Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้ ป.5

แผนจัดการเรียนรู้ ป.5

Published by อดิวัฒน์ ยอดดี, 2021-09-29 09:05:20

Description: แผนจัดการเรียนรู้ ป.5

Search

Read the Text Version

47 แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นใหท้ ำเครอื่ งหมาย ✓ ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก/ระดับคุณภาพ ท่ี ชอื่ – สกลุ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมัน่ ในการ รวม ทำงาน 3 2 1 0 3 2 1 032 10 ลงชือ่ ..................................................ผ้ปู ระเมิน ............/.................../................

48 เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านคณุ ลักษณะอัน ระดบั คุณภาพ (2) (1) พึงประสงค์ (3) (0) มีวินยั 1.ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัติตาม 1.ปฏิบัติตาม 1.ไม่ปฏบิ ตั ติ าม ใฝ่เรยี นรู้ 2. ตรงต่อเวลา มุง่ มัน่ ในการทำงาน 3. มีส่วนรว่ มปฏิบตั ิ ข้อตกลง ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง กิจกรรมต่าง ๆ ไดด้ ี 2. ตรงต่อเวลา 2.ตรงตอ่ เวลา 2.ไมม่ สี ่วนรว่ ม 4.เปน็ แบบอย่างท่ดี ี 3.มสี ว่ นร่วมปฏบิ ตั ิ 3.ไม่มีส่วนรว่ มใน ในกจิ กรรม 1.เข้าเรียนตรงเวลา 2. ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ กจิ กรรมต่าง ๆได้ กจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มในกิจกรรม 4. เป็นแบบอยา่ งทดี่ ี 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เข้าเรียนตรง 1.มาเขา้ เรยี น 1.มคี วามรับผิดชอบ 2.ต้งั ใจเรยี น เวลา 2.ไมม่ ีสว่ นรว่ ม งานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 2. มีความเพียรพยายาม 3. มสี ่วนรว่ มใน 2.มีสว่ นรว่ มใน ในกิจกรรม ในการเรยี นใหส้ ำเร็จ 3. มกี ารปรบั ปรงุ และ กิจกรรม กจิ กรรม พฒั นาการทำงานใหด้ ีข้นึ 1. มีความรับผดิ ชอบ 1.มคี วามรับผิดชอบ 1. ไมม่ ีความ 4.เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี งานที่ได้รับมอบหมาย งานท่ีไดร้ ับอบหมาย รบั ผดิ ชอบ 2. มีความพยายามใน 2. มคี วามพยายาม งานทีไ่ ดร้ บั การเรยี นให้สำเร็จ ในการเรยี นให้ มอบหมาย 3.มกี ารปรับปรงุ และ สำเรจ็ พฒั นาการทำงานให้ดี ขึ้น ระดบั ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๘-๙ ดี ระดับ 3 6-7 ระดับ 2 ๕-1 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรงุ

49 เร่อื ง การทำนายผลลพั ธจ์ ากปัญหา อยา่ งง่าย คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นพิจารณาภาพและสถานการณ์ทีก่ ำหนดให้ พรอ้ มหาเส้นทางจากบา้ นไปยงั สวนสนุก ใหถ้ กู ตอ้ ง สถานการณ์ คุณป้าและคุณน้าของโหน่งจะพาโหน่งไปสวนสนุก แต่ก่อนจะออกจากบ้านคุณพ่อของโหน่งได้ ค้นหาการเดินทางไปสวนสนุกจากแผนที่ด้านล่าง ดังนั้นคุณพ่อจะเลือกเส้นทางใด เพื่อให้เดินทางจาก บ้านไปยงั สวนสนุกไดโ้ ดยใชร้ ะยะทางท่สี ้ันทส่ี ดุ โดยใชก้ ารทำนายผลลพั ธจ์ ากปัญหาอยา่ งงา่ ย เสน้ ทางที่ ระยะทาง ระยะทางรวม เลอื กเสน้ ทางใด …………………………………………………………………………………..

50 เรอื่ ง การแกป้ ัญหาด้วยเหตผุ ลเชิงตรรกะ คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนนำเศษของรังผ้งึ จากดา้ นลา่ งมาประกอบเปน็ รังผง้ึ ทสี่ มบรู ณ์ ซึ่งนักเรยี นอาจจะใช้ วิธีการระบายสลี งไปในรังผงึ้ ตามเศษของรังผึ้งท่ีนักเรียนตอ้ งการนำมาประกอบ

51

52 แผนการจัดการเรยี นรู้ (Lesson plan) รายวิชา วิทยาการคำนวณ กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๒ เร่ือง การติดตอ่ สือ่ สารและการค้นหาขอ้ มูล เวลา ๖ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรื่อง การติดตอ่ สอื่ สารผา่ นอินเทอร์เน็ต เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ (Content standards) มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ๑.๒ ตวั ช้ีวดั (Indicators) ว 4.2 ป.5/3 ใชอ้ ินเทอร์เน็ตค้นหาขอ้ มูล ตดิ ต่อสอื่ สาร และทำงานร่วมกัน ประเมินความ นา่ เชือ่ ถือของข้อมลู ๒. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (Main point) ในปัจจุบันการตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอนิ เทอร์เน็ต ถอื วา่ เปน็ บรกิ ารทชี่ ่วยตอบสนองความตอ้ งการ ในการสื่อสารของมนุษย์ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารผ่าน อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่านไปรษณีย์ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ หรือ อเี มล โปรแกรมสนทนา และบลอ็ ก ๓. สาระการเรียนรู้ (Core content) - การค้นหาข้อมูลในอนิ เทอรเ์ นต็ และการพิจารณาผลการค้นหา - การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเช่น อีเมล บล็อก โปรแกรมสนทนา การเขียนจดหมาย (บูรณาการกบั วชิ าภาษาไทย) - ใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันเช่นใช้นัดหมายในการประชุมกลุ่ม ประชาสัมพันธ์กิจกรรมในห้องเรียนการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นในการเรยี นภายใต้การดูแล ของครคู วามคดิ เห็นในการเรยี นภายใตก้ ารดแู ลของครู - การประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมูล เชน่ เปรียบเทยี บความสอดคลอ้ งสมบรู ณ์ของข้อมูล จากหลายแหลง่ แหล่งต้นตอของขอ้ มูลผเู้ ขียนวันท่เี ผยแพรข่ อ้ มลู - ข้อมูลท่ีดตี อ้ งมีรายละเอยี ดครบทุกด้านเช่นข้อดแี ละขอ้ เสียประโยชน์และโทษ

53 ๔. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Objective) 1. อธิบายเก่ียวกับการติดตอ่ สอ่ื สารผ่านอินเทอร์เนต็ ได้ถกู ตอ้ ง (K) ๒. สืบคน้ ขอ้ มูลเกย่ี วกบั โปรแกรมสนทนาและบล็อกได้ (P) ๓. เลง็ เหน็ ถงึ ความสำคญั และประโยชนข์ องการติดตอ่ ส่ือสารผ่านอินเทอร์เนต็ (A) ๕. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Desired characteristics) ๑. มีความใฝร่ ู้ใฝ่เรยี น ๒. มคี วามมุ่งมั่นในการทางาน ๓. มวี นิ ัย ๖. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น (Key competencies) 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา ๗. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ๑. ICA1 การเข้าถงึ ประเมนิ และจัดการ ขอ้ มลู และสารสนเทศ ๒. ICA2 การแชร์ขอ้ มูลและการสือ่ สาร ๓. ICA5 การใช้ ICT อยา่ งเหมาะสม ๘. รูปแบบกจิ กรรมการเรียนรู้ การสอนแบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน (problem - based learning) เป็นรูปแบบการสอนแบบที่เน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการฝึกแก้ปัญหาต่าง ๆ ผ่าน กระบวนการคิด การปฏิบัติอย่างมีระบบ และสร้างองค์ความรู้ใหม่จากการใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงใน ชวี ิตประจำวันได้ ซึง่ การสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐานเป็นการจัดการเรียนรโู้ ดยใช้ปัญหาเปน็ เครื่องมือใน การกระตุน้ ใหผ้ ู้เรยี นมีความสนใจและต้องการศึกษาคน้ คว้าข้อมูลเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา ซ่ึงผู้เรียน จะได้วิเคราะห์และแก้ปัญหาและทำให้เกิดความเข้าใจปัญหาอย่างชัดเจนและสามารถใช้ ทักษะ กระบวนการทน่ี ำไปสู่การแก้ปญั หาได้ ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (Learning activities) ขน้ั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) (๑๐ นาที) ๑. ครผู สู้ อนจัดกิจกรรม Music for Promote Learning เพ่อื กระต้นุ ผู้เรียนผ่านบทเพลง สำหรบั เตรยี มพร้อมในการเรยี น ๒. กิจกรรม Check in ครผู สู้ อนกล่าวทักทายนักเรียน ช้แี จงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ การวัด และการประเมนิ ผล และแนะนำหวั ขอ้ เนอื้ หาที่จะเรยี น

54 ๓. ครูถามคำถามประจำหัวข้อกับนกั เรียนว่า“นกั เรยี นคิดว่าการนำอินเทอรเ์ น็ตเข้ามาใช้ใน การตดิ ต่อสื่อสารมีประโยชน์อยา่ งไร” การตดิ ตอ่ สื่อสารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต เป็นบริการทีช่ ่วยตอบสนอง ความตอ้ งการในการสื่อสารของมนุษยใ์ หม้ ีความสะดวกสบายยิง่ ขน้ึ เปน็ ตน้ ขัน้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration) (๕ นาที) 1. ครูซักถามนักเรยี นว่า “นกั เรยี นรจู้ กั การตดิ ต่อส่อื สารผ่านอนิ เทอร์เนต็ แบบใดบา้ ง” เช่น ไปรษณีย์อิเลก็ ทรอนิกส์ Facebook Line Messenger เป็นต้น ๒. นักเรียนศึกษา เรื่อง การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันโดยสืบค้นจาก อนิ เทอร์เน็ต ขัน้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) (๒๐ นาท)ี 1. นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน เพ่ือสืบค้นและศึกษาเก่ียวกบั โปรแกรมสนทนา และ ตัวอยา่ งการใชโ้ ปรแกรมสนทนาจากสถานการณ์ในหนงั สือเรยี นหรอื อนิ เทอรเ์ น็ต พรอ้ มเปิดโอกาสให้ นกั เรยี นไดส้ อ่ื สารและแลกเปล่ยี นขอ้ มูลรว่ มกัน 2. ครอู ธบิ ายกบั นกั เรยี นเกยี่ วกับโปรแกรมสนทนาว่า “โปรแกรมสนทนาเป็นโปรแกรมการ สนทนาออนไลนท์ ี่สื่อสารผ่านเครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ต ซ่ึงในปจั จุบันมีการสื่อสารที่ผู้ใช้งานสามารถเห็น ใบหน้ากนั ได้ เช่น Line Facebook Messenger Skype เป็นตน้ ” 3. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบล็อก (Blog) โดยอธิบายว่า บล็อก คือ เวบ็ ไซตร์ ูปแบบหนึ่งท่เี ปน็ การเขยี นเวบ็ ไซตท์ ่ีเน้นการนำเสนอข้อมูลในดา้ นท่ตี นเองสนใจ เช่น บล็อกการท่องเท่ียว บล็อกขายสินค้า บล็อกทำอาหาร เป็นต้น ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถทำได้โดยไม่ เสียคา่ ใช้จ่าย” 4. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสืบค้นและคัดเลือกบล็อกท่สี นใจ พรอ้ มออกมาอภิปรายหนา้ ช้นั เรยี น 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า “ผู้ที่มีความชำนาญในการเขียนบล็อกหรือผู้ที่ เขยี นบลอ็ ก เป็นอาชีพเรามกั จะเรียกคนเหลา่ นี้วา่ บลอ็ กเกอร์ (Blogger) ” 6. นักเรียนศึกษาตัวอย่างการใช้บล็อกจากสถานการณ์ที่กำหนดไว้ พร้อมถามคำถามท้า ทายการคิดขั้นสูงกับนักเรียนว่า “นอกจากการสร้างสื่อการเรียนการสอนแล้ว นักเรียนคิดว่าบล็อก สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการเรียนการสอนได้อยา่ งไรบ้าง” เช่น ใช้บล็อกในการขยายความ เข้าใจในเนือ้ หาต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่เน้ือหาทีน่ ่าสนใจ ให้นักเรยี นได้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้นหรือสรา้ ง เป็นชอ่ งทางในการสอื่ สาร เพือ่ ให้ผูท้ ีส่ นใจในเรือ่ งเดียวกันไดแ้ ลกเปล่ียนความรู้รว่ มกนั ขน้ั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) (๑๕ นาที) 1. นักเรียนทำกิจกรรมฝกึ ทกั ษะในหนงั สอื เรยี นและทำใบงานที่ เรื่อง โปรแกรมสนทนา ออนไลน์

55 ข้ันสรุป ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) (๕ นาท)ี 1. ครูประเมินผลนักเรียน จากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากผลงานการทำใบงาน และกิจกรรมฝกึ ทกั ษะของนักเรียน 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตว่า “ปัจจุบันคน นิยมสื่อสารผ่านเครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก เพราะถอื ว่าเป็นบรกิ ารท่ีชว่ ยตอบสนองความ ต้องการในด้านการสื่อสาร เพราะเป็นการสื่อสารที่สะดวก รวดเร็ว และสามารถทำได้หลากหลาย รปู แบบ” ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) (๕ นาที) 1. ครูประเมนิ ผลนกั เรยี น จากการสงั เกตการตอบคำถาม การร่วมกนั ทำผลงาน และการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากผลงานการทำใบงาน และกิจกรรมฝกึ ทกั ษะของนักเรยี น 3. นกั เรียนและครูร่วมกันสรุปเกีย่ วกับการติดต่อสื่อสารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตว่า “ปัจจุบันคน นยิ มสื่อสารผ่านเครือขา่ ยอินเทอรเ์ นต็ เป็นจำนวนมาก เพราะถอื ว่าเปน็ บรกิ ารทชี่ ว่ ยตอบสนองความ ตอ้ งการในดา้ นการสอื่ สาร เพราะเป็นการส่ือสารทสี่ ะดวก รวดเรว็ และสามารถทำได้หลากหลาย รปู แบบ” ๙. การวัดและประเมนิ ผล (Assessment) รายการวดั วธิ ีวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ - ใบงาน 1) ใบงานโปรแกรม - ตรวจใบงาน ร้อยละ 60 ผา่ น - แบบสงั เกตพฤติกรรม เกณฑ์ สนทนาออนไลน์ การทำงานรายบุคคล ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ๒) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤตกิ รรม รายบุคคล การทำงานรายบุคคล ๓) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 กลมุ่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ ๔) คุณลักษณะอันพึง - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ความรับผิดชอบ คณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่นั ในการทำงาน ๑๐. ชิ้นงาน/หลักฐานการเรยี นร้ขู องผ้เู รียน (Work piece) ใบงาน เรื่อง โปรแกรมสนทนาออนไลน์

56 ๑๑. สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ (Learning materials) 1. หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 ๒. ใบงานเร่อื ง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ ๓. Power point เร่ือง การตดิ ตอ่ ส่อื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็

57 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลง ในชอ่ งวา่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ชอื่ – สกลุ ความตั้งใจใน ความ การตรงตอ่ ความสะอาด ผลสำเร็จ รวม ท่ี ของผูร้ ับการ การทำงาน รับผิดชอบ เวลา เรยี บร้อย ของงาน 15 ประเมิน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............/................./................... เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 ต่ำกวา่ 8 พอใช้ ปรับปรงุ

58 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงใน ชอ่ งทต่ี รงกับระดบั คะแนน เล ชอ่ื – การแสดง การยอมรบั ฟัง การทำงาน ความมี การมี รวม ขท่ี สกุล ความ คนอ่นื ตามทีไ่ ด้รับ น้ำใจ สว่ นร่วมในการ 15 ของ คิดเห็น มอบหมาย คะแนน ปรบั ปรุง นกั เรยี น ผลงานกลุ่ม 32 1 3 2 1 3 2 1 32 1 3 2 1 ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง

59 แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนใหท้ ำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องแสดงระดับคณุ ภาพ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก/ระดับคุณภาพ เลขที่ ช่ือ – สกลุ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มัน่ ในการ รวม ทำงาน 3 2 1 0 3 2 1 032 10 ลงชื่อ..................................................ผปู้ ระเมิน ............/.................../................

60 เกณฑก์ ารประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านคุณลักษณะอัน ระดบั คุณภาพ (2) (1) พึงประสงค์ (3) (0) มวี ินัย 1.ปฏิบัติตามข้อตกลง 1. ปฏบิ ัติตาม 1.ปฏิบตั ติ าม 1.ไมป่ ฏิบตั ติ าม ใฝ่เรียนรู้ 2. ตรงตอ่ เวลา มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 3. มสี ว่ นรว่ มปฏิบตั ิ ข้อตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง กจิ กรรมตา่ ง ๆ ไดด้ ี 4.เป็นแบบอย่างท่ีดี 2. ตรงตอ่ เวลา 2.ตรงตอ่ เวลา 2.ไม่มสี ว่ นร่วม 1.เข้าเรียนตรงเวลา 3.มสี ่วนร่วมปฏบิ ตั ิ 3.ไมม่ ีสว่ นรว่ มใน ในกจิ กรรม 2. ตัง้ ใจเรยี น เอาใจใส่ 3. มสี ่วนร่วมในกิจกรรม กจิ กรรมตา่ ง ๆได้ กิจกรรม 4. เปน็ แบบอย่างท่ีดี 1.เข้าเรียนตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเข้าเรยี น 1.มคี วามรับผดิ ชอบ 2.ต้ังใจเรยี น เวลา 2.ไม่มีสว่ นร่วม งานที่ไดร้ ับมอบหมาย 2. มีความเพียรพยายาม 3. มสี ว่ นรว่ มใน 2.มสี ว่ นร่วมใน ในกจิ กรรม ในการเรียนให้สำเรจ็ 3. มีการปรบั ปรุงและ กิจกรรม กจิ กรรม พฒั นาการทำงานใหด้ ีขน้ึ 4.เป็นแบบอย่างทดี่ ี 1. มีความรับผิดชอบ 1.มีความรับผดิ ชอบ 1. ไม่มีความ งานที่ได้รบั มอบหมาย งานทไ่ี ด้รับอบหมาย รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามพยายามใน 2. มีความพยายาม งานทีไ่ ด้รับ การเรียนให้สำเร็จ ในการเรียนให้ มอบหมาย 3.มกี ารปรบั ปรุงและ สำเรจ็ พัฒนาการทำงานให้ดี ข้นึ ระดับ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ๘-๙ ดี ระดับ 3 6-7 ระดับ 2 ๕-1 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรงุ

61 เรื่อง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นบอกโปรแกรมสนทนาออนไลนท์ น่ี ักเรยี นใช้เปน็ ประจำ พรอ้ มวาดภาพ สัญลักษณ์ของโปรแกรมท่ีนกั เรียนใชง้ าน พรอ้ มอธบิ ายวา่ โปรแกรมสนทนาออนไลนน์ ี้คอื อะไร และมปี ระโยชนก์ ับนกั เรียนอยา่ งไรบา้ ง โปรแกรมสนทนาออนไลนท์ ีน่ กั เรยี นใช้ คอื สัญลกั ษณ์

62 แผนการจัดการเรยี นรู้ (Lesson plan) รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรอื่ ง การตดิ ตอ่ สอื่ สารและการค้นหาข้อมลู เวลา ๖ ชัว่ โมง แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๒ เร่อื ง การส่งจดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ เวลา ๑ ช่ัวโมง ๑. มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ (Content standards) มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ร้เู ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ๑.๒ ตัวชวี้ ดั (Indicators) ว 4.2 ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาข้อมลู ตดิ ต่อส่อื สาร และทำงานร่วมกัน ประเมนิ ความ นา่ เชือ่ ถอื ของขอ้ มลู ๒. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (Main point) จดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ (electronic mail) หรือทเี่ รียกสนั้ ๆ วา่ อีเมล (e-mail) เปน็ บริการ ประเภทหน่ึงบนอินเทอรเ์ น็ต การใชง้ านมผี ู้ใหบ้ ริการฟรี หรือท่เี รียกวา่ ฟรีอีเมล โดยเข้าไปในเวบ็ ไซต์ แล้วสมคั รใชง้ าน เชน่ Gmail Hotmail หรือ Windows Live นอกจากนยี้ งั มีอีเมลของหน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ ทสี่ ร้างขนึ้ มาเฉพาะอีกดว้ ย ๓. สาระการเรียนรู้ (Core content) - การคน้ หาข้อมูลในอนิ เทอรเ์ น็ตและการพิจารณาผลการคน้ หา - การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเช่น อีเมล บล็อก โปรแกรมสนทนา การเขียนจดหมาย (บรู ณาการกับวชิ าภาษาไทย) - ใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันเช่นใช้นัดหมายในการประชุมกลุ่ม ประชาสัมพันธ์กิจกรรมในห้องเรียนการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นในการเรยี นภายใต้การดูแล ของครคู วามคิดเห็นในการเรียนภายใต้การดแู ลของครู - การประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มลู เชน่ เปรยี บเทยี บความสอดคลอ้ งสมบูรณ์ของข้อมูล จากหลายแหลง่ แหล่งต้นตอของข้อมลู ผู้เขยี นวันที่เผยแพร่ข้อมูล - ขอ้ มูลท่ดี ตี อ้ งมรี ายละเอยี ดครบทุกดา้ นเชน่ ข้อดแี ละขอ้ เสียประโยชนแ์ ละโทษ

63 ๔. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (Objective) ๑. อธบิ ายเกี่ยวกับการส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (K) 2. วเิ คราะห์เก่ยี วกับการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (P) 3. เหน็ ความสำคัญและประโยชน์ของการใช้จดหมายอิเล็กทรอนกิ สใ์ นการสื่อสาร (A) ๕. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Desired characteristics) ๑. มีความใฝ่ร้ใู ฝ่เรียน ๒. มคี วามมุ่งม่ันในการทางาน ๓. มวี นิ ัย ๔. มีความสามัคคี และทำางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (Key competencies) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๗. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ๑. ICA1 การเขา้ ถงึ ประเมิน และจดั การ ขอ้ มลู และสารสนเทศ ๒. ICA2 การแชรข์ อ้ มลู และการสื่อสาร ๓. ICA5 การใช้ ICT อยา่ งเหมาะสม ๘. รปู แบบกิจกรรมการเรยี นรู้ กระบวนการเรยี นรูแ้ บบ GPAS กระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS สอดคล้องกับทฤษฎพี ัฒนาการทางเชาวนป์ ัญญาของเพียเจต์ (Jean Piaget) และของวีก๊อทสก้ี (Semyonovich Vygotsky) เปน็ รากฐานสำคัญของทฤษฎีการสร้าง ความรู้ดว้ ยตนเอง (Constructivism) ทเ่ี นน้ การเรยี นรูท้ ี่ผู้เรียนคิดลงมือทำและสรปุ ความรูด้ ว้ ยตนเอง โดยการปะทะสัมพันธ์กับประสบการณ์ต่าง ๆ และมีการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ มุมมองหลากหลายจึงทำ ให้ผู้เรียนมีข้อมูล นำไปสู่การปรับโครงสร้างความรู้ ความคิดรวบยอด หรือหลักการสำคัญที่ศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study) จึงเป็นแนวทางท่ีตอบสนองความแตกต่างระหว่างบคุ คล ทั้งในแง่ความสนใจ ประสบการณ์ วิธีการเรียนรู้ และการให้คุณค่าความรู้ทีผ่ ู้เรียนแต่ละคนสร้างขนึ้ อยา่ งมคี วามหมาย

64 ๙. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (Learning activities) ขัน้ สงั เกต รวบรวมข้อมูล (๑๕ นาท)ี ๑. นกั เรยี นร่วมกนั สังเกตภาพเกยี่ วกบั การส่งจดหมายผา่ นต้ไู ปรษณีย์บนกระดาน แล้วตอบ คำถาม ดังนี้ จากภาพนักเรียนเหน็ อะไรบา้ ง - เด็กผู้หญงิ ในภาพกำลงั ทำอะไร - นักเรยี นคิดว่าการส่งจดหมายไปรษณีย์จะใช้เวลากว่ี ันจงึ จะถงึ ผู้รับ - นักเรียนคดิ วา่ จะมวี ธิ กี ารใดท่ีจะชว่ ยใหก้ ารส่งจดหมายถงึ มือของผ้รู บั ไดใ้ นระยะเวลา อันรวดเรว็ - นกั เรยี นคิดว่าถ้าจะส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ จะสามารถส่งไดจ้ ากช่องทางใดบา้ ง 2. นักเรยี นรว่ มกนั ศกึ ษาค้นควา้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั การส่งจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จากแหลง่ การ เรียนรตู้ า่ ง ๆ อย่างหลากหลาย เช่น การสอบถามจากครูหรือผปู้ กครอง และห้องสมุด ขั้นสอน ( ๔๐ นาท)ี ๓. นักเรยี นแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั จากน้นั แต่ละกลุ่มรว่ มกันสังเกต และวเิ คราะหบ์ ตั ร ภาพเก่ียวกับการส่งจดหมายทางไปรษณยี ์ และการสง่ จดหมายอเิ ล็กทรอนกิ ส์ จากนั้นเรียงบตั รภาพ ตามข้ันตอน แล้วตอบคำถาม ดังน้ี - ภาพที่ 1 และภาพท่ี 2 ต่างกันอย่างไร - นักเรยี นคดิ ว่าการส่งจดหมายแบบใดดีที่สุด เพราะเหตใุ ด ภาพที่ ๑ ภาพท่ี 2 ถงึ [email protected] จาก [email protected]

65 4. นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะหแ์ ละอภปิ รายแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั การสมัครใชง้ าน Gmail หากมีขอ้ สงสัยสามารถถามครูได้ โดยมีข้ันตอนการสมัครเข้าใชง้ าน ดังน้ี 4.1 เปิดโปรแกรมเวบ็ เบราวเ์ ซอร์ข้นึ มา เช่น Google Chrome, Firefox Opera 4.2 ในช่องของ Address พิมพ์คำวา่ mail.google.com แลว้ กดปุม่ Enter ท่แี ปน้ พิมพ์ หรือคลกิ ที่น่ี เพ่ือเข้าสู่ Gmail 4.3 จากนัน้ สงั เกตท่ีมมุ บนด้านขวามือ ใหค้ ลิกเมาส์เลอื กปมุ่ 1 คร้ัง จะปรากฏ แบบฟอร์มสำหรับการสมัครใชง้ าน Gmail ขึ้นมา ๕. ครผู ู้สอนอธิบายและสาธติ ข้ันตอนการสมัครใช้บัญชี Gmail ๖. นกั เรียนรว่ มกนั สงั เกตและวิเคราะห์ภาพอีเมลแอดเดรสบนกระดาน แลว้ ตอบคำถาม ดงั นี้ จากภาพ ขอ้ ความท่ีตกี รอบไวแ้ ตล่ ะสว่ นคอื อะไร 1. m_ioy007 คอื ช่อื ประจำตวั ของผู้ใช้ 2. gmail.com คือ ผูใ้ หบ้ ริการอเี มล) จากภาพหมายความว่าอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ผใู้ ช้ คือ m_joy007 และใชบ้ รกิ ารของ gmail.com ซ่ึงเปน็ บรกิ ารฟรีของ Google) ๗. นกั เรียนรว่ มกนั วิเคราะหแ์ ละอภปิ รายแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ เกี่ยวกบั การเข้าใช้งาน Gmail หากมขี ้อสงสยั สามารถถามครูได้ โดยมวี ิธีการใช้งาน ดงั น้ี ๗.๑ เม่ือเรามอี ีเมลแอดเดรสแล้ว การใช้งานจะตอ้ งลงชื่อเขา้ ใช้งาน โดยเขา้ เว็บไซต์ www.google.com แลว้ คลิกเมาสท์ ่ี Gmail จากนั้นเข้าใชง้ านในระบบ ๗.2 การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือสง่ อเี มล เราตอ้ งทราบอเี มลแอดเดรสของผู้รบั เสยี ก่อนวา่ จะสง่ ไปยังที่ใด โดยเร่ิมจากผู้สง่ ลงช่ือเขา้ ใชง้ านในระบบ เช่น ถ้าใช้ Gmail เมอ่ื ลงชื่อเข้าไป ในระบบจะพบกับหน้าจอของโปรแกรม หากตอ้ งการเขยี นจดหมายให้คลกิ เมาส์ท่ี “เขียน” ๗.๓ โปรแกรมจะเข้าส่หู น้าจอการเขยี นจดหมาย โดยใหเ้ ราป้อนช่อื ผ้ใู ช้ว่าจะสง่ จดหมาย ไปยังอเี มลแอดเดรสใด และเรอื่ งใด ถ้าตอ้ งการสง่ ไปยังผรู้ ับที่ใช้ชอ่ื [email protected] ทำได้ ๗.๔ เขียนขอ้ ความลงไป เรายังสามารถจัดหนา้ ของจดหมาย แนบไฟล์ภาพหรือไฟลอ์ ่ืน ๆ ไปกับอเี มลของเราไดอ้ กี ด้วย ๘. นักเรยี นร่วมกนั วิเคราะห์ปญั หาที่อาจเกิดขน้ึ ในการส่งจดหมายอเิ ล็กทรอนกิ สผ์ ่านทาง อีเมล โดยเขียนบันทกึ คำตอบของนกั เรียนเปน็ แผนภาพความคิด 8. นักเรยี นรว่ มกนั คิดวเิ คราะห์ โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคิด ดังน้ี - นักเรียนคิดว่าจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ดีหรือไม่ อย่างไร เช่น ดี เพราะการส่ง จดหมายอิเล็กทรอนิกส์สามารถส่งถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็ว และสามารถตอบกลับได้เลย ยังสามารถ แนบภาพหรอื ไฟล์เอกสารไปพรอ้ มจดหมายได้เลย และยังทำใหป้ ระหยดั กระดาษด้วย

66 ขั้นสรปุ (๕ นาที) 9. นักเรียนร่วมกันสรปุ ความคิดรวบยอดเกีย่ วกับการส่งจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ดงั นี้ การส่ง จดหมายถือวา่ เป็นการติดต่อสื่อสารท่ีมีมาแต่อดตี จนถงึ ปจั จบุ นั ซงึ่ ในอดีตจะเปน็ การส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งจะใช้เวลา และมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก แต่ในปัจจุบันการส่งจดหมายได้มีการเปลีย่ นแปลงมาเป็นแบบ อิเล็กทรอนกิ ส์ ซ่ึงการสง่ จดหมายแบบอเิ ล็กทรอนิกสน์ นั้ จะมีความรวดเร็ว สะดวกสบายและประหยัด คา่ ใช้จ่าย อีกทง้ั มขี ้ันตอนท่ีไม่ยงุ่ ยาก โดยการส่งจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์สามารถส่งผ่านชอ่ งทางตา่ ง ๆ ได้ เชน่ การส่งผ่านทาง Gmail ซ่ึงเปน็ ที่ไดร้ ับความนิยมเปน็ อยา่ งมากในปัจจบุ นั ๑๐. การวดั และประเมนิ ผล (Assessment) รายการวัด วธิ วี ัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน ๑) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล การทำงานรายบุคคล ๒) พฤตกิ รรมการทำงาน - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานกลุม่ ผ่านเกณฑ์ กลุ่ม การทำงานกล่มุ - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2 ๓) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมีวินยั คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ อนั พึงประสงค์ อันพึงประสงค์ ความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มนั่ ในการทำงาน ๑๑. ชนิ้ งาน/หลกั ฐานการเรยี นรู้ของผู้เรยี น (Work piece) - ๑๒. ส่ือและแหล่งเรียนรู้ (Learning materials) ๑๒.๑ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 ๒. บัตรภาพเกีย่ วกับการส่งจดหมายทางไปรษณยี ์ ๓. Power point เร่อื ง การสง่ จดหมายอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ๑๒.๒ แหลง่ เรียนรู้ (Learning resource) ๑. วธิ ีสมัคร Gmail แบบ. (ออนไลน)์ . เข้าถึงได้จาก https://www.wongnai.com/beauty-tips/how-to-sign-up-your-gmail?ref=ct. ๒. สรา้ งบัญชี Google. (ออนไลน์). เข้าถงึ ไดจ้ าก https://support.google.com/accounts/answer/27441?hl=th

67 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงใน ชอ่ งทต่ี รงกับระดบั คะแนน เล ชอ่ื – การแสดง การยอมรบั ฟัง การทำงาน ความมี การมี รวม ขท่ี สกุล ความ คนอ่นื ตามทีไ่ ด้รับ น้ำใจ สว่ นร่วมในการ 15 ของ คิดเห็น มอบหมาย คะแนน ปรบั ปรุง นกั เรยี น ผลงานกลุ่ม 32 1 3 2 1 3 2 1 32 1 3 2 1 ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกวา่ 8 ปรับปรุง

68 แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก/ระดบั คุณภาพ –เลขท่ี ชื่อ สกลุ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ ม่ันในการ รวม ทำงาน 3 2 1 0 3 2 1 032 10 ลงชอื่ ..................................................ผปู้ ระเมิน ............/.................../................

69 เกณฑ์การประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอัน ระดับคณุ ภาพ (2) (1) พึงประสงค์ (3) (0) มีวนิ ยั 1.ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1.ปฏบิ ัตติ าม 1.ไมป่ ฏิบัติ ใฝ่เรยี นรู้ 2. ตรงต่อเวลา มุ่งม่นั ในการทำงาน 3. มสี ่วนร่วมปฏิบัติ ข้อตกลง ข้อตกลง ตามขอ้ ตกลง กจิ กรรมตา่ ง ๆ ไดด้ ี 4.เปน็ แบบอยา่ งท่ีดี 2. ตรงตอ่ เวลา 2.ตรงตอ่ เวลา 2.ไม่มีส่วนรว่ ม 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 3.มีสว่ นรว่ มปฏบิ ตั ิ 3.ไม่มีส่วนร่วมใน ในกจิ กรรม 2. ต้งั ใจเรียน เอาใจ ใส่ กิจกรรมตา่ ง ๆได้ กิจกรรม 3. มีสว่ นรว่ มใน กจิ กรรม 1.เข้าเรยี นตรง 1. เข้าเรียนตรง 1.มาเข้าเรียน 4. เป็นแบบอย่างทีด่ ี เวลา เวลา 2.ไมม่ ีสว่ นร่วม 1.มีความรบั ผิดชอบ งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 2.ต้ังใจเรียน 2.มีส่วนรว่ มใน ในกิจกรรม 2. มีความเพยี ร พยายามในการเรยี น 3. มีส่วนรว่ มใน กจิ กรรม ใหส้ ำเรจ็ 3. มกี ารปรบั ปรุงและ กจิ กรรม พฒั นาการทำงานให้ดี ข้นึ 1. มีความ 1.มคี วาม 1. ไม่มีความ 4.เปน็ แบบอย่างทดี่ ี รบั ผดิ ชอบ รบั ผดิ ชอบ รบั ผดิ ชอบ งานท่ีได้รับ งานท่ไี ด้รบั งานทไี่ ดร้ บั อบ มอบหมาย มอบหมาย หมาย 2. มคี วามพยายาม 2. มีความ ในการเรยี นให้ พยายามในการ สำเร็จ เรยี นให้สำเรจ็ 3.มกี ารปรับปรุง และพัฒนาการ ทำงานให้ดีข้นึ ระดบั ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ระดับ 3 ๘-๙ ดี ระดับ 2 ระดับ 1 6-7 พอใช้ ปรบั ปรงุ ๕-1

70 แผนการจัดการเรียนรู้ (Lesson plan) รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรื่อง การตดิ ตอ่ สือ่ สารและการคน้ หาขอ้ มูล เวลา ๖ ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓ เรือ่ ง การสบื คน้ ข้อมลู โดยใช้อินเทอร์เน็ต เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ (Content standards) มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม ๑.๒ ตัวชวี้ ดั (Indicators) ว 4.2 ป.5/3 ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาข้อมลู ติดตอ่ ส่อื สาร และทำงานรว่ มกัน ประเมินความ น่าเชอ่ื ถอื ของข้อมูล ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (Main point) การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตโดยใช้เว็บไซต์ที่เรียกว่า Search Engine สามารถค้นหาได้ หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลโดยใช้คีย์เวิร์ด การค้นหาข้อมูลตามหมวดหมู่ หรือการค้นหา ข้อมูลจากหลายแหล่ง และในการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ จะต้องมีการประเมินความ นา่ เชื่อถอื ของข้อมลู เพื่อให้ไดข้ ้อมลู ท่ถี กู ต้องและตรงตามความต้องการของผใู้ ชง้ าน ๓. สาระการเรียนรู้ (Core content) - การคน้ หาข้อมลู ในอนิ เทอร์เน็ตและการพิจารณาผลการค้นหา - การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเช่น อีเมล บล็อก โปรแกรมสนทนา การเขียนจดหมาย (บูรณาการกบั วิชาภาษาไทย) - ใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันเช่นใช้นัดหมายในการประชุมกลุ่ม ประชาสัมพันธ์กิจกรรมในห้องเรียนการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นในการเรียนภายใต้การดูแล ของครคู วามคิดเห็นในการเรยี นภายใตก้ ารดแู ลของครู - การประเมินความนา่ เชื่อถือของขอ้ มูล เชน่ เปรียบเทียบความสอดคล้องสมบรู ณ์ของข้อมูล จากหลายแหลง่ แหลง่ ตน้ ตอของข้อมูลผู้เขยี นวนั ทีเ่ ผยแพร่ขอ้ มลู - ขอ้ มลู ท่ีดีตอ้ งมรี ายละเอยี ดครบทกุ ด้าน เช่น ขอ้ ดแี ละข้อเสียประโยชน์และโทษ

71 ๔. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Objective) 1. อธบิ ายวิธกี ารสบื ค้นข้อมูลโดยใชอ้ ินเทอร์เน็ตได้ (K) 2. บอกหลักในการประเมนิ ความน่าเช่อื ถือของขอ้ มูลจากการสืบคน้ ได้ (K) 3. สบื ค้นข้อมูลโดยใช้อนิ เทอรเ์ น็ตตามวิธกี ารต่าง ๆ ได้ (P) ๔. เห็นความสำคัญของการสืบคน้ ขอ้ มลู โดยใช้อนิ เทอรเ์ นต็ และการนำไปใช้ในชีวติ ประจำวัน (A) ๕. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Desired characteristics) ๑. มคี วามใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น ๒. มคี วามมงุ่ มั่นในการทำงาน ๓. มวี นิ ยั ๖. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน (Key competencies) 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๗. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ๑. ICA1 การเขา้ ถงึ ประเมิน และจัดการ ข้อมลู และสารสนเทศ ๒. ICA2 การแชร์ขอ้ มูลและการสอื่ สาร ๓. ICA5 การใช้ ICT อยา่ งเหมาะสม ๘. รูปแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เป็นรูปแบบการสอนแบบที่มุ่งให้ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้ใหม่ โดยเชื่อมโยงสิง่ ที่เรียนรูเ้ ข้า กับประสบการณ์หรือความเดิมให้เป็นองค์ความรู้หรอื แนวคิดของผู้เรียนเอง ดังนั้น การจัดกิจกรรม การเรียนรู้จึงสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการแก้ปัญหาโดยเน้นการปฏิบัติจริง มีการ แลกเปลีย่ นความรรู้ ะหว่างกนั เสริมสรา้ งความรดู้ ว้ ยตนเองผ่านกระบวนการข้นั ตอนอย่างเป็นวัฏจกั ร ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Learning activities) (ช่วั โมงท่ี ๑) ข้นั นำ ข้นั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) (๑๐ นาท)ี 1. ครูถามกระตุน้ ความสนใจของนกั เรยี นว่า “โดยปกตแิ ล้วถา้ นักเรยี นต้องการจดั ทำรายงาน หรอื ต้องการสืบคน้ ขอ้ มลู นักเรยี นสามารถหาข้อมูลได้จากท่ีใดบา้ ง” เช่น หนังสือเรียน หอ้ งสมดุ อินเทอรเ์ น็ต เปน็ ตน้

72 2. ครูอธบิ ายเพ่ือเชื่อมโยงเข้าส่บู ทเรยี นว่า “ปจั จุบันวิธีการท่นี ิยมใชส้ ำหรับการค้นหาข้อมลู คอื การค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอรเ์ นต็ โดยใช้เว็บไซต์ต่าง ๆ ในการสืบคน้ ขอ้ มลู หรอื ที่เรียกว่า Search Engine เช่น www.google.com” ข้นั สอน ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) (๒๐ นาท)ี ๑. ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนสืบคน้ ขอ้ มูลเกย่ี วกับ เรื่อง ท่ีมาของคอมพวิ เตอร์ โดยเปิดโอกาสให้ นกั เรยี นสบื คน้ จากเคร่อื งคอมพิวเตอรข์ องตนเอง 2. จากนั้นครสู มุ่ ถามนกั เรียน 5-6 คน เกย่ี วกบั คำท่ีใชค้ ้นหาในเว็บ Search Engine เช่น ประวัติของคอมพวิ เตอร์ ทม่ี าของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอรเ์ กดิ ขึน้ ได้อย่างไร ผู้ก่อตง้ั คอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ เป็นต้น 3. นกั เรยี นศึกษาเนือ้ หา เรอื่ ง การสืบค้นขอ้ มลู โดยใช้อินเทอรเ์ นต็ จากใบความรู้ โดยครอู ธิบายกับนกั เรียนวา่ “การคน้ หาข้อมูลจากเวบ็ ไซต์ Search Engine ว่ามีหลายวธิ ีได้แก่ 1. การค้นหาขอ้ มูลโดยใช้คยี ์เวริ ์ด 2. การคน้ หาข้อมลู ตามหมวดหมู่ 3. การค้นหาข้อมลู จากหลายแหลง่ ” ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) (๓๐ นาท)ี 4. ครูชี้แจงกับนักเรียนว่า“เว็บไซต์ Search Engine ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันได้แก่ www.google.com , www.sanook.com , www.yahoo.com เปน็ ตน้ ” 5. นักเรยี นจบั ค่กู บั เพอ่ื นที่น่ังข้าง ๆ และทำใบงาน เรื่อง การสบื คน้ ข้อมูลด้วยอินเทอร์เน็ต และให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยครูแนะนำกับนักเรียนว่า “การค้นหา ขอ้ มลู บนอนิ เทอร์เนต็ ผู้ใช้จะตอ้ งสืบคน้ และนำขอ้ มูลมาเปรยี บเทียบกนั เพือ่ คัดเลือกเน้ือหาท่ีมีความ ถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ และมารยาทในการนำข้อมูลมาใช้งาน คือผู้ใช้จะต้องมีการอ้างอิงถึง แหลง่ ทีม่ าของขอ้ มูล เพื่อเป็นการยนื ยนั ว่าขอ้ มลู มีแหล่งท่ีมาชัดเจน นา่ เชอ่ื ถือ เป็นต้น” 6. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมฝึกทักษะโดยค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เกยี่ วกับ สถานที่ทอ่ งเทีย่ วในประเทศไทยและนำมาสง่ ในช่วั โมงถัดไป (ชัว่ โมงที่ 2) ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) (๒๐ นาที) 7. ครูทบทวนเนือ้ หาการเรยี นเมือ่ ชัว่ โมงที่แลว้ เก่ยี วกับการสืบคน้ ขอ้ มูลโดยใช้อินเทอร์เนต็ 8. ครทู ำการสุม่ นักเรียน 2-3 คนออกมานำเสนอหนา้ ชน้ั เรียนเกยี่ วกับขอ้ มูลท่ไี ดส้ ืบค้นจาก การทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะ 9. ครูอธิบายเพิม่ เติมเกีย่ วกับการสืบคน้ ข้อมูล “ในการสบื คน้ ข้อมูลใด ๆ มาใช้งานนนั้ ผ้ทู ี่ คน้ หาข้อมูลจะต้องมกี ารอ้างองิ ถงึ แหล่งทีม่ าของขอ้ มูล เพ่ือยืนยนั ว่าขอ้ มลู นน้ั มแี หลง่ ทมี่ าชัดเจน นา่ เชอื่ ถอื แบะเพอื่ เปน็ การให้เกยี รติแก่เจ้าของข้อมูล”

73 10. นักเรยี นศกึ ษาเน้อื หาเกยี่ วกบั การประเมนิ ความนา่ เช่ือถอื ของขอ้ มลู 11. ครูอธิบายกบั นักเรยี นถงึ ข้อควรพจิ ารณาในการประเมินความนา่ เชื่อถอื ของขอ้ มลู ว่า ควรพิจารณาดงั นี้ 1) มกี ารบอกวัตถุประสงค์ในการจดั ทำขอ้ มูล 2) มีการระบชุ ่อื ผู้เขยี นหรอื ผู้ใหข้ อ้ มลู 3) มีการระบุวนั ที่พมิ พ์ และครั้งท่ีปรบั ปรงุ 4) มกี ารอ้างองิ แหลง่ ทม่ี า 5) พิจารณาขอ้ มูลจากแหลง่ ข้อมูลท่ีเชอื่ ถือได้ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) (๓๐ นาท)ี 12.นักเรียนจับคู่กบั เพ่อื นทน่ี ั่งข้าง ๆ และทำกจิ กรรมฝึกทักษะการสืบคน้ ขอ้ มลู จากเว็บไซต์ จากนั้นทำการรวบรวมขอ้ มูล และทำใบงาน สุดท้ายให้นกั เรียนวิเคราะหว์ ่าข้อมลู ทไี่ ด้มามีความ นา่ เช่อื ถอื หรือไม่อย่างไร 13. นักเรียนแตล่ ะค่อู อกมานำเสนอข้อมลู ที่ได้สืบคน้ หนา้ ชน้ั เรียน โดยครคู อยให้คำแนะนำ เพ่มิ เติมตามความเหมาะสม ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) (๑๐ นาท)ี 1. ครูนำนกั เรียนเลน่ เกมแยกหมวดหมู่ของข้อมลู โดยใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่มและรว่ มกนั แยกประเภทของขอ้ มลู ต่าง ๆ ตามที่ได้กำหนด จากน้ันให้นกั เรียนประเมินผลตนเองหลงั เรยี นจบ หน่วยใหต้ รงกับระดบั ความสามารถของตนเอง 2. ครปู ระเมินผลนักเรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน 3. ครตู รวจสอบความถูกตอ้ งของผลงานการทำใบงานและกจิ กรรมฝกึ ทักษะ 4. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกบั การสบื คน้ ขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ต และการประเมิน ความน่าเช่อื ถอื ของขอ้ มูล

74 ๑๐. การวัดและประเมินผล (Assessment) รายการวัด วิธีวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมิน 1) ใบงาน - ตรวจใบงาน - ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอ - ประเมินการ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 ผลงาน นำเสนอ การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ทำงานรายบคุ คล การทำงาน การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ รายบคุ คล 4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ทำงานกล่มุ การทำงานกล่มุ การทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์ 5) คุณลกั ษณะอัน ระดับคณุ ภาพ 2 พึงประสงค์ - สงั เกตความมวี ินยั - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ ความรับผิดชอบ คณุ ลกั ษณะ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่นั อันพงึ ประสงค์ ในการทำงาน ๑๑. ชิ้นงาน/หลักฐานการเรยี นรขู้ องผ้เู รยี น (Work piece) ใบงานท่ี เร่อื ง การสบื คน้ ข้อมูลดว้ ยอินเทอรเ์ นต็ ๑๒. สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ (Learning materials) ๑๒.๑ สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 ๒. ใบงานท่ี เรอ่ื ง การสบื ค้นข้อมูลด้วยอินเทอร์เน็ต ๓. Power point เรือ่ ง การสืบคน้ ขอ้ มูลดว้ ยอินเทอร์เน็ต ๑๒.๒ แหล่งเรียนรู้ (Learning resource) ๑. การสืบค้นขอ้ มูลด้วยอินเทอรเ์ น็ต . (ออนไลน)์ . เข้าถงึ ได้จาก https://www.kroochut.com/searching/

75 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงใน ช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32  1 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา   2 ความคดิ สรา้ งสรรค์   3 วิธกี ารนำเสนอผลงาน   4 การนำไปใช้ประโยชน์  5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ ............/................./................... เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง

76 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลง ในชอ่ งวา่ งท่ีตรงกับระดับคะแนน ชอื่ – สกลุ ความต้ังใจใน ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสำเร็จ รวม ท่ี ของผรู้ บั การ การทำงาน รับผดิ ชอบ เวลา เรียบร้อย ของงาน 15 ประเมนิ 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............/................./................... เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 ตำ่ กว่า 8 พอใช้ ปรับปรงุ

77 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงใน ช่องทตี่ รงกับระดับคะแนน ที่ ชอ่ื – การแสดง การยอมรับฟงั การทำงาน ความมี การมี รวม สกลุ ความ คนอ่นื ตามทไี่ ดร้ บั น้ำใจ สว่ นร่วมในการ 15 ของ คิดเหน็ มอบหมาย คะแนน ปรบั ปรุง นกั เรียน ผลงานกลุ่ม 32 1 3 2 1 3 2 1 32 1 3 2 1 ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง

78 แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก/ระดบั คุณภาพ เลขท่ี ชื่อ – สกลุ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ ม่ันในการ รวม ทำงาน 3 2 1 0 3 2 1 032 10 ลงชอื่ ..................................................ผปู้ ระเมิน ............/.................../................

79 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นคุณลักษณะอัน (3) ระดบั คุณภาพ (0) พึงประสงค์ (2) (1) มวี นิ ัย 1.ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง 2. ตรงตอ่ เวลา 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1.ปฏิบตั ติ าม 1.ไม่ปฏบิ ัตติ าม ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มสี ่วนรว่ มปฏิบตั ิ กจิ กรรมต่าง ๆ ไดด้ ี ข้อตกลง ขอ้ ตกลง ข้อตกลง มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 4.เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี 2. ตรงตอ่ เวลา 2.ตรงตอ่ เวลา 2.ไม่มสี ่วนร่วม 1.เข้าเรียนตรงเวลา 2. ตัง้ ใจเรียน เอาใจใส่ 3.มสี ว่ นรว่ มปฏิบตั ิ 3.ไมม่ สี ว่ นรว่ มใน ในกจิ กรรม 3. มสี ว่ นรว่ มในกิจกรรม 4. เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี กิจกรรมต่าง ๆได้ กจิ กรรม 1.มคี วามรบั ผิดชอบ งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เข้าเรียนตรง 1.มาเข้าเรียน 2. มีความเพียรพยายาม ในการเรียนใหส้ ำเรจ็ 2.ต้งั ใจเรียน เวลา 2.ไมม่ สี ่วนร่วม 3. มกี ารปรับปรุงและ พฒั นาการทำงานใหด้ ีขึน้ 3. มสี ่วนรว่ มใน 2.มีส่วนรว่ มใน ในกิจกรรม 4.เป็นแบบอย่างท่ีดี กจิ กรรม กจิ กรรม 1. มีความรบั ผดิ ชอบ 1.มคี วามรับผิดชอบ 1. ไมม่ ีความ งานท่ไี ด้รบั มอบหมาย งานที่ได้รบั อบหมาย รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามพยายามใน 2. มีความพยายาม งานทไี่ ด้รบั การเรียนใหส้ ำเรจ็ ในการเรียนให้ มอบหมาย 3.มีการปรบั ปรงุ และ สำเรจ็ พัฒนาการทำงานใหด้ ี ข้นึ เกณฑ์การวัดผลประเมนิ ผล ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๘-๙ ดี ระดับ 6-7 ๕-1 พอใช้ ระดบั 3 ปรับปรงุ ระดบั 2 ระดับ 1

80 การสบื คน้ ขอ้ มูลดว้ ยอนิ เทอรเ์ นต็ ตอนที่ ๑ คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนค้นหาข้อมูลเกยี่ วกบั ประเทศที่นักเรียนสนใจ โดยพิมพ์คำค้นบนเวบ็ ไซต์ www.google.com แล้วตอบคำถาม 1. ชอ่ื ประเทศ................................................................................................................................... 2. คำทักทาย..................................................................................................................................... 3. เมืองหลวง.................................................................................................................................... 4. จำนวนประชากร ณ ปัจจุบนั ...................................................................................................... 5. สกุลเงิน........................................................................................................................................ 6. 10,000 บาท(ไทย) แลกเป็นเงินสกุลประเทศนน้ั ไดเ้ ทา่ ไหร่.......................................................... 7. อาหารประจำชาติ......................................................................................................................... 8. ภาษาราชการ............................................................................................................................... แหล่งทมี่ าของข้อมลู : ตอนท่ี ๒ คำชแี้ จง : คน้ หาขอ้ มูลเก่ยี วกบั ประโยคต่อไปนี้ ''I believe whatever doesn't kill you simply makes youstranger'' แลว้ ตอบคำถาม 1. เป็นคำพูดของใคร........................................................................................................................ 2. คำพูดนีม้ าจากหนังเร่อื งอะไร........................................................................................................ 3. คำพดู นแี้ ปลว่าอะไร....................................................................................................................... ตอนที่ ๓ คำชี้แจง : ค้นหาข้อมูลเกีย่ วกบั ชอื่ พนั ธสุ์ นุ ขั ของไทย และบอกลกั ษณะสุนขั พนั ธไ์ุ ทยทีน่ กั เรียนชน่ื ชอบ

81 แผนการจดั การเรียนรู้ (Lesson plan) รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๒ เร่ือง การคน้ หาข้อมูล เวลา ๖ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๔ เรอ่ื ง การประเมนิ ความน่าเช่ือถอื ของข้อมลู เวลา ๒ ชวั่ โมง ๑. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ (Content standards) มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทัน และมจี ริยธรรม ๑.๒ ตัวช้วี ดั (Indicators) ว 4.2 ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ค้นหาข้อมูล ตดิ ตอ่ สอื่ สาร และทำงานรว่ มกนั ประเมินความ นา่ เชือ่ ถอื ของขอ้ มูล ๒. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (Main point) ข้อมูลข่าวสารที่ได้รับจากสื่อต่าง ๆ ในชีวิตประจำาวัน เช่น อีเมล บล็อก และโปรแกรม สนทนา มีทัง้ ขอ้ มูลทเี่ ชือ่ ถอื ได้และข้อมูลทห่ี ลอกลวง ผรู้ บั ข้อมูลตอ้ งรู้จักใช้ข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ ตรวจสอบ ประเมินความถูกต้องของข้อมูล โดยพิจารณาได้จากผู้เผยแพร่ วันที่เผยแพร่ และการ อา้ งอิงแหลง่ ข้อมลู ๓. สาระการเรยี นรู้ (Core content) - การคน้ หาข้อมลู ในอินเทอร์เน็ตและการพิจารณาผลการคน้ หา - การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเช่น อีเมล บล็อก โปรแกรมสนทนา การเขียนจดหมาย (บรู ณาการกบั วิชาภาษาไทย) - ใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันเช่นใช้นัดหมายในการประชุมกลุ่ม ประชาสัมพันธ์กิจกรรมในห้องเรียนการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นในการเรยี นภายใต้การดูแล ของครคู วามคิดเหน็ ในการเรยี นภายใต้การดแู ลของครู - การประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถือของข้อมูล เช่น เปรียบเทยี บความสอดคล้องสมบรู ณ์ของข้อมูล จากหลายแหลง่ แหล่งต้นตอของข้อมูลผ้เู ขียนวนั ทเ่ี ผยแพรข่ ้อมลู - ข้อมูลท่ดี ตี อ้ งมีรายละเอยี ดครบทกุ ดา้ นเชน่ ขอ้ ดแี ละข้อเสยี ประโยชนแ์ ละโทษ

82 ๔. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Objective) ๑. บอกการประเมนิ ความน่าเชื่อถือของขอ้ มลู และการเผยแพรข่ ้อมลู ได้ (K) 2. ปฏิบตั ิการวิเคราะหข์ ้อมูลจากสถานการณ์ต่างๆ ได้ (P) ๓. เหน็ ความสำคัญของการประเมนิ ขอ้ มลู และการนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน (A) ๕. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Desired characteristics) ๑. มคี วามใฝ่รู้ใฝ่เรียน ๒. มคี วามมุง่ มั่นในการทางาน ๓. มีวินัย ๖. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน (Key competencies) 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๗. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ๑. ICA1 การเข้าถงึ ประเมิน และจดั การ ข้อมลู และสารสนเทศ ๒. ICA2 การแชร์ข้อมลู และการสื่อสาร ๓. ICA5 การใช้ ICT อย่างเหมาะสม ๘. รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การเรียนรโู้ ดยใชก้ ิจกรรมเปน็ ฐาน (Activity-Based Learning) เป็นวิธีการจัดการเเรียนรู้ที่เน้นบทบาท และการมีส่วนร่วมของผู้เรยี น ที่มุ่งเน้นส่งเสริมให้ ผเู้ รียนมีส่วนรว่ มในการเรยี นรู้ และบทบาทในการเรยี นรูข้ องผู้เรียน เอากิจกรรมเป็นที่ต้ังเพื่อท่ีจะฝึก หรือพัฒนาผ้เู รยี นให้เกิดการเรยี นรู้ใหบ้ รรลุวัตถุประสงค์หรอื เป้าหมายที่กำหนด ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ความตื่นตัวและกระตือรือร้นด้านการรู้คิด มุ่งเน้นความรับผิดชอบของผู้เรียนในการเรียนรู้โดยผ่าน การอ่าน เขียน คิด อภิปราย และเข้าร่วมในการแก้ปัญหา และยังสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ตามลำดับขัน้ การเรยี นรขู้ องบลมู ท้ังในดา้ นพทุ ธิพิสัย ทักษะพสิ ัย และจติ พสิ ยั ๙. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (Learning activities) (ชัว่ โมงท่ี ๑) ขั้นนำ (15 นาที) ๑. ครูกจิ กรรม Warm Up กระตนุ้ ก่อนเรียน กิจกรรม หาของสิง่ น้นั ให้เจอ ๒. ครูนำภาพตัวอยา่ งโฆษณาชวนเช่อื ๒ ภาพ ให้นักเรียนดู แลว้ ใหน้ ักเรยี นพิจารณาความ นา่ เชอื่ ถือของข้อมลู

83 ขัน้ สอน (๓๐ นาท)ี ๓. ครอู ธบิ ายการพิจารณาความนา่ เชือ่ ถอื ของขอ้ มลู ข่าวสารที่ได้รับ ควรมีการตรวจสอบ ขอ้ มลู หลายๆ ทาง เชน่ ขอ้ ความทีใ่ ช้ การดูที่มาของแหลง่ ข้อมลู การสบื คน้ กลับไปยงั แหลง่ อ้างองิ ของ ขา่ วที่มรี ะบุไว้ ๔. ครูยกตัวอย่าง เวบ็ ไซต์ อย. แลว้ กรอกขอ้ มลู อย.ที่มีจรงิ และเปน็ เทจ็ ใหน้ ักเรยี นดูเป็น แนวทางการตรวจสอบขอ้ มูลสินค้า ๕. ครแู บง่ กลมุ่ นกั เรยี น กลมุ่ ละ ๔ คน ๖. ครแู จกใบงาน เรือ่ ง เชอ่ื ได้จริงไหม ลองคดิ ดู ใหน้ ักเรียนร่วมกนั ทำใบงานและออกมา นำเสนอหน้าชั้นเรียน ๗. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายเกี่ยวกบั ข้อมูลขา่ วสารที่ไดร้ บั มีความน่าเชอ่ื ถือ หรือไม่ พจิ ารณาจากส่วนใดบ้าง ๘. ครแู จกใบงาน เรอ่ื ง มาตรวจสอบความนา่ เช่อื ถอื กันเถอะ ให้นักเรยี นกล่มุ เดิม ให้แต่ละ กลุม่ ร่วมกันพิจารณาข่าวสารท่ไี ด้รับแล้วค้นหาคำตอบท่ถี กู ต้อง ๙. นกั เรยี นออกมานำาเสนอขอ้ มูลและร่วมกนั เฉลยใบงาน ขั้นสรปุ (15 นาที) ๑๐. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเกย่ี วกบั ขอ้ มูลที่ได้รับควรตรวจสอบแหลง่ ทม่ี าของขอ้ มูล ว่าถูกตอ้ งหรอื ไม่ พจิ ารณาขอ้ มลู การแสดงความคิดเห็นในบล็อก หรอื เว็บไซต์ เช่น ตรวจสอบข่าวสาร หรอื ภาพ โดยการนำไปคน้ หาใน Google และพิจารณาขอ้ มลู ข่าวสารน้ัน รวมถงึ ภาพประกอบว่าเป็น ข้อมูลจริงหรือเทจ็ ๑๑. ครูแนะนำเพิ่มเติม ว่าแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร บางครั้งก็สามารถผิดพลาดได้และ ปรมิ าณของผลการสบื คน้ หรือปริมาณคร้ังทีข่ อ้ มูลถูกแชรไ์ ม่สามารถการนั ตีความถูกต้องไดเ้ สมอไป (ชว่ั โมงที่ ๒) ขัน้ นำ (๑๕ นาที) ๑. ครแู นะนำเกี่ยวกบั การใชภ้ าษาและมารยาทในการตดิ ตอ่ สื่อสารผา่ นช่องทางออนไลน์ เช่น โปรแกรมสนทนา เราควรใชภ้ าษาท่ีสุภาพ ๒. ครูอธิบายเพิม่ เตมิ เกี่ยวกับลักษณะของขอ้ มูลท่ีสง่ มาอาจเปน็ ขอ้ ความท่ีนา่ สงสัย หรือโดน หลอกลวง เพราะการนำภาพไปเผยแพร่ โดยเฉพาะรูปถ่ายหรือรูปตัดต่อไปเผยแพร่ในสื่อสังคม แม้ เปน็ ภาพของคนทเ่ี รารจู้ กั ก็ตอ้ งขออนญุ าตก่อน ขน้ั สอน (๔๐ นาท)ี ๓. ครูแจกใบงาน เรื่อง คิดอย่างไว ประเมินอย่างแม่น ให้นักเรียนวิเคราะห์เหตุการณ์และ ตอบคำาถาม ๔. ครูใหค้ ำาปรึกษาและข้อเสนอแนะในระหวา่ งนักเรยี นทำใบงาน

84 ๕. ครูยกตัวอย่าง การนำข้อมูลของผู้อื่นไปเผยแพร่ต่อ แล้วอธิบายให้นักเรียนทราบว่า เม่ือ เราจะนำข้อมูลของผู้อื่นไปใช้ ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือประกอบไปด้วย หน่วยงานหรือบุคคล เจา้ ของข้อมูลหรอื ผเู้ ขียน วันทเ่ี ผยแพร่ แหล่งอ้างอิง (ถ้ามี) แล้วจึงส่งให้ผ้อู ่ืน หรือเผยแพร่สสู่ าธารณะ ๖. ครูตั้งคำาถาม “จากเหตุการณ์ในภาพนักเรียนทราบหรือไม่ว่า อันตรายที่เกิดขึ้นจาก การนำาข้อมูลไปใช้โดยไม่ตรวจสอบ หรือประเมินความน่าเชื่อถือก่อน จะส่งผลอย่างไรบ้าง” (ส่วนมากเปน็ โปรแกรมสนทนา) ขั้นสรปุ (๕ นาท)ี ๗. ให้นกั เรียนตอบคำถามหลงั จากทำกิจกรรม ๘. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกบั การประเมนิ ความน่าเชือ่ ถือของข้อมลู โดยใหน้ กั เรยี น ร่วมกนั อภปิ ราย ๑๐. การวัดและประเมินผล (Assessment) รายการวดั วธิ ีวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมิน - ใบงาน 1) ใบงาน - ตรวจใบงาน ร้อยละ 60 ผา่ น - แบบสังเกตพฤติกรรม เกณฑ์ ๒) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม การทำงานรายบคุ คล ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ๓) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 กลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ ๔) คุณลักษณะอันพึง - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ความรบั ผิดชอบ อนั พึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มั่น ในการทำงาน ๑๑. ชิ้นงาน/หลกั ฐานการเรียนรขู้ องผูเ้ รยี น (Work piece) ๑. ใบงาน เช่ือไดจ้ ริงไหม ลองคิดดู ๒. ใบงาน มาตรวจสอบความนา่ เช่ือถือกนั เถอะ ๓. ใบงาน คดิ อย่างไว ประเมนิ อย่างแมน่ ๑๒. ส่อื และแหลง่ เรียนรู้ (Learning materials) ๑๑.๑ สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 ๒. ใบงาน เชื่อได้จรงิ ไหม ลองคิดดู

85 ๓. ใบงาน มาตรวจสอบความนา่ เชื่อถอื กนั เถอะ ๔. ใบงาน คดิ อยา่ งไว ประเมินอย่างแม่น ๕. Power point เร่ือง การประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมูล ๑๑.๒ แหล่งเรียนรู้ (Learning resource) ๑. การประเมินความน่าเช่ือถอื ของขอ้ มูล. (ออนไลน์). เข้าถงึ ไดจ้ าก https://sites.google.com/site/teacherreybanis1/

86 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงใน ชอ่ งทต่ี รงกับระดบั คะแนน เล ชอ่ื – การแสดง การยอมรบั ฟัง การทำงาน ความมี การมี รวม ขท่ี สกุล ความ คนอ่นื ตามทีไ่ ด้รับ น้ำใจ สว่ นร่วมในการ 15 ของ คิดเห็น มอบหมาย คะแนน ปรบั ปรุง นกั เรยี น ผลงานกลุ่ม 32 1 3 2 1 3 2 1 32 1 3 2 1 ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ ............./.................../............... เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง

87 แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนใหท้ ำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องแสดงระดับคณุ ภาพ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก/ระดับคุณภาพ เลขที่ ช่ือ – สกลุ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มัน่ ในการ รวม ทำงาน 3 2 1 0 3 2 1 032 10 ลงชื่อ..................................................ผปู้ ระเมิน ............/.................../................

88 เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านคณุ ลักษณะอัน ระดบั คุณภาพ (2) (1) พึงประสงค์ (3) (0) มีวินยั 1.ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัติตาม 1.ปฏิบัติตาม 1.ไม่ปฏบิ ตั ติ าม ใฝ่เรยี นรู้ 2. ตรงต่อเวลา มุง่ มัน่ ในการทำงาน 3. มีส่วนรว่ มปฏิบตั ิ ข้อตกลง ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง กิจกรรมต่าง ๆ ไดด้ ี 2. ตรงต่อเวลา 2.ตรงตอ่ เวลา 2.ไมม่ สี ่วนรว่ ม 4.เปน็ แบบอย่างท่ดี ี 3.มสี ว่ นร่วมปฏบิ ตั ิ 3.ไม่มีส่วนรว่ มใน ในกจิ กรรม 1.เข้าเรียนตรงเวลา 2. ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ กจิ กรรมต่าง ๆได้ กจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มในกิจกรรม 4. เป็นแบบอยา่ งทดี่ ี 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เข้าเรียนตรง 1.มาเขา้ เรยี น 1.มคี วามรับผิดชอบ 2.ต้งั ใจเรยี น เวลา 2.ไมม่ ีสว่ นรว่ ม งานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 2. มีความเพียรพยายาม 3. มสี ่วนรว่ มใน 2.มีสว่ นรว่ มใน ในกิจกรรม ในการเรยี นใหส้ ำเร็จ 3. มกี ารปรบั ปรงุ และ กิจกรรม กจิ กรรม พฒั นาการทำงานใหด้ ีข้นึ 1. มีความรับผดิ ชอบ 1.มคี วามรับผิดชอบ 1. ไมม่ ีความ 4.เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี งานที่ได้รับมอบหมาย งานท่ีไดร้ ับอบหมาย รบั ผดิ ชอบ 2. มีความพยายามใน 2. มคี วามพยายาม งานทีไ่ ดร้ บั การเรยี นให้สำเร็จ ในการเรยี นให้ มอบหมาย 3.มกี ารปรับปรงุ และ สำเรจ็ พฒั นาการทำงานให้ดี ขึ้น ระดบั ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๘-๙ ดี ระดับ 3 6-7 ระดับ 2 ๕-1 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรงุ

89 เร่ือง เชอ่ื ได้จริงไหม ลองคดิ ดู คำชแี้ จง : พิจารณาการเผยแพรข่ อ้ มูลต่อไปนี้ แลว้ ตอบคำถามวา่ ข้อมลู นา่ เชื่อถอื หรอื ไม่ เพราะเหตุใด ๑. ขอ้ มูลจากภาพคือเรอื่ งราวเกย่ี วกับอะไร ๒. นักเรยี นเชื่อถอื ข้อมูลเหล่าน้ีทันทีหรือไม่ เพราะเหตุใด ๓. ขอ้ ความในภาพนา่ เชอื่ ถือหรอื ไม่ เพราะเหตุใด ๓. การรตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซตม์ ีข้อมูลหรือไม่

90 เร่ือง มาตรวจสอบความน่าเชื่อถือกันเถอะ คำชแี้ จง : พจิ ารณาขา่ วสาร แล้วตรวจสอบว่าขอ้ มูลมคี วามน่าเช่ือถือหรือไม่ เพราะเหตใุ ด ภาพจากกล้องวงจรปดิ แสดงภาพผ้โู ดยสารกำลังตื่นตกใจทันทที ่รี ถไฟกำลงั จะเคลือ่ นออกจากชานชาลา เกดิ เหตกุ ารณแ์ ผน่ ดนิ ไหวคร่าชวี ิตคนขบั รถไฟและผู้โดยสาร ๑. คำสำคัญในการค้นหา ๒. ข้อมลู ทค่ี ้นพบเป็นความจรงิ หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ๓. เชือ่ ถอื ได้หรือไม่ เพราะเหตใุ ด

91 เรือ่ ง คิดอย่างไว ประเมนิ อย่างแม่น คำชีแ้ จง : ให้นักเรียนพจิ ารณาข้อความทไ่ี ดร้ บั จากโปรแกรมสนทนา แลว้ ทำาเครอ่ื งหมาย ✓ น่าเช่ือถอื ไม่น่าเช่ือถือ เพราะ นา่ เชื่อถอื ไมน่ ่าเช่อื ถือ เพราะ

92 เรอ่ื ง คิดอย่างไว ประเมินอยา่ งแมน่ นา่ เช่ือถอื ไมน่ ่าเชอื่ ถือ เพราะ นา่ เชื่อถือ ไมน่ ่าเชือ่ ถือ เพราะ

93

94 แผนการจดั การเรียนรู้ (Lesson plan) รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ เร่อื ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เวลา ๒ ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๑ เรือ่ ง มารยาทในการติดตอ่ ส่ือสารผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ เวลา ๑ ช่วั โมง ๑. มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ (Content standards) มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ ร้เู ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม ๑.๒ ตัวชีว้ ัด (Indicators) ว ๔.๒ ป. ๕/๕ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ ของตนเคารพในสทิ ธิของผู้อ่ืน แจ้งผู้เก่ยี วขอ้ งเมอ่ื พบข้อมูลหรอื บุคคลที่ไม่เหมาะสม ๒. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (Main point) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้การดำาเนินชีวิตหรือการ ทำงานสะดวกสบายมากข้ึน สามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลต่าง ๆ ได้อยา่ งหลากหลายและงา่ ยย่ิงขึน้ จงึ มขี ้อมูลจำนวนมาก ซงึ่ เปน็ ขอ้ มลู เปน็ ประโยชน์ หรอื เป็นขอ้ มลู ท่ีอาจก่อใหเ้ กิดโทษ จึงควรพจิ ารณาเลอื กใชอ้ ย่างเหมาะสม ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถ ติดตอ่ สอื่ สารกนั ได้อยา่ งท่วั ถึงและทว่ั โลก แต่การติดต่อส่อื สารที่ดนี ้ันจะตอ้ งส่อื สารอยา่ งมมี ารยาท ไม่ ว่าจะเป็นการใช้ภาษาที่สุภาพ การตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนส่งต่อให้ผู้อื่น และไม่เผยแพร่ ขอ้ ความหรอื ภาพทีผ่ ิดกฎหมาย ๓. สาระการเรียนรู้ (Core content) ๑. อนั ตรายจากการใชง้ านและอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ๒. มารยาทในการตดิ ต่อสื่อสารผา่ นอินเทอรเ์ น็ต (บูรณาการกับวชิ าท่ีเก่ียวขอ้ ง) ๔. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (Objective) 1. บอกมารยาทในการตดิ ต่อส่ือสารผา่ นอินเทอร์เนต็ ได้ (K) 2. สบื ค้นข้อมูลจากแหล่งสารสนเทศเก่ียวกบั มารยาทในการติดต่อสือ่ สารผา่ นอินเทอรเ์ นต็ ได้ (P) 3. เลง็ เหน็ ถงึ ความสำคญั ของมารยาทในการตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอินเทอรเ์ นต็ (A)

95 ๕. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Desired characteristics) ๑. มีความใฝร่ ้ใู ฝเ่ รียน ๒. มคี วามมงุ่ มั่นในการทางาน ๓. มวี ินยั ๔. มคี วามสามคั คี และทำางานรว่ มกบั ผ้อู ืน่ ได้ ๖. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น (Key competencies) 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๗. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ๑. ICA1 การเขา้ ถงึ ประเมนิ และจัดการ ขอ้ มูลและสารสนเทศ ๒. ICA2 การแชรข์ ้อมูลและการสือ่ สาร ๓. ICA5 การใช้ ICT อย่างเหมาะสม ๘. รปู แบบกิจกรรมการเรยี นรู้ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เป็นรูปแบบการสอนแบบที่มุ่งให้ผู้เรยี นได้สร้างองค์ความรู้ใหม่ โดยเชื่อมโยงสิง่ ที่เรียนรูเ้ ขา้ กับประสบการณ์หรือความเดิมให้เป็นองค์ความรู้หรือแนวคิดของผู้เรียนเอง ดังนั้น การจัดกิจกรรม การเรียนรู้จึงสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการแกป้ ัญหาโดยเน้นการปฏิบัติจรงิ มีการ แลกเปลยี่ นความร้รู ะหวา่ งกนั เสริมสร้างความรดู้ ้วยตนเองผา่ นกระบวนการข้นั ตอนอย่างเปน็ วัฏจักร ๙. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (Learning activities) ขัน้ ที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement) (๑๐ นาที) ๑. ครูจัดกิจกรรม Warm Up กระตนุ้ กอ่ นเรียน กิจกรรมเปิดไพ่ ๒. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนวา่ “ปัจจุบันนี้เราติดต่อสื่อสารกันผ่านทาง ชอ่ งทางใดไดบ้ ้าง” เชน่ โทรศพั ทม์ ือถือ สงั คมออนไลนต์ า่ ง ๆ เชน่ Facebook Line Twitter เป็นต้น ๓. ครถู ามคำถามประจำหัวขอ้ วา่ “การติดตอ่ สอ่ื สารที่ดผี ่านอินเทอรเ์ น็ตควรทำอย่างไร” เช่น ใชภ้ าษาสุภาพและถกู ต้องตามหลักไวยากรณ์ หลกี เล่ยี งการใชภ้ าษาที่ดูถกู เหยยี ดหยามผู้อื่น ไม่ เผยแพร่ข้อความหรือภาพทผ่ี ิดกฎหมายหรอื ขดั กบั ศีลธรรมอันดงี ามของสังคมไทย ข้นั ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) (๑๐ นาที) ๓. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพ่ือใหน้ กั เรยี นสำรวจตนเอง เกีย่ วกับการใช้ชอ่ งทางการติดต่อสอ่ื สารผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือสืบค้นช่องทางที่นิยมติดต่อสื่อสาร ในปจั จุบันจากเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ของตนเอง

96 ๔. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนไดส้ อ่ื สารและแลกเปล่ยี นข้อมูลรว่ มกนั ภายในกล่มุ ๕. นักเรียนศึกษามารยาทในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตจากใบงาน เรื่อง การใช้ อินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภัย ๖. ครถู ามคำถามทา้ ทายการคดิ ขน้ั สงู ของนกั เรยี นว่า “ถา้ ทุกคนบนโลกไมเ่ ขา้ ใจเรอ่ื งมารยาท ในการใช้อินเทอร์เน็ตจะเป็นอย่างไร” เช่น การละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นอาจเกิดการทะเลาะเบาะแว้งมี การฟ้องร้องหมิ่นประมาท ทำให้ผู้อืน่ ได้รับความเสียหาย ความเดือดร้อน หรือเสื่อมเสียชือ่ เสยี งจาก การเผยแพรข่ ้อความและภาพนงิ่ ที่ผิดกฎหมายหรอื ขดั กบั ศลี ธรรมอนั ดีงามของสงั คมไทย ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) (๒๐ นาที) ๗. นักเรยี นสังเกตตวั อย่างมารยาทในการติดต่อสื่อสารผา่ นเครอื ข่ายอินเทอร์เนต็ จาก สถานการณ์ ๘. นกั เรยี นภายในกลมุ่ ร่วมกนั วเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ตวั อยา่ งสถานการณ์ ๙. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ควรกระทำและไม่ควรกระทำในการ ติดต่อส่ือสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตว่า “สิ่งที่ควรระวังในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต คือ คำพูด การเลือกใช้คำพูด ควรเลือกให้เหมาะสมตามกาลเทศะ เช่น พูดกับผู้ใหญ่ควรจะมีคำลงท้าย เช่น สวัสดคี ่ะ ขอบคณุ ครบั รบกวนสอบถามหน่อยครับ เปน็ ต้น และส่งิ ไมค่ วรกระทำ คือ การตำหนิ ผู้อา่ นโดยใช้คำหยาบคายทำให้ผอู้ น่ื เสือ่ มเสยี ช่ือเสียง” ข้นั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) (๒๐ นาที) ๑๐. นกั เรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะเก่ยี วกบั มารยาทในการตดิ ตอ่ สอ่ื สารผา่ นอินเทอรเ์ นต็ ๑๑. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอเกี่ยวกับมารยาทในการติดต่อส่ือสารผ่าน อนิ เทอรเ์ นต็ หนา้ ช้ันเรียน พร้อมอภปิ รายร่วมกนั ภายในหอ้ งเรยี น ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) (๕ นาที) 1๒. ครูประเมินผลนกั เรยี น โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การทำกิจกรรม และสมุด ประจำตวั ของนักเรียน ๑๓. ครตู รวจสอบความถกู ต้องของผลงานการทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะ ๑๔. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเนื้อหาโดยภาพรวมเกี่ยวกับมารยาทในการติดต่อสื่อสาร ผ่านอินเทอร์เน็ตว่า “ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงควรมีมารยาทที่ดีในการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น การใช้คำพูด การตรวจสอบความ ถกู ตอ้ งกอ่ นที่จะสง่ ต่อข้อมูล ไม่พดู คยุ หรอื นินทาผู้อนื่ จนได้รบั ความเสียหายหรือทำให้ผู้อื่นเกิดความ เส่อื มเสยี เปน็ ต้น”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook