66. วตั ถมุ วล m ผูกดว้ ยเส้นด้ายซึง่ มีมวลนอ้ ยมาก แล้วแกวง่ ใหม้ วล m เคลื่อนที่เป็นวงกลมในระนาบระดับ เส้นดา้ ยทํามุม θ กบั แนวดิง่ ดังรูป ความตึงเสน้ ดา้ ย (T) มคี ่าเท่าใด θ m 1) mg cos θ 2) mg cos θ mg 3) mg sin θ 4) sin θ 67. ลูกบิลเลยี ดมวล M รัศมี R มโี มเมนตค์ วามเฉ่ือย 52 MR2 เดิมอยูน่ งิ่ ๆ บนพ้นื เอียงสูง 2.8 เมตร กลิง้ ลงมา ตามพืน้ เอยี ง เม่ือถึงพ้ืนราบลูกบลิ เลียดนมี้ คี วามเร็วเทา่ ใด v 2.8 m 1) 6.3 m/s 2) 7.4 m/s 3) 9.0 m/s 4) 12 m/s 68. แปน้ หมุนมโี มเมนต์ความเฉอ่ื ย 500 กโิ ลกรัม ⋅ (เมตร)2 อตั ราเร็วเชิงมุมตอนตน้ เป็น 6 เรเดียนตอ่ วินาที ตอ่ มาความฝืดทาํ ใหแ้ ป้นสูญเสยี พลงั งานจลนไ์ ป 6750 จลู อตั ราเรว็ เชิงมุมจะเหลือเป็นคา่ เท่าใด 1) 2 red/s 2) 3 red/s 3) 4 red/s 4) 5 red/s โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีที่ 28 _________________________________ วทิ ยาศาสตร์ ฟสิ กิ ส์ (199)
69. ของเหลว 3 ชนดิ มีความหนาแน่น D1, D2, D3 บรรจุในภาชนะ ดังรูป ถา้ D2 = 2D1 จงหาวา่ D3 เป็นกีเ่ ทา่ ของ D1 h2 D1 D2 3h 4h D3 1) 4 2) 2 3) 21 4) 14 70. เม่อื หยอ่ นลกู โลหะทรงกลมเล็กๆ ลงในทรงกระบอกทที่ าํ ด้วยแก้ว โดยมีน้ํามันบรรจุอยู่ ถ้าระยะ ab = bc = cd การเคลอ่ื นทข่ี องลูกโลหะเปน็ ไปตามข้อใด a b โลหะทรงกลมเล็กๆ c d 1) ชว่ ง a ถึง b มคี วามเร่ง ตอ่ จากน้ันจะมคี วามเรว็ คงตัว 2) ชว่ ง a ถงึ b มคี วามหนว่ ง ต่อจากนน้ั จะมคี วามเรว็ คงตวั 3) ชว่ ง a ถงึ d มคี วามเรง่ คงตวั ตลอด 4) ช่วง a ถงึ d มีความเรว็ คงตวั ตลอด วิทยาศาสตร์ ฟสิ ิกส์ (200) __________________________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 28
ชดุ ท่ี 3 71. ในการทดลองการเหน่ียวนําประจุไฟฟา้ โดยใช้อเิ ลก็ โทรสโคปแผน่ โลหะและแผน่ ตัวนาํ โดยในตอนแรก อิเล็กโทรสโคป มีประจไุ ฟฟ้า เมอื่ เดก็ นกั เรยี นคนหนึ่งถือแผ่นตวั นําทป่ี ลายขา้ งหนงึ่ และค่อยๆ สอดปลาย อีกข้างหนึ่งเขา้ มาใกล้ๆ กับอเิ ลก็ โทรสโคป ผลทีเ่ กิดขนึ้ จะเปน็ ดังข้อใด 1) แผ่นโลหะจะกางออกเหมือนเดิมและจะหุบสนิทเม่ือแผน่ ตวั นําแตะกับแผน่ โลหะ 2) แผน่ โลหะจะหุบสนิททนั ที 3) แผน่ โลหะจะคอ่ ยๆ หุบลงเมอื่ แผน่ ตวั นาํ เข้ามาใกล้มากขน้ึ 4) จะมีประจุลบอยู่ทป่ี ลายของแผ่นตัวนําดว้ ยขนาดเทา่ กับประจุบวกบนอเิ ล็กโทรสโคป 72. ABCD เปน็ สี่เหลี่ยมจัตรุ ัสมีประจุ +10, -20, +30 และ -40 คูลอมบ์ วางอยูท่ ี่ A, B, C และ D ตามลาํ ดับ ถา้ จดุ O เปน็ จุดทเี่ ส้นทแยงมุมตัดกนั จงหาทิศของความเขม้ สนามไฟฟา้ ที่จุด O (จดุ ตดั กนั ของเสน้ ทแยงมุม) วา่ มที ิศอยู่ระหว่างมมุ ใด 1) บอกไม่ได้ 2) มมุ AOB 3) มุม BOC 4) มมุ COD 5) มุม AOD 73. ข้อความใดต่อไปน้เี ปน็ จริง 1) ณ จดุ ใดๆ ทศ่ี ักยไ์ ฟฟ้าเป็นศูนย์ สนามไฟฟา้ อาจจะไมเ่ ปน็ ศูนย์ 2) ณ จุดใดๆ ท่ศี ักยไ์ ฟฟ้าไม่เป็นศูนย์ สนามไฟฟา้ อาจจะเปน็ ศูนย์ 3) ณ จุดใดๆ ทศี่ กั ยไ์ ฟฟ้าเปน็ ศูนย์ สนามไฟฟ้าอาจจะเป็นศนู ย์ 4) เปน็ ไปได้ทง้ั ข้อ 1), 2) และ 3) 74. เมื่อนาํ ประจุ -2 × 10-6 คูลอมบ์ เข้าไปวางไว้ ณ จดุ จดุ หนง่ึ ปรากฏว่ามแี รง 8 × 10-6 นวิ ตนั มากระทาํ ตอ่ ประจนุ ี้ ในทศิ ทางซ้ายไปขวา ค่าสนามไฟฟ้าตรงจดุ นน้ั มีค่าและทิศทางดังข้อใด 1) มีความเข้ม 4 โวลตต์ ่อเมตร ทิศจากซา้ ยไปขวา 2) มคี วามเข้ม 4 โวลตต์ ่อเมตร ทศิ จากขวาไปซา้ ย 3) มคี วามเข้ม 0.25 โวลต์ตอ่ เมตร ทิศจากซ้ายไปขวา 4) มคี วามเขม้ 0.25 โวลต์ต่อเมตร ทิศจากขวาไปซ้าย โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 28 _________________________________ วิทยาศาสตร์ ฟสิ ิกส์ (201)
75. ตวั เก็บประจุ 4 ตัว ต่อกนั ดังรูป ถ้านาํ มาตอ่ กับความต่างศกั ย์ 20 โวลต์ ประจุบนตัวเก็บประจุ 6 ไมโครฟารดั มคี ่ากี่ไมโครคลู อมบ์ 3 µF 6 µF 40 µF 8 µF 20 V 76. ในการทดลองครัง้ หนึง่ สามารถเขียนกราฟระหว่างกระแสไฟฟา้ กบั เวลา ดังรูป ถามว่าตั้งแตเ่ รมิ่ ตน้ จน กระแสไฟฟ้าเท่ากับ 0 แอมแปร์ มีประจเุ คล่อื นท่ผี ่านเคร่ืองวัดเฉลี่ยวินาทลี ะก่คี ลู อมบ์ I (mA) 20 0 7 10 t (s) 1) 200 คูลอมบ์ 2) 150 คลู อมบ์ 3) 0.17 คลู อมบ์ 4) 0.017 คลู อมบ์ 77. ลวดทองแดงเสน้ หน่งึ มพี ืน้ ทห่ี นา้ ตดั 1.2 ตารางมิลลเิ มตร ยาว 500 เมตร จะมคี วามต้านทานเทา่ ใด ให้สภาพต้านทานของทองแดง 1.8 × 10-8 โอห์ม ⋅ เมตร 1) 1.5 × 10-2 2) 7.5 × 10-2 3) 1.5 4) 7.5 78. ถ้าต้องการใหม้ กี ระแสไฟฟา้ 10 A ไหลผา่ นความต้านทาน 50 Ω เม่ือต่อเข้ากบั ความต่างศักย์ 600 V จะต้องนาํ ไปต่อกบั ความตา้ นทานอีกตวั หนงึ่ อยา่ งไร 1) ตอ่ ขนานกับความต้านทาน 10 Ω 2) ตอ่ อนกุ รมกบั ความต้านทาน 10 Ω 3) ตอ่ ขนานกับความตา้ นทาน 20 Ω 4) ต่ออนกุ รมกับความตา้ นทาน 20 Ω 79. วงจรไฟฟา้ ดงั แสดงในรูป กระแสไฟฟา้ ทไ่ี หลออกจากแบตเตอรมี่ คี ่าเทา่ ใด 2Ω 4Ω + 3Ω 12 V 4 Ω - 2Ω 3Ω วทิ ยาศาสตร์ ฟิสิกส์ (202) __________________________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 28
80. แอมมิเตอร์เคร่ืองหนึง่ วัดกระแสไฟฟ้าไดส้ งู สุด 50 มลิ ลแิ อมแปร์ ถา้ ต้องการทาํ ใหว้ ดั กระแสไฟฟา้ ได้สงู สุด 100 มิลลแิ อมแปร์ จะต้องดัดแปลงแอมมิเตอร์นี้อยา่ งไร 1) ต่อตัวตา้ นทานอนกุ รมกบั แอมมิเตอร์ 2) ตอ่ ตวั ตา้ นทานอนกุ รมกับวงจรทจี่ ะวดั กระแสไฟฟา้ 3) ต่อตัวต้านทานคา่ นอ้ ยกวา่ ความตา้ นทานของแอมมิเตอร์ขนานกบั มเิ ตอร์ 4) ตอ่ ชนั ตท์ ม่ี ีคา่ เท่ากบั ความตา้ นทานของแอมมเิ ตอร์น้นั 81. แทง่ แม่เหล็กแท่งหนึ่งวางในสนามแม่เหล็กโลกซงึ่ สมํา่ เสมอ ดังรูป ณ จุดใดบา้ ง สนามแม่เหล็กมีโอกาสจะ เปน็ ศนู ย์ NA B C H N SD GFE 1) จดุ A และ E 2) จุด B และ F 3) จุด C และ G 4) จุด D และ H 82. สนามแม่เหลก็ มีทิศพุ่งต้งั ฉากลงไปในกระดาษ มีขนาด 1.0 เทสลา PQ เปน็ ตวั นาํ วางอยูบ่ นรางโลหะ TS และ UR โดย PQ เคลือ่ นทไี่ ปทางซา้ ยดว้ ยความเรว็ 8 เมตรตอ่ วินาที ระหวา่ ง S และ R มคี วามต้านทาน ตอ่ อยู่ 5 โอห์ม แรงเคล่อื นไฟฟ้าเหน่ยี วนาํ ในตวั นาํ PQ มคี า่ เทา่ ใดในหนว่ ยของโวลต์ T PS 0.4 m 5 Ω UR Q 1) 1.8 2) 3.2 3) 17.5 4) 40.0 83. ลวดเสน้ ตรงยาว 40 เซนตเิ มตร วางไวบ้ นโตะ๊ ในแนวทิศเหนอื ใตท้ างภูมิศาสตร์ทขี่ ว้ั แม่เหลก็ โลก มี กระแสไฟฟา้ 2 มลิ ลิแอมแปร์ ไหลจากทิศเหนือมาทศิ ใต้ ปรากฏว่าเกดิ แรงแม่เหล็กขนาด 10-3 นวิ ตัน ผลักลวดไปทศิ ตะวนั ตก จงหาขนาดและทศิ ของสนามแม่เหลก็ นี้ 1) 0.80 เทสลา ทศิ พงุ่ ลงตง้ั ฉากกับระนาบโตะ๊ 2) 0.80 เทสลา ทศิ พ่งุ ข้นึ ตั้งฉากกับระนาบโตะ๊ 3) 1.25 เทสลา ทศิ พ่งุ ลงตั้งฉากกบั ระนาบโตะ๊ 4) 1.25 เทสลา ทิศพุง่ ขน้ึ ต้งั ฉากกบั ระนาบโตะ๊ 84. หมอ้ แปลงไฟฟา้ มีประสทิ ธิภาพ 100% ขดปฐมภูมมิ ีจาํ นวน 100 รอบ ตอ่ ไว้กับไฟกระแสสลับท่มี ี แรงเคลือ่ นไฟฟ้า 200 โวลต์ ขดทุติยภมู ิมจี ํานวน 200 รอบ และต่อไว้กบั เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ซงึ่ ขณะน้ใี หก้ ําลงั สงู สดุ 400 วตั ต์ ถ้าขดลวดทุติยภูมิไมม่ คี วามตา้ นทาน เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ นี้จะมคี วามตา้ นทานกโี่ อห์ม 1) 400 2) 300 3) 200 4) 100 โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 28 _________________________________ วทิ ยาศาสตร์ ฟสิ ิกส์ (203)
85. หม้อแปลงขนึ้ จาก 20 โวลต์ เปน็ 200 โวลต์ มปี ระสทิ ธภิ าพ 75% จงหาวา่ จะมีกระแสไฟฟ้าในขดลวด ปฐมภมู เิ ทา่ ใด เมื่อต่อปลายด้านทุติยภูมกิ บั หลอดไฟ 200 โวลต์ 60 วตั ต์ 1) 0.3 แอมแปร์ 2) 0.4 แอมแปร์ 3) 3.0 แอมแปร์ 4) 4.0 แอมแปร์ 86. ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้ากระแสสลับมีความสัมพันธร์ ะหว่างกระแสกบั เวลาเปน็ ดงั นี้ i = 3 sin 440t ความถีข่ องกระแสสลับมคี ่ากีเ่ ฮริ ตซ์ 1) 10 2) 70 3) 140 4) 440 87. จงหาค่าความต้านทานเชงิ ความจุของตวั เก็บประจุทมี่ คี วามจุ 20 ไมโครฟารดั และความต้านทานเชงิ เหนยี่ วนําท่มี ีความเหนี่ยวนาํ 120 มลิ ลิเฮนรี ตามลําดับ เมือ่ ต่อกบั ไฟฟ้ากระแสสลับท่ีมีความถ่เี ชิงมมุ 500 เรเดยี นต่อวินาที 1) 50 Ω, 100 Ω 2) 80 Ω, 60 Ω 3) 60 Ω, 80 Ω 4) 100 Ω, 60 Ω 88. ส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ กระแสสลับเปน็ ดังรปู จงหาค่ากระแสไฟฟา้ เฉลยี่ รวมของวงจร I 6 A 2 A 10 A RLC 1) 6 A 2) 10 A 3) 18 A 4) 26 A 89. จากแผนภาพเฟเซอร์ที่กาํ หนดใหด้ ังรูป กาํ ลังไฟฟา้ เฉล่ยี ของวงจรมคี า่ กี่วัตต์ π3 Vrms = 50 A 1) 250 Irms = 20 A 3) 750 2) 500 4) 1,000 วทิ ยาศาสตร์ ฟิสกิ ส์ (204) __________________________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 28
90. แสงสีเหลอื งความยาวคล่นื 590 นาโนเมตร เป็นลาํ ขนานฉายผ่านสลิตเดีย่ ว (Single Slit) กว้าง 250 ไมโครเมตร แสงทีต่ กบนฉากหลังสลิตทีร่ ะยะ 50 เซนติเมตร มีความเข้มดงั รูปในแนวตั้งฉากกบั แนวของสลติ ระยะ X จะเปน็ เท่าใด X 1) 1.18 mm 2) 2.36 mm 3) 3.54 mm 4) 4.92 mm 91. การเลีย้ วเบนของแสงจะมากขึ้นเมอื่ มีการเปลีย่ นแปลงข้อใด 1) เพ่มิ ความกว้างของช่องแคบเดยี่ ว 2) ลดจํานวนช่องของเกรตติง 3) ใช้แสงสเี ดยี วทีม่ คี วามยาวคล่นื เพิ่มขนึ้ 4) ใชแ้ สงท่ีมีความถ่ีมากข้นึ 92. ข้อใดตอ่ ไปนี้ไมใ่ ชค่ ลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟ้าทงั้ หมด 2) รงั สีเอกซ์ ไมโครเวฟ รงั สีอนิ ฟราเรด 1) รงั สีแกมมา คล่ืนวิทยุ เรดาร์ 4) รงั สบี ตี า คลน่ื วิทยุ รงั สีเอกซ์ 3) รังสีอลั ตราไวโอเลต เลเซอร์ รังสแี กมมา 93. ข้อใดเป็นการเรียงลาํ ดบั คล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้าจากความยาวคล่นื น้อยไปมากทถ่ี ูกตอ้ ง 1) รังสีเอกซ์ อนิ ฟราเรด ไมโครเวฟ 2) อินฟราเรด ไมโครเวฟ รังสเี อกซ์ 3) รงั สีเอกซ์ ไมโครเวฟ อนิ ฟราเรด 4) ไมโครเวฟ อินฟราเรด รงั สเี อกซ์ 94. ในการทดลองเรื่องหยดนํา้ มันของมลิ ลแิ กน ถา้ ใช้ความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้า 100 โวลต์ หยดนํา้ มนั มีมวล 8 × 10-16 กิโลกรัม ระยะหา่ งระหว่างแผน่ ขวั้ โลหะเทา่ กบั 0.8 เซนติเมตร ทําให้หยดนา้ํ มันอยูน่ ่ิง หยดน้ํามนั ไดร้ บั อเิ ลก็ ตรอนกต่ี ัว 1) 1 ตวั 2) 2 ตัว 3) 4 ตัว 4) 8 ตวั 95. ถา้ ยงิ อนภุ าคแอลฟาเข้าไปในนวิ เคลียสของโลหะ ทางเดินของอนภุ าคแอลฟาทีเ่ ป็นไปไดค้ อื ขอ้ ใด ข กค ง 2) ข และ ค เทา่ น้ัน 4) ก, ข, ค และ ง 1) ก และ ง เท่านัน้ 3) ก, ค และ ง เท่าน้นั โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 28 _________________________________ วิทยาศาสตร์ ฟิสกิ ส์ (205)
96. พลังงานตํา่ สดุ ของอเิ ลก็ ตรอนในอะตอมไฮโดรเจน คอื -13.6 อเิ ลก็ ตรอนโวลต์ ถ้าอิเลก็ ตรอนเปลย่ี น สถานะจาก n = 3 ไปสสู่ ถานะ n = 2 จะให้แสงที่มพี ลงั งานควอนตัมเทา่ ใด 1) 1.51 eV 2) 1.89 eV 3) 3.40 eV 4) 4.91 eV 97. เม่ือผ่านรงั สีเอกซเ์ ขา้ ไปในบริเวณสนามแมเ่ หลก็ หรอื สนามไฟฟา้ แล้ว ขอ้ ใดถกู 1) ไมม่ ีการเบ่ียงเบนในทิศทางใดๆ ในสนามนน้ั ๆ 2) เบ่ยี งเบนเขา้ หาขัว้ บวกของสนามแม่เหลก็ หรือสนามไฟฟ้านั้น 3) เบีย่ งเบนเขา้ หาข้วั ลบของสนามแมเ่ หลก็ หรอื สนามไฟฟ้าน้นั 4) มีการเคลอ่ื นท่เี ป็นรูปคลนื่ ไซน์ 98. อะตอมของธาตุ 19768Pt และ 19797 AU จะมจี าํ นวนอะไรเทา่ กัน 1) นวิ คลีออน 2) นิวตรอน 3) โปรตอน 4) อเิ ล็กตรอน 99. อตั ราการสลายตวั ของกลมุ่ นิวเคลยี สกมั มันตรังสี A ข้ึนกบั อะไร 1) อณุ หภูมิ 2) ความดัน 3) ปริมาตร 4) จาํ นวนนิวเคลียส A ทีม่ ีอยู่ 100. นกั โบราณคดตี รวจพบเรอื ไมโ้ บราณลาํ หน่งึ วา่ มีอตั ราส่วนของปรมิ าณ C-14 ต่อ C-12 เปน็ 25% ของ อตั ราส่วนสาํ หรบั สิ่งที่ยงั มชี วี ิต สันนิษฐานไดว้ า่ ซากเรอื น้ีมอี ายุประมาณกีป่ ี กาํ หนดให้ครึ่งชวี ติ ของ C-14 เปน็ 5,730 ปี 1) 2,865 ปี 2) 5,730 ปี 3) 11,460 ปี 4) 22,920 ปี 101. พจิ ารณาปฏกิ ิรยิ านิวเคลยี รต์ ่อไปนี้ 29342 U → 28184 Po + 4 42He โดย 29342U มีมวล 234.11408 u 28184 Po มมี วล 218.07702 u 24He มมี วล 4.002603 u ดงั น้นั พลงั งานท่ีปล่อยออกมาจากปฏกิ ริ ิยาน้จี ะมีค่าเท่าใด 1) 0.0266 เมกะอิเลก็ ตรอนโวลต์ 2) 6.0173 เมกะอเิ ลก็ ตรอนโวลต์ 3) 12.0345 เมกะอิเล็กตรอนโวลต์ 4) 24.8093 เมกะอิเลก็ ตรอนโวลต์ 102. การใชฉ้ นวนกนั้ เปน็ การป้องกนั การถา่ ยโอนความร้อนแบบใด 1) การนาํ ความรอ้ น 2) การพาความรอ้ น 3) การแผร่ งั สคี วามร้อน 4) ได้ท้ัง 3 แบบ วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ (206) __________________________________โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 28
103. การถ่ายโอนความร้อนแบบใด ต้องอาศัยตวั กลาง 2) ก. และ ข. ก. การนาํ ความร้อน 4) ข. และ ค. ข. การพาความรอ้ น ค. การแผ่รังสีความร้อน ขอ้ ทถ่ี ูกต้องคอื ข้อใด 1) ก. อย่างเดยี ว 3) ก. และ ค. 104. จากรูป เป็นกราฟแสดงความสมั พันธร์ ะหวา่ งอณุ หภมู ิเป็นเคลวนิ กบั พลงั งานความร้อนเปน็ จูลทีส่ ารหนึ่ง ไดร้ ับ ถา้ สารดงั กล่าวมีมวล 1 กโิ ลกรัม จงหาความร้อนแฝงจาํ เพาะของการกลายเปน็ ไอของสารน้ันวา่ เปน็ กีจ่ ูลตอ่ กโิ ลกรัม อุณหภมู ิ (K) 353 พลังงาน (J) 333 313 293 2730 80 160 240 320 400 480 105. นํ้าแข็งมวล 20 กรัม อณุ หภูมิ 0 องศาเซลเซยี ส ละลายกลายเป็นนาํ้ หมดที่ 0 องศาเซลเซียส จะตอ้ งใช้ ความรอ้ นเทา่ ใด (Lนา้ํ แขง็ = 333 × 103 จูลตอ่ กโิ ลกรัม) โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 28 _________________________________ วทิ ยาศาสตร์ ฟิสิกส์ (207)
เฉลย ชุดที่ 1 2. 3) 3. 1) 4. 3) 5. 5) 7. 2) 8. 4) 9. 3) 10. 3) 1. 2) 12. 1) 13. 3) 14. 3) 15. 4) 6. 2) 17. 5) 18. 5) 19. 3) 20. 4) 11. 2) 22. 2) 23. 4) 24. 3) 25. 3) 16. 4) 27. 2) 28. 3) 29. 3) 30. 4) 21. 3) 32. 1) 33. 3) 34. 1) 35. 1) 26. 5) 31. 4) 37. 2) 38. 3) 39. 3) 40. 2) 42. 3) 43. 3) 44. 1) 45. 2) ชุดท่ี 2 47. 2) 48. 4) 49. 3) 50. 3) 52. 2) 53. 1) 54. 4) 55. 3) 36. 1) 57. 4) 58. 1) 59. 2) 60. 1) 41. 2) 62. 1255 m/s 63. 12 m/s 64. 3) 65. 3) 46. 3) 67. 1) 68. 2) 69. 1) 70. 1) 51. 2) 56. 3) 72. 5) 73. 4) 74. 2) 75. 32 µF 61. 1) 77. 4) 78. 2) 79. 2 A 80. 4) 66. 2) 82. 2) 83. 4) 84. 1) 85. 4) 87. 4) 88. 2) 89. 2) 90. 2) ชดุ ท่ี 3 92. 4) 93. 1) 94. 3) 95. 1) 97. 1) 98. 2) 99. 4) 100. 3) 71. 3) 102. 4) 103. 2) 104. 160 J/kg 105.6660 J 76. 4) 81. 3) 86. 2) 91. 3) 96. 2) 101. 4) วทิ ยาศาสตร์ ฟิสิกส์ (208) __________________________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปีที่ 28
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210