Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้ ป.5

แผนจัดการเรียนรู้ ป.5

Published by อดิวัฒน์ ยอดดี, 2021-09-29 09:05:20

Description: แผนจัดการเรียนรู้ ป.5

Search

Read the Text Version

97 ๑๐. การวัดและประเมินผล (Assessment) รายการวัด วธิ วี ดั เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมนิ 1) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ 2) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ รายบุคคล การทำงานรายบคุ คล - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 3) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม การทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์ กลุ่ม การทำงานกลุ่ม 4) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี ินัย - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 อนั พงึ ประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน ๑๑. ช้นิ งาน/หลกั ฐานการเรยี นรู้ของผูเ้ รยี น (Work piece) - ใบงาน เร่อื ง มารยาทในการตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต ๑๒. ส่อื และแหลง่ เรียนรู้ (Learning materials) ๑๒.๑ สือ่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 ๒. ใบความรู้ มารยาทในการติดต่อสอื่ สารผ่านอินเทอร์เนต็ ๓. ใบงาน เรอ่ื ง มารยาทในการตดิ ตอ่ สอ่ื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ต ๓. Power point เร่อื ง มารยาทในการตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอนิ เทอร์เน็ต ๑๒.๒ แหล่งเรยี นรู้ (Learning resource) ๑. มารยาทการใชอ้ นิ เตอร์เน็ต. (ออนไลน)์ . เขา้ ถงึ ได้จาก https://sittinonborisut .wordpress.com ๒. กองบงั คบั การปราบปรามการกระทำความผิดเกยี่ วกบั อาชญากรรมทางเทคโนโลยี. มารยาททว่ั ไปในการใช้อนิ เทอร์เนต็ . (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก https://tcsd.go.th

98 เรือ่ ง มารยาทในการใช้อินเทอร์เนต็ มารยาทในการใชอ้ นิ เทอร์เน็ต 1. ไม่กลา่ วหาผ้อู ื่นในทางทเ่ี สียหาย 2. ไม่เอางานของผู้อ่ืนมาเปน็ ของตน 3. ไมเ่ ผยแพรร่ ูปของผอู้ ่ืนทีล่ ามก 4. ไมใ่ ช้อินเทอร์เนต็ ในการค้าขายของท่ีผดิ กฎหมาย 5. ไม่เอาหลกั ฐานหรอื ขอ้ ความเท็จมาเผยแพร่ 6. ตอ้ งคำนงึ ถงึ สิ่งทเี่ กิดขน้ึ ตนและสงั คมจากการกระทำของตนเอง 7. ไมล่ ะเมดิ สิทธขิ องผู้อน่ื 8. ตอ้ งใชอ้ ินเทอร์เนต็ ไปในทางทีด่ ี 9. ไม่ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตหลอกลวงผู้อน่ื 10. ไม่ใชอ่ นิ เทอร์เน็ต แฮกข้อมลู ของผ้อู ่ืน 11. ตอ้ งไมร่ บกวนการทำงานของผู้อ่นื 12. ไมค่ ดั ลอกโปรแกรมของผู้อ่นื ที่มลี ขิ สทิ ธิ์ 13. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์สรา้ งหลักฐานที่เปน็ เท็จ 14. ไมล่ ะเมิดการใช้ทรพั ยากรคอมพิวเตอรโ์ ดยตนเองไมม่ ีสทิ ธิ์ 15. ใชค้ อมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบกตกิ าและมมี ารยาท ระเบียบขอ้ บงั คบั ในการใชอ้ ินเทอร์เนต็ แมว้ ่าการใชง้ านอนิ เทอร์เนต็ จะสง่ ผลดีในดา้ นของการรบั รขู้ า่ วสารและความร้ไู ด้อยา่ งไม่มีทสี่ ิน้ สุด แต่ ในทางกลบั กันพบวา่ ขอ้ มลู ข่าวสารนั้นทัง้ ด้านบวกและลบการปอ้ งกันภยั จากอนิ เทอร์เนต็ 1. เคารพสิทธ์ิและขอ้ มูลส่วนบุคคลของผู้อืน่ ได้แก่ ไมส่ อดแนม แกไ้ ข ดแู ฟ้มขอ้ มูล ของผู้อื่นกอ่ นไดร้ ับ อนญุ าต 2. ปฏิบัติตาม กฎ ระเบยี บ กติกา มารยาทตามข้อตกลงของสถานทห่ี รือหน่วยงาน ท่ีกำหนดไว้ในการ เลน่ อินเทอรเ์ นต็ ไม่สง่ เสยี งหรือเปิดเสยี งคอมพวิ เตอร์ รบกวนคนอ่ืนขณะใช้เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ 3. ปฏบิ ตั ิตามข้อกำหนดของกฎหมาย เชน่ ไมใ่ ช้คอมพวิ เตอร์เพอ่ื โจรกรรมขา่ วสาร ไมค่ ัดลอกโปรแกรม หรือผลงานคนอื่นมาเปน็ ของตนเอง ไมใ่ ชค้ อมพวิ เตอรส์ ร้างหลกั ฐานเทจ็ 4. บอกแหล่งทีม่ าของข้อมูลเมอ่ื นำขอ้ มูลบนอินเทอร์เน็ตมาใช้

99 เร่อื ง มารยาทในการใช้อินเทอรเ์ น็ต ท่มี า : http://www.scimath.org/.../artic.../2242-2011-10-10-05-15-07

100 เร่อื ง มารยาทในการติดต่อส่อื สาร ผ่านอินเทอร์เนต็ คาํ ชีแ้ จง ให้นกั เรียนตอบคาํ ถามให้ถกู ต้อง ๑. ใหน้ กั เรยี นยกตวั อยา่ งมารยาทในการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ 2. เด็กชายบอล ได้มกี ารโพสตข์ ้อความใส่ร้าย ชมพู่ นักเรยี นคดิ วา่ เด็กชายบอลมมี ารยาทในการใช้ อินเทอรเ์ นต็ หรือไม่อย่างไร และนกั เรยี นจะแนะนำเพอ่ื นอยา่ งไร ๓. เดก็ หญงิ โอ ไดร้ ับหมอบหมายการบ้านจากครู ใหท้ ำรายงาน เรื่อง คอมพิวเตอร์ โดยเด็กโอไดศ้ กึ ษา ขอ้ มูลจากแหลง่ จากต่างๆ และไดม้ กี ารค้นหาข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ นต็ โดยไม่ไดม้ ีการอ้างองิ แหล่งท่ีมา นักเรียนคดิ ว่าเด็กโอทำผิดหรอื ไม่ และควรแกไ้ ขอย่างไร

101 แผนการจัดการเรียนรู้ (Lesson plan) รายวิชา วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั เวลา ๒ ชัว่ โมง แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๒ เรอ่ื ง อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต เวลา ๑ ชว่ั โมง ๑.มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด ๑.๑ มาตรฐานการเรยี นรู้ (Content standards) มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ๑.๒ ตัวชวี้ ัด (Indicators) ว ๔.๒ ป. ๕/๕ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าท่ี ของตนเคารพในสทิ ธิของผูอ้ ่นื แจง้ ผู้เก่ียวขอ้ งเมอ่ื พบขอ้ มูลหรอื บคุ คลทไ่ี มเ่ หมาะสม ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (Main point) ในปัจจุบนั ปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ มจี ำนวนเพิ่มมากขนึ้ เรือ่ ย ๆ โดยเฉพาะการใช้ คอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดเพื่อให้ผู้อื่นเกิดความ เสียหาย ความเดอื ดรอ้ น และเสื่อมเสยี ชือ่ เสียง ดงั น้ัน ผใู้ ชง้ านที่ดคี วรปฏิบัติตนตามแนวทางป้องกัน การเกิดปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันอันตรายท่ีอาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน อนิ เทอร์เนต็ ๓. สาระการเรยี นรู้ (Core content) ๑. อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ๒. มารยาทในการตดิ ต่อส่ือสารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต (บรู ณาการกบั วิชาท่เี กีย่ วข้อง) ๔. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Objective) 1. อธบิ ายความหมายของอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ ไดถ้ ูกตอ้ ง (K) 2. ยกตวั อย่างอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ได้ (K) 3. สบื ค้นข้อมูลเกี่ยวกบั แนวทางการปอ้ งกนั การเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ (P) 4. เล็งเหน็ ถงึ ความสำคญั เกีย่ วกับอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ (A)

102 ๕. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Desired characteristics) ๑. มีความใฝร่ ้ใู ฝเ่ รียน ๒. มคี วามมงุ่ มั่นในการทางาน ๓. มวี นิ ัย ๖. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน (Key competencies) 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา ๗. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ๑. ICA1 การเข้าถึงประเมนิ และจดั การ ข้อมลู และสารสนเทศ ๒. ICA2 การแชร์ข้อมูลและการสื่อสาร ๓. ICA5 การใช้ ICT อยา่ งเหมาะสม ๘. รูปแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es) เป็นรูปแบบการสอนแบบท่ีมุ่งให้ผูเ้ รียนได้สร้างองค์ความรู้ใหม่ โดยเชื่อมโยงสิง่ ที่เรียนรูเ้ ขา้ กับประสบการณ์หรือความเดิมให้เป็นองค์ความรู้หรือแนวคิดของผู้เรียนเอง ดังนั้น การจัดกิจกรรม การเรียนรู้จึงสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการแกป้ ัญหาโดยเน้นการปฏิบัติจริง มีการ แลกเปลย่ี นความรรู้ ะหวา่ งกัน เสรมิ สรา้ งความรดู้ ว้ ยตนเองผา่ นกระบวนการข้นั ตอนอยา่ งเป็นวัฏจกั ร ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Learning activities) ขนั้ นำ (๑๐ นาท)ี ๑. ครผู ้สู อนจัดกจิ กรรม Music for Promote Learning เพื่อกระตุน้ ผเู้ รียนผ่านบทเพลง สำหรบั เตรยี มพร้อมในการเรียน ๒. กิจกรรม Check in ครผู ู้สอนกล่าวทักทายนักเรียน ชีแ้ จงวัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ การวดั และการประเมนิ ผล และแนะนำหัวขอ้ เน้อื หาทีจ่ ะเรียน ๓. ครูกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นโดยถามคำถามประจำหัวข้อว่า “นกั เรียนมวี ิธปี อ้ งกนั การเกิดอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ตที่อาจจะเกดิ ขึน้ กบั ตนเองอย่างไร” ข้ันท่ี 1 กำหนดปญั หา (๕ นาท)ี ๔. ครูตงั้ คำถามรว่ มกบั นักเรยี นภายในหอ้ งเรยี นวา่ “นกั เรยี นคิดวา่ การเกิดปญั หา อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตมีอะไรบ้าง” เชน่ การแพร่ภาพอนาจารทางออนไลน์ การละเมิดลขิ สิทธิ์ เปน็ ตน้ )

103 ข้นั ที่ 2 ทำความเข้าใจปญั หา (๑๐ นาที) ๕. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 2-3 คน เพอ่ื ทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง อนิ เทอรเ์ น็ต จากใบงานเร่อื ง การใชอ้ นิ เทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั ข้ันที่ 3 ดำเนนิ การศึกษาค้นควา้ (๒๐ นาที) ๖. เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนสบื ค้นขอ้ มูลเก่ียวกบั การก่ออาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต ๗. ครอู ธิบายกับนกั เรียนวา่ “ในปัจจบุ นั ปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ มีจำนวนเพ่มิ มากข้นึ และเพ่อื เป็นการปอ้ งกันตนเองจากปัญหาดังกล่าวเราจงึ ควรปฏิบตั ติ นตามแนวทางป้องกัน การเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ” ๘. นักเรยี นศกึ ษาแนวทางการปอ้ งกนั การเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ๙. ครถู ามคำถามทา้ ทายการคดิ ข้ันสูงวา่ “นักเรียนคดิ ว่าอะไรเปน็ สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต” เช่น เปิดเผยข้อมูลสว่ นตวั ของตนเองลงบนอินเทอร์เนต็ ตัง้ รหัสผา่ นที่ คาดเดาได้ง่าย ดาวน์โหลดไฟล์หรอื ขอ้ มลู จากแหล่งต่าง ๆ ทีต่ ิดไวรสั เป็นต้น ๑๐. นกั เรยี นสังเกตการใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ ทอ่ี าจก่อใหเ้ กิดปญั หาอาชญากรรมทาง อนิ เทอร์เนต็ และแนวทางการป้องกนั เมื่อพบปัญหาจากหนังสือเรยี น ข้นั ท่ี 4 สังเคราะห์ความรู้ (๑๐ นาท)ี ๑๑. สุ่มนกั เรยี นออกมานำเสนอข้อมูลตามท่นี ักเรยี นไดส้ ืบคน้ เกีย่ วกับหัวข้อดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ความหมายของอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต 2. การกอ่ อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต 3. แนวทางการป้องกนั การเกดิ ปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ๑๒. นักเรยี นทำกิจกรรมฝึกทกั ษะและใบงานท่ี เร่อื ง การปอ้ งกันการเกดิ อาชญากรรมทาง อินเทอรเ์ นต็ โดยเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสบื ค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต เกี่ยวกบั ปัญหาอาชญากรรมทาง อินเทอร์เน็ตและแนวทางการปอ้ งกัน ข้ันที่ 5 สรปุ และประเมินคา่ ของคำตอบ (๕ นาท)ี ๑๓. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั โดยครใู ห้ความรเู้ พ่ิมเตมิ ในสว่ นที่นกั เรยี นไม่ เข้าใจ ขั้นที่ 6 นำเสนอและประเมนิ ผลงาน (๕ นาที) 1๔. ครูประเมนิ ผลนักเรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน ๑๕. ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งของผลงานการทำใบงาน และกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ ๑๖. ครูสรุปสิ่งทไี่ ดเ้ รยี นรู้ในการเรยี นครั้งน้ี และนกั เรียนร่วมกนั สรุป

104 ๑๐. การวัดและประเมินผล (Assessment) รายการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ - ใบงาน 1) ใบงาน - ตรวจใบงาน ร้อยละ 60 ผา่ น เกณฑ์ ๒) พฤตกิ รรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ รายบุคคล การทำงานรายบุคคล ๓) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 กลมุ่ การทำงานกลุม่ การทำงานกลุม่ ผา่ นเกณฑ์ ๔) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 อนั พึงประสงค์ ความรับผดิ ชอบ ผ่านเกณฑ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มั่น คณุ ลักษณะ ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์ ๑๑. ช้ินงาน/หลักฐานการเรียนรู้ของผ้เู รียน (Work piece) - ใบงาน เรอ่ื ง การป้องกนั การเกิดปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ๑๒. สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ (Learning materials) ๑๒.๑ ส่ือการเรยี นรู้ ๑. ใบงาน เรื่อง การปอ้ งกนั การเกดิ ปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ ๒. ใบความรู้ เร่ือง การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั ๓. Power point เรอื่ ง การใชอ้ ินเทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั ๑๒.๒ แหล่งเรียนรู้ (Learning resource) ๑. สำนักงานคณะกรรมการกจิ การกระจายเสยี งกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ. CyberSecurityPeople. (ออนไลน์). เขา้ ถงึ ได้จาก https://www.learningstudio.info/ cyber-security/. ๒. อาชญากรรมทางคอมพวิ เตอร์. (ออนไลน์). เขา้ ถึงได้จาก https://sites.google.com/site/tiktucksiriporn/s-1.

105 เรอ่ื ง การใชอ้ ินเตอร์เนต็ อย่างปลอดภยั หลักการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภัย ในปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก เพราะเปน็ ช่องทางทส่ี ามารถติดต่อส่ือสาร แลกเปลีย่ นข้อมูลกันไดอ้ ย่างรวดเร็ว รวมถึงธุรกิจและพาณิชย์ในด้านต่างๆ ช่วยในเรื่องการลดระยะเวลาและต้นทุนในการติดต่อสื่อสาร แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้ โดยทั่วไป ยังไ ม่เห็น ความสำคัญ ของการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยเท่าที่ควร เนื่องจากยังขาดความรู้ในการใช้งานและวิธี ป้องกัน หรืออาจคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรมาก ในการใช้งาน แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับตัวเองแล้ว ก็ทำให้ ตนเองเดอื ดรอ้ น เราสามารถป้องกันปญั หาเหล่านี้ได้ ดงั น้ี 1. ไมค่ วรเปดิ เผยขอ้ มูลสว่ นตัว 2. ไม่สง่ หลักฐานส่วนตัวของตนเองและคนในครอบครวั ให้ผ้อู ื่น เชน่ สำเนาบัตรประชาชน เอกสารตา่ งๆ รวมถงึ รหัสบตั รต่างๆ เชน่ เอทีเอ็ม บัตรเครดติ ฯลฯ

106 เร่ือง การใชอ้ ินเตอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั 4. ไมอ่ อกไปพบเพ่ือนท่รี ูจ้ กั ทางอนิ เทอรเ์ น็ต เวน้ เสยี แต่ว่าได้รบั อนุญาตจากพอ่ แมผ่ ู้ปกครอง และควรมี ผใู้ หญห่ รือเพือ่ นไปด้วยหลายๆ คน เพื่อปอ้ งกนั การลกั พาตัว หรอื การกระทำมดิ ีมริ า้ ยต่างๆ 5. ระมัดระวงั การซอื้ สินคา้ ทางอนิ เทอร์เนต็ รวมถึงคำโฆษณาชวนเชือ่ อ่ืนๆเดก็ ตอ้ งปรกึ ษาพอ่ แม่ ผูป้ กครอง โดยตอ้ งใช้วิจารณญาณ พิจารณาความน่าเชือ่ ถือของผูข้ าย 6. สอนให้เด็กบอกพ่อแมผ่ ู้ปกครองหรือคุณครู ถ้าถูกกลน่ั แกล้งทางอนิ เทอรเ์ น็ต (Internet Bullying) 7. ไมเ่ ผลอบันทกึ ยสู เซอร์เนมและพาสเวิร์ดขณะใช้เคร่อื งคอมพวิ เตอรส์ าธารณะอย่าบันทึก ช่อื ผู้ใช้และ พาสเวิร์ดของคณุ บนเคร่อื งคอมพิวเตอรน์ ี้” อย่างเดด็ ขาด เพราะผูท้ ม่ี าใช้เคร่อื งตอ่ จากคุณ สามารถลอ็ คอนิ เขา้ ไป จากชื่อที่ถูกบันทกึ ไว้ 8. ไมค่ วรบนั ทกึ ภาพวิดีโอ หรอื เสียงท่ไี ม่เหมาะสมบนคอมพวิ เตอร์ หรือบนมอื ถือ ข้อแนะนำในการต้ังและใช้งานรหัสผ่าน 1. สิง่ ทตี่ อ้ งคำนงึ ถึงในการกำหนดรหัสผา่ นให้มีความปลอดภยั มีดงั น้ีรหสั ผ่านควรตง้ั ให้เปน็ ไปตามเง่ือนไข ของระบบทีใ่ ช้งาน รหัสผ่านท่ีดีควรประกอบด้วยอักษรตวั ใหญ่ ตัวเล็ก ตัวเลข และสัญลกั ษณ์ เชน่ Y1nG@#!z หรือ @uG25sx* 2. หลีกเล่ยี งการตั้งรหสั ผ่านโดยใชว้ ัน เดอื น ปีเกิด ช่อื ผู้ใช้ ชอ่ื จังหวัด ช่อื ตัวละคร ช่ือส่ิงของตา่ งๆ ท่ี เก่ียวขอ้ งหรือคำที่มีอยใู่ นพจนานุกรม 3. ตง้ั ให้จดจำไดง้ า่ ย แตย่ ากตอ่ การคาดเดาดว้ ยบุคคลหรือโปรแกรม เช่น ความสมั พนั ธ์ของรหัสผา่ นกบั ข้อความหรือข้อมูลส่วนตวั ทค่ี ุน้ เคย เชน่ ต้งั ช่อื สนุ ัขตวั แรก แตเ่ ขียนตวั อกั ษรจากหลังมาหนา้ 4. บัญชรี ายชอ่ื ผู้ใชง้ านแต่ละระบบ ควรใช้รหสั ผ่านทีแ่ ตกต่างกนั โดยเฉพาะบัญชที ่ใี ช้เข้าถึงข้อมลู ที่มี ความสำคัญ เช่น รหัสผา่ นของบตั รเอทีเอ็มหลายใบให้ใช้รหสั ผ่านต่างกนั 5. ไม่บนั ทกึ รหัสผ่านแบบอัตโนมัตบิ นโปรแกรมเบราเซอร์ โดยเฉพาะอย่างย่งิ หากใชเ้ ครือ่ งคอมพิวเตอร์ ร่วมกับผู้อืน่ หรอื เครื่องสาธารณะ 6. หลกี เลย่ี งการบันทึกรหสั ผ่านลงในกระดาษสมดุ โน้ต รวมทงั้ อปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกสด์ ว้ ย หากจำเป็นตอ้ ง บันทึกก็ควรจดั เก็บไวใ้ นที่ปลอดภยั 7. ไม่บอกรหัสผา่ นของตนเองให้กับผูอ้ ื่น ไมว่ ่ากรณีใดๆ 8. หมั่นเปล่ียนรหัสผา่ นเปน็ ประจำ อาจกระทำทกุ 3 เดอื น 9. ออกจากระบบทุกคร้งั เมอื่ เลกิ ใชบ้ ริการต่างๆ บนอนิ เทอร์เนต็ ที่มา เอกสารประกอบการอบรมหลกั สูตรอบรมออนไลน์การจัดการเรียนรูว้ ิทยาการคำนวณสำหรับครูประถมศึกษาปที ี่ 4 – 6 Coding Online for Grade ๔-๖ Teacher (C4T – 7) การใชง้ านอินเตอร์เนต็ อย่างปลอดภัย. (ออนไลน์). เขา้ ถึงได้จาก https://sites.google.com/site/ummiiintern/home/hnwy-thi-3 (สืบค้นเม่อื ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔)

107 เร่ือง การใชอ้ นิ เตอร์เนต็ อยา่ งปลอดภยั

108 เรื่อง การปอ้ งกนั การเกดิ ปญั หา อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนสบื ค้นข้อมูลเก่ียวกับปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต และแนวทาง การป้องกนั ปญั หาจากแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศต่าง ๆ มา 3 ข้อ ปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต แนวทางการปอ้ งกนั ปัญหา

109

110 แผนการจดั การเรียนรู้ (Lesson plan) รายวิชา วิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๔ เรอื่ ง การรวบรวมและประมวลผลขอ้ มูล เวลา ๒ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ เรอ่ื ง การรวบรวมข้อมลู เวลา ๑ ชวั่ โมง ๑. มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั ๑.๑ มาตรฐานการเรยี นรู้ (Content standards) มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทัน และมีจริยธรรม ๑.๒ ตวั ชี้วัด (Indicators) ป. 5/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ ท่หี ลากหลาย เพือ่ แก้ปัญหาในชีวติ ประจำวนั ๒. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (Main point) การรวบรวมข้อมูล เป็นการดำเนินการด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูล ซึ่งขั้นตอนในการ รวบรวม ข้อมูลนั้นจะประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ กำหนดวัตถุประสงค์และความต้องการของสิ่งที่ สนใจ วางแผน และพิจารณาเลือกแหล่งข้อมูล กำหนดวิธีการรวบรวมข้อมูล ค้นหาและรวบรวม ข้อมูล และสรุปผลข้อมูลสว่ นวิธีการในการรวบรวมข้อมูล แบ่งเป็น 4 วิธี คือ การสังเกต สำรวจและ จดบนั ทึก การสอบถาม หรือการสมั ภาษณ์ การสำรวจโดยใชแ้ บบสอบถามและการรวบรวมข้อมูลจาก เอกสาร ๓. สาระการเรียนรู้ (Core content) - การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่นการเปรียบเทียบความสอดคล้อง สมบูรณ์ของ ข้อมูลจากหลายแหล่ง แหล่งต้นตอของข้อมลู ผเู้ ขียน วันที่เผยแพร่ข้อมลู - การรวบรวมข้อมูล ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมินผล จะทำให้ไดส้ ารสนเทศเพ่ือใช้ใน การแก้ปัญหาหรอื การตัดสินใจได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ - การใชซ้ อฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้าง ทางเลอื ก ประเมินผล นำเสนอ จะชว่ ยให้การแก้ปัญหาทำได้อยา่ งรวดเรว็ ถกู ต้อง และแม่นยำ

111 ๔. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Objective) 1. อธบิ ายข้นั ตอนการรวบรวมขอ้ มูลไดถ้ กู ต้อง (K) ๒. เขยี นการวางแผนรวบรวมขอ้ มลู ตามขนั้ ตอนต่าง ๆ ได้ (P) ๓. เห็นความสำคญั ของการรวบรวมข้อมลู และการนำไปใช้ในชวี ิตประจำวัน (A) ๕. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Desired characteristics) ๑. มีความใฝ่รูใ้ ฝ่เรียน ๒. มคี วามมุ่งม่ันในการทางาน ๓. มวี นิ ยั ๖. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น (Key competencies) 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๗. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ๑. ICA1 การเข้าถงึ ประเมนิ และจัดการ ขอ้ มูลและสารสนเทศ ๘. รปู แบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เป็นรูปแบบการสอนแบบที่มุ่งให้ผู้เรยี นได้สร้างองค์ความรู้ใหม่ โดยเชื่อมโยงสิง่ ที่เรียนรู้เข้า กับประสบการณ์หรือความเดิมให้เป็นองค์ความรู้หรอื แนวคิดของผู้เรียนเอง ดังนั้น การจัดกิจกรรม การเรียนรู้จึงสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการแก้ปัญหาโดยเน้นการปฏิบัติจรงิ มีการ แลกเปลี่ยนความรรู้ ะหวา่ งกนั เสริมสร้างความร้ดู ว้ ยตนเองผา่ นกระบวนการขั้นตอนอยา่ งเป็นวัฏจักร ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (Learning activities) ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) (๑๕ นาท)ี 1. ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับแหล่งข้อมูล พร้อมกับให้นักเรียนยกตัวอย่างขอ ง แหล่งข้อมูลแต่ละประเภท 2. นักเรยี นออกมาเขียนแหลง่ ข้อมูลบนกระดานคนละ 1 ตัวอย่าง ระหว่างแหล่งข้อมูลปฐม ภมู ิและแหล่งข้อมูลทตุ ยิ ภมู ิ 3. ครถู ามนักเรยี นวา่ “ข้อมลู ที่นกั เรยี นแต่ละคนมานำเสนอหนา้ ชั้นเรียนน้นั นักเรียนได้มา ด้วยวิธีใด” เช่น การสงั เกตจากการมองเห็น การได้ยิน การจดบันทกึ เปน็ ต้น) 4. ครูถามคำถามประจำหัวข้อกับนักเรียนว่า “ถ้านักเรียนต้องการทำรายงานนักเรียนจะมี วิธีการรวบรวมข้อมูลอย่างไร” เช่น การสืบค้นจากอินเทอร์เน็ต การสอบถามผู้รู้ การสังเกต การ สำรวจ และการจดบนั ทกึ เปน็ ตน้ )

112 ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) (๑๕ นาท)ี ๕. นักเรียนสืบคน้ ความหมายของการรวบรวมขอ้ มลู จากอินเทอร์เนต็ ท่ีเครือ่ งคอมพิวเตอร์ ของตนเอง ๖. ครสู ุ่มนกั เรียน ๑-๒ คน มานำเสนอหนา้ ชั้นเรยี น พร้อมกับอภปิ รายรว่ มกนั ในห้องเรียน ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) (๒๐ นาที) ๗. ครอู ธิบายถึงขนั้ ตอนการรวบรวมขอ้ มูลวา่ ประกอบด้วย 5 ข้ันตอน ดังนี้ 1) กำหนดวัตถปุ ระสงคแ์ ละความตอ้ งการของส่ิงทีส่ นใจ 2) วางแผนและพจิ ารณาเลอื กแหลง่ ข้อมูล 3) กำหนดวิธีการรวบรวมขอ้ มลู 4) ค้นหาและรวบรวมข้อมลู 5) สรุปผลข้อมูล ๘. นักเรียนแบง่ กลุม่ กลุ่มละ 3-4 คนหรอื ตามความเหมาะสม เพ่อื รวบรวมขอ้ มูลในประเดน็ ที่นักเรยี นสนใจตามข้ันตอนการรวบรวมข้อมูลทั้ง 5 ขน้ั ตอน และบันทึกลงในใบงาน เร่ือง สนุกกบั การรวบรวมข้อมูล ๙. ครอู ธิบายวธิ กี ารรวบรวมขอ้ มูลซง่ึ มที ้ังหมด 4 วิธี ดงั น้ี 1) การสังเกต สำรวจ และจดบนั ทกึ 2) การสอบถาม หรือสัมภาษณผ์ ู้ท่ีเกีย่ วข้อง 3) การสำรวจ โดยการใช้แบบสอบถาม แบบทดสอบ 4) การรวบรวมขอ้ มูลจากเอกสาร หรือขอ้ มูลท่ีผู้อื่นรวบรวมไว้แล้ว ๑๐. ครอู ธบิ ายเกี่ยวกบั การรวบรวมขอ้ มลู เพ่ิมเติมวา่ “ วิธีการรวบรวมข้อมลู จดั เปน็ ขั้นตอน หนง่ึ ของการดำเนินงานทีเ่ กี่ยวกบั การศึกษาส่งิ ใดสิ่งหน่งึ เพือ่ ให้บรรลุวตั ถปุ ระสงคท์ ี่ตัง้ ไว้ ดังนน้ั ก่อนการรวบรวมข้อมูล ผู้ที่ทำการรวบรวมขอ้ มูลจึงต้องทราบถงึ วตั ถุประสงค์ของการนำข้อมูล ไปใช้ เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ มูลท่ีถูกต้อง ชดั เจน ตรงประเดน็ และใชเ้ วลาไดน้ ้อยลง” ๑๑. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรมกลมุ่ อยา่ งอิสระ และให้แตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมา นำเสนอ หนา้ ชน้ั เรยี น ๑๒. ครถู ามคำถามท้าทายการคดิ ข้ันสูงวา่ “ในการรวบรวมขอ้ มลู ถา้ ขาดข้ันตอนการวางแผน และพิจารณาเลอื กแหล่งขอ้ มูลจะส่งผลอย่างไรบา้ ง” เชน่ จะสง่ ผลใหแ้ หลง่ ขอ้ มูลทีไ่ ดม้ านนั้ ขาดความ น่าเชอื่ ถอื เป็นต้น ขัน้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) (๕ นาท)ี ๑๓. ให้นักเรียนแต่ละออกมานำเสนอแนวทางการรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำแบบสำรวจ ความคดิ เหน็ หน้าช้ันเรียน เพื่อสำรวจความคิดเหน็ ของนักเรียนภายในโรงเรียนเก่ียวกับกีฬาท่ีช่ืนชอบ จากนั้นให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ กลบั ไปทำเป็นการบา้ นและนำมาส่งในชั่วโมงถัดไป

113 ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) (๕ นาที) 1๔. ครปู ระเมินผลงานของนักเรยี น จากการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุด ประจำตวั ๑๕. ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งของผลงานการทำใบงานและกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ ๑๖. นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรุปเกีย่ วกับขัน้ ตอนการรวบรวมขอ้ มลู ๑๐. การวัดและประเมนิ ผล (Assessment) รายการวดั วธิ วี ัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมิน - ใบงาน 1) ใบงาน - ตรวจใบงาน ร้อยละ 60 ผา่ น - แบบสงั เกตพฤติกรรม เกณฑ์ ๒) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล การทำงานรายบคุ คล ๓) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 กลุม่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุม่ ผ่านเกณฑ์ ๔) คุณลักษณะอันพึง - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ความรับผดิ ชอบ อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน ๑๑. ชน้ิ งาน/หลกั ฐานการเรียนรู้ของผเู้ รยี น (Work piece) ๑. ใบงาน เร่อื ง สนุกกบั การรวบรวมข้อมลู ๑๒. ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ (Learning materials) ๑๒.๑ สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 ๒. ใบงาน เรอ่ื ง การรวบรวมขอ้ มลู ๓. Power point เรือ่ ง การรวบรวมข้อมูล

114 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงใน ช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน ที่ ชอ่ื – การแสดง การยอมรับฟงั การทำงาน ความมี การมี รวม สกุล ความ คนอน่ื ตามที่ไดร้ ับ น้ำใจ สว่ นร่วมในการ 15 คิดเหน็ มอบหมาย คะแนน ปรบั ปรงุ ผลงานกลุม่ 32 1 3 2 1 3 2 1 32 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง

115 แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นใหท้ ำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องแสดงระดับคุณภาพ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก/ระดับคุณภาพ รวม เลขท่ี ชือ่ – สกลุ มีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 3 2 1 0 3 2 1 032 10 ลงชอ่ื ..................................................ผู้ประเมิน ............/.................../................

116 เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านคุณลักษณะอัน ระดบั คณุ ภาพ (2) (1) พึงประสงค์ (3) (0) มวี นิ ัย 1.ปฏิบตั ิตามข้อตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1.ปฏิบัตติ าม 1.ไมป่ ฏบิ ัติตาม ใฝ่เรยี นรู้ 2. ตรงต่อเวลา มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 3. มีส่วนร่วมปฏิบัติ ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ขอ้ ตกลง กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 4.เป็นแบบอยา่ งท่ีดี 2. ตรงตอ่ เวลา 2.ตรงตอ่ เวลา 2.ไม่มสี ่วนร่วม 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 3.มสี ่วนร่วมปฏบิ ัติ 3.ไม่มีสว่ นร่วมใน ในกิจกรรม 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ กจิ กรรมตา่ ง ๆได้ กิจกรรม 3. มีสว่ นรว่ มในกิจกรรม 4. เป็นแบบอย่างท่ีดี 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรียนตรง 1.มาเข้าเรียน 1.มีความรบั ผิดชอบ 2.ตงั้ ใจเรยี น เวลา 2.ไม่มีสว่ นรว่ ม งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 2. มคี วามเพียรพยายาม 3. มีสว่ นร่วมใน 2.มีส่วนร่วมใน ในกิจกรรม ในการเรียนให้สำเรจ็ 3. มกี ารปรบั ปรุงและ กิจกรรม กจิ กรรม พัฒนาการทำงานใหด้ ีขึ้น 4.เป็นแบบอยา่ งทดี่ ี 1. มีความรับผิดชอบ 1.มคี วามรบั ผิดชอบ 1. ไมม่ ีความ งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย งานที่ไดร้ บั อบหมาย รับผิดชอบ 2. มคี วามพยายามใน 2. มีความพยายาม งานทไ่ี ด้รับ การเรียนใหส้ ำเรจ็ ในการเรียนให้ มอบหมาย 3.มกี ารปรับปรุงและ สำเร็จ พฒั นาการทำงานให้ดี ขนึ้ ระดับ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ระดบั 3 ๘-๙ ดี ระดบั 2 6-7 ระดับ 1 ๕-1 พอใช้ ปรบั ปรงุ

117 เรื่อง สนกุ กับการรวบรวมข้อมลู คาํ ชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนรวบรวมข้อมลู ตามขั้นตอนการรวบรวมท้งั 5 ขน้ั ตอน เพ่ือสำรวจใน ประเด็นท่ีนักเรียนสนใจมาคนละ 1 ประเด็น จากน้นั บันทึกผล ๑. ให้นักเรียนวางแผนรวบรวมขอ้ มลู ตามขั้นตอนตา่ งๆ ชอื่ หวั ข้อเรื่องท่ีนักเรียนสนใจ ขน้ั ตอน รายละเอยี ด ข้ันตอนท่ี 1 ............................................................................................................................. กำหนด ............................................................................................................................. วตั ถุประสงค์ ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ขนั้ ตอนท่ี 2 ............................................................................................................................. เลอื ก ............................................................................................................................. แหลง่ ขอ้ มลู ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ขั้นตอนท่ี 3 ............................................................................................................................. กำหนดวธิ กี าร ............................................................................................................................. รวบรวมข้อมลู ............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ขน้ั ตอนท่ี 4 ............................................................................................................................. ดำเนนิ การ ............................................................................................................................. รวบรวมข้อมูล ............................................................................................................................. ขน้ั ตอนท่ี 5 สรุปผลข้อมูล

118 แผนการจัดการเรียนรู้ (Lesson plan) รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ เรือ่ ง การรวบรวมและประมวลผลขอ้ มูล เวลา ๒ ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื ง การประมวลผลขอ้ มลู เวลา ๑ ชว่ั โมง ๑. มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ (Content standards) มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี ริยธรรม ๑.๒ ตวั ชวี้ ดั (Indicators) ป. 5/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรอื บริการบนอินเทอร์เนต็ ที่หลากหลาย เพอ่ื แกป้ ัญหาในชวี ติ ประจำวัน ๒. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (Main point) การรวบรวมข้อมูล เป็นการดำเนินการด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูล ซึ่งขั้นตอนในการ รวบรวม ข้อมูลนั้นจะประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ กำหนดวัตถุประสงค์และความต้องการของสิ่งท่ี สนใจ วางแผน และพิจารณาเลือกแหล่งข้อมูล กำหนดวิธีการรวบรวมข้อมูล ค้นหาและรวบรวม ข้อมูล และสรุปผลข้อมูลสว่ นวิธกี ารในการรวบรวมขอ้ มูล แบ่งเป็น 4 วิธี คือ การสังเกต สำรวจและ จดบันทึก การสอบถาม หรือการสมั ภาษณ์ การสำรวจโดยใชแ้ บบสอบถามและการรวบรวมขอ้ มูลจาก เอกสาร ๓. สาระการเรยี นรู้ (Core content) - การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่นการเปรียบเทียบความสอดคล้อง สมบูรณ์ของ ขอ้ มลู จากหลายแหลง่ แหลง่ ตน้ ตอของขอ้ มูล ผู้เขียน วันทเ่ี ผยแพร่ข้อมูล - การรวบรวมข้อมลู ประมวลผล สร้างทางเลือก ประเมนิ ผล จะทำให้ได้สารสนเทศเพื่อใช้ใน การแก้ปัญหาหรือการตดั สินใจได้อย่างมีประสิทธภิ าพ - การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลือก ประเมินผล นำเสนอ จะชว่ ยใหก้ ารแกป้ ัญหาทำไดอ้ ย่างรวดเร็ว ถกู ต้อง และแมน่ ยำ

119 ๔. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Objective) 1. อธิบายวิธีการประมวลผลข้อมลู โดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อกเซล(K) ๒. ประมวลผลข้อมูลโดยใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อกเซลได้ (P) ๓. เหน็ ความสำคญั ของประมวลผลขอ้ มูล และการนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน (A) ๕. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Desired characteristics) ๑. มคี วามใฝ่รู้ใฝ่เรยี น ๒. มคี วามมงุ่ มั่นในการทางาน ๓. มีวินยั ๖. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน (Key competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา ๗. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ๑. ICA1 การเขา้ ถึงประเมิน และจัดการ ขอ้ มูลและสารสนเทศ ๘. รูปแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ การเรยี นรโู้ ดยใช้กจิ กรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) เป็นวิธีการจัดการเเรียนรู้ที่เน้นบทบาท และการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ที่มุ่งเน้นส่งเสริมให้ ผเู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในการเรยี นรู้ และบทบาทในการเรียนรขู้ องผู้เรยี น เอากจิ กรรมเป็นท่ีต้ังเพ่ือท่ีจะฝึก หรือพฒั นาผู้เรยี นให้เกิดการเรยี นรู้ให้บรรลุวัตถุประสงค์หรอื เปา้ หมายท่ีกำหนด ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ความตื่นตัวและกระตือรือร้นด้านการรู้คิด มุ่งเน้นความรับผิดชอบของผู้เรียนในการเรียนรู้โดยผ่าน การอ่าน เขียน คิด อภิปราย และเข้าร่วมในการแก้ปัญหา และยังสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ตามลำดบั ข้ันการเรยี นร้ขู องบลูมทัง้ ในดา้ นพุทธิพิสัย ทักษะพสิ ยั และจติ พสิ ัย ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Learning activities) ข้ันนำ ๑. ครูผสู้ อนจัดกจิ กรรม Music for Promote Learning เพื่อกระตนุ้ ผเู้ รยี นผ่านบทเพลง สำหรบั เตรยี มพรอ้ มในการเรยี น ๒. กจิ กรรม Check in ครผู ู้สอนกล่าวทกั ทายนกั เรียน ชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ การวัด และการประเมนิ ผล และแนะนำหัวขอ้ เนอ้ื หาทจ่ี ะเรียน ๓. ครูทบทวนความรขู้ องนกั เรยี น โดยการใหน้ กั เรยี นบอกขนั้ ตอนในการรวบรวมขอ้ มลู และ การใช้สูตรในการคำนวณดว้ ยโปรแกรม Microsoft Excel

120 ขั้นสอน ๔. ครูจบั คู่นกั เรียน ให้ชว่ ยกนั ทำใบงาน สนกุ กบั การประมวลผลขอ้ มลู ๕. ครชู ี้แจงเกีย่ วกับการใช้สูตรคำนวณ ซึ่งจะใช้ในใบงาน ๖. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงาน จนครบทกุ ข้อ โดยครูเปน็ ผูค้ อยให้คำแนะนำ ๗. ครูส่มุ นกั เรยี นออกมานำเสนอคำตอบ ๘. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคู่เขยี นสูตรท่ีใชใ้ นการคำนวณดว้ ยโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซลจากท่ี เรยี นในชว่ั โมงท่ีแลว้ และอธิบายว่าสูตรนนั้ ใช้ทำอะไร ๙. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละคู่ทำใบงานที่ ๒ การรวบรวมและประมวลผลขอ้ มูล ๑๐. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายคำตอบ และใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ดูคำตอบของกลุม่ ตัวเองวา่ ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถกู ตอ้ ง ให้แก้ไขให้ถูกตอ้ ง ๑๑. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายและสรุปเกี่ยวกบั การคำนวณโดยใช้สตู รในโปรแกรม ไมโครซอฟตเ์ อกเซล ขั้นสรปุ ๑๒. นกั เรยี นตอบคำาถามหลงั จากทำกิจกรรม ๑๓. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภิปรายและสรุปเกยี่ วกับการรวบรวมและการประมวลผลขอ้ มูล รวมทง้ั การใช้สูตรในโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อกเซลเพื่อช่วยในการประมวลผลข้อมูลไดถ้ ูกต้องและ รวดเรว็ ๑๐. การวดั และประเมนิ ผล (Assessment) รายการวดั วธิ วี ัด เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมิน - ใบงาน 1) ใบงาน - ตรวจใบงาน ร้อยละ 60 ผา่ น - แบบสังเกตพฤตกิ รรม เกณฑ์ ๒) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม การทำงานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 กลุ่ม การทำงานกลุม่ ผ่านเกณฑ์ ๓) คุณลักษณะอันพึง - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ ความรับผิดชอบ คณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ ม่ัน ในการทำงาน ๑๑. ช้นิ งาน/หลักฐานการเรยี นรขู้ องผู้เรียน (Work piece) ๑. ใบงาน สนุกกับการประมวลผลข้อมูล ๒. ใบงาน การรวบรวมและประมวลผลข้อมูล

121 ๑๒. สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้ (Learning materials) ๑๒.๑ สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 ๒. ใบงาน สนุกกับการประมวลผลขอ้ มูล ๓. ใบงาน การรวบรวมและประมวลผลข้อมูล ๔. Power point เรอื่ ง การรวบรวมข้อมลู และประมวลผลข้อมูล ๑๒.๒ แหลง่ เรียนรู้ (Learning resource) ๑. โปรแกรม Excel. (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก https://sci.dru.ac.th/dlr/files2/ Microsoft%20Excel.pdf

122 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงใน ช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน ที่ ชอ่ื – การแสดง การยอมรับฟงั การทำงาน ความมี การมี รวม สกุล ความ คนอน่ื ตามที่ไดร้ ับ น้ำใจ สว่ นร่วมในการ 15 คิดเหน็ มอบหมาย คะแนน ปรบั ปรงุ ผลงานกลุม่ 32 1 3 2 1 3 2 1 32 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง

123 แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนให้ทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งแสดงระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมทแี่ สดงออก/ระดับคุณภาพ เลขท่ี ชอื่ – สกลุ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ในการ รวม ทำงาน 3 2 1 0 3 2 1 032 10 ลงชื่อ..................................................ผูป้ ระเมนิ ............/.................../................

124 เกณฑ์การประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านคุณลักษณะอัน ระดับคุณภาพ พึงประสงค์ (3) (2) (1) (0) มวี นิ ัย 1.ปฏิบตั ิตามข้อตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1.ปฏบิ ตั ิตาม 1.ไมป่ ฏบิ ตั ิตาม ใฝ่เรยี นรู้ 2. ตรงต่อเวลา มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 3. มสี ่วนร่วมปฏิบัติ ข้อตกลง ข้อตกลง ขอ้ ตกลง กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 4.เป็นแบบอยา่ งที่ดี 2. ตรงตอ่ เวลา 2.ตรงต่อเวลา 2.ไม่มสี ว่ นร่วม 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 3.มีส่วนรว่ มปฏบิ ตั ิ 3.ไม่มสี ่วนร่วมใน ในกิจกรรม 2. ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ 3. มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรม กิจกรรมต่าง ๆได้ กิจกรรม 4. เป็นแบบอย่างท่ีดี 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรียนตรง 1.มาเข้าเรียน 1.มีความรบั ผิดชอบ 2.ต้ังใจเรยี น เวลา 2.ไมม่ ีส่วนรว่ ม งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 2. มคี วามเพียรพยายาม 3. มสี ว่ นรว่ มใน 2.มีสว่ นรว่ มใน ในกิจกรรม ในการเรียนให้สำเรจ็ 3. มกี ารปรบั ปรุงและ กิจกรรม กจิ กรรม พัฒนาการทำงานใหด้ ีข้ึน 4.เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี 1. มคี วามรับผดิ ชอบ 1.มคี วามรับผิดชอบ 1. ไม่มคี วาม งานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย งานที่ไดร้ บั อบหมาย รับผดิ ชอบ 2. มีความพยายามใน 2. มีความพยายาม งานทีไ่ ด้รับ การเรียนใหส้ ำเรจ็ ในการเรยี นให้ มอบหมาย 3.มีการปรับปรุงและ สำเร็จ พัฒนาการทำงานใหด้ ี ขึน้ ระดับ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ระดบั 3 ๘-๙ ดี ระดบั 2 6-7 ระดับ 1 ๕-1 พอใช้ ปรบั ปรงุ

125 เร่ือง สนกุ กบั การประมวลผลข้อมลู คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนใช้โปรแกรม Microsoft Excel คำนวณหาคา่ ต่างๆ ตามขอ้ มลู ต่อไปน้ี ข้อมูลบันทึกผลการสำรวจยานพาหนะในการเดินทางมาโรงเรียน ๑. คำนวณหาผลรวมของนักเรยี นทเ่ี ดนิ ทางดว้ ยรถรบั สง่ ทั้งหมด ผลรวมอย่ใู นเซลใด สูตรในการหาผลรวมคอื จำนวนรวมท้ังหมด ๒. คำนวณหาผลรวมของนกั เรยี นท่ีเดนิ ทางดว้ ยรถสว่ นตัวสง่ ทั้งหมด ผลรวมอยู่ในเซลใด สูตรในการหาผลรวมคอื จำนวนรวมทง้ั หมด

126 เร่ือง สนุกกบั การประมวลผลขอ้ มลู ๓. คำนวณหาผลรวมของจำนวนนักเรยี นท้งั หมด ผลรวมอย่ใู นเซลใด ๑ ๖) สตู รในการหาผลรวมคอื – จำนวนรวมท้งั หมด ๔. คำนวณหาผลรวมของจำนวนนักเรยี นแต่ละระดบั ชนั้ ชนั้ อย่ใู นเซล ผลรวมของจำนวนนักเรยี น D2 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ใช้สตู ร จำนวน ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ รวม ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ (คน) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ =B2+C2 หรอื =SUM(B2:C2) 55 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖

127 เรื่อง การรวบรวมและประมวลผลขอ้ มลู คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาขอ้ มูลตอ่ ไปนี้ แลว้ ใสเ่ ครอื่ งหมาย  หลงั ข้อความ ท่ีกล่าวถูกตอ้ ง และใส่เครือ่ งหมาย  หลงั ขอ้ ความทก่ี ล่าวไมถ่ ูกตอ้ ง ๑ การใชซ้ อฟตแ์ วรท์ หี่ ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล จะช่วย ใหก้ ารแกป้ ัญหาทำได้อยา่ งรวดเร็ว ถกู ตอ้ ง และแมน่ ยำ ๒ การใช้สตู รคำนวณจะต้องพมิ พเ์ ครอื่ งหมายเทา่ กับ (=) นำหน้า เสมอ ๓ การรวบรวมขอ้ มลู และประมวลผลข้อมลู จะทำใหไ้ ด้สารสนเทศ เพอ่ื ใช้ในการแกป้ ญั หา ๔ โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อกเซลจะคำนวณจากขวาไปซา้ ยเสมอ ๕ SUM เปน็ สตู รท่ใี ช้ในการหาผลรวม ๖ COUNTA เปน็ สูตรในการนับจำนวนเซล ๗ COUNTIF เป็นสตู รในการนบั จำนวนเซล ตามทร่ี ะบุเง่อื นไข ๘ Excel เปน็ โปรแกรมประเภท สเปรดชีต (Speadsheet) หรอื โปรแกรมตารางงาน ซึง่ จะเกบ็ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ลงบนแผ่นตารางงาน

128

129 แผนการจัดการเรยี นรู้ (Lesson plan) รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรื่อง การสร้างทางเลอื ก เวลา ๒ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๑ เรอื่ ง การสรา้ งทางเลือก เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรยี นรู้ (Content standards) มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ๑.๒ ตวั ชว้ี ัด (Indicators) ป. 5/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงคโ์ ดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรอื บรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ท่ีหลากหลาย เพอื่ แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั ๒. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (Main point) ปัญหาทีพ่ บในชีวิตประจำาวนั สามารถสร้าวแนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่างหลากหลาย โดย ตอ้ งวิเคราะหป์ ัญหารวบรวมขอ้ มูล สร้างทางเลือกในการแก้ปญั หา แล้วเลือกแนวทางท่ีเป็นไปได้และ เหมาะสมจะทำาให้การแก้ปญั หามปี ระสิทธิภาพ ๓. สาระการเรยี นรู้ (Core content) - การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่นการเปรียบเทียบความสอดคล้อง สมบูรณ์ของ ข้อมลู จากหลายแหลง่ แหลง่ ตน้ ตอของขอ้ มลู ผู้เขยี น วันท่ีเผยแพรข่ อ้ มลู - การรวบรวมขอ้ มลู ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมนิ ผล จะทำใหไ้ ดส้ ารสนเทศเพื่อใช้ใน การแก้ปัญหาหรอื การตัดสนิ ใจได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ - การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะช่วยให้การแกป้ ญั หาทำไดอ้ ย่างรวดเร็ว ถกู ตอ้ ง และแม่นยำ ๔. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Objective) 1. อธบิ ายข้อมูลทจ่ี ำเปน็ ในการแกป้ ัญหา (K) ๒. สรา้ งทางเลอื กในการแกป้ ัญหาได้ (P) ๓. เห็นความสำคญั ในการแกป้ ญั หา และการนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั (A)

130 ๕. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Desired characteristics) ๑. มคี วามใฝ่รู้ใฝ่เรยี น ๒. มคี วามมงุ่ ม่ันในการทางาน ๓. มีวินยั ๖. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น (Key competencies) 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๗. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ๑. ICA4 การแกไ้ ขปัญหาในบรบิ ทโลกดิจิทลั และการคิดเชิงคำนวณ ๘. รูปแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ การเรียนรู้โดยใช้กจิ กรรมเปน็ ฐาน (Activity-Based Learning) เป็นวิธีการจัดการเเรียนรู้ที่เน้นบทบาท และการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ที่มุ่งเน้นส่งเสริมให้ ผ้เู รียนมีสว่ นร่วมในการเรียนรู้ และบทบาทในการเรียนรขู้ องผู้เรยี น เอากิจกรรมเป็นที่ตั้งเพ่ือท่ีจะฝึก หรอื พฒั นาผูเ้ รียนให้เกิดการเรยี นรู้ใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงค์หรือเป้าหมายท่ีกำหนด ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ความตื่นตัวและกระตือรือร้นด้านการรู้คิด มุ่งเน้นความรับผิดชอบของผู้เรียนในการเรียนรู้โดยผ่าน การอ่าน เขียน คิด อภิปราย และเข้าร่วมในการแก้ปัญหา และยังสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ตามลำดบั ข้ันการเรียนรู้ของบลมู ทั้งในด้านพุทธิพิสยั ทกั ษะพิสัย และจิตพสิ ยั ๙. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Learning activities) ชั่วโมงท่ี ๑ ขนั้ นำ (๑๐ นาที) ๑. ครถู ามนักเรียนว่า จากกิจกรรมในสปั ดาหท์ ี่แล้วสมาชกิ ในห้องเลอื กรบั ประทานอาหาร ชนดิ ใดบา้ ง ๒. ครถู ามนักเรยี น ถา้ ตอ้ งรบั ประทานอาหารกลางวัน อาหารวา่ ง และเครือ่ งดื่มชุดเดียวกัน ทั้งหอ้ ง นกั เรยี นสามารถรบั ประทานได้หรอื ไม่ เพราะเหตุใดจากนนั้ สมุ่ นักเรยี น ๔-๕ คนตอบคำาถาม ข้ันสอน (๔๐ นาท)ี ๓. นกั เรยี นศกึ ษาสถานการณ์ในใบงาน เรื่อง มาช่วยกนั เลือกรายการอาหารเถอะ แลว้ ครู อธบิ ายวิธกี ารเขียนแผนภูมติ น้ ไม้ในการสร้างทางเลือกให้นักเรยี นฟงั ๔. นักเรียนเขยี นตอบในใบงาน เร่ือง มาชว่ ยกันเลือกรายการอาหารเถอะ โดยครคู อยให้ คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ๕. ครถู ามนักเรยี นว่า มีทางเลอื กในการจัดชุดอาหารทั้งหมดกท่ี างเลอื ก

131 ๖. ครสู ุ่มถามนกั เรยี น ๔-๕ คน ว่าเลือกรบั ประทานอาหารชุดใด เพราะเหตใุ ด ๗. นกั เรยี นตอบคำถามหลังจากทำกิจกรรม ขน้ั สรปุ (๑๐ นาท)ี ๘. ครถู ามนกั เรียนว่าวิธสี ร้างทางเลอื กทน่ี กั เรียนไดท้ ำากิจกรรมมีประโยชนอ์ ยา่ งไร ช่วยให้ เหน็ ทางเลือกไดช้ ดั เจน ลัดสินใจไดง้ า่ ย ๙. ในการตัดสนิ ใจเลือกแนวทางในการแก้ปัญหา นักเรยี นใช้ข้อมลู อะไร (เงอ่ื นไขที่กำหนดให้ และความเหมาะสม) ชั่วโมงท่ี ๒ ขัน้ นำ (๑๐ นาที) ๑. ครูถามนกั เรยี นวา่ เคร่ืองเขียนทจ่ี ำาเป็นในการเรยี นมีอะไรบ้าง แต่ละช้ินราคาเท่าไร ๒. ครูถามนกั เรยี นต่อวา่ ในการเลือกซือ้ เครอื่ งเขียนเราพิจารณาจากอะไรบา้ ง ข้นั สอน (๔๐ นาที) ๓. ครแู จกใบงาน มาชว่ ยเลือกกันเถอะ ใหน้ ักเรียนทำข้อ ๑ เป็นรายบุคคล จากนั้นครูถาม นกั เรยี นวา่ จากสถานการณน์ ักเรียนทราบข้อมลู อะไรบา้ ง และมีเง่อื นไขอะไรบา้ ง ๔. นกั เรียนเลอื กซือ้ เครือ่ งเขยี นแล้วตอบคำถามข้อ ๑ ในใบงาน ๕. ครูแบง่ นักเรยี นกลมุ่ ละ ๔ คน คละความสามารถเกง่ ปานกลาง อ่อน แล้วใหน้ ักเรียนแต่ ละกลุ่มตอบคำาถามข้อ ๒ และ ๓ ในใบงาน ๖. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนนำาเสนอรายการเคร่อื งเขยี นของกลุม่ ๗. ครถู ามนักเรียนวา่ กลุ่มทีม่ ีรายการเครอ่ื งเขยี นเปน็ ไปตามเง่ือนไข และใชเ้ งนิ น้อยทีส่ ดุ คือ กล่มุ ใด ๘. นักเรียนตอบคำถามหลังจากทำกิจกรรม ข้ันสรปุ (๑๐ นาท)ี ๙. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนแต่ละคนมีแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องเขียนแตกต่างกัน หรอื ไม่ และแต่ละกลมุ่ มแี นวทางในการเลอื กซื้อเครือ่ งเขยี นแตกตา่ งกันหรอื ไม่ ๑๐. จากสถานการณ์ที่กำหนดให้ ทางเลือกที่ดีที่สุดในการเลือกซื้อเครื่องเขียนมีลักษณะ อย่างไร (เปน็ ไปตามเงอ่ื นไขและใชเ้ งนิ นอ้ ยท่ีสุด) ๑๑. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า เมื่อนักเรียนเจอปัญหา นักเรียนต้องรวบรวมข้อมูลท่ี จำเปน็ ในการแก้ปัญหาก่อน จากน้นั กำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาหลาย ๆ ทางเลือก แล้วจึงเลือก แนวทางท่ีคิดว่าเหมาะสมและมีประสทิ ธิภาพทสี่ ดุ

132 ๙. การวัดและประเมินผล (Assessment) รายการวัด วิธวี ัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน - ใบงาน 1) ใบงาน - ตรวจใบงาน ร้อยละ 60 ผา่ น - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม เกณฑ์ ๒) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม การทำงานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล การทำงานรายบคุ คล ๓) พฤตกิ รรมการทำงาน - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 กลมุ่ การทำงานกลมุ่ การทำงานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ ๔) คุณลักษณะอันพึง - สงั เกตความมีวนิ ัย - แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 2 คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ความรับผดิ ชอบ อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ัน ในการทำงาน ๑๐. ชนิ้ งาน/หลกั ฐานการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น (Work piece) ๑. ใบงาน เร่อื ง มาช่วยกนั เลือกรายการอาหารเถอะ ๒. ใบงาน เร่ือง มาชว่ ยเลือกกนั เถอะ ๑๑. ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ (Learning materials) ๑๑.๑ สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 ๒. ใบงาน เรือ่ ง มาช่วยกันเลือกรายการอาหารเถอะ ๓. ใบงาน เรื่อง มาชว่ ยเลือกกนั เถอะ ๔. Power point เรอ่ื งการสร้างทางเลอื ก

133 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลง ในช่องวา่ งท่ีตรงกับระดับคะแนน ชอ่ื – สกุล ความต้ังใจใน ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสำเรจ็ รวม ท่ี ของผู้รับการ การทำงาน รบั ผิดชอบ เวลา เรยี บร้อย ของงาน 15 ประเมนิ 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............/................./................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง

134 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ลงใน ช่องท่ตี รงกบั ระดับคะแนน เล ชอ่ื – การแสดง การยอมรับฟัง การทำงาน ความมี การมี รวม ขท่ี สกลุ ความ คนอน่ื ตามท่ไี ดร้ ับ น้ำใจ ส่วนร่วมในการ 15 ของ คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน ปรับปรงุ นักเรียน ผลงานกลุ่ม 32 1 3 2 1 3 2 1 32 1 3 2 1 ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง

135 แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนให้ทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งแสดงระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมทแี่ สดงออก/ระดับคุณภาพ เลขท่ี ชอื่ – สกลุ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ในการ รวม ทำงาน 3 2 1 0 3 2 1 032 10 ลงชื่อ..................................................ผูป้ ระเมนิ ............/.................../................

136 เกณฑ์การประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึง ระดับคุณภาพ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มวี นิ ัย 1.ปฏิบตั ิตามข้อตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1.ปฏบิ ตั ิตาม 1.ไมป่ ฏบิ ตั ิตาม ใฝเ่ รียนรู้ 2. ตรงต่อเวลา มุง่ มน่ั ในการทำงาน 3. มีส่วนร่วมปฏิบัติ ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ขอ้ ตกลง กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 2. ตรงตอ่ เวลา 2.ตรงต่อเวลา 2.ไม่มสี ว่ นร่วม 4.เป็นแบบอยา่ งท่ีดี 3.มสี ่วนรว่ มปฏบิ ตั ิ 3.ไม่มสี ่วนร่วมใน ในกิจกรรม 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ กิจกรรมต่าง ๆได้ กิจกรรม 3. มีสว่ นรว่ มในกิจกรรม 4. เป็นแบบอย่างท่ีดี 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรียนตรง 1.มาเข้าเรียน 1.มีความรบั ผิดชอบ 2.ตั้งใจเรยี น เวลา 2.ไมม่ ีส่วนรว่ ม งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 2. มคี วามเพียรพยายาม 3. มสี ว่ นรว่ มใน 2.มีสว่ นรว่ มใน ในกิจกรรม ในการเรียนให้สำเรจ็ 3. มกี ารปรบั ปรุงและ กิจกรรม กจิ กรรม พัฒนาการทำงานใหด้ ีขึ้น 1. มคี วามรับผดิ ชอบ 1.มคี วามรับผิดชอบ 1. ไม่มคี วาม 4.เป็นแบบอยา่ งทดี่ ี งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย งานที่ไดร้ บั อบหมาย รับผดิ ชอบ 2. มคี วามพยายามใน 2. มีความพยายาม งานทีไ่ ด้รับ การเรียนใหส้ ำเรจ็ ในการเรยี นให้ มอบหมาย 3.มีการปรับปรุงและ สำเร็จ พฒั นาการทำงานใหด้ ี ขนึ้ ระดับ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ระดับ 3 ๘-๙ ดี ระดบั 2 6-7 ระดบั 1 ๕-1 พอใช้ ปรบั ปรงุ

137 เรื่อง เรอื่ ง มาช่วยฉันเลอื กอาหารกนั เถอะ คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนเติมรายการอาหารในชอ่ งว่างงเพื่อสร้างทางเลอื กในการจดั ชุดอาหาร แลว้ พจิ ารณาวา่ สามารถซื้อไดใ้ นงบประมาณ ๕๐ บาทได้หรอื ไม่ รายการอาหาร ร้านลุงเกา้ สกุ หี้ มนู ำ้ ราคา ๓๐ บาท ข้าวหมูทอด ๒๕ บาท ขนมคุกกี้ ราคา ๑๐ บาท ขนมปงั สอดไส้ ๑๒ บาท ชานมไขม่ ุก ราคา ๑๐ บาท น้ำป่นั ๘ บาท

ข้าวหมูทอด ขนมคุกก้ี ๒๕ บาท ราคา ๑๐ บาท อาหาร ขนมปังสอดไส้ ของฉนั ราคา ๑๒ บาท

138 เรือ่ ง มาช่วยฉันเลือกอาหารกนั เถอะ ชานมไขม่ กุ ๑๐ บาท น้ำปน่ั ราคา ๘ บาท ชานมไขม่ กุ ๑๐ บาท

139 ใบงาน : เครื่องเขียนของฉนั สถานการณ์ : กอ่ นวันเปิดภาคเรยี นคณุ แม่ชมพู่ไปเลอื กซอ้ื เครอ่ื งเขยี นใหม่ โดยมีเงอื่ นไขในการซอ้ื เครือ่ งเขยี น ดังน้ี ๑. ส่ิงทตี่ ้องซอ้ื ได้แก่ ปากกา ดินสอ ไม้บรรทัด และดนิ สอสี (สีไม้ หรอื สเี ทียน) ๒. ถา้ ซื้อดินสอที่ไมม่ ียางลบต้องซอื้ ยางลบเพ่มิ ๓. ถา้ ซ้ือดนิ สอไม้ หรือ สไี ม้ ตอ้ งซื้อกบเหลาดินสอ ๑. ให้นกั เรียนทำเคร่อื งหมาย √ ลงใน หน้ารายการสินค้าท่ีเลอื กซ้ือ ปากกาลกู ลนื่ ๑๐ บาท ดนิ สอไมไ้ มม่ ียางลบ ๕ บาท ดินสอไมม้ ยี างลบ ๘ บาท ยางลบ ๕ บาท ดนิ สอกดมียางลบ ๑๕ บาท กบเหลาดินสอ ๕ บาท ไม้บรรทัด ๘ บาท ไมบ้ รรทัด ๘ บาท สีเทยี น ๔๕ บาท

140 เรื่อง การสรา้ งทางเลอื ก ใบงาน : เครอ่ื งเขียนของฉัน ๑.๑ รายการเครอื่ งเขยี นท่ีนกั เรยี นเลือกไดแ้ ก่ ๑.๒ รายการเครอื่ งเขียนท่นี กั เรยี นเลอื กเป็นไปตามเงอ่ื นไขทโี่ จทยก์ ำหนดหรอื ไม่ O เป็น O ไมเ่ ปน็ ๑.๓ ราคาของเคร่ืองเขียนที่นกั เรียนเลือกการวมเปน็ เงิน บาท ๒. ใหน้ กั เรียนบันทกึ ขอ้ มลู รายการเครื่องเขยี นของสมาชิกในกลมุ่ ให้ครบถว้ น รายการเครอื่ งเขยี นของนกั เรียนคน รายการเครื่องเขียนของนกั เรยี นคน ท่ี ๑ ไดแ้ ก่ ท่ี 2 ไดแ้ ก่ ราคาสนิ ค้ารวม บาท ราคาสนิ ค้ารวม บาท O เป็น O ไม่เป็น ไปตามเงือ่ นไข O เป็น O ไมเ่ ป็น ไปตามเงือ่ นไข รายการเครอ่ื งเขียนของนักเรียนคน รายการเคร่อื งเขียนของนกั เรยี นคน ที่ 3 ได้แก่ ท่ี 4 ได้แก่ ราคาสนิ ค้ารวม บาท ราคาสนิ ค้ารวม บาท O เป็น O ไม่เปน็ ไปตามเงือ่ นไข O เป็น O ไม่เป็น ไปตามเงือ่ นไข ๓. จากข้อ ๒ คนที่ใช้เงนิ ในการซ้ือเครอ่ื งเขยี นน้อยท่ีสดุ และเป็นไปตามเงือ่ นไข คือนกั เรียนคนที่ ใช้เงนิ ในการซื้อเคร่อื งเขียน จำนวน บาท

141 แผนการจัดการเรียนรู้ (Lesson plan) รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ เร่อื ง การสร้างทางเลอื ก เวลา ๒ ชั่วโมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่ือง การแก้ปัญหาโดยสร้างทางเลือก เวลา ๑ ชวั่ โมง ๑. มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ (Content standards) มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ร้เู ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม ๑.๒ ตัวชวี้ ัด (Indicators) ป. 5/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงคโ์ ดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรือบรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ท่ีหลากหลาย เพ่ือแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวัน ๒. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (Main point) ปญั หาท่ีพบในชีวิตประจำวันสามารถสร้าวแนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่างหลากหลาย โดย ตอ้ งวิเคราะหป์ ัญหารวบรวมข้อมูล สร้างทางเลอื กในการแก้ปญั หา แล้วเลือกแนวทางท่เี ป็นไปได้และ เหมาะสมจะทำาใหก้ ารแกป้ ญั หามีประสิทธิภาพ ๓. สาระการเรยี นรู้ (Core content) - การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่นการเปรียบเทียบความสอดคล้อง สมบูรณ์ของ ข้อมูลจากหลายแหล่ง แหลง่ ตน้ ตอของข้อมูล ผู้เขียน วนั ทเ่ี ผยแพรข่ อ้ มูล - การรวบรวมข้อมูล ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมินผล จะทำใหไ้ ดส้ ารสนเทศเพื่อใช้ใน การแกป้ ัญหาหรือการตดั สินใจไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ - การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมินผล นำเสนอ จะชว่ ยใหก้ ารแก้ปญั หาทำได้อย่างรวดเรว็ ถกู ต้อง และแม่นยำ ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objective) 1. อธบิ ายความสัมพันธ์ในการสร้างทางเลอื กในการแก้ปัญหา (K) ๒. สรา้ งทางเลือกในการแก้ปญั หาได้ได้อยา่ งเหมาะสม (P) ๓. เห็นความสำคญั ในการแกป้ ัญหา และการนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั (A)

142 ๕. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Desired characteristics) ๑. มคี วามใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น ๒. มีความมงุ่ ม่ันในการทางาน ๓. มีวนิ ยั ๖. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน (Key competencies) 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๗. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ๑. ICA4 การแก้ไขปัญหาในบริบทโลกดิจิทลั และการคดิ เชงิ คำนวณ ๘. รปู แบบกิจกรรมการเรียนรู้ การเรียนร้โู ดยใชก้ ิจกรรมเปน็ ฐาน (Activity-Based Learning) เป็นวิธีการจัดการเเรียนรู้ที่เน้นบทบาท และการมีส่วนร่วมของผู้เรยี น ที่มุ่งเน้นส่งเสริมให้ ผู้เรียนมีสว่ นรว่ มในการเรยี นรู้ และบทบาทในการเรียนรู้ของผู้เรยี น เอากิจกรรมเป็นท่ีตั้งเพ่ือที่จะฝึก หรือพัฒนาผเู้ รียนให้เกิดการเรยี นรู้ใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงค์หรอื เป้าหมายท่ีกำหนด ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ความตื่นตัวและกระตือรือร้นด้านการรู้คิด มุ่งเน้นความรับผิดชอบของผู้เรียนในการเรียนรู้โดยผ่าน การอ่าน เขียน คิด อภิปราย และเข้าร่วมในการแก้ปัญหา และยังสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ตามลำดบั ขั้นการเรยี นรูข้ องบลูมทัง้ ในดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั ทักษะพสิ ัย และจิตพสิ ยั ๙. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Learning activities) ขน้ั นำ (๑๐ นาท)ี ๑. ครูสุ่มนักเรยี น ๒-๓ คน บอกเส้นทางการเดนิ ทางจากบา้ นมาโรงเรยี น ผา่ นสถานที่สำคัญ อะไรบา้ ง และเสยี ค่ารถโดยสารเท่าไร ๒. ให้นกั เรยี นคนเดิม บอกเสน้ ทางในการเดินทางมาโรงเรยี นทีไ่ ม่ซ้ำกับเสน้ ทางเดิม ำ แต่สามารถเดนิ ทางมาถึงโรงเรียนได้ ๓. ครูถามนักเรียนว่า ทำไมจึงเลือกเสน้ ทางแรกในการเดินทางมาโรงเรยี น ขัน้ สอน (๔๐ นาที) ๔. ครแู บง่ นักเรียนกลมุ่ ละ ๔ คน คละความสามารถเกง่ ปานกลาง อ่อน ๕. ครูแจกใบงาน เรือ่ ง ท่องไปในสวนสนกุ ให้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ศึกษาสถานการณ์เสน้ ทาง รถรางและเครอ่ื งเลน่ ในสวนสนกุ ๖. นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนการเดนิ ทางตามสถานการณ์ทีก่ ำหนดให้ตอบคำถามขอ้ ๑ ใน ใบงาน เรอ่ื ง ท่องโลก จากนนั้ นำเสนอหน้าชัน้ เรยี น

143 ๗. สมุ่ นกั เรยี น ๒-๓ คนตอบคำถามดังนี้ ๑) ในการวางแผนการเดินทาง นักเรียนตอ้ งทราบข้อมลู อะไรบา้ ง ๒) นักเรยี นนำขอ้ มลู มาใชใ้ นการวางแผนอย่างไร ๘. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มตอบคำถามขอ้ ๒ ในใบงาน โดยร่วมกันกำหนดแผนการท่องเท่ยี วใน สวนสนกุ ใหอ้ ยใู่ นวงเงนิ ท่ีกำาหนดให้ ๙. นกั เรียนนำาเสนอการทอ่ งเทยี่ วในสวนสนกุ ทีละกลมุ่ เมือ่ นักเรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอเสรจ็ แล้ว ครถู ามนกั เรยี นว่า นักเรยี นใชข้ ้อมลู อะไรบ้างในการกำหนดแผนการท่องเทย่ี ว และนำข้อมูลมา ใชอ้ ย่างไร ๑๐. นักเรยี นตอบคำถามหลงั จากทำกิจกรรม ขนั้ สรุป (๑๐ นาที) ๑๑. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายและสรุปเก่ยี วกับการสรา้ งทางเลอื กในการแก้ปัญหา ๑๒. นักเรียนทำใบงาน เร่ือง ผัง Sorting เพ่ือทดสอบความเข้าใจ ๑๐. การวดั และประเมนิ ผล (Assessment) รายการวดั วธิ ีวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 1) ใบงาน - ตรวจใบงาน - ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ น เกณฑ์ ๒) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ ๓) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 2 ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ ๔) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 กล่มุ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ ๕) คุณลักษณะอันพึง - สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ความรับผดิ ชอบ อนั พึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่นั ในการทำงาน ๑๑. ช้นิ งาน/หลักฐานการเรียนรขู้ องผูเ้ รียน (Work piece) ๑. ใบงาน เรอื่ ง ท่องโลก ๒. ใบงาน เรื่อง ผัง Sorting

144 ๑๒. สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ (Learning materials) 1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 ๒. ใบงาน เร่ือง ท่องโลกสวนสนุก ๓. ใบงาน เร่อื ง ผงั Sorting ๔. Power point เรอ่ื งการสรา้ งทางเลือก

145 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน คำชีแ้ จง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงใน ชอ่ งที่ตรงกับระดับคะแนน ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 3 21 1 ความถูกต้องของเนอ้ื หา 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 3 วิธีการนำเสนอผลงาน 4 การนำไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............/................./................... เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินบางสว่ น เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook