รับมาจากขอม สืบทอดจนถึง ชาวอยธุ ยาสว่ นใหญ่เดนิ ทางด้วยเรือ รบั มาจากเขมร รตั นโกสินทร์ ตอ่ เรือคลา้ ยสาเภาจนี รับมาจากอินเดยี ภมู ปิ ญั ญาการตอ่ เรือ ใช้ในการขายสนิ ค้า คลองสาโรง ภมู ิปัญญาดา้ นศลิ ปกรรม คลองลัด เกร็ดน้อย ภูมิปัญญาไทยในสมยั อยธุ ยา ภูมปิ ัญญา คลองลัด การขุดคลอง บางกอก การค้าขาย ภูมปิ ัญญาด้านการ ภูมิปัญญาดา้ นวรรณกรรม คลองลดั การทานา ประกอบอาชีพ เกรด็ ใหญ่ คลองลัดโพธ์ิ การทาประมง พงศาวดาร ลิลติ โองการ มหาชาติคา จนิ ดามณี คลองพระพุทธเจา้ หลวง กรุงศรอี ยธุ ยา แชง่ น้า หลวง
ภาพอทุ ยานราชภกั ด์ิ จังหวดั ประจวบคีรขี นั ธ์ แหล่งท่มี า https://www.lhm.co.th/2018/08/24/ สบื คนเม่อื 10 ก.ค. 62
พระมหากษตั ริยอ์ งคไ์ หนบ้าง ? ที่ทรงเป็นพระมหากษตั รยิ ส์ มัยอยธุ ยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภาพ อุทยานราชภกั ด์ิ จังหวัดประจวบครี ีขนั ธ์ โดย thaipublica แหลง่ ทมี่ าhttps://thaipublica.org/jabted_issue/ สืบค้นเมื่อวนั ท่ี 15/7/62
พระราชกรณียกจิ หรือวีรกรรม ของสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชทีน่ กั เรยี นรจู้ ักมอี ะไรบา้ ง สงครามยุทธหัตถกี บั พระมหาอปุ ราชแห่งกรงุ หงสาวดี ภาพ วนั สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช โดย brighttv แหล่งทม่ี าhttps://www.brighttv.co.th/bright-news/376917 สบื ค้นเมอ่ื วันท่ี 15/7/62
พระราชกรณียกจิ หรอื วรี กรรม ของสมเด็จพระนารายณม์ หาราช ที่นกั เรียนร้จู ักมีอะไรบา้ ง ทรงสนบั สนุนการคา้ ขายกับต่างประเทศ และทรง ส่งคณะราชทตู อยธุ ยาไปเจรญิ สมั พันธไมตรกี ับราชสานักฝรั่งเศส
บคุ คลสาคญั ในสมยั อยธุ ยา ภาพวดั ไชยวัฒนาราม.โดยsuchaya.t .แหลง่ ทม่ี าhttps://travel.mthai.com/blog/174016.html สบื ค้นเมื่อ 10 ก.ค.62
12 3 คาถาม : ภาพใดคือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คาตอบ :ภาพท่ี 3
12 3 คาถาม : ภาพใดคอื สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช คาตอบ :ภาพท่ี 1
สมเดจ็ พระรามาธบิ ดีท่ี 1 (สมเด็จพระเจา้ อ่ทู อง) - ทรงเปน็ ปฐมกษัตริยแ์ ห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงเป็นผูส้ ถาปนากรงุ ศรอี ยุธยาเป็นราชธานี เม่อื ปี พ.ศ. 1893 - เปน็ ผนู้ าเอารูปแบบการปกครองแบบ จตสุ ดมภ์จากเขมรมาปรบั ใชใ้ นการบริหาร ราชการแผน่ ดิน ทาให้การปกครองของ อาณาจกั รมีระบบแบบแผน) ภาพพระบรมราชานุสาวรียส์ มเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 (พระเจา้ อ่ทู อง)แหลง่ ท่มี าhttps://sites.google.com/site/pongsagorn45434/rachwngs/rachwngs-xuthxng.สืบค้นเมอ่ื 10 ก.ค.62
สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ - ทรงปฏริ ูปการปกครองครั้งสาคัญ ของกรุงศรีอยุธยา - ทรงต้งั อัครมหาเสนาบดี ๒ ตาแหน่ง คอื พระสมหุ กลาโหมและพระสมหุ นายก รวมทัง้ ระบบจตุสดมภ์ ภาพสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ.แหล่งที่มา http://www.idotravellers.com/index.php/ido-1-79/16-book/145-ido-59.สบื คน้ เม่อื 10 ก.ค.62
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช - การทาสงครามปอ้ งกันบา้ นเมืองตลอด พระชนมช์ พี ของพระองค์ เช่น การประกาศอสิ รภาพของกรงุ ศรีอยุธยา - การทาสงครามยุทธหตั ถีกับ พระมหาอุปราชแหง่ กรุงหงสาวดี ภาพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แหล่งทม่ี า https://hilight.kapook.com/view/101132.สืบคน้ เมือ่ 10 ก.ค.62
สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช - สนบั สนุนการคา้ และการสร้าง สมั พนั ธไมตรีกับต่างประเทศ - ทรงมนี โยบายทางการเมอื งและการทตู - ทรงพระปรชี าในดา้ นกวี และทรงส่งเสรมิ การกวี ภาพสมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช แหลง่ ที่มา https://king0085.blogspot.com/2018/12/blog-post_23.html.สืบคน้ เม่อื 10 ก.ค.62
ออกญาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) - ท่านไดท้ างานรับใชพ้ ระคลัง - ไดร้ บั ตาแหน่ง ขุนนางระดับสูงในสมัย สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช คอื เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ เปน็ ผู้ดแู ลการค้า - ช่วยสง่ เสริมความสมั พนั ธ์ระหว่าง อยธุ ยากับชาตติ ะวันตกโดยเฉพาะ ฝรั่งเศส ภาพออกญาวชิ าเยนทร์ (คอนสแตนตนิ ฟอลคอน) แหล่งทม่ี า. https://www.thaipost.net/main/detail/4309/?type=1&theater สืบค้นเมอ่ื 10 ก.ค.62
ออกญาโกษาธบิ ดี (ปาน) - ท่านเดินทางไปเจรญิ สมั พันธไมตรี กับ ราชสานกั ฝรัง่ เศส - ทาหน้าท่ีควบคมุ ดแู ลกรมคลังและ การคา้ ระหว่างประเทศ ภาพออกญาโกษาธบิ ดี (ปาน) โดยชมรมประวตั ิศาสตร์สยาม แหลง่ ทม่ี า.https://www.facebook.com/siamhistory/photos/a.435240936530190/456800624374221/?type=1&theater
เจา้ พระยาบวรราชนายก (เฉกอะหมดั ) - ท่านได้รบั การแต่งตงั้ ให้ดารงตาแหนง่ เจา้ กรมทา่ ขวา - ในสมยั สมเด็จพระเจา้ ปราสาททอง โปรดเกลา้ ฯ ใหท้ ่านผู้นด้ี ารงตาแหน่ง เจ้าพระยาบวรราชนายก - อกี ท้งั ทา่ นยงั เปน็ ตน้ สกุล บนุ นาค ภาพเจา้ พระยาบวรราชนายก (เฉกอะหมดั ) แหลง่ ท่มี า.https://th.wikipedia.org/wikiเจา้ พระยาบวรราชนายก (เฉกอะหมัด) สบื คน้ เม่ือ 10 ก.ค.62
กิจกรรม “เขาคือใครในสมยั อยุธยา” ภาพ วันสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช โดย winnews แหลง่ ท่มี าhttps://www.winnews.tv/news/7329สืบคน้ เมื่อวนั ที่ 15/7/62
บัตรภาพที่ 1 ตวั อยา่ งกจิ กรรม สมเดจ็ พระเจา้ อทู่ อง บัตรขอ้ ความที่ 3 ที่มา: https://www.thaitour.com/place/1547 คกู่ บั ผสู้ ถาปนากรงุ ศรอี ยุธยาเปน็ ราชธานเี มือ่ ปพี .ศ. 1893 และดารงอยู่ไดอ้ ยา่ งยัง่ ยนื เปน็ เวลานาน ถงึ 417 ปี และเปน็ ผนู้ าเอารูปแบบการปกครอง แบบจตุสดมภ์จากเขมรมาปรับใช้ในการบริหาร ราชการแผน่ ดนิ ทาใหก้ ารปกครองของอาณาจกั ร มรี ะบบแบบแผน
บตั รภาพที่ 1 เฉลยกิจกรรม สมเดจ็ พระเจ้าอ่ทู อง บัตรข้อความท่ี 3 ที่มา: https://www.thaitour.com/place/1547 คู่กบั ผู้สถาปนากรงุ ศรอี ยธุ ยาเป็นราชธานเี มอื่ ปพี .ศ. 1893 และดารงอยู่ไดอ้ ย่างยงั่ ยนื เปน็ เวลานาน ถึง 417 ปี และเปน็ ผ้นู าเอารูปแบบการปกครอง แบบจตสุ ดมภ์จากเขมรมาปรบั ใช้ในการบรหิ าร ราชการแผ่นดินทาใหก้ ารปกครองของอาณาจกั ร มรี ะบบแบบแผน
บัตรภาพท่ี 2 บตั รข้อความท่ี 6 สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ ค่กู ับ พระมหากษัตริยผ์ ทู้ รงปฏิรูปการปกครองครงั้ สาคัญ ของกรงุ ศรีอยธุ ยา ซ่งึ ได้กลายเปน็ รากฐานของ ทีม่ า: https://sites.google.com/site/ thdlxngkheiynwep/ การปกครองบ้านเมืองในเวลาตอ่ มา ทรงตัง้ อัคร มหาเสนาบดี 2 ตาแหนง่ คอื พระสมุหกลาโหม ทาหนา้ ที่ดแู ลกิจการฝา่ ยทหารทัว่ ราชอาณาจักร และพระสมุหนายก ทาหน้าที่ดูแลฝ่ายพลเรอื น ท่ัวราชอาณาจักร รวมทั้งจตุสดมภ์อีกดว้ ย
บตั รภาพท่ี 3 บตั รข้อความที่ 7 คู่กับ พระมหากษัตริย์ผทู้ รงมีพระราชกรณยี กิจต่อ บ้านเมอื งในการทาสงครามปอ้ งกันราชอาณาจกั ร ตลอดพระชนมช์ ีพของพระองค์ เช่น การประกาศ อิสรภาพของกรุงศรีอยธุ ยาไม่ข้ึนกับกรงุ หงสาวดี ทเี่ มืองแครง เมือ่ พ.ศ. 2127 และการทาสงคราม สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ยทุ ธหัตถีกับพระมหาอปุ ราชแห่งกรงุ หงสาวดี เมือ่ พ.ศ. 2135 ทม่ี า: http://hongpakraiwan.blogspot.com /2011/04/blog-post_30.html
บัตรภาพที่ 4 บตั รข้อความท่ี 5 สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช คู่กับ พระมหากษัตริย์ผทู้ รงสนบั สนนุ การค้าและ การสรา้ งสัมพนั ธไมตรีกบั ต่างประเทศ ทรงส่งคณะ ทมี่ า: https://www.lhm.co.th ราชทูตอยธุ ยาไปเจรญิ สมั พนั ธไมตรีกับฝร่งั เศส ในสมัยพระเจา้ หลยุ สท์ ี่ 14 ทรงมนี โยบายทาง การเมอื งและการทูตที่แยบยล เช่นทรงใช้ฝรั่งเศส มาถ่วงดลุ อานาจกับฮอลันดาซง่ึ กาลงั ขยาย อทิ ธิพลเขา้ มาคุกคามกรงุ ศรีอยุธยาอยูใ่ นขณะนนั้
บตั รภาพท่ี 5 บัตรขอ้ ความที่ 1 คกู่ ับ ผู้เป็นหัวหนา้ คณะราชทตู แห่งกรงุ ศรีอยุธยา เดินทางไปเจริญสมั พันธไมตรีกับราชสานกั ฝรงั่ เศส เมอื่ ปี พ.ศ. 2229 โดยนาพระราชสาสน์ ของสมเดจ็ พระนารายณ์มหาราชไปถวาย พระเจ้าหลยุ สท์ ี่ 14 ออกญาโกษาธิบดี (ปาน) ทมี่ า:https://www.silpamag.com/culture/arti cle_15888
บัตรภาพท่ี 6 บัตรขอ้ ความที่ 4 คู่กับ ขุนนางชาวตา่ งชาติ ผทู้ าหน้าทดี่ ูแลการค้า ให้ กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนับไดว้ ่าเป็น ชาวตะวันตกทข่ี ้นึ สตู่ าแหน่งขนุ นางระดับสงู ของราช สานักอยุธยาไดใ้ นเวลาอนั รวดเร็วตอนหลงั เขาได้ วางแผนขอกองกาลังจากฝรง่ั เศสมาประจาอยู่ ออกญาวชิ าเยนทร์ ในกรงุ ศรอี ยธุ ยาเพ่ือเปน็ ฐานอานาจใหแ้ กต่ นเอง (คอนสแตนติน ฟอลคอน) พฤตกิ รรมอนั มิชอบทาให้เขาถกู พระเพทราชาและ ที่มา:https://www.thaipost.net/main/d ขุนหลวงสรศกั ดิ์กาจัดอิทธพิ ลทางการเมืองไดใ้ น etail/4309 ปี พ.ศ. 2231
บตั รภาพที่ 7 บัตรข้อความที่ 2 เฉกอะหมัด คกู่ ับ พ่อคา้ ชาวเปอรเ์ ซียผเู้ ป็นหวั หนา้ กลมุ่ แขกมัวร์ ต่อมาในสมยั สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ทีม่ า:https://www.skthai.org/th/pag es/6794 ทา่ นไดร้ บั การแตง่ ต้ังให้ดารงตาแหนง่ เจา้ กรมท่า ขวา ต่อมาในสมัยสมเดจ็ พระเจา้ ปราสาททอง โปรดเกล้าฯ ให้ทา่ นผนู้ ด้ี ารงตาแหน่ง เจ้าพระยาบวรราชนายก จางวางกรมมหาดไทย อีกท้งั ทา่ นยังเป็นตน้ สกลุ บนุ นาค ซง่ึ เป็นสกุล เกา่ แกแ่ ละมบี ทบาทตอ่ การเมอื งการปกครองไทย
สรปุ กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ รือ่ งบุคคลสาคญั ในสมยั อยุธยา บุคคลสาคัญในสมัยอยธุ ยา มีท้ังพระมหากษตั รยิ ์ เจ้านาย ขนุ นาง และชาวตา่ งชาติ บคุ คลเหล่านล้ี ว้ นชว่ ยสรา้ งสรรค์ ผลงานอนั เปน็ คุณประโยชนต์ ่อสภาพการเมอื ง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม ในสมยั อยุธยาและเปน็ แบบอยา่ งให้แก่ อนชุ นรุ่นหลงั สืบตอ่ มาจนถึงปัจจุบันน้ี
รายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ เรื่อง ความสมั พันธร์ ะหว่าง เศรษฐกจิ กบั สังคมสมยั อยธุ ยา รหัสวิชา ส 22102ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ผสู้ อน ครนู ติ ยา จวบรมั ย์
ทบทวนสภาพเศรษฐกจิ อยธุ ยา ใบตารางแสดงรายการสินคา้ ของบริษทั อนิ เดียตะวนั ออกของฮอลันดา จากสานักงานที่กรงุ ศรอี ยุธยาสง่ ไปญี่ปุน่ ในแต่ละปีโดยเฉลี่ย ระหวา่ งปี ค.ศ. 1633-1663 และ 1664-1694 ภาพสงั คมสมยั อยธุ ยา สบื คน้ https://www.ch3thailand.com/news/drama/11100สืบค้นเมอ่ื 1 กรกฏาคม 2562
รายการสนิ ค้า ปริมาณส่งออกตอ่ ปี ปริมาณสง่ ออกตอ่ ปี ระหวา่ งปี ค.ศ. ๑๖๓๓-๑๖๖๓ ระหวา่ งปี ค.ศ. ๑๖๖๔-๑๖๙๔ หนงั กวาง ไม้ฝาง ๑,๙๗๐,๑๒๔ ผนื ๑,๔๕๓,๐๐๐ ผืน หนงั ปลากระเบน ๗๘,๓๔๓ หาบ ๑๗,๘๓๙ หาบ ครัง่ ๔๖๔,๑๒๖ ผนื หนงั วัวและหนงั ควาย ๓,๑๖๓ หาบ ๕๐๐ ผนื ไม้กฤษณา ๑๑๖,๐๐๕ ผืน ๑๘๑ หาบ ดีบกุ ๘,๓๕๓ แคทที (catty) ๑๑๖,๐๐๐ ผนื งาช้าง ๐ แคทที (catty) ขผี้ ้ึง ๓๐๗ หาบ ๐ หาบ เขาวัว เขาควาย ๓๐๙ หาบ ๑๐๐ หาบ อน่ื ๆ ๒๐๗ หาบ ๗๙ หาบ ๗๙,๗๐๐ เขา ๘๐๘ เขา เลก็ น้อย ๐
[1] มีหลายชนิด ใช้ทาเครอื่ งหนังและเสอ้ื หนงั ถุงมือ รวมท้ังทาซองปนื หนงั กวางเนอื้ ออ่ นใชเ้ ช็ดเลนส์ ราคาหนงั กวางซอ้ื ทกี่ รงุ ศรอี ยุธยาผนื ใหญ่ 100 ผนื ต่อ 5-6 ช่ัง หรือ 7-8 ชง่ั เม่ือเป็นท่ีตอ้ งการมาก สว่ นหนังกวาง 3 ชนดิ คละกนั คือ 100 ผืน ต่อ 3-4 ช่ัง เม่ือเปน็ ท่ีตอ้ งการมาก [2] 1 หาบ เท่ากับ 60 กโิ ลกรัม
[3] ใชห้ ุ้มด้ามดาบเพือ่ กันลนื่ หนงั ปลาฉลามกใ็ ชด้ ้วยวัตถุประสงค์ เดียวกัน [4] 1 แคทที เป็นหน่วยน้าหนักทช่ี าวจีนนาเขา้ มาในคาบสมุทรมลายู 1 แคทที เทา่ กบั 625 กรัม อย่างไรก็ดี แตล่ ะเมืองอาจเรยี กหนว่ ย เดียวกันแตม่ ีน้าหนกั ไมเ่ ทา่ กนั กไ็ ด้ [5] รวม หญ้าฝรัน่ น้าตาลดิบ ตะก่วั ยางไม้ หมาก นอแรด ผลไมเ้ ปลือกแข็ง
ทีม่ าตาราง: George Vinal Smith, The Dutch in Seventeenth- Century Thailand, p.80. อ้างถึงใน วรางคณา นิพทั ธส์ ุขกจิ . กลุ่มคนที่สมั พันธก์ ับการคา้ ใน สังคมอยุธยา พ.ศ.2172-2310. วิทยานิพนธ์ปรญิ ญาดุษฎีบัณฑติ ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ,2548.
สังคมสมัยอยธุ ยา ภาพสังคมสมยั อยุธยา สบื ค้นจาก https://sites.google.com/site/tn201313/xanacakr-xyuthya/neuxha-xyuthya/sphaph-sangkhm-thiy-smay-krung- srixyuthyal สบื ค้นเมือ่ 23 มถิ นุ ายน 2562
โครงสร้างทางสังคมสมยั อยธุ ยา ชนช้ันปกครอง พระมหากษัตรยิ ์ ชนชัน้ พิเศษ ชนชนั้ ใต้ปกครอง พระบรมวงศานวุ งศ์ ภิกษุสงฆ์ ขนุ นาง ชาวต่างชาติ ไพร่ ทาส
ความสมั พันธ์ระหว่าง เศรษฐกจิ กับสังคมสมัยอยธุ ยา ภาพสงั คมสมัยอยุธยา สบื ค้นจาก https://www.kasetyomyao.com/posts/ การเกษตรและ การคา้ สมัย กรงุ ศรอี ยธุ ยาเปน็ อยา่ งไรมาอ่านกันสืบคน้ เมื่อ 1 กรกฏาคม 2562
หลกั ฐานชิ้นท่ี 1 “กรมพระคลังสนิ ค้าเปน็ วงงานหนง่ึ ภายใต้กรมพระคลัง ซง่ึ ควบคมุ โดย พระศรีพพิ ัฒน์รัตนโกษา เป็นเจ้ากรม ถอื ศกั ดนิ า 3000 และเป็น ผูใ้ ชต้ ราเทพยดุ าถอื พระขรรค์นง่ั แท่นกบั ตราคนถอื คันช่งั ซึง่ มีอานาจ ในการใช้ไปจดั ซ้อื ฝางและสินคา้ ณ หวั เมืองปากใตฝ้ ่ายเหนือ แลเมอื งเลกทง้ั ปวงกบั ใชไ้ ปเบิกสนิ คา้ และส่ิงของในกรงุ ” ท่ีมา: ราชบณั ฑติ ยสถาน, กฎหมายตราสามดวง ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน เลม่ 1, หน้า117.
หลกั ฐานชิ้นท่ี 2 “...ไพร่ท้องหม่เู ขา้ เดอื นออกเดอื นทาราชการทุกวันนี้ ไดค้ วามยากกวา่ ไพร่ส่วยทงั ปวงเป็นหลายเทา่ ด้วยไพรข่ ้าส่วยดบิ กุ นน้ั ถา้ แลมไิ ดเ้ อาดบี กุ มาส่งตอ้ งเสยี เงินแทน สกรรสิบบาทเลวทาสห้าบาท ไพรห่ มตู่ ะพนุ่ น้นั ถ้า มไิ ด้เกย่ี วหญ้าให้ช้าง ต้องเสยี เงนิ คา่ หญา้ สกรรเก้าบาทเกล้ียกลอ่ มคนละ หกบาท เลวทาสคนละตาลึงสองสลงึ ...” ท่ีมา: ประมวลกฎหมาย รชั กาลท่ี 1 จุลศกั ราช 1166เล่ม 3,หนา้ 266
กฎหมายตราสามดวง สงิ่ ท่สี ะท้อนความเปน็ มาทางประวตั ิศาสตร์ ทงั้ ทางดา้ นการเมอื ง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม และวฒั นธรรมของไทย ในสมัยอยธุ ยา กฎหมายไทยไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากวฒั นธรรมอินเดีย โดยผ่านมาทางมอญ คือ \"คัมภีร์พระธรรมศาสตร\"์
กจิ กรรมตอบคาถาม ลงสมุด
หลกั ฐานชิ้นท่ี 1 “กรมพระคลังสนิ ค้าเปน็ วงงานหนง่ึ ภายใต้กรมพระคลัง ซง่ึ ควบคมุ โดย พระศรีพพิ ัฒน์รัตนโกษา เป็นเจ้ากรม ถอื ศกั ดนิ า 3000 และเป็น ผูใ้ ชต้ ราเทพยดุ าถอื พระขรรค์นง่ั แท่นกบั ตราคนถอื คันช่งั ซึง่ มีอานาจ ในการใช้ไปจดั ซ้อื ฝางและสินคา้ ณ หวั เมืองปากใตฝ้ ่ายเหนือ แลเมอื งเลกทง้ั ปวงกบั ใชไ้ ปเบิกสนิ คา้ และส่ิงของในกรงุ ” ท่ีมา: ราชบณั ฑติ ยสถาน, กฎหมายตราสามดวง ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน เลม่ 1, หน้า117.
ให้นักเรียนตอบคาถามจากหลกั ฐานชน้ิ ท่ี 1 ลงสมดุ 1. แหลง่ ทม่ี า ตามความสาคญั 2. ชว่ งเวลาของหลกั ฐาน ตามการบนั ทึก 3. ประเภทของหลกั ฐาน 4. สาระสาคัญของหลกั ฐาน
หลักฐานชนิ้ ท่ี 2 “...ไพรท่ อ้ งหมู่เข้าเดือนออกเดอื นทาราชการทกุ วนั นี้ ไดค้ วามยากกวา่ ไพร่ส่วยทังปวงเป็นหลายเท่า ด้วยไพรข่ า้ สว่ ยดบิ ุกนัน้ ถา้ แลมไิ ดเ้ อาดบี ุก มาสง่ ตอ้ งเสยี เงนิ แทน สกรรสิบบาทเลวทาสหา้ บาท ไพรห่ มตู่ ะพนุ่ น้นั ถ้า มิได้เก่ยี วหญา้ ให้ช้าง ต้องเสยี เงินค่าหญ้า สกรรเกา้ บาทเกล้ียกล่อมคนละ หกบาท เลวทาสคนละตาลึงสองสลึง...” ที่มา: ประมวลกฎหมาย รชั กาลท่ี 1 จุลศกั ราช 1166 เลม่ 3,หน้า266
ให้นักเรียนตอบคาถามจากหลกั ฐานชน้ิ ท่ี 2 ลงสมดุ 1. แหลง่ ทม่ี า ตามความสาคญั 2. ชว่ งเวลาของหลกั ฐาน ตามการบนั ทึก 3. ประเภทของหลกั ฐาน 4. สาระสาคัญของหลกั ฐาน
ความสมั พันธ์ระหวา่ งหลกั ฐานชิ้นท่ี 1 กับ หลักฐานชนิ้ ที่ 2 - สังคมสมยั กรุงศรอี ยธุ ยาเปน็ สงั คมระบบศกั ดนิ า กล่มุ บุคคลชนชั้น ต่าง ๆในสังคมอยธุ ยาจะมสี ถานภาพ และบทบาทแตกตา่ งกนั ออกไป ตามลาดับศกั ดนิ าของตนเอง - ผู้ที่มศี ักดินาสงู ก็ยิง่ มีอานาจ หน้าที่ และ ความรับผิดชอบมากตามไป ดว้ ยและยังแสดงใหเ้ หน็ ถึงความสัมพนั ธ์ระหว่างเศรษฐกิจ - กบั สงั คมสมัยอยธุ ยา
1. ชนชั้นขุนนางจะเปน็ ผูท้ าหน้าทชี่ ว่ ยเหลอื พระมหากษัตรยิ ์ ในการบรหิ ารบ้านเมืองตามกรมกองต่าง ๆ 2. ชนชั้นไพร่ เป็นชนช้นั สามัญชนในสงั คมทั้งชาย และหญงิ ไพร่ทกุ คนต้องขน้ึ สังกัดมูลนายตามกรม กองตา่ ง ๆ
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเศรษฐกจิ กับสงั คมในสมยั อยุธยา มลี ักษณะเป็นอยา่ งไร
สงั คมสมัยอยุธยาเปน็ สงั คมระบบศกั ดนิ า ชนช้นั ปกครอง พระมหากษัตริย์ ชนชั้นพเิ ศษ ชนช้นั ใต้ปกครอง พระบรมวงศานวุ งศ์ ภิกษสุ งฆ์ ขนุ นาง ชาวต่างชาติ ไพร่ ทาส
ไพร่ส่วยเป็นชนชัน้ ท่ชี ีใ้ หเ้ หน็ ถงึ การเปลย่ี นแปลง ทางเศรษฐกิจของกรงุ ศรีอยธุ ยาอย่างไร ไพร่สว่ ยเปน็ ไพรท่ เ่ี กดิ ข้ึนมาพรอ้ มกบั การเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ และความต้องการสว่ ยสินค้า ในชว่ งสมยั อยุธยาตอนปลายที่มากข้นึ เพื่อนาไปส่งขายตอ่ ใหก้ ับพ่อค้า เพ่ือสร้างรายไดใ้ หก้ บั รัฐ และมลู นาย
ระบบศักดินามคี วามสาคญั ต่อความเจรญิ ทางเศรษฐกิจ ของกรุงศรอี ยุธยาอย่างไรบา้ ง ระบบศักดนิ า เป็นระบบทก่ี าหนดสทิ ธิและหนา้ ทขี่ องบุคคลในสังคม สมยั อยุธยา ระบบศกั ดนิ ามีความสาคัญต่อระบบเศรษฐกจิ อยุธยา
สรปุ กิจกรรมการเรยี นรู้เร่อื งสภาพเศรษฐกจิ และสงั คม ในสมัยอยุธยา สงั คมสมยั อยุธยาเปน็ สงั คมระบบศักดนิ า โดยมีกล่มุ ชนช้นั ปกครอง ชนชั้นใต้การปกครอง ชนชนั้ พิเศษ กล่มุ บคุ คลแต่ละชนชั้นต่างมี ส่วนสาคญั ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกรุงศรอี ยธุ ยา ให้มีความเจรญิ รงุ่ เรือง
รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ เรื่อง ความสัมพันธ์ของ อยธุ ยากบั ชาตติ ะวันตก รหัสวชิ า ส 22102ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ผู้สอน ครูนติ ยา จวบรมั ย์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268