Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติครู 16 มกราคม 2563

ประวัติครู 16 มกราคม 2563

Published by Napash.bie, 2020-02-03 02:56:50

Description: ประวัติครู 16 มกราคม 2563 เป็นหนังสือที่ยกย่องเชิดชูเกียรติคุณของครูผู้ล่วงลับไปแล้ว และเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งมีคุณลักษณะที่จะเป็นแบบอย่างให้ผู้ประกอบวิชาชีพครู โดยรวบรวมเป็นรูปเล่มหนังสือ มาตั้งแต่ปี 2500 เป็นต้นมา

Keywords: คุรุสภา, วิชาชีพครู, ประวัติครู

Search

Read the Text Version

หนงั สือประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ พิมพจํานวน ๓,๕๐๐ เลม ISBN 978-616-7746-58-6 จัดพิมพโดย สาํ นกั งานเลขาธิการคุรุสภา สาํ นกั พฒั นาและสงเสรมิ วชิ าชีพ กลมุ ยกยองและผดงุ เกยี รติวิชาชีพ ๑๒๘ / ๑ ถนนนครราชสมี า เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐ โทร. ๐ ๒๒๘๒ ๓๑๕๓ พิมพที่ : โรงพิมพ สกสค. ลาดพราว กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๑๐



ประวตั คิ รู ครุ สุ ภาจดั พมิ พเ์ นอ่ื งในงานวนั ครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓



ค�าน�า หนังสือประวัติครูจัดพิมพ์เน่ืองในงานวันครูเป็นประจ�าทุกปี มีวัตถุประสงค์เพ่ือ รวบรวมประวัติและผลงานของครูผู้ถึงแก่กรรมไปแล้วที่สมควรได้รับการยกย่องและ เชิดชูเกียรติให้เป็นแบบอย่างแก่ครูรุ่นต่อ ๆ ไปได้ประพฤติและปฏิบัติตาม เริ่มจัดพิมพ์ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นต้นมา บันทกึ ประวตั มิ าแล้ว จ�านวน ๑,๐๖๘ คน และ พ.ศ. ๒๕๖๓ จ�านวน ๑๙ คน รวมเป็น ๑,๐๘๗ คน ส�านักงานเลขาธิการคุรุสภาได้รับข้อมูลประวัติและผลงานของครูจากท่ัวประเทศ ทั้งจากส่วนราชการ สถานศึกษา เพื่อนร่วมงาน ทายาท และผู้ท่ีสนใจ แล้วน�าเสนอ คณะกรรมการจดั ทา� หนงั สอื ประวตั คิ รพู จิ ารณาคดั เลอื ก คดั สรร และคน้ ควา้ หาขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ ตรวจสอบความถกู ต้องของประวตั ิ เหตุการณ์ที่เกิดข้ึน ช่อื เรียกต่าง ๆ ท่ใี ชก้ ันอย่ใู นขณะนัน้ ประวตั สิ ถานศกึ ษาบางแหง่ ทเี่ กยี่ วเนอื่ งกบั เจา้ ของประวตั ิ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความสมบรู ณข์ องประวตั ิ มากยงิ่ ขนึ้ เป็นประโยชนแ์ ก่การสืบค้นและอ้างอิงตอ่ ไป หนงั สอื ประวตั คิ รเู ลม่ น้ี ประกอบดว้ ยประวตั คิ รู จา� นวน ๑๙ ประวตั ิ แบง่ ตามความ โดดเดน่ ในด้านความรู้ ความสามารถ ผลงาน และมจี ติ วิญญาณของความเป็นครู ดงั นี้ ครูผู้ส่ังสอนศิษย์ให้น�าทักษะไปใช้ในการด�าเนินชีวิต จ�านวน ๕ ประวัติ ได้แก่ นายเกรยี งศกั ด์ิ สา� เภาทอง ครผู มู้ คี วามสามารถทงั้ ดนตรแี ละขบั รอ้ ง และนา� นกั เรยี นออกเวที แสดงจรงิ ทง้ั ยงั เปน็ ผทู้ เี่ หน็ ความสา� คญั ของงานลกู เสอื - เนตรนารวี า่ เปน็ งานทฝ่ี กึ คนใหเ้ ปน็ คน สามารถอยรู่ ว่ มกบั เพอื่ นมนษุ ยอ์ ยา่ งเปน็ กลั ยาณมติ รตอ่ กนั รองศาสตราจารยช์ ารี แสวงเจรญิ ครแู ละหวั หนา้ หมวดวชิ าเกษตรกรรม ผวู้ างรากฐานการเรยี นการสอนทางการเกษตรจนไดร้ บั ยกยอ่ งใหเ้ ปน็ “พอ่ พระของเอกเกษตร - สกลนคร” นายสมเกยี รติ พนื้ แสน ครแู ละผบู้ รหิ าร ท่ีส่งสริมการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียน ครู และผู้เก่ียวข้อง ได้ตระหนักถึงความส�าคัญ ของการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถ่ิน โดยจัดเป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีสร้างความภูมิใจในท้องถิ่น ของตน นางสองิ้ กานยะคามนิ ครผู มู้ คี วามคดิ สรา้ งสรรค์ รเิ รม่ิ จดั กจิ กรรมนอกหอ้ งเรยี นใหม้ ี ความสมั พนั ธก์ บั เนอ้ื หา กจิ กรรมทน่ี กั เรยี นสามารถเรยี นรเู้ พอ่ื เปน็ ประสบการณแ์ ละนา� ไปใช้ ในการประกอบอาชพี ได้ และพลตรี สา� เริง ไชยยงค์ ครูปูชนยี บุคคล ผู้ก่อต้งั สโมสรฟุตบอล และสรา้ งนกั ฟตุ บอลเปน็ ตวั แทนทมี ชาตไิ ทย ซงึ่ นบั วา่ เปน็ บคุ คลสา� คญั ของวงการฟตุ บอลไทย ครูผู้ทุ่มเทและใช้ทักษะในการส่ังสอนให้ผู้เรียนพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ จา� นวน ๖ ประวตั ิ ไดแ้ ก่ นายช�านาญ ทดั มาลี ครผู ูพ้ ัฒนาตนเองจนประสบความส�าเร็จ

เป็นผู้บริหารโรงเรียนใดก็พัฒนาโรงเรียนนั้น ๆ ให้มีชื่อเสียงด้วยการจัดตั้งศูนย์กลาง การเรียนรู้ท่ีเน้นวัฒนธรรมท้องถ่ิน สร้างเสริมความรู้ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน ท่ัวไป จนเป็นที่ยอมรับของสาธารณชน ศาสตราจารย์พิเศษ ดอกเตอร์ทรงศักด์ิ ศรีกาฬสินธุ์ ครูและผู้บริหาร “ลูกศิษย์วัด ๓ วัด” สอนวิชาที่ตนไม่ถนัด จึงต้อง ท�างานอย่างหนัก แต่ส�าเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และได้รับการยกย่องให้เป็น “ผู้ช�านาญ ในการสอนและนักบริหารอุดมศึกษาท่ีประสบความส�าเร็จ” นางบุญน�า บุญเสรฐ ครูผู้มีความสามารถสอนได้หลากหลายวิชา ท้ังระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย และเป็น ศึกษานิเทศก์ร่วมโครงการพัฒนาการศึกษาของชาติ ออกไปเผยแพร่ให้ความรู้ ค�าแนะน�า และเป็นที่ปรึกษาทุกด้านแก่ครูทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นายประยูร สุรนิวงศ์ ครูผู้สอนคณิตศาสตร์ “จากพ่อสู่ลูก” เริ่มสอนคณิตศาสตร์ให้แก่เพื่อนร่วมชั้นประถม สอนเรื่องยากให้กลายเป็นเร่ืองท่ีเข้าใจง่าย เป็นครูคณิตศาสตร์ท่ีฝึกให้ผู้เรียนคิดอย่าง เป็นระบบ นายสมเดช สีวังลาศ ครูผู้อุทิศตน ทุ่มเท เอาใจใส่ในหน้าที่ ปฏิบัติการสอน และงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย อย่างเต็มก�าลังความสามารถ และยังเป็นผู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีจิตอาสา และเป็นครูผู้สนับสนุนนักเรียนเข้าแข่งขันเพ่ือส่งเสริมศักยภาพของนักเรียน อกี ดว้ ย และนายอศั วนิ ภคู รองตา ครแู ละนกั บรหิ าร ผไู้ มเ่ คยยอ่ ทอ้ ตอ่ อปุ สรรคในการเรยี น พัฒนาตนเองจากครูสู่ผู้บริหาร และพัฒนาโรงเรียนอย่างต่อเนื่องเพ่ือให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ท่ีพรอ้ มสมบรู ณ์สา� หรบั นักเรียนเสมอ ครูผู้ริเร่ิมน�าความรู้มาพัฒนาให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อการศึกษาไทย จ�านวน ๕ ประวัติ ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ชัยอนันต์ สมุทวณิช ผู้บริหารที่ปรับเปล่ียน หลักสูตรการเรียนการสอน กิจกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรภายใต้บังคับบัญชา ตามพระบรมราโชวาท “ต้องการให้การศึกษาเป็นส่ิงเพลิดเพลินส�าหรับเด็ก” นายพนัส สุวรรณะบุณย์ ครูและศึกษานิเทศก์ ผู้สรรค์สร้างแนวคิด แนวทาง การพัฒนาการเรียนการสอนวิชาศิลปะ และมีความรู้ความสามารถด้านศิลปะสูงย่ิง ในทุกแขนง ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดอกเตอร์ระวี ภาวิไล ครูผู้น�านิสิตศึกษา ด้วยวิธีค้นคว้า ทดลองปฏิบัติท้ังในห้องเรียนและนอกห้องเรียน เพ่ือสร้างเสริม ประสบการณ์จริง และเป็นผู้เปิดโลกทัศน์ทางด้านดาราศาสตร์แก่วงการการศึกษาไทย นายสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธ์ิ ครูภูมิปัญญาไทย ผู้ริเริ่มสร้างสถาบันภูมิปัญญาท้องถิ่น อีสาน (มหาชีวาลัยอีสาน) เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เปรียบเสมือนมหาวิทยาลัยในหมู่บ้าน ทีม่ สี มาชิกชมุ ชนเปน็ นสิ ิตนักศกึ ษา จนได้รับการเรยี กขานจากชุมชนว่า “ครูบาสทุ ธินันท”์

และศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ ครูภาษาไทยและเมธีวิจัยอาวุโสผู้บุกเบิกการท�า พจนานกุ รมและสารานกุ รมภาคใต้ ผู้กอ่ ตง้ั สถาบันทักษณิ คดีศกึ ษา ครูศิลปนแห่งชาติผู้ใช้ทักษะทางศิลปะเป็นต้นแบบแนวคิด พัฒนาศิษย์ ให้มีความถนัดเฉพาะตัว จ�านวน ๓ ประวัติ ได้แก่ นายถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ผู้ปราดเปรื่องงานศิลปกรรม เป็นแบบอย่างของความเป็นครู ได้รับการยอมรับในฐานะ ปราชญ์ผู้ช้ีน�าจิตวิญญาณมนุษย์ให้ก้าวสู่ความสงบสุข อันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของ ทุกศาสนา นายประเวศ ลมิ ปรงั ษี ครูสถาปตั ยกรรมไทยท่ีเนน้ ย้า� การเรยี นสถาปตั ยกรรม คือการฝึกฝนหลังจากท่ีเรียนไปในแต่ละวัน เม่ือจบวัน คือการบ้านท่ีต้องน�ากลับไป ท�าซ�้า ๆ ประจ�าจนเกิดความเข้าใจและความช�านาญ และนายอาจินต์ ปัญจพรรค์ ผู้เช่ียวชาญงานประพันธ์ ได้รับการยกย่องในวงการนักเขียนให้เป็นครูผู้ใหญ่ในวงการ วรรณกรรมไทย และเป็นครูตน้ แบบด้านงานเขยี นทั้งร้อยแกว้ และร้อยกรอง ท้ังนี้ ขอขอบคุณหน่วยงานราชการและบุคคลท่ีเกี่ยวข้องท่ีกรุณาให้ข้อมูล ท�าให้ทุกประวัติมีความสมบูรณ์ ถูกต้อง เป็นแบบอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจและ ความภาคภมู ใิ จแกว่ งการศึกษาชาตสิ บื ไป คณะกรรมการจัดทา� หนงั สอื ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓



สารบญั หนา้ ๘ ครูผสู้ ั่งสอนศิษย์ใหน้ า� ทกั ษะไปใช้ในการด�าเนินชวี ิต ๙ นายเกรยี งศักด์ิ สา� เภาทอง ๑๗ รองศาสตราจารยช์ ารี แสวงเจรญิ ๒๕ นายสมเกยี รติ พนื้ แสน ๓๗ นางสองิ้ กานยะคามิน ๔๙ พลตรี สา� เรงิ ไชยยงค์ ๖๒ ๖๓ ครูผทู้ ุ่มเทและใช้ทักษะในการส่ังสอนใหผ้ ู้เรียนพัฒนาอยา่ งเต็มศกั ยภาพ ๗๓ นายช�านาญ ทดั มาลี ๘๑ ศาสตราจารยพ์ ิเศษ ดอกเตอร์ทรงศักดิ์ ศรีกาฬสนิ ธ์ุ ๘๙ นางบญุ น�า บญุ เสรฐ ๙๙ นายประยูร สุรนิวงศ์ ๑๐๗ นายสมเดช สวี ังลาศ ๑๑๘ นายอัศวนิ ภูครองตา ๑๑๙ ๑๓๑ ครูผูร้ ิเร่มิ นา� ความรูม้ าพัฒนาให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตอ่ การศกึ ษาไทย ๑๔๓ ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ชัยอนนั ต์ สมทุ วณชิ ๑๕๕ นายพนัส สวุ รรณะบณุ ย์ ๑๖๗ ศาสตราจารยก์ ติ ติคุณ ดอกเตอร์ระวี ภาวไิ ล ๑๘๒ นายสุทธนิ ันท์ ปรชั ญพฤทธ์ิ ๑๘๓ ศาสตราจารย์สธุ วิ งศ์ พงศ์ไพบลู ย์ ๑๙๗ ๒๐๙ ครูศลิ ปนแห่งชาตผิ ้ใู ชท้ ักษะทางศลิ ปะเป็นต้นแบบแนวคิด ๒๒๑ พัฒนาศิษย์ให้มีความถนัดเฉพาะตัว ๒๒๒ ๒๕๔ นายถวลั ย์ ดชั นี นายประเวศ ลมิ ปรงั ษี นายอาจินต์ ปญั จพรรค์ ภาคผนวก นามานุกรมครู ค�าสง่ั แตง่ ต้ังคณะกรรมการจัดทา� หนังสือประวัตคิ รู

ครูผสู้ งั่ สอนศษิ ย์ ให้นำ�ทกั ษะไปใช้ในการดำ�เนินชวี ติ 8 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นายเกรียงศกั ดิ์ สําเภาทอง พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๖๐ ครูผู้มีความสามารถท้ังดนตรีและขับร้องและน�า นักเรียนออกเวทีแสดงจริงทั้งยังเป็นผู้ท่เี ห็นความสา� คญั ‘ของงานลกู เสอื - เนตรนารีวา่ เปน็ งานทฝ่ี ก คนใหเ้ ปน็ คน ’สามารถอยรู่ ว่ มกบั เพอื่ นมนษุ ยอ์ ยา่ งเปน็ กลั ยาณมติ รตอ่ กนั นายเกรียงศักดิ์ ส�าเภาทอง เกิดเมื่อวันท่ี ๒๖ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ ทต่ี า� บลนครสวรรคอ์ อก อ�าเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เป็นบุตร คนท่ี ๔ ของว่าทรี่ อ้ ยตรียทุ ธและนางแผว้ สา� เภาทอง มีพี่ ๓ คน คือ นางปราณี นาวเหนียว นางจรรยา เนยี มณรงค์ และนางปราณตี ภาคธูป มีน้อง ๒ คน คือ นางธนาวดี อรรถเวทิน และนางสาวเบญจมาศ ส�าเภาทอง (ถงึ แกก่ รรม) นายเกรยี งศกั ดเ์ิ รยี นจบชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ทโี่ รงเรยี นจริ ประวตั วิ ทิ ยาคม(ท.อ.บ.กองทพั บก อุปถัมภ์) อ�าเภอเมืองนครสวรรค์ จงั หวดั นครสวรรค์ (ปจั จบุ นั คอื โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั (จิรประวัติ) นครสวรรค)์ ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 9

ใน พ.ศ. ๒๕๑๕ จบช้ันประถมศึกษาปีที่ ๗ ท่ีโรงเรียนโพฒิสารศึกษาอ�ำเภอ เดียวกัน ใน พ.ศ. ๒๕๑๖ จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ (ม.ศ.๕) ที่โรงเรียนนครสวรรค์ ใน พ.ศ. ๒๕๒๑ ขณะเรียนชั้นมัธยมศึกษา นายเกรียงศักดิ์ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักดนตรี ประจ�ำวงดุริยางค์ของโรงเรียน เนื่องจากวงดุริยางค์วงนี้มีอาจารย์ผู้ฝึกสอนและควบคุมวง ทมี่ คี วามสามารถสงู ไปแขง่ ขนั ครงั้ ใดกม็ กั จะไดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ เกอื บทกุ ครง้ั ทำ� ใหน้ กั ดนตรี รวมถึงนายเกรียงศักดิ์ต่างมีความภูมิใจและเอาใจใส่ในการฝึกซ้อมเป็นอย่างมาก ประสบการณท์ างดนตรใี นโรงเรยี นนครสวรรคเ์ ปน็ แรงบนั ดาลใจ ใหน้ ายเกรยี งศกั ดมิ์ คี วามใฝฝ่ นั ทจี่ ะเป็นนักดนตรีท่มี คี วามสามารถในอนาคต ด้วยเหตุท่ีนายเกรียงศักด์ิเป็นเด็กเรียนเก่งและมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี มาตัง้ แต่วัยเยาว์ จึงทำ� ใหส้ อบเขา้ ศกึ ษาต่อทวี่ ทิ ยาลยั ครนู ครสวรรค์ (มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ นครสวรรค์ ในปัจจุบัน) ได้ไม่ยาก เรียนจบได้รับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.ช้ันสูง) วิชาเอกดนตรีศึกษา ใน พ.ศ. ๒๕๒๔ จากนั้นก็เข้าศึกษาต่อในระดับ 10 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

ปริญญาตรีท่ีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จบปริญญาการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) วชิ าเอกดุริยางคศาสตร์ ใน พ.ศ. ๒๕๒๖ นายเกรียงศักดิ์เร่ิมรับราชการ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๗ ในต�ำแหน่งอาจารย์ ๑ ระดับ ๓ โรงเรียนสารพัดช่างอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ปัจจุบัน คือ วิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานี สังกัดส�ำนักงาน คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา (สอศ.) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร) ปฏบิ ตั งิ านทว่ี ทิ ยาลยั สารพดั ชา่ ง อุบลราชธานี จนถงึ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตำ� แหนง่ สดุ ทา้ ย คือ ครวู ิทยฐานะช�ำนาญการ นอกจากงานสอนรายวิชา “ขับร้องและดนตรี” ในหน้าท่ีปกติแล้วนายเกรียงศักดิ์ ยังช่วยเหลืองานกิจกรรมพิเศษของโรงเรียนอีก ๒ งานหลัก คือ งานดนตรีและงาน ลูกเสอื - เนตรนารี งานดนตรี ได้รับมอบหมายจากอดีตผู้อ�ำนวยการ (ว่าท่ีร้อยตรี ชิตวีร์ บุนนาค) ให้ท�ำหน้าท่ีเป็นหัวหน้าวงดนตรีของวิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานี ท่ีมีช่ือว่า “วงบัว” ฝึกซ้อมและน�ำวงออกแสดง ท้ังภายในและภายนอกวิทยาลัยฯ เป็นประจ�ำ ท�ำให้นักเรียนท่ีเรียนวิชาดนตรีมีเวทีออกแสดงจริง นับเป็นการช่วยฝึกประสบการณ์ตรง แก่ศิษย์ได้เป็นอย่างดียิ่ง พร้อมกันนั้น นายเกรียงศักดิ์ยังได้เป็นผู้เรียบเรียงดนตรีเพลง “มารช์วิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานี” ร่วมกับ นายทนงศักด์ิ วรรณพฤกษ์ ผู้ประพันธ์ค�ำร้องและท�ำนอง และยังรับเป็นนักดนตรีในต�ำแหน่งคีย์บอร์ดให้กับวง “โซเซแบนด์” ซึ่งเป็นวงดนตรีที่โด่งดังในกลุ่มวัยรุ่นชาวอีสาน และคร้ังหนึ่ง “วงจังหัน” ของครูสลา คุณวุฒิ ศลิ ปนิ ผู้มีชอ่ื เสยี งโด่งดังสมัยนนั้ ซ่ึงมดี �ำรจิ ะท�ำเพลง “วอนลมเก่ียวใจ” ข้นึ ใหม่ นายเกรยี งศักดก์ิ ไ็ ดไ้ ปชว่ ยงานน้ี จนเป็นผลส�ำเรจ็ อย่างดียง่ิ อีกงานหน่ึงที่นายเกรียงศักด์ิมีความภูมิใจ คือการท่ีได้ช่วยเป็น “มือกลอง” ให้กับวงดนตรีของส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ท่ีมีช่ือว่า “R-Band” ซึ่งไปบรรเลงในงานการแข่งขันอาชีวเกมส์ คร้ังท่ี ๖ “ภูเก็ตเกมส์” ระหว่างวันที่ ๑ - ๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ ณ จงั หวดั ภูเก็ต ที่จังหวัดอุบลราชธานี โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ซ่ึงเป็นโรงพยาบาล ประจ�ำจังหวัด มีโครงการจัดกิจกรรมการแสดงดนตรี เพ่ือผ่อนคลายความตึงเครียด ให้กับผู้ป่วยและญาติ จึงตั้งวงดนตรีขึ้น เป็นที่รู้จักกันดีในช่ือวง “คีตบุษย์” และเชิญ บุคคลภายนอกที่มี “จิตอาสา” มาเป็นผู้จัดการวงบ้าง นักดนตรีบ้าง นักร้องบ้าง นายเกรียงศักด์ิมีบทบาทเป็นผู้ช่วยก่อตั้งและเป็นที่ปรึกษาโครงการนี้ตลอดมา พร้อมกับ ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 11

ชว่ ยเปน็ นักดนตรใี ห้อกี ดว้ ย ทำ� ใหโ้ ครงการน้ีประสบผลส�ำเร็จอย่างดียิ่ง ดงั ท่ี นายพงษช์ ัย พรหมบุตร ประธานชมรมรักษ์ป่าไม้อุบลราชธานีและผู้จัดการวงดนตรี “คีตบุษย์” กล่าวไวใ้ นบทสมั ภาษณแ์ สดงความอาลัย “ผมกบั อาจารยแ์ จค็ ” ความตอนหนง่ึ วา่ “ อาจารย์แจ็คท่ีผมกลา่ วถึง คือ อาจารย์เกรยี งศกั ด์ิ สำ� เภาทอง มือคีย์บอรด์ ของวงดนตรี “คีตบุษย์” วงดนตรีเพ่ือสังคมแห่งเมืองดอกบัว ผมได้ชวนเชิญผู้มีความสามารถด้าน ดนตรีได้ออกมารวมกลุ่มเพื่อท�ำดนตรี เป็นการท�ำบุญให้ความสุขผู้อื่น... อาจารย์แจ็ค ทราบข่าวก็ขอร่วมวงด้วย โดยบอกว่าอยากเล่นดนตรีลักษณะน้ีมานานแล้ว พร้อมอาสา ขออนญุ าตใชห้ ้องดนตรที ี่วทิ ยาลัยฯ เพ่อื เปน็ หอ้ งซ้อมใหด้ ้วย... อาจารยแ์ จค็ ในฐานะเจา้ บ้านได้ดแู ลและช่วยเหลอื ทกุ อยา่ ง... อาจารยแ์ จค็ เก็บอปุ กรณ์ ดนตรีทุกชิ้นด้วยตนเอง ขับรถเอง พอเสร็จสิ้นงานก็เก็บของให้เสร็จ โดยไม่ได้ร่วม รับประทานอาหารกบั เพื่อนในวงดนตรี เพราะห่วงงานทรี่ ับผดิ ชอบ ด้วยเหตุผลท่ีเป็นคนพูดน้อย ข้ีเกรงใจ ถูกใจก็ยิ้ม ถ้าส่ายหน้าก็คือ ไม่ถูกใจ ทุกคนจึงเช่ือทุกคร้ัง เมื่ออาจารย์แจ็คแสดงความคิดเห็น ผมบอกใครต่อใครเสมอว่า ”อาจารยแ์ จค็ เปน็ คนมนี ำ้� ใจ คนคุณภาพอีกคนหน่ึงท่ีผมได้พบเหน็ ไมบ่ ่อยนัก... งานลูกเสือ - เนตรนารี นับเป็นงานที่นายเกรียงศักด์ิรักและมีความสุขท่ีจะท�ำ เป็นงานท่ีนายเกรียงศักด์ิพูดกับเพื่อนร่วมงานเสมอว่า งานลูกเสือ - เนตรนารี เป็นงาน ฝึกคนให้เป็นคนและรู้จักอยู่ร่วมกับเพ่ือนมนุษย์อย่างเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน ฝึกให้มี ความรับผิดชอบ รดู้ รี ู้ชัว่ มคี วามสามัคคใี นหมู่คณะ และทส่ี ำ� คัญคอื ฝกึ ใหร้ ักธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดลอ้ ม นายเกรยี งศกั ดผ์ิ า่ นการอบรมบคุ ลากรทางการลกู เสอื “ขนั้ ผชู้ ว่ ยใหก้ ารฝกึ อบรม วิชาผกู้ �ำกับลกู เสือ” (Assistance Leader Trainers Course (A.T.C.)) ประเภทลูกเสือ วิสามัญ จากน้ันก็ได้ช่วยงานกิจการลูกเสือของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในจังหวัด อบุ ลราชธานใี นฐานะ “วิทยากร” มาโดยตลอด วา่ ท่ีร้อยตรี ชติ วรี ์ บนุ นาค อดตี ผู้เชี่ยวชาญ กรมอาชีวศึกษา ผู้เคยดำ� รงต�ำแหนง่ ผู้อ�ำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานี กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์แสดงความอาลัย “ระลึกถึง” ความตอนหน่ึงว่า “ในช่วงเวลานั้น กรมอาชีวศึกษาก�ำลังพัฒนากิจการ ลูกเสือวิสามัญในสถานศึกษา จึงจ�ำเป็นที่คณะครูต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพ่ือให้ 12 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

มีความรู้และเข้าใจ เพ่ือจัดตั้งกองลูกเสือขึ้นในโรงเรียน ครูแจ็คก็เป็นหนึ่งในคณะที่ เสียสละท�ำงานลูกเสืออย่างเต็มที่ แม้ว่าจะมีภาระการสอนอยู่อย่างเต็มจ�ำนวน ครูแจ็คใช้เวลาว่างในการพัฒนาตัวเองเรื่องทักษะของลูกเสือ จนมีความรู้ ความสามารถท่ีจะเป็นวิทยากรให้การฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือได้ ความดีในกิจการ ลูกเสือของครูแจ็ค เป็นท่ีรู้จักกันทั่วไปในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดอ่ืน ๆ ในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ” นายเกรียงศักดิ์เป็นคนสุขุม รอบคอบ ช่างสังเกต ซ่ือสัตย์ สุจริต และเป็น ผู้มองการณ์ไกล ผู้ท่ีได้ท�ำงานใกล้ชิดจะทราบดีว่านายเกรียงศักด์ิเป็นผู้ที่มีน้�ำใจดี รักเพ่ือนพี่น้อง และรักศิษย์ดุจญาติของตนเอง เต็มใจและจริงใจท่ีจะให้ค�ำปรึกษาแนะน�ำ และส่งเสริมใหศ้ ิษย์มคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ มีอาชีพทีม่ ั่นคง ดงั ที่ นางปานทิพย์ หลวงวงศ์ ข้าราชการบ�ำนาญ อดีตครูช�ำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านบุ่งหวาย ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต ๔ ผู้เคยเป็นศิษย์ของนายเกรียงศักด์ิ กล่าวไว้ ในบทสัมภาษณ์แสดงความอาลยั “อาลยั รกั - ครแู จ็ค” ความตอนหน่งึ ว่า “ วันแรกที่ข้าพเจ้าเข้ามาสมัครเรียนท่ีวิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานี วิชาขับร้อง ประเภทบุคคลท่ัวไป ข้าพเจ้าก็พอจะทราบอยู่บ้างว่า คุณครูที่สอนวิชานี้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิต สุดท้ายเป็นโรคไตเรื้อรัง ถึงขนาดต้องเข้ารับการฟอกไตสัปดาห์ละ ๓ คร้ัง แม้ว่าท่านจะป่วย แต่คุณครูท่านก็เป็นคนขยัน ไม่ย่อท้อ โอบอ้อมอารี เป็นกันเอง ตั้งใจถ่ายทอดความรู้ให้ศิษย์ เต็มก�ำลัง เต็มความสามารถท่ีจะถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ได้ ท่านจะสอนเคล็ดลับต่าง ๆ ให้รู้จัก วิธีสูดลมหายใจเข้าปอดในเวลาร้องเพลง การผ่อนลม เข้าออก ฟังจังหวะ โดยศิษย์ทุกคนได้พยายามตักตวงเอาความรู้ที่ท่านพร�่ำสอน โดยน�ำเอาความรู้ที่ได้รับไปประกอบการร้องเพลง และเข้าสังคมได้อย่างไม่อายใคร ท่านเป็น ”เสมอื นพอ่ ครู เพื่อน และญาตผิ ้ใู หญ่ ไม่เคยโอ้อวดตนเลย นายไพโรจน์ ปวะบุตร ผู้เคยด�ำรงต�ำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนา กิจการลูกเสือ เนตรนารีวิสามัญอาชีวศึกษา (พ.ส.น.อ.) กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ แสดงความอาลัย ความตอนหนึง่ ว่า ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 13

“กระผมได้ร่วมงานกับแจ็ค ในฐานะผู้บังคับบัญชาในกิจการลูกเสือวิสามัญของ กรมอาชีวศึกษาในขณะน้ัน ซ่ึงปัจจุบันคือส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หลังจากเกษียณอายุราชการ กลับมาอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ก็ได้รับความอนุเคราะห์ จากแจ็คเสมอมาในการเป็นสารถีพาเข้าร่วมกิจกรรมในจังหวัดต่าง ๆ และจะโทรมา ถามเสมอว่า “พ่อ งานนี้พ่อไปไหมครับ ถ้าพ่อไปผมจะมารับ และรับปากกับแม่บ้าน ว่าจะดูแลพ่อเป็นอย่างดี” ในฐานะเพ่ือนร่วมงาน อ.เกรียงศักดิ์ ส�ำเภาทอง เป็นผู้มี จิตใจดี มีความโอบอ้อมอารี อ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ ช่วยเหลืองานทุกประเภท โดยไม่เกี่ยงงอน ถ้ากิจกรรมใดท่ีอยู่ในความรับผิดชอบ จะดูแลและรับผิดชอบเป็นอย่างดี ปฏิบัตงิ านทไ่ี ด้รับมอบหมายสำ� เรจ็ สมบูรณ์และสวยงามเสมอ” วา่ ทร่ี อ้ ยตรี กติ ตพิ งษ์ บตุ รบรุ าณ ผอู้ ำ� นวยการวทิ ยาลยั สารพดั ชา่ งอบุ ลราชธานี กลา่ วไว้ “ในบทสัมภาษณแ์ สดงความอาลยั ว่า คุณครูเกรียงศักดิ์ ส�ำเภาทอง ครูแผนกดนตรีสากล วิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานี ถือว่าเป็นบุคลากรท่ีทรคุณค่าของพวกเราชาวอาชีวศึกษา คุณครูผู้มีความมุ่งม่ัน อุทิศตน และสละเวลาเพ่ือช่วยเหลืองานกิจกรรมของส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เช่น กิจกรรมองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย กิจกรรมลูกเสือวิสามัญ และกิจกรรม อื่น ๆ อีกมากมาย... คุณครูเป็นก�ำลังส�ำคัญในการสร้างอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ ให้เป็น ”“คนดี คนเก่ง” พวกเราจะขอระลึกถงึ คุณงามความดขี องคุณครูตลอดไป รางวัลและประกาศเกียรติคุณที่นายเกรียงศักด์ิได้รับมีจ�ำนวนมาก โดยเฉพาะ ที่ส�ำคัญ คือ ได้รับรางวัล “ครูผู้มีคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น” ระดับอาชีวศึกษาจังหวัด อุบลราชธานี ประจ�ำปีการศึกษา ๒๕๔๙ ๒๕๕๕ ๒๕๕๖ และ ๒๕๕๘ ได้รับรางวัล “ครูผู้สอนดีเด่น” ระดับเดียวกัน ประจ�ำปีการศึกษา ๒๕๕๒ ได้รับการคัดเลือกเป็น ผบู้ งั คับบญั ชาลูกเสอื ดีเดน่ ประจ�ำปี ๒๕๕๓ ประเภทผูส้ อน จากสำ� นักงานลูกเสือแห่งชาติ และในปีเดียวกันน้ัน ส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้มอบโล่ผู้บังคับบัญชา ลูกเสือดีเด่นให้กับนายเกรียงศักดิ์ ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนกิจการลูกเสือวิสามัญ และ ต่อมาได้รับเคร่ืองหมายเชิดชูเกียรติ “หนึ่งแสนครูดี” จากส�ำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ในฐานะผู้ปฏิบัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา ใน พ.ศ. ๒๕๕๕ 14 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ช้ันสูงสุดที่ได้รับพระราชทาน คือ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกฎุ ไทย และเหรียญจกั รพรรดมิ าลา นายเกรียงศักด์ิ สมรสกับ นางสาวกนกเนตร แซ่แต้ (ปัจจุบันเปล่ียนชื่อเป็น อนงค์พรรณ) เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๑ มีบุตร ๒ คน คือ นายวิศรุต และนางสาวบุษราคัม สำ� เภาทอง นายเกรียงศักดิ์เป็นผู้มีสุขภาพดีมาโดยตลอด ในบั้นปลายชีวิตไปตรวจสุขภาพ ก็พบว่า เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิต และโรคไตเร้ือรัง จึงต้องเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลตามแพทย์นัด รักษาได้ประมาณ ๓ ปี อาการกลับทรุดลงอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็ถึงแก่กรรมด้วยโรคติดเชื้อในกระแสโลหิต ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อ�ำเภอเมอื งอุบลราชธานี จังหวดั อบุ ลราชธานี เมอื่ วนั ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ สริ ิอายุ ๕๗ ปี ๒ เดอื น ๑๘ วัน นายยุทธชยั อุตมา ผ้เู รียบเรียง ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 15

ขอ้ มูลอ้างอิง ๑. หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ นายเกรียงศักด์ิ ส�ำเภาทอง ท.ช., ท.ม. ณ เมรุวดั ไชยมงคล ตำ� บลในเมอื ง อำ� เภอเมืองอบุ ลราชธานี จงั หวดั อุบลราชธานี วันเสาร์ท่ี ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ เวลา ๑๖.๐๐ น. ๒. เอกสารประวัติและผลงานครูผู้ถึงแก่กรรม นายเกรียงศักดิ์ ส�ำเภาทอง ครูวิทยฐานะช�ำนาญการ วิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานี ส�ำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ๓. บทสมั ภาษณ์ นายไพโรจน์ ปวะบตุ ร อดตี เลขาธกิ ารคณะกรรมการพฒั นากจิ การ ลูกเสือ เนตรนารีวิสามัญอาชีวศึกษา (พ.ส.น.อ.) วนั ที่ ๒๒ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ๔. บทสัมภาษณ์ ว่าที่ร้อยตรี ชิตวีร์ บุนนาค อดีตผู้เช่ียวชาญ กรมอาชีวศึกษา วันท่ี ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕. บทสมั ภาษณ์ วา่ ทร่ี อ้ ยตรี กติ ตพิ งษ์ บตุ รบรุ าณ ผอู้ ำ� นวยการวทิ ยาลยั สารพดั ชา่ ง อบุ ลราชธานี วนั ท่ี ๒๒ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ๖. บทสมั ภาษณ์ นางปานทพิ ย์ หลวงวงศ์ ขา้ ราชการบำ� นาญ อดตี ครชู ำ� นาญการพเิ ศษ โรงเรียนบ้านบุ่งหวาย ส�ำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต ๔ วันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ๗. นางอนงค์พรรณ สำ� เภาทอง ภรรยา ผูใ้ ห้ข้อมลู เพิ่มเตมิ 16 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

รองศาสตราจารยช ารี แสวงเจริญ พ.ศ. ๒๔๗๔ - ๒๕๕๙ ครแู ละหวั หนา้ หมวดวชิ าเกษตรกรรม ผวู้ างรากฐาน การเรียนการสอนทางการเกษตรจนได้รับยกย่องให้เป็น พอ่ พระของเอกเกษตร - สกลนคร รองศาสตราจารยช์ ารี แสวงเจรญิ เกดิ เมอื่ วนั ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ท่ีต�าบลรอบเมือง อ�าเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นบุตรคนท่ี ๙ ของนายโหล่ย และนางง่วน แสวงเจริญ มีพ่ีน้อง ๑๑ คน คือ นายแหล่ นางสาย อุตรมาตย์ นายน้อย นางแดง นางลนุ การสิ ขุ นางปนุ่ วรฤทธ์ิ นางบุสยรัตน์ บุญวิเศษ นายวิเชียร (ถึงแก่กรรมไป แล้วท้ังหมด) คงเหลือแต่ นายชาตรี นางสุนีย์ ปัญจแก้ว และนายสาธร แสวงเจรญิ ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ๑7

18 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

รองศาสตราจารย์ชารีเรียนจบชั้นประถมปีที่ ๔ จากโรงเรียนประชาบาล ต�ำบล รอบเมือง อ�ำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ใน พ.ศ. ๒๔๘๕ จบชั้นมัธยมปีที่ ๓ จากโรงเรียนศรีศิลปวิทยา จังหวัดร้อยเอ็ด ใน พ.ศ. ๒๔๙๑ จบช้ันเตรียมอุดมปีท่ี ๑ จากโรงเรยี นพระนครวิทยาลยั จงั หวัดพระนคร ใน พ.ศ. ๒๔๙๒ จบช้นั เตรียมอดุ มปที ่ี ๒ จากโรงเรยี นไพศาลศิลป์ จังหวดั เดียวกัน ใน พ.ศ. ๒๔๙๔ และไดร้ ับปริญญาตรกี สกิ รรม และสัตวบาลบัณฑติ จากมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ ใน พ.ศ. ๒๔๙๙ รองศาสตราจารย์ชารีเร่มิ รบั ราชการ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ ในต�ำแหน่งนายสตั วบาลตรี กรมปศุสตั ว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. ๒๕๐๓ ด�ำรงต�ำแหน่งเป็นนายสัตวบาลโท และโอนไปกรมการฝกึ หดั ครู กระทรวง ศึกษาธิการในต�ำแหน่งอาจารย์ โรงเรียนฝึกหัดครูมหาสารคาม (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาสารคาม) ใน พ.ศ. ๒๕๐๔ ต่อมา ย ้ า ย เ ป ็ น อ า จ า ร ย ์ โ ท ท่ี โ ร ง เ รี ย น ฝึกหัดครูสกลนคร ใน พ.ศ. ๒๕๑๐ และเป็นอาจารย์เอกท่ีวิทยาลัยครู สวนสุนันทา (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนสุนันทา) ใน พ.ศ. ๒๕๑๑ ระหวา่ ง พ.ศ. ๒๕๑๓ - ๒๕๒๑ ด�ำรง ต�ำแหน่งอาจารย์เอกวิทยาลัยครู สกลนคร (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัย ราชภัฏสกลนคร) พ.ศ. ๒๕๑๙ รักษาราชการแทน ผู้อ�ำนวยการวิทยาลัยครูสกลนคร และได้รับต�ำแหน่งรองศาสตราจารย์สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยครูสกลนคร ใน พ.ศ. ๒๕๒๖ และเกษียณอายุราชการ ใน พ.ศ. ๒๕๓๕ รองศาสตราจารย์ชารีเปน็ คนใจเย็น พูดจาสุภาพ แตเ่ ปน็ คนพูดตรง ๆ ไมอ่ ้อมคอ้ ม คนท่ีไม่รู้จักก็อาจนึกโกรธ แต่คนท่ีอยู่ด้วยกันมานานก็เข้าใจ รองศาสตราจารย์ชารี เป็นตัวอย่างของข้าราชการที่ดี ต้ังใจปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถท้ังงาน ราษฎร์และงานหลวง เป็นเจ้าของสวนมะขามหวานเจ้าแรกของเมืองสกลนคร ปลูกและดูแลเองโดยน�ำหลักการทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริงสังเกต ทดลองและแก้ปัญหา ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 19

จนท�ำให้มะขามหวานมีคุณภาพไม่เป็นรองมะขามหวานจากจังหวัดอื่น ๆ พื้นที่ส่วนหนึ่ง ทดลองปลูกกุหลาบเพื่อผลิตดอกจ�ำหน่าย และเพาะพันธุ์ลูกสุนัขให้กับผู้สนใจ เป็นส่ิงที่ยืนยันแก่คนท่ัวไปว่างานเกษตรสามารถสร้างอาชีพให้กับครอบครัวได้ รองศาสตราจารย์ชารีเป็นอาจารย์วิทยาลัยครูคนแรกท่ีซ้ือรถกระบะราคา ๕๐,๐๐๐ บาท โดยใชเ้ งนิ จากการจำ� หน่ายผลิตผลทางการเกษตร วิทยาลัยครูสกลนครเป็นวิทยาลัยครูแห่งแรกที่เปิดสอนนักศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ป.กศ.ช้ันสูง) วิชาเอกเกษตรกรรม ใน พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยกรมการฝึกหัดครูพิจารณาเห็นว่ามีความพร้อมทั้งสถานที่ คณาจารย์ โรงเรือน เลี้ยงสัตว์ และที่ดินที่จะใช้ฝึกแปลงเกษตร ซึ่งขณะน้ันรองศาสตราจารย์ชารีเป็น หัวหน้าหมวดวิชาเกษตรกรรม โดยก�ำหนดให้วิทยาลัยครูท่ัวประเทศคัดเลือก แล้วส่งมาเรียน จึงมีนักศึกษาทั้งจากภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ มาเรียนท่ี วิทยาลัยครูสกลนคร โดยพักรวมกันที่หอพักเกษตรนิเวศน์ (ปัจจุบันรื้อถอนแล้วและ สร้างใหม่เป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง) รองศาสตราจารย์ชารีเป็นครูท่ีเอาใจใส่ต่อ การสอนมาก เข้าสอนตรงเวลา เช็คช่ือนักศึกษาท้ังต้นช่ัวโมงและท้ายช่ัวโมง จนได้รับ ฉายาจากลูกศิษย์ว่า “อาจารย์ชารไี ม่เคยหนสี อน” เพราะไม่เคยขาดสอนสกั คร้งั เดียว นายสายณั ห์ รงุ่ ปา่ สกั ผเู้ คยดำ� รงตำ� แหนง่ ผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา มัธยมศึกษาเขต ๑ เขต ๒ และเขต ๘ ศิษย์เก่านักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง (ป.กศ.ช้ันสูง) วิชาเอกเกษตรกรรม รุ่นท่ี ๑ ได้เล่าถึงความเป็นอยู่ของ นักศึกษาประจ�ำหอพักในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ รองศาสตราจารย์ชารี แสวงเจริญ ไว้ว่า “ต้องฝึกภาคปฏิบัตินอกเวลาเรียน และวันหยุดด้วย เพราะทั้งพืช และสัตว์ไม่มีวันหยุด ต้องดูแล ทกุ วนั สนกุ มาก ไดป้ ระสบการณ์ หลากหลาย มีทั้งปลูกผัก เล้ียงปลา หมู ไก่ วัว ถึงคราว หน้าหนาว หมูเป็นนิวโมเนีย ตายยกเล้า นักศึกษาต้องฝึก ช�ำแหละหมู เจียวน้�ำมันหมู เพื่อส่งขาย มีอยู่คร้ังหนึ่งวัว ถูกขโมย ต้องช่วยกันตามล่าวัว 20 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

ที่ถูกขโมยไปจนถึงแนวเทือกเขาภูพาน ยามว่างก็เข้าเมืองสกลนคร ถูกไล่ตี ไล่ฟัน หนีกัน กลับมาเอารถแทร็กเตอร์พร้อมเครื่องมืองานเกษตร บุกเข้าเมือง ขัดใจกับนักศึกษา วิชาเอกอื่น ๆ ถูกเดินขบวนขับไล่ ฯลฯ ทุกเร่ืองไม่พ้นอาจารย์ชารีท่ีมาคอยห้ามปราม พร�่ำสอน อบรมและช้ีน�ำทางความคิดจนพวกเราอยู่รอดปลอดภัย มีการส่งนักศึกษาไป ฝกึ ประสบการณก์ ับหนว่ ยงานการเกษตร ทั้งสถานบี �ำรงุ พันธ์ุสตั วส์ ถานีบ�ำรงุ พันธ์ุขา้ วและ ไปฝึกสอนในโรงเรียนต่าง ๆ จนทกุ คนได้รบั ประสบการณ์ท่ีมคี ุณคา่ ย่งิ จากการไดร้ ว่ มทุกข์ ร่วมสุขทุกรปู แบบและการผ่านชีวิตที่คึกคะนองของวยั ร่นุ ” รองศาสตราจารย์ชารีเป็นบุคคลสู้ชีวิตท่ีเป็นแบบอย่าง เป็นหัวหน้าครอบครัวท่ีดี อบรมส่ังสอนให้ลูกทุกคนประพฤติตนเป็นคนดี มีคุณธรรม เล่ือมใสและช่วยเหลือ กิจกรรมทางศาสนาอยู่เนืองนิตย์ กอปรทั้งมีอัธยาศัยดี โอบอ้อมอารีและชอบ ช่วยเหลือผู้อ่ืนเสมอ จึงเป็นที่รักของเพ่ือนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา รวมทั้งญาติมิตรและ บคุ คลทว่ั ไปเสมอมา ดงั ท่ี ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยว์ จิ ติ รา ขอนยาง ประธานชมรมเพชรราชภฏั ได้กล่าวไว้ในหนังสือเล่มเดียวกัน ความตอนหนึ่งว่า “แม้จะสอนต่างคณะกัน แต่ด้วยความท่ียังเป็นมหาวิทยาลัยขนาดเล็ก ทุกกิจกรรมตั้งแต่ลงเวลาท�ำงานไปจนถึง กิจกรรมร่วมกับชุมชน บุคลากรทุกฝ่ายต่างท�ำกิจกรรมร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว จึงท�ำให้ คนุ้ เคยกบั รองศาสตราจารยช์ ารีมากขนึ้ กว่าความเปน็ ครกู บั ศษิ ย์ คือเปน็ ทง้ั ครูและผใู้ หญท่ ่ี ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 21

เคารพนับถือ จึงเพ่ิมความผูกพันขึ้นมาเป็น “ลุงชารี” ต้ังแต่บัดน้ันเป็นต้นมา ซ่ึงลุงชารี ได้ท�ำหน้าที่ครูอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการสอนท้ังภาคทฤษฎีและการปฏิบัติให้เห็นจริง เปน็ เรื่องทท่ี ุกคนยอมรับและนอ้ มนำ� มาเปน็ ตัวอยา่ งในการทำ� งาน” ศษิ ยข์ องรองศาสตราจารยช์ ารที ส่ี ำ� เร็จการศกึ ษาได้สร้างเกยี รตปิ ระวตั ิและช่ือเสียง ให้แก่สถาบันมากมาย เป็นที่ยอมรับในสังคม อาทิ รุ่นที่ ๑ ได้ด�ำรงต�ำแหน่งถึงอธิบดี ผู้อ�ำนวยการโรงเรียน ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และปฏิบัติหน้าท่ี ที่ปรึกษาส�ำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รุ่นที่ ๒ ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบล เป็นครูของแผ่นดิน เป็นวิทยากรเศรษฐกิจพอเพียง และ หลายคนประกอบอาชีพเกษตรกร เพราะมีรองศาสตราจารย์ชารีเป็นเบ้าหลอมท่ีดี และได้รับยกย่องให้เป็น “พ่อพระของเอกเกษตร-สกลนคร” ดังท่ี รองศาสตราจารย์ ดอกเตอรช์ นนิ ทร์ วะสนี นท์ ผเู้ คยดำ� รงตำ� แหน่งอธิการบดมี หาวิทยาลยั ราชภัฏสกลนคร ไดก้ ลา่ วสดุดีเกียรติคณุ ไวใ้ นหนงั สอื เล่มเดียวกันว่า “ ” รองศาสตราจารย์ชารี แสวงเจริญ เป็นบุคคลส�ำคัญท่ีวางรากฐานด้านการเรียน การสอนทางการเกษตรของมหาวทิ ยาลัยฯ จนไดร้ ับการกล่าวขานวา่ ถ้าจะเรียนดา้ นการเกษตร ตอ้ งมาเรียนทีส่ กลนคร เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ช้ันสูงสุดที่ได้รับพระราชทาน คือ มหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ชา้ งเผือก และเหรียญจกั รพรรดิมาลา รองศาสตราจารย์ชารี สมรสกับ นางสาววลัยรัตน์ พรหมผ้ึง มีบุตร ๓ คน คอื นายชัยพฤกษ์ นางสาวสภุ ิชชา และนายชยั ฤกษ์ แสวงเจรญิ หลังจากเกษียณอายุราชการ ใน พ.ศ. ๒๕๓๕ รองศาสตราจารย์ชารีก็ยังได้ ร่วมกิจกรรมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครสม่�ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นงานสงกรานต์ งานวันเฉลิมพระชนมพรรษา งานพบปะสังสรรค์ของชมรมเพชรราชภัฏและไปเย่ียมเยียน พี่น้องที่คณะเทคโนโลยีการเกษตรเกือบทุกสัปดาห์ ให้ค�ำแนะน�ำ ข้อเสนอแนะ และ ใหก้ �ำลงั ใจ ทกั ทายอาจารยแ์ ละเจา้ หน้าทดี่ ้วยความรกั และผกู พนั 22 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

รองศาสตราจารย์ชารีเริ่มป่วยเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง เม่ืออายุ ๖๖ ปี ต่อมาพบว่าเป็นเน้ืองอกในสมอง เข้ารับการผ่าตัด และกลับมาพักฟื้นที่บ้าน อาการ กไ็ ม่ดีขนึ้ รองศาสตราจารย์ชารีถึงแกอ่ นจิ กรรม เมื่อวนั ท่ี ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ สริ ิอายุ ๘๔ ปี ๒ เดือน ๒๓ วนั นางสาวเอือ้ งฟ้า สมบัตพิ านิช ผ้เู รยี บเรียง ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 23

ขอ้ มลู อา้ งอิง ๑. หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ รองศาสตราจารย์ชารี แสวงเจริญ ณ ฌาปนสถานวัดป่าภูธรพิทักษ์ ต�ำบลธาตุเชิงชุม อ�ำเภอเมืองสกลนคร จงั หวดั สกลนคร วันเสาร์ที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ๒. สัมภาษณน์ ายชยั ฤกษ์ แสวงเจรญิ บุตร 24 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นายสมเกียรติ พ้ืนแสน พ.ศ. ๒๔๙๔ - ๒๕๖๒ ครแู ละผบู้ รหิ ารทสี่ ง่ เสรมิ การจดั การเรยี นรู้ ใหผ้ เู้ รยี น ครู และผู้เกี่ยวข้อง ได้ตระหนักถึงความส�าคัญของ ‘การอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถ่ิน โดยจัดเป็นแหล่งเรียนรู้ ทสี่ รา้ งความภมู ใิ จในท้องถ่ินของตน นายสมเกยี รติ พนื้ แสน เกดิ เมอ่ื วนั ที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ ณ บา้ นทา่ สะพาน ต�าบลกุดนา้� ใส อา� เภอ พนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นบุตรนายสุทธิ และนางตา พ้นื แสน มพี ีร่ ่วมบดิ า ๑ คน คือ นางอุทยั วรรณ กลา้ หาญ และมีพ่ีน้องร่วมบิดามารดา ๑๒ คน เป็นพี่ ๙ คน คื อ เ ด็ ก ห ญิ ง ป ร ะ ไ พ ( ถึ ง แ ก ่ ก ร ร ม ) พลต�ารวจเอกวิรุฬห์ นางเสาวคนธ์ บัวศรีค�า นายวิฑูรย์ นางประยูรพร มาลยสุวรรณ นางอรุณรัตน์ กูลพ�านัก นายพานิช นางวัฒนา จันโทริ นางประภาวรรณ ประภาพักตร์ มีน้อง ๒ คน คื อ น า ย ผ ดุ ง ศั ก ด์ิ แ ล ะ นายกัมพล พ้ืนแสน ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ๒๕

๒๖ ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นายสมเกยี รตจิ บชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ โรงเรยี นบา้ นกุดน้�ำใส (ผดงุ วทิ ยาคาร) จังหวัดร้อยเอ็ด ใน พ.ศ. ๒๕๐๓ จบช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๗ โรงเรียนร้อยเอ็ดศึกษา (ปัจจุบันคือ วิทยาลัยเทคโนโลยีร้อยเอ็ด) ใน พ.ศ. ๒๕o๕ จบช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรยี นรอ้ ยเอด็ วิทยาลัย ใน พ.ศ. ๒๕o๘ และจบชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ โรงเรียนพษิ ณโุ ลก พทิ ยาคม จงั หวดั พษิ ณโุ ลก ใน พ.ศ. ๒๕๑๑ ศกึ ษาตอ่ ระดบั ประกาศนยี บตั รประโยคครปู ระถม (ป.ป.) วิทยาลยั ครพู ระนครศรีอยธุ ยา (ปจั จุบนั คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยธุ ยา) ส�ำเร็จการศึกษา ใน พ.ศ. ๒๕๑๓ ศึกษาต่อระดับปริญญาการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) วิชาเอกประวัติศาสตร์ วิทยาลัย วิชาการศึกษา ประสานมิตร (ปัจจุบัน คือ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) จบใน พ.ศ. ๒๕๑๖ และจบปริญญา การศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.) สาขาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัย มหาสารคาม ใน พ.ศ. ๒๕๓๙ นายสมเกียรติเริ่มรับราชการ เม่ือ พ.ศ. ๒๕๑๗ ในต�ำแหน่งครู ๓ โรงเรียนบ้านวารีสวัสด์ิวิทยา อ�ำเภอ พนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ต่อมา ด�ำรงต�ำแหน่งอาจารย์ ๑ โรงเรียน น้�ำใสวรวิทย์ อ�ำเภอเดียวกัน ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ และด�ำรงต�ำแหน่งผู้ช่วยครูใหญ่ ท่ีโรงเรียนเดิม จนถึง พ.ศ. ๒๕๒๖ ด�ำรงต�ำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนทุ่งกุลาประชานุสรณ์ อ�ำเภอเกษตรวิสัย และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ด�ำรงต�ำแหน่งอาจารย์ใหญ่ท่ีโรงเรียนเดิม พ.ศ. ๒๕๓o ด�ำรงต�ำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนหนองหมื่นถ่านวิทยา อ�ำเภอ อาจสามารถ และ พ.ศ. ๒๕๓๖ ด�ำรงต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการท่ีโรงเรียนเดิม พ.ศ. ๒๕๔๒ ด�ำรงตำ� แหนง่ ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร อ�ำเภอพนมไพร จนถึง พ.ศ. ๒๕๔๕ จงึ ไดด้ �ำรงต�ำแหนง่ ผู้อ�ำนวยการสามัญศึกษาจงั หวดั เลย พ.ศ. ๒๕๔๖ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทผ่ี ตู้ รวจราชการของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารในระดบั เขตพนื้ ท่ี การศึกษารอ้ ยเอ็ด เขต ๑ และ เขต ๒ ตอ่ มาดำ� รงตำ� แหน่งผูอ้ �ำนวยการสำ� นกั งานเขตพนื้ ที่ ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 27

การศกึ ษาหลายแหง่ คอื พ.ศ. ๒๕๔๗ ผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามหาสารคาม เขต ๑ (ปจั จบุ นั คอื สำ� นกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษามหาสารคาม เขต ๑) พ.ศ. ๒๕๔๙ ผู้อ�ำนวยการสำ� นกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาร้อยเอด็ เขต ๑ (ปัจจบุ ันคือ สำ� นักงานเขตพน้ื ท่ี การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต ๑) พ.ศ. ๒๕๕๓ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษาประถมศกึ ษากาฬสินธุ์ เขต ๑ และเกษยี ณอายุราชการ ใน พ.ศ. ๒๕๕๔ นายสมเกียรติได้รับการอบรมและ การศึกษาดูงานเพ่ือพัฒนาการปฏิบัติงาน หลายด้าน อาทิ อบรมเตรียมผู้บริหาร มัธยมศึกษา รุ่นท่ี ๒o ใน พ.ศ. ๒๕๒๖ หลักสูตรการอบรมสัมมนาผู้บริหารโรงเรียน ระดับสูง รุ่นท่ี ๒๑ และอบรมยุทธวิธี เขยี นแผนงานเชงิ ปฏิบัติการและการประเมิน โครงการ ใน พ.ศ. ๒๕๔๑ ศึกษาดูงาน การจัดการการเรียนการสอนด้านคุณธรรม จริยธรรมท่ีสาธารณรัฐเกาหลี ศึกษาดูงาน ด้านการศึกษาสังคมและวัฒนธรรมที่ สาธารณรฐั สงิ คโปร์ สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตย ประชาชนลาว สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มาเลเซีย สาธารณรฐั อนิ โดนเี ซยี สาธารณรฐั แหง่ สหภาพ เมียนมา ราชอาณาจักรสวีเดน สาธารณรัฐ ฟนิ แลนด์ ราชอาณาจกั รเดนมารก์ ราชอาณา จกั รนอรเวย์ และสหรฐั อเมริกา นายสมเกียรติเป็นครูสอนประวัติศาสตร์ที่มีความมุ่งม่ันในการสอนให้นักเรียน เป็นคนดี รักชาติบ้านเมืองและท้องถ่ิน โดยได้กล่าวถึงการสอนประวัติศาสตร์ ไว้ในหนังสือ “สมเกียรติ พ้ืนแสน” ซึ่งเป็นหนังสือท่ีจัดท�ำในวาระเกษียณอายุราชการ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๔ ความตอนหน่ึงว่า “...เราเรียนประวัติศาสตร์ไปท�ำไม ค�ำตอบคือ เพ่ือเข้าใจตัวเอง เข้าใจสังคม เข้าใจโลก และท่ีส�ำคัญคือการเข้าใจอัตลักษณ์ ทางวัฒนธรรมของตนเอง วิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาท่ีมีความส�ำคัญ ท�ำให้รู้จักตนเอง 28 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

เพ่ือจะได้อยู่กับปัจจุบันและอนาคตได้ อย่างมีความสุข...” นอกจากน้ียังได้ ระบุหลักการสอนวิชาประวัติศาสตร์ไว้ ในหนังสือเล่มเดียวกันความตอนหนึ่งว่า “...วิธกี ารทางประวัติศาสตร์ ซ่ึงเน้นการ รวบรวมหลักฐานอย่างหลากหลายและ รอบดา้ น พรอ้ มทงั้ วพิ ากษค์ วามนา่ เชอื่ ถอื ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ แล้วจึง อธบิ ายเรอื่ งราวเหตกุ ารณ์ โดยไมพ่ ยายาม น�ำทัศนคติอคติและความเชื่อส่วนตัว มาปะปนกบั ค�ำอธิบายนน้ั ๆ ซึ่งจะทำ� ใหผ้ ู้เรยี นสามารถเขา้ ใจและอธิบายปรากฏการณท์ าง ประวัติศาสตร์ที่เกิดข้ึนได้ว่า เพราะเหตุใดเหตุการณ์น้ีจึงเกิดข้ึน…” นายสมเกียรติเป็นครู ที่จัดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยเน้นการให้นกั เรยี นปฏิบัติ แสวงหาข้อมูล และวิเคราะหข์ ้อมลู เพื่อสรุปความรทู้ ไ่ี ด้จากการศกึ ษาคน้ ควา้ ความมุ่งม่ันในการปลูกฝังให้เยาวชนเป็นคนดี รักชาติบ้านเมืองและท้องถิ่น เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นประจ�ำตัวของนายสมเกียรติ ซ่ึงแสดงออกทั้งในบทบาทของ การเป็นครูและผู้บริหารทั้งในระดับโรงเรียน หรือเขตพื้นที่การศึกษา ดังเช่นส�ำนักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต ๑ ได้ท�ำโครงการส�ำนึกรักบ้านเกิด เพื่อให้ครูผู้สอนเข้าใจ และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการ และเรียนรู้แหล่งเรียนรู้ในท้องถ่ิน ให้นักเรียนได้ส�ำนึกและภูมิใจในท้องถ่ิน ตระหนัก และเห็นความส�ำคัญของภูมิปัญญาและวัฒนธรรม โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ท้องถ่ิน นักเรียนต้องรู้และเข้าใจ สามารถเล่าหรืออธิบายความเป็นมาของประวัติศาสตร์ ท้องถ่ินได้ ซึ่งนายสมเกียรติได้บันทึกไว้ในหนังสือเล่มเดียวกัน ความตอนหน่ึงว่า “...ได้ให้นโยบายกับผู้บริหารโรงเรียนและบุคลากรในสังกัดให้จัดการเรียนรู้ไปเรียนรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ ใหน้ กั เรยี นมคี วามสขุ กบั การเรยี น น�ำนกั เรยี นในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา จ�ำนวน ๑๔๘ คน ท่องเที่ยวศึกษาแหล่งเรียนรู้ ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งประกอบด้วย เขื่อนล�ำปาว สะพานเทพสุดา พิพิธภัณฑ์สิรินธร และศูนยว์ ัฒนธรรมผูไ้ ทยบา้ นโพน ตามโครงการส�ำนกึ รกั บ้านเกดิ ของสำ� นักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต ๑ ได้เร่ิมด�ำเนินการเป็นรูปธรรม เม่ือวันที่ ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 29

๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นมจี ติ ส�ำนึกในการอนรุ กั ษ์และพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม และ เพื่อสร้างจิตส�ำนึกให้เด็กมีความตระหนักถึงความส�ำคัญของวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยใช้แหล่งเรียนรู้เป็นส่ือให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณีท้องถ่ิน และรู้สึกส�ำนึกรักและหวงแหนทรัพยากรในท้องถิ่นของตัวเอง...” การจัดกิจกรรมตามนโยบายดังกล่าว นักเรียน ครู ผู้บริหารโรงเรียน และผู้เก่ียวข้อง มคี วามพงึ พอใจและเหน็ ความสำ� คญั ของแนวคดิ ในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมดว้ ยการเรยี นรจู้ าก แหล่งเรยี นรู้ในท้องถ่ิน นายชมุ พล ภูโอบ ผเู้ คย ด�ำรงต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการ โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาลัย ไดก้ ลา่ วไวใ้ นหนงั สอื เลม่ เดยี วกนั ว่า “...ในด้านการบริหารงาน ท่านเป็นผู้บริหารที่มีความรอบรู้ ทางด้านการศึกษาท่ีมากด้วย ความรู้ความสามารถ เป็นผู้ มคี วามมงุ่ มน่ั ทจ่ี ะพฒั นาการศกึ ษา เพ่ือส่งผลดีต่อเด็กท่ีเป็นอนาคต ของชาติท่านเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ กว้างไกล ได้รับการยกย่องและไว้วางใจ เป็นผู้ท่ีท�ำประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ ส่วนตน เป็นแบบอย่างในการด�ำเนินชีวิต และท่ีส�ำคัญท่านได้เปิดโอกาสและสนับสนุนให้ ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาไดแ้ สดงศกั ยภาพอยา่ งเตม็ ทใ่ี นการปฏบิ ตั งิ าน” สอดคลอ้ งกบั ความเหน็ ของ นายดะนัย มะหิพันธ์ ผู้เคยด�ำรงต�ำแหน่งรองเลขาธิการส�ำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้กล่าวไว้ใน หนังสือเล่มเดียวกันว่า “...ผมมีเพื่อนท่ีเป็นครู เป็นผู้บริหารที่เคยอยู่กับท่านมา ล้วนพูด เปน็ เสยี งเดียวกันว่า ทา่ นเป็นผูบ้ ังคบั บัญชาทค่ี รบเครอ่ื งเรอื่ งงานบริหารจริง ๆ” นอกจากการส่งเสริมด้านการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว นายสมเกียรติ เปน็ นกั บรหิ ารการศกึ ษาทมี่ คี วามสามารถสงู ทงั้ ดา้ นการดำ� เนนิ การตามนโยบายของภาครฐั และหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ตลอดจนการบรหิ ารงานบคุ คล การกำ� หนดนโยบายในการพฒั นา คณุ ภาพ และประสานประโยชนเ์ พอื่ คณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งแทจ้ รงิ สามารถแกป้ ญั หาทพ่ี บ 30 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

จนผ่านพ้นได้อย่างราบรื่น สนใจใฝ่ท�ำนุบ�ำรุงพระพุทธศาสนาเต็มก�ำลังด้วยความศรัทธา มีคุณธรรมจริยธรรมในการครองตน ครองคน ครองงาน จนเป็นแบบอย่างท่ีควรยกย่อง การปฏิบัติดังกล่าวเป็นที่ยอมรับของผู้บังคับบัญชา เป็นท่ีเคารพรักของผู้ใต้บังคับบัญชา และผู้เก่ียวข้อง เห็นได้จากการสะท้อนความคิด ประสบการณ์ของผู้เก่ียวข้องทุกระดับ ซ่งึ นำ� เสนอพอสงั เขป ดงั นี้ นายชินภัทร ภูมิรัตน ผู้เคยด�ำรงต�ำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน ได้แสดงความเห็นไว้ในหนังสือเล่มเดียวกัน ความว่า “ตลอดชีวิตราชการ ท่านต้องท�ำงานหนักในบทบาทหน้าท่ีที่ต้องรับผิดชอบ ท้ังยังต้องเสียสละ ทุ่มเทท้ัง แรงกายแรงใจ ใช้ประสบการณ์ในการเป็นผู้บริหารมาหลายแห่ง พัฒนาโรงเรียนให้ มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เพ่ือผลิตเยาวชนให้เป็นผู้ที่มีคุณธรรมน�ำความรู้ เป็นคนดี คนเก่งในสังคม และมีความสุขในการอยู่ร่วมกัน ผลงานท้ังหลายท่ีท่านได้ท�ำ ล้วนเป็นส่ิงท่ีน่ายกย่องชมเชย....” เช่นเดียวกับ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้เคยด�ำรงต�ำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ยกย่องความเป็นครูและ “ผบู้ ริหารของนายสมเกยี รตไิ วใ้ นหนงั สอื เล่มเดยี วกันว่า ...ท่านได้ปฏิบัติราชการและได้สร้างผลงานที่มีประโยชน์แก่โรงเรียนในฐานะครูและ ในฐานะผบู้ รหิ ารสงู สดุ ในเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษากาฬสนิ ธ์ุ เขต ๑ เปน็ อยา่ งมาก ตามหนา้ ที่ ความรับผิดชอบของท่านน้ัน คือการปฏิบัติภารกิจความเป็น “ครู” ภารกิจท่ีย่ิงใหญ่ใด ๆ น้ัน ท�ำได้ไม่ยาก แต่ภารกิจที่ต้องตรากตร�ำ เนิ่นนาน และท�ำต่อเน่ืองจนครบวาระสมบูรณ์น้ัน แสนยากย่ิงกวา่ คนเป็นครู คือผ้แู บกรบั ภาระที่หนักและยิ่งใหญ่ เพราะต้อง เป็นผู้สร้างคนรุ่นใหม่ ๆ ให้แก่สังคม กว่าจะเห็นดอกผลท่ีตนสร้างก็ต้อง ใชเ้ วลาอกี หลายปี รนุ่ แลว้ รนุ่ เลา่ ทผี่ ลดิ อก ออกผลไป ถ้าสร้างออกมาได้ไม่ดีสังคม ”ประเทศชาติก็ตกตำ่� ย่ำ� แย่ดังนนั้ ครูจงึ ต้องรับผิดชอบสิ่งท่ีตนสร้างไว้จนกว่า ชีพจะหาไม่... ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 31

นายสมพร นิกรแสน ผู้เคยด�ำรงต�ำแหน่งรองผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต ๑ ได้กล่าวไว้ในหนังสือเล่มเดียวกัน ความว่า “...ท่านผู้อ�ำนวยการสมเกียรติ พ้ืนแสน มีคุณสมบัติครบถ้วนของความเป็นกัลยาณมิตร ประกอบด้วย ๑) น่ารัก สบายใจเม่ือพบเห็น สนิทสนมได้ น่าไว้ใจ ๒) น่าเคารพ เป็นผู้ที่พึ่งได้ท้ังทางใจและทางกาย “ใจถึง พึ่งได้” ๓) น่ายกย่อง เป็นผู้มีความรู้ มีคุณธรรม พัฒนาตนอยู่เสมอ ๔) พูดจาให้เกิดผลดี ใช้ถ้อยค�ำได้ดี ท้ังยกย่อง ตักเตือน และแนะน�ำ ๕) อดทนต่อถ้อยค�ำ พร้อมท่ีจะรับฟังค�ำตอบ ค�ำบอก และค�ำวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างมีสติ ไม่ฉุนเฉียว ๖) แถลงเร่ืองล้�ำลึกได้ สามารถอธิบาย สง่ิ ยากใหง้ า่ ย และสงิ่ งา่ ยใหส้ ะดวกแกก่ ารปฏบิ ตั ิ ๗) ไมช่ กั นำ� ในสง่ิ เหลวไหล เปน็ ผคู้ อยเตอื นสติ และชกั จงู ไปสทู่ างทดี่ อี ยเู่ สมอ...” เหน็ ไดว้ า่ การบรหิ ารงานของนายสมเกยี รตไิ ดส้ รา้ งความสขุ ความประทับใจ ความภาคภูมิใจต่อผู้ร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง ที่ส�ำคัญคืออัธยาศัยอันดีงามน้ี เป็นส่งิ ทสี่ ่งั สมอยใู่ นตัวมายาวนาน นายสมเกียรติเป็นผู้บริหารที่ปฏิบัติงานด้วยหัวใจของคนเป็นครู นอกจากการ ท�ำงานในหน้าที่ราชการอย่างเต็มศักยภาพแล้ว ยังเป็นคนรักท้องถ่ิน สนใจและใส่ใจ ในการท�ำนุบ�ำรุงพระศาสนาและความเจริญของชุมชน ได้ท�ำหน้าท่ีในการประสานงาน กิจกรรมพัฒนาสังคมและวัฒนธรรมในชุมชนกุดน�้ำใสอันเป็นบ้านเกิดมาโดยตลอด เปน็ ประธานชมรมกดุ น�้ำใส และประธานมลู นธิ หิ ลวงปูม่ หาทอง จนั ทรศิริ ซึง่ เอื้อให้องค์กร ทั้งสองท�ำคุณประโยชน์แก่ท้องถ่ินและชุมชนมากมาย เช่น พ.ศ. ๒๕๕๔ นายสมเกียรติ เป็นประธานคณะกรรมการอ�ำนวยการจัดงานสมโภชชุมชนชาวกุดน้�ำใส ในวาระครบ ๑๙๐ ปี ส่งผลให้งานส�ำเร็จลุล่วงด้วยดี เปน็ ท่ีชื่นชมของชาวกดุ น้ำ� ใสและญาติมิตรท่ีได้มา รว่ มงานเปน็ อยา่ งยงิ่ เปน็ ประธานคณะกรรมการพฒั นาวดั สระกดุ นำ้� ใส และเปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ในการสรา้ งศาลาธรรมสงั เวช เป็นตน้ พระธรรมฐิติญาณ (ศรีจันทร์ ปุญฺญรโต) เจ้าคณะภาค ๑๐ (ธ) เจ้าอาวาส วัดบึงพระลานชัย พระอารามหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา เจ้าคณะภาค ๑๐ (ธ) ได้กล่าวถึงนายสมเกียรติไว้ในหนังสือเล่มเดียวกันว่า “ผอ.สมเกียรติ พื้นแสน เป็นบุคลากรทางการศึกษาที่มีคุณธรรม คุณภาพ คุณประโยชน์ เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ เป็นผู้น้อยท่ีน่านับถือ ผอ.ประเภท มือทอง ปากทอง สมองเพชร กลเม็ดครองโลก มีความสมบูรณ์ท้ังด้านวิชาการ วิชาชีพ และวิชาประคองชีพ ...พูดได้ด้วยความภาคภูมิใจว่า เป็นบุคคลต้นแบบ บุคคลตัวอย่าง 32 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

เปน็ เพชรเม็ดงามในวงการศึกษาไทย” อกี ทงั้ พระราชพรหมจรยิ คณุ (สเุ ทพ สกุ กฺ ธมโฺ ม) ขณะมีสมณศักดิ์ที่พระพุทธิสารมุนี เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กล่าวถึงบทบาทของ นายสมเกียรตไิ ว้ในหนงั สือเลม่ เดียวกันว่า “๑) ใกลช้ ดิ พระรัตนตรยั พระสงฆ์องค์เจา้ เม่ือมี กจิ กรรมจดั การอบรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม จะใหค้ วามรว่ มมอื เปน็ อยา่ งดใี นการจดั สง่ นกั เรยี น มารว่ มฝกึ อบรม ๒) งานดา้ นบรกิ ารสงั คม งานการกศุ ล การบำ� เพญ็ สาธารณประโยชน์ และงานอน่ื ๆ เช่น งานบวชนาค งานท�ำบุญมหากฐิน ทอดผ้าป่า งานรุ่น งานจัดหาทุนการศึกษา และงานเพื่อนพ้องน้องพ่ี ญาติพ่ีน้อง จะพบหน้าในสังคมอยู่เสมอ และยังส่งเสริม การปฏิบตั ิธรรมเปน็ แบบอยา่ งใหก้ บั ขา้ ราชการ ๓) การประสานงานให้วัด บา้ น โรงเรียน มีความสัมพันธ์แนบแน่นในการจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อส่งเสริมความสามัคคีในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” คณะกรรมการพัฒนาวัดสระกุดน�้ำใส บันทึกไว้ในหนังสืออนุสรณ์งาน พระราชทานเพลงิ ศพ นายสมเกียรติ พน้ื แสน ว่า “…เป็นผู้มสี ว่ นร่วมกับชุมชนมาตลอด ต้ังแต่ยังเรียนหนังสือ เป็นตัวจักรส�ำคัญในการจัดหาหนังสือบ�ำรุงห้องสมุดต�ำบล เป็นผมู้ บี ทบาทส�ำคญั ในการจัดตั้งโรงเรยี นมธั ยมในต�ำบลกดุ นำ้� ใส คือโรงเรยี นน้�ำใสวรวทิ ย์ เป็นครูอาสาสมัครมาสอนโรงเรียนแห่งน้ีในขณะท่ียังไม่มีครูประจ�ำการ และโอนมาเป็น ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 33

ครูโรงเรยี นน้ีภายหลงั เป็นผู้ประสานงานกับเยาวชนในหมู่บ้าน พระสงฆ์องค์เจา้ ผู้อาวโุ ส ตลอดจนข้าราชการฝ่ายปกครองในการด�ำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในการพัฒนาสังคมและ วัฒนธรรม” รางวัลและเกียรติคุณที่ได้รับท่ีส�ำคัญ เช่น ผู้บริหารดีเด่นโรงเรียนมัธยมศึกษา ขนาดกลาง จังหวัดร้อยเอ็ด ใน พ.ศ. ๒๕๔๐ ผู้บริหารสถานศึกษาวิชาทหารดีเด่น ผกู้ ำ� กับนกั ศึกษาวชิ าทหารพเิ ศษดเี ดน่ ใน พ.ศ. ๒๕๔๓ ผบู้ ริหารดีเด่นโรงเรียนมัธยมศึกษา ขนาดใหญ่ ของสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย ใน พ.ศ. ๒๕๔๔ ผู้บริหารดีเด่นตามโครงการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา สังกัด กรมสามญั ศกึ ษา จงั หวัดร้อยเอ็ด ใน พ.ศ. ๒๕๔๔ รางวัลครุ ุสดดุ ี ใน พ.ศ. ๒๕๕๒ เปน็ ต้น เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่ได้รับพระราชทาน คือ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกฎุ ไทย และเหรียญจกั รพรรดิมาลา นายสมเกียรติ สมรสกับ นางสาวปรานี ยุวะบุตร มีบุตร ๓ คน คือ นางบัณฑติ า โพธเ์ิ อก นางสาวอาจารี และนายสุทธเิ กยี รติ พน้ื แสน หลังจากเกษียณอายุราชการ นายสมเกียรติได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ของจงั หวดั ร้อยเอ็ด ใน พ.ศ. ๒๕๕๗ แต่ยังไม่ได้ปฏิบัตหิ นา้ ทีเ่ น่ืองจากการเปล่ยี นรฐั บาล อย่างไรก็ตาม นายสมเกียรติได้ปฏิบัติตามความมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาบ้านเกิดท่ี 34 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

ต�ำบลกุดน�้ำใส อ�ำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ในด้านการท�ำนุบ�ำรุงพระพุทธศาสนา พัฒนาและอนุรักษ์วัฒนธรรมชุมชนอย่างต่อเนื่อง นายสมเกียรติปฏิบัติงานต่าง ๆ ด้วยความเข้มแข็ง ท�ำหน้าท่ีเกษตรกร ท�ำสวนมะม่วง มะนาว จนกระท่ัง พ.ศ. ๒๕๕๘ แพทย์ตรวจพบว่า เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง นายสมเกียรติได้รับการรักษา ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ดและโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ควบคู่กับ การท�ำงานเพ่ือสังคม จนถึงแก่อนิจกรรมที่โรงพยาบาลด้วยภาวะปอดติดเชื้อ เมอื่ วนั ที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ สิรอิ ายุ ๖๗ ปี ๑๐ เดอื น ๒๘ วัน นางสาวสมพร มันทนานชุ าติ ผเู้ รยี บรียง ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 35

ข้อมลู อา้ งองิ ๑. หนังสือ “สมเกียรติ พื้นแสน” ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กาฬสนิ ธุ์ เขต ๑ จัดท�ำในวาระเกษียณอายุราชการ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. หนงั สอื อนสุ รณง์ านพระราชทานเพลงิ ศพ สมเกยี รติ พนื้ แสน อดตี สมาชกิ วฒุ สิ ภา จังหวัดรอ้ ยเอด็ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ ณ เมรุวดั บรู พาภริ าม ต�ำบลในเมอื ง อำ� เภอเมือง จงั หวัดร้อยเอ็ด วันพุธท่ี ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ๓. ผใู้ หข้ อ้ มลู เพม่ิ เตมิ นางปรานี พนื้ แสน ครชู ำ� นาญการพเิ ศษ โรงเรยี นรอ้ ยเอด็ วทิ ยาลยั และนางอมรา อารีเอ้ือ ข้าราชการบ�ำนาญ ส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา รอ้ ยเอ็ด เขต ๑ ๔. ข้อมลู ค้นคว้าทางออนไลน์ www.mesati.com เขา้ ถึงเมือ่ ๑ เมษายน ๒๕๖๒ https://www.ryt๙.com/s/refb/๑๙๕๙๐๓๓ เขา้ ถงึ เมอ่ื ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ www.rtech.ac.th/Ris/About education.html เขา้ ถงึ เมอื่ ๑ มถิ นุ ายน ๒๕๖๒ 36 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นางสอ้งิ กานยะคามิน พ.ศ. ๒๔๖๗ - ๒๕๖๒ ครูผู้มีความคิดสร้างสรรค์ ริเร่ิมจัดกิจกรรม นอกห้องเรียนให้มีความสัมพันธ์กับเนื้อหา กิจกรรม ‘ท่ีนักเรียนสามารถเรียนรู้เพื่อเป็นประสบการณ์และ น�าไปใชใ้ นการประกอบอาชีพได้ คือ บรมครผู ู้เปรื่องปราดทง้ั ศาสตรศ์ ิลป์ คือ ศลิ ปินงานละครกระฉ่อนขาน คือ นกั พัฒนาสงั คมดีปรีชาชาญ คือ ผสู้ านสบื เนน้ ความเปน็ ไทย ดุษฎบี ณั ฑติ กติ ติมศกั ด์ิ สื่อประจกั ษ์พยานอันย่งิ ใหญ่ ดร.สอ้ิง กานยะคามิน เกียรติเกริกไกร คือ หนึง่ ในปชู นยี บคุ คล สริ ี กิจวิวฒั นกุล ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ๓7

๓8 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นางสองิ้ กานยะคามนิ (สกลุ เดิม คอื ผดุ ผาด) เกดิ เม่อื วนั ที่ ๙ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๖๗ ท่ีอำ� เภอเกาะหลกั จังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ เปน็ บตุ รคนแรกของรอ้ ยตำ� รวจตรี รณสติ และ นางล�ำดวน ผดุ ผาด มีนอ้ ง ๑ คนคือ พลตำ� รวจเอก องอาจ ผุดผาด (ถึงแกก่ รรม) นางสอง้ิ เขา้ เรยี นชน้ั ประถมทโ่ี รงเรยี นประจำ� อำ� เภอบา้ นโปง่ จงั หวดั ราชบรุ ี (ปจั จบุ นั คอื โรงเรียนรัตนราษฎรบ์ �ำรงุ ) เมอื่ จบช้ันประถมปที ี่ ๔ ใน พ.ศ. ๒๔๗๗ ไดเ้ รียนต่อช้นั มัธยม ทโี่ รงเรียนประจำ� อำ� เภอโพธาราม (ปจั จุบันคือโรงเรียนโพธาวัฒนาเสน)ี จบชั้นมธั ยมปีท่ี ๓ ใน พ.ศ. ๒๔๘๐ แล้วเรียนต่อที่โรงเรียนสตรีประจ�ำจังหวัดราชบุรี (ปัจจุบันคือโรงเรียน ราชโบรกิ านุเคราะห)์ จนจบชน้ั มธั ยมปีที่ ๖ ใน พ.ศ. ๒๔๘๓ จากน้นั ไดศ้ กึ ษาต่อที่โรงเรยี น การเรือนพระนคร (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยสวนดุสิต) กรุงเทพมหานคร จบประโยค การเรือนช้ันสูงปีที่ ๓ ใน พ.ศ. ๒๔๘๖ ต่อมา ระหว่างท�ำงานได้ศึกษาต่อส�ำเร็จปริญญา การศึกษาบณั ฑิต (กศ.บ.) วิชาเอกภาษาไทย สาขามธั ยมศกึ ษา จากวทิ ยาลยั วิชาการศึกษา บางแสน (ปัจจุบันคือมหาวทิ ยาลัยบรู พา) จงั หวัดชลบรุ ี เริ่มรับราชการในต�ำแหน่งครูจัตวาโรงเรียนดัดดรุณี ซ่ึงเป็นโรงเรียนสตรีประจ�ำ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๗ ต่อมา ด�ำรงต�ำแหน่งผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการโรงเรียน ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ และเปน็ ผชู้ ่วยผู้อ�ำนวยการโรงเรียน ระดับ ๗ ใน พ.ศ. ๒๕๒๕ จนกระทั่ง เกษยี ณอายรุ าชการ ใน พ.ศ. ๒๕๒๗ ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 39

ในช่วงทปี่ ฏบิ ัติงานสอน นางสอิง้ สอนวิชาการเรอื น วชิ าภาษาไทย และดว้ ยเป็นผู้ท่ี มคี วามสามารถพเิ ศษในดา้ นงานนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร เนอ่ื งจากมารดาเปน็ ศลิ ปนิ พน้ื บา้ น จงั หวัดเพชรบุรี จึงได้รับมอบหมายใหส้ อนวชิ านาฏศิลปแ์ ละการละครอกี วิชาหนึ่ง นางสอ้ิง เป็นครูที่เป็นแบบอย่างในเร่ืองการใช้วาจาสุภาพ แต่งกายดี มีมารยาทงาม สอนวิชา การเรือนด้วยวิธีฝึกให้นักเรียนลงมือปฏิบัติ ทั้งการแสดงกิริยาท่าทาง ความประพฤติ การทำ� งานบา้ น และงานฝมี อื พนื้ ฐาน อนั เปน็ คณุ สมบตั ขิ องกลุ สตรตี ามหลกั สตู รวชิ าการเรอื น นางสอ้ิงเป็นครูสอนภาษาไทยท่ีมีลายมือสวยงาม เป็นนักเขียน และสามารถแต่งโคลง กลอนช่วยให้นักเรียนจดจ�ำ เข้าใจ และน�ำความรู้ไปใช้ได้ถูกต้อง อีกท้ังเป็นครูสอนวิชา นาฏศิลป์และการละคร ท่ีเขียนบทร้องร�ำ บทพูดของตัวละคร บทท่ีใช้ในการแสดง แตง่ เพลงประกอบการแสดงไดไ้ พเราะเหมาะสม สามารถสอนนกั เรยี นใหข้ บั รอ้ งและฟอ้ นรำ� ได้สวยงาม นอกจากนี้ยังแต่งเพลงประจ�ำโรงเรียนไว้หลายเพลง ซ่ึงเป็นเพลงที่มี ความไพเราะ และปลูกจิตส�ำนึกให้รักสถาบันและครอบครัว เพ่ือน�ำไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ ได้แก่ เพลงสวย เพลงนามดัดดรุณี เพลงดาวดัดดรุณี เพลงเสลาร�ำพึง เพลงขวัญใจ น้�ำเงนิ -ชมพู และเพลงมะลิกบั แม่ รองศาสตราจารย์วิมลศิริ ช�ำนาญเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย ของรฐั ศิษย์รุ่นแรก กล่าวไว้ในหนงั สือ ดร.สอง้ิ กานยะคามิน ปชู นยี บคุ คลของฉะเชงิ เทรา ความตอนหนึ่งว่า “...ท่านมีความสามารถในการสอนวิชาการเรือน ท�ำขนม ท�ำกับข้าว ทั้งทโี่ รงเรียนไมม่ เี ครื่องใช้ อุปกรณ์การสอนใหพ้ วกเราตอ้ งขอยืมหมอ้ กระทะ และอุปกรณ์ ตา่ ง ๆ มาจากบ้าน ทา่ นทุม่ เทเสยี สละ ใกล้ชิดกับลูกศิษย์มาก มีปัญหาอะไร คุยกับท่านได้ทุกเรื่อง... นอกจากสอน ทำ� กบั ขา้ วแลว้ ทา่ นยงั สอนใหท้ ำ� หนงั สอื ท�ำนองจดหมายข่าวส�ำหรับอ่าน กันเองในหอ้ ง ฉบบั แรกที่เราท�ำ ท่านส่ง บทกลอนมาให้ สอนพวกเรามิให้ เดด็ ดอกไมข้ องโรงเรียน ซ่งึ มตี น้ บานบรุ ี อยู่ใกล้ ๆ ประตูทางเข้า แม้เวลาจะ ผ่านมานานกว่า ๖๐ ปี ดิฉันยังจ�ำ กลอนบทนไี้ ด้ ดงั น้ี 40 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

“บานบุรี สีทอง ละอองทพิ ย์ ผใู้ ดหยบิ ดอกละหา้ อาญาเหนอ อยา่ พะวง หลงไป ด้วยใจเพอ้ เจ็บนะเออ เด๋ียวจะวา่ ข้าปดิ ความ”... ทุกงานทท่ี า่ นทำ� ทา่ นท่มุ เททง้ั กำ� ลังกาย ก�ำลังใจ และกำ� ลังทรพั ย์ ดว้ ยความมงุ่ มนั่ เสยี สละ อยา่ งแทจ้ รงิ ...” นางสอง้ิ ไดร้ เิ รม่ิ จดั การเรยี นการสอนและจดั กจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร ดว้ ยวธิ ใี หน้ กั เรยี น ได้เรียนรู้อย่างกลมกลืนกัน ทั้งวิชาการเรือน วิชาภาษาไทย วิชานาฏศิลป์และการละคร โดยใช้วิชาภาษาไทยเปน็ แกน และน�ำสิง่ ทีน่ ักเรยี นไดเ้ รยี นรใู้ นอกี สองวิชามาใชใ้ หเ้ กิดทักษะ ไดอ้ อกแบบกจิ กรรมใหน้ กั เรยี นศึกษาคน้ ควา้ ทำ� งานเป็นกล่มุ รว่ มคดิ รว่ มทำ� ร่วมกันแก้ไข ปญั หา และนำ� เสนอผลงาน ในรปู แบบการแสดง เชน่ เมอื่ เรยี นวรรณคดเี รอื่ งใด กก็ ำ� หนดให้ นักเรียนแสดงละครตามความสนใจ ครเู ป็น เพยี งผใู้ หค้ ำ� ปรกึ ษาในการเตรยี มงานการแสดง เพื่อให้นักเรียนใช้ความรู้ท่ีได้จากการเรียน วิชานาฏศิลป์และการละครเร่ืองการขับร้อง การฟ้อนร�ำ ความรู้จากการเรียนภาษาไทย เรอื่ งการแตง่ บทรอ้ ยกรอง และการใช้ภาษา เพอื่ การสอ่ื สาร ความรจู้ ากการเรยี นการเรอื น เร่ืองการออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าให้เกิด ประโยชน์ต่อการจัดแสดงละครท้ังในและ นอกห้องเรยี น นางสาวิตรี สวุ รรณสถติ ย์ อดตี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวไวใ้ นหนงั สือ เล่มเดียวกัน ความตอนหน่ึงว่า “...ครูอิ้งมีพื้นฐานนาฏศิลป์ด้วย ครูจึงสอนภาษาและ วรรณคดีไทย ให้ออกมามีชีวิตชีวานอกเล่มหนังสือ คือครูสอนให้น�ำวรรณคดีมาปฏิบัติ และแสดงออก เช่น เราเรียนวรรณคดีเรื่องราชาธิราชแล้วครูก็ให้ท�ำละครแสดงกัน เรียนเร่ืองพระอภัยมณี ครูก็ให้เราแบ่งกลุ่มท�ำหุ่นกระบอกหลายโรงประชันกัน เรียนกวีนิพนธ์แลว้ ครูกใ็ หพ้ วกเราเขยี นกวีนพิ นธส์ ำ� นวนตัวเองมาสง่ ครสู ง่ เสริมใหเ้ ราท�ำ หนังสือพิมพ์และวารสารของโรงเรียน มีการเสนอคอลัมน์สัมภาษณ์บุคคลในจังหวัด ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 41

ครูอิ้งท�ำงานไม่หยุดย้ัง สอนนักเรียนรุ่นแล้วรุ่นเล่า แม้เกษียณไปแล้วก็ยังท�ำงานสาธารณ ประโยชน์ตอ่ ไปอกี มากมาย จนไดร้ บั ยกย่องและได้รับรางวลั แทบทกุ ประเภท...” เมื่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยสัมพันธ์เนื้อหาสาระ มีผลของการแสดง ละครแต่ละคร้ังส�ำเร็จตามจุดประสงค์ เป็นท่ีสนใจของผู้ชม ส่งผลให้นักเรียนเรียนรู้ ด้วยความสุข สนุกสนาน นางสอ้ิงจึงพัฒนาจากกิจกรรมการเรียนการสอนในช้ันเรียน เป็นการแสดงละครของโรงเรียน โดยเป็นผู้เขียนบทแต่งเพลงประกอบ ฝึกซ้อม และ เป็นผู้ก�ำกับการแสดง มีนักเรียนและครูร่วมมือ ร่วมใจกันเพ่ือเตรียมการแสดงท้ังโรงเรียน โรงเรียนได้จัดให้มีการแสดงละครในโอกาสต่าง ๆ เช่น การแสดงละครปิดภาคเรียน การแสดงละครประจ�ำปีของโรงเรียน และการแสดงในงานส�ำคัญของโรงเรียน เป็นต้น ต่อมาจึงได้พัฒนาเป็นการเล่นละครบนเวทีท่ีมีแขกรับเชิญและซื้อบัตรท่ีน่ัง ได้แสดง ติดต่อกันทุกปีเว้นเฉพาะบางปี เรื่องท่ีนางสอ้ิงน�ำมาจัดการแสดงในช่วงเวลารับราชการ มีจ�ำนวนหลายเรื่อง ล้วนเป็นเร่ืองท่ีนักเรียนต้องเรียนรู้จากวรรณคดีและประวัติศาสตร์ การต่อสู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เช่น เรื่องดอนเจดีย์ ราชาธิราช ลิลิตพระลอ ศกุนตลา มัทนะพาธา อิเหนา ทหารเอกนา่ นเจา้ และสุวรรณสาม เป็นต้น นอกจากจดั แสดงละครท่โี รงเรยี นแลว้ ยงั จัดแสดงละครในงานประจำ� ปขี องจงั หวดั คือ งานนมัสการพระพุทธโสธรทุกปี บางเร่ืองน�ำไปแสดงกลางแจ้งในงานแสดง ศิลปหัตถกรรมนักเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ ในนามของภาคศึกษา ๑๒ บางเร่ือง น�ำออกแสดงทางโทรทัศน์ เช่น เรื่องน่านเจ้า และเจ้าหญิงกรรณิการ์ ท�ำให้โรงเรียน มีช่ือเสียง เป็นท่ีรู้จักอย่างกว้างขวาง ซ่ึงเป็นความภูมิใจของชุมชน ที่พร้อมจะให้ ความช่วยเหลือสนับสนุนโรงเรียนตามความต้องการจ�ำเป็นอย่างสม�่ำเสมอ และด้วยความ เล่ือมใสศรัทธาความสามารถรวมทั้งอัธยาศัยไมตรีของนางสอิ้ง ชุมชนจึงปรึกษาและ ขอค�ำแนะน�ำในเรื่องการจัดงานต่าง ๆ ของจังหวดั อยเู่ ปน็ ประจำ� หนังสือวารสารดัดดรุณีสาร ฉบับที่ ๕๗ ได้ลงข้อความ ร�ำลึกถึง...คุณครูสอิ้ง กานยะคามิน : คุรุรัตน์ดัดดรุณี ความตอนหนึ่งว่า “...ละครดัดดรุณี เป็นกิจกรรม ในอดีตที่สร้างความประทับใจแก่ทุกคน สร้างช่ือเสียงโด่งดังให้แก่โรงเรียน ท่านมี หลักการสอนโดยการน�ำภาษาและวรรณคดีมาให้นักเรียนได้ปฏิบัติและแสดงออก ในรูปแบบของการแสดงละครเวทีของนักเรียนก่อนปิดภาคเรียน ปีละ ๒ คร้ัง และได้มี โอกาสแสดงในงานประจ�ำปีของจังหวัด และแสดงออกอากาศทางโทรทัศน์ ผลพลอยได้ จากการแสดงละครยังทำ� ให้เกิดรายได้น�ำมาทะนุบ�ำรงุ โรงเรยี นให้เจรญิ ก้าวหน้าดว้ ย” 42 ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นางสอิ้งมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์อยู่เสมอ ได้จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้ นักเรียนเรียนรู้ คู่คุณธรรม ด้วยรูปแบบท่ีสนุกสนาน แปลกใหม่ชวนสนใจท�ำให้นักเรียน เข้าร่วมกิจกรรม ร่วมคิด และร่วมมือกันปฏิบัติด้วยความเต็มใจในทุกโอกาส เช่น จัดให้มีกิจกรรมคัดเลือก “มิสป๊อบปูล่า” และ “ขวัญใจน้�ำเงิน-ชมพู” เพื่อส่งเสริม ความรัก ความสามัคคีในโรงเรียน จัดตั้งชุมนุมหนังสือพิมพ์ โดยมีครูเป็นท่ีปรึกษา ควบคุมดูแลนักเรียนท่ีเป็นสมาชิกในชุมนุม ให้ด�ำเนินการจัดท�ำวารสาร “ดรุณีสาร” (ปัจจุบันเปล่ียนชื่อเป็น “ดัดดรุณีสาร”) นักเรียนผู้จัดท�ำต้องเขียนข่าว เขียนเรื่อง เขียนค�ำกลอน จัดประกวดค�ำกลอน สัมภาษณ์บุคคลระดับต่าง ๆ ในท้องถิ่นท่ีท�ำ คุณประโยชน์ต่อชุมชน ต้ังแต่พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ จนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพ่ือเผยแพร่ ชีวประวัติและผลงานให้บุคคลในท้องถิ่นได้รู้จัก วารสารจึงเป็นสื่อสัมพันธ์ระหว่างศิษย์ ปจั จบุ นั กบั ศษิ ยท์ จี่ บไปแลว้ รวมทง้ั ครทู เ่ี คยสอนในโรงเรยี น ใหไ้ ดร้ บั ทราบความเคลอ่ื นไหว ความเจริญก้าวหน้าของโรงเรียน และการลงมือจัดท�ำวารสารด้วยการปฏิบัติจริง ท�ำให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถพ้ืนฐาน น�ำไปใช้ในชีวิตจริงและประกอบอาชีพได้ เมื่อจบจากโรงเรยี น เชน่ เป็นนกั เขียน นักพูด นักกลอน เป็นผูส้ ือ่ ข่าวทม่ี ีฝีมือหาขา่ วและ สัมภาษณไ์ ดต้ รงประเดน็ เปน็ ต้น ข้อความตอนหนึ่งในหนังสือ ดร.สอ้ิง กานยะคามิน ปูชนียบุคคลของฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกิจกรรมเสริมหลักสูตร ความว่า “...การสร้างสรรค์จน “ก่อเกิด” ประเพณี ท่ีเป็นเอกลักษณ์ในร่มเสลา-เงาปาริชาติของรั้วน�้ำเงิน - ชมพู ...อาจารย์ริเร่ิมการ ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 43

ลงคะแนนคัดเลือกน้องใหม่ผู้ต้องอัธยาศัยที่เพ่ิงก้าวเข้ามาในร้ัวแห่งน้ีเป็น “มิสป๊อบปูล่า” ริเริ่มการลงคะแนนคัดเลือกรุ่นพ่ีท่ีน้อง ๆ และเพ่ือน ๆ ประทับใจ ให้ได้รับการสวม “แหวนแทนใจ” และได้รับการขนานนามว่า“ขวัญใจน้�ำเงิน - ชมพู” ก่อนจบช้ันสูงสุด ของโรงเรียน ริเริ่มการจัดท�ำวารสาร “ดัดดรุณีสาร” ขึ้นก่อนโรงเรียนใด ๆ โดยคณะ นักเรียนเขียนเอง หาสปอนเซอร์เองติดต่อโรงพิมพ์เอง ขายเอง ทั้งในและต่างโรงเรียน จัดตลาดนัดในโรงเรียน จัดการแสดงละครเพ่ือให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ครแู ละนกั เรยี นโรงเรยี นอนื่ ๆ ในทอ้ งถน่ิ ตา่ งเฝา้ รอทจ่ี ะไดซ้ อ้ื บตั รเขา้ มาดลู ะครโรงเรยี นดดั ดรณุ ี นอกจากน้ียังแต่งเพลงประจ�ำโรงเรียนเพื่อใช้ในโอกาสต่าง ๆ มากถึงเกือบสิบเพลง และยังเป็นผู้น�ำอนุกาชาดของโรงเรียนออกค่าย และบ�ำเพ็ญประโยชน์แก่ท้องถิ่น อยูเ่ สมอ...” เมื่อนางสอิ้งท�ำหน้าท่ีผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการโรงเรียนได้ท�ำงานร่วมกับคณะครูอย่าง สร้างสรรค์ โดยเน้นความเสียสละ มุ่งพัฒนานักเรียนและโรงเรียน นอกจากพัฒนางาน ด้านวิชาการแล้ว ยังคงจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรท่ีนักเรียนสนใจอย่างต่อเน่ือง เช่น จัดการแสดงละครของโรงเรียนในโอกาสต่าง ๆ และพัฒนาการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมท่ี กระตุน้ ความสนใจ ท้าทายความสามารถของนักเรยี นอยูเ่ สมอ เป็นการสรา้ งประสบการณ์ อันมีค่าให้แก่ศิษย์โรงเรียนดัดดรุณี นักเรียนในโรงเรียนจึงมีความรู้และประสบการณ์ หลากหลาย มคี ณุ ธรรม รรู้ กั สามคั คี มคี วามผกู พนั ตอ่ เพอ่ื น รกั โรงเรยี น มคี วามกตญั ญกู ตเวที ต่อผู้มีพระคุณ และพร้อมท่ีจะท�ำความดีเพื่อตนเองและโรงเรียน อีกทั้งเต็มใจช่วยเหลือ งานต่าง ๆ ของชุมชนด้วยความเสียสละ ท�ำให้โรงเรียนเป็นท่ีเชื่อถือของชุมชนและสังคม ก่อนเกษียณอายุราชการ นางสอิ้งได้รับคัดเลือกจากมูลนิธิเปสตาลอสซี่ ใน พ.ศ. ๒๕๒๖ 44 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

ให้เป็นผู้ปฏิบัติหน้าท่ีแม่บ้านเยาวชนไทยในประเทศอังกฤษ เป็นเวลา ๓ เดือน โดยคาดหวังว่า เมื่อนางสอ้ิงเกษียณอายุราชการแล้ว จะยินดีรับหน้าท่ีน้ีในระยะยาว ต่อไป แต่นางสอิ้งตัดสินใจปฏิเสธ ด้วยมีความผูกพันต่อแผ่นดินไทย และตั้งใจจะท�ำ ประโยชนใ์ หก้ บั จงั หวัดฉะเชงิ เทรา หลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว นางสอิ้งยังคงไปช่วยงานที่โรงเรียนดัดดรุณี โดยไม่รับค่าตอบแทน และไปช่วยงานบริหารโรงเรียนเอกชนตามค�ำเชิญของลูกศิษย์ ผู้เป็นเจ้าของโรงเรียนอยู่ระยะหนึ่ง ด้วยความที่นางสอ้ิงเป็นผู้มั่นคงในพระพุทธศาสนา คุณธรรมจริยธรรม รักในศิลปวัฒนธรรมไทย และรักความเป็นไทย จึงอุทิศตนท�ำงาน เพ่ือท้องถ่ิน โดยจัดตั้งและร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชนและจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมทั้ง บ�ำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมตามโอกาส เช่น จัดและก�ำกับการแสดงละครบทประพันธ์ ของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ เร่ืองอานุภาพแห่งความเสียสละ ที่หอประชุมโรงเรียน ดดั ดรุณี ใน พ.ศ. ๒๕๓๑ จัดแสดงละครเร่ือง อานภุ าพแห่งศีลสตั ย์ ท่ีหอประชมุ สถาบัน ราชภัฏราชนครินทร์ (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์) ใน พ.ศ. ๒๕๔๐ ละครท้ังสองเร่ืองมีรัฐมนตรีซ่ึงเป็นคนในจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นผู้แสดงน�ำ ได้ออกอากาศ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก และน�ำรายได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพ่ือ มูลนิธิชัยพัฒนาในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเจรญิ พระชนมายุครบ ๕ รอบ และโอกาสปีกาญจนาภเิ ษก ตามลำ� ดบั ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 45

นางสอ้ิงเป็นบุคคลที่คนในจังหวัดฉะเชิงเทรายอมรับนับถือและยกย่องให้ด�ำรง ต�ำแหน่งส�ำคัญของจังหวัด เช่น นายกดัดดรุณีสมาคม นายกพุทธสมาคม ประธานสภา วัฒนธรรมอ�ำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ประธานกรรมการแม่บ้านสตรีอ�ำเภอเมืองฉะเชิงเทรา รองประธานสภาวฒั นธรรมจังหวดั ฉะเชงิ เทรา กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนส�ำหรับ สถานพนิ จิ และคมุ้ ครองเดก็ และเยาวชนจงั หวดั ฉะเชงิ เทรา เปน็ ตน้ นางสอง้ิ ไดร้ เิ รมิ่ โครงการ และกิจกรรมเพื่อประโยชน์ต่อสังคม ได้แก่ โครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและ ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา มีกิจกรรมปลูกฝังให้เยาวชน ยึดมั่นในพระพุทธศาสนา อยู่ในศีลธรรมอันดี เป็นการป้องกันมิให้เกิดปัญหาสังคมใน หมู่วัยรุ่นของจังหวัดฉะเชิงเทรา และกิจกรรมคัดเลือกลูกกตัญญู จัดตั้งชมรมแม่ดีเด่น ฉะเชิงเทรา ชมรมผู้สูงอายุ ชมรมนาฏศิลป์พุทธรักษา จัดตั้งกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ อกี ทง้ั เปน็ ผนู้ ำ� ในการจดั งานของจงั หวดั เชน่ งานปยิ มหาราชรำ� ลกึ งานราตรบี วั ลอยไขห่ วาน งานส�ำรับคับคอ้ น งานมรดกไทยเทิดไทม้ หาราชา และงานแสดงละคร เปน็ ตน้ นอกจากนี้ นางสอง้ิ ยังเขียนคอลัมน์ “มมุ เดก็ ” ใหห้ นงั สอื พมิ พ์ท้องถน่ิ “ร้วิ ไทย” คอลมั น์ “จดหมาย จากสายจิต” ให้หนังสือพิมพ์ท้องถ่ิน “บางปะกง” และในบางโอกาสยังแต่งบทละคร บทรอ้ ยกรอง บทเพลง เพ่ือใช้ในกจิ กรรมตามที่องค์กรตา่ ง ๆ รอ้ งขออีกดว้ ย 46 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook