Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนทั้งหมด

แผนทั้งหมด

Published by naree.ced55, 2021-11-29 07:11:49

Description: แผนทั้งหมด

Search

Read the Text Version

100 ชุมชน และรกั ประเทศชาติมากขึ้น จึงเหน็ ได้ว่าการทำบัญชคี รัวเรอื น คอื วิถแี ห่งการเรยี นรู้เพ่อื พัฒนาชวี ิต ตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ข้นั สรุปและการประยกุ ต์ 9.ครูและผู้เรียนสรุปโดยผู้เรียนตอบคำถามเกี่ยวกับความหมาย ความสำคัญ และประโยชน์ของ จดหมายธุรกิจ ผู้เรียนบอกส่วนประกอบของจดหมายธุรกิจ ผู้เรียนบอกลักษณะของจดหมายธุรกิจท่ีดี และบอกหลกั ในการพมิ พ์จดหมายธุรกจิ 10.ผู้เรียนทำแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ ทำใบงาน และทำแบบฝกึ ปฏิบตั ิ สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 1.หนงั สือเรยี น วชิ าโปรแกรมประมวลผลคำ ของสำนักพิมพเ์ อมพนั ธ์ 2.รปู ภาพเมนตู ่างๆ ในโปรแกรม 3.กจิ กรรมการเรียนการสอน 4.สือ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์, สื่อ VDO และสือ่ PowerPoint 5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หลักฐาน 1.บนั ทึกการสอน 2.ใบเชค็ รายชือ่ 3.แผนจดั การเรียนรู้ 4.การตรวจประเมินผลงาน การวัดผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1.สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2.ประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ 3.สังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่ 4.ตรวจใบงาน 5.ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏิบัติ

101 6.การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เคร่อื งมอื วดั ผล 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2.แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ (โดยครู) 3.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผู้เรยี น) 4.แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏิบัติ 6.แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและ ผเู้ รยี นร่วมกันประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1.เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรุง 2.เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3.เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50% ขนึ้ ไป) 4.กิจกรรมใบงาน เกณฑ์ผา่ น คือ 50% 5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏิบัติมเี กณฑผ์ ่าน 50% 6.แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ 1.แนะนำใหฝ้ ึกทกั ษะในกจิ กรรมใบงาน แบบฝึกปฏิบัติ เพอื่ ฝึกทักษะในการเรยี นรู้ 2.อ่านและทบทวนเนือ้ หา

102 บันทึกหลังการสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน ................................................................................................................... ............................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ........... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ปัญหาทีพ่ บ ................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... แนวทางแก้ปญั หา ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ..................

103 แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบรู ณาการที่ 11 หน่วยที่ 7 รหัส 20204-2102 โปรแกรมประมวลผลคำ (1-2-2) สอนครง้ั ที่ 11 (31-33) ช่อื หน่วย/เรอ่ื ง จดหมายธรุ กิจ จำนวน 3 ช.ม. สาระสำคญั จดหมายธุรกิจ เป็นจดหมายที่ใช้ติดต่อระหว่างกันในวงธุรกิจ โดยมีจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ในการดำเนินการทางธุรกิจ การเขียนจดหมายธุรกิจเป็นการสื่อสารท่ีมีความสำคัญต่อธุรกิจ เพราะเป็น วิธีการท่ีสะดวก ประหยัด มีความสะดวกรวดเร็ว การให้รายละเอียดข้อมูล และเปน็ หลักฐานในการตดิ ต่อ เม่ือเกิดมีปัญหาขึ้น ดังน้ัน การเขียนจดหมาย จึงควรให้ความระมัดระวังเรื่องการใช้ถ้อยคำภาษาให้ ถูกต้อง ชัดเจน เพ่ือให้การประกอบกิจธุระหรือการทำงานของตนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและประสบ ผลสำเร็จ สมรรถนะประจำหนว่ ย แสดงความรู้เกีย่ วกบั การพิมพ์จดหมายธรุ กจิ ด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2016 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 5.รูปแบบของจดหมายธุรกิจแตล่ ะประเภทได้ถูกต้อง 6.บอกรปู แบบของจดหมายธรุ กจิ ที่นิยมใชม้ ากในปัจจบุ นั ได้อย่างถกู ต้อง คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่ีครูสามารถสงั เกตได้ขณะทำการสอนในเร่อื ง 1 ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2 ความมวี นิ ยั 3 ความรบั ผดิ ชอบ 4 ความซือ่ สัตยส์ ุจรติ 5 ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง 6 การประหยัด 7 ความสนใจใฝ่รู้ 8 การละเว้นส่ิงเสพติดและการพนัน

104 9 ความรกั สามัคคี 10 ความกตญั ญกู ตเวที สาระการเรียนรู้ 5. รูปแบบของจดหมายธุรกิจ 6. รปู แบบของจดหมายธรุ กจิ ท่นี ิยมใชม้ ากในปัจจุบนั กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนำเขา้ สู่บทเรียน 1.ครกู ล่าวถงึ รูปแบบของจดหมายธุรกิจไทยแบบต่างประเทศที่นยิ มใชก้ นั อยู่ในปจั จบุ ัน 2.ผเู้ รียนยกตวั อยา่ งแบบฟอร์มตา่ ง ๆ ขั้นสอน 3.ครูอธิบายรูปแบบของจดหมายธุรกิจ โดยใช้สื่อ Power Point ประกอบเป็นส่ือในการเรียน การสอน รูปแบบของจดหมายธุรกจิ ไทยแบบตา่ งประเทศ (Style of Business Letter) ท่ใี ช้กนั อยู่มี 7 รูปแบบ 1) Full Block Style 2) Modifi ed Block Style 3) Semi Block Style 4) Indented Style 5) Invented Style หรอื Hanging Style 6) Square Block Style 7) Offi cial Form 4.ครูอธบิ าย และสาธติ การพมิ พ์จดหมายธรุ กิจด้วยคอมพวิ เตอร์ โดยใช้ Pwer Point ประกอบ 5.ผเู้ รยี นฝกึ พิมพจ์ ดหมายธุรกจิ แบบก่ึงราชการ ตามหลกั การพิมพจ์ ดหมายธรุ กจิ

105 6.ครอู ธบิ าย และสาธติ การพิมพจ์ ดหมายธรุ กจิ ไทยแบบต่างประเทศ โดยใหผ้ เู้ รียนฝกึ ปฏบิ ตั ติ าม 6.1 ผู้เรยี นฝึกพิมพ์จดหมายธรุ กจิ แบบฟลู บลอ็ ก (Full Block Style) ตามแบบฟอรม์

106

107 6.2 ผ้เู รยี นพมิ พ์จดหมายแบบมอดไิ ฟด์บลอ็ ก (Modifi ed Block Style) ตามแบบฟอร์ม

108

109 6.3 ผเู้ รียนพมิ พ์จดหมายแบบเซมิบลอ็ ก (Semi Block Style

110

111 7.ครูอธิบายรูปแบบของจดหมายธรุ กิจท่ีนิยมใช้มากในปจั จุบนั โดยใช้สื่อ Power Point ประกอบ ซง่ึ รูปแบบการเขยี นจดหมายธรุ กิจที่นยิ มใช้กนั อยใู่ นปัจจุบนั นี้ ไดแ้ ก่ 1) แบบส่ีเหล่ียมเต็มรูป (Full-block style) เป็นแบบท่ีเขียนให้ทุกบรรทัดชิดขอบซ้ายของ กระดาษจดหมาย 2) แบบส่ีเหล่ียม (Block style) เป็นแบบที่เขียนให้ทุกบรรทัดชิดขอบซ้ายของกระดาษ ยกเวน้ วนั เดือนปี คำลงทา้ ย ลายมือช่อื อย่กู ่งึ กลางกระดาษ 3) แบบกึ่งส่ีเหลี่ยม (Semi-block style) เป็นแบบที่คล้ายกับแบบสี่เหล่ียม แต่ให้เนื้อหา หรอื ข้อความของจดหมายยอ่ หนา้ เข้าไปประมาณ 1 น้ิวหรือประมาณ 10 เคาะ 8.ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ รูปแบบจดหมายดังกลา่ วน้ันเปน็ รูปแบบของจดหมายธรุ กจิ ของตา่ งประเทศ ท่ีนิยมใช้กันแต่ในทางปฏิบัติอาจจะมีการดัดแปลงให้เหมาะสมหรือความสะดวกแก่การปฏิบัติงานของ หน่วยงานที่ทำก็ได้ และการใช้รูปแบบของจดหมายตามรูปแบบของหนังสือราชการ ทั้งน้ีข้ึนอยู่กับ หนว่ ยงานนนั้ ๆ วา่ ต้องการใช้รูปแบบของจดหมายแบบใด 9.ครูแนะนำให้ผู้เรียนบันทึกบัญชีครัวเรือน เพ่ือให้เกิดการปฏิบัติพัฒนาความรู้ ความคิด และ ปฏิบัติถูกต้อง ก่อให้เกิดความเจริญในด้านอาชีพหรือเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งการทำบัญชี ครัวเรอื นเป็นเรือ่ งการบันทกึ รายรบั รายจ่ายประจำวัน/เดอื น/ปี ว่ามีรายรับรายจ่ายจากอะไรบา้ ง จำนวน เท่าใด รายการใดจ่ายน้อยจ่ายมาก จำเป็นน้อยจำเป็นมาก ก็อาจลดลงหรือเพ่ิมขึ้นตามความจำเป็น ถ้า ทุกคนคิดได้ก็แสดงว่าเป็นคนรู้จักพัฒนาตนเอง มีเหตุมีผล รู้จักพอประมาณ รักตนเอง รักครอบครัว รัก ชุมชน และรกั ประเทศชาตมิ ากข้ึน จึงเห็นได้วา่ การทำบัญชคี รวั เรือน คอื วิถแี ห่งการเรยี นรู้เพอ่ื พัฒนาชีวิต ตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 10.ครูใช้คำถามหรือกำหนดปัญหาโดยให้ผู้เรียนระดมสมองช่วยกันคิดหาคำตอบแล้วอธิบาย คำตอบให้เพ่อื นทกุ คนในกลุ่มของตนเองเข้าใจ 11.ครใู ช้วิธสี มุ่ ผู้เรียนทุกกลุม่ ตอบคำถามและอธิบายใหเ้ พ่ือนฟังท้งั ช้นั เรียน 12.ผู้เรยี นฝึกทกั ษะทำแบบฝึกปฏบิ ัติ ใบงาน และแบบประเมนิ ผลหลงั เรียน ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1.หนงั สือเรียน วชิ าโปรแกรมประมวลผลคำ ของสำนกั พิมพ์เอมพนั ธ์

112 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.ส่ืออิเลก็ ทรอนกิ ส,์ สื่อ VDO, สื่อ PowerPoint 4.แบบประเมินผลการเรียนรู้ หลักฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเช็ครายชอื่ 3.แผนจัดการเรียนรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน การวัดผลและการประเมินผล วิธีวัดผล 1.สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2.ประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุม่ 3.สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4.ตรวจใบงาน 5.ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏิบัติ 6.การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เครอ่ื งมือวดั ผล 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2.แบบประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ (โดยครู) 3.แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่ (โดยผู้เรียน) 4.แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5.แบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏิบตั ิ 6.แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและผเู้ รียน รว่ มกันประเมนิ

113 เกณฑก์ ารประเมินผล 1.เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง 2.เกณฑผ์ ่านการประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขึน้ ไป) 3.เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ขึ้นไป) 4.กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คือ 50% 5.แบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏิบัติมเี กณฑผ์ า่ น 50% 6.แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั การประเมินตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ 1.ทำกิจกรรมใบงาน แบบฝึกปฏบิ ตั เิ พื่อฝึกทักษา 2.อ่าและทบทวนเนื้อหา

114 บนั ทกึ หลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน ................................................................................................................... ............................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ........... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ปัญหาท่พี บ ................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... แนวทางแก้ปัญหา ................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรยี นรู้แบบบูรณาการที่ 12 115 รหัส 20204-2102 โปรแกรมประมวลผลคำ (1-2-2) ช่ือหน่วย/เรอื่ ง จดหมายเวียน หน่วยที่ 8 สอนครง้ั ท่ี 12 (34-36) จำนวน 3 ช.ม. สาระสำคัญ จดหมายเวียนมีไว้เพ่ืออำนวยความสะดวกในการแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์หรือเร่ืองอ่ืนๆ ภายใน แผนกหรือหน่วยงานของเราได้ อีกทั้งยังสามารถสรา้ งเอกสารเรอ่ื งเดียวกัน และสง่ ไปยงั หนว่ ยงานหลายๆ หน่วยงาน หรือบุคคลหลายๆ คนได้อย่างง่ายดายด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2010 การสร้าง เอกสารหลายๆ ฉบับด้วย “จดหมายเวียน” นั้น ยังช่วยให้เราประหยัดเวลา และประหยัดพ้ืนท่ีใน หน่วยความจำไดอ้ กี ดว้ ย สมรรถนะประจำหนว่ ย แสดงการสร้างจดหมายเวยี นด้วยโปรแกรมโปรแกรม Microsoft Word 2016 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกองค์ประกอบของจดหมายเวยี นได้ 2. สรา้ งจดหมายเวียนด้วยตวั ชว่ ยสร้างได้ 3. ส่งั พิมพจ์ ดหมายเวียนออกทางเครื่องพมิ พ์ได้ คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่ีครสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเร่ือง 1 ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2 ความมีวินยั 3 ความรบั ผดิ ชอบ 4 ความซื่อสัตย์สุจริต 5 ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง 6 การประหยัด 7 ความสนใจใฝร่ ู้

116 8 การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนัน 9 ความรกั สามคั คี 10 ความกตัญญกู ตเวที สาระการเรียนรู้ 1.องคป์ ระกอบของจดหมายเวียน 2. การสร้างจดหมายเวยี นด้วยตวั ชว่ ยสร้าง 3. การพมิ พ์จดหมายเวยี นออกทางเคร่อื งพมิ พ์ กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นำเขา้ สู่บทเรียน 1.ครูและผู้เรียนสนทนากันว่าจดหมายเวียน Merge ก็คือการทำจดหมายหลายๆ ฉบับโดยมี เนื้อความเหมือนกัน แตม่ ีชื่อและท่ีอยู่ของผรู้ ับที่ไม่เหมือนกนั เท่าน้ัน ซ่ึงแทนทจ่ี ะต้องพิมพจ์ ดหมายแต่ละ ฉบับสำหรับผู้รับแต่ละราย ก็เพียงแต่สร้างไฟล์ที่เก็บชื่อและท่ีอยู่ไว้ก่อน และสร้างไฟล์ท่ีเก็บข้อความใน จดหมายไว้อีกไฟล์หนึ่งแยกจากกันแล้วจึงนำข้อมูลท้ังสองไปรวมหรือผนวกกัน ทำให้ได้จดหมายที่มี รปู แบบและข้อความทเ่ี หมอื นกันหมดเว้นแตช่ ่ือและที่อยูข่ องผู้รบั เท่านน้ั เมอ่ื ต้องการทำจดหมายเวียนใน ลักษณะน้ีอีก ก็เพียงสรา้ งไฟล์ท่ีเก็บข้อความในจดหมายใหม่ แล้วนำไฟล์รายช่ือของผู้รับที่ได้สร้างไว้แล้ว มาใชอ้ ีก ชว่ ยทำใหท้ ำงานเร็วขึน้ 2.ครูและผู้เรียนสนทนากันเพ่ือทบทวนความรู้เดิมจากสัปดาห์ท่ีผ่านมาเกี่ยวกับองค์ประกอบของ จดหมายเวยี น และการสรา้ งจดหมายเวียนด้วยตัวช่วยสร้าง 3.ผู้เรียนยกตัวอย่างจดหมายเวียนทว่ั ไปที่เคยรจู้ ักมาก่อน และนำมาสนทนาพูดคุยกนั ในห้องเรยี น 4.เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น และสนทนากันระหว่างเพ่ือนในชั้นเรียนเรื่องจดหมาย เวยี น ขน้ั สอน 5.ครูบอกและอธิบายองค์ประกอบของจดหมายเวียน โดยใช้สื่อ Power Point เป็นส่ือประกอบ ได้แก่ 1) เอกสารหลัก (Main document) คือเอกสารท่ีเริ่มต้นจะเป็นจดหมาย แบบฟอร์ม ข้อความ อีเมลของจดหมาย หรือป้ายเลเบล ที่ได้กำหนดให้มีข้อความ ขนาดและรูปร่างที่เหมือนกันไว้เพื่อใช้เป็น ต้นแบบของการพมิ พจ์ ำนวนมาก

117 2) แหล่งข้อมูล (Data Source) คือรายชื่อและที่อยู่ของผู้รับ e-mail Address ฯลฯ ซ่ึงส่วนใหญ่ จะเกบ็ อยู่ในรูปแบบตารางของ Word ตารางรายช่ือของ Excel ตารางฐานขอ้ มลู ของ Access เพ่ือผนวก เข้ากับตัวเอกสารหลัก เมื่อสั่งพิมพ์จดหมาย ซอง หรือป้ายเลเบล โปรแกรมจะเปล่ียนรายชื่อในเอกสาร แตล่ ะชุดให้โดยอัตโนมัติ เอกสารหลัก (main document) ที่สามารถสรา้ งเป็นจดหมายเวียนได้ จะมีใหเ้ ลอื กในข้ันตอนที่ 1 ของ Wizard หรือตวั ชว่ ยของการสรา้ งจดหมายเวียน ดังนี้ 1) Letters (จดหมาย) ส่งจดหมายไปยังผู้รบั จำนวนมาก 2) E-mail message (ข้อความอเี มล) สง่ ขอ้ ความแบบอเี มลไปยงั รายชือ่ ผู้รับ 3) Envelopes (ซองจดหมาย) พมิ พ์ชื่อ-ทอี่ ย่ลู งบนซองจดหมาย 4) Labels (ปา้ ยผนกึ ) พมิ พ์ชื่อ-ท่ีอยลู่ งบนป้ายผนึก หรือฉลาก 5) Directory (ไดเรกทอรี) จะเปน็ การรวบรวมข้อมลู ตา่ งๆ มาไว้ในเอกสาร เช่น รายชื่อสมาชิก, ท่อี ยู่, เบอรโ์ ทรศพั ท์ 6.ครูอธิบายวิธีการสร้างจดหมายเวียนดว้ ยตวั ชว่ ยสรา้ ง โดยใช้ Power Point เปน็ ส่ือประกอบ 7.ผูเ้ รยี นฝกึ พิมพจ์ ดหมายธุรกจิ (ใชร้ ปู แบบจดหมายกึง่ ราชการ) โดย 1) บันทึกเอกสารหลกั ไวท้ ่ีไฟล์ช่อื Letter_01.docx 2) สร้างแหล่งข้อมลู สมาชิกไวท้ ไี่ ฟลช์ ื่อ NameList01.mdb (สร้างใหมจ่ ากตวั ชว่ ยสรา้ ง) 3.ครูทบทวน โดยสาธิตการสร้างจดหมายเวียนด้วตัวช่วยสร้างจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้เรียน ไดศ้ ึกษา และฝกึ ปฏิบตั ิต่อจากสปั ดาห์ทแ่ี ล้ว 4.ผู้เรียนฝึกปฏิบัติสร้างจดหมายเวียนด้วยตัวช่วยสร้าง โดยการสร้างจดหมายเวียนด้วยตัวช่วย สร้างจดหมายเวียน (Mail Merge Wizard) เป็นเครื่องมือที่มีข้ันตอนการทำงานท่ีอำนวยความสะดวก และง่ายในการสร้างจดหมาย สามารถสร้างเอกสาร ซองจดหมายสำหรับส่งไปยังผู้รับหลายๆ คนได้อีก ดว้ ย ซ่งึ มีข้นั ตอนดังนี้

118 ขั้นตอนที่ 1 : พิมพจ์ ดหมายทจ่ี ะทำจดหมายเวยี น ข้ันตอนที่ 2 :สรา้ งรายการผู้รบั จดหมายโดยเลือกรบิ บอน Mailings แลว้ เลอื ก Start Mail

119 ขั้นตอนที่ 3 : ผสานข้อมูลรายการผ้รู บั ทสี่ ร้างไวก้ บั จดหมายมีวิธีการทำ ดังนี้ 1) คลิกเลอื กบรเิ วณท่ตี อ้ งการใหแ้ สดงรายช่ือผ้รู บั โดยคลิกเคอร์เซอร์ที่หลัง เรียน 2) ไปท่ีรบิ บอน Mailings แลว้ เลอื ก Insert Merge Field คลกิ เลอื ก First_Name 3) เคาะวรรค 2 เคาะ แล้วไปท่ีริบบอน Mailings เลือก Insert Merge Field คลิกเลือก Last_Name

120 4) จะปรากฏชอ่ื ฟลิ ดบ์ ริเวณทีเ่ ราตอ้ งการผสานขอ้ มลู รายการผรู้ บั ขั้นตอนท่ี 4 : การรวมจดหมายกับรายช่ือด้วยกัน คลิกไอคอน “Finish & Merge” และ เลอื กคำส่ัง “Edit Individual document” เลอื ก “All” แลว้ คลกิ OK 5.ผู้เรียนฝึกทักษะการสรา้ งซองจดหมาย โดยการสร้างซองจดหมายสำหรับการส่งจดหมายท่ีไม่ได้ มีการบนั ทึกขอ้ มลู ผรู้ ับไว้ 1) คลิกทป่ี มุ่ Envelopes 2) พิมพ์ชอื่ ทอ่ี ยขู่ องผ้รู ับ (Delivery address) และผ้สู ่ง (Return dddress) 3) พิมพช์ ือ่ ของผ้สู ่งในช่อง (Return address) แล้วคลิกท่ปี ุ่ม Add to Document

121 6.ครูสาธิตให้ผู้เรียนดใู นกรณีถ้ามีการแก้ไขข้อมูลท่ีพิมพ์ผิด เมื่อแก้ไขเสร็จแล้วให้ทำการคลิกที่ปุ่ม Change Document 7.ครูสาธติ และใหผ้ ้เู รยี นฝกึ ทกั ษะโดยการสรา้ งซองจดหมายจากรายชื่อผู้รับที่มีการบนั ทึกไว้ 7.1. คลกิ ท่ปี มุ่ Envelopes 7.2. พมิ พช์ ่อื ของผ้สู ง่ ในช่อง (Return address) แลว้ คลกิ ทีป่ ุ่ม Add to Document

122 7.3. เลอื กที่คำส่งั Select Recipients เพ่อื เปิดไฟล์ขอ้ มูลทีบ่ ันทึกชือ่ ทอี่ ยขู่ องผูร้ ับ

123 8.ครูและผู้เรยี นช่วยกันสาธิตการรวมซองจดหมายที่บันทึกรายช่ือผู้รับและผู้ส่งด้วยกัน โดยคลิกท่ี ปุ่มคำส่ัง “Finish & Merge” และเลือกคำสั่ง “Edit Individual document” เลือก “All” แล้วคลิก OK โปรแกรมจะสร้างเปน็ เอกสารซองจดหมายทม่ี รี ายช่อื ผูร้ บั ผู้ส่ง อกี ฉบบั ท่ผี นึกรวมการจา่ หน้าซอง จดหมายกับรายช่ือท่ีได้แทรกไว้ ให้บันทึกเป็นเอกสารอีกฉบับ สำหรับในตัวอย่างนี้บันทึกเป็นชื่อ Evelopes01

124 9.ผ้เู รยี นพิมพ์จดหมายเชญิ ประชุมสง่ ไปใหส้ มาชิก (ใช้รปู แบบจดหมาย Semi Block Style) โดย 1) บันทกึ เอกสารหลกั ไวท้ ี่ไฟล์ช่ือ Letter_02.docx 2) สรา้ งแหลง่ ข้อมลู สมาชิกไว้ทไ่ี ฟล์ชือ่ NameList02.xlsx (สรา้ งจาก MS Excel) 3) ผนึกรวมจดหมายกบั รายชอ่ื บันทกึ ไว้ชอื่ MailMerge02.docx 4) สรา้ งซองจดหมายและใส่ช่ือที่อยู่ผูร้ ับและผู้สง่ บนั ทึกไฟลช์ อื่ Evelope02.docx 10.ผู้เรยี นพิมพจ์ ดหมายประชาสมั พนั ธ์ (ใช้รูปแบบจดหมายก่ึงราชการ) โดย 1) บันทกึ เอกสารหลกั ไวท้ ่ไี ฟลช์ อื่ Letter_01.docx 2) สรา้ งแหล่งข้อมูลสมาชกิ ไว้ที่ไฟลช์ ่อื NameList01.xlsx (สร้างจาก MS Excel) 3) ผนกึ รวมจดหมายกับรายช่ือบันทึกไว้ชื่อ MailMerge01.docx 4) สรา้ งซองจดหมายและใสช่ ื่อท่อี ยู่ผูร้ บั และผู้ส่ง บันทกึ ไฟลช์ ่อื Evelope03.docx หมายเหตุ 1. ให้สรา้ งหวั จดหมาย กำหนดทอี่ ยขู่ องบริษัทเอง 2. การสร้างซองจดหมายใหใ้ ส่ช่ือ ตำแหน่งและที่อยขู่ องผรู้ ับ 11.ผเู้ รยี นพมิ พจ์ ดหมายธรุ กจิ (ใช้รปู แบบจดหมายก่ึงราชการ) โดย 1) บนั ทึกเอกสารหลกั ไว้ทไ่ี ฟลช์ ่อื Letter_01.docx 2) สร้างแหลง่ ข้อมลู สมาชกิ ไว้ท่ไี ฟลช์ ื่อ NameList01.mdb (สรา้ งใหมจ่ ากตวั ช่วยสรา้ ง) 3) ผนกึ รวมจดหมายกับรายชื่อบนั ทึกไฟลช์ ่อื MailMerge01.docx 4) สร้างซองจดหมายและใสช่ ่อื ทีอ่ ยูผ่ ู้รบั และผสู้ ่ง บนั ทกึ ไฟลช์ ื่อ Evelope01.docx จดหมายจาก บริษัท สุพรีม เซอร์วิส จำกัด ลงวันที่ 25 เมษายน 2557 เรียน <<First Name>><<Last 12. ครูเน้นการนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการประกอบอาชีพอย่างมีคุณธรรมไม่ เบียดเบียนผู้อื่น เช่น ไม่มีพฤติกรรมท่ีฉ้อโกง ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ จนเกิดความเดือดร้อน ดังน้ัน เมื่อผู้เรียนจบการศึกษาไปแล้ว และไปประกอบอาชีพเป็นผู้ประกอบการ หรือลูกจ้างก็ตาม ควรยึดหลัก คณุ ธรรมตามเงื่อนไขแหง่ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ข้นั สรุปและการประยกุ ต์ 13.ครูใช้คำถามหรือกำหนดปัญหาโดยให้ผู้เรียนระดมสมองช่วยกันคิดหาคำตอบแล้วอธิบาย คำตอบให้เพอ่ื นทกุ คนในกลมุ่ ของตนเองเข้าใจ 14.ครูและผู้เรยี นสรุปโดยการฝกึ สรา้ งจดหมายเวียนตามองค์ประกอบของจดหมายเวียน และการ สร้างจดหมายเวยี นด้วยตัวช่วยสรา้ ง

125 15.ครใู ช้วธิ ีส่มุ ผเู้ รียนทกุ กลุ่มตอบคำถามและอธิบายให้เพ่ือนฟังท้งั ชน้ั เรียน 16.ครูและผู้เรียนสรุปการสร้างจดหมายเวียนด้วยตัวช่วยสร้าง (ต่อ) และการพิมพ์จดหมายเวียน ออกทางเครือ่ งพิมพ์ เพื่อใหผ้ ู้เรยี นเกดิ ทกั ษะความชำนาญ และนำไปปฏบิ ตั ิได้จริง 17.ทำแบบประเมินผล แบบฝึกปฏิบัติ และประเมินตนเองจากแบบประเมินตนเอง รวมทั้ง กิจกรรมการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ 18..ประเมินผ้เู รยี นตามแบบฟอร์มต่อไปน้ี ชื่อผู้เรยี น ประสบการณพ์ ้นื ฐานการเรยี นรู้ วิธกี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทักษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1.หนังสอื เรยี น วิชาโปรแกรมประมวลผลคำ ของสำนกั พิมพเ์ อมพันธ์ 2.รูปภาพเมนูตา่ งๆ ในโปรแกรม 3.กจิ กรรมการเรียนการสอน 4.สอิ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ส่ือ VDO และสอื่ PowerPoint 5.แบบประเมินผลการเรยี นรู้ หลักฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเช็ครายช่ือ 3.แผนจดั การเรียนรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

126 การวัดผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1.สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม 3.สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ 4.ตรวจใบงาน 5.ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏิบัติ 6.การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เคร่ืองมอื วดั ผล 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2.แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ (โดยครู) 3.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยปผู้เรยี น) 4.แบบประเมนิ กิจกรรมใบงาน 5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 6.แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและ ผ้เู รยี นรว่ มกนั ประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1.เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรุง 2.เกณฑผ์ ่านการประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3.เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขึ้นไป) 4.กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คือ 50% 5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิมเี กณฑผ์ ่าน 50% 6แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจริง กจิ กรรมเสนอแนะ 1.ทำแบบฝกึ ปฏิบัตเิ พ่ือฝกึ ทักษะทำจดหมายเวียนในลกั ษณะต่างๆ 2.อา่ นและทบทวนเน้ือหา

127 บนั ทึกหลังการสอน ขอ้ สรุปหลังการสอน ................................................................................................................... ............................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ปัญหาทีพ่ บ ................................................................................................................................................ .................................................................................................... ................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... แนวทางแกป้ ญั หา ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................... ......................................

128 แผนการจดั การเรียนรู้แบบบูรณาการท่ี 13 หน่วยท่ี 9 รหัส 20204-2102 โปรแกรมจัดการฐานขอ้ มลู (1-2-2) สอนคร้งั ท่ี 13 (37-39) ชอื่ หนว่ ย/เรื่อง การทำนามบตั ร บัตรอวยพรและแผ่นพับ จำนวน 3 ช.ม. สาระสำคัญ รปู แบบการติดต่อส่ือสารด้วยเอกสารมีหลากหลายรปู แบบ เพื่อให้เกิดความประทับใจความเข้าใจ อันดีระหว่างกันการแนะนำตัวเองการเผยแพร่ความรู้และการประชาสัมพันธ์กิจกรรมท่ีดำเนินการ การ สร้างนามบัตร การทำบัตรอวยพร การทำแผ่นพับ และวุฒิบัตรเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัตงิ าน กับหน่วยงานต่างๆ เพราะนอกจากงานเอกสารท่ัวไปแล้วนั้น จะต้องมีสิ่งพิมพ์พิเศษอื่นๆ อีกหลาย ประเภททใ่ี ช้ในการติดต่อประสานงาน และใช้ประกอบเปน็ หลักฐาน สมรรถนะประจำหนว่ ย แสดงการทำานามบัตร บตั รอวยพร และแผ่นผับดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2016 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สร้างนามบัตรได้ 2. ทำบตั รอวยพรได้ คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ที่ครสู ามารถสงั เกตได้ขณะทำการสอนในเรือ่ ง 1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 2 ความมวี นิ ัย 3 ความรบั ผิดชอบ 4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ ริต 5 ความเช่อื มน่ั ในตนเอง 6 การประหยัด 7 ความสนใจใฝ่รู้ 8 การละเว้นส่งิ เสพตดิ และการพนัน

129 9 ความรกั สามคั คี 10 ความกตัญญกู ตเวที สาระการเรยี นรู้ 1. การสร้างนามบัตร 2. การทำบัตรอวยพร กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรยี น 1.ครูและผู้เรียนสนทนาเกี่ยวกับนามบัตร โดยนามบัตรเป็นเอกสารท่ีใช้ในการแนะนำตนเอง ห้าง รา้ น หรอื บรษิ ัท ให้กบั ผอู้ ื่นไดร้ ู้จกั เพอื่ ทำให้การติดตอ่ กนั ได้สะดวกโดยไม่ต้องเสยี เวลาบนั ทึกในกระดาษ โน้ตหรือสมุดจดบันทึก การสร้างนามบัตรสามารถทำได้จากโปรแกรมสำเร็จรูปโดยเฉพาะ หรือใช้ โปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word 2016 ซึ่งเป็นโปรแกรมท่ีใช้งานกันท่ัวไปอยู่แล้วมา ประยกุ ตใ์ ช้ และทำได้งา่ ยไม่ยงุ่ ยาก 2.ผเู้ รียนยกตัวอยา่ งนามบัตร และบัตรอวยพรทีเ่ คยเหน็ ทั่วไป ขนั้ สอน 3.ครูอธิบายและสาธิตการสร้างนามบัตร โดยใช้ส่ือหน้าจอคอมพิวเตอร์ผ่านโปรเจ็คเตอร์ ซ่ึง สามารถทำได้หลายวิธีดว้ ยกนั คือ 1) การสร้างตาราง

130

131 2) การใชก้ ลอ่ งข้อความ 3) การใชเ้ คร่ืองมอื ส่วนประกอบดว่ น 4.ผู้เรียนฝึกทักษะทำนามบัตรแนะนำตัวเอง โดยกำหนดให้ใช้ที่อยู่เป็นบ้านของตนเอง แทรก รูปภาพ วางตำแหน่งใหส้ วยงาม โดยใชว้ ิธกี ารแทรกตาราง บนั ทึกไฟล์ช่อื Ex9-01 5.ผู้เรียนฝึกทักะทำนามบัตรแนะนำตัวเอง โดยกำหนดให้ใช้ท่ีอยู่เป็นสถานศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ โดยข้อความประกอบด้วยช่ือผู้เรียน ระดับชั้นเรียน แทรกรูปภาพโลโก้ของสถานศึกษา โดยวางตำแหน่ง ใหส้ วยงาม และใช้วิธีการแทรกกล่องข้อความ บนั ทกึ ไฟลช์ อ่ื Ex9-02 6.ผเู้ รียนฝึกทักษะทำนามบัตรแนะนำตัวเอง โดยกำหนดให้สมมุติช่ือบรษิ ัท ตำแหน่งและท่ีอยู่ของ บริษัทเองข้อความประกอบด้วยช่ือของตนเอง ตำแหน่ง แทรกรูปภาพโลโกของบริษัท วางตำแหน่งให้ สวยงามโดยใชเ้ ครอ่ื งมอื สว่ นประกอบดว่ น บนั ทึกไฟล์ชอ่ื Ex9-03

132 7. ครูอธิบาย และสาธติ การทำบัตรอวยพรให้ผเู้ รียนดู เพื่อให้ปฏบิ ัตติ ามข้นั ตอน โดยการทำบัตร อวยพร หรือทำการ์ด เพ่ือใช้ในโอกาสต่างๆ ถึงแม้ว่าจะมีโปรแกรมสำเร็จรูปต่างๆ เพ่ืออำนวยความ สะดวกในการผลิตการ์ดอวยพรมากมายแต่โปรแกรม Microsoft Word 2010 ก็สามารถทำได้ง่ายๆ 8.ผู้เรียนฝึกทักษะการทำบัตรอวยพรวันเกิดให้เพ่ือนโดยใช้เคร่ืองมือและรูปแบบในเนื้อหาท่ีเรียน มา และบนั ทึกไฟลช์ ่อื Ex9-04 9.ผู้เรยี นฝกึ ทักษะทำบัตรอวยพรวนั ที่จบการศกึ ษาใหเ้ พอื่ น โดยใชเ้ คร่ืองมอื และรปู แบบในเน้ือหา ท่ีเรียนมา และบันทึกไฟลช์ ื่อ Ex9-05 10.ผู้เรียนฝึกทักษะทำบัตรอวยพรให้ครูท่ีปรึกษาหรือครูผู้สอน แบบหน้าเดียวตามแบบ โดยหา รูปภาพประกอบ และข้อความมาใสเ่ อง บันทกึ ไฟล์ชอื่ Ex9-07

133 11.ครูเน้นปฏิบัติการงานโดยการพิมพ์ด้วยโปรแกรมประมวลผลคำด้วยความระมัดระวัง และให้ สามารถนำไปใช้ได้จริง เพ่ือสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเอง และเสนอแนะการนำความรู้ไปประกอบอาชีพเพื่อ สร้างรายได้ให้แกต่ นเองและครอบครวั ตอ่ ไป ขนั้ สรุปและการประยุกต์ 12.ครูและผู้เรียนสรุปการสร้างนามบัตร และการทำบัตรอวยพร โดยการถามตอบ และฝึก ปฏิบัติ 13.ครสู ังเกตพฤตกิ รรมกลมุ่ และร่วมกนั สรุปเน้ือหาอกี คร้ังจากผลงานท่ีผเู้ รยี นทำ 14.ทำแบบประเมินผลการเรียนรู้ แบบฝึกปฏิบัติ และประเมินตนเองจากแบบประเมินตนเอง พร้อมทำกจิ กรรมการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 15.ประเมินผู้เรยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ชอ่ื ผเู้ รียน ประสบการณ์พ้นื ฐานการเรยี นรู้ วธิ ีการเรียนรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรยี น วชิ าโปรแกรมประมวลผลคำ ของสำนกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.รปู ภาพ 3.กจิ กรรมการเรียนการสอน 4.ส่ืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ ส่อื VDO และสื่อ PowerPoint 5.แบบประเมินผลการเรยี นรู้ หลักฐาน 1.บันทกึ การสอน 2.ใบเช็ครายช่ือ 3.แผนจดั การเรียนรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

134 การวัดผลและการประเมินผล วธิ ีวัดผล 1.สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2.ประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ 3.สังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4.ตรวจใบงาน 5.ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ 6.การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เครอื่ งมอื วดั ผล 1.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2.แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ (โดยครู) 3.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ (โดยผู้เรยี น) 4.แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏิบัติ 6.แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและ ผเู้ รียนร่วมกันประเมิน เกณฑ์การประเมนิ ผล 1.เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ีช่องปรบั ปรุง 2.เกณฑ์ผ่านการประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขึน้ ไป) 3.เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 4.กิจกรรมใบงาน เกณฑ์ผ่าน คือ 50% 5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏบิ ัติมเี กณฑ์ผ่าน 50% 6.แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยกู่ ับ การประเมนิ ตามสภาพจริง กจิ กรรมเสนอแนะ 1.ทำแบบใบงาน แบบฝึกปฏิบัตเิ พอื่ ให้เกิดความชำนาญและปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ 2.อ่านและทบทวนเน้ือหา

135 บันทกึ หลังการสอน ขอ้ สรปุ หลังการสอน ................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ........... .............................................................................................................................................................. ....... ..................................................................................................................................................................... ปัญหาท่พี บ ................................................................................................................................................ .................................................................................................... ................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... แนวทางแก้ปัญหา ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

136 แผนการจดั การเรยี นรู้แบบบรู ณาการที่ 14 หนว่ ยท่ี 9 รหัส 20204-2102 โปรแกรมประมวลผลคำ 1-2-2) สอนครงั้ ที่ 14 (43-45) ช่ือหน่วย/เรื่อง การทำนามบัตร บตั รอวยพรและแผน่ พับ (ตอ่ ) จำนวน 3 ช.ม. สาระสำคญั รปู แบบการติดต่อสื่อสารด้วยเอกสารมีหลากหลายรปู แบบ เพ่ือให้เกิดความประทับใจความเข้าใจ อันดีระหว่างกันการแนะนำตัวเองการเผยแพร่ความรู้และการประชาสัมพันธ์กิจกรรมท่ีดำเนินการ การ สร้างนามบัตร การทำบัตรอวยพร การทำแผน่ พับ และวุฒิบัตรเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัตงิ าน กับหน่วยงานต่างๆ เพราะนอกจากงานเอกสารทั่วไปแล้วนั้น จะต้องมีส่ิงพิมพ์พิเศษอื่นๆ อีกหลาย ประเภทที่ใชใ้ นการตดิ ตอ่ ประสานงาน และใช้ประกอบเปน็ หลกั ฐาน สมรรถนะประจำหน่วย แสดงการทำานามบัตร บตั รอวยพร และแผ่นผับดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2016 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3. ทำแผน่ พบั ได้ 4. ทำวุฒิบตั รได้ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่คี รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเรื่อง 1. ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 2. ความมวี นิ ัย 3. ความรับผิดชอบ 4. ความซ่ือสตั ย์สจุ รติ 5. ความเช่อื ม่ันในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝร่ ู้ 8. การละเว้นส่งิ เสพตดิ และการพนนั

137 9. ความรักสามัคคี 10. ความกตัญญูกตเวที สาระการเรยี นรู้ 3. การทำแผน่ พบั 4. การทำวุฒิบัตร กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรียน 1.ครูและผู้เรียนสนทนากันเก่ียวกับแผน่ พับ (Brochure) จัดทำข้ึนโดยส่วนมากจะมีวัตถุประสงค์ มีในดา้ นการประชาสมั พันธ์ 2.ครูและผู้เรียนยกตัวอย่างการประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆ เพื่อหวังผลทางธุรกิจ หรือ ประชาสัมพันธ์ด้านความรู้ต่างๆ หรือแนะนำสถานท่ี เป็นต้น ก่อนจดั ทำแผ่นพับควรออกแบบเน้ือหาของ แผ่นพับโดยเรียงลำดับใหน้ ่าสนใจ และควรร่างแบบแผ่นพบั ก่อนจัดทำ รูปแบบของแพ่นพับตอ้ งพิมพ์โดย การกลับหน้ากระดาษ เพราะต้องใช้กระดาษท้ัง 2 หน้าแล้วนำมาพับ รูปแบบแผ่นพับที่จะพิมพ์ด้วย โปรแกรม Microsoft Word 2016 ข้ันสอน 3.ครูแสดงตวั อย่างรา่ งแผน่ พับให้ผู้เรยี น โดยใช้สอื่ Power Point ให้ผูเ้ รยี นดู

138 4.ครูสาธิตการทำแผ่นพับให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตาม โดยการทำแผ่นพับด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2010 ดว้ ยการนำเอาคำสง่ั คอลัมน์ (Columns) เขา้ มาใชง้ านรว่ มดว้ ย ตามขน้ั ตอนดังตอ่ ไปนี้ 1) ตั้งค่าหน้ากระดาษ โดยคลิกท่ีปุ่มคำสั่ง การวางแนว (Orientation) บนริบบอน เค้าโครง หน้ากระดาษ (Page Laout) แล้วคำส่ังเลือก แนวนอน (Landscape) กำหนดระยะห่างด้านหน้า ดา้ นหลัง ดา้ นบนและดา้ นลา่ ง 1 ซม. (อาจจะกำหนดตา่ งกนั กไ็ ด้ตามความเหมาะสม) 2) แบ่งคอลัมน์ โดยคลิกท่ีปุ่มคำส่ังคอลัมน์ (Columns) บนริบบอน เค้าโครงหน้ากระดาษ (Page Layout) 3) เลือกแบ่งเป็น 3 คอลมั น์ กำหนดระยะหา่ งระหวา่ งคอลมั นเ์ ทา่ กับ 1-2 ซม. 4) แทรกรปู ภาพ และพมิ พ์ข้อความลงในแผ่นพบั ตามท่ีเราต้องการ แผ่นพับหน้า 1

139 แผ่นพับหน้า 2 5.ครูใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบอภิปราย (Discussion Method) คือกระบวนการที่ผู้สอนมุ่ง ให้ผู้เรียนมีโอกาสสนทนาแลกเปล่ียนความคิดเห็นหรือระดมความคิดในเร่ืองการทำวุฒิบัตร ซึ่งอาจจะ เป็นเรื่องท่ีเก่ียวข้องกับบทเรียนท่ีกลุ่มมีความสนใจร่วมกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือหาคำตอบร่วมกัน การ จัดการเรียนรู้แบบน้ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ คือ ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมตัดสินใจ ร่วม ปฏิบัติงานและชื่นชมผลงานร่วมกันโดยคำว่า “วุฒิบัตร” หมายถึง เอกสารแสดงความสำเร็จหรือรับรอง ว่าได้ผ่านการฝึก การอบรม หรือการให้การศึกษาพิเศษ ในระยะเวลาส้ันๆ ซึ่งแตกต่างกับคำว่า “เกียรติ บัตร” เพราะเกียรติบัตร เป็นเอกสารใชเ้ พอ่ื การยกยอ่ งบุคคลท่ีมีเกยี รติพึงให้คำช่นื ชมตอ่ หน้าสาธารณชน 6.ครูและผู้เรียนช่วยกันบอก และอธิบายส่วนประกอบของวุฒิบัตร โดยใช้ส่ือ Power Point ประกอบ 7.ครสู าธิต และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตามขั้นตอนการทำใบวุฒิบัตร

140 8.ผูเ้ รยี นฝกึ ในการนำรูปภาพมาทำกรอบใบวุฒบิ ตั ร 1) ใหพ้ ิมพ์ขอ้ ความในวุฒิบัตร จดั ตำแหนง่ ให้เรยี บร้อย 2) แทรกรปู ภาพเลือกลายกรอบทจี่ ะนำมาใส่ในวฒุ ิบัตร 3) ให้คลกิ ขวาทีร่ ปู ภาพเลอื กคำส่งั Wrap Text > Behind Text

141 9.ผู้เรียนฝึกทกั ษะในการสร้างรายชือ่ อัตโนมตั ิใหก้ ับวฒุ บิ ัตรโดยใช้เครือ่ งมือ Mailings 10.ผู้เรียนฝึกทักษะทำแผ่นพับ ประชาสัมพันธ์สถานศึกษา โดยหาข้อมูล รูปภาพที่เก่ียวข้องกับ สถานศกึ ษา (จดั หารปู ภาพที่สอดคล้องมาแต่งแผ่นพับให้เหมาะสมและสวยงาม) และบันทึกไฟล์ช่ือ Ex9- 08 11.ผู้เรียนฝึกทักษะทำแผ่นพับ โดยมีเน้ือหาตามท่ีครูกำหนดให้ (จัดหารูปภาพท่ีสอดคล้องมาแต่ง แผน่ พบั ใหเ้ หมาะสมและสวยงาม) และบันทกึ ไฟล์ชอ่ื Ex9-09 12.ผู้เรียนฝึกทักษะทำแผ่นพับ ประชาสัมพันธ์สถานศึกษาโดยหาข้อมูล รูปภาพท่ีเก่ียวข้องกับ สถานศกึ ษา (จดั หารปู ภาพที่สอดคล้องมาแต่งแผ่นพับให้เหมาะสมและสวยงาม) และบนั ทึกไฟล์ช่ือ Ex9- 09 13.ผู้เรียนฝกึ ทกั ษะทำวฒุ ิบัตรหลักสูตรนกั บริหารน้อย ของสถาบนั ส่งเสรมิ นักบริหารระหว่างวนั ท่ี 23-24 เมษายน 2557 โดยกำหนดให้ครูผู้สอนเป็นผู้ออกวุฒิบัตร ผู้เรียนเป็นผู้เข้าอบรม และบันทึกไฟล์ ช่อื Ex9-10 14.ผู้เรียนฝึกทักษะทำวุฒิบัตรหลักสูตรการใช้โปรแกรมประมวลผล ของสถานศึกษาท่ีตนเอง ศึกษาอยู่ โดยกำหนดวัน เวลาเอง ผู้เรียนเป็นผู้เข้าอบรม บันทึกไฟล์ชื่อ Ex9-11 ให้ผู้เรียนจัดทำ ฐานขอ้ มูลผู้เขา้ อบรม ด้วยโปรแกรม Microsoft Excel จำนวนอย่างน้อย 5 รายชื่อ และบันทึกไฟลช์ ่ือ NameList_Stu โดยใช้ คำส่ัง Mailing ในการสร้างรายชื่อให้กับวุฒิบัตร และทำการผนึกไฟล์วุฒิบัตรที่สร้างขึ้น บันทึกไฟล์ชื่อ Cert_1

142 15.ครูแนะนำให้ผู้เรียนรู้จักการนำเอาความพอเพียงไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ซ่ึงเป็นความ พอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นท่ีต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อผลกระทบ ใดๆ อนั เกิดจากการเปล่ียนแปลงท้ังภายนอกและภายใน การตัดสนิ ใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆให้อยู่ ในระดบั พอเพียงนั้น ตอ้ งอาศัยท้งั ความรู้และคณุ ธรรมเปน็ พ้นื ฐาน ข้นั สรปุ และการประยุกต์ 16.ครสู รุปบทเรียน โดยใช้ VDO และ PowerPoint และอภปิ รายซักถามข้อสงสัย 17.ทำกิจกรรมต่อเนื่อง ตอบคำถามจากบทความในกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ และทำ ประสบการณ์การเรียนรู้ ซง่ึ ครผู ู้สอนพิจารณาตามความเหมาะสม 18.ผู้เรียนทำแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ัติ 19.ประเมนิ ผ้เู รยี นตามแบบฟอรม์ ตอ่ ไปนี้ ช่อื ผเู้ รียน ธรรมชาตขิ องผ้เู รียน วฒุ ิภาวะ วิธีการเรียนรู้ ความสนใจ สติปญั ญา 1. 2. 3. 4. 5. แบบประเมนิ ประสบการณ์พืน้ ฐานการเรยี นรู้ ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณพ์ ื้นฐานการเรยี นรู้ วิธกี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5.

143 สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 1.หนังสอื เรียน วิชาโปรแกรมประมวลผลคำ ของสำนักพิมพ์เอมพนั ธ์ 2.รูปภาพ 3.กิจกรรมการเรยี นการสอน 4.ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ สือ่ VDO และสอื่ PowerPoint 5.แบบประเมินผลการเรียนรู้ หลักฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเช็ครายชอ่ื 3.แผนจดั การเรียนรู้ 4.การตรวจประเมินผลงาน การวดั ผลและการประเมินผล วธิ ีวัดผล 1.สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2.ประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3.สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่ 4.ตรวจกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนำความรู้ 5.ตรวจใบงาน 6.ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 7.การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เครือ่ งมอื วดั ผล 1.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2.แบบประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ (โดยครู) 3.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม (โดยผู้เรียน) 4.แบบประเมนิ กจิ กรรมสง่ เสริมคุณธรรมนำความรู้ 5.แบบประเมินกจิ กรรมใบงาน

144 6.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏิบตั ิ 7.แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและ ผ้เู รยี นร่วมกันประเมิน เกณฑ์การประเมินผล 1.เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ีช่องปรับปรุง 2.เกณฑผ์ ่านการประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ข้นึ ไป) 3.เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50% ขึน้ ไป) 4.ตอบคำถามในกจิ กรรมส่งเสริมคุณธรรมนำความรู้จึงจะถอื วา่ ผ่าน เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดับ คือ 4= ดมี าก, 3 = ดี, 2 = พอใช้ , 1= ควรปรับปรงุ 5.กิจกรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คือ 50% 6.แบบประเมนิ ผลการเรยี น และแบบฝกึ ปฏิบัติรู้มีเกณฑ์ผ่าน 50% 7.แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยกู่ ับ การประเมนิ ตามสภาพจริง กจิ กรรมเสนอแนะ 1.ทำกิจกรรมใบงาน และแบบฝึกปฏิบัติ 2.อ่านและทบทวนเนือ้ หา

145 บันทกึ หลงั การสอน ข้อสรุปหลงั การสอน ................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ........... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ปัญหาทีพ่ บ ................................................................................................................................................ .................................................................................................... ................................................................. .................................................................................................. ................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... แนวทางแก้ปัญหา ................................................................................................................... ............................. .................................................................................................... ................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................... ......................................

แผนการจัดการเรียนรู้แบบบรู ณาการที่ 15 146 รหัส 20204-2102 โปรแกรมประมวลผลคำ (1-2-2) ชอื่ หน่วย/เร่อื ง การพิมพ์เอกสารทางวิชาการ หนว่ ยที่ 10 สอนครงั้ ที่ 16 (46-48) จำนวน 3 ช.ม. สาระสำคัญ การพิมพ์เอกสารทางวิชาการจะมีรูปแบบและกฎเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงานหรือสถาบัน แต่จะมี ลักษณะคล้ายกันการใช้โปรแกรม Microsoft Word 2016 มีเคร่ืองมือและคำสั่งท่ีสามารถสร้างเอกสาร ทางวิชาการได้อย่างครบถ้วน ท้ังยังมีความสามารถในการพิมพ์รูปแบบทางคณิตศาสตร์ การสร้าง เชงิ อรรถ สร้างดัชนีท้ายเลม่ และสารบญั รวมทงั้ พมิ พ์เอกสารทางเครื่องพิมพ์ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ สมรรถนะประจำหน่วย แสดงการสร้างตารางขอ้ มลู ด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2016 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. พิมพ์เอกสารทางวชิ าการได้ 2. สรา้ งท่คี ่ันหน้าได้ 3. แทรกเชงิ อรรถได้ 4. ทำดชั นีทา้ ยเลม่ ได้ 5. แทรกสารบญั ได้ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสังเกตไดข้ ณะทำการสอนในเรอ่ื ง 1. ความมมี นษุ ยสัมพนั ธ์ 2. ความมวี ินยั 3. ความรับผิดชอบ 4. ความซ่อื สัตย์สุจริต 5. ความเชอ่ื มั่นในตนเอง

147 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝ่รู้ 8. การละเว้นส่งิ เสพตดิ และการพนนั 9. ความรกั สามัคคี 10. ความกตญั ญกู ตเวที สาระการเรียนรู้ 1. การพิมพ์เอกสารทางวชิ าการ 2. การสรา้ งทค่ี น่ั หนา้ 3. การแทรกเชิงอรรถ 4. การทำดชั นีทา้ ยเล่ม 5. การแทรกสารบญั กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน 1.ครูและผู้เรียนสนทนากันเร่ืองเอกสารทางวิชาการ เป็นเอกสารที่ใช้เผยแพร่ข้อมูลและความรู้ ทางวชิ าการท่ีเปน็ ประโยชนท์ ้งั ทางด้าน สงั คม เศรษฐกิจ การเมอื ง และการศึกษาเป็นตน้ 2.เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถาม หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมท้ังปัญหาต่าง ๆ ในการเรียน การสอน 3.ผเู้ รียนแต่ละคนชว่ ยกันยกตัวอยา่ งเอกสารทางวชิ าการ และทำแบบประเมินผลก่อนเรยี น ขั้นสอน 4.ครูใช้เทคนิคกการจัดการเรียนรู้แบบอภิปราย (Discussion Method) คือกระบวนการท่ีผู้สอน มุ่งให้ผู้เรียนมีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือระดมความคิดในเรื่องการพิมพ์เอกสารทาง วิชาการ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องท่ีเก่ียวข้องกับบทเรียนหรือที่กลุ่มมีความสนใจร่วมกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ หาคำตอบ การจดั การเรยี นรู้แบบนม้ี ่งุ เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรยี นรู้ คอื ร่วมคิด รว่ มวางแผน รว่ ม ตดั สนิ ใจ ร่วมปฏิบัตงิ านและช่นื ชมผลงานรว่ มกนั 5.ครูใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ (Integration) หมายถึง การเรียนรู้ที่เชื่อมโยง ศาสตร์หรือเน้ือหาสาขาวิชาต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์เก่ียวข้องกันมาผสมผสานเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิด

148 ความรู้ท่ีมีความหมาย มีความหลากหลายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยจะ กลา่ วถึงเอกสารทางวชิ าการ ได้แก่ 1) เอกสารประกอบการสอน 2) เอกสารคำสอน 3) บ ท ค ว า ม ทางวชิ าการ 4) ตำรา 5) หนังสอื 6) งานวจิ ัย 7) ผลงานทางวิชาการ 8) งานแปล 6.ครูอธิบายถึงการกำหนด การจัดรูปแบบและการพิมพ์เอกสารทางวิชาการ โดยใช้ส่ือ Power Point 7.ครูและผู้เรียนสาธิตการสร้างที่คั่นหน้า โดยการพิมพ์เอกสารจำนวนหลายหน้า อาจมีปัญหาใน การค้นหาหัวข้อท่ีสำคัญ เพื่อให้สามารถย้อนไปอ่านหรือแก้ไขได้ ดังนั้นคำส่ังที่ค่ันหน้า จะช่วยค้นหา หัวข้อท่ีต้องการได้รวดเร็วขึ้นการกำหนด Bookmark หรือ“ท่ีค่ันหนังสือ” ในเอกสารน้ัน จะมีประโยชน์ สำหรับนำมาใช้อ้างอิงในการทำงานต่างๆ เช่น การจัดดัชนี การทำอ้างอิงไขว้ เป็นต้น โดยข้อความนี้จะ ถูกนำไปเกบ็ ไว้ในรายการของทค่ี ั่นหนงั สือ (Bookmark) และเม่ือเรยี กขอ้ ความนี้จากรายการที่ค่ันหนังสือ หรือจะเรียกจากคำสงั่ ค้นหากไ็ ด้ โปรแกรมจะทำการค้นหาและแสดงไปยังคำคำนน้ั ทันที การกำหนดท่ีค่ัน หนงั สอื (Bookmark) สามารถทำไดด้ ังน้ี 8. ครูและผ้เู รียนสาธิตการแทรกเชิงอรรถ โดยการกำหนดเชิงอรรถหรือคำอธิบายเพิ่มเตมิ เกี่ยวกับ คำศัพท์ หรือข้อความท่ีปรากฏส่วนใหญ่ขอ้ มูลอ้างอิงนั้นจะหมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องของท่ีมาของข้อมูล หรือคำท่ีต้องการทราบแหล่งที่มาซึ่งโปรแกรม Microsoft Word 2016 จะให้แทรกข้อมูลอ้างอิงได้ใน ดา้ นล่างของหนา้ เอกสารโดยสามารถทำได้ดังต่อไปน้ี

149 9. ครูและผู้เรยี นสาธติ การทำดชั นที า้ ยเล่ม โดยดัชนีท้ายเลม่ คอื รายการคำศัพทภ์ าษาองั กฤษและ ภาษาไทย ที่เป็นศัพท์เฉพาะ ซ่ึงดัชนีจะสร้างอยู่ด้านหลังของหนังสือเสมอ ดัชนีนั้นจะประกอบด้วย คำศัพท์และเลขหน้าที่ระบุตำแหน่งของคำศัพท์น้ันๆ การสรา้ งดชั นีจะต้องเก็บคำศัพท์ไว้ในโปรแกรมกอ่ น แล้วจึงสร้างดัชนีลงในหน้าเอกสาร การทำงานด้านเอกสารต่างๆ เช่น หนังสือ จะต้องทำดัชนี Index ไว้ เป็นรายการอ้างอิง คำศัพท์ โดยจะอ้างอิงตามเลขหน้าที่อยู่ในเอกสาร เพ่ือช่วยให้ค้นหาความหมายของ หรือวลตี ่างๆ ในเอกสารได้อยา่ งรวดเรว็ โดยการทำดัชนสี ามารถทำได้ดังต่อไปนี้ 10.ครูและผู้เรียนสาธิตการแทรกสารบัญ โดยโปรแกรมจะมีการสร้างสารบัญสำเร็จรูปไว้ให้เราใช้ งานได้สะดวก ซึ่งมีลักษณะเป็นกล่องข้อความให้เราได้กรอกข้อมูลเข้าไป แต่ต้องมีการสร้างหมายเลหน้า กระดาษไว้ก่อน ไม่เช่นน้ันจะไม่สามารถสร้างตารางสารบัญแบบอัตโนมัติได้ โดยการสร้างสารบัญ ขอ้ ความมขี ้นั ตอนดงั ต่อไปน้ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook