Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การท่องเที่ยวสู่ความสำเร็จ-050865

การท่องเที่ยวสู่ความสำเร็จ-050865

Published by Guset User, 2023-03-07 02:21:26

Description: การท่องเที่ยวสู่ความสำเร็จ-050865

Search

Read the Text Version

51 2.8 กีฬาทีแ่ ทจ้ รงิ (True Sport) หลังจากการอา่ นบทความทีผ่ า่ นมา ท่านอาจจะ คิดว่าข้าพเจ้าเป็นคนท่ีชอบทาลายความสนุกสนานในการเล่นกีฬา เม่ือหลายปีมาแล้ว ท่ีประเทศอังกฤษมีกีฬาใหม่ชนิดหน่ึงคือ การล่อวัวให้หมากัด (Bull-baiting) ซ่ึงต่อมา มคี นจานวนมากยนื่ คารอ้ งต่อรัฐสภาใหส้ งั่ เลิกการเล่นประเภทน้ี แตฝ่ า่ ยตรงข้ามได้กล่าว โต้แย้งว่า ผู้ร้องมิได้มุ่งท่ีจะป้องกันการทรมานสัตว์ แต่เพราะอิจฉาไม่ต้องการให้ผู้อ่ืน ได้รบั ความสนุกสนาน จรงิ อยู่ ทา่ นอาจคดิ ว่า ขา้ พเจ้าจะเขา้ อยใู่ นลกั ษณะดงั กลา่ ว (30) แต่ไม่ใชเ่ ช่นน้นั ข้าพเจา้ มีความสขุ กบั การเล่นกีฬาที่แท้จริงและชอบกีฬามาก พอๆ กับคนอ่ืน สิ่งที่ชอบมากกว่าอะไรคือ อยากเห็นคนอื่นสนุกสนาน ย่ิงมีคนจานวนมาก เกดิ ความร้สู กึ สนกุ เทา่ ใด ขา้ พเจ้าก็จะยง่ิ มคี วามสุขมากข้ึนเท่านั้น แต่คนจานวนมากกลับหลงผิด คิดว่าพวกเขากาลังเล่นกีฬา เม่ือพวกเขานา เงินค่าจ้างที่หาได้โดยยากลาบาก มาเทใส่กระเป๋าของคนอ่ืน ในการพนัน ในกรณีของ ข้าพเจ้าน้ันมีหลักคิดท่ีว่า “เม่ือถูกกัดมาแล้วคร้ังหนึ่งแล้ว ก็จะเข็ดจนตาย” โดยครั้งหน่ึง ตอนเป็นเด็กนักเรียน ข้าพเจ้าเคยเล่นพนันและเป็นฝ่ายแพ้ โดยได้ลงทุนเล่นพนันแทง ม้าแข่งที่ช่ือ แพค เป็นเงิน 18 เพนนี จนเงินหมดไม่มีเหลือติดกระเป๋า และนั่นเป็นครั้ง สุดทา้ ยทขี่ ้าพเจ้าเลน่ การพนันแข่งมา้ ในทางกลับกัน ข้าพเจ้าชอบการแข่งม้าสมัครเล่นมาโดยตลอด ย่ิงเม่ือรู้ช่ือม้า และผู้ขับข่ี หรือเม่ือม้าที่เข้าแข่งขันเป็นม้าตัวที่ข้าพเจ้าได้ฝึก หรือได้ข่ีม้าเข้าแข่งขัน ด้วยตนเอง ซ่ึงไม่เหมือนกับการดูม้าแปลกๆ ที่ไม่รู้จักช่ือเข้าลงแข่งขัน หรือการเล่น พนันม้าแข่งโดยน่ังอยู่ท่ีบ้าน กีฬาท่ีข้าพเจ้าชอบคือกีฬาท่ีได้ลงมือเล่นเอง มิใช่นั่งดูอยู่ เฉยๆ แลว้ คอยจ่ายเงินพนัน 2.9 กีฬาคืออะไร? (What is Sport?) ในความคิดของข้าพเจ้า กีฬาคือ การเลน่ เกม ดว้ ยตัวของตนเอง แทนที่จะเป็นเพียงคนท่ีคอยเฝ้าดูข้างสนาม หรือให้คนอ่ืน เล่นแทน นเี่ ป็นเหตผุ ลทอ่ี ธิบายวา่ ทาไมข้าพเจ้าจึงตัดผมให้ตนเอง โดยไม่ยอมให้คนอ่ืน ตัดผมให้ ตลอดเวลาทข่ี ้าพเจา้ ยังมีเสน้ ผมอยู่

52 2.10 วิธีหาความสนุกและเงินอย่างซ่ือสัตย์ (How to get Fun and Money Honestly) ท่านอาจจะกล่าวว่า “เป็นเร่ืองดีท่ีจะบ่นถึงข้อไม่ดีของการดูกีฬา แต่แล้ว เราจะทาอะไรกับเวลาว่าง? ถ้าไม่ได้ไปดูการแข่งม้าหรือดูการแข่งขันฟุตบอล แล้วเรา จะหาเงินได้อย่างไร และจะได้รับความเพลดิ เพลนิ ได้อยา่ งไร? ” มีปัญหาเล็กน้อย ในการคิดออกแบบกิจกรรมใดๆ ท่ีจะให้เหมาะกับคน ทุกประเภทไม่ว่าเขาจะรวยหรือจน อาศัยอยู่ในเมืองหรืออยู่ในชนบท การจัดกิจกรรม จะต้องคานึงถึงฤดูกาล ว่าอยู่ช่วงฤดูหนาวหรือฤดูร้อน จัดให้บุคคลแบบเดี่ยวหรือเป็นกลุ่ม จัดภายในหรือนอกอาคาร ตอนกลางวันหรือตอนเย็นกลางคืน ในบ้านหรือนอกบ้าน ฯลฯ ทา่ นจะให้คาแนะนาในการตอบคาถามดงั กล่าวได้หรอื ไม่ ? (31) ข้าพเจ้าเข้าใจว่าท่านตอบไม่ได้ ดังน้ัน ข้าพเจ้าจึงจะให้คาแนะนากว้างๆ อนั อาจมีประโยชนบ์ ้าง ความลบั ที่สาคัญคอื ท่านจะต้องถือเอาคาต่อไปนเ้ี ป็นคติประจาใจ 2.11 อย่าขี้เกียจ (Don’t Loaf) การว่ายน้าลอยคอในทะเลท่ีราบเรียบน้ัน ไม่น่าสนใจเท่าใดนกั แตท่ ่านจะรู้สึกสนุกมากข้ึน ถ้ามีลมอ่อนๆและทะเลมีคลื่นเล็กน้อย โดยจะต้องคอยว่ายน้าโต้คลื่นท่ีพัดมาเข้าหน้าอยู่เสมอ ทันใดที่ผ่านคลื่นลูกหนึ่งมาแล้ว ก็จะมีคลื่นอีกลูกซัดตามเข้ามาอีก ระลอกคลื่นต่างๆน้ันก็เปรียบเหมือนการดาเนินชีวิต ท่ีต้องพบกับอุปสรรคนานาชนิดอย่างต่อเน่ือง ท่านจะได้รับความสนุกสนานในการที่ ต้องผจญกับคลื่นของงานหรือกิจกรรมท่ีเข้ามาใหม่ๆอยู่เสมอ ดังน้ัน เพ่ือตอบคาถาม ของทา่ นว่าจะทาอะไรดเี ก่ียวกบั เวลาว่าง เงิน หรือความสุข น้ัน ข้าพเจ้าขอแนะนาว่า ควรแสวงหากฬี าแท้จรงิ ทท่ี า่ นได้ลงไปเลน่ เอง หางานอดิเรกท่ีชอบ หาอาชีพที่เหมาะสม ใช้เงนิ ด้วยความประหยดั มัธยสั ถ์ และ บาเพญ็ ตนใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ ผ้อู ่ืน 2.12 กีฬาท่ีแท้จริง (A True Sport) คาว่ากีฬาที่แท้จริงของข้าพเจ้านั้น หมายถึงกิจกรรมกีฬาทุกประเภท ที่ท่านท่ีท่านทาได้ดี แล้วลงไปทา ลงไปเล่น ด้วยตนเอง ไม่ใช่เพียงเป็นผู้น่ังดูข้างสนามหรือทางโทรทัศน์ ข้าพเจ้ารู้ดีว่าปัจจุบันนี้ มีความลาบากท่ีจะหาสถานที่สาหรับลงไปเล่นกีฬาด้วยตนเอง และการหากีฬา ท่ี

53 เหมาะสมกบั ทุกคนน้นั เปน็ เรือ่ งยาก แตก่ ็ยงั มสี ถานทเ่ี หลืออยบู่ ้าง ท่านต้องคดิ เอาเองวา่ กีฬาประเภทใดจะเหมาะกบั ลักษณะและส่ิงแวดลอ้ มของตวั ทา่ น แต่ถา้ ท่านยงั คิดไม่ออก ข้าพเจ้าขอแนะนากิจกรรมอย่างหนึ่งที่ตรงตามเกณฑ์ ข้างต้น ซ่ึงท่านจะได้พบในบทสุดท้ายของหนังสือนี้ คือ การเป็นลูกเสือวิสามัญ หรือ โรเวอร์ (Rover Scout) (32) 2.13 กีฬาปีนภูเขา (Mountaineering) มีกีฬาท่ีแท้จริงชนิดหนึ่งท่ีเปิดกว้าง สาหรบั ทกุ คนโดยไมต่ ้องเสียค่าใช้จา่ ยมากนกั คือการปนี ภูเขา ท่านอาจจะบอกว่า “ท่านสามารถปีนเขาได้มากมายหลายท่ีในประเทศ อังกฤษ” ถูกแล้ว ท่านสามารถทาได้ แต่ข้าพเจ้าอยากอธิบายให้ท่านรู้ว่า ควรปฏิบัติ อย่างไรในการปีนภูเขาสูงสองหมื่นฟุต ท่ีจะเป็นการแสดงความสามารถท่ีน่าสรรเสริญ โดยอย่าคิดว่าท่านจะต้องห้อยโตงเตงอยู่กับเชือกปีนเขาอยู่ตลอดเวลา เพราะนานๆ จึงจะมีสักคร้ังที่ท่านจะได้ใช้นิ้วมือและน้ิวเท้าของท่าน ทดสอบพลังการปีนป่ายภูเขา ของตนเอง ซึง่ ทา่ นอาจไถลร่วงลงมาสกั สองหรือสามพันฟุต ก่อนท่ีจะไปชนคา้ งกับอะไร สักอยา่ ง แตท่ า่ นจะได้รบั ความรสู้ ึกทเี่ ทา่ เทยี มกัน ในการตกรว่ งลงมา สองหรือสามรอ้ ยฟุต ในการปีนหน้าผาทีย่ ากพอ ๆ กันในท้องถน่ิ ของทา่ นเอง ท่านสามารถไดร้ ับความต่นื เต้น ได้มากพอกัน ในการปีนภูเขาลูกเล็กซ่ึงต้องการความกล้าหาญ ความอดทนและทักษะ และความเป็นเพอ่ื นทีด่ ีของนกั ปีนเขาทม่ี ีเชือกผกู เอว ทีข่ ึ้นเขาไปพร้อมกบั ท่าน ในขณะเดียวกัน หากท่านยังไม่เคยได้รับการฝึกฝนเทคนิคการปีนเขา มาอย่างดีและไม่มีผู้ที่มีประสบการณ์เป็นผู้นาท่านไป การปีนเขาจะเป็นกิจกรรมที่มี อันตรายมาก

54 ยอดเขาเอเวอเรสตใ์ นประเทศเนปาลท่ีสูงที่สดุ ของโลก มคี นไปปนี เขาอยโู่ ดยไม่หยดุ หยอ่ น หัวหน้าคณะปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ท่ีสูงที่สุดในโลก เคยกล่าวกับข้าพเจ้าว่า “ความสูงของภูเขาไม่ได้เป็นปัญหามาก เท่ากับความลาบากของการปีนภูเขาในบางตอน ที่ผา่ นได้ยาก” ส่ิงที่น่าแปลกใจคือ ไม่ค่อยมีคนรู้เร่ืองเทคนิคการปีนเขา และฝึกฝนกีฬา ปีนเขา ซึ่งอาจเป็นเพราะคนท่ัวไปไม่รู้ว่า เราสามารถปีนเขาได้หลายแห่งในประเทศ องั กฤษ หากท่านหาภูเขาท่ีเหมาะสมไม่ได้ อาจหาท้องที่ซ่ึงมีหินก้อนใหญ่เป็นกลุ่ม ท่ีซึ่งเคยมีการระเบิดหินออกมาใช้ หรือหน้าผา อันจะเป็นสถานที่ฝึกกีฬาปีนเขาได้อย่างดี ในบางคราวท่านอาจเคยได้ยินว่ามีชายคนหนึ่งไปปีนเขาตามลาพัง ซ่ึงฟังแล้วเป็นเรื่อง น่า (33)ตื่นเต้น และแสดงความม่ันใจในตนเอง แต่การกระทาดังกล่าวเป็นวิธีการที่ไม่ ถูกต้องเลย เพราะเขาอาจบังเอิญตกลงมาหรือข้อเท้าแพลง โดยไม่มีผู้คอยช่วยเหลือ การปีนเขาน้ันต้องไปเป็นทีม ดังน้ันการปีนเขาจึงเป็นกีฬาท่ีดีอย่างหนึ่ง นักปีนเขา จะต้องฝกึ ตนให้เป็นผ้มู สี มรรถภาพสูง เพอ่ื จะไดส้ ามารถช่วยเหลอื ผูอ้ ื่นในคราวจาเป็น

55 การปีนเขาน้ันเป็นประโยชน์อย่างย่ิง ในการพัฒนาระบบประสาท กล้ามเนื้อ และความอดทน นักปีนเขาที่ดีนั้นจะเป็นคนอ่อนแอไม่ได้ ดังนั้นการปีนเขา จึงเป็นกีฬา ท่ีวิเศษมาก การปีนเขาน้ันต้องใช้การสังเกต ใช้ตามองภูมิประเทศ และต้องใช้ความคิด หาเสน้ ทางข้ึนลงจากเขาทเี่ หมาะสมดว้ ย ข้าพเจ้าเคยติดตามกองกาลังทหารภูเขาอัลพิน่ี ของอิตาลี ไปซ้อมรบบริเวณ เทือกเขาแอลป์ที่สูงชัน ทหารเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนมาเพ่ือทางานบนท่ีสูงทุรกันดาร โดยคัดเลือกมาจากชนพื้นเมืองชาวเขา เรามองเห็นศัตรูบนท่ีลาดหิมะขนาดใหญ่ที่อยู่ อีกด้านหนง่ึ ของช่องเขาทล่ี กึ ลงไปสองพนั ฟตุ และกว้างสองหรอื สามไมล์ นายทหารได้รับ คาส่ังใหโ้ จมตีข้าศึก จากน้ันพวกทหารก็ขยายแนวเป็นแถวยาวและนั่งลง จ้องมองไปที่ เชงิ ลาดและหนา้ ผาฝ่งั ตรงข้าม พวกเขาใช้กล้องสอ่ งทางไกลค้นหาหนทางท่ีจะปีนขึน้ ไป บนเขา และหาจุดสงั เกตทีค่ วรพบเม่อื ขึน้ ไปบนท่สี งู จากด้านลา่ ง การเลือกเส้นทางท่จี ะปีนเขาทเ่ี หมาะสม ทาให้การไตเ่ ขามีความนา่ สนใจอย่าง ไม่สิ้นสดุ ทา่ นจะเป็นนกั ปนี เขาชน้ั เยย่ี มหรอื ปานกลางขึ้นอยู่กบั การสังเกตเลือกเส้นทาง ของท่าน นอกจากน้ี การปีนเขายังมีผลทางจิตใจ เก่ียวกับการเรียนรู้ถึงวิธีผจญกับ ความยากลาบาก แม้บางครั้งจะดูเหมือนเป็นส่ิงท่ีเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ามีความต้ังใจแน่ว แน่มั่นคง จะสามารถเอาชนะและทาใหเ้ ป็นไปได้ดว้ ยความใจเยน็ และไม่ทอ้ ถอย ในทานองเดียวกัน ถา้ ทา่ นยอมผจญกับความยุ่งยากในชีวิต โดยพยายามต่อสู้ และหาทางเอาชนะอุปสรรค ด้วยวิธีเดินอ้อมหรือปีนข้ามก้อนหินแห่งปัญหาได้ ก็จะทา ให้ทา่ นประสบความสาเรจ็ ในที่สุด มีสิ่งประหลาดด้านพลังจิต ที่ท่านจะได้พบในการปีนเขา หากท่านขึ้นเขาไป กบั คณะจนถึงยอดเขาแลว้ จงนง่ั ลงอยา่ งเงียบๆคนเดียวให้ห่างจากผู้อ่ืน มองผืนแผ่นดิน อันกว้างใหญ่เบ้ืองล่างแล้วคิด ขณะที่ท่านคิด จงด่ืมด่าเอาความบันดาลใจอย่าง (34) มหัศจรรย์เข้าไปท้ังหมดเมื่อท่านลงจากยอดเขากลับมาสู่พื้นดินอีกคร้ัง ท่านจะ พบวา่ ตัวของท่านเองจะกลายเป็นอีกคนหนง่ึ ทง้ั ทางร่างกาย จติ ใจ และอารมณ์

56 2.14 งานอดเิ รกและคุณค่าของงานอดิเรก (Hobbies and Their Value) ข้าพเจ้าได้พบว่านิสัยในการทาส่ิงของต่างๆด้วยตนเองนั้น เมื่อเกิดกับผู้ใด แล้วมักจะขยายไปยังชีวิตประจาวันของบุคคลนั้นด้วย นิสัยดังกล่าวเป็นนิสัยที่ดี โดยอาศัยหลักที่ว่า “ถ้าท่านอยากทาอะไรให้สาเร็จ ก็จงทาส่ิงนั้นด้วยตัวของท่านเอง” จนกลายเป็นหลักปฏิบัติประจาใจ แม้แต่งานเล็กๆ น้อยๆ เก่ียวกับบ้าน ก็จะกลายเป็น งานที่มีเสน่ห์และให้ความรู้แก่ท่านมาก ด้วยการฝึกฝนเล็กน้อย ท่านจะสามารถจับค้อน ไปตอกให้ตรงท่ีหัวตะปูแทนการใช้ค้อนทุบนิ้วหัวแม่มือของตน ท่านจะสามารถเปล่ียน ปลั๊กโคมไฟฟา้ ไดด้ ้วยตนเอง หลังการเรยี นจากผู้รู้เพยี งช่ัวเวลาส้นั ๆ จงหางานอดเิ รกทาบางส่ิงบางอยา่ ง เม่ือสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดข้ึน ทาให้เกิดการขาดแคลน ผักและผลไม้ ในประเทศอังกฤษ แต่ได้ทาให้ชาวอังกฤษหลายคน ได้กลายเป็นชาวสวนและปลูกผัก ผลไม้กินเอง การที่รัฐบาลอังกฤษจัดสรรท่ีดินให้คนทาสวน ทาให้การจาหน่ายสุรา ลดต่าลงมากกว่ากฎหมายของรัฐสภาท่ีออกเกณฑ์บังคับในการจาหน่ายสุรา และทาให้ เกิดผลดีต่อสุขภาพอนามัยและความพอใจของประชาชน ย่ิงกว่าการปฏิรูประบบ สาธารณสุขหรือการเมือง การทาสวนของคนอังกฤษในคร้ังน้ัน กลายเป็นงานอดิเรก

57 ท่ีย่ิงใหญ่และการพักผ่อนที่ดีท่ีสุด ที่คนทางานหนักมาก่อนสามารถจะทาได้ ให้รสชาติ แท้จริงในการทางานกลางแจ้ง ทาให้บางคนได้ความรู้ทางธรรมชาติวิทยาเป็นคร้ังแรก เกี่ยวกบั การปลูกพชื และเรอ่ื งของแมลงหรอื ด้วง เป็นแนวโน้มตามธรรมชาติของเด็กทุกคน ท่ีอยากทาส่ิงต่างๆด้วยมือของตน แต่หลายคนสูญเสยี ความต้ังใจเม่ือมีอายุมากข้ึน สาหรับผู้ท่ียังคงรักษาวิธีแสดงออกของตน ตามธรรมชาตินนั้ จะพยายามทาส่งิ ต่างๆ ดว้ ยตนเองจนกลายเป็นนสิ ัย และใช้เวลาว่าง ใหเ้ ป็นประโยชน์ คนที่มีงานอดิเรกจะไม่มีเวลาว่างที่จะเสียไปอย่างไร้ค่า มือของเขาจะ ไม่หยุดนิ่ง และจะไม่ถูกดึงไปหาสิ่งดึงดูดใจอย่างอ่ืนท่ีมีส่ิงน่าสนใจน้อยกว่าโดยง่าย เพราะงานอดิเรกน้ันจะป้องกันเขาอยู่ งานอดิเรกและการฝีมือนาไปสู่ทักษะความ (35) เชี่ยวชาญ คนท่ีทุ่มเทชีวิตความคิดและพลังงานสารอง ในการผลิตสิ่งต่างๆนั้น ย่อมสามารถพัฒนาผลงานของเขาให้สมบรู ณย์ ิ่งขน้ึ ตามลาดบั และเม่ือมีใจจดจ่อยู่ที่มือ ความใฝ่ฝันหาหนทางและข้ันตอนก็จะบังเกิดขึ้น คนเราท่ีจะเป็นนักประดิษฐ์นั้น มักก้าวขึ้นมาจากคนที่ทางานอดิเรก หากท่านมองไปรอบ ๆ ห้องครัว สานักงาน หรือ โรงงานของท่าน จะพบสง่ิ ของหลายรอ้ ยชนดิ ทเี่ ปน็ ผลงานของนักประดษิ ฐใ์ นอดีต (เช่น ครกหิน มีด ไขควง ปากกา หวี ตะเกียบ หรือ คอมพิวเตอร์) ดังน้ัน ถ้าท่านเป็นคนท่ีมี งานอดิเรก ท่านก็อาจประดิษฐ์อะไรข้ึนมาสักอย่าง ท่ีไม่เพียงทาให้ท่านมีเงินมากขึ้น เท่านัน้ แต่อาจอานวยประโยชนใ์ หเ้ พ่ือนมนษุ ย์ของทา่ นได้ดว้ ย มีบ่อยคร้ังเช่นกัน ที่คนเราได้ฝึกฝนงานอดิเรก อันแตกต่างไปจากอาชีพเดิม อย่างส้ินเชิง บางคนก็ได้พบงานใหม่ที่เหมาะกับเขาท่ีสุดโดยธรรมชาติ โดยงานอดิเรก อาจชี้ให้เขาเห็นแนวทางและอาชีพท่ีควรยึดถือ และถ้าแต่ก่อนนี้เขาเป็นคนท่ีไม่ค่อย เหมาะสมกับงานท่ีทา แตต่ อ่ มาอาจได้พบงานท่เี หมาะสมกบั เขาอย่างแทจ้ ริง มักจะปรากฏเนืองๆว่า งานอดิเรกบางอย่างน้ัน อาจเป็นหนทางในการหาเงิน ได้เมื่อต้องการ ถึงแม้ข้าพเจ้าจะไม่สนับสนุนให้คนทางานโดยเห็นแก่เงิน แต่ก็มองเห็น ว่าคนเรามีความจาเป็นจะต้องมีเงินจานวนหนึ่ง ไว้ใช้จ่ายในการดารงชีวิต และไม่ให้ เป็นภาระกบั ผ้อู ืน่

58 เบเดน โพเอล กบั ไมเ้ ทา้ ของทา่ น https://www.pinterest.com/pin/392939136214804624/ ในหนังสือโบราณ เก่ียวกับล่าสัตว์ ชื่อ จอรรอค Jorrocks มีตัวละครท่ีโด่งดัง คนหนึ่งชื่อ “จอกเกิลเบอรร่ี คราวนด้ี Jogglebury Crowdy” ที่ทางานอดิเรก โดยตัด กิ่งไม้ในป่ามาทาไม้เท้า ซึ่งก็เหมือนกับงานอดิเรกอย่างหน่ึงของข้าพเจ้าและคนอ่ืนอีก หลายคน การตัดกง่ิ ไม้มาทาไม้เท้าน้ันฟังเผนิ ๆ ก็ไม่น่าต่ืนเตน้ เท่าไหร่นัก แต่หากท่านได้ ลองทาด้วยตนเอง จะพบว่า การค้นหาก่ิงไม้เพื่อทาไม้เท้าจากต้นไม้ในป่านั้น อาจทาให้ ท่านต้องเดินเท้าเป็นระยะทางหลายไมล์ กว่าจะพบท่อนไม้สาหรับทาไม้เท้าท่ีดี สักอันหนึ่ง ซงึ่ ถา้ ทา่ นไมไ่ ดต้ ัง้ ใจเดินหาไม้มาทาไม้เทา้ การเดนิ เทา้ ดงั กลา่ วกจ็ ะเป็นเร่ือง น่าเบ่ือหน่ายอยา่ งยง่ิ และเม่อื ท่านไดก้ ่ิงไมท้ เี่ หมาะสมมาแลว้ กต็ ้องนามาดดั ยืดให้ตรง และตกแตง่ จนเป็นไม้เท้าที่ดี ซงึ่ จะสร้างความพอใจใหแ้ กท่ ่านเปน็ อันมาก ข้าพเจ้านาเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ท่านฟัง เพื่อแสดงให้เห็นว่างานอดิเรกง่ายๆท่ี ใครๆกท็ าไดน้ ้ัน อาจมสี งิ่ ดงึ ดดู ใจอยูใ่ นตัวเอง งานอดิเรกอาจนามาสู่การหารายได้ ข้าพเจ้ารู้จักเด็กหลายคนที่มีงานอดิเรก ดว้ ยการทาไม้เทา้ ซึง่ สามารถนาไปขาย หาเงินใชไ้ ดอ้ ยา่ งสุจริต

59 (36) แต่คนจานวนหนง่ึ ไดพ้ บงานอดิเรกท่ีตนถนดั และนาไปหารายได้ เงินที่ได้จาก น้าพกั นา้ แรงของตนนนั้ ย่อมนาความภมู ใิ จมาสู่ผู้รบั เงนิ ยงิ่ กวา่ เงินทไี่ ด้มาจากการพนัน ดนตรี การเขียนภาพ งานปั้น และการแสดงละคร เป็นงานอดิเรกง่ายๆ ท่ีคนในเมืองหลายคนสามารถทาได้ ดังน้ันจึงไม่จาเป็นต้องอยู่อย่างข้ีเกียจ โดยไม่ทา อะไร เมื่ออาจไปชมหอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ หรือการแสดงดนตรีเพ่ือหาความรู้และความ บนั เทงิ ได้ ข้าพเจ้าขอแนะนาให้ท่านไปชมสิ่งต่างๆ ดังกล่าว ไม่เพียงเพื่อความ สนุกสนานเพลดิ เพลินเทา่ นนั้ แต่ท่านจะตอ้ งลงมอื แสดงออก ไมใ่ ช่ไปเดินดเู ฉยๆ คาวา่ “แสดงออก” นั้น ข้าพเจา้ หมายถงึ การลงมือทางานเช่น เขียนบทกลอน ทางานช่างไม้ เล่นไวโอลิน ป้ันดิน วาดรูป สะสมแสตมป์ เงินเหรียญ ธนบัตร ฟอสซิลซากพืชและสัตว์ล้านปีท่ีอยู่ในหิน ของเก่าโบราณ แมลงชนิดต่างๆ หรือ ดอกไมใ้ บไม้แหง้ ทท่ี บั ในสมุด ท่านอาจท่องเที่ยวไปในชนบท เพื่อศึกษาธรรมชาติของ นก พืช หรือสัตว์ ต่างๆ อาจลงมือเลี้ยงไก่ ปลูกต้นไม้ผล ทาผลไม้กวน เล้ียงกระต่าย ทารองเท้าแตะ หรอื งานอดิเรกอะไรก็ไดท้ ท่ี า่ นชอบ มงี านหลายร้อยชนิดให้ท่านเลือกทาตามความพอใจ เม่ือท่านได้งานอดิเรกทีเ่ หมาะสมแล้ว ท่านก็จะได้ประโยชน์ตอบแทน ซึ่งบางทีอาจมิใช่ เปน็ เงินทอง แต่เปน็ ความพอใจท่ไี ด้เติมเต็มชีวติ ให้สมบูรณ์ 2.15 อาชีพที่เหมาะสม (Suitable Profession) เม่ือพูดถึงเรื่องเงิน สาหรับ พวกเราส่วนใหญ่แล้ว การมีรายได้ท่ีมั่นคงเป็นส่ิงจาเป็นท่ีทาให้ไม่ต้องไปขอจากคนอ่ืน นาไปสู่ชีวิตที่มีความสุขและช่วยเหลือผู้อื่น ดังน้ันแทนท่ีจะขว้างเงินสดของท่าน ทิ้งไป กับการเสี่ยงโชค โดยหวังว่าจะได้เงินเพ่ิมจากคนท่ีเสียแพ้พนัน ขอให้เราหารายได้ ทแ่ี น่นอนจากการทางานท่ีสุจริตจะดีกวา่ การที่กล่าวเช่นน้ีหมายความว่า ในข้ันต้น ท่านจะต้องเตรียมตัวสาหรับการ ทางานตลอดชีวิต มีคนหนุ่มสาวหลายคนเห็นโอกาสจะได้งานที่มีรายได้ดี หรือได้รับ

60 การกระตุ้นโดยพ่อแม่ของเขาให้ทางานนั้น โดยอาจไม่ได้มองไปท่ีปลายอีกด้าน ว่างานน้ัน จะเปน็ อย่างไรในอนาคต คนท่มี ีรายได้ดีในขั้นต้นหลายคน ประสบความลม้ เหลวภายหลัง และต้องออก จากงาน หรือเลิกล้มกิจการในช่วงสาคัญของชีวิต เมือ่ เวลาทเ่ี ขาควรจะมีตาแหน่งหน้าท่ี การงาน และมีรายได้ดีข้ึน ข้อผิดพลาดท่ีเกิดขึ้นเนืองๆ คือ เม่ือคนหนุ่มสาวพบ(37) งานที่ดี ก็รีบกระโดดเข้ารับทางานนั้นทันที โดยไม่ได้พิจารณาโดยละเอียดว่าตนเอง เหมาะสมกับงานน้ันจริงหรือไม่ ผลที่อาจเกิดข้ึนต่อมาคือ ตัวเขาหรือนายจ้างอาจจะ พบว่า เขามิใช่เป็นคนท่ีเหมาะกับงานน้ัน ทาให้เขาต้องออกจากงานเก่าแล้วคิดหางาน อื่นทาต่อไป บุคคลเช่นน้ี เป็นคนท่ีไม่เหมาะสมกับตาแหน่งหน้าท่ี ดังมีภาษิตอังกฤษ เรียกว่า “He is a square peg in a round hole” แปลว่า “เขาเป็นหมุดส่ีเหล่ียมที่ จะพยายามตอกอดั ลงไปในรกู ลม” ดังน้นั จงึ มักจะไม่ไดร้ บั ความสาเร็จกา้ วหน้า หลักสาคญั คือ ทา่ นจะตอ้ งคน้ หาวา่ ตนเองเหมาะกบั งานประเภทไหนมากทีส่ ดุ ถ้าในตอนแรกทา่ นมงี านหลายอยา่ งท่ีจะทารายได้ให้ ควรจับตาเลือกงานอาชีพที่เหมาะกับ นิสัยความสามารถและให้โอกาสดีกว่า ในขณะเดียวกันก็อย่าคิดว่างานใหม่ในอนาคตท่ี คาดน้นั จะดีกว่างานเกา่ ที่กาลงั ทาอยู่ คล้ายววั ควายท่รี อหญา้ ท่เี ขยี วกว่า ในท่งุ ถัดไป หากท่านเป็นหมุดตะปูชนิดสี่เหลี่ยม ขอให้จับตาหารูสี่เหลี่ยม และพยายาม หาทางเขา้ ไปทร่ี ูสเี่ หลยี่ มน้นั ให้ได้ “ในการติดตามรอยในการล่าสัตว์ จงหากล่ินที่ดมได้ในรูจมูกของท่าน โดยพยายามให้จมูกอยู่ติดกับพื้นดิน โดยไม่ต้องกังวลมากไปในผลสุดท้าย เพราะความ สนุกของการล่าสัตว์น้ัน อยู่ระหว่างการวิ่งติดตามสัตว์ ไม่ใช่อยู่ท่ีผลลัพธ์เส้นชัย อนั สดุ ทา้ ย” เม่ือข้าพเจ้ายังเป็นหนุ่ม ตอนท่ียังไม่มีงานทา ข้าพเจ้าถือหลักว่าจะทางาน ชิ้นแรกทีม่ ผี หู้ ยบิ ย่ืนให้ และจะทางานน้ันเรอื่ ยไปจนกว่าจะหางานอ่ืนทด่ี กี วา่ ท่านอาจใช้ ไส้เดือนเป็นเหยื่อตกกุ้งฝอย นากุ้งฝอยไปเป็นเหยื่อตกปลากะพง นาปลากะพงไปเป็น เหยอื่ จับตวั นากหรอื ตัวม้งิ ค์ แล้วนาหนังของตัวนากหรือขนม้งิ ค์ ไปทาเสอ้ื กันหนาว

61 ข้อความข้างต้นเป็นคาแนะนาของพ่อค้าผู้สร้างฐานะด้วยตนเอง ต่อลูกชาย ของเขา ซ่ึงถ้าเป็นเช่นน้ัน ความสาเร็จในการงานดังกล่าวก็คือ “การนาหนังตัวนาก หรอื ตัวมง้ิ คไ์ ปทาเสื้อกนั หนาว” ซ่งึ จะได้ผลตอบแทนไมเ่ พยี งแต่เงนิ ทไี่ ด้รบั เท่าน้ัน แต่ยัง ไดใ้ ห้บรกิ ารช่วยเหลือคนอ่นื ใหค้ ลายหนาวอีกดว้ ย และนน่ั หมายถึงมคี วามสขุ ในการดารงชีวิตของทา่ น หากท่านต้องการทาตามคาแนะนาข้างต้นและพยายามค้นหางานอาชีพที่มี รายได้ก่อนที่จะได้พบช่องทางที่ดีกว่า งานท่ีดีอย่างหน่ึง คือการสมัครเป็นทหารอากาศ เพราะไม่ใช้เวลานาน รายได้ดี และมีส่ิงน่าสนใจหลายอย่าง สิ่งที่ดีของการเป็นทหาร ก็คือ การศึกษาหลังจากเรียนจบจากโรงเรียนสามัญ เพราะท่านจะได้รับการฝึกอบรม ในเร่ืองนิสัยใจคอ ซึ่งจะทาให้ท่านสามารถประกอบอาชีพได้ดี เมื่อมีโอกาสต่อไปใน อนาคต (38) แต่ถ้าท่านชอบชีวิตท่ีเก่ียวกับการผจญภัย วิธีที่ดีที่สุดในการหาประสบการณ์ และให้มีเพื่อนมาก คือการรับราชการเป็นตารวจในท้องถิ่น ซ่ึงจะมีประโยชน์ในการหา ความรู้ มรี ายไดด้ แี ละได้ฝกึ อบรมนิสัยใจคอเช่นเดยี วกบั การเปน็ ทหาร 2.16 ความประหยัดมัธยัสถ์ (Thrift) ภายหลังสงครามโลกคร้ังที่ 1 มีนัก วิจารณ์หลายคน บ่นว่าประเทศอังกฤษเส่ือมโทรมเลวลงมาก ซึ่งข้าพเจ้าไม่ทราบว่า เป็นความจริงหรือไม่ แต่ได้ยินว่ามีอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนในกรุงลอนดอนคนหนึ่ง กล่าวว่า “เด็กปจั จุบนั มคี วามกระตือรือรน้ กว่าคนรุ่นก่อน และพัฒนาดีขน้ึ ทุกวัน น่ันคือ สัญญาณแห่งความรุ่งเรือง” ขณะนี้มีคนจานวนมากท่ีใช้เงินอย่างประหยัดและคนที่ ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมีน้อยลง ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าเร่ืองดังกล่าวเชื่อมโยงกันหรือไม่ แต่มันเป็น ความจริง ขา้ พเจา้ ขอแนะนาวา่ การฝกึ ความประหยัดมัธยัสถ์ ด้วยการยับย้ังช่ังใจตัวเอง จะทาให้ทา่ นมีบุคลิกลักษณะดขี ้ึน และบางคร้งั จะได้รบั สิ่งอื่น คอื ไดร้ ับเงนิ ด้วย

62 ข้าพเจ้าไม่เคยแนะนาให้คนอื่นทาอะไรในส่ิงที่ข้าพเจ้าจะไม่ทาด้วยตัวเอง ในช่วงชีวิตท่ีผ่านมาข้าพเจ้าเคยทาสิ่งที่ประหยัด มัธยัสถ์มาบ้าง ซึ่งข้าพเจ้าขอแนะนา ทา่ นดังต่อไปน้ี ข้าพเจ้าเป็นลูกคนที่เจ็ด ในครอบครัวสิบคน พ่อของข้าพเจ้าเป็นนักสอน ศาสนาคริสต์ท่ีเสียชีวิต เมื่อข้าพเจ้าอายุสามขวบ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่ได้รับการเล้ียงดู ในสิง่ ทท่ี า่ นอาจเรยี กความร่ารวย และเม่ือข้าพเจ้าเข้ารับราชการเป็นทหารก็ต้องใช้ชีวิต โดยอาศยั เพยี งเงนิ เดือนทนี่ ้อยมาก ระยะนั้น เป็นช่วงของการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยบางวันก็ไม่ได้กินอาหารเช้า หรอื อาหารเทย่ี ง ไมส่ บู บุหรี่ ไมม่ ีเหลา้ ตอ้ งหารายได้พิเศษนอกเวลาราชการ ด้วยการ เขยี นรปู และบทความ ข้าพเจ้าตอ้ งทางานหนกั แตก่ ็สนุกกับการต่อสู้ จนผ่านชีวิตข้ันต้น มาได้ ดว้ ยการมีโชคดที ่ีเกดิ จากการกระทาของตนเอง ส่ิงท่ีเรียกกันทั่วไปว่า “โชคดี” น้ัน ส่วนใหญ่เกิดจากความสามารถในการ เหน็ โอกาส กระโจนเข้าใส่ แล้วไขวค่ วา้ เอามา มคี นจานวนไม่น้อย ที่นั่งน่ิงคอยนอนคอย อย่เู ฉยๆ แล้วหวงั รอให้ “โชคดี”ว่ิงมาหาตน แล้วเอาแต่บ่นคร่าครวญ ว่า “โชคดี” น้ัน ไม่ค่อย (38) ลอยหรือว่ิงเข้ามาถึงเขาเลย เร่ืองท่ีแปลกคือ ข้าพเจ้าได้เล่ือนยศเร็วกว่า ที่ต้องการ ตัวข้าพเจ้าเองนั้น ไม่มีความทะเยอทะยานท่ีจะทาอะไรมากกว่าที่จะเลี้ยง ตัวเอง โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากครอบครัว แต่ถ้าข้าพเจ้าสามารถช่วยเหลือ ครอบครัวได้ ก็จะดีข้ึนไปอีก ข้าพเจ้าชอบงานท่ีทาอยู่ด้วยความสุขใจท่ามกลางคน และมา้ แม้เม่อื ไดเ้ ลื่อนยศ ตาแหน่ง เงนิ เดอื นที่สูงข้ึนและมีอนาคตอันแจ่มใส ข้าพเจ้า ก็ไม่ได้รู้สึกยินดีอะไรมากนัก เคยถามนายว่าจะไม่ขอรับการเลื่อนตาแหน่งได้ไหม ท่าน หัวเราะแล้วตอบว่าเป็นไปไม่ได้ ดังน้ันข้าพเจ้าจึงจาต้องไปรับตาแหน่งใหม่ โดยขอบคุณการฝกึ มธั ยสั ถต์ ้งั แต่ตน้ มา เมื่อสองสามวันมาน้ี ข้าพเจ้ารู้สึกขบขันเม่ือได้ตรวจสมุดบันทึกประจาวัน ในระยะแรกเก่ียวกับการเดินทางไปตามที่ต่างๆและเย่ียมเพื่อนฝูง ที่ได้ทาบัญชี

63 การจ่ายเงินต่างๆ ไว้อย่างละเอียด ข้าพเจ้าสามารถรับรองถึงความจริงของภาษิต องั กฤษทวี่ ่า “จงระวงั เศษเงินเอาไว้ แล้วเงินปอนดจ์ ะรักษาตวั ของมันเอง” (Take care of the penny and the pounds will take care of themselves) เกย่ี วกบั เรอ่ื งความประหยัดน้ี ข้าพเจ้าไม่เพียงจะช่วยตัวเองเท่านั้น แต่ยังชัก นาให้ทหารใต้บังคับบัญชาของข้าพเจ้าปฏิบัติตามด้วย ทาให้ร้านค้าในกรมทหาร ได้กาไรน้อยลง แต่พวกทหารมีเงินในธนาคารเพิ่มขึ้น ท้ังยังมีสุขภาพกายและใจดีขึ้น ดว้ ย โดยเม่ือถึงเวลาออกจากการเป็นทหาร ต่างก็มีเงินเหลือในมือพอที่จะเร่ิมต้นธุรกิจ หรือดารงชีวิตตอ่ ไปไดด้ พี อควร สาหรับท่านที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ขอให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน ถ้าท่านไม่มีเงิน จงหาเงินด้วยความสุจริตด้วยวิธีใดวิธีหน่ึง และสะสมไว้ เพราะอาจมีความจาเป็นต้อง ใช้เงินในวันข้างหน้า โดยไม่ควรจะคอยอาศัยผู้อ่ืน ปรากฏว่ามีคนมากมายที่ลืมนึกถึง เรื่องน้ี และตอ้ งเดอื ดรอ้ นภายหลงั เพราะละเลยเรอื่ งความมัธยัสถ์ ถ้าท่านมีเงินอยู่บ้างแล้ว ไม่ควรใช้เงินนั้นอย่างฟุ่มเฟือย ถ้าจาเป็นต้องใช้บ้าง ก็จงคิดใช้ มิใช่เพียงเพื่อความสนุกสนานของตนเองเท่านั้น แต่ควรคิดท่ีจะใช้เพื่อ อนุเคราะห์ผอู้ น่ื บา้ ง มีส่ิงหนึ่งท่ีไม่ควรกระทาหากท่านร่ารวยมีเงินมาก คือไม่ควรใช้เงินซ้ือส่ิง ฟุ่มเฟอื ยสาหรบั ตนเอง เม่อื ยงั มีคนรอบตัวทยี่ ังขาดแคลนส่ิงจาเป็นพื้นฐานของชวี ิต (39) เมื่อพูดถึงความประหยัดมัธยัสถ์ ข้าพเจ้าไม่ได้หมายความถึงความตระหน่ี ข้ีเหนียว เก็บเงินไว้ไม่ยอมใช้จ่าย แต่จงใช้จ่ายเงินตามความจาเป็น เพ่ือใช้ส่วนตัว แลว้ จา่ ยเงินอย่างใจกว้างเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผ้อู ืน่ สาหรับตัวข้าพเจ้าเองน้ัน ข้าพเจ้าทาตัวเหมือนกับพวกเพื่อนๆ ด้วยการ ล่าสัตว์ และเล่นโปโล ข้าพเจ้าชอบการขี่ม้าล่าหมูป่า และการล่าสัตว์ใหญ่ในป่า แต่ขา้ พเจ้าไม่ใช้ม้าชัน้ ดีราคาแพงเพอ่ื การน้ี โดยจะซอื้ ม้าใหม่ท่ียังไม่ได้รับการฝึกหัดท่ีมี ราคาถูก แล้วนาม้าใหม่มาฝึกด้วยตนเอง คนบางคนนิยมซ้ือสิ่งของต่างๆท่ีมีย่ีห้อดี

64 แบรนด์เนม ราคาแพง แตบ่ างคนก็ไมซ่ ื้อ บางคนอาจซ้ือเสอ้ื คลุมกนั หนาวตัวใหมเ่ มอื่ เสอ้ื ตัวเดิมเก่าหรือสกปรกไปบ้าง แต่อีกคนกลับเอาผ้าข้างในมาไว้เป็นข้างนอกแล้วใช้เส้ือ ตัวนั้นป้องกันความหนาวเย็นต่อไปได้อีกหลายปี ท่านอาจใช้เงินจานวนน้อยให้มี ความสุขในการดาเนินชีวิต เท่าเทียมกับคนท่ีใช้เงินมาก การกระทาดังกล่าวเป็นการ ผจญภัยอย่างหน่ึง สาหรับผู้มีใจเป็นนักกีฬา ท่ีมหาเศรษฐีท่ีน่าสงสารอาจไม่มีโอกาส ทาตามได้ 2.17 จงฉวยโอกาสของท่าน (Seize your Opportunity) เม่ือไม่นานมาน้ี ทหารท่ีเคยอยู่ในกรมทหารของข้าพเจ้าคนหน่ึง ได้มาหาแล้วบ่นว่ากาลังเดือดร้อน เขาบอกว่าได้รับใช้ชาติอย่างซ่ือสัตย์มาตลอดสิบปีในช่วงท่ีดีที่สุดในชีวิตของเขา และ ไม่ได้รับส่ิงตอบแทนท่ีเหมาะสม ต้องกลายเป็นคนว่างงาน เพราะไม่เคยได้รับการ ฝึกอบรมเรื่องการค้าขายระหว่างเป็นทหาร พ่ีชายของเขาท่ีแคนาดายินดีท่ีจะรับเป็น หุ้นส่วน หากเขาไปที่นั่น แต่เขาคิดไม่ถูกว่าควรออกจากอังกฤษแบบคนถูกเนรเทศ หรือไม่ เพราะเขาได้เคยรับใช้ประเทศอังกฤษด้วยการเป็นทหารมาแล้ว และไม่มีเงินติด ตัวไปแคนาดา ข้าพเจ้าถามเขาว่าเก็บเงินได้มากแค่ไหนระหว่างเป็นทหาร เขาย้ิมอย่าง แดกดันและพูดว่า “ทหารยศต่าๆอย่างผมจะเก็บเงินอะไรได้” แต่ข้าพเจ้าน้ัน มีประสบการณ์ว่า เมื่อทหารใต้บังคับบัญชาของข้าพเจ้าออกจากการเป็นทหารน้ัน ส่วนใหญจ่ ะมเี งินเกบ็ จานวนหนึ่งในธนาคาร ดังน้ันข้าพเจ้าจึงตอบไปว่า “ระหว่างเป็น ทหาร ได้รับอาหาร เสื้อผ้า การรักษาพยาบาล ท่ีพัก ไฟฟ้า น้าประปา ฟรีทุกอย่าง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ดังนั้นตลอดสิบปีท่ีผ่านมา ทหารทุกคนควรจะเก็บเงินได้มาก พอสมควร” (40) “ถึงแม้จะด่ืมเบียร สูบบุหร่ี หรือไปดูหนังดูละครบ้าง ก็ควรจะมีเงินเหลือ พอทีจ่ ะไปต้งั ตวั ในแคนาดาได้ แคนาดาไม่ใช่พน้ื ทีส่ าหรับคนถกู เนรเทศ แตเ่ ป็นดนิ แดน ท่มี ีอนาคตแจม่ ใส” แต่ชายผู้นน้ั เปน็ คนหน่งึ ทีไ่ ม่ได้ใชโ้ อกาสทดี่ ี เมอ่ื ตนได้รบั

65 คติธรรม คาคม ของเรื่องน้ีคือ “จงลงมือตากหญ้าทาหญ้าแห้งทุกครั้งท่ีมี แสงแดด อย่ารอโอกาสให้จะมีแดดในภายหลัง เพราะท้องฟ้าอาจมีเมฆปกคลุม และ อาจมีฝนตกลงมา” (Make hay whenever your sun shines; don’t wait for it to shine later on; clouds may get worse and rainy times may set in) หรือ “อย่ามัวเล่นกับช้อนยาก่อนท่ีจะกินยา” (Don’t play with the spoon before taking your medicine) “ส่ิงที่ง่ายน้ัน หากทิ้งไว้จะทาให้ยาก ส่วนส่ิงที่ยากน้ันหาก ท้ิงไว้ อาจทาให้กลายเป็นเรื่องที่ทาไม่ได้” (Putting off an easy thing makes it hard; putting off a hard one makes it impossible) บางคนอาจต้ังคาถามว่า “ทาไมจึงต้องประหยัด? จะเก็บเงินไว้ทาไม ?” ขอตอบว่า “สักวันท่านอาจเห็นช่องทางการทามาหากินที่ดีขึ้น หากสามารถเดินทาง ไปต่างประเทศ หรือมีเงินทุนเล็กน้อยในการประกอบธุรกิจของท่านเอง แต่ส่ิงท่ีจะ เกดิ ขน้ึ แนน่ อนกค็ ือ วนั หนง่ึ ทา่ นจะอยากแตง่ งาน ท่านจะต้องคิดถึงการหาบ้านสาหรับ ภรรยา แตม่ บี างอย่างท่ีคนท่วั ไปมกั จะลืม คือ ทา่ นจะมีลกู นอ้ ยตามออกมา ถา้ ทา่ นไมม่ ี มีเงนิ ที่จะเลย้ี งดลู กู ได้ดพี อควร กเ็ ทา่ กับทา่ นเปน็ ผูล้ งโทษเดก็ ที่ทา่ นเป็นผทู้ าใหเ้ กิดมา” 2.18 วิธีสะสมเงินทาได้อย่างไร? (How to Save up) ธนาคารเป็นที่รับฝาก เงินของท่าน พนักงานธนาคารจะให้สมุดฝากเงินแก่ท่านเล่มหนึ่ง แสดงจานวนเงินที่ ท่านฝากและถอนแต่ละคราว เงินจานวนนี้จะมีดอกเบี้ยทาให้เงินของท่านเพ่ิมขึ้น เล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไป อีกวิธหี น่ึงคอื ซอ้ื พนั ธบัตร หรือกองทุน ท่ีธนาคารต่างๆ ซ่ึงมักจะให้ดอกเบี้ย หรือเงนิ ปนั ผล ตามเงินลงทุนของท่าน และยังมีอีกวิธีหนึ่งท่ีมีคนนิยม คือสมัครเข้าเป็น สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ แล้วเอาเงินไปฝากไว้ โดยจะได้ดอกเบ้ียมากกว่าการฝาก ธนาคาร แต่วธิ ีหลังนี้มีความเสีย่ งสูง หากผ้จู ัดการหรือเจ้าหน้าท่ีของสหกรณ์ออมทรัพย์ ทจุ รติ ยักยอกเงนิ ลงทุนของท่านไป (41) ถ้าท่านมีเงินมากข้ึน อาจนาเงินไปซ้ือหุ้นของบริษัทต่างๆ ซึ่งอาจได้ส่วน แบง่ เปน็ เงินปันผลท่มี ากกว่าดอกเบย้ี ธนาคาร แต่มคี วามเส่ียงต่อมูลค่าหุ้นท่ีอาจเพิ่มข้ึน

66 หรือลดลงตามผลประกอบการของบริษัท หากท่านจะลงทุนด้วยวิธีนี้ควรขอคาแนะนา จากผเู้ ช่ียวชาญ เพราะอาจทาใหท้ า่ นรา่ รวยหรอื ยากจนจนหมดตวั ได้ การฝากเงินแบบประจากับธนาคารที่ม่ันคง เป็นทางท่ีปลอดภัยในการสะสม เงินมากกว่า แม้จะไดผ้ ลประโยชน์น้อยกว่าวิธีอ่ืนกต็ าม 2.19 ลักษณะนิสัยที่ดีสาหรับงานอาชีพ (Character for Career) ข้าพเจ้า ได้เคยเขยี นใบรบั รองความประพฤติให้แก่ชายคนหนึ่ง สาหรับสมัครเข้าทางาน โดยได้ เขียนสมบัติของเขาอยา่ งย่อดังนี้ “มีความสามารถ มีพลังเข้มแข็ง เช่ือถือได้ มีไหวพริบ รู้จักวิธีแก้ปัญหา มีศิลปในการเป็นผู้นา มีจิตใจร่าเริง หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ทาให้คนรอบข้างปฏิบัติ ตามไปดว้ ย เขามีค่าคุม้ ค่าจ้างเม่อื ประสบสถานการณ์ยุง่ ยาก” มีความสามารถ (Capable) หมายถึงมีความเช่ียวชาญ และประสิทธิภาพ ในการทางาน มีพลังเข้มแข็ง ( Energetic) หมายถึงความกระตือรือร้นและ กระปรี้กระเปร่า เช่ือถือได้ (Reliable) หมายถึงความสุขุมเยือกเย็น รักษาเวลา ซ่ือสัตย์สุจริต ไว้วางใจได้ท้ังด้านการเงินและงานสาคัญ ซ่ือตรงต่อผู้บังคับบัญชาและ ผู้ใต้บังคับบัญชา และจะทางานอย่างรับผิดชอบ ไม่ว่าจะมีคนคอยควบคุมหรือไม่ มีไหวพริบ รู้จกั วธิ ีแกป้ ญั หา (Resourceful) หมายถึง การหาทางปฏิบัติงานไม่ว่าจะมี ข้อยุ่งยากปานใด มีศิลปการเป็นผู้นา (Tactful Leader of men) หมายถึงการเป็น ผู้นา มิใช่ผู้บังคับให้คนอื่นทาตาม รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา มีความเมตตากรุณา น้าใจ ไมตรี ย้ิมแย้มแจ่มใส ร่าเริง และทาให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม (Laugh, Cheerfully and make others do the same) เป็นสมบัติสาคญั ท่ีดี มีคณุ คา่ ย่งิ ของตัวเขา คุณสมบัติท่ีกล่าวมาข้างต้น เป็นสิ่งท่ีนายจ้างส่วนใหญ่ต้องการ ข้อสาคัญก็คือ ท่านมีคุณสมบัติดังกล่าวหรือไม่ ถ้าข้อใดยังไม่มี ก็จงแสวงหาเอาไว้ แล้วท่านจะมี โอกาสไดร้ บั ตาแหน่งท่ดี ี ในงานทีเ่ หมาะกับท่าน

67 (42) 2.20 ความรับผิดชอบ (Responsibility) ช่วงเวลาที่ข้าพเจ้าเป็นทหารหนุ่ม ท่ไี มต่ อ้ งมีความรบั ผดิ ชอบมากนกั วันหนึ่งผบู้ งั คับการกรมทหารเรียกไปพบแล้วบอกว่า จะแต่งตั้งให้เป็นเสนาธิการกรมทหาร ข้าพเจ้าตกใจมาก เพราะเสนาธิการ คือผู้ดูแล สวสั ดิการความเป็นอย่ขู องทหารทัง้ กรม ซึง่ เป็นตาแหน่งท่รี งุ่ โรจน์ แตถ่ ้าลม้ เหลวล่ะ? ขา้ พเจ้าไม่กลา้ รับงานในตาแหน่งใหม่ แต่ผู้บังคับการพูดง่ายๆว่า ท่านไว้ใจให้ข้าพเจ้าทานี้ และต่อมาอีกไม่กี่นาที ข้าพเจ้าก็มีชีวิตเปลี่ยนไปกลายเป็นคนท่ีมีความรับผิดชอบสูง แทนที่จะเป็นเด็กข้ีแย ไร้มารยาท ทไี่ ม่มจี ุดมุ่งหมายพเิ ศษ นอกเหนือจากการหาความเพลดิ เพลนิ กับตัวเอง ขา้ พเจา้ พบวา่ ตัวเองมีมุมมองใหม่ ทีจ่ ะต้องลงมือทาอย่างจริงจัง โดยมองเห็น ภาพถึงงานสาคัญ ท่ีอาจทาเพื่อให้ทหารทั้งกรม มีความเป็นอยู่ดีขึ้น และมีช่ือเสียง ในทางที่ดี ข้าพเจ้าได้ทุ่มกาลังเข้าสู่งาน ชนิดไม่ยอมถอย การพบกับผู้บังคับการ ช่วงเวลาสั้นๆ ในครั้งนั้น ได้เป็นจุดเริ่มต้นแม้จริงในการปฏิบัติงานอาชีพของข้าพเจ้า และจากบทเรียนในความรับผิดชอบคราวนั้นเอง ข้าพเจ้าจึงสามารถก้าวไปสู่ระดับ ท่สี ูงขน้ึ และความรบั ผิดชอบท่ีย่ิงใหญข่ นึ้ อีกตามลาดบั หากท่านหวังจะทาสร้างความเจริญก้าวหน้าในอาชีพให้กับตัวเอง ท่าน จะต้องมีความรับผดิ ชอบ “ความรับผิดชอบนั้น จาเป็นต้องมีความม่ันใจในตัวเอง มีความรู้เก่ียวกับ งานและฝกึ ฝน ในการใชค้ วามรบั ผดิ ชอบในทางปฏิบัติ” ความจริงน้ีเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจน ในกองทัพเรือ โดยเริ่มต้นการฝึกหัด ตัง้ แตเ่ ป็นทหารเรือช้นั ผู้นอ้ ย แมแ้ ตเ่ จ้าหน้าทีช่ น้ั ต่าทสี่ ุด กย็ งั ไดร้ ับมอบหมายให้มีความ รับผิดชอบในการดูแลเรือและลูกเรือส่วนต่างๆ โดยจะต้องได้รับทั้งคาตาหนิหรือคา ชมเชยท้งั หมดในการปฏิบตั งิ าน

68 ในหมลู่ กู เสอื กเ็ ชน่ เดยี วกัน นายหมู่ มหี นา้ ที่ดแู ลรบั ผดิ ชอบเก่ียวกับการทางาน และความประพฤติของลูกเสือทุกคนในหมู่ของเขา ดังท่ีได้ชี้แจงไว้ในบทสุดท้ายของ หนงั สอื เลม่ นี้ เกี่ยวกับความนับผดิ ชอบของลูกเสอื วิสามัญ หรือ โรเวอร์ เมอื่ ทา่ นคุ้นเคยเรื่องความรับผิดชอบ ต้ังแต่เริ่มฝึกฝนต้ังแต่ขั้นต้นจนไปถึงข้ันสูง ได้แล้ว ก็จะทาให้ท่านเป็นผู้ใหญ่ท่ีมีบุคลิกและความสามารถอันเข้มแข็ง พร้อมที่(43) จะก้าวขึ้นบันไดขั้นที่สูงข้ึนต่อไปในอาชีพของท่าน และเสริมสร้างอิทธิพลบารมีในทางท่ีดี ของทา่ นกบั ผู้อื่นดว้ ย 2.21 อิมหะลาลา–แพนซี (Imhlala-Panzi) จอมพลฟอช (General Foch) นักรบผู้ยิ่งใหญ่ของฝร่ังเศสกล่าวว่า เมื่อท่านมีงานใดๆ ที่ต้องดาเนินการ จงพิจารณา อยา่ งรอบคอบระมัดระวังในหัวขอ้ ต่อไปน้ี 1. พจิ ารณาดูใหเ้ ขา้ ใจเป้าหมายอย่างแจม่ ชัดวา่ ท่านได้รับมอบหมายให้ทา อะไร? อะไรคือส่งิ ทต่ี ้องการจากทา่ น? หรอื ทา่ นตอ้ งการอะไรใหเ้ กิดข้ึนเป็นผลสาเรจ็ ? 2. วางแผนวธิ กี าร ทจี่ ะทาใหส้ ่ิงนนั้ เกิดขน้ึ ตามความมุ่งหมาย 3. หาเหตผุ ลที่ดี สาหรบั ประกอบสนับสนนุ แผนการท่วี างไว้ 4. ดาเนินการใหส้ อดคลอ้ งกบั วัสดอุ ปุ กรณท์ ที่ า่ นมี 5. มีความต้ังใจเจตจานงอันแน่วแน่เด็ดเด่ียว ที่จะนาพาการปฏิบัติงาน กจิ กรรมใหป้ ระสบความสาเร็จตอนสดุ ทา้ ย ” ข้าพเจ้ารู้ว่าจอมพลพูดถูก โดยตัวข้าพเจ้าเองน้ัน ก็มีวิธีการวางแผนงานลง จนถึงรายละเอยี ด แม้กระทัง่ ในสิ่งเลก็ น้อยทีไ่ มส่ าคญั มากนัก

69 สาหรับงานท่ียากลาบากนัน้ จงกาหนดเปา้ หมายอย่างระมัดระวัง หมายเหตุ : ปุ่มตา่ งๆทีเ่ หน็ ในน้าอยใู่ นรปู คือหัวของฮโิ ปโปเตมัส ข้าพเจ้าได้รับการตั้งช่ือฉายาจากพวกคนป่าเผ่าซูลูในแอฟริกา ว่า“อิมหะ ลาลา-แพนซี Imhlala ‐ panzi”แปลว่า \"คนนอนซุ่มยิง\" ซึ่งหมายถึงคนที่ระมัดระวัง ในการนอนเล็งปืนไปยังเป้าหมายให้ตรงเป้าท่ีสุดเท่าท่ีจะทาได้ ก่อนที่จะยิงกระสุนปืน แตล่ ะนัด ซึง่ เป็นวิธที ่ีหวังผลเตม็ ท่แี น่นอนจากการยิงกระสนุ ปนื ทุกนัด ขอให้ท่านถือเอาหลัก “อิมหะลาลา แพนซี” เป็นคาขวญั ประจาใจ บางครง้ั ท่านอาจต้องเสี่ยงภัยบ้าง ถ้าต้องการความสาเร็จ จงสู้ในภาวะเสี่ยง ภัย โดยไม่หลีกเลี่ยงหลบหนีเมื่อเกิดความจาเป็น แต่อย่าสู้แบบหลับตาเปะปะ จงลืมตา ของทา่ นไว้มองดูคตู่ ่อสู้ เมื่อพูดถึงเร่ืองน้ี ข้าพเจ้าเคยออกไปลาดตระเวนในแอฟริกากับเพ่ือนทหาร คนหน่ึง เพอ่ื คน้ หาตาแหน่งของขา้ ศึกที่ มาตานาเบแ้ ลนด์ (Matabeleland) เราสามารถแอบลักลอบ ผ่านด่านยามรักษาการณ์ของข้าศึกเข้าไปได้ในตอน กลางคนื และเขา้ ไปอยู่ดา้ นหลังของยามไดใ้ นตอนรงุ่ สาง ขณะท่ีเรากาลังซ่อนตัวหลบหลีกเพ่ือแอบหาข่าวที่ตั้งของข้าศึก เราได้พบ สิงโตใหญ่ที่ย่ัวยวนใจตัวหน่ึง ทาให้ข้าพเจ้าซึ่งชอบล่าสิงโต ตื่นเต้นมาก เราทั้งสองลง

70 จากหลังม้าโดยไม่เกรงกลัวว่าข้าศึกจะรู้ว่าเราอยู่ท่ีไหน แล้วลั่นไกปืนถูกเข้าท่ีขาหลัง ของสงิ โตจนลม้ ลง ตอนนัน้ สงิ โตใหญต่ วั ใหญย่ งั ไม่ตาย แตบ่ าดเจบ็ จนวง่ิ ไม่ได้ (44) สิงโตลุกขึ้นยืน หมุนตัวไปรอบๆ แผดเสียงร้องคารามลั่นป่า และมองหาเราทุก ทิศทาง เราไม่อยากใช้ปืนยิงรัวซ้า เพราะเกรงว่าจะทาให้หนังสิงโตหมดความสวยงาม และข้าศึกอาจตามเสียงปืนมาพบ ข้าพเจ้าจึงแอบเดินเลี่ยงไปตามทางธารน้าที่แห้ง เพื่อจะได้ใกล้สิงโตเข้าไปอีก ส่วนเพื่อนของข้าพเจ้าคอยอยู่ที่ริมฝั่ง โดยมีปื น เตรียมพรอ้ มทีจ่ ะยงิ สงิ โตหากขา้ พเจ้าถกู ทาร้าย พอเข้าไปใกลเ้ จา้ สิงโตท่ีบาดเจ็บ มันก็ หนั หนา้ มา อ้าปาก แยกเข้ียว ดวงตาแทบจะปิดด้วยความโกรธ ข้าพเจ้าใช้ปืนไรเฟิลยิง เข้าไปตรงคอ ทาให้สิงโตตวั นัน้ ถึงความตายทนั ที เนื่องมีความเสี่ยงต่อการถูกค้นพบโดยข้าศึก เราจึงคอยแอบเฝ้ามองดู เหตกุ ารณอ์ ีกสกั พกั แลว้ ชว่ ยกันถลกหนังสิงโตตัวใหญ่และมีเนื้อเหนียว ด้วยมีดล่าสัตว์ โดยไม่มีถุงมือ ขณะที่คนหนึ่งชาแหละหนัง อีกคนหนึ่งก็ต้องคอยดูข้าศึกทุกทิศทาง เพราะมคี วามรู้สกึ ว่ามคี นแอบจอ้ งมองเราอยู่ตลอดเวลา วันน้ัน เราโชคดี เพราะพอชาแหละหนังสิงโตเสร็จ ข้าศึกก็ค้นพบเรา แต่มี เวลาท่ีจะเกบ็ หนงั สิงโตมดั ห่อขนึ้ หลังมา้ กอ่ นที่ขา้ ศกึ จะเขา้ มาถงึ ตวั (45) 2.22 วิธเี ตรยี มความพรอ้ มสาหรบั งานอาชพี (How to Prepare for a Career) ครั้งหนึ่ง มีการจัดทาแผนเตรียมการว่า คนหนุ่มสาวควรจะศึกษาด้วยตัวเอง อย่างไร ในการหาความรู้เพ่ือการประกอบอาชีพในอนาคต โดยได้เขียนประเด็นหลักท่ี ควรทาไว้ในแผนภูมิ ภาคที่ 1 ในหัวขอ้ ตอ่ ไป ขา้ พเจา้ ได้ถูกขอรอ้ งให้วิเคราะหอ์ อกความเหน็ ในเรอ่ื งน้ี ดงั น้ันข้าพเจ้าจึงเพ่ิม แผนภูมิข้ึนอกี อันหนึ่ง เปน็ ภาคที่ 2 ของแผนภูมดิ ังกลา่ ว เก่ยี วกับภาคท่ี 1 คุณสมบัติที่แสดงไว้ รวมกันเข้า เรียกว่า ลักษณะนิสัยอันดี (Character) เมื่อลักษณะนิสัยอันดีรวมกับ ประสิทธิภาพ (efficiency) หรือทักษะ

71 (Skill) หรือความเชี่ยวชาญ จะช่วยให้ท่านประสบความสาเร็จในอาชีพการงาน แต่ ข้าพเจ้าใคร่ขอเน้นถงึ พลังงาน (Energy) และ ความอดทน (Patience) พลังงานส่วนหน่ึงมาจากสุขภาพร่างกายที่ดี แต่ส่วนใหญ่มาจากความสนใจ อันแท้จริงในงานของท่าน คนบางคนดูเหมือนจะไม่สนใจงานของพวกเขา เพราะดู เหมือนว่าจะมีข้อจากัดมากและดาเนินไปอย่างซ้าซากจาเจ ในกรณีดังกล่าวนั้น เขาจะ รู้สึกสบายใจข้ึนหากเขาจะมองไปรอบตัว และเห็นว่าส่วนไหนท่ีเข้ากันได้กับการทางาน ทั้งหมดท่ีสาเร็จลงแล้ว และถ้ามองไปให้ไกลออกไปอีก และได้เห็นคุณค่าสูงสุดท่ีจะมี เมื่อได้นาไปใช้งานนอกกาแพงโรงงาน หรือสานักงาน คนงานที่ดีที่สุด และผู้ท่ีดาเนิน ชีวิตอย่างมีความสุขท่ีสุด จะมองว่างานของพวกเขาเป็นเหมือนเกมกีฬา ท่ีย่ิงเล่น ยากเย็นมากเท่าไหร่ก็ย่ิงสนุกสนานมากขน้ึ เท่านน้ั ภาคท่ี 1 วิธีดารงชีวิต (How to Live) 1. ความสขุ ท่ีแทจ้ ริง (Happiness) 1.1 โดยอาศัยอุดมคตอิ นั สงู สง่ (Through higher Ideals) 1.1.1 ความรตู้ ่างๆ เกยี่ วกับธรรมชาติ 1.1.1.1 ความมหศั จรรย์ของธรรมชาติ 1.1.1.2 ความสานึกถงึ ธรรมชาติ หรือพระ ผูส้ รา้ งโลก 1.1.1.3 ความงามตามธรรมชาติ 1.2 โดยอาศยั บรกิ าร (Through Service) 1.2.1 การเสียสละตนเองเพือ่ ผอู้ ื่น 1.2.1.1 การพฒั นาความรกั ในธรรมชาติ หรอื พระเจ้า ซงึ่ อยู่ในตนเอง

72 ภาคท่ี 2 วธิ หี าเลี้ยงชพี (How to make a Living) 2.1 คณุ สมบตั ทิ างศลี ธรรม (Moral Qualities) 2.1.1 พลังงาน (Energy) 2.1.1.1งานทที่ าแล้ว 2.1.2 สขุ ภาพ รปู ร่างท่าทาง (Health and Apperance) 2.1.2.1 การนอนหลับ 2.1.2.2 การบรหิ ารรา่ งกาย 2.1.2.3 การแต่งกาย 2.1.2.4 การละเวน้ ของมนึ เมา 2.1.3 ความอตุ สาหะ (Presererance) 2.1.3.1 ยึดแนน่ ไมท่ ิ้งงาน 2.1.3.2 พยายามทาอีก 2.2 คณุ สมบัตทิ างธุรกจิ (Business Qualities) 2.2.1 ความอดทน (Patience) 2.2.1.1 ต่อความผดิ พลาดของผอู้ ่นื 2.2.2 การสังเกต (Observation) 2.2.2.1 ตา 2.2.2.2 หู 2.2.3 การรูจ้ กั กาลเทศะ (Tact) 2.2.3.1 กลา่ วเรอ่ื งที่ถกู ต้องตามกาลเวลา

73 2.2.4 การสารวมความคิดและความกระตอื รอื ร้น (Concentration and Enthusiasm) 2.2.4.1 ทางานทีละอยา่ งโดยทาใหด้ ี 2.3 คณุ สมบตั สิ ว่ นบุคคล (Personel Qualities) 2.3.1 ความจา (Memory) 2.3.1.1 ทาบัญชสี ่งิ ตา่ งๆทส่ี าคญั 2.3.2 ความรู้ (Knowlwdge) 2.3.2.1 ร้จู กั ตนเอง 2.3.2.2 รูจ้ กั งาน 2.3.3 เกยี รต(ิ Honour) 2.3.3.1 นา้ ใสใจจริงและความสจุ ริต จงแนใ่ จวา่ งานทีท่ า่ นทาอยู่น้ันเป็นงานท่ีทา่ นสามารถทาได้ โดยไดร้ ับการฝกึ อบรมมากอ่ น

74 นกั เขยี นชาวอังกฤษคนสาคญั ชอื่ เอช จี เวลส์ (H. G. Wells) เคยกลา่ วไว้ว่า “ฉันสังเกตเห็นว่าผู้ที่ได้รับยกย่องให้เป็นผู้ย่ิงใหญ่น้ัน ในส่วนลึกของหัวใจ ยังคงเป็น เด็กอยู่ คือเป็นเด็กในเร่ืองความกระตือรือร้นในการทางาน เขาทางานเหมือนเด็กเล่น ของเล่น ทางานเพราะชอบทา ดังน้ัน งานของเขาท่ีแท้จริง คือการเล่นอย่างหนึ่งของเขา “เด็กน้ันจะมิใช่เพียงแต่จะเติบโตขึ้นเป็นพ่อแม่คนเท่านั้น แต่เขาคือคนท่ีจะเป็นผู้ใหญ่ โดยมิได้สญู หายไปไหนเลย” “The boy is not only the father to the man, but he is the man and does not disappear at all” หรือพูดอีกอย่างหน่ึงได้ว่า “การเล่นคือการชอบทาสิ่งของ ส่วนการทางานก็คือการต้องลงมือทาส่ิงของ”(Play is LOVING to do things, and work is HAVING to do things) 2.23 การทาตนให้เป็นคนที่ขาดไม่ได้ (Indispensability) ข้าพเจ้าเคยถูกถาม ว่าทาไมจึงยกย่องชื่นชมคนรับใช้ชาวอินเดียคนหนึ่งของข้าพเจ้าอย่างมาก เหตุผล ในเร่ืองนี้ค่อนข้างอธิบายง่าย เพราะเขาให้ความสาคัญแก่นายเป็นอันดับแรก และ ตนเองเป็นอันดับที่สอง โดยบางทีก็ไม่ได้คิดถึงตนเองเลย คุณความดีของเขาคือ ซ่ือสัตย์จงรักภักดี ไว้วางใจได้ พร้อมเสมอสาหรับงานทุกอย่าง ไม่พูดมาก และสู้งานหนัก เขาเป็นทรัพยส์ มบัตอิ นั ลา้ คา่ คนที่มีคุณสมบัติพิเศษดงั กลา่ ว ไม่ไดห้ ายากนัก ในประเทศ อนิ เดีย แต่ในประเทศอืน่ น้ันอาจหาคนแบบน้ไี ดไ้ ม่งา่ ยนัก (46) เขาอาจไม่รู้ตัวว่าเขาเป็นคนท่ีข้าพเจ้าขาดไม่ได้ ข้าพเจ้าอยากบอกกับท่านได้ว่า ถ้าท่านทาให้ตนเองเป็นคนท่ีขาดไม่ได้ของนายจ้าง เขาจะไม่ปล่อยให้ท่านลาออกไป โดยง่าย แมว้ า่ วา่ จะต้องเสยี คา่ ใช้จา่ ยเพม่ิ มากเท่าใดก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปในรายการในแผนภูมิ 1 และ 2 ก่อนหน้านี้ คือความ รวดเร็วในการทางาน ซึง่ อาจเกดิ ขึ้นจากกาลงั ภายในทท่ี า่ นมีอยู่ แต่อาจปรับปรุงให้ดีข้ึน ได้จากการฝึกฝน หากท่านทาทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว ไม่ว่าจะในการเล่นหรือ กิจกรรมส่วนตัวจนกลายเป็นนิสัย ท่านจะทางานต่างๆได้อย่างรวดเร็วตามไปด้วย ซึง่ จะมีประโยชน์ต่อไปในอนาคตสาหรับตัวของทา่ นเอง

75 เพ่ือเปน็ การฝกึ หดั จงแต่งกายประจาวันของทา่ นอยา่ งรวดเรว็ อย่าชักชา้ อดื อาด โดยเตรยี มทุกอยา่ งล่วงหน้าให้เข้าท่ี พร้อมทจี่ ะหยิบนามาใช้ จับเวลาท่ีใช้ไปในการแต่งกาย และปฏิบตั ิเร่อื ยไป จนใชเ้ วลาแต่งกายนอ้ ยสุดทีช่ นะสถติ ขิ องตัวทา่ นเอง กิจกรรมทค่ี วรสนใจเป็นพิเศษและกล่าวถึงน้อยเกินไปในแผนภูมิ ภาคท่ี1 และ 2 ดังกล่าว คือ ความกล้าผจญต่อความยากลาบาก (Pluck) ความร่าเริง (Cheeriness) และความหวงั (Hope) จงอยา่ คดิ วา่ เพราะทา่ นต้องเร่มิ ตน้ ในทตี่ ่าตอ้ ยยากจน มาจากบา้ นนอกคอกนา โดยไม่ได้เป็นเจ้าคนนายคน จึงอาจเป็นไปไม่ได้ ที่จะลุกขึ้นก้าวเดินให้รุ่งเรืองต่อไป เพราะในปัจจุบัน มีผู้ยิ่งใหญ่ และเศรษฐีหลายร้อยคน ท่ีเร่ิมต้นการประกอบอาชีพจาก บันไดข้ันต่าสุด แบบเสื่อผืนหมอนใบ เช่น แบกกระสอบข้าวสาร หรือ รับจ้างขายของ หาบเรร่ ถเข็นแผงลอย แตข่ ้าพเจ้าเคยกล่าวไปกอ่ นหนา้ น้แี ล้ววา่ ทา่ นต้อง “พยายามปีนภูเขาหรือไต่บันไดชีวิตข้ึนไปด้วยตนเอง อย่ามัวนอนรอหรือเดินหลงทาง มัวติดจมอยู่ในบ่อโคลนตม เพราะเคยได้เห็นตัวอย่างของหลายคน ที่เคยติดอยู่ที่น่ันมา ก่อนแล้ว จงสอดส่ายสายตา มองหาก้อนหินท่ีจะรองรับก้าวย่างของท่าน และ พยายามหาทางสู้ โดยการปีนออกจากบ่อโคลนท่เี ป็นอุปสรรคของชีวิตให้จงได้” ข้าพเจ้าเคยเห็นหลายคน ได้เร่ิมต้นชีวิตด้วยเงินทุนและอุปกรณ์อานวยความ สะดวกทีด่ ี อันนา่ จะช่วยให้พวกเขาประสบความสาเรจ็ ในการทางาน แตพ่ อทาไปเพยี ง ไม่นานนัก ก็ประสบความล้มเหลว เพราะขาดความอดทน (Patience) กล่าวคือ เมื่อ เกิดอปุ สรรคมาขวางทาง ก็จะละท้ิงงานนั้นเสีย แล้วหางานอย่างอ่ืนมาลองเร่ิมทาใหม่ แทนท่ีจะหาทางแก้ปัญหาในงานเก่าแลว้ ทางานเกา่ ให้ก้าวหน้าต่อไป หากถ้าท่านปฏิบัติ ดงั กลา่ วจนตดิ เป็นนสิ ัย ท่านก็จะละทิ้งงานเดิมไปเร่มิ งานใหม่ไปจนตลอดชีวติ สาหรบั ส่วนที่ 2 ของแผนภูมิ ภาคท่ี 1 เกี่ยวกับวิธีดารงชีวิต เพ่ือใช้ชีวิตให้ มคี วามสุขถาวรอย่างแท้จริง มิใชแ่ คค่ วามสุขเพลิดเพลินชั่วคร้ังช่ัวคราวน้ัน โดยอาศัย อุดมคติอันสูงส่ง (High Ideals) และ โดยอาศัยบริการ (Through Service) น้ัน

76 ข้าพเจ้าคดิ ว่าการอาศยั บริการรบั ใช้ผู้อ่นื นนั้ มีความสาคัญมากกว่า เพราะเร่ืองดังกล่าว มอี ดุ มคติอนั สงู ส่งรวมอยู่ อันเป็นกา้ วสาคญั ที่จะนาไปส่คู วามสุขอย่างถาวร (47) 2.24 คตสิ อนใจ เงนิ หน่งึ ปอนด์ในมือมีค่ามากกว่าสองปอนด์ที่จะเอาไปพนัน ในสนามแข่งมา้ (A pound in hand is worth two on a horse.) หากท่านเป็นหมุดส่ีเหลี่ยมให้สร้างหรือค้นหารูส่ีเหล่ียม และอย่าเพ่ิงพอใจ จนกว่าคุณจะได้ไปถึงรูส่ีเหล่ียมนั้น (If you are a square peg make for a square hole‐and don’t be content till you get there.) เส้ือคลุมน้ัน ก็เหมือนคาถามที่มีสองด้าน ควรใช้ทั้งด้านนอกและด้านในของ เสื้อคลุมให้เป็นประโยชน์ก่อนท่ีจะเลิกใช้ (A coat, like a question, has two sides to it. Both should be exploited before you have done with it.) จงมีชีวิตอยู่ ในลักษณะท่ีว่าเม่ือท่านตายไป ทุกคนจะเสียใจ แม้แต่สัปเหร่อท่ี เผาศพ ...มาร์ค ทเวน (So live that when you die everybody will be sorry even the undertaker ....Mark Twain). ขอใหเ้ ราทกุ คนมคี วามสขุ และดารงชีวติ อยู่ภายในวงเงินรายได้ของเรา แม้ว่า เราจะต้องกู้เงินจากผู้อื่นมาทาก็ตาม (อาร์ติมัส วอร์ด) (Let us all be happy and live within our incomes, even if we have to borrow the money to do it with ...Artemus Ward) ความช่ัวส่วนใหญ่เกิดจากความเลว ที่ได้กดทับปกปิดสะสมไว้นาน ....นพ. ดับเบลิ ยู เจ ดอวส์ นั (Most Vice is due to suppressed perspiration (Dr. W. J. Dawson) การเคารพตนเอง การรู้จักตนเอง และการควบคุมตนเอง นาชีวิตไปสู่อานาจ อันยิ่งใหญ่ ....เทนนิสัน ( Self‐reverence, self‐knowledge, self‐control. These three alone lead life to sovereign power....Tennyson).

77 หนังสอื ทค่ี วรอ่าน The facts of Gambling J.M. Hooge (Hatchinson) First Step of Climbing C.D Abrahams (Mills & Boon) Mountain Craft G.W. Young (Methuen)

78 (48) บทท่ี 3 อุปสรรคชีวติ หมายเลข 2 เหลา้ และการตามใจตนเอง (Rock Number two WINE) มีเร่ืองเล่าถึงนายทหารคนหน่ึง ที่ไม่เคยขาดถ้วยแก้ว ท่ีมีเหล้าองุ่น หรือ เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์อื่นอยู่ในมือ วันหน่ึง เมื่อหาเหล้ากินไม่ได้ เขาก็ไปหาด่ืม เมทิลแอลกอฮอล์ชนิดท่ีใช้ผสมน้ามันทาเฟอร์นิเจอร์เคร่ืองเรือน ท่ีเป็นพิษอันตราย ถึงตาย ต่อมาเมื่อมีคนส่งไปหาหมอเพ่ือล้างท้อง หมอถามว่า “ คุณบอกว่า ตอนน้ัน หาน้ากินไม่ได้ จึงต้องไปด่ืมแอลกอฮอล์ผสมสีใช่ไหม ?” นายทหารขี้เมาคนน้ันตอบว่า “ตอนน้ันเป็นเวลาลงแดงอย่างแท้จริง ที่อยากกินเหล้าจนหน้ามืด ไม่มีเวลาคิดถึงเร่ือง อืน่ ครบั ” 3.1 เหล้าแก้วที่สาม (That Third Glass) เหล้าองุ่นรึ ? ข้าพเจ้าชอบจิบ เหล้าองนุ่ ดีๆสักแก้ว เพราะรสชาติ และสขี องมนั ทาใหส้ ดชื่น ข้าพเจ้าชอบดื่มเบียร์หรือ เหล้าแอปเปิ้ล สักหนึ่งแก้วเหมือนกัน แต่ข้าพเจ้าไม่ชอบเหล้าแก้วที่สองเหมือนแก้วท่ีหนึ่ง เพราะรสชาตเิ หมอื นเดมิ ไมโ่ ดดเดน่ แปลกใหม่ และความอยากชมิ รสครงั้ แรกได้หมดลง ส่วน เหล้าในแก้วใบท่ีสามน้ัน คนท่ีฉลาดย่อมรู้ว่ามี“ ยาพิษอยู่ในถ้วย” เพราะน้าตาลและสารเคมีอ่ืน ๆ ท่ีมีอยู่ในเหล้านั้น ไม่ได้ให้ผลดีมีประโยชน์เท่าไหร่นัก เหล้าในแก้วใบท่ีสาม หรือแก้วท่ีสอง อาจจะทาให้ท่านหมดแรงท่ีจะว่ิงและออกกาลังกาย ดังนนั้ จึงควรจบั ตาดูให้ดี ในกรมทหารของขา้ พเจ้าน้ัน เรามีหลักการว่าเจ้าหน้าท่ีและนายทหารจะทา ตนใหเ้ ปน็ ตวั อย่างต่อลูกนอ้ ง แทนที่จะออกเป็นคาสั่งบังคับ และบนหลักการนี้ข้าพเจ้า สังเกตเหน็ ว่า วา่ ทหารนายสบิ บางคนน้ันมีพุงโต เกินกว่าท่ีจะข้ึนลงหลังม้าอย่างรวดเร็ว เพื่อแสดงให้เป็นตัวอย่างแก่พลทหารท่ีเขาควบคุมอยู่ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงออกคา (49) เตือนว่าภายในสามเดือน ถ้านายสิบหรือนายทหารคนใดอ้วนมากจนทาให้ปฏิบัติ หน้าท่ีไม่คล่องแคล่ว อาจจะถูกลดตาแหน่ง ดังน้ันจึงควรลดน้าหนักท่ีมากเกินไปลง โดยออกกาลงั กายเพิ่มขนึ้ ทกุ วนั และดื่มเบียร์ใหน้ ้อยลง

79 เหลา้ แกว้ ที่สามน่นั แหละเป็นตวั การ และเหล้าแก้วที่สามยังมีผลร้ายมากขึ้น เพราะทาให้เหล้าแก้วที่ สี่ ห้า และหก ติดตามมา ทาให้ความลาบากเกิดขึ้น เมื่อพวกข้ีเมา ไปกอดเสาไฟฟ้าแล้วถามวา่ “ทนี่ ี่คือที่ซ่ึงมีการฉลองวันคริสมาส หรือ วงเวียนปิคคาดิลล่ี ในกรงุ ลอนดอนกนั แน่ ?” 3.2 การดื่มเหล้าระหว่างกินอาหาร (The Between Meals Glass) ข้าพเจ้า รู้จักวิศวกรคนหน่ึงท่ีมีความสามารถยอดเย่ียม หรืออาจเรียกว่าอัจฉริยะก็ค งได้ เขาน่าจะมีช่ือเสียงในตอนนี้ ถ้ามิได้เป็นคนที่ถูกขนานนามว่าเป็น “คนยี่สิบนาที” เพราะเขาต้องดื่มเหล้าทุกๆยี่สิบนาที เรื่องดังกล่าวทาให้ข้าพเจ้าระลึกถึงนายพลเรือ อเมริกันคนหนึ่ง ซ่ึงข้าพเจ้ารู้จักตอนเป็นหนุ่ม และเคยถามท่านว่า “ท่านจะดื่มเหล้า อะไร” เขาตอบว่า “ผมยังไม่ต้องการดมื่ ครับ ผมไม่เคยดืม่ นอกเวลากนิ อาหาร ” เรอ่ื งน้ที าให้ข้าพเจา้ ได้คาตอบว่า ถา้ คนเราน้ันหากดมื่ เหล้า เพียงเฉพาะเวลา ทีก่ นิ อาหาร คงไมม่ ีคนเมามายมาก และสุขภาพของพวกเขาคงจะดขี ึ้นสองเท่าตัว ความอ้วน เป็นผลท่ีเกิดจากสาเหตทุ ่ี ดม่ื เบียร์มาก ย้อนกลับไปที่กองทหารของข้าพเจ้าอีกคร้ัง (ขอเตือนว่า ท่านคงจะเบื่อมาก ในการท่ีจะต้องทนอ่านเรื่องของ “ข้าพเจ้าและทหารของข้าพเจ้า” อีกมากมาย ก่อนท่ี จะอ่านหนังสือเล่มน้ีจนจบ โดยข้าพเจ้าต้องการเพียงให้ท่านได้รับประสบการณ์ อันแทจ้ ริง ในการดาเนินชวี ติ ผ่าน “อันตราย” หรือ “ก้อนหินขวางทาง ที่เป็นอุปสรรค”

80 ต่างๆ ดังน้ันทา่ นจาเป็นจะต้องยกโทษใหข้ า้ พเจา้ ) ข้าพเจา้ ได้แกไ้ ขระเบียบโดยอนุญาต ให้ทหารด่ืมเบียร์ได้ระหว่างกินอาหารเย็น และ อาหารว่าง ซ่ึงจัดไว้ตามธรรมเนียมของ อังกฤษ (50) ด้วยวิธีปฏิบัติดังกล่าว ส่งผลให้การขายเหล้าที่ร้านค้าสโมสรทหารได้ลดลง จนมี คร้ังหนึ่งที่ข้าพเจ้าต้องให้ถุงมือสีขาวแก่เจ้าหน้าที่ประจาสโมสร เพราะเขามีเวลาว่าง มากเนือ่ งจากไม่มที หารเข้าไปในสโมสรแมแ้ ต่คนเดยี ว 3.3 ข้ันแรก ของการด่ืมเหล้ามาจากความพยายามหาเพ่ือน (Temptation to Good Fellowship , The First Step) ขณะท่ีผู้หวังดีคนหนึ่ง พยายามจะชี้แจงให้ คนข้ีเมา ได้เห็นข้อผิดพลาดในการดาเนินชีวิต และให้กลับตัวเสียใหม่ แต่คนดื้อร้ันคนน้ัน ได้กลา่ วขดั ขน้ึ ว่า “มึงพูดยังกะไมเ่ คยเมามาก่อน” ขา้ พเจา้ ตอบไปทนั ทวี ่า “เมาเหล้ารึ กูไมเ่ คยเมา” “ถ้ามึงไม่เคยเมา แล้วจะรู้เรื่องการเมาเหล้าได้ยังไง อย่าเพ่ิงพูดมากเลย ไปกินเหลา้ ให้เมา เรียนรู้ถึงความสุขสาราญในการด่มื เหล้า แล้วค่อยมาคุยกบั กใู หม่” การกนิ เหล้าจนเมา เกี่ยวข้องกับการย่ัวยวนใจ โดยเฉพาะในกรณีที่เข้าไปอยู่ ในกลมุ่ พวกข้เี มา คนดืม่ เหล้ากว่าคร่ึงถูกดึงดูดเข้าไปในคร้ังแรก โดยความเป็นเพื่อนที่ ต้องการความสนิทสนมกัน โดยหนุ่มสาวท่ีเพิ่งออกมาผจญกับโลกกว้าง จะมีความรู้สึก ว่าต้องทาตนให้เหมือนคนอน่ื ใหไ้ ด้ เพอ่ื จะได้เขา้ ไปอย่ใู นกลมุ่ น้ัน เกา้ ในสบิ คนของหนุ่มสาวทเ่ี ริม่ สบู บหุ รี่ ก็เพราะเหตุคลา้ ยคลงึ กัน และตอ้ งการ อวดตวั วา่ เป็นคนเกง่ กลา้ หาญ คนหนุ่มสาวที่เติบโตในกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ พวกท่ีไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ ถึงแม้ว่า จะหาซื้อได้ หนุ่มสาวเหล่านนั้ คงไม่รสิ บู บุหร่หี รอื ด่ืมเหล้าโดยลาพังตนเอง เพราะเครอื่ ง มึนเมาทั้งสองอย่างนั้นมีรสขมขื่นสาหรับผู้หัดใหม่ การท่ีคนเราติดบุหร่ีหรือเหล้านั้น สว่ นใหญ่เป็นเพราะเหน็ วา่ “คนอื่นๆ เขาทาเชน่ นัน้ ”

81 คงเป็นเร่ืองยากมาก หากท่านเข้าไปอยู่ในกลุ่มของคนขี้เมา รอบบาร์ขาย เหล้า แลว้ ไม่ด่ืมเหลา้ กบั คนเหล่าน้นั ส่งิ นแี้ หละทาใหเ้ กดิ เหล้าแกว้ ทห่ี ก แลว้ ต่อด้วย ความสนุกสนานเฮฮา อกึ ทกึ และ การทะเลาะวิวาท ขา้ พเจา้ ไม่รงั เกียจความร่าเริงสนกุ สนาน หรือการโต้เถยี งขดั แย้ง ทะเลาะกัน เป็นคร้ังคราว ซึ่งเป็นธรรมดาของมนุษย์ แม้ว่าจะไม่มีส่ิงมึนเมาเก่ียวข้อง โดยข้าพเจ้าเอง ก็เคยเลน่ สนุกอยา่ งบา้ ๆบอๆ และเคยทาอะไรโงๆ่ ถงึ ระดบั ท่ีควรจะละอายใจในตอนนี้ (51) หากข้าพเจ้าไม่สานึกว่า เร่ืองดังกล่าว เป็นธรรมดาของคนหนุ่มสาวที่กาลังเติบโต เป็นผใู้ หญ่ การเล่นกระโดด “พีน่ ้องช่องแคบบอสฟอรัส” ข้าพเจ้าจาเกมท่ีเด็กอังกฤษในสมัยก่อน ชอบเล่นกันแบบหน่ึงที่เรียกช่ือว่า “พี่น้องช่องแคบบอสฟอรัสชอบกระโดด (The Bounding Brothers of Bosphorous!)” (บอสฟอรัสเปน็ ชอื่ ของช่องแคบในทะเล ในประเทศตุรกี ท่ีแบ่งทวีปยุโรปกับเอเชีย และ ทางเดินเรือเช่ือมทะเลดากับทะเลเมดิเตอรเรเนียน...ผู้แปล) โดยนาตู้โต๊ะเก้าอ้ีในบ้าน หลายช้ิน มากองสุมในห้องจนเป็นคล้ายพีระมิดของอียิปต์ กลับเก้าอ้ีเอาขาข้ึน และ วางโต๊ะตัวหนึ่งไว้ด้านหน้ากองเครื่องเรือนที่สุมกันอยู่ จากน้ันผู้เล่นแต่ละคน จะผลัดกัน วิ่งไปท่ีโต๊ะ หกคะเมนบนโต๊ะ หันหัว ท้ิงตัวลงบน กองพีระมิด แล้วร้องตะโกนว่า “ฉัน

82 เปน็ พีน่ ้องช่องแคบบอสฟอรัสที่ชอบกระโดด” แม้วา่ เมอ่ื ตอนมอี ายมุ ากขึ้น ขา้ พเจ้ามอง ไม่เห็นว่าการเล่นดังกล่าวจะมีความสนุกได้อย่างใดเลย แต่ตอนเป็นเด็กนั้นข้าพเจ้า ได้เลน่ ไปด้วยความสนกุ สนานเปน็ อย่างย่ิง เร่ืองโง่ๆทานองน้ีแหละที่คนหนุ่มสาวในสมัยก่อนชอบทากัน อย่างไรก็ตาม ความสนุกสนานในการเล่นเกม “พี่น้องที่ชอบกระโดด” น้ัน แตกต่างจากความสนุกที่ ผดิ พลาดจากการดม่ื เหลา้ มากเกนิ ไป เพราะความสุขนั้นไม่จาเป็นท่ีจะได้มาจากการด่ืมเหล้า โดยพวกเขาอาจส่งเสยี งให้ดังและสนุกสนานมากกวา่ นัน้ ได้ โดยไม่ต้องด่ืมเหล้าเลย 3.4 การดื่มเหล้าคนเดียวเพ่ือดับความทุกข์ (The Solitary Soaker is a Waster) นอกจากการดื่มเหล้าเพราะเพื่อนฝูงแล้ว ยังมเี รอ่ื งของการด่ืมเหล้าคนเดียว เพ่ือให้ลืมความทุกข์ส่วนตัวซึ่งรุนแรงกว่า โดยพยายาม “นาปัญหาความเดือดร้อนให้ จมหายไปในแก้วเหล้า” ภัยจากความโชคร้ายในการทางาน ความกลุ้มใจจากการป่วย หรือผิดหวัง หรือ บ้านท่ีน่าเบ่ือ ส่ิงต่างๆดังกล่าวมักล่อให้บางคน หนีไปหาที่หลบภัย ในแก้วเหล้า แต่การกระทาเช่นน้ันมิใช่เป็นการกระทาที่ดี ถึงแม้ว่า พวกข้ีเมาจะพูดว่า “เป็นเรื่องง่ายท่ีจะพูดด้วยปาก แต่ยากที่จะปฏิบัติสาหรับคนท่ีมีทุกข์เดือดร้อน อย่างน้อย ท่สี ดุ เหล้ากจ็ ะทาให้เขาสบายใจได้ชั่วขณะ ทาไมจะไม่ยอมให้เขาด่ืมเหล้าสักแก้วเดียว หรอื ?” คาคัดค้านในเรื่องดังกล่าวคือ ถ้าปล่อยให้เหล้าจับตัวใครได้ เขาจะสูญเสีย การควบคมุ จติ ใจของตวั เอง และสญู เสียพลังงานของตน ซ่ึงเปน็ สิง่ สาคญั สองประการที่ มี (52) อทิ ธพิ ลตอ่ “นิสยั หรอื บุคลิกภาพท่ดี ี” ของมนุษย์ถา้ ใครยอมใหก้ ารดม่ื เหลา้ ของตน ติดต่อเนื่องไปจนกลายเป็นนิสัย เขาจะพ่ายแพ้ต่อส่ิงยั่วยวนใจอย่างอ่ืนท่ีจะคืบคลาน ตามมาและจะไมม่ พี ื้นฐานชวี ิตที่มคี วามสุข

83 คนหวั แข็ง ท่ีมีนิสัยอนั ดี จะเช่อื ม่นั ในตนเอง ไมย่ อมให้เพอ่ื นในกลุม่ จงู จมกู ไป ในทางไม่ดีแล้วจมลึกลงไปจนกลับตัวไม่ทัน เขาจะรู้เองว่า เมื่อไรควรจะหยุดทาตาม เพื่อนในสิ่งทไี่ ม่ดี แตค่ นอ่อนแอทีค่ อยแตท่ าตามพรรคพวก ยอ่ มไม่มีปัญญาที่จะหยุดทา ตามเพ่ือนในสิ่งไม่ดีได้ เม่ือถึงเวลาเดือดร้อน เขาจะพบว่า ไม่มีแรงท่ีจะลุกขึ้นต่อสู้กับ ปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพราะไม่เคยตัดสนิ ใจทาอะไรด้วยตนเองเลย ในบางประเทศ มีความพยายามท่ีจะลดอันตรายจากการดื่มเหล้ามากเกินไป โดยส่ังห้ามขายเหล้าทั้งหมดในประเทศ เช่นในประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามซ่ึง ใช้ กฎเกณฑท์ างศาสนา สว่ นประเทศอืน่ มักใชก้ ฎหมายบังคบั แต่ก็มีคนจานวนมากหาทาง เล่ียงกฎหมาย เพราะขัดต่อความรู้สึกของนักประชาธิปไตยที่ชอบทาตามใจของตนเอง และไม่พอใจหากถูกจากัดสิทธิเสรีภาพ ไม่ว่าการบังคับตามกฎหมายนั้นจะมีความ ปรารถนาดเี พยี งใด แต่เป็นที่น่ายินดีว่า ในระยะหลังน้ีคนเราได้มีวินัยในตนเองมากขึ้น เม่ือ ข้าพเจ้าเข้าเป็นทหารในระยะแรกนั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดาท่ีจะเห็นคนเมาเหล้าตาม งานรน่ื เรงิ ต่างๆโดยไม่มใี ครคดิ วา่ เปน็ เรื่องเสยี หาย แต่ในปัจจุบนั น้ถี ้าทหารคนใดแสดง อาการเมามาย จะไดร้ บั การตกั เตอื น และหากยังทาต่อไปอาจถกู ปลดจากราชการทหาร ในปัจจุบันนี้ เม่ือทหารจะไปราชการต่างประเทศ เขาจะมาพร้อมกันโดยไม่ เมาเหล้า คล้ายเตรียมตัวจะไปสวนสนาม แต่สมัยที่ข้าพเจ้าเร่ิมเป็นทหารน้ัน คร่ึงหน่ึง ของทหารท่จี ะไปต่างประเทศ จะต้องถกู พยุงหรือหามขนึ้ รถไฟหรือลงเรือที่จะโดยสารไป เพราะเมาเหลา้ สมัยก่อนน้ี ในคืนวันเสาร์ บนถนนของเมืองอุตสาหกรรมต่างๆ จะเต็มไป ด้วยพวกข้ีเมาทสี่ ง่ เสียงเอะอะหรือทะเลาะวิวาท แต่เด๋ียวน้ี เราจะเห็นแต่คนที่มีระเบียบ มีความสุข และน่าคบหาสมาคมด้วย คนท่ีมีนิสัยดี และสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นกาลังแก้ไข สถานการณ์ท่เี ลวรา้ ยในอดตี ถึงแม้จะมสี ิง่ ท่ีตอ้ งพฒั นาปรบั ปรุงอกี มาก

84 ข้าพเจ้าเช่ือม่ันในคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่กาลังเติบโตด้วยความทะเยอทะยาน ต้องการเป็นผู้ใหญ่ท่ีดี และพร้อมที่จะมีส่วนร่วมและแสดงบทบาทในการดาเนินชีวิต โดยไมต่ อ้ งมขี ้อหา้ มอะไรมากนกั สาหรับคนรนุ่ ใหม่ท่กี าลังปฏิรูปนิสยั อันดีของตนเอง (53) 3.5 พลังแรงของตัวอย่าง (The Force of Example) ข้าพเจ้าเคารพ ในความคดิ เหน็ ของนกั วิจารณ์ ท่ีออกความเห็นโดยซ่ือสัตย์ และพบว่าพวกคนพื้นเมือง ในแอฟริกาหรอื หมูเ่ กาะแปซฟิ กิ น้นั เปน็ นกั วจิ ารณ์ท่อี อกความเหน็ อย่างตรงไปตรงมา และสจุ รติ และรจู้ กั วิธีวนิ ิจฉยั นิสัยคนได้ดีมาก ข้าพเจา้ เคยได้ยินคนทงั้ สองกลมุ่ ดังกล่าว ประกาศวา่ “ถ้าคนผิวขาวชาวองั กฤษพูดว่าเขาจะจ่ายเงินค่าสินค้าแก่เรา เราก็จะเช่ือ และให้สินค้ากับเขา แล้วเขาก็จะชาระเงินให้ แต่ถ้าเป็นคนผิวขาวชาติอ่ืนๆ นั้นอาจ เช่ือถือไม่ได้ทุกคนไป” เร่ืองดังกล่าวเป็นชื่อเสียงเกียรติภูมิ ท่ีคนอังกฤษมีอยู่ และควร จะต้องรักษาไว้ แต่ข้าพเจ้าเกรงว่า คนผิวขาวชาวอังกฤษบางคนจะไม่ดีเหมือนท่ีว่า จึงทาให้นักสอนศาสนาชาวอังกฤษบางคนประสบปัญหาในการทางานเผยแพร่ศาสนา คริสต์ ข้าพเจ้าจาไดว้ า่ พระราชินสี งู อายุ ซึ่งเป็น แมข่ องหัวหนา้ คนพืน้ เมือง เผา่ สวา ซี ในแอฟริกา เคยเล่าให้ฟังว่า มิชชันนารีนักสอนศาสนาคริสต์ เคยมาอธิบายให้ชาว สวาซีฟังถึงคุณความดีของคริสต์ศาสนา ท่ีสอนให้คนซ่ือสัตย์ ตรงไปตรงมา มีสติ พูด ความจริง ทากุศล และคอยช่วยเหลือคนอ่ืน ดังนั้นชาวสวาซีของเธอ จึงให้การต้อนรับ คนผวิ ขาวท่ีเปน็ พ่อคา้ และผู้ต้งั ถ่ินฐาน โดยใหท้ ดี่ นิ และช่วยสร้างทพี่ ักอาศัย แต่ต่อมา แทนที่คนผิวขาวเหล่านั้นจะคิดถึงบุญคุณและทาประโยชน์ให้คนสวาซี แต่กลับหา แต่ประโยชน์ใสต่ นเองและพวกพ้อง เช่นเมื่อคนผิวขาวขอซ้ือวัวของชาวบ้านไป แทนท่ี จะจา่ ยเงนิ กลับมาทุบตชี าวบา้ น โดยอาจอ้างว่าวัวไม่ดีมีโรค และคนผิวขาวได้นาเหล้า คุณภาพดมี าดืม่ เองมากมาย แตข่ ายเหล้ายินคณุ ภาพต่าใหค้ นพื้นเมือง ราชินี ผู้สูงอายุ เล่าให้ฟังว่า นักรบของเธอหลายคน ขออนุญาตไปสังหาร ผู้ที่ทาลายเผา่ พันธสุ์ วาซีอันรา้ ยกาจเหล่าน้ี และตอนนเี้ ธอไม่เชื่อถือ คนในศาสนาคริสต์ ท่สี อนไวอ้ ย่างหนึ่ง แล้วปฏบิ ัติในส่ิงทีต่ รงกันขา้ ม เราอดไมไ่ ดท้ ่จี ะเห็นอกเห็นใจเธอและ

85 อาจเป็นไปได้ว่า คนผิวขาวเอาเปรียบคนพ้ืนเมืองมากเกินไป ตอนท่ีเธอจะลาจากไป (54) เธอหันมาถามว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามสิ่งที่พูดไว้หรือเหล่า เมื่อข้าพเจ้ายืนยัน เธอกข็ อให้ข้าพเจา้ รกั ษาคาพดู โดยพดู วา่ จะส่งเหลา้ ยินมามาใหเ้ ธอหนงึ่ หบี น่แี หละ คอื กาลงั แรงของตัวอย่าง กาลังแรงของตัวอยา่ ง จาก ราชนิ ีของเผา่ สวาซี “มิชชันนารีนักสอนศาสนาคริสต์ สอนให้คนพื้นเมืองละเว้นจากการดื่มเหล้า แต่ทาไมคนผิวขาวกลับดื่มเหล้าเสียเอง เราสนับสนุนนักสอนศาสนา แต่ท่านจะส่ง เหลา้ ยินมาให้ฉันสักหีบหน่งึ ไดไ้ หม” 3.6 การสูบบุหรี่ (Smoking) ข้าพเจ้าอาจเขียนซ้าซากไปบ้าง เกี่ยวกับ อันตรายจากการดื่มเหล้า เพราะการดื่มเหล้ามากเกินไป อาจจะเป็นเหตุให้เกิด อาชญากรรม และความเดือดร้อน อันจะเป็นอันตรายทั้งระดับบุคคลและประเทศชาติ เหลา้ เปน็ หินใต้น้าหรือหินโสโครก ท่เี ป็นอปุ สรรคชวี ิตชนดิ หนงึ่ ทีค่ วรหลีกเลีย่ ง แตก่ ย็ งั มี อุปสรรคที่เกิดจากการตามใจตนเองอีกเร่ืองหน่ึง ที่คนหนุ่มสาวทุกคนจะต้องพึงป้องกัน ใหด้ ี นนั่ คอื การสบู บุหร่ี

86 มคี นถามขา้ พเจา้ เมอื่ ไมน่ านมานี้ว่า “มีกฎระเบียบอะไรที่ห้ามลูกเสือสูบบุหรี่ ?” คาตอบของข้าพเจ้ามีว่า “ไม่มีกฎอะไรห้ามไว้ แต่ลูกเสือทุกคนรู้ดีว่า คนท่ีสูบบุหรี่น้ัน เป็นคนโง่ และเรามีความเข้าใจร่วมกันในวงการ เสมือนกับกฎลูกเสือข้อ 11 ว่า “ลกู เสือตอ้ งไม่โง่ (A Scout is not a fool) ” ไม่มีเด็กชายหญิงคนใดเร่ิมสูบบุหร่ีเพราะความชอบ โดยในชั้นต้นเขาจะ เกลียดบุหร่ี แต่ต่อมาได้สูบบุหรี่เพราะคิดว่าโก้เก๋ หรือแสดงความเป็นผู้ใหญ่ แท้จริง เปน็ เรอื่ งคอ่ นขา้ งโง่ เมื่อคดิ วา่ คนทีร่ า่ เรงิ จะตดิ บหุ รี่ได้ เพราะเกรงวา่ จะไม่เหมือนคนอ่ืน แล้วยังมีคาถามเกี่ยวกับเร่ืองสุขภาพ เพราะเป็นท่ียอมรับมานานแล้วว่า การสูบบุหรี่น้ันเป็นอันตรายต่อระบบการหายใจ นักกีฬาทั้งหลายจึงควรงดสูบบุหรี่ เพราะควันบุหร่ีจะโจมตีอวัยวะสาคัญอย่างรวดเร็ว เช่นหัวใจ และปอด ดังนั้นจึงเป็น เหตผุ ลที่ดที ี่คนหนมุ่ สาวทงั้ หลายควรงดสบู บุหร่ี เพราะการไมส่ บู บหุ รน่ี ้นั ไมไ่ ด้ก่อความ (55) ยากลาบากให้ผู้อ่ืน ความเดือดร้อนของการเลิกสูบบุหรี่ อยู่ที่การหยุดความเคย ชนิ ท่ีทาตอ่ เนื่องมานาน จงหยุดนิสัยที่ไม่ดีเหล่าน้นั แล้วปญั หาก็จะยตุ ิลง ข้าพเจ้าเคยใช้กล้องสูบยาเส้นมาบ้าง จนกระท่ังได้พบกับคนอเมริกันที่ทา หน้าท่ีเป็นหน่วยสอดแนมบริเวณชายแดน ระหว่างที่มีการสู้รบกับพวกชนพื้นเมือง ชาวอินเดียนแดง โดยไม่มีหน่วยสอดแนมคนใดที่สูบบุหร่ี พวกเขายิ้มแบบเยาะเย้ย เมื่อเห็นข้าพเจ้าคาบกล้องสูบยาเส้น แล้วอธิบายว่า การสูบบุหรี่น้ันเป็นอันตรายต่อ สายตา ลมหายใจ และความสามารถในการดมกลนิ่ ซึ่งมีความสาคัญในการทางานของ เขาตอนกลางคืน ดังน้ันข้ าพเจ้าจึงเลิกสูบยาเส้นต้ังแต่ตอนน้ันจนถึงปัจจุบัน ทาให้ ขา้ พเจ้ามสี ขุ ภาพดี และประหยดั เงินไปไดม้ าก

87 คนเราอาจหลงเดินไปในทางทผี่ ดิ กล่ินจากลมหายใจของคนสบู บุหรี่ จะกระจายไปทั่ว

88 3.7 การกินอาหารมากเกินไป (Over Feeding) เม่ือกองทหารของข้าพเจ้า ถูกปิดล้อมที่เมือง มาฟอีคิง (Mafeking) ในการรบท่ีแอฟริกาใต้ เราทุกคนต้อง ดารงชีวิตอยู่ด้วยการกินอาหารที่ลดลงเหลือน้อยมาก ส่ิงท่ีน่าสนใจก็คือการที่เห็นว่า การลดอาหารได้ส่งผลกระทบในรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างไร ต่อคนท้ังหลายในกอง ทหาร บางคนมรี ่างกายเหมือนเดิม บางคนผอมลงอย่างเห็นได้ชัด แต่มีหน่ึงหรือสองคน ท่ีอ้วนข้ึน ต่อมาอีกเจ็ดเดือนได้มีการทดสอบ โดยข้าพเจ้าได้ประกาศหาอาสาสมัครท่ี จะเดินเท้าระยะห้าไมล์ไปฝึกซ้อมการต่อสู้กับข้าศึก ซ่ึงทหารเกือบทุกคนได้เข้าสมัคร คนที่ผ่านการทดสอบว่ามีความสามารถดีท่ีสุด ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนนั้น เป็นคนท่ีกินอาหาร ดมื่ เหลา้ และสบู บหุ ร่ีไมม่ ากนัก ข้าพเจ้าได้ ผลลัพธ์ทานองเดียวกัน ท่ีพบระหว่างการเดินทางสารวจเส้นทาง จากชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกาผ่านหนองน้าและป่าทึบของอาณาจักร อชันติ (Ashanti) (ซ่งึ ปจั จบุ ันคือประเทศกานา่ ....ผู้แปล) อนั เป็นท่รี ู้จกั กนั อย่างแพรห่ ลายว่า เป็น “หลุมฝังศพของคนผิวขาว” ปรากฏว่า พวกทหารซึ่งเคยมีชีวิตประจาวันที่สุข สบายอดุ มสมบูรณ์ ได้ลม้ ตายลงเป็นจานวนมาก ส่วนพวกท่ีกินอาหารพอประมาณและ ทางานหนักอยู่เสมอน้ัน มักเป็นผู้มีชีวิตรอด การเดินทางครั้งน้ันได้มีการค้นพบโดย บังเอิญว่า เนื้อสัตว์น้ันมิใช่สิ่งจาเป็นในอาหารของมนุษย์ โดยข้าพเจ้าได้มีชีวิตรอดอยู่ ได้โดยกนิ (56) เพียงกล้วยหอมและกล้วยกล้ายแอฟริกันและแม้เราจะหมกตัวอยู่ในป่าดงดิบช้ืนแฉะ ไม่ค่อยเห็นแสงแดด ได้กล่ินคล้ายอยู่ในสวนผักเก่า เน่ืองจากมีหญ้าเน่าอยู่ในบึง แต่ข้าพเจา้ เองสามารถเดนิ เท้าวันละ 20 ไมล์ อยา่ งสบายโดยกนิ อาหารเพียงเลก็ น้อย 3.8 การนอนหลับนานเกินไป (Over Sleeping) การนอนหลับมากเกินไป เป็นอีกหนงึ่ ความผอ่ นคลายที่คนทั่วไปไม่ค่อยสนใจ แต่ชาวญ่ีปุ่นมีทฤษฎีที่ว่า การนอน หลับที่มากเกินจาเป็นสาหรับการพักผ่อนและฟ้ืนฟูพลังงานของสมองและแขนขานั้น เป็นอันตรายและเป็นการสะสมไขมัน ดังน้ัน ถ้าคนญี่ปุ่นพบว่าตนเองเร่ิมอ้วนเกินไป

89 เขาจะลดการนอนหลับไปคนื ละหนง่ึ ชวั่ โมง และถา้ เขาพบว่าตวั เองผอมเกินไปเขาก็นอน เพ่ิมอกี หน่งึ หรอื สองชัว่ โมงเป็นเวลาสองสามสปั ดาห์จนกว่าจะรูส้ กึ ปราดเปรยี วข้นึ “หากท่านต้องการพักผ่อนร่างกาย จงอ่านหนังสือที่ดีสักเล่ม แต่หากท่าน ตอ้ งการพกั ผ่อนจติ ใจ จงลงไปเลน่ ฟตุ บอลหรือตกปลา” 3.9 การใชค้ าพูดและภาษาหยาบคายและรุนแรงเกินไป (Over Strength in Language) ส่ิงที่เกิดขึ้นบ่อยๆในสังคม คือการใช้คาหยาบ ไม่สุภาพ หรือคาด่าว่า ซ่งึ แสดงให้เห็นถึงการที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ถึงแม้ว่าคาหยาบจะทาให้ผู้ใช้รู้สึก สบายใจชั่วขณะและเป็นการแสดงความอ่อนแอ (ซ่ึงข้าพเจ้าเคยพบมาด้วยตนเอง) อันจะเลวร้ายยง่ิ ขน้ึ ถ้าปลอ่ ยให้เกดิ ขน้ึ ตามอาเภอใจ การใชค้ าดดุ ่าไม่ได้ใหค้ ุณประโยชน์ อันใดเลย และถ้าเอาไปใช้ดุด่าผู้อ่ืน จะก่อให้เกิดความเสียหาย เพราะทาให้ผู้อ่ืน มคี วามรสู้ กึ ที่ไมด่ ี และทาลายเกยี รตศิ ักดิข์ องทา่ นเองอย่างมาก อันที่จริง การใช้คาดุด่า น้นั อาจเปน็ วิธีคลายอารมณ์ทีม่ ีประโยชน์ แตค่ วรเกบ็ ไวใ้ ชเ้ ฉพาะในเวลาฉุกเฉนิ จักรพรรดินโปเลียน ของฝร่ังเศส เคยกล่าวถึงนายพลลานส์ (Lannes) ซ่ึง เป็น(57) หน่ึงในทหารช้ันนา ท่ีมีอนาคตอันแจ่มใสว่า “ปีศาจลานส์ น้ันมีคุณสมบัติ ทุกอย่างท่ีจะเป็นนายทหารที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาจะไม่ได้รับเกียรติเช่นนั้น เพราะชอบแสดง อารมณ์ร้ายในการตาหนิดุด่าทหารของเขา ฉันถือว่าการแสดงอารมณ์ร้าย เป็นข้อบกพร่องสาคญั ทีส่ ุดทท่ี หารช้ันผูใ้ หญ่จะพงึ มี” นายพล ลานส์ ได้รบั การบอกเลา่ เรอ่ื งนเ้ี ป็นการสว่ นตัว โดยนายพลมาร์โบ ซ่ึง เป็นเพื่อนของเขาและเป็นทหารคนสนิทของของนโปเลียน ลานส์ มีความกระตือรือร้น ท่ีจะเป็นนายพลท่ีดี และต้ังแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาก็ฝึกตนเองจนสามารถควบคุม อารมณ์และลน้ิ ของเขา จนได้รบั เล่อื นยศเปน็ จอมพลแห่งกองทพั ฝรัง่ เศส ในวงการธุรกิจ มีผู้ที่ชอบใช้คาดุด่าเป็นจานวนมากที่ประสบความล้มเหลว เพราะผู้ท่ีชอบใช้คาดุด่าจะเป็นหัวหน้าที่ดีไม่ได้ แม้ว่าจะพยายามเค่ียวเข็ญให้ลูกน้อง ทางานหนกั เทา่ ไรก็ตาม

90 พวกทหารมคี าสาบานสาปแช่งแปลกๆ 3.10 การทางานมากเกินไป (Over Working) อีกรูปแบบหน่ึงของการทา ตามใจตัวเองซงึ่ บางคน(ไมใ่ ช่ทกุ คน) ชอบทา เฮอร์เบิร์ต เจนกินส์ ท่ีเป็นผู้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เป็นหนึ่งใน “บางคน” ดังกลา่ ว ขณะท่ขี ้าพเจา้ กาลงั เขยี นหนงั สอื เลม่ นี้ ข้าพเจ้ามีบันทกึ ของเขาวางอย่ตู รงหน้า เขาบอกว่า เขาทางาน13 ช่ัวโมงต่อวัน และไม่สามารถหนีออกจากกรุงลอนดอนไปได้ แม้แต่คืนเดียว ข้าพเจ้ารู้จักเขามาหลายปีแล้ว โดยไม่เห็นเขาทาอย่างอื่นนอกจากอยู่ท่ี สานกั พิมพ์ เขาเสียชวี ิตตั้งแต่อายยุ ังน้อย เพราะทางานมากเกนิ ไป ขา้ พเจา้ รสู้ ึกขบขนั เล็กน้อย ท่ีได้ยินว่าหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ทาการค้นหาว่า ใครคือชายสามคนท่ีมีงานยุ่งที่สุดในประเทศอังกฤษ และได้ทราบว่า มีชื่อของข้าพเจ้า นายลอยด์ จอร์จ (Lloyd George) อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Wales) มกฎุ ราชกุมารแหง่ ราชวงศ์อังกฤษ ข้าพเจ้าไม่สมควรได้รับคายกย่องดังกล่าวมากไปกว่าหมวกของข้าพเจ้า (เพราะหมวกของขา้ พเจา้ ทางานลว่ งเวลามามาก ในสมัยน้ที ่ีของทุกอยา่ งมีราคาแพง)

91 เป็นความจริงที่ว่าข้าพเจ้ากาลังเขียนส่ิงน้ีเม่ือเวลา 05.30 น. ในฤดูหนาว ที่เยือกเย็น แต่ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้ตื่นตอนเช้าตรู่มาตลอดชีวิต ข้าพเจ้าก็จะไม่มีเวลาท่ีจะ ไดร้ ับความเพลดิ เพลินแม้เพยี งครึ่งเดยี วของความสุขท่ีข้าพเจ้าไดร้ บั มาตลอดชวี ิต โปรดคิดดูว่า หากท่านใช้เวลาทางานเพ่ิมข้ึนอีกหนึ่งชั่วโมงต่อวัน หรือ 365 ช่ัวโมงต่อปี ท่านมีเวลาทางานมากกว่าเพื่อนของท่านถึง 3 สัปดาห์ต่อปี ทาให้มีเวลา ชีวิตเพิ่มเป็น 13 เดือนในแต่ละปี แทนที่จะเป็น 12 เดือนตามปกติ คนบางคนทางาน เพ่ิมขึ้น(58) ตอนกลางคืน เม่ือร่างกายและจิตใจรู้สึกอ่อนล้า แต่ข้าพเจ้าคิดว่าการ ทางานนัน้ ไมม่ ีเวลาใดท่ีดกี วา่ ตอนเชา้ ตรู่ คนที่ภาคภมู ิใจในงาน จะไดร้ ับความเพลิดเพลิน ขณะทปี่ ฏบิ ตั งิ านของเขา ข้าพเจ้าเคยพูดกับวิศวกรหนุ่มคนหน่ึง ท่ีข้าพเจ้าพบว่ากาลังทางานเมื่อ กรรมกรกาลงั นัดหยดุ งานประทว้ งอยู่ ขา้ พเจ้าถามเขาว่าเหตุใดจึงมาทางาน เขากล่าว ด้วยความภาคภูมิใจว่า “ผมไม่อาจทิ้งงานชิ้นน้ีได้ เพราะถ้าหยุดไปของที่ทาค้างไว้จะ เสยี หาย” ชายผู้นน้ั ทางานตอ่ ไป เพราะความรกั ในงานท่เี ขาทา อันตรายเพียงอย่างเดียว สาหรับคนท่ีอยากทางานมากเกินไป คือ เขาจะ กลายเป็นทาสของงาน และไม่ได้พกั ผอ่ นอย่างเพยี งพอ

92 งานนี้สกปรกเลอะเทอะจัง ข้าพเจา้ ไม่ไดห้ มายความว่าการพกั ผอ่ นคือการอยู่เฉยๆ แตเ่ ปน็ การเปล่ยี นงาน การเปล่ียนงานของข้าพเจา้ นั้น มลี ักษณะแตกตา่ งกนั หลายอย่าง ตัวอย่างเช่น คร้ังหน่ึง ข้าพเจ้าลงไปลุยโคลนในลาธารเพื่อกาจัดวัชพืช เนื่องจากข้าพเจ้าสนใจในการทางานนี้ แต่มีผู้ท่ีสนใจมากกว่า คือคนข้ีเกียจคนหนึ่ง ซ่ึงน่ังอยู่บนราวสะพาน เขาสูบกล้องยาเส้น และมองดูการทางานของขา้ พเจ้า แลว้ ในที่สุดเขาก็กล่าวพึมพาว่า “งานน้ีสกปรกเลอะ เทอะจัง” ซ่ึงข้าพเจ้าก็เห็นด้วย และไม่สามารถตอบอย่างอื่นได้ เนื่องจากขณะนั้น ขา้ พเจา้ มีโคลนเปรอะเปื้อนต้งั แต่หน้าถงึ เทา้ “งานอยา่ งน้ี ได้ค่าจา้ งเทา่ ไหร?่ ” “ได้ไม่ถงึ ชว่ั โมงละ 6 เพนนี (ราว 3 บาทไทย...ผ้แู ปล)” ขา้ พเจา้ ตอบ “ฉนั ไมท่ าหรอก งานแบบนี้” ขา้ พเจ้าไมส่ งสยั ในคาพดู ของเขาเลย

93 (59) 3.11 การที่มีร่างกายแข็งแรงจะช่วยในการควบคุมตนเอง (Physical Fitness Helps Self Control) เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้บังคับการกรมทหาร เคยส่ังให้ทหารปลด กระติกนา้ ออกจากเครื่องแต่งกายทหารตามปกติ ซ่ึงฟังดูคล้ายเป็นคาสั่งที่โหดร้าย และ ในตอนแรกทหารทั้งหลายก็คิดน้ัน แต่หากพวกเขามี ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง จะพบว่า ร่างกายนั้นไม่ต้องการน้ามากนักระหว่างการเดินทาง เขาจะรู้สึกตัวเบาเมื่อไม่มีกระติก น้าอนั หนักแขวนอย่บู นสะโพก ทาให้สามารถเดนิ เท้าได้ไกลกว่าทหารอ่นื ถึง 3 เทา่ ย่ิงไปกว่านั้นพวกเขายังจะไม่ป่วยด้วยโรคท้องเสียหรือโรคไทฟอยด์เหมือน ทหารกรมกองอื่น เหตุผลในเร่ืองนี้ก็คือเม่ือทหารมีกระติกน้าติดตัวอยู่ พวกเขาก็จะด่ืม น้าจนหมดกระติกภายในช่ัวโมงแรกของการเดินทาง หลังจากด่ืมน้าหมดกระติกแล้ว เขาจะกระหายน้ามากกว่าเดิม และจะจัดการเติมน้าจากสระน้าหรือลาธารแห่งแรกที่ เขา(60)พบ ทาให้เกดิ โรคและการเจ็บปว่ ยตามมา สัญญาณอย่างหนึ่งของการร่างกาย ที่ “สมบูรณ์แข็งแรง” คือท่านแทบจะไม่รู้สึกกระหายน้า นักฟุตบอลหรือนักกีฬาอื่นจะ ไม่ด่ืมน้ามากนัก คนท่ีทางานโดยหวังในค่าจ้างและตาแหน่ง อาจลืมเรื่องการด่ืมน้าไปเลย คนที่ไมด่ มื่ เหลา้ ระหวา่ งกนิ อาหาร อาจมีอายุยนื ได้ถึงร้อยปี 3.12 ตานานของ ลุง จอห์น เชลล์ คนดื้อร้ัน (Uncle John Shell) เมื่อปีท่ี แล้ว ลุงจอห์น เชลล์ ที่ไปอยู่ต่างแดนเสียนาน ได้กลับมาเย่ียมบ้าน แล้วพบว่าภรรยา ของเขาเพ่งิ เสยี ชวี ิตไป ญาติของภรรยารับจัดการงานศพ และพาลูกชายคนเล็กของเขา อายุเจ็ดขวบไปอยู่ด้วย ลุงจอห์นได้คัดค้านอย่างรุนแรง แต่พวกญาติก็ขืนพาเด็กน้อย ไป ลุงจอห์นจึงเข้าไปในบ้าน หยิบปืนนกสับแบบโบราณที่เขาผลิตข้ึนเอง แล้วข่ีลาออก ไปพบพอ่ ตาท่บี นถนน เขาใช้ปนื บังคบั พอ่ ตา ใหส้ ่งลูกของเขาคนื ลุงจอหน์ “ อายุ132ปี และหัวแขง็ ด้ือรนั้ !” ถกู แล้ว! ไม่ใช่เป็นการพิมพ์ผิด ตามทะเบียนประชากรที่พิมพ์เผยแพร่ ลุงจอห์น เชลล์ เกิดท่ีเมืองนอกซวิลล์ เมื่อวันท่ี 3 กันยายน ค.ศ. 1788 และเม่ือ ค.ศ. 1920 ลุงจอห์น ยังมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ลูกชายคนเล็กที่กล่าวถึงในเรื่องดังกล่าว ขณะนั้นมีอายุ เพียงเจ็ดขวบ ลุงจอห์นเป็นชาวนา มีลูก 27 คน ลกู ชายคนโตของลุง มีอายุมากกว่า 90 ปี

94 ลุงจอห์นให้เคล็ดลับของการมีอายุยืนว่า “จงทางานหนัก แต่อย่าทางานให้มากเกินไป เพราะถ้าทางานมากเกินไป จะมีผลเสียหายเหมือนกับการทางานน้อยเกินไป จงกิน อาหารกับนอนหลับตามที่ร่างกายต้องการ และหาเรื่องสนุกสนานเล็กน้อยเป็นประจา ทกุ วนั ” แตล่ งุ จอหน์ ไม่เคยดืม่ อะไรที่แรงไปกว่านา้ คอื ไมด่ ม่ื เหลา้ เลย 3.13 การพักผอ่ นหย่อนใจท่สี นกุ สนาน (Amusement) การพักผ่อนหย่อนใจ ที่ข้าพเจ้าชอบทาในบางโอกาส เม่ือทางานนานเกินไป ในสานักงาน หรือในการประชุม คือการไปยังโรงมหรสพ เช่น การแสดงดนตรี การแสดง ตลก หรือโรงภาพยนตร์ การพักผ่อนโดยมีดารานักแสดงและดนตรีมาช่วย แล้วทาให้ เพลิดเพลินสนุกสนานหรือตลกขบขันนั้น อาจช่วยลดความเครียดจากการทางานได้ (61) ทโ่ี รงภาพยนตร์ หากเรอ่ื งในภาพยนตร์ไม่ได้ความ ข้าพเจ้ามักจะเข้าสู่สภาพท่ีสงบ ครึ่งหลบั ครง่ึ ตน่ื และถา้ เป็นเรอ่ื งเน่าๆ ซ่ึงพบบอ่ ย ขา้ พเจา้ กจ็ ะหลับอยา่ งเงียบ ๆ สาหรับการแสดงทมี่ ดี นตรีประกอบน้ัน ขา้ พเจ้าชอบรายการที่มีคนข่ีจักรยาน พเนจร ผู้เช่ียวชาญในการป่ันไม้ให้จานหมุน หรือคนมีเนคไทที่กระเด้งได้ การหัวเราะ อย่างเต็มท่ีคือการอาบน้าให้สมองแจ่มใส ในขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าก็ไม่ปฏิเสธว่า ข้าพเจ้ารู้สึกเบื่อหน่ายมากกับการแสดงท่ีมีการทะเลาะกัน โดยใช้เวลาถึงสามในส่ีของ รอบการแสดง ด้วยมุขตลกเก่าเกี่ยวกับปลาเน่าและแม่ยาย และเรื่องลามกที่น่ารังเกียจ โดยนักแสดงที่ไม่สามารถใช้คาพูดท่ีทาให้ผู้ชมหัวเราะ หาทางแทรกเข้าไปเพ่ือให้ตลก ขบขัน ข้าพเจ้าคิดผู้แสดงท่ีให้ความสนุกแบบไม่ลามก จะมีผู้ชมท่ีชอบมากกว่า และผู้จัดการก็อาจมีรายได้ดีกว่า เพราะคนทุกวันน้ีมีใจสะอาดกว่าแต่ก่อน ส่ิงเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับท่านซ่ึงเป็นคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ซึ่งจะต้องพัฒนาต่อไปเพื่อการเคารพตัวของ ท่านเอง

95 นอกจากนี้ ยงั มจี ุดอ่อนและข้อเสยี หายอนื่ ของการทาตามใจตนเองอีกมากมาย ที่ข้าพเจ้าไม่ได้อ้างถึงที่น่ี แต่ท่านสามารถหาค้นพบได้ด้วยตัวท่านเอง โดยการ ตรวจสอบพิจารณาลักษณะนิสัยของตัวเองอย่างรอบคอบละเอียดถ่ีถ้วน หลายเรื่อง อาจเป็นส่ิงท่ีไม่น่าสงสัยหรือไม่เคยคาดคิดมาก่อน แต่หากท่านค้นพบมันด้วยตนเอง แทนท่ีจะรอคอยให้คนอื่นชี้ให้ดู ก็อาจถือได้ว่าท่านกาลังเริ่มแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว แล้ว ข้าพเจ้าได้ระบุบางส่วนของตัวอย่าง ข้อบกพร่อง หรือพิษภัยเหล่าน้ีไว้ในบท สุดทา้ ยของหนังสือน้ี พร้อมกับเสนอแนะวธิ ีแก้ไขปญั หา หรอื ยาแกพ้ ษิ ดงั กลา่ วไวแ้ ล้ว 3.14 ทางอ้อมอุปสรรคหรือหินโสโครก (The Way Round the Rock) ท่านจะเห็นว่าอุปสรรคหรือหินโสโครกท่ีขวางทางชีวิตของท่านน้ัน มีป้ายติดชื่อไว้ว่า \"เหล้า\" แต่แท้ที่จริง คือ การตามใจตนเอง ( Self Indulgence ) ซ่ึงหมายความถึง การปล่อยตัวให้เลื่อนลอยตามใจไนเร่ืองการด่ืมเหล้ามากเกินไป สูบบุหรี่มากเกินไป กนิ อาหารมากเกนิ ไป หรอื อย่อู ย่างหรูหราฟมุ่ เฟือยเกินไป การตามใจตัวเอง อาจนาความพินาศให้กับบุคคลและเป็นอันตรายต่อชุมชน ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปล่อยตนเองให้ล่องลอยไปกับหมู่คณะรอบตัวท่าน โดยหัน (62) หลังใหอ้ นั ตราย แต่ด้วยการมองไปข้างหน้าและพายเรอื ของท่านดว้ ยตนเอง จะทาให้ ท่านพายเรืออ้อมหินโสโครกท่ีเป็นอุปสรรคก้อนนี้ไปได้อย่างปลอดภัย การกระทา ดังกล่าวจะทาให้ท่านมีลักษณะนิสัยท่ีเข้มแข็ง มีใจมั่นคง ปลอดภัยจากการถูกล่อลวง ไม่อ่อนแอหลงทางไปตามส่งิ ยว่ั ยวนใจ การปฏิบตั ดิ งั กลา่ วจะนาท่านประสบความสาเร็จ 3.15 การบังคับใจตนเอง (Self Control) มีส่วนผสมหลายอย่างที่จะทาให้เกิด ลักษณะนิสัยอันดีของบุคคล ซ่ึงข้าพเจ้าหมายถึงคุณลักษณะที่ดี ท่ีทาคนให้เป็นมนุษย์ หรือ สุภาพบุรษุ สภุ าพสตรี สิ่งแรกคือการควบคุมบังคับใจ หากผู้ใดสามารถควบคุมตัวเอง ระงับความโกรธ ระงับความกลัว และไม่หลงระเริงกับส่ิงล่อลวงย่ัวยวนใจต่างๆ บุคคลผู้น้ันย่อมดาเนิน ไปถูกทางในการเปน็ “สุภาพบุรษุ -สุภาพสตรี” ทีม่ ีเกียรตเิ ชอ่ื ถอื ได้

96 คาว่าสุภาพบุรุษ สุภาพสตรีน้ัน ข้าพเจ้ามิได้หมายความถึงคนหัวสูง ที่มี เคร่ืองแต่งกายอันหรูหรา สวมแว่นตาราคาแพง หรือมีเงินมาก แต่ข้าพเจ้าหมายถึงคน ธรรมดา ที่มีเกียรติเช่ือถือได้ในทุกกรณี ทาสิ่งต่างๆอย่างตรงไปตรงมา ไม่เห็นแก่ตัว และชอบช่วยเหลอื ผอู้ ่นื การควบคุมตนเอง เป็นจุดที่ชาวอังกฤษมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ คนอังกฤษ สามารถซ่อนความรู้สึกไว้อย่างดี จนชาวต่างชาติมักคิดว่าคนอังกฤษเป็นคนไม่เปิดเผย และไมเ่ หน็ อกเห็นใจผอู้ ่นื โดยคนต่างชาติก็ยอมรับว่าคนอังกฤษนั้น จะไม่หัวเสียในเวลา ฉุกเฉิน ซ่ึงก็มีส่วนดีอยู่บ้าง แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราสามารถทาได้มากกว่านั้น ด้วยการ บังคบั ใจตนเอง ทาใหส้ ามารถเราอดทนต่อสง่ิ ยวั่ ยวนใจตา่ งๆได้เปน็ ผลสาเรจ็ การบังคับใจตนเอง เป็นสิ่งซ่ึงสามารถส่งเสริมให้เกิดข้ึนได้ และทุกคน ที่ต้องการมลี กั ษณะนสิ ัยดี ควรฝึกฝนในเร่ืองการบงั คบั ใจตนเองน้ี คนทั่วไป มักจะหัวเราะเยาะกับวิธีการของลูกเสือ ซึ่งกล่าวว่า เม่ือลูกเสือ มีปญั หา ประสบภยั อนั ตรายหรอื เจ็บปวด ควรบงั คบั ใจตนเองโดยฝืนย้มิ สู้ และผิวปากไว้ เพราะการกระทาดงั กล่าวจะช่วยเปลย่ี นความรสู้ กึ ให้ดีขึ้นในทันใด แตข่ า้ พเจ้ากย็ งั ไมร่ จู้ กั ใคร ทีไ่ ม่เหน็ ดว้ ยกับวธิ ีการของลกู เสอื แบบนี้ เม่ือเขาได้ ลองด้วยตัวเองสักคร้ังหน่ึง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีผลตามที่ต้องการและย่ิงฝึกฝนมากขึ้น การควบคุมตนเองที่มากข้นึ จะพฒั นาจนเป็นนิสัย ดังน้นั จงึ กลายเปน็ ส่วนหน่งึ (63) ของลักษณะนิสยั อันดขี องบคุ คลผนู้ น้ั ขา้ พเจ้าเคยต้องคลานเข้าไปในพุ่มไม้หนามหนา ที่แอฟริกา เพื่อตามล่าสิงโตตัวหนึ่ง ขณะน้ันข้าพเจ้าตกอยู่ในความกลัวตายตลอดเวลา แต่คนนาทางชาวซูลูที่เช่ียวชาญการล่าสิงโตวางแผนว่าถ้าสิงโตกระโจนเข้ามา เขาจะ ปกปอ้ งดว้ ยการใชโ้ ลข่ องเขาครอบตวั ขา้ พเจ้าไว้ แม้ว่าข้าพเจ้าจะกลัวสิงโตมากเพียงใด แตข่ ้าพเจา้ กลับกลัวการดูถูกดูแคลนจากคนซูลูมากกว่า ดังนั้นข้าพเจ้าจึงคลานเข้าไปอีก แลว้ โลง่ ใจทีพ่ บวา่ สงิ โตตวั น้นั ไดว้ ิง่ หนไี ปทางอ่ืนแล้ว

97 แผนน้ีแสนง่าย โดยเฉพาะกับสิงโต ตอ่ มา ข้าพเจ้าได้รบั ประสบการณท์ านองเดียวกันที่อินเดีย ตอนนั้นพวกเราข่ีม้า ล่าหมูป่า แล้วใช้หอกแทงหมูป่าตัวหนึ่งเป็นแผลฉกรรจ์ หมูป่าตัวน้ันว่ิงหนีเข้าไป ในป่าทบึ ซึ่งลูกหาบชาวอินเดียท่ีติดตามไป ไม่สามารถไล่หมูป่าให้ออกมาได้ แม้ว่าจะ ตามเข้าไปในพุ่มไม้ ส่งเสียงเอะอะ แล้วกลับออกมา แล้วบอกว่าไม่พบหมูป่าอยู่ในนั้น แต่ข้าพเจ้าแน่ใจว่ามีหมูป่าอยู่ในบริเวณนั้นแน่ เพราะเราได้ปิดล้อมไว้ทุกทาง ดังน้ัน ข้าพเจ้าซ่ึงเคยมีช่ือเสียงในการล่าหมูป่าจึงลงจากหลังม้า และเดินเท้าตามเข้าไปเพื่อ ค้นหา เราได้พบหมูป่าตามความคาดหมาย แต่ความจริงที่ถูกต้องคือหมูป่าได้พบ ข้าพเจ้าในป่าทึบ ข้าพเจา้ ไดย้ นิ เสยี งดังโครมและเสยี งรอ้ งคารามของหมูป่าท่ีกระโจนใส่ ข้าพเจ้าจากที่ซ่อนตัวเอาเข้ียวแทงข้าพเจ้าจนเสื้อขาด พอหมูป่ากระโจนเข้ามาอย่างแรง ข้าพเจ้าก็ยกหอกข้ึนรับแล้วแทงถูกอกของมัน แต่แรงของหมูป่าก็ทาให้ข้าพเจ้า หงายหลังล้มลง พวกลูกหาบท่ีไล่ติดตามสัตว์ซึ่งเป็นคนแข็งแรงล่าสัน รีบหามข้าพเจ้า ออกนอกป่า แล้วบอกกับนักล่าสัตว์คนอ่ืนว่า หมูป่าได้ขวิดข้าพเจ้าตายไปแล้ว ตอ่ จากน้นั พวกนักล่าสตั วก์ ็รีบวงิ่ เขา้ ไปในป่าแล้วใชห้ อกพุ่งแทงหมปู า่ ตัวนน้ั จนตาย ท่านทราบหรือไม่ว่า แม้ในชั้นต้นเราจะกลัวการล่าหมูป่าท่ีเป็นงานเส่ียง อันตราย แต่ต่อมากลับสนุกสนานต่ืนเต้นในการต่อสู้วิธีนี้ ดังน้ัน หากคราวใดที่เราใช้

98 หอกแทงถูกหมูป่ามีอาการสาหัส เราจะลงจากหลังม้าแล้วลงไปต่อสู้กับหมูป่าทุกคร้ังไป (64) ในนิทานโบราณของอังกฤษ มเี ร่ืองเล่าเก่ียวกับนักบุญอัศวินช่ือ เซนต์จอร์จ ที่ข่ีม้า ต่อสู้กบั มงั กร ขา้ พเจ้าคิดว่าหลังจากท่เี ซนต์จอร์จเอาชนะความกลัว โดยสามารถสังหาร มงั กรตัวแรกไดแ้ ลว้ ถ้ามมี ังกรเหลอื อยู่อกี หลายตวั เซนต์จอร์จ ก็อาจถอื เอาการล่ามังกร เปน็ งานอดเิ รกประจาตามปกติ เหมือนกับการลา่ หมปู ่าของข้าพเจ้ากไ็ ด้ หากท่านสามารถควบคุมบังคับตัวเอง ให้สามารถเผชิญกับความยากลาบาก หรอื ส่ิงที่อาจเปน็ อนั ตรายได้สกั ครงั้ หนงึ่ แล้ว การเผชญิ เหตุครั้งต่อไปจะงา่ ยขนึ้ กว่าเดิม การควบคุมบงั คบั ใจตนเอง ไมเ่ พียงแต่ชว่ ยแกน้ สิ ยั ที่ไมด่ ไี ด้เท่าน้ัน แต่ยังช่วย ควบคุมความนึกคิดที่อยู่ในใจทุกอย่างของท่านด้วย และนี่คือประเด็นสาคัญอย่างยิ่ง สาหรบั ความสุขของท่าน “จงควบคุมบังคับตัวเอง ให้ท่านมองเห็นช่องทางสว่างซ่ึงอยู่เบื้องหลัง เมฆหมอกอนั มืดทบึ ทส่ี ุด เพือ่ ดน้ิ รนให้หลดุ พ้นจากปญั หาทมี่ ดื มน แล้วท่านจะสามารถ เผชิญกับมุมมองสีดาหรืออุปสรรคขวากหนามท่ีปดิ ก้ันหนทางชวี ิตไดด้ ้วยความมนั่ ใจ” ความวิตกกังวลเป็นความคิดที่ทาให้ใจหดหู่ หากท่านสามารถกาจัดความ กังวลโดยทาความเข้าใจได้แล้วสักครั้งหน่ึง ท่านจะมีความหวังอันสดใสเข้ามาแทนท่ี โดยไม่ต้องหันไปพึ่งของมึนเมาเช่นเหล้าหรือสารเสพติด เพ่ือให้เกิดความกล้าชนิด จอมปลอม หรอื ลืมเร่อื งทท่ี าใหเ้ กิดความกังวลใจ ประโยชน์สาคัญที่จะได้จาก การฝึกบังคับใจตนเอง คือความสามารถในการ เปล่ียนความคิดจากเร่ืองไม่ดีไม่งาม ไปคิดถึงเร่ืองอ่ืนที่ก่อให้เกิดความพอใจและความ ชื่นบาน ถา้ ทา่ นหม่ันฝึกอบรมตนเอง ท่านจะสามารถเพาะปลกู นสิ ัยการบังคับใจตนเองน้ี ซึ่งจะทาให้ท่านสามารถเปลี่ยนช่องความคิดในสมองที่นึกถึงแต่เร่ืองไม่ดี ไปเป็น ความคิดใหม่ทมี่ แี ต่เรือ่ งดี ท่ีเป็นมงคลตอ่ ตวั ของท่านเอง โดยวิธีนี้ ท่านอาจสร้างตนเองให้เป็นมนุษย์คนใหมข่ ึน้ มาได้

99 (65) 3.16 วธิ ฝี ึกบังคับใจตนเองของนายพลโนกิ (Self Discipline of General Nogi) นายพล มาเรสุเกะ โนกิ (乃木 希典 1849-1912) ผู้นากองทัพญี่ปุ่น ผู้มีช่ือเสียง เมื่อกว่าร้อยปีมาแล้ว เขาเรียนวิชาทหารจากเยอรมนี เคยเป็นผู้ปกครองเกาะไต้หวัน เคยดแู ลจกั รพรรดิฮิโรฮิโตของญี่ปุ่นเม่ือทรงพระเยาว์ และเป็นหน่ึงในคณะลูกเสือญี่ปุ่น ที่เคยเดินทางไปอังกฤษ นายพลโนกิได้อธิบายต่อหน้าข้าพเจ้า ถึงวิธีฝึกฝนตนเอง ให้สามารถควบคุมจิตใจและมีความกล้าหาญ ท่านบอกว่าเป็นเรื่องของ “การมีวินัย และการฝืนใจลงมือทาส่ิงท่ีไม่ชอบหรือเกลียดกลัว” เน่ืองจากคนเราตามธรรมดาน้ัน มักจะอยากทาเพียงในส่ิงที่ตนรัก ส่ิงท่ีตนชอบ หรือสิ่งที่ตนไม่เกลียดกลัว แต่การท่ีจะฝึก ตนให้มีจิตใจเข้มแข็งน้ัน จะต้องฝืนใจ บังคับใจตนเองให้ทาสิ่งที่ตนไม่ชอบ ฝืนใจให้ ตนเองทาสิง่ ท่ตี นเกลยี ด บังคับใจใหต้ นเองทาสิ่งที่ตนกลัว นายพลญี่ปุ่นคนน้ีเร่ิมต้นชีวิต วัยหนุ่มที่อ่อนแอ ประหม่า ใจโลเลเปลี่ยนไปมาไม่แน่นอน ไม่กล้าตัดสินใจ แต่ด้วย อานาจจิตท่ีเข้มแข็ง ทาให้เขามองเห็นถึงความอ่อนแอของตน และมุ่งม่ันท่ีจะเอาชนะ ความอ่อนแอของตนให้จงได้ เม่ือใดก็ตามท่ีต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหา หรือสิ่งท่ีไม่ชอบ เกลียดกลัว เขาจะบังคับตัวเองให้ฝ่าฟันอุปสรรค ลงมือทาส่ิงท่ีไม่ชอบหรือเกลียดกลัวน้ัน และจะทาซ้าอีกเม่ือมีโอกาส เพ่ือให้แน่ใจว่าสามารถกาจัดความอ่อนแอในจิตใจ ที่เป็น ข้อบกพร่องของตน แล้วตอ่ มาเขาก็สามารถเอาชนะความกลวั ทัง้ หลายไดอ้ ย่างส้ินเชงิ การสู้รบกับรัสเซียที่ทาให้ทหารญี่ปุ่นตายไป 56,000 คน ทาให้เขาอยากฆ่า ตัวตายตามไป แต่จักรพรรดิเมจิทรงไม่อนุญาต นายพลโนกิเป็นวีรบุรุษท่ีกล้าหาญ และเป็นทหารญ่ีปุ่นท่ีทรหดท่ีสุดในยุคนั้น ลูกชายสองคนของเขาถูกฆ่าตายในสงคราม แตเ่ ขาไมแ่ สดงอาการเสยี ใจให้ใครเหน็ เพราะเกรงจะทาให้คนอนื่ หดหู่ แม้ในสว่ นลกึ ของ หวั ใจนน้ั จะรู้สึกโศกเศรา้ มาก เม่อื จักรพรรดเิ มจิสวรรคต นายพลโนกิ คิดว่าตนเองไม่ควรมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ในฐานะท่ีเป็นผู้รับใช้ที่ซ่ือสัตย์ขององค์จักรพรรดิ์ และสานึกในความผิดพลาดของตน ท่ีทาให้ทหารญ่ีปุ่นตายไปหลายหมื่นคนในการรบกับรัสเซีย เขาจึงได้ฆ่าตัวตายแบบ ควา้ นทอ้ งฮาราคิรดี ว้ ยมอื ตนเอง ตามแบบนกั รบซามไู รทม่ี เี กียรติสูงสง่ พร้อมกบั ภรรยา

100 เรื่องของนายพลโนกิน้ี เปน็ ตวั อยา่ งอนั ยอดเย่ียม ของวิธีฝึกบังคับใจตนเองให้ แขง็ แกร่ง โดยการฝนื ใจลงมอื ทาสงิ่ ที่ไมช่ อบหรอื สิ่งทเ่ี กลียดกลวั ท้งั ปวง 3.17 การบังคับใจตนเองทาคนให้ธรรมดาเป็นสุภาพบุรุษ (Self Control Makes the Gentleman) บาดหลวง วิลเลียม ออฟ ไวเคนแฮม (Wykenham) ผู้ให้ กาเนดิ มหาวทิ ยาลยั ออกซฟอร์ดขององั กฤษ ใหข้ อ้ คดิ เมอ่ื นานมาแล้วว่า “การกระทาท่ีดี ทาให้คนเป็นมนุษย์ (Manners makyth Man)” ซึ่งเป็นส่ิงที่ถูกต้อง เพราะมนุษย์ แปลว่า คนที่รู้จักเหตุผลและมีจิตใจสูง มนุษย์ท่ีแท้จริงเป็นคนสุภาพเรียบร้อย แสดง ความออ่ นนอ้ ม เห็นใจผูอ้ ืน่ และมีอารมณ์ขันชนิดดี ทไี่ มท่ าใหค้ นอ่ืนเสียหาย การกระทาดังกล่าวทาให้เขาเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และข้าพเจ้าเห็นว่า เปน็ การยากเทา่ กัน ทคี่ นช้นั สงู หรือชา่ งก่ออฐิ ทว่ั ไป จะเปน็ สภุ าพบุรุษสภุ าพสตรไี ด้ ข้าพเจ้าเคยเล่นกีฬาโปโลท่ีขี่ม้าตีลูกบอล กับทีมท่ีมีผู้เล่นผิวดาคนหนึ่งที่เล่น ได้ดีมาก แต่เขามีจุดอ่อนท่ีมีอารมณ์ร้าย ดังน้ันถ้าเราข่ีม้าไปกระแทกเขาเพียงคร้ังเดียว หรือจบั ไมส้ าหรับตีลูกบอลของเขาไว้ขณะท่ีเขากาลังจะตีลูก (ท่ีมีกติกาอนุญาตให้ทาได้) เขาก็จะโมโหและหัวเสียตลอดเวลาท่ีเหลือของเกม และไม่สามารถทาคะแนนเพิ่มให้ทีม ของเขาอีกเลย ในการอภิปรายหรือโต้วาทีก็เช่นกัน หากฝ่ายตรงข้ามของท่านไม่สามารถ ควบคมุ อารมณ์ของเขา แต่ท่านสามารถควบคุมอารมณ์ของท่านได้ ท่านย่อมเป็นฝ่าย มชี ัย (66) เรามักจะได้อ่านจดหมายโต้ตอบที่รุนแรงในหนังสือพิมพ์บ่อยๆ ซ่ึงเป็นการ แสดงออกของคนใจนอ้ ย ทเี่ มอื่ รสู้ กึ โกรธ ก็รีบเขียนจดหมายไปลงหนังสือพิมพ์ เพอื่ แสดง ให้เห็นถึงจิตใจแบบเด็ก ๆ ท่ีมักจะพูดว่า “ฉันจะไปฟ้องแม่ และจะไม่มาเล่นในสนาม ของบา้ นเธออีกต่อไป” จาไวว้ า่ “ถา้ ทา่ นเป็นฝา่ ยถูก กไ็ ม่จาเป็นตอ้ งหวั เสยี หรือโกรธ และถ้า ทา่ นเป็นฝ่ายผดิ แล้วหวั เสียโกรธขน้ึ ทา่ นกจ็ ะไมม่ ที างสู้ใครได้”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook