Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนทั้งหมด

แผนทั้งหมด

Published by naree.ced55, 2021-11-29 07:11:49

Description: แผนทั้งหมด

Search

Read the Text Version

คำนำ การจดั ทาํ แผนการจัดการเรยี นรูน้ ับเป็นวิธหี นงึ่ ที่ทาํ ให้ครผู ู้สอนไดม้ ีการเตรียมการสอน ลว่ งหน้า ก่อนที่จะ ทําการสอนจรงิ โดยมกี ารเตรียมเนื้อหาเตรียมกจิ กรรม เตรียมส่อื การเรยี นการสอน รวมท้ังวิธีการวดั ผลประเมนิ ผล ซึ่งการเตรียมการสอนจะช่วยให้ครผู สู้ อนมีความพรอ้ มที่จะสอนให้ ผเู้ รยี นบรรลตุ ามจดุ มงุ่ หมายของหลกั สตู ร การจัดทําแผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ ผู้จัดทําได้ศึกษาค้นคว้าหลักสูตร เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง วเิ คราะห์ หลกั สูตร จัดทาํ กําหนดการสอน โครงสรา้ งรายวชิ า และหารูปแบบการทําแผนการจดั การเรยี นรู้โดย เนน้ ให้ผู้เรียนได้เรียนผ่านกระบวนการคิดด้วยตนเอง โดยคํานึงถึงสภาพแวดล้อมของผู้เรียน โรงเรียน และชุมชนเป็น หลัก แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ ฉบับนี้เป็นโปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) รหัสวิชา 20204-2102 (1-2-2) ซง่ึ ประกอบด้วย • จดุ ประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวิชา • ลกั ษณะรายวชิ า • ตารางวิเคราะหห์ ลักสูตร • โครงการจดั การเรียนรู้ • แผนการจัดการเรียนร้ทู บี่ ูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ขา้ พเจา้ หวังเปน็ อย่างยิ่งว่า แผนการจัดการเรียนรู้ฉบบั น้ี จะชว่ ยใหก้ ารเรยี นการสอนดําเนินไปด้วยดี และ ทาํ ให้ผ้เู รียนมีความรู้ ความสามารถ มที กั ษะกระบวนการและมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ตรงตามจุดมุ่งหมายของ หลกั สตู ร ต่อไป ผู้จัดทำ

2 สารบัญ คำนำ 1 รายการตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ช้ 2 หลักสูตรรายวิชา 4 ความสอดคล้องของหนว่ ยกับสมรรถนะรายวชิ า 5 การวดั ผลและประเมินผล 6 ตารางวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา 7 โครงการจดั การเรยี นรู้ 9 แผนการจัดการเรยี นรู้ทบ่ี ูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 11 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 21 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 36 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 50 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 60 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 67 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 78 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 88 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 9 95 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 10 97 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 11 103 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 115 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 13 128 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 14 136 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 15 146 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16 156 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17 165 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 18 174 ภาคผนวก ก ตวั อยา่ งแบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานรายบคุ คล 178 ข ตัวอย่างแบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ 179 ค ตวั อย่างแบบประเมนิ การนำเสนอผลงานรายบุคคล 180 ง ตวั อยา่ งแบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 181

3 จ ตวั อยา่ งแบบรวมคะแนนการประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม 182 และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ฉ ตวั อย่างแบบสรุปผลการประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 183 วิธีการใชแ้ บบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

4 หลักสตู รรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ ชอื่ วิชา วชิ าโปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) ท.ป.น.1-2-2 รหสั วชิ า 20204-2102 (1-2-2) จำนวน 3 ช่วั โมง/ สปั ดาห์ ระดับ ปวช. หน่วย ช่อื หน่วย จำนวน ท่มี า ท่ี ช่ัวโมง A B C D E F 1 ห ลักการท ำงาน ของโป รแกรม ป ระมวลผลค ำ 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ (Microsoft Word 2016) 2 การพิมพ์เอกสารและการจัดรูปแบบตวั อักษร 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 3 การตกแต่งเอกสาร 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 4 การสรา้ งตารางขอ้ มลู 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 5 การสรา้ งแบบฟอรม์ เอกสาร 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 6 หนังสือราชการ 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 7 จดหมายธรุ กิจ 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 จดหมายเวียน 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 9 การทำนามบัตร บตั รอวยพร และแผน่ พบั 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 10 การพิมพเ์ อกสารทางวชิ าการ 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 11 การใช้คำสง่ั แมโคร 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 6 การวดั ผล/ ประเมนิ ผล (กลางภาค/ปลายภาค) รวม 54 หมายเหตุ A = หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2562 B = กิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ C = แบบฝกึ หัดทา้ ยหน่วย D = ใบงานของแผนการสอน E = เอกสารประกอบการสอน F = หนงั สอื เรียน วชิ าหลกั การเขยี นโปรแกรม สำนกั พิมพ์เอมพนั ธ์

5 ความสอดคล้องของหนว่ ยกบั สมรรถนะรายวิชา ชอื่ วิชา วิชาโปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) ท.ป.น.1-2-2 รหสั วชิ า 20204-2102 (1-2-2) จำนวน 3 ชว่ั โมง/ สปั ดาห์ ระดับ ปวช. ความสอดคล้อง หน่วย ช่ือหนว่ ย ชั่วโมง แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการ ทำงานของโปรแกรมประมวลผล คำ ใ ้ชคำ ัส่งในโปรแกรมประมวลผล คำ สร้าง แก้ไข และตกแต่ง เอกสาร รูปแบบ ่ตาง ๆ พิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์ ้ดวยโปรแกรมประมวลผลคำ 1 หลักการทำงานของโปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 3  - - 2016) 2 การพมิ พเ์ อกสารและการจดั รปู แบบตัวอกั ษร 3 - - 3 การตกแตง่ เอกสาร 3  - 4 การสร้างตารางข้อมูล 3  - 5 การสรา้ งแบบฟอรม์ เอกสาร 6  - 6 หนังสือราชการ 6   7 จดหมายธรุ กจิ 6   8 จดหมายเวยี น 3   9 การทำนามบตั ร บัตรอวยพร และแผน่ พับ 6   10 การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการ 6   11 การใชค้ ำสง่ั แมโคร 3   การวัดผล/ ประเมนิ ผล 6 รวม 54

6 การวัดผลและประเมินผล ช่ือวิชา วชิ าโปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) ท.ป.น.1-2-2 รหัสวชิ า 20204-2102 จำนวน 3 ช่ัวโมง/ สปั ดาห์ ระดับ ปวช. 1.การวัดผล -พุทธพิ ิสยั 1) แบบฝกึ หดั / แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 5 % 2) ทดสอบหลงั เรยี น 10 % 3) วดั ผลสัมฤทธิ์ 10 % รวม 25 % -ทกั ษะพิสัย 1) ใบงาน 20 % 2) วดั ผลสัมฤทธิ์ 10 % รวม 30 % -จติ พิสยั รวม 15 % รวมทง้ั หมด 70 % (คะแนนทดสอบกอ่ นเรียนไวส้ ำหรับเปรียบเทียบกับคะแนนทดสอบหลงั เรียน) คะแนนระหว่างภาค/ปลายภาค 70 : 30 ระหวา่ งภาค 1) แบบประเมินผล 25 % 2) สอบกลางภาค 20 % 3) ใบงาน/ แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 10 % 4) จติ พสิ ัย 15 % รวม 70 % 30 % สอบปลายภาค 100 % รวม 2.การประเมินผล (อิงเกณฑ์) 80 – 100 คะแนน ได้ผลการเรยี น 4.0 หมายถงึ ผลการเรียนอยู่ในเกณฑด์ ีเย่ียม 75 – 79 คะแนน ได้ผลการเรยี น 3.5 หมายถงึ ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดมี าก 70 – 74 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 3.0 หมายถงึ ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี 65 – 69 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 2.5 หมายถึง ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑด์ พี อใช้ 60 – 64 คะแนน ไดผ้ ลการเรียน 2.0 หมายถงึ ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑพ์ อใช้ 55 – 59 คะแนน ได้ผลการเรียน 1.5 หมายถงึ ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์อ่อน 50 – 54 คะแนน ได้ผลการเรียน 1.0 หมายถึง ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑ์ออ่ นมาก  50 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 0 หมายถึง ผลการเรยี นต่ำกว่าเกณฑข์ นั้ ต่ำ

ตารางวเิ คราะห์หลกั สตู ร 7 ช่อื วิชา วชิ าโปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) ท.ป.น.1-2-2 รหสั วิชา 20204-2102 จำนวน 3 ช่วั โมง/ สปั ดาห์ ระดับ ปวช. พุทธพิ สิ ยั (40%) ความรู้ พฤติกรรม ความเ ้ขาใจ การนำไปใ ้ช ช่ือหน่วย การ ิวเคราะ ์ห การ ัสงเคราะห์ การประเ ิมน ทักษะพิ ัสย (30%) ิจตพิ ัสย (30%) รวม ลำดับความสำคัญ จำนวนชั่วโมง 1.หลักการท ำงาน ของโป รแกรมป ระมวลผลคำ 1 1 1 1 - - 1 1 6 3 (Microsoft Word 2016) 3 2.การพิมพเ์ อกสารและการจัดรูปแบบตวั อกั ษร 1111- - 2 2 8 3 3 3.การตกแต่งเอกสาร 1111- - 2 2 8 6 6 4.การสร้างตารางขอ้ มลู 1111- - 2 2 8 6 3 5.การสร้างแบบฟอร์มเอกสาร 1 1 2 2 - - 2 2 10 6 6 6.หนงั สอื ราชการ 1 1 2 1 1 1 2 2 11 3 3 7.จดหมายธุรกิจ 1 1 2 1 1 1 2 2 11 3 8.จดหมายเวยี น 1 1 1 1 1 1 2 2 10 54 9.การทำนามบตั ร บตั รอวยพร และแผ่นพบั 1 1 2 1 1 1 2 2 11 10.การพมิ พเ์ อกสารทางวิชาการ 1 1 2 1 1 1 2 2 11 11.การใช้คำส่ังแมโคร 1111- - 1 1 6 สอบกลางภาคเรียน สอบปลายภาคเรียน รวม 1 1 1 1 5 5 20 20 10 1 1 6 2 0 ลำดบั ความสำคญั หมายเหตุ การสอบกลางภาคเรียน/ ปลายภาคเรียนนัน้ ข้นึ อยู่กบั สถานศึกษา หรือครูผสู้ อน

โครงการจัดการเรยี นรู้ 8 ช่อื วิชา วิชาโปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) รหัสวิชา 20204-2102 จำนวน 3 ช่ัวโมง/ สัปดาห์ ท.ป.น.1-2-3 ระดบั ปวช. สัปดาห์ หนว่ ย ชั่วโมง ช่ือหน่วย/สาระการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ทฤษฏี ปฏิบตั ิ ท่ี ท่ี ✓ปฐมนเิ ทศ 2 1 1 1-3 1.จดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวิชาและ 1.บอกจุดประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และ 1 คำอธิบายรายวชิ า คำอธบิ ายรายวิชาตามหลกั สูตรฯ ได้ 2 2. แนวทางวดั ผลและการประเมินผลการเรยี นรู้ 2.บอกแนวทางวัดผลและการประเมินผลการเรยี นรู้ได้ 2 1.บอกประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Office ✓หลกั การทำงานของโปรแกรมประมวลผลคำ Word 2016 ได้ (Microsoft Word 2016) 2. บอกส่วนประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรม 1.ประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Office Microsoft Office Word 2016 ได้ Word 2016 3. สร้าง เปิด ปิด และบันทกึ เอกสารได้ 2. สว่ นประกอบต่างๆ ของโปรแกรม Microsoft 4. กำหนดค่าเรม่ิ ต้นในการใช้โปรแกรมได้ Office Word 2016 5. จัดรูปแบบยอ่ หน้าและการกัน้ ระยะได้ 3. การสร้าง การเปดิ ปิด และบันทึกเอกสาร 2 2 4-6 4.การกำหนดค่าเริม่ ต้นในการใชโ้ ปรแกรม 1. ปรับคุณลักษณะของตวั อักษรและข้อความได้ 1 3 3 7-9 5.การจัดรูปแบบย่อหนา้ และการกนั้ ระยะ 2. คดั ลอกขอ้ ความและคัดลอกรปู แบบ 1 ข้อความได้ การพิมพ์เอกสาร การจดั รูปแบบตวั อกั ษร 3. ค้นหาและแทนที่ได้ 1. การปรบั คณุ ลักษณะของตัวอกั ษรและขอ้ ความ 4. จัดระยะหา่ งระหวา่ งบรรทดั ได้ 2. การคัดลอกขอ้ ความและคัดลอกรูปแบบ 5. จัดตำแหนง่ กลุ่มข้อความได้ ข้อความ 6. ใสส่ ัญลักษณแ์ สดงหวั ข้อได้ 3. การคน้ หาและแทนท่ี 7. ทำอกั ษรขน้ึ ตน้ ดว้ ยตัวใหญ่ได้ 4. การจัดระยะห่างระหวา่ งบรรทดั 8. แบง่ ขอ้ ความเปน็ คอลมั น์ได้ 5. การจัดตำแหน่งกล่มุ ข้อความ 6. การใส่สญั ลักษณ์แสดงหัวข้อ 1.สรา้ งปกรายงานได้ 7. การทำอกั ษรขนึ้ ตน้ ดว้ ยตวั ใหญ่ 2. แทรกรปู ภาพ ภาพตดั ปะ รูปรา่ ง SmartArt 8. การแบ่งข้อความเปน็ คอลมั น์ แผนภูมิได้ การตกแตง่ เอกสาร 3.จับภาพหน้าจอมาแทรกในเอกสารได้ 1.การสรา้ งปกรายงาน 4.แทรกหวั กระดาษ ทา้ ยกระดาษ หมายเลข 2.การแทรกรปู ภาพ ภาพตัดปะ รูปรา่ ง หน้ากระดาษได้ SmartArt แผนภูมิ 3.การจับภาพหนา้ จอมาแทรกในเอกสาร 4.การแทรกหวั กระดาษ ท้ายกระดาษ หมายเลข หน้ากระดาษ

สัปดาห์ หนว่ ย ชั่วโมง ช่อื หนว่ ย/สาระการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 9 ที่ ที่ 5.แทรกกล่องข้อความ อกั ษรศิลป์ ตัวอกั ษร ทฤษฏี ปฏิบตั ิ 5. การแทรกกลอ่ งขอ้ ความ อกั ษรศลิ ป์ ตัวอักษร หน้าข้อความขนาดใหญไ่ ด้ 12 6.แทรกสัญลักษณพ์ เิ ศษและแทรกสัญลกั ษณ์ หนา้ ขอ้ ความขนาดใหญ่ คณิตศาสตร์ได้ 24 7. แทรกลายนำ้ ลงในเอกสารได้ 24 6. การแทรกสัญลกั ษณพ์ เิ ศษ และแทรก 8. สรา้ งขอบกระดาษเอกสารได้ 12 1. สรา้ งตารางแบบตา่ งๆ ได้ 12 สญั ลักษณค์ ณิตศาสตร์ 2. กรอกข้อมลู ลงในตารางได้ 3. จัดตำแหน่งข้อความได้ 7.การแทรกลายนำ้ ลงในเอกสาร 4. ปรับขนาดของตารางได้ 5. การเพิม่ จำนวนแถวหรือคอลัมน์ 8.การสรา้ งขอบกระดาษเอกสาร 6. การผสานและแยกเซลล์ 7. การลบเซลลท์ ไ่ี มต่ อ้ งการ 4 4 10- การสรา้ งตารางข้อมลู 8. การกำหนดเสน้ ขอบของตาราง 5. เพิม่ จำนวนแถวหรอื คอลัมนไ์ ด้ 12 1. การสรา้ งตาราง 6. ผสานและแยกเซลลไ์ ด้ 7. ลบเซลล์ทไ่ี ม่ตอ้ งการได้ 2. การกรอกข้อมูลลงในตาราง 8. กำหนดเสน้ ขอบของตารางได้ 1.อธบิ ายความหมายของแบบฟอร์มได้ 3. การจดั ตำแหน่งข้อความ 2.สร้างแบบฟอร์มดว้ ยคำส่ังสว่ นประกอบด่วน (Quick Parts) ได้ 4. การปรบั ขนาดของตาราง 3.สร้างแบบฟอร์มด้วยรบิ บอนนักพัฒนา (Developer) ได้ 5. การเพ่มิ จำนวนแถวหรือคอลัมน์ 4.ป้องกนั การแก้ไขแบบฟอร์มได้ 5.บนั ทึกแบบฟอร์มได้ 6. การผสานและแยกเซลล์ 1.อธิบายความหมายและชนิดของหนงั สอื ราชการ 7. การลบเซลลท์ ่ไี มต่ อ้ งการ ได้ 2.พิมพห์ นังสอื ราชการดว้ ยคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 8. การกำหนดเส้นขอบของตาราง 3.พิมพห์ นังสือราชการภายนอกไดถ้ กู ตอ้ ง 4.พมิ พ์หนงั สอื ราชการภายในไดถ้ กู ตอ้ ง 5 5 13- การสร้างแบบฟอร์มเอกสาร 5.พมิ พ์หนงั สือประทบั ตราได้ถกู ต้อง 15 1. ความหมายของแบบฟอร์ม 1.อธิบายความหมาย ความสำคัญ และประโยชน์ ของจดหมายธรุ กิจได้ 2. การสร้างแบบฟอร์มด้วยคำส่งั สว่ นประกอบ 2.บอกสว่ นประกอบของจดหมายธรุ กจิ ได้ถกู ต้อง 3.อธิบายลกั ษณะของจดหมายธุรกจิ ทีด่ ไี ด้ ด่วน (Quick Parts) 4.หลกั ในการพิมพจ์ ดหมายธุรกจิ แตล่ ะประเภท 6 5 16- 3. การสร้างแบบฟอรม์ ด้วยรบิ บอนนักพฒั นา 18 (Developer) 4.การป้องกนั การแก้ไขแบบฟอรม์ 5.การบนั ทึกแบบฟอรม์ 7 6 19- หนังสือราชการ 21 1.ความหมายและชนิดของหนงั สอื ราชการ 2. การพิมพ์หนังสือราชการด้วยคอมพวิ เตอร์ 3. หนังสอื ราชการภายนอก 8 6 22- 4. หนงั สอื ราชการภายใน 24 5. หนงั สือประทบั ตรา 9 - 25- สอบกลางภาคเรียน 27 10 7 28- จดหมายธรุ กิจ 30 1. ความหมาย ความสำคญั และประโยชน์ของ จดหมายธุรกจิ 2. สว่ นประกอบของจดหมายธุรกิจ 3. ลักษณะของจดหมายธรุ กจิ ทีด่ ี 4. หลกั ในการพมิ พ์จดหมายธรุ กจิ

10 สัปดาห์ หน่วย ชั่วโมง ชอ่ื หน่วย/สาระการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทฤษฏี ปฏบิ ตั ิ ท่ี ที่ 11 7 31- จดหมายธุรกจิ (ตอ่ ) 5.รปู แบบของจดหมายธรุ กจิ แตล่ ะประเภทได้ 33 5. รปู แบบของจดหมายธรุ กิจ ถกู ตอ้ ง 1 2 6. รปู แบบของจดหมายธุรกจิ ท่นี ยิ มใช้มากใน 6.บอกรูปแบบของจดหมายธรุ กจิ ทนี่ ยิ มใช้มากใน ปจั จบุ ัน ปัจจบุ ันไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 12 8 34- จดหมายเวียน 1. บอกองคป์ ระกอบของจดหมายเวยี นได้ 36 1.องคป์ ระกอบของจดหมายเวยี น 2. สรา้ งจดหมายเวยี นดว้ ยตัวชว่ ยสรา้ งได้ 12 2. การสร้างจดหมายเวียนดว้ ยตวั ชว่ ยสรา้ ง 3. ส่งั พมิ พ์จดหมายเวียนออกทางเครอ่ื งพมิ พ์ได้ 3. การพมิ พจ์ ดหมายเวยี นออกทางเครอ่ื งพิมพ์ 13 9 37- การทำนามบัตร บตั รอวยพรและแผ่นพับ 1. สรา้ งนามบตั รได้ 24 39 1. การสร้างนามบัตร 2. ทำบัตรอวยพรได้ 2. การทำบัตรอวยพร 3. ทำแผน่ พบั ได้ 4. ทำวุฒิบตั รได้ 14 9 40- 3. การทำแผ่นพบั 42 4. การทำวุฒบิ ัตร 15 10 43- การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการ 1. พมิ พ์เอกสารทางวิชาการได้ 24 45 1. การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการ 2. สรา้ งทค่ี ่ันหนา้ ได้ 2. การสรา้ งที่คนั่ หนา้ 3. แทรกเชิงอรรถได้ 3. การแทรกเชิงอรรถ 4. ทำดัชนที า้ ยเลม่ ได้ 4. การทำดชั นีทา้ ยเลม่ 5. แทรกสารบญั ได้ 5. การแทรกสารบญั 6. สรา้ งสมการทางคณติ ศาสตร์ได้ 7. พิมพเ์ อกสารออกทางเครอื่ งพิมพ์ได้ 16 10 46- 6. การสร้างสมการทางคณิตศาสตร์ 48 7. การพมิ พเ์ อกสารออกทางเครอ่ื งพิมพ์ 17 11 49- การใช้คำสัง่ แมโคร 51 1.ประโยชน์ของคำส่งั แมโคร 1.บอกประโยชนข์ องคำสั่งแมโคร 2.การสรา้ งคำส่งั แมโคร 2.สร้างคำสง่ั แมโครได้ 3.ตวั อย่างการสร้างคำสงั่ แมโครสรา้ งหัวกระดาษ 3.ประยกุ ต์ใช้คำสงั่ แมโครได้ 1 2 บริษัท 4.เปลย่ี นรปู แบบเอกสารเป็นรปู แบบเอกสารไทยได้ 4. การเปล่ยี นรูปแบบเอกสารเปน็ รูปแบบเอกสาร ไทย 18 - ทบทวน/ สอบปลายภาคเรยี น 12 รวม 18 36 รวมท้งั สนิ้ 54 หมายเหตุ กำหนดการสอนที่บูรณาการคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคน์ ้ี จัดทำขึน้ เพื่อเป็น แนวทางใหก้ บั ครผู ้สู อนในการจัดการเรยี นการสอนเทา่ น้ัน สามารถเปลีย่ นแปลงไดข้ นึ้ อยกู่ บั ผ้สู อน และสถานศึกษาทจ่ี ะนำไป ประยกุ ต์ใชเ้ ปน็ สำคญั

11 แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 1 หน่วยท่ี 1 รหัส 20204-2102 โปรแกรมประมวลผลคำ (1-2-2) สอนคร้งั ท่ี 1 (1-3) ช่ือหน่วย/เรื่อง เร่ือง ปฐมนิเทศ/ หลักการทำงานของโปรแกรม จำนวน 3 ชว่ั โมง ประมวลผลคำ (Microsoft Word 2016) สาระสำคัญ การศึกษาวิชาประมวลผลคำเป็นวิชาท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพ่ือปลูกฝังให้พัฒนาตนเองเข้าสู่ อาชีพอย่างสม่ำเสมอ และนำไปประยุกต์การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อวางแผนใช้ในการทำงานสำหรับ ชีวิตประจำวันต่อไป และยังเป็นการให้ผู้เรียนได้มีโอกาสฝึกทักษะความชำนาญการเรียนรู้ด้านความรู้ ความสามารถพ่ือมีส่วนร่วมในการเรียนอย่างเต็มที่ในการฝึกทักษะการปฏิบัติจริง เพ่ือพัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถรวมทั้งสติปัญญาเพ่ือแก้ปัญหาได้ ผู้เรียนวิชานี้นอกจากจะได้ความรู้ท่ีถูกต้อง แล้วยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานเพ่ือเป็นเคร่ืองมือที่สำคัญในการเพ่ิมประสิทธิภาพของงาน และ สามารถแกป้ ัญหาในชีวิตประจำวันอกี ด้วย โปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Office 2016 เป็นโปรแกรมในการจัดการเอกสารต่างๆ ที่มี ประสิทธิภาพและมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย มีความสามารถในการจัดการรูปแบบตัวอักษร และ ข้อความให้มีความน่าสนใจ เหมาะสมกับรูปแบบของเอกสารนั้นๆ และยังสามารถปรับปรุงแก้ไข จัดเก็บ ในรปู แบบตา่ งๆ เพ่อื นำมาใชใ้ หม่ ทำให้การทำงานมคี วามสะดวก รวดเรว็ สมรรถนะประจำหน่วย แสดงความรู้เก่ียวกับโปรแกรม Microsoft Word 2016 จุดประสงค์การเรียนรู้ ปฐมนิเทศ 1.บอกจดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคำอธิบายรายวชิ าตามหลกั สตู รฯ ได้ 2.บอกแนวทางวัดผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ได้ หลกั การทำงานของโปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 2016) 1.บอกประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Office Word 2016 ได้ 2. บอกสว่ นประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรม Microsoft Office Word 2016 ได้ 3. สร้าง เปิด ปิด และบันทึกเอกสารได้

12 4. กำหนดคา่ เริม่ ตน้ ในการใช้โปรแกรมได้ 5. จัดรปู แบบยอ่ หน้าและการก้ันระยะได้ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ที่ครูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเรอ่ื ง 1 ความมีมนุษยสมั พนั ธ์ 2 ความมีวนิ ยั 3 ความรับผิดชอบ 4 ความซ่ือสัตย์สุจรติ 5 ความเช่ือม่นั ในตนเอง 6 การประหยดั 7 ความสนใจใฝ่รู้ 8 การละเว้นส่งิ เสพติดและการพนนั 9 ความรกั สามคั คี 10 ความกตญั ญกู ตเวที สาระการเรียนรู้ ปฐมนเิ ทศ 1.บอกจดุ ประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวชิ าตามหลกั สตู รฯ ได้ 2.บอกแนวทางวดั ผลและการประเมินผลการเรยี นรู้ได้ หลักการทำงานของโปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 2016) 1.ประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Office Word 2016 2. ส่วนประกอบต่างๆ ของโปรแกรม Microsoft Office Word 2016 3. การสร้าง การเปดิ ปิด และบันทกึ เอกสาร 4.การกำหนดคา่ เรมิ่ ตน้ ในการใช้โปรแกรม 5.การจัดรปู แบบย่อหนา้ และการก้ันระยะ

13 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรยี น 1.ครูผู้สอนแนะนำจุดประสงค์ที่ผู้เรียนจะได้จากหลักสูตร โดยกำหนดให้ผู้เรียนทุกคนต้องมี ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทำงานของโปรแกรมจัดพิมพ์เอกสาร ผลิตเอกสารโดยใช้โปรแกรมประเภท จดั พมิ พ์เอกสาร และมีคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมท่ีดีในการใชค้ อมพิวเตอร์ 2.ผู้เรียนยกตวั อยา่ งผลงานที่ได้จากโปรแกรมประมวลผลคำ และโปรแกรมทต่ี นเองชอบและ ต้องการทจ่ี ะเรียนรู้ 3.ครูสนทนากับผู้เรียนเพื่อให้เห็นความสำคัญของการใช้โปรแกรมประมวลผลคำ ซ่ึงในปัจจุบัน สำนกั งาน ทงั้ ภาครัฐและเอกชน มีการนำโปรแกรมประมวลผลคำมาใช้ในการพิมพ์เอกสาร และรายงานตา่ งๆ แทน เครอ่ื ง พิมพ์ดดี มากข้ึน เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเคร่ืองคอมพิวเตอรม์ ีราคาถูกลง แต่มี ประสิทธิภาพสูงข้ึน ทำให้สำนักงานต่างๆ นิยมใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการประมวลข้อมูล ซ่ึง สามารถจดั ทำ เอกสาร บทความ และรายงานได้อย่างรวดเร็ว โดยจัดข้อความและเลือกแบบอักษร แก้ไข เพิ่มเติม ปรับปรงุ แทรกข้อความ รวมข้อความหรือเอกสาร จัดขอบกระดาษและตรวจดูเอกสารก่อนที่จะพิมพ์เอกสารจริง ออกมา 4.ครูแนะนำใหผ้ ้เู รยี นมีการวางแผนเรียนวิชาโปรแกรมจัดการฐานข้อมูล 5.ผู้เรียนทำแบบประเมนิ ผลการเรียนร้กู อ่ นเรยี น แล้วสลบั กันตรวจเพอ่ื เกบ็ คะแนนสะสมไว้ ข้ันสอน 6.ผู้เรยี นรับฟงั คำช้ีแจงสงั เขปรายวิชาและการวดั ประเมนิ ผล ซักถามข้อปญั หารวมทั้งแสดงความ คดิ เห็นเกยี่ วกบั การเรยี นวิชานี้ 7.ครูใช้เทคนิควิธีสอนแบบบรรยาย (Lecture Method) ซ่ึงเป็นวิธีสอนที่ผู้สอนให้ความรู้ตาม เน้อื หา

14 สาระด้วยการเล่าอธิบายแสดงสาธิตโดยที่ผู้เรียนเป็นผู้ฟัง และเปิดโอกาสให้ซักถามปัญหาได้บ้างใน ตอนทา้ ยของการบรรยายเก่ียวกับการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ เพ่ือนำไปปฏิบัตใิ ชใ้ นยุคปัจจุบัน ซึ่งได้มี การนำโปรแกรมเหลา่ น้ีไปใชอ้ ยา่ งแพร่หลาย 8.ครูใช้เทคนิควิธีสอนแบบบรรยาย (Lecture Method) ด้วยการเล่าอธิบายแสดงสาธิตให้ผู้เรียน เปน็ ผ้ฟู ัง และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามปัญหาได้ในตอนท้ายของการบรรยายเก่ียวกับประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Office Word 2016 ได้แก่ ด้านการจัดเก็บเอกสาร การเรียกใช้ข้อมูล การทำสำเนา การ ค้นหาและแก้ไขเอกสาร การจัดรูปแบบเอกสาร การใช้รูปแบบที่จัดไว้แล้ว การตรวจสอบคำผิดลักษณะ ใหม่ การใช้เอกสารรว่ มกัน สามารถบันทึกเอกสารต่างๆ ซ่ึงมปี ระโยชน์ดงั นี้ 1) ชว่ ยให้งานเอกสารสะดวกข้ึน เช่น การเพ่ิม ลบ แทรกขอ้ ความ การทำสำเนา เป็นตน้ 2) ช่วยให้การค้นหาเอกสารและจัดเก็บเอกสารง่ายข้นึ 3) ชว่ ยลดขน้ั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน เชน่ ทำจดหมายเวียน 4) ช่วยประหยัดเวลา และคา่ ใชจ้ า่ ยในการพมิ พ์เอกสาร 5) ช่วยสรา้ งเอกสารใหม้ ีความสวยงาม เนือ่ งจากเพ่ิมกราฟกิ รปู วาด รปู ภาพตามท่ีตอ้ งการได้ 6) ลดความผดิ พลาดของงานเอกสาร เน่อื งจากลบหรอื เพิ่ม โดยตรวจสอบความถูกตอ้ งทางหน้าจอ ก่อนพมิ พ์ หรืออาจใช้ระบบตรวจคำผดิ อตั โนมตั ิ จึงช่วยให้เอกสารสมบูรณ์ 7) สามารถคน้ หาและเรียกใชข้ อ้ มลู ได้งา่ ย 9.ครูใช้เทคนิควิธีสอนแบบใช้โสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวิธีสอนที่นำอุปกรณ์โสตทัศน์วัสดุมาช่วยพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน โสตทัศน์วัสดุดังกล่าว ได้แก่ CD, Power Point เพอ่ื แสดงใหผ้ เู้ รียนได้เรียนรู้สว่ นประกอบต่างๆ ของโปรแกรม Microsoft Office Word 2016 10.ครูใช้เทคนิควิธีสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) เป็นวิธีสอนท่ีครูแสดงให้ผู้เรียนดู และให้ความรู้แก่ผู้เรียนโดยใช้สื่อการเรียนรู้ท่ีเป็นรูปธรรม และผู้เรียนได้ประสบการณ์ตรง ซึ่งครูเป็นผู้ สาธิต และให้ผู้เรียนฝึกทักษะปฏิบัติตามเพ่ือเรียนรู้ส่วนประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรม Microsoft Office Word 2016 ดงั น้ี

15 11.ครูและผู้เรียนใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถาม (Questioning Method) เป็น กระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนากระบวนการทางความคิดของผู้เรียน โดยผู้สอนจะป้อนคำถามในลักษณะ ต่าง ๆ ท่ีเปน็ คำถามท่ดี ี สามารถพัฒนาความคิดผู้เรียน ถามเพ่ือให้ผู้เรียนใช้ความคิดเชิงเหตุผล วิเคราะห์ วิจารณ์ สังเคราะห์ หรือการประเมินค่าเพื่อจะตอบคำถามเหล่านั้น ซ่ึงเป็นคำถามเก่ียวกับส่วนประกอบ ต่างๆ ของโปรแกรม Microsoft Office Word 2016 12.ครูและผู้เรียนใชเ้ ทคนคิ วิธสี อนแบบสาธติ (Demonstration Method) เรือ่ งการสรา้ ง การเปิด ปิด และบันทึกเอกสาร นอกจากน้ันยังใช้เทคนิควิธีสอนแบบใช้โสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ได้แก่ Power Point เปน็ สอ่ื ประกอบ 13.ครูและผู้เรียนใช้เทคนิควิธีสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) เรื่องการกำหนดค่า เร่มิ ตน้ ในการ ใช้โปรแกรม นอกจากน้ันยังใช้เทคนิควิธีสอนแบบใช้โสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ได้แก่ Power Point เป็นส่ือประกอบ โดยก่อนการพิมพ์งานในเอกสารสิ่งท่ี สำคญั คือการกำหนดรูปแบบของเอกสารให้ตรงกับงานที่ตอ้ งการคือการกำหนดค่าเร่มิ ต้นให้กบั โปรแกรม เช่น กำหนดขนาดเอกสาร การกำหนดรูปแบบตวั อักษร ขนาดตัวอกั ษร เปน็ ตน้ 14.ครูและผู้เรียนใช้เทคนิควิธีสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) เรื่องการกำหนดค่า เริ่มตน้ ในการใชโ้ ปรแกรม นอกจากนน้ั ยังใช้เทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ไดแ้ ก่ Power Point เปน็ สื่อประกอบ

16 15.ครแู ละผู้เรียนใช้เทคนคิ วิธีสอนแบบสาธติ (Demonstration Method) เรื่องการจัดรปู แบบย่อ หนา้ และ การก้ันระยะ นอกจากน้ันยังใช้เทคนิควิธีสอนแบบใช้โสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ไดแ้ ก่ Power Point เปน็ ส่อื ประกอบ 16.ผู้เรียนบอกส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Word 2016 ตามรูปภาพท่ีครูแสดงให้ดู แล้วบันทึกส่งครูเพอ่ื ประเมินผล 17.จงอธิบายวิธีการกำหนดค่าเร่ิมต้นของตั วอักษร กำหนดให้ตัวอักษรภาษาไทยเป็น AngsanaUPC ตัวปกติขนาด 16 ตวั อักษรภาษาอังกฤษ Cordia New ตัวปกติขนาด 16 กำหนดให้มีผลเฉพาะเอกสารนี้ เท่านนั้ 18.ผูเ้ รยี นอธบิ ายวิธกี ารกำหนดคา่ หน่วยวัดไม้บรรทัดเปน็ เซนตเิ มตร 19.ผเู้ รยี นบอกความหมายของรปู แบบการกน้ั ระยะ และยอ่ หน้าต่อไปน้ี First Line Indent ........................................................................................................... ................. Left Indent ......................................................................................... ............................................. Right Indent ................................................................................................................ .................... Left Margin ...................................................................................................................................... Right Margin ................................................................................................................ .................... Hanging Indent ............................................................................................................................... 20.ผู้เรียนสร้างเอกสารใหม่ โดยกำหนดกระดาษขนาด A4 ก้ันหน้า 1.5 นิ้ว กั้นหลัง 1 น้ิว ระยะ ขอบบน 1.5 นิ้ว ขอบล่าง 1 นิ้ว แล้วพิมพ์ข้อความต่อไปนี้ หลังจากนั้นบันทึกแฟ้มข้อมูลชื่อ EX1-1.docx “หม่บู า้ นกลางปา่ กบั วถิ พี อเพยี ง” 21.ผู้เรียนพิมพ์ข้อความต่อไปน้ี โดยพิมพ์ข้อความให้เสร็จก่อน แล้วจึงมาปรับเปล่ียนคุณลักษณะ ของข้อความ โดยกำหนดให้ใช้อักษรแบบ Cordia New มีหัวข้อขนาด 18 Point, เนื้อหามีขนาด 16 Point บนั ทกึ ไฟล์ชื่อ EX1-2.docx “บทบาทเทคโนโลยสี ารสนเทศในชวี ติ ปัจจุบัน” 22.ผู้เรียนพิมพ์ข้อความและกำหนดตำแหน่งของ Tab ตามโจทย์ท่ีกำหนดให้และกำหนด ระยะหา่ งของบรรทัด 1.0 บันทึกไฟลช์ ่ือ EX1-3.docx

17 23.ครูแนะนำเพิ่มเติมให้ผู้เรียนเขียนบัญชีแสดงรายรับ-รายจ่ายในชีวิตประจำวัน เพ่ือสร้างนิสัย ความพอเพียงใหแ้ ก่ตนเองและครอบครัว ขนั้ สรุปและการประยกุ ต์ 24.ผเู้ รียนวางแผนการนำโปรแกรมประมวลผลคำไปใช้ในการเรียน และการปฏบิ ัตงิ าน พ่อื นำไป ประยุกต์ใช้กับงานในชีวิตประจำวันที่จำเป็นโดยท่ัวไป ซึ่งทุกคนจะต้องวางแผนการทำงานต่าง ๆ ใน อนาคต 25.ครูและผู้ เรียนร่วมกั นสรุปป ระโย ช น์ ข อ งโป รแ ก รม Microsoft Office Word 2016 ส่วนประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรม Microsoft Office Word 2016 การสรา้ ง การเปิด ปิด และบันทกึ เอกสาร การกำหนดค่า เร่มิ ตน้ ในการใชโ้ ปรแกรม และการจดั รปู แบบยอ่ หนา้ และการกน้ั ระยะ 26.ผูเ้ รียนทำกิจกรรมใบงาน แบบประเมินผลหลงั เรียน และแบบฝึกปฏิบัติ 27.สรุปโดยการถาม-ตอบ เพ่ือประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและประเมินผู้เรียนตามแบบฟอร์ม ตอ่ ไปน้ี ช่อื ผู้เรยี น ประสบการณ์พ้ืนฐานการเรียนรู้ วิธกี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5.

18 สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 1.หนงั สือเรยี น วิชาโปรแกรมประมวลผลคำ ของสำนักพิมพเ์ อมพันธ์ 2.รูปภาพประกอบโปรแกรม 3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 4.สอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส,์ PowerPoint และเครื่องคอมพิวเตอร์ 5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หลักฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของผ้สู อน 2.ใบเช็ครายชือ่ 3.แผนจัดการเรียนรู้ 4.การตรวจประเมินผลงาน การวัดผลและการประเมนิ ผล วธิ วี ดั ผล 1.สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2.ประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3.สังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุม่ 4.ตรวจกจิ กรรมสง่ เสรมิ คุณธรรมนำความรู้ 5.ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ แบบฝึกปฏิบตั ิ 6.ตรวจกิจกรรมใบงาน 7.การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เครือ่ งมือวดั ผล 1.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2.แบบประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู) 3.แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ (โดยผู้เรยี น) 4.แบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏิบตั ิ 5.แบบประเมินกิจกรรมใบงาน

19 6.แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและผู้เรียน รว่ มกันประเมนิ เกณฑ์การประเมินผล 1.เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไม่มชี ่องปรับปรุง 2.เกณฑผ์ ่านการประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขึน้ ไป) 3.เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (50% ขึ้นไป) 4.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้มเี กณฑ์ผา่ น และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 50% 5.แบบประเมินกิจกรรมใบงานมเี กณฑ์ผา่ น 50% 6.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่ กับการประเมินตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.แนะนำให้ศกึ ษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั โปรแกรมประมวลผลคำเกย่ี วกบั การนำไปใชใ้ นการปฏิบัตงิ านต่าง ๆ เชน่ การพมิ พ์เอกสาร การตกแต่งรปู ภาพ เป็นต้น เพอ่ื นำมาประยุกตใ์ ชง้ านต่อไปได้ 2.ผู้เรียนวางแผนศึกษาวิชาโปรแกรมประมวลผลข้อมลู 3.ทำกจิ กรรมใบงาน แบบฝกึ ปฏิบัตเิ พม่ิ เติมเพ่ือฝกึ ทกั ษะการเรียนรู้

20 บันทึกหลงั การสอน ขอ้ สรุปหลังการสอน ................................................................................................................................................ ..................................................................................................................... ................................................ .................................................................................................. ................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ................ ปัญหาท่ีพบ ................................................................................................................... ............................. .................................................................................................... ................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................... ...................................... แนวทางแกป้ ัญหา ................................................................................................................................................ .................................................................................................... ................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................... ......................................

แผนการจดั การเรยี นรูแ้ บบบูรณาการที่ 2 21 รหสั 20204-2102 โปรแกรมประมวลผลคำ (1-2-2) ช่ือหนว่ ย/เรอื่ ง การพิมพเ์ อกสาร การจดั รูปแบบตัวอกั ษร หน่วยที่ 2 สอนครง้ั ท่ี 2 (4-6) จำนวน 3 ช.ม. สาระสำคญั งานเอกสารต่างๆ ท่ีสร้างขึ้นด้วยโปรแกรมใดก็ตาม หากจัดการกับรูปแบบตัวอักษรและข้อความ ให้มีความน่าสนใจ เหมาะสมกับรูปแบบของเอกสารน้ันๆ ก็จะทำให้เอกสารมีคุณภาพมากข้ึน โปรแกรม Microsoft Word 2016 มีความสามารถปรับแต่งรูปแบบอักษรและข้อความให้สวยงามน่าสนใจได้อย่าง ง่ายดาย ทำใหก้ ารจดั การรปู แบบเอกสารทำได้รวดเร็วและมปี ระสทิ ธิภาพ สมรรถนะประจำหน่วย 1.แสดงการพิมพ์เอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2016 2.แสดงการจัดรูปแบบตัวอักษรด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2016 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ปรับคณุ ลักษณะของตวั อกั ษรและข้อความได้ 2. คดั ลอกขอ้ ความและคัดลอกรปู แบบข้อความได้ 3. ค้นหาและแทนท่ไี ด้ 4. จัดระยะหา่ งระหว่างบรรทัดได้ 5. จัดตำแหน่งกลุ่มขอ้ ความได้ 6. ใส่สญั ลกั ษณ์แสดงหวั ข้อได้ 7. ทำอักษรขึน้ ต้นดว้ ยตัวใหญ่ได้ 8. แบง่ ขอ้ ความเปน็ คอลมั น์ได้ คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่ีครูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเร่อื ง 1 ความมมี นุษยสัมพันธ์

22 2 ความมวี นิ ัย 3.ความรับผดิ ชอบ 4 ความซ่อื สตั ย์สุจรติ 5 ความเชือ่ มั่นในตนเอง 6 การประหยัด 7 ความสนใจใฝร่ ู้ 8 การละเวน้ ส่ิงเสพตดิ และการพนนั 9 ความรักสามคั คี 10 ความกตญั ญูกตเวที สาระการเรยี นรู้ 1. การปรบั คุณลักษณะของตวั อกั ษรและข้อความ 2. การคดั ลอกขอ้ ความและคัดลอกรปู แบบข้อความ 3. การคน้ หาและแทนที่ 4. การจัดระยะห่างระหวา่ งบรรทดั 5. การจดั ตำแหนง่ กลุ่มข้อความ 6. การใส่สัญลักษณแ์ สดงหัวขอ้ 7. การทำอกั ษรขึน้ ต้นดว้ ยตัวใหญ่ 8. การแบ่งขอ้ ความเป็นคอลมั น์ กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเขา้ ส่บู ทเรยี น 1.ครูแนะนำการจัดกิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใช้แบบโมเดลซิปปา (CIPPA MODEL) โดยการทบทวน ความรู้เดิมจากสัปดาห์ที่แล้ว เพ่ือดึงความรู้เดิมของผู้เรียนในเรื่องท่ีจะเรียน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีความ พร้อมในการเช่ือมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิมของตน ซ่ึงผู้สอนใช้การสนทนาซักถามให้ผู้เรียนเล่า ประสบการณเ์ ดิม หรือให้ผู้เรยี นแสดงโครงความรู้เดิม (Graphic Organizer) ของตน 2.ครูแนะนำให้ผู้เรียนศึกษาคำศัพท์ท่ีใช้ส่ือสารในโปรแกรมประมวลผลคำ เพ่ือให้นำไปใช้ได้ ถกู ตอ้ ง

23 ข้ันสอน 3.ครูใช้เทคนิดวิธีสอนแบบสาธิต โดยผู้สอนเป็นผู้สาธิตและให้ผู้เรียนปฏิบัติตามในเร่ืองการปรับ คุณลักษณะของตวั อักษรและข้อความ ซง่ึ เป็นการเพมิ่ ความนา่ สนใจใหก้ ับขอ้ ความดว้ ยการปรบั เปล่ยี น คณุ ลกั ษณะดงั ต่อไปน้ี 1.การเพิม่ ความหนาให้กับขอ้ ความ 2. การทำให้ขอ้ ความเปลยี่ นเป็นตัวเอยี ง 3. การขดี เส้นใต้ขอ้ ความ 4. การขีดเส้นทบั ข้อความ 5. การเปลยี่ นขนาดตัวอกั ษร 6. การเปล่ียนขนาดตวั อักษรแบบขยายขนาด 7. การทำตัวยกและตวั หอ้ ย เช่น การเพ่ิมความหนาให้กับข้อความ เป็นการเน้นข้อความท่ีต้องการเพิ่มความน่าสนใจหรือ ขอ้ ความทเ่ี ปน็ หัวขอ้ โดยสามารถทำาได้ดงั นี้ 4.ครูใช้เทคนนิควิธีสอนแบบใช้โสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ได้แก่ CD และ Power Point 5.ครูใช้เทคนิดวิธีสอนแบบสาธิตเร่ืองการปรับคุณลักษณะของข้อความ การปรับคุณลักษณะของ ขอ้ ความเปน็ การเพ่มิ ความนา่ สนใจให้กับข้อความดว้ ยการปรับเปลยี่ นคุณลักษณะดงั ต่อไปน้ี 1) ลากเมาส์คลุม (Drag Mouse) ข้อความทตี่ ้องการตกแตง่ จ ะ ป ร า ก ฏ มิ นิ ท ลู บ า ร์ (Mini Toolbar) ขน้ึ โดยอัตโนมตั ิให้เลอื กใช้ไดต้ ามตอ้ งการ

24 2) คลิกปุ่มเครื่องมือบนทูลบาร์ที่ปรากฏ หรือใน Tab Home ท่ีกลุ่ม Font คลิกปุ่มจะปรากฏ ไดอะล็อกบอ็ กซข์ อง Font ให้กำหนดรายละเอยี ดเพิ่มเตมิ 3) เม่ือกำหนดรายละเอยี ดตา่ งๆ เสรจ็ แล้วคลกิ ปุ่ม OK 3.1 ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมข้อความที่ต้องการ 3.2 เลอื กรบิ บอนหน้าแรก (Home) 3.3 คลิกทส่ี ัญลักษณ์ในเครือ่ งมอื จัดรูปแบบข้อความดังน้ี

25 6.ครูและผู้เรียนสาธิตการคัดลอกข้อความและคัดลอกรูปแบบข้อความ โดยการคัดลอกและวาง ข้อความ การพิมพ์เอกสารอาจจะมีข้อความหรือรูปแบบอักษรหรอื ข้อความที่เหมือนกนั ซ้ำกันเป็นจำนวนมากการ พิมพ์ซ้ำๆ กันทำให้เสียเวลาและอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ การใช้คำส่ังคัดลอก (Copy) และวาง (Paste) ช่วยในการทำงานไดร้ วดเรว็ และลดขอ้ ผิดพลาดได้ 1) คลมุ ข้อความทีต่ ้องการคัดลอก 2) คลิกที่ปุ่ม (Copy) บนแท็บหน้าแรก (Home) หรือคลิกขวาบริเวณข้อความที่คลุมเลือก Copy ในเมนทู ่ปี รากฏ 3) คลกิ เลอื กตำแหน่งที่ตอ้ งการวางขอ้ ความ 4) คลกิ ท่ีเครือ่ งมอื บนแทบ็ หน้าแรก (Home) หรอื กด Ctrl + V ท่ีแปน้ พิมพ์ 7.ครูสาธิต และให้ผเู้ รียนปฏิบัตติ ามเรื่องการวางข้อความในลักษณะต่างๆ โดยการวางข้อความใน เอกสาร สามารถเลอื กรูปแบบการวางได้หลายรปู แบบ ข้ึนอย่กู ับขอ้ มูลทคี่ ัดลอก (Copy) มา 1) เลือกข้อมลู ที่ตอ้ งการคดั ลอก

26 2) คลิกเลือกที่ลูกศรใต้ปุ่มเครื่องมือ คลิกที่ตัวเลือกการวาง (Paste Options) จะมี รูปแบบการวางตามข้อมูลท่คี ดั ลอกมาดังนี้ Paste Special... วางแบบพิเศษ วางรูปแบบจากโปรแกรมอ่ืนที่คัดลอกมา Set Default Paste..การตั้งคา่ เริม่ ตน้ กำาหนดคา่ เกยี่ วกบั การใชค้ ำาสั่งวาง 3) หรอื คลกิ เมาส์ขวาทีต่ ำแหนง่ การวาง 4) เลอื กคำส่ังรูปแบบการวาง 8.ครูและผู้เรียนสาธิต และฝึกปฏิบัติการคัดลอกรูปแบบข้อความ (Format Painter) โดยการ คัดลอกรปู แบบเพ่อื ไปใชง้ านในเอกสารในสว่ นที่ต้องการรูปแบบท่เี หมอื นกัน เช่น รปู แบบตัวอักษร ขนาด สี คณุ สมบตั ขิ องตวั อักษร มีวิธกี ารดงั นี้ 1) ลากคลุมข้อความทต่ี อ้ งการคดั ลอกรปู แบบ 2) คลิกเลือกที่ปุ่ม บนแทบ็ หนา้ แรก (Home) 3) ใช้เมาส์ลากข้อความที่ต้องการคัดลอกรูปแบบ ข้อความจะถูกเปล่ียนแปลงเหมือนกับรูปแบบ ต้นฉบับ

27 หมายเหตุ การคัดลอกรูปแบบโดยการคลิกเลือก Format Painter จะมีผลเพียงคร้ังเดียว ถ้า ต้องการ คัดลอกรูปแบบเดียวกันให้มีผลต่อเนื่อง ให้ดับเบิลคลิกที่ Format Painter แล้วนำไปลากคลุมข้อความ จะทำไดจ้ นกว่าจะกดป่มุ Esc 9.ครูสาธิตและให้ผู้เรียนปฏิบัติตามในการค้นหาและแทนที่ โดยการค้นหา Find กรณีเอกสารท่ีมี ขอ้ ความ จำนวนมากถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อความต้องใช้เวลามาก เครื่องมอื ค้นหาและแทนที่ชว่ ยใน การแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างดี การทำรายงานท่ีมีข้อความบางข้อความพิมพ์ผิด เช่น อินเทอร์เน็ต ฟังก์ชัน ถ้าต้องการแก้ไขโดยการอ่านและแก้ไขทีละตัวทีละบรรทัดต้องใช้เวลา และอาจผิดพลาดโดย แกไ้ ขไม่ครบ เป็นต้น วธิ กี ารค้นหาและแทนทีท่ ำได้ดังน้ี 1) ทแี่ ท็บหนา้ แรก (Home) คลกิ เลือกทป่ี ุ่ม แลว้ เลอื กคำสงั่ Find 2) ทหี่ นา้ ตา่ งการนำทาง (Navigation) ทางด้านซ้ายมือใหพ้ มิ พ์ข้อความทตี่ ้องการค้นหา (Search Document) 3) ผลลพั ธท์ ค่ี ้นหาจะแสดงในหนา้ เอกสารด้านขวามอื พรอ้ มเนน้ สีทีข่ อ้ ความ

28 10.ครูและผู้เรียนสาธิตการค้นหาขั้นสูง Advance Find กรณีที่ต้องการค้นหาโดยมีเงื่อนไขให้ตรง กบั ข้อความและรูปแบบ ทำได้ดังน้ี 1) ที่แท็บหน้าแรก (Home) คลิกเลือกท่ีปุ่มลูกศร แล้วเลือกคำส่ัง Advance Find จะ ปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซค์ ้นหาและแทนที่ (Find and Replace) 2) พิมพ์ข้อความที่ต้องการค้นหาในช่อง Find what: แล้วคลิกที่ปุ่ม (เพิ่มเติม) จะ แสดงเงือ่ นไขท่ีตอ้ งการค้นหา ให้คลกิ เลอื กในช่องส่เี หลีย่ มเพ่ือเลอื กเง่ือนไขที่ต้องการค้นหา 11.ครูและผู้เรียนสาธิตและฝึกปฏิบัติการแทนท่ี (Replace) โดยการแก้ไขข้อความท่ีต้องการ เปลยี่ นแปลง แกไ้ ขหรอื พิมพผ์ ดิ ในเอกสาร ซึง่ อาจมจี ำนวนมากสามารถทำไดโ้ ดยใชค้ ำส่งั Replace

29 12.ครูและผู้เรียนสาธิตการจัดระยะห่างระหว่างบรรทัด เมื่อเปิดโปรแกรม Microsoft Word ข้ึนมา ตัวโปรแกรมจะจัดระยะห่างระหว่างบรรทัดไว้ 1 ระยะบรรทัด แต่สามารถท่ีจะขยายให้มากกว่า 1 ระยะบรรทัดได้ โดยสามารถทำได้ดังต่อไปนี้ 1) ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมพืน้ ท่ีขอ้ ความทต่ี ้องการจดั ระยะห่างระหว่างบรรทัด 2) เลอื กริบบอนหนา้ แรก (Home) 3) คลกิ ปุ่มคำสงั่ ระยะห่างระหว่างบรรทัด 4) เลือกระยะบรรทัดท่ีต้องการ 13.ผู้เรียนกำหนดระยะบรรทัด โดยการกำหนดระยะบรรทัดให้มีความห่างหรือชิดกันเพื่อให้มี ระยะบรรทัดที่เหมาะสมกับขนาดของเอกสารที่ได้ออกแบบไว้ มีข้ันตอนการทำโดยการคลุมข้อความท่ี ต้องการกำหนดระยะบรรทัดและคลกิ เลอื กป่มุ คำส่งั และเลอื กระยะหา่ งของบรรทัด 14.ผู้เรียนจัดตำแหน่งกลุ่มข้อความ โดยครูสาธิตให้ดูและให้ผู้เรียนปฏิบัติตาม เมื่อเปิดโปรแกรม Microsoft Word เพื่อพิมพ์เอกสาร โปรแกรมจะตั้งค่าตำแหน่งกลุ่มข้อความไว้ชิดด้านซ้ายขอบกระดาษ เสมอ ซึ่งสามารถทจ่ี ะปรับเปลี่ยนตำแหน่งการจัดวางกลุ่มข้อความใหอ้ ยู่ในตำแหน่งท่ีต้องการได้ โดยการ จัดตำแหน่งกลุ่มขอ้ ความนน้ั จะทำเป็นยอ่ หน้า (Paragraph) ซ่งึ สามารถทจี่ ะจัดได้หลายรปู แบบดงั ต่อไปน้ี 14.1 การจัดกลุ่มขอ้ ความกึ่งกลาง

30 14.2 การจัดกล่มุ ข้อความชิดขวา 14.3 การจดั กลุ่มขอ้ ความเต็มแนวกระดาษ 14.4 การจดั กลมุ่ ข้อความกระจายแบบไทย 15.ครูสาธิตการใส่สัญลักษณ์แสดงหัวข้อ และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตาม โดยในการใส่สัญลักษณ์ แสดงหวั ข้อนัน้ สามารถกำหนดได้เปน็ 2 แบบ คือ 1) ใสเ่ ลขลำดบั หวั ข้อ

31 2) ใส่สัญลักษณ์หนา้ หวั ขอ้ 16.ผู้เรียนฝึกทำอักษรขึน้ ต้นดว้ ยตวั ใหญ่ โดยครูสาธิตให้ดูและให้ปฏบิ ัตติ าม ซง่ึ การทำตัวอักษรตัว แรกจะเน้นตัวใหญ่เพื่อให้สะดุดตาส่วนมากจะนิยมทำในย่อหน้าแรกของเอกสาร เช่น หนังสือพิมพ์ วารสาร เอกสารรายงานตา่ งๆ ทำได้โดย 1) เลอื กตวั อักษรทตี่ อ้ งการทำเลือกแท็บ Insert (แทรก) คลกิ เลือก Drop Cap (ตวั อักษรใหญ่) 2) เลือกรปู แบบท่ีต้องการ จากตัวอย่างเลือกจากเมนไู ด้ 2 ประเภท 17.ผู้เรยี นกำหนด Drop Cap ด้วยตวั เอง ให้เลอื กที่ Drop Cap Options 18.ครูอธบิ าย และสาธติ การแบง่ ขอ้ ความเปน็ คอลัมน์ โดยให้ผู้เรียนปฏิบัติตาม ซ่งึ การแบง่ คอลัมน์ ให้กับข้อความ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานได้หลายรูปแบบ เช่น แผ่นพับ นิตยสาร วารสาร ข้ึนอยู่ กับผอู้ อกแบบงาน ซง่ึ การกำหนดคอลมั น์ใหก้ ับเอกสาร ทำไดด้ งั นี้ 19.ครแู ละผเู้ รยี นสาธติ การแบง่ ขอ้ ความโดยการกำหนดคอลัมน์เอง ดังนี้

32 20.ครูอภิปรายเพ่ิมเติมว่าถ้าผู้เรียนมีการกำหนดรายได้ให้เพียงพอกับรายจ่ายจะเป็นสิ่งท่ีสำคัญ และจำเป็นมาก ทุกคนสามารถนำเงินท่ีเก็บสะสมไว้มาใช้ได้อย่างสะดวกสบายเพ่ือการดำรงชีวิตต่อไป หากแตล่ ะบุคคลมีเงนิ ออมเก็บสะสมไว้ เพ่ือเป็นทุนสำรองไว้ใช้จา่ ยสำหรับวยั เกษียณ วิธที ี่ดีที่สดุ คือ การ วางแผนเพอื่ การ เกษียณอายุไว้ต้ังแต่เริ่มต้นอย่างมีระบบตามขั้นตอน ซ่ึงแต่ละคนสามารถกำหนดแผนงานและข้ันตอน แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมกบั สภาพการดำรงชวี ติ 21.ครูสอนเพ่ิมเติมเก่ยี วกบั การทำหนา้ ท่เี ปน็ พลเมืองดีของสงั คมไทย รจู้ กั เอือ้ เฟอื้ เผอ่ื แผต่ อ่ ผู้อน่ื สรปุ และการประยุกต์ 22.ครูและผู้เรียนช่วยกันสรุปการพิมพ์เอกสาร การจัดรูปแบบตัวอักษร โดยให้ผู้เรียนสาธิตฝึก ปฏบิ ัตใิ ห้ดู และครเู ป็นผู้กำหนดโจทยค์ ำส่งั 23.ผเู้ รยี นทำกิจกรรมใบงาน แบบฝกึ หัด แบบฝึกปฏิบัติ และแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 24.ผู้เรียน วิเคราะห์ เนื้อห าการเรียน การสอน และหาข้อส รุปเป็ นความคิด รวบ ย อดเพื่ อนำไป ประยกุ ตใ์ ชต้ ่อไป พรอ้ มข้อเสนอแนะตนเอง 25.ประเมนิ ธรรมชาติของผเู้ รยี น และวิเคราะหผ์ ู้เรียนเป็นรายกลมุ่ ตามวิธีการเรียนรู้ ชอ่ื ผู้เรียน ธรรมชาตขิ องผู้เรยี น วฒุ ภิ าวะ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ญั ญา 1. 2. 3.

33 แบบวิเคราะหผ์ ู้เรยี นเป็นรายกล่มุ ตามวธิ ีการเรียนรู้ ชอ่ื กลมุ่ …………….. 1. 2. 3. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1.หนังสอื เรยี น วชิ าการโปรแกรมประมวลผลข้อมลู ของสำนักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.รปู ภาพแสดงเมนตู ่างๆ ในโปรแกรม 3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 4.สอื่ อเิ ล็กทรอนกิ ส,์ PowerPoint, เคร่ืองคอมพิวเตอร์ 5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6.แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน หลกั ฐาน 1.บันทึกการสอน 2.ใบเช็ครายช่ือ 3.แผนจัดการเรียนรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน การวัดผลและการประเมินผล วิธวี ัดผล 1.สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2.ประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ 3.สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม 4.ตรวจใบงาน 5.ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ แบบฝึกปฏิบตั ิ 6.การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์

34 เครื่องมือวัดผล 1.แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2.แบบประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ (โดยครู) 3.แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผู้เรียน) 4.แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ แบบฝึกปฏิบตั ิ 6.แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและ ผูเ้ รยี นรว่ มกันประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1.เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีช่องปรบั ปรุง 2.เกณฑ์ผ่านการประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขนึ้ ไป) 3.เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) เกณฑก์ ารประเมิน มีเกณฑ์ 4 ระดับ คือ 4= ดีมาก, 3 = ดี, 2 = พอใช้ , 1= ควร ปรับปรุง 4.กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑ์ แบบฝกึ ปฏบิ ัติผา่ น 50% 6.แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอย่กู ับ การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.แนะนำใหผ้ ู้เรียนอา่ นทบทวนเนอ้ื หาเพ่ิมเติม 2.ทำกจิ กรรมใบงาน และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ

35 บนั ทกึ หลังการสอน ขอ้ สรุปหลังการสอน ................................................................................................................... ............................. ..................................................................................................................... ................................................ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ................ ปญั หาทีพ่ บ ................................................................................................................................................ .................................................................................................... ................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................... ...................................... แนวทางแก้ปัญหา ................................................................................................................................................ .................................................................................................... ................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ............................ ............................................................................................................................... ......................................

36 แผนการจดั การเรียนรู้แบบบรู ณาการที่ 3 หนว่ ยที่ 3 รหัส 20204-2102 โปรแกรมประมวลผลคำ (1-2-2) สอนครัง้ ที่ 3 (7-9) ช่ือหน่วย/เรื่อง การตกแต่งเอกสาร จำนวน 3 ช.ม. สาระสำคญั การสร้างงานเอกสารเพ่ือนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ จำเป็นจะต้องประยุกตใ์ ช้เครื่องมือใน การจัดการเพื่อให้เอกสารมีความน่าสนใจและนำไปใช้ในการสื่อสารผ่านข้อความ ภาพกราฟิก แผนภูมิ สัญลักษณ์ เป็นต้น โปรแกรม Microsoft Office Word 2016 มีความสามารถในการจัดการได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ และมรี ูปแบบสำเร็จรวมถึงการใช้งานท่ีสะดวกง่ายดาย สมรรถนะประจำหน่วย แสดงการตกแตง่ เอกสารดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2016 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.สรา้ งปกรายงานได้ 2. แทรกรปู ภาพ ภาพตัดปะ รปู ร่าง SmartArt แผนภมู ิได้ 3.จบั ภาพหนา้ จอมาแทรกในเอกสารได้ 4.แทรกหัวกระดาษ ทา้ ยกระดาษ หมายเลขหน้ากระดาษได้ 5.แทรกกลอ่ งขอ้ ความ อักษรศิลป์ ตวั อักษรหน้าขอ้ ความขนาดใหญไ่ ด้ 6.แทรกสญั ลักษณพ์ เิ ศษและแทรกสัญลกั ษณ์คณิตศาสตรไ์ ด้ 7. แทรกลายนำ้ ลงในเอกสารได้ 8. สรา้ งขอบกระดาษเอกสารได้ คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทีค่ รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเรอื่ ง 1 ความมมี นุษยสัมพันธ์ 2 ความมีวินยั 3.ความรบั ผิดชอบ

37 4 ความซ่อื สตั ยส์ ุจริต 5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 6 การประหยดั 7 ความสนใจใฝร่ ู้ 8 การละเว้นสงิ่ เสพตดิ และการพนัน 9 ความรกั สามคั คี 10 ความกตัญญกู ตเวที สาระการเรยี นรู้ 1.การสรา้ งปกรายงาน 2.การแทรกรูปภาพ ภาพตดั ปะ รูปร่าง SmartArt แผนภูมิ 3.การจับภาพหนา้ จอมาแทรกในเอกสาร 4. การแทรกหัวกระดาษ ทา้ ยกระดาษ หมายเลขหนา้ กระดาษ 5. การแทรกกล่องขอ้ ความ อกั ษรศิลป์ ตวั อักษรหนา้ ขอ้ ความขนาดใหญ่ 6. การแทรกสญั ลักษณพ์ เิ ศษ และแทรก สัญลกั ษณค์ ณิตศาสตร์ 7.การแทรกลายน้ำลงในเอกสาร 8.การสร้างขอบกระดาษเอกสาร กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเขา้ ส่บู ทเรยี น 1.ครูและผู้เรียนสนทาเก่ียวกับการจัดทำเอกสารเพื่อประยุกต์ใช้ในงานด้านต่างๆ เช่น การทำ รายงาน การทำหน้าปก การทำแผน่ พับ ใบปลวิ การนำเสนองานทม่ี ีภาพประกอบ ผังการจดั องคก์ าร การ ใส่รูปร่างตา่ งๆ รวมถึงการจัดการโครงร่างหน้ากระดาษ เพ่ือให้เอกสารใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย และมี ความสะดวก รวดเร็ว ในการจัดทำรูปแบบบางอย่างโปรแกรมจะมีแบบสำเร็จรูปให้ สามารถนำไปพิมพ์ ข้อความและตกแต่งตามแบบได้ทันที จึงทำให้โปรแกรม Microsoft Offi ce Word 2016 มีการใช้งาน กันอย่างแพรห่ ลาย

38 2.ครูพูดถึงความสำคัญของโปรแกรม Microsoft Word 2016 มีความสามารถสร้างใบปะหน้า (Cover Page) ซ่ึงอาจใช้ทำเป็นหน้าปกรายงานในรูปแบบท่ีสมบูรณ์และสวยงาม โปรแกรมจะแทรกให้ เป็นหน้าแรกแบบอัตโนมตั งิ านเอกสารบางอยา่ งอาจต้องการหน้าปกหรือใบปะหน้า 3.ผูเ้ รียนยกตัวอยา่ งการใช้งานของโปรแกรมประมวลผลในปัจจุบนั ขน้ั สอน 4.ครอู ธิบายและสาธิตการสรา้ งปกรายงาน และให้ผู้เรียนปฏบิ ัตติ าม ดงั น้ี 5.ครูอธิบาย และสาธิตการแทรกรูปภาพ ภาพตัดปะ รูปร่าง SmartArt แผนภูมิ โดยผู้เรียนฝึก ปฏบิ ัติตาม 1) คลกิ ท่ี Tab Insert 2) ท่ีกลุ่มคำาสั่ง Illustrations เลือก Online Pictures ปรากฏแถบหน้าต่าง Insert Picture 3) พิมพ์ Clipart ทต่ี ้องการแทรกในชอ่ ง Bing Image Search 4) ปรากฏภาพ Clip art 5) ดบั เบิลคลกิ ท่ภี าพ Clip art ทต่ี ้องการภาพจะถกู นำามาวางในเอกสารทันที

39 6.ครูและผู้เรียนสาธิตการแทรกรูปภาพและการจัดการไฟลร์ ูปภาพ (Picture) ดังนี้ 1) คลิกที่ Tab Insert 2) ท่ีกลุ่มคำส่งั Illustrations เลอื ก Picture ปรากฏหนา้ ตา่ ง Insert Picture 3) เลือกตำแหน่งท่ีจัดเก็บรูปภาพท่ีต้องการแทรกลงในเอกสาร จากในรูปภาพอยู่ใน Libraries>Picture 4) คลิกท่ีไฟลร์ ปู ภาพ 5) เลือก Insert จะปรากฏรูปภาพทต่ี ้องการแทรกบนเอกสาร 7.ผู้เรียนฝึกทักษะการปรับแต่งรูปภาพ โดยดับเบิลคลิกที่รูปภาพท่ีต้องการปรับแต่งที่กลุ่ม Adjust สามารถปรับแตง่ ค่าไดด้ ังน้ี 8.ผู้เรียนฝึกทักษะในการปรับเปลี่ยนขนาดรูปภาพ โดยรูปภาพที่นำมาใส่ในเอกสาร ในบางคร้ัง อาจจะตอ้ งมีการปรบั ขนาดใหเ้ หมาะสม สามารถทำได้ดงั นี้ 1) คลิกรปู ที่จะปรับขนาด 2) วางเมาส์ทีม่ มุ ของรูป เคอร์เซอร์ของเมาสจ์ ะเปลย่ี นเปน็ รูปลูกศร 2 หวั 3) คลิกลากปรบั ขนาดของรปู ตามตอ้ งการ 4) รูปภาพจะมขี นาดตามท่กี ำหนด 9.ผู้เรียนฝึกทักษะในการหมุนรูปภาพ ทำได้โดยคลิกที่รูปภาพ จะปรากฏ 9 จุด ให้คลิกค้างท่ีจุดสี เขียวเหนอื รปู ภาพ และหมนุ รูปภาพตามท่ีตอ้ งการ เมื่อหมนุ เรียบร้อยแล้วให้ปลอ่ ยเมาส์ 10.ครแู ละผู้เรียนสาธิตการปรับแต่งรปู ภาพเพ่ือนำมาใช้ในงานเอกสาร โดยการปรับแต่งรปู ภาพให้ เหมาะสมกับเนื้อหาในเอกสาร และให้มองดูสวยงาม ซ่ึงการปรับแต่งรูปภาพ สามารถทำได้โดยการ ดับเบลิ คลกิ ท่รี ูปภาพจะปรากฏแท็บบริบท Format จะเกิดหมวดหมูด่ ังน้ี

40 11.ครแู ละผเู้ รยี นสาธิตการปรับแต่งรูปภาพเพ่ิมเตมิ โดย 1) คลกิ ขวาท่ีรปู ภาพ เลือก Format Picture 2) ปรากฏหนา้ ต่างจดั รูปแบบรูปภาพ 3) ปรบั แต่งรปู ภาพไดท้ ันทจี ากตัวอย่างปรบั ใหม้ ีเงาสะท้อน 12.ครูและผู้เรยี นสาธติ การจัดวางข้อความร่วมกับรูปภาพ (Text Wrapping) โดยText Wrapping คือตวั แบ่งการตดั ข้อความส้ินสุดบรรทดั ปัจจบุ ันและบังคบั ให้ข้อความเรียงต่อเน่ืองอยู่ท่ีด้านล่างรูปภาพ ตาราง หรือรายการอน่ื (ข้อความจะเรียงต่อเน่ืองอยู่บนบรรทัดว่างเปล่าบรรทัดถัดไปท่ีไม่มรี ปู ภาพหรือตารางถูก จัดชิดระยะขอบซ้ายหรือชิดระยะขอบขวาอยู่) การแทรกรูปภาพบางคร้ังต้องนำรูปภาพมาใช้ร่วมกับ ขอ้ ความ ซึ่งต้องกำหนดตำแหน่งการจดั วางท่ีเหมาะสม สามารถทำได้ดังนี้ 1) คลิกขวาที่รูปภาพท่ีตอ้ งการจัดวาง 2) ปรากฏเมนูยอ่ ยเลือก Wrap Text 3) เลอื กลำดับท่ีต้องการ ซ่ึงมีความหมายดังนี้ 3.1 In Line with Text (บรรทัดเดียวกบั ตวั อักษร) รปู จะแสดงบรรทัดเดยี วกับขอ้ ความ 3.2 Square (จัตรุ ัส) ล้อมรปู เปน็ กรอบส่เี หล่ียม 3.3 Tight (ลอ้ มรอบ) ล้อมไปตามแนวขอบของรปู 3.4 Through (ทะลุผ่าน) คลา้ ยแบบล้อมรอบ แต่จะจัดข้อความตรงทวี่ ่างในรปู ด้วย

41 3.5 Top and Bottom (บนและล่าง) จดั ข้อความอยู่เหนือและใต้รปู 3.6 Behind Text (ขา้ งหลงั ข้อความ) ซอ่ นรูปไวด้ า้ นหลังขอ้ ความ 3.7 In Front of Text (ข้างหนา้ ขอ้ ความ) นำรูปไวด้ ้านหน้าขอ้ ความ 3.8 Edit Wrap Points (แก้ไขขอบรูป) เปล่ยี นขอบรูปตามจุด 13.ผเู้ รยี นสาธิตการแทรกรูปทรง ดังต่อไปนี้ 1) บนแถบเคร่ืองมอื Insert คลกิ Shapes ท่ีกลุม่ เมนู Illustrations 2) เลอื กรูปทรงตามทต่ี ้องการ 3) คลิกหรอื ลากไปยังตำแหน่งทต่ี อ้ งการแทรกรูปทรงลงในเอกสาร 4) ถ้าต้องการพิมพ์ข้อความลงในรูปทรง ให้คลิกขวาที่รูปทรงเลือก Add Text พิมพ์ ข้อความแล้วจัดตำแหนง่ ให้สวยงาม 14.ผู้เรียนฝึกจัดรูปแบบของรูปร่าง (Shape Styles) โดยการปรับแต่งแก้ไขรูปร่างให้มีความ สวยงาม น่าสนใจ ในการจัดทำเอกสารบางอย่าง เช่น แผ่นพับ ใบปลิว หรอื โบรชัวร์ โดยการสร้างรูปร่าง ขน้ึ มากอ่ นแลว้ นำมาแก้ไขปรบั ปรุง 15.ผู้เรยี นฝกึ ทักษะการเตมิ สีใหร้ ูปรา่ งมีขั้นตอนดังน้ี 1) สร้างรปู ร่าง และคลิกทร่ี ปู รา่ ง จะปรากฏแท็บ Format 2) คลกิ เลือกที่ Shape Fill เลือกคำส่ังท่ตี ้องการ 16.ครูอธิบายและสาธิตการแทรกรูปภาพ ภาพตัดปะ รูปร่าง SmartArt แผนภูมิ โดย SmartArt เป็นการสื่อสารข้อมูลโดยใช้กราฟิกโดยมีแม่แบบสำเร็จแยกตามงาน เช่น ผังการจัดองค์การ ผังงาน เป็น ตน้ ขัน้ ตอนการสร้าง SmartArt ทำได้ดังนี้ 1) คลิกที่แท็บ Insert เลือกคำสั่ง SmartArt 2) จะปรากฏหนา้ ตา่ งรูปแบบ SmartArt ใหเ้ ลอื กตามการใชง้ าน

42 17.ครูสาธิตการแทรกแผนภูมิ (Chart) และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตาม โดยแผนภูมิเป็นการนำเสนอ ข้อมูลในรูปแบบท่ีเข้าใจง่าย ดังน้ันในงานเอกสารที่จำเป็นต้องนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของแผนภูมิจึงมี ความจำเป็น ในการสร้างแผนภูมิในโปรแกรม Microsoft Offi ce Word 2016 มีวิธีการที่ง่ายและ สะดวก โดยมีขนั้ ตอนดังนี้ 1) คลกิ ทีแ่ ท็บ Insert เลอื กคำสั่ง Chart 2) จะปรากฏหนา้ ต่างรปู แบบ Chartใหเ้ ลอื กตามการใช้งานคลกิ ปุม่ OK 3) จะปรากฏโปรแกรม Excel ขึ้นมาพร้อมรปู แบบข้ันต้น ใหแ้ กไ้ ขขอ้ มูลทแี่ ถวและคอลมั น์ 4) แผนภูมิที่มีข้อมูลพร้อมรูปแบบจะถูกแสดงข้ึนมาในเอกสาร จากนั้นให้ปิดโปรแกรม Excel 18.ครูสาธิตการจับภาพหน้าจอมาแทรกในเอกสาร และให้ผู้เรียนปฏิบัติตาม โดย Screenshot คือ เคร่ืองมือในการจับภาพหน้าจอบนคอมพิวเตอร์ คำส่ังน้ีช่วยให้สามารถจับภาพหน้าจอของโปรแกรม อ่ืนๆ ท่ีเราเปิดค้างอยู่มาวางไว้ในหน้าต่าง Microsoft Word 2016 ได้ทันที โดยท่ีไม่ต้องปรับเปลี่ยน หนา้ ตา่ ง โดยวิธีจับหนา้ จอด้วย Screenshot 1) คลกิ เปิดโปรแกรม Word 2016 2) เล่อื นไปยังตำแหนง่ ท่ีตอ้ งการวางภาพ 3) คลิก Tab เมนู Insert 4) เลอื กไอคอน Screenshot ใหค้ ลกิ ท่ีรูปสามเหล่ยี มขนาดเลก็ ดา้ นล่าง 5) ถ้าคลกิ เลือกภาพที่หนา้ ตา่ ง Available Windows จะเป็นการจับภาพท้งั หนา้ ตา่ ง 6) ถ้าคลกิ เลอื กดา้ นลา่ ง Screen Clipping โปรแกรมจะแสดงหนา้ ต่างท่ีเปดิ ลา่ สุด จากน้ันให้ คลิกเลือกคลุมบางสว่ น โปรแกรมจะจับภาพมาวางใหบ้ นเอกสารทันที 19.ครูสาธิตการแทรกหัวกระดาษ ท้ายกระดาษ หมายเลขหน้ากระดาษ และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ ตามดงั น้ี 1) เลือกแทบ็ Insert 2) ท่ีกลุ่มคำส่ัง Header & Footer ให้คลิกท่ีลูกศรใต้ Header แสดงการเรียกใช้คำส่ังส่วน หัวกระดาษ 3) จะปรากฏรูปแบบของในส่วน Header ให้เลือก Header ตามที่ต้องการ (ตัวอย่างเลือก Alphabet) 4) โปรแกรมจะสร้างรปู แบบ Header ตามท่ีเลือกที่ส่วนบนสุดของเอกสาร ให้พิมพ์หัวเรอ่ื ง ตามต้องการ

43 5) ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนในส่วนของ Header ให้เลือก Edit Header หรือดับเบิลคลิกที่ บรเิ วณ Header ทีต่ อ้ งการแก้ไข ซึ่งโปรแกรมจะปรากฏแท็บ Design 6) เม่ือปรับเปลย่ี นในสว่ นของ Header แล้วให้คลิกที่ Close Header and Footer เม่อื ใช้ เคร่ืองมือหัวกระดาษ หรือท้ายกระดาษ จะมีแท็บบริบท (Tab Design) ข้ึนมา สามารถปรับค่าต่างๆ ได้ ตามต้องการ ผู้ใช้สามารถใส่เลขหน้า, Date & Time (วันที่และเวลา) รูปภาพ (Picture) ภาพตัดปะ (Clip Art) และรปู แบบสำเรจ็ (Quick Parts) ไดอ้ ีก 20.ผู้เรียนฝึกปฏบิ ตั ิทกั ษะการแทรกหมายเลขหน้า ดังน้ี 1) การใส่เลขหน้าลงในเอกสารให้เลือก Insert (แทรก) 2) เลือก Page Number (เลขหน้าเอกสาร) หมายเหตุ การแทรกท้ายกระดาษ (Footer) ทำไดเ้ ช่นเดียวกบั หัวกระดาษและการลบ Header ใหเ้ ลือก Remove Header, Remove Footer 3) เลือกเคร่ืองมือเพ่ือใส่หน้าตามรูปแบบท่ีต้องการ เช่น ไว้ส่วนบนของกระดาษ, ส่วนล่าง ของกระดาษ, ระยะขอบกระดาษ หรือตำแหน่งปัจจุบัน ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีตัวเลือกย่อย เช่น ด้านบน ซา้ ยของกระดาษด้านบนขวาของกระดาษ เป็นตน้ ผใู้ ช้สามารถเลอื กได้ตามท่ตี อ้ งการ 4) ผู้ใช้สามารถต้ังค่า “การแสดงหน้า” ได้ ด้วยคำส่ัง Format Page Numbers สามารถ กำหนดรูปแบบตัวเลข หรือตัวอักษรท่ีจะแสดง ตำแหน่งที่จะแสดง รวมถึงการกำหนด หน้าท่ีต้องการให้ เริม่ แสดงเลขหนา้ 21.ครูอธิบาย และสาธิตการแทรกกล่องข้อความ อักษรศิลป์ ตัวอักษรหน้าข้อความขนาดใหญ่ โดยใหผ้ ู้เรยี นปฏิบัติตาม ดังนี้ 1) คลิกบนแถบเคร่อื งมอื Insert 2) คลกิ Text Box ที่กลุม่ เมนู Text 3) เลอื กรปู แบบที่มมี าให้ หรือตอ้ งการสรา้ งเอง โดยเลอื กท่ี Draw Text Box 4) ที่บริเวณท่ีต้องการแทรกกล่องข้อความให้คลิกแล้วลาก เพ่ือสร้างกล่องข้อความใน เอกสารจากน้ันพมิ พ์ข้อความ หรอื แทรกรูปภาพได้ตามทีต่ ้องการ 22.ผู้เรียนฝึกทักษะโดยการแทรกอักษรศิลป์ (WordArt) ซ่ึงอักษรศิลป์เป็นอักษรสำเร็จรูปท่ี โปรแกรม Microsoft Word 2016 ได้ออกแบบมาเพื่อเน้นข้อความ โดยข้อความที่พิมพ์ลงไปจะเป็น ข้อความที่มีสีสันและรูปแบบสวยงามตามท่ีผู้ใช้ต้องการ การทำงานของอักษรศิลป์มีความสะดวกรวดเร็ว และมรี ูปแบบการตกแตง่ ท่หี ลากหลายให้ผูใ้ ชไ้ ด้เลอื กตามท่ตี ้องการ การแกไ้ ขขอ้ ความอกั ษรศิลป์ และการตกแตง่ กใ็ หป้ ฏบิ ัติเชน่ เดยี วกบั การใส่เอฟเฟก็ ต์ให้ข้อความ

44 ในแท็บรูปแบบ (Format) จึงทำให้สร้างผลงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การสร้างอักษรศิลป์มี วิธกี ารดงั น้ี 1) คลิกท่ี Tab Insert 2) คลกิ ท่ี WordArt ปรากฏรปู แบบตวั เลือกของ WordArt 3) คลิกเลือกรูปแบบ WordArt จะปรากฏกล่องข้อความอักษรศิลป์ ให้พิมพ์ตัวอักษรลงในกล่อง ข้อความ ซึ่งจะเป็นรปู แบบตวั อักษรศลิ ปท์ ีไ่ ดเ้ ลือกไว้ 23.ครูอธิบายและสาธิตการแทรกสัญลักษณ์พิเศษ และแทรก สัญลักษณ์คณิตศาสตร์ และให้ ผู้เรียนฝกึ ปฏบิ ัตติ าม โดยการแทรกสัญลกั ษณ์ทางคณติ ศาสตร์ 1) คลกิ ท่ีแท็บ Insert คลกิ ที่ 2) หรือเลือกลูกศรใต้คำสัง่ Equation เลือกที่ Insert New Equation จะมรี ูปแบบคณติ ศาสตร์ให้ เลือก 3) เลือกรูปแบบทางคณิตศาสตรแ์ ละพิมพ์ตวั เลขตามทีต่ ้องการ 24.ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะการแทรกสญั ลักษณพ์ เิ ศษ ดังนี้ 1) คลกิ ทีแ่ ทบ็ Insert 2) เลือกลูกศรใตค้ ำสง่ั Symbol 3) เลือกสัญลักษณ์พเิ ศษตามท่ีต้องการ 4) ถ้าต้องการแทรกสัญลักษณ์พิเศษอ่ืน ให้เลือก More Symbols แล้วเลือกสัญลักษณ์ พเิ ศษ เลือกแบบอกั ษรชือ่ Wingdings 5) คลกิ ท่ี Insert เพ่อื แทรกสญั ลักษณ์พเิ ศษอน่ื ตามทีเ่ ลือก 25.ครูสาธติ พร้อมอธบิ ายการแทรกลายน้ำลงในเอกสาร โดยให้ผูเ้ รยี นฝึกปฏบิ ตั ิตาม ดังน้ี 1) คลิกแทบ็ Page Layout ภายใต้กลุม่ คำสั่ง Page Background เลอื ก Watermark

45 2) สามารถเลอื กรูปแบบของ Watermark ไดท้ ันที 3) หากต้องการกำหนดรูปแบบของ Watermark ให้คลิกที่ Custom Watermark จะ ปรากฏกลอ่ ง Printed Watermark จากน้นั ให้กำหนดรปู แบบไดต้ ามท่ีต้องการ 4) การลบ Watermark ออกจากเอกสารใหเ้ ลอื กที่ Remove Watermark 26.ครูสาธิตการสรา้ งขอบกระดาษเอกสาร และใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั ิตาม ดังน้ี 1) คลกิ แท็บ Design ภายใต้กลมุ่ คำสั่ง Page Background เลือก Page Borders 2) จะปรากฏหน้าต่าง Borders & Shading 3) สามารถกำหนดรูปแบบต่างๆ ได้ตามทต่ี อ้ งการแล้วกด OK 27.ครูให้ความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากเนื้อหาการเรียนการสอน เกี่ยวกับเง่ือนไขตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียง ในการตัดสินใจและการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่าง ๆ ใหอ้ ย่ใู นระดับพอเพียงน้ัน ตอ้ งอาศัยท้ัง ความรู้ และคุณธรรมเปน็ พ้นื ฐาน กลา่ วคือ (1) เง่ือนไขความรู้ เป็นความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ความรอบคอบที่จะนำ ความรเู้ หลา่ น้ันมาพิจารณาใหเ้ ชอื่ มโยงกนั เพื่อการวางแผน และความระมดั ระวังในข้ันปฏบิ ัติ (2) เงื่อนไขคุณธรรม เปน็ สิ่งทต่ี ้องเสริมสรา้ งให้มีความตระหนักในคณุ ธรรม มีความซื่อสตั ย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพยี ร ใช้สตปิ ัญญาในการดำเนนิ ชีวิต

46 ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 28.ครูและผู้เรียนชว่ ยกันสรุปการการตกแต่งเอกสาร โดยให้ฝกึ ปฏิบัติงานทีค่ รมู อบหมายให้ 29.ผูเ้ รยี นทำใบงาน แบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 30.ประเมินผู้เรยี นตามแบบฟอรม์ ตอ่ ไปน้ี แบบประเมนิ ประสบการณพ์ น้ื ฐาน ชอ่ื ผู้เรยี น ประสบการณพ์ ืน้ ฐานการเรยี นรู้ วิธีการเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรยี น วิชาโปรแกรมประมวลผลคำ ของสำนักพิมพเ์ อมพันธ์ 2.รปู ภาพเมนตู า่ งๆ ในโปรแกรม 3.กิจกรรมการเรยี นการสอน 4.สอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส,์ PowerPoint และเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 6.แบบประเมินผลการเรียนรู้ 7.แบบประเมินกิจกรรมใบงาน

47 หลักฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเช็ครายชือ่ 3.แผนจัดการเรยี นรู้ 4.การตรวจประเมินผลงาน การวัดผลและการประเมินผล วธิ ีวดั ผล 1.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2.ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ 3.สังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 4.ตรวจใบงาน 5.ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏิบัติ 6.การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เคร่ืองมือวัดผล 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 2.แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู) 3.แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ (โดยผู้เรียน) 4.แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 5.แบบประเมินผลการเรียนรู้ แบบฝึกปฏิบัติ 6.แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและ ผูเ้ รยี นร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1.เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรับปรงุ 2.เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขนึ้ ไป) 3.เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 4.กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คอื 50%

48 5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏิบตั ิมีเกณฑผ์ า่ น 50% 6.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนข้ึนอย่กู ับ การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.ทำกจิ กรรมใบงาน 2.อา่ นและทบทวนบทเรยี น 3.ฝึกทกั ษะโดยการปฏิบตั ิการตกแต่งในลักษณะต่างๆ

49 บันทกึ หลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน ................................................................................................................... ............................. ..................................................................................................................... ................................................ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ................ ปญั หาทพ่ี บ ................................................................................................................................................ .................................................................................................... ................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................... ...................................... แนวทางแก้ปัญหา ................................................................................................................................................ .................................................................................................... ................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................... ......................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook