89 4. เงอ่ื นไขคามรู้ 4.1 เงอ่ื นไขความรู้ - มคี วามรอบรใู้ นเรื่องของทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ในท้องถิ่น ประเทศและ โลก - รู้สาเหตุและปญั หาของการทาลายทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถ่นิ ประเทศ และโลก - รู้วิธีการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มใหส้ มดลุ - สง่ ผลกระทบคุณภาพชีวติ เศรษฐกจิ และสงั คมของทอ้ งถน่ิ และประเทศใหน้ ้อยท่ีสุด 4.2 เงอ่ื นไขคณุ ธรรม - มีความเพยี ร ความอดทนทจ่ี ะช่วยกันอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาตแุ ละสง่ิ แวดลอ้ มอย่าง สมดุล รู้จักแบง่ ปนั ทรัพยากรธรรมชาตใิ นชมุ ชนอย่างเหมาะสม และพอเพยี ง ความไม่ เหน็ แกต่ ัว ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม เสยี สละต่อส่วนรวม - ประหยดั ในการใช้ทรัพยากร - ใช้สตปิ ัญญาประยกุ ต์หลกั แนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการักษาสมดุลธรรมชาติ อย่างต่อเนอ่ื งมั่นคง และยงั่ ยนื
90 ใบงาน1 แผนภาพปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ช่อื /นามสกุล................................................ ระดับชนั้ ............รุ่น........เลขที.่ .................... 1. สรปุ แผนภาพ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
91 ใบงาน2 กรณศี กึ ษา ชื่อ/นามสกุล................................................ ระดบั ชน้ั ............รุ่น........เลขท่ี..................... สุกญั ญา ตอ้ งการไปเยยี่ มเพ่ือนทป่ี ่วยด้วย โรคเบาหวาน มอี าการไขมันอดุ ตนั และความดันโลหิตสูง นอนป่วยอยทู่ ีบ่ ้าน โดยมีงบประมาณจานวน 1,000 บาท และตอ้ งการซ้ือของ จานวน 6 รายการ เพอ่ื เยย่ี ม เพือ่ น สุกัญญาควรจะซือ้ ของอะไรไปเยี่ยมเพ่ือนท่ปี ว่ ยจงึ จะดแี ละเหมาะสม ประเดน็ อภปิ ราย 1. เขียนรายการของจานวน 6 รายการ ที่สุกัญญาจะซอื้ ไปเยีย่ มผู้ปว่ ย 1. 2. 3. 4. 5. 6. 2. วิเคราะหห์ ลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งกบั วธิ ีการคดิ และการกระทาของสกุ ญั ญา ความพอประมาณ ................................................ ................................................ ............................................. ................................................ มเี หตผุ ล ........... มภี มู คิ มุ้ กนั ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ............................................. ............................................. ................................................ ................................................ ........... ...........
92 เงอ่ื นไขความรู้ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม
แบบบนั ทกึ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรจู้ าก 93 ละคร พอเพยี งตามแนวคดิ ของพอ่ ช่ือ/นามสกลุ ................................................ ระดบั ชั้น............ร่นุ ........เลขที่..................... สงิ่ ทนี่ กั เรยี น ไดเ้ รยี นรู้ ความรสู้ กึ ความ ประทบั ใจ
94 ใบงาน3 ถอดบทเรยี นจากชวี ติ จรงิ ช่ือ/นามสกลุ ................................................ ระดับช้ัน............รนุ่ ........เลขที่..................... ใหน้ กั เรยี นเลา่ ถอดบทเรยี นชวี ติ ทน่ี กั เรยี นนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรบั ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ ของนกั เรยี น 1 เรอ่ื ง เรือ่ ง พอประมาณ -------------------------------------- -------------------------------------- .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... ................................................... มเี หตผุ ล มภี มู คิ มุ้ กนั .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... ................................................... ................................................... เง่ือนไขความรู้ เงอื่ นไขความรู้ ความพงึ พอใจตอ่ กจิ กรรม ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย
95 หมวดท่ี 4 สรา้ งเสรมิ ทกั ษะการทางาน การดารงชพี และทกั ษะชวี ติ กจิ กรรม 14 ฝกึ การทางาน ทกั ษะทางอาชพี ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง และมวี นิ ยั ทางการเงนิ กจิ กรรมท่ี 4.1 1. ชอ่ื กจิ กรรม นาคณุ คา่ แหง่ การเรยี นรู้ 2. เวลาทใี่ ช้ 10 ชว่ั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. ฝกึ การทางาน ทักษะทางอาชพี 2. รคู้ ณุ ค่าของการทานา 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ศึกษาการทางานของชาวนาจาก Clip VDO 2. ลงพื้นท่ี “แปลงนา ปวช.” ลงมอื ปฏิบตั จิ รงิ 5. สอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. Clip VDO การทางานของชาวนา 2. “แปลงนา ปวช.” 3. แบบบันทึกการการทากจิ กรรม “นาคณุ ค่าแหง่ การเรียนรู้” 6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในเรอื่ งตอ่ ไปน้ี 6.1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 6.1.2 สงั เกตผลงานความสาเร็จ ของกจิ กรรม 6.2 แบบประเมนิ ความพงึ พอใจตอ่ กจิ กรรม 6.3 สอบถามความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกิจกรรมของนกั เรียน 6.4 แบบสรุปส่ิงท่ีนักเรียนได้เรยี นรู้จากการทากจิ กรรม 7. ความพงึ พอใจตอ่ การไดเ้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม “นาคณุ คา่ แหง่ การเรยี นร”ู้ นอ้ ยทส่ี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทสี่ ดุ
แบบบนั ทกึ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรจู้ าก 96 “นาคณุ คา่ แหง่ การเรยี นร”ู้ ชอ่ื /นามสกุล.................................... ระดบั ชน้ั ..........รุ่น.......เลขที่........ สง่ิ ที่นกั เรยี น ได้เรียนรู้ ความรสู้ ึก/ ความประทบั ใจ ความพงึ พอใจตอ่ กจิ กรรม ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ นอ้ ยทส่ี ดุ นอ้ ย
97 หมวดท่ี 4 สรา้ งเสรมิ ทกั ษะการทางาน การดารงชพี และทกั ษะชวี ติ กจิ กรรม 14 ฝกึ การทางาน ทกั ษะทางอาชพี ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง และมวี นิ ยั ทางการเงนิ กิจกรรมที่ 4.2 1. ชอ่ื กจิ กรรม ชวั่ โมงทากนิ 2. เวลาทใี่ ช้ 20 ช่ัวโมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. ฝึกการทางาน ทักษะทางอาชีพ ทรพั ย์สินทางปญั ญา อยู่อย่างพอเพยี ง และมวี ินยั ทางการเงิน 2. ร้คู ณุ คา่ ของตวั เอง 3. รู้คุณค่าของเวลา 4. เห็นคณุ คา่ ของการทางาน 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. เรียนรู้การทาแซนวิส 2. เรยี นรู้การโดนัทจ๋ิว 3. เรยี นรกู้ ารทาขนมบัวลอย 4. เรยี นรู้การทาขนมตม้ 5. เรยี นร้กู ารทาวุน้ 6. เรียนรูง้ านศิลปะเพ่ืองานอาชีพ+ 5. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. วัสดุ อุปกรณ์ ในการทากิจกรรม 2. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ 3. แบบบนั ทกึ การการทากิจกรรม ช่ัวโมงทากนิ 6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 สงั เกตพฤติกรรมนักเรียนในเรอ่ื งต่อไปน้ี 6.1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม 6.1.2 สังเกตผลงานความสาเร็จ ของกจิ กรรม 6.2 แบบประเมินความพึงพอใจตอ่ กจิ กรรม 6.3 สอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้าร่วมกิจกรรมของนกั เรยี น นอ้ ยทส่ี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ 6.4 แบบสรุปสงิ่ ทน่ี ักเรยี นไดเ้ รียนรู้จากการทากจิ กรรม
98 น้ำสลดั -แซนวสิ
99 โดนัทจวิ๋ ตวั ขนม --> ของตกแตง่ สว่ นผสม 1. แป้งผกั กาดแดง/แป้งว่าว 1 1/3 ถว้ ย ถ้วย 2. นา้ ตาลทราย 1/2 ถ้วย ฟอง 3. นมสด 1/2 ชอ้ นชา ช้อนชา 4. ไข่ไก่ 2 ชอ้ นชา หยด 5. ผงฟู 1 6. โยเกริต 2 7. น้ามันถ่ัวเหลือง ¼ 8. กลน่ิ วานลิ า 2-3
100 วธิ ที ำ้ : โดนทั จว๋ิ 2.ร่อนแปง้ ผงฟู เข้าด้วยกนั ใสล่ งในสว่ นผสมขอ้ 1. ตีไข่ น้าตาล ละลาย ให้เขา้ กนั 3. ตีใหส้ ว่ นผสมขอ้ 1+2 เขา้ กนั 4. ค่อยๆ ใสน่ มสด+โยเกริต ลงในข้อที่ 3 5.เติมนา้ มนั พชื วนิลา ตี ตจี นสว่ นผสมเนียน 6.หยอดสว่ นผสมลงอบในเครอื่ งท้าโดนัท
101
102 บั ว ล อ ย ตวั แปง้ บวั ลอย
103 ส่วนผสม “แปง้ บวั ลอย-ฟักทอง” ใหส้ ีเหลอื ง 1. แป้งข้าวเหนียว 100 กรัม 2. แปง้ มนั 10 กรมั 3. ฟักทองนง่ึ สุก 125 กรัม (ใชฟ้ ักทองดบิ ท่ีปอกเปลอื ก ห่นั ชนิ แล้ว 150 กรมั ) 4. นา้ ลอยดอกมะลิ 1/4 ถ้วยตวง สว่ นผสม “แป้งบวั ลอย-เผอื ก” ให้สีม่วง 1. แปง้ ข้าวเหนียว 100 กรมั 2. แปง้ มัน 10 กรมั 3. ฟกั ทองนง่ึ สกุ 140 กรมั (ใชเ้ ผือกดบิ ที่ปอกเปลอื ก ห่นั ชนิ แลว้ 150 กรัม) 4. นา้ 1/3 ถ้วยตวง กบั อกี ประมาณ 1 ชอ้ นโตะ๊ ส่วนผสม “แปง้ บวั ลอย-ใบเตย” ให้สีเขยี ว 1. แปง้ ข้าวเหนียว 100 กรัม 2. แปง้ มัน 10 กรมั 3. น้าใบเตยเขม้ ขน้ 4 ชอ้ นโต๊ะ 4. นา้ เปลา่ 3 ชอ้ นโต๊ะ ส่วนผสม “แป้งบัวลอย-สชี มพู” (แบบใช้สผี สมอาหาร) 1. แป้งข้าวเหนยี ว 100 กรัม 2. แปง้ มนั 10 กรมั 3. สชี มพู 3-4 หยด (แลว้ แต่ความเข้มที่ชอบ) 4. นา้ เปลา่ 7 ชอ้ นโต๊ะ เพิม่ เติม :บวั ลอยตามสูตร เม่อื ป้นั เสร็จจะได้เมด็ บัวลอยนา้ หนักประมาณ 900 กวา่ กรัม
104 วธิ ที ำ้ -“แปง้ บวั ลอย-ฟกั ทอง” ใหส้ เี หลอื ง 1. แป้งขา้ วเหนียว+แป้งมัน ผสมกัน 2. ฟักทองนึ่งสกุ (จะบดกอ่ นหรือไม่กไ็ ด)้ 3. น้าเปล่า (ใส่ลงไปสัก 2 ชอ้ นโตะ๊ ก่อน) แล้วคอ่ ยๆ ขย้าๆๆ จนฟักทองเละ 4. นวดแป้งใหเ้ ขา้ กับฟักทอง หากแปง้ แห้งไป กเ็ ตมิ นา้ เปลา่ คอ่ ยๆ เติมทีละ 1 ช้อนโตะ๊ (เพราะเราใช้ แป้งขา้ วเหนยี วไมเ่ ยอะ) แลว้ ก็สลบั กบั การนวด จนแปง้ หมด น้าหมด แต่ ........ ถา้ นา้ หมดแลว้ แตย่ ังไมส่ ามารถนวดแป้งใหเ้ ข้ากบั ฟกั ทองได้ ยงั มีความรู้สึกว่าแปง้ แหง้ ไม่ นุม่ ใหเ้ ติมนา้ ไปได้ทีละ 1 ชอ้ นชา แล้วก็นวด จนแป้งนิ่ม สามารถปนั้ เปน็ เมด็ เลก็ เทา่ ปลายนวิ กอ้ ย ได้กใ็ ช้ได้ ระวังอย่าเติมเยอะไป แปง้ อาจจะแฉะมาก ถ้าแป้งแฉะเกนิ ป้ันแล้วติดมือให้ใสแ่ ปง้ ข้าว เหนียวลงไปทลี ะสัก 1/2 ช้อนโตะ๊ เพมิ่ เตมิ วิธนี งึ่ ฟกั ทอง ปอกเปลอื กฟักทอง เอาไส้เอาเมด็ ออก หัน่ ชินประมาณ 1/2 * 1/2 นวิ แล้วน้าไปนึ่งบนน้า เดือดจัด ประมาณ 15 นาที
105 วธิ ที ำ้ -“แปง้ บวั ลอย-เผอื ก” ใหส้ มี ว่ ง ซ่ึงวธิ ีการนวดกแ็ บบเดยี วกับการนวดแป้งท่ผี สมฟักทอง มิแตกตา่ งกันแตป่ ระการใด ^_^ แตแ่ ปง้ ท่ี ผสมเผอื ก จะใช้น้ามากกว่าแปง้ ท่ีผสมฟกั ทองนิดหนอ่ ย เพ่ิมเติม :: ถ้าอยากใหส้ ีสวยเปน็ สีม่วงออ่ นๆ ก็เหยาะสผี สมอาหารสีม่วงลงไปนิดหนอ่ ย
106 วธิ ที ำ้ -“แปง้ บวั ลอย-ใบเตย” “แปง้ บวั ลอยสผี สมอำหำร” แปง้ บวั ลอยใบเตย-สเี ขียว โดยผสมแป้งสองอย่าง น้าใบเตย และนา้ เปล่ารวมกนั (ค่อยๆ ใส่ น้าเปลา่ ) แล้วนวดใหเ้ ขา้ กันจนแปง้ นุ่ม ไมต่ ิดมือ ไม่เละเกนิ ป้นั เป็นเมด็ บวั ลอยได้ .. แปง้ บัวลอยสีผสมอาหาร-สีตามต้องการ ตวั อยา่ งแป้งสชี มพูกท็ า้ เหมือนแป้งใบเตย เพียงแต่ให้เราใช้ สีผสมอาหาร (สแี ดง) ลงไปบนแปง้ แทนน้าใบเตยสัก 2-3 หยด หรอื ตามความเข้มของสีแปง้ ทีช่ อบ ยา้ ๆ ...... นวดแปง้ เสรจ็ แล้ว คลุมดว้ ยผ้าขาวบางชบุ น้าบดิ หมาด หรอื ไมก่ ป็ ดิ ด้วยฟลิ ์มใส ไมง่ นั แปง้ ทน่ี วดไว้จะแหง้ ปั้นแล้วแตก ตอ้ งมานวดใหม่
107 วธิ ปี น้ั แปง้ วิธีปัน้ ท่ี 1 1. หยบิ แปง้ มาทีละนดิ 2. แลว้ ป้นั ด้วยนิวชีกะนวิ โปง้ (ขา้ งทีถ่ นดั ) ให้เปน็ เม็ดกลมๆ ขนาดปลายนิวกอ้ ย..... วธิ ีป้นั ท่ี 2 1. ปนั้ แปง้ เป็นเส้นยาว+ใหม้ ีขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางเกือบๆ 1 ซม. ก่อน 2. คอ่ ยเดด็ แป้งจากเส้นยาวออกมาทลี ะนิด เพื่อปนั้ เปน็ กอ้ นกลม วธิ ปี ั้นท่ี 3 1. ปน้ั แปง้ เปน็ เส้นยาว วางกบั โตะ๊ 2. ใชท้ ี่ตัดแปง้ ตัดเปน็ ชนิ เล็กๆ ประมาณปลายนิวกอ้ ย 3. จากนนั ก็เอาฝา่ มือ (คว่้า) คลึงเมด็ แป้งทีละ 10-20 ชนิ ใหก้ ลายเปน็ เม็ดกลม แต่ที่ส้าคัญไม่ว่าจะป้ันแป้งด้วยวิธีไหน เมื่อเอาแป้งบัวลอยท่ีป้ันกลมๆ แล้วใส่ถาด อย่าลืมโรยดว้ ย แป้งนวล (แปง้ นวลคือแปง้ ชนิดเดยี วกับท่ีเราใช้ท้าขนม หรือชนดิ ทีใ่ ช้เยอะสุด ซึ่งวันนคี ือแป้งข้าวเหนียว) ให้ ทัว่ ๆ เมด็ แปง้ เพอ่ื ไม่ให้เม็ดแปง้ ตดิ กนั พอป้ันเสร็จก็คลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้าบิดหมาดไว้อย่างเดิม หรือถ้าจะป้ันไว้ใช้วันอื่น ก็ไม่ต้อง คลมุ พกั ตากลมใหพ้ อหมาดๆ กเ็ อาใสถ่ งุ มดั ปาก ใสต่ ู้เยน็ ไว้
108 วธิ ที ำ้ นำ้ กะทิ 1. กะทิ 8 ถว้ ย หรอื หางกะทิ 6 ถ้วย + หัวกะทิ 2 ถว้ ย 2. น้าตาลปี๊บ 200 กรมั 3. นา้ ตาลทราย 320 กรมั 4. เกลอื ปน่ 1/2 ช้อนโต๊ะ 5. มะพรา้ วออ่ นหน่ั ชนิ พอคา้ 400 กรมั 6. ไข่ไก่ 10 ฟอง (หรือแล้วแตจ่ ะทาน) 7. ใบเตยหอมลา้ งสะอาด มัดใหเ้ รียบรอ้ ย 4-5 ใบใหญ่ 1. เทกะทิใสห่ ม้อใบย่อมๆ ไปสกั 6 ถว้ ย ตามด้วยน้าตาลป๊ีบ นา้ ตาลทราย เกลือปน่ ตามด้วยใบเตย 2. คนดว้ ยทพั พีใหพ้ อเข้ากนั ก่อน 3. น้าไปตงั บนเตาไฟ ใช้ไฟกลางค่อนมาทางอ่อน รอจนเดือดและนา้ ตาลละลายหมด กล็ องตกั ขนึ มาชิม รสตามชอบ หากอยากเพิ่มหวานกเ็ ติมนา้ ตาลเพิ่มได้ ถ้าเติมน้าตาลป๊ีบจะหวานนมุ่ นวล-สกี ะทิจะตนุ่ ๆ แต่ถ้าเติม นา้ ตาลทรายจะรสหวานแหลม-สขี าวสวย
109 วธิ ที ำ้ ไขห่ วำน 1. จากนันก็ให้เราตอกไข่ใส่ถ้วย (เราจะท้าไข่หวานกันก่อน แต่ถ้าใครไม่กินไข่กข็ ้ามขันตอนนีไปได้ เลย) แล้วค่อยๆ เทใส่ลงไปในหม้อน้ากะทินะคะ ทิงระยะเวลาสักแป๊บนึง ไข่ก็จะเร่ิมสุก แต่จะ ให้สกุ มากน้อยแคไ่ หนกต็ ามชอบเลย แล้วพอสกุ กต็ กั ขนึ ใส่ถ้วยไวก้ อ่ นนะคะ
110 วธิ ลี วกเมด็ บวั ลอย 1. ตังหม้อทใี่ สน่ า้ เปลา่ ประมาณ 1/2 หม้อบนเตาไฟ ใชไ้ ฟกลาง 2. พอนา้ เดอื ดจดั เทเมด็ บัวลอยท่ีเราป้นั ไวล้ งไป (แนะน้าว่าให้เขย่าเอาแปง้ นวลส่วนเกินออกไปบา้ งก่อนจะเทลงหมอ้ ไมง่ ันนา้ จะขนุ่ ) 3. แล้วก็ทิงระยะเวลาสกั 1 นาที เอาทพั พคี นกน้ หม้อเบาๆ เพื่อไมใ่ หเ้ ม็ดแป้งตดิ กน้ หมอ้ 4. จากนนั กร็ อให้เม็ดแปง้ สกุ คือเม่ือเม็ดแปง้ เรม่ิ สกุ กจ็ ะค่อยๆ ลอยจากกน้ หมอ้ ขนึ มาด้านบน 5. ปล่อยให้ลอยสัก 30 วนิ าที 6. แล้วก็เอาทพั พีโปรง่ หรอื กระชอนตาถ(่ี ทม่ี ีรู) ช้อนเฉพาะเม็ดบวั ลอยขึนมา แล้วนา้ ไปล้างในน้าเย็น 1 ครงั
111 เมอ่ื ทกุ อยำ่ งรวมตวั เปน็ บวั ลอยไข่หวำน 1. ตกั เมด็ บัวลอยท่ลี วกแลว้ ลงในหมอ้ น้ากะทิทท่ี ้าเตรียมไว้ 2. ราดดว้ ยหวั กะทิท่เี หลืออีก 2 ถ้วย แลว้ ตังหมอ้ บนเตาไฟอีกครัง ใชไ้ ฟกลาง คนเป็นระยะจนกะทิร้อน + เดือดเบาๆ 3. ใส่มะพรา้ วออ่ นลงไป คนพอเขา้ กัน 4. ใสไ่ ข่หวานท่ีท้าไวต้ ามลงไป 5. เสร็จเรียบรอ้ ย ปดิ ไฟเตา เพ่ิมเตมิ :: แนะน้าว่าควรหน่ั มะพรา้ วใหม้ ขี นาดชนิ ใหญ่ อยา่ งนอ้ ยก็กว้างสัก 1 ซม. เพราะเวลาเคียวจะได้ รู้สึกถงึ ความเปน็ มะพรา้ วอ่อน ถึงเวลาเสริฟ ... กต็ กั ใสถ่ ้วยเลก็ ๆ นา่ รกั ๆ ใส่เม็ดบวั ลอยไปสกั 1 ทัพพี หรอื มากน้อยกว่านีตามชอบ ใสไ่ ข่ หวาน 1 ฟอง ตามดว้ ยนา้ กะทพิ อประมาณ ..... เท่านีเรากจ็ ะไดบ้ ัวลอยไขห่ วานสตู รที่ทังหอม ทงั หวาน (ไม่ มาก) แปง้ บัวลอยนมุ่ และมมี ะพร้าวออ่ นให้เคยี วเพลนิ ๆ แล้ว ^_^
112 ขนมตม้ สว่ นประกอบของขนมต้มขำว ไส้ขนม ตวั ขนม มะพรา้ ว คลุก
113 สว่ นผสม: ไสข้ นมตม้ 1. มะพรา้ วทึนทึกขดู ขาว 2 ถว้ ย 2. น้าตาลปี๊บมิตรผล 200 กรัม (แนะนา้ นา้ ตาลปี๊บยห่ี อ้ นี เพราะวา่ สะอาด แลว้ กห็ อม หวาน รสชาตินมุ่ นวล) 3. น้าลอยดอกมะลิ 1/3 ถ้วย สว่ นผสม: ตวั ขนมตม้ 1. แปง้ ขา้ วเหนยี ว 2 ถว้ ย + 1 ชต. 2. น้าคนั จากใบเตย 1/3 ถว้ ย (ใช้ใบเตย 5-6 ใบ ปน่ั รวมกบั น้า 1/3 ถว้ ย จนใบเตยละเอียด คันเอาแตน่ า้ ) 3. หวั กะทิ 1/3 ถว้ ย สว่ นผสม: มะพรำ้ วสำ้ หรบั คลกุ 1. มะพร้าวทนึ ทึกขูดเป็นเส้น 1 ถว้ ย 2. เกลอื ปน่ 1/2 ชช. 3. ใบเตย (ส้าหรบั ใสใ่ นน้าตม้ แปง้ ) 4-5 ใบมัดรวมกัน
114 ฃ วธิ ที ำ้ : ไสข้ นม สว่ นผสม มะพร้าวทึนทกึ น้าตาลปบ๊ี นา้ ลอยดอกมะลิ ไสข้ นม ขูดเส้น มะพร้าวทนึ ทกึ คอื มะพรา้ วที่กลางแกก่ ลางออ่ น คือ แก่กว่ามะพรา้ วออ่ น แต่ก็ไมไ่ ด้แกข่ นาดเอามาขดู เปน็ มะพรา้ วขูดเพือ่ คนั กะทไิ ด้ วธิ ที า้ 1. กะเทาะมะพร้าวทึนทกึ ออกเปน็ 2 ซีก ล้างใหส้ ะอาด แลว้ น้ามาขดู ดว้ ยมอื แมว (อปุ กรณ์ขูด มะพรา้ วท่มี ีด้ามจบั เปน็ ไม้อยา่ งในภาพด้านลา่ ง) 2. ขดู ให้เปน็ เส้นฝอยๆ 3. เมอื่ ขดู มะพร้าวทนึ ทกึ เสรจ็ แลว้ ก็ให้น้ามะพรา้ ว นา้ ตาลปบ๊ี มิตรผล และน้าลอยดอกมะลิ (ถ้าไม่มกี ็ใชน้ ้าสะอาด) ใสร่ วมกันในกระทะทอง หรือถ้าไมม่ กี ระทะทอง ก็กระทะเทปลอ่ นทัว่ ไปกไ็ ด้
115 4. น้าไปตงั บนเตาไฟ เปิดไฟกลาง คนด้วยพายไม้เปน็ ระยะจนน้าตาลละลายหมด จากนันกห็ รไ่ี ฟลงเหลือไฟอ่อน แลว้ ผดั ไส้ไปเรอ่ื ยๆ 5. จนกระทง่ั ไสม้ ะพร้าวแหง้ ประมาณนี ... ก็ดบั ไฟเตา ^__^ 6. แล้วตกั ขึนใส่ชามใบยอ่ ม ๆ พักไวใ้ ห้พออุ่น ๆ 7. ก็น้ามาปน้ั เปน็ ก้อนกลมๆ ขนาดสักปลายนวิ หวั แมม่ ือ แล้วนา้ ไปอบควนั เทยี นให้หอม
116 วธิ ที ำ้ : ตวั แปง้ ขนม สว่ นผสม แปง้ ข้าวเหนยี ว น้าใบเตย หัวกะทิ ตวั ขนม วธิ ที ้า 1. ผสมแป้ง+น้าใบเตย+หัวกะทิเข้าด้วยกนั ในกาละมังใบย่อม ๆ สักใบ ...... ส้าหรับแปง้ ใสล่ งไปในกาละมังใหห้ มด แต่หัวกะทแิ ละน้าใบเตย ใส่ลงไป 1 ใน 3 สว่ นกอ่ น 2. นวดๆ พอเขา้ กนั แลว้ กใ็ ส่ลงไปอกี 1 สว่ น นวดต่อพอให้เขา้ กันมากขนึ 3. ค่อยใส่ส่วนสดุ ท้ายทเ่ี หลอื ลงไป แลว้ นวดใหเ้ ข้ากนั ...... ยา้ ๆ อย่าใสน่ ้าลอยดอกมะลิ กบั หัวกะทิทเี ดียว เพราะแป้งจะไมเ่ หนียวนมุ่ 4. พอนวดเสรจ็ กพ็ กั แปง้ ไวส้ ัก 5 นาที (ระหวา่ งนหี าผ้าขาวบางชุบนา้ บิดหมาด คลุมแปง้ ไวไ้ ม่ให้ หน้าแป้งแห้ง) เพม่ิ เติม หากนวดเสรจ็ แลว้ แปง้ แฉะไป ใหใ้ ส่แป้งข้าวเหนยี วเพิม่ ลงไปสกั 1/2 - 1 ชต. แตถ่ า้ แป้งแหง้ ไป ให้ใส่นา้ เพิ่มสกั 1/2 ชต. แล้วนวดใหเ้ ข้ากนั อกี รอบ
117 วธิ ที ำ้ : มะพรำ้ วคลกุ ขนม 1. ขูดมะพร้าวทนึ ทกึ ส้าหรับคลกุ ขนม ขดู ด้วยมือแมวให้เปน็ เส้นๆ แบบท่เี ราใช้ท้าไส้ขนม 2. ขูดเสร็จกเ็ อาไปนงึ่ ใหส้ กุ ประมาณ 5 นาที หรอื เวฟ (ปิดฝาให้สนทิ ) ประมาณ 1 นาที 3. นา้ ออกมาเคลา้ กับเกลอื ป่น ใหม้ ีรสเค็มปะแหลม่ ๆ
118 วธิ ที ำ้ : ขนมตม้ 1. ตงั กระทะหรือหม้อบนเตาไฟ ใส่นา้ ลงไปให้สงู ประมาณ 4-5 นวิ 2. ใสใ่ บเตยท่ีลา้ งสะอาดแลว้ สัก 3-4 ใบลงไป เปิดไฟกลาง รอจนนา้ เดือด 3. ปั้นแป้งทีน่ วดไว้เปน็ ก้อนกลมๆ ขนาดเส้นผา่ ศูนย์กลางสัก 1.5 - 2 ซม. 4. แผ่แป้งออกใหเ้ ปน็ แผน่ บาง ใสไ่ ส้ท่ีปั้นไว้ หมุ้ ด้วยแป้งให้มดิ ป้ันให้เป็นกอ้ นกลมๆ อกี รอบ
119 5. ใสล่ งไปตม้ ในหมอ้ น้าเดือดท่ีตังบนเตาไฟ 6. ซึ่งตอนทใ่ี สแ่ ป้งไปตอนแรก แปง้ จะจมลงกน้ หมอ้ /ก้นกระทะทอง เพราะว่าแปง้ มนี า้ หนักมาก แต่สัก พักพอแป้งเร่มิ สุก แปง้ จะคอ่ ยๆ ลอยขึนมาจนกระทัง่ ลอยถงึ ผวิ นา้ ก็ปลอ่ ยใหล้ อยอยู่สกั ครู่ คอ่ ยช้อน ขนึ ด้วยทพั พโี ปร่งๆ เอาแต่แปง้ หรือตวั ขนม โดยตอนช้อนพยายามให้สะเดด็ น้ามากทสี่ ดุ 7. แลว้ กเ็ อาไปใส่ในมะพร้าวทึนทกึ ขูดผสมเกลือท่ีเตรียมเอาไว้ 8. เคลา้ มะพรา้ วให้ติดทว่ั ๆ ตัวขนม
120 ขนมวนุ้ กะทิ วุน้ --> วนุ้ ใส วุน้ กะทิ สว่ นผสม: ตวั วนุ้ ใส 9. นา้ ลอยดอกมะลิ 2 ถว้ ย 10. น้าคนั ใบเตย 1/2 ถว้ ย 11. น้าตาลทรายขาว 3/4 ถ้วย (ถา้ ชอบหวานจัดใช้ 1 ถว้ ย) 12. ผงวนุ้ 1 ชต. + 2/3 ชช. 13. มะพร้าวอ่อนหน่ั เปน็ เสน้ สนั ๆ 1/2 ถว้ ย
สว่ นผสม: หนำ้ วนุ้ 121 - กะทิ 2. เทนา้ ลอยดอกตามลงไปมะลิ 1. หัวกะทิ 2.5 ถ้วย 2. นา้ ตาลทราย 1/2 ถว้ ย ถา้ ชอบหวานใสเ่ พิม่ อีก 2 ชต. 3. เกลอื ปน่ ธรรมดา ½ ชช. 4. ผงวุ้น 1 ชต. + 2/3 ชช. วธิ ที ำ้ : ตวั วนุ้ ใส 1. เทผงวุ้นใสห่ มอ้ 3. แลว้ ก็เอาทพั พคี นๆ ให้ผงวนุ้ ละลายเข้ากับน้า 4. จากนนั ก็ยกหม้อวุน้ ขึนไปตงั บนเตาไฟ และไมจ่ บั ตัวกันเป็นก้อน พักไวป้ ระมาณ 5 นาที เปดิ ไฟกลางๆ คอ่ นไปทางอ่อน (อยา่ ใจร้อน) คนเปน็ ระยะๆ จนกระทง่ั นา้ เดอื ด และผงว้นุ ละลายหมด
5. ใส่น้าตาลทรายลง 122 6. ใส่น้าตาลลงไปแล้ว ทพั พีคน จนกระท่ัง น้าตาล ละลายหมด กรองดว้ ยผ้าขาวบาง 1 รอบ แลว้ เทใส่ลงหมอ้ เดมิ 7. ใส่น้าคนั ใบเตยที่มีสีเขียวเขม้ ลงไป 8. รอจนเดอื ดอกี ครังกล็ ดไฟลงเป็นไฟออ่ น 9. จากนันกเ็ อาไปหยอดใสพ่ มิ พ์ทีเ่ ราเตรียมไว้ เคย่ี ววุ้นไปสัก 10 นาที หรอื พอเหนียวนดิ นงึ หยอดให้มีความสงู สักครึ่งพมิ พก์ ็พอ ใสเ่ นอื มะพร้าวออ่ นทเ่ี ราหนั่ เป็นชินเล็ก ๆ ไวล้ งไป ส่วนครึง่ พิมพ์ทเ่ี หลือด้านบนไวใ้ สห่ นา้ ว้นุ แลว้ กป็ ิดไฟเตาได้เลย ทเ่ี ปน็ กะทิ…ตังพกั ไว้
วธิ ที ำ้ : หนำ้ วนุ้ กะทิ 123 1. เทกะทิใส่ลงไปในหม้อ 2. ใส่ผงวุน้ ตามลงไป (จะใส่สว่ นท่เี ป็นนา้ ก่อน หรือ สว่ นของผงวุ้นก่อนกไ็ ด้/แต่จรงิ ๆ ใส่ผงวนุ้ ก่อน ค่อยใส่น้า จะทา้ ให้คนเข้ากนั ไดง้ ่ายกวา่ ^^\") 3. คน ๆ พอใหผ้ งว้นุ ไมจ่ ับตวั กันเป็นก้อน 4. ใส่นา้ ตาลลงไป แล้วกเ็ อาหมอ้ ไปตังไฟ คนเปน็ ระยะๆ จนกระทั่งผงวนุ้ ละลายหมด (อยา่ ใชไ้ ฟแรงเกิน และอย่าใหก้ ะทิเดอื ดพล่าน ไมง่ ันกะทิจะแตกมนั ทา้ ให้หน้าวุ้นไม่สวย) 6. คนจนกระท่ังนา้ ตาลละลายหมด ตังไฟให้ เดือดอกี ทกี ป็ ดิ ไฟเตา ยกลงไดเ้ ลย 5. ตามด้วยเกลือป่นนดิ หนอ่ ย (พอให้มรี สเคม็ ปะแหลม่ ๆ ตดั กบั รสหวาน วุ้นจะไดไ้ มเ่ ลี่ยนจนเกนิ ไป)
124 7. ในช่วงนีเองก็จะเป็นจังหวะท่ีวุ้นชันล่างของเราเริ่มเซตตัวแล้ว คือ หน้าวุ้นจะตึงๆ ถ้าลองเอานิวจิมลงไป เบาๆ จะรู้สึกได้ถึงความยืดหยุ่น (ถ้ารู้สึกว่ามันยังเหลวเป็นน้าอยู่ ก็ยังใช้ไม่ได้ ต้องรอให้เซตตัวอีกนิด เพ่ือ ไมใ่ หเ้ วลาที่หยอดตวั วุน้ กะทิชนั บนลงไป แลว้ วนุ้ มันจะไปผสมกับวุ้นชนั ลา่ ง ..... ซง่ึ ถ้าหากไมม่ ีเวลา ไม่อยาก รอ สามารถเอาถาดวุ้นใส่เข้าไปในตู้เยน็ สัก 2-3 นาที ก็จะช่วยให้วุน้ เซตตวั ไดไ้ วขนึ ) 8. ซง่ึ เม่ือวุ้นชนั ลา่ งเซตตัวดีแลว้ กใ็ ห้ หยอดหนา้ วุ้นกะทิท่ีท้าไว้เม่ือกี ลงไป ในพมิ พส์ ่วนดา้ นบนทเ่ี หลอื ไวไ้ ดเ้ ลย 9. จากนนั ก็ตังพักไว้ให้วนุ้ เซตตวั หรือถา้ อยากยน่ ระยะเวลา ไมอ่ ยากรอ ก็เอาไปแชใ่ นตเู้ ยน็ ไดเ้ ลย .... แชต่ เู้ ยน็ ประมาณ 30 กวา่ นาที ก็จะไดว้ ้นุ กะทิทร่ี สหวานหอม มกี ลิ่นกะทิ และเยน็ สดช่นื ออกมาหนา้ ตาแบบนี NOTE :: แช่วุ้นในน้าแขง็ อรอ่ ยกว่าแชใ่ นตู้เยน็ เพราะความเยน็ มันตา่ งกนั
125 ศลิ ปะเพอ่ื งานอาชพี ศิลปะกับขนมขนมตม้ น่ารัก
126
127 เปลีย่ นจากต้ม...มาเปน็ น่งึ แทนจ้า
128 ศลิ ปะกบั แผน่ ทางเดนิ ปพู น้ื ทางเดนิ คอนกรตี พมิ พล์ าย สวยดว้ ยธรรมชาติ แผ่นปูทางเดิน คอนกรีตพิมพ์ลาย หากเป็นรูปแบบท่ีมีจาหน่ายท่ัวไป จะเหมาะกับการปูพ้ืนท่ัว บรเิ วณบ้าน ท้ังหนา้ บา้ น ลานจอดรถ แตส่ าหรับแผน่ ปทู างเดินภายในสวนนี้ เปน็ ไอเดยี ที่สามารถสรา้ งสรรค์ ผลงานไดด้ ้วยตนเอง ลักษณะการทาที่มีข้ันตอนไม่ยุ่งยากนกั เราสามารถทาตามไปทันที เหมาะสาหรับเป็น สิง่ ประดิษฐ์ในวันหยดุ สดุ สปั ดาห์ หรอื เวลาว่าง วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1. ปนู 2. ทราย 3. เกรียงเหล็ก 4. ถังผสมปูน 5. ใบไม้ (ใบใหญ่) 6. ถงุ มอื ยาง 7. กระดาษแขง็ รองพืน้
129 ขน้ั ตอนที่ 1 : ทาการผสมปนู ในภาชนะทีเ่ ตรยี มไว้ คลุกเคลา้ ให้เนอ้ื เข้ากนั เป็นหนึ่งเดยี ว ขน้ั ตอนที่ 2 : นาใบไม้ใหญ่ทีเ่ ตรียมไว้ วางไวบ้ นกระดาษลัง เพื่อปอ้ งกนั การหกเลอะเทอะ ใชใ้ บไม้ในส่วนท่เี ป็นลายเส้นนนู โดยทวั่ ไปเปน็ การควา่ ใบไม้นนั่ เอง เพราะลายนูนมกั อยดู่ า้ นใตใ้ บ
130 ขน้ั ตอนที่ 3 : นาปนู เทลงบนใบไมใ้ ห้ทวั่ ใช้เกรียงเหล็กเกลย่ี ให้ ทวั่ ทั้งใบ ในข้นั ตอนนี้ หากตอ้ งการความคงทน อาจนาก้านไมไ้ ผ่ หรือเหล็กเส้นบางๆ นามาเป็น วสั ดปุ ระสาน ขนั้ ตอนท่ี 4 : เม่อื เกล่ียปูนทว่ั บริเวณแลว้ ใชเ้ กลยี งเหล็ก หรือ มีด ตัดขอบปนู ตามขนาดของใบไม้ ทิง้ ไว้ให้แห้ง หมาด พลิกด้านเพื่อนดงึ ใบไม้ออก
131 ขนั้ ตอนท่ี 5 : หลังจากแผน่ ปนู ซเี มนตแ์ หง้ สนทิ ดแี ล้ว นาแผ่น ปนู จัดวางไว้ในสวน โดยขั้นตอนนจ้ี ะทาการขุด ดนิ ลงไป เพอ่ื ใหแ้ ผ่นทางเดนิ อยู่ในระดับเดียวกบั พน้ื หญ้า การเรียงตามเส้นโค้งส่ตู ัวบา้ น สามารถ สรา้ งความสวยงามได้เปน็ อย่างดี และแล้ว ก็เสรจ็ สน้ิ ภารกจิ สาหรบั แผ่นทางเดิน ในสวนสวย ดว้ ยมอื เราเอง เปน็ อย่างไรกนั บ้าง ครับ คงไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน ขอให้ ทกุ ทา่ น มคี วามสขุ กับการตกแตง่ สวนนะครับ
132 Trip : ในตัวอย่างดังกล่าวนี้ แผ่นปูนมีขนาดบาง อาจส่งผลให้แตกหักง่าย เหมาะสาหรับนาไปตกแต่ง ติด ผนงั มากกว่าทางเดิน หากต้องการเพ่มิ ความคงทนของแผ่นปนู ทางเดิน ในขั้นตอนการเทปูนลงบนใบไม้ ควร มวี สั ดปุ ระสาน เชน่ เหลก็ ลวด ก้านไม้ไผ่ หรือวสั ดุอ่ืนๆ จะชว่ ยให้เกิดความคงทน แผน่ ปนู จะประสานกันได้ดี ยงิ่ ข้ึน
133 แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ชอ่ื /นามสกุล.................................... กจิ กรรม ช่วั โมงท้ากิน ระดบั ชั้น..........รนุ่ .......เลขที่........ ตอน.............................................................................................................................. ค้าชแี จง ใหท้ า้ เคร่ืองหมาย ใหต้ รงกับความคิดเห็นของนกั เรยี น ระดับ 5 หมายถึง พึงพอใจมากทีส่ ดุ ระดับ 4 หมายถงึ พึงพอใจมาก ระดบั 3 หมายถงึ พึงพอใจปานกลาง ระดบั 2 หมายถึง พึงพอใจน้อย ระดับ 1 หมายถงึ พึงพอใจนอ้ ยทส่ี ดุ ข้อที่ รายการประเมนิ ระดบั ความพึงพอใจ 5 432 1 1. นกั เรียนมีความสขุ และพึงพอใจในการเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้/หรือผู้รับ การสอนจากผ้อู นื่ 2. นักเรยี นมคี วามเช่ือมัน่ ในตนเอง 3. นักเรียนเห็นว่าตนเองมีคณุ ค่าและสามารถทา้ อะไรทีไ่ ม่เคยทา้ มากอ่ นได้ 4. นกั เรียนรู้วา่ การกิจกรรมทีท่ า้ มปี ระโยชน์ทงั ต่อตนเองและผ้อู น่ื 5. นักเรยี นสามารถแกไ้ ขปญั หาทเ่ี กดิ ขึนในระหวา่ งการท้ากิจกรรม 6. นกั เรยี นไดร้ ู้จักกนั มากขนึ 7. นักเรยี นมีสมั พันธภาพทดี่ กี บั ผูอ้ ื่น 8. นกั เรยี นได้ชว่ ยเหลือเกือกลู ซ่งึ กนั และกัน 9. นักเรียนมโี อกาสทา้ กิจกรรมได้อยา่ งอสิ ระแตอ่ ยู่ในขอบเขตของการเป็น นกั เรียนทีด่ ี 10. นกั เรยี นรู้จกั ใชเ้ วลาใหเ้ กิดประโยชน์ 11. บรรยากาศในการปฏิบัตกิ ิจกรรมเปน็ กนั เอง 12. นกั เรียนเหน็ คณุ คา่ ของกจิ กรรมท่ที า้ ว่าสามารถนา้ ไปหารายได้
ความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ ตอ่ กจิ กรรม 134 “ชว่ั โมงทากนิ ” สง่ิ ทีน่ ักเรยี น ได้เรียนร้จู าก กจิ กรรม ความรสู้ กึ ความประทบั ใจ ท่ีมีตอ่ กจิ กรรม ความพึงพอใจตอ่ กิจกรรม ปานกลาง มาก มากที่สุด น้อยทสี่ ดุ น้อย
135 หมวดที่ 4 สรา้ งเสรมิ ทกั ษะการทางาน การดารงชพี และทกั ษะชวี ติ กจิ กรรม 14 ฝกึ การทางาน ทกั ษะทางอาชพี ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง และมวี นิ ยั ทางการเงนิ กจิ กรรมท่ี 4.3 1. ชอื่ กจิ กรรม การจดั ทาบญั ชรี ายรบั -จา่ ย 2. เวลาทใี่ ช้ 8 ช่วั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ให้นักเรียนมีวนิ ยั ทางการเงิน 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. จดั ทาบัญชีรับ-จ่าย ในกิจกรรม สอร. 2. เพ่ือสามารถคานวณตน้ ทุน-กาไร ในกิจกรรม สอร. 5. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. สมดุ บันทกึ การทากิจกรรม สอร. 2. แบบฝึกการคานวณตน้ ทุน-กาไร 6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในเรอ่ื งตอ่ ไปนี้ 6.1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 6.1.2 สังเกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 6.2 สอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้ารว่ มกิจกรรมของนกั เรยี น นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ 6.3 ผลงาน สมุดบนั ทึกการทากจิ กรรม สอร. การลงบัญชี-รบั จ่าย 6.4 ผลงาน แบบฝึกหดั การคานวณตน้ ทนุ -กาไร
136 ใบความรู้ การคานวณคา่ ใชจ้ า่ ย กาหนดราคาหรอื คา่ บรกิ าร และการจดั จาหนา่ ย การจาหน่ายอาหาร ผ้ผู ลติ อาหารจาเปน็ อย่างยง่ิ ที่ตอ้ งมกี ารคานวณค่าใชจ้ ่าย หรอื คดิ ราคาต้นทุน การผลิตกอ่ น จงึ จะสามารถกาหนดราคา หรอื ค่าบรกิ ารได้ ซง่ึ มรี ายละเอียดดงั น้ี 1. การคานวณคา่ ใชจ้ า่ ย หรอื ตน้ ทนุ การคานวณค่าใช้จ่าย หรือต้นทุน หมายถึง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ต้องจ่ายไปเพื่อให้ได้สินค้ามา ประกอบเป็นอาหารทีจ่ ะจัดจาหน่าย สนิ คา้ ตา่ ง ๆ ที่ถือได้วา่ เป็นตน้ ทนุ คอื 1.1 ราคาวสั ดุที่ซอื้ มาประกอบอาหาร เชน่ น้าตาล ไข่ แป้งชนิดต่างๆ กะทิ มะพร้าว ข้าวโพด สี ผสมอาหาร ผัก ผลไม้ เน้ือสตั วต์ า่ ง ๆ ฯลฯ 1.2 ค่าวสั ดุที่ใชเ้ ป็นเชื้อเพลงิ เชน่ ถ่าน น้ามัน ไฟฟา้ และแกส๊ ท่ีใช้หงุ ตม้ 1.3 ค่าอุปกรณ์เคร่ืองใช้ท่ีสึกหรอในการทางานแต่ละคร้ัง จะต้องคิดค่าสึกหรอและราคาเส่ือม คณุ ภาพของเครอ่ื งมอื การคิดค่าเสื่อมราคาอาจจะคดิ จานวนคร้งั ของ การใช้เครอื่ งมอื ในแตล่ ะคร้งั ตามความ เหมาะสมหรืออาจจะใช้วิธีการคิด 10%ของราคาอุปกรณ์ต่อปี (ลังถึง1 ชุดซ้ือมาราคาชุดละ 450 บาท เพราะฉะน้นั ค่าอุปกรณเ์ ครื่องใช้ท่ีสึกหรอ แล้วจึงหารด้วยจานวนคร้ังท่ใี ช้ลังถึงในเวลา 1 ปี คอื 450 หาร ด้วย 10 = 45 บาท/ปี และ 45 หารด้วย จานวนท่ีใช้ลังถึงก็จะได้เป็นค่าสึกหรอของลังถึงในแตล่ ะครั้ง ตาม หลักความเป็นจริงอาจจะไม่ต้องมีรายละเอียดตามท่ีแสดงไว้ แต่ควรให้มีความเหมาะสม และมีความเป็น จรงิ 1.4 คา่ แรงงาน ค่าแรงงานควรคดิ ใหต้ ามราคาของกรมแรงงานรายวนั 1.5 ค่าใชจ้ ่ายอืน่ ๆ เชน่ คา่ ภาชนะบรรจทุ ี่ใชเ้ สริ ฟ์ อาหารหรือใช้ในการบรรจอุ าหารเพื่อจาหนา่ ยตาม ความตอ้ งการให้กับผ้บู ริโภค คา่ อุปกรณ์หรือเครื่องมอื เคร่อื งใช้อนื่ ๆ การคานวณคา่ ใชจ้ า่ ย หรือการคดิ คานวณราคาต้นทุนในการลงทุนทางานทุกอย่างจะตอ้ งทราบการ ลงทุนเสียก่อน จึงกาหนดราคาสินค้าได้ การจาหน่ายสินค้าจะไม่มีการคาดคะเนราคาสินค้าดังน้ัน กระบวนการของการคานวณค่าใช้จ่ายหรือการคิดคานวณต้นทุน “การทาขนมสาล่ีกรอบ” ตามตัวอย่าง ข้างลา่ งมีดงั น้ี 1) ค่าวสั ดุ คิดจากจานวนทใ่ี ช้วัสดุน้นั ๆ ตามที่ใช้จรงิ หลังจากเปรยี บเทียบหาอัตราส่วนของวัสดุท่ีมี จาหนา่ ยตามท้องตลาด รวมทัง้ คา่ ภาชนะที่ใช้บรรจใุ นการจาหน่าย (จานวนที่ใช้จากจานวนเต็มทซี่ ้ือซ่ึงอาจมี หนว่ ยเปน็ กิโลกรมั กรัม มลิ ลิลติ ร ลูก ฟอง มดั ผล ใบ แพค หอ่ ฯลฯ ท้งั น้ีขึน้ อยูก่ ับชนิดของอาหารทม่ี ี วางจาหน่ายโดยทว่ั ไป โดยจะต้องทราบราคาจานวนเต็มที่ซื้อดว้ ย) 2) ค่าอุปกรณ์สึกหรอที่ใช้ในการประกอบอาหารชนิดนั้น ๆ เช่น ชามผสม กะละมัง ถาด เครื่อง ชงั่ เตาอบ เคร่อื งตไี ข่ ท่ีร่อนแปง้ ชอ้ น ทัพพี ถว้ ยจบี พิมพข์ นม ถว้ ยตวง ช้อนตวง เปน็ ต้น
137 3) คา่ ขนสง่ ในการซื้อวสั ดุ หรือสง่ สนิ ค้าไปยังพอ่ ค้าคนกลางและผู้บริโภค โดยคานวณเฉลยี่ จากวัสดุ หรือส่งสินค้าทุก ๆ ชนิดไปยังพ่อค้าคนกลางและผู้บริโภค หากเป็นการปฏิบัติงานของผู้เรียนอาจจะไม่มี คา่ ใช้จ่ายในสว่ นน้ีกไ็ ด้ เนอ่ื งจากผู้เรยี นซ้อื วสั ดจุ ากแหล่งจาหน่ายทอี่ ยใู่ กล้บ้านและการจาหน่ายของผ้เู รียนก็ เป็นการจาหน่ายภายในโรงเรียน หลังจากการปฏิบัติงานหรือนากลับไปจาหน่ายที่บ้าน ซ่ึงผู้เรียนจาเป็น จะต้องกลบั อย่แู ล้ว 4) ค่าเชื้อเพลิงให้คานวณราคาแก๊สหุงต้ม ค่าน้า ค่าไฟท่ีใช้โดยการคาดคะเนรวมโดยคานวณเป็น ชั่วโมง ตามข้อตกลงท่เี หน็ วา่ เหมาะสม ข้นึ อย่กู ับสภาพเศรษฐกจิ 5) ค่าแรงงาน ท่ีใช้ในการประกอบอาหารนั้น ๆ คิดอัตราการจ้างแรงงาน รายวัน หรือรายชั่วโมง ทวั่ ๆ ไป โดยคานวณเวลาในการประกอบอาหารนั้นๆ จนเสร็จสิ้นและสามารถนาไปจาหนา่ ยได้ 6) การคิดคานวณหากาไรหากมีการจดั จาหน่าย โดยคานงึ ถึงขน้ั ตอน ความประณตี หรอื เวลาที่ใช้ใน การประดิดประดอยอาหารนนั้ ๆ เช่นระหว่างขนมกล้วยทอด กบั ปนั้ ขลบิ ควรกาหนดกาไรของป้ันขลิบให้ มากกว่าอีกหนึง่ หรอื สองเทา่ ของขนมกล้วยทอด เป็นต้น *** ต้งั แต่รายการที่ 2-5 อาจจะคิดจาก เปอร์เซน็ ต์ของราคาวสั ดทุ ง้ั หมด จะเปน็ 10 - 50 % ขน้ึ อยู่กับความ ยาก- ง่าย อปุ กรณท์ ี่นามาใช้ และเวลาทีใ่ ชใ้ นการทางาน **** ตวั อยา่ งที่ 1 การคานวณคา่ ใชจ้ า่ ย การทาขนมสาสก่ี รอบ จานวนเงนิ ท่ี รายการจากตารบั จานวนทใี่ ชจ้ ากจานวนเตม็ ทซี่ อ้ื ราคาจานวนเตม็ ทซี่ อ้ื 1 แปง้ สาลชี นิดเบา 3 ถว้ ยตวง 300 กรมั กก.ละ 32 บาท 32 x 300 = 9.60 บาท 2 น้าตาลทราย 3 ½ ถว้ ยตวง 700 กรัม กก.ละ 20 บาท 1,000 3 ไขไ่ ก่ขนาดกลาง 6 ฟอง 6 ฟอง ฟองละ 3 บาท 20 x 700 = 14 บาท 1,000 6 x 3 = 18 บาท 4 มะพร้าวขูดขาว 4 ถ้วยตวง 500 กรัม กก.ละ 17 บาท 500 x 17 = 8.50 บาท ขวดละ 155บาท 1,000 5 กลน่ิ วานิลา 2 ชอ้ นชา 10 มล./ 454 มล. แถวละ 36 บาท 10 x 155 =3.40 บาท 6 กระทงกระดาษ 60 ใบ 60 ใบ / 800 ใบ 454 รวมจา่ ยคา่ วสั ดทุ ง้ั หมด 60 x 36 =2.70 บาท รวมจ่ายค่าวัสดทุ ัง้ หมด 56.20 บาท คดิ เป็น 57 บาท 800 56.20 บาท
138 ค่าแรงงาน 12 บาท 10 -50 % ของคา่ วัสดุท้งั หมด คา่ อุปกรณ์สกึ หรอ 2 บาท คา่ เชอ้ื เพลิงใช้ 1 ช่วั โมง 8 บาท คา่ พาหนะค่าขนสง่ 5 บาท คา่ ภาชนะบรรจเุ พื่อจาหน่าย 3 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 87 บาท จานวนเงิน 87 บาท คือ ต้นทุนในการทาขนมสาลี่กรอบ เม่ือรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เท่าไรนั่น คือ ต้นทุนการผลิตทั้งหมดของขนม หากคิดราคาต่อหน่วย ซ่ึงมีจานวน 60 ช้ินก็จะได้ราคาต่อหน่วย คอื 87 หารดว้ ย 60 = 1.45 บาท 2. การคิดกาไร จะต้องการกาไรเท่าไร ให้คานึงถึงขั้นตอน กระบวนการ ความยากง่าย และการ ประดิดประดอยของอาหารดงั ได้กล่าวไว้แล้วข้างตน้ อาจจะเป็น10% - 100% มวี ธิ กี ารดงั น้ี ตน้ ทนุ การผลติ x เปอรเ์ ซน็ ตก์ าไรทตี่ อ้ งการ = กาไรทตี่ อ้ งการ ตวั อยา่ งที่ 2 การคานวณหากาไร หากตอ้ งการกาไรในการทาขนมสาลก่ี รอบ 20% จะสามารถคานวณได้ดังน้ี 87 x 20 / 100 = 17.40 กาไรและขาดทุนเกิดจากตน้ ทุนและการขาย ราคาขายมากกวา่ ต้นทนุ เรียกวา่ กาไร แตถ่ า้ ราคาขายน้อยกว่าต้นทุนหรอื เสมอทนุ เรยี กวา่ ขาดทนุ 3. องคป์ ระกอบทใ่ี ชใ้ นการกาหนดราคาหรอื คา่ บรกิ าร การกาหนดราคาหรือค่าบริการนั้น ไม่ควรกาหนดให้สูงมากเกินไป ควรกาหนดให้เหมาะสมกับ อาหาร ซึ่งหมายถึงวัสดุที่ใช้ประกอบเป็นอาหารนั้นๆ การกาหนดราคาอาหารข้ึนอยู่กับประเภทของการ จดั ต้ังร้านอาหารและบริการ โดยใช้หลักความพอใจของคนขาย ควรมีกาไรบ้างพอสมควรแกร่ าคาต้นทุน ไม่ควรต้ังราคาสูงจนเกินไปควรคานึงถึงความเหมาะสมกับเศรษฐกิจของสภาพท้องถ่ิน เพื่อสะดวกในการ ประกอบกิจการให้เจรญิ ก้าวหนา้ และคงสภาพอย่ไู ด้ โดยองค์ประกอบท่ใี ช้ในการกาหนดราคาหรอื ค่าบริการ นน้ั มหี ลกั ในการพิจารณาดงั น้ี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176