ในแผนท่ี ตวั อยา่ ง เชน่ 10. บันทกึ (Notes) เป็นคาอธิบายขอ้ มลู ต่างๆ ใหผ้ ใู้ ชแ้ ผนทสี่ ามารถใชไ้ ดอ้ ย่างสะดวกและถกู ตอ้ ง ไดแ้ ก่ บนั ทกึ เก่ยี วกบั เสน้ โครงแผนที่ เสน้ กริด หลกั ฐานทางดิ่งทาง ราบ เสน้ ชนั้ ความสงู ตวั อยา่ ง เช่น 11. แผนภาพเดดลเิ นช่ัน หรือมุมบ่ายเบน (Declinations Diagram) เป็นแผนภาพที่แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความแตกต่างของแนวทศิ เหนือจรงิ ทดิ เหนอื กรดิ และแนวทิศเหนือแมเ่ หลก็ ณ บรเิ วณศนู ยก์ ลางของแผนทน่ี น้ั
ตวั อย่าง เช่น 12. หมายเลขประจาแผนที่ (Stock Number) เป็นตวั เลขที่กาหนดขนึ้ เป็นระบบเพอื่ ความสะดวกในการเกบ็ และคน้ หา แผนท่ี ตวั อย่าง เชน่ STOCK NO. L701855135201 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 12 เข็มทศิ และการหาทศิ ความหมายและส่วนประกอบของเขม็ ทิศ เขม็ ทิศ (magnetic compass) คอื เครือ่ งมอื สาหรบั ใชห้ าทิศทาง มเี ข็มแมเ่ หลก็ ท่ี แกว่งไกวไดอ้ ิสระในแนวนอนทอดตวั ในแนวเหนือ-ใต้ ตามแรงดึงดดู ของแม่เหล็กโลก และท่หี นา้ ปัดมีส่วนแบง่ สาหรบั หาทิศทางโดยรอบ เข็มทิศจึงมีปลายชไี้ ปทางทิศเหนอื (ทิศเหนือแมเ่ หลก็ ) เสมอ (อกั ษร N หรอื น ) เมื่อทราบทศิ เหนอื แลว้ ก็ย่อมหาทศิ อื่นได้ การบอกทศิ ทางในแผนทโ่ี ดยท่วั ไป คอื การบอกทิศทีส่ าคญั 4 ทิศ คอื ทิศเหนือ ทิศใต้ ทศิ ตะวนั ออก และทิศตะวนั ตก หรืออาจจะบอกละเอียดเป็น 8,16 หรือ 32 ทิศก็ได้ เข็มทศิ มหี ลายชนิด
1. เขม็ ทิศตลบั ธรรมดา หาแนวทิศเหนอื ไดแ้ ตห่ ามมุ อาซมิ ทุ ไมไ่ ด้ เป็นเขม็ ทศิ แมเ่ หล็ก เล็กๆ 2. เข็มทิศแบบ เลนซาตกิ ฝาตลบั มีชอ่ งเลง็ มีเสน้ ลวดขึงไวต้ รงกลางชอ่ งฝา เพอื่ ให้ ประกอบการเลง็ ทีห่ มาย 3. เขม็ ทศิ ขอ้ มอื 4. สาหรบั เขม็ ทศิ ของลกู เสือ เรียกวา่ เขม็ ทศิ ซิลวา (Silva) ชนดิ 360 องศา เป็นเข็ม ทศิ ทีท่ าในประเทศสวเี ดน ท่วั โลกนิยมใชม้ าก ข้อควรระวังในการใชเ้ ข็มทิศ ควรจบั ถอื เขม็ ทิศดว้ ยความระมดั ระวงั เพราะหนา้ ปัทมแ์ ละเขม็ แมเ่ หลก็ บอบบาง อ่อนไหวง่าย แรงกระแทกอาจทาใหเ้ สียหายได้ การอา่ นเขม็ ทศิ นน้ั ไม่ควรกระทาใกล้ ๆ กบั สิง่ ท่เี ป็นเหลก็ หรอื วงจรไฟฟ้า แรงกระแทกอาจทาใหเ้ สยี หายได้ การอา่ นเขม็ ทศิ ไม่ควรกระทาใกล้ กบั สิ่งท่เี ป็นแมเ่ หลก็ หรอื วงจรไฟฟา้ ควรคานงึ ถงึ ระยะปลอดภยั ใน การใชเ้ ข็มทิศโดยประมาณ ไวต้ อ่ ไป สายไฟแรงสงู ๖๐ หลา รถถงั ๒๐ หลา รถยนต์ ๒๐ หลา สายโทรเลข ๑๐ หลา โทรศพั ท์ ๑๐ หลา ลวดหนาม ๑๐ หลา ปืนใหญ่ ๑๐ หลา ปืนเล็ก ๑ หลา ทศิ หลกั และทศิ ท้ังแปด
ทศิ หลกั มี 4 ทศิ ทิศเหนอื ทิศใต้ ทศิ ตะวนั ออก ทศิ ตะวนั ตก ทศิ ทีอ่ ย่กู งึ่ กลางระหวา่ งทศิ หลกั ทงั้ สี่ คอื – ทศิ ตะวนั ออกเฉียงเหนอื อย่รู ะหว่างทศิ ตะวนั ออกกบั ทศิ เหนอื – ทศิ ตะวนั ออกเฉียงใต้ อย่รู ะหวา่ งทิศตะวนั ออกกบั ทศิ ใต้ – ทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนอื อย่รู ะหว่างทศิ ตะวนั ตกกบั ทิศเหนอื – ทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ อย่รู ะหวา่ งทศิ ตะวนั ตกกบั ทิศใต้ ซ่งึ แต่ละทิศทามมุ 45 องศา จากทิศหลกั 4 ทศิ และทศิ ยอ่ ยอกี 4 ทศิ ยงั มีชือ่ เรยี กทศิ เหล่านอี้ กี แบบ คอื ทิศเหนือ (อดุ ร) ทิศตะวนั ออกเฉียงเหนอื (อีสาน) ทิศตะวนั ออก (บรู พา) ทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ (อาคเนย)์ ทิศใต้ (ทกั ษิณ) ทศิ ตะวนั ตกเฉียงใต้ (หรด)ี ทศิ ตะวนั ตก (ประจมิ ) ทิศตะวนั ตกเฉียงเหนอื (พายพั ) ทศิ ทง้ั แปด
เข็มทศิ แบบซิลวา เขม็ ทศิ ซลิ วา (Silva) ชนดิ 360 องศา เป็นเขม็ ทศิ สาหรบั ลกู เสือ ทท่ี าในประเทศ สวีเดน ท่วั โลกนิยมใชม้ าก แมแ้ ต่สหรฐั อเมริกากส็ รา้ งเองไมไ่ ด้ เพราะสงวนลิขสทิ ธิ์ เป็นเข็มทศิ ใชท้ าแผนที่ และหาทิศทางเดนิ ไดด้ ว้ ย วิธีการใชเ้ ข็มทิศและการหาทศิ 1. เขม็ ทศิ ซิลวา เป็นของประเทศสวเี ดน เป็นเขม็ ทศิ ทไี่ ดร้ บั ความนิยมใชใ้ นวงการลกู เสอื สามารถใช้ งานไดง้ า่ ย พกพาสะดวกซึง่ มสี ่วนประกอบ ดงั นี้ แวน่ ขยาย เข็มทศิ ชที้ าง แผน่ ฐาน ของเขม็ ทศิ เขม็ ทศิ และกา้ งปลา ตลบั เข็มทศิ หมนุ บอกองศา สเกลวดั ความยาว 2. มุมท่ีใชเ้ ข็มทิศ
มมุ อะซิมทุ คอื มมุ ในแนวราบหรือแนวระดบั ทีว่ ดั จากแนวทางทศิ เหนอื ไปตาม ทางเดินของเข็มนาฬกิ า มีค่าไมเ่ กนิ 360 องศา เช่น ทศิ ทาง ก ทามมุ อะซิมทุ 45 องศา กบั แนวทิศเหนือ ทิศทาง ข ทามมุ อะซมทุ 225 องศา กบั แนวทางทศิ เหนือ มมุ แบรงิ่ คือ มุมทน่ี แนวราบหรือแนวระดบั ทว่ี ดั จากแนวทางทิศเหนอื หรือทิศใตไ้ ป ทางทศิ ตะวนั ตก หรอื ทศิ ตะวนั ออกมีคา่ ไม่เกนิ 90 องศา ดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้ ทศิ ทาง ก มมุ แบร่ิงเท่ากบั เหนือ 45 องศาตะวนั ออก ทศิ ทาง ข มมุ แบรง่ิ เทา่ กบั ใต้ 45 องศา ตะวนั ออก
3.วธิ ใี ชเ้ ข็มทิศ 1.วางเขม็ ทิศบนฝ่ามือหรอื บนปกสมดุ ในแนวระดบั โดยใหเ้ ขม็ แมเ่ หลก็ แกวง่ ไป มาอยา่ งอิสระ 2. หมนุ กรอบหนา้ ปัดของตลบั เข็มทิศใหเ้ ลข 60 อย่ตู รงกบั ปลายลกู ศรชที้ ิศทาง 3. หมนุ ฐานเข็มทศิ จนกวา่ เขม็ แมเ่ หล็กสีแดงภายในตลบั เขม็ ทศิ ชตี้ รงกบั ตวั อกั ษร N ทิศเหนอื บนกรอบหนา้ ปัด 4. เม่อื ลกู ศรชที้ ิศทางไปทางทิศใด ก็เดินตามไปทางทศิ นน้ั ในการเดนิ ทางไป ตามทิศทางที่ลกู ศรแดงชนี้ นั้ ใหส้ งั เกตและมองหาจดุ เดน่ ในภมู ิประเทศ แลว้ จงึ เดินไป ยงั สิ่งนน้ั กรณีท่ีตอ้ งการหาจดุ ค่าของอะซิมทุ จากตาบลท่ีเรายืนอยไู่ ปยงั ตาบลทเี่ ราจะเดนิ ไป ขา้ งหนา้ ใหป้ ฎิบตั ิดงั นี้
1. วางเข็มทศิ ฝ่ามอื หรือบนสมดุ ปกแขง็ ในแนวระดบั 2. หนั ลกู ศรใหช้ ที้ ิศทางไปยงั จดุ หรอื ตาแหน่งทเี่ ราจะเดินทาง 3. หมนุ กรอบหนา้ ปัดของเขม็ ทศิ ไปจนกว่าตวั อกั ษร N จะอย่ตู รงปลายเขม็ แมเ่ หล็กสีแดง 4. ตวั เลขบนกรอบหนา้ ปัดทอี่ ยตู่ รงปลายลกู ศรชที้ ศิ ทาง คือ คา่ ของมมุ ที่เรา ตอ้ งการทราบ ขอ้ ควรระวงั ในการใชเ้ ข็มทิศ 1.จบั ถอื ดว้ ยความระมดั ระวงั เพราะหนา้ ปัดและเขม็ บอบบางอ่อนไหวไดง้ ่าย 2. อยา่ ทาเข็มทศิ ตก เพราะแรงกระทบกระเทือนอาจทาใหเ้ สยี หายได้ 3. อย่าอ่านเข็มทศิ ใกลส้ ิ่งท่เี ป็นแมเ่ หล็กหรอื วงจรไฟฟ้า 4. อย่าใชเ้ ข็มทิศท่ีเปียกนา้ เพราะจะทาใหข้ นึ้ สนิม 5. อย่าวางเข็มทศิ ไวใ้ กลค้ วามรอ้ น เพราะจะทาใหเ้ ขม็ ทศิ บิดงอได้ การหาทศิ โดยใชเ้ ขม็ ทศิ ทิศเหนือเป็นเพยี งทศิ หนงึ่ ของทิศทงั้ หลาย ปกติเรามกั จะสมมตุ ทิ ิศเหนือเป็น จดุ เรมิ่ ตน้ ก็เพ่ือความสะดวกที่หนา้ ปัดเขม็ ทิศ นอกจากจะมเี ครื่องหมายแสดงทศิ แลว้ ยงั มีตวั เลขเพิ่มจานวนไปตามเข็มนาฬกิ า เร่ิม 0 ที่ทิศเหนอื แลว้ หมนุ ตามเขม็ นาฬิกา กลบั ไปทท่ี ศิ เหนอื มเี ลข 370 เป็นตวั เลขบอกองศา ฉะนน้ั ทศิ ตะวนั ออกจึงเป็น 90 องศา ทศิ ใต้ 180 องศา ตะวนั ตก 270 องศา เมื่อเราหาทิศได้ เราก็จะทราบทศิ อนื่ ๆได้ โดยหนั หนา้ ไปทางทศิ เหนอื ขา้ งหลงั คือทศิ ใต้ ขวามอื คอื ทิศตะวนั ออก ชา้ ยมอื คือตะวนั ตก
การหาทศิ โดยไมใ่ ชเ้ ข็มทิศ 1. สงั เกตดวงอาทิตย์ ในเวลากลางวนั ใหส้ งั เกตดวงอาทติ ย์ ขนึ้ -ตก ตาม ฤดกู าล 2. สงั เกตดวงจนั ทร์ ในเวลากลางคนื ใหส้ งั เกตดวงจนั ทร์ ดา้ นที่สวา่ งจะหนั ไป ทางทิศตะวนั ตก ดา้ นเวา้ แหว่งจะหนั ไปทางทศิ ตะวนั ตก 3. สงั เกตลม ใชห้ ญา้ แหง้ หรือฝ่นุ โยนไปในอากาศ จะทราบว่าลมพดั มา จากทิศทางใด 4. สงั เกตเถาวลั ย์ เถาวลั ยท์ ี่พนั ตน้ ไมจ้ ะชยู อดไปทางทศิ ตะวนั ออกเสมอ เรา กจ็ ะหาทศิ อน่ื ได้ 5. สงั เกตตน้ ไม้ เมอ่ื ดวงอาทติ ยล์ บั ขอบฟา้ ไปแลว้ ใหเ้ อาแกม้ แนบตน้ ไมด้ ู ดา้ นท่อี นุ่ ๆ จะเป็นทศิ ตะวนั ตก 6. สงั เกตดาว ดาวเคราะหเ์ ป็นดาวพเนจรขนึ้ ไมป่ ระจาที่จงึ ไม่นิยมสงั เกต ดาวในการหาทิศ วธิ ีงา่ ยๆในการใชเ้ ข็มทิศ เขม็ ทศิ มี เข็มทศิ อยหู่ ลายแบบ บางแบบใชท้ าบกบั แผนที่ บางแบบกว็ างบนฝ่า มอื ไม่กต็ ดิ ท่ีหวั แมโ่ ปง้ เข็มทิศ แบบติดกบั นวิ้ มกั ใชก้ บั คนทีเ่ ดินเร็ว แต่วา่ ในตอนนจี้ ะ เป็นชนดิ มาตรฐานแบบง่าย ๆ ลองดทู ร่ี ูป
องเห็นลกู ศรแดงกบั ดาไหมครบั เราเรยี กมนั วา่ เข็มบอกทศิ ในบางแบบของ เข็มทิศ จะเป็นสแี ดงกบั สีขาว แตจ่ ดุ สาคญั อยทู่ วี่ ่าลกู ศรแดงนน้ั จะชไี้ ปท่ีขวั้ แม่เหล็กโลกทาง เหนอื นี่คอื พนื้ ฐานอยา่ งแรกทค่ี ณุ ตอ้ งรู้ ถา้ คณุ ไมต่ อ้ งการท่จี ะเดินไปทางเหนอื แต่อยากจะไปทิศอื่น กใ็ หว้ างเฮา้ ซ่งิ ของ เข็มทศิ บน เขม็ ทิศ ซึ่งจะมีสเกลอยู่ อาจจะเป็น 0 ถงึ 360 หรอื 0 ถงึ 400 เป็นหนว่ ย องศาอซมิ สุ (azimuth) หรือบางทีก่ ็เรียกว่าแบริง่ (bearing) จะเห็นตวั อกั ษรแยกทิศ N,S,W,E แทนทิศ เหนอื ใต้ ออก ตก ตามลาดบั ถา้ คณุ ตอ้ งการที่จะไปทางทิศเหนือ อยากไปในทศิ ระหว่างสองทศิ ใด ๆ เราก็เรียกรวมกนั เชน่ ตะวนั ออกเฉียงเหนอื เป็น
ตน้ ดใู นภาพ ที่จะไปทางตะวนั ตกเฉียงเหนอื เมื่อเจอแลว้ กใ็ หห้ มนุ จนทศิ นน้ั ตรงกบั ลกู ศรใหญ่ชที้ างเดิน เสร็จแลว้ ก็วางบนมอื หมนุ ไปมาจนเขม็ สีแดงชตี้ รงทิศเหนอื ซงึ่ ในชว่ งนสี้ าคญั มาก ตอ้ งระวงั ไมใ่ ห้ เขม็ ทศิ เคลอ่ื น แตเ่ ป็นตวั เราทีห่ มนุ เท่านน้ั ปลอ่ ยใหเ้ ข็มชที้ ิศเป็นอิสระ มนั จะหมนุ ตามไปเอง มมี อื ใหมพ่ อสมควรทีเ่ ดินตรงขา้ ม เพราะเข็มอยใู่ นส่วน ท่ีชเี้ หนือใต้ แต่ว่าเข็มสแี ดงชไี้ ปทางใต้ ทาใหเ้ ขา้ ใจผดิ เทคนคิ นเี้ หมาะสมเมอ่ื คณุ ไปไหนโดยไมม่ แี ผนที่ ไมร่ ูด้ ว้ ยว่าอยตู่ รงไหน แตร่ ูว้ า่ มีถนน สายนา้ หรอื จดุ ท่คี ณุ รูว้ า่ ถา้ ไปถงึ ก็จะไมห่ ลง เพยี งแต่ไปใหถ้ กู ทศิ เท่านน้ั ตวั อยา่ งเชน่ ถา้ หลงป่าในเทรลเขาใหญ่ ซ่งึ พบกนั บอ่ ยๆ โดยเฉพาะในเทรล 6ถา้ รูท้ ศิ ยอ่ งรูว้ ่าเดนิ ไปเร่อื ยๆ จะออกถนน ไมใ่ ชเ่ ขา้ ป่าลกึ ไปอีก ก็ตงั้ ทศิ แลว้ เดนิ ไปตามทศิ เป็นช่วงๆ อย่างไรก็ตาม วิธีนกี้ ็ช่วยไดแ้ ค่สว่ นหน่ึง อยา่ งนอ้ ยกไ็ ม่ทาใหค้ ณุ ๆ เดนิ วน เป็นวงกลมล่ะน่า แตถ่ า้ ใหด้ ตี อ้ งใชค้ วบค่กู บั แผนทที่ ่ีดคี รบั ถา้ คณุ ตอ้ งไปเดินป่าที่ ๆ
แปลกใหม่จริง ๆ ควรจะพกพาแผนท่ขี องกรมแผนท่ที หารไปดว้ ย และเมอื่ ใชค้ กู่ นั ระหวา่ งแผนท่ีกบั เขม็ ทิศ ก็ไม่ตอ้ งกลวั หลงง่ายๆ เลย หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 13 กิจกรรมและอุปกรณก์ ารอยู่ค่ายพกั แรม เครอื่ งใชใ้ นการอย่คู ่ายพกั แรม การอยคู่ ่ายพกั แรมลกู เสอื -เนตรนารีสามญั รุน่ ใหญ่ จะตอ้ งเตรียมสง่ิ ของ เครอ่ื งใชส้ ่วนตวั ใหพ้ รอ้ ม สิ่งของเคร่อื งใชท้ จ่ี ะนาไปควรนาไปเฉพาะสิ่งจาเป็น มี นา้ หนกั เบาและมีขนาดพอเหมาะท่ีจะนาไปไดส้ ะดวก เมอ่ื จดั หาสง่ิ ของไดค้ รบแลว้ ให้ จดั ลงเคร่อื งหลงั หรือกระเป๋ าใหเ้ รยี บรอ้ ย สงิ่ ของเครอ่ื งใชท้ ่คี วรนาไป มีดงั นี้ ๑. เครื่องแบบลกู เสือ-เนตรนารี ไดแ้ กเ่ สอื้ กางเกง กระโปรง ผา้ ผกู คอ หมวก เขม็ ขดั ถงุ เทา้ รองเทา้ และเคร่อื งหมายต่าง ๆ ๒. ชดุ ลาลองท่ใี ชส้ วมในค่ายเชน่ กางเกง เสอื้ ยดึ เสอื้ กนั หนาว รองเทา้ แตะ รองเทา้ ผา้ ใบ ผา้ เช็ดตวั ผา้ เช็ดหนา้ กางเกงใน ๓. ชดุ สาหรบั ปฏิบตั ิกจิ กรรม คอื เสอื้ ผา้ และเครือ่ งใชส้ าหรบั ลกู เสือ-เนตร นารีสามญั ใชใ้ นการปฏิบตั ิกจิ กรรม เช่น ชดุ กีฬา รองเทา้ กฬี า อปุ กรณก์ ีฬา ๔. เครอ่ื งใชใ้ นเวลากลางคนื เช่น ผา้ ปทู ่ีนอน ถงุ นอน ไฟฉาย ๕. เครือ่ งใชส้ ่วนตวั เชน่ ผา้ เช็ดตวั แปรงสฟี ัน ยาสีฟัน สบู่ หวี จาน ชอ้ น กระตกิ นา้ ยาประจาตวั ๖. เคร่ืองปฐมพยาบาล เชน่ ทงิ เจอรไ์ อโอดนี แอมโมเนยี ยาแกแ้ พ้ ยาแก้ ทอ้ งเสยี สาลี ผา้ พนั แผล ปลาสเตอรย์ า ยาแกป้ วด ยาแกไ้ ข้
๗. ของใชอ้ นื่ ๆ เช่น เชือก ไมง้ ่าม สมดุ บนั ทึก ปากกา ดนิ สอ การเตรยี มตวั สาหรบั การอย่คู ่ายพกั แรม การไปอย่คู ่ายพกั แรมลกู เสือ-เนตรนารสี ามญั รุน่ ใหญต่ อ้ งเตรยี มตวั ให้ พรอ้ มทงั้ ในดา้ นสขุ ภาพรา่ งกาย และส่ิงของต่าง ๆ โดยการเตรยี มตวั ดงั นี้ ๑. ใหน้ ายหม่ปู ระชมุ ปรกึ ษาหารอื กนั โดยมีผกู้ ากบั เป็นที่ปรกึ ษาว่าปี หนง่ึ จะอย่คู ่ายพกั แรมก่คี รง้ั ครง้ั ละก่คี นื ๒. กาหนดสถานท่ที จี่ ะพกั แรม ๓. วางแผนการเดินทางไปอยคู่ า่ ยพกั แรม เช่น กาหนดเสน้ ทางท่จี ะเดนิ ไป ยงั ค่ายพกั แรม กาหนด วธิ ีการเดนิ ทาง ออกแบบคา่ ยพกั แรมท่จี ะสรา้ ง ๔. ขออนญุ าตจากผปู้ กครองของลูกเสอื -เนตรนารีสามญั รุน่ ใหญ่ เมื่อไดร้ บั อนญุ าตแลว้ ลกู เสอื -เนตรนารี สามญั รุน่ ใหญ่จงึ จะเดนิ ทางไกลไปอย่คู ่ายพกั แรมได้ ๕. บารุงสขุ ภาพรา่ งกายใหแ้ ข็งแรง พรอ้ มที่จะผจญความลาบาก ๖. ทบทวนความรูท้ ่ไี ดศ้ ึกษามาเก่ยี วกบั การอย่คู า่ ยพักแรม เช่น การปฐม พยาบาล การหงุ หา อาหาร การสรา้ งทพ่ี กั การเตรยี มเครื่องหลงั
๗. เตรยี มเคร่อื งใชป้ ระจาตวั ไดแ้ ก่ เครอ่ื งแบบ ผา้ เชด็ ตวั สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผา้ หม่ นอน หมอน มงุ้ เต็นท์ เสอื้ กนั ฝน จาน ชอ้ น สอ้ ม เชอื กผกู เงอ่ื น ไม้ พลอง ยา ประจาตวั สมดุ ดนิ สอ กระตกิ นา้ เป็นตน้ ๘. เตรยี มเครอ่ื งใชป้ ระจาหมู่ ไดแ้ ก่ ตะเกียง เครอื่ งครวั อาหาร ขวาน มดี พล่วั ถงั นา้ และ กระเป๋ ายา เป็นตน้ ๙. เตรยี มบนั ทึกสง่ิ ท่ไี ดพ้ บเหน็ บนั ทึกเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ พรอ้ มทงั้ ขอ้ เสนอแนะที่จะตอ้ งแกไ้ ข ขอ้ ปฏิบตั เิ มือ่ อยคู่ ่ายพกั แรม เมอ่ื เดินทางไปถงึ ค่ายพกั แรมใหป้ ลดเครือ่ งหลงั ออกวางเป็นหมใู่ ห้ เรียบรอ้ ยแลว้ ปฏบิ ตั ติ ามแนวทาง ดงั นี้ ๑. สรา้ งคา่ ยพกั กางเต็นท์ และนาสิง่ ของและเคร่อื งหลงั เขา้ ไปเก็บในเต็นท์ ๒. แบ่งหนา้ ทก่ี นั ภายในหมู่ เชน่ ปรุงอาหาร ทาความสะอาด หาฟืน รกั ษา ความปลอดภยั โดย ภายในคา่ ยพกั แรมจะตอ้ งแบง่ หนา้ ท่ี คอื ๑) จดั เวรยามมกี องรกั ษาการณ์ ๒) จดั หม่บู รกิ าร เพอ่ื ทาความสะอาดสถานทท่ี ีใ่ ชร้ ว่ มกนั
๓) ตรวจการเขา้ ออกค่าย ตรวจสอบจานวนลกู เสือ-เนตรนารีสามญั ทงั้ ตอนเชา้ ตอนเยน็ และกอ่ นนอน ๓. กาหนดกิจกรรมประจาวนั ในแต่ละวนั ลกู เสือ-เนตรนารสี ามญั ควรได้ ปฏบิ ตั ติ ามตาราง ประจาวนั เพ่อื เป็นการสรา้ งความมวี นิ ยั ในตนเองและการปลกู ฝัง ค่านิยมในการกาหนดแนว ทางการปฏิบตั ิของตนเองในแตล่ ะวนั การก่อกองไฟหรอื จดุ ไฟ การกอ่ หรือจดุ ไฟ มหี ลกั ปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ 1.การเลือกสถานท่จี ดุ ไฟ ควรเลือกสถานที่ทมี่ ลี กั ษณะ ดงั นี้ 1)เป็นบริเวณท่แี หง้ 2)เป็นบรเิ วณที่โล่งแจง้ ห่างจากตน้ ไม้ อาคารส่งิ ปลกู สรา้ งหรือส่งิ ทอ่ี าจเป็น เชอื้ เพลิง 3)เก็บกวาดและถางหญา้ แหง้ รอบๆ บรเิ วณทีจ่ ะกอ่ กองไฟเสยี ก่อน เพ่อื ปอ้ งกนั การ ลกุ ลามของไฟ 2.การเลือกเชอื้ เพลงิ เชอื้ เพลิงที่จะมากอ่ ไฟหรือจดุ ไฟนน้ั ควรมีลกั ษณะดงั นี้ 1)เลือกก่งิ ไมเ้ ล็กๆ แหง้ ๆ เพราะจะตดิ ไฟงา่ ย
2)ไม่ควรใชก้ ิง่ ไมข้ นาดใหญ่ เพราะจะตดิ ไฟยาก ถา้ มคี วามจาเป็นจะตอ้ งใช้ ควรผ่า ออกเป็นซีกๆก่อน 3)ก่งิ ไม้ เศษไมเ้ ปียก ควรนาไปผึ่งแดดใหแ้ หง้ ก่อน 3.รูปแบบของกองไฟ การก่อกองไฟมีหลายรูปแบบ แตร่ ูปแบบท่นี ิยมใชม้ ดี งั นี้ แบบกระโจมอินเดียนแดงหรอื พีระมดิ การกอ่ กองไฟแบบกระโจม อินเดยี นแดง มีวธิ ีปฏบิ ตั ดิ งั นี้ 1.นาเชอื้ เพลงิ มากองสมุ กอ่ น เช่น ขดี้ า้ ย เศษกระดาษ 2.นาก่งิ ไมเ้ ลก็ ๆ มากองสมุ ซอ้ นกนั 3.นาฟืนทอ่ นใหญ่มาทบั อกี ทหี น่ึง คุณสมบัติของการก่อกองไฟแบบกระโจมอินเดียนแดง 1.ใหค้ วามรอ้ นมาก 2.ใหแ้ สงสวา่ งดี แบบเชงิ ตะกอน การกอ่ กองไฟแบบเชงิ ตะกอน มวี ิธีการปฏิบตั ดิ งั นี้ 1.นาฟืนทอ่ นใหญม่ ากองเรียงกนั เป็นรูปสเี หลย่ี ม สงู 2-3 ชน้ั 2. นาฟืนทอ่ นเล็กมาซอ้ นขนึ้ ไปอกี 2-3 ชนั้ 3.นาเชอื่ เพลงิ ใสล่ งไปตรงกลาง คุณสมบัตขิ องการก่อกองไฟแบบเชิงตะกอน 1.ใหค้ วามรอ้ นมาก
2.ใหแ้ สงสวา่ งดี แบบไฟดาว การก่อกองไฟแบบไฟดาว มีลกั ษณะคลา้ ยซลี่ อ้ จกั รยาน มีวิธีปฏิบตั ิดงั นี้ 1.นาเช่อื เพลิงมาวางกอ่ น 2.นาท่อนไมม้ าวางเรียงซอ้ นกนั คลา้ ยซ่ีลอ้ รถจกั รยาน คณุ สมบัตขิ องการก่อกองไฟแบบไฟดาว 1.ใหแ้ สงสวา่ ง 2.ใหค้ วามอบอ่นุ แบบผสม เป็นการก่อกองไฟลกั ษณะทด่ี ี อากาศผ่านไดด้ ี มีวธิ ีการปฏบิ ตั ิดงั นี้ 1.นาทอ่ นฟืนมาเรียงแบบเชิงตะกอน 2.นาเชอื้ เพลงิ ใส่ตรงกลาง 3.นากงิ่ ไมเ้ ล็กๆเรียงเป็นแบบกระโจม คุณสมบัติของการก่อกองไฟแบบผสม 1.ใหแ้ สงสว่างดี เหมาะสาหรบั การชมุ นมุ รอบกองไฟ 2.ใหค้ วามรอ้ นดี ความหมายของสทู กรรม สทู กรรม คือ วิชาทวี่ า่ การทาอาหารชาวคา่ ย ในหลกั สตู รการศกึ ษากจิ กรรมพัฒนา ผเู้ รียน วิชาลกู เสือ-เนตรนารี เป็นอีกวชิ าหนึง่ ทนี กั เรยี นจะตอ้ งเรยี น ในการเรยี นรูส้ ทู กรรมเวลาเขา้ ค่ายพกั แรม หรือเวลาการออกค่ายแตล่ ะแหง่ จงึ มกี ารบรู ณาการใหเ้ ขา้
กบั สถานทีแ่ ต่ละแห่ง ไม่ว่าจะดว้ ยวธิ ีไหนก็แลว้ แต่ ทกุ คนตอ้ งทากบั ขา้ ว ทาอาหาร หา วสั ดุ การเตรียมรายการอาหารเป็น ลกุ เสือ-เนตรนารีสามญั แตล่ ะเหม่จู าเป็นตอ้ งเตรยี มรายการอหารล่วงหนา้ โดย ตอ้ งวางแผนวา่ จะอยคู่ ่ายพกั แรมก่วี นั ในแต่ละวนั จะตอ้ งรบั ประทานทงั้ มอื้ เชา้ มอื้ กลางวนั และมือ้ เย็นเป้นจานวนก่มี อื้ ตลอดการอยคู่ ่ายพกั แรม ในแตล่ ะมือ้ นน้ั จะปรุง อาหารอะไรบา้ ง จากนน้ั ใหล้ กู เสือ-เนตรนารีแจกแจงรายละเอยี ดของรายการอาหาร เลือกซือ้ ใหค้ รบถว้ น เพือ่ สะดวกต่อการปรุงอาหาร อาหารทจ่ี ะปรุงควรเป็นอาหารที่ ปรุงง่ายๆ และตอ้ งถกู หลกั โภชนาการ อหารที่จะนาไปควรเลอื กทม่ี ีนา้ หนกั เบา ประหยดั เนอื้ ทใี่ นการขนยา้ ย การบรรจสุ ิ่งของลงในถงุ เครื่องหลงั หรอื กระเป๋ า เคร่อื งหลงั คือ ย่ามหรอื ถงุ หรือกระเป๋ าสาหรบั ใสส่ ิ่งของต่างๆ ใชส้ ะพายหลงั ได้ สะดวก ซ่งึ เปน้ ส่งิ สาคญั สาหรบั การเดินทางไกล สาหรบั ใชบ้ รรจเุ ครอ่ื งใชป้ ระจาตวั เคร่อื งใชป้ ระจาหมู่ เครอื่ งมือ และอปุ กรณต์ า่ งๆ ไปใชใ้ นการเดนิ ทางไกลและอย่คู ่าย พกั แรม ในการบรรจเุ คร่ืองหลงั ควรปฏบิ ตั ดิ งั นี้ 1. เลอื กเครื่องหลงั ท่ีมีขนาดพอเหมาะแก่การบรรจสุ ิง่ ของ และกาลงั ในการขนยา้ ย 2. บรรจสุ ่งิ ของที่มีนา้ หนกั มากหรือสง่ิ ของทใ่ี ชภ้ ายหลงั ไวข้ า้ งลา่ ง 3. บรรจสุ ิง่ ของทีใ่ ชก้ ่อน ใชบ้ อ่ ยๆ หรือใชป้ ัจจบุ นั ทนั ที เช่น ไฟฉาย เสอื้ กนั ฝน ไมข้ ดี ไฟ เป็นตน้ ใหไ้ วข้ า้ งยนสดุ ของเครอื่ งหลงั เพ่ือจะไดน้ าออกมาใชไ้ ดส้ ะดวก
4. บรรจสุ ่งิ ของทีอ่ ่อนนมุ่ เช่น ผา้ เชด็ ตวั ผา้ ห่ม เสอื้ ผา้ ควรใส่ดา้ นทส่ี มั ผสั กบั หลงั ของ ลกู เสอื จะไดไ้ มเ่ จ็บหลงั เม่ือสะพายขณะเดินทาง 5. ตรวจสอบกอ่ นบรรจุ ควรจะนาสงิ่ ของเครอื่ งใชม้ าจดั วางเรียงแยกประเภทไวใ้ หค้ รบ ตามตอ้ งการกอ่ น แลว้ จึงบรรจลุ งเครื่องหลงั จะไดม้ ีของครอบถว้ นเพอ่ื การใช้ ความหมายของสขุ าภบิ าล หลมุ แหง้ – หลมุ เปียก ควรขดุ หลมุ ขาดลกึ พอสมควร ท่ีปากหลมุ ใชก้ ่งิ ไม้ ใบไม้ สานเป็นแผงปิด ใชใ้ สส่ าหรบั เทนา้ ทไี่ ม่ใช้ สงิ่ ต่าง ๆ จะติดอยทู่ ฝ่ี าปิด จะตอ้ งเปล่ยี นใบไมว้ นั ละครงั้ เป็นอย่างนอ้ ยเอาท่ีติดฝาปิดไปเคาะเทในหลมุ แหง้
ปัจจบุ นั หลมุ แหง้ และหลมุ เปียก นยิ มใชถ้ งุ ดาแทนเน่ืองจากงา่ ยและสะดวกเม่อื ใช้ แลว้ สามารถเก็บเศษอาหารเศษขยะที่ไม่ใชไ้ ดเ้ รียบรอ้ ยและนาไปทงิ้ ในสถานที่ ทีท่ งิ้ ขยะเป็นท่เี ป็นทาง หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 14 การเดินทางไกล ความสาคัญและจุดประสงคข์ องการเดินทางไกล การเดินทางไกล คือ การเดินทางของลกู เสอื มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใหล้ กู เสอื ไดฝ้ ึก 1.ความอดทน และระเบยี บวินยั 2.ทดสอบระบบหมู่ และการเป็นผนู้ าของนายหมู่ 3.รูจ้ กั การเป็นผนู้ าและผตู้ ามทดี่ ี ตามวิถที างของประชาธิปไตย 4.ใหร้ ูจ้ กั รบั ผิดชอบ 5.ทดสอบวิชาลกู เสือทเ่ี รยี นมาแลว้ การเตรียมตัว
เพ่อื เดินทางดว้ ยเทา้ ไมใ่ ช่เรอื่ งยงุ่ ยากแตป่ ระการใด สิ่งสาคญั ประการหนง่ึ ที่ จะตอ้ งคานึงถึงในการเดินทาง การเอาใจใส่ดแู ลเทา้ ของทา่ นใหถ้ กู วิธี รกั ษาเทา้ ของ ท่านใหอ้ ยใู่ นสภาพท่ดี ี ลา้ งเทา้ ของทา่ นบ่อย ๆ ใหส้ ะอาด รองเทา้ ใหแ้ นใ่ จว่ารองเทา้ ของท่าน ควรจะมีชอ่ งว่างดา้ นหวั รองเทา้ เพือ่ ใหน้ วิ้ เทา้ แผอ่ อกไปได้ เพื่อป้องกนั มิให้ เสยี ดสีได้ สาหรบั การเดินทางดว้ ยเทา้ รองเทา้ ทรงเตยี้ แบบธรรมดาก็เป็นการเพียงพอ แต่สาหรบั ตามชนบทหรือพนื้ ทีข่ รุขระตามไหลเ่ ขา รองเทา้ หมุ้ ขอ้ หรอื รองเทา้ บทู สาหรบั การเดินทางจะดีกวา่ เชอื กผกู รองเทา้ จะตอ้ งดึงใหต้ งึ เพียงพอ เพือ่ ใหร้ องเทา้ กระชบั แต่ไม่ถงึ กบั เป็นการผกู มดั เทา้ ของทา่ น เมอ่ื เกิดเทา้ บวมขนึ้ มา ใหค้ ลายเชอื ก รองเทา้ ออกจนรูว้ า่ สบายขนึ้ แต่อย่าถอดรองเทา้ เพราะอาจจะสวมกลบั เขา้ ไปไดย้ าก ขนึ้ ถงุ เทา้ อย่างที่ใชเ้ ป็นทางการของลกู เสือถือวา่ เป็นพิเศษ สาหรบั การเดนิ ทางดว้ ย เทา้ ควรจะใสไ่ ดพ้ อดี ถา้ ไม่พอดคี วรเป็น 2 คู่ จงสวมเสอื้ ผา้ ทเ่ี หมาะสม จะทาใหท้ ่านเดินทางไกลอยา่ งมีความสขุ การฝึ กอบรมก่อนเดนิ ทางไกล 1.ฝึกอบรมระเบียบวินยั และระบบหมู่ 2.ฝึกอบรมเก่ยี วกบั การปฏิบตั ิระหว่างเดินทาง เชน่ การเดินทาง 3.เดนิ ทางใหถ้ กู ตอ้ งตามกฎจราจร (เดิน 20 นาที พกั 5 นาที,เวลาเดนิ หา้ ม รบั ประทานของหวาน ถา้ เดนิ ทางเวลากลางคืน ตอ้ งมีไฟฉาย ตะเกยี ง, ไม่ควรสวมชดุ สดี าเพอ่ื ความ ปลอดภยั บนทอ้ งถนน
เวลาผา่ นหมบู่ า้ น หา้ มเยา้ แหยส่ ตั ว,์ ทาตนเป็นมติ รที่ดีกบั ชาวบา้ น,อปุ กรณก์ าร เดนิ ทางท่ีนาตดิ ตวั ไป ตอ้ งคอยสารวจอยเู่ สมอเม่อื เวลาหยดุ พกั หรอื เร่มิ ออกเดินไปยงั จดุ ตอ่ ไป ทงั้ นี้ เพ่ือป้องกนั การสญู หาย) การเตรยี มการของผู้กากับ 1.แบ่งงานใหร้ องผกู้ ากบั ทาการฝึกอบรมก่อนพาเดก็ ออกเดนิ ทางไกล 2. เมือ่ เดก็ ออกเดินทางไกล ตอ้ งมอบหมายงานใหร้ องผกู้ ากบั รบั ผดิ ชอบทกุ คนตาม ความถนดั ถา้ รองผกู้ ากบั ยงั ไม่มปี ระสบการณพ์ อ ผกู้ ากบั ตอ้ งสอนหรอื แนะนากอ่ น อย่าบงั คบั ใหเ้ ขาทางาน 3. การมอบหมายงานควรเป็นดงั นี้ ก. คอยติดตามดกู ารเดินทางตามเสน้ ทาง ข. ระมดั ระวงั เครอ่ื งดื่ม อาหาร ค. เก่ยี วกับการปฐมพยาบาล ง. ความปลอดภยั ตา่ ง ๆ ตามท่คี วรเหน็ ควร การเดนิ ทางไกล การเดนิ ทางไกล หมายถงึ การเดินทางของลกู เสอื -เนตรนารสี ามญั จากท่ีตงั้ หรือโรงเรยี นไปยงั จดุ ที่กาหนด โดยมีระยะทางทกี่ าหนดให้ การเดินทางไกลอาจจะ เป็นการเดนิ ทางดว้ ยเทา้ จกั รยานหรอื เรือพายกไ็ ด้ การเดินทางจะเดนิ ทางคนเดยี ว หรอื เป็นหมคู่ ณะก็ได้ การเดนิ ทางไกลของลกู เสือ-เนตรนารีเอก จะตอ้ งเดินทางไกลดว้ ยเทา้ หรือทาง เรอื ดว้ ยความสามารถของตนเอง เป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร ลกู เสือ-เนตรนารสี ามญั
จงึ ตอ้ งเลือกเดินทางไกลดว้ ยวิธีใดวิธีหน่ึง การเดินทางไกลระยะทาง 20 กิโลเมตรนี้ เป็นระยะทางท่ีไกลพอสมควรสาหรบั ลกู เสือ-เนตรนารสี ามญั จงึ จาเป็นจะตอ้ งเตรียม ตวั ในการเดนิ ทงใหพ้ รอ้ ม การเตรยี มอปุ กรณส์ าหรบั เดินทางไกลและอย่คู า่ ยพกั แรม ในการเดนิ ทางไกลลกู เสือ-เนตรนารีสามญั จะตอ้ งเตรียมอปุ กรณต์ า่ งๆ ไดแ้ ก่ เครอื่ งใชป้ ระจาตวั เคร่อื งใชป้ ระจาหมู่ เครอ่ื งใชใ้ นการฝึก รายการอาหารและบรรจุ สิง่ ของเหล่านลี้ งในเครื่องหลงั หรอื กระเป๋ าใหเ้ รยี บรอ้ ย เครือ่ งใชป้ ระจาตวั เครื่องใชป้ ระจาตวั ทล่ี กู เสอื -เนตรนารสี ามญั ควรนาไปในการเดนิ ทางไกล มี ดงั นี้ 1. กระตกิ นา้ ลา้ งใหส้ ะอาด ใสน่ า้ ใหเ้ ตม็ 2. เครื่องใชป้ ระจาตวั เชน่ ผา้ เชด็ หนา้ สบู่ แปรงสีฟัน เขม็ เย็บผา้ ดา้ ยเยบ็ ผา้ เข็มซอ่ น ปลาย เชือกผกู เงือน เสอื้ กางเกง ผา้ ขาวมา้ รองเทา้ แตะ ไฟฉาย ชอ้ น สอ้ ม และจาน เป็นตน้ 3. เครื่องแบบและเครื่องประกอบเครือ่ งแบบ ไดแ้ ก่ เสอื้ กางเกง ผา้ พนั คอก หมวก เขม็ ขดั รองเทา้ และเคร่ืองหมายต่างๆ ถงุ เทา้ และรองเทา้ ตอ้ งตรวจใหอ้ ยใู่ นสภาพดี ไม่ควรใชร้ องเทา้ ใหม่ เพราะจะกดั เทา้ หากจาเป็นตอ้ งใชร้ องเทา้ ใหม่ ควรใชเ้ ทยี นไขถู บริเวณสน้ รองเทา้ บริเวณขอบดา้ นในกอ่ น จะชว่ ยป้องกนั ไมใ่ หร้ องเทา้ กดั ได้ 4. ไฟฉาย ชอ้ นสอ้ ม จานขา้ ว 5. ยาประจาตวั และอปุ กรณก์ ารปฐมพยาบาล
6. เขม็ ทศิ แผนท่ี สมดุ จดบนั ทกึ การเดนิ ทาง ปากกา ดินสอ 7. เครือ่ งนอนตา่ งๆ เชน่ เตน็ ท์ ผา้ ปนู อน ผา้ หม่ 8. ถา้ เดินทางไกลฤดฝู นควรมีเสอื้ กนั ฝน 9. เตรยี มเชือก เพ่อื ใชผ้ กู รดั ส่งิ ของเลก็ ๆ นอ้ ยๆ 10. ไมพ้ ลองหรือไมง้ ่ม 11. ถา้ มีกลอ้ งถ่ายรูปควรนาไปดว้ ย สิ่งสาคญั ไมค่ วรละเลย คอื ตอ้ งตรวจความเรยี บรอ้ ยของเครือ่ งมือเคร่อื งใชท้ จี่ ะนาไป ตอ้ งอยใู่ นสภาพท่ีใชง้ านได้ สว่ นการหีบหอ่ บรรจสุ งิ่ ของจะตอ้ งไม่ใหเ้ ป็นอปุ สรรคต่อ การเดนิ ทาง ขอ้ ปฏิบัติในการอยู่ค่ายพักแรม 1. เชื่อฟังคาส่งั ของผบู้ งั คบั บญั ชาโดยเครง่ ครดั 2. เชื่อฟังคาส่งั ของนายหม่ซู ึง่ ไดร้ บั คาส่งั จากผบู้ งั คบั บญั ชาโดยชอบธรรม 3. คอยฟังสญั ญาณหรือคาส่งั จากผกู้ ากบั โดยพรอ้ มปฏบิ ตั ติ ามคาส่งั โดยฉบั พลนั และปฏิบตั หิ นา้ ท่ที ไ่ี ดม้ อบหมายใหด้ ที สี่ ดุ 4. รกั ษาความสามคั คีในหมคู่ ณะ 5. จดั เวรยามดแู ลความปลอดภยั ของคา่ ยพกั แรม 6. รกั ษาความสะอาดในบริเวณทพ่ี กั /ในหอ้ งพกั ใหส้ ะอาดเรยี บรอ้ ยอยเู่ สมอ 7. ไมน่ อนในท่ีพกั ของผอู้ ่นื
8. ไมอ่ อกนอกบริเวณที่พัก / คา่ ยพกั โดยไม่ไดร้ บั อนญุ าตจากผกู้ ากบั เป็นลาย ลกั ษณอ์ กั ษร 9. ไมค่ รอบครองหรอื นายาเสพตดิ ของมืนเมา และส่งิ อบายมขุ ตา่ ง ๆ เขา้ ไปใน คา่ ยพกั แรม 10.ไม่หยบิ ฉวยของผอู้ ่ืนดว้ ยความมกั งา่ ย 11.ไม่ทาลายส่งิ ของตา่ ง ๆ ของคา่ ยพักแรมใหเ้ กิดความเสียหาย 12.หากเกดิ เหตฉุ กุ เฉินตอ้ งรายงานผบู้ งั คบั บญั ชาทนั ที ทงั้ นหี้ ากพบวา่ ลกู เสือไมท่ าตามขอ้ ปฏิบตั ใิ นขอ้ 7,8,9,10,11 จะดาเนินการส่งตวั กลบั บา้ นทนั ทแี ละไมใ่ หผ้ า่ นกจิ กรรมลกู เสอื -เนตรนารี คาปฏิญาณของลกู เสอื ดว้ ยเกียรติของขา้ ขา้ สญั ญาว่า ขอ้ 1. ขา้ จะจงรกั ภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ขอ้ 2. ขา้ จะชว่ ยเหลอื ผอู้ นื่ ทกุ เมือ่ ขอ้ 3. ขา้ จะปฏบิ ตั ติ ามกฎของลกู เสือ กฎของลกู เสอื มี 10 ขอ้ ขอ้ 1. ลกู เสือมีเกียรติเชื่อถือได้ ขอ้ 2. ลกู เสอื มคี วามจงรกั ภกั ดตี ่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ และซื่อตรงต่อผมู้ ี พระคณุ ขอ้ 3. ลกู เสือมหี นา้ ทีก่ ระทาตนใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ละช่วยเหลอื ผอู้ น่ื
ขอ้ 4. ลกู เสอื เป็นมติ รของคนทกุ คนและเป็นพน่ี อ้ งกบั ลกู เสอื อ่ืนท่วั โลก ขอ้ 5. ลกู เสอื เป็นผสู้ ภุ าพเรียบรอ้ ย ขอ้ 6. ลกู เสอื มคี วามเมตตากรุณาตอ่ สตั ว์ ขอ้ 7. ลกู เสือเช่อื ฟังคาส่งั ของบดิ ามารดา และผบู้ งั คบั บญั ชาดว้ ยความเคารพ ขอ้ 8. ลกู เสือมใี จรา่ เริง และไม่ย่อทอ้ ตอ่ ความยากลาบาก ขอ้ 9. ลกู เสือเป็นผมู้ ธั ยสั ถ์ ขอ้ 10. ลกู เสอื ประพฤติชอบดว้ ยกาย วาจา ใจ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 15 การปฎิบัตกิ ิจกรรมบกุ เบกิ และผจญ ภยั ความหมายและความสาคญั ของการบุกเบิกและการผจญภยั การบกุ เบกิ หมายถึง การเบิกทางหรอื การเปิดทางเพอื่ ใหเ้ กดิ ความสะดวกสบายและ ปลอดภยั แตต่ นเองและผทู้ ่ีจะตามมาทหี ลงั การผจญภยั หมายถึง การเผชญิ กบั ปัญหา อุปสรรคและเหตุการณท์ ่ีจะทาใหเ้ กดิ อนั ตรายซึง่ จะทาใหผ้ ผู้ จญภยั ตอ้ งใชท้ งั้ กาลงั กาย กาลงั ความคิด สตปิ ัญญาของ ตนเองและรว่ มกบั ผอู้ น่ื แกไ้ ขปัญหาเหล่านนั้ การบกุ เบกิ จงึ เป็นการเปิดทางใหก้ วา้ งออกเป็นการวางแนวทางหรทอเป็น การกระทาต่างๆทีจ่ ะก่อใหเ้ กดิ ความสะดวกสบาย และเกดิ ความปลอดภยั แก่ผทู้ ีจ่ ะ ทากิจกรรมตอ่ ไป จากผทู้ ่ีเบกิ ทางเอาไวแ้ ลว้ เชน่ การหกั รา้ งถากถางทเ่ี พอื่ ทาไร่ ทานา การสรา้ งสะพานขา้ มแมน่ า้ ขา้ มเหว การตดั ถนนครง้ั แรก การวางแผนหรอื กาหนด
แนวทางท่จี ะทาหรอื สรา้ งส่งิ ต่างๆ หรือแมแ้ ตก่ ารออกไปสารวจ กจ็ ดั วา่ เป็นการ บกุ เบิกทงั้ สนิ้ กิจกรรมบกุ เบิกเป็นกจิ กรรมหนงึ่ ของลกู เสอื ท่จี ะช่วยฝึกอบรมใหล้ กู เสอื เกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ ความสามคั คี ความชานาญ และทกั ษะ โดยม่งุ เนน้ ในดา้ น ความรูเ้ รอื่ งเชือก เงื่อนเชือกและอปุ กรณต์ ่างๆ มาเป็นเครอ่ื งมือในการฝึกหดั ขนึ้ พนื้ ฐานเพือ่ ใหล้ กู เสอื สามารถนาไปใชใ้ นการอยคู่ ่ายพกั แรมและเดินทางไกล ตลอดจนใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ดว้ ย 2. กจิ กรรมสรา้ งงานบกุ เบิก หมายถึง การใชเ้ ชือกผกู เขา้ กบั อปุ กรณต์ า่ งๆเพ่ือสรา้ ง งานบกุ เบกิ และใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนต์ าประเภทของงานบกุ เบกิ ไดแ้ ก่ 1) การสรา้ งตอม่อสะพาน 2) การสรา้ งเสาธงลอย 3) การสรา้ งหอคอยแบบต่างๆ เช่น หอคอยเสาเดียว หอคอยสองเสา หอคอยสง่ สญั ญาณ เป็นตน้ 4) การสรา้ งสะพานแบบต่างๆ เช่น สะพานลิง สะพานเหว่ยี ง สะพานเชอื ก 2 เสน้ เป็นตน้ 5) การสรา้ งแพแบบตา่ งๆ เชน่ แพถังนา้ มนั แพเรือจา้ ง แพเรือ เป็นตน้ 6) การสรา้ งน่งั รา้ น ป้ันจ่นั และกระเชา้ เลือ่ นแบบตา่ งๆ เชน่ ปั้นจ่นั บน ตน้ ไม้ เป็นตน้ ความปลอดภัยในการปฎบิ ตั ิกิจกรรมบุกเบกิ
ความปลอดภยั หมายถึง ความสามารถในการควบคมุ การปฎิบตั ิกิจกรรม ต่างๆ เพ่ือใหพ้ น้ ภยั และปราศจากอนั ตรายใดๆทงั้ สนิ้ อนั ก่อใหเ้ กิดการบาดเจบ็ พกิ าร หรอื ตายได้ เปา้ หมายสาคญั ในเรอ่ื งของความปลอดภยั ในการปฎิบตั กิ ิจกรรมบกุ เบกิ คือ การมชี ีวิตอย่ไู ดด้ ว้ ยความสนกุ ดงั นนั้ การทจ่ี ะควบคมุ เพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภยั ในการ ปฎบิ ตั กิ จิ กรรมบกุ เบกิ คือ การมชี ีวิตอยไู่ ดด้ ว้ ย ความผาสกุ ดงั นนั้ การที่จะควบคมุ เพ่ือใหเ้ กดิ ความปลอดภยั หรอื พน้ ภยั จากอบุ ตั เิ หตุ อนั เน่ืองมาจากการปฎิบตั ิกิจกรรมต่างๆ ไดน้ น้ั ลกู เสือจะตอ้ งรูถ้ งึ วิธีการปอ้ งกนั เอาไว้ กอ่ น ดกี วา่ ท่จี ะมาแกไ้ ขภายหลงั จากการเกิดอบุ ัตเิ หตแุ ลว้ ขอ้ ควรคานึงในการปฎบิ ตั ิกจิ กรรมบกุ เบิก ลกู เสอื ควรคานงึ ถงึ ส่งื ต่อไปนี้ 1. สารวจความพรอ้ มของตนเองทงั้ ดา้ นรา่ งกายและจติ ใจ ถา้ รา่ งกาย สมบรู ณแ์ ข็งแรงก็จะสามารถช่วยใหเ้ ราปฎบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว ว่องไวและปลอดภยั แต่การท่จี ะทาใหร้ า่ งกายสมบรู ณแ์ ข็งแรงไดน้ นั้ ลกู เสือตอ้ งออก กาลงั กายอย่างสมา่ เสมอ พกั ผ่อนใหเ้ พียงพอ และรบั ประทานอาหารใหค้ รบทงั้ 5 หมู่ เพื่อรา่ งกายจะไดส้ รา้ งภมู ติ า้ นทานโรค การทาใหร้ า่ งกายสมบรู ณแ์ ขง็ แรงอย่เู สมอ จึง เป็นสง่ิ ท่จี าเป็นอยา่ งย่งิ สาหรบั ทางดา้ นจติ ใจ ลกู เสอื จะตอ้ งทาจติ ใจใหม้ ่นั คง กลา้ หาญ กลา้ ต่อสู้ กบั ปัญหาและอปุ สรรคต่างๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ซ่ึงจะมีผลทาใหร้ า่ งกายแข็งแรง ม่งั คง เกิด ความเช่ือม่นั ในการปฎิบตั ิกิจกรรมต่างๆ ของลกู เสือ และความปลอดภยั จากอบุ ตั ิเหตุ ตา่ งๆ กจ็ ะมมี ากขนึ้ ดว้ ย
2. เตรยี มความพรอ้ มทางดา้ นความรูค้ วามและความชานาญ การท่ี ลกู เสือจะเกิดความรูค้ วามชานาญไดน้ น้ั ลกู เสอื จะตอ้ งขวนขวายหาความรูด้ ว้ ย ตนเอง และมีความสนใจ มคี วามรกั ในกจิ กรรมต่างๆของลกู เสือ หม่นั ศกึ ษาคน้ ควา้ หรอื สอบถามจากผรู้ ู้ ผูเ้ ช่ยี วชาญ หรอื ผทู้ มี่ ีประสบการณใ์ น กิจกรรมนน้ั ๆมาก่อน เชน่ ลกู เสือรุน่ พ่ี ผกู้ ากบั ลกู เสือ ผชู้ านาญการเฉพาะดา้ น เป็น ตน้ เมือ่ สอบถามหรือคน้ ควา้ ไดค้ วามรูม้ าแลว้ ลกู เสอื จะตอ้ งนามาฝึกปฎิบตั ิบอ่ ยๆ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความชานาญ โดยฝึกดว้ ยตนเองหรอื ฝึกรว่ มกบั ผอู้ ืน่ กไ็ ด้ กจิ กรรมการฝึก รว่ มกบั ผอู้ นื่ หรือเพ่อื นลกู เสอื เช่น การอยคู่ า่ ยพกั แรมจะเป็นการเตรยี มพรอ้ มทาง ความรูค้ วามชานาญเพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภยั ในการปฎบิ ตั กิ จิ กรรมตอ่ ไป อุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ นการบกุ เบิกและการผจญภัย อปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นงานบกุ เบิกทส่ี าคญั และควรนาไปใชใ้ หถ้ กู ตอ้ ง ไดแ้ ก่ เชอื ก รอก สมอบก ไม้ 1. เชอื ก เป็นอปุ กรณท์ ี่สาคญั มาก และจาเป็นอยา่ งยง่ิ ท่นี ามาใชใ้ นการ ประกอบการสรา้ งงานบกุ เบิก เชือกทาจากวสั ดตุ า่ งๆ ทีเ่ ป็นเสน้ เลก็ ๆ ยาวๆ นามาทบ
กนั หลายๆ เสน้ แลว้ นามาพนั ใหเ้ ป็นเกลยี ว ทาใหม้ ขี นาดใหญแ่ ละยาวเหมาะสมแก่ การใชง้ าน การท่ลี กู เสอื จะนาเชอื กไปใชง้ านอยา่ งปลอดภยั จะตอ้ งคานึงถึงสิง่ ตอ่ ไปนี้ 1) ชนิดของเชือก เชอื กแต่ละชนดิ สรา้ งจากวสั ดทุ ีต่ ่างกนั ดงั นน้ั การรบั นา้ หนกั ความคงทนในการใชง้ านยอ่ มแตกต่างกนั ไปดว้ ย วสั ดทุ ่ีนามาฟ่ันเชอื กนนั้ ตอ้ ง เป็นวสั ดทุ คี่ อ่ นขา้ งเหนียว ทนตอ่ ดนิ ฟา้ อากาศ ทนต่อการลากจงู ดงั นนั้ การเลือกใช้ เชือกจึงตอ้ งดใู หเ้ หมาะสม เช่น เชอื กท่ีทามาจากมนลิ า ปอ หนงั สตั ว์ หรอื ลวดสลิง เหมาะในการนามาใชก้ บั งานบกุ เบกิ ประเภทใหญจ่ ะรบั นา้ หนกั ไดม้ าก ตา่ งจากเชือก ท่ีทาจากใยกาบมะพรา้ ว ตน้ กก หรือเปลือกตน้ กลว้ ย ซงึ่ รบั นา้ หนกั ไดน้ อ้ ย 2) ขนาดของเชอื ก เชอื กทีม่ ขี นาดตา่ งกนั ย่อมรบั นา้ หนกั ต่องานแตล่ ะ ประเภทต่างกนั ดว้ ย ดงั นนั้ การเลอื กใชเ้ ชอื กแตล่ ะขนาดควรใหเ้ หมาะสมกบั งาน ซง่ึ จะทาใหเ้ กิดความปลอดภยั ยิง่ ขนึ้ กอ่ นใชเ้ ชือกกบั งานต่างๆ ควรคานวณกอ่ นวา่ เชอื กแตล่ ะชนิด แต่ละขนาดจะรบั นา้ หนกั ไดส้ งู สดุ เท่าใด 2. เชอื กทใ่ี ชง้ าน มวี ธิ ีการระวงั รกั ษาเพ่ือใหค้ งทน ดงั นี้ 1) ระวงั อย่าใหเ้ ชอื กเปียกชนื้ รกั ษาเชอื กใหแ้ หง้ อย่เู สมอ 2) ระวงั อย่าใหค้ รูด เสียดสีวตั ถแู ขง็ เกลียวเชือกจะสกึ และขาดง่าย 3) ถา้ ใชเ้ ชอื กแชน่ า้ นานๆ หรือถกู กบั นา้ เคม็ เป็นเวลานาน เม่ือเลิกชแ็ ลว้ ควรซกั ดว้ ยนา้ จดื ใหส้ ะอาดแลว้ ผึ่งใหแ้ หง้ 4) เชอื กบางชนดิ เชน่ เชอื กปอ ตอ้ งแช่นา้ เพือ่ ใหไ้ ดก้ าลงั ดี ถา้ ไมแ่ ชจ่ ะ ขาดง่าย
5) เชือกทข่ี มวดเป็นปม ไมค่ วรยกของหนกั หรือใชเ้ หนยี่ วรงั้ 6) เชอื กป่านทกุ ชนิด เมือ่ ถกู นา้ ย่อมหดตวั ถา้ อากาศชนื้ อากาศหนาว ฝนตก ตอ้ งคอยระวงั หย่อนเชอื ก มิฉะนนั้ เชือกจะหดตวั จนขาดในท่สี ดุ 7) อยา่ ใชเ้ ชอื กในทางทีจ่ ะทาใหเ้ ชือกคลายเกลียว 8) อยา่ ใชเ้ ชือกเหนีย่ วรงั้ ยกของหนกั มากจนเกินกาลงั ของเชอื ก 9) ถา้ จะใชง้ านเก่ยี วกบั การกระตกุ กระชาก ควรใชเ้ ชอื กเสน้ ใหญ่ 10) เชอื กลวดที่เคลือบสงั กะสี เมื่อเสร็จงานแลว้ ตอ้ งลา้ งดว้ ยนา้ จืด แลว้ เช็ดใหแ้ หง้ ทาจาระบีใหท้ ่วั 11) เชอื กลวดเกา่ ทีเ่ ป็นสนิม ตอ้ งทาความสะอาดดว้ ยแปรงลวด และ ชโลมดว้ ยนา้ มนั กนั สนมิ 12) ปลายเชอื กจะตอ้ งเอาเชือกเล็กๆ พนั หวั เชอื ก หรือถกั แทงให้ เรียบรอ้ ยปอ้ งกนั คลายเกลียว 13) เลือกใชเ้ ชือกใหเ้ หมาะสมกบั งานที่จะใช้ ถา้ เลือกใชเ้ ชอื กทไ่ี ม่ เหมาะสมกบั งานแลว้ อาจจะทาใหง้ านทป่ี ฏบิ ตั นิ นั้ ไมส่ มบรู ณแ์ ละเกดิ อนั ตรายไดง้ า่ ย 2. รอก เป็นเคือ่ งกลที่ใชพ้ อ่ นแรงหรอื อานวยความสะดวกในการทางาน ยก ของขนึ้ ที่สงู หรือหย่อนลงตา่ รอกอาจทาดว้ ยโลหะ ไม้ หรอื วัสดอุ น่ื ๆ ซงึ่ ขนึ้ อย่กู บั ความ เหมาะสมของการใชง้ าน ลกั ษณะของรอก รอกทาเป็นลอ้ แบนๆ หมนุ ไดค้ ลอ่ งตวั ยดึ ดว้ ยแกนทีต่ ดิ กบั เงอ่ื นรอก ริมขอบ ตวั รบั เป็นรอ่ งลกึ สาหรบั วางเสน้ เชือกเพ่อื ดึงหรอื รงั้ สิ่งต่างๆ การวดั ขนานของรอกวดั
เป็นนวิ้ โดยนบั จากเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางตวั รอก เชือกทีใ่ ชร้ อ้ ยรอกตอ้ งใชเ้ ชือกที่วางได้ เตม็ รอ่ งรอกพอดีและหมนุ ไดค้ ลอ่ งตวั จงึ จะใชง้ านไดด้ ี 1.รอกเด่ยี ว รอกเดี่ยวแบ่งออกเป็นรอกเดยี่ วตายตวั และ รอกเดีย่ วเคลือ่ นทร่ี อกเด่ียว เป็นรอกท่ไี มช่ ่วยผ่อนแรงแต่ช่วยอานวยความสะดวก เช่น รอกบนยอดเสาธง 2.รอกพวง รอกพวงเกดิ จากนารอกหลายๆอรั มาผกู กนั เป็ฯพวงเดยี ว ทาใหผ้ อ่ นแรง ไดม้ ากขนึ้ ขอ้ ควรคานึงในการใชร้ อก มดี งั ตอ่ ไปนี้
1. ขนาดของรอก รอกแต่ละขนาดจะใชง้ านไดแ้ ตกต่างกนั เราควรรูจ้ กั ใชร้ อกใหถ้ กู กบั งาน ถา้ หากใชไ้ มถ่ กู กบั งานแลว้ อาจทาใหเ้ กดิ อบุ ตั ิเหตขุ นึ้ ได้ เช่น การทางาน ใหญๆ่ ถา้ ใชร้ อกขนาดเล็กหรือรอกที่ทาดว้ ยไมอ้ าจจะเกดิ อนั ตรายไดด้ งั นน้ั การสรา้ ง บกุ เบิกแต่ละประเภท ควรจะเลอื กขนาดของรอกใหเ้ หมาะสมเพอ่ื ความปลอดภยั 2. ความสมบรู ณข์ องรอก กอ่ นทจ่ี านารอกมาใชง้ าน จะตอ้ งตรวจดสู ภาพใหพ้ รอ้ ม ใชง้ าน ก่อนจะนาไปใชง้ านจรงิ 3. การเกบ็ รกั ษา หลงั จากใชง้ านควรจาทาความสะอาด แลว้ ชโลมดว้ ยนา้ มนั เพ่อื ป้องกนั การเกดิ สนิม และไม่ใหเ้ กดิ การเสือ่ มสภาพเร็วกวา่ กาหนด การซ่อมและบารุง เป็นส่วนทจ่ี ะทาใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ได้ และสามารถใชง้ านไดน้ าน ดงั นนั้ การใชร้ อกในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการบุกเบิก เพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภยั ควรจะ คานงึ ถงึ ขนาด ชนดิ ความสมบรู ณ์ และการบารุงรกั ษารอกเป็นสาคญั 3. สมอบก เป็นเคร่ืองมือชนดิ หนง่ึ ใชม้ ากในงานบกุ เบิก เพ่ือช่วยอานวย ความสะดวกในการทางาน สมอบกมีหลายชนดิ หลายขนาด แลว้ แตค่ วามเหมาะสม ของงานและความสะดวกในการจดั หามาใช้ สมอบกจะใชข้ นาดไหน และวธิ ีใด ตอ้ ง พิจารณาใหร้ อบคอบ สมอบกมี 2 แบบ คอื สมอบกธรรมชาติ กบั สมอบกทที่ าขนึ้ เอง 1. สมอบกธรรมชาติ เป็นสมอทใี่ ชว้ ัสดธุ รรมชาติ เชน่ ตน้ ไมย้ นื ตน้ หรอื หนิ กอ้ น ใหญท่ มี่ แี ง่มมุ เหมาะที่จะผกู ยกึ ใชต้ น้ ไม้ 2 ตน้ หรอื กอ้ นหิน โดยดึงใหต้ ึงปลายเชอื ก จากรอกจนสะพานตงึ แลว้ ผกู ตะกรุดยดึ จบดว้ ยเงือ่ นผกู กระหวดั ไม้ ใชก้ อ้ นหินทาสมอบก เลือกโขดหินท่ีมขี นาดใหญ่ ผกู ยึดใชเ้ ป็นสมอบกได้
สมอบกท่ีทาขนึ้ เอง ในกรณีทบี่ ริเวณนน้ั หาสมอบกธรรมชาตไิ มไ่ ด้ ใหใ้ ชไ้ มท้ ่อน เป็น ไมเ้ นอื้ แขง็ ขนาดเส็นผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 2 นวิ้ ยาวประมาณ 3 ฟตุ เสยี้ มปลาย ใหแ้ หลมนาไปทาสมอบกได้ 2 แบบ ดงั นี้ วธิ ีการใชส้ มอบกใหเ้ หมาะสมกบั สถานที การตอกสมอบกบนพนื้ ราบ ใชร้ ะบบ 1-2-3 ดงั รูป การตอกสมอบกในพนื้ ทรายหรือ ทดี่ นิ รว่ น ขอ้ คานึงในการใชส้ มอบก ดงั นี้
1. ชนดิ และขนาดของสมอบก การเลอื กใชข้ นาดของสมอบกและชนิดของสมอบก ใหเ้ หมาะสมกกบั งานบกุ เบกิ ตอ้ งรูว้ ่าสมอบกชนิดนี้ ขนาดนี้ จะรบั นา้ หนกั ไดก้ บั งาน บกุ เบิกประเภทนหี้ รือไม่ การสรา้ งงานบกุ เบกิ ใหญๆ่ เชน่ การสรา้ งสะพาน การสรา้ ง หอคอย ควจจะเลือกสมอบกชนดิ และขนาดที่รบั นา้ หนกั ไดม้ ากๆ และม่นั คง จงึ จะเกิด ความปลอดภยั ได้ 2. สภาวะและการเลอื กที่เหมาะสม ในสภาพของภมู ิประเทศและสภาวะต่าง ยอ่ มมผี ลตอ่ การเลือกใชส้ มอบกท่ีปลอดภยั ดว้ ย ดงั นน้ั การสรา้ งงานบกุ เบิกจงึ ควร เลือกใชส้ มอบกที่เหมาะสมกบั สภาพภมู ปิ ระเทศ และสภาวะท่ีแตกตา่ งกนั ซึ่งจะ สง่ ผลตอ่ สวสั ดิภาพและความปลอดภยั ในการสรา้ งงานบกุ เบิกไดเ้ ป็นอยา่ งดี นอกจากนน้ั แลว้ การเลอื กใชส้ มอบกที่เหมาะสมตามสภาวะจะป้องกนั อนั ตรายจาก อบุ ตั เิ หตทุ ่จี ะเกิดไดเ้ ป็นอย่างปลอดภยั 4.ไม้ ทีใ่ ชใ้ นการสรา้ งงานบกุ เบิกมีลกั ษณะในการใชง้ านบกุ เบิกดงั นี้ 1. ไมเ้ นอื้ แข็ง เป็นไมท้ ส่ี ามารถรบั นา้ หนกั ไดม้ าก เหมาะสมในการสรา้ งงาน บกุ เบิกประเภทใหญๆ่ เช่น การสรา้ งสะพานแบบต่างๆ การสรา้ งหอคอยแบบต่างๆ หรือการสรา้ งป่ันจ่นั แบบต่างๆ ได้ ไมเ้ นอื้ แขง็ นอกจากจะรบั นา้ หนกั ไดม้ ากแลว้ ยงั คง ทนตอ่ สภาวะตา่ งๆ ไดด้ อี กี ดว้ ย เช่น ไมแ้ ดง ไมเ้ ต็ง ไมป้ ระดู่ ไมม้ ะค่า เป็นตน้ 2. ไมเ้ นอื้ ออ่ น เป็นไมท้ ี่รบั นา้ หนกั ไดน้ อ้ ยและไมค่ งทนตอ่ สภาวะต่างๆซ่งึ เป็น ไมท้ ี่มอี ายนุ อ้ ย เชน่ ไมส้ น ไมไ้ ผ่ ไม่รวก ไมก้ ระถนิ เป็นตน้ ไมจ้ พวกนไี้ มเ่ หมาะสมใน การท่ีจะมาสรา้ งงานบกุ เบกิ ประเภทใหญ่ๆ เพราะอาจจะเกิดอนั ตรายได้ ถา้ นามาใชก้ ็ เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ วธิ ีการใชส้ มอบกใหเ้ หมาะสมกบั สถานที
ขอ้ คานงึ ในการใชส้ มอบก ดงั นี้ 1. ชนิดและขนาดของสมอบก การเลอื กใชข้ นาดของสมอบกและชนดิ ของสมอบก ใหเ้ หมาะสมกกบั งานบกุ เบิก ตอ้ งรูว้ ่าสมอบกชนิดนี้ ขนาดนี้ จะรบั นา้ หนกั ไดก้ บั งาน บกุ เบิกประเภทนหี้ รอื ไม่ การสรา้ งงานบกุ เบกิ ใหญ่ๆ เชน่ การสรา้ งสะพาน การสรา้ ง หอคอย ควจจะเลือกสมอบกชนิดและขนาดทีร่ บั นา้ หนกั ไดม้ ากๆ และม่นั คง จึงจะเกิด ความปลอดภยั ได้ 2. สภาวะและการเลอื กทีเ่ หมาะสม ในสภาพของภมู ปิ ระเทศและสภาวะตา่ ง ย่อมมผี ลตอ่ การเลอื กใชส้ มอบกที่ปลอดภยั ดว้ ย ดงั นน้ั การสรา้ งงานบกุ เบกิ จงึ ควร เลอื กใชส้ มอบกที่เหมาะสมกบั สภาพภมู ปิ ระเทศ และสภาวะที่แตกตา่ งกนั ซง่ึ จะ สง่ ผลต่อสวสั ดิภาพและความปลอดภยั ในการสรา้ งงานบกุ เบิกไดเ้ ป็นอย่างดี นอกจากนน้ั แลว้ การเลือกใชส้ มอบกทีเ่ หมาะสมตามสภาวะจะปอ้ งกนั อนั ตรายจาก อบุ ตั เิ หตทุ ีจ่ ะเกิดไดเ้ ป็นอยา่ งปลอดภยั ลกั ษณะของการบุกเบกิ และการผจญภัย ความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิกจิ กรรมผจญภยั การผจญภยั เป็นกจิ กรรมท่ีใหค้ วามสนกุ สนาน และรูจ้ กั การตดั สินใจอยา่ ง เฉียบพลนั ในปัญหาเฉพาะหนา้ การผจญของลกู เสอื มีการฝึกการทดสอบกาลงั ใจ คลา้ ยทหาร แตเ่ ป็นเพียงการทดสอบเบือ้ ตน้ เทา่ นน้ั โดยมีอปุ สงคเ์ พื่อ 1. ฝึกการเป็ฯผ็นาและผตู้ ามทดี่ ี 2. รูจ้ กั แกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ดว้ ยความรวดเร็ว 3. กลา้ ตดั สนิ ใจและมีไหวพรบิ
4. รูจ้ กั นาความรู้ ความสามารถ และความชานาณ ในวชิ าลกู เสอื มาใชอ้ ยา่ งผสม กลมกลนื เช่น การใชแ้ ผน่ ที่ เขม็ ทิศ การเดินสารวจ บกุ เบิก การเดนิ ทางไกล 5. ก่อใหเ้ กิดความสนกุ สนาน และเป็นการออกกาลงั กาย การผจญภยั แยกออกเป็นหมวดใหญไ่ ด้ 3 หมวดคือ กิจกรรมทางนา้ กิจกรรมทางบก และกิจกรรมทางอากาศ ประเภทกจิ กรรมบุกเบกิ หมายถึง การเบกิ ทางหรือการเปิดทาง เพ่ือใหเ้ กดิ ความสะดวกสบาย ปลอดภยั แกต่ วั เองและ ผทู้ จ่ี ะตามมาทหี ลงั เพอื่ เปิดทางใหก้ วา้ งออก จึงนามาเป็น แนวทางในการจดั กจิ กรรมตา่ ง ๆ ใหส้ อดคลอ้ งกบั กิจกรรมลกู เสอื เช่น การสรา้ ง สะพานขา้ มแม่นา้ ขา้ มเหว การปีนป่าย การสรา้ งสิง่ ตา่ งๆ รวมทงั้ การสารวจ กิจกรรม ดงั กล่าวนี้ จาเป็นตอ้ งทราบถึงวธิ ีใชอ้ ปุ กรณเ์ พ่ือทาใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ดงั นี้ กิจกรรมทางนา้ การปฏิบตั กิ จิ กรรมทางนา้ ลกู เสือผปู้ ฏบิ ตั ิจะตอ้ งวา่ ยนา้ เป็นและรูจ้ กั วิธี ชว่ ยเหลอื คนตกนา้ ได้ กิจกรรมที่จะตอ้ งปฏบิ ตั ิทางนา้ ไดแ้ ก่ การว่ายนา้ ระยะทางไกลๆ หรอื ตอ้ งวา่ ยนา้ ทงั้ เครอ่ื งแบบลกู เสอื ตามหลกั สตู ร พิเศษนกั วา่ ยนา้ หรอื การสรา้ งสะพานขา้ มแม่นา้ แบบต่างๆ เชน่ สะพานเชือก สะพาน ไม้ การต่อแพบรรทกุ ของขา้ มแม่นา้ ตลอดทงั้ การช่วยเหลอื คนตกนา้ นที้ กุ กิจกรรมท่ี ปฏิบตั ใิ นนา้ ถงึ แมจ้ ะวา่ ยนา้ เป็นก็ประมาทไมไ่ ด้ ดงั นนั้ ทกุ ครงั้ ทปี่ ฏบิ ตั ิกิจกรรมทาง นา้ จงึ ตอ้ งปฏบิ ตั ดิ งั นี้
1.ตอ้ งมเี พอื่ นในการปฏิบตั ิกจิ กรรมอยา่ งนอ้ ย 1 คน คอยชว่ ยเหลอื อยตู่ ลอดเวลา 2. จะตอ้ งมีผชู้ ว่ ยคอยระวงั เหตอุ ย่ใู นบรเิ วณท่ที ากิจกรรมและสามารถใหก้ าร ช่วยเหลอื ไดท้ นั ที (เพราะคนทางานในนา้ เหน่ือยงา่ ยกว่าบนบก) 3. ตอ้ งมอี ปุ กรณส์ าหรบั ช่วยเหลอื เช่น เรือ แพ ชชู ีพ และเสาไมส้ าหรบั เกาะหรอื ขงึ เชอื กไวส้ าหรบั เกาะอยใู่ กลๆ้ ใหส้ ามารถควา้ เกาะไดท้ นั 4.ลกู เสือท่จี ะทากิจกรรมนนั้ จะตอ้ งมสี ขุ ภาพดี แขง็ แรง คนท่มี โี รคประจาตวั เช่น ลมบา้ หมู หา้ มทากจิ กรรมนีเ้ ดด็ ขาด ผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสือจะตอ้ งสอบถามใหแ้ น่ชดั เสียก่อน 5.ผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสือจะตอ้ งอย๋ใู กลช้ ิดกบั ลกู เสือท่ีกาลงั ทากจิ กรรมนน้ั ตลอดเวลา หา้ มไวใ้ จผอู้ ่ืนเป็นอนั ขาด กจิ กรรมทางบก
กจิ กรรมการผจญภยั ทางบกเป็นกิจกรรมทที่ า้ ทายและแสนสนกุ สนานสาหรบั ลกู เสือ มาก เช่น การไต่หนา้ ผา การลอดลวดหนาม การสง่ สญั ญาณ การขา้ มสะพานแบบ ตา่ งๆ การหนีไฟ เป็นตน้ กจิ กรรมตา่ งๆ เหลา่ นผี้ ปู้ ฏิบตั ิจะตอ้ งไม่ประมาท และควร คานึงถึงความปลอดภยั เสมอ ซึ่งการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการผจญภยั ทางบกปฏบิ ตั ไิ ดด้ งั นี้ 1.ลกู เสอื ควรแตง่ กายรดั กมุ เพอื่ ปกปอ้ งมิใหเ้ ครื่องแต่งกายไปเก่ยี วหรอื ติดกบั ฐาน ซง่ึ อาจทาใหล้ กู เสอื พลดั ตกไปได้ 2.ลกู เสอื ควรสวมรองเทา้ ผา้ ใบหมุ้ สน้ เพอ่ื ใหเ้ กิดความคล่องตวั ในขณะปฏบิ ตั ิ กิจกรรม 3.ลกู เสอื ไม่ควรพกอาวธุ เชน่ มดี ขวาน ตดิ ตวั ไปขณะปฏิบตั ิกิจกรรม เพราะอาจทาให้ เกิดอบุ ตั เิ หตขุ นึ้ ได้ 4.ผกู้ ากบั หรือพเี่ ลยี้ งท่อี ย่ปู ระจาฐานต่างๆ ตอ้ งมีความรูแ้ ละความสามารถพอทจ่ี ะ แนะนาลกู เสือใหป้ ฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆได้ 5.ลกู เสือตอ้ งมคี วามม่นั ใจทีจ่ ะปฏิบตั ิกิจกรรมนนั้ ๆ ถา้ ไมม่ ่นั ใจอยา่ ปฏิบตั ิ เพราะอาจ ทาใหพ้ ลดั ตกลงมาได้
6.ควรตรวจอปุ กรณ์ เช่น เชอื ก มดี ขวาน และลกั ษณะการผกู เงือ่ นจา่ งๆ ใหเ้ รยี บรอ้ ย ซ่ึงมหี ลกั ดงั ต่อไปนี้ เชอื กจะตอ้ งตรวจดวู า่ เชือกสามารตา้ นทานนา้ หนกั ไดห้ รอื ไม่ ในกรณีที่เชอื่ กมี รอยตอ่ ไวห้ ลายแห่งจะตอ้ งตรวจสอบดเู ป็นพิเศษ เพราะถา้ นามาใชอ้ าจขาดได้ หรอื ถา้ ไม่แน่ใจก็ควรซอื้ ใหม่ ลกั ษณะการผกู เง่อื น เงอื่ นชนิดที่ใชใ้ นกิจกรรมจะตอ้ งผกู ใหถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม มฉิ ะนน้ั แลว้ อาจทาใหเ้ กิดอนั ตรายในขณะปฏบิ ตั ิกจิ กรรมได้ และเมอื่ ผกู เงอ่ื นเสร็จ เรียบรอ้ ยแลว้ ควรทดลองเพอื่ ใหแ้ นใ่ จเสียก่อนวา่ ปลอดภยั จึงจะใหล้ กู เสอื ปฏิบตั จิ ริง มีด ขวาน และอปุ กรณอ์ น่ื ๆ ทนี่ ามาปฏิบตั กิ จิ กรรม ในการปฏบิ ตั ิจะตอ้ งใช้ อปุ กรณต์ า่ งๆอยา่ งระมดั ระวงั เชน่ ในขณะฟันไมห้ รอื ตดั ไม้ จะตอ้ งระวงั มิใหค้ นอ่ืน เขา้ ใจ ถา้ จะมผี ชู้ ่วยกค็ วรคอยดอู ยา่ งหา่ งๆ มีด ขวาน ถา้ มีปลอกเมื่อใชเ้ สรจ็ แลว้ ตอ้ ง สอมปลอกทนั ที อยา่ นาของมีคมทกุ ชนิดมาเลน่ หยอกลอ้ กนั เป็นอนั ขาด กจิ กรรมทางอากาศ กิจกรรมทางอากาศ กจิ กรรมทางอากาศ สว่ นใหญเ่ ป็นกิจกรรมสมมติ โดยมีเหตกุ ารณใ์ หล้ กู เสอื ไดฝ้ ึก ปฏบิ ตั ิ เชน่ การช่วยเหลือคนหมดสตทิ ่ีอยู่บนตน้ ไม้ ผทู้ ่ีเขา้ ชว่ ยเหลอื ตอ้ งรูจ้ กั วธิ ีการใช้ เชอื ก และผกู เงอื่ นอย่างถกู วิธี ขอ้ ควรปฏิบตั เิ ก่ยี วกบั กจิ กรรมทางอากาศ 1.นายหมจู่ ะตอ้ งส่งั ใหล้ กู หมคู่ นใดคนหน่ึงขนึ้ ไปบนตน้ ไม้ พรอ้ มทงั้ เอาปลายเชอื ก ขนาดกลางขา้ งหนง่ึ ขนึ้ ไปบนตน้ ไม้ พรอ้ มทงั้ เอาปลายเชอื กขนาดกลางขา้ งหน่งึ ผกู
กบั เขม็ ขดั ขนึ้ ไปดว้ ย โดยใหป้ ลายเชือกอีกขา้ งหนึ่งอย่ขู า้ งล่างและมีลกู หม่อู ีก 2-3 คน ถือไว้ 2.ส่งลกู หม่อู ีกคนหนึง่ ขนึ้ ไปช่วยพลรม่ ท่ีอยบู่ นตน้ ไม้ โดยผกู เง่ือนเกา้ อี้ แลว้ ชว่ ยกนั นา พลรม่ สองเขา้ ไปในบ่วงเงือ่ นเกา้ อี้ 3.ใหล้ กู หมทู่ อ่ี ย่ขู า้ งล่างดึงปลายเชือกไวแ้ ลว้ คอ่ ยๆ โรยตวั ลงมาจนถึงพนื้ นาพลรม่ ทา ทาการผายปอดแลว้ สง่ แพทยเ์ พ่ือตรวจรกั ษาต่อไป สาเหตขุ องความไมป่ ลอดภยั ในกิจกรรมการบกุ เบิกและการ ผจญภัย ความอันตรายในการทากจิ กรรมบกุ เบกิ 1.สาเหตุจากคน คนเป็นสาเหตใุ หญท่ ่ีทาใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตใุ นขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรมผจญภยั ซึง่ แบ่งไดด้ งั นี้ 1)เกิดจากความประมาทโดยที่ผปู้ ฏบิ ตั คิ ดิ วา่ “ไม่เป็นไร”คดิ วา่ ได”้ อาจจะถกู ”เป็น ตน้ 2)เกิดจากการลองผิดลองถกู โดยทีล่ กู เสือรูเ้ ทา่ ไม่ถึงการณ์ จะลองปฏบิ ตั ิหลายๆ อยา่ ง ซง่ึ บางอย่างถา้ ปฏบิ ตั ิแลว้ อาจทาใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตไุ ด้ 3)เกดิ จากการเชอื่ ใจกนั มากเกินไป การท่ีผกู้ ากบั หรอื ลกู เสือเชื่อใจหรือไวว้ างใจให้ คนใดคนหนึ่งดาเนนิ การ แลว้ ใหค้ นอ่ืนนาผลงานนนั้ ไปใชโ้ ดยไม่มีการตรวจสอบ อาจ มีขอ้ ผิดพลาดเกิดขนึ้ ได้ ดงั นนั้ จะตอ้ งทาการตรวจสอบการดาเนินการของกองทนุ และทกุ ครง้ั (รวมถึงการดาเนินการของผกู้ ากบั ลกู เสือดว้ ย) 4)เกดิ จากผปู้ ฏบิ ตั ิกจิ กรรม มีสขุ ภาพไมแ่ ข็งแรง หรอื อาจมโี รคประจาตวั
5)เกิดจากการปล่อยใหป้ ฏิบตั ิกิจกรรมโดยลาพงั ซึง่ กิจกรรมบางอยา่ งถา้ ลกู เสอื ปฏิบตั ิเพียงคนเดียวอาจกอ่ ใหเ้ กิดอบุ ตั ิเหตไุ ด้ 6)เกดิ จากการแตง่ กายไม่รดั กมุ รุม่ รา่ ม 7)เกิดจากการพกพาอาวธุ หรือของมคี มไปปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 8)เกดิ จากการที่ผปู้ ฏบิ ตั ไิ ม่มคี วามม่นั ใจในตนเองว่าจะปฏบิ ตั กิ จิ กรรมนนั้ ได้ 9)เกดิ จากความคึกคะนองของผปู้ ฏบิ ตั ิกิจกรรม เชน่ กล่นั แกลง้ หรอื หยอกแกลง้ กนั เพื่อความสนกุ สนาน 10)ผปู้ ฏิบตั ิกจิ กรรมขาดระเบยี บวนิ ยั ไมเ่ ช่ือฟังคาส่งั ของผบู้ งั คบั บญั ชา 11)เกดิ จากประเมนิ ตนเองผิด คดิ ว่าตนเองมีคววามสามารถเพียงพอทีจ่ ะปฏบิ ตั ิ กิจกรรมได้ 2.สาเหตจุ ากอุปกรณ์ อปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการปฏิบตั กิ ิจกรรมอาจเป็นสาเหตหุ นงึ่ ท่ที าใหเ้ กิดอบุ ตั ิเหตไุ ด้ รายละเอียดมีดงั นี้ 1)ขาดอปุ กรณช์ ่วยเหลือ เช่น เรอื แพ ชชู ีพ และเสาไมส้ าหรบั เกาะ 2)ใชอ้ ปุ กรณผ์ ดิ ขนาด ไมส่ ามารถรบั นา้ หนกั หรอื รบั แรงดงึ ได้ 3)ใชอ้ ปุ กรณท์ ห่ี มดสภาพการใชง้ าน เช่น เชอื กเก่า ไมผ้ ุ เป็นตน้ 4)ใชเ้ ง่อื นผดิ จดุ ประสงคก์ ารใชง้ าน หรอื ผกู เงื่อนผดิ 5)ดินออ่ นทาใหส้ มอบกยึดไม่แน่น 6)เชือกขาดหรือเชือกคลายตวั ซึ่งเกิดจากการมดั ไม่แนน่
7)รอกทีใ่ ชใ้ นกจิ กรรมอาจฝืดหรอื ขนึ้ สนิม 8)ลืมปิดหนา้ รอก ทาใหร้ อกหลดุ 9)ฐานต่างๆไม่ไดร้ บั การตรวจสอบโดยละเอยี ด หลักความปลอดภัยในการผจญภยั ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมทางนา้ ทางบก และทางอากาศ ที่ไดก้ ลา่ วขา้ งตน้ นนั้ มหี ลกั การ ปฏบิ ตั ิเพ่ือใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ดงั นี้ 1.ลกู เสือตอ้ งตรวจสขุ ภาพ ความสมบรู ณข์ องรา่ งกายกอ่ นปฏบิ ตั ิกจิ กรรมผจญภยั 2.พิจารณาและหาวิธีการที่จะทาใหก้ ารผจญภยั ปลอดภยั มากที่สดุ 3.การปฏบิ ตั ิกิจกรรมการผจญภยั ดว้ ยความระมดั ระวงั ไมป่ ระมาท 4.ตดั สินใจดว้ ยความม่นั ใจ ไมล่ งั เล 5.อ่านคาส่งั ใหเ้ ขา้ ใจกอ่ นลงมือ ปฏิบตั ิ และปฏบิ ตั ิตามคาส่งั โดยเครง่ ครดั 6.ใหน้ ึกวา่ ใหน้ ึกวา่ เหตกุ ารณต์ า่ งๆ ท่ผี กู้ ากบั ลกู เสอื สมมติขนึ้ เป็นเร่อื งจรงิ หลกั ความปลอดภยั มนการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเดินทางไกล การเดินทางไกลเป็นกิจกรรมทีส่ าคญั ของลกู เสอื บางครง้ั อาจมกี ารเดนิ ทางไปเพอื่ พกั แรมคา้ งคืนเป็นระยะสนั้ หรอื ตอ้ งการหลายคืน ลกู เสอื สามญั รุน่ ใหญม่ ีกจิ กรรม ระหวา่ งพกั แรมหลายอยา่ งและหลายวนั ดงั นน้ั การเดินทางจาเป็นจะต้องมีการเตรยี ม วสั ดุ ส่งิ ของ อปุ กรณ์ เคร่ืองมือเคร่อื งใชท้ ่จี าเป็น รวมทงั้ อาหารแหง้ สาหรบั การใช้ ชีวิตอยคู่ ่ายพกั แรมตามที่กองลกู เสอื โรงเรียนไดก้ าหนด ซึง่ ส่งิ เหล่านตี้ อ้ งมหี ลกั การ เตรยี มใหพ้ รอ้ มและเหมาะสมกบั วธิ ีการทเ่ี ดินทางไกล ไดแ้ ก่ การเดินทางไกลโดยทาง เทา้
ทางเรือ ทางรถยนต์ ทางรถจกั รยาน เป็นตน้ สงิ่ สาคญั สาหรบั การเดินทางไกล เน่อื งจากการเดินทางไกล เป็นการปฏบิ ตั ิจริง ดงั นน้ั ลกู เสอื จะตอ้ งมีความรูแ้ ละ ความสามารถที่จะปฏบิ ตั ิไดจ้ ริงดว้ ย สิ่งสาคญั ที่ลกู เสอื จะตอ้ งรูจ้ กั สาหรบั การเดนิ ไกล เพื่อจะไดเ้ ดินทางสจู่ ดุ หมาย ปลายทางไดอ้ ยา่ งปลอดภยั มีดงั ต่อไปนี้ 1.การบรรจุส่ิงของลงเครื่องหลัง เพ่ือใหเ้ ครอ่ื งหลงั ทบี่ รรจสุ ิ่งของนน้ั มขี นาดกะทดั รดั มีส่วนทีอ่ อ่ นๆน่ิมๆไวส้ าหรบั สมั ผสั อวยั วะของรา่ งกายในขณะท่ีสะพายไวข้ า้ งหลงั และสามารถหยบิ สงิ่ ของมา ใชไ้ ดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็ว ควรปฏิบตั ิดงั นี้ 1)ส่ิงของทบ่ี รรจลุ งในเครอื่ งหลงั สาหรบั การเดินทางไกลดว้ ยเทา้ นน้ั ควรมีนา้ หนกั ไม่เกนิ 13 กิโลกรมั 2)สงิ่ ของท่ีเป็นชนิ้ เลก็ ชิน้ นอ้ ย เช่น ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ หวี เป็นตน้ ควรรวบรวม ใสใ่ นถงุ หรือกลอ่ งใหเ้ รยี บรอ้ ย 3)สิ่งของที่แหลมคม เช่น มีดทเ่ี ปิดกระป๋ อง เป็นตน้ ก่อนบรรจใุ นเครอ่ื งหลงั ควรพนั ดว้ ยกระดาษหนาหลายๆรอบเสียก่อน จงึ คอ่ ยบรรจลุ งไป 4)เสอื้ ผา้ เเละสิ่งอนื่ ๆทเี่ ป็นผนื ควรพบั ใหม้ ีขนาดเล็กเพื่อประหยดั เนอื้ ที่ 5)บรรจขุ องทีใ่ ชท้ ีหลงั ลงไปกอ่ นเเละของจาเป็นใสไ่ วส้ ดุ ทา้ ยเช่น ผา้ ห่ม ผา้ นวม ใส่ ลงไปก่อน เเต่ ของทใี่ ช้ เช่น ไฟฉาย ไฟเเช็ก เข็มทิศใสท่ ี่หลงั
2.การเลอื กเส้นทาง 1)ผปู้ ฏบิ ตั ควรรูว้ ชิ าเเผนที่วิธีการดเู เผนทที่ ถี่ กู ตอ้ งเเละสญั ลกั ษณต์ ่างๆในแผนท่ี 2)ไมค่ วรเลือกเสน้ ทางที่เป็นภเู ขาหรือทรี่ าบสงู 3)ไม่ควรเลือกเสน้ ทางท่ผี ่านเเม่นาู้ คลองบงึ มากๆ 4)ควรหลีกเหล่ยี งเสน้ ทางใกลถ้ นนใหญจ่ ราจรตดิ ขดั 3.การเลือกค่ายพกั เเรม 1)ตอ้ งเป็นท่รี าบเเละมีพนื้ ท่ีบริเวณกวา้ ง อย่ใู กลเ้ เหลง่ นา้ 2)อากาศถา่ ยเทสะดวก 3)ควรอย่ใู กลห้ ม่บู า้ นใกลเ้ คียง เพอ่ื เกิดเหตฉุ กุ เฉิน 4)สามารถประกอบกจิ กรรมไดอ้ ย่างดี
4.การทาอุปกรณส์ าหรับค่ายพักเเรม 1)ตอ้ งรูว้ ธิ ีกางเตน้ ทใ์ นเเบบตา่ งๆ 2)ตอ้ งรูจ้ั กั การทาอปุ กรณค์ า่ ยพกั เเรม เชน่ เตาไฟ รวดตาฟผา้ 3)ตอ้ งรูจ้ กั วธิ ีตกเเต่งคา่ ยพกั เเรม การรักษาอนามัยส่วนบุคคล ในการเดนิ ทางไกลลกู เสอื นน้ั ควรมีอนามยั ทดี ีควรดเู เลตวั เองเสมอ เพราะรา่ งกาย จะหมกั หมม เหงื่อไคล เสอื้ ผา้ ถงุ เทา้ ทาใหเ้ กดิ กลนิ่ อบั ชนื้ 1)หากพ่ึงเดินทางมาไม่ควรอาบนา้ ทนั ทเี พราะรา่ งกายจะปรบั ตวั ไม่ทนั ควรพกั เหนื่อยก่อน ใหร้ า่ งกายไดป้ รบั สมดลุ เสียก่อน 2)ควรรบั ประทานอาหารอย่างปลอดภยั ปรุงอาหารใหถ้ กู ตอ้ ง 3)เสอื้ ผา้ ท่ีเปียก หรอื ชืน้ ควรนาไปตาก
4)ทกุ ครงั้ ที่ไมไ่ ดท้ ากจิ กรรมควรถอดภงุ เทา้ เพ่ือไม่ใหเ้ กดิ กล่นิ อบั ชนื้ 5)ชดุ ชน้ั ในไม่ควรใสเ่ เบบเปียกชนื้ 6)ภายในเตนทค์ วรเปิดอากาศใหถ้ ่ายเท 7)สาหรบั ผมู้ ีโรคประจาตวั ควรพกยาประจาตวั ไปดว้ ย 8)ควรดเู เลตวั เองเสมอ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197