Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ลวดลายอีสาน

Description: ลวดลายอีสาน.

Search

Read the Text Version

สรุ ชัย ศรใี ส

โครงการท�ำนุบำ� รุงศิลปวฒั นธรรม สำ� นกั วิทยบรกิ าร มหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี หนังสือ ลวดลายอสี าน ผเู้ ขียน สรุ ชัย ศรใี ส พิสูจนอ์ กั ษร สรุ ศกั ดิ์ ไพบูลย์สุขสิริ ภทั ราพร ศรใี ส บันทกึ ภาพน่งิ สรุ ชยั ศรใี ส ผู้ช่วยช่างภาพ สมร ศรใี ส พมิ พค์ รัง้ แรก กนั ยายน ๒๕๖๓ จำ� นวนพิมพ ์ ๒๕ เลม่ ISBN 978-974-523-397-3 สงวนลิขสิทธิ์ สำ� นักวทิ ยบรกิ าร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จดั พมิ พโ์ ดย ฝา่ ยเทคโนโลยีทางการศึกษา ส�ำนกั วทิ ยบริการ มหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี ๘๕ ถนนสถลมารค์ ตำ� บลเมอื งศรไี ค อำ� เภอวารนิ ชำ� ราบ จงั หวดั อบุ ลราชธานี ๓๔๑๙๐ โทรศัพท์ ๐ ๔๕๓๕ ๓๑๔๘ สนับสนุนงบประมาณ ส�ำนกั วิทยบรกิ าร มหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี ประจำ� ปงี บประมาณ ๒๕๖๓ พมิ พท์ ่ี เอกอาร์ต ๒๑๗ หมู่ ๑๐ ต�ำบลปทมุ อำ� เภอเมอื ง จังหวดั อุบลราชธานี ๓๔๐๐๐ โทรศพั ท์ ๐๘๙ ๘๔๕๓๓๐๒ ขอ้ มลู ทางบรรณานกุ รมของหอสมดุ แห่งชาติ สรุ ชยั ศรใี ส. ลวดลายอสี าน. -- อบุ ลราชธานี : ฝา่ ยเทคโนโลยที างการศกึ ษา สำ� นกั วทิ ยบรกิ าร มหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธาน,ี 2563. 179 หน้า. 1. ศิลปกรรมพทุ ธศาสนา. 2. ลายไทย. I. ชือ่ เร่อื ง. 294.3187 ISBN 978-974-523-397-3

คำ� นำ� ลวดลายเปน็ สงิ่ สำ� คญั ในการประดบั ตกแตง่ อาคารสถานท่ี วดั วาอาราม โบราณสถาน และโบราณวตั ถุ ทำ� ใหส้ ง่ิ นนั้ สวยงาม วจิ ติ รตระการตา มคี ณุ คา่ ซง่ึ ลวดลายแตล่ ะทอ้ งถนิ่ มคี วามแตกตา่ งกนั มเี อกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั ดว้ ยการสรา้ งสรรค์ ลวดลายขนึ้ ดว้ ยแรงบนั ดาลใจจากธรรมชาติ ถา่ ยทอดออกมาเปน็ ลวดลายแบบตา่ งๆ ศลิ ปะอสี านกเ็ ชน่ กนั มลี วดลายทเ่ี ปน็ เอกลกั ษณ์ ทแี่ สดงออกแบบตรงไปตรงมา มอี สิ รภาพ จนิ ตนาการ เรยี บงา่ ย และความพอเพยี ง หนงั สอื “ลวดลายอสี าน” ไดร้ วมรวบลวดลายตามสถานทตี่ า่ งๆ มานำ� เสนอในรปู แบบทนี่ า่ สนใจ ประกอบกบั การ วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งของลวดลาย เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจถงึ ความงามของเสน้ สายลายไทย รวมถงึ ลวดลายทเ่ี ปน็ เอกลกั ษณท์ อ้ งถนิ่ อสี าน เชน่ ลายขดั สาน ลายดอกกาละกบั ลายวนั แลน อนั เกดิ จากการผสมผสานระหวา่ งความเชอ่ื ศลิ ปะสกลุ ชา่ งทอ้ งถน่ิ ชา่ งหลวง และตา่ งชาตไิ ดอ้ ยา่ งลงตวั สดุ ทา้ ยน ้ี หาก “การใหค้ วามรเู้ ปน็ ทาน” ในครง้ั นี้ บงั เกดิ กศุ ลผลบญุ ประการใด ขออทุ ศิ ใหบ้ ดิ า มารดา ทล่ี ว่ งลบั ดบั ไป ตามกฎแหง่ ธรรมชาติ ขอใหท้ า่ นไดเ้ สวยสขุ ในภพภมู ทิ ส่ี งู ยง่ิ ๆ ขน้ึ ไป และขอกราบขอบพระคณุ ครบู าอาจารยท์ ปี่ ระสทิ ธป์ิ ระสาท วชิ า รวมถงึ ทกุ ทา่ นทม่ี สี ว่ นชว่ ยใหห้ นงั สอื เลม่ นสี้ ำ� เรจ็ ลลุ ว่ ง ไดร้ ว่ มบญุ รว่ มกศุ ล ขอใหท้ กุ ทา่ นเจรญิ ดว้ ย อายุ วรรณะ สขุ ะ พละและมนี พิ พานเปน็ เบอื้ งหนา้ เทอญ (สรุ ชยั ศรใี ส) กนั ยายน ๒๕๖๓ ก

สารบัญ หน้า คำ� น�ำ ก สารบัญ ข บทน�ำ ๖ โบราณสถาน ๑๑ วัดทุ่งศรีเมือง ๑๑ วดั สปุ ัฏนารามวรวหิ าร ๓๕ วัดมณีวนาราม ๓๙ วัดศรีอุบลรัตนาราม ๕๐ วดั ราษฎรป์ ระดษิ ฐ์ ๕๑ วัดมหาธาต ุ ๕๓ พิพิธภณั ฑท์ อ้ งถนิ่ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื วดั มหาชยั ๖๒ วัดพระธาตุพนมวรมหาวหิ าร ๖๔ วัดศรฐี าน ๖๙ วัดศรสี ขุ บ้านข่อย ๗๑ วดั สระเกต ุ ๗๓ วดั จักรวาลภูมิพนิ ิจ ๗๖ วดั ไตรภมู คิ ณาจารย ์ ๗๘ วัดกลางมงิ่ เมอื ง ๘๐ วดั บ้านขอนแกน่ เหนือ ๘๓ วัดพระธาตุขามแกน่ ๘๕ เรอื นโบราณ ๘๗ โบราณวัตถุ ๘๘ ธรรมาสน์ ๘๘ ธรรมาสนว์ ดั ราษฎรประดษิ ฐ์ ๘๘ ธรรมาสนว์ ัดศรนี วลแสงสวา่ งอารมณ์ ๙๐ ธรรมาสนว์ ดั อนั ตรมัคคารา ๙๓ ธรรมาสน์วดั สปุ ฏั นารามวรวหิ าร ๙๕ ธรรมาสนว์ ัดป่าข่า ๙๗ ธรรมาสน์วัดทุง่ ศรีเมอื ง ๑๐๐ ธรรมาสน์วดั ยางกะเดา ๑๐๒ ธรรมาสน์วดั โพนงาม ๑๐๔ ธรรมาสนว์ ดั นาคำ� ใหญ่ ๑๐๙ ธรรมาสน์วัดบ้านโนนจิก ๑๑๔ ข

สารบญั (ต่อ) หนา้ ธรรมาสนว์ ัดทงุ่ ศรีวิไล ๑๑๖ ธรรมาสนว์ ัดไตรภูมิคณาจารย์ ๑๑๘ ธรรมาสนว์ ดั สระทองเทพาราม ๑๒๐ ธรรมาสนว์ ัดสงั วรณ์บ้านไกน่ า ๑๒๒ ธรรมาสน์วดั ท่าสินเธาว์ ๑๒๔ ธรรมาสนว์ ัดหอคำ� ๑๒๘ ธรรมาสน์วดั วงั คำ� ๑๓๐ ธรรมาสนว์ ดั จมุ จงั เหนอื ๑๓๒ ธรรมาสนว์ ัดโพธช์ิ ัย ๑๓๔ ธรรมาสน์วดั สวา่ งสุทธาราม ๑๓๖ ธรรมาสน์วัดพระธาตขุ ามแกน่ ๑๓๙ ธรรมาสนว์ ัดบรบิ ูรณ์ ๑๔๒ ธรรมาสนว์ ัดมณฑป ๑๔๔ ธรรมาสน์วัดเฉลมิ ชยั ๑๔๖ ธรรมาสนว์ ัดไตรภูมิ ๑๔๘ ธรรมาสน์วดั โพธชิ์ ยั ๑๕๐ ตู้พระธรรม ๑๕๒ ตพู้ ระธรรมวดั ทุ่งศรีเมอื ง ๑๕๒ ตู้พระธรรมวดั มณวี นาราม ๑๕๓ ต้พู ระธรรมวดั หลวง ๑ ๑๕๕ ตู้พระธรรมวดั หลวง ๒ ๑๕๗ ตู้พระธรรมวดั สขุ าวาส ๑๕๙ ตู้พระธรรมวัดทงุ่ ใหญ ่ ๑๖๑ ตพู้ ระธรรมวัดบา้ นโพนงาม ๑๖๓ ตูพ้ ระธรรมวัดใต้ ๑ ๑๖๕ ตพู้ ระธรรมวัดใต้ ๒ ๑๖๗ ตพู้ ระธรรมวัดราษฎรป์ ระดษิ ฐ์ ๑๖๙ ตพู้ ระธรรมวดั ทักษณิ าราม ๑๗๑ เกวียนวดั มณีวนาราม ๑๗๓ แทน่ ประดิษฐานพระทองทิพย์ ๑๗๕ บทสรุปลวดลายอสี าน ๑๗๖ บรรณานกุ รม ๑๘๐ ประวัติผู้เขียน ๑๘๑

กราฟิก : กติ กิ ร บญุ งอก บทนำ� ภาคอีสานเป็นแหล่งอารยธรรมท่ีเก่าแก่ และ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เกิดการผสมผสานศิลปะ หลากหลายชนชาติ ผนวกกับแนวคิดศิลปะท้องถ่ินอีสาน ดั้งเดิม จนเกิดเป็นงานศิลปกรรมท่ีมีเอกลักษณ์เฉพาะ ตัว ปรากฏตามโบราณสถาน และโบราณวัตถุ มากมาย ที่ถ่ายทอดความงามด้านศิลปกรรมในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ วิหาร หอไตร รวมไปถึงโบราณวัตถุ อาทิ ธรรมาสน์ ตู้พระธรรม โฮงฮด ฮางริน ฮาวไต้เทียน ขันหมาก และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้ ล้วนแต่แฝงเร้นซึ่งความงามด้านลวดลายท่ีใช้ประดับ ตกแต่ง ที่ยังรอคอยผู้ท่ีเห็นคุณค่าของศิลปกรรมเหล่าน้ี มาศึกษาเรียนรู้ และเผยแพร่ให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษา 6 ลวดลายอสี าน

ลวดลายท่ีใช้ตกแต่งโบราณสถาน และโบราณวัตถุ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความงดงามวจิ ติ รบรรจง ทำ� ใหผ้ พู้ บเหน็ ตน่ื ตาตน่ื ใจ อันเกิดจากภูมิปัญญาช่างชาวบ้านที่สร้างสรรค์ลวดลาย ต่างๆ เช่น ลายกระหนก ลายกระจัง ลายประจ�ำยาม ลายเครอื เถาลายกา้ นขดฯลฯทใ่ี ชต้ กแตง่ ในงานศลิ ปกรรมไทย ทวั่ ไป ซงึ่ มเี ทคนคิ และกรรมวธิ ใี นการทำ� ทแ่ี ตกตา่ งกนั ดงั น ี้ ๑. การเขียนลายรดน�้ำ เป็นงานจิตรกรรมท่ีมีความ ละเอียด ผลงานที่ได้เป็นสีทองบนพื้นสีด�ำ หรือ แดง ๒. การปดิ ทองลายฉลุ ลวดลายประเภทนจ้ี ะมตี วั ลาย ขนาดใหญไ่ มล่ ะเอยี ดเทา่ ทคี่ วร ๓. การปิดทองลายขูด มีขั้นตอนเหมือนกับการ ปิดทองลายฉลุ เพียงแต่เพิ่มขั้นตอนการใช้เหล็กแหลม ขดู ลายเสน้ ใหเ้ กดิ รายละเอยี ดมากขนึ้ ๔. การแกะสลัก ลวดลาย นูนสูง นูนต�่ำ แกะสลัก ฉลุลาย เป็นกระบวนการน�ำออกแกะออกบนวัสดุต่างๆ เชน่ การแกะออก ขดู ออก หรอื เซาะออก ลวดลายอสี าน 7

๑. ขนั้ ตอนการเขยี นลายรดนำ้� ๑. ออกแบบลวดลาย ๒. ลอกลายลงกระดาษไข ๓. ปรลุ าย ๔. โรยลาย ๕. เขยี นลายดว้ ยนำ�้ ยาหรดาล ๖. เชด็ รกั ๗. ปดิ ทอง ๘. รดนำ้� ๙. งานสำ� เรจ็ 8 ลวดลายอสี าน

๒. ขนั้ ตอนการปดิ ทองลายฉลุ ๑. ออกแบบลวดลาย ๒. ลอกลายลงแผน่ แบบ ๓. ฉลลุ าย ๔. เชด็ รกั ๕. ปดิ ทอง ๖. งานสำ� เรจ็ ๓. ขน้ั ตอนการปดิ ทองลายขดู การปดิ ทองลายขดู พบมากในภาคอสี านและภาคเหนอื ขน้ั ตอนเหมอื น การปดิ ทองลายฉลุ เพยี งแต่มกี ารใส่รายละเอยี ดเพ่มิ เติมดว้ ยการใชเ้ หลก็ แหลม ขดู ทำ�เป็นเสน้ ภายในตัวลายทอง ไมใ่ หเ้ ส้นลกึ เกนิ ไปจนยางรกั กะเทาะ หรอื เบา เกินไปจนมองไม่เหน็ เส้นลาย ลวดลายอสี าน 9

๔. ขนั้ ตอนการแกะสลกั ลวดลาย ๑. ออกแบบลวดลาย ๒. ลอกลาย ๓. แกะเอาสว่ นทเ่ี ปน็ พน้ื ลายออก ๔. แกะรายละเอยี ดตวั ลาย ๕. งานสำ� เรจ็ 10 ลวดลายอสี าน

โบราณสถาน วดั ทงุ่ ศรเี มอื ง อำ�เภอเมือง จังหวัดอบุ ลราชธานี หน้าบันอุโบสถหอพระพุทธบาท วดั ทุ่งศรเี มอื ง เป็นลายปนู ปัน้ ประดบั กระจก พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ประกอบลาย กา้ นขดกระหนกเปลว สร้างเม่ือ พ.ศ.๒๓๓๐ ปลายรัชกาลท่ี ๓ ลวดลายอสี าน 11

สาหร่ายรวงผึ้งหอพระพุทธบาท วัดทุ่งศรีเมือง จำ�หลักไม้ปิดทองประดับกระจกสีเขียว ลายพรรณพฤกษา ออกชอ่ ดอกกาละกบั ได้รับการบูรณะเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ 12 ลวดลายอสี าน

ประตูหอพระพุทธบาท วัดทงุ่ ศรีเมอื ง บานประตูหอพระพุทธบาท สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. ๒๓๓๐ ปลายรัชกาลท่ี ๓ โดยพระอริยวงศาจารย์ ญาณวิมล อบุ ลสังฆปาโมกข์ (สุ้ย) เจา้ คณะเมืองอุบลราชธานี ซงึ่ พำ�นักอยทู่ ี่ วัดมณีวนาราม (วัดป่าน้อย) เป็นผู้อำ�นวยการสร้าง มีญาครูช่าง พระชาวเวียงจันทน์เป็นช่างผู้ควบคุมการก่อสร้าง บานประตู จำ�หลกั ไมป้ ดิ ทอง ประดบั กระจกสเี ขยี ว ลายกา้ นขดพรรณพฤกษา มีการแกะสลักใบไม้สลับกับกระหนกท่ีคล้ายกระจังในรูปทรงของ ใบไม้ ออกชอ่ ดอกกาละกบั ประกอบภาพ นก และกระรอก ทแ่ี สดง ถึงความอดุ มสมบูรณข์ องผืนปา่ ลวดลายอสี าน 13

14 ลวดลายอสี าน

หน้าตา่ งหอพระพทุ ธบาทวัดทุง่ ศรีเมอื ง หนา้ ตา่ งหอพระพทุ ธบาท เปน็ บานไมล้ งรกั ปดิ ทอง ลายฉลุ เร่ืองทศชาติ จำ�นวน ๖ ชอ่ ง พระชาติละหนง่ึ บาน สว่ น ๒ บานสดุ ทา้ ย เขยี นลายเครอื เถาเทพพนม ปฏสิ งั ขรณ์ ขน้ึ ใหม่ โดยช่างอุทัยทอง จันทกรณ์ ทา่ นเคยเป็นทป่ี รกึ ษา ศลิ ปกรรม ในพระราชสำ�นกั ลาว และหัวหน้ากองวชิ าการ โบราณคดขี องลาวอาศยั อยใู่ นประเทศลาว๑๐ปีสว่ นเทคนคิ การปิดทองลายฉลุนิยมทำ�กันมากในงานศิลปกรรมอีสาน ซ่งึ ตัวลายจะมขี นาดใหญ่ ไม่ละเอียดใช้เวลาการทำ�นอ้ ย ลวดลายอสี าน 15

16 ลวดลายอสี าน

พระครวู ิโรจนร์ ตั โนบล เสาภายในหอพระพุทธบาท เสาภายในหอพระพุทธบาท ด้านซ้ายมือ พระประธาน ตน้ ท่ี ๑ เขยี นภาพกนิ รี และกนิ นร ประกอบลาย ก้านแย่งพรรณพฤกษาในโทนสีเหลืองอมน้�ำตาล ฝีมือ ของพระครูวิโรจน์รัตโนบล เป็นเสาที่ใช้ค้�ำยันข่ือ เมื่อคร้ัง บูรณะผนังภายนอกด้านทิศตะวันตก แตกร้าวเป็นรอยใหญ่ เนื่องจากได้รับการส่ันสะเทือนจากเสียงพลุ ดอกไม้ไฟท่ีจุด ในงานพธิ ีตา่ งๆ บรเิ วณสนามทุง่ ศรเี มอื ง ลวดลายอสี าน 17

เสาภายในหอพระพทุ ธบาท เสาภายในหอพระพุทธบาท ด้านซ้ายมือ พระประธาน ตน้ ที่ ๒ เขยี นสลี ายกา้ นขดพรรณพฤกษา ออกชอ่ เทพพนม เปน็ ฝมี ือของพระครวู โิ รจน์รัตโนบล และเขียนลาย หน้ากระดานดอกซีกดอกซ้อนค่ันระหว่างลายกินรีก้านไขว้ และลายกา้ นขดเทพพนม ภายในเสาตน้ เดียวกัน 18 ลวดลายอสี าน

หอไตรวดั ทุง่ ศรเี มือง หอไตรวัดทุ่งศรีเมืองสร้างขึ้นราว พ.ศ. ๒๓๘๕ บางตำ� ราวา่ ไมเ่ กนิ พ.ศ. ๒๓๖๐ระหวา่ งรชั กาลท่ี๓เนอื่ งจากวดั ทงุ่ ศรเี มอื งเปน็ ทลี่ มุ่ น้�ำทว่ มขงั ทกุ ปี จงึ ขดุ ดนิ ทางทศิ ตะวนั ตก และทศิ เหนอื ไปถม เพ่อื สรา้ งหอพระพุทธบาท ท�ำให้บรเิ วณ ทางทศิ เหนอื เปน็ หนองนำ้� จงึ ไดส้ รา้ งหอไตรขนึ้ กลางสระนำ�้ เพ่อื เกบ็ รกั ษาพระไตรปิฎกและคัมภรี ท์ างพระพุทธศาสนา กราฟกิ : กิติกร บุญงอก ลวดลายอสี าน 19

หน้าบนั ดา้ นหนา้ หอไตรวดั ทุ่งศรเี มอื ง หน้าบนั ภาษาอีสาน เรียก “สหี น้า” จำ� หลกั ไม้ ปดิ ทองประดับกระจก ลายพรรณพฤกษาออกช่อดอกกาละกับ ท่ียังคงความสมบูรณ์ และเป็นดอกไม้ท่ีได้รับอิทธิพลจากศิลปะลาวล้านช้าง ท่ียังคงความอ่อนช้อยตามแบบศิลปะไทย ในลกั ษณะตน้ ไมไ้ ทย ทแ่ี สดงถงึ ความสมั พนั ธ์ และการเคลอื่ นทข่ี องเสน้ ไดอ้ ยา่ งสวยงาม รองศาสตราจารย์ ดร.วโิ รฒ ศรสี โุ ร ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นสถาปตั ยกรรมพนื้ ถน่ิ อสี าน ใหค้ ำ� จำ� กดั ความของหอไตรแหง่ นวี้ า่ “วญิ ญาณคงเปน็ อสี าน แตส่ งั ขารยงั เปน็ บางกอก” เปน็ ๑ ใน ๓ ของดเี มอื งอบุ ลราชธานี จนมคี ำ� กลา่ วตดิ ปากวา่ “พระบทวดั หลวง พระบางวดั ใต้ หอไตรวดั ทงุ่ ” 20 ลวดลายอสี าน

ลวดลายอสี าน 21

หนา้ บันดา้ นหลังหอไตรวัดทุ่งศรีเมอื ง หน้าบันจ�ำหลักไม้ปิดทอง ประดับกระจก ลายก้านขดพรรณพฤกษาออกช่อดอกกาละกับ โดยรวมของหน้าบัน เป็นรูปทรง “จอมแห” เพ่ือท�ำให้ส่วนยอดของอาคารรู้สึกเพรยี วบาง เบา ลอ่ งลอย แต่ม่ันคง โดยมญี าครชู า่ ง พระชาว เวยี งจนั ทนเ์ ปน็ ชา่ งผคู้ วบคมุ การกอ่ สรา้ ง จงึ เปน็ การออกแบบลวดลายศลิ ปะลาวชน้ั สงู ฝมี อื ระดบั ชา่ งหลวงจากเวยี งจนั ทน์ และยงั เป็นสง่ิ กอ่ สรา้ งที่ได้รบั รางวัลผลงานอนุรักษส์ ถาปัตยกรรมดีเดน่ เมอื่ พ.ศ. ๒๕๒๗ หอไตรแหง่ น้ี กรมศลิ ปากรได้ ประกาศขึน้ ทะเบียนเปน็ โบราณสถานในราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ท่ี ๙๘ ตอนท่ี ๑๐๔ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๒๔ 22 ลวดลายอสี าน

ลวดลายอสี าน 23

บานประตูดา้ นหน้าหอไตรวัดทุ่งศรเี มือง เปน็ บานไมค้ ทู่ รงสอบเขา้ เพอ่ื ลอ้ กบั ตวั อาคารมกี ารปดิ ทองแบบ ขดู ลาย เปน็ การปดิ ทองลายฉลุ แลว้ ขดู ลายเสน้ ลง บนพนื้ ทปี่ ดิ ทองเปลว โดยใชเ้ หลก็ แหลมกรดี เปน็ เสน้ ซง่ึ ตอ้ งใชค้ วามชำ�นาญของ ชา่ งเปน็ อยา่ ง มาก เพอื่ ไมใ่ หเ้ สน้ ลกึ มากเกนิ ไป จนพนื้ ยางรกั กะเทาะ หรอื กรดี เบาเกนิ ไป ทำ�ใหม้ องเหน็ เส้นลายไม่ค่อยชดั (สมเจตน ์ วิมลเกษม, สราวธุ รูปนิ . ๒๕๕๑ : ๕๗) เปน็ ลวดลายเครือเถาพรรณพฤกษา 24 ลวดลายอสี าน

ประตตู ัวเรือนช้ันในหอไตร วดั ทงุ่ ศรีเมอื ง บานประตูตัวเรือนช้ันในหอไตรวัดทุ่งศรีเมือง สร้างข้ึนในรัชกาลท่ี ๓ สมัยพระเจ้าพรหมราชวงศา (กทุ อง สวุ รรณกูฏ) เจ้าเมอื งคนท่ี ๓ เป็นภาพทวารบาล หรือรูปเทวดายืนแท่นทรงคันศร และลูกศร ด้านล่างมี หนุมานแบกฐาน ประกอบลายก้านไขว้พรรณพฤกษา ลงรักปดิ ทองลายฉลุ ลวดลายอสี าน 25

26 ลวดลายอสี าน

อกเลาประตชู น้ั ในหอไตรวดั ทงุ่ ศรเี มอื ง อกเลาประตูชั้นในหอไตรวัดทุ่งศรีเมือง จ�ำหลักไม้ ปิดทอง ล่องชาด ลายนูนต�่ำเครือเถาพรรณพฤกษา ออกช่อดอก กาละกับ อ่อนช้อย สวยงาม ซ่ึงเป็นดอกไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ลาวล้านช้าง มีลักษณะคล้ายผลสับปะรด ทางภาคเหนือก็มีลาย ดอกไม้ลักษณะคล้ายกับ“ดอกกาละกับ” เช่นกัน ศาสตราจารย์ นพ. เฉลียว ปิยะชน (๒๕๕๑ : ๑๗๘) ได้พูดถึงดอกไม้ชนิดน้ี ในหนงั สอื “เรอื นกาแล” ความวา่ “ดอกตาขะหนดั ” (ดอกสบั ปะรด) มลี กั ษณะคลา้ ยหวั สบั ปะรดในธรรมชาติ และมใี บประกอบ พรอ้ มหวั จกุ ทห่ี วั สบั ปะรด เปน็ เอกลกั ษณข์ องลา้ นนา” ลวดลายอสี าน 27

ภาพแสดงการเคลื่อนไหวของเสน้ แกน สาหรา่ ยรวงผง้ึ ประตชู ้นั ในหอไตร วัดทุ่งศรีเมอื ง สาหร่ายรวงผึ้งประตูทางเข้าตัวเรือนช้ันในจ�ำหลักไม้ปิดทอง ประดับกระจกลาย พรรณพฤกษา มีเสน้ แกนเคลื่อนจากโคนต้นไปสู่สว่ นยอดออกช่อดอกกาละกบั เปน็ ดอกไม้ ที่นิยมในภาคอีสาน เพ่ิมความมีชีวิตของป่าด้วยสรรพสัตว์น้อยใหญ่ ท้ังฝูงนกท่ีเกาะอยู่ ตามกิ่งไม้ รวมถึงฝูงลิงท่ีหยอกล้อกัน แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ สงบ ร่มเย็นของผืนป่า ภาพแสดงการเคลื่อนไหวของเส้นแกน 28 ลวดลายอสี าน

หนา้ ต่างหอไตรวดั ทงุ่ ศรเี มือง หนา้ ตา่ งตวั เรอื นชน้ั ในหอไตร เปน็ บานไมล้ งรกั ปดิ ทองลายฉลุ ภาพทวารบาล พระหตั ถซ์ า้ ยทรงคนั ศร และพระหตั ถ์ ขวาทรงลูกศรยืนบนตัวเหรา มกร และราชสีห์ จำ� นวน ๔ ชอ่ ง ดา้ นบนหนา้ ต่างประดบั สาหร่ายรวงผึ้งแกะสลกั ลายพรรณพฤกษานูนตำ่� ลงรกั ปิดทอง ประดับกระจกสวยงาม ดงั ภาพแสดงเสน้ แกนลายสแี ดง เคลอ่ื นทจ่ี ากโคนตน้ ดา้ นลา่ งขน้ึ สดู่ า้ นบนแสดงการทบั ซอ้ นกนั ของกง่ิ ไม้ เพอื่ ใหภ้ าพเกดิ มติ ิ รวมถงึ ความสมั พันธข์ องเสน้ แกนทรี่ ับสง่ กันได้อย่างลงตัวสวยงาม ลวดลายอสี าน 29

30 ลวดลายอสี าน

ลวดลายอสี าน 31

ผนังตวั เรือนชนั้ ใน หอไตรวดั ทงุ่ ศรเี มือง ผนงั ตวั เรอื นชนั้ ในลงรกั ปดิ ทองลายฉลุ ผนงั ดา้ น ทศิ เหนอื และทศิ ใตเ้ ปน็ ภาพกินรี และหนมุ าน ประกอบ ลายพุ่มข้าวบิณฑ์พรรณพฤกษา ออกช่อดอกกาละกับ โดยเริ่มท�ำภาพกินรี และหนุมานก่อน แล้วจึงท�ำลาย พมุ่ ขา้ วบณิ ฑ์ ซ่ึงมแี มล่ ายหลัก ๒ แบบ จดั วางสลบั กัน จนเต็มผนงั และการเว้นชอ่ งไฟของลาย เพื่อให้ลายดโู ปร่งไมแ่ นน่ จนเกินไป รวมถึงการเว้นชว่ งภาพหลกั กนิ รี และหนุมาน สว่ นขอบลายดา้ นบน และดา้ นลา่ งเปน็ ลายหนา้ กระดาน ลายกรวยเชงิ ลายประแจจนี ลายดอกไมแ้ ละลายลกู ฟกั ดอกลอย ในลักษณะลายขัดสานของอีสาน ด้านบนสดุ เปน็ ภาพเทพชุมนุม ค่ันดว้ ยพมุ่ ดอกไม้ 32 ลวดลายอสี าน

ลวดลายอสี าน 33

ภาพแสดงตำ�แหนง่ การจัดวางลายพุม่ ขา้ วบิณฑ์ ทอี่ อกแบบอยใู่ นรปู ทรงสเ่ี หลย่ี ม มลี ายแมแ่ บบหลกั ๒ ลาย ซึ่งมีโครงสร้างลายเป็นรูปสเ่ี หลย่ี มหลายรูปซอ้ นกนั แบบที่ใช้ท�ำพิมพ์ลายฉลุนิยมใช้แผ่นหนังที่ใช้ท�ำหนังตะลุง หรือหนงั ใหญ่ เพราะมีความเหนียวทนทานลักษณะตวั ลาย มีขนาดใหญ่ มี “ขื่อ” เชื่อมต่อลายให้ยึดติดกันเป็นแผ่น จะสังเกตเห็นรอยต่อของแบบพิมพ์ลายฉลุยักเยื้องเช่ือม ต่อกันไม่สนิท จึงเป็นข้อจ�ำกัดอย่างหน่ึงของการปิดทอง ลายฉลุ 34 ลวดลายอสี าน

วดั สปุ ฏั นารามวรวหิ าร อำ� เภอเมอื ง จงั หวัดอุบลราชธานี อโุ บสถหลังเก่าวัดสปุ ัฏนารามวรวิหาร ไดร้ ้อื สร้างเป็นอุโบสถหลังใหม่เม่ือ พ.ศ. ๒๔๖๓ (วิโรฒ ศรีสโุ ร, ๒๕๓๖ : ๒๖) ประตูวัดสุปัฏนารามวรวิหาร บานประตูไม้อุโบสถหลังเก่า จ�ำหลักไม้ ปิดทอง ประดับกระจก ลายก้านขดพรรณพฤกษา ออกช่อดอกกาละกับ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หวั รชั กาลท่ี ๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ โปรด กระหม่อมให้เจ้าพรหมราชวงศา (กุทอง) เจ้าเมือง อบุ ลราชธานี ล�ำดับท่ี ๓ สร้างข้ึนเมือ่ ประมาณปี พ.ศ. ๒๓๙๔ แลว้ เสรจ็ ในปี พ.ศ. ๒๓๙๖ (วราวธุ ผลานนั ต.์ ๒๕๕๗ : ๓) ปัจจุบันใช้เป็นประตูหอพิพิธภัณฑ์ วดั สปุ ัฏนารามวรวหิ าร กรมศิลปากรได้ประกาศข้ึนทะเบียนเป็น โบราณวัตถุ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มท่ี ๑๐๗ ตอนที่๙หนา้ ท่ี๑๔เมอื่ วนั ที่๑๒มกราคม๒๕๕๓ (วราวธุ ผลานันต.์ ๒๕๕๗ : ๓๕) ลวดลายอสี าน 35

กราฟกิ : คงเดช นิยมวงศ์ 36 ลวดลายอสี าน

ประตูวดั สปุ ัฏนารามวรวิหาร บานประตอู โุ บสถหลงั เกา่ ปจั จบุ นั เปน็ บานประตู หอศลิ ปวฒั นธรรม จำ� หลกั ไมป้ ดิ ทองลอ่ งชาดลายกา้ นขด พรรณพฤกษา ออกช่อดอกกาละกับ กรมศิลปากรได้ ประกาศขนึ้ ทะเบยี นเปน็ โบราณวตั ถ ุ ในราชกจิ จานเุ บกษา เล่มท่ี ๑๐๗ ตอนท่ี ๙ หนา้ ๑๔ เม่ือวันท่ี ๑๒ มกราคม ๒๕๓๓ (วราวุธ ผลานนั ต.์ ๒๕๕๗:๓๘) ลวดลายอสี าน 37

38 ลวดลายอสี าน

วดั มณวี นาราม อ�ำเภอเมือง จังหวัดอบุ ลราชธานี อุโบสถหลังเก่าวัดมณีวนาราม ถูกรื้อถอนไปแลว้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ (วโิ รฒ ศรสี ุโร, ๒๕๓๖ : ๓๙) ประตูวัดมณวี นาราม บานประตูอุโบสถหลังเก่า ประตูจ�ำหลักไม้ ปิดทอง ประดับกระจกสีน้�ำเงิน ลายก้านขดพรรณพฤกษา มีภาพนก และกระรอกประกอบลายดูมีชีวิตชีวา ดูเป็นธรรมชาติ ในภาพ แสดงเสน้ แกนหลกั สแี ดง ทโ่ี คง้ ขมวดคลา้ ยเลขหนง่ึ ไทย สว่ นเสน้ สนี ำ้� เงนิ เปน็ เสน้ รองทรี่ บั สง่ กนั เคลอื่ นทจ่ี ากดา้ นลา่ งขน้ึ สดู่ า้ นบน ปัจจุบนั เก็บรักษาท่หี อศลิ ป์ วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาอบุ ลราชธาน ี ลวดลายอสี าน 39

40 ลวดลายอสี าน

หนา้ ต่างวดั มณวี นาราม (วดั ป่าน้อย) หนา้ ตา่ งอโุ บสถหลงั เกา่ จำ� หลกั ไม้ ปดิ ทอง ประดบั กระจกสนี ำ�้ เงนิ และสเี หลอื ง ลายเครือเถาพรรณพฤกษา ออกชอ่ ดอกกาละกบั ภาคเหนือ เรยี ก “ดอกตาขะหนดั ” มลี กั ษณะคลา้ ยหวั สบั ปะรดในธรรมชาติ และมใี บ ประกอบพร้อมหัวจุก ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ท่ีหอศิลป์วิทยาลัยอาชีวศึกษา อุบลราชธานี ลวดลายอสี าน 41

42 ลวดลายอสี าน

ลวดลายอสี าน 43

44 ลวดลายอสี าน

ลวดลายอสี าน 45

46 ลวดลายอสี าน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook