Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การวางโครงการ

การวางโครงการ

Published by lawanwijarn4, 2022-01-03 05:28:32

Description: การวางโครงการ

Search

Read the Text Version

191 (ต่อ)การศกึ ษา องค์ความรู้ทางการศึกษา การนาไปใชใ้ นการวางโครงการ ทาให้ตระหนกั รู้ (aware)วา่ ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้(ตาราง ใช้เป็นหลักในการทดสอบประสิทธิภาพด้วย L.E.) ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ เป็น วิธีการวิจัยเรียกว่า การวิจัยและพัฒนาทาง innovation เ ก่ี ย ว กั บ แ ผ น ก า ร ส อ น ซึ่ ง การศึกษา (R&D ทางการศึกษา) ตัวอย่างเช่น สามารถนาไปทดสอบประสิทธิภาพ ด้วย ผลการทดสอบประสิทธิภาพ L.E. เรื่อง การ วิธีการวิจัยเรียกว่าการวิจัยและพัฒนาทาง ตรวจ DO เพื่อการเฝ้าระวังคุณภาพน้า โดยใช้ การศึกษา (R&D ทางการศึกษา) DO test kit โดยใช้แบบทดลองแบบกลุ่มเดียว มีการทดสอบคร้ังเดียว ( one shot case study: OSC ) พ บ ว่ า L.E.นี้ ท า ใ ห้ ก า ร วางโครงการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมศึกษาชุมชน บรรลุตามวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมของ L.E. และบรรลุตามวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ

192 ส่งเสรมิ การเกษตร องคค์ วามรู้ทางส่งเสริมการเกษตร การนาไปใชใ้ นการวางโครงการ ทาให้ตระหนักรู้ (aware) ว่า การวางโครงการด้านส่งเสริมนั้น มี ใช้เป็นหลักในการวินิจฉัยปัญหาส่ิงแวดล้อมและ ลักษณะเป็นกระบวนการ ประกอบด้วย แนวทางการแก้ไขปัญหาสิง่ แวดล้อมรว่ มกับชมุ ชน ข้ันตอนแรกสุด คือ การวินิจฉัยปัญหา (ในขน้ั ตอน What to teach) ร่วมกบั ชุมชน งานส่งเสริมน้ัน เป็นการถ่ายทอดความรู้ท่ี ใช้เป็นหลักในการถ่ายทอดความรู้ท่ีได้ จากการ ได้ จากการค้นคว้าของแหล่งความรู้ตา่ ง ๆ ค้นคว้าของแหล่งความรู้ต่างๆไปสู่กลุ่มเป้าหมาย ไปสกู่ ลุม่ เป้าหมายเพือ่ การแก้ปญั หา ขณะ (ในขนั้ ตอน What to teach) เพื่อการปอ้ งกนั และ เดียวกันก็นาเอาปัญหาต่างๆ กลับมา แก้ปัญหาส่ิงแวดล้อมของชุมชน ขณะเดียวกันก็ วิเคราะหห์ นทางแกไ้ ข นาเอาปัญหาต่าง ๆ กลับมาวเิ คราะห์หนทางแก้ไข และค้นหาเน้ือหาความรู้การป้องกันและแก้ไข ปัญหาส่ิงแวดล้อมของชุมชนต่อไป ตัวอย่างเช่น ผลจากการการถ่ายทอดความรู้ท่ีได้จากโครงการ ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมศึกษาชุมชน:ชุมชนบ้านคลอง รังสิต เร่ือง การเฝ้าระวังคุณภาพน้าคลองรังสิตฯ ช่วงไหลผ่านบ้านคลองรังสิต พบวา่ ชมุ ชนวัดรังสิต ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับชุมชนบ้านคลองรังสิต ประสบปัญหาด้านการจัดการขยะ ผู้วางโครงการ จึงได้นาปัญหาดังกล่าวกลับมาวิเคราะห์หนทาง แก้ไข จนเกิดเป็นโครงการส่งเสริมส่ิงแวดล้อม ศึกษาชุมชน: ชุมชนวัดรังสิต เรื่อง การลดพ้ืนที่ จดั เกบ็ ขยะขวดพลาสตกิ ของชมุ ชน ในเวลาต่อมา ใ น ก า ร ถ่ า ย ท อ ด ค ว า ม รู้ นั้ น มี ใช้เป็นหลักในการเลือกใช้ สื่อช่วยสอน ให้ โสตทัศนูปกรณ์ ช่วยในการถ่ายทอดอยู่ เหมาะสมกับเนื้อหาความรู้และลักษณะของ หลากหลาย ซึ่งต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม กลุ่มเป้าหมาย ในตารางL.E.ของแต่ละโครงการ กั บ เ นื้ อ ห า ค ว า มรู้ แ ละ ลัก ษ ณ ะ ของ (ในขั้นตอน How to teach) กลมุ่ เปา้ หมาย

193 (ตอ่ )สง่ เสริมการเกษตร องคค์ วามรู้ทางส่งเสริมการเกษตร การนาไปใชใ้ นการวางโครงการ ทาให้ตระหนักรู้ (aware)วา่ งานส่งเสริมเป็นการใหก้ ารศึกษาแบบไมเ่ ปน็ ใชเ้ ปน็ หลักในการจดั ประสบการณเ์ พื่อการ ทางการ นอกห้องเรียนหรือในช้ันเรียนก็ได้ เรียนรู้ (ในขั้นตอน How to teach) และใช้ โดยใชว้ ธิ ีการสง่ เสรมิ เป็นรายบคุ คล เป็นกลุม่ วิธกี ารส่งเสรมิ กาหนดกลุ่มเป้าหมาย เช่น การ หรือเป็นมวลชน วางโครงการส่งเสริมสงิ่ แวดล้อมศึกษาชุมชน: ชมุ ชนวัดรังสติ เรือ่ ง การลดพื้นทจ่ี ัดเก็บขยะ ขวดพลาสติกของชุมชนเป็นโครงการท่ีจดั ขน้ึ กบั กล่มุ เยาวชนของชุมชนวัดรงั สิตจานวน 14 คน ซงึ่ เป็นรูปแบบการส่งเสริมการศึกษานอกระบบ การศึกษา และแบบเป็นกลุ่ม ส่วนการวางโครงการส่งเสริมส่ิงแวดล้อมศึกษา ชุมชน: ชมุ ชนโรงเรียนวดั ถั่วทอง เปน็ โครงการท่ี จดั ขึ้นกับนกั เรยี นโรงเรยี นวัดถวั่ ทองจานวน 16 คนซึ่งเป็นรปู แบบการสง่ เสริมการศกึ ษาใน ระบบการศึกษา และแบบเป็นกลมุ่ โดยท่วั ไปแล้ว ความร้ทู ถ่ี ่ายทอดนน้ั ถือได้ว่า ใช้เปน็ หลักในการเรียบเรียงเนือ้ หาความร้(ู ซึ่งถือ เป็น innovation สาหรับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่ง ว่าเป็น innovation ) ในขั้นตอน How to กลุ่มเป้าหมายจะยอมรับนาไปปฏิบัติตาม teach ให้ตรงตามคุณสมบัติของนวัตกรรมท่ีมี หรือไม่นั้นให้ใช้ adoption process เป็น ผลต่อการยอมรับ เช่น ไม่มีความยุ่งยาก หลักในการพิจารณา โดยร่วมกับการ สลับซับซ้อน ดังตัวอย่างการวางโครงการ พิจารณาถึงคุณสมบัติของ innovation ที่มี ส่งเสริมสง่ิ แวดลอ้ มศึกษาชุมชน: ชมุ ชนโรงเรียน ผลตอ่ การยอมรับดว้ ย วัดดาวเรือง เรื่อง การตรวจวดั ออกซิเจนละลาย นา้ โดยใช้ DO test kit งานสง่ เสริมจะสมบูรณ์เม่ือกล่มุ เป้าหมาย นา ใช้เปน็ หลกั ในการประเมินประสทิ ธิภาพของการ ความรูน้ น้ั ไปปฏิบตั ติ ามแล้วได้ผล วางโครงการ (ในขนั้ ตอน How to accomplish) ว่าบรรลุตามวัตถุประสงค์ของ โครงการหรือไม่

194 การวิจัย องค์ความรู้ทางการวจิ ัย การนาไปใชใ้ นการวางโครงการ ทาให้ตระหนกั รู้ (aware)วา่ ขอ้ มูล ก็คือ facts น้นั มี 2 ลกั ษณะ คือ ข้อมลู ใช้ข้อมูลปฐมภูมซิ ่ึงเป็นข้อมลู จากต้นตอ ใน ปฐมภูมิและข้อมูลทตุ ิยภูมิ ขอ้ มูลปฐมภูมเิ ป็น การวินจิ ฉยั สภาวการณ์ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม ขอ้ มูลจากตน้ ตอ จงึ เปน็ หลักฐานได้ดีกว่าข้อมลู ชมุ ชน (ในขั้นตอน What to teach) ทุตยิ ภูมิ นอกจากน้ีข้อมูลยังถูกจาแนกเป็น ขอ้ มลู เชงิ ปริมาณซงึ่ อยู่ในลักษณะตวั เลขกบั ขอ้ มูลเชงิ คุณภาพซ่ึงอยู่ในลกั ษณะของ คณุ ลักษณะไมส่ ามารถวดั ออกมาเปน็ ตวั เลข โดยตรง วิธกี ารเกบ็ ขอ้ มูลเชงิ คุณภาพท่ีสาคัญ คือ การ ใช้การสัมภาษณร์ ่วมกบั การสังเกต เกบ็ สัมภาษณแ์ ละการสงั เกต ซึ่งอาจต้องใชร้ ่วมกนั รวบรวมขอ้ มูลการวนิ ิจฉยั สภาวการณ์ปญั หา เพอื่ ใหไ้ ด้ขอ้ มูลท่สี มบรู ณ์ สิง่ แวดลอ้ มชุมชน(ในข้นั ตอน What to teach) เพือ่ ให้ไดข้ ้อมูลทส่ี มบูรณ์ การสัมภาษณ์แบ่งออกเปน็ 3 แบบ คอื แบบมี ใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง เกบ็ โครงสรา้ ง แบบไม่มโี ครงสรา้ ง และแบบกึ่ง รวบรวมข้อมูลการวินิจฉัยสภาวการณป์ ัญหา โครงสรา้ ง ส่งิ แวดล้อมชมุ ชน(ในขน้ั ตอน What to teach) การสัมภาษณ์เชิงลึก เป็นแบบหนึ่งของเทคนิค ใช้การสมั ภาษณ์เชงิ ลกึ เกบ็ รวบรวมข้อมูล การสัมภาษณ์เชิงคุณภาพ ที่ต้องการให้ได้ข้อมูล การวนิ จิ ฉัยสภาวการณป์ ญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม อย่างละเอียดถี่ถ้วน ซ่ึงผู้สัมภาษณ์มีจุดสนใจอยู่ ชมุ ชน (ในข้ันตอน What to teach ) แลว้ เทคนคิ การสมั ภาษณ์ คอื ในการสมั ภาษณ์นน้ั ผู้ ใช้เทคนคิ การสมั ภาษณ์ เป็นหลกั ในเกบ็ สัมภาษณ์ควรปฏิบัติอย่างไร การเลือกผู้ให้ รวบรวมข้อมูลการวนิ ิจฉัยสภาวการณป์ ัญหา สัมภาษณ์ต้องให้ตรงกับเรื่องท่ีศึกษา สิ่งท่ีผู้ ส่งิ แวดล้อมชมุ ชนและแนวทางการปอ้ งกนั สัมภาษณ์ต้องกระทาเพื่อทาให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ และแก้ไขปัญหา(ในขั้นตอน What to กระตือรอื รน้ ทจ่ี ะเล่าเรอ่ื งราว teach)

195 (ตอ่ )การวิจัย องคค์ วามรู้ทางการวจิ ัย การนาไปใช้ในการวางโครงการ ทาใหต้ ระหนกั รู้ (aware)วา่ การสังเกต ควรใชค้ วบค่ไู ปกบั การสัมภาษณ์ ใชก้ ารสังเกต เก็บรวบรวมขอ้ มลู การวนิ จิ ฉยั โดยตรง การสงั เกตมีทงั้ การสงั เกตทางตรง สภาวการณป์ ัญหาส่ิงแวดล้อมชมุ ชนและแนว และการสังเกตทางอ้อม การสังเกตทางตรง ทางการป้องกันและแก้ไขปญั หา(ในขน้ั ตอน แบ่งยอ่ ยออกเป็น 2 แบบ คือ แบบมีสว่ น What to teach)โดยใชท้ ั้งการสังเกตแบบมี รว่ มกับแบบไม่มีส่วนร่วม นอกจากนี้ยัง ส่วนร่วมกับแบบไม่มีสว่ นร่วม และรวมถึงการ จาแนกออกเป็นการสังเกตแบบมเี คา้ โครง สังเกตแบบมีเคา้ โครงกาหนดไว้ล่วงหน้า กับ กาหนดไว้ลว่ งหน้า กบั แบบไม่มีเคา้ โครง แบบไม่มีเค้าโครงกาหนดไว้ล่วงหน้า กาหนดไว้ลว่ งหน้า ในการสังเกตนัน้ จะต้องทราบถงึ ส่ิงทต่ี ้อง ใช้ส่ิงท่ีตอ้ งสังเกต 5 ประการ เป็นหลักใน สงั เกตซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 5 ประการ ไดแ้ ก่ การสงั เกต เพอื่ เกบ็ รวบรวมข้อมูลการวินจิ ฉยั สถานท่/ี ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพ ผู้มสี ่วนรว่ ม สภาวการณป์ ญั หาสงิ่ แวดลอ้ มชุมชนและแนว ต้องมีคณุ สมบตั ิตามเกณฑ์ทกี่ าหนด แบบ ทางการป้องกันและแก้ไขปญั หา(ในข้ันตอน แผนการกระทาและปฏิสัมพนั ธข์ องคนใน What to teach) ชมุ ชน การสนทนาท่เี หมาะสม ปจั จัยแฝงเรน้ และพฤตกิ รรมของผ้เู กบ็ ขอ้ มูล การอภิปรายกล่มุ แบบเจาะจง เป็นการสนทนา ใช้การอภิปรายกลุ่มแบบเจาะจง เก็บรวบรวม ซ่ึงสมาชิกกลุ่มมี interaction โต้ตอบกันใน ข้อมูลการวินจิ ฉัยสภาวการณ์ปัญหา เร่ืองท่ีเป็นประเด็นที่ต้องการข้อมูล โดยมี ส่งิ แวดลอ้ มชมุ ชนและแนวทางการป้องกนั moderator เป็นผดู้ าเนนิ การอภปิ ราย และแก้ไขปัญหา(ในขัน้ ตอน What to teach) โดยผู้วางโครงการ เปน็ ผดู้ าเนินการ อภปิ ราย เทคนิคเดลฟายเป็นวิธีการเก็บข้อมูลโดยอาศัย ใชเ้ ทคนคิ เดลฟาย เกบ็ ขอ้ มูลโดยอาศยั ความ ความคิดเหน็ ของผู้เช่ยี วชาญ / ผู้ทรงคุณวุฒติ ่อ คดิ เหน็ ของผู้เชย่ี วชาญ/ผู้ทรง ป ร ะ เ ด็ น ที่ ต้ อ ง ก า ร ข้ อ มู ล ด้ ว ย ก า ร ใ ช้ คุณวฒุ ิ ต่อรูปแบบการวางโครงการสง่ เสริม แบบสอบถามความคิดเหน็ 2-3 รอบ เพอ่ื สร้าง ส่ิงแวดล้อมศึกษาชุมชนน้ดี ว้ ย ความสอดคล้องของความคดิ เหน็

196 (ตอ่ )การวิจยั องค์ความรู้ทางการวิจัย การนาไปใชใ้ นการวางโครงการ ทาใหต้ ระหนกั รู้ (aware)ว่า R&D ทางการศึกษา เป็นการวิจัยรูปแบบหน่ึง ใช้ R&D ทางการศกึ ษา ทาการทดสอบ ท่ีมุ่งพัฒนา innovation ในเรื่องใดเรื่องหน่ึง ประสิทธภิ าพของ L.E. ในขนั้ ตอน How to และต้องนา innovation ไปทดลองใช้และ accomplish ซ่งึ ถือเป็นการทดสอบ ทดสอบว่ามีประสิทธิภาพ จนนาไปสู่การใช้ ประสทิ ธิภาพของการวางโครงการสง่ เสรมิ ประโยชน์จริง มีการทา R&D ทางการศึกษา ส่งิ แวดล้อมศึกษาชุมชนน้ดี ว้ ย เช่น R&D ด้านหลักสูตร ด้านสื่อการสอน ด้านวิธกี ารสอน เป็นต้น สาหรับการทดลองเพื่อหาประสิทธิภาพนั้น ใชก้ ารทดสอบประสทิ ธิภาพ L.E.โดยใชแ้ บบ จาเป็นต้องใช้แบบการทดลอง แบบการ ทดลองแบบกลมุ่ เดียวมีการทดสอบคร้ัง ทดลองที่เหมาะสม คือ แบบกลุ่มเดียวมีการ เดยี ว(one shot case study: OSC) และ ทดสอบคร้ังเดียว และแบบกลุ่มเดียวแต่มีการ ใช้สถติ ิ  2 เพอื่ จะสรปุ ว่า innovation น้นั ทดสอบก่อนและหลัง นอกจากน้ียังต้องใช้ มีประสิทธิภาพหรือไม่ ในการวางโครงการ วิชาการทางสถิติเพ่ือจะสรุปว่า innovation สง่ เสริมสงิ่ แวดลอ้ มศึกษาชุมชน นัน้ มปี ระสิทธิภาพหรอื ไม่

197 สังคมวทิ ยาชนบท องค์ความรู้ทางสงั คมวิทยาชนบท การนาไปใชใ้ นการวางโครงการ ทาให้ตระหนักรู้ (aware)ว่า ความหมายของชุมชนทีเ่ หมาะสม ได้แก่ ใช้ความหมายของ“ชมุ ชน”ท่ใี ห้ไวโ้ ดย ศ. ความหมายท่ีใหไ้ วโ้ ดย ศ.ทานอง สงิ คาลวณิช ทานอง สิงคาลวณิช เป็นหลกั ในการกาหนด (ดรู ายละเอียดในส่วนท่ี 3) ขอบเขตของชมุ ชนท่วี างโครงการสง่ เสริม ส่ิงแวดลอ้ มศึกษาชุมชนในคร้ังนี้ ประเภทของชุมชน มี 3 ประเภท ไดแ้ ก่ ชมุ ชน ใชป้ ระเภทชุมชน: ชมุ ชนตามแนวแม่น้า ลา ชนบท ชมุ ชนเมอื ง และชมุ ชนชานเมอื ง และ คลองเป็นหลักในการกาหนดขอบเขตชุมชน ลักษณะทต่ี ัง้ แบ่งตามรปู แบบได้ 3 แบบ ในการวางโครงการสง่ เสรมิ สง่ิ แวดลอ้ ม 1) รวมกันเป็นกระจุกหรือเป็นกล่มุ 2) อย่เู รยี ง ศึกษาชมุ ชนในครั้งนี้ รายเปน็ แนวยาว เชน่ ตามแนวแมน่ า้ ลาคลอง 3) อยกู่ ระจดั กระจาย วฒั นธรรม ซง่ึ หมายถงึ วถิ ชี วี ิตของคนในสงั คม ใช้คติธรรม (รูจ้ ักรบั ผิดชอบ) เป็นหลกั ใน ใดสังคมหน่ึงนั้น จาแนกออกเป็น 4 สาขา การสร้างมนุษยสัมพนั ธก์ ับชุมชน โดย ไดแ้ ก่ รบั ผดิ ชอบทาโครงการรว่ มกับชมุ ชนจน คติธรรม เป็นหลกั ในการดาเนินชวี ติ เช่น ประสบความสาเร็จ เช่น โครงการเฝา้ ระวัง ขยันหมน่ั เพยี ร กตญั ญูกตเวที ซอื่ สัตยส์ จุ ริต คณุ ภาพคลองเชื่อมต่อแมน่ ้าเจ้าพระยา โดย รจู้ ักรบั ผดิ ชอบ เอ้ือเฟื้อเผ่อื แผ่ เปน็ ตน้ ยวุ ชนจติ อาสา โครงการเตรียมรบั มอื ภัย พบิ ตั ิ(นา้ ทว่ ม) เปน็ ต้น

198 (ตอ่ )สงั คมวิทยาชนบท องค์ความรู้ทางสังคมวิทยาชนบท การนาไปใชใ้ นการวางโครงการ ทาใหต้ ระหนกั รู้ (aware)ว่า เนตธิ รรม เป็นเรอื่ งของกฏหมาย รวมท้ัง ใชเ้ นติธรรม (ประเพณี) เป็นหลกั ในการสร้าง ระเบยี บ ประเพณี อันเปน็ การประกันสวสั ดิ มนษุ ยสัมพันธ์กับชมุ ชน โดยรว่ มกจิ กรรมการ ภาพของคนในสงั คม ทาบุญกลางบ้าน การทาบุญบรรพบรุ ษุ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ทาบุญวันสงกรานต์ รว่ ม กจิ กรรมมอญถวายบวั และรว่ มงานศพ เป็นต้น สหธรรม เป็นเรื่องราวทางสงั คมเกยี่ วกบั ใช้สหธรรม(มารยาทในการติดตอ่ กับชมุ ชน) เปน็ คณุ ธรรมท่ีทาใหค้ นอยูร่ ่วมกนั อย่างเปน็ สขุ หลักในการสรา้ งมนุษยสมั พันธ์กบั ชุมชน เชน่ เปน็ มารยาทในการติดต่อกบั บคุ คลอนื่ เช่น การมมี ารยาทในการฟังธรรม เชน่ นั่งสารวมไม่ มารยาทในการเป็นแขก มารยาทในการไป พูดคุยเสยี งดัง กรณีนงั่ บนเก้าอ้ิ ตอ้ งสารวม งานมงคลและงานศพ เปน็ ตน้ กรณนี ่ังบนพ้ืน ต้องนั่งพับเพยี บ การนงั่ ฟังธรรม ไมน่ ่ังปะปนกับเพศตรงข้าม การเคารพพระภิกษุ ตอ้ งน่ังไหว้กับพนื้ สว่ นมารยาทในการตดิ ต่อกบั คนในชมุ ชน ต้องไมแ่ สดงตนวา่ อวดดี อวดรู้ วัตถธุ รรม เป็นเรอ่ื งเกี่ยวกบั ทางวตั ถุ ใชว้ ตั ถธุ รรม (แตง่ กายเรียบร้อย) เปน็ หลกั ใน เชน่ เคร่ืองนงุ่ ห่ม การแต่งกายให้เรียบร้อย การสร้างมนษุ ยสัมพนั ธ์กบั ชุมชน เช่น แตง่ กาย การจดั บ้านเรือน รจู้ ักรักษาสาธารณสมบตั ิ ให้เรยี บรอ้ ยตามกาลเทศะ เช่น การต่างกายใน รจู้ ักสรา้ งเครอื่ งมือเคร่ืองใช้ รูจ้ ักรกั ษาความ งานศพ งานแต่ง เป็นตน้ สะอาด ประเพณีเป็นวฒั นธรรมประเภทเนติธรรม ใชป้ ระเพณี เป็นหลกั ในการสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ เป็นความประพฤติท่ีคนสว่ นใหญย่ อมรับ กบั ชมุ ชนดว้ ยการรว่ มงานบุญตามประเพณีกับ และปฏบิ ตั ิสืบทอดกันมา สังคมไทยมงี าน ชุมชน เชน่ รว่ มประเพณรี ดน้าผอู้ าวุโสของ ประเพณีต่างๆท่ีนิยมทากันในปจั จบุ นั เช่น ชุมชน รว่ มประเพณเี วียนเทยี น รว่ มประเพณี งานสงกรานต์ งานบวช งานทอดกฐิน ผ้าป่า ตักบาตรวันมาฆบชู า ร่วมพิธบี วชพระ รว่ มพิธี ทาบญุ วนั เกดิ พิธสี มรส พธิ ีงานศพ สังฆทาน ถวายผา้ กฐนิ ถวายสงั ฆทาน เปน็ ต้น

199 (ต่อ)สงั คมวิทยาชนบท องคค์ วามรู้ทางสงั คมวิทยาชนบท การนาไปใช้ในการวางโครงการ ทาให้ตระหนักรู้ (aware)ว่า ใช้เปน็ หลกั ในการวินิจฉยั สภาวการณ์ปญั หา ปัญหาสงั คมมี 4 องค์ประกอบ ไดแ้ ก่ ส่ิงแวดล้อมของชุมชน (ในขั้นตอน what to 1) สภาพการณ์ที่มีอยจู่ ริง เห็นได้ สัมผสั ได้ teach) เชน่ ปัญหาด้านสขุ ภาพจากฝุ่น ขยะ 2) คกุ คามสงิ่ ที่มคี า่ ของคนจานวนมาก 3) ตก และนา้ เสีย ลงรว่ มมือกันแก้ไข 4) ความสามารถในการ แก้ไขปญั หา ใชเ้ ปน็ หลักในการวนิ ิจฉัยสภาวการณป์ ญั หา ประเภทของปญั หาสงั คมมนุษยม์ ี 4 ประเภท สงิ่ แวดล้อมของชมุ ชน (ในขั้นตอน what to คอื 1) ปัญหาทางเศรษฐกิจ 2) ปญั หาทาง teach)เช่น ปญั หาดา้ นสุขภาพจากฝุ่น ขยะ การเมือง 3) ปญั หาทางสงั คม 4) ปัญหาทาง และนา้ เสีย กายภาพ เชน่ ปญั หาอากาศเสยี น้าเสีย เสยี ง ดงั เปน็ ตน้ ใชก้ ารเสนอปญั หาสังคม 5 ประเด็น เปน็ หลกั การเสนอปญั หาสังคม ต้องแยกอธิบายเปน็ ในการวินจิ ฉยั สภาวการณป์ ัญหาส่งิ แวดลอ้ ม 5 ประเดน็ คือ 1) ความหมาย 2) สาเหตุ ของชมุ ชน (ในขน้ั ตอน what to teach) 3) สภาพการณ์ 4) ผลกระทบ 5) แนวทางการ จัดการปัญหา ใชล้ ักษณะของกลมุ่ เปน็ หลักในการค้นหา key กล่มุ จาแนกออกเปน็ ประเภทตามลกั ษณะ informants /ผู้ทรงคุณวฒุ ิ ด้วย snowball ได้แก่ 1) ความสัมพันธ์ของสมาชิกกล่มุ (กลุ่ม technique ในการวนิ จิ ฉัยสภาวการณป์ ัญหา ปฐมภูมแิ ละกลุม่ ทตุ ยิ ภูม)ิ 2)ความเปน็ ทางการ สง่ิ แวดล้อมของชุมชน (ในขั้นตอน what to หรอื ไม่เป็นทางการ teach) ใช้ผนู้ าชมุ ชนชนบท ทั้ง 2 กลุ่ม เป็นหลักเพื่อ ผูน้ าชมุ ชนชนบทประกอบดว้ ย ผูน้ าทางการ สร้างความไวเ้ นอ้ื เชือ่ ใจจากสมาชกิ ชุมชน ทา (เช่น กานัน ผใู้ หญ่บ้าน) และผู้นาไมเ่ ป็น ให้สมาชกิ ชุมชนเข้ารว่ มโครงการอย่างตัง้ ใจ ทางการ(ผนู้ าทีช่ าวบา้ นยกย่องขนึ้ มา) เช่น ผู้นาชุมชนประสานกบั สมาชกิ ชมุ ชนทกุ คนเพื่อเชิญชวนเข้ารว่ มกิจกรรม ทาให้การจดั กจิ กรรมประสบความสาเร็จตามวัตถุประสงค์ ทไี่ ด้กาหนดไว้ (ในข้ันตอน How to teach)

200 เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ขององค์ความรู้ของแต่ละศาสตร์ท่ีนาไปใช้ในการ วางโครงการส่งเสริมส่ิงแวดล้อมศึกษาชุมชนให้กระชับชัดเจนง่ายต่อการทาความ เขา้ ใจ ผ้เู ขียนจะขอนาเสนอในลกั ษณะเปน็ บทสรปุ ในรปู แบบของแผนภาพ ดังตอ่ ไปน้ี แผนภาพ ความสัมพนั ธข์ ององค์ความรู้ของแตล่ ะศาสตรท์ นี่ าไปใชใ้ นการ วางโครงการส่งเสรมิ สิ่งแวดล้อมศึกษาชุมชน

201 บรรณานกุ รม กรมการวัฒนธรรม. 2496 แนวการศกึ ษาวฒั นธรรมโดยภาคปฎิบัต.ิ พระนคร: โรงพิมพ์ภักดปี ระดษิ ฐ.์ กรมสง่ เสรมิ คุณภาพสง่ิ แวดลอ้ ม. ม.ป.ป. ส่ิงแวดลอ้ มศกึ ษาในโรงเรียน. แปลเรยี บ เรยี งจาก Environmental Education in the School: Creating a Program that work เขียนโดย Judy A. Braus & David Wood. กระทรวงวัฒนธรรม. 2552. แผนแมบ่ ทวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2550-2559. (online)http://www.strategypolice.com/webdatas/Plan/p_11.pdf,4 ธนั วาคม 2563 เกษม จันทร์แก้ว. 2536. สิง่ แวดลอ้ มศึกษา.กรุงเทพฯ: อักษรสยามการพิมพ.์ ____________. 2541. เทคโนโลยีสง่ิ แวดลอ้ ม. กรงุ เทพฯ: โครงการสหวิทยาการ บัณฑิตศกึ ษา สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. จานรรจา ชมุ ชน่ื . 2547.แนวพระราชดารเิ ศรษฐกิจพอเพยี ง: ศึกษากระบวนการ แพร่กระจายความหมายในหนังสอื พมิ พ์ไทย ระหว่าง พ.ศ.2540-2542. วทิ ยานพิ นธ์วารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบรหิ าร สื่อสารมวลชน. มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์. จาเนยี ร จวงตระกลู . 2550. การวจิ ยั เชงิ คุณภาพ: เครอ่ื งมือสร้างองค์ความรู้เพื่อ การพัฒนาประเทศ(1). กรุงเทพมหานคร: บริษัทศูนยก์ ฎหมายธุรกจิ อนิ เตอร์ เนช่นั แนล จากดั . จรี พรรณ กาญจนะจิตรา. 2543. สงั คมวิทยาและมานุษยวิทยาเบื้องต้น. (พมิ พ์ ครง้ั ท่ี 17).กรุงเทพมหานคร: สานักพมิ พ์มหาวิทยาลยั รามคาแหง. ฉววี รรณ ประจวบเหมาะ. 2536. วธิ ีการเกบ็ ข้อมูลในการวิจัยเชิงคณุ ภาพ ใน อุทัย ดลุ ยเกษม.(บรรณาธกิ าร). คู่มอื การวจิ ัยเชิงคณุ ภาพเพ่ืองานพัฒนา. ขอนแกน่ : สถาบนั วิจยั และพฒั นามหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น. ชยันต์ วรรณธนะภตู ิ. 2536. การวเิ คราะหข์ ้อมูลในการวิจยั เชิงคุณภาพ ใน อทุ ยั ดุลยเกษม.(บรรณาธกิ าร). คู่มอื การวิจัยเชงิ คุณภาพเพ่ืองานพัฒนา. ขอนแก่น: สถาบันวจิ ยั และพฒั นามหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ . ชัยฤทธ์ิ โพธิสุวรรณ. 2543. การศึกษานอกระบบ: พ้ืนฐานการวางแผนโครงการ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร.์

202 ดิเรก ฤกษ์หร่าย. 2518. หลกั การสง่ เสรมิ เกษตร.กรงุ เทพฯ: จงเจริญการพมิ พ์. ทานอง สิงคาลวณชิ . 2514. การเกษตรกับการพฒั นา. พระนคร : โรงพิมพร์ วมมิตรไทย. _______________. 2517. เกษตรไทย. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์รวมมติ รไทย. นาท ตณั ฑวิรฬุ ห์ และพลู ทรัพย์ สมุทรสาคร. 2528. วทิ ยาศาสตร์ส่ิงแวดลอ้ มและ การบริหารทรพั ยากร. กรงุ เทพฯ:โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช. บุญชม ศรสี ะอาด. 2543. การวิจยั เบ้ืองตน้ .(พมิ พ์ครัง้ ที่ 6). กรงุ เทพฯ: สวุ รี ยิ าสาส์น. บญุ ธรรม จิตตอ์ นันต์. 2540. สง่ เสรมิ การเกษตร. (พิมพ์ครัง้ ท่ี 2). กรงุ เทพฯ: สานักพมิ พม์ หาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ประดษิ ฐ์ มัชฌมิ า. 2522.สังคมวิทยาชนบท .กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ ปิน่ มทุ ุกณั ฑ์. 2526. บนั ทกึ ธรรม. (พมิ พค์ รัง้ ที่ 6).กรุงเทพฯ: อมรการพิมพ.์ พรศกั ดิ์ ผอ่ งแผว้ . 2529. ศาสตรแ์ หง่ การวจิ ยั . กรงุ เทพฯ : ไทยวฒั นาพานชิ . พวงรัตน์ ทวีรตั น์. 2543.วธิ ีการวิจยั ทางพฤตกิ รรมศาสตร์และสังคมศาสตร.์ (พมิ พ์ คร้งั ที่ 8). สานักทดสอบทางการศึกษาและจติ วทิ ยา มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทร วิโรฒ ประสานมติ ร. มนัส สวุ รรณ.2544. ระเบียบวธิ ีวจิ ัยทางสังคมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร.์ กรงุ เทพมหานคร: โอ. เอส. พร้นิ ตงิ้ เฮาส์. ยศ บรสิ ุทธ.์ิ 2558. การศึกษาชมุ ชน: แนวคิดฐานการวิจยั และกระบวนการทา วิทยาศาสตร์.(พมิ พค์ รั้งที่ 1). ขอนแก่น: โรงพมิ พ์มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ยุวนุช ทองดี. น.ท. หญิง ร.น. 2537. บทบาทของ กรป. กลางในการพฒั นาเยาวชน ในอนาคต. วทิ ยานิพนธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาการศกึ ษาผ้ใู หญ่ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร.์ เย็นใจ เลาหวณิช. 2522.ประเภทของการวิจัย อ้างในบญุ ธรรม จิตตอ์ นันต.์ การวจิ ัย ทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: สานักพมิ พ์มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. ราชบัณฑิตยสถาน. 2534. พจนานกุ รมฉบบั เฉลิมพระเกียรติ พ.ศ.2530. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พว์ ัฒนาพานชิ .

203 ลาวัณย์ วิจารณ.์ 2552. การสรา้ งเกณฑจ์ าแนกกล่มุ คน เพ่ือการถา่ ยทอดความรู้ เกยี่ วกับการบาบัดนา้ เสยี ชมุ ชน.วิทยานิพนธว์ ทิ ยาศาสตรดุษฎีบณั ฑิต สาขาวิทยาศาสตร์สง่ิ แวดลอ้ ม. มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. ___________ . 2559. สิ่งแวดลอ้ มศกึ ษา: แนวทางส่กู ารปฏบิ ัติ.ปทุมธาน:ี สานักพมิ พม์ หาวิทยาลยั รงั สติ . ___________ . 2561. R&D: L.E. อาชวี ศกึ ษาเกษตร: แนวทางสูก่ ารปฏิบัต.ิ ปทุมธาน:ี โรงพิมพ์มหาวิทยาลยั รังสติ . ___________ . 2563 เหตุและผลทางสถิติ: R&D: L.E. อาชวี ศกึ ษาเกษตร. ปทุมธาน:ี โรงพิมพม์ หาวทิ ยาลัยรังสติ . ลาวัณย์ วจิ ารณ์ และศักดศ์ิ รี รักไทย. 2561. การสร้างชดุ ประสบการณ์เพื่อการ เรียนรู้เรื่อง “แมลงในแปลงนาข้าว จังหวัดเพชรบุรี” สาหรับนักเรียน ปวช. (ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ)โครงการอาชีวศึกษาเพอ่ื การพัฒนาชนบท (อศ.กช.) กรณศี กึ ษาวทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยเี พชรบรุ ี. เอกสาร ประกอบการ ฝกึ อบรมเชงิ ปฏิบัตกิ าร เรอื่ ง ประสบการณเ์ พื่อการเรยี นรู้ ณ สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคใต้ จังหวัดนครศรธี รรมราช .(ถา่ ยสาเนา) สนทยา พลศร.ี 2550. เครือข่ายการเรียนรูง้ านพฒั นา อา้ งในพลอยภทั รา ตระกูลทองเจรญิ . 2557.การศึกษาความตระหนกั ในการอนรุ ักษ์มรดกทาง วัฒนธรรมผา่ นกระบวนการการมีส่วนร่วม กรณีศกึ ษา: หม่บู ้านศาลาแดง เหนอื เชยี งรากนอ้ ย.วิทยานพิ นธส์ ถาปตั ยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา สถาปัตยกรรมภายใน. มหาวทิ ยาลัยกรุงเทพ. สมใจ ใจดีและยรรยง ศรวี ริ ิยาภรณ.์ 2538. ประเพณีและวฒั นธรรมไทย. (พมิ พ์ ครง้ั ที่ 8). กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พไ์ ทยวัฒนาพานชิ . สมหวัง พิธยิ านุวัฒน.์ 2527. การวิจัยเชิงบรรยาย.ในไพฑูรย์ สินลารัตน์ และ สาลี ทองธิว.(บรรณาธิการ). การวจิ ยั ทางการศกึ ษา: หลักและวธิ ีการสาหรับ นกั วิจยั . กรงุ เทพมหานคร: สานกั พิมพ์จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. สญั ญา สญั ญาววิ ัฒน์. 2546. สังคมและวฒั นธรรมไทย.กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานชิ จากดั .

204 สาโรช บวั ศร.ี 2552. รากแก้วการศกึ ษา. กรุงเทพฯ: ศนู ย์สานักพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ. สุภางค์ จนั ทวานชิ . 2534. วิธกี ารวจิ ยั เชิงคณุ ภาพ. (พมิ พ์ครง้ั ท่ี 3). กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. _____________. 2563. วธิ กี ารวิจยั เชิงคณุ ภาพ. (พมิ พค์ รั้งท่ี 25). กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. สุวมิ ล ตริ กานนั ท์. 2550. การสรา้ งเครื่องมอื วัดตัวแปรในการวิจยั ทางสังคมศาสตร์ : แนวทางสู่การปฏบิ ตั ิ. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . เสาวคนธ์ สดุ สวาสด์ิ. 2530.เอกสารคาสอนวชิ าสังคมวิทยาชนบท. กรงุ เทพฯ: ภาควิชาสงั คมวทิ ยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. โสภณ ธนะมยั . 2550. เอกสารประกอบการบรรยายวิชาปรัชญาส่ิงแวดล้อม (01591681) และวิชาระเบียบวธิ วี จิ ัยขนั้ สูงทางสง่ิ แวดลอ้ ม (01591691) สาหรับนสิ ติ ปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์สิง่ แวดลอ้ ม วิทยาลัยสง่ิ แวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. __________ . 2553 เอกสารประกอบการบรรยายวิชาปรัชญาสิง่ แวดลอ้ ม (01591681) และวชิ าระเบยี บวธิ ีวิจยั ข้นั สูงทางส่งิ แวดล้อม (01591691) สาหรบั นิสติ ปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม วทิ ยาลยั ส่ิงแวดล้อม มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ___________. 2557 เอกสารประกอบการบรรยายวชิ าปรัชญาสง่ิ แวดลอ้ ม (01591681) และวิชาระเบยี บวธิ ีวจิ ยั ขั้นสูงทางสิ่งแวดลอ้ ม (01591691) สาหรับนสิ ิตปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์ส่ิงแวดลอ้ ม วิทยาลยั ส่ิงแวดลอ้ ม มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. ___________. 2561. หลกั และกระบวนการ R&D ทางการศกึ ษา. ปทมุ ธาน:ี โรงพมิ พ์มหาวิทยาลยั รงั สติ . ___________ . 2561. ถอดรหัสคดิ : Think: An Introductory Analysis. ปทุมธานี: โรงพิมพม์ หาวิทยาลัยรังสติ . ___________ . 2562. ถอดรหสั อศ.กช. ปทมุ ธานี: โรงพมิ พ์มหาวิทยาลยั รังสติ .

205 อคนิ รพพี ฒั น์. 2536. การศกึ ษาและวิเคราะห์ชุมชนในการวจิ ัยเชงิ คุณภาพ ใน อุทยั ดุลยเกษม (บรรณาธิการ). คู่มอื การวิจยั เชงิ คณุ ภาพเพ่ืองานพัฒนา. ขอนแกน่ : สถาบันวิจยั และพัฒนามหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . องอาจ นยั พัฒน์. 2548. วธิ ีวิทยาการวิจยั เชิงปริมาณและเชงิ คณุ ภาพทาง พฤติกรรมศาสตร์และสงั คมศาสตร์.กรงุ เทพฯ: ห้างหนุ้ ส่วนจากัด สามลดา. Ghattas, R.G. and McKee, Sandra L. 2001. Practical Project Management. Prentice Hall, Inc.: New Jersey. Kerzner, Harold. 1995. Project Management: A System Approach To Planning, Scheduling and Controlling. Van Nostrand Reinhold.: New York. Lawan Wijarn. (2021). A proposed model of community environmental education program development. Naresuan University Journal: Science and Technology, Vol 29 No 2 (2564),21-32.http://www.journal.nu.ac.th/NUJST/article/view/Vol-29-No- 2-2021-21-32 Meredith, Jack R. and Mantel, Samuel. 1995. Project Management: A Managerial Approach. John Wiley & Sons. Inc.: New York. Spinner, Pete M. 1997. Project Management: Principles and Practices. Prentice Hall, Inc.: New Jersey. https://www.amazon.ae/Educating-America-Ralph-Tyler- Taught/dp/0275981975 https://www.amazon.com/Basic-Principles- Curriculum-Instruction-Paperback/dp/B010TS5E62


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook