Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนวัสดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง -ร่าง

แผนวัสดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง -ร่าง

Description: แผนวัสดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง -ร่าง

Search

Read the Text Version

5. ส่ือโสตทัศน์ (ถ้ามี) เครื่องฉายภาพ 6. สอ่ื ของจริง ตวั อยา่ งของจรงิ “ โครงสรา้ งงานฐานราก ” 7. แหลง่ การเรียนรู้ ในสถานศกึ ษา 3. ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี ศึกษาข้อมูลเร่ือง งานฐานราก จากหนังสือ เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง และเทคนิคก่อสร้าง เช่น วัสดุก่อสร้าง ผู้แต่ง พงศพัน วรสุนทโรสถและว รพงศ์ วรสุนทโรสถ, เทคนิคก่อสร้าง ผู้แต่ง พิภพ สุนทรสมัย และวัสดุวิศวกรรมก่อสร้าง ผู้แต่ง กวี หวงั นเิ วศกุล 4. รา้ นบรกิ ารอนิ เทอร์เน็ต หรืออนิ เทอรเ์ น็ตในที่พกั อาศยั ศึกษาค้นคว้าหาข้อมลู เร่ือง วัสดุกอ่ สร้าง และเทคนคิ ก่อสร้าง จากเว็บไซด์ http://www.google.co.th หรอื http://elearn.utc.ac.th/moodle/course/view.php?id=26 นอกสถานศึกษา ผู้ประกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถิน่ จังหวดั อุบลราชธานี 8. การบรู ณาการ/ความสัมพันธ์กับวชิ าอืน่ 1. บรู ณาการกับวชิ าชวี ิตและวัฒนธรรมไทย ด้านการพูด การอ่าน การเขียน และการ ฝกึ ปฏิบัติตนทางสงั คมด้านการเตรยี มความพรอ้ ม ความรับผิดชอบ และความสนใจใฝรุ ู้ 2. บูรณาการกบั วชิ าความปลอดภยั ในงานอาชพี ดา้ นความปลอดภัยในการปฎบิ ตั งิ าน 3. บูรณาการกับวิชากีฬาเพื่อพัฒนาสุขภาพและบุคลิกภาพ ด้านบุคลิกภาพในการ นาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น 4. บรู ณาการกบั วิชาการอนรุ ักษ์ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมในงานอาชพี ดา้ นการเลือกใช้ ทรัพยากรอยา่ งประหยดั 9. การประเมินผลการเรียนรู้  หลกั การประเมินผลการเรยี นรู้ ก่อนเรยี น ตรวจความพร้อมก่อนเรียน ตามแบบประเมนิ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ ขณะเรยี น 4. สงั เกตและบนั ทกึ ผลตามแบบประเมินคุณลกั ษณะพงึ ประสงค์ 5. แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 3 6. กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ หน่วยท่ี 3

หลงั เรียน บนั ทกึ ผลคะแนน จากการตรวจงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 4. แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 3 5. กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 3 6. แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยที่ 3

บรรณานุกรม คานวณ คุณาพร. บ้านแสนรกั . กรงุ เทพมหานคร: บริษทั วทิ ยพฒั น์ จากัด. 2547. เจรญิ เสาวภาณี. สร้างบ้านด้วยตนเอง. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั สกายบุ๊กส์จากัด. 2550. ชมรมวิศวฯจุฬา 07.รายละเอียดเหล็กเสริมงานคอนกรตี .พมิ พ์ครงั้ ท่ี 7.กรุงเทพมหานคร : 2533. ชัย มกุ ตพนั ธ์.ปฐพีกลศาสตร์ และวศิ วกรรมฐานราก.พิมพ์คร้ังที่ 4.กรงุ เทพมหานคร: ศูนยก์ ารพมิ พ์ดวงกมล.2540. พภิ พ สุนทรสมยั .เทคนคิ การสรา้ งอาคารเบอ้ื งต้น.กรุงเทพมหานคร : โปรเฟรสชัน่ แนล พับลชิ ชิ่ง.2524. มนัส กลอ่ งเพชร.เทคนคิ ก่อสรา้ ง 1. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ จากดั .2543 วิทวัส สทิ ธกิ ุล.เทคนิคก่อสร้าง. กรุงเทพฯ: คณะวิชาช่างโยธา สถาบันเทคโนโลยี ราชมงคลวิทยาเขตอุเทนถวาย. 2544. วีระเดช พะเยาศริ ิพงศ์ .รวมกฎหมายก่อสร้าง .กรุงเทพมหานคร:เทพนิมิตการพิมพ์.ม.ป.ป. อวยชัย สภุ าพจน์ . การควบคุมงานกอ่ สร้าง . กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์ศูนย์สง่ เสรมิ วชิ าการ.ม.ป.ป. เอกสทิ ธ์ิ ล้ิมสวุ รรณ. แบบหล่อคอนกรตี .พิมพ์ครงั้ ที่ 7.กรงุ เทพมหานคร: สานกั พิมพ์เอเซีย เพรส.2539. อรณุ ชัยเสร.ี เกรด็ ความร้เู กย่ี วกบั การควบคุมงานกอ่ สรา้ งอาคาร คอนกรตี เสริมเหลก็ . กรงุ เทพมหานคร : วงศ์สวา่ งการพมิ พ์.2528.

บันทึกหลงั การสอน/การเรียนรู้ ผลการใช้แผนการสอน/การเรียนรู้ 7. คาบสอนเหมาะสม 8. เนื้อหาสอดคล้องกับจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมเหมาะสม 9. กจิ กรรมการสอนหรือวิธีสอนในข้ันตอนการสอน กจิ กรรมของผ้เู รยี นเหมาะสม ผลการเรยี นของนกั เรยี น 7. นักเรียนส่วนใหญใ่ ห้ความสนใจเรียน เม่อื จดั การเรยี นการสอนโดยมีการแข่งขนั และ กลา่ วชมเชยเม่อื สามารถทางานด้วยตนเองอย่างซื่อสตั ย์ ตงั้ ใจเรียนมากข้นึ ดไู ด้จากการตอบ คาถามได้ถูกต้องชัดเจน กล้าแสดงออกมากขึน้ 8. ผลคะแนนเฉลี่ยการสอบหลงั เรยี นสงู กวา่ กอ่ นเรยี น นักเรยี นทาแบบฝึกหัด กิจกรรม ส่งเสรมิ การเรียนรู้ และใบงาน ดว้ ยตนเองได้ถกู ต้อง 9. นักเรียนมกี จิ นิสัยท่ีดี มีความสามัคคี ยอมรับเหตผุ ลผูอ้ ่ืน ผลการสอนของครู 5. สอนเนอ้ื หาได้รวดเร็ว โดยใช้สอ่ื พาวเวอร์พอยต์ และเอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 3 6. สอนได้ ตามเวลาทีก่ าหนด จากผลของการคละกล่มุ ผู้เรยี น ลดการใชเ้ วลาสอนเสรมิ โดย ครูผู้สอน ด้วยการเรียนรู้แบบเพ่อื นชว่ ยเพ่ือน ลงช่อื ....................................................ผูส้ อน () ลงชื่อ........................................ผูช้ ่วยฝุายวชิ าการ ()

แผนการสอน หนว่ ยที่ 4 สอนครงั้ ที่ 8-9 ชอื่ วิชา วัสดแุ ละวธิ ีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ชวั่ โมง ช่ือหน่วย คาน หัวขอ้ เร่ือง 1. ด้านความรู้ 17. ความหมาย และความสาคัญของคาน 18. ประเภทของคาน 19. หลกั การประกอบ และติดตั้งคานไม้ 20. หลักการประกอบ และตดิ ต้ังคานเหล็ก 21. หลักการประกอบแบบ และติดต้ังคานคอนกรีตเสรมิ เหลก็ 22. หลกั การผสมคอนกรตี และเทคอนกรีตคาน 2. ด้านทักษะ 6. การใช้วสั ดุ เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ในงานคาน 3. ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณลกั ษณะ 3D 1. เตรยี มความพร้อมดา้ นวสั ดุ อุปกรณส์ อดคล้องกับงานได้อย่างถูกตอ้ งและใช้วัสดุอปุ กรณ์อย่าง ค้มุ คา่ ประหยัด ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและคุณลักษณะ 3D (ความรับผิดชอบ ความ ประหยัด ความขยัน ความอดทน แบง่ ปนั ) 2. ปฏบิ ัติงานได้อยา่ งถกู ต้อง และสาเร็จภายในเวลาท่ีกาหนดอย่างมเี หตุและผลตามหลักปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี งและคุณลักษณะ3D สาระสาคญั /แนวคดิ สาคัญ คาน ( Beam ) หมายถงึ องคอ์ าคารท่อี ยใู่ นแนวราบเชอ่ื มต่อกับองค์อาคารที่อยู่ในแนวต้ัง เช่น เสา และจะรับน้าหนักตัวมันเอง และน้าหนักพื้นท่ีวางบนคาน เรียกว่า น้าหนักของโครงสร้าง ( Self weight or structural dead load ) นอกจากน้นั ยังรับนา้ หนักที่บรรทุกอยู่บนแผ่นพื้นที่ค่อนข้างคงท่ี หรือถาวร ( Permanent ) เรียก น้าหนกั คงทสี่ ว่ นเพม่ิ ( Super-imposed dead load )

แผนการสอน หน่วยท่ี 4 สอนคร้งั ที่ 8-9 ชอ่ื วิชา วัสดแุ ละวิธีการก่อสรา้ งงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ชัว่ โมง ชื่อหน่วย คาน สมรรถนะอาชีพประจาหนว่ ย (สง่ิ ทต่ี อ้ งการให้เกิดการประยุกตใ์ ช้ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม เข้าด้วยกนั ) 1. แสดงความรู้ในการก่อสร้างคาน 2. เลือกใช้วสั ดุและอุปกรณ์ในงานก่อสรา้ งคาน จุดประสงค์ท่วั ไป เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ เกยี่ วกบั การกอ่ สร้างคาน และเลือกใชว้ สั ดแุ ละอุปกรณ์ในงาน ก่อสรา้ งคานได้ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 10. บอกความหมาย และความสาคัญของคานได้ 11. บอกประเภทของคานได้ 12. อธิบายหลกั การประกอบ และติดตั้งคานไมไ้ ด้ 13. อธิบายหลักการประกอบ และตดิ ต้ังคานเหล็กได้ 14. อธบิ ายหลักการประกอบแบบ และติดตงั้ คานคอนกรีตเสริมเหล็กได้ 15. เลอื กใช้วสั ดุ เคร่ืองมอื และอุปกรณใ์ นงานคานได้ 16. อธิบายหลกั การผสมคอนกรตี และเทคอนกรตี คานได้

แผนการสอน หน่วยท่ี 4 สอนครัง้ ที่ 8 - 9 ชอ่ื วิชา วัสดุและวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง เวลา 4 ช่ัวโมง ชือ่ หน่วย คาน การบรู ณาการกับปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และคุณลกั ษณะ 3D • หลักความพอประมาณ 1. ผเู้ รียนจดั สรรเวลาในการฝกึ ปฏิบตั ิทากิจกรรมและแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรยี นได้อย่างเหมาะสม 2. กาหนดเน้ือหาเหมาะสมกบั เกณฑ์การประเมิน การใชเ้ คร่ืองมืออย่างถูกตอ้ งและเหมาะสมกบั งาน 3. ผูเ้ รยี นรจู้ ักใชแ้ ละจดั การวัสดุอุปกรณต์ ่าง ๆ อยา่ งประหยัดและค้มุ ค่า 4. ผู้เรยี นปฏบิ ัตติ นเปน็ ผนู้ าและผตู้ ามทีด่ ี 5. ผู้เรยี นเปน็ สมาชิกที่ดขี องกลมุ่ เพ่ือนและสังคม • หลักความมีเหตุผล 1. เหน็ คณุ คา่ ของการใช้วัสดุและอปุ กรณใ์ นงานคาน 2. จัดแสดงเน้ือหาของงานคาน ได้อย่างถูกต้อง มีเหตุผล และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการ ดาเนนิ ธุรกิจ และในชวี ิตประจาวันได้ กล้าแสดงความคิดอยา่ งมเี หตุผล 3. กลา้ ทักทว้ งในสิ่งที่ไม่ถูกตอ้ งอยา่ งถกู กาลเทศะ 4. กล้ายอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อน่ื 5. ใชว้ ัสดุถูกต้องและเหมาะสมกับงาน 6. ไม่มีเรอื่ งทะเลาะวิวาทกบั ผู้อ่ืน 7. คดิ สิง่ ใหม่ ๆ ทเ่ี กดิ ประโยชนต์ ่อตนเอง และสังคม 8. มคี วามคดิ วิเคราะห์ในการแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ระบบ • หลกั ความมภี มู ิคุ้มกนั 1. มที ักษะทางหลกั ความปลอดภัยอีกทัง้ ส่อื ความหมายไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ 2. ผูเ้ รยี นได้รบั ความรทู้ ี่ถูกตอ้ ง พร้อมทงั้ กาหนดเนือ้ หาไดค้ รบถว้ นถกู ตอ้ ง ตามหลักความปลอดภัย ท่ีดีและมสี าระสาคัญทสี่ มบูรณ์ 3. มกี ารเตรยี มความพร้อมในการเรยี นและการปฏบิ ตั ิงาน 4. กลา้ ซกั ถามปญั หาหรือข้อสงสัยต่าง ๆ อยา่ งถูกกาลเทศะ 5. แกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ ได้ดว้ ยตนเองอย่างเปน็ เหตเุ ปน็ ผล 6. ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ 7. ควบคมุ กิริยาอาการในสถานการณต์ ่าง ๆ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

แผนการสอน หนว่ ยที่ 4 สอนคร้งั ท่ี 8 - 9 ชอ่ื วิชา วัสดแุ ละวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง เวลา 4 ชั่วโมง ช่อื หน่วย คาน การตัดสนิ ใจและการดาเนนิ กิจกรรมต่างๆ ให้อยใู่ นระดับพอเพียงหรอื ตามปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งนัน้ ต้องอาศัยทงั้ ความรแู้ ละคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ดงั นี้ • เง่อื นไขความรู้ 1. ผ้เู รียนได้ใชก้ ระบวนการคดิ ในงานคาน (ความสนใจใฝุรู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง) 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจในงานคาน 3. ใช้วัสดอุ ยา่ งประหยดั และคุม้ ค่า 4. ปฏิบัติงานด้วยความละเอยี ดรอบคอบ 5. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง • เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. ปฏบิ ัติงานทไ่ี ด้รับมอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผดิ ชอบ) 2. ใช้วสั ดุอุปกรณ์อยา่ งคุ้มค่า ประหยัด (ความประหยัด) 3. มคี วามเพยี รพยายาม และกระตอื รือรน้ ในการเรียนและการปฏิบัติงาน (ความขยัน ความอดทน) 4. ให้ความร่วมมอื กบั การทากจิ กรรมของสว่ นรวม อาสาชว่ ยเหลืองานครแู ละผู้อ่ืน (แบ่งปนั )

เนื้อหาสาระ ด้านความรู้ 1. ความหมาย และความสาคญั ของคาน คาน ( Beam ) หมายถึง องคอ์ าคารท่ีอย่ใู นแนวราบเช่อื มต่อกบั องค์อาคารทีอ่ ยู่ในแนวตง้ั เช่น เสา และจะรบั นา้ หนักตัวเองและน้าหนักของโครงสร้าง ( Self weight or structural dead load ) และยงั รับ น้าหนักที่บรรทุกอยบู่ นแผ่นพ้ืนที่ค่อนขา้ งคงท่ี หรือถาวร ( Permanent ) เรยี กว่า นา้ หนกั คงท่สี ว่ นเพ่ิม (Super-imposed dead load) เช่น ผนัง ฝูาเพดาน กระเบือ้ ง หรอื วัสดุตกแต่งพนื้ เปน็ ตน้ นอกจากนน้ั ยังมีน้าหนักจร ( Live load ) ท่บี รรทุกบนแผ่นพืน้ และถา่ ยลงสู่คาน เช่น น้าหนักผอู้ ย่อู าศัย สมั ภาระ น้าหนกั ยวดยานพาหนะ เป็นต้น 2. การจาแนกประเภทของคาน คานแบ่งตามชนดิ ของวสั ดอุ อกเป็น 3 ประเภท คอื คานไม้ คานเหลก็ และคานคอนกรีตเสรมิ เหลก็ มี รายละเอยี ดดังนี้ 2.1 คานไม้ (Timber Beam) คานไม้ (Timber Beam) คือ คานทีม่ ีโครงสร้างเป็นไม้ การประกอบติดตัง้ จะง่ายกวา่ คานชนิด อื่น สว่ นมากนิยมใชก้ บั งานโครงสรา้ งไม้ คานไมแ้ บง่ ได้ 7 ชนดิ ดงั น้ี 1) คานไม้ท่ัวไป (Solid Sawn Lumber) 2) คานไม้ประกอบ (Built – Up Beam) 3) คานไม้อัดพุก (Space Beam) 4) คานไมส้ อดไส้ (Flitch Beam) 5) คานไม้กล่อง (Box Beam) 6) คานไมอ้ ัดกาว (Glued Laminated) 7) คานไม้อดั (Laminated Veneer Lumber) 2.2 คานเหลก็ (Steel Beam) คานเหล็ก (Steel Beam) นิยมใช้ในอาคารขนาดใหญ่ หรือต้องการให้โครงสร้างโดยรวมมี น้าหนักเบากวา่ ใช้คอนกรีตเสริมเหลก็ คานเหล็กผลิตโดยใชเ้ หล็กรูปพรรณชนิดรีดร้อน (Hot-rolled steel) หรอื เหลก็ รีดเย็น (Cold -work steel) ตามความจาเป็น คานเหลก็ ยงั แบง่ ได้ 4 ชนิด มรี ายละเอียดดงั น้ี 1) คานเหลก็ รูปพรรณ 2) คานเหลก็ ประกอบ 3) คานเหล็กหนา้ ตัดรวม 4) คานโครงถักเหล็ก 2.3 คานคอนกรีตเสรมิ เหลก็ (Reinforced Concrete Beam) คานคอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced Concrete Beam) ส่วนใหญ่หลอ่ ในท่ี โดยย่นื เหล็กเสริม เข้าไปในเสาคอนกรีตเพือ่ ยึด หรอื ถ่ายน้าหนัก คานคอนกรีตเสริมเหลก็ จะใช้รว่ มกับเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก และคานคอนกรีตเสริมเหล็ก สามารถใช้ร่วมกับระบบพ้นื ได้ทกุ ชนดิ เช่น พ้นื คอนกรีต พ้ืนเหล็ก หรือพืน้ ไม้

คานแบบหล่อในทแ่ี บ่งออกได้ 4 ชนดิ ไดแ้ ก่ คานพาดช่วงเดียว คานพาดต่อเน่อื ง คานปลายยนื่ และคาน ยนื่ 3. การประกอบ และติดต้ังคานไม้ คานไมใ้ ชป้ ระกอบกับระบบพน้ื และตงไม้ ตัวคานมักจะวางฝากอยู่กับเสาไม้ ยึดด้วยลมิ่ หรือบากไม้ ให้เขา้ มมุ กัน ปจั จุบันอาจใชต้ ะปยู ึดดว้ ยสลักเกลยี ว แหวน หรืออปุ กรณอ์ ่นื ๆ โดยคานจะรองรบั ตง (Joist ) และตงรองรบั พ้นื ไม้กระดาน ตามลาดับ การติดตัง้ คานจะติดต้งั วางทางดา้ นในเสายาว ไปทางเดยี วกัน ช่วง เสากลางจะตดิ ตงั้ คานคู่ หรือใชค้ านไมป้ ระกอบ หากช่วงเสายาวหรอื รับน้าหนักมาก คานไม้อาจวางหรือ ฝากกับเสาคอนกรีต หรอื เสาเหล็ก 4. การประกอบ และตดิ ตงั้ คานเหล็ก คานเหล็กอาจเปน็ เหลก็ รูปพรรณ หรือคานท่ีได้จากโครงถกั หรือแม้กระทัง่ ออกแบบใหพ้ ้นื คอนกรีต เปน็ สว่ นหน่ึงของคานประกอบ (Composite Beam) สาหรับโครงสรา้ งท่ีรบั น้าหนักมาก คานอาจประกอบ ขึน้ จากเหลก็ รูปพรรณ เมอ่ื คานมคี วามลึกมาก อาจต้องอาศัยเหลก็ Stiffeners เพือ่ ยดึ หน้าตดั ไม่ใหเ้ ปลี่ยน รปู การประกอบ และติดตัง้ คานเหลก็ กบั โครงสร้างสว่ นตา่ งๆ ของอาคารมี 2 ระบบ ไดแ้ ก่ ระบบสลกั เกลียว และระบบเช่ือมดว้ ยไฟฟูา ซงึ่ ในแตล่ ะระบบมลี าดบั ขน้ั ตอนดงั นี้ 4.1 ระบบสลักเกลียว ช่างจะตดั เหล็กตัวไอเป็นท่อน มีความยาวตามแบบคาน และเจาะรสู าหรับร้อย ยึดน๊อตสกรูเอาไว้ พร้อมเคลือบสีกันสนิมหุ้มผิวเหล็ก ในการประกอบคานเข้ากับเสาให้ติดตั้งบ่าเหล็กฉาก เข้ากบั เสาก่อนแล้วจงึ ยดึ เหลก็ คานเขา้ กบั บ่าเหล็กฉากดว้ ยการรอ้ ยน๊อตสกรู ควรหันหางเกลยี วออกด้านนอก ขันน๊อตสกรูรองแหวน แล้วจึงใช้ประแจปอนด์ขนั ใหแ้ น่น 4.2 ระบบเชื่อมด้วยไฟฟูา เตรียมเหล็กให้ได้ขนาดตามแบบ เช่ือมบ่าเหล็กฉากติดข้างเสาเพื่อใช้เป็น ระดบั อ้างอิง วางคานเหล็กบนบา่ รองให้ครบ เช่อื มแตม้ ยึดโครงสรา้ งไมใ่ ห้เคลื่อนตวั เชื่อมรอบแนวรอยต่อ ด้วยธูปเช่ือม แนวเช่ือมควรมีความกว้างอย่างน้อย 6 มิลลิเมตร เคาะเศษธูปตามแนวเช่ือมทิ้ง จากน้ันจึง ทาสีกนั สนิมเคลือบผวิ เหล็กและแนวรอยต่อ 5. การประกอบแบบ และติดตัง้ คานคอนกรีตเสริมเหล็ก การตดิ ต้ังแบบหล่ออาจยุ่งยากกบั การตยี ึดไมค้ ้ายัน และหากเป็นการเทพ้ืนรว่ มกับคานด้วย การ ประกอบแบบจะยุง่ ยากขนึ้ การประกอบแบบคานมที ้ังประกอบคานไม้กบั เสาไม้ และการประกอบแบบคาน คอนกรีตเสริมเหลก็ กับเสาคอนกรตี เสริมเหล็ก หลักการประกอบแบบคานจะแตกตา่ งกนั ดงั นี้ 5.1 แบบหลอ่ คานคอดินชนดิ วางติดดิน การสร้างแบบหล่อคานคอดินชนิดวางบนดิน เป็นพ้ืนฐานเบื้องต้นของการสร้างแบบหล่อคาน ชนดิ อนื่ ๆ เน่อื งจากแบบหลอ่ เปน็ โครงสร้างช่วั คราวทวี่ างอยบู่ นพื้นดนิ โดยตรง หลังจากจัดเตรียมวัสดุ ไม้ แบบ ไม้โครงคร่าว และจัดเตรียมเคร่ืองมือพร้อมทั้งอุปกรณ์ท่ีเกี่ยวข้อง สามารถลงมือปฏิบัติสร้างแบบ หล่อคานคอดินชนดิ วางตดิ ดนิ โดยมขี ั้นตอนดังนี้ 1) จัดเตรียมพ้ืนดิน ปรับระดับผิวดินแนวท้องคานให้ได้ระดับ เก็บเศษไม้ เศษก้อนอิฐ เศษ เหล็ก และวัชพืชออกให้หมด 2) ตรวจสอบระดับความสูงหัวเสาตอม่อ วัดระยะระดับกับแนวเชือกเอ็นหลังผัง กรณีงาน ก่อสร้างขนาดใหญใ่ ห้ใชก้ ล้องระดับ หากระดับไม่เท่ากันให้สกัดคอนกรีตหัวเสาท่ีสุงออกขึงเชือกเอ็นหลังผัง ตามแนวศูนย์กลางคาน ระหว่างหัวเสาตอม่อเพ่ือหาตาแหน่งศูนย์กลางคาน และตาแหน่งท้องคาน วัด ระยะความสูงจากแนวเชือกถึงท้องคานประมาณ 50 – 100 เซนติเมตร ทกุ ระยะ 1.00 เมตร 3) ขึงเชือกเอ็นระดับระหว่างตีนเสาตอม่อทั้ง 2 ข้าง เพ่ือหาแนวปักไม้หลักยึดตีนแบบทุกระยะ

ประมาณ 0.50 เมตร ตอกไม้หลักลงดนิ ให้แน่น 4) นาเหล็กเสรมิ ในคานเหล็กแกนบน แกนลา่ ง และเหล็กคอม้าท่ีประกอบตามขนาด และระยะที่ กาหนดลงในแบบหล่อคาน ทาการจัดเหล็กแกนเสาให้อยู่ในตาแหน่งที่ถูกต้อง ซ่ึงจะทราบจากการหาศูนย์ เสา และเส้นทขี่ ดี เป็นส่ีเหล่ียม เมื่อนาเหล็กปลอกเสาสวมเหล็กแกน นาเหล็กแกนคานคุ้งปลายผูกติดกันกับ เหล็กแกนเสา โดยมีลกู ปูนหนนุ เหลก็ ท่ีใต้คาน และขา้ งคาน 5) นาไม้ข้างแบบคานที่เพลาะแล้วมาทาการติดตั้ง ตอกตะปูยึดติดไม้หลัก ตรวจสอบระดับไม้ แบบขา้ งคานใหไ้ ด้ระดบั แนวนอน และแนวดิ่งกับแนวเชอื กเอ็นหลังผัง 6) ประกอบ และติดตั้งไมบ้ งั คับแบบช่วงบน เสี้ยมปลายไม้หลักห่างจากไม้แบบข้างคานประมาณ 50 เซนติเมตร (จัดให้ตรงแนวหลักยึดตีนแบบ) ตอกตะปูไม้ปิดหัวหลักกับไม้หลัก และไม้ค้ายันระหว่างไม้ บงั คับแบบช่วงบนกบั ไม้ปดิ หัวหลกั และไม้ยันตีนแบบ ระยะประมาณ 50 เซนติเมตร ตรวจสอบระดับทาง ดง่ิ ของไมแ้ บบข้างคานกับแนวเชือกเอ็นหลังผงั ถ่ายระดับทุกระยะประมาณ 1 เมตร ตอกตะปู 2 น้ิว จาก ด้านในโผลป่ ลาย 1 นว้ิ วดั ระยะหา่ งปากแบบดา้ นในเทา่ ความกว้างคาน นาไมร้ ดั ปากแบบตอกตะปูยึดปาก แบบ ทุกระยะห่างประมาณ 50 เซนตเิ มตร พรอ้ มเทคอนกรีต 5.2 แบบหล่อคานคอดินชนิดลอยเหนอื ดนิ การสรา้ งแบบหล่อคานคอดินชนดิ ลอยเหนือดิน มลี าดบั ขั้นตอนเหมอื นกับแบบหล่อคานชนิด วางติดดนิ จะมีสว่ นท่เี พิ่มเติม คือ เสาคา้ ท้งั 2 ขา้ ง หลงั จากเตรียมวสั ดุ และเคร่ืองมอื อุปกรณ์เรียบรอ้ ย สามารถปฏบิ ัติงานโดยมีข้นั ตอนดงั นี้ 1) ตรวจสอบระดับความสูงหวั เสาตอม่อ หาระดับโดยการใช้สายยางพลาสตกิ ทาเครื่องหมาย หวั เสาขึงเชือกเอ็นระดับหลงั ผงั ตามแนวศูนย์กลางคาน เชื่อมระหวา่ งหัวเสาตอม่อเพื่อหาตาแหน่งศูนย์กลาง คาน และตาแหน่งท้องคาน 2) ตอกเสาค้ายัน โดยให้มรี ะยะหา่ งประมาณ 50 เซนตเิ มตร เพ่ือยึดคานตอกตะปยู ดึ คานกับ เสาตลอดแนวยาวคานทั้ง 2 ข้าง ใชส้ ายยางพลาสติกตรวจสอบระดบั หลงั คานให้ได้ระดับ วางไม้ตงบนหลัง คาน ระยะหา่ งตงประมาณ 50 เซนติเมตร ตรวจสอบระดบั หลงั ตงด้วยระดบั น้า จากน้ันนาไมก้ ระดาน ทอ้ งคานมาวางหลังตง และตอกตะปยู ดึ ในแนวเสน้ เชือกเอ็นศนู ย์กลางคาน 3) การประกอบเหล็กคาน เหล็กแกนคานคอดนิ เสรมิ เหลก็ จะมีเหล็กแกนบน และแกนล่าง ลกั ษณะของคานจะมีรูปเปน็ สี่เหลยี มผืนผ้า พฤตกิ รรมของคาน ดา้ นบนจะรบั แรงอดั และดา้ นล่างจะรบั แรง ดงึ คอนกรีตทาหนา้ ที่รบั แรงอดั และเหลก็ มีหนา้ ทีร่ ับแรงดึง นอกจากคานมีเหลก็ แกนแล้ว ยงั มีเหล็กเสรมิ คอมา้ มหี น้าท่ีรับแรงเฉือน เหล็กเสริมนอกจากจะมหี น้าทร่ี ับแรงดงึ แล้ว วศิ วกรบางคนยังนาเหลก็ มารบั แรงอดั ในคานเพราะต้องการลดความลึก ทง้ั นเ้ี พ่ือลดขนาดความลึกของคาน เพื่อความประหยัด และ สามารถลดน้าหนักของคอนกรตี 4) นาไมแ้ บบข้างคานที่เพลาะแลว้ มาทาการติดตั้งวางหลังตง ตอกตะปยู ดึ ติดไม้ยดึ ตนี แบบ แนบข้างไม้แบบท้องคาน 5) ประกอบ และติดต้ังไม้บงั คบั แบบชว่ งบน ตอกตะปยู ึดไม้คา้ ยันระหว่างไม้บังคบั แบบช่วงบน กบั ไม้สะพานบงั คบั แบบท่รี ะยะประมาณ 50 เซนตเิ มตร ตรวจสอบระดบั ทางดง่ิ ของไมข้ ้างแบบกับแนว เชือกเอน็ หรือใชฉ้ ากเหล็กแนบกับหลังไม้ตง 6) ทาเคร่ืองหมายระดบั หลงั คาน ด้วยการถา่ ยระดบั สายยางทุกระยะประมาณ 1 เมตร ตอก ตะปจู ากด้านในใหโ้ ผล่ปลาย 1 น้วิ วดั ระยะห่างปากแบบด้านในเท่าความกวา้ งคาน นาไมร้ ัดปากแบบตอก

ตะปยู ึดปากแบบทุกระยะหา่ งประมาณ 50 เซนติเมตร พร้อมเทคอนกรีต 5.3 แบบหลอ่ คานชั้นบน การสร้างแบบหล่อคานชั้นบนมีลาดับขั้นตอนเหมือนกับการสร้างแบบหล่อคานชนิดลอยเหนือ ดิน แต่เน่ืองจากตัวคานอยู่สูงกว่าจึงต้องมีน่ังร้านเพื่อความสะดวกในการทางาน เมื่อเตรียมวัสดุ และ เครอื่ งมอื อุปกรณ์เรียบรอ้ ย สามารถปฏิบัตงิ านโดยมีขัน้ ตอนดงั น้ี 1) ตรวจสอบระดับความสูงหัวเสา ใช้ระดับน้าสายยางพลาสติกตรวจสอบระดับหัวเสา หาก หวั เสาสูงไม่เท่ากนั ให้สกัดคอนกรีตหวั เสาทส่ี งู กวา่ ออก ขึงเชือกเอ็นระดบั ตามแนวศูนย์กลางคานระหว่างหัว เสา เพ่อื หาศนู ย์กลางคาน และตาแหน่งท้องคาน 2) จัดเตรียมเสาค้ายนั หรือเสาตู๊ ตรวจสอบความสูงของเสาจากท้องคานถงึ ฐานรองรบั โดย ให้สน้ั กว่าระยะจริงเลก็ นอ้ ย เพ่ือความสะดวกในการปรับระดบั ภายหลงั ตอกตะปูยดึ ไม้ตงเขา้ กับหวั เสา ก่ึงกลางตงให้ได้ฉากเป็นรูปตัวที (T) พร้อมยึดไมค้ า้ ยันระหว่างหวั ตงเขา้ กบั เสาเปน็ รปู ตวั วี (V) 3) ตดิ ต้ังไมแ้ บบท้องคานบนหลังตง โดยขงึ เชือกเอน็ ศนู ย์กลางคานเป็นระดับแนวท้องคาน ปรับระดับตนี เสาด้วยลม่ิ ไม้ 2 ทาง ตอกตะปทู ี่ไมเ้ ครา่ แนวนอนยึดเสาต๊ปู ระมาณก่ึงกลางเสา 4) นาเหลก็ เสริมในคานท่ีประกอบตามขนาด และระยะที่กาหนดลงในแบบหลอ่ คาน เหลก็ เสรมิ ในคาน ค.ส.ล. เหล็กบนให้ต่อทาบเฉพาะกึ่งกลางคาน สว่ นเหลก็ ลา่ งใหต้ ่อทีห่ วั เสา โดยมรี ะยะทาบ เหล็กไม่น้อยกวา่ 50 เทา่ ของเส้นผา่ ศนู ยก์ ลางของเหล็ก แต่ตอ้ งไมน่ อ้ ยกวา่ 60 เซนติเมตร โดยมลี ูกปูนหนุน เหลก็ ทใ่ี ตค้ าน และข้างคาน 5) ตดิ ตั้งไม้สะพานบงั คบั แบบตัวบน และตัวลา่ ง โดยตอกตะปูยดึ ไม้คา้ ยันไม้สะพานบงั คบั แบบ ระยะห่าง 50 เซนติเมตร ตรวจสอบระดับทางดง่ิ ของไมแ้ บบขา้ งคานกับแนวเชอื กเอน็ หรือฉากเหล็ก แนบกับหลงั ไมต้ ง 6) ทาเคร่อื งหมายระดบั หลังคาน ทาการถ่ายระดับน้าสายยางทกุ ระยะประมาณ 1 เมตร ตอกตะปูจากด้านในใหโ้ ผลป่ ลาย 1 นวิ้ นาไม้รดั ปากแบบตอกตะปยู ดึ ปากแบบทุกระยะประมาณ 50 เซนติเมตร พร้อมเทคอนกรีต 6. วสั ดุ เคร่ืองมือและอปุ กรณ์งานคาน ในการทางานคานไม้ คานเหล็ก และคานคอนกรตี เสริมเหล็ก จะต้องเตรยี มวัสดุ เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ ที่จาเป็นในการปฎิบตั ิงาน เพ่ือให้งานดาเนนิ การดว้ ยความสะดวก ดงั น้ี 6.1 วสั ดุคอนกรีต 1) ปนู ซเี มนต์ ( Cement) 2) หิน ( Rock) 3) ทราย ( Sand) 4) น้า (Water) 5) สารเคมีผสมเพิม่ 6.2 วัสดุงานไม้ 1) งานไม้แบบหลอ่ คอนกรีต จะใชไ้ ม้กะบากในการทาแบบหลอ่ ไม้ มีความหนาที่ 1 น้วิ มี หนา้ กว้างตง้ั แต่ 6 8 หรอื 10 น้ิว 2) ไมเ้ ครา่ ยึดไมแ้ บบ ไม้ที่ใช้ส่วนมากนิยมใช้ ไมย้ าง จะใชไ้ มม้ ีความหนาที่ 1 ½ นวิ้ มีหนา้ กวา้ ง 3 น้วิ 6.3 วัสดุงานโลหะ

1) เหล็กเส้นกลม (Round Bars ; RB) ตามมาตรฐาน มอก. 20 – 2543 ไดก้ าหนดให้ เหลก็ เส้นกลมมีชั้นคุณภาพเดียว ใชส้ ัญลกั ษณ SR24 2) เหลก็ ข้ออ้อย (Deformed Bars ; DB) โดยผิวของเหลก็ มีลกั ษณะเป็นปลอ้ งๆ คลา้ ย อ้อย จงึ เรียกว่าเหล็กข้ออ้อย ตามมาตรฐาน มอก. 24 – 2548 3) ลวดผกู เหล็ก (Binding Wire) เปน็ ลวดทใ่ี ชใ้ นการผกู เหล็กเส้น เพ่ือใหอ้ ยูใ่ นรูปของเสา หรอื คานอยไู่ ด้ โดยตามมาตรฐาน มอก. 138 - 2518 ได้กาหนดให้เป็นลวดเบอร์ 18 4) ตะปู 5) สกรนู อ็ ต เปน็ วสั ดุท่ีจาเป็นอย่างมากสาหรบั การยดึ วัตถุสองชนิ้ ใหต้ ิดกัน เชน่ ยึดคานไม้ กบั เสาคอนกรตี ยึดคานไม้กับเสาไม้ เป็นต้น 6.4 เคร่อื งมือ และอปุ กรณ์ในงานฐานราก 1) ถงั เปลผสมปนู 2) จอบและพล่วั 3) ถงั น้าหรอื ถังใส่ปนู 4) ค้อนหงอน 5) คีมผกู เหล็ก 6) ฉากเหลก็ 7) ระดบั นา้ 8) ตลบั เมตร 9) กรรไกรตดั เหลก็ 10) สวา่ นไฟฟูา 11) สายยางวัดระดับ 7. การผสม และการเทคอนกรตี คาน การหล่อคอนกรีตคาน สาหรับโครงสร้างอาคารบ้านพักอาศัย การผสมให้ใช้เคร่ืองผสมคอนกรีตผู้ ควบคมุ งานจะเป็นผกู้ าหนดสว่ นผสม โดยอตั ราส่วนผสมท่ีใช้กับโครงสร้างคอนกรีต คานคือ 1 : 2 : 4 ซ่ึงใช้ ปูน 1 ส่วน ทราย 2 สว่ น และหิน 4 ส่วน ลาดบั ขั้นตอนในก่อนการเทคอนกรตี มีดังนี้ 1) การเตรียมแบบ 2) ตรวจแบบ 3) การเทคอนกรีต 4) การถอดแบบ และการบ่มคอนกรีต

แผนการสอน หน่วยที่ 4 แบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 4 สอนครง้ั ที่ 8-9 เวลา 4 ชว่ั โมง ช่ือวิชา วัสดุและวธิ ีการก่อสรา้ งงานโครงสร้าง ชือ่ งาน คาน คาสง่ั จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. คานมกี ี่ประเภท อะไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ไมท้ ี่ใช้ทาคานไมส้ ว่ นใหญ่ใช้ไม้ประเภทใด ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แบบหลอ่ คานนิยมใช้ไม้อะไรทาแบบหล่อ ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ลาดับขน้ั ตอนการสรา้ งแบบหลอ่ คานคอดนิ ชนดิ วางติดดนิ มอี ะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ลาดับขัน้ ตอนการสรา้ งแบบหล่อคานคอดิน ชนิดลอยเหนอื ดนิ มอี ะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. ลาดับข้ันตอนการสร้างแบบหลอ่ คานทั่วไป มีอะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. ลาดับขน้ั ตอนการสรา้ งแบบหลอ่ คอนกรตี หมุ้ คานเหลก็ มอี ะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. ลาดับขั้นตอนการรื้อแบบหล่อคาน มอี ะไรบ้าง

……………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. ข้อกาหนดเกี่ยวกบั การเสรมิ เหลก็ ในคาน มีอะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. เสาค้ายันท้องคาน หรือเสาตใู๊ ชข้ นาดเท่าใด ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หน่วยที่ 4 แบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยท่ี 4 สอนครงั้ ท่ี 8-9 เวลา 4 ชวั่ โมง ชือ่ วิชา วัสดแุ ละวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสรา้ ง ชื่องาน คาน จงเลือกคาตอบทถี่ ูกท่ีสดุ เพยี งข้อเดยี วจากคาถามต่อไปนี้ 1. ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ งเก่ียวกับคาน ก. องค์อาคารที่รับน้าหนักของโครงสรา้ ง ข. องค์อาคารทอี่ ยู่ในแนวนอนเช่อื มต่อกับอาคารท่ีอยใู่ นแนวตง้ั ค. องค์อาคารทร่ี บั นา้ หนักบนแผน่ พน้ื ที่ถาวรและรบั นา้ หนักจร ง. ถูกทุกขอ้ 2. คานแบง่ ไดก้ ี่ประเภท ก. 5 ประเภท ข. 4 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 2 ประเภท 3. ขอ้ ใดคือ การติดต้ังคานไม้ ก. ตดิ ตง้ั วางทางด้านนอกเสา ข. ตดิ ตั้งวางทางด้านในเสา ค. ตดิ ต้ังวางกึง่ กลางเสา ง. ติดตั้งวางบนตง 4. ข้อใดคือ การติดตงั้ คานไม้ช่วงเสากลาง ก. ติดตง้ั คานเดย่ี ววางตลอดแนวยาว ข. ติดต้ังคานควู่ างตลอดแนวยาว ค. ตดิ ต้ังคานโดยลดระดบั แนวคาน ง. ติดตงั้ คานคู่วางต่างระดบั กัน 5. แนวเช่อื มคานเหลก็ บนบ่ารองควรมคี วามกวา้ งอย่างน้อยเทา่ ใด ก. 3 มิลลิเมตร ข. 4 มลิ ลเิ มตร ค. 5 มิลลิเมตร ง. 6 มลิ ลเิ มตร

แผนการสอน หน่วยที่ 4 แบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยท่ี 4 สอนครง้ั ท่ี 8-9 เวลา 4 ชัว่ โมง ชื่อวิชา วัสดแุ ละวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง ชื่องาน คาน 6. ข้อใดเปน็ สงิ่ แรกท่ีตอ้ งทาในการประกอบคานเหลก็ เข้ากับเสาเหล็ก ก. ติดต้งั บ่าเหลก็ ฉากเขา้ กบั เสา ข. เจาะรคู านสาหรับร้อยยึดนอ๊ ตสกรู ค. ยดึ เหลก็ คานเข้ากับบ่าเหล็กฉาก ง. เคลือบสกี ันสนมิ หุ้มผิวเหล็ก 7. คานคอดิน ขนาด 0.20 เมตร x 0.40 เมตร ใช้ไมแ้ บบข้างคานอยา่ งไร ก. ข. ค. ง. 8. ข้อใดคือ ชว่ งระยะห่างทเี่ หมาะสมของไมร้ ัดปากแบบคาน ก. 30 เซนตเิ มตร ข. 40 เซนตเิ มตร ค. 50 เซนติเมตร ง. 60 เซนตเิ มตร 9. ลวดทีใ่ ชใ้ นการผกู เหลก็ เส้น คอื ข้อใด ก. ลวดเบอร์ 15 ข. ลวดเบอร์ 16 ค. ลวดเบอร์ 17 ง. ลวดเบอร์ 18 10. อัตราสว่ นผสมคอนกรีตของโครงสร้าง คอื ข้อใด ก. 1 : 3 : 5 ข. 1 : 2 : 4 ค. 1 : 2 : 3 ง. 1 : 2 : 2

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 4 กจิ กรรมทา้ ยหน่วยเรยี นท่ี 4 สอนครง้ั ที่ 8-9 ชอ่ื วิชา วัสดแุ ละวิธีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ช่ัวโมง ชอ่ื งาน คาน 1. ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่มออกเปน็ 3 กลมุ่ ศกึ ษาคน้ คว้าขอ้ มลู เกี่ยวกบั การประกอบแบบ และ การติดตง้ั คานแตล่ ะประเภท แล้วสง่ ตัวแทนกลุม่ ออกมานาเสนอ พรอ้ มการแสดงรปู ภาพประกอบ ตามกลุ่มดังน้ี กลุม่ ที่ 1 คานไม้ กลมุ่ ท่ี 2 คานเหล็ก กลุ่มที่ 3 คานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2. ใหน้ ักเรียนนาประสบการณเ์ กยี่ วกับการดาเนนิ งานก่อสรา้ งการประกอบแบบ และการติดตง้ั คานแต่ละประเภท ท่ีพบเหน็ ในชวี ิตประจาวันมาเล่าใหเ้ พื่อนฟังหน้าชั้นเรียน เพ่ือแลกเปลี่ยนการ เรียนร้กู นั พรอ้ มช่วยระดมความคิดเพื่อนาเทคโนโลยีใหม่มาพฒั นาให้งานก่อสร้างอาคารมี ความก้าวหน้าทนั สมัย

แผนการสอน หน่วยท่ี 4 แบบประเมินผลกิจกรรมสังเกตพฤตกิ รรมการทางาน รายบุคคลและรายกลมุ่ ชื่อวิชา วัสดแุ ละวธิ ีการก่อสร้างงานโครงสร้าง สอนครงั้ ท่ี 8-9 ชอ่ื งาน คาน เวลา 4 ชั่วโมง ช่ือเรือ่ ง ................................................................................................................................... หวั ข้ออภิปราย ......................................................................................................................... ชอื่ กลุ่ม ..................................................................................................................................... สมาชิกกลุ่ม 1. ................................................ 2. ................................................ 3. ............................................... 4. ................................................ 5. ................................................ 6. ................................................ รายการประเมิน คะแนนเตม็ ผลคะแนน หมายเหตุ 31. การเตรียมความพร้อมในการนาเสนอ 10 ………….. ผล/คะแนน 32. การมอบหมายหนา้ ที่กล่มุ 10 ………….. ดมี าก = 80 – 100 33. ความรบั ผดิ ชอบ 10 ………….. ดี = 70 – 79 34. การทางานเป็นทมี 10 ………….. ปานกลาง = 60 – 69 35. การแต่งกาย/บุคลิกภาพ 10 ………….. พอใช้ = 50 – 59 36. ความชัดเจนในการนาเสนอ 10 ………….. ปรบปรงุ = 0 – 49 37. การอภิปรายกลุ่ม 10 ………….. คะแนนเตม็ 38. ความชัดเจนในการนาเสนอ 10 ………….. รวม 100 คะแนน 39. การตอบข้อซกั ถาม 10 ………….. 40. การจดั เก็บเครือ่ งมือ อุปกรณ์ 10 ………….. รวมคะแนนท่ไี ด้ ลงช่ือ………………………………ผู้ประเมนิ (……………………………………..) ………../…………………/………………

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 4 ชื่อวิชา วัสดแุ ละวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสรา้ ง สอนครง้ั ท่ี 8 - 9 จานวน 4 ชั่วโมง ช่ือหน่วย คาน 5. กจิ กรรมการเรยี นการสอน ขน้ั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้ันตอนการเรียนรหู้ รือกิจกรรมของนักเรยี น ขั้นเตรียม (20 นาท)ี ขัน้ เตรยี ม (20 นาท)ี 1. จัดเตรยี มเอกสาร สือ่ การเรยี นการสอน 1. จัดเตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนตามที่ ตัวอย่าง งานคาน การมอบหมายงาน และวิธีวัดผล ครูผู้สอนและบทเรียนกาหนด เตรียมตัวทดสอบก่อน ประเมินผล เรียนเร่ือง คาน 2. ทดสอบก่อนเรียนเร่ือง คาน แล้วให้นักศึกษา 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนเร่ือง คานแล้วสลับกัน สลบั กนั ตรวจคาตอบ และใหค้ ะแนน ตรวจคาตอบ 3. แจง้ จุดประสงค์การเรยี นของหนว่ ยท่ี 4 และการให้ 3. ทาความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนของ ความร่วมมอื ของนักศึกษาในการทากจิ กรรม หนว่ ยท่ี 4 และการใหค้ วามรว่ มมอื ในการทากจิ กรรม ขน้ั การเรยี นการสอน (200 นาที) ขนั้ การเรียนการสอน (200 นาที) 1. ครูอธิบาย และยกตัวอย่างถึง ความหมาย และ 1. นกั ศกึ ษาฟงั และคิดตามพร้อมทั้งจดบันทึกเกยี่ วกับ ความสาคัญของคาน ประเภทของคาน หลักการ ประเภท และชนดิ ของเสาเขม็ หลกั การ และวธิ ีการตอก ประกอบ และติดตั้งคานไม้ หลักการประกอบ และ เสาเข็ม หลักการเคลอ่ื นยา้ ยปั้นจ่ัน ประเภทของฐาน ติดต้ังคานเหล็ก หลักการประกอบแบบ และติดตั้งคาน ราก หลักการประกอบแบบ และติดตงั้ และการยดึ คอนกรีตเสริมเหล็ก การเลือกใช้วัสดุ เครื่องมือและ แบบหล่อคอนกรีต ฐานราก การเลอื กใช้วสั ดุ เครื่องมือ อุปกรณ์ในงานคาน และหลักการผสมคอนกรีต และเท และอุปกรณใ์ นงานฐานราก และหลกั การผสม และเท คอนกรตี คาน พร้อมกับแจกใบความรู้ประกอบการเรียน คอนกรีตฐานราก พร้อมกบั ศึกษาใบความรปู้ ระกอบการ เรยี นการสอน โดยใชใ้ บความรู้ที่ 4 เรือ่ ง คาน การสอน โดยใช้ใบความร้ทู ่ี 4 เรอ่ื ง คาน 2. ครูใหน้ กั ศึกษาแบง่ กล่มุ นักศึกษา กลุม่ ออกเปน็ 3 2. นักศึกษาเข้ากลุ่มตามท่ีครูจัดแบ่ง แล้วปฏิบัติ กลมุ่ แล้วมอบหมายใหน้ ักศึกษาปฏบิ ัติกิจกรรมท้าย กิจกรรมท้ายหน่วยท่ี 4 เร่ือง คาน โดยนักศึกษาแต่ละ หนว่ ยที่ 4 เรือ่ ง คาน โดยใหน้ ักศึกษาแต่ละกล่มุ กลุ่มอภิปรายแนวคิดเก่ียวกับการประกอบแบบ และ อภปิ ราย แนวคดิ เกย่ี วกับการประกอบแบบ และการ การติดต้ังคานแต่ละประเภท โดยดูตัวอย่างจาก ติดต้ังคานแตล่ ะประเภท โดยดูตวั อย่างจาก ใบความรู้ ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง คาน ท่ี 4 เรื่อง คาน

แผนการสอน หน่วยที่ 4 ช่อื วิชา วัสดแุ ละวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสรา้ ง สอนคร้งั ที่ 8-9 จานวน 4 ชัว่ โมง ช่ือหน่วย คาน 4. กจิ กรรมการเรยี นการสอน (ตอ่ ) ขนั้ ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขน้ั ตอนการเรียนรหู้ รือกิจกรรมของนกั เรียน จากน้นั ให้นกั ศกึ ษาร่วมกันสรุป “การประกอบแบบ จากนั้นนักศึกษาร่วมกันสรุป “การประกอบแบบ และการติดตั้งคานแต่ละประเภท” ให้บันทึกผลและ และการติดต้ังคานแต่ละประเภท” ให้บันทึกผลและ รายงานหน้าชั้นเรียนได้อย่างอิสระ โดยจัดทาสื่อ รายงานหน้าช้ันเรียนได้อย่างอิสระ ให้จัดทาส่ือ ประกอบการรายงานด้วย เม่ือรายงานหน้าช้ันเรียน ประกอบการรายงานด้วย เมื่อรายงานหน้าช้ันเรียน แล้วให้ผู้ฟังซักถามปัญหา ข้อสงสัยเก่ียวกับ “การ แล้วให้ผู้ฟังซักถามปัญหา ข้อสงสัยเก่ียวกับ “การ ประกอบแบบ และการติดต้ังคานแต่ละประเภท ” ประกอบแบบ และการติดต้ังคานแต่ละประเภท” จากนั้นให้ผูร้ ายงานตง้ั คาถาม เพ่ือถามผู้ฟังอย่างน้อย จากนัน้ ใหผ้ ู้รายงานตั้งคาถาม เพ่ือถามผู้ฟังอย่างน้อย 2 คาถาม โดยให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นภายในช้ัน 2 คาถาม โดยให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นภายในช้ัน เ รี ย น ไ ด้ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ (Democracy ด้ า น เ รี ย น ไ ด้ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ (Democracy ด้ า น ประชาธิปไตย:3D) ประชาธปิ ไตย:3D) ขั้นสรปุ (20 นาที) ขนั้ สรุป (20 นาที) 1. ครูสรุปจากที่นักศึกษานาเสนอข้อมูลพร้อม 1. นักศึกษารับฟังคาสรุปและข้อแนะนาจากครู ทง้ั อธิบายเพ่ิมเติม และสรุปเน้ือหาตามจุดประสงค์เชิง พร้อมท้ังจดบันทึกข้อมูล และซักถามหรือตอบคาถาม พฤติกรรม ตามหัวข้อสาระสาคญั พร้อมทั้งปลกู ฝังให้ หรอื แสดงความคิดเห็น ในหัวข้อท่ียังไม่เข้าใจพร้อมทั้ง นักศึกษาเอาใจใส่ในการเรียนรู้ ดูหนังสืออย่าง รับฟังการปลูกฝงั จากครผู สู้ อนเร่ืองการเอาใจใส่ในการ สม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่นกีฬาอยู่เสมอเพ่ือให้ เรียนรู้ ดูหนังสืออย่างสม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่น ร่างกายแข็งแรงความจาดี เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็น กีฬาอยเู่ สมอเพื่อใหร้ ่างกายแขง็ แรงความจาดี เป็นการ ประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจากยาเสพติดอย่าง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจาก แทจ้ รงิ Drug-Free ดา้ นภูมคิ ุม้ กนั ภยั จากยาเสพติด : ยาเสพติดอย่างแท้จริง Drug-Free ด้านภูมิคุ้มกันภัย 3D ) จากยาเสพติด : 3D )

แผนการสอน หน่วยที่ 4 ชอื่ วิชา วัสดุและวธิ ีการก่อสรา้ งงานโครงสร้าง สอนคร้ังท่ี 8 - 9 ช่ือหน่วย คาน จานวน 4 ช่วั โมง 1. กิจกรรมการเรยี นการสอน (ตอ่ ) ขั้นสรปุ (20 นาที) (ตอ่ ) 2. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ข้นั สรุป (20 นาที) (ตอ่ ) 3. นกั ศึกษานาคะแนนจากแบบทดสอบกอ่ น 2. แจกแบบทดสอบหลังเรยี น เรียนและหลังเรียนมาเปรยี บเทียบกนั วา่ เป็น 3. ครตู รวจแบบทดสอบพรอ้ มกบั บนั ทกึ อยา่ งไรมผี ลตา่ งกันอยา่ งไร เพอ่ื ดูความก้าวหนา้ ของตนเอง คะแนน 4. นกั ศึกษาทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียน 4. ให้นักศกึ ษาทาแบบฝึกหัดทา้ ยบทเรยี น (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรียน) (รวม 240 นาที หรอื 4 คาบเรียน)

2. งานท่ีมอบหมายหรอื กิจกรรมการวดั ผลและประเมนิ ผล  ก่อนเรียน 1. จัดเตรยี มเอกสาร สอื่ การเรยี นการสอนตามที่อาจารย์ผูส้ อนและบทเรยี นกาหนด 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี นเร่ือง คาน แลว้ สลบั กนั ตรวจคาตอบ 3. ทาความเข้าใจเกี่ยวกบั จดุ ประสงค์การเรยี นของหน่วยที่ 4 และการใหค้ วามร่วมมอื ใน การทากจิ กรรมในหนว่ ยท่ี 4  ขณะเรียน 1. ปฏิบตั ิตามกิจกรรมทา้ ยหนว่ ยท่ี 4 เรือ่ ง คาน 10. ดตู ัวอย่างใบความรู้ท่ี 4 เรื่อง คาน 11. รว่ มกันสรปุ “การประกอบแบบ และการตดิ ต้ังคานแต่ละประเภท ” เป็น แผนภาพแสดง โครงสร้างงานคาน 12. จดั ทาส่อื ประกอบการรายงาน 13. รายงาน หนา้ ชั้นเรยี นเรอ่ื ง “การประกอบแบบ และการติดตงั้ คานแตล่ ะประเภท ”  หลังเรยี น 1. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน 2. ทาแบบฝกึ หดั ท้ายบทเรยี น 3. ทากิจกรรมทา้ ยหนว่ ยเรียน 3. ผลงาน/ช้ินงาน/ความสาเร็จของผู้เรียน 1. ผลสาเร็จจากการปฎิบัตงิ านกจิ กรรมท้ายหน่วยเรียนตามทไ่ี ด้มอบหมายในหนว่ ยที่ 4 เรื่อง คาน 2. ผลสาเรจ็ จากการปฎิบตั ิงานจากแบบฝึกหดั ท้ายหน่วยเรียนตามทไี่ ด้มอบหมายในหนว่ ย ที่ 4 เร่ือง คาน 4. สือ่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้ สื่อสง่ิ พิมพ์ 5. หนงั สอื เรียนวชิ า วสั ดกุ ่อสร้าง ของ พงศพัน วรสุนทโรสถและวรพงศ์ วรสนุ ทโรสถ 6. หนงั สือเรยี นวิชา เทคนิคก่อสร้าง ของ พภิ พ สนุ ทรสมัย 3. แบบทดสอบก่อนเรยี น 4. ใบความรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง คาน 5. กจิ กรรมท้ายหนว่ ยท่ี 4 เร่อื ง คาน 6. แบบทดสอบหลงั เรยี น 7. แบบฝกึ หดั ทา้ ยบทเรียน

8. แบบเฉลยทดสอบก่อนเรียน - หลงั เรียน และแบบฝึกหัดท้ายบทเรยี น ใช้ประกอบใน ข้นั เตรียมและขั้นสรุป 9. แบบประเมินผลกิจกรรมสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคลและรายกลุ่ม 5. สือ่ โสตทัศน์ (ถ้ามี) เครื่องฉายภาพ 6. ส่อื ของจริง ตวั อย่างของจรงิ “ โครงสรา้ งงานคาน” 7. แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 5. ห้องสมุดวทิ ยาลัยเทคนคิ อุบลราชธานี ศกึ ษาข้อมลู เรอ่ื ง คาน จากหนังสือเก่ียวกับวัสดุ ก่อสร้าง และเทคนิคก่อสร้าง เช่น วัสดุก่อสร้าง ผู้แต่ง พงศพัน วรสุนทโรสถและวรพงศ์ วรสุนท โรสถ, เทคนิคกอ่ สร้าง ผแู้ ตง่ พภิ พ สุนทรสมัย และวัสดวุ ิศวกรรมกอ่ สรา้ ง ผ้แู ต่ง กวี หวงั นิเวศกลุ 6. ร้านบรกิ ารอินเทอร์เนต็ หรืออินเทอร์เนต็ ในท่ีพักอาศัย ศึกษาคน้ ควา้ หาข้อมลู เรอื่ ง วัสดุกอ่ สร้าง และเทคนิคก่อสรา้ ง จากเวบ็ ไซด์ http://www.google.co.th หรือ http://elearn.utc.ac.th/moodle/course/view.php?id=26 นอกสถานศึกษา ผู้ประกอบการ สถานประกอบการ ในท้องถน่ิ จังหวัดอุบลราชธานี 8. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอื่น 1. บรู ณาการกับวชิ าชวี ติ และวัฒนธรรมไทย ด้านการพูด การอ่าน การเขียน และการ ฝกึ ปฏบิ ตั ติ นทางสังคมด้านการเตรยี มความพร้อม ความรบั ผดิ ชอบ และความสนใจใฝุรู้ 2. บรู ณาการกับวชิ าความปลอดภยั ในงานอาชพี ดา้ นความปลอดภยั ในการปฎิบตั งิ าน 3. บูรณาการกับวิชากีฬาเพื่อพัฒนาสุขภาพและบุคลิกภาพ ด้านบุคลิกภาพในการ นาเสนอหน้าชั้นเรียน 4. บรู ณาการกบั วิชาการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรและสิง่ แวดล้อมในงานอาชพี ดา้ นการเลือกใช้ ทรพั ยากรอยา่ งประหยัด 9. การประเมนิ ผลการเรียนรู้  หลักการประเมินผลการเรยี นรู้ ก่อนเรยี น ตรวจความพร้อมก่อนเรยี น ตามแบบประเมนิ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ขณะเรยี น 7. สงั เกตและบันทึกผลตามแบบประเมินคุณลักษณะพงึ ประสงค์

8. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 4 9. กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ หน่วยที่ 4 หลงั เรยี น บนั ทกึ ผลคะแนน จากการตรวจงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 7. แบบฝึกหัดหน่วยท่ี 4 8. กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ หน่วยท่ี 4 9. แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยท่ี 4

บรรณานกุ รม คานวณ คุณาพร. บา้ นแสนรกั . กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ทั วทิ ยพัฒน์ จากัด. 2547. เจรญิ เสาวภาณี. สร้างบ้านด้วยตนเอง. กรงุ เทพมหานคร: บริษัทสกายบ๊กุ ส์จากัด. 2550. ชมรมวศิ วฯจุฬา 07.รายละเอียดเหล็กเสริมงานคอนกรีต.พมิ พ์ครง้ั ท่ี 7.กรุงเทพมหานคร : 2533. ชัย มุกตพนั ธ์.ปฐพีกลศาสตร์ และวศิ วกรรมฐานราก.พิมพ์ครงั้ ที่ 4.กรุงเทพมหานคร: ศูนย์การพิมพ์ดวงกมล.2540. พภิ พ สุนทรสมัย.เทคนคิ การสรา้ งอาคารเบื้องต้น.กรุงเทพมหานคร : โปรเฟรสชัน่ แนล พับลชิ ชงิ่ .2524. มนัส กล่องเพชร.เทคนคิ ก่อสร้าง 1. กรุงเทพมหานคร : บริษัทสานกั พิมพเ์ อมพันธ์ จากดั .2543 วทิ วัส สิทธกิ ุล.เทคนิคกอ่ สร้าง. กรุงเทพฯ: คณะวิชาชา่ งโยธา สถาบันเทคโนโลยี ราชมงคลวทิ ยาเขตอุเทนถวาย. 2544. วีระเดช พะเยาศิริพงศ์ .รวมกฎหมายก่อสร้าง .กรุงเทพมหานคร:เทพนมิ ิตการพิมพ์.ม.ป.ป. อวยชัย สภุ าพจน์ . การควบคมุ งานก่อสรา้ ง . กรงุ เทพมหานคร : สานักพิมพ์ศูนยส์ ง่ เสริม วิชาการ.ม.ป.ป. เอกสทิ ธ์ิ ลิ้มสุวรรณ. แบบหล่อคอนกรตี .พมิ พ์ครง้ั ที่ 7.กรงุ เทพมหานคร:สานกั พิมพเ์ อเซีย เพรส.2539. อรณุ ชยั เสร.ี เกร็ดความรูเ้ กี่ยวกับการควบคุมงานกอ่ สรา้ งอาคาร คอนกรีตเสรมิ เหลก็ . กรงุ เทพมหานคร : วงศ์สว่างการพิมพ์.2528.

บนั ทึกหลงั การสอน/การเรียนรู้ ผลการใช้แผนการสอน/การเรียนรู้ 10. คาบสอนเหมาะสม 11. เนือ้ หาสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมเหมาะสม 12. กิจกรรมการสอนหรือวิธสี อนในข้นั ตอนการสอน กิจกรรมของผเู้ รยี นเหมาะสม ผลการเรียนของนกั เรยี น 10. นกั เรยี นสว่ นใหญ่ใหค้ วามสนใจเรยี น เมอื่ จัดการเรียนการสอนโดยมีการแข่งขนั และ กล่าวชมเชยเม่ือสามารถทางานดว้ ยตนเองอยา่ งซื่อสตั ย์ ตั้งใจเรียนมากข้นึ ดูไดจ้ ากการตอบ คาถามได้ถูกต้องชดั เจน กล้าแสดงออกมากขึน้ 11. ผลคะแนนเฉล่ียการสอบหลังเรียนสูงกว่ากอ่ นเรยี น นักเรยี นทาแบบฝกึ หดั กิจกรรม ส่งเสริมการเรยี นรู้ และใบงาน ด้วยตนเองได้ถูกต้อง 12. นักเรยี นมกี จิ นิสัยท่ีดี มคี วามสามคั คี ยอมรบั เหตผุ ลผูอ้ ่ืน ผลการสอนของครู 7. สอนเนื้อหาไดร้ วดเร็ว โดยใช้สอื่ พาวเวอร์พอยต์ และเอกสารประกอบการสอนหน่วยท่ี 4 8. สอนได้ ตามเวลาท่กี าหนด จากผลของการคละกลุ่มผู้เรยี น ลดการใชเ้ วลาสอนเสริมโดย ครผู ู้สอน ด้วยการเรยี นรู้แบบเพ่ือนช่วยเพ่ือน ลงชื่อ....................................................ผู้สอน () ลงชอ่ื ........................................ผู้ชว่ ยฝาุ ยวิชาการ ()

แผนการสอน หนว่ ยที่ 5 สอนคร้ังท่ี 10-11 ชื่อวิชา วสั ดุและวธิ กี ารกอ่ สร้างงานโครงสร้าง ช่อื หน่วย เสา เวลา 4 ชว่ั โมง หัวขอ้ เรือ่ ง 1. ดา้ นความรู้ 23. ความหมาย และความสาคัญของเสา 24. ประเภทของเสา 25. หลักการประกอบ และติดตั้งเสาไม้ 26. หลักการประกอบ และติดต้ังเสาเหลก็ 27. หลกั การประกอบแบบ และติดตง้ั เสาคอนกรตี เสริมเหล็ก 28. หลกั การผสมคอนกรตี และเทคอนกรีตเสา 2. ด้านทกั ษะ 7. การใช้วัสดุ เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ในงานเสา 3. ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณลกั ษณะ 3D 1. เตรียมความพร้อมดา้ นวัสดุ อปุ กรณ์สอดคลอ้ งกบั งานได้อย่างถูกตอ้ งและใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์อยา่ ง คุ้มค่าประหยัด ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณลักษณะ 3D (ความรับผิดชอบ ความ ประหยัด ความขยนั ความอดทน แบ่งปนั ) 2. ปฏิบตั ิงานได้อย่างถกู ตอ้ ง และสาเร็จภายในเวลาที่กาหนดอยา่ งมเี หตุและผลตามหลกั ปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณลกั ษณะ3D สาระสาคญั /แนวคิดสาคัญ เสา เป็นส่วนประกอบท่ีต่อขึ้นมาจากฐานราก ส่วนใหญ่ตั้งในแนวด่ิง มีหน้าตัดกลม ส่ีเหล่ียม หรือ อ่ืนๆ โดยวสั ดุที่ใช้ทาเสาอาจเป็นคอนกรีต เหล็ก ไม้ หรือผสม เช่น คอนกรีต และเหล็กรูปพรรณ เสา ถ่ายน้าหนักบรรทุกตั้งแต่ชั้นหลังคาของอาคารลงสู่ฐานราก โดยเสาจะเช่ือมต่อกับคานถ่ายน้าหนัก บรรทกุ จากคานลงส่ฐู านราก

แผนการสอน หน่วยท่ี 5 สอนครง้ั ที่ 10-11 ชื่อวิชา วัสดแุ ละวิธีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ช่วั โมง ชอ่ื หน่วย เสา สมรรถนะอาชีพประจาหน่วย (สงิ่ ท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดการประยุกตใ์ ช้ความรู้ ทักษะ คุณธรรม เขา้ ดว้ ยกัน) 1. แสดงความรู้การก่อสรา้ งเสา 2. เลอื กใชว้ สั ดุและอปุ กรณ์ในงานก่อสร้างเสา จดุ ประสงคท์ ่ัวไป เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ยี วกับการกอ่ สร้างเสา และเลือกใชว้ ัสดุและอุปกรณ์ในงาน ก่อสร้างเสาได้ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 17. บอกความหมาย และความสาคัญของเสาได้ 18. บอกประเภทของเสาได้ 19. อธิบายหลกั การประกอบ และติดต้ังเสาไม้ได้ 20. อธบิ ายหลักการประกอบ และตดิ ตั้งเสาเหลก็ ได้ 21. อธิบายหลกั การประกอบแบบ และตดิ ต้ังเสาคอนกรีตเสริมเหล็กได้ 22. เลอื กใช้วัสดุ เคร่อื งมอื และอุปกรณ์ในงานเสาได้ 23. อธิบายหลักการผสมคอนกรีต และเทคอนกรีตเสาได้

แผนการสอน หน่วยที่ 5 สอนคร้ังที่ 10 - 11 ชอื่ วิชา วัสดแุ ละวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง เวลา 4 ช่วั โมง ชอื่ หน่วย เสา การบูรณาการกับปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และคุณลกั ษณะ 3D • หลักความพอประมาณ 1. ผ้เู รียนจัดสรรเวลาในการฝกึ ปฏิบตั ิทากิจกรรมและแบบฝกึ หดั ท้ายหนว่ ยเรียนได้อยา่ งเหมาะสม 2. กาหนดเนอื้ หาเหมาะสมกบั เกณฑ์การประเมนิ การใชเ้ ครือ่ งมืออย่างถูกต้องและเหมาะสมกับงาน 3. ผู้เรยี นร้จู กั ใช้และจัดการวัสดอุ ุปกรณ์ตา่ ง ๆ อย่างประหยัดและคมุ้ ค่า 4. ผเู้ รยี นปฏิบตั ิตนเปน็ ผนู้ าและผตู้ ามทีด่ ี 5. ผูเ้ รียนเปน็ สมาชกิ ทีด่ ีของกลุม่ เพื่อนและสงั คม • หลกั ความมีเหตุผล 1. เหน็ คุณค่าของการใช้วัสดุและอุปกรณใ์ นงานเสา 2. จดั แสดงเนื้อหาของงานเสา ได้อย่างถูกต้อง มีเหตุผล และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการดาเนิน ธุรกจิ และในชวี ิตประจาวนั ได้ กลา้ แสดงความคดิ อยา่ งมเี หตุผล 3. กลา้ ทักท้วงในส่ิงทไ่ี ม่ถูกตอ้ งอย่างถกู กาลเทศะ 4. กล้ายอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อ่ืน 5. ใชว้ ัสดถุ กู ตอ้ งและเหมาะสมกับงาน 6. ไม่มเี ร่อื งทะเลาะววิ าทกับผู้อ่นื 7. คดิ สง่ิ ใหม่ ๆ ทีเ่ กิดประโยชน์ต่อตนเอง และสงั คม 8. มคี วามคดิ วิเคราะห์ในการแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ • หลกั ความมภี มู ิคุ้มกัน 1. มที ักษะทางหลกั ความปลอดภยั อีกทงั้ สอ่ื ความหมายได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 2. ผู้เรยี นไดร้ ับความรูท้ ่ีถูกตอ้ ง พร้อมทงั้ กาหนดเนอื้ หาไดค้ รบถ้วนถกู ต้อง ตามหลักความปลอดภัยท่ี ดีและมีสาระสาคัญที่สมบรู ณ์ 3. มกี ารเตรียมความพร้อมในการเรียนและการปฏบิ ัติงาน 4. กล้าซกั ถามปัญหาหรือขอ้ สงสยั ต่าง ๆ อยา่ งถูกกาลเทศะ 5. แกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ได้ดว้ ยตนเองอย่างเป็นเหตุเปน็ ผล 6. ควบคมุ อารมณ์ของตนเองได้ 7. ควบคุมกริ ิยาอาการในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดเ้ ปน็ อย่างดี

แผนการสอน หน่วยท่ี 5 สอนครง้ั ท่ี 10 - 11 ชอ่ื วิชา วัสดุและวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ชว่ั โมง ช่อื หน่วย เสา การตัดสินใจและการดาเนนิ กิจกรรมต่างๆ ให้อยใู่ นระดบั พอเพียงหรอื ตามปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งน้นั ต้องอาศยั ทั้งความรแู้ ละคุณธรรมเป็นพน้ื ฐาน ดงั นี้ • เงอื่ นไขความรู้ 1. ผเู้ รียนไดใ้ ชก้ ระบวนการคิดในงานเสา (ความสนใจใฝุรู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง) 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในงานเสา 3. ใชว้ สั ดอุ ย่างประหยัดและค้มุ ค่า 4. ปฏิบัตงิ านดว้ ยความละเอียดรอบคอบ 5. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง • เง่ือนไขคณุ ธรรม 1. ปฏิบัตงิ านท่ไี ดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด (ความรบั ผิดชอบ) 2. ใชว้ ัสดุอปุ กรณอ์ ยา่ งคุ้มค่า ประหยดั (ความประหยัด) 3. มคี วามเพยี รพยายาม และกระตอื รือร้นในการเรียนและการปฏิบตั ิงาน (ความขยัน ความอดทน) 4. ให้ความรว่ มมอื กับการทากิจกรรมของส่วนรวม อาสาชว่ ยเหลอื งานครแู ละผู้อน่ื (แบ่งปนั )

เน้อื หาสาระ ดา้ นความรู้ 1. ความหมาย และความสาคัญของเสา เสา (Column) เป็นส่วนประกอบที่ต่อขึ้นมาจากฐานราก ส่วนใหญ่ตั้งในแนวดิ่ง อาจมีหน้าตัดกลม ส่ีเหล่ียม หรืออ่ืน ๆ โดยวัสดุที่ใช้ทาเสาอาจเป็นคอนกรีต เหล็ก ไม้ หรือผสม เช่น คอนกรีต และเหล็ก รูปพรรณ เสา ทาหน้าท่ีถ่ายน้าหนักบรรทุกต้ังแต่ชั้นหลังคาของอาคารลงสู่ฐานราก โดยเสาจะเชื่อมต่อกับ คาน ถ่ายนา้ หนักบรรทกุ จากคาน ลงสูฐ่ านราก 2. การจาแนกประเภทของเสา 2.1 เสาไม้ เสาไม้ ต้องเป็นไม้เน้ือแข็ง มีตาหนิน้อย เสาไม้มีข้อด้อยเรือ่ งความทนไฟ และการพุพัง หรอื เสอื่ ม สลาย 2.2 เสาเหล็ก เสาเหลก็ แขง็ แรงทนทานกว่าเสาไม้ สามารถสั่งซอ้ื ขนาดมาตรฐานตา่ ง ๆ ได้ เหล็กแขง็ แรง ทนทาน นา้ หนกั เบา ก่อสรา้ งง่าย รวดเร็ว แต่มีปัญหาเร่อื งสนิม และความทนไฟ จึงอาจต้องหมุ้ ด้วยคอนกรีต หรือทาสกี ันสนมิ ทับ 2.3 เสาคอนกรตี เสาคอนกรีต ใชม้ ากที่สุดในปัจจบุ นั เน่อื งจากสามารถหล่อขน้ึ รูปตา่ ง ๆ เช่น อาจเปน็ เสากลม หรอื เหล่ยี ม โดยทว่ั ไปนยิ มหลอ่ เสาคอนกรตี หน้าตัดส่เี หล่ียม เนื่องจากทาแบบหล่อง่ายกว่า สว่ นหนา้ ตัด กลมต้องใชแ้ บบหล่อพเิ ศษ เสาคอนกรตี จะเสรมิ เหล็กยนื (ท่ีมมุ หรอื รอบ ๆ หนา้ ตัด และตลอดความยาวเสา) เพอ่ื ชว่ ยต้านทานน้าหนัก หรือแรง และเหลก็ ปลอกเดี่ยว หรอื เหล็กปลอกที่พนั ตอ่ เนอ่ื งเปน็ เกลยี ว รอบ ๆ เหล็กยนื โดยเหลก็ ปลอกจะชว่ ยต้านทานการวิบตั ิ เชน่ แตกปริ หรือระเบิดทางด้านข้าง 3. การประกอบแบบ และตดิ ต้งั เสาไม้ การประกอบแบบ และการติดตั้งเสาไม้ ส่วนใหญ่นิยมใช้ไม้ที่ทาโครงสร้างเสาขนาด , และ มีความยาวตั้งแต่ 2.50, 3.00, 3.50, 4.00, 4.50, 5.00 และ 6.00 เมตร หน้าตัดเสา ส่วนมากใชข้ นาดหน้าตดั 0.20 x 0.20 เมตร เปน็ เสาส่ีเล่ียม จานวนเสาสามารถดไู ดท้ ่แี บบกอ่ สรา้ ง การยกเสาไม้เพอ่ื ตดิ ต้งั ให้นาไม้เคร่าขนาด ยาวประมาณ 0.80 –1.00 เมตร มาทาบบนหนา้ ของ เสาตรงกลาง ตอกด้วยตะปู 3 - 4 นิ้ว อยา่ งนอ้ ย 2 ตวั โดยให้ไม้กระชบั ตดิ กบั เสาในส่วนใกลป้ ลายท่ีบากไว้ ประมาณ 15 – 20 เซนตเิ มตร และสว่ นตรงกลางเสาใหข้ นานกนั โดยตอกตะปู 4 นวิ้ เพียงตวั เดยี ว ลงบน หน้าไมเ้ คร่าในสว่ นก่อนถึงปลายไมป้ ระมาณ 30 – 40 เซนตเิ มตร จดุ ทจี่ ะตอกต้องทดลองพาด โดยไมเ้ คร่า จะทามุม 30 องศาเซลเซียส กบั แนวด่ิงของเสาเมื่อตง้ั แลว้ ปลายไม้เครา่ ทจี่ ะยดึ กับหลกั ควรเสมอกบั ระดับ ดนิ ดังน้นั ปลายไมเ้ คร่าอาจจะยาวเกนิ หัวเสาทีบ่ ากประมาณ 2.00 เมตร เม่ือเสาตอม่อสูงจากดนิ 1.00 เมตร ทาการยกเสาโดยใช้ชา่ งยกเสาจานวน 5 คน ยกหัวเสาไม้ส่วนทจี่ ะต่อกบั หวั เสาตอมอ่ มาอยู่ใกล้กบั เสาทจ่ี ะต่อ โดยใหช้ ่าง 2 คนกดหวั เสาไม้ไว้กับท่ี ชา่ งจบั ดง่ิ และตอกหลกั ชว่ ยกันพยุงเสาให้ปลายเสาดา้ นท่ีจะยกใหส้ ูงขึ้น ขณะยกเสาขนึ้ ไมเ้ คร่าใหแ้ ยกดนั เสาไว้ ปลายไมเ้ ครา่ ครดู อยู่กบั ดินเสมอ เล็งแนวเสน้ เชือกของลกู ด่ิงทผี่ ูกไว้ กบั ไม้ระแนง 1 x 1 นิ้ว หรอื น้ิว เพอื่ ดแู นวเสาให้ตรง เมื่อตัง้ เสาได้ตรงให้กดไมเ้ ครา่ ลงกบั พ้ืนดินไม่ใหเ้ สาขยับ จากนน้ั ตอกยดึ กับไมห้ ลักหมุดทตี่ อกลงบนพื้นดนิ โดยไม้หลกั หมุดใชไ้ มเ้ ครา่ ขนาด

1.00 – 1.50 เมตร นาไม้มาเส้ยี มปลายไม้ให้แหลมตอกเฉียงลงดนิ ทามุม 45 องศา – 60 องศา กบั แนวนอน 4. การประกอบ และตดิ ตั้งเสาเหล็ก การประกอบติดตงั้ เสาเหล็กกับหัวฐานเสาตอม่อคอนกรีต เนื่องจากคอนกรีตสามารถทนหน่วยแรงได้ น้อยกว่าเหล็กมากต่อพื้นท่ีหน้าตัดที่เท่าๆ กัน การถ่ายแรงกดจากเสาเหล็กผ่านไปยังฐานรากซ่ึงเป็น ค.ส.ล. จาเป็นต้องลดขนาดหน่วยแรง โดยการกระจายผ่านไปยังแผ่นเหล็ก (Base Plates) เมื่อขนาดหน่วยแรง ลดลง ฐานราก ค.ส.ล. จึงจะสามารถทนแรงกดได้ แผ่นเหล็กต้องมีความหนาพอสมควร เพื่อให้แรงกระจาย ได้ในพื้นที่ที่มากกว่า กรณมี ีแรงเฉือนในแนวระนาบที่ถ่ายมาจากเสา แผ่นเหล็กควรมีส่วนที่ย่ืนเป็นเดือยเข้าไป ในเนอ้ื คอนกรตี เพอื่ ถ่ายแรงในแนวระนาบได้ โดยเฉพาะในกรณีทม่ี แี รงดัดเกิดในเสา การออกแบบยึดหมุน ที่ฐานเสาจะใช้ในกรณีท่ีต้องการลดแรงดัดที่อาจถ่ายไปยังฐานราก เสาจะโยกได้โดยอิสระในลักษณะของ แบบยึดหมนุ หรือแบบหมนุ ทฐ่ี าน เนื่องจากจะตอ้ งมกี ารเชื่อมด้านปีกกับแผ่นเอวที่ตัดให้ปลายแหลมจาต้องมี แผน่ เหล็กยึดทร่ี อยตอ่ ดว้ ย ในการตอ่ เสาเหล็กรูปพรรณท่ีมขี นาดความยาวมาตรฐาน วธิ กี ารต่อเสา คือ การ ต่อปลายชนกัน (Butt joint) โดยอาศัยการเชื่อม การต่อลักษณะนี้ต้องการลดความหนาของเสาลง หรือ วิธีการใช้แผ่นเหล็กเชื่อมมาจากโรงงานพร้อมเจาะรูสาหรับร้อยน็อตเสร็จ ทาให้การประกอบทาได้ไม่คาด เคลอ่ื น 5. การประกอบแบบ และตดิ ต้ังเสาคอนกรตี เสริมเหล็ก 5.1 การเตรียมไมแ้ บบ และเครือ่ งมอื เสาสาหรับอาคารบ้านพักอาศัย ส่วนมากมีขนาดหน้าตัดเสา 0.20 x 0.20 เมตร ความสูง และ ระยะของช่วงเสาสามารถอ่านจากแบบแปลน โดยวัดระยะความสูงจากช่วงหลังคานคอดินถึงใต้คานช่วงบน ไมแ้ บบท่ใี ช้จะเป็นไมก้ ระบาก ขนาด 1” x 8” ความยาวตอ้ งเผ่ือ 5 – 10 เซนติเมตร เพื่อแก้ปัญหาท่ีเกิดกรณี การเทคอนกรีตคานคอดนิ ต่า 5.2 การสรา้ งแบบเสา การสร้างแบบเสามขี ั้นตอนดังตอ่ ไปนี้ แบ่งไม้เคร่าท่ีเพลาะออกเป็นสองชุด ชุดแรก เป็นเคร่าท่ีจะใช้กับแบบที่มีความกว้าง 0.25 เมตร โดยนาไม้ น้วิ กับไม้ทีซ่ อย 2 นิว้ จะได้ความกว้างของหน้าไม้มากกวา่ 0.25 เมตร กาหนดวิธี ตัดไม้เคร่าโดยวัดระยะ 0.25 เมตร ลงตอนกลางของเคร่าท่ียาว 0.45 เมตร ให้ขีดเส้นต้ังฉากกับความยาว ตลอดหน้าตัดไม้เคร่า และวัดระยะ 0.25 เมตร หัวให้ออกไป 0.05 เมตร ทาทั้งสองข้าง เพ่ือใช้ล้ินในการ ประกอบแบบเสา นาขอขีดแบ่งไมท้ ี่ขีดออก ใช้สว่ิ ตอกตามแนวที่ขดี ส่วนเคร่าอีกชุด ความยาว 0.45 เมตร เท่ากัน การประกอบไม้แบบ ขนาดความกว้าง 0.20 เมตร การวัดความกว้างลงในส่วนบนของเคร่า วัดจากจุดแบ่งออกไปท้ังสองข้าง ด้านละ 0.10 เมตร แล้วขดี เสน้ ทีช่ ่องกวา้ ง 0.20 เมตร วัดเส้นน้ีออกไป 0.025 เมตร และ 0.05 เมตร รวมเป็นระยะ 0.075 เมตร จะเหลือระยะตอนปลายข้างละ 0.05 เมตร แบ่งครึ่งไม้เคร่า 0.05 เมตร ตัดไม้จนครบจานวนที่กล่าวไว้ ข้างต้น ใหว้ ัดระยะลงไมแ้ ผน่ ยาว 2.70 เมตร โดยวัดจากตนี แบบขนึ้ มา 0.05 เมตร ขดี เสน้ จากไม้แบบ และจากปลายแบบเสาให้วัดลงมา 0.10 เมตร ให้เฉล่ียระยะให้ห่างเท่าๆ กันจะได้ประมาณ 0.51 เมตร ของ ไมแ้ บบแต่ต้องไมล่ ืมวา่ ต้องเปน็ คานหลงั ของไมแ้ บบท่สี มั ผสั คอนกรีต เครา่ ไมแ้ บบกว้าง 0.25 เมตร รองใต้ไม้แบบหงายด้านสัมผัสคอนกรีตขึ้นทาบมุม ตามแนวท่ี

ขีดไว้ให้ตรงกับริมของไม้เครา่ ไมแ้ บบหนา้ ตอกตะปู 2 ตวั ขนาด ลงบนหนา้ ไม้ ให้ยึดติดกับเคร่า ทุกตัว ท่ีรองตามแนวท่ีแบ่งท้ังหมด ริมไม้จะพอดีกับรอยตัด ระยะของแบบเสาอาจจะลดลง ต้องระวังการตอกตะปู ไม่ให้ยึดตดิ กบั เคร่าทกุ ตัวท่ีรองตามแนวที่แบ่งทั้งหมด ต้องเช็คขนาดของแบบชัดเจน จากน้ันให้ทาการตอก ไม้เคร่าประกบลงในไม้แบบขนาด 0.20 เมตร นาเคร่าแบบอีกชุดประกบศูนย์กลางไม้แบบเหล่านี้จะนามา ประกอบกัน การทาลิ่ม หน่งึ ต้นใชล้ ิ่ม 24 ตัว โดยให้ความหนาตอนกลางของลิ่มประมาณ 0.010 เมตร โดย ตัดจากไมเ้ คร่า ใหเ้ อยี งตามความต้องการ การใช้ลม่ิ เพื่อบังคบั ไม่ใหม้ ีการเลอ่ื น และเป็นตวั ล็อค ไมใ่ ห้แบบขยับ หลังจากเทคอนกรีตสามารถถอดแบบไดโ้ ดยง่าย 5.3 การเสรมิ เหล็กในเสาคอนกรีตแบบต่าง ๆ เหล็กถูกนามาใช้เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก คุณสมบัติของเหล็ก โดยทั่วไปสามารถรบั ได้ทั้งแรงดึง และแรงกด เสาคอนกรตี จะมเี หลก็ เสริมอยู่เพ่ือช่วยรับแรงกด เพราะเหล็ก รบั แรงกดไดม้ ากกวา่ คอนกรตี การใส่เหลก็ ในเสาจะทาใหห้ น้าตดั ของเสาเล็กลง หน่วยวัดคุณสมบัติของเหล็ก เป็น แรง/พื้นท่ีหน้าตัด มีหน่วยเป็นกิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร โดยเหล็กเส้นกลมเรียกว่าเหล็ก RB 24 คือ เหลก็ รบั แรงดึงได้ 2,400 กโิ ลกรมั /ตารางเซนติเมตร ส่วนเหลก็ ข้อออ้ ยเรยี กว่าเหล็ก SD 30 หรือ SD 40 รับ แรงดึงได้ 3,000 และ 4,000 กโิ ลกรัม/ตารางเซนตเิ มตร 1) การเรยี งเหลก็ แกนเสา การเรียงเหลก็ แกนเสาควรทาความสะอาดเหลก็ ก่อนมิให้มีสนิม หรอื สารเคลือบ ตา่ ง ๆ ที่ ทาให้มผี ลตอ่ การยดึ หนว่ งระหว่างเหล็กกบั คอนกรีต จากนนั้ เรียงเหล็กใหถ้ ูกตอ้ งตามแบบ ชอ่ งหา่ งของเหลก็ ที่ว่างต้องมรี ะยะตามทกี่ าหนด และสามารถใหห้ นิ ผสมคอนกรีตผา่ นได้ ซง่ึ มาตรฐาน ว.ส.ท. กาหนดไมน่ ้อย กว่า 25 มลิ ลเิ มตร โดยปกตเิ หลก็ แกนเสาจะต้องหักงอปลายเหลก็ การงออาจงอเหลก็ เป็นมุม 60º และมุม 90º โดยรศั มกี ารงอโค้งภายในเทา่ กบั 2D และระยะจากจุดโคง้ ถึงปลาย 4D – 6D ใหถ้ ือวา่ D เป็นขนาด ของเหล็กเสรมิ ส่วนทต่ี ดั กนั จะตอ้ งทาการยดึ แนน่ อยา่ งดี ระยะหา่ งระหว่างแบบหล่อกับเหล็กเสรมิ ให้ ถกู ต้องตามแบบของระยะห้มุ คอนกรีต หลงั ทาเสรจ็ ใหว้ ิศวกรตรวจสอบความเรยี บร้อยของงานทุกขน้ั ตอน และไมค่ วรปล่อยเหล็กไวน้ านอาจทาใหเ้ หล็กเปน็ สนมิ ควรเทคอนกรีตหลังจากผูกเหลก็ เสรจ็ 2) การต่อทาบเหล็ก การเสริมเหล็กเสาจะต้องมีการต่อทาบระหว่างช้นั ตอ้ งเผื่อเหล็กใหเ้ พยี งพอต่อการตอ่ ทาบใน กรณที มี่ ีการดุ้งเหล็กความลาดชนั ไม่ควรเกิน 1 : 6 การตอ่ ทาบจะต่อโดยวธิ ที าบ วธิ เี ช่อื ม หรือการต่อยึด ปลายแบบอน่ื ๆ ท่ีใหม้ กี ารถา่ ยแรงได้เต็มที่ การต่อเหลก็ เสรมิ ตอ้ งมีระยะเหล่ือมกันไม่น้อยกว่า 50 เท่า ของ เส้นผ่านศูนย์กลางสาหรับเหล็กกลม และไม่น้อยกวา่ 40 เท่าของเสน้ ผ่านศนู ย์กลางสาหรับเหลก็ ขอ้ อ้อย ควร หลกี เลีย่ งการต่อเหล็กเสรมิ ณ จุดทีเ่ กดิ หน่วยแรงสงู สุด และไม่ควรใชว้ ิธีตอ่ ทาบกบั เหล็กที่มีขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่า 25 มลิ ลิเมตร 3) เหลก็ ปลอกเสา เหล็กปลอกเสาท่รี ัดรอบแกนเสาแบง่ ออกเป็น 2 ชนิด ไดแ้ ก่ เหล็กปลอกเดีย่ ว และเหลก็ ปลอกเกลียว โดยเหล็กปลอกเกลยี วนิยมใช้กบั เสารปู รา่ งกลม เสาปลอกเกลียวสามารถรับนา้ หนกั ได้มากกว่า เสาปลอกเดย่ี ว เนือ่ งจากเหล็กปลอกเกลยี วที่พนั โดยรอบชว่ ยต้านทานการแตกของคอนกรตี ภายในได้ มากกว่าเหลก็ ปลอกเดยี่ ว

5.4 การตดิ ตั้งประกอบแบบเสาคอนกรตี เสรมิ เหลก็ ข้ันตอนการก่อสร้างเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก ตรวจสอบในแบบเพื่อให้ทราบขนาด ความยาว ความสูงของเสา เสริมเหล็กแกนเสา และเหล็กปลอกให้ได้ตามแบบก่อสร้างระบุไว้ ต้องจัดให้มุมของเหล็ก ปลอกยึดเหล็กแกนเสาตามมุมทุกมุม โดยท่ีเหล็กแกนเสาไม่หนีศูนย์ ในการต่อทาบเหล็กแกนเสาจะต้อง เปน็ ไปตามแบบก่อสรา้ ง หรือมาตรฐาน ว.ส.ท. กาหนด เสาเหล็กแกนจะผูกลูกปูนติดเสา เพื่อบังคับให้เหล็ก อยู่ในแบบเสาระยะหมุ้ ของคอนกรีต 2.5 เซนติเมตร เม่ือเสริมเหล็กเสร็จเรียบร้อยแล้วทาการติดต้ังแบบหล่อ เสา การตัง้ แบบมีกรรมวิธเี ป็นลาดับข้นั ตอนดังนี้ 1) ทาการแบ่งศูนยเ์ สา ขดี เส้นกรอบเสาตามขนาด และขดี เส้นแบ่งศนู ยก์ ลางเสาทกุ ตน้ ต้องให้เส้นลากเลยออกมา ปรากฏท่ีขา้ งของคาน เหล็กยื่นเสาถ้ามปี ัญหาของการประกอบแบบไม่ควรแกโ้ ดยการกระท้งุ เหล็กเพราะจะมี ปญั หาเร่ืองการรบั กาลงั กรณีน้จี ะตอ้ งใชช้ ่างเหลก็ แก้ไข โดยการผูกเหลก็ พยายามใหไ้ ด้ขนาด และแนว เพื่อ ปูองกันไม่ให้เหล็กแกนออกนอกแบบได้ 2) ยดึ เสาแบบ ตั้งเสาให้ตรงศนู ย์ และแนวของเสาโดยการท้ิงดง่ิ ใช้ช่างไม้อย่างน้อย 3 คน ทิง้ ดง่ิ เสาให้ได้ แนว นาไม้เคร่า นามาตอกหลกั ตีขาทรายตดิ กบั แบบเสา นาไม้เคร่า ตีเครา่ ชิดแบบ ประกบแบบเสาดา้ นบน ทาการเสยี บเหล็กที่แบบหล่อ หรือเสยี บภายหลงั ถอดแบบหล่อแต่ตอ้ งอุดดว้ ยปูนเก รา้ ท์ ยาวออกจากเสาประมาณ 30 - 40 เซนตเิ มตร เพอ่ื ปูองกันการรา้ วเม่ือก่อผนงั เชค็ ด่ิงทุกครงั้ ไมใ่ ห้เสามี ขนาดผิดไปจากแบบ จากมาตรฐาน ว.ส.ท. ยอมให้ขนาดของเสาคลาดเคล่อื นไปจากแบบในทางลบไมเ่ กนิ 6 มิลลเิ มตร ในทางบวกไม่เกนิ 12 มลิ ลิเมตร 6. วัสดุ เคร่อื งมือและอปุ กรณง์ านเสา ในการทางานเสาไม้ เสาเหลก็ และเสาคอนกรตี เสริมเหล็ก เพื่อให้งานดาเนนิ การดว้ ยความสะดวก ควร จดั เตรยี มวัสดุ เคร่อื งมอื และอุปกรณ์ทีจ่ าเป็นในการปฎบิ ัตงิ าน ดงั นี้ 6.1 วัสดุงานคอนกรีต 1) ปูนซเี มนต์ ( Cement) 2) หนิ ( Rock) 3) ทราย ( Sand) 4) นา้ (Water) 5) สารเคมผี สมเพิม่ 6.2 วสั ดุงานไม้ 1) งานไม้แบบหลอ่ คอนกรีต จะใช้ไม้กะบากในการทาแบบหล่อไม้ มีความหนาท่ี 1 นิว้ มหี นา้ กวา้ งตัง้ แต่ 6 , 8 หรือ10 นว้ิ 2) ไมเ้ คร่ายึดไม้แบบ ไมท้ ี่ใช้ส่วนมากนิยมใช้ ไม้ยาง จะใช้ไมม้ คี วามหนาท่ี 1 ½ นวิ้ มีหน้า กว้าง 3 นว้ิ 3) ไม้ระแนงขนาดหนา 1 × 1 น้ิว 6.3 วัสดุงานโลหะ 1) เหลก็ เส้นกลม (Round Bars ; RB) ตามมาตรฐาน มอก. 20 – 2543 ได้กาหนดให้ เหลก็ เส้นกลมมชี ้ันคุณภาพเดียว ใชส้ ัญลักษณ SR24

2) เหลก็ ข้อออ้ ย (Deformed Bars ; DB) โดยผวิ ของเหลก็ มลี กั ษณะเป็นปล้อง ๆ คล้ายอ้อย จึงเรียกว่าเหล็กข้ออ้อย ตามมาตรฐาน มอก. 24 – 2548 เหล็กข้ออ้อยแบ่งตามส่วนประกอบทางเคมแี ละ สมบัติทางกลออกเปน็ 3 ชนั้ คณุ ภาพ คือ (1) ชั้นคณุ ภาพ SD 30 (2) ชัน้ คุณภาพ SD 40 (3) ชน้ั คณุ ภาพ SD 50 3) ลวดผกู เหลก็ (Binding Wire) เปน็ ลวดทใี่ ช้ในการผกู เหล็กเส้น เพ่ือใหอ้ ยใู่ นรูปของเสา หรือคานอยไู่ ด้ โดยตามมาตรฐาน มอก. 138 - 2518 ได้กาหนดให้เป็นลวดเบอร์ 18 4) ตะปู เป็นเหล็กแทง่ ทรงยาวใชส้ าหรับยึดตดิ ชน้ิ งาน ให้ไดร้ ปู ทรงตามต้องการ เพ่ือทาให้ ชนิ้ งานสามารถรับแรงเสียดทานได้มาก 5) สกรนู ็อต เป็นวัสดุทจี่ าเป็นอย่างมากสาหรับการยึดวัตถุสองช้ินใหต้ ิดกัน เช่น ยดึ คานไม้กับ เสาคอนกรีต ยึดคานไมก้ บั เสาไม้ เป็นต้น 6.4 เครือ่ งมือ และอปุ กรณใ์ นงานเสา 1) ถงั เปลผสมปูน 2) จอบและพล่ัว 3) ถังน้าหรือถังใส่ปนู 4) คอ้ นหงอน 5) คมี ผกู เหล็ก 6) ฉากเหล็ก 7) ระดับน้า 8) ตลับเมตร 9) กรรไกรตัดเหล็ก 10) สว่านไฟฟูา 11) สายยางวดั ระดบั 12) เชือก 13) ลกู ดงิ่ 7. การผสมคอนกรตี และเทคอนกรตี เสา สาหรับโครงสร้างอาคารบ้านพักอาศัย ก่อนเทคอนกรีตเสาจะต้องทาความสะอาด หาระดับการเท คอนกรตี และราดนา้ ปนู ในแบบหลอ่ กอ่ น ลาดบั ข้นั ตอนในการเทคอนกรตี มี ดังนี้ 7.1 การเตรียมแบบ การเตรียมแบบ ควรตรวจดูความสะอาดของแบบโดยการเก็บเศษวัสดุต่าง ๆ เช่น ตะปู ลวด ผูกเหลก็ ดนิ เศษปนู เปน็ ต้น หลงั การตรวจความสะอาดเรียบร้อย ใชน้ ้าฉดี ทาความสะอาดน้าจะช่วยให้แบบ มีความชมุ่ ชืน่ ผูค้ วบคุมงานตรวจดคู วามเรยี บร้อยโดยวดั ขนาดของแบบ ตรวจสอบขนาดของเหล็ก และเหล็ก คอมา้ ใหร้ ะยะถกู ต้องตามแบบ จานวนลกู ปนู ใส่ตามแบบท่กี าหนด 7.2 การเตรียมวัสดุผสมคอนกรีต การเตรยี มวสั ดุผสมคอนกรตี คอนกรีตประกอบด้วย ปนู หนิ ทราย น้า และนา้ ยาผสม คอนกรีต (ถ้ามี) วธิ กี ารผสมคอนกรตี มี 2 วธิ ี คอื การผสมดว้ ยแรงคน (hand mixing) และการผสมด้วย

เคร่อื ง (machine mixing) - การผสมดว้ ยแรงคน (hand mixing) - การผสมด้วยเครื่องใช้โม่ผสมคอนกรีต 7.3 การหาระดบั เทคอนกรตี การหาระดบั เทคอนกรีต ทาโดยการเทียบจากระดบั อา้ งอิงในกรณีทีเ่ ป็นเสาชน้ั 1 หากเป็นเสาท่ี มีการก่อสร้างพ้ืนเสร็จแล้วอาจเทียบระดับได้จากระดับพื้น การถ่ายระดับควรเริ่มจากเสาต้นหน่ึงโดยใช้สาย ยางพลาสตกิ ใสใสน่ า้ แล้วถ่ายระดับไปยังเสาต้นอื่น ตอกตะปูจากด้านนอกให้ตะปูทะลุแบบเข้าไปภายในแบบ เสา เสาทุกต้นจะมีระดับหัวเสาเท่ากันหมด และราดน้าสะอาดลงไปในแบบหล่อให้ชุ่ม เพื่อลดอุณหภูมิและ ปอู งกันมใิ ห้แบบดูดน้าจากคอนกรตี และชว่ ยให้เนื้อคอนกรตี เทไหลลงได้งา่ ยขึน้ 7.4 การผสมคอนกรีตเสา การผสมคอนกรีตเสาจะผสมเหลวกว่าคอนกรีตที่เทลงคาน หรือลงพ้ืน โดยงานก่อสร้างท่ัวๆ ไปกาหนดใช้คอนกรีต 1: 2 : 4 แต่การผสมคอนกรีตเสาอาจต้องลดอัตราส่วนของหินลง ใช้อัตราส่วน 1 : 2 : 3 ความข้นเหลวควรให้คอนกรีตความยุบตัวไม่เกิน 5 นิ้ว ถ้ามีความยุบตัวเกินจากน้ี คอนกรีตจะรับกาลังต่า สาหรับส่วนผสมในการเทเสาคอนกรีตที่มีขนาดใหญ่ และใช้เคร่ืองเขย่า ความข้นเหลวในการยุบตัวของ คอนกรีตไม่เกนิ กว่า 3 นิ้ว 7.5 การเทคอนกรีตเสา การข้ึนไปเท และการส่งคอนกรีต จะตีไม้รัดแบบคู่สามารถใช้เป็นที่ยื่นเทคอนกรีตได้ ระยะ การตีไม้รัดแบบเสาควรต่าลงมาจากปากแบบเสาประมาณ 0.40 – 0.60 เมตร จะสามารถย่ืนเทคอนกรีต ความสงู กาลงั พอเหมาะ ใชค้ นงานเทคอนกรตี เสาอย่างนอ้ ย 2 คน 7.6 การถอดแบบ เมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้วประมาณ 3 วัน สามารถถอดแบบข้างเสาได้ ซึ่งอาจจะเร็วกว่า ขึน้ อยู่กับคอนกรตี ผสมทีใ่ ช้ และจะทาการบม่ คอนกรตี ทนั ที 7.7 การบ่มคอนกรตี การบ่มคอนกรีตเป็นการควบคุม และปูองกันมิให้น้าในคอนกรีตระเหยออกจากคอนกรีตที่ แข็งตัวแลว้ เร็วเกนิ ไป เนอ่ื งจากน้าเปน็ องค์ประกอบสาคญั ทส่ี ุดสาหรบั ปฏิกิริยาไฮเดรชน่ั ซง่ึ จะสง่ ผลตอ่ กาลัง 7.7 การบม่ คอนกรีต การบ่มคอนกรีตเป็นการควบคุม และปูองกันมิให้น้าในคอนกรีตระเหยออกจากคอนกรีตที่ แข็งตวั แลว้ เร็วเกนิ ไป เนอื่ งจากนา้ เป็นองค์ประกอบสาคญั ทส่ี ุดสาหรับปฏกิ ิรยิ าไฮเดรช่นั ซงึ่ จะสง่ ผลต่อกาลัง ของคอนกรีตโดยตรง จะต้องบ่มคอนกรีตให้มีความชื้นอยู่เสมอ เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน กาลังของคอนกรีต จะคอ่ ย ๆ เพ่ิมขึน้

แผนการสอน หน่วยที่ 5 แบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 5 สอนครง้ั ท่ี 10-11 เวลา 4 ชว่ั โมง ชอ่ื วิชา วัสดแุ ละวิธกี ารก่อสรา้ งงานโครงสรา้ ง ชอ่ื งาน เสา คาส่งั จงตอบคาถามต่อไปนี้ 2. เสา แบง่ ออกเป็นก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. หน้าทข่ี องเสา คือ ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. วธิ กี ารหาศนู ยเ์ สาโดยใช้ดิ่งมีวิธีอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. แบบเสาใช้ไมแ้ บบขนาดเทา่ ไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ระยะการตีไม้รัดแบบเสาควรตา่ ลงมาจากปากแบบเสาประมาณเทา่ ไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. เสาส้นั คือ ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. เสายาว คือ ……………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. เหลก็ แกนเสาจะต้องหกั งอปลายเหลก็ ทามุมกี่องศา

……………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. รศั มีการงอโค้งภายในของเหลก็ แกนประมาณเทา่ ใด ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. การหยุดเทคอนกรีตเสา สามารหยดุ เททร่ี ะดับตา่ กวา่ ท้องคานประมาณเท่าใด ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หน่วยที่ 5 แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยท่ี 5 สอนคร้งั ท่ี 10-11 เวลา 4 ชว่ั โมง ชอ่ื วิชา วสั ดแุ ละวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง ช่ืองาน เสา จงเลือกคาตอบทถี่ ูกทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดียวจากคาถามต่อไปนี้ 1. โครงสรา้ งใดทาหนา้ ทถ่ี ่ายน้าหนกั ในแนวดง่ิ สูฐ่ านราก ก. พน้ื ข. เสา ค. คาน ง. ตง 2. เสาปลอกเดย่ี ว จดั อยใู่ นเสาประเภทใด ก. เสาไม้ ข. เสาเหล็ก ค. เสาคอนกรีตเสริมเหล็ก ง. เสาพลาสติก 3. เสาไมร้ ปู ทรงใดที่นามาติดต้งั ทาบา้ นเรอื นไทย ก. สี่เหลย่ี มจตั ุรสั ข. ส่เี หลี่ยมผืนผา้ ค. วงกลม ง. แบบเหลีย่ ม 4. ส่วนใหญอ่ าคารบา้ นพักอาศัยนยิ มใช้หน้าตดั เสาไมข้ นาดเท่าใด ก. เมตร ข. เมตร ค. เมตร ง. เมตร 5. ขอ้ ใดคือ วิธีการประกอบตดิ ต้ังเสาเหล็กกับหัวฐานเสาตอม่อคอนกรีต ก. การเชือ่ มแบบตอ่ ชน ข. การเช่อื มแบบต่อเกย ค. การเชื่อมแบบตอ่ ทาบ ง. การเชอ่ื มแบบตอ่ ขนาน

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 5 แบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 5 สอนครัง้ ท่ี 10-11 เวลา 4 ชัว่ โมง ชื่อวิชา วสั ดแุ ละวิธีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง ชื่องาน เสา 6. มาตรฐาน ว.ส.ท. ยอมให้ขนาดของเสาคลาดเคลอ่ื นไปจากแบบในทางลบและทางบวกเท่าใด ก. ทางลบ 6 มิลลเิ มตร ทางบวก 12 มลิ ลเิ มตร ข. ทางลบ 8 มลิ ลิเมตร ทางบวก 14 มิลลเิ มตร ค. ทางลบ 10 มิลลเิ มตร ทางบวก 16 มลิ ลิเมตร ง. ทางลบ 12 มลิ ลเิ มตร ทางบวก 18 มลิ ลิเมตร 7. ขนาดเหลก็ ปลอกท่ีใช้กบั งานเสาคอนกรีตเสรมิ เหล็กบ้านพักอาศัยทว่ั ไปใชข้ นาดเท่าใด ก. 5 มลิ ลเิ มตร ข. 6 มิลลิเมตร ค. 11 มลิ ลเิ มตร ง. 13 มิลลเิ มตร 8. ระยะเหลอื่ มการต่อทาบของเหลก็ ข้ออ้อย คอื ข้อใด ก. 10 เท่า ของเส้นผา่ นศูนย์กลาง ข. 20 เทา่ ของเส้นผ่านศนู ยก์ ลาง ค. 30 เท่า ของเส้นผ่านศูนยก์ ลาง ง. 40 เทา่ ของเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง 9. เครือ่ งมือทส่ี าคญั ใช้ตรวจสอบแนวดงิ่ ในการติดตั้งเสาแนวดงิ่ คอื ข้อใด ก. คอ้ น ข. เชอื กเอน็ ค. ดง่ิ ง. เลอ่ื ย 10. ระยะตกอสิ ระในการเทคอนกรีตเสาควรยกสูงไม่เกินเท่าใด ก. 1.5 เมตร ข. 2 เมตร ค. 2.5 เมตร ง. 3 เมตร

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 5 กจิ กรรมทา้ ยหนว่ ยเรียนท่ี 5 สอนครงั้ ที่ 10-11 ชือ่ วิชา วสั ดุและวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ชั่วโมง ช่ืองาน เสา 1. ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเป็น 3 กลุ่มศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบแบบ และการ ติดตงั้ เสาแต่ละประเภท แล้วสง่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมานาเสนอ พร้อมการแสดงรูปภาพประกอบ ตามกลุ่ม ดังนี้ กลุ่มท่ี 1 เสาไม้ กลมุ่ ที่ 2 เสาเหลก็ กล่มุ ท่ี 3 เสาคอนกรีตเสริมเหลก็ 2. ให้นกั เรียนนาประสบการณ์เกี่ยวกับการดาเนินงานก่อสร้างการประกอบแบบ และการติดต้ัง เสาแตล่ ะประเภท ทพ่ี บเหน็ ในชีวิตประจาวนั มาเลา่ ให้เพอ่ื นฟงั หน้าชั้นเรียน เพื่อแลกเปล่ียนการเรียนรู้ กัน พร้อมช่วยระดมความคิดเพ่ือนาเทคโนโลยีใหม่มาพัฒนาให้งานก่อสร้างอาคารมีความก้าวหน้า ทันสมยั

แผนการสอน หน่วยท่ี 5 แบบประเมนิ ผลกจิ กรรมสังเกตพฤติกรรมการทางาน รายบุคคลและรายกลุ่ม ชอ่ื วิชา วัสดแุ ละวธิ ีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง สอนครัง้ ที่ 10-11 ชอ่ื งาน เสา เวลา 4 ช่ัวโมง ชอ่ื เร่อื ง ................................................................................................................................... หัวข้ออภิปราย ......................................................................................................................... ช่อื กลุ่ม ..................................................................................................................................... สมาชกิ กลุ่ม 1. ................................................ 2. ................................................ 3. ............................................... 4. ................................................ 5. ................................................ 6. ................................................ รายการประเมนิ คะแนนเตม็ ผลคะแนน หมายเหตุ 41. การเตรียมความพร้อมในการนาเสนอ 10 ………….. ผล/คะแนน 42. การมอบหมายหนา้ ท่ีกลุ่ม 10 ………….. ดมี าก = 80 – 100 43. ความรับผดิ ชอบ 10 ………….. ดี = 70 – 79 44. การทางานเปน็ ทมี 10 ………….. ปานกลาง = 60 – 69 45. การแตง่ กาย/บคุ ลิกภาพ 10 ………….. พอใช้ = 50 – 59 46. ความชัดเจนในการนาเสนอ 10 ………….. ปรบปรุง = 0 – 49 47. การอภิปรายกลุ่ม 10 ………….. คะแนนเต็ม 48. ความชดั เจนในการนาเสนอ 10 ………….. รวม 100 คะแนน 49. การตอบข้อซกั ถาม 10 ………….. 50. การจดั เก็บเคร่อื งมอื อปุ กรณ์ 10 ………….. รวมคะแนนท่ไี ด้ ลงชอื่ ………………………………ผ้ปู ระเมิน (……………………………………..) ………../…………………/………………

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 5 ชอื่ วิชา วัสดุและวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสรา้ ง สอนครั้งที่ 10-11 จานวน 4 ชวั่ โมง ชอื่ หน่วย เสา 6. กจิ กรรมการเรียนการสอน ข้นั ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรยี นรู้หรอื กิจกรรมของนกั เรียน ขัน้ เตรียม (20 นาท)ี ข้นั เตรยี ม (20 นาท)ี 1. จัดเตรยี มเอกสาร สือ่ การเรยี นการสอน 1. จัดเตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนตามที่ ตัวอย่าง งานโครงสร้างเสา การมอบหมายงาน และวิธี ครูผู้สอนและบทเรียนกาหนด เตรียมตัวทดสอบก่อน วัดผลประเมินผล เรียนเรอื่ ง เสา 2. ทดสอบก่อนเรียนเรื่อง เสา แล้วให้นักศึกษาสลับกัน 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนเร่ือง เสา แล้วสลับกัน ตรวจคาตอบ และใหค้ ะแนน ตรวจคาตอบ 3. แจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นของหนว่ ยที่ 5 และการให้ 3. ทาความเข้าใจเก่ียวกับจุดประสงค์การเรียนของ ความรว่ มมอื ของนกั ศึกษาในการทากจิ กรรม หนว่ ยท่ี 5 และการใหค้ วามร่วมมอื ในการทากิจกรรม ข้นั การเรยี นการสอน (200 นาที) ขนั้ การเรียนการสอน (200 นาที) 1. ครูอธิบาย และยกตัวอย่างถึง ความหมาย และ 1. นักศกึ ษาฟัง และคดิ ตามพรอ้ มท้ังจดบนั ทึกเกี่ยวกบั ความสาคัญของเสา ประเภทของเสา หลักการประกอบ ความหมาย และความสาคัญของเสา ประเภทของเสา และตดิ ต้ังเสาไม้ หลกั การประกอบ และติดต้ังเสาเหล็ก หลักการประกอบ และตดิ ตั้งเสาไม้ หลกั การประกอบ หลักการประกอบแบบ และติดต้ังเสาคอนกรีตเสริม และตดิ ตัง้ เสาเหล็กหลกั การประกอบแบบ และตดิ ต้ัง เหล็ก การเลือกใช้วัสดุ เครื่องมือและอุปกรณ์ในงาน เสาคอนกรีตเสริมเหลก็ การเลือกใช้วสั ดุ เครอื่ งมือและ เสา หลักการผสมคอนกรีต และเทคอนกรีตเสา พร้อม อุปกรณ์ในงานเสา หลกั การผสมคอนกรตี และเท กับแจกใบความรู้ประกอบการเรียนการสอน โดยใช้ใบ คอนกรีตเสา พร้อมกบั ศึกษาใบความร้ปู ระกอบการเรียน การสอน โดยใช้ใบความรู้ท่ี 5 เร่อื ง เสา ความรูท้ ่ี 5 เรอ่ื ง เสา 2. ครูใหน้ ักศึกษาแบ่งกลุม่ นักศกึ ษา กลมุ่ ออกเป็น 3 2. นักศึกษาเข้ากลุ่มตามท่ีครูจัดแบ่ง แล้วปฏิบัติ กล่มุ แลว้ มอบหมายใหน้ ักศึกษาปฏบิ ัตกิ ิจกรรมท้าย กิจกรรมท้ายหน่วยที่ 5 เร่ือง เสา โดยนักศึกษาแต่ละ หน่วยท่ี 5 เรอ่ื ง เสา โดยใหน้ กั ศึกษาแต่ละกล่มุ กลุ่มอภิปรายแนวคิดเก่ียวกับการประกอบแบบ และ อภปิ ราย แนวคดิ เกย่ี วกับการประกอบแบบ และการ การติดตั้งเสาแต่ละประเภท โดยดูตัวอย่างจากใบความรู้ ตดิ ตง้ั เสาแตล่ ะประเภท โดยดูตัวอย่างจาก ใบความร้ทู ่ี ที่ 5 เรอ่ื ง เสา 5 เรื่อง เสา

แผนการสอน หน่วยที่ 5 ชือ่ วิชา วัสดแุ ละวิธกี ารก่อสรา้ งงานโครงสร้าง สอนครัง้ ที่ 10-11 จานวน 4 ช่ัวโมง ชือ่ หน่วย เสา 5. กจิ กรรมการเรยี นการสอน (ตอ่ ) ข้นั ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ขนั้ ตอนการเรียนร้หู รือกิจกรรมของนกั เรยี น จากน้นั ใหน้ กั ศกึ ษาร่วมกันสรุป “การประกอบแบบ จากน้ันนักศึกษาร่วมกันสรุป “การประกอบแบบ และการติดตั้งเสาแต่ละประเภท” ให้บันทึกผลและ และการติดตั้งเสาแต่ละประเภท” ให้บันทึกผลและ รายงานหน้าชั้นเรียนได้อย่างอิสระ โดยจัดทาสื่อ รายงานหน้าชั้นเรียนได้อย่างอิสระ ให้จัดทาส่ือ ประกอบการรายงานด้วย เม่ือรายงานหน้าชั้นเรียน ประกอบการรายงานด้วย เม่ือรายงานหน้าชั้นเรียน แล้วให้ผู้ฟังซักถามปัญหา ข้อสงสัยเก่ียวกับ “การ แล้วให้ผู้ฟังซักถามปัญหา ข้อสงสัยเกี่ยวกับ “การ ประกอบแบบ และการติดต้ังเสาแต่ละประเภท ” ประกอบแบบ และการติดตั้งเสาแต่ละประเภท” จากนั้นให้ผู้รายงานตงั้ คาถาม เพื่อถามผู้ฟังอย่างน้อย จากนั้นให้ผ้รู ายงานตัง้ คาถาม เพื่อถามผู้ฟังอย่างน้อย 2 คาถาม โดยให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นภายในช้ัน 2 คาถาม โดยให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นภายในช้ัน เ รี ย น ไ ด้ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ (Democracy ด้ า น เ รี ย น ไ ด้ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ (Democracy ด้ า น ประชาธิปไตย:3D) ประชาธิปไตย:3D) ข้ันสรปุ (20 นาที) ข้ันสรปุ (20 นาที) 1. ครูสรุปจากท่ีนักศึกษานาเสนอข้อมูลพร้อม 1. นักศึกษารับฟังคาสรุปและข้อแนะนาจากครู ท้งั อธบิ ายเพมิ่ เติม และสรุปเน้ือหาตามจุดประสงค์เชิง พร้อมทั้งจดบันทึกข้อมูล และซักถามหรือตอบคาถาม พฤติกรรม ตามหวั ขอ้ สาระสาคัญพร้อมทงั้ ปลูกฝังให้ หรือแสดงความคิดเห็น ในหัวข้อท่ียังไม่เข้าใจพร้อมท้ัง นักศึกษาเอาใจใส่ในการเรียนรู้ ดูหนังสืออย่าง รับฟังการปลูกฝังจากครูผูส้ อนเรือ่ งการเอาใจใส่ในการ สม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่นกีฬาอยู่เสมอเพ่ือให้ เรียนรู้ ดูหนังสืออย่างสม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่น ร่างกายแข็งแรงความจาดี เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็น กฬี าอยเู่ สมอเพอ่ื ให้ร่างกายแข็งแรงความจาดี เป็นการ ประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจากยาเสพติดอย่าง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจาก แท้จรงิ Drug-Free ดา้ นภมู ิคมุ้ กนั ภยั จากยาเสพติด : ยาเสพติดอย่างแท้จริง Drug-Free ด้านภูมิคุ้มกันภัย 3D ) จากยาเสพติด : 3D )

แผนการสอน หน่วยที่ 5 ชื่อวิชา วัสดุและวธิ ีการก่อสรา้ งงานโครงสร้าง สอนครั้งท่ี 10 - 11 ชื่อหน่วย เสา จานวน 4 ช่ัวโมง 1. กิจกรรมการเรยี นการสอน (ต่อ) ขน้ั สรุป (20 นาที) (ตอ่ ) 2. ทาแบบทดสอบหลังเรยี น ขนั้ สรุป (20 นาที) (ตอ่ ) 3. นักศึกษานาคะแนนจากแบบทดสอบกอ่ นเรียน 2. แจกแบบทดสอบหลังเรียน และหลงั เรยี นมาเปรียบเทยี บกันว่าเปน็ อย่างไรมี 3. ครตู รวจแบบทดสอบพร้อมกับบันทึก ผลตา่ งกนั อยา่ งไร เพื่อดูความกา้ วหนา้ ของตนเอง 4. นักศึกษาทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียน คะแนน 4. ให้นักศกึ ษาทาแบบฝึกหดั ท้ายบทเรียน (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรยี น) (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรยี น)

2. งานท่ีมอบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมินผล  กอ่ นเรียน 1. จดั เตรยี มเอกสาร ส่ือการเรยี นการสอนตามที่อาจารยผ์ ้สู อนและบทเรียนกาหนด 2. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนเรื่อง เสา แลว้ สลบั กนั ตรวจคาตอบ 3. ทาความเขา้ ใจเกย่ี วกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นของหนว่ ยที่ 5 และการให้ความร่วมมือใน การทากจิ กรรมในหนว่ ยที่ 5  ขณะเรียน 1. ปฏิบตั ติ ามกิจกรรมท้ายหนว่ ยท่ี 5 เร่ือง เสา 14. ดตู วั อย่างใบความรทู้ ่ี 5 เร่ือง เสา 15. ร่วมกนั สรุป “การประกอบแบบ และการติดตงั้ เสาแต่ละประเภท ” เป็น แผนภาพแสดง โครงสร้างเสา 16. จัดทาส่ือประกอบการรายงาน 17. รายงาน หน้าชนั้ เรียนเร่ือง “การประกอบแบบ และการติดตัง้ เสาแต่ละประเภท ”  หลงั เรียน 1. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 2. ทาแบบฝกึ หัดท้ายบทเรยี น 3. ทากิจกรรมทา้ ยหนว่ ยเรยี น 3. ผลงาน/ช้ินงาน/ความสาเร็จของผ้เู รียน 1. ผลสาเร็จจากการปฎิบัตงิ านกจิ กรรมทา้ ยหน่วยเรียนตามทไี่ ด้มอบหมายในหน่วยที่ 5 เรอื่ ง เสา 2. ผลสาเรจ็ จากการปฎบิ ตั งิ านจากแบบฝึกหัดท้ายหนว่ ยเรยี นตามทไี่ ด้มอบหมายในหน่วย ท่ี 5 เรอ่ื ง เสา 4. สื่อการเรยี นการสอน/การเรียนรู้ ส่อื ส่งิ พิมพ์ 7. หนงั สือเรยี นวชิ า วสั ดกุ ่อสร้าง ของ พงศพนั วรสุนทโรสถและวรพงศ์ วรสุนทโรสถ 8. หนังสอื เรยี นวิชา เทคนิคกอ่ สร้าง ของ พภิ พ สนุ ทรสมัย 3. แบบทดสอบก่อนเรยี น 4. ใบความรู้ที่ 5 เรอื่ ง เสา 5. กิจกรรมทา้ ยหน่วยท่ี 5 เรื่อง เสา 6. แบบทดสอบหลังเรยี น 7. แบบฝกึ หัดท้ายบทเรยี น 8. แบบเฉลยทดสอบก่อนเรยี น - หลังเรยี น และแบบฝกึ หดั ท้ายบทเรียน ใช้ประกอบใน ขนั้ เตรยี มและขนั้ สรุป 9. แบบประเมินผลกิจกรรมสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคลและรายกลุ่ม

5. ส่อื โสตทศั น์ (ถา้ มี) เครื่องฉายภาพ 6. สือ่ ของจริง ตวั อยา่ งของจริง “ โครงสรา้ งงานเสา” 7. แหล่งการเรยี นรู้ ในสถานศกึ ษา 7. ห้องสมุดวทิ ยาลยั เทคนิคอุบลราชธานี ศึกษาข้อมูลเรื่อง เสา จากหนังสือเกี่ยวกับวัสดุ ก่อสร้าง และเทคนิคก่อสร้าง เช่น วัสดุก่อสร้าง ผู้แต่ง พงศพัน วรสุนทโรสถและวรพงศ์ วรสุนท โรสถ, เทคนคิ ก่อสร้าง ผแู้ ต่ง พภิ พ สุนทรสมยั และวัสดุวิศวกรรมก่อสร้าง ผูแ้ ตง่ กวี หวังนเิ วศกุล 8. ร้านบรกิ ารอนิ เทอรเ์ น็ต หรืออนิ เทอรเ์ น็ตในที่พักอาศยั ศึกษาค้นคว้าหาข้อมลู เรอ่ื ง วัสดุก่อสร้าง และเทคนิคก่อสร้าง จากเวบ็ ไซด์ http://www.google.co.th หรอื http://elearn.utc.ac.th/moodle/course/view.php?id=26 นอกสถานศึกษา ผปู้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในท้องถิน่ จังหวดั อบุ ลราชธานี 8. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอน่ื 1. บูรณาการกบั วชิ าชีวติ และวัฒนธรรมไทย ด้านการพูด การอ่าน การเขียน และการ ฝกึ ปฏบิ ัติตนทางสังคมด้านการเตรียมความพร้อม ความรับผดิ ชอบ และความสนใจใฝรุ ู้ 2. บูรณาการกับวชิ าความปลอดภยั ในงานอาชีพ ดา้ นความปลอดภยั ในการปฎิบตั งิ าน 3. บูรณาการกับวิชากีฬาเพื่อพัฒนาสุขภาพและบุคลิกภาพ ด้านบุคลิกภาพในการ นาเสนอหน้าช้นั เรียน 4. บูรณาการกบั วชิ าการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ มในงานอาชีพ ด้านการเลือกใช้ ทรัพยากรอยา่ งประหยัด 9. การประเมินผลการเรียนรู้  หลกั การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน ตรวจความพรอ้ มก่อนเรียน ตามแบบประเมนิ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ ขณะเรยี น 10. สงั เกตและบนั ทึกผลตามแบบประเมนิ คุณลักษณะพึงประสงค์ 11. แบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 5 12. กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 5 หลังเรยี น

บันทกึ ผลคะแนน จากการตรวจงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 10. แบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 5 11. กจิ กรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้ หน่วยท่ี 5 12. แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 5

บรรณานุกรม คานวณ คุณาพร. บ้านแสนรกั . กรงุ เทพมหานคร: บริษทั วทิ ยพฒั น์ จากัด. 2547. เจรญิ เสาวภาณี. สร้างบ้านด้วยตนเอง. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั สกายบุ๊กส์จากัด. 2550. ชมรมวิศวฯจุฬา 07.รายละเอียดเหล็กเสริมงานคอนกรตี .พมิ พ์ครงั้ ท่ี 7.กรุงเทพมหานคร : 2533. ชยั มกุ ตพนั ธ์.ปฐพีกลศาสตร์ และวศิ วกรรมฐานราก.พิมพ์คร้ังที่ 4.กรงุ เทพมหานคร: ศูนยก์ ารพมิ พ์ดวงกมล.2540. พิภพ สุนทรสมยั .เทคนคิ การสรา้ งอาคารเบอ้ื งต้น.กรุงเทพมหานคร : โปรเฟรสชัน่ แนล พับลชิ ชิ่ง.2524. มนสั กลอ่ งเพชร.เทคนคิ ก่อสรา้ ง 1. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ จากดั .2543 วิทวัส สทิ ธกิ ุล.เทคนิคก่อสร้าง. กรุงเทพฯ: คณะวิชาช่างโยธา สถาบนั เทคโนโลยี ราชมงคลวิทยาเขตอุเทนถวาย. 2544. วีระเดช พะเยาศริ ิพงศ์ .รวมกฎหมายก่อสร้าง .กรุงเทพมหานคร:เทพนิมิตการพิมพ์.ม.ป.ป. อวยชัย สภุ าพจน์ . การควบคุมงานกอ่ สร้าง . กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์ศูนย์สง่ เสรมิ วชิ าการ.ม.ป.ป. เอกสทิ ธ์ิ ล้ิมสวุ รรณ. แบบหล่อคอนกรตี .พิมพ์ครงั้ ที่ 7.กรงุ เทพมหานคร: สานกั พิมพ์เอเซีย เพรส.2539. อรุณ ชัยเสร.ี เกรด็ ความร้เู กย่ี วกบั การควบคุมงานกอ่ สรา้ งอาคาร คอนกรตี เสริมเหลก็ . กรงุ เทพมหานคร : วงศ์สวา่ งการพมิ พ์.2528.