ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 23 เพลง ต้องเชญิ แลว้ หนา (บัวตูมบัวบาน) เชญิ เชญิ มาฟงั บรรยายแสนสบายไดค้ วามรมู้ หี ลายตํารามาชใู หด้ ูใหท้ าํ กิจกรรมจะมวั ระกาํ อยู่ ไย * ต้องเชญิ แลว้ หนาเวลาน้อยอยา่ ให้รอคอยระห้อยคอยหาแสนเสียดายหากหมดเวลาเพราะ มัวชักชา้ ไมไ่ ดต้ ําราไปครอง หมูุ่..มาหรอื ยังหากแมน้ ได้ฟงั เสยี งเพลงน้ีจงเรง่ เถิดนะคนดมี คี นเขาคอยอย่มู ากมายมาหมู่ สุดท้ายนา่ อายจัง เพลง ภมู แิ ผ่นดิน นวมนิ ทร์มหาราชา บุญของแผน่ ดนิ ไทย พอ่ หลวงบนั ดาลให้ ทีใ่ นยุ้งฉางมขี า้ ว นํ้ารนิ ดนิ ดใี ครเลา่ ทกุ ขใ์ ดเหนิ ไปบรรเทา ดว้ ยพระบาท เกือบศตวรรษ ธ นาํ ไทยท้ังชาติ พ้นภัย แผ่นดนิ ถ่นิ เมอื งทอง ผ่านพ้นโพยภัยเนืองนอง พระทรงคมุ้ ครองไทยไว้ ธ เปน็ พลงั แผ่นดนิ สมานพลงั ชีวนิ ของชนชาวไทย อุ่นใจไพรฟ่ าฺ พระบุญญาเกรกิ ไกร ภมู ิพลมหาราชา อ้าองคส์ ุรยิ ศ์ รี มธี รรมสอ่ ง ปกครองอย่างทรงพระเมตตา ดุจบิดรเหลา่ ประชา ทุกขร์ อ้ นใดใดกรายมา โอ้ฟฺาเป็นด่ังฝนดับไฟ ภมู ิใจไทย ร่วมรอ้ ยหวั ใจรว่ มใฝูร่วมหวัง ภูมพิ ลงั แผน่ ดินถน่ิ นยี้ ่ิงใหญ่ ภูมปิ ระวัติ ประชาชาตภิ มู ไิ ผท ภาคภูมิประชาชยั ภมู ิพลังแผน่ ดนิ เทดิ ไท้ นบนอ้ มเทิดทนู ธ เหนอื เกลา้ สราญนานเนา หทยั สขุ ลํา้ สมจินต์ เพรศิ แพร้วพิพฒั น์ เภทภยั พา่ ยแพ้สน้ิ นวมนิ ทร์มหาราชา ภมู ิพล 1ค9ู่ม2ือส่งเสรชคมิ ู่มน้ั แอืมลกธั ะายพรมจฒั ศดั ึกนกษาิจากกปิจรีทกรม่ีร2รลมูกเลสูกือเเสสอืริมทสักรษ้าะงชทีวักติ ษใะนชสวี ถติ าปนระศเกึภษทาลกู ลเกูสเอื สสอื าสมาญั มรัญุ่นรใหนุ่ ญให่ เญค่รชื่อั้นงหมมธั ายยมลศกู ึกเสษือาชป้นั ที พ่ี 2เิ ศษ 199
ใบความรู้ เรอ่ื ง โครงการอันเน่อื งมาจากพระราชดาริ ด้วยความท่พี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงห่วงใยในทกุ ข์สขุ ของพสกนกิ รชาวไทย ทําให้ พวกเราชาวไทยได้เหน็ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ ัว รัชกาลที่ 9 พระองคไ์ ด้เสดจ็ ฯ ไปเยีย่ มเยยี น ราษฎรในพ้ืนท่ีตา่ งๆ อย่เู สมอ โดยเฉพาะในพน้ื ที่ยากจน หา่ งไกล และทรุ กนั ดาร ซึง่ พระองคจ์ ะทรง ใช้เวลาประทับอยู่ตามเขตภูมภิ าคมากกวา่ ในกรงุ เทพฯ ทั้งน้ี เพราะพระองคท์ รงมพี ระราชประสงค์ท่ี จะหาขอ้ มูลท่แี ทจ้ ริงจากผู้ทอี่ ย่ใู นพนื้ ท่ี เกีย่ วกับปญั หาต่างๆ ในแต่ละภมู ภิ าค นอกจากนี้ พระองค์ ยังทรงสังเกตการณ์ และสํารวจสภาพทางภูมิศาสตรไ์ ปพรอ้ มๆ กัน เพ่ือจะไดร้ วบรวมขอ้ มลู ทัง้ หมดไว้ สําหรบั การพระราชทานแนวทางเพอ่ื การดําเนนิ งานโครงการตามพระราชดาํ ริต่อไป พระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวภมู พิ ลอดลุ ยเดช ไดพ้ ระราชทานแก่ ปวงราษฎรไทยท้งั หลายในระยะตน้ แห่งการเสด็จขน้ึ เถลิงถวัลยราชสมบตั ินัน้ เป็นพระราชดาํ รดิ ้าน การแพทย์และงานสังคมสงเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ เพราะในชว่ งเวลาดงั กลา่ ว กิจการด้านการแพทย์ ของไทยยงั ไมเ่ จริญกา้ วหน้าเทา่ ทคี่ วร อกี ทั้งการบรกิ ารสาธารณสุขในชนบท กย็ งั มไิ ดแ้ พรห่ ลาย พระราชกรณยี กจิ ในระยะช่วงแรก ช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๙๓ - ๒๕๐๕ จะเป็นการชว่ ยเหลอื เฉพาะ หนา้ ยังไมไ่ ด้เป็นโครงการเตม็ รปู แบบอย่างในปจั จุบัน พระราชดํารเิ ร่ิมแรกทเ่ี ปน็ โครงการชว่ ยเหลือประชาชนเริม่ ข้นึ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ทรงพระ กรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้กรมประมงนําพันธ์ปุ ลาหมอเทศจากปีนงั ซง่ึ ไดร้ ับจากผู้เชย่ี วชาญด้านการ ประมงขององคก์ ารอาหาร และการเกษตร แหง่ สหประชาชาติ เข้าไปเลีย้ งในสระนา้ํ ของพระทน่ี ่ัง อมั พรสถาน และเมอื่ วันท่ี ๗ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๙๖ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานพนั ธุ์ ปลาหมอเทศนแ้ี กก่ าํ นนั ผใู้ หญบ่ า้ นทัว่ ประเทศ เพื่อจะได้นําไปเลีย้ งเผยแพร่ขยายพนั ธ์ุแก่ราษฎรใน หมู่บา้ นของตน เพอื่ จะไดม้ ีอาหารโปรตีนเพม่ิ ขน้ึ โครงการพระราชดาํ รทิ นี่ บั ได้ว่าเป็นโครงการพัฒนาชนบทโครงการแรก เกดิ ขนึ้ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ โดยพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ พระราชทานรถบลู โดเซอร์ ให้ หนว่ ยตํารวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร ไปสรา้ งถนนเข้า ไปยงั บ้านห้วยมงคล ตาํ บลหนิ เหลก็ ไฟ อาํ เภอหวั หนิ จงั หวัดประจวบคีรขี นั ธ์ เพื่อใหร้ าษฎรสามารถสญั จรไปมา และนําผลผลติ ออกมา จําหน่ายยังชุมชนภายนอกได้สะดวกขนึ้ การดาํ เนินงานโครงการอนั เนือ่ งมาจากพระราชดําริ ให้เปน็ ไปตามแนวพระราชดาํ ริ และบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ มีหลกั การสําคญั ดงั นี้ 1. การแก้ปญั หาเฉพาะหนา้ โครงการของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มุ่งชว่ ยเหลือ แกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ทรี่ าษฎร กําลงั ประสบอย่ใู นขณะนน้ั ซึ่งเปน็ การแก้ไขอยา่ งรบี ดว่ น เชน่ กรณเี ขตพืน้ ทอ่ี ําเภอ ละหานทราย จังหวัดบรุ ีรัมย์ ซงึ่ เป็นเขตติดต่อกบั ประเทศกมั พชู าและเปน็ พนื้ ทย่ี ากจนในเขตอทิ ธิพลของ ผกู้ ่อการรา้ ยคอมมวิ นิสต์ ทข่ี บวนการพัฒนาของ รัฐยังเขา้ ไปไม่ถงึ ในช่วงระยะเวลานน้ั ภายหลงั จาก 200 คคมู่ มู่ อื ือสก่งาเรสจรัดมิ กแจิ ลกะรพรมัฒลนกู าเสกือิจเกสรรริมมสลรา้กู งเทสักือษทะกั ชษวี ะติ ชปีวริตะใเภนทสลถกูาเนสศือกึสษามาัญลรูกุน่ เใสหือญส่าเมคัญรื่อรงุน่ หใมหาญยล่ ชกู ั้นเสมือธั ชย้นั มพศเิ ศึกษษาปีท่ี 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 193
มีโครงการอันเนอื่ งมาจากพระราชดําริ เขา้ ไปดาํ เนนิ การแลว้ ปัญหาความม่ันคงทเี่ คยมีอยกู่ ล็ ดนอ้ ย ถอยลง และหมดสิ้นไปในท่สี ุด แมก้ ระท่ังปจั จุบัน โครงการท่ีแก้ปญั หาเฉพาะหน้า และจะมีผลระยะ ยาวตอ่ ไปคอื การแก้ไขปัญหาจราจร และการปฺองกนั น�้ำาํ ท่วมในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นตน้ 2. การพฒั นาตอ้ งเปน็ ไปตามขน้ั ตอน พระองคท์ รงเนน้ การพฒั นาที่สรา้ งความเข้มแขง็ ให้ชมุ ชน ในลกั ษณะของการพ่งึ ตนเอง โดย ทรงมีพระราชประสงคท์ ี่จะช่วยเหลอื ราษฎรตามความจําเป็นและเหมาะสมกบั สถานภาพ เมอื่ ราษฎร สามารถพงึ่ ตนเองได้ ก็จะสามารถออกมาส่สู ังคมภายนอกอย่างไม่ลาํ บาก 3. การพึ่งตนเอง เมื่อแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ไดแ้ ล้ว ก็จะเปน็ การพัฒนาเพอื่ ใหป้ ระชาชนอยู่ในสงั คมไดต้ าม สภาพ ในลักษณะของการพึง่ ตนเอง ตวั อยา่ งโครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดํารทิ เ่ี นน้ หลกั \"การพ่งึ ตนเอง\" เพือ่ พัฒนาแก้ไข ปัญหาความยากจนของราษฎร เชน่ โครงการธนาคารขา้ ว โครงการ ธนาคารโค-กระบือ และโครงการพฒั นาที่ดนิ ตามพระราชประสงค์ \"หุบกระพง\" อําเภอชะอํา จงั หวดั เพชรบรุ ี ซึง่ ดําเนินการเพอ่ื ให้ประชาชนมที ่อี ยอู่ าศยั ทํากิน และรวมตัวกันในรปู ของกลมุ่ สหกรณ์ เพ่ือแก้ไขปัญหาของชมุ ชน และการทํามาหากินร่วมกัน เปน็ ตน้ นอกจากน้ัน โครงการ พฒั นาอันเน่อื งมาจากพระราชดําริ ในระยะหลังกล็ ว้ นแตเ่ พื่อใหป้ ระชาชนสามารถชว่ ยตวั เองได้ เพราะเปน็ โครงการท่ีสนบั สนุนใหป้ ระชาชนสามารถประกอบอาชีพให้ได้ผล และมปี ระสิทธภิ าพ เช่น การพัฒนาแหล่งน�ําเพื่อการเกษตร การให้การอบรมความรสู้ าขาตา่ ง ๆ ท้งั ด้านการเกษตร และ ศลิ ปาชพี พิเศษ เป็นตน้ 4. การสง่ เสรมิ ความรู้ และเทคนคิ วชิ าการสมยั ใหม่ท่เี หมาะสม ดว้ ยพระราชประสงค์ท่ีตอ้ งการใหร้ าษฎรได้รบั ในส่งิ ที่ขาดแคลน และต้องมตี ัวอยา่ งของ ความสําเร็จ จึงทรงพระราชทานพระราชดาํ รใิ หจ้ ดั ตง้ั ศูนย์ศกึ ษาการพฒั นาอนั เน่อื งมาจาก พระราชดาํ ริ ในทกุ ภมู ิภาคของประเทศ เพอ่ื ใชเ้ ป็นสถานทศ่ี กึ ษา ทดลอง วจิ ยั และแสวงหาความรู้ สมัยใหม่ทรี่ าษฎรรบั ได้ และนําไปดาํ เนินการเองได้ โดยต้องเป็นวิธกี ารทปี่ ระหยดั เหมาะสม และ สอดคลอ้ งกบั สภาพแวดล้อม 55.. การอนุรกั ษแ์ ละพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ จากการพัฒนาประเทศในช่วงท่ผี า่ นมา สง่ ผลใหท้ รัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรมลงโดยมิไดม้ ี การฟน้ื ฟูขนึ้ มา พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั จงึ ทรงสนพระราชหฤทัยในการอนุรกั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตเิ ป็นอย่างยงิ่ เพราะมผี ลโดยตรงตอ่ การพัฒนาการเพม่ิ ผลผลิตทางการเกษตร ของราษฎรในพ้นื ทีต่ า่ งๆ 66.. การสง่ เสริมและปรับปรุงคุณภาพส่ิงแวดล้อม จากการทโี่ ครงสร้างทางเศรษฐกจิ ของประเทศไดเ้ ปล่ียนไป สกู่ ารผลิตที่มภี าคอตุ สาหกรรม และบริการเป็นหลัก ทําใหส้ ังคมไทยเร่มิ เปลยี่ นจากสงั คมชนบท สคู่ วามเป็นสงั คมเมืองมากข้ึน ปญั หาทเี่ กดิ ตามมาคือปญั หาทางดา้ นความเสอื่ มโทรมของสภาพแวดล้อม พระบาทสมเด็จ 1ค9มู่ 4ือสง่ เสรชคิมู่มน้ั แอืมลกธั ะายพรมจัฒศดั กึนกษาจิ ากกปิจรีทกรม่ีร2รลมูกเลสูกือเเสสือริมทสกั รษ้าะงชทวี กั ิตษใะนชสวี ถติ าปนระศเกึภษทาลูกลเูกสเอื สสือาสมาัญมรัญุ่นรให่นุ ญให่ เญค่รชอ่ื ้นังหมมธั ายยมลศูกึกเสษอื าชปั้นีทพี่ 2ิเศษ 201
พเจรา้ ะอเจย้าหู่ อัวยหู่ทวัรงทมรพี งรมะีพรราะชรดาาํชรดิทำ�จ่ีระทิ แจ่ี กะไ้แขกปไ้ ขญั ปหญั าหโาดยโดเฉยพเฉาพะอาะยอา่ ยง่ายงิง่ ยใน่ิงใเนร่ือเรงอ่ื ขงอกงากรากรารกกาํ ำ�จจดั ดั นนาํ้ ้ำ�เเสสียยี ใน ใกนรกงุ รเทงุ เพทมพหมาหนาคนรครแแลละใะนในเมเมอื อื งงหหลลกั กั ในตา่ งจงั หวดั ดว้วยยววธิ ิธกี กี าารรตตา่ ่างงๆๆโโคครรงงกกาารรออนั นัเนเนอื่ ื่องมงมาจาาจกาพกระราชด�ำ ริ จพะรมะีชราอื่ ชเรดยี ํากรทิ จแ่ี ะตมกีชตอื่ า่ เงรกยี ันกอทกแี่ ไตปกดตงัา่ นงกี้ ันออกไป ดังน้ี โครงการตามพระราชประสงค์คอื โครงการทที่ รงศกึ ษา ทดลอง ปฏบิ ตั ิเปน็ การสว่ น พระองค์ จนเมือ่ ทรงแนพ่ ระราชหฤทยั วา่ โครงการนั้น จะเปน็ ผลดีและเกิดประโยชน์กบั ประชาชน จึง จะทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ใหร้ ฐั บาลเข้ามารบั งานตอ่ ไป โครงการหลวงพ้นื ท่ดี าํ เนนิ การของโครงการหลวงสว่ นใหญ่ จะอยู่ในเขตภาคเหนอื เน่ืองจากเป็นถ่ินทอี่ ยขู่ องชาวไทยภูเขา ซึง่ พระองคท์ รงพระกรณุ าท่ีจะพัฒนาความเป็นอยู่ของชาว ไทยภเู ขาใหอ้ ยดู่ ี กนิ ดี เลกิ การปลูกฝน่ิ และการทาํ ไรเ่ ล่อื นลอย อีกท้งั ยังทรงมงุ่ มนั่ ทีจ่ ะพัฒนาและ บํารุงรักษาตน้ นาํ้ ลําธารบรเิ วณปูาเขา เพือ่ บรรเทาอทุ กภยั ในเขตท่ลี มุ่ ดา้ นลา่ ง ซึ่งการพัฒนาตา่ งๆ กวา่ จะเกดิ ผล ลว้ นแต่กินเวลานานนบั สิบปี ซง่ึ ชาวไทยภูเขาเหลา่ น้ี ได้มคี วามจงรกั ภกั ดใี นพระองค์ ทา่ น พรอ้ มทง้ั เรียกขานพระองค์ทา่ นวา่ \"พอ่ หลวง” และเรยี กสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถ ว่า \"แม่หลวง” รวมถงึ เรยี กโครงการของท้ังสองพระองคว์ ่า \"โครงการหลวง” โครงการในพระบรมราชานุเคราะห์โครงการในพระบรมราชานเุ คราะห์ คอื โครงการท่ี พระองคท์ รงพระราชทานขอ้ แนะนาํ หรอื แนวพระราชดาํ ริให้ไปดาํ เนินการ ซงึ่ โครงการประเภทน้ี จะ ดาํ เนนิ การโดยหน่วยงานเอกชน เช่น โครงการพัฒนาหมู่บา้ นสหกรณเ์ นินดนิ แดง อําเภอทบั สะแก จงั หวัดประจวบคีรีขนั ธ์ ซ่ึงสโมสรโรตารีแห่งประเทศไทย เปน็ ผู้จดั และดาํ เนนิ งานตามแนว พระราชดาํ ริ โครงการพจนานกุ รม โครงการสารานกุ รมไทยสาํ หรับเยาวชน เปน็ ต้น โครงการตามพระราชดารจิ ะเป็นโครงการท่ีพระองค์ทรงวางแผนพัฒนา และทรงเสนอแนะ ใหร้ ัฐบาลรว่ มดําเนนิ การตามแนวพระราชดาํ ริ ปัจจบุ ัน โครงการตามพระราชดาํ รนิ ี้ เรยี กวา่ \"โครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดําริ” มลี กั ษณะเป็นโครงการพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งเพอ่ื การศกึ ษา คน้ คว้าทดลองและงานวิจัย โดยโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาํ ริน้ี มีทง้ั ทเี่ ปน็ โครงการระยะสั้น และโครงการระยะยาว ในการดาํ เนนิ การโครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดํารนิ ี้ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั จะ ทรงศึกษาขอ้ มูลตา่ งๆ อย่างเป็นขน้ั เปน็ ตอน ทงั้ การศึกษาข้อมลู จากเอกสารและการศกึ ษาขอ้ มลู จาก การลงพน้ื ท่จี รงิ กอ่ นจะลงมอื ปฏิบตั ิอยา่ งจรงิ จัง ท้งั นพ้ี ระองคม์ ีพระราชดํารสั เกีย่ วกับการดาํ เนนิ การ อย่เู สมอวา่ แนวพระราชดาํ ริของพระองค์ เปน็ เพียงขอ้ เสนอแนะ ซงึ่ หน่วยงานท่รี บั ผดิ ชอบ ควร จะตอ้ งนําพจิ ารณา วิเคราะห์ และกลนั่ กรองตามหลกั วชิ าการ หากมคี วามเป็นไปได้ในทางปฏบิ ัติ และเกดิ ประโยชน์คุม้ คา่ จงึ จะลงมอื ปฏิบตั ิต่อไป แต่หากไม่เกิดประโยชน์ ไมเ่ หมาะสมทจี่ ะดาํ เนนิ การ กส็ ามารถล้มเลิกได้ หน่วยงานท่มี หี นา้ ทีป่ ระสานงานและประสานแผนต่างๆ เพอ่ื ให้แตล่ ะหนว่ ยงานที่รับโครงการ อนั เนื่องมาจากพระราชดาํ รไิ ปปฏบิ ตั ิ คอื สํานกั งานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดําริ หรือ สํานกั งาน กปร. ซง่ึ นอกจากการประสานงานในแตล่ ะขั้นตอนแลว้ สาํ นักงาน กปร. ยังจะได้ตดิ ตามและประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านเป็นระยะๆ ท้งั น้ี ทผี่ า่ นมา 202 คคู่มมู่ ืออื สกง่าเรสจรดั ิมกแิจลกะรพรมฒั ลนูกาเสกอื จิ เกสรรรมิ มสลร้ากู งเทสกัือษทะกั ชษวี ะติ ชปวี ริตะใเภนทสลถูกาเนสศอื กึสษามาัญลรกู นุ่ เใสหอื ญส่าเมคญัร่ือรงุ่นหใมหาญยล่ ชูกั้นเสมือธั ชยั้นมพศิเศึกษษาปีที่ 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 195
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั จะเสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรโครงการต่างๆ เหลา่ นั้นเมอื่ มีโอกาส เพ่ือ ทอดพระเนตรความกา้ วหน้า และติดตามผลงานต่างๆ ดว้ ยพระองคเ์ อง โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาํ รทิ ่ีอยใู่ นความรับผิดชอบของสาํ นกั งานคณะกรรมการ พเิ ศษเพ่ือประสานงานโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดําริ ในปีงบประมาณ ๒๕๒๕ – ๒๕๔๖ มี จํานวน ๓,๒๙๘ โครงการ แยกออกเป็นประเภทตา่ ง ๆ ได้ ๘ ประเภท คอื 1. การเกษตรแนวพระราชดํารขิ องพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว ในดา้ นการพฒั นา ประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตร จะทรงเนน้ ในเร่อื งของการคน้ ควา้ ทดลอง และวิจยั หาพนั ธุ์พืช ใหม่ๆ ท้ังพชื เศรษฐกจิ พืชสมนุ ไพร รวมถงึ การศกึ ษาเกีย่ วกับแมลงศัตรพู ชื และพนั ธุส์ ัตวต์ ่างๆ ท่ี เหมาะสมกับสภาพทอ้ งถิน่ นน้ั ๆ ซ่งึ แตล่ ะโครงการจะเน้นให้สามารถนาํ ไปปฏิบตั ไิ ดจ้ ริง มรี าคาถูก ใช้ เทคโนโลยงี ่าย ไมส่ ลับซบั ซอ้ น เกษตรกรสามารถดําเนนิ การเองได้ นอกจากนี้ ยงั ทรงพยายามไม่ให้ เกษตรกรยดึ ตดิ กับพชื ผลทางการเกษตรเพยี งอย่างเดียว เพราะอาจเกิดปญั หาอนั เนอ่ื งมาจากความ แปรปรวนของสภาพดินฟฺาอากาศ หรอื ความแปรปรวนทางการตลาด แต่เกษตรกรควรจะมรี ายได้ จากดา้ นอนื่ นอกเหนอื ไปจากการเกษตรเพม่ิ ขนึ้ ด้วย เพอ่ื จะไดพ้ ง่ึ ตนเองไดใ้ นระดับหนึง่ 22.. ส่งิ แวดลอ้ มปญั หาส่งิ แวดล้อม ถอื เป็นส่งิ สาํ คญั ทจี่ ะตอ้ งไดร้ ับการดําเนนิ การแกไ้ ขควบคู่ ไปกับการพัฒนาความเจรญิ กา้ วหน้า เพราะยิง่ มีความเจรญิ กา้ วหน้า ย่อมหมายถงึ ปัญหาสงิ่ แวดลอ้ ม ยิ่งก่อตัวและทวคี วามรนุ แรงมากขน้ึ เปน็ เงาตามกันไป ซึง่ โครงการอนั เนือ่ งมาจากพระราชดําริ จะเป็น วิธกี ารท่จี ะทํานุบาํ รงุ และปรบั ปรงุ สภาพทรัพยากร และสง่ิ แวดล้อมให้ดขี ึน้ ในดา้ นตา่ งๆ เช่น การ อนรุ ักษ์ และพัฒนาทรพั ยากรธรรมชาติ ดนิ นาํ้ และปูาไม้ 3. การสาธารณสุขโครงการทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวพระราชทาน ใหก้ บั ประชาชนใน ระยะแรก ๆ ลว้ นแตเ่ ป็นโครงการ ด้านสาธารณสขุ เพราะพระองคท์ รงเห็นว่า หากประชาชนมี ร่างกายที่สมบรู ณ์ แขง็ แรง จะนําไปสู่สุขภาพจติ ท่ดี ี และสง่ ผลใหก้ ารพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดีไป ด้วย พระองค์จึงทรงใหค้ วามสาํ คญั กับงานดา้ นสาธารณสขุ เป็นอยา่ งมาก 4. การสง่ เสริมอาชพี โครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดําริ เม่อื ได้ดําเนนิ การบรรลุ วตั ถุประสงค์ของโครงการแล้ว จะเกดิ การส่งเสริมอาชพี แก่ราษฎรใน พนื้ ท่ใี กลเ้ คยี ง โดยเฉพาะศนู ย์ ศึกษาการพฒั นาท้ังหลายนน้ั จัดตงั้ ขน้ึ มาเพอ่ื ใหม้ ีการศกึ ษา ค้นควา้ ทดลอง วจิ ยั เพอ่ื แสวงหา แนวทาง และวธิ กี ารพัฒนาด้านต่างๆ ท่ีเหมาะสมกับสภาพแวดลอ้ ม และการประกอบอาชพี ของ ราษฎรในภมู ภิ าคนั้นๆ เพอื่ ให้ราษฎรนําไปปฏิบัตไิ ดอ้ ยา่ งจริงจัง ส่วนโครงการประเภทการส่งเสริม อาชีพโดยตรงน้นั กม็ ีจํานวนไมน่ อ้ ย ทั้งน้ี เพือ่ เป็นการชว่ ยเหลือ ให้ประชาชนสามารถพึ่งตนเองได้ จึงไดม้ ีโครงการเกย่ี วกบั ประเภทการส่งเสริมอาชพี โดยตรง 5. การพฒั นาแหลง่ น�ําการพัฒนาแหล่งนํ�าเพ่อื การเพาะปลูกหรือการชลประทาน นับวา่ เปน็ งานทีม่ ีความสําคัญ และมปี ระโยชนอ์ ย่างย่งิ สําหรบั ประชาชนสว่ นใหญข่ องประเทศ เพราะเกษตรกร จะสามารถทาํ การเพาะปลกู ได้อยา่ งสมบรู ณ์ตลอดปี เนอ่ื งจากพ้ืนทเี่ พาะปลูกในปัจจุบนั สว่ นใหญ่ เป็นพ้ืนที่นอกเขตชลประทาน ซ่งึ ต้องอาศยั เพียงน�ําฝน และน�ําจากแหลง่ น�ําธรรมชาตเิ ป็นหลัก ทาํ ให้พืชไดร้ บั น�ําไมส่ ม�าํ เสมอ และไมเ่ พยี งพอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ทรงให้ความ 1ค9ู่ม6อื ส่งเสรคชมิ มู่ั้นแอืมลกธั ะายพรมจัฒศดั กึนกษาิจากกปจิรทีกรม่ีร2รลมกู เลสูกือเเสสอืรมิทสักรษ้าะงชทวี ักิตษใะนชสวี ถิตาปนระศเกึภษทาลกู ลเูกสเือสสอื าสมาัญมรัญนุ่ รใหนุ่ ญให่ เญค่รชือ่ ้นังหมมัธายยมลศกู กึ เสษอื าชปน้ั ที พ่ี 2ิเศษ 203
สนพระราชหฤทยั เกยี่ วกบั การพัฒนาแหล่งนํา้ำ� มากกว่าโครงการพัฒนาอนั เน่ืองมาจากพระราชดําริ ประเภทอน่ื 6. การคมนาคมสอื่ สารโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาํ ริ ด้านคมนาคมสอ่ื สาร ส่วนใหญ่ จะเป็นโครงการเกีย่ วกบั ปรับปรงุ ถนนหนทาง การกอ่ สร้างถนนเพอ่ื การ สญั จรไปมาได้สะดวกและ ท่ัวถึง การคมนาคมเป็นปัจจยั พ้ืนฐานทสี่ าํ คัญของการนาํ ความเจริญไปสูช่ นบท การส่อื สาร ติดตอ่ ทีด่ ียังผลสาํ คญั ทําให้เศรษฐกจิ ของราษฎรในพ้ืนทด่ี ีขน้ึ ราษฎรกม็ คี วามเปน็ อยู่ทดี่ ีข้ึน 7. สวัสดกิ ารสังคมโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดําริ ด้านสวสั ดิการสงั คม จะเปน็ โครงการเพ่ือช่วยเหลือราษฎรให้มีท่ีอยอู่ าศยั ท่ีทาํ กิน และได้ รับสิ่งอาํ นวยความสะดวกข้นั พน้ื ฐาน ที่จําเป็นในการดาํ รงชวี ติ ซึ่งจะทําให้ราษฎรมีชวี ติ ความเป็นอยดู่ ีขึน้ สามารถดํารงชวี ิต อยดู่ ว้ ยความ ผาสุก 8. อนื่ ๆโครงการอนั เน่อื งมาจากพระราชดํารปิ ระเภทอ่ืนๆ ได้แก่ โครงการ อนั เนอื่ งมาจาก พระราชดํารทิ นี่ อกเหนอื จากโครงการท้งั ๗ ประเภท ที่ ระบมุ าแลว้ ขา้ งตน้ เชน่ โครงการศนู ยศ์ ึกษา การพฒั นาอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดํารทิ ง้ั หลาย โครงการก่อสร้างเขื่อนปฺองกนั นํ้าทะเลกดั เซาะอนั เน่ืองมาจากพระราชดาํ ริ จงั หวัดเพชรบุรี นอกจากนนั้ ยัง รวมถึงโครงการดา้ นการศึกษา การวิจัย การจดั และพัฒนาทด่ี นิ เปน็ ตน้ ทมี่ า: http://region6.prd.go.th/main.php?filename=royal_project ปัจจุบันโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดําริ แบ่งออกเป็น 8 ประเภท โดยกระจายอยู่ทุก ภูมิภาคท่วั ประเทศ โครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดาํ ริทีอ่ ยใู่ นความรับผดิ ชอบของสํานักงาน กปร. ตั้งแตป่ งี บประมาณ 2525-2551 มีจาํ นวน 4,404 โครงการ /กิจกรรม แยกตามประเภท และรายภาค ได้ดังตารางต่อไปน้ี ประเภทโครงการ จานวนโครงการ / กิจกรรม 1. การพฒั นาแหลง่ นา้ํ 1,579 โครงการ / กจิ กรรม 2. การเกษตร 536 โครงการ / กจิ กรรม 3. ส่งิ แวดลอ้ ม 1,039 โครงการ / กจิ กรรม 4. สง่ เสรมิ อาชพี 343 โครงการ / กจิ กรรม 5. สาธารณสุข 49 โครงการ / กิจกรรม 6. คมนาคม 115 โครงการ / กจิ กรรม 7. สวัสดิการสงั คม 166 โครงการ / กจิ กรรม 8. โครงการสาํ คัญ และอื่นๆ 577 โครงการ / กจิ กรรม 204 คคู่มมู่ อื อื สก่งาเรสจรัดิมกแิจลกะรพรมฒั ลนูกาเสกอื จิ เกสรรรมิ มสลราู้กงเทสกัือษทะกั ชษีวะิตชปวี ริตะใเภนทสลถกูาเนสศอื ึกสษามาญั ลรกู ุ่นเใสหอื ญส่าเมคัญรือ่ รงนุ่ หใมหาญยล่ ชกู น้ัเสมอื ัธชย้ันมพศเิ ศึกษษาปีที่ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 197
ภาค จานวนโครงการ / กิจกรรม กลาง 1,024 โครงการ / กิจกรรม ตะวันออกเฉียงเหนอื 929 โครงการ / กจิ กรรม เหนอื 1,221 โครงการ / กจิ กรรม ใต้ 807 โครงการ / กจิ กรรม ไมร่ ะบภุ าค 343 โครงการ / กจิ กรรม งบบริหาร 80 โครงการ / กจิ กรรม รวม 4,404 โครงการ / กจิ กรรม ตวั อยา่ งโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริ 1. โครงการหลวง 2. โครงการเศษรฐกิจชุมชนบนพื้นทีส่ ูง 3. โครงการเกีย่ วกบั การปลกู ขา้ ว 4. โครงการศลิ ปาชพี พเิ ศษ 5. โครงการสร้างบา้ นเล็กในปูาใหญ่ 6. โครงการส่งเสริมการปลกู หมอ่ นเลย้ี งไหม 7. โครงการพชื สมุนไพร 8. โครงการปลกู พชื /ผลไม้ 9. โครงการสง่ เสรมิ การเลี้ยงสัตว์ 10. โครงการสง่ เสรมิ การเกษตรเพือ่ อาหารกลางวัน 11. โครงการตามพระราชดําริหมู่บา้ นสหกรณ์ 12. ศนู ยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ 13. โครงการการพัฒนาและรณรงคก์ ารใชห้ ญา้ แฝกอนั เน่อื งมาจากพระราชดาํ ริ 1ค9มู่ 8อื สง่ เสรชคมิ ่มูน้ั แือมลกัธะายพรมจฒั ศัดึกนกษาจิ ากกปิจรทีกรม่ีร2รลมูกเลสูกือเเสสอืรมิทสกั รษ้าะงชทีวักิตษใะนชสวี ถิตาปนระศเกึภษทาลกู ลเกูสเอื สสือาสมาญั มรญั ่นุ รใหนุ่ ญให่ เญค่รช่ือั้นงหมมัธายยมลศูกกึ เสษอื าชปนั้ ีทพี่ 2เิ ศษ 205
ใบงาน เรอ่ื ง โครงการอันเน่อื งมาจากพระราชดาริ ใหล้ ูกเสอื แต่ละหมู่ วางแผน แบ่งงาน และมอบหมายสมาชกิ ช่วยกันดําเนินการ รว่ มกนั สบื คน้ ข้อมลู รายละเอียดเกย่ี วกับโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดําริ ทม่ี ีความสําคัญต่อประชาชนหมู่มาก และหม่ลู ูกเสอื มีความสนใจ หมลู่ ะ 1 โครงการ โดยตกลงกบั หม่อู น่ื ไมใ่ ห้หวั ขอ้ ซ้าํ กันสง่ ตัวแทน นําเสนอในกองลูกเสอื ครงั้ ต่อไป ใหเ้ วลารายงานหม่ลู ะไมเ่ กนิ 8 นาที โดยจะมกี ารตดั สนิ ว่าหม่ใู ด นําเสนอข้อมูลทเี่ ขา้ ใจไดด้ ี และใช้สอ่ื ไดน้ า่ สนใจท่ีสุด 206 คคูม่ ูม่ อื อื สกง่าเรสจรัดิมกแจิ ลกะรพรมฒั ลนกู าเสกือจิ เกสรรมิ มสลร้ากู งเทสกัือษทะักชษีวะติ ชปีวริตะใเภนทสลถกูาเนสศือึกสษามาญั ลรูกนุ่ เใสหอื ญส่าเมคัญรอ่ื รงนุ่ หใมหาญยล่ ชูกั้นเสมอื ัธชย้นั มพศิเศึกษ าปีท่ี 2199 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2
เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ เร่ือง ความหมายของคาว่า สปิริต Derek Anthony Redmond เปน็ นักวิ่งเจา้ ของสถิตใิ นการวง่ิ 400 เมตรของสหราชอาณาจักร และได้เหรียญทองจากการแข่งขัน 4x400 เมตรจากการแข่งขัน World Championships, European Championships และ Commonwealth Games จากสหราชอาณาจักรตอนน้ีเขาแขวนรองเท้าแล้ว แต่เหตุการณ์ท่ีทําให้ผู้คนท้ังโลกจดจําเขาคือ Olympics Games ท่ี Barcelona ในปี 1992 เขาคือหนึ่งในตัวเต็งในการแข่งขันคร้ังน้ีหลังจากรอคอยมา 4 ปี เหตุการณ์ท่ีไม่คาดคิดก็เกิดข้ึน เอ็นรอ้ ยหวายของเขาเกิดมีปญั หา เขาทรุดตวั ลงและรอ้ งไห้หลังจากน้ันไม่กี่วินาทีเขาตัดสินใจลุกขึ้น และวิ่งต่อเม่ือระยะทางเหลือประมาณ 100 เมตร คุณพ่อของเค้าก็มาช่วยประคองเข้าเส้นชัย ส่ปี ีแหง่ การรอคอย ความฝันของเค้าจบลงด้วยนํ้าตาและความเสียใจแต่ spirit ท่ียิ่งใหญ่ของ เคา้ ไดร้ ับการปรบมือ หรือ Standing Ovation ของผ้ชู มท้งั สนามและคนทั้งโลกกไ็ ด้เข้าใจความหมาย ของคําวา่ spirit มากขึ้นโลกได้จดจาํ เขาไปอีกนานแสนนานในฐานะ \"ผ้ชู นะ\" ตัวจริง เรอื่ งนส้ี อนใหร้ ูว้ ่า: ชยั ชนะ อาจนํามาทงั้ ความสขุ และความทุกข์ เรอื่ ง เตา่ กบั นกอนิ ทรี นานมาแลว้ ยังมีเต่าตัวหนง่ึ ชอบแหงนหน้ามองดูนกนานาชนดิ ทกี่ าํ ลงั บนิ ไปมาบนทอ้ งฟาฺ ด้วย ความอจิ ฉา มนั นกึ อยากจะบนิ ไดเ้ ชน่ นน้ั บ้าง ขณะทีม่ นั กาํ ลังเดินครุ่นคิดหาวิธที ่จี ะบนิ ได้อยนู่ น้ั มนั กเ็ หน็ นกอนิ ทรตี วั หน่งึ บนิ มาเกาะที่กอ้ นหนิ ไมห่ า่ งจากมนั นกั เต่ารบี คลานเขา้ ไปหาทนั ที “ทา่ นนก อินทรีทา่ นจะชว่ ยใหข้ า้ บินได้อยา่ งทา่ นไดห้ รอื ไม่” เต่าถาม “ทา่ นจะบินไดอ้ ยา่ งไร ในเมอ่ื ทา่ นไมม่ ี ปีก” นกอนิ ทรบี อก “แตถ่ า้ ทา่ นช่วยข้า ข้าต้องบินได้อย่างแนน่ อน เพยี งแตท่ า่ นพาขา้ ข้นึ ไปบน ทอ้ งฟาฺ เท่านน้ั แล้วข้าก็จะบนิ ของขา้ เอง” เตา่ พดู ในตอนแรกนกอนิ ทรีปฏิเสธ แตเ่ ต่ากเ็ ฝฺาอ้อน วอนจนนกอินทรใี จออ่ น มนั จงึ ใช้องุ้ เล็บทง้ั สองยกตัวเตา่ บินขน้ึ ไปบนทอ้ งฟฺา “พอขา้ ปลอ่ ยท่าน ทา่ นก็บินเลยนะ” นกอินทรบี อกแล้วก็ปล่อยตวั เตา่ ลงมา แต่แทนทีจ่ ะบนิ รา่ งของเตา่ กลบั รว่ งหลน่ ลงมาจากท้องฟฺาลงมากระแทกกับกอ้ นหนิ เต็มแรง ขาดใจตายทนั ที เรื่องนีส้ อนใหร้ วู้ ่า: จะทําอะไรควรรู้จักประมาณตน ทมี่ าของเรือ่ ง : www.muengthai.com/เต่ากบั นกอนิ ทรี/ 2ค0ู่ม0ือสง่ เสรชคิมู่มนั้ แือมลกัธะายพรมจัฒศัดกึนกษาิจากกปิจรีทกรมี่ร2รลมูกเลสูกือเเสสอืรมิทสักรษา้ ะงชทวี กั ติ ษใะนชสีวถติ าปนระศเกึภษทาลกู ลเูกสเอื สสอื าสมาัญมรญั ุ่นรใหนุ่ ญให่ เญค่รชื่อัน้งหมมธั ายยมลศูกึกเสษือาชป้นั ีทพี่ 2ิเศษ 207
แบบประเมินการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ของลกู เสอื เรื่อง...................................................................................... กลุ่มทีุุุุ่..ชั้นุุุุุุ รายการประเมนิ การเขา้ รว่ มกจิ กรรม ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความสามคั คี การแสดง ความมี ความตั้งใจ อธบิ าย รวม ผลการ ท่ี ความคิดเหน็ ระเบยี บวินยั ในการ โครงการอัน ประเมิน ทางาน เน่ืองมาจาก พระราชดาริ 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 ผา่ น ไม่ เกณฑ์ ผ่าน เกณฑ์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชอ่ื .................................................ผู้ประเมิน (........................................................) เกณฑ์การประเมินคณุ ภาพคะแนน ประเมนิ การเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ ของลกู เสือผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป ผ่านเกณฑ์ รายการประเมิน คุณภาพ 4321 การเข้าร่วมกิจกรรม อธิบายเน้อื หาไดต้ าม อธบิ ายเนอ้ื หาได้ตาม อธบิ ายเนอื้ หาไดต้ าม ไม่สามารถ กลมุ่ ของลกู เสือ ประเด็นที่กําหนด ประเดน็ ท่ีกาํ หนดได้ ประเด็นที่กําหนด อธิบายเนือ้ หาได้ตาม ครบถ้วนและให้ความ บางสว่ นและให้ความ บางส่วนแต่ยงั ไมช่ ัดเจน ประเดน็ ทกี่ ําหนดและ ร่วมมือในการทํา ร่วมมือในการทํา และใหค้ วามรว่ มมือใน ไม่ให้ความร่วมมือใน กจิ กรรมโดยไม่ตอ้ ง กิจกรรมโดยมกี าร การทํากจิ กรรมโดยมีการ การทาํ กจิ กรรม ตักเตอื น ตกั เตือนเปน็ บางคร้งั ตกั เตือนเป็นบางครง้ั แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสอื สามัญร่นุ ใหญ่(เคร่ืองหมายลกู เสือชั้นพเิ ศษ) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 208 ค่มู ือคสมู่่งเือสกรามิ รจแดัลกะพจิ กฒั รนรมาลกกูจิ เกสรอื รเมสรลิมูกสเสรา้อื งททกั กั ษษะะชชวี วี ติ ติ ใปนรสะเถภาทนลศูกึกเสษือาสลามูกัญเสรือุ่นสใาหมญัญ่ เรคนุ่ รใอื่ หงญหม่ ชายั้นลมูกัธเยสมือชศัน้ึกพษเิาศปษที ่ี 2 201 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุ่นใหญ่ (เคร่อื งหมายลกู เสือชั้นพเิ ศษ) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาทปี ี่ 2 หน่วยที่ 7 ประเมินผล เวลา 1 ช่วั โมง แผนการจัดกจิ กรรมที่ 24 การประเมินผล 1. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 เพือ่ ให้ลูกเสือสามารถเขา้ ใจการประเมินผลเพื่อการตัดสินผลการผา่ น ไม่ผ่านกิจกรรมได้ 1.2 เพอื่ ให้ลูกเสอื สามารถรบั การประเมนิ พฤตกิ รรมทักษะชีวติ ที่ลกู เสอื ไดร้ บั การพฒั นาได้ 1.3 เพ่ือให้ลกู เสอื สามารถเตรียมความพรอ้ มเพอื่ รบั การประเมินได้ 2. เน้อื หา 2.1 เกณฑ์การตัดสินกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี นตามหลกั สูตรการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 2.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมทักษะชีวติ 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 Flow Chart การประเมินผลเพอ่ื ตดั สนิ ผลการเล่ือนชั้นของลกู เสือและจบการศึกษา 3.2 การประเมินทักษะชวี ติ ของลูกเสือรายบุคคลหรือรายหมลู่ ูกเสือ 3.3 ใบความรู้ เร่อื งการประเมนิ ผลกจิ กรรมลกู เสือ 4. กิจกรรม 4.1 ผกู้ าํ กบั ลูกเสืออธบิ ายหลกั เกณฑ์ วิธกี ารประเมินผลการเรยี นร้ตู ามทหี่ ลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พ.ศ. 2551 กําหนดเพอ่ื ตดั สนิ การจบการศกึ ษา 4.2 ผกู้ ํากับลูกเสอื อธบิ ายถงึ พฤตกิ รรมของลกู เสอื ที่ได้รับการเสรมิ สร้างทกั ษะชีวิตผ่าน กจิ กรรมลกู เสือ 4.3 ลูกเสือประเมนิ ความพรอ้ มของตนเองเพอื่ รบั การประเมนิ และวางแผนพฒั นาตนเองใน สว่ นทไี่ มม่ ัน่ ใจ 4.4 ผู้กํากบั ลกู เสือและลูกเสอื กาํ หนดขอ้ ตกลงรว่ มกันถงึ ช่วงเวลาการประเมนิ 4.5 ผกู้ าํ กบั ลกู เสือนดั หมายและดาํ เนนิ การประเมิน 5. การประเมินผล การประเมินตนเองของลูกเสือ ในการเตรียมความพรอ้ มเพอ่ื รบั การประเมินผลกจิ กรรม ลกู เสือสามญั รนุ่ ใหญ่ 6. เครือ่ งมอื การประเมินผล 6.1 แบบประเมนิ ตนเองของลกู เสือ 6.2 แบบประเมินพฤตกิ รรมทกั ษะชีวติ ของลกู เสือสําหรบั ผู้กํากับลูกเสือ ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 24 209 2ค0่มู 2อื สง่ เสรคชมิ ู่ม้ันแือมลกัธะายพรมจัฒศัดึกนกษาจิ ากกปจิรทีกรมี่ร2รลมกู เลสูกอื เเสสอืรมิทสกั รษ้าะงชทวี ักติ ษใะนชสวี ถติ าปนระศเกึภษทาลกู ลเกูสเอื สสือาสมาัญมรญั นุ่ รให่นุ ญให่ เญค่รชอ่ื นั้งหมมธั ายยมลศูกกึ เสษอื าชป้นั ีทพ่ี 2เิ ศษ
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 24 1. การประเมนิ ผลตามเกณฑ์ของหลกั สูตรการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ. 2551 Flow Chartกระบวนการประเมนิ ผลลูกเสือ ลกู เสอื เรยี นรู้จากกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน ลกู เสือเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ิต 1. เวลาเข้าร่วมกิจกรรม 2. การปฏิบัตกิ ิจกรรม ผู้กากบั ประเมินผลเรยี นของ 3. ผลงาน / ชิน้ งาน ลกู เสือทรี่ ่วมกิจกรรม 4. พฤตกิ รรม/คุณลกั ษณะ ของลูกเสอื ผลการประเมิน ผา่ น ไม่ผ่าน - ซอ่ มเสรมิ - พฒั นาซา้ ตัดสินผลการเรยี นรผู้ ่านเกณฑ์ ผา่ น รบั เครื่องหมายชนั้ ลกู เสอื ตามประเภทลูกเสือ แบบประเมนิ ตนเองของลกู เสือ 210 คู่มคอื มู่ สือง่ กเสารรจมิ ัดแกลิจะกพรฒัรมนลาูกกเจิสกอื เรสรรมมิ ลสกู รเา้ สงอืททกั ษักษะชะวีชิตีวปติ รใะนเสภถทาลนูกศเสึกอื ษสาามลญั ูกรเสุน่ อืใหสญาม่ เัญครือุ่นงใหหมญา่ยชลนั้ ูกมเสัธือยชมั้นศพกึ ิเษศษาปที ี่ 2 203 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
แบบประเมนิ ตนเองของลูกเสือ ช่ือ ..........................................................ประเภทลูกเสอื ...........................ชน้ั ................................ เกณฑ์ที่ การประเมินตนเอง ข้อคดิ เหน็ ท่ี รายการที่รบั การประเมนิ สถานศึกษา ครบ/ ไม่ครบ/ การพฒั นา กาหนด ผ่าน ไมผ่ ่าน 1 1. เขา้ รว่ มกิจกรรมลกู เสอื ไมน่ อ้ ยกว่า 1.1 ร่วมกจิ กรรมการฝกึ อบรม 24ชัว่ โมง/ ปี 1.2 ร่วมกิจกรรมวันสาํ คญั - วนั สถาปนาลูกเสอื 1 ครง้ั / ปี - วันถวายราชสดดุ ี 1 คร้งั / ปี - วันพอ่ แหง่ ชาติ 1 คร้งั / ปี - วนั แมแ่ หง่ ชาติ 1 คร้งั / ปี - วันตา้ นยาเสพติด 1 คร้งั / ปี - กจิ กรรมบําเพญ็ ประโยชน์อ่นื ๆ 8คร้ัง/ ปี - กจิ กรรมวัฒนธรรม/ ประเพณี 4คร้งั / ปี 1.3 เดนิ ทางไกล/ อยคู่ า่ ยพักแรม 1 ครั้ง/ ปี 2 2. มีผลงาน/ ชน้ิ งานจากการเรียนรู้ กจิ กรรมลกู เสอื ไมน่ อ้ ยกว่า 2.1 ผลงานการบริการ 6รายการ/ ปี 2.2 ช้ินงาน/ งานทคี่ ดิ สรา้ งสรรค์ 2รายการ/ ปี 2.3 อนื่ ๆ เชน่ รายงานฯ 2รายการ/ ปี 3 3. มีความพรอ้ มเขา้ รบั การทดสอบเพ่อื เลอื่ นชน้ั และรับเครอ่ื งหมายวิชาพิเศษ ลูกเสือวิสามญั 3.1............................................. 3.2............................................. 3.3............................................. 3.4............................................. 3.5............................................. ผ่านและพรอ้ ม สรปุ ฉันม่นั ใจวา่ ผ่าน ฉันมคี วามพรอ้ มใหป้ ระเมนิ ฉนั ยงั ไมพ่ รอ้ ม สรปุ ผลการประเมนิ ตนเอง 1. ด้านทกั ษะลูกเสอื คู่มอื2ส0่ง4เสริมแลชคมู่ะั้นพอืมกัฒธั ายนรมจาศกดั กึ จิกษกิจากรปรรทีมรม่ี ล2ลูกูกเเสสือือทเสกั รษิมะสชรวี้าติงทในักษสถะชาีวนติ ศปึกรษะาเภลทูกลเูกสเือสสอื าสมามญั ญั รนุ่รุ่นใหใหญญ่ ช่ เัน้ครมอื่ ธั งยหมมศาึกยลษูกาเปสีทอื ่ีช2ัน้ พเิ ศษ 211
สรุปผลการประเมนิ ตนเอง งุนงง 1. ด้านทักษะลูกเสือ ไม่แน่ใจ ไมเ่ ขา้ ใจ ตอ้ งขอความ ช่วยเหลือจาก มนั่ ใจมากว่าจะ พร้อมแล้ว ผู้กาํ กับลกู เสอื ผ่านการประเมิน มน่ั ใจมาก พรอ้ มรบั การประเมนิ เครื่องหมายวชิ าพิเศษ พรอ้ มรบั การประเมนิ ไม่แนใ่ จ ยงั ตอ้ งพัฒนา/ ซอ่ มเสริมบางเรือ่ ง ตอ้ งการความชว่ ยเหลอื จากผกู้ าํ กบั ลกู เสือ ลงช่อื .......................................................ผู้ประเมิน แบบประเมินพฤติกรรมทกั ษะชวี ิตของลูกเสือสาหรบั ผกู้ ากบั ลูกเสอื คู่มอื การจดั กิจกรรมลกู เสอื เสรมิ สร้างทักษะชวี ิตประเภทลกู เสือสามัญรุน่ ใหญ่ เครื่องหมายลกู เสือชน้ั พิเศษ 205 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 212 คู่มือสง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลูกเสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสอื สามัญรุน่ ใหญ่ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2
แบบประเมินพฤติกรรมทกั ษะชวี ิตของลูกเสอื สำ�หรับผู้ก�ำ กับลกู เสือ คาช้ีแจงใหผ้ ตู้ อบทาํ แบบประเมนิ ทกุ ขอ้ โดยแตล่ ะขอ้ ให้ทาํ เครอ่ื งหมาย/ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับความ เปน็ จรงิ 2.1พฤติกรรมลกู เสือสามญั รุ่นใหญ่ท่คี าดหวัง รายการประเมนิ ใช่ ไม่ใช่ 1. ลูกเสอื มที กั ษะในการสังเกตและจดจาํ 2. ลูกเสือสามารถพ่ึงตนเองและดแู ลตนเองได้ 3. ลกู เสือสํารองปฏบิ ัติกิจกรรมบาํ เพญ็ ประโยชน์รกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม และอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ 4. ลกู เสือไมม่ ีปญั หาทันตสขุ ภาพและไม่เจ็บปูวยด้วยโรคตดิ ต่อ ตามฤดูกาล 5. ลูกเสือร้จู กั รักษาสุขภาพและปฏิเสธส่ิงเสพติด 6. ลกู เสอื รจู้ กั แกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ หรอื ใหก้ ารช่วยเหลือ/ แจง้ เหตเุ มอื่ ประสบเหตุ วกิ ฤต 7. ลกู เสือมสี ว่ นสูงและน้ําหนกั ตามเกณฑม์ าตรฐาน 8. ลกู เสือมีทกั ษะในการสอื่ สารได้ถกู กาลเทศะและไม่ก้าวรา้ วรุนแรง สรุปแบบการประเมินตนเอง ฉนั มที กั ษะชีวติ ฉันจะมที กั ษะชวี ติ ฉนั ต้องพัฒนาตนเองอกี มาก ถา้ แก้ไขปรบั ปรุงพฤติกรรม 2.2พฤติกรรมลูกเสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ทีค่ าดหวัง 206 คู่มือการจดั กิจกรรมลกู เสอื เสริมสร้างทกั ษะชวี ติ ประเภทลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ เคร่อื งหมายลกู เสอื ช้ันพเิ ศษ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 คมู่ อื สง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 213
2.2 พฤตกิ รรมลูกเสือสามญั ร่นุ ใหญ่ที่คาดหวงั ใช่ ไม่ใช่ รายการประเมิน 1. ลกู เสือมีทกั ษะในการปฏิบัติกิจกรรมกลางแจ้ง 2. ลูกเสอื รว่ มกิจกรรมบําเพ็ญประโยชน์ 3. ลกู เสือชว่ ยตนเองและครอบครวั ได้ 4. ลกู เสอื ไมม่ ีปญั หาทันตสขุ ภาพ ไมด่ ม่ื น้ําอัดลมขนมกรบุ กรอบ ไมร่ ับประทานขนมหวานเปน็ ประจํา 5. ลกู เสือร้จู กั ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชนแ์ ละไมต่ ิดเกม 6. ลูกเสือประพฤติตนเหมาะสมกบั เพศและวัยมที ักษะการสรา้ ง สัมพันธภาพและการสอื่ สารไม่กา้ วร้าวรุนแรง 7. ลกู เสอื แสดงออกถงึ ความซื่อสตั ย์ รจู้ ักแก้ปญั หา หรอื ใหค้ วาม ชว่ ยเหลือผ้อู นื่ 8. ลกู เสอื มีนา้ํ หนกั และสว่ นสงู ตามเกณฑม์ าตรฐาน สรุปแบบการประเมนิ ตนเอง มที กั ษะชีวติ จะมีทักษะชวี ิต ตอ้ งพฒั นาตนเอง ไมแ่ นใ่ จชีวิต พร้อมเผชญิ แกไ้ ขปรบั ปรุง อีกมาก (มปี ญั หาแล้ว) อย่างรอดปลอดภัย พฤตกิ รรม (เสีย่ งนะเน่ีย) เรอ่ื งท่ีฉนั จะตอ้ งปรับปรงุ 1).................................................................................................................................................. 2).................................................................................................................................................. 3).................................................................................................................................................. 4).................................................................................................................................................. 2.3พฤตกิ รรมลูกเสือสามญั รนุ่ ใหญ่ทีค่ าดหวัง 214 คมู่ อื การจัดกิจกรรมลูกเสอื เสรมิ สร้างทักษะชีวติ ประเภทลกู เสอื สามัญรุ่นใหญ่ เครอื่ งหมายลูกเสอื ชั้นพิเศษ 207 คู่มอื ส่งเสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลูกเสอื สามัญรนุ่ ใหญช่ ้ันชมนั้ ัธมยธั มยศมกึ ศษึกาปษทีาป่ี 2ีที่ 2
2.3 พฤติกรรมลูกเสอื สามัญรุ่นใหญ่ท่คี าดหวงั 12 รายการประเมิน 1. ลูกเสือพัฒนาตนเองให้มีทกั ษะในการทาํ กจิ กรรมลูกเสอื ตามความสนใจและไดร้ บั เคร่อื งหมายวิชาพเิ ศษ 2. ลูกเสอื ทาํ กจิ กรรมบาํ เพ็ญประโยชนต์ อ่ ครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน และสังคม 3. ลูกเสอื ใช้เวลาวา่ งท่เี ป็นประโยชน์ทาํ กจิ กรรม อนุรกั ษส์ ง่ เสริมจารตี ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรมไทย 4. ลกู เสอื รูเ้ ทา่ ทนั ส่ือโฆษณาและร้จู กั ใชป้ ระโยชนจ์ าก Internet 5. ลกู เสือเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมหรือปรับปรุงและพฒั นาตนเองได้ เหมาะสมกับเพศวัยไม่กา้ วรา้ วรนุ แรง 6. ลกู เสือทํากิจกรรมหรอื โครงการประหยดั พลงั งาน/ทรพั ยากร 7. ลกู เสอื มกี ารออม หรือทาํ บญั ชรี ายรบั รายจา่ ยอย่างตอ่ เนอื่ ง 8. ลกู เสอื ไม่เคยประสบอุบัตเิ หตุจากการใชย้ านพาหนะ สรปุ แบบการประเมินตนเอง มีทกั ษะชวี ติ จะมีทักษะชวี ติ ต้องพฒั นาตนเอง ไม่แน่ใจชีวิต (มีปญั หาแล้ว) พรอ้ มเผชิญ แก้ไขปรบั ปรุง อกี มาก อยา่ งรอดปลอดภยั พฤติกรรม (เสี่ยงนะเน่ยี ) เรื่องท่ีฉนั จะตอ้ งปรบั ปรงุ 1).................................................................................................................................................. 2).................................................................................................................................................. 3).................................................................................................................................................. 4).................................................................................................................................................. 2.4 พฤตกิ รรมลกู เสือสามัญรนุ่ ใหญ่ทค่ี าดหวัง ค2ูม่ 0อื ส8่งเสรมิ ชคแมู่ั้นลอืมะกัธพายฒั รมจนศดั าึกกกษจิ ิจากกปรรีทรรมี่ ม2ลลกู ูกเสเสือือเสทรกัิมษสระา้ชงีวทติ ักใษนะสชถวี าติ นปศรกึะษเภาทลลกูกู เเสสอือื สสาามมญั ัญรร่นุ ุน่ ใใหหญญ่ เ่ คชรน้ั อ่ื มงธัหยมมายศลกึ กู ษเสาปอื ชีทน้ั ่ี 2พิเศษ 215
2.4 พฤติกรรมลกู เสอื สามญั รุน่ ใหญท่ ่ีคาดหวัง ใช่ ไมใ่ ช่ รายการประเมิน 1. ลูกเสือทํากิจกรรม/โครงการ ตามความถนดั และความสนใจ 2. ลกู เสอื บริการผอู้ นื่ ช่วยเหลือชมุ ชน สงั คม และประเทศชาติ 3. ลกู เสือรู้จักวิธปี ฺองกนั ความเสยี่ งทางเพศ 4. ลูกเสอื ใช้เวลากบั สอ่ื ไอทีไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 5. ลูกเสอื ตระหนกั ถึงพิษภัยและหลกี เล่ียงจากสิ่งยาเสพติด 6. ลูกเสอื มคี า่ นยิ มสขุ ภาพ ดา้ นอาหาร และความงามทเ่ี หมาะสม 7. ลูกเสอื ทํางานหารายไดร้ ะหวา่ งเรยี น 8. ลูกเสือไมม่ ีพฤตกิ รรมกา้ วรา้ วและไมก่ อ่ เหตรุ ุนแรง สรปุ แบบการประเมินตนเอง มีทักษะชีวติ จะมีทกั ษะชวี ติ ต้องพัฒนาตนเอง ไม่แนใ่ จชีวติ (มีปญั หาแล้ว) พร้อมเผชญิ แก้ไขปรบั ปรงุ อีกมาก อย่างรอดปลอดภยั พฤติกรรม (เสีย่ งนะเนี่ย) เรอื่ งทฉ่ี ันจะต้องปรับปรุง 1).................................................................................................................................................. 2).................................................................................................................................................. 3).................................................................................................................................................. 4).................................................................................................................................................. ใบความรู้ *การประเมนิ ผลกิจกรรมลกู เสือ คู่มือการจดั กจิ กรรมลูกเสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ประเภทลูกเสือสามญั ร่นุ ใหญ่ เครอ่ื งหมายลกู เสอื ชัน้ พเิ ศษ 209 คู่มอื ส่งเสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือสามญั รนุ่ ใหญช่ น้ั ชม้นั ัธมยธั มยศมกึ ศษกึาปษีทาปี่ 2ีท่ี 2 216
ใบความรู้ การประเมินผลกิจกรรมลูกเสอื * 1. การประเมนิ ผลการเรียนรูต้ ามแนวทางหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน 2551 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน กําหนดให้กิจกรรมลูกเสือเป็นกิจกรรมท่ีมุ่งปลูกฝัง ระเบียบวินัยและกฎเกณฑ์เพ่ือการอยู่ร่วมกัน รู้จักการเสียสละ บําเพ็ญประโยชน์แก่สังคม และ ดาํ เนินวถิ ชี วี ติ ในระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนมีทักษะชีวิตเป็นภูมิคุ้มกันปัญหาสังคมตามช่วงวัย ของลูกเสือ การจัดกิจกรรมลูกเสือยังต้องเป็นไปตามข้อบังคับของสํานักงานลูกเสือแห่งชาติและ สอดคล้องกับหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐานอกี ดว้ ย แนวทางการประเมินผลกจิ กรรมลกู เสอื กจิ กรรมลูกเสอื เป็นกจิ กรรมนักเรียนท่ีลูกเสือทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ 40 ชั่วโมง ตอ่ ปกี ารศึกษาในระดับประถมศกึ ษาและมธั ยมศึกษา การประเมนิ การจัดกิจกรรมลกู เสือตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานมีประเด็น/ส่ิง ท่ีตอ้ งประเมนิ ดงั นี้ 1. เวลาในการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ้เู รียนตอ้ งมเี วลาเข้ารว่ มกจิ กรรมตามที่สถานศึกษากําหนด 2. การเรยี นรู้ผา่ นกจิ กรรมหรือการปฏบิ ัติกจิ กรรมอย่างต่อเน่ือง มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพ ของตนและการทาํ งานกลมุ่ 3. ผลงาน / ชน้ิ งาน / พฤติกรรม / คุณลักษณะของผู้เรียน ท่ีปรากฏจากการเรียนรู้หรือการ เปลย่ี นแปลงตนเอง *การประเมินผลอาจเขียนแยกการประเมนิ ผลแต่ละกิจกรรม หรอื เขยี นรวมในภาพรวมของกิจกรรมลูกเสือก็ได้ เอกสารอา้ งองิ กระทรวงศกึ ษาธิการ. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551.กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จาํ กัด. 2551 แนวทางการประเมินผลการเรยี นรู้กิจกรรมลูกเสอื แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสอื 217 2ค1ู่ม0อื สง่ เสรชคิมู่มัน้ แอืมลกัธะายพรมจฒั ศัดึกนกษาจิ ากกปิจรีทกรมี่ร2รลมกู เลสูกอื เเสสือริมทสกั รษา้ ะงชทวี ักติ ษใะนชสวี ถิตาปนระศเกึภษทาลกู ลเูกสเือสสอื าสมาญั มรญั นุ่ รใหนุ่ ญให่ เญค่รช่อื ัน้งหมมธั ายยมลศกู ึกเสษอื าชปั้นีทพ่ี 2เิ ศษ
แนวทางการประเมนิ ผลการเรยี นรูก้ จิ กรรมลูกเสอื แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสอื จัดกจิ กรรมลูกเสือ เกณฑก์ ารประเมนิ ตามคมู่ อื การจัดกจิ การลกู เสอื ท่ี 1. เวลาเข้าร่วมกิจกรรม 2. การปฏิบัติกจิ กรรม เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ 3. ผลงาน / ชิน้ งาน 4. พฤตกิ รรม/คณุ ลักษณะ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ของลูกเสอื ผลการประเมิน ไม่ผ่าน ผ่าน ซอ่ มเสรมิ สรปุ ผลการประเมนิ / ผ่าน ตดั สินผลการเรยี นรู้ รายงาน / สารสนเทศ จดั พธิ ีประดับเครอื่ งหมายลกู เสอื ตามประเภทลกู เสือ การประเมนิ กจิ กรรมลูกเสอื มี 2 แนวทาง คือ 1. การประเมินกจิ กรรมลกู เสือรายกจิ กรรมมีแนวปฏิบัตดิ งั น้ี 1.1 ตรวจสอบเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของลูกเสือให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กาํ หนด 1.2 ประเมินกิจกรรมการเรียนรู้จากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน / ชิ้นงาน / คุณลกั ษณะของผู้เรยี นตามเกณฑท์ ่สี ถานศึกษากําหนดด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย เน้นการมีส่วนร่วม ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 1.3 ลูกเสือท่มี เี วลาการเข้าร่วมกิจกรรม มกี ารปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน / ช้ินงาน / คณุ ลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศกึ ษากําหนดเปน็ ผู้ผา่ นการประเมนิ รายกจิ กรรมและนาํ ผลการประเมนิ ไปบนั ทกึ ในระเบยี นแสดงผลการเรยี น 1.4 ลกู เสือทมี่ ผี ลการประเมินไม่ผ่านในเกณฑ์เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ กจิ กรรมและคผู่มลอื งกาานรจดั/กชิจิน้กรงรามนลูก/เสคือุณเสรลิมกั สษร้าณงทะักตษะาชมวี ทติ ปส่ี รถะาเภนทศลูกึกเษสือาสกามาํ ญัหรนนุ่ ดใหญผู่้กเคํารกือ่ งับหชลม้นั ูกามยเธัลสยกู ือมเสศตอื ึก้อชษ้นังาพดปิเทีําศ่ีเษ2นินกา2ร11
ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 1.3 ลกู เสือทีม่ ีเวลาการเข้ารว่ มกิจกรรม มีการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน / ช้ินงาน / คุณลกั ษณะตามเกณฑ์ทส่ี ถานศกึ ษากําหนดเปน็ ผผู้ ่านการประเมนิ รายกิจกรรมและนําผลการประเมนิ ไปบันทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรยี น 1.4 ลูกเสอื ทีม่ ีผลการประเมินไม่ผ่านในเกณฑ์เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ กิจกรรมและผลงาน / ชิน้ งาน / คณุ ลักษณะตามที่สถานศกึ ษากําหนด ผู้กํากับลูกเสือต้องดําเนินการ ซ่อมเสริมและประเมินจนผ่าน ทั้งน้ีควรดําเนินการให้เสร็จสิ้นในปีการศึกษานั้น ๆ ยกเว้นมีเหตุ สดุ2ว1สิ8ัยใ2ห.อ้คยู่มกือ่ใู านสรง่ดปเสุลรรพะมิ เนิแมลิจนิ ะขพกอัฒจิ งกนสารถกราิจมกนลรศกูรมกึ เสลษูกือาเเสพือ่อืทกักษาะรชตีวดั ิตสในินสใถจานศกึ ษา ลูกเสือสามัญรุน่ ใหญ่ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 การประเมินกิจกรรมลูกเสือเพื่อตัดสินควรได้รับเคร่ืองหมายและเล่ือนระดับทาง ลูกเสอื และจบการศกึ ษาเป็นการประเมินการผ่านกิจกรรมลูกเสือเป็นรายปี / รายภาค / เพื่อสรุปผล การผา่ นในแตล่ ะกจิ กรรม สรปุ ผลรวมเพือ่ สรุปผลการผา่ นในแตล่ ะกจิ กรรม สรปุ ผลรวมเพ่ือเลอื่ นชั้น ระดับลูกเสือและประมวลผลรวมในปีสุดท้ายเพ่ือการจบแต่ละระดับการศึกษา โดยการดําเนินการ ดงั กล่าวมีแนวทางปฏิบตั ิ ดังน้ี 2.1 กําหนดให้มีผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับการเข้าร่วมกิจกรรม ลูกเสอื ของลูกเสอื ทุกคนตลอดระดบั การศึกษา 2.2 ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินใจผลการร่วมกิจกรรมลูกเสือของลู กเสือเป็น รายบคุ คล รายหมู่ ตามเกณฑ์ท่ีสถานศกึ ษากําหนด เกณฑ์การตดั สนิ 1. กําหนดเกณฑ์การประเมินตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกําหนดไว้ 2 ระดับ คอื ผ่าน และ ไม่ผ่าน 2. เกณฑ์การตัดสินผลการประเมนิ รายกิจกรรม ผ่าน หมายถึง ลกู เสอื มีเวลาเข้ารว่ มกิจกรรมครบตามเกณฑ์ ปฏิบัตกิ จิ กรรมและมผี ลงาน / ชน้ิ งาน / คุณลกั ษณะตามเกณฑท์ ่ีสถานศกึ ษากําหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ลูกเสือมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์ ไม่ผ่านการปฏิบัติ กจิ กรรมหรือมผี ลงาน / ชนิ้ งาน / คุณลักษณะไมเ่ ป็นไปตามเกณฑ์ท่สี ถานศกึ ษากาํ หนด 3. เกณฑ์การตัดสนิ ผลการประเมนิ กจิ กรรมลูกเสอื รายปี / รายภาค ผ่าน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ผ่าน” ในกิจกรรมสําคัญตามหลักสูตร ลกู เสือแต่ละประเภทกาํ หนด รวมถึงหลักสูตรลูกเสือทักษะชวี ติ ไมผ่ ่าน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ไม่ผ่าน” ในกิจกรรมสําคัญท่ีหลักสูตร ลูกเสอื แต่ละประเภทกาํ หนดและลกู เสอื ทักษะชีวิต 4. เกณฑ์การตดั สินผลการประเมนิ กิจกรรมลกู เสอื เพอื่ จบหลักสูตรลกู เสือแต่ละประเภทเป็น รายชนั้ ปี ผ่าน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ผ่าน” ทุกช้ันปีในระดับการศึกษานั้น ไม่ผ่าน หมายถึง ลกู เสือมีผลการประเมินระดับ “ไม่ผา่ น” บางช้ันปีในระดับการศกึ ษานัน้ 2. การประเมินพฤตกิ รรมทักษะชีวิตและคณุ ลกั ษณะทางลูกเสือ 2.1 ความสามารถที่คาดหวังใหเ้ กิดข้นึ กับลกู เสอื โดยรวม คอื 1) ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ 2) ความสามารถในการคดิ สรา้ งสรรค์ 212 คูม่ อื การจดั3ก)ิจคกรวรามมลูกสเาสมอื เาสรรมิถสใรน้ากงทากั รษเะหชน็ ีวติใจปผระู้อเภ่ืนทลูกเสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ เครื่องหมายลกู เสือชัน้ พเิ ศษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 คูม่ อื สง่ เสรมิ และพฒั นากิจกรรมลูกเสือทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสอื สามญั รุ่นใหญ่ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 219
รายชน้ั ปี ผ่าน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ผ่าน” ทุกช้ันปีในระดับการศึกษาน้ัน ไมผ่ ่าน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดบั “ไมผ่ า่ น” บางชั้นปใี นระดับการศึกษาน้ัน 2. การประเมนิ พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ติ และคุณลักษณะทางลูกเสอื 2.1 ความสามารถท่คี าดหวังใหเ้ กิดข้นึ กบั ลกู เสอื โดยรวม คือ 1) ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ 2) ความสามารถในการคดิ สร้างสรรค์ 3) ความสามารถในการเหน็ ใจผู้อ่ืน 4) เหน็ คุณคา่ ตนเอง 5) รบั ผิดชอบต่อสังคม 219 คู่มอื สง่ เสรมิ และพัฒ6น)ากคิจวการมรมสลาูกมเสาอืรทถกั ใษนะกชาีวรติ สในอ่ื สสถาารนเศพกึ อ่ื ษสารล้าูกงเสสอืัมสพามนั ัญธรภนุ่ าใพหญ่ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 7) ความสามารถในการตดั สนิ ใจ 8) ความสามารถในการจดั การแกไ้ ขปัญหา 9) ความสามารถในการจัดการกบั อารมณ์ 10) ความสามารถในการจดั การกบั ความเครียด 2.2 พฤตกิ รรมทค่ี าดหวังใหเ้ กดิ ขึน้ กับลูกเสือโดยรวม คอื 1) ลกู เสอื สาํ รอง (1) มที กั ษะในการสังเกตและจดจํา (2) พ่งึ ตนเอง ดูแลตนเองได้ (3) รจู้ กั รักษาส่งิ แวดล้อม (4) ไม่เจ็บปูวยดว้ ยโรคติดตอ่ ตามฤดูกาล (5) ปฏเิ สธสง่ิ เสพตดิ ทกุ ชนดิ (6) พดู จาสือ่ สารเชิงบวก ไมก่ ้าวรา้ วรนุ แรง (7) แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ (8) ใหค้ วามชว่ ยเหลอื เพือ่ นในภาวะวกิ ฤติ 2) ลกู เสอื สามญั (1) มที กั ษะในการปฏิบัติกจิ กรรมกลางแจง้ (2) รว่ มกิจกรรมบําเพญ็ ประโยชนด์ ว้ ยจิตอาสา (3) พ่งึ ตนเองและชว่ ยเหลือครอบครวั (4) ไม่ดื่มนา้ํ อัดลม (5) ไม่รับประทานขนมหวานและขนมกรบุ กรอบ (6) ใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ (7) รจู้ กั พูดเชิงบวก ไมพ่ ูดก้าวร้าวรุนแรง (8) มีความซื่อสตั ย์ ไมโ่ กหก (9) รู้จักแก้ปัญหาด้วยสนั ติวธิ ี (10) มนี ้าํ หนกั สว่ นสงู ตามเกณฑ์มาตรฐาน 3) ลกู เสือสามัญรุ่นใหญ่ (1) มีทักษะในการทาํ กจิ กรรมตามความสนใจ คู่มอื การจดั กิจกรร(ม2ล)ูกเมสอืจี เติ สรอิมาสสรา้ งททาํักปษะรชะีวโติยปชรนะเ์/ภทไมลูกก่ เสอ่ ือคสวามาัญมรเดนุ่ ใอื หดญร่ อเ้ คนร่ืองใหหมก้ าับยลคกู รเสออื บชคน้ั พรวัเิ ศษ 213 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 สถานศกึ ษา ชมุ ชน สงั คม (3) ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์
(9) ร้จู กั แก้ปญั หาดว้ ยสนั ตวิ ิธี (10) มีนา้ํ หนกั สว่ นสูงตามเกณฑม์ าตรฐาน 3) ลูกเสือสามัญร่นุ ใหญ่ (1) มที กั ษะในการทํากจิ กรรมตามความสนใจ (2) มีจิตอาสาทาํ ประโยชน์/ ไมก่ ่อความเดอื ดรอ้ น ใหก้ บั ครอบครัว สถานศึกษา ชมุ ชน สังคม (3) ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ (4) ร่วมกิจกรรมส่งเสรมิ อนรุ กั ษป์ ระเพณี ศลิ ปวัฒนธรรมไทย (5) มีทักษะการคิดวเิ คราะห์ การยับยง้ั ไม่เปน็ ทาสของสื่อโฆษณา 220 คมู่ อื ส่งเสรมิ และพ(6ฒั )นมากีทิจกักรษระมกลูกาเรสใอืชทป้ กั รษะะโชยวี ชิตในน์จสาถกานIศnึกteษrาnลeกูt เสอื สามญั รุ่นใหญ่ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 (7) มผี ลงาน/ โครงการการประหยดั พลังงาน/ ทรัพยากร (8) มีการออมหรือทาํ บัญชีรายรบั รายจา่ ยของตนเองอย่างตอ่ เน่ือง (9) มีทกั ษะการหลกี เลย่ี ง ลอดพน้ และไม่เกดิ อบุ ตั เิ หตุจากการใช้ยานพาหนะ (10) ไม่เกี่ยวขอ้ งกบั สิง่ เสพติดทกุ ประเภท 4) ลูกเสอื วิสามญั (1) มผี ลงาน/ โครงการเฉพาะท่เี ปน็ ประโยชน์ตอ่ ตัวเอง/ สังคม (2) มีจิตอาสาและบริการ (3) รู้วธิ ปี อฺ งกนั / และหลีกเล่ยี งความเสย่ี งทางเพศ (4) ใช้เวลากับสือ่ IT อยา่ งเหมาะสม ไม่เกดิ ความเสียหายตอ่ วิถีชีวติ ปกติ ของตนเอง (5) ไมเ่ กี่ยวขอ้ งกบั สิง่ เสพติด (6) มีคา่ นยิ มด้านสุขภาพอย่างเหมาะสม ไมเ่ กดิ ผลเสียตามมา (7) มีคา่ นยิ มดา้ นการรบั ประทานอาหารทีเ่ หมาะสม ไม่เกดิ ผลเสียหาย ตามมา (8) มีค่านยิ มดา้ นความงามท่เี หมาะสมไมเ่ กิดผลเสียหายตามมา (9) ไม่มีพฤตกิ รรมก้าวร้าวและกอ่ เหตุรุนแรง อ้างองิ จาก ผลลัพธก์ ารจัดกิจกรรมลกู เสอื คมู่ อื Bench Marking บนั ทึกหลังการสอน .1.2...1.ด.4.้า..น..ค...ว.คช.า.่มูน้ั.ม.ือม.ร.กธั.ู้ า.ย.รม.จ.ศ.ดั.ึก.ก.ษ.ิจ.าก.ป.ร.ีทร..ม่ี .2.ล.กู..เ.ส..อื .เ.ส..ร..มิ .ส..ร..้า.ง.ท..ัก..ษ..ะ..ช.วี..ิต..ป..ร.ะ..เ.ภ.ท..ล..ูก..เ.ส.อื..ส..า.ม..ัญ...ร.่นุ..ใ.ห..ญ...่ .เค..ร..อื่ .ง..ห..ม.า..ย..ล.ูก..เ.ส..อื .ช..ั้น..พ..เิ.ศ..ษ.............. ......................................................................................................................................................
บนั ทึกหลงั การสอน 1. ดา้ นความรู้ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. ดา้ นการปฏิบตั งิ าน ...................................................................................................................................................... ค.มู่..ือ..ส..่ง.เ.ส..ร..มิ ..แ..ล.ะ..พ..ัฒ...น..า.ก..ิจ..ก..ร.ร..ม..ล.ูก..เ.ส..ือ..ท..ัก..ษ..ะ.ช..ีว..ติ ..ใ.น..ส..ถ..า.น...ศ..กึ .ษ..า...ล..ูก..เ.ส..ือ..ส.า..ม..ญั ..ร..ุน่ ..ใ.ห..ญ...่ .ช.ั้น..ม..ธั..ย..ม..ศ..กึ..ษ..า.ป..ที..ี่.2.............2..2..1.... 3. ด้านคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชือ่ ....................................................... ผสู้ อน (.............................................) บนั ทึกความเหน็ ขอ้ เสนอแนะการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ของหวั หนา้ กลุ่มงานวชิ าการ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ................................................................... (...........................................) หวั หน้าฝูายงานวิชาการ บนั ทึกความเหน็ ขอ้ เสนอแนะการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ ของรองผู้อาํ นวยการฝาู ยวิชาการ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงช่อื ................................................................... (...........................................) รองผอู้ ํานวยการฝาู ยวิชาการ บนั ทึกความเห็นขอ้ เสนอแนะการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ของผ้อู ํานวยการโรงเรียน ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชือ่ ................................................................... (...............................................) ผอู้ ํานวยการโรงเรยี น.......................... แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญรนุ่ ใหญ่(เครอื่ งหมายลูกเสือชนั้ พิเศษ) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 คมู่ อื การจัดกจิ กรรมลกู เสือเสรมิ สรา้ งทักษะชวี ติ ประเภทลูกเสอื สามัญรุน่ ใหญ่ เครื่องหมายลกู เสือชน้ั พเิ ศษ 215 หนว่ ยที่ 8 พธิ กี าร ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 25 การประดบั เครอื่ งหมายลกู เสือชน้ั พิเศษ
ลงชอื่ ................................................................... (...............................................) ผอู้ ํานวยการโรงเรยี น.......................... แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุ่นใหญ่(เครอ่ื งหมายลูกเสือชั้นพิเศษ) ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 หน่วยท่ี 8 พธิ กี าร แผนการจัดกิจกรรมที่ 25 การประดบั เครอ่ื งหมายลูกเสือชนั้ พิเศษ เครื่องหมายวิชาพเิ ศษสายยงยศ เวลา 1 ช่วั โมง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 12.จ22ดุ ปรละคกูสู่มเงอืสคสือก์่งสเาสารรมิมเารแรลียถะนพเขฒัร้าู้นราบั กิจเคกรรร่ือมงลหกู มเสาือยทลกั ูกษเะสชือีวติ ชใน้ั นพสถิเาศนษศไกึ ดษ้า ลกู เสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 2. เน้อื หา เครอื่ งหมายลกู เสอื ชนั้ พเิ ศษ 3. ส่อื การเรยี นรู้ เคร่ืองหมายลกู เสือชน้ั พเิ ศษ 4. กิจกรรม 4.1 ผู้กํากบั ลกู เสอื และลูกเสอื พรอ้ มกนั ในห้องประชมุ 4.2 ผกู้ าํ กบั ลูกเสือเปน็ ประธานจุดธปู เทียนบูชาพระรตั นตรยั และถวายสกั การะแดพ่ ระรูป รัชกาลที่ 6ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื และลูกเสอื ร่วมกันถวายราชสดดุ ี 4.3 ผกู้ ํากบั ลกู เสือกลา่ วถึงการได้รบั อนมุ ตั ใิ ห้มสี ทิ ธิป์ ระดับเครือ่ งหมายลูกเสอื ชน้ั พเิ ศษ เครอื่ งหมายวชิ าพเิ ศษ สายยงยศ พรอ้ มทั้งใหโ้ อวาทกบั ลูกเสอื 4.4 ผู้กาํ กบั ลูกเสือมอบเครื่องหมายลกู เสอื ชั้นพเิ ศษ เครอ่ื งหมายวิชาพิเศษใหก้ ับลกู เสอื ทุกคนและแสดงความช่ืนชมยนิ ดกี บั ลูกเสอื ทกุ คน 4.5 ผู้กาํ กับลูกเสือและลูกเสือรว่ มกันทบทวนคาํ ปฏิญาณ 5. การประเมินผล สงั เกตพฤตกิ รรมจากการเขา้ รว่ มกิจกรรม 6. บันทึกหลงั การจัดกจิ กรรม แบบบนั ทึกการจดั กจิ กรรม ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 25 คู่มือการจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรพิมสิธร้าีปงทรักะษดะชบั ีวเติ คปรระเ่อื ภทงลหกู มเสือาสยามลญั ูกรุ่นเสใหือญช่ เคัน้ ร่อื พงหเิ มศาษยลกู เสอื ช้ันพเิ ศษ 216 ชนั้ มัธยมศึกษพาิธปปีที ่ี ร2ะดับเคร่ืองหมายลูกเสอื ชนั้ พเิ ศษควรมอบในโอกาสที่ลกู เสอื สามญั รุ่นใหญ่ สามารถที่ปฏิบัติจนเข้าเกณฑ์ไดร้ บั เครอื่ งหมายชนั้ พิเศษ ซงึ่ เปน็ ความภาคภมู ใิ จของผู้ที่ได้รับ
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 25 พธิ ปี ระดับเครอื่ งหมายลกู เสือชั้นพิเศษ พิธปี ระดับเครือ่ งหมายลูกเสอื ช้นั พิเศษควรมอบในโอกาสที่ลกู เสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ สามารถทปี่ ฏิบตั จิ นเข้าเกณฑไ์ ดร้ บั เครื่องหมายชนั้ พเิ ศษ ซ่งึ เปน็ ความภาคภมู ใิ จของผู้ทไ่ี ดร้ ับ เครื่องหมายลกู เสอื ชนั้ พิเศษเพอ่ื ท่ีจะไดเ้ ลือ่ นชั้นไปเรยี นหลกั สูตรลกู เสือหลวง ให้ปฏบิ ตั ิ 223 ค่มู อื สง่ เดสงั รตมิ แ่อลไะปพนัฒ้ี นากจิ กรรมลูกเสือทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือสามญั รุ่นใหญ่ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 พธิ ีทางศาสนา 1.เม่ือประธานเดินทางมาถงึ บรเิ วณพธิ ี ใหพ้ ิธกี รส่งั \"ลกู เสอื ตรง\" 2.พิธีกรเชญิ ประธานจุดธปู เทยี นบูชาพระรตั นตรยั พธิ ถี วายราชสดดุ ี 1.ประธานเดนิ ไปยงั หนา้ พระบรมรปู ทําความเคารพ(วันทยหตั ถ)์ รับพวงมาลยั หรือ ชอ่ ดอกไมจ้ ากเจา้ หนา้ ท่ี ถวายไว้บนพานที่หนา้ พระบรมรูป แล้วจุดเทยี น จดุ ธปู ตามลําดบั (เทียนอยดู่ า้ นขวาของประธาน) 2. เสรจ็ แล้วลงนง่ั คกุ เขา่ ประนมมอื ถวายบังคม ๓ ครงั้ แลว้ ลกุ ข้นึ ยนื ทาํ ความ เคารพ(วันทยหตั ถ)์ อกี ครัง้ หน่งึ 3. ประธานถอย 1 กา้ ว นั่งเตรยี มถวายราชสดดุ ี ก้าวเทา้ ซา้ ยไปขา้ งหน้าคร่ึงกา้ ว คุกเขา่ ลง ต้งั เขา่ ซา้ ยน่ังลงบนสน้ เทา้ ขวา มอื ขวาแบควํา่ วางลงบนเขา่ ขวา แขนซา้ ยวางพาดบน เขา่ ซา้ ยเอยี งไปทางขวาเลก็ นอ้ ย ใหก้ ม้ หน้าเลก็ น้อย เมอื่ พิธกี รรอ้ งเพลงราชสดุดีให้ร้องรับจน เพลงจบ (ถา้ ถอื หมวกอยู่ดว้ ยใหป้ ฏบิ ตั ิตามคมู่ อื ระเบียบแถวของสํานักงานคณะ กรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง่ ชาต)ิ 4. ผู้เข้ารบั การฝกึ อบรมและแขกรับเชิญอื่น ๆ ปฏบิ ตั ิดังน้ี 4.1 เมอื่ ประธานเดินไปจดุ ธปู เทียนบูชาพระบรมรูป ทุกคนยืนอยใู่ นท่าตรง 4.2 เมอ่ื ประธานลงนง่ั คกุ เข่าถวายบงั คม ใหท้ กุ คนนั่งลงในท่าเตรียมถวายราช สดุดี 4.3 เมื่อประธานถอยมานัง่ ในทา่ เตรียมถวายราชสดดุ ี พิธกี รจะนาํ ถวายราชสดดุ ี ให้ทกุ คนรอ้ งตามพรอ้ มกัน 5.เมือ่ จบเพลงถวายราชสดดุ ีแลว้ พิธกี รจะส่งั ใหท้ ุกคน “ลกุ ” ทกุ คนลกุ ขนึ้ ยนื 6.พิธีกรเชิญประธาน ไปยงั แทน่ รบั กล่าวรายงาน 7.หัวหน้างานกิจกรรมลูกเสอื กลา่ วรายงานและกลา่ วเชญิ ประธานประกอบพธิ ี ประดบั เครอ่ื งหมายช้ันพิเศษ 8.พธิ กี รเชญิ ประธานในพธิ ีประกอบพิธีประดบั เคร่ืองหมายลกู เสือชน้ั พิเศษ แนวปฏบิ ตั ขิ องลกู เสือผเู้ ข้ารบั การประดับเครื่องหมายลูกเสอื ชัน้ พิเศษ 1.ให้ลกู เสือท่ีเข้าเกณฑไ์ ด้รบั เคร่ืองหมายชัน้ พิเศษ จัดแถวตอนหมยู่ ืนอยู่หนา้ กอง ลกู เสือคหมู่ ือนั กหารนจา้ัดเกขิจกา้ รหรามผลกู ้ทู เสรอื งเคสรณุ มิ สวรุฒ้างทิ ทจ่ีกั ษะทะชําวี พิตปธิ รปี ะเรภะทดลับูกเเสคอื รส่ือามงญัหรมุน่ าใหยญล่กู เคเรส่อื อื งชหมน้ั าพยลิเศกู เษสอื ชั้นพเิ ศษ 217 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
6.พิธกี รเชญิ ประธาน ไปยังแทน่ รับกลา่ วรายงาน 7.หวั หนา้ งานกจิ กรรมลกู เสอื กล่าวรายงานและกลา่ วเชิญประธานประกอบพธิ ี ประดับเครื่องหมายชนั้ พเิ ศษ 8.พิธกี รเชิญประธานในพธิ ปี ระกอบพิธปี ระดับเคร่ืองหมายลกู เสือชั้นพิเศษ แนวปฏบิ ตั ขิ องลูกเสือผู้เขา้ รบั การประดบั เครื่องหมายลูกเสือช้นั พิเศษ 1.ให้ลูกเสือท่ีเขา้ เกณฑไ์ ดร้ ับเครื่องหมายช้นั พเิ ศษ จัดแถวตอนหมยู่ ืนอยู่หนา้ กอง ลูกเสือ หันหน้าเขา้ หาผทู้ รงคณุ วุฒิทจี่ ะทาํ พธิ ีประดบั เครอื่ งหมายลกู เสอื ช้ันพเิ ศษ 2.ลูกเสอื ผู้รับเครือ่ งหมายชน้ั พเิ ศษเดินตรงมาหาผทู้ รงคุณวฒุ ิ ทําความเคารพดว้ ย การทาํ วนั ทยหตั ถ์ คอ้ มตัวกา้ วเท้าขวาไปขา้ งหนา้ เพ่อื ให้ผู้ทรงคณุ วฒุ ปิ ระดับเครอ่ื งหมาย ลกู เสือชนั้ พิเศษ ทกี่ ่ึงกลางกระเป๋าเสื้อขา้ งขวา 224มอื ซค้ามู่ยอื อสอ่งกเ3สไ.รลปิมูกสแเลมัสะผอืพสัผฒั กู้รนบัับากเมคิจอื กรซร่ือรา้งมยหลขมูกอเาสงยอื ปลทรกูกั ะษเธสะาชอื นวี ชิตั้นเใมนพอส่ื เิ ถเศสาษนรศจ็ ทึกแาษํลคาว้ วลใหาูกมเท้ สเือําคสขาาวรมาพญั หดรันนุ่้วใยกหกญลาับ่ รชมทั้นามาํ ยธัวยนืนั มททศี่เยึกดษหิมาัตปถีท์่ี ย2 ื่น 4.เม่อื มอบเสรจ็ ทุกคนแลว้ ประธานกลา่ วใหโ้ อวาทและแสดงความยนิ ดตี อ่ ผู้ทีไ่ ด้รบั เคร่อื งหมายลกู เสือชนั้ พิเศษ และใหก้ ล่าวทบทวนคาํ ปฎญิ าณ ผบู้ งั คับบญั ชาลกู เสอื ทมี่ ารว่ มใน พธิ ีเขา้ มาจบั มอื แสดงความยนิ ดี 12.1ด8า้ นควคชาู่มั้นมอืมรกัธาู้ยรมจศัดึกกษิจากปรีทรมี่ 2ลกู เสือเสรมิ สบรา้นั งททักกึษะหชีวลติ งัปกระาเภรทจลูกดั เสกือสิจากมญัรรรนุ่ มใหญ่ เครอื่ งหมายลูกเสือช้นั พเิ ศษ
บันทึกหลงั การจัดกจิ กรรม 1. ด้านความรู้ ...................................................................................................................................................... ค.ูม่...อื .ส..ง่..เ.ส..ร.ิม..แ..ล..ะ.พ..ัฒ...น..า.ก..ิจ..ก..ร.ร..ม..ล..ูก..เ.ส..อื .ท..กั..ษ..ะ..ช..วี .ิต..ใ..น..ส.ถ..า..น..ศ..กึ ..ษ..า..ล..ูก..เ.ส..อื ..ส..า.ม..ัญ...ร.นุ่..ใ.ห..ญ...่ .ช..ัน้ ..ม..ัธ..ย.ม..ศ..กึ..ษ..า..ป..ที ..่ี .2............2..2..5.... 2. ดา้ นการปฏิบัตงิ าน ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. ดา้ นคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. ปัญหา / อุปสรรค และขอ้ เสนอแนะ ...................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... ลงชอื่ ....................................................... ผู้สอน (.............................................) บันทึกความเหน็ ขอ้ เสนอแนะการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ ของหวั หนา้ กลุม่ งานวชิ าการ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชือ่ ................................................................... (...........................................) หัวหน้าฝูายงานวชิ าการ บันทกึ ความเห็นขอ้ เสนอแนะการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ของรองผอู้ าํ นวยการฝาู ยวิชาการ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชอื่ ................................................................... (...........................................) รองผอู้ าํ นวยการฝาู ยวชิ าการ บันทกึ ความเหน็ ขอ้ เสนอแนะการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ ของผู้อํานวยการโรงเรียน ...................ค..ู่ม..ือ..ก.า..ร.จ..ัด..ก.จิ..ก..ร.ร..ม.ล..ูก..เ.ส..อื .เ.ส..ร.มิ..ส..ร.้า..ง.ท..กั..ษ..ะ.ช..วี..ิต..ป.ร..ะ.เ.ภ..ท..ล..กู ..เส..ือ..ส..า.ม..ัญ..ร..ุ่น..ใ.ห..ญ..่.เ.ค..ร.ื่อ..ง..ห.ชม..ัน้ า.ม.ย.ัธล..ยูก.ม.เ.สศ..ือกึ.ช.ษ.ั้น.า.พป..เิีท.ศ.่ี.ษ2.........2.19 226 ค่มู ือสง่ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลูกเสอื สามัญรุ่นใหญ่ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2
(...........................................) รองผอู้ าํ นวยการฝาู ยวชิ าการ บันทกึ ความเห็นข้อเสนอแนะการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ ของผู้อาํ นวยการโรงเรยี น ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 226 คู่มอื ส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชวี ติลใงนชส่ือถ.า.น..ศ..ึก..ษ..า...ล..ูก.เ.ส..ือ..ส..า.ม..ัญ...ร.่นุ...ใ.ห..ญ..่.ช..้นั..ม..ัธ..ย..ม..ศ..ึก..ษ..า.ป..ีท..่ี.2.... (...............................................) ผอู้ าํ นวยการโรงเรียน.......................... 220 คมู่ ือการจดั กจิ กรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชวี ิตประเภทลูกเสือสามัญรุน่ ใหญ่ เครอื่ งหมายลกู เสอื ช้ันพิเศษ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 คู่มือสง่ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลูกเสอื สามัญรุ่นใหญ่ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 227
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก แนวคิดเรอื่ งทักษะชวี ิต ความหมายและองค์ประกอบทกั ษะชวี ติ ทกั ษะชีวติ เป็นความสามารถของบคุ คล ทจ่ี าํ เป็นต่อการปรบั ตวั ในการเผชิญปัญหาตา่ ง ๆ และสามารถดาํ เนนิ ชวี ติ ท่ามกลางสภาพสงั คมทม่ี ีการเปลย่ี นแปลงทงั้ ในปจั จุบัน และเตรยี มพร้อม สําหรับการเผชญิ ปัญหาในอนาคต องค์ประกอบทักษะชีวิต มี 12 องค์ประกอบ จัดเป็น 6 คู่ โดยแบ่งตามพฤติกรรมการเรียนรู้ 3 ด้าน ดังนี้ อhงgคhjป์ hgรfgะjกjhอgfบf jทhhักgfษfdะsdชsdีวsติ6คู่ 3 ด้าน ความตระหนัก การสรา้ ง รู้ในตน สัมพนั ธภาพและ การส่ือสาร ความเห็นใจ ความคิด การ ทกั ษะพสิ ยั ผูอ้ ื่น สรา้ งสรรค์ ตดั สินใจ พทุ ธิพิสัย จติ พิสยั และแก้ไข ความ ความคิดวิเคราะห์ ปญั หา ภาคภูมิใจ วจิ ารณ์ ในตวั เอง ความ การจัดการกบั อารมณแ์ ละ รบั ผดิ ชอบ ความเครียด ตอ่ สังคม แผนภาพท่ี 1 องค์ประกอบของทกั ษะชีวิต 1. ด้านพุทธพิ สิ ัย จัดไวต้ รงกลางของแผนภาพ เพราะเป็นองค์ประกอบรว่ มและเปน็ พนื้ ฐาน ของทกุ องคป์ ระกอบ ได้แก่ - ความคิดวิเคราะหว์ ิจารณ์ เป็นความสามารถที่จะวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมิน ข้อมูล ข่าวสาร ปญั หา และสถานการณต์ า่ ง ๆ รอบตวั - ความคดิ สร้างสรรค์ เปน็ ความสามารถในการคดิ ออกไปอย่างกวา้ งขวางโดยไม่ ยึดติดอยใู่ นกรอบ และการสรา้ งสรรคส์ ่งิ ใหม่ คมู่ อื สง่ เสรมิ คแู่มลอื ะกพารัฒจนดั ากกิจิจกกรรรมรมลูกลเูกสเอื สเือสทรมิ กั สษระา้ ชงวีทติักใษนะสชถีวาติ นปศระึกเษภทาลลูกูกเเสสือือสสาามมัญัญรุ่นรุ่นใหใญหญ่ เค่ ชร้ัน่อื งมหัธมยามยศลึกูกษเสาือปชีท้นั ี่ พ2ิเศษ 222293 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2
2. ดา้ นจิตพิสยั หรือ เจตคติ มี 2 คู่ คอื คทู่ ่ี 1 ความตระหนักรูใ้ นตนเอง และ ความเขา้ ใจ/เห็นใจผูอ้ ่ืน ค่ทู ี่ 2 เห็นคุณคา่ /ภูมิใจตนเอง และ ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม - ความตระหนักรู้ในตนเอง เป็นความสามารถในการค้นหาและเข้าใจในจุดดีจุด ด้อยของตนเอง ยอมรับความแตกต่างของตนเองกับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะในแง่ความสามารถ เพศ วัย อาชีพ ระดับการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจ ฐานะทางสังคม ศาสนา สีผวิ ทอ้ งถน่ิ สขุ ภาพ ฯลฯ - ความเขา้ ใจ/เห็นใจผู้อ่ืน เป็นความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น เห็น อกเห็นใจและยอมรบั ตวั ตนของบคุ คลอนื่ ทแ่ี ตกตา่ งกับเรา ไมว่ า่ จะในแง่ความสามารถ เพศ วยั อาชีพ ระดับการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกจิ ฐานะทางสังคม ศาสนา สีผิว ทอ้ งถิ่น สุขภาพ ฯลฯ - เห็นคุณค่า/ภูมิใจตนเอง เป็นการค้นพบ คุณสมบัติเฉพาะตัวของตนเอง รู้สึกว่า ตนเองมีคุณค่า เช่น เป็นคนมีน้ําใจ ซ่ือสัตย์ ยุติธรรม และภูมิใจในความสามารถด้านต่าง ๆ ของ ตนเอง เชน่ ดา้ นสังคม ดนตรี กีฬา ศลิ ปะ การเรยี น ฯลฯ - ความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นความรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหน่ึงของสังคมและมี ส่วนรบั ผดิ ชอบในความเจรญิ หรือเสื่อมของสงั คมนน้ั คนทเ่ี หน็ คณุ ค่าตนเองจะมแี รงจูงใจที่จะทําดีกับ ผู้อ่ืนและสงั คมสว่ นรวมมากขนึ้ จึงจดั เขา้ คู่กบั ความรบั ผิดชอบต่อสังคม 3. ด้านทกั ษะพสิ ัยหรือทกั ษะ ประกอบดว้ ย 3 คู่ คอื คูท่ ี่ 1 การสอ่ื สารและการสร้างสมั พันธภาพ คทู่ ่ี 2 การตดั สินใจและการแก้ไขปญั หา ค่ทู ่ี 3 การจดั การกบั อารมณ์และความเครยี ด - ทกั ษะการการสอื่ สารและการสรา้ งสมั พันธภาพ เปน็ ความสามารถในการใช้ คําพูดและภาษาท่าทาง เพือ่ สอ่ื สารความรสู้ กึ นึกคิดของตนเอง และสามารถรับรูค้ วามรสู้ กึ นึกคดิ ความตอ้ งการ ของอีกฝูายหน่ึง มีการตอบสนองอย่างเหมาะสมและเกดิ สัมพนั ธภาพทด่ี ีต่อกนั - ทักษะการตดั สินใจและการแก้ไขปญั หา การตัดสนิ ใจใช้ในกรณีทมี่ ที างเลอื กอยู่ แลว้ จงึ เรมิ่ ตน้ ดว้ ยการวเิ คราะห์ขอ้ ดีขอ้ เสยี ของแตล่ ะทางเลอื กเพื่อหาทางเลอื กทด่ี ที ่ีสดุ และนําไป ปฏบิ ตั ิ ส่วนการแกไ้ ขปญั หาเป็นความสามารถในการรบั รปู้ ญั หาและสาเหตขุ องปญั หา หาทางเลอื ก ได้หลากหลาย วเิ คราะหข์ อ้ ดขี อ้ เสยี ของแต่ละทางเลอื ก ตดั สนิ ใจเลอื กทางเลอื กในการแกป้ ัญหาท่ี เหมาะสมทสี่ ดุ และนาํ ไปปฏบิ ัติ - ทักษะการจดั การกบั อารมณแ์ ละความเครียด เป็นความสามารถในการรับรู้ อารมณ์ตนเอง ประเมนิ และรู้เทา่ ทันวา่ อารมณจ์ ะมีอทิ ธพิ ลต่อพฤตกิ รรมของตนอย่างไร และเลอื กใช้ วธิ จี ดั การกบั อารมณท์ เี่ กดิ ขนึ้ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ส่วนการจัดการความเครยี ดเป็นความสามารถในการ รับรรู้ ะดับความเครยี ดของตนเอง ร้สู าเหตุ หาทางแกไ้ ข และมวี ิธีผ่อนคลายความเครียดของตนเอง อย่างเหมาะสม 222430 คู่มคือู่มกาือรสจง่ ดั เสกจิรมิกรแรลมะลพูกฒั เสนือาเสกรจิ มิ กสรรร้ามงลทกู ักเษสะือชทวี ักติ ษปะรชะเวี ภติ ทใลนกู สเถสาือนสาศมกึ ัญษรา่นุ ลใหกู ญเส่ ือเคสราื่อมงญั หรมุน่ายใหลูกญเ่สชือน้ั ชมน้ั ธัพยเิ ศมษศึกษาปีที่ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
ความแตกตา่ งระหว่างทกั ษะชวี ิตทวั่ ไปและทักษะชวี ิตเฉพาะ ทักษะชีวิตท่ัวไป เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม สําหรับปัญหาทั่ว ๆ ไปใน ชีวติ ประจําวนั ดว้ ยทกั ษะชีวิต 12 องค์ประกอบ ใหก้ บั เดก็ ทุกคน ทักษะชีวิตเฉพาะ เป็นการประยุกต์ใช้ทักษะชีวิต 12 องค์ประกอบ ที่มีเน้ือหา เก่ียวกับการปฺองกันปัญหาเฉพาะเรื่องสําหรับเด็กกลุ่มเสี่ยง โดยมีครูท่ีปรึกษาและระบบดูแล ช่วยเหลือนกั เรียนรองรับ ทกั ษะชวี ิตกบั การพัฒนาเยาวชน เม่ือแบ่งเยาวชนออกเป็น 3 กลุ่ม คือเด็กปกติ เด็กกลุ่มเสี่ยง และเด็กที่มีปัญห า ทักษะชีวิตจะเป็นกลยุทธ์สําคัญในการส่งเสริมภูมิคุ้มกันทางสังคม ให้กับเด็กปกติ และเด็กทุกคน สําหรับเด็กกลุ่มเส่ียงต้องมีการสอนทักษะชีวิตเฉพาะในแต่ละปัญหา มีครูที่ปรึกษาและระบบดูแล ชว่ ยเหลอื นกั เรยี นรองรบั ส่วนเด็กท่ีมีปัญหาแล้วใช้การดูแลใกล้ชิดเพ่ือหาทางแก้ปัญหาท่ีเหมาะสม เป็นรายบคุ คล และมีระบบสง่ ต่อยงั วชิ าชีพเฉพาะทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง คมู่ อื ส่งเสริมแคลูม่ ะอื พกฒั ารนจาดั กกิจจิ กกรรรรมมลลูกูกเเสสืออื เทสกั รษมิ สะชร้าวี งิตทใักนษสะถชาวี นติ ศปกึ รษะเาภทลลูกกูเสเสอื ือสสาามมญั ญั รรนุ่ ุ่นใใหหญญ่่ ชเคนั้ รมื่อธังหยมมาศยึกลษูกาเสปอืที ชี่ 2ัน้ พเิ ศษ 232125 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2
ตวั อยา่ งทกั ษะชวี ิตเฉพาะ เขา้ ใจ/เหน็ ใจผ้ไู ด้รบั ผลกระทบจากสารเสพตดิ 222632 ค่มู คอื ู่มกาอื รสจง่ ดั เสกจิรมิกรแรลมะลพูกัฒเสนอื าเสกรจิ ิมกสรรรา้มงลทกู กั เษสะอื ชทีวกั ติ ษปะรชะเีวภติ ทใลนกู สเถสาือนสาศมึกญั ษรานุ่ ลใหกู ญเส่ ือเคสรา่ือมงญั หรม่นุายใหลูกญเ่สชือน้ั ชม้ันธัพยิเศมษศึกษาปที ี่ 2 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2
ผิดชอบและปลอดภัย ความแตกต่างระหว่างทกั ษะชีวติ และทกั ษะการดารงชวี ติ ทักษะชวี ติ (Life Skills) เปน็ ความสามารถทางจิตสังคม อันประกอบ ด้วย ความรู้ เจตคติ และทักษะ ทจ่ี าํ เป็นในการดาํ เนนิ ชวี ิตท่ามกลางสภาพสงั คมทเี่ ปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็วในปจั จบุ ัน และเตรยี มพรอ้ มสาํ หรบั การเผชญิ ปญั หาในอนาคต มี 6 คู่ 12 องคป์ ระกอบ ทกั ษะการดารงชีวิต (Living Skills) เปน็ ทักษะทีใ่ ชใ้ นกจิ วัตรประจาํ วัน ในเรอ่ื งพน้ื ฐาน ของชีวติ มกั เปน็ ทักษะทางกายภาพ เช่น อาบนาํ้ แต่งตวั ซกั เส้ือผ้า ปรุงอาหาร ขจ่ี กั รยาน ว่ายน้าํ ผกู เง่ือนเชอื ก การจดั กระเปา๋ เดินทาง การใชแ้ ผนทีเ่ ข็มทิศ ฯลฯ ความเช่อื มโยงระหวา่ งทักษะชีวติ และทักษะการดารงชีวิต ทักษะชีวติ และทกั ษะการดาํ รงชวี ิต มักถกู ใชผ้ สมผสาน เช่อื มโยงกนั ทั้งในกจิ วตั รประจําวนั ปกติ และในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดข้นึ ไม่แยกส่วน โดยทกั ษะชวี ิตจะเปน็ ตัวช่วยในการเลอื กและใช้ ทักษะการดาํ รงชวี ิตไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ถูกท่ี ถกู เวลา และเกดิ ผลลพั ธท์ ด่ี ี สถานการณท์ างจิตสงั คม มักใชท้ กั ษะชวี ติ เปน็ หลกั ตวั อยา่ ง เชน่ การจัดการกบั อารมณ์โกรธ ความขดั แย้ง และ ความรนุ แรง ตระหนักรู้และหลีกเลยี่ งพฤตกิ รรมเสีย่ งตา่ ง ๆ รวมถึงการปฺองกนั อบุ ัติเหตุ การชว่ ยเหลือผอู้ ืน่ และรบั ผิดชอบต่อสว่ นรวม การสอื่ สารเชงิ บวกและสร้างสมั พนั ธภาพท่ีดี กจิ วัตรที่ทําเปน็ ประจํา ใชท้ กั ษะการดํารงชีวิตเป็นหลัก เช่น อาบนา้ํ แต่งตวั แปรงฟนั ซกั เสอ้ื ผ้า ปรุงอาหาร ข่จี กั รยาน ว่ายนา้ํ ผูกเงื่อนเชือก ใชแ้ ผนท่ีเขม็ ทศิ ฯลฯ คมู่ ือสง่ เสรมิ แคล่มู ะือพกัฒารนจาัดกกจิ จิ กกรรรรมมลลูกกู เเสสือือเทสกั รษิมสะชร้าวี งติ ทใกั นษสะถชาวี นิตศปึกรษะเาภทลลูกกูเสเสือือสสาามมัญัญรรนุ่ ่นุ ใใหหญญ่่ ชเคน้ั รม่อื ธังหยมมาศยึกลษูกาเสปอืีทช่ี 2น้ั พเิ ศษ 232327 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2
ทักษะชีวิตสรา้ งไดอ้ ยา่ งไร สร้างด้วย 2 วธิ ีการใหญ่ ๆ คือ 1. เรียนรเู้ องตามธรรมชาติ ซง่ึ ขน้ึ กบั ประสบการณแ์ ละการมแี บบอย่างทด่ี ี จงึ ไมม่ ที ิศทางที่ แนน่ อน และกวา่ จะเรียนรกู้ ็อาจชา้ เกินไป 2. สรา้ งโดยกระบวนการเรียนการสอนทยี่ ึดผเู้ รยี นเป็นศนู ย์กลาง ใหเ้ ดก็ เรยี นร้รู ว่ มกันใน กลุ่ม ผา่ นกจิ กรรมรปู แบบตา่ ง ๆ ท่ีเดก็ ตอ้ งมีสว่ นรว่ มท้งั ทางรา่ งกายคอื ลงมอื ปฏบิ ตั ิ และทาง ความคดิ คอื การอภิปรายแลกเปลยี่ นความคดิ และประสบการณ์ เพื่อสร้างองคค์ วามรใู้ หม่รว่ มกนั การสอนทย่ี ดึ ผเู้ รยี นเป็ นศนู ยก์ ลาง • สรา้ งความรู้ (Construction) กจิ กรรมทใ่ี หผ้ เู ้ รยี นมสี ว่ นรว่ มทาง สตปิ ัญญา คน้ พบความรดู ้ ว้ ยตนเอง • ปฏสิ มั พนั ธ์ (Interaction) กจิ กรรมตอ้ งสง่ เสรมิ ปฏสิ มั พนั ธก์ ับ ผอู ้ นื่ และแหลง่ ความรทู ้ ห่ี ลากหลาย • เป็ นกระบวนการ (Process Learning) • มมสีสี ว่ ว่ นนรรว่ ว่ มม((PPhhyyssiiccaall PPaarrttiiccipipaatitoionn) )มมสี สี ว่ ่วนนรรว่ ว่ มมดดา้า้ นนรรา่่างงกกาายย ลง ลมงอื มกือรกะทระาทก�ำ จิกกิจรกรรมรมในในลลักกั ษษณณะะตตา่ ่างง ๆ • มกี ารประยกุ ตใ์ ช้ (Application) การมสี ว่ นรว่ มทางสตปิ ญั ญาทาํ ให้เกดิ ทกั ษะชวี ติ 2 องคป์ ระกอบแกนหลกั คอื ความคดิ วเิ คราะห์ และความคดิ วจิ ารณ์ ปฏสิ ัมพันธ์ในกลุม่ เพอื่ ทํากจิ กรรมร่วมกนั ทําใหเ้ ดก็ ได้ฝึกองค์ประกอบทกั ษะชีวิต ดา้ นทกั ษะท้ัง 3 คู่ คอื การสร้างสมั พนั ธภาพและการสอื่ สาร การตัดสินใจและการแก้ไขปัญหา การจดั การอารมณ์และ ความเครียด การรับฟงั ความคดิ เห็นของคนอนื่ ทําให้เกิดความเขา้ ใจคนอนื่ มากขนึ้ ขณะเดยี วกนั กเ็ กิดการ ไตรต่ รองทําความเข้าใจและตรวจสอบตนเอง จัดเป็นองคป์ ระกอบทักษะชีวติ ดา้ นเจตคตคิ ือ การเข้าใจ ตนเอง และเขา้ ใจ/เห็นใจผ้อู ่ืน การได้รับการยอมรับจากกลุ่ม การทํางานสําเร็จได้รับคําชม ทําให้เกิดความภูมิใจและเห็น คณุ ค่าตนเอง นําไปสู่ความรับผดิ ชอบมากขนึ้ ท้งั ตอ่ ตนเองและสงั คม กระบวนการและการมีส่วนร่วม ช่วยให้กิจกรรมสนุกสนานน่าสนใจ และนําไปสู่จุดประสงค์ ที่ตั้งไว้ รวมทัง้ การประยุกต์ใช้เป็นการเปดิ โอกาสให้ผูเ้ รียนได้เชือ่ มองคค์ วามรใู้ หม่ที่เกิดขึ้นเข้าสู่ชีวิต จริง วา่ ได้เกิดการเรียนรู้อะไรและนาํ ไปใช้ในชวี ิตประจาํ วันอย่างไร 222834 คู่มคอื มู่กาือรสจ่งัดเสกิจริมกรแรลมะลพูกัฒเสนือาเสกริจมิ กสรรร้ามงลทูกักเษสะือชทีวกั ติ ษปะรชะเีวภิตทใลนกู สเถสาือนสาศมึกญั ษรานุ่ ลใหกู ญเส่ อื เคสราอื่ มงัญหรมนุ่ายใหลูกญเ่สชอื นั้ ชม้นั ัธพยิเศมษศึกษาปที ี่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2
88 คคววาามมหหมมาายยขขอองงกกรระะบบววนนกกาารรลลูกกู เเสสอืือ ((SSccoouutt mmoovveemmeenntt)) ลสสลูกํากูําหเสหเรสือัรบือับเยเยตาตาาวาวมชมชคนคนาํ ํานเนเพิยพิยื่อา่ือามสสมขรรข้าอ้าองงงงเลเลยยกู ูกาาเเวสวสชอืชือนโนโลลททกก่ีมี่มีจหีหจิิตตมมใใาาจจยยเเถถสสึงึงียียสกสกลรลระะะะบบรรววับับนนผผกกิดิดาาชรชรอเอเรบรียบียนแนแรลรลู้แะู้แะลอลอะุทะพุทิศพัิฒศตัฒตนนนนาแตาแกตนก่สนเ่สังอเัคงองคมองมยอด่ายด้วง่าย้วตงยว่อติธวเ่อนีกิธเ่ือนีากรง่ือารง คกเพเกควาพื่วอราาื่มอรศาใศมหใึกหหึกห้เษมป้ษเมาาปต็นาายสต็นยาสบ่วาแมบ่วนุแคมลนุแคลหคแะหนคะสนนลสนลวขุ ่ึทงวขุ ทึ่ทงสที่มสซี่บามซาบีค่ึงงีาคึ่งงามกวยมวกยาุ่งาาุ่งามพรมพรจปัฒจปัฒัดัดรรนนกะกะาาพิจพิจสสกฤกฤมมรรตตรรรริรดิรดมมถถีงีงพพภภาาััมมฒฒาาพพนนไไขขมาามออผผ่ก่กงงู้เู้เรรบรบระะียียุคุคททนคนคําําลตลต22น5ทน5ท2เ2ั้งเ้ังป2ป2ทท็น็นาาปงปง(ส(ัญสสัญสมพมหพอหฐอางฐา.งส).สร)ังรห่ัางคห่างคมมกงมมากาายแยายแถลยถลจึะงึะงิดกตจดกิํตาใรจําระรใจงรบะแชงบวลแชีวนวะลิีตวนศกะิตอีลกาศยอธรีาล่ายทรรธรง่าทารมมงงราีมมงี หหลลักกั กกาารรลลกู ูกเเสสอื อื ((SSccoouuttpprriinncciippllee)) ความหมห1า1ห.ยลห.ลักหนักกนา้กาท้าารท่ตีรลลอ่่ีตกู กู พ่เอเสรสพอื ะือรโเโจละลา้กเก/จเศเน้านา้น/น้สศทนทาห่ีาหี่สนนไน้าดา้ าทท้แหี่หกี่ไดล่ลก้กัักแากร33่แกปปสรารวะะรงกกหแาาสารรแวคลคงอืะือหดาาํ แเนลนิะดชํีวาิตเนอินยา่ชงีวมิตคี อณุ ยค่าา่ งแมลีคะุณควคา่ามแหลมะาย สสงิ่ แิง่ แววดดลล้ออ้2ม2ม.ห.หนน้า้าทที่ตี่ต่อ่อผผู้อู้อ่ืนื่น ไไดด้แ้แกก่่ กกาารรเเคคาารรพพ ใใหห้เ้เกกียียรรตติ ิ ชช่ว่วยยเเหหลลือือผผู้อู้อ่ืนื่นรรววมมถถึงึงกกาารดรดูแูแลลสัสงคังคมมแลแะละ 33.ห.หนน้า้าทท่ีตี่ต่อ่อตตนนเเอองง ไไดด้แ้แกก่่ พพััฒฒนนาาตตนนเเอองงททั้งั้งดด้า้านนรร่า่างงกกาายยจจิติตใใจจออาารรมมณณ์ ส์ ัสงัคงคมมแลแะละ จจติ ิตววิญญิ ญญาาณณ หลกั การลกู เสอื ไทย มี 5 ขอ้ คือ 166 คมู่ ือส่งเสริมและพฒั นากจิ กรรมลกู เสือทกั ษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ค่มู อื สง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสอื ทกั ษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือสามญั รุน่ ใหญ่ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 235 คู่มอื การจัดกจิ กรรมลูกเสือเสรมิ สร้างทักษะชีวติ ประเภทลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ เครอื่ งหมายลกู เสือชัน้ พิเศษ 229 ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2
1. มีศาสนาเป็นหลกั ยึดทางใจ 2. จงรกั ภกั ดตี อ่ พระมหากษัตรยิ แ์ ละประเทศชาติ 3. เข้าร่วมพัฒนาสังคม ยอมรับ เคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีผู้อ่ืนและเพื่อนมนุษย์ทุกคน รวมทั้งธรรมชาติ และสรรพสิ่งทัง้ หลายในโลก 4. รบั ผิดชอบต่อการพฒั นาตนเองอย่างต่อเน่ือง 5. ยึดมนั่ ในคาํ ปฏิญาณและกฎของลูกเสือ วิธกี ารลูกเสอื (Scout method) วิธีการลูกเสอื โลก มี 8 องค์ประกอบ โดยแบง่ ออกเป็น 3 กลุม่ คือ กล่มุ ท่ี 1 ผ้ใู หญ่มหี นา้ ทีช่ ว่ ยเหลอื และสง่ เสรมิ เยาวชนให้เกดิ การเรยี นรใู้ นกลมุ่ กลุ่มที่ 2 มีกิจกรรมท่บี รรลวุ ตั ถปุ ระสงคใ์ นการพฒั นาเยาวชนอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและเปน็ ระบบ กลุ่มที่ 3 เปน็ ลักษณะกิจกรรมทใี่ ช้ มี 6 องคป์ ระกอบ 1. ยึดมั่นในคําปฏิญาณและกฎของลกู เสอื 2. ใชร้ ะบบสัญลกั ษณ์เปน็ แรงกระตนุ้ ไปสู่เปฺาหมายในการพฒั นาตนเอง 3. ระบบหมู่ (กล่มุ เรียนรูร้ ว่ มกนั ) 4. เรยี นรู้ใกล้ชดิ ธรรมชาติ 5. เรียนรู้จากการลงมอื ปฏบิ ัติ / เกม 6. เรยี นรจู้ ากการบรกิ ารผู้อน่ื วิธีการลูกเสอื ไทย ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน 2551 มี 7 องคป์ ระกอบ คอื 1. ความกา้ วหน้าในการเข้าร่วมกจิ กรรม 2. การสนบั สนนุ โดยผใู้ หญ่ 3. ยึดมัน่ ในคาํ ปฏญิ าณและกฎ 4. การใช้สัญลกั ษณ์ร่วมกัน 5. ระบบหมู่ 6. การศึกษาธรรมชาติ 7. เรียนรูจ้ ากการกระทํา วธิ กี ารลกู เสอื สรา้ งทกั ษะชวี ิตได้อยา่ งไร 232036 คู่มคือมู่กาอื รสจง่ ัดเสกิจรมิกรแรลมะลพูกัฒเสนอื าเสกริจมิ กสรรร้ามงลทูกักเษสะือชทวี กั ิตษปะรชะเวี ภิตทใลนกู สเถสาือนสาศมกึ ัญษรานุ่ ลใหูกญเส่ อื เคสราื่อมงัญหรมุ่นายใหลกูญเ่สชือน้ั ชมั้นัธพยเิ ศมษศกึ ษาปีท่ี 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2
วธิ กี วาธิ รกี ลาูกรเลสกูอื เสสรือ้าสงรทา้ ักงษทะกั ชษีวะิตชไวี ดิต้อไยด่า้องยไรา่ งไร วิธีกวาธิ รีกลากูรลเสกู อื เสมือีอมงอีคงป์ ครป์ ะรกะอกบอคบรคบรทบ้งั ท้ัง5 5ปรปะรกะากรารขอขงอกงกระรบะบวนวนกการาเรรเรียียนนกกาารรสสออนนทท่ีย่ียึดึ ผู้เรียน เป็นเปศนู็ ศยนูก์ ยลาก์ งลากงารกสารา้สงรทา้ งกั ทษกั ะษชะวี ชิตวี ทติ ง้ั ท1ัง้ 212องอคงป์ คร์ปะรกะอกบอบเกเดิกขดิ ึน้ขน้ึดด้วย้วยกกจิ ิจกกรรมรมดดงั งัตตาารราางงตต่ออ่ ไไปปนนี้ ้ี สรวับงตั บผรสวถสับดิงตั ุปขุบชผถสรอดิ แเปุุขะบชพลสอระื่แอเแบะคพงลพลสวคะื่อแะัฒาคงพ์คลชมวคนะ่วัฒณมาช์คายมน่ันว่ละสณมยคาูกลร่ันสลงะ้าเกูคขูรกสงล้างอเสืเอูกสขงสงรทสอเปือรอื สั้งรงครทแรทปือะ์ส้ังคหเราัแงทท์สะงคง่ หเาัศงกทชมคงชง่ าศใกามชายหชตาตใา้เาหยิิสกตตต(้เิตพดกิสิาต(ิคปิดมรตพาะวัคแญิปมรรานวะัญแาญมารวชนาญมสทาบวชาสาาทญับจมางาิตญัจมดัญคงิตัใคงัคดญตั จตใคีงั ลิัตจแอ่ตี แูกลิแลไ่อแลเูกลปะไสละเะมปนือสศะมีคน้ีือศีลีคพว้ี ีลธพวา.ศธารม.ศ.รมรเร.ม2จเจม25รร5ิใ5ญิญให51หก1้เกม้้าเป้ามปวา็นวา็ตหนหตพรพนนราลล้าา้าเ8เม8ทม)ท)ือ้ังือั้งงนนงดี้เดี้เพพี ี มม่ือื่อีคีคคคววววาาาามมมม 1. ใ1ห. ม้ใหีนม้ สิ ีนัยิสชยั่าชงสา่ งังสเกงั ตเกจตดจจดาํ จเําชเือ่ ชฟ่อื งัฟงัแลแะลพะึง่พตึ่งนตเนอเงอง 2. ใ2ห. ซ้ให่อื ซ้ส่ือัตสยัตส์ ยจุ ส์รุจิตรมิตรี มะีรเบะเียบบยี วบนิ วยั ินแยั ลแะลเะหเ็นหอน็ กอเกหเน็หใ็นจใผจผอู้ ื่นู้อื่น 3. ใ3ห. ้รใหจู้ กั้รู้จบักําบเพําเ็ญพต็ญนตเนพเอื่ พสื่อาสธาาธราณรณปรปะรโะยโชยนช์น์ 4. ใ4ห. ร้ใหจู้ กัร้ ้จูทักําทกําากรฝารมี ฝือีมแอื ลแะลฝะึกฝฝึกนฝในหใท้หาํท้ กําจิกกจิ ากราตร่าตง่างๆๆตตามามคคววามามเหเหมมาาะะสสมม 5. ใ5ห. ้รใหจู้ กั้รูจ้รกักั รษักาษแาลแะลสะ่งสเสง่ รเสมิ รจิมาจราีตรปีตรปะรเะพเณพณี วีัฒวัฒนธนรธรรมรมแลแะลคะคววามามมมั่นั่นคคงงขขอองงปปรระะเเททศศชชาาตติ ิ หลหกั ลสกั ูตสรูตลรูกลเสกู ือเสเอืสเรสิมรสิมรส้ารง้าทงกัทษกั ะษชะีวชิตีวติ ทหสี่ลกัอหทดสส่ีลูตคักอรลดสแ้อูตคหลงรลละกแ้อหกัวลบังชิลสะกปาักวูตับญัชชิสรปพีาลตูหัญชูกรพาพีลหเติเสกูศพาาือเตมษิเสเศาวสลือมษยัรกูเวสลมิแเยัสรูกลสิมแอืเะรสลสพสา้ ือะรงําฒั พสา้ทรงาํนอัฒกั ทรงาษนอกักสงะาษาชการสะมวีาดชารติญั ม้าีวดไนติัญ้าดสตไน้ใาดส่าชตม้ใงาข้า่ชัญมงอ้ๆ้ขัญรบอ้ๆนุ่ขรบังใุน่อขคังหงใอบัคหญลงบัคญูลก่คณแูกเ่ณสลแะเสือะลละอืวละกู โิสวูกเโดสิสาเดยสมอืายอืมจแญั จแัดัญหัดหหเง่ หปเง่ชนปนชน็ า่วน็า่วตหยตหยวิลกิวลก่าักิจ่ากัดิจดกกแว้ แ้วรยลรยลรรกะมะกมเาเพาตพตรราปิ่มาิ่มปมมกเเกนทนทคค้ือี่ื้รอี่รรรหะะหออบบางางุุ ในหลักสูตรของลูกเสอื แต่ละประเภท ดังนนั้ ชื่อหนว่ ยกจิ กรรม และจํานวนหน่วยกิจกรรมของลูกเสือ แตล่ ะ1ป6ร8ะเภทคจูม่ งึ อื แสต่งกเสตร่ามิ งแกลนัะพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 คูม่ อื ส่งเสริมแคลู่มะือพกฒั ารนจาดั กกจิ จิ กกรรรรมมลลูกกู เเสสอือื เทสักรษมิ สะชรา้ีวงติ ทใักนษสะถชาีวนติ ศปึกรษะเาภทลลูกูกเสเสอื อื สสาามมญั ัญรรุ่นุน่ ใใหหญญ่่ ชเคน้ั รมือ่ ธังหยชมม้นั าศมยึกธัลษยูกามเสปศือทีึกชษ่ี 2น้ั าพปเิที ศี่ ษ2 232731
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิตในคู่มือชุดน้ี ได้ออกแบบโดยบูรณาการ กจิ กรรมทเ่ี สรมิ สร้างทกั ษะชวี ติ เขา้ กบั วธิ กี ารลกู เสอื คอื การใชร้ ะบบหมหู่ รือกลุ่มย่อย โดยให้เด็กเป็น ศนู ย์กลาง และมผี ู้ใหญ่ทําหน้าที่ช่วยเหลือและส่งเสริมให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ในกลุ่ม แนะนํา ส่ัง สอน และฝึกอบรมให้สามารถพ่ึงตนเองได้ มีจิตอาสา รับผิดชอบต่อส่วนรวม ยึดม่ันในคําปฏิญาณ และกฎของลูกเสอื เสรมิ สรา้ งคณุ คา่ ในตนเอง รวมท้งั ใช้ระบบเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณ์ทางลูกเสือ และเครือ่ งหมายวิชาพเิ ศษ เป็นแรงกระตุน้ ไปสู่เปฺาหมายในการพัฒนาตนเอง องค์ประกอบในการประชมุ กอง เน้นการใช้ชีวิตกลางแจ้ง นอกห้องเรียน ใกล้ชิดธรรมชาติ เรียนรูจ้ ากการลงมือปฏิบตั ิด้วยตนเอง เกม และการบริการผู้อื่น ซึ่งถือเป็นหัวใจของกิจกรรมลูกเสือ ทกุ ประเภท โดยกจิ กรรมทีใ่ ช้ แบง่ ออกเป็น 5 ประเภท คอื การแสดงออก การรายงานและการสาํ รวจ การวิเคราะห์และการประเมิน เกมและการแข่งขัน การบําเพ็ญประโยชน์ การออกแบบกิจกรรม เพื่อให้ลูกเสือใช้กระบวนการกลุ่มในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความคิดความเชื่อ สร้างองค์ความรแู้ ละสรุปความคิดรวบยอด รวมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกเสือได้ประยุกต์ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้ อกี ดว้ ย เนื้อหาสาระในแผนการจดั กจิ กรรมแบง่ ออกไดเ้ ปน็ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กิจกรรมตามข้อบังคับของคณะลูกเสือแห่งชาติ (ไม่รวมกิจกรรมทดสอบเพื่อรับ เครือ่ งหมายหรอื สัญลกั ษณ์ทางลกู เสือและเคร่อื งหมายวิชาพเิ ศษ) 2. กิจกรรมตามขอ้ บงั คบั ของคณะลกู เสือแห่งชาติท่ชี ่วยเสริมสร้างทักษะชีวิตด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ความภาคภมู ิใจในตนเอง ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สว่ นรวม 3.กิจกรรมเสริมสรา้ งทกั ษะชวี ติ เพอ่ื สรา้ งภูมคิ ุม้ กันทางสังคมต่อเหตกุ ารณแ์ ละสภาพปัญหา ของเดก็ แตล่ ะวยั สําหรับกิจกรรมลูกเสือตามข้อบังคับ เพ่ือการขอรับเคร่ืองหมายลูกเสือช้ันพิเศษ และ เครอื่ งหมายลกู เสือหลวง ไมไ่ ดน้ ํามารวบรวมไวใ้ นคมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสอื ชุดน้ี คู่มือมีจํานวน 11 เล่ม ตามช้ันปีของลูกเสือ 4 ประเภท แต่ละเล่ม ได้จัดทําตารางหน่วย กิจกรรม และแผนการจัดกิจกรรมครบ 40 ช่ัวโมง เพ่ือให้เห็นภาพรวมของการจัดกิจกรรม ลูกเสือ เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ิตของลูกเสือในแต่ละระดับช้ัน และมหี มายเหตบุ อกไวใ้ นตารางชอ่ งขวาสุด ว่าเป็น แผนการจดั กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ิต แผนการจัดกิจกรรมประกอบด้วย จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้ือหา สื่อการเรียนรู้ กิจกรรม การประเมนิ ผล องค์ประกอบทกั ษะชวี ติ สาํ คัญทเ่ี กดิ จากกจิ กรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจัด กิจกรรม (เพลง เกม ใบงาน ใบความรู้ เร่ืองทเี่ ปน็ ประโยชน)์ ภาพรวมการพัฒนาหลกั สตู รลกู เสือเสรมิ สร้างทกั ษะชวี ิต 232238 คมู่ คอื ่มูกาือรสจ่งัดเสกจิรมิกรแรลมะลพกู ัฒเสนอื าเสกรจิ มิ กสรร้ามงลทูกักเษสะือชทวี กั ติ ษปะรชะเวี ภิตทใลนกู สเถสาอื นสาศมกึ ญั ษราุน่ ลใหูกญเส่ ือเคสราอ่ื มงัญหรมนุ่ายใหลกูญเ่สชือนั้ ชมน้ั ธัพยเิ ศมษศึกษาปที ี่ 2 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2
ภาพรวมการพฒั นาหลกั สูตรลูกเสอื เสริมสรา้ งทักษะชวี ิต 1. เริ่มจากการศึกษาเอกสาร งานวิจัย หลักสูตรลูกเสือไทยและต่างประเทศ รวมทั้ง สมั ภาษณ์ ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นลูกเสือ 2. สัมนาครู ผู้ปกครอง นักพัฒนาเยาวชน และผู้เชี่ยวชาญด้านกิจกรรมเด็กและเยาวชน เพ่อื ร่วมกนั ค้นหาปญั หาจริงของเดก็ แต่ละวยั และออกแบบกิจกรรมท่ีเหมาะสม 3. จัดทาํ คมู่ ือการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิต 4 ประเภท ได้แก่ ลูกเสือสํารอง ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่และลูกเสือวิสามัญ รวมทั้งส้ิน 11 เล่ม โดยผ่านการประเมิน ปรับปรงุ และพัฒนา จนเปน็ ทยี่ อมรับและนําไปใชใ้ นสถานศึกษาจาํ นวนมาก 4. จัดทําหลักสูตรการฝกึ อบรมผู้กํากับลกู เสอื สาํ รอง ลูกเสือสามัญ ลูกเสอื สามญั ร่นุ ใหญ่และ ลูกเสือวิสามัญ ข้ันความรู้เบ้ืองต้น และขั้นความรู้ชั้นสูง รวม 8 ประเภท โดยได้รับการอนุมัติจาก คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ในการประชุม คร้งั ท่ี 2/2557 เมือ่ วนั ท่ี 22 กนั ยายน 2557 ให้ใช้ เปน็ หลกั สูตรการฝึกอบรมผ้กู ํากับลกู เสือของสํานักงานลกู เสือแห่งชาติ 5. จัดทํา คู่มือฝึกอบรมวิทยากรลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิต เพื่อขยายผลในการสร้าง วทิ ยากรและฝึกอบรมผู้กาํ กบั ลกู เสอื ในสถานศกึ ษาท่ัวประเทศ คู่มือการจัดกจิ กรรมลูกเสือเสรมิ สร้างทักษะชวี ิตประเภทลกู เสือสามัญรนุ่ ใหญ่ เครื่องหมายลกู เสือชน้ั พิเศษ 232933 คมู่ อื ส่งเสริมและพฒั นากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสอื สามญั ร่นุ ใหญ่ ชนั้ มธั ยชม้ันศมกึ ัธษยามปศีทึกษ่ี 2าปีที่ 2
ภาคผนวก ข กจิ กรรมลูกเสือเสริมสรา้ งทักษะชีวติ การจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิตนั้น ยังคงหลักการ และวิธีการของลูกเสือไว้ ทุก ประการ แตเ่ น้นการสอดแทรกการเรียนรู้ทักษะชีวิตเพ่ิมเข้าไปด้วยเพ่ือตอบสนองวัตถุประสงค์ท่ีรอบ ดา้ น และครอบคลุมการดํารงชวี ติ ในปจั จุบนั คณุ ค่าของสื่อการเรียนการสอนประเภทกจิ กรรม สอื่ การเรียนการสอนประเภทกิจกรรม เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนได้ มีโอกาส เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ ด้วยตนเอง ผ่านการทํากิจกรรมร่วมกัน ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ ของเพ่ือนในกลุ่ม ทําให้สามารถเรียนรู้ได้มากข้ึนโดยใช้เวลาน้อยลง การออกแบบกิจกรรมจะต้อง กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ และร่วมมือในการทํากิจกรรมท่ีกําหนดให้อย่างเต็มท่ี จึงจะ เเกิดการ เรียนรู้ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ผลทีเ่ กดิ ขน้ึ ตอ่ ผูเ้ รยี นมีดงั น้ี 1. สง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รยี นกล้าแสดงออกและทํางานรว่ มกับผอู้ ื่นได้ 2. เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน ซึ่งเปน็ ลกั ษณะเฉพาะของสื่อการสอนประเภทกิจกรรม 3. เปิดโอกาสให้ผูเ้ รียนมีส่วนรว่ มในการกาํ หนดขอบข่าย เนือ้ หา และวัตถปุ ระสงค์ 4. ผ้เู รียนได้ฝึกฝน พฤติกรรมการเรยี นรู้ทง้ั ทางดา้ นความรู้ เจตคติ และทกั ษะ รวมทั้งความคดิ สรา้ งสรรค์ และจนิ ตนาการดว้ ย ประเภทของกจิ กรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชวี ติ เมอื่ จดั ประเภทตามทักษะ/ความสามารถ ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม แบง่ ออกไดเ้ ป็น 5 ประเภท คอื 1. กิจกรรมการแสดงออก เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ลูกเสือได้ใช้ความสามารถในการ แสดงออก แสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ จนิ ตนาการในรูปแบบตา่ ง ๆ ซึ่งมักจะเป็นการจําลองประสบการณ์ ต่าง ๆ มาเพื่อการเรียนรู้ได้ง่ายและสะดวกข้ึน หรือเป็นสิ่งที่ใช้แทนประสบการณ์จริง เพราะศาสตร์ ต่างๆ ในโลก มมี ากเกินกว่าทจ่ี ะเรียนรูไ้ ดห้ มดสิน้ จากประสบการณ์ตรงในชีวติ และบางกรณีกอ็ ยใู่ นอดีต หรอื ซบั ซ้อนเรน้ ลับหรอื เปน็ อันตราย ไมส่ ะดวกต่อการเรยี นรู้จากประสบการณจ์ ริง ตัวอยา่ งกิจกรรม เช่น 1.1 สถานการณจ์ าํ ลอง เปน็ การจัดสภาพแวดลอ้ มใหใ้ กลเ้ คยี งกับสภาพความเป็นจริงมากท่ีสุด เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนได้ฝึกฝน แก้ปญั หาและตัดสินใจจากสภาพการณท์ ี่กําลงั เผชิญอยู่น้ันแล้วนําประสบการณ์ แหง่ ความสาํ เรจ็ ไปเปน็ แนวทางในการแกป้ ัญหา 1.2 การสาธิต กระบวนการท่ีผู้สอนช่วยให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ โดยการ แสดงหรอื กระทําใหด้ ูเปน็ ตัวอย่าง ให้ความสําคัญกับกระบวนการทั้งหมดท่ีผู้เรียนจะต้องเฝฺาสังเกตอยู่ โดยตลอด 1.3 เลา่ นทิ าน 240 คมู่ ือส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลูกเสือสามญั ร่นุ ใหญ่ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 234 คมู่ อื การจัดกจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทักษะชีวติ ประเภทลกู เสือสามัญร่นุ ใหญ่ เคร่ืองหมายลกู เสอื ชน้ั พิเศษ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2
1.4 ละคร หุน่ จําลอง 1.5 เพลง ดนตรี การเคลื่อนไหวตามจงั หวะดนตรี หมายถึง กิจกรรมท่ีเน้นการใช้ดนตรีเป็นสื่อ ในการเรียนร้ทู ง้ั ในแง่เนือ้ หาและความบันเทิง ผ่อนคลาย และเข้าถงึ วัฒนธรรมต่าง ๆ 1.6 ศิลปะ แขนงอ่นื ๆ เชน่ การวาดรปู การป้นั ดินเหนียว งานหัตถกรรม การร้อยดอกไม้ 1.7 การโตว้ าที ฯลฯ 2. กิจกรรมการการสาํ รวจและการรายงาน เป็นกจิ กรรมท่ีเนน้ ให้ลกู เสือได้เรียนรูจ้ ากความเป็น จริง /เหตุการณ์จริง ในชีวิตประจําวัน ผ่านประสบการณ์ตรงด้วยตนเอง ซึ่งเป็นรากฐานสําคัญของ การศึกษา เช่น การทําแผนท่ี การสํารวจ หมายถึง การเรียนรู้ผ่านสถานการณ์จริงด้วยการลงพ้ืนที่ สํารวจ และจําลองสิ่งที่ได้เรียนรู้สู่แผนที่ ภาพ หรือสัญลักษณ์ เพื่อแสดงความคิดรวบยอดของสิ่งท่ีได้ เรยี นรู้นนั้ ตวั อย่างกิจกรรม เชน่ การสัมภาษณ์ การเปน็ ผ้สู อ่ื ข่าว การทาํ สารคดี การศกึ ษานอกสถานท่ี ชุมชนศกึ ษา การผลิตส่ือ การทํา ปูมชีวติ บุคคลตวั อย่าง การจดั นทิ รรศการ การสอดแนม การสํารวจ การทําแผนที่ การเขียนเรียงความ การเล่าเรื่อง ฯลฯ 3. กิจกรรมการวิเคราะหแ์ ละการประเมิน เปน็ การเรียนรทู้ ่ีเกิดจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรว่ มกันวิเคราะห์/ประเมนิ ส่ิงต่างๆทเ่ี กดิ ข้ึน ตัวอยา่ งกิจกรรม เช่น การเปรยี บเทียบคณุ คา่ การประเมินความเสีย่ ง การทาํ แผนทีค่ วามคิด ฯลฯ 4. การเลน่ เกมและการแขง่ ขนั 4.1 เกม เป็น กิจกรรมท่ีมีกฎกติกา และลําดับขั้นตอน ที่เอ้ือให้ลูกเสือเกิดการเรียนรู้ ผา่ นการเล่นเกม ให้ขอ้ คดิ ที่สอดคล้องกับผลการเรยี นรู้ท่ีต้องการ เชน่ เกมกระซิบ เปน็ ต้น 4.2 การแข่งขัน เป็นกิจกรรมที่มีกติกาในการแข่งขัน และมีการตัดสินหาผู้ชนะ เช่น การตอบปัญหาในเรอื่ งตา่ ง ๆ เพ่ือกระตุน้ ให้เกดิ ความสนใจใฝูร้มู ากขน้ึ ฯลฯ 5. กิจกรรมบําเพ็ญประโยชน์ เป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เน้นการฝึกความเสียสละของลูกเสือ ได้แก่ การจดั กิจกรรมการกศุ ล การซอ่ มของเล่นให้นอ้ ง การดูแลทําความสะอาดสถานท่ี การปลูกและ ดูแลตน้ ไม้ การเกบ็ ผกั จากแปลงไปประกอบอาหารเลี้ยงนอ้ ง ฯลฯ หลักการออกแบบกิจกรรม 1. การเลือกประเภทของกจิ กรรม ต้องสอดคล้องกับผลการเรยี นรทู้ ี่ต้องการ เช่น ผลการเรยี นร้ดู า้ นพุทธิพิสยั มกั เลอื กใช้ กิจกรรมการวิเคราะห์และการประเมิน การรายงาน และการแข่งขันตอบปัญหาในเรือ่ งเนอ้ื หาท่ีต้องการใหเ้ รยี นรู้ เป็นต้น ผลการเรียนรดู้ า้ นจิตพิสยั มกั เลือกกิจกรรมท่ีสร้างความรู้สึกท่ีสอดคล้องกับผลการเรียนรู้ท่ี ต้องการ เช่น กจิ กรรมการแสดงออก เกม กิจกรรมบาํ เพญ็ ประโยชน์ เป็นตน้ คมู่ อื สง่ เสริมแคล่มู ะือพกฒั ารนจาดั กกิจจิ กกรรรรมมลลูกกู เเสสือือเทสกั รษิมสะชรา้วี งิตทใกั นษสะถชาวี นิตศปึกรษะเาภทลลูกกูเสเสือือสสาามมัญัญรรุ่นนุ่ ใใหหญญ่่ ชเค้ันรมื่อธังหยมมาศยึกลษกู าเสปือที ช่ี 2น้ั พเิ ศษ 242135 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2
ผลการเรียนรู้ด้านทักษะพิสยั ถ้าเปน็ ทกั ษะทางสติปัญญานิยมใช้กิจกรรมการวิเคราะห์ และ ประเมินส่วนทักษะทางกายภาพ เลอื กไดเ้ กือบทกุ ประเภท 2. การตั้งประเด็นอภิปราย เพ่ือให้ลูกเสือได้ร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในเร่ืองท่ี สอดคล้องกับผลการเรยี นรู้ท่ตี อ้ งการ เช่น ผลการเรยี นรดู้ ้านพทุ ธพิ สิ ัย ตัง้ ประเด็นให้ วเิ คราะห์ /สงั เคราะห์ /ประเมิน เน้ือหาท่ีต้องการ ใหผ้ เู้ รยี นเกิดความเขา้ ใจอย่างถอ่ งแท้ เกิดความคิดรวบยอดที่ชัดเจน และสามารถนําไปประยุกต์ใช้ได้ จรงิ ผลการเรยี นร้ดู ้านจติ พสิ ัย ต้งั ประเดน็ ใหเ้ กิดการโตแ้ ย้งกนั ดว้ ยเหตผุ ลในเรื่องความคิดความ เชื่อ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เจตคติท่ีตอ้ งการ เพอื่ ใหส้ มาชกิ แต่ละคนไดม้ โี อกาสตรวจสอบความคดิ ความเชื่อของ ตนเอง ทีแ่ ตกต่างจากคนอืน่ ทําให้เกดิ การปรบั เปลย่ี นความคดิ ความเช่ือจากการโต้แย้งกันด้วยเหตุผล ในกระบวนการกลมุ่ ผลการเรียนรู้ด้านทักษะพิสัย ต้ังประเด็นให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในข้ันตอนการทํา ทกั ษะ นนั้ ๆ เช่นการวเิ คราะหค์ วามครบถ้วนในการทาํ ตามขน้ั ตอนของทักษะ การวิเคราะห์จุดอ่อน ทม่ี กั จะทาํ ทักษะนนั้ ๆ ไม่สําเร็จ เป็นตน้ 3. การสรุปความคิดรวบยอดและประยุกต์ใช้ ทุกกิจกรรมควรมีการสรุปความคิดรวบยอดท่ี เกิดขนึ้ ใหช้ ัดเจน และเปิดโอกาสให้ได้ลองประยุกตใ์ ช้ ได้แก่ ผลการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย ความคิดรวบยอดคือเนื้อหา องค์ความรู้ที่ต้องการให้เกิดขึ้น ประยุกตใ์ ช้โดยผลติ ซํา้ ความคดิ รวบยอดในรปู แบบท่ตี า่ งจากเดิม เชน่ การทํารายงาน ทําสรุปย่อ ฯลฯ ผลการเรยี นรู้ดา้ นจิตพสิ ยั ความคิดรวบยอดไมม่ ีเนอื้ หา แต่เป็นความรู้สึกและความคดิ ความ เชอ่ื ที่เกิดขึ้นภายในตัวผู้เรยี น ประยุกตโ์ ดยการแสดงออกท่ีสอดคล้องกบั เจตคติทเี่ กดิ เช่น การกระทาํ ท่ี แสดงออกถึงความซอื่ สัตย์ การกระทําท่ีแสดงออกถึงความเปน็ สภุ าพบรุ ุษ สภุ าพสตรี เปน็ ตน้ ผลการเรียนรู้ด้านทักษะพิสัย ความคิดรวบยอดท่ีเกิดคือ ความเข้าใจขั้นตอนและทําทักษะ น้ัน ๆ ได้ ประยกุ ต์โดยการฝึกฝนทักษะนัน้ จนชาํ นาญ 232642 คู่มคอื ู่มกาือรสจ่งัดเสกจิริมกรแรลมะลพกู ัฒเสนอื าเสกรจิ มิ กสรรรา้มงลทูกกั เษสะือชทีวกั ติ ษปะรชะเีวภติ ทใลนูกสเถสาือนสาศมกึ ญั ษรา่นุ ลใหูกญเส่ ือเคสรา่ือมงัญหรมุ่นายใหลกูญเ่สชือ้นั ชม้ันัธพยเิ ศมษศึกษาปีท่ี 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2
ภาคผนวก ค แนวปฏิบัตกิ ารสอบวิชาพเิ ศษ ให้โรงเรียนดาํ เนนิ การแตง่ ตงั้ กรรมการ เพือ่ ดาํ เนนิ ารสอนและสอบวิชาพเิ ศษ โดยออกคาํ สง่ั ในนามโรงเรยี น เมื่อทาํ การสอนแล้วให้จดั สอบภาคทฤษฎี และ ภาคปฏบิ ตั ิ จากน้นั ใหท้ ําเรอื่ งขอ อนมุ ตั ิผลการสอบ และขอประดบั เคร่ืองหมายวชิ าพเิ ศษ ไปยงั เลขาธิการคณะกรรมการบริหารลกู เสือ แห่งชาติ หรือผู้อาํ นวยการลูกเสอื จงั หวดั แล้วแต่กรณี ดังนี้ 1. รายชอื่ ผู้เข้าสอบ 2. ผู้บงั คบั บญั ชาลกู เสือขออนญุ าตสอบวิชาพิเศษตอ่ ผ้อู าํ นวยการลกู เสือโรงเรยี น 3. โรงเรียนออกคําสัง่ แต่งตงั้ คณะกรรมการดาํ เนนิ การสอบ 4. สอบภาคทฤษฎี 5. สอบภาคปฏบิ ัติ 6. รายช่ือลกู เสอื ทส่ี อบได้ - ตก แตล่ ะรายวิชา 7. หนงั สอื ขออนมุ ัติผลการสอบและขอประดับเครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ สง่ ไปยงั สํานกั งาน ลูกเสอื เขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาเพ่ืออนุมตั ิ 8. โรงเรียนออกหนงั สอื รบั รองใหก้ ับลกู เสอื ตามรายวชิ าท่ีสอบได้ คมู่ อื สง่ เสรมิ แคลมู่ ะอื พกัฒารนจาดั กกจิ ิจกกรรรรมมลลูกกู เเสสอือื เทสกั รษมิ สะชรา้ีวงติ ทใักนษสะถชาีวนติ ศปึกรษะเาภทลลูกกูเสเสือือสสาามมญั ัญรร่นุ ุ่นใใหหญญ่่ ชเค้นั รม่อื ธังหยมมาศยึกลษูกาเสปอืีทชี่ 2ั้นพิเศษ 242337 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2
หนงั สือขออนุมตั ผิ ลการสอบวิชาพิเศษลกู เสือ – เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่ ท่ี ุุุุ../ุุุุุุุ. โรงเรียนุุุุุุุุ วนั ทีุุ่..เดือนุุุุุุุ.พ.ศุุุุ เรอื่ ง ขออนุมตั ิผลการสอบวิชาพิเศษลูกเสือ – เนตรนารีสามญั รุ่นใหญ่ และประดับเคร่อื งหมายวิชาพิเศษ เรียน เลขาธกิ ารคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แห่งชาติ / ผู้อาํ นวยการลูกเสือจังหวัด ุุุุุ.. สิ่งท่สี ่งมาด้วย 1. คําสงั่ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวิชาพิเศษ 2. รายชือ่ ลูกเสอื – เนตรนารี ท่ีสอบวชิ าพิเศษ 3. ข้อสอบภาคทฤษฎี 4. ขอ้ สอบภาคปฏิบตั ิ 5. โครงการ (ถา้ ม)ี ด้วยโรงเรียนุุุุุุุุุุุไดท้ ําการอบรมและสอบวชิ าพิเศษ ลกู เสอื – เนตร นารี สามัญรนุ่ ใหญ่ ใหแ้ ก่ลกู เสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ จํานวน ุุุคน เนตรนารสี ามัญร่นุ ใหญ่ จาํ นวนุุ..คน รวมทง้ั สนิ้ ุุุุคน ตั้งแแต่วันท่ีุุุุ.เดอื นุุุุุุุุพ.ศ. ุุุุุ.ถงึ วนั ทีุ่.. เดอื นุุุุุุุุพ.ศุุุุุ.. โดยทาํ การสอบวชิ าพิเศษ จํานวนุุุุ.วิชา ดังนี้ 1. วชิ าุุุุุุุุุุ.. 2. วิชาุุุุุุุุุุ.. 3. วชิ าุุุุุุุุุุ.. บดั น้ี คณะกรรมการไดด้ าํ เนินการสอบวชิ าพเิ ศษ ลกู เสอื – เนตรนารีสามญั รนุ่ ใหญ่ เปน็ ที่ เรยี บร้อยแลว้ ดังรายละเอียดท่สี ่งมาพรอ้ มน้ี จึงเรยี นมาเพอ่ื ขอไดโ้ ปรดพิจารณาอนมุ ตั ดิ ว้ ย จะเป็นพระคุณยง่ิ ขอแสดงความนบั ถอื ( ุุุุุุุุุุุุุุ. ) ผู้อํานวยการโรงเรียนุุุุุุุุุุุุ. 232844 คมู่ คือมู่กาือรสจ่งัดเสกจิริมกรแรลมะลพกู ฒั เสนอื าเสกรจิ ิมกสรรรา้มงลทกู ักเษสะอื ชทวี กั ติ ษปะรชะเีวภติ ทใลนกู สเถสาอื นสาศมึกญั ษราุ่นลใหกู ญเส่ อื เคสราื่อมงญั หรมุน่ายใหลูกญเ่สชอื นั้ ชม้ันธัพยิเศมษศกึ ษาปที ่ี 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2
โรงเรียนุุุุุุุุุุุุุุ. รายชือ่ ลูกเสอื – เนตรนารีสามญั รุ่นใหญท่ ี่สอบวิชาพิเศษ ลาํ ดับ ชือ่ –นามสกลุ ิวชาุุุุุ.ุุ ิวุชาุุุุุุุุุุ.ุุุ ิวุุชาุุ..ุุุุุุุุุุุุุ.ุุุุุุ ิิิิิิววววววุุุุุุุุุุุุชชชชชชาาาาาาุุุุุุุุุุุุ............ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ......ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ......ุุุุุุ...... ุุุุ..ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ.ุ. ุุ..ุุุุุุุุุุุุุุ.ุ. ุุุุุุุุุุ.. ุุุุุุุุุุุุ. ุุุุุุุุุุุุุุ ุุุุุุุุุุุุ.. (ุุุุุุุุุุุ..) (ุุุุุุุุุุุุุุ.) (ุุุุุุุุุุุ..) กรรมการ ประธานกรรมการ กรรมการ คมู่ อื ส่งเสรมิ แลคะพมู่ อืฒั กนาารกจัดิจกกิจรรกมรรลมูกลเกูสเือสทอื กัเสษระิมชสีวริตา้ งใทนักสษถะาชนวี ศติ กึ ปษราะเลภกูทเลสกู อื เสสอืามสาัญมรญั ุน่ รใุน่หใญห่ญช่ัน้ เคมรธั อื่ ยงมหศมึกายษลากูปเทีส่ีอื 2ชน้ั พิเศษ 245239 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
คาํ ส่ังโรงเรยี นุุุุุุุุุุุุ.. ทีุุุุุุุ่./ุุุุุุุ. เรอื่ ง แตง่ ตัง้ คณะกรรมการสอบวชิ าพเิ ศษลูกเสอื – เนตรนารีสามญั รุ่นใหญ่ ********************************************** เพื่อใหก้ ารสอบวิชาพิเศษลกู เสือ – เนตรนารี สามัญร่นุ ใหญ่ จาํ นวนุุุุุุวิชา ของ โรงเรยี นุุุุุุุุุุุุุุุุ.ซึง่ ดําเนนิ การสอบ ณุุุุุุุุุุุุุุ. ระหวา่ งวันทีุุุ่.เดือนุุุุุุุ.พ.ศ. ถึง วนั ท่ีุุุุเดอื นุุุุุุุ พ.ศุุุุ เป็นไปด้วยความเรยี บรอ้ ย และได้ผลสมความม่งุ หมายทกุ ประการ จงึ แตง่ ตง้ั ให้ผู้มนี ามตอ่ ไปนี้ เป็น คณะกรรมการ คอื 1. ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ. ประธานกรรมการ 2. ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ. รองประธานกรรมการ 3. ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ. กรรมการสอบวชิ าุุุุุุุุ 4. ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ. กรรมการสอบวชิ าุุุุุุุุ 5. ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ. กรรมการสอบวิชาุุุุุุุุ 6. ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ. กรรมการสอบวิชาุุุุุุุุ 7. ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ. กรรมการสอบวชิ าุุุุุุุุ 8. ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ. กรรมการและเลขานุการ ท้ังนี้ตงั้ แต่บดั น้ีเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ุุุ. เดือน ุุุุุุุุุุุุุุ..พ.ศุุุุุุ. (ลงชอื่ ) ุุุุุุุุุุุุุุุุ.. (ุุุุุุุุุุุุุุุ...) ผอู้ ํานวยการลกู เสอื โรงเรียนุุุุุุุุุุ. 242046 คมู่ คือมู่กาือรสจง่ ัดเสกจิรมิกรแรลมะลพูกัฒเสนือาเสกรจิ มิ กสรรร้ามงลทกู ักเษสะือชทีวกั ติ ษปะรชะเีวภิตทใลนกู สเถสาือนสาศมึกญั ษรานุ่ ลใหูกญเส่ อื เคสราื่อมงัญหรมุ่นายใหลกูญเ่สชือัน้ ชมั้นธัพยิเศมษศกึ ษาปีที่ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2
หนังสือรับรองผลการสอบวิชาพิเศษลกู เสือสามญั ร่นุ ใหญ่ ท่ี ุุุุุุ./ุุุุุุุุ. โรงเรียนุุุุุุุุุุุุ วนั ท่ีุุุุเดอื นุุุุุุ..พ.ศุุ... ขอรบั รองวา่ ุุุุุุุุุุุุุุ.เปน็ ลูกเสือ โรงเรียนุุุุุุุุุุุ สอบได้วิชาพเิ ศษลูกเสอื สามัญรนุ่ ใหญ่โดยการอนมุ ัตผิ ลการสอบของสาํ นกั งานคณะกรรมการบรหิ าร ลกู เสอื แห่งชาติ ท่ี ุุุุุุ./ุุุุุ.ลง วันที่ ุุุุุุุุุุุุุุุุุุุ และได้แนบสาํ เนาหนงั สอื อนมุ ัตผิ ลมาดว้ ยแลว้ โดยสอบไดว้ ิชาพิเศษ ดังน้ี 1. ุุุุุุุุุุุุุุุุุ 2. ุุุุุุุุุุุุุุุุุ 3. ุุุุุุุุุุุุุุุุุ 4. ุุุุุุุุุุุุุุุุุ 5. ุุุุุุุุุุุุุุุุุ 6. ุุุุุุุุุุุุุุุุุ 7. ุุุุุุุุุุุุุุุุุ 8. ุุุุุุุุุุุุุุุุุ 9. ุุุุุุุุุุุุุุุุุ (ลงช่ือ)ุุุุุุุุุุุุุุ. (ุุุุุุุุุุุุุ) ุุุุุุุุุุุุุุุุุ คู่มือส่งเสรมิ แคลู่มะือพกฒั ารนจาัดกกิจิจกกรรรรมมลลูกกู เเสสอือื เทสักรษมิ สะชร้าีวงติ ทใักนษสะถชาีวนติ ศปึกรษะเาภทลลกู ูกเสเสอื ือสสาามมัญญั รรนุ่ นุ่ ใใหหญญ่่ ชเคน้ั รมอื่ ธังหยมมาศยกึ ลษูกาเสปอืที ชี่ 2ัน้ พิเศษ 242741 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270