59-05-01-แผนลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้

ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2559 หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๓ จงั หวดั ลพบรุ ี

บนั ทึกข้อความ สว่ นราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๓ จงั หวัดลพบุรี ท่ี /2559 วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 เร่อื ง ขออนุญาตใชแ้ ผนการจดั กจิ กรรมเรียนรู้ “ลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลารู้” ระดบั ชนั้ ปวช. เรียน ผูอ้ านวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๓ จงั หวดั ลพบรุ ี ตามทโ่ี รงเรียนได้รับนโยบายจากกระทรวงศกึ ษาธิการใหจ้ ัดกจิ กรรมเรียนรู้ “ลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้” ให้ ทุกระดับชั้นจัดกิจกรรมเรียนรู้ดังกล่าว และเพ่ือให้เป็นไปตามนโยบายของทางโรงเรียนทางระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพ จึงได้จัดดาเนินการจัดกจิ กรรมเรียนรู้ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” โดยใช้แนวทางการจัด กิจกรรมเรียนรู้ “ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้” ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ของสานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เป็นแนวทางการจัดกจิ กรรม โดยแบ่ง กจิ กรรม “ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้” แบ่งออกเป็น 4 หมวด 14 กลุ่มกิจกรรม ทางระดับชั้น ปวช. ได้จัดทาแผนการจัด กจิ กรรมการเรียนรู้ “ลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้” ภาคเรียนท่ี 1/2559 เป็นท่เี รียบร้อยแล้ว จงึ ขอนาเสนอฝา่ ยบริหาร เพ่ือขออนุญาตดาเนินการตามแผนการจัดกจิ กรรม ดังเอกสารที่แนบมาพร้อมกันนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดอนุญาต (นางสาวพนดิ า น้อยศร)ี หัวหน้าระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี ความเหน็ รองผ้อู านวยการฝา่ ยอานวยการ ความเหน็ ผูอ้ านวยการ ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… (นายปองชยั ปานศิริ) (นายชนาธปิ กาลพนั ธ์) รองผอู้ านวยการโรงเรียน รองผ้อู านวยการโรงเรยี น ความเห็นผอู้ านวยการ ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… (นายดารงสิทธิ์ เบ้าศิลป)์ ผอู้ านวยการโรงเรียน D:\\62-10-Backup-Panida\\59-ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้\\59-1-แผนกิจกรรม\\2-56-05-05-บนั ทกึ ข้อความขอใช้แผนการจดั กิจกรรมลดเวลาเรียน.docx

ข้อคิดเห็น คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) ประเภทวชิ าพาณิชยกรรม สาขางานคอมพวิ เตอร์ธุรกิจ ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี ได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551 การจัดการ ศึกษาสงเคราะห์ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัดลพบุรี และความเจริญก้าวหน้าทาง เทคโนโลยี เพ่ือผลิตกาลังคนระดับฝีมือท่ีมีสมรรถนะวิชาชีพมีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วิชาชีพ สามารถนาไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานในลักษณะ ผู้ปฏิบัติหรือประกอบอาชีพอิสระได้ สอดคล้องกับแผนพัฒนาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและ แผนการศึกษาแห่งชาติ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกระบบและวิธีการเรียนได้อย่างเหมาสะสมตาม ศกั ยภาพ ตามความสนใจและโอกาสของตน มากยง่ิ ข้ึน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีมติเห็นชอบให้โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัด ลพบรุ ี ประกาศใช้หลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศักราช 2556 ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาขางานคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ ท่ีคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรท่ีโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จังหวัด ลพบรุ ี จดั ทาขน้ึ นี้เพอื่ ใชจ้ ดั การเรียนรู้ได้ ลงช่อื (นายสมยศ ประมลู ศิลป์) ประธานกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จงั หวดั ลพบุรี 1 พฤษภาคม 2557

คณะกรรมการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ “ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร”ู้ ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) ประเภทวชิ าพาณชิ ยกรรม สาขางานคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ พทุ ธศกั ราช 2559 ทปี่ รกึ ษา เบา้ ศิลป์ ผู้อานวยการโรงเรยี น 1. นายดารงสิทธ์ิ ปานศิริ รองผู้อานวยการโรงเรียน 2. นายปองชยั กาลพันธ์ รองผอู้ านวยการโรงเรียน 3. นายชนาธปิ คณะกรรมการพฒั นาหลกั สตู ร น้อยศรี ครู คศ. 2 1. นางสาวพนิดา บวั โต ครู คศ. 1 2. นางสาวกญั ญาณัฐ ทองกระจ่าง ครู คศ. 1 3. นางปยิ ะมาศ ชินเกตุ ครู คศ.1 4. นายวลิ ัยพร คานวณชัย พนกั งานราชการ 5. นางสาวศิโรรตั น์ กลบี เอม พนกั งานราชการ 6. นางสาวปรยิ านุช นะราแสง พนักงานราชการ 7. นายดนุนนั ท์ เฉยเฉลียง เจา้ หนา้ ที่ 8. นายอศิ รานุวัฒน์ ศลิ ปกรรม ชนิ เกตุ 1. นายวิลยั พร

สารบญั กจิ กรรม ลกั ษณะกจิ กรรม หนา้ ทมี่ าของการจดั กจิ กรรมเรยี นรู้ “ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลาร”ู้ 6 9 สรปุ การจดั กจิ กรรมเรยี นรู้ “ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร”ู้ แยกตามหมวด 11 14 ตารางสรปุ จานวนชว่ั โมงการจดั กจิ กรรม “ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลาร”ู้ ของคณะครู ระดบั ปวช. 17 หมวดท่ี 1 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น (กจิ กรรมบงั คบั ตามหลกั สตู ร) 19 32 1. กจิ กรรมลกู เสอื วิสามัญ1 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนบังคับ 45 47 2. องค์การวชิ าชีพ1 กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียนบังคับ 49 51 3. องค์การวิชาชพี 3 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนบงั คับ หมวดท่ี 2 สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ 4. ปวช. มเี ร่ือง (เลา่ ) 4-พฒั นาความสามารถด้านการส่อื สาร 5. พดู จาภาษาคอม 4-พฒั นาความสามารถดา้ นการสอื่ สาร 6. คดิ ได้จากภาพ 5-พฒั นาความสามารถด้านการคิดและการพฒั นากรอบ ความคิด แบบเปิดกวา้ ง (Growth Mindset) 7. คดิ ไดจ้ ากลวดเสียบกระดาษ 5-พฒั นาความสามารถด้านการคดิ และการพฒั นากรอบ ความคิด แบบเปิดกวา้ ง (Growth Mindset) 8. กระตกุ ตอ่ มคิดจากหนงั สอื 108 มงคล 5-พัฒนาความสามารถดา้ นการคดิ และการพัฒนาความ พระบรมราโชวาท เพ่ือความสขุ และ กรอบความคดิ แบบเปดิ กวา้ ง (Growth Mindset) ความสาเรจ็ ของชีวติ ท่ียงั่ ยนื 9. พ่ีสอนนอ้ งทา...หนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ 6-พฒั นาความสามารถดา้ นการแก้ปญั หา 10. พส่ี อนน้อง...จินตนาการบรรเจิด...ด้วย 6-พัฒนาความสามารถดา้ นการแก้ปญั หา โปรแกรม Picture Collage 11. การจดั ทาแฟ้มสะสมผลงานในรูปแบบ 7-พัฒนาความสามารถดา้ นการใช้เทคโนโลยี e-Portfolio 12. การจดั ทาแฟ้มสะสมผลงานด้วย 7-พัฒนาความสามารถด้านการใช้เทคโนโลยี โปรแกรม Microsoft Word 13. งานสารบรรณเบือ้ งต้น 8-พัฒนาทักษะการเรยี นรูส้ ง่ เสริมการเรียนรู้ หมวดวิชาชีพ 14. การใช้เคร่อื งใชส้ านกั งานเบ้ืองต้น 8-พัฒนาทกั ษะการเรยี นรู้ส่งเสริมการเรียนรู้ (โทรศัพทก์ บั งานเลขานุการ) หมวดวิชาชีพ

กจิ กรรม ลกั ษณะกจิ กรรม หนา้ 56 15. พมิ พด์ ดี องั กฤษให้คลอ่ ง 8-พัฒนาทกั ษะการเรียนรสู้ ่งเสริมการเรียนรู้ 57 หมวดวิชาชีพ 58 67 16. พมิ พด์ ีดไทยใหค้ ลอ่ ง 8-พฒั นาทกั ษะการเรยี นร้สู ่งเสริมการเรียนรู้ 68 หมวดวิชาชีพ 70 72 หมวดที่ 3 สรา้ งเสรมิ คณุ ลกั ษณะและคา่ นยิ ม 74 17. ธรรมะสะกิดใจ 11-ปลกู ฝังคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 76 78 18. ปวช. อาสา ลกู ราชประชา 33 9-ปลกู ฝงั คา่ นยิ ม และจติ สานึกการทาประโยชน์ต่อสังคม มีจติ สาธารณะและการให้บริการดา้ นต่างๆ ทั้งทีเ่ ปน็ 95 ประโยชนต์ อ่ ตนเองและส่วนรวม 97 19. กระตกุ ตอ่ มคดิ 135 20.1 กระตุกตอ่ มคิดจากหนงั สอื 11-ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม พระมหากษตั ริยย์ อดกตญั ญู เรือ่ งความกตญั ญู 20.2 กระตกุ ตอ่ มคิดจากหนงั สอื คณุ 11-ปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม ทองแดง เร่อื งความกตญั ญู 20.3 กระตกุ ต่อมคิดจากหนังสือ+ 11-ปลกู ฝงั คณุ ธรรม จริยธรรม พระมหาชนก เรอื่ ง ความอดทน ความมงุ่ มั่น 20.4 กระตุกต่อมคิดจากละคร 10-ปลูกฝังความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ เทดิ พระเกียรติเรือ่ งมลู นิธิประชานุ เคราะห์ในพระบรมราชูปถมั ภ์ 20.5 กระตกุ ต่อมคิดจากละคร 12-ปลกู ฝังความรกั ความภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย และ เทิดพระเกียรติ เร่อื งอาม่า หวงแหนสมบตั ิของชาติ 21. ตามรอยเท้าพอ่ อยู่อยา่ งพอเพยี ง 12-ปลกู ฝงั ความรัก ความภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย และ หวงแหนสมบตั ิของชาติ หมวดท่ี 4 สรา้ งเสรมิ ทกั ษะการทางาน การดารงชพี และทกั ษะชวี ติ 22. นาคณุ คา่ แหง่ การเรียนรู้ 14-ฝึกการทางาน ทกั ษะทางอาชีพ ทรพั ย์สินทางปัญญา อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง และมีวนิ ัยทางการเงิน 23. ชวั่ โมงทากนิ 14-ฝึกการทางาน ทกั ษะทางอาชพี ทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา - การทาขนมบัวลอย อยู่อย่างพอเพียง และมวี ินยั ทางการเงิน - การทาขนมต้ม - การทาขนมถวั่ แปบ - ศลิ ปะเพ่ืองานอาชพี - ไข่เค็ม 24. การจัดทาบญั ชรี ายรับ-จา่ ย 14-ฝึกการทางาน ทักษะทางอาชพี ทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา การคานวณต้นทุน-กาไร อย่อู ยา่ งพอเพยี ง และมีวินยั ทางการเงนิ

กจิ กรรม ลกั ษณะกจิ กรรม หนา้ 25. การจัดสวนหยอ่ ม 144 13-ตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความต้องการ 26. ธรรมชาตเิ ปน็ เงนิ เปน็ ทอง ของผูเ้ รียนตามความแตกตา่ งระหว่างบุคคล 145 - การทาปยุ๋ - การขยายพนั ธ์พชื 14-ฝกึ การทางาน ทกั ษะทางอาชีพ ทรัพย์สินทางปัญญา อยู่อย่างพอเพียง และมีวนิ ยั ทางการเงนิ 27. แรงบนั ดาลใจ...จากเด็กเรร่ อ่ น 28. ฟา้ มีตา 15-พัฒนาความสามารถดา้ นการใชท้ กั ษะชวี ติ 148 29. คาคม..คมความคดิ 15-พฒั นาความสามารถดา้ นการใช้ทกั ษะชวี ติ 150 30. Line Dance Very Happy 15-พัฒนาความสามารถดา้ นการใช้ทักษะชีวิต 152 31. หนงั สือในดวงใจ 16-กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถนะทางกาย 154 13-ตอบสนองความสนใจ ความถนดั และความต้องการ 156 ของผเู้ รยี นตามความแตกตา่ งระหว่างบุคคล

ทมี่ าของการจดั กจิ กรรมเรยี นรู้ “ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร”ู้ ระดบั ชน้ั ปวช. ตามทีโ่ รงเรียนได้รบั นโยบายจากกระทรวงศกึ ษาธิการให้จัดกิจกรรมเรียนรู้ “ลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้” ให้ทุกระดับช้ันจัดกิจกรรมเรียนรู้ดังกล่าว และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของทางโรงเรียนทาง ระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชพี จึงได้จดั ดาเนนิ การจัดกิจกรรมเรยี นรู้ “ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้” โดยใชแ้ นวทางการจัด กิจกรรมเรียนรู้ “ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้” ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1-3 ของสานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เป็นแนวทางการจัดกิจกรรม โดยแบ่ง กจิ กรรม “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้” แบง่ ออกเปน็ 4 หมวด 14 กลุ่มกจิ กรรม ดังน้ี หมวดที่ 1 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น (กิจกรรมบงั คบั ตามหลักสตู ร) 1. กิจกรรมแนะแนว 2. กิจกรรมนักเรียน 3. กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ (แต่ของระดับ ปวช. กิจกรรมบังคับตามหลักสูตร คือ กิจกรรม ลกู เสือวิสามัญ, กจิ กรรมองคก์ ารวิชาชพี 1-4) หมวดที่ 2 กิจกรรมสรา้ งสมรรถนะและการเรียนรู้ 4. พฒั นาความสามารถดา้ นการสอื่ สาร 5. พัฒนาความสามารถด้านการคิดและการพัฒนากรอบความคิด แบบกวา้ ง (Growth Mindset) 6. พัฒนาความสามารถดา้ นการแก้ปญั หา 7. พัฒนาความสามารถดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยี 8. พัฒนาทักษะการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการ เรียนรู้ (ปวช. พัฒนาทกั ษะการเรียนรู้ทส่ี ่งเสริมการเรยี น หมวด วิชาชพี )

หมวดที่ 3 กิจกรรมสร้างเสรมิ คณุ ลกั ษณะและค่านยิ ม หมวดที่ 4 9. ปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกการทาประโยชน์ต่อสังคมมีจิต สาธารณะและการให้บริการด้านต่างๆ ท้ังท่ีเป็นประโยชน์ต่อ ตวั เอง และต่อส่วนรวม 10. ปลกู ฝงั ความรกั ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ 11. ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม (มีวินัย ซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ อดทน ม่งุ มน่ั ในการทางาน กตญั ญู) 12. ปลูกฝังความรักความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและหวงแหน สมบตั ิของชาติ กจิ กรรมสร้างเสริมทักษะการทางาน การดารงชพี และทกั ษะชีวิต 13. ตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรียน ตามความแตกต่างระหว่างบคุ คล 14. ฝึกการทางาน ทักษะทางอาชีพ ทรัพย์สินทางปัญญา อยู่อย่าง พอเพยี งและมีวนิ ัยทางการเงิน 15. พัฒนาความสามารถดา้ นการใชท้ กั ษะชวี ติ 16. สรา้ งเสริมสมรรถนะทางกาย

การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1 “ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลารู้” เวลา ระดบั ชนั้ / ระดบั ชนั้ ปวช.1-3 ครผู สู้ อน หมวดที่ 1 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น (กจิ กรรมบงั คบั ตามหลกั สตู ร) 36 ปวช.1 ครวู ลิ ยั พร กจิ กรรม ลกั ษณะกจิ กรรม 36 ปวช.2 1. กจิ กรรมลูกเสอื วสิ ามัญ1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนบงั คับ ครอู ศิ รานุวัฒน์ 2. องค์การวิชาชพี 1 กิจกรรมพฒั นาผู้เรียนบงั คับ 36 ปวช.3 ครปู รียานุช 3. องค์การวิชาชีพ3 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนบังคับ

2 หมวดที่ 2 สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ กจิ กรรม ลกั ษณะกจิ กรรม เวลา ระดบั ชน้ั / ครผู สู้ อน 1. ปวช. มีเรอื่ ง (เลา่ ) 4-พัฒนาความสามารถดา้ นการส่อื สาร 2 ปวช.1-3 2. พูดจาภาษาคอม 4-พฒั นาความสามารถดา้ นการสอื่ สาร ครูพนิดา 3. คิดได้จากภาพ 5-พฒั นาความสามารถดา้ นการคิดและการ 4 ปวช.1 พัฒนากรอบความคิด แบบเปดิ กว้าง ครวู ลิ ยั พร 4. คิดไดจ้ ากลวดเสียบกระดาษ (GrowhtMidset) 5-พฒั นาความสามารถด้านการคดิ และการ 4 ปวช.1-3 5. กระตุกตอ่ มคิดจากหนงั สือ 108 พัฒนากรอบความคิด แบบเปิดกว้าง ครูพนิดา มงคล พระบรมราโชวาท เพื่อ (GrowhtMidset) ความสุขและความสาเร็จของชวี ิตที่ 5-พัฒนาความสามารถดา้ นการคดิ และ 2 ปวช.1 ยงั่ ยืน การพัฒน่อื ความกรอบความคิด แบบเปิด ครพู นิดา กว้าง (GrowhtMidset) 6. พี่สอนนอ้ งทา...หนงั สือ 8 ปวช.2 อิเลก็ ทรอนิกส์ ครูพนดิ า 7. พสี่ อนน้อง...จินตนาการบรรเจิด... 6-พฒั นาความสามารถดา้ นการแก้ปัญหา 4 ปวช.1,3 ดว้ ยโปรแกรม Picture Collage ครวู ิลัยพร 8. การจดั ทาแฟม้ สะสมผลงานใน 6-พฒั นาความสามารถด้านการแก้ปัญหา 4 ปวช.1,3 รูปแบบ e-Portfolio ครูอศิ รานุวัฒน์ 9. การจัดทาแฟ้มสะสมผลงานดว้ ย 7-พัฒนาความสามารถดา้ นการใช้เทคโนโลยี 4 ปวช.3 โปรแกรม Microsoft Word ครูดนุนนั ท์ 10. งานสารบรรณเบอ้ื งต้น 7-พฒั นาความสามารถดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยี 4 ปวช.2 ครกู ญั ญาณัฐ 11. การใชเ้ คร่ืองใช้สานกั งานเบือ้ งตน้ (โทรศัพท์กบั งานเลขานกุ าร) 8-พฒั นาทกั ษะการเรยี นรู้สง่ เสรมิ การเรียนรู้ 2 ปวช.2 หมวดวิชาชพี ครูอิศรานุวฒั น์ 8-พฒั นาทกั ษะการเรยี นรู้ส่งเสรมิ การเรียนรู้ 2 ปวช.2 หมวดวิชาชีพ ครปู รียานุช 12. พมิ พ์ดีดอังกฤษให้คล่อง 8-พฒั นาทักษะการเรียนรสู้ ่งเสริมการเรียนรู้ 36 ปวช.1 13. พิมพ์ดีดไทยให้คล่อง หมวดวิชาชีพ ครูศิโรรตั น์ 8-พฒั นาทกั ษะการเรียนรสู้ ง่ เสริมการเรียนรู้ หมวดวิชาชีพ 36 ปวช.2 ครปู ิยะมาศ

3 หมวดที่ 3 สรา้ งเสรมิ คณุ ลกั ษณะและคา่ นยิ ม กจิ กรรม ลกั ษณะกจิ กรรม เวลา ระดบั ชนั้ / 11-ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ครผู สู้ อน 1. ธรรมะสะกดิ ใจ 9-ปลูกฝังค่านยิ ม และจติ สานกึ การทา ประโยชน์ต่อสงั คม มีจติ สาธารณะและการ 18 ปวช.1-3 2. ปวช. อาสา ลูกราชประชา 33 ใหบ้ ริการด้านต่างๆ ทั้งท่เี ป็นประโยชน์ตอ่ ครกู ญั ญาณัฐ ตนเองและสว่ นรวม 3. กระตกุ ตอ่ มคดิ 8 ปวช.1-3 4.1 กระตุกต่อมคิดจากหนังสอื ครศู ิโรรตั น์ พระมหากษัตริยย์ อดกตัญญู 4.2 กระตกุ ตอ่ มคิดจากหนงั สอื คุณ 11-ปลกู ฝังคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 4 ปวช.1 ทองแดง เรอ่ื งความกตญั ญู ครูพนิดา 4.3 กระตุกต่อมคดิ จากหนังสือ+พระ มหาชนก 11-ปลูกฝงั คณุ ธรรม จริยธรรม 4 ปวช.1 4.4 กระตกุ ตอ่ มคิดจากละคร เร่ืองความกตญั ญู ครพู นดิ า เทิดพระเกียรติเร่ืองมูลนธิ ิประชานุ เคราะหใ์ นพระบรมราชูปถมั ภ์ 11-ปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม 4 ปวช.1 4.5 กระตกุ ตอ่ มคิดจากละคร เรื่อง ความอดทน ความมุ่งม่นั ครพู นดิ า เทดิ พระเกียรติ เรอ่ื งอาม่า 5 ตามรอยเทา้ พ่อ อยู่อย่างพอเพยี ง 10-ปลูกฝังความรักชาติ ศาสนา 4 ปวช.1-3 พระมหากษัตริย์ ครูดนุนันท์ 12-ปลกู ฝงั ความรกั ความภาคภูมใิ จในความ 4 ปวช.1 เปน็ ไทย และหวงแหนสมบตั ิของชาติ ครดู นุนันท์ 12-ปลกู ฝังความรัก ความภาคภูมิใจในความ เป็นไทย และหวงแหนสมบัตขิ องชาติ 4 ปวช.1 ครกู ัญญาณัฐ

4 หมวดท่ี 4 สรา้ งเสรมิ ทกั ษะการทางาน การดารงชพี และทกั ษะชวี ติ กจิ กรรม ลกั ษณะกจิ กรรม เวลา ระดบั ชน้ั / ครผู สู้ อน 1. นาคุณค่าแหง่ การเรยี นรู้ 14-ฝึกการทางาน ทักษะทางอาชพี ทรพั ย์สิน ทางปัญญา อย่อู ยา่ งพอเพียง และมีวนิ ัยทาง 10 ปวช.1-3 2. ชัว่ โมงทากนิ การเงิน ครูสิงหา - การทาขนมบัวลอย 14-ฝกึ การทางาน ทักษะทางอาชพี ทรัพยส์ ิน - การทาขนมต้ม ทางปัญญา อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง และมวี ินัยทาง 20 ปวช.1-3 - การทาขนมถัว่ แปบ การเงนิ ครพู นิดา - ศิลปะเพื่องานอาชีพ ครกู ญั ญาณัฐ - ไข่เค็ม ครอู ศิ รานุวัฒน์ 3. การจดั ทาบัญชรี ายรับ-จา่ ย 14-ฝกึ การทางาน ทักษะทางอาชพี ทรพั ยส์ ิน 8 ปวช.1-3 การคานวณต้นทนุ -กาไร ทางปัญญา อยอู่ ยา่ งพอเพียง และมีวนิ ัยทาง ครกู ญั ญาณัฐ การเงิน 4. การจดั สวนหย่อม 13-ตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความ 8 ปวช.1-3 5. ธรรมชาติเป็นเงนิ เปน็ ทอง ต้องการของผ้เู รียนตามความแตกตา่ งระหว่าง ครูวิลัยพร - การทาปุ๋ย - การขยายพันธพ์ ชื บุคคล 6. แรงบนั ดาลใจ...จากเดก็ เร่ร่อน 14-ฝึกการทางาน ทกั ษะทางอาชีพ ทรพั ยส์ ิน 8 ปวช.1-3 7. ฟ้ามตี า ทางปัญญา อยอู่ ยา่ งพอเพียง และมวี ินัยทาง ครกู ญั ญาณัฐ การเงนิ 8. คาคม..คมความคิด 15-พัฒนาความสามารถด้านการใชท้ ักษะชวี ติ 1 ปวช.1-3 9. Line Dance Very Happy ครูปยิ ะมาศ 10. หนังสอื ในดวงใจ 15-พฒั นาความสามารถด้านการใช้ทักษะชีวิต 8 ปวช.1-3 ครพู นิดา 15-พัฒนาความสามารถด้านการใช้ทกั ษะชวี ิต 8 ปวช.1-3 ครปู รียานุช 16-กจิ กรรมสรา้ งเสริมสมรรถนะทางกาย 8 ปวช.1-3 ครกู ัญญาณัฐ 13-ตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความ 8 ปวช.2-3 ตอ้ งการของผูเ้ รยี นตามความแตกตา่ งระหว่าง ครูดนนุ นั ท์ บุคคล

5 ตารางสรปุ จานวนชว่ั โมงการจดั กจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพม่ิ เวลารู้ ของคณะครู ระดบั ชน้ั ปวช. คณุ ครผู จู้ ดั กจิ กรรม จานวนกจิ กรรม จานวนชวั่ โมงจดั กจิ กรรม 1. ครูพนดิ า น้อยศรี 8 46 2. ครูกัญญาณัฐ บัวโต 3. ครูปิยะมาศ ทองกระจ่าง 7 54 4. ครูวลิ ัยพร ชนิ เกตุ 2 40 5. ครศู ิโรรตั น์ คานวณชยั 6. ครูอิศรานุวฒั น์ เฉยเฉลียง 4 56 7. ครปู รยี านชุ กลบี เอม 8. ครดู นุนันท์ นะราแสง 1 44 9. ครสู ิงหา แซม่ ือ 4 48 3 46 ปวช.3 4 20 จนั ทร์ 1 10 พธุ 6 ก.ค คาบ 6 ครพู นิดา 13 คาบ 7 ครูวิลยั พร 20 27 ครูกัญญาณัฐ 3 ส.ค. 10 ปวช.2 ครกู ัญญาณัฐ 17 ครปู รียานุช 24 ปวช.2 ครูดนุนันท์ ครูกญั ญาณัฐ ศุกร์ 7 ครปู ิยะมาศ ครศู ิโรรัตน์ ปวช.1 4 3 จนั ทร์ 3 พฤหสั 4 ศุกร์ ศกุ ร์

6 หมวดท่ี 2 สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ กจิ กรรม 4 พฒั นาความสามารถดา้ นการสอื่ สาร กิจกรรมท่ี 2.1 1. ชอื่ กจิ กรรม ปวช. มเี รอ่ื ง (เลา่ ) 2. เวลาทใี่ ช้ 2 ช่วั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. นกั เรยี นสามารถฝกึ ทกั ษะการสอ่ื สารโดยใช้ภาษาและท่าทาง 2. นกั เรียนเกดิ ทักษะการคิดและการวางแผนในการทางานร่วมกันแบบเปน็ ทมี 3. นักเรียนกลา้ คดิ กลา้ แสดงออกตอ่ สังคม 4. นักเรยี นนาหลักในการพัฒนาตนเองและข้อคดิ ไปเผยแพร่ผ่านการเลา่ เรื่อง 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นและครูรว่ มเลือกวิธีการพฒั นาตนเอง โดยใชก้ ระบวนการถกแถลง 2. ฝกึ ทกั ษะการนาเสนอใหเ้ พือ่ นๆ ฟัง 3. เมื่อเล่าเร่อื งจนเกิดความมน่ั ใจแลว้ ให้นกั เรียน นาเสนอตอ่ หน้าชุมชน เชน่ หน้าเสาธง 5. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือที่ให้ขอ้ คิดในการพฒั นาตนเอง 2. Internet 3. อ่ืนๆ 6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในเรื่องตอ่ ไปน้ี 6.1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม 6.1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 6.2 สอบถามความพึงพอใจตอ่ การเข้ารว่ มกจิ กรรมของนกั เรยี น     นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ

7 ตารางการพดู หนา้ เสาธง ครงั้ ที่ วนั ที่ ผนู้ าเสนอ เรอ่ื งทนี่ าเสนอ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20.

ความพงึ พอใจตอ่ กจิ กรรม ปวช. มเี รอื่ งเลา่ 8 กจิ กรรมยอ่ ย การพดู หนา้ เสาธง ชอื่ /นามสกุล............................................................... ระดบั ชน้ั ....................ร่นุ ..............เลขท่ี..................... วันทีน่ าเสนอ............................................................. เรอื่ งทเี่ ลา่ เนอื้ หาโดยสรปุ ความรสู้ กึ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้    นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ

9 หมวดที่ 2 สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ กจิ กรรม 4 พฒั นาความสามารถดา้ นการสอ่ื สาร กจิ กรรมที่ 2.2 1. ชอ่ื กจิ กรรม พดู จาภาษาคอม 2. เวลาทใ่ี ช้ 4 ชวั่ โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. นกั เรยี นสามารถฝึกทกั ษะการสอ่ื สารโดยใชภ้ าษาและท่าทาง 2. นักเรียนเกดิ ทกั ษะการคิดและการวางแผนในการทางาน 3. นักเรียนกล้าคดิ กล้าแสดงออกต่อสังคม 4. นักเรยี นสามารถถ่ายทอดความร้เู กย่ี วกับความร้ทู างด้านคอมพวิ เตอร์ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นและครูรว่ มเลือกความรเู้ กี่ยวกับความรู้ด้านเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ 2. ฝึกทกั ษะการนาเสนอ 3. จดั บอร์ดเพ่ือนาเสนอให้ความร้กู ับผ้อู ่ืน 5. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเกีย่ วกบั ความรู้ดา้ นคอมพวิ เตอร์ 2. Internet 3. ของจรงิ 4. อ่ืนๆ 6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 สังเกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเร่อื งตอ่ ไปนี้ 6.1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 6.1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกจิ กรรม 6.2 สอบถามความพึงพอใจตอ่ การเข้าร่วมกิจกรรมของนกั เรยี น    นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ

ความพงึ พอใจตอ่ กจิ กรรม 10 กจิ กรรมยอ่ ย “พดู จาภาษาคอม” ช่อื /นามสกลุ ............................................................... เนอ้ื หาโดยสรปุ ระดับชัน้ ....................รุ่น..............เลขท่.ี .................... วันที่นาเสนอ............................................................. สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้ ความพงึ พอใจตอ่ การไดเ้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม    นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ

11 หมวดที่ 2 สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ กจิ กรรม 5 พฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ และการพฒั นากรอบความคดิ แบบเปดิ กวา้ ง (Growth Mindset) กจิ กรรมท่ี 2.3 1. ชอ่ื กจิ กรรม คดิ ไดจ้ ากภาพ 2. เวลาทใ่ี ช้ 4 ชั่วโมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. ฝกึ ทกั ษะความคิด และการพัฒนากรอบความคิด แบบเปิดกว้าง จากภาพทเี่ ห็น 2. ฝึกความช่างสังเกต มองสิง่ ต่างๆ ทีเ่ ห็นอยา่ งลึกซ้ึง 3. สามารถส่ือสารส่งิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ ให้ผู้อนื่ เข้าใจในความคดิ ได้ 4. กลา้ แสดงความคดิ ของตนเองได้อย่างเหมาะสม 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครูมอบใบงานให้นักเรียนได้คิด วเิ คราะห์ 2. นักเรยี นถ่ายทอดความรู้สึก ส่ิงทไ่ี ด้เรยี นรู้ ได้ทงั้ ภาษาพดู และภาษาเขยี น 5. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ใบงานที่ 2.3.1 2. ใบงานท่ี 2.3.2 6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 สงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นในเร่ืองตอ่ ไปนี้ 6.1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 6.1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 6.2 สอบถามความพงึ พอใจตอ่ การเข้ารว่ มกจิ กรรมของนักเรยี น    นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทสี่ ดุ 6.3 แบบบันทกึ สิ่งท่ีได้เรียน ความประทบั ใจ จากใบงาน

ใบงานที่ 2.3.1 คดิ จากภาพ ? 12 ชอ่ื /นามสกุล............................................................... ระดับชนั้ ....................รุ่น..............เลขท่ี..................... วนั ทน่ี าเสนอ............................................................. ภาพนฉี้ นั ขอใหช้ อื่ วา่ ความรสู้ กึ ของฉนั ทเ่ี หน็ ภาพนี้ ภาพนท้ี าใหฉ้ นั ไดค้ ดิ ...ไดว้ า่ ...ฉนั ...?

ใบงานที่ 2.3.2 คดิ จากภาพ ? 13 ชอ่ื /นามสกุล............................................................... ระดับช้นั ....................รุน่ ..............เลขท.ี่ .................... วนั ท่นี าเสนอ............................................................. ภาพนฉ้ี นั ขอใหช้ อ่ื วา่ ความรสู้ กึ ของฉนั ทเี่ หน็ ภาพน้ี ภาพนส้ี อนใหฉ้ นั ไดค้ ดิ .. วา่ .?

14 หมวดที่ 2 สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ กจิ กรรม 5 พฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ และการพฒั นากรอบความคดิ แบบเปดิ กวา้ ง (Growth Mindset) กจิ กรรมที่ 2.4 1. ชอ่ื กจิ กรรม สอนใหค้ ดิ ....จากลวดเสยี บกระดาษ 2. เวลาทใี่ ช้ 2 ชัว่ โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. ฝกึ ทักษะด้านการคิด และการพัฒนากรอบความคิด แบบเปิดกวา้ ง 2. นักเรียนสามารถส่อื สารสิง่ ท่ไี ด้เรยี นรู้ ให้ผูอ้ ่ืนเขา้ ใจในความคิดได้ 3. นกั เรียนกล้าแสดงความของตนเองได้ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครูเลา่ เรือ่ งเก่ียวกบั ประวตั ิความเป็นมาของลวดเสยี บกระดาษ 2. ครเู ตรียมลวดเสยี บกระดาษให้เพยี งพอกบั นักเรียน 2. ใหน้ ักเรียนทาตามคาสั่งทคี่ รกู าหนด 2.1 คาสง่ั  ให้นกั เรยี นดงึ ลวดเสยี บกระดาษ ใหเ้ ปน็ ตรงให้มากที่สดุ เท่าท่ี นกั เรียนจะทาได้ 2.2 คาสง่ั  ใหน้ ักเรียนเปลยี่ นรูปร่างของลวดเสยี บกระดาษเปน็ รูปร่างท่นี ักเรียนต้องการ 2.3 คาสงั่  ให้นักเรยี นทาให้ลวดเสยี บกระดาษกลับมาเปน็ รูปทรงเหมอื นเดิม 3. ให้นกั เรียนสรุปส่งิ ที่ได้เรยี นรู้จากกจิ กรรม 4. แลกเปลยี่ นสงิ่ ที่ไดเ้ รียนรู้ระหว่างเพื่อนๆ ทเ่ี ข้ารว่ มกิจกรรม 5. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ลวดเสียบกระดาษ 2. บันทึกส่งิ ท่นี ักเรียนได้เรียนรู้ 6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 สงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นในเรือ่ งต่อไปน้ี 6.1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม 6.1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 6.2 สอบถามความพงึ พอใจตอ่ การเข้ารว่ มกิจกรรมของนักเรยี น    นอ้ ยทส่ี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ 6.3 แบบบันทกึ สง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี น ความประทบั ใจ จากใบงาน

15 เกรด็ ความรู้ประวัติความเป็นมาของลวดเสยี บกระดาษ ย้อนกลับไปเม่ือหลาย 10 ปีก่อน ที่เมืองๆ หนึ่งในสหรัฐอเมริกา …. เร่อื งราวมันเรม่ิ ต้นจากผชู้ ายคนหน่งึ กาลังน่งั รอรถโดยสารประจาทางอยู่ ซึง่ ใน ระหว่างท่นี ัง่ รอรถน้นั เขาบังเอิญเห็นเส้นลวดตกอยู่ท่ีพื้นด้วยความท่ีรู้สกึ ว่าไม่มี อะไรทา ก็เลยหยิบลวดท่ีตกอยู่บนพ้ืนมาบิดเล่น ม้วนไป ม้วนมา จนเมื่อรถ โดยสารมาถึง เขากเ็ ลยหยิบลวด เสียบเข้าไปในกระเป๋าเส้ือ และก็รีบว่งิ ขึน้ รถโดยสารไป ในขณะที่เขานั่งรถโดยสารไปได้สักครู่น้ัน ก็นึกขึ้นได้ว่าเม่ือกี้นั่งบิดลวดเล่นอยู่ เลยหยิบลวด กะจะ เอามาบิดเล่นต่อ ปรากฏว่า ลวดมนั ดันไปหนบี กระดาบสองแผน่ ทอ่ี ยใู่ นกระเป๋าเสือ้ ให้ตดิ กนั เฉยเลย! ซึง่ นั่นเป็นการคน้ พบ ”วิธกี ารทาใหก้ ระดาษสองแผน่ กนั โดยไม่ต้องใช้กาว” ครง้ั แรกบนโลก!! หลงั จากการคน้ พบวันนั้น ผู้ชายคนนั้นกร็ สู้ กึ ว่ามันสะดวกดี ไมต่ อ้ งมาใชก้ าวใหเ้ หนยี วมอื เลยมว้ น ลวดไว้ใช้เองท่ีบ้านสองปี! จนกระทง่ั วนั หน่งึ ท่ีเขาไปนั่งกินขา้ วที่ชนั้ โรงอาหารของตกึ สานักงานแห่งหนงึ่ โดยบนโต๊ะกม็ เี อกสาร ท่ีมีคลิปหนีบกระดาษหนีบๆ กองไว้ โตะ๊ ขา้ งๆ ซ่งึ เป็นวิศวกรคนหนึง่ กาลงั นัง่ ด่มื กาแฟอยู่ หนั มาเห็นเขา้ เลย รูส้ กึ แปลกใจ เลยลกุ เขา้ มาถามว่า “น่ีคณุ ไอ้นีม่ ันอะไรหรอ น่าใช้จัง ซอ้ื ทไี่ หนแนะนาผมหนอ่ ยสิ!” ผ้ชู ายเจ้าของคลิปนัน้ กต็ อบแบบภูมิใจว่า “ออ๋ ไมไ่ ด้ซ้อื จากไหนหรอก ผมทาไวใ้ ช้เองแหละ เอาไปใช้ม้ัยล่ะ ผมให้!” “จรงิ หรอ นีค่ ุณทาเองเลยหรอ ผมขอซอื้ ได้มั้ย!?” “ไมเ่ ป็นไรหรอก แค่ลวดธรรมดาๆเอง เอาไปเถอะ” “ไมไ่ ด้ๆๆ ยังไงผมกต็ อ้ งซื้อ” หลงั จบบทสนทนา ปรากฏว่าวศิ วกรคนน้นั ซือ้ คลปิ หนีบกระดาษไปในราคา 20$ วันน้ันผชู้ ายคนที่เปน็ เจ้าของคลปิ กลับบ้านดว้ ยความดีใจ เพราะเขาขายลวดธรรมดาๆ ได้ตัง้ 20$ แตอ่ ีกทางดา้ นหน่งึ วศิ วกรหนมุ่ คนนัน้ หลังจากซอื้ คลปิ อันน้นั มาด้วยราคา 20$ เขาวิ่งขึ้นไปช้ันบน และเข้าไปคุยกบั หัวหนา้ พร้อมกบั ว่า “หวั หนา้ ครบั หลงั จากนบ้ี รษิ ทั เรามาผลติ ไอน้ ขี่ ายกนั เถอะ!!” บรษิ ทั ที่ว่านั้น คอื บริษทั 3M และหลังจากน้นั ไม่ก่ปี บี ริษทั 3M ก็เปน็ บริษทั ท่มี ียอดจัดจาหนา่ ยคลปิ หนบี กระดาษมากท่ีสดุ ในโลก!! และตามกฎมายทรพั ย์สนิ ทางปญั หา หลังจากนนั้ 25 ปี บริษทั ใดก็ตามท่ี ผลติ คลิปหนบี กระดาษต้องจ่ายค่าลิขสิทธ์ิใหบ้ ริษัท 3M ดว้ ย!

บนั ทกึ ส่งิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้จากกิจกรรม 16 สอนใหค้ ิด....จากลวดเสียบกระดาษ ชือ่ /นามสกลุ ............................................................... สงิ่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ ระดบั ชั้น....................รุ่น..............เลขที.่ .................... ความพงึ พอใจตอ่ การเขา้ รว่ มกจิ กรรมของนกั เรยี น ความพงึ พอใจตอ่ กจิ กรรม   นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทสี่ ดุ

17 หมวดท่ี 2 สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ กจิ กรรม 5 พฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ และการพฒั นากรอบความคดิ แบบเปดิ กวา้ ง (Growth Mindset) กิจกรรมท่ี 2.5 1. ชอื่ กจิ กรรม กระตกุ ตอ่ มคดิ จากหนงั สอื 108 มงคล พระบรมราโชวาท เพอ่ื ความสขุ และความสาเรจ็ ของชวี ติ แบบยง่ั ยนื 2. เวลาทใ่ี ช้ 8 ชัว่ โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. ฝึกทักษะด้านการอ่าน การคิด และการพัฒนากรอบความคดิ แบบเปิดกว้าง 2. นกั เรียนสามารถส่ือสารสง่ิ ท่ไี ด้เรียนรู้ ใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจในความคิดได้ 3. นักเรียนกลา้ แสดงความของตนเองได้ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนอ่านหนังสือ 108 มงคล 2. บนั ทกึ ข้อความท่ีประทับใจจากหนังสือ 108 มงคล 3. สรปุ สงิ่ ทน่ี ักเรยี นได้เรียนรู้จากมงคลชวี ิตขอ้ ต่างๆ 4. แลกเปลี่ยนมงคลชีวิตทีน่ ักเรียนประทับใจ กบั เพ่ือนๆ ทเี่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม 5. จัดแสดงบอรด์ แสดงพระบรมราโชวาททีเ่ ปน็ มงคลทป่ี ระทบั ใจ พรอ้ มเหตผุ ลทน่ี ักเรียนประทับใจ 5. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือ 108 มงคลชวี ิต พระบรมราโชวาท เพือ่ ความสขุ และความสาเร็จของชวี ิตแบบยงั่ ยนื 2. สมุดบนั ทึก 6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นในเร่ืองต่อไปนี้ 6.1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม 6.1.2 สังเกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 6.2 ผลการบันทกึ จากการอ่านหนังสือ 108 มงคล 6.3 บอรด์ แสดงผลงานทางความคิด 6.4 สอบถามความพงึ พอใจตอ่ การเข้าร่วมกจิ กรรมของนักเรยี น   นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ

ประเมนิ ผลกจิ กรรมกระตกุ ตอ่ มคดิ 18 จากหนงั สอื 108 มงคล พระบรมราโชวาท เพอ่ื ความสขุ และความสาเรจ็ ของชวี ติ แบบยงั่ ยนื ชอื่ /นามสกลุ ............................................................... สงิ่ ทไี่ ดเ้ รยี นรจู้ ากหนงั สอื 108 มงคล ระดบั ชนั้ ....................รุ่น..............เลขที.่ .................... พระบรมราโชวาท มงคลชวี ติ ทปี่ ระทบั ใจ มงคลชวี ติ ทตี่ รงกบั ตวั เอง มงคลชวี ติ ทตี่ ง้ั ใจนามาเปลย่ี นชวี ติ ตวั เอง ความพงึ พอใจตอ่ การไดอ้ า่ น 108 มงคลชวี ติ    นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ

19 หมวดที่ 2 สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ กจิ กรรม 6 พฒั นาความสามารถดา้ นการแกป้ ญั หา กิจกรรมที่ 2.6 1. ชอื่ กจิ กรรม พสี่ อนนอ้ งทา...หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 2. เวลาทใ่ี ช้ 4 ชวั่ โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ให้นกั เรยี นรู้จักวธิ กี ารถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อนื่ 2. เพือ่ ให้นักเรียนร้วู า่ “การให้” มีหลายวธิ ี และการให้ทาให้มีความสุขและเกิดประโยชนก์ บั ผ้อู ืน่ 3. เพ่ือให้เกิดความมั่นใจ เชอื่ ม่ันในตนเอง และเหน็ คณุ คา่ ของตนเอง 4. เพ่อื ใหเ้ ห็นประโยชนข์ องการศึกษา 5. เพ่ือให้รู้จักการแก้ไขปัญหาทีเ่ กิดข้นึ ในระหว่างการทากิจกรรม 6. เพือ่ สรา้ งสัมพันธภาพท่ดี รี ะหว่างรุ่นพแ่ี ละรนุ่ น้อง 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนรุน่ พี่ และ รนุ่ นอ้ ง จบั คเู่ ปน็ Buddy ตามความเหมาะสมของจานวนนักเรยี น 2. นกั เรียนร่นุ พ่ี สอน รุ่นนอ้ ง ในการทาหนงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์ ด้วยโปแกรม Flip Album โดยกาหนดหลักเกณฑด์ ังนี้ 1. ใหน้ กั เรียนทาหนงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์คนละ 1 เรื่อง ห้ามซ้ากัน 2. ทาไม่ต่ากว่า 15 หน้า โดยมอี งค์ประกอบของหนังสือดังนี้ 2.1 ปกหนา้ 2.2 ปกหลงั 2.3 สารบัญ 2.4 เน้ือหา 2.5 รปู ภาพ 2.6 ภาพเคลอื่ นไหว 2.7 ไฟล์ VDO 2.8 ไฟล์เสียง 3. ทาการบันทึกไฟลใ์ นรปู แบบไฟลต์ ้นฉบบั ทีส่ ามารถแกไ้ ขไดแ้ ละแปลงเป็นไฟล์ CD 5. ให้รุ่นพส่ี ะทอ้ นสงิ่ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ และความประทับใจในการเปน็ ครสู อนน้อง 6. ใหร้ ุ่นน้องสะท้อนความคดิ เห็น ความประทับใจที่มีต่อรนุ่ พแ่ี ละกจิ กรรม

20 5. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. คู่มือการใช้โปรแกรม Flip Album 2. หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์ 3. คอมพวิ เตอร์ 4. หอ้ งประชุมท่ีใช้ในการนาเสนอผลงาน 6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในเรื่องตอ่ ไปน้ี 6.1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม 6.1.2 สงั เกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 6.2 แบบประเมินความพึงพอใจตอ่ กิจกรรม 6.3 สอบถามความพึงพอใจต่อการเข้ารว่ มกจิ กรรมของนกั เรียน   นอ้ ยทส่ี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทสี่ ดุ

แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ 21 กจิ กรรมพสี่ อนนอ้ งทา...หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ชอื่ /นามสกลุ ............................................................... ระดับชน้ั ....................รนุ่ ..............เลขท.่ี .................... คาชแี้ จง ใหท้ าเคร่ืองหมาย  ใหต้ รงกบั ความคดิ เห็นของนกั เรียน ระดบั 5 หมายถึง พึงพอใจมากทีส่ ุด ระดับ 4 หมายถงึ พงึ พอใจมาก ระดบั 3 หมายถึง พงึ พอใจปานกลาง ระดับ 2 หมายถงึ พงึ พอใจน้อย ระดับ 1 หมายถงึ พึงพอใจน้อยท่ีสุด ประเมนิ ผสู้ อน ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ ระดบั ความพงึ พอใจ 1. นกั เรยี นมคี วามสุขและพึงพอใจในการเป็นผถู้ ่ายทอดความร/ู้ ผู้สอนใหก้ ับผอู้ น่ื 5 4 3 2 1 2. นักเรียนมคี วามมัน่ ใจในการสอนผูอ้ นื่ 3. นักเรยี นมีความเชื่อมัน่ ในตนเอง 4. นักเรียนเหน็ วา่ ตนเองมีคณุ คา่ และสามารถสรา้ งประโยชน์กบั ต่อผู้อื่น 5. นักเรียนรวู้ ่าการศึกษามปี ระโยชน์ทัง้ ต่อตนเองและผอู้ ื่น 6. นักเรียนสามารถแก้ไขปัญหาทเี่ กดิ ข้นึ ในระหว่างการทากจิ กรรม 7. นกั เรยี นได้ร้จู ักกนั มากข้นึ 8. นักเรยี นมีสมั พนั ธภาพที่ดีกบั ผ้อู ่นื 9. นกั เรียนไดช้ ว่ ยเหลอื เก้อื กลู ซ่งึ กันและกัน 10. นกั เรียนมีโอกาสทากจิ กรรมได้อย่างอิสระแตอ่ ยู่ในขอบเขตของการเป็นนกั เรียน ทดี่ ี 11. นักเรียนรูจ้ ักใชเ้ วลาใหเ้ กิดประโยชน์ 12. บรรยากาศในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเป็นกนั เอง ความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ ตอ่ กจิ กรรม“พสี่ อน นอ้ งทา หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส”์ สงิ่ ทไี่ ดเ้ รยี นรจู้ ากกจิ กรรม ความรสู้ กึ /ความประทบั ใจ ขอ้ เสนอแนะ

แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ 22 กจิ กรรมพสี่ อนนอ้ งทา...หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ชือ่ /นามสกลุ ............................................................... ระดบั ชน้ั ....................ร่นุ ..............เลขท.่ี .................... คาชแ้ี จง ใหท้ าเคร่อื งหมาย  ใหต้ รงกบั ความคิดเห็นของนักเรยี น ระดับ 5 หมายถึง พงึ พอใจมากทีส่ ดุ ระดับ 4 หมายถงึ พึงพอใจมาก ระดบั 3 หมายถงึ พึงพอใจปานกลาง ระดับ 2 หมายถึง พึงพอใจน้อย ระดบั 1 หมายถึง พงึ พอใจน้อยทส่ี ดุ ประเมนิ ผเู้ รยี น ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ ระดบั ความพงึ พอใจ 1. นักเรียนมคี วามสุขและพึงพอใจในพีท่ ่ีมาสอน 5 4321 2. นักเรียนรู้ว่าการศึกษามปี ระโยชน์ท้งั ตอ่ ตนเองและผู้อนื่ 3. นักเรียนสามารถแกไ้ ขปัญหาที่เกดิ ขึน้ ในระหว่างการทากิจกรรม 4. นกั เรยี นไดร้ จู้ ักกันมากขึ้น 5. นักเรยี นมีสัมพันธภาพทด่ี ีกับผอู้ ืน่ 6. นักเรยี นได้ช่วยเหลือเก้อื กูลซึง่ กันและกนั 7. นกั เรยี นมีโอกาสทากิจกรรมได้อย่างอิสระแตอ่ ยู่ในขอบเขตของการเปน็ นักเรียนท่ีดี 8. นักเรียนรูจ้ ักใชเ้ วลาใหเ้ กดิ ประโยชน์ 9. บรรยากาศในการปฏิบัตกิ จิ กรรมเป็นกันเอง ความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ ตอ่ กจิ กรรม“พสี่ อน นอ้ งทา หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส”์ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรจู้ ากกจิ กรรม ความรสู้ กึ /ความประทบั ใจ ขอ้ เสนอแนะ

23 คมู่ อื การสรา้ ง E- Book ดว้ ยโปรเเกรม FlipAlbum สือ่ นาเสนอในปจั จุบนั ได้มีการพฒั นารปู แบบใหมค่ วามโดดเดน่ น่าสนใจดว้ ยเทคโนโลยมี ัลติมีเดีย (Multimedia) การนาเสนอข้อความหรือเนื้อหาปริมาณมากๆ ในลักษณะของสิ่งพิมพ์หรือ หนังสือ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Book) กม็ กี ารปรับเปลีย่ นรูปแบบจากสิ่งพมิ พห์ รอื หนงั สอื ท่เี ปน็ ไฟล์เน้อื หาเพยี งอย่างเดียว ต้องดูด้วยเทคนิคการเล่ือนจอภาพ ไปเป็นเทคนิคการนาเสนอที่มีลักษณะการเปิดหน้าหนังสอแบบ เสมือน เน้ือหาท่ีนาเสนอเป็นได้ท้ังข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว วิดีทัศน์ และเสียง อันเป็นการใช้ ความสามารถของเทคโนโลยีมัลติมเี ดยี มาผสมผสานกบ e-Book ได้อยา่ งลงตัว เปน็ ส่อื ท่ีไดร้ ับความนยิ มสูง อยา่ งมากในปจั จุบนั ภายใต้ชื่อเรียกวา่ Multimedia e-Book การพฒั นา Multimedia e-Book มซี อฟตแ์ วรช์ ว่ ยหลายตัว โดยซอฟตแ์ วร์ท่ีโดดเด่นตัวหนง่ึ คอื Flip Album โดยความสามารถของโปรแกรมที่ทาให้การนาเสนอสื่อออกมาในรูปแบบ 3D Page-Flipping interface และมี ชื่อเรียกเฉพาะว่า Flipbook ผลงานท่ีได้น้ีสามารถนาเสนอได้ท้ังแบบ Offline ด้วยความสามารถ AutoRun อตั โนมตั ิ และ Online ผา่ นโปรแกรมแสดงผลเฉพาะ Flip Viewer คณุ สมบตั ขิ น้ั ตา่ ของคอมพวิ เตอร์ ระบบปฏิบัติการ Windows® 98/2000/ME/XP คอมพวิ เตอร์ IBM PC compatible หนว่ ยประมวลผล Pentium® II 300 MHz - หน่วยความจาแรมอย่างตา่ 128 MB

24 - พ้ืนทว่ี ่างของฮาร์ดดสิ กอ์ ยา่ งต่า 100 MB - การด์ แสดงผล 16-bit - จอภาพทีม่ คี วามละเอยี ดไม่นอ้ ยกวา่ 800x600 pixels เตรยี มความพรอ้ มกอ่ นสรา้ ง E-Book ข้อมูลที่สามารถใส่ลงในโปรเเกรม Flip album ได้น้ันมีรูปเเบบที่หลากหลายท้ังข้อความ, ภาพนิ่ง, ภาพเคล่ือนไหว, ไฟล์วิดิโอเเละไฟล์เสียง ดังน้ันควรจัดเตรียมข้อมูล ตกเเต่งรูปภาพเเละอื่นๆ ให้เสร็จ เรียบร้อยก่อนเเละจัดเก็บรวมกันไว้ใน Folder ท่ีกาหนดข้ึนเช่น C:\\my pic เป็นต้น ท้ังนี้ไฟล์ที่สามารถใช้ได้ ได้เเก่ (GIF, JPG, PNG, BMP, WMF, ICO, PCX, TIF, PCD, PSD); OEB Package Format (OPF); Sound Files (MID, WAV, MP3); Video Files (AVI, MPG) การสร้างเอกสาร E – Book เปิดโปรแกรม FlipAlbum จากเมนูคาสั่ง Start, Program, E-Book Systems, FlipAlbum 6 Pro, FlipAlbum Pro จะปรากฏจอภาพทางาน โดยสว่ นสาคญั ของการสร้าง e-Book อย่างง่ายและเร็วนีค้ ือจอภาพ QuickStart (ถา้ ไม่ปรากฏใหเ้ ลอื กคาส่ัง File, Start Wizard)

25 จากภาพดงั กลา่ วมี ขนั้ ตอนการทางาน 3 ขนั้ ตอนดงั นี้ 1. คลิกรายการ Open Folder แล้วเลอื กโฟลเดอร์ทเี่ ตรยี มภาพไว้ก่อนหน้านี้ (ตวั อยา่ งคอื โฟลเดอร์ Graffiti) 2. จากน้ันคลิกรายการ Page Layout เพื่อเลือกรูปแบบของส่ือ ท้ังนี้รูปแบบ Single image per page เป็นลักษณะการนาเสนอภาพแยกเป็น 2 หน้ากระดาษ และรูปแบบ Centerfold page เป็น ลกั ษณะการนาเสนอภาพบนกระดาษแผ่นใหญ่แผ่นเดียว ทั้งน้เี มื่อคลกิ เลือกจะปรากฏ Effect สีขาว ฟุ้งๆ รอบรูปแบบทเี่ ลอื ก 3. จากนั้นคลกิ เลือก Themes เพอ่ื เลอื กลกั ษณะปก และพ้นื หนังสือ

26 4. เม่อื ครบทั้ง 3 ข้ันตอนก็คลิกปุ่ม Finish โปรแกรมจะนาภาพทกุ ภาพในโฟลเดอร์ที่ระบมุ าสร้าง เป็น e-Book ให้อัตโนมัติ การเลอ่ื นหนา้ กระดาษ คลิกบนหน้ากระดาษด้านขวา เพ่ือดหู นา้ ถดั ไป คลกิ บนหนา้ กระดาษด้านซา้ ย เพ่อื ย้อนกลบั เลื่อนเมาสไ์ ปช้ที ่ขี อบหนงั สอื ดา้ นซา้ ยหรือขวามอื เพือ่ เลอื กหน้าท่จี ะเปดิ คลิกปุ่มขวาของเมาสบ์ นหนา้ กระดาษ แล้วคลิกคาสัง่ Flip To Front Cover คอื ปกหนา้ Back Cover คอื ปกหลงั Overview คอื หนา้ สรปุ รวมเนอื้ หา ซ่งึ มลี กั ษณะเป็นภาพขนาดเล็ก (Thumbnails) การทางานของหนา้ น้ี แบง่ เป็น >> การคลกิ ทร่ี ูปภาพเล็ก เพ่อื แสดงภาพแบบเต็มจอ กดปมุ่ Esc เพื่อกลับสสู่ ภาวะปกติ >> การคลกิ ที่ช่ือภาพ เพ่อื เปดิ ไปยังหน้านน้ั ๆ >> ใชเ้ ทคนคิ Drag & Drop ช่ือไฟล์ภาพ เพ่ือสลบั ตาแหน่ง >> คลกิ ปมุ่ ขวาของเมาสท์ ี่รูปเพ่ือเปิดเมนูลัดในการทางาน

27 Contents คอื หนา้ สารบญั โปรแกรมจะนาช่ือไฟล์ภาพหรือสื่อมาเปน็ รายการสารบัญ ซึง่ สามารถปรับเปลย่ี น แกไ้ ขไดต้ ามตอ้ งการ แต่ห้ามใช้สัญลักษณ์พเิ ศษใดๆ เช่น % ^ / การปรบั เปลยี่ นอลั บม้ั อสิ ระ Flip Album จะกาหนดลักษณะของหน้าปก, หน้าเอกสารดว้ ยภาพทมี่ ีสีสนั ตาม Themes ท่เี ลือกแตก่ ็ สามารถปรบั แต่งได้เอง โดย 1. เลอื กหน้าเอกสารท่ตี อ้ งการปรับแก้ไข 2. คลิกขวาพนื้ ท่ีหน้าน้ัน เเล้วเลอื กคาส่งั Page Properties 3. เลอื กลักษณะของพื้นเอกสาร Default ตามค่าเริ่มต้นของระบบ Color ระบุสเี พ่ือเเสดงผลเปน็ สขี องพื้นเอกสาร Texture ระบไุ ฟล์กราฟกิ อน่ื ๆ ท่จี ะนามาใชเ้ ปน็ พน้ื เอกสาร 4. คลิกปมุ่ OK เพ่อื ยืนยนั การปรบั แต่งหนา้ เอกสาร

28 ตวั อยา่ งการปรบั เปลย่ี นหนา้ เอกสาร E-book : Graffiti การเลอื กสนั ปกเเบบตา่ งๆ เปน็ การเลอื กรปู เเบบของสนั ปกอัลบมั้ วา่ จะใส่ห่วงสนั ปกหรือไม่ ซงึ่ มหี ลายเเบบใหเ้ ลอื ก ทาไดโ้ ดย คลกิ ที่คาส่งั Options >> Book Binder เเละเลอื กรูปเเบบท่ตี อ้ งการดงั รปู การปรบั แตง่ / เพม่ิ เตมิ ขอ้ ความ  การปรบั แตง่ แกไ้ ขขอ้ ความใน e-Book ทาได้โดยการดบั เบล้ิ คลิกท่ีขอ้ ความเดมิ ซึง่ จะปรากฏเป็น กรอบขอ้ ความ และแถบเครอื่ งมอื การปรบั แตง่ ข้อความ  การเพม่ิ ขอ้ ความ การเพมิ่ ขอ้ ความ จะตอ้ งตรวจสอบก่อนว่าขอ้ ความน้ันจะเพม่ิ ในหน้าซา้ ย หรอื หน้าขวาไดห้ รอื ไม่ โดยสังเกตจากปมุ่ เครอ่ื งมอื Insert Annotation ซงึ่ จะถูกแบง่ ครึ่ง ครึ่งซา้ ยคอื การเพิ่ม ข้อความในกระดาษหน้าซา้ ย และครงึ่ ขวาคือการเพิ่มข้อความในกระดาษหน้าขวา หากปุ่มเครื่องมือ Insert Annotation ไม่สามารถคลกิ ได้ แสดงวา่ หน้ากระดาษท่ีปรากฏไม่สามารถป้อนขอ้ ความ ได้ จะต้องเพิม่ หนา้ กระดาษทีส่ ามารถป้อนขอ้ ความได้ดว้ ยคาสง่ั Edit, Insert Page, Left Page หรอ Right Page ก่อน

29 การปรบั แตง่ รปู ภาพ  การยอ่ /ขยายรปู ภาพ สามารถทาไดห้ ลากหลายวิธี ได้แก่ - การย่อ/ขยายด้วย Handle - การยอ่ /ขยายดว้ ยเมนคู าสั่งทีละภาพ - การย่อ/ขยายแบบ Batch ซ่งึ ให้ผลพร้อมกนั หลายๆ ภาพ  การหมนุ ภาพ ภาพทนี่ าเข้ามาบางภาพอาจจะมีแนวการแสดงผลไม่เหมาะสม ซงึ่ สามารถหมนุ ภาพให้เหมาะสมได้ โดยคลกิ ขวาทภี่ าพ แล้วเลอื กคาสั่ง Rotate จะปรากฏคาสง่ั ย่อย ดังน้ี - Left by 90 หมุนไปทางซา้ ย 90 องศา - Right by 90 หมุนไปทางขวา 90 องศา - By 180 หมุน 180 องศา - By Other Angles หมุนโดยกาหนดมุมอสิ ระ  การแสดงภาพดว้ ย Effect พเิ ศษ ทาไดโ้ ดยการคลกิ ขวาทภ่ี าพ แลว้ เลอื กคาส่งั Effects จะปรากฏคาสงั่ ย่อย ดงั น้ี - Transparent ทาใหพ้ น้ื ของภาพมลี ักษณะโปร่งใส โดยโปรแกรมจะแสดงหลอดดดู สี (Eye Dropper) ใหค้ ลกิ ในตาแหน่งสที ีต่ ้องการทาให้เป็นสโี ปรง่ ใส - 3D ทาใหภ้ าพมลี ักษณะนูนแบบ 3 มติ ิ - Shadow ทาให้ภาพมีเงา - Select Crop Shape เลอื กรปู ทรงพิเศษ ซ่ึงมีตัวเลอื ก ดงั นี้ เมอื่ คลิกรูปแบบทต่ี อ้ งการแล้วคลิก OK ภาพดงั กลา่ วจะแสดงผลดว้ ยรูปแบบทเ่ี ลือก เช่น

30 - Add/Edit Frame ใสก่ รอบใหก้ ับรูปภาพ โดยมลี ักษณะกรอบภาพ ดงั นี้ การเพม่ิ รปู ภาพ การเพ่ิมรูปภาพใน e-Book ทาได้โดยคลิกปุม่ เคร่ืองมือ Insert Multi-media Objects หรอื คลิกขวาท่ี หน้าเอกสารที่ต้องการเพมิ่ รปู ภาพเลอื ก Multi-media Objects จากน้นั เลือกไดรฟ์ และโฟลเดอร์ท่ตี อ้ งการเลือกรปู ภาพ กรณที ี่ไม่ปรากฏภาพตวั อย่างใหค้ ลิกที่ ปุ่ม จากนัน้ เลอื กภาพทีต่ ้องการแลว้ ลากมาวางในหนา้ กระดาษ

31 การใสไ่ ฟลว์ ดิ โี อ และไฟลเ์ สยี งลงในอลั บมั้ นอกจากข้อความและภาพนิ่ง โปรแกรมยังสนับสนุนการนาเสนอส่ือมัลติมีเดียรูปแบบ ต่างๆ เชน่ เสียง วดี ิทัศน์ และภาพเคล่อื นไหว เช่น Gif Animation โดยใชเ้ ทคนิคการนาเข้า เช่นเดียวกับ รูปภาพ คือใช้ปุ่มเคร่ืองมือ Insert Multi-media Objects แล้วลากไฟล์สื่อท่ีต้องการมาวางบนหน้ากระดาษ การทาจดุ เชื่อมโยง (Link) การทาจุดเชื่อมหรือลิงก์ (Link) ด้วยข้อความหรือวัตถุต่างๆ ไปยังตาแหน่งต่างๆ หรือเรียกว่า เวบ็ ไซต์ กเ็ ป็นฟงั กช์ ่ันหน่ึงทขี่ าดไมไ่ ด้ของ e-Book ดงั นน้ั Flip Album จงเตรยี มคาสัง่ เพอื่ ให้สามารถทางาน ได้สะดวก โดยเลือกกรอบขอ้ ความ รปู ภาพแลว้ คลกิ ขวา จากนั้นเลอื กคาส่งั Set Link.. อา้ งองิ ถงึ : บุญเลศิ อรุณพิบูลย์. 5 กมุ ภาพนั ธ์ 2550. Multimedia e-Book ด้วย Flip Album 6.0. เข้าถึงจาก : http://www.stks.or.th/web/index.php?option=com_docman&task=doc_download&gid=64&Itemid=31

32 หมวดที่ 2 สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ กจิ กรรม 6 พฒั นาความสามารถดา้ นการแกป้ ญั หา กิจกรรมท่ี 2.7 1. ชอ่ื กจิ กรรม พส่ี อนนอ้ ง...จนิ ตนาการบรรเจดิ ....ดว้ ยโปรแกรม Picture Collage 2. เวลาทใ่ี ช้ 4 ชว่ั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ให้นกั เรียนรู้จักวิธีการถ่ายทอดความรใู้ หผ้ ู้อน่ื 2. เพ่ือให้นกั เรยี นรู้ว่า “การให้” มหี ลายวิธี และการให้ทาให้มีความสุขและเกิดประโยชน์กับผูอ้ ื่น 3. เพอ่ื ให้เกิดความมั่นใจ เช่ือมั่นในตนเอง และเหน็ คุณคา่ ของตนเอง 4. เพ่ือใหเ้ หน็ ประโยชนข์ องการศกึ ษา 5. เพื่อใหร้ ู้จกั การแกไ้ ขปัญหาที่เกิดขน้ึ ในระหวา่ งการทากิจกรรม 6. สรา้ งแรงกระตุ้น แรงบันดาลใจในการเรียนโปรแกรมกราฟกิ 7. เพื่อสรา้ งสัมพันธภาพทีด่ รี ะหว่างรนุ่ พี่และรุน่ น้อง 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนร่นุ พ่ี และ รุน่ น้อง จับคู่เปน็ Buddy ตามความเหมาะสมของจานวนนกั เรียน 2. นักเรียนรุ่นพ่ี สอน ร่นุ นอ้ ง ในการสร้างผลงานด้วยโปรแกรม Picture Collage ผลงานนักเรียน 1. ทาปฏทิ ินคนละ 1 ชนิ้ 2. จดั รวบรวมภาพตาม Style ของตนเอง 3. จัดทาการด์ อวยพร 1 ช้ินงาน 4. จดั ทาผลงานใหม่ท่นี อกเหนอื จากข้อ 1-3 โดยการออกแบบ โดยการปรับประยกุ ต์ใช้ โปรแกรม Picture Collage 5. ใหร้ ่นุ พ่สี ะท้อนสง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรู้ และความประทับใจในการเปน็ ครูสอนนอ้ ง 6. ให้รนุ่ น้องสะทอ้ นความคดิ เห็น ความประทบั ใจท่มี ตี ่อร่นุ พี่และกจิ กรรม 5. สอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. คมู่ อื การใช้โปรแกรม Picture Collage 2. ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 3. คอมพิวเตอร์ 4. ตัวอย่างผลงาน

33 6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี 6.1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม 6.1.2 สังเกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 6.2 แบบประเมนิ ความพงึ พอใจต่อกิจกรรม 6.3 สอบถามความพึงพอใจตอ่ การเข้ารว่ มกจิ กรรมของนกั เรียน    นอ้ ยทส่ี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทสี่ ดุ

34 ตวั อยา่ งผลงาน ปฏทิ นิ

35

36 ตวั อยา่ งผลงาน การด์ อวยพร

37 ตวั อยา่ งผลงาน การรวมภาพ

38 ช่อื /นามสกลุ ............................................................... แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ระดับชน้ั ....................รุน่ ..............เลขท.่ี .................... กจิ กรรมสอนนอ้ ง...จนิ ตนาการบรรเจดิ ....ดว้ ยโปรแกรม Picture Collage คาชแี้ จง ให้ทาเคร่อื งหมาย  ใหต้ รงกบั ความคิดเหน็ ของนกั เรียน ระดบั 5 หมายถึง พึงพอใจมากท่ีสุด ระดับ 4 หมายถงึ พึงพอใจมาก ระดับ 3 หมายถงึ พงึ พอใจปานกลาง ระดับ 2 หมายถงึ พงึ พอใจน้อย ระดับ 1 หมายถงึ พงึ พอใจนอ้ ยท่ีสดุ ประเมนิ ผสู้ อน ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดบั ความพงึ พอใจ 1. นักเรียนมีความสุขและพึงพอใจในการเป็นผูถ้ ่ายทอดความร/ู้ ผสู้ อนใหก้ บั ผู้อ่นื 5 4 3 2 1 2. นักเรียนมคี วามมน่ั ใจในการสอนผูอ้ น่ื 3. นกั เรยี นมีความเชื่อมั่นในตนเอง 4. นกั เรียนเห็นวา่ ตนเองมีคณุ คา่ และสามารถสร้างประโยชนก์ ับต่อผู้อนื่ 5. นักเรียนรวู้ ่าการศึกษามีประโยชน์ทั้งตอ่ ตนเองและผ้อู ื่น 6. นกั เรยี นสามารถแก้ไขปญั หาท่เี กดิ ขน้ึ ในระหว่างการทากจิ กรรม 7. นกั เรียนได้รู้จักกนั มากขึ้น 8. นักเรยี นมีสมั พันธภาพที่ดีกับผอู้ ื่น 9. นักเรียนไดช้ ว่ ยเหลอื เกอื้ กูลซ่งึ กันและกนั 10. นกั เรียนมีโอกาสทากิจกรรมไดอ้ ยา่ งอสิ ระแตอ่ ยู่ในขอบเขตของการเป็นนักเรยี น ทดี่ ี 11. นักเรียนรู้จกั ใชเ้ วลาให้เกิดประโยชน์ 12. บรรยากาศในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเป็นกนั เอง ควสาง่ิมทไ่ี ดเ้ รยี นรจู้ ากกจิ กรรม ความรสู้ กึ /ความประทบั ใจ ขอ้ เสนอแนะ

39 ชอื่ /นามสกุล............................................................... แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ระดบั ช้ัน....................รุ่น..............เลขท่ี..................... กจิ กรรมพสี่ อนนอ้ งทา...สอนนอ้ ง...จนิ ตนาการบรรเจดิ ....ดว้ ยโปรแกรม Picture Collage คาชแ้ี จง ใหท้ าเครื่องหมาย  ให้ตรงกบั ความคิดเหน็ ของนักเรียน ระดบั 5 หมายถึง พึงพอใจมากท่ีสุด ระดับ 4 หมายถึง พงึ พอใจมาก ระดบั 3 หมายถึง พึงพอใจปานกลาง ระดบั 2 หมายถึง พงึ พอใจนอ้ ย ระดบั 1 หมายถงึ พงึ พอใจนอ้ ยทสี่ ดุ ประเมนิ ผเู้ รยี น ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ ระดบั ความพงึ พอใจ 1. นักเรยี นมคี วามสุขและพงึ พอใจในพท่ี ่ีมาสอน 5 4321 2. นกั เรียนรวู้ ่าการศึกษามีประโยชน์ทัง้ ต่อตนเองและผู้อืน่ 3. นักเรียนสามารถแกไ้ ขปัญหาทีเ่ กิดข้ึนในระหว่างการทากจิ กรรม 4. นักเรียนไดร้ ูจ้ ักกนั มากขึ้น 5. นักเรยี นมสี มั พันธภาพที่ดีกบั ผอู้ ่นื 6. นกั เรยี นไดช้ ่วยเหลอื เก้อื กลู ซง่ึ กันและกนั 7. นักเรียนมีโอกาสทากจิ กรรมได้อยา่ งอสิ ระแต่อยู่ในขอบเขตของการเปน็ นักเรยี นท่ีดี 8. นักเรียนรู้จักใช้เวลาให้เกดิ ประโยชน์ 9. บรรยากาศในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเป็นกนั เอง สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรจู้ ากกจิ กรรม ความรสู้ กึ /ความประทบั ใจ ขอ้ เสนอแนะ

40 คมู่ อื การใชโ้ ปรแกรม Picture Collage Picture Collage Maker Pro : โปรแกรมนี้มนี ามว่า โปรแกรม Picture Collage Maker Pro เปน็ โปรแกรมทีจ่ ะมา สร้างอารมณ์แห่งการจินตนาการของนักเรียน โปรแกรมแต่งรปู ตัวนี้รวบรวมเอาฟังก์ชั่นในการทางานท่ี มากมายของการแต่งรูปถ่าย มารวมไว้เป็นหนึ่งเดียว เช่น การดีไซน์ เทมเพลต (Template) หรือหากไม่ ต้องการออกแบบด้วยตัวเอง ก็สามารถเลือกเทมเพลตทมี่ มี าให้ในโปรแกรมใช้ได้เลย การปรับแตง่ สสี ันของ รูปถ่าย สามารถปรับให้รูปถ่ายมีสีสันท่ีดูเข้ม คมชัด สีดูซีดลง หรือออกแนวย้อนยุค ก็ว่ากันไปตามสบาย เมื่อใช้โปรแกรม Picture Collage Maker Pro ออกแบบรูปภาพได้ดังใจแลว้ ยังสามารถนารูปภาพเหล่านั้นไป สร้างเปน็ เป็นงานนาเสนอรูปแบบต่าง เช่นปฏิทนิ การด์ อวยพร แจกคนรอบตัว หรือเพือ่ น เลอื กได้ว่าทา่ นจะ มปี ฏทิ ินที่ สวย ดูดี ไม่มใี ครเหมือนเอาไปตงั้ ในสถานที่ต่างๆ เช่น โตะ๊ ที่ออฟฟิต โต๊ะทห่ี ้องพัก ตามหอ้ งนอน หอ้ งน่ังเลน่ และอกี หลายๆ สถานทตี่ ามทท่ี า่ นไดก้ าร รับรองไมเ่ หมือนใคร ไม่มีใครเหมือนแนน่ อน Program Features (คุณสมบัติและความสามารถของโปรแกรม Picture Collage Maker Pro) - มีรปู แบบ Templates ใหเ้ ลอื กแตง่ รูปภาพมากมาย - สามารถออกแบบรูปถ่ายได้ ไมซ่ ้าแบบใคร เพราะมอี ิสระในการออกแบบไดเ้ ต็มท่ี - โปรแกรมนี้ใชง้ านได้ง่าย - สามารถใส่ขอ้ ความ ในรูปภาพ - ปรบั แต่งสีสนั ของรูปได้อย่างอสิ ระ - สามารถสงั่ ปริน้ หรือแชร์ รปู ถ่าย ใหเ้ พอื่ นๆ ไดด้ ู - สามารถออกแบบ Templates เองได้ - สามารถนารูปถ่ายมาสร้างเป็นปฏิทิน ตั้งโชวอ์ วดใครๆ - ทา่ นสามารถนารปู ถ่ายแสนสวยทาการ์ดส่งอวยพรในโอกาสต่างๆ

41 เลอื กไดง้ ่ายวา่ จะทาอะไร มี Blank, Template, From, Collage แบบ Wizard ใหพ้ รอ้ ม สามารถกาหนดรปู แบบให้เหมาะกบั งานไดง้ ่ายๆ