1 kruwirot wannachai satreesiriket school
2 คำนำ การจดั การเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล มุ่งเนน้ การเสริมสร้างความรู้ ความสามารถ และคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงคข์ องผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 และเป็นไปตามปฏญิ ญาวา่ ดว้ ยการจดั การศกึ ษาของ UNESCO โรงเรียนสตรีสิริเกศ อาเภอเมอื ง จงั หวดั ศรีสะเกษ จดั การเรียนการสอนเทียบเคียงกบั โรงเรียนมาตรฐานสากล ซ่ึงมุ่งเนน้ จดั การศึกษาเพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงคใ์ นศตวรรษที่ 21 อนั ไดแ้ ก่ มีความรู้พ้ืนฐานในยคุ ดิจิทลั มีความสามารถคิดประดิษฐอ์ ยา่ งสร้างสรรค์ มที กั ษะการส่ือสารอยา่ ง มปี ระสิทธิผล มคี วามสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ และมีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี แผนการจดั การเรียนรูก้ ารศกึ ษาและสร้างองคค์ วามรู้ (Research and Knowledge formation) น้ี ไดเ้ รียบเรียงข้ึน สาหรับใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน ในวิชา การศกึ ษาและสร้างองคค์ วามรู้ ในระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 2 สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในโรงเรียน ระดบั มาตรฐานสากล ซ่ึงในแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ จะเนน้ ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ และสร้างองค์ ความรู้ดว้ ยตนเอง เนน้ การใชเ้ ทคโนโลยี เนน้ กระบวนการทางานเป็นกลมุ่ สร้างสรรคน์ วตั กรรมใหม่ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น วพิ ากษผ์ ลงาน โดยมคี รูเป็นผชู้ ่วยในการเรียนรู้ หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ แผนการจดั การเรียนรู้น้ี จะเป็นประโยชนต์ ่อผเู้ รียน และครูผสู้ อนที่ จะนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั การเรียนรู้ เพื่อพฒั นาผเู้ รียนไดเ้ ต็มตามศกั ยภาพ และบรรลุเป้าหมายของ หลกั สูตร นายวโิ รจน์ วรรณชยั ครู kruwirot wannachai satreesiriket school
3 หน้ำ สำรบัญ 1 2 แบบเสนอแผนการจดั การเรียนรู้ก่อนใช้ ภาคเรียนที่ 1 /2562 3 คานา 4 สารบญั 11 การจดั การเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล 13 หลกั สูตรโรงเรียนสตรีสิริเกศ 14 คาอธิบายรายวชิ า 17 การกาหนดเป้าหมายการเรียนรู้ 19 การกาหนดหน่วยการเรียนรู้ 22 การออกแบบการเรียนรู้ หน่วยที่ 1 ประเดน็ ที่ฉนั สนใจ 25 การออกแบบการเรียนรู้ หน่วยที่ 2 คน้ ควา้ หาคาตอบ 27 การออกแบบการเรียนรู้ หน่วยที่ 3 รอบรู้และเห็นคุณค่า 38 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 ประเด็นที่ฉนั สนใจ 94 ภาคผนวก หน่วยท่ี 1 102 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 2 คน้ ควา้ หาคาตอบ 136 ภาคผนวก หน่วยที่ 2 141 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 3 รอบรู้และเห็นคุณค่า ภาคผนวก หน่วยที่ 3 kruwirot wannachai satreesiriket school
4 กำรจัดกำรเรียนรู้ในโรงเรียนมำตรฐำนสำกล ระดับมัธยมศึกษำ กำรศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง (Independent Study : IS) การจดั การเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล มงุ่ เนน้ การเสริมสร้างความรู้ ความสามารถและ คุณลกั ษณะที่พึงประสงคข์ องผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21 สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 และเป็นไปตามปฏญิ ญาว่าดว้ ยการจดั การศึกษาของ UNESCO ไดแ้ ก่ Learning to know หมายถึงการเรียนเพ่ือใหม้ ีความรู้ในส่ิงต่างๆอนั จะเป็นประโยชนต์ ่อไปไดแ้ ก่ การรู้จกั การแสวงหาความรู้ การต่อยอดความรู้ท่ีมีอยู่ และรวมท้งั การสร้างความรูข้ ้ึนใหม่ Learning to do หมายถงึ การเรียนเพ่อื การปฏบิ ตั ิหรือลงมอื ทา ซ่ึงนาไปสู่การประกอบอาชีพจาก ความรู้ที่ไดศ้ กึ ษามา รวมท้งั การปฏบิ ตั ิเพือ่ สร้างประโยชนใ์ หส้ งั คม Learning to live with the others หมายถึงการเรียนรู้เพ่อื การดาเนินชวี ติ อยรู่ ่วมกบั คนอนื่ ไดอ้ ยา่ ง มคี วามสุข ท้งั การดาเนินชีวติ ในการเรียน ครอบครัว สงั คมและการทางาน Learning to be หมายถงึ การเรียนรู้เพอื่ ใหร้ ู้จกั ตวั เองอยา่ งถอ่ งแท้ รู้ถึงศกั ยภาพ ความถนดั ความ สนใจของตนเอง สามารถใชค้ วามรู้ความสามารถของตนเองใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อสงั คม เลือกแนวทางการ พฒั นาตนเองตามศกั ยภาพ วางแผนการเรียนต่อ การประกอบอาชีพที่สอดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพตนเองได้ ท้งั น้ีเพือ่ พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีคุณภาพ ท้งั ในฐานะพลเมอื งไทยและพลโลก เทียบเคียงกบั นานาอารย ประเทศ โดยม่งุ เนน้ ใหผ้ เู้ รียนมีศกั ยภาพท่ีสาคญั ดงั น้ี 1) ควำมรู้พืน้ ฐำนในยุคดิจทิ ลั (Digital-Age Literacy) มคี วามรู้พ้นื ฐานที่จาเป็นทางวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา ขอ้ มูล และทศั นภาพ (Visual & Information) รู้พหุวฒั นธรรมและมี ความตระหนกั สานึกระดบั โลก (Multicultural literacy & Global Literacy) 2) ควำมสำมำรถคดิ ประดิษฐ์อย่ำงสร้ำงสรรค์ (Inventive Thinking) มีความสามารถในการปรับตวั สามารถจดั การกบั สภาวการณ์ที่มคี วามซบั ซอ้ น เป็นบุคคลที่ใฝ่ รู้ สามารถกาหนด ต้งั ประเด็นคาถาม (Hypothesis Formulation) เพื่อนาไปสู่การศกึ ษาคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ มคี วามสามารถในการคิด วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ ขอ้ มูล สารสนเทศ และสรุปองคค์ วามรู้ (Knowledge Formation ) ใชข้ อ้ มลู เพ่ือ การตดั สินใจเกี่ยวกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม kruwirot wannachai satreesiriket school
5 3) ทกั ษะกำรสื่อสำรอย่ำงมปี ระสิทธผิ ล (Effective Communication ) ความสามารถในการรับและ ส่งสาร การเลอื กรับหรือไม่รับขอ้ มลู ข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผล และความถูกตอ้ ง มวี ฒั นธรรมในการใชภ้ าษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเขา้ ใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเอง เพ่อื แลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสาร และประสบการณ์ อนั จะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมท้งั มี ทกั ษะในการเจรจาต่อรองเพอื่ ขจดั และลดปัญหาความขดั แยง้ ต่าง ๆ ตลอดจนสามารถเลือกใชว้ ธิ ีการสื่อสาร ท่ีมปี ระสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีมตี ่อตนเองและสงั คม 4) ควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชีวติ ความสามารถในการนากระบวนการต่างๆไปใชใ้ นการดาเนิน ชีวติ ประจาวนั การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้อยา่ งต่อเน่ือง เขา้ ใจความสมั พนั ธแ์ ละการเปล่ยี นแปลงของ เหตุการณ์ต่างๆในสงั คม สามารถจดั การปัญหาและความขดั แยง้ ต่างๆอยา่ งเหมาะสมและนาไปสู่การปฏบิ ตั ิ นาไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนต์ ่อสงั คม บริการสาธารณะ (Public Service ) ซ่ึงหมายถงึ การเป็นพลเมืองไทยและ พลเมืองโลก (Global Citizen) 5) ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี การสืบคน้ หาความรูจ้ ากแหลง่ เรียนรู้และวธิ ีการที่หลากหลาย (Searching for Information) เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยดี า้ นตา่ งๆ และมที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่อื การพฒั นาตนเองและสงั คม ในดา้ นการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมคี ุณธรรม กำรจดั ทำหลักสูตร และกำรจดั กำรเรียนกำรสอนสู่สำกล การที่ผเู้ รียนจะไดร้ ับการพฒั นาใหม้ ีคุณภาพดงั กล่าวขา้ งตน้ ยอ่ มตอ้ งอาศยั หลกั สูตรสถานศกึ ษาท่ี เหมาะสม คือ จะตอ้ งไดร้ ับการออกแบบอยา่ งดี มเี ป้าหมายและกระบวนการดาเนินงานท่ีเป็นระบบ ดว้ ย ความร่วมมือของบุคลากรทุกฝ่ ายในโรงเรียน หลกั สูตรสถานศึกษาของโรงเรียนมาตรฐานสากล เป็น หลกั สูตรท่ีใชเ้ ป็นเป้าหมาย และทิศทางในการยกระดบั การจดั การศึกษาของท้งั โรงเรียน มิใช่การจดั ใน ลกั ษณะของแผนการเรียนสาหรับผเู้ รียนเพียงบางส่วน การออกแบบหลกั สูตรจะตอ้ งสอดคลอ้ งกบั หลกั การ และแนวคิดของหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ซ่ึงผเู้ รียนจะไดร้ ับการพฒั นา คุณภาพบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ของกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 8 กลมุ่ สาระ และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนที่ กาหนด มีการพฒั นาต่อยอดลกั ษณะที่เทียบเคียงกบั สากลท้งั ในระดบั ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และ kruwirot wannachai satreesiriket school
6 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย โดยโรงเรียนพจิ ารณาใหส้ อดคลอ้ งเหมาะสมกบั สภาพความพร้อม และจุดเนน้ ของ โรงเรียน กระบวนกำรพฒั นำผ้เู รียนสู่คุณภำพทีค่ ำดหวงั ในการจดั การเรียนสอนเพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีคุณลกั ษณะและศกั ยภาพความเป็นสากล คือ เป็นบุคคลท่ีมี คุณภาพ มีทกั ษะในการคน้ ควา้ แสวงหาความรู้และมคี วามรู้พ้นื ฐานท่ีจาเป็น สามารถคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ สร้างสรรค์ สามารถส่ือสารอยา่ งมปี ระสิทธิผล มที กั ษะชีวติ ร่วมมอื ในการทางานกบั ผอู้ น่ื ไดเ้ ป็นอยา่ งดี จะตอ้ งมกี ระบวนการจดั การเรียนรู้อยา่ งต่อเน่ือง มลี าดบั ข้นั ตอนท่ีเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั พฒั นาการ ของผเู้ รียนในแต่ละระดบั ช้นั โดยมกี ระบวนการสาคญั ในการจดั การเรียนรู้ เรียกว่า “บันได 5 ข้นั ของกำร พฒั นำผ้เู รียนสู่มำตรฐำนสำกล” ไดแ้ ก่ 1. กำรต้งั ประเด็นคำถำม/สมมตุ ฐิ ำน (Hypothesis Formulation) เป็นการฝึกใหผ้ เู้ รียนรูจ้ กั คิด สงั เกต ต้งั คาถามอยา่ งมีเหตุผล และสร้างสรรค์ ซ่ึงจะส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรียนรู้ในการต้งั คาถาม (Learning to Question) 2. กำรสืบค้นควำมรู้จำกแหล่งเรียนรู้และสำรสนเทศ (Searching for Information) เป็นการฝึก แสวงหาความรู้ ขอ้ มูล และสารสนเทศ จากแหล่งเรียนรู้อยา่ งหลากหลาย เชน่ หอ้ งสมดุ อนิ เทอร์เน็ต หรือจากการฝึกปฏบิ ตั ิ ทดลอง เป็นตน้ ซ่ึงจะส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรียนรู้ในการแสวงหาความรู้ (Learning to Search) 3. กำรสร้ำงองค์ควำมรู้ (Knowledge Formation) เป็นการฝึกใหผ้ เู้ รียนนาความรู้และสารสนเทศ ที่ไดจ้ ากการแสวงหาความรู้มาถกแถลง อภิปราย เพอ่ื นาไปสู่การสรุปและสร้างองคค์ วามรู้ (Learning to Construct) 4. กำรสื่อสำรและกำรนำเสนออย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ (Effective Communication) เป็นการฝึกให้ ผเู้ รียน นาความรู้ที่ไดม้ าสื่อสารอยา่ งมีประสิทธิภาพซ่ึงจะส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรียนรู้ และมที กั ษะใน การส่ือสาร (Learning to Communication) 5. กำรบริกำรสังคมและจติ สำธำรณะ (Public Service) เป็นการนาความรู้สู่การปฏิบตั ิ ซ่ึงผเู้ รียน จะตอ้ งเช่ือมโยงความรู้ไปสู่การทาประโยชน์ ใหก้ บั สงั คมและชุมชนรอบตวั ตามวฒุ ิภาวะของ และจะส่งผล ใหผ้ เู้ รียนมจี ิตสาธารณะและบริการสงั คม (Learning to Serve) kruwirot wannachai satreesiriket school
7 กำรศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง (Independent Study : IS) เคร่ืองมือสำคญั ในกำรพฒั นำ การจดั กระบวนการเรียนรู้ตามบนั ได 5 ข้นั ดงั กล่าว สามารถดาเนินการไดห้ ลากหลายวิธีและการ ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง “Independent Study : IS” นบั เป็นวิธีการท่ีมปี ระสิทธิภาพวธิ ีหน่ึงที่ ใชก้ นั อยา่ งกวา้ งขวางในการพฒั นาผเู้ รียน เพราะเป็นการเปิ ดโลกกวา้ งใหผ้ เู้ รียนไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งอสิ ระ ในเร่ืองหรือประเดน็ ที่ตนสนใจ เร่ิมต้งั แต่การกาหนดประเดน็ ปัญหา ซ่ึงอาจเป็น Public Issue และ Global Issue และดาเนินการคน้ ควา้ แสวงหาความรู้จากแหล่งขอ้ มลู ท่ีหลากหลาย มีการวิเคราะห์ สงั เคราะห์ การ อภิปรายแลกเปลยี่ นความคิดเห็น เพ่ือนาไปสู่การสรุปองคค์ วามรู้ จากน้นั ก็หาวธิ ีที่เหมาะสมในการส่ือสาร นาเสนอใหผ้ อู้ ื่นไดร้ ับทราบ และสามารถนาความรู้ท่ีไดจ้ ากการศกึ ษาคน้ ควา้ ไปทาประโยชนแ์ ก่สาธารณะ ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ีเป็นกระบวนการท่ีเช่ือมโยงต่อเน่ืองกนั ตลอดแนว ภายใต้ “การศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง (Independent Study : IS) ” ซ่ึงจดั แบ่งเป็นสาระการเรียนรู้ 3 สาระ ประกอบดว้ ย IS1 - กำรศึกษำค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ (Research and Knowledge formation) เป็นสาระท่ีมงุ่ ให้ ผเู้ รียนกาหนดประเดน็ ปัญหา ต้งั สมมตุ ิฐาน คน้ ควา้ แสวงหาความรู้และฝึกทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และสร้างองคค์ วามรู้ IS2 - กำรส่ือสำรและกำรนำเสนอ (Communication and Presentation) เป็นสาระที่มุ่งใหผ้ เู้ รียนนา ความรู้ที่ไดร้ ับ มาพฒั นาวิธกี ารถา่ ยทอด/สื่อสารความหมาย/แนวคิด ขอ้ มลู องคค์ วามรู้ดว้ ยวิธกี ารนาเสนอ ท่ีเหมาะสม หลากหลายรูปแบบ และมีประสิทธิภาพ IS3 - กำรนำองค์ควำมรู้ไปใช้บริกำรสังคม (Global Education and Social Service Activity) เป็น สาระที่ม่งุ ใหผ้ เู้ รียนนา/ประยกุ ตอ์ งคค์ วามรู้ไปสู่การปฏบิ ตั ิ หรือไปใชเ้ กิดประโยชนต์ ่อสงั คม เกิดบริการ สาธารณะ (Public Service) โรงเรียนตอ้ งนาสาระการเรียนรู้ กำรศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง (Independent Study: IS) ไปสู่ การเรียนการสอน ดว้ ยการจดั ทารายวิชา ออกแบบหน่วยการเรียนรู้และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนตามแนวทาง ท่ีกาหนด โดยพิจารณาใหส้ อดคลอ้ งกบั บริบท วยั และพฒั นาการของผเู้รียน ซ่ึงอาจแตกต่างกนั ในระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ตวั อยา่ งรายละเอียดนาเสนอตามเป้าหมายคุณภาพผเู้ รียนท่ี กาหนด kruwirot wannachai satreesiriket school
8 เป้ำหมำยคุณภำพผู้เรียนในกำรศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง การพฒั นาผเู้ รียนผา่ นการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง (Independent Study) ครูผสู้ อนจะตอ้ งพจิ ารณา ใหเ้ หมาะสมกบั วยั และพฒั นาการของผเู้ รียน กจิ กรรมการเรียนรู้ ความยาก - ง่ายของชิ้นงานหรือภาระงาน ท่ีปฏบิ ตั ิจะตอ้ งเหมาะสม เป้าหมายคุณภาพผเู้ รียนแต่ละระดบั ท่ีกาหนดน้ี เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทาง ที่ครูจะใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนและการประเมนิ ผล เป้ำหมำยคณุ ภำพผู้เรียนในกำรศกึ ษำค้นคว้ำด้วยตนเอง คุณภำพผ้เู รียน ระดับมธั ยมศึกษำตอนต้น ระดับมธั ยมศึกษำตอนปลำย 1.การต้งั ประเดน็ คาถาม/ - ต้งั ประเดน็ /คาถามในเร่ืองท่ตี น - ต้งั ประเดน็ /คาถามเกยี่ วกบั สมมุติฐานอยา่ งมเี หตผุ ล สนใจโดยเริ่มจากตวั เองเช่ือมโยงกบั สถานการณ์ปัจจุบนั และสงั คมโลก (Hypothesis Formulation) ชุมชน ทอ้ งถิ่น ประเทศ - ต้งั สมมุติฐานและใหเ้ หตผุ ลท่ี - ต้งั สมมตุ ฐิ านและใหเ้ หตุผล โดยใช้ สนบั สนุนหรือโตแ้ ยง้ ประเดน็ ความรู้ ความรู้จากสาขาวิชาต่างๆ จากสาขาวิชาต่างๆ และมที ฤษฎีรองรับ 2. การสืบคน้ ความรู้จากแหล่ง - ศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความรู้ - ศกึ ษา คน้ ควา้ หาความรู้ ขอ้ มลู และ เรียนรู้และสารสนเทศหรือจากการ เกีย่ วกบั สมมุตฐิ านทตี่ ้งั ไวจ้ ากแหลง่ สารสนเทศ โดยระบุ แหลง่ ปฏิบตั ิ ทดลอง (Searching for เรียนรู้หลากหลาย (เชน่ หอ้ งสมดุ เรียนรู้ ท้งั ปฐมภมู ิ และทตุ ิยภูมิ Information) แหลง่ เรียนรู้ทางออนไลน์ วารสาร การปฏิบตั ทิ ดลอง หรืออน่ื ๆ) - ออกแบบ วางแผนรวบรวมขอ้ มูลโดย - ออกแบบ วางแผน รวบรวมขอ้ มลู ใชก้ ระบวนการ รวบรวมขอ้ มูลอยา่ งมี โดยใชร้ ะบวนการรวบรวมขอ้ มูลอยา่ ง ประสิทธิภาพ มีประสิทธิภาพ - ใชก้ ระบวนการกล่มุ แลกเปล่ยี นความ - ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการ คดิ เหน็ โดยใชค้ วามรู้จากวชิ าสาขาตา่ งๆ แลกเปล่ยี นความคดิ เห็นโดยใชค้ วามรู้ และพจิ ารณาความรู้อยา่ งมีวจิ ารณญาณ จากวชิ าสาขาตา่ งๆ เพื่อใหไ้ ดข้ อ้ มลู ที่ เพือ่ ใหไ้ ดข้ อ้ มูลท่คี รบถว้ นสมบูรณ์ ครบถว้ นสมบูรณ์ kruwirot wannachai satreesiriket school
9 คณุ ภำพผ้เู รียน ระดับมธั ยมศึกษำตอนต้น ระดับมธั ยมศึกษำตอนปลำย 2. การสืบคน้ ความรู้จากแหลง่ - ทางานบรรลุผลตามเป้าหมายภายใน - ทางานบรรลุผลตามเป้าหมายอยา่ งมี เรียนรู้และสารสนเทศหรือจากการ กรอบการดาเนินงานทก่ี าหนด โดย ประสิทธิภาพโดยคาแนะนาของครูทใี่ ห้ ปฏบิ ตั ิ ทดลอง (Searching for การกากบั ดแู ลชว่ ยเหลือของครูอยา่ ง คาปรึกษาอยา่ งตอ่ เน่ือง Information) ต่อเนื่อง 3. การสรุปองคค์ วามรู้ - วเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยใชว้ ิธีการที่ - อธิบายความเป็นมาของศาสตร์ (Knowledge Formation) เหมาะสม หลกั การ และวธิ ีคิด - สงั เคราะห์และสรุปองคค์ วามรู้ ในส่ิงที่ศกึ ษาคน้ ควา้ อภิปรายผลและเปรียบเทยี บเช่อื มโยง - วิเคราะห์ขอ้ มูล โดยใชว้ ิธีการที่ ความรู้ เหมาะสม - เสนอแนวคิด วธิ ีแกป้ ัญหาอยา่ งเป็น - สงั เคราะหแ์ ละสรุปองคค์ วามรู้ ระบบ อภปิ รายผล เปรียบเทียบเชอ่ื มโยง ความรู้ - เสนอแนวคดิ วิธีแกป้ ัญหาอยา่ งเป็น ระบบ 4. การส่ือสาร และการ - เรียบเรียงและถา่ ยทอดความคดิ อยา่ ง - เรียบเรียงและถ่ายทอดความคดิ อยา่ ง นาเสนออยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ชดั เจน เป็นระบบ สร้างสรรค์ เป็นระบบ (Effective Communication) - นาเสนอในรูปแบบเดยี่ ว โดยใชส้ ่ือ - นาเสนอในรูปแบบเดีย่ ว หรือกล่มุ ประกอบหลากหลาย เป็นภาษาไทย หรือภาษาองั กฤษโดยใช้ สื่อเทคโนโลยที ีห่ ลากหลาย - เขยี นรายงานการคน้ ควา้ ศึกษา - เขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ เชิง คน้ ควา้ เชิงวิชาการความยาว 2,500 วิชาการเป็นภาษาไทยความยาว 4,000 คา คาหรือภาษาองั กฤษความยาว 2,000 คา - อา้ งองิ แหลง่ ความรู้ที่เชื่อถอื ไดท้ ้งั ใน - อา้ งองิ แหล่งความรู้ท่เี ชอื่ ถือไดอ้ ยา่ ง และต่างประเทศ หลากหลาย - ใชก้ ารสนทนา/วพิ ากษผ์ ่านสื่อ - เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ อเี ลก็ ทรอนิกส์ เช่น e-conference, social media online kruwirot wannachai satreesiriket school
10 คุณภำพผู้เรียน ระดบั มธั ยมศึกษำตอนต้น ระดับมธั ยมศึกษำตอนปลำย 5. การนาความรู้ไปใชบ้ ริการ - นาความรู้ไปประยกุ ตส์ ร้างสรรค์ -นาความรู้ไปประยกุ ตส์ ร้างสรรค์ สังคม ประโยชน์ตอ่ โรงเรียนและชุมชน ประโยชนต์ ่อสงั คมและโลก - เผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ -เผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ ทไ่ี ดจ้ ากการลงมอื ปฏิบตั เิ พอื่ ท่ีไดจ้ ากการลงมอื ปฏบิ ตั เิ พ่ือ ประโยชน์ ตอ่ โรงเรียนและชุมชน ประโยชน์ต่อสังคมและโลก kruwirot wannachai satreesiriket school
11 หลกั สูตรโรงเรียนสตรีสิริเกศ โครงสร้ำงหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พื้นฐำน โรงเรียนสตรีสิริเกศ ช้ันมธั ยมศึกษำตอนต้น ปี กำรศึกษำ 2562 – 2564 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำคเรียนท่ี 1 ภำคเรียนท่ี 2 จำนวนหน่วยกติ กจิ กรรม จำนวนหน่วยกติ กิจกรรม พืน้ ฐำน เพม่ิ เตมิ พฒั นำผ้เู รียน พื้นฐำน เพมิ่ เตมิ พฒั นาผเู้ รียน 1.ภาษาไทย 1.5 * 1.5 IS2* 2.คณิตศาสตร์ 1.5 0.5* 1.5 0.5* 3.วทิ ยาศาสตร์และเทคฯ 1.5+0.5 1* 1.5+0.5 1* 4.สงั คม 1.5 * 1.5 * ประวตั ิศาสตร์ 0.5 0.5 หนา้ ที่พลเมือง - 0.5 60 - 0.5 60 5.สุขศกึ ษาและพละฯ 1 * 1* 6.ศลิ ปะ 1* 1* 7.การงานอาชีพ 0.5 IS1* 0.5 * IS3 8.ภาษาต่างประเทศ 1.5 1จ* 1.5 1จ* IDP 0.5F IDP 0.5F ภาษาต่างประเทศที่ 2 1ตป2 1ตป2 รวม 11 5.5+1* 11 5.5+1* หมำยเหตุ 1. ผเู้ รียนตอ้ งเรียนรายวิชาพ้ืนฐานและเพมิ่ เติม โดยเป็นรายวชิ าพ้ืนฐาน 66 หน่วยกิต และ รายวิชาเพ่มิ เติมตามท่ีโรงเรียนกาหนด และผเู้ รียนตอ้ งไดห้ น่วยกิต ตลอดหลกั สูตรไมน่ อ้ ยกวา่ 77 หน่วยกิต โดยเป็น รายวิชาพ้ืนฐาน 66 หน่วยกิต และรายวิชาเพม่ิ เติม ไม่นอ้ ยกว่า 11 หน่วยกิต ผา่ นการประเมนิ การ อา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน ผา่ นการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และผา่ นกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน kruwirot wannachai satreesiriket school
12 2. ระดบั ช้นั ม.1, ม.2 นกั เรียนตอ้ งเลอื กเรียนวชิ าเพมิ่ เติมตามความถนดั ความสนใจ ภาคเรียนละ 1 หน่วยกติ โดยเลอื กจาก 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 3 . หลกั สูตรโรงเรียนเทียบเคียงมาตรฐานสากล การศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (Research and Knowledge Formation/IS1) , การ ส่ือสารและการนาเสนอ (Communication and Presentation/IS2) จดั เป็นรายวชิ าเพ่ิมเติม รายวชิ าละ 1 หน่วย กิต **กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ (Social Service Activity /IS3) ใหจ้ ดั อยใู่ นคาบกิจกรรม และต้งั แต่ IS1,IS2,IS3 ใหท้ ุกกลุม่ สาระจดั การเรียนการสอนแบบบูรณาการ ทุกระดบั ช้นั kruwirot wannachai satreesiriket school
13 คำอธิบำยรำยวิชำ กำรศึกษำค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ (IS1) รหสั วชิ ำ I20201 (Research and Knowledge Formation : IS) รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่ 2 ภำคเรียนท่ี 1 จำนวน 1 หน่วยกติ เวลำ 40 ช่ัวโมง ศกึ ษา วิเคราะห์ ฝึกทกั ษะต้งั ประเด็นปัญหา/ต้งั คาถามในเร่ืองท่ีสนใจ โดยเร่ิมจากตนเองเช่ือมโยง จากชุมชน ทอ้ งถิ่นและประเทศ ต้งั สมมุติฐานและใหเ้ หตุผลโดยใชค้ วามรู้จากศาสตร์สาขาต่าง ๆ คน้ ควา้ แสวงหาความรู้เก่ียวกบั สมมตุ ิฐานที่ต้งั ไว้ จากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ออกแบบ วางแผน รวบรวม ขอ้ มลู วเิ คราะห์ขอ้ มลู โดยใชว้ ิธีการที่เหมาะสม ทางานบรรลผุ ลตามเป้าหมายภายในกรอบการดาเนินงานที่ กาหนด โดยการกากบั ดูแลช่วยเหลือของครูอยา่ งต่อเน่ือง สงั เคราะห์ สรุปองคค์ วามรู้ และร่วมกบั เสนอ แนวคิด วิธีการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบ ดว้ ยกระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนการ แกป้ ัญหา กระบวนการปฏบิ ตั ิและกระบวนการกลมุ่ ในการวพิ ากษ์ เพอ่ื ใหเ้ กิดทกั ษะในการคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ เปรียบเทียบเช่ือมโยงองคค์ วามรู้สงั เคราะห์ สรุป อภิปราย เพ่อื ใหเ้ ห็นประโยชน์และคุณค่าของการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ผลกำรเรียนรู้ 1. ต้งั ประเด็นปัญหา โดยเลอื กประเดน็ ท่ีสนใจ เร่ิมจากตนเอง ชุมชน ทอ้ งถน่ิ และประเทศ 2. ต้งั สมมตุ ิฐานประเด็นปัญหาทต่ี นสนใจ 3. ออกแบบ วางแผน และใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 4. ศกึ ษาคน้ ควา้ แสวงหาความรู้เกี่ยวกบั ประเด็นท่ีเลือกจากแหลง่ เรียนรู้ที่หลากหลาย 5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถอื ของแหล่งท่ีมาของขอ้ มลู ได้ 6. วเิ คราะห์ขอ้ คน้ พบดว้ ยสถติ ิท่ีเหมาะสม 7. วเิ คราะห์ สงั เคราะหข์ อ้ มูล สรุปองคค์ วามรูด้ ว้ ยกระบวนการกลมุ่ อภิปราย วพิ ากษ์ และแลก เปลยี่ นความคิดเห็นองคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากการคน้ พบ 8. เห็นประโยชน์และคณุ ค่าของการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง kruwirot wannachai satreesiriket school
14 กำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเรียนรู้ กำรศึกษำค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ (IS1) รหสั วชิ ำ I20201 รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ท่ี 2 ภำคเรียนที่ 1 จำนวน 1 หน่วยกติ เวลำ 40 ช่ัวโมง เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ทกั ษะ/กระบวนกำร คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ สมรรถนะ 1.ต้งั ประเดน็ คาถามในเร่ือง (K) ประสงค์ (C) ท่สี นใจโดยเร่ิมจากตนเอง เช่ือมโยงกบั ชุมชน ทอ้ งถน่ิ มีความรู้ความเขา้ ใจในการ (P) (A) 1.ความสามารถในการคิด ประเทศ ต้งั ประเดน็ ปัญหาจาก 2.ความสามารถในการใช้ สถานการณ์ปัจจุบนั ของ 1.สามารถต้งั ประเดน็ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน เทคโนโลยี ตนเอง ชมุ ชน ทอ้ งถ่ินและ ปัญหาจากสถานการณ์ 2.มุ่งมน่ั ต้งั ใจทางาน 3.ความสามารถในการ ประเทศได้ สื่อสาร ปัจจุบนั ของตนเอง ชมุ ชน 4.ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชวี ติ ทอ้ งถิน่ และประเทศได้ 1.ความสามารถในการคดิ 2.กระบวนการกลมุ่ 2.ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี 2.ต้งั สมมตฐิ านจากประเดน็ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการ 1.สามารถต้งั สมมติฐาน 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน 3.ความสามารถในการ ปัญหาท่ีตนสนใจ ต้งั สมมติฐานและใหเ้ หตุผล และใหเ้ หตผุ ลที่ 2.ม่งุ มน่ั ต้งั ใจทางาน สื่อสาร ท่สี นบั สนุนหรือโตแ้ ยง้ สนบั สนุนหรือโตแ้ ยง้ 4.ความสามารถในการใช้ 3.ออกแบบ วางแผน ประเดน็ ความรู้ โดยใช้ ประเดน็ ความรู้ใชค้ วามรู้ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน ทกั ษะชีวติ รวบรวมขอ้ มูลโดยใช้ ความรู้จากสาขาตา่ งๆและมี จากสาขาตา่ งๆและมี 2.มุง่ มนั่ ต้งั ใจทางาน 1.ความสามารถในการคิด กระบวนการรวบรวมขอ้ มูล ทฤษฎีรองรับ ทฤษฎรี องรับ 2.ความสามารถในการใช้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2.กระบวนการกลุ่ม เทคโนโลยี มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการ 1.สามารถออกแบบ 3.ความสามารถในการ ออกแบบ วางแผนใช้ วางแผนโดยใช้ ส่ือสาร กระบวนการรวบรวมขอ้ มูล กระบวนการรวบรวม อยา่ งมีประสิทธิภาพ ขอ้ มลู อยา่ งมี ประสิทธิภาพ kruwirot wannachai satreesiriket school
15 ผลกำรเรียนรู้ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ สมรรถนะ (K) ทกั ษะ/กระบวนกำร คณุ ลกั ษณะที่พงึ (C) ประสงค์ (P) (A) 4.ความสามารถในการ แกป้ ัญหา 2.กระบวนการกลมุ่ 5.ความสามารถในการใช้ 3.กระบวนการแกป้ ัญหา ทกั ษะชีวติ 1.ความสามารถในการคดิ 4.ศึกษาคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ มีความรู้ ความเขา้ ใจใน 1.สามารถ ศกึ ษา คน้ ควา้ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน 2.ความสามารถในการใช้ แสวงหาความรู้เกี่ยวกบั 2.มงุ่ มน่ั ต้งั ใจทางาน เทคโนโลยี เก่ยี วกบั ประเดน็ ท่ีเลือกจาก การศกึ ษา คน้ ควา้ ประเดน็ ทเ่ี ลือก จากแหลง่ 3.ความสามารถในการ เรียนรู้ทมี่ ีประสิทธิภาพ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน ส่ือสาร แหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย แสวงหาความรู้เกย่ี วกบั 2.กระบวนการกลมุ่ 2.มงุ่ มนั่ ต้งั ใจทางาน 1.ความสามารถในการคิด 1.สามารถคดิ วิเคราะห์ 2.ความสามารถในการใช้ ประเดน็ ท่ีเลอื กจากแหลง่ สังเคราะห์ความน่าเช่ือถือ เทคโนโลยี ของขอ้ มลู ได้ 3.ความสามารถในการ เรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ 2.กระบวนการกลุ่ม สื่อสาร 1.ความสามารถในการคดิ 5.ตรวจสอบความน่าเชอ่ื ถือของ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจใน 2.ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี แหลง่ ทม่ี าของขอ้ มูล การตรวจสอบความ 3.ความสามารถในการ ส่ือสาร น่าเชอื่ ถอื ของแหลง่ ท่ีมา 4.ความสามารถในการ แกป้ ัญหา ของขอ้ มลู 6.วิเคราะหข์ อ้ มูลดว้ ยสถิตทิ ่ี มคี วามรู้ ความเขา้ ใจใน 1.สามารถวเิ คราะห์ขอ้ มลู 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน เหมาะสม การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดว้ ย ดว้ ยคา่ สถติ ิเบ้ืองตน้ ที่ 2.มุ่งมน่ั ต้งั ใจทางาน ค่าสถติ เิ บ้ืองตน้ ได้ เหมาะสมได้ 2.กระบวนการกลุม่ kruwirot wannachai satreesiriket school
16 ผลกำรเรียนรู้ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ สมรรถนะ 7.วเิ คราะห์ สงั เคราะหข์ อ้ มลู (K) ทกั ษะ/กระบวนกำร คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ (C) สรุปองคค์ วามรู้ดว้ ยกระบวน ประสงค์ การกลุ่ม อภปิ ราย วิพากษ์ สรุปองคค์ วามรู้ดว้ ยการ 1.ความสามารถในการคิด และแลกเปล่ียนความคดิ เห็น วิเคราะห์ สงั เคราะห์ (P) (A) 2.ความสามารถในการใช้ องคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากการคน้ พบ ขอ้ มลู ได้ เทคโนโลยี 1.ใชก้ ระบวนการกลุ่ม 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน 3.ความสามารถในการ 8.เห็นคณุ ค่าของการศกึ ษา แสดงความคิดเหน็ ถงึ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ 2.มุ่งมน่ั ต้งั ใจทางาน ส่ือสาร คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง คุณค่าของการศกึ ษา ขอ้ มลู สรุปองคค์ วามรู้ได้ 4.ความสามารถในการใช้ คน้ ควา้ ดว้ ยตนเองได้ 2.กระบวนการกล่มุ ทกั ษะชวี ิต 3.กระบวนการคิด 1.ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ 2.ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี 1.ใชก้ ระบวนการคิด 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน 3.ความสามารถในการ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ร่วม 2.มงุ่ มน่ั ต้งั ใจทางาน สื่อสาร สรุปความคิดเห็นถงึ 4.ความสามารถในการใช้ คุณค่า ของการศึกษา ทกั ษะชวี ิต คน้ ควา้ ดว้ ยตนเองได้ 2.กระบวนการกลุ่ม kruwirot wannachai satreesiriket school
17 กำรกำหนดหน่วยกำรเรียนรู้ กำรศึกษำค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ (IS1) รหสั วชิ ำ I20201 รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่ 2 ภำคเรียนที่ 1 จำนวน 1 หน่วยกติ เวลำ 40 ช่ัวโมง หน่วยที่ หน่วยกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนัก (ช่ัวโมง) (คะแนน) 1 ประเด็นท่ฉี ันสนใจ 1.ต้งั ประเดน็ คาถามในเรื่องท่ี 1.การต้งั ประเดน็ ปัญหา / 20 10 สนใจโดยเร่ิมจากตนเอง คาถาม/การสังเกต 1 10 เชื่อมโยงกบั ชุมชน ทอ้ งถนิ่ 12 20 ประเทศ 20 2.ต้งั สมมตฐิ านจากประเดน็ 2.การต้งั สมมตฐิ านจาก 10 10 ปัญหาท่ีตนสนใจ ประเดน็ ปัญหา 3.ออกแบบ วางแผน รวบรวม 3.การออกแบบ การวางแผน ขอ้ มลู โดยใชก้ ระบวนการ การทางาน การรวบรวม รวบรวมขอ้ มูลอยา่ งมี ขอ้ มลู ประสิทธิภาพ สอบกลำงภำคเรียน 2 ค้นคว้ำหำคำตอบ 4.ศึกษาคน้ ควา้ แสวงหา 4.การศึกษาคน้ ควา้ แสวงหา ความรู้เกยี่ วกบั ประเดน็ ที่ ความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่ เลอื กจากแหล่งเรียนรู้ท่ี หลากหลาย หลากหลาย 5.ตรวจสอบความน่าเช่ือถือ 5.การตรวจสอบความน่า ของแหลง่ ท่ีมาของขอ้ มลู ได้ เชือ่ ถอื ของขอ้ มูล แหลง่ ที่มา ของขอ้ มูล 6.วิเคราะหข์ อ้ คน้ พบดว้ ยสถิติ 6.การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ท่ีเหมาะสม ขอ้ มูลดว้ ยสถติ ทิ ีเ่ หมาะสม kruwirot wannachai satreesiriket school
18 หน่วยที่ หน่วยกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนัก (ชั่วโมง) (คะแนน) 3 รอบรู้และเห็นคุณค่ำ 7.วเิ คราะห์ สงั เคราะหข์ อ้ มูล 7.การสรุปองคค์ วามรู้ สรุปองคค์ วามรู้ดว้ ยกระบวน 8.การแสดงความคดิ เห็น การ 6 10 สอบปลำยภำคเรียน การกลุ่ม อภปิ ราย วิพากษ์ วพิ ากษ์ การนาเสนอรายงาน และแลกเปลย่ี นความคดิ เห็น 1 10 องคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากการ 9.คณุ ค่าของการศึกษาคน้ ควา้ คน้ พบ ดว้ ยตนเอง 8.เหน็ ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของการศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ย ตนเอง รวม 40 100 kruwirot wannachai satreesiriket school
19 กำรออกแบบกำรเรียนรู้ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 1 ประเด็นทฉ่ี ันสนใจ กำรศึกษำค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ (IS1) รหัสวชิ ำ I20201 รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ท่ี 2 ภำคเรียนท่ี 1 จำนวน 1 หน่วยกติ เวลำ 20 ช่ัวโมง ผลกำรเรียนรู้ 1. ต้งั ประเดน็ ปัญหาโดยเลอื กประเดน็ ท่ีสนใจ เร่ิมจากตนเอง ชุมชน ทอ้ งถ่นิ และประเทศ 2. ต้งั สมมตุ ิฐานประเด็นปัญหาท่ีตนสนใจ 3. ออกแบบ วางแผน และใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลอยา่ งมีประสิทธิภาพ ผลกำรเรียนรู้ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ ภำระงำน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 1.ต้งั ประเดน็ ปัญหาโดยเลอื ก ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ใบเรียนรู้ท่ี 1 การต้งั คาถาม 1. การบรรยาย ประเดน็ ทส่ี นใจ เร่ิมจากตนเอง มีความรู้ความเขา้ ใจในการต้งั ประเดน็ ปัญหา ชุมชน ทอ้ งถ่ินและประเทศ จากสถานการณ์ปัจจุบนั ของชุมชน ทอ้ งถิ่น และประเดน็ ปัญหา 2. การจดั กิจกรรมกล่มุ และประเทศได้ ทักษะ/กระบวนกำร ใบงำนท่ี 1 การต้งั คาถาม 3. การฝึ กทกั ษะ 1.สามารถต้งั ประเดน็ ปัญหาจากสถานการณ์ ปัจจุบนั ของตนเอง ชุมชน ทอ้ งถน่ิ และ และประเดน็ ปัญหา ประเทศได้ 2.กระบวนการกลมุ่ ใบงำนท่ี 2 การฝึ กการต้งั คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน คาถาม 2.มงุ่ มน่ั ในการทางาน สมรรถนะ ใบงำนท่ี 3 การวิเคราะห์ 1.ความสามารถในการคดิ 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ปัญหาของตนเอง 3.ความสามารถในการสื่อสาร ใบงำนท่ี 4 การวเิ คราะห์ ปัญหาของชุมชน ใบงำนที่ 5 การวเิ คราะห์ ปัญหาของประเทศ kruwirot wannachai satreesiriket school
20 ผลกำรเรียนรู้ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ ภำระงำน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 2. ต้งั สมมติฐานจากประเดน็ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ใบเรียนรู้ท่ี 2 การต้งั 1. การบรรยาย ปัญหาที่ตนสนใจ มีความรู้ ความเขา้ ใจในการต้งั สมมตฐิ านและ สมมติฐาน 2. การจดั กจิ กรรมกล่มุ ใหเ้ หตผุ ลท่สี นบั สนุนหรือโตแ้ ยง้ ประเดน็ ใบงำนที่ 6 สมมติฐาน 3. การฝึ กทกั ษะ ความรู้ โดยใชค้ วามรู้จากสาขาต่างๆและมี ใบงำนที่ 7 การต้งั คาถาม 4. การนาเสนองานการ ทฤษฎรี องรับ และการต้งั สมมตฐิ าน วเิ คราะหป์ ัญหาของ ทักษะ/กระบวนกำร ใบเรียนรู้ที่ 3 ประเดน็ ชุมชนและประเดน็ ที่ 1.สามารถต้งั สมมติฐานและใหเ้ หตผุ ลท่ี ปัญหา ฉันสนใจของแต่ละ สนบั สนุนหรือโตแ้ ยง้ ประเดน็ ความรู้โดยใช้ ใบงำนท่ี 8 การต้งั ประเดน็ กลุ่ม ความรู้จากสาขาต่างๆและมที ฤษฎรี องรับ ปัญหา 2.กระบวนการกลุม่ ใบงำนท่ี 9 (งานกลุม่ คร้ังท่ี คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 1) การวิเคราะหป์ ัญหาของ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน ชุมชน 2.มงุ่ มน่ั ต้งั ใจทางาน ใบงำนท่ี 10 (งานกลมุ่ คร้ัง สมรรถนะ ที่ 2) ประเดน็ ทีฉ่ ันสนใจ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3.ความสามารถในการสื่อสาร 4.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ kruwirot wannachai satreesiriket school
21 ผลกำรเรียนรู้ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ ภำระงำน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 3.ออกแบบ วางแผน รวบรวม ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ใบเรียนรู้ที่ 4 ออกแบบ 1. การบรรยาย ขอ้ มูลโดยใชก้ ระบวนการ มีความรู้ ความเขา้ ใจในการออกแบบ รวบรวมขอ้ มูลอยา่ งมี วางแผนใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลอยา่ ง วางแผน รวบรวมขอ้ มลู 2. การจดั กิจกรรมกลุ่ม ประสิทธิภาพ มปี ระสิทธิภาพ ทกั ษะ/กระบวนกำร ใบงำนท่ี 11 ออกแบบ 3. การฝึ กทกั ษะ 1.สามารถออกแบบ วางแผนใชก้ ระบวนการ รวบรวมขอ้ มูลอยา่ งมีประสิทธิภาพ วางแผน รวบรวมขอ้ มลู 4. การนาเสนองาน 2.กระบวนการกลุ่ม 3.กระบวนการแกป้ ัญหา ใบเรียนรู้ที่ 5 การเกบ็ รวบ การออกแบบ วางแผน คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน รวมขอ้ มูล เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และ 2.มงุ่ มน่ั ต้งั ใจทางาน สมรรถนะ ใบงำนที่ 12 การเกบ็ รวบ การวางแผนการทางาน 1.ความสามารถในการคดิ 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี รวมขอ้ มูล (ID PLAN) 3.ความสามารถในการส่ือสาร 4.ความสามารถในการแกป้ ัญหา ใบงำนท่ี 13 (งานกลมุ่ คร้ัง ท่ี 3) ออกแบบ วางแผน รวบรวมขอ้ มลู ใบงำนท่ี 14 (งานกลมุ่ คร้ัง ท่ี 4) ออกแบบ วางแผน รวบรวมขอ้ มลู (ID PLAN) kruwirot wannachai satreesiriket school
22 กำรออกแบบกำรเรียนรู้ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 2 ค้นคว้ำหำคำตอบ กำรศึกษำค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ (IS1) รหสั วชิ ำ I20201 รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ท่ี 2 ภำคเรียนท่ี 1 จำนวน 1 หน่วยกติ เวลำ 12 ชั่วโมง ผลกำรเรียนรู้ 4. ศกึ ษาคน้ ควา้ แสวงหาความรู้เกี่ยวกบั ประเดน็ ที่เลอื กจากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย 5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถอื ของแหล่งที่มาของขอ้ มูลได้ 6. วิเคราะหข์ อ้ คน้ พบดว้ ยสถิติที่เหมาะสม ผลกำรเรียนรู้ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ ภำระงำน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.ศกึ ษาคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ใบเรียนรู้ท่ี 6 การวจิ ยั 1. การบรรยาย เกย่ี วกบั ประเดน็ ท่ีเลือกจาก มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการศกึ ษา คน้ ควา้ เบ้ืองตน้ (การศกึ ษาคน้ ควา้ ) 2. การจดั กจิ กรรมกลมุ่ แหล่งเรียนรู้ท่หี ลากหลาย แสวงหาความรู้เก่ยี วกบั ประเดน็ ทีเ่ ลอื กจาก แหล่งเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพ ใบงำนท่ี 15 (งานกลมุ่ คร้ัง 3. การฝึ กทกั ษะ ทักษะ/กระบวนกำร ท่ี 5) การวจิ ยั /การศกึ ษา 4. การนาเสนอโครง 1.สามารถ ศึกษา คน้ ควา้ แสวงหาความรู้ เกย่ี วกบั ประเดน็ ทเ่ี ลอื ก จากแหลง่ เรียนรู้ทม่ี ี คน้ ควา้ ร่างของการศึกษา ประสิทธิภาพ ใบเรียนรู้ที่ 7 แหล่งเรียนรู้ คน้ ควา้ บทนา และ 2.กระบวนการกลมุ่ และการอา้ งองิ แนวคิด ทฤษฎี คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ ใบงำนท่ี 16 แหล่งเรียนรู้ งานวิจยั ทเี่ กี่ยวขอ้ ง 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน ใบเรียนรู้ที่ 8 แนวคดิ ของแตล่ ะกลุ่ม 2.มงุ่ มนั่ ต้งั ใจทางาน สมรรถนะ ทฤษฎีและงานวิจยั ที่ 1.ความสามารถในการคดิ 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เกย่ี วขอ้ ง 3.ความสามารถในการสื่อสาร ใบงำนท่ี 17 แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง ใบงำนท่ี 18 (งานกล่มุ คร้ัง ท่ี 6) แนวคดิ ทฤษฎีและ งานวิจยั ทเี่ กีย่ วขอ้ ง kruwirot wannachai satreesiriket school
23 ผลกำรเรียนรู้ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ ภำระงำน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 5.ตรวจสอบความน่าเช่ือถอื ของ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ใบเรียนรู้ที่ 9 การตรวจ 1. การบรรยาย แหลง่ ท่ีมาของขอ้ มลู มีความรู้ ความเขา้ ใจในการตรวจสอบความ สอบความน่าเชอื่ ถือของ 2. การจดั กิจกรรมกลุม่ น่าเช่อื ถอื ของแหลง่ ท่ีมาของขอ้ มลู ขอ้ มูล 3. การฝึ กทกั ษะ ทักษะ/กระบวนกำร ใบงำนท่ี 19 การตรวจสอบ 1.สามารถคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ความ ความน่าเชื่อถอื ของขอ้ มูล น่าเชื่อถือของขอ้ มูลได้ 2.กระบวนการกลมุ่ คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน 2.ม่งุ มนั่ ต้งั ใจทางาน สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3.ความสามารถในการส่ือสาร kruwirot wannachai satreesiriket school
24 ผลกำรเรียนรู้ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ ภำระงำน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 6.วิเคราะห์ขอ้ มูลดว้ ยสถติ ิท่ี ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ใบเรียนรู้ที่ 10 สถิติเบ้อื ง 1. การบรรยาย เหมาะสม มีความรู้ ความเขา้ ใจในการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ตน้ ทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห์ 2. การจดั กจิ กรรมกลุ่ม ดว้ ยค่าสถติ ิเบ้ืองตน้ ได้ ขอ้ มูล(ค่ากลาง) 3. การฝึ กทกั ษะ ทกั ษะ/กระบวนกำร ใบงำนที่ 20 สถติ เิ บ้ืองตน้ 4. การนาเสนอโครง 1.สามารถวเิ คราะหข์ อ้ มูลดว้ ยค่าสถติ เิ บ้ืองตน้ ท่ใี ชใ้ นการวิเคราะหข์ อ้ มูล ร่าง วธิ ีการดาเนนิ และ ท่เี หมาะสมได้ (คา่ กลาง) ผลการศึกษาคน้ ควา้ 2.กระบวนการกลุ่ม ใบเรียนรู้ท่ี 11 สถิติเบ้อื ง ของแต่ละกลุม่ คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ ตน้ ทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห์ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน ขอ้ มูล(ค่าร้อยละ) 2.มงุ่ มน่ั ต้งั ใจทางาน ใบงำนท่ี 21 สถิตเิ บ้อื งตน้ สมรรถนะ ทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะหข์ อ้ มูล 1.ความสามารถในการคดิ (ค่าร้อยละ) 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ใบงำนท่ี 22 (งานกลมุ่ คร้ัง 3.ความสามารถในการสื่อสาร ที่ 7) วเิ คราะหข์ อ้ มูลดว้ ย สถิตทิ เ่ี หมาะสม kruwirot wannachai satreesiriket school
25 กำรออกแบบกำรเรียนรู้ หน่วยเรียนรู้ท่ี 3 รอบรู้และเห็นคุณค่ำ กำรศึกษำค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ (IS1) รหสั วชิ ำ I20201 รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่ 2 ภำคเรียนท่ี 1 จำนวน 1 หน่วยกติ เวลำ 6 ชั่วโมง ผลกำรเรียนรู้ 7. วเิ คราะห์ สงั เคราะหข์ อ้ มูล สรุปองคค์ วามรูด้ ว้ ยกระบวน การกลมุ่ อภิปราย วพิ ากษ์ และ แลกเปล่ียนความคดิ เห็นองคค์ วามรู้ท่ีไดจ้ ากการคน้ พบ 8. เห็นคุณค่าของการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ผลกำรเรียนรู้ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ ภำระงำน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 7.วิเคราะห์ สังเคราะห์ขอ้ มูล ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ใบเรียนรู้ท่ี 12 รอบรู้ และ 1. การบรรยาย สรุปองคค์ วามรู้ดว้ ยกระบวน สรุปองคค์ วามรู้ดว้ ยการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ การกล่มุ อภปิ ราย วพิ ากษ์ ขอ้ มูลได้ เหน็ คณุ ค่า 2. การจดั กจิ กรรมกล่มุ และแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ ทักษะ/กระบวนกำร องคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากการคน้ พบ 1.ใชก้ ระบวนการกลุ่มวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ใบงำนท่ี 23 รอบรู้ และ 3. การฝึ กทกั ษะ ขอ้ มลู สรุปองคค์ วามรู้ได้ 2.กระบวนการกลุม่ เห็นคณุ คา่ 4. การนาเสนอรายงาน 3.กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ ใบงำนที่ 24 (งานกล่มุ คร้ัง องคค์ วามรู้ท่ีคน้ พบ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน ท่ี 9) องคค์ วามรู้ที่คน้ พบ ของแตล่ ะกล่มุ 2.มุง่ มนั่ ต้งั ใจทางาน สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคดิ 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3.ความสามารถในการสื่อสาร 4.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต kruwirot wannachai satreesiriket school
26 ผลกำรเรียนรู้ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ ภำระงำน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 8.เห็นคุณค่าของการศึกษา ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ใบงำนท่ี 25 (งานกลุ่ม คร้ัง 1. การบรรยาย คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง แสดงความคิดเหน็ ถึงคุณคา่ ของการศึกษา ที่ 10) เห็นคุณคา่ ขององค์ 2. การจดั กิจกรรมกลมุ่ คน้ ควา้ ดว้ ยตนเองได้ ความรู้ทคี่ น้ พบ 3. การนาเสนอรายงาน ทกั ษะ/กระบวนกำร คุณคา่ ขององคค์ วามรู้ 1.ใชก้ ระบวนการคิด วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ท่คี น้ พบของแตล่ ะกลมุ่ ร่วมสรุปความคิดเหน็ ถึงคณุ ค่า ของการศึกษา คน้ ควา้ ดว้ ยตนเองได้ 2.กระบวนการกล่มุ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน 2.มุง่ มน่ั ต้งั ใจทางาน สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคดิ 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3.ความสามารถในการส่ือสาร 4.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต kruwirot wannachai satreesiriket school
27 แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ หน่วยเรียนรู้ที่ 1 ประเดน็ ที่ฉันสนใจ กำรศึกษำค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ (IS1) รหัสวชิ ำ I20201 รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ท่ี 2 ภำคเรียนท่ี 1 จำนวน 1 หน่วยกติ เวลำ 20 ชั่วโมง สำระสำคญั การต้งั ประเด็นปัญหาที่ชดั เจนโดยเลอื กประเด็นท่ีสนใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชน ทอ้ งถ่นิ ประเทศ การ ต้งั สมมติฐาน โดยใชค้ วามรู้จากศาสตร์ต่าง ๆ และออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มลู อยา่ งมี ประสิทธิภาพจะช่วยใหก้ ารศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาคาตอบประสบผลสาเร็จ สำระกำรเรียนรู้ 1. การต้งั คาถาม/การต้งั ประเด็นปัญหา 2. ระดบั ของคาถาม 3. การต้งั สมมติฐาน หลกั ในการต้งั สมมติฐาน และประโยชน์ของสมมติฐาน 4. การต้งั สมมติฐานจากประเด็นปัญหา 5. ตวั แปรตน้ และตวั แปรตาม 6. การออกแบบ วางแผน เก็บรวบรวมขอ้ มลู 7. ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง ผลกำรเรียนรู้ 1. ต้งั ประเดน็ ปัญหำโดยเลือกประเดน็ ทส่ี นใจ เร่ิมจำกตนเอง ชุมชน ท้องถนิ่ และประเทศ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจในการต้งั ประเดน็ ปัญหาจากสถานการณ์ปัจจุบนั ของชุมชน ทอ้ งถิ่นและประเทศได้ kruwirot wannachai satreesiriket school
28 ทักษะ/กระบวนกำร 1. สามารถต้งั ประเดน็ ปัญหาจากสถานการณ์ปัจจุบนั ของตนเอง ชุมชน ทอ้ งถนิ่ และประเทศได้ 2. กระบวนการกลมุ่ คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน สมรรถนะ 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3. ความสามารถในการส่ือสาร ภำระงำน 1. ใบงานที่ 1 การต้งั คาถาม/ประเด็นปัญหา 2. ใบงานท่ี 2 การฝึกการต้งั คาถาม 3. ใบงานท่ี 3 การวเิ คราะห์ปัญหาของตนเอง 4. ใบงานที่ 4 การวเิ คราะหป์ ัญหาของชุมชน 5. ใบงานท่ี 5 การวเิ คราะหป์ ัญหาของประเทศ 2. ต้งั สมมตฐิ ำนจำกประเดน็ ปัญหำท่ีตนสนใจ ควำมรู้ควำมเข้ำใจ มีความรู้ ความเขา้ ใจในการศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความรู้เกี่ยวกบั ประเดน็ ที่เลือก จากแหลง่ เรียนรู้ท่ีมปี ระสิทธิภาพ ทกั ษะ/กระบวนกำร 1.สามารถ ศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความรู้เก่ียวกบั ประเดน็ ทเ่ี ลือก จากแหลง่ เรียนรู้ท่ี มีประสิทธิภาพ 2.กระบวนการกลุ่ม kruwirot wannachai satreesiriket school
29 คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน 2. มุ่งมน่ั ต้งั ใจทางาน สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3.ความสามารถในการส่ือสาร ภำระงำน 1. ใบงานท่ี 6 เรื่องสมมติฐาน 2. ใบงานที่ 7 เรื่องการต้งั คาถามและการต้งั สมมติฐาน 3. ใบงานท่ี 8 เรื่องการต้งั ประเดน็ ปัญหา 4. ใบงานท่ี 9 (งานกลุม่ คร้ังที่ 1) เร่ืองการวิเคราะหป์ ัญหาชุมชนของแต่ละกลมุ่ 5. ใบงานท่ี 10 (งานกลุ่ม คร้ังท่ี 2) เรื่องประเด็นท่ีฉนั สนใจ 3.ออกแบบ วำงแผน รวบรวมข้อมลู โดยใช้กระบวนกำรรวบรวมข้อมลู อย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ มีความรู้ ความเขา้ ใจในการออกแบบ วางแผนใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มลู อยา่ ง มปี ระสิทธิภาพ ทักษะ/กระบวนกำร 1.สามารถออกแบบ วางแผนใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มลู อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2.กระบวนการกลุม่ 3.กระบวนการแกป้ ัญหา คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1.ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน 2. มุ่งมนั่ ต้งั ใจทางาน kruwirot wannachai satreesiriket school
30 สมรรถนะ 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3.ความสามารถในการส่ือสาร 4.ความสามารถในการแกป้ ัญหา ภำระงำน 1.ใบงานที่ 11 เรื่องการออกแบบ วางแผน เกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 2. ใบงานที่ 12 เร่ืองการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 3. ใบงานท่ี 13 (งานกลมุ่ คร้ังท่ี 3) การออกแบบ วางแผน เก็บรวบรวมขอ้ มลู 4. ใบงานที่ 14 (งานกลุ่ม คร้ังที่ 4) การวางแผนการทางาน (ID PLAN) ส่ือกำรเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ส่ือกำรเรียนรู้ ใบเรยี นรู้ 1. ใบเรียนรู้ท่ี 1 เร่ืองการต้งั คาถาม/ประเด็นปัญหา 2. ใบเรียนรู้ท่ี 2 เร่ืองการต้งั สมมติฐาน 3. ใบเรียนรู้ท่ี 3 เร่ืองประเด็นปัญหา 4. ใบเรียนรู้ที่ 4 เรื่องการออกแบบ วางแผน เก็บรวบรวมขอ้ มูล 5. ใบเรียนรู้ที่ 5 เร่ืองการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ใบงำน 1. ใบงานท่ี 1 เรื่องการต้งั คาถามและประเดน็ ปัญหา 2. ใบงานที่ 2 เรื่องการฝึกการต้งั คาถาม 3. ใบงานท่ี 3 เรื่องการวเิ คราะห์ปัญหาของตนเอง 4. ใบงานที่ 4 เร่ืองการวิเคราะหป์ ัญหาของชุมชน 5. ใบงานที่ 5 เรื่องการวิเคราะห์ปัญหาของประเทศ 6. ใบงานท่ี 6 เรื่องสมมติฐาน 7. ใบงานท่ี 7 เร่ืองการต้งั คาถามและการต้งั สมมติฐาน kruwirot wannachai satreesiriket school
31 8. ใบงานท่ี 8 เรื่องการต้งั ประเดน็ ปัญหา 9. ใบงานที่ 9 (งานกลุม่ คร้ังท่ี 1) เรื่องการวิเคราะหป์ ัญหาชุมชนของแต่ละกลมุ่ 10. ใบงานที่ 10 (งานกลุ่ม คร้ังที่ 2) เรื่องประเดน็ ที่ฉนั สนใจ 11. ใบงานที่ 11 เร่ืองการออกแบบ วางแผน เก็บรวบรวมขอ้ มลู 12. ใบงานท่ี 12 เร่ืองการเก็บรวบรวมขอ้ มลู 13. ใบงานที่ 13 (งานกลมุ่ คร้ังท่ี 3) การออกแบบ วางแผน เก็บรวบรวมขอ้ มลู 14. ใบงานท่ี 14 (งานกลุ่ม คร้ังท่ี 4) การวางแผนการทางาน (ID PLAN) แหล่งเรียนรู้ - หอ้ งสมดุ , ผเู้ ชี่ยวชาญ , สถานท่ีสาคญั ต่างๆ - อนิ เตอร์เน็ต เช่น WWW.GOOGLE.COM , gg.gg/kruwirot-wannachai ฯลฯ กำรวดั ผล/ประเมนิ ผล งำนบุคคล (ความรู้ ความเขา้ ใจ และคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค)์ - ตรวจผลงานจากการทาใบงานลาดบั ที่ 1 – 8 และ 11 , 12 - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ งำนกล่มุ (การทางานกลุ่ม การแกป้ ัญหา) - การนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน - การตรวจผลงานจากการทาใบงานลาดบั ที่ 9 , 10 , 13 และ 14 กจิ กรรมกำรเรียนรู้ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ช่ัวโมงท่ี 1 เรื่องกำรปฐมนเิ ทศ - ครูและนกั เรียนแนะนาตนเอง - แจง้ ชื่อรายวชิ ารหสั วิชา - แจง้ รายละเอยี ดเก่ียวกบั site gg.gg/kruwirot-wannachai และใหน้ กั เรียนใชโ้ ทรศพั ทม์ อื ถือ เขา้ ไปดูคาอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา และเอกสารประกอบการเรียนไดภ้ ายใน site - ใหน้ กั เรียนแต่ละคนกรอกแบบสารวจขอ้ มลู พ้นื ฐานของนกั เรียนรายบุคคล kruwirot wannachai satreesiriket school
32 กจิ กรรมกำรเรียนรู้ชั่วโมงที่ 2 เร่ืองกำรต้งั คำถำม/ประเดน็ ข้ันนำ ครูอธิบายความหมายของ การศกึ ษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ของผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 ข้ันสอน นกั เรียนแต่ละคนศกึ ษาใบเรียนรู้ที่ 1 เร่ืองการต้งั คาถาม/ประเด็นปัญหา และทาใบงานที่ 1 เรื่องการต้งั คาถาม/ประเดน็ ปัญหา ข้ันสรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปและครูสุ่มนกั เรียนใหย้ กตวั อยา่ งการต้งั คาถามระดบั พ้นื ฐาน และระดบั สูง กจิ กรรมกำรเรียนรู้ช่ัวโมงท่ี 3 เร่ืองกำรฝึ กต้งั คำถำม ข้ันนำ ทบทวนความรู้เดิมเกย่ี วกบั ระดบั ของคาถามและยกตวั อยา่ งคาถาม ข้ันสอน ใหน้ กั เรียนแต่ละคนทาใบงานลาดบั ท่ี 2 การฝึกต้งั คาถาม และใหน้ กั เรียนนาเสนอผลงาน ของตน ข้ันสรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปคาตอบที่ถูกตอ้ ง และเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนท่ีมีผลงานแตกต่าง กนั ไดน้ าเสนอผลงานของตน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ชั่วโมงท่ี 4 เรื่องกำรวเิ ครำะห์ปัญหำของตนเอง/ครอบครัว ข้ันนำ ครูยกตวั อยา่ งข่าวสถานการณ์ปัจจุบนั ท่ีเป็นปัญหาของสงั คมไทย และใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปถึงสาเหตุของปัญหา และแนวทางแกป้ ัญหา ข้ันสอน ใหน้ กั เรียนแต่ละคนทาใบงานที่ 3 เรื่องการวิเคราะหป์ ัญหาตนเอง/ครอบครัว จากน้นั ครู ใหน้ กั เรียนนาเสนอปัญหาตนเอง/ครอบครัว หนา้ ช้นั เรียนตามความสมคั รใจ kruwirot wannachai satreesiriket school
33 ข้ันสรุป ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปถึงปัญหา สาเหตุของปัญหา แนวทางการแกป้ ัญหาของนกั เรียน คนน้นั วา่ มีความเหมาะสมหรือไม่ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ช่ัวโมงที่ 5 เรื่องกำรวเิ ครำะห์ปัญหำของชุมชน ข้ันนำ ครูยกตวั อยา่ งจากสถานการณ์ในปัจจุบนั ถึงปัญหาของชุมชนแลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุป ถงึ สาเหตุและแนวทางการแกป้ ัญหา ข้ันสอน ใหน้ กั เรียนแต่ละคนทาใบงานที่ 4 เรื่องการวเิ คราะหป์ ัญหาชุมชนของตน จากน้นั ครูสุ่ม นกั เรียนใหน้ าเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียนถงึ ปัญหา สาเหตุของปัญหาและแนวทางการแกป้ ัญหาของชุมชนตน ข้ันสรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปปัญหาของชุมชน สาเหตุที่เกิดปัญหาน้นั และแนวทางการแก้ ปัญหาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ชั่วโมงที่ 6 เรื่องกำรวเิ ครำะห์ปัญหำของประเทศ ข้ันนำ ครูยกตวั อยา่ งปัญหาของประเทศจากสถานการณ์ในปัจจุบนั แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุป สาเหตุและแนวทางการแกป้ ัญหา ข้ันสอน ใหน้ กั เรียนแต่ละคนทาใบงานที่ 5 เรื่องการวเิ คราะหป์ ัญหาของประเทศ จากน้นั ครูสุ่ม นกั เรียนใหน้ าเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียนถงึ ปัญหา สาเหตุของปัญหา และแนวทางการแกป้ ัญหาของประเทศ ข้นั สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปปัญหาของประเทศ สาเหตุท่ีเกิดปัญหาน้นั และแนวทางการ แกป้ ัญหาว่ามคี วามเหมาะสมหรือไม่ kruwirot wannachai satreesiriket school
34 กจิ กรรมกำรเรียนรู้ชั่วโมงที่ 7 เร่ืองสมมตฐิ ำน ข้ันนำ ครูยกตวั อยา่ งปรากฏการณ์ท่ีสงั เกตได้ เช่น ตน้ หญา้ ท่ีอยใู่ ตเ้ งาของร่มไมใ้ หญ่กบั ตน้ หญา้ ชนิดเดียวกนั แต่อยกู่ ลางแจง้ นกั เรียนคดิ ว่า ตน้ หญา้ ใดจะเจริญงอกงามกวา่ กนั แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดง ความคดิ เห็นที่หลากหลาย ข้ันสอน ใหน้ กั เรียนแต่ละคนศึกษาใบความรู้ที่ 2 เรื่องสมมติฐาน และใหท้ าใบงานท่ี 6 เร่ือง สมมติฐาน ข้นั สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง โดยการสุ่มใหน้ กั เรียนตอบคาถามของใบงาน ลาดบั ที่ 6 คนละขอ้ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ช่ัวโมงท่ี 8 เร่ืองกำรตง้ั คำถำมและกำรต้งั สมมตฐิ ำน ข้ันนำ ทบทวนความรู้เดิมดว้ ยการสุ่มนกั เรียนใหย้ กตวั อยา่ งสมมติฐาน ข้ันสอน ใหน้ กั เรียนแต่ละคนไดฝ้ ึกทกั ษะการเชื่อมโยงในการต้งั คาถาม แลว้ เชื่อมโยงไปถงึ การต้งั สมมติฐานดว้ ยการทาใบงานลาดบั ที่ 7 เร่ืองการต้งั คาถามและการต้งั สมมติฐาน แลว้ ใหน้ กั เรียนนาเสนอ หนา้ ช้นั เรียนเพอื่ รับการวิพากษ์ ข้นั สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั วิพากษผ์ ลงานของนกั เรียนท่ีนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ชั่วโมงที่ 9 – 10 เรื่องกำรตง้ั ประเดน็ ปัญหำ (เรื่องทจ่ี ะศึกษำ) ข้ันนำ ทบทวนประสบการณ์เดิมดว้ ยการสุ่มนกั เรียน ใหย้ กตวั อยา่ งการต้งั คาถาม และการต้งั สมมติฐาน ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปคาตอบที่ถูกตอ้ ง kruwirot wannachai satreesiriket school
35 ข้ันสอน นกั เรียนแต่ละคนศกึ ษาใบความรู้ลาดบั ที่ 3 เรื่องประเดน็ ปัญหา และใหน้ กั เรียนแต่ละคนได้ ฝึกทกั ษะการเชื่อมโยงในการต้งั คาถาม เช่ือมโยงไปถึงการต้งั สมมติฐาน แลว้ สรุปเป็นหวั ขอ้ เร่ืองที่จะ ทาการศึกษา(ประเดน็ ปัญหา) ดว้ ยการทาใบงานลาดบั ที่ 8 เรื่องการต้งั ประเดน็ ปัญหา (เร่ืองท่ีจะศกึ ษา) แลว้ นาเสนอหนา้ ช้นั เรียนเพอ่ื รับการวิพากษ์ ข้นั สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั วิพากษผ์ ลงานของนกั เรียนที่นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ช่ัวโมงที่ 11 - 12 เรื่องกำรวเิ ครำะห์ปัญหำชุมชนของแต่ละกลุ่ม ข้ันนำ ทบทวนประสบการณ์เดิม โดยสุ่มนกั เรียน 3 – 4 คน ใหอ้ ธิบายเรื่องการวิเคราะห์ปัญหา ชุมชนของตนเอง ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปปัญหาของชุมชนที่คาดวา่ จะสามารถแกไ้ ขไดใ้ นระยะเวลาอนั ส้นั ข้ันสอน นกั เรียนแบ่งกลุม่ ๆละ 4 – 5 คน โดยคละความสามารถ เลอื กประธาน รองประธาน และ เลขานุการ แต่ละกลุ่มทาใบงานลาดบั ท่ี 9 เร่ืองการวิเคราะห์ปัญหาชมุ ชน สมาชิกกลมุ่ ช่วยกนั แสดง ความคิดเห็นถึงปัญหาชุมชนของตนเอง เพ่ือสรุปหลอมหลวมเป็นปัญหาชุมชนของกลมุ่ ตน โดยใชว้ ิธีคิด แบบ Mind Mapping ในการรวบรวมปัญหาของแต่ละคนเป็นปัญหาของแต่ละกลมุ่ แต่ละกลุ่มนาเสนอปัญหาชุมชนที่กลมุ่ ตนรวบรวมได้ ข้นั สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุป วิพากษ์ ปัญหาของชุมชนท่ีแตล่ ะกลุ่มนาเสนอมา กจิ กรรมกำรเรียนรู้ช่ัวโมงที่ 13 – 14 (งำนกล่มุ คร้ังที่ 2) เร่ืองประเด็นทฉี่ ันสนใจ ข้ันนำ ทบทวนประสบการณ์เดิม โดยสุ่มนกั เรียน 1 – 2 กล่มุ นาเสนอปัญหาชุมชนของตนเอง ครู และนกั เรียนร่วมกนั สรุปถึงปัญหาดงั กลา่ ว ทบทวนความรู้เดิม โดยใหน้ กั เรียนอธิบาย เร่ืองการต้งั สมมติฐาน ครูและนกั เรียนร่วมกนั kruwirot wannachai satreesiriket school
36 สรุป เร่ืองความหมายของสมมติฐาน และหลกั ในการต้งั สมมติฐาน ข้ันสอน นกั เรียนเขา้ กลุม่ เดิม แต่ละกลุ่มช่วยกนั แสดงความคิดเห็น เสนอปัญหา และสมมติฐาน จากการทาใบงานลาดบั ท่ี 10 เรื่องประเด็นท่ีฉนั สนใจ โดยใชแ้ ผนภูมิ Mind Mapping จากชวั่ โมงก่อนมา เป็ นฐานในการเสนอความคิดเห็น แต่ละกลุม่ นาเสนอประเดน็ ปัญหา (เรื่องท่ีจะศกึ ษา) หนา้ ช้นั เรียน ข้นั สรุป ครู และนกั เรียน ร่วมกนั สรุป วพิ ากษ์ ประเดน็ ปัญหา (เร่ืองที่จะศึกษา) ท่ีแต่ละกลมุ่ นา เสนอมา เพือ่ คดั เลอื กเรื่องท่ีดีท่ีสุด ใหแ้ ต่ละกล่มุ เหลอื ประเดน็ ปัญหา (เรื่องท่ีจะศกึ ษา) เพยี งกลมุ่ ละ 1 เร่ือง กจิ กรรมกำรเรียนรู้ชั่วโมงท่ี 15 เรื่องออกแบบ วำงแผน เกบ็ รวบรวมข้อมลู ข้ันนำ ทบทวนประสบการณ์เดิม ใหแ้ ต่ละกลมุ่ นาเสนอประเดน็ ปัญหา (เรื่องท่ีจะศกึ ษา) ของกลมุ่ ตน ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปประเดน็ ปัญหา (เรื่องท่ีจะศึกษา) ของแต่ละกลุ่ม ข้ันสอน นกั เรียนแต่ละคนศกึ ษาใบความรู้ลาดบั ที่ 4 เร่ืองออกแบบ วางแผน เก็บรวบรวมขอ้ มลู และ ทาใบงานลาดบั ท่ี 11 เรื่องออกแบบ วางแผน เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู แลว้ นาเสนอผลงานของตน ข้นั สรุป และเปิ ดโอกาสให้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปคาตอบท่ีถูกตอ้ งของใบงานลาดบั ที่ 11 นกั เรียนท่ีมผี ลงานแตกต่างกนั ไดน้ าเสนอผลงานของตน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ช่ัวโมงท่ี 16 เรื่องกำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู ข้ันนำ ทบทวนความรู้เดิม โดยสุ่มนกั เรียนใหอ้ ธิบายความหมายของการตรวจสอบสมมติฐาน ครู และนกั เรียนร่วมกนั สรุปคาตอบที่ถกู ตอ้ ง ข้ันสอน นกั เรียนแต่ละคนศกึ ษาใบความรู้ลาดบั ที่ 5 เร่ืองการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และทาใบงาน ลาดบั ที่ 12 เร่ืองการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากน้นั นาเสนอผลงานของตน kruwirot wannachai satreesiriket school
37 ข้ันสรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปคาตอบท่ีถูกตอ้ งของใบงานลาดบั ท่ี 12 และเปิ ดโอกาสให้ นกั เรียนที่มผี ลงานแตกต่างกนั ไดน้ าเสนอผลงานของตน กจิ กรรมกำรเรียนรู้ช่ัวโมงท่ี 17 – 18 (งำนกล่มุ คร้ังที่ 3) เรื่องออกแบบ วำงแผน เกบ็ รวบรวมข้อมูล ข้ันนำ ทบทวนความรู้เดิม โดยสุ่มนกั เรียนใหอ้ ธิบายถึงเครื่องมอื ท่ีใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ครู และนกั เรียนร่วมกนั สรุปคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง ข้ันสอน นกั เรียนเขา้ กล่มุ เดิม แต่ละกลมุ่ ช่วยกนั แสดงความคิดเห็น ในการทาใบงานลาดบั ที่ 13 เรื่องออกแบบ วางแผน เก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยสมาชิกแต่ละกลมุ่ ร่วมแสดงความเห็น ใชเ้ ทคโนโลยใี นการ สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ประชากร กลุ่มตวั อยา่ ง การเก็บรวบรวมขอ้ มูล และเครื่องมือที่จะใชใ้ นการเก็บ รวบรวมขอ้ มูลตามประเด็นปัญหา(เร่ืองที่จะศกึ ษา)ของกลมุ่ ตน แลว้ นาเสนอหนา้ ช้นั เรียนเพ่ือรับการวพิ ากษ์ ข้ันสรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปและวพิ ากษ์ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ชั่วโมงท่ี 19 - 20 (งำนกลุ่ม คร้ังท่ี 4) เร่ืองกำรวำงแผนกำรทำงำน (ID PLAN) ข้ันนำ ทบทวนประสบการณ์เดิมดว้ ยการสุ่มนกั เรียน 1 กล่มุ ใหน้ าเสนอถึงการออกแบบเก่ียวกบั ประชากร กลุม่ ตวั อยา่ ง การเก็บรวบรวมขอ้ มูล และเคร่ืองมือท่ีจะใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ตามประเดน็ ปัญหา (เร่ืองที่จะศกึ ษา)ของกลุ่มตน ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุป ข้ันสอน นกั เรียนเขา้ กลมุ่ เดิม แต่ละกลุ่มช่วยกนั แสดงความคิดเห็น ในการทาใบงานลาดบั ท่ี 14 เร่ืองการวางแผนการทางาน (ID PLAN) โดยสมาชกิ แต่ละกลุม่ ร่วมแสดงความคดิ เห็น ใชเ้ ทคโนโลยใี นการ สืบคน้ ขอ้ มลู ในการวางแผนการออกแบบ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ของแต่ละกล่มุ ข้ันสรุป สุ่มตวั แทน 1 – 2 กลุม่ ใหน้ าเสนองาน ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปและวิพากษ์ kruwirot wannachai satreesiriket school
38 ภำคผนวก หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 1 ประเดน็ ทฉี่ ันสนใจ kruwirot wannachai satreesiriket school
39 แบบสังเกตพฤติกรรม กำรทำงำนรำยบุคคล เลขที่ ช่ือ สกลุ ควำมต้งั ใจ ควำม กำรตรง ควำม ผลสำเร็จ รวม ในกำร รับผดิ ชอบ ต่อเวลำ สะอำด ของงำน 20 ทำงำน เรียบร้อย คะแนน 43214321432143214321 ลงช่ือ........................................................ผปู้ ระเมนิ เกณฑ์กำรให้คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ดมี าก ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้ัง ดี พอใช้ เกณฑ์กำรตดั สินคณุ ภำพ ตอ้ งปรับปรุง 18 – 20 คะแนน ระดบั คุณภาพ 14 – 17 คะแนน ระดบั คุณภาพ 10 – 13 คะแนน ระดบั คุณภาพ ต่ากว่า 10 คะแนน ระดบั คุณภาพ kruwirot wannachai satreesiriket school
40 แบบสังเกตพฤติกรรม กำรทำงำนกล่มุ ชื่อกล่มุ ........................................................................................................ช้นั ................................................ ลำดบั รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน รวม 4321 1 การแบ่งหนา้ ที่อยา่ งเหมาะสม 2 ความร่วมมือในการทางาน 3 การนาเสนอ 4 การรับฟังและแสดงความคิดเห็น 5 ความมนี ้าใจ รวม เกณฑ์กำรให้คะแนน ลงชื่อ.................................................ผปู้ ระเมนิ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ดีมาก ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้ัง ดี พอใช้ เกณฑ์กำรตัดสินคณุ ภำพ ตอ้ งปรับปรุง 18 – 20 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14 – 17 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 10 – 13 คะแนน ระดบั คุณภาพ ตา่ กวา่ 10 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ kruwirot wannachai satreesiriket school
41 แบบประเมินคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ ใฝ่ รู้ ใฝ่ เรียน ม่งุ มน่ั ต้ังใจทำงำน เลขท่ี ชื่อ สกลุ ปฏบิ ัติตำม แสวงหำ สรุปควำมรู้ มคี วำมต้งั ใจ ควำมอดทน รวม ข้อตกลง ข้อมูลจำก ได้อย่ำงมี ทำงำน ไม่ท้อแท้ 20 แหล่งเรียนรู้ เหตุผล คะแนน 43214321432143214321 ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมนิ เกณฑ์กำรให้คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ดีมาก ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้ัง ดี พอใช้ เกณฑ์กำรตดั สินคณุ ภำพ ตอ้ งปรับปรุง 18 – 20 คะแนน ระดบั คุณภาพ 14 – 17 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 10 – 13 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ต่ากว่า 10 คะแนน ระดบั คุณภาพ kruwirot wannachai satreesiriket school
42 แบบบนั ทกึ หลงั กำรสอน หน่วยเรียนรู้ที่ 1 ประเดน็ ทฉ่ี ันสนใจ ครูผสู้ อน.............................................................................................หอ้ งทสี่ อน............................ 1. เวลาในการสอน ตรงตามแผน นอ้ ยกว่าแผน มากกวา่ แผน บนั ทกึ เพ่ิมเตมิ ...................................................................................................................................... 2. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ ตรงตามแผน ไมต่ รงตามแผน เพราะ......................... 2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ตรงตามแผน ไม่ตรงตามแผน เพราะ......................... 3. ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ตรงตามแผน ไมต่ รงตามแผน เพราะ......................... 4. ดา้ นสมรรถนะทส่ี าคญั ตรงตามแผน ไมต่ รงตามแผน เพราะ......................... บนั ทึกเพ่มิ เติม.......................................................................................................................... 3. การใชส้ ่ือ/แหลง่ เรียนรู้ ตรงตามแผน ไมต่ รงตามแผน เพราะ.......................................................................................................... บนั ทึกเพิ่มเตมิ .............................................................................................................................. 4. การวดั และประเมินผล ตรงตามแผน ไมต่ รงตามแผน เพราะ............................................................................................................ บนั ทึกเพม่ิ เติม................................................................................................................................ 5. ปัญหา/อปุ สรรค์ .......................................................................... ............................................................................. 6. แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. .......................... ลงช่อื ..................................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ....................................................รองฯกลมุ่ บริหารงานวิชาการ (.......................................................) (............................................................) ลงชอื่ .......................................................ผอู้ านวยการ (.............................................................) kruwirot wannachai satreesiriket school
43 การใชค้ าถามเป็นเทคนิคสาคญั ในการเสาะแสวงหาความรู้ที่มีประสิทธิภาพ ซ่ึงจะก่อใหเ้ กิดการ พฒั นาทกั ษะทางดา้ นความคิด การไต่ตรอง การถ่ายทอด ซ่ึงสามารถนาไปสู่การเปล่ยี นแปลงและปรับปรุง ตนเองไดเ้ ป็นอยา่ งดี การถามเป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการเรียนรู้ ที่จะช่วยใหผ้ เู้ รียนสร้างความรู้ ความเขา้ ใจและ พฒั นาความคิดใหมๆ่ ซ่ึงกระบวนการถามจะช่วยใหท้ กั ษะการคิด ความเขา้ ใจมคี วามกระจ่างชดั เจนมากข้ึน ก่อใหเ้ กิดการทบทวน การเชื่อมโยงระหว่างความคิด ความอยากรู้อยากเห็น และความทา้ ทาย กำรสังเกต(Observation) ส่วนใหญ่การคน้ พบทางวิทยาศาสตร์ มกั จะเร่ิมจากการสงั เกตปรากฏการณ์ต่างๆท่ีอยรู่ อบๆตวั เรา เม่ือไดข้ อ้ สงั เกตบางอยา่ งที่เราสนใจ มกั จะทาใหไ้ ดส้ ่ิงที่ตามมาคือปัญหา(Problem) ตวั อยา่ งเช่น กำรสังเกต “ตน้ หญา้ ท่ีอยใู่ ตต้ น้ ไมใ้ หญ่หรือในที่ร่ม มกั จะไม่เจริญงอกงามเท่ากบั ตน้ หญา้ ที่อยู่ ในบริเวณใกลเ้ คียงกนั แต่อยใู่ นท่ีโลง่ แจง้ ” กำรต้งั คำถำม/ต้งั ปัญหำ “ทาไมตน้ หญา้ ท่ีอยใู่ นท่ีร่มจึงไมเ่ จริญงอกงามเท่ากบั ตน้ หญา้ ที่อยู่ กลางแจง้ ” ประเด็นปัญหำ “แสงแดดน่าจะมสี ่วนเก่ียวขอ้ งกบั การเจริญงอกงามของตน้ หญา้ ” ในการต้งั คาถามน้นั มีความสาคญั กว่าการแกป้ ัญหา เพราะการต้งั คาถามที่ดีและชดั เจนจะทาใหผ้ ู้ ต้งั คาถามเกิดความเขา้ ใจ และมองเห็นล่ทู างของการคน้ หาคาตอบได้ ดงั น้นั จึงตอ้ งหมน่ั ฝึกการสงั เกตและต้งั ปัญหา เช่น เกิดข้นึ เมอ่ื ไร เกิดข้ึนท่ีไหน เกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งไร ทาไมจึงตอ้ งตอ้ งเกิดข้ึน เป็นตน้ ระดับของกำรต้งั คำถำม การต้งั คาถามมี 2 ระดบั คือ คาถามระดบั พ้นื ฐานและคาถามระดบั สูง ซ่ึงมีรายละเอียด ดงั น้ี 1. คำถำมระดับพนื้ ฐำน เป็นคาถามท่ีเกย่ี วกบั ความรู้ความจา ในการตอบคาถามจะใชพ้ ้ืน ฐานความรู้เดิมหรือสิ่งท่ีประจกั ษเ์ ป็นคาตอบ 1.1. คาถามที่ใหส้ งั เกต เป็นคาถามท่ีมีคาตอบจากการสงั เกต การสมั ผสั เช่น ใชต้ า ดู หูฟัง จมูกดม ลน้ิ ชิมรส ตวั อยา่ งของคาถาม เช่น เมอ่ื ไดฟ้ งั เพลงน้ีแลว้ รู้สกั อยา่ งไร , ภาพน้ีมลี กั ษณะ อยา่ งไร , สารเคมใี น 2 บิกเกอร์ต่างกนั อยา่ งไร kruwirot wannachai satreesiriket school
44 1.2. คาถามทบทวนความจา เป็นคาถามที่ใชท้ บทวนในความรู้เดิมเพื่อใชเ้ ช่ือมโยง ความรู้เดิมไปสู่ความรู้ใหม่ เช่น วนั วิสาขบูชาตรงกบั วนั ใด , ดาวเคราะหด์ วงใดมีขนาดใหญ่ท่ีสุด , ใครเป็น ผแู้ ต่ง เรื่องอเิ หนา , เมอ่ื พบห็นอบุ ตั ิเหตุควรโทรศพั ทไ์ ปที่เบอร์ใด 1.3. คาถามที่บอกความหมาย หรือคาจากดั ความ เป็นการถามความเขา้ ใจโดยการ ใหบ้ อกความหมายของขอ้ มลู ต่างๆ เช่น คาว่าสิทธิมนุษยชนหมายความว่าอยา่ งไร , ภาษีเงินไดบ้ ุคคล ธรรมดาคืออะไร , สถติ ิ(Statistics) มีความหมายว่าอยา่ งไร 1.4. คาถามบ่งช้ีหรือระบุ เป็นการถามท่ีตอ้ งการใหร้ ะบุคาตอบ เช่น ใหร้ ะบุสตั วท์ ี่ มกี ระดูกสนั หลงั , ประเทศใดบา้ งท่ีเป็นสมาชิก APEC 2. คำถำมระดับสูง เป็นการถามใหค้ ิดคน้ เป็นการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ โดยอาจใช้ ความรู้หรือประสบการณ์เดิมเป็นพ้นื ฐานในการคดิ 2.1. คาถามใหอ้ ธิบาย เป็นการถามตีความ ขยายความ โดยการใหอ้ ธิบายแนวคิด ของขอ้ มลู ต่างๆ เช่น เพราะเหตุใดใบไมจ้ ึงมีสีเขียว , นกั เรียนควรมบี ทบาทหนา้ ที่ในโรงเรียนอยา่ งไร , ชาว พุทธที่ดีควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไร , นกั เรียนจะปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไรใหร้ ่างกายแข็งแรง 2.2. คาถามใหเ้ ปรียบเทียบ เป็นการต้งั คาถามใหส้ ามารถจาแนกความเหมอื น ความแตกต่างของขอ้ มลู ได้ เช่น พชื ใบเล้ียงคู่ต่างจากพืชใบเล้ยี งเด่ียวอยา่ งไร , จงเปรียบเทียบวิถชี ีวติ ของคน ไทยในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย 2.3. คาถามใหว้ เิ คราะห์ เป็นคาถามใหแ้ ยกแยะปัญหา จดั หมวดหมู่ วจิ ารณ์แนวคิด หรือบอกความสมั พนั ธแ์ ละเหตุผล เช่น อะไรเป็นสาเหตุท่ีทาใหเ้ กิดภาวะโลกร้อน , สาเหตุใดที่ทาให้ เยาวชนของชาติตดิ ยาเสพติด 2.4. คาถามใหย้ กตวั อยา่ ง เป็นการถามใหผ้ เู้ รียนใชค้ วามสามารถในการคิด เช่น ใหย้ กตวั อยา่ งการเคลอื่ นที่แบบโปร์เจกไตล์ , หินอคั นีสามารถนามาใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง 2.5. คาถามใหส้ รุป เป็นการใชค้ าถามเมื่อจบบทเพือ่ ใหท้ ราบวา่ มีความรู้หรือ ความกา้ วหนา้ อยา่ งไร เป็นการช่วยเนน้ ความรู้ที่ไดร้ ับใหจ้ ดจาไดด้ ีข้นึ เช่น จงสรุปเหตุผลที่ทาใหพ้ ระเจา้ ตากสินทรงยา้ ยเมืองหลวง , เมือ่ นกั เรียนอ่านบทความน้ีแลว้ นกั เรียนไดข้ อ้ คิดอยา่ งไรบา้ ง , จงสรุปแนวทาง ในการอนุรักษท์ รัพยากรน้า เพื่อใหเ้ กิดคุณค่าสูงสุด 2.6. คาถามเพ่ือใหป้ ระเมินและเลือกทางเลอื ก เป็นคาถามที่ใหเ้ ปรียบเทียบหรือใช้ วิจารณญาณในการตดั สินใจเลือกทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การว่ายน้าและการวิง่ เหยาะๆ อยา่ งไหนเป็น การออกกาลงั กายที่ดกี ว่ากนั เพราะเหตุใด , ระหว่างน้าอดั ลมกบั นมอยา่ งไหนมปี ระโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า kruwirot wannachai satreesiriket school
45 กนั เพราะเหตุใด 2.7. คาถามใหป้ ระยกุ ต์ เป็นการถามเพอ่ื ใหใ้ ชค้ วามรู้เดิมท่ีมีอยมู่ าประยกุ ตก์ บั สถานการณ์ใหม่หรือในชีวติ ประจาวนั เช่น จะนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ต์ใชใ้ น ชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร , มวี ิธีการประหยดั พลงั งานอยา่ งไรบา้ ง 2.8. คาถามใหส้ ร้างหรือคิดคน้ ส่ิงใหม่ เป็นลกั ษณะการถามใหไ้ ดค้ ิด สร้างสรรคผ์ ลงานใหมๆ่ ท่ีไม่ซ้ากบั ผอู้ น่ื หรือที่มีอยแู่ ลว้ เช่น กระดาษหนงั สือพมิ พท์ ่ีไมไ่ ดใ้ ชแ้ ลว้ สามารถ นาไปประดิษฐอ์ ะไรไดบ้ า้ ง , เส้ือผา้ เก่าๆ สามารถนาไปดดั แปลงเป็นส่ิงใดเพ่ือใหเ้ กิดประโยชน์ คาถามในระดบั สูงจะทาใหเ้ กิดทกั ษะการคิด การวิเคราะห์ การแกป้ ัญหา ซ่ึงตอ้ งใหเ้ วลาในการคิดหาคาตอบพอสมควร kruwirot wannachai satreesiriket school
46 คำชแ้ี จง ใหต้ อบคำถำมต่อไปนีแ้ ละเขียนด้วยลำยมอื ทีอ่ ่ำนง่ำย 1. เทคนิคสำคัญอย่ำงหน่งึ ในกำรเสำะแสวงหำควำมรู้ทม่ี ี ประสทิ ธภิ ำพ ที่พัฒนำทักษะในกำรคิด กำรตคี วำม กำรไตต่ รอง กำร ถำ่ ยทอดควำมคดิ คือ ................................................................................................... 2. กำรสงั เกต (Observation) เปน็ วิธกี ำรทำงวทิ ยำศำสตร์ เม่ือได้ ขอ้ สงั เกตบำงอยำ่ งทสี่ นใจ จะทำใหไ้ ดส้ งิ่ ทตี่ ำมมำ คอื ..................................................................................................... ........................................ 3. เพรำะเหตใุ ดจงึ มีคำกล่ำววำ่ “กำรตงั้ ปัญหำสำคัญกวำ่ กำร แกป้ ัญหำ” ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ................. 4. ใหอ้ ธิบำยคำถำมระดบั พนื้ ฐำน พรอ้ มยกตวั อย่ำง 5 ตัวอยำ่ ง ..................................................................................................... ..................................................................................................... kruwirot wannachai satreesiriket school
47 ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... .............................................................. 5. คำถำมระดับสงู เปน็ กำรถำมใหค้ ิดคน้ หมำยถงึ ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ................. 6. ให้ยกตวั อย่ำงคำถำมระดับสงู 5 ตวั อยำ่ ง ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ......................................................................................... kruwirot wannachai satreesiriket school
48 คำสง่ั ให้ตงั้ คำถำมตำมลักษณะคำถำมทกี่ ำหนดให้ ระดบั ลกั ษณะคำถำม คำถำม คำถำม 1.ให้สงั เกต ขน้ั 2.ทบทวน พน้ื ฐำน ควำมจำ 3.ใหบ้ อก ควำมหมำย 4.บง่ ชห้ี รอื ระบุ 1.ใหอ้ ธบิ ำย 2.ให้เปรียบเทียบ ขนั้ สงู 3.ใหว้ เิ ครำะห์ 4.ให้ยกตวั อยำ่ ง kruwirot wannachai satreesiriket school
49 5.ให้สรปุ 6.ใหป้ ระเมินและ เลอื ก ทำงเลือก 7.ใหป้ ระยกุ ต์ 8.ใหส้ รำ้ งหรอื คดิ คน้ ส่งิ ใหมๆ่ kruwirot wannachai satreesiriket school
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156