44 กลอน ประวัตศิ าสตรไ์ ทย: ไทยยา้ ยมาอยูห่ นองกะแสตาลฟี ู ตอนท่ี 3 44 ทานอง ลาทางส้นั ประพันธ์โดยแม่ครู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2516 (บทท่ี 1) ฟง๓ ตอนไทยมาสรา๎ ง หนองกะแสแสนยําน ตามตํานานกลําวไว๎ตาลฮี ู๎ผ๎ูครอง (บทท่ี 2) หนองกะแสตาลฮี ู๎ หึเอ้ินวาํ ตาลีฟู ตาลีฮู หรือเจา๎ โกะ๏ ลํอฝง เพน่ิ ทวิ งคตไปหํางไลลาบา๎ น โกะ๏ ลอํ ฝง คนสําคัญตํอต๎าน อยํตู อํ มาแมนํ เจ๎ากบุ ไลขํ าํ น ผู๎ครองเมอื งสรา๎ งบา๎ นหาญกลา๎ เกงํ การ (บทท่ี 3) ทาํ นผ๎ูนี้มีอํานาจเหลอื หลาย ไดข๎ ยายการรบลวํ งมาทางใต๎ ไทยกับจนี พันเกีย้ วกนั มาบหํ ยดุ หยํอน ตอนสโ่ี จว๎ ฮํองเต๎ มาขึ้นน่งั เมือง (บทที่ 4) เสยี งซําก๎องกษตั รยิ ๑เราชวงศ๑หงวน ปวงประชากรหลายหลาย ฝาุ ยไทยเลยยอมแพ๎ จนี แหยมํ า อาณาจกั รนาํ นเจา๎ เลยเสยี ไปไลปลํอย ถอยจากจีน มาถิน่ ไทยล๎านช๎าง ทางก้ําฝุายเหนือ (บทท่ี 5) เสยี ล๎านช๎าง ล๎านนา ฮอดสิบเก๎าเจ๎าฟูาฮอดสิบห๎าจไุ ทย อพยพลงไป ดนิ สุวรรณภูมอิ ยํูจนเดยี วน้ี หนจี ากจนี ลงใตส๎ องทางสองทํา พวกหน่ึงมาทศิ ใต๎สายนาํ้ แมโํ ขง (บทท่ี 6) ลงบถํ ึงตงั เกย๋ี พ๎นุ ถงึ ทะเลเททําว เอ้ินวาํ ลาวหรือไทยน๎อยกะได๎ ไหลล๎นหลง่ั หนี (บทท่ี 7) กลุมํ หน่ึงหนีไปก้ําทางฝุายตะวันตก ลงไปทางสาละวิน สนิ ธวุ าสายนา้ํ นามอาหมหรือเง้ียวฉายาวําไทยใหญํ สมยั พันแปดรอ๎ ยไทยนอ๎ ยนน้ั แมํนลาว (บทท่ี 8) ชาวไทยเหนอื หนไี ปสรา๎ ง สโุ ขทยั ขึ้นใหมํ ดินแดนไทยซ่วั สิฮอดมือ้ นี้ ไผบ๎างนงั่ เสวย หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น ศูนย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
45 (บทท่ี 9) เลยไปถงึ พ.ศ. พันแปดร๎อยคํอยเหง่ียงประวัติการณ๑ พระเจ๎ากปุ๏ ไลขํ าํ น เจา๎ แผํนดนิ วงษ๑หงวนเกํงการทหารกลา๎ (บทท่ี 10) ยกพวกมาราวสี ๎ู เปน็ ศรตั รูครั้งยง่ิ ใหญํ คราวนนั้ ไทยพลาดพล้ัง ยอมหลา๎ เหลาํ ถอย (กลอนลง) คอยฟ๓งตอนสุโขไทยสฟิ เู ฟือ้ งเฮืองฮํูงเดอ๎ ลุงปาู ... หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน 45 ศูนย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
46 กลอน ประวัตศิ าสตร์สุโขทัย: เรม่ิ กอ่ ตง้ั สโุ ขทัยตอนต้น ตอนที่ 1 46 ทานอง ลาทางสั้น ประพันธ์โดยแม่ครู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทท่ี 1) บดั นีฟ้ ๓งบทซ๎อน คํากลอนประวตั ศิ าสตร๑ พวกนักปราชญผ๑ ู๎ฮูฟ๎ ง๓ แล๎วฮน่ิ ตรอง (บทท่ี 2) บํอนใดบกบํอนใดพรอํ ง กะใหต๎ ่มื เติมเอา ประวตั ิไทยของเฮามากมายหลายล๎น คนไทยเฮาควรฮ๎ู ศกึ ษาไว๎แหนํ บํแมํนมีตัง้ แตํ มาหาคําวําเลนํ เห็นแบง๎ คเ๑ พิน่ กะเซา (บทท่ี 3) ลางคนเดาลาํ ด๎น หมนํ ปุาหาผิด บํได๎มีความคิดสสิ ร๎างสรรค๑สานไว๎ ฉันราตรีศรวี ิไล ขออภัยนําทาํ นกอํ นทาํ การงานใหญํ เรอ่ื งประวัตศิ าสตร๑ไทยไผบํเฮยี นบํฮด๎ู ไู วแ๎ มํนดี (บทท่ี 4) ในยกนี้สขิ อเขยี นตมื่ แต๎มเว๎าเรือ่ งเปน็ มา การสถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทัย ปุูยาํ เฮาป๓นไว๎ ฉันราตรีศรีวไิ ลเหน็ แลว๎ จัง่ เขียนกลอนมาวาํ แถบลํุมนํา้ เจ๎าพระยาทัง้ ตอนกลางและใตไ๎ ทยเร่มิ พักเซา (บทท่ี 5) ตอนน้ันผูเ๎ ปน็ เจา๎ เจ๎านามช่อื วาํ ขนุ บาง เมอื งเงินยางขุนผาเมืองเรอ่ื งราวคราวนน้ั คนสาํ คญั ไทยกลา๎ พานาํ กป๎ู ระเทศ เหตุวาํ เสยี ชาตใิ หไ๎ ทยนนั้ เสอ่ื มสูญ (บทท่ี 6) ยกทพั มาแตพํ ๎นุ เขตถนิ่ ดนิ เหนือ เสยี แควน๎ ไทยจนี เจก๏ เขตแดนแผนเว๎า เอาประชาชนเช้ือเหลอื ตายยา๎ ยท่ี หนีลงมาสํวนใต๎ ไทยไดพ๎ ักเซา (บทท่ี 7) ประวตั ิศาสตร๑เพ่ินเวา๎ เลําตํอมาดน วนมาหลายช่วั คนปูยุ ําเฮาครองไว๎ ในตอนน้ันไทยเฮาตกเปน็ ข๎าไดห๎ าแนวนาํ สงํ ไทยขึ้นตํอขอมสมาดโขนลําโพง เขายึดเอาตลอดเกลยี้ งเสียเสียงบํยงั หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น ศูนย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
47 (บทท่ี 8) แควน๎ ทวาราวดเี ขายึดเปน็ ทตี่ ้งั หนา๎ ดํานของขอม ไทยเฮายอมเสยี ไปเพราะกาํ ลังคนนอ๎ ย ถอยมาถงึ พ.ศ. 1780ไทยลบคืนมาได๎เปน็ ของไทยคอื เกาํ เจา๎ เมอื งราดบอกไว๎เป็นคนกล๎าเกงํ การ (บทที่ 9) ขุนผาเมืองซือ้ ทาํ นคนเกงํ ของไทย คนตํอไปพํอขุนบางกลางหาวเปน็ เจา๎ เมืองบางยางเพิ่นวางแผนไว๎ รํวมกาํ ลงั กันได๎ สองพญากลา๎ เกงํ เขมรเกรงหยํอนยา๎ นบหํ าญสู๎ตํอมอื (กลอนลง) พํอขุนผาเมอื งนน้ั คือ เจ๎าเมอื งราดคนเกงํ ในตอนนน้ั ... หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น 47 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
48 กลอน ประวตั ิศาสตร์สุโขทยั : พ่อขุนศรีอินทราทติ ย์ ครองเมือง ตอนท่ี 2 48 ทานอง ลาทางส้นั ประพนั ธ์โดยแม่ครู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2517 (บทท่ี 1) ในตอนนี้ สโุ ขทัยลกุ วื้อพรอ๎ มรบจบดี ถอื เอาความสามัคคตี อํ ตีเขมรได๎ เลยเลําอภิเษกให๎พอํ ขุนบางเป็นใหญํ เป็นกษตั ริยส๑ โุ ขทัยแรกเร่ิมเตมิ ให๎ช่อื เสียง (บทท่ี 2) เปลี่ยนพระนามชื่อวาํ พํอขนุ ศรีอินทราทิตยช๑ ื่อเฟอ่ื ง ฟูากระเด่ืองดินไหว เลยต้ังราชธานีอยํทู ี่เมอื งสโุ ขทัยซําไกลปางกี้ ปี พ.ศ. พนั แปดรอ๎ ย สโุ ขทยั ตั้งใหมํ อาณาจกั รสุโขทัยตั้งแรกเริม่ เดมิ คา๎ บํหลาย (บทที่ 3) อยูํตอํ ไป พํอขนุ ศรฯี จึง่ ยา๎ ย ขยายเขตไปไกล ตอนแรกนน้ั มหี นงึ่ เมอื งสุโขทัยสองสวรรคโ๑ ลกเกํา (บทท่ี 4) ตามประวัติบอกเลาํ เอ้ินวาํ เมืองชะเลียง ถดั ไปห้ัน กะแมํนเมืองสองแคว ใต๎พิษณโุ ลก (บทท่ี 5) ตอนน้ขี อสาธก ประวตั พิ อํ ขุนศรี เปน็ กษตั รยิ ค๑ นดคี รอบครองเมืองบ๎าน มเหสขี องทาํ นนางเสอื งนามช่อื ขนุ บางเมืองนนั้ คอื พระโอรสผู๎น๎องรองเค๎าผส๎ู อง (บทท่ี 6) เป็นน๎องของผอ๎ู ๎ายทีต่ ายแตเํ ยาว๑วัย คนท่สี ามตํอไป ชอ่ื ขุนรามคําแหงได๎นั่งปองครองบ๎าน การปกครองแวํนแคว๎นสุโขทัย เมอื งใหญํ ได๎สิบเอ็ดปีปลายเลยสวรรคตสิน้ ลาล๎างลํวงหนี (บทท่ี 7) ปี หนึ่งพนั แปดรอ๎ ยสิบเอด็ พํอขนุ บางเลยไดแ๎ ทนพอํ ครอง เมือง มชี ่อื เสียงลอื ซา สงาํ สมกษตั รเชอ้ื เม่อื พ.ศ. พนั แปดร๎อยยีส่ ิบ เลยสวรรคตสนิ้ ดนิ ไทยหมองหมนํ อกี บํดน กะได๎กษัตรยิ ส๑ รา๎ งตํอไป (กลอนลง) ประวตั กิ รุงสุโขทยั ฟง๓ ไว๎ให๎ฮอนฮา่ํ หมอลาํ เวา๎ ... หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
49 กลอน ประวตั ศิ าสตร์สโุ ขทัย: พอ่ ขุนรามคาแหงครองเมือง ตอนที่ 3 ทานอง ลาทางสัน้ ประพันธโ์ ดยแมค่ รู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทท่ี 1) บดั นฟี้ ง๓ บทซ๎อน ตอนตอํ สุโขทยั ฉนั ราตรีศรวี ไิ ลผ๎แู ตํงกลอนฮอนบ้นั คันผดิ ตกบกพรํอง ในบางบทบางกลอนเขยี นแตม๎ บํครบคํู ขอนําทาํ นผ๎ูฮ๎ู ดูแลว๎ โปรดอภัยให๎ (บทท่ี 2) ตอนนีข้ อเทดิ ไว๎กษัตรใหมํองคส๑ าม พอํ รามคําแหง ได๎แสดงฝีมอื เกํงการแตํยังน๎อย กํอสิมีนามห๎อยตามมามหาราช ความสามารถทุกด๎านหาญกล๎าซูอํ นั (บทท่ี 3) สุโขทัยตอนนนั้ เจริญฮํุงเฮืองหลาย ตง้ั แตํกกสดุ ปลายฮงํุ เฮืองเสมอดา๎ ม ตามประวัตเิ ขยี นไวผ๎ ปู๎ กครองสุโขทยั มหาราชคนเกงํ เพ่นิ รบี เรํงกํอสรา๎ งเมืองบ๎านยาํ นนคร (บทท่ี 4) ประชาชนบเํ ดอื ดรอ๎ นฮอ๎ นแฮงํ แนวใด ขยายดนิ แดนไทยใหญยํ าวหลายลา๎ น ทางทิศเหนอื เถิงเมอื งแพรเํ มืองนํานเมอื งชวาเมอื งเชํา หลวงพระบางเพนิ่ เวา๎ ทางกา้ํ ทิศเหนอื (บทท่ี 5) ตีเอษซุมซาตเิ ซอื้ ก้ําฝุายทางลานนา สัญญาใจวาํ ไทยบํรบไทย เลยผาํ ยหนกี ลายซ้าํ มาทางก้ําล๎านนาแคว๎นใหญํ ขยายไปเร่ือยๆ ถึงถํา้ ฝาุ ยขอม (บทที่ 6) จอมเมอื งตเี อาไดด๎ นิ แดนใหญเํ มืองขอม ประกาศศกึ ขอมยอม พาํ ยพงั เพม๎าง ตไี ปทางฮิมโซง๎ แมนํ าํ้ โขงเขตใหญํ ฮอดเวยี งคํากํายใสํ สระบุรีตอนใตต๎ ีล้ําหนาํ่ ไป (บทท่ี 7) ตลอดฮอดนครศรธี รรมราช ภาคใต๎แหลมใหญมํ ลายู บเู๐ ขา๎ ฮอดจุดหมาย ทศิ ตะวนั ตกนี้ ตีฮอดอาํ วเบ็งกอลและเมอื งมอญ้ําพ้ี ไดเ๎ มืองหงสาวดีนําจี้ขบั ไลํ หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน 49 ศูนย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
50 ตอนนน้ั กรงุ สโุ ขทัย เจริญไกลรดุ หนา๎ เรืองรงํุ ฮงํุ ใส 50 (กลอนลง) ตอนประดษิ ฐ๑หนังสอื ไทยขอฝากไว๎ให๎ฟ๓งตอํ เอาเด๎อทําน... กลอน ประวัตศิ าสตรส์ โุ ขทัย: ประดษิ ฐ์อักษรไทยไวแ้ ผน่ ศิลาจารึก ตอนที่ 4 ทานอง ลาทางสน้ั ประพันธ์โดยแมค่ รู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) บดั นีข้ อกลําวยอ๎ น บ้ันบอํ นเป็นไป สมัยพํอขุนรามนั่งปองครองบ๎าน ขอกราบการไว๎นาํ ทํานผ๎ฮู ู๎ ฟง๓ ดูแล๎วเตมิ ตํอ ฉนั ราตรขี อเขยี นกลอนยํอยํอ ขอให๎เพม่ิ ตืม่ เอา (บทที่ 2) ตอนน้นั ผ๎เู ปน็ เจา๎ มหาราชรามคาํ แหง เพนิ่ แสดงฝีมือชื่อเสียงดังสะทา๎ น เทงิ การเมืองการบา๎ นสมเป็นผู๎เช่ียวชาญในดา๎ นตํางๆ ไดป๎ ระดิษฐ๑คดิ สรา๎ ง ฟฟู ้นื ซํูอัน (บทที่ 3) สิง่ สาํ คัญใหญยํ งิ่ ประวัตศิ าสตร๑สุโขทยั ในพ.ศ.พันแป็ดร๎อยยส่ี หิ ก พํอขุนราม ไดป๎ ระดษิ ฐ๑อกั ษรไทยแผนํ จารกึ แผนํ ศิลาไว๎ ทรงประดิษฐค๑ ดิ ไดห๎ นงั สอื ไทยกํอนหมํู เป็นนักปราชญร๑ อบรู๎ ประดิษฐ๑ไวใ๎ ห๎ใสนํ าม (บทท่ี 4) ตามพยัญชนะ อกั ขระ สระไทยขน้ั ต๎น วรรณยกุ ตค๑ มุ เสียง อกั ษรกลางอักษรสงู ต่าํ สามระดบั นี้ ประดิษฐ๑มีเอาไว๎ แตสํ มยั สโุ ขทัย ให๎เฮาไดใ๎ ชต๎ อํ การปกครองบ๎านเมืองการปกครองแบบพอํ รักษาลกู ถกู ต๎อง ปรองสร๎างใสกํ นั (บทท่ี 5) การปกครองหวํางพํอขนุ รามนน้ั ใกล๎ชดิ ประชาชน พลเมืองกะพอใจ นบั ถือลือยอ๎ ง การปกครองคราวนัน้ ถือกนั คอื พอํ ลกู ถ๎าหากวําราษฎรทําถกู มรี างวลั ยกให๎ บาํ เหนจ็ ไว๎อยาํ งดี (บทท่ี 6) ไผทําผิดกะกลําวชี้ ตามเรอื งเปน็ ไป หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
51 ทรงหํวงใย ใสํตอํ ความสขุ ทกุ ข๑ราษฎรชาวบ๎าน มกี ารแขวนกระดง่ิ ไว๎ ผักกะตูดงั ห่ิง ไผมสี ิ่งเดือดรอ๎ น ใหไ๎ วฟูาวส่นั กระดิง (บทที่ 7) พระองค๑บอํ ยนูํ งิ่ ให๎ขอ๎ คดิ ปรกึ ษา วาํ ไปตามความจรงิ ส่ิงดหี รอื ฮ๎าย ใจบหํ มายหมองมวั้ นาํ สนิ บนสํงสํวย ทรงอาํ นวยบรรเทา ความสุขทุกข๑เดอื ดร๎อน ราษฎรทุกหยอํ มหญา๎ ปรกึ ษาได๎ซํยู าม (บทที่ 8) ศาสนา กะบํเคยลวํ งขา๎ ม เอาใจใสํหลายทาง ชาวลงั กานาํ มาวางมาแผํขยายเอาไว๎ พอํ ขุนราม ทรงสมั พันธมิตรใหช๎ าวลังกาเมอื งหนง่ึ เกดิ ความฮักซาบซึ้ง เลยเปน็ เพ่ือนตํอกนั (บทท่ี 9) ชาวลังกาคร้งั นัน้ พระอโศกครองเมือง มชี อ่ื เสยี งด๎านพระพทุ ธศาสนา กลาํ วมาแตํตอนต๎น อนั วําคนไทยน้นั กะคอื กันมาแตํกอํ น ตอนน้ันไทยกับขอมกะถือพระพุทธเจา๎ คอื ดา๎ มด่งั กัน (กลอนลง) ขอบน้ั กลอนลาลงปลงไว๎สากํอนในตอนน้ี… หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน 51 ศูนย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
52 กลอน ประวตั ิศาสตร์สุโขทัย: สรา้ งศิลาจาลึกกับพระแท่นมนังคศิลาอาสน์ 52 ตอนที่ 5 ทานอง ลาทางสน้ั ประพันธโ์ ดยแม่ครู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) ฟ๓งเอาไวต๎ อนประวตั สิ โุ ขทัยฟุเู ฟือ้ งเฮืองฮุํง รํงุ เรอื งไปสูดํ า๎ นประสานคลํองสูํอัน (บทที่ 2) ศาสนาครั้งนั้นเปน็ ลัทธิหนิ ยาน มาฮอดราชกาลพอํ ขนุ รามคําแหงแฮงํ เจริญฟูุเฟอ้ื ง ตาํ งฮํวมเฮยี งกันเข๎าโฮมกนั เปน็ กลมํุ รํวมเปน็ ซุมํ สืบสรา๎ งทางด๎านศาสนา (บทท่ี 3) บํมีเรือ่ งนอ๎ ยหนา๎ ประชาราษฎร๑สุขี มีพระราชกรณยี ๑กจิ ตอํ ประชาชาวบ๎าน ในดงตาลคราวนั้นความสําคญั หลายอยําง เชนํ วําสร๎างศลิ าจารึกไว๎ มคี ณุ ค้าํ คําคาม (บทที่ 4) ลงนามเหตกุ ารณไ๑ ว๎ เรอื่ งน๎อยใหญบํ นั ทกึ รวมเปน็ ปรกึ หลกั ฐาน ย่งั ยนื ยาวหม้นั คําประพนั ธไ๑ ขชี้ ประวัตมิ ีเขียนใสํ เหตกุ ารณ๑ใดบันทึกไว๎ในหัน้ คซํู ุแนว (บทท่ี 5) ตกสมยั กรุงเทพฯแล๎วจัง่ แจง๎ สํองในประวตั ิ ตอนสมัยสโุ ขทยั เห็นชัดกะย๎อนวําหลักศิลานี้ อยํางทส่ี องมาหน้ีสําคญั คือพระแทํน อยดํู งตาลเขตแควน๎ พระองคส๑ รา๎ งอยํางสวย (บทท่ี 6) หลกั ศลิ ากบั พระแทํนทําดว๎ ยสํวนประกอบหนิ ชนวน มีขบวนการทาํ แกะสลกั ขัดมนั งดงามลายโก๎ โตหนังสอื เขียนไว๎ในกลกั ประวัติศาสตร๑ ซอื่ พระแทนํ มนงั คศลิ าอาสน๑พอํ ขุนรามสรา๎ งไวค๎ นได๎ยดึ ถอื (บทที่ 7) ฮอดวันศีลซูมํ ื้อไปมนต๑พระมาแสดง เพื่อสร๎างความฮกั แพง ฮํวมโฮมกันทําบุญ ยึดพทุ ธคณุ องคเ๑ จ๎า โดยยดึ เอาพระแทนํ เป็นอาสนาฮองนง่ั หลังจากฟง๓ เทศนแ๑ ล๎ว กะสานสรา๎ งตอํ มา หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น ศูนย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
53 (บทท่ี 8) ตกมาวนั ธรรมดาพํอขุนรามนน้ั ขน้ึ ประทับนงั่ วางการ บรหิ ารแผนํ ดนิ น่งั เนาศลิ าแทํน คนเหมดิ แดนมาเฝาู ฟ๓งคาํ พระองคส๑ ่ัง พอํ ขนุ รามขึ้นนง่ั ถามทุกขส๑ ุขไพรฟํ าู ทีม่ านัง่ เฝาู คํูซํวู ัน (บทที่ 9) ความสขุ ทุกข๑ของประชาชนนั้นใหช๎ ี้แจง๎ แถลงไข ทรงแกไ๎ ขปญ๓ หา วาํ ไปตามเรอ่ื ง บํไดเ๎ คอื งขดั ขอ๎ ง ความสมบูรณม๑ ูลมง่ั ดั่งขอ๎ ความจารึกไว๎สนองให๎ซอูํ ัน (กลอนลง) ตอนตอํ ไปสําคัญผูกสมั พันธย๑ ่ิงใหญํ ไทยจีนเด๎อ... หนงั สือรวมกลอนลำทำงสั้น 53 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
54 กลอน ประวัติศาสตร์สุโขทยั : สรา้ งสมั พนั ธก์ ารขา้ ขายรว่ มกับกษัตริยจ์ ีน 54 ตอนที่ 6 ทานอง ลาทางส้ัน ประพนั ธ์โดยแม่ครู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) ประวตั ศิ าสตร๑ตอนน้มี ีชื่อลอื เสียง เมืองสุโขทัยดัง ทวั่ โลกากอ๎ ง เสียงแซซอ๎ งพํอขุนรามงามเดนํ เหน็ ประจกั ษ๑ครบถว๎ นคําขวัญเวา๎ เลํามา (บทท่ี 2: เว้าคาขวัญ) เมืองสุโขทัยน้ีดเี ดํนหนกั หนา วําในนํ้ามีปลาในนามีข๎าว เจา๎ เมอื งบเํ อาจะกอบในไพรลํ ทูํ าง ไผอยากค๎าช๎างมา๎ งวั ควายกะค๎า ไผอยากค๎าข๎าวของเงนิ ทองกะค๎าไพรํฟาู หนา๎ ใส (บทที่ 3) แปลวํา เมอื งสุโขทยั น้ัน เจรญิ ดีมาก การค๎าขายกะหากอุดมสมบรู ณ๑ (บทท่ี 4) ในตอนนั้น สุโขทยั มง่ั มลู บํมีแนวทํอ เชํนวาํ การตดิ ตอํ คา๎ ขายคอื กัน (บทที่ 5) พระองค๑ผกู สัมพันธ๑กับเมอื งตํางๆ ฟง๓ ซยิ กตัวอยํางกษตั รยิ ๑จีนครงั้ นัน้ สัมพันธไ๑ ว๎ตอํ กนั (บทท่ี 6) ปรากฏวาํ สมยั นั้นจีนมาอยํูไทยหลาย มาค๎าขายหากิน อยํูสโุ ขทนั พ้ี ไทยกะมสี นิ ค๎า ขายไปเมืองนอก มสี ินคา๎ สํงออกเขา๎ เฮาขายค๎าฮํวมกนั (บทที่ 7) โดยเฉพาะไทยนน้ั บํเอาคาํ ภาษี เพ่ือสมานสามัคคีจัง่ ปลอํ ยการขายค๎า บํหาเอารายได๎ภาษีผํานดําน ด๎านสง่ิ ของเคร่ืองใชเ๎ ฮาไดจ๎ ากจนี (บทท่ี 8) เชนํ ถ๎วยซามทกุ ชน้ิ จนี เปน็ ผพู๎ าทาํ งานทางดา๎ นหตั ถกรรม ชํางจีนมาตงั้ หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
55 สมยั ราชวงศ๑ถัง กบั ท้งั ราชวงศซ๑ ๎อง กษัตรยิ จ๑ ีนพระองคเ๑ กาํ เปน็ เครื่องป๓น้ ดินเผาไทยเฮาเอาอยํางไว๎มาใช๎ซูวํ นั (บทที่ 9) จนี นําเอาเตาปน๓้ มาต้งั อยูสํ โุ ขทยั เตาที่สองตอํ ไป ต้ังอยเูํ มืองสวรรคโ๑ ลกเด๎อจําไว๎ อยํูตอํ มาเลยได๎ขยายอีกตอํ สมัยนัน้ คณุ พํอ องค๑มหาราชเจา๎ เป็นเหงา๎ ม่ิงเมือง (บทที่ 10) พอํ ขุนรามชือ่ เฟ้ืองปราชญ๑เปรือ่ งสมนาม ตามประวัติสุโขทยั ฮํุงเฮอื งเหลอื งเหล่ือม ในตอนน้ัน ซิหาเทยี มพระองคไ๑ ด๎ บํมีเลยจกั ทาํ น กาลเวลาลํวงข๎าม สมยั นั้นผาํ นไป (บทที่ 11) ตอนพญาเลอไท ขน้ึ มาปกครองบ๎าน เลยเกิดการกบฏ พอํ ขนุ รามสวรรคต เลยสั่นสายอายเอ๎า บา๎ นเมืองเฮาตอนนนั้ การปกครองบํแปลเปล่ียน เวียนมาฮอด องค๑พญาลไิ ทนั่งปอง (บทท่ี 12) องคน๑ ้ีคือเปน็ ผน๎ู ๎อง ครองราชย๑สมบตั ิ เป็นกษตั รยิ บ๑ ทํ นั ดนกะเหลาํ ไลลาล๎าง ผ๎ูทม่ี าครองสร๎าง เปน็ พญาองค๑ใหมํ พญาไสยลอื ไท หรือพระธรรมราชาทีส่ อง ครองบํดนกะได๎เสยี ให๎แกเํ ขา (กลอนลง) คอยฟง๓ เอาตอนกรุงศรีอยุธยาสหิ นากวา๎ งกวาํ เกําไทยเฮาเอย๎ ... หนงั สือรวมกลอนลำทำงสั้น 55 ศูนย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
56 กลอน ประวตั ศิ าสตร์สโุ ขทัย ตอนที่ 7 56 ทานอง ลาทางส้ัน ประพนั ธ์โดยแมค่ รู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) มาบดั นส้ี เิ วา๎ เช่อื มตอํ กรุงศรี ตอนตเี อาสโุ ขทยั ไดส๎ มบรู ณ๑แลว๎ (บทท่ี 2) ปี พ.ศ. 1921 เมอื งกรงุ ศรีเลยเข๎ามารบสโุ ขทัย ยกทัพไป ตีเมอื งชากงั ราวยาดเฮาไปได๎ ไสยลอื ไทเลยย๎านยอมเสียเอกราช เจ๎าอทํู อง ยึดอํานาจไดแ๎ ล๎วเลยรวมเข๎าใสํกัน (บทท่ี 3) ตอํ จากหน้ั สโุ ขทัยเลยได๎ ขนึ้ ตํอกรุงศรี นับไดร๎ ๎อยสิบสองปแี ตํสโุ ขทยั ตั้ง ฟง๓ ตอํ ไปตอนหนา๎ เมืองกรงุ ศรีอยุธยาซเิ ปน็ ไปจงั่ ใดแหนํ นบั ตัง้ แตํ เจา๎ อํูทองขน้ึ สร๎าง ครองบ๎านตอํ มา (บทที่ 4) ประวตั ิศาสตรบ๑ อกวํานานย่งิ จกั ปี มีกษตั รยิ ค๑ รอบครองเถงิ สามสิบสี่องคต๑ ํางวงศ๑สรรสรา๎ ง ตอนสาํ คญั ไปห่ัน เรยี กวาํ ศกึ บางระจนั ใหค๎ ณุ นั้นลําตอํ ครนั บไํ ดก๎ ะบตํ อ๎ งขัดขอ๎ งบวํ ํากัน (บทที่ 5) บอํ ยากถามจ๎อจนั้ ฟน๓ นา่ํ เถงิ ตอ เอาแตํพอสมควร สอํ งทางไดค๎ วามรู๎ บกุ นั ไปทางหนา๎ เสวนาซอ๎ ยชื่น อยูํยั่งยืนซอดแจ๎ง แสดงได๎มํวนยนิ (บทท่ี 6) ซไิ ปถามละเอียดสิ้นถามจนวินหยงุ๎ หยงั้ รงุ รังเฮ็ดหยังนอํ ฮู๎วําตออยูํแลว๎ ไปเตะชาํ้ แตกตีน การทางลาํ ใหม๎ ันไหลหลน้ิ ๆวําแตํปิ่นไปใส บตํ อ๎ งไปหาคยุ วําโตดีลน๎ ลางคนลาํ กลอนท๎าเหมดิ คนื ฮอดฮํุง บจํ กั ตํา่ จักสงู มีแตลํ ําสาดทา๎ หนกั หน๎าน่ําทวี (บทท่ี 7) ฮอดบํมกี ลอนซ้าํ มีแตคํ าํ สาดดํา ลําตาํ ดงตําปาุ หากลอนดีบํได๎หากเหลือฮา๎ ยแตํคยุ หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
57 (บทท่ี 8) ลาํ จั่งซัน้ มันหล๎ยุ คือบผํ ํานการศกึ ษา หาแตํแนวมาตัว๋ หลอกเอาเงนิ จ๎าง เอนิ้ วาํ หมอลําฮา๎ งตว๋ั เอาเงนิ เพิ่น เขินปานขอใสมํ ๎า ถามห๎าตอบซาว (บทที่ 9) บํแมํนเว๎าก๎าวรา๎ วเถงิ ทํานคนใด ไผบํเป็นกะยอมอื เทดิ ทูนเหนือเกล๎า เซาซะเดอ ผใํู ดเปน็ ไปแล๎วอยําหาแนวดําใหห๎ มํู ไผด๐เู รียนกะต๎องไดก๎ ลอนไว๎ถา๎ แขงํ ขัน.... หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น 57 ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
58 กลอน ประวตั ศิ าสตร์กรงุ ศรอี ยธุ ยา ตอนท่ี 1 58 ทานอง ลาทางส้ัน ประพันธ์โดยแมค่ รู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2517 สมัยอทูํ องเจา๎ เนาเมืองเสวยราช ประวัตศิ าสตร๑บอกแล๎ว แถลงไวช๎ ดั เจน เป็นกษตั รยิ ๑แกกํ ลา๎ ประชาราฏรถ๑ ือหาง ทางนครกรงุ ศรี ซําลอื ถอื ย๎อง เจา๎ อทํู องคนน้ี ประวัติดคี รงั้ กํอน ประชาชนบํเดอื ดร๎อน เมืองบา๎ นได๎อยูํเยน็ ประวัตศิ าสตรค๑ ัดเฟนู บอกซื่อลือเสยี ง เป็นเชือ้ เมอื งเชียงราย แตํเดิมดาเค๎า บงั เอญิ เมืองอูํทองเศรา๎ เป็นไปลายตําง แมํนํ้าไหลผดิ ทาง เกิดกนั ดารยากยุง๎ คนล๎มปุวยตาย เจา๎ อูทํ องเลยย๎าน อพยพเมืองหนี ไปตามสายวารี พกั เซาเนายงั้ เจ๎าอูํทองไปตงั้ เฮอื นซานบา๎ นซอํ ง อยรูํ ิมคลองแมํน้าํ ไหลขนั้ ตํอกัน หนงึ่ แมํนาํ้ เจา๎ พระยา สองแมํนาํ้ ปุาสัก สาม แมํนา้ํ ลพบรุ ีไหลขัน้ จดกันไหลผํา บา๎ นตําบลเวียงเหลก็ แขวงอโยธยา เจา๎ อทํู องต้ังบา๎ น พอไดพ๎ ักเซา เขตน้ีเป็นเขตเจา๎ กรุงใหญสํ โุ ขทัย บํมไี ผมาทวง หวํ งเอาไปไว๎ เจ๎าสุโขทัยนน้ั บคํ อยเอาใจใสํ พอํ ขนุ รามสวรรคตไป พอํ เลอไทบํรบั รู๎ การบ๎านอยาํ งใด เจา๎ อทํู องจ่ังได๎ ตั้งอยํถู าวร ราฏรพอใจ เจ๎าอูํทองคนกล๎า พากนั มาต้ังบ๎าน หนองโสบํอนใหมํ บงึ พระรามบอกไว๎ คราวนั้นสืบมา ขนานนามเปล่ียนวาํ ต้ังใหมํใสสี ช่อื กรุงเทพทวารวดี ศรอี ยทุ ธยา เปล่ยี นมาตัง้ แตํปางน้ัน อาณาจักรเลยขัน้ ปน๓ เป็นสองแหํง เจา๎ อูํทองยาดแยงํ ตีไดง๎ าํ ยดาย หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น ศูนย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
กลอน ประวัตศิ าสตรก์ รงุ ศรอี ยุธยา ตอนท่ี 2 59 ทานอง ลาทางสั้น 59 ประพนั ธ์โดยแม่ครู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) เมอื งทวาย ตะนาวศรหี มํูน้ี มาข้ึนตํอกรงุ ศรี เจ๎าอูํทองนาํ ตี ยาดคนื มาได๎ ใน พ.ศ.1893 เจา๎ อทูํ องประกาศอิสระขึ้น ในหวั เมืองใหมํ หวั เมอื งใหญํและนอ๎ ย มาเขา๎ สวํ ยสนิ (บทที่ 2) เจ๎าแผํนดนิ เมืองสโุ ขทยั นนั้ เพ่ินบสํ นใจ สนพระทัยแตทํ างการศาสนา บเํ กย่ี วการเมืองบ๎าน อยมํู านาน เจ๎าอทํู องเลยส้ิน เสียไปลดช่ัว แมํนขนุ หลวงพระงัว่ มาขน้ึ นง่ั แทน (บทท่ี 3) ไดป๎ กครองเขตแคว๎น ประชาราฏรก๑ รงุ ศรี ไปตรีเอาสุโขทยั เท่อื สองเลยได๎ เจา๎ นครลาํ ปางให๎ ผากองมาซํอย ไทยเลยปลอํ ยเห็นสิสู๎บไํ ด๎ ยอมให๎แกเํ ขา (บทที่ 4) สุโขทยั เลยเศร๎า กรงุ ศรเี อาข้ึนตอํ เจ๎าอูํทองคนกอํ เมืองกรุงศรแี รกเร่มิ เติมไวใ๎ สํนาม (บทท่ี 5) ลาํ บตํ อ๎ งให๎ข๎าม ตามเร่ืองเห็นมา เมืองกรุงศรีอยธุ ยา ฮุงเจรญิ หลายด๎าน นานสรี่ อ๎ ยสิบเจ็ดปี แตํกรงุ ศรอี ยธุ ยาต้ัง ฟ๓งเอาบัน้ มํวน ลําแตพํ อสมควร พอใหญ๎ าติพน่ี ๎อง ฟ๓งหมอํ งบอํ นดี (บทท่ี 6) เมืองกรงุ ศรีแตกํ ี้ มีคนเกํงเกรงขาม นามกรุงศรีอยุธยา ซาํ ไกลปางนน้ั มีสัมพนั ธมติ รไว๎ รวมกนั หลายประเทศ ฮอลนั ดา โปรตเุ กต ชาวองั กฤษฝร่ังเศส หลายประเทศแหํเข๎า มารํวมพัฒนา (บทท่ี 7) ลาวและจนี ทง้ั ญี่ปนุ พมาํ กะมารํวมสัมพนั ธ๑ ตําสําคญั คอื เขมร ผ๎คู องคอยแยงํ หวงั ถา๎ แซงเอาบ๎าน คนื เป็นเอกราช หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
60 ไทยนาํ ยาดตอํ ส๎ู บไุ วไ๎ ลมํ า (บทท่ี 8) เขมรกบั พมํา คอยฆาํ ตไี ทย สมัยราเมศวร ครอบคองหมองมุ๎น ตอนนน้ั สงครามวุํน ทางเขมรย่งิ ใหญํ นครธมตกมาเปน็ เปน็ ของไทย สมัยหลวงพะงั่ว เขมรขน้ึ ตอํ ไทย (กลอนลง) ตอนทสี่ ามตํอไปตอนเขมรนําไลํคนไทยจ๎อ... 60 หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
กลอน ประวัตศิ าสตรก์ รุงศรีอยธุ ยา ตอนที่ 3 61 ทานอง ลาทางส้ัน 61 ประพนั ธโ์ ดยแม่ครู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) ในตอนน้ี เขมรนําตีได๎ สมยั พระราเมศวร สามญานาํ กวน ยาดคนื มาได๎ เขมรหนีไปตง้ั เมืองหลวงบํอนใหมํ พนมเบญ็ บอกไว๎ ไปต้ังยาํ นเมอื ง (บทท่ี 2) ในตอนนั้น สามพญาซอ่ื เฟอื่ ง ตามเรอื่ งในประวตั ิ นครธรมนครวัด เลําเปน็ เมอื งฮา๎ ง บีมีคนอยคํู า๎ ง มาจนเทาํ ซ่วั เขมรกลัวหยํอนย๎าน บํหารกลา๎ ฝาุ ฟ๓น (กลอนตัด) อันสงครามไทยน้นั ยงั บคํ ักปานใด ศึกพมํากับไทย แยงํ กันหาอาํ นาจ เกดิ สงครามอบุ าทว๑ สู๎รบตบตี สงครามยุทธหตั ถี จง่ั แมนํ ครง้ั ยิง่ ใหญํ ครูราตรซี ิไลํ แตํบอํ นสาํ คัญ ไทยพมํารบกัน จนเหลวจนแหลก สาเหตุเกิดทแี รก เพราะพมําราวี ไทยบํอยากนําตี แตํจาํ เป็นตอ๎ งปราบ ปอู งกนั อสิ รภาพ จ่ังส๎ูรบตบมอื พวกซาวไทยลุกฮือ เพราะพมําเป็นเหตุ พระเจา๎ แปรข๎ามเขต มารบเมืองไทย สาเหตุบํอนื่ ไกล เพราะชาวไทยมชี า๎ ง (บทที่ 3) ทีท่ างพระมหาจักพรรด์ิ เพ่นิ เลี้ยงไวค๎ บํู ๎าน เจด็ เชอื กนาํ กัน ระหวํางปี สองพัน เกา๎ สบิ เจด็ จําไว๎ ดงั จนไปเถงิ เทํา บุเรงนองก๎องที่ ทางเมืองหงสาวดี เจ๎าแผนํ ดนิ พมํา มาเว๎ากลําวขอ (บทท่ี 4) จกั รพรรดบิ ํงอ๎ บํยอมปลอํ ยพลายสาร จัง่ เกิดการสงคราม รบกนั ฟน๓ พุํง คราวนั้นการเมืองหยุงํ กษตั ริยไ๑ ทยออกวาํ หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
62 พระเจา๎ แปรแมํทพั หนา๎ ของพมํา หัวหน๎าดวํ นพลัน (บทที่ 5) รบกันอยาํ งสะบั้น กล๎ากล่นั เถงิ กัน ตํางคนฟน๓ เร็วรบ อยํบู นคอช๎าง ทางเมอื งไทยเลยแพ๎ แวไปทางใหมํ ชา๎ งพระเจ๎าจกั รพรรดิ นน้ั เกดิ บเํ ปน็ ใจ สพํู มาํ บไํ ด๎ หันหน๎าอํวยหนี (บทท่ี 6) ช๎างเจา๎ แปรนําจ้ี ทวีเลยนําไลํ สํวนพระนางสรุ ิโยทยั เหน็ สามีสิสเ๎ู ขา๎ บไํ ด๎ ขบั ช๎างแลนํ ขวาง (บทท่ี 7) พระเจ๎าแปรง๎าวจว๎ ง คอขาดพระเศยี รตก มปี ระวัตหิ ยิบยก แตํหลังปางกี้ เอิน้ วีรสตรีได๎ หญงิ ไทยใจกลัน่ ชายฉกรรจส๑ ูํมอ้ื บํคือดา๎ มดั่งหญงิ (บทที่ 8) ครัน้ สิตาย ขอให๎ตายเกลือกกล้ิง สนามรบยังดี คอื พระศรีสรุ ิโยทัย รบกนั กับพมาํ มนั จัง่ สมกบั หนา๎ คนไทยใจเดด็ เดํน เห็นมาแลว๎ จ่ังเว๎า ประวตั เิ คา๎ เกําหลงั (กลอนลง) สีลังจงั ขอจั้งไว๎กํอนตอนสามน้ี... 62 หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
กลอน ประวัตศิ าสตร์กรุงศรอี ยธุ ยา ตอนท่ี 4 63 ทานอง ลาทางสั้น 63 ประพนั ธ์โดยแม่ครู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) ในตอนนี้ อนุสาวรียต๑ ้ัง ไว๎วดั สบสวรรค๑ วีรกรรมสาํ คัญ อยกูํ รงุ ศรีอยุธยา เพิน่ ได๎พรรณนาไว๎ องคพ๑ ระศรีสรุ โิ ยทัย ราชินีใจกล๎า อาสาเพอื่ ชาติ ประวัติศาสตร๑บอกไว๎ คนกล๎าเกําเดิม (บทที่ 2) ตอนนจี้ ดุ แรกเริม่ พมํารบกับไทย เมืองกรุงศรเี สยี ไป เพราะวาํ ไทยแฮงน๎อย ตอนนัน้ ไทยกาํ ลงั หนอํ ย จั่งถอยตนตง้ั ใหมํ ยอมยกช๎างเผือกให๎ ชาวพมําสโี่ ต (บทท่ี 3) ไทยยอมโสเสียช๎าง วางไปสี่เชือก เอน้ิ สงครามชา๎ งเผือก ระหวํางไทยกบั พมาํ ตอนน้ันหวนั่ ไหว (บทที่ 4) บเุ รงนองนนั้ ได๎ จบั พระราเมศวร โอรสของสมเด็จ พระมหาจกั รพรรดิ ดํวนไปนําพรอ๎ ม มันบยํ อมต๎องแถมให๎ นเรศวรอีกคนหนึ่ง ประชาชนซําต้ึง ตอน้นั หนัน่ นี (บทท่ี 5) นเรศวรองค๑นี้ ได๎เกา๎ ขวบพรรษา พมาํ จับเอาไป เพื่อประกันโตไว๎ จากเมืองไทยมาพ้ีอยํูหงสาวดี ได๎หกขวบกวาํ ๆ พระองค๑บํหมองมัว เรยี นภาษาพมาํ จนเท๎ากระทัง่ มอญ (บทที่ 6) ตอน้ันไทยเฮาได๎ ตกไปเป็นประเทศราช ชาวพมาํ ยาดได๎ ไทยสํูบํทนั เป็นหน๎าอัศจรรย๑แท๎ พระปรชี าสามารถ องค๑พระบาทสมเด็จ นเรศวรเพ่นิ ได๎ นํากู๎แผนํ ดนิ ตอนพมําสสิ น้ิ นง่ั เจําเหงาหมา สิบห๎าปี แตํเมืองหงสาวดี ยึดเอาไทยได๎ ไทยเฮายอมเสียให๎ สิบหาปีคือวํา หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
64 อิทธพิ ลพมํา มาเข๎ายดึ ครอง (บทท่ี 7) คอยฟง๓ เดอพี่นอ๎ ง ฟง๓ บํอนเป็นตามงึด นเรศวรนาํ ยดึ กอบกเู๎ มืองไทยได๎ ใน พ.ศ. สองพันหน่งึ รอ๎ งสามสิบหา๎ นเรศวรครองราชย๑ พระมหาอปุ ราช ยกทพั จากพมํา หวงั สฆิ ําผําตี (บทท่ี 8) ศึกพมําครง้ั นี้ ยิ่งใหญไํ พศาล ใหญํจนเป็นประวตั ิการ ตอํ มาเดียวนี้ สงครามยุทธหตั ถี ระหวํางไทยกับพมาํ พากนั นองเลอื ด นเรศวรเคียดแค๎น ชาวพมาํ บํเซา 64 หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
กลอน ประวตั ิศาสตรก์ รุงศรีอยธุ ยา ตอนท่ี 5 65 ทานอง ลาทางสน้ั 65 ประพันธโ์ ดยแม่ครู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) ในตอนนี้ อนชุ าของเจ๎า นามวําพระองค๑ขาว หรอื เอกาทศรถ ผ๎เู ป็นคนนอ๎ ง ไดป๎ รองดองกันเขา๎ สองคนนอ๎ งพ่ี สงครามยุทธหัตถี มหี ลาวแหลนหอกงา๎ ว ฟง๓ ไงไ๎ ลํแทง (บทที่ 2) โลหิตแดงนองล๎น คนตายเดยี ระดาษ พระปรชี าสามารถ นเรศวรมากลน๎ ซนชา๎ งรบกนั (บทที่ 3) การสรู๎ บครั้งน้ัน พมําคํอยถอยหนี นเรศวรนาํ ตี บหํ วนั่ ไหวใจกล๎า แมทํ ัพของพมาํ มหาอปุ ราชา คนกล๎าหาซํอง มังคะปะโลคนรอง แมํทพั ของพมาํ คนกล๎าดง่ั กัน (บทท่ี 4) มงั คะปะโรนน้ั สูร๎ บพระองค๑ขาว พมาํ ตกเถงิ คราว หวํางกรรมนําตอ๎ ง พระเอกาทศรรถคนน๎อง กะฝีมือกลา๎ กลั่น จ๎วงดาบฟน๓ ทับหนา๎ ถอยล๎าอวยหนี (บทที่ 5) ทพั พมาํ ครัง้ น้ี กลา๎ กลั่นเกนิ การ ประจัญบานทาํ ศกึ อยูํเทงิ หลงั ช๎าง พระนเรศวรงา๎ ง ถอื เอายังดาบ พระมหาอุราชเขา๎ สํู หันช๎างใสํกัน (บทที่ 6) องค๑พระเนรศวรน้ัน ฟน๓ ดาบไปมา ฟ๓นถกื ขอพระมหาอปุ ราชา ขาดกระเด็นบนหลังช๎าง เหมิดหนทางเขา๎ ส๎ู พมําถอยเป็นฮู ไทยสบํู ยํ า๎ นหยอํ น ชาวพมําเดือดฮอ๎ น ปานนอนคา๎ งพํางไฟ (บทที่ 7) กลบั คนื หงสาวดบี ไํ ด๎ ไปล้ีอยูตํ องอู นําอดสเู หลือหลาย หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
66 พมาํ ตายกองกนั ดั่งหนิ กลางแก๎ง พากนั แยงไปล้ี อยูตํ องอลู ีซ้ อํ น ตอนนีไ้ ทยสู๎ได๎ ใสแจ๎งสวํางสี (บทท่ี 8) สงครามยุทธหตั ถีครงั้ น้ี ไทยํชนะจะเจนดี พมําหลีกหลบหนี ดนเป็นร๎อยห๎าสบิ ปี บํหํอนหวนมาใกล๎ จงึ ขนามนามไว๎ นเรศวรมหาราช ประวัติศาสตร๑จารึกไว๎ ดีลน๎ ล่ืนคน (บทที่ 9) องค๑นเี้ ปน็ องคต๑ น๎ มหาราชกรุงศรี อายุหา๎ สบิ ปี เพน่ิ สวรรคต จากไปไลจ๎อย ปลอํ ยใหอ๎ งคข๑ าวขึ้น แพนเมอื งแทนท่ี ครองมาได๎หลายปี พมําหนหี ยอํ นย๎าน เมืองบา๎ นอยํเู ยน็ (บทที่ 10) เหน็ วําไทยมิดจ๎อย พมาํ คํอยหลงั หลงั นเรศวรคนดัง กะเลาํ ตายไปแลว๎ มาตีแถวทางกํา้ หัวเมืองเชียงใหมํ องคป๑ ระบาทสมเด็จ ปราสาททองตมุ๎ ไพรํ สพูํ มาํ บไํ ด๎ เลยยอมให๎ช่ัวคราว (กลอนลง) ฟ๓งเรื่องราวองคพ๑ ระเจา๎ นารายณ๑ครองบา๎ นเมอื งตอํ รอฟง๓ เรื่อง... 66 หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
67 กลอน ประวตั ศิ าสตร์กรงุ ศรีอยุธยา ตอนท่ี 6 ทานอง ลาทางสน้ั ประพนั ธ์โดยแม่ครู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2517 (บทท่ี 1) ในตอนน้ี ตกมาฮอดบอํ นเจ๎า นามวาํ พระนารายณ๑ เพนิ่ ผูน๎ ี้ กะบกํ ลวั ความตาย เกงํ การหลายด๎าน นาํ ไปตีเอาบ๎าน หวั เมืองเชยี งใหมํ พมาํ สู๎บไํ ด๎ ยอมให๎ตําวคืน (บทท่ี 2) พระนารายณร๑ ื้อฟน้ื ความเกําหลายประการ พมําผลาญบํมีเซา รบเอาหนบี ํมเี ออ้ื น พระนารายณ๑นาํ เมีย้ น เวยี นเอากลบั ตําว คราวน้นั พวกพมาํ บมํ ากลา๎ อยูํนาน (บทท่ี 3) พระนารายณ๑ ยกทัพบุกฮอดบ๎าน หนา๎ ดาํ นพกุ าม ชาวพมาํ เกรงขาม บํหาญสูํตอํ (บทท่ี 4) พระนารายณน๑ ล้ี ะพอํ มหาราชองค๑ทสี่ อง รองจากองค๑นเรศวร แมนํ องค๑พระนารายณน๑ ้ี มปี ระวตั นิ ําชี้ คนดกี ล๎ากลัน่ ความสาํ คญั เพนิ่ น้ี กะมไี วอ๎ ยูํหลาย (บทที่ 5) คอยฟ๓งตอนสดุ ทา๎ ย ประวัติศาสตรเ๑ ปน็ มา ตอนกรงุ ศรอี ยธุ ยา สแิ ตกแตนแลนม๎าง ตอนนั้นองคกื ษัตริยส๑ ร๎าง ปกครองทอ๎ งถิ่น สุริยามารินทร๑ เอกทัศน๑ผูท๎ ๎าย ครองสรา๎ งอยุธยา (บทท่ี 6) บํหนชาทางดา๎ น การเมืองจกั อยําง หาแตทํ างเท่ยี วเลนํ เครงคร้ืนชืน่ ใจ (บทท่ี 7) ชาวพมาํ จ่งั ได๎ อูฮ๎ อํ มซอมทาง วางทหารเปน็ สาย แหํมาโฮมลอ๎ ม พมาํ ซอมเอาได๎ ทหารไทยอํอนขอ๎ มันจั่งบยํ ํอทอ๎ จัดกษัตรยิ ๑ผู๎กลา๎ หัวหนา๎ หมํูทหาร หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน 67 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
68 (บทที่ 8) ยกทพั บกุ เถงิ บา๎ น หน๎าดาํ นกรงุ ศรี ตีเอาทางตาเว็นตกและทางเหนือใต๎ บุกหักไปทางด๎าน บางระจนั ไหวหวั่น พวกซาวบ๎านบางระจัน กะบยํ อมอํอนข๎อ ขอสแูํ คตํ าย (เว้า: กลอนตดั ) มชี ่ือตดิ อยํทู ่ีก่ิงวดั คลา๎ ย เขตถิ่นบางระจัน เกดิ มีคนสาํ คัญ รบกันตอนนี้ มีคนดีหลายทําน ประวตั กิ ารเพ่ินบอกเลํา 1.นายแทนํ 2. นายโชติ 3. นายทองอินทร๑ 4. นายเมือง 5. นายทองแกว๎ 6. นายดอก หกนายน้หี ละเพิน่ วํา วําคนกล๎าเกํงการ นายทองแก๎วนายดอก สองคนนี้ชาวบา๎ น เมืองวเิ ศษชยั ชาญ อกี สี่คน เปน็ ชาวบ๎านศรีบัวทอง เขตสิงห๑บรุ ีนั้น พากนั โฮมกนั เข๎า จับกนั เป็นกลํุม ซํุมตที ัพพมํา ฟ๓นฆาํ มนํุ มี (กลอนลง) จ่ังหนไี ปบางระจันโฮมตุม๎ คนเกงํ รวมคนกลา๎ ... 68 หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
กลอน ประวตั ศิ าสตร์กรงุ ศรอี ยธุ ยา ตอนที่ 7 69 ทานอง ลาทางสั้น 69 ประพนั ธ์โดยแมค่ รู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2517 (กลอนตดั ) ในตอนน้ี จ่งั หนีไปหาเพือ่ น เขตถน่ิ บางระจนั เกดิ มคี นสําคญั ต่ืมกันทงั้ ห๎า ได๎ขนานนามวาํ ขุนสรรคนหนง่ึ 2. พนั เรอื งกํานนั 3. กบั นายทองเหมน็ 4. นายทอง 5.นายจันหนวดเค้ียว นําเขี่ยวลบกัน ไทยรวบรวมกนั ได๎ นาํ ไลํจบั ศกึ ไดผ๎ นึกกําลงั รวํ มกนั เป็นคําย หญงิ และชายเหมิ๊ดบ๎าน บางระจันมาซอํ ย พมาํ ถอยบสํ ู๎ หลายครัง้ ฝง่๓ ตาย ห๎าหกเทือ่ แตํพาํ ย แพท๎ พั กลับคนื ชาวบ๎านบางระจนั ยนื ตํอยตบี ํมยี ๎าน ซุมทหารพมํา ตายกันพนั หมื่น ชาวพมาํ แตกตืน่ ตํางพากนั งดึ งอ๎ รอส๎ูเท่อื ลนุ กํอบา๎ นเมืองสิวํุน กษตั ริยบ๑ เํ ป็นใจ พมําตีคราวใด กะบหํ ัวซาดว๎ ย ตกหวาํ งซาตาส๎วย ชาวบา๎ นตกคราวซวย พมํามปี ืนใหญํ พมํายกทพั ไป ครัง้ ทีเ่ จ็ดนับได๎ แตํเทียวไงไ๎ ลยํ งิ ชาวบ๎านบางระจนั วิ่ง ไปใสํองค๑กษัตริย๑ ไปขอปืนยงิ สกดั ทพั กองของพมํา ชาวบา๎ นมาขอเวา๎ หวงั เอาปนื ใหญํ เจ๎าแผํนดินเอกทัศน๑บํให๎ กลวั ยา๎ นบถํ งึ (บทท่ี 1) ฟง๓ เบ่ิงตอนซาบซึง้ ชาวหมํบู างระจัน หนั คืนมากําปืน หลอํ เอาทางบ๎าน โดยการเสียสละให๎ ทองเหลืองบริจาค หากไผมกี ะให๎ โฮมเข๎าใสํกนั (บทท่ี 2) ชาวบ๎านบางระจันป๓น้ ปนื ใหญไํ วเปรยี ว พอคราวเดยี วกะเลยเสร็จ ซอํ ยพากันป๓้น อัศจรรย๑ชาวบ๎าน มีแคปํ ืนสองกระบอก แตํวาํ ย่งิ บํออก เพราะคนหลอํ เหลําน้นั ความฮบู๎ ํมี หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
70 (บทท่ี 3) มันเป็นทีของพมํา พากนั ยิงหนํา่ ชาวบ๎านหากย๎านนาํ มอื้ ละเล็กละนอ๎ ย หายจอ๎ ยเปลาํ สญู อนจิ จา บางระจันเกิดวนุํ บ๎านมุํนเฮือนหกั พมาํ ตักเตม็ คนั ลั่นปนื ยียา๎ ย ซมุ คนดหี ายเสีย้ ง ตายไปสูญเปลํา ประวตั มิ กี ลาํ วเวา๎ ซนเชอ้ื เผําไทย (บทที่ 4) เอนิ้ วาํ วีระชนได๎ ประวัติศาสตร๑คนดี ประวัติศาสตร๑กรุงศรี มีหมบํู า๎ นบางระจนั ถนิ่ สําคัญแท๎ แปลวาํ คนไทยน้ี สามัคคีแตเํ กํา ประเทศไทยของเฮา กอํ สเิ หลอื อยํูค๎าง มาได๎สวํู ัน สาเหตุแตํกํอนนนั้ ไทยฮวํ มสามคั คี อนสุ าวรีย๑ จัง่ เกดิ มแี ตปํ างน้นั อยูทํ ๎องท่ี กิ่งวดั คล๎ายบางระจนั ผูใ๎ ดไปเถิงห้ัน เชญิ ชมเถงิ ท่ี เขตจงั หวัดสิงหบ๑ รุ ี มีคนดอี ยหํู ้นั มาตง้ั แตํดน (บทที่ 5) คนจั่งพากันเอนิ้ ปลกุ ใจเพลงเกาํ คอื เพลงศึกบางระจนั เพน่ิ เว๎า มีไว๎แตํปฐม (กลอนลง) ขอชืน่ ชมความดีประวตั ิกรงุ ศรเี มืองเกาํ ไทยเฮาเอ๎ย 70 หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
กลอน ประวตั ิศาสตร์กรงุ ศรีอยุธยา ตอนท่ี 8 71 ทานอง ลาทางสนั้ 71 ประพันธ์โดยแมค่ รู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) ในตอนนี้ ตอนกรุงศรีสิล๎ม กษตั รยิ บ๑ หํ นซา มั่วแตนํ าํ กามรมณ๑ มํวนหมตามเรือ่ ง ทงั การเมอื งการบ๎าน บํหัวซาจาตํอ พอพมาํ ยึดได๎ ทางกา้ํ ฝุายเหนือ (บทที่ 2) พระเจ๎าเอกทัศนบ๑ เํ อื้อ โอ๎อําวทาวหา สรุ ิยามารินทร๑ บํฮ่นิ ตรองครองเคา๎ พมาํ เจาะกาํ แพงเข๎า เผาพลาญบา๎ นซอํ ง เจ๎ามงั ระ กบั สกุ ี้พะนายกอง แมทํ ัพของพมํา หัวหน๎าสัง่ การ (บทที่ 3) เอาไฟเผาทวั่ บ๎าน เมืองใหญกํ รุงศรี ตง้ั แตปํ ี พ.ศ. สองพันสามร๎อยสบิ ริบเอาเหมดิ เกลี้ยง คราวนั้นเสียหายเสีย้ ง กรงุ ศรแี ปนเปลํา เจา๎ ขนุ หลวงขีเ้ ฮ้ือน เมาม่ัวบวํ งกาม ทพั พมาํ ลวํ งขา๎ ม มาสู๎ตอํ เรวรบ ครบสร่ี ๎อยสิบเจด็ ปี ราชธานีนี้ ขอจบตอนเพียงหนี้ คอยฟ๓งตอนธนบุรี ท่ใี ผเริ่มสรา๎ งใหมํ เมืองกรงุ ศรี ถกื พมํายดึ ไป แมํนผใู๎ ดสไิ ด๎ นํากู๎ตําวคืน (บทท่ี 4) ไผสเิ ป็นผฟู๎ ืน้ ตงั้ ใหมธํ นบรุ ี มกี ษัตรยิ ๑มาครอง ก่ีพระองค๑ทรงสรา๎ ง ชมุ นุมพิมายซุมน้ี นครศรีธรรมราช มบี ทบาทเกํงกล๎า สําคญั บา๎ งอยํางใด (บทที่ 5) ไผสิเปน็ ผ๎ูตง้ั สร๎างใหมํกรุงธน ดนปานใดจ่งั มาเป็นรตั นโกสินทร๑ ตอํ มาเดยี วน้ี ฉนั ราตรเี ขยี นไว๎ ใสปานนํ้าทํา มกั กลอนสาดกลอนดํา กลอนฮา๎ งกลอนดี ฉันหมอลาํ ราตรี เขยี นกลอนแตม๎ แตงํ วําไปไดท๎ กุ แหงํ สาดดําวาที หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
72 มกั ส่สี บิ ดกี รี หรอื น้ําใต๎ตํอน ขอบอกไว๎ซะกํอน การร๎องการลาํ บอํ นบํไดก๎ ะอยําจาํ บํเหน็บให๎แหงํ มันสอิ ายพอํ แมํ ผู๎เพ่นิ มาพงั สมพอดังมันกะจ่งั คอํ ยดงั ดอกคนเฮาซุมอ้ื ลาํ ใสํกันช่อื ๆ บํแมํนตกี ัน คร้นั ตํางคนตาํ งดนั หนู ลถู ทู ง่ั เฮด็ จง่ั ซั้นคอื จ่ัง หุมํ เพน่ิ ยอโต คนซมุ อื้ เพน่ิ บํมักลําโส สาดเถยี งกันดอก มกี ลอนใดกะให๎ตอก เตก็ โลดตามใจ เดยี วนตี้ กสมัย เจริญกวําเกํา ลางคนลาํ แลว๎ เหาํ งังงั้งงงั งงั ยา๎ นแตโํ ตบํดัง โสจนตาตี่ ฟูอนปานไลแํ มงหมี่ ลําปานจํมมนต๑ ผ๎จู ัง่ ซนั้ ดงั บํทันไดด๎ น มดิ หายไปจอ๎ ย สวํ นวําโตของขํอย ลําบํดดี อกแมํ แตํบอํ ึดผ๎ูจา๎ ง ลําเรอื่ ยบเํ ซา (กลอนลง) คอยฟง๓ เอาตอนกรุงธนสิเขม๎ ค๎นตอํ ไตํเมืองไทยเอย๎ ... 72 หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
กลอน ประวตั ิศาสตร์กรุงธนบรุ ี ตอนท่ี 1 73 ทานอง ลาทางสน้ั 73 ประพนั ธโ์ ดยแมค่ รู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (อรัมบท) บัดน้ีซเิ วา๎ เร่อื งประวตั ศิ าสตร๑ไทย สพูํ ีน่ ๎องฟ๓ง พอไดใ๎ ห๎พี่นอ๎ ง หวนคะนึงถงึ สมยั กํอน นบั ยอ๎ ยหลงั คนื ไป สองรอ๎ ยกวําปี กอํ นเมืองหลวงของไทย ซไิ ด๎มาต้ัง เปน็ กรุงรัตนโกสินทร๑ หรือกรุงเทพฯ เมอื งหลวงของไทยเฮา ปจ๓ จุบนั นี้ ได๎ย๎ายมาจากกรงุ ธนบรุ ี ประวตั ิศาสตร๑ธนบรุ ี กะนับวํา เปน็ ประวตั ศิ าสตร๑ทย่ี ่งิ ใหญํและแปลกหมํทู ี่สุด เพราะวาํ มีกษตั ริยค๑ รองอยอูํ งคเ๑ ดียว นับแตํตน๎ จนปลาย กษัตรยิ ๑องค๑นค้ี ือ พระเจ๎าตากสินมหาราช (บทท่ี 1) สมยั กรงุ ธนบุรเี ร่มิ ต๎น เป็นราชธานี เม่ืออยธุ ยาลม๎ เสยี เอกราชเสรี พํายพังสูญสนิ้ ดินแดนกรงุ ศรีเศรา๎ ยอมเสยี ไปครงั้ ใหญํ สญู เสียไปเทื่อนบ้ี ํมมี ้อื ตาํ วคนื ยออาํ นาจยกให๎ กรุง (บทท่ี 2) ตัง้ กรุงธนบุรีขนึ้ เป็นราชธานี เจ๎าตากสินคนดี ผ๎ูตมี าได๎ ในสมยั ตอนน้ัน พระองค๑ครองเมืองตาก หากแมํนเอกทศั นเ๑ จ๎า เนากา้ํ อยธุ ยา (บทท่ี 3) คราวนั้นทัพพมํา เผาผํากรงุ ศรี พระเจ๎าตากสินตี สํวนบมํ ีทางย๎าน แตวํ ําการเมืองหยุํง รุงรังหลายอยําง พอกรงุ ศรีแตกม๎าง ไทยสบ๎ู ํไหว (บทท่ี 4) พระตากสินคิดได๎ จงึ ยกทพั กลับหนี มที หารไปนํา มากมายหลายลน๎ พระองค๑รวมพลได๎ นายทหารหลายทําน พลทหารห๎าร๎อย ถอยรํนลํวงกาย (บทท่ี 5) หวิดจากคํายพมํา ฟ๓นฝุากองทหาร หนงั สือรวมกลอนลำทำงสั้น ศนู ย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
74 ผํานจากเมืองกรงุ ศรี ดํวนมาทางน้ี จากกรงุ ศรีเลยมงํุ ไปทางตะวนั ออก บอกทหารใหญนํ อ๎ ย เซายัง้ พกั แรม (บทที่ 6) ถิน่ นี้เป็นเขตแคว๎น นครใหญํนายก ซือ่ วาํ บา๎ นพรานนกเขตนครนายก บอํ นเนาเซายั้ง รวมพลงั กันไว๎ ทหารไทยกลา๎ เกงํ เล็งเหน็ ตอนขา๎ งหน๎า พํอตากสนิ ผก๎ู ล๎า หวั หน๎าหมํทู หาร (บทที่ 7) ตอนนั้นพักอยูบํ ๎าน พรานนกตกมา หาเสบียงอาหาร เพ่ือเตรยี มการไว๎ บังเอิญเห็นกองทัพพมาํ เดินมากองใหญํ ทหารไทยสวํ นน๎อย คอยส๎อู ยูํไกล (บทที่ 8) พระตากสินจ่งึ ใช๎ ไหวพรบิ ปญ๓ ญา พาเอาสองสามคน หมํูทหารไปล๎อ หนอํ ยน่ึงรอดักซ๎มุ ซมุ ทหารกลํมุ ใหญํ พอํ ตากสินล๎อได๎ ไทยฆาํ มนุํ มี… 74 หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
กลอน ประวตั ศิ าสตรก์ รงุ ธนบรุ ี ตอนที่ 2 75 ทานอง ลาทางสั้น 75 ประพนั ธโ์ ดยแม่ครู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) การสรู๎ บ อยพูํ รานนกครั้งน้ี พมาํ เลําหลงกล ประซาซนสรรเสริญ นับถอื ลอื หนา๎ รวมกนั มายอนอ๎ ม กบั องค๑พระยาตาก ซายฉกรรจ๑มากหนา๎ ขอรํวมฮํวมกอง (บทท่ี 2) ประซาซนพนี่ อ๎ ง มาขอฮํวมเปน็ ทหาร เพราะเป็นการเร็วรบ พระตากสินคนกล๎า ซาวบา๎ นหามาซํวย หลายอันพันอยาํ ง ทงั้ เสบยี งอาหารและอาวธุ ใหญํน๎อย มารํวมเขา๎ ใสํนาํ (บทท่ี 3) ประซาซนทุกกํา้ มาขอรวํ มสามัคคี เลยเกิดมกี องทพั ใหญํโตพอได๎ แล๎วลํวงไปทางกํ้า ปราจีนเขตที่ เมืองระยองชลบุรสี ามหัวเมืองเขตน้ี รวมเขา๎ ใสํกัน (บทท่ี 4) พระเจา๎ ตากเพนิ่ นน้ั เกลี้ยกลํอมทอมเอา สํวนเจา๎ เมอื งจันทรบ๑ ุรี บํยินดรี ํวม รวมทหารเอาไว๎ ตีเมืองเกลีย้ งม่นิ ลน่ิ กินเขา๎ แลงเรยี บร๎อย ใหเ๎ ตรยี มเข๎าสเํู มือง (บทที่ 5) ซมุ ทหารทราบเรือ่ ง พระองคส๑ ่งั นักการ รัยประทานอาหารเย็น แตเํ วน็ บํรอซา๎ แล๎วพากนั ทบุ หมอ๎ หุงแกงตม๎ สูํ บเุ มอื งจันทรแ๑ ตเํ ซ๎า ไปกนิ เขา๎ ฮํวมงาย (บทที่ 6) ถา๎ หากตีบํได๎ กะยอมงดอดตาย ซุมทหารท้งั หลาย กะเซ่อื คําพระยาเวา๎ สมพระทยั ของเจ๎า ตีเอาได๎งําย เลยบไํ ดอ๎ ดตายกนิ เข๎างายฮวํ มเซ๎า ทหารเขา๎ ผําตี (บทท่ี 7) ตกมาเถงิ ระยะนี้ พระเจา๎ ตากครองเมอื ง มซี อ่ื เสียงดังไกล ซาํ ลือเกียรติกอ๎ ง พระองคค๑ รองเมืองบ๎าน จันทรบ๑ รุ เี มอื งใหญํ หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
76 ไดส๎ องเดือนแตํพมํา มาเข๎ายดึ ไทย (บทที่ 8) พระยาตากจ่ึงได๎ เรงํ รดั จัดการ เตรียมทหารเรอื รบ ขนาดเบาเอาไว๎ ได๎จํานวนเปน็ รอ๎ ย เตรยี มเรอื เรงํ ตํอ หวําง พ.ศ. 2310 ปเี ดียวกบั พมํา มาเขา๎ ยึดไทย (บทท่ี 9) พระเจา๎ ตากเริ่มได๎ ก๎ชู าตคิ นื มา ตุลาคมเดอื นสบิ เอ็ดปฉี ลู แมนํ วนั เตรยี มพรอ๎ ม ประซาซนโอมล๎อม สาธุการนาํ ทําน พวกขา๎ ราชการ ทห่ี ลบหนีพมาํ มาขอเขา๎ ฮวํ มนาํ (บทที่ 10) มีคนดีต่มื ซาํ้ นามวําสุจินดา รวมเข๎ามาหลายคน พระตากสินหวั หนา๎ หา๎ พันคนเตรยี มพร๎อม ยอมพลีเพ่อื ชาติ กูเ๎ อาเอกราชได๎ ใสแจง๎ สงํางาม… 76 หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
77 กลอน ประวัตศิ าสตร์กรุงธนบุรี ตอนท่ี 3 ทานอง ลาทางสนั้ ประพันธโ์ ดยแม่ครู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) จากเมอื งจันท๑ลํวงข๎าม ถึงเขตธนบรุ ี ตีกองทัพพมาํ พมํารกั ษาการ อยํคู าํ ยโพธ์สิ ามตน๎ บทํ ันโดนกะตีได๎ เป็นของไทยโดยงําย รวมเจด็ เดอื นลวํ งกายแตํพมํายดึ ได๎ เสยี ให๎บํนาน (บทที่ 2) ซอ่ื เสียงดังสะท๎าน เทาํ ทั่วธานี มีประวัติจารกึ พระตากสนิ คนน้ี เสยี เมืองบํพอปนี าํ กคู๎ นื มาได๎ บํมไี ผคือทําน พํอตากสนิ กูบ๎ า๎ น ประมาณไดห๎ น่ึงปี (บทที่ 3) ธนบุรีกอํ ซไิ ด๎ เปน็ ราชธานี พระตากสนิ นาํ ตี ก๎คู ืนมาได๎ ประซาไทยเลยพร๎อม อัญชาติขึ้นครองราช พระองค๑คดิ สลาดก๎ู เมืองบ๎านตํอไป (บทท่ี 4) พระองคอ๑ ยากต้งั ไว๎ เมอื งใหญกํ รงุ ธน มเี หตผุ ลหลายประการ ทํานทรงไขซี้ ข๎อทหี่ น่งึ เห็นกรงุ ศรีโทรมเศร๎า เสียหายไปมาก ยากซบิ รู ณะให๎ ดไี ดด๎ ัง่ เดมิ (บทท่ี 5) ข๎อทส่ี อง พระยาตากจงั่ เรมิ ครองราชย๑บรหิ าร ฝุายทหารบเํ พยี งพอ ทีซ่ ิดแู ลได๎ ทหารไทยยังหนอํ ย บํสมเมอื งขนาดใหญํ ยา๎ นรักษาบไํ ด๎ ฮาํ ภัยเข๎ามารุกราน (บทท่ี 6) ขอ๎ ที่สาม เมอื งกรุงศรเี ป็นยาํ น ศึกผํานไปมา เมอื งกรุงศรีอยุธยา เป็นทาํ เลบํเหมาะสมศึกซิมาจูํโจม ทิศใด๐กะมาได๎ ขอ๎ ทสี่ ต่ี ํอไป พวกข๎าศกึ พอฮู๎ หนทางเขา๎ ออก ฮู๎จกั ปอุ งในและนอกซิเทยี วเข๎าบํเซา (บทที่ 7) สาเหตุท่ีพระองค๑เจ๎า เลยทรงเลือกธนบรุ ี ไวเ๎ ปน็ ราชธานี สรา๎ งแปลงเมืองบา๎ น ปูอมปราการมีพรอ๎ ม เหมาะสมหลายอยําง หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน 77 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
78 กองทพั บกและน้ํา เตรยี มพรอ๎ มซแูํ นว… 78 (บทที่ 8) ทอํ นี้ยังบํแล๎ว เป็นเมืองทําซมุ นุม การค๎าขายคนซมุ สะดวกดหี ลายด๎าน เหมาะกบั การขายค๎า ไปมาตํางประเทศ หลายสาเหตุแตํได๎ มาสรา๎ งถิน่ ถาน (บทท่ี 9) เลือกทาํ เลตั้งบา๎ น รมิ ตงั้ ฝ๓่งธนบรุ ี มีพืชพนั ธธ๑ ญั ญาหาร มากมายหลายลน๎ เพราะกรงุ ธนบํมาพ๎อ ยอ๎ นสงครามมาผํา พลเมืองแนํนหนาเศรษฐกจิ มากล๎น คนกะแนํนหลง่ั โฮม (บทท่ี 10) เมืองกรุงศรีล๎มแล๎ว ไปต้งั ใหมธํ นบุรี สบิ ห๎าปพี ระองค๑ครอง นั่งปองเปน็ เจา๎ ตอนนนั้ บ๎านเมอื งเศรา๎ พระองค๑เอาใจใสํ ภารกจิ นอกในพระองค๑บํวํางเว๎น คอยสร๎างแตํงเมอื ง (บทท่ี 11) คอยปรับปรุงทกุ เรือ่ ง ใหเ๎ ฮอื งฮงํุ สดใส ตอนกรุงศรีเสียไป บา๎ นเมืองเพม๎าง ตาํ งคนตาํ งไปสร๎าง หวั เมอื งข้ึนใหมํ (บทท่ี 12) เพ่อื กําเอกราชไว๎ บไํ ปข้ึนตอํ ไผ ตวั พระองค๑จ่ังได๎ ดาํ ริวาทวาจา ถ๎าบํมารวมปกึ เปน็ แผํนเดียวกันไว๎ แผํนดนิ ไทยสติ อ๎ งลม๎ เสียไปโดยงาํ ย เลยซักซวนเขตคาํ ย มาเข๎าฮํวมกัน (บทที่ 13) แตซํ มุ นมุ เหลําน้ัน บํยอมรบั คําเชญิ จง่ั ไดเ๎ ตนิ เอาพล ไพรทํ หารคนกล๎า เจ๎าตากสนิ นาํ หน๎า พาเปน็ หัวโจก ซุมนมุ พิษณุโลกนน้ั แมํนจุดแรกเรมิ่ ประเดมิ เข๎าฝุาฟ๓น (บทที่ 14) ใน พ.ศ. 2211 น้ัน ฟูาสนน่ั เนืองนอง ครั้งท่ีสองจ่งั สําเร็จ ระหวาํ งตเี มืองน้ี มีคนดคี อยก้ัน เรว็ กนั ตอนแรก กระสนุ แตกใสํเจา๎ กษัตรยิ ๑ลม๎ ทพั คนื … หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น ศูนย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
79 กลอน ประวัตศิ าสตร์กรุงธนบรุ ี ตอนท่ี 4 ทานอง ลาทางส้ัน ประพันธโ์ ดยแมค่ รู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2517 (บทท่ี 1) ฟ๓งบอํ นตอนพระองค๑ไปพกั ฟ้นื คอยรกั ษาโต จ่ังคํอยโงปรกึ ษา วาํ ซิตเี มืองนอ๎ ย เลยคอยไปทางกํา้ เมอื งพิมายตอนใหมํ ชอ่ื กรมหม่ืนเทพพพิ ิธน้ันได๎ ครองสรา๎ งนงั่ พมิ าย (บทที่ 2) ซมุ นมุ อยํเู ขตคาํ ย นครราชสีมา พระยาเมืองกรงุ ธน รวบรวมมาเข๎า จัง่ ไปซมุ นมุ เจา๎ นครศรธี รรมราช ผ๎ูมีอาํ นาจเฝูา เป็นเจา๎ น่งั นคร (บทท่ี 3) ตอนนี้พระองค๑ใช๎ ทหารหมูํหลายนาย ยายทางบกทางเรือ และทางเหนือใต๎ กวาํ ซติ เี อาได๎ เสยี เวลาโดนจกั หนํอย นครศรีธรรมราชกะบํหนอํ ย ตีได๎งาํ ยดาย (บทท่ี 4) บาดนีย้ ๎าย ไปตีทพั เมอื งฝาง เมอื งสวางคบรุ จี ังหวัดอตุ รดติ คดิ การผลาญบา๎ ง ซุมนุมเจา๎ พระฝางได๎ตมี ารวมไว๎ ซมุ นมุ พิษณุโลก มหี ัวโจก ผูร๎ กั ษาเขตคําย ซุมนุมเจ๎าพระฝาง (บทที่ 5) เกียรตคิ ณุ เพิ่นสร๎าง ทางวิทยาคม คนพากนั นิยม นบั ถอื ลือหน๎า บาดตกมาเถงิ เจ๎า กรุงธนคนเกํง ทํานบํเกรงตํอถ๎อย คอยสู๎อยทํู วี (บทท่ี 6) ตีเมืองฝางมาได๎ ภายในปหี นึ่ง ถงึ พ.ศ. 2313 พระเจ๎าตากก๎ูบา๎ นมารํวมฮํวมกัน บน้ั สดุ ทา๎ ยแมํนซุมนมุ ทีห่ ๎า พระเจา๎ ตากคนคุม ซมุ นมุ พษิ ณโุ ลก ซมุ นุมเจา๎ พมิ าย ซมุ นมุ เจา๎ พระฝาง ตํางกะมายอนอ๎ ม สีช่ ุมนุมมาพรอ๎ ม นครศรีธรรมราช ประเทศชาตติ อ๎ มเข๎า มาโฮมไวบ๎ ํอนเดยี ว… หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น 79 ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
80 (บทที่ 7) เจ๎ากรงุ ธรเริ่มเข้ียว บรู ณะราชอาณาจักร บา๎ นเมอื งหกั เพพัง ไดฟ๎ ๓ง่ หาคนสรา๎ ง คดิ หาทางฟูฟ้ืน วรรณกรรมตาํ งๆ ทางศิลปกรรมกํอสรา๎ ง ประดษิ ฐ๑ไว๎งดงาม (บทที่ 8) เพนิ่ ทาํ ไวถ๎ ๎าสําม ของเกาํ ท่ีเสียไป เศรษฐกจิ นอกใน เรงํ การฟฟู ้นื เกดิ เป็นคืนวนั มอ้ื ทาํ งานบหํ ยุดหยํอน ราษฎรเดือดรอ๎ น กะนาํ ชํวยซํอยเหลอื (บทที่ 9) ทํานเปน็ คนเอ้อื เฟ้อื เซ้ือซาตคิ นดี สมกบั เป็น เจา๎ กรงุ ธนบุรี สงําศรปี านน้ัน ราชการทกุ ขั้น ภมู ิใจเปน็ อันมาก สมยั พระเจา๎ ตาก มกี องทพั แกํกลา๎ คอยถา๎ รับการ (บทที่ 10) การปกครองเมืองบา๎ น พระองค๑ทํานสนใจ สนพระทยั การฝึก ฝาุ ยทหารเตรยี มพร๎อม ยอมบําเหน็จรางวัลให๎ ทหารไทยดเี ดํน เหน็ ความดยี กให๎ ไวฟาู วดวํ นพลนั (บทที่ 11) ทหารไทยสมยั นน้ั มีความภาคภมู ใิ จ ออกสงครามคราวใดแมนํ พระองค๑นําหน๎า กาํ ลงั ใจแข็งกล๎า ผ๎นู ําพาของประเทศ คนเหมิดเขตยกย๎อง ยอน๎อมออํ นตาม (บทท่ี 12) สิบห๎าปีลํวงขา๎ ม แตํครองราชสมบัติ ตกเถิงคราวอัตคัต ระหวํางกรรมนํากลัว้ พระองคม๑ ัวหมกมนํุ นํางานการหลายอยาํ ง บมํ ีโอกาสวาํ ง พอซไิ ดพ๎ ักเซา (บทที่ 13) สิบห๎าปีลํวงเขา๎ พระองค๑เลําเปน็ ไป กําลงั กายกาํ ลังใจ กะทรดุ โทรมลงเรอ่ื ย อารมณเ๑ คยเยน็ เฉอื่ ย กะเลยกลายเปน็ คนใหมํ พระองค๑เกิดเปน็ ไปเพราะการเมืองยากยง๎ุ สมองฟงูุ ฟ๓่นเฟอื น 80 หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
81 (บทท่ี 14) เลยกลายเปน็ คนเพ้ียน บ๎าปุวงเสยี จริต เพราะวาํ ใจมวั คดิ แตเํ รอ่ื งการเมอื งบ๎าน นาํ สงสารเอาฮ๎าย พระองค๑กลายเป็นตาํ ง ระหวาํ งเจ็บปวุ ยไข๎ เมืองบา๎ นกะวุนํ วาย... หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน 81 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
82 กลอน ประวตั ศิ าสตร์กรงุ ธนบรุ ี ตอนที่ 5 82 ทานอง ลาทางส้นั ประพันธ์โดยแม่ครู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) ในตอนน้ซี วนกันแยกเขตคาํ ย ทุกทว่ั หวั ระแหง เกดิ ฆาํ ฟน๓ รนั แทง แยํงเอาเมอื งบ๎าน มีทหารคนกล๎า อาสากลํมุ หนึง่ บกุ เขา๎ ถึงเขตคาํ ย ทางกาํ้ อยธุ ยา (บทท่ี 2) นายขุนแกว๎ ขุน ขุนสุระนํามา นายบุญนากบา๎ นแมลํ า รํวมพากันปล๎น เจ๎ากรุงธนเลยให๎ พระยาสรรค๑ไปปราบ พระยาสรรคท๑ ราบเร่ือง เลยเข๎าไปฮวํ มมอื (บทท่ี 3) พวกกบฏลุกฮอ้ื คมุ หมูกํ องทหาร มารุกรานธนบุรี ตอํ ยตเี อาบ๎าน จดั การบงั คบั เจ๎า กรงุ ธนใหไ๎ ปบวช ทรงผนวชอยํวู ดั แจ๎ง พระองค๑เจ๎าเลํายอม (บทที่ 4) แตวํ ําบญุ บํพรอ๎ ม องคท๑ ํานพระยาสรรค๑ เพราะมีคนสาํ คญั กวําพระยาสรรค๑นี้ เลยบํยนิ ดใี ห๎ พระยาสรรคค๑ รองราชย๑ ยึดอาํ นาจครง้ั น้ี มแี ตํเรื่องเกยี่ วพนั (บทที่ 5) พระยาสรรค๑หวงั ขน้ึ ครองแทนพระยาตาก ซมุ หนึ่งคดิ ตาํ งหากราชการใหญนํ ๎อย คอยรวํ มฮํวมกนั (บทท่ี 6) จราจลคร้งั นัน้ ฟูากอ๎ งคะนองคกึ หวงั อัญเชญิ เจ๎าพระยาสมเด็จพระมหากษตั รยิ ศ๑ ึกนง่ั ปองครองบา๎ น เพิน่ ไปราชการทาํ สงครามทางดา๎ น เมืองเขมรบํทนั ตําว จั่งแมนํ ตกเถิงคราวเมืองกรุงธนซลิ ม๎ พระองค๑เจา๎ เลาํ ประชวร (บทท่ี 7) อายุจนครบถ๎วน ส่ีสิบแปดพรรษา ไดศ๎ ึกขาลาศีล ไปถูกคมุ ขงั ไว๎ พระเจา๎ ตากสินยอมให๎ เขาทาํ ทกุ อยําง บมํ ีทางตอํ ส๎ู ปกปอู งซํอยตน… หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น ศูนย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
83 (บทท่ี 8) เพราะทกุ คนตํางพรอ๎ ม ให๎องคใ๑ หมํมาครอง พากนั มองการณ๑ไกล ประเทศไทยปางกี้ พระเจา๎ กรุงธนบุรเี สยี จริตไปแลว๎ บหํ วังคนื คือเกาํ เลยหวงั เอาองคพ๑ ระพทุ ธยอดฟูา มาสร๎างน่ังแทน (บทที่ 9) ดั่งไดย๎ นิ ทุกแคว๎น เทําท่วั พารา เจา๎ มหากษัตริย๑ศึก ซ่ือเสยี งดงั ก๎อง เปน็ คนครองแทนเจา๎ กษัตริย๑ไทยองคใ๑ หมํ ประชาชนพอใจพระองค๑เป็นนกั สู๎ หาญกล๎าเกงํ การ (บทท่ี 10) พระองค๑ครองเมืองบา๎ นคิดอาํ นการไกล กษัตริย๑ไทยซมิ ีสอง บํหํอนคือความน้ี กลวั สิมีภยั ขึน้ ภายหลังคร้งั ใหมํ คงเอาไว๎บํได๎ พระองค๑เจ๎าตากสนิ (บทท่ี 11) ตอนชวี ติ ซิสน้ิ เถงิ ทอ่ี วสาน เป็นนํากาลเวลา ลวํ งมาเถงิ ทําน นําสงสารเอาฮ๎าย พระองคต๑ ายเพราะชาติ บาดน้ีตกบอํ นเศรา๎ พระองค๑เจา๎ ป่๓นแปร (บทที่ 12) ความฮกั ชาตแิ ทๆ๎ จงั่ เถิงแกํความตาย ยากเทิงใจเทิงกาย จัง่ คอํ ยเปน็ แนวนี้ เวลาสิบห๎าปีแตพํ ระองค๑ครองสร๎างกรงุ ธนพน๎ ผาํ น ฮอดบํอนคราวอาวสานเลยสวรรคตสิน้ หนเี วน๎ ลาล๎างหํางไป (บทที่ 13) สมยานามกลําวไว๎ มหาราชกรุงธน บทํ ันดนแมนํ สมเด็จเจ๎าพระยา พระมหากษตั ริย๑ศึกข้ึนนง่ั ปองเป็นเจ๎า ในตอนนั้นประชาชนยงั เศร๎านําองคพ๑ ญาตาก พร๎อมใจสร๎างอนสุ รณค๑ นดีวรี ชนคนกล๎าไวใ๎ ห๎ไทยระลกึ ถึง (บทที่ 14) ประชาชนทราบซง้ึ คณุ งาม และความดี วีรกรรมของเจ๎ากรุงธนบุรี เพิ่นทําไว๎ ผู๎ใดไปเถิงกํา้ ธนบุรเี มอื งเกํา เซิญไปเซาแวะเยย่ี มเฮยี นฮูเ๎ ร่อื งราว.... หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน 83 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
84 กลอน ประวัตศิ าสตร์กรุงธนบรุ ี ตอนที่ 6 84 ทานอง ลาทางส้นั ประพันธโ์ ดยแม่ครู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทท่ี 1) หันมาฟ๓งบทซ๎อนอนุสรณพ๑ ญาตาก หากผใู๎ ดอยากฮปู๎ ระวัติเรอื่ งสวํ นพระองค๑ (บทที่ 2) อยวํู ัดหงส๑รตั นารามนัน้ แมํนศาลของเจา๎ พระยาตากคนดี ประซาซนธนบรุ ี นับถอื ลอื ย๎อง อยํางท่ีสองคือวดั อินทารามนน้ั พระเจดยี ส๑ ูงใหญํ ได๎บรรจุอัฐิของพระยาตากไวใ๎ นหัน่ แตนํ าน (บทท่ี 3) สิ่งที่สามแมํนยาํ น สํวนพระราชวังเดมิ ได๎สํงเสริมปรับปรงุ ตํอมาแตปํ างนนั้ ปจ๓ จุบนั เดียวน้ี ปรบั ปรงุ ขน้ึ ใหมํ เป็นทต่ี ง้ั ของกองทพั เรือไทย ผู๎ใดไปฮอดห่ัน ให๎ไปเยยี่ มแวะดู (บทท่ี 4) ไผอยากมคี วามร๎ู ดูเบิ่งใหเ๎ หน็ ชัด เซิญไปดูประวัติ เจ๎าตากสนิ คนกลา๎ อีกทง้ั พระบรมรูปทรงม๎า ของพระองค๑ทรงนั่ง ไปทางวดั อรณุ ราชวราราม มองไปในเขตนน้ั ซิเห็นต้งั สงํางาม (บทท่ี 5) ขา๎ มไปเถิงเขตคําย ถนนใหญพํ รานนก เรยี กถนนพรานนก ยกนามแตํคราวก้ี ท่ีสําคัญของเจ๎า พาทหารจับกลมุํ เปน็ สมรภูมทิ ี่สําคัญใหญํย่ิง พระองคเ๑ จ๎าพกั เซา (บทท่ี 6) ตลอดเถิงท่ัวเทํา เมอื งใหญํธนบุรี เสมือนเปน็ อนุสาวรยี ๑ของพระเจา๎ ตากสินถ่ินสถานงามไก๎ โชวค๑ วามงามเอาไว๎เป็นประวตั ศิ าสตร๑ทม่ี ีไว๎ครบคูํ เปน็ กษตั ริยค๑ รองอยเูํ มอื งกรงุ ธนเขตน้ีมที ํานผ๎ูเดยี ว (บทท่ี 7) นบั วาํ เพ่ินนน้ั เฮ้ยี ว คนเกงํ กรงุ ธน ประชาชนชาวไทย ได๎เทดิ ทนู เอาไว๎ คนทุกยคุ ทกุ สมยั บํเคยไลลืมถม่ิ บญุ คุณพระองค๑ทําน ราชการเพ่นิ ได๎ กําหนดใหห๎ นึง่ วนั ... หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
85 (บทที่ 8) 85 สาระสาํ คัญนัน้ ให๎เคารพบูชา ยี่สบิ แปดธนั วา ราชการกาํ หนดไว๎ เป็นวันหยดุ พกั ให๎ ซาวไทยปีละเทอื่ เพอ่ื ให๎คนกราบไหว๎ ใจน๎อมระลึกหา (บทที่ 9) อนุสาวรียพ๑ ระบรมรปู ทรงมา๎ สถานท่ีสําคญั พอเถิงวนั ยีส่ บิ แปดธนั วา คนตาํ งมาโฮมล๎อม พากันบังคมนอ๎ ม อยูํออ๎ มวงเวียนใหญํ ประเพณีสืบไว๎ ใหเ๎ ฮาได๎ยึดถือ (บทที่ 10) ย่สี ิบแปดธนั วาของทุกปฮี อดมอ้ื เคารพพระบรม คนมาโฮมซมุ นมุ มากมายหลายลน๎ ประซาซนโฮมท๎อนมาสะออนเยย่ี งอยําง เจ๎าตากสินเพน่ิ สร๎าง เมืองไว๎ให๎แกํไทย (บทที่ 11) ตอนนี้หยุดพกั ไว๎ ฟ๓งใหมํตอนปลาย กลายมาเป็นรตั นโกสินทร๑ ทกุ วันเดียวนี้ มปี ระวตั เิ ขียนไว๎ วําไผเป็นคนกํอ ตํอมาเถิง รัชกาลท่ีเกา๎ จนเทําซํูวนั (บทที่ 12) แตํละองคล๑ ะองค๑นนั้ สําคญั คนละอยาํ ง เมอื งกรุงเทพกํอสร๎าง มาได๎ก่ีปี (บทที่ 13) เมืองกรุงเทพฯ แตํกี้ ย๎ายมาจากกรงุ ธน ไผเปน็ คนนาํ มา จากกรุงธนกว๎าง เป็นเมอื งหลวงประเทศไทยเดียวน้ี มีจกั องค๑ทรงน่งั เทํากระทั่งสูํมอ้ื ได๎สองร๎อยกวาํ ปี (บทที่ 14) เลําประวตั แิ ตํกี้ ตน๎ เร่ิมเดมิ ที มีประวตั ิปกครอง กอ่ี งค๑ทรงสร๎าง ความสําคญั จัง่ ใดบา๎ งนับแตํตน๎ เถงิ กลาง พระองค๑สรา๎ งเฮอื งฮงํุ ไผจอํ งจงู ประเทศบา๎ น พาใหฮ๎ ุงํ เฮือง (บทที่ 15) จนตลอดฮอดเรื่อง เลกิ ทาสสมยั ใด เฮาเกิดเป็นคนไทยควรศึกษาประวตั ศิ าสตรไ๑ ทย ตื่มเติมความรู๎ เกดิ เปน็ ไทยควรฮู๎ ศกึ ษาประวตั ิเกาํ หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
86 เวา๎ ให๎พี่นอ๎ ง เรยี นรูเ๎ ร่ืองนํา (บทที่ 16) โดยเฉพาะ ประวตั ิการกํอตง้ั กรุงเทพธานี ฉันราตรีศกึ ษา แตํชั้นประถมปลายพ๎ุน บํไดเ๎ ดาหรือดน๎ เรียนมาถ๎วนถี่ ประวัตมิ กี ลาํ วไว๎ จ่งั เขียนแต๎มแตงํ กลอน (บทท่ี 17) เวา๎ เรื่องลํา ซิมกั เย็นหรอื ฮอ๎ น วาทอํอนหรือแข็ง มกั ทางศิลป์แสดง โปกฮาเฮฮ๎อง บํมีทางขดั ข๎อง แนวใดได๎ทกุ อยําง มีตํารากลาํ วอา๎ งสรรสร๎างชัดเจน (บทท่ี 18) ตกหวาํ งเลํนกะเลํน เฮมํวนขาํ ขนั ตกหวาํ งลําประชัน กะกลั่นเอาแตํหวั ไม๎ ฟง๓ ตํอไปเดอ๎ ทําน ปฏภิ าณใผซเิ กํง เด็กทํอใดแหงํ เรงํ ใกลส๎ ิแจ๎งแหงํ ฮําว หันจา๎ วจัง่ รถทัวร๑… 86 หนังสือรวมกลอนลำทำงสั้น ศูนย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
87 กลอน สอนวาทลา ท่าคนเมาเหลา้ ทานอง ลาทางสนั้ ประพนั ธ์โดยแม่ครู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทที่ 1) ตอนนีไ้ กลส๎ แิ จง๎ ลาํ แขํงตอนเด๊ิก ฟง๓ บทกลอนฮอนเลิก๊ สาํ่ สอํ งลงกนสาํ ง ฝุายโลกธรรมนาํ อา๎ งกันมาหลายแหงํ โจทถามแปลทุกขอ๎ พอฮภู๎ าควชิ า (บทท่ี 2) มาบัดนีส้ ิพาพวกพ่ีน๎องพกั ผํอนอารมณ๑ ให๎สุขสมหวั ใจฝากไว๎ในรอยยิ้ม เซิญซวนซิมบทคะตังฟง๓ ให๎ ขบขนั มันมวํ น บทตลกครบถ๎วนเอามามว๎ นใสกํ ัน (บทท่ี 3) ทําอน่ื น้นั กะเว๎าวาํ มาหลาย เว๎าบอกแยม๎ บอํ ายแมํนทาํ คนมาเหลา๎ บัดยามเมาแล๎วบํอดึ แนวเว๎าโสกันนันหนี่ บดั เซาเมาเบิ่งเพิ่นงวกพน๎ุ พีห้ าลี้แลํนบัง (เพลง) เหลา๎ เอยเอยเหล๎า คนกนิ คนกะเมา (ซาํ้ ) (เวา้ ) เว๎าพน้ื เหลา๎ นี้ หมากินหมากะเมาเด๎เหมําน้ี จง่ั วาํ สรุ าเหล๎ากินเมาต๎องฮอ๎ งโฮํ กนิ บํโฮบฮํ ๎องมนั เสยี แปูงผ๎ูเพ่นิ ทํา เอาหนํา่ เลยซมุ เฮา กึบแลว๎ เมามํวนลูกเดียวเวย๎ ... ผชู๎ ายกบั ผห๎ู ญงิ เมาตาํ งกนั ผห๎ู ญิงเมาผัดรอ๎ งเพลงวํา (เพลง) โจกหนึง่ หูซันซองลอง โจกสองหซู นั พ่ีวี่ โจกสามโจกสีเ่ อาของดไี ปแงงแวนํ (เว้า) เอา๎ แมํนหมาโตใดน๎ อ มันเอาแวํนแตกมาไว๎เลาะหนว่ี ะ คันผซ๎ู ายเมาผดั ฮ๎องเพลงวํา (เพลง) โจกหนง่ึ หซู ้ันซองลองโจกสองหูซนั พวี่ ี่ โจกสามโจกสี่ เหน็ เมียวาํ แมํนแมํ (เว๎า) สวัสดีแมํเฒําเจ๎ากะมานาํ หมบํู อ๎ บัดผข๎ู ๎าเมาบํคอื หมํู มแี ตฮํ ๎องเพลงมวํ นลูกเดยี ว หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน 87 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
88 (เพลง) -สรุ านารกี นิ แลว๎ มีความสขุ ดับความทุกข๑ลืมความกงั วล ถึงใครจะดาํ เรากไ็ มเํ คยสน ดําเราหมดทกุ คนชํางหวั มันปะไร -ยามจนมีแตคํ นเว๎าใสํ ยามไดข๎ อแหนํครูบา ยามรวยมแี ตํคนถามหา สิไปไสครบู าขอไปนาํ แหนํ -ยามจนบํมีคนอยากร๎จู กั หมากบ็ เํ หําทักมันร๎ูวาํ เราจน ไปทางไหนไมํเหําท้งั หมาไมถํ ามท้งั คน พอรู๎วาํ เราจนหมาและคนก็ไมํมอง - ดมื่ เสียทีสนกุ ดีนะหลํอน (ชาย/พอํ )(หญิง/แม)ํ งามงอนเรามาดม่ื ด๎วยกนั ดม่ื เหล๎าเพื่อตอ๎ งการสงั สรรค๑ เมาแล๎วชนแกว๎ กันพท่ี นี ๎องที - ดม่ื เสยี ทีสนุกดเี ข๎าทํา ไปเอามาต่มื จกั สองสามแบน คาํ เหลา๎ เจ๎าสเิ อาจกั แสน คาํ หมอลาํ หมอแคนขํอยสิจํายคนเดียว (เวา้ ) เฮย๎ เจ๎าภาพจ๎างหมอลํามาหลายปานได๐มือ้ น้ี บตํ ๎องจาํ ยคําหมอลําเด๎อ (ชือ่ ตัว) สจิ าํ ยให๎บตํ อ๎ งหํวง มนั สิพอแสนบคํ ําหมอลาํ สอื่ สอ่ื โจกหน่ึงเอน็ คอพงึ บทํ นั ปากโจกสองเสียงกระซากคําราม โจกสามเห็นคนเดินเอิ้นใสํ เอ๎ยสิไปไสมากินเหลา๎ นํากนั กอํ นเวย๎ โจกสเ่ี หน็ ไกํวําแมนํ หมู โจกหา๎ ใบหแู ดงหนา๎ เขํง จอกหกเปุงวําจาเว๎าโฮกฮาก เฮย๎ แถวน้ีมีนักเล็งบํหอึ คันมีแล๎วเฮาสิหนีไปดงั อยแูํ ถวอนื่ กะได๎วะ (ลาทางสั้น) (บทท่ี 4) อนั นค้ี อื การเลํนภาคตงั ฟ๓งมํวน สมควรเด๎อบดั หนั เขา๎ บอํ นเอา (บทที่ 5) ใหส๎ มความเพ่ินเว๎า เขาซาํ หมอลาํ ดี ภาคคตกิ ะต๎องมีภาคคะตงั นาํ พรอ๎ ม ไผบํไดก๎ ะให๎ยอมอยํามัวเสยี ขีห่ นา๎ กลับไปหาเฮียนใหมํ คนั แก๎กลอนบํไดส๎ เิ อาไม๎แหยขํ อง (กลอนลง) สบิ สองสองเปน็ ย่ีสิบสท่ี อํ นนี้ ๎า... 88 หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
89 กลอน ลาแข่งวาลา เพลงตา่ งประเทศ ทานอง ลาทางส้นั สลบั ยา่ ว+เพลงอนิ เดยี + เจก๊ เล่นงวิ้ +เจก๊ ลา(เพลงจีน) ประพันธ์โดยแมค่ รู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2517 (ทานองลาทางสนั้ สลบั ย่าว) (บทที่ 1) แมํนวําเด๎อนาย ลําลําน้ีท่มี าหลายทํา พฒั นาขึน้ ได๎มาไว๎แขงํ ขัน (บทท่ี 2) ลําวาดนี้วาดนนั้ กลอนกลัน่ สรรหา วาทะศิลป์การแสดงแขํงเสงกันแท๎ คนั บไํ ด๎กะยอมแพ๎ ให๎หนไี ปเฮียนใหมํ ทังเพลงลาวเพลงไทย ตํางประเทศกะให๎ได๎มาไวแ๎ ขงํ เส็ง (บทที่ 3) ตกบทเรํงกะสิใหจ๎ ําวให๎เรงํ เพลงกัน่ ทันสมยั ฉนั ราตรศี รวี ไิ ลเล่ือนใหลไวคลอํ ง มักแบบใดการรอ๎ ง เพลงแกวแมว๎ ฝรั่ง เชญิ เจา๎ หนั มาฟ๓งเพลงอนิ เดียบดั น้มี ีไวท๎ ําแสดง (เพลงอนิ เดีย) ฮําๆๆๆๆฮาํ ฮ่ําฮําหาํ ฮําๆๆๆๆๆๆ ฮํ่าห่ําๆๆฮ่าํ หํา โอห๎ ําผู๎ใด๐มาใหญแํ ทน๎ อ โอ๎ลกู ชายไผ มาหาํ ใหญแํ ท๎นอ เมือ่ คอยๆๆๆ อาบังตนื่ หอย คอยๆ คําๆ ปาดโทน้ันหํามาดําแทน๎ อ เทงิ ใหญํเทงิ แหลํเทิงดํา โอ๎ไม๎คอนหาํ เทงิ ใหญเํ ทงิ ยาว ยาวโอํยาวยังงีไ้ มไํ หวละไอ อาบังจงั ไรมันทาํ ไมดี ทาํ ไมมาดมตรงน้ี เทิงดมเทิงก๎มเบงิ่ หวี กลางวันกลางคืนบํหนี ฮี...หอม อาบงั ถนอมของเมยี ไวด๎ ม อาบงั เทิงโงม เทิงโดมของเมยี เอาป้น๓ ขา๎ วก่กี ูมา... ของมึงป๓น้ น๎อยของกูปน้๓ ใหญํ ของมึงทาํ ไขํของกํบู ํทา ของมึงป้๓นหนาของกู๎ป๓น้ บาง เอามาทะแม เอามาทาแม ของมงึ หําแหลํเทิงดําเทิงเหมน็ ... (ลาทางสัน้ ) ภาพนีเ้ ฮ็ดให๎เห็นการเตน๎ เพลงแขก หนงั สือรวมกลอนลำทำงสั้น 89 ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
90 เจก๏ เลนํ งวิ้ กะผดั แปลกรอ๎ งใสํสีซอ เสยี ง อี่อ๎อๆ ๆ เพิน่ สซี ออู๎ ออกหวดิ ฉาก แลว๎ ผดั ทําทาํ บ๎ูเตห๏ น๎าเตห๏ ลัง ฟง๓ เพ่นิ เปลํงเสียงดงั ฮ๎องจนคอโกงํ (เจก็ เลน่ งว้ิ ) เจย๊ี กโซํย... จาํ อวั่ ซงิ แซ แฮ แหแอ แอแํ อ ห๎วงซมึ้ อมึ้ ซอ ลือตํอตกี อเคีย เฮยี เฮีย เหยี เฮยี ลอื ลาํ ยย่วั เมีย จาํ อัว่ ซงิ แซ ลือกยุ๎ แสตวั เมีย ลือกุ๎ยฮํวย อ๋ัวจับโปูยฮวํ ย อ่วั เยยี ะลอื โซยํ ลอื เจี๊ยกโซํย... แลว๎ ลือกะซาํ หมี (ลาทางสั้น) อนั น้ีนนั้ แมํนวาททาํ วาทเี พลงเจ๏กเลํนงว้ิ ฟ๓งบัดนี้แหงํ ติว่ วาทเจก๏ ลาํ ไทย ฮอ๎ งเสยี งเหลอเสยี งไหล ลําไทยเลาะลอํ (เจก็ ลา) โอล๐ ะนอ...อาเฮียโอยํ อ่ัวเปน็ เจ๏กอ่ัวอยูํเมืองจนี อว่ั มาถือศิลอยูํทเ่ี มอื งไทย ให๎อัว่ แกงหมูอวั่ ก็แกงไล๎ อ่ัวแกงไกํอวั่ กแ็ กงดี เอาหวั ลือเชด็ หวี อ่ัวกท็ าํ ไล๎ ทังไล๎ ทังไล๎ ทงั ไล๎... (กลอนตัด) แขํงวาทเพลงยคุ ใหมํหลายบทหลายตอน บัดนี้มาหันฟง๓ กลอนเพลงในประเทศ ศิลปะแตํละเขตสภี่ าคของไทย ผใ๎ู ดเกํงแนวใดในกลอนแขํงวาท ประกาศใหเ๎ พน่ิ ฮู๎การลําสแูํ ขํงขนั (กลอนลง) มีวาดใดสําคญั ขอให๎บัน้ ลําตํอโลดเดอ๎ เจา๎ ... 90 หนังสือรวมกลอนลำทำงส้ัน ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
กลอน แข่งวาทลาวาทฟอ้ นตา่ ง ๆ 91 ทานอง ลาทางสนั้ 91 ประพันธ์โดยแม่ครู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2517 (บทท่ี 1) ละแมนํ วาํ เด๎อนาย การทางลาํ มีอหี่ ลีลาํ เลนํ ลาํ เป็นเกาํ ใหมํ ภาคคตกิ ะได๎ลาํ เลนํ เฮ็ดเป็น (บทที่ 2) คนั สิมีแตํเน๎นทางภาควิชาการ เว๎าเรือ่ งศิลกนิ ทานบาปบุญคุณค้ํา ผู๎ฟ๓งลาํ ผดั วําบํได๎ย๎อนหาวนอนนหี้ น่าํ สั่งมาวาํ ให๎ลําภาคคะตังละเลํน พอไดซ๎ ํวงเหงา (บทที่ 3) บดั น้หี นั มาเขา๎ วาททาํ วาทะศลิ ป์ คาํ วาํ ศิลปนิ ตอ๎ งครบคันความฮ๎ู มีบทกงบทบ๎ู เฮฮาพามํวน ขอเชญิ ชวนพนี่ อ๎ งมาฟ๓งหมํองมํวนเพลิน (กลอนตัด) ทาํ จงั่ ซี้เพนิ่ เอ้ินวาํ วาดนักมวย ไหวค๎ รูอยาํ งสวยๆ เตรียมตัวรอยก กรรมการบอกชกเตรียมทาํ รอคอย มีมัดเสย มดั สอย ตีศอกตีเขํา ทําจั่งซ้เี พนิ่ เอิน้ มวยเฒําเกํากําวาง กาํ ป๓น้ เสยเขา๎ คาง สนั เต๐ดากป๓บ ทําจง่ั ซี้นักศึกษาเขา๎ รับใบปริญญา รบั แลว๎ ถอยออกมาเตรยี มตวั คาํ นับ ถอนสายบัวลงปบ๓ เรียบรอ๎ ยถอยไป ทําจั่งซแี้ มํน ผส๎ู าวลา๎ งไหเอาไว๎ใสํเหล๎า ขนั ตกั น้ําเทเข๎าโค๎เล๎ทางใน เทน้าํ ลา๎ งเข๎าไปจว๎ งหลาํ ง หลํอนแลว๎ เซาล๎างเอาไว๎เซาสา ทาํ นค้ี นไถนาเอาความมาลาก เทงิ ทก เทิงซาก เทิงแกํ เทิงถึง ฮ๎ายจนเอน็ คอพึงฮือๆฮอํ งๆ ไถเปน็ คองซอํ งลํองดนิ ก๎อนเฮาโบม ทํานีค้ นจกโตมป๓้นคูกล้นั นา้ํ โก๎มลงไปตาํ่ เทงิ จกเทิงโกย หนงั สือรวมกลอนลำทำงสั้น ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
92 จกั วําหําหรอื โจ๐ย เพ่ินคาํ ปานป๓่งซี่ มนั มหี ลายเอาหนีวาททาํ มาเส็ง สิเอาทํารอ๎ งเพลงแบบใดก๐ ะได๎ มักเพลงไทยเพลงฝรง่ั พมํา จีน แกวแม๎ว ญปี่ ุน อแ่ี มํหมนุ สง่ั ให๎เฮียนไว๎ถ๎าแขํงกลอน (กลอนลง) บ้ันออนยงั หลายขอเซญิ อ๎ายลําตํออยาํ รอซา๎ ... 92 หนงั สือรวมกลอนลำทำงสั้น ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
93 กลอน เจ็ดตานานแปล: คัมภีร์เวา้ มงคลสูตร ตอนท่ี 1 ทานอง ลาทางสัน้ ประพนั ธ์โดยแมค่ รู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2518 (บทที่ 1) ตอํ จากน้สี เิ วา๎ เจด็ สตู รตาํ นานมี ลําบาลคี าถามคธไลํไปให๎มันเกลยี้ ง แปลให๎ฟง๓ สุดเสย่ี งเรียงกลอนซอ๎ นตํอ ฟ๓งให๎ดีเด๎อพอํ ยอยกกกสูตรตน๎ บเํ ดาดน๎ ดงั่ เขา (กลอนตัด-เทศ) คัมภีร๑เวา๎ มงคลสูตรมมี า (เวา้ / เทศ) สตู รที่ 1 วาํ เอว๎ ะเมสุตัง เอก๎ งั สะมะยงั ภะคะวา สตู รท่ี 2 รตั นะยานี สตู รที่ 3 กะระณนี ะมสั กะ สูตรที่ 4 ขนั ธะปารีต สตู รท่ี 5 โมระปะรติ สูตรท่ี 6 ยันญะจักกุมา สูตรที่ 7 ธะสักคา สตู รปลายสดุ ท๎าย อธบิ าย 8 ขอ๎ ตาํ นานแปลแก๎แมนํ เทงิ ลาํ เทงิ แลํนกะบหํ ลงอีกซ้ําเขียนไวท๎ อํ งจํา (ลา) แตกํ ํอนเอาบุญนน้ั จะต๎องปุาวเทวดา ให๎มาเป็นสักขี จ่ังสิมีบญุ ได๎ (เว้า / เทศ) (ปา่ วเทวดา) วําสกั เคกาเมจะรูเป คิริสขิ ะะระตะเต จนั ตะรกิ เขวิมาเนทีเปรตั เถจะคาเม ตะรวุ ะนะคะหะเน เคหะวตั ถุมหเิ ขตเต ภุมมาจายันตุเทวา ชะละถะละวิสะเม ยกั ขะคันทัพพะนาคาติฏถนั ตาสันติเกยัง มนุ ิวะระจะนงั สาธุโวเมสุนนั ตธุ รรมมัสสะวะนะกาโร อะยัมพะทนั ตาๆๆๆ (ลา) (บทที่ 2) แปลคาถาสักเคปุาวเทวดาน้ี ขออนั เชิญส่งิ ศักดส์ิ ิทธ๑ในสากลโลกนี้ เทวดาทุกเหลํา เนาสถิตแหํงหอ๎ งปนุ ปอู งรกั ษา (บทท่ี 3) สวรรค๑พรมเทิงฟูา คนั ทพั ะนาคา หนงั สือรวมกลอนลำทำงส้ัน 93 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390