กระด้างกระเด่ืองในหมู่ประชาชนถึงขนาดท่ีจะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรอีกสถานหน่ึงด้วย (ป.อ. 11๖ และ ๒1๕) 1๔) คา� พิพากษาฎีกาท่ี ๕๕๗๓/๒๕๕๔ การท่ีชาวบ้านร่วมชุมนุมและเดินขบวนกันเพราะ ไม่พอใจท่ีทางราชการมีมติให้จัดต้ังก่ิงอ�าเภอนาทมในที่อ่ืน ท่ีไม่ใช่ต�าบลนาทมโดยมีชาวบ้านร่วมกันกว่า ๒๐๐ คน ไมป่ รากฏวา่ มกี ารรว่ มกนั วางแผนหรอื คบคดิ กระทา� การในสงิ่ ผดิ กฎหมาย ไมม่ ผี ใู้ ดมอี าวธุ จงึ ตอ้ งถอื วา่ เป็นการชุมนุมท่ีเรมิ่ ตน้ ดว้ ยความสงบปราศจากอาวธุ อนั เปน็ เสรีภาพในการแสดงความคดิ เห็นของประชาชน โดยชอบทร่ี ฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยทกุ ฉบับใหก้ ารรับรองตลอดมา การกระท�าความผดิ มาเกดิ ขนึ้ ใน ภายหลงั ต้องถอื วา่ เป็นเจตนาของผกู้ ระทา� ความผดิ ของแตล่ ะคนแต่ละกลมุ่ จะถือเอาเป็นเจตนาร่วมของผเู้ ข้า ชมุ นมุ ทกุ คนไมไ่ ด ้ ลา� พงั แตจ่ �าเลยเปน็ ผรู้ ว่ มอยู่ในกลุ่มชาวบา้ น ๒ กลมุ่ ทม่ี คี นรา้ ยบางคนกระทา� ความผดิ กอ่ ให้ เกิดความว่นุ วายข้นึ ในบ้านเมือง หรอื พฤติการณอ์ นั ใดที่แสดงการขดั ขวางมิให ้ ศ. กับพวกน�ารถดบั เพลิงเขา้ ไป ในบริเวณที่เกิดเหตุเผาสะพาน ยังไม่อาจถือได้ว่าจา� เลยเป็นตัวการร่วมกระท�าความผิดกับคนร้าย ตาม ป.อ. มาตรา ๘๓ กรณีต้องถือวา่ จ�าเลยที่ ๓ ท่ ี ๕ ท ่ี ๗ และท ่ี ๙ มีเสรภี าพในการชมุ นมุ ดงั กล่าวตามสทิ ธขิ ั้นพนื้ ฐาน ทร่ี ัฐธรรมนูญรบั รองไว้ 1๕) คา� พิพากษาฎีกาท่ี ๕๘๘๙/๒๕๕๔ จา� เลยที่ 1 ร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงตั้งแต่ สบิ คนขน้ึ ไปและเปน็ ผจู้ ดุ ไฟเผาทรพั ยส์ นิ ของผอู้ นื่ อนั เปน็ การเขา้ รว่ มมว่ั สมุ กนั ตงั้ แตส่ บิ คนขนึ้ ไปและกระท�าการ อย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายข้ึนในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ การกระทา� ของจา� เลยท่ี 1 จึงเป็นความผิด ตาม ป.อ. มาตรา ๒1๕ วรรคสอง ๒1๗ และ ๓๕๘ ตอ่ มาเจา้ พนกั งานต�ารวจไดป้ ระกาศผา่ นเครอ่ื งกระจายเสยี งวา่ ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงกระทา� ผิดกฎหมาย ซ่ึงเป็นการส่ังให้เลิกมั่วสุมในการก่อเหตุวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ภายหลังจากที่ จ�าเลยท่ี 1 ได้มั่วสุมและกระท�าการก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองแล้ว จ�าเลยที่ 1 จึงไม่มี ความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๒1๖ ที่มงุ่ ประสงค์ลงโทษผู้ที่ขัดขืนค�าส่ังของเจ้าพนักงานอันเป็นการกระท�าที่ยัง ไม่ถึงขั้นความผิดส�าเรจ็ ตาม ป.อ. มาตรา ๒1๕ การวางเพลิงเผาทรัพย์และท�าให้เสียทรัพย์ เป็นส่วนหนึ่งของการกระท�าความผิด ฐานร่วมกันมั่วสุมต้ังแต่สิบคนข้ึนไปกระทา� การอย่างหน่ึงอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองจึงเป็น กรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท 1๖) คา� พิพากษาศาลฎีกาท่ี ๔๙๔๖/๒๕๕๕ ข้อเท็จจริงในคดีรับฟังได้เป็นท่ียตุ ิว่า ระหว่าง วนั ท ่ี 1๕ มีนาคม ถึงวนั ท่ี ๖ มิถุนายน ๒๕๔๗ เวลากลางวนั และกลางคนื ติดต่อกนั จ�าเลยท่ ี 1 ที ่ ๒ และท่ี ๔ กับพวกได้ติดต้ังกางเต็นท์พักอาศัย วางโต๊ะ เก้าอ้ี เสื่อ และเครื่องครัวท่ีบริเวณไหล่ทางข้างถนนเพชรเกษม ขาล่องด้านทิศตะวันออก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ ๒1๘ ถึง ๒1๙ เป็นระยะทางยาวประมาณ ๓๐ เมตร อันเป็นเขตทางหลวงในลักษณะกีดขวางหรืออาจเป็นอันตรายแก่ยานพาหนะตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓๘ วรรคหนง่ึ มปี ญั หาทตี่ อ้ งวนิ จิ ฉยั ตามฎกี าของจ�าเลยท ่ี 1 ท ี่ ๒ และท ี่ ๔ ประการแรกวา่ เหตทุ จ่ี �าเลย ที ่ 1 ท่ี ๒ และท่ี ๔ กบั พวกกระทา� การดังกล่าวเนอ่ื งจากจ�าเลยท ี่ 1 ที่ ๒ และท่ี ๔ ตอ้ งการคัดค้านการที่รัฐบาล จะด�าเนนิ การแปรรปู การไฟฟา้ ฝา่ ยผลติ แหง่ ประเทศไทยใหเ้ ปน็ บรษิ ทั มหาชน จ�าเลยท ี่ 1 ท ี่ ๒ และท ่ี ๔ กบั พวก จึงต้องการเดินเท้าจากกรงุ เทพมหานครเพ่ือทลู เกล้าฯ ถวายฎีการอ้ งทกุ ขต์ อ่ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว ณ พระราชวังไกลกงั วล อ�าเภอหวั หนิ แต่เนอื่ งจากเจ้าพนักงานต�ารวจตรงึ กา� ลังสกัดท่คี ่ายนเรศวรมใิ หจ้ า� เลยท ่ี 1 1๓๖ คู่มือการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัตกิ ารชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 136 11/17/2563 BE 12:40 PM
ที่ ๒ และที่ ๔ กับพวกเดินทางต่อไป จา� เลยท่ี 1 ที่ ๒ และท่ี ๔ กับพวกจึงต้องกางเต็นท์และวางสิ่งของ ตา่ ง ๆ บนไหลท่ างเพื่อรอเดินทางต่อไป การกระท�าของจา� เลยที ่ 1 ที ่ ๒ และท ่ี ๔ จึงไม่เปน็ ความผิดเพราะ เป็นการใช้สทิ ธติ ามกฎหมายรัฐธรรมนูญหรอื ไม่นน้ั เหน็ วา่ แมร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๐ มาตรา ๔๔ วรรคหนง่ึ ซึ่งใชบ้ ังคบั ขณะเกดิ เหตุจะบัญญตั ิใหบ้ คุ คลมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวธุ กต็ าม แต่กม็ ิได้ หมายความวา่ ประชาชนจะสามารถใชเ้ สรภี าพของตนโดยปราศจากขอบเขตหรอื ไปละเมดิ ตอ่ สทิ ธขิ องประชาชน ผอู้ น่ื ดว้ ย และโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ตอ้ งไมใ่ ชเ้ สรภี าพดงั กลา่ วถงึ ขนั้ เปน็ การละเมดิ หรอื กระทา� ความผดิ ตอ่ กฎหมาย บา้ นเมอื ง เพราะกฎหมายทต่ี ราออกมาใชบ้ งั คบั ตอ่ ประชาชนทกุ คนยอ่ มมวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลกั เพอื่ จดั ระเบยี บและ รกั ษาความสงบเรยี บร้อยของบา้ นเมืองและประชาชนเปน็ ส�าคญั ดังนนั้ การอา้ งวา่ มีเสรภี าพตามรัฐธรรมนญู แตม่ ีการกระทา� อันเปน็ การละเมดิ ต่อกฎหมาย จะถอื ว่าเป็นการชมุ นุมโดยสงบ หาได้ไม ่ การทีจ่ �าเลยที ่ 1 ท ี่ ๒ และท ี่ ๔ กบั พวกใชไ้ หลท่ างของถนนเพชรเกษมอนั เปน็ สว่ นหนงึ่ ของทางหลวงเปน็ ทตี่ ง้ั เตน็ ทร์ วมทงั้ วางสงิ่ ของ ตา่ ง ๆ จงึ เปน็ การกดี ขวางและอาจเปน็ อนั ตรายแกบ่ คุ คลหรอื ยานพาหนะทสี่ ญั จรไปมาในทางหลวงแลว้ จา� เลย ท ่ี 1 ท ี่ ๒ และท ่ี ๔ กบั พวกจะอา้ งวา่ ไมม่ เี จตนาเนอื่ งจากถกู เจา้ พนกั งานต�ารวจขดั ขวางมใิ หเ้ ดนิ ทางตอ่ ไปหาไดไ้ ม่ เพราะจา� เลยที่ 1 ท่ี ๒ และที่ ๔ ยอ่ มเลง็ เหน็ ผลจากการกระท�าของจ�าเลยว่า การต้ังส่ิงของเหลา่ น้ันกดี ขวาง และอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและยานพาหนะที่สัญจรไปมาบนทางหลวงได้ เม่ือจ�าเลยท่ี 1 ท่ี ๒ และท่ี ๔ กับพวกกระท�าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้อา� นวยการทางหลวง การกระทา� ของจ�าเลยท่ี 1 ท่ี ๒ และที่ ๔ จงึ เปน็ ความผดิ ตามฟอ้ ง ส่วนปัญหาท่ีจา� เลยที่ 1 ท่ี ๒ และท่ี ๔ ฎีกาว่า ไหล่ทางของถนนเพชรเกษมเป็นเขต ทางหลวง ท่ีเป็นสาธารณสมบัตขิ องแผ่นดนิ จึงเป็นทรัพยท์ จี่ �าเลยที ่ 1 ที่ ๒ และที่ ๔ มีสทิ ธทิ ี่จะใช้ประโยชน์ ในไหลท่ างดงั กลา่ วไดน้ น้ั เหน็ วา่ แมไ้ หลท่ างถนนเพชรเกษมจะเปน็ ทสี่ าธารณสมบตั ขิ องแผน่ ดนิ ทป่ี ระชาชนใช้ ประโยชนร์ ว่ มกนั ไดก้ ต็ าม แตก่ ารใชป้ ระโยชนข์ องประชาชนยอ่ มตอ้ งกระทา� ไปตามปกตวิ สิ ยั เชน่ ใชส้ ญั จรไปมา อย่างบคุ คลทว่ั ไปก็สามารถกระทา� ได ้ แตก่ ารทีจ่ �าเลยท ี่ 1 ท่ ี ๒ และที่ ๔ กบั พวกกางเต็นท์และวางสิ่งของไว้ บรเิ วณไหล่ทางของถนนตง้ั แตว่ นั ท ่ี 1๕ มนี าคม ถึงวนั ท่ ี ๖ มิถนุ ายน ๒๕๔๗ เปน็ เวลาเกอื บสามเดือน จงึ ไม่ใช่ เปน็ การใชป้ ระโยชนจ์ ากทส่ี าธารณสมบตั ขิ องแผน่ ดนิ โดยชอบดงั ทจ่ี �าเลยท ี่ 1 ท ่ี ๒ และท ี่ ๔ อา้ งมา ทศี่ าลอทุ ธรณ์ ภาค ๗ วนิ จิ ฉยั วา่ การกระท�าของจ�าเลยท ่ี 1 ท ี่ ๒ และท ่ี ๔ เปน็ ความผดิ ตามฟอ้ งโจทกน์ น้ั ศาลฎกี าเหน็ พอ้ งดว้ ย ฎกี าของจา� เลยท่ี 1 ที่ ๒ และท ่ี ๔ ฟังไมข่ ้ึน ๖.๓.๕ คา� วินจิ ฉยั คา� พพิ ากษา ภายหลัง พ.ร.บ.การชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ บังคบั ใช้ 1) ศาลปกครองกลาง คดหี มายเลขดา� ที่ 1๕๔/๒๕๖1 คดีพิพาทเก่ียวกับการท่ีหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าท่ีของรัฐออกกระท�าการ โดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย และการกระท�าละเมิดของเจา้ หน้าทข่ี องรฐั อันเกิดจากการใชอ้ �านาจตามกฎหมาย คดนี ี้ผ้ฟู อ้ งคด ี เป็นผู้จัดการชุมนมุ และผู้ฟ้องคดที ่ี ๒-๔ เปน็ รว่ มผชู้ มุ นุมในนามเครือขา่ ย ประชาชน People Go Network ไดร้ ่วมจัดกิจกรรม We Walk เดนิ มติ รภาพ ระยะทาง ๔๕๐ กิโลเมตร จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพ่ือมุ่งสู่จังหวัดขอนแก่น เพื่อยืนยันสิทธิของประชาชน และได้แจ้ง การชุมนุมสาธารณะตอ่ ผู้รับแจง้ (ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส)์ โดยผูแ้ จ้งสรปุ สาระส�าคญั ในการจดั การชุมนมุ ดังน้ี 1) ต้องขออนุญาตใช้เคร่ืองขยายเสียงตามกฎหมาย ๒) การเดินขบวนอาจส่งผลกระทบต่อการจราจร คูม่ อื การปฏิบตั ิงานตามพระราชบัญญตั กิ ารชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นมุ สาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๓๗ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 137 11/17/2563 BE 12:40 PM
กดี ขวางทางเข้า - ออก รบกวนประชาชนหรือเจา้ หน้าท่ีในการปฏิบัตงิ านต่างๆ จงึ แนะนา� ให้ผูช้ มุ นุมเดนิ ทาง โดยใชย้ านพาหนะ และ ๓) การชมุ นมุ อาจมลี กั ษณะเปน็ การชมุ นมุ หรอื มว่ั สมุ ทางการเมอื งซง่ึ ขดั ตอ่ คา� สง่ั หน.คสช. ท่ ี ๓/๒๕๕๘ ลง 1 เม.ย. ๕๘ โดยใหผ้ จู้ ดั การชมุ นุมไปขออนุญาต หน.คสช. ตามกฎหมาย วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖1 เวลา ๐๙.๓๐ น. ผู้ชุมนุมประมาณ 1๐๐ คน ได้เดินทาง ออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต กลับพบเจ้าหน้าท่ีต�ารวจประมาณ ๒๐๐ คน ยืนเรียงแถว หนา้ กระดาน ปดิ กนั้ ไมใ่ หผ้ ชู้ มุ นมุ เดนิ ทางออกฯ สว่ นผชู้ มุ นมุ ทเ่ี ดนิ ทางออกโดยใชป้ ระตอู น่ื จะถกู เจา้ หนา้ ทต่ี า� รวจ ติดตาม ถ่ายภาพ ตรวจบัตรประชาชน ตรวจค้นรถ ควบคุมตัวผู้ชุมนุมบางรายโดยอ้างว่าไม่ใช่กระบวนการ ยุติธรรมทางอาญา และปฏิเสธไม่ให้ทนายความร่วมรับฟัง และเจรจากดดันมิให้เจ้าของสถานท่ีอนุญาตให้ ผูช้ มุ นุมเขา้ พักในชว่ งเวลากลางคืน ศาลวนิ จิ ฉัยแลว้ การกระท�าของเจา้ หนา้ ทด่ี งั กล่าว นา่ จะมปี ัญหาเก่ียวกบั ความชอบดว้ ย กฎหมาย จึงสมควรท่ีจะมีค�าสง่ั กา� หนดวิธกี ารชวั่ คราวก่อนการพิพากษา ดังนี้ (1) ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 สั่งการให้เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะและ เจ้าหน้าท่ีตา� รวจยุติการดา� เนินการใด ๆ ท่ีมีลักษณะเป็นการปิดก้ัน ขัดขวาง การใช้เสรีภาพการชุมนุม และ ให้อ�านวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยตอ่ ผ้ฟู อ้ งคดีและผู้ชุมนุมตามแผนกจิ กรรมเดินมิตรภาพ (๒) แม้หนังสือ สภ.คลองหลวง กรณีสรุปสาระส�าคัญของการชุมนุม มิใช่คา� สั่ง แกไ้ ขการชมุ นมุ และมใิ ชค่ า� สง่ั หา้ มการชมุ นมุ แตเ่ ปน็ คา� สงั่ ใหผ้ จู้ ดั การชมุ นมุ ผชู้ มุ นมุ หรอื ผอู้ ยู่ในสถานทช่ี มุ นมุ ต้องปฏิบัติตามเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลการชุมนุมตามมาตรา 1๙ วรรคส่ี (๕) แห่ง พ.ร.บ.การชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ อนั มลี กั ษณะเปน็ คา� สง่ั ทางปกครองตามมาตรา ๕ แหง่ พ.ร.บ.วธิ ปี ฏบิ ตั ิ ราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ และด�าเนินการใชอ้ �านาจหน้าท่ีตามมาตรา 1๙ วรรคส่ ี แหง่ พ.ร.บ.การชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองความสะดวกของประชาชนและการดูแลการชุมนุมสาธารณะและ การรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จนกว่าจะสิ้นสุดการชุมนุม แต่หากข้อเท็จจริง ปรากฏว่า ผู้ร่วมชุมนุมกระทา� การใดอันเป็นการชุมนุมสาธารณะท่ีไม่ชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานดูแล การชุมนุมสาธารณะหรือเจ้าพนักงานต�ารวจในบังคับบัญชา ก็ชอบที่จะพิจารณากา� หนดเงื่อนไข หรือมีค�าส่ัง หรอื ประกาศใหผ้ ชู้ มุ นมุ เลกิ การชมุ นมุ หรอื แกไ้ ข หรอื รอ้ งขอตอ่ ศาล ใหม้ คี า� สงั่ ใหเ้ ลกิ การชมุ นมุ หรอื ด�าเนนิ การ อน่ื ใดตามอ�านาจหนา้ ท่ี เพอ่ื บังคบั การให้เปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ด้วยการชุมนุมสาธารณะหรือกฎหมายอ่ืนได้ ซึ่งต่อมาศาลปกครองกลาง ได้มีคา� วินิจฉัย พิพากษาตัดสินคดีตามคดีหมายเลขด�า ที ่ 1๕๔/๒๕๖1 คดีหมายเลขเลขแดงท่ี ๒๐๕๘/๒๕๖1 ลงวนั ท่ี ๒๘ กนั ยายน ๒๕๖1 สรปุ ใจความส�าคัญ ดังนี้ พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ บัญญัติให้การชุมนุมสาธารณะเป็น เสรภี าพขน้ั พน้ื ฐานของบคุ คล ในการทจ่ี ะดา� เนนิ การชมุ นมุ สาธารณะได ้ โดยไมต่ อ้ งไดร้ บั อนญุ าตจดั การชมุ นมุ สาธารณะก่อน จงึ วนิ ิจฉยั พิพากษาคด ี ดงั นี้ (1) แม้หนังสือ สภ.คลองหลวง กรณีสรุปสาระส�าคัญของการชุมนุม มิใช่คา� สั่งแก้ไข การชุมนุม และมิใช่คา� ส่ังห้ามการชุมนุม แต่เป็นคา� สั่งให้ผู้จัดการชุมนุม ผู้ชุมนุมหรือผู้อยู่ในสถานท่ีชุมนุม ตอ้ งปฏบิ ัติตามเพอื่ ประโยชน์ในการปฏบิ ตั ิหน้าทใี่ นการดูแลการชุมนมุ ตามมาตรา 1๙ วรรคสี่ (๕) แห่ง พ.ร.บ. การชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ อนั มลี กั ษณะเปน็ คา� สงั่ ทางปกครองตามมาตรา ๕ แหง่ พ.ร.บ.วธิ ปี ฏบิ ตั ริ าชการ ทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ ประกอบกบั ขอ้ กลา่ วอา้ งท ี่ ตร. อา้ งวา่ ไมม่ สี ทิ ธฟิ อ้ งคดตี อ่ ศาลปกครองไมอ่ าจรบั ฟงั ได ้ เน่ืองจากมีลักษณะเป็นคดีพิพาทเก่ียวกับการท่ีหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทา� การ 1๓๘ คมู่ ือการปฏิบตั ิงานตามพระราชบญั ญัตกิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นมุ สาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 138 11/17/2563 BE 12:40 PM
โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระท�าละเมิดของเจ้าหน้าท่ีของรัฐอันเกิดจากการใช้อา� นาจตามกฎหมาย ตามมาตรา ๙ วรรคหนง่ึ (1) (๓) แหง่ พระราชบญั ญตั จิ ดั ตง้ั ศาลปกครองและวธิ พี จิ ารณาคดปี กครอง พ.ศ.๒๕๔๒ และในกรณดี ังกลา่ วไม่ปรากฏว่า เจ้าพนกั งานรกั ษาความสงบเรียบรอ้ ย ซ่ึงเป็นข้าราชการทหารซึ่งมียศต้ังแต่ ร้อยตรี เรือตรี หรือเรืออากาศตรี ข้ึนไป ซึ่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่งต้ังให้ปฏิบัติตามคา� ส่ัง หวั หนา้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ท ่ี ๓/๒๕๕๘ ลงวนั ท่ี 1 เมษายน ๒๕๕๘ และในประเดน็ พิพาทแห่งคดี กม็ ไิ ดเ้ ปน็ การโตแ้ ยง้ วา่ การกระทา� ของเจา้ พนกั งานรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยกระท�าละเมดิ ตอ่ ผฟู้ อ้ งคดแี ตอ่ ยา่ งใด (๒) ตามนัยมาตรา ๗๒ วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติจัดต้ังศาลปกครองและวิธี พิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๕๒ นั้น ศาลปกครองสูงสุดได้มีค�าสั่ง ที่ คร.๓๓/๒๕๖1 ยืนตามค�าส่ังของ ศาลปกครองชั้นต้น ที่มีค�าสั่งก�าหนดมาตรการเพ่ือบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้ ผบ.ตร. สงั่ การผอู้ ยใู่ นบงั คบั บญั ชา มใิ หก้ ระท�าการใด ๆ ทม่ี ลี กั ษณะเปน็ การปดิ กนั้ ขดั ขวาง ในการใชเ้ สรภี าพการชมุ นมุ ของผ้ฟู ้องคดแี ละผ้ชู ุมนมุ แต่หากขอ้ เทจ็ จริงปรากฏว่า ผู้ร่วมชุมนุมกระท�าการใดอันเป็นการชมุ นมุ สาธารณะ ท่ีไม่ชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะหรือเจ้าพนักงานต�ารวจในบังคับบัญชา ก็ชอบ ทจี่ ะพิจารณากา� หนดเง่ือนไข หรอื มคี �าสง่ั หรอื ประกาศให้ผูช้ มุ นุมเลกิ การชุมนุม หรือแกไ้ ข หรอื รอ้ งขอตอ่ ศาล ใหม้ คี �าสงั่ ใหเ้ ลกิ การชมุ นมุ หรอื ด�าเนนิ การอน่ื ใดตามอ�านาจหนา้ ท ี่ เพอื่ บงั คบั การใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ย การชุมนุมสาธารณะหรือกฎหมายอื่นได้ (๓) กรณีที่เจ้าหน้าท่ีตา� รวจปิดก้ันการใช้เสรีภาพในการชุมนุม มีการรบกวน ผู้ชุมนุมโดยการติดตามถ่ายรูป ถ่ายรูปบัตรประชาชน ถ่ายภาพเคลื่อนไหว ตรวจค้นรถเสบียงของผู้ชุมนุม ควบคมุ ตัวบคุ คลโดยปฏเิ สธมใิ ห้ทนายความเขา้ ร่วมกระบวนการ และเจรจากดดนั มใิ ห้เจ้าของสถานที่อนุญาต ให้ผู้ฟ้องคดีและผู้ชุมนุมเข้าพักในช่วงเวลากลางคืน อันเป็นการโต้แย้งถึงการกระทา� ของเจ้าพนักงานดูแล การชมุ นมุ สาธารณะ ตามมาตรา 1๙ วรรคหนงึ่ นนั้ ศาลปกครองสงู สดุ ไดม้ คี �าสง่ั ท ี่ คร.๓๓/๒๕๖1 ยนื ตามค�าสง่ั ของศาลปกครองช้ันต้นที่มีค�าสั่งก�าหนดมาตรการเพ่ือบรรเทาทุกข์ช่ัวคราวก่อนการพิพากษาฯ แล้ว จนถึง วันสิ้นสุดการชุมนุม และไม่ปรากฏว่าผู้ชุมนุมฝ่าฝืนหรือกระท�าความผิดต่อกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมฯ แต่อย่างใด หรือผถู้ กู ฟอ้ งคด ี (ตร.) ก็มิได้ดา� เนนิ การใดอนั มลี ักษณะเป็นการปิดกั้น ขดั ขวาง ในการใชเ้ สรภี าพ การชมุ นุมผูฟ้ ้องคดแี ละผชู้ ุมนุมฯ แต่อยา่ งใด ดังนน้ั จงึ เหน็ ว่า ผถู้ ูกฟอ้ งคดที ่ี ๒ - ๗ ในฐานะเจา้ พนักงานดแู ล การชุมนุมสาธารณะและเจ้าหน้าท่ีต�ารวจในสังกัดได้ดา� เนินการใช้อา� นาจหน้าท่ีในการควบคุมดูแลการชุมนุม เปน็ ไปโดยชอบดว้ ยกฎหมาย โดยมไิ ดก้ ระทา� การตรวจคน้ ปดิ กนั้ ขดั ขวางการชมุ นมุ อนั เปน็ การกระทา� ละเมดิ ตอ่ ผฟู้ ้องคดีฯ จะตอ้ งรับผดิ ชอบคา่ สินไหมทดแทนใหผ้ ฟู้ อ้ งคดีทงั้ สี่แต่อย่างใด ๒) ศาลปกครองกลาง คดหี มายเลขดา� ที่ 1๐๕๖/๒๕๖1 คดหี มายเลขแดงที่ ๙๒๕/๒๕๖1 (สถานตี า� รวจนครบาลชนะสงคราม) กรณีพิพาทเก่ียวกับหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าท่ีของรัฐกระท�าการ โดยไม่ชอบ ดว้ ยกฎหมาย และการกระท�าละเมดิ ของเจ้าหน้าทีข่ องรัฐอันเกิดจากการใชอ้ า� นาจตามกฎหมาย กลา่ วคอื ผฟู้ อ้ งคดฟี อ้ งวา่ ประสงคจ์ ะจดั การชมุ นมุ สาธารณะโดยเดนิ ขบวนจากมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ทา่ พระจันทร์ ถงึ บรเิ วณหน้าท�าเนียบรัฐบาล ในวันท่ี ๒1 และ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖1 เนื่องใน วาระครบรอบการรฐั ประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ๔ ป ี ในวนั ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖1 ซงึ่ ผฟู้ อ้ งคดไี ดม้ หี นงั สอื ลงวนั ท ี่ 1๖ พฤษภาคม ๒๕๖1 แจง้ การชมุ นมุ สาธารณะตอ่ หวั หนา้ สถานตี า� รวจนครบาล คมู่ ือการปฏิบัตงิ านตามพระราชบัญญตั กิ ารชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนุมสาธารณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) 1๓๙ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 139 11/17/2563 BE 12:40 PM
ชนะสงคราม โดยมรี ายละเอยี ดสถานทจ่ี ดั การชมุ นมุ บรเิ วณดา้ นหนา้ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร ์ และพกั คา้ งคนื การเดินขบวนในวนั ท ี่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖1 ช่วงเวลา ๐๗.๐๐ น. จากสถานทช่ี มุ นุมไปยงั ท�าเนียบรฐั บาล โดยขอใชช้ อ่ งทางการจราจร 1 ชอ่ งทางการจราจร โดยใชเ้ สน้ ทางถนนราชด�าเนนิ กลางและถนนราชดา� เนนิ นอก ขา้ มสะพานมฆั วานรังสรรค์ ไปยังประตทู �าเนียบรัฐบาล โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ (สถานีต�ารวจนครบาลชนะสงคราม บก.น.1 บช.น.) มีหนังสือที ่ ตช ๐๐๐1๕ (บก.น.1)1๐/1๕๓๖ ลงวันที่ 1๗ พฤษภาคม ๒๕๖1 ข้อ ๓ ขอให้ผู้ฟ้องคดีและผู้ร่วมชุมนุม ทา� การชมุ นมุ ในพน้ื ทที่ กี่ า� หนดไว้ คอื บรเิ วณหนา้ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตรฯ์ และจะประสานงานใหห้ นว่ ยงาน ท่ีเกีย่ วข้องมารับเรอื่ งราวรอ้ งทุกข์ดังกล่าว ณ บริเวณสถานทีช่ ุมนมุ ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือลงวันที่ 1๙ พฤษภาคม ๒๕๖1 ยืนยันกา� หนดการจัดกิจกรรม การชมุ นมุ ดงั กลา่ ว และผถู้ กู ฟอ้ งคดที ี่ ๒ ไดม้ หี นงั สอื ท ่ี ตช ๐๐๐1๕(บก.น.1)1๐/๒๖1๒ ลงวนั ท ่ี ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖1 แจง้ ใหผ้ จู้ ดั การชมุ นมุ ผชู้ มุ นมุ หรอื ผอู้ ยภู่ ายในสถานทช่ี มุ นมุ ตอ้ งปฏบิ ตั ดิ งั น ้ี (1) หา้ มมใิ หจ้ ดั การชมุ นมุ ทางการเมอื ง อันจะเป็นการขัดค�าสง่ั หัวหน้าคณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาติ ท่ี ๓/๒๕๕๘ ลงวันท่ี 1 เมษายน ๒๕๕๘ ขอ้ 1๒ (๒) หา้ มมใิ หเ้ คลอ่ื นยา้ ยผชู้ มุ นมุ ในลกั ษณะทข่ี ดั ตอ่ มาตรา ๗ และมาตรา ๘ แหง่ พระราชบญั ญตั ิ การชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ (๓) การโฆษณาโดยใชเ้ คร่ืองขยายเสยี งด้วยกา� ลังไฟฟา้ จะตอ้ งไดร้ บั อนญุ าต จากเจา้ หน้าท่ีตามกฎหมายกอ่ น ผฟู้ อ้ งคดเี หน็ วา่ การกระท�าของผถู้ กู ฟอ้ งคดแี ละเจา้ หนา้ ทเี่ กยี่ วขอ้ งเปน็ การละเมดิ เสรภี าพ ในการชุมนุมอย่างร้ายแรง จนกระทบกระเทือนสาระสา� คญั แหง่ สทิ ธ ิ เสรภี าพ ซึ่งเปน็ การกระทา� ทางปกครอง ตลอดจนคา� สงั่ หวั หนา้ คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาตดิ งั กลา่ ว ขดั หรอื แยง้ กบั รฐั ธรรมนญู ในฉบบั ปจั จบุ นั จงึ ไมอ่ าจ ใหค้ ุณค่าเทียบเทา่ หรือบังคบั ใช้อย่างขดั ต่อสิทธิเสรีภาพตามรฐั ธรรมนญู ได ้ และผ้ฟู ้องคดไี มจ่ า� ตอ้ งปฏบิ ตั ติ าม ขนั้ ตอนในการอทุ ธรณ์ตามมาตรา 11 แหง่ พระราชบัญญัติการชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ ผู้ฟอ้ งคดีพบวา่ มเี จา้ หนา้ ทตี่ �ารวจ ทหาร ตดิ ตามสมาชกิ กลมุ่ ผชู้ มุ นมุ อยา่ งนอ้ ย 1๖ ราย ไปยงั บา้ นพกั ทที่ �างาน ถา่ ยภาพ สอบถาม ข้อมูลส่วนตัว มีการเข้าค้นบ้านโดยปราศจากเหตุอันควร และยึดเคร่ืองเสียงของกลุ่มผู้ชุมนุม จึงขอให้ศาล มีคา� ส่ังดังน้ี (1) ให้สถานีตา� รวจนครบาลชนะสงคราม ยกเลิกเง่ือนไขตามหนังสือ สรุปการชุมนุมสาธารณะ และให้สามารถเดินเท้าจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ฯ ไปยังท�าเนียบรัฐบาลได้จนกว่าจะส้ินสุดการชุมนุมฯ (๒) ใหห้ นว่ ยงานของรฐั และเจา้ หนา้ ทตี่ �ารวจอยใู่ นสงั กดั ชดใชค้ า่ เสยี หายจากการกระท�าละเมดิ เสรภี าพการชมุ นมุ ตามฟอ้ งจา� นวน ๕๐,๐๐๐ บาท พรอ้ มกบั ค�าฟอ้ งขอใหศ้ าลมคี า� สง่ั เกยี่ วกบั วธิ กี ารชว่ั คราวกอ่ นการพพิ ากษา และ ขอไตส่ วนฉุกเฉิน โดยขอใหท้ เุ ลาการบงั คบั ตามคา� สงั่ ของผู้ถูกฟ้องคดีท่ ี ๒ (สถานีต�ารวจนครบาลชนะสงคราม) ศาลได้ตรวจพจิ ารณาเอกสาร พเิ คราะห์แลว้ เหน็ ว่า ตามมาตรา ๙ พระราชบัญญตั จิ ัดตัง้ ศาลปกครองและวิธพี จิ ารณาคดปี กครอง พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๙ ศาลปกครองมอี �านาจพิจารณาพพิ ากษาหรือ มีค�าส่ังในเร่ืองดังต่อไปน้ี (1) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระท�าการ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายฯ (๓) คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระท�าละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงาน ทางปกครองหรอื เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั อนั เกดิ จากการใชอ้ �านาจตามกฎหมาย หรอื จากกฎฯ ซงึ่ ตามมาตรา ๔๒ วรรคหนง่ึ ผใู้ ดไดร้ ับความเดอื ดร้อน หรือเสียหาย หรืออาจเดือดร้อน หรอื เสยี หาย โดยมอิ าจหลีกเลยี่ งไดฯ้ ตามมาตรา ๙ และการแกไ้ ข หรอื บรรเทาความเดอื ดรอ้ น หรอื ความเสยี หาย หรอื ยตุ ขิ อ้ โตแ้ ยง้ นนั้ ตอ้ งมคี �าบงั คบั ตามทกี่ า� หนด ในมาตรา ๗๒ ผนู้ ้ันมีสทิ ธฟิ อ้ งคดีต่อศาลปกครอง ซึ่งในวรรคสองของมาตราดังกล่าวกา� หนดไว้วา่ “ในกรณที ม่ี ี 1๔๐ คมู่ ือการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญตั กิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 140 11/17/2563 BE 12:40 PM
กฎหมายกา� หนดขน้ั ตอนหรอื วธิ กี ารส�าหรบั การแกไ้ ขความเดอื ดรอ้ น หรอื ความเสยี หายในเรอ่ื งนนั้ จะกระท�าได้ ตอ่ เมอ่ื มกี ารดา� เนนิ การตามขน้ั ตอนและวธิ กี ารดงั กลา่ ว และไดม้ กี ารสงั่ การตามกฎหมายนน้ั หรอื มไิ ดม้ กี ารสง่ั การ ภายในเวลาอันสมควร หรือภายในเวลาทกี่ ฎหมายนั้นกา� หนด” ซ่ึงในพระราชบัญญตั ิการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ มาตรา 11 วรรคหนึ่ง บัญญตั วิ า่ เมอื่ ไดร้ บั แจง้ แลว้ ใหผ้ รู้ บั แจง้ สง่ สรปุ สาระส�าคญั ฯ ภายในยส่ี บิ สชี่ ว่ั โมง และในวรรคสอง บญั ญตั วิ า่ กรณที ผ่ี รู้ บั แจง้ เห็นว่าการชุมนุมสาธารณะท่ีได้รับแจ้งนั้นอาจขัดต่อมาตรา ๗ หรือมาตรา ๘ ให้ผู้รับแจ้งมีค�าส่ังให้ผู้แจ้ง การชมุ นุมสาธารณะแกไ้ ขภายในเวลาที่กา� หนด และวรรคสาม บัญญัตวิ า่ หากผู้แจง้ การชมุ นมุ ไม่ปฏบิ ัตติ ามฯ ให้ผู้รับแจ้งมีค�าสั่งห้ามชุมนุมฯ และในวรรคส่ี บัญญัติว่า “กรณีผู้แจ้งการชุมนุมไม่เห็นชอบด้วยกับคา� ส่ัง ตามวรรคสาม ให้ยน่ื อุทธรณ์เป็นหนงั สือตอ่ ผบู้ ังคบั บัญชาชนั้ เหนอื ผูร้ บั แจ้งข้ึนไปหน่งึ ช้ันฯ” ในคดีนี้ ปรากฏว่า ผู้ฟ้องคดีมิได้ย่ืนอุทธรณ์คา� ส่ังหนังสือของสถานีต�ารวจนครบาล ชนะสงคราม แต่อย่างใด (เทียบเคียงการด�าเนินการและวินิจฉัยอุทธรณ์ตามมาตรา 11 พ.ร.บ.การชุมนุม สาธารณะฯ) จงึ ไมม่ สี ทิ ธฟิ อ้ งคดตี อ่ ศาลปกครองและขอใหช้ ดใชค้ า่ เสยี หายได ้ ทง้ั น ี้ ตามนยั มาตรา ๔๒ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดต้ังศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒ จึงไม่รับค�าฟ้องของฟ้องคดี ท้ังสองไว้พิจารณาและให้จา� หน่ายคดีออกจากสารบบความ เมื่อศาลมีค�าส่ังไม่รับคา� ฟ้องไว้พิจารณาแล้ว จึงไม่จ�าต้องมีค�าส่ังเกี่ยวกับคา� ขอให้ศาลกา� หนดวิธีการช่ัวคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง แต่อย่างใด ๓) ค�าวินจิ ฉยั ศาลแพง่ คดีหมายเลขด�าท ี่ ชส1/๒๕๖1 (กรณี สน.นางเลงิ้ ขอใหศ้ าลมีคา� สั่ง ใหเ้ ลกิ การชมุ นมุ ) สว.(สอบสวน) สถานีต�ารวจนครบาลนางเลงิ้ ได้ยื่นคา� ร้องต่อศาลแพ่ง (1๓ กุมภาพันธ ์ ๒๕๖1) กลา่ วคือ เมื่อวนั ท่ี 1๐ กมุ ภาพนั ธ ์ ๒๕๖1 เวลาประมาณ 1๐.๐๐ น. ผู้จดั การชมุ นุมไดย้ น่ื หนงั สือ แจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อหัวหน้าสถานีต�ารวจนครบาลนางเลิ้ง โดยมีวัตถุประสงค์คัดค้านการให้สัมปทาน ปโิ ตรเลียม ติดตามทวงถามข้อเสนอท่ียื่นตอ่ รัฐบาล หยุด พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจ คืนท่อก๊าซ โดยก�าหนดลักษณะ การชุมนุมสาธารณะ ไม่มีการเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายสถานที่ชุมนุม ผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ ๕๐ คน สถานท่ีจัดการชุมนุมบริเวณทางเท้าหน้าอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ถนนพระราม ๕ กทม.ฯ โดยผู้กา� กับการสถานีตา� รวจนครบาลนางเลงิ้ ได้รับหนังสือแจ้งจากผู้จัดการชุมนุมแล้วและก�าหนดเงอ่ื นไขใน การชมุ นุมสาธารณะดงั กล่าว รายละเอียดดงั ต่อไปน ้ี (1) ตามมาตรา ๗ วรรคสี ่ ก�าหนดห้ามการชุมนุมในรศั มี ไมเ่ กนิ ๕๐ เมตร รอบท�าเนยี บรฐั บาล (๒) การชมุ นมุ สาธารณะตอ้ งไมก่ ดี ขวางทางเขา้ -ออก หรอื รบกวนปฏบิ ตั งิ าน หรอื การใชบ้ รกิ ารสถานท ี่ ทท่ี �าการหนว่ ยงานของรฐั โดยเหน็ ควรใหย้ า้ ยสถานที่การชมุ นมุ ไปอยู่บรเิ วณทางเทา้ ริมคลองผดุงกรุงเกษม ฝั่งหน้าวัดโสมนัส แขวงวัดโสมนัส กทม.ฯ (๒) เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ได้ออกประกาศ เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ สถานีตา� รวจนครบาลนางเลิ้ง ที่ 1/๒๕๖๓ ลงวันท ี่ 1๒ กมุ ภาพนั ธ ์ ๒๕๖1 เรื่องให้แก้ไขการชมุ นุมสาธารณะ โดยให้แกไ้ ขการชมุ นุมสาธารณะดังนี้ ให้ผูช้ มุ นมุ ท่ี กดี ขวางทางเดนิ เท้าหน้าอนุสาวรยี ฯ์ ย้ายมาชุมนมุ บริเวณทางเท้าริมคลองผดงุ กรุงเกษมฯ แตป่ รากฏว่าเม่ือถึง เวลาก�าหนดตามประกาศฯ ผู้ชุมนมุ ไมไ่ ดอ้ อกไปจากสถานทชี่ ุมนุมดังกล่าวแต่อย่างใด การกระท�าของผชู้ มุ นุม เปน็ การกระท�าทขี่ ดั ตอ่ กฎหมายตามพระราชบญั ญตั กิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ มาตรา 1๖ (1) จงึ ขอให้ ศาลพจิ ารณามีคา� สงั่ ใหผ้ ู้ชุมนุมเลิกการชุมนุม เพอ่ื ความสงบเรยี บรอ้ ยของประชาชนและบ้านเมอื งต่อไป คูม่ ือการปฏบิ ัตงิ านตามพระราชบญั ญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) 1๔1 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 141 11/17/2563 BE 12:40 PM
ศาลแพ่งวินิจฉัย กรณี สถานีตา� รวจนครบาลนางเล้ิง มีค�าส่ังให้ผู้ชุมนุมแก้ไข การชุมนุมแล้ว ผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตาม จึงขอศาลให้มีค�าสั่งเลิกการชุมนุมน้ัน “ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า การชมุ นมุ ดงั กลา่ วเปน็ ไปโดยสงบภายใตข้ อบเขต และไมไ่ ดเ้ กดิ การขดั ขวางเกนิ สมควรแกป่ ระชาชนท่ีจะใชท้ าง สาธารณะจงึ ยกคา� ร้องของสถานีตา� รวจนครบาลนางเล้งิ ” ๔) คา� พิพากษาศาลฎีกาที ่ ๒๘1๖/๒๕๖๒ (ค�าพิพากษา ศาลแขวงดุสติ ท่ ี อ.11๐๗/๒๕๕๙ คดหี มายเลขแดงที ่ อ.๓๓๖๙/๒๕๕๙ ลง ๒๒ ธ.ค. ๕๙) เมอ่ื วนั ที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๙ จ�าเลยโพสต์เฟซบุ๊กเชญิ ชวนบุคคลอนื่ ใหเ้ ข้าร่วมชุมนุมที่ บรเิ วณลานดา้ นลา่ งวคิ ทอรพ่ี อยท ์ แขวงทงุ่ พญาไท เขตราชเทว ี กรงุ เทพมหานคร ตอ่ มาเวลาประมาณ 1๘.๐๐ น. จ�าเลยกบั พวกรวม 1๔ คน เขา้ รว่ มชมุ นมุ ทบ่ี รเิ วณดงั กลา่ ว โดยไมแ่ จง้ การชมุ นมุ ตอ่ ผกู้ �ากบั การสถานตี า� รวจนครบาล พญาไท ซงึ่ เปน็ หวั หน้าสถานีต�ารวจแหง่ ท้องท่ีทีม่ ีการชมุ นมุ กอ่ นเร่ิมการชมุ นมุ ไม่น้อยกว่า ๒๔ ช่ัวโมง และ ไม่มีการย่ืนคา� ขอผ่อนผันพร้อมยื่นแบบแจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อผู้บังคับการตา� รวจนครบาล 1 ก่อนเริ่ม การชมุ นมุ สารวตั รสอบสวนสถานตี า� รวจนครบาลพญาไทกบั พวกไปตรวจสอบการชมุ นมุ ดงั กลา่ ว สอบถามจา� เลยวา่ มีการแจ้งการชุมนุมแล้วหรือไม่ จา� เลยตอบว่ายังไม่ได้แจ้งตา� รวจ จึงเชิญตัวจ�าเลยไปที่สถานีต�ารวจนครบาล พญาไท แล้วท�าบันทึกการจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาว่า “จัดการชุมนุมในที่สาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อ ผรู้ ับแจง้ กอ่ นเร่ิมการชมุ นุมไม่นอ้ ยกวา่ ๒๔ ช่ัวโมง จ�าเลยให้การปฏเิ สธ ประเด็นปัญหาท่ีต้องวินิจฉัย คือ จ�าเลยกระท�าผิดตามฟ้องหรือไม่ ซ่ึงศาลได้วินิจฉัยว่า จา� เลยนัดหมายบุคคลอ่ืนให้เข้าร่วมชุมนุมผ่านทางเฟซบุ๊ก บริเวณที่จ�าเลยจัดการชุมนุมเป็นท่ีสาธารณะ ที่กรุงเทพมหานครดูแลอยู่ และพ้ืนที่ดังกล่าวมีประชาชนสัญจรไปมาได้ จึงถือเป็นพ้ืนที่สาธารณะตามนิยาม ท่บี ัญญัติไวใ้ นมาตรา ๔ แห่ง พ.ร.บ.การชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ จ�าเลยประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะเพ่ือแสดงสัญลักษณ์ไม่เห็นด้วยกับการกระท�า ของเจา้ หนา้ ทท่ี หาร โดยแสดงออกตอ่ ประชาชนท่ัวไป จ�าเลยซง่ึ ประสงคจ์ ะจดั การชมุ นมุ สาธารณะยอ่ มมหี นา้ ท่ี ทจี่ ะตอ้ งแจง้ การชมุ นมุ ตอ่ ผกู้ �ากบั การสถานตี �ารวจนครบาลพญาไท ตาม พ.ร.บ.การชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา 1๐ วรรคหนึ่ง หากจา� เลยไม่สามารถแจ้งการชุมนุมได้ภายในก�าหนดเวลาดังกล่าวจ�าเลยก็ต้องแจ้ง การชุมนุมพรอ้ มคา� ขอผ่อนผันก�าหนดเวลาดงั กล่าวตอ่ ผ้บู งั คับการต�ารวจนครบาล 1 ซ่ึงเป็นผู้รบั ผิดชอบพน้ื ที่ ที่จา� เลยจดั การชมุ นุมขึ้น ตามมาตรา 1๒ วรรคหน่ึง จ�าเลยยงั ถกู ด�าเนนิ คดใี นลกั ษณะเดยี วกนั นเ้ี ปน็ อกี เรอื่ งหนง่ึ เทา่ กบั วา่ คดนี เี้ ปน็ การกระท�าผดิ ในลกั ษณะเดยี วกนั เปน็ คดที สี่ องในชว่ งเวลาไมห่ า่ งกนั มากนกั ตามพฤตกิ ารณน์ า่ เชอื่ วา่ จา� เลยทราบขอ้ กฎหมาย เป็นอย่างดีว่าจะตอ้ งปฏิบัติอย่างไร หากจา� เลยประสงค์จะจัดการชุมนุมขึ้น ขณะจ�าเลยถกู จบั กุมจ�าเลยกไ็ มไ่ ด้ แสดงหลักฐานวา่ ได้แจง้ การชุมนุมแล้ว จา� เลยได้ให้การยอมรับกับเจ้าพนักงานตา� รวจผู้จับกุมในทันทีว่าจา� เลยยังไม่ได้แจ้ง การชุมนุม ประกอบกับกฎหมายดังกล่าวก็มิได้มีวัตถุประสงค์ในการห้ามการชุมนุม อีกท้ังตามประกาศ สา� นกั นายกรัฐมนตร ี เร่อื ง ก�าหนดวิธีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะก็ก�าหนดวิธีการแจ้งไว้หลายประการ วธิ กี าร ดงั กลา่ วน้ันสามารถกระท�าได้โดยสะดวก มไิ ด้เปน็ การยากเกินสมควรทีจ่ �าเลยจะกระท�า พิพากษาว่า จา� เลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ มาตรา 1๐, 1๒, ๒๘ ลงโทษปรับ 1,๐๐๐ บาท หากจ�าเลยไม่ช�าระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 1๔๒ คมู่ ือการปฏบิ ตั ิงานตามพระราชบัญญตั ิการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 142 11/17/2563 BE 12:40 PM
๒๙, ๓๐ ศาลมิได้พิพากษาลงโทษจ�าคกุ จงึ ไมอ่ าจนบั โทษตอ่ ได ้ คา� ขอนบั โทษต่อใหย้ ก กรณีทีจ่ า� เลยฎีกาวา่ การจับกุมดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายก็เป็นเร่ืองท่ีจา� เลยต้องดา� เนินคดีต่อเจ้าพนักงานด้วยการร้องทุกข์ตาม ข้ันตอนของกฎหมายตอ่ ไป อยา่ งไรกต็ าม การจับกุมผกู้ ระท�าความผิดซงึ่ หนา้ ตามกฎหมายฉบับนี้ ยังมีความเหน็ เป็น ๒ แนวทางคอื ความเหน็ แรก เห็นว่าการชุมนมุ สาธารณะ เป็นสิทธหิ รือเสรีภาพของบคุ คลทร่ี ัฐธรรมนญู รับรองไว้ และกฎหมายฉบับน้ีเป็นกฎหมายเฉพาะท่ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือรองรับสิทธิเสรีภาพดังกล่าว อันเป็น ลักษณะของกฎหมายเฉพาะทีก่ า� หนดวธิ กี าร หลกั เกณฑ์ เง่อื นไข ในการชุมนมุ สาธารณะไวเ้ ปน็ การเฉพาะ ดงั นั้น เมอื่ มีการฝ่าฝืนความในมาตรา ๗, ๘ และ 1๐ ตาม พ.ร.บ.การชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ ซงึ่ เปน็ โทษทางอาญา ถงึ แมจ้ ะไมม่ ปี รากฏวา่ มบี ทบญั ญตั กิ ฎหมายใดทกี่ า� หนดหา้ ม การด�าเนนิ การ ทางอาญาและทางปกครองควบคกู่ นั ไป ดงั นน้ั เจา้ หนา้ ทยี่ อ่ มมอี �านาจหนา้ ทตี่ ามกฎหมายทจ่ี ะดา� เนนิ คดอี าญา กบั ผู้ฝา่ ฝืนได ้ ซง่ึ การกระทา� ผิดดังกลา่ วอาจถือวา่ เป็นความผิดซึง่ หน้าทจ่ี ะจบั กมุ ดา� เนนิ คดีในทางอาญาได้ แต่อย่างไรก็ตาม เพ่ือป้องกันมิให้เกิดปัญหาความไม่สอดคล้องกันของค�าพิพากษาศาล (ศาลอาญา หรือ ศาลปกครอง) เจ้าหน้าที่อาจรอให้ล่วงพ้นระยะเวลาอุทธรณ์ค�าสั่งหรือระยะเวลาฟ้องคดีต่อ ศาลปกครองเสียก่อน หากไม่มีการอุทธรณ์ค�าส่ังหรือฟ้องคดีต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคา� ส่ัง และคา� สั่ง เป็นท่ีสุดแล้ว จึงดา� เนินคดีอาญาต่อผู้ไม่ปฏิบัติตามค�าสั่งต่อไป หรือหากมีการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ก็อาจ รอผลของคดีปกครองก่อนที่จะดา� เนินคดีอาญาต่อผู้ไม่ปฏิบัติตามค�าสั่งต่อไปก็ได้ แต่ท้ังน้ี จะต้องระมัดระวัง มิให้คดีอาญาขาดอายุความด้วย ตามนัยบันทึกคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เรื่อง การใช้ มาตรการบงั คบั ทางปกครองควบคไู่ ปกบั การด�าเนนิ คดอี าญากบั ผไู้ มป่ ฏบิ ตั ติ ามค�าสง่ั ผอู้ า� นวยการทางหลวงตาม พระราชบญั ญตั ทิ างหลวง พ.ศ.๒๕๓๕ (เรอ่ื งเสรจ็ ท ี่ ๒๖๐/๒๕๕๔) จงึ มคี วามเหน็ วา่ ควรจะตอ้ งดา� เนนิ การตาม กฎหมายในทางปกครองและปฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๒1 - ๒๔ หรอื มาตรา ๒๕ ตามแตก่ รณ ี เพอื่ ใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ ของกฎหมาย และเกรงว่าคา� พิพากษาของศาลอาญาหรือศาลปกครองอาจไม่สอดคล้องกัน และอาจมีกรณีท่ี ศาลปกครองใหเ้ พกิ ถอนค�าสงั่ และผู้ถกู ลงโทษอาจน�าผลของคดีปกครองมาฟอ้ งเจ้าหน้าท่ใี นทางอาญาได้ ความเห็นท่ีสอง เห็นว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นพระราชบัญญัติท่ีมีโทษทางอาญา โดยมี บทก�าหนดโทษไว้อย่างชัดเจน ดังน้ัน เมอ่ื มกี ารฝ่าฝนื กจ็ ะตอ้ งดา� เนนิ คดีอาญากับบุคคลนนั้ และในการด�าเนนิ คดอี าญา กต็ อ้ งปฏบิ ตั ติ ามประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญาประกอบกบั พระราชบญั ญัตใิ หใ้ ชป้ ระมวล กฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา พ.ศ.๒๔๗๗ มาตรา ๓ วรรคสอง กลา่ วคอื มกี ารจบั กมุ ผกู้ ระท�าความผดิ ซง่ึ หนา้ ตามมาตรา ๘๐ แหง่ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา สรปุ แนวคา� วนิ จิ ฉยั ค�าพพิ ากษาศาลตา่ ง ๆ จะเหน็ ไดว้ า่ การชมุ นมุ โดยสงบและปราศจาก อาวุธ เป็นเสรีภาพท่ีกฎหมายในระดับรัฐธรรมนูญรับรองและคุ้มครองไว้ การวินิจฉัยแนวทางของศาล จึงให้ความส�าคัญและคุ้มครองการชุมนุมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น กรณีท่ีศาลเห็นว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วย กฎหมาย เชน่ การปดิ กนั้ ถนนเสน้ ทางตา่ ง ๆ การปดิ ลอ้ มสถานทร่ี าชการ ซง่ึ เจา้ หนา้ ทต่ี า� รวจจะตอ้ งดา� เนนิ การ ตามหลกั กฎหมาย แผนการปฏบิ ตั ิ และตรวจสอบการปฏบิ ตั ิ ความจ�าเปน็ เหมาะสม และไดส้ ดั สว่ นในการปฏบิ ตั ิ ค่มู อื การปฏิบตั งิ านตามพระราชบัญญตั ิการชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นมุ สาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๔๓ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 143 11/17/2563 BE 12:40 PM
๖.๔ ถอดบทเรยี น จากการชุมนุมสาธารณะทีผ่ ่านมา มีบทเรียนจากการชุมนมุ ต่าง ๆ มากมาย สามารถสรปุ แนวทางปฏบิ ตั ิ ในการแก้ไขปัญหาการดแู ลการชุมนุมสาธารณะและสามารถน�าไปปรบั ใชต้ ามความเหมาะสมได้ ดงั นี้ ๖.๔.๑ ระบบการขา่ ว 1) หน่วยงานด้านการข่าว จะต้องหาข่าวในเชิงลึก หรือข่าวท่ีมีคุณภาพเพียงพอส�าหรับใช้ วางแผนเชงิ รกุ หากแตข่ า่ วสารดงั กลา่ วมกั จะเปน็ ทรี่ บั รเู้ ฉพาะในสว่ นของงานการขา่ ว และผบู้ งั คบั บญั ชาระดบั สงู เท่าน้ัน ไม่มกี ารกระจายข่าวสารลงมาใหส้ ามารถใชป้ ระโยชนส์ �าหรบั การวางแผน หรือบรหิ ารเหตกุ ารณ์เลย ๒) ข่าวสารจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และแนวโน้มของสถานการณ์ท่ีอาจจะเกิดข้ึน ยังคง เปน็ พนื้ ฐานดา้ นการขา่ วทมี่ คี วามจา� เปน็ ส�าหรบั การวางแผน และการตกลงใจของผบู้ งั คบั บญั ชา แมใ้ นหลาย ๆ กรณีอาจจะตรงกับข่าวเปิดจากสอื่ สารมวลชน แต่กเ็ ปน็ การตอกย�า้ รับรองคา่ ความน่าเชอ่ื ถอื ของขา่ วได ้ ๓) ข่าวในเชิงลึก แม้จะมีข้อจ�ากัดในด้านการรักษาความลับ แต่ก็น่าจะนา� มากระจายให้ มากกว่าเดิม โดยจ�ากัดระดับผู้เข้าถึงข่าวตามความเหมาะสม แต่ทั้งนี้ควรจะให้ผู้ทา� หน้าที่ในการวางแผน หรอื จดั ท�าข้อพิจารณาส�าหรบั การตกลงใจของผูบ้ งั คับบัญชาไดร้ บั รู้ข่าวเชงิ เลิกน้ันดว้ ย ๔) การดา� เนินการด้านการข่าวให้ดา� เนินการตั้งแต่ภาวะปกติและเป็นไปอย่างต่อเน่ือง โดยใหม้ กี ารจัดการประชุม วเิ คราะหส์ ถานการณ์ทีอ่ าจเกดิ ข้ึนได้ ๕) การดา� เนินการด้านการข่าวควรมีการรายงานให้ ศปก.ตร. ทราบเป็นระยะอย่างต่อเน่ือง ครบถว้ นและชดั เจน เพอื่ รองรบั การปฏบิ ตั ิในทุก ๆ ขนั้ ตอน ๖.๔.๒ ศนู ยป์ ฏบิ ัติการสา� นกั งานตา� รวจแหง่ ชาติ (ศปก.ตร.) 1) จะต้องเป็นเครื่องมือของผู้บังคับบัญชาในการบริหารจัดการงานสา� คัญต่าง ๆ เช่น งานการประชมุ ระดบั นานาชาต ิ งานกฬี าระดบั นานาชาต ิ งานพระราชพธิ สี �าคญั และงานในภาวะวกิ ฤตตา่ ง ๆ เชน่ งานชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภยั งานวนิ าศภัย การกอ่ ความไม่สงบ การก่อการรา้ ยสากล และงานการควบคุมฝงู ชน ขนาดใหญ่ ลักษณะงานส�าคัญหรืองานในภาวะวิกฤตจะเป็นงานที่ไม่เกิดข้ึนเป็นประจ�า มีสภาพความส�าคัญ และความจ�าเปน็ เรง่ ดว่ นในการแกไ้ ขปญั หา งานดงั กลา่ วไมม่ หี นว่ ยงานใดมหี นา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบโดยตรง หรอื งานนน้ั มคี วามส�าคญั และปัญหาเกินขีดความสามารถที่หนว่ ยปกตจิ ะรับผดิ ชอบได้ และงานนนั้ จ�าเป็นต้องบรู ณาการ หรือสนธกิ �าลงั จากหลาย ๆ หน่วยงานเขา้ รว่ มปฏิบตั ิ ๒) จดั ตง้ั คณะทา� งานบรหิ ารเหตกุ ารณใ์ นภาวะวกิ ฤตของ ตร. โดยคณะท�างานชดุ นีต้ อ้ งจดั ลกั ษณะเปน็ หนว่ ยเฉพาะกจิ มกี ารมอบหมายใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาระดบั ตร. เปน็ หวั หนา้ คณะทา� งาน ประกอบดว้ ย บุคลากรที่มีความรคู้ วามสามารถ ทกั ษะ ประสบการณ ์ จากการปฏบิ ตั งิ านในภาวะวกิ ฤตจากหน่วยงานตา่ ง ๆ โดยไม่จ�าเป็นต้องใช้บุคลากรท่ีมีต�าแหน่งหน้าที่โดยตรงในงานน้ัน ๆ ก็ได้ โดยมีหน้าที่หลักในการสนับสนุน การปฏบิ ตั แิ ก ่ ศปก.ตร. ทงั้ ในดา้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การพจิ ารณาหนทางปฏบิ ตั ิ การวางแผน การประสานงาน และการบริหารเหตุการณ์อื่น ๆ คณะทา� งานชุดนี้จะเปรียบเสมือน “ฝ่ายอ�านวยการ” ของ ผบ.ตร. ในการ บริหารเหตกุ ารณ์ในภาวะวกิ ฤต 1๔๔ คมู่ อื การปฏิบัติงานตามพระราชบัญญตั กิ ารชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 144 11/17/2563 BE 12:40 PM
๖.๔.๓ การฝกึ ควบคมุ ฝูงชน 1) รูปแบบการฝกึ ในระดับพ้ืนฐาน ยังคงใช้รูปแบบการฝึกท ี่ ตร.ก�าหนด ๒) การฝึกทบทวน หรือการฝึกตามแผนเผชิญเหตุ ควรจ�าแนกกา� ลังพลเข้ารับการฝึกเป็น ๒ สว่ น คอื ส่วนแรก ทา� การฝึกจากประสบการณ์การใช้ก�าลังในการควบคุมฝูงชนจริง ซึ่งส่วนใหญ่ ภารกิจของ ตร. คือ การรกั ษาความปลอดภยั สถานที่ การตงั้ จุดตรวจจดุ สกดั การรักษาความปลอดภัยในพื้นท่ี การชมุ นมุ การอา� นวยความสะดวกดา้ นการจราจรโดยรอบพนื้ ทก่ี ารชมุ นมุ การกา� หนดเสน้ ทางการเคลอื่ นไหว การใช้เทคนิคการเจรจาต่อรอง การใช้อปุ กรณป์ ระจา� กาย การปดิ ลอ้ มพน้ื ท่ี เป็นตน้ ส่วนท่ีสอง ท�าการฝึกกา� ลังสา� หรับภารกิจที่อาจกระทบกระท่ังกับผู้ชุมนุม เช่น การปฏิบัติ เขา้ กดดัน ปะทะหรือยตุ ิการชุมนมุ ควรเป็นกา� ลังอีกส่วนหนงึ่ ทไ่ี ดร้ ับการฝึกเพอื่ ปฏบิ ัติในกรณีเป็นการเฉพาะ ๓) ควรจัดให้มีวงรอบในการฝึกทบทวนในภาวะปกติอย่างเป็นระบบ และท่ีสา� คัญทุกครั้ง ที่จะตอ้ งออกปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ในสถานการณจ์ รงิ กา� ลงั ทกุ สว่ นจะตอ้ งไดร้ บั “การฝกึ เรง่ ดว่ น” ตามภารกจิ ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย โดยเฉพาะการเข้ายตุ ิการชมุ นุม การใช้อปุ กรณพ์ ิเศษหรอื อาวธุ ๖.๔.๔ การบริหารจดั การกา� ลังพล 1) การรักษายอดกา� ลังพล การจัดท�าบัญชีรายช่ือกา� ลังพลทุกนายท่ีเข้าร่วมในการปฏิบัติ ภารกจิ มาตรการในการควบคุม กา� กับ ดูแลกา� ลงั พลใหอ้ ยปู่ ฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีตามที่ได้รับมอบหมาย ๒) การขนึ้ ควบคมุ ทางยทุ ธการ เปน็ การจดั ระบบของการบงั คบั บญั ชารปู แบบหนงึ่ ทเ่ี หมาะ ส�าหรบั นา� มาใชก้ บั กา� ลงั พลขนาดใหญ ่ แตต่ อ้ งทา� ความเขา้ ใจบทบาทหนา้ ทต่ี า่ ง ๆ ใหช้ ดั เจน มกี ารจดั โครงสรา้ ง การจัดเฉพาะกิจ พร้อมทั้งก�าหนดสายการบังคับบัญชา การก�าหนดช่องทางการส่ือสารในหลาย ๆ ช่องทาง หน่วยขึ้นควบคุมทางยุทธการ ชุดนายตา� รวจติดต่อ หรือประสานงาน การประชุม หรือชี้แจงทา� ความเข้าใจ ซักซอ้ มแนวทางการปฏบิ ัติร่วมกัน ๓) การแบ่งมอบภารกจิ ควรใช้การแบ่งมอบเปน็ พน้ื ท่ ี และการแบง่ มอบเป็นภารกิจควบคู่ กนั ไป ๔) การส่งกา� ลังบา� รุง ไมค่ วรผลกั ภาระทง้ั หมดให้หน่วยควบคมุ ฯ เปน็ ผ้รู ับผิดชอบ การใด หน่วยขึ้นควบคมุ ฯ สามารถด�าเนินการอนั เป็นการลดภาระหน่วยควบคุมฯ ได้ ก็ควรจะดา� เนินการเอง ในการ บริหารจัดการปรมิ าณก�าลงั พลขนาดใหญ ่ ตร. ควรเขา้ ไปสนับสนนุ เพือ่ ลดภาระหนว่ ยปฏิบัติ และจดั ใหอ้ ยใู่ น ตา� บลท่ีตั้งมิดชิดจากสายตาบุคคลภายนอกพอสมควร มีที่สา� หรับพักผ่อนในลักษณะท่ีเป็นระเบียบเรียบร้อย และจดั ใหม้ นี ายตา� รวจประสานงานดา้ นการสง่ ก�าลังบา� รงุ เป็นการเฉพาะ ๕) การปรับปรุงยุทโธปกรณ์ในการควบคุมฝูงชน โดยพิจารณาปรับปรุงด้านคุณภาพของ อุปกรณ์ในการป้องกันตัว การเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์เสริมการปฏิบัติ อุปกรณ์พิเศษ และอุปกรณ์อา� นวย ความสะดวกต่าง ๆ เปน็ ตน้ ๖) การปฏิบัติการด้านประชาสัมพันธ์ พบว่าการเคล่ือนไหวของฝูงชนมีการใช้ส่ือสาร มวลชนเปน็ ชอ่ งทางในการประชาสมั พนั ธ ์ การปฏบิ ตั กิ ารทางจติ วทิ ยา การโฆษณาชวนเชอ่ื และการปลกุ ระดม ความคิดอย่างได้ผล แนวทางในการปฏิบัติงานด้านประชาสัมพันธ์ในภารกิจควบคุมฝูงชนควรด�าเนินการดังนี ้ คูม่ ือการปฏิบตั ิงานตามพระราชบญั ญตั ิการชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๔๕ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 145 11/17/2563 BE 12:40 PM
จา� แนกการประชาสมั พนั ธอ์ อกเปน็ สองระดบั คอื ในระดบั ภาพรวม และ ระดบั พนื้ ท ่ี โดยท้ังสองระดบั ควรจะมี คณะทา� งานเปน็ การเฉพาะเพอื่ การวางแผนดา้ นการใชส้ อื่ และการดา� เนนิ มาตรการในการประชาสมั พนั ธ ์ หวั ขอ้ ในการประชาสัมพันธ์ระดับภาพรวม และระดับพ้ืนที่ควรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาจจะแตกต่างกันบ้าง ในกรณ ี เนอื่ งจากกลมุ่ เปา้ หมายทแ่ี ตกตา่ งกนั และควรจดั ใหม้ กี ารฝกึ เกยี่ วกบั การปฏบิ ตั งิ านดา้ นการประชาสมั พนั ธ์ ในภาวะวิกฤตของ ตร. ๗) การปฏิบัติการด้านกฎหมาย หน้าท่ีหลักของฝ่ายกฎหมายนอกจากจะทา� หน้าที่เป็น ทป่ี รกึ ษาของผบู้ งั คบั บญั ชาในแงต่ วั บทกฎหมายแลว้ ควรวางมาตรการเกย่ี วกบั การเกบ็ รวบรวมพยานหลกั ฐาน และพฤติกรรมตา่ ง ๆ สา� หรับการด�าเนินคดี และตอ้ งชแี้ จง สรา้ งความมน่ั ใจกบั ผบ.เหตกุ ารณ ์ และก�าลงั พล ตามอ�านาจหนา้ ท่ที กี่ ฎหมายก�าหนดไว้ ๘) การด�าเนนิ การดา้ นขวญั และกา� ลงั ใจ จะตอ้ งมกี ารด�าเนนิ การทง้ั ในระดบั ผู้บงั คบั บญั ชา ต้นสังกัด และผบู้ ังคับบัญชาระดับสงู ในพน้ื ที่ ๙) การจัดต้ังกองก�าลังสา� หรับภารกิจควบคุมฝูงชน โดยเม่ือมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจะไม่ใช้ การระดมกา� ลงั ตา� รวจประจา� ทอ้ งทป่ี กตมิ าประกอบกา� ลงั เปน็ ชดุ ควบคมุ ฝงู ชน ท�าใหป้ ระชาชนในพน้ื ทย่ี งั ไดร้ บั การดแู ล รกั ษาความปลอดภยั ในชวี ติ รา่ งกาย หรอื ทรพั ยส์ นิ ตามปกต ิ และยง่ิ ไปกวา่ นนั้ การจดั ตงั้ กองกา� ลงั ขนึ้ มา เปน็ การเฉพาะจะท�าใหส้ ามารถฝกึ และเตรยี มระบบของกองก�าลงั ที่จดั ขน้ึ มาได้อยา่ งเต็มท ่ี และมลี ักษณะเป็น “มอื อาชีพ” มากกวา่ ทผี่ ่านมา ๖.๔.๕ ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ 1) การปฏบิ ตั งิ านดแู ลการชมุ นมุ สาธารณะ ควรใช ้ “ผบู้ ญั ชาการเหตกุ ารณ”์ เพยี งคนเดยี ว ตอ่ เนื่องจนกวา่ เหตกุ ารณจ์ ะยุติลง ระบบการส่ังการบังคับบัญชาจะต้องเป็นไปตามระบบ ขั้นตอน และวธิ ีการ ที่ถูกต้องเหมาะสมตามหลักการและสถานการณ์ที่เกิดข้ึน เพื่อมิให้ก�าลังพลในส่วนต่าง ๆ เกิดความสับสน ในแนวทางปฏบิ ตั ิหรอื ข้อสง่ั การต่าง ๆ ๒) ควรมีการฝกึ อบรม “นกั เจรจาต่อรอง” ในสถานการณค์ วบคมุ ฝูงชนโดยเฉพาะ ๓) จา� เป็นจะต้องมีการทบทวนระเบียบ กฎหมาย เก่ียวกับความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ ระหว่างเจา้ พนักงานตา� รวจ ฝา่ ยปกครอง หน่วยงานของรัฐอน่ื ๆ ๔) จา� เปน็ จะตอ้ งมกี ารทบทวน เพอื่ สรา้ งความชดั เจนเกย่ี วกบั ขอ้ กฎหมายรองรบั การปฏบิ ตั ิ หน้าทข่ี องเจ้าพนกั งานต�ารวจ ๕) การนา� ระบบบญั ชาการเหตกุ ารณ ์ (Incident Command System) มาใชใ้ นการบรหิ าร จดั การการชมุ นมุ สาธารณะ โดยบรู ณาการหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ระดมทรพั ยากร บคุ ลากร เพอ่ื ใหก้ ารบรหิ ารจดั การ ไดท้ ุกภาคสว่ นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด 1๔๖ คมู่ ือการปฏบิ ตั งิ านตามพระราชบัญญัตกิ ารชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนุมสาธารณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 146 11/17/2563 BE 12:40 PM
บทท่ี ๗ การบริหารจดั การการชุมนุมสาธารณะด้านอนื่ ๆ จากการชมุ นมุ สาธารณะในอดตี ทผี่ า่ นมา มบี ทเรยี นจากการชมุ นมุ ตา่ ง ๆ มากมาย แมก้ ระทงั่ ปจั จบุ นั ก็มีการชุมนุมในทางการเมืองเป็นระยะ ๆ ผู้บังคับบัญชาของส�านักงานต�ารวจแห่งชาติได้เห็นความส�าคัญ ในการดแู ลการชมุ นมุ และการรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ย จงึ ไดอ้ นมุ ตั ใิ หม้ กี ารจดั การสมั มนาโครงการสมั มนาเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพแกข่ า้ ราชการตา� รวจดา้ นการสบื สวนและรกั ษาความสงบเรยี บร้อยของสา� นกั งานตา� รวจแหง่ ชาติ ระดบั รองผบู้ ญั ชาการ-รองผบู้ งั คบั การ จา� นวน 1๒1 นาย เมอ่ื วนั ท ่ี ๓-๕ สงิ หาคม ๒๕๖๓ ณ โรงแรมแมนดารนิ กรุงเทพมหานคร โดยมีวิทยากรท่ีมีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้สัมมนา เพอ่ื สามารถนา� องคค์ วามรจู้ ากวทิ ยากร และความรจู้ ากการแลกเปลยี่ นของผเู้ ขา้ รว่ มสมั มนาดว้ ยกนั เอง ไปเปน็ แนวทางในการบรหิ ารการขา่ วและการสบื สวนเพอ่ื ดแู ลการชมุ นมุ ใหเ้ ปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย เกดิ ประสทิ ธภิ าพ และประสทิ ธผิ ลสูงสุด การบรหิ ารการข่าว ๑. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจง้ ยอดสุข รอง ผบ.ตร.(มค) ได้บรรยายถ่ายทอดให้ความรู้การบริหารจัดการในด้านการสืบสวน การข่าว และการดูแล การชมุ นมุ สาธารณะใหเ้ กดิ ความสงบเรยี บรอ้ ย ทง้ั กอ่ นเกดิ เหต ุ ขณะเกดิ เหตแุ ละหลงั เกดิ เหต ุ มกี ารนา� วทิ ยาการ สมยั ใหม่ ได้แก ่ เทคโนโลยีการสอื่ สาร สือ่ สังคมออนไลน์ มาประยุกตผ์ สมผสานกบั การสืบสวน การรวบรวม พยานหลักฐานการข่าวได้อยา่ งเปน็ ระบบ และไดใ้ หค้ �าแนะน�าส่งั การแก่ผูร้ ว่ มสมั มนา ดังน ี้ 1.1 สถานการณ ์ จะตอ้ งสบื สวน หาขา่ วใหท้ ราบวา่ ใครทา� อะไร ทไี่ หน อยา่ งไร มวี ตั ถปุ ระสงค์ อะไร ดา้ นการข่าวความม่นั คง สันติบาลจะมขี ้อมูล และกระจายตามสถานตี า� รวจ จึงให้รองผบู้ งั คับการต�ารวจ ภูธรจังหวัดท่ีรับผิดชอบงานความม่ันคง จัดตั้งทีมงานด้านความม่ันคงของรัฐ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย ์ จ�านวน ๖-๗ นาย รวบรวมเก็บขอ้ มูลการข่าวด้านความมนั่ คงของจังหวดั จดั ทา� แฟ้มสถานการณ ์ โดยท�าเปน็ หมวดหมู่ สถานการณ์ในอดีต ถอดบทเรียนท่ีผ่านมาเพื่อเป็นข้อมูลในการด�าเนินการกับสถานการณ์ท่ีจะ เกดิ ขนึ้ ในอนาคต โดยให้เร่มิ ด�าเนนิ การต้งั แตป่ งี บประมาณ ๒๕๖๓ (1 ตลุ าคม ๒๕๖๓) 1.๒ ความเป็นมา ท�าไม มาจากไหน ก่อนหน้า เหตุผล ท่ีกระท�า เพ่ือจะได้ทราบว่า ความเคลือ่ นไหวแต่ละเหตุการณม์ คี วามเปน็ มาอยา่ งไร 1.๒.1 Organization Chart แผนผังตวั บคุ คลผู้มีสว่ นเกีย่ วขอ้ ง 1.๒.๒ แนวรว่ ม เชน่ อาจารย์ นักการเมอื ง นายทนุ Youtuber ตอ้ งสืบสวนหาข่าวจาก แหลง่ ขา่ ว จากส่ือ Social Media ใหท้ ราบถึงความเช่ือมโยง 1.๒.๓ ผ้สู นับสนุน ดา้ นทุน(เงิน) สิง่ อ�านวยความสะดวก อปุ กรณต์ ่าง ๆ ดา้ นความคดิ กลมุ่ มวลชน 1.๓ การประเมินสถานการณ์ด้านการข่าว จากสถานการณ์และความเป็นมา วิเคราะห์ ภัยคกุ คาม ขดี ความสามารถของฝ่ายตรงขา้ ม เพอ่ื เปน็ ขอ้ มูลนา� ไปสู่ขน้ั ตอนการวางแผนต่อไป คมู่ ือการปฏบิ ัติงานตามพระราชบญั ญตั กิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) 1๔๗ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 147 11/17/2563 BE 12:40 PM
1.๔ IPB (Intelligence Preparation of the Battlefield) เป็นกระบวนการในวิเคราะห์ ภยั คกุ คาม วเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มพน้ื ทใ่ี ดพนื้ ทห่ี นง่ึ เพอ่ื ประมาณการขา่ ววา่ สภาพสถานทน่ี นั้ ๆ ชว่ ยสนบั สนนุ เป็นประโยชน์หรือเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีอย่างไร ได้แก่ เส้นทางเข้าออก ส่ิงอ�านวย ความสะดวก ประชากร ขนาดของพ้ืนที่ เป็นต้น 1.๕ แผนยุทธการ แผนปฏิบัติการ ยุทธวิธี อุปกรณ์เครื่องมือ เคร่ืองมือส่ือสาร โดรน แผนเผชิญเหตุ แผนส�ารอง การจัดท�าแผน การใช้ยุทธวิธี การใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จะเกิดข้ึนได้ก็ต่อเมื่อมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นย�า ตรงเป้าหมาย ตั้งแต่การวิเคราะห์สถานการณ์ การประเมิน ด้านการข่าว ประเมนิ ขีดความสามารถ ประเมนิ สภาพพน้ื ท่ีในสถานการณน์ น้ั ๆ (IPB) 1.๖ ขอ้ กฎหมาย ทมี สอบสวน ตอ้ งมกี ารเตรยี มการไวล้ ว่ งหนา้ ตง้ั แตก่ อ่ นเกดิ เหต ุ โดยพจิ ารณา จากขอ้ มูลสถานการณ ์ ความเป็นมา การประเมนิ ด้านการข่าว การประเมนิ IPB เช่น ผ้ชู มุ นมุ ปดิ ถนนจะใชแ้ ผน หรอื กฎหมายใดในการดา� เนนิ การ การสบื สวนหาขา่ ว เชน่ การสอบถามบคุ คลจะตอ้ งคา� นงึ ถงึ เพศ อาย ุ วฒุ ภิ าวะ การศกึ ษา บทบาททางสงั คม ครอบครวั โดยจะตอ้ งคา� นงึ ถงึ ผลทจี่ ะตามมา ควรมอบหมายผเู้ จรจาทมี่ วี าทะศลิ ป์ ในการเจรจา มสี ตปิ ญั ญาในการวเิ คราะหใ์ หเ้ หมาะสมกบั กลมุ่ ทจ่ี ะเจรจาดว้ ย การตงั้ ทมี สอบสวนตอ้ งเลอื กคนทม่ี ี ความรู้ความสามารถ ต้องมีการต้ัง บก.ควบคุมและการรายงานโดยใช้เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานมาอยู่ใน บก.ควบคุม เชน่ นครบาล สันติบาล สื่อสาร กทม. เป็นต้น ภายใน บก.ควบคมุ จะตอ้ งมกี ระดานสถานการณ์ เครื่องมือสอ่ื สารต่าง ๆ ภาพ เสยี ง ขอ้ มลู การตดิ ต่อส่ือสาร การรายงานผา่ นแอปพลิเคชัน Line วทิ ยสุ อื่ สาร โทรศัพท์ มี Timeline ในการรายงานเหตุการณ์ ใช้เทคโนโลยี เช่น ส่อื Social Media, แอปพลิเคชนั Line ในการรายงานจากสถานที่เหตุการณ์มาสู่ บก.ควบคุม บก.ควบคุมรวบรวมวิเคราะห์ข่าวที่เหมือนกันให้เป็น ขา่ วเดยี วใหถ้ กู ตอ้ งทงั้ เหตกุ ารณแ์ ละเวลา ถา้ เหตกุ ารณย์ ดื เยอื้ อาจรายงานทกุ ๆ ๓๐ นาท ี หากเหน็ วา่ เหตกุ ารณ์ จะจบเรว็ อาจกา� หนดใหร้ ายงานทกุ ๕-1๐ นาท ี การรายงานทเี่ ปน็ ภาพถา่ ยตอ้ งระบวุ า่ เหตเุ กดิ เมอ่ื ใด (ถา่ ยเวลาใด) ใคร (มเี ครอื่ งหมายช ้ี เชน่ ลกู ศร) ทา� อะไร ทไ่ี หน ผลเปน็ อยา่ งไร การสบื สวนหาขา่ วในพนื้ ท ี่ ตอ้ งใชค้ นทม่ี ไี หวพรบิ มีความรู้ในการเก็บรวบรวมหลักฐานในรูปแบบต่าง ๆ มีความรู้ด้านกฎหมาย และหากไม่สามารถตัดสินใจ ไดต้ อ้ งรายงานผูบ้ ังคบั บญั ชาทราบ 1๔๘ คมู่ ือการปฏิบัติงานตามพระราชบญั ญตั กิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 148 11/17/2563 BE 12:40 PM
การบรู ณาการระหวา่ งหนว่ ยงาน ๒. พล.ต.ท.ด�ารงศักดิ์ กิตติประภสั ร์ ผูช้ ่วย ผบ.ตร.(มค ๒) ได้บรรยายและแนะน�าสั่งการใหแ้ กผ่ ้รู ว่ มสัมมนา ในเรื่อง การบูรณาการรว่ มระหว่างหน่วยงาน ท่ีเกยี่ วข้อง ดงั ต่อไปนี้ ๒.1 การตั้งทีมงานด้านความมั่นคงระดับกองบัญชาการ/ต�ารวจภูธรภาค, กองบังคับการ และตา� รวจภูธรจงั หวดั ๒.1.1 ใชห้ นว่ ย บก.สส.บช.น./ภ. และ กก.สส.บก.น./ภ.จว. เปน็ หนว่ ยหลกั ประกอบกา� ลงั กับหน่วยงานในพนื้ ที่ โดย สน./สภ. ตอ้ งเป็นทีมงานท่ีมคี ณุ ภาพ ไม่จา� เป็นต้องใช้คนมาก แบง่ ทมี งานกวา้ ง ๆ เปน็ ๒ ทีม ได้แก่ - ทีมติดตามความเคลื่อนไหวทางโซเชียล - ทมี ติดตามข้อมูลภาคพ้ืนดิน ๒.1.๒ แสวงหาภาคเี ครือขา่ ยท่สี �าคญั เพือ่ แลกเปล่ยี นขอ้ มลู ด้านการขา่ ว ได้แก่ (1) สนั ตบิ าลพน้ื ที่ (๒) กอ.รมน.จว. หรอื หนว่ ยทหาร (๓) ฝ่ายปกครอง (๔) เครือข่ายภาคประชาชน (๕) ผ้นู �าทางธรรมชาติ (๖) สถานศกึ ษา โรงเรียน มหาวิทยาลัย (๗) กลมุ่ อาชีพตา่ ง ๆ (๘) ทีมงานมน่ั คงของสถานีต�ารวจ ๒.1.๓ คุณลักษณะของชดุ ทีมงานด้านความม่ันคง (รอง ผบก.น./ภ.จว. คัดเลอื ก) (1) มที ัศนคติที่ด ี (๒) มีความเป็นต�ารวจอาชพี (๓) ไมฝ่ ักใฝฝ่ า่ ยใด (๔) มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน (๕) รกั ษาความลบั ได้เปน็ อยา่ งด ี ๒.๒ การท�างานดา้ นความมัน่ คงของ บช./ภ. และ บก./ภ.จว. ๒.๒.1 ตอ้ งมกี ารประชมุ โตะ๊ ขา่ วทกุ เดอื น โดย ผบก.เปน็ ประธานการประชมุ โดยใหแ้ ยก ออกจากการประชุมประชาคมข่าวที่มี ผอ.กอ.รมน. เป็นประธาน ออกต่างหากจากวาระหนึ่ง หากพื้นที่ใด อยู่ห่างไกล ให้ใช้ระบบ Conference แต่พึงระมัดระวังความลับของข้อมูลการประชุม ในส่วนของ บช./ภ. ต้องมีการประชุมโต๊ะข่าวความม่ันคงของ บช./ภ. โดยร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ และ บก./ภ.จว. ในสังกัด ๒.๒.๒ การท�างานด้านความมนั่ คง ชุดข่าวความมัน่ คงของ บก./ภ.จว. จะตอ้ งประสาน ใกลช้ ิดกบั สนั ติบาลในพ้ืนที่ เพ่ือพฒั นาศกั ยภาพการทา� งานของทัง้ สองหน่วยให้มปี ระสทิ ธภิ าพมากย่ิงข้ึน คมู่ ือการปฏิบัตงิ านตามพระราชบญั ญตั กิ ารชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๔๙ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 149 11/17/2563 BE 12:40 PM
๒.๒.๓ การทา� งานความมน่ั คง ในปจั จบุ นั มกี ารสรา้ งเครอื ขา่ ยหลอกลวงชาวบา้ นมากยง่ิ ขนึ้ เช่น เครือข่ายปฏิรูปไทสยาม หรือสหพันธรัฐ ควรปรับทัศนคติให้กับผู้ร่วมขบวนการที่เป็นเหยื่อ รวบรวม พยานหลักฐานเพื่อดา� เนินคดีกบั กลมุ่ แกนน�า หากมีการรวมตวั ของกลมุ่ นกั เรยี น นกั ศกึ ษา ใหพ้ ยายามพดู คุย กบั ทางสถาบันศกึ ษา ๒.๒.๔ หากมกี ารรวมกลมุ่ ผชู้ มุ นมุ เดนิ ทางจากตา่ งจงั หวดั เขา้ มากรงุ เทพมหานคร จะตอ้ ง จดั ชดุ ความม่นั คงเดินทางมากรงุ เทพมหานคร เพอ่ื หาขา่ วความมั่นคง ๒.๓ เม่ือมีเหตุการณ์ชุมนมุ ในพน้ื ที่รับผิดชอบ ต้องเตรยี มความพรอ้ มของ ศปก.ภ.จว. เพือ่ ให้ เปน็ ศูนยป์ ระสานงานตา่ ง ๆ โดยจะตอ้ งมที ีมงานที่สา� คญั ประกอบด้วย ๒.๓.1 ทมี ตรวจสอบความเคลอ่ื นไหวทางสอื่ สังคมออนไลน์ ๒.๓.๒ ทีมสืบสวนความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม ทีมพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและการท�า รายงานการสืบสวน ๒.๓.๓ ทีมรวบรวมพยานหลกั ฐาน ฝ่ายสอบสวน/ทมี กฎหมาย ๒.๓.๔ ทมี รายงานผู้บงั คบั บญั ชาตามล�าดบั ชนั้ 1๕๐ คมู่ อื การปฏบิ ัติงานตามพระราชบญั ญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 150 11/17/2563 BE 12:40 PM
การประเมนิ ด้านการข่าว ๓. พล.ต.ต.มณฑล บัวจีบ ผบก.ส.1 และคณะ ไดบ้ รรยายใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การขา่ ว ในหวั ขอ้ สถานการณ ์ ความเปน็ มา เครอื ขา่ ย การสนบั สนนุ แนวร่วม เปา้ หมาย การประเมินดา้ นการขา่ ว ขีดความสามารถฝ่ายตรงข้าม การปฏบิ ตั ิ การบูรณการร่วมกัน ระหวา่ งสันตบิ าลและหน่วยปฏบิ ัติในพื้นที่ การปฏิบตั ิงานดา้ นการขา่ ว ดงั น้ี ๓.1 สถานการณห์ รือเหตุการณ์ แบ่งเปน็ ๒ ประเภท ๓.1.1 สถานการณ์โดยทั่วไป จะเป็นสถานการณ์ทั่วไปทางการเมือง ความเคลื่อนไหว ของกลมุ่ มวลชน แนวโน้มสถานการณ์ ๓.1.๒ สถานการณ์เฉพาะ จะแบง่ เป็น - รูปแบบการเคลื่อนไหว เช่น การสร้างกระแสใน Social การชักจูงผ่าน Social การเปลย่ี นรปู แบบการเคลอ่ื นไหว การลดบทบาทของแกนนา� การสรา้ งจดุ เดน่ ในการเคลอ่ื นไหว การนา� ข้อบกพร่องของรฐั บาลมาตอกย้�า - วธิ ีการเคลอ่ื นไหว เช่น แฟลชม็อบ กลมุ่ เล็กใช้เวลาสนั้ ๆ - เมอ่ื แนวรว่ มมมี ากพอ แกนนา� รวมตวั กนั ได ้ กระแสประชาชนตอบรบั สถานการณ์ โควิดสงบ มีการสนับสนนุ จากฝา่ ยเหน็ ต่างรฐั บาลมากพอ จะยกระดับการชมุ นุมต่อต้านรัฐบาล - ความเป็นมาของการชมุ นมุ มาจากทไ่ี หน มวี ัตถปุ ระสงค์อะไรจากกลมุ่ ตา่ ง ๆ หรอื คณะบคุ คล เครอื ขา่ ย แนวรว่ มมใี ครบา้ ง โดยดคู วามเชอื่ มโยงจากการสบื สวนจากโซเชยี ลมเี ดยี ผสู้ นบั สนนุ ด้านการเงิน ด้านความคิด เป็นใครกล่มุ ใด เปน็ การสืบสวนเพอ่ื ทราบถึงเปา้ หมาย ๓.๒ การสบื สวนความเปน็ มา เพอ่ื ทราบถงึ Organization Chart ผสู้ นบั สนนุ เครอื ขา่ ยแนวรว่ ม และเปา้ หมาย จะใชว้ ธิ กี ารตา่ ง ๆ ไดแ้ ก ่ การซกั ถาม การสะกดรอย การสงั เกต/สา� รวจจากแหลง่ ขา่ ว เทคโนโลย ี / Social Media การแทรกซึม จากสายลบั ๓.๓ การประเมนิ ด้านการข่าว จะชว่ ยให้สามารถก�าหนดแผน ยทุ ธวธิ ี ในด้านตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ ง มปี ระสทิ ธภิ าพ โดยมชี อ่ งทางในการประเมนิ การขา่ วจากขอ้ มลู ดงั ตอ่ ไปน ้ี แกนนา� มวลชน ฮารด์ คอร ์ ผสู้ นบั สนนุ มอื ที่สาม สงั เกตจาก เสบียง/ยานพาหานะ อุปกรณ์ท่ีใช้ในการชมุ นุม ขดี ความสามารถฝา่ ยตรงขา้ ม สามารถ ประเมนิ จากจา� นวนผเู้ ขา้ รว่ มชมุ นมุ ยอดกดถกู ใจ หรอื คอมเมนต ์ การแชร ์ ทวติ เตอร ์ แฟนเพจ ไลน ์ ยทู ปู อปุ กรณ์ ตา่ ง ๆ ทใี่ ช้ในการชมุ นมุ เช่น เครื่องฉายโปรเจคเตอร ์ เครอื่ งเสยี ง เครื่องปั่นไฟ ป้ายโฆษณาต่าง ๆ เพอ่ื นา� มา วเิ คราะห์วันต่อวัน เพ่อื หาแนวโน้มของการชุมนมุ ๓.๔ การบรู ณาการรว่ มกนั ระหวา่ งสนั ตบิ าลและหนว่ ยงานในพน้ื ท ี่ สนั ตบิ าลในฐานะหนว่ ยงาน ด้านการข่าวความมั่นคงของส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ จะท�างานแบบบูรณาการแลกเปล่ียนข้อมูลการข่าว ระหว่างหน่วยงานการข่าวท้ังของส�านักงานต�ารวจแห่งชาติและหน่วยราชการอ่ืน ๆ ได้แก่ ต�ารวจภูธร ส�านักข่าวกรอง ฝ่ายปกครอง กอ.รมน. ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ การข่าวทหาร โดยมีลักษณะ การปฏบิ ัติรว่ มดา้ นการข่าว ดงั นี้ - การพสิ จู น์ทราบเป้าหมาย - การรวบรวมพยานหลักฐาน - การปฏบิ ัตติ ามหลักจิตวิทยา/มวลชนสมั พนั ธ์ - การใช้มาตรการตามกรอบกฎหมาย - สบื สวน จบั กุม ด�าเนนิ คดี - ติดตามพฤติการณ์ / หาข่าวเครอื ข่าย หลักการทา� งานการขา่ วเบอ้ื งต้น ตอ้ งตอบค�าถามให้ไดว้ ่า ใคร ท�าอะไร ท่ไี หน เม่ือไร อยา่ งไร ท�าไม โดยแบง่ การขา่ ว ได้ ๓ ประเภท ไดแ้ ก่ ข่าวกรองแหง่ ชาต ิ ข่าวกรองทหาร ข่าวกรองอื่น คู่มอื การปฏบิ ตั งิ านตามพระราชบญั ญตั ิการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) 1๕1 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 151 11/17/2563 BE 12:40 PM
การเกบ็ พยานหลกั ฐานจากสือ่ โซเชยี ลมีเดยี ๔. พล.ต.ต.ไพบลู ย์ น้อยหนุ่ ผบก.ปอท. ไดบ้ รรยายในหวั ขอ้ การเกบ็ พยานหลกั ฐานจากสื่อโซเชียลมีเดีย ท่นี ่าสนใจดงั นี้ IP Address คอื อะไร ย่อมาจากค�าเต็มว่า Internet Protocal Address คือ หมายเลขประจ�าเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ละเครื่องในระบบเครือข่ายท่ีใช้โปรโตคอลแบบ TCP/IP ถ้าเปรียบเทียบก็คือบ้านเลขท่ีของเราน่ันเอง ในระบบเครือขา่ ยจ�าเปน็ จะต้องมหี มายเลข IP กา� หนดไวใ้ หก้ บั คอมพวิ เตอร ์ และอปุ กรณ์อื่น ๆ ท่ตี ้องการ IP ทัง้ นเี้ วลามีการโอนยา้ ยขอ้ มูล หรอื สง่ั งานใด ๆ จะสามารถทราบตา� แหนง่ ของเครอ่ื งทเี่ ราต้องการส่งข้อมลู ไป จะได้ไม่ผิดพลาดเวลาส่งขอ้ มูล ปจั จบุ นั มีการใช้งานอย ู่ ๒ Class คอื IPv๔ และ IPv๖ ซ่งึ IPv๔ ประกอบด้วยตัวเลข ๔ ชดุ มีเครือ่ งหมายจุดคัน่ ระหว่างชดุ เชน่ 1๙๒.1๖๘.1๐๐.1 หรอื 1๗๒.1๖.1๐.1 เป็นตน้ IPv๖ ประกอบด้วยตัวเลขฐาน 1๖ จ�านวน ๘ กลุ่มเขียนคั่นด้วยเครื่องหมาย “:” เช่น ๓fee:๐๘๕b:@f1f:๐:๐:๐:a๙:1๒๓๔ หรอื fec๐:๐:๐:๐:๒๐๐:๓cff:fec๖:1๗๒e เป็นตน้ Domain Name ชอื่ โดเมน (Domain Name) หมายถงึ ชอื่ ทถี่ กู เรยี กแทนการเรยี กเปน็ หมายเลข IP Address เนอ่ื งจาก การจดจา� หมายเลข IP นน้ั ยงุ่ ยาก จงึ นา� ชอื่ ทเ่ี ปน็ ตวั อกั ษรมาใชแ้ ทน ซง่ึ มกั จะเปน็ ชอ่ื ทสี่ อื่ ความหมายถงึ หนว่ ยงาน หรือเจา้ ของเว็บไซตน์ ัน้ ๆ ดังนัน้ ระบบจงึ มีการตดิ ต้ังโปรแกรมและเคร่อื ง ท่ีท�าหน้าท่ีเปน็ ตัว Lookup หรือ ดชั น ี ในการเปดิ ดบู ญั ชหี มายเลข จากชอ่ื ทเ่ี ปน็ ตวั อกั ษร หรอื เรยี กวา่ Domain Name โดยทเี่ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ที่ทา� หนา้ ทีน่ ีเ้ รยี กวา่ Domain Name Server หรอื Domain Server 1๕๒ ค่มู อื การปฏบิ ัติงานตามพระราชบญั ญตั กิ ารชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 152 11/17/2563 BE 12:40 PM
โดยที่เจ้าของเว็บไซต์จะท�าการจดทะเบียนเว็บไซต์กับผู้ให้บริการจดทะเบียนเว็บไซต์ โดยมีข้อมูล ประกอบด้วย ช่ือ อีเมล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ ซึ่งเจ้าของเว็บไซต์อาจจดทะเบียนใช้บริการ CDN (Content Delivery Network) เพือ่ ให้ผเู้ ขา้ ถงึ เว็บไซตไ์ ด้รวดเรว็ และปกปอ้ งจากการโจมตเี ว็บไซต์ WHOIS Record คอื ข้อมูลทแี่ สดงรายละเอียดของเจ้าของช่ือโดเมน หรือ Domain Contact. ขอ้ มลู ทัง้ หมดน้ ี จะเปน็ ข้อมูลแบบ Public ท่ีใคร ๆ กส็ ามารถค้นหาได ้ และในบางกรณีท่มี กี ารติดต่อกบั หน่วยงานอนื่ ๆ เชน่ เชอื่ มตอ่ ระบบช�าระเงนิ กับธนาคาร ธนาคารอาจใช้ข้อมลู เหลา่ นใี้ นการยืนยันความเปน็ เจา้ ของโดเมนดว้ ย วธิ ีการตรวจสอบเบือ้ งต้นการเขา้ ถงึ บัญชีใช้งานเฟซบุ๊ก 1. ประเภทของเฟซบุ๊ก ➢ เฟซบกุ๊ บุคคล Profile page ➢ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Fan page ➢ เฟซบุ๊กกลุ่ม Group page กลุ่มเปดิ กลมุ่ ปิด กลมุ่ ลับ ๒. บัญชผี ใู้ ชง้ าน (User Account) ๒.1 ชื่อเฟซบุก๊ ๒.๒ URL / Username ๒.๓ รูปภาพ Profile จากทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ สามารถเปลย่ี นแปลงได ้ แตส่ งิ่ ทไ่ี มส่ ามารถเปลย่ี นแปลงไดค้ อื Facebook ID คู่มือการปฏิบตั ิงานตามพระราชบญั ญัติการชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนุมสาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๕๓ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 153 11/17/2563 BE 12:40 PM
๓. วธิ กี ารคน้ หา Facebook ID ๓.1 น�าเมา้ สไ์ ปวางไวต้ รงทว่ี ่างของหน้าเพจเฟซบ๊กุ ที่เราตอ้ งการหา ID ๓.๒ คลิกขวา เลอื กเมนู View page source ๓.๓ Ctrl + F จะปรากฏหน้าต่างขน้ึ มา ค้นหาด้วยค�าวา่ “Profiled=” ๔. แนวทางการสืบสวนและเกบ็ พยานหลกั ฐาน 1๕๔ คูม่ อื การปฏิบตั งิ านตามพระราชบญั ญัตกิ ารชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 154 11/17/2563 BE 12:40 PM
๕. แนวทางการเก็บข้อมลู การโพสตท์ ีผ่ ดิ กฎหมาย ๕.1 การเก็บเนอื้ หาโพสต์ แชร์ หรือคอมเมนต ์ เกบ็ ดว้ ยวิธกี าร Screen Capture, Save File, Take a Picture or Video, Print to Printer ๕.๒ การเก็บ URL ของโพสต์ - คลิกขวาท่เี วลาของโพสต์ เลือก “เปดิ แทบ็ ใหม่” หรอื “Open link in new tab” ท�าการ “คัดลอก” URL ของโพสต์ คูม่ อื การปฏบิ ัติงานตามพระราชบญั ญตั ิการชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๕๕ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 155 11/17/2563 BE 12:40 PM
๕.๓ การท�าให้โพสตแ์ สดงวันเวลาท่ที า� การโพสต์ น�าเมาส์ไปวางไว้ท ่ี “เวลา” ของโพสต์ จะปรากฏวนั เวลา ๕.๔ การตั้งคา่ ความเป็นส่วนตวั ของโพสต์น้นั สญั ลักษณ์ หลังขอ้ มลู แสดงเวลาโพสต์ ๕.๕ พยานแวดล้อม เช่น คนคอมเมนต์ คนกดแสดงความรสู้ ึก ฯลฯ 1๕๖ คู่มือการปฏิบัตงิ านตามพระราชบัญญัตกิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 156 11/17/2563 BE 12:40 PM
แนวทางการปฏบิ ตั ิกรณีการชุมนมุ เคล่อื นไหวทางการเมือง ๕. พล.ต.ต.สนั ติ ชัยนิรมยั ผบก.บก.สส.บช.น. ได้บรรยายในหัวข้อแนวทางการปฏิบัติกรณีการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเน้น การสบื สวนหาขา่ วกลมุ่ ต่าง ๆ ในทางการเมือง ดงั ตอ่ ไปนี ้ ๕.1 ความเปน็ มา (Research) จากตวั อยา่ งการชมุ นมุ ทางการเมอื งในปัจจบุ นั ๕.1.1 การติดตามความเคลอ่ื นไหวทางโซเชียล 1. กล่มุ แกนน�าทางจิตวญิ ญาณ (ต่างประเทศ) ๒. กลุม่ แกนน�าในประเทศ (ระดับผ้ปู ฏิบัติ) ๓. กล่มุ แนวรว่ ม (ขยายความ) ๕.1.๒ สภานสิ ติ นกั ศกึ ษาแหง่ ประเทศไทย (สนท.) เรมิ่ ดา� เนนิ กจิ กรรมตงั้ แต ่ ๕ มถิ นุ ายน ๒๕๖๓ มมี วลชนจากเครือขา่ ยนักศึกษาสถาบันต่าง ๆ สนับสนนุ ๕.1.๓ กลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free Youth) ๕.1.๔ คณะรณรงคเ์ พอ่ื รฐั ธรรมนญู ฉบบั ประชาชน (ศรช.) มมี วลชนเครอื ขา่ ยภาควชิ าการ นสิ ิตนักศกึ ษา ภาคประชาชน สนับสนนุ ๕.1.๕ เครือข่ายนกั เรียน นสิ ิต นักศึกษาเคยี งข้างประชาชนเพื่อประชาธปิ ไตย (คนป.) ๕.1.๖ ศนู ย์ทนายความสิทธมิ นุษยชน ๕.๒ สถานการณ ์ สบื สวนหาขา่ วจากกลมุ่ ผสู้ นบั สนนุ วา่ มกี ารจดั กจิ กรรมทางการเมอื งแบบตอ่ เนอ่ื ง ในหลายพ้ืนที่ จากกรุงเทพมหานครไปสู่ต่างจังหวัด โดยจะต้องมีการประเมินสถานการณ์เพ่ือท่ีจะทราบ แนวโน้มของสถานการณ์ ๕.๓ การประเมนิ ดา้ นการขา่ ว ๕.๓.1 ด�าเนินการด้านการข่าว วางแผนรวบรวมข่าวสาร รวบรวมข่าวสารพ้ืนฐาน และขยายขา่ ยงานขา่ ว ๕.๓.๒ ประสานงานข่าวกบั หนว่ ยงานขา่ วตา่ ง ๆ ๕.๓.๓ สบื สวนหาข่าวเก่ียวกับแกนนา� ผู้สนับสนนุ เคครอื ข่าย ผจู้ ัดการชมุ นมุ ใหท้ ราบ รูปแบบการชุมนุม จ�านวนผู้ชุมนุม สถานท่ีจัดการชุมนุม สถานท่ีท่ีจะมีการเดินขบวน แผนประทุษกรรม ทเ่ี คยเกดิ แนวโนม้ สถานการณ์ ๕.๔ ขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม วิธีการประเมินจ�านวนผู้ชุมนุมได้จากยอดกด Like, ยอด Comment, ยอด Share, ผตู้ ิดตาม Twitter, ยอดการจ�าหนา่ ยสินคา้ ของกลุ่มผูช้ มุ นมุ , ยอดบริจาค, และ ประเมินขีดความสามารถในการชุมนุมจากอุปกรณ์ท่ีใช้ในการชุมนุม เวที เคร่ืองเสียง ป้ายไวนิล โปสเตอร์ ปา้ ยขอ้ ความตา่ ง ๆ ๕.๔.1 น�าขอ้ มลู การขา่ วท่ีได้จากการสืบสวนมาวเิ คราะห์วันตอ่ วนั ๕.๔.๒ เมอื่ ประเมนิ จา� นวนคน อปุ กรณ ์ ศกั ยภาพของกลมุ่ ผชู้ มุ นมุ จะสามารถประเมนิ ไดว้ า่ ในการชมุ นมุ จะพฒั นาเหตกุ ารณไ์ ดห้ รอื ไม ่ เชน่ จะยดื เยอ้ื หรอื ไม ่ จะมกี ารทา� ลายทรพั ยส์ นิ หรอื ไม ่ จะมกี ารบกุ ยดึ สถานท่รี าชการหรือไม ่ จะมกี ารปดิ ถนนหรือไม่ คู่มอื การปฏบิ ตั งิ านตามพระราชบัญญัติการชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นมุ สาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๕๗ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 157 11/17/2563 BE 12:40 PM
๕.๕ ขอ้ มูลพนื้ ที่ (IPB) ๕.๕.1 สง่ิ ทเี่ ปน็ อปุ สรรคตอ่ ฝา่ ยเรา เชน่ ทางเขา้ ออกหลายทาง จดุ ทยี่ ากตอ่ การควบคมุ จุดท่แี สงสว่างนอ้ ยท�าใหง้ า่ ยตอ่ การสรา้ งสถานการณ์ของมอื ทสี่ าม มมุ อบั ลับสายตา จดุ ทไี่ มม่ ี CCTV เปน็ ต้น ๕.๕.๒ สงิ่ ท่ีสนับสนนุ ฝา่ ยเรา ได้แก่ สามารถตง้ั อุปกรณ์ควบคุมฝงู ชนได้ เชน่ แผงเหล็ก รถฉดี นา�้ L-RAD อาคารสงู ขม่ งา่ ยตอ่ การสงั เกตการณ์ จุดท่มี ีกลอ้ ง CCTV ๕.๕.๓ เสน้ ทางเขา้ ออกพนื้ ทช่ี มุ นมุ ตอ้ งพจิ ารณาถงึ จา� นวนชอ่ งทางเขา้ ออก ความยากงา่ ย ในการเข้าออก การจา� กดั ชอ่ งทางเข้าออก การตั้งจุดคัดกรอง ๕.๕.๔ สภาพสงั คมโดยรอบของพืน้ ท่ชี ุมนุม เปน็ ผลดีหรืออปุ สรรคตอ่ เจ้าหน้าที่อย่างไร ๕.๖ แผนยทุ ธการ กา� ลังพล การฝึก 1) ด�าเนนิ การด้านการข่าว วางแผนรวบรวมขา่ วสาร รวบรวมขา่ วสารพนื้ ฐาน ๒) สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับแกนน�า ผ้สู นบั สนุน เครอื ขา่ ย ผจู้ ัดการชมุ นมุ ๓) เตรยี มการจดั ตงั้ และใชท้ ท่ี า� การสว่ นหนา้ (ทก.สน.) เพอื่ เตรยี มการควบคมุ อา� นวยการ ๔) รายงานเหตุการณเ์ บือ้ งตน้ ให้ศูนยป์ ฏิบัตกิ าร (ศปก.) ของหน่วยเหนือทราบ ๕) แจง้ เตอื นหน่วยปฏบิ ัติและหนว่ ยสนนั สนนุ การปฏิบัตทิ ราบ ๖) แจ้งหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของ ตร.และหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐให้จัด หรือประสานใหม้ กี ารประชาสมั พันธ์เป็นระยะ ๗) ตดิ ตอ่ ประสาน เจรจาตอ่ รอง และจดั เจา้ หนา้ ทป่ี ระสานกบั ผแู้ จง้ การชมุ นมุ สาธารณะ ๘) ประเมินภัยคกุ คาม วิเคราะห์ความเสีย่ ง ๙) เตรยี มการตามขน้ั ตอนของกฎหมาย การใช้กา� ลัง 1๐) เตรียมอปุ กรณ์ส่ิงกีดขวางหรืออ�านวยความสะดวก 11) เตรียมพ้ืนท่ีการชุมนมุ ใหป้ ลอดภัย สะดวกต่อการใชพ้ ้นื ทขี่ องบุคคลท่วั ไป 1๒) การวางกา� ลงั เจา้ หนา้ ทต่ี า� รวจ การวางแผงเหลก็ เพอ่ื อา� นวยความสะดวกการจราจร 1๓) ประกาศมาตรการทางกฎหมายใหผ้ ู้ชมุ นุมและผจู้ ดั ทราบ 1๔) จัดระเบียบสื่อมวลชน 1๕) ด�าเนินการด้านมวลชนสัมพนั ธ์ 1๖) จดั ต้งั ศปก.สน. ในพนื้ ที่ชุมนุมเพือ่ ควบคมุ สัง่ การ ๕.๗ แผนเผชญิ เหตุ ยทุ ธวธิ ี แผนส�ารอง ตอ้ งจัดท�าแผนเผชิญเหตใุ นกรณีเกดิ เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ไดแ้ ก ่ 1) กรณกี ลมุ่ ผชู้ มุ นมุ มีการแสดงออกเชงิ สัญลกั ษณ์ ๒) การช่วยเหลือประชาชนหรือเจ้าหน้าท่ี กรณีท่ีถูกกลุ่มผู้ชุมนุมท�าร้ายร่างกายหรือ จบั กมุ ตัว ๓) กรณีเกิดอบุ ตั ิเหตทุ า� ใหผ้ ู้ชุมนมุ หรอื ประชาชนไดร้ บั บาดเจบ็ 1๕๘ คมู่ อื การปฏบิ ัติงานตามพระราชบัญญตั กิ ารชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 158 11/17/2563 BE 12:40 PM
การจัดตง้ั ศูนย์ปฏิบตั กิ ารสัง่ การและควบคมุ (CCOC) ๖. พ.ต.อ.นพศลิ ป์ พูลสวสั ด์ิ รอง ผบก.สส.บช.น. วิทยากรผู้มคี วามเชีย่ วชาญด้านงานสืบสวนของนครบาล ไดบ้ รรยายในหวั ขอ้ สว่ นบงั คบั บญั ชา บก.ควบคมุ และการควบคมุ สงั่ การ มรี ายละเอยี ดนา่ สนใจ ดังตอ่ ไปน้ ี ๖.1 การจัดตั้งศูนย์ปฏิบตั ิการสั่งการและควบคุม (CCOC) มีดังนี้ 1) ศูนยป์ ฏบิ ตั กิ ารส่งั การและควบคุม Command and Control Operations Center (CCOC) ระดับ บช.น./ภ., ระดับ บก./ภ.จว. และ ระดบั สน./สภ. ๒) โดยม ี รอง ผบช., รอง ผบก.ฯ และ รอง ผกก.ฯ สภ.หรอื สน. เปน็ หวั หนา้ ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ าร สงั่ การและควบคุม (CCOC) หรือผู้ท่ีผูบ้ งั คับบัญชาพจิ ารณาตามความเหมาะสม ๖.๒ เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ 1) เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ส�าหรับใชใ้ นการใชง้ านฐานขอ้ มลู อย่างนอ้ ย ๕ เคร่อื ง พรอ้ มดว้ ย Server จัดเก็บขอ้ มูล 1 เคร่อื ง หรอื ตามความสามารถในการจดั หา ๒) เคร่ืองคอมพิวเตอร์ในการเช่ือมต่อข้อมูลกับระบบ POLIS และระบบ AMI ของ กรมการปกครอง เพ่อื ใช้ในการตรวจสอบขอ้ มลู หรือตามความสามารถในการจดั หา ๓) เคร่ืองคอมพิวเตอร์เช่ือมต่อวง Lan และทุกเคร่ืองเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็ว เพอื่ ตรวจสอบขอ้ มลู หรือตามความสามารถในการจัดหา ๔) โปรเจคเตอร์ ๕ เครือ่ ง พร้อมจอขนาด 1๒๐ น้วิ ๕ จอ เชือ่ มตอ่ ผา่ นเครื่อง Matrix ในการจัดการน�าภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร ์ และเครอ่ื ง DVD หรอื อุปกรณอ์ ่นื ๆ นา� ฉายขึ้นจอหรือสลบั จอ ในการ Presentation ได้อย่างเปน็ ระบบ หรือตามความสามารถในการจัดหา ๕) คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง ในการใช้งานข้อมูล I๒ และการใช้ติดตามเคร่ือง GPS ซงึ่ ตดิ ตง้ั ไวก้ บั ยานพาหนะเปา้ หมาย รวมทง้ั ใชใ้ นการตรวจสอบวงจรปดิ ของ กทม. ดว้ ย หรอื ตามความสามารถ ในการจดั หา ๖.๓ กา� ลงั พลผู้ปฏิบตั ิงาน ศนู ยป์ ฏบิ ัติการสัง่ การและควบคมุ (CCOC) บก.สส.บช.น. ประกอบด้วยกา� ลังพลดงั น้ี (1) ส่วนบังคบั บัญชา ประกอบด้วย ก. รอง ผบช., รอง ผบก., รอง ผกก.ฯ สภ. หรอื สน. เป็น หวั หนา้ ศูนยฯ์ ข. และผู้ที่ หัวหนา้ ศูนยฯ์ คดั เลอื กใหเ้ ปน็ รองหวั หน้าศนู ย์ฯ โดยสง่ิ ที่ หน.ศนู ย์ฯ ต้องรับทราบและดา� เนนิ การ มีดงั น้ี 1) ความเป็นมา ๒) สถานการณ์ ๓) การประเมินด้านการข่าว ๔) ขดี ความสามารถของฝา่ ยตรงข้าม ๕) ขอ้ มูล IPB คมู่ ือการปฏิบตั ิงานตามพระราชบญั ญตั ิการชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนุมสาธารณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) 1๕๙ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 159 11/17/2563 BE 12:40 PM
๖) แผนยทุ ธการ ก�าลังพล และการฝกึ ๗) แผนเผชิญเหต ุ ยทุ ธวิธีและแผนส�ารอง ๘) ขอ้ กฎหมาย, พนักงานสอบสวน ๙) การส่งก�าลังบ�ารุง 1๐) การตดิ ตอ่ สอื่ สาร 11) การรายงาน 1๒) การประชาสัมพันธแ์ ละบรหิ ารสอ่ื มวลชน (๒) เจ้าหนา้ ทฝี่ า่ ยขา่ ว (๓) เจา้ หน้าท่ีฝา่ ยแผน (๔) เจ้าหน้าทฝ่ี ่ายยุทธการและการควบคุมก�าลัง (๕) เจ้าหน้าที่ฝา่ ยอ�านวยการและส่งก�าลงั บา� รงุ (๖) เจ้าหน้าทฝ่ี ่ายสือ่ สาร (๗) เจ้าหนา้ ท่ีฝ่ายควบคมุ การรบั รายงานผ่านช่องทาง line (๘) เจา้ หน้าท่ฝี า่ ยติดตามสถานการณ์และฝ่ายบนั ทกึ ตารางเหตุการณ์ (๙) เจ้าหนา้ ทฝี่ า่ ยตรวจสอบขอ้ มลู ประวัติบุคคลและยานพาหนะ (1๐) เจ้าหนา้ ที่ฝา่ ยติดตามความเคลือ่ นไหว Social, Face book, twitter, press, tv, news, Face book live, YouTube live (11) เจ้าหน้าที่กลอ้ งวงจรปิด cctv พน้ื ทก่ี ารชุมนุม (1๒) เจ้าหนา้ ที่ฝา่ ยสบื สวนควบคมุ การ live สด และอัดเทปค�าปราศรัยในพน้ื ทีช่ มุ นุม (1๓) เจา้ หน้าท่ปี ระสานงานฝ่ายสืบสวนหน่วยปฏบิ ัตติ า่ ง ๆ (1๔) เจ้าหน้าทฝ่ี ่ายกฎหมาย (พนักงานสอบสวน) (1๕) เจ้าหน้าทีฝ่ ่ายถอดเทปคา� ปราศรยั ประกอบส�านวนการสบื สวนสอบสวน (1๖) เจา้ หนา้ ท่ฝี ่ายประสานงานและแถลงขา่ วต่อส่อื มวลชน ๖.๔ โครงสรา้ งศูนยป์ ฏิบตั กิ ารสั่งการและควบคุมการสืบสวนคดีอาชญากรรม [ Command and Control Operations Center (CCOC) for Criminal Investigation ] 1๖๐ คู่มอื การปฏิบตั งิ านตามพระราชบัญญตั ิการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 160 11/17/2563 BE 12:40 PM
๖.๕ ระบบการทา� งานของ CCOC ผู้อ�านวยการหรือหัวหน้าการสืบสวนคดีและทีมบริหารงานสืบสวน จะเป็น ผู้ควบคุม สง่ั การ สนบั สนนุ แกไ้ ข ชว่ ยเหลอื ตรวจสอบขอ้ มลู การปฏบิ ตั ทิ กุ เรอื่ งใหก้ บั ชดุ ปฏบิ ตั ิ สว่ นชดุ ปฏบิ ตั จิ ะมกี ารเตรยี ม และตรวจสอบข้อมูลก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ตามรายการท่ีต้องตรวจสอบ (checklist) โดยใช้เครื่องมือและ อปุ กรณท์ ี่ CCOC ซงึ่ ไดเ้ ชอื่ มตอ่ ขอ้ มลู กบั หนว่ ยงานภายในและภายนอกไวแ้ ลว้ วางแผน ซกั ซอ้ ม แลว้ ออกปฏบิ ตั ิ สรปุ ผลการปฏบิ ตั ิ ถา่ ยภาพนงิ่ หรอื วดิ โี อระหวา่ งปฏบิ ตั หิ นา้ ทเ่ี พอื่ รวบรวมหลกั ฐานและเพอื่ ทา� รายงานนา� เสนอ (presentation) เขียนรายงานการสืบสวนอย่างเป็นระบบตามความเป็นจริงตลอดจนการเก็บข้อมูลต่อเนื่อง ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้องและสิทธิมนุษยชน CCOC และผู้ปฏิบัติจะท�างานด้วยกัน (two-way communication) คูม่ อื การปฏบิ ตั ิงานตามพระราชบัญญตั กิ ารชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๖1 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 161 11/17/2563 BE 12:40 PM
กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ งและการเกบ็ รวบรวมพยานหลักฐาน ๗. พ.ต.อ.อรรถพล อนสุ ทิ ธ์ิ รอง ผบก.สส.บช.น. ได้บรรยายในหวั ข้อ กฎหมายท่ีเกย่ี วข้อง พนักงานสอบสวนและการสอบสวน การเกบ็ รวบรวม พยานหลกั ฐาน สรปุ สาระส�าคญั ได้ดงั ตอ่ ไปน้ี สิ่งท่ีต้องพึงระลึกเสมอในการรวบรวมพยานหลักฐานของฝ่ายสืบสวนสอบสวนในคดีเกี่ยวกับ การชมุ นุม จากประสบการณ์และการถอดบทเรียนจากการปฏิบัติงาน มีดังน้ี ๗.1 หว่ งโซก่ ารครอบครองพยาน โดยเรมิ่ จากฝา่ ยสบื สวนและพนกั งานสอบสวนจะตอ้ งปฏบิ ตั ิ โดยมีอา� นาจและหนา้ ที่ ตอ้ งมคี า� ส่ัง แผน มอบหมายหนา้ ท่ีความรบั ผดิ ชอบให้ปฏบิ ตั ิ กา� หนดพนื้ ทีภ่ ารกิจให้ ชดั เจน การตรวจยดึ สงิ่ ของตา่ ง ๆ เพอื่ ใชเ้ ปน็ พยานหลกั ฐาน ตอ้ งทา� บนั ทกึ การตรวจยดึ นา� สง่ พนกั งานสอบสวน ลงประจา� วนั ไว้เปน็ หลกั ฐาน พนักงานสอบสวนจะตอ้ งส่งตรวจพิสจู นต์ ามระเบยี บ กฎหมายต่อไป ๗.๒ ในสภาวะปกตทิ ่ียังไม่มีการชมุ นมุ การสืบสวนหาขา่ วข้อมลู บคุ คล แกนน�าการเคลื่อนไหว เครอื ขา่ ย และผสู้ นบั สนนุ จะตอ้ งมกี ารดา� เนนิ การอยอู่ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดยจะตอ้ งตดิ ตามการเคลอื่ นไหวของบคุ คล ดังกลา่ ว ทางสอื่ โซเชยี ลมเี ดียทุกแขนงไปพร้อม ๆ กนั ในทางกลบั กนั เมอื่ มเี หตกุ ารณก์ ารชมุ นมุ และมกี ารกระทา� ทเี่ ขา้ องคป์ ระกอบการกระทา� ความผิดตามกฎหมายบัญญัติ ในการรวบรวมพยานหลักฐานเพ่ือขอออกหมายจับ ศาลมักจะให้พนักงาน สอบสวนรวบรวมพยานหลกั ฐานทเี่ ปน็ ประวตั กิ ารกระทา� ของผทู้ จี่ ะขอออกหมายจบั วา่ มพี ฤตกิ ารณเ์ คลอ่ื นไหว ในครงั้ กอ่ น ๆ อยา่ งไร เพอื่ ใหเ้ หน็ เจตนาในการกระทา� ความผดิ จงึ จา� เปน็ จะตอ้ งรวบรวมประวตั กิ ารเคลอ่ื นไหว ทางการเมอื ง การจดั กจิ กรรม การจดั การชมุ นมุ ยอ้ นหลงั เทา่ ทจ่ี ะทา� ได ้ วา่ มกี ารดา� เนนิ การกค่ี รงั้ แตล่ ะครง้ั รว่ ม ดา� เนนิ การกบั ใคร พฤตกิ ารณท์ แ่ี สดงออก วตั ถปุ ระสงคท์ เี่ รยี กรอ้ ง จดุ มงุ่ หมาย มกี ลมุ่ ใดใหก้ ารสนบั สนนุ หรอื ไม่ อาจตอ้ งมกี ารจดั ทา� ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร เสน้ ทางการเงนิ ไวด้ ว้ ย และจดั ทา� รายงานการสบื สวนพรอ้ มหลกั ฐาน น�าส่งให้พนักงานสอบสวนประกอบการด�าเนนิ คดี ๗.๓ เมอ่ื ทราบกา� หนดวนั นดั หมายใหม้ กี ารชมุ นมุ จะตอ้ งออกแผน คา� สงั่ ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ นั ในการ มอบหมายหน้าท่ีความรับผดิ ชอบจะต้องแบ่งมอบให้ชัดเจน ดังนี้ ๗.๓.1 ตดิ ตามบคุ คลสา� คญั ทง้ั กลมุ่ แกนนา� เครอื ขา่ ย ผสู้ นบั สนนุ ตดิ ตามความเคลอื่ นไหว เก็บรวบรวมข้อมลู แลว้ รายงานการสืบสวน ๗.๓.๒ ตดิ ตามความเคลอ่ื นไหวของกลมุ่ แกนนา� เครอื ขา่ ย ผสู้ นบั สนนุ ทางสอ่ื โซเชยี ลมเี ดยี ทุกแขนง เพ่ือจะทราบวันเวลา สถานที่ในการจัดกิจกรรม วัตถุประสงค์ ข้อความท่ีประกาศ จะเข้าข่าย องค์ประกอบความผดิ ฐานใดฐานหนง่ึ หรือไม่ ๗.๓.๓ แบง่ มอบพ้นื ที่ให้ฝา่ ยสืบสวนรับผดิ ชอบเป็นโซน โดยจะตอ้ งแบง่ หนา้ ทเ่ี ป็นชุด ๆ ได้แก่ ชุดถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว บันทึกเสียง ค�าปราศรัย ในการถ่ายภาพจะต้องสามารถยืนยัน ตวั บคุ คลไดอ้ ยา่ งชดั เจน กรณบี คุ คลทไี่ มร่ จู้ กั ชอ่ื ตอ้ งสามารถนา� มาใชส้ บื คน้ ได ้ การถา่ ยภาพยานพาหนะตอ้ งเหน็ เลขทะเบียนรถ ต�าหนสิ �าคญั เพอื่ หาตวั เจา้ ของได้ เปน็ ตน้ ๗.๓.๔ ชุดปฏิบัติการ LIVE สด ได้สร้างเครือข่ายจาก FACEBOOK LIVE เกาะติด สถานการณก์ ารชุมนมุ อยา่ งตอ่ เนื่อง ๗.๓.๕ ทา� การบนั ทกึ เทปจากการถา่ ยทอดสด จากสอ่ื ของกลมุ่ ผชู้ มุ นมุ เอง จากสอื่ มวลชน แขนงอื่น เพ่ือใช้เปน็ หลกั ฐานอกี ส่วนหน่งึ 1๖๒ คู่มอื การปฏบิ ตั ิงานตามพระราชบัญญตั ิการชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นมุ สาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 162 11/17/2563 BE 12:40 PM
๗.๓.๖ จัดต้ังศูนย์บริหารสถานการณ์ CCOC เพื่อเป็นศูนย์อ�านวยการส่ังการของ ผบู้ งั คบั บญั ชา สนบั สนนุ ขอ้ มลู ใหช้ ดุ ปฏบิ ตั ใิ นพน้ื ท ี่ โดยจะตอ้ งมฝี า่ ยกฎหมายวเิ คราะหก์ ารกระทา� ของผชู้ มุ นมุ ว่าจะเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดอย่างไรหรือไม่ ประกอบกับให้ค�าแนะน�า เสนอแนวทางการปฏิบัติของ เจ้าหนา้ ทเี่ พอ่ื ใหเ้ ป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ๗.๔ ในวันท่ีสถานการณ์การชุมนุม ผู้บังคับบัญชาจะต้องมีการประชุมซักซ้อมการปฏิบัติของ ทุกฝา่ ย ซกั ซ้อมความพรอ้ มของเจ้าหนา้ ทป่ี ระจา� ศนู ย์บริหารสถานการณ ์ CCOC ตรวจสอบเคร่ืองมือ อปุ กรณ์ ท่ชี ุดปฏบิ ัติจะน�าไปใช ้ เช่น อปุ กรณก์ ารบันทึกเสียงพรอ้ มหรอื ไม ่ วิทยสุ ื่อสาร กล้อง ตอ้ งใช้งานได้ ชารจ์ ถา่ น พรอ้ มใช้งาน หรือเตรยี มอุปกรณถ์ ่านส�ารอง ก�าชับส่ังการชุดสืบสวนหาข่าวจะต้องรวบรวมข้อมูล หรือพยานหลักฐานท่ีต้องใช้ในการ ดา� เนนิ คดี ในแตล่ ะฐานความผิด ก�าหนดวิธีการรายงาน วงรอบการรายงานของแต่ละชุด หากยังไม่มีการปราศรัย ไม่มี เหตุการณ์ส�าคัญ อาจก�าหนดเป็นช่วง ๓๐ นาที 1๕ นาที หากมีการปราศรัย อาจให้รายงานกระชั้นชิดทุก ๕ นาที หากมีเหตุการณ์รุนแรงต้องใหร้ ายงานทันที ศูนย์บริหารสถานการณ์ CCOC จะต้องรวบรวมข้อมูลจัดท�ากระดานสถานการณ์ (TIMELINE) และจดั ท�าขอ้ มลู รายงานผบู้ ังคับบัญชาทุกระยะ ๗.๕ พยานหลักฐานท่ีฝ่ายสืบสวนจะต้องรวบรวม เพ่ือน�าส่งให้พนักงานสอบสวนจากสถานที่ ชมุ นุม ๗.๕.1 ลา� ดบั เหตกุ ารณข์ องการชมุ นมุ ตงั้ แตแ่ กนนา� เครอื ขา่ ย ผสู้ นบั สนนุ เดนิ ทางมายงั ทีช่ มุ นุม ระหวา่ งการชมุ นุมจนเสร็จสนิ้ และเดินทางกลับ ๗.๕.๒ ภาพนง่ิ ภาพเคลอ่ื นไหว บนั ทกึ เสยี งคา� ปราศรยั บนั ทกึ การ ดา� รงการตดิ ตอ่ สอื่ สาร ของเจ้าหนา้ ที่ต�ารวจกับผชู้ ุมนมุ การประกาศของเจา้ พนกั งานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ๗.๕.๒.1 แจ้งคร้ังแรกก่อนเร่ิมการชุมนุม (กรณีมีการแจ้งการชุมนุม) “เรียน ผชู้ มุ นมุ ทกุ ทา่ นครบั ผม พ.ต.อ. ...... ผกู้ า� กบั การสถานตี า� รวจ.....เจา้ พนกั งานดแู ลการชมุ นมุ ขอเรยี นชแ้ี จงทกุ ทา่ น ให้ทราบวา่ การใช้สิทธิและเสรภี าพในการชุมนมุ ในคร้งั นี้ ขอใหเ้ ปน็ การชมุ นมุ โดยสงบและปราศจากอาวุธ / การชุมนุมต้องไม่ไปกระทบสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอ่ืน หรือละเมิดต่อกฎหมาย / ขอให้การชุมนุมอยู่ใน ขอบเขตพื้นท่ีท่ีแจ้งไว้ การใช้เคร่ืองขยายเสียงอย่าให้ดังเกินกว่าท่ีกฎหมายก�าหนด และขอให้เลิกการชุมนุม ตามเวลาท่แี จง้ ด้วยนะครบั ” ๗.๕.๒.๒ การแจ้งเมื่อมีการฝ่าฝืนกฎหมาย (ทั้งกรณีมีการแจ้งการชุมนุมปกติ หรือในชว่ งประกาศใช้ พ.ร.ก.) “เรยี น ผชู้ มุ นมุ ทกุ ทา่ นครบั ผม พ.ต.อ. ...... ผกู้ า� กบั การสถานตี า� รวจ... เจา้ พนกั งานดแู ลการชมุ นมุ ขอเรยี นชแี้ จงทกุ ทา่ นใหท้ ราบวา่ ขณะน ี้ การชมุ นมุ ของทา่ น มใิ ชก่ ารชมุ นมุ โดยสงบ มกี ารนา� มวลชนพงั แผงเหลก็ กน้ั พนื้ ท ี่ ลงมาบนผวิ การจราจร มกี ารใชม้ วลชนปดิ เสน้ ทางการจราจร ซง่ึ เปน็ ทาง สาธารณะ ทา� ใหผ้ อู้ น่ื ไมส่ ามารถใชเ้ สน้ ทางนสี้ ญั จรไปมาไดต้ ามปกต ิ การชมุ นมุ ของพวกทา่ นในขณะน ้ี เปน็ การ ละเมดิ ตอ่ กฎหมาย และกระทบตอ่ สทิ ธแิ ละเสรภี าพของบคุ คลอน่ื ... (อาจมกี ารชแ้ี จงการกระทา� ผดิ อนื่ เพมิ่ เตมิ ดว้ ย ตามแตล่ ะเหตุการณ์ เชน่ มาตรการปอ้ งกันการแพรเ่ ชื้อโรค) ค่มู อื การปฏบิ ตั ิงานตามพระราชบญั ญัตกิ ารชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนุมสาธารณะ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๖๓ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 163 11/17/2563 BE 12:40 PM
จึงเป็นการชุมนุมที่มิได้เป็นการกระท�าภายในความมุ่งหมายแห่ง รฐั ธรรมนญู จึงขอให้ยุติการกระท�าแตเ่ วลาน้ี (และให้แกไ้ ขภายในระยะเวลาท่ีก�าหนด)” ๗.๕.๒.๓ การแจง้ ให้เลกิ การชุมนุมกรณมี ีการฝ่าฝนื หรอื กระทา� ผดิ กฎหมาย “เรยี น ผชู้ มุ นมุ ทกุ ทา่ นครบั ผม พ.ต.อ. ...... ผกู้ า� กบั การสถานตี า� รวจ... เจา้ พนกั งานดแู ลการชมุ นมุ ขอเรยี นชแ้ี จงทกุ ทา่ นใหท้ ราบวา่ ขณะน ้ี การชมุ นมุ ของทา่ น มใิ ชก่ ารชมุ นมุ โดยสงบ ภายในความมงุ่ หมายแห่งรฐั ธรรมนูญ (มกี ารกระทา� การใด ๆ ทีม่ ีลกั ษณะรุนแรงและอาจเปน็ อนั ตรายแกช่ วี ิต รา่ งกาย จติ ใจ หรอื ทรพั ยส์ นิ ของผอู้ นื่ จนเกดิ ความวนุ่ วายขนึ้ ในบา้ นเมอื ง).... การชมุ นมุ ของพวกทา่ นในขณะน้ี เปน็ การละเมดิ ตอ่ กฎหมาย และกระทบตอ่ สทิ ธแิ ละเสรภี าพของบคุ คลอนื่ ... (อาจมกี ารชแี้ จงการกระทา� ผดิ อนื่ เพมิ่ เตมิ ดว้ ยตามแตล่ ะเหตกุ ารณ ์ เชน่ มาตรการปอ้ งกนั การแพรเ่ ชอ้ื โรค) จงึ ขอใหย้ ตุ กิ ารกระทา� ขา้ งตน้ แตเ่ วลาน”้ี ทั้งน้ีจากข้อ ๗.๕.๒.1 – ๗.๕.๒.๓ ให้บันทึกภาพ เสียง และแจ้ง ส่อื มวลชนบันทึกภาพการแจ้งประกาศไว้เพ่ือใช้เป็นพยานหลักฐานต่อไปดว้ ย ๗.๕.๓ ข้อมูลบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บ ได้รับความเสียหาย บุคคลที่จะอ้างอิงเป็นพยาน รวมถงึ เจ้าหน้าท่ีต�ารวจทอ่ี ยูใ่ นบริเวณดงั กล่าวเพอ่ื จะเปน็ พยานบุคคลในคดี ๗.๕.๔ เกบ็ ขอ้ มลู ชา่ งภาพ สอ่ื มวลชนทกุ แขนง เพอ่ื ประสานขอขอ้ มลู ในการนา� เสนอขา่ ว มาประกอบคดี ๗.๕.๕ ถ่ายภาพ เก็บขอ้ มูล เคร่ืองมอื เครอื่ งใช้ อปุ กรณ ์ ยานพาหนะ ของกลมุ่ แกนน�า เครอื ข่าย ผู้สนับสนุน เสื้อผา้ ปา้ ยข้อความ อาหาร นา�้ เคร่ืองดม่ื เต็นท ์ เวที เครอ่ื งฉายเลเซอร ์ เคร่ืองดนตร ี เพอื่ สบื คน้ หาเจ้าของ และหาความสมั พนั ธเ์ ช่ือมโยงของบคุ คล ตอ่ ไป ๗.๕.๖ เสน้ ทางการเงนิ ของเครือขา่ ย ผ้สู นบั สนุนทุนทรัพย์ ๗.๖ การท�ารายงานการสืบสวน ฝ่ายข่าวที่จะต้องจัดท�ารายงานการสืบสวน ประกอบด้วย ฝ่ายสืบสวนที่รับผิดชอบพ้ืนท่ีที่ได้ออกค�าส่ังมอบหมายพ้ืนท่ีและความรับผิดชอบไว้ ต�ารวจสันติบาล และ กองบังคับการปราบปรามการกระท�าความผิดเก่ียวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยก่อนจะส่งข้อมูล ใหฝ้ ่ายข่าวประชุมโตะ๊ ขา่ ว ตรวจสอบขอ้ มลู ให้ตรงกันก่อน แลว้ จงึ สง่ รายงานการสบื สวนใหพ้ นกั งานสอบสวน ในการรายงานการสืบสวน จะต้องส่งมอบพยานหลักฐานประกอบ เช่น บันทึกการถอดเทปค�าปราศรัย CD บนั ทกึ คา� ปราศรยั ภาพนง่ิ ภาพเคลอื่ นไหว เอกสาร หรอื พยานหลกั ฐานอน่ื และตอ้ งระบดุ ว้ ยวา่ จะใหส้ อบปากคา� ผใู้ ดเปน็ พยานในการสบื สวน รายงานสบื สวนตอ้ งประทบั ชนั้ ความลบั “ลบั มาก” ไวด้ ว้ ย เพอ่ื ไมใ่ หข้ อ้ มลู รวั่ ไหล และรีบน�าสง่ พนกั งานสอบสวน ๗.๗ ถอดบทเรียนการรวบรวมพยานหลักฐานของฝา่ ยสบื สวน ๗.๗.1 การถา่ ยรปู บคุ คลไมช่ ดั รายงานชอื่ บคุ คลไมต่ รงกนั ระหวา่ งสบื พนื้ ท ่ี บก. – สนั ตบิ าล การบนั ทึกภาพบคุ คลจงึ ใหบ้ ันทึกหลาย ๆ มมุ ให้เหน็ ตา� หน ิ เสอ้ื ผา้ เครอื่ งหมาย รองเทา้ เพื่อยืนยันตัวบคุ คล ไดภ้ ายหลงั และสามารถสื่อใหเ้ ห็นถึงวา่ เปน็ บุคคลกลมุ่ ใด เคยมกี ารเคล่ือนไหวมากอ่ นหรอื ไม่ ๗.๗.๒ บันทึกเสียงไม่ชัดเจน ฟังไม่ออก ต้องให้ใกล้เวทีพอสมควร (อาจต้อง ๒ คน เพ่ือส�ารอง) ต้องจัดท�าบันทึกว่าใครเป็นพิธีกร (ไม่รู้ให้ถาม CCOC) พูดเชิญใคร ใครเร่ิมพูด พูดแล้วพิธีกร เชิญใครตอ่ ๗.๗.๓ การถอดเทปต้องระบุว่าใครพูด เร่ิมพูดเวลาใดถึงเวลาใด ต้องถอดทุกค�าพูด ถ้าอย่เู วทหี ลายคน สลับกนั พูด ต้องขนึ้ ยอ่ หน้าทกุ คร้ังวา่ ใครพูด 1๖๔ คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านตามพระราชบญั ญตั ิการชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 164 11/17/2563 BE 12:40 PM
๗.๗.๔ ถ้ายงั ไม่รชู้ ่ือต้องระบุเส้ือผา้ เคร่ืองหมาย ระบุภาพถา่ ยเพอื่ ยนื ยนั ตัวบุคคลได้ ๗.๗.๕ การส่งแผ่น CD แนบรายงานการสืบสวนท่ีถอดเทป เพ่ือให้พนักงานสอบสวน สง่ ตรวจพสิ จู นย์ งั พสิ จู นห์ ลักฐาน เพอ่ื ยืนยนั วา่ ไม่มีการตดั ตอ่ เพม่ิ เสยี ง ๗.๗.๖ ก่อนส่งรายงานการสืบสวนให้ฝ่ายข่าวประชุมโต๊ะข่าวสรุปข้อมูลให้ตรงกัน แลว้ จงึ ส่งรายงานการสบื สวนให้พนักงานสอบสวน ๗.๗.๗ กา� หนดตวั บคุ คลทจ่ี ะใหก้ ารเปน็ พยาน หมายเลขโทรศพั ทเ์ พอ่ื พนกั งานสอบสวน ติดต่อนดั หมายมาสอบสวน ๗.๘ การแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน และการด�าเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนถึงการสรุปส�านวน ๗.๘.1 ต้องจัดให้มีสถานที่ท�าการสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนเป็นการเฉพาะ เพ่ือใหเ้ ป็นพนื้ ทีค่ วบคุมไมใ่ ห้ผไู้ ม่มีส่วนเก่ยี วข้องเข้าออก เนอ่ื งจากข้อมลู ในการสอบสวนเปน็ ความลบั ๗.๘.๒ ในหอ้ งสอบสวนตอ้ งจดั ใหม้ อี ปุ กรณ ์ เครอื่ งมอื เครอ่ื งใช ้ สนบั สนนุ การทา� งานของ พนักงานสอบสวนใหพ้ รอ้ ม เชน่ คอมพิวเตอร ์ เคร่ืองถ่ายเอกสาร แฟ้มเก็บเอกสาร บอรด์ เพ่ือใช้ตดิ รปู บคุ คล และพยานหลกั ฐาน ๗.๘.๓ ในคดีเกี่ยวกับการชุมนุม มักมีการออกค�าส่ังแต่งต้ังคณะพนักงานสอบสวน เพอื่ รว่ มทา� การสอบสวนดา� เนนิ คด ี เนอื่ งจากมพี ยานจา� นวนมาก อาจเกนิ ขดี ความสามารถของพนกั งานสอบสวน ในระดับสถานีต�ารวจ ๗.๘.๔ ในการปฏบิ ตั หิ วั หนา้ คณะพนกั งานสอบสวนจะเปน็ ผแู้ บง่ มอบภารกจิ ใหพ้ นกั งาน สอบสวนแต่ละนายมีหน้าที่รับผิดชอบ เช่น พนักงานสอบสวนอาวุโสเป็นคณะกรรมการสอบสวน ก�าหนด ประเด็นในการซักถามพิจารณาข้อกฎหมายฐานความผิด และจะต้องมอบหมายพนักงานสอบสวนหน่ึงนาย ทา� หนา้ ทเ่ี ลขานกุ ารคณะทา� งาน เพอื่ ทา� หนา้ ทจ่ี ดบนั ทกึ การประชมุ บนั ทกึ ขอ้ สงั่ การ และรายงานผลการปฏบิ ตั ิ ของคณะท�างานใหผ้ ูบ้ งั คับบญั ชาทราบ ๗.๘.๕ มอบหมายผรู้ บั ผดิ ชอบในการประสานงานกบั ฝา่ ยสบื สวน เพอื่ ตดิ ตามพยานหลกั ฐาน จากฝา่ ยสบื สวน ๗.๘.๖ มอบหมายผรู้ บั ผดิ ชอบรวบรวม เกบ็ รกั ษาของกลางพยานเอกสาร พยานหลกั ฐานอนื่ และนา� ของกลางสง่ ตรวจพสิ จู น์ ตลอดจนตดิ ตามผลการตรวจพสิ จู น์ เข้าสู่ส�านวน และจดั ท�าบัญชีคมุ ไว้ ๗.๘.๗ ก่อนออกหมายเรียก หรือขอออกหมายจับจะต้องมีการประชุมคณะพนักงาน สอบสวนทกุ นาย เพอื่ รว่ มกนั พจิ ารณาพยานหลกั ฐาน ลงความเหน็ โดยจดั ทา� บนั ทกึ การประชมุ ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานดว้ ย แล้วมอบหมายพนักงานสอบสวนผใู้ ดลงนามออกหมายเรยี ก หรือเปน็ ผู้ย่นื คา� รอ้ งขอออกหมายจบั ต่อศาล ๗.๘.๘ ให้ก�าหนดรูปแบบการสรุปพยานหลักฐานเพ่ือน�าเสนอผู้บังคับบัญชาเป็นตาราง เพื่อเขา้ ใจได้ง่าย คู่มือการปฏิบัตงิ านตามพระราชบญั ญัตกิ ารชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นมุ สาธารณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) 1๖๕ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 165 11/17/2563 BE 12:40 PM
เทคโนโลยสี า� หรบั งานสบื สวน ๘. พ.ต.อ.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบก.สสท. ไดบ้ รรยายในหวั ขอ้ ความรทู้ างเทคโนโลยีส�าหรบั งานสบื สวน ไวด้ งั ตอ่ ไปนี้ เทคโนโลยีส�าหรับงานสืบสวน เป็นการเน้นส่ิงจ�าเป็นที่เจ้าหน้าที่ต�ารวจที่ท�างานเกี่ยวกับ งานสืบสวนควรมีความรู้เก่ียวกับเทคโนโลยีเพ่ือน�าไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการท�างานสืบสวน โดยแบ่งเปน็ ประเดน็ หลักดังน้ี ๘.1 การวเิ คราะหแ์ นวโนม้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในประเทศไทยจาก Hot trends ของ Google ซง่ึ สามารถ เปรยี บเทยี บ Key word ทส่ี นใจ ทา� ใหเ้ ขา้ ใจสถานการณป์ จั จบุ นั วา่ ประชาชนกา� ลงั ใหค้ วามนยิ มสบื คน้ ในเรอื่ งใด ๘.๒ การวเิ คราะห์ขา่ วปลอม โดยใช้หลัก ชวั ร์กอ่ นแชร์ กล่าวคือ เมอื่ ไดร้ ับขอ้ มูลขา่ วสารใดมา ควรตรวจสอบจากแหล่งที่น่าเช่ือถือ ๓-๕ แหล่งข่าวก่อนแชร์ ซ่ึงสามารถตรวจสอบโดยการสืบค้นข้อความ หรือรูปภาพจากเว็บไซต์ Google.com หรือ Images.google.com แลว้ วเิ คราะหค์ วามนา่ เช่อื ถอื ของเว็บไซต ์ และ Timeline ของข้อมูล นอกจากน้ียังสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ AntiFakeNewsCenter.com อกี สว่ นหนง่ึ ๘.๓ เมื่อตรวจพบข้อมลู ขา่ วสารไมเ่ หมาะสมในสอื่ สังคมออนไลน์ ควรใชว้ ธิ กี ารแจ้งการละเมิด นโยบายของส่อื สงั คมออนไลน์แตล่ ะคา่ ยเป็นหลัก โดยเน้นการให้ความรกู้ บั เดก็ และเยาวชนเพ่ือให้เขา้ ใจกลไก การแกไ้ ขปญั หาอย่างมีประสิทธภิ าพและตรงจดุ ๘.๔ การตั้งค่าการใช้งานส่ือสังคมออนไลน์เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การใชก้ ลไกการยนื ยนั ตวั ตนแบบ ๒ ชน้ั ผา่ นทาง SMS และการอนญุ าตสทิ ธใิ์ หแ้ อปพลเิ คชนั ในโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทเ่ี พอ่ื เข้าถงึ ขอ้ มลู สว่ นบคุ คลเท่าที่จ�าเปน็ ๘.๕ การทา� ความเข้าใจถงึ กลไกการระบุตัวตนในโลกออนไลน์ ซึง่ ใชห้ มายเลขไอพีเปน็ ตวั แทน ในการท่องอินเทอร์เน็ต เม่ือมีการกระท�าความผิด หมายเลขไอพีจะปรากฏเป็นพยานหลักฐานในส่วนต่าง ๆ ดังน้ันการระบุตัวตนของผู้กระท�าความผิดจึงจ�าเป็นต้องหาวิธีการระบุหมายเลขไอพีของผู้ใช้บัญชีส่ือสังคม ออนไลน์ในระหว่างการติดต่อสื่อสาร ซึ่งเมื่อน�าหมายเลขไอพีและวันเวลาท่ีมีการใช้งานไปตรวจสอบกับผู้ให้ บริการอินเทอร์เน็ต จะท�าให้ทราบถึงหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และน�าไปสู่การระบุตัวตน ผใู้ ชง้ าน ๘.๖ ความท้าทายในการยึดโทรศัพท์เคลื่อนท่ีจากเป้าหมาย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะติดรหัสผ่าน ท�าให้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลการกระท�าความผิดภายในโทรศัพท์เคล่ือนท่ีของเป้าหมายได้ ดังน้ัน เมื่อเขา้ ตรวจค้นจงึ ไมค่ วรรบี ยึดโทรศพั ทเ์ คลือ่ นทขี่ องเปา้ หมายในทันท ี แต่ควรใชว้ ิธีการแจง้ สิทธต์ิ ามกฎหมาย เพอ่ื เปดิ โอกาสใหเ้ ปา้ หมายไดใ้ ชโ้ ทรศพั ทเ์ พอ่ื สบื คน้ เบอรโ์ ทรศัพท ์ เมอ่ื เปา้ หมายปลดลอ็ กโทรศัพทแ์ ลว้ จงึ คอ่ ย ยดึ โทรศพั ทข์ องเปา้ หมาย โดยสง่ิ แรกทคี่ วรดา� เนนิ การคอื การเปรยี บเทยี บวนั เวลาของโทรศพั ทว์ า่ คลาดเคลอื่ น หรอื ตรงกับวนั เวลามาตรฐานหรือไม่อยา่ งไร จากนัน้ จึงเกบ็ หมายเลขอีม ่ี หมายเลขซิมโทรศพั ท ์ หมายเลขไอพ ี (หากมีการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ต) แล้วจึงปรับสัญญาณการเชื่อมต่อของโทรศัพท์เป็นแบบ Airplane Mode เพ่ือป้องกันมิให้มีการติดต่อจากระยะไกลและลบพยานหลักฐานในโทรศัพท์เคล่ือนท่ีของกลาง หลังจากน้ัน จึงเกบ็ รายละเอยี ดเพ่มิ เตมิ ในโทรศพั ทเ์ คลื่อนท ่ี ไดแ้ ก ่ หมายเลขเครอื่ ง รุ่น ยหี่ ้อ ระบบปฏิบัติการ และท่ีสา� คญั คือ บัญชีส่อื สังคมออนไลนท์ ่ีใชใ้ นโทรศัพทเ์ คล่อื นทด่ี ังกลา่ ว 1๖๖ คูม่ ือการปฏิบตั งิ านตามพระราชบญั ญตั กิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชมุ นมุ สาธารณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 166 11/17/2563 BE 12:40 PM
การตดิ ต่อสอ่ื สารในภารกิจควบคมุ ฝงู ชน ๙. พ.ต.อ.พงศพ์ นั ธ์ นุชนารถ ผกก.กลุ่มงานพฒั นาเทคโนโลยีและบรหิ ารความถี่ ได้บรรยายในหัวข้อ การตดิ ตอ่ สอื่ สารในภารกิจควบคมุ ฝงู ชน ที่นา่ สนใจ ดังตอ่ ไปน้ี ๙.1 ขน้ั ตอนการวางระบบวทิ ยุสื่อสาร 1๖๗ 1) กา� หนดระบบวิทยุส่อื สารหลกั (ดจิ ทิ ลั PS-LTE, DMR, อนาลอ็ ก) ๒) ก�าหนดข่ายการตดิ ต่อส่ือสาร (ขา่ ยหลกั ข่ายรอง ขา่ ยประสาน) ๓) วางขา่ ยการติดต่อส่อื สารตามข้อ ๒ ๔) ก�าหนดนามเรียกขานและประมวลลับ ๕) ประชมุ และแจง้ เวียนข่ายการตดิ ต่อสอ่ื สาร ๖) ซกั ซ้อมการตดิ ตอ่ สอ่ื สารทางวทิ ยุ ๗) ก�าหนดวงรอบการทดสอบ ว.1๖ ๘) ตรวจสอบจดุ บอด หากพบใหแ้ จ้ง สส. แก้ไข คมู่ อื การปฏบิ ัติงานตามพระราชบัญญัตกิ ารชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 167 11/17/2563 BE 12:40 PM
๙.๒ ระบบโทรศพั ท์ และโทรสาร ตรวจสอบว่าท่ีต้ัง ศปก.สน./สภ. หรือ ทก. สามารถขอรับการสนับสนุนคู่สายโทรศัพท์ ได้จากเจ้าของพ้ืนท่หี รือไม่ หากไมม่ ีใหป้ ระสานผูใ้ หบ้ ริการโทรศัพทใ์ นพื้นท่ี ติดตง้ั หมายเลขโทรศพั ทใ์ หม่ให้ หากติดต้ังหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ไม่ได้ ให้ก�าหนดโทรศัพท์มือถือเป็นโทรศัพท์ประจ�า ศปก.สน./สภ. และแจง้ เวียนผู้เกยี่ วขอ้ งทราบ โทรสารหากไมม่ ี สามารถส่งทางโปรแกรม Line แทนได้ ๙.๓ กล้องโทรทศั น์วงจรปิด (CCTV) มอี ยแู่ ลว้ (ประสานเจา้ ของขอเชือ่ มภาพ) • Server/ตวั บนั ทกึ ใครดูแล บริษัทไหนขาย ประสานขอวธิ เี ชอ่ื มตอ่ • หาสือ่ สญั ญาณเชอ่ื มต่อมาท ่ี ศปก. (อินเทอรเ์ นต็ หรือวงจรเฉพาะ) (CAT TOT True ๓BB ……) • เครอื่ งคอม + Software + License (ถา้ มี) • จอทวี ี หรอื Projector + ฉาก ไวแ้ สดงผล ติดต้งั เพิ่ม • หาผรู้ บั จา้ งเหมา (ตดิ กลอ้ ง+สอ่ื สญั ญาณ+คอมแสดงผล+จอ+การบนั ทกึ ภาพใหส้ ง่ เปน็ HDD) PS-LTE สามารถใช้สง่ ภาพได้ ๙.๔ TV (โทรทัศน)์ • ไว้ติดตามสถานการณ์ • แสดง Present ในการประชุม • แสดงผลจากระบบเทคโนโลยตี า่ ง ๆ • อาจใชเ้ ปน็ Projector กไ็ ด ้ แล้วใชเ้ ครือ่ งคอมพิวเตอร์ ตอ่ อินเทอร์เน็ต แสดงรายการ ทีวี แต่จะตอ้ งหาล�าโพงขยายเสียง • ทวี ีร่นุ เก่า อาจต้องหากล่องดิจทิ ลั และสายอากาศ • ทวี ีรุ่นใหม่กต็ อ้ งมีสายอากาศดิจทิ ัล ๙.๕ ระบบประชมุ วีดิทัศนท์ างไกล Video Conference • สส.มีเคร่ืองแม่ข่ายระบบประชุมทางไกล รองรับการประชุมทางไกลพร้อมกันได ้ 1๐๐ หน่วย • หน่วยเตรียมเคร่ืองประชุมทางไกลพร้อมจอภาพ หรือเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีมีกล้อง Webcam มา • กรณีขอรับการสนับสนุนเครื่องประชุมทางไกล หน่วยต้องจัดเตรียมสายสัญญาณ VPN-Polis หรอื Internet (Fix IP) โดยประสานเชา่ กับผูใ้ ห้บริการในพ้นื ที่ เชน่ CAT TOT True ๓BB เป็นต้น • ซอฟตแ์ วรป์ ระชมุ ทางไกล หนว่ ยสามารถดาวนโ์ หลดเพอื่ ตดิ ตง้ั ในเครอื่ งคอมพวิ เตอรไ์ ด ้ จ�านวน 1๐๐ เครอ่ื ง ๙.๖ อากาศยานไรค้ นขับ (Drone) รวมถึงระบบส่งภาพและเสียงแบบเคลอ่ื นท่ี • ตร. ไดจ้ ัดหาโดรนไวใ้ ห้แตล่ ะหน่วยสา� หรับภารกจิ ควบคุมฝงู ชนไว้ให้แล้ว สามารถนา� มาใช้ส่งภาพมมุ สงู ไปยงั ศปก. ได้ ผ่านระบบ Facebook Live 1๖๘ ค่มู ือการปฏบิ ตั ิงานตามพระราชบัญญัตกิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 168 11/17/2563 BE 12:40 PM
• ในพน้ื ทม่ี สี ญั ญาณวทิ ยดุ จิ ทิ ลั PS-LTE สามารถใชเ้ ครอ่ื งวทิ ยสุ อ่ื สาร PS-LTE สามารถสง่ สญั ญาณภาพและเสยี งมาท่ี ศปก. ทีม่ ีการตดิ ตัง้ อปุ กรณ ์ Dispatcher Console หรือส่งมาทเี่ ครื่องวทิ ยุส่อื สาร PS-LTE ปลายทางตามที่กา� หนดได้ • ในพ้ืนทไี่ ม่มสี ัญญาณ PS-LTE สามารถใช้ Smart Phone สง่ ภาพและเสียงผ่านระบบ Facebook Live ๙.๗ อนิ เทอรเ์ นต็ ทต่ี ้งั ศปก. มอี นิ เทอร์เนต็ อยู่แลว้ • ตรวจสอบว่าอินเทอร์เน็ตมีความเร็วเท่าไหร่ เสถียรหรือไม่ มีผู้อ่ืนใช้ร่วมมากหรือไม่ Port เช่ือมตอ่ เพียงพอหรือไม่ รองรับกบั เทคโนโลยขี อง ศปก. ได้หรือไม ่ (เชน่ บางเทคโนโลยตี ้องการ Fix IP) • หากไม่เพียงพอให้ประสานเจ้าของพื้นที่ หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตปรับปรุง เพ่มิ ประสทิ ธิภาพชวั่ คราวหรือตดิ ตง้ั เพิ่ม • ตรวจสอบว่าที่ต้ัง ศปก. สามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการรายใดได้บ้าง เครือขา่ ยใดดแี ละเหมาะสมที่สดุ • บางอาคารสามารถใชบ้ รกิ ารของบางเจ้าไดเ้ ท่านั้น • กรณตี ิดต้ังไม่ไดอ้ าจใช้ ๔G/๕G เราเตอร/์ WiFi แทน ๙.๘ การเชื่อมตอ่ ฐานขอ้ มลู สารสนเทศกบั หนว่ ยงาน ตร. หรือหนว่ ยงานภายนอก เช่น POLIS, CRIME, PBIC... ฯลฯ ประสานขออนุญาตเชื่อมต่อดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลที่ต้องการจากหน่วยงานเจ้าของ ตรวจสอบว่าฐานขอ้ มูลทตี่ ้องการเชือ่ มตอ่ มาท ี่ ศปก. สามารถใชเ้ ครือข่ายใดไดบ้ าง • บางฐานข้อมูลใช้อินเทอร์เน็ตเช่อื มได้ (เชน่ CRIME on Mobile) • ส่วนใหญ่จะใช้วงจรพิเศษ สอบถามเจ้าของฐานข้อมูลว่าจะต้องเชื่อมต่ออย่างไร ใชบ้ ริการสื่อสญั ญาณจากผใู้ หบ้ รกิ ารรายใด • เชน่ POLIS CRIME ต้องใชบ้ ริการจาก TOT เท่านน้ั • ท�าการเช่าวงจรเพ่อื เชือ่ มมาท ี่ ศปก. • ขอโปรแกรม Client Username Password จากเจ้าของฐานข้อมลู ๙.๙ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS), ระบบติดตามบุคคลหรอื ยานพาหนะ GPS • มคี วามจ�าเปน็ ต่อการวางแผนปฏิบตั ิการ • GIS ที่หาได้งา่ ยที่สุดคือ Google Map • หากตอ้ งการ GIS เฉพาะทางอน่ื ๆ กต็ อ้ งประสานเจา้ ของระบบ เชน่ Gistda กรมแผนทท่ี หาร ใชแ้ นวทางเดียวกับการเช่อื มฐานขอ้ มลู ๙.1๐ LINE • ติดต่อรับ-สง่ เสียง ภาพ ขอ้ มลู ระหวา่ ง ศปก. กบั ผ้ปู ฏิบัตใิ นภารกิจ (งา่ ย ถูก ด)ี • ใช้แทน โทรศัพท ์ โทรสาร ระบบประชุมทางไกล ได้ • แต่ต้องระวังผู้ไม่ประสงค์ดี หรือฝ่ายตรงข้ามแอบเข้ากลุ่มมา ควรจัดให้มีเจ้าหน้าท่ี มอนิเตอรเ์ ฝ้าระวงั กลุ่ม • ปดิ การเขา้ กลมุ่ ดว้ ย QR Code หลงั จากช่วงแรก ๆ • ใหท้ ุกคนในกลมุ่ ใช้หนา้ จรงิ ชอื่ จริงหรือนามเรียกขานเพ่อื ให้ระบตุ ัวตนได้ คู่มือการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญตั ิการชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นมุ สาธารณะ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๖๙ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 169 11/17/2563 BE 12:40 PM
แผนการรักษาความปลอดภัย รักษาความสงบเรียบรอ้ ย ๑๐. พ.ต.อ.วสิ ษิ ฐ์ วฒั นพงศพ์ ทิ กั ษ์ ผกก.ฝอ.๓ บก.อก.บช.น. ไดบ้ รรยายถงึ วธิ กี ารจดั ทา� แผนการรกั ษาความปลอดภยั รกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ย การจดั การ จราจร ในการชมุ นุมสาธารณะ ดงั ต่อไปน้ี การจดั ท�าแผนรักษาความปลอดภยั รักษาความสงบเรยี บรอ้ ย และจัดการจราจร การชมุ นมุ สาธารณะ จา� เป็นตอ้ งมีรายละเอียดในตัวแผนต่าง ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1๐.1 การอ้างถงึ กฎหมาย ระเบียบ ค�าส่งั แผน - สิง่ ทอี่ า้ งถงึ ต้องมีความเปน็ ปัจจุบัน - ส่งิ ทีอ่ ้างถงึ ต้องมผี ลบงั คับใชอ้ ยู่ ณ ขณะนน้ั 1๐.๒ สถานการณ์ - เป็นปัจจัยกา� หนดการจดั ทา� แผนฯ - ข้อมูลของสถานการณ์ ต้องน�ามาจากหลายแหล่ง หลายช่องทาง ก่อนจะน�ามา รวบรวมวิเคราะห์ แล้วจึงกา� หนดเปน็ สถานการณ์ - การวเิ คราะหส์ ถานการณไ์ ดใ้ กลเ้ คยี งมากเทา่ ไหร ่ จะชว่ ยใหก้ ารจดั ทา� แผนฯ ไดถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสมกบั สถานการณม์ ากเท่าน้นั 1๐.๓ สมมติฐาน - การประเมนิ ขดี ความสามารถของผู้จดั การชุมนมุ และผู้รว่ มชุมนุม - การประเมินขดี ความสามารถของหน่วยงานของรัฐในการรับมอื การชมุ นุม 1๐.๔ ภารกจิ - หนา้ ที่ของหน่วยงานของรัฐในการดูแลการชมุ นุมสาธารณะ - ส่ิงส�าคญั ๓ ส่ิง 1๐.๔.1 ความปลอดภัยของผ้ชู มุ นมุ เจา้ หน้าท่ีของหน่วยงานของรัฐ ประชาชนหรอื บคุ คลอ่ืนทไ่ี ม่เกย่ี วข้องกบั การชมุ นุม 1๐.๔.๒ ความสงบเรยี บรอ้ ยของการชมุ นมุ โดยการไมก่ ระทา� ผดิ กฎหมายหรอื ละเมดิ สิทธผิ ้อู ื่น 1๐.๔.๓ การจัดการจราจรให้มีความเรียบร้อย และส่งผลกระทบต่อการสัญจรผ่าน ของประชาชนหรอื บุคคลอ่ืนทไ่ี ม่เกยี่ วข้องกับการชมุ นุมนอ้ ยทีส่ ดุ 1๐.๕ การปฏิบตั ิ 1๐.๕.1 แนวความคดิ ในการปฏบิ ตั ิ - อ�านาจและหนา้ ท่คี วามรบั ผิดชอบของหน่วยปฏบิ ตั ิแตล่ ะหน่วย - การบงั คบั บัญชา, การบริหารเหตุการณข์ องผบู้ งั คบั บญั ชาตามลา� ดับชนั้ - การรายงานตามสายการบงั คบั บญั ชาผา่ นสว่ นบรหิ ารเหตกุ ารณ ์ (ศปก., ทก..) 1๐.๕.๒ นโยบายการปฏบิ ตั ิ - การปฏบิ ตั เิ ปน็ ไปตามนโยบายของผบู้ ังคบั บญั ชา - นโยบายของผ้บู ังคับบัญชาถูกถา่ ยทอดผ่านแผนฯ เพ่อื ใหส้ ง่ ถงึ ผู้ปฏบิ ตั ิ 1๗๐ คู่มือการปฏิบตั ิงานตามพระราชบัญญตั ิการชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 170 11/17/2563 BE 12:40 PM
1๐.๕.๓ ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิ - แบ่งออกเป็น ๔ ขั้นตอน ประกอบด้วย ก. ขน้ั เตรยี มการ ข. ขน้ั เผชิญเหตุ ค. ข้ันคล่ีคลายสถานการณ์ ง. ข้ันฟืน้ ฟู 1๐.๕.๔ หน่วย - แบ่งออกเปน็ ๒ ส่วน ก. หนว่ ยปฏิบตั ิ ข. หนว่ ยร่วมปฏบิ ตั ิ (ในสงั กัด ตร. และนอกสงั กัด ตร.) 1๐.๕.๕ เจา้ พนกั งานดแู ลการชมุ นมุ สาธารณะ ตามมาตรา 1๙ แหง่ พ.ร.บ.การชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ - กา� หนดจากตา� แหนง่ ของเจา้ หนา้ ทข่ี องหนว่ ยงานของรฐั ผทู้ า� หนา้ ทดี่ แู ล การชมุ นมุ - การกา� หนดเจา้ พนกั งานดแู ลการชมุ นมุ สาธารณะ ควรพจิ ารณาจากหลกั ของกฎหมายและสถานการณ์ของการชุมนมุ ประกอบกัน - เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ จะสามารถบริหารสถานการณ์ การชุมนุมได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ จ�าเป็นตอ้ งผ่านส่วนบริหารเหตุการณ ์ (ศปก., ทก.) - การส่ังการกรณีเร่ืองส�าคัญย่ิงในการบริหารสถานการณ์ การชุมนุม ต้องมีการส่ังการอย่างชัดเจนจากเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสาธารณะเพียงคนเดียว (Single Command) โดยการรบั ขอ้ มลู จากขอ้ แนะน�าของผูบ้ งั คบั บญั ชา หรอื จากแตล่ ะสว่ นบริหารเหตกุ ารณ์ (ศปก., ทก.) หรอื จาก ชดุ ปฏบิ ัตกิ ารในพนื้ ท่กี ารชุมนมุ เป็นตน้ มาประกอบการพจิ ารณาสั่งการ 1๐.๖ การสนบั สนุน - เป็นปัจจยั ส�าคัญท่ที �าให้การปฏิบัตภิ ารกจิ ตามแผนมีประสิทธภิ าพ - เช่น ดา้ นธรุ การ ก�าลังพล ข่าว ยุทธการ ส่งก�าลงั บา� รุง ประชาสมั พันธ ์ เทคโนโลยี และการสื่อสาร งบประมาณ กฎหมาย เป็นตน้ 1๐.๗ การบังคบั บญั ชา - การสงั่ การตามลา� ดบั ชน้ั สา� หรบั หนว่ ยทมี่ โี ครงสรา้ งของหนว่ ยแบบสายการบงั คบั บญั ชา - สงั่ การจากบนลงล่าง โดยการรายงานจากลา่ งขึน้ บน 1๐.๘ การติดตอ่ ส่อื สาร - หัวใจส�าคัญส�าหรบั การปฏบิ ัตใิ นพน้ื ทกี่ ารชุมนุม - ควรมชี อ่ งทางการสอื่ สารหลายชอ่ งทาง และในแตล่ ะชอ่ งทางการสอื่ สารควรมกี าร ก�าหนดรายละเอียดท่ีชดั เจนท้ังในสว่ นของประเภทอปุ กรณ์ และรายละเอียดการใช้อุปกรณ์ คู่มอื การปฏิบัตงิ านตามพระราชบัญญัตกิ ารชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) 1๗1 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 171 11/17/2563 BE 12:40 PM
1๐.๙ ผนวกประกอบแผน (ทสี่ า� คัญ) - ข้อมลู การสา� รวจสภาพภูมิประเทศของพืน้ ทีป่ ฏิบัติการ (IPB) - การแบ่งพืน้ ท่ีรบั ผดิ ชอบทช่ี ัดเจนแกห่ นว่ ยปฏบิ ตั ิ และหน่วยรว่ มปฏิบตั ิ - แผนการดแู ลการชุมนุมสาธารณะตาม พ.ร.บ.การชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ - การใชก้ า� ลัง เครือ่ งมอื อุปกรณ์ และอาวธุ - ประกาศสา� นกั นายกรฐั มนตร ี พ.ศ.๒๕๕๘ เรอื่ ง เครอ่ื งมอื ควบคมุ ฝงู ชนในการชมุ นมุ สาธารณะ - แผนเผชิญเหตุ - ผังการบังคับบัญชา - ผงั การสอ่ื สาร 1๗๒ ค่มู อื การปฏิบตั งิ านตามพระราชบญั ญัตกิ ารชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 172 11/17/2563 BE 12:40 PM
หลกั พน้ื ฐานการควบคมุ ฝงู ชน ๑๑. พ.ต.อ.วรี ะวุธ ชยั ชนะมงคล รองผ้บู ังคบั การ ตา� รวจภูธรจงั หวดั ลา� ปาง หลักพ้ืนฐานในการใช้ก�าลัง ของเจ้าหน้าที่ต�ารวจท้ังการใช้วาจาหรือก�าลังทางร่างกาย เข้าควบคมุ สถานการณจ์ ะต้องอยู่ภายใตก้ ฎเกณฑก์ ารใชก้ า� ลงั Rules of the Use of Force (R.U.F.) การใชก้ �าลังมีขอ้ ควรปฏิบตั ิ ดังตอ่ ไปน้ี 1. วธิ กี ารทีไ่ ม่รนุ แรงจะตอ้ งใชเ้ ป็นอันดับแรก ๒. หากใช้กา� ลงั ต้องมีความจ�าเป็นอยา่ งแท้จริงเทา่ นนั้ ๓. ใช้กา� ลังดว้ ยจดุ ประสงคใ์ นการบังคับใช้กฎหมายเท่าน้นั ๔. ไม่มีข้อยกเวน้ ใด ๆ สา� หรบั การใชก้ า� ลงั ที่ผิดกฎหมาย ๕. ใช้กา� ลังอย่างเหมาะสมกบั สดั สว่ นตามจุดประสงคข์ องกฎหมาย ๖. ใชก้ า� ลงั ใหน้ อ้ ยที่สดุ และหยุดเมื่อหมดความจา� เป็น ๗. ความเสียหายหรือการบาดเจ็บจะต้องใหเ้ กดิ น้อยทีส่ ดุ ๘. ระดับการใชก้ �าลังมหี ลากหลายและใหใ้ ชต้ ามสถานการณ์ ๙. เจ้าหนา้ ทท่ี ุกคนต้องไดร้ บั การฝกึ การใช้ก�าลงั ใหส้ ามารถใชไ้ ด้หลากหลายวิธี 1๐. เจา้ หน้าท่ที ุกคนตอ้ งได้รบั การฝกึ ในวธิ ีการท่ไี มใ่ ชค้ วามรนุ แรงด้วย คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านตามพระราชบญั ญัตกิ ารชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๗๓ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 173 11/17/2563 BE 12:40 PM
๑๑.๑ รปู แบบในการวางก�าลังพลในพ้ืนทสี่ ถานการณช์ ุมนมุ รปู ขบวนปกติแรกในการเข้าสูส่ ถานการณค์ วบคมุ ฝูงชนหรอื การชมุ นมุ เป็นไปดังต่อไปนี้ การจัดก�าลังของหน่วยต�ารวจควบคุมฝูงชน (UN Formed Police Unit) ขององค์การ สหประชาชาติ (Department Of Peace Keeping Operation : DPKO) จะมีความอ่อนตัวตามสถานการณ์ ของกลุ่มผชู้ มุ นุม โดยเฉพาะการบังคบั บญั ชา โดยไมต่ ้องมีการรวมกันเปน็ หนว่ ยทีส่ ูงขนึ้ ถึงระดับกองรอ้ ย เชน่ กรณีฝูงชนมีขนาดเล็กและกระจาย อาจจัดหน่วยรวมกันเป็นชุด ก็จัดก�าลังควบคุมฝูงชนไปได้หลาย ๆ ชุด หลาย ๆ หม ู่ เปน็ ตน้ โดยมติ อ้ งรวมกา� ลงั เปน็ ลกั ษณะหนว่ ยระดบั หมวด หรอื กองรอ้ ยควบคมุ ฝงู ชน กไ็ ด ้ จา� นวน ดังกล่าวขึ้นการบังคับบัญชาตรงกับหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ หรือผู้บัญชาการเหตุการณ์ ณ ขณะนั้น (ส�าหรับ กฎหมายไทยตาม พ.ร.บ.การชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ หมายถงึ หวั หนา้ สถานตี า� รวจแหง่ ทอ้ งทท่ี มี่ กี ารชมุ นมุ (มาตรา ๔) หรือเจา้ พนักงานดูแลการชมุ นุมสาธารณะ (มาตรา 1๙) หรือ ผูค้ วบคุมสถานการณ์ (มาตรา ๒๓)) 1๗๔ คมู่ ือการปฏิบัตงิ านตามพระราชบญั ญัติการชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 174 11/17/2563 BE 12:40 PM
๑๑.๒ ยุทธวธิ ี ณ พ้นื ทป่ี ฏิบตั กิ ารขน้ั พื้นฐานหรือรปู ขบวน (Foot Tactics) ๑. การประกอบก�าลังต�ารวจควบคมุ ฝงู ชน การประกอบกา� ลงั ตา� รวจควบคมุ ฝงู ชน คงเปน็ ไปตามกรอบท ี่ สา� นกั งานตา� รวจแหง่ ชาตกิ า� หนด ไวใ้ น ผนวก ก การจดั หนว่ ยเฉพาะกจิ ประกอบแผนรกั ษาความสงบ (แผนกรกฏ/๕๒) สา� นกั งานตา� รวจแหง่ ชาติ ขอ้ ๔ กองรอ้ ยควบคุมฝงู ชน คือ ใชก้ า� ลังกองรอ้ ยละ 1๕๕ นาย ประกอบดว้ ย 1) บก.รอ้ ย เจา้ หนา้ ท่ตี �ารวจช้นั สัญญาบัตร ๒ นาย (ผบ.รอ้ ยฯ และ รอง ผบ.ร้อยฯ), เจา้ หน้าที่ต�ารวจช้ันประทวน 1๘ นาย ท�าหน้าทสี่ ่วนผบู้ ังคบั บญั ชาและส่วนอ�านวยการตา่ งๆ ๒) หมวด 1 ส.1 (ผบ.มว.ฯ) ป.๔๔ (1 หมู่ 11 นาย รวม ๔ หมู ่ ๔๔ นาย) ๓) หมวด ๒ ส.1 (ผบ.มว.ฯ) ป.๔๔ (1 หมู่ 11 นาย รวม ๔ หม ู่ ๔๔ นาย) ๔) หมวด ๓ ส.1 (ผบ.มว.ฯ) ป.๔๔ (1 หมู่ 11 นาย รวม ๔ หมู่ ๔๔ นาย) รวม ๑๕๕ นาย แตล่ ะหมวด จะใชโ้ ลจ่ า� นวน 1๖ โล่ (หมู่ละ ๔ โลป่ ระจ�าตัวพลโล)่ บก.รอ้ ย จะมีโลป่ ระจ�าไวอ้ ีก ๘ โล ่ ดังนน้ั จ�านวนโล่ใน 1 กองรอ้ ยจะใช้ ๕๖ โล่ รูปแบบการควบคุมฝงู ชน เร่มิ จากการจัดกา� ลงั จากเล็กไปหาใหญ ่ มกี ารเคล่ือนไหวเชงิ รกุ หรอื กดดนั (Offensive Movement) เพอ่ื ใหผ้ ู้ชุมนุมเห็นว่า กองรอ้ ยควบคมุ ฝูงชน สามารถใช้ก�าลงั โตต้ อบได้ ตลอดเวลา หากผูช้ มุ นมุ กระท�าผดิ กฎหมาย สา� หรบั ระดบั การใชก้ า� ลงั ทเี่ จา้ หนา้ ทจ่ี ะใชร้ ปู แบบใดเปน็ ไปตามความรนุ แรงของสถานการณ์ ท่ีคุกคามโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เจ้าหน้าท่ีต้องป้องกันตนเอง เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติสามารถที่จะด�าเนินการ ได้เองโดยไม่ต้องรอค�าส่ังจาก ผบ.เหตุการณ์ โดย ผบ.ร้อย ผบ.หมวด ผบ.หมู่ หน.ทีม หรือแม้แต่ Buddy Team กส็ ามารถรเิ รม่ิ ส่ังการไดต้ ามระเบยี บการนา� หน่วย เชน่ หากมผี ู้ชุมนมุ ใชอ้ าวุธมดี หรอื ไม้ทม่ี ีความยาว เข้ามาท�าร้ายเจ้าหน้าท่ีต�ารวจกอ่ น ผปู้ ฏบิ ตั ิกส็ ามารถทจ่ี ะใชก้ า� ลังตอบโต้ในระดับท่ี ๓ – ๔ (ระดับปานกลาง) โดยการใช้มอื เปลา่ จับกมุ โดยจบั ล็อกบังคบั หรือใชก้ ระบองตีตอบโตไ้ ดอ้ ย่างนี้ เปน็ ตน้ ๑.๑ การจดั ก�าลงั เป็นบัดดท้ี มี (Buddy Team) หรือ คู่ตรวจ บดั ดี้ทมี ประกอบด้วยเจา้ หน้าท่ีตา� รวจพร้อมชดุ ปอ้ งกันตนเอง (Protective Gear) จา� นวน ๒ นาย ซึ่งมีนามเรยี กขาน ดังนี้ 1) พลโล่ (Shield Holder) อยดู่ า้ นหนา้ การยนื ทา่ เตรยี มพรอ้ ม (Active Guard) ย่อตวั เทา้ ซ้ายอย่ดู ้านหนา้ เทา้ ขวาอย่หู ลัง ห่างประมาณครง่ึ ก้าว มอื ซา้ ยถอื โลป่ ระคองบนเขา่ ซา้ ย มือขวาถอื ดา้ มกระบอง มอื ซา้ ยจบั ปลายกระบอง ทา� หนา้ ทปี่ ะทะหรอื ดา� เนนิ กลยทุ ธห์ ลกั (Contact หรอื Intervention) ๒) พลกระบอง (Baton Holder) ยนื อยดู่ า้ นหลงั พลโล ่ ลกั ษณะการยนื เหมอื นกนั (Active Guard) มือขวาถือกระบอง มอื ซา้ ยจับท่ไี หลซ่ า้ ย หรือ เขม็ ขดั คนยนื อยหู่ น้า โดยจะมกี ารสมั ผสั กัน อยตู่ ลอดเวลา ทา� หนา้ ที่คุ้มกัน Cover หรอื ปกป้อง Protection ดา้ นขา้ งหรือหลังของพลโล่ ขณะเดียวกนั กเ็ ปน็ ผ้นู า� ในการเคลอ่ื นทห่ี รอื ปฏบิ ตั กิ ารรูปแบบต่าง ๆ ของ Buddy Team พรอ้ มรบั ค�าสงั่ จาก ผบ.หมู่ มาถ่ายทอด พลกระบองนีบ้ างคร้งั เมอ่ื ปฏบิ ัตภิ ารกิจบางอย่างเช่น จับกมุ ช่วยเหลือเพือ่ นบาดเจบ็ ตรวจสอบ สงิ่ กดี ขวาง หรอื อนื่ ๆ กส็ ามารถทจี่ ะเอากระบองเกบ็ หรอื เหนบ็ ไวท้ เ่ี อวได ้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การคลอ่ งตวั ในการปฏบิ ตั ิ ค่มู ือการปฏิบัตงิ านตามพระราชบญั ญตั กิ ารชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๗๕ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 175 11/17/2563 BE 12:40 PM
การจัดแบบ Buddy Team เปน็ การจดั ท่ีเล็กทสี่ ดุ ในการปฏบิ ตั ิภารกิจควบคุม ฝูงชน ไม่สามารถแยกเล็กลงไปกว่าน้ี (ห้ามปฏิบัติเพียงนายเดียว) ทุกกรณีในการปฏิบัติต้องมีทั้งพลโล่ และพลกระบอง ประกอบกันไปเสมอ ผบู้ ังคบั กองร้อย ผบู้ ังคบั หมวด สามารถส่ังการให้ Buddy Team เข้าไปเสรมิ การปฏิบัติได้ทุกที่ของทุก ๆ รูปขบวน หรือทุก ๆ เทคนิคทางยุทธวิธีได้ตลอดเวลาตามแต่ละสถานการณ ์ โดยกา� ลงั ในสว่ นนอี้ าจดงึ มาจากสว่ นทที่ า� หนา้ ทส่ี นบั สนนุ ชน้ั ทส่ี อง หรอื สว่ นสา� รองกไ็ ด ้ จงึ มคี วามออ่ นตวั สงู มาก นอกจากน้ี การจัดเป็น Buddy Team เฉพาะตัวของทีมเองสามารถท่ีจะปกป้องและป้องกันตัวใน Buddy Team ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพอยูต่ ลอดเวลาดว้ ย สถานการณ์ปกติท่ัวไป บัดดี้ทีมจะท�าหน้าท่ีเป็นเหมือนสายตรวจเดินเท้า ซง่ึ จะตอ้ งม ี ๒ นาย คนแรกจะท�าหนา้ ทป่ี ะทะหรอื เผชญิ เหต ุ สว่ นคนทส่ี องจะท�าหน้าทีค่ ุ้มกันหรือสนับสนนุ สถานการณ์กรณีควบคุมฝูงชน เจ้าหน้าท่ีต�ารวจทั้งสองนายจะต้องมีโล่ กระบอง พรอ้ มอปุ กรณป์ อ้ งกนั กระแทกใส ่ และจะแบง่ กนั ทา� หนา้ ทเ่ี ปน็ พลโล ่ (ถอื โล)่ อยขู่ า้ งหนา้ ทา� การปะทะ หรอื กดดนั ฝงู ชน และพลกระบอง (ถอื กระบอง) อยขู่ ้างหลงั ทา� หน้าที่เปน็ ผูน้ �าและคมุ้ กนั ด้านหลงั และด้านขา้ ง ตามภาพต่อไปนี้ สถานการณ์กรณคี วบคมุ ฝูงชน 1๗๖ คู่มือการปฏบิ ตั ิงานตามพระราชบญั ญัตกิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชมุ นมุ สาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 176 11/17/2563 BE 12:40 PM
๑.๒ การจดั ก�าลังเป็นทีม (Team) หรอื ชุด เม่ือน�า ๒ บัดดท้ี ีมรวมกนั จะเรยี กวา่ ทมี โดยจะเพิม่ หัวหนา้ ทีมอีก 1 นาย ดังนนั้ ก�าลังเจ้าหน้าทีใ่ น 1 ทีม จะมเี จ้าหน้าทต่ี �ารวจ ๕ นาย คลา้ ยกับหนว่ ยพิเศษอืน่ ๆ ที่เรยี กวา่ ทมี ๕ การจัดก�าลงั เป็น Team ลกั ษณะการยนื ของหวั หน้าทีม จะอยดู่ ้านหลงั ของ บัดด้ีทีม ใชม้ อื ซ้าย – ขวา สัมผัส หรอื จบั ทไ่ี หลห่ รือเอวของพลกระบองของบัดดที้ มี ทง้ั สองทมี ไดต้ ลอดเวลา การถ่ายทอดคา� สั่งของ ผูบ้ ังคบั หมู่, ผบู้ งั คบั หมวด และ ผบ.รอ้ ยฯ กส็ ามารถทา� ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ โดยหวั หนา้ ทมี จะใชเ้ สยี งสงั่ การและ/หรอื การสมั ผสั เพ่ือใหเ้ กดิ การปฏบิ ตั ิ เชน่ ดนั เพ่ือเดิน, ผลกั เพ่อื วงิ่ หรอื ดงึ เพอื่ หยุดหรือถอย หรือดงึ /ดนั เปลีย่ นทิศทางปะทะ ซา้ ยหรอื ขวาไดต้ ลอดเวลา ตามภาพ Team การปรับกา� ลงั แยกจาก Team เปน็ Buddy Team นามเรยี กขานของ Buddy Team จะเป็น ๑) Buddy Team ซา้ ย โดย Buddy Team นจี้ ะอยทู่ างดา้ นซา้ ยมอื ของหวั หนา้ ทมี ๒) Buddy Team ขวา โดย Buddy Team นจ้ี ะอยทู่ างดา้ นขวามอื ของหวั หนา้ ทมี ส�าหรับบางทีมอาจไม่มีหัวหน้าทีมก็ได้ ถ้าสถานภาพก�าลังพลไม่พอ กรณีนี้ ก็ให้พลกระบองท่ีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้ควบคุมหรือหัวหน้าทีมแทนได้ในสถานการณ์ปะทะกับฝูงชน กรณีเช่นนี้ พลกระบองท่ีท�าหน้าท่ีหัวหน้าสามารถเก็บกระบองแล้วใช้มือท่ีเหลือสัมผัสพลกระบองของอีกบัดดี้ทีมก็ได้ เพ่ือให้เกิดการสมั ผสั สั่งการชว่ ยเหลือซง่ึ กนั และกนั คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านตามพระราชบญั ญัติการชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๗๗ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 177 11/17/2563 BE 12:40 PM
๑.๓ การจดั ก�าลังเป็นหมู่ (Squad) หรอื ส่วน (Section) ใน 1 หมู่ จะประกอบก�าลัง ๒ ทีม เป็น 1๐ นาย และให้มีผู้บังคับหมู่ควบคุม ทั้ง ๒ ทมี อีก 1 นายเพม่ิ ข้ึน ดังนั้น รวมก�าลัง 1 หมจู่ ะมจี �านวนต�ารวจ 11 นาย ตามภาพตอ่ ไปน้ี อยา่ งไรก็ตามเมอ่ื มกี ารจดั ในระดับหม่แู ล้ว บางทมี กอ็ าจไมจ่ �าเป็นตอ้ งมหี ัวหน้าทีม ก็ได ้ หากว่าก�าลังพลขาด ซงึ่ ผบ.หม ู่ กจ็ ะทา� หนา้ ท ่ี หน.ทมี ในสว่ นที่ขาดไปดว้ ยกไ็ ด้ โดยไมต่ อ้ งใหพ้ ลกระบอง อาวโุ สมาเป็นหัวหน้าทีมกไ็ ด้ ลกั ษณะเช่นน้ี เม่ือมกี ารสัมผสั หลังกใ็ ห้รับรู้ว่า ผ้ทู ่มี าสัมผสั จะเปน็ ผู้น�าในการ ปฏบิ ตั ใิ นการเคลอ่ื นทหี่ รอื ใชเ้ ทคนคิ ตา่ ง ๆ ทนั ท ี เพราะฉะนน้ั ใน 1 หม ู่ อาจมกี า� ลงั พล 1๐ หรอื 11 นาย กไ็ ด้ ซงึ่ ออ่ นตวั ปรบั ไดใ้ นการปฏบิ ตั ิ ไมจ่ า� เปน็ ตอ้ งมจี า� นวนกา� ลงั พลตามทจ่ี ดั อตั ราไวเ้ มอื่ ตอ้ งเขา้ ควบคมุ ดแู ลผชู้ มุ นมุ นามเรยี กขานของทมี จะเปน็ ดังตอ่ ไปนี้ 1) ทมี ทีอ่ ยทู่ างซ้ายของหัวหน้าทมี จะเรยี กวา่ ทมี ๑ (ทีมหนงึ่ ) ๒) ทีมทีอ่ ย่ทู างขวาของหัวหน้าทีม จะเรยี กวา่ ทีม ๒ (ทีมสอง) แต่ในทางปฏิบัตขิ องสหประชาชาตแิ ล้ว จา� นวนทมี ในแตล่ ะหมูห่ รอื ส่วน (Section) จะมไี ดห้ ลายทมี ตามแต่จา� นวนกา� ลังพลทีม่ ีและจ�าเปน็ ในขณะนัน้ ซึ่งอาจจะมีทีม ๓, ๔, ๕ .... ถึง ทีม X ก็ได้ โดยอย่างนอ้ ยจะต้องมี ๓ ทีมเป็นหลัก เพ่อื ทจี่ ะให้ 1 ทมี ทา� หน้าท่ีคุ้มกัน หรือเปน็ กา� ลงั เสรมิ ส่วนอีก ๒ ทมี จะทา� หนา้ ท่ีปะทะและด�าเนินกลยทุ ธ์ ในอนาคตเพอื่ ความออ่ นตวั เหมาะสมกบั เหตกุ ารณ ์ ผบู้ งั คบั บญั ชาการทส่ี งู กวา่ ผบู้ งั คบั กองร้อยไม่ว่าเจา้ พนกั งานดแู ลการชมุ นมุ ผูบ้ งั คับบัญชาระดับกองบงั คับการ อาจเพม่ิ เตมิ กา� ลงั ให้กองร้อยได้ โดยการเพิ่มเฉพาะทีมขึ้นในหมู่ใดหมู่หน่ึงเพ่ือให้ภารกิจสัมฤทธ์ิผลอย่างมีประสิทธิภาพหรือเมื่อมีการร้องขอ จากผู้บงั คับหม ู่ ซ่ึงเม่ือนั้นก็ใหม้ ีนามเรียกขานวา่ ทมี ๓ ทมี ๔ ทีม ๕ จนถงึ ทมี X ได้เชน่ เดียวกับแนวทางของ สหประชาชาติ การจัดระดับหมู่นี้แนวทางของสหประชาชาติให้ความส�าคัญสูงและอ่อนตัวมาก ในการปฏิบัติ กล่าวคือ ผบ.หมวด สามารถมาท�าหน้าท่ี ผบ.หมู่ หรือหัวหน้าทีมได้ทันทีท่ีเห็นว่าจ�าเป็น โดยการเขา้ มาสมั ผสั หลงั พลกระบองของทมี ใดทมี หนงึ่ ทกี่ า� ลงั ดา� เนนิ กลยทุ ธไ์ ดต้ ลอดเวลา หรอื ยา้ ยไปทา� หนา้ ท่ี หัวหน้าทีมของอีกทมี ได้ตลอดเวลา 1๗๘ ค่มู อื การปฏิบัติงานตามพระราชบญั ญตั ิการชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 178 11/17/2563 BE 12:40 PM
การปรบั ก�าลังแยกจากหมหู่ รือส่วนไปเปน็ ชดุ หรอื ทมี การปรับกา� ลังแยกจากชดุ หรอื ทีม ไปเป็น คูต่ รวจหรอื Buddy Team คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านตามพระราชบญั ญัตกิ ารชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๗๙ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 179 11/17/2563 BE 12:40 PM
๑.๔ การจัดก�าลงั เปน็ หมวด (Platoon) เม่ือน�าก�าลังระดับหมู่มาประกอบกันจ�านวน ๔ หมู่ ก็จะเป็นการจัดรูปแบบของ ระดบั หมวด โดยเรยี กชอ่ื จากซา้ ยไปขวาของผบู้ งั คบั หมวดวา่ หม ู่ 1 หม ู่ ๒ หม ู่ ๓ และหม ู่ ๔ ตามลา� ดบั ตามภาพ การจดั กา� ลงั ระดบั หมวด จดั โดยประกอบดว้ ย ๔ หมเู่ ปน็ 1 หมวด โดยมนี ามเรยี กขาน ดงั น ี้ 1) หมู่ ๑ (หมู่หนึง่ ) จะอย่ทู างดา้ นซา้ ยสดุ ของผบู้ ังคบั หมวด ๒) หมู่ ๒ (หมสู่ อง) จะอยู่ทางด้านขวาของหม ู่ 1 ถัดมา ๓) หมู่ ๓ (หมู่สาม) จะอยูท่ างดา้ นขวาของหม ู่ ๒ ถัดมา ๔) หมู่ ๔ (หมสู่ )่ี จะอยทู่ างดา้ นขวาของหม ู่ ๓ ถดั มา หรอื ทางขวามอื สดุ ของผบู้ งั คบั หมวด การดา� เนนิ การทางยทุ ธวธิ ี ผบู้ งั คบั หมวดจะสง่ั ใหอ้ ยา่ งนอ้ ย 1 หม ู่ ซงึ่ จะเปน็ หมใู่ ดกไ็ ด ้ ท�าหน้าทรี่ ะวงั หลงั หรอื ทา� หนา้ ทส่ี ่วนส�ารอง (เสริม) เสมอทกุ ครง้ั เพอ่ื ใหเ้ กดิ การอ่อนตัวในการปรับกา� ลังเพิ่ม หรือเสรมิ กา� ลงั ด้านใดด้านหน่ึง ท่เี กดิ ปัญหามากขน้ึ ในขณะดา� เนนิ กลยุทธ์ต่อฝูงชน ทงั้ น้ี เพอื่ ความเหมาะสม พอเพียงในแต่ละสถานการณ์ปะทะ ส่วนแนวปะทะ ผบ.หมวด อาจส่ังการให้ขยายโดยแยกตัว (Split) หรือ รวมตวั (Reform) แลว้ แตส่ ถานการณ์ท่เี ห็นว่าเหมาะสมได้ตลอดเวลา การจดั ก�าลังเป็น หมวด (Platoon) 1๘๐ คมู่ ือการปฏิบตั งิ านตามพระราชบญั ญตั กิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 180 11/17/2563 BE 12:40 PM
การปรบั กา� ลังแยกจาก หมวด (Platoon) เปน็ หม ู่ (Squad) การปรับก�าลังแยกจาก หม ู่ (Squad) เปน็ ทมี (Team) การปรบั ก�าลังแยกจาก ทีม (Team) เป็นคู่ตรวจ (Buddy Team) ผบ.รอ้ ย ผบ.หมวด ผบ.หมู่ หรือ หน.ทีม จะออกค�าส่ังทางวาจามี ๒ ลักษณะ คือ แยก (Split) เป็น........ กบั รวม (Reform) เปน็ ......... โดยจะส่ัง “ .(หน่วยที่ตนเองควบคมุ ).......... แยกเป็น ....(ใหเ้ ป็นหน่วยเลก็ ลง)..............” Go “ .(หนว่ ยที่ตนเองควบคุม).......... รวมเปน็ ....(ให้เป็นหนว่ ยท่ีใหญข่ ้นึ ).........” Go คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ านตามพระราชบญั ญัติการชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชุมนุมสาธารณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๘1 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 181 11/17/2563 BE 12:40 PM
๒. เทคนิคทางยทุ ธวิธขี องกองก�าลังควบคมุ ฝงู ชน ๒.๑ การจดั พนื้ ท่ีให้ปลอดภยั หรอื จดั วงลอ้ ม (To Set up a Cordon) การจดั พน้ื ทปี่ ลอดภยั ปกตจิ ะดา� เนนิ การพรอ้ มๆ กบั การจดั แถวแนวปะทะ (Contact line) จุดประสงค์ ของการสั่งการจัดพื้นที่ปลอดภัย ก็เพื่อให้การเริ่มต้นของกองร้อย ควบคุมฝูงชนเป็นระเบียบและปลอดภัยก่อนท่ีจะด�าเนินกลยุทธ์ (ชั้นแรกสุดของการจัดรูปขบวนหรือแปรรูป ขบวน) จากนนั้ ให้จัดแถวปะทะด้วยซงึ่ ค�าสง่ั กเ็ ช่นเดยี วกนั นอกจากน ้ี การจดั พน้ื ทใี่ หป้ ลอดภยั ยงั ใช้เพอ่ื ประโยชนใ์ นการเคลยี รพ์ น้ื ที่ การจดั บบี กระชบั พนื้ ท่ี การตา้ นและการกรองเสน้ ทางเขา้ ออกของฝงู ชน (Clearing Channeling and Filtering line) ดว้ ย การออกค�าส่งั ของ ผบ.ร้อย เปน็ ดงั ต่อไปนี้ ➢ จัดพน้ื ท่ีปลอดภยั /แถวปะทะ “To set up a cordon/contact line” ➢ โล่/กระบองอยแู่ ถวหน้า “Shields/baton in the front” (ถ้าฝงู ชนมีอันตรายหรือกา้ วรา้ วตอ้ งส่งั การให้โล่อยู่แถวหนา้ เสมอ) ➢ ซา้ ยท่ี.............. ขวาที.่ ..................... “Left limit at...., right limit at....” ➢ จากซา้ ยไปขวา/ขวาไปซา้ ย “From the left to the right/right to the left” ➢ กองรอ้ ยพร้อม “Unit ready?” (กา� ลังตอบพร้อมกันว่า “พรอ้ ม”) ➢ “Go” ผบ.รอ้ ย ตอ้ งส่ังใหม้ กี ารสวมหมวกทุกคร้งั ขณะจดั แนวปะทะหรอื จัดพ้ืนทปี่ ลอดภัย “Helmet on” ส่วนคา� สง่ั จัดรปู ขบวนใหม่ (To take a new position) อกี แห่งหนง่ึ หลังจากมีการ จัดพ้นื ท่ีปลอดภัยแลว้ มีดงั ต่อไปน้ี - “ไปข้างหนา้ ..... เมตร” (ยงั ไมต่ ้องปฏิบัต ิ เป็นคา� สง่ั แจ้งเตอื นก่อน) - ผบ.หมู่ ทวนคา� สัง่ (Echo) เพ่อื ให้ลกู ทีมของตนได้รับทราบคา� ส่ังด้วย - “Go” (ทุกคนปฏบิ ตั กิ ารเคล่ือนไปข้างหน้าตามคา� สัง่ ) - การปฏิบตั ิให้ด�าเนินการอยา่ งเป็นระเบียบพร้อม ๆ กัน 1๘๒ คมู่ ือการปฏิบตั งิ านตามพระราชบญั ญตั กิ ารชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 182 11/17/2563 BE 12:40 PM
๒.๒ สั่งทมี เดนิ ไปข้างหน้า (march) ค�าบอกค�าสั่งสามารถบอกระยะหรือจุดหมายได้ เช่น “เดินไปข้างหน้า ๕ เมตร” “GO” หรอื “เดนิ ไปแยกขา้ งหน้า” “GO” เป็นต้น หรือส่งั การใหเ้ ดนิ โดยไมบ่ อกระยะก็ได ้ หากได้ระยะตามที่ ผบู้ งั คบั หน่วยต้องการก็จะสงั่ การให้หยุด (Halt) และจะมีการทวนคา� ส่ังใหก้ นั เปน็ ทอด ๆ พร้อมมีการสมั ผสั ดงึ ให้หยุดได้ตลอดเวลา บางครง้ั การสงั่ “GO” อาจใชเ้ สยี งนกหวดี เปา่ ยาวปกต ิ 1 ครง้ั แทนกไ็ ด ้ เพอ่ื ใหก้ า� ลงั เจ้าหนา้ ท่ีสามารถไดย้ ินกันทวั่ ในทันทจี ะได้เรมิ่ เดมิ อย่างพรอ้ มเพรยี งกนั ๒.๓ สง่ั ทีมหยุด (Halt) ค�าบอกค�าสั่ง “หยุด” ซึ่งจะมีการช่วยกันทุกคนท่ีได้ยินจะทวนค�าส่ังหรือถ่ายทอด คา� สงั่ ตลอดเพอ่ื ใหม้ กี ารหยดุ ของรปู ขบวนไดใ้ นทนั ท ี เมอ่ื มกี ารหยดุ แลว้ ไมว่ า่ พลโลห่ รอื พลกระบองจะตอ้ งอยู่ ในทา่ พร้อมปฏิบตั ิ หรือ Active Guard ๒.๔ สั่งทีมถอย (Back) คา� ส่งั นีจ้ ะใช้เมื่อการหยุดของทมี ไมอ่ ยใู่ นต�าแหนง่ ทต่ี อ้ งการ ผูบ้ ังคับหนว่ ยสามารถ ส่ังให้ถอยได้ โดยทุกคนจะเดินถอยหลงั ไม่หันหลังกลบั โดยเด็ดขาด พลโล่จะอยแู่ นวปะทะเสมอ การถอยนี้ จะบอกระยะไว้หรือไมบ่ อกกไ็ ด้ หากมกี ารบอกระยะไว ้ เชน่ ค�าบอกคา� สง่ั “ถอย ๕ เมตร” “GO” เมือ่ ถึงระยะ ตามคา� บอกคา� สงั่ กองกา� ลงั ทกุ คนกจ็ ะเตอื นกนั เองและสมั ผสั ใหห้ ยดุ ทนั ท ี พรอ้ มทงั้ จดั แนวใหต้ รงกนั โดยเฉพาะ แนวโล ่ และหากไม่มกี ารบอกระยะการถอยไวจ้ ะต้องมีการออกคา� สั่ง “หยุด” อกี คร้ัง ซ่ึงจะสงั่ ดว้ ยวาจาหรือ สง่ั ดว้ ยสญั ญาณนกหวดี กไ็ ด ้ การเปา่ นกหวดี ใหเ้ ปา่ ยาว 1 ครง้ั นานพอทท่ี มี จะไดร้ บั ทราบคา� สง่ั หยดุ และทา� การ หยุดไดท้ นั ๒.๕ การเคล่อื นท่โี ดยการวงิ่ เยาะๆ (At the Double) คา� บอกคา� ส่ัง “ว่งิ ไปขา้ งหน้า 1๐ เมตร” “GO” ซง่ึ บางครง้ั กไ็ มไ่ ด้บอกระยะทางไว้ แตบ่ อกทีห่ มายเชน่ “ว่ิงไปแยกขา้ งหน้า” เปน็ ตน้ ลักษณะของการวิ่งจะไม่วง่ิ แบบว่งิ เร็ว แต่จะใชว้ ธิ ีการวง่ิ เยาะ ๆ คล้ายแบบฝึกของ ตา� รวจ ทสี่ ง่ั วา่ “ว่ิง หนา้ วิง่ ” เป็นต้น ความเรว็ จะประมาณ ๒ เท่าของการเดิน โดยจะเริม่ จากการหยุดอยู่กบั ที่ ตามทีต่ ัง้ รูปขบวนไวแ้ ล้วสงั่ การให้ว่ิงเลยกไ็ ด้ หรอื จะสัง่ การขณะท่ีทีมกา� ลังเดินอยกู่ ไ็ ด้ จดุ ประสงคข์ องการวงิ่ เพอ่ื ใหก้ องกา� ลงั ควบคมุ ฝงู ชน ไดเ้ คลอื่ นทไี่ ปขา้ งหนา้ รวดเรว็ กวา่ การเดนิ ตามคา� สง่ั เดนิ ไปขา้ งหนา้ และโดยปกตกิ ารสง่ั การใหว้ ง่ิ จะใชใ้ นกรณที ไ่ี มม่ ฝี งู ชนอยขู่ า้ งหนา้ ในระยะใกล้ ประมาณ 1๐ – 1๕ เมตร โดยเฉพาะในระยะพน้ื ที่ปลอดภยั เทา่ น้นั ๒.๖ การเคลือ่ นที่ในเชิงรุก(รุกแล้วกลับ)หรอื เคล่ือนทกี่ ดดัน (Offensive bound) จุดประสงค์ของการเคลื่อนท่ีลักษณะนี้เพื่อเข้าปะทะฝูงชนในแนวปะทะก่อนฝูงชน รวมตัวกันเข้าหากองก�าลัง ดังน้ัน เม่ือกองก�าลังอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักจากผู้ชุมนุมต่อต้านท่ีก�าลัง เตรียมการจะเข้าประชิดและท�ารา้ ยเจ้าหน้าท ี่ ผูบ้ ังคบั หนว่ ยจะออกค�าสั่งนีเ้ ข้าปะทะทนั ที การเคลอ่ื นทน่ี ท้ี า� ใหก้ องกา� ลงั มแี นวระยะหา่ ง (รกุ แลว้ ถอยกลบั เพอ่ื รกั ษาระยะหา่ ง) หรอื มีพ้ืนที่ปลอดภัยจากฝงู ชน ผูต้ ่อต้านจะอยู่แนวหลงั แนวปะทะถดั ไป คู่มอื การปฏิบตั งิ านตามพระราชบญั ญัติการชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชุมนมุ สาธารณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) 1๘๓ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 183 11/17/2563 BE 12:40 PM
Offensive Bound จะประกอบไปด้วย การวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วซ่ึงเร็วกว่า การวง่ิ ในค�าสง่ั วิง่ ไปข้างหนา้ ขา้ งต้น พร้อม ๆ กับมีการตะโกน และเอากระบองตเี คาะท่โี ล่ ซ่ึงปกติจะมรี ะยะวิ่ง ไปขา้ งหน้าประมาณ ๕-1๐ เมตร เขา้ ปะทะ แลว้ รีบถอยกลับมาอยู่ท่ตี �าแหนง่ เดิมทันท ี ซง่ึ บางคร้ังอาจตอ้ งใช้ แกส๊ น้�าตาชนดิ ขวา้ งดว้ ยมอื เพ่ือปอ้ งกนั ฝงู ชนกรกู ลบั เขา้ มาปะทะนอกแนวปะทะ อย่างไรกต็ าม การใชเ้ ทคนิค Offensive Bound เปน็ การใชก้ า� ลงั อย่างหนง่ึ ต้องอยภู่ ายใตก้ ฎการใช้กา� ลังดว้ ย และโดยปกตผิ บู้ ังคบั บญั ชา ณ แนวปะทะเทา่ นั้นที่จะส่ังการใช้เทคนคิ นี้ คา� บอกค�าสั่ง “Offensive Bound” หรอื “เคล่อื นที่กดดัน” “1๐ เมตร” (To …) “พร้อม” (Ready to go!) “GO” หรอื “ปฏบิ ตั ”ิ เมือ่ ได้ระยะแล้วผ้สู ่ัง(หัวหนา้ ชดุ ผบ.หม ู่ ผบ.หมวด หรือ ผบ.ร้อย) จะสง่ั ว่า “ถอย” (Back) โดยผปู้ ฏบิ ตั จิ ะทวนคา� สงั่ (Echo) ไปดว้ ยขณะปฏบิ ตั กิ ารถอยดว้ ยกไ็ ด้ “หยุด” (Halt) ผปู้ ฏิบตั ิในทีมหรอื ชุดจะทวนคา� สัง่ ให้มกี ารหยดุ พรอ้ มกันทนั ที ภาพแสดงการใช้เทคนคิ Offensive Bound 1๘๔ คู่มอื การปฏบิ ัตงิ านตามพระราชบญั ญตั ิการชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดูแลการชมุ นุมสาธารณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 184 11/17/2563 BE 12:40 PM
๒.๗ เทคนิคการเข้าชารจ์ (Charge) หรอื รกุ จดุ มงุ่ หมายของการใชเ้ ทคนิคนีเ้ พอ่ื เคลยี ร์พ้ืนท่ีใดพ้นื ที่หนึง่ และยดึ ครองไว้ การเคลื่อนไหวตามคา� สงั่ นีจ้ ะมเี ป็นชุดท่ี ผบ.รอ้ ย ต้องพิจารณาสั่งการ ลักษณะจะเป็นการแสดงความแข็งแกร่งในการปะทะ (ว่ิงเร็วเข้าปะทะ) ซ่ึงสอด ประสานกับการใช้แก๊สน้�าตาสนับสนุนด้วย เพ่ือมุ่งให้ฝูงชนไม่รวมตัวกันหรือบีบให้ไปช่องทางใดช่องทางหน่ึง ยิ่งกว่านั้นจะต้องมีการคุ้มกันด้านข้างอย่างเข้มงวดเมื่อผ่านทางแยกของถนน โดยใช้ชุดยานพาหนะที่เร็ว และมปี ระสิทธภิ าพปอ้ งกนั กองกา� ลงั เพอื่ ใหป้ ฏบิ ัตโิ ดยไมช่ ักชา้ ในแนวปะทะ บางทกี จ็ ะใชก้ ารชารจ์ ทงั้ ดา้ นขา้ งและหลงั ของผชู้ มุ นมุ ตอ่ ตา้ นทใี่ ชก้ า� ลงั ดว้ ย เพอื่ บบี ฝงู ชนไปช่องทางใดชอ่ งทางหน่ึงหรือเพ่อื การจบั กุม การชารจ์ เปน็ การใชก้ า� ลงั ของเจา้ หนา้ ทแี่ บบหนง่ึ จงึ อยภู่ ายใตก้ ฎการใชก้ า� ลงั ดว้ ย และ การชารจ์ กเ็ ปน็ การแสดงกา� ลงั อยา่ งหนง่ึ ทตี่ อ้ งสรา้ งใหผ้ ปู้ ระทว้ งตอ่ ตา้ นทคี่ ดิ จะเขา้ ปะทะในแนวปะทะเปลยี่ นใจ การชารจ์ ดว้ ยกระบองจะตอ้ งสั่งการโดย ผบ.ร้อย หรือผู้บงั คับบญั ชาในแนวปะทะ เทา่ นนั้ การจัดก�าลัง โดยปกติจะจัด ๔ ส่วน คือ ส่วนปะทะ ส่วนติดตามและสนับสนุน สว่ นคมุ้ กนั และยงิ สนับสนุน และสว่ นสา� รอง ประมวลการปฏิบตั ิ กา� ชับในกฎของการปะทะ (R.O.E.) กา� หนดทศั นคตขิ องเจา้ หนา้ ท่ใี หไ้ ด้กอ่ น เตรียมยานพาหนะ (ทราบความมุง่ หมาย) เตรียมสนบั สนุนการยงิ (ทราบความมงุ่ หมาย) การออกคา� ส่งั “ชารจ์ ” (ดว้ ยโลแ่ ละกระบอง) หรอื “รุก” “๒๐ เมตร” (เร่ิมจาก เดิน หรือ วง่ิ ) “พร้อม” “Go!” (หรอื charge) หรือ “ปฏิบตั ”ิ “หยุด” (Halt) คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านตามพระราชบญั ญัตกิ ารชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ แผนการดแู ลการชมุ นมุ สาธารณะ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) 1๘๕ ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 185 11/17/2563 BE 12:40 PM
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388