Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คำอธิบายจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

คำอธิบายจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

Description: องค์ประกอบตำรับยาสมุนไพร จำนวน 205 ตำรับ ประกอบด้วยสมุนไพรมากกว่า 800 ชนิด.

Search

Read the Text Version

138  คำ�อธิบายจารึกตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ลำ� ดับทข่ี องต�ำรบั ในต�ำรา: ๗๏๘ ช่อื โรค: สนั ทฆาต อาการ: ทำ� ใหเ้ บาหยดใหป้ วดเปน็ กำ� ลงั เปน็ โลหติ เนา่ จาง ตกออกมากด็ ี โลหติ สกุ ตกออกมากด็ ี สรรพคุณของตำ� รับ: แก้สันทฆาต มุตกิต มตุ ฆาต สว่ นประกอบของต�ำรับ: เปลอื กโลด หินประการงั แดง ดีปลี น้ำ� ประสารทองสะตุ วธิ ปี รงุ ยา: บด รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: นำ�้ ซาวขา้ ว หรือนำ้� ออ้ ยแดง วิธีใช:้ ละลายน�้ำซาวข้าว หรือนำ�้ ออ้ ยแดง กิน รายละเอยี ดของตวั ยา/สมุนไพรในตำ� รับ ลำ� ดบั ตัวยา/สมุนไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชือ่ วิทยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ สว่ น ๑ เปลือกโลด Trigonostemon reidioides *โลดแดง เปลือกต้น (Kurz) Craib Euphorbiaceae *โลดขาว Trigonostemon albiflorus Airy Shaw ๒ หนิ ประการังแดง *ชนิ้ ส่วน Corallium Cuvier, 1798 Coralliidae ๑ สว่ น ปะการงั Piperaceae ๑ ส่วน ๓ ดปี ลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl ๑ ส่วน ๔ น้าประสารทอง *ผงน�ำ้ Sodium borate (borax) *น้�ำประสานทอง ประสานทอง หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดนนั้  ๆ ทีน่ ำ� มาใช้เปน็ ยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 138 2/11/20 15:58

การวเิ คราะหต์ �ำ รบั ยาสมนุ ไพรในจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  139 ล�ำดับที่ของตำ� รบั ในตำ� รา: ๗๏๙ ๒บทที่ ช่ือโรค: สันทฆาต อาการ: ทำ� ใหเ้ บาหยดใหป้ วดเปน็ กำ� ลงั เปน็ โลหติ เนา่ จาง ตกออกมากด็ ี โลหติ สกุ ตกออกมากด็ ี สรรพคุณของตำ� รับ: แกส้ ันทฆาต มุตกดิ สว่ นประกอบของตำ� รับ: สมอเทศ โคกกระสุน รากราชพฤกษ์ หินประการงั โกฐจุฬาลัมพา เสมอภาค วธิ ีปรงุ ยา: ตม้ กับนำ้� ๓ สว่ น เค่ยี วใหเ้ หลอื ๑ ส่วน รูปแบบยา: ยาต้ม วิธีใช:้ กนิ รายละเอยี ดของตวั ยา/สมุนไพรในตำ� รับ ล�ำดับ ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้ ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ สมอเทศ *ผล Terminalia arjuna (Roxb. Combretaceae ๑ ส่วน ex DC.) Wight & Arn. ๒ โคกกระสนุ *ทัง้ ต้น Tribulus terrestris L. Zygophyllaceae ๑ สว่ น ๓ รากราชพฤกษ์ ราก Cassia fistula L. Fabaceae ๑ สว่ น ๔ หินปะการัง *ชิน้ ส่วน Fungia fungites (L.) หรอื Fungiidae ๑ สว่ น *ปะการังเห็ด ปะการงั Acropora formasa (Dana) Acroporidae *ปะการงั เขากวาง ๕ โกฐจุฬาลัมพา *ส่วนเหนอื ดนิ Artemisia annua L. Asteraceae ๑ ส่วน (Compositae) หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนิดนนั้  ๆ ท่ีนำ� มาใช้เป็นยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 139 2/11/20 15:58

ชดุ ตำราภูมปิ ญ ญาการแพทยแ ผนไทย ฉบับอนุรกั ษ ภาพจารกึ แผน ที่ 22 คำจารกึ แผน ท่ี 22 กองคุ้มครองภูมปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและพนื้ บ้านไทย ๑. ๏สิทธิการยิ ะ ๒. จกลาวกมุ ารกมุ ารีเกดิ เสาร ๓. ทรางโจรเปนเจา เรอื น ทรางนางรนิ เปนทราง ๔. จรหละ ชอื่ มหานลี กาล ลอองชอ่ื ลอองทบั ทมิ ลมชือ่ กมุ ย๕. ภณั ฑยกั ษจรประจำทรางโจรวนั เสาร ฯ ในอาการทรางโจรนั้นสำแดงออกมา ้านไทลา ง 64 ะพน้ื บ๖. ทปี ากกุมาร แลเหงือกขาง ทรางจำพวกน้มี ีตัวดัง่ ไรใหเจ็บทวั่ สารพาง ทำใหเ ปอยออก แลบน นไทย๗. เปนขุมทั่วทังตัวใหลงทองมิหยุดเปนบิดปวดมวนใหดากแตกออกมาใหครานน้ำใหผอมเหลือง ย์แผใหบังเกิด าการแพท๘. ลอองข้ึนดาดไปทังส้ิน ใหขอบริมสีปากด่ังยวงฝายด่ังน้ี ฯ ถาจแกเอาอัคนิชวา ลูกราชดัด ลกู ปคำดคี วาย ลกู จนั เมดในมะ ญั ญ๙. นาว ฝน ดีงูเหลือม เสมอภาคทำเปนจุณบดทำแทงลายสุรากินแกพิศทรางโจร ถาสลบวันยังค่ำ รองภูมปิก็ดีแทรก ทองคำเปลวใหก ินฟนแลแก กองคุ้มค๑๐.พิศทรางแดงก็ไดดีนัก ฯ ยาช่ือเหลืองหรคุณเอารงทองปงใหสุกลูกจันขม้ินออยสิ่งละ 1 พมิ เสน หรดาลทอง 1 ทำ 2 ๑๑. เปนจณุ บดทำแทงไวล ายสุรากินแกท รางโจรลอองเพลิงหายกวาดก็ได ฯ ยาชื่อ ขาวกะบัง พมิ เสน ลูกจนั 2 เบีย้ ผเู ผา จนั ขาวสิง่ ละ 1 กบัง 1 ทำเปนจุณบดทำแทง ลายสรุ ากิน ๑๒. ดอกจนั สง่ิ ละ 1 ๑๓. แกทรางโจร ลอองขาว หายกวาดกไ็ ด ฯ ยาชื่อเขยี วขีท้ อง ลกู จนั ดอกจัน กระ ๑๔. วาร การพลู การบนู โหราเดอื ยไกสง่ิ ละ 1 เขยี วขท้ี อง 1 ๑๕. ทำเปนจณุ บดทำแทง ลายสุรากินแกท รางโจรลออง ๑๖. เขยี วหาย ถา จะกวาดก็ได ๑๗. วเิ ศศนกั แล ๚๛ Book-7.indd 140 2/11/20 15:58

การวิเคราะห์ตำ�รับยาสมุนไพรในจารกึ ตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  141 ค�ำอา่ นจารกึ แผน่ ที่ ๒๒ ๒บทที่ ชือ่ ต้นฉบับ: คำ� อ่านจารกึ แผ่นท่ี ๒๒ ลำ� ดับทข่ี องต�ำรบั ในต�ำรา: ๘๏๐ ชื่อโรค: ซางโจร อาการ: ส�ำแดงออกมาที่ปากกุมารและเหงือกข้างล่างข้างบน ซางจ�ำพวกน้ีมีตัวด่ังไรให้เจ็บ ท่ัวสรรพางค์ท�ำให้เปื่อยออกเป็นขุมทั่วทั้งตัว ให้ลงท้องมิหยุดเป็นบิดปวดมวน ให้ดากแตก ออกมาใหค้ รา้ นนำ้� ใหผ้ อมเหลอื ง ใหบ้ งั เกดิ ละอองขนึ้ ดาดไปทงั้ สน้ิ ใหข้ อบรมิ ฝปี ากดงั่ ยวงฝา้ ย สรรพคณุ ของตำ� รบั : แกพ้ ิษซางโจร ส่วนประกอบของต�ำรับ: อัคนีชวา ลูกราชดัด ลูกประค�ำดีควาย ลูกจันทน์ เม็ดในมะนาว ฝิน่ ดีงูเหลอื ม เสมอภาค วิธปี รงุ ยา: ท�ำเปน็ ผงละเอยี ด ปั้นเปน็ แทง่ รปู แบบยา: ยาปนั้ แทง่ กระสายยา: สุรา ทองค�ำเปลว วธิ ีใช้: ละลายน�้ำสรุ า ถา้ มีอาการหมดสตใิ หแ้ ทรกดว้ ยทองคำ� เปลว แก้พษิ ซางแดงก็ได้ กนิ รายละเอียดของตัวยา/สมนุ ไพรในตำ� รบั ล�ำดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร สว่ นทีใ่ ช้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ ๑ อคั นีชวา ยงั ไม่สามารถระบุได้ ๑ ส่วน *อคั คที วารหรือตรชี วา ๒ ลกู ราชดัด ผล Brucea javanica (L.) Merr. Simaroubaceae ๑ สว่ น ๓ ลกู ประคำ� ดคี วาย ผล Sapindus rarak DC. Sapindaceae ๑ ส่วน ๔ ลกู จันทน์ *เมลด็ Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๑ สว่ น ๕ เมด็ ในมะนาว *เม็ดใน Citrus aurantiifolia Rutaceae ๑ ส่วน (Christm.) Swingle ๖ ฝิน่ *ยางจากผล Papaver somniferum L. Papaveraceae ๑ สว่ น ๗ ดงี ูเหลอื ม ดี Python reticulatus Pythonidae ๑ ส่วน (Schneider, 1801) หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดน้นั  ๆ ทน่ี ำ� มาใช้เปน็ ยากนั โดยทวั่ ไป Book-7.indd 141 3/25/20 21:42

142  คำ�อธิบายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร ลำ� ดับทีข่ องต�ำรับในตำ� รา: ๘๏๑ ชอ่ื โรค: ซางโจร อาการ: ส�ำแดงออกมาท่ีปากกุมารและเหงือกข้างล่างข้างบน ซางจ�ำพวกนี้มีตัวดั่งไรให้เจ็บ ท่ัวสรรพางค์ท�ำให้เปื่อยออกเป็นขุมทั่วทั้งตัว ให้ลงท้องมิหยุดเป็นบิดปวดมวน ให้ดากแตก ออกมาใหค้ รา้ นนำ�้ ใหผ้ อมเหลอื ง ใหบ้ งั เกดิ ละอองขนึ้ ดาดไปทง้ั สน้ิ ใหข้ อบรมิ ฝปี ากดง่ั ยวงฝา้ ย สรรพคณุ ของต�ำรบั : แกซ้ างโจรและละอองเพลงิ ช่อื ตำ� รับ: เหลืองหรคุณ สว่ นประกอบของต�ำรบั : รงทองปิง้ ให้สุก ลูกจันทน์ ขม้ินอ้อย สงิ่ ละ ๑ เฟอื้ ง พมิ เสน ๒ ไพ หรดาลกลีบทอง ๑ บาท วิธปี รงุ ยา: ท�ำเปน็ ผงละเอยี ด ปนั้ เปน็ แทง่ รูปแบบยา: ยาปน้ั แท่ง กระสายยา: สรุ า วิธีใช:้ ละลายนำ�้ สรุ า กนิ หรอื กวาด รายละเอยี ดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ ลำ� ดับ ตัวยา/สมนุ ไพร ส่วนที่ใช้ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปริมาณที่ใช้ Guttiferae ๑ เฟอ้ื ง ๑ รงทอง *ยางจากต้น Garcinia hanburyi Hook.f. Myristicaceae ๑ เฟื้อง Zingiberaceae ๑ เฟอ้ื ง ๒ ลกู จนั ทน์ *เมลด็ Myristica fragrans Houtt. ๓ ขมิ้นอ้อย *เหง้า Curcuma zedoaria (Christm.) Roscoe ๔ พิมเสน *ส่งิ สกดั จาก Dryobalanops aromatic C. F. Dipterocarpaceae ๒ ไพ เปลอื กต้น Gaertn. ๕ หรดาลกลบี ทอง *ผลึกหรดาล Arsenic trisulfide ๑ บาท (ฆา่ ฤทธ์ิ) หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นน้ั  ๆ ที่น�ำมาใชเ้ ปน็ ยากันโดยท่วั ไป Book-7.indd 142 3/26/20 13:33

การวิเคราะห์ตำ�รบั ยาสมนุ ไพรในจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  143 ลำ� ดบั ทีข่ องต�ำรับในต�ำรา: ๘๏๒ ๒บทท่ี ชือ่ โรค: ซางโจร อาการ: ส�ำแดงออกมาท่ีปากกุมารและเหงือกข้างล่างข้างลน ซางจ�ำพวกนี้มีตัวด่ังไรให้เจ็บ ทั่วสรรพางค์ท�ำให้เปื่อยออกเป็นขุมท่ัวทั้งตัว ให้ลงท้องมิหยุดเป็นบิดปวดมวน ให้ดากแตก ออกมาใหค้ รา้ นนำ้� ใหผ้ อมเหลอื ง ใหบ้ งั เกดิ ละอองขน้ึ ดาดไปทง้ั สนิ้ ใหข้ อบรมิ ฝปี ากดงั่ ยวงฝา้ ย สรรพคณุ ของต�ำรบั : แกซ้ างโจร และละอองขาว ชอื่ ตำ� รบั : ขาวกะบงั ส่วนประกอบของต�ำรับ: พิมเสน ๒ ไพ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ สิ่งละ ๑ เฟื้อง เบี้ยผู้เผา จนั ทนข์ าว สง่ิ ละ ๑ สลึง กะบงั ๑ บาท วิธีปรงุ ยา: ทำ� เปน็ ผงละเอยี ด ปน้ั เปน็ แท่ง รูปแบบยา: ยาปน้ั แทง่ กระสายยา: น้�ำสุรา วิธใี ช:้ ละลายนำ้� สรุ า กนิ หรือกวาด รายละเอยี ดของตัวยา/สมุนไพรในต�ำรบั ลำ� ดับ ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ Dryobalanops aromatic Dipterocarpaceae ๒ ไพ ๑ พิมเสน *ส่ิงสกดั จาก C. F. Gaertn. เปลือกต้น Myristica fragrans Houtt. Myristica fragrans Houtt. ๒ ลูกจันทน์ *เมล็ด Myristicaceae ๑ เฟอ้ื ง Cypraea obvelata Myristicaceae ๑ เฟอื้ ง ๓ ดอกจันทน์ *เยอ่ื หมุ้ (Lamarck, 1810) เมล็ด Santalum album L. ยงั ไม่สามารถระบไุ ด้ ๔ เบ้ียผู้ *เปลอื กหอย Cypraeidae ๑ สลึง ๕ จันทนข์ าว *แก่น Santalaceae ๑ สลึง ๖ กะบัง ๑ บาท หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ น้ัน ๆ ทนี่ �ำมาใชเ้ ป็นยากนั โดยท่ัวไป Book-7.indd 143 3/26/20 14:40

144  ค�ำ อธบิ ายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร ล�ำดบั ที่ของตำ� รบั ในต�ำรา: ๘๏๓ ชื่อโรค: ซางโจร อาการ: ส�ำแดงออกมาที่ปากกุมารและเหงือกข้างล่างข้างบน ซางจ�ำพวกน้ีมีตัวด่ังไรให้เจ็บ ท่ัวสรรพางค์ท�ำให้เปื่อยออกเป็นขุมทั่วท้ังตัว ให้ลงท้องมิหยุดเป็นบิดปวดมวน ให้ดากแตก ออกมาใหค้ รา้ นนำ�้ ใหผ้ อมเหลอื ง ใหบ้ งั เกดิ ละอองขนึ้ ดาดไปทง้ั สน้ิ ใหข้ อบรมิ ฝปี ากดง่ั ยวงฝา้ ย สรรพคุณของตำ� รับ: แกซ้ างโจร และละอองเขียว ชือ่ ตำ� รับ: ยาเขียวขที้ อง ส่วนประกอบของต�ำรับ: ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู การบูร โหราเดือยไก่ สงิ่ ละ ๑ เฟ้ือง เข้ียวขี้ทอง ๑ บาท วธิ ีปรุงยา: ทำ� เป็นผงละเอียด ป้นั เป็นแท่ง รปู แบบยา: ยาปน้ั แท่ง กระสายยา: น�้ำสรุ า วธิ ีใช:้ ละลายนำ้� สรุ า กนิ รายละเอียดของตวั ยา/สมนุ ไพรในต�ำรับ ล�ำดับ ตัวยา/สมุนไพร ส่วนทีใ่ ช้ ช่ือวิทยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ Myristicaceae ๑ เฟือ้ ง ๑ ลกู จันทน์ *เมลด็ Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๑ เฟื้อง ๒ ดอกจันทน์ *เยือ่ ห้มุ Myristica fragrans Houtt. Zingiberaceae ๑ เฟือ้ ง เมลด็ ๓ กระวาน *ผล Amomum testaceum Ridl. ๔ กานพลู *ดอกตมู Syzygium aromaticum (L.) Myrtaceae ๑ เฟื้อง ๕ การบรู Merr. & L. M. Perry ๑ เฟอ้ื ง *ส่ิงสกดั จาก Cinnamomum camphora (L.) Lauraceae เปลอื กตน้ J. Presl เน้อื ไม้และใบ หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดนั้น ๆ ทีน่ ำ� มาใชเ้ ป็นยากนั โดยท่วั ไป Book-7.indd 144 3/25/20 21:48

การวิเคราะหต์ �ำ รบั ยาสมนุ ไพรในจารึกตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  145 ลำ� ดบั ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนทีใ่ ช้ ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปรมิ าณที่ใช้ Ranunculaceae ๑ เฟ้ือง ๖ โหราเดือยไก่ *เหงา้ Aconitum carmichaelii Debeaux ๑ บาท ๗ เขียวขี้ทอง# ยงั ไมส่ ามารถระบุได้ # สเี ขยี วต้งั แช (Khiaotangsae) เปน็ ภาษาจนี แตจ้ วิ๋ (กวางตงุ้ เรียก ถง่ เชง้ ) ๒บทที่ ตั้ง = ทองเหลอื ง ทองแดง แช = เขยี ว เปน็ สีครามอมเหลือง มาจากสนิมเขียวจากทองแดง บางที เรียก เขยี วตง้ั แชฅ หรือ Green Bronzes หรือ เขยี วขีท้ อง (Khiaokithong) T4030 (C100 M20 Y60 K20) ซึ่งสมัยก่อนมีการเรียกโลหะทองแดงว่าทองเหมือนกัน ซึ่งอาจารย์จุลทัศน์ พยาฆรานนท์ (ราชบณั ฑติ ) ไดก้ ล่าวว่าสีเขียวตั้งแชมีหลายเฉดสี สีเขยี วเขม้ สุดเป็นสีเขยี ว Veridien ซึง่ เปน็ สอี ัตลักษณ์ ของมหาวทิ ยาลัยศลิ ปากรเดมิ อยูแ่ ลว้ ซ่ึงเปน็ สขี องนำ�้ ทะเลลกึ หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ น้นั  ๆ ทีน่ �ำมาใชเ้ ป็นยากนั โดยทวั่ ไป Book-7.indd 145 3/26/20 19:03

จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ภาพจารกึ แผน ที่ 23 คำจารึกแผนท่ี 23 กองคุ้มครองภูมปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยและพ้ืนบา้ นไทย ๑. ๏ สทิ ธิการิยะ ๒. ถาบทุ คลผูใ ดบงั เกิดจกั ษุโรค ๓. เปนตอก็ดเี ปนตาชำ้ ก็ดี เปนเพอ่ื ลมขึ้นสูง ๔. ตาเปนหมอกมวั ไปกด็ ี ฯ ถา จะแกเอาเปลือกสม เสย้ี ว ย๕. เปลือกชา งนา ว เปลอื กมะไฟ รากสมกุง หวั ถว่ั ภู ลง่ิ ละ 1 ฝน 67 ้านไท๖. ล้ินทเล สเี สียดเทษ สง่ิ ละ 2 ดงี เู หลอื ม 2 ทำเปนจณุ บดดว ยนำ้ แกนปะ ะพนื้ บ๗. ดูตม ทำแทงไวใ สต าฤษดวง ฝในตาเลือดหนองไหลออกมากด็ แี ล เล่อื มตามิขึน้ ก็ดี ใสหายวิเศศนัก ๚ ยแล๘. ๏ ขนานหนึ่งเอา ดินถน้ำ ดินสีพอง ส่ิงละ 1 เปราะหอม 2 พิมเสน ฝน ดีงูเหลือม แ์ ผนไทสงิ่ ละ 1 ทำเปนจุณบด ทย๙. ดวยน้ำใบแมงลัก น้ำแกนปดูระคนกัน ทำแทงไวใสตา แกสรรพพิศตอ ทังปวงหาย ฯ อน่ึงเอา าการแพโคนสพั รศ ยา เกลดหอย ยาดำ หวั ญ๑๐. หอม เอาเสมอภาคทำเปนจุณเอาน้ำดีจรเข ดีงูเหลือม ดีตพาบน้ำเปนกระสายบดทำแทงไวใสตา ิปัญเนอ้ื รองภูมกัดตอ คสาย กองค้มุ๑๑. ตอรำใย หายวเิ สศดีนกั ฯ ยาชือ่ สงั ขรัศมีเอา สงั ข เบี้ยผู ตกุ กะต่ำทอง ดินถนำ้ ยาทงั ๑๒. นี้ชำระดว ยไมส ะแกใหบริสุทธ์ิ สุพรรณถนั แดง เอาเสมอภาคบดดว ยน้ำมะ ๑๓. พราวนารีเก ทำแทงไวใสจ กั ษุโรคทังปวง เกจ ใหแผว ตอ หมอกฝน ๑๔. ดวย นำ้ ดอกมะลิ ถา จะแกต าฤษดวง ฝนดวยนำ้ มะนาว ๑๕. ถา จะใหด บั พศิ รอน ฝนดวยนำ้ เถาตำลงึ เปา ๑๖. เอานำ้ ใสหาย วเิ สศประ ๑๗. เสริ ฐ ดนี กั ๚๛ Book-7.indd 146 2/11/20 15:58

การวิเคราะห์ตำ�รับยาสมุนไพรในจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  147 คำ� อ่านจารึกแผน่ ที่ ๒๓ ๒บทท่ี ชอื่ ตน้ ฉบับ: ค�ำอา่ นจารกึ แผ่นที่ ๒๓ ลำ� ดับท่ขี องตำ� รับในตำ� รา: ๘๏๔ ช่อื โรค: จักษุโรค อาการ: บงั เกิดจกั ษโุ รคเป็นตอ้ กด็ ี เป็นตาช�ำ้ ก็ดี เปน็ เพื่อลมเบือ้ งสงู ตาเป็นหมอกมวั สรรพคุณของต�ำรับ: แกร้ ดิ สีดวงตา ฝใี นตา ท�ำใหเ้ ลอื ดและหนองไหลจากตา ลืมตาไมข่ น้ึ สว่ นประกอบของตำ� รบั : เปลือกสม้ เสย้ี ว เปลอื กช้างน้าว เปลือกมะไฟ รากส้มกุ้ง หัวถ่วั พู สงิ่ ละ ๑ บาท ฝิ่น ลนิ้ ทะเล สีเสียดเทศ สง่ิ ละ ๒ สลงึ ดงี ูเหลือม ๒ สลงึ วิธปี รุงยา: ท�ำเป็นผงละเอยี ด บดด้วยน้ำ� แก่นประดตู่ ้ม ป้ันเปน็ แท่ง รปู แบบยา: ยาป้นั แทง่ กระสายยา: นำ�้ แกน่ ประดู่ วธิ ใี ช:้ ใส่ตา รายละเอียดของตัวยา/สมุนไพรในตำ� รบั ลำ� ดบั ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนท่ใี ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ ๑ เปลือกสม้ เส้ยี ว เปลอื กต้น Bauhinia malabarica Fabaceae ๑ บาท Roxb. ๒ เปลอื กช้างน้าว เปลอื กตน้ Gomphia serrata (Gaertn.) Ochnaceae ๑ บาท Kanis ๓ เปลอื กมะไฟ เปลือกต้น Baccaurea ramiflora Lour. Phyllanthaceae ๑ บาท ๔ รากส้มกงุ้ ราก Ardisia amherstiana A.DC. ๑ บาท -*ส้มกุ้งใหญ่ *หวั ใต้ดิน var. amherstiana หรือ Myrsinaceae Embelia ribes Burm. f. -*สม้ กงุ้ น้อย ๕ หวั ถ่ัวพู Psophocarpus papilioneae ๑ บาท tetragonolobus (L.) DC. หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นัน้  ๆ ท่นี �ำมาใชเ้ ป็นยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 147 2/11/20 15:58

148  ค�ำ อธบิ ายจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ล�ำดบั ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนทีใ่ ช้ ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ Papaveraceae ๒ สลงึ ๖ ฝนิ่ *ยางจากผล Papaver somniferum L. Sepiidae ๒ สลงึ ๗ ลิ้นทะเล *กระดองของ Sepia spp. Rubiaceae ๒ สลึง ปลาหมกึ กระดอง Pythonidae ๒ สลึง ๘ สีเสยี ดเทศ *ยาง สง่ิ สกดั จาก Uncaria gambir (Hunter) เปลือกและตน้ Roxb. (oleoresin) ๙ ดีงเู หลอื ม ดี Python reticulates (Schneider, 1801) ล�ำดบั ที่ของตำ� รบั ในต�ำรา: ๘๏๕ ช่อื โรค: จักษโุ รค อาการ: บังเกดิ จกั ษุโรคเป็นตอ้ กด็ ี เป็นตาชำ�้ กด็ ี เปน็ เพือ่ ลมเบอื้ งสงู ตาเป็นหมอกมวั สรรพคุณของตำ� รบั : แก้สรรพพิษตอ้ สว่ นประกอบของตำ� รบั : ดินถน�ำ ดินสอพอง สงิ่ ละ ๑ บาท เปราะหอม ๒ บาท พิมเสน ฝน่ิ ดงี เู หลอื ม สิง่ ละ ๑ สลงึ วิธีปรุงยา: ท�ำเป็นผงละเอียด บดด้วยน�้ำต้มจากใบแมงลัก ผสมน้�ำต้มจากแก่นประดู่ อย่างละเทา่ กัน ปน้ั เปน็ แทง่ รปู แบบยา: ยาป้ันแท่ง กระสายยา: นำ้� ใบแมงลักต้มผสมกบั น้ำ� แก่นประด่ตู ม้ วิธีใช:้ หยอดตา รายละเอยี ดของตวั ยา/สมุนไพรในตำ� รบั หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนิดน้ัน ๆ ทนี่ �ำมาใชเ้ ปน็ ยากันโดยทว่ั ไป Book-7.indd 148 2/11/20 15:58

การวิเคราะหต์ �ำ รบั ยาสมุนไพรในจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  149 ล�ำดบั ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปรมิ าณทีใ่ ช้ ๑ ดินถนำ� เนอื้ ดิน ดินชนิดหนง่ึ สีเหลืองใช้ส�ำหรับท�ำยา ๑ บาท ๒ ดนิ สอพอง *ก้อน Marl ๑ บาท ดนิ สอพอง ๓ เปราะหอม *หัว Kaempferia galanga L. Zingiberaceae ๒ บาท ๔ พมิ เสน *สิ่งสกดั จาก Dryobalanops aromatic C. F. Dipterocarpaceae ๑ สลงึ เปลอื กต้น Gaertn. ๕ ฝน่ิ ดี Python reticulates ๑ สลึง บทท่ี ๖ ดงี ูเหลอื ม ๑ สลึง ๒(Schneider, 1801) *ยางจากผล Papaver somniferum L. Papaveraceae Pythonidae ล�ำดบั ที่ของต�ำรับในตำ� รา: ๘๏๖ ช่ือโรค: จกั ษโุ รค อาการ: บังเกิดจกั ษุโรคเป็นตอ้ ก็ดี เป็นตาช�ำ้ ก็ดี เป็นเพอ่ื ลมเบื้องสงู ตาเป็นหมอกมวั สรรพคุณของต�ำรบั : กดั ต้อเน้อื ตอ้ สาย ตอ้ ล�ำไย ส่วนประกอบของตำ� รับ: โคนสับปะรด หญ้าเกล็ดหอย ยาด�ำ หวั หอม เอาเสมอภาค วิธีปรุงยา: ท�ำเป็นผงละเอียด บดดว้ ยน�ำ้ ดีจระเข้ ดงี เู หลือม ดีตะพาบ ป้ันเปน็ แทง่ รปู แบบยา: ยาปนั้ แท่ง กระสายยา: ดจี ระเข้ ดงี ูเหลอื ม ดีตะพาบ วธิ ีใช:้ ใส่ตา รายละเอียดของตวั ยา/สมุนไพรในต�ำรับ หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ น้นั  ๆ ที่นำ� มาใช้เปน็ ยากันโดยทั่วไป Book-7.indd 149 2/11/20 15:58

150  คำ�อธบิ ายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร ลำ� ดับ ตัวยา/สมุนไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชอื่ วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ Bromeliaceae ๑ ส่วน ๑ โคนสับปะรด *โคนต้น Ananas comosus (L.) Merr. Fabaceae ๑ สว่ น Aloaceae ๑ สว่ น ๒ หญา้ เกลด็ หอย *ทั้งตน้ Desmodium triflorum (L.) DC. ๓ ยาด�ำ *ยางทแี่ ข็งเปน็ Aloe vera (L.) Burm. f. ก้อนจากใบ วา่ นหางจระเข้ ๔ หัวหอม หัว Allium ascalonicum L. Amaryllidaceae ๑ สว่ น ลำ� ดบั ทข่ี องตำ� รบั ในต�ำรา: ๘๏๗ ชื่อโรค: จักษโุ รค อาการ: บงั เกิดจักษโุ รคเปน็ ตอ้ ก็ดี เปน็ ตาช้ำ� ก็ดี เป็นเพ่ือลมเบอ้ื งสงู ตาเป็นหมอกมัว สรรพคุณของต�ำรับ: แก้จักษุโรคท้ังปวงบดด้วยน้�ำมะพร้าวนาฬิเก แก้ต้อหมอกให้ละลาย น้ำ� ดอกมะลิ แกร้ ดิ สีดวงตาให้ละลายนำ้� มะนาว ถา้ ดบั พิษรอ้ นให้ละลายนำ�้ เถาต�ำลึง ชอ่ื ตำ� รบั : ยาสังขรศั มี ส่วนประกอบของต�ำรับ: สังข์ เบี้ยผู้ ตุ๊กต�่ำน้�ำทอง ดินถน�ำ ยาทั้งนี้ช�ำระด้วยไม้สะแกให้ บริสทุ ธิ์ สุพรรณถันแดง เอาเสมอภาค วธิ ปี รงุ ยา: สังข์ เบ้ยี ผู้ ตุ๊กต่ำ� น�ำ้ ทอง ดนิ ถนำ� มาเผาดว้ ยไมส้ ะแก ให้ตวั ยาบรสิ ทุ ธ์ิ แลว้ นำ� มาผสมกับสพุ รรณถันแดง อย่างละ ๑ สว่ น บดผสมดว้ ยน�ำ้ มะพรา้ วนาฬิเก ปั้นเปน็ แทง่ ไว้ รปู แบบยา: ยาปนั้ แทง่ กระสายยา: นำ้� มะพร้าวนาฬิเก หรอื น�ำ้ ดอกมะลิ หรอื น�้ำมะนาว หรอื น้ำ� เถาต�ำลงึ วิธีใช้: น้�ำมะพร้าวนาฬิเก แก้จักษุโรคทั้งปวง ถ้าจะให้แผ้ว (แก้) ต้อหมอกฝนด้วยน�้ำ ดอกมะลิ ถ้าจะแก้ตาริดสีดวง ฝนด้วยน�้ำมะนาว ถ้าจะให้ดับพิษร้อน ฝนด้วยน�้ำเถาต�ำลึง ใสต่ า รายละเอยี ดของตัวยา/สมนุ ไพรในต�ำรับ หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ น้ัน ๆ ท่นี �ำมาใช้เป็นยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 150 2/11/20 15:58

การวเิ คราะห์ตำ�รบั ยาสมนุ ไพรในจารึกตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  151 ล�ำดับ ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นทใ่ี ช้ ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ ๑ ส่วน ๑ สังข์ *เปลือกหอย Pleuroploca trapezium Fasciolariidae *หอยสงั ข์หนาม (Linnaeus, 1758) ๑ สว่ น ๒ เบี้ยผู้ *เปลอื กหอย Cypraea obvelata (Lamarck, Cypraeidae ๒๑ สว่ น 1810) บทท่ี ๑ สว่ น ๓ ตุก๊ ต่ำ� น้ำ� ทอง *ผงละเอยี ด ตกุ๊ ต�ำ่ หรือ ไบโอไทต์ (Biotite) ๑ ส่วน เป็นแร่ธาตใุ นกลุ่มไมกา มีสตู รเคมี ๔ ดนิ ถนำ� *เนือ้ ดนิ เป็น K(Mg,Fe)3AlSi3O10(F,OH)2 ๕ สพุ รรณถนั แดง *ผงกำ� มะถัน ดนิ อย่างหนง่ึ สีเหลือง สำ� หรับท�ำยา *ก�ำมะถันแดง# Arsenic disulphide (As2S2) # ก�ำมะถันแดง สุพรรณถันแดง มาดแดง หรือหรดาลแดง[๕] หรือในภาษาอังกฤษเรียกเรียลการ์ (Realgar), α-As4S4 เปน็ สารประกอบในกลุ่มอาร์เซนิกซลั ไฟด์ ปรากฏในรปู ผลกึ เปน็ เม็ดละเอียด หรือเป็นผง มกั จะเกิด ร่วมกับออรพ์ ิเมนต์ (As2S3) มีสส้ ม้ แดง ละลายที่ ๓๒๐°C หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รุปมาจากสว่ นของสมุนไพรชนดิ น้ัน ๆ ทนี่ �ำมาใช้เปน็ ยากนั โดยทั่วไป Book-7.indd 151 3/25/20 22:34

ชดุ ตำราภมู ปิ ญญาการแพทยแผนไทย ฉบบั อนรุ ักษ ภาพจารึกแผน ท่ี 24 คำจารึกแผน ที่ 24 กองค้มุ ครองภูมปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยและพ้นื บา้ นไทย ๑. ๏ สิทธกิ ารยิ ะ ๒. ถา วาโยธาตุกำเรบิ หยอ น ๓. พกิ ารก็ดใี หห หู นักทังสองขางใหห่ิงหอ ยตา ๔. กระจายออกใหเม่อื ยตีนมอื ใหเ ปนตะครวิ แลจะโปงให ย๕. ชักหวั เขา ใหเ ม่ือยสันหลงั ใหส องเกลยี วฅอน้นั แขงสมมตุ วิ า ฝเ อน 70 ้านไท๖. ใหร ากลมเปลาใหเจบอกใหเปนกอนอยูในทอง หายใจดงั หืด ใหห นกั หนา ตา ะพน้ื บ๗. โทษทังนี้ คอื วาโยธาตุ ถา จะแกเอาดีปลี ๑ แฝกหอมตะนาว ๑ พรกิ ๑ วา นเปราะ ๑ แหวหมู ๑ ยแล๘. วานน้ำ ๑ ตำเปนผงลายน้ำรอนกินแกวาโยธาตุแล ๚ อน่ึงเอาเปลือกมูกมัน ๑ รากสลอด ๑ ์แผนไทวา นน้ำ ๑ พริก ๑ แหว ทย๙. หมู ๑ ยา รังกา ๑ เจตมลู ๑ สมํอไท ๑ ใครเครอื ๑ ทำผงลายเลา ก็ไดม ูด ววั ก็ได กนิ แกวาโยธาตุ ฯ าการแพอนง่ึ เอามะหาหิง วา นน้ำ ผลราช ญ๑๐. ดัด ผลสวาศ ดีปลี สคาน ชเอม โกฎเขมา ใบญางทราย ขีง โกฎสอ กรุงเขมา ตำเปนผงลาย ิปญันำ้ ชะเอมกไ็ ดน ้ำ รองภมู๑๑. ผึ้งก็ไดนมวัวก็ไดเ ลากไ็ ดแกวาโยธาตุ ฯ ภาคหน่งึ เอาชเอม เจตมูล ใบนาศ การบรู รากทนํ ตี มุ้ ค๑๒. จิงจอ ฃีง ใบสลอด วานน้ำ พรกิ ดปี ลี ตำเปนผงลายนำ้ รอนก็ได น้ำมูดววั ก็ได กองค๑๓. กนิ แกวาโยธาตุ ฯ ภาคหน่ึง เอาเจดพังคี บรเพช สะหศั ๑๔. คณุ เจตมลู ไพล ฃีง ดีปลี สังกรนี ะ ๑๕. ตำเปนผงละลายดว ยนำ้ มตู วัวกไ็ ดน้ำ ๑๖. ทราวเขา กไ็ ด กินแกวา ๑๗. โยธาตแุ ล ๚๛ Book-7.indd 152 2/11/20 15:58

การวิเคราะหต์ ำ�รบั ยาสมนุ ไพรในจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  153 คำ� อา่ นจารึกแผน่ ที่ ๒๔ ๒บทที่ ชือ่ ตน้ ฉบับ: คำ� อา่ นจารกึ แผน่ ท่ี ๒๔ ล�ำดบั ทข่ี องต�ำรบั ในตำ� รา: ๘๏๘ ชื่อโรค: วาโยธาตุพกิ าร อาการ: หูหนกั ทงั้ สองขา้ ง ให้หิง่ หอ้ ยตากระจายออกให้เมื่อยตนี มอื ให้เป็นตะครวิ และจับโปง ใหช้ กั หวั เข่า ให้เม่ือยหลัง ใหส้ องเกลียวคอนัน้ แขง็ สมมุตวิ ่า ฝเี อน็ ใหร้ ากลมเปลา่ ใหเ้ จบ็ อก ใหเ้ ป็นกอ้ นอยู่ในทอ้ ง หายใจดงั หืด ให้หนักหนา้ หนกั ตา สรรพคณุ ของตำ� รบั : แกว้ าโยธาตพุ กิ าร ช่อื ตำ� รบั : ยาแก้วาโยธาตพุ กิ าร สว่ นประกอบของตำ� รบั : ดปี ลี ๑ แฝกหอมตะนาว ๑ พรกิ ๑ ว่านเปราะ ๑ แหว้ หมู ๑ วา่ นนำ�้ ๑ วิธปี รงุ ยา: ท�ำเป็นผง รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: น�้ำรอ้ น วิธใี ช:้ ละลายน�ำ้ ร้อน กิน รายละเอียดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ ลำ� ดับ ตัวยา/สมุนไพร สว่ นทใ่ี ช้ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๑ สว่ น ๑ ดีปลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑ สว่ น ๒ แฝกหอมตะนาว# *ราก Chrysopogon zizanioides (L.) Poaceae ๑ สว่ น *แฝกหอม Roberty ๑ ส่วน ๓ พรกิ *ผล Piper nigrum L. Piperaceae *พริกไทย ๔ ว่านเปราะ *หวั Kaempferia galanga L. Zingiberaceae *วา่ นเปราะหอม หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนดิ นั้น ๆ ทีน่ ำ� มาใชเ้ ป็นยากนั โดยทัว่ ไป Book-7.indd 153 2/11/20 15:58

154  คำ�อธบิ ายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ลำ� ดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร สว่ นท่ใี ช้ ช่ือวิทยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ Cyperaceae ๑ ส่วน ๕ แห้วหมู *หัวใตด้ นิ Cyperus rotundus L. Acoraceae ๑ สว่ น ๖ ว่านน�้ำ *เหงา้ Acorus calamus L. # ๑. ตามพจนานุกรมศัพท์แพทย์และเภสัชกรรมแผนไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ตะนาว หมายถึง ชอื่ กระแจะเคร่อื งหอมชนดิ หนง่ึ ๒. อาจารย์คมสันต์ ทินกร ณ อยุธยา ให้ความหมายว่า แฝกหอมตะนาว คือ การน�ำแฝกหอมท่ีเป็น เครอื่ งยาหลกั และเครื่องยารองมาตะนาวใหห้ อมเพิ่ม ๓. ตะนาว คือ การอบกบั เคร่อื งหอม ๔. สรรพฤทธข์ิ องแฝกหอมน้นั ใชเ้ ขา้ ยาหอมก็ได้ ยาลมกไ็ ด้ ลำ� ดับทข่ี องตำ� รบั ในตำ� รา: ๘๏๙ ชือ่ โรค: วาโยธาตุพิการ อาการ: หหู นักทั้งสองข้าง ให้ห่งิ หอ้ ยตากระจายออกใหเ้ มอ่ื ยตีนมือ ให้เปน็ ตะคริวและจับโปง ให้ชักหัวเขา่ ให้เมื่อยหลัง ใหส้ องเกลียวคอนนั้ แขง็ สมมตวิ า่ ฝเี อ็น ใหร้ ากลมเปล่าใหเ้ จ็บอก ให้เปน็ ก้อนอยใู่ นทอ้ ง หายใจดงั หืด ใหห้ นักหน้าหนกั ตา สรรพคณุ ของตำ� รับ: แกว้ าโยธาตุพกิ าร ชื่อต�ำรบั : ยาแกว้ าโยธาตุพกิ าร ส่วนประกอบของต�ำรับ: เปลือกมูกมัน ๑ รากสลอด ๑ ว่านน้�ำ ๑ พริก ๑ แห้วหมู ๑ หญ้ารังกา ๑ เจตมลู ๑ สมอไทย ๑ ไครเ้ ครือ ๑ วธิ ีปรงุ ยา: ทำ� เป็นผง รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: สุรา หรือ มตู รววั วธิ ีใช้: ละลายกบั เหล้า หรือมูตรวัว กนิ หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดนนั้  ๆ ท่ีนำ� มาใช้เปน็ ยากันโดยทั่วไป Book-7.indd 154 2/11/20 15:58

การวเิ คราะหต์ �ำ รับยาสมุนไพรในจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  155 รายละเอียดของตัวยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ ล�ำดบั ตัวยา/สมุนไพร สว่ นทใี่ ช้ ช่อื วทิ ยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปรมิ าณทใี่ ช้ ๑ เปลอื กมูกมัน เปลอื กต้น Wrightia pubescens R. Br. Apocynaceae ๑ สว่ น *โมกมัน ๒ รากสลอด ราก Croton tiglium L. Euphorbiaceae ๒๑ ส่วน ๓ วา่ นนำ�้ *เหง้า Acorus calamus L. Acoraceae *ผล Piper nigrum L. Piperaceae ๑ สว่ น ๔ พริก ๑ สว่ น บทท่ี *พริกไทย *หวั ใต้ดิน Cyperus rotundus L. Cyperaceae ๑ ส่วน ๕ แห้วหมู ๖ หญ้ารงั กา *หัว Cyperus alternifolius L. Cyperaceae ๑ ส่วน *หญ้ากกลังกา ๗ เจตมูล Plumbago indica L. ๑ ส่วน *เจตมลู เพลิงแดง *ราก Plumbaginaceae ๘ สมอไทย *ผล Terminalia chebula Retz. Combretaceae ๑ ส่วน ๙ ไครเ้ ครอื *ราก Aristolochia spp. Aristolochiaceae ๑ ส่วน ล�ำดับท่ขี องต�ำรบั ในตำ� รา: ๙๏๐ ชอื่ โรค: วาโยธาตพุ ิการ อาการ: หูหนกั ทั้งสองขา้ ง ให้ห่ิงห้อยตากระจายออกให้เมอ่ื ยตนี มือ ใหเ้ ป็นตะครวิ และจับโปง ให้ชกั หวั เข่าให้เม่อื ยหลงั ให้สองเกลยี วคอน้นั แข็ง สมมตวิ ่า ฝเี อน็ ให้รากลมเปล่าใหเ้ จ็บอก ให้เปน็ กอ้ นอยู่ในท้อง หายใจดังหดื ให้หนักหน้าหนักตา สรรพคุณของต�ำรบั : แก้วาโยธาตพุ กิ าร ช่ือตำ� รับ: ยาแก้วาโยธาตพุ กิ าร ส่วนประกอบของต�ำรับ: มหาหิงคุ์ ว่านน�้ำ ผลราชดัด ผลสวาด ดีปลี สะค้าน ชะเอม โกฐเขมา ใบยา่ งทราย ขิง โกฐสอ กรุงเขมา วิธีปรงุ ยา: ต�ำเปน็ ผง หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนิดนั้น ๆ ทน่ี ำ� มาใช้เปน็ ยากนั โดยทวั่ ไป Book-7.indd 155 3/25/20 21:50

156  ค�ำ อธบิ ายจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: นำ้� ชะเอมเทศ หรอื น้�ำผ้ึง หรอื น�้ำนมววั หรอื สุรา วธิ ีใช:้ ละลายนำ้� ชะเอม หรือน้ำ� ผึ้ง หรือนำ�้ นมวัว หรือสุรา กิน รายละเอยี ดของตัวยา/สมุนไพรในตำ� รบั ล�ำดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร สว่ นท่ใี ช้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ ๑ มหาหงิ คุ์ *ยาง ชันน�้ำมนั Ferula assa-foetida L. Apiaceae ๑ สว่ น (oleogumresin) (Umbelliferae) จากรากและ ล�ำต้นใตด้ นิ ๒ วา่ นน้�ำ *เหง้า Acorus calamus L. Acoraceae ๑ ส่วน ๓ ผลราชดัด ผล Brucea javanica (L.) Merr. Simaroubaceae ๑ สว่ น ๔ ผลสวาด *เมลด็ Caesalpinia bonduc (L.) Roxb. Fabaceae ๑ สว่ น ๕ ดปี ลี *ชอ่ ผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑ ส่วน ๖ สะค้าน *เถา Piper wallichii (Miq.) Hand.- Piperaceae ๑ ส่วน Mazz. ๗ ชะเอม *ราก Glycyrrhiza glabra L. Fabaceae ๑ ส่วน *ชะเอมเทศ ๘ โกฐเขมา *ราก Atractylodes lancea (Thunb.) Asteraceae ๑ สว่ น DC. (Compositae) ๙ ใบย่างทราย ใบ Tetracera indica (Christm. & Dilleniaceae ๑ สว่ น *รสสุคนธ์ดอกแดง Panz.) Merr. *เชือกเขาไฟ ๑๐ ขงิ *เหงา้ Zingiber officinale Roscoe Zingiberaceae ๑ สว่ น ๑๑ โกฐสอ *ราก Angelica dahurica (Hoffm.) Apiaceae ๑ ส่วน Benth. & Hook. f. ex Franch. (Umbelliferae) & Sav. var. dahurica ๑๒ กรุงเขมา *ราก Cissampelos pareira L. ๑ ส่วน *หมาน้อย Menispermaceae หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดนัน้  ๆ ทนี่ ำ� มาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยท่วั ไป Book-7.indd 156 2/11/20 15:58

การวิเคราะห์ต�ำ รบั ยาสมุนไพรในจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  157 ล�ำดับทีข่ องต�ำรบั ในต�ำรา: ๙๏๑ ๒บทท่ี ชื่อโรค: วาโยธาตพุ ิการ อาการ: หหู นักทง้ั สองข้าง ให้หง่ิ หอ้ ยตากระจายออกใหเ้ มอื่ ยตนี มอื ใหเ้ ป็นตะคริวและจับโปง ใหช้ กั หัวเข่าใหเ้ มือ่ ยหลัง ให้สองเกลยี วคอนัน้ แขง็ สมมตวิ า่ ฝีเอ็น ให้รากลมเปล่าให้เจ็บอก ให้เป็นก้อนอยูใ่ นท้อง หายใจดงั หดื ให้หนักหน้าหนักตา สรรพคณุ ของตำ� รบั : แกว้ าโยธาตพุ ิการ ชอ่ื ต�ำรบั : ยาแก้วาโยธาตุพกิ าร ส่วนประกอบของต�ำรับ: ชะเอม เจตมูล ใบหนาด การบูร รากทนดี จิงจ้อ ขิง ใบสลอด ว่านนำ้� พรกิ ดีปลี วิธีปรุงยา: ต�ำเป็นผง รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: ละลายน้�ำรอ้ น หรือน้ำ� มูตรววั วธิ ใี ช:้ ละลายน้ำ� รอ้ น หรอื นำ�้ มตู รววั กนิ รายละเอียดของตัวยา/สมนุ ไพรในต�ำรบั ล�ำดบั ตัวยา/สมุนไพร ส่วนทใี่ ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๑ ชะเอม *ราก Glycyrrhiza glabra L. Fabaceae ๑ สว่ น *ชะเอมเทศ ๒ เจตมูล Plumbago indica L. ๑ สว่ น *เจตมลู เพลิงแดง *ราก Plumbaginaceae ๓ หนาด ใบ Blumea balsamifera (L.) Asteraceae ๑ สว่ น DC. (Compositae) ๔ การบูร *สง่ิ สกัดจาก Cinnamomum camphora Lauraceae ๑ ส่วน เปลือกตน้ (L.) J. Presl เน้ือไม้และใบ ๕ ทนดี *ราก Baliospermum solanifolium Euphorbiaceae ๑ ส่วน (Burm.) Suresh หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รุปมาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดน้นั  ๆ ทน่ี ำ� มาใช้เป็นยากนั โดยทัว่ ไป Book-7.indd 157 2/11/20 15:58

158  ค�ำ อธิบายจารกึ ตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร ล�ำดับ ตัวยา/สมุนไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชือ่ วิทยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๖ จิงจอ้ Operculina turpethum (L.) Convolvulaceae ๑ ส่วน *จิงจอ้ เหลย่ี ม *เถา Silva Manso ๗ ขงิ *เหง้า Zingiber officinale Roscoe Zingiberaceae ๑ สว่ น ๘ ใบสลอด ใบ Croton tiglium L. Euphorbiaceae ๑ สว่ น ๙ ว่านน�ำ้ *เหงา้ Acorus calamus L. Acoraceae ๑ ส่วน ๑๐ พรกิ *ผล Piper nigrum L. Piperaceae ๑ ส่วน *พรกิ ไทย ๑๑ ดีปลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑ ส่วน ล�ำดับทขี่ องต�ำรับในตำ� รา: ๙๏๒ ชื่อโรค: วาโยธาตุพิการ อาการ: หหู นักท้งั สองขา้ ง ให้หงิ่ หอ้ ยตากระจายออกใหเ้ ม่ือยตนี มอื ใหเ้ ปน็ ตะครวิ และจบั โปง ให้ชกั หัวเขา่ ให้เมือ่ ยหลัง ใหส้ องเกลยี วคอนน้ั แขง็ สมมติว่า ฝเี อ็น ให้รากลมเปลา่ ให้เจบ็ อก ให้เปน็ กอ้ นอยู่ในทอ้ ง หายใจดงั หดื ใหห้ นักหนา้ หนกั ตา สรรพคณุ ของตำ� รบั : แก้วาโยธาตพุ ิการ ชอื่ ตำ� รบั : ยาแกว้ าโยธาตุพกิ าร ส่วนประกอบของตำ� รับ: เจตพงั คี บอระเพด็ หัสคุณ เจตมลู ไพล ขิง ดีปลี สงั กรณี วิธปี รุงยา: ตำ� เปน็ ผง รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: นำ้� มตู รววั หรอื น�ำ้ ซาวข้าว วธิ ใี ช้: ละลายน�ำ้ มูตรวัว หรือนำ้� ซาวข้าว กิน รายละเอยี ดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รบั หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นั้น ๆ ทนี่ �ำมาใช้เป็นยากันโดยทว่ั ไป Book-7.indd 158 2/11/20 15:58

การวเิ คราะหต์ �ำ รบั ยาสมนุ ไพรในจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  159 ลำ� ดับ ตัวยา/สมุนไพร สว่ นที่ใช้ ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๑ เจตพังคี *ราก Cladogynos orientalis Zipp. Euphorbiaceae ๑ สว่ น ex Span. ๒ บอระเพด็ *เถา Tinospora crispa (L.) Hook. f. Menispermaceae ๑ ส่วน & Thomson ๓ หัสคณุ Micromelum minutum ๒๑ ส่วน *หัสคุณไทย *เนือ้ ไม้ (Forst. f.) Wright & Arn. หรอื Rutaceae บทที่ ๑ ส่วน *หัสคณุ เทศ Clausena excavata Burm. f. ๔ เจตมูล *เจตมลู เพลงิ แดง *ราก Plumbago indica L. Plumbaginaceae ๕ ไพล *เหงา้ Zingiber montanum (J. Zingiberaceae ๑ สว่ น Koenig) Link ex A. Dietr. ๖ ขงิ *เหงา้ Zingiber officinale Roscoe Zingiberaceae ๑ สว่ น ๗ ดีปลี *ชอ่ ผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑ สว่ น ๘ สังกรณี *ทั้งต้น  Barleria strigosa Willd. Acanthaceae ๑ ส่วน หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนิดน้นั  ๆ ทนี่ �ำมาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยทัว่ ไป Book-7.indd 159 2/11/20 15:58

จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ภาพจารึกแผน ท่ี 25 คำจารกึ แผน ที่ 25 กองคุ้มครองภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยและพ้นื บา้ นไทย ๑. ๏ สิทธกิ าริยะ ๒. ลักษณปวงลมนนกระทำให ๓. หาวใหทองข้นึ แตวาไมล งไมร าก ถา วางยามิ ๔. ตอ ง ผิตกวันโรกจงี คง ถา ลงไปแลว อยาวางยาปด จะตาย ๕. เสยี ถาปด เขา จะกระทำใหแ ดก ถงึ จะเหนสวนสกั เทาใดกไ็ มไ ปจกินยา ๖. ก็มิฟง แลว ใหรากแตเ ชาถงึ เทย่ี งตาย ๚ ถา จแกเอาสมอไท สมอพเี ภก รากชาพลู ลง 73 ๗. รากมะตูม ตม ๓ เอา ๑ ใหกินแกสำแลงให ใหจำเริญธาตุแกใหสวางใจ ๚ ขนานหนึ่ง ไทยราก บ้านเอาลูกผัก ะพ้ืน ลง ยแล๘. ชี ฃิงแหง ดีปลี แหวหมู ลูกมะตูมออน สฆานตม ๓ เอา ๑ ใหแกกินสำแลงให แลให นไท ราก ์แผจำเรญี เพลงี ธาตุดว ย าการแพทย๙. ๏ ขนานหนึ่งเจตะมลู เพลงิ มะหาหงิ แหวหมู ฃงิ แหง ลกู โมกมนั ตม ๓ เอา ๑ ใหก ินแกส ำแลง ธาตุวปิ รดิ ซงึ่ บริโภก ยา ผิดก็ดี ญั ญอาหาร รองภูมิปลง ๑๐. แกสรรพสำแลงทงั ปวงให นนั้ หาย ๚ ขนานหนึ่งเอาตรีกตุก มะหาหิง หวานน้ำ มุ้ ค ราก กองคเกลอื สินเทา สมอไท สมอพิเภก มะขาม ๑๑. ปอม สะฆาน รากชาพลู ทำเปนจุลบดลายน้ำแหวหมูตมก็ได น้ำมะตูมตมก็ได น้ำดิปลีตมก็ใด แกสำแลง ๑๒. ธาตุอันกลา ให ลง ใหจ กุ เสยี ดแนน อกใหป ะภะข้ึนไปน้นั แกตวั ใหอ นุ หายดี ราก ๑๓. นกั ๚ ขนานหน่ึงเอา การพลู เทียนเยาวะภานี ดปี ลี ฃิงแหง ทำเปน ๑๔. จลุ บดละลายนำ้ รอ นกไ็ ด นำ้ มะตูมตมกไ็ ด ๑๕. แกสรรพสำแลงทงั ปวงซึ่งให ๑๖. ลงรากนัน้ หายดี วเิ สศ ๑๗. นกั แล ๚ะ Book-7.indd 160 2/11/20 15:58

การวิเคราะห์ต�ำ รับยาสมุนไพรในจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  161 คำ� อ่านจารึกแผน่ ที่ ๒๕ ๒บทท่ี ชือ่ ต้นฉบบั : ค�ำอา่ นจารึกแผน่ ท่ี ๒๕ ลำ� ดับทีข่ องต�ำรับในต�ำรา: ๙๏๓ ชื่อโรค: ป่วงลม อาการ: กระท�ำให้หาว ให้ท้องข้ึน แต่ว่าไม่ลงไม่ราก ถ้าวางยามิต้อง ผิตกวัณโรคจึงคง ถ้าลงไปแล้วอย่าวางยาปิดจะตายเสีย ถ้าปิดเข้าจะกระท�ำให้แดก ถึงจะเห็นส่วนสักเท่าใด ก็ไม่ไป จะกินยาก็มิฟงั แลว้ ใหร้ ากแต่เชา้ ถึงเทย่ี งตาย สรรพคุณของต�ำรับ: แก้ผิดส�ำแลง ให้ลง (ถ่าย) ให้ราก (อาเจียน) ให้จ�ำเริญธาตุแก้ให้ สวา่ งใจ (บ�ำรงุ ธาต)ุ ชอ่ื ต�ำรับ: ยาแกป้ ว่ งลม ส่วนประกอบของต�ำรบั : สมอไทย สมอพเิ ภก รากชา้ พลู รากมะตมู วธิ ปี รุงยา: ตม้ กบั นำ้� ๓ สว่ น เคย่ี วให้เหลอื ๑ ส่วน รูปแบบยา: ยาตม้ วธิ ีใช:้ กิน รายละเอยี ดของตัวยา/สมุนไพรในตำ� รับ ลำ� ดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนทใี่ ช้ ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๑ สมอไทย *ผล Terminalia chebula Retz. Combretaceae ๑ สว่ น ๒ สมอพเิ ภก *ผล Terminalia bellirica Combretaceae ๑ ส่วน (Gaerthn.) Roxb. ๓ รากชา้ พลู *รากและไหล Piper sarmentosum Roxb. Piperaceae ๑ ส่วน ๔ รากมะตมู ราก Aegle marmelos (L.) Corrêa Rutaceae ๑ ส่วน หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดน้นั  ๆ ท่ีน�ำมาใชเ้ ป็นยากันโดยท่วั ไป Book-7.indd 161 2/11/20 15:58

162  ค�ำ อธบิ ายจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ล�ำดบั ท่ีของต�ำรับในตำ� รา: ๙๏๔ ชือ่ โรค: ปว่ งลม อาการ: กระท�ำให้หาว ให้ท้องขึ้น แต่ว่าไม่ลงไม่ราก ถ้าวางยามิต้อง ผิตกวัณโรคจึงคง ถ้าลงไปแล้วอย่าวางยาปิดจะตายเสีย ถ้าปิดเข้าจะกระท�ำให้แดก ถึงจะเห็นส่วนสักเท่าใด กไ็ ม่ไป จะกินยากม็ ิฟงั แล้วให้รากแต่เช้าถึงเทยี่ งตาย สรรพคุณของต�ำรับ: แก้ผิดส�ำแลง ให้ลง (ถ่าย) ให้ราก (อาเจียน) ให้จ�ำเริญเพลิงธาตุ (บำ� รุงธาตไุ ฟ) ชอื่ ต�ำรับ: ยาแกป้ ว่ งลม ส่วนประกอบของตำ� รบั : ลูกผกั ชี ขงิ แหง้ ดีปลี แห้วหมู ลกู มะตมู ออ่ น สะคา้ น วธิ ีปรงุ ยา: ต้มกบั น้�ำ ๓ สว่ น เคีย่ วให้เหลือ ๑ สว่ น รูปแบบยา: ยาตม้ วธิ ีใช้: กนิ รายละเอยี ดของตัวยา/สมุนไพรในต�ำรบั ล�ำดับ ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนทใี่ ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๑ ลูกผักชี *ผล Coriandrum sativum L. Apiaceae ๑ ส่วน (Umbelliferae) ๒ ขิงแหง้ *เหงา้ Zingiber ligulatum Roxb. หรือ Zingiberaceae ๑ สว่ น Zingiber longiligulatum S.Q.Tong ๓ ดปี ลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑ ส่วน ๔ แหว้ หมู *หัวใตด้ ิน Cyperus rotundus L. Cyperaceae ๑ ส่วน ๕ ลูกมะตมู ผลออ่ น Aegle marmelos (L.) Corrêa Rutaceae ๑ สว่ น ๖ สะค้าน *เถา Piper wallichii (Miq.) Hand.-Mazz. Piperaceae ๑ ส่วน หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนิดนัน้  ๆ ทนี่ �ำมาใชเ้ ป็นยากันโดยทัว่ ไป Book-7.indd 162 2/11/20 15:58

การวเิ คราะหต์ ำ�รับยาสมนุ ไพรในจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  163 ลำ� ดบั ที่ของตำ� รับในตำ� รา: ๙๏๕ ๒บทท่ี ชอ่ื โรค: ป่วงลม อาการ: กระท�ำให้หาว ให้ท้องข้ึน แต่ว่าไม่ลงไม่ราก ถ้าวางยามิต้อง ผิตกวัณโรคจึงคง ถ้าลงไปแล้วอย่าวางยาปิดจะตายเสีย ถ้าปิดเข้าจะกระท�ำให้แดก ถึงจะเห็นส่วนสักเท่าใด ก็ไมไ่ ป จะกินยาก็มฟิ ังแลว้ ให้รากแตเ่ ชา้ ถงึ เทยี่ งตาย สรรพคณุ ของตำ� รับ: แก้ผดิ สำ� แลง ทเี่ กิดจากธาตุผดิ ปกติ เน่อื งมาจากการกนิ ยา หรอื อาหาร ชื่อต�ำรับ: ยาแกป้ ่วงลม สว่ นประกอบของต�ำรับ: เจตมลู เพลิง มหาหิงค์ุ แหว้ หมู ขงิ แห้ง ลกู โมกมัน วธิ ีปรงุ ยา: ต้มกับนำ้� ๓ ส่วน เคี่ยวให้เหลือ ๑ ส่วน รปู แบบยา: ยาตม้ วธิ ีใช:้ กิน รายละเอียดของตัวยา/สมนุ ไพรในต�ำรับ ลำ� ดบั ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนที่ใช้ ช่อื วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๑ เจตมลู เพลงิ Plumbago indica L. ๑ สว่ น *เจตมูลเพลงิ แดง *ราก Plumbaginaceae ๒ มหาหิงคุ์ *ยาง ชนั น้�ำมนั Ferula assa-foetida L. Apiaceae ๑ สว่ น (oleogumresin) (Umbelliferae) จากรากและ ลำ� ตน้ ใต้ดนิ ๓ แห้วหมู *หัวใต้ดิน Cyperus rotundus L. Cyperaceae ๑ ส่วน ๔ ขงิ แห้ง *เหงา้ Zingiber ligulatum Roxb. หรือ Zingiberaceae ๑ ส่วน Zingiber longiligulatum S.Q.Tong ๕ ลูกโมกมนั *ผล (ฝกั ) Wrightia pubescens R. Br. Apocynaceae ๑ สว่ น หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนิดน้ัน ๆ ท่ีนำ� มาใช้เป็นยากันโดยทว่ั ไป Book-7.indd 163 2/11/20 15:58

164  ค�ำ อธิบายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร ลำ� ดับทข่ี องตำ� รับในต�ำรา: ๙๏๖ ช่อื โรค: ป่วงลม อาการ: กระท�ำให้หาว ให้ท้องข้ึน แต่ว่าไม่ลงไม่ราก ถ้าวางยามิต้อง ผิตกวัณโรคจึงคง ถ้าลงไปแล้วอย่าวางยาปิดจะตายเสีย ถ้าปิดเข้าจะกระท�ำให้แดก ถึงจะเห็นส่วนสักเท่าใด ก็ไมไ่ ป จะกนิ ยากม็ ฟิ ังแล้วใหร้ ากแตเ่ ช้าถึงเท่ยี งตาย สรรพคุณของต�ำรบั : แกผ้ ดิ สำ� แลง ใหล้ ง (ถ่าย) ใหร้ าก (อาเจียน) แก้จุกเสยี ดแน่นอก ช่ือตำ� รบั : ยาแก้ป่วงลม ส่วนประกอบของต�ำรับ: ตรีกฏุก มหาหิงคุ์ ว่านน้�ำ เกลือสินเธาว์ สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม สะค้าน รากช้าพลู วิธีปรุงยา: ทำ� เปน็ ผงละเอียด ละลายน�ำ้ แหว้ หมู หรือน�้ำมะตมู หรือน�้ำดีปลี รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: น�้ำแห้วหมูตม้ หรือนำ้� มะตูมต้ม หรอื นำ�้ ดปี ลตี ม้ วธิ ีใช:้ กนิ รายละเอยี ดของตวั ยา/สมนุ ไพรในต�ำรบั ลำ� ดบั ตัวยา/สมุนไพร สว่ นทใ่ี ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปรมิ าณที่ใช้ ๑ ตรกี ฏุก *เหงา้ Zingiber ligulatum Roxb. Zingiberaceae อย่างละ -*ขงิ แหง้ หรอื Zingiber longiligulatum Piperaceae ๑ สว่ น S.Q.Tong -*พรกิ ไทย *ผล Piper nigrum L. -*ดปี ลี *ชอ่ ผล Piper retrofractum Vahl ๒ มหาหิงค์ุ *ยาง ชันน้ำ� มนั Ferula assa-foetida L. Apiaceae ๑ สว่ น (oleogumresin) (Umbelliferae) จากรากและ ลำ� ต้นใตด้ ิน ๓ วา่ นน้�ำ *เหงา้ Acorus calamus L. Acoraceae ๑ สว่ น หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนิดนนั้  ๆ ท่นี �ำมาใช้เปน็ ยากันโดยทวั่ ไป Book-7.indd 164 2/11/20 15:58

การวเิ คราะห์ตำ�รับยาสมนุ ไพรในจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  165 ล�ำดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนทใ่ี ช้ ช่อื วิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปริมาณทใี่ ช้ ๔ เกลอื สินเธาว์ *ผลึกเกลือ ๕ สมอไทย *ผล Rock salt   ๑ ส่วน ๖ สมอพิเภก *ผล Terminalia chebula Retz. Combretaceae ๑ ส่วน Terminalia bellirica Combretaceae ๑ ส่วน (Gaerthn.) Roxb. ๗ มะขามป้อม *ผล ๒Phyllanthus emblica L. Euphorbiaceae ๑ ส่วน ๘ สะคา้ น *เถา Piper wallichii (Miq.) Hand. Piperaceae ๑ สว่ น บทท่ี -Mazz. ๙ รากชา้ พลู *รากและไหล Piper sarmentosum Roxb. Piperaceae ๑ สว่ น ล�ำดับท่ีของต�ำรบั ในต�ำรา: ๙๏๗ ช่อื โรค: ป่วงลม อาการ: กระท�ำให้หาว ให้ท้องขึ้น แต่ว่าไม่ลงไม่ราก ถ้าวางยามิต้อง ผิตกวัณโรคจึงคง ถ้าลงไปแล้วอย่าวางยาปิดจะตายเสีย ถ้าปิดเข้าจะกระท�ำให้แดก ถึงจะเห็นส่วนสักเท่าใด ก็ไม่ไป จะกนิ ยากม็ ฟิ ังแล้วใหร้ ากแต่เช้าถึงเทีย่ งตาย สรรพคณุ ของตำ� รับ: แก้สรรพส�ำแลงทง้ั ปวง ซ่งึ ใหล้ งราก ชือ่ ตำ� รับ: ยาแก้ปว่ งลม ส่วนประกอบของตำ� รับ: กานพลู เทียนเยาวภาณี ดปี ลี ขิงแห้ง วิธีปรงุ ยา: ท�ำเปน็ ผงละเอียด ละลายนำ้� รอ้ น หรือน�้ำมะตูม รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: นำ้� ร้อน หรือนำ้� มะตมู วธิ ใี ช:้ กนิ รายละเอยี ดของตวั ยา/สมนุ ไพรในต�ำรับ หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รุปมาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ นนั้  ๆ ทนี่ �ำมาใชเ้ ป็นยากันโดยท่ัวไป Book-7.indd 165 2/11/20 15:58

166  ค�ำ อธบิ ายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ล�ำดบั ตัวยา/สมุนไพร สว่ นทีใ่ ช้ ชื่อวิทยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปรมิ าณทีใ่ ช้ ๑ กานพลู *ดอกตูม Syzygium aromaticum (L.) Merr. Myrtaceae ๑ ส่วน & L. M. Perry ๒ เทยี นเยาวพาณี *เมลด็ Trachyspermum ammi (L.) Apiaceae ๑ สว่ น Sprague (Umbelliferae) ๓ ดปี ลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑ ส่วน ๔ ขิงแหง้ *เหง้า Zingiber ligulatum Roxb. หรือ ๑ ส่วน Zingiber longiligulatum Zingiberaceae S.Q.Tong ๕ มะตูม ราก Aegle marmelos (L.) Corrêa Rutaceae ๑ ส่วน หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดนั้น ๆ ท่ีนำ� มาใชเ้ ป็นยากนั โดยทวั่ ไป Book-7.indd 166 2/11/20 15:58

ชดุ ตำราภูมปิ ญญาการแพทยแ ผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ภาพจารกึ แผนท่ี 26 คำจารึกแผนที่ 26 กองคมุ้ ครองภูมปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและพื้นบา้ นไทย ๑. ๏ ลมอนึง ๒. ชอ่ื สิตะมคั คะวาโยใหเ ยน ๓. กอ นจง่ึ ใหตีนมือตายยกมอื มไิ ดใหเยน ๔. ไปทังฝา เทา ถา เกิดแกใ ครอายมุ ยิ ืนเลย ถาจะแกเอา ย๕. การชา 1 เนย 1 ตรีผลา 1 นำ้ ตานทราย 1 ลกู จนั 2 ดปี ลี 2 76 ้านไท๖. พริกไท 2 หอมแดง 2 ทำผงใสในน้ำมะพรา วนาริเก เฃี้ยวใหเปนยางตมู ะพน้ื บ๗. ปนเปนลูกกอนใหก ินทกุ วันหายแล ฯ ลมหมหู นง่ึ ชอื่ พุทธะยกั ขะวาโยมกั ใหเ สยี ดโครงเจบ ยแล๘. สันหลังแลกระดูกมิไดลุกน่ังขึ้นได มักใหเปนรำมะนาดแลทำใหตามืด ลมน้ีเปนถึงสามป ยายาก แ์ ผนไทนกั ถาอายุะ ทย๙. ยืนไปจะเสียจะริต ถาจะแกใหเอาขิง 1 แหวหมู 1 พริกไท 1 ชเอมเทษ 3 าการแพครง่ั 2 น้ำนมราชสี 2 พานงูแดง 2 ลนิ้ ทเล 1 ญ๑๐. บทดว ยนำ้ มนาวปน ลกู กอนกนิ ทกุ วนั หาย ฯ ลมอนง่ึ ชอ่ื รติ ะวาด มนั ใหบ ังเกดิ ในสะเอว ถา เปนข้ึน ิปญัมาใหช อ่ื รองภูม๑๑. วา สันนิบาดเอาขิงแหง สมอทังสาม ๑ วานน้ำ ๑ พริกไท ๑ มฃามปอ ม ๑ ลูกจนั ๑ ดอกจัน ๑ คกระวาร กองคุ้ม๑๒. ๑ การพลู ๑ เชอมทงั สอง ๑ อบเชยทังสอง ๑ การะบูน ๑ ดอกกระดงั งา ๑ ๑๓. นำ้ ประสารทอง ๑ ทงั น้ที า นใหเอาส่ิงละ 1 ดีปลี 7 ๑๔. ตำผงไว น้ำกะสายตามแตจ ะยักยา ยเอาตาม ๑๕. กระบวรโรคนนั้ แกสรรพลม ๑๖. อนั มพี ศิ มตางตางนัน้ ๑๗. หายแล ๚๛ Book-7.indd 167 2/11/20 15:58

168  คำ�อธิบายจารึกตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร คำ� อา่ นจารกึ แผน่ ท่ี ๒๖ ช่อื ต้นฉบับ: คำ� อา่ นจารึกแผน่ ที่ ๒๖ ล�ำดบั ที่ของตำ� รับในตำ� รา: ๙๏๘ ช่อื โรค: ลมสิตะมัคคะวาโย อาการ: ใหเ้ ยน็ กอ่ นจงึ ใหย้ กมอื ตนี ตายยกมอื มไิ ด้ ใหเ้ ยน็ ไปทง้ั ฝา่ เทา้ ถา้ เกดิ แกใ่ ครอายมุ ยิ นื เลย สรรพคณุ ของต�ำรับ: แก้ลมสติ ะมคั คะวาโย ชอื่ ตำ� รับ: ยาแกล้ มสิตะมัคคะวาโย ส่วนประกอบของต�ำรับ: กัญชา ๑ ต�ำลึง เนย ๑ ต�ำลึง ตรีผลา ๑ ต�ำลึง น�้ำตาลทราย ๑ ต�ำลึง ลูกจันทน์ ๒ บาท ดีปลี ๒ บาท พริกไทย ๒ บาท หอมแดง ๒ บาท นำ�้ มะพร้าวนาฬเิ ก วิธีปรุงยา: ทำ� เป็นผง ละลายในน้�ำมะพร้าวนาฬเิ ก เคีย่ วใหเ้ ปน็ ยางมะตูม ปั้นเปน็ ลูกกลอน รูปแบบยา: ลกู กลอน กระสายยา: นำ�้ มะพร้าวนาฬิเก วิธใี ช้: กนิ รายละเอยี ดของตัวยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ ล�ำดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนท่ีใช้ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปริมาณที่ใช้ ๑ กญั ชา *ใบ/ชอ่ ดอก Cannabis sativa L. Cannabaceae ๑ ต�ำลึง ๒ เนย *เนยจากนมววั Bos primigenius Bovidae ๑ ตำ� ลึง (Bojanus, 1827) ๓ ตรีผลา Terminalia bellirica อยา่ งละ -*สมอพิเภก (Gaerthn.) Roxb. Combretaceae ๑ ต�ำลงึ -*สมอไทย -*มะขามปอ้ ม *ผล Terminalia chebula Retz. Phyllanthus emblica L. Euphorbiaceae ๔ นำ้� ตาลทราย *ผลึกน้�ำตาล Saccharum officinarum L. Poaceae ๑ ตำ� ลึง *น�้ำตาลจากอ้อย หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนิดนน้ั  ๆ ท่นี �ำมาใชเ้ ปน็ ยากันโดยท่วั ไป Book-7.indd 168 2/11/20 15:58

การวิเคราะหต์ �ำ รับยาสมนุ ไพรในจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  169 ลำ� ดบั ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนทใี่ ช้ ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๕ ลกู จันทน์ *เมล็ด Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๒ บาท ๖ ดีปลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๒ บาท ๗ พรกิ ไทย *ผล Piper nigrum L. Piperaceae ๒ บาท ๘ หอมแดง *หัว Eleutherine bulbosa Iridaceae ๒ บาท *วา่ นหอมแดง (Mill.) Urb. ๒บทท่ี ลำ� ดับท่ีของต�ำรับในตำ� รา: ๙๏๙ ช่ือโรค: ลมพุทธยกั ขวาโย อาการ: มักให้เสยี ดโครงเจบ็ สนั หลงั แลดูก มไิ ด้ลุกน่งั ได้ มกั ใหเ้ ปน็ รำ� มะนาดและท�ำให้ตามืด ลมน้ีเปน็ ถงึ สามปียายากนัก ถา้ อายยุ นื ไปจะเสียจรติ สรรพคณุ ของตำ� รับ: แก้ลมพุทธยกั ขวาโย ช่อื ต�ำรบั : ยาแกล้ มพุทธยกั ขวาโย ส่วนประกอบของต�ำรับ: ขิง ๑ ต�ำลึง แห้วหมู ๑ ต�ำลึง พริกไทย ๑ ต�ำลึง ชะเอมเทศ ๓ บาท คร่งั ๒ บาท น้�ำนมราชสหี ์ ๒ บาท พันงูแดง ๒ บาท ลน้ิ ทะเล ๑ บาท วิธีปรุงยา: เปน็ ผง บดดว้ ยน�ำ้ มะนาวป้ันเปน็ ลกู กลอน รูปแบบยา: ลกู กลอน กระสายยา: น้�ำมะนาว วิธใี ช้: กิน รายละเอียดของตวั ยา/สมนุ ไพรในต�ำรับ ลำ� ดับ ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ Zingiber officinale Roscoe Zingiberaceae ๑ ตำ� ลงึ ๑ ขิง *เหงา้ Cyperus rotundus L. Cyperaceae ๑ ตำ� ลงึ ๒ แห้วหมู *หวั ใต้ดิน Piper nigrum L. Piperaceae ๑ ต�ำลึง ๓ พริกไทย *ผล Glycyrrhiza glabra L. Fabaceae ๓ บาท ๔ ชะเอมเทศ *ราก หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รุปมาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนิดนน้ั  ๆ ทน่ี �ำมาใช้เปน็ ยากันโดยทั่วไป Book-7.indd 169 2/11/20 15:58

170  คำ�อธบิ ายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร ล�ำดับ ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนท่ใี ช้ ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ ๕ ครัง่ *สารคัดหลั่ง Laccifer lacca (Kerr, 1782) Lacciferidae ๒ บาท *ข้ีครัง่ จากครง่ั ๖ นำ�้ นมราชสหี ์ *ทง้ั ตน้ Euphorbia hirta L. Euphorbiaceae ๒ บาท ๗ พันงูแดง *ราก Cyathula prostrata (L.) Blume Amaranthaceae ๒ บาท ๘ ลิ้นทะเล *กระดองของ Sepia spp. Sepiidae ๑ บาท ปลาหมกึ กระดอง ล�ำดับทีข่ องต�ำรับในต�ำรา: ๑๏๐๐ ชอ่ื โรค: ลมรติ ะวาต อาการ: บงั เกิดในเอว ถ้าเปน็ ขึ้นมาให้ช่อื ว่าสันนิบาต สรรพคุณของตำ� รับ: แก้สรรพลมอนั มีพษิ ตา่ ง ๆ ช่ือตำ� รบั : ยาแก้ลมริตะวาต ส่วนประกอบของต�ำรับ: ขิงแห้ง สมอท้ังสาม ๑ ว่านน้�ำ ๑ พริกไทย ๑ มะขามป้อม ๑ ลูกจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ชะเอมทั้งสอง ๑ อบเชยท้ังสอง ๑ การบูร ๑ ดอกกระดังงา ๑ น้�ำประสารทอง ๑ เอาส่ิงละ ๑ บาท ดปี ลี ๗ ต�ำลงึ วิธปี รุงยา: ต�ำเปน็ ผง รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: ข้ึนกบั โรคทีเ่ ปน็ วิธีใช้: กิน รายละเอยี ดของตัวยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดนนั้  ๆ ท่นี ำ� มาใช้เปน็ ยากันโดยท่ัวไป Book-7.indd 170 2/11/20 15:59

การวิเคราะหต์ ำ�รบั ยาสมุนไพรในจารกึ ตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  171 ล�ำดบั ตัวยา/สมุนไพร ส่วนทใี่ ช้ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปรมิ าณท่ีใช้ ๑ ขิงแหง้ *เหงา้ Zingiber ligulatum Roxb. หรือ ๑ บาท Zingiber longiligulatum Zingiberaceae S.Q.Tong ๒ สมอทง้ั สาม อยา่ งละ -*สมอไทย ๑ บาท -*สมอพเิ ภก ๒Terminalia chebula Retz. -*สมอเทศ *ผล Combretaceae บทที่ *เหง้า Terminalia bellirica ๓ วา่ นน้ำ� (Gaerthn.) Roxb. ๑ บาท Terminalia arjuna (Roxb. ex DC.) Wight & Arn. Acorus calamus L. Acoraceae ๔ พรกิ ไทย *ผล Piper nigrum L. Piperaceae ๑ บาท ๕ มะขามป้อม *ผล Phyllanthus emblica L. Euphorbiaceae ๑ บาท ๖ ลูกจนั ทน์ *เมล็ด Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๑ บาท ๗ ดอกจนั ทน์ *เย่อื หมุ้ เมล็ด Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๑ บาท ๘ กระวาน *ผล Amomum testaceum Ridl. Zingiberaceae ๑ บาท ๙ กานพลู *ดอกตมู Syzygium aromaticum (L.) Myrtaceae ๑ บาท Merr. & L. M. Perry ๑๐ ชะเอมทั้งสอง *ราก Albizia myriophylla Benth. Fabaceae อย่างละ -*ชะเอมไทย Glycyrrhiza glabra L. ๑ บาท -*ชะเอมเทศ ๑๑ อบเชยทงั้ สอง Cinnamomum iners Reinw. อย่างละ -*อบเชยไทย *เปลอื กชั้นใน ex Blume ๑ บาท -*อบเชยเทศ Cinnamomum verum J. Lauraceae Presl หรือ Cinnamomum burmanni (Nees & T. Nees) Blume ๑๒ การบูร *ส่งิ สกดั จาก Cinnamomum camphora Lauraceae ๑ บาท เปลือกต้น (L.) J. Presl เน้ือไม้และใบ หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดนั้น ๆ ท่ีนำ� มาใช้เป็นยากันโดยทว่ั ไป Book-7.indd 171 2/11/20 15:59

172  ค�ำ อธิบายจารึกตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ล�ำดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนที่ใช้ ชื่อวิทยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปรมิ าณที่ใช้ Annonaceae ๑ บาท ๑๓ ดอกกระดงั งา ดอก Cananga odorata (Lam.) Hook. f. & Thomson Piperaceae ๑ บาท ๑๔ นำ�้ ประสารทอง *ผงน้ำ� Sodium borate (borax) ๗ ต�ำลงึ *นำ้� ประสานทอง ประสานทอง ๑๕ ดีปลี *ชอ่ ผล Piper retrofractum Vahl หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รุปมาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดนนั้  ๆ ท่ีนำ� มาใช้เป็นยากนั โดยทัว่ ไป Book-7.indd 172 2/11/20 15:59

จารกึ ตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ภาพจารกึ แผน ท่ี 27 คำจารึกแผนที่ 27 กองค้มุ ครองภมู ปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและพน้ื บา้ นไทย ๑. ๏ สิทธิการิยะ ๒. โรคอนั ชือ่ วามุตกฤษมีลกั ษ ๓. ณะส่ปี ระการ คือ เบาฃาว ๑ เบาเปนน้ำคาว ๔. ปลา ๑ เบาเปนหนอง ๑ เบาด่ังนำ้ เซาเขา ๑ ทงั ๔ ประการ ย๕. น้บี ังเกดิ เพื่อโลหิตชำ้ ช่ือวา มตุ ะกฤษชำ้ ร่ัว ฯ ถา จะแกเอาแหว หมใู หญ 79 า้ นไท๖. เทิยนดำใหญ มะตูม หวา นน้ำ หวานเปราะ อังกาบ เทยี นดำนอย โกฎพุงปล ราก ะพื้นบ๗. วันเหลก ยางงิว้ การบูร ลูกเอน การพลู ดีปลี สิง่ ละสวน สารสมคร่งึ สวนทำเปนจนุ ยแล๘. ละลายนำ้ ผึ้งกิน อาจบำบัดมุตกฤษ ใหว นิ าศฉบิ หาย ๚ ขนานหนง่ึ เอาเปลอื กไขเหนา ขม้นิ ทงั สอง ์แผนไทมเขือ ทย๙. หนาม เปลอื กเพกา ปฤษนา เสือรองรัง เขา ผวกนางสดี า เอาเสมอภากทำเปนจุน ลลายน้ำผึ้งกนิ าการแพอาจะบำบดั ญ๑๐. ซึ่งมตุ กฤษเบาขาวใหหาย ๚ ขนานหน่ึง เอาเปลอื กไขเหนา เปลือกเพกา เปลอื กกาหลง สะคา น มู ปิ ญั๑๑. กถนิ แดง ดปี ลี ไสข นุนลมดุ เปลอื กกุมบก ทองหลางไบมล เบญจะ รองภ๑๒. ตระแบก โพบาย โคกะสุน พทุ รา เสนียด มะมวง กองคมุ้ ค๑๓. ขมน้ิ คาง กะทมุ ไหญ ใหตม แทรกน้ำผึง้ ลงกนิ ๑๔. ถาจะทำผง ลลายน้ำผึง้ กนิ อาจะบำบัดซง่ึ มตุ กฤษ ๑๕. นแี้ ล ทุราวะสาอันขาวแล ช้ำร่วั ะ ๑๖. เพือ่ โลหิต ดัง่ น้ำคาวปลา ๑๗. หายแล ๚๛ Book-7.indd 173 2/11/20 15:59

174  ค�ำ อธบิ ายจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร คำ� อ่านจารกึ แผ่นท่ี ๒๗ ช่อื ตน้ ฉบับ: จารึกแผ่นท่ี ๒๗ ล�ำดบั ทขี่ องตำ� รบั ในต�ำรา: ๑๏๐๑ ช่ือโรค: มตุ กดิ อาการ: มี ๔ ประการ คือ ๑) ปัสสาวะเป็นสีขาว ๒) ปัสสาวะเหมือนน�้ำคาวปลา ๓) ปัสสาวะมีหนองปนออกมา ๔) ปัสสาวะเป็นสีขาวเหมอื นน�ำ้ ซาวขา้ ว สรรพคุณของต�ำรบั : แกม้ ุตกิด ส่วนประกอบของต�ำรับ: แห้วหมูใหญ่ เทียนด�ำใหญ่ มะตูม ว่านน้�ำ ว่านเปราะ อังกาบ เทยี นด�ำน้อย โกฐพงุ ปลา รากเถาวลั ยเ์ หลก็ ยางงวิ้ การบูร ลูกเอ็น กานพลู ดปี ลี สง่ิ ละสว่ น สารสม้ ครึ่งส่วน วิธปี รุงยา: ท�ำใหเ้ ป็นผงละเอียด ละลายนำ้� ผง้ึ รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: น้�ำผง้ึ วธิ ีใช:้ กิน รายละเอยี ดของตัวยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ ลำ� ดับ ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นท่ีใช้ ชอื่ วิทยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ ๑ สว่ น ๑ แห้วหมูใหญ่ *หวั ใตด้ นิ Cyperus rotundus L. Cyperaceae ๑ สว่ น ๑ ส่วน ๒ เทยี นดำ� ใหญ่ *เมล็ด Nigella sativa L. Ranunculaceae ๑ ส่วน ๑ ส่วน ๓ มะตมู *ผล Aegle marmelos (L.) Corrêa Rutaceae ๑ ส่วน ๑ สว่ น ๔ วา่ นน้�ำ *เหง้า Acorus calamus L. Acoraceae ๕ ว่านเปราะ *เหง้า Kaempferia galanga L. Zingiberaceae ๖ องั กาบ *ราก Barleria Cristata L. Acanthaceae ๗ เทยี นดำ� น้อย *เมล็ด Nigella sativa L. Ranunculaceae หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนิดนน้ั  ๆ ทนี่ ำ� มาใช้เป็นยากันโดยทั่วไป Book-7.indd 174 2/11/20 15:59

การวเิ คราะห์ต�ำ รบั ยาสมนุ ไพรในจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  175 ล�ำดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนท่ีใช้ ชือ่ วิทยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ ๑ สว่ น ๘ โกฐพงุ ปลา *ปุ่มหดู (gall) Terminalia chebula Retz. Combretaceae จากใบหรือ ๑ ส่วน ก่ิงออ่ น ๒๑ สว่ น ๙ รากเถาวัลย์ ราก Ventilago malaccensis Ridl. Rhamnaceae เหลก็ ๑ สว่ น บทท่ี ๑๐ ยางง้วิ ยาง Bombax ceiba L. Malvaceae ๑ ส่วน ๑ ส่วน ๑๑ การบรู *ส่งิ สกดั จาก Cinnamomum camphora (L.) Lauraceae ๑ ส่วน เปลอื กตน้ J. Presl ๑/๒ สว่ น เนอื้ ไมแ้ ละใบ ๑๒ ลูกเอ็น ผล Elettaria cardamomum (L.) Zingiberaceae Maton ๑๓ กานพลู *ดอกตมู Syzygium aromaticum (L.) Myrtaceae Merr. & L. M. Perry ๑๔ ดีปลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑๕ สารสม้ *ผลึกสารส้ม Hydrated potassium (สะต)ุ aluminium sulphate หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนิดน้นั  ๆ ทีน่ ำ� มาใชเ้ ป็นยากันโดยท่ัวไป Book-7.indd 175 2/11/20 15:59

176  ค�ำ อธบิ ายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร ล�ำดับท่ขี องตำ� รับในตำ� รา: ๑๏๐๒ ช่ือโรค: มุตกดิ อาการ: มี ๔ ประการ คือ ๑) ปัสสาวะเป็นสีขาว ๒) ปัสสาวะเหมือนน้�ำคาวปลา ๓) ปสั สาวะมหี นองปนออกมา ๔) ปัสสาวะเป็นสขี าวเหมือนน�้ำซาวขา้ ว สรรพคณุ ของต�ำรบั : แก้มุตกดิ เบาขาว ส่วนประกอบของต�ำรับ: เปลือกไข่เน่า ขมิ้นท้ังสอง มะเขือหนาม เปลือกเพกา กฤษณา เสอื รองรัง ขา้ วผวกนางสดี า เอาเสมอภาค วิธีปรุงยา: ท�ำให้เป็นผงละเอียด ละลายนำ้� ผึง้ รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: น�้ำผ้ึง วธิ ใี ช้: กิน รายละเอยี ดของตัวยา/สมนุ ไพรในต�ำรับ ล�ำดับ ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนทใี่ ช้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ เปลอื กไข่เนา่ เปลือกต้น Vitex glabrata R. Br. Lamiaceae ๑ สว่ น ๒ ขมิน้ ท้งั สอง Curcuma longa L. อย่างละ -*ขม้ินชนั Curcuma zedoaria (Christm.) Zingiberaceae ๑ ส่วน -*ขม้นิ อ้อย *เหง้า Roscoe ๓ มะเขอื หนาม *ราก Solanum capsicoides All. Solanaceae ๑ ส่วน *มะเขือขืน่ ๔ เปลอื กเพกา เปลอื กตน้ Oroxylum indicum (L.) Kurz Bignoniaceae ๑ ส่วน ๕ กฤษณา *เนอื้ ไมท้ มี่ ี Aquilaria crassna Pierre ex ๑ สว่ น ชันสีด�ำและ Lecomte หรอื Thymelaeaceae มีกลิน่ หอม Aquilaria malaccensis Lam. ๖ เสือรองรัง ยังไมส่ ามารถระบไุ ด้ ๑ ส่วน ๗ ข้าวผวกนางสีดา *ราก Platycerium holtumii Jench. Polypodiaceae ๑ สว่ น *ชายผ้านางสีดา & Hennipm. หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รุปมาจากสว่ นของสมุนไพรชนดิ น้นั  ๆ ที่นำ� มาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 176 3/25/20 21:51

การวิเคราะหต์ �ำ รบั ยาสมุนไพรในจารึกตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  177 ลำ� ดบั ท่ขี องตำ� รบั ในตำ� รา: ๑๏๐๓ ๒บทท่ี ช่ือโรค: มุตกิด อาการ: มี ๔ ประการ คือ ๑) ปัสสาวะเป็นสีขาว ๒) ปัสสาวะเหมือนน้�ำคาวปลา ๓) ปสั สาวะมีหนองปนออกมา ๔) ปัสสาวะเป็นสีขาวเหมอื นน�ำ้ ซาวข้าว สรรพคุณของตำ� รับ: แกม้ ตุ กิด ทรุ าวาสา ปัสสาวะมสี ขี าว ช้�ำรัว่ เหมอื นนำ้� คาวปลา สว่ นประกอบของตำ� รบั : เปลอื กไขเ่ นา่ เปลอื กเพกา เปลอื กกาหลง สะคา้ น กระถนิ แดง ดปี ลี ไสข้ นนุ ละมดุ เปลอื กกมุ่ บก ทองหลางใบมน เบญจตะแบก โพบาย โคกกระสนุ พทุ รา เสนยี ด มะม่วง ขม้นิ คาง กระทมุ่ ใหญ่ วิธีปรุงยา: ต้มแทรกน�้ำผึ้ง (เม่ือจะกินจึงใส่น�้ำผ้ึงเล็กน้อย) หรืออาจท�ำเป็นผง ละลายกับ น�้ำผึ้งกไ็ ด้ รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: น�้ำผึ้ง วิธใี ช้: กนิ รายละเอียดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ ล�ำดบั ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนทใ่ี ช้ ช่อื วิทยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๑ สว่ น ๑ เปลอื กไข่เนา่ เปลือกต้น Vitex glabrata R. Br. Lamiaceae ๑ สว่ น ๑ ส่วน ๒ เปลอื กเพกา เปลือกตน้ Oroxylum indicum (L.) Kurz Bignoniaceae ๑ ส่วน ๓ เปลอื กกาหลง เปลอื กต้น Bauhinia acuminata L. Fabaceae ๑ สว่ น ๔ สะค้าน *เถา Piper wallichii (Miq.) Hand.- Piperaceae ๑ ส่วน Mazz. ๑ สว่ น ๑ ส่วน ๕ กระถนิ แดง *เปลอื กตน้ Peltophorum pterocarpum (DC.) Fabaceae ๑ ส่วน *นนทรี K. Heyne ๖ ดีปลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๗ ไส้ขนนุ ละมุด *แกนผล Artocarpus heterophyllus Lam. Moraceae ๘ เปลือกกุม่ บก เปลือกต้น Crateva adansonii DC. Capparaceae ๙ ทองหลางใบมน *เปลือกต้น Erythrina suberosa Roxb. Fabaceae หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนิดน้นั  ๆ ที่น�ำมาใชเ้ ป็นยากันโดยทั่วไป Book-7.indd 177 3/9/20 15:40

178  ค�ำ อธิบายจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ล�ำดับ ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้ ชือ่ วิทยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปริมาณที่ใช้ ๑๐ เบญจตะแบก ราก ต้น ใบ Lagerstroemia calyculata Kurz Lythraceae ๑ สว่ น *ตะแบกทัง้ หา้ ดอก ผล ๑๑ โพบาย *เปลือกตน้ Balakata baccata (Roxb.) Esser Euphorbiaceae ๑ สว่ น ๑๒ โคกกระสนุ *ท้ังต้น Tribulus terrestris L. Zygophyllaceae ๑ ส่วน ๑๓ พทุ รา *เปลอื กตน้ ๑ ส่วน *พทุ ราป่า Ziziphus jujuba Mill. Rhamnaceae ๑๔ เสนยี ด *ราก Justicia adhatoda L. Acanthaceae ๑ สว่ น ๑๕ มะม่วง *เปลือกตน้ Mangifera indica L. Anacardiaceae ๑ ส่วน ๑๖ ขม้ิน *เหงา้ Curcuma longa L. Zingiberaceae ๑ สว่ น ๑๗ คาง *เปลือกตน้ Albizia lebbekoides (DC.) Benth. Fabaceae ๑ ส่วน ๑๘ กระทุ่มใหญ่ *เปลือกตน้ Neolamarckia cadamba (Roxb.) Rubiaceae ๑ สว่ น Bosser หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรุปมาจากสว่ นของสมุนไพรชนดิ นัน้  ๆ ท่ีนำ� มาใช้เป็นยากนั โดยท่ัวไป Book-7.indd 178 3/26/20 13:36

ชุดตำราภมู ปิ ญ ญาการแพทยแผนไทย ฉบบั อนรุ ักษ ภาพจารกึ แผนท่ี 28 คำจารึกแผน ท่ี 28 กองคมุ้ ครองภมู ปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและพ้นื บ้านไทย 1. ๏ สทิ ธกิ าริยะ 2. อยาแกม เรงทังปวงเอา อยา 3. ดำ รงทอง กำมถนั ทังสอง เทียรดำ 4. ส่งิ ละ 2 เขา สารขัว้ รแนงเอา 5 หัวยา ง เปลือกสรร ย5. พรานางแอ 3 อยาเขา เยนทังสอง สิ่งละ 5 ดองดว ยสุรา ๗ ทนาน 82 า้ นไท6. ใหก นิ แกมเรงคชราช แลไสด วนไสลาม ทังอุปทมก็หายสน้ิ ดีนัก ๚ อนึง่ เอา ะพืน้ บ7. พรรผกั กาษ พรกิ ไท สิ่งละ 1 อยาเขาเยนทังสอง สิง่ ละ 2 2 หัวยาง ไคร หางนาก ยแล8. สิง่ ละ 5 กเทยิ ม ๓ หวั ตม ๓ เอา ๑ ใหกินแกมเรงคุด มเรงเพลิง มเรงเปอ ยทงั ตัวก็ดี หาย แ์ ผนไทสิ้นไดไ ชมา ทย9. มากแลวอยาสนเทเลย ๚ อน่ึงเอาไครหางนาก ใบผักไห ใบทุมราชา ปดลายน้ำฝาหอยโขง าการแพทามเรงทงั ปวง กลาก ญ10. เกลอ้ื น เร้ือนเหลก มเรงไฟฟาก็หายดีนัก ๚ อนึ่ง เอาใบเทยิ ร ใบผักไห ใบถัว่ แระ ตำเอานำ้ สิ่งละ ิปัญถว ย ะ รองภูม11. น้ำมนั งาถว ย ๑ หุงใหคงแตนำ้ มัน ขิผงึ้ แขง 1 1 ใสลงหุง ทากดาษปด แผล มเรงเพลงิ หาย ะ มุ้ ค12. ทังดบั พิศสมานเรยี กเนอื้ ดนี ัก ๚ อนง่ึ เอาใบมเกลือ ลูกสบา ใบมระ ใบปบ กองค13. ขม้นิ ออ ย ตำเอานำ้ สงิ่ ลถวย น้ำมันงา น้ำมนั พรา ว สง่ิ ละถว ย 14. หงุ ใหคงแตน ำ้ มนั ใสแผลมเรงเพลิงแลฝปอย 15. เนา สรรพบาทแผลทังปวง แลกลาก 16. เกลอ้ื น ก็หายดีวิเสศประ 17. เสรีฐนัก ๚๛ Book-7.indd 179 2/11/20 15:59

180  ค�ำ อธบิ ายจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร คำ� อา่ นจารึกแผ่นที่ ๒๘ ชือ่ ตน้ ฉบับ: จารกึ แผน่ ท่ี ๒๘ ล�ำดับทขี่ องตำ� รับในตำ� รา: ๑๏๐๔ ช่ือโรค: มะเร็ง สรรพคุณของตำ� รับ: แกม้ ะเร็ง คชราช ไสด้ ว้ น ไสล้ าม และอปุ ทม ชื่อต�ำรับ: ยาแก้มะเร็งทั้งปวง ส่วนประกอบของตำ� รบั : ยาด�ำ รงทอง กำ� มะถนั ทั้งสอง เทียนดำ� สงิ่ ละ ๒ บาท ข้าวสาร คั่วระแนง เอา ๓ บาท หัวยั้ง เปลือกสันพร้านางแอ ๓ บาท ยาข้าวเย็นทั้งสอง ส่ิงละ ๕ ตำ� ลงึ วิธีปรงุ ยา: ดองด้วยสรุ า ๗ ทะนาน รปู แบบยา: ยาน้�ำ กระสายยา: สุรา วธิ ใี ช้: กิน รายละเอียดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ ล�ำดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร สว่ นท่ใี ช้ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ ยาดำ� *ยางทแี่ ขง็ เปน็ Aloe vera (L.) Burm. f. Aloeaceae ๒ บาท ก้อนจากใบ วา่ นหางจระเข้ ๒ รงทอง *ยางจากตน้ Garcinia hanburyi Hook. f. Clusiaceae ๒ บาท ๓ กำ� มะถันทงั้ สอง *ผงกำ� มะถนั Sulfur หรือ Sulphur อยา่ งละ -*กำ� มะถันแดง ๒ บาท -*ก�ำมะถนั เหลอื ง ๔ เทยี นดำ� *เมล็ด Nigella sativa L. Ranunculaceae ๒ บาท ๕ ข้าวสารค่ัว *เมลด็ ขา้ ว Oryza sativa L. Poaceae ๓ บาท ๖ หวั ยั้ง หวั Smilax ovalifolia Roxb. Smilacaceae ๓ บาท ex D. Don หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ น้นั  ๆ ที่น�ำมาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 180 2/11/20 15:59

การวิเคราะห์ตำ�รับยาสมนุ ไพรในจารึกตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  181 ลำ� ดับ ตัวยา/สมนุ ไพร สว่ นท่ีใช้ ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๗ เปลอื กสันพรา้ นาง เปลือกตน้ Carallia brachiata (Lour.) Rhizophoraceae ๓ บาท แอ Merr. ๘ ขา้ วเยน็ ท้งั สอง *หัวใตด้ นิ Smilax corbularia Kunth Smilacaceae อยา่ งละ -*ข้าวเยน็ เหนอื Smilax glabra Roxb. ๕ ตำ� ลึง -*ขา้ วเยน็ ใต้ ๒บทท่ี ลำ� ดบั ทขี่ องตำ� รบั ในตำ� รา: ๑๏๐๕ ชือ่ โรค: มะเรง็ สรรพคณุ ของตำ� รบั : แกม้ ะเร็งคดุ มะเรง็ เพลงิ มะเรง็ เปื่อยท้งั ตวั ส่วนประกอบของต�ำรับ: พันธุ์ผักกาด พริกไทย ส่ิงละ ๑ บาท ยาข้าวเย็นท้ังสอง ส่ิงละ ๒ ต�ำลงึ ๒ บาท หัวย้ัง ตะไครห้ างนาค สง่ิ ละ ๕ ตำ� ลึง กระเทียม ๓ หัว วธิ ปี รุงยา: ต้มกับน้ำ� ๓ ส่วนให้เหลอื ๑ ส่วน รปู แบบยา: ยาตม้ วธิ ใี ช้: กิน รายละเอยี ดของตัวยา/สมุนไพรในต�ำรบั ลำ� ดับ ตัวยา/สมนุ ไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชือ่ วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ พันธ์ผุ กั กาด *เมล็ด Brassica juncea (L.) Czern. Brassicaceae ๑ บาท ๒ พรกิ ไทย *ผล Piper nigrum L. Piperaceae ๑ บาท ๓ ข้าวเยน็ ทั้งสอง *หวั ใต้ดนิ Smilax corbularia Kunth อยา่ งละ -*ข้าวเยน็ เหนือ Smilax glabra Roxb. Smilacaceae ๒ ตำ� ลงึ ๒ บาท -*ข้าวเย็นใต้ ๔ หัวยัง้ หวั Smilax ovalifolia Roxb. ex Smilacaceae ๕ ตำ� ลึง D. Don ๕ ตะไครห้ างนาค *ล�ำต้น Phyllanthus taxodiifolius Phyllanthaceae ๕ ตำ� ลึง Beille ๖ กระเทยี ม *หัว Allium sativum L. Amaryllidaceae ๓ หัว หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนดิ นั้น ๆ ทน่ี �ำมาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 181 2/11/20 15:59

182  คำ�อธบิ ายจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ล�ำดบั ที่ของต�ำรบั ในตำ� รา: ๑๏๐๖ ชอ่ื โรค: มะเร็ง สรรพคุณของตำ� รับ: แก้มะเรง็ ท้ังปวง กลาก เกล้ือน เร้อื นเหล็ก มะเร็งไฟฟา้ ส่วนประกอบของตำ� รับ: ตะไคร้หางนาค ใบผักไห่ ใบทุมราชา วิธปี รุงยา: บดละลายนำ้� ฝาหอยโข่ง รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: นำ้� ฝาหอยโขง่ วิธีใช้: ทา รายละเอียดของตวั ยา/สมุนไพรในต�ำรบั ล�ำดับ ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนทใี่ ช้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปริมาณทใี่ ช้ ๑ ส่วน ๑ ตะไคร้หางนาค *ลำ� ตน้ Phyllanthus taxodiifolius Beille Phyllanthaceae ๑ สว่ น ๒ ใบผกั ไห่ ใบ Momordica charantia L. Cucurbitaceae ๑ ส่วน *มะระข้ีนก ๓ ใบทมุ ราชา Clerodendrum indicum (L.) Lamiaceae *เทา้ ยายมอ่ มดอกแดง ใบ Kuntze ลำ� ดบั ทข่ี องต�ำรบั ในตำ� รา: ๑๏๐๗ ชือ่ โรค: มะเร็ง สรรพคุณของต�ำรับ: แกม้ ะเรง็ เพลิง ดับพษิ สมานแผล และเรียกเนือ้ ไดด้ ี สว่ นประกอบของต�ำรับ: ใบเทยี น ใบผักไห่ ใบถว่ั แระ ต�ำเอานำ�้ สง่ิ ละถว้ ย น�้ำมันงา ๑ ถ้วย วธิ ีปรุงยา: ใบเทยี น ใบผักไห่ ใบถวั่ แระ ตำ� ค้นั เอาแต่น้�ำสง่ิ ละ ๑ ถว้ ย นำ� ไปหงุ กับนำ้� มนั งา ๑ ถว้ ย ให้เหลือเฉพาะนำ�้ มัน ใส่ขผี้ ึ้งแข็งลงไป ๑ ต�ำลึง ๑ บาท คนใหเ้ ข้ากัน รูปแบบยา: ยาทา กระสายยา: ข้ผี งึ้ แข็ง หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดน้ัน ๆ ทนี่ �ำมาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยท่วั ไป Book-7.indd 182 3/25/20 21:52

การวิเคราะห์ต�ำ รบั ยาสมนุ ไพรในจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  183 วิธใี ช้: ทาลงบนกระดาษ แลว้ นำ� ไปปิดที่แผล รายละเอียดของตัวยา/สมนุ ไพรในตำ� รบั ลำ� ดับ ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้ ช่อื วทิ ยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ Balsaminaceae ๑ ถ้วย ๑ ใบเทยี น ใบ Impatiens balsamina L. *เทยี นตน้ ๒๑ ถ้วย บทที่ ๒ ใบผักไห่ ใบ Momordica charantia L. Cucurbitaceae *มะระข้ีนก ๑ ถว้ ย Fabaceae ๑ ถว้ ย ๓ ใบถั่วแระ ใบ Cajanus cajan (L.) Millsp. Pedaliaceae ๔ นำ�้ มันงา *น้�ำมนั ทไ่ี ด้ Sesamum indicum L. จากเมล็ดงา ล�ำดบั ทขี่ องตำ� รับในต�ำรา: ๑๏๐๘ ช่ือโรค: มะเร็ง สรรพคณุ ของต�ำรับ: ยาแกม้ ะเร็งเพลงิ ฝเี ป่อื ยเน่า บาดแผลท้ังปวง กลาก เกลอ้ื น ส่วนประกอบของต�ำรับ: ใบมะเกลือ ลูกสะบ้า ใบมะระ ใบปีบ ขม้ินอ้อย ต�ำเอาน�้ำ ส่ิงละถ้วย นำ้� มนั งา นำ�้ มันมะพรา้ ว สง่ิ ละถ้วย วิธีปรุงยา: ใบมะเกลือ ลูกสะบ้า ใบมะระ ใบปีบ ขม้ินอ้อย ต�ำคั้นเอาแต่น้�ำ ส่ิงละ ๑ ถว้ ย ผสมกบั นำ�้ มันงา และน้�ำมันมะพร้าว อย่างละ ๑ ถว้ ย หงุ ใหเ้ หลอื แต่น�ำ้ มัน รปู แบบยา: ยาทา วิธใี ช:้ ใช้ใส่แผล รายละเอยี ดของตัวยา/สมุนไพรในต�ำรบั หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรุปมาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ นนั้  ๆ ท่ีน�ำมาใชเ้ ป็นยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 183 2/11/20 15:59

184  ค�ำ อธิบายจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ล�ำดบั ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนทใี่ ช้ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ Diospyros mollis Griff. Ebenaceae ๑ ถว้ ย ๑ ใบมะเกลอื ใบ Entada rheedii Spreng. Momordica charantia L. Fabaceae ๑ ถว้ ย ๒ ลกู สะบ้า เนือ้ ในเมล็ด Millingtonia hortensis L. f. Cucurbitaceae ๑ ถว้ ย ๓ ใบมะระ ใบ *มะระจีน ๔ ใบปบี ใบ Bignoniaceae ๑ ถ้วย ๕ ขมิ้นอ้อย *เหงา้ Curcuma zedoaria (Christm.) Zingiberaceae ๑ ถว้ ย ๖ น้�ำมันงา Roscoe ๑ ถ้วย ๗ น้ำ� มันมะพรา้ ว ๑ ถ้วย *นำ�้ มนั ที่ได้ Sesamum indicum L Pedaliaceae จากเมล็ดงา น้ำ� มนั ทไ่ี ด้จาก Cocos nucifera L. Arecaceae เนื้อมะพรา้ ว หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นน้ั  ๆ ทีน่ �ำมาใช้เป็นยากนั โดยทั่วไป Book-7.indd 184 2/11/20 15:59

จารกึ ตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ภาพจารึกแผนท่ี 29 คำจารกึ แผนท่ี 29 กองคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและพน้ื บ้านไทย ๑. ๏ สิทธิการิยะ ๒ ยาลงเลือดฝาง ๑ รากกลวย ๓. ตีบ ๑ ฝน ตน ๑ ตม ๓ เอา ๑ กนิ หายแล ๚ แก ฅอ ๔. บิดรศิ ดวงเลือดตกใน บกุ ๑ กลอย ๑ น้ำมนาว ๑ พรกิ ๑ อก ๕ ขงิ ๑ สารสม ๑ เกลือ ๑ ตำมักไวคนื ๑ กนิ วันละชอ นหอยหาย ๚ แกบิดลง ย๖. เลอื ดเบญกเมง ๑ ตำเอาน้ำ ๑ เอาลกู ชา พลู ๑ ดีปลี ๑ พรกิ ๑ กเทยี ม ๑ เทียนดำ ๑ ตำใสน ำ้ า้ นไท๗. กเมงแลวเผาสัพคุณชุบเสกดวยกัตวากินหาย ๚ ขนานหน่ึงเอาใบกทอม ๑ ขมิ้นออย ๑ 85 นื้ บไพล ๑ พรร และพ๘. ผักกาษ ๑ กพังโหมทัง ๒ ตำใสกะบอกไมหลามใหสุก เอาเลาเปนกระสาย แซรก ฝนกินหาย ๚ ไทยแกรศิ ดวงเลือดหนอง ์แผน๙. สเลด เลือดเนา เอารากสม กงุ ๑ ญานาง ๑ พรกิ ๑ ขิง ๑ กเทียม ๑ ดนิ ประสวิ ขาว ๑ ดปี ลี ๑ ทยแดง าการแพหอม ๑ สารสม ๑ เทียนดำ ๑ เทยี น ยา ขาว มู ปิ ญั ญ๑๐. ทังน้ีส่ิงละ 1 ถา เเปกนลรือศิ ดวง2ลายนบ้ำกดลายน้ำขิงสด เมื่อกินลายน้ำมะนาว แซรกกะเทียมกรอบ ฝน ๑ ดีงเู หลือม รองภ เลือด ุ้มค๑๑. ลำภัก จันแดงกนิ หาย ๚ แกบดิ เนา เอาลูกจัน ๑ คร่ัง ๑ ลูกเบญกานี ๑ ฝน ๑ กองค เสลด ขันทศกอร ๑ ดงี ูเหา ๑ ๑๒. ดงี เู หลือม ๑ ดินกิน ๑ เปลือกมขามขบ ๑ ลูกสแก ๑ ชนั ตเคยี น ๑ สเี สยี ดทงั ๒ เปลือกทับทิม ๑ บดลาย ๑๓. กินตามลักคณโรคน้ันเถิด ๚ ถา มฟิ ง พริก ๑ ขิง ๑ กเทยี ม ๑ หอม ๑ ไพล ๑ ดินประสิว ๑๔. ฃาว ๑ สารสม ๑ กำมถัน ๑ หรดาน ๑ ลกู ๒ ดอก ๒ ลกู กราย ๑ ใบไมเทา ๑๕. ยายมอ ม ๑ ขมิน้ ออย ๑ กญั ชาเทายาทังหลายบด ๑๖. ดวยน้ำมนาว มงว่ั แกสพั โรกบิด ออก สาชู ๑๗. ฝห ดั กนิ หาย ๚ะ Book-7.indd 185 2/11/20 15:59

186  คำ�อธบิ ายจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ค�ำอา่ นจารกึ แผ่นที่ ๒๙ ช่ือต้นฉบบั : จารึกแผน่ ท่ี ๒๙ ล�ำดบั ที่ของต�ำรบั ในตำ� รา: ๑๏๐๙ ชอ่ื โรค: ถ่ายเป็นเลอื ด สรรพคุณของตำ� รับ: แก้ถา่ ยเป็นเลอื ด ชอื่ ตำ� รบั : ยาลงเลอื ด ส่วนประกอบของต�ำรบั : ฝาง ๑ รากกล้วยตีบ ๑ ฝน่ิ ต้น ๑ วิธปี รงุ ยา: ต้มกบั น้�ำ ๓ สว่ น ให้เหลือ ๑ ส่วน รปู แบบยา: ยาต้ม วธิ ใี ช้: กนิ รายละเอียดของตัวยา/สมุนไพรในต�ำรับ ล�ำดบั ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นที่ใช้ ชอื่ วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปริมาณทใี่ ช้ Fabaceae ๑ สว่ น ๑ ฝาง *แกน่ Caesalpinia sappan L. Musaceae ๑ ส่วน ๒ รากกลว้ ยตบี ราก Musa ABB group *เหงา้ ๓ ฝนิ่ ต้น *เปลือกตน้ Jatropha multifida L. Euphorbiaceae ๑ สว่ น ลำ� ดับทขี่ องตำ� รบั ในต�ำรา: ๑๏๑๐ ชื่อโรค: บิด รดิ สีดวง สรรพคณุ ของตำ� รับ: แก้บดิ แก้ริดสีดวง เลือดออกในคอ ในอก ส่วนประกอบของต�ำรบั : บุก ๑ กลอย ๑ นำ�้ มะนาว ๑ พรกิ ๑ ขงิ ๑ สารส้ม ๑ เกลือ ๑ วธิ ปี รุงยา: นำ� ตัวยาทั้งหมดมาต�ำรวมกนั หมกั ไว้ ๑ คนื รูปแบบยา: ยานำ้� วธิ ใี ช้: กนิ วันละ ๑ ช้อนหอย (เดิมใช้จากเปลอื กหอยแมลงภ)ู่ หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนดิ นน้ั  ๆ ทน่ี �ำมาใช้เปน็ ยากนั โดยท่วั ไป Book-7.indd 186 2/11/20 15:59

การวเิ คราะหต์ �ำ รับยาสมุนไพรในจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร  187 รายละเอียดของตัวยา/สมุนไพรในตำ� รับ ล�ำดับ ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนท่ใี ช้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปริมาณที่ใช้ ๑ หัวบกุ Amorphophallus paeoniifolius ๑ ส่วน - บกุ คางคก หวั (Dennst.) Nicolson หรือ Amorphophallus saraburiensis Araceae - บุกรอ ๒น้ำ� จากผล Citrus aurantiifolia (Christm.) Rutaceae Gagnep. บทที่ ๒ กลอย ๓ น�ำ้ มะนาว *หวั Dioscorea hispida Dennst. Dioscoreaceae ๑ สว่ น ๑ สว่ น Swingle ๔ พรกิ Piperaceae ๑ ส่วน *พรกิ ไทย *ผล Piper nigrum L. ๕ ขงิ *เหง้า Zingiber officinale Roscoe Zingiberaceae ๑ สว่ น ๖ สารสม้ *ผลกึ Hydrated potassium aluminium ๑ สว่ น สารส้ม sulphate (สะตุ) ๗ เกลือ ๑ สว่ น *เกลือสมทุ ร ผงเกลือ Sea salt ลำ� ดับทข่ี องตำ� รับในต�ำรา: ๑๏๑๑ ช่ือโรค: บิด สรรพคุณของต�ำรบั : แก้บิด ถ่ายเปน็ เลอื ด ส่วนประกอบของต�ำรับ: เบญจกะเม็ง ๑ ต�ำเอาน�้ำ ๑ เอาลูกช้าพลู ๑ ดีปลี ๑ พริก ๑ กระเทียม ๑ เทยี นด�ำ ๑ วิธปี รงุ ยา: ตำ� ใส่นำ�้ กะเมง็ แล้วเผาสรรพคณุ ชุบ (ใหน้ �ำเหลก็ ไปเผาไฟจนรอ้ นแดง แลว้ นำ� มา จมุ่ ลงในนำ้� ยา) รปู แบบยา: ยาน้�ำ กระสายยา: น�ำ้ กะเม็ง หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรุปมาจากสว่ นของสมุนไพรชนดิ นนั้  ๆ ท่ีน�ำมาใช้เป็นยากนั โดยท่ัวไป Book-7.indd 187 2/11/20 15:59