง ๆ คำนวณได้จากสมการ f=uN การเพิ่มหรือลดแรงเสียดทานมีผลตอ่ การเคลือ่ นที่ของวตั ถุ ซ่งึ สามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ /บรู ณาการ การสรา้ งชิน้ งานบูรณาการ STEM 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ยั 2. ความสามารถในการคิด 2. มีจิตวทิ ยาศาสตร์ ได้แก่ ความสนใจใฝร่ ู้ มุง่ มั่น 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ในการทำงาน 5. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน 1. แบบทดสอบประจำบทที่ 3 แรงและกฎการเคลอ่ื นท่ี 2. ทำการทดลองและนำเสนอผลการทดลอง 3. แบบฝึกหัดและใบงาน
หน้า 28 6. การวดั และประเมินผล รายการวัด วิธวี ดั เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 6.1 การประเมนิ ชิน้ งาน/ ใบงาน ผ่านเกณฑ์ในระดบั แบบฝึกหดั เพ่ิมเติม ดี ขึน้ ไป ภาระงาน แบบประเมิน - - ใบงาน ตรวจใบงาน 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ผ่านเกณฑ์ในระดบั - แบบฝึกหดั เพิ่มเติม ตรวจแบบฝกึ หัด ใบงาน ดี ขน้ึ ไป แบบฝึกทักษะ - ทำการทดลองและนำเสนอ บนั ทึกผลการทดลอง ข้อคำถามอตั นัย ผ่านเกณฑใ์ นระดับ การเขยี นกราฟ รายงานการ ดี ข้ึนไป ผลการทดลอง แบบบนั ทึกสมรรณนะสำคัญ ทดลอง ของผู้เรียน ดา้ น ผา่ นเกณฑ์การ -ความสามารถในการสอ่ื สาร ประเมินในระดบั ดี 6.2 การประเมนิ ก่อนเรยี น -ความสามารถในการคดิ ข้ึนไป -ความสามารถในการใช้ 1. ทดสอบก่อนเรียน 1. ใชแ้ บบทดสอบก่อนเรียน เทคโนโลยี ผา่ นเกณฑ์ ได้คะแนนร้อยละ 6.3 การประเมนิ ระหว่างเรยี น แบบสังเกตพฤตกิ รรม 70 ประกอบด้วย - ดา้ นความรู้ 1) แต่งกายถกู ระเบียบ 2) เขา้ เรียนตรงเวลา . ใบงาน ใช้ตรวจคำตอบใบงาน 3) มีอุปกรณก์ ารเรยี นพรอ้ ม 4) ทำงานเสรจ็ ตรงตรามเวลา - ดา้ นกระบวนการ 5) ผลงานผา่ นตามเกณฑ์ . แบบฝึกทักษะ ใชต้ รวจแบบฝึกทกั ษะ 1. แบบทดสอบปรนยั ข้อคำถามอัตนยั - ด้านสมรรณนะสำคัญของ ตรวจแบบฝึกทักษะ โดยนำมา ผู้เรียน ประเมินรว่ มกับการ ใช้แบบบันทึกสมรรณนะสำคญั ของผเู้ รยี น ด้าน -ความสามารถในการส่อื สาร -ความสามารถในการคิด -ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ สงั เกตพฤตกิ รรมในชัน้ เรยี น โดย ประสงค์ ใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรม มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน 6.4 การประเมนิ หลงั เรียน 1.ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น 1. ทดสอบหลงั เรยี น
หนา้ 29 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ช่ือเรอื่ ง วธิ สี อน/เทคนคิ การสอน เวลา ท่ี (ช่วั โมง) การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 1 แรง การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และทดลอง 2 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 2 การหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงที่ทำมมุ ต่อกนั การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และทดลอง 2 3 การหาแรงลพั ธโ์ ดยการสร้างรูป การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) และทดลอง 2 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) และทดลอง 2 4 การหาแรงลัพธ์โดยการสร้างรปู การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และทดลอง 2 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 5 กฎการเคลื่อนที่ขอ้ ทีห่ นง่ึ ของนวิ ตนั การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 6 กฎการเคลื่อนท่ีขอ้ ที่สองของนิวตัน การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และทดลอง 2 7 กฎการเคลื่อนทข่ี อ้ ทส่ี ามของนิวตัน การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 2 8 มวลและน้ำหนัก 28 9 กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลของนิวตัน 10 การเคล่ือนทีข่ องอนภุ าคหรือวตั ถุในสนามโนม้ ถว่ ง 11 แรงเสยี ดทาน 12 การนำกฎการเคลอ่ื นทข่ี องนิวตนั ไปใช้ 13 การเคลอื่ นทข่ี องวตั ถบุ นพน้ื เอียง 14 การหาแรงปฏิกิรยิ าและการชั่งนำ้ หนกั ในลิฟต์ รวม
หน้า 30 8. สอื่ การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้ แหลง่ เรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ 1. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 2. ห้องสมุด 1. หนังสือเรยี นรายวิชาฟสิ กิ ส์เพิ่มเตมิ เล่ม 1 ชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 4 2. ส่อื การเรยี นรู้ PowerPoint 3. ใบความรู้ ลงช่ือ.......................................................ผสู้ อน ( นางสาววิจติ ตา อำไพจิตต์ ) วนั ที.่ ................................................. ลงช่ือ.......................................................คนู่ เิ ทศ ( นายตฤณธิวฒั น์ ภญิ โญชัยภทั ร ) วนั ที่..................................................
หนา้ 31 แบบประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน ที่ 3 แรงและกฎการเคลื่อนที่ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ 4. ทดลองและอธิบายการหาแรงลัพธข์ องแรงสอง แรงทท่ี ำมุมตอ่ กัน 5. เขียนแผนภาพของแรงทกี่ ระทำต่อวตั ถุอสิ ระ ทดลองและอธบิ ายกฎการเคลอ่ื นทีข่ องนิวตัน และการใช้ กฎการเคล่ือนทข่ี องนิวตนั กับสภาพการ เคลอ่ื นที่ของวตั ถุ รวมท้ังคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกยี่ วขอ้ ง 6. อธบิ ายกฎความโน้มถว่ งสากลและผลของ สนามโนม้ ถว่ งท่ที ำใหว้ ัตถุมนี ้ำหนักรวมทง้ั คำนวณปริมาณ ตา่ งๆท่ีเกีย่ วขอ้ ง 7. วเิ คราะหอ์ ธิบายและคำนวณแรงเสียดทาน ระหว่างผวิ สัมผัสของวัตถุคหู่ นึง่ ๆในกรณีที่วัตถุ หยุดนิ่ง และวตั ถเุ คล่ือนท่ีรวมทั้งทดลองหา สัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหวา่ งผิวสัมผัส ของวัตถุคู่หน่ึงๆและนำความรู้ เร่ืองแรงเสยี ด ทานไปใช้ในชีวิตประจำวัน รายการประเมนิ 1. แบบทดสอบประจำบทที่ 3 แรงและกฎการเคล่อื นท่ี 2. ทำการทดลองและนำเสนอผลการทดลอง 3. แบบฝึกหดั และใบงาน เกณฑ์การประเมินระดับคณุ ภาพ รายการประเมิน 4 (ดมี าก) ระดบั คณุ ภาพ 1 (ปรับปรุง) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1.แบบทดสอบ คำตอบถกู แสดงวธิ คี ิด คำตอบถูก แสดงวิธี เหตุผลหรอื การ แสดงวธิ คี ดิ ได้ และสรุปคำตอบได้ คิดไดถ้ ูกต้อง แต่ คำนวณผิดพลาด เล็กนอ้ ย แตย่ งั ถกู ตอ้ ง ชดั เจน ไม่ได้ใส่หน่วยหรอื แต่มีแนวทางท่ีจะ ไม่ไดค้ ำตอบ สรปุ คำตอบ ไดค้ ำตอบ 2.บนั ทกึ ผลการทดลอง ในรายงานผลการ ในรายงานผลการ ในรายงานผลการ ในรายงานผลการ ทดลองมีการอธิบายผล ทดลองแสดงให้เห็นวา่ ทดลองมีการ ทดลองมกี าร การทดลองไดช้ ัดเจน มี นักเรยี นมคี วามเขา้ ใจ แสดงผลการ แสดงผลการทดลอง การใชข้ อ้ มลู จากแหล่ง ใจผลการทดลองและรู้ ทดลองการสรปุ ผล ขาดการสรุปผล ตา่ งๆ หรือจากการ วา่ จะอธบิ ายผลการ ยังไมส่ มบรู ณ์ หรอื หรอื ไมส่ มบรู ณ์ หรือ ทดลองอ่ืนๆ ประกอบ ทดลองนนั้ อย่างไร มีการสรปุ ผล แต่ สับสน คำอธบิ าย สรปุ หลงั จากถกู ถามคำถาม
หนา้ 32 รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ 3. การเขียนกราฟ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 4.ทำการทดลอง เขยี นกราฟได้อยา่ ง ถูกต้อง สมบูรณ์ เขยี นกราฟไดอ้ ย่าง เขยี นกราฟได้ เขียนกราฟไดอ้ ยา่ ง ครบถว้ นทุก องค์ประกอบ ถกู ตอ้ ง ขาด อยา่ งถูกต้อง ขาด ถูกตอ้ ง ขาด การทดลองท่ใี ชแ้ สดง องค์ประกอบกราฟไป องค์ประกอบ องค์ประกอบกราฟ ใหเ้ ห็นวา่ นกั เรียนได้มี การวิเคราะห์ปญั หา 1 องค์ประกอบ กราฟไป 2 มากกว่า 2 และออกแบบการ ทดลองไดด้ ว้ ยตนเอง องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ และสามารถทำการ ทดลองได้อยา่ ง การทดลองท่ใี ชแ้ สดง การทดลองที่ใช้ การทดลองท่ีใช้ เหมาะสม ใหเ้ ห็นวา่ นกั เรยี นได้ แสดงใหเ้ หน็ วา่ แสดงให้เห็นวา่ นำความคดิ นักเรียนไดใ้ ช้ นักเรียนสามารถทำ กระบวนการทาง กระบวนการทาง การทดลองได้เม่ือ วิทยาศาสตร์มาใช้ใน วทิ ยาศาสตร์ แต่ ได้รับความ การทดลองโดยมกี าร จำเปน็ ตอ้ งช่วยใน ช่วยเหลือจากครู ควบคุมตวั แปรต่างๆ การควบคมุ ตวั แปร 5.การนำเสนอผลการทดลอง การพดู นำเสนอทำได้ การพูดนำเสนอไดร้ ับ การพดู นำเสนอ การพูดนำเสนอทำ อย่างชดั เจน ถูกตอ้ ง การจดั เตรียมดว้ ย ทำได้หลงั จาก ได้หลังไดร้ บั การ ผูฟ้ งั ให้ความสนใจ มี ความช่วยเหลอื บาง ได้รับการสอน สอนจากครู ทา่ ทาง นำ้ เสยี ง และ ประการจากครู แตม่ ี จากครู มกี ารใช้ การสบสายตาผูฟ้ งั ดี การนำเสนอผลการ ทา่ ทาง น้ำเสยี ง มาก ทดลอง การพดู มีเหตุ และการสบ มีผล และใช้ท่าทาง สายตาผู้ฟงั ประกอบน้ำเสียงและ การสบตาผฟู้ ังทำไดด้ ี
รายการประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ หนา้ 33 3 (ดี) 2 (พอใช)้ สมรรถนะสำคัญ มพี ฤติกรรมตั้งแต่ 8 1 (ปรบั ปรุง) รายการพฤตกิ รรม ข้อ 1. มีการปรกึ ษาและวางแผน มพี ฤติกรรมตงั้ แต่ 5- มีพฤตกิ รรมตัง้ แต่ มีพฤตกิ รรมตำ่ กว่า ร่วมกันกอ่ นทำงาน 7 ข้อ 4-2 ข้อ 2 ข้อ 2. มีการแบง่ หน้าที่อยา่ ง เหมาะสมและสมาชกิ ทำตาม หน้าทท่ี กุ คน 3. มีการปฏิบัตงิ านตาม ข้ันตอน 4. มีการใหค้ วามช่วยเหลอื กนั 5. ผลงานเปน็ ไปตาม วัตถปุ ระสงคท์ กี่ ำหนด 6. ผลงานเสรจ็ ทันตาม กำหนดเวลา 7. ผลงานมีความคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์ 8. ผลงานแสดงถงึ การนำ ความร้ทู ่ีได้มาประยกุ ต์ใช้ 9. สามารถใหค้ ำแนะนำกลมุ่ อน่ื ได้ 10. การจดั วสั ดุ อุปกรณ์ เรียบรอ้ ย หลังเลกิ ปฏบิ ัตงิ าน
หน้า 34 เกณฑ์ระดบั คณุ ภาพดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์(A) ในการจดั การเรียนการสอนในรายวิชา ว31205 ฟสิ ิกส์ เพม่ิ เตมิ 1 ดังนี้ 1 มีวนิ ัย หมายถงึ 1) แต่งกายถกู ระเบียบของโรงเรียน 2) เขา้ เรยี นตรงเวลา 2 ใฝ่เรียนรู้ หมายถึง มคี วามพร้อมดา้ นอปุ กรณก์ ารเรยี น 3 ม่งุ ม่นั ในการทำงาน หมายถึง 1) ทำงานเสร็จตรงตรามเวลา 2) ผลสำเร็จของงานผ่านตามเกณฑ์ วธิ ี เครอื่ งมือ เกณฑ์ ระดบั ความหมาย เกณฑ์การผ่าน การประเมนิ การประเมิน การประเมิน คะแนน การสังเกต แบบสงั เกต ปฏบิ ัตไิ ด้ 5 ข้อ ดีมาก ระดบั พฤติกรรม ปฏบิ ัติได้ 4 ขอ้ 10 ดี คะแนน 8 ปฏบิ ตั ไิ ด้ 3 ขอ้ 8 ปฏบิ ตั ิได้ 0-2 ขอ้ 6 พอใช้ ขึ้นไป 0-4 ปรับปรุง รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ค่านิยม 12 ประการ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง) รายการ 1. ซ่ือสตั ย์ สุจริต บันทกึ ผลและรายงานผลการ มพี ฤติกรรมครบ ขาดพฤติกรรม ขาดพฤติกรรม ขาดพฤตกิ รรม ทดลองตามความเปน็ จรงิ 2. มุ่งมน่ั ในการทำงานทำงานเสร็จทันเวลา ทุกขอ้ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ขอ้ 3. มีวินยั เขา้ เรียนตรงเวลา 4. ใฝเ่ รยี นรู้ศึกษาเพิ่มเติมจากแหลง่ เรยี นร้อู ื่น 5. มีจิตสาธารณะทำความสะอาดอปุ กรณ์และ หอ้ งทดลอง
หนา้ 35 คะแนนตดั สนิ ระดับคณุ ภาพ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ระดับ 3 หมายถึง คุณภาพ คะแนน 9-10 หมายถงึ ดี ระดบั 2 หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับ ดี คะแนน 6-8 หมายถงึ ปานกลาง ระดับ 1 หมายถงึ มีพฤตกิ รรมในระดับ ปานกลาง คะแนน 0-5 หมายถึง ปรับปรงุ มีพฤตกิ รรมในระดบั ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ นร้อยละ 60 (6 คะแนน)
หนา้ 36 หนว่ ยการเรยี นที่ 4 เรอื่ ง สมดลุ กล รหัสวชิ า ว 31201 ชอ่ื รายวิชา ฟิสิกส์เพิ่มเตมิ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ เวลา 12 ชั่วโมง ผสู้ อน นางสาววิจิตตา อำไพจิตต์ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระที่ 1 เขา้ ใจธรรมชาตทิ างฟิสิกสป์ รมิ าณและกระบวนการวดั การเคลอื่ นทแี่ นวตรง แรงและกฎการ เคลื่อนที่ของนวิ ตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดลุ กลของวัตถุ งาน และกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตมั และกฎการอนรุ กั ษ์ โมเมนตัม การเคลื่อนท่แี นวโคง้ รวมทงั้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรยี นรู้ 8. อธิบายสมดุลกลของวตั ถุ โมเมนต์และผลรวมของโมเมนต์ทม่ี ีตอ่ การหมนุ แรงคูค่ วบและผลของแรง คคู่ วบทม่ี ีต่อสมดุลของวัตถเุ ขยี น แผนภาพของแรงท่ีกระทำต่อวัตถอุ สิ ระเมอ่ื วตั ถุ อยู่ในสมดุลกลและคำนวณ ปริมาณตา่ งๆท่เี ก่ียวข้อง รวมทง้ั ทดลองและอธิบายสมดุลของแรงสามแรง 9. สังเกตและอธบิ ายสภาพการเคลื่อนที่ของวตั ถุ เมื่อแรงท่ีกระทำตอ่ วัตถุผ่านศนู ย์กลาง มวลของวัตถุ และผลของศนู ย์ถว่ งท่ีมตี ่อ เสถียรภาพของวตั ถุ 2. สาระสำคัญ สภาพสมดุล คือ สภาพที่วัตถุสามารถรักษาสภาพการเคลื่อนที่ให้คงเดิม การศึกษาเกี่ยวกับสมดุล ของ วตั ถุสามารถอธบิ ายไดโ้ ดยใชก้ ฎการเคล่อื นท่ีขอ้ ท่ี 1 ของนิวตนั สมดลุ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ สมดุลสถิต ( Static Equilibrium ) เป็นสมดุลของวัตถุขณะอยู่ในสภาพอยู่นิ่ง เช่น วางสมุดไว้บนโต๊ะ แล้วสมุดไมล่ ม้ วตั ถุใดๆกต็ ามท่ีอยใู่ นสภาพอยนู่ ง่ิ เมื่อมแี รงลพั ธ์มากระทำแล้ววัตถุยงั คงสภาพอยนู่ ง่ิ ไว้ได้ถือว่าเป็น สมดุลสถติ สมดุลจลน์( Kinetic Equilibrium ) เป็นสมดลุ ของวัตถุขณะเคลอื่ นทดี่ ้วยความเร็วคงตวั เชน่ รถยนต์วิ่ง ไปตาม ถนนด้วยความเร็วคงตัว กล่องลังไม้ไถลลงไปตามพื้นเอียงด้วยความเร็วคงตัว นั่นคือ วัตถุใดๆก็ตามท่ี เคลื่อนที่ ด้วยความเร็วค่าหนึ่งเมื่อมีแรงลัพธ์มากระทำกับแล้ววัตถุก็ยังคงเคลื่อนที่ดว้ ยความเรว็ คงเดิมถือวา่ เป็น สมดลุ จลน์ นอกจากนน้ั ยงั รวมไปถึงการเคลอื่ นทขี่ อง รอก กวา้ น ลอ้ และเพลาที่หมนุ รอบแกนซึ่งวางอยู่ในสภาพ เดมิ ดว้ ยอัตราการหมุนคงตัวด้วย เมอื่ พจิ ารณาการเคล่อื นท่ีเปน็ หลกั อาจแบง่ สมดุลของวัตถุได้ 3 ชนดิ คอื 1. สมดลุ ตอ่ การเล่อื นที่ (Translational Equilibrium ) คอื วัตถอุ ยู่นง่ิ หรอื เคลือ่ นทดี่ ว้ ย ความเร็วคงตัว โดยไม่เปล่ียนสภาพการเคลื่อนที่ตามกฎข้อที่ 1 ของนิวตัน จะมีค่าแรงลัพธ์หรือผลรวมของแรง ลัพธ์ที่กระทำต่อ วตั ถทุ ัง้ หมดเป็นศนู ย์ หรือเขยี นไดว้ า่ F = 0
หน้า 37 2. สมดุลต่อการหมุน ( Rotational Equilibrium ) คือสมดุลทีเ่ กิดขึ้นในขณะทีว่ ตั ถมุ อี ตั ราการ หมุนคง ตัว และไม่เปลี่ยนสภาพการหมุน 3. สมดุลสัมบูรณ์ของวัตถุ คือสภาพที่วัตถุนั้นเกิดสมดุลต่อการเลื่อนที่ (อยู่น่งิ หรือเคลอื่ นที่ดว้ ย ความเร็วคงที)่ และ สมดลุ ตอ่ การหมนุ (ไม่หมุน) ไปพร้อมๆกนั แรงต่างๆ ท่ีกระทำต่อวัตถเุ ปน็ ไปตามเงื่อนไข 2 ประการ คอื 1. แรงลัพธ์เป็นศูนย์ หรือผลรวมของแรงทุกแรงท่กี ระทำตอ่ วัตถุเป็นศูนย์ ( F = 0 ) 2. ผลรวมของโมเมนต์ของแรงทุกแรงที่กระทำต่อวัตถุเป็นศูนย์ ( M = 0 ) โมเมนต์ คือ ปริมาณที่ใช้ วัดผลของการหมนุ รอบจุดใดจุดหนง่ึ โดยขนาดของโมเมนต์จะขนึ้ อยู่กับ ขนาดของแรงและระยะห่างของแนวแรง จากจดุ หมนุ เราสามารถพจิ ารณาทิศทางของโมเมนตไ์ ดเ้ ป็น สองทศิ ทางคอื โมเมนตต์ ามเขม็ นาฬกิ า และโมเมนต์ ทวนเขม็ นาฬิกา แรงคู่ควบ คือ แรงขนาน 2 แรง ที่มีขนาดเท่ากัน แต่มีทิศทางตรงกันข้าม เสถียรภาพของวัตถุคือ ความสามารถในการทรงตัวอยู่ได้ของวัตถุ ณ ตำแหนง่ ใดตำแหนง่ หนง่ึ ลกั ษณะ สมดลุ ของวัตถุ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สมดุลเสถียร สมดลุ ไมเ่ สถยี ร และสมดุลสะเทิน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สมดุลกลเป็นสภาพที่วัตถุรักษาสภาพการเคลื่อนท่ีให้คงเดิมคือหยุดนิ่งหรือเคลื่อนทีด่ ้วยความเร็วคงตวั หรอื หมุนด้วยความเร็วเชงิ มมุ คงตัววัตถุจะสมดลุ ตอ่ การเล่ือนท่ีคือหยดุ น่งิ หรอื เคลื่อนท่ดี ้วยความเร็วคงตัวเม่ือแรง ลพั ธท์ ก่ี ระทำตอ่ วัตถเุ ปน็ ศูนย์ เขยี นแทนไดด้ ว้ ยสมการ ΣF= 0 วัตถจุ ะสมดุลต่อการหมนุ คือไม่หมุนหรือหมุนด้วย ความเร็วเชงิ มมุ คงตวั เมอ่ื ผลรวมของโมเมนตท์ ่กี ระทำต่อวตั ถเุ ปน็ ศนู ย์เขียนแทนไดด้ ว้ ยสมการΣM= 0โดยโมเมนต์ คำนวณได้ 3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น/บูรณาการ การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล การลงความเห็นจากข้อมูล การตั้งสมมติฐาน การกำหนดและ ควบคุมตวั แปร การทดลอง และ การตคี วามหมายขอ้ มูลและลงข้อสรปุ สร้างชนิ้ งานบรู ณาการ STEM 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวินยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. มจี ติ วิทยาศาสตร์ ไดแ้ ก่ ความสนใจใฝร่ ู้ มุ่งมั่น 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ในการทำงาน
หนา้ 38 5. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน 1. แบบทดสอบประจำบทท่ี 4 สมดลุ กล 2. ทำการทดลองและนำเสนอผลการทดลอง 3. แบบฝกึ หดั และใบงาน 4. ชน้ิ งานบรู ณาการ STEM 6. การวดั และประเมนิ ผล รายการวัด วธิ วี ัด เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน 6.1 การประเมนิ ชิน้ งาน/ ภาระงาน - ใบงาน ตรวจใบงาน ใบงาน ผ่านเกณฑ์ในระดับดี - แบบฝึกหดั เพม่ิ เติม ตรวจแบบฝกึ หดั แบบฝกึ หดั เพิ่มเตมิ ขึ้นไป - ทำการทดลองและนำเสนอ บันทึกผลการทดลอง แบบประเมนิ การเขียนกราฟและรายงาน ผลการทดลอง 6.2 การประเมินกอ่ นเรยี น 1. ทดสอบกอ่ นเรยี น 1. ใช้แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน - 6.3 การประเมนิ ระหวา่ งเรยี น - ดา้ นความรู้ . ใบงาน ใชต้ รวจคำตอบใบงาน ใบงาน ผ่านเกณฑ์ในระดับดี - ด้านกระบวนการ ใชต้ รวจแบบฝึกทักษะ แบบฝึกทักษะ ขึ้นไป . แบบฝกึ ทักษะ ขอ้ คำถามอตั นยั ขอ้ คำถามอตั นัย - ด้านสมรรณนะสำคัญของ ตรวจแบบฝึกทักษะ โดยนำมา แบบบนั ทกึ สมรรณนะสำคญั ของ ผ่านเกณฑ์ในระดับ ผเู้ รียน ประเมนิ รว่ มกบั การ ผเู้ รียน ดา้ น ดี ข้นึ ไป ใช้แบบบันทกึ สมรรณนะสำคญั ของ -ความสามารถในการสอื่ สาร ผู้เรยี น ด้าน -ความสามารถในการคดิ -ความสามารถในการสอื่ สาร -ความสามารถในการใช้ -ความสามารถในการคิด เทคโนโลยี -ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สังเกตพฤตกิ รรมในชั้นเรียน โดยใช้ แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประกอบดว้ ย ประเมินในระดับ ดี มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่นในการ แบบสังเกตพฤติกรรม 1) แตง่ กายถกู ระเบยี บ ข้ึนไป 2) เข้าเรียนตรงเวลา ทำงาน 3) มีอุปกรณก์ ารเรยี นพร้อม ผ่านเกณฑ์ 4) ทำงานเสร็จตรงตรามเวลา ไดค้ ะแนนร้อยละ 70 6.4 การประเมนิ หลังเรยี น 1.ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 5) ผลงานผ่านตามเกณฑ์ 1. ทดสอบหลังเรียน 1. แบบทดสอบปรนัย
หน้า 39 ส่งิ ทตี่ ้องประเมิน วิธีการวดั ผล ประเด็นทป่ี ระเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 1. ผลงานนกั เรยี น แบบประเมิน การคดิ วเิ คราะห์ 3 คะแนน = มีการจบั ประเดน็ สำคญั ขยาย STEM ช้นิ งาน ความ ยกตัวอย่าง เปรยี บเทยี บและสรปุ การเขียนสอื่ ความ ความคิดรวบยอดไดด้ ี 2 คะแนน = มีการจับประเดน็ สำคัญได้ แต่ มีความคิดสร้างสรรค์ ขยายความหรอื ยกตวั อย่างไมไ่ ด้ 1 คะแนน = มีการจบั ประเดน็ สำคญั ได้นอ้ ย 3 คะแนน = เขียนสอ่ื ความไดถ้ กู ต้องตาม อกั ขรวิธี ตรงประเดน็ และ เข้าใจงา่ ย 2 คะแนน = เขียนส่อื ความไมถ่ ูกต้องตาม อักขรวธิ ี 2-3 แห่ง ตรงประเด็น 1 คะแนน = เขียนส่อื ความได้น้อย ไมต่ รง ประเดน็ 3 คะแนน = ผลงานมรี ูปแบบนา่ สนใจ มี ความสัมพนั ธ์กับหัวข้อที่กำหนด ระบายสไี ด้ สวยงาม 2 คะแนน = ผลงานมีความสัมพนั ธก์ บั หวั ขอ้ ที่กำหนด แตไ่ มด่ งึ ดดู ความสนใจ 1 คะแนน = ผลงานมีความสมั พนั ธ์นอ้ ย ประโยชน์ของการนำ 3 คะแนน = สามารถนำไปประยกุ ตก์ บั ขอ้ มลู ไปใช้ สถานการณใ์ นชวี ติ ประจำวันไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม 2 คะแนน = สามารถนำไปประยกุ ตก์ ับ สถานการณใ์ นชวี ิตประจำวนั ได้บ้าง 1 คะแนน = สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ น้อยมาก การประเมนิ ผล คะแนน 12 -9 = ดี (3) คะแนน 8 - 5 = พอใช้ (2) คะแนน 4 - 0 = ควรปรับปรุง (1) 2. พฤตกิ รรมขณะ หัวข้อทก่ี ำหนด ความมุ่งม่ันในการทำงาน เกณฑก์ ารให้คะแนน รว่ มกจิ กรรมของ น้อยมาก - ความสนใจในการทำ ระดบั 3 หมายถงึ มพี ฤตกิ รรมในระดับดี นักเรียน กิจกรรม ระดับ 2 หมายถงึ มีพฤติกรรมในระดบั ปานกลาง
หน้า 40 สง่ิ ทตี่ ้องประเมนิ วิธกี ารวัดผล ประเดน็ ที่ประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน - การมีสว่ นร่วมในการ ระดบั 1 หมายถึง มีพฤตกิ รรมในระดับ แสดงความคิดเหน็ ปรับปรุง - การตอบคำถาม - การยอมรับฟังความ คิดเห็นผ้อู ื่น - ทำงานตามท่ีได้รับ มอบหมาย เกณฑ์การประเมนิ ผล คะแนน 15 -13 = ดี (3) คะแนน 12 - 9 = พอใช้ (2) คะแนน 8 - 5 = ควรปรบั ปรุง (1) 7. กิจกรรมการเรียนรู้ วธิ สี อน/เทคนคิ การสอน เวลา (ชัว่ โมง) เรื่องที่ ช่ือเรื่อง การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 1 สภาพสมดุล การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 2 สมดลุ ต่อการเล่อื นท่ี การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 3 สมดุลต่อการหมนุ การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 4 โมเมนต์ของแรง การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 5 โมเมนต์ของแรงค่คู วบ การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 6 ศูนยก์ ลางมวลและศูนยถ์ ่วง การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 7 สมดลุ ของวตั ถุ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 8 เสถยี รภาพของสมดลุ และทดลอง 4 9 การนำหลกั สมดลุ ไปประยุกต์ 20 รวม
หน้า 41 8. สอื่ การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้ แหลง่ เรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ 1. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 2. ห้องสมุด 1. หนังสือเรยี นรายวิชาฟสิ กิ ส์เพิ่มเตมิ เล่ม 1 ชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 4 2. ส่อื การเรยี นรู้ PowerPoint 3. ใบความรู้ ลงช่ือ.......................................................ผสู้ อน ( นางสาววิจติ ตา อำไพจิตต์ ) วนั ที.่ ................................................. ลงช่ือ.......................................................คนู่ เิ ทศ ( นายตฤณธิวฒั น์ ภญิ โญชัยภทั ร ) วนั ที่..................................................
หน้า 42 แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน ที่ 4 สมดลุ กล ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ 8. อธิบายสมดุลกลของวตั ถุ โมเมนต์ และผลรวม ของโมเมนต์ที่มตี อ่ การหมนุ แรงคคู่ วบและผล ของ แรงคู่ควบท่ีมีต่อสมดุลของวัตถุเขียน แผนภาพของแรงท่กี ระทำต่อวตั ถุอิสระเม่อื วัตถุ อยู่ในสมดุลกลและคำนวณ ปริมาณต่างๆทเ่ี กย่ี วข้อง รวมท้ังทดลองและอธิบายสมดุลของแรงสามแรง 9. สังเกตและอธบิ ายสภาพการเคลอื่ นทีข่ อง วตั ถุ เมอื่ แรงทก่ี ระทำตอ่ วัตถผุ ่านศนู ย์กลาง มวลของวัตถุ และผลของศูนยถ์ ว่ งทีม่ ีตอ่ เสถยี รภาพของวัตถุ รายการประเมนิ 1. แบบทดสอบประจำบทที่ 4 สมดลุ กล 2. ทำการทดลองและนำเสนอผลการทดลอง 3. แบบฝึกหัดและใบงาน 4. ชนิ้ งานบูรณาการ STEM เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคณุ ภาพ รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ 1.แบบทดสอบ 2.บันทึกผลการ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) ทดลอง คำตอบถูก แสดงวธิ ีคิด ได้ และสรปุ คำตอบได้ คำตอบถกู แสดงวธิ ีคิด เหตผุ ลหรือการคำนวณ แสดงวิธคี ิดเล็กน้อย 3. การเขียนกราฟ ถูกตอ้ ง ชดั เจน ในรายงานผลการ ไดถ้ ูกต้อง แต่ไม่ได้ใส่ ผดิ พลาด แต่มแี นวทาง แตย่ ังไมไ่ ด้คำตอบ ทดลองมกี ารอธิบายผล การทดลองได้ชัดเจน มี หนว่ ยหรือสรุปคำตอบ ท่ีจะได้คำตอบ การใช้ขอ้ มลู จากแหลง่ ต่างๆ หรือจากการ ในรายงานผลการ ในรายงานผลการ ในรายงานผลการ ทดลองอนื่ ๆ ประกอบ คำอธบิ าย ทดลองแสดงใหเ้ ห็นวา่ ทดลองมีการแสดงผล ทดลองมกี าร เขยี นกราฟไดอ้ ย่าง ถกู ต้อง สมบูรณ์ นกั เรยี นมคี วามเข้าใจใจ การทดลองการสรุปผล แสดงผลการทดลอง ครบถว้ นทุก องคป์ ระกอบ ผลการทดลองและร้วู ่า ยงั ไมส่ มบูรณ์ หรอื มี ขาดการสรุปผล จะอธิบายผลการทดลอง การสรุปผล แต่สรปุ หรอื ไมส่ มบรู ณ์ หรอื น้ันอยา่ งไร หลงั จากถกู ถามคำถาม สบั สน เขียนกราฟไดอ้ ย่าง เขยี นกราฟได้อย่าง เขียนกราฟไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง ขาด ถกู ตอ้ ง ขาด ถกู ต้อง ขาด องคป์ ระกอบกราฟไป 1 องคป์ ระกอบกราฟไป 2 องคป์ ระกอบกราฟ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ มากกว่า 2 องค์ประกอบ
หน้า 43 รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 4.ทำกำรทดลอง 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ ) 5. การนำเสนอผลการ การทดลองที่ใชแ้ สดงให้ การทดลองท่ใี ช้แสดง การทดลองทใ่ี ชแ้ สดงให้ การทดลองทใี่ ช้แสดง ทดลอง เห็นวา่ นกั เรียนไดม้ ีการ ใหเ้ หน็ วา่ นกั เรียน วเิ คราะห์ปญั หาและ ให้เห็นวา่ นักเรียนได้ เห็นว่านกั เรียนไดใ้ ช้ สามารถทำการทดลอง ออกแบบการทดลองได้ ไดเ้ มือ่ ไดร้ ับความ ดว้ ยตนเองและสามารถ นำความคดิ กระบวนการทาง ช่วยเหลือจากครู ทำการทดลองไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ แต่ การพูดนำเสนอทำได้ การพดู นำเสนอทำได้ หลังไดร้ บั การสอนจาก อยา่ งชดั เจน ถูกต้อง วทิ ยาศาสตรม์ าใช้ใน จำเป็นตอ้ งชว่ ยในการ ครู ผู้ฟังให้ความสนใจ มี ท่าทาง นำ้ เสยี ง และ การทดลองโดยมกี าร ควบคมุ ตวั แปร การสบสายตาผูฟ้ งั ดีมาก ควบคุมตัวแปรตา่ งๆ การพดู นำเสนอได้รบั การพูดนำเสนอทำได้ การจัดเตรยี มด้วย หลงั จากได้รับการสอน ความช่วยเหลือบาง จากครู มกี ารใชท้ ่าทาง ประการจากครู แต่มี นำ้ เสียง และการสบ การนำเสนอผลการ สายตาผ้ฟู ัง ทดลอง การพูดมีเหตุ มผี ล และใช้ทา่ ทาง ประกอบนำ้ เสยี งและ การสบตาผฟู้ งั ทำไดด้ ี
หน้า 44 สมรรถนะสำคญั 4 (ดมี าก) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรับปรุง) รายการพฤติกรรม 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ มพี ฤติกรรมต้งั แต่ มพี ฤตกิ รรมตำ่ กว่า 1. มีการปรกึ ษาและวางแผนร่วมกันก่อน 8 ขอ้ มีพฤติกรรมตัง้ แต่ มพี ฤตกิ รรมตั้งแต่ 2 ข้อ ทำงาน 5-7 ข้อ 4-2 ข้อ 2. มีการแบง่ หนา้ ทอี่ ย่างเหมาะสมและ สมาชกิ ทำตามหน้าท่ที ุกคน 3. มกี ารปฏิบัติงานตามขน้ั ตอน 4. มีการให้ความช่วยเหลอื กัน 5. ผลงานเปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงคท์ ่กี ำหนด 6. ผลงานเสรจ็ ทนั ตามกำหนดเวลา 7. ผลงานมคี วามคิดรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ 8. ผลงานแสดงถงึ การนำความรทู้ ่ีได้มา ประยุกตใ์ ช้ 9. สามารถให้คำแนะนำกลมุ่ อ่ืนได้ 10. การจัดวสั ดุ อุปกรณ์ เรียบรอ้ ย หลงั เลกิ ปฏบิ ัตงิ าน รายการประเมิน 4 (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรบั ปรงุ ) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคค์ ่านยิ ม 12 ประการ มีพฤตกิ รรมครบ ขาดพฤติกรรม รายการ ทกุ ข้อ ขาดพฤติกรรม ขาดพฤติกรรม 3 ข้อ 1. ซือ่ สัตย์ สจุ ริต บันทึกผลและรายงานผลการทดลอง 1 ข้อ 2 ขอ้ ตามความเป็นจริง 2. ม่งุ ม่ันในการทำงานทำงานเสรจ็ ทนั เวลา 3. มีวินยั เข้าเรยี นตรงเวลา 4. ใฝเ่ รียนรู้ศึกษาเพิม่ เตมิ จากแหลง่ เรยี นรู้อน่ื 5. มจี ิตสาธารณะทำความสะอาดอุปกรณแ์ ละห้องทดลอง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238