Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนวัสดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง -ร่าง

แผนวัสดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง -ร่าง

Description: แผนวัสดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง -ร่าง

Search

Read the Text Version

แผนการสอน หน่วยที่ 8 สอนคร้งั ท่ี 16-17 ชอ่ื วิชา วสั ดุและวธิ กี ารกอ่ สรา้ งงานโครงสรา้ ง ชือ่ หน่วย โครงหลังคา และวัสดมุ ุง เวลา 4 ชั่วโมง หวั ขอ้ เรอื่ ง 1. ด้านความรู้ 42. ความหมายของหลงั คา 43. รูปแบบของหลงั คา 44. ส่วนประกอบของโครงหลังคา 45. หลกั การติดตง้ั โครงหลังคา 46. ประเภทของวัสดุมุงหลังคา 47. หลักการติดต้ังวัสดุมุงหลังคา 2. ด้านทกั ษะ 10. การใช้วสั ดุ เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ในงานโครงหลงั คา และวสั ดุมุง 3. ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและคุณลกั ษณะ 3D 1. เตรยี มความพรอ้ มดา้ นวสั ดุ อุปกรณส์ อดคล้องกับงานได้อยา่ งถูกต้องและใช้วสั ดุอุปกรณ์อยา่ ง ค้มุ คา่ ประหยัด ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและคณุ ลักษณะ 3D (ความรบั ผิดชอบ ความ ประหยัด ความขยัน ความอดทน แบ่งปัน) 2. ปฏบิ ัตงิ านได้อย่างถูกต้อง และสาเร็จภายในเวลาทกี่ าหนดอยา่ งมีเหตุและผลตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณลกั ษณะ3D สาระสาคญั /แนวคิดสาคัญ หลังคาเปน็ ส่วนประกอบที่คลมุ อาคารเพ่ือปูองกันความร้อน ฝน หรือความชื้น ก่อนการมุงหลังคา ต้องศึกษาโครงสร้างของหลังคาตามแบบแปลนให้เข้าใจ เพ่ือไม่ให้เกิดการผิดพลาด เพราะเม่ือมุงวัสดุมุง หลังคาเสร็จแล้ว หากเกิดปัญหาการเช่ือมต่อ หรือเกาะยึดไม่มั่นคงแข็งแรง อาจทาให้อาคารที่ก่อสร้าง พงั หรืออาจเกดิ รรู วั่ บนหลังคา

แผนการสอน หน่วยท่ี 8 สอนครง้ั ท่ี 16-17 ชื่อวิชา วสั ดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ชว่ั โมง ชือ่ หน่วย โครงหลังคา และวัสดุมุง สมรรถนะอาชีพประจาหน่วย (สงิ่ ที่ตอ้ งการใหเ้ กิดการประยุกตใ์ ช้ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม เข้า ดว้ ยกัน) 1. แสดงความรู้การก่อสรา้ งโครงหลังคา และวสั ดุมุง 2. เลอื กใช้วัสดุและอุปกรณ์ในงานก่อสร้างโครงหลงั คา และวัสดมุ ุง จดุ ประสงคท์ ่ัวไป เพื่อให้ผเู้ รียนมีความรู้ ความเข้าใจ เก่ยี วกบั การกอ่ สร้างงานโครงหลังคา และวสั ดุมุง และเลือกใช้ วัสดุและอปุ กรณ์ในงานก่อสร้างโครงหลังคา และวสั ดุมุงได้ จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 3. บอกความหมายของหลงั คาได้ 4. บอกรูปแบบของหลังคาได้ 3. บอกสว่ นประกอบของโครงหลงั คาได้ 4. อธิบายหลักการติดต้งั โครงหลังคาได้ 5. บอกประเภทของวัสดุมงุ หลังคาได้ 6. อธบิ ายหลกั การติดตง้ั วัสดมุ งุ หลงั คาได้

แผนการสอน หนว่ ยที่ 8 สอนครัง้ ที่ 16 - 17 ชอื่ วิชา วัสดแุ ละวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง เวลา 4 ช่วั โมง ชื่อหน่วย โครงหลงั คา และวัสดมุ ุง การบูรณาการกบั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และคุณลักษณะ 3D • หลกั ความพอประมาณ 1. ผเู้ รยี นจดั สรรเวลาในการฝกึ ปฏิบตั ิทากจิ กรรมและแบบฝึกหดั ทา้ ยหนว่ ยเรียนได้อย่างเหมาะสม 2. กาหนดเน้อื หาเหมาะสมกับเกณฑ์การประเมิน การใชเ้ ครอื่ งมืออย่างถูกต้องและเหมาะสมกบั งาน 3. ผู้เรียนร้จู กั ใช้และจัดการวัสดุอุปกรณต์ ่าง ๆ อยา่ งประหยดั และคุม้ ค่า 4. ผเู้ รยี นปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้นาและผู้ตามท่ีดี 5. ผู้เรยี นเปน็ สมาชิกท่ดี ขี องกลุ่มเพ่ือนและสงั คม • หลกั ความมเี หตผุ ล 1. เห็นคุณค่าของการใช้วัสดุและอุปกรณใ์ นงานโครงหลงั คา และวัสดมุ งุ 2. จัดแสดงเนื้อหาของงานโครงหลังคา และวัสดุมุง ได้อย่างถูกต้อง มีเหตุผล และสามารถนาไป ประยุกต์ใช้ในการดาเนนิ ธรุ กจิ และในชีวติ ประจาวนั ได้ กลา้ แสดงความคิดอย่างมเี หตุผล 3. กล้าทักทว้ งในส่ิงท่ไี มถ่ ูกตอ้ งอย่างถูกกาลเทศะ 4. กล้ายอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่นื 5. ใชว้ ัสดถุ ูกตอ้ งและเหมาะสมกบั งาน 6. ไม่มเี รอื่ งทะเลาะววิ าทกับผอู้ ื่น 7. คิดสิง่ ใหม่ ๆ ทเี่ กดิ ประโยชน์ต่อตนเอง และสงั คม 8. มีความคดิ วเิ คราะหใ์ นการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบ • หลกั ความมภี มู ิคุ้มกนั 1. มที กั ษะทางหลกั ความปลอดภยั อกี ทั้งส่ือความหมายไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ 2. ผ้เู รียนได้รบั ความรูท้ ี่ถูกตอ้ ง พร้อมท้ังกาหนดเน้ือหาได้ครบถ้วนถกู ต้อง ตามหลกั ความปลอดภยั ที่ ดีและมีสาระสาคัญท่ีสมบรู ณ์ 3. มีการเตรียมความพร้อมในการเรยี นและการปฏบิ ัติงาน 4. กลา้ ซักถามปญั หาหรือข้อสงสยั ตา่ ง ๆ อยา่ งถูกกาลเทศะ 5. แกป้ ญั หาเฉพาะหน้าได้ดว้ ยตนเองอย่างเป็นเหตเุ ป็นผล 6. ควบคมุ อารมณ์ของตนเองได้ 7. ควบคมุ กิริยาอาการในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

แผนการสอน หนว่ ยที่ 8 สอนครงั้ ที่ 16 - 17 ชอื่ วิชา วัสดุและวิธกี ารก่อสรา้ งงานโครงสร้าง เวลา 4 ชว่ั โมง ชอ่ื หน่วย โครงหลังคา และวัสดมุ ุง การตดั สนิ ใจและการดาเนนิ กิจกรรมตา่ งๆ ให้อยูใ่ นระดบั พอเพียงหรือตามปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งนั้น ตอ้ งอาศยั ท้งั ความรแู้ ละคุณธรรมเป็นพ้ืนฐาน ดังน้ี • เงือ่ นไขความรู้ 1. ผเู้ รยี นได้ใชก้ ระบวนการคิดในงานโครงหลงั คา และวัสดุมงุ (ความสนใจใฝรุ ู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั ) 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจในงานโครงหลงั คา และวัสดมุ ุง 3. ใช้วัสดุอย่างประหยดั และคุ้มค่า 4. ปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ 5. มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง • เงอื่ นไขคณุ ธรรม 1. ปฏิบัตงิ านท่ไี ด้รับมอบหมายเสร็จตามกาหนด (ความรับผิดชอบ) 2. ใชว้ ัสดุอุปกรณ์อยา่ งคุ้มคา่ ประหยัด (ความประหยัด) 3. มีความเพียรพยายาม และกระตอื รือรน้ ในการเรียนและการปฏบิ ตั ิงาน (ความขยัน ความอดทน) 4. ให้ความรว่ มมอื กับการทากจิ กรรมของส่วนรวม อาสาชว่ ยเหลืองานครูและผู้อ่นื (แบง่ ปนั )

เนอื้ หาสาระ ดา้ นความรู้ 1. ความหมายของหลังคา โครงหลงั คา หมายถึง โครงสร้างทร่ี ับน้าหนักของวัสดมุ ุงหลงั คา และยดึ ตวั หลังคาท้ังหมด ให้เช่ือมต่อ กบั โครงสรา้ งของเสา และคานของตัวบ้าน ให้อยู่ในลกั ษณะทีม่ น่ั คงแขง็ แรง 2. รปู แบบของหลงั คา โครงหลงั คามีหลายรปู แบบ และสามารถมุงด้วยวัสดุมุงแต่ละประเภท รูปแบบของหลังคา ต่าง ๆ มี ดังน้ี 1) โครงหลงั คาแบน (Flat roof) 2) โครงหลังคาเพิงหมาแหงน (Shed roof) 3) โครงหลงั คาปกี ผเี ส้ือ (Double lean roof) 4) โครงหลงั คาทรงมนลิ า หรือทรงจ่ัว (Gable roof) 5) โครงหลงั คาป้นั หยา (Hip roof) 6) โครงหลังคาแบบรว่ มสมัย (Modern& Contemporary) 3. ส่วนประกอบของโครงหลงั คา ในการกอ่ สร้างบ้านพักอาศยั โดยทั่วไปสามารถนาหลังคาชนิดตา่ งๆเหลา่ นี้ มาประยุกต์ใช้ร่วมกันเพอ่ื ใชก้ ารกันแดดกนั ฝน และการระบายความร้อนใต้หลังคา โครงหลังคาชนดิ ต่าง ๆ จะมีสว่ นประกอบของ โครงสรา้ งแตกต่างกัน แต่ทนี่ ิยมสร้างโครงหลังคาโดยท่วั ไปมี 2 ชนดิ คือ แบบหลงั คาทรงมนลิ า หรอื ทรงจัว่ และแบบหลังคาปั้นหยา 3.1 หลงั คาทรงมนลิ า หรอื ทรงจ่ัว (Gable Roof) หลังคาทรงมนิลา หรือทรงจ่ัว (Gable Roof) คอื เปน็ หลังคาที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ รอ้ นชน้ื แบบเมืองไทยเรา มลี กั ษณะเปน็ หลงั คาเพงิ หมาแหงน 2 หลงั มาชนกนั มสี ันสงู ตรงกลาง เปน็ หลังคาท่ี มคี วามสะดวกในการกอ่ สร้าง สามารถกนั แดดกันฝนได้ดี และสามารถระบายความร้อนใต้หลังคาไดด้ ี ซง่ึ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของหลงั คามีดังน้ี 1) อเส คอื ส่วนของโครงหลังคาท่ีวางพาดอยู่บนหัวเสา ลักษณะคล้ายๆคาน ทาหน้าท่ียึดรัดหัว เสา และรับแรงจากโครงหลังคาถ่ายลงสู่เสา โดยท่ัวไปการวางอเส จะวางทางด้านริมนอกของเสา และวาง เฉพาะด้านทม่ี ีความลาดเอียงของหลังคา ดงั น้นั หลังคามะนลิ า (Gable Roof) จะมีอะเสหลกั 2 ดา้ นใน 2) ขื่อ คือ ส่วนของโครงสร้างที่ว่าอยู่บนหัวเสาในทิศทางเดียวกัน กับจันทันทาหน้าท่ีรับทั้งแรง ดงึ และยึดหัวเสาในแนวคานสกัด และชว่ ยยึดโครงผนงั 3) ดั้งเอก คือ ส่วนของโครงสร้างท่ีอยู่ในแนวสันหลังคา โดยวางอยู่บนขื่อตัวฉากตรงข้ึนไปมี อกไก่วางพาดตามแนวสนั หลงั คาเปน็ ตวั ยึด 4) อกไก่ คอื ส่วนของโครงสรา้ งที่วางพาดอยูบ่ นดัง้ บริเวณสันหลังคา ทาหนา้ ทร่ี ับจันทนั 5) จันทัน คือ ส่วนของโครงสร้างที่วางอยู่บนหัวเสา โดยวางพาดอยู่บนอะเส และอกไก่รองรับ แป หรือระแนงทร่ี บั กระเบือ้ งมุงหลงั คา จนั ทนั ยังแบ่งเป็นจันทันเอก คือ จันทันท่ีวางอยู่บนหัวเสา และจันทัน พรางที่ไม่ไดว้ างพาดอยบู่ นหวั เสา โดยทว่ั ไปจนั ทนั จะวางทกุ ระยะประมาณ 1.00 เมตร. โดยระยะห่างของ จนั ทนั ขน้ึ อยู่กับน้าหนกั ของวัสดุมงุ หลังคา และระยะแป

6) แป หรือระแนง คือ ส่วนของโครงสร้างท่ีวางอยู่บนจันทัน รองรับวัสดุมุงหลังคาประเภท ตา่ ง ๆ โดยวางขนานกบั แนวอกไก่ เรมิ่ จากสว่ นทต่ี า่ สดุ ไปสู่สว่ นทีส่ งู สดุ ของหลังคา 7) เชิงชาย คอื สว่ นของโครงสร้างท่ีปิดอยู่บริเวณปลายจันทัน เพื่อปกปิดความไม่เรียบร้อยของ ปลายจันทัน อีกท้ังเป็นส่วนท่ีใช้ยึดเหล็กรับรางน้า และทาหน้าที่เป็นแผ่นปิดด้านสกัดของจันทันท่ีกันมิให้ฝน สาดยอ้ นกลับ 8) ปั้นลม คือ ส่วนของโครงสร้างท่ีปิดไม่ให้เห็นสันกระเบื้องทางด้านหน้าจ่ัว และปิดหัวแป ใช้ กบั อาคารประเภทมีหน้าจวั่ เทา่ นนั้ 9) ไม้ปิดลอน หรือไม้เซาะตามลอนกระเบ้ือง มีลักษณะโค้งตามขนาดลอนของวัสดุมุงหลังคา เพือ่ ปดิ ช่องว่างระหวา่ งปลายกระเบ้ืองกบั เชงิ ชายกนั นก และแมลง 3.2 หลงั คาปัน้ หยา (Hip roof) หลังคาปั้นหยา (Hip roof) หลังคาท่ีมีความลาดเอียงท้ังสี่ด้าน ราคาแพง ส่วนประกอบโครง หลังคาจะใช้วัสดุมากกว่าหลังคาชนิดอ่ืน ๆ ส่วนประกอบโครงสร้างหลังคาทรงจั่ว ซ่ึงส่วนประกอบ ตา่ ง ๆ ของหลังคามดี ังน้ี 1) อเส คอื ส่วนของโครงหลังคาท่ีวางพาดอยู่บนหัวเสา ทาหน้าท่ียึด และรัดหัวเสา รับแรงจาก โครงหลังคาถ่ายลงสู่เสา โดยท่ัวไปการวางอะเสจะวางทางด้านริมนอกของเสา และวางเฉพาะด้านที่มีความ ลาดเอยี งของหลังคา หลงั คาป้นั หยา (Hip roof) จะมอี เสหลัก 4 ดา้ น 2) ข่ือ คือ ส่วนของโครงสร้างท่ีว่าอยู่บนหัวเสาในทิศทางเดียวกัน กับจันทันทาหน้าท่ีรับทั้งแรง ดงึ และยึดหัวเสา ในแนวคานสกัด และช่วยยึดโครงผนงั 3) ดง้ั เอก คอื สว่ นของโครงสร้างทอ่ี ยู่ในแนวสันหลงั คา โดยวางอยบู่ นขอื่ ตัวฉากตรงข้ึนไป โดยมี อกไก่วางพาดตามแนวสันหลงั คาเป็นตัวยึด 4) อกไก่ คือ ส่วนของโครงสรา้ งท่ีวางพาดอยูบ่ นดัง้ บริเวณสนั หลงั คา ทาหนา้ ท่รี ับจันทัน 5) จันทัน คือ ส่วนของโครงสร้างที่วางอยู่บนหัวเสา โดยวางพาดอยู่บนอะเส และอกไก่รองรับ แป หรือระแนงที่รบั กระเบ้อื งมงุ หลังคา จันทันยังแบง่ เปน็ จันทันเอก คือ จันทันท่ีวางอยู่บนหัวเสา และจันทัน ท่ีมิได้วางพาดอยู่บนหัวเสา โดยทั่วไปจันทันจะวางทุกระยะประมาณ 1.00 เมตร โดยระยะห่างของจันทัน ข้ึนอยู่กับนา้ หนักของวสั ดุมงุ หลังคา และระยะแป 6) แป หรือระแนง คือ ส่วนของโครงสร้างท่ีวางอยู่บนจันทัน รองรับวัสดุมุงหลังคาประเภทต่าง ๆ โดยวางขนานกับแนวอกไก่ เรมิ่ จากส่วนทตี่ ่าสดุ ไปสู่ส่วนทสี่ งู สดุ ของหลงั คา 7) เชิงชาย คอื ส่วนของโครงสร้างที่ปิดอยู่บริเวณปลายจันทัน เพ่ือปกปิดความไม่เรียบร้อยของ ปลายจันทัน อีกทั้งเป็นส่วนที่ใช้ยึดเหล็กรับรางน้า และทาหน้าที่เป็นแผ่นปิดด้านสกัดของจันทันที่กันมิให้ฝน สาดยอ้ นกลบั 8) ปน้ั ลม คือ ส่วนของโครงสรา้ งท่ปี ิดไม่ใหเ้ ห็นสนั กระเบื้องทางดา้ นหนา้ จว่ั และปดิ หวั แป จะใช้ กับอาคารประเภทมีหนา้ จ่ัวเท่านนั้ 9) ไม้ปิดลอน หรือไม้เซาะตามลอนกระเบ้ือง เป็นไม้ที่มีลักษณะโค้งตามขนาดลอนของวัสดุมุง หลังคา เพอื่ ปดิ ชอ่ งวา่ งระหว่างปลายกระเบอ้ื งกบั เชิงชายกนั นก และแมลง 10) ตะเฆ่สัน จะอยบู่ รเิ วณครอบมุมหลังคา ที่ความลาดเอียง 2 ด้านมาบรรจบกัน โดยหันหน้า ออกจากกัน มีครอบกระเบอื้ งและวสั ดมุ ุงอีกที ระดับหลังตะเฆส่ นั จะเสมอระดับจันทนั 4. การตดิ ต้ังโครงหลังคา

โครงหลังคาท่นี ิยมตดิ ตั้งกนั สามารถแบ่งไดเ้ ปน็ 2 ประเภทหลกั ๆ คือ 4.1 โครงหลังคาเหล็ก โครงหลังคาท่ีเป็นเหล็ก สามารถแยกเป็นโครงหลังคาเหล็กกลม ซึ่งนิยมใช้ในหลังคาท่ีต้องการ รปู ทรงที่แปลกตา ตลอดจนมีระยะช่วงกวา้ งของเสามาก ๆ สว่ นโครงหลังคาท่ีเป็นเหล็กตัวซี ( C ) เป็นเหล็ก ท่ีมี ความหนาประมาณ 2.30 มิลลิเมตร เหมาะสาหรับใช้กับกระเบ้ืองลอนคู่ และความหนาประมาณ 3.20 มิลลิเมตร ใช้กับกระเบื้องโมเนีย เหล็กท่ีใช้ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม และต้องทาด้วยสีกันสนิมไม่ น้อยกว่า 2 ครง้ั การตดิ ต้ังเหล็กโครงหลังคา ควรศกึ ษาแบบแปลนโครงหลังคาใหเ้ ขา้ ใจ จากนน้ั ดาเนนิ การตรวจหัว เสาเพื่อหาแนวท่ีจะวางอเส ขึงเชือกเพื่อวางแนว และทาระดับให้ถูกต้อง โดยใช้ระดับน้าตรวจแนวระดับ หากแนวระดบั มีช่วงยาวควรใช้สายยางระดับเช็คแนวความยาวของ อเส และข่ือ 4.2 โครงหลังคาไมเ้ น้ือแขง็ โครงหลังคาไม้เน้ือแขง็ ตอ้ งอบ หรือผึ่งจนแห้ง ไม่มีร้อยแตกร้าวบิด หรืองอได้มาตรฐานของกรม ปุาไม้ ก่อนติดต้ังควรทาน้ายากันปลวกอย่างน้อย 2 ครั้ง ในการข้ึนโครงหลังคาควรใช้ไม้เน้ือแข็งขนาดหนา หรอื ข้นึ อยูก่ ับการรับน้าหนัก และความกว้างของอาคาร หากอาคารมีช่วงกว้างมาก ควร ใช้ไม้ค้ายนั เสรมิ ความแขง็ แรงเปน็ โครงถักภาษาชา่ ง เรียกว่า โครงทรสั (Truss) ส่วนระยะการวางจันทันต้อง เวน้ ระยะประมาณ 1.00 เมตร เนือ่ งจากการวางจันทันระยะทถี่ จ่ี ะช่วยลดความเสี่ยงทที่ าให้หลังคาแอน่ ได้ 5. วสั ดุมงุ หลงั คา 5.1 วสั ดมุ งุ หลังคาท่ีผลติ จากธรรมชาติ สมัยโบราณมนุษย์รู้จักสร้างที่พักอาศัย โดยนาเอาใบไม้มาทาหลังคาแม้จะกันฝนไม่ได้ดี แต่ สามารถปูองกันแสงแดดได้ และเริ่มพัฒนานาวัสดุสารับมุงหลังคามาใช้มากข้ึน เช่น การใช้เหล็กอาบสังกะสี ปูนซีเมนต์ และก้าวไปถึงการใช้พลาสติกเป็นวัสดุมุงหลังคาในลักษณะทึบ และโปร่งแสง จนไปถึงกระจกใน การมงุ หลังคา 1) ใบไม้ชนดิ ต่าง ๆ ใบไมท้ ่ีนยิ มนามามุงหลังคา มดี งั ตอ่ ไปนี้ (1.1) ใบจาก มีลักษณะคล้ายใบมะพร้าว นามาเย็บติดกันเป็นแผงมีโครงไม้ไผ่อยู่ตรง กลางยาวประมาณ 70 – 80 เซนติเมตร การมุงหลังคาด้วยจากต้องมีความลาดเอียงของหลังคามาก เพ่ือให้ น้าฝนไหลลงไปจากหลังคา และวัสดุท่ีใช้ยึด คือ \"รอก\" หรือตอก ซึ่งผูกติดกับไม้ไผ่ที่ทาเป็นแป ความยาว ของตอกประมาณ 30 เซนติเมตร ปูองกันความร้อนจากแสงแดดได้ดี ราคาถูก ระยะใช้งานประมาณ 4 - 5 ปี ข้อเสยี คอื ใบจากจะติดไฟได้ง่าย (1.2) แฝก หรือหญ้าคา เป็นวัสดุมุงหลังคาท่ีทาขึ้นใช้กันเองโดยชาวบ้าน วิธีทา คือ ตัด หญ้าคาใบยาวมามัดติดกันเป็นแนวทานองเดียวกับตับจาก แต่จะซ้อนกันมาก และหนา การมุงจะใช้ตอก มดั ตดิ กับโครงหลังคา จะมคี วามลาดเอียงมากเพอื่ สะดวกในการไหลของนา้ ฝนระยะเวลาในการใช้ และ ขอ้ เสียของแฝก หรอื หญา้ คาเหมอื นกบั ใบจาก 2) กระเบือ้ งไม้ กระเบื้องไม้ใชเ้ ศษไมช้ ิ้นเล็กๆ มาปรบั ปรุงให้เป็นแผ่นเหมอื นกระเบ้ืองหางมน หรอื กระเบื้อง หางตดั นิยมมากทางภาคเหนือ เพราะเป็นแหลง่ ที่มีไม้มาก ขนาดกว้างประมาณ 13 – 15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 20 – 25 เซนตเิ มตร นามามุงหลงั คาโดยใช้ตะปตู อกซอ้ นกันแบบการมงุ กระเบื้องดินเผา

วสั ดนุ ี้อาจเป็นเศษไม้จาพวก ไม้สัก ไม้แดง ฯลฯ บ้านจะมีความร่มเยน็ ดมี าก หลงั คาจะมคี วามสวยงาม แบบธรรมชาติ 3) กระเบ้ืองดินเผา กระเบ้อื งดินเผา มขี นาด 15 x 17 เซนติเมตร หลังคาจะต้องมีความลาดเอียง ตัวกระเบอื้ ง เวลามงุ จะมีขอในตัวของแผน่ กระเบื้อง เพ่ือยดึ เกาะติดกบั ระแนงเวลามุง ระแนงไมท้ ่ีใช้ขนาด วาง หา่ งกนั ประมาณ 10 เซนติเมตร สาหรบั การมุงแบบชน้ั เดียว และระแนงวางห่างกนั 13 เซนตเิ มตร สาหรบั การมุงแบบ 2 ชัน้ 5.2 วัสดุมงุ หลงั คาจากการผลติ วัสดุมงุ หลงั คาประเภทต่างๆกนั ในปัจจุบันมหี ลายชนดิ การเลอื กใชต้ ้องคานึงถงึ ลกั ษณะของ หลงั คา ความลาดเอยี งรปู แบบของอาคารบ้านเรอื น วสั ดุมุงหลังคาจากการผลิตทน่ี ิยมนามามงุ หลังคากันมี ดงั น้ี 1) วสั ดมุ งุ หลงั คาชนดิ แผ่นกระเบ้ืองสามารถแบ่งออกไดเ้ ปน็ (1.1) กระเบ้ืองดินเผา เป็นวัสดุธรรมชาติใช้เป็นวัสดุมุงหลังคากันมาแต่โบราณปัจจุบันใช้มุง หลังคาที่ต้องการโชว์หลังคาเช่น บ้านทรงไทย โบสถ์ วิหาร กระเบ้ืองชนิดนี้ใช้มุงหลังคา ที่มีความลาดเอียง มาก ๆ หลงั คามีโอกาสรว่ั (1.2) กระเบื้องคอนกรีต หรอื กระเบื้องซีเมนต์ วสั ดุมงุ หลังคามคี วามแข็งแรง และสวยงามแต่ มีราคาค่อนข้างแพง และมีน้าหนักมาก โครงหลังคาที่จะมุงด้วยกระเบ้ืองชนิดน้ีต้องแข็งแรง เพ่ือรับน้าหนัก วสั ดุมงุ หลังคา กระเบอื้ งซีเมนตม์ ีอยู่ 2 ชนดิ ด้วยกนั คอื กระเบ้ืองสี่เหลียมขนมเปียกปูน ขนาดเล็กท่ีใช้มุงกับ หลังคาท่ีมีความลาดเอียงตง้ั แต่ 30 - 45 องศา และกระเบื้องโมเนยี รใ์ ชม้ งุ หลงั คาในความชนั ต้ังแต่ 17 องศา (1.3) กระเบ้ืองคอนกรีตแผ่นเรียบ กระเบ้ืองคอนกรีตแผ่นเรียบมีความสวยงาม เพราะผิว กระเบือ้ งมคี วามเนยี นเรียบ (1.4) กระเบื้องซีเมนต์ใยหิน หรือกระเบ้ือง เเอสเบสทอสซีเมนต์ กระเบ้ืองชนิดนี้มีคุณสมบัติ กนั ไฟ และเป็นฉนวนปอู งกนั ความรอ้ น ใช้มุงหลังคาท่ีมีความลาดชันตั้งแต่ 10 องศา กระเบ้ืองซีเมนต์ใยหิน สามารถแบ่งเปน็ ประเภทได้ 2 ชนิด คือ กระเบื้องลกู ฟกู ลอนเล็กขนาดทใ่ี ช้ 54 x 120 เซนติเมตร ซ่ึงมีน้าหนัก 5.4 กิโลกรัม และ 54 x 150 เซนติเมตร มีน้าหนัก 6.7 กิโลกรัม จะใช้กับบ้านพักอาศัย ส่วนกระเบ้ือง ลูกฟูกลอนใหญ่ขนาดที่ใช้ 102 x 120 เซนติเมตร ซึ่งมีน้าหนัก 15.7 กิโลกรัม ขนาด 102 x 150 เซนติเมตร มีนา้ หนกั 19.7 กโิ ลกรัม ขนาด 102 x 180 เซนติเมตร มีน้าหนัก 23.6 กิโลกรัม และขนาด 102 x 240 เซนตเิ มตร มนี า้ หนกั 31.5 กโิ ลกรัม จะใช้กับอาคารขนาดใหญ่ตามสัดส่วนทีร่ บั นา้ หนกั (1.5) กระเบื้องลอนคู่ มีขนาดที่ใช้ คือ 50 x 120 เซนติเมตร ซ่ึงมีน้าหนัก 6.2 กิโลกรัม และ 50 x 150 เซนติเมตร มีน้าหนัก 7.7 กิโลกรัม ระบายน้าได้ดีกว่ากระเบื้องลูกฟูก เนื่องจากมีลอนที่ลึก และกวา้ งกว่า นยิ มใช้มงุ หลงั คามากกวา่ 2) วัสดมุ ุงหลังคาโลหะ หรอื หลงั คาเหลก็ รดี ทาจากแผน่ เหลก็ อาบสังกะสีดัดเป็นลอน นิยมใช้ใน การมุงหลังคาขนาดใหญ่เพิ่มสีสันให้กับอาคารสมัยใหม่ ข้อเสีย คือ ความร้อน และเสียง เนื่องจากหลังคา โลหะกนั ความรอ้ น และเสยี งไดน้ อ้ ยมาก 3) วัสดุประเภทพลาสตกิ หรอื ไฟเบอรท์ เี่ ปน็ แผน่ โปรง่ ใสทาเปน็ รูปร่างเหมือนกระเบ้ืองชนิดต่าง ๆ เพอื่ ใช้มุงกบั กระเบ้อื งในบริเวณทีต่ ้องการแสงสว่างจากหลงั คา เชน่ หอ้ งนา้ เป็นต้น 4) วัสดุประเภทแผ่นชิงเก้ิล ซ่ึงเป็นประเภทวัสดุสังเคราะห์เริ่มเป็นที่นิยมใช้ โดยเฉพาะอาคาร ประเภทรีสอร์ทตากอากาศ เพราะสามารถออกแบบรูปทรงไดห้ ลายรูปแบบ

5) วสั ดุมุงประเภทอ่ืน ๆ เช่น วสั ดปุ ระเภททองแดง หรือแผ่นตะกั่ว เปน็ ต้น ความลาดเอียงของหลังคา เนื่องจากวัสดุมุงหลังคาแต่ละประเภท มีความลาดชันในการมุงได้ไม่ เท่ากัน (1.1) กระเบอ้ื งซีเมนตใ์ ยหนิ ใชม้ งุ ความลาดชนั ต้ังแต่ 10 องศา (1.2) กระเบอื้ งคอนกรีตรูปส่เี หลียมขนมเปียกปนู ใช้มงุ หลังคาความลาดเอยี ง 30 - 45 องศา (1.3) กระเบอ้ื งซแี พคโมเนยี ร์ ใช้มุงหลังคาความลาดชนั ต้ังแต่ 17 องศา (1.4) กระเบื้องดนิ เผา ใช้มงุ หลังคาความลาดชันตง้ั แต่ 20 องศา (1.5) กระเบื้องหลงั คาประเภทอื่นๆ จะใช้มงุ ท่คี วามลาดชนั ประมาณ 30 - 45 องศา ในบ้านเมืองรอ้ น การเลือกใชห้ ลังคาท่มี ีความชนั มาก จะส่งผลดตี อ่ การระบายนา้ และการ ระบายความร้อนใต้หลงั คา ความลาดชัน ระยะของการทับซอ้ น และระยะมมุ ลาดเอียงของหลังคา - ความลาดชนั ของหลังคา 10 - 20 องศาระยะทับซ้อน 20 เซนตเิ มตร - ความลาดชนั ของหลังคา 21 - 40 องศาระยะทบั ซอ้ น 15 เซนติเมตร - ความลาดชันของหลงั คา 41 - 60 องศาระยะทบั ซ้อน 10 เซนติเมตร - ความลาดชันของหลังคา 60 องศาขึน้ ไประยะทับซ้อน 5 เซนติเมตร ครอบหลงั คา คือ วสั ดุท่ีใช้สาหรบั งานหลังคา ครอบหลงั คาชนิดเดยี วกัน กับกระเบือ้ งมุงหลังคา ส่วน ใหญ่จะผลติ มาคกู่ นั ตามองศา ท่ีนยิ มใช้ เป็นส่วนใหญ่ เช่น ครอบหลังคา 30, 35, 40 องศา หากเป็นมุง ลาดชันอ่ืน ๆ ใช้ครอบหลงั คาปนู ป้นั ซง่ึ ต้องทาตาม และครอบหลงั คาจะผสมน้ายากนั ซึม 6. การมงุ หลังคา วสั ดแุ ต่ละชนดิ จะมีเทคนคิ การมงุ เฉพาะตามขอ้ กาหนดของวัสดุมุงหลงั คา ดังนน้ั กอ่ นการมงุ หลงั คา ควรดาเนนิ การดงั ต่อไปนี้ 6.1 การพิจารณาก่อนเริ่มมงุ 1) ควรกาหนดความกวา้ ง และความยาวของหลงั คาใหพ้ อดีกับขนาดของกระเบื้องท่ีต้องการใช้ เพ่ือใหไ้ ดป้ ระโยชนเ์ ต็มที่โดยไม่เสียเศษ และควรมุงกระเบื้องให้เลยไมป้ ิดจั่ว (ป้นั ลม) ทง้ั สองด้านออกไป ประมาณหน่ึงลอนกระเบ้ือง เพื่อกันฝนสาดเขา้ ใต้จ่วั มุมลาดของหลงั คาไม่ควรน้อยกว่า 10 องศา 2) ก่อนมงุ หลังคาควรตรวจดโู ครงหลงั คา จนั ทัน และแปทุกๆ ตวั ต้องไมโ่ ก่งงอ หรอื แอน่ ระยะหา่ งระหว่างแปต้องมีระยะพอดกี ับความยาวของกระเบ้อื งหลังจากซอ้ นทบั กัน แปทุกตัวควรใหอ้ ยู่ใน ระนาบเดียวกัน ถา้ พบวา่ มีตวั หนึ่งตวั ใดสงู หรือตา่ กวา่ ระนาบท่ีกาหนดต้องปรบั เสยี ใหม่ จั่วและชายคาต้องได้ ฉากกนั นอกจากจะเป็นหลังคาพิเศษ 3) การมงุ กระเบ้ืองมงุ ได้ 2 วิธี คือ เริม่ มงุ จากทางซา้ ยไปทางขวา หรอื มงุ จากทางขวาไปทางซ้าย ทั้งน้แี ล้วแต่ทิศทางของลมฝน ณ สถานท่ีนัน้ ๆ เช่น ถ้าฝนสาดจากซา้ ยไปขวาให้มุงจากขวาไปซ้าย เพ่ือ ปูองกันฝนแทรกซึมเขา้ ใตแ้ ผ่นกระเบ้ืองในส่วนท่ซี ้อนทับกัน ลกั ษณะการมุงหลงั คา สามารถมุงได้ 2 วธิ ี ดังนี้ (1.1) การมุงจากขวาไปซ้าย แถวที่ 1 แผน่ ท่ี 1 ไม่ต้องตัดมมุ , แผ่นท่ี 2,3 และครอบตดั มุมล่างซ้าย แถวที่ 2,3 แผน่ ที่ 4,7 ตัดมุมขวาบน, แผ่นท่ี 5,6,8,9 และครอบตดั มุมขวาบน และซา้ ย

ลา่ ง แถวท่ี 4 แผ่นที่ 10,11,12 ตดั มุมขวาบน ครอบไมต่ ัดมุม (1.2) การมงุ จากซ้ายไปขวา แถวท่ี 1 แผน่ ที่ 1 ไมต่ ดั มุม แผ่นท่ี 2,3 และครอบตัดมมุ ขวาลา่ ง แถวท่ี 2,3 แผน่ ที่ 4,7 ตดั มมุ ซา้ ยบน แผ่นท่ี 5,6,8,9 ครอบตัดมมุ ซา้ ยบน และขวาล่าง แถวที่ 4 แผน่ ท่ี 10,11,12 ตัดมุมซ้ายบน ครอบไม่ตดั มุม 4) การตัดมุมกระเบ้ืองก่อนมุงหลงั คา วิธีตัดมุมนั้นควรใช้ไฟเบอร์ตัด จะทาให้มมุ กระเบ้ืองที่ ตัดชนกนั ได้สนทิ ไมค่ วรใชค้ ีมหนบี ตดั มุมกระเบ้ือง กระเบอื้ งลกู ฟูกลอนใหญ่ ปลายบนของกระเบ้ืองแถว บนสุดจะมรี ะยะซ้อนทับสนั้ กว่าปลายล่าง จะไม่ตัดมมุ จนกวา่ จะไดว้ ัดจากการทดลองซ้อนทบั ด้วยครอบ 5) การมุงหลังคาทเ่ี ป็นแบบหลงั คาจั่วจะตอ้ งมงุ ให้เสรจ็ ตลอดทง้ั แนว โดยเรมิ่ ต้นจากชายคาไป ถงึ สนั หลงั คา แลว้ จงึ เรมิ่ มุงแนวตอ่ ๆ ไป 6) ระยะหา่ งระหว่างแปจะมีระยะพอดีกบั ความยาวของกระเบอื้ งหลังจากซอ้ นทับกนั แล้ว แต่ จะหา่ งกันไมเ่ กิน 1.30 เมตร ยกเว้นกระเบ้ืองลูกฟูกลอนเล็ก ระยะหา่ งของแปต้องไม่เกิน 1.00 เมตร 6.2 ข้นั ตอนการมุงกระเบือ้ ง 1) การมุงกระเบื้องจากซ้ายไปขวา หรอื จากขวาไปซ้าย ใหช้ ่างยนื อยู่ด้านชายคามองเขา้ หา อาคาร หากเริ่มมุงจากด้านซ้ายมือของช่าง เรยี กว่า มุงจากซา้ ยไปขวา หากเริ่มมงุ จากด้านขวามอื ของช่าง เรียกว่า มงุ จากขวาไปซ้าย 2) ในการปฏิบตั ิการมงุ กระเบื้อง เมื่อวางกระเบื้องแผน่ แรกเข้าที่ดีแลว้ ควรดึงเชอื กจาก ชายคาไปหาสนั หลังคาใหไ้ ดฉ้ ากกบั แนวสนั หลงั คา แลว้ มุงแผน่ ตอ่ ไปในแนวแรกข้นึ ไปจนถึงสันหลงั คาจะตอ้ ง ใหแ้ นวกระเบ้ืองขนานกับเชือกที่ขึงไว้ เพ่อื รักษาแนวกระเบอื้ งให้ตรง เพือ่ ความสะดวกในการมุงครอบบน สนั หลังคา 3) การใชต้ ะปเู กลียว หรือสลักเกลียวยึดกระเบ้ืองต้องเจาะรูกระเบ้ืองด้วยดอกสว่านขนาดโตก วา่ ตะปูเกลียว หรือสลกั เกลียวทีย่ ดึ ประมาณครงึ่ หุน ( นวิ้ หรือ 1.5 มิลลเิ มตร) การเจาะรูต้องทะลุ กระเบื้องท้ังสองแผ่น และอยู่ห่างจากปลายกระเบื้องไม่นอ้ ยกว่า 5 เซนติเมตร การขันหัวตะปูเกลียวหรือน๊อต สลักเกลียว อยา่ ขันแน่นจนเกินไปจะทาให้กระเบอื้ งร้าวได้เมื่อหลังคามีการขยับตัว หากขันแน่นให้คลายออก ครง่ึ รอบ 4) ขณะมุงกระเบ้ืองให้ดึงด้านข้างของกระเบ้ืองขยับจนลอนคว่าของแผ่นบนทับลอนหงายของ แผ่นล่างสนทิ ตลอดลอน 5) ครอบทุกชนดิ ตอ้ งตดั มุมก่อนตัดมมุ ควรวางทาบบนกระเบ้อื งแถวบนสุด เพอื่ วัดส่วนซ้อนทับ ใหแ้ นน่ อนจะทาให้มุงไดส้ นทิ กนั ฝนร่วั ซึมได้ ระยะซอ้ นทบั หัวกระเบื้องไมค่ วรน้อยกว่า 15 เซนติเมตร 6) ในการปฏิบัติงานบนหลังคา เม่ือมุงกระเบื้องหลังคาเสร็จ นาไม้กระดานขนาด ยาวประมาณ 1.50 – 2.00 เมตร พาดระหว่างแป โดยให้เฉียงกับลอนกระเบ้ืองเพ่ือความสะดวกในการเดิน บนหลังคาจะได้ปลอดภัย ลักษณะวิธีการมุงหลังคา และใช้เชือกขึงจากชายคาถึงสันหลังคา เพื่อบังคับให้ กระเบอ้ื งได้แนวตรง และลอนกระเบือ้ งทัง้ สองขา้ งของหลังคาจะตรงกนั พอดี จะทาให้ใสค่ รอบได้สนทิ 6.3 การกอง และเก็บกระเบื้องมงุ หลงั คา 1) การกองเกบ็ จะกองไวใ้ นพน้ื ที่ที่เรียบ แห้ง แข็งแรงพอทจี่ ะรบั น้าหนกั กระเบ้อื งได้โดยใชไ้ ม้

เนื้อแข็งขนาด นว้ิ จานวน 2 ทอ่ น วางรองรบั หวั และท้ายกระเบอ้ื ง ลกึ จากปลายข้างละ ประมาณ 20 เซนตเิ มตร ใชจ้ านวน 3 ทอ่ น 2) กระเบื้องลอนคู่ และลกู ฟกู ลอนใหญ่ กองต้ังไมเ่ กนิ 200 แผน่ สาหรบั กระเบื้องลูกฟูกลอน เลก็ จะกองต้ังไมเ่ กิน 250 แผน่ 3) กระเบ้ืองสีจะกองเกบ็ ไว้ภายใตห้ ลงั คา หรือส่งิ ปกคลมุ ให้พ้นฝน

แผนการสอน หน่วยท่ี 8 แบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 8 สอนครัง้ ที่ 16-17 เวลา 4 ชว่ั โมง ชื่อวิชา วสั ดแุ ละวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง ช่อื งาน โครงหลงั คา และวัสดุมุง คาสง่ั จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 5. โครงหลังคามกี ปี่ ระเภท อะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. โครงหลงั คามหี น้าที่ทาอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. หลงั คาทม่ี ีความลาดเอยี งทั้ง 4 ดา้ น คอื หลงั คาแบบใด ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การวางระยะหา่ งของช่วงจนั ทนั 60 เซนติเมตร ใชข้ นาดเหลก็ ระแนงเท่าใด ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ขอ่ื คัด ทาหน้าท่อี ะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. การนากระเบ้ืองดินเผาไปผึ่งให้แห้งในโรงบม่ ใช้เวลาก่ีวัน ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. กระเบ้อื งซเี มนตใ์ ยหินแบ่งเป็นกีช่ นดิ อะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. การมุงหลังคาทาได้กแี่ บบ ………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. ไม้ทใ่ี ช้ทาโครงหลงั คาควรเปน็ ไม้ชนิดใด ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. หลังคาแบบแบน (Flat Roof) มีลกั ษณะอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หน่วยท่ี 8 แบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยที่ 8 สอนคร้งั ท่ี 16-17 เวลา 4 ชั่วโมง ชอ่ื วิชา วสั ดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง ช่อื งาน โครงหลังคา และวสั ดมุ ุง จงเลอื กคาตอบทถ่ี ูกที่สดุ เพยี งขอ้ เดยี วจากคาถามต่อไปนี้ 1. โครงหลังคามกี แ่ี บบ ข. 2 แบบ ค. 3 แบบ ค. 4 แบบ ง. 5 แบบ 2. ข้อใดคือ ข้อสังเขปของหลงั คาปัน้ หยา ก. ระดับหลังตะเข้สนั จะเสมอระดบั จันทนั ข. แนวตะเข้สัน และจนั ทนั เป็นสันหลงั คา ค. หลังคามคี วามลาดเอยี งทัง้ สด่ี ้าน ง. ระดบั หลงั ตะเข้รางจะเสมอระดับจันทนั 3. หลงั คาป้ันหยาใช้เชิงชายขนาดเท่าใด ก. ข. ค. ง. 4. ข้อใดคือหลงั คาทม่ี คี วามลาดเอียงไปทางเดยี ว ก. หลังคาจวั่ ข. หลงั คาปั้นหยา ค. หลงั คาเพงิ หมาแหงน ง. หลังคาปกี ผีเสื้อ 5. อเสมีขนาดเท่าใด ก. ข. ค. ง.

แผนการสอน หน่วยท่ี 8 แบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยที่ 8 สอนคร้ังท่ี 16-17 เวลา 4 ชั่วโมง ชอื่ วิชา วัสดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง ชือ่ งาน โครงหลังคา และวัสดุมงุ 6. กระเบ้ืองคอนกรตี ใชว้ ัสดใุ ดเปน็ ส่วนผสมในการผลติ ก. ซเี มนตก์ ับน้า ข. คอนกรตี กับนา้ ค. ซเี มนตก์ บั ทราย + นา้ ง. คอนกรตี กับทราย + น้า 7. การมุงหลังคากระเบ้ืองดินเผาแบบชัน้ เดยี ว ระแนงไม้ควรว่างห่างกนั เท่าใด ก. 8 เซนตเิ มตร ข. 9 เซนติเมตร ค. 10 เซนติเมตร ง. 11 เซนติเมตร 8. ระยะหา่ งระหว่างแปกับความยาวของกระเบื้องลกู ฟกู ลอนเล็กหลังซ้อนทบั กนั ตอ้ งไมเ่ กิน ก. 1.00 เมตร ข. 1.50 เมตร ค. 2.00 เมตร ง. 2.50 เมตร 9. กระเบ้ืองซแี พคโมเนยี ร์ ใช้มุงหลังคาความลาดชันตัง้ แต่กอ่ี งศา ก. 11 องศา ข. 13 องศา ค. 15 องศา ง. 17 องศา 10. การกอง และเกบ็ กระเบ้ืองลกู ฟูกลอนเลก็ ควรไมเ่ กนิ กี่แผ่น ก. 200 แผน่ ข. 250 แผน่ ค. 300 แผ่น ง. 350 แผ่น

แผนการสอน หนว่ ยที่ 8 กิจกรรมทา้ ยหนว่ ยเรียนที่ 8 สอนครงั้ ท่ี 16-17 ชอื่ วิชา วัสดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง เวลา 4 ช่ัวโมง ชอ่ื งาน โครงหลงั คา และวสั ดุมงุ 1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่มศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิควิธีการมุงหลังคา แลว้ ส่งตวั แทนกลุม่ ออกมานาเสนอ พรอ้ มการแสดงรปู ภาพประกอบ ตามกลุ่มดงั นี้ กลมุ่ ที่ 1 การมงุ หลงั คาโครงสร้างหลังคาจั่ว กล่มุ ท่ี 2 การมงุ หลังคาโครงสรา้ งหลงั คาป้ันหยา 2. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปข้ันตอนเทคนิควิธีการประกอบติดตั้งโครงสร้างหลังคาแบบ ทรงจ่ัว และโครงสร้างหลังคาแบบป้นั หยา พร้อมการแสดงรูปภาพประกอบ

แผนการสอน หนว่ ยที่ 8 แบบประเมินผลกจิ กรรมสงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน รายบคุ คลและรายกลุม่ ชื่อวิชา วสั ดแุ ละวิธีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง สอนครง้ั ท่ี 16-17 ชื่องาน โครงหลังคา และวัสดมุ ุง เวลา 4 ชวั่ โมง ช่ือเรอ่ื ง ................................................................................................................................... หัวข้ออภิปราย ......................................................................................................................... ชอื่ กลุ่ม ..................................................................................................................................... สมาชิกกลุ่ม 1. ................................................ 2. ................................................ 3. ............................................... 4. ................................................ 5. ................................................ 6. ................................................ รายการประเมนิ คะแนนเต็ม ผลคะแนน หมายเหตุ 71. การเตรยี มความพร้อมในการนาเสนอ 10 ………….. ผล/คะแนน 72. การมอบหมายหนา้ ที่กลุม่ 10 ………….. ดมี าก = 80 – 100 73. ความรับผิดชอบ 10 ………….. ดี = 70 – 79 74. การทางานเปน็ ทีม 10 ………….. ปานกลาง = 60 – 69 75. การแตง่ กาย/บุคลิกภาพ 10 ………….. พอใช้ = 50 – 59 76. ความชัดเจนในการนาเสนอ 10 ………….. ปรบปรุง = 0 – 49 77. การอภปิ รายกลุ่ม 10 ………….. คะแนนเต็ม 78. ความชัดเจนในการนาเสนอ 10 ………….. รวม 100 คะแนน 79. การตอบขอ้ ซักถาม 10 ………….. 80. การจดั เกบ็ เคร่ืองมอื อุปกรณ์ 10 ………….. รวมคะแนนที่ได้ ลงชือ่ ………………………………ผปู้ ระเมนิ (……………………………………..) ………../…………………/………………

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 8 ช่ือวิชา วัสดแุ ละวธิ ีการก่อสรา้ งงานโครงสรา้ ง สอนคร้งั ที่ 16-17 จานวน 4 ชั่วโมง ชื่อหน่วย โครงหลังคา และวัสดุมุง 9. กิจกรรมการเรียนการสอน ขัน้ ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขนั้ ตอนการเรยี นรหู้ รอื กิจกรรมของนกั เรียน ขั้นเตรียม (20 นาท)ี ขนั้ เตรียม (20 นาท)ี 1. จัดเตรยี มเอกสาร สอื่ การเรยี นการสอน 1. จัดเตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนตามท่ี ตัวอย่าง งานโครงหลังคา และวัสดุมุง การมอบหมาย ครูผู้สอนและบทเรียนกาหนด เตรียมตัวทดสอบก่อน งาน และวธิ ีวดั ผลประเมินผล เรียนเร่ือง โครงหลังคา และวัสดมุ ุง 2. ทดสอบก่อนเรียนเรื่อง โครงหลังคา และวัสดุมุง 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง โครงหลังคา และ แล้วให้นักศึกษาสลับกนั ตรวจคาตอบ และให้คะแนน วัสดุมุง แล้วสลบั กนั ตรวจคาตอบ 3. แจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นของหน่วยท่ี 8 และการ 3. ทาความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนของ ให้ความร่วมมือของนักศกึ ษาในการทากจิ กรรม หน่วยที่ 8 และการใหค้ วามร่วมมือในการทากจิ กรรม ขัน้ การเรียนการสอน (200 นาที) ขัน้ การเรียนการสอน (200 นาที) 1. ครูอธิบาย และยกตัวอย่างถึง ความหมายของ 1. นักศึกษาฟัง และคิดตามพร้อมทั้งจดบันทึกเก่ียวกับ หลังคา รูปแบบของหลังคา ส่วนประกอบของโครง ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ห ลั ง ค า รู ป แ บ บ ข อ ง ห ลั ง ค า หลงั คา หลกั การตดิ ตง้ั โครงหลงั คา ประเภทของวัสดุมุง ส่วนประกอบของโครงหลังคา หลักการติดต้ังโครง หลังคา หลักการติดต้ังวัสดุมุงหลังคา พร้อมกับแจกใบ หลังคา ประเภทของวัสดุมงุ หลังคา หลกั การตดิ ตง้ั วัสดุ ความรู้ประกอบการเรียนการสอน โดยใช้ใบความรู้ที่ 8 มุงหลังคา พร้อมกับศึกษาใบความรู้ประกอบการเรียนการ สอน โดยใชใ้ บความรู้ท่ี 8 เรื่อง โครงหลงั คา และวสั ดุมงุ เรอื่ ง โครงหลังคา และวสั ดุมงุ 2. ครูให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มนักศึกษา กลุ่มออกเป็น 2 2. นักศึกษาเข้ากลุ่มตามท่ีครูจัดแบ่ง แล้วปฏิบัติ กลุ่ม แล้วมอบหมายให้นักศึกษาปฏิบัติกิจกรรมท้าย กิจกรรมท้ายหน่วยที่ 8 เรื่อง โครงหลังคา และวัสดุมุง หน่วยที่ 8 เร่ือง โครงหลังคา และวัสดุมุง โดยให้ โดยนักศึกษาแต่ละกลุ่มอภิปรายแนวคิดเก่ียวกับ นักศึกษาแต่ละกลุ่มอภิปราย แนวคิดเก่ียวกับเทคนิค เทคนิควิธีการมุงหลังคา โดยดูตัวอย่างจากใบความรู้ที่ 8 วธิ ีการมงุ หลงั คา โดยดูตัวอย่างจาก ใบความรู้ที่ 8 เร่ือง เรอ่ื ง โครงหลังคา และวสั ดมุ งุ โครงหลงั คา และวสั ดมุ งุ

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 8 ชื่อวิชา วัสดุและวิธกี ารก่อสรา้ งงานโครงสรา้ ง สอนคร้งั ที่ 16-17 จานวน 4 ช่ัวโมง ชอ่ื หน่วย โครงหลังคา และวัสดมุ ุง 8. กิจกรรมการเรยี นการสอน (ตอ่ ) ข้ันตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขน้ั ตอนการเรยี นรู้หรอื กิจกรรมของนักเรียน จากน้ันให้นักศึกษาร่วมกันสรุป “เทคนิควิธีการมุง จากน้ันนักศึกษาร่วมกันสรุป “เทคนิควิธีการมุง หลังคา” ให้บันทึกผลและรายงานหน้าชั้นเรียนได้ หลังคา” ให้บันทึกผลและรายงานหน้าชั้นเรียนได้ อย่างอิสระ โดยจัดทาส่ือประกอบการรายงานด้วย อยา่ งอสิ ระ ให้จัดทาสื่อประกอบการรายงานด้วย เมื่อ เมอื่ รายงานหน้าช้ันเรียนแล้วให้ผู้ฟังซักถามปัญหา ข้อ รายงานหน้าชั้นเรียนแล้วให้ผู้ฟังซักถามปัญหา ข้อ สงสัยเก่ียวกับ “เทคนิควิธีการมุงหลังคา” จากน้ันให้ สงสัยเก่ียวกับ “เทคนิควิธีการมุงหลังคา” จากน้ันให้ ผู้รายงานตัง้ คาถาม เพ่ือถามผู้ฟังอย่างน้อย 2 คาถาม ผ้รู ายงานตัง้ คาถาม เพ่ือถามผู้ฟังอย่างน้อย 2 คาถาม โดยให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นภายในชั้นเรียนได้อย่าง โดยให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นภายในช้ันเรียนได้อย่าง อิสระ (Democracy ดา้ นประชาธปิ ไตย:3D) อสิ ระ (Democracy ดา้ นประชาธปิ ไตย:3D) ขน้ั สรปุ (20 นาที) ข้นั สรปุ (20 นาที) 1. ครูสรุปจากท่ีนักศึกษานาเสนอข้อมูลพร้อม 1. นักศึกษารับฟังคาสรุปและข้อแนะนาจากครู ทั้งอธบิ ายเพมิ่ เติม และสรุปเน้ือหาตามจุดประสงค์เชิง พร้อมท้ังจดบันทึกข้อมูล และซักถามหรือตอบคาถาม พฤติกรรม ตามหัวขอ้ สาระสาคญั พร้อมทัง้ ปลูกฝงั ให้ หรือแสดงความคิดเห็น ในหัวขอ้ ท่ียังไม่เข้าใจพร้อมท้ัง นักศึกษาเอาใจใส่ในการเรียนรู้ ดูหนังสืออย่าง รับฟังการปลกู ฝงั จากครผู ูส้ อนเรอ่ื งการเอาใจใส่ในการ สม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่นกีฬาอยู่เสมอเพ่ือให้ เรียนรู้ ดูหนังสืออย่างสม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่น ร่างกายแข็งแรงความจาดี เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็น กีฬาอยูเ่ สมอเพ่อื ให้ร่างกายแขง็ แรงความจาดี เป็นการ ประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจากยาเสพติดอย่าง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจาก แท้จรงิ Drug-Free ดา้ นภมู คิ ุม้ กนั ภัยจากยาเสพติด : ยาเสพติดอย่างแท้จริง Drug-Free ด้านภูมิคุ้มกันภัย 3D ) จากยาเสพติด : 3D )

แผนการสอน หน่วยท่ี 8 ช่อื วิชา วัสดุและวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง สอนคร้ังที่ 16 - 17 ช่อื หน่วย โครงหลังคา และวัสดุมุง จานวน 4 ช่ัวโมง 1. กจิ กรรมการเรยี นการสอน (ต่อ) ขั้นสรุป (20 นาที) (ตอ่ ) 2. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน ข้ันสรุป (20 นาที) (ตอ่ ) 3. นกั ศึกษานาคะแนนจากแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. แจกแบบทดสอบหลงั เรียน และหลังเรยี นมาเปรยี บเทยี บกนั ว่าเปน็ อยา่ งไรมี 3. ครตู รวจแบบทดสอบพร้อมกับบันทึก ผลต่างกนั อยา่ งไร เพื่อดูความกา้ วหน้าของตนเอง 4. นักศึกษาทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรยี น คะแนน 4. ให้นกั ศึกษาทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียน (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรียน) (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรียน)

2. งานท่มี อบหมายหรือกิจกรรมการวดั ผลและประเมนิ ผล  กอ่ นเรยี น 1. จัดเตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนตามที่อาจารยผ์ ู้สอนและบทเรยี นกาหนด 2. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนเรื่อง โครงหลังคา และวสั ดุมงุ แล้วสลบั กนั ตรวจคาตอบ 3. ทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั จุดประสงค์การเรียนของหนว่ ยท่ี 8 และการใหค้ วามรว่ มมือใน การทากิจกรรมในหน่วยที่ 8  ขณะเรียน 1. ปฏบิ ตั ติ ามกจิ กรรมท้ายหน่วยที่ 8 เรอื่ ง โครงหลงั คา และวัสดุมุง 26. ดูตัวอย่างใบความร้ทู ่ี 8 เรอ่ื ง โครงหลังคา และวสั ดุมุง 27. ร่วมกนั สรปุ “เทคนคิ วธิ กี ารมุงหลงั คา” เป็นแผนภาพแสดง โครงสร้างพืน้ 28. จัดทาส่อื ประกอบการรายงาน 29. รายงาน หนา้ ชน้ั เรยี นเร่ือง “เทคนิควิธีการมุงหลังคา”  หลงั เรียน 1. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน 2. ทาแบบฝกึ หัดท้ายบทเรียน 3. ทากจิ กรรมท้ายหนว่ ยเรยี น 3. ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสาเรจ็ ของผเู้ รียน 1. ผลสาเรจ็ จากการปฎิบตั ิงานกจิ กรรมท้ายหน่วยเรียนตามทไี่ ดม้ อบหมายในหน่วยที่ 8 เร่ือง โครงหลังคา และวสั ดมุ งุ 2. ผลสาเรจ็ จากการปฎิบัติงานจากแบบฝึกหดั ท้ายหน่วยเรยี นตามทไี่ ด้มอบหมายในหนว่ ย ท่ี 8 เรอ่ื ง โครงหลงั คา และวัสดมุ งุ 4. สือ่ การเรียนการสอน/การเรียนรู้ สือ่ ส่ิงพิมพ์ 13.หนงั สือเรียนวิชา วสั ดุก่อสรา้ ง ของ พงศพนั วรสนุ ทโรสถและวรพงศ์ วรสุนทโรสถ 14.หนงั สือเรียนวิชา เทคนคิ กอ่ สร้าง ของ พิภพ สุนทรสมัย 3. แบบทดสอบก่อนเรียน 4. ใบความรู้ท่ี 8 เร่อื ง โครงหลงั คา และวัสดุมุง 5. กิจกรรมทา้ ยหนว่ ยที่ 8 เร่อื ง โครงหลงั คา และวสั ดมุ งุ 6. แบบทดสอบหลงั เรียน 7. แบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียน 8. แบบเฉลยทดสอบกอ่ นเรยี น - หลังเรียน และแบบฝกึ หัดทา้ ยบทเรยี น ใช้ประกอบใน ขั้นเตรียมและข้นั สรปุ 9. แบบประเมนิ ผลกิจกรรมสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคลและรายกลุ่ม 5. ส่ือโสตทัศน์ (ถา้ มี)

เครื่องฉายภาพ 6. สอ่ื ของจริง ตวั อยา่ งของจรงิ “โครงหลงั คา และวัสดุมงุ ” 7. แหลง่ การเรียนรู้ ในสถานศกึ ษา 13.ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี ศึกษาข้อมูลเรื่อง โครงหลังคา และวัสดุมุง จากหนังสือเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง และเทคนิคก่อสร้าง เช่น วัสดุก่อสร้าง ผู้แต่ง พงศพัน วรสุนท โรสถ และวรพงศ์ วรสุนทโรสถ, เทคนิคก่อสร้าง ผู้แต่ง พิภพ สุนทรสมัย และวัสดุวิศวกรรม ก่อสรา้ ง ผู้แตง่ กวี หวังนิเวศกลุ 14.ร้านบริการอินเทอรเ์ น็ต หรืออนิ เทอร์เน็ตในที่พักอาศยั ศึกษาคน้ ควา้ หาข้อมูล เร่ือง วสั ดุก่อสร้าง และเทคนิคก่อสรา้ ง จากเวบ็ ไซด์ http://www.google.co.th หรอื http://elearn.utc.ac.th/moodle/course/view.php?id=26 นอกสถานศึกษา ผู้ประกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถ่นิ จังหวดั อุบลราชธานี 8. การบรู ณาการ/ความสัมพันธก์ ับวชิ าอนื่ 1. บูรณาการกบั วิชาชีวิตและวัฒนธรรมไทย ด้านการพูด การอ่าน การเขียน และการ ฝึกปฏิบตั ิตนทางสงั คมด้านการเตรียมความพร้อม ความรบั ผิดชอบ และความสนใจใฝรุ ู้ 2. บรู ณาการกับวชิ าความปลอดภัยในงานอาชีพ ดา้ นความปลอดภยั ในการปฎิบตั งิ าน 3. บูรณาการกับวิชากีฬาเพื่อพัฒนาสุขภาพและบุคลิกภาพ ด้านบุคลิกภาพในการ นาเสนอหน้าช้ันเรยี น 4. บรู ณาการกบั วชิ าการอนุรักษท์ รัพยากรและสงิ่ แวดล้อมในงานอาชีพ ด้านการเลือกใช้ ทรพั ยากรอย่างประหยดั 9. การประเมินผลการเรียนรู้  หลักการประเมนิ ผลการเรียนรู้ กอ่ นเรียน ตรวจความพร้อมก่อนเรยี น ตามแบบประเมินลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ ขณะเรยี น 19. สังเกตและบันทกึ ผลตามแบบประเมินคุณลักษณะพงึ ประสงค์ 20. แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 8 21. กจิ กรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้ หน่วยที่ 8 หลังเรียน

บันทกึ ผลคะแนน จากการตรวจงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 19. แบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 8 20. กจิ กรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 8 21. แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยท่ี 8

บรรณานุกรม คานวณ คุณาพร. บ้านแสนรัก. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั วทิ ยพฒั น์ จากัด. 2547. เจรญิ เสาวภาณี. สร้างบ้านด้วยตนเอง. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั สกายบุ๊กส์จากัด. 2550. ชมรมวิศวฯจุฬา 07.รายละเอียดเหล็กเสริมงานคอนกรตี .พมิ พ์ครงั้ ท่ี 7.กรุงเทพมหานคร : 2533. ชยั มกุ ตพนั ธ์.ปฐพีกลศาสตร์ และวศิ วกรรมฐานราก.พิมพ์คร้ังที่ 4.กรงุ เทพมหานคร: ศูนยก์ ารพมิ พ์ดวงกมล.2540. พิภพ สุนทรสมยั .เทคนคิ การสรา้ งอาคารเบอ้ื งต้น.กรุงเทพมหานคร : โปรเฟรสชัน่ แนล พับลชิ ชิ่ง.2524. มนสั กลอ่ งเพชร.เทคนคิ ก่อสรา้ ง 1. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ จากดั .2543 วิทวัส สทิ ธกิ ุล.เทคนิคก่อสร้าง. กรุงเทพฯ: คณะวิชาช่างโยธา สถาบนั เทคโนโลยี ราชมงคลวิทยาเขตอุเทนถวาย. 2544. วีระเดช พะเยาศริ ิพงศ์ .รวมกฎหมายก่อสร้าง .กรุงเทพมหานคร:เทพนิมิตการพิมพ์.ม.ป.ป. อวยชัย สภุ าพจน์ . การควบคุมงานกอ่ สร้าง . กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์ศูนย์สง่ เสรมิ วชิ าการ.ม.ป.ป. เอกสทิ ธ์ิ ล้ิมสวุ รรณ. แบบหลอ่ คอนกรตี .พิมพ์ครงั้ ที่ 7.กรงุ เทพมหานคร: สานกั พิมพ์เอเซีย เพรส.2539. อรุณ ชัยเสร.ี เกรด็ ความร้เู กย่ี วกบั การควบคุมงานกอ่ สรา้ งอาคาร คอนกรตี เสริมเหลก็ . กรงุ เทพมหานคร : วงศ์สวา่ งการพมิ พ์.2528.

บันทึกหลงั การสอน/การเรียนรู้ ผลการใช้แผนการสอน/การเรียนรู้ 22. คาบสอนเหมาะสม 23. เนือ้ หาสอดคลอ้ งกับจุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมเหมาะสม 24. กิจกรรมการสอนหรือวิธีสอนในข้ันตอนการสอน กจิ กรรมของผเู้ รยี นเหมาะสม ผลการเรยี นของนกั เรยี น 22. นกั เรยี นสว่ นใหญใ่ หค้ วามสนใจเรยี น เมื่อจัดการเรียนการสอนโดยมีการแข่งขนั และ กลา่ วชมเชยเม่อื สามารถทางานดว้ ยตนเองอย่างซื่อสตั ย์ ตัง้ ใจเรยี นมากขนึ้ ดูไดจ้ ากการตอบ คาถามไดถ้ ูกต้องชดั เจน กลา้ แสดงออกมากขนึ้ 23. ผลคะแนนเฉล่ียการสอบหลงั เรยี นสงู กวา่ ก่อนเรียน นักเรยี นทาแบบฝกึ หัด กจิ กรรม ส่งเสรมิ การเรียนรู้ และใบงาน ด้วยตนเองได้ถกู ต้อง 24. นักเรยี นมกี จิ นสิ ยั ที่ดี มีความสามัคคี ยอมรบั เหตุผลผู้อ่ืน ผลการสอนของครู 15. สอนเนื้อหาได้รวดเร็ว โดยใชส้ ่อื พาวเวอร์พอยต์ และเอกสารประกอบการสอนหน่วยท่ี 8 16. สอนได้ ตามเวลาทีก่ าหนด จากผลของการคละกลมุ่ ผู้เรยี น ลดการใช้เวลาสอนเสรมิ โดย ครูผู้สอน ด้วยการเรียนรูแ้ บบเพือ่ นช่วยเพื่อน ลงช่ือ....................................................ผูส้ อน () ลงชอ่ื ........................................ผู้ชว่ ยฝุายวชิ าการ ()

แผนการสอน หน่วยที่ สอนคร้ังที่ 18 ช่อื วิชา วสั ดแุ ละวิธกี ารก่อสรา้ งงานโครงสร้าง ชื่อหน่วย สอบปลายภาคเรยี น เวลา 2 ชัว่ โมง สอบปลายภาคเรียน

แผนการสอน หนว่ ยที่ สอนคร้งั ที่ ชอื่ วิชา วสั ดุและวธิ ีการก่อสรา้ งงานโครงสรา้ ง ชื่อหน่วย บรรณานุกรม เวลา - ช่ัวโมง บรรณานุกรม คานวณ คณุ าพร. บา้ นแสนรัก. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั วทิ ยพัฒน์ จากัด. 2547. เจรญิ เสาวภาณ.ี สร้างบา้ นด้วยตนเอง. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั สกายบุก๊ ส์จากัด. 2550. ชมรมวศิ วฯจฬุ า 07.รายละเอียดเหล็กเสริมงานคอนกรีต.พมิ พ์ครัง้ ที่ 7.กรงุ เทพมหานคร : 2533. ชยั มุกตพนั ธ์.ปฐพกี ลศาสตร์ และวิศวกรรมฐานราก.พิมพค์ รง้ั ที่ 4.กรงุ เทพมหานคร:ศูนย์ การพมิ พด์ วงกมล.2540. พิภพ สนุ ทรสมยั .เทคนิคการสรา้ งอาคารเบอ้ื งตน้ .กรุงเทพมหานคร : โปรเฟรสชั่นแนล พบั ลชิ ชิ่ง.2524. มนัส กล่องเพชร.เทคนคิ กอ่ สรา้ ง 1. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัทสานกั พิมพ์เอมพันธ์ จากัด. 2543 วทิ วัส สิทธกิ ุล.เทคนคิ กอ่ สร้าง. กรุงเทพฯ: คณะวชิ าช่างโยธา สถาบันเทคโนโลยรี าชมงคล วิทยาเขตอเุ ทนถวาย. 2544. วีระเดช พะเยาศิริพงศ์ .รวมกฎหมายก่อสร้าง .กรุงเทพมหานคร:เทพนมิ ติ การพิมพ์.ม.ป.ป. อวยชัย สุภาพจน์ . การควบคุมงานก่อสร้าง . กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์ศูนย์ส่งเสรมิ วิชาการ.ม.ป.ป. เอกสทิ ธิ์ ลมิ้ สุวรรณ. แบบหลอ่ คอนกรตี .พิมพ์ครงั้ ที่ 7.กรงุ เทพมหานคร: สานักพิมพ์เอเซีย เพรส.2539. อรณุ ชัยเสร.ี เกรด็ ความรเู้ ก่ยี วกบั การควบคุมงานกอ่ สรา้ งอาคารคอนกรีตเสรมิ เหล็ก . กรุงเทพมหานคร : วงศส์ ว่างการพิมพ์.2528.