Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore GimpBiBle2.7_BOOK_A4_2013_by_WK_R5

GimpBiBle2.7_BOOK_A4_2013_by_WK_R5

Published by jarun funrew, 2020-05-29 23:58:09

Description: GimpBiBle2.7_BOOK_A4_2013_by_WK_R5

Search

Read the Text Version

สงวนลิขสทิ ธิ์ตามพระราชบัญญตั ลิ ิขสทิ ธ์ิ พ.ศ. 2537

หนังสือ : คมั ภีร์ GIMP 2.7 ผู้เขียน : วสันต์ คณุ ดลิ กเศวต, [email protected], www.facebook.com/wasankds, 08-1459-8343 ISBN : 978-616-321-782-0 ราคา 220 บาท (ฉบบั ตีพมิ พ์) เริ่มแผยแพร่ : 20 เมษายน 2012 แกไ้ ขคร้งั ที่ 1 : กมุ ภาพันธ์ 2013 จดั ทาำ และเผยแพรโ่ ดย : ชมรมสวรรค์บนดิน, www.poeclub.org จัดทาำ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ : Ubuntu Linux, LibreOffice, Inkscape, Gimp, Shutter สงวนลิขสิทธต์ิ ามพระราชบัญญตั ลิ ขิ สทิ ธ์ิ พ.ศ. 2537 หนังสือ “คมั ภรี ์ GIMP 2.7” ฉบบั e-book (ไฟล์ PDF) อนุญาตให้แจกจา่ ย ทาำ สาำ เนา โดยไม่คิดมูลคา่ แตห่ า้ มจาำ หน่าย ห้ามตีพมิ พ์เพื่อการพาณชิ ย์ ห้ามดัดแปลงหรือ แก้ไขส่วนหนึง่ ส่วนใด นอกจากจะได้รับอนญุ าตเปน็ ลายลักษณอ์ ักษร ช่ือและเคร่ืองหมายการคา้ ทอ่ี า้ งถึง เปน็ ของเจ้าของหรือบรษิ ทั แต่ละราย นายวสันต์ คุณดิลกเศวต มไิ ดอ้ ้างความเปน็ เจา้ ของ ตวั แทน หรอื มีส่วนเก่ียวข้องแต่ อยา่ งใด หนงั สือ e-book น้ี ถูกออกแบบให้พมิ พบ์ นกระดาษ A4 ท้งั ด้านหน้าและดา้ นหลัง “ลดใชก้ ระดาษ ลดโลกร้อน”



บทนำำ จำกผ้เู ขียน Gimp เป็นซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพ ในตระกูลเดียวกับ Adobe PhotoShop หรือ Corel PhotoPaint ที่เป็นท่ี รูจ้ ักกันเป็นอย่างดี แต่ Gimp เป็นซอฟตแ์ วร์โอเพ่นซอร์สท่ีสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี ถูกกฎหมาย 100% ตาม ทัศนะของผู้เขยี น Gimp เปน็ ซอฟตแ์ วร์ตกแต่งภาพทด่ี ีทีส่ ดุ ในตระกลู โอเพ่นซอร์ส สามารถตอบโจทยง์ านดา้ นกราฟฟคิ ไดอ้ ยา่ งลงตวั ไม่แพซ้ อฟต์แวรเ์ ชงิ พาณิชยช์ อ่ื ดงั ทง้ั หลาย เมอ่ื กลา่ วถึงซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ซึ่งหลายท่านยังไม่รู้จัก จึงมักมีคำาถามกลับมาว่า “ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สคือ อะไร?” ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส เป็นซอฟต์แวร์ท่ีมีลิขสิทธ์ิเหมือนกัน แต่เง่ือนไขของลิขสิทธ์ินั้นหลายคนรู้แล้วต้องตกใจ “มีลิขสทิ ธิ์แบบนด้ี ้วยหรอื !” ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส เป็นกลุ่มซอฟต์แวร์ที่เปิดเผยซอร์สโค้ด(รหัสในการสร้างโปรแกรม) ตัวซอฟต์แวร์และ ซอรส์ โคด้ อนญุ าตให้นำาไปใช้ ทาำ สาำ เนา แจกจา่ ย และแก้ไขปรับปรงุ ได้ โดยจะนาำ ไปพัฒนาตอ่ เพอ่ื ขายหรือแจกฟรกี ็ได้ แต่ ประเดน็ สาำ คญั ก็คือ ต้องเปิดเผยซอร์สโค้ดท่ีถือเป็นหัวใจสำาคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ตัวน้ันๆ ซอฟต์แวร์ตัวนั้นจึงจะถูก เรียกวา่ ซอฟต์แวร์โอเพน่ ซอร์ส ดว้ ยเหตทุ ตี่ อ้ งเปิดเผยซอร์สโคด้ น้เี อง จึงเป็นจดุ แขง็ เพราะซอฟตแ์ วรโ์ อเพน่ ซอรส์ จะไม่ลม้ หายตายจากไปง่ายๆ คนเก่าไปคนใหมม่ า ก็สามารถนาำ ซอร์สโค้ดไปพฒั นาตอ่ ยอดไดอ้ ย่างตอ่ เน่ือง ซอฟตแ์ วร์โอเพน่ ซอรส์ ส่วนใหญ่เป็นของฟรี ตวั ที่ใชง้ านกนั อย่างกว้างขวางท่ีเปน็ ของฟรี ก็เช่น Ubuntu เทียบเท่า MS Windows, LibreOffice เทยี บเท่า MS Office, Inkscape เทียบเท่า Adobe Illustrator หรอื Corel Draw, Gimp เทยี บเท่า Adobe PhotoShop หรอื Corel PhotoPaint, Blender เทยี บเทา่ Maya หรือ 3D Studio Max เป็นต้น “เขาแจกฟรีแล้วได้อะไร? เขาอยู่ได้อย่างไรกับการแจกฟรี?” นี่เป็นอีกคาำ ถามหนึ่งท่ีผู้เขียนถูกถามบ่อยๆ คาำ ตอบนน้ั ง่ายมาก คนไทยน่าจะเขา้ ใจคำาตอบดอี ยู่แล้ว ก็เขาพอใจเทา่ น้ี พอใจที่จะทำาเพื่อสังคมเพ่ือชาวโลก ไม่ต้องราำ่ รวย มหาศาล เป็นความพอเพยี งในเวอร์ช่ันของซอฟตแ์ วร์ องคก์ รผู้พฒั นาซอฟตแ์ วรโ์ อเพ่นซอรส์ มรี ายได้จากเงินบริจาคบ้าง รายได้จากการขายสือ่ การสอนหรือของชำาร่วย บา้ ง บรษิ ัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายใหญ่ก็สนับสนุน รัฐบาลของหลายๆประเทศก็ให้การสนับสนุน ประเทศอย่างรัสเซียถึงกับ ประกาศวา่ องคก์ รของรฐั จะเปลยี่ นมาใช้ซอฟตแ์ วร์โอเพ่นซอร์สทั้งหมด ฉะนน้ั รบั รองเขาอย่ไู ด้ ให้ทุกท่านลองนึกตามดู หากองค์กรผู้พัฒนา LibreOffice (The Document Foundation) ออกมาประกาศ สั้นๆวา่ “ไม่มีเงิน” หรือ “จะหยดุ พฒั นา” รบั รองทัง้ โลกไดส้ ะเทอื น เพราะผู้คนบนโลกใช้ LibreOffice ไมน่ อ้ ยเลยทเี ดียว “ทําไมเราต้องให้ความสนใจ หรือ ต้องหันมาใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ?” ประเด็นสำาคัญก็คือ เพราะราคา ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ มีราคาสูงถึงสูงมาก ผู้คนจำานวนมากจึงหันไปใช้ซอฟต์แวร์เถ่ือน ซ้ือแผ่นก๊อป ดาวน์โหลดของผิด กฎหมายมาใช้ หรือก็คือ เลอื กที่จะใช้ซอฟตแ์ วร์ละเมิดลิขสทิ ธ์ ผดิ กฎหมาย! นน่ั คอื ส่ิงทผี่ ใู้ ช้ซอฟตแ์ วรล์ ะเมดิ ลิขสทิ ธกิ์ ระทาำ อยู่ เพยี งแตย่ งั ไมถ่ กู จบั เท่านนั้ แท้จรงิ แล้ว องคก์ รใดหรือใครก็ตาม ทใี่ ช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ท่านเพียงรอวันถูกพิพากษา เสรีภาพของท่าน อยู่ในความเสี่ยง หากท่านยังเป็นองค์กรเล็ก ท่านก็เป็นเพียงปลาเล็กปลาน้อย แต่วันใดท่านเติบโตเป็นปลาใหญ่ ท่านมี โอกาสสูงทีจ่ ะถูกจบั ไปขาย หรือมีโอกาสสูงที่จะถกู จับละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ เขาไมย่ อมใหท้ า่ นใชข้ องเขาฟรีๆไปตลอดแน่นอน ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่า พนักงานในองค์กรไม่พอใจท่านอย่างไร? ท่านทำาให้ใครไม่พอใจไว้หรือเปล่า? เขาร้อนเงิน อย่หู รอื เปล่า? เม่ือใดก็ตามท่ีมีการแจง้ การละเมิดลิขสิทธิ์ไปยังองคก์ รท่ตี รวจจับโดยเฉพาะ ผู้แจ้งมีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุด 250,000 แต่องคก์ รของท่านตอ้ งเสยี เงินเป็นจำานวนมาก ต้องวา่ กนั เป็นหลักล้านหลักสิบล้านเลยทีเดียว กรรมการองค์กร ทุกท่านตอ้ งถูกดาำ เนนิ คดี ฉะนัน้ เตรยี มทนายไว้ไดเ้ ลย

องค์กรท่ีเปล่ียนมาใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส เหตุผลหลักๆ ก็คือ ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้ายซอฟต์แวร์ และไม่ ต้องการมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เฉพาะคอมพิวเตอร์พื้นฐานที่ทำางานด้านเอกสารอย่างเดยี ว ต้นทุนซอฟต์แวร์ต่อ เคร่ืองยังแพงกว่าตัวเครื่องเสียอีก บางองค์กรมีคอมพิวเตอร์นับพัน ต้นทุนปาเข้าไปหลายสิบล้านบาท ยังไม่รวมถึงการ ปรับรุ่นในอนาคต ซึ่งท่านจะบอกว่า “เราจะไม่ปรับรุ่นซอฟต์แวร์ตามเขา แม้เขาจะออกรุ่นใหม่มาก็ตาม” อย่างไรก็ดี ผู้ เขียนเช่ือว่าสักวันหนึ่ง อีก 5 ปี 7 ปี หรือ 10 ปีข้างหน้า ท่านจะต้องปรับรุ่นตามเขาแน่นอน และจะต้องจ่ายอีกไม่น้อย เลยทีเดียว เพราะเขาต้ังใจให้เป็นอย่างน้ันอยู่แล้ว ฉะน้ันองค์กรต่างๆจึงหันมาใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเพ่ือลดต้นทุน ประเด็นด้านการละเมิดลขิ สิทธิไ์ มต่ ้องพดู ถึง ยง่ิ องค์กรใหญ่ ย่งิ ไมส่ ามารถใช้ของเถื่อนได้ เขาเป็นปลาใหญแ่ ลว้ โดยเฉพาะ องคก์ รที่ขึน้ ตน้ ดว้ ย บมจ. หรือลงทา้ ยดว้ ย มหาชน ยง่ิ ใช้ไม่ได้ ผลเสียจากการละเมดิ ลิขสิทธ์ิ ไมไ่ ด้เกิดต่อผูท้ ่ีใช้หรือองค์กรที่ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธ์ิเท่าน้ัน ผลเสียทางอ้อม แบบร้ายลกึ มนั เลวรา้ ยยง่ิ กวา่ นน้ั หลายเทา่ นกั ตวั เลขอตั ราการละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิทวั่ โลกทผี่ ู้เขียนทราบมา มปี ระเด็นบางอย่างสะกิดใจให้ตอ้ งคดิ ประเทศอเมริกาซง่ึ เราทราบกันดีว่า เป็นผู้นำาด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์หมายเลข 1 ของโลก ท่ีน่ีมีอัตราการละเมิดลิขสิทธ์ิ 20% ต่ำาที่สุดใน โลก ญป่ี นุ่ 21% โซนยโุ รปอย่ทู ่ี 25-50% ประเทศไทย 73% โซนแอฟริกาเกนิ 75% แปลก! ที่ตัวเลขเหล่าน้ีสัมพันธ์กับความเจริญของประเทศด้วย ประเทศใดที่ตัวเลขการละเมิดลิขสิทธิ์ต่าำ ๆ เกือบ จะฟันธงได้เลยว่า เปน็ ผูน้ าำ ดา้ นความคดิ ด้วย ฉะนั้นเขาจึงทำาน้อยแต่ได้มาก หนั ไปทางไหนชาตอิ ่ืนก็ตอ้ งหันตาม ตวั เลขบง่ บอกลำาดับไล่ตามกันมาเลยทีเดียว ประเทศใดที่ตัวเลขการละเมิดลิขสิทธ์ิสูงๆคล้ายกับว่า ต้องรอให้ประเทศอ่ืนคิดก่อน แล้วรอทาำ ตาม ทำามากแต่ไดน้ ้อย ปัญหาการละเมิดลิขสิทธ์ิ รากมันฝังลึกมาก มองเผินๆเหมือนเราได้ประโยชน์ ได้ใช้ของฟรี ประหยัดเงิน แต่ถ้า มองในภาพรวม เราเสยี เอกราชทางความคดิ ไปแล้ว ผู้เขยี นเชื่อว่าหลายๆท่าน ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่กับมันเลย(รวมทง้ั ผู้เขียน ด้วย) ถูกปลูกนิสัย ถูกบ่มเพาะ ถูกสอนให้ใช้ของเถื่อนมาตั้งแต่เด็กโดยไม่รู้ตัว จนไม่มีจิตสำานึกว่าการใช้ของเถื่อนน้ันผิด อีกแล้ว นี่เป็นโครงสร้างท่ีทำาให้ประเทศไม่มีความคิดใหม่ๆ ตอ้ งรอให้ต่างชาติคิดก่อนแล้วเราค่อยทำาตาม “ใครจะไปคิด ในเมอื่ มีคนคดิ ให้ มคี นทำาให้ใช้ ฟรๆี ” หรือ “ใครจะไปคดิ คดิ ไป ขายไปก็สขู้ องเถ่อื นไม่ได”้ หากหลักสูตรการศึกษาในประเทศไทย จะบรรจุการเรียนการสอนซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สไว้เคียงคู่กับซอฟต์แวร์ เชิงพาณิชย์ที่เล่าเรียนกันอยู่ในปัจจุบันน้ีบ้าง หลายอย่างคงจะดีขึ้นไม่น้อย ด้วยพื้นท่ีเพียงเท่าน้ีคงไม่อาจหาคำาบรรยาย สั้นๆ เพือ่ อธบิ ายว่าอะไรจะดขี ึน้ บา้ ง เพราะมันเปน็ ลกู โซ่ที่เร่มิ ตน้ มาจากความคิดและมีผลไปยงั การกระทำาอีกหลายต่อ ทุกวันนี้ เม่ือผู้เขียนถามนักเรียนนักศึกษาว่า “ท่ีโรงเรียนที่วิทยาลัยสอนโปรแกรมอะไร?” คำาตอบที่ได้ล้วนเป็น ซอฟตแ์ วร์เชิงพาณิชย์ทง้ั ส้ิน นกั เรยี นนกั ศึกษากต็ อ้ งไปขวยขวายหามาติดตงั้ ท่เี คร่อื งส่วนตวั แนน่ อนว่าไม่ไดซ้ อ้ื ร้ๆู กนั อยู่ ว่าสามารถหาได้จากท่ีไหน ถ้าไม่หามาใช้จะทำาการบ้านส่งอาจารย์ได้อย่างไร? ระบบการศึกษาในบ้านเราน่ีแหละแหล่ง เพาะพันธ์ุปลาอย่างดี ใครท่ีไหนจะจับปลาในแหล่งเพาะพันธ์ุ เพราะในอนาคตก็จะกลายเป็นปลาอ้วนๆ มีเน้ือให้บริโภค อย่างหนาำ ใจ การปลูกฝังเรื่องลขิ สิทธ์ิทางปัญญาในระบบการศกึ ษาเปน็ สิ่งสาำ คัญมาก โดยเฉพาะลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ที่เร่ิมกลาย เปน็ สิง่ ท่ขี าดไมไ่ ด้ ในการทำางานในปัจจบุ นั หากเรายังไม่ปลูกฝังอย่างจริงจัง ส่ิงที่เป็นไทยๆก็จะค่อยๆเลือนหายไป ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์กับสิ่งท่ีเป็นไทยๆ ดู เหมือนอยู่คนละฝาก ไม่เหน็ จะเกย่ี วกนั ไมร่ จู้ ะมาบรรจบกันได้อย่างไร แต่ลองตรองดใู หด้ ี หากโครงสร้างของสังคมไทย เร่ิมตั้งแต่ระบบการศึกษา ไม่เปิดโอกาส ไม่ยอมให้ความคิดใหม่ๆได้เกิด เพราะถูก ข่มขู่หรือถูกฆาตกรรมด้วยฆาตกรที่ช่ือว่า “ละเมิดลิขสิทธิ์” ความคิดใหม่ๆก็ไม่เกิด แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกเปิด เสรีมากขึ้น โดยเฉพาะด้านสื่อ ซึ่งต่อไปก็อีกหลายอย่างท่ีจะมาพร้อม AEC วัฒนธรรมและความคิดจากประเทศอ่ืนๆก็

จะไหลเข้ามาทางช่องทางเหล่านัน้ ใครๆก็ชอบส่ิงใหม่ๆ ชอบจินตนากรใหม่ๆ เพราะสงิ่ เหล่าน้ันทำาให้เราตื่นเต้น มีความ สุข ทำาให้โลกน้ีไม่น่าเบื่อ แต่ถ้าสิ่งใหม่ๆจากความคิดของคนไทยถูกฆาตกรรมไปหมด ก็คงต้องรอรับจากประเทศอื่นๆ ท่ี เขาทะนบุ ำารุงความคดิ ใหมๆ่ เปน็ อย่างดี และสิ่งเหล่านั้นจะค่อยๆปลูกฝังเขา้ มาในระบบความคิดของเรา สอนเราใหค้ ล้อย ตาม วนั แล้ววนั เล่า สง่ิ ทเ่ี ป็นไทยๆ ก็จะค่อยๆเลือนหายไป เราจะกลายเป็นแตผ่ ซู้ ้อื เป็นหนี้ ทาำ มากได้น้อย เป็นผตู้ ามฝ่าย เดียว ท้ังหมดนี้จะเกิดข้ึนอย่างแยบยล ถ้าเราสูญเสียเอกราชทางความคิด เพราะเราปล่อยให้ฆาตกรที่ชื่อว่า “ละเมิด ลขิ สิทธ์”ิ ลอยนวล ผู้เขยี นเชื่อมั่นเป็นอย่างย่ิงว่า หากเราเริ่มต้นท่ีลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ให้มองว่าซอฟต์แวร์เป็นสินค้าท่ีเราต้องเลือกใช้ เลือกซ้ืออย่างไตร่ตรอง ส่ิงนี้จะเปน็ แรงเหนี่ยวนาำ ไปยังลิขสิทธ์ิทางปัญญาในด้านอ่ืนๆด้วย ไม่ว่าจะเป็น เพลง,ภาพยนตร์, สนิ ค้าตา่ งๆ ซงึ่ ล้วนถูกฆาตกรรมไปมากดว้ ยฆาตกรทชี่ ื่อ “ละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ” เช่นเดยี วกนั ความยากจน การไมม่ ีเงิน ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ไปต่อสู้ท่ีศาลไหนก็แพ้ แตท่ างออกนั้นมีเสมอ สำาหรับลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ นน้ั ของฟรี ดๆี ก็มใี หใ้ ช้ เพยี งแต่เรายอมเปล่ยี นแปลง เปดิ ใจยอมรับส่งิ ใหม่ๆ แลว้ อิสระภาพจะเปน็ ของเรา ประเทศของเรายังต้องการความคิดและจินตนาการอีกมากมายนัก หากเราเสียเอกราชทางความคิดไปแล้ว ประเทศจะพัฒนาไปไดอ้ ย่างไร โลกน้ีจะน่าเบอื่ เพยี งใดหากมนุษย์ไม่ใชจ้ นิ ตนาการ เพื่อเปน็ สว่ นหนึ่งในการรณรงค์สง่ เสริมการใช้งานซอฟต์แวรโ์ อเพ่นซอรส์ ผ้เู ขยี นจึงเขยี นค่มู อื การใชง้ านซอฟต์แวร์ โอเพ่นซอร์สบางตัวเพ่ือแจกฟรี(ฉบับ e-book) ท่านสามารถเข้าไปดาวน์โหลดที่ www.poeclub.org หากมีข้อติชม ประการใดกรุณาสง่ มาความคิดเหน็ มาท่ี [email protected] วสนั ต์ คณุ ดิลกเศวต ผู้เขยี นและวิทยากรอบรมซอฟตแ์ วรโ์ อเพน่ ซอร์ส วศ.บ. โยธา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วท.ม. ธุรกรรมอเิ ลค็ ทรอนกิ ส์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบรุ ี [email protected], www.facebook.com/wasankds, 08-1459-8343

อนำคตของคมู่ อื เล่มน้ี ธรรมชาติของซอฟต์แวร์ ตอ้ งมีการพัฒนาปรบั ร่นุ อยู่เสมอๆ สง่ ผลให้ คู่มือการใชง้ านต้องปรับตามไปด้วย หากไม่ ปรับตาม จะกลายเป็นของเก่าและตายไปในท่ีสุด ต่างจากหนังสือนิยายหรือเรื่องเล่าท่ีเป็นอมตะ คนเก่าไปคนใหม่มา หนังสือเหล่านก้ี ย็ ังใชไ้ ด้ แต่ในธรรมชาติของการปรับรุ่นซอฟต์แวร์ จะไม่มีอะไรเปล่ียนแปลงมาก จะปรับทีละน้อย อาจมีเพิ่มเครื่องมือ ใหมๆ่ วิธีการใหม่ๆ เข้ามา แต่หลักการทาำ งานยังเหมือนเดิม คู่มือการใช้งานก็แค่เพยี ง เพ่ิมเติมและปรับแกใ้ นส่ิงท่ีเปล่ียน หรือเพมิ่ เติมเข้ามาเท่านนั้ ดว้ ยเหตดุ ังกล่าว ผูเ้ ขียนจึงพยายามออกแบบให้คู่มอื โอเพน่ ซอร์สทกุ เล่ม แกไ้ ขได้งา่ ย ออกแบบไวเ้ ผื่ออนาคตดว้ ย ผู้เขยี น ตงั้ ใจจะใหห้ นังสือคมู่ อื โอเพน่ ซอรส์ ทกุ เล่มท่ีเขียนเปน็ ของฟรี (e-book) เปน็ ของคนไทยตลอดไป เท่าท่ีกำาลังจะทาำ ไหว บางท่านทราบว่า ผู้เขียน เขียนหนังสือ e-book แจกฟรี จงึ ติดต่อมาเพ่ือให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ บ้างก็โอน เงินเข้ามา บ้างก็ให้มาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ บ้างก็โทรศัพท์มาให้กำาลังใจ บ้างก็ติดต่อให้ไปเป็นวิทยากรประจำา เพ่ือ อบรมการใช้งาน LibreOffice บ้าง, Inkscape บา้ ง, Gimp บา้ ง เปน็ ตน้ ผูเ้ ขียนขอขอบคณุ ทกุ ทา่ นทีใ่ ห้การสนับสนุน มา ณ ทน่ี ี้ การสนับสนนุ ของทา่ นทำาให้ผู้ เขยี นมีเวลาน่งั ท่โี ตะ๊ ทาำ งานและเขยี นหนังสอื ได้มากข้ึน ผู้เขียนต้ังใจจะเขียนหนังสือการใช้งานซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สแจกฟรีประมาณ 7-8 โปรแกรม ตามความรู้ความ ชำานาญที่มี และก็ต้ังใจจะปรับแก้ดูแลให้ใหม่เสมอ ตามเวอร์ช่ันของซอฟต์แวร์ที่ออกใหม่ นอกจากน้ีก็จะขยายเน้ือหา ที่ จะเขียนไปสู่เน้อื หาดา้ นเศรษฐกิจพอเพียงในด้านอนื่ ๆ เพราะจริงๆแล้ว ชมรมสวรรค์บนดิน (PoE Club) ถูกตั้งขึน้ มาเพอื่ วัตถปุ ระสงค์น้ี การเลอื กใช้ซอฟต์แวร์ตามกาำ ลังทรัพย์ของเรา โดยไม่หันไปใช้ซอฟต์แวร์อย่างผิดกฎหมาย ก็จัดเป็นความ พอเพยี งในเวอร์ชน่ั ของเทคโนโลยี วสันต์ คุณดลิ กเศวต

สำรบัญ บทนำำ จำกผเู้ ขยี น 5 อนำคตของคู่มอื เลม่ น้ี 8 สำรบญั 9 บทท่ี 1: รจู้ ักกบั GIMP 15 1.1 : รู้จักกบั GIMP.................................................................................................................... 16 1.2 : ภาพเว็คเตอรแ์ ละภาพบติ แมพ คอื อะไร?........................................................................... 17 บทท่ี 2: มุมมองในกำรทำำงำน 19 2.1 : หนา้ จอ GIMP (Interface)................................................................................................ 20 2.2 : Main toolbox.................................................................................................................. 21 ก. : Toolbox 21 ข. : Tool options 23 2.3 : Image window............................................................................................................... 23 2.4 : ดอ็ กกิ้งและไดอะล็อก........................................................................................................ 24 2.5 : การจดั การด็อกกิง้ และไดอะลอ็ ก....................................................................................... 25 2.6 : การซมู ภาพ........................................................................................................................ 27 2.7 : การเลื่อนมมุ มองภาพ ....................................................................................................... 28 2.8 : กรดิ และไกด์...................................................................................................................... 29 ก. : กริด (Grids) 29 ข. : ไกด์ (Guides) 30 บทที่ 3: กำรทำำงำนกับไฟล์ 33 3.1 : ขนาดภาพ, Resolution และ Dot for Dot......................................................................34 3.2 : การสรา้ งไฟลใ์ หม.่ .............................................................................................................. 36 3.3 : การบันทึกไฟล.์ .................................................................................................................. 37 3.4 : การแปลงภาพเป็น JPEG................................................................................................... 38 3.5 : การแปลงภาพเปน็ PNG.................................................................................................... 39 3.6 : การแปลงภาพเป็น GIF...................................................................................................... 39 3.7 : การแปลงภาพเป็น TIFF.................................................................................................... 40 3.8 : การเปดิ ไฟล.์ ...................................................................................................................... 41 3.9 : การสร้างภาพจากสครปิ ตส์ าำ เร็จรูป.................................................................................... 41

บทที่ 4: คำำสงั่ พนื้ ฐำน 43 51 4.1 : การเปลย่ี นขนาดภาพ (Scaling Image)............................................................................ 44 4.2 : การเปลย่ี นขนาดภาพเมือ่ พมิ พ์ (Print Size)......................................................................44 75 4.3 : การทาำ ซาำ้ ภาพ (Duplicating)............................................................................................ 45 4.4 : การกลับภาพ (Flipping)................................................................................................... 46 4.5 : การหมุนภาพ (Rotating).................................................................................................. 46 4.6 : การครอปภาพ (Cropping)............................................................................................... 47 4.7 : การเพิม่ หรือลดพื้นทภ่ี าพ (Canvas Size)..........................................................................47 4.8 : Undo และ Redo............................................................................................................. 49 4.9 : การดขู ้อมลู ภาพ................................................................................................................. 49 บทที่ 5: กำรเลือก 5.1 : กลมุ่ เครอื่ งมอื เลอื ก (Selection Tools)............................................................................ 52 5.2 : คณุ สมบัตพิ ื้นฐานของเคร่ืองมือเลือก................................................................................. 52 5.3 : ไดอะล็อก Selection Editor............................................................................................ 54 5.4 : การบนั ทกึ การเลือก (Save selection)............................................................................. 55 ก. : การบันทึกการเลอื กเป็นหน้ากากการเลอื ก 55 ข. : การบันทึกการเลอื กเปน็ เส้นพาธ 56 5.5 : Rectangle Select Tool.................................................................................................. 57 5.6 : Ellipse Select Tool........................................................................................................ 60 5.7 : Free Select Tool............................................................................................................ 62 5.8 : Fuzzy Select Tool......................................................................................................... 63 5.9 : Select by Color Tool.................................................................................................... 64 5.10 : Scissors Select Tool.................................................................................................... 65 5.11 : Foreground Select Tool............................................................................................. 67 5.12 : การเลอื กดว้ ยควิกมาสก์ (Quick Mask)...........................................................................70 5.13 : การปรับแตง่ การเลอื ก..................................................................................................... 71 บทท่ี 6: เลเยอร์ 6.1 : รจู้ กั กบั เลเยอร์ (Layers).................................................................................................... 76 6.2 : การสร้างเลเยอร.์ ............................................................................................................... 76 6.3 : คณุ สมบัติตา่ งๆในไดอะล็อก Layers.................................................................................. 78 6.4 : เลเยอรก์ รปุ๊ (Layer Group).............................................................................................. 80 6.5 : ขนาดและขอบเขตเลเยอร.์ ................................................................................................ 81 6.6 : เลเยอร์และแชนแนลอลั ฟ่า................................................................................................ 82 6.7 : การรวมเลเยอร์ (Merge layers)....................................................................................... 84 6.8 : หน้ากากเลเยอร์ (Layer Masks)....................................................................................... 86 6.9 : ตัวอยา่ งการใช้งานหนา้ กากเลเยอร์.................................................................................... 88 6.10 : เลเยอรโ์ หมด (Layer Modes)........................................................................................ 89

บทที่ 7: เรื่องของสี 93 7.1 : โมเดลส.ี ............................................................................................................................. 94 ก. : โมเดล RGB (Red Green Blue) 94 ข. : โมเดล CMY(K) 94 ค. : โมเดล HSV 95 7.2 : โหมดภาพ.......................................................................................................................... 95 7.3 : การเปลี่ยนโหมดภาพ......................................................................................................... 96 7.4 : รู้จักกบั แชนแนล (Channels)............................................................................................ 98 7.5 : ไดอะล็อก Channels...................................................................................................... 100 7.6 : ทฤษฎสี แี ละการใช้สีเบ้ืองตน้ ........................................................................................... 103 ก. : ทฤษฎสี เี บ้ืองตน้ 103 ข. : การเลือกใชส้ ี 105 บทที่ 8: เกรเดี้ยนต์และแพทเทริ ์น 109 8.1 : เกรเดี้ยนต์ (Gradients)................................................................................................... 110 8.2 : การสร้างเกรเดี้ยนต์ ( *.GGR).......................................................................................... 111 8.3 : แพทเทริ น์ (Patterns)..................................................................................................... 113 8.4 : การสร้างแพทเทริ น์ ( *.PAT)........................................................................................... 114 บทที่ 9: กำรเลอื กสีและหัวแปรง 117 9.1 : สโี ฟรก์ ราวดแ์ ละสแี บ็คกราวด.์ ......................................................................................... 118 9.2 : การเลือกสีท่ี Toolbox.................................................................................................... 118 9.3 : การเลือกสที ไี่ ดอะล็อก FG/BG color.............................................................................. 120 9.4 : การเลือกสจี ากโหมดอน่ื ๆ................................................................................................ 120 ก. : โหมด Wheel 121 ข. : โหมด Watercolor 121 ค. : โหมด CMYK 122 ง. : โหมด Palette122 9.5 : การเลือกสโี ดยใช้ Color Picker Tool (หลอดดูดสี)........................................................122 9.6 : การสร้างจานสี (Palettes) ............................................................................................. 124 9.7 : หวั แปรง (Brushes)......................................................................................................... 125 9.8 : ไดอะลอ็ ก Brushes ........................................................................................................ 126 9.9 : การสร้างหัวแปรงใหม.่ ..................................................................................................... 127 9.10 : การเพิม่ หัวแปรงจากไฟลห์ วั แปรงต่างๆ......................................................................... 128 9.11 : ปรับขนาดหวั แปรงโดยใชล้ กู กล้ิงเม้าส์........................................................................... 128 9.12 : การสรา้ งหัวแปรงภาพสี ( *.GBR).................................................................................. 130 9.13 : การสรา้ งหวั แปรงแอนนิเมช่ันข้อความ..........................................................................131

บทท่ี 10: เครอื่ งมอื วำดและระบำยสี 133 10.1 : กล่มุ เคร่อื งมือวาดและระบายสี .................................................................................... 134 10.2 : คุณสมบตั ิพื้นฐานของเคร่อื งมือวาดและระบายสี...........................................................134 10.3 : Brush Tools (Pencil, Paintbrush, Airbrush) .........................................................139 10.4 : Bucket Fill Tool......................................................................................................... 141 10.5 : Blend Tool................................................................................................................. 142 10.6 : Eraser Tool ................................................................................................................ 144 10.7 : Ink Tool ..................................................................................................................... 145 10.8 : Clone Tool ................................................................................................................ 146 10.9 : Heal Tool .................................................................................................................. 149 10.10 : Perspective Clone Tool....................................................................................... 150 10.11 : Blur/Sharpen Tool................................................................................................. 151 10.12 : Smudge Tool.......................................................................................................... 153 10.13 : Dodge/Burn Tool.................................................................................................... 154 บทท่ี 11: พำธและขอ้ ควำม 157 11.1 : รู้จักกับพาธ (Paths)...................................................................................................... 158 11.2 : การวาดเส้นพาธดว้ ย Path tool................................................................................... 159 11.3 : การปรับแต่งเส้นพาธ..................................................................................................... 161 11.4 : ไดอะลอ็ ก Paths........................................................................................................... 162 11.5 : รปู จกั กับขอ้ ความใน Gimp........................................................................................... 164 11.6 : การสร้างข้อความโดยใช้ Text tool.............................................................................. 166 11.7 : สร้างพาธจากขอ้ ความ................................................................................................... 169 11.8 : การวางข้อความตามแนวเส้นพาธ.................................................................................. 169 บทท่ี 12: กำรแปรรปู 171 12.1 : กลมุ่ เครื่องมอื แปรรูป (Transfrom Tools) ..................................................................172 12.2 : คณุ สมบัติพื้นฐานของเคร่อื งมือแปรรปู .......................................................................... 172 12.3 : ยา้ ยด้วย Move Tool................................................................................................... 174 12.4 : จดั เรียงดว้ ย Align Tool............................................................................................... 175 12.5 : ตัดภาพด้วย Crop Tool............................................................................................... 177 12.6 : หมุนด้วย Rotate Tool................................................................................................ 180 12.7 : ย่อขยายดว้ ย Scale Tool............................................................................................. 181 12.8 : เฉอื นดว้ ย Shear Tool................................................................................................. 182 12.9 : บิดด้วย Perspective Tool.......................................................................................... 184 12.10 : กลับด้านด้วย Flip Tool............................................................................................. 185 12.11 : ดดั ภาพด้วย Cage Transform Tool.......................................................................... 186

บทท่ี 13: เครือ่ งมอื ตกแต่งสี 189 13.1 : กลมุ่ เคร่ืองมือตกแต่งสี (Color Tools) ........................................................................190 13.2 : คุณสมบัตพิ ื้นฐานของเคร่ืองมอื ตกแต่งส.ี ....................................................................... 191 13.3 : ขนั้ ตอนการใช้งานเครื่องมือตกแต่งสี............................................................................. 191 13.4 : Color Balance Tool.................................................................................................. 192 13.5 : Hue-Saturation Tool................................................................................................. 194 13.6 : Colorize Tool............................................................................................................. 195 13.7 : Brightness-Contrast Tool......................................................................................... 197 13.8 : Threshold Tool.......................................................................................................... 198 13.9 : Levels Tool................................................................................................................ 199 13.10 : Curves Tool.............................................................................................................. 202 13.11 : Posterize Tool......................................................................................................... 207 13.12 : Desaturate Tool...................................................................................................... 207 บทที่ 14: ฟลิ เตอร์ 209 14.1 : ฟลิ เตอร์ และ การใช้งาน............................................................................................... 210 14.2 : ฟลิ เตอร์ในกลมุ่ Blur..................................................................................................... 211 14.3 : ฟลิ เตอรใ์ นกลมุ่ Distorts............................................................................................... 212 14.4 : ฟลิ เตอรใ์ นกล่มุ Light and Shadow........................................................................... 213 14.5 : ฟลิ เตอรใ์ นกลมุ่ Noise.................................................................................................. 214 14.6 : ฟลิ เตอรใ์ นกลุ่ม Edge-Detect...................................................................................... 214 14.7 : ฟลิ เตอร์ในกลุ่ม Generic.............................................................................................. 215 14.8 : ฟลิ เตอรใ์ นกลมุ่ Combine............................................................................................ 215 14.9 : ฟลิ เตอร์ในกลุ่ม Artistic................................................................................................ 216 14.10 : ฟลิ เตอรใ์ นกลุ่ม Decor............................................................................................... 217 14.11 : ฟิลเตอรใ์ นกลุ่ม Map.................................................................................................. 218 14.12 : ฟิลเตอรใ์ นกลมุ่ Render............................................................................................. 219 14.13 : ฟลิ เตอร์ในกล่มุ Web.................................................................................................. 220 14.14 : ฟลิ เตอรใ์ นกลมุ่ Animation....................................................................................... 220 14.15 : ฟลิ เตอร์ในกลมุ่ Alpha to Logo................................................................................ 223 14.16 : ฟลิ เตอรใ์ นกล่มุ Enhance.......................................................................................... 225



บทท่ี 1 : รจู้ กั กับ GIMP

1.1 รจู้ ักกบั GIMP GIMP (GNU Image Manipulation Program) เป็นซอฟต์แวร์ในตระกูลเดียวกับ Adobe Photoshop หรือ Corel PhotoPaint ซึ่งเป็นซอฟตแ์ วรท์ ่ใี ช้ในการจดั การภาพ สามารถใช้งานไดห้ ลากหลายดา้ น เชน่ ตกแต่งภาพ, จัดองค์ ประกอบภาพ, จัดหน้าส่ิงพิมพ์, วาดภาพระบายสี, สร้างภาพสาำ หรับเว็ปไซต์ เปน็ ต้น GIMP สามารถใชท้ ำางานได้ต้ังแตง่ านท่วั ๆไป งานเล็กๆ ไปจนถงึ งานระดบั มืออาชพี ท่ตี อ้ งการความประณีตสงู โลโกข้ อง GIMP GIMP เป็นซอฟตแ์ วร์โอเพ่นซอร์ส ท่ีเป็นของฟรี สามารถติดตั้งได้บนระบบปฏิบัติการหลายตัว ทั้งบน Windows, บน Mac OS หรือ บน Linux base กไ็ ด้ ในหนังสือเล่มน้ี อธิบายโดยใช้ GIMP ที่ทำางานบนระบบปฏิบัติ Ubuntu ซ่ึงเป็น Linux base (Ubuntu เป็น ซอฟตแ์ วรฟ์ รเี ชน่ เดยี วกับ GIMP) ถงึ อย่างไรกด็ ี แมจ้ ะตา่ งระบบปฏิบัติการกนั การใช้งานมลี กั ษณะเหมอื นกนั ตา่ งกันเพียง ปุ่มกดหรอื การใช้งานเลก็ ๆนอ้ ยๆ เท่านนั้ ถงึ แม้ GIMP จะเปน็ ซอฟตแ์ วร์ฟรี แต่ศกั ยภาพของ GIMP นนั้ ไมธ่ รรมมดา ไม่แพซ้ อฟต์แวรเ์ ชิงพาณชิ ย์ช่ือดงั ราคา แพงๆทั้งหลาย GIMP ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานท่ัวโลก ถูกพัฒนาโดยองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกาำ ไร สาำ หรับผู้เขียนแล้ว GIMP ถอื เป็นซอฟตแ์ วร์จดั การภาพ ท่ีดที ส่ี ุดในตระกลู โอเพ่นซอร์ส ดาวนโ์ หลดโปรแกรม GIMP ดาวนโ์ หลดโปรแกรม GIMP ไดฟ้ รีที่ www.gimp.org/downloads *** GIMP ทีใ่ ชอ้ ธบิ ายในหนงั สอื เล่มน้ีเป็น GIMP บนระบบปฏิบตั กิ าร Ubuntu หน้าดาวน์โหลดของ GIMP 16 คัมภีร์ GIMP 2.7

1.2 ภำพเว็คเตอร์และภำพบติ แมพ คอื อะไร? ภาพดจิ ิตอล หรือภาพท่สี รา้ งด้วยซอฟต์แวรบ์ นคอมพิวเตอร์ แบ่งเปน็ 2 กล่มุ ใหญๆ่ ก็คือ 1. เว็คเตอร์ 2. บิตแมพ(Bitmap) หรือ แรสเตอร์(Raster) เว็คเตอร์ ภาพแบบ เว็คเตอร์ เป็นภาพที่สรา้ งด้วยระบบการคำานวณทางคณิตศาสตร์ ขอ้ ดีก็คือ สามาถขยายมากเท่าไรก็ได้ โดยท่ีภาพไม่แตก โปรแกรมวาดภาพแบบ เว็คเตอร์ ยกตัวอย่างเช่น Adobe Illustrator, Corel Draw และ Inkscape เป็นต้น ไฟลภ์ าพแบบเว็คเตอร์ ก็อย่างเช่น SVG, EPS, PS, AI หรือ CDR เป็นต้น การนำาภาพ เว็คเตอร์ไปใช้งาน มักจะ ตอ้ งแปลงไปเป็นภาพ บิตแมพ ก่อน ดาวนโ์ หลดหนังสือ e-book “คัมภีร์ Inkscape 0.48” Inkscape เป็นซอฟตแ์ วรโ์ อเพ่นซอร์ส ท่ีเป็นของฟรี เชน่ เดียวกบั GIMP ดาวนโ์ หลดหนังสอื e-book “คมั ภรี ์ Inkscape 0.48” (คูม่ ือการใช้งาน Inkscape) ได้ฟรีท่ี www.poeclub.org บิตแมพ (หรือ Raster) ภาพแบบ บติ แมพ เป็นภาพท่ีประกอบไปด้วยจุดเลก็ ๆเรยี งตัวกนั จุดเหลา่ นีเ้ รยี กวา่ พกิ เซล(Pixels) โดย 1 พกิ เซล จะเก็บสี 1 สี คุณภาพของภาพขน้ึ อยูก่ บั จาำ นวนพิกเซล ภาพท่ีถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล ล้วนเป็นภาพ บิตแมพ โปรแกรมที่ใช้จัดการภาพแบบ บิตแมพ ยกตัวอย่างเช่น Adobe Photoshop, Corel PhotoPaint และ Gimp เป็นต้น ไฟล์ภาพแบบฺ บิตแมพ ก็อย่างเช่น XCF, JPG, PNG, GIF, BMP, TIFF หรอื PSD เปน็ ต้น ภาพเวค็ เตอร์ สามารถขยายได้ไมจ่ าำ กดั ภาพบิตแมพ ประกอบไปดว้ ยจดุ เล็กๆ(พิกเซล) โดยทภ่ี าพไม่แตก เรยี งตวั กัน เมอ่ื ขยายภาพจะเหน็ เปน็ จุดๆ บทท่ี 1 : รจู้ ักกับ GIMP 17

18 คมั ภรี ์ GIMP 2.7

บทท่ี 2 : มมุ มองในกำรทำำ งำน

2.1 หนำ้ จอ GIMP (Interface) หน้าจอของ GIMP ประกอบไปดว้ ย 3 ส่วนหลกั ๆกค็ ือ 1. Main toolbox ศนู ยร์ วมเครอ่ื งมือตา่ งๆ 2. Image window หนา้ ต่างภาพ 3. Docking หน้าต่างลอย ภายในประกอบไปด้วยไดอะล็อกจำานวนหน่ึง แยกเป็นแท็บๆ สามารถดึงออกมาเพ่ือ จัดกลมุ่ เป็น Docking กล่มุ ใหม่ได้ ทง้ั 3 สว่ นนั้นอย่แู ยกกัน สามารถจับย้ายได้อยา่ งอสิ ระตอ่ กัน หนา้ จอ GIMP เนอื่ งจาก ท้ัง 3 ส่วนน้นั อยแู่ ยกกัน การยอ่ ขยาย หรือปิดหน้าตา่ งใดๆ อาจไมส่ ะดวกสาำ หรับบางทา่ น เพราะตอ้ ง คลิกหลายครัง้ GIMP มีตัวเลือก เพื่อเปลี่ยนหน้าจอจากโหมด 3 ส่วน ให้เป็นหน้าต่างเดียว ก็คือ ทุกหน้าต่างมารวมกันอยู่ใน หนา้ ตา่ งเดยี ว (สำาหรบั ผู้เขยี นแลว้ ชอบแบบแยก 3 ส่วนมากกว่า) การเปลีย่ นโหมดหนา้ จอจาก 3 สว่ น ให้เป็นหนา้ ต่างเดยี ว 1). ไปท่ี Windows → Single-Window Mode 2). จัดเรยี งและปรับขนาดสว่ นประกอบต่างๆ ท่ีอยภู่ ายในหนา้ ตา่ ง จะไดห้ นา้ จอของ GIMP ดงั น้ี 20 คมั ภรี ์ GIMP 2.7

หนา้ จอ GIMP แบบ Single-Window Mode เมื่อเปิดไฟล์ภาพภาพใหม่ข้ึนมาหลายๆภาพ ภาพจะแยกเป็นแท็บๆ ปุ่มปิดภาพในมุมมองนี้จะไม่มี ฉะนั้น การปิด ภาพในแต่ละแทบ็ ให้ไปท่ี File → Close หรอื File → Close All เพื่อปิดไฟล์ภาพทงั้ หมด 2.2 Main toolbox Main toolbox ประกอบไปดว้ ย 2 ส่วน กค็ อื Toolbox และ Tool options ก. Toolbox Toolbox หรือ กล่องเครื่องมือ เป็นศูนย์รวมปุ่มเคร่ืองมือ ตา่ งๆ Toolbox เมื่อนำาเมา้ ส์ไปชบี้ นไอคอ่ นรูปเครื่องมอื ต่างๆ จะปรากฎช่อื และคยี ์ลัด บทที่ 2 : มมุ มองในการทำางาน 21

Tool icons : ประกอบไปดว้ ยปุ่มเครอื่ งมือต่างๆ โดยแบ่งเป็น 5 กล่มุ ก็คอื กลุ่ม Selection tools ใช้เลือกพนื้ ท่บี างส่วนของภาพ กลมุ่ Paint tool ใชว้ าดและระบายสี กลุ่ม Tranform tools ใชเ้ ปลีย่ นแปลงรูปรา่ งของภาพ กลุ่ม Color tools ใชป้ รับเปลี่ยนหรือตกแตง่ สีของภาพ กลมุ่ Other tools เครื่องมอื อ่นื ๆ การเปิดภาพโดยวางภาพลงบน Toolbox การลากภาพจากภายนอก มาวางไว้ลงในกรอบ Toolbox (บริเวณโซน ) เป็นการเปดิ ไฟลภ์ าพนั้น Foreground/Background colors : แสดงสีโฟร์กราวดแ์ ละสแี บ็คกราวด์ ทีก่ าำ ลงั ใช้ สีโฟร์กราวด์ งานอยู่ ณ ขณะน้ัน หากตอ้ งการเปลย่ี นสีโฟร์กราวด์หรอื แบค็ กราวด์ คลิกที่พ้ืนท่สี ี จะ และสีแบค็ กราวด์ ปรากฏหน้าตา่ งมาให้เลือกสที ีต่ ้องการ คลกิ ที่ เพ่ือสลับระหว่างสโี ฟรก์ ราวดแ์ ละสี แบ็คกราวด์ คลกิ ท่ี เพ่อื รเี ซ็ตสแี บ็คกราวด์(เปน็ สดี ำา) และโฟรก์ ราวด์(เปน็ สีขาว) Brush/Pattern/Gradient : สัญลักษณ์แบ่งเป็น 3 ส่วน แสดงสถานะของแปรง(Brush), ลวดลาย (Pattern) และ เฉดสี(Gradient) ทก่ี าำ ลงั ใช้งานอยู่ ตามลำาดับ คลิกบนพ้ืนท่ใี นแตล่ ะส่วน เพอ่ื เปิดไดอะล็อกของเคร่ืองมือ ดงั กล่าว เพอ่ื ทาำ การปรบั แตง่ Active Image : แสดงภาพขนาดเล็กของภาพที่กาำ ลังทำางานอยู่ ณ ขณะน้ัน คลิกบนภาพขนาดเล็กดังกล่าว เพอื่ เปิดไดอะล็อก Image การเปิดภาพโดยวางภาพลงบน Toolbox ไปท่ี Edit → Preferences → เมนู Toolbox เพอ่ื ปดิ /เปิด พืน้ ที่ในข้อ (ปกตจิ ะปิดไว้) 22 คัมภีร์ GIMP 2.7

ข. Tool options กรอบ Tool options แสดงรายละเอียดของเคร่ืองมือที่กำาลังใช้งาน สามารถปรับแต่งค่าต่างๆของเครื่องมือได้ที่ กรอบน้ี เม่ือปรบั แต่งแลว้ สามารถบันทึกค่าเก็บไวใ้ ช้ในครัง้ ต่อๆไปได้ โดยไมต่ ้องมาตง้ั คา่ ใหมท่ กุ คร้งั แสดงรายละเอียดของเคร่ืองมือท่ีใชง้ านอยู่ Save options to ปมุ่ บันทึกค่า Option Restore options ปุม่ โหลดค่า Option (ทบี่ ันทึก ไว้) Delete options ปมุ่ ลบคา่ Option (ทีบ่ ันทึกไว้) Reset options ป่มุ รเี ซ็ต Option ใหก้ ลับไปเป็น ค่าเริม่ ต้น ← ไดอะลอ็ ก Tool options ของ Paintbrush tool Tool Options เป็นไดอะลอ็ กชนิดหน่ึงสามารถดึงออกจาก Main Toolbox แล้วย้ายไปไว้ท่ไี หนกไ็ ด้ 2.3 Image window Image window แสดงภาพทเ่ี ปดิ อยู่ ซง่ึ หนา้ ตา่ งน้ีมรี ายละเอยี ดคอ่ นข้างมาก ดังต่อไปนี้ หน้าต่าง Image window บทที่ 2 : มุมมองในการทาำ งาน 23

Title bar : แสดงรายละเอียดเกียวกับไฟล์ แสดงชื่อไฟล์และข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับไฟล์ (โหมดภาพ, จาำ นวน เลเยอร์, ขนาดภาพ) Image menu : เมนูคำาส่ังต่างๆที่ใช้ในการทาำ งานกับภาพ สามารถใช้การคลิกเม้าส์ขวาบนภาพ เพ่ือเปิดเมนู คำาส่งั ขึน้ มาก็ได้ Menu button : ปุม่ เมนคู ำาสัง่ เป็นอีกวิธหี น่ึงในการเปิดเมนูคาำ ส่ัง Ruler : แถบไม้บรรทัด (<Shift><Ctrl><R> = ซ่อนหรือแสดงไม้บรรทัด) คลิกเม้าส์บนไม้บรรทัด แล้วลาก มาท่บี รเิ วณภาพจะปรากฏเสน้ ไกด์ ซงึ่ เป็นเสน้ ที่ใช้ชว่ ยในการวางตาำ แหน่งขององค์ประกอบต่างๆ Quick Mask Toggle : (<Shift><Q>) สลับระหว่างโหมดการทำางานปกตกิ ับโหมด ควิกมาสก์( ดูเพิ่มเตมิ ใน หวั ขอ้ 5.12 : การเลือกดว้ ยควกิ มาสก์ (Quick Mask)) Pointer Coordinates : แสดงพกิ ดั X,Y ของเม้าส์ (มุมซา้ ยบน คอื พกิ ัด 0,0) Units Menu : ตวั เลอื กหนว่ ยวัดของไม้บรรทัด ปกติหน่วยวดั ของไมบ้ รรทดั จะเปน็ px (พกิ เซล) Zoom button : ตัวเลือกดูภาพขนาดต่างๆ ซูมเข้า-ภาพใหญ่ขึ้น (% การซูมมาก) ซูมออก-ภาพเล็กลง (% การซูมนอ้ ย) Status area : ปกติจะแสดงเปน็ ชอ่ื เลเยอร์และปริมาณหน่วยความจำาท่ีใชท้ าำ งานกบั ไฟล์ (ไมใ่ ช่ขนาดไฟล์) แต่ เมอ่ื มีการใช้เครือ่ งมอื ตา่ งๆทาำ งาน จะแสดงขอ้ มลู การทาำ งาน ณ ขณะน้ัน Cancel button : การทำางานบางอย่างเช่น การใชง้ านปลัก๊ อนิ หรือฟิลเตอร์บางตัวจะใช้เวลาประมวลผลนาน ระหว่างประมวลผล ปุ่มยกเลิก จะปรากฎท่ีตาำ แหน่งขวาล่าง ซ่ึงสามารถกดเพ่ือยกเลิกการประมวลผลนั้น ได้ Navigation control : คลิกค้างท่ีปุ่มน้ี จะปรากฎกรอบขนาดเล็กแสดงภาพรวม ท้ังหมดของภาพ หากเลื่อนเม้าส์ไปมา(ยังคงคลิกค้างอยู่) จะเป็นการเลื่อนตาำ แหน่ง ไปยังบรเิ วณต่างๆของภาพ เหมาะใช้งานกับภาพขนาดใหญ่ หรือมีการซูมภาพมากๆ แลว้ ตอ้ งการเลื่อนไปยงั บริเวณตา่ งๆของภาพ Inactvie Padding Area : พน้ื ทวี่ ่างรอบๆภาพ Image Display : พน้ื ท่ีภาพ เป็นพนื้ ทีก่ ารทาำ งานหลกั Image Window Resize Toggle : โดยปกติ เม่ือปรับขนาดของหน้าต่าง Image window การซูมของภาพ จะไม่เปล่ียนแปลง หากเป็น 70% ก็จะเป็น 70% อยู่ หากปุ่มน้ีถูกกด เม่ือปรับขนาดของหน้าต่าง Image window ขนาดการซมู จะปรับเปลีย่ นไปด้วยอยา่ งอัตโนมัติ 2.4 ด็อกก้งิ และไดอะล็อก ไดอะล็อก(Dialogs) เป็นหน้าต่างคุณสมบัติของเคร่ืองมือหรือคาำ ส่ังต่างๆ ซ่ึงมีอยู่หลายไดอะล็อก ด็อกก้ิง (Docking, Dock=อู่จอดเรือ) เป็นหน้าต่างทใี่ ช้จัดหมวดหมู่ของไดอะล็อกเข้าไว้ด้วยกัน โดยไดอะล็อกที่อยู่ในด็อกกิ้ง จะ แยกเปน็ แทบ็ ๆ GIMP มีด็อกก้ิงเร่ิมต้นมาให้ 1 ด็อกก้ิง แบ่งเป็นชั้นบนและช้ันล่าง ช้ันบน เก็บไดอะล็อก Layers, Channels, Paths และ Undo history ชน้ั ล่าง เกบ็ ไดอะล็อก Brushes, Patterns และ Gradients 24 คมั ภรี ์ GIMP 2.7

ดอ็ กกงิ้ ท่ีประกอบไปดว้ ย 4 ไดอะล็อก Image Selection Menu : เมนูเลือกทาำ งานกับภาพ (ทเ่ี ปดิ อยู่) คลิกที่ปมุ่ (Tab Menu Button) → Show Image Selection เพ่อื เปดิ หรอื ปิด Image Selection Menu (ปกติถูกปดิ ไว้) Dialog Tabs : แท็บ หรือ ปา้ ยเลอื กไดอะลอ็ กท่ีอยู่ในด็อกกง้ิ (ตามภาพด้านบนมอี ยู่ 4 แทบ็ สามารถเพ่มิ ลด ได้) สามารถเปลยี่ นลาำ ดบั ของแท็บไดโ้ ดยคลกิ คา้ งท่แี ทบ็ แล้วลากไปไว้ที่ลำาดับกอ่ นหน้าหรือหลัง Button Bar : แถบปุม่ คาำ สง่ั ของไดอะลอ็ ก แต่ละไดอะลอ็ กจะไม่เหมอื นกัน Tab Menu Button : ปุ่มเปิด Tab Menu คลกิ เพอ่ื เปิด Tab Menu Tab Menu : เม่ือคลิกที่ปุ่ม Tab Menu Button จะปรากฎ Tab Menu ซึ่งเป็นเมนูคำาส่ังในการจัดการ ไดอะลอ็ ก และเมนูคาำ สั่งของแต่ละไดอะล็อก 2.5 กำรจัดกำรดอ็ กกงิ้ และไดอะล็อก การเปิดปิดไดอะล็อกหรอื ด็อกกง้ิ • การเปิดไดอะลอ็ ก เลอื กไดอะล็อกท่ตี ้องการจะเปิด จากเมนู Windows → Dockable Dialogs → (รายชื่อไดอะล็อกต่างๆ) • การปดิ ไดอะล็อก คลกิ ที่ปุ่ม (Tab Menu Button) → Close Tab จะเป็นการปดิ ไดอะลอ็ กที่กาำ ลังใช้งานอยู่ ณ ขณะนน้ั • การปดิ ดอ็ กกง้ิ คลิกทป่ี ุ่ม (Close window) ที่มมุ ขวาบนของหนา้ ตา่ ง ด็อกกิ้ง บทที่ 2 : มุมมองในการทำางาน 25

การซอ่ น Main toolbox และ ดอ็ กกิ้ง ขณะทำางานกับภาพที่หน้าต่าง Image window สามารถซ่อนหน้าต่าง Main toolbox และ หน้าต่าง ด็อก กงิ้ ท้ังหมดได้ โดยการกดป่มุ <Tab> การเปดิ ด็อกกงิ้ หรือไดอะลอ็ กท่ีพึง่ ถกู ปิด หากปิดไดอะล็อกหรือด็อกกิ้งไปแลว้ แลว้ ต้องการเรียกกลบั มา ใหไ้ ปที่ Windows → Recently Closed Docks → (รายการไดอะลอ็ กที่ถกู ปดิ ) จากนั้นเลอื กไดอะล็อกทต่ี อ้ งการเรียกกลบั มา การเพิ่มหรอื ถอดไดอะลอ็ กออกจากด็อกก้ิง • การเพ่ิมไดอะลอ็ กลงในหน้าต่างดอ็ กก้ิง คลกิ ที่ (Tab Menu Button) → Add Tab → (รายชอ่ื ไดอะล็อกตา่ งๆ) จากน้นั เลือกไดอะล็อกท่ี ตอ้ งการจะเพ่ิมเขา้ มาในดอ็ กก้ิง • การถอดไดอะล็อกออกจากด็อกก้งิ คลกิ ที่ (Tab Menu Button) → Detach Tab จะเปน็ การถอดไดอะลอ็ กท่ีกาำ ลงั ใช้งานอยู่ ณ ขณะน้ัน การยา้ ยและจดั กลุ่มไดอะลอ็ กโดยใชเ้ มา้ ส์ • การย้ายไดอะลอ็ กออกจากหนา้ ตา่ ง ดอ็ กกงิ้ คลกิ เมา้ สค์ ้างทปี่ า้ ยแท็บ จากนั้นลากเม้าส์ออกมา จะปรากฎกรอบส่ีเหล่ยี มระบชุ ือ่ ไดอะล็อกทีก่ าำ ลังจะย้ายออก จาก ดอ็ กกงิ้ (ตามภาพคือ Undo History) เมอ่ื ปลอ่ ยเม้าส์จะปรากฎหน้าตา่ งไดอะล็อก ดงั กลา่ วแยกออกมา คลกิ ค้างท่ีป้ายแทบ็ เม่อื ปล่อยเม้าส์ จากนน้ั ลากเมา้ ส์ออกมา จะปรากฎไดอะลอ็ กแยกออกมา 26 คมั ภรี ์ GIMP 2.7

• การยา้ ยไดอะล็อกเขา้ ไปไว้ในด็อกกง้ิ ขั้นตอนเหมือนกบั ขัน้ ตอนก่อนหนา้ นี้ เพยี งแต่ทาำ กลบั กนั คลกิ คา้ งที่ปา้ ยแท็บ เมอื่ ปล่อยเมา้ สจ์ ะปรากฎ จากน้นั ลากเม้าส์ไปวางยัง ดอ็ กก้ิง อ่นื ๆ แทบ็ ของไดอะล็อกรวมกลมุ่ (ท่หี นา้ ตา่ ง ดอ็ กกง้ิ จะปรากฎขอบสดี ำาเส้นหนา) อยกู่ บั ไดอะล็อกอืน่ ๆ การซอ้ นไดอะลอ็ กในดอ็ กกง้ิ การยา้ ยไดอะลอ็ กไปยงั ดอ็ กกิง้ อ่ืนๆ หากวางไดอะล็อก ไว้ทีด่ า้ นล่างสดุ ของ ด็อกก้งิ จะเป็นการเพิ่มชัน้ ของ ไดอะลอ็ กไวท้ ี่ด้านลา่ ง (กรณีวางไว้ท่ดี า้ นบนของ ดอ็ กกงิ้ ก็มีลักษณเดยี วกนั ) จับไดอะลอ็ กไปวางที่ → ดา้ นล่างของ ด็อกก้งิ 2.6 กำรซูมภำพ การซูมภาพ ก็คือ การย่อหรือขยายมมุ มองของภาพในหน้าต่าง Image window เพอ่ื อำานวยความสะดวกในการ ตกแต่งภาพในจดุ ตา่ งๆ การซูมภาพ ให้ไปที่ View → Zoom → (รายการคาำ ส่ังเก่ียวกับการซูม) จากน้ันเลือกคาำ สั่งการซูมที่ต้องการ รายการทีม่ ี มรี ายละเอยี ดดังต่อไปน้ี บทที่ 2 : มุมมองในการทาำ งาน 27

Revert Zoom : ย้อนกลับไปการซมู ก่อนหนา้ รายการคำาส่งั เกยี่ วกับการซมู และคยี ์ลดั Zoom Out : (<->) ซมู ภาพออกทีละ 1 ขัน้ ภาพจะเล็กลง เร่อื ยๆ ในทุกคร้งั ทซี่ ูมออก Zoom In : (<+>) ซมู ภาพเขา้ ทีละ 1 ขั้น ภาพจะใหญข่ ึน้ เรอ่ื ยๆ ในทกุ ครั้งที่ซมู เข้า Fit Image in Window : (<Shift><Ctrl><J>) ซูมภาพเต็ม Image window Fill Window : ซูมภาพโดยไมใ่ หม้ พี น้ื ท่ีโดยรอบ ภาพ(Padding)เหลอื อยู่ เลข : เลข (เลข %) : (<1-5> และ <Shift><2-5>) เลอื ก ระดับการซูมทโ่ี ปรแกรมตงั้ ค่าไวใ้ หแ้ ล้ว Other (เลข %) : เปิดหน้าต่าง Zoom Ratio เพอื่ กาำ หนดการ ซูมแบบอนื่ ๆที่ตอ้ งการ (ไดต้ ้งั แต่ 0.39% - 25600%) คยี ล์ ดั ทใี่ ช้บ่อย กด <Ctrl> + เลื่อนลกู กล้งิ เมา้ สไ์ ปข้างหนา้ = ซมู เขา้ กด <Ctrl> + เลือ่ นลูกกลงิ้ เมา้ สไ์ ปข้างหลงั = ซูมออก คยี ์ลัด <Shift><Ctrl><J> = ซูมภาพใหพ้ อดกี ับขนาดของ Image window คยี ์ลัด <Ctrl><J> = ปรบั ขนาด Image window ใหพ้ อดกี ับขนาดภาพ 2.7 กำรเลอื่ นมมุ มองภำพ การเลื่อนมุมมองภาพ หรือการ Pan ก็คือการขยับมุมมองภาพไปทางซ้ายหรือขวา บนหรือล่าง ภายในหน้าต่าง Image window การเลื่อนมุมมองภาพโดยใชไ้ ดอะล็อก Navigation ท่ีไดอะล็อก Navigation (เปิดได้โดยไปท่ี Windows → Dockable Dialogs → Navigation) แสดงภาพขนาด ยอ่ ของภาพที่กาำ ลงั ทาำ งานอยู่ ณ ขณะน้นั นอกจากน้ี ก็มีสเ่ี หล่ียมกรอบสขี าว ซึ่งหากกรอบน้ีครอบอยู่ท่สี ่วนใดของภาพ ที่ Image window จะแสดงเฉพาะส่วนนั้นของภาพดว้ ย การเลอื่ นมุมมองภาพ ให้คลกิ คา้ งท่ีส่เี หลย่ี มกรอบสขี าว จากนัน้ เล่อื นเม้าส์ไปยังตำาแหนง่ ทต่ี ้องการ หรือใช้การคลกิ คร้ังเดียว กรอบสเ่ี หล่ยี มสขี าวจะย้ายไปยงั ตำาแหนง่ ที่คลิกเม้าส์ในทันที 28 คมั ภรี ์ GIMP 2.7

ท่ีไดอะล็อก Navigation ใชเ้ ม้าสจ์ ับกรอบสเี่ หลยี่ มสขี าวเลอื่ นไปยังตาำ แหนง่ ต่างๆ เพ่อื ทำาการเลือ่ นมุมมองภาพ การเลือ่ นมุมมองภาพโดยใช้ปุ่มกลางของเม้าส์ คลกิ เมา้ สป์ ุ่มกลางค้างไว้ท่ีภาพ (เม้าส์จะเปล่ียนเป็นรูปมือจับ ) จากนน้ั เลอ่ื นเม้าส์ทางซา้ ยหรอื ขวา ภาพจะเลื่อนตาม วธิ นี ี้นยิ มใชท้ ี่สุด การเลื่อนมุมมองภาพโดยใช้คยี ์ <Spacebar> ไม่วา่ จะใชเ้ ครอ่ื งมือ(Tool)อะไรอย่กู ็ตาม หากกด <Spacebar> ค้างไว้ จะสลับมาที่โหมดการเลอ่ื น มมุ มองภาพเสมอ จากนั้น เพยี งเล่อื นเม้าส์กจ็ ะเป็นการเลอ่ื นภาพ 2.8 กริดและไกด์ ก. กริด (Grids) กริด คือเส้นตาราง หรือ จุดท่ีเรียงตัวกันเป็นตาราง มีไว้เพ่ือช่วยจัดวางตาำ แหน่งขององค์ประกอบภายในหน้าต่าง Image window การซ่อนหรือแสดงกรดิ ไปท่ี View → Show Grid การปรบั แตง่ กริด แต่ละภาพท่ีเปิดข้ึนมา (1 ภาพต่อ 1 Image window) สามารถปรับแต่งกริดเฉพาะของภาพนั้นๆได้ ให้ไปท่ี Image → Configure Grid... จะปรากฎหน้าต่างมาให้ปรับแต่งกริด ซ่ึงสามารถปรับแต่งระยะห่างระหว่างกริด สีของ กริด รูปแบบของกริดได้ บทที่ 2 : มมุ มองในการทาำ งาน 29

กริดแบบเสน้ ทบึ (Solid) กริดแบบจดุ (Intersections(Dot)) ภาพแตล่ ะภาพ ท่ีอยูค่ นละ Image window สามารถปรบั แตง่ รูปแบบของกริดเฉพาะของภาพนน้ั ๆได้ กริด มีคุณสมบัติแรงดึงดูด หรือคุณสมบัติ Snapping เมื่อเปิดคุณสมบัติดังกล่าว กรดิ จะทาำ ตัวเหมือนกับแม่เหล็ก คอยดูดองคป์ ระกอบตา่ งๆที่เคลอ่ื นเข้าใกลก้ รดิ คุณสมบตั ินี้ ช่วยใหก้ ารจัดองค์ประกอบง่ายขนึ้ การเปดิ หรอื ปดิ คณุ สมบตั ิแรงดงึ ดูดของกริด ไปที่ View → Snap to Grid เม่อื เคลื่อนยา้ ยองคป์ ระกอบเข้าใกลก้ ริด องคป์ ระกอบจะโดดเข้าหาแนวของกรดิ ข. ไกด์ (Guides) ไกด์ คือ เส้นในแนวราบ(Horizontal) หรือในแนวด่ิง(Vertical) มีไว้เพื่อช่วยในการวางตำาแหน่งขององค์ประกอบ ภายในหน้าต่าง Image window การสรา้ งเสน้ ไกด์โดยใช้ไม้บรรทดั คลิกเมา้ ส์ค้างทแ่ี ถบไมบ้ รรทดั จากน้ันลากเม้าสเ์ ขา้ มาภายในภาพ จะปรากฎเส้นไกด์ คลิกค้างท่ีไมบ้ รรทดั จากนัน้ ลากเม้าส์เขา้ มา ภายในภาพ จะปรากฎเสน้ ไกด์ 30 คมั ภรี ์ GIMP 2.7

การสรา้ งเส้นไกด์โดยใชเ้ มนู ไปที่ Image → Guide → New Guide จะปรากฎหน้าต่าง New Guide มาให้กาำ หนดค่าต่างๆในการสร้างเส้น ไกด์ ช่อง Direction : แนวของเส้นไกด์ (แนวราบ/ดิง่ ) ชอ่ ง Postion : แสดงพกิ ัดของเส้นไกด์ ← หนา้ ตา่ ง New Guide ขอ้ ดีของวิธีน้ี กค็ อื สามารถกาำ หนดตำาแหน่งของเส้นไกดไ์ ดอ้ ย่างแมน่ ยาำ การซอ่ นหรือแสดงเสน้ ไกด์ ไปที่ View → Show Guides (<Shift><Ctrl><T>) การลบเสน้ ไกด์ การลบทีละเสน้ : ใช้เม้าสจ์ บั ที่เสน้ ไกด์ แลว้ ลากกลับไปทไี่ มบ้ รรทัด การลบทุกเส้น : ไปที่ Image → Guide → Remove All Guides การเปดิ หรอื ปดิ คุณสมบตั ิแรงดงึ ดดู (Snapping)ของเส้นไกด์ ไปที่ View → Snap to Guides คำาสั่งอนื่ ๆที่เกยี่ วกับเส้นไกด์ Image → Guide → New Guide (by percent...) สรา้ งเส้นไกด์แบบกาำ หนดตำาแหน่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของ ขนาดภาพ (เช่น 50% กค็ อื อ =สร้างเส้นไกดท์ ่กี ลาง ภาพ) Image → Guide → New Guides form Selection คำาสั่งสร้างเสน้ ไกด์จากการเลือก ตามภาพด้านล่าง ได้ใช้ Selection tool เลอื กบางส่วนของภาพไว้เปน็ วงรี เมื่อใช้ คำาส่ัง New Guides form Selection จะปรากฎเส้นไกด์ 4 เส้น สมั ผัสท่ีแต่ละดา้ นของวงรี Image → Guide → Remove All Guides ลบเสน้ ไกดท์ ้งั หมด บทที่ 2 : มุมมองในการทาำ งาน 31

32 คมั ภรี ์ GIMP 2.7

บทท่ี 3 : การทำางานกับไฟล์

3.1 ขนำดภำพ, Resolution และ Dot for Dot ขนาดภาพบติ แมพ ภาพบติ แมพ เป็นภาพทป่ี ระกอบไปด้วยจดุ เลก็ ๆ เรียงตวั กนั จุดเหล่าน้เี รยี กว่า “พกิ เซล(Pixels)” หรอื “จดุ สี” ขนาดภาพบิตแมพ ถูกระบุเป็นความกว้างและความสูงของจำานวนพิกเซลท่ีเรียงต่อกันในแนวต้ังและในแนวนอน เช่น กว้าง 500 พกิ เซล สูง 700 พกิ เซล รวมจำานวนพกิ เซลทงั้ หมดเท่ากับ 500x700=350,000 พิกเซล หรือ 350,000 จุด สี เป็นตน้ ภาพขนาด 4x4 พิกเซล ภาพขนาด 8x8 พิกเซล ทัง้ น้ี ขนาดท่รี ะบุในข้างต้น ยงั ไม่ไดร้ ะบุเปน็ ขนาดทางกายภาพ หรือระบุเปน็ ขนาดเมื่อพิมพล์ งบนสอื่ ส่ิงพมิ พ์ อย่าง เช่น พิมพ์ลงบนกระดาษ ภาพขนาด 500x700 พิกเซล สามารถพิมพ์เต็มหน้ากระดาษ A4 หรือเต็มหน้ากระดาษ A0 ก็ได้ (A0 ใหญ่กว่า A4 ถงึ 4 เทา่ ) แต่คณุ ภาพหรอื ความคมชดั ที่ออกมาจะตา่ งกนั ภาพบนกระดาษ A0 ถึงจะใหญ่กจ็ ริง แตภ่ าพจะแตกเป็นเมด็ ๆ เห็นเป็นขอบหยักอย่างชัดเจน ภาพบนกระดาษ A4 ถึงจะเล็กกว่า แต่เม็ดพิกเซลจะเล็กกว่าด้วย จึงมีความคมชัดมากกว่า ดงั นนั้ การระบขุ นาดของภาพบิตแมพ สาำ หรับการพิมพจ์ ะต้องระบุ Resolution ดว้ ย Resolution Resolution มีหน่วยเป็น Pixels Per Inch (PPI) หรือ จาำ นวนพิกเซลต่อน้ิว ใช้ระบุจาำ นวนพิกเซลต่อนิ้ว เม่ือ พมิ พล์ งบนส่อื สิ่งพิมพ์ต่างๆ Resolution เปน็ การระบุขนาดทางกายภาพ ค่า Resolution ยิ่งมาก ภาพกย็ ิ่งคมชัดมาก(เม่ือพิมพ์) แต่ท้ังนี้ ต้องแลกด้วยขนาดไฟล์ท่ีใหญ่โต และหน่วยความ จำาในการทำางานกับภาพดังกลา่ วก็มากตามไปดว้ ย ภาพบติ แมพทม่ี ี Resolution สงู ภาพบติ แมพทม่ี ี Resolution ตา่ำ เม่อื พมิ พท์ ง้ั 2 ภาพใหม้ ขี นาดเท่ากนั (บงั คบั ใหข้ นาดเท่ากนั ) จะพบว่ามคี วามคมชัดตา่ งกนั 34 คัมภีร์ GIMP 2.7

Dot for Dot โดยปกติ GIMP แสดง 1 พิกเซลของภาพ เท่ากบั 1 พกิ เซลบนหนา้ จอคอมพวิ เตอร์(Screen pixel) หมายความว่า ภาพขนาด 300x300 พิกเซล ที่ Resolution 72 PPI กับ ภาพขนาด 300x300 พิกเซลที่ Resolution 300 PPI ทม่ี มุ มองภาพ 100% เหมือนกัน ภาพทัง้ 2 จะใชพ้ ื้นท่บี นหน้าจอคอมพิวเตอรเ์ ทา่ กัน จึงดูไม่ออกว่า มี Resolution ตา่ งกัน แตข่ นาดเม่อื พมิ พ์จะแตกตา่ งกนั ลักษณะนี้ เป็นค่าปกติเมือ่ เปดิ ใช้งาน Dot for Dot ไว้ (อย่ทู ่ี View → Dot for Dot ซง่ึ ปกตจิ ะเปิดไว้) ตัวอย่าง : ภาพ A และ B มีขนาดเทา่ กนั แต่ Resolution ตา่ งกนั ภาพ A มี Resolution 200 PPI ภาพ B มี Resolution 100 PPI ภาพ A และ B มขี นาดเทา่ กันบนจอคอมพวิ เตอร์ ภาพ A มี Resolution 200 PPI ภาพ B มี Resolution 100 PPI ภาพ A และ B มขี นาดเม่อื พมิ พ์ไมเ่ ทา่ กนั ตรวจสอบขนาดเมื่อพมิ พ์ไดท้ ่ี Image → Print Size... สงั เกตวุ ่าภาพ B ขนาดเมื่อพิมพ์ จะใหญก่ วา่ ภาพ A ถึง 4 เทา่ ภาพถ่ายจากกลอ้ งดิจติ อล มีความละเอียดที่ 72 หรอื 96 PPI เทา่ ๆกับ ความละเอียดของจอคอมพิวเตอร์ เมื่อเปิดใช้ Dot for Dot (View → Dot for Dot) และซูมภาพที่ขนาด 100% 1 พิกเซลของภาพจะใช้พ้ืนท่ี เทา่ กับ 1 พกิ เซลของจอคอมพวิ เตอร์ การปรับเปลีย่ น Resolution ไมม่ ผี ลตอ่ ขนาดภาพทแี่ สดงบนหนา้ จอ บทที่ 3 : การทาำ งานกบั ไฟล์ 35

หากปิด Dot for Dot (ต๊ิกออก) และซูมท่ีขนาด 100% ขนาดภาพบนจอคอมพิวเตอร์จะแสดงขนาดเท่าๆกับ ขนาดเมื่อพมิ พ์ การปรับเปลย่ี น Resolution มีผลตอ่ ขนาดภาพที่แสดงบนจอคอมพวิ เตอรด์ ว้ ย หากทำางานทใี่ ช้ภาพเฉพาะบนจอคอมพิวเตอร์ แนะนำาให้เปดิ Dot for Dot ไว้ แต่ถา้ ตอ้ งทาำ งานทพี่ มิ พ์ลงบนส่ือส่ิง พมิ พ์ต่างๆ แนะนำาให้ ปดิ Dot for Dot 3.2 กำรสร้ำงไฟลใ์ หม่ เริ่มต้นทำางานกับ GIMP ต้องสร้างไฟล์ใหม่ขึ้นมาก่อน ให้ไปท่ี File → New (<Ctrl><N>) จะปรากฎ หน้าต่าง Create a New Image มาใหก้ าำ หนดคา่ ต่างๆของไฟลท์ ่ีจะสรา้ งใหม่ หน้าต่าง Create a New Image รายการในช่อง Template ทมี่ ีให้เลอื ก คณุ สมบตั ิตา่ งๆในหนา้ ตา่ ง Create a New Image Template : ช่องเลือกขนาดที่ GIMP เตรียมไว้ให้ ขนาดในช่อง Template เป็นขนาดมาตราฐานที่ใช้กันอย่าง กว้างขวาง เช่น PAL 720x576 เป็นขนาดภาพของระบบการแสดงผลบนจอภาพในระบบ PAL , A4 (300ppi) เป็นขนาด ภาพสาำ หรับงานพิมพ์ลงบนกระดาษ A4 Width และ Height : ขนาดความกว้างและความสูงตามลาำ ดับ หน่วยของภาพเร่ิมต้นจะเป็นพิกเซล สามารถ เปลีย่ นหน่วยได้ โดยเลอื กหนว่ ยท่ีต้องการที่ชอ่ งเปลย่ี นหน่วยวดั X resolution และ Y resolution : กาำ หนด Resolution ในแนวแกน X และ Y ตามลำาดบั Color space : กำาหนดโหมดสขี องภาพ โหมดทีม่ ใี หเ้ ลอื ก ก็คอื RGB color(ระบบสขี องจอภาพ) และ Grayscale(โทนขาวดำา) Fill with : กำาหนดสีพ้ืนให้กบั ภาพ มอี ยู่ 4 ตวั เลอื ก ก็คือ 1. Foreground Color สีโฟรก์ ราวด์ใน Toolbox เป็นสี อะไร กใ็ ช้สีนั้นมาทาำ เป็นสีพ้ืน 2. Background Color สีแบ็คกราวด์ใน Toolbox เป็นสีอะไร ก็ใช้สีน้ันมาทาำ เป็นสีพื้น 3. White ใส่สีพ้ืนเปน็ สขี าว 4. Transparent ใส่สีพน้ื โปร่งใส (พนื้ ของ Image window จะเปน็ ตารางสลบั สีเทา) Comment : ใสค่ ำาบรรยายเกีย่ วกบั ภาพ 36 คัมภรี ์ GIMP 2.7

ตวั อย่างขนาดภาพและการใชง้ าน ภาพทใ่ี ช้งานเฉพาะบนจอคอมพวิ เตอร์ ควรใช้ Resolution 72 หรอื 96 PPI ภาพทพ่ี มิ พอ์ อกทางเครือ่ งพมิ พ์ ควรใช้ Resolution 150-200 PPI ภาพทใี่ ช้ในงานสงิ่ พมิ พ์ เช่น โปสเตอร์, นิตยสาร ควรใช้ Resolution 300 PPI ข้ึนไป *** การกาำ หนดดังกลา่ วเพือ่ ใหส้ อดคลอ้ งกับการใช้งานและประสิทธภิ าพของเครอ่ื งพมิ พ์ *** ความละเอียดของเครื่องพิมพ์ กำาหนดด้วยค่า Resolution เช่นเดยี วกัน แตม่ ีหนว่ ยเป็น DPI (Dots per inch) หรอื จาำ นวนจุดท่ีพมิ พ์ต่อน้ิว 3.3 กำรบนั ทกึ ไฟล์ GIMP สามารถเปิดและบันทึกไฟล์ได้หลายหลายประเภท เช่น JPEG, GIF, PNG, TIFF, PSD, BMP เป็นต้น แต่ ทั้งน้ี ไฟล์มาตราฐานในการทาำ งานกับ GIMP ก็คือ XCF (นามสกุล .XCF) โดย XCF จะเก็บข้อมูลเกือบทุกอย่างของภาพท่ี ทำาใน GIMP ไว้ เช่น ขนาดภาพ, เลเยอร์, แชนแนล, โหมดสี เปน็ ต้น การบนั ทึกไฟล์ (.xcf) เมอื่ สร้างไฟลข์ ึ้นมาแล้ว จากนั้นทาำ การตกแต่งภาพ หากต้องการบันทึกไฟล์ ให้ไปที่ File → Save (<Ctrl><S>) หากบันทึกเปน็ ครงั้ แรก จะปรากฎหนา้ ตา่ ง Save Image มาใหต้ งั้ ชื่อไฟลแ์ ละเลอื กประเภทของไฟล์ท่ตี ้องการบันทกึ หน้าตา่ ง Save Image ไฟล์ .xcf เหมาะสำาหรับการทาำ งานใน GIMP แต่ทั้งนี้ โปรแกรมดูภาพโดยท่ัวไปๆจะไม่สามารถเปิดไฟล์ .xcf ได้ ดังน้ัน การจะนำาภาพที่ตกแต่งใน GIMP ไปใช้งาน จึงต้องแปลงไฟล์ ไปเป็นไฟล์ภาพประเภทอื่นๆ อย่างเช่น ไฟล์ .JPEG, .PNG, .GIF หรอื .TIFF เปน็ ต้น ซง่ึ เปน็ ไฟล์ภาพท่ีใชง้ านกันอย่างกวา้ งขวาง เหมาะสมกบั การใชง้ านในแต่ละด้านทแี่ ตกต่าง กันไป บทท่ี 3 : การทำางานกับไฟล์ 37

3.4 กำรแปลงภำพเปน็ JPEG ภาพ JPEG หรือภาพท่ีมีนามสกลุ .JPG หรอื .JPEG เปน็ ไฟลภ์ าพทใ่ี ชง้ านกันอย่างกวา้ งขวาง มักใชก้ ับภาพเหมือน จริง เช่น ภาพถ่าย เป็นต้น ไฟล์ JPG เก็บค่าสีได้ใกล้เคียงกับท่ีตามองเห็น(True Color) แต่ไฟล์มีขนาดเล็ก ข้อจำากัดของ JPEG ก็คือ ไมส่ นับสนนุ พื้นหลังแบบโปร่งใส การแปลงภาพเป็น JPEG ไปที่ File → Export... จะปรากฎ หน้าต่าง Export Image หน้าต่าง Export Image หน้าตาจะเหมือนกับหน้าต่าง Save Image ในขอ้ 3.3 เพียงแต่ตัวเลอื กบางอย่างไม่เหมอื นกนั ให้เลือกประเภทของไฟล์เป็น JPEG image (*.jpg, *jpeg, *jpe) จาก นน้ั คลิกที่ปมุ่ Save จะปรากฎ หน้าตา่ ง Export Image as JPEG มาให้ตัง้ คา่ ภาพ JPEG ทต่ี ้องการบันทึก แถบเลอ่ื น Quality : ใช้กาำ หนดคุณภาพของภาพ มคี ่า 0-100 หน้าตา่ ง Export Image as JPEG 0=คณุ ภาพต่าำ ท่ีสดุ 100=คุณภาพสูงสุด แตโ่ ดยปกติ จะกำาหนดไมเ่ กนิ 95 เกนิ กวา่ น้ี ไฟลจ์ ะมีขนาดใหญแ่ ตค่ ณุ ภาพไม่แตกต่างกนั มองดว้ ยตาแยกไม่ ออกเลย การใชง้ านโดยท่ัวๆไป กำาหนดเฉพาะ Quality กเ็ พยี งพอแล้ว Advaned Options ไมต่ อ้ งกาำ หนด ตวั อยา่ งการแปลงไฟล์ภาพไปเป็น JPG โดยกำาหนด Quality แตกต่างกัน Quality = 10, ขนาดไฟล์ = 9.0KB Quality = 50, ขนาดไฟล์ = 38.7KB Quality=75, ขนาดไฟล์=50.8KB Quality=100, ขนาดไฟล์=128.9KB ไฟลต์ ้นฉบับมขี นาด 50.7KB 38 คมั ภรี ์ GIMP 2.7

3.5 กำรแปลงภำพเปน็ PNG PNG (Portable Network Graphics) เป็นไฟล์ภาพท่ีนำาข้อดีของ GIF และ JPEG มารวมกัน รองรับสีเสมือน จริง(True color) สนบั สนุนพ้นื หลงั แบบโปรง่ ใส แตท่ ง้ั นี้ PNG ไม่รองรบั การทำาแอนนเิ มช่นั และไฟลจ์ ะใหญ่กว่า JPEG การแปลงภาพเปน็ PNG ไปท่ี File → Export... จะปรากฎ หน้าต่าง Export Image ท่ีหน้าต่าง Export Image เลือกประเภทของไฟล์เป็น PNG image (*.png) จากนั้น คลิกท่ีปุ่ม Save จะปรากฎ หน้าต่าง Export Image as PNG มาให้ต้ังค่าภาพ PNG ทีต่ ้องการบนั ทึก Interlacing : ใช้กำาหนดคณุ สมบัติการแสดงภาพบนเวป็ ไซต์ ภาพ จะไม่แสดงทีเดียวทั้งหมด แต่จะแสดงทีละน้อย เพ่ือให้เห็นว่าเว็ปไซต์ มี การโหลดภาพอยู่ไม่ได้เกิดปัญหากับภาพแต่อย่างใด ในอดีต ท่ีการเช่ือม ต่ออนิ เตอรเ์ นต็ ยังมีความเร็วตำ่า Interlacing มปี ระโยชนม์ าก Save background color : แนะนาำ สีพ้ืนให้กับโปรแกรมแสดง ภาพ โดยแนะนำาสแี บ็คกราวด์ทอี่ ยู่ใน Toolbox ใหโ้ ปรแกรม Web browser (หรือโปรแกรมเปิดเว็ปไซต์)บางตัวจะไม่แสดงสี พน้ื แบบโปร่งใส หากเลอื กตวั เลือกนี้แต่จะใส่สีพนื้ หลงั ให้ Web browser บางตัวไม่ใช้ตวั เลือกนี้ Save gamma : จอคอมพวิ เตอรต์ า่ งกัน กจ็ ะแสดงสีของภาพต่าง หน้าต่าง ExportImage as PNG กันด้วย เช่น สว่างไม่เท่ากัน จึงส่งผลให้สีของภาพที่ตาเรามองเห็นไม่เหมือนกันไปด้วย Save gamma จะช่วยให้จอ คอมพวิ เตอร์ท่ีต่างกนั แสดงสขี องภาพเหมอื นกนั ไม่สว่างหรือมืดเกนิ ไป Save layer offset : PNG สนับสนุนค่าหนึ่งที่เรียกว่า oFF chunck ซ่ึงเป็นค่าที่เกี่ยวกับตาำ แหน่งของข้อมูล แต่ ทวา่ oFF chuck ของ PNG ใน GIMP มีปญั หา ฉะน้ันอย่าเลอื กตวั เลอื กน้ี แลว้ ไฟล์จะไม่มีปญั หา Save resolution : บนั ทกึ คา่ Resolution ไปกับภาพด้วย Save creation time : บนั ทึกวนั ที่ทบี่ ันทึกไฟล์ลา่ สดุ ไปกับภาพด้วย Save comment : บันทึก Comment ติดไปกับภาพด้วย Comment มีอะไรบ้าง ดูได้ท่ี Image → Image Properties → (แถบ) Comment (กด <Alt><Enter>) Compression level : ระดับของการบีบอัดภาพ มีค่าระหว่าง 0-9 ค่า 9=บีบอัดมาก ไฟล์จะเล็กลง แตใ่ ช้เวลา บีบอัดนาน การบีบอัดของ PNG ไม่มีผลต่อคุณภาพของภาพ ฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไรท่ีจะปรับให้ต่ำากว่า 9 ยกเว้นในกรณีท่ี เครื่องคอมพวิ เตอร์ทำางานช้ามากๆ 3.6 กำรแปลงภำพเปน็ GIF ไฟล์ GIF (Graphics Interchange Format) รองรับสีสูงสุด 256 สี รองรับพ้ืนหลังแบบโปร่งใส และรองรับการ ทาำ แอนนเิ มชนั่ ดว้ ย(บติ แมพ แอนนเิ มช่ัน) ลกั ษณะของ GIF Animation จะใช้การแสดงภาพทีละเฟรมเรียงต่อกัน การแปลงภาพเป็น GIF ไปท่ี File → Export... จะปรากฎ หนา้ ตา่ ง Export Image ท่ีหน้าต่าง Export Image เลือกประเภทของไฟล์เป็น GIF Image (*.gif) จากนั้นคลิกท่ีปุ่ม Save จะปรากฎ หนา้ ตา่ ง Export Image as GIF มาให้ตั้งคา่ ภาพ GIF ที่ต้องการบันทกึ บทท่ี 3 : การทำางานกบั ไฟล์ 39

หนา้ ต่าง Export Image as GIF • หวั ข้อ GIF Options Interlace : Interlace ของ GIF มีลักษณะเดยี วกับ PNG ในข้อ 3.5 As animation : ตัวเลือกเพื่อแปลงภาพไปเป็นภาพ GIF Animation ตัวเลือกนี้ จะเลือกได้ ก็ต่อเม่ือภาพมี เลเยอร์มากกว่า 1 เพราะ GIF จะนำาเลเยอร์มาทำาเป็นเฟรม (ดูการสร้าง GIF Animation ในข้อ 14.14 : ฟิลเตอร์ในกลุ่ม Animation) • หัวข้อ Animated GIF Options Loop forever : แสดงแอนนิเมชั่นวนไปเรอ่ื ยๆ Delay between frames if unspecified : ตั้งเวลาระหว่างเฟรมถึงเฟรมในการแสดงแอนนิเมชั่น หน่วยเป็น มลิ ลิวินาที (1000 มิลลิวินาที = 1 วนิ าที) การตั้งค่าน้ี สามารถตั้งที่เลเยอร์ก็ได้ ซึ่งจะสามารถต้ังเวลาระหว่างเฟรมให้แตก ต่างกันไดด้ ้วย Frame disposal when unspecified : ใช้กาำ หนดการวางซ้อนกันของแต่ละเฟรม ตัวเลือกท่ีมีก็คือ I don't care : เฟรมท่ีมาทีหลังจะทับเฟรมที่มาก่อน(เหมาะกับภาพท่ีไม่มีส่วนท่ีโปร่งใส) Cumulative Layers (combine) : เม่ือเฟรมที่มาใหม่มาถึง เฟรมที่มาก่อนจะไม่ถูกลบ One frame per layer (replace) : เม่ือเฟรมที่มาใหม่มาถึง เฟรม ทม่ี าก่อนจะถกู ลบ 3.7 กำรแปลงภำพเปน็ TIFF TIFF (Taged Image File Format) เป็นไฟล์ที่ใช้ในงานสิ่งพิมพ์ รองรับสีเสมือนจริง(True color) รองรับพื้น หลงั แบบโปร่งใส การแปลงภาพเปน็ TIFF ไปท่ี File → Export... จะปรากฎ หน้าต่าง Export Image ที่หน้าต่าง Export Image เลือกประเภทของไฟล์เป็นเป็น TIFF Image (*.tif, *.tiff) จากน้ันคลิกท่ีปุ่ม Save จะปรากฎ หน้าต่าง Export Image as TIFF มาใหต้ งั้ คา่ ภาพ TIFF ท่ีตอ้ งการบนั ทึก Compresssion : กำาหนดการบีบอัดไฟล์ ตัวเลือก None คือไม่บีบ หน้าต่าง Export Image as TIFF อัดเลย ข้อมูลภาพครบถ้วน แต่ไฟล์มีขนาดใหญ่มาก ตัวเลือกอื่นๆ ก็คือ วิธีใน การบีบอดั ไฟล์ ซง่ึ บางอย่างบบี แล้วขอ้ มูลยงั ครบถ้วน เชน่ LZW บางอยา่ งบบี แล้วคณุ ภาพของภาพลดลง เช่น JPEG เปน็ ต้น 40 คมั ภีร์ GIMP 2.7

3.8 กำรเปิดไฟล์ GIMP สามารถเปิดไฟล์ได้หลากหลายประเภท เช่น PSD, JPEG, PNG, GIF, TIFF, ICO, PDF, SVG, PS เป็นต้น (เปดิ ไฟลอ์ ะไรไดบ้ า้ งใหด้ ูรายการทห่ี น้าตา่ ง Open Image) การเปิดไฟล์ ไปที่ File → Open... (กด<Ctrl>+O) จะปรากฏ หน้าต่าง Open Image เพอื่ ให้เลอื กไฟลท์ ตี่ อ้ งการจะเปดิ หนา้ ตา่ ง Open Image การเปดิ ไฟลภ์ าพด้วยวธิ กี ารลากมาวาง ลากไฟลภ์ าพจากภายนอก(File browser) มาวางที่ Toolbox = เปิดไฟล์ ลากไฟลภ์ าพจากภายนอก(File browser) มาวางที่ Image window ทีเ่ ปิดภาพไว้แล้ว = เปดิ ไฟลเ์ ปน็ เลเยอร์ (Open As Layer...) 3.9 กำรสร้ำงภำพจำกสคริปต์สำำเร็จรปู Gimp มีคาำ ส่ังหรือสคริปต์สำาเร็จรูป ที่ใช้สร้างไฟล์ภาพแบบต่างๆ เช่น ภาพปุ่มกดสาำ หรับเว็ปไซ, ภาพโลโก้, ภาพ ลวดลาย เป็นตน้ เพยี งแตเ่ มื่อใช้คาำ สัง่ ใหไ้ ปกาำ หนดคุณลกั ษณะของภาพที่จะสร้างข้นึ มาเท่านน้ั ก็จะไดภ้ าพมาใช้งานอย่าง รวดเรว็ กลมุ่ คาำ ส่งั สร้างภาพดังกล่าวอยทู่ เ่ี มนู File → Create → (เมนูยอ่ ยต่างๆ) บทที่ 3 : การทาำ งานกบั ไฟล์ 41

ตวั อยา่ ง : การสร้างโลโกก้ ึ่งสาำ เรจ็ รูป 1). ไปที่ File → Create → Logos → 3D Outline... จะปรากฎ หน้าตา่ ง Script-Fu : 3D Outline มาให้ กำาหนดค่าตา่ งๆในการสรา้ งโลโก้ เชน่ แกไ้ ขขอ้ ความของโลโก้ตามตอ้ งการ เป็นต้น 2). ที่ หนา้ ต่าง Script-Fu : 3D Outline กำาหนดคา่ ตามตอ้ งการ หน้าต่าง Script-Fu : 3D Outline 3). คลกิ ท่ีปมุ่ OK จะไดไ้ ฟลภ์ าพ ตามภาพดังตอ่ ไปนี้ 42 คัมภรี ์ GIMP 2.7

บทที่ 4 : คำาส่ังพืน้ ฐาน คาำ สง่ั พื้นฐานท่อี ธิบายไว้ในบทนี้ เป็นคาำ สง่ั ทม่ี ีผลต่อทั้งภาพ เพอ่ื ทำาการ ทดสอบ ให้เปดิ ไฟล์ภาพอะไรก็ได้ข้นึ มา แล้วใช้คำาสง่ั

4.1 กำรเปล่ยี นขนำดภำพ (Scaling Image) ภาพท่ีมีหรือภาพท่ีถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล อาจมีขนาดใหญ่เกินความจาำ เป็นท่ีจะนำาไปใช้ในด้านต่างๆ เช่น ใช้บน เว็บไซต์, โหลดขน้ึ Facebook เป็นตน้ การปรบั ขนาดภาพให้เหมาะสมจึงเป็นสง่ิ สาำ คญั การปรับขนาดในที่นี้ หมายถึงการเปล่ียนจาำ นวนพิกเซลของภาพให้เล็กหรือใหญ่ขน้ึ โดยทีภ่ าพยังมีลักษณะเหมือน เดิม การปรับขนาดภาพ 1). คลิกท่ี Image window เพ่อื เลือกภาพท่ีตอ้ งการจะปรับขนาด 2). ไปที่ Image → Scale Image... จะปรากฎ หน้าต่าง Scale Image มาให้กาำ หนดขนาดภาพทตี่ ้องการ หนา้ ตา่ ง Scale Image Image Size : ใช้กาำ หนดขนาดภาพ การปรับขนาดภาพให้เล็กลง มักไม่กระทบต่อคุณภาพของภาพ แต่หากปรับ ขนาดใหใ้ หญข่ น้ึ ความคมชัดของภาพจะลดลง ( ช่อง Width, Height, X resolution และ Y-resolution คืออะไร ให้ดูในข้อ 3.2 การกาำ หนดขนาดภาพมี ลักษณะคล้ายกบั กำาหนดขนาดของไฟลใ์ หม่) Quality : ใช้กาำ หนดคุณภาพของภาพหลังปรับขนาดแล้ว ตัวเลือกท่ีมีก็คือ None จะใหค้ ุณภาพตาำ่ สุด Linear ให้ คุณภาพปานกลาง Cubic ใหค้ ุณภาพดีทีส่ ดุ 4.2 กำรเปลย่ี นขนำดภำพเม่ือพิมพ์ (Print Size) การจะนำาภาพไปใช้ในงานพิมพ์ จะต้องกำาหนด Resolution ให้เหมาะสม (ตามที่ได้อธิบายไว้ในข้อ 3.1 : ขนาด ภาพ, Resolution และ Dot for Dot ) ภาพท่ีใช้งานบนจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพา Resolution จะอยู่ที่ 72 หรือ 96 PPI ซึ่งภาพโดยทั่วๆไปท่ีอยู่ บนเว็ปไซต์หรือมาจากกล้องดิจติ อลมี Resolution เท่านี้ สอดคลอ้ งกับคุณสมบัติของอุปกรณแ์ สดงผลโดยทั่วๆไป จริงๆแลว้ ภาพทมี่ ี Resolution 72 PPI หรอื 96 PPI ก็พิมพ์ลงบนกระดาษได้ คุณภาพกด็ รี ะดับหนึง่ แต่ ถา้ ต้องการ งานพิมพ์คุณภาพสูง เช่น ปกนติ ยสาร, โปสเตอร์, แผ่นพบั โบรชัวร์, งานพิมพ์องิ ค์เจ็ต เปน็ ต้น จะต้องกาำ หนด Resolution มากกวา่ นนั้ เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับประสิทธภิ าพของเคร่อื งพิมพ์ และเพ่อื ใหไ้ ดค้ ุณภาพงานพิมพ์ที่ดดี ว้ ย 44 คัมภีร์ GIMP 2.7

การปรับขนาดภาพเมอ่ื พิมพ์ 1). คลิกท่ี Image window เพ่อื เลอื กภาพท่ตี อ้ งการจะปรับขนาดเม่อื พิมพ์ 2). ไปท่ี Image → Print Size... จะปรากฎ หนา้ ตา่ ง Set Image Print Resolution จากนนั้ ปรบั Resolution ตามทต่ี อ้ งการ ขนาดเม่ือพิมพ์(Print Size) จะถูกคาำ นวณให้อย่างอตั โนมัติ ก่อนปรบั มี Resolution 72 PPI หลังปรับ Resolution เปน็ 300 PPI ขนาดบนหน้าจอ 1024x768 พกิ เซล ขนาดบนหนา้ จอ 1024x768 พิกเซล ขนาดเมอ่ื พิมพ์ 36.124x27.093 ซม. ขนาดเมอ่ื พมิ พ์ 8.669x6.502 ซม. ขนาดเมื่อพมิ พ์ใหญก่ ว่า แตค่ วามคมชดั ตำ่ากว่า ขนาดเม่อื พิมพเ์ ลก็ กวา่ แตค่ วามคมชัดสูงกว่า 4.3 กำรทำำ ซำำ้ ภำพ (Duplicating) การทาำ ซา้ำ ภาพ ก็คือ การกอ๊ ปปี้ภาพขึ้นมาอีกหนา้ ตา่ งหน่งึ ในทนั ที โดยไม่ต้องบันทึกภาพแล้วตง้ั ช่อื ใหม่ การทาำ ซำ้าภาพ 1). คลกิ ท่ี Image window เพอื่ เลอื กภาพท่ีตอ้ งการจะทาำ ซา้ำ 2). ไปท่ี Image → Duplicate (<Ctrl><D>) ที่ภาพ fish.xcf ไปที่ Image → Duplicate จะปรากฏหนา้ ต่าง Image window อีกหนา้ ต่างหนงึ่ โดยภายในเป็นภาพเดยี วกับ fish.xcf บทท่ี 4 : คาำ สง่ั พืน้ ฐาน 45

4.4 กำรกลบั ภำพ (Flipping) การกลบั ภาพ 1). คลิกที่ Image window เพอื่ เลือกภาพทตี่ อ้ งการจะกลบั ภาพ 2). กลบั ภาพในแนวราบ ไปที่ Image → Tramform → Flip Horizontally กลบั ภาพในแนวดง่ิ ไปที่ Image → Tramform → Flip Vertically ตวั อยา่ งการกลับภาพ ภาพต้นฉบบั กลบั ภาพในแนวราบ กลับภาพในแนวดงิ่ กลับภาพในแนวราบและในแนวดิง่ 4.5 กำรหมุนภำพ (Rotating) การหมนุ ภาพ 1). คลกิ ที่ Image window เพื่อเลือกภาพทต่ี อ้ งการจะหมุน 2). หมนุ ภาพ 90o ตามเข็มนาฬกิ า ไปที่ Image → Tramform → Rotate 90o clockwise หมนุ ภาพ 90o ทวนเข็มนาฬกิ า ไปที่ Image → Tramform → Rotate 90o counter-clockwise หมนุ ภาพ 180o ไปท่ี Image → Tramform → Rotate 180o ตัวอย่างการหมุนภาพ 46 คมั ภรี ์ GIMP 2.7

ภาพตน้ ฉบับ หมนุ ภาพ 180o หมนุ ภาพ 90o ทวนเขม็ นาฬกิ า หมนุ ภาพ 90o ตามเข็มนาฬิกา 4.6 กำรครอปภำพ (Cropping) การครอปภาพ คือ การตัดบางส่วนของภาพเก็บไว้ แล้วท้ิงส่วนอื่นๆไป โดยภาพจะถูกปรับขนาดภาพให้พอดีกับ ส่วนท่ตี ดั เกบ็ ไว้ การครอปภาพ จะพิเศษกว่าคำาสั่งอื่นๆ เพราะต้องใช้เคร่ืองมือในกลุ่มแปรรูปช่วย ก็คือ Crop tool (ดูวิธีการใช้ งาน Crop tool ในขอ้ 12.5 : ตดั ภาพดว้ ย Crop Tool) ตัวอย่างการครอปภาพ 4.7 กำรเพ่ิมหรอื ลดพ้นื ที่ภำพ (Canvas Size) ภาพมขี นาดกวา้ งยาว เมื่อเราวาดอะไรลงไป ทำาอะไรลงไป ก็จะปรากฎอยู่ในน้ัน ในบางกรณี เราอาจต้องการขยายพ้ืนทภ่ี าพออกไป โดยการสร้างพ้ืนที่ว่างรอบๆภาพเพิ่มเติม เพ่ือให้สามารถแต่ง เติมอะไรได้อีก หรือก็คือ การขยายขอบเขตภาพออกไป คล้ายกับการขยายผืนผ้าใบ(Canvas) ท่ีใช้วาดภาพออกไป แต่ ภาพที่วาดไปแลว้ ยังคงมีขนาดเท่าเดมิ บทท่ี 4 : คาำ สง่ั พ้นื ฐาน 47

การเพิ่มหรือลดพนื้ ท่ีภาพ 1). คลิกท่ี Image window เพอื่ เลือกภาพทีต่ ้องการจะปรบั ขนาดพ้ืนที่(Canvas) 2). ไปท่ี Image → Canvas Size.. จะปรากฎ หน้าตา่ ง Set Image Canvas Size 3). ทีห่ น้าตา่ ง Set Image Canvas Size กำาหนคา่ ต่างๆ ภาพตน้ ฉบบั หนา้ ต่าง Set Image Canvas Size เปดิ หนา้ ต่าง Set Image Canvas Size ← ผล 4). คลิกที่ปมุ่ Resize เพ่ือปรับพ้นื ท่ีภาพ มพี ื้นทว่ี ่างอยู่โดยรอบภาพเดมิ ขนาดของภาพเปลยี่ นจาก 240x294 พกิ เซล(ขนาดเดมิ ) เป็น 411x332 พิกเซล แตข่ นาดของ ภาพเดิมไม่เปลยี่ นแปลง คณุ สมบตั ติ ่างๆ ในหน้าตา่ ง Set Image Canvas Size มดี ังตอ่ ไปนี้ Canvas size : ใชก้ ำาหนดขนาดใหม่ของภาพ Offset : ใช้กาำ หนดตำาแหน่งของภาพเดมิ ภายใน Canvas (ใช้เม้าส์จบั ที่ภาพเล็กเลอ่ื นไปมา เพื่อปรบั ระยะ Offset ก็ได้ ) ปุม่ Center ใช้ปรับใหอ้ ยตู่ รงกลางของ Canvas 48 คัมภรี ์ GIMP 2.7

Resize layers : ช่องเลือกผลกระทบท่ีจะมตี ่อเลเยอร์ ตัวเลือกท่ีมีกค็ อื - None : ไมม่ ีการปรบั ขนาดเลเยอร์ - All layers : ปรบั ขนาดทกุ เลเยอร์ใหเ้ ท่ากับ Canvas Size - Image-sized layers : เฉพาะเลเยอร์ท่ีมีขนาดเทา่ กับภาพให้ปรบั ขนาดเลเยอร์ให้เท่ากับ Canvas Size - All visible layers : เฉพาะเลเยอร์ท่ีมองเห็นเท่านั้น (มีรูปตา ที่ไดอะล็อก Layers ) ให้ปรับขนาดเลเยอร์ให้ เท่ากบั Canvas Size - All visible layers : เฉพาะเลเยอร์ที่เชื่อมโยงกันเท่าน้ัน (มีรูป ท่ีไดอะล็อก Layers ) ให้ปรับขนาดเลเยอร์ให้ เทา่ กบั Canvas Size 4.8 Undo และ Redo Undo คือ การยกเลิกการกระทาำ ล่าสุดท่ีได้ทำาไป ไม่ว่าจะเป็นการทดลองเปลี่ยนสี ลองวาด หรือทำาผิด ให้ไปท่ี Edit → Undo (<Ctrl><Z>) ใช้คาำ สัง่ ไปเรอ่ื ยๆ จะเป็นการยกเลิกการกระทำาย้อนไปเรอ่ื ยๆ หากเปล่ยี นใจตอ้ งการทาำ คาำ ส่งั ท่ียกเลกิ ไปแลว้ ใหใ้ ช้คำาสง่ั Redo ซง่ึ เป็นคาำ สั่งตรงขา้ มกบั Undo โดยให้ไปที่ Edit → Redo (<Ctrl><Y>) ในกรณีท่ีต้องการย้อนการกระทำาคร้ังละหลายขั้นตอน ให้เปิด ไดอะล็อก Undo History ( ไปที่ Windows → Dockable Dialogs → Undo History ) แล้วเลือกย้อนการกระทำาไปมาได้ที่หน้าต่างนี้ โดยคลิกเลือกรายการที่อยู่ใน ไดอะลอ็ ก การกระทำาต่างๆทไี่ ดท้ าำ ไปไดถ้ กู บันทกึ ไวท้ ่ไี ดอะลอ็ กนี้ การกระทาำ ต่างๆท่ีไดท้ ำาไปถูกบนั ทกึ ไว้ท่ี หากเล่อื นไปทด่ี ้านบนสุด ไดอะล็อก Undo History จะพบรายการ [ Base Image ] หากเลอื กที่ [ Base Image ] คลกิ ท่ีช่ือเพื่อย้อนการกระทำาไปมา จะเปน็ การยอ้ นกลับไปท่ีจุดเร่ิมตน้ 4.9 กำรดูข้อมูลภำพ การดูข้อมูลภาพให้ไปที่ Image → Image Properties (<Alt><Enter>) จะปรากฎ หน้าต่าง Image Properties แสดงขอ้ มลู สรุปเก่ียวกบั ภาพ เช่น โหมดสี, ขนาดภาพ, คอมเม้นต์, จำานวนพกิ เซล เป็นต้น บทท่ี 4 : คาำ สง่ั พนื้ ฐาน 49

รายละเอยี ดทั่วไปเกย่ี วกับภาพ รายละเอียดเกยี่ วกบั ระบบสี 50 คมั ภรี ์ GIMP 2.7


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook