Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการบริหารจัดการควาามเสี่ยงด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ_ADPC

คู่มือการบริหารจัดการควาามเสี่ยงด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ_ADPC

Published by pischa.pc, 2021-04-22 18:55:59

Description: คู่มือการบริหารจัดการควาามเสี่ยงด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ_ADPC

Search

Read the Text Version

มลู คา่ ผลผลิตในช่วงเวลาปจั จบุ ันและในปีถัด ๆ ไป โดยพิจารณาแตล่ ะภาคสว่ น เช่น ภาค บท ่ีท 5 การเกษตร ภาคการประมง ฯลฯ ขอ้ มลู สถติ ิกำ�ลังการผลติ ผลผลิตต่อพื้นทแี่ ละราคา (หนา้ สวน ขายสง่ และขายปลีก) ข้อมลู ด้านการขนสง่ และการจดั เกบ็ สนิ ค้า และราคาค่าขนสง่ ตอ่ หน่วยในรูปแบบตา่ ง ๆ สถิติการใช้ไฟฟ้าและน้�ำ ประปา (ปรมิ าณและอตั ราการใช)้ และกล่มุ ผูใ้ ช้หลกั เป็นต้น 3.1.2 การประเมนิ สถานการณ์หลงั การเกดิ ภยั พบิ ัติ ส่ิงท่ตี ้องค�ำ นึงถึงในการประเมนิ สถานการณ์ หลงั เกดิ ภัยพบิ ัติ ได้แก่การประเมินระยะเวลาในการฟ้นื ฟูบูรณะ (เดอื น/ป)ี และมูลค่า เช่น การ ฟนื้ ฟูการผลิต รายได้ และสง่ิ ทสี่ ามารถใช้ทดแทน/สำ�รองช่ัวคราว (วิธีการใชแ้ ก้ปัญหาแบบชว่ั คราว) สำ�หรบั แตล่ ะภาคสว่ น/สาขาการผลิต 3.1.3 การประมาณการความเสียหายและความสูญเสียแต่ละภาคส่วน/สาขาการผลิต เป็นการ เปรียบเทยี บเง่ือนไข “ก่อน” และ “หลัง” การเกิดภัยพิบตั ิ ในแต่ละภาคส่วน/สาขาการผลิตที่ได้รบั ผลกระทบ โดยจะแบ่งทีมงานเพื่อเกบ็ ขอ้ มลู พื้นฐานท้ัง 2 ประเภทข้างต้น คอื ดา้ นสินทรพั ยแ์ ละดา้ น การผลติ จากนนั้ นำ�ขอ้ มูลทัง้ หมดมาประเมินผลกระทบภาพรวม พรอ้ มกบั คาดการณ์ระยะเวลาที่ ต้องใชใ้ นการฟ้นื ฟูจนกวา่ สถานการณ์หลังภัยพบิ ตั จิ ะเข้าส่ภู าวะปกติ ทง้ั นี้ ในการเกบ็ ขอ้ มูลมักแบง่ คณะท�ำ งานตามภาคสว่ น/สาขาการผลิตทเี่ ก่ยี วข้อง โดยมากแบ่งเปน็ 4 กลมุ่ ได้แก่ 1. กลุ่มโครงสรา้ งพืน้ ฐาน (Infrastructure) ไดแ้ ก่ การบริหารจดั การนำ�้ การชลประทาน การ บริหารจดั การอุทกภัยการขนส่ง (ทางถนน ราง และทางอากาศ) การสอ่ื สารทางไกลโดยใช้ เทคโนโลยี การประปาและสขุ าภบิ าล (น้ำ�ประปา การบริหารจดั การขยะ ระบบบำ�บดั น�ำ้ เสยี ) การไฟฟ้า ฯลฯ 2. กล่มุ ภาคการผลิต (Production) ไดแ้ ก่ การเกษตรกรรม (ประมง เล้ียงสัตว์ ปลกู พืช) การ ผลิตดว้ ยเครอ่ื งจักร การเงินการคลงั การประกันความเสี่ยง การทอ่ งเที่ยว ฯลฯ 3. กล่มุ ภาคสงั คม (Social) ได้แก่ การสาธารณสุข (โรงพยาบาล คลินกิ ศนู ย์อนามัย) การศกึ ษา การเคหะ ส่งิ ท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ฯลฯ 4. กล่มุ ภาคสว่ นที่มสี ว่ นเกี่ยวข้องกบั ทกุ ฝา่ ย (Cross-cutting) ไดแ้ ก่ ด้านสิง่ แวดลอ้ ม การ บริหารจัดการความเสี่ยงภยั พบิ ัติและการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ การจดั การภัยพิบัติ โดยอาศยั ชมุ ชนเป็นฐาน มิตหิ ญิงชาย ฯลฯ อยา่ งไรกด็ ี เนอ่ื งจากมกี ารแยกประเมินผลกระทบตามแต่ละภาคสว่ น/สาขาการผลติ คณะทำ�งาน แต่ละคณะจึงต้องมีการประชมุ หารอื และตกลงขอบเขตข้อมูลที่ต้องรวบรวม โดยระวงั ไม่ใหม้ ีการ นบั ขอ้ มูลความเสยี หายหรือความสูญเสียซ้ำ�ซอ้ น (Double Counting) หรอื มขี อ้ มลู ที่ถกู มองข้าม เชน่ ข้อมลู ที่ไมม่ ที มี ใดเป็นผู้เก็บเพราะต่างคิดวา่ เป็นหน้าทข่ี องทมี อนื่ เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบริหารจัดการความเสีย่ งด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ 185

บทท่ี 5 3.1.4 การประเมินความเสียหายและความสูญเสียโดยรวม เป็นผลรวมความเสียหายและความ สูญเสียที่รัฐบาล (ส่วนกลาง) รวบรวมจากทุกภาคส่วนหรือสาขาการผลติ ในทุกพน้ื ท่ีการปกครองที่ ไดร้ บั ผลกระทบจากภยั พิบัติ โดยจะแสดงข้อมูลดังต่อไปน้ี • ภาคสว่ น/ สาขาการผลิตท่ีได้รับผลกระทบ • พ้ืนที่ได้รับกระทบ • ผ้คู รอบครองกรรมสทิ ธติ์ ามผลกระทบในแตล่ ะภาคสว่ น: สาธารณะ หรอื เอกชน การแสดงข้อมูลความเสียหาย และความสูญเสีย จ�ำ เป็นตอ้ งมีการแจกแจงตัวเลขแยกกัน เพ่อื ให้ สามารถเข้าใจถึงที่มาของผลกระทบ และสามารถกำ�หนดนโยบายในการฟื้นฟูได้อย่างเหมาะสม (ตาราง 5.12) 3.1.5 การประเมนิ มลู คา่ ผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ มหภาคจากภยั พิบตั ิ เปน็ การวิเคราะหผ์ ลกระทบต่อ เศรษฐกิจมหภาค รายได้ส่วนบคุ คลและครวั เรือน รวมถงึ ภาคธรุ กิจ มคี วามจำ�เป็นเพื่อให้รฐั บาลใช้ใน การตัดสนิ ใจเลอื กใช้มาตรการทเี่ หมาะสมกบั ความตอ้ งการที่แท้จริงหลังเกดิ ภยั พิบตั ิ เพือ่ - กำ�หนดแหล่งงบประมาณ - ปรบั นโยบายสาธารณะเพือ่ เร่งรดั การฟนื้ ฟู - ก�ำ หนดยุทธศาสตร์ในการฟ้นื ฟูบรู ณะ 3.2 กรอบระยะเวลาในการประเมิน การประเมินความตอ้ งการและการฟนื้ ฟูหลงั เกิดภัยพิบตั ิ โดยทว่ั ไปใชเ้ วลาประมาณ 2-4 สปั ดาห์ (ในรูป ท่ี 5.1.1) ขึ้นอยูก่ ับความซับซ้อนของภัยพิบตั ิ ขนาดของพ้นื ที่ทไ่ี ด้รับผลกระทบ ตลอดจนปัจจยั อื่น ๆ เชน่ ความพรอ้ มของเจ้าหน้าท่ีภาครฐั ในการเข้าร่วมการประเมินฯ ความพรอ้ มของขอ้ มลู พน้ื ฐานและขอ้ มูล ผลกระทบในพ้นื ท่แี ละความสามารถในการเข้าถึงพ้ืนท่ีประสบภยั ดังนัน้ การประเมนิ ความเสียหายและ ความสูญเสยี จึงควรเร่ิมเมอื่ การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมหรือการบรรเทาทุกขไ์ ด้สิ้นสดุ ลงและอันตราย ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากภยั พบิ ตั ใิ นพ้นื ท่ีได้หมดลงแล้วเช่นกัน อยา่ งไรกด็ ี ไม่ควรทงิ้ เวลาใหล้ ่าช้า เน่ืองจากยังเป็น ช่วงท่ีสามารถดึงความสนใจจากตา่ งประเทศเพ่ือระดมความช่วยเหลอื ได้ มเิ ชน่ นัน้ หากเกิดภยั พิบัติ ขนาดใหญใ่ นภูมิภาคอื่นในเวลาไล่เล่ียกนั ความสนใจจากตา่ งประเทศท่ีจะให้ความช่วยเหลอื กอ็ าจจะถูก ดงึ ไปในพืน้ ทีป่ ระสบภัยอ่ืนแทน 186 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบรหิ ารจดั การความเสี่ยงดา้ นอทุ กภัยอย่างบูรณาการ

ตารางท่ี 5.1.2 ผลการประเมนิ ความเสยี หายและความสญู เสียโดยรวมต่อเหตกุ ารณ์มหาอุทกภัยใน ประเทศไทย ปี พ.ศ. 2554 หนว่ ย: ลา้ นบาท ภาคสว่ น/สาขาการผลิต ผลกระทบ รวม กรรมสิทธิ์ สาธารณะ เอกชน ความเสียหาย ความสญู เสีย โครงสรา้ งพืน้ ฐาน - การบรหิ ารจัดการน�้ำ 8,715 - 8,715 8,715 - - การขนสง่ 23,538 6,938 30,476 30,326 150 - การส่ือสารทางไกลโดยใช้ 1,290 2,558 3,848 1,597 2,251 เทคโนโลยี - การไฟฟ้า 3,186 5,716 8,901 5,385 3,517 - การประปาและสุขาภิบาล 3,497 1,984 5,481 5,481 ภาคการผลิต - การเพาะปลกู เสี้ยงสัตวแ์ ละ 5,666 34,715 40,381 - 40,381 ประมง - อุตสาหกรรมการผลติ 513,881 493,258 1,007,139 - 1,007,139 - การทอ่ งเที่ยว 5,134 89,673 94,808 403 94,405 - การเงนิ และการธนาคาร - 115,276 115,276 74,076 41,200 ภาคสังคม บท ่ีท 5 - การสาธารณสุข 1,684 2,133 3,817 1,627 2,190 - การศึกษา 13,051 1,798 14,849 10,614 4,235 - การเคหะ 45,908 37,889 83,797 - 83,797 - สิง่ ท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม 4,429 3,076 7,505 3,041 4,463 ภาคสว่ นที่มสี ว่ นเกย่ี วขอ้ งกบั ทกุ ฝา่ ย - ส่งิ แวดลอ้ ม 375 176 551 212 339 รวมทง้ั หมด 630,354 795,191 1,425,544 41,477 1,284,066 ทม่ี า: ธนาคารโลก, 2012 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบริหารจดั การความเสย่ี งด้านอทุ กภัยอยา่ งบรู ณาการ 187

บทท่ี 5 รปู ท่ี 5.1.1 กรอบระยะเวลาการประเมิน ที่มา: Jones, B., 2010 4. จากการประเมนิ ความเสยี หายและความสูญเสยี สูก่ ารวางแผนเพอ่ื การฟ้ืนฟู 4.1 จากความเสยี หายและความสญู เสยี ส่คู วามตอ้ งการในการฟ้ืนฟู การฟนื้ ฟู หมายถงึ การซอ่ มแซมและปรับปรุงระบบสาธารณปู โภค การดำ�รงชีพ และสภาพวถิ คี วามเปน็ อยู่ของชุมชนท่ีประสบภัยใหก้ ลบั สู่สภาวะปกตหิ รือพัฒนาให้ดยี ง่ิ ข้นึ ตามความเหมาะสม หมายรวมถงึ การใชน้ โยบายตา่ ง ๆ เพอื่ ลดปัจจัยเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิทีอ่ าจเกิดขน้ึ ในอนาคต (UNISDR, 2009) ความต้องการหลงั เกดิ ภัยพิบตั ิ จงึ หมายถึง ส่งิ ท่ีตอ้ งทำ�อยา่ งเรง่ ด่วนภายหลงั เหตกุ ารณ์ภัยพิบัติ เพือ่ สรา้ ง คนื สินทรพั ยต์ ่าง ๆ ท่ไี ดร้ ับความเสยี หายและเพ่อื ฟนื้ ฟูสภาพเศรษฐกิจใหก้ ลบั มาอย่ใู นสภาวะปกตหิ รอื พฒั นาใหด้ ยี งิ่ ขนึ้ ตามสมควร สง่ิ สำ�คญั ทตี่ อ้ งมุง่ เนน้ ในแผนงานเพอื่ ฟนื้ ฟเู ศรษฐกจิ ไดแ้ ก่ การฟนื้ ฟรู ายได้สว่ นบคุ คลและครัวเรือน การ ฟ้ืนฟูบรกิ ารสาธารณะที่จ�ำ เปน็ ตลอดจนการฟ้ืนฟูสภาพชวี ิตความเป็นอยู่ รวมถึงการฟน้ื ฟกู ิจกรรมการ ผลิตในภาคสว่ น/สาขาการผลิตต่าง ๆ ทีไ่ ดร้ ับผลกระทบให้กลับมามีสภาพเปน็ ปกติโดยเร็ว ทั้งนี้การ ประเมินความต้องการทางการเงินสำ�หรับการฟื้นฟูบูรณะจะพิจารณาให้ความสำ�คัญกับภาคส่วนสาขา การผลิต พื้นที่/อาณาเขต และกลุ่มประชากรที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นหลัก ดังนั้น จะเห็นได้ วา่ ขอ้ มูลท่ีได้จากการประเมนิ ความเสียหายและความสญู เสยี จะเปน็ ข้อมูลเชิงปริมาณท่ีจำ�เปน็ เพ่ือให้ สามารถวางแผนโครงการหรือกจิ กรรมฟนื้ ฟูหลังเกิดภัยพบิ ัติและสามารถพจิ ารณาลำ�ดบั ความส�ำ คญั และ ความเร่งด่วนได้อยา่ งเหมาะสม 4.2 จากความสญู เสยี สู่การวางแผนเพอ่ื การฟ้ืนฟูเศรษฐกิจ มูลค่าความสูญเสียที่ประเมินได้ ทำ�ให้รัฐบาลทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติต่อเศรษฐกิจ มหภาค รวมถึง รายไดส้ ่วนบคุ คล ครวั เรือนและธุรกจิ ต่าง ๆ และขอ้ มูลดังกลา่ วจะถูกนำ�มาพจิ ารณา เพ่อื เสนอแผนงาน/โครงการเพอื่ การฟ้ืนฟทู างเศรษฐกจิ ใหก้ ลบั มามสี ภาพเปน็ ปกติ เชน่ แผนการจ้างงาน 188 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบริหารจัดการความเสย่ี งดา้ นอทุ กภัยอย่างบูรณาการ

ช่วั คราว แผนการลดหย่อนภาษี เงินกดู้ อกเบ้ยี ต�ำ่ ระยะส้นั สำ�หรับประชาชนหรือภาคธุรกจิ ขนาดกลาง บท ่ีท 5 และขนาดยอ่ ม (Small and Medium Enterprises: SMEs) ทไ่ี ดร้ ับผลกระทบ ฯลฯ 4.3 จากความเสยี หายสู่การวางแผนเพื่อกอ่ สรา้ งคืนใหม่ มลู ค่าความเสียหายทปี่ ระเมินได้ ท�ำ ให้ทราบถึงความต้องการในการก่อสรา้ งคนื ใหม่ ซ่ึงงบประมาณที่ ตอ้ งการคือผลรวมของมูลค่าสนิ ทรพั ยท์ ีต่ อ้ งซอ่ มแซมหรือสรา้ งคนื ใหม่ให้มสี ภาพเหมือนเชน่ เม่ือก่อนเกิด ภยั รวมกบั ค่าเทคโนโลยแี ละคา่ ใช้จ่ายเพอ่ื ปรบั ปรุงคณุ ภาพสนิ ทรัพย์ใหด้ ีขึ้น คา่ ใชจ้ า่ ยในการย้ายที่อยู่ ใหม่ ค่าใชจ้ า่ ยในการลดผลกระทบท่ีอาจมีขนึ้ กบั สนิ ทรัพยเ์ หล่าน้ใี นอนาคต จากนน้ั จงึ สามารถก�ำ หนด เป็นแผนงานเพื่อการกอ่ สร้างคืนใหม่ โดยระบงุ บประมาณและล�ำ ดับความสำ�คญั ของโครงการตา่ ง ๆ ตามภาคส่วน/สาขาการผลติ และพื้นที่ท่ีได้รับผลกระทบ จากน้ัน รัฐบาลจะต้องก�ำ หนดแนวทางในการ ระดมงบประมาณเพอื่ การก่อสรา้ งคืนใหม่ เช่น งบประมาณกลางของประเทศ งบประมาณสมทบจาก ภาคเอกชน จากการเคลมประกนั จากเงนิ ชว่ ยเหลือจากตา่ งประเทศ หรือ จากการกยู้ ืมจากตา่ งประเทศ ท้ังนี้ ความสำ�เร็จของการประเมนิ ความตอ้ งการและการฟน้ื ฟภู ายหลงั เหตกุ ารณ์ภัยพิบัติ (PDNA) ขึ้นอยู่ กบั ปัจจยั ต่าง ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ความสามารถในการเป็นผู้น�ำ ของรัฐบาลและการมีส่วนรว่ มของหน่วยงานด้านการพัฒนาต่าง ๆ 2. ความพรอ้ มในการน�ำ ใชแ้ ละปรับใช้หลักการต่าง ๆ ในการประเมนิ ความเสยี หาย ความสญู เสยี และความต้องการภายหลังเหตกุ ารณ์ภยั พบิ ตั ิอย่างเหมาะสม ในบรบิ ททางเศรษฐกิจและสังคม ตามศกั ยภาพของรฐั บาลแต่ละประเทศ รวมถงึ ระยะเวลาที่ภยั พบิ ัติขนาดใหญจ่ ะเกิดซำ้�ขน้ึ อกี 3. ความพรอ้ มของขอ้ มลู พน้ื ฐานทเ่ี กบ็ รวบรวมไวก้ ่อนเกิดภยั พิบัติ ด้านพฤติกรรมทางเศรษฐกิจ ของภาคส่วน/สาขาการผลิตต่าง ๆ ในพนื้ ทท่ี ่ีได้รับผลกระทบ จำ�แนกตามผู้ครอบครองกรรมสิทธ์ิ (สาธารณะ หรอื เอกชน) แบ่งตามเพศ (หญงิ /ชาย) ท่ไี ด้รบั ผลกระทบ 4. ศกั ยภาพของรฐั บาลในการท�ำ การประเมนิ โดยมหี นว่ ยงานทม่ี สี ว่ นรว่ มดา้ นการพฒั นาตา่ ง ๆ เปน็ ผใู้ หก้ ารสนบั สนนุ 5. ระบบทม่ี อี ยขู่ องประเทศทเ่ี ออ้ื ตอ่ การท�ำ การประเมนิ เชน่ ศกั ยภาพขององคก์ ร วธิ กี าร และแนวทาง ในการด�ำ เนนิ การ เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบริหารจัดการความเส่ียงด้านอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ 189

บทท่ี 5 เอกสารอา้ งอิง ECLAC (2009). Handbook for Estimating the Socio-economic and Environmental Effects of Disasters. Jones, B., (2010). Managing Post-Disaster Needs Assessments (PDNA), EAP DRM Knowledge Notes; No. 19, World Bank, Washington, DC. The World Bank (2010). Damage, Loss and Needs Assessment Guidance Notes. Design and Execution of Damage, Loss and Needs Assessment: Guidance Notes for Task Managers. Volume 1. The World Bank (2012). Thai Flood 2011; Rapid Assessment for Resilient Recovery and Reconstruction Planning. Washington, DC. UNISDR (2009). 2009 UNISDR Terminology on Disaster Risk Reduction, Geneva. 190 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบริหารจัดการความเส่ียงดา้ นอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ

จดบันทึก บท ่ีท 5 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบรหิ ารจัดการความเสีย่ งดา้ นอุทกภัยอย่างบรู ณาการ 191

บทท่ี 5 จดบันทึก 192 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเส่ยี งดา้ นอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ

บทที่ 5 ส่วนที่ 2 บท ่ีท 5 การประกันภัยและการบริหารความเสี่ยงดา้ นการเงิน อันเนื่องมาจากอุทกภัย (Flood Insurance and Flood Risk Financing) ดร. จฑุ าทอง จารมุ ิลนิ ท เลขาธิการ สำ�นักงานอตั ราเบ้ียประกนั วนิ าศภยั 1. ภยั และการจัดการความเสยี่ งภัย ภยั ที่กล่าวถึงในท่ีนี้ สามารถจำ�แนกตามสาเหตทุ กี่ อ่ ให้เกดิ ความเสยี หายได้ ดังนี้ 1. ภยั ที่มสี าเหตมุ าจากธรรมชาติ หมายถงึ ภัยทเี่ กดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ และอยู่เหนอื การควบคมุ ของมนษุ ย์ เชน่ อุทกภยั ลมพายุ ฟา้ ผ่า แผ่นดินไหว ภเู ขาไฟระเบิด สนึ ามิ เปน็ ตน้ 2. ภัยทีม่ สี าเหตมุ าจากมนษุ ย์ หมายถงึ ภัยทเ่ี กดิ จากการกระทำ�ของมนษุ ย์ เชน่ การโจรกรรม การ ฆาตกรรม การทุจริต การปล้นจี้ การประท้วงนดั หยดุ งาน เป็นต้น 3. ภัยที่มีสาเหตุมาจากเศรษฐกิจ หมายถึง ภัยที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพทาง เศรษฐกิจ เชน่ การเกิดภาวะเงินเฟ้อ ภาวะเงนิ ฝดื ภาวะวกิ ฤตทิ างการเงนิ เป็นตน้ บทความตอนนี้เน้นเรื่องภัยที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ คือ อุทกภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทของภัยตาม ความหมายขา้ งตน้ และเจา้ หนา้ ทข่ี องสว่ นราชการอาจคนุ้ เคยกบั ประเภทภยั นต้ี ามนยิ ามของ “ภยั พบิ ตั ”ิ ซ่ึงปรากฏอย่ใู นระเบยี บกระทรวงการคลังวา่ ดว้ ยเงินทดรองราชการเพอื่ ช่วยเหลือผู้ประสบภยั พบิ ตั กิ รณี ฉกุ เฉิน พ.ศ. 2556 ท่หี น่วยงานรฐั นำ�ไปปฏิบตั ใิ ช้ ดังน้ี “ภัยพิบัติ” หมายความว่า สาธารณภยั อนั ไดแ้ ก่ อคั คีภยั วาตภยั อทุ กภัย ภยั แลง้ ภาวะฝนแล้ง ฝนท้งิ ช่วง ภยั จากลกู เหบ็ ภัยอนั เกดิ จากไฟปา่ ภยั ทเ่ี กิดจากโรคหรือการระบาดของแมลงหรือศัตรพู ืชทุกชนดิ อากาศหนาวจดั ผดิ ปกติ ภยั สงคราม และภยั อนั เนื่องมาจากการกระท�ำ ของผกู้ อ่ การรา้ ย กองก�ำ ลงั จาก นอกประเทศ ตลอดจนภยั อ่นื ๆ ไม่วา่ เกดิ จากธรรมชาติ หรือมบี คุ คลหรือสัตว์ท�ำ ใหเ้ กิดขึ้น ซึ่งกอ่ ใหเ้ กิด อนั ตรายแกช่ วี ิต ร่างกายของประชาชน หรอื กอ่ ให้เกิดความเสยี หายแก่ทรพั ย์สินของประชาชน โดยทั่วไป ภยั ท่มี สี าเหตุจากธรรมชาติ สามารถแบ่งวิธกี ารจัดการความเส่ยี งภัยตามช่วงเวลาของการเกดิ ภัย ไม่วา่ จะเป็นกอ่ นเกิดภัย ขณะเกดิ ภัย หรอื หลงั เกิดภัย ออกเปน็ 2 วธิ ีการ คอื เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจดั การความเสยี่ งดา้ นอทุ กภยั อย่างบูรณาการ 193

บทท่ี 5 1. แบบไม่เปน็ ทางการ โดยจดั การความเส่ยี งภยั ด้วยตนเอง หรอื ภายในชุมชน 2. แบบเป็นทางการ โดยใช้กลไกตลาด หรือกลไกของรัฐ โดยทั่วไปขนาดของภัยที่ไม่รุนแรงนัก ครัวเรือนและชุมชนอาจสามารถจัดการความเสี่ยงทั้งหมดได้ด้วยตนเอง อยา่ งไรกด็ ี ส�ำ หรบั ภัย ทมี่ คี วามรุนแรงปานกลางถงึ สงู ภาครฐั อาจต้องเข้ามามบี ทบาทในการใหค้ วามชว่ ยเหลือ เชน่ ใน กรณีของเกษตรกรทม่ี ีพ้นื ทเ่ี พาะปลกู ในเขตพ้นื ทเ่ี สีย่ งภยั การสร้างระบบชลประทานเปน็ วธิ กี าร จดั การความเสยี่ งก่อนเกดิ ภัยประเภทหนึ่ง โดยใชก้ ลไกของรัฐ หรือ การใช้เงินงบประมาณเพื่อ บรรเทาผลกระทบตอ่ ผู้ประสบภัย ภายหลงั เกดิ ภัย ซ่งึ อุทกภัยถอื เปน็ ภัยหลักทที่ ำ�ให้เกดิ ภาระ งบประมาณของรัฐสูงที่สุด (ตารางที่ 5.2.1) การใช้กลไกของรัฐดังกล่าว เพื่อจัดการความ เสี่ยงภัย ไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย หรือ หลังเกิดภัย ก็ตาม จำ�เป็นต้อง มีหน่วยงานของรัฐที่มีบทบาทแตกต่างกัน ท้ังในด้านการดำ�เนนิ การและดา้ นการเงนิ เพือ่ เขา้ มาชว่ ยจดั การความเสี่ยงภัย เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ศนู ยเ์ ตือนภัยพบิ ัติแหง่ ชาติ กรมอุตุนิยมวิทยา ท่ีมีความเกี่ยวขอ้ งกันในสว่ นของการด�ำ เนินการจัดการความเสย่ี งภยั และ สำ�นักงบประมาณ และสถาบันการเงนิ เฉพาะกิจ ภายใตค้ วามดแู ลของกระทรวงการคลงั ในส่วนของการจัดการด้านการเงนิ รปู ท่ี 5.2.1 การจัดการความเสี่ยงภัยธรรมชาติ ที่มา: เอกสารประกอบคำ�บรรยายของธนาคารโลก หัวข้อ “การประกันภัยพืชผลทางการเกษตรและการบริหารความเสี่ยง” วันที่ 3-4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ณ เกาะสมยุ สุราษฎรธ์ านี 194 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจัดการความเสยี่ งด้านอทุ กภัยอย่างบูรณาการ

ตารางที่ 5.2.1 งบประมาณการชดใชเ้ งนิ ทดรองราชการเพื่อชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบภัยพบิ ัติกรณีฉกุ เฉินตาม ระเบียบกระทรวงการคลงั (วงเงินอนมุ ตั เิ บิกจา่ ย) ประจำ�ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-2554 หน่วย: ลา้ นบาท ภยั อุทกภัย ภยั แลง้ ฝนท้ิง ภยั วาตภัย อคั คภี ัย ศตั รพู ืช ไขห้ วัด ฟา้ ผ่า สึนามิ กอ่ การ ภยั รวม ปี ช่วง หนาว ระบาด นก ร้าย อ่ืน 2546 854 50 0 0 211 65 0 0 0 0 0 4 1,183 2547 1,063 192 0 7 209 98 16 000 0 42 1,627 2548 1,517 2,267 0 9 193 78 31 0 10 651 0 303 5,058 2549 4,360 1,398 71 238 136 72 64 89 13 8 18 7 6,472 2550 5,204 1,399 9 601 272 88 29 251 10 0 34 36 7,933 2551 5,783 1,737 118 897 238 68 89 239 9 3 30 59 9,270 2552 4,923 2,035 73 718 228 81 106 242 7 0 23 16 8,451 2553 3,999 2,321 117 33 505 75 948 350 8 0 22 58 8,436 2554 8,416 1,737 26 891 161 65 2,976 413 7 0 40 366 15,099 รวม 36,119 13,136 414 3,394 2,153 690 4,259 1,584 64 662 167 891 63,529 สดั ส่วน ต่อวงเงนิ ท้งั หมด 56.9 20.7 0.7 5.3 3.4 1.1 6.7 2.5 0.1 1.0 0.3 1.4 100 (ร้อยละ) ท่มี า: ส�ำ นกั ชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั กรณีศึกษาที่ครัวเรือนและชุมชนได้นำ�เอาประสบการณ์ที่เคยเกิดภัยที่รุนแรงในพื้นที่มาใช้จัดการ บท ่ีท 5 ความเสีย่ งบางสว่ นทีอ่ าจเกดิ ข้นึ ในอนาคตดว้ ยตนเอง คือ กรณขี องเครอื ขา่ ยการจดั การลมุ่ น้�ำ แมพ่ ร่อง ต�ำ บลแมพ่ ูล อ�ำ เภอลบั แล จงั หวัดอตุ รดติ ถ์ (สำ�นกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.), พ.ศ. 2555) ท่เี คยประสบภัยน�ำ้ ทว่ มและโคลนถลม่ เมอ่ื เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2549 ทำ�ให้บา้ นเรอื นและ ทรัพยส์ นิ เสยี หายจำ�นวนมาก และมผี ู้เสียชวี ิตจำ�นวน 7 ราย โดยเครือขา่ ยการจัดการลุ่มน้�ำ แมพ่ ร่องมี การดำ�เนนิ การจดั การเสีย่ งภยั อยา่ งเป็นระบบ คอื กอ่ นเกดิ ภยั จะมรี ะบบเฝา้ ระวงั ทบี่ ้านมหาราช และมี การประสานกบั หมูบ่ า้ นทเี่ หลอื ในการแจ้งเตอื นภยั แบง่ การแจง้ เตือนเป็น 3 ระดบั ไดแ้ ก่ 1) ระยะเตรยี ม ความพร้อม คือ ปรมิ าณนำ้�ในล�ำ คลองสูง 2 เมตร และปริมาณน้ำ�ฝน 100 มลิ ลิเมตร และปรมิ าณน�้ำ ฝนสะสม 200 มิลลเิ มตร 2) ระยะฝนตกต่อเนอ่ื ง ปรมิ าณน�้ำ ฝนเพิ่มขนึ้ อพยพผสู้ ูงอายุ เดก็ และ 3) ระยะน้�ำ ลน้ ฝ่ัง ทกุ คนตอ้ งอพยพหมด และมีการจัดการด้านการเงิน คือ การจดั ต้ัง “กองทนุ ร่วมผลผลติ ทรัพยากรธรรมชาติ ตำ�บลแมพ่ ลู ” โดยเก็บทุเรียนจากเกษตรกรท่เี ป็นสมาชกิ ครอบครวั ละ 2 ลูกต่อปี จากสมาชกิ ประมาณ 220 ราย และขายเพ่ือเกบ็ เงินเขา้ ในกองทุน เพอ่ื เตรยี มจดั การความเสยี่ งภยั ทอี่ าจ เกิดขน้ึ เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบริหารจัดการความเส่ยี งด้านอุทกภัยอยา่ งบูรณาการ 195

บทท่ี 5 2. การบริหารความเสีย่ งด้านการเงนิ ด้วยการประกันภยั การประกนั ภยั เปน็ เครอ่ื งมอื ทางการเงนิ เครอ่ื งมอื หนง่ึ ทใ่ี ชใ้ นการจดั การความเสย่ี งภยั โดยอาศยั กลไกตลาด ผู้มคี วามต้องการจัดการความเสยี่ ง หรอื ทเ่ี รยี กวา่ ผู้เอาประกนั ภยั (Insured) จา่ ยค่าเบยี้ ประกันภัยเพ่ือ แลกเปล่ียนกบั การถ่ายโอนความเส่ยี งไปยังผ้รู ับประกนั ภัย (Insurer) หรือท่ีเรียกวา่ บรษิ ัทประกนั ภยั และผ้รู บั ประกนั ภยั ตกลงที่จะจา่ ยค่าสนิ ไหมทดแทนให้แก่ผ้เู อาประกันภยั หรือผรู้ ับผลประโยชน์ เมอ่ื มี ความเสยี หายเกดิ ขึ้นกบั ผู้เอาประกนั ภยั ท้งั นี้ เป็นไปตามเงื่อนไขทผ่ี ้เู อาประกันภยั และผรู้ ับประกนั ภยั ตกลงกนั ไว้ ตามหลกั การประกนั ภัย การถ่ายโอนความเสยี่ งดงั กลา่ ว เปน็ การกระจายความเส่ียงภยั ไปให้ แกผ่ ้เู อาประกนั ภัยรายอ่นื ๆ ทีม่ ลี ักษณะของความเสี่ยงภัยคล้ายคลงึ กนั การประกนั ภัยโดยทวั่ ไป สามารถแบง่ ออกได้เป็น 2 ประเภท คือ การประกนั ชีวติ และการประกนั วินาศภยั โดยบทความนีจ้ ะอธิบายรายละเอยี ดเฉพาะการประกันวินาศภัย เนื่องจากอทุ กภัยเป็นภัยหลัก ประเภทหนึง่ ของการประกันภัยทรัพยส์ ิน ซ่ึงถูกจัดไวใ้ นการประกนั วินาศภยั 2.1 การประกันวินาศภัย หมายถึง การที่ผู้รับประกันภัยตกลงจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหากเกิดความ สูญเสีย หรือเสียหายจากภัยต่างๆ ซึ่งความเสียหายนั้นสามารถประเมินค่าเป็นตัวเงินได้ แบ่งได้ เป็น 4 ประเภท ดังน้ี 2.1.1 การประกันภยั ทรัพยส์ ิน (Property Insurance) แบง่ เปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 2.1.1.1 การประกนั อคั คภี ัย (Fire Insurance) เปน็ การประกนั ภัยเพ่ือคุ้มครองความเสยี หาย ของทรพั ยส์ ินทีเ่ กิดจากสาเหตตุ อ่ ไปน้ี 1) ไฟไหม้ 2) ฟา้ ผา่ 3) แรงระเบดิ ของแก๊ส ทีใ่ ชส้ ำ�หรับทำ�แสงสวา่ งหรือประโยชน์เพ่อื การอยู่อาศัยเทา่ นนั้ แต่ไมร่ วมถึงความ เสยี หายจากการระเบดิ ของแกส๊ จากแผน่ ดนิ ไหว และ 4) ความเสียหายเนื่องจากภยั เพม่ิ เติมท่ีไดร้ ะบุไวช้ ดั เจนในกรมธรรม์ประกันภัย ทงั้ นี้ ไดค้ ุม้ ครองรวมไปถึงความ เสียหายท่เี กิดจากเหตตุ อ่ เนอื่ งจากอคั คภี ัย เชน่ น้ำ�ทใ่ี ชด้ บั ไฟทำ�ความเสยี หายแก่ ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย หรือความเสียหายที่เกิดจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเพื่อตัด ต้นไฟ เปน็ ตน้ ซ่งึ นอกเหนอื จากสาเหตุข้างต้น แลว้ ผู้เอาประกนั ภัยสามารถเลอื กซื้อ ภัยเพิ่มเติมอื่น ๆ ได้ตามความเสี่ยงภัยที่มีอยู่ ได้แก่ ภัยลมพายุ ภัยจากลูกเห็บ ภัยระเบิด ภัยอากาศยาน ภัยจากยวดยานพาหนะ ภัยจากควัน ภัยแผ่นดินไหว ภัยน้ำ�ท่วม ภัยเนื่องจากน้ำ� ภัยจลาจลและนัดหยุดงาน ภัยจากการกระทำ�อย่าง ป่าเถื่อน หรือการกระท�ำ อันมีเจตนาร้าย ภยั เกิดขนึ้ เองตามปกติวิสยั มกี ารลกุ ไหม้ หรือการระเบดิ ภัยเกิดขน้ึ เองตามปกติวิสัยและ/หรอื ไมม่ ีการลุกไหม้หรอื การระเบิด และภัยต่อเครื่องไฟฟา้ โดยจา่ ยเบ้ียประกันภัยเพม่ิ ไมม่ ากนัก 196 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบริหารจัดการความเสีย่ งด้านอุทกภยั อย่างบูรณาการ

2.1.1.2 การประกนั ความเสย่ี งภยั ทรพั ยส์ นิ (Industrial All Risks: IAR) เปน็ การประกนั ภยั บท ่ีท 5 เพื่อคุ้มครองความเสียหายของทรัพย์อันเนื่องจากอุบัติเหตุใด ๆ ที่มิได้มีการระบุ ยกเวน้ ไว้ ซึง่ เกิดขน้ึ ภายในระยะเวลาเอาประกันภยั โดยความรับผดิ ตลอดระยะเวลา เอาประกนั ภัยของบริษัทประกันภัยตอ่ ความเสยี หายแต่ละครง้ั หรือความเสียหาย หลายครั้งรวมกันต้องไม่เกินจำ�นวนเงินที่เอาประกันภัยไว้ตามรายการแต่ละรายการ หรอื เม่อื รวมกันแลว้ ไมเ่ กินจ�ำ นวนเงินเอาประกนั ภยั รวมท่รี ะบไุ วใ้ นตารางกรมธรรม์ ลักษณะเดน่ ของการประกนั ภัยประเภทนี้ คอื ความคุ้มครองทก่ี วา้ งกว่ากรมธรรม์ ประกนั ภยั ทกี่ ำ�หนดเฉพาะ เช่น อคั คีภัย เหมาะกบั โรงงานอุตสาหกรรมทีต่ อ้ งท�ำ กรมธรรมป์ ระกนั ภยั หลายประเภท 2.1.2 การประกนั ภยั ทางทะเลและขนส่ง (Marine and Transportation Insurance) เปน็ การ ประกนั ภยั เพ่ือคมุ้ ครองความเสยี หายของตัวเรอื สินค้าท่ีบรรทกุ อยใู่ นเรอื ความเสียหายเกิด ขน้ึ เน่ืองจากการเดนิ ทาง การขนสง่ ทางทะเลหรือทางน้ำ� ทัง้ ระหว่างประเทศและภายใน ประเทศ 2.1.3 การประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance) เปน็ การประกนั ภยั ท่ีใหค้ วามคุ้มครองแกผ่ ู้เอา ประกันภัยเม่อื เกิดความสญู เสยี หรือความเสียหายท่เี กดิ จากการใชร้ ถยนต์ เช่น ความเสียหาย ที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์คันที่เอาประกันภัย หรือรถยนต์คันที่เอาประกันภัยก่อให้เกิดความ เสียหายต่อชีวิต รา่ งกาย และทรัพย์สนิ ของบคุ คลภายนอก รวมทั้งผโู้ ดยสารของรถยนตค์ ัน ทเี่ อาประกันภยั เป็นต้น การประกนั ภัยรถยนตใ์ นประเทศไทยสามารถแบ่งได้เปน็ 2 ประเภท คอื 2.1.3.1 การประกนั ภัยรถภาคบงั คับ (Compulsory Motor Insurance) หมายถึง การ ประกันภัยรถประเภทที่กฎหมายกำ�หนดให้เจ้าของรถซึ่งใช้หรือมีรถไว้เพื่อใช้ต้อง จัดให้มีการประกันความเสียหายสำ�หรับผู้ประสบภัย โดยต้องทำ�ประกันภัยตาม พระราชบญั ญตั ิค้มุ ครองผปู้ ระสบภยั จากรถ พ.ศ. 2535 และทแี่ ก้ไขเพม่ิ เตมิ (ราย ละเอียดความคุ้มครองท่ีได้รบั ตามตารางท่ี 5.2.2) เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจัดการความเสย่ี งดา้ นอุทกภยั อย่างบรู ณาการ 197

ตารางที่ 5.2.2 การชดใชค้ ่าเสยี หายเบอ้ื งต้นของการประกนั ภยั รถยนต์ภาคบงั คบั คา่ เสยี หายเบือ้ งต้น คา่ เสยี หายสว่ นที่เกินคา่ เสยี หายเบือ้ งต้น ไดร้ ับโดยไม่ต้องรอพิสูจนค์ วามผิด ได้รบั ภายหลงั จากการพสิ จู น์แล้ววา่ ไม่ได้เป็น ฝ่ายท่ีจะต้องรบั ผิดตามกฎหมาย 1. กรณีบาดเจบ็ จ่ายคา่ รักษาพยาบาลตามจรงิ 1. กรณีบาดเจ็บแต่ไม่เสียชีวิต วงเงินความคุ้มครอง แตไ่ ม่เกิน 15,000 บาท/คน รวมกับค่าเสียหายเบื้องต้น 50,0000 บาท/คน 2. กรณเี สยี ชวี ติ จา่ ยคา่ ปลงศพ 35,000 บาท/คน 2. กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ กรณีเสียชีวิตหลังเข้ารับการรักษาพยาบาล ถาวร วงเงนิ คุ้มครองรวมกบั ค่าเสียหายเบือ้ งตน้ จ่ายตามข้อ 1 และ 2 โดยบริษัทจะจ่าย 200,000 บาท/คน ค่าเสียหายเบื้องต้นภายใน 7 วัน นบั แต่ 3. ชดเชยรายวัน 200 บาท รวมกันไมเ่ กิน 20 วัน วันท่ไี ด้รบั ค�ำ รอ้ งและเอกสารครบถว้ น กรณีเข้าพักรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล ฐานะคนไขใ้ น ที่มา : สำ�นกั งานอตั ราเบย้ี ประกันวินาศภัย, (พ.ศ. 2553) บทท่ี 5 2.1.3.2 การประกนั ภยั ภาคสมคั รใจ (Voluntary Motor Insurance) เป็นการประกนั ภัยรถ ซงึ่ เปน็ การตกลงกนั ระหวา่ งผู้เอาประกนั ภัย และผรู้ บั ประกันภยั โดยเป็นการเลอื ก ซือ้ ความคุ้มครองประกันภัยตามความต้องการท่เี หมาะสมของผ้เู อาประกนั ภยั โดยมี ประเภทกรมธรรม์ประกนั ภัยหลกั แบ่งเปน็ 4 ประเภท (ตารางที่ 5.2.3) ดงั น้ี 1. กรมธรรมป์ ระเภท 1 (Comprehensive) คอื กรมธรรมป์ ระกนั ภยั ทมี่ คี วาม คมุ้ ครองพนื้ ฐานครบทั้ง 4 ประเภท 2. กรมธรรมป์ ระเภท 2 (Third Party Liability, Fire and Theft) คือ กรมธรรม์ ประกนั ภยั ท่ีมคี วามคมุ้ ครองพื้นฐานทุกประเภท ยกเวน้ ความรับผดิ ตอ่ ความ เสยี หายของตัวรถยนต์ 3. กรมธรรม์ประเภท 3 (Third Party Liability) คอื กรมธรรม์ประกนั ภยั ทมี่ ี ความค้มุ ครองพื้นฐานเฉพาะความรับผิดต่อทรัพย์สนิ ของบุคคลภายนอก และ ความรบั ผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรอื อนามยั ของบคุ คลภายนอก 4. กรมธรรมป์ ระเภท 4 (Third Party Properties Liability) คอื กรมธรรม์ ประกันภัยที่มีความคุ้มครองพื้นฐานเฉพาะความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคล ภายนอก 198 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบริหารจัดการความเสยี่ งดา้ นอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ

ตารางท่ี 5.2.3 ประเภทกรมธรรม์ประกันภยั และความคุ้มครองการประกนั ภัยรถยนตภ์ าคสมคั รใจ ความคมุ้ ครอง ประเภท ความเสยี หายตอ่ ความสญู หายและ ความรบั ผดิ ต่อ ความรบั ผิดตอ่ กรมธรรม์ ตวั รถยนต์ ไฟไหม้ของตัว ทรัพย์สนิ ของ ชวี ิต รา่ งกาย หรือ รถยนต์ บคุ คลภายนอก อนามยั ของบุคคล 1   ภายนอก  2û    3û û   4û û  û ที่มา: ส�ำ นกั งานอตั ราเบย้ี ประกันวนิ าศภยั (พ.ศ. 2553) 2.1.4 การประกนั ภยั เบด็ เตลด็ (Miscellaneous Insurance) เชน่ การประกนั อบุ ัติเหตุสว่ นบคุ คล การประกันสขุ ภาพ การประกนั อุบตั เิ หตุการเดินทาง การประกนั ภยั ความรบั ผดิ ตามกฎหมายของ นายจ้าง (Employer Liability) และ การประกันภัยพชื ผล (Crop Insurance) ฯลฯ 3. การคำ�นวณอัตราเบีย้ ประกนั วินาศภยั บท ่ีท 5 ตามทก่ี ลา่ วข้างตน้ เบย้ี ประกนั ภยั (Premium) หมายถึง จำ�นวนเงินทีผ่ ู้เอาประกันภยั จะตอ้ งช�ำ ระให้ แก่บริษัทประกันภัยตามสัญญา เพื่อที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเมื่อเกิดความเสียหายต่อชีวิตหรือ ทรพั ย์สินเน่อื งมาจากภยั ทีไ่ ดม้ กี ารท�ำ ประกนั ภยั ไว้ สว่ นอัตราเบ้ียประกนั ภัย (Premium Rate) หมาย ถึง เบยี้ ประกันภยั ทีค่ ิดเปน็ จำ�นวนเงนิ ตอ่ หนว่ ยของการประกันภัย โดยทีอ่ ัตราเบ้ียประกันภยั เปน็ ราคา ต่อหนึ่งหน่วยของการประกันภัย ในขณะที่เบี้ยประกันภัยจะเป็นราคารวมทั้งหมดของทุกหน่วยที่ได้มี การเอาประกนั ภยั ไว้ ราคาสินค้าและบริการโดยทว่ั ไป ประกอบดว้ ยตน้ ทุนและก�ำ ไร ในการก�ำ หนดราคาของผลิตภัณฑ์ ประกนั ภัยตอ่ หน่วย (หรือทีเ่ รยี กวา่ อตั รา) ก็เช่นเดยี วกัน อัตราเบย้ี ประกนั ภัย ประกอบดว้ ย ตน้ ทุน บรกิ าร 3 ส่วน คือ (1) ต้นทนุ ความเสยี หาย (2) ค่าใช้จา่ ยในการจัดการคา่ สนิ ไหมทดแทน (Loss Adjustment Expense) และ (3) ค่าใชจ้ า่ ยในการพิจารณารบั ประกนั ภัย (Underwriting Expense) และกำ�ไรจากการรบั ประกนั ภัย1 (องคป์ ระกอบและการค�ำ นวณอตั ราฯ ของผรู้ ับประกนั ภัยตามทฤษฎี ได้แสดงไวต้ ามรูปท่ี 5.2.2 และ 5.2.3 ตามลำ�ดับ) ความแตกตา่ งอย่ทู ตี่ น้ ทุนของสินคา้ และบรกิ ารอน่ื ที่ 1 สมการพน้ื ฐานการตง้ั ราคาสนิ คา้ และบรกิ ารทว่ั ไป: Price = Cost + Profit สมการพน้ื ฐานการตง้ั ราคาของผลติ ภณั ฑป์ ระกนั ภยั : Premium = Losses + Loss Adjustment Expenses + Underwriting Expenses + Underwriting Profit เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบริหารจัดการความเส่ียงด้านอทุ กภยั อยา่ งบูรณาการ 199

บทท่ี 5 นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ประกันภัยนัน้ สามารถรบั ร้ไู ดก้ ่อนวันท่ีขายสินค้าหรอื บรกิ ารนัน้ ในขณะทีผ่ รู้ บั ประกันภัยไม่สามารถรบั รตู้ ้นทนุ ความเสยี หายในวันท่ีออกกรมธรรม์ หมายเหต:ุ a เบีย้ ประกนั ภัยแทจ้ ริง (Pure Premium) หรอื ทีเ่ รียกวา่ ตน้ ทนุ ความเสยี หาย Loss cost หรอื Burning Cost เป็นตัววัดค่าเฉลี่ยความเสียหายที่คาดว่าจะเกิด ขึ้นต่อหนว่ ยเสยี่ งภยั และค�ำ นวณมาจากแบบจ�ำ ลอง คณิตศาสตร์ประกันภัย b ผู้รับประกันภัยที่มีแบบจำ�ลองความเสี่ยงมหันตภัย (Catastrophe Risk Model) สามารถคำ�นวณความถ่ี และความรนุ แรงของเหตุการณม์ หันตภยั เพอื่ เปน็ ส่วน บวกเพมิ่ ทีเ่ รยี กว่า Catastrophe Loading c ต้นทนุ การผลิต รวมถงึ คา่ บรหิ ารจัดการต่างๆ ท้ังคา่ ใช้ จ่ายคงทีแ่ ละค่าใช้จ่ายผันแปร ค่าใช้จา่ ยในการพิจารณา รับประกนั ภัย ค่าใช้จ่ายทเ่ี กิดขน้ึ ในการขายกรมธรรม์ (Acquisition Costs) เชน่ ค่าโฆษณา ค่านายหน้า/ คา่ บำ�เหน็จ และค่าใช้จ่ายในการจัดการคา่ สินไหมทดแทน รปู ท่ี 5.2.2 องคป์ ระกอบของอตั ราเบีย้ ประกันภยั ท่มี า : จุฑาทอง และสุมนา (พ.ศ. 2556) รูปท่ี 5.2.3 การค�ำ นวณอตั ราเบย้ี ประกนั ภัย โดยวิธตี น้ ทนุ ความเสยี หาย (Loss Cost Method) ท่มี า: จฑุ าทองและสุมนา, (พ.ศ. 2556) 200 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบริหารจดั การความเสี่ยงดา้ นอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ

4. กองทุนส่งเสรมิ การประกันภยั พิบตั ิ พ.ศ. 2555 บท ่ีท 5 การจดั ตง้ั กองทนุ สง่ เสริมการประกันภยั พิบตั ิ เป็นผลสบื เนอื่ งจากในปี พ.ศ. 2554 ได้เกดิ วิกฤตการณ์ อทุ กภยั อยา่ งร้ายแรงในหลายพ้นื ที่ของประเทศไทย ก่อให้เกิดความเสียหายตอ่ เศรษฐกิจและสงั คมอย่าง รนุ แรง ซึ่งผ้ปู ระกอบธุรกิจประกนั วนิ าศภัยประสบปัญหาดา้ นการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงจากการรบั ประกันวินาศภัยทเ่ี กิดจากภัยพิบัติ ส่งผลใหป้ ระชาชนและผ้ปู ระกอบการตอ้ งมีภาระเบ้ยี ประกันภัยเป็น จำ�นวนสงู มาก หรอื ไมส่ ามารถเอาประกันภัยได้ รฐั จงึ ได้จัดต้งั กองทนุ ส่งเสริมการประกนั ภัยพบิ ัติ ตาม พระราชกำ�หนดกองทุนส่งเสรมิ การประกันภยั พบิ ตั ิ พ.ศ. 2555 โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ ดงั นี้ 1. เพอ่ื ช่วยเหลือประชาชนและผูป้ ระกอบการให้ได้รบั ความคุม้ ครองทรพั ยแ์ ละกิจการ 2. เพอ่ื จดั ใหม้ คี วามสามารถในการเอาประกนั ภยั ตอ่ ในจ�ำ นวนทเ่ี พยี งพอตอ่ ความตอ้ งการ (Capacity) และในอตั ราเบย้ี ประกนั ภยั ทต่ี �ำ่ สดุ 3. เพ่ือให้ประชาชนเขา้ ถึงความคุ้มครองภยั พบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งท่วั ถงึ ในอตั ราเบี้ยประกันภยั ทเ่ี หมาะสม 4. เพอ่ื สร้างความม่ันใจใหแ้ กน่ ักลงทนุ ต่างชาติ และผู้ประกอบการตา่ ง ๆ ยังคงดำ�เนนิ กจิ การต่อไป ในประเทศไทย กรมธรรม์ประกนั ภัยพิบัติ ตามกองทนุ ส่งเสริมการประกันภยั พบิ ตั ิ ใหค้ วามคมุ้ ครองภัยพบิ ัติ 3 ภยั ได้แก่ น้ำ�ทว่ ม แผ่นดินไหว และลมพายุ โดยมเี กณฑก์ ารจ่ายคา่ สนิ ไหมทดแทน ดังน้ี (ส�ำ นกั งานคณะกรรมการ กำ�กบั และส่งเสริมการประกอบธรุ กจิ ประกันภัย (คปภ.), พ.ศ. 2555) 1. คณะรฐั มนตรีประกาศสถานการณภ์ ัยพบิ ัติรุนแรง ตามค�ำ แนะน�ำ ของกระทรวงมหาดไทย โดย กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย 2. กรณคี า่ สนิ ไหมทดแทนรวมของผู้เอาประกันภยั ภายใตก้ รมธรรมป์ ระกนั ภยั พบิ ตั มิ ากกว่า 5,000 ล้านบาท ต่อหนง่ึ เหตุการณ์ที่เกิดขนึ้ ภายใน 60 วัน โดยมีการเรยี กร้องคา่ สนิ ไหมทดแทน ตงั้ แต่ 2 รายข้ึนไป 3. กรณีธรณพี บิ ตั ิ ความรุนแรงของแผน่ ดินไหวต้งั แต่ 7 ริกเตอร์ขึน้ ไป และกรณวี าตภยั ความเร็ว ของลมพายตุ ัง้ แต่ 120 กิโลเมตรตอ่ ช่วั โมงขึน้ ไป กรมธรรมป์ ระกนั ภยั พิบัติดงั กล่าว เป็นแบบจำ�กัดความรบั ผิด (Sub Limit) โดยมอี ัตราเบ้ยี ประกันภัย ความคมุ้ ครอง และวิธกี ารจา่ ยค่าสินไหมทดแทน ตามตารางท่ี 5.2.4 และ 5.2.5 ตามล�ำ ดับ เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจัดการความเส่ยี งด้านอุทกภยั อย่างบูรณาการ 201

ตารางที่ 5.2.4 อัตราเบยี้ กรมธรรม์ประกนั ภยั พิบตั ิ กลุ่มผ้เู อาประกนั ภัย ความคุ้มครอง เบี้ยประกนั ภยั (ร้อยละของทุนประกัน) (ต่อปี) บ้านอย่อู าศยั \"กรมธรรม์ประกนั อัคคภี ยั และภยั พบิ ัตสิ �ำ หรับ 0.5% ทอ่ี ยู่อาศัย\" จะใหค้ วามคุ้มครองภัยพบิ ตั ิโดย อตั โนมัติ ในวงเงินไมเ่ กิน 100,000 บาท วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม \"กรมธรรม์ประกนั ภยั พิบตั ิ\" ผูเ้ อาประกันภัย 1% (SME) สามารถเลือกซ้ือความคุ้มครองภัยพิบัติโดยมี ทุนประกันภัยไม่เกนิ 50 ลา้ นบาท การจ�ำ กัดความรับผิด (Sublimit) ไมเ่ กิน 30% ของทุนประกันภัย \"กรมธรรม์ประกนั ภยั พบิ ัติ\" ผเู้ อาประกนั ภัย สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองภัยพิบัติโดยมี อุตสาหกรรม การจ�ำ กัดความรบั ผดิ (Sublimit) ไมเ่ กิน 30% 1.25% ของทุนประกันภัย ทมี่ า: ส�ำ นกั งานคณะกรรมการก�ำ กบั และส่งเสรมิ การประกอบธรุ กจิ ประกันภยั (คปภ.), พ.ศ. 2555 ตารางที่ 5.2.5 วิธีการจา่ ยค่าสนิ ไหมทดแทนของกรมธรรม์ประกนั ภยั พบิ ตั ิ กลมุ่ ผูเ้ อาประกันภัย การจ่ายคา่ สนิ ไหมทดแทน ความเสียหายส่วน แรกทต่ี ้องรบั ผิด ชอบเอง บทท่ี 5 กรณีอุทกภัย (ในวงเงินความคมุ้ ครอง 100,000 บาท) - น�้ำ ท่วมพืน้ อาคาร : 30% ของการจำ�กัดความรับผิดชอบ บ้านอยู่อาศัย - ระดับน�ำ้ สงู 50 ซม.จากพืน้ อาคาร : 50% ของการจำ�กดั ไม่มี ความรบั ผดิ ชอบ - ระดบั น้ำ�สงู 75 ซม.จากพน้ื อาคาร : 75% ของการจำ�กดั ความรับผดิ ชอบ - ระดบั นำ�้ สงู 100 ซม.จากพนื้ อาคาร : 100% ของการจ�ำ กัด ความรับผดิ ชอบ กรณวี าตภัย/ธรณพี ิบตั ภิ ยั บรษิ ัทประกนั ภัยสำ�รวจ และประเมินความเสียหาย โดยจะ จ่ายตามความเสียหายท่เี กิดขึ้นจรงิ แตไ่ ม่เกินวงเงนิ จ�ำ กัด ความรับผิดชอบของกรมธรรม์ประกันภัย วิสาหกิจขนาดกลาง กรณีอุทกภยั /วาตภยั /ธรณีพิบตั ิภยั 5% ของการจำ�กัด และขนาดยอ่ ม (SME) บริษทั ประกนั ภัยจะเข้าสำ�รวจ และประเมนิ ความเสยี หาย โดย ความรับผดิ ชอบ และอตุ สาหกรรม จะจา่ ยตามความเสียหายที่เกดิ ข้ึนจริง แตไ่ ม่เกินวงเงนิ จ�ำ กดั ความรับผดิ ชอบของกรมธรรมป์ ระกันภัย ทม่ี า: ส�ำ นักงานคณะกรรมการกำ�กับและสง่ เสริมการประกอบธุรกจิ ประกนั ภยั (คปภ.), พ.ศ. 2555 202 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รการบรหิ ารจัดการความเสย่ี งดา้ นอทุ กภยั อย่างบูรณาการ

5. การจดั การความเสยี งภัยธรรมชาติสาำหรับเกษตรกร โดยใชเ ครอื งมอื ประกนั ภยั โครงการประกันภยั ขา วนาปี เริม ตน ครังแรกในปี พ.ศ. 2554 โดยใหคุมครองความเสยี หายของขาวนาปี จากภัยธรรมชาติ 6 ภยั ไดแ ก อุทกภัย ฝนทิงชว ง ลมพายุ อากาศหนาว ลกู เหบ็ และอัคคภี ัย เทา นนั และในปี พ.ศ. 2555 ไดเพมิ การคมุ ครองภัยจากศตั รพู ชื และโรคระบาด (สำานกั งานเศรษฐกิจการคลงั , 2555) ตารางที 5.2.6 แสดงใหเ หน็ จาำนวนพนื ทเี พาะปลูกขา วนาปี ทีไดร ับการชดเชยความเสียหายจาก ภยั ธรรมชาตแิ ละภัยศตั รูพืช ระหวางปี พ.ศ. 2547-2555 ตารางที่ 5.2.6 จำานวนพื้นที่เพาะปลูกขาวนาปที่ไดรับการชดเชยความเสียหายจากภัยธรรมชาติและภัย ศัตรูพืช ปี พ.ศ. 2547-2555 หนว ย: ไร ป พืนทเี พาะ อทุ กภยั ฝนทงิ ชว ง ภัยศตั รูพชื วาตภยั คา งแข็ง อคั คีภัย ลกู เหบ็ รวม (ไร) อตั ราความ ปลูก เสียหาย 2547 57,651,849 2,941,983 8,829,973 168,271 10,252 0 0 8 11,950,487 20.73% 2548 57,773,844 2,685,973 1,845,330 43,002 371 0 0 0 4,574,676 7.92% 2549 57,541,825 5,301,921 781,147 139,111 0 0 0 0 6,222,178 10.81% 2550 57,385,921 2,505,681 1,823,476 142,533 1,304 447,586 0 599 4,921,178 8.58% 2551 57,422,337 4,651,098 2,176,045 144,507 1,421 0 0 1,638 6,974,709 12.15% 2552 57,497,441 1,163,947 368,361 3,624,142 11,831 39,822 0 0 5,208,104 9.06% 2553 57,043,561 6,189,928 137,945 1,636,573 17,375 0 3 0 7,981,824 13.99% 2554 61,074,780 9,316,353 55,072 703,106 5,307 0 0 0 10,079,838 16.50% 2555 64,997,781 587,085 5,650,541 458,024 6,129 0 0 0 6,701,779 10.31% บท ที 5 คา เฉลยี 58,709,927 3,927,108 2,407,543 784,363 5,999 54,156 0.33 249 7,179,419 12.23% ทมี า: กรมสงเสรมิ การเกษตร ในปี พ.ศ. 2555 ผูทาำหนา ทเี ปน็ ผรู ับประกนั ภยั ใหแกเกษตรกร คอื กองทนุ สงเสริมการประกันภัยพบิ ัติ และบรษิ ทั ประกนั ภัยทสี มัครใจเขารวมโครงการ โดยมธี นาคารเพือการเกษตรและสหกรณก ารเกษตร (ธ.ก.ส.) เปน็ ตวั กลางระหวา งเกษตรกรและผรู ับประกันภยั เมือ แปลงนาขา วไดร บั ความเสยี หายเกษตรกร ผเู อาประกนั ภยั ตองไปแจงขอรบั เงนิ ชว ยเหลือจากรัฐทผี ูนำาชมุ ชนหรือสำานกั งานเกษตรอาำเภอกอน ตาม ขนั ตอนปกติของการขอรบั เงินชว ยเหลอื ของรฐั (กษ.01) และผรู บั ประกนั ภัยจะจายคาสินไหมทดแทนให แกเ กษตรกรผเู อาประกนั ภยั ภายใน 15 วัน นับจากวนั ทไี ดร บั ขอมลู จาก ธ.ก.ส. หรือกระทรวงเกษตรและ สหกรณครบถวนสมบูรณ โดยจะจายคาสินไหมทดแทนตามจำานวนไรที่เกษตรกรเอาประกันภัยไวและ ไดรับความเสียหายตามแบบประมวลรวบรวมการชวยเหลือรายหมูบาน (กษ. 02) ทไี ดรบั ความเห็นชอบ แลวจากคณะกรรมการใหค วามชวยเหลือผปู ระสบภัยพิบัตริ ะดบั อาำเภอ (ก.ช.ภ.อ) อยางไรกด็ ี ในกรณวี นั เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเสียงดานอทุ กภยั อยา งบรู ณาการ 203

บทท่ี 5 ท่เี กดิ ความเสียหายอย่ใู นช่วง 7 วันแรกนับจากวนั ท่ขี อเอาประกันภยั (ระยะเวลารอคอย) เกษตรกรจะไม่ ไดร้ บั คา่ สินไหมทดแทนแต่จะไดร้ บั การคืนเบ้ยี ประกนั ภัย อัตราเบ้ียประกนั ภยั ในปี พ.ศ. 2554 อยู่ที่ 120 บาท/ไร่ สำ�หรบั วงเงนิ ความคุม้ ครองสูงสดุ 1,400 บาท ตอ่ ไร่ ส�ำ หรบั 6 ประเภทภยั ได้แก่ อุทกภัย ฝนทง้ิ ชว่ ง ลมพายุ อากาศหนาว ลกู เห็บ และอคั คภี ัย รัฐ อดุ หนุนคา่ เบ้ียประกันภัยรอ้ ยละ 50 และในปี พ.ศ. 2555 อัตราเบย้ี ประกันภัยอยทู่ ่ี 120 บาท/ไร่ ส�ำ หรบั วงเงินความคุ้มครองสูงสุด 1,111 บาทต่อไร่ สำ�หรบั 6 ประเภทภยั ไดแ้ ก่ อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ อากาศหนาว ลกู เห็บ และอคั คภี ัย และวงเงินความคมุ้ ครองสูงสุด 555 บาทต่อไร่ สำ�หรบั ภัยศตั รพู ืช และ โรคระบาด   204 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สูตรการบริหารจดั การความเสี่ยงดา้ นอทุ กภยั อยา่ งบูรณาการ

เอกสารอา้ งองิ บท ่ีท 5 จฑุ าทอง จารมุ ลิ นิ ท และสมุ นา ชาญชยั สมั ฤทธ์ิ (พ.ศ. 2556). การเปดิ เสรอี ตั ราเบย้ี ประกนั วนิ าศภยั ประสบการณข์ องประเทศในเอเชยี , เอกสารวชิ าการ ส�ำ นกั งานอตั ราเบย้ี ประกนั วนิ าศภยั , พฤษภาคม 25564 ส�ำ นกั งานกองทุนสนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) (พ.ศ. 2555). ธนาคารความคดิ 7 ประเดน็ นโยบายสาธารณะสร้างประเทศไทยใหน้ ่าอยู่, กรงุ เทพมหานคร: พ.ศ. 2555 สำ�นักงานคณะกรรมการกำ�กับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) (พ.ศ. 2555). Insurance Circle ฉบบั พเิ ศษ. กองทนุ สง่ เสรมิ การประกนั ภยั พบิ ตั ,ิ มนี าคม พ.ศ. 2555. ส�ำ นักงานเศรษฐกจิ การคลงั (พ.ศ. 2555). โครงการประกนั ภยั ขา้ วนาปี ปีการผลิต พ.ศ. 2555. สำ�นักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย (พ.ศ. 2553). ต้นทุนความเสียหายอ้างอิงการประกันภัย รถยนต์ภาคสมัครใจ ปี พ.ศ. 2553-2556, กรงุ เทพมหานคร: พ.ศ. 2553 บรรณานุกรม กองทุนสง่ เสรมิ การประกันภยั พบิ ัติ เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www.ncif.or.th/ ฐิติวดี ชัยวัฒน์ (พ.ศ. 2552). การบริหารความเสี่ยงภัยและการประกันภัยในศตวรรษที่ 21, กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พแ์ หง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , พ.ศ. 2552. ส�ำ นกั งานคณะกรรมการก�ำ กบั และสง่ เสรมิ การประกอบธรุ กจิ ประกนั ภยั เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www. oic.or.th สมาคมประกันวนิ าศภยั ไทย เขา้ ถึงได้จาก http://www.thaigia.com/ เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบริหารจัดการความเสีย่ งดา้ นอุทกภัยอยา่ งบรู ณาการ 205

บทท่ี 5 จดบันทึก 206 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเส่ยี งดา้ นอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ

จดบันทึก บท ่ีท 5 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบรหิ ารจัดการความเสีย่ งดา้ นอุทกภัยอย่างบรู ณาการ 207

บทท่ี 5 ทม่ี า: ดร.ชสู ิทธิ์ อภริ ัมณีกลุ , พ.ศ. 2555 208 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รการบริหารจดั การความเส่ยี งดา้ นอทุ กภยั อยา่ งบูรณาการ

บทท่ี 6 แนวทางการนำ�หลักบรหิ ารจัดการ ความเสย่ี งจากอุทกภยั ไปปฏิบตั ิ (Making Flood Risk Management Work) บทท่ี 6 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการความเส่ียงด้านอุทกภัยอยา่ งบูรณาการ 209

บทท่ี 6 วตั ถปุ ระสงค:์ • เพือ่ ให้เขา้ ใจถึงความสัมพันธ์ระหวา่ งการพฒั นาและภัยพบิ ตั ิ วา่ มีผลตอ่ กนั และกนั อยา่ งไร • เพ่ือน�ำ แนวคดิ การบรหิ ารจดั การภัยพิบัตไิ ปใชใ้ นการพัฒนาต่างๆ เปา้ หมายการเรียนร:ู้ • ผู้เรียนสามารถเขา้ ใจและอภปิ รายเกย่ี วกับความเชือ่ งโยงของภยั พบิ ัตแิ ละการพฒั นาได้ • ผู้เรียนสามารถบอกถึงความจำ�เป็นในการผนวกแนวคิดเรื่องการจัดการภัยพิบัติในแผนงาน พัฒนาต่างๆ ได้ • ผู้เรียนสามารถประยุกต์แนวคิดการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติในการวางแผน พัฒนาต่างๆ ได้ กรอบเน้อื หา: บทที่ 6 ส่วนที่ 1 การบูรณาการแนวคิดการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเพื่อจัดทำ�แผนพัฒนา (Mainstreaming Disaster Risk Reduction into Development) 210 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจดั การความเสี่ยงดา้ นอทุ กภยั อย่างบรู ณาการ

บทที่ 6 สว่ นที่ 1 บทท่ี 6 การบรู ณาการแนวคดิ การลดความเส่ยี งจากภยั พิบตั เิ พ่ือจัดทำ�แผนพัฒนา (Mainstreaming Disaster Risk Reduction into Development) พรรณวดี สมบรู ณ์ ผู้ประสานงานโครงการอาวโุ ส ศนู ย์เตรียมความพรอ้ มป้องกนั ภยั พิบตั แิ ห่งเอเซยี 1. ภัยพิบัตแิ ละการพฒั นา มนุษย์เปน็ ศูนย์กลางของการพฒั นา กลา่ วคอื การพัฒนาเกิดขนึ้ เพื่อใหช้ ุมชนและสงั คมมชี วี ิตความเปน็ อย่ทู ่ดี ีขน้ึ ทงั้ ทางดา้ นเศรษฐกจิ สังคม สุขภาพอนามยั และสงิ่ แวดล้อม รวมถึงการจดั การทรัพยากร อยา่ งเหมาะสม คุม้ ค่า ไมเ่ กิดความสูญเปล่า ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางดา้ นลบ เป็นไปอยา่ งทว่ั ถงึ และ มีความยง่ั ยืน อยา่ งไรก็ดี กิจกรรมท่ีมุ่งเนน้ การพัฒนาในดา้ นตา่ ง ๆ อาจก่อให้เกดิ ผลเสยี ตามมา เชน่ การขยายตวั ของชมุ ชน ในขณะทร่ี ะบบสาธารณปู โภคมขี ดี ความสามารถจ�ำ กัดทจ่ี ะรองรบั ได้ กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาตา่ ง ๆ เช่น ขยะสะสม การระบายนำ้�เสียจากชุมชนไมเ่ พียงพอ ส่งผลตอ่ สภาพส่ิงแวดลอ้ มโดยรวม ตลอดจน กระทบความเปน็ อยู่ และสขุ อนามัย หรอื ปัญหาจากการพัฒนาที่ขาดความต่อเนื่อง เช่น โครงสร้างถนน และสะพานทไี่ มม่ ีการตรวจสอบสภาพและขาดการซอ่ มบำ�รุง อาจกอ่ ให้เกิดอนั ตราย และสร้างความสูญ เสยี ต่อชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ได้ ดังนน้ั ในการรเิ รมิ่ แผนงานหรอื โครงการพฒั นาใด ๆ จงึ มีความจ�ำ เปน็ จะตอ้ งพจิ ารณาถึงผลดีผลเสยี อย่างรอบด้าน ให้ครอบคลุมปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และคำ�นึงถึงความเหมาะสมกับสภาพสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ควบคู่ไปกบั การพิจารณาทางเลือกและแนวทางแกป้ ญั หาทีเ่ หมาะสม ประเด็นเรื่องความเส่ยี งจากภัยพบิ ัตแิ ละการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ิ (Disaster Risk and Disaster Risk Reduction) ก็เป็นหนึง่ ในประเด็นทส่ี �ำ คญั อยา่ งยง่ิ ยวดทตี่ ้องคำ�นึงถงึ รูปที่ 6.1.1 อธบิ ายความ สมั พนั ธเ์ ชิงบวกและเชิงลบระหวา่ งภยั พบิ ตั ิและการพฒั นาใน 4 มติ ิ ซ่ึงเป็นแนวคิดเบอ้ื งตน้ ทีท่ ำ�ให้ สามารถเขา้ ใจถึงความเช่อื มโยงระหวา่ งภัยพิบตั แิ ละการพฒั นา และชว่ ยในการสร้างความตระหนกั รถู้ งึ ความส�ำ คญั ในการบรู ณาการแนวความคดิ การลดความเส่ยี งภยั พิบัติเพื่อจดั ท�ำ แผนพฒั นา เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบริหารจดั การความเสย่ี งด้านอุทกภัยอยา่ งบูรณาการ 211

บทท่ี 6 รูปท่ี 6.1.1 ความสมั พันธข์ องการพฒั นาและภัยบตั ิ ทม่ี า: DMTP, 1994 2. ภยั พิบัตสิ ามารถขัดขวางการพฒั นา ภัยพบิ ัติกอ่ ให้เกดิ ผลกระทบในทางลบกบั สงั คม เศรษฐกจิ และสิง่ แวดลอ้ ม ทำ�ให้การพฒั นาอยใู่ นภาวะ เสย่ี ง เพราะภัยพิบตั ทิ �ำ ใหก้ ารพฒั นาหยดุ ชะงัก ไมต่ อ่ เนอ่ื ง และไมม่ ีความยงั่ ยนื จึงเท่ากบั เป็นการลด ศักยภาพการพฒั นาโดยรวมของประเทศและของชุมชน โดยเฉพาะในพื้นทีเ่ สี่ยงภยั ภยั พิบัตไิ มเ่ พยี งแต่ ทำ�ให้เกิดความสญู เสียในชีวิตและทรัพย์สนิ เท่านน้ั แต่ยังส่งผลกระทบในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษกิจ ความเสยี หายต่อภาคการเกษตรจากเหตุการณ์อทุ กภัยเกดิ ข้นึ เปน็ ประจำ�ในทุกปี ท�ำ ให้ผลผลิตทางการเกษตรของประเทศลดลง (เช่น นาข้าวเสยี หาย) หรือดอ้ ย คณุ ภาพลง (ข้าวมคี วามชน้ื สงู ขายไม่ได้ราคา) สง่ ผลตอ่ รายไดข้ องเกษตรกร นอกจากน้ี เหตุการณ์ ภัยพบิ ัตอิ ย่างมหาอุทกภยั ปี พ.ศ. 2554 ยังทำ�ให้ภาคอตุ สาหกรรมไดร้ ับผลกระทบอยา่ งหนกั การ ผลติ หยุดชะงกั วตั ถุดบิ ขาดแคลน การขนส่งสินคา้ ล่าช้า ตน้ ทนุ การขนสง่ ทีส่ ูงขน้ึ การหยุดจา้ งงาน ชว่ั คราวหรอื เลกิ จา้ งถาวร ท้งั ยงั กระทบตอ่ ความเชอื่ ม่นั ของนกั ลงทนุ ซง่ึ ส่งผลทง้ั ในการหมนุ เวียน เศรษฐกจิ ภายในประเทศและการคา้ การส่งออกกบั ตา่ งประเทศดว้ ย 212 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบริหารจัดการความเสี่ยงดา้ นอทุ กภัยอย่างบรู ณาการ

ผลกระทบต่อภาคสังคม ภัยพิบตั ิอาจสรา้ งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนทัง้ ทางดา้ นรา่ งกายและ บทท่ี 6 จิตใจ ประชาชนอาจบาดเจ็บหรอื เสียชีวติ อาจสญู เสยี อาชีพ ถิน่ ท่ีอยูอ่ าศัย โอกาสทางสงั คมตา่ ง ๆ หรอื อาจเสยี โอกาสในการก่อรา่ งสรา้ งตวั ฯลฯ อทุ กภยั ท่สี รา้ งความเสียหายต่อโครงสร้างทางการ ศึกษา อาจทำ�ให้โรงเรียนไม่สามารถเปดิ เรยี นไดต้ ามปกติ นกั เรียนไมส่ ามารถเดินทางมาโรงเรียน ได้ พ่อแม่ทสี่ ญู เสียการประกอบอาชีพอาจไม่มเี งินเพยี งพอในการสง่ เสยี ลกู ท�ำ ให้เด็กตอ้ งหยดุ เรยี นเพอ่ื ไปชว่ ยพอ่ แม่ทำ�มาหากิน สง่ ผลตอ่ เปา้ หมายของประเทศในการพฒั นาการศกึ ษาส�ำ หรบั เดก็ และเยาวชนอาจไมบ่ รรลุเป้าประสงค์ ฯลฯ ความเสียหายจากภัยพบิ ตั อิ าจท�ำ ใหป้ ัญหาความ ยากจนหมดไปไดย้ าก คนท่ีจนอย่แู ลว้ อาจจนมากข้ึน คนที่ไมไ่ ดจ้ นก็อาจจนลงเพราะต้นทนุ ทาง เศรษฐกิจถูกพดั หายไปพร้อมกบั น้ำ�ท่วม หากความเสียหายจากภยั พิบตั ิมีมากเกนิ กว่าจะเยยี วยา ฟ้นื ฟูไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และท่ัวถึง อาจสร้างปัญหาสังคม เช่น การลกั ขโมย ปลน้ จไี้ ด้ สรา้ งความไม่ มนั่ คงทางสังคม ส่งผลต่อเนอ่ื งต่อการพฒั นาประเทศในองค์รวม งบประมาณและทรพั ยากรต่าง ๆ เพ่อื การฟืน้ ฟูและเยยี วยา ภายหลงั การเกิดภยั พิบัติ จะเหน็ ได้ ว่าภาครัฐมักต้องนำ�ใชม้ าตรการในการฟืน้ ฟูเยียวยาตา่ ง ๆ แก่ผู้ทีไ่ ด้รับผลกระทบ โดยเฉพาะใน ภาคเกษตรกรรมที่มักได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้งในทุก ๆ ปี นอกจากนี้ ยังต้อง จัดสรรงบประมาณเพอ่ื การซอ่ มแซมและกอ่ สร้างใหมค่ นื ใหม่ (Reconstruction) ส�ำ หรับระบบ สาธารณูปโภคและโครงสร้างสำ�คัญต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบ เช่น ถนน สะพาน อาคารเรียน โรงพยาบาล ทง้ั ยงั ต้องระดมทรัพยากรเคร่อื งจักร อปุ กรณ์ และก�ำ ลังคนเพอื่ การฟื้นฟบู ูรณะ จ�ำ นวนมาก ท�ำ ให้งบประมาณที่สามารถน�ำ ไปใช้ในการพัฒนาประเทศในดา้ นอื่น ๆ ถูกระงบั หรอื ถกู ตดั ทอนเพ่อื จัดสรรไว้สำ�หรับการฟนื้ ฟูและเยยี วยาแทน แผนพัฒนาชะงักงนั ไม่บรรลตุ ามเป้าหมาย บ่อยครัง้ ทงี่ บประมาณรายปที ห่ี น่วยงานต่าง ๆ ได้ จัดสรรไว้ตอ้ งถกู ปรบั ลดเพื่อจดั สรรงบบางสว่ นไปในการฟื้นฟูหลงั เกดิ ภัย ดงั นัน้ โครงการพัฒนา ตา่ ง ๆ จงึ ไมส่ ามารถดำ�เนนิ การแล้วเสร็จตามที่ต้ังเป้าไว้ นบั เป็นการเสยี โอกาสในการพัฒนา การพัฒนามีความไมแ่ น่นอนจากอทิ ธิพลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ (Climate Change Impacts) การเปลีย่ นแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำ�ให้ภัยทเ่ี ก่ียวกับลมและน้�ำ อาจมีความรุนแรง มากข้ึน เช่น ลมพายุเปลยี่ นทิศทาง มคี วามแรงขึน้ เกดิ ถข่ี ึน้ หรือ เกดิ ข้ึนนอกฤดกู าล ท�ำ ใหร้ บั มือ ไดย้ ากและก่อให้เกดิ ความสูญเสยี ในวงกว้าง การพฒั นาต่าง ๆ เก่ยี วขอ้ งกบั สภาพภมู อิ ากาศ เชน่ การเกษตรกรรม จะมีความไมแ่ นน่ อน พืชผลอาจใหผ้ ลผลติ ที่ลดลงจากการเปล่ียนอณุ หภมู ิ รอบ การท�ำ การเกษตรอาจต้องเปลยี่ นแปลงไปจากการผนั ผวนของฤดูกาล ทำ�ใหเ้ กดิ ความไมแ่ น่นอน ในการวางแผนและด�ำ เนินการเพาะปลูก สร้างผลกระทบเปน็ อย่างยงิ่ ตอ่ การพฒั นาโดยเฉพาะใน ภาคชนบททกี่ ารท�ำ มาหากินขึน้ อยกู่ ับสภาพภมู อิ ากาศเป็นส�ำ คัญ เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รการบรหิ ารจดั การความเส่ยี งด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ 213

บทท่ี 6 3. ภัยพบิ ตั ิสามารถสรา้ งโอกาสในการพฒั นา ภัยพบิ ัติสามารถเปดิ โอกาสส�ำ หรับการพฒั นาสังคม เศรษฐกจิ และส่งิ แวดล้อมในทุกด้านใหด้ ขี ึ้นได้ แมว้ ่า ภยั พบิ ตั ิหลายครง้ั จะสรา้ งความสญู เสียทางเศรษฐกจิ เปน็ อย่างมาก ทงั้ ยงั สรา้ งความเสยี หาย สรา้ งผล กระทบตอ่ สังคมและสิง่ แวดล้อม และท�ำ ใหม้ นษุ ย์เกิดความทุกข์ยาก แต่ทวา่ ในระยะการฟื้นฟบู รู ณะ และ การกอ่ สร้างใหม่หลังเกิดภยั (Recovery and Reconstruction) นัน้ สามารถนำ�บทเรียนจากเหตกุ ารณ์ ภยั พิบัติทเ่ี กิดขึน้ มาศกึ ษาและวเิ คราะห์ถงึ ปจั จัยทีก่ ่อใหเ้ กิดความเสี่ยงตา่ งๆ ท่นี �ำ พาไปสกู่ ารเกิดภยั พิบัติ และพิจารณาถงึ มาตรการทส่ี ามารถลดความเส่ยี งน้นั ๆ และน�ำ มาปรบั ใชอ้ ยา่ งเหมาะสม เพ่อื ลดความ เสย่ี งจากภัยในลกั ษณะเดยี วกันทอ่ี าจเกิดขึ้นได้ในอนาคต มาตรการเพอ่ื ลดความเสีย่ งจากภยั พิบัติ (Disaster Risk Reduction Measures) ทส่ี ามารถด�ำ เนินการ ในระยะฟืน้ ฟบู ูรณะและการกอ่ สรา้ งใหมห่ ลังเกดิ ภัยได้ เชน่ • การย้ายที่อยู่อาศัย สถานที่ทำ�งาน สิ่งก่อสร้าง และสาธารณูปโภคพื้นฐานไปยังพื้นที่ที่มี ความเสี่ยงน้อยกว่า (Relocation) • บทบญั ญัตกิ ารก่อสรา้ งอาคารและขอ้ บงั คบั การใช้ท่ดี ิน (Building Codes and Land Use Regulations) • การน�ำ ใช้เทคโนโลยใี หม่ ๆ ในการกอ่ สร้าง (Construction Technology) ทส่ี ามารถตา้ นทาน ต่อภยั ทอี่ าจเกิดขน้ึ ในอนาคต เชน่ การออกแบบบา้ นลอยน้ำ� จะเห็นไดว้ ่า หลงั การเกดิ ภัยพิบตั ิคร้ังใหญ่ เชน่ ดนิ โคลนถล่มบรเิ วณภาคเหนือตอนลา่ ง พ.ศ. 2549 ได้ มีการวิเคราะหค์ วามเสย่ี งในพ้ืนท่ี ส�ำ รวจท�ำ เลท่ีต้งั ทไ่ี มม่ คี วามเส่ียงหรือเส่ียงน้อยกว่า แล้วยา้ ยถิ่นฐาน ขน้ึ ที่สูง และปลกู สรา้ งบ้านเรือนท่มี โี ครงสรา้ งแข็งแรงกว่าเดมิ ขึ้นมาใหม่ ดงั นั้น การฟน้ื ฟหู ลังเกิดภัยจึง ไม่เพยี งท�ำ ใหส้ ภาพก่อนเกิดภัยกลับคนื มาเหมอื นเดมิ เทา่ นั้น แต่เป็นการท�ำ ใหด้ กี ว่าเดมิ (Build Back Better) ซ่ึงนับวา่ เปน็ ส่วนสนับสนนุ การพัฒนาอยา่ งยง่ั ยนื ได้ สถานการณ์หลงั เกิดภยั พบิ ัตยิ ังสรา้ งความตระหนักรู้ (Awareness) รว่ มกนั ในเรอ่ื งความเสย่ี งภยั และ เหน็ ความส�ำ คญั ทต่ี อ้ งยกระดบั ขดี ความสามารถในการเตรยี มพรอ้ มรบั มอื กบั ภยั ในอนาคต จะเหน็ ไดจ้ าก หลงั เกดิ เหตกุ ารณภ์ ยั พบิ ตั สิ นึ ามใิ นปี พ.ศ. 2547 ทกุ ภาคสว่ นเกดิ ความตระหนกั ในการเตรยี มความพรอ้ ม และมงุ่ เน้นในการสร้างเสรมิ ขดี ความสามารถในการบริหารจดั การภยั อย่างมีประสิทธิภาพ เชน่ การให้ ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการภัย (Community-based Disaster Risk Management) การ ฝึกอบรม การท�ำ แผน การเตอื นภัย การซ้อมแผน สรา้ งเครือข่ายส่ือสาร เพ่อื สร้างความร้คู วามเขา้ ใจ เรื่องภัยและการปฏบิ ตั ิตวั เพอื่ รับมือกบั ภยั ซ่ึงไดร้ ับความรว่ มมือจากชุมชนและผเู้ ก่ยี วข้องทุกฝา่ ยเป็น อย่างดี จากเหตกุ ารณอ์ ุทกภัย ปี พ.ศ. 2554 ท่ีผ่านมา ก็ท�ำ ใหป้ ระชาชนมคี วามตนื่ ตวั และให้ความสนใจ ในการเตรียมพร้อมป้องกันและรับมอื เหตุการณ์อทุ กภยั ที่อาจเกดิ ข้นึ ในอนาคต 214 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบรหิ ารจดั การความเสยี่ งด้านอทุ กภยั อยา่ งบูรณาการ

4. การพฒั นาสามารถก่อใหเ้ กดิ ความเส่ยี งภัย บทท่ี 6 ความเส่ียงจากภยั พบิ ัติ (Disaster Risk) มปี ัจจยั ทเี่ ก่ยี วข้องสามส่วน คอื ภยั (Hazard) ความเปราะบาง (Vulnerability) และขีดความสามารถในการบริหารจัดการ (Capacity) แผนงานหรือโครงการพัฒนา อาจมีส่วนทำ�ให้ความสังคมมีความเปราะบางต่อผลกระทบของภัยเพิ่มมากขึ้นและทำ�ให้มีความเสี่ยง เพิ่มข้นึ ได้โดยไม่ได้ตงั้ ใจ เชน่ การก่อสร้างถนนในบรเิ วณท่ีต่ำ�กวา่ ระดบั น�ำ้ ท่วม หรือสรา้ งถนนท่ีไม่แขง็ แรงพอ ทำ�ใหเ้ กดิ ความเปราะบางในเชิงโครงสรา้ ง (Structural Vulnerability) ท�ำ ให้ถนนนน้ั อาจได้รับ ความเสียหายได้ง่าย เพิ่มความเสีย่ งต่อผูใ้ ช้ถนน อกี ท้งั ถนนก็อาจไมส่ ามารถใชป้ ระโยชนไ์ ด้อย่างเต็มที่ เชน่ ไมส่ ามารถใช้สญั จรไปมาหรอื อพพยผูค้ นได้ในสภาวะวกิ ฤต กระแสการพัฒนาท่ถี ูกกระตุน้ จากแรงผลักดนั ทางเศรษฐกิจและสังคม เพอ่ื ประโยชน์และการตอบสนอง ต่อความต้องการในระยะสน้ั โดยไมค่ �ำ นงึ ถึงผลด้านลบในระยะยาว กอ็ าจกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสีย่ งภัย เช่น การพัฒนาสู่ความเป็นเมืองอย่างรวดเรว็ (Rapid Urbanization) การตั้งถิน่ ฐานอย่างไรร้ ะเบยี บ ในเมืองชั้นในมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประชากรย้ายถิ่นฐานจากชนบทเพื่อหางานทำ�ในตัวเมือง ทำ�ใหค้ วามตอ้ งการในการอยูอ่ าศัยในเมอื งจงึ เพ่มิ ขน้ึ อย่างรวดเร็วตามไปดว้ ย การเตบิ โตของเมือง ใหญ่ที่ขาดการวางแผนอย่างเป็นระบบมักลงท้ายด้วยการที่ประชากรใหม่จำ�นวนมากในชุมชน เมืองมีความเปน็ อยอู่ ยา่ งแออัดในชมุ ชนสลมั ในสภาพอาคารที่อยอู่ าศยั แบบชัว่ คราว สรา้ งสภาวะ ทเี่ ปราะบางหากเกดิ ภยั ใด ๆ ข้นึ นอกจากน้ี ความจ�ำ เปน็ ในการใชส้ อยพ้นื ทใี่ นเมอื ง อาจท�ำ ให้ เกิดการก่อสร้างต่าง ๆ แทนท่ีพ้นื ท่ที ่เี คยใช้ในการระบายน�้ำ หากการพฒั นาโครงสร้างพืน้ ฐานมี ไมเ่ ท่าทนั กบั การเติบโตของเมือง อาจเปน็ เงื่อนไขท�ำ ให้มคี วามเส่ียงเพิ่มขนึ้ ได้ เช่น โครงสรา้ งถนน ทไ่ี มม่ ีระบบการระบายน�ำ้ ทเ่ี พียงพอ เครือข่ายถนนท่หี นาแน่นแต่พ้ืนท่ีสาธารณะและพนื้ ทีว่ ่างมี จำ�นวนนอ้ ย คคู ลองที่ตื้นเขนิ และไมไ่ ดร้ ับการบ�ำ รุงรักษาอยา่ งเหมาะสม เหล่านลี้ ว้ นจะเพม่ิ โอกาส ให้ชมุ ชนเมืองไดร้ ับผลกระทบจากน้�ำ ท่วมได้ และความเส่ยี งจะเพ่มิ มากขนึ้ หากการตง้ั ถน่ิ ฐาน ของประชาชนเหลา่ นอ้ี ย่ใู นบรเิ วณพนื้ ท่หี ุบเขา พืน้ ท่ีลาดชันสงู พนื้ ทร่ี าบน�้ำ ทว่ มถงึ ซงึ่ เป็นพ้ืนท่ี ที่มีความเสยี่ งภยั อยแู่ ล้ว หากไม่มีการวางแผนพฒั นาทด่ี ี จะทำ�ให้พน้ื ทีเ่ หลา่ นม้ี คี วามเสย่ี งเพม่ิ ขึน้ ไดโ้ ดยงา่ ย ทัง้ น้ี รวมถงึ พ้นื ที่ท่ตี ิดตอ่ กบั นคิ มอุตสาหกรรมท่อี าจมีมลภาวะเปน็ พษิ หรือเป็นได้รับ อนั ตรายจากการร่วั ไหลของสารเคมตี า่ ง ๆ เช่นกนั ความเสือ่ มโทรมของสง่ิ แวดลอ้ ม แม้จะมองวา่ ภยั พิบตั เิ ปน็ ปรากฏการณ์ทเี่ กิดขึ้นจากภยั ธรรมชาติ ที่ทำ�ลายล้างมนุษย์ แต่ในทางกลับกันสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและระบบนิเวศน์วิทยาท่ี สมบูรณก์ ส็ ามารถเปน็ ปราการปอ้ งกนั และชว่ ยลดผลกระทบจากภยั พิบตั ไิ ด้ เช่น การมที รพั ยากร ปา่ ไมท้ ี่สมบูรณ์ชว่ ยดดู ซบั น้ำ�และยดึ ดิน ช่วยลดความเสีย่ งจากน้�ำ ปา่ ไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และ เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบริหารจัดการความเสยี่ งด้านอทุ กภยั อยา่ งบรู ณาการ 215

บทท่ี 6 การพงั ทลายของหนา้ ดนิ ได้ ป่าชายเลนยงั ชว่ ยตา้ นลมพายุและเปน็ แหล่งท�ำ มาหากนิ ของชมุ ชน ชายฝง่ั การพฒั นาที่กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสอ่ื มโทรมของสิ่งแวดลอ้ ม เชน่ การเปลย่ี นพนื้ ที่ป่าชายเลน เป็นนากงุ้ การหกั รา้ งถางปา่ เพ่อื เพาะปลกู พชื เชิงเด่ยี วในพืน้ ทลี่ าดชันสูง ฯลฯ จงึ ท�ำ ใหป้ ราการ ปอ้ งกนั และลดผลกระทบจากภัยธรรมชาตถิ ูกท�ำ ลายและท�ำ ใหม้ คี วามเส่ยี งจากภยั เพิ่มขน้ึ 5. การพฒั นาสามารถลดความเส่ียงภัย โครงการพัฒนาในระดบั ต่าง ๆ ทงั้ ในระดับประเทศ ระดับภมู ิภาค ระดบั กล่มุ จังหวดั ระดับจังหวดั และระดับท้องถ่ิน และการพัฒนารายสาขา เช่น การเกษตร การศกึ ษา การสาธารณสขุ การพัฒนา ชนบท เศรษฐกจิ การพัฒนาสังคม สามารถชว่ ยลดภาวะเสีย่ งภัยได้ กล่าวคือ การพัฒนาจะชว่ ยเพ่ิม ขีดความสามารถในการบริหารจัดการภยั (Capacity) และลดปัจจยั ต่าง ๆ ทก่ี ่อใหเ้ กิดความเปราะบาง (Vulnerability) เชน่ • เทคโนโลยกี ารตดิ ต่อสอ่ื สารและเครอื ข่ายสงั คมออนไลน์ (Social Network) ท�ำ ใหก้ ารแจง้ เตือนภัยหรอื การประสานงานตามแผนฉุกเฉินท�ำ ไดอ้ ย่างคล่องตวั และรวดเรว็ • การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมหรือภาพถ่ายทางอากาศเพื่อการพยากรณ์อากาศสามารถทำ�ได้ถูก ต้องและแม่นยำ�มากขึ้น • การพัฒนาชนบท เชน่ การอบรมอาชพี เสรมิ การท�ำ ไรน่ าสวนผสม ท�ำ ให้ภาคครวั เรือนมีทาง เลือกมากขึ้นในการประกอบอาชีพและไม่ต้องพึ่งพากับการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพียงอย่าง เดียว ซ่งึ เสีย่ งตอ่ อุทกภัยและภยั แลง้ • การส่งเสริมการท่องเที่ยวและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวช่วยให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ทำ�ให้ครัวเรือนมรี ายไดม้ ากข้นึ ท�ำ ให้มคี วามเป็นอยู่ทดี่ ขี ึน้ เชน่ สามารถซ่อมแซมบ้านเรอื นให้ อยใู่ นสภาพม่ันคงแขง็ แรง ช่วยลดความเปราะบางตอ่ ภัย • การส่งเสรมิ การรวมกลมุ่ ของชมุ ชน เช่น สหกรณช์ มุ ชน กลุ่มส่งเสรมิ สขุ ภาพชุมชน กลุ่มแม่ บ้าน ฯลฯ เปน็ การสร้างเครอื ข่ายภายในชุมชนให้เข้มแขง็ เรียนรู้การทำ�งานรว่ มกัน แกไ้ ข ปญั หาในชมุ ชน มีการหารอื แลกเปลยี่ นประสบการณร์ ะหว่างชุมชน สามารถใช้เปน็ เครือข่าย ในการแจง้ เตือนหรือช่วยเหลือกนั ยามประสบภยั ได้ • แผนการการพัฒนาเมอื งหรือการสรา้ งเมอื งใหม่ท่คี �ำ นึงถึงความเสีย่ งภัยในพ้นื ท่ี โดยเฉพาะ จดุ เส่ยี งและจุดปลอดภยั สามารถออกแบบผงั เมอื งและสงิ่ ปลูกสรา้ งทีช่ ่วยลดความเสีย่ งใน พนื้ ทไี่ ด้ เช่น ไมก่ ่อสร้างถนนขวางทางนำ�้ ไมส่ รา้ งบา้ นเรือนในทางนำ�้ ผา่ น การเตรียมพื้นท่ี รองรับนำ้�หรือระบายน้ำ�ให้เพียงพอ เป็นตน้ 216 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบริหารจดั การความเส่ยี งด้านอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ

6. การบรู ณาการแนวคิดการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ัติเพ่ือจัดท�ำ แผนพฒั นา บทท่ี 6 เมอ่ื ไดพ้ ิจารณาความสัมพนั ธ์เชิงบวกและลบระหว่างภัยพบิ ตั ิและการพฒั นาแล้ว จงึ เห็นได้ว่าการพัฒนา อยา่ งปลอดภัยและยงั่ ยืนน้นั จะช่วยลดความเสี่ยงจากภยั พิบตั ิได้ ดว้ ยเหตุนี้ ในกระบวนการวางแผน พัฒนา (Development Planning Process) จึงต้องบูรณาการหรือผสมผสานแนวคิดการลดความเสีย่ ง จากภัยพบิ ตั ิเข้าไปด้วย จะเห็นไดว้ ่า มาตรการเพอ่ื ลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั มิ ีอยหู่ ลากหลายท้งั แบบ ที่อาศยั โครงสร้างและไมใ่ ช่โครงสร้างทเ่ี ก่ยี วพันกับภาคการพฒั นาอย่างแยกจากกนั ไมไ่ ด้ แตม่ าตรการ เหล่านีม้ ักจะถกู ด�ำ เนินการโดยภาคการพฒั นาทปี่ ราศจากการค�ำ นึงถงึ ความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั ิ ท�ำ ให้ผล ประโยชน์ท่ไี ด้รบั จากการพฒั นาเหลา่ น้ันในเชิงการลดความเส่ยี งจากภัยพิบัตอิ าจมีไมเ่ ตม็ ท่ี ทั้งยงั จะเพิ่ม ความส่มุ เส่ียงทก่ี ารพฒั นาเหล่าน้ันจะเพ่ิมความเสี่ยงตอ่ ภยั พิบตั โิ ดยไมต่ ั้งใจ หลกั การและเหตผุ ล การท�ำ ให้การลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ัตเิ ป็นประเด็นส�ำ คญั ในการพัฒนา (Mainstreaming Disaster Risk Reduction into Development) หมายถึง การขยายผลและยกระดบั ความส�ำ คัญของการลด ความเสย่ี งจากภยั พบิ ัติ และทำ�ให้ปจั จัยเรอ่ื งการลดความเส่ยี งจากภัยพิบตั เิ ปน็ องคป์ ระกอบสำ�คญั ในข้ัน ตอนตา่ ง ๆ ทงั้ ในวาระการพัฒนาแหง่ ชาติ และยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาของภาคสว่ นตา่ ง ๆ ในประเทศท่ีมี ความเสี่ยงจากภยั ธรรมชาติ วัตถุประสงค์หลัก 3 ประการของการบรู ณาการการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ิ (La Trobe and Davis, 2005) ได้แก่ 1. เพ่อื ให้แผนงานและโครงการพัฒนาท้ังในระดบั ชาตแิ ละในภาคสว่ นตา่ ง ๆ จดั ทำ�ข้นึ โดยมกี าร พิจารณาอยา่ งถีถ่ ้วนถงึ ประเด็นความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั ิทีอ่ าจเกดิ ขน้ึ ได้ และสามารถตา้ นทาน ผลกระทบจากภัยได้ 2. เพือ่ สร้างความแนใ่ จว่าแผนงานและโครงการพฒั นาทั้งในทกุ ระดับและในภาคส่วนต่าง ๆ จะ ไมเ่ พิ่มความเปราะบางโดยไมต่ ง้ั ใจในทุกดา้ น อันได้แก่ ด้านสังคม ด้านกายภาพ ด้านเศรษฐกจิ และดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม 3. เพอ่ื สรา้ งความแนใ่ จวา่ แผนงานและโครงการพฒั นาทง้ั ในระดบั ชาตแิ ละระดบั ภาคสว่ นตา่ ง ๆ ถกู ออกแบบใหม้ สี ว่ นส่งเสริมเปา้ หมายการพัฒนาและลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัตใิ นอนาคต 7. การบูรณาการการลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั เิ พอ่ื จัดทำ�แผนพฒั นา ประเด็นการลดความเส่ียงจากภยั พบิ ัตสิ ามารถบูรณาการให้เปน็ องค์ประกอบส�ำ คัญในขั้นตอนต่าง ๆ ใน การจัดทำ�แผนพัฒนาและโครงการพัฒนาต่างๆ โดยมภี าครัฐเป็นกลไกขบั เคล่อื น เชน่ เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจัดการความเสีย่ งดา้ นอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ 217

บทท่ี 6 • บูรณาการการลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั ิในนโยบายและแผนพัฒนาระดบั ตา่ ง ๆ • แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ • นโยบายของรัฐบาล • กรอบยุทธศาสตร์การพฒั นาภาค และยุทธศาสตร์รายสาขา • แผนพัฒนาจังหวดั และกลุ่มจังหวัด • ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาระดบั ท้องถิน่ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน (องค์การบริหาร ส่วนจังหวัด เทศบาล และตำ�บล) • แผนการใชป้ ระโยชน์ทดี่ นิ (Land Use Plans) • บูรณาการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในการลงทุนของภาครัฐในโครงการขนาดใหญ่ (Public Investment) และการก�ำ หนดงบประมาณและการเงนิ (Budgeting and Financing) • บูรณาการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในการจัดทำ�โครงการและงบประมาณราย ปี ขั้นตอนต่าง ๆ ในการจัดทำ� การขออนมุ ตั โิ ครงการ การก�ำ หนดงบประมาณ เชน่ หลกั เกณฑใ์ นการอนุมตั โิ ครงการ (Criteria for Project Appraisal) การจดั ลำ�ดับความส�ำ คญั (Prioritization) การตรวจสอบและการประเมนิ ผล (Monitoring and Evaluation) • บรู ณาการการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั ใิ นแผนพัฒนาของภาคส่วนตา่ ง ๆ ในการพัฒนา เชน่ เกษตรกรรม ปศุสัตว์ ประมง ป่าไม้ เหมืองแร่ การศกึ ษา สาธารณสุข อตุ สาหกรรม โครงสร้าง พนื้ ฐาน การวางผงั เมอื ง และการใชท้ ด่ี ิน การเคหะ สง่ิ แวดล้อม และทรพั ยากรธรรมชาติ ท้ังน้ี การบรู ณาการแนวคิดการลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ตั ใิ หเ้ ป็นสว่ นหนง่ึ ของการพฒั นา จะสัมฤทธผ์ิ ลได้ หากมีการมุ่งเน้นการท�ำ งานรว่ มกันระหว่างผู้เช่ียวชาญจากหลากหลายสาขา เพ่ือให้เกิดผลในทางปฏิบตั ิ ได้แก่ คณะท�ำ งานเพื่อวางแผนพฒั นาเฉพาะสาขาหรือเฉพาะพ้นื ที่ ผู้เช่ียวชาญดา้ นการลดความเสยี่ ง จากภัยพิบตั ิ วศิ วกรทีด่ นิ ผู้เชยี่ วชาญด้านการวางแผนการใชท้ ด่ี นิ การวางผงั เมือง ผมู้ ีส่วนไดเ้ สีย (ชมุ ชน และผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ ง) อกี ทัง้ ยงั ต้องมีการก�ำ หนดระเบียบ ขอ้ บงั คับ หรือกฎเกณฑ์ทเี่ ออ้ื ตอ่ การปฏิบัติ การบรู ณาการการลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั ใิ นการจัดทำ�แผนพัฒนา อาจมขี ้นั ตอนหลกั ๆ ดังต่อไปนี้ (รปู ที่ 6.1.2) • ประเมนิ ความเสยี่ งภัย (Risk Assessment) ซงึ่ มอี งค์ประกอบ 3 สว่ น (ADPC, 2013) 1. ระบปุ ระเภท ความถี่ ความรนุ แรง พน้ื ท่ที เี่ กิด (Risk Identification) เชน่ หากจะจดั ท�ำ แผนหรอื โครงการพฒั นาในอำ�เภอ ก ตอ้ งบง่ ชี้วา่ ในพน้ื ทน่ี ัน้ เส่ียงตอ่ ภัยประเภทใดบ้าง เชน่ อุทกภัยหรอื ภยั แล้ง และพิจารณาว่าภยั เหล่าน้ันเกิดถีม่ ากนอ้ ยอยา่ งไร เชน่ เกดิ ข้ึนทุกปี เกิด ปีเวน้ ปี หรอื ทุก ๆ กี่ปี พรอ้ มทงั้ ระบุระยะเวลาทเ่ี กดิ ฤดูกาล เดือนทเ่ี กิด เป็นระยะกีว่ ัน ก่ี สัปดาห์ กเี่ ดอื น ครอบคลุมพนื้ ที่ขนาดเท่าใด ความรนุ แรงระดบั ใด เชน่ ส�ำ หรับภัยแลง้ มี แหลง่ น้ำ�ธรรมชาติแห้งขอดกี่แหล่ง หรอื มีปริมาณน้�ำ ลดลงคิดเป็นกีเ่ ปอรเ์ ซนตจ์ ากสภาวะ 218 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสตู รการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงดา้ นอุทกภัยอย่างบรู ณาการ

ปกติ ความช้ืนของดนิ ลดลงก่เี ปอร์เซนต์ ฯลฯ ขอ้ มลู เหล่านไี้ ด้จากสถิตกิ ารเกดิ ภัยทผ่ี ่านมา จากหนว่ ยงานท่เี ก่ียวขอ้ งหรอื สามารถสอบถามไดจ้ ากคนในพื้นที่ แนวโนม้ การเกดิ ภยั ใน อนาคตเปน็ อยา่ งไร เชน่ อาจเกิดบอ่ ยขน้ึ และรุนแรงขนึ้ จากอิทธิพลของสภาวะโลกรอ้ น และ อาจเกิดภยั รปู แบบใหม่ ๆ เปน็ ต้น 2. วเิ คราะหค์ วามเสี่ยง (Risk Analysis) เชน่ ผลกระทบ ซ่งึ รวมถึงความเสยี หาย (Damage) ความสญู เสยี (Loss) ตลอดจนวเิ คราะห์ความเประบางต่าง ๆ ท้งั ความเปราะบางทาง โครงสร้าง (Structural Vulnerability) ทางกายภาพ (Physical Vulnerability) ทาง สังคม (Social Vulnerability) และทางสง่ิ แวดล้อม (Environmental Vulnerability) เช่น วเิ คราะหค์ วามเส่ียงภยั แล้งจากความเสยี หายท่ีเกิดขึ้นในปที ่ีผ่านมา ไรน่ า สวน บอ่ เลย้ี งปลา เสียหายเปน็ จ�ำ นวนเทา่ ใด ในพ้นื ที่ใดบ้าง และคดิ เป็นความสญู เสยี เทา่ ใด และวิเคราะห์ แหลง่ น�ำ้ ธรรมชาติ หรอื อา่ งเกบ็ น�้ำ ในพน้ื ที่ใกลเ้ คยี งทีส่ ามารถใช้ได้ในหน้าแลง้ มีหรอื ไม่ มีน้�ำ มากน้อยเพียงใด อย่ใู กล้ไกลจากชมุ ชนเพียงใด ชมุ ชนมีแทงค์เกบ็ นำ�้ หรอื ไม่ และ ชมุ ชนมี กลไกในการเตรยี มรับมือกับภัยแล้งหรอื ไม่ เปน็ ตน้ 3. ประเมนิ ความเสยี่ ง (Risk Evaluation) นำ�ผลทไี่ ดจ้ ากขัน้ ตอนข้างตน้ มาจดั ล�ำ ดับความ เส่ียง เชน่ เสี่ยงระดบั สงู มาก ระดบั สูง ระดับปานกลาง ระดับต่ำ� และพจิ ารณาวา่ พนื้ ท่ีใดควร ได้รบั การบรหิ ารจัดการความเสี่ยงกอ่ นและหลังอย่างไร เป็นตน้ บทท่ี 6 รูปท่ี 6.1.2 ผงั การบูรณาการการลดความเสีย่ งภัยพิบตั ิเพื่อจดั ท�ำ แผนพฒั นา ในบางพน้ื ทโ่ี ดยเฉพาะในพน้ื ทเ่ี สย่ี งสงู อาจมหี นว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งในระดบั จงั หวดั หรอื หนว่ ยงานสว่ นกลาง เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมพัฒนาที่ดิน กรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรน้ำ� กรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยา หรอื หนว่ ยงานวจิ ยั อน่ื ๆ ไดท้ �ำ การประเมนิ ความเสย่ี งไวแ้ ลว้ เราอาจตดิ ตอ่ ประสานงาน เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงด้านอทุ กภัยอย่างบรู ณาการ 219

บทท่ี 6 เพอ่ื รบั ทราบขอ้ มูลทีม่ อี ยู่ หรอื ในบางพ้ืนทอี่ าจยังไม่มกี ารประเมินความเสยี่ ง หรือจดั ทำ�แลว้ บางสว่ น แต่มีรายละเอยี ดทไ่ี มค่ รบถว้ นตามทต่ี ้องการ ในกรณนี ี้ อาจตอ้ งลงพ้ืนทีเ่ พื่อเก็บขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ โดยใช้ แบบสอบถามหรือด�ำ เนนิ การประเมินความเสยี่ งร่วมกับชมุ ชน โดยประเมนิ จากภูมปิ ระเทศจริงหรือขอ ค�ำ แนะนำ�จากผ้เู ช่ียวชาญในพ้นื ท่ี • พิจารณามาตรการต่าง ๆ ท่เี หมาะสมที่จะนำ�มาใชเ้ พ่อื ลดความเส่ยี งและบรรจุไวใ้ นการจัดท�ำ แผนหรอื ในโครงการพฒั นา มาตราการเพื่อลดความเสี่ยงทั้งมาตรการดา้ นโครงสรา้ งและทไี่ มใ่ ช่ โครงสรา้ ง สามารถดไู ดจ้ ากแผนแม่บท/แผนป้องกันฯ ของกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แผนป้องกันสาธารณภัยจังหวัดหรือท้องถิ่น หรืออาจออกแบบมาตรการใหม่หรือผสมผสาน มาตรการหลายประเภทที่เหมาะกับท้องถิ่นนั้น ๆ เพื่อนำ�มาปฏิบัติในขั้นตอนต่าง ๆ ในการ ดำ�เนินโครงการ • จากน้ันตอ้ งวเิ คราะหค์ วามคมุ้ คา่ (Cost Benefit Analysis) ในแง่การลดความเสยี่ งภยั พบิ ัติ โดยเปรยี บเทยี บการลงทนุ ในการด�ำ เนินโครงการ โดยเฉพาะในพน้ื ทเ่ี สีย่ ง ว่าสามารถก่อใหเ้ กิด ประโยชน์อย่างไรบ้าง ลดความเสีย่ งหรือโอกาสในการสญู เสียหรอื เสียหายเป็นมลู ค่าเทา่ ใด แลว้ ประโยชน์นน้ั ๆ มมี ูลคา่ สงู กว่าตน้ ทนุ หรือไม่ หากไม่ อาจพจิ ารณาเสาะหาพนื้ ที่ใหมท่ ี่เหมาะ สมมากกวา่ หรอื ระงบั โครงการหากพบวา่ มคี วามเส่ียงเพ่มิ ข้นึ และอาจก่อใหเ้ กิดผลเสยี มากกวา่ ประโยชน์ ตัวอย่างการบูรณาการแนวคิดการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเพื่อจัดทำ�แผนพัฒนาและโครงการพัฒนา ด้านต่างๆ มีแสดงให้เห็นในตารางที่ 6.1.1 220 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการบรหิ ารจดั การความเสีย่ งด้านอทุ กภยั อยา่ งบูรณาการ

ตารางท่ี 6.1.1 ตัวอยา่ งการบรู ณาการแนวคดิ การลดความเสีย่ งจากภัยพิบัติเพือ่ จัดท�ำ แผนพัฒนาและ โครงการพฒั นาดา้ นตา่ ง ๆ ภาคการพฒั นา เพอ่ื ตา้ นทานผลกระทบจาก ไมท่ �ำ ให้ความเสยี่ งเพิม่ ขนึ้ ชว่ ยสง่ เสรมิ งานดา้ น ภยั พบิ ตั ใิ นอนาคต การลดความเสี่ยงภยั การเกษตร • จัดทำ�แผนเพาะปลูกฉุกเฉิน • ไม่เพาะปลูกพืชที่ต้องการนำ้� • สนับสนุนอาชีพเสริม ต่าง ๆ ระยะยาว เพื่อรับมือกับการ มากในทเี่ สยี่ งภยั แล้ง หรือการแปรรูปผลผลิตเพ่ือ เปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศ • ใช้วิธีการเพาะปลูกท่ีไม่ทำ�ให้ เพิ่มรายได้ (Livelihood • จัดทำ�แผนส่งเสริมการปลูกพืช ดินสูญเสยี ความชุม่ ชืน้ ซึง่ อาจ Diversification) ใช้น้ำ�น้อย ซึ่งสามารถทนทาน ท�ำ ใหเ้ ส่ียงต่อภัยแล้งมากขนึ้ • สนับสนนุ เร่อื งการตลาด แหล่ง ความแห้งแล้งได้ดี ลดความ • ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ส ภ า พ รับซอื้ และประกนั ราคาขัน้ ตำ�่ เสียหายของผลผลิตในหนา้ แลง้ แวดล้อมตามธรรมชาติเป็น ของผลผลิต • พัฒนาระบบประกันภัยพืชผล พื้ น ท่ี เ ก ษ ต ร ต้ อ ง ทำ � อ ย่ า ง • สร้างระบบเตือนภัยทางการ การเกษตรและการให้สินเชื่อ รอบคอบ ไม่ก่อให้เกิดความ เกษตรให้มีประสิทธภิ าพ เพื่อชดเชยความเสียหายของ เสี่ยง เชน่ การพงั ทลายของหนา้ • จั ด ห า แ ห ล่ ง เ พ า ะ ป ลู ก พื ช ผลผลิต อันเนื่องมาจากภัย ดินหรือการกัดเซาะบริเวณพื้นท่ี อาหารสตั วเ์ พม่ิ เติม ธรรมชาติ ชายฝ่ัง การเคหะ • ออกระเบยี บหา้ มสรา้ งอาคารสงู • ไม่ก่อสร้างอาคารบ้านเรือน • ออกข้อบัญญัติท้องถ่ินเพ่ือ ในพ้ืนท่ีเส่ียงแผ่นดินไหวระดับ กีดขวางทางนำ�้ หรือทางระบาย สนับสนุนการบังคับใช้มาตรา สงู นำ�้ สาธารณะ การสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อลด • การออกแบบอาคารบ้านเรือน ความเสี่ยง เช่น ในพื้นที่เสี่ยง ที่สามารถต้านทานผลกระทบ ภัยดินถล่ม การก่อสร้างบ้าน จากภัยได้ เช่น บ้านลอยน้ำ� ตอ้ งขออนญุ าตจิ ากอบต. อ า ค า ร ท่ีออกแบบให้รองรับ แผน่ ดนิ ไหว • บทบญั ญตั กิ ารกอ่ สรา้ งอาคาร ท่ี ระบุมาตรฐานของเทคนิคการ กอ่ สรา้ งและวสั ดอุ ปุ กรณท์ ใ่ี ช้ • สร้างบ้านเรือนโดยเว้นระยะ ห่างจากชายฝั่ง ในพื้นที่เสี่ยง ภัยสึนามิ สาธารณสขุ • ในพน้ื ทเ่ี สย่ี งน�ำ้ ทว่ ม ปรบั เปลย่ี น • สร้างเครือข่ายสุขภาพชุมชน โครงสร้างโรงพยาบาลให้มีทาง โดยมีการอบรมเร่ืองการรักษา ลาดเชื่อมต่อกับถนนใหญ่เข้าสู่ สุขอนามัย และใหค้ วามรเู้ ร่อื ง ตัวอาคาร โรคตดิ ต่อในชว่ งน้�ำ ท่วม • ประเมินความเสี่ยงภัยใน บทท่ี 6 โรงพยาบาล สถานีอนามัย หรือที่ตั้งหน่วยให้บริการทาง สาธารณสุขในพื้นที่เสี่ยง และ นำ�มาตรการต่างๆ ท่ีเหมาะสม มาใช้ • จัดทำ�แผนเตรียมความพร้อม ของโรงพยาบาล ซอ้ มแผนเพอ่ื ปฏิบัติได้ทันทว่ งที เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเสีย่ งดา้ นอทุ กภัยอยา่ งบรู ณาการ 221

การศึกษา • การสร้างโรงเรียนในพื้นที่ การโยธา เ สี่ ย ง ภั ย น้ำ�ท่วมต้อง ป รับ และผงั เมือง เปลี่ยนโครงสร้างอาคารเรียน ส่ิงแวดล้อม โรงอาหาร ฯลฯ ให้เหมาะสม เชน่ ยกพน้ื ใหพ้ น้ ระดบั น�ำ้ ทว่ มถงึ • โรงเรียนมีแผนเฉพาะกิจเพื่อ รับมือกับภัย นักเรียน และ บุคลากร มีความเข้าใจและ สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง • ผังเมืองจัด Zoning อย่าง • มีข้ันตอนการประเมินความ • ปรับปรุงทางระบายน้ำ� และ เหมาะสมตามสภาพพื้นที่ และ เส่ียงภัยและผลกระทบจาก ระบบคคู ลองใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ ความเสี่ยง มีพื้นที่รองรับน้ำ� ความเสย่ี งภยั (Disaster Risk • เทศบัญญัติท่ีระบุให้การประมูล และพื้นที่สีเขียวเป็น Buffer Impact Assessments) กอ่ น โครงการก่อสร้างต้องมีการ Zone เพื่อป้องกันลมพายุ การออกแบบก่อสร้างถนน ประเมินความเสี่ยงภัยเป็นหนึ่ง • การก่อสร้างสาธารณูปโภค สะพาน และ เมอื ง ในขอ้ พจิ ารณาด้วย ที่ อ อ ก แ บ บ เ พื่ อ ต้ า น ท า น • ไม่ก่อสร้างถนนเป็นแนวกั้นนำ้� ผลกระทบจากอุทกภัย เช่น เพราะจะทำ�ให้นำ้�ท่วมขังนาน ร ะ บ บ ร ถ ไ ฟ ฟ้ า ที่ ส า ม า ร ถ และระบายออกได้ยาก ป้องกันการรั่วซึมของน้ำ� และ ไม่ทำ�ให้ระบบไฟฟ้าขัดข้อง • ก�ำ หนดใหม้ กี ารตรวจสอบสภาพ และบำ�รุงรักษาสาธารณูปโภค อยา่ งสม�ำ่ เสมอ • แผนอนุรักษ์ดินและน้ำ�เพื่อลด • ไม่ใช้ประโยชน์จากทรัพยากร • ส่งเสริมการปลูกป่า และป่า ผลกระทบจากภัย เชน่ ปลูก ธ ร ร ม ช า ติ จ น เ กิ น ร ะ ดั บ ที่ ชายเลน พืชคลมุ ดิน ปลูกหญา้ แฝก เพ่ือ ธรรมชาติจะคงความสมดุลได้ • ใช้พื้นทช่ี มุ่ น�้ำ (Wetland) เปน็ ป้องกันการพังทลายของดิน เช่น ไม่ขุดเจาะน้ำ�บาดาลมาก แก้มลิงธรรมชาติเพ่ือรองรับน้ำ� การทำ�ฝายชะลอนำ้�เพ่ือเพ่ิม เกินไป เพราะอาจเกิดแผ่นดิน หรือบำ�บัดนำ้�เสีย ความชุ่มชนื้ ในดนิ ทรุด และ หลีกเลี่ยงการทำ� เหมืองแร่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดิน ถลม่ 8. การสรา้ งสภาพแวดล้อมท่ีสนับสนนุ การบูรณาการการลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิ บทท่ี 6 ปจั จยั ตา่ ง ๆ ทม่ี สี ว่ นชว่ ยในการสรา้ งสภาพแวดลอ้ มทเ่ี ออ้ื ตอ่ การบรู ณาการการลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ ในการพฒั นา ประกอบด้วย • ผู้บริหารระดบั สูงจะต้องแสดงเจตนารมณ์ (Political Will) ใหก้ ารลดความเสย่ี งจากภัยพิบัตเิ ปน็ วาระแห่งชาติ สนับสนนุ การบรู ณาการการลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ตั ิในการพัฒนาเพือ่ เปน็ กรอบ การด�ำ เนินงาน และชนี้ �ำ แผนพฒั นาในทกุ ภาคส่วนใหส้ อดคล้องและเปน็ ไปในแนวทางเดยี วกนั • การบญั ญตั กิ ฎ ระเบียบ ข้อบงั คับทใ่ี หค้ วามส�ำ คัญกับการลดความเสย่ี งจากภยั พิบตั ใิ นภาคส่วน ตา่ ง ๆ เชน่ ขอ้ กำ�หนดผงั ชุมชนให้มีองค์ประกอบท่ลี ดความเสีย่ งภยั เช่น ระบบระบายน�ำ้ การ ก�ำ จดั ของเสยี ระเบยี บการประกอบกจิ การน�ำ้ บาดาลเพอ่ื คงสมดลุ ทางธรรมชาตแิ ละลดความเสย่ี ง 222 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการบรหิ ารจดั การความเส่ยี งดา้ นอทุ กภัยอย่างบรู ณาการ

การทรดุ ตวั ของพน้ื ดนิ ระเบียบการกอ่ สร้างบา้ นเรอื นรมิ ตลิ่ง และการจัดการชมุ ชนแออัดรมิ ทาง นำ�้ สาธารณะ เป็นต้น • จัดท�ำ ยุทธศาสตรก์ ารบริหารจดั การความเส่ยี งจากภยั พิบตั ริ ว่ มกันเพ่ือผลักดันกฏข้อบงั คับตา่ ง ๆ ให้บงั คบั ใชไ้ ดจ้ รงิ โดยยุทธศาสตร์น้นั ควรจดั ท�ำ ข้นึ จากการมสี ่วนร่วมจากผูม้ ีสว่ นได้เสียทุกระดบั ท้งั จากภาครฐั ภาคประชาสงั คม ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่น ๆ ทห่ี ลากหลาย • สร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เนื่องจากต้องบูรณาการการทำ�งานในหลาย ๆ ด้าน เข้าด้วยกัน เชน่ การประเมินความเสี่ยง มาตรการลดความเส่ยี ง ประเมินความเหมาะสมของ มาตรการต่าง ๆ ที่จะนำ�ไปใช้ในโครงการพัฒนา ดังนั้นจึงต้องการความรู้ความสามารถจาก ผู้เช่ียวชาญและหน่วยงานทีห่ ลากหลาย ความรว่ มมือจึงเปน็ สง่ิ ส�ำ คญั • การสนบั สนนุ ด้านงบประมาณ การบรู ณาการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบตั ใิ นโครงการพัฒนา อาจทำ�ให้โครงการมีงบประมาณที่เพิ่มขึ้น เช่น โครงการบูรณะโบราณสถาน ถ้าจะดำ�เนิน โครงการในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำ�ท่วม อาจต้องใช้งบประมาณด้านการซ่อมแซมหรือป้องกันในด้าน โครงสร้างเพิม่ ขน้ึ เม่อื เทยี บกบั ในพ้ืนท่ีท่ีไม่มีความเสีย่ ง ผู้อนมุ ัติโครงการและควบคุมงบประมาณ ตอ้ งเหน็ ถงึ ความจ�ำ เปน็ ดงั กลา่ ว อนง่ึ ผนู้ ำ�เสนอโครงการต้องสามารถช้ีให้เห็นถึงความค้มุ ค่าและ ประโยชน์ในระยะยาวในการลงทุนเพ่อื ลดความเสย่ี งจากภัยพิบัติได้ บทท่ี 6 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบริหารจัดการความเส่ยี งด้านอุทกภัยอย่างบูรณาการ 223

บทท่ี 6 เอกสารอา้ งองิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (พ.ศ. 2553). แผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่ง ชาติในเชิงยุทธศาสตร์ พ.ศ. 2553-2562 (Strategic National Action Plan (SNAP) on Disaster Risk Reduction 2010-2019) สำ�นกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติสานักนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2555). แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติฉบับที่สิบเอ็ด พ.ศ. 2555 – 2559 หนา้ 3, 5, 7, 8, 16 ADPC (Asian Disaster Preparedness Center) (2008). RCC Guideline on Mainstreaming DRR in school curriculum. ADPC (Asian Disaster Preparedness Center) (2008). RCC Guideline on integrating disaster risk assessment in planning stage of road projects. ADPC (Asian Disaster Preparedness Center) (2013). Integrating Disaster Risk Management into the Development Process. Benson, C. and Twigg, J. (2007) Tools for Mainstreaming Disaster Risk Reduction: guidance notes for development organizations. DMTP (Disaster Management Training Programme) (1994). 2nd. Disaster and Development. La Trobe, S. and Davis, I. (2005) Mainstreaming Disaster Risk Reduction: A tool for development organizations. Tearfund. UNISDR (United Nations Office for Disaster Risk Reduction) (2004). Guidelines for mainstreaming disaster risk assessment in development, Disaster risk reduction for sustainable development in Africa World Bank and United Nations (2010). Natural Hazards, Unnatural Disasters: The Economic of effective prevention. 224 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบรหิ ารจัดการความเสยี่ งด้านอุทกภัยอยา่ งบูรณาการ

จดบันทึก บทท่ี 6 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการบรหิ ารจัดการความเสีย่ งดา้ นอุทกภัยอย่างบรู ณาการ 225

บทท่ี 6 จดบันทึก 226 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจัดการความเส่ยี งดา้ นอุทกภยั อยา่ งบูรณาการ

บทท่ี 6 เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลกั สตู รการบรหิ ารจดั การความเสย่ี งดา้ นอุทกภยั อย่างบรู ณาการ 227

บทท่ี 6 228 เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลกั สูตรการบรหิ ารจดั การความเส่ยี งดา้ นอทุ กภยั อย่างบรู ณาการ