Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือปฏิบัติงาน ตาม พรบ.ชุมนุมสาธารณะ

คู่มือปฏิบัติงาน ตาม พรบ.ชุมนุมสาธารณะ

Description: คู่มือ

Search

Read the Text Version

5.1.9 เตรยี มกำรตำมขนั้ ตอนมำตรกำรทำงกฎหมำย กำรใชก้ ำ� ลงั เชน่ กำรสบื สวน กำรรอ้ งขอ ต่อศำล กำรปดหมำยศำล กำรประกำศก�ำหนดพนื้ ทีค่ วบคมุ กำรประกำศคำ� ส่งั ของเจ้ำพนกั งำนดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ หรอื ของผคู้ วบคมุ สถำนกำรณ ์ กำรทำ� สำ� นวนกำรสอบสวน กำรรวบรวมพยำนหลกั ฐำนกลมุ่ ทเี่ ตรยี มกำร จะก่อเหตุรำ้ ยในกำรชุมนุมสำธำรณะ ตำมประมวลกฎหมำยอำญำมำตรำ ๔6 เป็นตน้ และด�ำเนินกำรเพ่อื ให้ สำมำรถขอออกหมำยจับ เพ่ือสืบสวนจับกุมผู้กระท�ำผิดกฎหมำย เช่น เตรียมกำรสะสมสิ่งกีดขวำง เพ่ือปด กำรจรำจร หรอื เตรยี มกำรวำงเพลิง หรือจะก่อเหตวุ นุ่ วำย หรอื ขัดขวำงในระหวำ่ งกำรชมุ นุมอนื่ ๆ เปน็ ตน้ 5.1.10 เตรียมส่ิงอุปกรณ์สิ่งกีดขวำงหรืออ�ำนวยควำมสะดวกแก่สำธำรณะ เช่น อุปกรณ์ ในกำรอ�ำนวยควำมสะดวกกำรจรำจร อุปกรณ์ในกำรติดต่อสื่อสำรหรือกำรประชำสัมพันธ์ในพ้ืนท่ี เป็นต้น รวมทง้ั จดั ทำ� แผนกำรจรำจร จดั กำรเสน้ ทำงจรำจร เสน้ ทำงสำ� รอง ประกำศเจำ้ พนกั งำนจรำจร ทำ� ปำ้ ยประกำศ หรอื ประชำสมั พนั ธ์แกส่ ำธำรณชนหลกี เล่ยี งเส้นทำง 5.1.11 เตรยี มพนื้ ทก่ี ำรชมุ นมุ สำธำรณะใหป้ ลอดภยั และหรอื สะดวกตอ่ กำรใชพ้ น้ื ทขี่ องบคุ คล ท่วั ไป รวมท้ังศนู ยป์ ฏิบตั ิกำรส่วนหน้ำ (ศปก.สน.) จุดรวมพล คำ่ ยพัก จุดส่งก�ำลงั บ�ำรุง จดุ บรกิ ำรตำ่ งๆ 5.1.12 ประกำศมำตรกำรทำงกฎหมำย ให้แก่สำธำรณชนและผู้เข้ำร่วมชุมนุมสำธำรณะ และแกนนำ� ไดร้ ับทรำบ 5.1.13 จดั ระเบยี บสอ่ื มวลชน (รบั ลงทะเบยี น ออกเครอ่ืี งหมำยหรอื บตั รแสดงตวั แกส่ อ่ื มวลชน) เพอ่ื ควำมปลอดภยั และกำรจดั ระเบยี บในกำรรำยงำนขำ่ วของสอ่ื มวลชนในพนื้ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกำรชมุ นมุ สำธำรณะ รวมทัง้ ช้ีแจงทำ� ควำมเขำ้ ใจเก่ียวกบั กำรปฏบิ ัต ิ โดยเฉพำะเกยี่ วกบั ควำมปลอดภัยของสอื่ มวลชน 5.1.1๔ ดำ� เนินกำรดำ้ นชุมชนและมวลชนสัมพนั ธท์ ุกรูปแบบ และเตรยี มปฏบิ ัตกิ ำรด้ำนกำร ประชำสัมพันธ์ และกำรปฏิบตั ิกำรจิตวทิ ยำ ปฏบิ ตั ิกำรขำ่ วสำร โดยอำศัยส่ือประชำสัมพนั ธท์ ุกประเภท เช่น วิทย ุ โทรทศั น ์ สือ่ สงั คมออนไลน์ 5.1.15 จัดต้ังศูนย์ปฏิบัติกำรส่วนหน้ำ (ศปก.สน.) ในพื้นท่ีชุมนุมสำธำรณะ เพื่อควบคุม สง่ั กำร รวมท้งั กำ� หนดตัวผรู้ ับผิดชอบในกำรควบคุม อ�ำนวยกำรและส่ังกำรในแต่ละพืน้ ท่ีแตล่ ะข้ันตอน 5.2 ขนั ตอนท่ี 2 ขนั การ ผชญิ หตุ (ขณะชมุ นมุ สำธำรณะ) เมื่อมสี ถำนกำรณก์ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ เกดิ ขนึ้ ใหห้ นว่ ยงำนทเ่ี กย่ี วขอ้ งในระดบั ตำ่ งๆ ดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะใหเ้ ปน็ ไปตำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 และปฏิบัติดงั น้ี 5.2.1 ใหต้ �ำรวจทอ้ งท่ีเขำ้ รกั ษำควำมสงบเรียบรอ้ ยบริเวณทีช่ ุมนุมและบรเิ วณใกลเ้ คียงดว้ ย กำรแยกพ้ืนท่ีชุมนุมออกจำกพื้นที่ท่ัวไป ตั้งจุดตรวจจุดสกัดตรวจค้นอำวุธ ส่ิงผิดกฎหมำยรอบสถำนท่ีชุมนุม สำธำรณะ ตงั้ จุดตรวจกำรณจ์ ำกจุดสูงขม่ 5.2.2 รักษำควำมปลอดภัยสถำนท่ีและบุคคลส�ำคัญ โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงเป้ำหมำยที่อยู่ใกล้ สถำนที่ชุมนุม พร้อมท้ังจัดกำรจรำจรบริเวณท่ีชุมนุมและพื้นที่ต่อเน่ืองเพื่อให้กำรชุมนุมสำธำรณะที่เกิดข้ึน มีผลกระทบตอ่ สำธำรณชนนอ้ ยทีส่ ุด 5.2.3 ใช้ศนู ย์ปฏิบตั ิกำรทุกระดับตดิ ตำม ควบคุม และส่งั กำรกำรรกั ษำควำมสงบ และแกไ้ ข ปัญหำตำมข้ันตอน โดยใหจ้ ัดต้งั ศูนยป์ ฏิบตั ิกำรส่วนหนำ้ (ศปก.สน.) ในพื้นทีช่ ุมนมุ หรือใกลเ้ คียง 36 คมู่ อื กำรปฏบิ ตั ิงำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 36 11/17/2563 BE 12:40 PM

5.2.๔ ช้ีแจงท�ำควำมเข้ำใจต่อผู้จัดกำรชุมนุมและผู้ชุมนุมสำธำรณะให้ทรำบถึงขอบเขตของ กำรใชส้ ทิ ธแิ ละเสรภี ำพตำมรฐั ธรรมนญู และตำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 โดยกำรชมุ นมุ สำธำรณะจะต้องไม่กระทบต่อสิทธิและเสรีภำพของบุคคลอื่นหรือละเมิดต่อกฎหมำย รวมทั้งต้องด�ำเนินกำร ตำมข้นั ตอนของกฎหมำยในกำรชุมนมุ 5.2.5 ให้หน่วยงำนที่มีหน้ำท่ีรับผิดชอบโดยตรงหรือหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องกับข้อเรียกร้อง สนบั สนนุ คัดค้ำน หรือแสดงควำมคิดเห็นของผู้ชุมนมุ จัดผ้แู ทนมำรับทรำบข้อเท็จจรงิ เจรจำ ไกล่เกลี่ย หรือ แก้ไขปัญหำเบ้ืองต้น โดยมีเจ้ำหน้ำที่ดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะเป็นผู้สนับสนุนกำรปฏิบัติ และให้รำยงำนให้ ผู้ว่ำรำชกำรจงั หวัดทรำบ 5.2.6 ดำ� รงกำรเจรจำกบั ผจู้ ดั กำรชมุ นมุ ผชู้ มุ นมุ หรอื ผเู้ กย่ี วขอ้ ง เพอ่ื ทำ� ควำมเขำ้ ใจใหป้ ฏบิ ตั ิ ตำมกฎหมำย หรอื เพือ่ คลี่คลำยสถำนกำรณ์ตลอดเวลำ 5.2.7 เรง่ ดำ� เนนิ กำรสบื สวนหำขอ้ เทจ็ จรงิ และรวบรวมพยำนหลกั ฐำนเพอื่ บงั คบั ใชก้ ฎหมำย ท�ำสำ� นวนกำรสบื สวนสอบสวน โดยเฉพำะควำมผิดเกย่ี วกบั กำรเตรยี มกำรจะกอ่ เหตรุ ำ้ ย 5.2.8 ดำ� เนนิ กำรประชำสมั พนั ธ ์ และแจง้ ฝำ่ ยปกครอง หนว่ ยงำนประชำสมั พนั ธข์ องหนว่ ยงำน ของรัฐและเอกชน ช่วยท�ำกำรประชำสัมพันธ์ และปฏิบัติกำรข่ำวสำร และใช้มวลชนของฝ่ำยเรำสนับสนุน กำรข่ำวและกำรปอ้ งกันและรกั ษำควำมสงบกำรชมุ นมุ สำธำรณะทุกรูปแบบ 5.2.9 ดำ� เนนิ กำรปอ้ งกนั เหตแุ ทรกซอ้ นหรอื กำรกอ่ เหตรุ ำ้ ยในพน้ื ทชี่ มุ นมุ และพน้ื ทใ่ี กลเ้ คยี ง โดยให้หน่วยต�ำรวจในพ้ืนที่รับผิดชอบจัดก�ำลังเข้ำป้องกัน ระงับยับยั้ง บังคับใช้กฎหมำยตำมอ�ำนำจหน้ำที่ ท่ีก�ำหนดและภำยใตห้ ลักกำรใช้ก�ำลงั 5.3 ขนั ตอนท่ี 3 ขนั ตอนการใชก้ า� ลงั ขา้ คลคี่ ลายส านการณ 5.3.1 กำรใชก้ ำ� ลังเข้ำคลคี่ ลำยสถำนกำรณ์ กรณีท่ีศำลมีค�ำส่ังให้เลิกกำรชุมนุมสำธำรณะ โดยได้มีกำรปดประกำศค�ำสั่งศำล ตำมมำตรำ 22 แหง่ พระรำชบญั ญัตกิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 ใหผ้ ู้ชุมนุมทรำบแล้ว ในกรณีทผ่ี ู้ชุมนุม ไม่เลิกกำรชมุ นุมสำธำรณะตำมค�ำสัง่ ของศำลภำยในระยะเวลำทศี่ ำลกำ� หนด ใหด้ �ำเนินกำรดงั น้ี 5.3.1.1 เจำ้ พนกั งำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ ด�ำเนนิ กำรดงั น้ี 1) รำยงำนให้ศำลทรำบ 2) ประกำศกำ� หนดใหพ้ นื้ ทบี่ รเิ วณทม่ี กี ำรชมุ นมุ สำธำรณะนนั้ และบรเิ วณ ปรมิ ณ ลเป็นพื้นทีค่ วบคุม 3) ประกำศให้ผู้ชุมนุมออกจำกพื้นท่ีควบคุมภำยในระยะเวลำท่ีก�ำหนด และหำ้ มบุคคลใดเข้ำในพ้นื ท่ีควบคมุ โดยมไิ ดร้ บั อนญุ ำตจำกเจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ ๔) รำยงำนเหตุกำรณ์ให้ส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติ (ผ่ำน ศปก.ตร.) เพือ่ ทรำบ และรำยงำนรัฐมนตรีท่ีรบั ผิดชอบตำมพระรำชบัญญัติกำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 เพ่ือทรำบ 5.3.1.2 ผคู้ วบคุมสถำนกำรณ์ ดำ� เนนิ กำรดังนี้ 1) เม่ือพ้นระยะเวลำที่ประกำศให้ผู้ชุมนุมออกจำกพ้ืนที่ควบคุมแล้ว หำกมผี ชู้ ุมนมุ อยใู่ นพ้นื ท่ีควบคมุ หรือเขำ้ ไปในพน้ื ทีค่ วบคมุ โดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ ำตจำกเจำ้ พนักงำนดูแลกำรชมุ นุม คมู่ ือกำรปฏิบตั งิ ำนตำมพระรำชบญั ญัติกำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2563) 37 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 37 11/17/2563 BE 12:40 PM

สำธำรณะ ใหถ้ ือว่ำผนู้ นั้ กระท�ำควำมผิดซ่งึ หน้ำ ให้ผูค้ วบคมุ สถำนกำรณ์และผู้ซงึ่ ไดร้ บั มอบหมำยจำกผ้คู วบคุม สถำนกำรณ์ด�ำเนินกำรให้มีกำรเลิกกำรชุมนุม โดยด�ำเนินกำรทำงยุทธวิธีจำกเบำไปหำหนัก (ถ้ำกระท�ำได้) ท้งั น ้ี ตอ้ งท�ำควำมเข้ำใจด้วยกำรประกำศ สงั่ ดว้ ยวำจำและด�ำเนนิ กำรจบั คน้ ยดึ อำยัด หรือรอ้ื ถอนทรพั ย์สนิ ท่ีใชห้ รือมีไว้เพื่อใชใ้ นกำรชุมนมุ สำธำรณะน้ัน ตำมควำมจ�ำเป็น ได้สดั ส่วนกบั ควำมรนุ แรงของกำรกระทำ� และ พอสมควรแก่เหตุ 2) กำรด�ำเนินกำรใหห้ ลกี เลี่ยงกำรใช้กำ� ลงั ในกรณที ไี่ มอ่ ำจหลกี เลย่ี งได้ หรอื มีควำมจำ� เป็น เพ่อื ใหเ้ ลกิ กำรชมุ นมุ หรอื กำรจบั กุม หรือปอ้ งกนั ภยันตรำยตอ่ ชีวติ รำ่ งกำย และทรัพยส์ นิ ให้พจิ ำรณำใช้กำ� ลงั ตำมหลกั กำรใชก้ ำ� ลงั ท้ังน้ีจะต้องใชก้ �ำลังและเครอ่ื งมอื ควบคุมฝงู ชนเพียงเท่ำทีจ่ �ำเปน็ 5.3.1.3 เม่ือรัฐบำลหรือคณะรัฐมนตรีได้ใช้อ�ำนำจประกำศบังคับใช้กฎหมำย ควำมม่ันคงเฉพำะ เพ่ือรักษำควำมสงบแล้ว เจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะหรือผู้ควบคุมสถำนกำรณ์ ยังคงปฏิบัติหน้ำที่ต่อไปตำมที่ได้รับมอบหมำยจำกหน่วยรับผิดชอบหลักในกำรรักษำควำมสงบเรียบร้อย ตำมท่ีกฎหมำยควำมมั่นคงเฉพำะน้ันก�ำหนด โดยเฉพำะอย่ำงย่ิง กำรรักษำสถำนที่เกิดเหตุ กำรรวบรวม พยำนหลักฐำนเพื่อกำรสอบสวน จับกุมผู้กระท�ำผิด กำรด�ำเนินคดี เว้นแต่มีกำรส่ังกำรมอบหมำยเป็น อย่ำงอ่ืน 5.3.2 กำรใชก้ ำ� ลงั เขำ้ คล่คี ลำยสถำนกำรณ์ในกรณเี กิดควำมวุน่ วำยขนึ้ ในบำ้ นเมือง เจำ้ พนักงำนดแู ลกำรชุมนุมสำธำรณะ มีอ�ำนำจหนำ้ ท่ใี นกำรบรหิ ำรจดั กำรกำรชุมนมุ สำธำรณะเพอ่ื ประโยชนใ์ นกำรคมุ้ ครองควำมสะดวกของประชำชน กำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะและกำรรกั ษำ ควำมสงบเรียบรอ้ ยและศีลธรรมอันดขี องประชำชน ในกรณที ผ่ี ชู้ ุมนมุ กระทำ� กำรใดๆ ทีม่ ลี กั ษณะรนุ แรงและ อำจเปน็ อนั ตรำยแกช่ วี ติ รำ่ งกำย จติ ใจ หรอื ทรพั ยส์ นิ ของผอู้ น่ื จนเกดิ ควำมวนุ่ วำยขนึ้ ในบำ้ นเมอื ง เจำ้ พนกั งำน ผู้ดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะมีอ�ำนำจส่ังให้ผู้ชุมนุมหยุดกำรกระท�ำนั้น ตำมมำตรำ 25 แห่งพระรำชบัญญัติ กำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 และด�ำเนนิ กำรดงั น้ี 5.3.2.1 เม่ือมีควำมจ�ำเป็นต้องใช้ก�ำลังชุดควบคุมฝูงชน หรือหน่วยงำนต่ำงๆ ในแต่ละระดับ ในกำรแกไ้ ขสถำนกำรณ์ ให้รำยงำนส�ำนักงำนตำ� รวจแห่งชำติ (ผ่ำน ศปก.ตร.) ทรำบทนั ที และ ในกรณจี งั หวดั อน่ื นอกเขตกรงุ เทพมหำนครใหร้ ำยงำนผูว้ ำ่ รำชกำรจงั หวัดทรำบด้วย 5.3.2.2 เมอื่ เจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะสงั่ ใหผ้ ชู้ มุ นมุ ยตุ กิ ำรกระทำ� ทกี่ อ่ ให้เกิดควำมวุ่นวำยข้ึนในบ้ำนเมืองแล้ว หำกผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตำม ให้เจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ ด�ำเนินกำรตำมข้อ 5.3.1.1 2), 3), ๔) และข้อ 5.3.1.3 และให้ผู้ควบคุมสถำนกำรณ์ด�ำเนินกำรตำม ข้อ 5.3.1.2 และขอ้ 5.3.1.3 5.3.3 กรณที ี่ผู้ชุมนมุ ไมป่ ฏบิ ตั ติ ำมประกำศของผ้ดู แู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะ ตำมมำตรำ 21 แหง่ พระรำชบัญญัตกิ ำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 และอย่รู ะหวำ่ งกำรรอ้ งขอตอ่ ศำลเพ่ือมีค�ำส่ังใหผ้ ูช้ ุมนุม เลกิ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ หำกมคี วำมจำ� เปน็ ตอ้ งดำ� เนนิ กำรเพอื่ คมุ้ ครองควำมสะดวกของประชำชน หรอื คมุ้ ครอง กำรชุมนมุ สำธำรณะ ใหผ้ ดู้ ูแลกำรชุมนมุ สำธำรณะกระทำ� กำรทจ่ี �ำเป็น ตำมแนวทำง/แผนกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ โดยด�ำเนินกำรทำงยุทธวิธจี ำกเบำไปหำหนกั ตำมควำมจำ� เป็น และเปน็ ไปตำมสัดส่วนตำมหลักกำร ใช้ก�ำลังท่กี ำ� หนดไว้ในแผนกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะน ้ี 38 คมู่ อื กำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมพระรำชบัญญัติกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 38 11/17/2563 BE 12:40 PM

5.๔ ขันตอนท่ี ๔ ขันการ น ู (หลงั การชมุ นุมสาธารณะ) เม่ือสถำนกำรณ์กำรชุมนุมสำธำรณะคลี่คลำยคืนสู่สภำวะปกติหรือยุติกำรชุมนุมแล้ว ให้เจำ้ พนกั งำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะหรอื ผูค้ วบคมุ สถำนกำรณด์ �ำเนนิ กำร ดงั นี้ 5.๔.1 จัดส่งผู้บำดเจ็บ ฟนฟู เยียวยำ และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจำกกำรชุมนุม สำธำรณะตำมหลกั สิทธิมนุษยชนและตำมกฎหมำยคุม้ ครองสิทธหิ รือทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง 5.๔.2 สนับสนุนหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องในกำรบูรณะ ฟนฟูสถำนที่หรือทรัพย์สินท่ีได้รับ ควำมเสยี หำยจำกกำรชุมนมุ ตำมอ�ำนำจหน้ำท่ี 5.๔.3 บังคับใช้กฎหมำย รวบรวมพยำนหลักฐำน สืบสวนสอบสวน จับกุมด�ำเนินคดีกับ ผูก้ ระท�ำควำมผดิ ตำมท่กี ฎหมำยก�ำหนด 5.๔.๔ ร้องขอให้หน่วยงำนรัฐหรือเอกชนที่ร่วมปฏิบัติกำร สนับสนุน หรือด�ำเนินงำนตำม อ�ำนำจหน้ำท่ขี องตนในเหตชุ มุ นุมสำธำรณะ ใหส้ ง่ ขอ้ มูล พยำนหลักฐำน เชน่ ภำพจำกกลอ้ งวงจรปด ภำพถ่ำย เพ่อื เป็นหลักฐำนทำงคดี หรือสรุปบทเรยี นต่อไป 5.๔.5 จัดประชุมหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องสรุปผลกำรปฏิบัติเพ่ือกำรจัดท�ำรำยงำนภำยหลัง กำรปฏบิ ตั ิ สรปุ บทเรยี นจำกกำรปฏบิ ตั งิ ำน รำยงำนสำ� นกั งำนตำ� รวจแหง่ ชำต ิ (ผำ่ น ศปก.ตร.) ตลอดจนดำ� เนนิ กำร ชแ้ี จงประชำสมั พนั ธ์ขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ีเกดิ ขน้ึ แกส่ ำธำรณชน คู่มอื กำรปฏิบตั ิงำนตำมพระรำชบัญญัติกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2563) 39 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 39 11/17/2563 BE 12:40 PM

๔0 คมู่ อื กำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 40 11/17/2563 BE 12:40 PM

บทท่ี 6 การใช้ก�าลงั คร่ืองมอื อุปกรณ และอาวุธ เจำ้ หนำ้ ทต่ี อ้ งพยำยำมใชก้ ำรเจรจำตอ่ รองหรอื ปฏบิ ตั กิ ำรใดๆ เพอื่ คลค่ี ลำยสถำนกำรณ ์ หำกไมเ่ ปน็ ผล และเจ้ำหน้ำที่จ�ำเป็นต้องมีกำรใช้ก�ำลังเข้ำแก้ไขสถำนกำรณ์ท่ีไม่ใช่กำรป้องกันภยันตรำยที่ใกล้จะถึง สำมำรถ ด�ำเนินกำรตำมมำตรกำรต่ำงๆ ให้เป็นไปตำมสมควรแก่เหตุ และยุทธวิธีกำรใช้ก�ำลัง ตำมควำมจ�ำเป็น ของสถำนกำรณ์ตำมหลักสัดส่วน โดยวิธีกำรใดวิธีกำรหน่ึง หรือหลำยวิธีกำรพร้อมกันให้สอดคล้องเหมำะสม กับสถำนกำรณ์ เจ้ำหน้ำท่ีต้องพยำยำมหลีกเล่ียงกำรใช้ก�ำลัง เครื่องมือควบคุมฝูงชนหรืออำวุธจนถึงที่สุด หำกไม่สำมำรถหลกี เลีย่ งไดใ้ หใ้ ช้ก�ำลังเพียงเทำ่ ที่จำ� เป็นและเหมำะสมกบั สถำนกำรณ์ กำรใช้กำ� ลัง เครื่องมือควบคุมฝูงชนหรอื อำวุธ ตอ้ งใช้เมอื่ มีเหตจุ �ำเป็นและเหมำะสมกบั ควำมรนุ แรง ของสถำนกำรณ ์ โดยในเบอื้ งตน้ ใหใ้ ชก้ ำรเจรจำ และหลกี เลย่ี งกำรใชก้ ำ� ลงั เทำ่ ทจ่ี ะสำมำรถกระทำ� ได ้ แตจ่ ะตอ้ ง ไมก่ ระทบตอ่ ควำมปลอดภยั ของสำธำรณชนและเจำ้ หนำ้ ทซี่ งึ่ ปฏบิ ตั หิ นำ้ ทใ่ี นกำรดแู ลรกั ษำควำมสงบเรยี บรอ้ ย ในกำรชมุ นุม กำรใช้อำวุธตอ้ งใช้เพ่อื ปอ้ งกันตนเองหรือบคุ คลอื่นให้พน้ จำกภยนั ตรำยรำ้ ยแรงต่อชวี ติ หรือรำ่ งกำย หรอื เพอื่ ระงบั ยบั ยงั้ เหตคุ วำมรนุ แรงใหส้ งบ หรอื เพอื่ จบั กมุ ผทู้ กี่ ระทำ� ผดิ กฎหมำย หรอื ผตู้ อ่ สขู้ ดั ขวำงเจำ้ พนกั งำน หรอื เพอ่ื ป้องกันมใิ ห้บุคคลดังกล่ำวหลบหนี กำรจะใช้กำ� ลงั เคร่อื งมือควบคุมฝูงชนหรอื อำวุธเพอ่ื ยตุ กิ ำรชมุ นมุ ทไี่ ม่ชอบด้วยกฎหมำย เม่ือใดน้ัน ย่อมไม่ตัดสิทธิของเจ้ำหน้ำท่ีในกำรป้องกันสิทธิของตนเองหรือผู้อื่นเพ่ือให้พ้นจำกภยันตรำย อันเกิดจำก กำรประทุษร้ำยอนั ละเมิดตอ่ กฎหมำยที่ใกล้จะถงึ โดยไดก้ ระท�ำพอสมควรแก่เหตุ 6.๑ หลักการใชก้ า� ลัง กำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะให้เจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ ผู้ควบคุมสถำนกำรณ ์ หรือเจ้ำหน้ำท่ีที่รับผิดชอบ หรือผู้มีหน้ำที่เกี่ยวข้องในกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะพิจำรณำในกำรใช้ก�ำลัง มำตรกำร อุปกรณ ์ หรือเคร่อื งมอื ในกำรรักษำควำมสงบ ใหเ้ หมำะสมกบั สถำนกำรณ ์ ดงั นี้ ใชก้ ำ� ลงั ตำมควำมจำ� เปน็ ของสถำนกำรณ ์ โดยใหใ้ ชก้ ำ� ลงั นอ้ ยทส่ี ดุ เทำ่ ทจี่ ำ� เปน็ เพอ่ื บรรลภุ ำรกจิ ก่อนกำรใช้ก�ำลัง มำตรกำร อุปกรณ์หรือเคร่ืองมือ ให้ใช้กำรเจรจำกับผู้จัดกำรชุมนุมหรือ ผู้ชุมนุมและแจ้งเตือนก่อน หำกสำมำรถกระท�ำได้และไม่เกิดอันตรำยต่อเจ้ำหน้ำที่หรือบุคคลอ่ืน ทั้งน้ี ให้ใช้ วิธกี ำรเตอื นตำมควำมเหมำะสมกับกำรใช้กำ� ลัง มำตรกำร อุปกรณห์ รอื เคร่ืองมือ ตำมสถำนกำรณ์ กำรใชก้ �ำลงั มำตรกำร อปุ กรณห์ รือเครอ่ื งมอื เพอ่ื บังคบั ใหผ้ ูช้ ุมนมุ หรือบุคคลอ่นื ๆ ปฏบิ ตั ิตำม ค�ำส่ังของเจ้ำหน้ำที่ หรือกำรใช้ก�ำลัง มำตรกำร อุปกรณ์หรือเคร่ืองมือในกรณีที่มีกำรฝ่ำฝนค�ำส่ัง เช่น กำรใช้กำ� ลัง มำตรกำร อุปกรณ์หรอื เครือ่ งมือเพอื่ ตรวจค้น จบั กมุ ใหใ้ ช้ก�ำลงั ได้ตำมแนวทำงดงั นี้ เตอื นดว้ ยวำจำวำ่ กำรฝำ่ ฝนดงั กลำ่ วผดิ กฎหมำยใหห้ ยดุ กำรกระทำ� หำกไมห่ ยดุ ใหแ้ สดงทำ่ ทำง พรอ้ มใช้กำ� ลัง มำตรกำร อปุ กรณ์ หรอื เคร่ืองมอื หำกยงั คงฝำ่ ฝนใหใ้ ชก้ ำ� ลงั เพอ่ื กกั ตวั หรอื ทำ� กำรจบั กมุ ได ้ แตท่ งั้ นร้ี ะดบั ของกำ� ลงั ทใ่ี ชต้ อ้ งเหมำะสม กบั สถำนกำรณท์ เ่ี กิดขึ้น ค่มู ือกำรปฏิบัตงิ ำนตำมพระรำชบญั ญตั ิกำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2563) ๔1 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 41 11/17/2563 BE 12:40 PM

กำรปฏบิ ตั ติ อ่ ผหู้ ญงิ เดก็ และคนชรำ จะตอ้ งเพมิ่ ควำมระมดั ระวงั และปฏบิ ตั ใิ หม้ คี วำมเหมำะสม กับสถำนภำพ โดยคำ� นึงถึงสทิ ธิมนุษยชนทไ่ี มท่ ำ� ใหเ้ สียภำพพจน์ในกำรปฏบิ ตั กิ ำร กำรสงั่ ใช้กำ� ลงั เจำ้ หนำ้ ท่หี ลกั หรือเจ้ำหน้ำทที่ ีร่ ว่ มปฏบิ ตั กิ ำร เข้ำยุตกิ ำรชุมนมุ ใหอ้ ยใู่ นอ�ำนำจ ของผบู้ งั คบั บญั ชำในพน้ื ทที่ ไี่ ดร้ บั คำ� สง่ั ใหร้ บั ผดิ ชอบในกำรรกั ษำควำมสงบ กำรชมุ นมุ สำธำรณะคอื เจำ้ พนกั งำน ดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะหรือผ้คู วบคมุ สถำนกำรณ์ ในกรณีฉุกเฉนิ จำ� เป็น เร่งด่วน ซง่ึ เป็นเหตุกำรณ์เฉพำะหน้ำ กำรใชก้ �ำลงั มำตรกำร อุปกรณ์ หรอื เครอ่ื งมอื ปอ้ งกนั ตนเองหรอื ทรพั ยส์ นิ ของทำงรำชกำร ปอ้ งกนั กำรกระทำ� ควำมผดิ ซง่ึ หนำ้ หรอื ปกปอ้ งชวี ติ ผอู้ นื่ จำกภยันตรำยท่ีใกล้จะถงึ สำมำรถกระท�ำได้ตำมควำมจ�ำเปน็ แตต่ ้องพอสมควรแก่เหตุ 6.2 การใช้ คร่ืองมอื อุปกรณควบคมุ งู ชน กำรใชเ้ ครอื่ งมอื หรืออปุ กรณ์ในกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ ให้ถือปฏบิ ตั ิตำมแนวทำงดังนี้ กำรใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน ต้องใช้ตำมควำมจ�ำเป็นได้สัดส่วนและเหมำะสม กบั สถำนกำรณ์เพ่อื ใหบ้ รรลุภำรกิจหรอื ปอ้ งกนั ตนเองหรือกลมุ่ บคุ คล หรอื ทรัพยส์ นิ ต้องเตือนผู้ชุมนุมหรอื กลมุ่ บุคคลดงั กล่ำวกอ่ นว่ำจะใชก้ �ำลงั เขำ้ ยตุ กิ ำรชุมนมุ กำรใช้กระบอง ให้ใช้ในกรณีผลักดันกลุ่มคนออกจำกพ้ืนท่ีโดยเม่ือจ�ำเป็นต้องใช้กระบอง ต้องเตือนก่อน เว้นแต่สถำนกำรณ์ไม่เอ้ืออ�ำนวย และให้ใช้เท่ำที่จ�ำเป็นเพ่ือกำรบรรลุภำรกิจ หำกจ�ำเป็น ให้ทำ� กำรต ี แต่ต้องไม่ตที บ่ี รเิ วณอวยั วะส�ำคญั ซงึ่ อำจก่อใหเ้ กิดอันตรำยต่อชวี ิตหรือท�ำให้พิกำร กำรยิงกระสุนยำง ให้ยิงต่อเป้ำหมำยทีก่ ระทำ� กำรหรือมที ่ำทคี กุ คำมตอ่ ชีวติ บุคคลอนื่ รวมท้ัง ต้องก�ำหนดเป้ำหมำยโดยชัดเจน ไม่ยิงโดยไม่แยกแยะหรือไม่เลือกเป้ำหมำย ไม่ใช้กำรยิงอัตโนมัติ จะต้อง เล็งยิงให้กระสนุ ยำงกระทบส่วนล่ำงของรำ่ งกำยของผทู้ ่ีเปน็ เป้ำหมำย กำรใช้น�ำ้ ฉีด ให้ใช้ในกรณกี ำรเข้ำยุติกำรชุมนุม หรือระงบั ยบั ยง้ั ปอ้ งกนั เหต ุ โดยใชแ้ รงดันนำ�้ เท่ำทจ่ี ำ� เป็นในกำรสลำยฝงู ชน และระมดั ระวงั อยำ่ ฉีดน�้ำไปยงั บริเวณอวยั วะทบ่ี อบบำง เช่น ดวงตำ เปน็ ตน้ กำรใชส้ ำรควบคมุ กำรจลำจลในกำรยตุ กิ ำรชมุ นมุ หรอื ระงบั ยบั ยง้ั ปอ้ งกนั เหต ุ สำมำรถกระทำ� ได้ แตต่ ้องมกี ำรเตือนก่อนกำรใชแ้ ละให้ใชใ้ นระดบั ควำมเข้มขน้ ท่ีเหมำะสม กำรใช้แก๊สน�้ำตำให้ระมัดระวัง หลีกเลี่ยงกำรขว้ำงไปโดนตัวบุคคลใดบุคคลหน่ึง ระมัดระวัง อันตรำยท่ีจะเกิดแก่กลุ่มคนท่ีอยู่ใกล้เคียง ซึ่งไม่มีส่วนเก่ียวข้องกับกำรชุมนุม ห้ำมใช้อำวุธหรืออุปกรณ์ท่ีมี อำ� นำจกำรทำ� ลำยสูง เชน่ เครอื่ งยิงลูกระเบดิ เอ็ม 79 ในกำรยิงลกู ระเบิดสงั หำร ระเบิดเพลิง อำวุธปนกล ในภำรกจิ กำรรกั ษำควำมสงบกำรชุมนุมสำธำรณะ 6.3 การใชอ้ าวุธ กรณีท่ีมีเหตุแทรกซ้อน มีกำรน�ำหรือใช้อำวุธร้ำยแรงในสถำนท่ีชุมนุมสำธำรณะ หรือมีกำร กระท�ำควำมผิดท่ีเป็นภยันตรำยต่อชีวิต ร่ำงกำย ทรัพย์สิน อันเป็นกำรละเมิดสิทธิเสรีภำพอย่ำงร้ำยแรง ซง่ึ มใิ ชก่ ำรชมุ นมุ ตำมปกต ิ ให้เจ้ำหนำ้ ทสี่ ำมำรถใชม้ ำตรกำร อำวุธ เพ่อื ระงับ ยบั ยั้ง และปรำบปรำมกำรกระท�ำ ควำมผิดน้ันได้ ภำยใต้กรอบของกฎหมำยพอสมควรกับเหตุร้ำยที่คำดว่ำจะเกิดขึ้น นอกเหนือจำกกำรดูแล กำรชุมนมุ สำธำรณะตำมทก่ี ฎหมำยกำ� หนด ๔2 คูม่ อื กำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมพระรำชบัญญัติกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 42 11/17/2563 BE 12:40 PM

ประกาศส�านักงานต�ารวจแหง่ ชาติ รือ่ ง กา� หนดระดับ สยี งของ ครื่องขยาย สียงทใ่ี ช้ในการชุมนมุ สาธารณะ พ.ศ.2558๑ โดยท่ีเป็นกำรสมควรก�ำหนดระดับเสียงของเครื่องขยำยเสียงที่ใช้ในกำรชุมนุมสำธำรณะ เพื่อไม่ให้ เปน็ อันตรำยต่อสขุ อนำมัยของผ้ชู มุ นุมและไม่เป็นกำรรบกวนหรือกอ่ ควำมเดือดร้อนรำ� คำญแกผ่ ู้อ่ืน อำศัยอ�ำนำจตำมควำมในมำตรำ 15 (7) แห่งพระรำชบัญญัติกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 ผูบ้ ญั ชำกำรต�ำรวจแห่งชำตจิ ึงออกประกำศไว ้ ดงั ต่อไปน้ี ขอ้ 1 ในประกำศน้ี ระดับเสียงท่ัวไป หมำยควำมว่ำ ระดับเสียงท่ีเกิดข้ึนจำกกำรใช้เคร่ืองขยำยเสียงในกำรชุมนุม สำธำรณะ ค่ำระดบั เสียงสงู สุด หมำยควำมวำ่ คำ่ ระดับเสียงสงู สดุ ท่ีเกิดขน้ึ ในขณะหนงึ่ ระหวำ่ งกำรตรวจวัด ระดับเสยี งของเคร่ืองขยำยเสยี งทใี่ ชใ้ นกำรชมุ นมุ สำธำรณะ โดยมีหนว่ ยเปน็ เดซิเบลเอ หรือ ( ) ขอ้ 2 หำ้ มมใิ หใ้ ชเ้ คร่ืองขยำยเสียงเกินกำ� หนดระดับเสยี งทัว่ ไปไว ้ ดังต่อไปน้ี (1) คำ่ ระดับเสียงสูงสุด ไมเ่ กนิ 115 เดซิเบลเอ (2) คำ่ ระดับเสยี งเฉลี่ย 2๔ ช่วั โมง ไมเ่ กิน 70 เดซิเบลเอ ข้อ 3 ห้ำมมใิ ห้ใชเ้ คร่อื งขยำยเสียงในกำรชุมนุมสำธำรณะอันเป็นกำรรบกวนผูอ้ ืน่ โดยให้กำ� หนด ระดบั เสียงรบกวนเท่ำกบั 10 เดซเิ บลเอ ขอ้ ๔ วิธกี ำรตรวจวดั ระดับเสยี งสูงสดุ ระดบั เสียงเฉลยี่ และระดบั เสยี งรบกวนทเี่ กดิ จำกกำรใช้ เครื่องขยำยเสียงในกำรชุมนุมสำธำรณะ ให้เป็นไปตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรส่งเสริมและรักษำคุณภำพ ส่งิ แวดล้อมแหง่ ชำติ ข้อ 5 ประกำศนีใ้ หใ้ ช้บงั คบั ต้ังแตว่ นั ถัดจำกวนั ประกำศในรำชกิจจำนเุ บกษำเปน็ ตน้ ไป ประกำศ ณ วันท่ ี 23 กนั ยำยน พ.ศ.2558 พลตำ� รวจเอก สมยศ พ่มุ พันธุ์ม่วง ผ้บู ญั ชำกำรตำ� รวจแห่งชำติ 1 รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม 132 ตอนพเิ ศษ 236 ง (2 ตลุ ำคม 2558) หนำ้ 2๔. ๔3 คมู่ อื กำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 43 11/17/2563 BE 12:40 PM

ประกาศสา� นักนายกรั มนตรี รอื่ ง กา� หนดวธิ กี ารแจง้ การชมุ นมุ สาธารณะ2 โดยทกี่ ำรจดั กำรชมุ นมุ สำธำรณะไมต่ อ้ งมกี ำรขออนญุ ำต แตต่ อ้ งแจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะนน้ั ตอ่ ผรู้ บั แจง้ ตำมกฎหมำย จึงสมควรก�ำหนดวิธีกำรแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะให้เกิดควำมสะดวกแก่ผู้แจ้ง และเป็นข้อมูล แก่ผู้รับแจ้ง เพ่ือให้กำรชุมนุมสำธำรณะเป็นไปด้วยควำมสงบเรียบร้อย ไม่กระทบต่อควำมมั่นคงของชำติ ควำมปลอดภยั สำธำรณะ ควำมสงบเรยี บรอ้ ยหรอื ศลี ธรรมอนั ด ี ตลอดจนสขุ อนำมยั ของประชำชน หรอื คมุ้ ครอง ควำมสะดวกของประชำชนท่ีจะใช้ท่ีสำธำรณะ และไม่กระทบสิทธิและเสรีภำพและศักด์ิศรีควำมเป็นมนุษย์ ของผ้อู น่ื อำศัยอ�ำนำจตำมควำมในมำตรำ 5 วรรคหนึ่ง มำตรำ 10 วรรคสำม และมำตรำ 12 วรรคสอง แห่งพระรำชบญั ญตั กิ ำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 นำยกรฐั มนตรีจึงออกประกำศไว ้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ขอ้ 1 ในประกำศน้ี กำรแจง้ หมำยควำมว่ำ กำรแจ้งควำมประสงค์จะจดั กำรชมุ นมุ สำธำรณะ พนักงำนเจ้ำหน้ำท่ี หมำยควำมว่ำ เจ้ำพนักงำนซ่ึงผู้รับแจ้งแต่งตั้งหรือมอบหมำยให้รับผิดชอบ ในกำรรบั หรือส่งหนังสอื หรือดำ� เนินกำรเกย่ี วกบั กำรรับแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะของหน่วยงำน ข้อ 2 ผใู้ ดประสงคจ์ ะจดั กำรชมุ นมุ สำธำรณะ ใหแ้ จง้ เปน็ หนงั สอื ตอ่ ผรู้ บั แจง้ ซง่ึ เปน็ หวั หนำ้ สถำนี ตำ� รวจแห่งท้องทท่ี ม่ี ีกำรชุมนมุ สำธำรณะตำมแบบท้ำยประกำศน ี้ ก่อนเริม่ กำรชมุ นมุ ไม่น้อยกว่ำยส่ี บิ ส่ีชั่วโมง กรณีประสงค์จะจัดกำรชุมนุมสำธำรณะในท้องที่ของสถำนีต�ำรวจต่ำง ๆ เกินกว่ำหนึ่งท้องที่ ซ่ึงมีเขตตอ่ เน่อื งกนั ให้แจ้งกำรชมุ นุมสำธำรณะตอ่ ผูร้ บั แจง้ ในทอ้ งท่หี นงึ่ ท้องท่ใี ดกไ็ ด้ ขอ้ 3 ภำยใตบ้ งั คับของข้อ 2 กำรแจง้ ให้ดำ� เนนิ กำรโดยวธิ ีหน่ึงวิธใี ด ดังตอ่ ไปนี้ (1) แจ้งโดยตรงตอ่ ผู้รับแจ้ง (2) แจ้งทำงโทรสำร (3) แจ้งทำงจดหมำยอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ข้อ ๔ กำรแจ้งโดยตรงต่อผู้รับแจ้ง ให้ผู้แจ้งยื่นหนังสือแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะต่อผู้รับแจ้งหรือ พนกั งำนเจำ้ หนำ้ ท ่ี ณ ทที่ ำ� กำรของผรู้ บั แจง้ ทง้ั น ้ี ในกำรแจง้ โดยตรงตอ่ พนกั งำนเจำ้ หนำ้ ทด่ี งั กลำ่ ว เมอ่ื พนกั งำน เจำ้ หนำ้ ที่ได้รับเอกสำรครบถ้วนแลว้ ให้ถือว่ำผู้รับแจง้ ไดร้ ับแจ้งแล้ว ขอ้ 5 กำรแจง้ ทำงโทรสำร ใหส้ ง่ หนงั สอื แจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะไปยงั หมำยเลขโทรสำรของทท่ี ำ� กำร ของผู้รับแจ้งตำมท่ีก�ำหนดไว้ในประกำศของส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติ แล้วให้ส่งต้นฉบับของหนังสือแจ้ง กำรชุมนุมสำธำรณะไปยังผรู้ บั แจง้ ทำงไปรษณีย์ลงทะเบยี นตอบรับโดยพลัน เม่ือไดส้ ง่ หนงั สอื ทำงโทรสำรแล้ว ใหผ้ ู้แจ้งโทรศัพท์แจง้ พนกั งำนเจำ้ หน้ำทต่ี ำมหมำยเลขท่กี �ำหนดไว้ ในประกำศของส�ำนักงำนตำ� รวจแหง่ ชำติโดยเร็ว เพื่อตรวจสอบควำมถกู ต้อง 2 รำชกิจจำนเุ บกษำ เลม่ 132 ตอนพเิ ศษ 279 ง (3 พ ศจกิ ำยน 2558) หนำ้ ๔-5. ๔๔ ค่มู อื กำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมพระรำชบัญญตั ิกำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 44 11/17/2563 BE 12:40 PM

กำรส่งตำมวรรคหนึ่งให้ถือว่ำผู้รับแจ้งได้รับแจ้งต่อเม่ือพนักงำนเจ้ำหน้ำที่แห่งท่ีท�ำกำรของผู้รับแจ้ง ไดร้ ับเอกสำรตำมโทรสำรครบถว้ น ขอ้ 6 กำรแจง้ ทำงจดหมำยอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ์ ใหส้ ง่ หนงั สอื แจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะไปยงั ทอี่ ยจู่ ดหมำย อิเลก็ ทรอนกิ ส์ของที่ท�ำกำรผ้รู บั แจ้งตำมทก่ี ำ� หนดไว้ในประกำศของสำ� นกั งำนต�ำรวจแหง่ ชำติ กำรส่งจดหมำยอเิ ล็กทรอนกิ ส ์ จะต้องอยูใ่ นรูปแบบทเี่ หมำะสม โดยสำมำรถแสดงหรอื อ้ำงอิง หรือ เข้ำถึงเพื่อน�ำกลับมำใช้ในภำยหลังและยังคงควำมครบถ้วนของข้อควำมในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส ์ รวมทงั้ สำมำรถระบตุ วั ผสู้ ่งได้ เมอ่ื ไดส้ ง่ จดหมำยอเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ลว้ ใหผ้ แู้ จง้ โทรศพั ทแ์ จง้ พนกั งำนเจำ้ หนำ้ ทต่ี ำมหมำยเลขทก่ี ำ� หนด ไว้ในประกำศของสำ� นกั งำนตำ� รวจแหง่ ชำตโิ ดยเร็ว เพื่อตรวจสอบควำมถกู ต้อง กำรแจง้ ตำมวรรคหนง่ึ ใหถ้ อื วำ่ ผรู้ บั แจง้ ไดร้ บั แจง้ ตอ่ เมอื่ พนกั งำนเจำ้ หนำ้ ทไี่ ดร้ บั จดหมำยอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ โดยครบถ้วนสมบูรณแ์ ล้ว ในกรณีมีข้อสงสัย ผู้รับแจ้งอำจสั่งให้ผู้แจ้งส่งต้นฉบับหนังสือแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะภำยใน ระยะเวลำที่เห็นสมควร ขอ้ 7 เมื่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ได้รับหนังสือแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะแล้ว ให้รีบน�ำเสนอผู้รับแจ้ง เพ่ือพิจำรณำโดยเรว็ ในกรณที เ่ี ปน็ กำรแจ้งโดยวธิ ีตำมขอ้ 3 (2) และ (3) และพนกั งำนเจำ้ หนำ้ ที่มขี ้อสงสัย ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำท่ีติดต่อไปยังผู้แจ้ง ตำมข้อมูลท่ีระบุไว้ในหนังสือแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะเพื่อตรวจสอบ ตัวผูแ้ จ้งและควำมถกู ตอ้ งของหนังสือแจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะด้วย ขอ้ 8 เม่ือผู้รับแจ้งได้รับแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะแล้ว ให้ตรวจสอบควำมถูกต้องแล้วส่งสรุป สำระสำ� คญั ในกำรชมุ นมุ สำธำรณะใหผ้ แู้ จง้ ทรำบภำยในยส่ี บิ สช่ี ว่ั โมงนบั แตเ่ วลำทไี่ ดร้ บั แจง้ และอำจมคี ำ� แนะนำ� เพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั กำรดแู ลกำรชุมนุมสำธำรณะเพ่ือใหผ้ แู้ จ้งปฏบิ ัตหิ รือแกไ้ ขภำยในเวลำท่กี �ำหนดดว้ ยก็ได้ ข้อ 9 ในกรณีทผ่ี ู้แจ้งไม่สำมำรถแจง้ กำรชมุ นุมไดท้ นั กำ� หนดเวลำตำมขอ้ 2 ผู้แจง้ อำจขอผอ่ นผัน กำ� หนดเวลำดงั กลำ่ วกอ่ นเรมิ่ กำรชมุ นมุ โดยยนื่ คำ� ขอผอ่ นผนั พรอ้ มแบบแจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะทำ้ ยประกำศน้ี โดยตรง ในกรุงเทพมหำนครให้ย่ืนค�ำขอต่อผู้บังคับกำรต�ำรวจนครบำลผู้รับผิดชอบพ้ืนที่ในกรุงเทพมหำนคร ในจังหวดั อนื่ ให้ย่นื ค�ำขอต่อผบู้ งั คบั กำรต�ำรวจภธู รจงั หวัด ข้อ 10 ให้ส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติวำงระเบียบหรือค�ำส่ังก�ำหนดหลักเกณ ์และกำรปฏิบัติ ของเจำ้ หน้ำทต่ี ำ� รวจ เพือ่ ใหเ้ ปน็ ไปตำมประกำศนี้ ขอ้ 11 ประกำศนใี้ หใ้ ชบ้ ังคับตั้งแต่วนั ถัดจำกวันประกำศในรำชกจิ จำนเุ บกษำเปน็ ต้นไป ประกำศ ณ วันที ่ 3 พ ศจกิ ำยน พ.ศ.2558 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชำ นำยกรฐั มนตรี ค่มู ือกำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2563) ๔5 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 45 11/17/2563 BE 12:40 PM

หนังสอื แจง้ การชุมนมุ สาธารณะ ดา้ นหนา้ ทำ� ท่ี .................................................. วันท่ี ............ เดือน ............................... พ.ศ. ................. เรยี น หัวหน้ำสถำนีต�ำรวจ ...................................../ผ้รู บั แจ้ง ข้ำพเจ้ำ นำย/นำง/นำงสำว ..............เลขประจ�ำตัวประชำชน - - - - ชื่อหน่วยงำนหรือองค์กร ............................................................................................................................... ท่ีอย ู่ .................................................................................................................................................................. หมำยเลขโทรศพั ท ์ ................... หมำยเลขโทรสำร ........................ จดหมำยอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ์ ( ) .................. ขอแจ้งควำมประสงคเ์ พ่อื จดั กำรชมุ นุมสำธำรณะ ดังนี้ 1. วตั ถุประสงคข์ องกำรชมุ นมุ ......................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... 2. ลักษณะกำรชมุ นมุ สำธำรณะ กรณีไม่มกี ำรเดินขบวนหรือเคล่ือนย้ำยสถำนทชี่ ุมนมุ จำ� นวนผู้เขำ้ รว่ มชมุ นุมโดยประมำณ ............................ คน ท่ีอยู่ของสถำนที่ชุมนุม .................................................................................................................................... ระยะเวลำกำรชมุ นมุ ......... วนั เรม่ิ กำรชมุ นมุ ตงั้ แตเ่ วลำ .............. ของวนั ท ่ี ........... เดอื น .................. พ.ศ. ........ ถึงเวลำ ..................... ของวันที่ .............. เดอื น .............................. พ.ศ. .................. กรณมี ีกำรเดนิ ขบวนหรือเคล่ือนย้ำยสถำนท่ีชุมนุม จ�ำนวนผู้เข้ำร่วมชมุ นมุ โดยประมำณ ............................ คน วันและเวลำรวมตัว ......................... จุดเร่ิมต้นของกำรเคล่ือนขบวนกำรชุมนุม ........................................ เรม่ิ ขบวนในเวลำ .............................. ของวนั ท ี่ ....................... เดอื น ................................ พ.ศ. .......................... รำยละเอยี ดเส้นทำง (รวมจุดพกั ) ....................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... 3. รำยละเอยี ดทเี่ ปน็ ประโยชน์ส�ำหรับกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ กำรใชย้ ำนพำหนะ ประเภท ............................................................ จำ� นวน ....................................................... กำรใชเ้ คร่ืองขยำยเสยี ง ขนำดก�ำลังไฟฟำ้ ..........วตั ต ์ จำ� นวน.........ตัว ล�ำโพงขนำด.........วตั ต ์ จำ� นวน..........ตัว กำรใชส้ ง่ิ อนื่ ๆ .................................................................................................................................................... ๔. รำยชือ่ ผู้ประสำนงำน (1) ชือ่ นำมสกลุ ................................ เลขประจำ� ตัวประชำชน - - - - หมำยเลขโทรศัพท์ ................ หมำยเลขโทรสำร .................. จดหมำยอเิ ล็กทรอนกิ ส ์ ( ) ....................... (2) ช่ือ นำมสกลุ .................................เลขประจำ� ตัวประชำชน - - - - หมำยเลขโทรศัพท ์ ................ หมำยเลขโทรสำร .................. จดหมำยอิเล็กทรอนกิ ส ์ ( ) ....................... ขำ้ พเจำ้ รบั ทรำบรำยละเอยี ดตำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ. 2558 แลว้ และขอรบั รองวำ่ ข้อมลู ขำ้ งต้นเป็นควำมจรงิ ทกุ ประกำร ลงชือ่ ...................................................... ( .................................................. ) ๔6 คมู่ อื กำรปฏิบัติงำนตำมพระรำชบัญญตั ิกำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 46 11/17/2563 BE 12:40 PM

ดา้ นหลัง 5. รำยละเอยี ดเพม่ิ เติม ..................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ค่มู ือกำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบญั ญัตกิ ำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2563) ๔7 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 47 11/17/2563 BE 12:40 PM

ประกาศสา� นักนายกรั มนตรี รือ่ ง คร่อื งมอื ควบคุม งู ชนในการชมุ นมุ สาธารณะ3 โดยท่ีเป็นกำรสมควรก�ำหนดเคร่ืองมือควบคุมฝูงชน เพื่อให้กำรชุมนุมสำธำรณะเป็นไปด้วย ควำมสงบเรียบร้อย ไม่กระทบต่อควำมมั่นคงของชำติ ควำมปลอดภัยสำธำรณะ ควำมสงบเรียบร้อย หรือ ศลี ธรรมอนั ด ี ตลอดจนสุขอนำมยั ของประชำชน หรือค้มุ ครองควำมสะดวกของประชำชนทจ่ี ะใชท้ ่ีสำธำรณะ และไมก่ ระทบสทิ ธแิ ละเสรีภำพและศกั ด์ิศรีควำมเปน็ มนษุ ยข์ องผ้อู นื่ อำศัยอ�ำนำจตำมควำมในมำตรำ 5 วรรคหน่ึง มำตรำ 19 วรรคเจ็ด และมำตรำ 2๔ วรรคสอง แหง่ พระรำชบญั ญตั ิกำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 นำยกรฐั มนตรจี ึงออกประกำศไว ้ ดังตอ่ ไปน้ี ขอ้ 1 เจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะและข้ำรำชกำรต�ำรวจซ่ึงได้รับมอบหมำย ผู้ควบคุม สถำนกำรณแ์ ละผ้ซู ึ่งไดร้ ับมอบหมำย อำจเลอื กใช้เครอื่ งมือควบคุมฝงู ชนได้ ดังต่อไปน้ี (1) หมวกปรำบจลำจล หรอื หมวกกนั กระสุนพร้อมกระบงั หน้ำ (2) โลใ่ ส หรือโล่กันกระสุน (3) ชุดป้องกนั สะเก็ด ตลอดจน สนบั แข้ง สนบั เขำ่ สนับศอก อุปกรณ์ป้องกันสะเกด็ บรเิ วณล�ำตวั แขนและขำ (๔) กระบองยำง หรอื อุปกรณ์ใชต้ ี ( ) (5) สำยรัดบังคบั (สำยล็อกข้อมือ) หรือกญุ แจมอื (6) หน้ำกำกปอ้ งกันแก๊สพิษ พรอ้ มหมอ้ กรองแก๊สพษิ และไมโครโฟน (7) แก๊สน้�ำตำชนิดสเปรย์ สกัดจำกพืชธรรมชำติ (8) เส้อื เกรำะอ่อนปอ้ งกันกระสุน (9) เครอ่ื งขยำยเสียงพร้อมไมโครโฟน ขนำดเล็ก (10) อปุ กรณ์สง่ คลื่นเสียงรบกวนพเิ ศษระยะไกลชนดิ พกพำ (11) เครอ่ื งเสียงและระบบป้องกันอันตรำยรถส่ังกำร (12) เครือ่ งยิงแกส๊ น�้ำตำชนดิ ใชแ้ ล้วทง้ิ (13) เคร่ืองฉดี แก๊สแบบสะพำย (1๔) ชุดปนยิงแกส๊ น�้ำตำพร้อมอุปกรณ ์ (15) แก๊สน้�ำตำชนดิ เผำไหม้ (16) แก๊สน้�ำตำส�ำหรบั ผสมนำ�้ (17) ลกู ขวำ้ งแบบควนั (18) ลกู ขวำ้ งแบบแสง - เสยี ง (19) ลูกขว้ำงแก๊สน�้ำตำ ชนดิ OC 3 รำชกิจจำนเุ บกษำ เล่ม 132 ตอนพิเศษ 279 ง (3 พ ศจิกำยน 2558) หน้ำ 6-7. ๔8 คูม่ อื กำรปฏิบัติงำนตำมพระรำชบญั ญตั ิกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 48 11/17/2563 BE 12:40 PM

(20) ลกู ขวำ้ งแกส๊ นำ�้ ตำ ชนิด C (21) ถงุ ลมบอกทศิ ทำง (22) เครื่องฉดี น�้ำแรงดันสูง และสผี สมน้�ำ (23) อำวุธปนลูกซอง สำ� หรบั ยิงกระสนุ ยำงหรือแกส๊ น�ำ้ ตำ (2๔) อปุ กรณช์ ็อตไฟฟ้ำ ( ) (25) ปนยิงตำข่ำย (26) รถฉีดน้�ำแรงดนั สงู หรอื รถดบั เพลงิ (27) เครอื่ งกดี ขวำงกำรผำ่ นของรถ (28) อปุ กรณต์ รวจหำอำวุธบคุ คล (29) อปุ กรณต์ รวจหำอำวุธยำนพำหนะ (30) แผงกัน้ เหลก็ (31) กรวยยำง (32) แท่นปนู หรอื อปุ กรณส์ �ำหรบั ป้องกันสถำนท่ี (33) ลวดหีบเพลงแถบหนำม (3๔) ถงุ มอื หนงั (35) รถเครนยกแทน่ ปนู (36) ยำนพำหนะสำ� หรบั เจ้ำหน้ำท่แี ละกำรล�ำเลยี งเครอ่ื งมอื (37) รถควบคมุ ฝงู ชน ( ) ขนำด 6 ลอ้ (38) รถควบคมุ ฝูงชน ( ) ขนำด 10 ล้อ (39) รถทท่ี �ำกำรทำงยทุ ธวิธี (๔0) รถบรรทกุ น�้ำ (๔1) รถส่องสว่ำง (๔2) อปุ กรณส์ ง่ คลื่นเสียงรบกวนพิเศษระยะไกล ขนำดกลำง (๔3) อุปกรณ์ส่งคล่ืนเสียงรบกวนพเิ ศษระยะไกล ขนำดใหญ่ (๔๔) ชดุ เครื่องเสียงควำมดังสูง พรอ้ มอุปกรณก์ ำ� เนดิ พลังงำน (๔5) โคมไฟสอ่ งสวำ่ งฉกุ เฉนิ (๔6) อปุ กรณถ์ ำ่ ยภำพท้ังภำพนิง่ และเคลือ่ นไหว (๔7) เครื่องบนั ทึกเสยี ง (๔8) เครื่องมือวดั ระดบั เสียง ข้อ 2 ประกำศน้ใี หใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แตว่ นั ถดั จำกวนั ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเปน็ ต้นไป ประกำศ ณ วนั ที่ 3 พ ศจิกำยน พ.ศ.2558 พลเอก ประยุทธ์ จนั ทร์โอชำ นำยกรัฐมนตรี คมู่ อื กำรปฏิบตั ิงำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ๔9 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 49 11/17/2563 BE 12:40 PM

50 คมู่ อื กำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 50 11/17/2563 BE 12:40 PM

สว่ นท่ี 2 คมู่ อื การปฏบิ ัติงาน ตามพระราชบัญญัติการชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ.2558 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) คู่มือกำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมพระรำชบญั ญตั ิกำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2563) 51 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 51 11/17/2563 BE 12:40 PM

52 คมู่ อื กำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 52 11/17/2563 BE 12:40 PM

บทท่ี ๑ สาระสา� คัญพระราชบญั ญัตกิ ารชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 พระรำชบัญญัติกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 เป็นกฎหมำยที่ก�ำหนดหลักเกณ ์กำรใช้สิทธิ ชุมนุมสำธำรณะให้ชัดเจนและสอดคล้องกับกติกำระหว่ำงประเทศว่ำด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทำงกำรเมือง ที่ประเทศไทยเปน็ ภำค ี ทงั้ นี้ เพือ่ ให้กำรชมุ นมุ สำธำรณะเปน็ ไปดว้ ยควำมสงบเรยี บรอ้ ย ไม่กระทบกระเทือน ตอ่ ควำมมน่ั คงของชำต ิ ควำมปลอดภยั สำธำรณะ ควำมสงบเรยี บรอ้ ยหรอื ศลี ธรรมอนั ดตี ลอดจนสขุ อนำมยั ของ ประชำชน หรอื ควำมสะดวกของประชำชนท่จี ะใชท้ ่สี ำธำรณะ และไมก่ ระทบกระเทอื นสิทธิและเสรีภำพและ ศักด์ิศรีควำมเป็นมนุษย์ของผู้อ่ืน โดยที่พระรำชบัญญัติกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 ได้ก�ำหนดขอบเขต ของกำรชมุ นุมสำธำรณะ สถำนทีห่ ้ำมกำรชมุ นุม กำรแจ้งและวิธีกำรแจ้งกำรชุมนมุ หน้ำท่ขี องผู้จดั กำรชมุ นมุ และผชู้ มุ นมุ กำรดูแลกำรชุมนุม และบทกำ� หนดโทษส�ำหรับผูท้ ่ฝี ำ่ ฝน โดยมสี ำระส�ำคญั ตำ่ ง ๆ ดังต่อไปน้ี 1. ก�ำหนดกำรชุมนุมสำธำรณะท่ีไม่อยู่ภำยใต้พระรำชบัญญัติน้ี ได้แก่ กำรชุมนุมเนื่องในงำน พระรำชพิธีและงำนรัฐพิธี กำรชุมนุมเพื่อประกอบพิธีกรรมทำงศำสนำหรือกิจกรรมตำมประเพณีหรือ ตำมวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น กำรชุมนุมเพื่อจัดแสดงมหรสพ กี ำ ส่งเสริมกำรท่องเที่ยว หรือกิจกรรมอ่ืน เพื่อประโยชนท์ ำงกำรค้ำปกติของผจู้ ัดกำรชุมนมุ น้ัน กำรชมุ นมุ ภำยในสถำนศกึ ษำ กำรชมุ นมุ หรือกำรประชุม ตำมบทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมำย หรอื กำรประชมุ สมั มนำทำงวชิ ำกำรของสถำนศกึ ษำหรอื หนว่ ยงำนทม่ี วี ตั ถปุ ระสงค์ ทำงวชิ ำกำร และกำรชมุ นมุ สำธำรณะในระหวำ่ งเวลำทม่ี ปี ระกำศสถำนกำรณฉ์ กุ เฉนิ หรอื ประกำศใชก้ ฎอยั กำรศกึ และกำรชุมนุมสำธำรณะท่ีจัดข้ึนเพื่อประโยชน์ในกำรหำเสียงเลือกตั้งในช่วงเวลำที่มีกำรเลือกตั้ง แต่ทั้งน ้ี ตอ้ งปฏบิ ัติตำมกฎหมำยวำ่ ด้วยกำรนั้น (มำตรำ 3) 2. ก�ำหนดนิยำมค�ำว่ำ กำรชุมนุมสำธำรณะ หมำยถึงกำรชุมนุมของบุคคลในที่สำธำรณะ เพอ่ื เรียกรอ้ ง สนับสนุน คัดคำ้ น หรอื แสดงควำมคดิ เห็นในเรือ่ งใดเรอ่ื งหนง่ึ โดยแสดงออกตอ่ ประชำชนท่วั ไป และบุคคลอ่นื สำมำรถร่วมกำรชมุ นมุ นนั้ ได ้ ไม่ว่ำกำรชุมนุมนนั้ จะมีกำรเดนิ ขบวน หรอื เคลือ่ นยำ้ ยดว้ ยหรอื ไม ่ (มำตรำ ๔) 3. ก�ำหนดหลักท่ัวไปในกำรชุมนุมสำธำรณะ กล่ำวคือ กำรชุมนุมสำธำรณะต้องเป็นไปโดยสงบ และปรำศจำกอำวุธ กำรใช้สทิ ธแิ ละเสรีภำพของผู้ชมุ นมุ ในระหว่ำงกำรชุมนุมสำธำรณะตอ้ งอยภู่ ำยใต้ขอบเขต กำรใชส้ ทิ ธแิ ละเสรีภำพตำมบทบญั ญัตแิ ห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมำย (มำตรำ 6) ๔. กำ� หนดสถำนท่ีต้องหำ้ มมใิ ห้จดั กำรชมุ นมุ สำธำรณะ ได้แก ่ ระยะรัศมี 150 เมตรจำกสถำนที่ ส�ำคัญ (พระบรมมหำรำชวัง พระรำชวัง วงั ของพระรัชทำยำทหรือของพระบรมวงศต์ ัง้ แตส่ มเดจ็ เจำ้ ฟำ้ ขน้ึ ไป พระรำชนิเวศน์ พระต�ำหนัก หรือจำกที่ซึ่งพระมหำกษัตริย์ พระรำชินี พระรัชทำยำท พระบรมวงศ์ต้ังแต่ สมเดจ็ เจำ้ ฟำ้ ขนึ้ ไป หรอื ผสู้ ำ� เรจ็ รำชกำรแทนพระองค ์ ประทบั หรอื พำ� นกั หรอื สถำนทพี่ ำ� นกั ของพระรำชอำคนั ตกุ ะ) จะกระท�ำมิได้ กำ� หนดสถำนท่ีหำ้ มจัดกำรชมุ นุมภำยในพืน้ ทข่ี องรัฐสภำ ทำ� เนียบรัฐบำล ศำล และกำรชมุ นมุ สำธำรณะต้องไม่กีดขวำงทำงเข้ำออก หรือรบกวนกำรปฏิบัติงำน หรือกำรใช้บริกำรสถำนท่ี เช่น สถำนที่ ทำ� กำรหนว่ ยงำนของรฐั ทำ่ อำกำศยำน ทำ่ เรอื สถำนรี ถไฟ หรอื สถำนขี นสง่ สำธำรณะ โรงพยำบำล สถำนศกึ ษำ และศำสนสถำน สถำนทูตหรือสถำนกงสุลของรัฐต่ำงประเทศ หรือสถำนท่ีท�ำกำรองค์กำรระหว่ำงประเทศ เปน็ ตน้ (มำตรำ 7 และมำตรำ 8) คู่มอื กำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) 53 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 53 11/17/2563 BE 12:40 PM

อย่ำงไรก็ดี เพื่อรักษำควำมปลอดภัยสำธำรณะและควำมสงบเรียบร้อยของประชำชน จึงได้ให้ อำ� นำจผู้บัญชำกำรต�ำรวจแหง่ ชำติหรือผ้ทู ่ไี ดร้ บั มอบหมำยในกำรประกำศหำ้ มชมุ นมุ ในรศั มีไมเ่ กนิ 50 เมตร จำกรัฐสภำ ทำ� เนียบรฐั บำลและศำลได ้ (เปน็ กำรประกำศช่ัวครำวตำมแตก่ รณี) โดยส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติ ได้มีค�ำสั่งท่ี 151/2560 ลงวันที่ 28 มีนำคม 2560 เร่ือง กำรมอบหมำยกำรประกำศหำ้ มกำรชุมนมุ สำธำรณะตำมมำตรำ 7 วรรคทำ้ ย แห่งพระรำชบญั ญัตกิ ำรชมุ นุม สำธำรณะ พ.ศ.2558 มอบหมายให้ ผู้บัญชาการต�ารวจนครบาล และรองผู้บัญชาการต�ารวจนครบาล ทผ่ี บู้ ญั ชาการตา� รวจนครบาลมอบหมาย เปน็ ผมู้ อี ำ� นำจประกำศหำ้ มชมุ นมุ สำธำรณะ ตำมนยั มำตรำ 7 วรรคสอง แห่งพระรำชบญั ญตั กิ ำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 ในเขตพ้นื ทีก่ รุงเทพมหำนคร (ผนวก ก) 5. ก�ำหนดให้มีกำรส่งเสริมกำรใช้สิทธิเสรีภำพในกำรชุมนุม โดยให้หน่วยงำนของรัฐอำจจัดให้มี สถำนท่ีเพื่อใช้ส�ำหรับกำรชุมนุมสำธำรณะก็ได้ โดยมิให้น�ำควำมในหมวด 2 กำรแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะ มำใชบ้ ังคบั แก่กำรชุมนุมสำธำรณะทจี่ ดั ข้นึ ภำยในสถำนทที่ ่ีหน่วยงำนของรฐั จัดไวด้ ังกลำ่ ว (มำตรำ 9) 6. ก�ำหนดให้ผู้ประสงค์จะจัดกำรชุมนุมสำธำรณะทุกกรณี ให้แจ้งกำรชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเร่ิม กำรชุมนุมไม่น้อยกว่ำยี่สิบส่ีชั่วโมง โดยให้ผู้จัดกำรชุมนุม ผู้ประสงค์จะจัดกำรชุมนุม และให้ถือว่ำผู้เชิญชวน หรือนดั ให้ผอู้ ื่นมำร่วมชมุ นมุ ในวนั เวลำ และสถำนที่ทีก่ �ำหนดไม่ว่ำจะดว้ ยวิธกี ำรใด ๆ รวมท้ังผูข้ ออนญุ ำตใช้ สถำนที่หรือเคร่ืองขยำยเสียงหรือขอให้ทำงรำชกำรอ�ำนวยควำมสะดวกในกำรชุมนุมเป็นผู้ประสงค์จะจัดกำร ชุมนุมสำธำรณะด้วย โดยกำรแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะต้องระบุวัตถุประสงค์ และวัน ระยะเวลำ และสถำนท่ีชุมนุม สำธำรณะตำมวิธีกำรท่ีรัฐมนตรีประกำศก�ำหนดซึ่งต้องเป็นวิธีที่สะดวกแก่ผู้แจ้ง และต้องให้แจ้งผ่ำนระบบ เทคโนโลยสี ำรสนเทศได้ด้วย (มำตรำ 10) (แจ้งโดยตรง แจง้ ทำงโทรสำร และแจง้ โดยจดหมำยอิเลก็ ทรอนกิ ส์) เมอ่ื ไดร้ บั แจง้ แลว้ ใหผ้ รู้ บั แจง้ สง่ สรปุ สำระสำ� คญั ในกำรชมุ นมุ สำธำรณะตำมพระรำชบญั ญตั นิ ใ้ี ห้ ผแู้ จง้ ทรำบภำยในยส่ี บิ สชี่ วั่ โมงนบั แตเ่ วลำทไ่ี ดร้ บั แจง้ กรณที ผ่ี รู้ บั แจง้ เหน็ วำ่ กำรชมุ นมุ สำธำรณะทไี่ ดร้ บั แจง้ นนั้ อำจขดั ตอ่ มำตรำ 7 หรอื มำตรำ 8 ให้ผูร้ ับแจ้งมคี �ำสง่ั ให้ผูแ้ จง้ แกไ้ ขภำยในเวลำท่ีก�ำหนด หำกผแู้ จ้งกำรชุมนมุ ไมป่ ฏิบัตติ ำมค�ำสงั่ ใหผ้ รู้ บั แจ้งมีค�ำสั่งหำ้ มชมุ นมุ โดยแจง้ ค�ำสง่ั เปน็ หนังสอื ไปยงั ผู้แจ้ง กรณีท่ีผู้ประสงค์จะจัดกำรชุมนุมสำธำรณะซ่ึงไม่สำมำรถแจ้งกำรชุมนุมได้ภำยในก�ำหนดเวลำ ตำมมำตรำ 10 แจง้ กำรชุมนมุ พรอ้ มคำ� ขอผ่อนผนั ก�ำหนดเวลำดังกลำ่ วตอ่ ผู้บงั คับกำรตำ� รวจผรู้ ับผิดชอบพน้ื ท่ี ในกรุงเทพมหำนคร หรือผู้บังคับกำรต�ำรวจภูธรจังหวัดในจังหวัดอ่ืนแล้วแต่กรณี ก่อนเริ่มกำรชุมนุม โดยให ้ ผู้รับค�ำขอผ่อนผันมีหนังสือแจ้งค�ำส่ังพร้อมด้วยเหตุผลให้ผู้ย่ืนค�ำขอทรำบภำยในเวลำย่ีสิบส่ีช่ัวโมงนับแต่เวลำ ที่ไดร้ บั ค�ำขอ (มำตรำ 12) 7. ก�ำหนดหน้ำที่ของผู้จัดกำรชุมนุม ได้แก่ ดูแลและรับผิดชอบกำรชุมนุมสำธำรณะให้เป็นไป โดยสงบและปรำศจำกอำวุธภำยใต้ขอบเขตกำรใช้สิทธิและเสรีภำพตำมบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ดูแล และรบั ผดิ ชอบกำรชมุ นมุ สำธำรณะไมใ่ หเ้ กดิ กำรขดั ขวำงเกนิ สมควรตอ่ ประชำชนทจี่ ะใชท้ สี่ ำธำรณะ ตลอดจน ดูแลและรับผิดชอบให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตำมมำตรำ 16 แจ้งให้ผู้ชุมนุมทรำบถึงหน้ำท่ีของผู้ชุมนุมตำม มำตรำ 16 และเงื่อนไขหรือค�ำสั่งของเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ ให้ควำมร่วมมือแก่เจ้ำพนักงำน ดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะในกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะให้เป็นไปตำมกฎหมำย ไม่ยุยงส่งเสริมหรือชักจูง ผชู้ มุ นมุ เพอ่ื ใหผ้ ชู้ มุ นมุ ไมป่ ฏบิ ตั ติ ำมมำตรำ 16 ไมป่ รำศรยั หรอื จดั กจิ กรรมในกำรชมุ นมุ โดยใชเ้ ครอ่ื งขยำยเสยี ง 5๔ คมู่ ือกำรปฏิบตั ิงำนตำมพระรำชบญั ญัตกิ ำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 54 11/17/2563 BE 12:40 PM

ในระหวำ่ งเวลำ 2๔.00 นำ กำ ถึงเวลำ 06.00 นำ กำของวนั รุ่งข้ึน ไมใ่ ชเ้ ครื่องขยำยเสียงด้วยกำ� ลังไฟฟ้ำ ทม่ี ขี นำดหรอื ระดบั เสียงตำมที่ผบู้ ัญชำกำรต�ำรวจแห่งชำติประกำศก�ำหนด (มำตรำ 15) และก�ำหนดหน้ำท่ีของผู้ชุมนุม (ซ่ึงหมำยควำมรวมถึงผู้จัดกำรชุมนุมด้วย) ได้แก่ ไม่ก่อให้เกิด ควำมไม่สะดวกแก่ประชำชนท่ีจะใช้ที่สำธำรณะอันเป็นท่ีชุมนุม หรือท�ำให้ผู้อ่ืนได้รับควำมเดือดร้อนเกินท่ี พึงคำดหมำยได้ว่ำเป็นไปตำมเหตุอันควร ไม่ปดบังหรืออ�ำพรำงตนโดยจงใจมิให้มีกำรระบุตัวบุคคลได้ถูกต้อง เวน้ แต่เปน็ กำรแต่งกำยตำมปกตปิ ระเพณ ี ไม่พำอำวธุ ดอกไมเ้ พลิง ส่ิงเทียมอำวุธปน หรือสงิ่ ทอ่ี ำจน�ำมำใชไ้ ด้ อยำ่ งอำวธุ เข้ำไปในทช่ี ุมนมุ ไม่ว่ำจะได้รบั อนุญำตให้มีสิ่งนน้ั ติดตัวหรือไม่ ไม่บกุ รกุ หรอื ทำ� ใหเ้ สยี หำย ทำ� ลำย หรือท�ำด้วยประกำรใด ๆ ให้ใช้กำรไม่ได้ตำมปกติซ่ึงทรัพย์สินของผู้อ่ืน ไม่ท�ำให้ผู้อื่นกลัวว่ำจะเกิดอันตรำย ตอ่ ชวี ติ รำ่ งกำย ทรพั ยส์ นิ หรอื เสรภี ำพ ไมใ่ ชก้ ำ� ลงั ประทษุ รำ้ ยหรอื ขเู่ ขญ็ วำ่ จะใชก้ ำ� ลงั ประทษุ รำ้ ยผเู้ ขำ้ รว่ มชมุ นมุ หรือผู้อนื่ ไม่ขดั ขวำงหรอื กระท�ำกำรใด ๆ อนั เปน็ อุปสรรคตอ่ กำรปฏิบัตหิ นำ้ ทีข่ องเจำ้ พนกั งำนดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะในกำรคมุ้ ครองควำมสะดวกของประชำชนในกำรใชท้ ส่ี ำธำรณะ และกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะนนั้ ไม่เดินขบวนหรือเคล่ือนย้ำยกำรชุมนุมระหว่ำงเวลำ 18.00 นำ กำ ถึงเวลำ 06.00 นำ กำของวันรุ่งข้ึน เวน้ แตไ่ ดร้ บั อนญุ ำตจำกเจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ และปฏบิ ตั ติ ำมเงอื่ นไขหรอื คำ� สงั่ ของเจำ้ พนกั งำน ดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (มำตรำ 16) 8. กำ� หนดกำรคมุ้ ครองควำมสะดวกของประชำชนและกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ เชน่ ใหห้ วั หนำ้ สถำนตี ำ� รวจแหง่ ทอ้ งทที่ มี่ กี ำรชมุ นมุ สำธำรณะเปน็ เจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ แจง้ หรอื รอ้ งขอพนกั งำน ฝ่ำยปกครองหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งท้องท่ีที่มีกำรชุมนุมสำธำรณะหรือหน่วยงำนประชำสัมพันธ์ ของรฐั หรอื เอกชนในทอ้ งทนี่ น้ั เพอ่ื ทรำบ และเพอื่ ประโยชนใ์ นกำรคมุ้ ครองควำมสะดวกของประชำชน กำรดแู ล กำรชมุ นมุ สำธำรณะ และกำรรกั ษำควำมสงบเรยี บรอ้ ยหรอื ศลี ธรรมอนั ดขี องประชำชน โดยมอี ำ� นำจหนำ้ ท ี่ อำ� นวย ควำมสะดวกแก่ประชำชนทจ่ี ะใชท้ สี่ ำธำรณะอนั เปน็ สถำนที่ชุมนมุ รกั ษำควำมปลอดภัย อำ� นวยควำมสะดวก หรือบรรเทำเหตเุ ดือดร้อนร�ำคำญแกผ่ ู้อื่นซึ่งอยู่ในบรเิ วณใกลเ้ คียงกบั สถำนทชี่ ุมนมุ รกั ษำควำมปลอดภยั หรอื อ�ำนวยควำมสะดวกแก่ผู้ชุมนุมในสถำนท่ีชุมนุม อ�ำนวยควำมสะดวกในกำรจรำจรและกำรขนส่งสำธำรณะ ในบรเิ วณทม่ี กี ำรชุมนุมและบรเิ วณใกลเ้ คียงเพ่ือให้ประชำชนได้รบั ผลกระทบจำกกำรชุมนุมนอ้ ยทีส่ ุด กำ� หนด เงื่อนไขหรือมีค�ำส่ังให้ผู้จัดกำรชุมนุม ผู้ชุมนุม หรือผู้อยู่ภำยในสถำนท่ีชุมนุมต้องปฏิบัติตำม และอำจมีค�ำส่ัง ใหป้ ดหรอื ปรบั เส้นทำงกำรจรำจรเปน็ กำรชัว่ ครำวได้เพือ่ ประโยชน์ในกำรคุ้มครองควำมสะดวกของประชำชน หรอื กำรดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะ (มำตรำ 19) โดยให้ส�ำนักงำนต�ำรวจแหง่ ชำตแิ ละหนว่ ยงำนประชำสัมพนั ธ์ ของรัฐจัดหรือประสำนให้มีกำรประชำสัมพันธ์เป็นระยะเพื่อให้ประชำชนทรำบถึงสถำนท่ีที่ใช้ในกำรชุมนุม และช่วงเวลำท่ีมีกำรชุมนุม ตลอดจนค�ำแนะน�ำเก่ียวกับเส้นทำงกำรจรำจรหรือระบบกำรขนส่งสำธำรณะ (มำตรำ 20) 9. กรณีกำรชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมำย ให้เจ้ำพนักงำนมีอ�ำนำจสั่งให้ผู้ชุมนุมแก้ไขหรือ เลกิ กำรชมุ นมุ ภำยในระยะเวลำทก่ี �ำหนดตำมแต่กรณี หำกผชู้ ุมนมุ ไม่ปฏบิ ัตติ ำมคำ� สั่งดังกลำ่ ว ใหเ้ จ้ำพนักงำน ดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะรอ้ งขอตอ่ ศำลแพง่ หรอื ศำลจงั หวดั เพอ่ื มคี ำ� สงั่ ใหเ้ ลกิ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ โดยในระหวำ่ ง ท่ีรอค�ำส่ังศำลเจ้ำพนักงำนมีอ�ำนำจกระท�ำกำรท่ีจ�ำเป็นตำมแผนหรือแนวทำงตำมกฎหมำย (มำตรำ 21) และอำจใช้เคร่ืองมือควบคุมฝูงชนตำมท่ีก�ำหนดไว้ได้เพียงเท่ำที่จ�ำเป็น ท้ังน้ี กำรด�ำเนินกำรของเจ้ำพนักงำน ไมต่ ัดสิทธขิ์ องผ้อู นื่ ซ่งึ ได้ใช้สทิ ธทิ ำงศำล คมู่ ือกำรปฏิบตั ิงำนตำมพระรำชบญั ญัติกำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2563) 55 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 55 11/17/2563 BE 12:40 PM

เมอื่ ไดร้ บั คำ� ขอใหม้ คี ำ� สง่ั ใหผ้ ชู้ มุ นมุ เลกิ กำรชมุ นมุ สำธำรณะตำมมำตรำ 21 ใหศ้ ำลพจิ ำรณำคำ� ขอ นัน้ เปน็ กำรด่วนหำกควำมปรำกฏตอ่ ศำลวำ่ มีผชู้ ุมนุมซึ่งไม่ปฏบิ ัติตำมประกำศของเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนมุ สำธำรณะตำมมำตรำ 21 ใหศ้ ำลมคี ำ� สั่งโดยออกค�ำบังคบั ให้ผู้ชุมนมุ เลกิ กำรชมุ นมุ สำธำรณะภำยในระยะเวลำ ทศ่ี ำลกำ� หนด โดยใหเ้ จำ้ พนกั งำนบงั คบั คดปี ดประกำศคำ� สงั่ ศำลตำมมำตรำนไี้ วใ้ นทแี่ ลเหน็ ไดง้ ำ่ ย ณ บรเิ วณทม่ี ี กำรชุมนุมสำธำรณะนนั้ และประกำศโดยวิธกี ำรใด ๆ เพอื่ ให้ผูช้ มุ นมุ และประชำชนทัว่ ไปไดร้ บั ทรำบค�ำส่งั ศำล ดงั กลำ่ วด้วย ในกรณีท่ีผู้ชุมนุมไม่เลิกกำรชุมนุมสำธำรณะตำมค�ำส่ังศำลภำยในระยะเวลำท่ีศำลก�ำหนด ใหเ้ จ้ำพนักงำนดแู ลกำรชมุ นุมสำธำรณะรำยงำนใหศ้ ำลทรำบกับประกำศก�ำหนดใหพ้ ื้นทบี่ รเิ วณทมี่ ีกำรชมุ นุม สำธำรณะนนั้ และปรมิ ณ ลของพน้ื ทน่ี น้ั ตำมควรแกก่ รณเี ปน็ พน้ื ทคี่ วบคมุ และประกำศใหผ้ ชู้ มุ นมุ ออกจำกพนื้ ท่ี ควบคมุ ภำยในระยะเวลำที่กำ� หนดและห้ำมบคุ คลใดเข้ำไปในพื้นทค่ี วบคุมโดยมไิ ดร้ บั อนุญำตจำกเจำ้ พนักงำน ดแู ลกำรชมุ นุมสำธำรณะ และให้รำยงำนรัฐมนตรเี พ่ือทรำบ เม่ือมีกำรประกำศก�ำหนดพื้นท่ีควบคุมตำมวรรคหน่ึง ให้ผู้บัญชำกำรต�ำรวจนครบำล ในกรงุ เทพมหำนคร ผวู้ ำ่ รำชกำรจังหวดั ในจังหวัดอ่นื หรอื ผูซ้ ึง่ รัฐมนตรมี อบหมำยใหร้ บั ผดิ ชอบเปน็ ผู้ควบคมุ สถำนกำรณ์เพ่ือให้มีกำรเลิกกำรชุมนุมสำธำรณะตำมค�ำสั่งศำล โดยเม่ือพ้นระยะเวลำท่ีประกำศให้ผู้ชุมนุม ออกจำกพ้ืนท่ีควบคุม หำกมีผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ควบคุมหรือเข้ำไปในพ้ืนที่ควบคุมโดยมิได้รับอนุญำตจำก เจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ ให้ถือว่ำผู้น้ันกระท�ำควำมผิดซ่ึงหน้ำ และให้ผู้ควบคุมสถำนกำรณ์ และผู้ซ่ึงได้รับมอบหมำยจำกผู้ควบคุมสถำนกำรณ์ด�ำเนินกำรให้มีกำรเลิกกำรชุมนุมสำธำรณะตำมค�ำส่ังศำล โดยให้ผู้ควบคุมสถำนกำรณ์และผู้ซึ่งได้รับมอบหมำยจำกผู้ควบคุมสถำนกำรณ์มีอ�ำนำจจับผู้ซ่ึงอยู่ในพ้ืนที่ ควบคุมหรือผู้ซึ่งเข้ำไปในพื้นท่ีควบคุมโดยมิได้รับอนุญำตจำกเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ ค้น ยึด อำยัด หรือร้ือถอนทรัพย์สินที่ใช้หรือมีไว้เพ่ือใช้ในกำรชุมนุมสำธำรณะนั้น กระท�ำกำรท่ีจ�ำเป็นตำมแผน หรือแนวทำงกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะตำมมำตรำ 21 มีค�ำส่ังห้ำมมิให้กระท�ำกำรใด ๆ เพ่ือประโยชน์ ในกำรดำ� เนินกำรให้มีกำรเลิกกำรชุมนุม กรณที ่ีผชู้ ุมนมุ กระท�ำกำรใด ๆ ทมี่ ลี ักษณะรนุ แรงและอำจเปน็ อนั ตรำยแก่ชีวติ ร่ำงกำย จิตใจ หรือทรัพย์สินของผู้อื่นจนเกิดควำมวุ่นวำยข้ึนในบ้ำนเมือง ให้เจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะมีอ�ำนำจ สัง่ ให้ผูช้ มุ นุมยตุ ิกำรกระท�ำนนั้ และด�ำเนนิ กำรตำมแผนหรอื แนวทำงทก่ี �ำหนดได้ทนั ท ี (มำตรำ 25) 10. กำ� หนดโทษกรณตี ำ่ ง ๆ อำท ิ ผจู้ ดั กำรชมุ นมุ สำธำรณะมไิ ดแ้ จง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ (มำตรำ 28) ผจู้ ดั กำรชุมนมุ หรือผูช้ มุ นุมฝำ่ ฝนไมป่ ฏบิ ตั ิตำมหนำ้ ที ่ (มำตรำ 30 และ 31) ผู้ฝำ่ ฝนไมป่ ฏบิ ัตติ ำมค�ำส่งั หรือ ประกำศของเจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (มำตรำ 32) และบรรดำทรพั ยส์ นิ ทใ่ี ชห้ รอื มไี วเ้ พอ่ื ใชใ้ นกำร ชุมนุมสำธำรณะที่ยึดได้จำกกำรชุมนุมสำธำรณะท่ีไม่ชอบด้วยกฎหมำยหรือท่ีไม่เลิกกำรชุมนุมตำมค�ำส่ังศำล ใหศ้ ำลมีอ�ำนำจสัง่ รบิ เสยี ทงั้ ส้ิน ไมว่ ำ่ จะมีผู้ถูกลงโทษตำมค�ำพพิ ำกษำหรือไม ่ (มำตรำ 35) 56 คู่มือกำรปฏิบตั ิงำนตำมพระรำชบัญญัติกำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 56 11/17/2563 BE 12:40 PM

บทที่ 2 การแจ้งการชุมนุมสาธารณะ 2.๑ ผูแ้ จง้ ผรู้ ับแจ้งการชมุ นมุ สาธารณะ 2.๑.๑ ผู้แจง้ การชมุ นุมสาธารณะ ตำมพระรำชบัญญัติกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 ก�ำหนดให้ผู้ประสงค์จะจัดกำรชุมนุม สำธำรณะ มีหนำ้ ทแ่ี จ้งกำรชุมนมุ ต่อผู้รับแจง้ ก่อนเรมิ่ กำรชุมนุมไมน่ อ้ ยกว่ำย่ีสบิ สช่ี ว่ั โมง (มำตรำ 10) โดยให้ ถอื วำ่ ผ้เู ชญิ ชวนหรอื นัดใหผ้ ้อู น่ื มำรว่ มชุมนุมในวนั เวลำ และสถำนทท่ี กี่ �ำหนดไม่วำ่ จะด้วยวธิ ีกำรใด ๆ รวมท้งั ผขู้ ออนญุ ำตใชส้ ถำนทห่ี รอื เครอ่ื งขยำยเสยี งหรอื ขอใหท้ ำงรำชกำรอำ� นวยควำมสะดวกในกำรชมุ นมุ นนั้ ดว้ ย (มำตรำ 10 วรรคสอง) โดยทผี่ แู้ จง้ จะเปน็ ผใู้ ดผหู้ นง่ึ ตำมทก่ี ลำ่ วมำแลว้ ขำ้ งตน้ เปน็ ผแู้ จง้ เพยี งผเู้ ดยี ว กถ็ อื ไดว้ ำ่ แจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะนน้ั ๆ แลว้ (เพอื่ ไม่ใหเ้ กิดภำระต่อผแู้ จ้ง และลดปญั หำกำรแจ้งซำ้� ซอ้ น) โดยผปู้ ระสงคจ์ ะแจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะสำมำรถตรวจสอบแบบฟอรม์ กำรแจง้ รำยละเอยี ดตำ่ ง ๆ ได้ท่ี . . . . ตำมประกำศส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติ เรื่อง ก�ำหนดหมำยเลข โทรศพั ท์ หมำยเลขโทรสำร และท่ีอยู่จดหมำยอเิ ล็กทรอนิกส ์ ส�ำหรับกำรแจ้งกำรชมุ นุมสำธำรณะ ประกำศ ณ วนั ท ี่ 8 มกรำคม 2559 (และอำจมแี ก้ไขเพิ่มเตมิ ตำมกำรกำ� หนดอำ� นำจหนำ้ ท่สี ่วนรำชกำร) 2.๑.2 ผรู้ บั แจ้งการชุมนุมสาธารณะ ตำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 กำ� หนดผรู้ บั แจง้ กำรชมุ นมุ ไว ้ 2 ประเภท คือ 1) หัวหน้ำสถำนีต�ำรวจแห่งท้องที่ท่ีมีกำรชุมนุมสำธำรณะ 2) บุคคลอื่นตำมที่รัฐมนตรีประกำศก�ำหนด ให้เป็นผู้มีหน้ำทรี่ ับแจ้งกำรชมุ นมุ สำธำรณะ ผู้รับแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะ กฎหมำยก�ำหนดให้เป็นหัวหน้ำสถำนีต�ำรวจแห่งท้องท่ีนั้น ซึ่งเป็นกำรก�ำหนดให้เป็นอ�ำนำจเฉพำะตัว หัวหน้ำสถำนีไม่สำมำรถมอบหมำยให้ผู้ใดกระท�ำกำรพิจำรณำ ในเรอ่ื งกำรรบั แจง้ แทนได ้ เวน้ แตต่ ำ� แหนง่ หวั หนำ้ สถำนไี มม่ ผี ดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ หรอื มแี ตไ่ มส่ ำมำรถปฏบิ ตั ริ ำชกำรได ้ ให้ผู้รกั ษำรำชกำรด�ำเนินกำรพิจำรณำแทนในฐำนะต�ำแหน่งหัวหนำ้ สถำนไี ด้ 2.2 การแจ้งการชมุ นุมสาธารณะ พระรำชบัญญัติกำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 มำตรำ 10 ก�ำหนดใหผ้ ้ปู ระสงค์จะจัดกำรชุมนุม สำธำรณะต้องแจ้งกำรชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง โดยผู้รับแจ้งตำมพระรำชบัญญัติดังกล่ำวน้ีหมำยถึงหัวหน้ำสถำนี ตำ� รวจแหง่ ทอ้ งทท่ี ม่ี กี ำรชมุ นมุ สำธำรณะ หรอื บคุ คลอนื่ ตำมทรี่ ฐั มนตรปี ระกำศกำ� หนดใหเ้ ปน็ ผมู้ หี นำ้ ทร่ี บั แจง้ กำรชุมนุมสำธำรณะ ดงั น้นั ในเบ้อื งต้นจึงเป็นหน้ำทข่ี องหวั หนำ้ สถำนตี �ำรวจในกำรปฏิบัติหนำ้ ทีต่ ำมกฎหมำย ในฐำนะผ้รู ับแจง้ วิธีกำรแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะเป็นไปตำมประกำศส�ำนักนำยกรัฐมนตรี เร่ือง ก�ำหนดวิธีกำรแจ้ง กำรชมุ นมุ สำธำรณะ ลงวนั ท ี่ 3 พ ศจกิ ำยน 2558 โดยผปู้ ระสงคจ์ ะจดั กำรชมุ นมุ สำธำรณะตอ้ งแจง้ รำยละเอยี ด เกีย่ วกบั กำรชมุ นมุ เชน่ ชอ่ื และรำยละเอียดผูแ้ จ้ง วตั ถุประสงค์ วัน ระยะเวลำ และสถำนท่ีชมุ นมุ ลักษณะ กำรชุมนุม รำยช่ือผู้ประสำนงำน เป็นต้น โดยท�ำเป็นหนังสือต่อผู้รับแจ้งตำมแบบท้ำยประกำศส�ำนักนำยก รฐั มนตรดี งั กลำ่ ว ก่อนเริ่มกำรชุมนุมไม่น้อยกว่ำยีส่ ิบส่ีชั่วโมง กรณปี ระสงค์จะจดั กำรชุมนุมสำธำรณะในทอ้ งท่ี ค่มู อื กำรปฏบิ ตั ิงำนตำมพระรำชบัญญตั กิ ำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนมุ สำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2563) 57 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 57 11/17/2563 BE 12:40 PM

ต่ำง ๆ เกินกว่ำหนึ่งท้องที่ซ่ึงกำรชุมนุมน้ันต่อเน่ืองกัน ให้แจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะต่อผู้รับแจ้งในท้องท่ีใด ท้องที่หนงึ่ กไ็ ด้ วธิ ีกำรแจง้ กำรชุมนุมสำธำรณะมี 3 วธิ ี ดังตอ่ ไปนี้ (1) แจ้งโดยตรงตอ่ ผู้รับแจง้ (2) แจง้ ทำงโทรสำร (3) แจ้งทำงจดหมำยอิเล็กทรอนกิ ส์ 2.2.๑ การแจ้ง ดยตรงต่อผู้รบั แจ้ง ผู้แจ้งสำมำรถย่ืนหนังสือแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะตำมแบบท้ำยประกำศส�ำนักนำยกรัฐมนตรี เร่ือง กำ� หนดวธิ กี ำรแจ้งกำรชมุ นุมสำธำรณะโดยตรงตอ่ หัวหน้ำสถำนีต�ำรวจแห่งทอ้ งทท่ี มี่ กี ำรชมุ นมุ สำธำรณะ หรอื เจำ้ หนำ้ ทต่ี ำ� รวจทไ่ี ดร้ บั มอบหมำยใหร้ บั ผดิ ชอบในกำรรบั หรอื สง่ หนงั สอื หรอื ดำ� เนนิ กำรรบั แจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะของหน่วยงำนได้ ณ ทท่ี �ำกำรของหัวหนำ้ สถำนตี ำ� รวจแหง่ ท้องทีท่ ม่ี ีกำรชมุ นุมสำธำรณะนั้น 2.2.2 การแจง้ ทาง ทรสาร ผแู้ จ้งต้องสง่ หนงั สอื แจ้งกำรชมุ นมุ สำธำรณะตำมแบบท้ำยประกำศสำ� นักนำยกรัฐมนตร ี เรอื่ ง ก�ำหนดวิธีกำรแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะ ไปยังหมำยเลขโทรสำรของที่ท�ำกำรของผู้รับแจ้งตำมท่ีก�ำหนดไว้ใน ประกำศของส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติ และต้องส่งต้นฉบับของหนังสือแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะไปยังผู้รับแจ้ง ทำงไปรษณยี ล์ งทะเบียนตอบรับโดยพลนั เพื่อใหเ้ จ้ำหน้ำทีต่ ำ� รวจตรวจสอบ เม่ือได้ส่งหนังสือทำงโทรสำรแล้ว ให้ผู้แจ้งโทรศัพท์แจ้งพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ตำมหมำยเลขท่ี ก�ำหนดไว้ในประกำศของส�ำนักงำนต�ำรวจแหง่ ชำตโิ ดยเร็ว เพอื่ ตรวจสอบควำมถกู ต้อง ท้ังน้จี ะถอื ว่ำผู้รบั แจ้ง ไดร้ ับแจ้งตอ่ เม่ือพนกั งำนเจำ้ หนำ้ ที่แหง่ ที่ทำ� กำรของผรู้ บั แจ้งได้รับเอกสำรตำมโทรสำรครบถว้ น 2.2.3 การแจง้ ทางจดหมายอิ ลกทรอนกิ ส ผู้แจง้ ตอ้ งส่งหนังสอื แจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะตำมแบบท้ำยประกำศสำ� นกั นำยกรัฐมนตร ี เรื่อง ก�ำหนดวิธีกำรแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะ ไปยังท่ีอยู่จดหมำยอิเล็กทรอนิกส์ของท่ีท�ำกำรผู้รับแจ้งตำมท่ีก�ำหนด ไว้ในประกำศของส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำต ิ และเมื่อได้ส่งจดหมำยอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ให้ผู้แจ้งโทรศัพท์แจ้ง พนักงำนเจ้ำหน้ำท่ีตำมหมำยเลขท่ีก�ำหนดไว้ในประกำศของส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติโดยเร็ว เพื่อตรวจสอบ ควำมถกู ตอ้ ง กำรแจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะทำงจดหมำยอเิ ลก็ ทรอนกิ สจ์ ะถอื วำ่ ผรู้ บั แจง้ ไดร้ บั แจง้ ตอ่ เมอ่ื พนกั งำน เจ้ำหนำ้ ทีไ่ ดร้ บั จดหมำยอเิ ล็กทรอนกิ ส์โดยครบถว้ นสมบูรณแ์ ลว้ 2.2.๔ การชุมนมุ สาธารณะตอ่ นื่องหลายพนื ที่ กรณีท่ีมีกำรชุมนุมต่อเน่อื งหลำยพืน้ ที่ ซึง่ ผแู้ จง้ อำจแจ้งกำรชุมนุมตอ่ หวั หนำ้ สถำนไี ด้ในหลำย ท้องท่ี ผู้แจ้งอำจแจ้งกำรชุมนุมต่อหัวหน้ำสถำนีที่รับผิดชอบพ้ืนท่ีหนึ่งพ้ืนท่ีใดก็ได้ เม่ือได้แจ้งกำรชุมนุมต่อ หวั หนำ้ สถำนพี น้ื ทใ่ี ดพน้ื ทห่ี นง่ึ แลว้ ใหห้ วั หนำ้ สถำนที ไ่ี ดร้ บั กำรแจง้ นน้ั ประสำนงำนไปยงั หวั หนำ้ สถำนรี บั ผดิ ชอบ พน้ื ทอี่ นื่ ๆ ทม่ี พี นื้ ทตี่ อ่ เนอื่ งกบั กำรชมุ นมุ นนั้ เพอ่ื รบั ทรำบรำยละเอยี ดกำรชมุ นมุ สำธำรณะนน้ั ๆ และพจิ ำรณำ ตำมมำตรำ 11 ตลอดจนใหผ้ ูร้ ับแจ้งรำยงำน ผบก. หรือ ผบช. แลว้ แตก่ รณโี ดยดว่ นด้วย 58 คู่มอื กำรปฏิบัตงิ ำนตำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 58 11/17/2563 BE 12:40 PM

2.2.5 การรบั แจง้ ไม่ว่ำจะมีกำรแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะด้วยวิธีใด ให้ หน.สน./สภ. จัดเจ้ำหน้ำท่ีท�ำหน้ำที่เป็น ผู้ตรวจสอบและรับเอกสำรท่ีได้ถูกส่งมำตำมวิธีต่ำง ๆ โดยเม่ือได้รับแจ้งแล้ว ให้ประทับตรำรับหนังสือ ลงทะเบยี นรบั หนงั สอื ในหนงั สอื รบั ตำมระเบยี บงำนสำรบรรณ แลว้ ใหร้ บี ดำ� เนนิ กำรเสนอ หน.สน./สภ. โดยดว่ น เพื่อให้ หน.สน./สภ. พิจำรณำให้แล้วเสร็จภำยในยี่สิบสี่ชั่วโมง หำกเป็นกำรชุมนุมสำธำรณะต่อเนื่อง หลำยพ้ืนทใ่ี ห้ หน.สน./สภ. ประสำน หน.สน./สภ.พ้นื ท่ีต่อเนอื่ ง และรำยงำนให้ ผบก. หรอื ผบช. ทรำบตำม แต่กรณี 2.3 หนา้ ท่ีของผู้รับแจง้ 2.3.๑ การสรปุ สาระส�าคญั ในการชมุ นมุ สาธารณะใหก้ บั ผแู้ จ้งการชุมนุม เมอ่ื ผรู้ บั แจง้ ไดร้ บั แจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะแลว้ ตำมมำตรำ 11 แหง่ พระรำชบญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ. 2558 กำ� หนดใหผ้ ู้รบั แจ้งสง่ สรุปสำระส�ำคัญในกำรชุมนมุ สำธำรณะตำมพระรำชบญั ญัตนิ ้ใี ห้ ผแู้ จง้ ทรำบภำยในยส่ี บิ สช่ี ว่ั โมงนบั แตเ่ วลำทไ่ี ดร้ บั แจง้ โดยในเบอ้ื งตน้ สรปุ สำระสำ� คญั ควรมเี นอื้ หำประกอบดว้ ย 2 สว่ น ไดแ้ ก ่ 1) รำยละเอยี ดเกย่ี วกบั วตั ถปุ ระสงค ์ วนั ระยะเวลำ และสถำนทชี่ มุ นมุ 2) หนำ้ ทขี่ องผจู้ ดั กำรชมุ นมุ และผูช้ มุ นมุ สำธำรณะ ตำมมำตรำ 15 และมำตรำ 16 แห่งพระรำชบัญญัตกิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 สำเหตทุ ต่ี อ้ งแจง้ หนำ้ ทขี่ องผจู้ ดั กำรชมุ นมุ และผชู้ มุ นมุ สำธำรณะแกผ่ แู้ จง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ เนอื่ งจำก พระรำชบญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะกำ� หนดให ้ ผจู้ ดั กำรชมุ นมุ หมำยควำมรวมถงึ ผปู้ ระสงคจ์ ะจดั กำรชมุ นมุ สำธำรณะ และ ผชู้ มุ นมุ หมำยควำมรวมถงึ ผจู้ ดั กำรชมุ นมุ มหี นำ้ ทข่ี องกำรเปน็ ผชู้ มุ นมุ ทด่ี ี ดงั นน้ั จงึ เปน็ กำรสมควรทผ่ี รู้ บั แจง้ จะได้แจ้งให้ผู้ประสงค์จะจัดกำรชุมนุมได้ทรำบถึงหน้ำที่ของตนในฐำนะผู้จัดกำรชุมนุมและผู้ชุมนุม เพื่อเป็น กำรแนะน�ำและเตือนไมใ่ ห้มีกำรฝำ่ ฝนหรือละเว้นกำรปฏบิ ตั หิ นำ้ ท่ีดังกลำ่ ว (แบบ 2 ๑) 2.3.2 การพจิ ารณาหนังสือแจ้งการชมุ นมุ สาธารณะ กรณีท่ีผู้รับแจ้งเห็นว่ำกำรชุมนุมสำธำรณะท่ีได้รับแจ้งน้ันอำจขัดต่อมำตรำ 7 แห่งพระรำช บญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ ซง่ึ หำ้ มกำรชมุ นมุ สำธำรณะในรศั ม ี 150 เมตร จำกพระบรมมหำรำชวงั พระรำชวงั วงั ของพระรชั ทำยำทหรอื ของพระบรมวงศต์ งั้ แตส่ มเดจ็ เจำ้ ฟำ้ ขน้ึ ไป พระรำชนเิ วศน ์ พระตำ� หนกั หรอื จำกทซ่ี ง่ึ พระมหำกษตั ริย์ พระรำชนิ ี พระรัชทำยำท พระบรมวงศต์ ั้งแตส่ มเด็จเจำ้ ฟ้ำข้นึ ไป หรือผู้ส�ำเร็จรำชกำรแทน พระองค์ ประทับหรือพ�ำนัก หรือสถำนที่พ�ำนักของพระรำชอำคันตุกะ หน.สน./สภ.จึงควรจัดท�ำแผนที่ทำง ภมู ศิ ำสตร ์ เพอื่ ใหป้ ระชำชนไดต้ รวจสอบและทรำบลว่ งหนำ้ ถงึ รศั มที ก่ี ฎหมำยกำ� หนดหำ้ มกำรชมุ นมุ สำธำรณะไว ้ และเพือ่ ใหเ้ กิดควำมแนน่ อนชดั เจนในกำรบงั คบั ใช้กฎหมำย หรอื กรณขี ดั ตอ่ มำตรำ 8 ซง่ึ หำ้ มกำรชมุ นมุ สำธำรณะทเี่ ปน็ กำรกดี ขวำงทำงเขำ้ ออก หรอื รบกวน กำรปฏบิ ตั งิ ำนหรอื กำรใชบ้ รกิ ำรสถำนทข่ี องสถำนทที่ ำ� กำรหนว่ ยงำนของรฐั ทำ่ อำกำศยำน ทำ่ เรอื สถำนรี ถไฟ หรือสถำนีขนส่งสำธำรณะ โรงพยำบำล สถำนศึกษำ และศำสนสถำน สถำนทูตหรือสถำนกงสุลของรัฐ ต่ำงประเทศ หรือสถำนที่ท�ำกำรองค์กำรระหว่ำงประเทศ หรือสถำนท่ีอื่นตำมที่รัฐมนตรีประกำศก�ำหนด ใหผ้ ูร้ ับแจ้งมีค�ำสงั่ ให้ผู้แจ้งแก้ไขภำยในเวลำท่กี ำ� หนด (แบบ 2 2) คู่มอื กำรปฏบิ ตั ิงำนตำมพระรำชบัญญตั ิกำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2563) 59 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 59 11/17/2563 BE 12:40 PM

หำกผแู้ จง้ กำรชุมนมุ ไมป่ ฏิบตั ิตำมค�ำส่ังดังกลำ่ วขำ้ งต้น ให้ผูร้ ับแจง้ มคี �ำสงั่ หำ้ มชมุ นมุ โดยแจง้ ค�ำสง่ั เปน็ หนังสอื ไปยงั ผแู้ จ้ง ทง้ั นี้ คำ� ส่ังใหแ้ กไ้ ขกำรชุมนุมสำธำรณะและคำ� สง่ั ห้ำมชุมนุมสำธำรณะเปน็ ค�ำส่ัง ทำงปกครองตำมมำตรำ 5 แห่งพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง พ.ศ.2539 ผู้รับแจ้งจึงต้อง แจ้งสทิ ธิในกำรอทุ ธรณ์คำ� สง่ั ตอ่ ผู้บังคบั บัญชำชนั้ เหนือตำมค�ำแนะนำ� ของคณะกรรมกำรวธิ ีปฏบิ ตั ริ ำชกำรทำง ปกครองท่ี 1/25๔0 ตำมนัยของมำตรำ ๔0 แหง่ พระรำชบัญญัติวิธปี ฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง พ.ศ.2539 ท้ังนี้ ในระหว่ำงมีค�ำสงั่ ห้ำมชุมนุม กำรอุทธรณ์และพจิ ำรณำวนิ ิจฉัยอทุ ธรณ์ ผแู้ จ้งกำรชมุ นมุ ตอ้ งงดกำรชุมนมุ สำธำรณะ (แบบ 2 3) 2.๔ การขอผอ่ นผนั การแจ้งการชุมนมุ สาธารณะ ผู้ประสงค์จะจัดกำรชุมนุมสำธำรณะซึ่งไม่สำมำรถแจ้งกำรชุมนุมก่อนเร่ิมกำรชุมนุมสำธำรณะ ไมน่ อ้ ยกวำ่ ยส่ี บิ สช่ี ว่ั โมง ไดต้ ำมมำตรำ 10 หำกประสงคจ์ ะจดั กำรชมุ นมุ อนั เปน็ กำรเรง่ ดว่ นกส็ ำมำรถขอผอ่ นผนั กำ� หนดระยะเวลำดงั กลำ่ วไดโ้ ดยกำรแจง้ กำรชมุ นมุ ตำมแบบแจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะทำ้ ยประกำศสำ� นกั นำยก รฐั มนตร ี เรอ่ื ง กำ� หนดวธิ กี ำรแจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ พรอ้ มกบั มคี ำ� ขอผอ่ นผนั กำ� หนดเวลำตำมมำตรำ 12 ตอ่ ผบู้ งั คบั กำรตำ� รวจนครบำลผรู้ บั ผดิ ชอบพน้ื ทใี่ นกรงุ เทพมหำนคร หรอื ผบู้ งั คบั กำรตำ� รวจภธู รจงั หวดั ในจงั หวดั อนื่ แล้วแต่กรณีก่อนเร่ิมกำรชุมนุม ท้ังน้ี การขอผ่อนผันจะต้องแจ้งหนังสือ ดยตรงต่อผู้มีอ�านาจพิจารณา ทา่ นนั (ผบู้ ังคับกำรตำ� รวจที่รบั ผดิ ชอบพื้นท)ี่ ผขู้ อผ่อนผันไม่สำมำรถย่นื ขอผ่อนผันทำงโทรสำรหรือจดหมำย อิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยให้ย่ืนหนังสือแจ้งกำรชุมนุมพร้อมค�ำขอผ่อนผันต่อผู้รับค�ำขอผ่อนผันหรือพนักงำน เจ้ำหนำ้ ท่ี ณ ท่ีทำ� กำรของผรู้ บั ค�ำขอผ่อนผนั เมอื่ ผรู้ บั คำ� ขอผอ่ นผนั ไดร้ บั หนงั สอื ขอผอ่ นผนั ระยะเวลำจำกผแู้ จง้ แลว้ ใหพ้ จิ ำรณำวำ่ สมควรผอ่ นผนั หรอื ไม ่ โดยมีคำ� สง่ั อนุญำตหรอื ไมอ่ นุญำตให้ผอ่ นผนั เปน็ หนงั สอื พรอ้ มด้วยเหตุผลให้ผ้ยู ่นื ค�ำขอทรำบภำยใน เวลำยี่สิบส่ีชวั่ โมงนับแต่เวลำทไี่ ดร้ ับค�ำขอ (แบบ 2 ๔) กำรอุทธรณ์ค�ำส่ังผู้รับค�ำขอผ่อนผันสำมำรถอุทธรณ์ได้ตำมวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง ก็คือ ผู้บงั คบั บัญชำเหนือขนึ้ ไปหน่ึงชั้น (ผบู้ ัญชำกำรที่รบั ผดิ ชอบพนื้ ที่กำรชุมนุมสำธำรณะ) 2.5 การแจ้งการ ดินขบวนหรอื คลือ่ นยา้ ยการชุมนุม 2.5.๑ กรณแี จ้งการ ดนิ ขบวนหรือ คล่อื นยา้ ยการชุมนุม กรณีที่มีกำรแจ้งกำรเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ำยกำรชุมนุมในหนังสือแจ้งกำรชุมนุมแล้ว ให้ หวั หน้ำสถำนีต�ำรวจที่ได้รบั กำรแจง้ ตรวจสอบและพจิ ำรณำด�ำเนินกำรวำ่ ขดั กับกฎหมำยใดหรือไม ่ ตลอดจน กำ� หนดเงอื่ นไขหรอื มคี ำ� สง่ั ใหผ้ จู้ ดั กำรชมุ นมุ ผชู้ มุ นมุ หรอื ผอู้ ยภู่ ำยในสถำนทช่ี มุ นมุ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ำมได ้ (ดตู วั อยำ่ ง กำรก�ำหนดเงื่อนไขหรือมีค�ำส่ังตำมแบบ 3-1) 2.5.2 กรณีทผี่ ู้จดั การชุมนุมมิ ดแ้ จง้ ว่าจะมกี าร ดินขบวนหรือ คลอ่ื นย้าย กรณีที่มิได้แจ้งว่ำจะมีกำรเดินขบวนหรือเคล่ือนย้ำย ผู้ชุมนุมจะเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ำย กำรชุมนมุ ได้ตอ่ เมอ่ื ได้แจง้ ลว่ งหนำ้ ต่อหัวหนำ้ สถำนีต�ำรวจซงึ่ มหี นำ้ ที่รบั ผดิ ชอบดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะนนั้ แต่ท้ังนี้ ไม่ว่ำจะมีกำรแจ้งกำรเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ำยกำรชุมนุมหรือไม่ ห้ำมมิให้ผู้ชุมนุม เดินขบวนหรือเคล่ือนย้ำยกำรชุมนุมระหว่ำงเวลำ 18.00 นำ กำ ถึงเวลำ 06.00 นำ กำของวันรุ่งข้ึน เวน้ แต่ได้รบั อนุญำตจำกเจำ้ พนักงำนดแู ลกำรชมุ นุมสำธำรณะ 60 คู่มอื กำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบญั ญัติกำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 60 11/17/2563 BE 12:40 PM

แผนภมู ิ การแจง้ การชุมนมุ สาธารณะ ผู้ประสงคจัดการชุมนุม หัวหนา้ ส านี แจ้งล่วงหน้า แจ้ง มท่ ัน 2๔ ชม. ตา� รวจ ม่น้อยกว่า 2๔ ชม. (ม.๑ ) ขอผอ่ นผนั (ม.๑2) ปนผ้รู ับแจง้ ผบก.น ภ.จว. หัวหน้าส านตี �ารวจ พจิ ารณา แจง้ คา� สง่ั สรปุ สาระสา� คญั ใน 2๔ ชม. (ม.๑๑) ภายใน 2๔ ชม. พจิ ารณา ขัดมาตรา 7 หรือ 8 หรอื ม่ ม่ขัดมาตรา 7 หรอื 8 ขดั มาตรา 7 หรอื 8 ผ่อนผนั ชุมนุมปกติ แจ้งให้แก้ ขภายในกา� หนด ชมุ นุมปกติ แก้ ข มแ่ ก้ ข ภายใน ภายใน กา� หนด กา� หนด มคี �าส่งั หา้ มชมุ นุม ดยแจง้ ปน มคี �าสัง่ หนังสือ ปยังผแู้ จง้ หา้ ม ผูแ้ จ้ง อทุ ธรณตอ่ ผบก. อุทธรณต่อ พิจารณาภายใน 2๔ ชม. ผูบ้ ังคบั บญั ชา งดการชุมนมุ สาธารณะ หากจดั การชมุ นมุ อื วา่ มช่ อบตามก หมาย (ม.๑๔) จ้าพนกั งานดูแลการชุมนุมตอ้ งประกาศ ให้ ลกิ การชุมนุม (ม.2๑(๑)) คมู่ ือกำรปฏิบัตงิ ำนตำมพระรำชบัญญัติกำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2563) 61 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 61 11/17/2563 BE 12:40 PM

62 คมู่ อื กำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 62 11/17/2563 BE 12:40 PM

บทที่ 3 การคุ้มครองความสะดวกของประชาชน และการดแู ลการชมุ นุมสาธารณะ 3.๑ จ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ เจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ หมำยถงึ หน.สน./สภ. แหง่ ทอ้ งทที่ ม่ี กี ำรชมุ นมุ สำธำรณะ กรณี กำรชมุ นมุ สำธำรณะตอ่ เนอ่ื งหลำยพน้ื ท ่ี ให ้ ผบก. หรอื ผบช. ตำมพน้ื ทรี่ บั ผดิ ชอบ แลว้ แตก่ รณ ี เปน็ เจำ้ พนกั งำน ดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ คำ� วำ่ กำรชุมนุมสำธำรณะต่อเน่ืองหลำยพืน้ ท ่ี คือ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ ณ ที่ตงั้ หลำยทอ้ งทตี่ ิดตอ่ กัน หรือกำรชุมนุมสำธำรณะท่ีแจ้งว่ำมีกำรเดินขบวน หรือเคลื่อนย้ำยกำรชุมนุมต่อเนื่องหลำยพื้นท่ี ดังน้ัน กำรเดนิ ขบวนหรือเคลอื่ นยำ้ ย เพ่ือผ่ำนหรอื ไปยังหลำยท้องทต่ี ่อเนือ่ งกัน จึงเปน็ อ�ำนำจของ ผบก. หรอื ผบช. ในฐำนะเจ้ำพนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ แลว้ แต่กรณี กำรแจ้งกำรชุมนมุ สำธำรณะจงึ แจง้ ต่อ หน.สน./สภ. ทอ้ งท่ใี ดท้องท่หี นง่ึ เป็นผู้รบั เจ้งได ้ เมอ่ื ผ้รู บั แจ้ง ได้รับกำรแจ้งพิจำรณำแล้วไม่ขัดต่อมำตรำ 7 หรือมำตรำ 8 จักต้องพิจำรณำด้วยว่ำเป็นกำรชุมนุมต่อเนื่อง หลำยพื้นท่ีหรือไม่ หำกเป็นกำรชุมนุมสำธำรณะต่อเน่ืองหลำยพ้ืนท่ี หรือมีกำรเดินขบวน หรือเคล่ือนย้ำย หลำยพ้นื ท่ี ผูร้ ับแจ้งอำจแจง้ หรอื ประสำน หน.สน./สภ.พ้นื ที่ตอ่ เน่ือง ผบก. ผบช. หรือ ผบ.ตร. ตำมแต่กรณ ี เพ่อื ให้รบั ทรำบถึงกำรชมุ นุมสำธำรณะและปฏบิ ตั ิหน้ำที่เจ้ำพนักงำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะตำมกรณีต่ำง ๆ ที่กฎหมำยก�ำหนดไว้ 3.2 อา� นาจหนา้ ท่ีของ จา้ พนักงานดแู ลการชุมนุมสาธารณะ 3.2.๑ แจง้ หนว่ ยงานท่ี กีย่ วข้อง ให้เจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะแจ้งพนักงำนฝ่ำยปกครองหรือองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินแห่งท้องท่ีที่มีกำรชุมนุมสำธำรณะหรือหน่วยงำนประชำสัมพันธ์ของรัฐหรือเอกชนในท้องที่น้ัน เพอ่ื ทรำบ โดยประสำนงำนในรำยละเอยี ดกำรชมุ นมุ สำธำรณะ ภำรกจิ ทอ่ี ำจไดร้ บั มอบหมำย กำ� ลงั พล อปุ กรณ ์ เครื่องมือตำ่ ง ๆ ทอี่ ยใู่ นควำมครอบครองของหน่วยงำนต่ำง ๆ นั้น 3.2.2 การอ�านวยความสะดวก รกั าความปลอดภยั บรร ทา หตุ การชมุ นมุ สาธารณะ เจำ้ พนักงำนดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะ มีอำ� นำจหน้ำท่ี ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) อำ� นวยควำมสะดวกแก่ประชำชนทีจ่ ะใช้ที่สำธำรณะอันเปน็ สถำนทีช่ ุมนุม (2) รักษำควำมปลอดภัย อ�ำนวยควำมสะดวก หรือบรรเทำเหตุเดือดร้อนร�ำคำญแก่ผู้อื่น ซึง่ อย่ใู นบรเิ วณใกลเ้ คยี งกบั สถำนท่ชี ุมนุม (3) รักษำควำมปลอดภัยหรอื อ�ำนวยควำมสะดวกแกผ่ ชู้ มุ นุมในสถำนที่ชมุ นมุ (๔) อ�ำนวยควำมสะดวกในกำรจรำจรและกำรขนส่งสำธำรณะในบริเวณที่มีกำรชุมนุม และบรเิ วณใกล้เคียงเพอื่ ใหป้ ระชำชนไดร้ ับผลกระทบจำกกำรชมุ นมุ นอ้ ยทส่ี ดุ คู่มอื กำรปฏิบัตงิ ำนตำมพระรำชบญั ญัตกิ ำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2563) 63 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 63 11/17/2563 BE 12:40 PM

(5) ก�ำหนดเงื่อนไขหรือมีค�ำสั่งให้ผู้จัดกำรชุมนุม ผู้ชุมนุม หรือผู้อยู่ภำยในสถำนที่ชุมนุม ต้องปฏบิ ตั ติ ำมเพ่อื ประโยชน์ในกำรปฏบิ ตั ิหน้ำท่ตี ำม (1) (2) (3) หรือ (๔) กฎหมำยให้อ�ำนำจเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ ก�ำหนดเง่ือนไขหรือค�ำส่ัง เพื่อให้ กำรปฏบิ ตั หิ นำ้ ทต่ี ำม (1)-(๔) เพอ่ื ประโยชนต์ อ่ กำรคมุ้ ครองควำมสะดวกของประชำชน กำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ กำรรักษำควำมสงบเรียบร้อยหรอื ศีลธรรมอนั ดขี องประชำชน ยกตัวอยำ่ งกำรกำ� หนดเงือ่ นไขหรือค�ำส่งั ต่ำง ๆ (ผนวก 3 ๑) 3.2.3 การส่ังปดหรือปรบั สน้ ทางการจราจร กำรปฏิบัตหิ น้ำที่ของเจ้ำพนกั งำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะอำจมคี �ำส่งั ใหป้ ดหรอื ปรบั เส้นทำง กำรจรำจรเป็นกำรชัว่ ครำวไดเ้ พอื่ ประโยชน์ในกำรคมุ้ ครองควำมสะดวกของประชำชนหรือกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ โดยปกติแล้วอ�ำนำจในกำรปดหรือปรับเส้นทำงกำรจรำจรจะเป็นอ�ำนำจของเจ้ำพนักงำน จรำจร ตำมพระรำชบัญญัติจรำจรทำงบก พ.ศ.2522 แตก่ ฎหมำยฉบับนใี้ หอ้ �ำนำจเฉพำะกับเจ้ำพนกั งำนดูแล กำรชุมนุมสำธำรณะในกำรบริหำรจัดกำรจรำจรให้เป็นไปด้วยควำมเรียบร้อย ยกตัวอย่ำงเช่น กลุ่มผู้ชุมนุม มจี ำ� นวนมำกสง่ ผลใหช้ อ่ งทำงกำรจรำจรไมส่ ำมำรถเดนิ รถไดห้ นงึ่ ชอ่ งทำง เจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ อำจมีค�ำส่ังให้ปรับกำรจรำจรเป็นกำรเดินรถทำงเดียว หรือปดเส้นทำงกำรจรำจรแล้วบังคับให้ไปใช้เส้นทำง หลีกเลยี่ งอ่ืนได้ (ผนวก 3 2) 3.2.๔ การรอ้ งขอ จา้ พนกั งานอนื่ ในกรณีท่ีเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะร้องขอ ให้พนักงำนฝ่ำยปกครอง หรือองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น หรือเจ้ำหน้ำที่ของรัฐในท้องท่ีท่ีมีกำรชุมนุมสำธำรณะด�ำเนินกำรตำมค�ำร้องขอภำยใน ขอบอ�ำนำจหน้ำที่ของผู้น้ัน เป็นอ�ำนำจของเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะที่สำมำรถร้องขอพนักงำน ฝ่ำยปกครอง หรอื องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน หรอื เจ้ำหนำ้ ท่ีของรฐั ในทอ้ งทที่ ีม่ ีกำรชมุ นุมสำธำรณะ โดยมิได้ เปน็ กำรรอ้ งขอใหเ้ จำ้ พนกั งำนดงั กลำ่ วนนั้ กระทำ� กำรนอกเหนอื จำกอำ� นำจหนำ้ ท ่ี แตเ่ ปน็ กำรรอ้ งขอภำยในขอบ อำ� นำจหนำ้ ทข่ี องพนกั งำนนนั้ ๆ ซงึ่ ตำมปกตเิ จำ้ หนำ้ ทดี่ งั กลำ่ วยอ่ มตอ้ งปฏบิ ตั ติ ำมอำ� นำจหนำ้ ทแี่ ละกระทำ� กำร ตำมกฎหมำยอยแู่ ล้ว แตก่ ฎหมำยบญั ญัตใิ หอ้ ำ� นำจเพ่อื ให้เกิดควำมชดั เจนในกำรปฏิบัติว่ำหำกเปน็ กำรกระทำ� ภำยใต้อ�ำนำจหน้ำท่ี เจ้ำพนักงำนดังกล่ำวนั้นต้องกระท�ำเพื่อให้กำรรักษำควำมสงบเรียบร้อย กำรคุ้มครอง ควำมสะดวกของประชำชนเป็นไปด้วยควำมเรียบร้อย ทุกภำคส่วนมีควำมร่วมมือในกำรบริหำรจัดกำร กำรชมุ นมุ สำธำรณะ 3.2.5 คุณสมบัติของ จ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะและข้าราชการต�ารวจ ่ง ด้รับ มอบหมาย กฎหมำยกำ� หนดใหเ้ จำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะและขำ้ รำชกำรตำ� รวจซงึ่ ไดร้ บั มอบหมำย ให้ดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะต้องผ่ำนกำรฝึกอบรมให้มีทักษะ ควำมเข้ำใจ และอดทนต่อสถำนกำรณ์ กำรชุมนุมสำธำรณะ และต้องแต่งเครื่องแบบเพื่อแสดงตน เพ่ือให้เจ้ำพนักงำนดังกล่ำวไม่กระท�ำกำรใด ๆ อนั เปน็ กำรยว่ั ย ุ หรอื อำจกอ่ ใหเ้ กดิ กำรกระทบกระทงั่ ระหวำ่ งเจำ้ หนำ้ ทก่ี บั ผชู้ มุ นมุ โดยเจำ้ พนกั งำนทจ่ี ะตอ้ งผำ่ น 6๔ คู่มอื กำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมพระรำชบญั ญัติกำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 64 11/17/2563 BE 12:40 PM

กำรฝกึ อบรม หมำยถึง เจ้ำพนักงำนที่ปฏบิ ตั ิหนำ้ ท่ใี กลช้ ิดกับผู้ชุมนมุ โดยตรง เพรำะเจตนำรมณ์ของกฎหมำย ตอ้ งกำรกำรบรหิ ำรจดั กำร โดยกำ� หนดเงอื่ นไขกำรปฏบิ ตั ริ ะหวำ่ งเจำ้ หนำ้ ท ่ี ประชำชนและกลมุ่ ผชู้ มุ นมุ ในพนื้ ท่ี กำรชุมนุมสำธำรณะ ท้งั น้ี หลกั สูตรกำรฝกึ อบรมอำจเปน็ ไปตำมท ี่ ตร.กำ� หนด โดยขำ้ รำชกำรตำ� รวจซงึ่ ไดร้ บั มอบหมำยจำกเจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ คอื กองรอ้ ย ควบคุมฝูงชนของส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติ ซึ่ง ก.ตร. ได้มีหนังสือ ท่ี 0012.12/367 ลง 11 ต.ค. 62 แจง้ มต ิ ก.ตร.ในกำรประชมุ ครง้ั ท ี่ 9/2562 เมอื่ 27 ก.ย. 62 เหน็ ชอบบญั ชรี ำยชอ่ื หลกั สตู รกำรฝกึ อบรมตำ่ ง ๆ จำ� นวน 95 หลกั สตู ร ซงึ่ เป็นหลกั สตู รทตี่ อ้ งน�ำเสนอ ก.ตร. โดยเหน็ ชอบหลกั สตู รกำรฝกึ อบรมเจำ้ พนกั งำน ดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ และหลกั สตู รกำรฝกึ อบรมขำ้ รำชกำรตำ� รวจซงึ่ ปฏบิ ตั หิ นำ้ ทดี่ แู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ และหนังสอื ตร. ท ่ี 0001(มค)/350 ลง 17 พ.ค. 62 ใหห้ น่วยด�ำเนินกำรฝึกอบรม ตำม พ.ร.บ.กำรชุมนมุ สำธำรณะและข้ำรำชกำรต�ำรวจซึ่งปฏบิ ัตหิ นำ้ ที่ดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ ตำมที่ ตร. ก�ำหนดและตำมเหน็ ชอบ ก.ตร. ข้อ 2.2 และมีกำรมอบประกำศนียบัตรรับรอง บันทึกข้อมูลผู้ผ่ำนกำรฝึก ในสมุดประวัติ (ก.พ.7) จดั ทำ� ทะเบยี นรำยชอื่ ผผู้ ำ่ นกำรฝกึ อบรม ใหถ้ กู ตอ้ งครบถว้ น สอดคลอ้ งกบั อนมุ ตั หิ ลกั กำร ตร. ลง 16 ต.ค. 61 ท้ำยหนังสือ บช.ศ. ท ่ี 003๔.23/2๔67 ลง 28 ก.ย. 61 เห็นชอบร่ำงหลักสตู รกำรฝึกอบรมเจ้ำพนักงำนดแู ล กำรชมุ นุมสำธำรณะ จำ� นวน 1 หลกั สูตร (จำ� นวน 18 ชัว่ โมง) และหลกั สตู รกำรฝึกอบรมขำ้ รำชกำรตำ� รวจ ซงึ่ ปฏิบัติหนำ้ ที่ดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ จำ� นวน 1 หลกั สูตร (จ�ำนวน 28 ชว่ั โมง) ทงั้ น ี้ ขำ้ รำชกำรตำ� รวจผผู้ ำ่ นกำรฝกึ อบรมโครงกำรฝกึ อบรมเจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ และโครงกำรฝึกอบรมข้ำรำชกำรต�ำรวจเพ่ือพัฒนำทักษะในกำรปฏิบัติหน้ำท่ีตำม พระรำชบัญญัติกำรชุมนุม สำธำรณะ พ.ศ.2558 ตง้ั แตป่ พ.ศ.2558 เป็นตน้ มำ รวมทง้ั ผทู้ ่ีส�ำเร็จกำรศึกษำหลกั สตู ร นักเรยี นนำยสบิ และหลักสูตรชัยยะข้ันพ้ืนฐำน ต้ังแต่ป พ.ศ.2559 เป็นต้นมำ ให้ถือว่ำเป็นผู้ผ่ำนกำรฝึกอบรมหลักสูตร กำรฝกึ อบรมเจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะและขำ้ รำชกำรตำ� รวจซง่ึ ปฏบิ ตั หิ นำ้ ทด่ี แู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ น้แี ล้ว (ผนวก ข) กำรใชเ้ ครอื่ งมอื ควบคมุ ฝงู ชนตำมทรี่ ฐั มนตรปี ระกำศกำ� หนด ปจั จบุ นั (2558) มกี ำรกำ� หนดไว ้ จำ� นวนทง้ั สิ้น ๔8 ชนดิ เครื่องมือ ยกตัวอย่ำงเช่น หมวกปรำบจลำจล โล่ใส กระบองยำง แก๊สน�้ำตำชนดิ สเปรย์ สกดั จำกพชื ธรรมชำต ิ เปน็ ต้น 3.3 การประชาสัมพันธ เมอ่ื ไดร้ ับแจ้งกำรชุมนมุ สำธำรณะ ให้ผูร้ ับแจ้ง หรอื เจำ้ พนกั งำนดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ ประสำน กองสำรนิเทศ (ตร.) และหน่วยงำนประชำสัมพันธ์ของรัฐ จัดหรือประสำนให้มีกำรประชำสัมพันธ์ท้ัง ก่อน ระหว่ำง และภำยหลังกำรชุมนุมสำธำรณะ โดยให้แนบรำยละเอียดที่เกี่ยวข้องในกำรชุมนุมสำธำรณะนั้น ใหห้ นว่ ยงำนดงั กล่ำวทรำบดว้ ย เพอื่ ประโยชนใ์ นกำรจดั กำรประชำสัมพนั ธ์ (มำตรำ 20) ให้กองสำรนิเทศด�ำเนินกำรประชำสัมพันธ์ทุกช่องทำงกำรสื่อสำร และให้ประสำนหน่วยงำน ประชำสัมพันธ์ของรัฐ หรือสื่อมวลชนต่ำง ๆ เพื่อให้ประชำชนทรำบถึงรำยละเอียดสถำนท่ีที่ใช้ในกำรชุมนุม และช่วงเวลำท่ีมีกำรชุมนุม ตลอดจนค�ำแนะน�ำเก่ียวกับเส้นทำงกำรจรำจรหรือระบบกำรขนส่งสำธำรณะ ตลอดจนชอ่ งทำงกำรร้องเรียน กำรแจ้งควำมด�ำเนินคดีตำ่ ง ๆ ดว้ ย คมู่ อื กำรปฏบิ ตั ิงำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2563) 65 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 65 11/17/2563 BE 12:40 PM

3.๔ การชมุ นุมสาธารณะท่ลี ะ มิดก หมาย กรณกี ำรชมุ นมุ สำธำรณะทไี่ มช่ อบดว้ ยกฎหมำยตำมมำตรำ 1๔ หรอื กรณผี จู้ ดั กำรชมุ นมุ หรอื ผชู้ มุ นมุ ฝ่ำฝนมำตรำ 7 หรอื ไมป่ ฏิบตั ติ ำมมำตรำ 8 มำตรำ 15 มำตรำ 16 มำตรำ 17 หรอื มำตรำ 18 ใหเ้ จำ้ พนกั งำน ดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะด�ำเนินกำร ดงั ตอ่ ไปน ี้ 3.๔.๑ กรณีการชมุ นุม ม่ชอบด้วยก หมาย กรณกี ำรชมุ นุมสำธำรณะทไ่ี ม่ชอบดว้ ยกฎหมำยตำมมำตรำ 1๔ หรือไม่เลกิ กำรชุมนมุ ภำยใน ระยะเวลำท่ีได้แจ้งไว้ต่อผู้รับแจ้งตำมมำตรำ 18 ให้ประกำศให้ผู้ชุมนุมเลิกกำรชุมนุมภำยในระยะเวลำ ทก่ี �ำหนด กำรประกำศให้เลกิ กำรชมุ นมุ ดว้ ยวธิ ใี ด ๆ ดงั นี้ 1) ประกำศเลิกกำรชุมนุมด้วยวำจำ หรืออำจใช้เครื่องขยำยเสียงที่มีระดับเสียงตำมควำม เหมำะสม โดยอำจใชถ้ ้อยคำ� ได้ควำมเหมำะสม ยกตวั อยำ่ งเช่น ตำมทนี่ ำย ... ผแู้ จง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ถำ้ ม)ี โดยจดั กำรชมุ นมุ สำธำรณะบรเิ วณ ... นน้ั ปรำกฏวำ่ มีผ้ชู มุ นุมได้มพี ตกิ ำรณ์ .... อนั เปน็ กำรฝ่ำฝนมำตรำ .... แหง่ พระรำชบัญญัตกิ ำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 และ ... (กฎหมำยอืน่ ๆ ถ้ำม)ี กระผม (ยศ-ชื่อ-สกุล-ตำ� แหนง่ ) ในฐำนะเจำ้ พนักงำนดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะ จงึ ขอประกำศใหผ้ ชู้ มุ นมุ เลกิ กำรชมุ นมุ ภำยในเวลำ 18.00 น. ของวนั ท ี่ ... หำกฝำ่ ฝนหรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ ำม จะดำ� เนนิ กำรตำมกฎหมำยตอ่ ไป ในกรณีที่ผู้รับค�ำสั่งนั้นร้องขอและกำรร้องขอได้กระท�ำโดยมีเหตุผลอันสมควรภำยใน เจ็ดวันนบั แตว่ ันทีม่ คี ำ� ส่งั ดงั กล่ำว เจ้ำหน้ำที่ผอู้ อกคำ� ส่งั ตอ้ งยนื ยันค�ำส่งั นนั้ เป็นหนังสอื 2) ประกำศเลิกกำรชุมนมุ โดยมีหนงั สือปดไวใ้ นที่แลเห็นไดง้ ่ำย ณ บริเวณสถำนทห่ี รอื กรณี จ�ำเปน็ อำจปดไวบ้ รเิ วณปรมิ ณ ลกำรชุมนุมสำธำรณะนั้นได้ (แบบ 3 3) 3) ป้ำยประกำศเลกิ กำรชุมนุม ขนำดตำมควำมเหมำะสม 3.๔.2 กรณกี ารชมุ นุม า นก หมาย กรณีผู้จัดกำรชุมนุมหรือผู้ชุมนุมฝ่ำฝนมำตรำ 7 หรือไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ 8 มำตรำ 15 มำตรำ 16 หรือมำตรำ 17 ใหป้ ระกำศใหผ้ ้ชู ุมนุมแกไ้ ขภำยในระยะเวลำท่ีกำ� หนด กรณีเป็นกำรชุมนุมสำธำรณะท่ีชอบด้วยกฎหมำยมำแต่ต้น ต่อมำภำยหลังมีกำรฝ่ำฝนตำม มำตรำ 21 (2) จงึ สมควรทีจ่ ะประกำศใหผ้ ชู้ ุมนมุ แก้ไขกำรฝ่ำฝนกฎหมำยดงั กลำ่ วก่อน โดยให้ประกำศดว้ ย วิธใี ดๆ ดงั นี้ 1) ประกำศแก้ไขกำรชุมนุมด้วยวำจำ หรืออำจใช้เคร่ืองขยำยเสียงที่มีระดับเสียงตำมควำม เหมำะสม โดยอำจใช้ถ้อยค�ำได้ควำมเหมำะสม ดังนี้ ตำมทน่ี ำย ... ผแู้ จง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ถำ้ ม)ี โดยจดั กำรชมุ นมุ สำธำรณะ บรเิ วณ ... นนั้ ปรำกฏว่ำมีผ้ชู ุมนุมได้มพี ติกำรณ์ .... อันเป็นกำรฝ่ำฝนมำตรำ .... แหง่ พระรำชบญั ญตั ิกำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 และ ... (กฎหมำยอน่ื ๆ ถำ้ ม)ี กระผม (ยศ-ชอื่ -สกุล-ตำ� แหน่ง) ในฐำนะเจ้ำพนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ จึงขอประกำศให้ผู้ชมุ นมุ แก้ไขกำรชมุ นุม ดงั น้ี - ให้ผู้ชุมนุมท่ีอยู่ในระยะรัศมี 150 เมตร จำกพระบรมมหำรำชวัง ออกจำกบริเวณ ดงั กล่ำว โดยถอื ปฏบิ ตั ิตำมค�ำแนะน�ำของเจ้ำหน้ำที่ 66 คูม่ ือกำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมพระรำชบัญญตั ิกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 66 11/17/2563 BE 12:40 PM

- ให้ผู้ชุมนุมท่ีกีดขวำงถนนโดยรอบสนำมหลวง ย้ำยมำชุมนุมบริเวณสถำนท่ีด้ำนใน สนำมหลวง ท้ังนี้ ให้แก้ไขกำรชุมนุมสำธำรณะที่ผิดกฎหมำยภำยในเวลำ 18.00 น. ของวันท่ี ... หำกฝ่ำฝนหรือไม่ปฏิบตั ติ ำมจะด�ำเนนิ กำรตำมกฎหมำยตอ่ ไป ในกรณที ผ่ี รู้ บั คำ� สง่ั นนั้ รอ้ งขอและกำรรอ้ งขอไดก้ ระทำ� โดยมเี หตผุ ลอนั สมควรภำยในเจด็ วนั นบั แต่วนั ท่ีมีคำ� สั่งดงั กล่ำว เจ้ำหน้ำทผี่ ู้ออกค�ำส่ังต้องยืนยันค�ำส่ังนน้ั เปน็ หนังสอื 2) ประกำศแก้ไขกำรชุมนมุ โดยมีหนงั สอื ปดไวใ้ นท่แี ลเหน็ ได้ง่ำย ณ บริเวณสถำนทีห่ รือกรณี จ�ำเป็นอำจปดไวบ้ รเิ วณปริมณ ลกำรชุมนุมสำธำรณะน้ันได้ (แบบ 3 ๔) 3) ป้ำยประกำศแกไ้ ขกำรชมุ นมุ ขนำดตำมควำมเหมำะสม 3.๔.3 การร้องขอต่อศาล เมื่อพ้นระยะเวลำให้เลิกกำรชุมนุม หรือระยะเวลำกำรแก้ไขกำรชุมนุมท่ีฝ่ำฝนกฎหมำยแล้ว หำกผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตำมให้เจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะร้องขอต่อศำลแพ่งหรือศำลจังหวัดที่มี เขตอำ� นำจเหนอื สถำนทที่ มี่ กี ำรชมุ นมุ สำธำรณะ เพอ่ื มคี ำ� สงั่ ใหผ้ ชู้ มุ นมุ เลกิ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ โดยใหจ้ ดั เตรยี ม เอกสำรตำ่ ง ๆ ดงั น้ี 1) ค�ำร้องขอ (ตำมแบบทีศ่ ำลกำ� หนด) (แบบ 3 5) 2) เอกสำร หลักฐำน ที่ปรำกฏกำรฝ่ำฝนมำตรำ 1๔ มำตรำ 7 มำตรำ 8 มำตรำ 15 มำตรำ 16 มำตรำ 17 หรือมำตรำ 18 แลว้ แต่กรณี 3) เอกสำร หลกั ฐำนกำรประกำศให้ผู้ชมุ นุมเลกิ หรอื แกไ้ ขกำรชมุ นมุ สำธำรณะ ๔) เอกสำร หลกั ฐำนทแี่ สดงวำ่ ผู้ชมุ นมุ ไมป่ ฏบิ ัติตำมประกำศในขอ้ 3) 3.๔.๔ การกระท�าทจี่ �า ปนตามแผนการดแู ลการชุมนุมสาธารณะ ในระหวำ่ งรอคำ� สง่ั ศำลตำม 3.๔.3 ใหเ้ จำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ พจิ ำรณำดำ� เนนิ กำร ตำมแผนกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะไดค้ วำมจำ� เปน็ เหมำะสมกบั สถำนกำรณ ์ ทง้ั น ี้ เพอื่ คมุ้ ครองควำมสะดวก ของประชำชนและคมุ้ ครองกำรชุมนุมสำธำรณะ แผนหรือแนวทำงกำรดูแลกำรชุมนมุ สำธำรณะ ใหเ้ จ้ำพนกั งำนหลีกเลยี่ งกำรใชก้ �ำลัง ในกรณี ทไ่ี ม่อำจหลีกเลี่ยงกำรใชก้ ำ� ลงั ได้ ใหใ้ ช้กำ� ลงั และเครอ่ื งมือควบคมุ ฝูงชนเพียงเทำ่ ทจ่ี �ำเป็น 3.5 การประกาศพนื ที่ควบคุม ในกรณที ผี่ ชู้ มุ นมุ ไมเ่ ลกิ กำรชมุ นมุ สำธำรณะตำมคำ� สง่ั ศำลภำยในระยะเวลำทศี่ ำลกำ� หนด ใหเ้ จำ้ พนกั งำน ดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะรำยงำนให้ศำลทรำบกับประกำศก�ำหนดให้พื้นที่บริเวณที่มีกำรชุมนุมสำธำรณะนั้น และปริมณ ลของพ้ืนท่ีน้ันตำมควรแก่กรณีเป็นพ้ืนที่ควบคุม (แบบ 3 6) และประกำศให้ผู้ชุมนุมออกจำก พ้ืนที่ควบคุมภำยในระยะเวลำที่ก�ำหนดและห้ำมบุคคลใดเข้ำไปในพื้นท่ีควบคุมโดยมิได้รับอนุญำตจำก เจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะ และให้รำยงำนรฐั มนตรเี พ่อื ทรำบ (มำตรำ 23) คู่มอื กำรปฏิบตั ิงำนตำมพระรำชบัญญัติกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2563) 67 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 67 11/17/2563 BE 12:40 PM

เม่ือเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะได้ประกำศก�ำหนดพื้นท่ีควบคุมแล้วให้บุคคลดังต่อไปน้ี เปน็ ผคู้ วบคุมสถำนกำรณ์เพื่อใหม้ ีกำรเลกิ กำรชุมนุมตำมค�ำสั่งศำล 1) ผู้บญั ชำกำรตำ� รวจนครบำล กรณีในเขตกรุงเทพมหำนคร 2) ผู้ว่ำรำชกำรจงั หวัด กรณีในจังหวดั อ่นื 3) ผูซ้ ่งึ รัฐมนตรมี อบหมำยให้รบั ผดิ ชอบ 3.6 การด�า นินการให้ ลกิ การชุมนุมสาธารณะ เมอื่ พน้ ระยะเวลำทป่ี ระกำศใหผ้ ชู้ มุ นมุ ออกจำกพนื้ ทคี่ วบคมุ หำกมผี ชู้ มุ นมุ อยใู่ นพนื้ ทค่ี วบคมุ หรอื เขำ้ ไป ในพื้นท่คี วบคุมโดยมไิ ด้รบั อนญุ ำตจำกเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ ให้ ือว่าผนู้ ันกระท�าความผดิ ง่ หนา้ และใหผ้ คู้ วบคมุ สถำนกำรณแ์ ละผซู้ งึ่ ไดร้ บั มอบหมำยจำกผคู้ วบคมุ สถำนกำรณด์ ำ� เนนิ กำรใหม้ กี ำรเลกิ กำรชมุ นมุ สำธำรณะตำมคำ� สงั่ ศำล โดยใหผ้ คู้ วบคมุ สถำนกำรณแ์ ละผซู้ ง่ึ ไดร้ บั มอบหมำยจำกผคู้ วบคมุ สถำนกำรณ์ มีอำ� นำจ ดังต่อไปน้ี (1) จบั ผซู้ งึ่ อยใู่ นพนื้ ทค่ี วบคมุ หรอื ผซู้ งึ่ เขำ้ ไปในพน้ื ทค่ี วบคมุ โดยมไิ ดร้ บั อนญุ ำตจำกเจำ้ พนกั งำนดแู ล กำรชุมนมุ สำธำรณะ (2) คน้ ยึด อำยดั หรอื ร้อื ถอนทรัพย์สินทีใ่ ช้หรอื มีไว้เพ่อื ใชใ้ นกำรชมุ นุมสำธำรณะนั้น (3) กระท�ำกำรทจี่ ำ� เป็นตำมแผนหรือแนวทำงกำรดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะตำมมำตรำ 21 (๔) มีค�ำสั่งห้ำมมิให้กระท�ำกำรใด ๆ เพ่ือประโยชน์ในกำรด�ำเนินกำรให้มีกำรเลิกกำรชุมนุม ยกตัวอย่ำงเชน่ กำรห้ำมใชเ้ คร่อื งขยำยเสยี ง ห้ำมโ ษณำ เผยแพร่ ชักชวนผชู้ ุมนมุ หำ้ มบรรทุกอำวุธหรือวัตถุ อันตรำยต่ำงๆ เป็นต้น (แบบ 3 7) 3.7 การชุมนมุ สาธารณะทมี่ ลี กั ณะรนุ แรงและ กดิ ความวนุ่ วายขนในบ้าน มือง ในกรณีกำรชุมนุมสำธำรณะที่มีลักษณะรุนแรงและอำจเป็นอันตรำยแก่ชีวิต ร่ำงกำย จิตใจ หรือ ทรพั ยส์ นิ ของผอู้ นื่ จนเกดิ ควำมวนุ่ วำยขน้ึ ในบำ้ นเมอื ง เปน็ กรณที เี่ รง่ ดว่ นจงึ จำ� เปน็ ทจี่ ะตอ้ งใหเ้ จำ้ หนำ้ ทดี่ ำ� เนนิ กำร ยุติกำรชุมนุมน้ันได้ โดยไม่ต้องร้องขอต่อศำล เพ่ือรักษำประโยชน์สำธำรณะไว้ และปกป้องคุ้มครองสิทธิ เสรีภำพและศักด์ิศรีควำมเป็นมนุษย์ของประชำชน จึงก�ำหนดให้เจ้ำหน้ำท่ีมีอ�ำนำจในกำรสั่งยุติกำรชุมนุม และดำ� เนนิ กำรตำ่ งๆ เพ่ือใหม้ ีกำรเลกิ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ โดยปฏิบตั ิดังน้ี 3.7.๑ การส่งั ใหย้ ุตกิ ารกระท�า ในกรณที ผี่ ชู้ มุ นมุ กระทำ� กำรใด ๆ ทม่ี ลี กั ษณะรนุ แรงและอำจเปน็ อนั ตรำยแกช่ วี ติ รำ่ งกำย จติ ใจ หรอื ทรพั ยส์ นิ ของผอู้ น่ื จนเกดิ ควำมวนุ่ วำยขน้ึ ในบำ้ นเมอื งใหเ้ จำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ มอี ำ� นำจสง่ั ให้ผูช้ มุ นุมยตุ ิกำรกระทำ� นน้ั โดยกำรประกำศใหผ้ ชู้ ุมนมุ ยตุ กิ ำรกระทำ� ดงั กล่ำว กำรประกำศอำจด�ำเนนิ กำรได้ ดังน้ี 1) ประกำศยุติกำรชุมนุมด้วยวำจำ หรืออำจใช้เคร่ืองขยำยเสียงท่ีมีระดับเสียงตำมควำม เหมำะสม โดยอำจใช้ถอ้ ยค�ำได้ควำมเหมำะสม ยกตัวอยำ่ งเชน่ 68 คูม่ อื กำรปฏบิ ตั ิงำนตำมพระรำชบญั ญัตกิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 68 11/17/2563 BE 12:40 PM

ตำมทีน่ ำย ... ผแู้ จ้งกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ถำ้ มี) โดยจัดกำรชุมนมุ สำธำรณะ บรเิ วณ ... นน้ั ปรำกฏวำ่ มผี ชู้ มุ นมุ ไดม้ พี ตกิ ำรณ ์ .... อนั เปน็ กำรฝำ่ ฝนมำตรำ .... แหง่ พระรำชบญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 และ ... (กฎหมำยอืน่ ๆ ถ้ำม)ี อันมีลักษณะรุนแรงและอำจเปน็ อนั ตรำยแกช่ วี ิต รำ่ งกำย จติ ใจ หรือทรัพย์สินของผู้อื่น กระผม (ยศ-ช่ือ-สกุล-ต�ำแหน่ง) ในฐำนะเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ จึงขอประกำศให้ผู้ชุมนุมยุติกำรชุมนมุ บรเิ วณ .... ภำยในเวลำ 18.00 น. ของวันท ่ี ... หำกผูใ้ ดฝ่ำฝนหรือ ไม่ปฏบิ ตั ิตำมจะด�ำเนนิ กำรตำมกฎหมำยขั้นเดด็ ขำดตอ่ ไป กรณีนี้กฎหมำยก�ำหนดผู้ชุมนุมท่ีไม่เห็นด้วยกับค�ำสั่งยื่นค�ำร้องคัดค้ำนต่อศำลแพ่งหรือ ศำลจงั หวัดที่มีเขตอำ� นำจเหนอื สถำนที่ท่มี ีกำรชุมนุมสำธำรณะน้นั โดยเฉพำะ 2) ประกำศยุติกำรชมุ นุมโดยมหี นงั สือปดไวใ้ นท่แี ลเหน็ ได้งำ่ ย ณ บรเิ วณสถำนท่ีชมุ นมุ หรือ กรณจี �ำเปน็ อำจปดไว้บรเิ วณปรมิ ณ ลกำรชุมนมุ สำธำรณะนัน้ ได้ 3) ปำ้ ยประกำศยุตกิ ำรชมุ นุม ขนำดตำมควำมเหมำะสม (แบบ 3 8) 3.7.2 การประกาศพืนที่ควบคุม หำกผชู้ มุ นมุ ไมป่ ฏบิ ตั ติ ำมคำ� สงั่ ดงั กลำ่ วขำ้ งตน้ ใหเ้ จำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะประกำศ กำ� หนดใหพ้ นื้ ทบี่ รเิ วณทมี่ กี ำรชมุ นมุ สำธำรณะนนั้ และปรมิ ณ ลของพนื้ ทนี่ น้ั ตำมควรแกก่ รณเี ปน็ พนื้ ทคี่ วบคมุ และประกำศใหผ้ ชู้ มุ นมุ ออกจำกพนื้ ทคี่ วบคมุ ภำยในระยะเวลำทก่ี ำ� หนดและหำ้ มบคุ คลใดเขำ้ ไปในพนื้ ทค่ี วบคมุ โดยมิได้รับอนญุ ำตจำกเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ และใหร้ ำยงำนรัฐมนตรเี พอ่ื ทรำบ และให้ผบู้ ญั ชำกำรต�ำรวจนครบำลในกรงุ เทพมหำนคร ผ้วู ่ำรำชกำรจังหวัดในจังหวัดอนื่ หรือ ผู้ซ่ึงรัฐมนตรีมอบหมำยให้รับผิดชอบเป็นผู้ควบคุมสถำนกำรณ์เพ่ือให้มีกำรเลิกกำรชุมนุมสำธำรณะตำมค�ำสั่ง รำยละเอยี ดตำมขอ้ 3.5 (มำตรำ 23) 3.7.3 การด�า นินการ พ่ือให้ ลิกการชมุ นมุ สาธารณะ เมื่อพ้นระยะเวลำที่ประกำศให้ผู้ชุมนมุ ออกจำกพน้ื ที่ควบคมุ หำกมีผชู้ ุมนุมอยูใ่ นพื้นทค่ี วบคุม หรือเข้ำไปในพ้ืนท่ีควบคุมโดยมิได้รับอนุญำตจำกเจ้ำพนักงำนดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ ให้ถือว่ำผู้นั้นกระท�ำ ควำมผิดซึ่งหน้ำ และให้ผู้ควบคุมสถำนกำรณ์และผู้ซึ่งได้รับมอบหมำยจำกผู้ควบคุมสถำนกำรณ์ด�ำเนินกำร ให้มีกำรเลิกกำรชุมนุมสำธำรณะตำมค�ำสั่งศำล โดยให้ผู้ควบคุมสถำนกำรณ์และผู้ซึ่งได้รับมอบหมำย จำกผู้ควบคมุ สถำนกำรณ ์ ด�ำเนนิ กำรตำมข้อ 3.6 (มำตรำ 2๔) ท้ังนี้ ในทุก ๆ ข้ันตอนกำรปฏิบัติให้หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องเก็บรวบรวมพยำนหลักฐำน ทเี่ กย่ี วขอ้ งใหม้ ปี ระสทิ ธภิ ำพ เพอื่ สำมำรถนำ� ไปใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ในทำงสบื สวน สอบสวน กำรดำ� เนนิ กำรทำงคด ี และ พยำนหลักฐำนในช้นั กำรพิจำรณำของศำลได้ คูม่ อื กำรปฏิบตั งิ ำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2563) 69 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 69 11/17/2563 BE 12:40 PM

แผนภมู ิ การดูแลการชมุ นมุ สาธารณะทลี่ ะ มดิ ก หมาย กรณีการชมุ นมุ สาธารณะ ท่ี า นก หมาย า นตังแต่ตน้ า นภายหลัง ม.2๑ (๑) ม.2๑ (2) ประกาศให้ ลกิ การชมุ นมุ ประกาศให้แก้ ข ลกิ การชมุ นมุ ม่ ลกิ ม่แก้ ข แก้ ข การชุมนุม ร้องขอต่อศาลแพง่ หรอื ศาลจังหวดั ชมุ นมุ ปกติ ศาลพจิ ารณาคา� ขอ ปนการด่วน (ม.22) ผจู้ ัดการชมุ นมุ ศาลมคี า� สั่ง ดยออกคา� บงั คบั อทุ ธรณตอ่ ศาลอทุ ธรณ จา้ พนกั งานบงั คับคดปี ดประกาศคา� สง่ั ศาลอุทธรณภาค (ม.22) ผชู้ มุ นมุ ม่ ลิกการชุมนุมตามคา� สง่ั ศาล คา� สงั่ ปนท่ีสดุ จา้ พนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะรายงานให้ศาลทราบ พน้ ระยะ วลาที่ประกาศ กบั ประกาศกา� หนดพนื ท่คี วบคมุ ให้ออกจากพนื ท่ีควบคุม ประกาศให้ผู้ชมุ นมุ ออกจากพนื ท่ี หา้ มบคุ คลใด ข้า ือ ปนการกระท�าผดิ รายงาน รมต. พอื่ ทราบ (ม.23) ่งหน้า (ม.2๔) ผบช.น. ผจว. ปนผู้ควบคมุ ส านการณ (ม.23) มีอา� นาจ จับ คน้ ยด อายดั ดา� นินการตามอา� นาจหนา้ ท่ี หรือรอื อน กระทา� การ พือ่ ให้มกี าร ลิกการชมุ นุม ท่าทีจ่ า� ปน มคี า� สงั่ หา้ ม พ่อื ให้ ลกิ การชมุ นุม (ม.2๔) ดา� นนิ การทจี่ า� ปน ตามแผนการดแู ลการชุมนมุ สาธารณะ ตามมติ ครม. 25 สิงหาคม 2558 70 คมู่ ือกำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบญั ญัติกำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนมุ สำธำรณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 70 11/17/2563 BE 12:40 PM

แผนภมู ิ การดแู ลการชุมนมุ สาธารณะทีม่ ีลัก ณะรุนแรงและ กดิ ความวนุ่ วายขนในบา้ น มอื ง การชุมนุมสาธารณะ ทม่ี ลี ัก ณะรนุ แรงและ อาจ ปนอนั ตรายแก่ชีวิต รา่ งกาย จติ ใจหรือ ทรัพยสินของผูอ้ ืน่ จน กิด ความว่นุ วายขน ในบ้าน มอื ง (ม.25) จา้ พนักงานดแู ลการชมุ นุมสาธารณะ ส่งั ใหผ้ ู้ชุมนุมยตุ กิ ารกระทา� นนั ผชู้ มุ นมุ มป่ ฏิบตั ิตามคา� สัง่ จ้าพนกั งานดแู ลการชุมนมุ สาธารณะ ประกาศกา� หนดพืนท่คี วบคมุ ให้ผู้ชุมนุมออกจากพนื ที่ หา้ มบุคคลใด ขา้ รายงาน รมต. พ่อื ทราบ (ม.23) ผบช.น. ผจว. ปนผ้คู วบคมุ ส านการณ (ม.23 ว.2) มีอา� นาจ จับ คน้ ยด อายดั ด�า นินการตามอา� นาจหน้าที่ หรือรือ อน กระทา� การ ท่าที่จา� ปน มีคา� ส่ังหา้ ม พ่อื ใหม้ ีการ ลกิ การชุมนมุ (ม.2๔) พ่ือให้ ลกิ การชมุ นมุ (ม.2๔) ผชู้ ุมนมุ ม่ หนด้วย ด�า นนิ การทจ่ี �า ปน ยืน่ คา� รอ้ งตอ่ ศาลแพง่ หรือ ตามแผนการดูแลการชมุ นมุ สาธารณะ ศาลจงั หวัด ภายใน 3 วนั ตามมติ ครม. 25 สิงหาคม 2558 นับแตว่ ันทม่ี คี �าสั่ง อทุ ธรณตอ่ ศาลอุทธรณ ศาลอทุ ธรณภาค ค�าสงั่ ปนทสี่ ุด คมู่ ือกำรปฏบิ ตั ิงำนตำมพระรำชบัญญัติกำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2563) 71 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 71 11/17/2563 BE 12:40 PM

72 คมู่ อื กำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 72 11/17/2563 BE 12:40 PM

บทที่ ๔ การบริหารจดั การการชมุ นุมสาธารณะ เพอื่ ใหก้ ำรปฏบิ ตั หิ นำ้ ทต่ี ำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 เปน็ ไปดว้ ยควำมเรยี บรอ้ ย สำมำรถปฏบิ ตั หิ น้ำทไี่ ด้อยำ่ งครบถ้วน และรวดเร็ว จึงก�ำหนดกำรบริหำรจดั กำรกำรชุมนุมสำธำรณะ ดังนี้ ๔.๑ การบริหารจัดการในการแจง้ การชมุ นมุ สาธารณะ ๔.1.1 ให้ทุก สน./สภ. บก. หรือ บช. จัดระบบกำรรับแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะสำมำรถตรวจสอบ และรบั แจง้ ไดต้ ลอด 2๔ ชว่ั โมง โดยจดั เจำ้ หนำ้ ทรี่ บั -สง่ ประสำนงำนกำรแจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ และประทบั ตรำ รบั หนงั สอื ลงทะเบยี นรบั หนงั สอื ในหนงั สอื รบั ตำมระเบยี บงำนสำรบรรณ แลว้ ใหร้ บี ดำ� เนนิ กำรเสนอ หน.สน./สภ. โดยด่วน เพ่ือให้ หน.สน./สภ. พิจำรณำให้แล้วเสร็จภำยในยี่สิบส่ีชั่วโมง หำกเป็นกำรชุมนุมสำธำรณะ ต่อเนอ่ื งหลำยพ้นื ที่ให้ หน.สน./สภ. รำยงำนให้ ผบก. หรือ ผบช. ทรำบตำมแต่กรณี ๔.1.2 ให้ทุก สน./สภ. จัดท�ำแผนท่ีสถำนท่ีห้ำมกำรชุมนุมในระยะ 150 เมตร ตำมมำตรำ 7 แห่ง พ.ร.บ.กำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 และอำจประกำศไวใ้ นบรเิ วณทแี่ ลเห็นไดง้ ำ่ ยของ สน./สภ. พรอ้ ม แผนทโี่ ดยสงั เขป โดยอำจประสำนงำนเจำ้ หนำ้ ทโี่ ยธำในพนื้ ทร่ี ว่ มกนั ทำ� กำรวดั ระยะตำมภมู ศิ ำสตรใ์ หช้ ดั เจนได้ ๔.1.3 เมอ่ื ผรู้ บั แจง้ (หน.สน./สภ.) ไดร้ บั แจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะใหพ้ จิ ำรณำดำ� เนนิ กำรไปตำมอำ� นำจ หนำ้ ท ่ี พจิ ำรณำจดั ตงั้ ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ำรสว่ นหนำ้ (ศปก.สน.) ตำมควำมเหมำะสมแลว้ รำยงำนกำรรบั แจง้ กำรชมุ นมุ สำธำรณะผำ่ น ศปก.ทุกระดับ โดยให้ ศปก.ตร. ตดิ ตำม ควบคุม สัง่ กำรกำรรกั ษำควำมสงบและแกไ้ ขปัญหำ ตำมขน้ั ตอน กรณใี ดทกี่ ฎหมำยก�ำหนดใหเ้ ปน็ อ�ำนำจของ ผบ.ตร. ในกำรประกำศ หรอื แตง่ ตง้ั เจำ้ พนกั งำนอ่ืน เพิม่ หรือแทน ใหห้ นว่ ยส่งเร่อื งผำ่ น ศปก.ตร. เพ่อื เสนอผ้บู ังคับบัญชำพิจำรณำอนุมัติตำมข้นั ตอนตอ่ ไป ๔.1.๔ ประสำนหนว่ ยงำนทมี่ หี นำ้ ทรี่ บั ผดิ ชอบโดยตรงหรอื หนว่ ยงำนทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ขอ้ เรยี กรอ้ ง สนบั สนนุ คัดคำ้ น หรือแสดงควำมคิดเห็นของผชู้ ุมนมุ จดั ผแู้ ทนมำรับทรำบข้อเทจ็ จรงิ เจรจำ ไกลเ่ กล่ีย หรอื แกไ้ ขปญั หำ เบื้องต้น โดยมีเจ้ำหน้ำท่ีดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะเป็นผู้สนับสนุนกำรปฏิบัติ และในต่ำงจังหวัดให้รำยงำนให้ ผวู้ ำ่ รำชกำรจงั หวดั ทรำบ เพอ่ื เขำ้ มำแกไ้ ข เยยี วยำ รบั ขอ้ เรยี กรอ้ งตำ่ ง ๆ ตลอดจนประสำนกำรปฏบิ ตั หิ นว่ ยงำน ตำ่ ง ๆ เพอื่ รองรบั กำรชมุ นมุ สำธำรณะ อำทเิ ชน่ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ กระทรวงสำธำรณสขุ กรมปอ้ งกนั และบรรเทำสำธำรณภัย กระทรวงคมนำคม สถำบันกำรแพทย์ฉกุ เฉนิ กรุงเทพมหำนคร จงั หวัด อ�ำเภอ ตำ� บล ตำมแตก่ รณ ี โดยอำจพจิ ำรณำใหจ้ ดั เจำ้ หนำ้ ท ี่ พรอ้ มบญั ชอี ปุ กรณ ์ เครอื่ งมอื ประจำ� ศปก.สน. เพอื่ ประสำนงำน และสนับสนุนกำรปฏิบัติได้ตำมควำมเหมำะสม และเตรียมควำมพร้อมในกำรออกค�ำสั่ง บรรจุ แต่งต้ัง เจำ้ พนกั งำนในกำรช่วยเหลอื เจ้ำพนกั งำนดแู ลกำรชมุ นุมสำธำรณะ ไม่ว่ำจะเป็นในสว่ นของ ตร. หรอื เจ้ำหน้ำท่ี สนบั สนนุ จำกหน่วยงำนอนื่ ๆ ๔.1.5 ประสำนงำนหน่วยงำนประชำสัมพันธ์ในพ้ืนท่ี หรือหน่วยงำนประชำสัมพันธ์ของรัฐ กรมประชำสัมพันธ์ และกองสำรนิเทศ เพื่อจัดให้มีกำรประชำสัมพันธ์กำรชุมนุมสำธำรณะ แนะน�ำ กำรปฏบิ ัติตำ่ ง ๆ ตลอดจนเสน้ ทำงกำรจรำจร เสน้ ทำงหลีกเลี่ยงหรือเสน้ ทำงแนะนำ� เป็นตน้ ๔.1.6 ให้ทุกหน่วยตรวจสอบและเตรียมควำมพร้อมของก�ำลังพล อำวุธ อุปกรณ์ ยำนพำหนะ ใหเ้ ป็นปจั จบุ นั สำมำรถใชก้ ำรได ้ และเข้ำแกไ้ ขสถำนกำรณ์กำรชมุ นุมสำธำรณะตำ่ ง ๆ ได ้ เม่อื ไดร้ ับกำรส่ังกำร ตลอดจนตรวจสอบกำรปฏิบัติกำรต่ำง ๆ ให้มีควำมสอดคล้องกับบทบัญญัติของ พ.ร.บ.กำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 ด้วย ๔.1.7 ให้ทุกหน่วยเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติกำรแจ้งกำรชุมนุมสำธำรณะ ตลอดจนเอกสำรหลักฐำน ท่ีเก่ยี วขอ้ งทำงกฎหมำยและคดี เพื่อประกอบกำรพจิ ำรณำในสว่ นที่เก่ียวขอ้ งต่อไป คูม่ อื กำรปฏบิ ตั ิงำนตำมพระรำชบญั ญัตกิ ำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2563) 73 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 73 11/17/2563 BE 12:40 PM

๔.1.8 รำยละเอยี ดกำรบริหำรจดั กำร ข้นั ตอนกำรด�ำเนนิ กำรตำ่ ง ๆ ให้เปน็ ไปตำม บทท ่ี 5 ข้นั ตอน ปฏบิ ตั ิกำรดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ขนั้ ตอนที่ 1 ขนั้ เตรยี มกำร) ตำมแผนกำรดแู ลกำรชมุ นุมสำธำรณะตำม พระรำชบัญญตั กิ ำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 (ตำมมต ิ ครม. เม่ือ 25 ส.ค. 58) ๔.1.9 กำรบริหำรจัดกำรกำรชุมนุมตำมกฎหมำยเฉพำะ เช่น พระรำชก�ำหนดกำรบริหำรรำชกำรใน สถำนกำรณฉ์ กุ เฉนิ พ.ศ.25๔8 พระรำชบัญญัติกฎอัยกำรศกึ พ.ศ.2๔57 กำรหำเสยี งเลอื กตงั้ ในระหว่ำงทม่ี ี กำรประกำศใหม้ กี ำรเลอื กตง้ั โดยเจำ้ หนำ้ ทอ่ี ำจปรบั ใชแ้ ผนกำรปฏบิ ตั หิ รอื กำรบรหิ ำรจดั กำร กำรชมุ นมุ เฉพำะ ท่ีเป็นไปตำมอ�ำนำจ หน้ำที่ และไม่ขัดกับกฎหมำยท่ีเกี่ยวข้อง ตำมนัยมำตรำ 3 (6) แห่งพระรำชบัญญัติ กำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 ๔.2 การบริหารจัดการในการดแู ลการชุมนุมสาธารณะ ๔.2.1 ให้ ศปก.สน. รำยงำนรำยละเอียดของกำรชุมนุมสำธำรณะ สถำนกำรณ์ด้ำนกำรข่ำว และเจ้ำพนกั งำนดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะให ้ ศปก.ตร. ทรำบ (ผำ่ น ศปก.ทกุ ระดบั ) ดงั น้ี 1) หน.สน./สภ. กรณกี ำรชุมนุมภำยในพน้ื ท่สี ถำนตี �ำรวจทีร่ บั ผิดชอบ 2) ผบก. กรณกี ำรชมุ นุมต่อเนอื่ งหลำยพ้ืนทสี่ ถำนตี ำ� รวจในพนื้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ 3) ผบช. กรณกี ำรชมุ นุมต่อเนือ่ งหลำยพนื้ ทกี่ องบงั คับกำรในพืน้ ที่รับผิดชอบ ๔) ขำ้ รำชกำรตำ� รวจอน่ื ในกรณที ่ี ผบ.ตร. แตง่ ตงั้ ใหเ้ ปน็ เจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ ตำมนัยมำตรำ 19 แหง่ พ.ร.บ.กำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 ใหเ้ จ้ำพนักงำนดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะพิจำรณำบริหำรจัดกำรกำรชุมนุมสำธำรณะ อ�ำนวยควำมสะดวก รักษำควำมปลอดภัย บรรเทำ เหตุเดือดร้อนร�ำคำญตำมอ�ำนำจหน้ำท่ี เพ่ือให้กำรชุมนุมสำธำรณะเป็นไปด้วยควำมสงบเรียบร้อย กรณีที่ เจำ้ พนกั งำนดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะขำ้ งต้น มกี ำรกำ� หนดเง่อื นไข หรอื คำ� สงั่ หรอื ปด/ปรบั เส้นทำงกำรจรำจร ใด ๆ ให้ ศปก.สน.รำยงำน ศปก.ตร. (ผ่ำน ศปก. ทุกระดับ) ทรำบและประสำนให้มีกำรประชำสัมพันธ์ สถำนทจี่ ดั กำรชมุ นุมสำธำรณะ ตลอดจนเสน้ ทำงกำรจรำจร เพ่ือให้ประชำชนได้รบั ผลกระทบน้อยทสี่ ดุ ๔.2.2 ประสำนงำนหน่วยงำนประชำสัมพันธ์ในพื้นที่ หรือหน่วยงำนประชำสัมพันธ์ของรัฐ กรมประชำสัมพันธ์ และกองสำรนิเทศ เพื่อจัดให้มีกำรประชำสัมพันธ์กำรชุมนุมสำธำรณะ แนะน�ำ กำรปฏิบัติต่ำง ๆ เสน้ ทำงกำรจรำจร เสน้ ทำงหลีกเล่ยี งหรือเสน้ ทำงแนะน�ำ เป็นตน้ ๔.2.3 พจิ ำรณำประสำนหนว่ ยงำนทเ่ี กย่ี วขอ้ งในกำรจดั ตงั้ ศนู ยร์ กั ษำพยำบำล เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ปฐมพยำบำล ผู้ชมุ นมุ ประชำชน หรอื เจ้ำหนำ้ ที่ ๔.2.๔ เตรยี มควำมพร้อมของเครอื่ งมือควบคุมฝงู ชน กำรเบิกจ่ำย กำรเบิกยมื เพ่ือรองรบั กำรปฏบิ ตั ิ ในขัน้ ตอนต่ำง ๆ ต่อไป ๔.2.5 จัดเตรียมพนกั งำนสอบสวน กำรเกบ็ รวบรวมพยำนหลักฐำนจำกหนว่ ยงำนตำ่ ง ๆ โดยประสำน กำรปฏบิ ัติตำ่ ง ๆ ไว้เบื้องตน้ เพ่อื ใหเ้ กดิ ควำมพร้อมในกำรปฏบิ ัต ิ ตลอดจนกำรเชอ่ื มต่อสัญญำณภำพ เสยี ง หรืออนื่ ๆ เพ่อื ประกอบสำ� นวนคดี ๔.2.6 หำกมคี วำมจำ� เปน็ ตอ้ งมกี ำรใชก้ ำ� ลงั นอกเหนอื จำกกำ� ลงั พลของ สน./สภ. ใหพ้ จิ ำรณำขอสนบั สนนุ กำ� ลงั จำก บก. บช. หรอื ตร. ตำมลำ� ดบั โดยประสำนกำรปฏบิ ัติผำ่ น ศปก. แตล่ ะระดับ ๔.2.7 รำยละเอยี ดกำรบรหิ ำรจัดกำร ขนั้ ตอนกำรด�ำเนินกำรตำ่ ง ๆ ให้เป็นไปตำม บทท ี่ 5 ข้ันตอน ปฏบิ ตั ิกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ขั้นตอนท่ี 2 ขั้นกำรเผชิญเหตุ ขนั้ ตอนที่ 3 ข้ันกำรใช้ก�ำลังเข้ำคลคี่ ลำย สถำนกำรณ์ และขั้นตอนท่ี ๔ ข้ันกำรฟนฟู) ตำมแผนกำรดูแลกำรชุมนุมสำธำรณะตำมพระรำชบัญญัติ กำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 (ตำมมติ ครม. เมื่อ 25 ส.ค. 58) 7๔ คู่มอื กำรปฏบิ ัติงำนตำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 74 11/17/2563 BE 12:40 PM

บทที่ 5 การสบื สวนสอบสวน กำรสืบสวนสอบสวนคดีที่เก่ียวกับกำรชุมนุมสำธำรณะตำมคู่มือฉบับนี้ เป็นกำรน�ำหลักกฎหมำย ประกอบกับกำรถอดบทเรียนจำกกำรสืบสวนสอบสวนคดีกำรชุมนุมสำธำรณะก่อนหน้ำน้ีมำปรับปรุง เพอื่ ทำ� ควำมเขำ้ ใจใหก้ บั เจำ้ หนำ้ ทตี่ ำ� รวจฝำ่ ยสบื สวนและพนกั งำนสอบสวน เมอื่ เกดิ กรณมี กี ำรชมุ นมุ สำธำรณะ เกิดข้ึนว่ำเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจฝ่ำยสืบสวนและพนักงำนสอบสวนควรที่จะด�ำเนินกำรอย่ำงไร เพ่ือให้กำรท�ำงำน ของเจ้ำหน้ำที่ผู้เก่ียวข้องเป็นไปโดยถูกต้องตำมกฎหมำย ซึ่งสอดรับกับเหตุผลของพระรำชบัญญัติ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 การสืบสวนรวบรวมพยานหลัก าน กำรสืบสวนหำข่ำวจะตอ้ งมีกำรด�ำเนินกำรอยำ่ งสม�่ำเสมอ ตอ่ เนอื่ ง แตอ่ ำจแบ่งเปน็ ชว่ งกอ่ นเกิดเหตุ หรือในภำวะปกติซ่ึงยังไม่มีกำรก�ำหนดวันชุมนุม ช่วงมีกำรก�ำหนดนัดวันชุมนุมจนถึงเกิดเหตุกำรณ์ชุมนุม และหลงั เกิดเหตุกำรณช์ ุมนุมแลว้ ดังนี้ 5.๑ การสืบสวนกอ่ น กดิ หตหุ รอื ในภาวะปกติ ง่ ยัง ม่มกี ารก�าหนดวันชมุ นมุ กำรสืบสวนหำข่ำวและกำรประเมินสถำนกำรณ์ เป็นหัวใจส�ำคัญต่อกำรปฏิบัติกำรทำงยุทธกำรใน เรื่องต่ำง ๆ โดยเฉพำะกำรข่ำวของสันติบำล จะต้องหำข่ำว ข้อมูลต่ำง ๆ จำกแหล่งข่ำวท่ีเช่ือถือได้มำสรุป ประเมนิ และทำ� กำรวเิ ครำะหส์ ถำนกำรณข์ องกลมุ่ ชมุ นมุ ใหเ้ หน็ ภำพของ กำรชมุ นมุ สำธำรณะ โดยใหท้ รำบถงึ ผู้จัดกำรชุมนุม ขนำดและประมำณจ�ำนวนของ ผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุมมำจำกท่ีใดบ้ำง มำตรกำรและวิธีกำร ทีผ่ ูช้ ุมนมุ จะน�ำมำใชใ้ นกำรกดดนั และกำรเคลอ่ื นไหวมีอะไรบำ้ ง จะเร่ิมใช้เม่ือใด ท่ใี ด และยทุ ธศำสตร์ส�ำคญั ของผู้ชุมนุมมีอะไรบ้ำง ระยะเวลำของกำรชุมนุม กำรสนับสนุนในเร่ืองอำหำร อุปกรณ์เครื่องใช้มำจำกท่ีใด โดยวิธีใด มีกำรจัดระบบอยำ่ งไร ผู้อยเู่ บ้ืองหลังในกำรสนบั สนุนเงนิ คำ่ ใช้จำ่ ยต่ำง ๆ กำรตอบรับของประชำชน และแนวรว่ มทจ่ี ะเขำ้ ชมุ นมุ ตลอดจนเครอื ขำ่ ยตำ่ ง ๆ ของกลมุ่ ผรู้ ว่ มชมุ นมุ และสถำนกำรณค์ วำมรนุ แรงทค่ี ำดวำ่ อำจเกิดข้ึน ข้อมูลเหล่ำน้ีจะใช้เป็นปัจจัยในกำรตัดสินใจ กำรวำงแผน กำรปรับยุทธศำสตร์ต่ำง ๆ ในกำร ปฏิบัติหน้ำท่ีท�ำให้ผู้บังคับบัญชำสำมำรถที่จะส่ังกำรหน่วยปฏิบัติให้เตรียมพร้อมในกำรที่จะรับสถำนกำรณ์ ดงั กลำ่ วไดถ้ ูกตอ้ งและสำมำรถท่จี ะก�ำหนดกำรใช้มำตรกำรตำ่ ง ๆ ในกำรรับมอื กบั สถำนกำรณท์ ี่อำจจะเกิดข้นึ หำกงำนกำรข่ำวและกำรประเมินสถำนกำรณ์จำกข้อมูลต่ำง ๆ ที่ได้รับจำกข่ำวคลำดเคลื่อนหรือผิดพลำด ยอ่ มสง่ ผลกระทบตอ่ มำตรกำรและยทุ ธวธิ ตี ำ่ ง ๆ ทจ่ี ะนำ� แผนมำปรบั ใชก้ บั ผชู้ มุ นมุ เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลอำจทำ� ใหภ้ ำรกจิ ไม่สำมำรถบรรลุเป้ำหมำยได้ แต่ถ้ำข้อมูลฝ่ำยข่ำวครบถ้วนถูกต้องแม่นย�ำก็ถือเป็นกลไกส�ำคัญในกำรปฏิบัติ ภำรกจิ เพอ่ื นำ� มำปรบั ใชด้ ำ� เนนิ คดกี บั ผชู้ มุ นมุ กส็ ำมำรถนำ� กฎหมำยทเ่ี กยี่ วขอ้ งมำปรบั ใชใ้ หถ้ กู ตอ้ งกบั สถำนกำรณ์ น้นั ไดอ้ ยำ่ งเหมำะสมเช่นกนั 5.1.1 กำรเตรียมขอ้ มลู กลมุ่ บคุ คลทจ่ี ะท�ำกำรชุมนมุ ในภำวะปกตฝิ ำ่ ยสบื สวน หรือฝำ่ ยข่ำว จะตอ้ งมกี ำรจัดท�ำข้อมลู ของกลมุ่ บุคคลทีม่ แี นวโน้ม จะมีกำรเคลื่อนไหวในด้ำนต่ำง ๆ โดยเฉพำะในทำงกำรเมืองไว้ โดยจัดกลุ่มว่ำผู้ใดจะมีแนวโน้มเป็นแกนน�ำ คู่มือกำรปฏิบัตงิ ำนตำมพระรำชบญั ญัตกิ ำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) 75 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 75 11/17/2563 BE 12:40 PM

ใครเป็นกลุ่มเครือข่ำย ใครเป็นกลุ่มผู้สนับสนุน เป็นแนวร่วม และคำดว่ำจะมำร่วมกิจกรรมด้วย ประเมิน ขีดควำมสำมำรถในกำรเคล่ือนไหว ทั้งจ�ำนวนคน กำรด�ำเนินกิจกรรม ควำมรุนแรง ยำนพำหนะ อุปกรณ์ ที่จะใช้ประกอบกำรชมุ นุม วิเครำะห์สถำนทที่ จ่ี ะใช้ท�ำกิจกรรมชมุ นมุ จดุ อ่อน จดุ แขง็ ของกลุ่มต่ำง ๆ 5.1.2 ตรวจสอบควำมเคล่อื นไหวทำงสอ่ื โซเชยี ลมเี ดยี เปน็ กำรนำ� เอำขอ้ มลู ของกลมุ่ คนตำมขอ้ 5.1.1 มำตดิ ตำมควำมเคลอื่ นไหวจำกสอื่ โซเชยี ลมเี ดยี ทุกชนดิ เช่น เฟซบุ๊ก อนิ สตำแกรม ทวติ เตอร ์ ซ่ึงจะทำ� ให้เหน็ แนวควำมคิด วัตถปุ ระสงค์ของกำรเคลือ่ นไหว ควำมนยิ ม ควำมคดิ เหน็ คลอ้ ยตำมกำรน�ำเสนอของกลุม่ เป็นอยำ่ งไร เพอ่ื ประเมินว่ำหำกมกี ำรนัดหมำยชมุ นุม หรือท�ำกิจกรรมจะมีมวลชนมำรวมด้วยหรือไม่เพียงใด และต้องติดตำมควำมเคลื่อนไหวกำรโพสต์เชิญชวน กำรนัดหมำยทำ� กจิ กรรมโดยตลอดเพ่อื จะไดท้ รำบกำ� หนดนดั สถำนท่กี ำรชมุ นมุ วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้ำหมำย 5.2 การสืบสวนช่วงมีการกา� หนดนัดวนั ชุมนมุ จน งขณะ กิด หตกุ ารณชมุ นมุ สิ่งส�ำคัญท่ีต้องก�ำชับกับผู้ปฏิบัติโดยเฉพำะฝ่ำยสืบสวนที่ลงไปเก็บรวบรวมพยำนหลักฐำนในพื้นท่ี ตอ้ งค�ำนงึ ถงึ หว่ งโซ่กำรครอบครองพยำน คือ ตอ้ งมอี �ำนำจและหนำ้ ที่ในกำรสบื สวน แสวงหำข้อเทจ็ จริง ฉะน้นั เมอ่ื ทรำบก�ำหนดนดั ก่อนเร่มิ กำรปฏิบตั ิตอ้ งออกแผน ค�ำสั่ง ผนวกคำ� ส่งั กำรประกอบคำ� สงั่ แบ่งมอบพนื้ ทีแ่ ละ กำ� หนดหนำ้ ทค่ี วำมรบั ผดิ ชอบใหช้ ดั เจน ตลอดจนกำ� หนดตวั บคุ คลทจ่ี ะตอ้ งจดั กำรทำ� รำยงำนกำรสบื สวน และ ใหก้ ำรเป็นพยำนตอ่ พนกั งำนสอบสวนดว้ ย 5.2.1 กำรออกแผน/ค�ำสง่ั มอบหมำยหนำ้ ทฝ่ี ำ่ ยสืบสวนรับผดิ ชอบเมอ่ื ทรำบกำ� หนด เมอ่ื ปรำกฏวำ่ มกี ำรกำ� หนดนดั ชมุ นมุ ใหอ้ อกคำ� สงั่ มอบหมำยภำรกจิ ใหฝ้ ำ่ ยสบื สวน แบง่ มอบ พนื้ ท ี่ และหน้ำทค่ี วำมรบั ผดิ ชอบใหช้ ัดเจน เชน่ มหี น้ำทต่ี ดิ ตำมบคุ คลสำ� คญั แกนน�ำ กลมุ่ เครอื ขำ่ ย ผสู้ นับสนนุ สะกดรอยตดิ ตำมทงั้ ขำมำ-ขำกลบั รำยงำนควำมเคลอ่ื นไหว เกบ็ พยำนหลกั ฐำน ตดิ ตำมควำมเคลอื่ นไหวทำงสอื่ โซเชียลมเี ดีย กำรรำยงำนขำ่ วสำรจำกส่ือมวลชนแขนงตำ่ ง ๆ ชุดปฏิบัติกำรถ่ำยภำพน่ิง ภำพเคลอื่ นไหว บันทึก เสียงปรำศรัย ชดุ เกบ็ รวบรวมพยำนเอกสำร หรือหลกั ฐำนอ่นื ชุดปฏิบตั ิในกำร ภำพสด ใช้ C OO เกำะติดสถำนกำรณ์กำรชุมนุมอย่ำงต่อเน่ือง และให้พิจำรณำด้วยว่ำสำมำรถสืบค้นภำยหลังได้หรือไม ่ หำกไม่ได้ตอ้ งมีชดุ ปฏิบตั ิทร่ี บั ผดิ ชอบกำรบันทึกเทปไวด้ ว้ ย กำรตง้ั ศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์สบื สวนสอบสวน C C O C (CCOC) เพอื่ ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชำใชเ้ ปน็ ศนู ยอ์ ำ� นวยกำรสงั่ กำร เปน็ ทปี่ ระสำนขอ้ มลู กำรปฏบิ ตั ทิ งั้ สนบั สนนุ ผปู้ ฏบิ ัตใิ นพนื้ ที่ และรวบรวมข้อมลู เพอื่ วเิ ครำะห ์ ตดิ ตำมสถำนกำรณ์ กำ� หนดตวั บคุ คลทจ่ี ะจดั ทำ� ข้อมลู เพอื่ จะ ไดร้ ำยงำนผบู้ งั คบั บญั ชำไดอ้ ยำ่ งถกู ตอ้ ง และตอ้ งจดั ใหม้ ฝี ำ่ ยกฎหมำยวเิ ครำะหก์ ำรกระทำ� ควำมผดิ กำรปฏบิ ตั ิ ตำมอ�ำนำจหนำ้ ทขี่ องเจำ้ หนำ้ ท่ี เพือ่ สนบั สนุนข้อมลู แก่ผู้บังคบั บญั ชำดว้ ย ก�ำหนดเครือข่ำยกำรรำยงำนสถำนกำรณ์เฉพำะกิจ เช่น กลุ่มไลน์ ให้ ทกุ ชดุ ปฏบิ ตั กิ ำรในพน้ื ท ี่ กำ� หนดวงรอบกำรรำยงำนสถำนกำรณค์ วำมเคลอื่ นไหวทกุ หว้ งเวลำ เชน่ ถำ้ เหตกุ ำรณป์ กติ รำยงำนทกุ 30 นำท ี หำกมกี ำรยกระดบั สถำนกำรณอ์ ำจเรง่ ขน้ึ เปน็ 15 นำท ี หรอื 5 นำท ี หำกมสี ถำนกำรณส์ ำ� คญั ฉกุ เฉนิ ใหร้ ำยงำนทันท ี พร้อมรวบรวมขอ้ มลู ทง้ั หมดท่ไี ด้รับรำยงำนจำกสว่ นตำ่ ง ๆ จัดทำ� กระดำนสถำนกำรณ์ ก่อนเริ่มปฏิบัติตำมภำรกิจท่ีได้รับมอบหมำย จะต้องมีกำรเรียกประชุมซักซ้อมแผนกำร ปฏิบัติตำมพ้ืนที่และหน้ำท่ีควำมรับผิดชอบ ตรวจสอบควำมพร้อมของเครื่องมือ อุปกรณ์ กล้องถ่ำยภำพนิ่ง 76 คู่มือกำรปฏบิ ตั ิงำนตำมพระรำชบัญญตั ิกำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 76 11/17/2563 BE 12:40 PM

ภำพเคลื่อนไหว อุปกรณ์บันทึกเสียง ยำนพำหนะที่ใช้ในกำรสะกดรอยติดตำม ว่ำเคร่ืองมืออุปกรณ์ดังกล่ำว เพยี งพอและมคี วำมเหมำะสมกับภำรกิจหรือไม่ ตัวอย่างการแบง่ พืนทร่ี บั ผดิ ชอบ ตัวอย่ำงกำรแบ่งพ้ืนทรี่ บั ผดิ ชอบ กิจกรรมชมุ นุม ว่งิ ไลล่ ุง เม่อื วันท ี่ 12 ม.ค. 63 ณ สวนวชริ เบญจทศั (สวนรถไฟ) ตวั อย่ำงกำรแบ่งพ้นื ทรี่ บั ผดิ ชอบ กจิ กรรมชุมนมุ อำ่ นประกำศคณะรำษฎร เมอ่ื วันที ่ 2๔ มิ.ย. 63 บรเิ วณสกำยวอล์ค แยกปทมุ วัน 5.2.2 กำรปฏิบัติของฝำ่ ยสบื สวนในกำรเก็บรวบรวมพยำนหลักฐำนในวันที่มกี ำรชมุ นมุ จำกกำรถอดบทเรยี น กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู บคุ คลจำกกำรถำ่ ยภำพนงิ่ ภำพเคลอ่ื นไหวของ บุคคลใดบุคคลหน่ึง หำกผู้บันทึกภำพยังไม่ทรำบชื่อเป้ำหมำยในขณะน้ัน ให้ถ่ำยภำพหลำย ๆ มุมให้ชัดเจน รวมถงึ เสอ้ื ผำ้ เคร่ืองแต่งกำย รองเทำ้ นำ กำ เปน็ ต้น เพ่ือสำมำรถน�ำมำใชย้ ืนยนั ตัวบคุ คลในภำยหลงั และ กอ่ นนำ� ส่งขอ้ มลู ให้พนกั งำนสอบสวน ฝ่ำยข่ำว จะต้องแลกเปลี่ยนตรวจสอบข้อมูลให้ถกู ตอ้ งตรงกนั เสียกอ่ น ค่มู ือกำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมพระรำชบัญญัติกำรชมุ นมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2563) 77 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 77 11/17/2563 BE 12:40 PM

กำรสบื สวนตดิ ตำมตวั บคุ คลทเ่ี ปน็ แกนนำ� ทจี่ ะเดนิ ทำงมำยงั สถำนทชี่ มุ นมุ และกำรเดนิ ทำงกลบั ต้องได้ข้อมูลยำนพำหนะ มำอย่ำงไร กับใคร กลับอย่ำงไร กับใคร ไปยังสถำนที่ใด ไปพบกับผู้ใดอีกหรือไม่ หลงั กำรชุมนุม กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื สบื สวนถงึ กลมุ่ ผสู้ นบั สนนุ เชน่ คนจดั ทำ� ปำ้ ย เสอ้ื เวท ี เครอื่ งเสยี ง ยำนพำหนะทใ่ี ช้ขน และอุปกรณต์ ำ่ ง ๆ ทใี่ ช้ในกำรชุมนมุ กำรรำยงำนไปยงั CCOC จะตอ้ งรำยงำนทกุ ระยะตำมทไี่ ดก้ ำ� หนดนดั หมำยไว ้ และตอ้ งดำ� รง กำรติดต่อสอ่ื สำรไดต้ ลอดเวลำ 5.3 การสบื สวนหลัง กดิ หตุ 5.3.1 กำรเตรยี มข้อมลู เพอื่ รวบรวมเป็นพยำนหลักฐำน ลำ� ดับเหตุกำรณ์ของกำรชมุ นมุ ( ) รวบรวมภำพนงิ่ ภำพเคล่ือนไหว (บรรยำกำศ กำรชุมนุม ภำพแกนน�ำ/บุคคลส�ำคัญ, จุดสังเกตในพ้ืนท่ี) บันทึกเสียง ข้อควำมจำกป้ำยท่ีชูแสดงในท่ีชุมนุม ตลอดจนคำ� พูด ข้อควำมท่ีเขำ้ ขำ่ ยเปน็ ควำมผิดตำมกฎหมำย 5.3.2 กำรรำยงำนผบู้ ังคับบญั ชำ จดั ทำ� รำยงำนกำรสบื สวน พรอ้ มแนบพยำนหลกั ฐำน กำรถอดเทป แผน่ C บนั ทกึ ภำพ/เสยี ง ลงนำมในรำยงำนสืบสวน พร้อมระบุตัวเจ้ำหน้ำที่ฝ่ำยสืบสวนท่ีจะให้กำรเป็นพยำนในคดี แล้วเสนอรำยงำน กำรสืบสวนตอ่ ผบู้ ังคับบัญชำตำมลำ� ดบั ชน้ั (โดยประทับ ลบั มำก ) เพือ่ ใหพ้ นกั งำนสอบสวนน�ำเขำ้ ส่สู �ำนวน กำรสอบสวน ปญั หำอปุ สรรคทเี่ คยประสบจำกกำรรำยงำนขอ้ มลู ของฝำ่ ยสบื สวน ไดแ้ ก ่ เมอ่ื ตอ้ งกำรหำตวั เจ้ำหน้ำท่ีผู้รับผิดชอบในพื้นท่ี ไม่ทรำบว่ำจะต้องเรียกตัวผู้ใดมำสอบสวนเป็นพยำน เพรำะค�ำสั่งไม่ชัดเจน หรอื ไมม่ ีแผนรองรบั ไว้ กำรยืนยันตัวบุคคลของต�ำรวจฝ่ำยสืบสวนในพื้นท่ีจำกต่ำงหน่วยกัน เช่น สืบสวนพ้ืนท่ี สบื สวน บก. หรอื สันตบิ ำล ยนื ยันตวั บคุ คลไมต่ รงกนั จำกภำพของบุคคลคนเดยี วกนั ฉะนน้ั ในกำรบนั ทกึ ภำพ ต้องให้เห็นหน้ำ ตำ� หนิ เส้ือผ้ำ เครื่องแต่งกำยอื่นใหช้ ัดเจน เพอ่ื พสิ จู นต์ วั บคุ คลได้ กำรถอดเทปตอ้ งเนน้ ย�้ำกำรจดั ท�ำเอกสำรกำรถอดเทป ดังน้ี - ในกำรถอดเทป ตอ้ งถอดทกุ ค�ำพดู ตง้ั แต่ต้นจนจบ - หำกมีกำรสลับกันพูด ให้ข้ึนย่อหน้ำใหม่ว่ำใครเป็นคนพูด จนกระทั่งคนดังกล่ำวพูดจบ และสลับมำคนเดิมพูดกใ็ ห้ขึ้นยอ่ หน้ำใหม่อีกครั้งโดยระบุก่อนว่ำใครพูด - กรณีท่ียังไม่สำมำรถระบุตัวบุคคลที่กล่ำวค�ำปรำศรัยได้ ให้ระบุเคร่ืองแต่งกำย เส้ือผ้ำ รองเท้ำ เพือ่ ยืนยนั ตวั บคุ คลไว้กอ่ น เมื่อสำมำรถระบุยนื ยันตัวบคุ คลได้ภำยหลงั วำ่ เปน็ ใคร ให้มำระบุเพิม่ เติม ในคำ� ใหก้ ำรพยำนของผู้ถอดเทป - หำกมีกำรร้องเพลง ให้ถอดเน้ือร้องเพลงดว้ ย 78 คู่มอื กำรปฏบิ ัติงำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 78 11/17/2563 BE 12:40 PM

5.๔ การแตง่ ตังพนกั งานสอบสวน ผู้บังคับบัญชำจะต้องพิจำรณำในเบื้องต้นว่ำเหตุกำรณ์ที่เกิดข้ึนพนักงำนสอบสวนในท้องที่สำมำรถ ดำ� เนนิ กำรสอบสวนไดอ้ ยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพหรอื ไม ่ หำกเหน็ วำ่ เกนิ กำ� ลงั และขดี ควำมสำมำรถทพ่ี นกั งำนสอบสวน ท้องท่จี ะดำ� เนนิ กำรได้เอง กใ็ ห้รบี ดำ� เนนิ กำรแตง่ ตง้ั พนกั งำนสอบสวนระดบั กองบงั คับกำร/ต�ำรวจภูธรจงั หวัด กองบญั ชำกำร/ตำ� รวจภธู รภำค หรอื สำ� นกั งำนตำ� รวจแหง่ ชำต ิ แลว้ แตก่ รณ ี เปน็ พนกั งำนสอบสวนผรู้ บั ผดิ ชอบ กำรสอบสวนดำ� เนนิ คดี ในกรณที มี่ กี ำรแตง่ ตง้ั พนกั งำนสบื สวนสอบสวนขน้ึ รบั ผดิ ชอบคดดี งั กลำ่ ว ใหห้ วั หนำ้ พนกั งำนสอบสวน รวบรวมขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วกบั คดเี บอื้ งตน้ เรยี กประชมุ คณะพนกั งำนสบื สวนสอบสวน รวมถงึ พนกั งำนสอบสวนทอ้ งที่ เกิดเหตุ ชุดสืบสวน เจ้ำหนำ้ ทฝี่ ำ่ ยวิทยำกำร และเจำ้ หน้ำทฝ่ี ำ่ ยอ่นื ๆ ท่เี กย่ี วขอ้ ง เพอื่ ก�ำหนดแนวทำงสืบสวน สอบสวนก�ำหนดประเด็นกำรสอบสวน ข้อกล่ำวหำ แบ่งกลุ่มพยำนหลักฐำน ก�ำหนดวิธีกำรติดตำมพยำน มำสอบปำกคำ� กำรประสำนงำนหนว่ ยทเี่ กย่ี วขอ้ ง แบง่ มอบภำรกจิ ใหพ้ นกั งำนสอบสวนปฏบิ ตั ิ กำ� หนดระยะเวลำ กำรปฏบิ ตั ิ สง่ ของกลำงไปตรวจพสิ จู นแ์ ละตดิ ตำมผลมำประกอบสำ� นวน จดั ทำ� แผนผงั คดปี ระกอบดว้ ยพ ตกิ ำรณ์ แห่งคด ี วันเวลำสถำนทีเ่ กดิ เหตุ ผู้เสียหำย ผตู้ ้องหำหรอื ผู้ต้องสงสัย วตั ถุพยำนหรือของกลำง ควำมเชอ่ื มโยง ของคดหี รอื เหตอุ นื่ ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง จดั ทำ� แผนผงั สถำนทเี่ กดิ เหต ุ ภำพถำ่ ยของเหตกุ ำรณท์ สี่ ำ� คญั สถำนทเ่ี กยี่ วเนอื่ ง พร้อมท้ังมอบหมำยพนักงำนสอบสวนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบถือส�ำนวนกำรสอบสวนและเก็บรวบรวม พยำนหลกั ฐำนเขำ้ สสู่ ำ� นวน นอกจำกนคี้ วรทจ่ี ะกำ� หนดตวั บคุ คลทม่ี คี วำมรอบรแู้ ละเหมำะสม ทำ� หนำ้ ทเี่ สมอื น เป็นเลขำในคดีนั้น และเป็นผู้ที่รู้ข้อมูลรำยละเอียดท้ังหมดในคดี เพื่อให้ข้อมูลต่อคณะท�ำงำนในเร่ืองต่ำง ๆ ไดอ้ ยำ่ งครบถว้ นสมบรู ณ ์ เพอื่ ใหเ้ กดิ ควำมคลอ่ งตวั ในกำรทำ� คดดี งั กลำ่ วดว้ ย และควรมกี ำรแยกพยำนหลกั ฐำน ออกเปน็ กลมุ่ เช่น กลุ่มพยำนบุคคล ภำพถ่ำย ผลกำรตรวจ เอกสำรอ่นื ๆ เปน็ ตน้ 5.5 ส านท่สี า� หรับใชใ้ นการสอบสวน ดย ฉพาะ สถำนท่ีส�ำหรับใช้ในกำรสอบสวนคดีส�ำคัญหรือมีกำรสอบสวนบุคคลจ�ำนวนมำกควรจะหำสถำนที่ ไว้โดยเฉพำะ เช่น ห้องประชุมของ กองบังคับกำร/ต�ำรวจภูธรจังหวัด หรือ กองบัญชำกำร/ต�ำรวจภูธรภำค เป็นที่บัญชำกำรในกำรสอบสวนคดี หรือหัวหน้ำพนักงำนสืบสวนสอบสวนอำจก�ำหนดสถำนท่ีใดสถำนท่ีหนึ่ง เพอ่ื ควำมเหมำะสมในกำรสอบสวน ทงั้ นเ้ี พอ่ื ปอ้ งกนั มใิ หบ้ คุ คลอน่ื ทไ่ี มเ่ กย่ี วขอ้ งเขำ้ ไปในบรเิ วณทมี่ กี ำรสอบสวนคดี ดงั กลำ่ วเพอ่ื ควำมสะดวกในกำรสอบสวนปำกคำ� พยำน และจะตอ้ งไมใ่ หผ้ ทู้ ไี่ มม่ หี นำ้ ทเี่ กยี่ วขอ้ งเขำ้ ไปโดยเดด็ ขำด โดยเฉพำะนกั ขำ่ วทจ่ี ะไปหำขอ้ มลู ในทำงคดมี ำเสนอขำ่ วอนั เปน็ กำรเปดเผยรำยละเอยี ดของคด ี และควรกำ� ชบั พนกั งำนสบื สวนสอบสวนไมใ่ หข้ ำ่ วโดยเด็ดขำด กำรให้ขำ่ วให้เป็นหนำ้ ทีข่ องหัวหนำ้ พนักงำนสืบสวนสอบสวน เท่ำนัน้ ดังน้นั หนำ้ ประตูจึงควรปดข้อควำม ลับ ฉพาะ และตอ้ งไม่ใหค้ นภำยนอกเห็นควำมเคลื่อนไหวจำก ประตดู ำ้ นหนำ้ จงึ ควรปดทบึ ไว ้ นอกจำกน ี้ ควรมกี ำรจดั ทำ� รปู ถำ่ ย หรอื ภำพถำ่ ยของแกนนำ� สำ� คญั ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ในกำรด�ำเนินคดีให้ปรำกฏเพื่อควำมสะดวกในกำรสอบสวนปำกค�ำพยำนบุคคลเม่ือมีกำรอ้ำงถึงหรือพูดถึง บุคคลดังกล่ำว เพ่ือให้พนักงำนสอบสวนร่วมสอบสวนได้นึกภำพถึงบุคคลที่ถูกกล่ำวถึงและให้พยำนดูว่ำเป็น คนเดียวกนั กบั ทีใ่ หก้ ำรไวห้ รอื ไม่ อยำ่ งไร เพ่ือใหเ้ กิดควำมชดั เจนในกำรสอบสวน พร้อมท้ังจดั เตรยี มอปุ กรณ์ เครอื่ งมอื ตำ่ ง ๆ ทจี่ ำ� เปน็ เชน่ เครอ่ื งถำ่ ยเอกสำร เครอ่ื งปรนิ้ เตอร ์ ทมี่ คี วำมเรว็ กระดำษถำ่ ยเอกสำร และอปุ กรณ์ ในกำรท�ำงำนทกุ อยำ่ งไว้ใหพ้ ร้อมในกำรท�ำงำน คมู่ อื กำรปฏิบตั งิ ำนตำมพระรำชบญั ญัตกิ ำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2563) 79 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 79 11/17/2563 BE 12:40 PM

5.6 การรวบรวมพยานหลกั านตา่ ง ๆ แนวทำงปฏบิ ตั ทิ ี่ผ่ำนมำมีขนั้ ตอนต่ำง ๆ ดังน้ี 5.6.1 ในเขตพ้ืนที่ท่ีมี กำรชุมนุมสำธำรณะ เกิดข้ึนจะต้องเตรียมพร้อมในเรื่องกำรบันทึกเทป ค�ำปรำศรยั มีกำรจัดท�ำภำพนิ่ง ภำพเคลือ่ นไหวของกำรชมุ นมุ สำธำรณะต่ำง ๆ และใหจ้ ัดตง้ั งบประมำณจดั ซื้อ อุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมือทเ่ี ก่ยี วขอ้ งไว้โดยเฉพำะในแผนกำรจ่ำยงบประมำณดว้ ย เพอื่ ให้สำมำรถปฏบิ ัติภำรกจิ ได้ เพยี งพอ และควรมกี ำรสำ� รวจเครอื่ งมอื และอปุ กรณไ์ วใ้ หพ้ รอ้ มสำ� หรบั ภำรกจิ ดงั กลำ่ ว พรอ้ มทงั้ ใหจ้ ดั เจำ้ หนำ้ ที่ ผู้มีควำมรู้ควำมช�ำนำญในกำรจัดเก็บ รวบรวม ข้อมูลบันทึกเทป ค�ำปรำศรัย ภำพน่ิง ภำพเคลื่อนไหวของ กำรชุมนุมสำธำรณะไว้เป็นหลักฐำนทุกครั้ง ในกรณีท่ีมีกำรชุมนุมฝ่ำฝน พระรำชบัญญัติกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แต่เจ้ำหน้ำท่ีต�ำรวจไม่อำจด�ำเนินกำรจับกุมในขณะที่กระท�ำควำมผิดซึ่งหน้ำได้ เพรำะอำจเกิด ควำมวุ่นวำยหรือกำรจลำจลข้ึนนั้น ให้จัดเจ้ำหน้ำท่ีผู้มีทักษะ ควำมช�ำนำญในกำรบันทึกเทปค�ำปรำศรัย และถำ่ ยภำพดงั กลำ่ วไวเ้ พอ่ื เปน็ หลกั ฐำนประกอบกำรดำ� เนนิ คด ี และไมค่ วรเปลยี่ นหนำ้ ทแ่ี ตใ่ หม้ อบหมำยภำรกจิ เปน็ กำรเฉพำะตวั เมอ่ื มกี ำรบนั ทกึ เทปคำ� ปรำศรยั ไวแ้ ลว้ หำกในภำยหลงั ปรำกฏวำ่ คำ� ปรำศรยั ของแกนนำ� ผชู้ มุ นมุ มกี ำรกระทำ� ทเี่ ขำ้ องคป์ ระกอบควำมผดิ ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ ใหน้ ำ� ขอ้ มลู ดงั กลำ่ วนนั้ มำเปน็ พยำนหลกั ฐำน ในกำรสอบสวนดำ� เนินคดีกับบคุ คลนั้น 5.6.2 ขอหลกั ฐำนภำพถำ่ ยเหตกุ ำรณส์ ำ� คญั กำรชมุ นมุ สำธำรณะหรอื เหตกุ ำรณก์ ำรกระทำ� ผดิ ของ ผชู้ มุ นุมตลอดถึงบคุ คลอื่นทร่ี ่วมกระท�ำควำมผิดในเหตุกำรณต์ ำ่ ง ๆ ท่เี กิดขึน้ จำกสอ่ื มวลชนต่ำง ๆ ทแี่ พร่ภำพ มำเป็นหลักฐำนเพื่อให้ทรำบว่ำแกนน�ำและผู้ที่ร่วมกระท�ำผิดเป็นผู้ใดบ้ำง เพ่ือใช้เป็นพยำนหลักฐำนในกำร ร้องขอต่อศำลเพื่อออกหมำยจับและติดตำมจบั กุมตวั ผู้กระท�ำควำมผดิ มำดำ� เนินคดีโดยเรว็ 5.6.3 จัดชุดท�ำงำนเพื่อถอดเทปค�ำปรำศรัยของผู้ชุมนุมให้ได้ผลค�ำปรำศรัยโดยเร็วแล้วส่งผล กำรถอดเทปใหช้ ดุ วเิ ครำะหค์ ำ� ปรำศรยั ทแ่ี ตง่ ตง้ั ขน้ึ โดยผทู้ มี่ คี วำมรคู้ วำมสำมำรถในทำงกฎหมำยรว่ มกนั วเิ ครำะห์ ว่ำค�ำปรำศรัยดังกล่ำวเข้ำข่ำยเป็นควำมผิดฐำนใด ตำมกฎหมำยใด เพ่ือน�ำไปสู่กำรรวบรวมพยำนหลักฐำน ในกำรดำ� เนนิ คดกี บั บคุ คลดงั กลำ่ วตำมฐำนควำมผดิ ทก่ี ระทำ� ควำมผดิ ตอ่ ไป ในสว่ นของ กองบญั ชำกำร/ตำ� รวจภธู รภำค อำจตอ้ งตงั้ คณะทำ� งำนสำ� หรบั ถอดเทปคำ� ปรำศรยั ของกลมุ่ ผชู้ มุ นมุ ขน้ึ เพอื่ ถอดเทปคำ� ปรำศรยั ดงั กลำ่ วใหเ้ สรจ็ สนิ้ โดยเร็วเพรำะในทำงปฏิบัติท่ีผ่ำนมำบุคคลท่ีถูกพำดพิงถึง มักต้องกำรหลักฐำนค�ำปรำศรัยจำกกำรถอดเทป ดังกล่ำว จึงขอให้ระมัดระวังในกรณีที่มีกำรปรำศรัยของผู้ชุมนุมท่ีพำดพิงถึงบุคคลส�ำคัญหรือผู้บังคับบัญชำ ระดับตำ่ งๆ ในส�ำนกั งำนตำ� รวจแหง่ ชำติ หำกมีกำรชุมนมุ สำธำรณะอยำ่ งต่อเนื่องตดิ ต่อกันหลำยวนั ให้จดั ชุด เจ้ำหน้ำท่ีถอดเทปค�ำปรำศรัยโดยผลัดเปลี่ยนกันท�ำหน้ำท่ีในจ�ำนวนที่เพียงพอ และให้จัดระบบให้ชัดเจนว่ำ เจ้ำหน้ำท่ีคนใดถอดเทปในช่วงเวลำใด วันที่เท่ำไร เน่ืองจำกเจ้ำหน้ำที่ผู้ถอดเทปค�ำปรำศรัยจะต้องถูกสอบ ปำกคำ� เปน็ พยำนประกอบคดใี นคดนี นั้ นอกจำกนใ้ี หฝ้ ำ่ ยสบื สวนไปทำ� กำรตรวจสอบ (ควรมกี ำรตรวจสอบทำง ทะเบยี นรำษฎรด์ ้วย) ชอ่ื นำมสกลุ และจดั หำรูปถ่ำยท้งั ปจั จบุ นั และตำมบตั รประจ�ำตวั ประชำชนของแกนนำ� ผู้ชุมนุม หรือผู้ที่ปรำศรัยมำจัดท�ำไว้ท่ีบอร์ดเพื่อให้เจ้ำหน้ำท่ีชุดถอดเทปค�ำปรำศรัยได้ทรำบว่ำชื่อ นำมสกุล และผู้ท่ปี รำศรยั คือผู้ใด ชื่อนำมสกลุ ใด 5.6.๔ เมอ่ื ไดจ้ ดั ทำ� บนั ทกึ เทปคำ� ปรำศรยั และภำพนงิ่ ภำพเคลอ่ื นไหวของกำรชมุ นมุ สำธำรณะไวเ้ ปน็ หลกั ฐำนพร้อมทั้งทำ� บันทกึ ถอดเทปค�ำปรำศรัยแลว้ ใหพ้ จิ ำรณำวำ่ กำรกระทำ� ดงั กลำ่ วของผู้ชมุ นมุ สำธำรณะ เข้ำข่ำยเป็นควำมผดิ อำญำฐำนใด 80 คูม่ อื กำรปฏบิ ัติงำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนมุ สำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 80 11/17/2563 BE 12:40 PM

5.6.5 กรณที ผ่ี คู้ วบคมุ กำ� ลงั นำ� กำ� ลงั เจำ้ หนำ้ ทตี่ ำ� รวจไปทำ� กำรผลดั เปลย่ี นกำ� ลงั พลชดุ เดมิ ทป่ี ฏบิ ตั ิ หนำ้ ทอี่ ยใู่ นพืน้ ทีท่ ่มี ีกำรชุมนมุ แตใ่ นระหว่ำงท่เี ดนิ ทำงน�ำก�ำลงั ไปสับเปลี่ยนไดถ้ ูกผู้ชุมนมุ เขำ้ ขดั ขวำง หรือใช้ รถยนต์จอดขวำงเส้นทำงกำรไปปฏิบัติหน้ำที่ตำมกฎหมำยของเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจ หำกเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจมีก�ำลัง เพียงพอและสำมำรถผลักดันให้ผู้ชุมนุมยอมถอยและอยู่ในวิสัยที่สำมำรถจับกุมผู้ท่ีขัดขวำงกำรปฏิบัติหน้ำที่ ตำมกฎหมำยของเจ้ำหน้ำทตี่ �ำรวจได้ ใหจ้ บั กุมดำ� เนินคดที นั ที เว้นแตก่ รณีอยู่ในวิสัยทีไ่ ม่อำจตำ้ นกำรขัดขวำง หรือเกรงว่ำหำกเข้ำจับกุมแล้วจะเกิดควำมวุ่นวำยหรือกำรจลำจลขึ้นได้ หลังเหตุกำรณ์ผ่ำนพ้นไปให้ถือเป็น หลกั ปฏิบัตวิ ำ่ ผ้ทู ค่ี วบคมุ กำ� ลงั จะตอ้ งไปแจง้ ควำมรอ้ งทุกขใ์ ห้ดำ� เนินคดกี บั ผู้กระทำ� ควำมผิดทกุ รำย มใิ ห้ปล่อย ให้เหตุกำรณ์กระท�ำควำมผิดดังกล่ำวผ่ำนพ้นไปโดยท่ีเจ้ำหน้ำท่ีต�ำรวจมิได้ด�ำเนินกำรให้เป็นไปตำมกฎหมำย ทัง้ ทีพ่ บกำรกระท�ำควำมผดิ 5.6.6 กำรรวบรวมพยำนหลกั ฐำน กอ่ นจะมกี ำรออกหมำยเรยี ก หรอื ยน่ื คำ� รอ้ งขอหมำยจบั ตอ่ ศำล ให้มีกำรประชุมคณะพนักงำนสอบสวนเพื่อสรุปพยำนหลักฐำนในคดี ว่ำผู้กระท�ำผิดแต่ละรำยมีพยำน หลักฐำนใดยืนยันกำรกระท�ำผิดแล้วบ้ำง เพียงพอหรือไม่ เช่น รำยงำนกำรสืบสวนของฝ่ำยสืบสวน พยำนบุคคลท้ังเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจ พยำนบุคคลอื่น ค�ำถอดเทปปรำศรัย แผ่นซีดีบันทึกภำพ บันทึกเสียง พยำนเอกสำร พยำนวตั ถุ ตลอดจนพยำนหลักฐำนอืน่ และมีควำมเหน็ รว่ มกนั ว่ำเป็นควำมผิดฐำนใด 5.6.7 จะต้องเตรียมก�ำหนดรูปแบบกำรน�ำเสนอสรุปพยำนหลักฐำนให้ผู้บังคับบัญชำทรำบ โดยค�ำนงึ ถงึ วิธกี ำรน�ำเสนอใหผ้ บู้ ังคับบญั ชำเขำ้ ใจได้โดยงำ่ ย เชน่ ก�ำหนดรปู แบบเป็นตำรำง 5.7 การสืบสวนตดิ ตามจับกุมบุคคลทตี่ ้องสงสัยหรือผู้ต้องหาตามหมายจบั ของศาล เมอื่ มกี ำรแตง่ ตง้ั พนกั งำนสบื สวนในคดสี ำ� คญั ในระดบั สำ� นกั งำนตำ� รวจแหง่ ชำต ิ กองบญั ชำกำร/ตำ� รวจภธู รภำค โดยระดมเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจฝ่ำยสืบสวนท่ีมีขีดควำมสำมำรถ ทักษะและควำมช�ำนำญโดยเฉพำะในด้ำน กำรสบื สวน หำขำ่ ว กำรตดิ ตำมแหลง่ ทพ่ี กั พงิ ของผกู้ ระทำ� ควำมผดิ โดยกำรประสำนงำนในดำ้ นกำรขำ่ วกบั หนว่ ย ท่ีเก่ียวข้อง เพื่อติดตำมจับกุมบุคคลที่ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหำตำมหมำยจับของศำลในแต่ละคดีมำด�ำเนินคดี ใหไ้ ดโ้ ดยเรว็ โดยกระทำ� ในลกั ษณะเชงิ รกุ อยำ่ งจรงิ จงั และตอ่ เนอื่ งควบคไู่ ปกบั กำรประเมนิ สถำนกำรณ ์ บรรยำกำศ ควำมตงึ เครยี ดฝำ่ ยผชู้ มุ นมุ พรอ้ มกบั มกี ำรประชำสมั พนั ธผ์ ลกำรจบั กมุ ใหท้ รำบทำงสอ่ื ตำ่ ง ๆ หรอื ผำ่ นทำงโ ษก ส�ำนกั งำนต�ำรวจแหง่ ชำติ เพื่อแถลงผลกำรปฏิบัตงิ ำนของเจำ้ หนำ้ ท่ีต�ำรวจใหท้ รำบทุกระยะอยำ่ งเป็นรูปธรรม 5.8 การจบั กมุ และควบคุมตัว เมอื่ ปรำกฏจำกกำรสอบสวนวำ่ ผใู้ ดเปน็ ผกู้ ระทำ� ควำมผดิ อำญำ และเปน็ ควำมผดิ ตำมประมวลกฎหมำย อำญำ พนักงำนสอบสวนด�ำเนินกำรร้องขอต่อศำลออกหมำยจับและด�ำเนินกำรจับกุมตัวมำด�ำเนินคดีหรือ รบั มอบตวั ผตู้ อ้ งหำในกรณผี ตู้ อ้ งหำเขำ้ มอบตวั ในขน้ั ตอนนจี้ ะตอ้ งมกี ำรวำงแผนประสำนหนว่ ยกำ� ลงั เพอ่ื จดั กำ� ลงั เจ้ำหน้ำท่ีต�ำรวจควบคุมผู้ต้องหำ ยำนพำหนะ ก�ำลังพลในกำรน�ำตัวผู้ต้องหำเดินทำงไปสถำนที่ควบคุม หรอื ไปศำล เพรำะอำจเกิดเหตุชงิ ตัวผูต้ อ้ งหำ หรอื เหตรุ ้ำยอน่ื ข้นึ ได้ สำ� หรบั สถำนที่ควบคุมตอ้ งพิจำรณำตำม ควำมเหมำะสมกบั สถำนกำรณโ์ ดยกรณดี งั กลำ่ วมกี ำ� หนดไวต้ ำมประมวลตำ� รวจเกยี่ วกบั คด ี ลกั ษณะ 6 บทท ่ี 2 ข้อ 139 วำ่ กำรควบคุมผจู้ บั ไว้ทีส่ ถำนตี ำ� รวจนน้ั ตำมปกตใิ ห้ควบคมุ ไว้ในห้องควบคุม หำกผ้ตู ้องถกู ควบคมุ มีมำกไม่สำมำรถจะน�ำตัวเข้ำควบคุมในห้องควบคุมได้ท้ังหมด หรือมีเหตุจ�ำเป็นอย่ำงอ่ืน เช่น ผู้ต้องหำหญิง และไม่มหี อ้ งควบคมุ ทจ่ี ัดไว้โดยเฉพำะ เปน็ ตน้ ใหน้ ำยต�ำรวจผเู้ ปน็ หัวหนำ้ ผรู้ ับผดิ ชอบ คู่มือกำรปฏิบัติงำนตำมพระรำชบัญญัตกิ ำรชุมนมุ สำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนมุ สำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2563) 81 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 81 11/17/2563 BE 12:40 PM

ในสถำนีต�ำรวจแห่งนั้น จัดสถำนที่ควบคุมข้ึนเป็นพิเศษเฉพำะครำวได้ ฉะนั้นในกรณีมีกำรจับกุม ผกู้ ระทำ� ผดิ เกย่ี วกบั สถำนกำรณค์ วำมไมส่ งบ หำกเหน็ วำ่ จะควบคมุ ตวั ผนู้ นั้ ไวท้ ส่ี ถำนตี ำ� รวจเปน็ กำรไมป่ ลอดภยั กส็ ำมำรถนำ� ไปควบคมุ ในสถำนทอ่ี นื่ ทเี่ หน็ วำ่ มคี วำมปลอดภยั ได ้ โดยใหเ้ ปน็ ดลุ ยพนิ จิ ของหวั หนำ้ พนกั งำนสอบสวน อดบท รยี นแนวคดิ ในการจับกุม ให้ค�านง งสิง่ ดงั ตอ่ ปนี 1. ในชุดปฏิบัติกำรจับกุม ให้มีต�ำรวจในเครื่องแบบ หำกผู้ถูกจับเป็นหญิงต้องใช้ต�ำรวจหญิง รว่ มทำ� กำรจบั กุม โดยใหต้ �ำรวจหญงิ เป็นผคู้ ้นตัวผ้ถู ูกจับกุม 2. ในชุดจับกุมให้มอบหมำยคนรับผิดชอบแสดงและอ่ำนหมำยจับ แจ้งสิทธิของผู้ถูกจับ ณ จุดจับกุม ในระหว่ำงนั้น ให้จัดผู้รับผิดชอบบันทึกวิดีโอ ขณะท�ำกำรจับกุมโดยตลอด เพ่ือให้เป็นหลักฐำนว่ำ กำรจับกุมปฏิบัติไปโดยชอบ แล้วรีบไปยังที่ท�ำกำรของพนักงำนสอบสวนแห่งท้องที่ท่ีจับกุม เว้นแต่สำมำรถ น�ำไปท่ีท�ำกำรของพนักงำนสอบสวนผู้รับผิดชอบได้ในขณะนั้น หำกในระหว่ำงกำรจับกุมมีกำรขัดขืน กำรใช้ ยทุ ธวธิ ใี นกำรจับกุมให้เป็นไปด้วยควำมละมุนละม่อม หำกจำ� เปน็ ตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งพนั ธนำกำร ต้องพจิ ำรณำตำม ควำมเหมำะสม เชน่ อำจใชส้ ำยรดั ขอ้ นวิ้ แทนกญุ แจมอื ใชห้ ลกั ยทุ ธวธิ ใี นกำรจบั กมุ กรณหี ำกขดั ขนื เขำ้ คสู่ องนำย สอดแขน ยกตวั ลอย หรอื ส่ีนำย ยกขำท้ังสองข้ำงดว้ ยทำ่ นอน 3. ในกำรจับกุมหำกมีกำรขัดขืนก็ให้ออกค�ำสั่งผู้ต้องหำ หยุดกำรขัดขืน โดยแจ้งให้ทรำบว่ำ อำจเปน็ กำรขัดค�ำส่ังของเจำ้ พนักงำนซง่ึ ปฏบิ ัติกำรตำมหนำ้ ท ี่ หำกมกี ำรต่อส ู้ ขดั ขวำง กำรจบั กุม จะตอ้ งแจ้ง ข้อหำตอ่ สขู้ ดั ขวำงเจำ้ พนักงำนด้วย ๔. ให้มีกำรตรวจร่ำงกำยผู้ต้องหำด้วยทุกคร้ังขณะส่งมอบตัวต่อพนักงำนสอบสวน เพ่ือป้องกัน กำรถูกกล่ำวหำว่ำ มีกำรทำ� ร้ำยร่ำงกำยขณะที่มีกำรจับกมุ และควบคมุ 5. ต้องซักซ้อม เตรียมควำมพร้อมของพนักงำนสอบสวนในกำรรับตัว ลงบันทึกประจ�ำวัน แจง้ สทิ ธติ ำมกฎหมำย จดั พนกั งำนสอบสวนใหเ้ พยี งพอตอ่ กำรสอบปำกคำ� ผตู้ อ้ งหำ พมิ พล์ ำยนวิ้ มอื เพอื่ ตรวจสอบ ประวัติ จัดท�ำค�ำร้องขอฝำกขังและเร่งรัดน�ำตัวไปศำลโดยด่วน เพ่ือหลีกเล่ียงมวลชนมำปดล้อมท่ีท�ำกำร เพ่อื กดดนั ให้ปลอ่ ยตัวผู้ต้องหำ 6. ผบู้ ังคับบญั ชำจกั ต้องจดั เตรยี มก�ำลังตำ� รวจควบคุมฝูงชนเพื่อสนับสนุนกำรปฏบิ ตั ิ ณ ทท่ี ำ� กำร ของพนกั งำนสอบสวนข้ำงต้นดว้ ย 7. ใหจ้ ัดทีมสบื สวนเสน้ ทำงกำรเงิน โดยรว่ มกับ บก.ปอศ. ด้วย 82 คมู่ ือกำรปฏิบตั ิงำนตำมพระรำชบัญญตั ิกำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชุมนมุ สำธำรณะ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 82 11/17/2563 BE 12:40 PM

5.9 ส านทคี่ วบคุมตวั กรณี ปนการควบคุมตัวผู้ กู จบั หรอื ผู้ตอ้ งหา ตามประมวลก หมายวธิ พี ิจารณาความอาญา 5.9.1 กำรควบคุมตัวผู้ถูกจับ มีก�ำหนดไว้ตำมประมวลระเบียบต�ำรวจเก่ียวกับคดี ลักษณะ 6 กำรควบคมุ ตวั บทท่ ี 2 กำรควบคมุ ตัวผู้ถูกจับไว้ทีส่ ถำนีต�ำรวจ ข้อ 139 วรรคแรก กำ� หนดว่ำ กำรควบคมุ ตัว ผถู้ กู จบั ไวท้ สี่ ถำนตี ำ� รวจนน้ั ตำมปกตใิ หค้ วบคมุ ไวใ้ นหอ้ งควบคมุ และวรรคสอง กำ� หนดวำ่ หำกผตู้ อ้ งถกู ควบคมุ มมี ำกไมส่ ำมำรถจะนำ� ตวั เขำ้ ควบคมุ ในหอ้ งควบคมุ ไดท้ ง้ั หมด หรอื มเี หตจุ ำ� เปน็ อยำ่ งอนื่ เชน่ ผตู้ อ้ งหำเปน็ หญงิ และไมม่ หี อ้ งควบคุมซง่ึ จัดไวโ้ ดยเฉพำะเปน็ ตน้ ใหน้ ำยตำ� รวจที่เป็นหวั หนำ้ ผู้รบั ผดิ ชอบในสถำนตี ำ� รวจแห่งนน้ั จัดสถำนท่ีควบคุมขึ้นเป็นพิเศษเป็นกำรเฉพำะครำวได้ เห็นว่ำกำรควบคุมผู้ถูกจับในอ�ำนำจของพนักงำน สอบสวนก่อนน�ำตัวผู้ต้องหำไปผัดฟ้องฝำกขังต่อศำล ตำมระเบียบก�ำหนดให้ควบคุมไว้ในห้องควบคุมสถำนี ต�ำรวจ แต่หำกมีควำมจ�ำเป็นไม่สำมำรถน�ำตัวเข้ำควบคุมในห้องควบคุมได้ ก็ให้นำยต�ำรวจท่ีเป็นหัวหน้ำ ผรู้ บั ผดิ ชอบจดั สถำนทคี่ วบคมุ ขนึ้ เปน็ พเิ ศษเปน็ กำรเฉพำะครำวได ้ เชน่ สำ� นกั งำนตำ� รวจแหง่ ชำต ิ อำจกำ� หนดให้ กองบังคับกำรต�ำรวจตระเวนชำยแดน ภำค 1 เป็นที่ควบคุมผู้ถูกจับในกรณีกำรชุมนุมทำงกำรเมืองของ กลมุ่ ผชู้ มุ นมุ ซงึ่ สำมำรถดำ� เนนิ กำรได ้ ทง้ั นข้ี นึ้ อยกู่ บั เหตผุ ลและควำมจำ� เปน็ ตลอดจนสถำนกำรณท์ เี่ กดิ ขนึ้ ดว้ ย 5.9.2 ตำมประมวลกฎหมำยวิธีพจิ ำรณำควำมอำญำ มำตรำ 89/1 วรรคแรก บญั ญตั ิว่ำ ในกรณี ท่ีมีเหตุจ�ำเป็นระหว่ำงสอบสวนหรือพิจำรณำ เมื่อพนักงำนสอบสวน พนักงำนอัยกำร ผู้บัญชำกำรเรือนจ�ำ หรือเจ้ำพนักงำนผู้มีหน้ำท่ีจัดกำรตำมหมำยขังร้องขอ หรือเม่ือศำลเห็นสมควรศำลจะส่ังให้ขังผู้ต้องหำหรือ จ�ำเลยไว้ในสถำนท่ีอ่ืนตำมท่ีบุคคลดังกล่ำวร้องขอ หรือตำมท่ีศำลเห็นควรนอกจำกเรือนจ�ำก็ได้ โดยให้อยู่ใน ควำมควบคุมของผู้ร้องขอ หรือเจำ้ พนกั งำนท่ศี ำลก�ำหนด ในกำรนศี้ ำลจะก�ำหนดระยะเวลำท่ศี ำลเห็นสมควร กไ็ ด้ และรฐั มนตรีวำ่ กำรกระทรวงยตุ ธิ รรมได้ออกกฎกระทรวง กำ� หนดสถำนที่อืน่ ทใี่ ชใ้ นกำรขัง จำ� คกุ หรือ ควบคมุ ตวั ผตู้ ้องหำ จำ� เลย หรอื ผู้ซึง่ ตอ้ งจ�ำคกุ ตำมคำ� พิพำกษำถึงท่ีสดุ พ.ศ.2552 โดยกำ� หนดใหเ้ ป็นอำ� นำจ ของปลัดกระทรวงยุติธรรมท่ีจะก�ำหนดให้สถำนที่ใดเป็นสถำนท่ีขัง ซึ่งจะต้องประสำนงำนกับเจ้ำหน้ำที่ กรมรำชทัณ ์ กระทรวงยุติธรรม ด้วย ในกรณีที่จะขอให้กำ� หนดสถำนท่ีขังตำมกฎกระทรวงข้ำงต้นจะต้องมี หนังสอื ถึงปลัดกระทรวงยุตธิ รรมเพอื่ ขอให้ประกำศสถำนท่ขี ัง โดยจะตอ้ งมรี ำยละเอียดประกอบกำรพิจำรณำ ได้แก่ แผนที่แสดงอำณำเขตสถำนท่ีขัง และบัญชีรำยชื่อเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจที่ปฏิบัติหน้ำท่ีเป็นผู้ควบคุมพิเศษ เพื่อปฏิบัติหน้ำที่ควบคุมผู้ต้องหำ ซ่ึงอำจจะก�ำหนดให้ กองบังคับกำรต�ำรวจตระเวนชำยแดน ภำค 1 เปน็ สถำนทขี่ ัง ตำมประมวลกฎหมำยวธิ ีพจิ ำรณำควำมอำญำ มำตรำ 89/1 กไ็ ด้ โดยให ้ กองบังคบั กำรตำ� รวจ ตระเวนชำยแดน ภำค 1 จัดท�ำแผนที่แสดงอำณำเขตสถำนท่ีขัง พร้อมจัดท�ำบัญชีรำยช่ือข้ำรำชกำรต�ำรวจ ที่จะปฏิบัติหน้ำที่เป็นผู้ควบคุมพิเศษ เสนอมำยังส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติ เพ่ือส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติ จะไดป้ ระมวลเรื่องแจ้งใหก้ ระทรวงยุติธรรมพิจำรณำประกำศเปน็ สถำนทข่ี งั ตอ่ ไป 5.9.3 กรณีผู้ต้องหำไม่ใช่ผู้ถูกจับและยังไม่ได้มีกำรออกหมำยจับ เม่ือได้มีกำรแจ้งข้อหำแล้ว แต่ พนักงำนสอบสวนเห็นว่ำมีเหตุที่จะออกหมำยขังผู้นั้นได้ตำมมำตรำ 71 แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำ ควำมอำญำ พนักงำนสอบสวนมีอ�ำนำจส่งั ใหผ้ ตู้ ้องหำไปศำลเพ่อื ขอออกหมำยขงั โดยทนั ที แต่ถำ้ ขณะนัน้ เป็น เวลำท่ีศำลปดหรือใกล้จะปดท�ำกำรให้พนักงำนสอบสวนสั่งให้ผู้ต้องหำไปศำลในโอกำสแรกที่ศำลเปดท�ำกำร กรณีเช่นว่ำนีใ้ หน้ �ำมำตรำ 87 แห่งประมวลกฎหมำยวธิ พี จิ ำรณำควำมอำญำ มำใชบ้ ังคับแกก่ ำรพิจำรณำออก หมำยขังโดยอนุโลม หำกผู้ต้องหำไม่ปฏิบัติตำมค�ำส่ังของพนักงำนสอบสวนดังกล่ำว ให้พนักงำนสอบสวน คู่มือกำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดูแลกำรชมุ นมุ สำธำรณะ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2563) 83 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 83 11/17/2563 BE 12:40 PM

มอี ำ� นำจจับผ้ตู อ้ งหำนัน้ ได ้ โดยถอื วำ่ เป็นกรณจี ำ� เป็นเรง่ ด่วนที่จะจบั ผตู้ อ้ งหำไดโ้ ดยไมม่ ีหมำยจบั และมอี �ำนำจ ปลอ่ ยชั่วครำวหรอื ควบคมุ ตัวผู้ต้องหำนั้นไว้ 5.๑ การสรปุ ส�านวนการสอบสวนและการทา� ความ หนทางคดี ให้ค�ำนึงถึงอ�ำนำจหน้ำที่ตำมค�ำสั่งแต่งต้ังคณะพนักงำนสอบสวน กำรด�ำเนินกำรสอบสวนรวบรวม พยำนหลักฐำน ควรต้องควบคุมและเร่งรัดติดตำมผลกำรสอบสวนด�ำเนินคดีดังกล่ำวอย่ำงต่อเน่ืองเป็นกรณี พิเศษ ไม่ควรปล่อยใหค้ ดีดังกลำ่ วเน่ินนำนหรือล่ำช้ำโดยใชเ่ หตุ ดงั น้นั จะตอ้ งรีบเร่งรัดสอบสวนคดดี ังกลำ่ วให้ เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว ก่อนที่จะมีกำรสรุปส�ำนวนกำรสอบสวน จะต้องมีกำรประชุมของคณะพนักงำนสอบสวน ทุกนำย เพื่อให้มีควำมเห็นทำงคดี และจัดท�ำบันทึกกำรประชุมไว้เป็นหลักฐำน ในส่วนกำรเสนอส�ำนวน กำรสอบสวนให้ผบู้ งั คับบัญชำพจิ ำรณำมคี วำมเหน็ ทำงคดใี ห้เปน็ ไปตำมระเบยี บทเ่ี กยี่ วข้อง 5.๑๑ การคุ้มครองพยานและการสืบพยาน วล้ ว่ งหนา้ กำรขอกำรคุ้มครองพยำนน้ัน เป็นกรณีที่มีควำมส�ำคัญเป็นอย่ำงยิ่งเน่ืองจำกมีควำมเกี่ยวพันกับ กำรพิสูจน์ข้อเท็จจริงในทำงคดี จึงเป็นหน้ำท่ีของพนักงำนสอบสวนและเจ้ำหน้ำที่ที่เกี่ยวข้องท่ีจะต้องให้ ควำมคมุ้ ครองพยำน ทั้งนี้ในส่วนทีเ่ กยี่ วกับกำรคุ้มครองพยำนนัน้ ให้ปฏบิ ตั ิตำมบทบญั ญตั ิของพระรำชบญั ญตั ิ คมุ้ ครองพยำนในคดอี ำญำ พ.ศ.25๔6 นอกจำกน ี้ ในสว่ นของกำรสบื พยำนลว่ งหนำ้ ตำมประมวลกฎหมำยวธิ พี จิ ำรณำควำมอำญำนนั้ มกี รณี ทีเ่ กย่ี วข้องกับพนกั งำนสอบสวนอยู่ ๔ กรณ ี คือ 5.11.1 กำรสืบพยำนล่วงหน้ำก่อนฟ้องคดีต่อศำลตำมมำตรำ 237 ทวิ ซึ่งเป็นกรณีท่ีมีเหตุ อันควรเช่ือได้ว่ำพยำนบุคคลจะเดินทำงออกไปนอกรำชอำณำจักร ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือเป็นบุคคล มีถิ่นที่อยู่ห่ำงไกลจำกศำลที่พิจำรณำคดี หรือมีเหตุอันควรเช่ือว่ำจะมีกำรยุ่งเหยิงกับพยำนไม่ว่ำโดยทำงตรง หรือทำงอ้อม หรือมีเหตุจ�ำเป็นอื่นอันเป็นกำรยำกแก่กำรน�ำพยำนนั้นมำสืบในภำยหน้ำ พนักงำนสอบสวน อำจรอ้ งขอตอ่ พนักงำนอัยกำรให้ย่ืนคำ� รอ้ งตอ่ ศำลเพือ่ สืบพยำนลว่ งหนำ้ กอ่ นฟ้องคดกี ็ได้ 5.11.2 กำรสืบพยำนล่วงหน้ำหลังฟ้องคดีต่อศำล แต่ก่อนถึงก�ำหนดวันนัดสืบพยำน ตำมมำตรำ 173/2 วรรคสอง ในกรณจี ำ� เปน็ เพื่อประโยชนแ์ ห่งควำมยตุ ธิ รรม เมอื่ ศำลเห็นสมควรหรอื ค่คู วำม ฝ่ำยหน่ึงฝ่ำยใดร้องขอ ศำลจะมีค�ำส่ังให้สืบพยำนหลักฐำนที่เก่ียวกับประเด็นส�ำคัญในคดีไว้ล่วงหน้ำก่อนถึง ก�ำหนดวนั นดั สบื พยำนก็ได้ 5.11.3 กำรสบื พยำนลว่ งหนำ้ หลงั ฟอ้ งคด ี แตก่ อ่ นถงึ กำ� หนดวนั สบื พยำน ตำมมำตรำ 55/1 ในคดี ท่ีพนักงำนอัยกำรเป็นโจทก์ ถ้ำศำลมีค�ำสั่งให้ออกหมำยเรียกพยำนโจทก์ โดยมิได้ก�ำหนดวิธีกำรส่งไว ้ ให้พนกั งำนอยั กำรมีหน้ำที่ด�ำเนินกำรให้หัวหน้ำพนกั งำนสอบสวนแห่งทอ้ งที่ทีเ่ ป็นผจู้ ดั ส่งหมำยเรียกแก่พยำน และติดตำมพยำนโจทก์มำศำลตำมก�ำหนดนัดแล้วแจ้งผลกำรส่งหมำยเรียกไปยังศำลและพนักงำนอัยกำร โดยเร็ว หำกปรำกฏว่ำพยำนโจทก์มีเหตุขัดข้องไม่อำจมำศำลได้หรือเกรงว่ำจะเป็นกำรยำกที่จะน�ำพยำนน้ัน มำสืบตำมที่ศำลนัดไว้ ก็ให้พนักงำนอัยกำรขอให้ศำลสืบพยำนนั้นไว้ล่วงหน้ำตำมมำตรำ 173/2 วรรคสอง 5.11.๔ กำรสืบพยำนหลักฐำนทำงวิทยำศำสตร์ล่วงหน้ำก่อนฟ้องคดี มำตรำ 2๔๔/1 วรรคสำม ในกรณที พ่ี ยำนหลกั ฐำนทำงวทิ ยำศำสตรส์ ำมำรถพสิ จู นใ์ หเ้ หน็ ถงึ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทอี่ ำจทำ� ใหศ้ ำลวนิ จิ ฉยั ชขี้ ำดคดไี ด ้ 8๔ คู่มอื กำรปฏบิ ตั ิงำนตำมพระรำชบญั ญัตกิ ำรชมุ นุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2563) ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 84 11/17/2563 BE 12:40 PM

โดยไม่ต้องสืบพยำนหลักฐำนอื่นอีก หรือมีเหตุอันควรเช่ือได้ว่ำหำกมีกำรเนินช้ำกว่ำจะน�ำพยำนหลักฐำน ทำงวิทยำศำสตร์อันส�ำคัญมำสืบในภำยหน้ำ พยำนหลักฐำนนั้นจะสูญเสียไปหรือยำกแก่กำรตรวจพิสูจน์ เม่ือคู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งร้องขอหรือเม่ือศำลเห็นสมควร ศำลอำจส่ังให้ท�ำกำรตรวจพิสูจน์ทำงวิทยำศำสตร์ ตำมควำมในวรรคหน่ึงและวรรคสองได้ทันทีโดยไม่จ�ำต้องรอให้ถึงก�ำหนดวันสืบพยำนตำมปกติ ทั้งนี้ ใหน้ ำ� บทบญั ญตั ิในมำตรำ 237 ทว ิ มำใช้บังคบั โดยอนุโลม ซึ่งตำมบทบัญญัติดังกล่ำวเป็นช่องทำงท่ีเปดกว้ำงมำกขึ้นในกำรน�ำตัวพยำนไปเบิกควำมต่อศำล ประกอบกำรด�ำเนนิ คดี 5.๑2 การตดิ ตามความคืบหน้าการดา� นนิ คดี เม่ือส่งส�ำนวนให้พนักงำนอัยกำรแล้ว ให้แต่งต้ังหรือมอบหมำยพนักงำนสอบสวนนำยใดนำยหน่ึง เป็นกำรเฉพำะ ให้มีหน้ำที่ประสำนงำนกับพนักงำนอัยกำรเพ่ือติดตำมผลกำรสั่งคดีช้ันพนักงำนอัยกำร กรณที พี่ นกั งำนอยั กำรมคี ำ� สงั่ ฟอ้ งกต็ อ้ งตดิ ตำมผลกำรพจิ ำรณำคดใี นชน้ั ศำล เพอ่ื ทรำบวนั นดั สบื พยำนและตดิ ตำม พยำนไปเบิกควำมต่อศำล หำกมีปัญหำข้อขัดข้องในกำรด�ำเนินคดีให้รำยงำนผู้บังคับบัญชำเพื่อแก้ไข ใหก้ ำรดำ� เนนิ คดีเป็นไปด้วยควำมเรยี บรอ้ ย คูม่ อื กำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมพระรำชบญั ญตั ิกำรชุมนุมสำธำรณะ พ.ศ.2558 แผนกำรดแู ลกำรชุมนุมสำธำรณะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2563) 85 ������� ���.�������������/16 �.�. 63.indd 85 11/17/2563 BE 12:40 PM