D (PLC) 2 64 20104-2002 562
ใใ ใ 2104-2010 ้ ..................................................................................................................................................................... .................................................... ( )) ำ .............../................./................ ็ .......................................................................................................................................................................... .................................................... () ำ .............../................./................ ็ .......................................................................................................................................................................... .................................................... () .............../................./................ ใใ ็ ื .............................................................................................................................................................. ............................................. ื( ) ำ ฝ่ .............../................./............... ใใ ื ............................................................................................................................................................. .............................................. ื( ) ำ .............../................./...............
ำำ แผนการสอนวชิ า วงจรไฟฟ้ากระแสตรง รหัส 20104-2202 เล่มนี้ ไดเ้ รยี บเรียงขึน้ เพ่ือใช้ในการประกอบการเรียน การสอน ตามหลักสูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพช่าง พทุ ธศกั ราช 2562 ของสำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา แผนการสอนวงจรไฟฟ้ากระแสตรง ศึกษาและปฏิบัติงานเก่ียวกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง เช่น เซลล์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ หรือเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ประกอบวงจรไฟฟ้าอนุกรม แบบขนาน และแบบผสม โดยใช้ อุปกรณ์ประกอบวงจรเป็นเซลลไ์ ฟฟา้ แบตเตอร่ี ตัวตา้ นทาน หลอดไฟ มอเตอร์กระแสตรง รเี ลย์ ใช้เคร่ืองมอื วัดทเี่ กย่ี วข้องวัด คา่ ความสัมพันธ์ของกระแส แรงดัน ความตา้ นทาน ตามกฎของโอหม์ ทฤษฎีของเทเวนินและนอร์ตัน ประกอบและทดสอบวงจร บริดจ์ วงจรแบ่งแรงดันไฟฟ้า วงจรแบ่งกระแสไฟฟ้า กิจกรรมการเรียนการสอนเป็นการจัดกิจกรรมการสอนแบบฐาน สมรรถนะอาชีพและบูรณาการกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงและมุ่งพัฒนาใหผ้ เุ้ รียนมีคณุ ลกั ษณะ 3D ลงช่ือ……………………………………. (นายธรรมนญู แกว้ เสถยี ร) ครผู สู้ อน
1. จุดประสงค์รายวิชา 2. มาตรฐานรายวิชา 3. คำอธิบายรายวิชา 4. ตารางวเิ คราะห์หลกั สตู ร 5. ตารางวิเคราะหเ์ น้อื หา 6. แผนการวิเคราะหห์ ลกั สตู ร 7. ผงั การสรา้ งแบบทดสอบ (Test Blueprint) ภาคทฤษฎี 8. ผังการสร้างแบบทดสอบ (Test Blueprint) ภาคปฏิบัติ 9. แผนการสอน/การเรยี นรู้ 2104-2002 วงจรไฟฟา้ กระแสตรง ้ ช่างไฟฟ้ากำลงั ไฟฟ้ากำลงั ำ /4 ำ2 111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111 1. ( ) 1. เข้าใจกฎและทฤษฎีวงจรไฟฟา้ กระแสตรงพน้ื ฐาน 2. มที ักษะในการต่อ การประลองและการคำนวณ หาค่าต่างๆ ในวงจรไฟฟ้ากระแสตรง 3. มีเจตคติทดี่ ตี ่ออาชีพ มกี ิจนิสัยในการคน้ ควา้ เพ่ิมเติม และการทำงานด้วยความรอบคอบและปลอดภัย 2. ( ) 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับการหาค่าต่างๆ ในวงจรไฟฟา้ กระแสตรง 2. ปฏิบตั กิ ารต่อวงจรไฟฟ้ากระแสตรง 3. วัดและทดสอบคา่ ในวงจรไฟฟา้ กระแสตรง 3. ำ ( ) ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับทฤษฏีวงจรไฟฟ้า ตัวแปรวงจรไฟฟ้า ประจุไฟฟ้า กระแส แรงดัน กำลังไฟฟ้า นิยาม โนด ก่ิง ลปู กฎของโอหม์ กฎกระแส กฎแรงดนั ของเคอร์ชอฟฟ์ องค์ประกอบพ้ืนฐานวงจรไฟฟ้า ตวั ตา้ นทาน ตัวเก็บประจุ ตัวเหน่ียวนำ แหล่งจ่ายไฟ การต่อเซลไฟฟ้า การต่อวงจรอนุกรม ขนาน ผสม ตัวต้านทาน ตัวเก็บประจุ ตัวเหนี่ยวนำ การแปลงวงจรเดลตา- วาย วงจรแบ่งแรงดัน วงจรแบ่งกระแส วงจรบริดจ์ การคำนวณ กระแสเมช แรงตันโนด ทฤษฏีบทการทับซ้อน เทวินนิ นอร์ตัน การถ่ายโอนกำลังไฟฟา้ สงู สดุ
20104-2002 ื ฤฎ ฏ 1 1-4 4 - ืื 2 5-8 1 3 1. ำ 1.1 แหลง่ กำเนิดไฟฟา 3 9-12 1 3 1.2 ไฟฟ้าสถิต 1.3 ไฟฟ้ากระแส 1.4 ไฟฟา้ กระแสตรง 1.5 ปฏบิ ตั กิ ารทดสอบแหล่งกำเนดิ ไฟฟ้า 2. 2.1 เซลล์ไฟฟา้ 2.2 การต่อเซลลไ์ ฟฟ้า 2.3 การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม 2.4 การตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบขนาน 2.5 การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบผสม 3. ฎ 3.1. กฎของโอห์ม 3.2. การใช้กฎของโอห์มคำนวณหาคา่ กระแสไฟฟา้ 3.3. การใช้กฎของโอห์มคำนวณหาคา่ แรงดันไฟฟ้า 3.4. การใชก้ ฎของโอหค์ ำนวณหาคา่ ความ ต้านทานไฟฟ้า
ืื ฤฎ ฏ 4. 4 13-16 1 3 4.1 การตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม 4.2 คุณสมบัตขิ องวงจรอนุกรม 4.3 การคำนวณในวงจรอนกุ รม 4.4 ปฏิบตั กิ ารทดลองวงจรไฟฟา้ แบบ อนุกรม 5. 5 17-20 1 3 5.1 การต่อวงจรไฟฟา้ แบบขนาน 5.2 คุณสมบตั ิของวงจรขนาน 5.3 การคำนวณในวงจรขนาน 5.4 ปฏบิ ัติการทดลองวงจรไฟฟา้ แบบ ขนาน 6. 1 3 6.1 การต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสม 6.2 วงจรไฟฟา้ แบบผสม อนุกรม – ขนาน 6.3 วงจรไฟฟ้าแบบผสม ขนาน – อนกุ รม 6 21-24 6.4 คุณสมบัตขิ องวงจรไฟฟ้าแบบผสม 6.5 การคำนวณในวงจรไฟฟ้าแบบผสม 6.6 ปฏิบตั ิการทดลองวงจรไฟฟ้าแบบ ผสม
ืื ฤฎ ฏ 7 25-28 1 3 7. ำ 8 29-36 1 3 7.1 กำลงั ไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ กระแสตรง 7.2 ตวั อย่างการคำนวณหาค่ากำลังไฟฟ้า 9 33-36 1 3 7.3 ปฏบิ ัตกิ ารทดลองหากำลงั ไฟฟา้ ท่ีโหลด 10 37-40 1 3 8. 8.1 วงจรแบง่ แรงดนั ไฟฟา้ ท่ไี มม่ โี หลด 8.2 วงจรแบ่งแรงดันไฟฟา้ แบบมโี หลด 8.3 วงจรแบง่ กระแสไฟฟา้ 2 สาขา 8.4 วงจรแบง่ กระแสไฟฟ้า 3 สาขา 9. 9.1 วงจรแบ่งกระแสไฟฟ้า 2 สาขา 9.2 วงจรแบ่งกระแสไฟฟ้า 3 สาขา 9.3 ตวั อยา่ งการคำนวณ 9.4 ปฏิบตั กิ ารทดลองวงจรแบ่งกระแส 10. ฎ ์ 10.1 กฎกระแสไฟฟา้ ของเคอร์ชอฟฟ์ 10.2 เมทริกซ์และดีเทอรม์ ิแนนท์ 10.3 ตัวอย่างการแกป้ ัญหาโจทย์ 10.4 ปฏิบตั ิการทดลองโดยใช้กฎกระแสไฟฟ้า ของเคอร์ชอฟฟ์
ืื ฤฎ ฏ 11. ฎ ์ 11 41-44 1 3 11.1 กฎแรงดันไฟฟ้าของเคอรช์ อฟฟ์ 11.2 ตัวอย่างการคำนวณโดยใชก้ ฎ แรงดันไฟฟ้าของเคอร์ชอฟฟ์ 11.3 ปฏิบัตกิ ารทดลองโดยใชก้ ฎ แรงดันไฟฟ้าของเคอร์ชอฟฟ์ 12. ฤ ฎ 12 45-48 1 3 12.1 ทฤษฎีกระแสเมช 12.2 สมมติกระแสไหลวน 12.3 สมการกรนะแส 12.4 ตวั อยา่ งการคำนวณ ทฤษฎีกระแส เมช 12.5 ปฏบิ ตั ทิ ดลองตามทฤษฎกี ระแสเมช 13. 13 49-52 1 3 13.1 โนด 13.2 โนดหลกั 13.3 โนดเปรียบเทียบ 13.4 แรงดนั โนด 13.5 ตวั อยา่ งการแก้ปญั หาโจทย์ 13.6 ปฏบิ ตั กิ ารทดลองตามวธิ แี รงดัน โนด
ืื ฤฎ ฏ 14. ฤ ฎ 14 53-56 1 3 14.1 ทฤษฎีการวางซ้อน 14.2 การใชท้ ฤษฎกี ารวางซ้อนวิเคราะห์ วงจร 14.3 ตัวอย่างการคำนวณ โดยใช้ทฤษฎี การวางซอ้ น 14.4 ปฏบิ ัตกิ ารทดลองทฤษฎีการวาง ซอ้ น 15. ฤ ฎ 15 57-60 1 3 15.1 หลักการทฤษฎขี องเทเวนิน 15.2 แรงดนั เทเวนนิ 15.3 ความต้านทานเทเวนนิ 15.4 วงจรสมมูลยเ์ ทเวนนิ 15.5 คำนวณหาค่าปริมาณทางไฟฟา้ ดว้ ย ทฤษฎขี องเทเวนิน 15.6 ปฏิบตั ิการทดลองทฤษฎีของเท เวนนิ 16. ฤ ฎ 16 61-64 1 3 16.1 หลักการทฤษฎขี องนอรต์ นั 16.2 กระแสและความต้านทานนอร์ตัน 16.3 วงจรสมมูลนอรต์ ัน 16.4 หาค่าปรมิ าณทางไฟฟ้าดว้ ยทฤษฎี ของนอร์ตัน 16.5 ปฏบิ ตั กิ ารทดลองทฤษฎขี องนอร์ ตนั
ืื ฤฎ ฏ 17. 17 65-68 1 3 17.1 วงจรบรดิ จส์ ภาวะสมดลุ 17.2 วงจรบริดจส์ ภาวะไม่สมดุล 17.3 หลักการหาค่าความตา้ นทานไม่ ทราบคา่ 17.4 ตวั อย่างการคำนวณ 17.5 ปฏบิ ตั ิการทดลองวงจรบริดจ์แบบ วดี สโตน 18. ำ 18.1 การถ่ายโอนกำลงั ไฟฟ้าสงู สดุ 18.2 กราฟของกำลังไฟฟา้ 18.3 การแก้ปัญหาวงจรไฟฟ้า 18.4 ปฏิบตั ิการทดลองวงจรเพ่ือหา กำลังไฟฟา้ 18 69-72 1 3
20104-2202 ้ื ื/ 4/ 1ำ ฤ ำ - แหล่งกำเนดิ ไฟฟา้ ( .) - ไฟฟา้ สถิต 12341212 - ไฟฟ้ากระแส - ไฟฟ้ากระแสตรง // / / 4 - ปฏบิ ตั ิการทดสอบ // / / แหล่งกำเนดิ ไฟฟ้า // / / // / / // / / 2 - เซลล์ไฟฟา้ // / / - การตอ่ เซลล์ไฟฟ้า // / / - การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม // // 4 - การต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบขนาน // // - การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบผสม // // 3ฎ - กฎของโอห์ม // // 4 // - การใชก้ ฎของโอห์มคำนวณหาค่า / /
ื/ ฤ ำ ( .) 1234 1 212 กระแสไฟฟ้า // / // - การใชก้ ฎของโอหม์ คำนวณหาคา่ // / // // / // แรงดนั ไฟฟ้า - การใช้กฎของโอห์คำนวณหาค่า ความต้านทานไฟฟ้า 4 - การต่อวงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม / / - คุณสมบัติของวงจรอนุกรม // - การคำนวณในวงจรอนกุ รม // 4 - ปฏิบัติการทดลองวงจรไฟฟ้า / / แบบอนกุ รม 5 - การต่อวงจรไฟฟา้ แบบขนาน / / // - คณุ สมบัติของวงจรขนาน // / / - การคำนวณในวงจรขนาน // // 4 - ปฏบิ ัตกิ ารทดลองวงจรไฟฟา้ // / // แบบขนาน
ื/ ฤ ำ ( .) 1234 1 212 6 - การต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสม // / - การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบผสม // / อนุกรม – ขนาน - การตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบผสมขนาน / / / // - อนุกรม / // 4 - คณุ สมบตั ิของวงจรไฟฟา้ แบบ / / ผสม // // - การคำนวณในวงจรไฟฟา้ แบบ ผสม // - ปฏิบตั ิการทดลองวงจรไฟฟา้ แบบ / / ผสม 7ำ - กำลงั ไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า // // // กระแสตรง // / // / // - ตัวอย่างการคำนวณหาค่า // / // กำลงั ไฟฟ้า // - ปฏิบัตกิ ารทดลองหากำลงั ไฟฟ้าที่ / / โหลด 4
ื/ ฤ ำ ( .) 1234 1 212 8 // / /// - วงจรแบ่งแรงดนั ไฟฟ้าท่ีไมม่ โี หลด - วงจรแบ่งแรงดันไฟฟ้า แบบมี / / / /// โหลด - ตัวอย่างการคำนวณ // / /// 8 / /// - ปฏบิ ตั กิ ารทดลองวงจรแบ่งแรงดัน / / - วงจรแบง่ กระแสไฟฟ้า 2 สาขา / / / /// / / / /// - วงจรแบ่งกระแสไฟฟ้า 3 สาขา / / / /// - ตวั อยา่ งการคำนวณ / / / /// - ปฏิบตั กิ ารทดลองวงจรแบง่ กระแส 9ฎ ์ // // // - กฎกระแสไฟฟ้าของเคอร์ชอฟฟ์ / / // // - เมทริกซ์และดีเทอร์มิแนนท์ // / // // - ตัวอย่างการแก้ปญั หาโจทย์ // - ปฏบิ ัติการทดลองโดยใชก้ ฎ // // กระแสไฟฟา้ เคอรช์ อฟฟ์ 4
ื/ ฤ ำ ( .) 1234 1 212 10 ฎ ์ - กฎแรงดันไฟฟ้าของเคอรช์ อฟฟ์ / / /// / // - ตวั อย่างการคำนวณโดยใชก้ ฎ / // แรงดันไฟฟา้ ของเคอร์ชอฟฟ์ - ปฏิบตั กิ ารทดลองโดยใชก้ ฎ // แรงดันไฟฟ้าของเคอร์ชอฟฟ์ 11 ฤ ฎ - ทฤษฎกี ระแสเมช // / // / // - สมมตกิ ระแสไหลวน // / // / // - สมการกระแส // 4 / // - ตวั อย่างการคำนวณ ทฤษฎีกระแส / / เมช - ปฏบิ ตั ทิ ดลองตามทฤษฎีกระแส / / เมช 12 - โหนด // // // - โหนดหลัก / / // / // - โหนดเปรยี บเทียบ // / // 4 - แรงดันโหนด // / // - ตวั อย่างการแก้ปัญหาโจทย์ // - ปฏบิ ตั กิ ารทดลองตามวิธีแรงดัน // โนด
ื/ ฤ ำ ( .) 1234 1 212 13 ฤ ฎ - ทฤษฎีการวางซอ้ น // // // - การใช้ทฤษฎกี ารวางซ้อนวิเคราะห์ / / // วงจร // - ตวั อยา่ งการคำนวณ โดยใชท้ ฤษฎี / / การวางซอ้ น - ปฏิบตั กิ ารทดลองทฤษฎกี ารวาง / / ซอ้ น 14 ฤ ฎ - หลักการทฤษฎขี องเทเวนนิ /// / / - แรงดนั เทเวนิน // / - ความตา้ นทานเทเวนิน // - วงจรสมมูลยเ์ ทเวนนิ /// / / 4 - คำนวณหาค่าปริมาณทางไฟฟ้า / / / / / ดว้ ยทฤษฎขี องเทเวนนิ - ปฏบิ ตั ิการทดลองทฤษฎขี องเท / / / / / เวนนิ 15 ฤ ฎ - หลกั การทฤษฎขี องนอรต์ ัน // / // / // - กระแสและความต้านทานนอร์ตนั / / 4 / // - วงจรสมมูลนอรต์ นั / // - หาค่าปรมิ าณทางไฟฟา้ ดว้ ยทฤษฎี / / //
ื/ ฤ ำ ( .) 1234 1 212 ของนอรต์ ัน / / - ปฏิบตั กิ ารทดลองทฤษฎีของนอร์ ตนั 16 - วงจรบรดิ จส์ ภาวะสมดุล /// / / - วงจรบริดจส์ ภาวะไมส่ มดลุ // / - หลกั การหาค่าความตา้ นทานไม่ // 4 4 ทราบค่า /// / / - ตัวอย่างการคำนวณ // / / / - ปฏบิ ัตกิ ารทดลองวงจรบรดิ จ์ แบบบริดสโตน 17 ำ - การถา่ ยโอนกำลังงานไฟฟา้ สงู สุด / / / // // - กราฟของกำลังไฟฟ้า // / // / - การแกป้ ัญหาวงจรไฟฟ้า // - ปฏบิ ัตกิ ารทดลองวงจรเพือ่ หา // กำลังไฟฟ้า พุทธิพสิ ัย 1 = ความจำ 2 = ความเขา้ ใจ 3 = การนำไปใช้ 4 = สงู กว่า จติ พิสยั 1 = การประเมนิ คณุ คา่ 2 = การจัดระบบ ทักษะพสิ ยั 1 = การทำตามแบบ 2 = ทำจากการคดิ วเิ คราะห์
ผลการวเิ ครา รหสั วชิ า 20104 – 2002 ช่ือวิชา สาขาวชิ าช่างไฟฟ้ากำลัง จดุ ประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวิชา คำอธบิ ายรายวชิ า 1. เข้าใจกฎและทฤษฎี 1. แสดงความรเู้ ก่ียวกบั ศึกษาและปฏิบัติเก วงจรไฟฟ้ากระแสตรง การหาค่าต่างๆ ใน ท ฤ ษ ฏี วงจ รไฟ ฟ้ า ตั พน้ื ฐาน วงจรไฟฟ้ากระแสตรง วงจรไฟฟ้า ประจุไฟฟ้า ก 2. มที ักษะในการตอ่ การ 2. ปฏิบัติการต่อ แรงดัน กำลังไฟฟ้า นิยา ประลองและการคำนวณ วงจรไฟฟ้ากระแสตรง ก่งิ ลูป กฎของโอหม์ กฎ หาคา่ ต่างๆ ในวงจรไฟฟ้า 3. วดั และทดสอบคา่ ใน กฎ แรงดันของเคอร์ช กระแสตรง วงจรไฟฟ้ากระแสตรง องค์ประกอบพื้นฐานวงจ 3. มีเจตคติทดี่ ีต่ออาชีพ มี ตัวต้านทาน ตัวเก็บปร กิจนสิ ัยในการคน้ คว้า เหนี่ยวนำ แหล่งจ่ายไฟ เพม่ิ เติม และการทำงาน เซลไฟฟ้า การต่อวงจรอ ดว้ ยความรอบคอบและ ขนาน ผสม ตัวต้านทาน ปลอดภยั ประจุ ตัวเหนี่ยวนำ การ วงจรเดลตา-วาย วงจ แรงดัน วงจรแบ่งกระแส บริดจ์ การคำนวณ กระ แรงตันโนด ทฤษฏีบทก ซ้อน เทวินิน นอร์ตัน ก โอนกำลังไฟฟ้าสงู สุด
าะห์หลกั สตู ร วงจรไฟฟ้ากระแสตรง (1 3 2) ง สาขางานไฟฟา้ กำลงั า หน่วย ช่วั โมง จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ทป ก่ียวกับ แหลง่ กำเนดิ ไฟฟา้ 4- 1.1 อธิบายทฤษฎีแหลง่ กำเนิด ไฟฟ้าได้ วแปร 13 1.2 อธิบายความแตกต่างของ แหล่งกำเนดิ ไฟฟา้ ได้ กระแส ๑.๑ อธิบายทฤษฎีการต่อ เซลลไ์ ฟฟา้ ได้ าม โนด ฎกระแส เซลลไ์ ฟฟ้า ชอฟ ฟ์ จรไฟฟ้า ะจุ ตัว 1 3 อธบิ ายทฤษฎกี ฎของโอห์มได้ การต่อ กฎของโอห์ม 1 3 อธบิ ายการต่อและคำนวนหาค่า อนุกรม วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม ทางไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าแบบ ตัวเก็บ อนกุ รมได้ รแปลง 1 3 อธบิ ายการต่อและคำนวนหาค่า ทางไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ แบบขนาน จ ร แ บ่ ง วงจรไฟฟ้าแบบขนาน ส วงจร ได้ 1 3 อธบิ ายการต่อและคำนวนหาคา่ ะแสเมช ทางไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ แบบผสม การทับ วงจรไฟฟ้าแบบผสม การถ่าย ได้
กำลงั ไฟฟา้ 1 3 อธิบายการต่อและคำนวนหาคา่ กำลังไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ แบบ ตา่ งๆได้ วงจรแบง่ แรงดนั และวงจรแบ่ง 1 3 อธิบายการต่อและคำนวนหาค่า แรงดนั ทางไฟฟ้าในวงจรแบ่งแรงดันและ วงจรแบง่ แรงดันได้ กฎกระแสไฟฟา้ ของเคอร์ชอฟฟ์ 1 3 อธิบายการต่อและคำนวนหาคา่ กระแสไฟฟา้ โดยใช้กฎ กระแสไฟฟ้าของเคอร์ชอฟฟ์ได้ กฎแรงดนั ไฟฟ้าของเคอรช์ อฟฟ์ 1 3 อธบิ ายการต่อและคำนวนหาค่า แรงดันไฟฟ้าโดยใช้กฎ แรงดนั ไฟฟ้าของเคอร์ชอฟฟ์ได้ ทฤษฎีกระแสเมช 1 3 อธบิ ายการต่อและคำนวนหาคา่ กระแสไฟฟา้ โดยใช้ทฤษฎกี ระแส เมชได้ แรงดนั โนด 1 3 อธิบายการต่อและคำนวนหาคา่ แรงดนั ไฟฟา้ โดยใช้แรงดนั โนดได้ ทฤษฎกี ารวางซอ้ น 1 3 อธบิ ายการต่อและคำนวนหาคา่ ทางไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าโดยใช้ ทฤษฎีการวางซ้อนได้ ทฤษฎีเทวินิน 1 3 อธบิ ายการต่อและคำนวนหาค่า ทางไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าโดยใช้
ทฤษฎีนอรต์ ัน ทฤษฎเี ทวินินได้ วงจรบริดจแ์ บบวตี สโตน การถ่านโอนกำลังไฟฟา้ สงู สุด 1 3 อธิบายการต่อและคำนวนหาค่า ทางไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ โดยใช้ ทฤษฎีนอรต์ นั ได้ 1 3 อธบิ ายการต่อและคำนวนหาคา่ ทางไฟฟ้าในวงจรบริดจแ์ บบ วีตสโตนได้ 1 3 อธิบายการต่อและคำนวนหาค่า การถ่านโอนกำลงั ไฟฟ้าสูงสดุ ได้
ผงั การสรา้ งแบบทดสอบ (Te รหัสวชิ า 20104 – 2002 ช่ือวิชา สาขาวชิ าชา่ งไฟฟา้ กำลัง สาขางานไฟฟ้ากำลงั ระดับป หน่วย/เรอ่ื ง จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม แหล่งกำเนดิ ไฟฟา้ 1.1 อธบิ ายทฤษฎีแหลง่ กำเนิดไฟฟา้ ได้ เซลลไ์ ฟฟ้า 1.2 อธบิ ายความแตกตา่ งของแหล่งกำเนิดไ กฎของโอห์ม ๑.๑ อธบิ ายทฤษฎีการต่อเซลล์ไฟฟา้ ได้ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม วงจรไฟฟ้าแบบขนาน อธิบายทฤษฎีกฎของโอหม์ ได้ วงจรไฟฟ้าแบบผสม อธิบายการต่อและคำนวนหาค่าทางไฟฟ้าใน กำลังไฟฟา้ แบบอนกุ รมได้ อธบิ ายการต่อและคำนวนหาค่าทางไฟฟ้าใน แบบขนานได้ อธิบายการต่อและคำนวนหาค่าทางไฟฟา้ ใ วงจรไฟฟ้าแบบผสมได้ อธิบายการต่อและคำนวนหาคา่ กำลังไฟฟา้ ใ วงจรไฟฟ้าแบบตา่ งๆได้
est Blueprint) ภาคทฤษฏี า วงจรไฟฟา้ กระแสตรง (1 3 2) ประกาศนียบตั รวิชาชพี เวลาทีใ่ ชใ้ นการทดสอบ ๑ ชั่วโมง ระดับพฤตกิ รรมพุทธพิสัย น้ำหนัก จำนวน ความสำคญั ขอ้ ู้ร - จำ เ ้ขาใจ นำไปใช้ ิวเคราะ ์ห ประเมินค่า ส ้รางสรรค์ ไฟฟา้ ได้ 2 // 2 // นวงจรไฟฟา้ 2 // นวงจรไฟฟา้ 3 /// ใน 3 /// ใน 3 /// 2 //
วงจรแบ่งแรงดนั และวงจรแบ่งแรงดนั อธบิ ายการต่อและคำนวนหาคา่ ทางไฟฟ้าใ กฎกระแสไฟฟา้ ของเคอรช์ อฟฟ์ แรงดันและวงจรแบ่งแรงดนั ได้ กฎแรงดันไฟฟ้าของเคอรช์ อฟฟ์ อธบิ ายการต่อและคำนวนหาค่ากระแสไฟฟ ทฤษฎีกระแสเมช กระแสไฟฟ้าของเคอรช์ อฟฟ์ได้ แรงดันโนด ทฤษฎีการวางซ้อน อธิบายการต่อและคำนวนหาค่าแรงดันไฟฟ ทฤษฎีเทวินนิ แรงดนั ไฟฟา้ ของเคอร์ชอฟฟ์ได้ ทฤษฎีนอร์ตัน อธิบายการต่อและคำนวนหาค่ากระแสไฟฟ วงจรบรดิ จ์แบบวีตสโตน ทฤษฎกี ระแสเมชได้ การถา่ นโอนกำลังไฟฟา้ สูงสดุ อธบิ ายการต่อและคำนวนหาคา่ แรงดันไฟฟ แรงดันโนดได้ อธิบายการต่อและคำนวนหาคา่ ทางไฟฟา้ ใ วงจรไฟฟ้าโดยใช้ทฤษฎีการวางซ้อนได้ อธบิ ายการต่อและคำนวนหาคา่ ทางไฟฟา้ ใ วงจรไฟฟ้าโดยใช้ทฤษฎีเทวินินได้ อธบิ ายการต่อและคำนวนหาคา่ ทางไฟฟา้ ใ วงจรไฟฟ้าโดยใช้ทฤษฎีนอรต์ ันได้ อธบิ ายการต่อและคำนวนหาค่าทางไฟฟา้ ใ บรดิ จ์แบบวีตสโตนได้ อธบิ ายการต่อและคำนวนหาค่าการถ่านโอ กำลงั ไฟฟ้าสูงสดุ ได้ รวม
ในวงจรแบ่ง 2 // ฟ้าโดยใช้กฎ 3 /// ฟ้าโดยใช้กฎ 3 /// ฟ้าโดยใช้ 2 // ฟ้าโดยใช้ 2 // ใน 2 // ใน 2 // ใน 2 // ในวงจร 2 // อน 1/ 40 2 9 14 13
ื วงจรไฟฟา้ กระแสตรง 1 ื แหล่งกำเนิดไฟฟ้า ้1 4 ำ แหลง่ กำเนิดไฟฟ้าเรยี กวา่ พาวเวอร์ ซอรส์ (Power Source) เป็นหัวใจหลักสำคัญในการ ทำงานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าตา่ ง ๆ ซึ่งจะตอ้ งจ่ายกระแสไฟฟ้า ไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น หลอดไฟฟ้า วิทยุ โทรทศั น์ พดั ลม มอเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟา้ อ่ืน ๆ แหลง่ กำเนิดไฟฟ้ามีท้ังไฟฟ้าสถิตและไฟฟา้ กระแส ไฟฟ้ากระแสยงั แบ่งเปน็ ไฟฟา้ กระแสตรง กระแสสลับ 1. เพอ่ื ใหร้ ูจ้ กั แหล่งกำเนิดไฟฟา้ 2. เพื่อให้รจู้ กั ไฟฟ้าสถิตและไฟฟา้ กระแส 3. เพอ่ื ศึกษา ไฟฟ้ากระแสตรงและแหลง่ กำเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง 4. ปฏิบตั กิ ารวัดและทดสอบแหลง่ กำเนิดไฟฟ้า ฤ 1. บอกแหล่งกำเนิดไฟฟ้าได้ถูกต้อง 2. อธบิ ายลักษณะไฟฟา้ สถติ และไฟฟ้ากระแสได้ถูกต้อง 3. อธบิ าย ลกั ษณะไฟฟ้ากระแสตรงและแหลง่ กำเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง 4. ตอ่ วงจรและทดสอบแหล่งกำเนดิ ไฟฟ้าได้ถูกต้อง
้ื 1 ื แหล่งกำเนิดไฟฟา้ 1.1 ำ พลังงานไฟฟา้ ได้ โดยอาศัยพลังงานรปู อื่น 6 รูป อนั ได้แก่ แรงเสียดทาน ความกดดัน ความร้อน แสง แมเ่ หลก็ และปฏกิ ริ ิยาเคมีซ่งึ จะได้กลา่ วถึงรายละเอียดต่อไป ดงั นี้ 1. การเกิดไฟฟ้าชนิดน้ีเกดิ จากการนำสาร2ชนดิ ขัดสกี ันสารทเี่ สียอเิ ลก็ ตรอน ไปมีประจุบวก ส่วนสารที่ได้รับอิเล็กตรอนจะเกิดประจลุ บและบนสารทั้งสองจะมีประจุไฟฟา้ สถิตเกิดขนึ้ วตั ถุทุกชนิดเม่ือมปี ระจุไฟฟา้ สถิตจะมีแรงดึงดดู ซ่ึงกันและกนั เสมอ ถา้ เราวางประจุต่างกันให้ติดกนั อิเลก็ ตรอนบนประจุลบจะวิง่ (Discharge) เขา้ หาประจุบวกทันที ถ้าวตั ถนุ นั้ มปี ระจเุ ป็นจำนวนมาก อเิ ล็กตรอนจะกระโดดจากแท่งลบสแู่ ท่งบวกก่อนวัตถจุ ะสัมผัสกัน ลักษณะเช่นน้ีจะทำใหเ้ กิดการอาร์ค (Arc) ของไฟฟ้าข้นึ เชน่ เดียวกับไฟฟา้ สถติ ท่เี กิดข้ึนตามธรรมชาติ เช่น ฟ้าแลบ และฟ้าผา่ 2. เมื่อออกแรงกดบนสารบางชนดิ แรงทีก่ ด ผา่ นเนือ้ สารเข้าถึงอะตอมและไล่ อิเลก็ ตรอนหลดุ จากวงโคจรไปตามทิศทางของแรง อเิ ล็กตรอนจะวง่ิ จากผิดด้านหนึง่ ของสสารไปสู่ผิวลกึ อกี ด้านหน่ึง ดังน้ัน ประจุบวกและลบก็จะเกิดขนึ้ ผิดทงั้ สองด้าน เม่ือคลายแรงกดลงอเิ ลก็ ตรอนจะว่ิงกลบั สู่ วงจรเดมิ ของมนั การตัดชน้ิ สารพวกน้ดี ้วยวธิ กี ารบางอย่างสามารถท่จี ะควบคุมพ้ืนผวิ ท่ีจะเกดิ ประจุได้สาร บางอย่างจะมีปฏิกริ ิยาเมื่อได้รบั แรงกดงอโคง้ สารบางอย่างกม็ ปี ฏิกริ ิยากบั แรงบดิ ็ เป็นชือ่ ใช้เรียกการเกิดประจุไฟฟ้าโดยใชแ้ รงกดอดั บิโซเป็นคำที่มาจากภาษากรีก แปลวา่ ความดัน สารท่จี ะเกิดประจุไฟฟ้าเม่ือถกู แรงกดนั้นไดแ้ ก่ ผลกึ ของสารบางชนิด เชน่ หนิ ควอตซ์
แบเรียมตติ าเนท หินควอตซ์ หินเข้ียวหนมุ าน ทูมาลนิ และเกลือโรเซล เป็นตน้ สารเหลา่ นีจ้ ะมคี ุณสมบตั ิ พเิ ศษ คือ เม่ือได้รับแรงกดอัดจะทำให้เกิดไฟฟ้า ถา้ เรานำผลกึ ดังกลา่ วมาวางระหวา่ งแผ่นโลหะ 2 แผ่น แลว้ ออกแรงกดจะเหน็ ไดช้ ัดจากเครื่องวัดกระแสไฟฟ้าวา่ มไี ฟฟา้ เกิดขนึ้ ไฟฟา้ ทีเ่ กดิ ขึ้นจะมากหรือน้อย ขึน้ อยู่กับแรงท่ีกดผลึกน้นั พลังงาน ไฟฟา้ ทไ่ี ด้จากความกดอัดนีจ้ ะมีกำลังต่ำมากจึงใชไ้ ด้กบั งานกำลงั ตำ่ เชน่ ไมโครโฟนผลกึ (Crystal Microphone) หวั เขม็ แผน่ เสยี ง (Phono Cardridges) และอปุ กรณโ์ ซนาร์ 3. วิธนี ใี้ ชก้ ารเผาขั้วโลหะให้ร้อนโดยใช้อปุ กรณ์ทเี่ รยี กวา่ เทอรโ์ มคัปเปิล ซง่ึ ประกอบด้วยลวดทองแดง และลวดเหลก็ ซ่ึงปลายข้างหนึ่งยำ้ ปลายให้ติดกัน จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า จำนวนกระแสไฟฟ้าจะมากหรอื น้อยขน้ึ อยู่กับความแตกตา่ งของอุณหภูมริ ะหว่างโลหะท้ังสอง ิ ใชง้ านหลายอยา่ งโดยเฉพาะกบั วงจรไฟฟ้ากำลงั งานต่ำ ๆ เชน่ ใช้เปน็ ตัววดั ความ แตกตา่ งของอุณหภูมโิ ดยที่แรงดันไฟฟ้าทีเ่ กิดจากประจุบนโลหะท้ังสองจะมากหรือน้อยข้ึนอยกู่ บั อุณหภูมิ ของปลายชิ้นโลหะ2ชนดิ ซ่ึงความแตกตา่ งของอุณหภมู มิ ีค่ามากแรงดันไฟฟ้าท่ีเกิดขึ้นก็ย่งิ มคี ่าสูงจึงนำเทอร์ โมคปั เปลิ ไปทำเป็นตัวตรวจจบั อณุ หภูมใิ นงานอตุ สาหกรรม 1. เกิดจากแสง แสงสว่างเป็นพลังงานรปู หนึง่ ไฟฟ้าจากแสงได้ถูกคน้ พบโดยนักฟิสกิ ซ์ชาว เยอรมนั ชือ่ ไฮนรชิ รคู อลฟ์ เฮิร์ท แสงประกอบข้ึนจากอนุภาคพลงั งานเลก็ ๆ ทเ่ี รียกวา่ โฟ ตอน เมื่อโฟตอนในลำแสงกระทบวัตถุ มันจะคลายพลงั งานออกมา สำหรับสารบางชนิด พลังงานจากโฟตอนสามารถทำให้อะตอมปล่อนอิเล็กตรอนออกมาได้ สารพวกนี้ไดแ้ ก่ โปแท สเซียม โซเดยี มลิเทยี ม ซิลเิ นียม เจอรม์ ิเนยี ม แคดเมยี ร์ และตะกว่ั ซัลไฟต์ โซลารเ์ ซลล์ เมื่อ ไดร้ ับแสงสวา่ งมาก ๆ จะกำเนิดแรงดันไฟฟ้าไดจ้ ำนวนมาก และเมอ่ื แสงสว่างมีความเขม้ ข้น ลดลง แรงดันไฟฟ้าทเ่ี กดิ ขึน้ จะลดลงดว้ ย
การใชเ้ ซลล์แสดงอาทติ ย์เพอ่ื กำเนดิ ไฟฟ้านีม้ ีลักษณะการใชง้ านจะมแี ผงของเซลลแ์ สงอาทิตย์ขนาดใหญ่ เป็นตัวกลางพลังงานแสงอาทิตยเ์ ปน็ พลงั งานไฟฟ้าและเกบ็ พลงั งานไฟฟ้าที่ไดส้ ะสมไว้ในแบตเตอรีแ่ ล้วผา่ น เคร่อื งแปลงกระแสไฟฟ้าเปน็ ไฟฟ้าทใ่ี ช้งานได้โดยส่งไปตามเสาส่ง ไฟฟ้า 5. ฎ 5.1. นักวทิ ยาศาสตรช์ าวอติ าเลี่ยน ช่อื อเลซซานโดร โวลตา ไดท้ ำการทดลองและค้นพบว่าการนำ สารละลายอิเลก็ โตรไลด์ ซึ่งประกอบดว้ ย กรดซลั ฟูริกและน้ำ ใสไ่ ว้ในโถแก้ว แล้วนำแทง่ ทองแดงจำนวน 1 แท่ง กบั สงั กะสี จำนวน 1 แท่งจุม่ ลงในสารละลายดงั กล่าว 5.2.เมอ่ื จุ่มโลหะ2ชนดิ ในสารละลายอิเลก็ โตรไลต์แลว้ จะทำให้เกิดประจุไฟฟา้ บวกขึ้นท่ีแทง่ ทองแดง และเกดิ ประจไุ ฟฟา้ ลบข้นึ ที่แทง่ สังกะสี 5.3.อิเล็กตรอนจะถูกผลักให้ว่งิ ผ่านอิเล็กโตรไลทจ์ ากแผน่ หน่งึ ถึงแผ่นหน่ึง ทำให้แผน่ หนึ่งขาด อเิ ล็กตรอนและกลายเป็นขวั้ บวก โลหะแผน่ ลบจะกรอ่ นลงไปทกุ ทแี ละที่ขัว้ บวกจะเปน็ ฟองแกส๊ ผดุ ข้ึน ใน ท่ีสุดแผน่ ลบกจ็ ะละลายหายไปหมด เซลล์ก็หมดอายุผลติ ประจไุ ฟฟ้าไม่ได้ นอกจากจะเปลีย่ นแผ่นลบใหม่ 5.4.หลกั การน้ีใช้ในถ่านไฟฉายและแบตเตอรี่ เมื่อทำการตรวจสอบโดยการวัดคา่ ความต่างศักย์ระ ยะห่างแท่งทองแดงกบั แท่งสังกะสี ปรากฎวา่ มีคา่ ประมาณ 1.5 โวลต์ ดังนัน้ จึงนำเอาหลกั การเกดิ ประจุ
ไฟฟา้ จากปฏิกริ ยิ าทางเคมนี ้ี นำมาเป็นหลักการเบื้องต้นของแบตเตอรี่ 6. ำ ็ ไมเคิล ฟาราเดย์ นักวทิ ยาศาสตร์ชาวอังกฤษ เป็นผู้ทำการทดลองคน้ พบ หลกั การของแรงเคลอื่ นไฟฟา้ เหนีย่ วนำ กลา่ วคือ ถา้ นำเอาลวดตวั นำไฟฟา้ ใหเ้ คลื่อนท่ีตัดผา่ น สนามแมเ่ หลก็ หรือเสน้ แรงแม่เหลก็ เคล่อื นท่ผี ่านลวดตวั นำ จะทำให้เกิดการเคลื่อนท่ีของอเิ ลก็ ตรอนในลวด ตวั นำ จึงมผี ลทำใหเ้ กิดความตา่ งศกั ย์ข้นึ ระหว่างปลาย ท้ังสองของลวดตัวนำ จะทำใหเ้ กิดแรงดันไฟฟ้าท่ี ปลายท้ัง 2 ข้าง ของลวดตวั นำนัน้ เนอ่ื งจากแรงดนั ไฟฟา้ ท่เี กดิ จากการเหน่ียวนำระหว่างสนามแม่เหลก็ กับ เสน้ ลวดตัวนำจงึ เรยี กวา่ แรงเคลอื่ นไฟฟา้ เหนยี่ วนำหรอื แรงดนั ไฟฟ้าเหนีย่ วนำ 1.2 ไฟฟา้ สถติ คือ ไฟฟา้ ท่เี กิดจากการเสียดสเี มื่อเอาวัตถบุ างอย่างมาถกู ันจะทำใหเ้ กิดพลังงานขนึ้ ซึง่ พลงั งานน้สี ามารถ ดูดเศษกระดาษหรอื ฟางขา้ วเบาๆได้ เชน่ เอาแทง่ ยางแข็งถูกบั ผ้าสักหลาด หรือครัง่ ถู กบั ผา้ ขนสตั ว์ พลงั งานทเี่ กิดขึ้น เหล่านเ้ี รียกว่า ประจไุ ฟฟา้ สถิต เมือ่ เกิดประจุไฟฟา้ แล้ว วัตถทุ ีเ่ กดิ ประจุ ไฟฟา้ นน้ั จะเก็บประจุไว้ แต่ในที่สุดประจุไฟฟา้ จะถ่ายเทไปจนหมด วัตถทุ ีเ่ ก็บประจุไฟฟา้ ไวน้ นั้ จะคาย ประจอุ ย่างรวดเรว็ เมื่อต่อลงดิน ในวันที่มอี ากาศแห้งจะทำให้เกดิ ประจุไฟฟา้ ได้มาก ซึ่งทำให้สามารถดดู วตั ถจุ ากระยะทางไกลๆไดด้ ี ประจุไฟฟา้ ทเี่ กิดมีอยู่ 2 ชนดิ คอื ประจบุ วกและ ประจุลบ คณุ สมบัติของ ประจไุ ฟฟ้า คือ ประจุไฟฟา้ ชนดิ เดยี วกันจะผลกั กนั ประจุไฟฟ้าต่างชนิดกนั จะดูดกนั
1.3 ไฟฟา้ กระแสคือ การไหลของอิเลก็ ตรอนภายใน ตวั นำไฟฟ้าจากท่หี นึง่ ไปอีกที่หนง่ึ เช่น ไหลจาก แหลง่ กำเนดิ ไฟฟา้ ไปสู่แหลง่ ทต่ี ้องการใช้กระ แสไฟฟ้า ซึง่ กอ่ ให้เกิด แสงสวา่ ง เมื่อกระแส ไฟฟ้าไหลผา่ น ลวด ความต้านทานสงู จะกอ่ ให้ เกดิ ความร้อน เราใช้หลักการเกดิ ความร้อน เชน่ น้มี าประดิษฐ์อปุ กรณไ์ ฟฟ้า เช่น เตาหงุ ตม้ เตารีดไฟฟ้า เป็นต้น 1.4 เป็นไฟฟ้าทมี่ ีทิศทางการไหลไปทางเดยี วตลอดระยะเวลาที่วงจรไฟฟา้ ปดิ กลา่ วคอื กระแสไฟฟา้ จะ ไหลจากขวั้ บวก ภายในแหลง่ กำเนิด ผา่ นจากขั้วบวกจะไหลผา่ นตัวตา้ นหรอื โหลดผา่ นตัวนำไฟฟ้าแล้ว ย้อนกลบั เข้าแหล่งกำเนิดท่ีข้ัวลบ วนเวยี นเป็นทางเดยี วเชน่ นต้ี ลอดเวลา การไหลของไฟฟ้ากระแสตรงเชน่ น้ี แหล่งกำเนิดที่เราร้จู ักกันดีคือ ถา่ น-ไฟฉาย ไดนาโม ดซี ี เยนเนอเรเตอร์ เปน็ ตน้
1. แนะนำตัวครูผู้สอน ผู้เรียน ชื่อ วิชา รหัสวิชา จุดประสงค์ของรายวิชา คำอธิบายรายวิชา เกณฑก์ ารประเมนิ ผลทฤษฎี/ปฏบิ ตั ิ 2. นำเข้าสบู่ ทเรยี นเกีย่ วกบั แหล่งกำเนดิ ไฟฟ้า/ประกอบการฉายแผ่นใส 3. อธิบาย แหล่งกำเนิดไฟฟ้า ไฟฟ้าสถิต ไฟฟ้ากระแส ไฟฟ้ากระแสตรง ตอบคำถาม/ซักถาม ปญั หา 4. ถามเกย่ี วกบั ไฟฟ้าสถติ ไฟฟา้ กระแสมลี ักษณะตา่ งกันอย่างไร 5. สรุป ตอบข้อสงสยั ค้นควา้ เพิ่มเติม 6. ดูแลควบคุมการจดั แบง่ กลมุ่ 7. แจกใบงาน/ให้คำแนะนำในการจัดกิจกรรมกลุม่ 8. มอบหมายงานใหน้ ักเรียนไปศึกษาในหนว่ ยที่ 2 9. ประเมินผลการเรยี นของนักศึกษาในหนว่ ยท่ี1จากแบบทดสอบและใบประเมิน 10. ครูดแู ลการทำความสะอาดเรียบร้อยและปิดห้องปฏบิ ัตงิ านเมื่อไมใ่ ช้ 11. ครบู ันทึกขอ้ มูลเกีย่ วกับกจิ กรรมการเรียนหลงั การสอนเพ่ือให้แก้ไขปญั หาที่อาจเกดิ ขน้ึ กบั กลุ่มอ่ืน ๆ ต่อไปหรือความรู้ใหมท่ ี่เกิดข้ึน
ื (, ,) กอ่ นเรยี น ให้ศึกษาและฟังการอธิบาย มอบหมายงานกล่มุ มารายงานหนา้ ช้นั เรียนเก่ยี วกับ แหล่งกำเนิดไฟฟา้ ขณะเรียน ใหน้ กั เรยี นมารายงานหนา้ ชั้นเรยี นเกีย่ วกับ แหล่งกำเนิดไฟฟ้า หลังเรียน สรปุ เน้อื หาจากท่ีนกั เรียนไดม้ ารายงานหน้าช้นั เรยี นและประเมนิ ผล
ื ำื ใใ ื้ ื ้ ื ื (, ,ำ ื ) 1 หนงั สืออ้างองิ ชยั วฒั น์ ลิ้มพรวิจติ รวไิ ล , สมเกียรติ พึ่ง อาตม์ และ จิราภรณ์ จันแดง,สมศักด์ิ แสงศรี.วงจรไฟฟ้า กระแสตรง. : ศูนยส์ ง่ เสรมิ -อาชีวะ, 2562 . ส่ือ - ซดี กี ารบรรยาย - แบบฝึกหัด
ัื ฑ 1.สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล/รายกลุ่ม 2.สงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะ อนั พึงประสงค์ 1.ให้นักเรียนมสี ่วนร่วมในการอธิบายโดยการสาธิตหน้าชนั้ เรียน 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล/รายกลุ่ม 1.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล/รายกลมุ่ 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอัน พงึ ประสงค์ , , ,ำ , ำ ฝึ , ,ฏ , ฯฯ นำเสนอผลงานกลุม่ แหล่งกำเนดิ ไฟฟา้ ื คำนวณตามสูตร ภาษาไทย หาคำศัพท์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ วันท่ี......./........./......... สอนครงั้ ที่...........สปั ดาหท์ .่ี ...........เรอื่ ง...................................................................
ำ็ ้้ ำ ื / ใ ใ ื ใ ื ใำ ำ ็ ำ้ ื ใใ 1. ทำการสอนได้ครบตามวตั ถุประสงค์ 2. นำเขา้ สู่บทเรียนตรงตามทก่ี ำหนด 3. สามารถดำเนนิ การสอนตามแผนการสอน 4. ใชส้ ื่อการสอนครบตามแผนการสอน 5. ใชค้ ำถามในระหวา่ งการสอนได้ครบ 6. อ่ืน ๆ (โปรดระบุ)......................................... (ใ , ,) ............................................................................................................................. ................................................ ...................................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ .............................................................................................................................................................. ็ PLC ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ........................................................................................................................................... .........................
ื วงจรไฟฟา้ กระแสตรง 2 ื การต่อเซลล์ไฟฟ้า ้2 4 ำ การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ หมายถงึ การนำเซลล์ไฟฟา้ มาต่อเขา้ ดว้ ยกัน โดยปกตเิ ซลล์ไฟฟ้า เช่น ถา่ นไฟฉายจะมคี ่าแรงดัน 1.5 โวลท์ การนำเอาเซลลไ์ ฟฟ้ามาต่อรวมกนั เข้า จะทำให้แรงเคลอ่ื นไฟฟ้า และ กระแสไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงไปจากเดมิ มีวธิ ีการนำเซลล์ไฟฟ้ามาตอ่ 3 วิธี 1.การตอ่ แบบอนุกรม 2.การต่อแบบขนาน 3.การตอ่ แบบผสม 1.เพอ่ื ศึกษาการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าอนกุ รม 2.เพอ่ื ศึกษาการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบขนาน 3.เพอ่ื ศกึ ษาการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบผสม 4.เพ่ือให้มีกจิ นิสัยในการค้นควา้ 5.เพอ่ื ปฎบิ ตั ิการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า ฤ 1.เข้าใจการต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รม 2.เขา้ ใจการต่อเซลลไ์ ฟฟา้ แบบขนาน 3.เขา้ ใจการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบผสม 4.ตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบต่าง ๆ ไดถ้ ูกต้อง
ื้ 2 ื เซลล์ไฟฟา้ เซลลไ์ ฟฟา้ ( Electric Cell )เป็นแหล่งจา่ ยไฟฟ้าชนดิ หน่งึ ไฟฟา้ ท่ีไดจ้ ากเซลล์ไฟฟ้า (Electric Cell ) จะเป็นไฟฟ้ากระแสตรง เชน่ ถา่ นไฟฉาย แบตเตอรี่ มีสญั ลักษณ์ดงั รปู ท่ี 1 a. Cell b. Battery รูปท่ี 1 สัญลกั ษณเ์ ซลลไ์ ฟฟ้าและแบตเตอร่ี เซลล์ไฟฟ้า( Electric Cell ) หนึ่งเซลล์จะให้แรงดันไฟฟา้ ( Voltage ) และกระแสไฟฟ้า ( Current ) คา่ หนงึ่ คงที่ ถ้าโหลดตอ้ งการใชแ้ รงดันไฟฟา้ และกระแสไฟฟา้ มากกว่าเซลล์หนง่ึ เซลลจ์ ะจา่ ย ให้ได้ จงึ ต้องนำเซลล์ไฟฟา้ หลายๆเซลล์มาต่อเขา้ ด้วยกนั - ถา้ โหลดต้องการแรงดันไฟฟา้ มากกว่า เซลลห์ นึ่งเซลล์จะจา่ ยให้ได้จะต้องนำเซลลไ์ ฟฟ้าน้ัน มาต่อกนั แบบอนกุ รม ( Series Cell) - ถ้าโหลดต้องการกระแสมากขึ้น จะต้องนำเซลล์ไฟฟา้ มาต่อแบบขนาน ( Parallel Cell ) - ถา้ โหลดต้องการท้งั แรงดนั ไฟฟา้ และกระแสไฟฟา้ มากกวา่ เซลลห์ นงึ่ เซลล์จะจา่ ยให้ไดจ้ ะต้อง นำเซลลไ์ ฟฟ้ามาต่อกนั แบบผสม ( Series Cell - Parallel Cell )
( Series Cell ) การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม เรยี กการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบ “ซรี ส่ี ์” (Series ) คอื การ นำเอาเซลล์ไฟฟา้ มาต่อเรยี งกัน โดยนำขัว้ ของเซลล์ไฟฟา้ ท่ีมขี ั้วต่างกนั มาต่อเข้าด้วยกันแล้วนำเอาขว้ั ที่ เหลือไปใช้งาน ในการทีจ่ ะนำเซลลไ์ ฟฟ้ามาต่อกันแบบอนุกรม ( Series Cell) ควรเป็นเซลลไ์ ฟฟา้ ทมี่ ี ขนาดกระแสไฟฟา้ เทา่ กัน ผลการต่อเซลลแ์ บบอนุกรม จะทำใหแ้ รงดันไฟฟา้ รวมเพิ่มข้นึ แต่กระแสไฟฟา้ จะไม่เพิ่ม กระแสรวมของวงจรมีคา่ เทา่ กบั กระแสของเซลลท์ ่ีตำ่ สดุ ดังน้นั จึงไม่ควรนำถา่ นไฟฉายเก่ามาใชง้ านร่วมกับ ถ่านไฟฉายใหม่ เพราะถ่านไฟเกา่ จะเปน็ เหตใุ ห้กระแสในวงจรลดนอ้ ยลงได้ a .รูปการตอ่ เซลล์ไฟฟ้า b. สญั ลักษณ์ รูปที่ 2 การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม 1 .แรงเคลื่อนไฟฟา้ จะเพิ่มข้ึน จากสตู ร ET = E1+ E2+E3………..+En แทนค่า ET= 1.5 +1.5+1.5 แรงเคลอ่ื นไฟฟา้ รวม ( ET ) = 4.5 V 2. กระแสไฟฟา้ รวม จะเท่าเซลล์ไฟฟ้าท่มี ีกระแสน้อยทีส่ ุด กระแสไฟฟา้ รวม = 0.5 Amp
( Parallel cell ) การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบขนานคือ การนำเอาขั้วของเซลลไ์ ฟฟ้าแต่ละเซลล์ท่เี หมือนกันมาต่อเขา้ ดว้ ยกนั แล้วนำเอาขั้วของเซลลท์ ่ตี อ่ ขนานไปใช้งาน การต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบขนาน ( Parallel cell ) เซลลไ์ ฟฟา้ แต่ละเซลล์ต้องมคี ่าแรงดนั ไฟฟ้า ( Voltage ) และความตา้ นทานภายในเซลล์ไฟฟ้าแตล่ ะเซลล์ เทา่ กัน การต่อแบบขนานผลกค็ อื แรงเคลื่อนไฟฟา้ รวมเท่ากบั แรงเคล่ือนเคล่ือนเซลล์ที่ต่ำสดุ แต่ กระแสไฟฟ้ารวมจะเพิ่มสูงข้ึน คอื เท่ากับกระแสทุกเซลลร์ วมกัน รูปที่ 3 แสดงการต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบขนาน 1. แรงเคลอ่ื นไฟฟา้ จะเท่าเดิมหรอื เทา่ กับแรงเคล่อื นไฟฟา้ เซลลท์ ีน่ อ้ ยทีส่ ุด แรงเคลอื่ นไฟฟ้ารวม ET = 1.5 V 2 .กระแสจะเพ่ิมสงู ขน้ึ จากสตู ร IT = I1+I2+I3……….In กระแสไฟฟา้ รวม ( IT ) = 0.5 +0.5+0.5+0.5 =2A
ในการต่อเซลลไ์ ฟฟา้ แบบผสม เซลลไ์ ฟฟา้ แต่ละเซลล์ท่จี ะนำมาต่อจะต้องมี แรงดนั ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานภายในเซลล์เทา่ กันทุกตัว การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบผสมจะมีการต่ออยู่ 2 วธิ ี คอื แบบอนุกรม-ขนาน และแบบขนาน-อนุกรม ( a )การตอ่ เซลลแ์ บบอนุกรม ( b ) การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบผสม รปู ท่ี 4 การตอ่ เซลลอ์ นุกรมและผสม จากรูปที่ 4 (a) เปน็ การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมจะทำให้แรงดันเพ่ิมขนึ้ สว่ นกระแสไฟฟ้า จะเท่าเดิม ส่วนรปู ท่ี 4 ( b) เปน็ การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบผสม ในการต่อเซลลล์ กั ษณะนจ้ี ะทำให้ทั้ง แรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าเพมิ่ ขึน้
1. ตรวจความพรอ้ มของผู้เรียนโดยการเข้าแถวแลว้ ขานชือ่ 2. แจกแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ทบทวนกอ่ นเรียน โดยถามวา่ แหล่งกำเนิดไฟฟา้ ไฟฟ้าสถิต ไฟฟ้ากระแสตรงมีลกั ษณะเป็น อย่างไร 4. ครูนำเข้าสูบ่ ทเรยี นโดยถามนักเรยี นว่าส่ิงที่เห็นคืออะไรประกอบการฉายแผ่นใสรปู เซลลไ์ ฟฟ้า 5. ครูอธิบายเรอื่ งเซลลไ์ ฟฟา้ และการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบตา่ ง ๆ / ตอบคำถาม 6. ซกั ถามเก่ียวกบั การต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรม แบบขนาน และแบบผสมมีผลต่อแรงดันและ กระแสอย่างไร/ตอบคำถาม 7. ดูแลควบคมุ การจัดแบง่ กลมุ่ 8. สาธติ การปฏิบัติการทดลอง 9. แจกใบงานและควบคุมการปฏบิ ตั ิการทดลอง 10. ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรุปตอบข้อสงสยั 11. ประเมินผลการเรียนของนักเรียนในหน่วยที่ 2 จากแบบทดสอบหน่วยท่ี 2 12. มอบหมายงานใหน้ ักเรียนไปศึกษาหนว่ ยท่ี 3 13. ครูดแู ลการทำความสะอาดจดั เครอื่ งมือให้เรยี บร้อยและปิดห้องปฏบิ ัตงิ านเมื่อไม่ใช้ 14. ครูบนั ทกึ ข้อมลู เก่ยี วกับกิจกรรมการเรยี นหลังการสอนเพ่ือใชแ้ กไ้ ขปัญหาที่อาจเกิดขนึ้ กับ กลุ่มอื่น ๆ ต่อไปหรือความรู้ใหม่ทีเ่ กิดขน้ึ
ื (, ,) กอ่ นเรียน ให้ศกึ ษาและฟงั การอธิบาย มอบหมายงานกลุ่มมารายงานหนา้ ชั้นเรยี นเกยี่ วกบั การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า ขณะเรียน ให้นักเรียนอธิบายโครงสร้างของเซลล์ไฟฟ้า และต่อเซลล์ไฟฟ้า แบบ อนุกรม ขนาน ผสม และคำนวน ค่าความตา้ นทานตามลักษณะของการต่อเซลลไ์ ฟฟา้ หลงั เรยี น สรุปเน้ือหาจากทน่ี ักเรียนได้มารายงานหน้าช้นั เรยี นและประเมินผล
ื ำื ใใ ้ื ื ้ ื ื (, ,ำ ื ) 2 หนงั สอื อ้างอิง ชยั วฒั น์ ลมิ้ พรวจิ ติ รวิไล , สมเกยี รติ พึ่งอาตม์ และ จริ าภรณ์ จันแดง,สมศักด์ิ แสงศรี.วงจรไฟฟ้ากระแสตรง. : ศูนย์ส่งเสรมิ -อาชีวะ, 2562 . สอ่ื - ซดี กี ารบรรยายเรื่องเซลล์ไฟฟ้า - แบบฝกึ หดั - ตวั อยา่ งเซลลไ์ ฟฟ้า
ัื ฑ 1.สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบคุ คล/รายกลมุ่ 2.สังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ 1.ใหน้ กั เรยี นมีส่วนรว่ มในการอธิบายโดยการสาธติ หนา้ ชน้ั เรยี น 2.ประเมนิ ตามแบบพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล/รายกลุ่ม 1.ประเมินตามแบบพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล/รายกลุ่ม 2.ประเมินตามแบบพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค , , ,ำ , ำ ฝึ , ,ฏ , ฯฯ การต่อเซลล์ไฟฟ้า ื ภาษาอังกฤษ จดคำศัพทภ์ าษาองั กฤษ คณติ ศาสตร์ คำนวณแรงดันของเซลลไ์ ฟฟ้า วันท่ี......./........./......... สอนครงั้ ที่...........สปั ดาหท์ ่ี............เรอ่ื ง...................................................................
ำ็ ้้ ำ ื / ใ ใ ื ใ ื ใำ ำ ็ ำ้ ื ใใ 1. ทำการสอนได้ครบตามวตั ถุประสงค์ 2. นำเข้าสู่บทเรยี นตรงตามทกี่ ำหนด 3. สามารถดำเนนิ การสอนตามแผนการสอน 4. ใช้สื่อการสอนครบตามแผนการสอน 5. ใช้คำถามในระหวา่ งการสอนได้ครบ 6. อนื่ ๆ (โปรดระบุ)......................................... (ใ , ,) .......................................................................................................................................................... ................... ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... .......................... .............................................................................................................................................................. ็ PLC .......................................................................................................................................................... ................... ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .......................................
ื วงจรไฟฟ้ากระแสตรง 3 ื กฏของโอห์ม ้3 4 ำ นักวทิ ยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ชือ เกออรเ์ ก ซิโมน โอหม์ ได้คน้ พบความสัมพันธ์ ระหว่างกระแสไฟ ฟา้ เรยี กวา่ เคอร์เรนท์ ใช้อกั ษรย่อ I แรงดันไฟฟา้ เรียกวา่ โวลทเ์ ตจ ใช้อักษรยอ่ E หรอื V และความตา้ นทาน ไฟฟ้าเรยี กว่า รีซิสเตอร์ ใชอ้ กั ษรย่อ R ซ่งึ กล่าวไว้วา่ ในวงจรไฟฟา้ ใด ๆ กระแสไฟฟา้ จะแปรผันตรงกับ แรงดนั ไฟฟา้ และจะแปรผกผันกบั ความตา้ นทาน 1. ศกึ ษากฎของโอห์ม 2. ศึกษาการใชก้ ฎของโอห์มคำนวณหาค่ากระแสไฟฟ้า 3. ศึกษาการใชก้ ฎของโอห์มคำนวณหาคา่ แรงดันไฟฟ้า 4. ศกึ ษาการใชก้ ฎของโอห์มคำนวณหาค่าความตา้ นทานไฟฟา้ 5. เพือ่ ใหส้ ามารถปฏบิ ัติการต่อวงจร วัดแรงดัน กระแส ฤ 1. บอกสตู รการคำนวณท่ีได้จากกฎของโอหม์ ได้ถกู ต้อง 2. คำนวณหาค่ากระแสไฟฟา้ จากกฎของโอหม์ ได้ถูกต้อง 3. คำนวณหาค่ากระแสไฟฟา้ จากกฎของโอห์มไดถ้ ูกต้อง 4. คำนวณหาค่าความตา้ นทานไฟฟ้าจากกฎของโอหม์ ไดถ้ ูกตอ้ ง 5. ตอ่ วงจรวัดแรงดนั กระแส ได้ถูกตอ้ ง
ื้ 3 ื กฎของโอหม์ ฏ ในวงจรไฟฟ้าใด ๆ จะประกอบดว้ ยส่วนสำคัญ 3 ส่วนคอื แหลง่ จ่ายพลงั งานไฟฟา้ และตัว ตา้ นทานหรอื อุปกรณ์ ไฟฟา้ ท่ีจะใสเ่ ขา้ ไปในวงจร ไฟฟ้านน้ั ๆเพราะฉะน้นั ความสำคญั ของวงจรท่ีจะต้อง คำนงึ ถงึ เม่อื มกี ารต่อวงจรไฟฟา้ ใดๆ เกิดข้นึ คอื ทำอยา่ งไรจึงจะไม่ให้กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นเข้าไปในวงจรมาก เกนิ ไปซ่ึงจะทำใหอ้ ุปกรณ์ไฟฟา้ ชำรุดเสียหาย หรือวงจรไหม้เสียหายได ้ ยอร์จซีมอนโอห์มนกั ฟิสิกส์ชาว เยอรมันให้ความสำคัญของวงจรไฟฟ้า และสรปุ เป็นกฏออกมาดงั นี้ คือ 1. ในวงจรใด ๆ กระแสไฟฟา้ ท่ีไหลในวงจรนั้นจะเปน็ ปฏภิ าคโดยตรงกับแรงดนั ไฟฟ้า 2. ในวงจรใด ๆ กระแสไฟฟา้ ทไ่ี หลในวงจรนน้ั จะเป็นปฏิภาคโดยกลบั กับความตา้ นทานไฟฟ้า เมื่อรวมความสัมพนั ธท์ ้งั 2 เข้าดว้ ยกัน และเม่ือ K เปน็ ค่าคงทขี่ องตัวนำไฟฟ้า จะได้สูตร ถา้ ใหค้ วามตา้ นทานไฟฟา้ เท่าเดมิ ตอ่ อยู่กบั วงจรใด ๆ แรงดนั ไฟฟ้าทีเ่ พิม่ ข้ึนจะทำให้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224