202 คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ ว ๒๒2๐๑ คอมพวิ เตอร์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน 0.๕ หนว่ ยกิต คำอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและอธบิ ายระดบั ของเทคโนโลยที ่ีใชเ้ ปน็ ๓ ระดบั คือ ระดบั พ้ืนบ้านหรือพืน้ ฐาน ระดับกลาง และระดับสูง การสร้างส่ิงของเครื่องใช้หรอื วิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยี จะทำให้ผ้เู รียนทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ สามารถย้อนกลับมาแก้ไขไดง้ ่าย การหางานด้วยวธิ ที ีห่ ลากหลายและการเลือกงานที่เหมาะสม ปฏบิ ัติสร้างส่งิ ของเครื่องใช้ ตามกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดเปน็ ภาพฉาย เพื่อนำไปสกู่ ารสร้างต้นแบบและแบบจำลองของส่ิงของเครอ่ื งใช้ หรอื ถา่ ยทอดความคดิ ของวิธีการเปน็ แบบจำลอง ความคิดและ การรายงานผล เพื่อให้มคี วามร้คู วามเข้าใจการสรา้ งงานอยา่ งมีระบบนำไปสกู่ ารเลือกอาชีพท่ีเหมาะสมเกิดเจตคติทดี่ ตี ่อ การดำเนนิ ชวี ิตในอนาคต ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมาย และความสำคญั ของการใช้เครอ่ื งมือพืน้ ฐานในการออกแบบผลิตภัณฑ์ 2. นกั เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจดา้ นการใชโ้ ปรแกรม Pro/Desktop ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ 3. นักเรยี นปฏบิ ตั งิ านออกแบบโครงรา่ งชนิ้ งาน จากโปรแกรม Pro/Desktop 4. นกั เรียนปฏบิ ัติงานทำรูปทรง 3 มิติ ตา่ งๆ จากโปรแกรม Pro/Desktop 5. นักเรียนปฏบิ ตั งิ านออกแบบผลิตภัณฑ์ จากโปรแกรม Pro/Desktop รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทุ่งมะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
203 คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เติม ว ๒๒2๐๒ คอมพิวเตอร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน 0.๕ หน่วยกติ คำอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษา ฝึกปฏบิ ตั หิ ลักการเบอื้ งต้นของกลมุ่ เครอ่ื งมอื ตา่ งๆ ในการตกแต่งรปู ภาพ สร้างรปู ภาพ กรอบ รปู ปรับแสงเงาของภาพ รวมถงึ การซอ่ มรปู ภาพ ตดั ตอ่ ภาพ และการวางการภาพลงบนพ้นื ผิววตั ถุ จากโปรแกรม กราฟิก เข้าใจวิธีการตกแตง่ รปู ภาพให้สวยงาม และสามารถจัดทำชน้ิ งานหรอื ประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมกราฟกิ ใน การผลติ ชนิ้ งานอย่างสรา้ งสรรค์ มีจิตสำนึกและรบั ผิดชอบ โดยการใชง้ านโปรแกรมภาพเคล่ือนไหว เพ่อื การนำเสนอผลงานดว้ ยคำสง่ั เบ้อื งต้นในโปรแกรม ภาพเคล่อื นไหว การสรา้ งไฟล์นำเสนอ ไฟล์เมนู โดยใชอ้ งค์ประกอบจาก Object ทก่ี ำหนดใหก้ ารเช่อื มโยง การ สร้างไฟล์ ไตเต้ลิ (Title) การสร้างเมนู (Menu) การสรา้ งไฟล์เนือ้ หา การสร้างไฟล์นำเสนอ โดยใช้เทคนิคการ โหลด Muvie หลายระดบั เพือ่ ให้มคี วามรูค้ วามเข้าใจและมีทักษะการใชง้ านโปรแกรมภาพเคลอ่ื นไหว เพื่อนำเสนอผลงาน มี ความคดิ สร้างสรรค์ มจี ิตสำนกึ มีความรับผิดชอบและมีส่วนรว่ มในการทำงานกลุ่ม มีเจตคติท่ดี ีต่อการใช้ คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศในชวี ิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. มคี วามรู้ความเข้าใจโครงสร้างการทำงานของโปรแกรม Flash 2. สรา้ งแอนเิ มช่ันของการ์ตนู ได้ 3. สรา้ งปมุ่ เช่อื มโยงได้ 4. แทรกเสียงได้ 5. เขียน Action Script ได้ 6. นำเสนองานได้ รวมทัง้ หมด 6 ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทุ่งมะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
204 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ว ๒๓2๐1 คอมพวิ เตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน 0.๕ หนว่ ยกติ คำอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาเก่ียวกับการเขียนเว็บเพจด้วย โปรแกรมในการสร้างเวบ็ เพจในรูปแบบ web editor โดยศึกษา เรียนรู้ถงึ โครงสร้างพื้นฐานของการเขียนและกำหนดส่วนตา่ งๆของเว็บเพจ สามารถสร้างหน้าตาของหน้าต่างออกแบบเว็บเพจ ส่วนประกอบของหน้าจอหลัก การสร้าง Site กำหนดคุณสมบัติของ Site สร้าง Static Page กำหนดคุณสมบัติของหน้าเพจ ตั้งชื่อเพจ จัดรูปแบบตัวอักษร ใส่ รูปภาพ ปรับรูปพ้ืนหลัง การแก้ไขโค้ด ตรวจสอบโค้ด พิมพ์โค้ด การสร้างลิงค์และตรวจหน้าเพจบน Browser และ Publish เพจ ศึกษาการทำงานและสร้าง Web Applications สร้างหน้าเพจรับข้อมูล ติดต้ัง Web Server ด้วย Internet Information Server ทดสอบการสรา้ งเว็บเพจ อย่างงา่ ยได้ กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศและภูมิปัญญาท้องถ่ิน กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการฝึกปฏิบัติ กระบวนการออกแบบ กระบวนการจัดการ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการคิด วิเคราะห์ มีนิสัยรักการทำงาน รักการค้นคว้า มีความรบั ผิดชอบ ทำงานร่วมกับผู้อนื่ ไดอ้ ย่างมีความสุขมสี มาธิใน การทำงานสามารถนำทักษะ ปฏิบตั ิงานไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ ผลการเรียนรู้ 1. บอกโครงสร้างของภาษา html ได้ 2. บอกลักษณะคุณสมบัติของภาษา html ได้ 3. ใช้คำส่ังภาษา html เบอ้ื งตน้ ได้ 4. เขยี นโปรแกรมภาษา html เบ้ืองตน้ ได้ 5. กำหนดค่าภาษา html เบือ้ งต้นได้ รวมท้งั หมด 5 ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทุ่งมะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
205 คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เติม ว ๒๓2๐๒ คอมพวิ เตอร์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน 0.๕ หนว่ ยกติ คำอธิบายรายวชิ า ค้นคว้า หาข้อมลู จาก แหล่งเรยี นรูต้ า่ ง ๆ ตลอดจนทำการสืบคน้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เนต็ อนั จะ นำไปส่กู ารระบุเรื่อง หวั ขอ้ หรอื ปญั หาสำหรบั การจัดทำโครงงานคอมพวิ เตอร์ คน้ คว้าเอกสารทางด้านทฤษฎแี ละ เทคนิคการปฏิบัติการเก่ียวกับการทำโครงงานทจี่ ะรวบรวมข้อมูลเบ้อื งตน้ ศึกษาความหมาย วิธีการ ประเภท ขั้นตอนการทำ การออกแบบ การวางแผน เขียนและ นำเสนอเค้าโครง เทคนิคการนำเสนอโครงงาน การเผยแพร่ผลงาน จัดทำโครงงานตามข้ันตอนการเขียน รายงานและนำเสนอโครงงานได้ โดยใชเ้ ทคโนโลยไี ปใช้ในการทำโครงงาน เพอื่ ให้มีความร้คู วามเขา้ ใจและทักษะในการจดั ทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ตลอดจนการนำเสนอและ เผยแพร่ผลงาน และสามารถนำความร้แู ละผลงานโครงการไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีประสทิ ธิภาพ 2. พฒั นาโครงงานคอมพิวเตอรไ์ ด้ 3. มีความรใู้ นการตดิ ตอ่ สื่อสาร คน้ หาข้อมูลผา่ นอนิ เทอร์เน็ต 4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานในรปู แบบท่เี หมาะสม ตรงตามวัตถุประสงคข์ องงาน 5. ใชค้ อมพวิ เตอร์ชว่ ยสร้างช้ินงานหรือโครงงานอย่างมจี ิตสำนึกและความรับผดิ ชอบ รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทุ่งมะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
206 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม “การปอ้ งกันการทุจริต” หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นทุง่ มะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
207 ส ๑๑2๐๑ การปอ้ งกนั การทุจริต คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชวั่ โมง ศกึ ษาเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ ความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทุจรติ รู้หนา้ ท่ขี องพลเมืองและรับผดิ ชอบต่อสงั คม ในการตอ่ ตา้ นการทจุ ริต โดยใชก้ ระบวนการคิด วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏิบัตจิ ริง การทำโครงงาน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ขัน้ ตอน (5 STEPs) การอภปิ ราย การสืบสอบ การแกป้ ญั หา ทกั ษะการอา่ นและการเขยี น เพือ่ ใหม้ ีความตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อต้านและการปอ้ งกนั การทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ 3. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ รติ 4. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั พลเมืองและมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม 5. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวมได้ 6. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ที่ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ ริต 8. ปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทพ่ี ลเมอื งและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการตอ่ ตา้ นและป้องกนั การทุจริต รวมทงั้ หมด 9 ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
208 ส ๑๒2๐๑ การป้องกันการทุจริต คำอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เตมิ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒ กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง ศกึ ษาเก่ียวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ ความไมท่ นตอ่ การทุจรติ STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทจุ รติ รหู้ น้าทขี่ องพลเมืองและรบั ผิดชอบต่อสงั คม ในการตอ่ ต้านการทจุ รติ โดยใชก้ ระบวนการคดิ วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัตจิ รงิ การทำโครงงาน กระบวนการเรียนรู้ 5 ข้นั ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสบื สอบ การแกป้ ญั หา ทกั ษะการอา่ นและการเขยี น เพอ่ื ให้มีความตระหนักและเห็นความสำคัญของการตอ่ ตา้ นและการป้องกันการทุจรติ ผลการเรยี นรู้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต 3. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ รติ 4. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั พลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ทุกรปู แบบ 7. ปฏิบัตติ นเป็นผู้ที่ STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจริต 8. ปฏิบัติตนตามหนา้ ท่ีพลเมอื งและมีความรับผิดชอบต่อสังคม 9. ตระหนักและเห็นความสำคัญของการต่อต้านและปอ้ งกนั การทุจรติ รวมทั้งหมด 9 ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทุง่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
209 ส ๑๓2๐๑ การปอ้ งกนั การทุจริต คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชวั่ โมง ศกึ ษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ ความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทุจรติ รูห้ น้าที่ของพลเมืองและรับผดิ ชอบต่อสงั คม ในการตอ่ ตา้ นการทจุ ริต โดยใชก้ ระบวนการคิด วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏิบัตจิ รงิ การทำโครงงาน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) การอภปิ ราย การสืบสอบ การแกป้ ญั หา ทกั ษะการอา่ นและการเขยี น เพือ่ ใหม้ ีความตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการต่อต้านและการป้องกันการทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ 3. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจรติ 4. มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมีความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม 5. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวมได้ 6. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ที่ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ ริต 8. ปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทีพ่ ลเมืองและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนกั และเห็นความสำคัญของการตอ่ ตา้ นและป้องกนั การทุจริต รวมทงั้ หมด 9 ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
210 ส ๑๔2๐๑ การปอ้ งกนั การทุจริต คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง ศกึ ษาเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ ความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทุจรติ รู้หนา้ ท่ขี องพลเมืองและรับผดิ ชอบต่อสงั คม ในการตอ่ ตา้ นการทจุ ริต โดยใชก้ ระบวนการคิด วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏิบัตจิ ริง การทำโครงงาน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ขัน้ ตอน (5 STEPs) การอภปิ ราย การสืบสอบ การแกป้ ญั หา ทกั ษะการอา่ นและการเขยี น เพือ่ ใหม้ ีความตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อต้านและการปอ้ งกนั การทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ 3. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ รติ 4. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั พลเมืองและมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม 5. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวมได้ 6. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ที่ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ ริต 8. ปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทพ่ี ลเมอื งและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการตอ่ ตา้ นและป้องกนั การทุจริต รวมทงั้ หมด 9 ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
211 ส ๑๕2๐๑ การป้องกันการทุจริต คำอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เตมิ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง ศกึ ษาเก่ียวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ ความไมท่ นตอ่ การทุจรติ STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทจุ รติ รหู้ น้าทขี่ องพลเมืองและรบั ผิดชอบต่อสงั คม ในการตอ่ ต้านการทจุ รติ โดยใชก้ ระบวนการคดิ วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัตจิ รงิ การทำโครงงาน กระบวนการเรียนรู้ 5 ข้นั ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสบื สอบ การแกป้ ญั หา ทกั ษะการอา่ นและการเขยี น เพอ่ื ให้มีความตระหนักและเห็นความสำคัญของการตอ่ ตา้ นและการป้องกันการทุจรติ ผลการเรยี นรู้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต 3. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ รติ 4. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั พลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏิบัตติ นเป็นผู้ที่ STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจริต 8. ปฏิบัติตนตามหนา้ ท่ีพลเมอื งและมีความรับผิดชอบต่อสังคม 9. ตระหนักและเห็นความสำคัญของการต่อต้านและปอ้ งกนั การทุจรติ รวมทั้งหมด 9 ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทุง่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
212 ส ๑๖2๐๑ การปอ้ งกนั การทุจริต คำอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชวั่ โมง ศกึ ษาเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ ความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทุจรติ รูห้ น้าที่ของพลเมืองและรับผดิ ชอบต่อสงั คม ในการตอ่ ตา้ นการทจุ ริต โดยใชก้ ระบวนการคิด วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏิบัตจิ ริง การทำโครงงาน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ขัน้ ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแกป้ ญั หา ทกั ษะการอา่ นและการเขยี น เพือ่ ใหม้ ีความตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อต้านและการป้องกันการทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ 3. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทุจรติ 4. มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับพลเมืองและมีความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม 5. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวมได้ 6. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ละอายและไมท่ นตอ่ การทุจรติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ที่ STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริต 8. ปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทพ่ี ลเมอื งและมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการตอ่ ตา้ นและป้องกนั การทุจริต รวมทงั้ หมด 9 ผลการเรียนรู้ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
213 คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ ส ๒๑2๐๑ การป้องกันการทจุ ริต กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ศกึ ษาเกยี่ วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชน์สว่ นรวม ความละอายและ ความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ ริต รู้หนา้ ท่ขี องพลเมืองและรับผดิ ชอบตอ่ สังคม ในการต่อตา้ นการทุจรติ โดยใช้กระบวนการคดิ วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบตั ิจริง การทำโครงงาน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ขน้ั ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแกป้ ัญหา ทกั ษะการอา่ นและการเขยี น เพอื่ ให้มีความตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการต่อตา้ นและการปอ้ งกันการทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชน์สว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ 3. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ ริต 4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั พลเมอื งและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวมได้ 6. ปฏิบตั ิตนเป็นผู้ละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ทุกรปู แบบ 7. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทจุ ริต 8. ปฏบิ ัติตนตามหน้าที่พลเมอื งและมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการต่อตา้ นและป้องกนั การทุจรติ รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทงุ่ มะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
214 คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ ส ๒๑2๐๒ การป้องกนั การทุจริต กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาเกยี่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชน์สว่ นรวม ความละอายและ ความไม่ทนต่อการทจุ ริต STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทุจริต ร้หู นา้ ท่ขี องพลเมอื งและรับผิดชอบตอ่ สังคม ในการต่อตา้ นการทจุ ริต โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ตั จิ รงิ การทำโครงงาน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ข้นั ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทกั ษะการอ่านและการเขยี น เพื่อให้มีความตระหนกั และเหน็ ความสำคญั ของการต่อตา้ นและการปอ้ งกนั การทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ 3. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต 4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั พลเมอื งและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจรติ 8. ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ทพี่ ลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทุจรติ รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นท่งุ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
215 คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ ส ๒๒2๐๑ การป้องกนั การทุจริต กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาเกยี่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชน์สว่ นรวม ความละอายและ ความไม่ทนต่อการทจุ ริต STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทุจริต ร้หู นา้ ท่ขี องพลเมอื งและรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ในการต่อตา้ นการทจุ ริต โดยใชก้ ระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ัตจิ ริง การทำโครงงาน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ข้นั ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทกั ษะการอ่านและการเขยี น เพื่อให้มีความตระหนกั และเหน็ ความสำคญั ของการตอ่ ตา้ นและการปอ้ งกนั การทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ 3. มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ ริต 4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับพลเมอื งและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทุจรติ 8. ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ทพี่ ลเมอื งและมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม 9. ตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อตา้ นและป้องกนั การทุจรติ รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่งุ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
216 คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ ส ๒๒2๐๒ การป้องกนั การทุจริต กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาเกยี่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวม ความละอายและ ความไม่ทนต่อการทจุ ริต STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทุจริต ร้หู นา้ ทข่ี องพลเมอื งและรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ในการต่อตา้ นการทจุ ริต โดยใชก้ ระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ัตจิ ริง การทำโครงงาน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ข้นั ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปญั หา ทกั ษะการอ่านและการเขยี น เพื่อให้มีความตระหนกั และเหน็ ความสำคญั ของการต่อตา้ นและการปอ้ งกันการทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ 3. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ ริต 4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั พลเมอื งและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจรติ 8. ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ทพี่ ลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อต้านและป้องกันการทจุ ริต รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นท่งุ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
217 คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ ส ๒๓2๐๑ การป้องกันการทจุ ริต กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ศกึ ษาเกยี่ วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชน์สว่ นรวม ความละอายและ ความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ ริต รู้หนา้ ท่ขี องพลเมืองและรับผดิ ชอบตอ่ สังคม ในการต่อตา้ นการทุจรติ โดยใช้กระบวนการคดิ วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบตั ิจริง การทำโครงงาน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ขน้ั ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแกป้ ัญหา ทกั ษะการอา่ นและการเขยี น เพอื่ ให้มีความตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการต่อตา้ นและการปอ้ งกันการทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชน์สว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ 3. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ ริต 4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั พลเมอื งและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวมได้ 6. ปฏิบตั ิตนเป็นผู้ละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ทุกรปู แบบ 7. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทจุ ริต 8. ปฏบิ ัติตนตามหน้าที่พลเมอื งและมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการต่อตา้ นและป้องกนั การทุจรติ รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทงุ่ มะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
218 คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ ส ๒๓2๐๒ การป้องกนั การทุจริต กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาเกยี่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชน์สว่ นรวม ความละอายและ ความไม่ทนต่อการทจุ ริต STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทุจริต ร้หู นา้ ท่ขี องพลเมอื งและรับผิดชอบตอ่ สังคม ในการต่อตา้ นการทจุ ริต โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ตั จิ รงิ การทำโครงงาน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ข้นั ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทกั ษะการอ่านและการเขยี น เพื่อให้มีความตระหนกั และเหน็ ความสำคญั ของการต่อตา้ นและการปอ้ งกนั การทจุ รติ ผลการเรียนรู้ 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ 3. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต 4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั พลเมอื งและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจรติ 8. ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ทพี่ ลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทุจรติ รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นท่งุ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
219 คำอธิบายรายวชิ า กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทุง่ มะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
220 กจิ กรรมแนะแนว คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น กจิ กรรมแนะแนว หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
221 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี 1 เวลา 40 ชว่ั โมง/ปี ศึกษาเรียนรู้ ฝึกทักษะ การรับรู้ความต้องการและความรู้สึกของตนเอง รู้จุดเด่น จุดด้อย เข้าใจความ สนใจความถนัด ความสามารถด้านการเรียนและการงาน สร้าง ความภูมิใจในตนเองและช่ืนชมผู้อื่น สำรวจ ความตอ้ งการและเข้าใจปัญหาง่ายๆ ของตนเอง การส่อื ความรู้สึกและความต้องการของตนเองให้ผอู้ ืน่ รบั รู้ การ แสดงออกทางอารมณ์เหมาะสมกบั วัย การเป็นผู้ให้และผู้รบั ทด่ี ี เพื่อให้รู้จักรกั และเห็นคุณคา่ ในตนเองและผู้อื่น มีค่านิยม วินัย คุณธรรมจริยธรรม จิตสำนึก รับผิดชอบ ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศไทย และมีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพสุจริต สามารถพัฒนาบุคลิกภาพและ ปรับตัวอย่ใู นสงั คมได้อย่างมคี วามสุข รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลสารสนเทศจากแหล่งเรยี นรใู้ กลต้ ัวภายในโรงเรียน เพอ่ื การเรียนและชีวิตประจำวนั ผลการเรียนรู้ 1. เพ่ือผู้เรียนค้นพบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเอง และผ้อู นื่ 2. เพื่อให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้จากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ท้ังด้านการศึกษา อาชีพส่วนตัว สงั คม เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน เลอื กแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับ ศักยภาพของตนเอง รวมทง้ั หมด 2 ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กจิ กรรมแนะแนว หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านทุง่ มะกอก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
222 ช้นั ประถมศึกษาปที ี 2 เวลา 40 ชัว่ โมง/ปี ศกึ ษาเรียนรู้ ฝึกทกั ษะการรับรู้ความตอ้ งการและความรู้สึกของตนเอง การรู้จุดเด่น จุดด้อย รู้และเข้า ใจความสนใจความถนัด ความสามารถด้านการเรยี นและการงาน รจู้ ักสรา้ ง ความภมู ิใจในตนเองและชื่นชมผอู้ ื่น เรียนรู้และเข้าใจความต้องการและปัญหาของตนเอง เพ่ือให้รู้จักรักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีค่านิยม วินัย คุณธรรมจริยธรรม จิตสำนึก รับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศไทย และมีเจตคติที่ดีต่อ อาชีพสจุ รติ รจู้ กั แสวงหา เลือกและใชข้ อ้ มูลสารสนเทศใหเ้ ปน็ ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. เพ่ือผู้เรียนค้นพบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเอง และผู้อ่นื 2. เพื่อให้ผเู้ รยี นแสวงหาความรู้จากขอ้ มูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ทง้ั ด้านการศกึ ษา อาชีพส่วนตัว สงั คม เพือ่ นำไปใชใ้ นการวางแผน เลอื กแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสมสอดคลอ้ งกับ ศักยภาพของตนเอง 3. เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่าง เหมาะสม รวมทงั้ หมด 3 ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กิจกรรมแนะแนว หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านทุ่งมะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
223 ชน้ั ประถมศึกษาปีที 3 เวลา 40 ช่ัวโมง/ปี ศกึ ษาเรียนรู้ ฝึกทกั ษะการรับรู้ความต้องการและความรสู้ ึกของตนเอง การรู้จุดเด่น จุดด้อย รู้และเข้า ใจความสนใจความถนัด ความสามารถดา้ นการเรยี นและการงาน รู้จักสรา้ ง ความภมู ิใจในตนเองและช่นื ชมผู้อ่ืน เรียนรู้และเข้าใจความต้องการและปัญหาของตนเอง เพ่ือให้รู้จกั รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีค่านิยม วนิ ัย คุณธรรมจริยธรรม จิตสำนึก รับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศไทย การทำงานและอยู่ ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และมีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพสุจริต รู้จักแสวงหา เลือกและใช้ข้อมูลสารสนเทศให้ เป็นประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน ผลการเรยี นรู้ 1. เพื่อผู้เรียนค้นพบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเอง และผ้อู ื่น 2. เพ่ือให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้จากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ท้ังด้านการศึกษา อาชีพส่วนตัว สงั คม เพ่ือนำไปใชใ้ นการวางแผน เลอื กแนวทางการศึกษาอาชีพได้อยา่ งเหมาะสมสอดคลอ้ งกับ ศักยภาพของตนเอง 3. เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่าง เหมาะสม 4. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะ มีความคิดสร้างสรรค์ ในงานอาชีพและมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ สุจรติ รวมทั้งหมด 4 ผลการเรยี นรู้ คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น กิจกรรมแนะแนว หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
224 ชัน้ ประถมศึกษาปีที 4 เวลา 40 ชว่ั โมง/ปี ศึกษาเรียนรู้ ฝึกทักษะ การรับรู้ความต้องการและความรู้สึกของตนเอง การพัฒนาจุดเด่น และ ปรับปรุงจุดด้อยของตนเอง รู้และเข้าใจความสนใจความถนัด ความสามารถด้านการเรียนและการงาน รู้จัก สร้าง ความภูมิใจในตนเองและชื่นชมผู้อ่ืน การเข้าใจและยอมรับความต้องการและความร้สู ึกของตนเอง การ สือ่ สาร ความคิดความร้สู ึกให้ผ้อู ื่นเขา้ ใจไดต้ ามสถานการณ์ การควบคุมอารมณ์และแสดงออกได้เหมาะสมกับวัย และสถานการณ์ ความสามารถในการตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาของตนเอง และรว่ มตัดสนิ ใจแก้ไขปัญหา การปฏิบัตติ นใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อครอบครัว โรงเรียน และชุมชน การปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ เพ่ือให้รู้จักรักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีค่านิยม วินัย คุณธรรมจริยธรรม จติ สำนึก รับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ครอบครวั สังคม และประเทศไทย การทำงานและอยู่รว่ มกับ ผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสจุ ริตร้จู ักแสวงหา เลอื กและใช้ข้อมูลสารสนเทศท่ีหลากหลาย ให้เปน็ ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั ผลการเรยี นรู้ 1. เพอ่ื ผเู้ รียนค้นพบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รักและเหน็ คุณคา่ ในตนเอง และผู้อืน่ 2. เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นแสวงหาความรู้จากขอ้ มูล ข่าวสาร แหล่งเรยี นรู้ ทงั้ ดา้ นการศกึ ษา อาชีพ สว่ นตัว สังคม เพ่ือนำไปใชใ้ นการวางแผน เลือกแนวทางการศึกษาอาชพี ได้อย่างเหมาะสม สอดคลอ้ งกับศกั ยภาพของตนเอง 3. เพ่ือให้ผเู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และอยูร่ ่วมกบั ผอู้ ืน่ ได้อยา่ ง เหมาะสม 4. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ มที ักษะ มคี วามคิดสร้างสรรค์ ในงานอาชีพและมเี จตคติทดี่ ีตอ่ อาชีพ สุจริต 5. เพ่อื ให้ผูเ้ รียนมคี า่ นยิ มท่ีดีงามในการดำเนินชวี ิต สรา้ งเสรมิ วนิ ัย คุณธรรมและจรยิ ธรรมแก่ นักเรียน 6. เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นมีจติ สำนกึ ในการรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ 7. สามารถประยุกตใ์ ชป้ รัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงได้ รวมท้งั หมด 7 ผลการเรียนรู้ คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น กจิ กรรมแนะแนว หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นท่งุ มะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
225 ชั้นประถมศึกษาปีที 5 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี ศึกษาเรียนรู้ ฝึกทักษะ การรับรู้ความต้องการและความรู้สึกของตนเอง การพัฒนาจุดเด่น และปรับปรุงจุดด้อยของตนเอง รู้และเข้าใจความสนใจความถนัด ความสามารถด้านการเรียนและการงาน รู้จักสร้าง ความภูมิใจในตนเองและช่ืนชมผู้อ่ืน การเข้าใจและยอมรับความต้องการและความรู้สึกของตนเอง การส่ือสาร ความคดิ ความรสู้ กึ ให้ผ้อู นื่ เข้าใจได้ตามวยั และสถานการณ์ การควบคุมอารมณ์และแสดงออกได้เหมาะสมกับวัย และสถานการณ์ ความสามารถในการตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาของตนเอง และร่วมตัดสินใจแก้ไขปัญหา และการปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน และชุมชน เพ่ือให้รู้จักรักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีค่านิยม วินั ย คุณธรรมจริยธรรม จิตสำนึก รับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศไทย การทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมี ความสุข และมีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพสุจริต รู้จักแสวงหา เลือกและใช้ข้อมูลสารสนเทศท่ีหลากหลายให้เป็น ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน ผลการเรยี นรู้ 1. เพ่ือผู้เรียนคน้ พบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รกั และเห็นคณุ คา่ ในตนเอง และผู้อืน่ 2.เพื่อให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้จากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ทั้งด้านการศึกษา อาชีพ ส่วนตัว สังคม เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน เลือกแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสม สอดคลอ้ งกับศกั ยภาพของตนเอง 3. เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่าง เหมาะสม 4. เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะ มีความคิดสร้างสรรค์ ในงานอาชีพและมีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพ สจุ ริต 5. เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมที่ดีงามในการดำเนินชีวิต สร้างเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมแก่ นักเรยี น 6. เพื่อให้ผู้เรียนมีจติ สำนึกในการรบั ผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สงั คม และประเทศชาติ 7. สามารถประยุกตใ์ ชป้ รชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวมทัง้ หมด 7 ผลการเรียนรู้ คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น กจิ กรรมแนะแนว หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นทุ่งมะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
226 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี 6 เวลา 40 ช่วั โมง/ปี ศึกษาเรียนรู้ ฝึกทักษะ การรับรู้ความต้องการและความรู้สึกของตนเอง การพัฒนาจุดเด่น และปรับปรุงจุดด้อยของตนเอง รู้และเข้าใจความสนใจความถนัด ความสามารถด้านการเรียนและการงาน รู้จักสร้าง ความภูมิใจในตนเองและชื่นชมผู้อื่น การเข้าใจและยอมรับความต้องการและความรู้สึกของตนเอง การสื่อสาร ความคิดความรู้สึกให้ผู้อ่ืนเข้าใจ การควบคุมอารมณ์และแสดงออกได้เหมาะสมกับวัย และ สถานการณ์ ความสามารถในการตัดสินใจและแกไ้ ขปัญหาของตนเอง และร่วมตัดสินใจแก้ไขปัญหา และการ ปฏิบัติตนให้เปน็ ประโยชน์ตอ่ ครอบครวั โรงเรียน และชุมชน เพื่อให้รู้จักรักและเห็นคณุ ค่าในตนเองและผอู้ ่ืน มี ค่านยิ ม วินัย คณุ ธรรมจริยธรรม จติ สำนึก รบั ผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศไทย การทำงาน และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข และมีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพสุจริต รู้จักแสวงหา เลือกและใช้ข้อมูล สารสนเทศที่หลากหลายให้เปน็ ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. เพื่อผู้เรยี นคน้ พบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รกั และเห็นคณุ คา่ ในตนเอง และผอู้ นื่ 2. เพ่ือให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้จากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ท้ังด้านการศึกษา อาชีพ ส่วนตัว สังคม เพ่ือนำไปใช้ในการวางแผน เลือกแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกบั ศกั ยภาพของตนเอง 3. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่าง เหมาะสม 4. เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะ มีความคิดสร้างสรรค์ ในงานอาชีพและมีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพ สจุ รติ 5. เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมที่ดีงามในการดำเนินชีวิต สร้างเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมแก่ นักเรียน 6. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมจี ติ สำนึกในการรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ 7. สามารถประยกุ ต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทุ่งมะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
227 คำอธิบายรายวชิ า กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น กิจกรรมนกั เรยี น (เตรียมลูกเสอื สำรองและลูกเสอื สำรองดาวดวงท่ี 1) หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทุ่งมะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
228 ชัน้ ประถมศึกษาปที ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี เปิดประชมุ กอง ดำเนนิ การตามกระบวนการของลูกเสือและจดั กิจกรรมโดยใหศ้ กึ ษา วิเคราะห์ วางแผนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเนน้ ระบบหมูแ่ ละปฏิบตั กิ ิจกรรมตาม คำปฏญิ าณและกฎของ ลกู เสือสำรอง เรียนรจู้ ากการคดิ และปฏบิ ตั ิจริงใช้สญั ลกั ษณ์สมาชิกลูกเสอื สำรอง ทีม่ ีความเป็นเอกลักษณ์ รว่ มกัน ศึกษาธรรมชาติในชมุ ชนดว้ ยความสนใจ ใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม ปดิ ประชุมกอง ในเร่อื งต่อไปนี้ 1.เตรียมลกู เสือสำรอง นิยายเมาคลี ประวัติการเริม่ กจิ การลูกเสอื การทำความเคารพหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบยี บแถว เบื้องต้น คำปฏิญาณ กฎและ คติพจน์ของลูกเสือสำรอง 2.ลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี 1 อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ ความปลอดภัย บริการ ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิง การผูกเง่ือน คำ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสือสำรอง เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ 1 สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคตพิ จน์ของลูกเสือสำรอง มีความสามารถในการสังเกต จดจำ เช่ือฟังและพ่ึงตนเอง มีความซอ่ื สัตย์ สจุ ริต มีระเบียบวินยั เสยี สละและรู้จักเอื้อเฟอ้ื เผ่ือแผ่ต่อผู้อื่น รู้จกั บำเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ มีทกั ษะในการปฏิบตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรมและความ มั่นคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรียนรู้ 1.มีความสามารถในการสังเกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพง่ึ พาตนเองได้ 2.มคี วามซอื่ สัตย์ สจุ รติ มรี ะเบยี บวนิ ัย เสยี สละและรจู้ กั เออื้ เฟื้อเผ่ือแผต่ อ่ ผอู้ น่ื 3.บำเพญ็ ตนเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน์ 4.มีทกั ษะในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5.รกั ษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรมประเพณี ภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ และ ความมน่ั คง 6.อนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ มและลดภาวะโลกรอ้ น 7.สามารถประยุกตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวมท้งั หมด 7 ผลการเรยี นรู้ คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่งุ มะกอก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
229 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น กจิ กรรมนกั เรียน (ลูกเสอื สำรองดาวดวงท่ี 2) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที 2 เวลา 40 ชัว่ โมง/ปี เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏบิ ัตติ ามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของ ลกู เสือสำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใชส้ ัญลักษณ์สมาชิกลูกเสอื สำรองที่มีความเปน็ เอกลกั ษณ์ ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถเี ศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม ปิด ประชุมกองในเรื่องต่อไปนี้ ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ 2 นิยายเมาคลี ประวัติการเร่ิมกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเปน็ รายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรพั ยากรในชุมชน ท้องถ่ิน ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติสิง่ แวดล้อมลดภาวะโลกร้อน เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ 2 สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎและคติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีความสามารถในการสังเกต จดจำ เช่ือฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจรติ มีระเบียบวินัย เสียสละและรจู้ กั เอ้ือเฟ้ือเผ่อื แผ่ตอ่ ผู้อื่น รจู้ ักบำเพ็ญเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ มี ทักษะในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิ ปัญญาท้องถ่ิน อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของชาติ และสามารถประยกุ ต์ใช้ปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ 1.มคี วามสามารถในการสังเกต จดจำ เช่อื ฟังและพงึ่ ตนเองได้ 2.มคี วามซื่อสัตย์ สุจรติ มรี ะเบยี บวนิ ัย 3.บำเพญ็ ตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 4.ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5.รกั ษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถนิ่ และความมนั่ คงของชาติ 6.อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น 7.สามารถประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมนกั เรยี น (ลกู เสือสำรองดาวดวงที่ 3) หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
230 ชนั้ ประถมศึกษาปีที 3 เวลา 40 ชวั่ โมง/ปี เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏบิ ัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของ ลกู เสือสำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจรงิ ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสอื สำรองท่ีมีความเปน็ เอกลกั ษณ์ ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม ปิด ประชมุ กองในเรื่องตอ่ ไปน้ี ลกู เสือสำรองดาวดวงท่ี 3 นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสอื การทำความเคารพหมู่ (แก รนฮาวล์) การทำความเคารพเปน็ รายบคุ คล การจับมือซา้ ย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจนข์ องลูกเสือ สำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชนท้องถ่ิน ความปลอดภัย บริการ การผูกเง่ือน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถ่ิน กิจกรรม กลางแจง้ การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสขุ ภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมลดภาวะโลกรอ้ น เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกจิ กรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ 3 สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎและคติพจน์ของลูกเสือสำรอง จดจำ เช่ือฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย รู้จักบำเพ็ญ เพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและ สง่ เสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ิน อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติส่งิ แวดลอ้ ม ความม่ันคงของชาติ และสามารถประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรียนรู้ 1. มนี ิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟงั และพึง่ ตนเองได้ 2. มีความซื่อสัตย์ สจุ รติ มีระเบียบวินยั 3. บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 4. ทำกิจกรรมต่างๆ ตามความเหมาะสม 5. รักษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ และความมัน่ คงของชาติ 6. อนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน 7. สามารถประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน (กจิ กรรมนกั เรยี น) ลกู เสอื สามัญ (ลกู เสือตรี) หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทุ่งมะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
231 ชัน้ ประถมศึกษาปีที 4 เวลา 40 ช่วั โมง/ปี เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบตั ิกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบตั ิกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และ กฎของลกู เสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัตจิ ริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญท่ีมีความเป็นเอกลักษณ์ ร่วมกัน ศกึ ษาธรรมชาติในชมุ ชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้และมีจิตสำนึกในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ วฒั นธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้เก่ียวกับ กระบวนการลูกเสือ ประวัติของ Load Baden Powell พระราชประวัติสงั เขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยหู่ ัว วิวัฒนาการของกระบวนการ ลูกเสือไทยและลูกเสือโลก การทำความเคารพ การแสดงรหัส การ จับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถวท่ามือเปล่า ท่ามือไม้พลวง การใช้สัญญามือและนกหวีด การตั้งแถว และการเรียนแถว เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ พจน์ของลูกเสือสามัญ การสังเกต จดจำ เช่ือฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย บำเพ็ญตน เพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำกิจกรรมต่างๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและ ส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ประโยชน์และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ผลการเรยี นรู้ 1. การสงั เกต จดจำ เช่ือฟงั และพึ่งตนเองได้ 2. มีความซื่อสัตย์สจุ ริต มรี ะเบียบ วนิ ัย 3. บำเพ็ญตนเพ่ือสง่ เสรมิ และสาธารณะประโยชน์ 4. ทำกิจกรรมตา่ งๆ ตามความถนดั และความสนใจ 5. รักษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และความมั่นคงของชาติ 6. อนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน 7. สามารถประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รวมท้งั หมด 7 ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น (กจิ กรรมนักเรยี น) กจิ กรรมลกู เสือสามัญ (ลกู เสือโท) หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
232 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที 5 เวลา 40 ช่ัวโมง/ปี เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญท่ีมีความเป็น เอกลกั ษณ์รว่ มกัน ศกึ ษาธรรมชาติในชมุ ชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน ลดภาวะโลกร้อนและการประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ทักษะ ในทางวิชาลูกเสือ การรู้จักดูแลตนเอง การช่วยเหลือผู้อ่ืน การเดินทางไปยังสถานท่ีต่าง ๆ ทำงานอดเิ รก และเรอื่ งทสี่ นใจ เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ พจน์ของลูกเสือสามัญ การสังเกต จดจำ เช่ือฟัง และพึ่งตนเอง มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย บำเพ็ญตนเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ประโยชน์และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาขอ ง เศรษฐกิจพอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ 1. การสังเกต จดจำ เชอื่ ฟงั และพง่ึ ตนเองได้ 2. มีความซ่ือสตั ย์สจุ รติ มีระเบยี บ วินยั 3. บำเพ็ญตนเพ่ือส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์ 4. ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ 5. รักษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น และความม่นั คงของชาติ 6. อนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน 7. สามารถประยกุ ตใ์ ชป้ รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (กิจกรรมนักเรยี น) กิจกรรมลูกเสอื สามญั (ลกู เสือเอก) หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นทุง่ มะกอก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
233 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที 6 เวลา 40 ช่วั โมง/ปี เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎ ของลูกเสือสามัญ วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว การพ่ึงตนเอง การผจญภัย การใช้สัญลักษณ์ สมาชิก ลกู เสือสามัญ ท่ีมีความเปน็ เอกลักษณ์ร่วมกัน เรยี นรจู้ ากการคดิ และปฏิบัตจิ ริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถ่ินด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเพื่อการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละลดภาวะโลกรอ้ น เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ พจน์ของลูกเสือสามัญ การสังเกต จดจำ เช่ือฟัง และพ่ึงตนเอง มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนดั และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ประโยชนแ์ ละสามารถ ประยุกตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ 1. การสงั เกต จดจำ เช่ือฟังและพึง่ ตนเองได้ 2. มีความซื่อสัตย์สจุ รติ มีระเบียบ วนิ ยั 3. บำเพ็ญตนเพอื่ สง่ เสริมและสาธารณะประโยชน์ 4. ทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ 5. รกั ษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ และความม่ันคงของชาติ 6. อนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน 7. สามารถประยุกตใ์ ช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน (กิจกรรมนักเรยี น) กิจกรรมลกู เสือสามัญ (ลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่) หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
234 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง/ปี เปิดประชุมกองดำเนินตามกระบวนการของลูกเสือและกิจกรรมโดยให้ศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรปุ ผลการปฏิบตั ิกจิ กรรม ปิดประชุมกองในเร่อื ง การประดบั เคร่ืองหมายลกู เสอื โลก พธิ ีสวนสนามและการใช้อาวุธ กิจกรรมลกู เสอื แหง่ ชาติ กิจกรรม ลูกเสือโลก บทบาทในฐานะลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ระเบียบแถว การฝึกถืออาวุธ (ไม้ง่าม) เป็นรายบุคคล เป็นหมู่ เป็นกอง กฎและคำปฏิญาณ แผนที่-เข็มทิศ พิธีราชสดุดี การหาทิศโดยการใช้เข็มทิศสังเกตส่ิงแวดล้อม การใช้ เงอื่ นของสามัญรุ่นใหญ่ วธิ ีการปฐมพยาบาล ความปลอดภยั ในกจิ กรรมผจญภยั ผลการเรยี นรู้ 1. เดินสวนสนามและการใชอ้ าวุธ ได้ 2. รูจ้ กั บทบาทในฐานะลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่ 3. ร้จู ักระเบียบแถว การฝกึ ถอื อาวธุ (ไม้ง่าม) 4. บอกกฎและคำปฏญิ าณ 5. สามารถการหาทศิ โดยการใชเ้ ขม็ ทิศสงั เกตส่ิงแวดล้อม 6. สามารถใชเ้ งอ่ื นของสามัญรุน่ ใหญ่ 7. สามารถปฐมพยาบาลได้ รวมทง้ั หมด 7 ผลการเรียนรู้ คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน (กจิ กรรมนกั เรียน) กจิ กรรมลกู เสอื สามัญ (ลกู เสอื สามญั รุ่นใหญ่) หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านท่งุ มะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
235 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง/ปี เปิดประชุมกองดำเนินตามกระบวนการของลูกเสือและกิจกรรมโดยให้ศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบตั ิกิจกรรมตามฐาน โดยเนน้ ระบบหมู่ สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกองในเร่ือง ประวัติลูกเสือ การเย่ียมหน่วยงาน การเดินทางไกล ชนิดของมลพิษและโครงการเกี่ยวกับ ส่ิงแวดล้อม การแสดงออกทางศิลปะและการเดินทางสำรวจ สมรรถภาพทางกาย อันตรายของส่ิงเสพติด กีฬา ประเภทต่างๆ กฎและคำปฏิญาณ หลักธรรมทางพุทธศาสนา หลักความปลอดภัย การพัฒนาและการให้บริการ แกช่ ุมชน การปฐมพยาบาล ผลการเรยี นรู้ 1. บอกประวตั ลิ ูกเสือได้ 2. บอกชนิดของมลพษิ และโครงการเกยี่ วกับ สิ่งแวดลอ้ ม 3. สามารถแสดงออกทางศิลปะและการเดนิ ทางสำรวจ 4. บอกกฎและคำปฏิญาณ 5. รู้จักหลักธรรมทางพทุ ธศาสนา 6. ร้จู กั หลักความปลอดภยั รวมทัง้ หมด ๖ ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน (กิจกรรมนกั เรยี น) กิจกรรมลกู เสอื สามัญ (ลูกเสอื สามญั รุน่ ใหญ่) หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทงุ่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
236 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 40 ช่วั โมง/ปี เปิดประชุมกองดำเนินตามกระบวนการของลูกเสือและกิจกรรมโดยให้ศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐาน โดยเนน้ ระบบหมู่สรปุ ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม ปิดประชมุ กองในเรอ่ื ง การปกครองระบอบประชาธิปไตย นโยบายรัฐบาล หน้าที่ของกรรมการกองลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ หลกั การดำเนนิ งานของสหประชาชาติ ปัญหาสง่ิ แวดล้อมในท้องถิน่ สถานทีส่ ำคญั ทาง ประวัตศิ าสตร์ การเดนิ ทางสำรวจ การจัดแสดงงานศิลปะ กีฬาประเภทต่างๆ หลักธรรมของศาสนากับการแก้ปัญหาสงั คม การโต้วาที ขบวนการลูกเสือ ระเบียบแถว กิจกรรมกลางแจ้ง คำปฏิญาณ และกฎของลูกเสือ ผู้นำท้องถิ่น คณุ สมบัตขิ องผนู้ ำ องคป์ ระกอบในการสร้างความเปน็ ปึกแผน่ การอบรมวิชาการเปน็ ผู้นำ ผลการเรียนรู้ 1. รู้จักการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้ 2. รู้หนา้ ทข่ี องกรรมการกองลูกเสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ 3. บอกหลักการดำเนนิ งานของสหประชาชาติ 4. สามารถปฎบิ ัติตามระเบียบแถวได้ 5. บอกคณุ สมบัติของผนู้ ำ รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
237 ชัน้ ประถมศึกษาปที ี 1 – 6 บรู ณาการในรายวชิ าลกู เสือ-เนตรนารี ฝึกปฏิบตั ิกิจกรรมด้วยความสมคั รใจผ่านกิจกรรมท่ีหลากหลาย ฝึกการทำงานท่ีสอดคลอ้ งกบั ชีวิต จริง ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สำรวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็น ระบบ เน้นทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ และใช้ความคดิ สร้างสรรค์ การบริการด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ตอ่ ตนเอง และส่วนรวม เสริมสร้างความมีนำ้ ใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดแี ละความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครัว และสังคม คิดออกแบบกิจกรรมบำเพ็ญประโยชนใ์ นลกั ษณะอาสาสมัคร จิตอาสา เพอื่ แสดงความรบั ผิดชอบต่อ สงั คมตามแนวทางวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพยี ง เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัดและความสนใจ ในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์จนเกดิ คณุ ธรรม จริยธรรม ตามคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ มีจิต สาธารณะและใช้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ และสามารถประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้ ผลการเรียนรู้ 1. เพอ่ื ให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ อ่ ครอบครัว โรงเรียน ชมุ ชน สังคมและ ประเทศชาติ 2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นออกแบบการจดั กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชนอ์ ย่างสร้างสรรค์ ตามความถนดั และความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร 3. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนสามารถพฒั นาศักยภาพในการจดั กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ได้ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 4. เพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจการเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรมตาม คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5. เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นสามารถประยุกตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านท่งุ มะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
238 คำอธบิ ายรายวิชา กิจกรรมชุมนมุ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมชุมนมุ ส่งเสริมศลิ ปะ ดนตรี นาฏศิลป์ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
239 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 40 ชัว่ โมง/ปี ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ มีความสำคัญต่อผู้เรียนเป็นอย่างมาก เป็นวิชาท่ีสร้างพื้นฐานในการใช้ ชวี ติ ประจำวันและยังเป็นพื้นฐานในการเรยี นในระดบั สงู ขน้ึ ด้วย และในปัจจุบันจะเหน็ ไดว้ ่าผู้เรยี นส่วนใหญ่ได้ให้ ความสำคัญความสนใจในรายวิชานี้เป็นอย่างมากเพราะผู้เรียนชอบการแสดงออกและมีความสามารถพิเศษด้าน ศลิ ปะ ดนตรี นาฏศิลป์ ซ่ึงผ้เู รียนตอ้ งการที่จะหาเวทใี นการแสดงออกอย่างสรา้ งสรรค์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ ได้ตระหนักถึงความสำคัญ จึงจัดโครงการเสริมสร้างบรรยากาศ ทางด้านศิลปะ ดนตรีและ นาฏศิลป์ข้ึนเพ่ือ ส่งเสริมการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและมุ่งเน้นการใช้เทคนิควิธีการสอนหรือกิจกรรมเสริมหลายๆ รูปแบบ โดยเน้นให้ผู้เรียนได้ร่วมกิจกรรมให้มากหรือยึดผู้เรียนเป็นสำคัญเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดง ความสามารถและรู้จักการทำงานร่วมกับผู้อ่ืนรวมท้ังส่งเสริม ให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์และได้เรียนรู้กิจกรรม นอกเหนือจากการเรียนในบทเรยี นเพอื่ เป็นการส่งเสริมเจตคติที่ดตี ่อวิชาท่เี รยี นดว้ ย ผลการเรยี นรู้ 1. ผูเ้ รียนได้เข้ารว่ มกิจกรรมด้านศลิ ปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ 2. ผูเ้ รยี นไดเ้ รียนรปู้ ระสบการณต์ รงด้านศิลปะ ดนตรี และนาฏศลิ ป์ 3. ผเู้ รียนไดร้ ับการสง่ เสริมความสามารถความถนัด ตามความสนใจในด้านศิลปะ ดนตรี และนาฏศลิ ป์ รวมท้งั หมด 3 ผลการเรียนรู้ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมชุมชุนส่งเสรมิ ทกั ษะอาชีพ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นทุง่ มะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
240 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 – มัธยมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 40 ชัว่ โมง/ปี ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ เจตคติ ที่ดีต่อการประกอบอาชีพ เห็นความสำคัญของการสร้าง อาชีพ ทำงานดว้ ยความเสยี สละ และการแก้ปญั หา อย่างมีเหตุผล การหารายได้ และสร้างรายได้เพ่ือตนเองและ ครอบครับ ผู้เรียนเข้าใจและมีทักษะเก่ียวกับการประกอบอาชีพ ธุรกิจ เลือกและจัดการงานอาชีพท่ีสุจริต มี คุณธรรม ทำโครงงานอาชีพเพอื่ ให้ไดง้ านที่มปี ระสิทธิภาพถกู ตอ้ งตามกระบวนการ มเี จตคตทิ ดี่ ตี ่องานอาชพี มี การทำงานเป็นกลุ่มร่วมคิด ทำ แก้ปัญหาและจัดการ มีคุณธรรม มีจิตสำนึกในการใช้พลังงานและ ส่ิงแวดลอ้ ม ตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง เพ่อื ดำรงชวี ติ และครอบครัว ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของโครงงานอาชีพ ความจำเป็นและประเภทอาชีพอสิ ระได้ 2. บอกจดุ ประสงคข์ องการปฏบิ ัตงิ านอาชีพ วิธีการขัน้ ตอน กระบวนการอาชพี ได้ ๓. สำรวจวิเคราะหต์ ัดสินใจเขยี นโครงการละวางแผนได้ 4. ปฏบิ ัติงานอาชีพอยา่ งครบกระบวนการได้ ๕. บอกถงึ ทักษะกระบวนการทำงานได้ ๖. สามารถนำเสนอแนวทางในการประกอบอาชพี และแนวทางการออกแบบได้ 7. สบื ค้นข้อมลู ศึกษา วเิ คราะห์ และอธบิ ายเกยี่ วกับการประกอบอาชพี และธุรกจิ ๘. สบื ค้นขอ้ มูล ศึกษา สำรวจ วิเคราะหอ์ าชพี ในชุมชนและอาชีพอิสระ 9. สืบค้นข้อมูล ศกึ ษา สำรวจ วเิ คราะห์ และอธบิ ายเก่ียวกบั หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 10. สืบคน้ ข้อมลู ศึกษา สำรวจ วิเคราะห์ และอธิบายเกี่ยวกับลักษณะ ประเภท และการเขยี น รายงานโครงงานอาชีพ 11. มีทักษะในการทำโครงงานอาชีพด้วยกระบวนการกลุ่ม มีคุณธรรม มีจิตสำนึกในการใช้ พลงั งานและสง่ิ แวดล้อม ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 12. มีระเบยี บวนิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ เสียสละ อดทน และมีเจตคติทด่ี ตี ่ออาชีพสจุ รติ รวมท้งั หมด 12 ผลการเรียนรู้ กิจกรรมชมุ นุมภาษาไทย คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมชมุ นุม ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑-๖ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นทงุ่ มะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
241 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ หลกั การและเหตผุ ล ประเทศไทยมภี าษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ อนั เป็นเอกลักษณท์ ี่สำคญั อยา่ งหน่ึงของชาติ สมควรจะไดร้ ับการทำนุบำรงุ ส่งเสริม และอนรุ ักษไ์ ว้ใหย้ ่ังยืนตลอดไป ท้งั น้ใี นยคุ ปัจจุบันวชิ าการและเทคโนโลยีตา่ ง ๆ ได้กา้ วหน้าไปอย่างรวดเร็วเกิดเทคนคิ ใหม่ ๆ ในการตดิ ตอ่ สือ่ สาร ท่ีม่งุ เน้นความสะดวกรวดเร็ว สง่ ผลให้ภาษาไทยซ่ึงเป็นสอ่ื กลางสำคญั ในการติดต่อ และผูกพันต่อการดำรงชีวิตประจำวันของคนไทยได้รบั ผลกระทบ ท้งั ภาษาพดู และภาษาเขยี น ทำให้ภาษาไทยเกิด การเปลย่ี นแปลงไปจากเดิมอยา่ งนา่ วิตกเปน็ อยา่ งยงิ่ สภาพการณเ์ ช่นนี้หากไม่เร่งรีบหาทางแก้ไข และปอ้ งกันเสยี แตเ่ นิน่ ๆ การใช้ภาษาไทยของเรากจ็ ะยงิ่ เสอ่ื มลง จะส่งผลเสยี หายตอ่ เอกลักษณ์และคุณค่า ของภาษาไทยเป็นทวคี ณู อา่ นและเข้าใจความหมายของคำ ประโยค ข้อความและจดั ทำแบบฝกึ เป็นรูปเลม่ จัดทำพจนานุกรมฉบับจวิ๋ ศกึ ษา ค้นควา้ เกีย่ วกบั ข่าว บทความจากสงิ่ ตีพมิ พ์ประเภทต่าง ๆ และประดษิ ฐ์ ท่คี นั่ หนังสือประเภทตา่ ง ๆ เพอื่ ใหส้ มาชกิ มคี วามคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ รู้จกั ค้นควา้ และแก้ปญั หาในการทำงานอย่างมรี ะบบ เพื่อให้ สมาชกิ มรี ะเบยี บวนิ ยั เพื่อใหส้ มาชกิ มีความเขา้ ใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั รยิ ์เปน็ ประมุขเพอื่ ใหส้ มาชกิ มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ การปฏิบตั หิ นา้ ทีแ่ ละสิทธภิ ายในขอบเขตของ กฎหมายเพอ่ื ใหส้ มาชกิ มีความสงบซาบซง้ึ ในคุณค่า ดำรงไวแ้ ละสง่ เสริมเอกลกั ษณว์ ฒั นธรรมอนั ดีงาม ของชาติไทยเพอ่ื ให้สมาชิกเกิดความรักและสามัคคีในหมคู่ ณะเพอ่ื ให้สมาชิกไดร้ ับการสง่ เสริมการพฒั นา ทางร่างกาย จติ ใจ และรจู้ ักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชนเ์ พื่อให้สมาชกิ รูจ้ ักบำเพ็ญประโยชนต์ อ่ สังคม และสรา้ งเสรมิ ความมัน่ คงของชาติเพือ่ ใหส้ มาชิกมคี ณุ ธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชกิ พฒั นาตนเอง ตามวตั ถุประสงคข์ องการจดั การศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้กบั ชีวติ ประจำวนั ได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน ๒. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรองได้อย่างถกู ตอ้ งตามอกั ขระวธิ ี ๓. เขยี น ได้ถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย ๔. ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและสว่ นรวม ๕. นกั เรยี นมีความตระหนกั และเห็นคณุ ค่าของภาษาไทย ในฐานะภาษาประจำชาติ ๖.นักเรยี นสามารถเป็นตัวแทนเข้าร่วมแข่งขนั กิจกรรมทางคณิตศาสตร์ รวม ๕ ผลการเรยี นรู้ กจิ กรรมชุมนมุ คณิตศาสตร์ คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมชุมนมุ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑-๖ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
242 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ หลกั การและเหตุผล คณิตศาสตรเ์ ป็นวิชาทมี่ ีความเกี่ยวข้องกบั ส่งิ ท่ีอยู่รอบตัวและชีวิตของเรา คณติ ศาสตรส์ ามารถอธบิ ายสิง่ ต่าง ๆ นานาทอ่ี ยูร่ อบตวั เราได้ ถงึ แมว้ า่ คนส่วนใหญ่จะมองคณติ ศาสตร์นัน้ ยาก ซับซ้อน นา่ เวียนหวั ทำใหเ้ กิดความเครยี ด และความวติ กกงั วลในการเรียน ชมุ นุมนี้จงึ จดั ขึ้นมาเพ่ือให้นักเรยี นในชุมนุมไดม้ องเหน็ มมุ มองอีกดา้ นหน่ึงของคณิตศาสตร์ โดยการ รวบรวมดา้ นสนุกสนานของคณิตศาสตร์ ตลอดจนเกร็ดนา่ รตู้ า่ ง ๆ มากมาย รวมถงึ เกร็ดแปลก ๆ เก่ียวกับตัว เลขท่ีอาจจะทำให้นักเรยี นเกดิ หลงรกั ตวั เลขขึ้นมากไ็ ด้ และนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยในหลักปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยุกตใ์ นกบั ชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. เพอ่ื ให้นกั เรยี นมองเห็นความสำคัญของคณิตศาสตรใ์ นชวี ิตประจำวนั ๒. เพอ่ื ให้นกั เรียนมีความรคู้ วามเข้าใจ มีความสขุ และความสนกุ สนานในการเขา้ ร่วม กิจกรรม ในวิชา คณติ ศาสตร์ ๓. เพอื่ ให้นักเรยี นได้ปฏิบตั กิ จิ กรรมตามท่ีตนเองถนดั และสนใจ ๔. เพื่อส่งเสรมิ นกั เรยี นให้มที ศั นคติทีด่ ตี อ่ วชิ าคณิตศาสตร์ ๕. เพื่อใหน้ ักเรยี นสามารถนำความร้ไู ปปรบั ใช้ในชีวิตประจำวนั ไดเ้ ป็น และไดใ้ ช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ ๖. นกั เรียนสามารถเปน็ ตัวแทนเข้าร่วมแขง่ ขนั กิจกรรมทางคณติ ศาสตร์ รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้ คำอธิบายรายวิชากิจกรรมชมุ นุม กจิ กรรมชมุ นมุ สร้างสรรคด์ ้วยลีลามอื ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทุ่งมะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
243 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ หลักการและเหตุผล รจู้ กั ชือ่ และบอกลักษณะของเสน้ ต่าง ๆ ซงึ่ มาประกอบเปน็ พยญั ชนะ ตวั เลขและเปน็ ภาพต่าง ๆ ทใี่ ช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ เพื่อส่งเสรมิ ให้เดก็ มีพฒั นาการทางดา้ น รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปญั ญา สามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ เพ่อื ให้สมาชกิ มคี วามคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ร้จู กั คน้ ควา้ และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพอ่ื ให้สมาชิกเปน็ ผู้มรี ะเบยี บวนิ ยั เพอื่ ให้สมาชกิ มีความเข้าใจและเล่ือมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุขเพ่อื ใหส้ มาชิกมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ การปฏบิ ัติหน้าท่ีและสิทธภิ ายในขอบเขตของ กฎหมายเพ่ือใหส้ มาชิกมคี วามสงบซาบซงึ้ ในคุณค่า ดำรงไว้และสง่ เสริมเอกลกั ษณว์ ฒั นธรรมอนั ดีงาม ของชาติไทยเพื่อให้สมาชิกเกิดความรกั และสามัคคใี นหมู่คณะเพ่ือให้สมาชิกไดร้ ับการสง่ เสริมการพฒั นา ทางร่างกาย จิตใจ และรู้จกั ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชนเ์ พอื่ ให้สมาชิกรูจ้ ักบำเพญ็ ประโยชนต์ อ่ สงั คม และสรา้ งเสริมความมน่ั คงของชาติเพอ่ื ใหส้ มาชิกมคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรม เพื่อใหส้ มาชิกพฒั นาตนเอง ตามวตั ถุประสงคข์ องการจดั การศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับชีวิตประจำวันได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏบิ ัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน ๒. มคี วามรู้ ความสามารถดา้ นการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ใหเ้ กดิ ประสบการณ์ ท้งั ทางวิชาการและ วชิ าชีพตามศกั ยภาพ ๓. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชนต์ อ่ ตนเองและสว่ นรวม ๔. มุง่ มั่นในการทำงานและทำงานร่วมกบั ผอู้ ่นื ไดต้ ามวถิ ปี ระชาธิปไตย ๕. ประยกุ ต์ใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้อย่างเหมาะสม รวม ๕ ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมชุมนุมคอมพิวเตอร์ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชมุ นุม ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นทุ่งมะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
244 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ หลกั การและเหตผุ ล ในปัจจุบนั เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ไดพ้ ฒั นาไปอยา่ งรวดเรว็ ในหลากหลายสาขาวิชาโดยเฉพาะอย่างยง่ิ การพฒั นาดา้ นการสื่อสารและดา้ นขอ้ มูล ดงั นัน้ จงึ จำเป็นอย่างยง่ิ ที่สถานศกึ ษาใหค้ วามสำคญั ต่อการเปล่ียนแปลง ของเทคโนโลยเี พอ่ื ให้ผ้เู รียนมีความรู้ เกดิ ความตระหนักและเทา่ ทันเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพอ่ื สนับสนนุ ให้ผ้เู รยี นมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้เรยี นในยคุ ศตวรรษที่ 21 ไดแ้ ก่ เปน็ นักคิดวิเคราะห์ เปน็ นกั แก้ปญั หา เปน็ นกั สรา้ งสรรค์ เปน็ นกั ประสานความรว่ มมือ รูจ้ ักใช้ขอ้ มูลและข่าวสาร เป็นผู้เรยี นรู้ ด้วยตนเอง เป็นนักสื่อสาร และตระหนกั รบั รู้สภาวการณข์ องโลกปัจจบุ ันและอนาคตกจิ กรรมชุมนุมคอมพวิ เตอร์ จึงเปน็ กจิ กรรมกลุ่มเสรมิ ทักษะดา้ นวิชาการ ในกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี เพ่อื พฒั นานกั เรยี นใหเ้ ต็มศักยภาพ เพ่ือตอบสนองศักยภาพของนักเรยี นไดห้ ลากหลายวิชาสามารถตอบสนอง ความต้องการของสงั คมสร้างองคค์ วามรูแ้ ละเพิ่มพนู ทกั ษะคอมพิวเตอรใ์ ห้แก่นกั เรียนเป็นผู้มคี วามรคู้ วามสามารถ มปี ระสบการณ์ตรงกบั สภาพแวดล้อม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ และนำมาปรบั ใชใ้ นชีวิตประจำวัน ไดอ้ ย่างเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. นักเรียนเกิดทกั ษะในการใช้เทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวนั ๒. นักเรียนมคี วามรทู้ างดา้ นคอมพิวเตอร์ นำมาใชใ้ นงานตา่ ง ๆ ๓. นกั เรียนพฒั นาความรู้ความสามารถด้านการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ๔. นักเรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มทพ่ี งึ ประสงค์ ๕. นกั เรียนมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ในการทำกจิ กรรมรว่ มกันกบั ผอู้ ่นื รวมท้งั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้ สว่ นที่ 4 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทงุ่ มะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
245 เกณฑ์การจบการศึกษา ตามหลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นท่งุ มะกอก การวัดและประเมินผลการเรยี นรขู้ องผู้เรยี นตอ้ งอยบู่ นหลกั การพื้นฐานสองประการคอื การประเมินเพื่อพัฒนาผเู้ รยี นและเพอ่ื ตดั สนิ ผลการเรียน ในการพฒั นาคุณภาพการเรียนรขู้ องผเู้ รียนให้ ประสบผลสำเร็จน้ัน ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ในทุกระดับไมว่ า่ จะเปน็ ระดบั ชนั้ เรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา และระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมิน เป็นขอ้ มูลและสารสนเทศท่ีแสดงพัฒนาการ ความกา้ วหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจน ขอ้ มูลทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อการส่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นการพัฒนาและเรยี นรู้อยา่ งเต็มศักยภาพ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทุ่งมะกอก ตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ แบ่งออกเป็น ๔ ระดบั ไดแ้ ก่ ระดับชน้ั เรียน ระดบั สถานศกึ ษา ระดับเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาและระดบั ชาติ มรี ายละเอยี ดดงั นี้ ๑. การประเมินระดบั ช้นั เรยี น เป็นการวัดและประเมนิ ผลที่อยู่ในกระบวนการจดั การเรยี นรู้ ผสู้ อนดำเนนิ การเปน็ ปกตแิ ละสม่ำเสมอ ในการจัดการเรยี นการสอน ใชเ้ ทคนคิ การประเมินอยา่ งหลากหลาย เช่น การซกั ถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมนิ โครงงาน การประเมนิ ชน้ิ งาน ภาระงาน แฟม้ สะสมงาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเปน็ ผูป้ ระเมนิ เองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพ่ือน ประเมนิ เพ่อื น ผ้ปู กครองรว่ มประเมนิ ในกรณีทีไ่ ม่ผ่านตัวชี้วดั ให้มีการสอนซ่อมเสริม การประเมินระดบั ช้นั เรียนเปน็ การตรวจสอบวา่ ผู้เรยี นมีพฒั นาการความกา้ วหน้าใน การเรียนรู้ อันเปน็ ผลมาจากการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนหรอื ไม่ และมากนอ้ ยเพยี งใด มสี ิง่ ที่จะต้องได้รับ การพฒั นาปรบั ปรงุ และส่งเสรมิ ในดา้ นใด นอกจากนีย้ ังเปน็ ข้อมลู ให้ผสู้ อนใชป้ รับปรงุ การเรยี น การสอนของตน ด้วย ท้งั นี้โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั ๒. การประเมนิ ระดับสถานศึกษา เป็นการประเมนิ ทส่ี ถานศกึ ษาดำเนนิ การเพื่อตดั สินผลการเรียน ของผเู้ รยี นเป็นรายป/ี รายภาค ผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพ่ือให้ได้ข้อมูลเกี่ยงกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อการ เรยี นรู้ของผู้เรยี นตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรยี นมีจดุ พัฒนาในด้านใด รวมทง้ั สามารถนำผลการเรียนของผู้เรยี นใน สถานศึกษาเปรยี บเทียบกับเกณฑร์ ะดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพื่อ การปรับปรุงนโยบาย หลักสูตรโครงการ หรอื วิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนา คณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษาตามแนวทางประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัดการศึกษาต่อ คณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ผู้ปกครองและชมุ ชน ๓. การประเมินระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่ การศึกษาตามมาตรฐานการเรยี นรตู้ ามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน เพ่ือใช้เป็นข้อมูลพนื้ ฐานในการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นท่ีการศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมิน คณุ ภาพผลสัมฤทธิข์ องผู้เรียนด้วยขอ้ สอบมาตรฐานท่ีจดั ทำและดำเนินการโดยเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษา หรอื ด้วยความ รว่ มมือกับหนว่ ยงานต้นสงั กดั ในการดำเนนิ การจัดสอบ นอกจากนยี้ งั ไม่ไดก้ ารตรวจสอบทบทวนข้อมูลจาก การประเมินระดับสถานศกึ ษาในเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา ๔. การประเมนิ ระดับชาติ เปน็ การประเมินคณุ ภาพผูเ้ รยี นในระดบั ชาตติ ามมาตรฐาน หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นท่งุ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
246 การเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนท่ีเรียนในช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี ๓ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการ เทียบเคียงคุณภาพการศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเปน็ ข้อมูลสนับสนนุ การตดั สนิ ใจในระดบั นโยบายของประเทศ ขอ้ มูลการประเมินในระดับต่าง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวน พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผดิ ชอบของสถานศึกษาท่ีจะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุง แกไ้ ข ส่งเสริมสนบั สนุนเพ่อื ให้ผู้เรยี นไดพ้ ัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพบนพ้นื ฐาน ความแตกต่างระหว่างบุคคลทจี่ ำแนกตามสภาพปัญหาและความตอ้ งการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กล่มุ ผเู้ รียนท่ี มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นต่ำ กลุ่มผู้เรียนท่ีมีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุม่ ผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลมุ่ ผเู้ รยี นทีม่ ปี ัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพกิ ารทางร่างกายและสตปิ ญั ญา เปน็ ตน้ ขอ้ มูลจากการประเมนิ จงึ เปน็ หวั ใจของสถานศึกษาในการดำเนินการชว่ ยเหลือผเู้ รยี นไดท้ ันท่วงที เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนได้รับการพฒั นาและประสบความสำเร็จในการเรยี น สถานศึกษาในฐานะรับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผล การเรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบตั ิท่ีเป็นข้อกำหนดของหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน เพ่ือให้บุคลากรทีเ่ กี่ยวขอ้ งทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกัน เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการเรียน ๑. การตัดสนิ การใหร้ ะดับและการรายงานผลการเรยี น ๑.๑ การตดั สินผลการเรยี น ในการตดั สินผลการเรยี นของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียนนั้น ผู้สอนตอ้ งคำนงึ ถึงการพฒั นาผู้เรียนแตล่ ะคนเปน็ หลกั และต้องเกบ็ ขอ้ มลู ของผูเ้ รยี นทกุ ด้านอยา่ งสม่ำเสมอและตอ่ เนือ่ งในแตล่ ะภาคเรยี น รวมทั้งสอนซอ่ มเสริมผู้เรยี น ใหพ้ ัฒนาจนเตม็ ศกั ยภาพ ระดบั ประถมศกึ ษา 1. ผู้เรียนเรยี นตอ้ งมีเวลาเรียนไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทง้ั หมด 2. ผเู้ รยี นตอ้ งต้องไดร้ บั การประเมนิ ทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากำหนด 3. ผู้เรยี นตอ้ งได้รับการตัดสนิ ผลการเรยี นทกุ วิชา 4. ผู้เรียนตอ้ งไดร้ ับการประเมิน และมผี ลการประเมนิ ผา่ นตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากำหนด ในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 1. ผู้เรียนเรยี นต้องมเี วลาเรียนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวชิ านัน้ ๆ 2. ผู้เรยี นต้องตอ้ งไดร้ บั การประเมินทกุ ตวั ชว้ี ดั และผ่านตามเกณฑท์ ีส่ ถานศึกษากำหนด 3. ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ บั การตดั สินผลการเรียนทกุ วชิ า 4. ผเู้ รยี นตอ้ งได้รับการประเมนิ และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑท์ ีส่ ถานศกึ ษากำหนด ในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ๑.๒ การใหร้ ะดับผลการเรียน ระดบั ประถมศกึ ษา หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านทงุ่ มะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
247 การตัดสนิ เพ่ือใหร้ ะดบั ผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษาสามารถให้ระดบั ผลการเรียนหรือระดับ คุณภาพการปฏบิ ัตขิ องผู้เรียน เปน็ ระบบตัวเลข โดยใช้ตัวเลขแสดงระดบั ผลการเรยี นใน ๘ ระดับ การประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี น และคุณลักษณะอนั พึ่งประสงค์นน้ั ให้ระดบั ผลการ ประเมนิ เปน็ ดีเย่ยี ม ดี และผา่ น การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาท้ังเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ กจิ กรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศกึ ษากำหนด และใหผ้ ลการเขา้ ร่วมเป็นผา่ น และไม่ผ่าน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น การตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษาสามารถให้ระดับผลการเรียนหรือระดับ คณุ ภาพการปฏิบัติของผเู้ รียน เปน็ ระบบตวั เลข โดยใชต้ วั เลขแสดงระดับผลการเรียนใน ๘ ระดบั การประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน และคณุ ลกั ษณะอันพ่ึงประสงค์น้นั ใหร้ ะดับผลการ ประเมนิ เป็น ดีเยย่ี ม ดี และผ่าน การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาท้ังเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ กจิ กรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากำหนด และให้ผลการเข้าร่วมเปน็ ผ่าน และไม่ผ่าน 2. เกณฑก์ ารจบการศึกษา หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐานกำหนดเกณฑ์กลางสำหรบั การจบการศึกษาเป็น 1 ระดบั คอื ระดบั ประถมศึกษา 2.1 เกณฑ์การจบระดบั ประถมศกึ ษา (1) ผู้เรยี นเรยี นรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลาเรยี นท่ี หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานกำหนด (2) ผูเ้ รยี นตอ้ งมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตามทส่ี ถานศกึ ษา กำหนด (3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การ ประเมินตามทส่ี ถานศึกษากำหนด (4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามท่ีสถานศกึ ษากำหนด (5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษากำหนด 2.๒ เกณฑก์ ารจบระดบั มธั ยมตอนต้น (1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชาเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพ้ืนฐาน ๖๖ หน่วยกิต และรายวชิ าเพิ่มเตมิ ตามทีส่ ถานศกึ ษากำหนด (2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิต ตลอดหลกั สูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชา พ้นื ฐาน ๖๖ หน่วยกติ และรายวิชาเพม่ิ เตมิ ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๑ หนว่ ยกิต (3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี นในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษากำหนด (4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามท่ีสถานศกึ ษากำหนด หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทงุ่ มะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
248 (5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามทส่ี ถานศกึ ษากำหนด เอกสารหลักฐานการศึกษา เอกสารหลักฐานการศึกษาเป็นเอกสารสำคัญท่ีบนั ทึกผลการเรยี น ขอ้ มูลและสารสนเทศท่ีเก่ียวขอ้ ง กบั พัฒนาการของผเู้ รยี นในด้านต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดงั นี้ 1. เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่กี ระทรวงศึกษาธิการกำหนด 1.1 ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนของ ผู้เรยี นตามรายวชิ า ผลการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของ สถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและออกเอกสารนี้ให้ ผเู้ รียนเปน็ รายบุคคล เมอ่ื ผเู้ รยี นจบการศึกษาระดับประถมศึกษา (ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6) หรือระดบั มธั ยมศกึ ษา ตอนตน้ (ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓) 1.๒ แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายชื่อและ ข้อมูลของผู้จบการศึกษาระดับประถมศึกษา (ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6) หรือระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้น มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓) 2. เอกสารหลกั ฐานการศึกษาทส่ี ถานศึกษากำหนด เป็นเอกสารท่ีสถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เก่ียวกับผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจำตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรองผลการเรยี น และ เอกสารอน่ื ๆ ตามวตั ถปุ ระสงค์ของการนำเอกสารไปใช้ ๒.๑ แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวิชา เป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ครูผู้สอนใช้บันทึก พัฒนาการ ผลการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน สำหรับการพิจารณาตัดสินผลการเรียนแต่ละรายวิชาเป็นรายห้องเรียน เอกสารบันทึกผลการเรียน ประจำรายวิชา นำไปใช้ประโยชน์ ดงั นี้ - ใชบ้ นั ทึกพัฒนาการ ผลการเรยี นรู้ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ การอา่ นคิดวเิ คราะหแ์ ละ เขยี น และผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี นของผเู้ รียนแต่ละรายวชิ า - ใชเ้ ปน็ หลักฐานสำหรับตรวจสอบ รายงาน และรับรองขอ้ มูลเก่ยี วกับพัฒนาการและผล การเรียนรขู้ องผเู้ รยี น ๒.๒ แบบรายงานประจำตัวนกั เรียน เป็นเอกสารทจี่ ดั ทำขน้ึ เพ่อื บันทึกข้อมูลผลการเรียน รายวชิ า และพัฒนาการดา้ งต่าง ๆ ของผู้เรียนแตล่ ะคน ตามเกณฑ์การตดั สนิ การผา่ นระดับชั้นของหลักสตู ร แกนกลางขั้นพืน้ ฐาน รวมท้ังขอ้ มลู ดา้ นอนื่ ๆ ของผ้เู รียนทีบ่ ้านและสถานศกึ ษา โดยจดั ทำเปน็ เอกสารรายบคุ คล เพือ่ ใช้ในการส่ือสารให้ผูป้ กครองของผูเ้ รยี นแตล่ ะครได้รบั ทราบผลการเรยี นและพฒั นาการดา้ นต่าง ๆ ของ ผู้เรียนอยา่ งต่อเนอ่ื ง แบบรายงานประจำตัวนกั เรยี น นำไปใชป้ ระโยชน์ ดงั นี้ - แบบรายงานผลการเรยี น ความประพฤติ และพัฒนาการของผ้เู รียนใหป้ กครองรับทราบ - ใช้เปน็ เอกสารส่อื สาร ประสานงาน เพื่อความรว่ มมือในการพฒั นาและปรับปรุงแก้ไขผเู้ รียน - เป็นเอกสารหลักฐานสำหรับการตรวจสอบ ยนื ยัน และรับรองผลการเรยี นและพัฒนาการ ด้านตา่ งๆ ของผู้เรียน ๒.๓ ระเบียบสะสม เปน็ เอกสารท่ีจดั ทำข้นึ เพื่อบันทกึ ข้อมลู เกย่ี วพัฒนาการของนกั เรยี นใน ด้านตา่ ง ๆ เปน็ รายบุคคล โดยจะบนั ทึกขอ้ มลู ของผู้เรียนอย่างตอ่ เนือ่ ง ตลอดระยะชว่ งเวลาการศึกษาตาม หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทุ่งมะกอก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
249 หลกั สูตรสถานศกึ ษาของโรงเรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ สามารถ นำไปใชป้ ระโยชน์ ดงั น้ี - ใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการแนะแนวการศึกษาและประกอบอาชพี ของผเู้ รียน - ใช้เปน็ ขอ้ มลู ในการพฒั นาปรับปรุงบุคลกิ ภาพ ผลการเรยี นและปรบั ตวั ของผู้เรยี น - ใชต้ ิดต่อสอื่ สาร รายงานพฒั นาคุณภาพของผเู้ รียนระหว่างสถานศึกษากับผู้ปกครอง - ใชเ้ ป็นหลกั ฐานสำหรบั การตรวจสอบ รบั รอง และยนื ยนั คณุ สมบัติของผ้เู รียน ๒.๔ ใบรบั รองผลการเรียน เปน็ เอกสารทจี่ ดั ทำข้นึ เพอื่ ใช้เป็นเอกสารสำหรับรับรองความเป็น นักเรยี นหรือผลการเรียนของผู้เรียนเปน็ การชัว่ คราวตามท่ีผู้เรียนรอ้ งขอ ทัง้ กรณที ผ่ี เู้ รียนกำลงั ศกึ ษาอย่ใู น สถานศกึ ษาและเม่อื จบการศกึ ษาไปแล้วนำไปใช้ประโยชน์ ดังนี้ - รบั รองความเป็นนกั เรียนของสถานศกึ ษาที่นกั เรียนเคยเรียน - รับรองและแสดงความรู้ วุฒกิ ารศึกษาของผ้เู รียน - ใช้เปน็ หลกั ฐานแสดงคุณสมบตั ิของผูเ้ รียนในการสมคั รเขา้ ศึกษาตอ่ สมัครเข้าทำงาน หรอื เมอื่ มกี รณีอนื่ ใดทผ่ี เู้ รียนแสดงคณุ สมบัติเกีย่ ววุฒคิ วามรู้ หรอื สถานการณเ์ ป็นผ้เู รียนของตน - เปน็ หลักฐานสำหรับการตรวจสอบ รับรอง ยืนยันการใชส้ ิทธ์ิความเปน็ นกั เรียนหรือ การไดร้ ับการรบั รองจองสถานศกึ ษา การเทยี บโอนผลการเรยี น สถานศกึ ษาสามารถเทยี บโอนผลการเรียนของผเู้ รียนในกรณีตา่ งๆไดแ้ ก่ การยา้ ยสถานศกึ ษา การเปล่ียนรปู แบบการศึกษา การย้ายหลกั สูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจาก ต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จาก แหล่งการเรียนรู้อ่ืนๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชีพ การจัดการศึกษาโดย ครอบครวั การเทยี บโอนผลการเรียนควรดำเนินการในชว่ งกอ่ นเปิดภาคเรยี นแรก หรอื ต้นภาคเรยี นแรกที่ สถานศกึ ษารบั ผ้ขู อเทยี บโอนเป็นผูเ้ รยี น ทั้งน้ี ผูเ้ รียนทีไ่ ด้รับการเทยี บโอนผลการเรยี นต้องศกึ ษาต่อเนือ่ งใน สถานศึกษาทร่ี บั เทยี บโอนอย่างน้อย 1 ภาคเรียน โดยสถานศกึ ษาทร่ี บั ผู้เรยี นจากการเทียบโอนควรกำหนด รายวชิ า/จำนวนหนว่ ยกิต ที่จะรับเทียบโอนตามความเหมาะสม การพิจารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนนิ การได้ ดงั น้ี 1. พจิ ารณาจากหลกั ฐานการศึกษา และเอกสารอื่นๆ ท่ใี ห้ขอ้ มูลแสดงความรู้ ความสามารถ ของผเู้ รียน 2. พิจารณาจากความรู้ ความสามารถของผู้เรียนโดยการทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ ท้ังภาค ความรู้และภาคปฏบิ ัติ 3. พิจารณาจากความสามารถและการปฏบิ ตั ใิ นสภาพจริง การเทยี บโอนผลการเรยี นให้เป็นไปตาม ประกาศ หรือ แนวปฏิบัติ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ ๔. ในกรณีมีเหตุผลจำเป็นระหว่างเรียน นักเรียนสามารถแจ้งความจำนงขอไปศึกษาบาง รายวิชาในสถานศึกษา สถานประกอบการอื่น แล้วนำมาเทียบโอนได้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ บรหิ ารหลกั สูตรและวิชาการของสถานศกึ ษา ๕. การเทยี บโอนผลการเรียนให้คณะกรรมการการเทยี บโอนของสถานศึกษา จำนวน ๕ คน เป็นผดู้ ำเนินการ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทงุ่ มะกอก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
250 ๖. การเทยี บโอนใหด้ ำเนนิ การดงั นี้ ๖.๑ กรณีของผู้ขอเทียบโอนมีผลการเรียนมาจากหลักสูตรอื่นใหน้ ำรายวิชาหรือ หนว่ ยกิตที่ มีตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นร้ทู ีค่ าดหวงั จดุ ประสงค์ เนื้อหาที่สอดคล้องกัน ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๖๐ มาเทียบโอนผลการเรียนและพจิ ารณาให้ระดบั ผลการเรียนให้สอดคล้องกับหลกั สตู รท่ีเทยี บโอน ๖.๒ กรณีเทียบโอนความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ให้พิจารณาจากเอกสารหลักฐาน โดยให้มีการประเมนิ ดว้ ยเคร่อื งมือท่ีหลากหลาย และใหร้ ะดับผลให้สอดคลอ้ งกบั หลกั สตู รที่รบั เทยี บโอน ๖.๓ กรณีการเทียบโอนท่ีนักเรียนเข้าโครงการแลกเปล่ียนต่างประเทศ ให้ดำเนินการตาม ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องหลักการและแนวปฏิบัติการเทียบช้ันการศึกษาสำหรับนักเรียนท่ีเข้าร่วม โครงการแลกเปลย่ี น ทง้ั นี้ วิธีการเทียบโอนผลการเรียนใหเ้ ป็นไปตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการและแนว ปฏบิ ัตทิ ีเ่ กี่ยวข้อง หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านทุ่งมะกอก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
251 ภาคผนวก หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านทงุ่ มะกอก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256