Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สังคมศึกษา ม.3 เทอม 1

สังคมศึกษา ม.3 เทอม 1

Published by alongkorn.arsa, 2021-07-27 10:29:43

Description: สังคมศึกษา ม.3 เทอม 1

Search

Read the Text Version

วิถีการดาเนนิ ชวี ติ ของครสิ ตศ์ าสนิกชน วนั สำคัญของครสิ ต์ศำสนิกชน วันวอันำอทสี ิตเตยอข์ รอ์ง(ทEกุ aสstปั eดr)ำห์ • วันอำทิตย์ของทุกสปั ดำห์ เปน็ วันสำคัญท่ีสืบทอดควำมเชื่อมำจำกศำสนำยูดำย เรียกว่ำ “วันสะบำโต” ถือเป็นวันบริสุทธ์ิ ชำวคริสต์เชื่อว่ำวันอำทิตย์เป็น วันหยุดพักผ่อนที่ควรงดทำกิจกำรงำน และต้องไปประกอบกิจทำงศำสนำ รว่ มกันทโี่ บสถ์

วถิ กี ารดาเนินชวี ติ ของคริสต์ศาสนกิ ชน วนั สำคญั ของคริสต์ศำสนกิ ชน ววนั ันออีสีสเเตตออรร์์ ((EEaasstteerr)) • วันอสี เตอร์ และวันสมโภชปัสกำ อยู่ในช่วงวนั ที่ ๒๑ มีนำคม – ๒๕ เมษำยน ของทุกปี เปน็ วันสำคัญ ที่สืบเนื่องมำจำกกำรสิ้นพระชนม์ของพระเยซู และเมื่อพระเยซูทรงกลับเป็นข้ึนมำ ชำวคริสต์จึง ฉลองกำรคนื พระชนมชพี ของพระเยซู วนั อสี เตอร์ยงั เป็นวันแห่งกำรระลึกถึงเหตุกำรณ์ท่ีพระเจ้ำทรง นำชำวอสิ รำเอลออกจำกกำรเปน็ ทำสในอยี ปิ ต์

วถิ ีการดาเนนิ ชีวติ ของคริสตศ์ าสนิกชน วันสำคัญของครสิ ต์ศำสนกิ ชน วันวคันรอิสีสตเม์ ตำอสร์(C(Eharissttemr)as) • วันคริสต์มำส เป็นวันสมโภชกำรประสูติของพระเยซู ศำสดำของคริสต์ศำสนำ ซึ่งจะตรงกับวันท่ี ๒๕ ธันวำคม ของทกุ ปี ชำวคริสต์ถือวำ่ เป็นช่วงเวลำแหง่ ควำมชืน่ ชมยินดี โดยจะมกี ำรจัดงำนเฉลิมฉลองกัน อยำ่ งยงิ่ ใหญ่ มีกำรประดบั ไฟต้นครสิ ต์มำส ร้องเพลง และมอบของขวัญใหแ้ กก่ นั

วถิ กี ารดาเนนิ ชวี ติ ของผ้นู ับถือศาสนาอิสลาม • ศำสนำอิสลำมไม่ได้เป็นเพียงแค่ศำสนำ แต่เป็นระบอบกำรดำเนินชีวิตตั้งแต่เกิดจนตำย เป็นระเบียบวินัยท่ี ครอบคลุมทุกอย่ำงของชีวิต ท้ังในด้ำนควำมคิดและควำมประพฤติ ซ่ึงแสดงออกด้วยกำรปฏิบัติที่เคร่งครัด สะท้อนให้เห็นควำมศรัทธำอันย่ิงใหญ่ ท่ีมีต่อองค์อัลลอฮ์เพียงองค์เดียวเท่ำน้ัน ซึ่งจะดำเนินชีวิตโดยยึดหลัก ปฏบิ ัติ ๕ ประกำร คือ กำรปฏญิ ำณตน กำรละหมำด กำรถอื ศลี อด กำรบรจิ ำคซะกำต กำรเดินทำง ไปประกอบพิธีฮัจญ์

วถิ ีการดาเนินชวี ิตของผนู้ บั ถือศาสนาอิสลาม กำรปฏิญำณตน • กำรทจ่ี ะเขำ้ สูค่ วำมเป็นมุสลมิ ทส่ี มบรู ณ์ ตอ้ งมกี ำรปฏิญำณตนตำมข้อควำมในคัมภีร์อัลกุรอำนท่ีเป็นหัวใจของชำวมุสลิมทุก คน คือ “ไม่มีพระเจ้าอ่ืนใดนอกจากอัลลอฮ์องค์เดียว และแท้จริง ท่านศาสดามุฮัมมัดเป็นเราะซูล (ศาสนทูต ผู้นา โองการ) ของอลั ลอฮ”์ • เม่ือยอมรับเอกภำพของอัลลอฮ์แต่องค์เดียว ไม่อนุญำตให้หำท่ีพึ่งอ่ืนหรือหำสิ่งอ่ืนมำเคำรพเทียบเคียงกับพระผู้เป็นเจ้ำ อิสลำมจึงมีข้อห้ำมสักกำรรูปเคำรพหรือสัญลักษณ์ใดๆ ไม่ว่ำจะเป็นรูปป้ัน รูปถ่ำย เครื่องรำงของขลังหรือธรรมชำติ ห้ำม กรำบบุคคลทุกคนไม่ว่ำจะเป็นบิดำมำรดำ ปู่ย่ำตำยำยหรือเจ้ำนำย เพรำะกำรก้มกรำบเอำหน้ำผำกจรดพ้ืน เป็นกำรแสดง ควำมเคำรพสงู สุด สงวนไว้ใช้กับพระเป็นเจ้ำพระองค์เดยี วเทำ่ นน้ั • กำรดำเนินชีวิตของมุสลิม เมื่อจะทำกิจกรรมใดๆ จะต้องเริ่มด้วยพระนำมของพระองค์เสมอ ไม่ว่ำจะเป็นกำรด่ืม น่ัง นอน เดิน นอน อำบน้ำ กำรไอ กำรจำม ตกใจ ดีใจ เสียใจ กำรศึกษำคัมภีร์อัลกุรอำนถือเป็นหน้ำท่ีของมุสลิมทุกคนและจะต้อง ศึกษำคมั ภีร์ต้งั แต่เร่มิ จำควำมได้

วิถีการดาเนนิ ชวี ิตของผนู้ ับถอื ศาสนาอสิ ลาม กำรละหมำด • การละหมาด หรือ “นมำซ” มำจำกภำษำอำหรับ แปลว่ำ “กำรขอพร” กำรละหมำด คือ กำรนมัสกำร กำรแสดงควำม เคำรพตอ่ พระเจำ้ ทง้ั รำ่ งกำย และจติ ใจ ควำมมงุ่ หมำยของกำรละหมำด • ช่วยขัดเกลำจิตใจผู้ทีก่ ระทำใสสะอำดบริสุทธอ์ิ ยเู่ สมอ หลดุ พน้ จำกควำมมัวหมอง • ฝกึ ให้มคี วำมรบั ผิดชอบ ฝกึ ใหม้ รี ะเบยี บวนิ ยั ฝึกใหร้ ักษำควำมสะอำด • เป็นกำรสำรวมจิตใจ ทำสมำธใิ หจ้ ติ สงบ เพ่ือเข้ำไปสมั ผัสกบั เอกภำพของพระเจ้ำ • ช่วยยับย้งั จำกกำรประพฤตปิ ฏบิ ัติตนในสิง่ ทไี่ มด่ ี ส่ิงชวั่ รำ้ ยท้งั หลำย • ช่วยให้เปน็ ผทู้ ี่มคี วำมหนกั แน่น อดทน ในยำมที่ประสบควำมทุกข์หรือปัญหำในชวี ติ

วถิ ีการดาเนินชวี ิตของผู้นับถือศาสนาอิสลาม กำรละหมำด ศำสนำส่งเสริมควำมสะอำด • ศำสนำอิสลำมส่งเสริมควำมสะอำด เพรำะถือว่ำควำมสะอำดเป็นส่วนหน่ึงของศรัทธำ มุสลิมทุกคนจะต้อง สะอำดต้งั แต่ภำยนอกคือร่ำงกำย จนถึงภำยในคือจิตใจ จึงต้องชำระร่ำงกำยและสิ่งสกปรกตำมศำสนบัญญัติ กอ่ น หรอื ล้ำงมือก่อน • นำ้ ทใ่ี ช้ชำระต้องสะอำด เสอ้ื ผำ้ ที่สวมใสเ่ ข้ำเฝำ้ พระเจำ้ กต็ ้องสะอำดเรียบรอ้ ย ผูห้ ญงิ ต้องแต่งตัวมิดชิด เปิดได้ เฉพำะใบหนำ้ และฝำ่ มอื สว่ นผชู้ ำยต้องไม่ใหผ้ มปรกหนำ้ ผำก โดยมีกำรใส่หมวกลักษณะต่ำงๆ เช่น กะปิเยำะ (ดังรูป) ซอเกำะก์ ตะกียะห์

วถิ กี ารดาเนินชวี ิตของผนู้ ับถอื ศาสนาอิสลาม กำรละหมำด เวลำปฏิบตั ใิ นกำรละหมำด • กำรละหมำด เป็นกำรปฏิบัติที่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตำมท่ีศำสดำได้กำหนดไว้ มุสลิมทุกคนจะต้องปฏิบัติตำมจนกระทั่งวัน สุดท้ำยของชีวิต โดยต้องปฏิบตั ิวนั ละ ๕ เวลำ เวลำรุ่งอรุณ ๑ กอ่ นดวงอำทิตยข์ ึ้น ๒ เวลำกลำงวนั เมอ่ื ดวงอำทิตย์คลอ้ ย เวลำบำ่ ย จำกเท่ยี งตรง เวลำคำ่ ๓ หลังสิน้ สดุ แสงอำทิตย์ ๔ เวลำเย็นท่ีดวงอำทิตย์ เรม่ิ ตกดนิ ๕

วิถกี ารดาเนนิ ชวี ติ ของผนู้ บั ถอื ศาสนาอิสลาม กำรถอื ศลี อด • กำรถือศีลอด หมำยถึง กำรงดเว้นจำกกำรบริโภคอำหำร เครื่องดื่ม กำรร่วมสังวำส กำรละจำกกำรทำช่ัวทั้งทำงกำย วำจำ และใจ ตงั้ แตเ่ วลำร่งุ อรุณจนถงึ ดวงอำทิตย์ตก • ผู้ท่ีบรรลุศำสนภำวะ คือ อำยุ ๑๕ ปี ทุกคนมีหน้ำท่ีต้องปฏิบัติ แต่มีข้อยกเว้นสำหรับบุคคลในบำงประเภท ได้แก่ คนชรำ คนป่วย หญงิ มีครรภ์หรือหญิงที่ให้นมแก่ทำรก หญิงขณะมีประจำเดือนหรือหลังคลอด บุคคลท่ีใช้แรงกำยทำงำนหนัก และ บุคคลท่อี ย่ใู นระหวำ่ งเดนิ ทำง เดอื นเรำะมะฎอน • ในรอบปีหน่ึง มุสลิมทุกคนจะต้องถือศีลอดคนละ ๑ เดือน คือ ในเดือนที่ ๙ นับตำมฮิจเรำะห์ศักรำชท่ีเรียกว่ำ “เดือนเรำะ มะฎอน” ชำวมสุ ลิมจะตอ้ งต่ืนข้ึนรับประทำนอำหำรเช้ำต้ังแต่ก่อนดวงอำทิตย์ขึ้นเมื่อดวงอำทิตย์ขึ้นแล้วต้องงดรับประทำน อำหำรและนำ้ กระท่ังดวงอำทิตย์ตก • กำรถือศีลอดเป็นกำรฝึกฝนร่ำงกำยและจิตใจให้มีควำมอดทน ให้รู้จักควำม หิวโหย ได้เข้ำใจเห็นใจคนยำกจน รู้จักกำร ช่วยเหลือเผ่ือแผ่ ท้ังน้ีกำรถือศีลอดยังถือเป็นกำรทดสอบควำมศรัทธำและควำมยำเกรงท่ีมุสลิมมีต่อพระเป็นเจ้ำ และยัง ทดสอบและฝึกฝนควำมซ่อื สัตยข์ องบุคคลทถ่ี อื ศีลอดด้วย

วถิ ีการดาเนินชวี ติ ของผนู้ บั ถอื ศาสนาอิสลาม กำรบริจำคซะกำต • ซะกาต แปลว่ำ กำรทำใหบ้ ริสุทธ์ิ กำรทำให้หมดมลทินซะกำต หมำยถึง ทำนที่บังคับให้ ผู้มีรำยได้ในรอบ ๑ ปี ซึ่งมีรำยได้ถึงจำนวนที่กำหนดไว้ ต้องจ่ำยหรือบริจำคทรัพย์สินให้แก่คนที่มีสิทธิรับบริจำคตำมอัตรำท่ี กำหนด โดยท่ัวไป คอื ต้ังแต่ร้อยละ ๒.๕ - ๒๐ ตอ่ ปี • กำรบริจำคซะกำตเป็นกำรขัดเกลำจิตใจของผู้บริจำคให้บริสุทธ์ิ ให้ลดควำมตระหนี่เห็นแก่ตัว ไม่ให้ละโมบ ใหม้ คี วำมเออื้ เฟอื้ เผื่อแผ่ และถอื ได้วำ่ กำรบรจิ ำคซะกำตเปน็ กำรช่วยลดปญั หำสังคม

วิถีการดาเนินชวี ิตของผ้นู ับถอื ศาสนาอิสลาม กำรบรจิ ำคซะกำต บุคคลที่มสี ิทธิรับบรจิ ำคซะกำตมี ๘ ประเภท • คนอนำถำ คอื คนทไ่ี มม่ ที รพั ย์สนิ มีควำมเป็นอยแู่ ร้นแค้น • คนขัดสน คือ คนที่หำได้ไม่ค่อยพอใช้ มีภำระท่ีต้อง รับผิดชอบมำก • ผทู้ ำหนำ้ ทร่ี วบรวมและจ่ำยซะกำต • ผู้ที่หันมำรับนับถือศำสนำอิสลำมและถูกตัดขำดจำก • ทำสหรอื เชลย เพือ่ ชว่ ยไถต่ วั เขำให้เป็นอิสระ ครอบครวั • บุคลที่อยู่ในแนวทำงของอัลลอฮ์ เช่น นำเงินไปสร้ำงโรงเรียน • ผูท้ ่ีมีหนสี้ นิ ลน้ พ้น เพอ่ื ช่วยปลดเปล้อื งหนสี้ นิ ให้ โรงพยำบำล • ผเู้ ดินทำงทีม่ คี วำมจำเป็นต้องได้รบั ควำมชว่ ยเหลอื

วถิ ีการดาเนนิ ชีวิตของผูน้ บั ถอื ศาสนาอิสลาม กำรเดนิ ทำงไปประกอบพิธฮี ัจญ์ • ฮัจญ์ แปลว่ำ “กำรมุ่งไปสู่หรือกำรไปเยือน” หมำยถึง กำรเดินทำงไปประกอบศำสนกิจ ณ วิหำรกะอ์บะฮ์ หรอื บยั ตุลลอฮ์ ท่ีนครมักกะฮ์ ประเทศซำอุดีอำระเบยี • พิธีฮัจญ์กระทำในเดือนท่ี ๒ ของทุกปี นับตำมปฏิทินอิสลำม มุสลิมทั่วโลก เดินทำงไปประกอบพิธีร่วมกันท่ี สถำนที่แห่งนี้แห่งเดียว ใช้เวลำประมำณ ๒ อำทิตย์ โดยบังคับเฉพำะบุคคลที่มีควำม สำมำรถเท่ำน้ัน คือ ควำมสำมำรถทำงกำย ทรัพย์สิน และควำมปลอดภัยในกำรเดินทำง ต้องได้รับกำรยินยอมจำกบุคคลใน ครอบครัวกอ่ น

วถิ ีการดาเนนิ ชวี ติ ของผนู้ บั ถือศาสนาอสิ ลาม กำรเดนิ ทำงไปประกอบพธิ ฮี จั ญ์ สถำนทีป่ ระกอบพิธฮี ัจญ์ • วหิ ำรกะอ์บะฮ์ตั้งอยใู่ จกลำงเมืองมกั กะฮ์ ชำวอำหรับถือว่ำทแ่ี หง่ นเ้ี ปน็ ใจกลำงของโลก เป็นจุดศูนย์กลำงของทุก ทวีป สะดวกแก่กำรเดินทำงมำของมสุ ลมิ ท่ัวโลก • อัลลอฮ์ทรงบัญชำให้ท่ำนศำสดำและอิสมำอิลบุตรชำยร่วมกันสร้ำง “บัยตุลลอฮ์” แปลว่ำ บ้ำน ของอลั ลอฮ์ข้นึ มำ เพอ่ื ใช้เปน็ สถำนท่แี สดงควำมเคำรพจงรักภักดีตอ่ พระองค์ • คุณสมบัติของมุสลิมท่ีสำมำรถประกอบพิธีฮัจญ์ได้ คือ มีศรัทธำอย่ำงแท้จริง มีสุขภำพและสติปัญญำสมบูรณ์ มีทรัพย์สินเพียงพอสำหรับกำรเดนิ ทำง ได้ประกอบพิธีละหมำด ถือศีลอด และบริจำคซะกำตครบถ้วนแล้ว

วิถีการดาเนินชวี ิตของผูน้ บั ถือศาสนาอิสลาม กำรเดนิ ทำงไปประกอบพธิ ฮี จั ญ์ ความมุง่ หมายของการประกอบพธิ ฮี จั ญ์ • เพอื่ แสดงควำมศรัทธำ ทม่ี ีต่ออัลลอฮ์ • เพอ่ื สร้ำงสมั พันธภำพและภรำดรภำพระหว่ำงชำวมุสลิมท่ัวโลก • เพื่อฝกึ ฝนและทดสอบควำมอดทน • เพ่ือฝกึ กำรสำรวมตนและทดสอบคณุ ธรรมในกำรเสียสละ • เพ่ือแสดงว่ำมสุ ลมิ ทุกคนเทำ่ เทยี มกนั ในสำยตำของอลั ลอฮ์

วถิ ีการดาเนนิ ชีวติ ของผู้นับถือศาสนาอสิ ลาม กำรเดนิ ทำงไปประกอบพิธฮี จั ญ์ ขอ้ หำ้ มอน่ื ๆ ของมุสลิม • นอกจำกหลกั ปฏิบตั ิ ๕ ประกำรแลว้ มุสลิมยังมขี อ้ หำ้ มอืน่ ๆ ในกำรดำเนินชีวติ ข้อหำ้ มทสี่ ำคัญ เช่น • หำ้ มเชอื่ ไสยศำสตร์ เชื่อดวง • ห้ำมเลน่ กำรพนนั ทุกชนิด • ห้ำมดหู มอ ดลู ำยมอื ดูโชคชะตำรำศี • หำ้ มเสพของมนึ เมำทกุ ชนดิ แม้กระทง่ั บหุ รี่กเ็ ป็นสงิ่ ต้องห้ำม • ห้ำมกนิ หมู เลือด สตั ว์ที่ตำยเอง หรอื สัตว์ ที่นำไปเซน่ ไหว้ • หำ้ มใชอ้ ำรมณ์เหนือเหตุผล

วถิ กี ารดาเนนิ ชวี ิตของผทู้ น่ี ับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู • ข้อปฏิบัติในศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู มีทั้งท่ีเป็นข้อปฏิบัติเฉพำะสำหรับวรรณะและข้อปฏิบัติรวมข้อปฏิบัติที่ต้อง ประพฤติปฏิบตั ิทส่ี ำคญั คือ ขอ้ ปฏบิ ตั สิ ำหรบั วรรณะ พธิ ีสังสกำรหรอื พธิ ีประจำบำ้ น กำรบชู ำเทวะ

ข้อปฏบิ ัติสำหรบั วรรณะ กำรแต่งงำน • จะแต่งงำนกับคนนอกวรรณะไม่ได้ แต่ชำยท่ีอยู่ในวรรณะพรำหมณ์แต่งงำนกับหญิง วรรณะอ่ืนได้ ส่วนหญิงที่เป็นพรำหมณ์จะแต่งงำนกับชำยวรรณะอ่ืนไม่ได้ ใครฝ่ำฝืน กฎจะตอ้ งถูกประณำมหรอื ตัดขำดจำกวรรณะ • มีข้อกำหนด เช่น คนในวรรณะต่ำจะปรุงอำหำรให้คนวรรณะสูงรับประทำนไม่ได้ อำหำรกำรกิน พรำหมณไ์ ม่กินเนือ้ สัตว์ คนต่ำงวรรณะจะรับประทำนอำหำรร่วมกนั ไมไ่ ด้ อำชีพ • กำรประกอบอำชีพถูกกำหนดไว้สำหรับคนวรรณะต่ำงๆ ซ่ึงแตกต่ำงกัน ใครอยู่ใน วรรณะใดกจ็ ะต้องทำอำชพี นน้ั จะลกั ล่นั ไมไ่ ด้ • ในกฎเดิมจะห้ำมมีถิ่นฐำนอยู่นอกเขตประเทศอินเดีย และห้ำมเดินเรือในทะเล สถำนทอ่ี ยู่ แตป่ ัจจุบันไมค่ อ่ ยถือกัน

พธิ สี งั สกำรหรือพธิ ปี ระจำบำ้ น • พิธีสังสกำรหรือพิธีประจำบ้ำนเป็นพิธีที่ผู้ท่ีประสงค์จะเป็นฮินดูต้องทำ และคนในวรรณะพรำหมณ์ กษัตริย์ แพศย์ ยกเว้นศทู ร ต้องผำ่ นพธิ สี งั สกำรกอ่ น จึงจะนบั ว่ำเปน็ ผบู้ รสิ ทุ ธิ์ พิธีตง้ั ชอื่ เด็ก พธิ ปี ้อนขำ้ วในเดอื นท่ี ๕ และ ๖ พธิ ีคล้องสำยยชั โญปวีต พธิ แี ต่งงำน

พธิ สี ังสกำรหรือพธิ ีประจำบำ้ น พธิ คี ล้องสำยยชั โญปวีต • พิธีคล้องด้ำยศักด์ิสิทธ์ิ เป็นพิธีสำหรับเด็กชำยทุกคนท่ีเกิดใน ๓ วรรณะ ได้แก่ พรำหมณ์เมื่ออำยุครบ ๕ ปี กษัตริย์เมื่ออำยุครบ ๘ ปี และแพศย์เม่ืออำยุครบ ๑๖ ปีสำหรับผู้ชำยในวรรณะพรำหมณ์จะต้องเข้ำพิธีน้ี เพื่อ กำรเป็นพรำหมณโ์ ดยสมบรู ณ์ • หน้ำท่ีของพรำหมณ์ คือ กำรส่ังสอนศิลปะวิทยำกำร ผู้ท่ีไม่ใช่พรำหมณ์จะสอนไม่ได้ พิธีน้ีเรียกว่ำ “อุปนยัน” แปลว่ำ กำรเขำ้ สู่ทศั นะใหม่ เป็นกำรมอบตนเป็นศิษย์ โดยจะคล้องด้ำยศักด์ิสิทธ์ิเรียกว่ำ “ยัชโญปวีต” พิธีนี้เป็น กำรประกำศตนเป็นพรหมจำรี (ผูศ้ ึกษำศำสนำ) หรือเปน็ พรำหมณ์โดยสมบรู ณ์

การบชู าเทวะ • เดิมศำสนำพรำหมณ์มีเทพเจ้ำผู้สร้ำงโลกเป็นผู้ย่ิงใหญ่องค์เดียว คือ พระพรหม ต่อมำหลังพุทธกำลเมื่อ ศำสนำพรำหมณ์ได้กลำยเป็นศำสนำฮินดู ก็ได้มีลัทธิท่ีเรียกว่ำ “ตรีมูรติ” ซ่ึงเป็นกำรขยำยจำกเทพผู้สร้ำง องคเ์ ดยี วเป็น ๓ องค์ คือ พระพรหม • เปน็ เทพเจำ้ ผ้สู รำ้ งโลกและสรำ้ งจกั รวำล พระวิษณุ • เป็นเทพเจำ้ ผู้รกั ษำและคมุ้ ครองโลก หรือพระนารายณ์ พระศิวะ • เปน็ เทพผู้ทำลำย • ไดท้ ำลำยโลกเมอื่ เกดิ ปัญหำจำกนั้นก็สร้ำงโลกขนึ้ มำใหม่

ความแตกตา่ งของการดาเนินชีวิตของศาสนิกชนศาสนาตา่ งๆ มลู เหตุของกำรเกิดศำสนำ มูลเหตทุ ี่ทำใหเ้ กิดศำสนำ อำจแบง่ ประเภทของศำสนำ ไดเ้ ป็น ๒ ประเภท ศำสนำที่นับถือพระเจ้ำ ศำสนำที่ไม่นบั ถือพระเจ้ำ

ความแตกตา่ งของการดาเนนิ ชวี ิตของศาสนกิ ชนศาสนาตา่ งๆ มลู เหตุของกำรเกิดศำสนำ ศำสนำทน่ี บั ถือพระเจ้ำ • ศำสนำท่ีนับถือพระเจ้ำ เรียกรวมๆ ว่ำ เทวนิยม เป็นศำสนำท่ีเช่ือว่ำ พระเจ้ำเป็นผู้สร้ำงโลก สร้ำงสรรพ ส่ิง ในจักรวำล และสรำ้ งกฎเกณฑ์ให้แกธ่ รรมชำติ แบ่งเป็น เอกเทวนิยม • เป็นศำสนำที่นับถือพระเจ้ำองค์เดียว เช่น คริสต์ศำสนำ ศำสนำอิสลำม ศำสนำสิข เปน็ ต้น พหุเทวนิยม • เป็นเป็นศำสนำท่ีนับถือพระเจ้ำหรือเทพเจ้ำลำยองค์ เช่น ศำสนำ พรำหมณ์-ฮินดู เปน็ ต้น

ความแตกต่างของการดาเนนิ ชวี ิตของศาสนิกชนศาสนาต่างๆ มูลเหตุของกำรเกิดศำสนำ ศำสนำท่ีไม่นบั ถือพระเจำ้ • ศำสนำที่ไม่นับถือพระเจ้ำ เรียกรวมๆ ว่ำ อเทวนิยม เช่น พระพุทธศำสนำ เป็นศำสนำท่ีไม่เชื่อว่ำมีพระเจ้ำสร้ำง โลกและบนั ดำลคุณและโทษให้แก่มนษุ ย์ แต่เชื่อว่ำ ส่ิงทั้งหลำยเป็นผลจำกกำรกระทำของตนเอง

ความแตกต่างของการดาเนนิ ชวี ิตของศาสนิกชนศาสนาตา่ งๆ จุดหมำยปลำยทำงของชวี ิต สัญลักษณข์ องความสขุ ที่แทจ้ รงิ ของแต่ละศาสนา ศำสนำพรำหมณ์-ฮนิ ดู • กำรทไ่ี ด้อยเู่ ปน็ อันหน่งึ อนั เดยี วกลมกลืนกับพรหม • พระนิพพำนเป็นทสี่ ุดของกำรประพฤตปิ ฏบิ ัตธิ รรม พระพทุ ธศำสนำ คริสตศ์ ำสนำ • กำรมีชีวติ นริ นั ดรอย่ใู นอำณำจักรของพระเจ้ำบนสวรรค์ • กำรอย่กู บั อัลลอฮ์ในสวรรค์ ศำสนำอสิ ลำม

ความแตกตา่ งของการดาเนินชวี ิตของศาสนิกชนศาสนาตา่ งๆ จดุ หมำยปลำยทำงของชีวติ คาสอนเกย่ี วกับชีวติ ในโลกน้ีของแตล่ ะศาสนา ศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู • เชือ่ ว่ำมกี ำรเวยี นวำ่ ยตำยเกิด ชวี ติ ในโลกมีหลำยครงั้ • เช่อื ในเรื่องของกำรเวียนวำ่ ยตำยเกดิ พระพุทธศำสนำ คริสตศ์ ำสนำ • ไม่เชอ่ื เร่ืองเวยี นว่ำยตำยเกิด เชอ่ื ว่ำชวี ติ ในโลกนมี้ ีคร้งั เดยี ว • เชอื่ ว่ำชวี ติ ในโลกนม้ี ีคร้งั เดยี ว ไมม่ กี ำรเวียนวำ่ ยตำยเกดิ ศำสนำอิสลำม

วธิ กี ารยอมรบั วิถีการดาเนนิ ชีวิตของคนในแตล่ ะศาสนาในประเทศ • พระพทุ ธศำสนำมหี ลกั คำสอนทช่ี อื่ ว่ำ “ฆรำวำสธรรม ๔” หลักน้ีสำมำรถนำมำใช้เป็นแนวทำงปฏิบัติสำหรับกำร อย่รู ว่ มกับผู้ทนี่ ับถือศำสนำอน่ื และชว่ ยใหย้ อมรับวถิ ีกำรดำเนินชีวิตของคนในศำสนำอ่ืนท่ีแตกต่ำงไปจำกตนเอง ได้อยำ่ งเหมำะสมทำให้อยู่ร่วมกนั ได้อยำ่ งสันติสขุ มีดงั น้ี ความจริงใจหรอื สัจจะ • มคี วำมจรงิ ใจต่อตนเอง ตอ่ บุคคลอ่ืน ตอ่ หนำ้ ที่กำรงำน และต่อประเทศชำติ การขม่ ใจหรือทมะ • กำรฝึกฝนและขม่ ใจตนเองในเร่ืองต่ำงๆ ไมใ่ ห้ประพฤตใิ นสงิ่ ท่ีไม่ดี ความอดทนอดกลัน้ • มีจิตใจเข้มแข็ง อดทนต่อควำมโกระ ควำมไม่พอใจ อดกล้ันที่จะตอบโต้ผู้ที่มีควำมเห็น หรือขันติ ต่ำงจำกเรำ ความเสยี สละหรือจาคะ • กำรมีจิตใจกว้ำงขวำง เอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่สละอำรมณ์ที่ไม่ดี เช่น ควำมโกรธ ควำมเกลียด ออกไป จำกจิตใจ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook