Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Microsoft Excel เพื่องานธุรกิจ

Microsoft Excel เพื่องานธุรกิจ

Published by lavanh9979, 2021-08-23 04:49:53

Description: Microsoft Excel เพื่องานธุรกิจ

Search

Read the Text Version

ดร.สาวิตรี บญุ มี สว่ นท่ี 3 การประยกุ ต์ใชฟ้ งั ก์ชนั Microsoft Excel ในงานธรุ กจิ 185 E14 = ตอนท่ี 3 ใบลงทะเบยี นเรยี น จงใชข้ ้อมูลต่อไปนี้ฝกี ทาใบลงทะเบยี นเรียนโดยประยกุ ต์ใช้ความรทู้ เ่ี รยี นมา ขอ้ มลู วชิ า รหัสวชิ า ชื่อวิชา หน่วยกติ ประเภทวชิ า BC10101 วชิ า1 2 ทฤษฎี BC10102 วิชา2 3 ทฤษฎี BC10103 วชิ า3 2 ทฤษฎี BC10104 วชิ า4 3 ทฤษฎี BC10105 วชิ า5 2 ทฤษฎี BC10106 วิชา6 3 ปฏบิ ัติ BC10107 วชิ า7 3 ปฏิบตั ิ BC10108 วชิ า8 2 ปฏิบัติ BC10109 วชิ า9 3 ปฏบิ ัติ BC10110 วชิ า10 2 ปฏบิ ตั ิ ข้อมลู นักศึกษา รหสั นักศกึ ษา ชอ่ื นกั ศึกษา สาขาวิชา คณะ บรหิ ารธุรกจิ 6100001 นกั ศึกษา1 คอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจ บรหิ ารธรุ กจิ บรหิ ารธรุ กจิ 6100002 นักศึกษา2 การเงินการธนาคาร บริหารธุรกจิ ครศุ าสตร์ 6100003 นักศึกษา3 การโฆษณา ครุศาสตร์ มนุษยศาสตร์ 6100004 นักศึกษา4 บญั ชี มนษุ ยศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ 6100005 นักศึกษา5 ปฐมวัย วิทยาศาสตร์ 6100006 นักศกึ ษา6 คอมพิวเตอร์ศึกษา 6100007 นกั ศึกษา7 ญป่ี ุ่นธุรกิจ 6100008 นักศึกษา8 กราฟฟกิ ดีไซน์ 6100009 นกั ศกึ ษา9 นาโนเทคโนโลยี 6100010 นกั ศกึ ษา10 เทคโนโลยีอาหาร

186 บทที่ 8 การใชฟ้ ังกช์ ันในการค้นหาเพื่อจัดทาใบเสรจ็ รบั เงิน ขอ้ มลู ประเภทวิชา ประเภทวชิ า ค่าเทอม/หน่วยกติ ทฤษฎี 500 ปฏบิ ตั ิ 900 ใบลงทะเบียนเรยี น

บทที่ 9 การใชฟ้ งั กช์ ันทางการเงิน ฟังก์ชันทางการเงินพ้ืนฐานของ Excel จะครอบคลุมถึงเร่ืองปัจจัยดอกเบี้ยสาหรับการตัดสินใจ ทางการเงิน ซ่ึงประกอบด้วย การคานวณดอกเบี้ยทบต้น การหามูลค่าปัจจุบันของเงิน และรวมไปถึงการ คานวณหาผลตอบแทนจากการลงทุนของโครงการลงทุน ซ่ึงในการจะใช้ฟังก์ชันทางการเงินจาเป็นต้องมี ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเงินก่อนจึงจะสามารถใช้ฟังก์ชันทางการเงินได้อย่างถูกต้อง ดังน้ัน ในส่วน แรกของบทนี้จึงอธิบายเก่ียวกับแนวคิดเรื่องมูลค่าของเงินตามเวลา โดยใช้วิธีการอธิบายให้สอดคล้องกับ วธิ กี ารใช้ฟงั ก์ชนั ทางการเงนิ ใน Excel  ในบทนี้ใช้ไฟล์ประกอบเนื้อหาเพ่ือใช้ในการฝึกปฏิบัติ ช่ือ ch9finance.xlsx จาก CD หรือ สามารถดาวนโ์ หลดไฟล์ได้จากเวบ็ ไซต์ academic.udru.ac.th/sawitree 9.1 มลู ค่าของเงนิ ตามเวลา (The time value of money) มคี ากลา่ ววา่ เมอื่ เวลาผ่านไปมูลค่าของเงนิ ก็จะลดลง น่นั หมายความว่า จะตอ้ งใช้เงนิ จานวนมากขึ้น ในการซื้อสินค้าและบริการเท่าเดิม เช่น ก๋วยเต๋ียวที่เมื่อ 20 ปีท่ีแล้ว ราคาชามละ 10 บาท ก๋วยเต๋ียวร้าน เดิมปริมาณเท่าเดมิ ปัจจบุ นั ราคาชามละ 40 บาท สว่ นต่างของจานวนเงินนี้น้นั เกดิ ขึ้นจากอัตราเงนิ เฟอ้ ในแง่ของการเงินน้ัน ในเมื่อมูลค่าของเงินลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เงินที่มีในปัจจุบันจึงควรนาไปลงทุน เช่น ฝากธนาคาร หรือ ลงทุนทางใดทางหนึ่งเพื่อให้ได้ผลตอบแทนกลับมา เช่น นาเงินไปฝากธนาคาร 10,000 บาท ตอนสิน้ ปโี ดยไม่ถอน เปน็ เวลา 5 ปี โดยธนาคารใหด้ อกเบย้ี 10% ต่อปี โดยคิดดอกเบยี้ ปีละ 2 คร้ัง แสดงว่าคิดดอกเบ้ียคร้ังละ 10%÷2=5% เป็นจานวน 5x2=10 เมื่อถอนเงินออกมาตอนครบ 5 ปี จะได้เงิน 16,288.95 บาท มรี ายละเอยี ดวิธกี ารคานวณ ดังน้ี ตารางท่ี 9.1 ตัวอย่างการคานวณดอกเบี้ยแบบทบต้น งวดที่ ชว่ งเวลา เงนิ ตน้ ตน้ งวด ดอกเบยี้ 5% เงินต้นปลายงวด 10,500.00 1 ปีท่ี 1 เดอื น 1-6 10,000.00 =10000x5% =500.00 11,025.00 11,576.25 2 ปที ่ี 1 เดือน 7-12 10,500.00 =10500x5% =525.00 12,155.06 12,762.82 3 ปีที่ 2 เดือน 1-6 11,025.00 =11025x5% =551.25 13,400.96 4 ปีที่ 2 เดอื น 7-12 11,576.25 =11576.25x5% =578.81 5 ปีท่ี 3 เดอื น 1-6 12,155.06 =12155.06x5% =607.75 6 ปีที่ 3 เดอื น 7-12 12,762.82 =12762.82x5% =638.14

188 บทท่ี 9 การใช้ฟังก์ชนั ทางการเงิน งวดท่ี ชว่ งเวลา เงนิ ต้นตน้ งวด ดอกเบ้ยี 5% เงนิ ตน้ ปลายงวด 7 ปีท่ี 4 เดอื น 1-6 13,400.96 =13400.96x5% =670.05 14,071.00 8 ปีท่ี 4 เดือน 7-12 14,071.00 =14071x5% =703.55 14,774.55 9 ปีท่ี 5 เดอื น 1-6 14,774.55 =14774.55x5% =738.73 15,513.28 10 ปที ่ี 5 เดอื น 7-12 15,513.28 =15513.28x5% =775.66 16,288.95 วิธีการคานวณดอกเบ้ียลักษณะนี้เรียกว่า การคิดดอกเบี้ยแบบทบต้น จากตารางที่ 9.1 ในทาง การเงินจะถือว่าเงินตอนเร่ิมต้น 10,000 บาท และเงินท่ีถอนออกมาเม่ือปีท่ี 5 นั้น คือเงินก้อนเดียวกันที่ มูลค่าและจานวนต่างกัน เปอร์เซ็นต์ส่วนต่างของจานวนเงินนั้นในกรณีนี้จะเรียกว่าอัตราดอกเบี้ยทบต้น จากตวั อยา่ งข้างตน้ จากการคานวณดอกเบี้ยทบตน้ ดังกล่าว สามารถวาดเป็นเส้นเวลาของเงิน (Cashflow timeline) ได้ ตามภาพท่ี 9.1 + กระแสเงนิ สดรับ (Cash inflow) 16,288.95 t0 อตั ราดอกเบ้ีย 10% ต่อปี ปีละ 2 คร้งั เวลา 10,000 t5 - กระแสเงนิ สดจา่ ย (Cash outflow) ภาพท่ี 9.1 เส้นเวลาแสดงมูลคา่ เงินในแต่ละเวลา จากภาพจะเห็นได้วา่ มลู คา่ ของเงินตามเวลานั้น มอี งค์ประกอบดงั นี้ - จานวนเงินในเวลาท่ี 0 จานวน 10,000 บาท เรียกว่า มูลค่าปัจจบุ ัน (present value) - จานวนเงนิ ในเวลาท่ี 5 จานวน 16,288.95 บาท เรียกว่า มูลคา่ อนาคต (future value) - อัตราดอกเบ้ียเงินฝาก 10% ต่อปี ปีละ 2 ครั้ง คือ 5% ต่องวด เรียกว่า อัตราดอกเบี้ยต่องวด (interest rate) - จานวนงวดทฝี่ าก 5 ปๆี ละ 2 ครง้ั จานวน 10 งวด เรียกวา่ จานวนงวด (n period) นอกจากน้ี จากภาพท่ี 9.1 จะเห็นว่าในกรณีนี้มูลค่าปัจจุบันของเงินท่ีนาไปฝากธนาคารน้ันช้ีลง จากเส้น เรยี กวา่ กระแสเงินสดจา่ ย (Cash outflow) หมายถึง เงินสดไหลออกจากเจา้ ของเงินไปยังบุคคล อื่นในตัวอย่างนีค้ ือ ธนาคาร เมื่อถึงสิ้นปีที่ 5 มูลค่าอนาคตของเงินคือเงินท่ีถอนออกมาจากธนาคาร จึงถือ วา่ เงนิ สดไหลเขา้ เจ้าของเงนิ เรียกว่า กระแสเงินสดรับ (Cash inflow) จากภาพจะเห็นว่ากระแสเงินสดรับจะใช้คู่กับสัญลักษณ์ “+” และกระแสเงินสดจ่ายจะใช้คู่กับ สัญลักษณ์ “-” โดยสัญลักษณ์บวกและลบน้ีไม่ได้นามาใช้ในการคานวณมูลค่าของเงินและไม่ได้มี

ดร.สาวติ รี บญุ มี สว่ นท่ี 3 การประยกุ ต์ใชฟ้ ังกช์ ัน Microsoft Excel ในงานธุรกจิ 189 ผลกระทบต่อผลลัพธ์ที่ได้จากการคานวณ แต่มีความจาเป็นต้องระบุเพื่อให้ผู้ใช้ และ Excel ทราบว่าเป็น กระแสเงินสดรบั หรือเงนิ สดจา่ ย เพ่ือให้สามารถคานวณตามฟงั กช์ ันการเงินไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ดังนั้นการทาความเข้าใจองค์ประกอบของมูลค่าของเงินตามเวลา และสัญลักษณ์ “+/-” จะช่วย ใหส้ ามารถใชง้ านฟงั กช์ ันการเงนิ ได้อย่างถูกต้อง แม้จะไม่ทราบขนั้ ตอนการคานวณท่ีแมจ้ รงิ เลยก็ตาม หาก สนใจจะทาความเข้าใจวิธีการและขั้นตอนโดยละเอียดสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากหนังสือกา รเงินธุรกิจ หรือ บริหารการเงนิ 9.1.1 เส้นเวลาของเงินและมลู คา่ ของเงินในรปู แบบต่าง ๆ มลู คา่ ของเงินมหี ลายรปู แบบ ทั้งมูลค่าของเงนิ จานวนเดียว หรือมูลคา่ ของเงินหลาย ๆ จานวนๆ ละเท่าๆ กัน โดยสามารถแบ่งเป็นรปู แบบที่พบบ่อยได้ 6 รูปแบบ แตล่ ะรูปแบบสามารถเขียนเปน็ เส้นเวลา ได้ ดงั ต่อไปน้ี  รูปแบบท่ี 1 ฝากเงินกับธนาคาร PV บาท แบบดอกเบ้ียทบต้น เป็นเวลา n ปี ดอกเบี้ยปีละ r% เมอ่ื ครบ n ปีจะได้รบั เงินพร้อมดอกเบ้ยี เงินฝาก FV บาท +FV r% tn เวลา t0 -PV ภาพท่ี 9.2 เส้นเวลาของการฝากเงนิ 1 งวด  รปู แบบที่ 2 ฝากเงนิ กบั ธนาคาร PMT บาทแบบดอกเบี้ยทบต้น ทกุ ๆ ปีๆ ละเทา่ ๆ กนั เป็นเวลา n ปี ดอกเบย้ี ปลี ะ r% เมอ่ื ครบ n ปีจะไดร้ บั เงินพรอ้ มดอกเบ้ียเงินฝาก FV บาท +FV r% tn-1 tn เวลา t0 t1 t2 .......... -PMT -PMT -PMT -PMT ภาพท่ี 9.3 เสน้ เวลาของการการฝากเงินหลายงวดๆ ละเท่าๆ กนั

190 บทท่ี 9 การใช้ฟังก์ชันทางการเงิน  รูปแบบที่ 3 ฝากเงนิ กบั ธนาคาร PV บาท แบบดอกเบย้ี ทบต้น หลังจากนน้ั จะถอนเงินออกมาใช้ปี ละ PMT บาททุกๆ ปีๆ ละเท่าๆ กันเป็นเวลา n ปี ดอกเบ้ียปีละ r% เมื่อถึงสิ้นปีท่ี n เงินจะหมด พอดี +PMT +PMT +PMT +PMT t1 t2 r% .......... tn-1 tn เวลา t0 -PV ภาพที่ 9.4 เสน้ เวลาของการถอนเงนิ หลายงวดๆ ละเท่าๆ กัน  รูปแบบท่ี 4 กู้เงินกับธนาคาร PV บาท เป็นเวลา n ปี ดอกเบ้ียปีละ r% เมื่อครบ n ปีจะต้องจ่าย คนื เงินก้พู ร้อมดอกเบี้ยเงินกู้ FV บาท +PV r% tn เวลา t0 -FV ภาพที่ 9.5 เส้นเวลาของการผ่อนชาระเงินกแู้ บบ 1 งวด  รูปแบบที่ 5 กู้เงินกับธนาคาร PV บาท เป็นเวลา n ปี ดอกเบ้ียปีละ r% จ่ายคืนเงินกู้พร้อม ดอกเบยี้ เงินกทู้ กุ ๆ สนิ้ ปี โดยวธิ ลี ดตน้ ลดดอก ปีละ PMT บาท +PV r% tn-1 tn เวลา t0 t1 t2 .......... -PMT -PMT -PMT -PMT ภาพท่ี 9.6 เส้นเวลาของการผ่อนชาระเงนิ ก้หู ลายงวดๆ ละเทา่ ๆ กนั

ดร.สาวติ รี บญุ มี ส่วนที่ 3 การประยุกตใ์ ช้ฟังก์ชนั Microsoft Excel ในงานธุรกิจ 191  รูปแบบที่ 6 ธนาคารรบั ฝากเงนิ PMT บาทแบบดอกเบย้ี ทบตน้ ทกุ ๆ ปๆี ละเทา่ ๆ กันเปน็ เวลา n ปี ดอกเบ้ียปีละ r% เม่อื ครบ n ปี ธนาคารจะต้องคนื เงินตน้ พรอ้ มดอกเบี้ยเงนิ ฝาก FV บาท +PMT +PMT +PMT +PMT t0 t1 t2 r% .......... tn-1 เวลา tn -FV ภาพที่ 9.7 เส้นเวลาของการรับฝากเงนิ หลายงวดๆ ละเท่าๆ กัน 9.1.2 ตวั อยา่ งการสรา้ งเส้นเวลาของมูลค่าเงิน ตัวอย่างที่ 1 นาเงินไปฝากธนาคาร 10,000 บาท ตอนสิ้นปีโดยไม่ถอน เป็นเวลา 5 ปี โดยธนาคารให้ ดอกเบ้ยี 10% ต่อปี โดยคิดดอกเบยี้ ปลี ะ 2 ครงั้ เมอ่ื ถอนเงนิ ออกมาตอนครบ 5 ปี จะไดเ้ งิน กี่บาท FV = ? r% = 10% / 2 = 5% tn=5 เวลา t0 PV = -10,000 ภาพที่ 9.8 เสน้ เวลาของตวั อยา่ งท่ี 1 ตัวอย่างท่ี 2 นายสมชายวางแผนฝากเงินธนาคารปีละ 5,000 บาทตอนส้ินปี เป็นเวลา 10 ปี หากอัตรา ดอกเบยี้ เทา่ กบั 8% ต่อปี เขาจะมเี งนิ ในบญั ชีตอนสิ้นปที ี่ 10 เท่าไหร่ +FV =? r% = 8% เวลา t0 t1 t2 .......... t9 t10 -PMT=-5,000 -PMT=-5,000 ….. PMT = -5,000 -PMT=-5,000 ภาพที่ 9.9 เส้นเวลาของตัวอย่างท่ี 2

192 บทท่ี 9 การใช้ฟังก์ชันทางการเงิน ตวั อยา่ งที่ 3 ถ้านักศึกษาฝากเงินวันน้ี 1,000 บาท ตอนต้นปี 2560 อัตราดอกเบ้ียเท่ากับ 9% ต่อปี โดย ธนาคารคิดดอกเบี้ยทบต้นให้ปีละคร้ัง เมื่อครบส้ินปีที่ 2565 นักศึกษาจะมีเงินฝากใน ธนาคารท้งั หมดเทา่ ไร FV = ? r% = 9% t2565 เวลา t2560 PV = -1,000 ภาพที่ 9.10 เสน้ เวลาของตัวอยา่ งที่ 3 ตัวอยา่ งที่ 4 ถ้าทุกๆ ส้ินปี 5 ปีต่อจากน้ี จะได้ถอนเงินออกมาใช้ปีละ 1,000 บาท จะต้องฝากเงิน ณ ตอนน้ีก่ีบาท ถ้าได้รับดอกเบยี้ 10% ตอ่ ปี PMT= +1,000 +1,000 +1,000 +1,000 +1,000 t1 t2 t3 t4 t5 เวลา t0 10% -PV =? ภาพที่ 9.11 เสน้ เวลาของตัวอยา่ งที่ 4 ตัวอย่างท่ี 5 ยอดขายปัจจุบันของบริษัท เอ จากัด มีค่า 9,000,000 บาท ซึ่งเพิ่มข้ึนมาจาก 5 ปีก่อนเป็น จานวนเงิน 4,000,000 จงหาอัตราการขยายตัวต่อปี ของช่วง 5 ปที ีผ่ า่ นมา FV = +9,000,000 r% = ? t5 เวลา t0 PV = -5,000,000 ภาพท่ี 9.12 เส้นเวลาของตวั อย่างที่ 5 ตัวอย่างท่ี 6 ถ้านกั ศึกษาฝากเงนิ ตอนนี้ 1,000 บาท และต้องการได้รบั เงินจานวน 10,000 บาท ถ้าอัตรา ดอกเบ้ยี เท่ากบั 10% ต่อปี นักศกึ ษาจะตอ้ งฝากเงินทิ้งไว้เป็นเวลากป่ี ี

ดร.สาวิตรี บญุ มี ส่วนที่ 3 การประยุกต์ใช้ฟังก์ชนั Microsoft Excel ในงานธรุ กจิ 193 FV = 10,000 r% = 10% t? เวลา t0 PV = -1,000 ภาพท่ี 9.13 เส้นเวลาของตวั อย่างท่ี 6 ตวั อยา่ งท่ี 7 ถา้ นักศึกษาตอ้ งการซื้อ SmartPhone ตอนน้ใี นราคาเครอื่ งละ 31,500 บาท โดยจะผ่อนทุก เดอื นเป็นเวลา 10 เดอื น ดอกเบีย้ เดอื นละ 1.5% จะตอ้ งผอ่ นเดอื นละกีบ่ าท +PV = +31,500 r% = 1.5% t9 T1 เวลา t0 t1 t2 .......... -PMT -PMT=? -PMT -PMT ภาพท่ี 9.14 เสน้ เวลาของตวั อยา่ งท่ี 7 ตวั อย่างที่ 8 ถ้านักศึกษาต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ราคา 45,000 บาท โดยดาวน์เป็นเงิน 10,000 บาท อัตราดอกเบ้ียเงินกู้ 12% ต่อปี โดยผอ่ นทกุ เดือน เปน็ เวลา 3 ปี จะตอ้ งผ่อนเดือนละกบ่ี าท +PV =+45,000 – 10,000 = +35,000 r% = 1% t35 t36 เวลา t0 t1 t2 .......... -PMT -PMT=? -PMT -PMT ภาพท่ี 9.15 เส้นเวลาของตวั อย่างท่ี 8 9.2 ฟังกช์ นั เก่ยี วกบั มูลค่าของเงินตามเวลาและการใชง้ าน ฟังก์ชันการเงิน FV, PV, NPER, PMT, RATE น้ีมีความหมายและวิธีการใช้งานสอดคล้องกับวิธีการ คานวณมูลค่าของเงินตามเวลา โดยท้ัง 5 ฟังก์ชันใช้อาร์กิวเมนต์ร่วมกัน หรืออีกนัยหน่ึง เป็นอาร์กิวเมนต์ ของกันและกนั ดังน้นั จงึ จะอธิบายโครงสร้างและความหมายของแต่ละฟังก์ชนั พร้อมกนั และอธิบายการใช้ อาร์กวิ เมนต์ภายหลัง

194 บทท่ี 9 การใชฟ้ ังก์ชนั ทางการเงิน FV(rate,nper,pmt,[pv],[type]) หามูลคา่ อนาคตของเงินจานวนหนง่ึ หรือหลายจานวนๆ ละเท่าๆ กัน ตามภาพที่ 9.16 ภาพท่ี 9.16 หนา้ ตา่ งฟังก์ชนั FV PV(rate,nper,pmt,[fv],[type]) หามูลคา่ ปจั จบุ ันของเงินจานวนหนงึ่ หรอื หลายจานวนๆ ละเท่าๆ กัน ตามภาพที่ 9.17 ภาพที่ 9.17 หน้าตา่ งฟังก์ชัน PV PMT(rate,nper,pv,[fv],[type]) หาจานวนเงินหลายงวดๆ ละเทา่ ๆ กนั ตามภาพที่ 9.18 ภาพที่ 9.18 หนา้ ต่างฟงั กช์ นั PMT NPER(rate, pmt, pv, [fv], [type]) หาจานวนงวดของเงินจานวนหนง่ึ หรือหลายจานวนๆ ละเทา่ ๆ กนั ตามภาพท่ี 9.19

ดร.สาวติ รี บญุ มี ส่วนท่ี 3 การประยุกต์ใชฟ้ ังก์ชัน Microsoft Excel ในงานธรุ กิจ 195 ภาพที่ 9.19 หน้าตา่ งฟงั กช์ ัน NPER RATE(nper,pmt,pv,[fv],[type],[guess]) หาอตั ราดอกเบย้ี ของเงนิ จานวนหนง่ึ หรอื หลายจานวนๆ ละเท่าๆ กัน ตามภาพที่ 9.20 ภาพท่ี 9.20 หนา้ ต่างฟังกช์ ัน RATE 9.2.1 อารก์ วิ เมน้ ต์ของฟงั ก์ชนั เกี่ยวกบั มลู ค่าของเงนิ ตามเวลา ในแต่ละฟังก์ชนั จะมอี ารก์ ิวเมนต์ 5 อารก์ วิ เมนต์ สลบั กนั ตามฟงั ก์ชนั ตังน้ี  rate คือ อัตราดอกเบย้ี ตอ่ งวด ค่าที่ใส่ในอาร์กิวเมนต์น้ี ต้องเป็นตัวเลขทศนิยม หรือเปอร์เซ็นต์ เช่น 0.12 หรือ 12% ต่อปี ซงึ่ จะต้องเปน็ อัตราดอกเบยี้ ต่องวด เชน่ ถา้ ผอ่ นทกุ เดอื นหมายถึง 12 งวด จะตอ้ งเปน็ อัตรา ดอกเบยี้ ตอ่ เดือน โดยใช้คา่ 12% ต่อปี หารดว้ ย 12 งวดต่อปี คอื 1% ตอ่ งวด หรือถ้าธนาคารให้ ดอกเบ้ียเงินฝากปีละ 2 คร้ังคือกลางปีและปลายปี จะต้องเป็นอัตราดอกเบี้ยต่อครึ่งปี โดยใช้ค่า 12% ตอ่ ปี หารดว้ ย 2 งวด คอื 6% ต่องวด  nper คือ จานวนงวดท้งั หมดของการชาระเงนิ ค่าที่ใส่ในอาร์กิวเมนต์นี้ ต้องเป็นตัวเลข เช่น 1 งวด 2 งวด 12 งวด 60 งวด โดยจะต้อง เป็นจานวนงวดท้ังหมดที่มีการรับหรือจ่ายดอกเบี้ย เช่น ถ้าผ่อนทุกเดือนหมายถึง 12 งวดต่อปี เปน็ เวลา 1 ปี ตอ้ งใช้ 12 งวดตอ่ ปี คณู กับ 1 ปี ได้ 12 งวด ถ้าผ่อนทกุ เดือน 5 ปี ต้องใช้ 12x5 = 60 งวด เป็นต้น

196 บทที่ 9 การใชฟ้ ังกช์ ันทางการเงิน  pmt คือ จานวนเงนิ ในแต่ละงวด จานวนเทา่ ๆ กัน ไม่มกี ารเปลยี่ นแปลงไดต้ ลอดช่วงเวลา ค่าท่ีใส่ในอาร์กิวเมนต์น้ี ต้องเป็นตัวเลขที่แสดงจานวนเงินที่มีหลายงวดๆ ละเท่าๆ กัน เช่น ผ่อนรถยนต์มูลค่า 500,000 บาท เดือนละ 15,000 บาท ค่าท่ีต้องใส่ในอาร์กิวเมนต์ pmt คือ 15,000 บาท/งวด  pv คือ มูลค่าปัจจุบัน (PV - present value) หรือมูลค่าปัจจุบันของจานวนเงิน ถ้าไม่ได้ใส่ค่า อะไรไว้ จะมคี า่ เป็น 0 (ศนู ย์) ค่าท่ีใส่ในอาร์กิวเมนต์นี้ ต้องเป็นจานวนเงินท่ีเป็นงวดเดียว ถ้าดูในเส้นเวลาจะอยู่ ดา้ นซา้ ยของเส้นเวลาเสมอ เป็นค่าของเงนิ ก่อนทจ่ี ะนาไปคานวณกับดอกเบีย้ เงินฝากหรือเงนิ กู้  fv คือ มลู ค่าในอนาคต (FV - future value) หรอื มูลคา่ อนาคตของจานวนเงิน ถา้ ไมใ่ ส่คา่ อะไร ไว้ fv จะถกู สมมตคิ ่าให้เป็น 0 ค่าที่ใส่ในอาร์กิวเมนต์นี้ ต้องเป็นจานวนเงินท่ีเป็นงวดเดียว ถ้าดูในเส้นเวลาจะอยู่ ดา้ นขวาของเส้นเวลาเสมอ เป็นคา่ ของเงนิ หลงั จากท่ีรวมกับดอกเบีย้ เงินฝากหรือเงินกู้แล้ว  type คือตัวเลข 0 หรือ 1 ซึ่งใช้บ่งช้ีวันครบกาหนดการชาระเงิน ถ้าไม่ได้ใส่ค่า type ไว้ ก็จะ ถือว่าคา่ นี้เท่ากบั 0 โดย 0 คอื ส้นิ งวด 1 คอื ตน้ งวด ค่าท่ีใส่ในอาร์กิวเมนต์น้ี มีได้แค่ 0 หรือ หมายถึง กรณีฝากเงินทุกเดือน ถ้าฝากทุกวันที่ 1 ของเดือน เรียกว่า ต้นงวด ถ้าฝากทุกวันที่ 31 ของเดือน เรียกว่าส้ินงวด ท้ังน้ีการฝากต้นงวด หรือส้ินงวดจะทาให้จานวนดอกเบี้ยต่างกัน เนื่องจากถ้าฝากต้นงวดจะได้ดอกเบ้ียเพิ่ม 1 งวด ดังนัน้ สามารถเลอื กใช้ตามความเหมาะสม  หมายเหตุ เงินท่ีเป็นกระแสเงินออกจะต้องใส่ เคร่ืองหมายลบ ( - ) นาหน้าเงินจานวนน้ัน ไมเ่ ชน่ นั้นผลการคานวณอาจจะแสดงขอ้ ผดิ พลาด #NUM! 9.2.2 ตัวอยา่ งการใช้ฟังกช์ ันการเงินคานวณหามลู ค่าของเงินตามเวลา จากตัวอย่างที่ 1 ถึงตัวอย่างท่ี 8 สามารถนาค่าจากในเส้นเวลามาแทนค่าลงในอาร์กิวเมนต์ ของแตล่ ะฟังกช์ ันการเงินได้ดงั นี้ 1. เปดิ ไฟล์ ch9finance.xlsx แผน่ งาน Financial Function ตามภาพที่ 9.21 2. ดูข้อมูลจากเส้นเวลาในตัวอย่างท่ี 1 ถึงตัวอย่างที่ 8 และกรอกข้อมูลลงในเซลล์ที่สอดคล้องกัน ดัง ภาพที่ 9.22 ถึง ภาพท่ี 9.29

ดร.สาวิตรี บญุ มี สว่ นท่ี 3 การประยุกต์ใช้ฟังกช์ นั Microsoft Excel ในงานธุรกิจ 197 ภาพที่ 9.21 แผ่นงาน Financial Function 3. จากตวั อย่าง สามารถระบุฟังก์ชนั่ ทใ่ี ช้ อาร์กิวเมนต์ และสตู รคานวณในเซลลต์ ่อไปน้ี ไดด้ ังนี้ ตัวอย่างท่ี 1 นาเงินไปฝากธนาคาร 10,000 บาท ตอนส้ินปีโดยไม่ถอน เป็นเวลา 5 ปี โดยธนาคารให้ ดอกเบ้ยี 10% ต่อปี โดยคดิ ดอกเบีย้ ปีละ 2 ครั้ง เมอ่ื ถอนเงินออกมาตอนครบ 5 ปี จะไดเ้ งนิ ก่ีบาท ใช้ฟังก์ชัน FV ในการหาคาตอบ RATE ใช้ดอกเบี้ยต่องวดจึงต้องนา 10% ÷ 2 คร้ังต่อปี และจานวน งวด หรือ NPER จงึ เท่ากับ 5ปี x 2 ครัง้ ต่อปี ภาพท่ี 9.22 การใช้ฟงั กช์ นั การเงิน PV ของตวั อย่างที่ 1 ตัวอย่างท่ี 2 นายสมชายวางแผนฝากเงินธนาคารปีละ 5,000 บาทตอนสิ้นปี เป็นเวลา 10 ปี หาก อตั ราดอกเบย้ี เทา่ กับ 8% ต่อปี เขาจะมเี งินในบญั ชีตอนสิ้นปที ี่ 10 เท่าไร ใชฟ้ งั ก์ชนั FV ในการหาคาตอบ เน่ืองจากฝากเงนิ จานวนหลายงวด ๆ ละเท่ากนั กัน จานวนเงนิ ฝากจึง ใส่ในอาร์กวิ เมนต์ PMT และติดลบเนอ่ื งจากเปน็ กระแสเงินสดออก

198 บทที่ 9 การใช้ฟังกช์ นั ทางการเงิน ภาพท่ี 9.23 การใช้ฟังกช์ นั การเงิน FV ของตัวอยา่ งที่ 2 ตัวอย่างที่ 3 ตัวอยา่ งท่ี 3 ถา้ นักศึกษาฝากเงินวนั นี้ 1,000 บาท ตอนตน้ ปี 2560 อตั ราดอกเบ้ยี เท่ากับ 9% ต่อปี โดยธนาคารคิดดอกเบ้ียทบต้นให้ปีละครั้ง เม่ือครบส้ินปีที่ 2565 นักศึกษาจะมีเงินฝากใน ธนาคารทง้ั หมดเท่าไร ใช้ฟังก์ชัน FV ในการหาคาตอบ แต่เน่ืองจากฝากต้นงวด การนับ NPER จึงนับต้ังแต่ มกราคม 2560 เมือ่ นับไปจนถึง ธนั วาคม 2565 จึงได้ 6 ปี ภาพที่ 9.24 การใชฟ้ งั ก์ชันการเงิน PV ของตวั อยา่ งท่ี 3 ตัวอย่างที่ 4 ถ้าทุกๆ ส้ินปี 5 ปีต่อจากนี้ จะได้ถอนเงินออกมาใช้ปีละ 1,000 บาท จะต้องฝากเงิน ณ ตอนน้กี ีบ่ าท ถ้าไดร้ บั ดอกเบ้ยี 10% ต่อปี ใช้ฟังก์ชนั PV ในการหาคาตอบ จานวนเงนิ ที่ตอ้ งการถอนเป็นเงนิ หลายงวด ๆ ละ เทา่ ๆ กนั จงึ ใสใ่ น อาร์กวิ เมนต์ PMT เป็นคา่ บวก เนอื่ งจากเป็นกระแสเงนิ สดรบั ภาพท่ี 9.25 การใชฟ้ งั ก์ชันการเงนิ PV ของตัวอยา่ งที่ 4 ตัวอย่างที่ 5 ยอดขายปัจจุบันของบริษัท เอ จากัด มีค่า 9,000,000 บาท ซึ่งเพิ่มข้ึนมาจาก 5 ปีก่อน เป็นจานวนเงนิ 4,000,000 จงหาอัตราการขยายตัวตอ่ ปี ของช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ดร.สาวิตรี บญุ มี สว่ นท่ี 3 การประยุกตใ์ ช้ฟังก์ชัน Microsoft Excel ในงานธุรกิจ 199 ใช้ฟังก์ชัน RATE ในการหาคาตอบ เนื่องจากคาถามต้องการทราบอัตราการเติบโตหรืออัตราดอกเบีย้ ผลลัพธ์ท่ีได้จะเป็นอัตราดอกเบ้ียต่องวด เน่ืองจากในคาถามงวดละ 1 ปี ผลลัพธ์จึงมีค่าเป็นอัตราต่อปี ส่วนค่า PV น้ัน มีมูลค่า 5,000,000 เน่ืองจากผ่านไป 5 มียอดขายเพิ่มข้ึน 4,000,000 ยอดขาย 5 ปีก่อน จงึ มีคา่ เท่ากบั 9,000,000 – 4,000,000 บาท ภาพท่ี 9.26 การใช้ฟังก์ชนั การเงนิ RATE ของตัวอยา่ งท่ี 5 ตัวอย่างท่ี 6 ถ้านักศึกษาฝากเงินตอนน้ี 1,000 บาท และต้องการได้รับเงินจานวน 10,000 บาท ถ้า อตั ราดอกเบ้ียเทา่ กบั 10% ตอ่ ปี นกั ศึกษาจะตอ้ งฝากเงนิ ทงิ้ ไวเ้ ป็นเวลา 24.16 ปี ใช้ฟังก์ชัน NPER ในการหาคาตอบ เน่ืองจากถามหาจานวนงวด ผลลัพธ์จะมีหน่วยเป็นปีเพราะอัตรา ดอกเบ้ียเปน็ ตอ่ ปี ภาพท่ี 9.27 การใช้ฟังกช์ นั การเงิน NPER ของตวั อย่างที่ 6 ตัวอยา่ งที่ 7 ถา้ นกั ศกึ ษาตอ้ งการซอ้ื SmartPhone ตอนนี้ในราคาเคร่อื งละ 31,500 บาท โดยจะผ่อน ทกุ เดือนเปน็ เวลา 10 เดอื น ดอกเบีย้ เดอื นละ 1.5% จะตอ้ งผ่อนเดือนละกบ่ี าท ใชฟ้ งั กช์ ัน PMT ในการหาคาตอบ เนื่องจากตอ้ งการทราบจานวนเงินที่ต้องจ่ายหลายงวด ๆ ละเทา่ ๆ กนั ราคาเคร่ืองเป็น PV และเป็นคา่ บวก เนอ่ื งจากซื้อโทรศัพท์ตอนนี้แปลว่าได้สนิ ทรัพยม์ าแล้วหรือเปรียบ เหมือนกับกระแสเงินสดรับในตอนน้ี ผลลัพธ์ที่ได้เป็นค่าลบ เพราะเป็นเงินท่ีจะต้องจ่ายในอนาคตงวดละ เท่า ๆ กัน หน่วยของงวดเปน็ เดอื นซง่ึ ตรงกับหนว่ ยของอัตราดอกเบ้ยี ท่ีเปน็ ตอ่ เดือนเชน่ กนั จึงไม่ต้องมีการ แปลงคา่ ของ NPER และ RATE

200 บทท่ี 9 การใชฟ้ ังก์ชนั ทางการเงิน ภาพท่ี 9.28 การใชฟ้ ังกช์ นั การเงิน PMT ของตัวอย่างที่ 7 ตัวอย่างท่ี 8 ถ้านักศึกษาต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ราคา 45,000 บาท โดยดาวน์เป็นเงิน 10,000 บาท อัตราดอกเบ้ียเงินกู้ 12% ต่อปี โดยจะผ่อนทุกเดือน เป็นเวลา 3 ปี จะต้องผ่อนเดือนละ 1,162.50 บาท ใชฟ้ งั ก์ชนั PMT ในการหาคาตอบ เน่ืองจากต้องการทราบจานวนเงนิ ท่ีต้องจา่ ยหลายงวด ๆ ละเท่า ๆ กัน ค่าท่ีใส่ในอาร์กิวเมนต์ PV เป็นค่าบวก มาจากจานวนเงินค่าจักรยานยนต์หักด้วยเงินดาวน์ เน่ืองจาก การดาวน์ทาให้จานวนเงินท่ีเป็นหน้ีลดลงเหลือเพียง 45,000 – 10,000 บาท และอัตราดอกเบ้ียเงินกู้มี หน่วยเป็นต่อปี แต่งวดผอ่ นชาระเป็นต่อเดอื น ทาใหต้ อ้ งแปลงค่าของ RATE ให้เปน็ ต่อเดือน คือ 12%÷12 เดอื น และแปลงค่าจานวนปีทีผ่ อ่ นใหเ้ ป็นตอ่ เดอื น คือ 3 ปี x 12 เดือน ภาพท่ี 9.29 การใช้ฟงั กช์ ันการเงิน PMT ของตัวอย่างที่ 8 จากตวั อยา่ งการประยกุ ตใ์ ชใ้ น Excel ท้ังหมดใช้วิธีอา้ งองิ เซลลแ์ ทนการพิมพค์ า่ ลงในสตู รโดยตรง ทา ให้สามารถทดลองเปลี่ยนค่าในอาร์กิวเมนต์ เพ่ือดูผลลัพธ์ท่ีต่างออกไปได้โดยไม่ต้องสร้างสูตรใหม่ ดังนั้น ฟังก์ชันท่ีสร้างในบางตัวอย่างสามารถใช้ร่วมกันได้เพียงแค่เปล่ียนค่าในเซลล์ เช่น ตัวอย่างที่ 8 และ ตวั อย่างท่ี 9 9.3 การประเมินผลตอบแทนของโครงการลงทุน (Project evaluation) โครงการลงทุน หมายถึง โครงการที่มีการลงทุน เช่น การสร้างโรงงานใหม่ การสารวจตลาด การซื้อ เครื่องจักร การพัฒนาระบบสารสนเทศ เป็นต้น ซึ่งจะต้องมีการลงทุนด้วยเงินทุนลงไปก่อนท่ีจะได้รับ ผลตอบแทนมาภายหลัง โดยท่ที ัง้ เงินจา่ ยลงทนุ และกระแสเงินสดรับควรได้รับการประมาณการขึ้นมาและ ประเมินความคุ้มค่าในการลงทุน เพ่ือช่วยสนับสนุนให้สามารถตัดสินใจในโครงการลงทุนให้มีโอกาส ผดิ พลาดลดลง กระแสเงินสดของโครงการลงทุนมีลกั ษณะตามภาพที่ 9.30

ดร.สาวติ รี บญุ มี สว่ นท่ี 3 การประยกุ ต์ใชฟ้ งั กช์ นั Microsoft Excel ในงานธุรกจิ 201 +เงนิ สดรับ +เงนิ สดรับ +เงนิ สดรบั +เงนิ สดรับ t1 t2 k% .......... tn-1 tn เวลา t0 -เงนิ จา่ ยลงทุน ภาพที่ 9.30 เส้นเวลาและกระแสเงินสดของโครงการลงทนุ ตัวอย่าง โครงการ ก ใช้เงินลงทุน 10,000 บาท คาดวา่ จะมีเงนิ สดรับสุทธใิ นปีที่ 1 3,000 บาท ปีที่ 2 5,000 บาท ปที ่ี 3 8,000 บาท เม่ือคานวณโดยไม่คานึงถึงค่าของเงินตามเวลา หรือ ต้นทุนของเงินทุนท่ีนามาลงทุน โครงการน้ีจะมี ผลตอบแทนเท่ากับ (3,000 + 5,000 + 8,000) – 10,000 = 6,000 บาท แต่จากเรื่องมูลค่าของเงินตาม เวลาเงินในปีที่ 1, 2 และ 3 จะไม่สามารถเปรียบเทียบกับเงินในปีท่ี 0 หรือเงินจ่ายลงทุน เนื่องจากมูลค่า ของเงินตา่ งเวลาไม่เทา่ กัน ถ้า เงินท่ีนามาลงทุนน้ัน มีต้นทุนเงินทุนจากการกู้ธนาคารมาในอัตราดอกเบ้ียหลังหักภาษี 10% ต่อ ปี ดงั น้นั ควรนาดอกเบ้ยี มาร่วมพิจารณา 9.3.1 มลู คา่ ปัจจุบนั สทุ ธิ (Net present value - NPV) คือ ผลต่างระหว่างมูลค่าปัจจุบันของผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ กับเงินจ่ายลงทุนสุทธิคร้ังแรก ของโครงการ โดยใช้อัตราส่วนลด (discount rate) ตามอัตราผลตอบแทนขั้นต่าที่ต้องการ หรือ อัตรา ตน้ ทุนของเงนิ ทนุ (cost of capital –k%) (เบญจวรรณ, 2540) ซงึ่ มขี นั้ ตอนการคานวณ ดงั น้ี 1) หามูลคา่ ปัจจบุ ันของผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รบั ในแตล่ ะปี แล้วหาผลรวมของทกุ ปี 2) นาผลรวมมลู คา่ ปัจจุบนั ของผลตอบแทน หักลบดว้ ย เงินสดจ่ายลงทนุ ครัง้ แรก ซง่ึ NPV ทดี่ ีคือ NPV ทมี่ ีคา่ มากกว่า 0 หรือกาไรเป็นคา่ บวกน่ันเอง 3,000 5,000 8,000 t1 t2 t3 10% เวลา t0 -10,000 ภาพท่ี 9.31 ตัวอย่างการคานวณมูลค่าปจั จบุ ันสทุ ธิ ถ้าคานวณโดยใชฟ้ ังก์ชนั PV สตู รที่สร้างขน้ึ จะเปน็ ดังนี้

202 บทท่ี 9 การใชฟ้ ังก์ชันทางการเงิน NPV = -(PV(10%,1,,3000) + PV(10%,2,,5000) + PV(10%,1,,8000)) + (-10000) = 2,870 บาท ซงึ่ ในกรณีนีไ้ มส่ ามารถใชอ้ าร์กิวเมนต์ pmt ในฟังก์ชัน PV ได้ เน่ืองจากจานวนเงนิ ไมเ่ ท่ากนั ทุกงวด Excel มีฟังก์ชันท่ีสร้างมาสนับสนุนการหามูลค่าปัจจุบันของเงินหลายงวดที่ไม่เท่ากัน คือ ฟังก์ชัน NPV แต่ ฟังก์ชัน NPV ของ Excel มีความแตกต่างจาก NPV ของการเงิน คือ NPV ของ Excel จะครอบคลุมการ คานวณเรม่ิ ต้นจากงวดท่ี 1 เท่านั้น แต่ NPV ของการเงนิ จะครอบคลุมถึงงวดที่ 0 NPV ของการเงิน NPV ของ Excel 8,000 3,000 5,000 t1 t2 t3 10% เวลา t0 -10,000 ภาพท่ี 9.32 ความแตกต่างระหวา่ ง NPV ของ Excel และการเงิน 9.3.2 อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (Internal rate of return - IRR) คือ อัตราที่ทาให้ผลรวมของมูลค่าปัจจุบันของผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ เท่ากับเงินจ่ายลงทุน สุทธิครั้งแรกของโครงการ (เบญจวรรณ, 2540) หรือ NPV มีค่าเป็นศูนย์ น่ันเอง ซึ่งค่า IRR ท่ีดี คือ เปอร์เซน็ ต์ทม่ี ากกวา่ อตั ราผลตอบแทนขน้ั ต่าท่ีตอ้ งการ หรือ อัตราต้นทุนของเงนิ ทนุ (k%) แล้วแต่กรณี IRR มีวิธีการคานวณ คือ ทดลองเปลี่ยนค่าอัตราต้นทุนของเงินทุน (k%) ไปจนกว่า NPV มีค่าเป็น ศูนย์ ซงึ่ ถ้าไม่ใช้เครื่องคิดเลขทางการเงนิ หรือ ฟังก์ชันใน Excel ชว่ ยในการคานวณนั้นจะเสียเวลามากใน การลองผิดลองถูกเพ่ือหาผลลัพธ์ ดังน้ัน Excel จึงมีฟังก์ชันท่ีสร้างมาสนับสนุนการหาอัตราผลตอบแทน จากการลงทนุ คอื ฟงั กช์ ัน IRR 9.4 ฟังกช์ ันเกยี่ วกบั การประเมินผลตอบแทนของโครงการลงทนุ จากที่กล่าวมา Excel มีฟังก์ชัน NPV เพื่อช่วยคานวณมูลค่าปัจจุบันสุทธิ แต่ต้องทราบวิธีนามา ประยุกตใ์ ห้ได้ผลลัพธ์ NPV ทางการเงิน และฟังก์ชนั IRR ทีส่ ามารถนามาหาคา่ อัตราผลตอบแทนจากการ ลงทุนได้ โดยมรี ายละเอียดวธิ ีการใชฟ้ ังก์ชนั ดังน้ี NPV(rate,value1,[value2], ...) ใช้หามูลค่าปัจจุบันของเงินหลายงวดที่ไม่เท่ากัน โดยเร่ิมคานวณจากส้นิ งวด ผลลัพธ์ที่ได้เป็นจานวน เงินตามภาพท่ี 9.33

ดร.สาวิตรี บญุ มี ส่วนท่ี 3 การประยุกตใ์ ชฟ้ ังกช์ ัน Microsoft Excel ในงานธุรกจิ 203 ภาพท่ี 9.33 หนา้ ต่างฟงั กช์ ัน NPV  rate คือ อตั ราสว่ นลดตอ่ งวด ค่าท่ีใส่ในอาร์กิวเมนต์น้ี ต้องเป็นตัวเลขท่ีเป็นทศนิยม หรือเปอร์เซ็นต์ ที่มาจากอัตรา ผลตอบแทนข้นั ต่าท่ตี อ้ งการ หรือ อัตราตน้ ทนุ ของเงนิ ทนุ ที่นามาจา่ ยลงทุนคร้งั แรก  value1,[value2], ... คอื ค่ากระแสเงนิ สดรบั สุทธใิ นแตล่ ะงวด ค่าที่ใส่ในอาร์กิวเมนต์น้ี ต้องเป็นตัวเลขที่สามารถเป็นค่าบวกหรอื ลบก็ได้ โดยในฟังก์ชนั นี้จะแตกต่างจากฟังก์ชันทางการเงินท่ีเก่ียวกับมูลค่าของเงินตามเวลาที่ค่าบวกและค่าลบจะถูก นามาคานวณด้วย เช่น ถ้าค่าท่ีใส่เข้าไปทุกค่าเป็นค่าบวก ซึ่งหมายถึงเงินสดรับเป็นบวก NPV ท่ี คานวณได้จะมคี า่ เป็นบวกเชน่ กัน วิธกี ารใช้หา NPV การเงิน NPV การเงิน = NPV(กระแสเงินสดรับสทุ ธิงวดท่ี 1..n) + เงนิ ลงทุนครงั้ แรก* *บวกเงินลงทุนครั้งแรกเนื่องจาก เงินลงทุนคร้ังแรกเป็นกระแสเงินสดจ่ายจะมีเคร่ืองหมายลบ นาหนา้ ตัวเลข IRR(values,[guess]) ใช้หาอัตราตอบแทนของเงินหลายงวดที่ไม่เท่ากัน ที่เกิดจากการลงทุน จะต้องมีงวดใดงวดหนึ่งเป็น กระแสเงินจา่ ย ผลลัพธ์ที่ไดเ้ ป็นรอ้ ยละ หรอื เปอร์เซ็นต์ ตามภาพที่ 9.34

204 บทที่ 9 การใช้ฟังก์ชันทางการเงิน ภาพท่ี 9.34 หนา้ ต่างฟังก์ชนั IRR  values คอื ค่ากระแสเงินสดรับสทุ ธิต้งั แตง่ วดที่ 0 ถึง งวดสดุ ทา้ ย ค่าที่ใส่ในอาร์กิวเมนต์น้ี ต้องเป็นตัวเลขที่สามารถเป็นค่าบวกหรือลบก็ได้ โดยค่าบวก หมายถึงกระแสเงินสดรับ และค่าลบหมายถึงกระแสเงินสดจ่าย และจะต้องมีงวดใดงวดหนึ่งเปน็ กระแสเงนิ จา่ ยหรอื ติดลบ ไมเ่ ช่นนน้ั ผลการคานวณอาจจะแสดงข้อผดิ พลาด #NUM!  [guess] คอื คา่ ทีต่ อ้ งการใหเ้ รม่ิ ต้นลองผดิ ลองถูก เพอื่ ให้ Excel ทางานไดเ้ รว็ ข้นึ ไมจ่ าเปน็ ต้องใส่ จากตัวอย่างโครงการ ก สามารถนาไปสร้างเปน็ สตู รเพอื่ หาผลลพั ธใ์ น Excel ได้ตามภาพที่ 9.35 ภาพที่ 9.35 ตัวอยา่ งการใช้ฟังกช์ นั ประเมนิ ผลตอบแทนของโครงการลงทุน 9.4.1 ตัวอยา่ งการใช้ฟังกช์ ันการเงนิ ประเมนิ ผลตอบแทนของโครงการลงทุน ฟังก์ชัน NPV และ IRR สร้างมาเพ่ือใช้ในการประเมินโครงการลงทุน ในตัวอย่างน้ีเป็น โครงการลงทุนระบบสารสนเทศในองค์กรที่ต้องมีการจัดการเทคโนโลยีมาเพ่ือพัฒนาและติดต้ังระบบ ท้ัง การจัดหาเทคโนโลยีด้านฮาร์ดแวร์ การวิเคราะห์และออกแบบระบบ การพัฒนาระบบ การทดสอบและ ติดตั้งระบบ และยังต้องคานึงถึงค่าใช้จ่ายหลังจากท่ีติดต้ังระบบและเริ่มการใชง้ านระบบแล้ว เช่น ค่าแรง เจ้าหน้าที่ท่ีทางานเก่ียวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ ที่ต้องจ้างเพิ่มเติมเพ่ือมาดูแลรักษาระบบ คา่ ลขิ สิทธิ์รายปขี องระบบ และค่าอพั เกรดฮาร์ดแวรใ์ หส้ ามารถทางานได้อยา่ งต่อเน่ือง

ดร.สาวติ รี บญุ มี ส่วนท่ี 3 การประยุกต์ใช้ฟังก์ชัน Microsoft Excel ในงานธรุ กจิ 205 นอกจากการประเมินกระแสเงินสดที่จะเกิดข้ึนจากการมีระบบสารสนเทศแล้ว ผู้วิเคราะห์ ระบบต้องคานงึ ถึงรายได้ท่ีคาดวา่ จะเพ่ิมข้นึ และค่าใช้จา่ ยทค่ี าดว่าจะลดลงอกี ดว้ ย จากนัน้ จงึ นาขอ้ มลู เชิง ปริมาณทงั้ หมดมารวบรวมเพอื่ วเิ คราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการลงทนุ ต่อไป จากตัวอยา่ งดงั กลา่ ว มีขั้นตอนการวเิ คราะหด์ ังตอ่ ไปน้ี 1. เปดิ ไฟล์ ch9finance.xlsx แผ่นงาน NPV1 ตามภาพที่ 9.36 ภาพท่ี 9.36 ตวั อย่างการใช้ฟังก์ชนั การเงินคานวณผลตอบแทนจากการลงทนุ

206 บทท่ี 9 การใชฟ้ ังกช์ ันทางการเงิน 2. สรา้ งสูตรคานวณในเซลลต์ ่อไปน้ี B35 =NPV(B34,C32:E32)+B32 (คาตอบคือ 5,773,805.99) B36 =IRR(B32:E32) (คาตอบคอื 880%) C35 =IF(B35>0,\"ค่า NPV เป็นบวกควรลงทนุ \",\"คา่ NPV เป็นลบไม่ควรลงทุน\") C36 =IF(B36>B34,\"ค่า IRR มากกว่าต้นทุนเงินทุนควรลงทุน\",\"ค่า IRR น้อยกว่าต้นทุนเงินทุนไม่ควร ลงทุน\") จากผลการวิเคราะห์พบว่า โครงการน้ีจะให้มีมูลค่าปัจจุนบันสุทธิ (NPV) เป็นเงิน 5,773,805.99 บาท ซ่ึงคา่ NPV เป็นค่าบวก หมายความว่าได้กาไรจากการลงทุนหลังหักต้นทุนเงินทนุ แล้ว จงึ เหมาะสมท่ี จะลงทุน เมื่อพิจารณาอัตราผลตอบแทนจากการลงทัน (IRR) น้ันพบว่า ค่า IRR คือ 880% มีค่ามากกว่า ต้นทุนเงินทุนหรือดอกเบี้ยเงินกู้ 7% ที่กู้ธนสคารเพ่ือมาพัฒนาระบบ หมายความว่า อัตรากาไรสูงกว่า ตน้ ทุนเงนิ ทนุ จงึ เปน็ ดครงการท่ีควรลงทนุ 9.5 สรุป การใช้ฟังก์ชันทางการเงินของ Excel คานวณค่าของเงินตามเวลาและวิเคราะห์ผลตอบแทนการ ลงทุนน้ัน เป็นฟงั กช์ นั ที่มลี ักษณะการใช้งานเฉพาะทางที่ผู้ใช้ควรมีความเข้าในเกี่ยวกับแนวคดิ ทางการเงิน เรื่องดอกเบี้ยทบต้น มูลค่าเงินปัจจุบัน มูลค่าเงินในอนาคต ทั้งของเงินจานวนงวดเดียวและเงินจานวน หลายงวด ๆ ละเท่า ๆ กัน รวมถึงเร่ืองการวิเคราห์ผลตอบแทนจากการลงทุนในมุมมองทางการเงินที่ คานึงถึงมูลค่าของเงินตามเวลาและต้นทุนของเงินทุน ซึ่งฟังก์ชันการเงินที่ใช้ในบทน้ีคือ ฟังก์ชัน FV สาหรับหามูลค่าอนาคตของเงนิ (เทียบได้กบั ตาราง FVIF ของการเงิน) PV สาหรบั หามูลค่าปัจจบุ ันของเงิน (เทียบได้กับตาราง PVIF ของการเงิน) PMT สาหรับหาค่าเงินหลายงวด ๆ ละเท่า ๆ กัน (เทียบได้กับ ตาราง FVIFA และ PVIFA ของการเงิน) NPER สาหรับหาจานวนงวด RATE สาหรับหาอัตราดอกเบี้ย NPV สาหรับหาผลตอบแทนการลงทุนเป็นหน่วยบาท และ IRR สาหรับหาผลตอบแทนการลงทุนเป็นร้อย ละหรือเปอร์เซ็นต์ ท้ังน้ีสิ่งที่ต้องระวังในการใช้ฟังก์ชันทางการเงินคือ หน่วยของอัตราดอกเบี้ยต้องเป็นตอ่ งวดและจานวนงวดเป็นจานวนงวดท่ีคดิ ดอกเบีย้ ทัง้ หมด โดยไมจ่ าเป็นต้องเป็นจานวนปี เมื่อมคี วามเข้าใจ ฟังก์ชันทางการเงินของ Excel แล้วน้ัน จะช่วยให้ช่วยในการคานวณเหล่านี้เป็นไปได้รวดเร็วและแม่นยา ซึง่ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย เช่น จัดทาตารางผอ่ นชาระเงินกู้ วางแผนและประเมนิ โครงการ ลงทุนในสินทรพั ย์ หรอื วางแผนการออมเงนิ เป็นต้น

ดร.สาวิตรี บญุ มี สว่ นท่ี 3 การประยกุ ตใ์ ชฟ้ ังก์ชนั Microsoft Excel ในงานธุรกิจ 207 แบบฝึกหดั ท้ายบทที่ 9 ตอนที่ 1 วาดเส้นเวลาและระบฟุ งั กช์ ันหามลู ค่าทางการเงนิ และผลลัพธ์จากการคานวณ 1. นาย ก ฝากเงนิ ธนาคารปีละ 10,000 บาทตอนสน้ิ ปี เปน็ เวลา 20 ปี อตั ราดอกเบย้ี 5% ตอ่ ปี เขาจะมี เงนิ ในบญั ชตี อนส้นิ ปีที่ 20 เทา่ ไร ฟงั ก์ชนั คาตอบ เวลา 2. ถ้าทุกๆ ส้ินปี 4 ปีต่อจากนี้ จะถอนเงินออกมาใช้ปีละ 10,000 บาท จะต้องฝากเงิน ณ ตอนน้ีก่ีบาท ถา้ ได้รับดอกเบี้ย 12% ต่อปี ฟงั กช์ ัน คาตอบ เวลา 3. ถ้านักศึกษาต้องการซ้ือคอมพิวเตอร์โน้ตบุคตอนนี้ในราคาเครื่องละ 31,500 บาท โดยผ่อนทุกเดือน เป็นเวลา 10 เดือน ดอกเบยี้ เดือนละ 1% จะตอ้ งผ่อนเดอื นละกบี่ าท ฟงั ก์ชนั คาตอบ เวลา 4. ถ้านักศึกษาฝากเงินวันนี้ 1,000 บาท อัตราดอกเบ้ียเท่ากับ 12% ต่อปี หากนักศึกษาฝากเงินไว้เป็น เวลา 4 ปี โดยธนาคารคิดดอกเบี้ยทบต้นให้ทุก 6 เดือน เมื่อครบ 4 ปี นักศึกษาจะมีเงินฝากใน ธนาคารท้ังหมดเท่าไร ฟังก์ชัน คาตอบ เวลา

208 บทท่ี 9 การใชฟ้ ังก์ชันทางการเงิน 5. ถ้านักศึกษาต้องการเก็บเงินเพ่ือใช้เดินทางท่องเท่ียวต่างประเทศเมื่อสาเร็จการศึกษาในอีก 4 ปี ข้างหนา้ 50,000 บาท โดยฝากเงนิ กบั ธนาคารทุกส้ินเดือน ดอกเบี้ยเดอื นละ 1% จะต้องฝากเดือนละ ก่ีบาท ฟังก์ชัน คาตอบ เวลา ตอนที่ 2 การประยุกตใ์ ช้ฟงั กช์ น่ั การเงนิ คานวณจานวนเงนิ ผอ่ นชาระเงนิ กู้ 1. เปิดแผน่ งาน loan_Table 2. จงเขียนสูตรคานวณในเซลล์ต่อไปนี้ 1) เงนิ ตน้ หลังหักเงนิ ดาวน์ = เงินตน้ – เงนิ ดาวน์ F5= (คาตอบคอื 20,000) 2) จานวนงวดทผ่ี อ่ นทงั้ หมด= จานวนปีท่ีตอ้ งการผอ่ น จานวนคร้งั ทีผ่ ่อนต่อปี F7= (คาตอบคอื 12) 3) อัตราดอกเบย้ี ต่องวด= อัตราดอกเบีย้ เงนิ กตู้ ่อปี  จานวนครง้ั ทีผ่ ่อนตอ่ ปี F8= (คาตอบคือ 1.00%)

ดร.สาวติ รี บญุ มี ส่วนท่ี 3 การประยุกต์ใช้ฟังกช์ ัน Microsoft Excel ในงานธุรกจิ 209 4) จานวนเงนิ ผอ่ นชาระ= ROUNDUP(ใช้ฟงั กช์ นั PMT ,0) F9= (คาตอบคอื 1,777) 5) จานวนเงินผอ่ นชาระ = จานวนเงนิ ผ่อนชาระ B13= (คาตอบคือ 1,777) 6) ดอกเบ้ียจ่าย = อัตราดอกเบ้ยี ต่องวด  เงนิ ต้นคงเหลือของงวดกอ่ นหนา้ C13= (คาตอบคือ 200) 7) เงนิ ตน้ จ่าย = จานวนเงนิ ผอ่ นชาระ – ดอกเบี้ยจา่ ย D13= (คาตอบคอื 1,577) 8) เงนิ ต้นคงเหลอื งวดนนั้ ๆ = เงินต้นคงเหลอื ของงวดก่อนหน้า – เงนิ ตน้ จา่ ยงวดนน้ั ๆ E13= (คาตอบคอื 18,423) เทคนคิ ป้องกันไมใ่ ห้ Excel คำนวณในงวดท่เี กนิ งวดทจ่ี ะผอ่ น ถ้างวดนั้นๆ น้อยกว่าเท่ากับ จานวนงวดที่ผ่อนทั้งหมด ให้คานวณ ถ้าเกินให้แสดงค่าว่าง เช่น B13 =IF(A13<=$C$6,$F$9,\"\") ตอนที่ 3 การวิเคราะหค์ วามเป็นไปได้โครงการลงทนุ ธรุ กิจถา่ นอัดแทง่ โครงการลงทุนธุรกิจถ่านอัดแท่งต้องการพิจารณาความเป็นไปได้ในการลงทุนสร้างโรงเรือน สาหรับผลติ ถ่านอัดแทง่ โดยมีรายได้และค่าใชจ้ า่ ยตามในไฟล์ ch9finance.xlsx แผ่นงาน NPV2 1. เปิดแผ่นงาน NPV2

210 บทท่ี 9 การใช้ฟังก์ชนั ทางการเงิน (คาตอบคอื 54,583.56) (คาตอบคือ 10.61%) 2. จงเขยี นสตู รคานวณในเซลลต์ ่อไปนี้ B24 = B25 = C24 = C25 = .

สว่ นที่ 4 การนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ด้วย Microsoft Excel

212 บทที่ 9 การใช้ฟังกช์ นั ทางการเงิน วัตถุประสงค์การเรยี นร้ขู องสว่ นท่ี 4  เพ่อื เข้าใจหลกั การและฝกึ ฝนทักษะการใช้แผนภมู ินาเสนอขอ้ มลู ทางธุรกิจ  เพอ่ื เข้าใจวธิ กี ารใช้ตารางของ Excel ในลักษณะฐานข้อมลู  เพ่อื เข้าใจหลกั การและฝกึ ฝนการใช้ PivotTable และ PivotChart ตวั อยา่ งการประยกุ ต์ในงานธรุ กิจ  การสรปุ ขอ้ มูลการวจิ ัยทางการตลาด เนอ้ื หาในส่วนที่ 4 บทท่ี 10 การนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศทางธุรกจิ บทท่ี 11 การสรุปข้อมลู ด้วย PivotTable เบ้อื งต้น

บทที่ 10 การนาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศทางธรุ กจิ ด้วยแผนภูมิ การนาเสนอข้อมูลและสารสนเทศทางธรุ กิจนั้น จะแตกต่างกันตามชนิดของระบบสารสนเทศและ ระดบั การจดั การในองค์กรตามที่กล่าวมาแล้วในบทท่ี 1 กล่าวโดยสรุปคือ ระบบประมวลผลข้อมูล มักจะใช้โดยพนักงานระดับปฏิบัติการ ซึ่งต้องการรายงานและ สารสนเทศแบบรายละเอยี ดเพอ่ื เสนอผบู้ รหิ ารระดับกลางต่อไป ระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการ มักจะใช้โดยผู้บริหารระดับกลางท่ี ซึ่งเน้นการนาข้อมูลจาก ระดบั ปฏบิ ัติการมาทารายงานสรุปเพือ่ เสนอผบู้ รหิ ารระดบั สงู ต่อไป ระบบสนบั สนนุ การตดั สินใจและระบบสารสนเทศเพ่ือผู้บริหารระดบั สูง ผใู้ ช้เปน็ ผู้บรหิ ารระดบั สูง โดยระบบน้ีจะเน้นการนาเสนอข้อมูลและสารสนเทศที่สาคัญของธุรกิจในรูปแบบกราฟิกที่เข้าใจได้ง่าย และรวดเรว็ และสามารถเจาะลึกเขา้ ไปดขู ้อมลู ได้ รปู แบบของสารสนเทศทใี่ ช้นาเสนอนน้ั แบง่ ออกได้เป็น 3 แบบ คอื 1) สารสนเทศแบบมีรายละเอียด มักจะแสดงรายละเอียดข้อมูลทั้งหมด ส่วนใหญ่จะแสดงใน รูปแบบตารางท่ีมีรายละเอียด เช่น รายช่ือนักศึกษาที่ลงทะเบียน รายช่ือสินค้าและจานวน คงเหลอื ทง้ั หมดในคลังสินคา้ รายการขายในแต่ละใบเสร็จ เปน็ ต้น 2) สารสนเทศแบบสรุป มักจะแสดงข้อมูลท่ีสรุปจากการคานวณ ซึ่งเป็นการนับจานวน การหา ผลรวม การหาค่าเฉลี่ย หรือการคานวณอ่ืนๆ ซ่ึงอาจจะแสดงผลในรูปของตารางครอสแท็บ หรือ แผนภูมิ เช่น แผนภูมิแท่งแสดงจานวนนักศึกษาแต่ละสาขา แผนภูมิคอลัมน์แสดง จานวนสินค้าแยกตามประเภทสินค้า แผนภูมิวงกลมแสดงสัดส่วนผลรวมยอดขายแยกตาม ภมู ภิ าค เป็นตน้ 3) สารสนเทศเฉพาะกรณี เป็นสารสนเทศท่ีใช้เฉพาะเมื่อมีข้อมูลหรือรายงานที่ต้องการทราบ หรือออกเปน็ กรณพี เิ ศษ ไม่มรี ปู แบบตายตวั ในการจดั ทา ขน้ึ อยกู่ ับความต้องการของผูใ้ ช้ จะเห็นได้ว่าส่วนหนึ่งของสารสนเทศน้ันจะนาเสนอในรูปแบบของกราฟฟิกหรือรูปภาพ เม่ือ ต้องการนาเสนอข้อมูลในรูปแบบรูปภาพนั้น บางครั้งคนท่ัวไปจะใช้ คาว่า “กราฟ” หรือ Graph แต่ใน Excel นั้นจะเรียก “แผนภูมิ” หรือ Chart ซึ่งคาว่ากราฟมักจะใช้ในการนาเสนอข้อมูลจากสมการ คณิตศาสตร์หรือสถิติ แต่แผนภูมิสามารถใช้ได้ในสถานการณ์ท่ีกว้างกว่า ในบทนี้จะกล่าวถึงแผนภูมิใน Microsoft Excel ท่ีใช้บ่อย วิธีการเลือกใช้เหล่าน้ี และวิธีการสร้างและจัดรูปแบบแผนภมู ิ โดยแผนภูมทิ ี่ ครอบคลุมในบทน้ีประกอบด้วย แผนภูมิวงกลม แผนภูมิเส้น แผนภูมิคอลัมน์ แผนภูมิแท่ง แผนภูมิ

214 บทท่ี 10 การนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศทางธรุ กจิ กระจาย และแผนภูมิอ่ืน ๆ เช่น แผนภูมิโดนัท แผนภูมิเรดาห์ แผนภูมิฟอง แผนภูมิหุ้น และแผนภูมิแกน ตงั้ สองแกน  ในบทนี้ใช้ไฟล์ประกอบเน้ือหาเพ่ือใช้ในการฝึกปฏิบัติ ช่ือ ch10chart.xlsx เปิดจาก CD หรอื สามารถดาวนโ์ หลดไฟล์ได้จากเวบ็ ไซต์ academic.udru.ac.th/sawitree 10.1 แผนภูมเิ ส้น (Line Chart) แผนภูมิเส้น เป็นแผนภูมิท่ีใช้แสดงแนวโน้มของข้อมูล ณ ช่วงเวลาที่เท่า ๆ กัน เพ่ือติดตามการ เปล่ียนแปลงของข้อมูลในช่วงระยะเวลาส้ันๆ หรือ ระยะเวลายาวๆ เช่น รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือ รายปี โดยแกน x หรือแกนนอน มักจะใช้แสดงเวลา ท่ีแบ่งเป็นช่วงเวลาเท่าๆ กัน ดังตัวอย่างใน ภาพที่ 10.1 แสดงแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างเงินบาทต่อ 1 ดอล ล่าห์ ในรอบ 5 ปี ที่ผา่ นมา ภาพที่ 10.1 แผนภมู เิ สน้ แสดงอัตราแลกเปลี่ยนเงนิ ตราระหว่างเงนิ บาทต่อ 1 ดอลล่าห์ ในรอบ 5 ปี (ทมี่ า: Google.com ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 18 มกราคม 2561) นอกจากนี้แผนภูมิเส้นยังสามารถใช้เปรียบเทียบแนวโน้มระหว่างหลายๆ ชุดข้อมูล ดังตัวอย่างใน แสดงการเปรยี บเทียบแนวโน้มของคาคน้ หาในเวบ็ ไซต์ Google.com คือ โตเกียว โซล และลอนดอน ภาพท่ี 10.2 แผนภมู เิ ส้นแสดงการเปรียบเทียบแนวโนม้ ของคาค้นหาในเวบ็ ไซต์ Google.com (ทม่ี า: Google Trend ข้อมลู ณ วันที่ 18 มกราคม 2561)

ดร.สาวิตรี บญุ มี ส่วนที่ 4 การนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศดว้ ย Microsoft Excel 215 จากภาพท่ี 10.2 สามารถอธิบายได้ว่ามีข้อมูล 3 ชุด คือ ยอดค้นหาของคาว่า โตเกียว-เส้นสีน้าเงิน โซล-เส้นสีแดง และ ลอนดอน-เส้นสีเหลือง โดยในแกนนอนกากับด้วยวนั ท่ีตัง้ แต่ 1 มกราคม 2547 ถึง 18 มกราคม 2561 ทงั้ นเ้ี พ่ือใช้ในเปรียบเทียบยอดค้นหาในแต่ละวันตามแกนนอน จากภาพสามารถแปลผลได้ ว่าในช่วงเวลาประมาณ 14 ปีที่แล้วยอดคาค้นหาของท้ังสามคาไม่แตกต่างกันมาก เมื่อเวลาผ่านไป 14 ปี ยอดคาค้นหาของทั้งสามคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ในปัจจุบันคาว่าโตเกียวมีแนวโน้นในการถูกค้นหาเพิ่ม มากท่สี ุดเมอ่ื เปรยี บเทียยบกบั ทั้งสามคา 10.1.1 ตัวอยา่ งการสรา้ งแผนภูมิเส้น 1) สรา้ งไฟล์ Excel ใหม่ 2) สร้างตารางข้อมูลตามภาพที่ 10.3 ให้ป้ายชื่อแกนนอนอยู่คอลัมน์ทางซ้ายมือและค่าชุดข้อมูลที่ เป็นตัวเลขอยู่คอลัมน์ทางขวามือติดกัน โดยแถวแรกของแต่ละคอลัมน์คือป้ายชื่อชุดข้อมูล (Legend) ภาพท่ี 10.3 ตวั อยา่ งการสร้างแผนภมู ิเส้น 3) เลือกข้อมลู ทงั้ ตาราง ชว่ งเซลล์ A1:D13 4) ไปท่เี มนู Insert ในกลมุ่ เคร่ืองมือ Charts เลอื ก แผนภูมิชนิด Line ตามภาพที่ 10.4 ภาพที่ 10.4 เครอื่ งมอื สรา้ งแผนภมู เิ ส้น

216 บทที่ 10 การนาเสนอข้อมูลและสารสนเทศทางธุรกจิ 5) จากภาพที่ 10.4 จะพบว่ามีเคร่ืองมือสาหรับสร้างแผนภูมิเส้น 3 ชนิด คือ ชนิด Line ชนิด Stacked Line และชนิด 100% Stacked Line ตามลาดับในภาพ ซึ่งทั้ง 3 ชนิดมีวิธีการใช้ แตกต่างกันไมส่ ามารถทดแทนกนั ไดค้ วรเลือกใช้ให้เหมาะสมซงึ่ จะอธิบายในหัวข้อถัดไป 6) ในการสร้างแผนภูมิเส้นธรรมดาให้เลอื ก ชนดิ Line หรือ แบบแรกทางซ้ายมอื 10.1.2 แผนภูมิเส้นแบบเรยี งซอ้ น (Stacked line chart) แผนภูมิเส้นแบบเรียงซ้อนใช้แสดงแนวโน้มการกระจายของค่าแต่ละค่าตลอดช่วงเวลาหน่ึง หรือใชเ้ มื่อเน้นการแสดงผลรวมในแต่ละช่วงเวลาตามค่าจริงของทกุ ชุดข้อมูล ภาพที่ 10.5 แผนภมู ิเส้นแบบเรยี งซอ้ น จากภาพที่ 10.5 เป็นแผนภูมิเส้นแบบเรียงซ้อนที่สร้างขึ้นจากข้อมูลชุดเดียวกันกับภาพที่ 10.3 จะ เหน็ ไดว้ ่าเส้นที่อย่ลู ่างสดุ หรือ เส้นขอ้ มลู ยอดขายของสินคา้ Beach นน้ั จะแสดงค่าตามจริงตรงกับข้อมูล ในตาราง แต่เส้นที่อยู่ตรงกลาง หรือเส้นของสินค้า Mountain น้ันจะแสดงไม่ตรงตามจริงในตาราง แต่ แสดงเป็นผลรวมของยอดขายสินค้า Beach และ Mountain ดังน้ันเส้นบนสุดแสดงค่าผลรวมยอดขาย ของทง้ั หมดของสนิ คา้ Beach Mountain และ Skyline  ช่องว่างระหว่างเส้นคือค่ายอดขาย เช่น ช่องว่างระหว่างเส้น Beach และ Mountain คือค่า ยอดขายของ Mountain  สามารถสร้างได้โดยสร้างใหม่และใช้เครื่องมือที่อยู่ลาดับท่ีสองจากซ้ายในภาพท่ี 10.4 หรือ เปลยี่ นแผนภูมขิ องของเดมิ ท่สี รา้ งไว้ ตามภาพท่ี 10.6

ดร.สาวิตรี บญุ มี สว่ นท่ี 4 การนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศด้วย Microsoft Excel 217 ภาพที่ 10.6 เครื่องมือเปลีย่ นชนิดแผนภูมิ 10.1.3 แผนภมู ิเส้นแบบเรยี งซ้อน 100% (100% Stacked line chart) แผนภูมิเส้นแบบเรียงซ้อน 100 % แสดงแนวโน้มของค่าแต่ละค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ตลอด ช่วงเวลาหนึ่งหรือใช้เม่ือเน้นการแสดงเปอร์เซ็นต์สัดส่วนของแต่ละชุดข้อมูลต่อผลรวมของทุกชุดข้อมูลใน แตล่ ะชว่ งเวลา ซ่ึงมลี กั ษณะสาคญั ดงั นี้ o มีลักษณะเดียวกันแบบเรียงซ้อน แต่แสดงข้อมูลในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ โดยเส้นบนสุดจะ เป็นเสน้ ท่ี 100% เสมอในทุกชว่ งเวลา o แผนภูมิชนิดน้ีเหมาะกับการแสดงสดั ส่วนของผลรวมชดุ ข้อมูล เช่น จากภาพจะแสดงให้ เห็นวา่ สัดส่วนของยอดขายสนิ คา้ Beach ตอ่ ยอดขายทงั้ หมดเพ่ิมข้นึ เม่อื เวลาผ่านไป ภาพที่ 10.7 แผนภูมเิ ส้นแบบเรียงซอ้ น 100% 10.1.4 ตารางขอ้ มูลของแผนภมู ิเสน้ ตารางข้อมูลของแผนภูมิเสน้ น้ัน ประกอบด้วยคอลัมน์ซ้ายมือสาหรบั ใชเ้ ป็นป้ายช่อื แกนนอน ซึ่งมักจะเป็นช่วงเวลาเช่น วัน เดือน ปี ช่ัวโมง เป็นต้น โดยคอลัมน์ถัดมาเป็นชุดข้อมูล ซ่ึงสามารถมีได้

218 บทท่ี 10 การนาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศทางธรุ กิจ หลายคอลัมน์หรือหลายชุดข้อมูลก็ได้ โดยแถวแรกของแต่ละคอลัมน์นั้นจะถูกใช้เป็นชื่อของชุดข้อมูลโดย อตั โนมตั ิ ดังภาพที่ 10.8 ภาพท่ี 10.8 ตารางข้อมูลสาหรบั สรา้ งแผนภมู ิเส้น 10.1.5 แผนภมู พิ ื้นท่ี (Area Chart) แผนภูมิพ้ืนท่ีมีลักษณะการใช้งานเหมือนแผนภูมิเส้น โดยมีความแตกต่างกับแผนภูมิเส้นตรง ที่แผนภูมิเส้นจะแสดงเพียงเส้นที่เช่ือมต่อจุดของข้อมูล ในขณะที่แผนภูมิพ้ืนที่จะเติมสีพื้นท่ีระหว่าง แกนนอนกบั เส้นของชดุ ข้อมลู ดว้ ย ดังภาพท่ี 10.9 ภาพท่ี 10.9 แผนภมู พิ ้ืนท่ี จากลักษณะการนาเสนอเช่นนี้ ทาใหใ้ นการใช้งานแผนภูมเิ ส้นกบั การนาเสนอข้อมูลหลายชุด จะตอ้ งมีความระมัดระวงั เน่ืองสีที่เติมของชุดข้อมลู ที่อยดู่ ้านหน้าสุดอาจจะบังชุดข้อมลู ท่ีอยดู่ ้านหลัง

ดร.สาวิตรี บญุ มี ส่วนท่ี 4 การนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศด้วย Microsoft Excel 219 ได้ ดังเช่นตัวอย่างในภาพท่ี 10.9 จะเห็นได้ว่าไม่สามารถมองเห็นพ้ืนท่ีของชุดข้อมูลยุโรปได้ เน่อื งจากคา่ น้อยกวา่ จงึ ทาใหถ้ ูกพ้นื ท่ีของชดุ ขอ้ มลู เอเชยี และอเมริกาซ้อนทับได้ ดังนั้น แผนภูมิพื้นที่จะนาเสนอได้ดีถ้าเป็นแบบเรียงซ้อน หรือ เรียงซ้อน 100% ดังภาพท่ี 10.10 ซ่ึงจะทาให้พ้ืนที่ของแต่ละชุดข้อมูลไม่ซ้อนทับกัน โดยแผนภูมิพื้นที่แบบเรียงซ้อน 100% จะ มีลักษณะการนาเสนอข้อมูลให้เห็นเป็นสัดส่วนชัดเจนเหมือนแผนภูมิวงกลม แต่มีข้อได้เปรียบ แผนภูมิวงกลมที่สามารถนาเสนอข้อมูลเปรียบเทียบได้หลายช่วงเวลามากกว่า ในขณะที่แผนภูมิ วงกลมจะนาเสนอได้เพียงชุดเดียวและช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ดังตัวอย่างจากภาพเปรียบเทียบให้เหน็ ว่า สัดส่วนยอดขายทวีปอเมริกาต่อยดขายท้ังหมดใน พ.ค. 2555 น้อยกว่าสัดส่วนยอดขายของ อเมรกิ าใน ม.ค.2553 ท้ังนี้ต้องตระหนกั เสมอว่าสดั สว่ นมากกวา่ ไมไ่ ดห้ มายความวา่ ยอดจรงิ มากกว่า ภาพท่ี 10.10 แผนภูมิพ้ืนทีแ่ บบเรยี งซอ้ น 100% 10.2 แผนภมู ิวงกลม (Pie Chart) แผนภูมิวงกลม ใช้แสดงขนาดของข้อมูลโดยแบ่งเป็นสัดสว่ นตามผลรวมของข้อมูล แผนภูมิชนิดน้ีจะ แสดงเฉพาะชุดขอ้ มูลไดเ้ พยี งชุดเดยี ว แตกตา่ งจากแผนภมู เิ สน้ ท่ีแสดงชุดข้อมูลได้หลายชดุ แผนภูมวิ งกลม จะมีประโยชน์มากเมื่อต้องการเน้นองค์ประกอบเด่น ๆ ที่อยู่ในข้อมูล เพื่อเปรียบเทียบสัดส่วนของ องค์ประกอบในชดุ ข้อมูล โดยเป็นการแสดงสดั ส่วนการกระจายของค่าแตล่ ะคา่ ต่อผลรวม แผนภูมิน้ีแสดงชุดข้อมูลในรูปแบบวงกลม โดยค่าในชุดข้อมูลจะแสดงเป็นช้ิน เหมือน พาย หรือ ขนมเคก้ ทถ่ี กู ตดั แบง่ เป็นชน้ิ ช้ินท่ีใหญ่ที่สดุ แสดงใหเ้ ห็นสัดสว่ นท่ีมากที่สุด ดังนั้น แผนภมู วิ งกลมจึงมีแกน เดยี วคือเสน้ รอบวง และไม่มีแกนแนวตัง้ และแนวนอน จากภาพที่ 10.11 แสดงแผนภูมิวงกลมท่ีมีชุดข้อมูล 1 ชุด คือจานวนพนักงานขาย โดยในจานวน ท้ังหมดประกอบด้วยจานวนพนักงานขายของแต่ละจงั หวดั ในแผนภูมวิ งกลมจะแสดงสัดส่วนของพนักงาน

220 บทที่ 10 การนาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศทางธุรกิจ แต่ละจังหวัดต่อจานวนพนักงานท้ังหมด ในกรณีน้ีจังหวัดอุดรธานีมีขนาดใหญ่ท่ีสุดหมายถึงมีสัดส่วน พนักงานมากท่ีสดุ ภาพที่ 10.11 แผนภูมวิ งกลมแบบปกติ 10.2.1 ตัวอย่างการสรา้ งแผนภมู วิ งกลม 1) สร้างตารางข้อมูลโดยมีลักษณะตามภาพที่ 10.11 ให้ป้ายช่ือข้อมูลอยู่คอลัมน์ทางซ้ายมือและค่า ข้อมูลท่ีเป็นตวั เลขอยคู่ อลมั น์ทางขวามอื ติดกนั 2) เลือกข้อมูลทั้งปา้ ยชือ่ และค่าข้อมูล 3) ไปทเี่ มนู Insert ในกลุม่ เครื่องมือ Charts เลือก แผนภูมิชนดิ Pie ตามภาพที่ 10.12 ภาพท่ี 10.12 เคร่ืองมอื สรา้ งแผนภูมวิ งกลมท่ัวไป

ดร.สาวติ รี บญุ มี ส่วนที่ 4 การนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศดว้ ย Microsoft Excel 221 10.2.2 แผนภูมวิ งกลมแบบแยกตัว แผนภมู ิวงกลมแบบแยกตวั มีลกั ษณะการใช้งานเชน่ เดียวกนั กับแผนภูมิวงกลมทัว่ ไป ต่างกัน ทีก่ ารแสดงผล โดยจะแสดงการกระจายของค่าแต่ละคา่ ต่อผลรวม พร้อม ๆ กบั เน้นท่คี า่ ใดคา่ หนงึ่ แผนภูมิชนิดนี้ไม่มีให้เลือกในเวอร์ช่ัน 2016 แต่สามารถต้ังค่าได้ ในเมนูลัด Format Data Series และต้ังค่า Pie Explosion ดังภาพท่ี 10.13 หรืออาจใช้วิธีการคลิกที่ค่าใดค่าหน่ึงค้างไว้ แล้วลาก ขยับให้ค่านั้นแยกออกมาตามระยะทีต่ ้องการ ภาพที่ 10.13 แผนภูมวิ งกลมแบบแยกตัว 10.2.3 แผนภูมวิ งกลมแบบสามมิติ (3-D Pie) แผนภูมิวงกลมแบบสามมิติ มีลักษณะการใช้งานเช่นเดียวกับแผนภูมิวงกลมท่ัวไป แต่แสดง แสดงในรูปแบบสามมิติ นั่นหมายถึงจะมีมิติความลึกของวงกลมเพิ่มมาอีกหนึ่งมิติ แต่ไม่ได้มีผลในการ แสดงผลค่าหรือข้อมูล เป็นเพียงเพิ่มความสวยงามเท่าน้ันดังภาพที่ 10.14 ท้ังน้ีส่ิงที่ต้องพึงระวังของ แผนภูมิชนิดนี้ คือ การแสดงผลจะเป็นแบบทัศนมิติ (Perspective) น่ันหมายความว่า ส่วนท่ีอยู่ใกล้จะมี ขนาดใหญ่กว่าส่วนที่อยู่ไกลออกไปแม้ว่าจะมีขนาดเท่ากันเพื่อแสดงสัดส่วนให้ใกล้เคียงกับแบบที่สายตา มนุษย์มองเห็น ทาให้ช้ินส่วนของค่าท่ีอยู่ตอนบนของภาพอาจจะดูเลก็ กว่าชน้ิ ท่ีอยู่ตอนลา่ งของภาพทั้งทมี่ ี สดั สว่ นจริงเท่ากัน วิธีการสร้างแผนภูมิวงกลมแบบสามมิติ สามารถสร้างได้โดยเลือกชนิดแผนภูมิเป็น 3-D Pie ในขนั้ ตอนที่ 3) ของหัวข้อ 10.2.1

222 บทท่ี 10 การนาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศทางธรุ กจิ ภาพท่ี 10.14 แผนภูมวิ งกลมแบบสามมติ ิ 10.2.4 แผนภูมิวงกลมจากวงกลม (Pie of Pie) แผนภูมิวงกลมจากวงกลม เป็นแผนภูมิวงกลมท่ีเหมาะกับการใช้แสดงชุดข้อมูลท่ีมีค่า แตกต่างกนั จานวนมาก หรอื มีช้ินในวงกลมจานวนหลายช้ิน จนทาให้ชิน้ หรือค่าที่มีสัดสว่ นน้อยไมส่ ามารถ แสดงในวงกลมใหญ่ได้ชัดเจน แผนภูมิชนดิ น้ีจะทาการรวมค่าท่ีมสี ัดส่วนน้อยเข้าดว้ ยกันและแสดงเป็น ค่า “อืน่ ๆ” เพยี งชน้ิ เดียว โดยรายละเอยี ดของค่าเหล่านจ้ี ะถกู นาไปแยกแสดงในอีกวงกลมหนง่ึ ทขี่ นาดเล็กลง แผนภูมิชนดิ นจ้ี ะประกอบดว้ ยวงกลม 2 วง วงซ้ายจะเปน็ ข้อมูลท่ีเน้น เช่น ขอ้ มูลทม่ี ีสัดส่วน มากทส่ี ดุ วงเลก็ ดา้ นขวาจะเปน็ การแสดงรายละเอยี ดข้อมูลจากชิน้ ข้อมูล “อืน่ ๆ” วิธกี ารสรา้ งแผนภูมิวงกลมจากวงกลม สามารถสร้างไดโ้ ดยเลือกชนิดแผนภูมิเปน็ Pie of Pie ซ่งึ ผู้ใช้สามารถตงั้ ค่าในการแบ่งข้อมูลระหว่างวงกลมใหญ่ และวงกลมเล็กได้ตามภาพท่ี 10.15 ภาพที่ 10.15 แผนภมู ิวงกลมจากวงกลมและวิธีการตั้งค่า

ดร.สาวติ รี บญุ มี สว่ นท่ี 4 การนาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศด้วย Microsoft Excel 223 จากภาพที่ 10.15 ในตัวเลือกชุดช้อมูล (Series options) สามารถกาหนดวิธีการแยกชุด ขอ้ มลู เป็นวงกลมเล็ก โดยสามารถกาหนดจาก ตาแหน่งของขอั มลู คา่ ของขอ้ มูล หรือเปอรเ์ ซ็นตข์ องข้อมูล กไ็ ด้ จากภาพ เปน็ การกาหนดใหแ้ ยกขอ้ มลู ทมี่ สี ดั สว่ นน้อยกวา่ 21% ไปแสดงในวงกลมเล็ก 10.2.5 แผนภูมแิ ทง่ จากวงกลม (Bar of Pie) แผนภูมิแท่งจากวงกลม มีลักษณะการใช้งานเหมือนแผนภูมิวงกลมจากวงกลมซึ่งแยกชิ้นที่มี ค่าขนาดเล็กออกจากแผนภูมิวงกลมหลัก และนามาแสดงในแผนภูมแิ ท่งแบบเรียงซอ้ นแทนวงกลมเล็ก วิธีการสร้างแผนภูมิแท่งจากวงกลม สามารถสร้างได้โดยเลือกชนิดแผนภูมิเป็น Bar of Pie ในข้ันตอนที่ 3) ของหัวข้อ 10.2.1 จากตัวอย่างในภาพที่ 10.16 เป็นการสร้างแผนภูมิแท่งจากวงกลม โดยตงั้ ค่าแบบเดียวกบั แผนภูมิวงกลมจากวงกลมตามภาพท่ี 10.15 ภาพท่ี 10.16 แผนภมู แิ ท่งจากวงกลม 10.2.6 ตารางข้อมูลของแผนภูมิวงกลม แผนภูมิวงกลมนั้นประกอบขึ้นมาจากข้อมูลเพียงชุดเดียว หรือใน Excel จะใช้คาว่า Data series ดังนั้นตารางที่จะเก็บขอ้ มลู เพ่ือใชส้ ร้างแผนภูมวิ งกลมจะมลี ักษณะท่ีมปี ้ายชื่อและคา่ ข้อมูลของป้าย ชอ่ื นน้ั ๆ ซึ่งสามารถอยู่ในลักษณะแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้ ดงั ภาพท่ี 10.17 ชดุ ขอ้ มูล 1 ภาพที่ 10.17 ตารางข้อมูลสาหรบั สร้างแผนภูมวิ งกลม จากภาพท่ี 10.17 แสดงให้เห็นตารางท้ังแบบแนวต้ังและแนวนอน ซึ่งท้ังสองแบบจะสร้าง แผนภูมิวงกลมได้แบบเดียวกัน “ยอดขาย(บาท)” ในท้ังสองตารางคือชุดข้อมูล 1 (Data series 1) โดยที่ แผนภูมิวงกลมจะหาผลรวมจากข้อมูลทงั้ หมดในชุดข้อมูลช่ือ “ยอดขาย(บาท)” แล้วนามาคานวณใหอ้ ยู่ ในรูปแบบร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์เพื่อใช้ในการสร้างแผนภูมิ โดยที่สัดส่วน 100% คือผลรวมของข้อมูล

224 บทที่ 10 การนาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศทางธรุ กจิ ท้งั หมด หรือวงกลมทงั้ หมด 360 องศา ถ้าขอ้ มลู มีขนาด 25% ขนาดของข้อมลู ช้นิ น้นั ในแผนภูมวิ งกลมจะ มีขนาด 90 องศาในวงกลม ในขณะเดยี วกัน “ประเภท” คือป้ายช่อื ข้อมูลซ่ึงจะแสดงกากับในข้อมลู แต่ละ ชน้ิ ในแผนภูมิ ดังแสดงในภาพที่ 10.18 ภาพท่ี 10.18 แผนภมู ิวงกลม ดงั นั้นจะเห็นได้ว่าถ้ามีข้อมูลหลายชดุ ดังเช่นภาพท่ี 10.19 แผนภมู วิ งกลมจะไม่สามารถแสดง ข้อมูลได้ในภาพเดียว ซงึ่ ตารางข้อมูลลักษณะนเี้ รียกว่าตาราง Crosstab ซ่ึงควรใชก้ ับแผนภูมิเสน้ แผนภูมิ แท่ง หรือแผนภมู ิคอลัมน์ ชุดข้อมูล 1 ชุดข้อมลู 2 ชุดข้อมูล 3 ภาพท่ี 10.19 ตัวอย่างตารางทมี่ ีข้อมลู หลายชดุ 10.2.7 ตาราง Crosstab ตาราง Crosstab เป็นตารางที่แสดงข้อมูลแบบสองมิติคือข้อมูลท่ีเกิดข้ึนจากประเภทใน แนวต้ังและประเภทในแนวนอน โดยตารางชนิดน้ีสามารถนาเสนอข้อมูลได้หลายรูปแบบ เช่น แผนภูมิ คอลมั น์ หรือ แผนภมู ิแท่ง นอกจากน้ีตาราง Crosstab ยังสามารถเลือกให้ข้อมูลในแนวต้ังหรือข้อมูลแนวนอนเป็นชุด ข้อมูลได้ทั้งสองแบบ จากภาพท่ี 10.20 ตาราง Crosstab มีป้ายช่ือในแนวนอนแต่ละแถวเป็นประเภท สินค้า และป้ายชื่อในแนวต้ังเป็นทวีป โดยข้อมูลอยู่ตรงกลาง เช่น ข้อมูลที่อยู่ตรงกับป้ายช่ือแนวนอนน้า ด่ืมและป้ายชื่อแนวตั้งยุโรปคือ ยอดขาย 21,000 หน่วย เป็นต้น ซึ่งในแผนภูมิคอลัมน์แสดงข้อมูล 4 กลุ่ม คือ น้าด่ืม น้าอัดลม ชาเขียว และน้าผลไม้ ของชุดข้อมูล 3 ชุด คือ ยุโรป เอเชีย และแผนภูมิแท่งแสดง ข้อมูล 3 กลุ่ม คือ ยุโรป เอเชีย และอเมริกา และชุดข้อมูล 4 ชุด คือ น้าดื่ม น้าอัดลม ชาเขียว และน้า ผลไม้

ดร.สาวติ รี บญุ มี ส่วนที่ 4 การนาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศด้วย Microsoft Excel 225 ภาพที่ 10.20 ตาราง Crosstab และวิธีการแสดงผลชุดข้อมลู ตามแนวตัง้ และตามแนวนอน

226 บทท่ี 10 การนาเสนอข้อมูลและสารสนเทศทางธุรกจิ ท้ังน้ีสามารถสร้างแผนภูมิทั้งสองแบบโดยไม่ต้องแก้ไขตารางข้อมูล โดยไปท่ี เมนูเครื่องมือ แผนภูมิ (Chart) แท็บออกแบบ (Design) แล้วเลือกเครื่องมือช่ือ “สลับแถว/คอลัมน์” (Switch Row/Column) 10.3 แผนภมู คิ อลัมน์ (Column Chart) แผนภูมิคอลัมน์ ใช้แสดงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลตลอดช่วงเวลาหนึ่ง หรือแสดงการเปรียบเทียบ ขอ้ มูลแตล่ ะกลุ่ม โดยแผนภมู ิคอลัมน์จะมแี ผนภมู ิย่อยชนดิ ต่าง ๆ ดงั ต่อไปน้ี ◦ แผนภูมิคอลัมนแ์ บบเป็นกลมุ่ ◦ แผนภูมิคอลัมนแ์ บบเรียงซอ้ น ◦ แผนภูมิคอลมั น์แบบเรยี งซอ้ น 100% ◦ แผนภูมิคอลมั น์ 3 มติ ิ 10.3.1 แผนภมู ิคอลมั นแ์ บบเป็นกลุ่ม (Clustered column chart) แผนภูมิคอลัมน์แบบเป็นกลุ่ม ใช้เปรียบเทียบค่าที่อยู่ในหมวดหมู่ต่าง ๆ โดยหมวดหมู่ต่าง ๆ จะถูกจดั เรยี งตามแกนนอน และค่าจะอยใู่ นแกนตง้ั ตามตัวอย่างในภาพท่ี 10.21 ภาพที่ 10.21 แผนภูมิคอลมั น์แบบเป็นกลุ่ม

ดร.สาวติ รี บญุ มี ส่วนท่ี 4 การนาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศดว้ ย Microsoft Excel 227 10.3.2 ตวั อย่างการสรา้ งแผนภมู ิคอลมั น์แบบกลุ่ม 1) สร้างตารางข้อมูลโดยมีลักษณะตามภาพที่ 10.21 ให้ป้ายช่ือข้อมูลอยู่คอลัมน์ทางซ้ายมือและหัว คอลัมน์ คา่ ขอ้ มูลท่ีเปน็ ตัวเลขอยู่ในแต่ละคอลมั น์ 2) เลือกขอ้ มูลทงั้ ปา้ ยชื่อและคา่ ข้อมูล 3) ไปทเี่ มนู Insert ในกลมุ่ เครือ่ งมือ Charts เลือก แผนภูมิชนิด Column ตามภาพท่ี 10.22 ภาพท่ี 10.22 เครอื่ งมือสรา้ งแผนภูมิคอลมั น์ 10.3.3 แผนภมู คิ อลมั นแ์ บบเรยี งซ้อน (Stacked column chart) แผนภูมิคอลัมน์แบบเรียงซ้อน เป็นแผนภูมิท่ีแสดงความสัมพันธ์ของรายการหน่ึงกับทุก รายการ พรอ้ มเปรยี บเทยี บการกระจายค่าแต่ละคา่ ไปยังหมวดหมตู่ ่าง ๆ ทงั้ หมด จากภาพที่ 10.23 จะเห็นได้ว่าแท่งท่ีอยู่ล่างสุด หรือ ข้อมูลยอดขายของยุโรปน้ันจะแสดงค่า ของตามจรงิ ตรงกบั ในตาราง แต่แท่งท่อี ย่ตู รงกลาง หรือแทง่ ของยอดขายเอเชียน้ันจะแสดงไม่ตรงตามจริง แต่แสดงเป็นผลรวมของยอดขายของยุโรปและเอเชีย ดังน้ันเส้นบนสุดค่าที่แสดงคือผลรวมของยอดขาย ยโุ รป เอเชยี และ อเมริกา วิธีการสร้างแผนภูมิคอลัมน์แบบเรียงซ้อนสามารถสร้างได้โดยเลือกชนิดแผนภูมิเป็นแผนภูมิ คอลมั น์แบบเรยี งซ้อน หรือ Stacked column chart ในข้ันตอนท่ี 3) ของหวั ข้อ 10.3.2 ภาพท่ี 10.23 แผนภมู แิ ทง่ แบบเรยี งซอ้ น

228 บทที่ 10 การนาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศทางธุรกจิ 10.3.4 แผนภมู ิคอลัมน์แบบเรียงซ้อน 100% (100% Stacked column chart) แผนภูมิคอลัมน์แบบเรียงซ้อน 100% เป็นแผนภูมิที่ใช้เปรียบเทียบค่าแต่ละค่าเป็นร้อยละ หรือสัดส่วนไปยังผลรวมของขัอมูลทุกชุดข้อมูลทั้งหมดที่มี โดยการนาเสนอมีลักษณะนาเอาข้อมูลแต่ละ ชุดมาเรียงซ้อนกันเช่นเดียวกับแผนภูมิคอลัมน์แบบเรียงซ้อน เพียงแต่ทุกแท่งจะมีผลรวมและความสูง เท่ากันคือ 100% และขนาดความสูงของแท่งแต่ละชุดข้อมูลคือสัดส่วนของแท่งนั้นใน 100% ดังภาพท่ี 10.24 หรืออีกนยั หน่ึง แผนภูมิชนิดนใ้ี ช้แทนแผนภูมวิ งกลมไดเ้ ม่ือมีข้อมูลให้เปรียบเทยี บสัดสว่ นมากกว่า หนึง่ ชดุ วิธีการสร้างแผนภูมิคอลัมน์แบบเรียงซอ้ น 100% สามารถสร้างได้โดยเลือกชนิดแผนภมู ิเปน็ แผนภูมิคอลัมน์แบบเรียงซ้อน 100% หรือ 100% Stacked column chart ในขั้นตอนที่ 3) ของหัวข้อ 10.3.2 ภาพท่ี 10.24 แผนภมู ิคอลัมน์แบบเรยี งซอ้ น 100% 10.3.5 แผนภมู คิ อลมั น์ 3 มติ ิ แผนภูมิคอลมั น์ 3 มติ ิ มลี ักษณะการนาเสนอต่างออกไปในส่วนของแกนนอนท่ีมีเพิ่มความลึก มาอกี มิติกนึง่ และเมอ่ื มีข้อมลู ที่มากกว่า 1 ชดุ ขอ้ มลู จากเดิมทีแ่ ผนภมู คิ อลัมนโ์ ดยทัว่ ไปจะแสดงชุดข้อมูล ประเภทเดียวกันไว้ข้างกัน จะเปลี่ยนเป็นแสดงคนละแนวแทน ดังภาพท่ี 10.25 ข้อดีของแผนภูมิแบบ 3 มิตินี้คือมีความสวยงามน่าสนใจข้ึน แต่การทาความเข้าใจแผนภูมิจะยากข้ึนเน่ืองจาก ถ้าค่าของข้อมูลใน แถวหน้ามากกว่าแถวหลัง อาจจะทาให้บังและเห็นแท่งของข้อมูลไม่ชัดเจน และมุมมองแบบทัศนมิติของ แผนภูมิแบบ 3 มิติ จะทาให้เปรียบเทียบความสูงของแท่งกราฟคลาดเคล่ือนได้ จึงควรระมัดระวังในการ นาไปใช้

ดร.สาวติ รี บญุ มี ส่วนที่ 4 การนาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศด้วย Microsoft Excel 229 ภาพท่ี 10.25 แผนภูมิคอลมั น์ 3 มิติ 10.3.6 ตารางข้อมูลของแผนภูมคิ อลมั น์ ตารางข้อมูลของแผนภูมิคอลัมน์นั้น อาจจะเป็นได้ทั้งในรูปแบบเดียวกันกับตารางข้อมูลของ แผนภูมิวงกลมท่ีมีชุดข้อมูลเพียงชุดเดียว โดยประกอบด้วยป้ายชื่อประเภทอยู่ในคอลัมน์แรก และค่าของ ชุดข้อมูลอยู่ในคอลัมน์ติดกันดังภาพท่ี 10.26 หรืออาจจะใช้ตารางข้อมูลในรูปแบบตาราง Crosstab ถ้ามี ชดุ ข้อมลู หลายชดุ ดังตวั อยา่ งในภาพท่ี 10.27 ภาพที่ 10.26 เปรยี บเทยี บแผนภูมิวงกลมและแผนภมู ิคอลัมน์ท่ีสร้างจากตารางเดยี วกัน

230 บทท่ี 10 การนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศทางธรุ กจิ ภาพที่ 10.27 เปรยี บเทียบแผนภูมิแท่งจากตาราง Crosstab และตารางที่มีขอ้ มูฃชุดเดยี ว 10.4 แผนภูมิแทง่ (Bar Chart) แผนภมู ิแท่งใช้เปรียบเทยี บคา่ ต่าง ๆ ในหลาย ๆ ค่า หรือแสดงการเปรียบเทียบข้อมูลแตล่ ะประเภท มลี กั ษณะคลา้ ยกบั แผนภูมคิ อลมั น์แตแ่ สดงข้อมูลในแนวนอน แผนภมู ิแท่งมีแผนภมู ิยอ่ ยในชนดิ ตา่ ง ๆ ดงั ตอ่ ไปนี้ ◦ แผนภมู ิแทง่ แบบเป็นกลมุ่ ◦ แผนภมู แิ ทง่ แบบเรียงซอ้ น ◦ แผนภูมิแท่งแบบเรียงซ้อน 100 % 10.4.1 แผนภมู ิแท่งแบบเปน็ กลุ่ม (Clustered bar chart) แผนภูมิแท่งแบบเป็นกลุ่ม ใช้เปรียบเทียบค่าในข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ในหมวดหมู่ต่าง ๆ โดย หมวดหมู่ต่าง ๆ จะถูกจัดเรียงตามแกนตั้ง และค่าจะอยู่ในแกนนอน ตามตัวอย่างในภาพที่ 10.28 เพ่ือ เนน้ หนักทีก่ ารเปรยี บเทยี บคา่ ในแตล่ ะประเภท

ดร.สาวติ รี บญุ มี สว่ นที่ 4 การนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศดว้ ย Microsoft Excel 231 ภาพท่ี 10.28 แผนภมู ิแทง่ แบบเปน็ กลมุ่ 10.4.2 ตวั อย่างการสรา้ งแผนภมู แิ ท่งแบบกลุ่ม 1) ใชต้ ารางข้อมลู เดมิ ท่ีใชใ้ นการสร้างแผนภมู คิ อลัมน์ เลอื กข้อมูลทัง้ ปา้ ยชื่อและค่าข้อมูลดว้ ยวิธีการ เดียวกันกบั สร้างแผนภมู คิ อลมั น์ 2) ไปที่เมนู Insert ในกลมุ่ เคร่ืองมือ Charts เลอื ก แผนภมู ชิ นดิ Bar ตามภาพท่ี 10.29 ภาพที่ 10.29 เครือ่ งมือสรา้ งแผนภมู ิแท่ง 10.4.3 แผนภูมแิ ทง่ แบบเรยี งซ้อน (Stacked bar chart) แผนภูมิแท่งแบบเรียงซ้อน เป็นแผนภูมิท่ีแสดงความสัมพันธ์ของรายการหน่ึงกับทุกรายการ พร้อมเปรยี บเทียบการกระจายคา่ แต่ละค่าไปยังหมวดหมูต่ ่าง ๆ ทง้ั หมด เชน่ เดียวกบั แผนภมู ิคอลัมน์แบบ เรยี งซอ้ น แตน่ าเสนอในลักษณะแนวนอน ดงั ภาพท่ี 10.30

232 บทที่ 10 การนาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศทางธุรกจิ ภาพที่ 10.30 แผนภมู แิ ทง่ แบบเรียงซอ้ น 10.4.4 แผนภูมิแท่งแบบเรียงซ้อน 100 % (100% Stacked bar chart) แผนภูมิแท่งแบบเรียงซ้อน 100% เป็นแผนภูมิที่ใช้เปรียบเทียบค่าแต่ละค่าเป็นร้อยละหรือ สัดส่วนไปยังผลรวมของขัอมูลทุกชุดข้อมูลท้ังหมดที่มี โดยการนาเสนอมีลักษณะนาเอาข้อมูลแต่ละชุดมา เรียงซ้อนกันเช่นเดียวกับแผนภูมิแท่งแบบเรียงซ้อน เพียงแต่ทุกแท่งจะมีผลรวมและความยาวเท่ากันคือ 100% และขนาดความยาวของแท่งแตล่ ะชุดขอ้ มูลคือสดั ส่วนของแทง่ นั้นใน 100% ดงั ภาพที่ 10.31 ภาพท่ี 10.31 แผนภมู แิ ท่งแบบเรยี งซ้อน 100 %

ดร.สาวติ รี บญุ มี สว่ นท่ี 4 การนาเสนอข้อมลู และสารสนเทศด้วย Microsoft Excel 233 10.4.5 ตารางข้อมูลของแผนภูมแิ ท่ง แผนภูมิแท่งใช้ตารางข้อมูลในการสร้างแผนภูมิแบบเดียวกับแผนภูมิคอลัมน์ คือ ตาราง Crosstab ภาพท่ี 10.32 แสดงการเปรียบเทียบแผนภูมิแท่งแลแผนภูมิคอลัมน์ท่ีสร้างจากตารางข้อมูล เดียวกัน ซ่ึงจะเห็นได้ว่า Excel จะใช้ชื่อประเภทเหมือนกัน และชุดข้อมูลแบบเดียวกัน แตกต่างกันเพียง นาเสนอตามแนวตงั้ หรอื แนวนอนเท่านน้ั ภาพท่ี 10.32 เปรียบเทยี บแผนภูมิแท่งและแผนภูมคิ อลัมน์ทส่ี รา้ งจากตารางเดียวกัน 10.5 แผนภมู กิ ระจาย (Scatter chart) แผนภูมิกระจาย (Scatter) แสดงความสัมพันธ์ของค่าที่เป็นตัวเลขที่อยู่ในชุดข้อมูลหนึ่งชุด หรือการ รวมตัวเลข 2 กลุ่มเป็นขอ้ มูล xy ทีส่ มั พนั ธก์ นั หน่ึงชดุ แผนภูมิกระจายมักจะใช้ในการแสดงค่าความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปร โดยค่า x เป็นตัวแปรต้น และคา่ y เป็นตัวแปรตาม เชน่ แผนภมู ิแสดงความออ่ นไหวของการเปลี่ยนยอดขายทม่ี ีตอ่ กาไร โดยท่ีแกน นอนคอื คา่ x และแกนตง้ั คือค่า y จาก ภาพที่ 10.33 แผนภูมิกระจายจะใช้ค่าในทั้งสองคอลัมน์เพื่อจุดค่าร่วมกันในแกนตั้งและแกน นอน ทาให้มีกราฟเพียงเส้นเดียวในแผนภมู ิ ซึ่งมีความแตกต่างจากแผนภูมิอ่ืน ๆ โดยเฉพาะแผนภมู ิเสน้ ท่ี มีวิธีการนาเสนอใกลเ้ คียงกัน ตรงท่ีแผนภูมิเสน้ จะใช้ค่าในตารางในการจุดค่าในแกนตัง้ เพียงแกนเดียว ทา ใหม้ กี ราฟสองเสน้ ในแผนภมู ิ ดงั ตวั อย่างในภาพที่ 10.34

234 บทท่ี 10 การนาเสนอข้อมูลและสารสนเทศทางธุรกจิ ภาพที่ 10.33 แผนภูมิกระจาย ภาพท่ี 10.34 เปรียบเทียบแผนภูมิกระจายและแผนภูมเิ สน้ 10.5.1 ตัวอยา่ งการสร้างแผนภมู กิ ระจาย 1) สร้างตารางข้อมูลโดยมีลักษณะตามภาพที่ 10.33 ให้ป้ายชื่อข้อมูลอยู่แถวแรกของคอลัมน์ ค่า ขอ้ มลู ที่เปน็ ตัวเลขอยู่ในแต่ละคอลัมน์ 2) เลือกข้อมลู ทงั้ ตาราง ทั้งปา้ ยช่อื และคา่ ข้อมลู 3) ไปทเี่ มนู Insert ในกลุม่ เคร่ืองมอื Charts เลอื ก แผนภูมิชนดิ Scatter ตามภาพท่ี 10.35


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook