Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องเล่าตามบ้านเรา...ตามรอยเท้าพ่อ

เรื่องเล่าตามบ้านเรา...ตามรอยเท้าพ่อ

Description: เรื่องเล่าตามบ้านเรา...ตามรอยเท้าพ่อ.

Search

Read the Text Version

ระดับมธั ยมศกึ ษา “เร่อื งเลา่ จากบ้านเรา... ตามรอยเท้าพอ่ ” ๙๙ พระวิริยะอุตสาหะและพระราชปณิ ธาณท่ีจะขจัดปญั หาเพ่ือยกระดับคุณภาพชีวิตของ พสกนิกรชาวไทย ต้งั แตก่ ารเสด็จพระราชด�ำเนนิ ไปเยย่ี มเยียนราษฎรในพนื้ หา่ งไกล ทรง พระราชทานแนวพระราชด�ำริ แนวทางการด�ำเนนิ งานและค�ำแนะนำ� เพื่อแกไ้ ขปัญหาใน ระหว่างการดำ� เนนิ การ จนทำ� ให้โครงการต่างๆ สำ� เรจ็ ลลุ ว่ งสง่ ผลดตี ่อประชาชนชาวไทย ทั้งประเทศ ในหลวงรชั กาลท่ี ๙ ทรงมงุ่ เนน้ เรอ่ื งการพฒั นาคน ทรงตรสั ว่า “ตอ้ งระเบดิ จากขา้ งใน” ซ่ึงเป็นหน่ึงใน ๒๓ ข้อหลกั การทรงงานของพระองค์ คอื ตอ้ งสร้างความเข้มแขง็ ใหค้ นใน ชมุ ชนทเ่ี ราเขา้ ไปพฒั นา ใหม้ สี ภาพพร้อมทจี่ ะรบั การพฒั นาเสยี ก่อน มใิ ชก่ ารนำ� ความเจรญิ หรอื บคุ คลจากสงั คมภายนอกเขา้ ไปหาชมุ ชนหรอื หมบู่ ้านทยี่ งั ไม่ทนั ได้มีโอกาสเตรียมตัว ทรงใชห้ ลกั การ“เข้าใจ เข้าถงึ พัฒนา” น่ันคือก่อนจะทำ� อะไร ต้องมคี วามเข้าใจเสยี กอ่ น เข้าใจภมู ปิ ระเทศ เข้าใจผ้คู นในหลากหลายปญั หา ทง้ั ทางดา้ นกายภาพ ด้านจารตี ประเพณี และวฒั นธรรม เป็นต้น และระหว่างการดำ� เนินการนนั้ จะตอ้ งทำ� ใหผ้ ทู้ เ่ี ราจะไปทำ� งานกบั เขาหรอื ทำ� งานใหเ้ ขาน้นั “เขา้ ใจ” เราด้วย เพราะถา้ เราเขา้ ใจเขาแต่ฝา่ ยเดียว โดยทีเ่ ขา ไม่เขา้ ใจเรา ประโยชนค์ งจะไม่เกดิ ขน้ึ ตามทเี่ รามงุ่ หวงั ไว้ “เขา้ ถงึ ” กเ็ ช่นกนั เมอ่ื รปู้ ญั หาแลว้ เข้าใจแล้ว ก็ต้องเขา้ ถึง เพื่อให้น�ำไปสูก่ ารปฏิบัติให้ได้ และเม่ือเข้าถึงแลว้ จะต้องท�ำ อยา่ งไรก็ตามให้เขาอยากเขา้ ถงึ เราดว้ ย นี่คือเหตุผลทที่ ำ� ใหห้ นสู ามารถเอาชนะอปุ สรรค ตา่ งๆ ในการศกึ ษาและการท�ำงานของหนรู ว่ มกับคนอนื่ ๆ ในดินแดนแหง่ น้ี นับเปน็ เวลาหลายปแี ลว้ ท่หี นูไดอ้ าศัยอยู่ในพื้นทสี่ ามจงั หวัดชายแดนภาคใต้ สถานที่ ที่มคี วามสวยงามและมีความน่าสนใจอยเู่ สมอ หนูเช่ือในพระเจ้าของเราชาวมุสลมิ และ หนูคิดเสมอวา่ พวกเขาคอื ครอบครวั ของหนู นี่คือเหตผุ ลทท่ี ำ� ใหห้ นูหลงรักที่นี้ อยากอยู่ ที่น่ตี ่อ ชาวไทยมสุ ลิมเป็นคนกล่มุ หน่ึงในประเทศไทย เราจึงตอ้ งดแู ลกนั เพราะหนไู มห่ วัง และไม่คิดดว้ ยซ�้ำวา่ ใครจะสนใจดแู ลพวกเรา แตม่ คี นๆ หนึง่ ที่ทำ� ให้หนูรวู้ า่ หนคู ดิ ผิด เร่ืองราวของลงุ อเุ ซ็ง สะแลแม ตอนน้ันหนูยงั เดก็ มาก หนไู มร่ ้วู ่าทำ� ไมลงุ จึงน่ังกอด ปลาแลว้ รอ้ งไหเ้ ป็นเวลาครงึ่ ชวั่ โมง ไม่รวู้ ่าลงุ เจบ็ ปวดอะไร ถงึ ได้รอ้ งไหอ้ อกมามากมาย ขนาดน้ี ซ่ึงหนูไม่ชอบเหน็ ความเจบ็ ปวดเลย แตห่ ลังจากวนั ทีใ่ นหลวงรัชกาลท่ี ๙ ของ เราทรงยื่นพระหัตถ์มารับปลา ลุงอุเซ็งก็หยุดร้องไห้ ลุงบอกหนูว่า “ลุงดีใจที่ในหลวง รชั กาลที่ ๙ ของเราพระราชทานความช่วยเหลอื ” ตอนนนั้ หนสู งสยั วา่ “พระองคเ์ ป็นหมอ หรือ แล้วพระองค์ชว่ ยเหลือลุงทำ� ไม” เมอ่ื โตข้นึ จึงท�ำให้หนเู ข้าใจ

๑๐๐ “เรอื่ งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพอ่ ” ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ในหลวงรัชกาลท่ี ๙ ของเราเสด็จพระราชดำ� เนนิ ไปทอดพระเนตร โครงการชลประทานและทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นท่ีสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ท่ีนั้น ลงุ อเุ ซง็ สะแลแม นำ� ปลากะพงขาวมาทลู เกล้าทลู กระหมอ่ มถวาย แตป่ ลามีสีด�ำ พระองค์ ตรสั ถามได้ความวา่ “ราษฎรเดอื ดร้อนเรอ่ื งการระบายนำ้� เปรยี้ วจากพรบุ าเจาะ ส่งผลกระทบ ตอ่ ปลาทเ่ี ลย้ี ง ”พระองคจ์ งึ รบั สงั่ ให้กรมประมง ศนู ย์ศกึ ษาพฒั นาพกิ ลุ ทอง ขอความรว่ มมอื ใหศ้ นู ย์พัฒนาการเพาะเลย้ี งสัตว์น�้ำชายฝ่ังนราธวิ าสในขณะนน้ั ดำ� เนนิ การวจิ ยั เพอื่ แก้ไข ปัญหาความเดอื ดร้อนของราษฎร ในขณะทล่ี งุ อเุ ซง็ ถวายค�ำอธบิ ายไปกร็ อ้ งไห้ไปดว้ ย ไม่รู้ วา่ จะแก้ไขปัญหาเหล่านอ้ี ยา่ งไร มองไมเ่ ห็นหนทางทำ� กนิ จนตอ้ งขอพงึ่ พระบารมใี นหลวง รชั กาลท่ี ๙ พระองค์ทรงทอดพระเนตรอาการสะอกึ สะอนื้ เหมอื นเดก็ ๆ ของลุงอุเซ็งก็ทรง เห็นใจ จงึ ตรสั ด้วยพระราชอารมณข์ นั ดว้ ยประโยคสน้ั ๆ ว่า ”...ปลาร้องไห้ จะต้องหา ทางแก้ไข...” จากน้นั พระองค์ทรงเปดิ แผนทเ่ี พอื่ ทอดพระเนตรต้นเหตขุ องปญั หา เพอ่ื ช้ี ให้เหน็ ว่าเส้นทางปล่อยนำ้� เปรยี้ วจากพรบุ าเจาะ ปล่อยนำ�้ ผ่านแม่นำ�้ กอตอซงึ่ เปน็ บรเิ วณ จดุ ทเ่ี ลย้ี งปลากะพงว่าเกิดเหตุน้ีไดอ้ ยา่ งไร ทรงศึกษาหาวิธีปอ้ งกันการปล่อยน�้ำเปรี้ยว ลงจดุ เดมิ อยา่ งจรงิ จงั พร้อมทงั้ ทรงมอบหมายให้หน่วยงานผ้รู บั ผดิ ชอบวางแผนระยะยาว ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์จากวันน้ัน จึงท�ำให้เกิดโครงการที่เรียกวา่ “โครงการปลาร้องไห”้ หลังจากแก้ไขปญั หาดังกลา่ วได้ท�ำให้ลุงอุเซ็งและชาวบา้ นอีก หลายหลงั คาเรอื นไม่ตอ้ งมที ง้ั “ปลา” และ “คน” ร้องไหอ้ ีกต่อไปช่วยใหร้ าษฎรมคี วาม เปน็ อยูท่ ด่ี ีข้นึ จนถึงปัจจบุ ัน ไมใ่ ชแ่ คล่ งุ อเุ ซง็ เท่านัน้ ลุงวาเดง็ ปเู ตะ๊ ก็เป็นชาวไทยมสุ ลิม อีกคนที่ได้เข้าเฝ้าละอองธุลีพระบาทใกลช้ ิดกับในหลวงรัชกาลท่ี ๙ และได้ช่ือว่าเป็น “พระสหายแหง่ สายบรุ ี” พระบารมปี กเกลา้ ฯ ของในหลวงรชั กาลที่ ๙ เปรยี บเสมอื นแสงประทปี แห่งปวงพสกนกิ ร ในพน้ื ทสี่ ามจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ทกุ ครง้ั ทพ่ี ระองค์เสดจ็ แปรพระราชฐานมาประทบั แรม ณ พระต�ำหนกั ทักษิณราชนิเวศน์ ได้เสด็จพระราชด�ำเนินเย่ียมเยยี นพสกนิกรเกอื บทกุ ต�ำบล ทรงพระปรชี าสามารถและทรงหยงั่ ลึกทราบถงึ สภาพพน้ื ท่ีในชนบทอย่างถ่องแท้ พร้อมทงั้ ได้มพี ระมหากรุณาธิคณุ พระราชทานแนวพระราชด�ำริ เพ่อื พฒั นาและแกไ้ ข ปญั หาส�ำคัญใหแ้ ก่พ้ืนที่สามจังหวัดชายแดนภาคใตม้ ากมายสง่ ผลให้ราษฎรของพระองค์

ระดับมัธยมศึกษา “เร่อื งเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” ๑๐๑ ท่านในพ้ืนที่สามจงั หวัดชายแดนภาคใต้ มคี ุณภาพชีวิตและความเป็นอย่ทู ี่ดขี ้นึ จากแนว พระราชดำ� รแิ ละพระอตุ สาหะ วริ ยิ ะ ในการบ�ำเพญ็ พระราชกรณียกิจของพระองค์ ได้กอ่ ใหเ้ กดิ “พลงั แห่งศรทั ธา” ซงึ่ เป็นจดุ เชอ่ื มใหท้ กุ ๆ ฝ่าย ทงั้ หนว่ ยงานทางราชการ ประชาชน และองค์กรเอกชน ได้ร่วมกันปฏิบตั ิงานเพือ่ สนองพระราชปณิ ธานต้งั แต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นต้นมา ประชากรในพน้ื ทส่ี ามจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ได้รบั พระมหากรณุ าธคิ ณุ จากการ ปฏิบตั ิพระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในการแกไ้ ขปัญหาพน้ื ฐานของราษฎรและ ส่งเสรมิ การกินดีอยดู่ ขี องประชาชน จนกอ่ ให้เกิดโครงการอันเนอื่ งมาจากพระราชดำ� รทิ ่ี ได้มกี ารด�ำเนินงานอยา่ งเปน็ รูปธรรมในดา้ นตา่ งๆ วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๕ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไดเ้ สด็จพระราชด�ำเนิน ทอดพระเนตรสภาพพนื้ ทบี่ รเิ วณล่มุ นำ้� คลองนำ้� จดื -คลองแฆแฆ อำ� เภอสายบรุ ี จงั หวดั ปตั ตานี เมอื่ ถงึ ชายคลองนำ้� จดื บา้ นทงุ่ เคจ็ เป็นเวลาตะวนั ลบั ขอบฟ้าพอดี พระองคไ์ ดท้ รงพจิ ารณา แผนที่ดว้ ยแสงไฟฉายเปน็ เวลานาน ทรงรับส่งั ให้ไปตามเจา้ ของทดี่ นิ มาเขา้ เฝ้าฯ วนั นน้ั ลงุ วาเดง็ ปเู ตะ๊ กำ� ลงั ทำ� สวนอยกู่ บั ภรรยา น่งุ กางเกงชาวเลไมไ่ ด้สวมเส้ือ พระองค์ทรง สอบถามเสน้ ทางการขุดคลองสายทุ่งเค็จวา่ มีเขตติดตอ่ ท่ีใหนบา้ งพระองคจ์ ะสรา้ งคลอง ชลประทานให้ ลงุ วาเด็งจึงไดก้ ราบทูลฯ ให้ทรงทราบ วันรุง่ ขึน้ ขา้ ราชการทีม่ ารับเสด็จฯ กต็ อ้ งตะลงึ ไปตามๆ กนั เมอื่ พระองคท์ รงรบั สงั่ ให้ลงุ วาเดง็ พายเรอื ให้ ทรงสำ� รวจคลอง สายท่งุ เคจ็ และทรงตรสั ถามพรอ้ มเปดิ แผนท่ีเพื่อให้รูว้ ่าจะสรา้ งแหล่งชลประทานอยา่ งไร โดยระหว่างพายเรือลุงวาเด็งได้กราบทลู ฯ วา่ “เม่ือถงึ เวลาหนา้ ฝนนำ�้ จะท่วมทำ� นาไมไ่ ด้ เม่อื ถึงหนา้ แล้งกท็ ำ� นาไมไ่ ด้เพราะไม่มีนำ�้ ท�ำให้ชาวบา้ นเดอื ดรอ้ น ชาวบา้ นได้แต่ท�ำการ เกษตรตามวิถชี วี ิตของคนชนบท คือ ปลูกพชื ผกั สวนครวั และท�ำสวนไวก้ ินกัน” พระองค์ ทรงลองใจจึงทรงตรัสถามขอท่ีดินเพ่ือท�ำโครงการพระราชด�ำริ ด้วยความปลาบปลื้ม ลุงวาเด็ง ปูเต๊ะ จึงยกท่ีดินถวายใหท้ ันที ในหลวงรัชกาลท่ี ๙ จึงแย้มพระสรวลและ มพี ระราชดำ� รสั วา่ ให้ลุงวาเดง็ ปเู ตะ๊ เป็น “พระสหาย” ต้งั แตบ่ ัดน้ัน หลังจากนน้ั จงึ ได้ พระราชทานพระราชด�ำริเกี่ยวกบั งานชลประทานใหพ้ ิจารณาวาง “โครงการพัฒนาพ้นื ท่ี พรุแฆแฆ อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ” โดยการก่อสร้างขุดคลองระบายน�้ำและอาคาร บังคับน้�ำ เพื่อช่วยระบายน้�ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่ ปอ้ งกันน้�ำเค็มไม่ใหไ้ หลเขา้ สูพ่ ้ืนที่

๑๐๒ “เรอื่ งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ท�ำการเกษตรและเก็บกักน�้ำจืดไวใ้ หเ้ กษตรกรใช้ท�ำการเพาะปลูก ใชอ้ ุปโภค-บริโภคได้ ตลอดทง้ั ปีและยงั สามารถใชค้ ลองระบายนำ้� เปน็ แหลง่ ทำ� การประมงได้อกี เช่นกนั นบั ได้วา่ เปน็ อกี หนง่ึ โครงการทใ่ี นหลวงรชั กาลท่ี ๙ ไดท้ รงศกึ ษาจนเขา้ ใจอยา่ งถอ่ งแท้ ทรงเยย่ี มเยยี น ราษฎรจนได้รับการยอมรับและมีผู้ถวายที่ดินเพื่อรว่ มโครงการพระราชด�ำริซ่ึงเรียกว่า ทรงงานอยา่ งเขา้ ถงึ และน�ำมาสู่การพฒั นาท่ไี ดผ้ ลสำ� เรจ็ ในท้ายทสี่ ดุ โครงการของในหลวงรชั กาลที่ ๙ เปน็ แรงบนั ดาลใจในการทจ่ี ะทำ� ให้หนเู หน็ ความสำ� คญั ของธรรมชาติ อย่างทพี่ ระองคท์ รงเคยตรสั ไว้ในหลกั การทรงงาน ๒๓ ขอ้ ทว่ี า่ ”ใช้ธรรมชาติ ช่วยธรรมชาต”ิ พระองคท์ รงเขา้ ใจถงึ ธรรมชาตแิ ละตอ้ งการใหร้ าษฎรของพระองค์มคี วาม ใกลช้ ดิ กบั ธรรมชาติ เหน็ ไดจ้ ากโครงการในพระราชดำ� รขิ องพระองค์ทท่ี รงใหค้ วามส�ำคัญ กับธรรมชาติ เพราะธรรมชาตใิ ห้คณุ ประโยชน์กบั ราษฎรมากมายโดยเฉพาะในพน้ื ท่ีสาม จงั หวดั ชายแดนภาคใตท้ พ่ี น้ื ทส่ี ่วนใหญเ่ ปน็ ทรี่ าบกว้างใหญบ่ รเิ วณล่มุ แมน่ ำ้� สลบั กบั ป่าเขา เพราะฉะนนั้ จงึ จำ� เป็นทจี่ ะต้องเข้าใจลกั ษณะและสภาพพนื้ ที่ เมอ่ื พบเจอปญั หาธรรมชาติ จึงตอ้ งมีการศึกษาธรรมชาติใหเ้ ขา้ ใจ หากเราต้องการแก้ไขปญั หาธรรมชาติจะต้องใช้ ธรรมชาตเิ ข้าช่วยเหลอื อาทิ การแก้ไขปญั หาปา่ เสอื่ มโทรมและนำ้� ทว่ มขงั ในโครงการพฒั นา พน้ื ทพี่ รุแฆแฆ ท่วี า่ เราจ�ำเปน็ จะตอ้ งศึกษาสภาพพ้ืนท่อี ย่างมีระบบ ปล่อยให้ธรรมชาติ ช่วยในการฟน้ื ฟธู รรมชาติ โดยการท่ีให้ธรรมชาตริ ะบายน้�ำออกโดยตัวเอง แต่เราก็ตอ้ ง เปดิ ช่องทางให้นำ�้ ได้ระบายเพอื่ เปน็ การแก้ไขปญั หาโดยด่วนหรอื แม้แตก่ ารปลกู ป่า ๓ อย่าง ทมี่ ีประโยชน์ ๔ อยา่ ง ไดแ้ ก่ ปลูกไมเ้ ศรษฐกิจ ไม้ผล และไม้ฟืน นอกจากไดป้ ระโยชน์ ตามชือ่ ของไม้แลว้ ยังช่วยรักษาความชมุ่ ช่ืนใหแ้ กด่ นิ ด้วย เห็นไดว้ ่าพระองค์ทรงเข้าใจ ธรรมชาตแิ ละมนุษยอ์ ยา่ งเก้ือกูลกัน ท�ำใหค้ นอยกู่ ับธรรมชาตอิ ยา่ งย่งั ยืน อีกหนึ่งโครงการท่ีเป็นแรงบันดาลใจให้หนูเห็นถึงความส�ำคัญของการพัฒนาหมูบ่ ้าน อย่างยงั่ ยนื เพราะหม่บู า้ นจะเป็นส่วนหนง่ึ ในการทจ่ี ะชว่ ยขดั เกลาใหเ้ ราเตบิ โตมาเปน็ คนดี มคี ณุ ภาพ พรอ้ มช่วยเหลอื สงั คมและพฒั นาประเทศชาตไิ ดใ้ นอนาคต ในหลวงรชั กาลที่ ๙ ของเราทรงแกป้ ัญหาความเดือดรอ้ นต่างๆ ให้กับราษฎรด้วยการเดินเทา้ ไปตามแผนท่ี และสอบถามความทกุ ข์ร้อนของประชาชนทหี่ ม่บู า้ นลปิ ะสะโง อำ� เภอหนองจกิ จงั หวดั ปตั ตานี ซงึ่ มที ่งุ ลปิ ะสะโงเปน็ พนื้ ทแี่ ปลงใหญม่ เี นอ้ื ทปี่ ระมาณ ๑๕,๘๔๕ ไร่ ตงั้ อย่ตู ำ� บลลปิ ะสะโง อำ� เภอหนองจกิ จงั หวดั ปัตตานี และพน้ื ทสี่ ่วนนมี้ กั จะประสบปัญหานำ้� ทว่ มขงั ทำ� ใหร้ าษฎร

ระดบั มธั ยมศึกษา “เรอ่ื งเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ๑๐๓ ไม่สามารถทำ� การเกษตรได้ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จงึ มีพระราชดำ� ริใหจ้ ัดโครงการพัฒนา พื้นที่ ”โครงการทุ่งลปิ ะสะโง” อนั เนือ่ งมาจากพระราชดำ� ริ เป็นโครงการท่ที รงช่วยเหลอื ประชาชนในพืน้ ที่ตำ� บลลิปะสะโง อ�ำเภอหนองจกิ จังหวดั ปัตตานี ใหม้ นี �ำ้ กินน้�ำใชแ้ ละ คุณภาพชีวิตที่ดีอยา่ งย่ังยืน ซึ่งได้พระราชทานค�ำแนะน�ำแก่เจา้ หน้าที่และราษฎรใหใ้ ช้ ระบบชลประทานช่วยในการระบายนำ้� แล้วจดั ทด่ี นิ แปลงนใี้ หร้ าษฎรไดเ้ ข้ามาทำ� ประโยชน์ ในรูปแบบหมู่บ้านสหกรณ์ กลา่ วคอื จัดท่ดี นิ ท�ำกินใหร้ าษฎรเขา้ มาเปน็ สมาชิกและให้มี ท่ีดนิ ทำ� กินครอบครวั ละ ๑๕ ไร่ แบ่งเป็นท่อี ยอู่ าศยั ๑ ไร่ เป็นทป่ี ระกอบอาชพี การเกษตร จ�ำนวน ๑๔ ไร่ โดยมสี หกรณก์ ารเกษตรทุง่ ลปิ ะสะโง จำ� กดั เปน็ สถาบันหลักเพอื่ น�ำ การพฒั นา มบี ทบาทสำ� คญั ในเรอ่ื งธรุ กจิ สนิ เชอ่ื วสั ดกุ ารเกษตร และเครอ่ื งอปุ โภค บรโิ ภค การปรบั ปรงุ พนื้ ทมี่ าบรกิ ารสมาชกิ นอกจากนนั้ ยังมีแปลงสาธิตปลูกข้าว ปลูกขา้ วโพด ปลูกอ้อย ปลูกถั่วเขียว ปลูกไม้โตเร็ว ปลกู มะพร้าว ปลกู พชื ผกั ต่าง ๆ การเลยี้ งปลา การ เลยี้ งไก่ และการเลยี้ งโค รวมแปลงสาธิตท้งั หมด ๗๘ ไร่ และส่งเสรมิ การประกอบอาชีพ เกษตรกรรม ๑๒,๑๓๒ ไร่ และใหก้ ารศึกษาอบรมให้ความรูด้ ้านสหกรณ์ การตลาด และการเกษตรแก่สมาชิกตลอดปี ปัจจุบนั ชาวบา้ นในพน้ื ทต่ี ำ� บลลิปะสะโง มีน�้ำกินน้�ำใช้ มีอาชีพที่ม่ันคง มีถนนหนทาง ปัญหาจากภัยแล้งและน�้ำทว่ มขังนานได้รับการแกไ้ ข จนหมดสนิ้ ชาวบ้านมคี ณุ ภาพชวี ติ ทดี่ แี ละมคี วามสขุ นบั เป็นอกี หนง่ึ โครงการส่กู ารพฒั นา หมูบ่ ้านอยา่ งยง่ั ยืนในพระราชดำ� ริท่ีในหลวงรชั กาลที่ ๙ ของเราทรงทำ� เพอื่ ราษฎรของ พระองค์ จนถึงทกุ วันนี้ หนกู ย็ ังหาเหตุผลอ่ืนใดที่พระองค์มีต่อราษฎรไม่พบ นอกจากความรกั พระองค์ทรงเป็นแบบอยา่ งที่ดีท่ีหนูยึดถือในการด�ำรงชีวิต โดยเฉพาะหลักการทรงงาน ๒๓ ขอ้ ของพระองคท์ ่จี ะทำ� ใหห้ นูมชี วี ิตไปสูก่ ารพัฒนาทยี่ ่ังยืน ท�ำให้หนูรู้สึกมีคณุ ค่าที่ได้ ใช้ชวี ติ เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื อกี ทง้ั พระองคย์ งั ทรงทำ� ให้หนเู ชอื่ ในการใหท้ ไี่ มห่ วงั ผลตอบแทน เป็นการให้ท่ีเกิดจากความรักอันบริสุทธ์ิและหนูได้เรียนรู้แล้วว่าความรักไมม่ ีการแบง่ แยกใดๆ ไมว่ ่าจะเปน็ เพศ ภาษา ศาสนา หรอื แมแ้ ต่เชอื้ ชาติ พระองคท์ รงหลอ่ รวมพวกเรา ทกุ คนในพนื้ ทส่ี ามจงั หวดั ชายแดนภาคใตใ้ หเ้ ป็นหนง่ึ เดยี ว เพราะศนู ยร์ วมใจของชาวพนื้ ท่ี สามจังหวัดชายแดนไม่ได้มีแคว่ ัด มัสยิด หรือศาลเจ้า แตห่ นึ่งในน้ันคือพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ ัว รัชกาลที่ ๙ ของพวกเราทกุ คน

๑๐๔ “เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพ่อ”

ระดบั มัธยมศกึ ษา “เรอ่ื งเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเท้าพอ่ ” ๑๐๕ “ฮีโรผ่ ้ไู รพ้ ลังวิเศษ” ธิดารตั น ์ สียา โรงเรยี นโพธิ์คีรรี าชศึกษา จ.ปัตตานี เรม่ิ ต้นเชา้ วนั ใหม่ในช่วงของการปดิ เทอมหนา้ รอ้ น ในเดอื นมนี าคม จนถงึ เดอื นเมษายน นบั ไดว้ า่ ช่วงนถ้ี อื เปน็ เวลาพกั ผ่อนของเหลา่ นกั เรยี น และฉนั กค็ อื หนง่ึ ในนน้ั สำ� หรบั ฉนั แล้วเวลานค้ี อื โอกาสทฉี่ นั จะได้ดหู นงั อ่านนยิ ายเลม่ โปรด เลน่ เกมมอื ถอื และคยุ แชทกบั เพอื่ นอย่างเพลดิ เพลนิ ฉนั เป็นเดก็ หญงิ ร่างเลก็ ผมสนั้ เสมอตงิ่ หู อาศยั อย่กู บั ครอบครวั ใน บา้ นหลงั ไมใ่ หญม่ ากนกั ฉนั เปน็ คนสงขลาทปี่ กั หลกั ถน่ิ ฐาน ณ ตำ� บล ทา่ มว่ ง อำ� เภอเทพา จงั หวดั สงขลา ทแ่ี ห่งนผี้ ้คู นสว่ นใหญ่มกั จะประกอบ อาชพี ทำ� การเกษตร ปลกู ผกั ปลกู หญา้ เปน็ มติ รกบั ธรรมชาติ เปรยี บ เสมอื นเพอื่ นทค่ี อยพงึ่ พาอาศยั ซง่ึ กนั และกนั เน่ืองจากถ่นิ นถ้ี ือว่าเป็น ถน่ิ ชายแดนใต้ อาชพี หลกั ๆ ของชาวบ้านจะเปน็ อาชีพกรดี ยางพารา ครอบครวั ฉนั กเ็ ช่นกนั ทำ� อาชพี กรดี ยางพารา แมข่ องฉนั ตนื่ ไปกรดี ยาง กอ่ นไกข่ นั เสยี อกี แมร่ กั อาชพี นม้ี าก รกั ต้นยางพารา เพอื่ นผ้สู รา้ งรายได้ เลี้ยงครอบครัว ถึงแม้รายได้ต่อวันจะไมม่ ากนักแตก่ ็สามารถเลี้ยง ครอบครวั ไดต้ ามอตั ภาพ ในทกุ ๆ เชา้ วนั หยดุ ฉนั จะช่วยครอบครวั เกบ็ นำ้� ยางพารา ถือได้วา่ คืองานประจ�ำของฉนั เลยทีเดยี ว ฉันมักจะสงสยั อยเู่ สมอว่า เมอื่ กอ่ นอาชพี หลกั ของบา้ นเราคอื กรดี ยางหรอื ? เรามชี วี ติ ทีส่ ุขสบาย พอมี พอกินจนถงึ ตอนน้ไี ด้อย่างไร ฉนั จงึ ถามแม่เกย่ี วกบั ข้อสงสัยนี้ แต่ค�ำตอบทีไ่ ด้ กลับเป็น “ไม่ช่าย” ฉันจงึ ถามแมก่ ลบั ไปว่า

๑๐๖ “เรอ่ื งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพอ่ ” “แล้วแต่กอ่ นเราทำ� งานไหร? ปลูกผัก ปลูกข้าวใช่ม่าย เพราะดินดขี นาดน”้ี ฉันถามแม่ ดว้ ยส�ำเนียงใต้ที่คุน้ ชิน แมจ่ ึงเร่ิมเล่าเรื่องสมัยกอ่ น ตอนแมย่ ังเด็กใหก้ ับฉันฟงั ว่า… “แลกกอ่ น แม่อยบู่ า้ นทวดทนี่ ราโด้ ทำ� นาปลกู ข้าวกนั เป็นส่วนมากแตเ่ สยี ดายดนิ มนั เปรย้ี ว ปลกู พืชอยา่ งอ่ืนไมค่ อ่ ยได้ ดนิ แตกหมด นำ้� อาบกเ็ ปร้ียว ถ้าใช้แทนลกู นาวได้ แมใ่ ชแ้ ล้ว ฮาๆ” หญงิ ร่างท้วมวยั กลางคนตอบดว้ ยสำ� เนยี งใตพ้ รอ้ มทงั้ หวั เราะในช่วงทา้ ย แม่ของฉนั เคยอาศยั อย่ใู นจงั หวดั นราธวิ าส ประกอบอาชพี ทำ� นามคี วามล�ำบากไมใ่ ช่น้อย เพราะดิน สว่ นใหญเ่ ป็นดินเปร้ียว อกี ทงั้ มีสภาพเป็นทลี่ ่มุ ต่�ำ ฉันพอรู้มาบา้ งว่า ทีน่ ่ันมกั จะประสบ ปัญหากบั การเกดิ นำ้� ทว่ มอย่เู สมอ จงึ ทำ� ใหด้ นิ ทน่ี นั่ มคี ณุ ภาพตำ�่ ยากสำ� หรบั ทำ� การเกษตร เพอื่ สรา้ งผลผลิต พืชท่ีปลกู สว่ นใหญ่จงึ เป็นพวกขา้ ว ใชว่ า่ ความสงสยั ของฉนั จะหมดเพยี ง เท่านั้น “แล้วดินเปรี้ยวคืออะไร?” หลังจากนั้นไมน่ านเด็กหญิงร่างเล็กมุ่งตรงไปยังเจา้ คอมพวิ เตอรค์ ใู่ จ ไมร่ อช้าขอ้ มลู เนอื้ หา ภาพตา่ งๆ กป็ รากฏใหเ้ ดก็ หญงิ เหน็ ภาพของดนิ ทีม่ สี ีเทาเขม้ ปะปนกับสีน้�ำตาลแดงแตก แห้ง แลดเู หมอื นดินขาดน�้ำ ไร้ซ่ึงความชุ่มช่นื กลนิ่ ไอของความแหง้ ลน้ ทะลกั ออกมานอกจอคอมพวิ เตอร์ แมใ้ นบางเรอื่ งแม่จะเลา่ ให้ฟัง บา้ งแล้ว แตฉ่ นั กไ็ ม่รอช้า รบี ลองหาข้อมลู เพมิ่ เตมิ จนพบวา่ ดนิ เปรย้ี วนน้ั ประกอบไปด้วย สารไพไรท์ จงึ ทำ� ใหเ้ กิดกรดกำ� มะถันอยู่จำ� นวนมาก ไม่ใชเ่ ฉพาะแค่ดนิ แม้กระท่งั น้�ำดื่ม น้�ำใช้ของราษฎร ยังตอ้ งพบเจอคู่อริอย่างดินเปรี้ยวไปก่อกวนส่งผลกระทบท�ำให้น้�ำมี รสชาตเิ ปรย้ี ว เวลาลงไปอาบทไี รต้องร้สู กึ ฝดื ตวั ทกุ ที ชาวบ้านในแถบนนั้ เลยต้องประสบ ปัญหาแบบเดยี วกนั หมด อกี ทงั้ พน้ื ทแ่ี หง่ นนั้ ไมใ่ ช่ชมุ ชนเมอื ง เป็นเพยี งหมบู่ ้านเลก็ ๆ มชี วี ติ ความเปน็ อย่แู บบชนบท แม้จะมกี ารส่งคำ� ร้องบา้ งแล้วแต่กย็ ากต่อการพฒั นา เพราะไม่มใี คร สามารถรหู้ ลกั การ วธิ ีการ จดั การกบั เจ้าตวั ร้ายทช่ี ื่อวา่ “ดนิ เปร้ียว” ไดเ้ ลย อีกทัง้ นอ้ ยนัก ทจี่ ะมหี น่วยงานเข้ามาส�ำรวจ ทดลอง เพื่อปรบั ปรุงแก้ไข เวลาผา่ นไปแล้ว ผ่านไปเล่า ทแี่ หง่ นนั้ กไ็ ม่ดขี น้ึ และในตอนนนั้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั รชั กาลท่ี ๙ ทรงรบั ทราบ ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ท่านจึงเสด็จฯ ส�ำรวจและเก็บขอ้ มูลดว้ ยพระองคเ์ อง กษัตราผู้เดินดิน ในหลวงรัชกาลท่ี ๙ ทา่ นทรงพระราชทาน แนวทางสู่หลักการใช้ ชีวิตใหม่ เปรียบดั่งสรา้ งชีวิตใหม่ใหก้ ับครอบครัวของแมฉ่ ัน และราษฎรคนอ่ืนๆ ทา่ น พระราชทานวธิ กี ารแกป้ ญั หาดนิ เปรย้ี ว ส่ศู นู ย์ศกึ ษาพฒั นาพกิ ลุ ทอง ในจงั หวดั นราธวิ าส เพอ่ื นำ� ไปปรบั ปรงุ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ โดยหลกั การแก้ไขคอื การทำ� ให้เกดิ กรดรนุ แรง ฉนั ยงั รู้สึกแปลกใจไมห่ าย พระองค์ทรงคิดได้อย่างไรกัน พระองคท์ รงใช้วิธีการกระตุ้นให้

ระดบั มธั ยมศกึ ษา “เรอ่ื งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” ๑๐๗ เกิดกรดมากๆ แล้วจึงปล่อยน้�ำเขา้ เพ่ือท�ำการชะล้าง หลังจากนั้นจึงปล่อยให้ดินแหง้ อกี ครง้ั ทำ� เชน่ นส้ี ลบั ไปมา ฉนั หลดุ ขำ� พระองคท์ รงทำ� เหมอื นกบั การแกล้งดนิ เลย เพราะ ทรงใชว้ ธิ กี ารลอกเลยี นแบบธรรมชาติ ฉนั อา่ นข้อมลู ไป พลางกน็ กึ ล้นุ ว่าวธิ นี จ้ี ะสำ� เรจ็ หรอื ไม่ แต่นับวา่ เป็นความโชคดีของคนไทยจริงๆ เพราะหลังจากน้ันผืนดินก็กลับกลายเป็นดิน อุดมสมบูรณ์ขึ้น เพราะพระองค์ไดท้ �ำการพลิกผืนดินใหม่ ให้กลายเปน็ ดินดีที่หลอ่ เลีย้ ง ชาวบา้ น สามารถปลูกพืชเศรษฐกิจเพื่อหารายได้ ไมใ่ ช่เพียงแตป่ ลูกขา้ วชนิดเดียว พระองคท์ รงให้แนวคดิ วธิ กี ารจดั การกบั ดนิ เปรยี้ วแกร่ าษฎร เพอื่ ให้ราษฎรไดก้ า้ วตามสง่ิ ท่ี พระองค์ดำ� รไิ ว้ คอื การใช้ปนู ขาว หนิ ปนู ผง ใส่ในดนิ แลว้ คลกุ เคลา้ ใหเ้ ข้ากนั ปนู จะทำ� ปฏกิ ริ ยิ ากบั กรด ชว่ ยท�ำให้กรดลดลง อีกทั้งการยกร่อง เพื่อปลูกไม้ผล หรือไม้ยืนต้น โดยให้มีคูน�้ำขนาบขา้ งจะชว่ ยลดกรดจากการชะล้างของน้�ำ แล้วเกิดการระบายน้�ำออก รวมท้งั การขดุ ลอกคคู ลอง เพื่อพลกิ หน้าดิน สรา้ งเป็นแหลง่ นำ้� ของประชาชน พรอ้ มทงั้ การสร้างเข่อื นขนาดใหญ่ คอื การสรา้ งเขอ่ื นที่มชี ่ือเรียกวา่ “เขื่อนบางนรา” นับได้วา่ เป็นการแกป้ ญั หาทต่ี รงจดุ และยงั เปน็ การสร้างประโยชน์ใหแ้ ก่ประชาชนไดอ้ ยา่ งมหาศาล “หลงั จากในหลวงทำ� เสรจ็ ทกุ อยา่ งกด็ หี มด ปลกู ได้ทกุ อย่าง แม่เคยไดพ้ บในหลวงแล้ว ตอนทที่ า่ นมาเยย่ี มชาวบ้าน แมต่ นื่ เตน้ หนดั ” หญงิ ร่างทว้ มวยั กลางคน พดู ข้ึนมาข้างหลงั ฉนั ทน่ี ่งั อย่หู นา้ คอมพิวเตอร์คใู่ จ ฉนั สะดงุ้ ทันที “ตกใจหมดแม!่ ดไี มพ่ ลดั เก้าอ”้ี ฉนั สง่ สำ� เนยี งใตต้ อบกลับแม่ไป ฉนั หันหน้ามาคุยกบั แมต่ อ่ “เคยเหน็ ในหลวง ร.๙ แล้วจริง หน่อแม่ ?” “จรงิ ๆ” แม่ยนื ยนั หนกั แน่น แมบ่ อกอกี วา่ หลงั จากนน้ั ชวี ติ ความเปน็ อยกู่ ด็ ขี น้ึ จากเมื่อก่อน ปลูกขา้ ว ท�ำนา เพยี งอยา่ งเดียว จนถงึ ตอนนผี้ ้คู นเลยเปลย่ี นมาปลกู ผกั ปลูกยางพารา ปลูกพืชเศรษฐกิจ สรา้ งรายไดเ้ ปน็ กอบเปน็ ก�ำจากการพัฒนาฟื้นฟูของ พระองค์ ฉันฟังแมเ่ ลา่ เรื่องชีวิตในวัยเด็กที่บางนราอย่างเพลิดเพลิน ขณะท่ีฟัง ภาพของ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ กล็ อยเด่นมาให้ฉันได้เห็น ฉนั รู้สกึ ซาบซึง้ ใจ พระองคท์ รงงานอย่าง ไมร่ ูจ้ ักเหนด็ เหนื่อยเพอ่ื แกป้ ญั หาเร่อื งน้ำ� เรื่องดนิ สร้างความอุดมสมบูรณใ์ หแ้ ก่ราษฎร ทั่วประเทศ พระองค์มีหลักในการทรงงานทเ่ี ป็นระบบ เปน็ แบบอย่างให้คนไทยหลาย ประการ ฉันไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ หลกั ในการทรงงานของพระองค์แลว้ ก็เหน็ วา่ เราสามารถน�ำ มาใชใ้ นชีวิตประจำ� วนั ไดเ้ ป็นอย่างดี อยา่ งเช่น “จะทำ� อะไรตอ้ งศกึ ษาขอ้ มลู ใหเ้ ป็นระบบ ”พระองค์ทรงท�ำการศึกษา ส�ำรวจ ข้อมลู อยา่ งละเอียดเป็นระบบจากข้อมูลในเบ้อื งตน้

๑๐๘ “เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” เอกสาร แผนท่ี สอบถามเจา้ หน้าที่ นกั วิชาการ และประชาชน ในพื้นทโ่ี ดยค�ำนงึ ว่าต้อง ได้รายละเอียดที่ถูกต้องท่ีสุด เพ่ือที่จะไดน้ �ำข้อมูลไปแกไ้ ขแก่ราษฎรท่ีรอคอยพระองค์ ดงั่ เช่นลกู คอยพอ่ ใหม้ าชว่ ย ใหล้ กู ไดพ้ ่ึงพา และสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจดุ โดยไม่เกิด ข้อผิดพลาดใดๆ หรือเกิดความผิดพลาดนอ้ ยท่ีสุด และสู่การเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากน้นั หลกั การทรงงานของพระองค์ ทรงใช้หลกั การระเบิดจากขา้ งใน ในตอนแรก ฉนั สงสยั มาก “ระเบดิ ? ถงึ กบั ต้องระเบดิ กนั เลยเชยี วหรอื ” แตใ่ นความจรงิ แล้ว คอื การจะ ทำ� การใดๆ จะต้องเรม่ิ จากคนทเี่ กย่ี วข้องกอ่ น ต้องสรา้ งความเขา้ ใจและความตง้ั ใจอยาก จะท�ำ ดังน้ันในการท�ำงานทุกครั้งพระองคจ์ ะพูดคุยกับบุคคลท่ีเก่ียวข้องเป็นล�ำดับแรก ท้งั ลูกพี่ ลกู นอ้ ง รวมถงึ คนในทีม เพอ่ื ทจ่ี ะไดท้ ราบถงึ เป้าหมายเสยี กอ่ น เพ่อื งา่ ยตอ่ การ พฒั นา นบั วา่ เปน็ หลกั การทด่ี สี ำ� หรบั การทำ� งานเปน็ กล่มุ รวมทงั้ การแกป้ ญั หาจากจดุ เลก็ ๆ พระองค์ทรงมองปัญหาจากภาพรวมก่อนเสมอ แลว้ จึงสู่การแกป้ ญั หาในทีละจุด ทรงแก้ ปญั หาจากจุดเล็กๆเมอ่ื สำ� เรจ็ จงึ ขยบั ขยาย โดยค�ำนึงถึงความคอ่ ยเปน็ ค่อยไป เพ่อื บรรลุ เป้าหมายตามทไี่ ด้วางไว้ พระองคท์ รงคดิ แล้วคน้ เล่านานนบั วนั จนได้แนวทางการแก้ปญั หา ใหป้ ระชาชน สกู่ ารพฒั นาในโครงการพระราชด�ำรทิ ั่วประเทศไทย เดก็ หญงิ ผมตง่ิ เดนิ มงุ่ หน้าไปยงั คอมพวิ เตอรค์ ใู่ จอกี ครงั้ ไมน่ านนกั เธอกถ็ งึ กบั อทุ าน ดว้ ยน้ำ� เสียงท�ำนองแปลกใจ “โอ.้ ..วา้ ว! ทำ� ไมเยอะจัง โครงการทใ่ี นหลวงท�ำมา” ใช่ มนั เยอะมาก ไมใ่ ช่เพยี งแค่โครงการแกล้งดนิ เท่านน้ั กว่าสพี่ นั โครงการทพ่ี ระองค์ทรงคดิ ค้น พัฒนา เฉพาะในสามจังหวัดก็มีไมน่ ้อยทั้งโครงการระบบส่งน�้ำบ้านทุ่งโพธิ์ โครงการ ชลประทานมโู นะ โครงการกอ่ สรา้ งสถานสี บู นำ�้ โคกแู ว โครงการขดุ ลอกคคู ลองพรปุ ายอ โครงการอ่างเกบ็ นำ�้ ห้วยกะลาพอ โครงการท่อระบายนำ้� พรนุ ำ้� เยน็ ฯลฯ และสงิ่ ทด่ี กี ว่านนั้ คือประชาชนทุกคนให้การสนับสนุนทั้งสิ้น เพราะทุกคนคิดเสมอว่า เราคือ “ลูก” ลูกที่ดี ต้องการเดินตามพอ่ ท�ำตามส่ิงทีพ่ อ่ ทรงท�ำ เพราะพอ่ ไดท้ ำ� เปน็ แบบอยา่ งท่ีดไี วใ้ ห้แล้ว เรามหี น้าทส่ี านต่อ และกา้ วตามรอยทพี่ ระองค์ทรงสร้างไว้ เพอื่ เป้าหมายทส่ี รา้ งความสขุ สบายให้มวลชนในสยาม

ระดบั มธั ยมศกึ ษา “เรอื่ งเลา่ จากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ๑๐๙ ฉนั ซง้ึ ใจมากเพราะกลา่ วได้ว่าหลายสบิ กวา่ ปีทผี่ า่ นมาพระองคท์ รงทำ� งานหนกั เพอื่ ให้ ประเทศไทยและราษฎรทอี่ าศยั มคี วามสขุ อย่ดู กี นิ ดี พระองคท์ รงพระราชทานหลกั คำ� สอน แกป่ วงชน ทรงดำ� รงตนเป็นแบบอยา่ งทดี่ ีใหเ้ ราไดก้ ้าวตาม ครอบครัวของฉันน�ำหลักปรัชญาของเศรษฐกินพอเพียงท่ีพระองค์ทรงใช้ คือ ขยัน ประกอบอาชพี การใชจ้ ่ายรู้จักประหยัด พอเพียงและเพยี งพอ โดยในทกุ ๆ วันหลงั กลับ จากโรงเรยี น ฉนั จะออมเงนิ ในกระปกุ ออมสนิ ใบเลก็ ทรงกระบอกสชี มพู มากบา้ งน้อยบา้ ง แตอ่ อมทุกวัน เขียนบันทึกรายรับ-รายจา่ ย เพื่อฝกึ วินัยการใชเ้ งินและจะซ้ือของเท่าท่ี จ�ำเปน็ ใชอ้ ย่างคุ้มคา่ ไม่ฟุ่มเฟอื ยหรือทิง้ ขว้าง พระองค์ทรงเปรียบดั่งร่มโพธ์ิใหญ่ที่แผใ่ บและร่มเงาใหค้ วามสงบร่มเย็นแกค่ นท้ัง ประเทศ ถึงแม้พระองค์จะทรงจากราษฎรไปในท่ที ่ไี กลแสนไกล แต่ค�ำสอนและหลักการ ใช้ชีวิตของพระองคย์ ังคงตราตรึงในหัวใจของราษฎรทุกคน ส�ำหรับตัวฉันแลว้ พระองค์ คอื ผูส้ ร้างชวี ิตใหม่ให้แก่ครอบครวั ของฉนั พระองคท์ รงเปน็ ดั่ง “ฮีโร่” ที่ไร้ซง่ึ พลังวิเศษ พระองคท์ รงด�ำรงตนเปน็ แบบอย่างและสรา้ งแรงบันดาลใจใหฉ้ ันและราษฎรทุกคนได้ คดิ ดี ทำ� ดเี พอื่ บ้านเมอื ง พระองคเ์ ป็นฮโี รท่ มี่ พี ลงั ของความเสยี สละ และเสกสรา้ งปาฏหิ ารยิ ์ แก่ประเทศไทยได้อยา่ งมากลน้ ทรงสรา้ งสขุ ใหแ้ ก่คนไทยจวบจนทกุ วนั น…ี้ ฉนั ซง้ึ ใจพอ่ หลวง ภมู ิพลยง่ิ นกั ธ คดิ คน้ โครงการมากวิถี สร้างชวี ีใหไ้ ทยสขุ ทัว่ ทกุ หน ทรงตดิ ตามแกป้ ัญหาทุกชั้นชน พระเมตตามากล้นเกินรำ� พนั

๑๑๐ “เรอ่ื งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” ป“ลเสาียยงดเา้รมยี ขกวจานาก” ซูไฮลา เซะมงิ โรงเรียนยะหาศริ ยานกุ ูล จ.ยะลา เสียงไกข่ ันตอนเชา้ ตรูพ่ ร้อมเสียงอาซานท่ีไดย้ ินมาจาก มัสยิด ฉันลุกข้ึนจากเตียงยืดเสน้ ยืดสายแลว้ ลงไปอาบน้�ำ ละหมาดเพอื่ ทจ่ี ะละหมาดซุบฮิ เมื่อฉันไดล้ ะหมาดเสร็จ ฉันขี่ มอเตอร์ไซค์ไปซอ้ื ของกินยามเช้า รอบๆ ถนนทางผ่านจะเหน็ ผ้คู นตา่ งออกมาจบั จ่ายซอ้ื ของอยา่ งมคี วามสขุ มเี สยี งเฮฮาจาก ร้านน้�ำชาไม่ไกลจากตัวฉันมากนัก ฉันเหลือบไปเห็นชาวพุทธ ก�ำลังใสบ่ าตร เม่ือเสร็จแลว้ ก็เดินตรงไปท่ีร้านน�้ำชาพร้อมมี เสยี งเฮฮา ดสู นุกสนานมากกว่าเดมิ มันท�ำใหฉ้ ันฉุกคิดขึ้นมา วา่ ตา่ งคนต่างนบั ถอื ศาสนาทแี่ ตกตา่ งกนั ออกไปแตเ่ ราสามารถ รับรู้และเขา้ ใจความแตกตา่ งกันไดอ้ ย่างลงตวั แสงแดดท่ีอบอา้ วท�ำให้ฉันตอ้ งใสห่ มวกลงจากรถ เม่ือฉัน กวาดสายตาไปบริเวณรอบๆ ฉนั ได้เห็นคนๆ หนึ่งสวมชดุ กากี ยนื กลางแดดทรี่ อ้ นรมุ่ ฉนั เดนิ ไปหาและยกมอื ไหวพ้ รอ้ มกลา่ ว สวัสดคี ่ะ ผใู้ หญท่ า่ นนนั้ กลา่ วยินดตี อ้ นรบั และบอกใหเ้ ยาวชน ที่มารว่ มฟังบรรยายหันหลังใหแ้ ดด แต่ตัวของทา่ นเองน้ันยืน หันหนา้ หาแดดพร้อมไมโครโฟนเพื่อน�ำเสนอเร่ืองราวของ สถานทแี่ หง่ นี้ บรเิ วณรอบๆ ตัวฉนั เป็นเข่อื นเก็บนำ�้ หากมอง

ระดบั มัธยมศกึ ษา “เร่อื งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” ๑๑๑

๑๑๒ “เร่ืองเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพ่อ” พน้ เขื่อนเก็บน�้ำจะเห็นตน้ ไม้และสวนเกษตรอยูด่ ว้ ยแต่หากกวาดสายตามองตามพ้ืนจะ เห็นหญ้าแฝกขึ้นมาอยา่ งเขียวขจี ฉันสง่ สายตาสัมผัสภาพตา่ งๆ อยูค่ รูห่ นึ่งก็มีเสียงเปลง่ ข้นึ ทางไมโครโฟน สถานท่ีที่ฉันยืนอยู่น้ัน คือโครงการแกม้ ลิง ต�ำบลพรอ่ น อ�ำเภอเมือง จังหวัดยะลา ฉันได้ยินเชน่ น้ันก็ต้ังใจฟังอย่างแน่วแน่ ถึงแดดจะรอ้ นแคไ่ หนก็ตามแต่ส่ิงที่ฉันเห็นคือ หยาดเหงื่อที่ไหลอยู่บนใบหน้าของเจา้ หนา้ ท่ีที่รู้สึกไดถ้ ึงความภาคภูมิใจ ไมเ่ ห็นแม้แต่ ใบหน้าที่รู้สึกเหน่ือย เจา้ หนา้ ท่ีดูมีความมุมานะในการอธิบายโครงการแกม้ ลงิ ฉันเอง มักจะไดย้ ินโครงการนี้ตามโทรทัศน์ ในห้องเรียน แตไ่ มเ่ คยได้สัมผสั กบั สถานทจ่ี รงิ ฉนั รู้ ว่าโครงการแกม้ ลงิ รเิ รมิ่ มาจากใคร คนๆ นน้ั คอื พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพล อดลุ ยเดช ผทู้ มี่ พี ระอจั ฉรยิ ภาพในทกุ ๆ ด้าน มอี กี หลายพนั โครงการทใี่ นหลวงทรงคดิ และ ลงมือท�ำ เกือบสีพ่ นั กวา่ โครงการเทา่ กับวา่ ระยะเวลาท่ใี นหลวงครองราชย์ ๗๐ ปคี ิดได้ งา่ ยๆ ว่าทกุ ๆ ๑ ปใี นหลวงทรงรเิ รม่ิ โครงการใหมท่ กุ ๆ สปั ดาหค์ งจะมมี นษุ ยเ์ พยี งน้อยคน เท่านั้นท่ีสามารถท�ำงานไดต้ ลอดเวลาซงึ่ การทำ� งานมากขนาดน้ี ในหลวงทรงศึกษาขอ้ มูล รายละเอียดอยา่ งเปน็ ระบบจากขอ้ มลู พื้นฐาน ไมว่ า่ จะเป็นจากเอกสาร แผนที่ สอบถาม เจา้ หน้าท่ี นักวิชาการ และราษฎรในพืน้ ที่ จะเหน็ ได้วา่ การท�ำงานของในหลวงนัน้ มีระบบ และมีการส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพท�ำให้เกิดเครือขา่ ยของข้อมูลข้ึน เหมือนกับการยืน คนละจดุ แล้วเดินทางผา่ นจดุ เหลา่ น้นั เพื่อใหเ้ ช่อื มกันทกุ จดุ ไมว่ ่าเราจะเดินผา่ นทางไหน เราก็ยงั รูเ้ รือ่ งราวจากจดุ อื่นๆ อยา่ งครบถ้วน ไม่ขาดตกบกพร่องซึ่งในสว่ นนีฉ้ ันจะกล่าว ถึงโครงการ ๑ ในหลายพันโครงการ โครงการแก้มลิงเป็นแนวคิดของในหลวง สร้างข้ึนเพื่อแก้ปญั หาอุทกภัย อีกท้งั มขี ึน้ เพ่อื ช่วยระบายน้ำ� ลดความแรงของน้�ำ เจา้ หนา้ ทีไ่ ด้บอกวา่ โครงการแกม้ ลงิ ต�ำบลพรอ่ น อำ� เภอเมอื ง จังหวดั ยะลานัน้ ในพ้นื ท่หี มู่ ๓, ๔, ๕ และ ๖ มสี ภาพเป็นที่ราบลุ่ม มคี ลอง ธรรมชาตริ องรบั มาจากตำ� บลอนื่ เมอ่ื ถงึ ชว่ งเดอื นพฤศจกิ ายนถงึ มกราคมของทกุ ปี ในพน้ื ที่ ตำ� บลพร่อนจะประสบปญั หาอทุ กภยั ทำ� ให้บางพน้ื ทไ่ี ด้รบั ความเสยี หายอยา่ งมาก ในหลวง ทรงทราบขา่ วจึงให้สร้างแกม้ ลิงเพ่ือบรรเทาปัญหาอุทกภัยและเป็นแหล่งเก็บน้�ำเพ่ือ การเกษตรอปุ โภคบรโิ ภค สน้ิ สดุ เสยี งเจา้ หน้าทก่ี ม็ เี สยี งปรบมอื ดงั ขน้ึ เพอ่ื เป็นการขอบคณุ ฉันได้ถา่ ยภาพบริเวณรอบๆ เพอ่ื เก็บไว้ ว่าวนั หน่ึงฉนั มาอย่ใู นท่ที ่เี ปรียบเสมือนบา้ นหลัง ใหญท่ ี่คอยชว่ ยเหลือให้บ้านหลายๆ หลังมีชีวิตอยูร่ อด ระหว่างนั่งรถฉันเกิดความคิด

ระดับมธั ยมศกึ ษา “เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพอ่ ” ๑๑๓ ต่างๆ มากมายบนหวั ฉันคิดวา่ ทำ� ไมพระเจา้ แผ่นดนิ ทฉี่ นั อาศยั อยเู่ ปรียบเสมอื นเทวดา ท่ีเดินได้ ทา่ นไปที่ไหนท่ีตรงนั้นก็มักจะมีการพัฒนาท่ีดีมากย่ิงขึ้น พื้นที่ประเทศไทยมี หลากหลายพ้ืนท่ีแตพ่ ระองคท์ ่านสามารถดูแลประชาชนของพระองคไ์ ด้อยา่ งท่ัวถึง ไม่ขาดตกบกพรอ่ งฉนั เชอื่ อย่างหน่งึ วา่ การท�ำงานเหลา่ น้ีมีความละเอียดออ่ น ตอ้ งทำ� งาน อยา่ งเป็นระบบอยา่ งมาก แต่ในหลวงมใิ ช่แคท่ ำ� งานเปน็ ระบบ แต่ท่านยงั ทำ� งานทม่ี งุ่ เนน้ เร่ืองการพัฒนาคนเพ่ือสร้างความเข้มแข็งให้คนและในครอบครัวในชุมชนมีสภาพพรอ้ ม ทจี่ ะตอ้ งรบั การพฒั นาดงั่ พระราชดำ� รสั ว่า “ระเบดิ จากข้างใน” คอื การพฒั นาชมุ ชนเสยี ก่อน แล้วจงึ คอ่ ยออกมาสสู่ งั คมภายนอก มใิ ช่การนำ� ความเจรญิ จากสงั คมภายนอกเข้าสชู่ มุ ชน เพราะสาเหตนุ ที้ ที่ ำ� ให้ในหลวงร้ลู กึ เกย่ี วกบั สงั คมในพนื้ ทแ่ี ละสามารถชว่ ยเหลอื ได้อยา่ งตรงจดุ รถที่ก�ำลังเคลื่อนท่ีก็ได้จอดลง ฉันกา้ วออกไปจากรถพรอ้ มสูดอากาศอยา่ งเต็มปอด ท่แี หง่ น้บี รรยากาศดมี าก ฉนั กวาดสายตามองรอบๆ เหน็ แหลง่ นำ้� ขนาดใหญ่ ฉนั ว่ิงกรู เขา้ ไปหาเจา้ หนา้ ทแี่ ลว้ ซกั ถามว่าทแี่ ห่งนมี้ นั คอื ทไี่ หน ไดค้ ำ� ตอบมาวา่ ทแี่ หง่ นค้ี อื อ่างเกบ็ นำ�้ บา้ นไบก์ ตำ� บลบดุ ี อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั ยะลา ระหวา่ งนน้ั จะเหลอื บไปเหน็ ปา้ ยพอดี มนั มี ค�ำวา่ โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ฉันถึงกับนึกคิดว่าในหลวงของเราทา่ นทรง สร้างเพอ่ื ประชาชนจรงิ ๆ มนั ทำ� ใหฉ้ นั คดิ ได้ว่าโครงการอา่ งเกบ็ นำ้� บ้านไบก์อนั เนอ่ื งมาจาก พระราชดำ� ริยังคงเป็นหนึ่งในหลายพนั โครงการทใ่ี นหลวงทรงคดิ แล้วท�ำใหเ้ ห็นและทำ� ให้ งา่ ยให้สอดคลอ้ งกบั สภาพความเป็นอย่ใู นระบบนเิ วศตลอดจนสภาพทางสงั คม ทำ� ใหง้ ่าย ในทนี่ คี้ อื ทำ� สง่ิ ทย่ี ากกลายเปน็ ง่ายทำ� สงิ่ ทส่ี ลบั ซบั ซอ้ นให้เขา้ ใจง่าย เป็นการแกป้ ัญหาด้วย การใชก้ ฎแห่งธรรมชาติ สิ่งเหลา่ นีเ้ ป็นรปู แบบการทรงงานของในหลวง โครงการอา่ งเก็บนำ้� บา้ นไบกอ์ ันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ตงั้ อยู่ที่หมู่ ๕ ต�ำบลบุดี อ�ำเภอเมอื ง จังหวดั ยะลา สรา้ งขน้ึ เพอ่ื ช่วยเหลอื ราษฎรทีป่ ระสบปัญหาการขาดแคลนนำ�้ สำ� หรบั อปุ โภคบรโิ ภค และเพอื่ สรา้ งโอกาสทางเศรษฐกจิ โดยการฟื้นฟพู นื้ ทท่ี ถ่ี กู นำ้� ทว่ มขงั ให้สามารถกลบั มาใชใ้ นพื้นท่ที ำ� การเกษตรปลูกพชื ผกั ผลไม้ตามเดิม ฉันเคยได้ฟงั เร่ืองเล่าอยู่หนึ่งเรื่องเก่ียวกับในหลวงและประชาชนในพ้ืนที่ภาคใต้ พระราชกรณยี กจิ ของในหลวงรชั กาลที่ ๙ ในภาคใตโ้ ดยเฉพาะในพนื้ ท่ี ๓ จงั หวดั ชายแดน ซ่ึงมคี วามแตกต่างทางด้านภาษา ศาสนา และวฒั นธรรม แต่ในหลวงไมท่ รงเปน็ กงั วลกบั เรือ่ งดงั กลา่ ว แต่ในอดีตนนั้ คนไทยเช้ือสายมสุ ลิมในสามจังหวดั ชายแดนภาคใตไ้ ม่คดิ ว่า

๑๑๔ “เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ตัวเองเปน็ คนไทย จงึ เรยี กในหลวงว่า “รายอซแี ย” หมายถึงพระราชาของประเทศสยาม ในหลวงเองซงึ่ อยากดแู ลและเขา้ ใจประชาชนอยา่ งทว่ั ถงึ จงึ ได้เรยี นรภู้ าษายาวเี มอื่ ในหลวง เสดจ็ ลงมาในพื้นท่ีกจ็ ะมลี า่ มยาวี คอยช่วยคอยชว่ ยส่ือสารกับชาวบ้านให้ ในหลวงทรง ถามสารทุกขส์ ุขดิบของชาวบา้ นพร้อมทั้งส่ือสารเปน็ ภาษายาวีตามท่ีในหลวงไดพ้ ยายาม ศึกษาภาษายาวีเพื่อใหส้ ามารถสื่อสารกันอย่างเขา้ ใจไม่ขาดตกบกพรอ่ ง ในหลวงทรง เลง็ เหน็ วา่ พนื้ ทภี่ าคใตม้ ปี ญั หามากมาย ลำ� ดบั แรกคอื ความยากจน การไมเ่ ขา้ ใจในภาษา และการทำ� มาหากนิ เพราะในพนื้ ทส่ี ่วนใหญ่เปน็ ดนิ พรุ ปลกู อะไรกไ็ ม่ขนึ้ เปน็ พนื้ ทท่ี มี่ นี ำ้� ขงั ในหลวงจึงแกไ้ ขปญั หาพ้ืนที่ลุ่มน�้ำขังเพ่ือใหช้ าวบ้านได้ใชป้ ระโยชนจ์ ากพ้ืนท่ีมากท่ีสุด แมใ้ นระยะแรกโครงการจะไม่ได้ผล ท�ำให้พระองค์ตอ้ งลงมาศึกษาเรือ่ งนีอ้ ย่างจรงิ จังจน พบปญั หาทแี่ ทจ้ รงิ เรอ่ื งดนิ เปรย้ี ว กระทง่ั เกดิ เปน็ โครงการแกลง้ ดนิ ทที่ รงศกึ ษาและพฒั นา ภายในศูนยศ์ กึ ษาและพฒั นาพิกุลทอง ศนู ยศ์ ึกษาฯ แหง่ ท่ี ๒ ในหลวงทรงพฒั นาพ้ืนทีใ่ น สามจังหวัดหลากหลายรูปแบบท�ำให้ชาวมุสลิมยอมรับและรับรู้ว่าตัวเองเป็นคนประเทศ สยามและไดเ้ รยี กในหลวงว่า “รายอกตี อ” หมายถงึ กษตั ริย์ในใจของเรา ในหลวงทรงงานทุกรูปแบบเพื่อประชาชนชาวไทย ฉันรู้สึกภูมิใจที่เกิดมามีพ่อของ แผน่ ดนิ ทด่ี แู ลประชาชนอย่างทว่ั ถงึ ทำ� ให้ฉนั ตระหนกั อย่เู สมอว่าเรามไี ดเ้ พราะใคร ฉนั ไม่ อาจจะสรา้ งโครงการหลายพันโครงการได้ แต่ฉันสามารถน้อมนำ� ค�ำสอนพ่อมาใชใ้ หเ้ กิด ประโยชน์ต่อตนเองและประเทศชาตไิ ด้ ฉนั ยงั สามารถนำ� การทรงงานของพอ่ มาใชใ้ นพนื้ ที่ สีแดงให้กลบั มาอย่างสันติ โดยเดินตามรอยพอ่ ถึงแมฉ้ ันไมอ่ าจสรา้ งทุกอย่างได้ แต่หาก เกิดความรว่ มมือของเพ่อื นมนษุ ย์ สิง่ ต่างๆ กเ็ กิดขนึ้ มาได้ดง่ั พระบรมราโชวาททว่ี ่า “ในการปฏบิ ตั งิ านนนั้ ยอ่ มมปี ญั หาตา่ งๆ เกิดขนึ้ ได้เสมอ เมอื่ ปัญหาเกิดขน้ึ ต้อง แก้ไข อยา่ ทงิ้ ไว้พอกพนู ลกุ ลามแกย้ าก ขอให้ทกุ คนระลกึ ว่าปญั หาทกุ อยา่ งมที างแก้ได้ ถ้าแกค้ นเดยี วไมไ่ ด้กช็ ว่ ยกนั คดิ ช่วยกนั แก้หลายๆ คนหลายๆ ทางดว้ ยความรว่ มมอื ปรองดองกนั ปญั หาทเ่ี กดิ ขนึ้ นน้ั จกั ไดไ้ ม่กลายเป็นอปุ สรรคขดั ขวางและบน่ั ทอนทำ� ลาย ความเจรญิ และความสำ� เรจ็ ของการงาน” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๓

ระดับมัธยมศึกษา “เรอื่ งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ๑๑๕ ก้าว“ตรา้อมยรเอรื่อยงเทรา้ าพว่อ” อคิราภ์ เหมทานนท ์ โรงเรยี นคณะราษฎรบ�ำรงุ จ.ยะลา “ชาติบา้ นเมอื ง คอื ชีวติ เลือดเน้อื และสมบตั ิของเราทุกคนและการดำ� รงรกั ษา ประเทศชาติน้ัน มิใชห่ นา้ ที่ของบุคคลใด หมูใ่ ด โดยเฉพาะ หากแตเ่ ป็นหน้าท่ีของ ทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ คน ทจ่ี ะตอ้ งรว่ มมอื กระทำ� พรอ้ มกันไปโดยสอดคลอ้ งเกอื้ กลู กนั ” จากพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพธิ ี ตรวจพลสวนสนาม เนอื่ งในโอกาสพระราชพธิ รี ชั ดาภเิ ษก ๘ มถิ นุ ายน ๒๕๑๔ แสดงใหเ้ หน็ วา่ ชาติบา้ นเมือง เปรียบเสมือนทรัพย์สมบัติอันมีค่าของประเทศชาติ สมควรต้อง ด�ำรงรักษาไว้ โดยอาศัยความรัก ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ดังนั้น พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงทรงเปน็ ต้นแบบในการรกั ษาสมบตั ิ อนั มคี า่ เหลา่ น้ี พระองค์ทรงเป็นพระราชาทคี่ รองราชย์ยาวนานกว่า ๗๐ ปี ตลอดระยะเวลา ทีผ่ ่านมาน้นั พระองคท์ รงเปน็ ผปู้ ลดปลอ่ ยประชาชนจากความยากไร้ ทรงพลกิ ผนื แผน่ ดนิ ให้มคี วามอดุ มสมบูรณ์และนา่ อยู่ ทรงงานอย่างหนกั เพ่อื ความสขุ ของไพร่ฟ้าประชาชน แมพ้ ระองค์ดำ� รงยศเป็นถงึ พระมหากษัตรยิ ์ แตพ่ ระองค์มทิ รงถือตนเปน็ ใหญ่ ทรงใชช้ ีวติ อย่างเรยี บง่ายสมถะ ไมย่ ดึ ตดิ ความหรหู รา เฉกเชน่ พระราชาในนทิ าน พระองค์จงึ ทรงงาน ร่วมกับขา้ ราชบริพารไดเ้ ป็นอย่างดี ทรงเป็นต้นแบบของการท�ำงานรว่ มกับบุคคลอ่ืน การกระท�ำสงิ่ ใดที่จักประสบผลสำ� เร็จได้ ต้องอาศยั ความสามคั คี ช่วยเหลอื เกอ้ื กลู ต่อกนั ผลงานของพระองคจ์ งึ ประสบผลสำ� เรจ็ ประชาชนมคี วามเปน็ อยทู่ ด่ี ขี นึ้ สง่ ผลต่อการพฒั นา ชาติไทยให้เจรญิ รงุ่ เรอื ง จนเป็นทป่ี ระจักษแ์ ก่สายตานานาประเทศ

๑๑๖ “เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพ่อ”

ระดบั มธั ยมศกึ ษา “เร่อื งเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเท้าพ่อ” ๑๑๗ พระบาทสมเดจ็ พระปรมทิ รมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงเป็นกษตั รยิ ท์ ไี่ ดร้ บั การยกย่องสรรเสริญจากนานาประเทศ อาทิ วลาดเิ มียร์ ปูติน ผนู้ �ำรัสเซีย ไดก้ ล่าวค�ำราชสดุดีถวายพระเกียรติแด่พระองค์ไว้อยา่ งตราตรึงใจและ ยงิ่ ใหญว่ า่ “มหาราชผยู้ ิ่งใหญ่” ทไี่ ม่เคยส้รู บกับใคร แตส่ ามารถท�ำใหท้ กุ คน ยกยอ่ งสรรเสริญได้ ท่ัวโลกยอมแพไ้ ด้ มแี ค่คนเดียว คือ “คิงส์ภมู ิพล” แต่ แทจ้ ริงแลว้ น้ันจักมีใครสักกี่คนรู้วา่ เบ้ืองหลังความส�ำเร็จของการทรงงาน พระองค์ทรงยึดการด�ำเนินงานในลักษณะทางสายกลางที่สอดคลอ้ งกับสิ่งท่ี อย่รู อบตวั และสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้จรงิ ทรงมคี วามละเอยี ดรอบคอบและทรงคดิ คน้ หาแนวทางพัฒนาเพ่ือมุง่ สูป่ ระโยชนต์ อ่ ประชาชนสูงสุด นั่นคือหลักการ ทำ� งาน ๒๓ ขอ้ โดยพระองค์ทรงน�ำมาประพฤตปิ ฏิบตั แิ ละปรบั ใช้ใหเ้ หมาะ สมกับการท�ำงานในด้านตา่ งๆ และเป็นท่ีปรากฏแก่สายตาประชาชนทั้งใน ประเทศและตา่ งประเทศ โดยหลักการทรงงาน ๒๓ ข้อ ประกอบไปด้วย ๑. จะทำ� อะไรตอ้ งศกึ ษาขอ้ มลู ใหเ้ ป็นระบบ ๒. ระเบดิ จากภายใน ๓. แกป้ ญั หา จากจุดเล็ก ๔. ท�ำตามล�ำดับขั้น ๕. ภูมิสังคม ภูมิศาสตร์ สังคมศาสตร์ ๖. ทำ� งานแบบองคร์ วม ๗. ไมต่ ดิ ตำ� รา ๘. รจู้ กั ประหยดั เรยี บง่าย ไดป้ ระโยชน์ สงู สดุ ๙. ทำ� ให้งา่ ย ๑๐. การมสี ว่ นรว่ ม ๑๑. ต้องยดึ ประโยชนส์ ่วนรวม ๑๒. บรกิ ารทจี่ ดุ เดยี ว ๑๓. ใช้ธรรมชาตชิ ว่ ยธรรมชาติ ๑๔. ใช้อธรรมปราบอธรรม ๑๕. ปลกู ป่าในใจคน ๑๖. ขาดทนุ คอื กำ� ไร ๑๗. การพงึ่ พาตนเอง ๑๘. พออยู่ พอกิน ๑๙. เศรษฐกิจพอเพียง ๒๐. ความซอื่ สตั ย์สจุ รติ ๒๑. จรงิ ใจตอ่ กนั ๒๒. ทำ� งานอย่างมคี วามสขุ ๒๓. รู้ รกั สามคั คี จากหลกั การทรงงานของ พระองคน์ นั้ นบั วา่ มคี ณุ ค่า ง่ายต่อการปฏบิ ตั ิ เหมาะสมกบั บคุ คลทกุ เพศ ทกุ วยั เหน็ จงึ สมควรอยา่ งยง่ิ ตอ่ การนอ้ มนำ� หลักการทรงงานดงั กล่าวมาเปน็ แนวทาง ในการทำ� งานหรอื การใช้ชวี ติ เพอ่ื ประโยชนแ์ กต่ นเอง สงั คมและประเทศชาติ ทว่ั ทกุ ภมู ภิ าคของประเทศไดน้ ำ� โครงการในพระราชดำ� ริ ซงึ่ เปรยี บเสมอื น รากฐานสำ� คญั ในการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของประชาชนให้มคี วามเป็นอย่ทู ด่ี ขี นึ้ อาทิ โครงการหลวงพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ชาวเขา จดุ เรม่ิ ต้นมาจากการทพี่ ระองค์ เสดจ็ ฯ ทอดพระเนตรความเปน็ อยขู่ องชาวเขาทบี่ ้านดอยปยุ จงั หวดั เชยี งใหม่ เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ พบวา่ ชาวเขาสว่ นมากยงั มฐี านะยากจนและมคี วามเป็นอยู่ ทล่ี �ำบาก โดยมกี ารปลกู ฝ่นิ และทำ� ไรเ่ ลอื่ ยลอยเป็นอาชพี หลกั ซง่ึ นอกจากจะ

๑๑๘ “เรื่องเลา่ จากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” ผดิ กฎหมายและกลบั กลายเป็นการเร่มิ ตน้ การผลติ ยาเสพตดิ การปลูกฝ่นิ ยัง เปน็ การท�ำลายธรรมชาติ ท�ำให้ปา่ ไมเ้ สียหาย และรวมท้ังชีวิตความเปน็ อยู่ ของชาวเขากลบั แยล่ งกวา่ เดมิ พระองคจ์ งึ เกดิ แนวคดิ พระราชทานพระราชทรพั ย์ สว่ นพระองค์เปน็ จ�ำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท แกม่ หาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพอ่ื จดั หาทด่ี นิ ดำ� เนนิ งานวจิ ยั ผลไม้เมอื งหนาว มกี ารทดลองปลกู พชื เมอื งหนาว ชนดิ ตา่ งๆ เมอื่ ผลการวจิ ยั ประสบความสำ� เรจ็ จงึ ไดแ้ นะนำ� ใหช้ าวเขาเพาะปลกู แทนการปลูกฝน่ิ จนปจั จุบันมีพืชเศรษฐกิจหลายชนิดท่ีผลิดอกออกผลและ สามารถน�ำมาจ�ำหน่ายในท้องตลาด ท�ำใหช้ าวเขาต่างมีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น จะเห็นไดว้ ่าในการบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชน พระองคท์ รงมีสาย พระเนตรอันแหลมคม ทรงแกไ้ ขปัญหาไดอ้ ย่างตรงจุด โดยค�ำนึงถึงความ เหมาะสมของสภาพสงั คมและภมู ศิ าสตรเ์ นน้ การทำ� งานร่วมกนั ของคนหมู่มาก และสรา้ งประโยชน์แก่ส่วนรวม แต่ส�ำหรับบางพื้นท่ีประสบปัญหาเกี่ยวกับการด�ำรงชีวิต ความเป็นอยู่ ซงึ่ เกิดจากการเขา้ ใจผิดในบางแงม่ ุมของประชาชนในพื้นที่ น่ันคือ พ้ืนท่ี ๓ จงั หวดั ชายแดนภาคใตก้ บั ๔ อำ� เภอในจงั หวดั สงขลา นบั เป็นพน้ื ทที่ ตี่ ้องประสบ กบั เหตุการณค์ วามไมส่ งบ นับวันยิ่งทวคี วามรุนแรงมากยงิ่ ขึ้น สง่ ผลต่อขวัญ ก�ำลังใจและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพ้ืนที่เปน็ อยา่ งมาก ท�ำให้เด็กขาด โอกาสทางการศึกษา มีคุณภาพการศึกษาดอ้ ยกวา่ พ้ืนที่อ่ืน เศรษฐกิจตกต�่ำ ลงเรอ่ื ยๆ นอกจากน้ีสภาพภมู ิประเทศไมเ่ ออ้ื ตอ่ การประกอบอาชีพ กล่าวคอื การเดินทางเส่ียงตอ่ การเกิดเหตุการณค์ วามไม่สงบหรือประกอบอาชีพใน แตล่ ะวันก็ยังสุม่ เสี่ยงกับเหตุการณ์ แตด่ ว้ ยพระวิริยะอุตสาหะของพระองค์ ทรงทอดพระเนตรเห็นความเดือดรอ้ นของเหล่าประชาราษฎร์ จึงไดเ้ สด็จ พระราชดำ� เนนิ มายงั พน้ื ทด่ี งั กลา่ ว โดยไม่ทรงเกรงกลวั ตอ่ เหตกุ ารณ์อนั เลวร้าย ทรงพระราชทานโครงการพระราชดำ� รเิ พอ่ื บรรเทาความเดอื ดร้อนของราษฎร ในพน้ื ทตี่ า่ งๆ เชน่ โครงการพัฒนาพ้นื ทีพ่ รแุ ฆแฆฯ จงั หวดั ปตั ตานี ทรงแก้ไข ปญั หาพนื้ ทเี่ สอ่ื มโทรมและมนี ำ�้ ทว่ มขงั เกอื บทง้ั ปี จงึ ได้พระราชทานพระราชดำ� ริ

ระดบั มธั ยมศึกษา “เร่ืองเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” ๑๑๙ ให้พจิ ารณาวางโครงการก่อสรา้ งขดุ ลอกคลองระบายน้ำ� และอาคารบังคับน้ำ� เพื่อระบายน้�ำทว่ มขังออกจากพ้ืนที่และเก็บกักน้�ำจืดไวใ้ ห้เกษตรกรใช้ ทำ� การเพาะปลูกและอุปโภค – บริโภคตลอดปี โครงการสระเก็บน�้ำพรธุ ารโต จังหวัดยะลา มีพระราชด�ำริให้จัดสรรพื้นท่ีจ�ำนวน ๑,๐๐๐ ไร่ในเขตนิคม สรา้ งตนเองพฒั นาธารโต สำ� หรบั ใหร้ าษฎรประกอบอาชพี และสร้างอ่างกกั เกบ็ น้�ำไวส้ �ำหรับผลิตน้�ำประปาเพ่ือการอุปโภค-บริโภคของราษฎรในพ้ืนที่ ดังกลา่ ว โครงการศูนยศ์ ึกษาพัฒนาพิกุลทองอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จงั หวดั นราธวิ าส โครงการดงั กล่าวเป็นศนู ย์รวบรวมกำ� ลงั เจ้าหนา้ ทดี่ ้านเกษตร และสังคมมาอยู่รวมกัน เพื่อพัฒนาปรับปรุงสภาพดินพรุในพ้ืนท่ี ซึ่งขาด ความอดุ มสมบรู ณ์และเปน็ อปุ สรรคตอ่ การทำ� เกษตรกรรม นอกจากนยี้ ังเปน็ ศูนยศ์ ึกษาพัฒนาในเร่อื งยางพาราและปาล์มน้ำ� มัน อันเป็นพืชเศรษฐกิจของ ภาคใต้ นบั ว่าเป็นโครงการทสี่ ามารถพัฒนาคุณภาพชีวติ ของราษฎรได้อย่าง ครบวงจรนอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรง เลง็ เหน็ ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ พระองคท์ รงพยายามหาแนวทางการ แก้ปญั หารว่ มกับหน่วยงานภาครัฐ ทรงพระราชทานยุทธศาสตร์ “เขา้ ใจ เข้าถงึ พัฒนา” เพ่อื แก้ไขปัญหาดังกลา่ ว เข้าใจ คือ เข้าใจถงึ สภาพปัญหาที่ เกิดขึน้ เข้าใจประชาชน เขา้ ใจงานท่กี ำ� ลงั ปฏบิ ัตอิ ยู่ เขา้ ใจวฒั นธรรม เขา้ ใจ สภาพสงั คมและภมู ปิ ระเทศ เข้าถงึ คอื เข้าถงึ ทุกพน้ื ทีเ่ ข้าถงึ สภาพปัญหา เพื่อน�ำไปสกู่ ารปฏิบตั ิ และสง่ิ ส�ำคัญทสี่ ุดคือ ตอ้ งเขา้ ถงึ จติ ใจของประชาชน ทุกคน และพัฒนา คือ พัฒนาทกุ ๆ ด้านควบคู่กันไปอย่างเป็นระบบ ก�ำหนด เป้าหมายการพฒั นาอยา่ งชัดเจน เพอื่ ใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพอยา่ งสงู ที่สุด โดย หลักยุทธศาสตร์ดังกลา่ วสอดคล้องกับลักษณะการทรงงานของพระองคท์ ่ีมุ่ง เน้นเรอ่ื งการพัฒนาคน “ระเบิดจากข้างใน” คอื ตอ้ งสรา้ งความเขา้ ใจและ สร้างความเขม้ แข็งแกค่ นในพ้นื ท่เี สียกอ่ น เพือ่ เตรียมพรอ้ มตอ่ การพฒั นาใน อนาคต ซง่ึ ในหนว่ ยงานในทกุ พนื้ ทต่ี า่ งน้อมนำ� มาปรบั ใช้ อาทิ ในจงั หวดั ยะลา มกี ารรวมตวั ของชุมชน ๔๐ ชมุ ชน โดยแตล่ ะชุมชนมกี ารนบั ถอื ศาสนาแตก ตา่ งกนั คอื นบั ถือศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ ศาสนาครสิ ต์และมชี าวไทยเชอ้ื

๑๒๐ “เร่ืองเลา่ จากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” สายจนี สามารถอย่รู ว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งสงบสขุ ทา่ มกลางเหตกุ ารณค์ วามไมส่ งบ ใน ทกุ ๆ เดอื นชมุ ชนจะเรยี กสมาชกิ เข้าร่วมประชมุ สร้างความสัมพนั ธอ์ ันดตี ่อกัน เป็นชมุ ชนทีเ่ ขม้ แข็ง นบั ว่าเปน็ จดุ เร่ิมต้นท่ดี ีของประชาชนในพ้นื ทส่ี ามารถอยู่ ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อยา่ งมีความสุขและปัญหาบนผืนแผ่นดิน ปลายด้ามขวานแห่งน้ีต่างคอ่ ยๆ เลอื นหายไป นอกจากน้ี หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ยังน้อมน�ำหลักการทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาปรับใช้ในการด�ำเนิน กิจกรรมตา่ งๆเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความทัดเทียมพ้ืนที่ อน่ื ๆ อาทิ เทศบาลนครยะลามกี ารพฒั นาด้านการจดั สรรทรพั ยากรนำ้� ภายใน พน้ื ท่ี โดยศกึ ษาข้อมลู โครงการพระราชดำ� ริ (แก้มลงิ ) ของพระองคท์ เ่ี กย่ี วขอ้ ง กับน�้ำมาเป็นแนวทางและน�ำมาปรับใช้ให้เหมาะสมในการพัฒนาบึงแบเมาะ เพ่ือปอ้ งกันน�้ำทว่ มในพ้ืนที่จังหวัดยะลา ในอดีตบริเวณบึงแบเมาะเคยเปน็ พื้นท่ีสีแดง เมื่อทางหน่วยงานได้เขา้ ไปพัฒนาปรับปรุงด้านทรัพยากรน�้ำจึง ถอื โอกาสปรบั ปรงุ ภมู ทิ ศั น์บรเิ วณโดยรอบใหร้ ่มรน่ื น่าอยู่ เพอ่ื เป็นสวนสาธารณะ สำ� หรบั การพกั ผ่อนและทำ� กิจกรรมร่วมกนั ของชาวจงั หวดั ยะลา โครงการนไ้ี ด้ น้อมนำ� หลกั การทรงงานของพระองค์มาปรบั ใช้ อาทิ การศกึ ษาขอ้ มลู ก่อนเรม่ิ ลงมือท�ำ การศกึ ษาสภาพสังคม ภมู ิศาสตร์ของพน้ื ท่ี การพฒั นาเพื่อประโยชน์ ส่วนรว่ ม โครงการเยาวชนส�ำนกึ รักบ้านเกิด ซ่งึ เปน็ กิจกรรมท่จี ัดข้ึนในชว่ งปดิ ภาคเรียน เพื่อใหเ้ ยาวชนเข้าใจบทบาทหนา้ ทข่ี องเทศบาลนครยะลาและร่วม กันดแู ลจงั หวดั ยะลา เช่น การปรบั ปรุงภมู ิทัศนข์ องจังหวัดใหน้ ่าอยู่ เป็นการ สรา้ งความสมานฉันท์ ค�ำนึงถึงประโยชนส์ ่วนรวมและมีจิตส�ำนึกรักท้องถิ่น ภายใตส้ ังคมพหุวัฒนธรรม โดยเปรียบเสมือนการเสริมสร้างความเขม้ แข็ง ผนกึ กำ� ลงั ของคนในพนื้ ทใ่ี ห้มคี วามรักและหวงแหนบ้านเกิดของตนเอง นับว่า เปน็ ประโยชนต์ ่อการพัฒนาจังหวัดใหม้ ีความเจริญก้าวหนา้ ในอนาคต นอกจากน้ี ยงั ถอื เป็นการสง่ เสรมิ ใหเ้ ยาวชนร้จู กั การพง่ึ พาตนเอง สรา้ งรายได้ ระหวา่ งปดิ ภาคเรยี น เป็นการใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ หา่ งไกลจากยาเสพ

ระดบั มธั ยมศกึ ษา “เรือ่ งเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ๑๒๑ ติดและแหลง่ อบายมุขซ่ึงเปน็ การท�ำลายความเจริญของประเทศชาติ นบั วา่ เป็นโครงการหน่ึงทส่ี อดคลอ้ งกบั หลักการทรงงานของพระองค์ ท�ำใหเ้ กิดการ พัฒนาในทอ้ งถิ่น โครงการคนื ยะลาใหค้ นยะลา ในอดตี จงั หวัดยะลาขึน้ ชอ่ื ว่า เปน็ เมืองสะอาดเรยี บรอ้ ยและเปน็ ระเบยี บจนไดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ ๓ ปตี ดิ ต่อ กนั ในปพี .ศ. ๒๕๒๘ พ.ศ. ๒๕๒๙ และพ.ศ. ๒๕๓๐ แต่ในปจั จบุ นั ผู้คนตา่ ง ละเลยขาดจิตส�ำนึกท่ีดี จึงเกิดผลเสียต่อสว่ นรวม เทศบาลนครยะลาจึงจัด โครงการน้ีข้ึน โดยเร่ิมจากใหป้ ระชาชนดูแลความสะอาดเรียบรอ้ ยบริเวณ หน้าบา้ นของตนเอง ส่วนทางหนว่ ยงานท�ำหนา้ ที่จัดระเบียบทางเท้าและที่ สาธารณะ รถเขน็ หาบเร่ แผงลอยจดั ระเบยี บการกอ่ สรา้ งรกุ ล้�ำที่สาธารณะ และจัดระเบียบการติดตั้งปา้ ยโฆษณาตา่ งๆ เพ่ือสามารถคืนพื้นท่ีสาธารณะ ให้คนยะลาไดใ้ ชป้ ระโยชน์รว่ มกันและทำ� ใหบ้ ้านเมอื งมีความสะอาด สวยงาม น�ำเอกลักษณอ์ ันโดดเด่นคืนสู่สังคมยะลาอีกคร้ังหนึ่งถือเป็นการสรา้ งความ ตระหนกั ใหป้ ระชาชนในจงั หวดั คำ� นงึ ถงึ ประโยชนส์ ่วนรวม เน้นการพฒั นาพน้ื ที่ โดยอาศยั ความร่วมมือของคนในทอ้ งถ่นิ นอ้ มนำ� หลักการทรงงานมาปรบั ใช้ โครงการ Yala Bird City Street Art “เสพศลิ ป์ ถ่นิ บนิ หลา” เกิดขึ้นตาม นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศใหม้ ีความเขม้ แข็ง ภายใตโ้ ครงการ พฒั นาเศรษฐกจิ การคา้ จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ โดยมกี ารสร้างสรรค์งานศลิ ปะ ต่างๆ บนกำ� แพงบรเิ วณชมุ ชนประชานกุ ลู ถนนนวลสกลุ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั ยะลา โดยได้ศิลปินช่อื ดงั มาชว่ ยสร้างสรรค์งานศิลปะ อาทิ คุณพชั รพล แตงรน่ื และ คุณพีรภัทร วงศ์จงใจหาญ ไดใ้ ห้แนวความคดิ ว่า “ขอรว่ มเป็นสว่ นหนึ่งในการ ถ่ายทอดเรื่องราวผา่ นทางงานศิลปะซึ่งผลงานท่ีเกิดขึ้นแม้มิไดช้ ่วยเหลอื ให้ ปัญหาความรุนแรงทุเลาลงได้ แตส่ ิ่งนี้เปรียบเสมือนการสรา้ งแรงบันดาลใจ เปน็ กำ� ลงั ใจชว่ ยเยยี วยาสภาพจติ ใจของชาวยะลา อกี ทงั้ เปน็ การสร้างสสี นั ให้ เมืองยะลากลับมาสดใสและอบอุ่นดงั เชน่ อดีตทีผ่ า่ นมา” และผลทีไ่ ด้จากการ ด�ำเนินโครงการดังกลา่ ว นักทอ่ งเที่ยวตา่ งใหค้ วามสนใจ ส่งผลดีตอ่ การ กระตนุ้ เศรษฐกิจภายในพน้ื ทไี่ ดเ้ ป็นอยา่ งดี และโครงการออร์เคสตร้าเยาวชน เทศบาลนครยะลา เกิดข้ึนจากแนวความคิดของนายพงษ์ศักด์ิ ยง่ิ ชนม์เจรญิ

๑๒๒ “เรอ่ื งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” นายกเทศมนตรนี ครยะลา ได้เลง็ เหน็ และตระหนกั ถงึ อนาคตของเดก็ ในพน้ื ทวี่ ่า “ในทกุ ๆ วนั ทพี่ วกเขาตน่ื ขน้ึ มาต้องได้ยนิ ค�ำถามทวี่ ่า วันนร้ี ะเบดิ ทไ่ี หน มีคน เสียชวี ติ กี่คน ย่อมสง่ ผลกระทบตอ่ สภาพจิตใจและทัศนคติของเดก็ ๆ ดังนนั้ การเล่นดนตรีสามารถตอบโจทย์การแก้ไขปญั หาดังกล่าวได้ การเลน่ ดนตรมี ี สว่ นช่วยพฒั นาจติ ใจใหม้ คี วามออ่ นโยนมสี นุ ทรยี ภาพ สามารถเรยี นรไู้ ดไ้ มว่ ่า นับถือศาสนาอะไร ถือเปน็ การสง่ เสริมการท�ำงานรว่ มกันภายใตว้ ฒั นธรรม ทแี่ ตกต่าง ยอ่ มก่อใหเ้ กดิ ความสนั ตสิ ขุ สง่ เสรมิ การใช้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ และสง่ิ สำ� คญั ทสี่ ดุ เป็นการสรา้ งแนวทางในการประกอบอาชพี ของเดก็ ๆ ในพนื้ ท่ี ได้ในอนาคต” จากแนวความคดิ เลก็ ๆในวนั นนั้ กลบั กลายเปน็ เพชรเมด็ งามของ จังหวัดยะลา วงออร์เครสต้าจังหวัดยะลามีผลงานเป็นที่ประจักษแ์ กส่ ายตา คนไทยทั้งประเทศ ไดม้ ีโอกาสบรรเลงเพลงสมานฉันท์ถวายสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีเปดิ โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อยุธยามิเพียงเท่านั้นยังได้รับเชิญใหไ้ ปแสดงคอนเสิร์ตในโอกาสต่างๆ ใน ต่างประเทศอีกดว้ ยโดยสองโครงการสุดทา้ ยก็นับเป็นการนอ้ มน�ำหลักการ ทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาปรับใช้ให้ เหมาะสมจนเกิดผลสัมฤทธ์อิ นั เป็นท่ปี ระจกั ษ์ ซ่งึ ในหลกั การทรงงานทง้ั ๒๓ ขอ้ น้นั ขอ้ ท่ีนำ� มาปรับใช้มากที่สดุ คอื การระเบิดจากขา้ งในและการทำ� งาน แบบองค์รวม น่นั คอื การสร้างความเข้มแข็งใหก้ บั คนในพื้นที่ โดยเนน้ การ ทำ� งานร่วมกนั เพอื่ กอ่ ใหเ้ กดิ ความสมานฉนั ท์ ซง่ึ สำ� คญั อย่างยงิ่ สำ� หรบั ประชาชน ทอี่ าศยั อย่ใู นพนื้ ทท่ี ปี่ ระสบเหตกุ ารณค์ วามไม่สงบ หากพนื้ ทใ่ี ดมคี วามสามคั คี ย่อมสง่ ผลดตี ่อการขบั เคลอ่ื นสกู่ ารพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื เพอ่ื กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ แก่สว่ นรวมไดใ้ นอนาคต รอ้ ยเร่ืองราวท่ีถูกถ่ายทอดออกมานั้นแสดงใหเ้ ห็นวา่ หลักการทรงงาน ๒๓ ข้อในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช สามารถนำ� มา

ระดบั มธั ยมศกึ ษา “เร่อื งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ๑๒๓ เป็นแนวทางและปรบั ใชใ้ ห้เหมาะสมไมว่ า่ จะอยู่ในภูมิภาคใด ประสบปญั หา ใหญ่หลวงแค่ไหน หากรู้จักคิดและมองเห็นคุณค่าก็สามารถน�ำมาต่อยอด เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นท่ีได้เสมอ มิเพียงแตห่ น่วยงาน ภาครัฐเทา่ นั้นท่ีสามารถนอ้ มน�ำมาปฏิบัติแตค่ นไทยทุกคนควรนอ้ มน�ำมา ปฏิบัติเพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีข้ึน หากเรามีคุณภาพชีวิตที่ดี ยอ่ มสร้างโอกาสในการพัฒนาประเทศใหเ้ จริญรุง่ เรืองทัดเทียมประเทศอ่ืนๆ หนา้ ที่ในการพัฒนาประเทศไม่ใช่หน้าที่ของบุคคลใดหรือหน่วยงานใด แตเ่ ป็นหนา้ ทท่ี ่คี นไทยทกุ คนพงึ กระทำ� โดยนอ้ มน�ำหลกั การทรงงาน ๒๓ ขอ้ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาปรับใช้ แมใ้ นวันนี้ พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัยแลว้ แต่สิ่งที่พระองคท์ รงสรา้ งด้วยสองพระหัตถ์ ยงั คงดำ� รงอยู่ อยา่ ทำ� ใหช้ ่วงเวลาทพ่ี ระองคท์ รงลำ� บากตรากตรำ� เพอื่ คนไทย ทกุ คนต้องสญู เปล่า คนไทยทกุ คนต้องช่วยกนั รกั ษารากฐานนใี้ หม้ นั่ คง ตระหนกั ถึงค�ำว่าพอหรือพอเพียงตามค�ำพอ่ สอน ท�ำอะไรระลึกไว้เสมอว่าประโยชน์ ส่วนรวมตอ้ งมากอ่ นประโยชนข์ องตนเอง กระทำ� การสงิ่ ใดมสิ ามารถทำ� เพยี ง คนเดยี วได้ ตอ้ งอาศัยทีมที่ดี ดงั น้นั ควรรู้ รักและสามัคคกี ันไว้ หากคนไทยมี ความสามัคคีก็จะไมม่ ีอะไรมาท�ำลายสยามประเทศน้ีได้ อย่ายึดติดกับต�ำรา เพราะต�ำราไม่สามารถแก้ไขปญั หาได้ทุกอยา่ ง หากน�ำทฤษฎีจากต�ำรามา ปรับใช้ จักก่อให้เกิดประโยชนม์ ากกว่า และสง่ิ ส�ำคัญท่สี ดุ ซง่ึ สยามประเทศ ยงั ขาดอย่มู ากคอื ความซอ่ื สตั ย์สจุ รติ ไมว่ ่าหยบิ จบั ทำ� การใด หากมคี วามจรงิ ใจ ซอื่ สตั ย์ต่อตนเองและงานทก่ี ระทำ� กย็ ่อมประสบความสำ� เรจ็ และชว่ ยกนั สร้างสรรค์ ต่อยอดสิ่งต่างๆ ไปพฒั นาคน สู่การขบั เคลอ่ื นประเทศใหเ้ จรญิ รงุ่ เรอื ง เพอ่ื เปน็ การสบื สานพระราชปณิ ธานและแสดงความจงรกั ภักดสี บื ไป

๑๒๔ “เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพ่อ”

“เรื่องเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเท้าพ่อ” ๑๒๕ “รถอกั ยทเอทฝ้าพันอ่ ”... รอมฎอน เบ็ญโกบ โรงเรยี นอรณุ ศาสน์วิทยามูลนธิ ิ (ภมู ิลำ� เนาจ.สงขลา) ช่วงชีวิตทผี่ า่ นมา ผมเคยถามตนเองอยเู่ สมอว่า “จะมพี ระมหากษตั รยิ ์พระองคใ์ ดใน โลกท่ีทรงทมุ่ เทความรักและเสยี สละเพ่ือประชาราษฎรไ์ ดเ้ ทียมเทา่ ในหลวงรัชกาลท่ี ๙” ทา้ ยท่ีสุดค�ำถามน้ีที่คา้ งคาใจเยาวชนอย่างกระผมก็ไดร้ ับค�ำตอบอยา่ งกระจา่ งแก่ใจว่า พระองคท์ ่านคอื ทสี่ ดุ ของตน้ แบบ “มหาราชนกั พฒั นา” โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ เบอ้ื งหลงั ผล งานอนั เป็นทปี่ ระจกั ษ์ต่อชนชน้ั รากหญา้ จรดนานาอารยประเทศนนั่ คอื “หลกั การทรงงาน ๒๓ ประการ” อันย่ิงใหญข่ องพระองค์ หลกั การทรงงานทุกๆ ขอ้ เป็นเหมอื นพลงั ดลใจ อนั วเิ ศษท่ีนำ� พาพสกนกิ รของพระองค์ใหเ้ ดินหน้าไปส่คู วามส�ำเรจ็ ทีแ่ สนงดงาม อกี ทง้ั ยัง เป็นหลกั ชยั แห่งชวี ติ เพอ่ื นำ� ไปปรบั ใช้กบั งานและวถิ ชี วี ติ ได้อยา่ งร่วมสมยั ในฐานะพสกนกิ ร ตวั เลก็ ๆ คนหนงึ่ กระผมได้เฝ้าตดิ ตามพระราชกรณยี กจิ ในหลวงรชั กาลท่ี ๙ ขณะทพ่ี ระองค์ ยังทรงพระชนมช์ ีพผา่ นเรือ่ งราวพระราชประวตั ิ สารคดี และป้ายนิเทศที่ตดิ ตามสถานท่ี ตา่ งๆ กระผมได้รบั ทราบและสัมผัสถงึ บรรยากาศการเดนิ ทางของพระองคไ์ ปยังทอ้ งถนิ่ หา่ งไกลและทุรกันดารเพื่อขจัดทุกขบ์ �ำรุงสุขของพสกนิกรอยา่ งไมย่ อ่ ท้อพระราชหฤทัย การพระราชทานแนวคิดเพื่อแกป้ ัญหาที่ยากย่ิงต่อการจัดการและแก้ไขได้อย่างเปน็ รูปธรรม ฯลฯ พระองค์ทรงเหนื่อยล้าเพื่อประชาชนของพระองค์มามากมายเหลือเกิน กระผมจึงต้ังมั่นสัญญากับตนเองไว้วา่ จะขอตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณอันไพศาล

๑๒๖ “เร่อื งเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเท้าพอ่ ” ของพระองคท์ ่าน ดว้ ยการน้อมนำ� หลกั ทรงงานบางประการทเ่ี ยาวชนคนหนงึ่ พอจะกระทำ� ไดต้ ามระดบั ชว่ งวยั และกำ� ลงั ความสามารถอนั น้อยนดิ เพอื่ พฒั นา ตนเองให้สามารถตอบแทนคณุ แผน่ ดนิ มาตภุ มู อิ นั เปน็ แผ่นดนิ ทพี่ ระองคท์ รงรกั และทรงหวงแหนใหไ้ ด้มากทส่ี ดุ แน่นอนท่ีสุดว่า เป็นไปไม่ได้ท่ีชีวิตของมนุษย์คนหน่ึงจะราบรื่นไร้อุปสรรค ขวากหนามอนั เปน็ บททดสอบในชวี ติ เพอ่ื พสิ จู นแ์ ละเตมิ เตม็ คนใหเ้ ตม็ คน-ยาม ต้องเผชิญกับอุปสรรคและปัญหา หลายคนลนลานและไม่มีสติเพ่ือจะเขา้ ใจ ปญั หาทต่ี นกำ� ลงั ประสบ เมอ่ื มดื มนหนทางแก้ไข หวั ใจกถ็ กู รายลอ้ มดว้ ย ความทกุ ข์ และความเศรา้ หากเราพจิ ารณาหลกั ทรงงานขององคใ์ นหลวงในเรอ่ื ง “การแกป้ ัญหา จากจดุ เลก็ ” เรากจ็ ะพบกบั วถิ ที างการจดั การปัญหาทงั้ น้อยใหญ่ โดยใหเ้ ราเรมิ่ พเิ คราะห์สงั เกตปัญหาจากจดุ เลก็ เสยี กอ่ น เพราะปัญหาจดุ เลก็ ๆ ทเ่ี รามองขา้ ม อาจเปน็ มลู เหตทุ นี่ ำ� ไปส่กู ารก่อเกดิ ของปญั หาใหญๆ่ ทย่ี ากต่อการขจดั ให้หมดสนิ้ ทีส่ ำ� คญั หลกั การทรงงานข้อน้ี ไดส้ อนให้เราเปน็ คนท่รี อบคอบและมีสตใิ นการ แก้ไขปญั หาที่เกิดขึน้ ได้อยา่ งดี เมอื่ กล่าวถงึ การทำ� งานทสี่ มั ฤทธผ์ิ ล เชอ่ื วา่ ทกุ ๆ คนยอ่ มตอ้ งการความสำ� เรจ็ และรงั เกยี จทจ่ี ะตอ้ งพบเจอกบั ความล้มเหลว วธิ กี ารทจี่ ะทำ� งานใหส้ ำ� เรจ็ ได้นนั้ มหี ลากหลายแนวคดิ และหลกั ทฤษฎที ชี่ ่วยสนบั สนนุ การทำ� งานใหก้ า้ วหนา้ แตม่ ี หลกั คดิ ทสี่ ามารถทำ� ไดง้ า่ ยและตอบสนองบคุ คลทกุ ระดบั ชนั้ ไมว่ า่ มงั่ มหี รอื ยากจน ก็สามารถนอ้ มน�ำไปปฏิบัติไดน้ น่ั คอื “การทำ� ตามลำ� ดบั ข้ัน” หลักการทรงงาน ของพระองคใ์ นข้อน้ี ไดส้ อนใหเ้ ราพิจารณาลำ� ดับความส�ำคญั ของงานท่ีเราจะ กระทำ� ใหถ้ ถี่ ว้ นวา่ งานใดทจี่ ำ� เปน็ เรง่ ด่วน กต็ ้องทำ� กอ่ น งานใดทม่ี คี วามจำ� เปน็ รองกวา่ กท็ ำ� ทหี ลงั เมอ่ื เราสามารถจดั ลำ� ดบั ความสำ� คญั ของงานได้อยา่ งเป็นระบบ ก็ยอ่ มส่งผลใหง้ านท่ีไดร้ ับมอบหมายไม่พอกพูนจนทว่ มตัว ท้ังยังบรรลุผลได้ ทันตามเวลาท่ถี กู ก�ำหนดไว้ ตลอดจนเป็นการบริหารเวลาท่ีทรงประสทิ ธิภาพ และชาญฉลาดอยา่ งดียิ่งอีกด้วย

“เรื่องเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพอ่ ” ๑๒๗ ท่ามกลางกระแสวัตถุนิยมท่ีหล่ังไหลครอบคลุมพื้นท่ีทุกหย่อมหญา้ และดู จะฝงั รากลึกลงไปในสังคมไทยของเราจนยากจะถอดถอนและแปรเปล่ียนให้ กลับมาเปน็ สังคมท่ีพ่ึงพากนั และกันดังเดมิ ผูค้ นจ�ำนวนไม่นอ้ ยต้องติดกับดกั ของกระแสวตั ถนุ ยิ มจนมหี นสี้ นิ ทบทวที สี่ รา้ งความกลดั กล้มุ รมุ่ รอ้ น ความโลภ จะดลใจให้ผู้มีกิเลสน้ีไขว่ควา้ และทะยานอยากทุกสิ่งอยา่ งโดยไรซ้ ึ่งขอบเขต วถิ ที างเดยี วทจี่ ะทำ� ให้เราหลุดพน้ จากกบั ดกั อนั น่ากลวั น้กี ็คอื “ความประหยัด เรียบงา่ ย ไดป้ ระโยชนส์ งู สดุ ” หลกั การทรงงานของพระองคใ์ นข้อนี้ นับเปน็ ‘ทางออก’ ที่ส�ำคัญส�ำหรับผูค้ นในยุค ๔.๐ เพราะภาวะเศรษฐกิจจะมี ความผันผวนปรวนแปร สง่ ผลให้เรารับมอื กบั ปัญหาเศรษฐกิจไดล้ ำ� บากมาก ยง่ิ ข้นึ หากเรายึดมัน่ ในหลักการทรงงาน ขอ้ นีก้ ใ็ หเ้ ราเรียนรู้ทจ่ี ะใช้ชีวิตดว้ ย ความประหยดั พจิ ารณาสงิ่ ทจ่ี ะอปุ โภคบรโิ ภคเฉพาะของทมี่ คี วามจำ� เปน็ จรงิ ๆ เทา่ นนั้ จากนน้ั ให้ใชค้ วามเรยี บง่ายมาประยกุ ต์กบั งานและกจิ กรรมในแต่ละวนั ไมข่ วกั ไขว่ไลต่ ามกระแสนิยมและแฟช่นั อนั ฟุม่ เฟือย ประการส�ำคัญ เราตอ้ ง เรยี นร้ทู จ่ี ะใชเ้ งนิ และสงิ่ ของโดยคำ� นงึ ถงึ ผลประโยชน์ทไ่ี ดก้ ลบั มาใหม้ ากที่สุด หากปฏบิ ัติไดช้ วี ิตของเรากจ็ ะมคี วามสุขบนพน้ื ฐาน ‘ความพอเพียง’ ได้อยา่ ง ยั่งยืน อย่างทเี่ ราทราบกนั ดอี ยวู่ ่า ยคุ โลกาภวิ ตั นห์ รอื บางคนอาจเรยี กว่า ‘ยคุ ดจิ ติ อล’ เปน็ ยุคแหง่ ความก้าวล�้ำทางนวตั กรรมและเทคโนโลยี การประดิษฐค์ ดิ คน้ ส่ิง ใหม่ๆ เกิดข้ึนทุกขณะ ในทางตรงข้าม แม้ความกา้ วลำ้� ทางวทิ ยาการจะกา้ ว กระโดดสู่โลกแห่งอนาคต แตส่ ิง่ ทีไ่ มค่ อ่ ยได้พัฒนาตามไปนนั้ กค็ อื ‘คุณธรรม และจริยธรรม’ โดยเฉพาะ ‘ความเสียสละเพ่ือประโยชนส์ ว่ นรวม’ ท้ังท่ีจริง ความเสียสละเปน็ องค์ประกอบส�ำคัญทที่ ำ� ใหส้ ังคมร่มเยน็ เปน็ สขุ แต่เม่อื มอง กลบั มาในสภาพความเปน็ จรงิ สังคมของเรายงั เตม็ ไปดว้ ยความเห็นแกต่ นและ พวกพ้อง ขา่ วการทจุ รติ คดโกงผลประโยชนข์ องแผ่นดนิ ยงั ปรากฏบนสอ่ื ตา่ งๆ อย่างไม่ขาดชว่ ง ดังน้ัน สมควรเป็นอย่างยง่ิ ทเ่ี ราทกุ คนต้องร้จู กั การเสยี สละ เพอ่ื สงั คมโดยรวม โดยอาจเรมิ่ จากสงิ่ เลก็ ๆ ทเ่ี ราพอจะทำ� ให้ผ้อู น่ื ได้ เป็นตน้ ว่า

๑๒๘ “เรอ่ื งเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” การเก็บขยะ การชว่ ยประหยัดพลังงาน เป็นชว่ ยเปน็ หูเป็นตาเจ้าหนา้ ที่เพื่อ รักษาความสงบเรียบรอ้ ยของบ้านเมือง หากทกุ คนต่ืนตระหนักทจ่ี ะ ‘เสียสละ’ บ้านเมอื งกจ็ ะมแี ต่ความสนั ตสิ ขุ ในขณะเดยี วกนั องคใ์ นหลวงยงั สอนให้เราร้วู า่ “ขาดทุนคือก�ำไร” ซ่ึงหมายถึง การที่เรายอมเสียสละเพ่ือให้ผู้อ่ืนมีความสุข นน่ั เท่ากบั วา่ เป็นกำ� ไรทสี่ ่งผลตอ่ ผเู้ สยี สละใหม้ แี ตค่ วามอม่ิ เอบิ ใจอย่าง ไมม่ วี นั สิ้นสดุ สงิ่ สำ� คญั อยา่ งยง่ิ อกี อยา่ งหนงึ่ ทส่ี งั คมไทยกำ� ลงั ขาดแคลนอยา่ งหนกั นน่ั คอื ‘ความซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ และจรงิ ใจต่อกนั ’ คณุ สมบตั อิ นั งดงามขา้ งต้นเป็นคำ� สอน ทอี่ งคใ์ นหลวงทรงกำ� ชบั ใหพ้ สกนกิ รของพระองคต์ ระหนกั ไวใ้ นจติ ใจ เนอ่ื งจาก เปน็ สงิ่ ทช่ี ่วยขบั เคลอื่ นใหป้ ระเทศชาตสิ ามารถเดนิ ไปข้างหน้าได้ ทเี่ ปน็ เช่นนน้ั เพราะ ‘ความซอื่ สัตย์สุจริต’ เป็นความสะอาดบรสิ ุทธ์ทิ ที่ �ำให้สัมมาอาชพี และ ภารกจิ ทไี่ ดร้ บั มอบหมายประสบความสำ� เรจ็ อย่างยงั่ ยนื หากเราขาดคณุ สมบตั นิ ี้ ชีวิตยอ่ มพบกับความหายนะไมช่ ้าก็เร็ว และที่ส�ำคัญ การเสวยสุขในอ�ำนาจ ลาภ ยศ ชื่อเสยี งที่อยบู่ นความทจุ รติ ยอ่ มมแี ตค่ วามร่มุ ร้อนและหวาดระแวง ดงั ส�ำนวนไทยที่ว่า “วัวสันหลังหวะ” ซึ่งไม่มวี ันที่เขาคนนั้นจะประสบพบเจอกบั ความสขุ โดยแท้จรงิ ไปได้ นอกจากนี้ เราทกุ คนตอ้ งมีความ ‘จริงใจใหก้ ัน’ ซึ่ง ความจริงใจจะเกิดขึ้นได้น้ัน เรากต็ ้องมี ‘ความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต’ อยา่ งสมบรู ณ์ เสียก่อน เม่ือมีความจริงใจท้ังตอ่ ตนเอง องคก์ ร สังคม และประเทศชาติ ‘การทุจริตคดโกง’ กจ็ ะหมดสิน้ ไปจากแผ่นดินของเรา ทุกครั้งที่กระผมไดอ้ า่ นพระราชนิพนธเ์ ร่ือง “พระมหาชนก” ทุกตัวอักษร อันประกอบเป็นเร่ืองราวได้สอ่ งสะทอ้ นให้เราไดส้ ัมผัสถึงพลานุภาพของ ‘ความเพียร’ อันย่ิงใหญ่ ความเพียรท่ีแน่วแนข่ อง พระมหาชนกท่ีไม่ยอม ยอ่ ท้อต่ออุปสรรคขวากหนามได้น�ำพาให้พระองค์รอดพ้นจากมหานทีอัน เวง้ิ ว้าง กวา้ งใหญไ่ ด้ในทส่ี ดุ สำ� หรบั ผมแล้ว ความเพยี รคือพลังทสี่ รา้ งสรรค์ ความงดงาม ความส�ำเร็จทแ่ี สนวเิ ศษและทรงพลงั หากใจของเราคงไว้ดว้ ย ความเพียรอยูท่ ุกขณะจิต สิ่งท่ีมุง่ มาดปรารถนายอ่ มปรากฏผลอยา่ งแน่นอน ท้งั นีท้ ั้งนนั้ เมื่อย้อนพิเคราะหส์ ภาพสงั คมของเยาวชนร่นุ เดยี วกบั กระผม เยาว ชนหลายๆ คน ช่างไกลหา่ งความเพยี รมากเหลอื เกนิ ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งได้ด้วยน�้ำ

“เรอื่ งเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเท้าพ่อ” ๑๒๙ พักน�้ำแรงของพ่อแม่ งานเสริมที่สุจริตที่หารายไดร้ ะหวา่ งเรียนเพ่ือแบง่ เบา ภาระความรับผิดชอบของครอบครัวกลับเปน็ สิ่งท่ีนา่ อับอายและไดร้ ับการ ปฏเิ สธ ความสุขความบนั เทิงทุกอยา่ งส�ำเรจ็ รปู พรอ้ มสง่ ถงึ มอื ผูบ้ รโิ ภคได้ใน ทนั ทที นั ใด ‘ความเพยี ร’ ของพวกเขาจงึ เปลย่ี นเป็น ‘ความมกั งา่ ยและฉาบฉวย’ กลา่ วคือ เมื่อบุคคลใดก็ตามที่ปราศจากความเพียรไวค้ อยยึดเหนี่ยวจิตใจ เขาคนนน้ั กจ็ ะกลายเปน็ คนเหลาะแหละ ไม่มเี ปา้ หมายชวี ติ และแทบหมดสทิ ธ์ิ ท่จี ะได้พบกบั ความร่ืนรมยแ์ ห่งความส�ำเร็จ ด้วยเหตนุ ีเ้ อง กระผมจงึ พยายาม ตนื่ ตระหนักที่จะรกั ษาความเพียร โดยยดึ เอาพระราชนพิ นธ์ ‘พระมหาชนก’ เปน็ เครอ่ื งเตือนใจมาโดยตลอด เชอื่ เหลอื เกนิ ว่า เราทกุ คนล้วนผา่ นภาระงานทย่ี ากทงั้ การปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเอง รวมถงึ การถ่ายทอดวิธกี ารดงั กลา่ วไปสู่บคุ คลอ่ืนให้รบั รู้และเข้าใจ หลายครง้ั การท�ำงานหลายอย่างท่ีประสบความล้มเหลวเพราะเราเลือกท่ีจะถ่ายทอด ‘ของยาก’ ให้กลายเป็น ‘ของยาก’ หลายคนเลือกจะยึดอยู่ในวิธกี ารท�ำงาน เช่นนี้ครงั้ แลว้ ครั้งเลา่ ทั้งท่รี วู้ ่าทำ� ไปแล้วยากต่อการประสบความส�ำเร็จ แท้ที่ จริงแลว้ ประเด็นปญั หานี้มีหนทางแกไ้ ข เม่ือเราพิจารณาหลักทรงงานของ พระองคท์ วี่ ่า “ทำ� ใหง้ า่ ย” ทง้ั น้ี ใหเ้ ราร้จู กั ทจี่ ะทำ� สงิ่ ทย่ี ากให้กลาย เปน็ ความง่าย ท้ังตอ่ การปฏิบัติส่วนตนและการถ่ายทอดไปสู่ผู้อ่ืน สิ่งที่แฝงอยู่ในค�ำสอนน้ี จะเกิดข้ึนได้ ก็ตอ่ เมื่อ เราตอ้ งท�ำความเขา้ ใจภารกิจท่ีท�ำอยา่ งถ่องแท้ หากเขา้ ใจจริง เราก็จะคน้ พบกลวิธีที่จะทำ� ส่งิ นน้ั ไดอ้ ยา่ งงา่ ยดาย ยามที่ตอ้ งประสบกับปญั หาหรือภัยพิบัติท้ังที่มนุษย์ก่อขึ้นหรือธรรมชาติ เปน็ ผู้กระท�ำ ยอ่ มทิ้งร่องรอยความเสียหายท้ังชีวิตและทรัพยส์ ินท่ามกลาง หยดน�ำ้ ตาแหง่ ความสญู เสยี เราในฐานะคนไทยย่อมต้องช่วยเหลือเกือ้ กลู กนั ตามแต่กำ� ลังความสามารถที่มี แต่ในขณะเดียวกัน ภูมิคุ้มกันที่องค์ในหลวง ทรงตรสั สอนมาโดยตลอดนนั้ คอื “การพง่ึ พาตนเอง” อนั หมายถงึ การพยายาม ยืนหยัดลุกข้ึนสู้ ไมย่ ่อทอ้ ตอ่ อปุ สรรคท่ี เข้ามาประสบ เรียนรู้ท่จี ะเข้าใจใน การอยู่ร่วมและพ่ึงพาธรรมชาติ รวมท้ังสง่ิ แวดล้อมท่รี ายลอ้ มตน แน่นอนว่า การหยดั ยนื บนล�ำแข้งของตนนน้ั เป็นสงิ่ ท่ีนา่ ชน่ื ชมและมีศกั ด์ิศรมี ากที่สุด

๑๓๐ “เรือ่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” หลักการทรงงานขอ้ สุดท้ายที่กระผมยึดมั่นเปน็ หลักชัยในชีวิตทั้งในดา้ น การงานและการเรยี นนน่ั คือ “รู้-รกั -สามคั ค”ี โดยคำ� สอนทว่ี ่านแี้ บ่งออกเป็น ๓ สว่ น ซง่ึ แตล่ ะสว่ นมีความสัมพนั ธเ์ กีย่ วเนอ่ื งถึงกนั ส�ำหรับสว่ นท่ี ๑ คอื ‘รู้’ หมายถงึ ใหเ้ รามคี วามรรู้ อบถึงขอบเขต ปจั จยั และปัญหาของส่ิงทจ่ี ะกระทำ� อย่างลกึ ซงึ้ ส่วนที่ ๒ คอื ‘รัก’ หมายถงึ การตระหนักถงึ คณุ คา่ และสรา้ งความ รูส้ ึกรักในส่ิงท่ีจะกระท�ำซ่ึงจะก่อใหเ้ กิดความสุขอันเป็นเครื่องกระตุ้นพลังที่ ทรงประสทิ ธภิ าพมากทสี่ ดุ ส่วนท่ี ๓ ‘ความสามคั ค’ี เป็นภาพลกั ษณท์ เ่ี ราทกุ คน ใฝฝ่ ัน ซ่ึงหลักทรงงานนจี้ ะเป็นปจั จยั สำ� คญั ทกุ การงาน ไมว่ ่างานดงั กล่าวจะ หนักหนาและยากยิ่งเพียงใด ความสำ� เร็จยอ่ มประจกั ษ์ผลไดใ้ นไมช่ ้า นับเป็นโอกาสและวาสนาอันประเสริฐของกระผมที่ได้เกิดมาเป็นหนึ่งใน พสกนิกรขององคใ์ นหลวงของปวงไทย หลักการทรงงานของพระองคอ์ ันกอ่ เกิดจากรอ่ งรอยพระราชกรณียกิจอันมากมาย ทุกสิ่งทุกอยา่ งท่ีพระองค์ทรง เพียรปฏิบตั ิตลอดพระชนม์ชพี ...‘รอยเท้าพ่อ’ ไดถ้ กั ทอฝนั และถกู จารกึ ลงไปใน ความทรงจ�ำและหัวใจไทยทุกดวง ความรักและความเสียสละของพระองค์ บดั นี้ ไดก้ ลายเปน็ ร่มเงาอนั เปน็ นิรันดร์ทีจ่ ะรังสรรค์ความสขุ สงบใหเ้ กิดขึ้นบน แผน่ ดนิ ไทยอยา่ งไมม่ วี นั เสอื่ มสลาย ท้ายทสี่ ดุ กระผมขอประมวลเนอ้ื หาทง้ั หมด ด้วยบทกลอนส้นั ๆ เพอ่ื เปน็ อนุสรณแ์ ห่งความรักและภกั ดีต่อพระองค์จากห้วง หัวใจ ดังนี้ ดว้ ยความรักด้วยภกั ดีกว่าชีวติ จึงลิขิตเป็นบทกลอนอกั ษรสาสน์ องคใ์ นหลวงแห่งปวงชนผทู้ รงงาน หลายทศวรรษพ้นผ่านงานแผน่ ดนิ ๒๓ หลักทรงงานทรงคุณค่า ปวงประชาตา่ งล้วนหวนถวิล ‘รอยเทา้ พอ่ ’ จารึกไวใ้ นดวงจินต์ ไมส่ ุดส้ินความภกั ดีชว่ั ชวี า

ระดบั มธั ยมศกึ ษา “เรือ่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ๑๓๑ “สานฝันตามรอยพอ่ สานตอ่ ที่พ่อทำ� ” ณัฐพร สจุ ติ ะพันธ์ โรงเรียนหาดใหญว่ ิทยาลัยสมบูรณ์กลุ กันยา จ.สงขลา แค่ได้ยนิ คำ� ว่า “ในหลวง” เรากค็ งจะนกึ ถงึ พระมหากษตั รยิ ์ทท่ี รงปกครองประเทศไทย แต่หารู้ไม่วา่ พระองค์ไมไ่ ดเ้ ปน็ แค่กษตั รยิ ์เพยี งเท่านน้ั แตพ่ ระองคท์ รงเป็นพ่อคนท่สี องท่ี ทรงดแู ลและปกปอ้ งทกุ คน ถงึ เราจะไม่ร้วู า่ สง่ิ ทพ่ี ระองค์ทรงทำ� ให้เรานน้ั มนั มคี า่ มากมาย แคไ่ หน แต่ทกุ คนสามารถรไู้ ดว้ า่ ความดที พี่ ระองคท์ รงทำ� มาทงั้ หมดนน้ั ไม่สามารถบรรยาย ออกมาให้ถึงจดุ สิน้ สดุ ได้เช่นกัน พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราชทรงอทุ ศิ ทง้ั ชวี ติ เพอ่ื ประชาชน หลงั จากพระองคข์ น้ึ ครองราชย์ พระองค์ไดศ้ กึ ษาวชิ ากฎหมายและการปกครองเนอ่ื งจาก ตอ้ งรบั พระราชภาระเปน็ พระมหากษตั รยิ ์ในดา้ นวชิ าภมู ศิ าสตร์และประวตั ศิ าสตร์ ทรงตง้ั พระราชหฤทยั ศกึ ษาเปรยี บเทยี บระหวา่ งประเทศไทยกบั นานาประเทศเกยี่ วกบั พน้ื ฐานและ วัฒนธรรมของแตล่ ะชาติเพอ่ื นำ� มาเปน็ แนวทางปรบั ปรุงแก้ไขประเทศให้เจรญิ พระองค์ ทรงเป็นแบบอยา่ งของผทู้ เี่ สยี สละความสขุ ส่วนตนเพื่อประโยชน์สว่ นรวมอยา่ งแท้จริง ทรงอทุ ศิ พระวรกายเพอื่ บ�ำเพ็ญพระราชกรณียกิจนอ้ ยใหญ่ คอยบําบัดทุกข์บํารุงสขุ ของ ประชาชนมาอย่างตอ่ เนื่องยาวนาน พระองค์ทรงมีความเพียรพยายาม อันเปน็ หนึ่ง ในคุณธรรมจริยธรรมโดยสังเกตจากหลายๆ โครงการพระราชด�ำริท่ีทรงริเริ่มข้ึนล้วน ประสบผลสำ� เรจ็ ได้ด้วย พระวริ ิยะและมีพระราชประสงค์ในการปลูกฝงั ใหค้ นไทยทุกคน มีความเพยี รพยายามและมคี ุณธรรมในการทำ� งานและการใช้ชวี ิต ในหลวงทรงเปน็ พอ่ ของแผ่นดินทปี่ วงชาวไทยให้ความเคารพและรักมากท่ีสดุ เพราะ พระองค์ทรงงานหนักเพื่อประเทศและเพ่ือปวงชนชาวไทยมามาก หรือจะใหก้ ล่าวว่า

๑๓๒ “เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพ่อ”

“เรอ่ื งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพอ่ ” ๑๓๓ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษตั รยิ ์คนแรกในโลกที่ ยอมทุ่มเทและสละเวลาอันมากมายมาชว่ ยเหลอื ประชาชนและประเทศชาติ พระองคไ์ มเ่ คยบน่ วา่ เหนอื่ ย แตก่ ลับกันคือพระองค์ทรงยอมท�ำได้ ทุกอย่างเพื่อให้พสกนิกรชาวไทยไดอ้ ยู่ดีกินดี อยา่ งมคี วามสขุ แม้จะเหน่อื ยและลำ� บากแคไ่ หน พระองค์ก็ไม่เคยลดละความพยายามแตท่ รงงาน ตอ่ ไปด้วยความอดทน ความเพยี ร พระองคป์ ฏบิ ตั ิ ตนดมี าตลอดสามารถเป็นแบบอยา่ งให้คนทงั้ โลก ปฏิบัติได้เช่นกัน และทรงปกครองประเทศด้วย ความต้ังมั่นในทศพิธราชธรรมทำ� ใหป้ ระเทศไทย ของเรามน่ั คงอาจท�ำใหพ้ นื้ ท่ี ๔ จังหวัดภาคใต้ ลดความรุนแรงลงได้ ในหลวงกบั พนื้ ท่ี ๔ จงั หวดั ภาคใต้ซงึ่ มจี งั หวดั ต่างๆ ดังตอ่ ไปน้ี สงขลา ปตั ตานี ยะลา และ นราธวิ าส เป็นพืน้ ทซ่ี ง่ึ มีลักษณะพิเศษ เน่อื งจาก ความหลากหลายในด้านชาติพนั ธุ์ ศาสนา และ วฒั นธรรม ในอดตี ทผ่ี ่านมามปี ัญหาใหญ่ในพน้ื ที่ ๔ จังหวัดภาคใตค้ ือภัยคุกคามจากขบวนการ แบง่ แยกดินแดนพระองค์ทรงตระหนักถึงภัย คุกคามความม่ันคงในพื้นท่ี ๔ จังหวัดภาคใต้ เป็นอยา่ งดี ซึ่งในการเสดจ็ เยี่ยมเยยี นประชาชน ในพนื้ ท่ี ๔ จงั หวดั ภาคใตม้ หี ลายปีกอ่ นนน้ั เปน็ ไป ดว้ ยความยากลำ� บากเพราะในพน้ื ทที่ ม่ี ที ง้ั โจรผ้รู ้าย โจรปล้นสะดม และโจรเรียกคา่ ไถ่ เจ้าหนา้ ท่ี ของรฐั กย็ งั ไม่ค่อยกล้าย่างกรายเขา้ ไป แต่พระองค์ ทรงตระหนกั ถงึ ความทกุ ข์อนั ลกึ ลำ�้ ของประชาชน ทที่ กุ ขเ์ พราะความยากจนแล้วยังต้องมาต้องทุกข์

๑๓๔ “เรอ่ื งเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” กบั ภยั คกุ คามอกี พระองค์จงึ ได้เสดจ็ ฯ มาเยยี่ มเยยี นเพอื่ เปน็ ขวญั กำ� ลงั ใจให้กับประชาชนของพระองคโ์ ดยไม่ทรงหวาดหวัน่ ไมท่ ้อถอยต่อภยั อนั ตรายใดๆ ดงั นน้ั พระองค์จงึ เป็นทรี่ กั ของประชาชนในพ้นื ท่ี ๔ จงั หวัด ภาคใต้ ไม่ว่าจะนบั ถือศาสนาพุทธ คริสต์ หรืออสิ ลามท่มี ที งั้ ภาษา และ วัฒนธรรมที่แตกตา่ งกันจึงท�ำให้ประชาชนในพ้ืนที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ แสดงถึงความจงรักภักดีและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันเป่ยี มลน้ ในหลวงไดเ้ สดจ็ พระราชดำ� เนนิ มาปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ ในพนื้ ที่ ๔ จังหวัดภาคใตแ้ ละได้พระราชทานแนวทางการแกป้ ัญหาและพัฒนา ในด้านตา่ งๆ ตามโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รมิ ากมายทพ่ี ระองค์ ไดถ้ ่ายทอดวชิ าความรแู้ ละหลักการท�ำงานให้ประชาชนในพื้นที่ได้รู้จัก พึ่งพาตนเองตอ่ ไปในอนาคต และผลท่ีไดจ้ ากการท�ำโครงการอันเน่ือง มาจากพระราชด�ำริยังส่งผลประโยชนไ์ ปสูล่ ูกหลานรุน่ ตอ่ ๆ ไปดัง โครงการในด้านต่างๆ ต่อไปนี้ โครงการดา้ นการพฒั นาแหลง่ น�ำ้ เช่น การบรรเทาอทุ กภยั การทำ� ฝายคลองตาหงา การสร้างคนั กนั้ นำ้� บ้านบารงั การทำ� ระบบระบายนำ�้ และป้องกนั นำ้� เคม็ การปรบั ปรงุ อ่างเกบ็ นำ้� บา้ นสนั ติ ๒ การสร้างฝายลาํ พะยา การท�ำท่อระบายน�้ำปลายคลองลาน ฯลฯ โครงการดา้ นการเกษตร เช่น การเกษตรเพอ่ื อาหารกลางวัน การทำ� การเกษตรทงุ่ ลปิ ะสะโง การสร้างอาคารบงั คบั นำ�้ คลองตอื งอ ฯลฯ โครงการ ด้านการสง่ เสริมอาชีพ เชน่ การส่งเสริมการเล้ียงแพะ การทดลอง การเลี้ยงปลาน�้ำกร่อย ฯลฯ โครงการด้านสิ่งแวดลอ้ ม เช่น การสรา้ ง ถนนสายสะพานเบตงบา้ นวงั ไทร ๒ การจดั ตงั้ ศูนยศ์ กึ ษาธรรมชาติปา่ ชายเลนยะหริง่ ฯลฯ โครงการด้านคมนาคมการสอ่ื สาร เชน่ การติดต้ัง สถานตี รวจวดั สภาพอากาศอตั โนมตั ิ การกอ่ สร้างเส้นทางบา้ นคอกชา้ ง- บ้านซาไก เป็นต้น โครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริทกุ โครงการ ลว้ นมีคุณประโยชน์ตอ่ ประชาชนเป็นอย่างย่ิงเน่ืองจากเป็นโครงการ

“เรื่องเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” ๑๓๕ เพ่อื พัฒนาคุณภาพของประชาชนในทกุ ๆ ด้านท�ำให้ประชาชนพน้ จากความทกุ ขย์ ากและใช้ชวี ติ อยอู่ ย่างร่มเยน็ เป็นสขุ มคี ณุ ภาพชวี ิต ทดี่ ี ในหลวงกบั การทรงงานของพระองค์ พระราชกรณยี กจิ ทกุ อยา่ ง ตามโครงการพระราชด�ำริทั้งนอ้ ยใหญใ่ นพ้ืนท่ี ๔ จังหวัดภาคใต้ พระองค์ทรงสามารถเผชิญกับภาระอันหนักแตพ่ ระองคก์ ็ไมท่ รง สะทกสะท้านหวั่นไหว ไมท่ รงคาดการณล์ ่วงหน้าว่าจะส�ำเร็จหรือ ล้มเหลว แต่ทรงมพี ระราชหฤทยั จดจ่อกบั งานทที่ ำ� และทรงงานอยา่ ง เป็นระบบและมเี หตผุ ล ซงึ่ เหน็ ไดจ้ ากพระราชดำ� รเิ พอ่ื การแก้ปญั หาใน พนื้ ท่ี ๔ จงั หวดั ภาคใตใ้ นหลายๆ กรณี เชน่ แนวพระราชดำ� ริ เขา้ ใจ เข้าถึง พัฒนา หลักความเขา้ ใจคือเขา้ ใจปัญหาประชาชน เขา้ ใจ งานที่ปฏิบัติ เข้าถึงคือเข้าถึงทุกพ้ืนที่ เขา้ ถึงจิตใจของประชาชน และพัฒนาคอื พฒั นาในทุกดา้ นควบคกู่ นั ไป กำ� หนดเป้าหมายการ พฒั นาอย่างชดั เจน เพราะการเข้าใจและการเข้าถงึ ประชาชนในพน้ื ท่ี ตอ้ งดูวา่ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนในพ้นื ทเี่ ปน็ อยา่ งไร เพราะ ร้อยละ ๘๐ ประชาชน เปน็ คนมสุ ลิมนบั ถอื ศาสนาอสิ ลาม เมอ่ื เข้าใจ และเข้าถึงชีวิตความเป็นอยูข่ องคนในพ้ืนที่ ๔ จังหวัดภาคใตแ้ ลว้ พระองคก์ ็พัฒนาคนในพ้ืนที่กอ่ นด้วยการสรา้ งจิตส�ำนึกให้ ประชาชนไดเ้ ห็นคุณค่าและประโยชนใ์ นสิ่งที่ท�ำและในการพัฒนา ตง้ั อยบู่ นพนื้ ฐานวฒั นธรรมความเป็นอย่ขู องประชาชนเพราะพระองค์ มีพระราชประสงค์ที่จะหาข้อมูลที่แท้จริงจากผูท้ ่ีอยู่ในพื้นที่ ๔ จงั หวดั ภาคใตเ้ กย่ี วกบั ปัญหาตา่ งๆ และพระองคย์ งั ทรงสงั เกตการณ์ และสำ� รวจสภาพทางภมู ศิ าสตร์ไปพรอ้ มๆ กนั เพอ่ื นำ� ข้อมลู ทงั้ หมด ใช้ส�ำหรับพระราชทานแนวทางเพ่ือการด�ำเนินงานโครงการ พระราชดาํ รติ อ่ ไป ซงึ่ แสดงให้เหน็ ถงึ หลกั การทำ� งานทเ่ี ปน็ ไปอยา่ ง

๑๓๖ “เรื่องเลา่ จากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ละเอียดรอบคอบดว้ ยความสามารถและขยันท�ำใหเ้ ป็นผู้มีอัจฉริยะ ทส่ี ามารถแก้ไขปญั หาตา่ งๆ ให้บรรลผุ ลสำ� เรจ็ ได้ การดำ� เนนิ โครงการ อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� รใิ หเ้ ป็นไปตามแนวพระราชดำ� รแิ ละบรรลุ วัตถุประสงคน์ ั้น ซ่ึงมีหลักการส�ำคัญคือมุ่งชว่ ยเหลือแก้ไขปัญหา เฉพาะหน้าที่ราษฎรก�ำลังประสบอยู่ในขณะนั้น ถือเป็นการแกไ้ ข อย่างรบี ด่วนและจะมผี ลในระยะยาวตอ่ ไป แต่การพฒั นาต้องเปน็ ไปตามขนั้ ตอน เพราะพระองค์ทรงเน้นการพฒั นาทส่ี ร้างความเขม้ แข็งให้กับประชาชนในพ้ืนท่ีในลักษณะของการพึ่งพาตนเองโดย ชว่ ยเหลือตามความจ�ำเป็นและเหมาะสมกับสถานภาพ เพื่อให้ ประชาชนในพนื้ ที่ ๔ จงั หวดั ภาคใตส้ ามารถพงึ่ ตนเองได้และประกอบ อาชีพไดผ้ ลส�ำเรจ็ และมปี ระสิทธภิ าพ พระองคต์ ระหนกั อยูเ่ สมอว่า ความทุกข์ของประชาชนยอ่ มเปรียบเสมือนความทุกขข์ องพระองค์ จึงไมน่ ่าแปลกใจวา่ ท�ำไมคนในพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใตจ้ ึงมักเห็น ภาพพระพักตรข์ องพระองค์ เต็มไปดว้ ยหยาดเหง่ืออันเป็นผลมา จากความตรากตร�ำ พระวรกายจนประชาชนตา่ งกลา่ วขานกันวา่ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษตั รยิ ์ทที่ รงงานหนกั ทสี่ ดุ ในโลก จงึ ทำ� ให้ ทุกโครงการพระราชดาํ ริส�ำเรจ็ ด้วยดี ในหลวงทรงเป็นแบบอยา่ งและทรงเปน็ แรงบันดาลใจในการ ทำ� งานและการดำ� เนนิ ชีวิตแกพ่ สกนิกรในพ้นื ที่ ๔ จงั หวดั ภาคใต้ ผคู้ นตา่ งประจกั ษ์ถงึ พระอจั ฉรยิ ภาพของพระองคแ์ ละมคี วามสำ� นกึ ในพระมหากรุณาธิคุณเป็นลน้ พน้ อันจะหาที่สุดมิได้ซึ่งแนวคิดและ หลกั การทรงงานของพระองค์นน้ั มคี วามน่าสนใจ มคี ณุ คา่ ทส่ี มควร จะน�ำไปประยุกต์ใช้ในการท�ำงานและการใช้ชีวิตเป็นอย่างย่ิงฉัน คิดว่า หากทุกคนไดป้ ฏิบัติตามรอยเบ้ืองพระยุคลบาท ทุกคนก็ สามารถอยูอ่ ย่างมีความสุขไดเ้ หมือนกัน ฉันเปน็ คนหน่ึงท่ีได้รับ

ระดบั มัธยมศกึ ษา “เรื่องเล่าจากบ้านเรา... ตามรอยเท้าพ่อ” ๑๓๗ แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของพระองคท์ ่ีเกิดจากการที่พระองค์ ทรงห่วงใยประชาชนในพ้ืนท่ี ๔ จังหวดั ภาคใต้ โดยการหาตน้ เหตุ ทกุ ขส์ ุข แล้วนำ� ไปสู่การคน้ หาวิธกี ารแนวทางโครงการแกป้ ญั หาจน บังเกิดผลเปน็ โครงการพระราชด�ำริมากมายอันแสดงใหเ้ ห็นถึง ความอดทนความม่งุ มนั่ ความเพยี รพยายามและความรักท่ีพระองค์ มีตอ่ ประชาชน ตลอดชีวิตของฉนั ทเี่ คยไดร้ บั ทราบข่าวสารจากส่อื ตา่ งๆ ไมว่ า่ จะเป็นหนงั สอื วารสาร โทรทศั น์ หรอื อนิ เตอรเ์ นต็ และ จากการท่ีครอบครัวของฉันเคยประสบความเดือดรอ้ นจากภัยพิบัติ ทางธรรมชาติคือเกิดอุทกภัยครั้งใหญใ่ นอ�ำเภอหาดใหญจ่ ังหวัด สงขลาครอบครัวของฉันยังได้รับการช่วยเหลือจากโครงการใน พระราชด�ำริของพระองค์ ดงั นน้ั พระองคจ์ ึงเป็นแรงบันดาลใจให้ ฉันคิดท่ีจะพัฒนาตนเองใหเ้ ปน็ บุคคลท่ีมีคุณภาพอยูใ่ นตัวและมี คณุ ธรรมอยใู่ นสนั ดาน ฉนั จะเป็นคนทมี่ ีความอดทน มีความม่งุ ม่ัน มีความเพียรพยายามใหเ้ หมือนพระองค์ ฉันจะฝกึ ฝนม่ันศึกษา หาความรู้ใหม้ ีความสามารถท่ีเกิดจากการเรียนรู้ดว้ ยตนเองให้ได้ เพราะฉนั คดิ ว่า “คนเราไม่ได้เกง่ มาตงั้ แต่เกดิ ” เมอื่ ฉนั โตขนึ้ ฉนั จะทำ� งาน และใช้ชีวิตโดยยึดหลักการทรงงานของพระองค์มาปรับใชใ้ นชวี ติ ของฉนั ฉนั ร้สู กึ ภาคภมู ใิ จทไ่ี ดเ้ กดิ มาเปน็ คนไทยทม่ี พี ระมหากษตั รยิ ์ อยา่ งพระองคท์ ค่ี อยดแู ลประชาชน ความรกั ของพระองคน์ น้ั ช่วยสร้าง ขวัญกำ� ลงั ใจให้แกฉ่ นั และประชาชนในพ้นื ที่ ๔ จงั หวดั ภาคใต้ ในหลวงไดจ้ ากพวกเราไปแลว้ แต่ความรกั ความเมตตา และความ ปรารถนาดที ท่ี รงมตี อ่ ประชาชนยงั คงอย่ใู นดวงใจของฉนั และประชาชน ในพ้ืนที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ตลอดไป เชน่ เดียวกับพระราชกรณียกิจ เมอื่ ครง้ั ทพ่ี ระองค์ยงั มพี ระชนมช์ พี อยู่ โครงการในพระราชดำ� รติ า่ งๆ มากมายท่กี ่อร่างสร้างใหพ้ ้นื ท่ี ๔ จังหวัดภาคใต้ปลายด้ามขวาน

๑๓๘ “เรือ่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ของไทยใหเ้ จริญรุง่ เรืองดังท่ีปรากฏอยา่ งชัดเจนแกส่ ายตาของ ทุกคนมาจนถึงทุกวันน้ี และฉันยังคิดอีกวา่ ถา้ หากเจ้าหน้าที่ บ้านเมืองประชาชนในพ้ืนที่และผูท้ ี่เกี่ยวขอ้ งทุกฝา่ ยได้รวมพลัง ความสามัคคีร่วมมือร่วมใจและชว่ ยกันแก้ปัญหาในพื้นท่ี ๔ จังหวัดภาคใตโ้ ดยการสานฝนั ตามรอยพอ่ สานต่อที่พ่อทําโดย อาศยั ยุทธศาสตรพ์ ระราชทานของพระองค์ คอื “เขา้ ใจ เข้าถึง พฒั นา” มาใชอ้ ย่างแท้จรงิ เชือ่ ไดเ้ ลยวา่ ไฟใตท้ ี่ก�ำลงั ลกุ โชนอยู่ใน ขณะนี้จะต้องดับลงอยา่ งแนน่ อน แล้วประชาชนท่ีอยู่ในพ้ืนท่ี ๔ จังหวัดภาคใต้และคนไทยทั้งประเทศก็จะอยูก่ ันอยา่ งมีความสุข ดว้ ยการนำ� หลกั การทรงงานของพระองคม์ าปรบั ใช้ ในการทำ� งาน และการด�ำเนินชวี ติ ต่อไป

เร่ืองสั้น ระดบั อดุ มศึกษา และประชาชนท่วั ไป

๑๔๐ “เร่อื งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพ่อ” “พระเจ้าตายแลว้ ” การียา ยูโซ๊ะ รางวลั ชนะเลศิ จ.นราธิวาส ๑. ฤดรู อ้ นแล้ง แดดยามเทยี่ งวนั สาดแสงผ่านชอ่ งวา่ งระหว่างกิง่ กา้ นและใบไม้สเี ขยี ว อมนำ�้ ตาลซดี ลงกระทบพนื้ ดนิ เปน็ จดุ สเี หลอื งอรา่ ม กล่มุ ลมในฤดรู อ้ นพดั ฝ่นุ ตลบคล้งุ อยูใ่ นมวลอากาศร้อนจัดราวกับพระอาทิตย์พิโรธ ความร้อนแผ่ซ่านอยู่ทั่วบริเวณจน น่ารำ� คาญ เสยี งลมปนไอร้อนพดั ดงั ว่ๆู อย่เู ป็นระยะ สลบั กบั เสยี งกรอบแกรบของต้นไม้ ทยี่ นื ตน้ ตายอยา่ งน่าเวทนา บางตน้ ทรี่ ่อแรจ่ ะตายไมต่ ายแหล่กเ็ อนเอยี งโยกไหวไปตาม แตแ่ รงลมจะพดั พา เราพอมีที่ดนิ ท�ำกินอยู่บ้าง แต่มันกท็ เุ รศทรุ งั ถกู ปล่อยทิ้งไว้นานจนไม่เหลือสภาพ พอ่ ยอมทิ้งร้างทีด่ นิ ท�ำกินผนื เดียวทม่ี ีอยู่ แล้วออกไปท�ำงานในเมืองท่หี ่างจากตัวบา้ น ราวสามสิบกิโล นั่นคือทางเลือกที่พ่อท�ำโดยได้รับความเห็นชอบจากแม่ พอ่ ไม่ใช่ คนเดยี วทที่ ำ� อยา่ งนนั้ แวมะเพอื่ นสนทิ ของพ่อกท็ ำ� งานทเ่ี ดยี วกนั เราอยกู่ บั ความลำ� บาก มานานพอจนไม่รสู้ กึ วา่ มนั เปน็ สิ่งนา่ กลัวอะไร เหมอื นเปน็ คำ� สาป ป่เู คยเล่าว่าที่ดนิ ผนื น้ปี ลกู อะไรไมเ่ คยไดผ้ ล ผนื ดินแตกระแหง แหง้ กรงั ไปสดุ สายตาอาณาบรเิ วณ พ่อเชอ่ื ว่าเป็นคำ� สาปอย่างทป่ี ่บู อกและไม่ยงุ่ เกย่ี วกับ ทดี่ นิ ตอ้ งคำ� สาปนนั้ อกี หลงั จากป่ตู าย ทดี่ นิ แถบนนั้ กร็ กเรอ้ื กลายเปน็ ปา่ รกด้วยเศษไม้ผุ กองทับถม มีเพียงถนนดินแดงผิวขรุขระไม่เป็นพ้ืนระดับตัดผา่ นข้ึนไปยังภูเขาหลัง

ระดบั อดุ มศกึ ษาและประชาชนทั่วไป “เรื่องเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพอ่ ” ๑๔๑

๑๔๒ “เรือ่ งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” หมบู่ ้าน ไม่มีใครแยแสสนใจท่ีดินผืนนน้ั นอกจากใช้เป็นทางเท้าสัญจรเชื่อมต่อภูเขา กับหมู่บ้านเท่าน้นั เราอยอู่ ย่างลำ� บากแรน้ แค้น ทท่ี างทำ� กนิ ถกู ยดึ จากอำ� นาจลกึ ลบั บางอยา่ ง พ่อเชอ่ื อยา่ งนั้น แต่ผมไม่!! เราไม่เคยเห็นตรงกันถึงเรื่องค�ำสาปลึกลับของใครก็ไมร่ ู้ท่ีพอ่ หมายถงึ เราเถยี งกนั ทกุ ครง้ั ทพี่ ดู ถงึ เรอ่ื งนี้ หลายครงั้ รนุ แรงถงึ ขน้ั ขนึ้ เสยี งใส่อารมณ์ ต่อกนั แต่ผลคอื เราต่างเงยี บและแสรง้ ทำ� เปน็ ลมื เรอื่ งทเี่ กดิ ขนึ้ ในอกี วนั เหมอื นไม่เคย เกิดข้นึ มาก่อน หากในใจยังคกุ รุ่นอยูต่ ลอดเวลา ทกุ คร้ังที่เถยี งกันพอ่ จะบอกเสมอ ว่าไมใ่ ชแ่ คเ่ ราท่ลี ำ� บากและอดอยาก คนอื่นกด็ ้วย ปดิ ทา้ ยด้วยการยืนยนั วา่ ท้งั หมด เป็นฝีมอื ของโต๊ะบเู กะ๊ ทส่ี าปแช่งให้ผนื ดนิ บรเิ วณนอ้ี นั เป็นทท่ี างทำ� กนิ ของครอบครวั เรา รวมถึงที่ดินทุกตารางน้ิวในหมู่บ้านแห้งเหือดจนไม่มีท่ีให้พืชสวนงอกเงย “ท้ังหมด เป็นความผิดของแก” พอ่ พูดพลางชีห้ นา้ มาทางผม “แกเปน็ คนเดียวทไ่ี ม่เช่อื และลบ หลูโ่ ต๊ะบเู ก๊ะ ท้งั ทีแ่ กกร็ ู้ว่าจะทำ� ใหห้ มบู่ า้ นเราเกิดหายนะ” ผมรู้วา่ พอ่ ตอ้ งพดู แบบ นน้ั และไมม่ สี ิทธแ์ิ ก้ตัว ทุกคนเชือ่ แบบนนั้ แม้แต่แม่เองกใ็ ช่ ๒. ความแห้งแล้งรนุ แรงหนกั กว่าทกุ ปที ผี่ า่ นมา พ่อพดู วา่ “เราต้องทำ� อะไรสกั อย่าง โต๊ะบเู ก๊ะโกรธเรา เรากำ� ลงั จะอดตาย พชื ผลทปี่ ลกู กต็ ายไปทลี ะตน้ สองต้นจนไม่พอ จะกินอยแู่ ลว้ ” ที่ดนิ ผนื เดยี วของเรา ของแวมะ จยิ า ปะจู และของคนอ่ืนๆ มีแต่ ต้นไม้ที่ยืนตน้ ตาย เราไมม่ ีน�้ำพอใชห้ รือแมแ้ ต่จะใชก้ ลืนกินให้เต็มเฮือกในฤดูร้อน แลง้ เช่นน้ี เราหลงลืมพระเจ้าที่เคยปฏิญาณตนสยบยอมน้อมตนต่อพระองค์ส้ิน ไก่สด เลอื ดแพะ อาหารคาวหวาน และของเซ่นไหวถ้ กู ตระเตรยี มโดยแวมะเพอ่ื นทพ่ี ่อสนทิ ทสี่ ดุ มสั ยดิ กลายเปน็ ทรี่ วมตวั ของชาวบา้ นในการทำ� พธิ ี “ใชม่ สั ยดิ บา้ นของพระเจ้า ไรเ้ หตุผลสิ้นดี” ผมสบถออกมาเพราะความไม่พอใจด้วยเสียงกระซิบปานสายลม แต่ดงั พอทำ� ใหพ้ อ่ กบั แมไ่ ด้ยิน “แกกต็ ้องไป” พอ่ พดู ด้วยนำ้� เสยี งเขม้ ขรมึ แตแ่ ฝงดว้ ยความจรงิ จงั ในความหมาย ผมไม่ใหค้ �ำตอบในทันที แตก่ ลบั ถามว่าทำ� ไมถึงตอ้ งไป และขอเหตผุ ลว่าท�ำไมตอ้ ง เปน็ ผมทตี่ ้องไปทำ� พธิ บี ้าบออะไรนน่ั ในบา้ นของพระเจ้าทต่ี อนนกี้ ไ็ มแ่ น่ใจว่าใชพ่ ระเจ้า องค์เดียวกันที่พวกเขาเคยปฏิญาณตนหรือไม่

ระดบั อุดมศกึ ษาและประชาชนทว่ั ไป “เรอื่ งเล่าจากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพ่อ” ๑๔๓ ไมม่ คี ำ� ตอบทพี่ อเป็นเหตเุ ปน็ ผล มเี พยี งคำ� พดู เสยี ดแทงแกมบงั คบั ว่ายงั ไงกต็ ้องไป “ทกุ คนท่มี ัสยิดรอแกอยู่ เขาทกุ คนรอแกอย”ู่ “ทุกคนร้วู ่าแกคือต้นเหตขุ องเรอ่ื งท้ังหมดพวกเขาจะตายถ้าแกไมไ่ ป” ๓. แมเ่ ริม่ สะอื้นไห้ เม่อื เหน็ ท่าทีแข็งกรา้ วของผม การท�ำให้บุพการีร้องไหเ้ สยี น�้ำตา คือบาปหนา ตามค�ำสอนของพระเจ้า ผมระลกึ ถึงส่งิ นอี้ ยูเ่ สมอ แม่ออ้ นวอนขอให้ ผมไป ปลอบว่าแคไ่ ป ไมต่ อ้ งทำ� อะไรทง้ั นน้ั แค่ไปอยใู่ นพธิ ี ทกุ อย่างจะจบและเสรจ็ สนิ้ แค่นนั้ แม่ออกปากสญั ญาแทนทกุ คนทร่ี อผมอย่เู หมอื นแม่คดิ วา่ ทกุ คนจะคดิ เหมอื นกนั กบั แม่ ความตึงเครียดเริ่มดีขน้ึ เมื่อผมยอมท�ำตามคำ� ท่ีแม่บอกอย่างไม่มีทางเลือกเพอื่ หวงั ใหท้ กุ อยา่ งจบสน้ิ ลงแค่วนั นี้ บรรยากาศภายในลานมสั ยดิ สถานทที่ ำ� พธิ ี ดผู ดิ แผก แปลกตาด้วยอปุ กรณเ์ ซ่นไหว้ ทง้ั อาหารคาวหวาน เครอ่ื งแต่งกาย และผ้คู น พวกเขา ทกุ คนถอื วสิ าสะเชญิ โตะ๊ บเู กะ๊ เขา้ มาในบ้านของพระเจ้าอยา่ งหนา้ ไม่อาย เมอ่ื พธิ เี รมิ่ ผมไม่ตอ้ งทำ� อะไรเหมอื นอย่างทแี่ ม่บอก แตแ่ ม่ไมไ่ ด้บอกทง้ั หมดว่าถา้ ทกุ อยา่ งไมด่ ขี น้ึ ถ้าลูกแพะที่ถูกโยนลงมาจากหลังคามัสยิดไม่ตายในทันที พวกเขาจะเชือดลูกแพะ ตวั นน้ั แลว้ ใหผ้ มตอ้ งเปน็ คนดมื่ เลอื ดแพะแทนเพอ่ื ใหพ้ ธิ เี สรจ็ สมบรู ณ์ โชคดมี นั ไม่ตาย ในทันทีตอนร่างร่วงลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกันหลังทุกคนเห็นว่า มันยังไม่ตาย ถงึ จะชักดิ้นชกั งออยา่ งทุรนทุรายใกลต้ ายแคไ่ หนกต็ าม ชะตามนั ไม่ได้ ถกู กำ� หนดใหต้ ายแบบนนั้ มนั ถกู กำ� หนดให้ตายเพราะคมมดี อนั คมกรบิ ทต่ี ดั หลอดลม ขาดในช่วั พริบตา ผโู้ ชคร้ายรายทสี่ องคอื ผม ผมต้องด่ืมเลือดทีเ่ พ่งิ ไหลออกมาจากร่างของลกู แพะ โชครา้ ยตัวนั้น เลือดสีแดงสดมกี ลิน่ เหม็นคาวชวนคล่นื เหยี น ทกุ อยา่ งไมเ่ ป็นอยา่ งท่ี แม่พดู เลยสกั นดิ คำ� สญั ญาของแมไ่ มม่ คี วามจรงิ เลยแมแ้ ต่น้อย ถ้าแม่พดู ความจรงิ ออกมาอยา่ งทแี่ ม่ควรพดู ออกมาบา้ ง ไม่มที างเลยทผี่ มจะยอมแมแ้ ตก่ ้าวขาออกมาจาก บ้านเพอ่ื มายงั ลานพธิ อี ะไรนี่ ปญั หาไมใ่ ชแ่ ค่นน้ั ผมอาจจะตอ้ งดม่ื เลอื ดแพะทกุ ๆ ปี หลังจากนีห้ ากผลยงั ไม่เป็นไปอย่างทพี่ วกเขาต้องการ ผมเรม่ิ ขัดขนื ชายหนุ่มรา่ งกำ� ยำ� สวมหมวกกาปเี ยาะสี่หา้ คน หนึ่งในนนั้ คอื พอ่ ของผมเองชว่ ยกันจับเพื่อไม่ให้ผมขัดขืน ลานพิธีวุน่ วายเม่ือผมไม่ยอมท�ำอยา่ งที่

๑๔๔ “เรอื่ งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเท้าพอ่ ” ควรทำ� ตามลำ� ดบั ขน้ั ของพธิ บี ชู าโต๊ะบเู กะ๊ ผมดนิ้ จนสดุ แรงทม่ี ี อาศยั จงั หวะทห่ี ลดุ จาก พนั ธนาการของมืออนั หยาบกระดา้ งนา่ รงั เกียจเหลา่ นน้ั ควา้ ไมฟ้ ืนไฟขนาดเทา่ แขน ฟาดเหวี่ยงอย่างไม่รู้จังหวะใสใ่ ครก็ตามที่ขยับเข้าประชิดตัว กลุม่ คนแตกฮือ กระจัดกระจาย ผมรูส้ ึกเหมือนคนสติแตกไมต่ ่างกับลูกแพะตัวน้ันท่ีตกเปน็ เหย่ือ ความโหดเห้ียมของชาวบา้ นทุกคน เราเหมือนกันเพราะหวาดกลัวการถูกกระท�ำ ผมกลายเป็นไอง้ ั่งบา้ ในสายตาของทุกคนในลานพิธไี ปแล้ว ทา่ มกลางความโกลาหล วุ่นวาย หางตาผมแวบเห็นบางอย่างฟาดมาอย่างแรงและรวดเร็ว เสียงดัง “ป๊อก” เพียงคร้ังเดียวผมถึงกับหงายตึง ไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดหรือแม้แต่ความวุ่นวายท่ี ก�ำลังเกิดขนึ้ อกี ๔. ผมกลายเปน็ สงิ่ บชู ายญั โตะ๊ บเู ก๊ะผทู้ คี่ ลา้ ยจะเปน็ พระเจ้าองคใ์ หม่ของชาวบา้ นทกุ คน อยา่ งจ�ำนน ไมเ่ คยมีค�ำอธิบายต่อการเปน็ เครื่องสังเวยความอดอยากอันไรเ้ หตุผล ของคนในหม่บู ้าน ผมอยูใ่ นฐานะเครอื่ งเซ่นสงั เวยทมี่ ีชวี ิตตอ่ โต๊ะบูเกะ๊ มานานหลายปี เลอื ดแพะถกู กรอกใสป่ ากผมในทกุ ฤดรู ้อนของทกุ ปีอย่างไม่มที างขดั ขนื พ่อกบั แม่รบั เปน็ ธุระจัดการเร่ืองนี้อยา่ งไมข่ าดตกบกพรอ่ ง ผมสูญเสียชีวิตอิสระและการทรงตัว ด้วยก�ำลังขาทั้งสองขา้ งของตัวเองต้ังแตว่ ันนั้น จากพิธีบูชาโต๊ะบูเก๊ะครั้งแรกและ ครั้งเดียวท่แี มข่ อใหผ้ มไป มนั ลงเอยอย่างทีผ่ มก�ำลงั เผชญิ ไม่มีคนผดิ และไม่มีใคร กลา่ วโทษคนที่ตีหัวผมจนสลบลม้ ฟุบลงกองกับพ้ืนในวันน้ันจนกลายเปน็ แบบนี้ ใช!่ ! ผมขอยนื ยนั ว่าเป็นอยา่ งทผ่ี มกำ� ลงั เผชญิ อย่อู ย่างทกุ ขท์ รมาน ทกุ คนลงมตคิ วามคดิ เหน็ อย่างเปน็ เอกฉนั ทว์ า่ มันคอื บทลงโทษของคนท่ไี มเ่ ชอ่ื ฟงั และลบหลโู่ ตะ๊ บูเก๊ะต่างหาก ไมม่ ใี ครรถู้ งึ สาเหตทุ แ่ี ท้จริงของความล�ำบากทุกข์ยากและแหง้ แล้งที่เกิดขึน้ ท้ังท่ี เรามแี หล่งน�้ำพอแกก่ ารอปุ โภคบริโภค ทกุ คนหลบั หูหลบั ตาเชอื่ แตว่ า่ เปน็ เพราะโต๊ะ บเู ก๊ะเปน็ ผสู้ าปแช่ง ผมกลายเปน็ เหยอื่ ความโง่เขลาของพวกเขาอย่างเลยี่ งไมไ่ ด้ ผม ไมร่ ูว้ ่าความจรงิ เป็นเพราะความไม่รู้ ความไรเ้ หตุผลในการจัดการตวั เอง หรอื เพราะ เราไมม่ ีความเขา้ ใจตอ่ สภาพแวดลอ้ มภายในหมูบ่ ้านของตัวเองกันแน่ เช่ือผมเถอะ วา่ ท่กี ล่าวมาลว้ นมสี ่วนดว้ ยกันทัง้ หมด ผมไมร่ บั ร้เู รอ่ื งราวทเี่ กิดขน้ึ ขา้ งนอกบ้านมานานโข ถ้าพ่อกบั แมไ่ ม่เลา่ อะไรให้ฟัง ผมก็ไม่มีทางรับรู้ความเป็นไปข้างนอกนั่นเลย ผมรู้แต่เพียงเวลาท่ีเดินไปข้างหนา้ ตลอดเวลาและรบั รู้วา่ ชีวิตก�ำลงั เดนิ ถอยหลังลงหลมุ ตลอดเวลาเชน่ กัน ภาพกลมุ่ ชน

ระดับอดุ มศกึ ษาและประชาชนท่ัวไป “เร่อื งเลา่ จากบา้ นเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ๑๔๕ ในพธิ บี ูชาโตะ๊ บเู กะ๊ เมอื่ หลายปกี อ่ นยังเคลอื่ นไหวปรากฏชัดในความทรงจำ� บาดแผล ทเ่ี กดิ จากความไมร่ โู้ ดยไม่คดิ จะรบั รสู้ ำ� หรบั ผมมนั หนกั หนาเกนิ กว่าจะใหอ้ ภยั ขณะทก่ี ารสงั เวยดว้ ยเลอื ดแพะยงั ถกู ลำ� เลยี งลงคอผมทกุ ปี ทกุ อยา่ งไม่มที ที า่ ดขี นึ้ เลยแมแ้ ตน่ อ้ ย ความหวังทพ่ี วกเขามตี อ่ โต๊ะบูเก๊ะเหมอื นควนั ท่ีคอ่ ยๆ จางจนหายลบั ไปในทีส่ ุดผมแอบหัวเราะและสมน้ำ� หน้าชาวบา้ นทุกคนอย่างสะใจ ๕. ใครบางคนปรากฏตัวท�ำในสิ่งที่ผมคิดแต่ไม่เคยมีโอกาสได้พูด ดว้ ยเหตุผลที่ต้ัง อยู่บนความไร้สิทธ์ิ เขามเี หตผุ ลและความเข้าใจที่มากพอ มากกวา่ ทกุ คนท่ที ำ� ใหผ้ ม ตกอยู่ในสภาพน่ารังเกียจแบบนี้ ไมม่ ใี ครรวู้ า่ เขาเปน็ ใครมาจากไหน แม่บอกวา่ เขาพูดกนั คนละภาษากับเรา ไมม่ ี ใครรูจ้ ักเขาเลย สักคน บางคนบอกวา่ เคยเห็นเขาในรายการโทรทัศน์ ดว้ ยความ เคารพ บา้ นผมยงั อาศยั แสงสสี ม้ จากตะเกยี งและเทยี นไขไลค่ วามมดื อยทู่ กุ คนื โทรทศั น์ ยงั เป็นเร่ืองไกลตวั เกินไป ถึงพอจะรจู้ กั โทรทศั นห์ รือเคยเห็นหน้าค่าตาพระเอกละคร หลงั ข่าวมาบ้าง แตก่ ย็ งั นกึ ไมอ่ อกว่าเขาทแ่ี มแ่ ละชาวบ้านพดู ถงึ หนา้ ตาเปน็ ยงั ไง ไมม่ อี ะไรนา่ ตน่ื เตน้ นอกจากความแปลกหนา้ ตอ่ กนั ทพี่ อจะทำ� ใหเ้ ราสนใจอยากรู้ อยากเหน็ อะไรข้ึนมาบา้ ง คร้ังเดียวกเ็ พยี งพอ การมาเพยี งคร้งั เดียวเพยี งพอท�ำให้ทกุ อย่างเร่ิมดีขนึ้ อย่างท่ี ควรจะเปน็ ต้นไม้ ผืนดิน ผคู้ น ถึงจะไม่ดีขึน้ รวดเร็วเหมอื นเสกดว้ ยเวทมนตรค์ าถา แตเ่ พียงพอท�ำใหโ้ ตะ๊ บูเกะ๊ ผู้เปน็ ท่ีพ่ึงของชาวบา้ นและไม่เคยชว่ ยอะไรพวกเขาได้เลย กลายเปน็ ต�ำนานเรื่องเลา่ ทค่ี ่อยๆ หายไปพร้อมกบั อา่ งเก็บน�้ำทถ่ี ูกสร้างข้ึนบนภเู ขา หลงั หมบู่ า้ น การมาเพียงครั้งเดียวของเขาชว่ ยชวี ิตทกุ คนทที่ �ำใหผ้ มเป็นแบบนี้ เขาท่ี ไม่เคยพดู ภาษาเดยี วกบั เรา ช่วยชวี ติ ชาวบ้านทกุ คนแตไ่ ม่ใช่ผม ผมตายแลว้ ผมถกู ฆ่า ตายตงั้ แต่วันทำ� พิธีบชู าโต๊ะบูเกะ๊ นน่ั แล้ว ไมม่ ีใครรวู้ า่ ผมตาย ไม่มใี ครสนใจผมกบั โต๊ะบเู ก๊ะอกี “เราตายแลว้ ” หมายเหตุ: *โต๊ะ หมายถงึ เจ้าพอ่ , เจา้ แม่ *บเู ก๊ะ หมายถงึ ภเู ขา *โตะ๊ บูเก๊ะ หมายถงึ เจ้าพอ่ ภูเขา, เจ้าแมภ่ เู ขา

IMAGE

ระดับอดุ มศกึ ษาและประชาชนทั่วไป “เรือ่ งเลา่ จากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พ่อ” ๑๔๗ “ชีวิตทีเ่ กิดใหม่” อนสุ รณ์ ศรคี ำ� ขวญั รางวัลรองชนะเลศิ อันดับ ๑ จ.นราธิวาส ทา่ มกลางเสียงหวั เราะครนื แข่งกบั คล่ืนกระทบฝง่ั หน้าเวทกี ารแสดง ริมชายหาด ของเกาะยาว อ.ตากใบ จ.นราธวิ าส ผคู้ นท่หี วั ร่อน�ำ้ หนู �้ำตาไหลจากทา่ ทางชวนขันของ ชายในชดุ ลายขวางใบหน้าขาวโพลน ตา่ งไม่รเู้ ลยว่า ภายใต้การแสดงทเี่ งยี บใบน้ นั้ มเี สยี ง สะอ้ืนอกตรมระงมอยู่ และภายใตอ้ ิริยาบถที่เรียกความครื้นเครงมีแตค่ วามมุ่งหมายที่ อยากตาย ‘อ๊อด’ เปน็ นกั แสดงละครใบค้ ณะ ‘ไทยละครใบ้ คนหน้าขาว’ วา่ โดยเฉพาะเจ้าของคณะ ผู้ซ่ึงเปน็ ครูสอนละครใบ้ล�ำดับต้นๆ ของเมืองไทยมีความรูส้ ึกอันดีกับพ้ืนท่ีสามจังหวัด ชายแดนภาคใตอ้ ยไู่ ม่น้อย เพราะทกุ คร้งั ที่เดนิ ทางมาจากกรงุ เทพมหานคร เขามกั เจอ รอยยิ้ม ทั้งจากแม่ค้าในตลาดเช้า ลกู ค้าในรา้ นน้�ำชา ชาวบา้ นทอ้ งถ่ิน และอ่มิ เอมใจด้วย ธรรมชาตปิ า่ ไม้ ทะเล ภูเขา อย่เู สมอ ฉะนน้ั หากได้รับการเช้ือเชญิ ให้มามอบความสขุ แก่ ผคู้ นในพื้นที่ เขาไม่มีปฏเิ สธ นอกจากจะติดภารกิจลว่ งหน้าอย่กู ่อนแล้ว แตส่ ำ� หรบั อ๊อดที่ แห่งน้ี คือ ดินแดนแหง่ ความตายดินแดนแหง่ การกอ่ การรา้ ย อยา่ ได้ยกแง่งามใดมา ชักชวน เพราะปักใจเชอื่ เหลือหลายว่า สิ่งเหลา่ นน้ั เปน็ เพยี งการจัดฉาก ดว้ ยเหตุนี้ การท่ี อย่ๆู เขาเสนอตวั รบั งานแสดงให้เด็กและชาวบา้ น อ.ตากใบ ได้ชมในวันฉลองหอ้ งสมุด ประชาชนแห่งใหม่แทนครูโดยไม่ไขวแ้ ขนเป็นรูปกากบาท พร้อมกลา่ ว “ไม่ต้องหันมา ทางผม” เหมอื นครงั้ ไหนจึงเป็นท่ีแปลกใจของครู และพีๆ่ ในคณะยิง่

๑๔๘ “เร่ืองเลา่ จากบ้านเรา... ตามรอยเทา้ พอ่ ” เม่ือซักไซ้ไล่เรียงให้ไดค้ วามวา่ ‘เพราะรักล่ม เธอคนนั้นเดินจากไปกับชายคนใหม่ ท่ีหลอ่ ที่รวยกว่า ปล่อยออ๊ ดใหจ้ มอยู่กบั ความหวงั ท่ีวาดไว้รางๆ เพยี งล�ำพงั ทง้ั ๆ ทเ่ี คย สญั ญาวา่ จะรว่ มสรา้ ง รว่ มสไู้ ปดว้ ยกนั สู้จนกระท่ังอ๊อดมชี ่ือเสียง ไดเ้ ป็นศลิ ปนิ หนา้ ขาว ช้ันแนวหน้าของเมืองไทยตามรอยครูฉะนั้นการขาดเธอไป จึงเหมือนจบแลว้ ทุกอยา่ ง หนทางขา้ งหนา้ มามดื บอด ไรเ้ หตุผลที่จะด�ำรงชวี ิตอยู่ การลงพน้ื ทสี่ ามจังหวดั ชายแดน ภาคใต้ จงึ เหมาะยง่ิ เพราะเขาพรอ้ มแลว้ ทจ่ี ะตาย’ ครูชมเปาะว่า เปน็ ความคิดทด่ี ีเลศิ สนับสนุนใหล้ งไปตายได้เต็มที่ แต่ขอรอ้ ง สร้าง เสยี งหวั เราะแกช่ าวบ้านก่อนแล้วคอ่ ยไปหาทท่ี งิ้ ชวี ติ ตวั เอง โดยอาจจะถามเส้นทางเปลยี่ ว จากใครในพืน้ ที่สักคนเม่อื แสดงเสรจ็ แล้วเดนิ ดุ่มไปตามลำ� พงั ในยามวิกาลกไ็ ด้ ทุกคนท่ีอยูใ่ นวงสนทนาตา่ งรดู้ ีว่า ครกู ล่าวประชดแดกดนั เพราะเชื่อว่าบรรดาคนใจ ศิลปินทงั้ หลายให้พรำ�่ พดู สอนเท่าไหร่ ยอ่ มสญู เปลา่ ไมม่ ีทางสะกิดต่อมส�ำนึกรสู้ กึ ตวั มีแตป่ ระสบการณ์การเดินทาง และการท�ำงานเท่าน้นั ที่จะเยยี วยาได้ แตอ่ อ๊ ดกลบั เช่ือค�ำ อย่างม่ันแนน่ “ครับ ผมจะไม่ท�ำใหค้ รเู ส่อื มเสยี ” ‘กด็ ี ที่มนั ไมค่ ิดจะฆ่าตัวตาย กอ่ นมาบอกเรา’ เสียงครูพมึ พ�ำ ดง่ั คำ� มนั่ บนเวทกี ลางแจง้ ทป่ี กคลมุ ดว้ ยเงาสนของเกาะยาว ออ๊ ดปลดปลอ่ ยความเปน็ คนหนา้ ขาวออกมาอยา่ งถึงบท ถา่ ยทอดความสุข สนกุ ใหผ้ คู้ นรอบด้านเหมือนความรสู้ ึก น้นั มีล้นอย่ใู นกาย แตใ่ ครตรงนน้ั กลบั ไม่รู้เลยวา่ นีม่ ใิ ช่ความสุขทล่ี ้นตัว แตข่ อดออกมา จากใจจนหมดสิน้ ตา่ งหาก การแสดงของอ๊อดไรท้ ่ีติ ด้านหนงึ่ ผ้นู ำ� ชุมชน ทงั้ ชมและขอบคณุ “ครเู ชียร” ครจู ิตรกร อสิ ระในพืน้ ที่ไม่ขาดปาก ทีเ่ ป็นธุระติดต่อคนหน้าขาว มาสร้างเสยี งหัวเราะใหถ้ ึงถน่ิ จบการแสดง ยงั มีเวลาตลอดบา่ ยอีกหลายชัว่ โมงกวา่ จะคำ่� ครเู ชียร ผ้ซู ่ึงเปน็ เพอ่ื น กบั เจ้าของคณะไทยละครใบ้ฯ(แนน่ อนย่อมไดร้ ับขอ้ ความพเิ ศษ ให้ช่วยหาวิธเี ยยี วยาใจ