Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ฟิสิกส์เพิ่มเติม2 -2563

แผนการจัดการเรียนรู้ ฟิสิกส์เพิ่มเติม2 -2563

Published by Kru.WIJITTA UMPAIJIT, 2021-04-25 04:04:15

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ว31206 ฟิสิกส์เพิ่มเติม2 -2563

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ รหัสวิชา ว31206 วิชาฟิสิกสเ์ พ่มิ เตมิ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 นางสาววิจิตตา อาไพจติ ต์ ครชู านาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม สานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ



แผนการจดั การเรยี นรู้ รหสั วชิ า ว31206 รายวชิ า ฟสิ กิ สเ์ พ่มิ เติม 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563 นางสาววจิ ิตตา อำไพจิตต์ ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คำนำ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม ได้ใช้หลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช 2553 ตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 และได้ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาอย่างต่อเนือ่ ง ในปีการศึกษา 2561 ได้นำข้อเสนอแนะจากการประเมินหลักสูตรและนำนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลมาปรับปรุง เป็นหลักสูตร โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวง ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560) เพ่อื ใชเ้ ป็นกรอบและทศิ ทางในการจดั การเรยี นการสอน และเป็นการนำหลักสูตรไปส่กู ารปฏิบัติ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ฟิสิกส์ เพิ่มเติม 2 รหัสวิชา ว 31206 ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 เล่มนี้ ได้จดั ทำตามหลักสตู รโรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวง ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งข้าพเจ้าได้วิเคราะห์ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา เพื่อจัดทำหน่วยการเรียนรู้ และ แผนการจัดการเรียนรู้เป็นรายชั่วโมง มีการออกแบบการการเรียนรู้ด้วยเทคนิค วิธีการสอนอย่างหลากหลายเน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาและสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควดิ -19 มีการวัด และประเมินผลการเรียนรู้ทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และสมารถนะหลัก เพ่อื พัฒนาคณุ ภาพผ้เู รียนใหบ้ รรลุเปา้ หมายของหลักสตู ร วจิ ติ ตา ( นางสาววจิ ิตตา อำไพจติ ต์ ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สารบัญ หนา้ คำนำ 1 สารบญั 2 4 ตอนท่ี 1 การวิเคราะหห์ ลักสูตร 4 แบบการวเิ คราะห์เพอื่ จดั ทำคำอธบิ ายรายวิชา 5 คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน/เพ่มิ เตมิ 8 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียน 8 โครงสร้างรายวชิ า 8 การวดั และประเมนิ ผล สอ่ื การเรยี นรู้ 9 แหลง่ เรียนรู้ 10 18 ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้และแผนการจดั การเรียนรู้ 24 หน่วยการเรียนท่ี 1 เรื่อง งานและพลังงาน หน่วยการเรียนท่ี 2 เร่อื ง โมเมนตัมและการชน 31 หน่วยการเรียนที่ 3 เรอื่ ง การเคลอ่ื นทีแ่ บบโคง้ 39 หนว่ ยการเรียนท่ี 4 เร่ือง การเคล่ือนที่แบบฮาร์มอนิกอยา่ งงา่ ย 47 52 แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1 แรงและงาน 60 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 กำลงั 64 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 พลังงานกล 69 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 กฎการอนุรักษ์พลังงาน 75 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 การประยุกตใ์ ชก้ ฏการอนรุ ักษ์พลงั งานกล 80 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6 เครอื่ งกล 85 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 โมเมนตมั 90 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 8 แรงและการเปลี่ยนแปลงโมเมนตมั 102 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 การดลและแรงดล 107 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 การชน 112 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 11 การเคลอ่ื นทแ่ี บบโปรเจคไทล์ 1 117 แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 12 การเคลือ่ นที่แบบโปรเจคไทล์ 2 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 13 การเคลอื่ นทแ่ี บบโปรเจคไทล์ 3 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 14 การเคลอ่ื นท่ีแบบโปรเจคไทล์ 4

สารบญั (ตอ่ ) หน้า แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 15 การเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์ 5 122 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 16 การเคลื่อนที่แบบวงกลม 1 127 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 17 การเคลื่อนที่แบบวงกลม 2 132 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 18 การเคลอ่ื นท่ีแบบวงกลม 3 137 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 19 การเคลอ่ื นท่ีแบบวงกลม 4 142 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 20 การเคลื่อนที่แบบวงกลม 5 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 21 การเคลอ่ื นที่แบบวงกลม 6 147 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 22 การเคลอ่ื นท่ีแบบคาบ 152 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 การเคลอื่ นท่ีแบบคาบ 2 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 24 เงาของวัตถุท่ีเคลอ่ื นท่เี ปน็ วงกลมสม่ำเสมอ 159 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 25 การแกว่งของลูกตุม้ นาฬิกาอย่างง่าย 164 แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 26 การแกว่งของลูกตุม้ นาฬิกาอย่างงา่ ย 2 170 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 27 การสนั่ พอ้ ง 175 ********************* 180 184

1 ตอนท่ี 1 การวิเคราะห์หลักสูตร

2 แบบการวิเคราะห์เพ่อื จัดทำคำอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า ว31206 ช่อื รายวชิ า ฟสิ ิกสเ์ พิ่มเติม 2 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ เวลา 80 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 2 หน่วยกิต ผู้สอน นางสาววิจิตตา อำไพจิตต์ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม สาระการเรยี นรู้ K กระบวนการ/ คำกรยิ า P ผลการเรยี นรู้ ระดบั เนือ้ หา คุณลักษณะฯ A สมรรถนะ C ความรู้ สบื คน้ 1. ความสามารถใน 1. วิเคราะห์ และคำนวณงานของ ความจำ งานแรงคงตัว อธบิ าย ใฝเ่ รียนรู้ การสือ่ สาร แรงคงตัว จากสมการและพ้นื ทใี่ ต้ ความเข้าใจ งานของแรงไมค่ งตวั คำนวณ กราฟความสัมพนั ธ์ ระหว่างแรง วิเคราะห์ พน้ื ทีใ่ ตก้ ราฟระหวา่ งแรงกบั วิเคราะห์ ความซอื่ สตั ย์ 1. ความสามารถใน กับตำแหน่ง รวมท้ังอธิบายและ ตำแหน่ง ใฝ่เรยี นรู้ การส่ือสาร คำนวณกำลงั เฉลยี่ ความจำ กำลังและกำลังเฉลยี่ อธบิ าย มุ่งมน่ั ในการ 2. ความสามารถใน 2. อธิบายและคำนวณพลงั งาน ความเข้าใจ คำนวณ ทำงาน การใช้ทักษะชวี ิต จลน์ พลังงานศกั ย์ พลงั งานกล นำไปใช้ พลังงานจลน์ ทดลอง ทดลองหาความสัมพนั ธ์ระหว่าง วิเคราะห์ ความสัมพันธ์ระหว่างงานของ เขียนกราฟ ความซื่อสตั ย์ 1.ความสามารถใน งานกับพลังงานจลน์ ความ แรงลัพธ์กบั พลงั งานจลน์ ตีความหมาย ใฝ่เรียนรู้ การส่อื สาร สมั พันธ์ระหวา่ งงานกบั พลังงาน ความจำ ทฤษฎบี ทงาน-พลงั งานจลน์ ข้อมลู และลง มงุ่ ม่ันในการ 2.ความสามารถใน ศกั ยโ์ นม้ ถว่ ง ความสัมพันธ์ ความเขา้ ใจ พลงั งานศกั ยโ์ น้มถว่ ง ข้อสรุป ทำงาน การแกป้ ญั หา ระหวา่ งขนาดของแรงท่ีใช้ดงึ วเิ คราะห์ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งงานกบั สปรงิ กบั ระยะทีส่ ปรงิ ยืดออกและ พลงั งานศกั ย์โน้มถว่ ง อธบิ าย ความซอ่ื สัตย์ 1. ความสามารถใน ความสมั พันธ์ ระหว่างงานกับ พลงั งานศักย์ยดื หยนุ่ จำแนก ใฝ่เรยี นรู้ การสือ่ สาร พลังงานศักยย์ ดื หยุ่น รวมท้ัง ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งขนาด วิเคราะห์ มงุ่ มัน่ ในการ อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งงาน ของแรงทใี่ ชด้ ึงสปริงกบั ระยะ คำนวณ ทำงาน 1. ความสามารถใน ของแรงลพั ธ์ และพลงั งานจลน์ ที่สปรงิ ยดื ออก และ ประยุกต์ การสื่อสาร และคำนวณงานท่ีเกดิ ขึน้ จาก ความสัมพันธร์ ะหวา่ งงานกับ ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ความสามารถใน แรงลัพธ์ พลงั งานศักย์ยืดหยนุ่ อธบิ าย ม่งุ มน่ั ในการ การแก้ปัญหา 3. อธบิ ายกฎการอนุรกั ษ์พลงั งาน พลังงานกล คำนวณ ทำงาน กล รวมท้ังวิเคราะหแ์ ละคำนวณ กฎการอนรุ กั ษพ์ ลังงานกล ปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับการ อธิบาย เคลอื่ นท่ีของวตั ถใุ นสถานการณ์ ความเขา้ ใจ เครอื่ งกลอยา่ งง่าย เขยี นกราฟ ต่าง ๆ โดยใชก้ ฎการอนรุ ักษ์ นำไปใช้ การไดเ้ ปรยี บเชิงกล คำนวณ พลังงานกล ประสิทธภิ าพของเคร่ืองกล วิเคราะห์ 4. อธิบายการทำงาน วเิ คราะห์ กราฟ ประสิทธภิ าพและการไดเ้ ปรยี บ อยา่ งงา่ ย เชงิ กลของเครื่องกลอย่างงา่ ยบาง ชนดิ โดยใชค้ วามรู้เร่อื งงานและ ความเขา้ ใจ โมเมนตัมของวตั ถุ สมดุลกล รวมท้งั คำนวณ นำไปใช้ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งแรงกับ ประสิทธภิ าพและการไดเ้ ปรยี บ การเปลีย่ นโมเมนตมั เชิงกล วเิ คราะห์ แรงดลและการดล 5. อธิบายและคำนวณโมเมนตัม พื้นท่ีใตก้ ราฟความสัมพนั ธ์ ของวตั ถุและ การดลจากสมการ ระหว่างแรงลัพธก์ ับเวลา และพื้นท่ใี ต้กราฟความสมั พันธ์ ระหวา่ งแรงลพั ธ์กับเวลา รวมทง้ั อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างแรง ดลกบั โมเมนตมั

3 สาระการเรยี นรู้ K กระบวนการ/ คำกรยิ า P ผลการเรยี นรู้ ระดบั เนอ้ื หา คณุ ลักษณะฯ A สมรรถนะ C ความรู้ อธบิ าย 6.ทดลองอธิบาย และคำนวณ กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม ทดลอง ความซื่อสัตย์ 1. ความสามารถใน ปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวกับการชน ความจำ การชนของวัตถใุ นหนึ่งมิติ คำนวณ ใฝเ่ รยี นรู้ การสอื่ สาร ของวัตถใุ นหน่ึงมติ ิทง้ั แบบ ความเข้าใจ การชนแบบยืดหย่นุ และการ ประยุกต์ มงุ่ มนั่ ในการ 2. ความสามารถใน ยืดหย่นุ ไมย่ ดื หย่นุ และการดีด วเิ คราะห์ ชนแบบไมย่ ดื หยุน่ ทำงาน การแก้ปัญหา ตวั แยกจากกัน ในหนง่ึ มติ ิซึง่ ทดลอง 3. ความสามารถใน เปน็ ไปตามกฎการอนุรักษ์ ความจำ การเคล่อื นทแี่ บบโปรเจคไทล์ อธิบาย ความซอ่ื สตั ย์ การใช้ทักษะชีวติ โมเมนตัม วเิ คราะห์ ใฝเ่ รยี นรู้ 7. อธบิ าย วเิ คราะห์ และคำนวณ ความเขา้ ใจ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งการ คำนวณ มงุ่ มัน่ ในการ 1. ความสามารถใน ปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การ นำไปใช้ กระจัดในแนวระดับกบั การ ทำงาน การส่อื สาร เคล่ือนทีแ่ บบโพรเจกไทลแ์ ละ 2. ความสามารถใน ทดลองการเคล่ือนที่แบบโพรเจก วิเคราะห์ กระจัดในแนวดงิ่ การแกป้ ญั หา ไทล์ 3. ความสามารถใน การใช้ทกั ษะชีวติ 8. ทดลองและอธบิ าย ความจำ ความสัมพันธ์เก่ยี วกบั คาบ ทดลอง ความซอ่ื สัตย์ 1. ความสามารถใน ความสมั พันธ์ระหว่าง แรงสู่ ความเขา้ ใจ แรงสศู่ ูนยก์ ลาง รศั มีของการ อธบิ าย ใฝ่เรยี นรู้ การสอ่ื สาร ศนู ยก์ ลาง รัศมขี องการเคลอ่ื นที่ นำไปใช้ เคลือ่ นที่แบบวงกลม คำนวณ มงุ่ มั่นในการ 2. ความสามารถใน อตั ราเร็วเชิงเส้นอตั ราเร็วเชิงมมุ วเิ คราะห์ แรงสศู่ ูนย์กลาง ความเรง่ สู่ ประยกุ ต์ ทำงาน การแกป้ ญั หา และมวลของวตั ถุในการเคลอ่ื นท่ี ศูนย์กลาง 3. ความสามารถใน แบบวงกลมในระนาบ ระดบั ความจำ ความสมั พนั ธ์ระหว่าง ทดลอง ความซื่อสตั ย์ การใชท้ ักษะชีวติ รวมทั้งคำนวณปริมาณตา่ งๆที่ ความเข้าใจ อัตราเร็วเชิงเส้นกับอัตราเร็ว อธิบาย ใฝ่เรียนรู้ เกย่ี วขอ้ งและประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ นำไปใช้อ เชงิ มมุ คำนวณ ม่งุ ม่นั ในการ 1. ความสามารถใน การเคลอ่ื นทแ่ี บบวงกลมในการ ทำงาน การสื่อสาร อธบิ ายการโคจรของดาวเทยี ม ความเข้าใจ การเคลื่อนทแ่ี บบฮารม์ อนิก อธบิ าย 2. ความสามารถใน อยา่ งงา่ ย ความซอ่ื สตั ย์ การใช้ทักษะชีวติ 9. ทดลองและอธิบายการ แรงกับการสัน่ ของมวลตดิ ใฝเ่ รยี นรู้ เคล่ือนท่แี บบฮารม์อนิก อยา่ ง ปลายสปรงิ และการแกว่งของ มุ่งมั่นในการ 1. ความสามารถใน ง่ายของวัตถุตดิ ปลายสปรงิ และ ลูกตมุ้ อยา่ งง่าย ทำงาน การสอื่ สาร ลกู ต้มุ อย่างง่ายรวมทัง้ คำนวณ ความถี่ธรรมชาติของวัตถุ ปรมิ าณต่างๆทเี่ กีย่ วข้อง การเกดิ การส่นั พอ้ ง 10. อธบิ ายความถ่ธี รรมชาตขิ อง วัตถแุ ละการเกดิ การส่ันพ้อง

4 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ว31206 ชอื่ รายวชิ า ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เติม 2 กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 2 หน่วยกิต เวลา 80 ช่วั โมง/ภาคเรยี น ผสู้ อน นางสาววจิ ติ ตา อำไพจิตต์ โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม ศึกษา สืบค้นและอธิบาย หลักการของกลศาสตรในเรื่อง งานของแรงคงตัว กำลังเฉลี่ย พลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล กฎการอนุรักษ์พลังงานกล การทำงาน ประสิทธิภาพและการได้เปรียบเชิงกลของ เครื่องกลอย่างง่าย โมเมนตัมของวัตถุและการดล ความสัมพันธ์ระหว่างแรงดลกับโมเมนตัม การชนของวัตถุใน หนึ่งมิติ กฎการอนรุ กั ษ์โมเมนตัม การเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ ปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่แบบ โพรเจกไทล์ การเคลื่อนท่ีแบบวงกลม ปริมาณท่ีเก่ยี วข้องกบั การเคลอ่ื นทแ่ี บบวงกลม การเคลื่อนท่แี บบฮาร์มอนิ กอยา่ งงา่ ย ปริมาณที่เก่ียวข้องกับการเคลื่อนท่ีแบบฮารม์ อนิกอย่างง่าย แรงกบั การส่นั ของมวลติดปลายสริงและ ลกู ต้มุ อย่างง่าย ความถธ่ี รรมชาติและการสน่ั พ้อง โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การ สืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มี ความสามารถในการตัดสนิ ใจ มีทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมทง้ั ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านการ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของ ตนเอง มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมทเ่ี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. วิเคราะห์ และคำนวณงานของแรงคงตวั จากสมการและพน้ื ท่ใี ตก้ ราฟความสัมพนั ธ์ ระหว่างแรงกับ ตำแหน่ง รวมท้ังอธิบายและ คำนวณกำลังเฉลี่ย 2. อธบิ ายและคำนวณพลงั งานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสัมพันธร์ ะหว่างงานกบั พลังงานจลน์ ความสมั พันธ์ระหวา่ งงานกับพลงั งานศักยโ์ นม้ ถว่ ง ความสัมพันธร์ ะหว่างขนาดของแรงที่ใชด้ งึ สปริง กบั ระยะทสี่ ปรงิ ยดื ออกและความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งงานกบั พลงั งานศักย์ยดื หยุน่ รวมทั้ง อธิบายความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งงานของแรงลพั ธ์ และพลงั งานจลน์ และคำนวณงานท่เี กิดข้ึนจากแรงลัพธ์ 3. อธิบายกฎการอนรุ กั ษพ์ ลงั งานกลรวมท้ัง วิเคราะหแ์ ละคำนวณปรมิ าณตา่ งๆ ทีเ่ ก่ยี วข้องกับการ เคล่อื นที่ของวตั ถุในสถานการณต์ ่างๆ โดยใช้กฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกล 4. อธิบายการทำงานประสิทธภิ าพและการได้ เปรียบเชงิ กลของเครือ่ งกลอยา่ งง่ายบางชนดิ โดยใช้ความรู้ เรื่องงานและสมดุลกลรวมท้งั คำนวณประสทิ ธภิ าพและการได้เปรยี บเชงิ กล 5. อธิบายและคำนวณโมเมนตมั ของวัตถุและการดล จากสมการและพื้นทีใ่ ต้กราฟความสัมพนั ธ์ระหว่าง แรงลัพธ์กบั เวลา รวมท้งั อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างแรงดลกับโมเมนตัม 6. ทดลองอธิบายและคำนวณปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวกับการชนของวัตถุในหนึ่งมิติทั้งแบบยืดหยุ่น ไม่ ยดื หยนุ่ และการดดี ตวั แยกจากกัน ในหนง่ึ มติ ิซง่ึ เป็นไปตามกฎการอนุรักษ์ โมเมนตัม 7. อธิบาย วิเคราะห์ และคำนวณปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกบั การเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์และทดลอง การเคล่อื นท่ีแบบโพรเจกไทล์ 8. ทดลองและอธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง แรงส่ศู นู ย์กลางรศั มขี องการเคลือ่ นที่ อัตราเรว็ เชงิ เสน้ อตั ราเรว็ เชงิ มมุ และมวลของวัตถใุ นการเคล่ือนทแี่ บบวงกลมในระนาบ ระดับรวมทัง้ คำนวณปรมิ าณตา่ งๆ ท่ี เก่ยี วข้องและประยกุ ตใ์ ช้ความร้กู ารเคลื่อนท่แี บบวงกลมในการอธิบายการโคจรของดาวเทียม 9. ทดลองและอธบิ ายการเคลือ่ นท่ีแบบฮารมอ์ นกิ อยา่ งงา่ ยของวัตถตุ ิดปลายสปริงและลกู ต้มุ อยา่ งงา่ ย รวมทัง้ คำนวณปริมาณตา่ งๆ ที่เกีย่ วขอ้ ง 10. อธบิ ายความถี่ธรรมชาติของวตั ถแุ ละการเกิดการสั่นพ้อง รวม 10 ผลการเรียนรู้

5 โครงสรา้ งรายวชิ า รหัสวชิ า ว31206 ช่อื รายวชิ า ฟิสิกส์เพม่ิ เตมิ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ผู้สอน นางสาววิจติ ตา อำไพจติ ต์ จำนวน 2 หนว่ ยกติ เวลา 80 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม ลำดบั ชื่อหนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระคำคญั เวลา น้ำหนกั ที่ การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 1. วิเคราะห์ และคำนวณงานของแรงคงตัว -งานของแรงทีก่ ระทำตอ่ วตั ถหุ าไดจ้ ากผลคูณของ 1 งานและ จากสมการและพื้นทใ่ี ต้กราฟความสมั พันธ์ 18 20 พลังงาน ระหว่างแรงกับตำแหน่ง รวมทง้ั อธบิ ายและ ขนาดของแรงและขนาดของการกระจัดกบั โคไซน์ คำนวณกำลังเฉลย่ี ของมุมระหวา่ งแรงกบั การกระจดั ตามสมการ ������ = ������∆������ ������������������������ หรือ หางานได้จากพ้ืนท่ีใต้กราฟ ระหว่างแรงในแนวการเคลือ่ นท่กี ับตำแหน่ง โดยแรงที่ กระทำอาจเปน็ แรงคงตวั หรอื ไมค่ งตัวก็ได้ -งานท่ีทำได้ในหน่ึงหนว่ ยเวลา เรียกว่า กำลังเฉลย่ี ดังสมการ ������ = ������������ และพลังงานศักย์ยดื หย่นุ หาได้จาก ������������������ = 1 ������������2 2 -พลงั งานกลเป็นผลรวมของพลังงานจลนแ์ ละพลงั งาน ศกั ย์ตามสมการ ������ = ������������ + ������������ 2. อธบิ ายและคำนวณพลงั งานจลน์ -พลังงานเป็นความสามารถในการทำงาน พลงั งานศักย์ พลงั งานกล ทดลองหาความ สมั พนั ธร์ ะหว่างงานกับพลังงานจลน์ -พลงั งานจลนเ์ ปน็ พลังงานท่วี ตั ถุกำลังเคลอ่ื นที่ หาได้ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างงานกับพลังงานศกั ย์ โน้มถว่ ง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งขนาดของแรง จากสมการ ������������ = 1 ������������2 ทีใ่ ชด้ งึ สปริงกบั ระยะที่สปรงิ ยดื ออกและ ความสัมพันธ์ ระหวา่ งงานกบั พลงั งานศักย์ 2 ยดื หยุ่น รวมท้ัง อธบิ ายความสัมพนั ธ์ -พลงั งานศกั ย์เป็นพลังงานท่ีเกย่ี วขอ้ งกับตำแหน่งหรือ ระหว่างงานของแรงลัพธ์ และพลังงานจลน์ และคำนวณงานท่ีเกดิ ข้ึนจาก แรงลัพธ์ รูปรา่ งของวัตถุแบง่ ออกเปน็ พลงั งานศักย์โน้มถว่ ง หาได้ จากสมการ ������������ = ������������ℎ - แรงทที่ ำใหเ้ กดิ งานโดยงานของแรงน้ันไมข่ น้ึ กับ เส้นทางการเคล่ือนท่ี เช่น แรงโน้มถ่วงและแรงสปริง เรยี กวา่ แรงอนรุ กั ษ์ - งานและพลงั งานมคี วามสมั พนั ธ์กัน โดยงานของแรง ลัพธเ์ ท่ากบั พลงั งานจลนข์ องวตั ถทุ ีเ่ ปล่ียนไป ตามทฤษฎี บทงานพลังงานจลน์ เขียนแทนไดด้ ้วยสมการ ������ = ∆������������ 3. อธบิ ายกฎการอนุรักษพ์ ลงั งานกล รวมทง้ั -ถา้ งานท่ีเกิดขนึ้ กบั วตั ถุเป็นงานเน่ืองจากแรงอนรุ ักษ์ วเิ คราะห์และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ี เท่านนั้ พลงั งานกลของวัตถุจะคงตัวซงึ่ เปน็ ไปตาม เก่ียวขอ้ งกบั การเคล่อื นท่ขี องวัตถใุ น กฎการอนรุ ักษพ์ ลงั งานกล เขยี นแทนได้ด้วย สถานการณ์ต่าง ๆ โดยใช้กฎการอนรุ ักษ์ สมการ Ek + Ep = คา่ คงตวั โดยท่ี พลังงานศกั ย์ พลงั งานกล อาจเปล่ยี นเปน็ พลังงานจลน์ -กฎการอนรุ ักษพ์ ลงั งานกล ใช้วเิ คราะห์การเคลอื่ นท่ี ต่าง ๆ เช่น การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุท่ีตดิ สปรงิ การเคลอ่ื นทภ่ี ายใตส้ นามโน้มถว่ งของโลก

6 ลำดบั ช่อื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระคำคัญ เวลา น้ำหนัก ที่ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน งานและ 4. อธิบายการทำงานประสทิ ธภิ าพและการ -การทำงานของเคร่อื งกลอยา่ งง่าย ได้แก่ คาน รอก พน้ื พลังงาน ได้ เปรยี บเชิงกลของเครอื่ งกลอยา่ งงา่ ยบาง เอยี ง ลม่ิ สกรู และ ล้อกับเพลา ใชห้ ลกั ของงานและ ชนิด โดยใช้ความรู้เรื่องงานและสมดลุ กล สมดุลกลประกอบการพิจารณาประสทิ ธิภาพ และการ รวมทงั้ คำนวณประสิทธิภาพและการ ได้เปรยี บเชงิ กลของเคร่อื งกลอย่างงา่ ย ประสิทธภิ าพ ไดเ้ ปรยี บเชิงกล คำนวณไดจ้ ากสมการ Efficiency =������������������������ x 100% ������������������ การได้เปรยี บเชิงกลคำนวณไดจ้ ากสมการ ������. ������. = ������������������������ = ������������������������ 26 30 ������������������ ������������������ 2 โมเมนตัม 5. อธบิ ายและคำนวณโมเมนตัมของวัตถแุ ละ - วัตถุที่เคลอ่ื นท่ีจะมีโมเมนตมั ซง่ึ เป็นปริมาณเวกเตอรม์ ี และการชน การดลจากสมการและพืน้ ทใ่ี ต้กราฟ คา่ เท่ากับผลคณู ระหวา่ งมวลและความเร็วของวัตถุ ความสัมพันธ์ระหวา่ งแรงลัพธก์ บั เวลา ดงั สมการ ���⃑��� = ���������⃑��� รวมทง้ั อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่างแรงดล - เมอ่ื มแี รงลัพธก์ ระทำต่อวัตถุจะทำใหโ้ มเมนตัมของวัตถุ กบั โมเมนตัม เปล่ียนไป โดยแรงลพั ธ์เทา่ กบั อัตราการเปล่ียนแปลง โมเมนตมั ของวตั ถุ - แรงลพั ธ์ทก่ี ระทำต่อวตั ถใุ นเวลาส้นั ๆ เรยี กว่า แรงดล โดยผลคูณของแรงดลกบั เวลา เรียกวา่ การดล ตามสมการ ���⃑��� = (∑������������=1 ���⃑���������)∆������ ซง่ึ การดล อาจหา ได้จากพนื้ ทีใ่ ต้กราฟระหว่างแรงดลกับเวลา 6.ทดลองอธบิ ายและคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ - ในการชนกนั ของวัตถแุ ละการดีดตวั ออกจากกันของ ท่เี กย่ี วกบั การชนของวตั ถุในหนง่ึ มติ ิทงั้ แบบ วัตถุในหนึ่งมติ ิ เม่ือไม่มแี รงภายนอกมากระทำ โมเมนตมั ของระบบมคี ่าคงตัวซงึ่ เป็นไปตามกฎการอนรุ ักษ์ ยืดหย่นุ ไมย่ ดื หยุน่ และการดดี ตัวแยกจาก กนั ในหน่งึ มิตซิ ่ึงเปน็ ไปตามกฎการอนุรกั ษ์ โมเมนตัม เขยี นแทนได้ดว้ ยสมการ ���⃑⃑⃑���⃑������ = ⃑���⃑���⃑⃑���⃑��� โมเมนตมั โดย ⃑���⃑⃑���⃑������เปน็ โมเมนตัมของระบบก่อนชน และ ⃑���⃑���⃑⃑���⃑��� เป็นโมเมนตมั ของระบบหลังชน - ในการชนกันของวตั ถุ พลงั งานจลน์ของระบบอาจคง ตัวหรือไม่คงตวั กไ็ ด้ การชนทพ่ี ลังงานจลน์ของระบบคง ตวั เปน็ การชนแบบยดื หยุ่น สว่ นการชนทพ่ี ลงั งานจลน์ ของระบบไม่คงตวั เป็นการชนแบบไมย่ ืดหยุ่น 3 การ 7. อธิบาย วเิ คราะห์ และคำนวณปริมาณ -การเคลอื่ นท่ีแนวโค้งพาราโบลาภายใตส้ นามโน้มถว่ ง 22 30 เคลื่อนท่ี ตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับการเคล่อื นทแ่ี บบ โดยไมค่ ดิ แรงต้านของอากาศเป็นการเคล่ือนที่แบบ แบบโค้ง โพรเจกไทล์และทดลองการเคลื่อนท่แี บบ โพรเจกไทล์ วัตถมุ กี ารเปลี่ยนตำแหนง่ ในแนวดิ่งและ โพรเจกไทล์ แนวระดับพรอ้ มกันและเป็นอสิ ระตอ่ กัน สำหรับการ เคล่ือนทใ่ี นแนวดิง่ เป็นการเคลอ่ื นท่ที ีม่ แี รงโน้มถว่ ง กระทำจึงมีความเรว็ ไม่คงตวั ปรมิ าณต่าง ๆ มี ความสมั พันธต์ ามสมการ ������������ = ������������ + ������������������ 1 ������������ = ������������������ + 2 ������������������ ⌈������������ + ������������ ⌉ ������������ = 2 ������ ���������2��� = ���������2��� + 2������������������������������ ส่วนการเคล่ือนที่ในแนวระดบั ไม่มแี รงกระทำจงึ มี ความเร็วคงตวั ตำแหนง่ ความเร็ว และเวลา มี ความสัมพนั ธ์ตามสมการ ������������ = ������������������

7 ลำดบั ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระคำคญั เวลา น้ำหนัก ที่ การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 3 การ 8. ทดลองและอธิบายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง -วตั ถทุ ีเ่ คลอ่ื นทเ่ี ป็นวงกลมหรือสว่ นของวงกลม เรียกวา่ เคลือ่ นที่ แรงสูศ่ นู ยก์ ลาง รัศมขี องการเคลอ่ื นที่ วัตถนุ ้ันมกี ารเคล่ือนทีแ่ บบวงกลม ซงึ่ มี แรงลพั ธ์ที่ อตั ราเร็วเชงิ เส้นอัตราเร็วเชงิ มุม และมวล กระทำกับวัตถุในทศิ เขา้ สูศ่ นู ย์กลาง เรียกวา่ แรงสู่ แนวโคง้ ของวัตถุในการเคลือ่ นทแ่ี บบวงกลมใน ศนู ย์กลาง ทำให้เกิดความเร่งสูศ่ ูนยก์ ลางท่มี ขี นาด ระนาบ ระดับรวมทัง้ คำนวณปริมาณตา่ งๆที่ สัมพนั ธก์ บั รัศมีของการเคล่ือนท่แี ละอัตราเรว็ เชงิ เสน้ เกี่ยวขอ้ งและประยุกตใ์ ช้ความรูก้ ารเคล่อื นที่ ของวัตถุ ซ่งึ แรงสศู่ นู ยก์ ลาง คำนวณได้จากสมการ แบบวงกลมในการอธิบายการโคจรของ ������������ = ������������2 นอกจากนี้การเคล่ือนท่แี บบวงกลมยัง ดาวเทียม ������ สามารถอธิบายได้ด้วยอตั ราเร็วเชงิ มมุ ซึง่ มคี วามสมั พนั ธ์ กับอัตราเร็วเชงิ เสน้ ตามสมการ ������ = ������������ และแรงสศู่ ูนย์กลางมคี วามสมั พันธ์กบั อัตราเรว็ เชงิ มุม ตามสมการ ������������ = ������������2������ -ดาวเทยี มที่โคจรในแนววงกลมรอบโลกมีแรงดงึ ดูดทโ่ี ลก กระทำตอ่ ดาวเทยี มเป็นแรงสศู่ นู ย์กลาง ดาวเทียมทีม่ วี ง โคจรคา้ งฟ้าในระนาบของเสน้ ศนู ยส์ ูตรมคี าบการโคจร เท่ากับคาบการหมนุ รอบตัวเองของโลก หรอื มอี ัตราเร็ว เชงิ มุมเท่ากับอตั ราเร็วเชงิ มุมของตำแหน่ง 4 เคลื่อนท่ี 9. ทดลองและอธิบายการเคล่ือนทแี่ บบฮาร์ - การเคลือ่ นท่แี บบฮาร์มอนกิ อยา่ งงา่ ยเปน็ การเคล่อื นที่ 14 20 แบบฮารม์อ มอนกิ อยา่ งง่าย ของวัตถุติดปลายสปริงและ ของวตั ถุท่กี ลับไปกลบั มาซ้ำรอยเดมิ ผา่ นตำแหนง่ สมดุล นกิ อย่าง งา่ ย ลกู ตมุ้ อยา่ งงา่ ย รวมทั้งคำนวณปริมาณต่างๆ โดยมคี าบและแอมพลจิ ูดคงตวั และมกี ารกระจัดจาก ที่เก่ียวขอ้ ง ตำแหนง่ สมดุลท่เี วลาใด ๆ เป็นฟงั ก์ชันแบบไซน์ โดย ปรมิ าณต่าง ๆ ท่เี ก่ยี วข้อง มคี วามสมั พนั ธต์ ามสมการ ������ = ������������������������(������������ + ∅) ������ = ������������������������������(������������ + ∅) ������ = ±ω√������2 − ������2 ������ = −������������2������������������(������������ + ∅) ������ = −������2������ - การสนั่ ของวัตถุติดปลายสปริง และการแกวง่ ของ ลกู ตุ้มอย่างง่ายเป็นการเคลอ่ื นท่ีแบบฮารม์ อนิกอยา่ งงา่ ย ท่มี ีขนาดของความเรง่ แปรผันตรงกบั ขนาดของการ กระจัดจากตำแหน่งสมดลุ แต่มที ศิ ทางตรงข้าม โดยมี คาบการส่นั ของวัตถุทีต่ ิดอย่ทู ปี่ ลายสปรงิ และคาบการ แกว่งของลูกตมุ้ ตามสมการ 10. อธิบายความถี่ธรรมชาตขิ องวัตถุและการ ������ = 2������√������������ และ ������ = 2������√������������ เกดิ การสนั่ พ้อง เมือ่ ดึงวัตถทุ ีต่ ดิ ปลายสปรงิ ออกจากตำแหนง่ สมดลุ แลว้ ปล่อยใหส้ นั่ วตั ถจุ ะสนั่ ดว้ ยความถี่เฉพาะตวั รวม การดงึ ลกู ต้มุ ออกจากแนวด่ิงแล้วปล่อยใหแ้ กว่ง ลกู ตุม้ จะแกวง่ ด้วยความถเ่ี ฉพาะตัวเช่นกัน ความถท่ี มี่ คี ่าเฉพาะตัวนี้ เรียกว่า ความถ่ีธรรมชาติ เมอื่ กระตนุ้ ใหว้ ัตถุส่นั ดว้ ยความถ่ที มี่ ีคา่ เท่ากบั ความถธี่ รรมชาตขิ องวัตถุจะทำให้วัตถสุ ั่นด้วย แอมพลิจดู เพม่ิ ข้นึ เรียกวา่ การสัน่ พอ้ ง 80 100

8 4. การวดั และประเมนิ ผล 4.1 การประเมนิ ระหว่างภาคและปลายภาค อัตราส่วน 70 : 30 4.1.1 การประเมินระหว่างภาค 70 คะแนน - ประเมินกอ่ นสอบกลางภาค 20 คะแนน - ประเมนิ กลางภาค 20 คะแนน - ประเมนิ หลงั สอบกลางภาค 20 คะแนน - ประเมินโครงงาน OCOP 10 คะแนน ( บูรณาการ ) 4.1.2 การประเมนิ ปลายภาค 30 คะแนน 4.2 การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 4.3 การประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน 5. สื่อการเรียนรู้ 1) เอกสารประกอบการสอน รายวชิ าฟิสิกสเ์ พม่ิ เตมิ 2 ระดบั ชนั้ ม.4 เรอ่ื ง งานและพลงั งาน 2) เอกสารประกอบการสอน รายวชิ าฟิสกิ ส์เพม่ิ เตมิ 2 ระดับช้นั ม.4 เรอ่ื ง โมเมนตมั และการชน 3) เอกสารประกอบการสอน รายวิชาฟิสิกสเ์ พิม่ เติม 2 ระดบั ชั้น ม.4 การเคลื่อนทแ่ี บบโคง้ 4) เอกสารประกอบการสอน รายวิชาฟิสกิ สเ์ พมิ่ เติม 2 ระดบั ชน้ั ม.4 การเคลอ่ื นที่แบบฮารม์ อนกิ อย่างง่าย 5) หนังสือเรียนรายวชิ าเพิม่ เตมิ วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 เล่ม 1 ผ้แู ต่ง : สถาบนั สง่ เสริม การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สำนกั พิมพจ์ ฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั 6) หนังสือเรยี นรายวชิ าเพมิ่ เติมวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เลม่ 2 ผู้แตง่ : สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนกั พิมพ์จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั 7) หนงั สอื เรียนรายวิชาเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 เลม่ 1 ผแู้ ตง่ : สถาบนั ส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนกั พมิ พจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 8) สอื่ power point เร่ือง งานและพลังงาน 9) ส่ือ power point เร่อื ง โมเมนตัมและการชน 10) สอื่ power point เรอ่ื ง การเคล่ือนที่แบบโคง้ 11) สือ่ power point เรอ่ื ง การเคลือ่ นท่ีแบบฮาร์มอนิกอย่างงา่ ย 6. แหลง่ เรยี นรู้ 1) แหล่งเรยี นร้จู ากอนิ เทอรเ์ นต็ YouTube 2) สวนสนกุ ดรมี เวิล์ด

ตอนท่ี 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 9 ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ และแผนการจดั การเรียนรู้

ตอนท่ี 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 10 หน่วยการเรียนที่ 1 เรอ่ื ง งานและพลงั งาน รหสั วชิ า ว 31206 ชื่อรายวชิ า ฟิสกิ สเ์ พ่ิมเติม 2 กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต เวลา 18 ช่วั โมง ผูส้ อน นางสาววิจิตตา อำไพจติ ต์ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ สาระที่ 1 เขา้ ใจธรรมชาตทิ างฟิสิกส์ปริมาณและกระบวนการวดั การเคล่อื นทแี่ นวตรง แรงและกฎการ เคล่ือนทข่ี องนวิ ตัน กฎความโน้มถว่ งสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวตั ถุ งาน และกฎการอนรุ กั ษพ์ ลังงานกล โม เมนตัมและกฎการอนุรักษ์ โมเมนตมั การเคลอื่ นท่ีแนวโค้ง รวมทงั้ นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ 1. วิเคราะห์ และคำนวณงานของแรงคงตัว จากสมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ ระหว่างแรงกบั ตำแหน่ง รวมท้งั อธิบายและ คำนวณกำลงั เฉลี่ย 2. อธิบายและคำนวณพลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสัมพันธ์ระหว่างงานกับ พลังงานจลน์ ความสัมพนั ธ์ระหว่างงานกับพลงั งานศักยโ์ นม้ ถ่วง ความสัมพันธ์ระหวา่ งขนาดของแรงท่ีใชด้ งึ สปริง กับระยะที่สปริงยืดออกและความสัมพันธ์ ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น รวมทั้ง อธิบายความสัมพันธ์ ระหว่างงานของแรงลพั ธ์ และพลังงานจลน์ และคำนวณงานท่เี กิดขึ้นจากแรงลพั ธ์ 3. อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงานกลรวมทั้ง วิเคราะห์และคำนวณปริมาณต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการ เคลือ่ นทขี่ องวตั ถุในสถานการณต์ ่างๆโดยใช้กฎการอนรุ ักษพ์ ลงั งานกล 4. อธบิ ายการทำงานประสิทธิภาพและการได้ เปรยี บเชงิ กลของเคร่ืองกลอย่างง่ายบางชนิด โดยใช้ความรู้ เรอ่ื งงานและสมดุลกลรวมทงั้ คำนวณประสทิ ธภิ าพและการไดเ้ ปรียบเชงิ กล 2. สาระสำคญั งานของแรงท่กี ระทำตอ่ วัตถุหาได้จากผลคูณของขนาดของแรงและขนาดของการกระจดั กบั โคไซน์ ของมุมระหว่างแรงกับการกระจัด ตามสมการ W = Fs cosӨ หรือคำนวณหางานได้จากพื้นท่ีใต้กราฟระหว่าง แรงและการกระจัด 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง งานของแรงทกี่ ระทำตอ่ วตั ถหุ าได้จากผลคณู ของขนาดของแรงและขนาดของการกระจัดกบั โคไซนข์ องมุม ระหว่างแรงกับการกระจัด ตามสมการ W = Fs cosӨ หรือหางานได้จากพืน้ ท่ีใต้กราฟระหวา่ งแรงในแนวการ เคลื่อนที่กับตำแหน่งโดยแรงที่กระทำอาจเป็นแรงคงตวั หรือไม่คงตัวก็ได้ งานที่ทำได้ในหนึง่ หน่วยเวลา เรียกว่า

ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ 11 กำลงั เฉล่ยี พลงั งานเป็นความสามารถในการทำงาน พลงั งานจลน์เป็นพลงั งานของวัตถทุ ่ีกำลงั เคลื่อนที่คำนวณได้ จากสมการ Ek=mv2 พลังงานศกั ย์เป็นพลังงานทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับตำแหน่งหรือรูปร่างของวตั ถุ แบง่ ออกเป็นพลังงาน ศักย์โนม้ ถ่วง คำนวณได้จากสมการ Ep= mgh และพลังงานศักย์ยดื หยุ่น คำนวณได้ ถ้างานที่เกดิ ขึ้นกับวัตถเุ ปน็ งานเน่ืองจากแรงอนรุ กั ษ์เท่านั้น พลังงานกลของวัตถุจะคงตัวซึ่งเปน็ ไปตามกฎการอนุรักษ์พลังงานกล เขียนแทน ได้ด้วยสมการ Ek + Ep = ค่าคงตัวโดยทพี่ ลังงานศกั ยอ์ าจเปลย่ี นเปน็ พลังงานจลน์ กฎการอนุรักษ์พลังงานกลใช้วิเคราะห์การเคลื่อนที่ต่าง ๆ เช่น การเคลื่อนที่ของวัตถุที่ติดสปริงการ เคลื่อนทภ่ี ายใตส้ นามโน้มถ่วงของโลกการทำงานของเครอ่ื งกลอยา่ งงา่ ย ไดแ้ ก่ คาน รอกพ้ืนเอียง ล่ิม สกรู และล้อ กับเพลา ใช้หลักของงานและสมดุลกลประกอบการพิจารณาประสิทธิภาพและการได้เปรียบเชิงกลของเครื่องกล อยา่ งงา่ ย 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี นและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี ินัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. มีจิตวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ความสนใจใฝ่รู้ มุ่งมั่น 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา ในการทำงาน 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน - ใบงาน - แบบฝกึ ทักษะ - แบบทดสอบ - กิจกรรมทดลอง

ตอนท่ี 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 12 6. การวดั และประเมินผล รายการวดั วธิ ีวดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน 6.1 การประเมนิ ชิ้นงาน/ ใบงาน ผ่านเกณฑ์ในระดับ แบบฝึกหดั เพิม่ เติม ดี ขนึ้ ไป ภาระงาน แบบประเมนิ - - ใบงาน ตรวจใบงาน 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น ผ่านเกณฑ์ในระดบั - แบบฝึกหัดเพม่ิ เตมิ ตรวจแบบฝกึ หดั ใบงาน ดี ขึ้นไป แบบฝึกทกั ษะ - ทำการทดลองและนำเสนอ บนั ทึกผลการทดลอง ข้อคำถามอัตนัย ผ่านเกณฑใ์ นระดบั การเขยี นกราฟ รายงานการ ดี ข้นึ ไป ผลการทดลอง แบบบันทกึ สมรรณนะสำคญั ทดลอง ของผเู้ รียน ด้าน ผ่านเกณฑ์การ -ความสามารถในการสอ่ื สาร ประเมนิ ในระดบั ดี 6.2 การประเมนิ กอ่ นเรยี น -ความสามารถในการคิด ขึน้ ไป -ความสามารถในการใช้ 1. ทดสอบก่อนเรยี น 1. ใช้แบบทดสอบกอ่ นเรียน เทคโนโลยี ผ่านเกณฑ์ ได้คะแนนรอ้ ยละ 70 6.3 การประเมินระหว่างเรยี น แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ประกอบดว้ ย - ดา้ นความรู้ 1) แตง่ กายถูกระเบียบ 2) เข้าเรียนตรงเวลา . ใบงาน ใชต้ รวจคำตอบใบงาน 3) มอี ุปกรณ์การเรยี นพร้อม 4) ทำงานเสร็จตรงตรามเวลา - ด้านกระบวนการ 5) ผลงานผา่ นตามเกณฑ์ . แบบฝกึ ทักษะ ใชต้ รวจแบบฝกึ ทักษะ 1. แบบทดสอบปรนยั ขอ้ คำถามอตั นยั - ด้านสมรรณนะสำคัญของ ตรวจแบบฝกึ ทักษะ โดยนำมา ผู้เรียน ประเมนิ รว่ มกับการ ใช้แบบบันทึกสมรรณนะสำคัญ ของผเู้ รยี น ด้าน -ความสามารถในการส่ือสาร -ความสามารถในการคิด -ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ดา้ นคุณลักษณะอนั พึง สงั เกตพฤตกิ รรมในชน้ั เรยี น โดย ประสงค์ ใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรม มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมัน่ ในการทำงาน 6.4 การประเมนิ หลังเรียน 1.ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน 1. ทดสอบหลงั เรียน

ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 13 7. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ วธิ ีสอน/เทคนิคการสอน เวลา เร่อื งท่ี ชือ่ เรอ่ื ง (ชั่วโมง) 1 แรงและงาน การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 4 2 2 กำลัง การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 6 2 3 พลังงานกล การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) + Online 2 4 กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) + Online 2 18 5 การประยุกต์กฎการอนุรักษ์ การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) + Online พลงั งานกล 6 เคร่อื งกล การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) + Online รวม 8. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ 1) เอกสารประกอบบทเรยี น เรื่อง งานและพลังงาน 2) หนงั สือเรยี นรายวิชาเพม่ิ เติมวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 เลม่ 2 ผู้แตง่ : สถาบนั ส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สำนักพมิ พจ์ ฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั 3) ส่อื power point เร่ือง งานและพลังงาน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ ประกอบ หน่วยการเรยี นรู้ เร่ือง งานและพลงั งาน รถไฟตลี ังกา วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสกิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=24M- lXfRJtA&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZTr&index=348 วิชาฟสิ กิ ส์ - บทเรยี น งานและกำลงั https://www.youtube.com/watch?v=nMOCxIl_nsc&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKW Gk&index=7 วิชาฟสิ ิกส์ - บทเรียน เครือ่ งกล https://www.youtube.com/watch?v=rZL4pHlcluk&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKW Gk&index=14 วชิ าฟสิ กิ ส์ - บทเรยี น พลังงานศักย์ https://www.youtube.com/watch?v=pEh0hcu- YhM&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWGk&index=25 แรงเสียดทาน วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสกิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=AqPNYNJkLkY&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvK sZTr&index=205 การชดเชยแรงเสียดทาน วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ กิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=KT1rjEY32KU&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKs ZTr&index=207

ตอนท่ี 2 การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ 14 วชิ าฟสิ กิ ส์ - บทเรยี น พลังงานจลน์ https://www.youtube.com/watch?v=0RtvC8HKnCk&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yK WGk&index=28 วชิ าฟสิ ิกส์ - บทเรยี น การประยุกต์เรื่องพลงั งาน อนรุ ักษ์พลังงาน https://www.youtube.com/watch?v=IoAK9tKZsxo&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKW Gk&index=29 วิชาฟสิ กิ ส์ - บทเรยี น อนรุ ักษพ์ ลงั งาน https://www.youtube.com/watch?v=cjyBelnP4Zk&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKW Gk&index=57 การใช้งานจรงิ ของ สกรู วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสิกส์ https://www.youtube.com/watch?v=mkBcxYYMiP8&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvK sZTr&index=190 การใช้งานจริงของพ้ืนเอยี ง วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสิกส์) https://www.youtube.com/watch?v=04PKkGUD0jI&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKs ZTr&index=191 การทำงานของล้อและเพลา วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ ิกส์) https://www.youtube.com/watch?v=GZfPaFaCL7Y&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKs ZTr&index=192 คอ้ นงดั ตะปู วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสกิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=8NV5d0bQQ78&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426Qv KsZTr&index=193 ใช้คานงัดยกวัตถขุ ้ึนในแนวดิง่ วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสิกส์) https://www.youtube.com/watch?v=i2ouh2oCnP8&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvK sZTr&index=194 การใช้งานของรอกเดยี่ วเคลื่อนท่ี วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ กิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=GiOtvlgbFUE&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKs ZTr&index=195 การใช้งานของรอกเดย่ี วตายตวั วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสกิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=3CCSRjEjOOg&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKs ZTr&index=196 วิชาฟสิ ิกส์ - กจิ กรรม กฎของฮุก https://www.youtube.com/watch?v=3WCeXgclb7w&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yK WGk&index=82

ตอนท่ี 2 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ 15 แบบประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน ท่ี 1 งานและพลงั งาน ผลการเรยี นรู้ 1. วิเคราะห์ และคำนวณงานของแรงคงตัว จากสมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ ระหว่างแรงกบั ตำแหน่ง รวมทงั้ อธิบายและ คำนวณกำลงั เฉลี่ย 2. อธิบายและคำนวณพลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสัมพันธ์ระหว่างงานกับ พลงั งานจลน์ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งงานกับพลังงานศกั ยโ์ น้มถว่ ง ความสมั พันธร์ ะหวา่ งขนาดของแรงที่ใชด้ ึง สปริง กับระยะที่สปริงยืดออกและความสัมพันธ์ ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น รวมทั้ง อธิบายความสัมพันธ์ ระหว่างงานของแรงลัพธ์ และพลงั งานจลน์ และคำนวณงานที่เกิดขึน้ จากแรงลัพธ์ 3. อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงานกลรวมทั้ง วิเคราะห์และคำนวณปริมาณต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการ เคลื่อนทีข่ องวตั ถุในสถานการณ์ต่างๆโดยใช้กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งานกล 4. อธิบายการทำงานประสิทธภิ าพและการได้ เปรยี บเชิงกลของเครื่องกลอยา่ งงา่ ยบางชนดิ โดยใช้ความรู้ เรื่องงานและสมดลุ กลรวมท้งั คำนวณประสิทธิภาพและการไดเ้ ปรียบเชงิ กล รายการประเมิน 1. แบบทดสอบ เรื่อง งานและพลงั งาน 2. แบบฝึกหัด และใบงาน 3. การทดลองหาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งงานกับพลงั งาน

ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 16 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดบั คณุ ภาพ 1 (ปรบั ปรงุ ) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1.แบบทดสอบ คำตอบถกู แสดงวิธีคิดได้ คำตอบถูก แสดงวิธคี ิดได้ เหตผุ ลหรอื การคำนวณ แสดงวธิ คี ดิ เล็กนอ้ ย แต่ และสรุปคำตอบได้ ถกู ตอ้ ง แตไ่ มไ่ ดใ้ ส่หน่วย ผดิ พลาด แตม่ ีแนวทางท่ี ยังไมไ่ ด้คำตอบ ถกู ต้อง ชัดเจน หรือสรปุ คำตอบ จะได้คำตอบ 2.บนั ทกึ ผลการ ในรายงานผลการทดลอง ในรายงานผลการทดลอง ในรายงานผลการทดลอง ในรายงานผลการทดลอง ทดลอง มีการอธบิ ายผลการ แสดงใหเ้ หน็ วา่ นกั เรียนมี มีการแสดงผลการทดลอง มกี ารแสดงผลการทดลอง ทดลองได้ชดั เจน มีการใช้ ความเข้าใจใจผลการ การสรุปผลยังไม่สมบรู ณ์ ขาดการสรปุ ผล หรือไม่ ข้อมลู จากแหล่งต่างๆ ทดลองและรวู้ ่าจะอธบิ าย หรอื มกี ารสรปุ ผล แต่สรุป สมบรู ณ์ หรือสบั สน หรือจากการทดลองอื่นๆ ผลการทดลองนนั้ อยา่ งไร หลงั จากถกู ถามคำถาม ประกอบคำอธบิ าย 3. การเขยี นกราฟ เขียนกราฟได้อย่าง เขยี นกราฟไดอ้ ยา่ ง เขียนกราฟไดอ้ ย่าง เขยี นกราฟได้อยา่ ง ถูกต้อง สมบรู ณ์ครบถ้วน ถกู ต้อง ขาดองค์ประกอบ ถกู ตอ้ ง ขาดองค์ ถูกต้อง ขาดองคป์ ระกอบ ทุกองค์ประกอบ กราฟไป 1 องค์ประกอบ ประกอบของกราฟไป 2 กราฟมากกวา่ 2 องค์ประกอบ องค์ประกอบ 4.ทำการทดลอง การทดลองท่ีใช้แสดงให้ การทดลองท่ใี ช้แสดงให้ การทดลองท่ใี ชแ้ สดงให้ การทดลองท่ีใช้แสดงให้ เหน็ วา่ นักเรยี นไดม้ กี าร เหน็ วา่ นักเรยี นได้นำ เห็นว่านักเรยี นไดใ้ ช้ เห็นวา่ นักเรยี นสามารถ วเิ คราะห์ปญั หาและ ความคิดกระบวนการทาง กระบวนการทาง ทำการทดลองไดเ้ มือ่ ออกแบบการทดลองได้ วิทยาศาสตรม์ าใชใ้ นการ วิทยาศาสตร์ แต่ ไดร้ บั ความช่วยเหลอื จาก ดว้ ยตนเองและสามารถ ทดลองโดยมกี ารควบคมุ จำเปน็ ต้องชว่ ยในการ ครู ทำการทดลองไดอ้ ยา่ ง ตัวแปรตา่ งๆ ควบคมุ ตวั แปร เหมาะสม 5.การนำเสนอผล การพูดนำเสนอทำได้ การพูดนำเสนอไดร้ บั การ การพดู นำเสนอทำได้ การพูดนำเสนอทำไดห้ ลัง การทดลอง อยา่ งชัดเจน ถูกต้อง ผฟู้ งั จดั เตรยี มด้วยความช่วย หลังจากไดร้ ับการสอน ไดร้ บั การสอนจากครู ให้ความสนใจ มที ่าทาง เหลอื บางประการจากครู จากครู มกี ารใช้ท่าทาง นำ้ เสยี ง และการสบ แตม่ กี ารนำเสนอผลการ น้ำเสยี ง และการสบ สายตาผูฟ้ งั ดมี าก ทดลอง การพูดมเี หตุ มี สายตาผ้ฟู งั ผล และใช้ท่าทาง ประกอบน้ำเสยี งและการ สบตาผู้ฟังทำได้ดี

ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 17 เกณฑร์ ะดับคณุ ภาพด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์(A) ในการจดั การเรียนการสอนในรายวชิ า ว31206 ฟสิ กิ ส์เพมิ่ เติม 2 ดงั นี้ 1. มวี นิ ยั หมายถึง 1) แตง่ กายถกู ระเบยี บของโรงเรยี น 2) เข้าเรยี นตรงเวลา 2. ใฝเ่ รยี นรู้ หมายถึง มีความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรยี น 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน หมายถงึ 1) ทำงานเสร็จตรงตรามเวลา 2) ผลสำเร็จของงานผา่ นตามเกณฑ์ วธิ กี ารประเมนิ เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คะแนน ความหมาย เกณฑ์การผ่าน การประเมนิ การสังเกต แบบสงั เกต ปฏบิ ตั ิได้ 5 ขอ้ 10 ดมี าก ระดับคะแนน พฤติกรรม ปฏิบตั ไิ ด้ 4 ข้อ 8 ดี 8 ข้นึ ไป ปฏิบัตไิ ด้ 3 ขอ้ 6 พอใช้ ปฏิบัติได้ 0-2 ขอ้ 0-4 ปรบั ปรงุ รายการประเมนิ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 (ดีมาก) (ปรับปรุง) รายการพฤติกรรม สมรรถนะสำคญั 32 1. มีการปรกึ ษาและวางแผนรว่ มกันกอ่ นทำงาน (ดี) (พอใช้) 2. มีการแบง่ หนา้ ท่ีอยา่ งเหมาะสมและสมาชิกทำตาม หนา้ ทที่ กุ คน มีพฤตกิ รรม มพี ฤตกิ รรม มีพฤติกรรม มพี ฤติกรรม 3. มีการปฏิบตั ิงานตามขั้นตอน ตง้ั แต่ 8 ขอ้ ตัง้ แต่ 5-7 ข้อ ต้ังแต่ 4-2 ข้อ น้อยกวา่ 2 4. มกี ารใหค้ วามชว่ ยเหลอื กนั 5. ผลงานเป็นไปตามวตั ถุประสงค์ทกี่ ำหนด ขอ้ 6. ผลงานเสรจ็ ทนั ตามกำหนดเวลา 7. ผลงานมคี วามคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ 8. ผลงานแสดงถึงการนำความรู้ท่ไี ด้มาประยุกต์ใช้ 9. สามารถใหค้ ำแนะนำกลุม่ อื่นได้ 10. การจัดวัสดุ อุปกรณ์ เรียบรอ้ ย หลงั เลกิ ปฏบิ ตั งิ าน คะแนนตัดสนิ ระดบั คุณภาพ คุณภาพ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ระดับ 3 หมายถึง มีพฤตกิ รรมในระดบั ดี คะแนน 9-10 หมายถึง ดี ระดับ 2 หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับ ปานกลาง คะแนน 6-8 หมายถงึ ปานกลาง ระดับ 1 หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับ ปรับปรุง คะแนน 0-5 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่านรอ้ ยละ 60 (6 คะแนน)

ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ 18 หนว่ ยการเรียนท่ี 2 เร่อื ง โมเมนตัมและการชน รหัสวชิ า ว 31206 ชื่อรายวชิ า ฟสิ กิ สเ์ พ่มิ เติม 2 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต เวลา 26 ชัว่ โมง ผ้สู อน นางสาววิจิตตา อำไพจติ ต์ โรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวทิ ยาคม 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ สาระท่ี 1 เข้าใจธรรมชาติทางฟสิ ิกส์ปรมิ าณและกระบวนการวัด การเคล่อื นทแี่ นวตรง แรงและกฎการ เคลื่อนที่ของนิวตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตมั และกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคล่อื นที่แนวโคง้ รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรยี นรู้ 5. อธิบายและคำนวณโมเมนตัมของวัตถุและการดลจากสมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพนั ธ์ระหว่าง แรงลพั ธ์กับเวลารวมทงั้ อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแรงดลกบั โมเมนตัม 6.ทดลองอธบิ าย และคำนวณปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวกับการชนของวัตถุในหนึ่งมิติทั้งแบบ ยืดหยุ่นไม่ ยดื หยนุ่ และการดีดตวั แยกจากกนั ในหน่งึ มิตซิ ่งึ เปน็ ไปตามกฎการอนุรักษ์ โมเมนตัม 2. สาระสำคัญ วัตถทุ เ่ี คลือ่ นที่จะมีโมเมนตมั ซ่งึ เป็นปริมาณเวกเตอร์มีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างมวลและความเร็วของวัตถุ ดังสมการ p = mv เมื่อมีแรงลัพธ์กระทำต่อวัตถุจะทำให้โมเมนตัมของวัตถุเปลี่ยนไป โดยแรงลัพธ์เท่ากับ อตั ราการเปลยี่ นโม เมนตมั ของวตั ถุในการชนกันของวตั ถแุ ละการดดี ตวั ออกจากกันของวัตถุในหนง่ึ มิติ เมือ่ ไมม่ แี รง ภายนอกมากระทำ โมเมนตัมของระบบมีคา่ คงตวั ซึ่งเปน็ ไปตามกฎการอนุรักษ์โมเมนตมั 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง โมเมนตัม หมายถึง ความสามารถในการเคลื่อนทข่ี องวตั ถุ ซึ่งมคี า่ เทา่ กบั ผลคูณระหว่างมวลและความเร็ว ของวัตถุ มวลเป็นปริมาณสเกลาร์แต่ความเร็วเป็นปริมาณเวกเตอร์ เมื่อนำปริมาณทั้งสองเข้าคูณด้วยกัน ถือว่า ปริมาณใหม่เป็นปริมาณเวกเตอร์เสมอ ฉะนั้นโมเมนตัมจึงเป็นปริมาณเวกเตอร์ คือมีทั้งขนาดและทิศทาง โมเมนตมั = มวล × ความเรว็ กฎการอนุรกั ษโ์ มเมนตัม และการชน โมเมนตัมมีสมบัติพิเศษนั่นก็คือจะถูกอนุรักษ์อยู่เสมอ (ไม่เพิ่มขึ้น และในขณะเดียวกันก็ไม่ลดหายไป) แมแ้ ต่ในการชน พลงั งานจลนน์ ัน้ จะไมถ่ ูกอนรุ ักษ์ในการชน ถา้ การชนน้นั เป็นการชนแบบไมย่ ืดหยุน่ เน่อื งจากการ คงตวั ของโมเมนตมั ท่ีกล่าวมาแลว้ จึงทำให้สามารถนำไปคำนวณความเร็วทไ่ี ม่ทราบคา่ ภายหลังการชนได้

ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 19 ปัญหาในวิชาฟิสิกส์ที่จะต้องใช้ความจริงที่กล่าวมานี้ ก็คือการชนกันของสองอนุภาค โดยผลรวมของ โมเมนตัมก่อนการชนจะตอ้ งเทา่ กับผลรวมของโมเมนตัมหลงั การชนเสมอ 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียนและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคิด 2. มีจิตวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ความสนใจใฝ่รู้ มุ่งม่ัน 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ในการทำงาน 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงาน - แบบฝกึ ทักษะ - แบบทดสอบ - กจิ กรรมทดลอง

ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 20 6. การวัดและประเมินผล รายการวดั วิธีวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ผ่านเกณฑ์ในระดบั 6.1 การประเมินชิน้ งาน/ ใบงาน ดี ขน้ึ ไป แบบฝกึ หดั เพิม่ เติม ภาระงาน แบบประเมนิ - ผ่านเกณฑ์ - ใบงาน ตรวจใบงาน 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ในระดบั ดี ขึน้ ไป ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝกึ หัดเพ่มิ เติม ตรวจแบบฝกึ หดั ใบงาน ในระดับ ดี ข้นึ ไป แบบฝึกทกั ษะ - ทำการทดลองและนำเสนอ บนั ทกึ ผลการทดลอง ข้อคำถามอตั นัย ผา่ นเกณฑ์ การเขียนกราฟ รายงานการ ในระดับ ดี ข้นึ ไป ผลการทดลอง แบบบันทึกสมรรณนะสำคัญ ทดลอง ของผู้เรยี น ด้าน ผ่านเกณฑ์ -ความสามารถในการส่ือสาร ไดค้ ะแนนร้อยละ 70 6.2 การประเมนิ กอ่ นเรยี น -ความสามารถในการคิด -ความสามารถในการใช้ 1. ทดสอบก่อนเรียน 1. ใชแ้ บบทดสอบก่อนเรียน เทคโนโลยี 6.3 การประเมนิ ระหว่างเรียน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ประกอบดว้ ย - ด้านความรู้ 1) แต่งกายถูกระเบยี บ 2) เขา้ เรยี นตรงเวลา . ใบงาน ใชต้ รวจคำตอบใบงาน 3) มีอปุ กรณ์การเรียนพรอ้ ม 4) ทำงานเสรจ็ ตรงตรามเวลา - ด้านกระบวนการ 5) ผลงานผา่ นตามเกณฑ์ . แบบฝึกทักษะ ใช้ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 1. แบบทดสอบปรนยั ขอ้ คำถามอัตนัย - ด้านสมรรณนะสำคัญของ ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ ผเู้ รียน โดยนำมาประเมินร่วมกบั การ ใช้แบบบนั ทึกสมรรณนะสำคัญ ของผเู้ รยี น ด้าน -ความสามารถในการส่ือสาร -ความสามารถในการคดิ -ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ด้านคณุ ลักษณะอันพึง สังเกตพฤตกิ รรมในชนั้ เรียน โดย ประสงค์ ใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรม มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน 6.4 การประเมนิ หลังเรยี น 1.ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 1. ทดสอบหลงั เรยี น

ตอนท่ี 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 21 7. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ วิธสี อน/เทคนคิ การสอน เวลา (ชว่ั โมง) เรอื่ งที่ ชอ่ื เร่ือง การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) + Online การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) + Online 4 1 โมเมนตมั การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) + Online 4 2 แรงและการเปลี่ยนโมเมนตมั การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)และทดลอง 4 3 การดลและแรงดล รวม 14 4 การชน 26 8. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ 1) เอกสารประกอบบทเรยี น เร่อื ง โมเมนตัมและการชน 2) หนังสอื เรยี นรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 เล่ม 2 ผแู้ ต่ง : สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนกั พิมพจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั 3) สือ่ power point เร่ือง โมเมนตมั และการชน แหลง่ เรยี นรอู้ อนไลน์ ประกอบ หนว่ ยการเรียนรู้ เร่ือง โมเมนตมั และการชน การเคลือ่ นไหวของการสาธติ โมเมนตัม วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสิกส์) https://www.youtube.com/watch?v=UoAOI7R484o&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvK sZTr&index=188 การตกของไขบ่ นพน้ื แขง็ และตกบนฟองน้ำ วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ กิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=GzBqxcYvrXY&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKs ZTr&index=189 วิชาฟสิ กิ ส์ - สารคดี ฟิสิกส์ของอาวุธปนื ลกู กระสนุ ปนื และการเคลื่อนที่ https://www.youtube.com/watch?v=J1lw7hciD- s&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWGk&index=2 วชิ าฟสิ กิ ส์ - บทเรียน การประยกุ ต์เรือ่ งกฏการเคล่ือนท่ี https://www.youtube.com/watch?v=amYnqgH4LkU&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yK WGk&index=54

ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ 22 แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน ที่ 2 โมเมนตมั และการชน ตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ 5. อธิบายและคำนวณโมเมนตัมของวตั ถแุ ละการดลจากสมการและพนื้ ที่ใตก้ ราฟความสมั พันธ์ระหว่าง แรงลพั ธก์ บั เวลารวมท้งั อธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งแรงดลกับ โมเมนตมั 6.ทดลองอธิบาย และคำนวณปรมิ าณตา่ งๆ ทีเ่ กยี่ วกบั การชนของวตั ถใุ นหนง่ึ มติ ิทัง้ แบบ ยืดหย่นุ ไม่ ยดื หยุ่นและการดีดตัวแยกจากกนั ในหนงึ่ มิตซิ ึ่งเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์ โมเมนตมั รายการประเมิน 1. แบบทดสอบประจำบท 2. แบบฝึกหัด และใบงาน 3. การทดลอง เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1.แบบทดสอบ 2.บนั ทึกผลการ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ ) ทดลอง คำตอบถูก แสดงวิธีคิดได้ คำตอบถกู แสดงวธิ คี ิดได้ เหตผุ ลหรือการคำนวณ แสดงวิธีคิดเลก็ น้อย แตย่ งั 3. การเขียนกราฟ และสรปุ คำตอบไดถ้ กู ต้อง ถกู ต้อง แต่ไม่ไดใ้ ส่หนว่ ยหรือ ผิดพลาด แต่มแี นวทางที่จะได้ ไมไ่ ดค้ ำตอบ 4.ทำการทดลอง ชดั เจน สรปุ คำตอบ คำตอบ ในรายงานผลการทดลองมี 5. การนำเสนอผล ในรายงานผลการทดลองมี ในรายงานผลการทดลอง ในรายงานผลการทดลองมี การแสดงผลการทดลอง ขาด การทดลอง การอธบิ ายผลการทดลองได้ แสดงให้เห็นวา่ นกั เรยี นมี การแสดงผลการทดลองการ การสรปุ ผล หรือไม่สมบูรณ์ ชัดเจน มีการใชข้ อ้ มูลจาก ความเข้าใจใจผลการทดลอง สรปุ ผลยงั ไม่สมบรู ณ์ หรอื มี หรอื สับสน แหลง่ ตา่ งๆ หรือจากการ และรูว้ ่าจะอธิบายผลการ การสรุปผล แตส่ รุปหลงั จาก ทดลองอื่นๆ ประกอบ ทดลองน้ันอยา่ งไร ถูกถามคำถาม คำอธิบาย เขยี นกราฟไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เขยี นกราฟได้อย่างถกู ต้อง เขยี นกราฟไดอ้ ย่างถูกต้อง เขยี นกราฟไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ขาดองคป์ ระกอบกราฟไป 1 ขาดองค์ ประกอบของกราฟ ขาดองค์ประกอบกราฟ สมบรู ณค์ รบถ้วนทกุ องค์ประกอบ ไป 2 องค์ประกอบ มากกวา่ 2 องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ การทดลองที่ใชแ้ สดงใหเ้ ห็น การทดลองท่ใี ช้แสดงให้เห็น การทดลองทใี่ ชแ้ สดงใหเ้ หน็ การทดลองท่ใี ช้แสดงให้เห็น วา่ นักเรียนไดน้ ำความคดิ วา่ นักเรยี นไดใ้ ชก้ ระบวนการ ว่านักเรยี นสามารถทำการ วา่ นักเรยี นได้มกี ารวิเคราะห์ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทางวทิ ยาศาสตร์ แต่ ทดลองได้เมือ่ ไดร้ บั ความ ปัญหาและออกแบบการ มาใชใ้ นการทดลองโดยมีการ จำเป็นต้องช่วยในการควบคมุ ช่วยเหลอื จากครู ทดลองไดด้ ้วยตนเองและ ควบคุมตัวแปรต่างๆ ตัวแปร สามารถทำการทดลองได้ อย่างเหมาะสม การพดู นำเสนอได้รบั การ การพดู นำเสนอทำได้หลงั จาก การพูดนำเสนอทำไดห้ ลงั จัดเตรียมดว้ ยความช่วย ไดร้ บั การสอนจากครู มกี ารใช้ ไดร้ ับการสอนจากครู การพดู นำเสนอทำไดอ้ ยา่ ง เหลือบางประการจากครู แต่ ท่าทาง นำ้ เสยี ง และการสบ ชัดเจน ถูกต้อง ผู้ฟงั ให้ความ มีการนำเสนอผลการทดลอง สายตาผฟู้ งั สนใจ มที ่าทาง น้ำเสยี ง และ การพูดมเี หตุ มีผล และใช้ การสบสายตาผู้ฟังดมี าก ท่าทางประกอบน้ำเสียงและ การสบตาผฟู้ ังทำได้ดี

ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 23 เกณฑร์ ะดับคณุ ภาพด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์(A) ในการจดั การเรียนการสอนในรายวชิ า ว31206 ฟสิ กิ ส์เพมิ่ เติม 2 ดงั นี้ 1. มวี นิ ยั หมายถึง 1) แตง่ กายถกู ระเบยี บของโรงเรยี น 2) เข้าเรยี นตรงเวลา 2. ใฝเ่ รยี นรู้ หมายถึง มีความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรยี น 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน หมายถงึ 1) ทำงานเสร็จตรงตรามเวลา 2) ผลสำเร็จของงานผา่ นตามเกณฑ์ วิธกี ารประเมนิ เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คะแนน ความหมาย เกณฑ์การผ่าน การประเมนิ การสังเกต แบบสงั เกต ปฏบิ ตั ิได้ 5 ขอ้ 10 ดีมาก ระดบั คะแนน พฤติกรรม ปฏิบตั ไิ ด้ 4 ข้อ 8 ดี 8 ข้นึ ไป ปฏิบัตไิ ด้ 3 ขอ้ 6 พอใช้ ปฏิบัติได้ 0-2 ขอ้ 0-4 ปรับปรงุ รายการประเมนิ 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 (ดีมาก) (ปรับปรุง) รายการพฤติกรรม สมรรถนะสำคญั 32 1. มีการปรกึ ษาและวางแผนรว่ มกันกอ่ นทำงาน (ดี) (พอใช้) 2. มีการแบง่ หนา้ ท่ีอยา่ งเหมาะสมและสมาชิกทำตาม หน้าทที่ กุ คน มีพฤตกิ รรม มพี ฤตกิ รรม มพี ฤตกิ รรม มพี ฤติกรรม 3. มีการปฏิบตั ิงานตามขั้นตอน ตง้ั แต่ 8 ขอ้ ตัง้ แต่ 5-7 ข้อ ตง้ั แต่ 4-2 ข้อ น้อยกวา่ 2 4. มีการใหค้ วามชว่ ยเหลอื กนั 5. ผลงานเป็นไปตามวตั ถุประสงค์ทกี่ ำหนด ขอ้ 6. ผลงานเสรจ็ ทนั ตามกำหนดเวลา 7. ผลงานมคี วามคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ 8. ผลงานแสดงถึงการนำความรู้ท่ไี ด้มาประยุกตใ์ ช้ 9. สามารถใหค้ ำแนะนำกลุม่ อื่นได้ 10. การจัดวัสดุ อุปกรณ์ เรียบรอ้ ย หลงั เลกิ ปฏบิ ตั งิ าน คะแนนตัดสนิ ระดบั คุณภาพ คณุ ภาพ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ระดับ 3 หมายถึง มีพฤตกิ รรมในระดบั ดี คะแนน 9-10 หมายถึง ดี ระดับ 2 หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับ ปานกลาง คะแนน 6-8 หมายถงึ ปานกลาง ระดับ 1 หมายถึง มีพฤตกิ รรมในระดับ ปรบั ปรุง คะแนน 0-5 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่านรอ้ ยละ 60 (6 คะแนน)

ตอนท่ี 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 24 หนว่ ยการเรียนที่ 3 เร่ือง การเคลื่อนท่แี นวโคง้ รหสั วิชา ว 31206 ช่ือรายวิชา ฟิสิกส์เพม่ิ เติม 2 กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต เวลา 22 ชัว่ โมง ผู้สอน นางสาววิจิตตา อำไพจิตต์ โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ สาระที่ 1 เขา้ ใจธรรมชาตทิ างฟิสิกส์ปรมิ าณและกระบวนการวดั การเคลอื่ นท่ีแนวตรง แรงและกฎการ เคลื่อนที่ของนิวตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตมั และกฎการอนรุ กั ษโ์ มเมนตมั การเคล่อื นที่แนวโค้ง รวมท้งั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ 7. อธิบาย วิเคราะห์ และคำนวณปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกบั การเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์และทดลอง การเคล่ือนที่แบบโพรเจกไทล์ 8. ทดลองและอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่าง แรงสศู่ นู ย์กลาง รัศมีของการเคลอ่ื นที่ อตั ราเรว็ เชิงเส้น อตั รา เร็วเชงิ มมุ และมวลของวัตถุในการเคล่ือนทแี่ บบวงกลมในระนาบ ระดบั รวมทงั้ คำนวณปรมิ าณต่างๆ ที่ เกยี่ วขอ้ งและประยุกตใ์ ช้ความร้กู ารเคลอื่ นทแี่ บบวงกลมในการอธิบายการโคจรของดาวเทียม 2. สาระสำคญั การเคล่อื นทีแ่ บบโปรเจกไตล์(Motion of a Projectile) คือการเคล่ือนทข่ี องวตั ถุเป็นแนวโค้ง ในกรณีที่วัตถุเคลื่อนที่อย่างเสรีด้วยแรงโน้มถ่วงคงที่ เช่น วัตถุเคลื่อนที่ไปในอากาศภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลก ทางเดนิ ของวตั ถจุ ะเปน็ รปู พาราโบลา การเคลื่อนทแ่ี บบวงกลม(Circular motion) หมายถึง การเคลือ่ นท่ีของวตั ถเุ ปน็ วงกลมรอบศูนย์กลาง เกิดขน้ึ เนอ่ื งจากวัตถทุ ่กี ำลังเคล่ือนทีจ่ ะเดนิ ทางเป็นเส้นตรงเสมอ แต่ขณะนน้ั มีแรงดึงวัตถเุ ขา้ สู่ศนู ยก์ ลางของ วงกลม เรยี กว่า แรงเขา้ สู่ศนู ย์กลางการเคล่อื นท่ี(Centripetal Force)จงึ ทำให้วัตถเุ คลื่อนทเ่ี ป็นวงกลมรอบ ศูนย์กลาง

ตอนท่ี 2 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ 25 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง การเคล่อื นทแี่ นวโคง้ พาราโบลาภายใต้สนามโน้มถว่ ง โดยไม่คิดแรงต้านของอากาศเป็นการเคลื่อนที่แบบ โพรเจกไทล์ วตั ถมุ กี ารเปล่ียนตำแหน่งในแนวดง่ิ และแนวระดับพร้อมกันและเป็นอสิ ระตอ่ กนั สำหรับการเคล่ือนท่ี ในแนวดิ่งเป็นการเคลื่อนที่ที่มีแรงโน้มถ่วงกระทำจึงมีความเร็วไม่คงตัว ปริมาณต่าง ๆ มีความสัมพันธ์ ตามสมการ ������������ = ������������ + ������������������ 1 ������������ = ������������������ + 2 ������������������ ⌈������������ + ������������ ⌉ ������������ = 2 ������ ���������2��� = ���������2��� + 2������������������������������ ส่วนการเคลื่อนที่ในแนวระดับไม่มีแรงกระทำจึงมีความเร็วคงตัว ตำแหน่ง ความเร็ว และเวลา มี ความสัมพันธต์ ามสมการ Δx = uxt วัตถทุ ีเ่ คลือ่ นทเี่ ปน็ วงกลมหรอื สว่ นของวงกลม เรียกวา่ วัตถนุ ั้นมีการเคล่ือนท่ีแบบวงกลม ซ่ึงมี แรงลัพธ์ท่ี กระทำกับวัตถใุ นทิศเข้าสู่ศูนย์กลาง เรียกว่า แรงสู่ศูนย์กลาง ทำให้เกิดความเร่งสูศ่ ูนย์กลางที่มีขนาดสมั พนั ธ์กับ รศั มขี องการเคล่อื นทีแ่ ละอัตราเร็วเชิงเสน้ ของวตั ถซุ ึง่ แรงสูศ่ ูนยก์ ลางคำนวณได้จากสมการ ������������ = ������������2 ������ นอกจากนี้การเคลื่อนที่แบบวงกลมยังสามารถอธิบายได้ด้วยอัตราเร็วเชิงมุม ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ อัตราเร็วเชิงเส้นตามสมการ v = ωr และแรงสู่ศูนย์กลางมีความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงมุมตามสมการ Fc = mω2r ดาวเทยี มท่ีโคจรในแนววงกลมรอบโลกมีแรงดึงดดู ท่ีโลกกระทำตอ่ ดาวเทยี มเปน็ แรงส่ศู ูนยก์ ลาง ดาวเทียม ที่มีวงโคจรค้างฟ้าในระนาบของเส้นศูนย์สูตรมีคาบการโคจรเท่ากับคาบการหมุนรอบตัวเองของโลก หรือมี อตั ราเร็วเชิงมุมเทา่ กับอตั ราเรว็ เชงิ มุมของตำแหน่ง 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคิด 2. มีจิตวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ความสนใจใฝ่รู้ มุ่งม่ัน 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา ในการทำงาน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 26 5. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน - ใบงาน - แบบฝกึ ทกั ษะ - แบบทดสอบ - กจิ กรรมทดลอง 6. การวัดและประเมินผล รายการวดั วธิ วี ดั เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ ผ่านเกณฑ์ในระดบั 6.1 การประเมินชิ้นงาน/ ใบงาน ดี ข้นึ ไป แบบฝึกหดั เพม่ิ เติม ภาระงาน แบบประเมนิ - ผา่ นเกณฑ์ - ใบงาน ตรวจใบงาน 1. แบบทดสอบก่อนเรียน ในระดบั ดี ขึน้ ไป ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝกึ หัดเพ่มิ เตมิ ตรวจแบบฝกึ หดั ใบงาน ในระดับ ดี ข้นึ ไป แบบฝกึ ทกั ษะ - ทำการทดลองและนำเสนอ บันทึกผลการทดลอง ขอ้ คำถามอตั นัย ผา่ นเกณฑ์ การเขียนกราฟ รายงานการ ในระดับ ดี ข้นึ ไป ผลการทดลอง ทดลอง แบบบนั ทึกสมรรณนะสำคญั ของผ้เู รียน ด้าน ผา่ นเกณฑ์ 6.2 การประเมินก่อนเรียน -ความสามารถในการสื่อสาร ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 70 -ความสามารถในการคิด 1. ทดสอบก่อนเรยี น 1. ใชแ้ บบทดสอบกอ่ นเรียน -ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี 6.3 การประเมนิ ระหวา่ งเรยี น - ด้านความรู้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ประกอบดว้ ย . ใบงาน ใช้ตรวจคำตอบใบงาน 1) แต่งกายถกู ระเบยี บ - ด้านกระบวนการ 2) เขา้ เรยี นตรงเวลา 3) มีอปุ กรณ์การเรียนพร้อม . แบบฝึกทกั ษะ ใชต้ รวจแบบฝกึ ทกั ษะ 4) ทำงานเสรจ็ ตรงตรามเวลา ขอ้ คำถามอตั นัย 5) ผลงานผา่ นตามเกณฑ์ - ด้านสมรรณนะสำคัญของ ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 1. แบบทดสอบปรนัย ผู้เรยี น โดยนำมาประเมนิ รว่ มกบั การ ใช้แบบบนั ทกึ สมรรณนะสำคัญ ของผเู้ รยี น ด้าน -ความสามารถในการส่ือสาร -ความสามารถในการคิด -ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ดา้ นคุณลักษณะอันพึง สงั เกตพฤตกิ รรมในชัน้ เรยี น โดย ประสงค์ ใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรม มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน 6.4 การประเมินหลงั เรยี น 1.ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน 1. ทดสอบหลงั เรยี น

ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 27 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื งที่ ชื่อเรอ่ื ง วธิ สี อน/เทคนิคการสอน เวลา (ช่ัวโมง) 1 การเคลื่อนท่ีแบบโปรเจคไทล์ 1 การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 2 การเคล่ือนทแ่ี บบโปรเจคไทล์ 2 การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 2 3 การเคลื่อนทีแ่ บบโปรเจคไทล์ 3 การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 2 4 การเคลอ่ื นท่ีแบบโปรเจคไทล์ 4 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 2 5 การเคลื่อนทแี่ บบโปรเจคไทล์ 5 การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 2 6 การเคลือ่ นทแ่ี บบวงกลม 1 การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 2 7 การเคลอ่ื นที่แบบวงกลม 2 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 22 8 การเคลอื่ นทีแ่ บบวงกลม 3 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 9 การเคลอื่ นทแ่ี บบวงกลม 4 การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 10 การเคลื่อนที่แบบวงกลม 5 การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 11 การเคล่อื นทแ่ี บบวงกลม 6 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) รวม 8. สอ่ื การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ 1) เอกสารประกอบบทเรยี น เรอ่ื ง การเคล่ือนทแ่ี นวโค้ง 2) หนังสือเรยี นรายวชิ าเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์ ฟิสกิ ส์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 เลม่ 1 ผู้แตง่ : สถาบนั สง่ เสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักพมิ พ์จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย 3) ส่อื power point เรื่อง การเคลือ่ นท่ีแนวโคง้ แหล่งเรยี นรู้ประกอบ หน่วยการเรยี นรู้ เร่ือง การเคลอื่ นท่ีแนวโคง้ รถไฟตลี งั กา วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสิกส)์ https://www.youtube.com/watch?v=24M- lXfRJtA&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZTr&index=348 การเหวยี่ งแปน้ ไมท้ มี่ ีถว้ ยพลาสตกิ บรรจุน้ำวางอยู่ วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสิกส์) https://www.youtube.com/watch?v=Ity1- VGAO6Q&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZTr&index=347 การเคล่ือนทแี่ บบวงกลมในแนวระดับ วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ ิกส์) https://www.youtube.com/watch?v=BjLD0sjBnWk&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZTr &index=321 วิชาฟสิ กิ ส์ - กิจกรรม กิจกรรมการเคลอ่ื นท่ีแบบโพรเจกไตล์ https://www.youtube.com/watch?v=od9YE7GYIIU&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWGk &index=64

ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 28 การเคลอื่ นทข่ี องเหรียญท่ีตกในแนวดง่ิ กับแนวโค้ง วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสิกส์) https://www.youtube.com/watch?v=kHVUInzFB9k&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZTr &index=351 การเคาะไมบ้ รรทดั ใหเ้ หรยี ญทงั้ สองเคล่ือนที่ วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ ิกส์ https://www.youtube.com/watch?v=TokqXX- zkgo&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZTr&index=211 การเคล่อื นทแ่ี บบโพรเจคไทลข์ องลกู บาสเกตบอลโดยให้ระบุ vector แนวดงิ่ และราบ วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ ิกส์) https://www.youtube.com/watch?v=NfkpJHxuRFE&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZTr &index=242 แรงท่กี ระทำตอ่ ลกู กลมโลหะขณะที่ในแนววงกลม วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสกิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=5W3OqOiyJKk&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZT r&index=200 ลูกกลมโลหะเคลอ่ื นทไี่ ปตามรางโค้งวงกลม วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสกิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=JroPglDU7zc&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZTr &index=201 ความโค้งของสายน้ำทถี่ ูกฉีดออกจากทอ่ กรณีไมม่ แี รงตา้ นอากาศกบั กรณีมแี รงต้านอากาศ วิทยาศาสตร์ ม.4-6 https://www.youtube.com/watch?v=7cpCf6OO3ls&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZTr &index=202 การทุ่มนำ้ หนกั วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ ิกส)์ https://www.youtube.com/watch?v=9tQyeiw16Ko&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZT r&index=203 การพงุ แหลน วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ ิกส์) https://www.youtube.com/watch?v=Lc5Zv3VmaNI&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZT r&index=204 วชิ าฟสิ กิ ส์ - บทเรียน การเคล่อื นท่แี บบวงกลมและการประยกุ ต์ https://www.youtube.com/watch?v=mRu1z5N- axs&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWGk&index=26 วชิ าฟิสกิ ส์ - สารคดี ฟิสิกสข์ องสเก็ตลีลา https://www.youtube.com/watch?v=bLP4DEvXtzY&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWGk &index=35 วชิ าฟิสกิ ส์ - บทเรยี น การเคลอื่ นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ https://www.youtube.com/watch?v=JYLIj1H0o10&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWGk&i ndex=55 วชิ าฟิสิกส์ - บทเรยี น การเคลอ่ื นทแ่ี บบวงกลม https://www.youtube.com/watch?v=Pyj76ESdILw&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWGk& index=56 การเคลื่อนทข่ี องลกู เหล็กทรงกลมทถ่ี ูกปลอ่ ยใหก้ ลิ้งไปตามรางในแนวดงิ่ วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ กิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=hZ3KtGQuzso&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET4

ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 29 แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน ท่ี 3 การเคล่ือนท่แี นวโคง้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ 7. อธิบาย วิเคราะห์ และคำนวณปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์และทดลอง การเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ 8. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ ง แรงสศู่ ูนยก์ ลาง รัศมีของการเคลื่อนที่ อัตราเร็วเชิงเส้น อัตราเรว็ เชิงมมุ และมวลของวัตถุในการเคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบ ระดับรวมทั้งคำนวณปริมาณต่างๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งและประยกุ ตใ์ ช้ความรกู้ ารเคล่ือนทแ่ี บบวงกลมในการอธิบายการโคจรของดาวเทยี ม รายการประเมนิ 1. แบบทดสอบ เรือ่ ง การเคลือ่ นท่ีในแนวโคง้ 2. ทำการทดลองและนำเสนอผลการทดลอง เรื่อง แรงส่ศู ูนยก์ ลาง เกณฑ์การประเมินระดับคณุ ภาพ รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ 1.แบบทดสอบ 2.บันทึกผลการ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง) ทดลอง คำตอบถูก แสดงวิธคี ดิ ได้ คำตอบถูก แสดงวิธคี ิดได้ เหตผุ ลหรอื การคำนวณ แสดงวธิ ีคิดเลก็ นอ้ ย แตย่ ัง 3. การเขยี นกราฟ และสรุปคำตอบได้ถูกต้อง ถูกตอ้ ง แต่ไม่ได้ใสห่ น่วยหรอื ผดิ พลาด แตม่ ีแนวทางทจี่ ะได้ ไม่ไดค้ ำตอบ 4.ทำการทดลอง ชัดเจน สรุปคำตอบ คำตอบ ในรายงานผลการทดลองมี 6. การนำเสนอผล ในรายงานผลการทดลองมี ในรายงานผลการทดลอง ในรายงานผลการทดลองมี การแสดงผลการทดลอง ขาด การทดลอง การอธิบายผลการทดลองได้ แสดงให้เห็นว่านักเรียนมี การแสดงผลการทดลองการ การสรปุ ผล หรือไม่สมบูรณ์ ชัดเจน มกี ารใช้ขอ้ มูลจาก ความเขา้ ใจใจผลการทดลอง สรปุ ผลยังไมส่ มบรู ณ์ หรอื มี หรอื สบั สน แหล่งตา่ งๆ หรอื จากการ และรู้วา่ จะอธิบายผลการ การสรุปผล แตส่ รปุ หลงั จาก ทดลองอ่ืนๆ ประกอบ ทดลองนนั้ อย่างไร ถกู ถามคำถาม คำอธบิ าย เขียนกราฟไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง เขยี นกราฟได้อย่างถกู ตอ้ ง เขียนกราฟได้อยา่ งถกู ต้อง เขยี นกราฟได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ขาดองค์ประกอบกราฟไป 1 ขาดองค์ ประกอบของกราฟ ขาดองคป์ ระกอบกราฟ สมบรู ณ์ครบถว้ นทกุ องค์ประกอบ ไป 2 องคป์ ระกอบ มากกวา่ 2 องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ การทดลองท่ีใชแ้ สดงใหเ้ หน็ การทดลองท่ใี ชแ้ สดงให้เหน็ การทดลองทใี่ ชแ้ สดงให้เหน็ การทดลองท่ใี ช้แสดงให้เหน็ ว่านกั เรยี นไดน้ ำความคิด ว่านกั เรียนไดใ้ ช้กระบวนการ วา่ นักเรียนสามารถทำการ วา่ นกั เรียนไดม้ ีการวิเคราะห์ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทางวิทยาศาสตร์ แต่ ทดลองได้เมื่อไดร้ บั ความ ปญั หาและออกแบบการ มาใช้ในการทดลองโดยมกี าร จำเปน็ ตอ้ งช่วยในการควบคมุ ช่วยเหลอื จากครู ทดลองได้ด้วยตนเองและ ควบคมุ ตวั แปรต่างๆ ตัวแปร สามารถทำการทดลองได้ อย่างเหมาะสม การพดู นำเสนอได้รับการ การพูดนำเสนอทำไดห้ ลังจาก การพูดนำเสนอทำได้หลงั จัดเตรยี มดว้ ยความชว่ ย ไดร้ บั การสอนจากครู มกี ารใช้ ได้รับการสอนจากครู การพดู นำเสนอทำไดอ้ ยา่ ง เหลือบางประการจากครู แต่ ทา่ ทาง น้ำเสยี ง และการสบ ชัดเจน ถูกตอ้ ง ผู้ฟงั ให้ความ มีการนำเสนอผลการทดลอง สายตาผู้ฟัง สนใจ มที า่ ทาง นำ้ เสยี ง และ การพดู มีเหตุ มีผล และใช้ การสบสายตาผู้ฟังดมี าก ทา่ ทางประกอบนำ้ เสียงและ การสบตาผู้ฟังทำได้ดี

ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 30 เกณฑร์ ะดับคณุ ภาพด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์(A) ในการจดั การเรียนการสอนในรายวชิ า ว31206 ฟสิ กิ ส์เพมิ่ เติม 2 ดงั นี้ 1. มวี นิ ยั หมายถึง 1) แตง่ กายถกู ระเบยี บของโรงเรยี น 2) เข้าเรยี นตรงเวลา 2. ใฝเ่ รยี นรู้ หมายถึง มีความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรยี น 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน หมายถงึ 1) ทำงานเสร็จตรงตรามเวลา 2) ผลสำเร็จของงานผา่ นตามเกณฑ์ วิธกี ารประเมนิ เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คะแนน ความหมาย เกณฑ์การผ่าน การประเมนิ การสังเกต แบบสงั เกต ปฏบิ ตั ิได้ 5 ขอ้ 10 ดีมาก ระดบั คะแนน พฤติกรรม ปฏิบตั ไิ ด้ 4 ข้อ 8 ดี 8 ข้นึ ไป ปฏิบัตไิ ด้ 3 ขอ้ 6 พอใช้ ปฏิบัติได้ 0-2 ขอ้ 0-4 ปรับปรงุ รายการประเมนิ 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 (ดีมาก) (ปรับปรุง) รายการพฤติกรรม สมรรถนะสำคญั 32 1. มีการปรกึ ษาและวางแผนรว่ มกันกอ่ นทำงาน (ดี) (พอใช้) 2. มีการแบง่ หนา้ ท่ีอยา่ งเหมาะสมและสมาชิกทำตาม หน้าทที่ กุ คน มีพฤตกิ รรม มพี ฤตกิ รรม มพี ฤตกิ รรม มพี ฤติกรรม 3. มีการปฏิบตั ิงานตามขั้นตอน ตง้ั แต่ 8 ขอ้ ตัง้ แต่ 5-7 ข้อ ตง้ั แต่ 4-2 ข้อ น้อยกวา่ 2 4. มีการใหค้ วามชว่ ยเหลอื กนั 5. ผลงานเป็นไปตามวตั ถุประสงค์ทกี่ ำหนด ขอ้ 6. ผลงานเสรจ็ ทนั ตามกำหนดเวลา 7. ผลงานมคี วามคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ 8. ผลงานแสดงถึงการนำความรู้ท่ไี ด้มาประยุกตใ์ ช้ 9. สามารถใหค้ ำแนะนำกลุม่ อื่นได้ 10. การจัดวัสดุ อุปกรณ์ เรียบรอ้ ย หลงั เลกิ ปฏบิ ตั งิ าน คะแนนตัดสนิ ระดบั คุณภาพ คณุ ภาพ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ระดับ 3 หมายถึง มีพฤตกิ รรมในระดบั ดี คะแนน 9-10 หมายถึง ดี ระดับ 2 หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับ ปานกลาง คะแนน 6-8 หมายถงึ ปานกลาง ระดับ 1 หมายถึง มีพฤตกิ รรมในระดับ ปรบั ปรุง คะแนน 0-5 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่านรอ้ ยละ 60 (6 คะแนน)

ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ 31 หนว่ ยการเรยี นที่ 4 เร่อื ง การเคลือ่ นท่แี บบฮารม์ อรน์ กิ อย่างง่าย รหัสวชิ า ว 31206 ช่ือรายวชิ า ฟสิ กิ สเ์ พ่มิ เตมิ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 จำนวน 2.0 หน่วยกติ เวลา 14 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาววจิ ิตตา อำไพจิตต์ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระที่ 2 เข้าใจการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย ธรรมชาติของคลื่น เสียงและการได้ยิน ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสงและการเห็น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแสง รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ 9. ทดลองและอธิบายการเคลอื่ นท่ีแบบฮารมอ์ นกิ อย่างงา่ ยของวตั ถตุ ดิ ปลายสปรงิ และลูกตุม้ อยา่ งง่าย รวมทัง้ คำนวณปริมาณต่างๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง 10. อธบิ ายความถธ่ี รรมชาติของวตั ถแุ ละการเกิดการสั่นพอ้ ง 2. สาระสำคญั การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย (simple harmonic motion, SHM) เป็นการเคลื่อนที่กลับไป กลับมาซ้ำทางเดิม โดยผ่านตำแหน่งสมดลุ และคาบของการเคล่อื นท่ีคงตวั โดยท่กี ราฟการกระจดั กับเวลาอยูใ่ นรูป ของฟงั ก์ชันไซน์หรือโคไซนเ์ ช่น การเคล่ือนทีแ่ บบสัน่ การแกว่งของลูกตมุ้ นาฬิกา การเคล่ือนท่ีของวัตถุตดิ สปริง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง การเคล่อื นท่ีแบบฮาร์มอนกิ อย่างงา่ ยเป็นการเคลอื่ นท่ีของวัตถทุ ่ีกลับไปกลบั มาซำ้ รอยเดมิ ผา่ น ตำแหน่งสมดุล โดยมีคาบและแอมพลิจูดคงตัว และมีการกระจัดจากตำแหน่งสมดุลที่เวลาใด ๆ เป็น ฟงั ก์ชนั แบบไซน์ โดยปริมาณต่าง ๆ ที่เกีย่ วข้อง มคี วามสัมพนั ธต์ ามสมการ ������ = ������������������������(������������ + ∅) ������ = ������������������������������(������������ + ∅) ������ = ±ω√������2 − ������2 ������ = −������������2������������������(������������ + ∅) ������ = −������2������ การสั่นของวัตถุตดิ ปลายสปริง และการแกว่งของลกู ตมุ้ อย่างงา่ ยเป็นการเคลอ่ื นท่ีแบบฮาร์มอนิก

ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ 32 อย่างง่ายที่มีขนาดของความเร่งแปรผันตรงกับขนาดของการกระจดั จากตำแหน่งสมดุล แต่มีทิศทางตรง ข้าม โดยมีคาบการสั่นของวัตถุที่ติดอยู่ที่ปลายสปริง และคาบการแกว่งของลูกตุ้มตามสมการ ������ = 2������√������������ และ ������ = 2������√������������ เมอ่ื ดึงวตั ถทุ ่ีติดปลายสปริงออกจากตำแหน่งสมดุลแลว้ ปลอ่ ยให้สั่นวัตถจุ ะสน่ั ดว้ ยความถ่ีเฉพาะตัว การดงึ ลูกตมุ้ ออกจากแนวด่งิ แล้วปลอ่ ยใหแ้ กวง่ ลูกตุ้มจะแกว่งดว้ ยความถเี่ ฉพาะตวั เช่นกัน ความถ่ที ่มี ีค่าเฉพาะตวั น้ี เรียกวา่ ความถีธ่ รรมชาติ เมอ่ื กระตุ้นให้วตั ถุสั่นดว้ ยความถ่ีทีม่ ีคา่ เท่ากับความถ่ีธรรมชาติของวตั ถจุ ะทำใหว้ ัตถสุ ่นั ด้วยแอมพลิจดู เพ่ิมขนึ้ เรยี กว่า การส่นั พอ้ ง 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี ินัย 2. ความสามารถในการคิด 2. มีจิตวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ความสนใจใฝ่รู้ มุ่งม่ัน 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา ในการทำงาน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. ชิน้ งานหรือภาระงาน - ใบงาน - แบบฝึกทักษะ - แบบทดสอบ - กจิ กรรมทดลอง

ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 33 6. การวัดและประเมินผล รายการวดั วิธีวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ผ่านเกณฑ์ในระดบั 6.1 การประเมินชิน้ งาน/ ใบงาน ดี ขน้ึ ไป แบบฝกึ หดั เพิม่ เติม ภาระงาน แบบประเมนิ - ผ่านเกณฑ์ - ใบงาน ตรวจใบงาน 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ในระดบั ดี ขึน้ ไป ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝกึ หัดเพ่มิ เติม ตรวจแบบฝกึ หดั ใบงาน ในระดับ ดี ข้นึ ไป แบบฝึกทกั ษะ - ทำการทดลองและนำเสนอ บนั ทกึ ผลการทดลอง ข้อคำถามอตั นัย ผา่ นเกณฑ์ การเขียนกราฟ รายงานการ ในระดับ ดี ข้นึ ไป ผลการทดลอง แบบบันทึกสมรรณนะสำคัญ ทดลอง ของผู้เรยี น ด้าน ผ่านเกณฑ์ -ความสามารถในการส่ือสาร ไดค้ ะแนนร้อยละ 70 6.2 การประเมนิ กอ่ นเรยี น -ความสามารถในการคิด -ความสามารถในการใช้ 1. ทดสอบก่อนเรียน 1. ใชแ้ บบทดสอบก่อนเรียน เทคโนโลยี 6.3 การประเมนิ ระหว่างเรียน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ประกอบดว้ ย - ด้านความรู้ 1) แต่งกายถูกระเบยี บ 2) เขา้ เรยี นตรงเวลา . ใบงาน ใชต้ รวจคำตอบใบงาน 3) มีอปุ กรณ์การเรียนพรอ้ ม 4) ทำงานเสรจ็ ตรงตรามเวลา - ด้านกระบวนการ 5) ผลงานผา่ นตามเกณฑ์ . แบบฝึกทักษะ ใช้ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 1. แบบทดสอบปรนยั ขอ้ คำถามอัตนัย - ด้านสมรรณนะสำคัญของ ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ ผเู้ รียน โดยนำมาประเมินร่วมกบั การ ใช้แบบบนั ทึกสมรรณนะสำคัญ ของผเู้ รยี น ด้าน -ความสามารถในการส่ือสาร -ความสามารถในการคดิ -ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ด้านคณุ ลักษณะอันพึง สังเกตพฤตกิ รรมในชนั้ เรียน โดย ประสงค์ ใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรม มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน 6.4 การประเมนิ หลังเรยี น 1.ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 1. ทดสอบหลงั เรยี น

ตอนท่ี 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 34 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ เรือ่ งที่ ช่ือเรือ่ ง วธิ ีสอน/เทคนคิ การสอน เวลา (ช่วั โมง) 1 การเคลอื่ นทแ่ี บบฮาร์มอนกิ อย่างง่าย 1 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 2 การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนกิ อยา่ งง่าย 2 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 2 3 เงาของวตั ถุท่ีเคลอื่ นทีเ่ ป็นวงกลมสม่ำเสมอ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 2 4 การส่ันของสปรงิ การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 2 5 การแกวง่ ของลกู ตมุ้ อยา่ งง่าย 1 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 14 6 การแกวง่ ของลูกตุ้มอยา่ งง่าย 2 การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 7 ความถี่ธรรมชาตแิ ละการสั่นพ้อง การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) รวม 8. ส่ือการเรียนร/ู้ แหล่งเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1) เอกสารประกอบบทเรียน เร่ือง การเคล่ือนท่แี บบฮาร์มอนิกอยา่ งง่าย 2) หนังสือเรียนรายวิชาเพ่มิ เติมวทิ ยาศาสตร์ ฟิสกิ ส์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 ผู้แต่ง : สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สำนกั พิมพจ์ ฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3) สื่อ power point เรอื่ ง การเคลอ่ื นท่ีแบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย แหล่งเรียนรูป้ ระกอบหน่วยการเรียนรู้ เร่ือง การเคล่อื นท่แี บบฮาร์โมนกิ อย่างง่าย การเคล่อื นที่แบบฮาร์มอนกิ อยา่ งงา่ ย วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสกิ ส์) https://www.youtube.com/watch?v=eRfVsFwUq5M&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZ Tr&index=236 การแกว่งของลูกตุม้ ขณะเสน้ เชือกเอยี งทำมุมเอียงกับแนวด่ิง วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟสิ ิกส์) https://www.youtube.com/watch?v=3LXOYkPSyYA&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZT r&index=198 วิชาฟสิ ิกส์ - กจิ กรรม การแกว่งลกู ตุ้มอยา่ งงา่ ย https://www.youtube.com/watch?v=5DQLkkMzL6c&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWG k&index=63 วิชาฟสิ ิกส์ - กิจกรรม การเคล่ือนทแ่ี บบฮอรม์ อนกิ อยา่ งงา่ ย https://www.youtube.com/watch?v=WtPDOlM0taY&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWG k&index=65 วิชาฟสิ กิ ส์ - กิจกรรม ลกู ต้มุ กายภาพ https://www.youtube.com/watch?v=VNB7dtmCt_o&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWG k&index=66 วชิ าฟสิ ิกส์ - บทเรยี น การแกวง่ ของวัตถุ https://www.youtube.com/watch?v=Yi_nmSZXhHk&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWG k&index=98

ตอนท่ี 2 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ 35 วิชาฟสิ กิ ส์ - บทเรียน การเคลอ่ื นที่แบบฮารม์ อนกิ อย่างงา่ ย https://www.youtube.com/watch?v=N6GrbcGDre4&list=PLeJGvKa_RJ_YrzdKvlYNmL2d7v11yKWGk &index=27 คล่ืนตามขวางของลวงสปรงิ ทีป่ ลายขา้ งหน่ึงของสปรงิ ถกู ตรงึ ไว้ วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ฟิสิกส)์ https://www.youtube.com/watch?v=9FJvqM- _2aw&list=PLgm36wXFlxy8dGUu1KxkAET426QvKsZTr&index=117

ตอนที่ 2 การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ 36 แบบประเมินช้ินงาน/ภาระงาน ที่ 4 การเคลือ่ นทีแ่ บบฮาร์มอนกิ อยา่ งง่าย ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ 9. ทดลองและอธบิ ายการเคลื่อนที่แบบฮารม์อนิกอยา่ งง่ายของวตั ถตุ ดิ ปลายสปรงิ และลกู ตุ้มอยา่ งง่าย รวมทั้งคำนวณปรมิ าณต่างๆ ทีเ่ กย่ี วข้อง 10. อธิบายความถ่ีธรรมชาติของวัตถุและการเกิดการสั่นพอ้ ง รายการประเมิน 1. แบบทดสอบ เรื่อง การเคลื่อนทแี่ บบฮาร์มอนิกอย่างง่าย 2. ทำการทดลองและนำเสนอผลการทดลอง เรอื่ ง การเคล่อื นท่แี บบฮารม์ อนิกอย่างงา่ ย เกณฑก์ ารประเมินระดับคณุ ภาพ รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ 1.แบบทดสอบ 2.บันทกึ ผลการ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ ) ทดลอง คำตอบถกู แสดงวิธคี ิดได้ คำตอบถูก แสดงวิธคี ดิ ได้ เหตุผลหรือการคำนวณ แสดงวธิ ีคดิ เลก็ น้อย แตย่ ัง 3. การเขยี นกราฟ และสรปุ คำตอบได้ถกู ต้อง ถกู ตอ้ ง แตไ่ มไ่ ดใ้ สห่ นว่ ยหรือ ผิดพลาด แต่มแี นวทางทจ่ี ะได้ ไม่ไดค้ ำตอบ 4.ทำการทดลอง ชดั เจน สรุปคำตอบ คำตอบ ในรายงานผลการทดลองมี 7. การนำเสนอผล ในรายงานผลการทดลองมี ในรายงานผลการทดลอง ในรายงานผลการทดลองมี การแสดงผลการทดลอง ขาด การทดลอง การอธิบายผลการทดลองได้ แสดงใหเ้ ห็นวา่ นักเรยี นมี การแสดงผลการทดลองการ การสรปุ ผล หรือไม่สมบูรณ์ ชัดเจน มีการใชข้ ้อมลู จาก ความเข้าใจใจผลการทดลอง สรปุ ผลยังไม่สมบูรณ์ หรอื มี หรือสบั สน แหล่งตา่ งๆ หรอื จากการ และรู้ว่าจะอธิบายผลการ การสรุปผล แต่สรุปหลังจาก ทดลองอ่นื ๆ ประกอบ ทดลองนั้นอย่างไร ถูกถามคำถาม คำอธบิ าย เขยี นกราฟไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เขยี นกราฟได้อยา่ งถูกต้อง เขียนกราฟไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เขยี นกราฟได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ขาดองคป์ ระกอบกราฟไป 1 ขาดองค์ ประกอบของกราฟ ขาดองค์ประกอบกราฟ สมบรู ณ์ครบถ้วนทกุ องค์ประกอบ ไป 2 องคป์ ระกอบ มากกวา่ 2 องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ การทดลองที่ใช้แสดงให้เหน็ การทดลองที่ใช้แสดงให้เหน็ การทดลองที่ใช้แสดงใหเ้ ห็น การทดลองที่ใช้แสดงให้เหน็ ว่านกั เรยี นไดน้ ำความคิด วา่ นักเรียนได้ใช้กระบวนการ วา่ นักเรยี นสามารถทำการ ว่านักเรียนได้มกี ารวิเคราะห์ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ทางวทิ ยาศาสตร์ แต่ ทดลองไดเ้ มอื่ ได้รบั ความ ปัญหาและออกแบบการ มาใชใ้ นการทดลองโดยมีการ จำเปน็ ตอ้ งช่วยในการควบคมุ ชว่ ยเหลอื จากครู ทดลองได้ดว้ ยตนเองและ ควบคมุ ตวั แปรต่างๆ ตัวแปร สามารถทำการทดลองได้ อย่างเหมาะสม การพดู นำเสนอได้รับการ การพูดนำเสนอทำได้หลงั จาก การพดู นำเสนอทำไดห้ ลงั จัดเตรยี มดว้ ยความชว่ ย ไดร้ ับการสอนจากครู มีการใช้ ได้รบั การสอนจากครู การพดู นำเสนอทำได้อย่าง เหลอื บางประการจากครู แต่ ทา่ ทาง น้ำเสียง และการสบ ชัดเจน ถกู ต้อง ผ้ฟู ังให้ความ มีการนำเสนอผลการทดลอง สายตาผู้ฟงั สนใจ มที า่ ทาง นำ้ เสยี ง และ การพดู มเี หตุ มีผล และใช้ การสบสาย ตาผฟู้ งั ดมี าก ท่าทางประกอบน้ำเสียงและ การสบตาผู้ฟงั ทำได้ดี

ตอนท่ี 2 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ 37 เกณฑร์ ะดับคณุ ภาพด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์(A) ในการจดั การเรียนการสอนในรายวิชา ว31206 ฟสิ ิกส์เพมิ่ เติม 2 ดงั นี้ 1. มวี นิ ยั หมายถึง 1) แตง่ กายถกู ระเบยี บของโรงเรียน 2) เข้าเรยี นตรงเวลา 2. ใฝเ่ รยี นรู้ หมายถึง มีความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรยี น 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน หมายถงึ 1) ทำงานเสร็จตรงตรามเวลา 2) ผลสำเร็จของงานผ่านตามเกณฑ์ วธิ ีการประเมนิ เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คะแนน ความหมาย เกณฑ์การผ่าน การประเมนิ การสังเกต แบบสงั เกต ปฏบิ ตั ิได้ 5 ขอ้ 10 ดมี าก ระดบั คะแนน พฤติกรรม ปฏิบตั ไิ ด้ 4 ข้อ 8 ดี 8 ข้นึ ไป ปฏิบัตไิ ด้ 3 ขอ้ 6 พอใช้ ปฏิบัติได้ 0-2 ขอ้ 0-4 ปรับปรงุ รายการประเมนิ 4 ระดับคุณภาพ 1 (ดีมาก) (ปรับปรุง) รายการพฤติกรรม สมรรถนะสำคญั 32 1. มีการปรกึ ษาและวางแผนรว่ มกันกอ่ นทำงาน (ด)ี (พอใช้) 2. มกี ารแบง่ หนา้ ท่ีอยา่ งเหมาะสมและสมาชิกทำตาม หน้าท่ที กุ คน มีพฤตกิ รรม มีพฤติกรรม มพี ฤติกรรม มพี ฤติกรรม 3. มกี ารปฏิบตั ิงานตามขั้นตอน ตง้ั แต่ 8 ขอ้ ตง้ั แต่ 5-7 ข้อ ตัง้ แต่ 4-2 ข้อ น้อยกวา่ 2 4. มกี ารใหค้ วามชว่ ยเหลอื กนั 5. ผลงานเป็นไปตามวตั ถุประสงค์ทกี่ ำหนด ขอ้ 6. ผลงานเสรจ็ ทนั ตามกำหนดเวลา 7. ผลงานมคี วามคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ 8. ผลงานแสดงถึงการนำความรู้ท่ไี ด้มาประยุกตใ์ ช้ 9. สามารถใหค้ ำแนะนำกลุม่ อื่นได้ 10. การจัดวัสดุ อุปกรณ์ เรียบรอ้ ย หลงั เลกิ ปฏบิ ตั งิ าน คะแนนตัดสนิ ระดบั คุณภาพ คุณภาพ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ระดับ 3 หมายถึง มีพฤตกิ รรมในระดบั ดี คะแนน 9-10 หมายถึง ดี ระดับ 2 หมายถงึ มีพฤติกรรมในระดับ ปานกลาง คะแนน 6-8 หมายถงึ ปานกลาง ระดับ 1 หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับ ปรบั ปรุง คะแนน 0-5 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่านรอ้ ยละ 60 (6 คะแนน)

ตอนที่ 2 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ 38 แผนการจดั การเรยี นรู้

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง งานและพลงั งาน หน้า 39 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 งานและพลังงาน เรอ่ื ง แรงและงาน กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วิชา ว31206 ช่ือรายวิชา ฟิสกิ ส์เพิ่มเติม 2 ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 เวลาเรียน 4 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาววจิ ิตตา อำไพจติ ต์ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระที่ 1 เข้าใจธรรมชาติทางฟิสกิ สป์ ริมาณและกระบวนการวัด การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง แรงและกฎการ เคลือ่ นที่ของนวิ ตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวตั ถุ งาน และกฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ ักษ์ โมเมนตัม การเคลอ่ื นท่แี นวโคง้ รวมทงั้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. วิเคราะห์ และคำนวณงานของแรงคงตัว จากสมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ ระหว่างแรงกับ ตำแหนง่ รวมท้ังอธิบายและ คำนวณกำลงั เฉลีย่ 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด งานเกดิ จากการออกแรงท่ีทำให้วัตถุเคล่อื นท่ไี ปตามแนวแรง นนั่ คอื งานมีค่าเทา่ กบั แรงคูณกับระยะทาง ที่วัตถุเคลื่อนที่ หรือ W = Fs ซึ่งถ้าทิศของแรงกระทำและทิศการเคลื่อนที่ของวัตถุไม่ได้อยู่ในแนวเดียวกันต้อง แตกแรงให้มาอยู่ในแนวเดียวกับการเคล่ือนท่โี ดยใช้ตรีโกณมิติ W = Fs cosӨ วธิ ใี นการคำนวณหางานคือหาผล คูณของการกระจัดกบั องค์ประกอบของแรงในทิศเดียวกับการกระจัดหรือผลคูณของแรงกบั องค์ประกอบของการ กระจัดในทิศเดียวกับแรง ส่วนการหางานใต้กราฟกรณีแรงกระทำมีค่าคงตัวหาได้จากพื้นที่ของสี่เหลี่ยมผืนผ้า กรณแี รงมีขนาดเพิ่มขน้ึ อยา่ งสม่ำเสมอหาได้จากพ้ืนทข่ี องสามเหล่ียมมุมฉาก กรณีที่แรงมขี นาดไม่สม่ำเสมอหาได้ จากผลรวมของพืน้ ทขี่ องสี่เหล่ียมผืนผา้ เลก็ ๆ 3. สมรรถนะ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวิเคราะห์ 2) ทกั ษะการสื่อสาร 3) ทักษะการสงั เกต 4) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 ความรู้ 1) อธบิ ายความหมายของงานในทางฟิสิกสไ์ ด้และบอกความแตกต่างของงานบวกและงานลบ 4.2 ทักษะ/กระบวนการ 2) วเิ คราะหห์ างานจากพน้ื ท่ใี ตก้ ราฟความสมั พันธ์ระหว่างแรงกับตำแหนง่

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง งานและพลังงาน หนา้ 40 3) แสดงวธิ ีคำนวณหางานท่เี กิดขนึ้ จากการใชแ้ รงเคลื่อนวตั ถใุ นลกั ษณะตา่ ง ๆ จากสมการและ จากกราฟ 4.3 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1) มีวินัย 2) ใฝเ่ รียนรู้ 3) มุ่งมั่นในการทำงาน 4) รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ีและงานทไี่ ด้รบั มอบหมาย 5. ชิ้นงานหรอื ภาระงานทแ่ี สดงผลการเรยี นรู้ ใบงาน กฎการอนุรักษ์พลังงานกล แบบฝกึ หัด 6. การประเมิน วธิ วี ัด เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน รายการวดั -ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น -แบบทดสอบก่อนเรียน -รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจใบงาน -ใบงาน -รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ หนว่ ยการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ หัด -แบบฝึกหดั -รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เรอื่ ง งานและพลงั งาน ระดบั คุณภาพ 2 2 การประเมินระหวา่ งการ - ประเมินการนำเสนอ -แบบประเมินการนำเสอน ผ่านเกณฑ์ จัดกจิ กรรม ผลงาน ผลงาน 1) แรงและงาน 2) การนำเสนอผลงาน 3) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 รายบุคคล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ 4) พฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 5) คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2 ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่นั คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ ในการทำงาน

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง งานและพลงั งาน หน้า 41 7. กิจกรรมการเรียนรู้  แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงที่ 1 ขัน้ นำ กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ครูให้นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน เพอื่ ตรวจสอบความร้เู ดิมของนักเรยี นเปน็ รายบุคคลก่อนเข้าสู่ กจิ กรรม 3. ครูชักชวนนักเรียนพูดคุยโดยใช้คำถามว่า “นักเรียนเคยทำงานอะไรกันมาบ้าง” แล้วสุ่มนักเรียนให้ ยกตวั อยา่ งงานท่นี กั เรยี นเคยทำ 4. ครกู ระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามวา่ “ในความเขา้ ใจของนักเรียน นกั เรียนคดิ ว่าคำว่าแรงและ งานหมายถึงอะไร” และให้นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบคำถามปากเปลา่ โดยไมม่ ีการเฉลยว่าถกู หรอื ผิด 5. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เพอ่ื วิเคราะหน์ ักเรยี นเปน็ รายบุคคลก่อนเขา้ ส่กู จิ กรรม 6. ครูถามคำถาม เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน ว่า “น้ำที่ถูกกกั เก็บไวใ้ นเขื่อนเกิดเป็นกระแสไฟฟา้ ได้อย่างไร” ให้ นกั เรียนรว่ มกันหาคำตอบ (แนวตอบ: น้ำที่ถูกกักเก็บไว้จะมีพลังงานศักย์โน้มถ่วงเนื่องจากตำแหน่งที่สูงจากผิวโลก เมื่อมีการ ปลอ่ ยน้ำลงมาจากเข่อื น นำ้ ที่มีความเร็วสูงจะผ่านเข้าท่อแลว้ ถ่ายทอดพลงั งานจลน์เข้าส่กู ังหันน้ำ โดย จะไปหมนุ ขับเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ อกี ทอดหนึง่ ซ่ึงเป็นการเปลย่ี นรูปพลงั งานจากพลงั งานนำ้ เปน็ พลังงาน ไฟฟ้า) 7. ครูให้นักเรียนตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องงานและพลังงาน แล้วบันทึกเป็น ขอบเขตและเป้าหมายท่ีตอ้ งการเรียนรู้ ลงในสมุดเพือ่ นำมาส่งครู (หมายเหต:ุ ครเู ร่มิ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล) 8. ครูถามคำถาม เพื่อเป็นการตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับเรื่องแรงและงานของนักเรียนว่า “งานในวิชา ฟิสกิ สม์ คี วามสัมพันธ์กับปรมิ าณใดบ้าง” โดยทำขอ้ ตกลงกับนักเรียนว่า เรยี นหวั ข้อนจี้ บ นักเรียนควรจะ ตอบคำถามน้ีได้ (แนวตอบ: แรงทีก่ ระทำตอ่ วตั ถกุ ับการกระจัดท่ีวตั ถุเคล่ือนที่ไปตามแนวแรง) 9. ครูแจ้งให้นักเรยี นทราบว่าจะได้ศกึ ษาเก่ียวกบั แรงและงาน ข้นั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูเลอื กนักเรียนใหย้ กตัวอย่างกิจกรรมที่พบเห็นในชีวิตประจำวันและเป็นกิจกรรมทนี่ ักเรียนคิดว่าเป็น การทำงาน 2. ครูใหน้ กั เรยี นดูภาพเกย่ี วกับกจิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวันและตั้งคำถามวา่ “นักเรยี นคิดวา่ กิจกรรมแต่ ละอยา่ งมีงานเกิดขึ้นหรอื ไม่” เมื่อนักเรียนตอบ ให้ครูเฉลยไปพรอ้ มกบั ใหเ้ หตผุ ล 3. ครใู ห้นักเรียนสรุปว่าลกั ษณะกจิ กรรมแบบใดบ้างท่ที ำให้เกดิ งานและไมเ่ กิดงานตามความคดิ ของตนเอง 4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยให้แต่ละกลุ่มร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการสรุปลักษณะการ เกดิ งาน แล้วเลอื กตัวแทนกลุ่มเพ่อื ออกมาอภปิ รายหน้าช้ันเรียน (หมายเหต:ุ ครเู รม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ )

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง งานและพลังงาน หน้า 42 ชั้วโมงที่ 2 ข้นั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) (ตอ่ ) 5. ครูให้สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาและหาความหมายของคำว่า “งานในทางฟิสิกส์” โดยครูคอย สังเกตการณ์และให้คำแนะเพื่อให้นักเรียนลงข้อสรุปไปในทิศทางที่ว่า งาน (Work) ในทางฟิสิกส์ หมายถึง ผลของการออกแรงกระทำต่อวัตถุแล้วทำให้วัตถุเคลื่อนที่ไปตามแนวแรง โดยเป็นปริมาณ สเกลาร์ มีหนว่ ยเป็น นวิ ตัน เมตร (N m) หรือ จูล (J) 6. ครูใหน้ ักเรียนดูภาพจาก PowerPoint เรอื่ ง งาน หรอื เอกสารประกอบบทเรียน เร่ือง งานและพลงั งาน และชกั ชวนให้นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายสมการทใี่ ช้ในการอธบิ ายงานทเ่ี กดิ จากการดนั วัตถดุ ้วยแรงคงตัว (W = F∆x) 7. ครูให้สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาตัวอย่างครูคอยสังเกตการณ์ และให้คำอธิบายเมื่อนักเรียน เกิดปัญหา 8. เมื่อแต่ละกลุ่มศึกษาตัวอย่าง แล้ว ครูชักชวนให้สังเกตคำตอบในตัวอย่าง ว่าเพราะเหตุใดจึงมี เครื่องหมายต่างกัน โดยคอยกระตุ้นให้นักเรยี นสืบค้นหาคำตอบและชี้นำให้ได้คำตอบในแนวทางที่วา่ ถ้ากำหนดใหง้ านของแรง ⃑F มีเครื่องหมายบวก จะได้งานเปน็ บวกเมือ่ แรง F⃑ อยู่ในทิศเดยี วกับทิศของ การกระจดั และถ้ากำหนดใหง้ านของแรง ⃑F มีเครื่องหมาย เป็นลบ จะได้งานเป็นลบ เมื่อแรง ⃑F อยู่ใน ทิศตรงข้ามกับทศิ ของการกระจดั อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ให้นักเรียนจับคู่ตามเลขที่ของตนเอง เช่น เลขที่ 1 จับคู่กับเลขที่ 2 จากนั้นครูแจกใบงาน เรื่อง แรงและงาน ให้นักเรียนช่วยกันทำ 2. ครูสุ่มนักเรียนบางคู่ออกมาแสดงวิธีทำจากใบงาน เรื่อง แรงและงาน หน้าชั้นเรียน โดยที่ครู สอบถามนักเรียนคู่อ่ืนว่ามีคำตอบแตกต่างจากสิ่งท่ีเพ่ือนออกมาแสดงวิธีทำหรือไม่ ถ้าแตกต่างให้ นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่าคำตอบควรจะเป็นไปในทิศทางใด (หมายเหตุ: ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม) 3. ครูให้นักเรียนแต่ละคู่รวบรวมส่งใบงาน เรื่อง แรงและงาน ให้ครูตรวจสอบความถูกต้อง ช่วั โมงท่ี 3 ขนั้ สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครคู ืนใบงาน เรอื่ ง แรงและงาน ที่ได้ทำในชัว่ โมงที่แลว้ ให้นักเรียนแต่ละคู่ และทบทวนเน้อื หาท่ไี ดศ้ ึกษา ไปในชวั่ โมงท่ีแลว้ อีกครง้ั โดยเปดิ PowerPoint เร่ือง งาน แล้วถามนกั เรียนวา่ สมการที่ใช้อธิบายงาน ในทางฟสิ กิ ส์เปน็ อยา่ งไร 2. ครูให้นกั เรยี นดรู ปู แลว้ ถามคำถามวา่ จากรปู เกดิ งานขึ้นหรือไม่ เพราะอะไร รูปที่ 1 รปู ท่ี 2

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง งานและพลังงาน หน้า 43 3. ครใู ห้นกั เรยี นเข้ากลุ่มเดมิ ตามท่ไี ด้แบ่งในชั่วโมงแรก แล้วใหร้ ว่ มกันหาคำตอบ โดยครคู อยสังเกตการณ์ และใหค้ ำปรกึ ษาเมือ่ นกั เรียนเกิดปัญหา 4. ครูให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอคำตอบของกลุ่มตนเองพร้อมกับใหเ้ หตผุ ล เมอื่ นักเรียนทุกกลุ่ม ออกมานำเสนอครบแลว้ ถงึ จะเฉลยคำตอบ (แนวตอบ: รปู ท่ี 1 เกิดงาน เพราะทิศทางของแรงและการกระจดั อยู่ในแนวเดยี วกนั ) (แนวตอบ: รูปที่ 2 ไมเ่ กิดงาน เพราะทิศทางของแรงและการกระจดั ต้ังฉากกัน) 5. ครูเปิด PowerPoint เรื่อง งานของแรงที่ทำมุมกับแนวการเคลื่อนที่ พร้อมอธิบายภาพ ว่ามีเพียงแค่ แรงในแกน x เทา่ นน้ั ท่มี ผี ลตอ่ การเคลอ่ื นทขี่ องวตั ถุ เพราะฉะนั้น ในกรณีของงานท่ีเกดิ จากแรงท่ีทำมุม กบั แนวการเคลอื่ นท่ีจะหาไดจ้ ากสมการ W = F∆x cos θ 6. ครูใหน้ กั เรียนดู PowerPoint เกี่ยวกับงานทเี่ กดิ จากแรงทที่ ำมุมตา่ ง ๆ กับแนวการเคล่ือนท่ี 7. ครูให้นกั เรียนร่วมกันพจิ ารณางานท่ีเกิดจากแรงที่ทำมุมต่าง ๆ กบั แนวการเคลือ่ นที่ โดยครูอธิบายงาน ทเี่ กิดขน้ึ ในแต่ละทิศทาง 8. ครูอธิบายต่อว่า ถ้าแรงทีม่ ากระทำตอ่ วตั ถมุ ีมากกวา่ หนงึ่ แรง งานรวมทเ่ี กิดข้นึ กบั วตั ถใุ ด ๆ สามารถหา ไดจ้ าก ผลรวมของงานหรือผลคูณของแรงลพั ธก์ บั การกระจัดตามทิศทางของแรงลพั ธ์นน้ั ๆ จากสมการ Wtot = ΣW = (ΣF)∆xcosθ 9. ครูใหน้ ักเรยี นกลับเข้ากลุ่มเดิม แล้วรว่ มกนั ศึกษาตัวอย่าง โดยครูสังเกตการณ์และอธบิ ายเมอ่ื นกั เรียนเกิด ปัญหา อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนโดยอิสระแล้วให้ร่วมกันทำใบงาน เรื่อง งานของแรงที่ทำมุมกับแนวการ เคลอื่ นที่ และนำมาสง่ ครเู ม่ือจบช่วั โมง 2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัด เร่ือง แรงและงาน เป็นการบา้ น แล้วนำมาสง่ ครใู นชัว่ โมงต่อไป ชว่ั โมงที่ 4 ขั้นสอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูสุ่มถามนักเรียนว่า ใบงาน เรื่อง งานของแรงที่ทำมุมกับแนวการเคลื่อนที่ ที่ทำส่งครูมาแล้วนั้น ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ โดยครแู จกใบงาน คนื ให้กับนกั เรยี น แลว้ ทบทวนความรู้เก่ยี วกับการหางานในชั่วโมงที่ แล้ว โดยเปดิ PowerPoint เร่อื ง งานของแรงที่ทำมุมกบั แนวการเคล่อื นท่ี 2. ครูเปิดประเด็นโดยใช้คำถามว่า หากเขียนกราฟระหว่างแรงกระทำและขนาดของการกระจัดที่อยู่ใน แนวเดยี วกบั การเคลื่อนที่ พ้ืนทใี่ ตก้ ราฟจะมีคา่ เทา่ กับอะไร และสามารถหาคา่ นัน้ ได้อยา่ งไร โดยครูเปิด PowerPoint เรอื่ ง การหางานจากพน้ื ที่ใต้กราฟ ว่า พื้นที่ใต้กราฟระหว่างแรงกระทำกับขนาดของการ กระจดั ทอ่ี ยูแ่ นวเดียวกบั การเคลอื่ นท่มี คี ่าเท่ากับงานของแรงท่ีกระทำตอ่ วัตถุ 1) การหางานจากพ้นื ท่ีใตก้ ราฟเมอ่ื แรงกระทำมลี กั ษณะคงตัว W = Fx 2) การหางานจากพื้นทใ่ี ตก้ ราฟเมื่อแรงกระทำมีลกั ษณะไม่คงตัว • แรงกระทำมีลกั ษณะเพ่มิ ขึ้นอย่างสม่ำเสมอ 1 W = 2 Fx

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง งานและพลังงาน หน้า 44 • แรงกระทำมขี นาดไม่คงตัว xf W = ∫ Fdx xi 3. ครูให้นกั เรยี นศึกษาตัวอย่าง โดยครคู อยสังเกตการณ์ และอธิบายเม่ือนักเรียนเกดิ ปญั หา อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครใู หน้ ักเรยี นจบั คูก่ บั เพือ่ นโดยอสิ ระ แล้วใหร้ ว่ มกนั ทำใบงาน เร่อื ง การหางานจากพ้ืนท่ใี ต้กราฟ 2. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัด เรอ่ื ง แรงและงาน เป็นการบา้ น แล้วนำมาสง่ ครใู นช่ัวโมงตอ่ ไป ข้นั สรปุ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูนำอภิปรายสรุปเนื้อหาด้วยคำถามต่อไปน้ี โดยเปิด PowerPoint เรื่องที่สอนไปแล้วควบคู่ไปด้วย แล้วใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตอบ 1) งานในความหมายท่วั ไปและงานในทางฟสิ กิ สแ์ ตกตา่ งกนั อย่างไร (แนวตอบ: สำหรับบุคคลทั่วไป งาน หมายถึง การประกอบอาชีพหรือการกระทำภารกิจต่าง ๆ ใน ชีวติ ประจำวัน ส่วนงานในทางฟสิ ิกส์จะเกิดขนึ้ ก็ตอ่ เมอื่ มีแรงมากระทำต่อวัตถุ แล้วทำให้วัตถุมีการ กระจัด โดยปริมาณงานทที่ ำข้ึนกับแรงและการกระจัด) 2) ถา้ มีแรงมากระทำใหว้ ตั ถเุ คลอ่ื นที่ เราจะหางานไดจ้ ากสมการอะไร (แนวตอบ: ������ = ������∆������) 3) ถา้ แรงทก่ี ระทำให้วัตถุไมอ่ ย่ใู นแนวเดียวกับการเคลือ่ นท่เี ราจะหางานได้จากสมการอะไร (แนวตอบ: ������ = ������∆������������������������������) 4) งานเป็นบวกกับงานเปน็ ลบ มคี วามหมายวา่ อย่างไร (แนวตอบ: งานเป็นบวก หมายถึง งานของแรง ������ เมื่อแรง ������ อยู่ในทิศเดียวกบั การเคลื่อนที่ ส่วน งานทเี่ ป็นลบ หมายถึง งานของแรง ������ เมอ่ื แรง ������ อยู่ในทศิ ตรงขา้ มกบั การเคล่อื นที่) 5) ถ้ามแี รงหลายแรงมากระทำให้วัตถเุ คลื่อนที่ เราจะหางานไดอ้ ย่างไร (แนวตอบ: ������������������������ = ������������ = (������������)∆������) 6) เราสามารถหางานจากกราฟได้อย่างไร (แนวตอบ: สามารถหางานได้จากพ้ืนที่ใตก้ ราฟระหวา่ งแรงในทิศเดียวกับการเคลอื่ นที่ และขนาดของการ กระจดั ) 2. ครูให้นกั เรยี นทำสรปุ ผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) เรอ่ื ง แรงและงาน ลงในกระดาษ A4 (หมายเหต:ุ ครเู รม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน) 3. ครสู ุม่ เลอื กนักเรียนออกไปนำเสนอผงั มโนทัศนข์ องตนเองหนา้ ชัน้ เรียน (หมายเหตุ: ครเู ร่มิ ประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน) 4. ครใู ห้นกั เรยี นศกึ ษาและทำแบบฝกึ หัด จากเอกสารประกอบบทเรียน ลงในสมุด ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครนู ำรูปภาพเกี่ยวกับกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวนั ท่ีให้นักเรียนดตู งั้ แตช่ ว่ั โมงแรกมาใหน้ กั เรยี นดอู ีก ครง้ั แลว้ รว่ มกันตอบคำถามอกี ครั้งว่ากิจกรรมใดท่ีเกดิ งานบ้าง 2. ครูใหน้ กั เรียนตอบคำถาม อีกครัง้ วา่ งานในทางฟิสกิ ส์มีความสมั พนั ธ์กับปรมิ าณใดบา้ ง (แนวตอบ: แรงท่กี ระทำต่อวัตถกุ บั การกระจัดทีว่ ัตถุเคล่ือนทไี่ ปตามแนวแรง) 3. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจกอ่ นเรยี นของนักเรยี น 4. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook