แผนการสอน หน่วยท่ี 1 แบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยท่ี 1 ชื่อวิชา วสั ดแุ ละวธิ ีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง สอนครั้งท่ี 1-3 ช่อื งาน ความรเู้ บื้องตน้ เกีย่ วกับวัสดุและอปุ กรณ์พนื้ ฐานงาน เวลา 6 ชว่ั โมง กอ่ สร้าง 16. ข้อใด กล่าวถูกต้อง เกย่ี วกบั การเลอื กไมม้ าใช้งาน ก. เปน็ ไม้ที่มีตาน้อย ข. ไม้ทีห่ ดตัวแล้ว ค. ไม้ได้จากแกน่ ไม้ท่ีสมบูรณ์ ง. ถูกทกุ ขอ้ 17. การเจาะเดือยดว้ ยสิ่ว ควรเจาะด้วยค้อนอะไร ก. ค้อนตุม้ ข. ค้อนไม้ ค. คอ้ นหงอน ง. ค้อนปอนด์ 18. เคร่อื งมือหลักท่ีใช้ในการก่ออฐิ คอื ขอ้ ใด ก. เกรยี งเหล็ก ข. ลูกดง่ิ ค. พลัว่ ง. เชอื กเอน็ 19. อุปกรณ์ที่ใช้ทาความสะอาดรอยเชื่อมหรือชิน้ งาน คอื ข้อใด ก. ฟองน้า ข. แปรงลวด ค. ลวดเช่ือม ง. ค้อนเคาะสแล็ก 20. ข้อใดคือ การบารุงรักษาเครอ่ื งมือ และอปุ กรณ์พื้นฐานงานก่อสร้าง ก. นาเคร่อื งมือใส่ในกระเป๋าเส้อื หรือกระเป๋ากางเกงหลงั ใช้งานเสรจ็ ข. เก็บเคร่ืองมือที่เปน็ โลหะไวก้ ลางแจ้ง ค. ตรวจสอบสภาพของเครื่องมือกอ่ นนาไปใช้งาน ง.กรรไกร มีด เลือ่ ย ควรล้างด้วยนา้ สะอาดเมือ่ ใชง้ านเสร็จ
แผนการสอน หน่วยท่ี 1 กิจกรรมทา้ ยหน่วยเรยี นท่ี 1 ชื่อวิชา วสั ดุและวธิ ีการก่อสร้างงานโครงสร้าง สอนครงั้ ท่ี 1-3 ชื่องาน ความรู้เบ้อื งต้นเกี่ยวกบั วสั ดแุ ละอปุ กรณ์พื้นฐานงาน เวลา 6 ชั่วโมง กอ่ สร้าง 1. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 5 คน ศึกษาค้นคว้าตามหัวข้อท่ีกาหนดให้ จากห้องสมุดและ อินเตอร์เน็ต พร้อมเขียนรายงานฉบับสมบูรณ์ส่ง และให้แต่ละกลุ่มนาเสนออภิปรายหน้าชั้นเรียน ดังนี้ 1) คณุ สมบัติของวัสดแุ ละอุปกรณ์การก่อสร้างงานไม้ 2) คณุ สมบัติของวัสดุและอปุ กรณก์ ารกอ่ สร้างงานคอนกรีต 3) คณุ สมบัตขิ องวสั ดแุ ละอุปกรณก์ ารกอ่ สร้างงานโลหะ 2. ให้ผู้เรียนไปศึกษาเนื้อหาเพิ่มเติมจาก เอกสารประกอบการเรียนวิชาวัสดุ และเทคนิคการ ทางาน 1 เพ่อื ความเข้าใจยิง่ ข้ึน
แผนการสอน หนว่ ยท่ี 1 แบบประเมินผลกิจกรรมสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล และรายกลุ่ม ช่ือวิชา วัสดุและวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสรา้ ง สอนครง้ั ที่ 1-3 ชอ่ื งาน ความรเู้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกับวสั ดแุ ละอปุ กรณ์พ้นื ฐานงานก่อสรา้ ง เวลา 6 ชว่ั โมง ช่ือเรื่อง ................................................................................................................................... หัวข้ออภปิ ราย ......................................................................................................................... ช่ือกลุ่ม ..................................................................................................................................... สมาชกิ กลุ่ม 1. ................................................ 2. ................................................ 3. ............................................... 4. ................................................ 5. ................................................ 6. ................................................ รายการประเมนิ คะแนนเต็ม ผลคะแนน หมายเหตุ 1. การเตรียมความพร้อมในการนาเสนอ 10 ………….. ผล/คะแนน 2. การมอบหมายหน้าที่กลมุ่ 10 ………….. ดีมาก = 80 – 100 3. ความรบั ผิดชอบ 10 ………….. ดี = 70 – 79 4. การทางานเป็นทีม 10 ………….. ปานกลาง = 60 – 69 5. การแต่งกาย/บุคลิกภาพ 10 ………….. พอใช้ = 50 – 59 6. ความชัดเจนในการนาเสนอ 10 ………….. ปรบปรุง = 0 – 49 7. การอภิปรายกลุ่ม 10 ………….. คะแนนเต็ม 8. ความชดั เจนในการนาเสนอ 10 ………….. รวม 100 คะแนน 9. การตอบขอ้ ซักถาม 10 ………….. 10. การจดั เก็บเครอ่ื งมือ อุปกรณ์ 10 ………….. รวมคะแนนที่ได้ ลงช่อื ………………………………ผูป้ ระเมิน (……………………………………..) ………../…………………/………………
แผนการสอน หน่วยท่ี 1 ชื่อวิชา วัสดแุ ละวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสรา้ ง สอนคร้ังท่ี 1-3 จานวน 6 ช่ัวโมง ชือ่ หน่วย ความรเู้ บอ้ื งต้นเกย่ี วกบั วัสดุและอปุ กรณ์พ้ืนฐานงานกอ่ สร้าง 1. กิจกรรมการเรียนการสอน ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ข้ันตอนการเรยี นร้หู รือกิจกรรมของนักเรยี น ข้นั เตรียม (20 นาท)ี ข้นั เตรยี ม (20 นาท)ี 1. จัดเตรียมเอกสาร สอื่ การเรียนการสอน 1. จัดเตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนตามท่ี ตัวอย่างวัสดุและอุปกรณ์พ้ืนฐานงานก่อสร้าง แนะนา ครูผู้สอนและบทเรียนกาหนด เตรียมตัวทดสอบก่อน รายวิชา วิธีการเรียน การมอบหมายงาน และวิธีวัดผล เรียนเรื่อง ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับวัสดุและอุปกรณ์ ประเมินผล พน้ื ฐานงานกอ่ สร้าง 2. ทดสอบก่อนเรียนเรื่อง ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับวัสดุ 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนเร่ืองความรู้เบ้ืองต้น และอุปกรณ์พ้ืนฐานงานก่อสร้าง แล้วให้นักศึกษา เก่ียวกับวัสดุและอุปกรณ์พื้นฐานงานก่อสร้าง แล้ว สลบั กันตรวจคาตอบ และให้คะแนน สลับกนั ตรวจคาตอบ 3. แจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นของหน่วยที่ 1 และการให้ 3. ทาความเข้าใจเก่ียวกับจุดประสงค์การเรียนของ ความรว่ มมอื ของนกั ศึกษาในการทากิจกรรม หน่วยท่ี 1 และการใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรม ขนั้ การเรยี นการสอน (320 นาที) ข้นั การเรียนการสอน (320 นาที) 1. ครูอธิบาย และยกตัวอย่างถึง ความหมายวัสดุและ 1. นกั ศกึ ษาฟงั และคิดตามพร้อมทั้งจดบันทึกเก่ียวกับ อุปกรณ์งานก่อสร้าง ชนิดของวัสดุและอุปกรณ์พ้ืนฐาน ความหมายวัสดุและอุปกรณ์งานก่อสร้าง ชนิดของวัสดุ ที่ใช้ในงานก่อสร้าง คุณสมบัติของวัสดุและอุปกรณ์ และอุปกรณ์พ้ืนฐานท่ีใช้ในงานก่อสร้าง คุณสมบัติของ พ้ืนฐานงานก่อสร้าง หลักการเลือกใช้วัสดุพื้นฐานงาน วัสดุและอุปกรณ์พ้ืนฐานงานก่อสร้าง หลักการเลือกใช้ ก่อสร้าง เครื่องมือและอุปกรณ์พื้นฐานท่ีใช้ในงาน วัสดุพื้นฐานงานก่อสร้าง เครื่องมือและอุปกรณ์พื้นฐาน ก่อสร้างประโยชน์ของการใช้วัสดุและอุปกรณ์พ้ืนฐาน ท่ีใช้ในงานก่อสร้างประโยชน์ของการใช้วัสดุ และ งานก่อสร้าง และการบารุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ อุปกรณ์พ้ืนฐานงานก่อสร้าง และการบารุงรักษา พื้น ฐ า น ง า น ก่ อ สร้ า ง พ ร้ อ ม กั บแ จ ก ใ บ ค ว า ม รู้ เคร่ืองมือและอุปกรณ์พื้นฐานงานก่อสร้าง พร้อมกับ ประกอบการเรียนการสอน โดยใช้ใบความรู้ที่ 1 เร่ือง ศึกษาใบความรู้ประกอบการเรียนการสอน โดยใช้ใบความรู้ ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับวัสดุและอุปกรณ์พื้นฐานงาน ท่ี 1 เรื่อง ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับวัสดุและอุปกรณ์ ก่อสร้าง พนื้ ฐานงานกอ่ สร้าง 2. ครูให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มนักศึกษา กลุ่มละ 5 คน 2. นักศึกษาเข้ากลุ่มตามที่ครูจัดแบ่ง แล้วปฏิบัติ แล้วมอบหมายให้นักศึกษาปฏิบัติกิจกรรมท้ายหน่วยที่ 1 เร่ือง ความรเู้ บ้ืองตน้ เกยี่ วกบั วัสดุและอุปกรณ์พื้นฐาน กิจกรรมท้ายหน่วยท่ี 1 เร่ือง ความรู้เบื้องต้น งานก่อสร้าง โดยใหน้ กั ศึกษาแตล่ ะกลุม่ อภิปราย เกีย่ วกับวัสดุและอุปกรณ์พื้นฐานงานก่อสร้าง โดย นักศึกษาแต่ละกลุ่มอภิปรายแนวคิดเก่ียวกับ คณุ สมบัติ
แผนการสอน หน่วยที่ 1 ชอื่ วิชา วัสดุและวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง สอนครง้ั ที่ 1-3 จานวน 6 ชวั่ โมง ช่อื หน่วย ความรเู้ บ้ืองต้นเก่ียวกบั วสั ดแุ ละอุปกรณ์พนื้ ฐานงานก่อสรา้ ง 1. กิจกรรมการเรยี นการสอน (ต่อ) ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขนั้ ตอนการเรยี นรหู้ รอื กิจกรรมของนักเรียน แนวคิดเกยี่ วกบั คุณสมบัติของวัสดุและอุปกรณ์การ ของวัสดแุ ละอุปกรณ์การก่อสรา้ ง โดยดูตวั อย่างจาก กอ่ สร้าง โดยดูตัวอย่างจาก ใบความรู้ท่ี 1 เรื่องความรู้ ใบความรู้ที่ 1 เรื่องความรูเ้ บ้ืองตน้ เกยี่ วกบั วสั ดุและ เบ้ืองต้นเกีย่ วกบั วสั ดุและอุปกรณพ์ ้นื ฐานงานกอ่ สรา้ ง อุปกรณ์พนื้ ฐานงานกอ่ สร้าง จากนั้นให้นักศึกษาร่วมกันสรุป “คุณสมบัติวัสดุ จากน้ันนักศึกษาร่วมกันสรุป “คุณสมบัติวัสดุและ และอุปกรณ์พ้ืนฐานงานก่อสร้าง ” ให้บันทึกผลและ อุปกรณ์พ้ืนฐานงานก่อสร้าง” ให้บันทึกผลและ รายงานหน้าชั้นเรียนได้อย่างอิสระ โดยจัดทาส่ือ รายงานหน้าชั้นเรียนได้อย่างอิสระ ให้จัดทาสื่อ ประกอบการรายงานด้วย เม่ือรายงานหน้าชั้นเรียน ประกอบการรายงานด้วย เมื่อรายงานหน้าชั้นเรียน แล้ว ให้ ผู้ฟั งซั กถา มปั ญห า ข้อส งสั ยเ กี่ย ว กั บ แล้ว ให้ ผู้ฟั งซั กถา มปั ญห า ข้อส งสั ยเ ก่ีย ว กั บ “คุณสมบัติวัสดุและอุปกรณ์พ้ืนฐานงานก่อสร้าง ” “คุณสมบัติวัสดุและอุปกรณ์พ้ืนฐานงานก่อสร้าง” จากนั้นให้ผ้รู ายงานต้งั คาถาม เพื่อถามผู้ฟังอย่างน้อย จากนนั้ ใหผ้ ้รู ายงานตัง้ คาถาม เพ่ือถามผู้ฟังอย่างน้อย 2 คาถาม โดยให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นภายในชั้น 2 คาถาม โดยให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นภายในช้ัน เ รี ย น ไ ด้ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ (Democracy ด้ า น เ รี ย น ไ ด้ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ (Democracy ด้ า น ประชาธปิ ไตย:3D) ประชาธิปไตย:3D) ขั้นสรุป (20 นาที) ขั้นสรุป (20 นาที) 1. ครูสรุปจากท่ีนักศึกษานาเสนอข้อมูลพร้อม 1. นักศึกษารับฟังคาสรุปและข้อแนะนาจากครู ท้งั อธิบายเพม่ิ เตมิ และสรุปเน้ือหาตามจุดประสงค์เชิง พร้อมทั้งจดบันทึกข้อมูล และซักถามหรือตอบคาถาม พฤติกรรม ตามหวั ข้อสาระสาคญั พรอ้ มท้ังปลูกฝงั ให้ หรอื แสดงความคิดเห็น ในหวั ขอ้ ที่ยังไม่เข้าใจพร้อมทั้ง นักศึกษาเอาใจใส่ในการเรียนรู้ ดูหนังสืออย่าง รับฟังการปลกู ฝงั จากครูผสู้ อนเร่อื งการเอาใจใส่ในการ สม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่นกีฬาอยู่เสมอเพ่ือให้ เรียนรู้ ดูหนังสืออย่างสม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่น ร่างกายแข็งแรงความจาดี เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็น กฬี าอยเู่ สมอเพ่ือให้ร่างกายแขง็ แรงความจาดี เป็นการ ประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจากยาเสพติดอย่าง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจาก แท้จรงิ Drug-Free ด้านภูมคิ ุม้ กนั ภัยจากยาเสพติด : ยาเสพติดอย่างแท้จริง Drug-Free ด้านภูมิคุ้มกันภัย 3D ) จากยาเสพตดิ : 3D )
แผนการสอน หนว่ ยท่ี 1 ชอ่ื วิชา วัสดุและวิธกี ารก่อสรา้ งงานโครงสรา้ ง สอนคร้ังที่ 1 - 3 ช่ือหน่วย ความรู้เบอ้ื งตน้ เกี่ยวกับวัสดแุ ละอุปกรณ์พื้นฐาน จานวน 6 ชวั่ โมง งานก่อสรา้ ง 1. กจิ กรรมการเรยี นการสอน (ต่อ) ขั้นสรปุ (20 นาที) (ต่อ) ขั้นสรปุ (20 นาที) (ต่อ) 2. แจกแบบทดสอบหลงั เรยี น 2. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน 3. ครูตรวจแบบทดสอบพร้อมกับบนั ทกึ 3. นกั ศึกษานาคะแนนจากแบบทดสอบก่อน คะแนน เรยี นและหลงั เรยี นมาเปรยี บเทยี บกันว่าเป็น 4. ให้นักศึกษาทาแบบฝึกหัดทา้ ยบทเรยี น อยา่ งไรมีผลต่างกนั อยา่ งไร เพื่อดูความกา้ วหนา้ ของตนเอง 4. นกั ศึกษาทาแบบฝึกหัดทา้ ยบทเรียน (รวม 360 นาที หรือ 6 คาบเรยี น) (รวม 360 นาที หรอื 6 คาบเรยี น)
2. งานท่มี อบหมายหรอื กิจกรรมการวดั ผลและประเมินผล ก่อนเรยี น 1. จัดเตรยี มเอกสาร สื่อการเรยี นการสอนตามท่ีอาจารย์ผสู้ อนและบทเรยี นกาหนด 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี นเร่ือง ความรเู้ บ้อื งต้นเก่ยี วกบั วัสดุและอุปกรณ์พื้นฐานงาน ก่อสร้าง แล้วสลบั กนั ตรวจคาตอบ 3. ทาความเขา้ ใจเก่ยี วกับจุดประสงค์การเรียนของหนว่ ยท่ี 1 และการให้ความร่วมมอื ใน การทากิจกรรมในหน่วยการเรยี นท่ี 1 ขณะเรยี น 1. ปฏิบัตติ ามกจิ กรรมทา้ ยหน่วยท่ี 1 เรื่อง ความรูเ้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกับวัสดแุ ละอปุ กรณ์ พืน้ ฐานงานก่อสรา้ ง 2. ดูตวั อย่างใบความรู้ท่ี 1 เร่ือง ความรู้เบือ้ งต้นเก่ียวกบั วัสดุและอปุ กรณพ์ ืน้ ฐานงาน กอ่ สรา้ ง 3. รว่ มกนั สรุปประเภทของ “คณุ สมบตั ิวสั ดแุ ละอุปกรณพ์ นื้ ฐานงานก่อสรา้ ง” เป็น แผนภาพแสดงวสั ดแุ ละอปุ กรณพ์ ืน้ ฐานงานกอ่ สรา้ ง 4. จดั ทาสื่อประกอบการรายงาน 5. รายงาน หนา้ ช้ันเรียนเร่อื ง “คุณสมบัติวสั ดุและอปุ กรณ์พื้นฐานงานก่อสรา้ ง” หลงั เรยี น 1. ทาแบบทดสอบหลังเรียน 2. ทาแบบฝึกหัดท้ายบทเรยี น 3. ทากิจกรรมท้ายหนว่ ยเรียน 3. ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสาเรจ็ ของผู้เรียน 1. ผลสาเร็จจากการปฎบิ ตั งิ านกจิ กรรมท้ายหนว่ ยเรียนตามท่ไี ด้มอบหมายในหนว่ ยที่ 1 เรื่อง ความรูเ้ บื้องต้นเก่ยี วกบั วสั ดุและอปุ กรณพ์ นื้ ฐานงานก่อสร้าง 2. ผลสาเรจ็ จากการปฎบิ ตั งิ านจากแบบฝึกหัดทา้ ยหนว่ ยเรยี นตามทไี่ ด้มอบหมายในหน่วย ท่ี 1 เรือ่ ง ความรเู้ บื้องตน้ เกี่ยวกบั วสั ดุและอปุ กรณ์พื้นฐานงานก่อสร้าง 4. สือ่ การเรยี นการสอน/การเรียนรู้ สื่อสง่ิ พิมพ์ 1. หนงั สอื เรียนวชิ า วัสดกุ อ่ สรา้ ง ของ พงศพนั วรสนุ ทโรสถและวรพงศ์ วรสนุ ทโรสถ 2. หนงั สอื เรยี นวชิ า เทคนคิ กอ่ สร้าง ของ พิภพ สุนทรสมัย 3. แบบทดสอบก่อนเรยี น 4. ใบความรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง ความรเู้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกบั วัสดแุ ละอปุ กรณ์พืน้ ฐานงานก่อสร้าง 5. กจิ กรรมทา้ ยหน่วยที่ 1 เรื่อง ความรู้เบ้ืองต้นเกีย่ วกบั วัสดุและอปุ กรณ์พนื้ ฐานงาน กอ่ สร้าง 6. แบบทดสอบหลงั เรียน
7. แบบฝกึ หดั ท้ายบทเรยี น 8. แบบเฉลยทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรียน และแบบฝึกหดั ท้ายบทเรยี น ใช้ประกอบใน ขั้นเตรียมและขั้นสรปุ 9. แบบประเมินผลกิจกรรมสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คลและรายกลุ่ม 5. สอื่ โสตทศั น์ (ถา้ มี) เคร่ืองฉายภาพ 6. สื่อของจริง ตวั อยา่ งของจริง “วัสดุและอุปกรณ์พน้ื ฐานงานก่อสร้าง” 7. แหล่งการเรยี นรู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี ศึกษาข้อมูลเรื่อง ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับวัสดุ และอุปกรณ์พ้ืนฐานงานก่อสร้าง จากหนังสือเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง และเทคนิคก่อสร้าง เช่น วัสดุ ก่อสร้าง ผู้แต่ง พงศพัน วรสุนทโรสถและวรพงศ์ วรสุนทโรสถ, เทคนิคก่อสร้าง ผู้แต่ง พิภพ สนุ ทรสมัย และวัสดวุ ิศวกรรมกอ่ สรา้ ง ผ้แู ตง่ กวี หวงั นเิ วศกุล 2. ร้านบริการอนิ เทอรเ์ นต็ หรืออนิ เทอร์เนต็ ในที่พกั อาศยั ศกึ ษาคน้ คว้าหาข้อมลู เรอ่ื ง วสั ดกุ ่อสรา้ ง และเทคนคิ ก่อสรา้ ง จากเว็บไซด์ http://www.google.co.th หรือ http://elearn.utc.ac.th/moodle/course/view.php?id=26 นอกสถานศึกษา ผูป้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถิ่น จังหวัดอุบลราชธานี 8. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธ์กับวิชาอ่นื 1. บรู ณาการกบั วชิ าชวี ิตและวัฒนธรรมไทย ดา้ นการพดู การอา่ น การเขียน และการ ฝกึ ปฏบิ ตั ิตนทางสงั คมด้านการเตรยี มความพร้อม ความรับผดิ ชอบ และความสนใจใฝุรู้ 2. บูรณาการกับวชิ าความปลอดภัยในงานอาชพี ดา้ นความปลอดภัยในการปฎิบัตงิ าน 3. บูรณาการกับวิชากีฬาเพื่อพัฒนาสุขภาพและบุคลิกภาพ ด้านบุคลิกภาพในการ นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 4. บรู ณาการกับวิชาการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ มในงานอาชพี ดา้ นการเลือกใช้ ทรัพยากรอยา่ งประหยัด 9. การประเมินผลการเรียนรู้
หลักการประเมินผลการเรียนรู้ ก่อนเรยี น ตรวจความพรอ้ มก่อนเรียน ตามแบบประเมินลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ขณะเรียน 1. สังเกตและบนั ทกึ ผลตามแบบประเมนิ คุณลกั ษณะพึงประสงค์ 2. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 1 3. กิจกรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ หน่วยที่ 1 หลงั เรยี น บันทกึ ผลคะแนน จากการตรวจงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 1. แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 1 2. กิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1 3. แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยที่ 1
บรรณานุกรม คานวณ คุณาพร. บ้านแสนรกั . กรงุ เทพมหานคร: บริษทั วทิ ยพฒั น์ จากัด. 2547. เจรญิ เสาวภาณี. สร้างบ้านด้วยตนเอง. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั สกายบุ๊กส์จากัด. 2550. ชมรมวิศวฯจุฬา 07.รายละเอียดเหล็กเสริมงานคอนกรตี .พมิ พ์ครงั้ ท่ี 7.กรุงเทพมหานคร : 2533. ชยั มกุ ตพนั ธ์.ปฐพีกลศาสตร์ และวศิ วกรรมฐานราก.พิมพ์คร้ังที่ 4.กรงุ เทพมหานคร: ศูนยก์ ารพมิ พ์ดวงกมล.2540. พิภพ สุนทรสมัย.เทคนคิ การสรา้ งอาคารเบอ้ื งต้น.กรุงเทพมหานคร : โปรเฟรสชัน่ แนล พับลชิ ชิ่ง.2524. มนสั กลอ่ งเพชร.เทคนคิ ก่อสรา้ ง 1. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั สานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ จากดั .2543 วิทวัส สทิ ธกิ ุล.เทคนิคก่อสร้าง. กรุงเทพฯ: คณะวิชาช่างโยธา สถาบนั เทคโนโลยี ราชมงคลวิทยาเขตอุเทนถวาย. 2544. วีระเดช พะเยาศริ ิพงศ์ .รวมกฎหมายก่อสร้าง .กรุงเทพมหานคร:เทพนิมิตการพิมพ์.ม.ป.ป. อวยชัย สภุ าพจน์ . การควบคุมงานกอ่ สร้าง . กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์ศูนย์สง่ เสรมิ วชิ าการ.ม.ป.ป. เอกสทิ ธ์ิ ล้ิมสวุ รรณ. แบบหล่อคอนกรตี .พิมพ์ครงั้ ที่ 7.กรงุ เทพมหานคร: สานกั พิมพ์เอเซีย เพรส.2539. อรุณ ชัยเสร.ี เกรด็ ความร้เู กย่ี วกบั การควบคุมงานกอ่ สรา้ งอาคาร คอนกรตี เสริมเหลก็ . กรงุ เทพมหานคร : วงศ์สวา่ งการพมิ พ์.2528.
บันทึกหลงั การสอน/การเรียนรู้ ผลการใช้แผนการสอน/การเรียนรู้ 1. คาบสอนเหมาะสม 2. เนื้อหาสอดคล้องกับจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมเหมาะสม 3. กจิ กรรมการสอนหรือวิธีสอนในข้ันตอนการสอน กจิ กรรมของผ้เู รยี นเหมาะสม ผลการเรยี นของนกั เรยี น 1. นักเรียนส่วนใหญใ่ ห้ความสนใจเรียน เมือ่ จดั การเรยี นการสอนโดยมีการแข่งขนั และ กลา่ วชมเชยเม่อื สามารถทางานด้วยตนเองอย่างซ่ือสตั ย์ ตั้งใจเรยี นมากข้นึ ดไู ด้จากการตอบ คาถามได้ถูกต้องชัดเจน กล้าแสดงออกมากขึน้ 2. ผลคะแนนเฉลี่ยการสอบหลงั เรยี นสงู กว่ากอ่ นเรยี น นักเรยี นทาแบบฝึกหัด กิจกรรม ส่งเสรมิ การเรียนรู้ และใบงาน ดว้ ยตนเองได้ถกู ต้อง 3. นักเรียนมกี จิ นิสัยท่ีดี มีความสามัคคี ยอมรับเหตผุ ลผู้อ่ืน ผลการสอนของครู 1. สอนเนอ้ื หาได้รวดเร็ว โดยใช้สอ่ื พาวเวอร์พอยต์ และเอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 1 2. สอนได้ ตามเวลาทีก่ าหนด จากผลของการคละกลุ่มผู้เรยี น ลดการใชเ้ วลาสอนเสรมิ โดย ครูผู้สอน ด้วยการเรียนรู้แบบเพ่อื นชว่ ยเพ่ือน ลงช่อื ....................................................ผูส้ อน () ลงชื่อ........................................ผูช้ ่วยฝุายวชิ าการ ()
แผนการสอน หน่วยที่ 2 ช่ือวิชา วัสดแุ ละวธิ กี ารก่อสรา้ งงานโครงสร้าง สอนครงั้ ที่ 4-5 ช่ือหน่วย การเตรยี มสถานท่ีก่อสร้าง และการวางผงั เวลา 4 ชั่วโมง หัวข้อเรื่อง 1. ด้านความรู้ 6. การเตรยี มพื้นทบี่ รเิ วณก่อสร้าง 7. หลักการวางผังอาคาร 8. หลักการเลอื กใช้เคร่ืองมือและอปุ กรณใ์ นการวางผังอาคาร 9. หลกั การหาตาแหน่งศูนยก์ ลางเสาและเสาเข็ม 10. หลกั การทาระดับ 2. ด้านทกั ษะ 3. การใชว้ สั ดุและอุปกรณ์ในการวางผังอาคาร 4. การบารุงรักษาเคร่ืองมือและอุปกรณ์ในการวางผังอาคาร 3. ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณลักษณะ 3D 1. เตรยี มความพร้อมดา้ นวัสดุ อุปกรณส์ อดคลอ้ งกบั งานไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์อย่าง คุ้มคา่ ประหยัด ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและคณุ ลกั ษณะ 3D (ความรับผิดชอบ ความ ประหยดั ความขยนั ความอดทน แบ่งปนั ) 2. ปฏิบตั ิงานไดอ้ ย่างถูกต้อง และสาเรจ็ ภายในเวลาท่ีกาหนดอย่างมเี หตแุ ละผลตามหลักปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี งและคุณลักษณะ3D สาระสาคัญ/แนวคิดสาคัญ การก่อสร้างที่ดีควรมีการวางแผน ก่อนลงมือดาเนินงานผู้รับเหมาจะต้องศึกษาและคานึงถึงปัจจัย ตา่ งๆ ท้ังขนาดท่ดี นิ สภาพแวดลอ้ ม สาธารณปู โภคเก่ียวกับการก่อสร้าง การตรวจสอบระดับ และการ ปรบั พนื้ ท่บี รเิ วณสถานทก่ี ่อสร้าง ในการปรับพ้ืนท่ีบริเวณสถานที่ก่อสร้าง ต้องปรับท่ีพื้นดินให้มีความ เหมาะสม โดยการถมและขุด บางคร้ังมีทั้งการถมและการขุดไปด้วยกัน ควรมีการทาระดับอ้างอิงไว้ เปน็ หลกั ฐาน เพอื่ ตรวจสอบในภายหลัง เช่น การพ่นสี ตอกตะปูไว้ตามเสาไฟฟูา การวางผังอาคารและ การทาระดับคือ การกาหนดตาแหน่งของบ้านที่จะสร้างลงบนท่ีดิน ซึ่งข้ึนอยู่กับความต้องการของ เจ้าของบ้าน รวมทงั้ ความเหมาะสมของสถานทีเ่ ปน็ สาคญั
แผนการสอน หน่วยท่ี 2 สอนครงั้ ท่ี 4-5 ชื่อวิชา วสั ดุและวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง เวลา 4 ช่ัวโมง ชื่อหน่วย การเตรยี มสถานที่ก่อสรา้ ง และการวางผงั สมรรถนะอาชพี ประจาหน่วย (ส่ิงที่ต้องการใหเ้ กดิ การประยกุ ต์ใช้ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม เข้าดว้ ยกนั ) 1. แสดงความร้เู กย่ี วกบั ชนดิ ขนาด คณุ สมบัติวสั ดุอุปกรณ์ก่อสร้าง จัดเกบ็ รักษา 2. สืบคน้ ข้อมูลสารสนเทศเกีย่ วกับชนดิ ขนาด คณุ สมบัติของวสั ดุและอุปกรณ์การก่อสร้าง จดุ ประสงค์ท่ัวไป เพื่อให้ผ้เู รยี นมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกบั ชนดิ ขนาด คณุ สมบัติวัสดุอปุ กรณ์ก่อสร้าง จัดเก็บ รกั ษา การเตรยี มสถานที่ก่อสรา้ งและการวางผงั ได้ จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 5. บอกวธิ ีการเตรยี มพื้นที่บริเวณกอ่ สร้างได้ 6. อธิบายหลกั การวางผงั อาคารได้ 7. เลือกใชเ้ ครื่องมือและอปุ กรณ์ในการวางผังอาคารได้ 8. อธิบายหลกั การหาตาแหนง่ ศูนยก์ ลางเสาและเสาเข็มได้ 9. อธบิ ายหลกั การทาระดับได้
แผนการสอน หน่วยที่ 2 สอนคร้งั ท่ี 4-5 ชอ่ื วิชา วัสดุและวธิ ีการก่อสร้างงานโครงสร้าง เวลา 4 ชัว่ โมง ชอื่ หน่วย การเตรยี มสถานท่ีกอ่ สรา้ ง และการวางผงั การบรู ณาการกบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และคุณลักษณะ 3D • หลักความพอประมาณ 1. ผ้เู รียนจดั สรรเวลาในการฝกึ ปฏบิ ตั ทิ ากจิ กรรมและแบบฝึกหดั ท้ายหนว่ ยเรยี นได้อยา่ งเหมาะสม 2. กาหนดเนอ้ื หาเหมาะสมกับเกณฑ์การประเมนิ การใชเ้ คร่อื งมืออย่างถูกต้องและเหมาะสมกับ งาน 3. ผเู้ รยี นรจู้ กั ใชแ้ ละจัดการวัสดุอปุ กรณต์ า่ ง ๆ อยา่ งประหยัดและคมุ้ ค่า 4. ผู้เรยี นปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้นาและผตู้ ามทด่ี ี 5. ผู้เรียนเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องกลมุ่ เพื่อนและสงั คม • หลักความมเี หตุผล 1. เหน็ คณุ ค่าของการใช้วัสดุและอุปกรณ์ในการเตรียมสถานท่กี ่อสรา้ ง และการวางผัง 2. จัดแสดงเนื้อหาของการเตรียมสถานท่ีก่อสร้าง และการวางผังได้อย่างถูกต้อง มีเหตุผล และ สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในการดาเนินธรุ กิจ และในชีวติ ประจาวนั ได้ กล้าแสดงความคดิ อยา่ งมีเหตุผล 3. กล้าทักท้วงในสิง่ ที่ไมถ่ ูกต้องอย่างถกู กาลเทศะ 4. กลา้ ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อื่น 5. ใชว้ ัสดถุ กู ต้องและเหมาะสมกับงาน 6. ไม่มีเรือ่ งทะเลาะววิ าทกบั ผูอ้ ืน่ 7. คดิ ส่งิ ใหม่ ๆ ท่เี กิดประโยชนต์ อ่ ตนเอง และสังคม 8. มคี วามคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาอย่างเปน็ ระบบ • หลักความมีภมู ิคุม้ กนั 1. มที กั ษะทางหลกั ความปลอดภัยอีกทั้งสื่อความหมายได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 2. ผเู้ รียนไดร้ ับความรทู้ ่ีถกู ตอ้ ง พร้อมท้ังกาหนดเนอ้ื หาได้ครบถ้วนถูกต้อง ตามหลกั ความปลอดภัย ที่ดีและมสี าระสาคัญทส่ี มบูรณ์ 3. มีการเตรยี มความพร้อมในการเรยี นและการปฏิบัติงาน 4. กลา้ ซักถามปัญหาหรือข้อสงสยั ต่าง ๆ อย่างถูกกาลเทศะ 5. แกป้ ญั หาเฉพาะหน้าได้ด้วยตนเองอย่างเป็นเหตุเปน็ ผล 6. ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ 7. ควบคุมกิรยิ าอาการในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เปน็ อยา่ งดี
แผนการสอน หนว่ ยที่ 2 สอนครงั้ ท่ี 4-5 ช่ือวิชา วสั ดแุ ละวธิ กี ารก่อสรา้ งงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ช่วั โมง ชือ่ หน่วย การเตรียมสถานที่กอ่ สรา้ ง และการวางผงั การตดั สนิ ใจและการดาเนนิ กิจกรรมต่างๆ ใหอ้ ยู่ในระดับพอเพียงหรือตามปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งน้นั ตอ้ งอาศัยทง้ั ความรูแ้ ละคุณธรรมเปน็ พน้ื ฐาน ดงั น้ี • เงอ่ื นไขความรู้ 1. ผเู้ รยี นไดใ้ ช้กระบวนการคิดในการเตรยี มสถานท่กี ่อสร้าง และการวางผงั (ความสนใจใฝุรู้ ความ รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง) 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการเตรยี มสถานท่กี ่อสรา้ ง และการวางผงั 3. ใช้วัสดอุ ย่างประหยัดและค้มุ ค่า 4. ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอียดรอบคอบ 5. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง • เงอ่ื นไขคณุ ธรรม 1. ปฏิบตั ิงานทไี่ ด้รบั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผิดชอบ) 2. ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์อย่างคุ้มค่า ประหยดั (ความประหยัด) 3. มคี วามเพยี รพยายาม และกระตอื รือร้นในการเรียนและการปฏบิ ัติงาน (ความขยัน ความอดทน) 4. ใหค้ วามร่วมมือกบั การทากิจกรรมของสว่ นรวม อาสาชว่ ยเหลืองานครแู ละผู้อืน่ (แบ่งปัน)
เนือ้ หาสาระ ดา้ นความรู้ 1. การเตรยี มพ้นื ทบ่ี รเิ วณการก่อสรา้ ง 1.1 บริเวณพน้ื ท่ีก่อสรา้ ง การกอ่ สร้างอาคารบา้ นพกั อาศยั ตอ้ งเข้าใจขั้นตอน และเทคนิคการสารวจที่จาเป็นในการก่อสร้าง อาคารอย่างละเอียด ต้ังแต่การรับทราบพื้นที่ท่ีจะก่อสร้างจากเจ้าของที่จะสร้างบ้าน การสารวจหน้างาน เบอ้ื งตน้ ซึ่งหลักดาเนินการสารวจบริเวณพน้ื ทก่ี ่อสรา้ ง มีดงั นี้ 1) ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ 2) ขอบเขตบรเิ วณทีจ่ ะดาเนนิ การก่อสร้าง 3) การกาหนดแนวรว้ั 4) การรักษาหลกั เขต เมื่อรู้ตาแหน่งที่จะดาเนินการก่อสร้าง เริ่มก่อสร้างรั้ว และติดต้ังปูายเพื่อแสดงขอบเขตการก่อสร้าง จากนัน้ วางตาแหนง่ การจัดการภายในงานกอ่ สร้างใหเ้ ปน็ ระบบง่ายแก่การดาเนินงาน 1.2 การปรับพื้นที่ การปรบั พืน้ ทกี่ ่อนการกอ่ สรา้ งควรปรบั พนื้ ท่ีใหม้ ีความเหมาะสม และควรปรับใหม้ รี ะดับสงู กวา่ ระดบั ดนิ เดิม มีการทาระดับอ้างอิงไว้ เช่น การพ่นสี ตอกตะปูไวต้ ามเสาไฟฟูา เป็นต้น เมื่อทาการปรับ พื้นทีเ่ สรจ็ เรียบร้อย จะทาให้สามารถกาหนดจุดทีจ่ ะทาอาคารช่วั คราวได้ เพ่ือใหง้ านดาเนนิ ไปด้วยความ ถูกต้องตามหลักการก่อสรา้ ง มีขอ้ พิจารณาดังนี้ 1) การปรบั พืน้ ทเี่ พื่อใชล้ าเลียง หรือขนส่งวัสดุ เครือ่ งมือ และอปุ กรณ์การก่อสรา้ ง 2) การปรับพื้นที่เพื่อใชใ้ นการก่อสรา้ งอาคาร - พน้ื ที่ทีเ่ ปน็ ท่ลี มุ่ ท่ีดอน - พนื้ ท่ีทเ่ี ป็นบ่อน้า หรือสระน้า - พ้ืนทท่ี ม่ี ีส่งิ กดี ขวาง หรือมีลักษณะเปน็ ปุา 1.3 การถมดิน การถมดนิ มี 2 ประเภทดว้ ยกัน คอื การถมแบบอัด และ การถมแบบไม่อดั ซึง่ การถมทง้ั สองแบบ น้ี จะมคี วามแตกต่างกนั ออกไป ทั้งวธิ ีการถม ประโยชน์ ข้อดแี ละข้อเสีย ดังนี้ 1) การถมแบบอัด คือ การถมดินไปทลี ะช้นั มีความหนาชน้ั ละประมาณ 20 – 50 เซนติเมตร ขึน้ อยกู่ ับลักษณะดิน และการกาหนดของผู้ออกแบบ แล้วบดอัดใหแ้ นน่ ทลี ะช้ัน หมดไปชั้นหน่ึงค่อยถมดนิ ต่อ ทาแบบนจี้ นได้ระดับตามที่ตอ้ งการ 2) การถมแบบไม่อดั คือ ถมดนิ ในพน้ื ท่ใี ห้เต็มในคราวเดียว แลว้ ค่อยบดอัดเฉพาะด้านหน้าผวิ ดนิ การถมลักษณะนี้ ใชใ้ นการถมดินทไี่ มต่ ้องการความสูงมากนัก เหมาะกบั การกอ่ สร้างบ้านแบบตอกเสาเข็ม เท่านนั้ การถมแบบน้ขี ้อดี คือ ราคาถกู 1.4 การสร้างอาคารชว่ั คราว อาคารช่ัวคราว คือ การก่อสร้างสถานที่ทางาน ที่พักคนงาน สถานที่เก็บวัสดุต่าง ๆตลอดจน อุปกรณ์ก่อสรา้ ง และอปุ กรณ์ให้ความปลอดภยั ตา่ ง ๆ โดยคานึงถึงความยากง่ายในการก่อสร้าง และรื้อถอน จะต้องประหยัดไม่ส้ินเปลือง ดังนั้นการสร้างอาคารช่ัวคราว เป็นปัจจัยหน่ึงท่ีจะทาให้การดาเนินงาน
ก่อสร้างสะดวกรวดเรว็ เสรจ็ ตามระยะเวลาทก่ี าหนด อาคารชวั่ คราวท่ีจาเป็นในงานกอ่ สร้างประกอบดว้ ย 1) อาคารเก็บวสั ดุอุปกรณ์ และเครือ่ งมือ ใช้เก็บวสั ดกุ ่อสรา้ งควรสรา้ งใหม้ ิดชิด เพื่อปอู งกัน วสั ดุเสียหาย สะดวกตอ่ การขนสง่ วัสดุไปยังที่ก่อสรา้ ง 2) ปนู ซีเมนต์ ควรเก็บไว้ในสถานทแ่ี ห้งมีหลังคา และผนงั ปกคลุมมิดชิด แต่ต้องอยา่ ให้ ความชื้น หรอื นา้ เขา้ ทางพื้นหรือฝาได้ ถ้าเป็นไม้ต้องยกพ้ืนให้อยพู่ ้นดินไม่ควรตา่ กว่า 30 เซนตเิ มตร เพอ่ื ใหร้ ะบายนา้ ไดส้ ะดวก และใหล้ มโกรกขา้ งล่างได้ 3) เหลก็ เสรมิ ควรเก็บกองเป็นชัน้ ๆ ตามขนาดตา่ ง ๆ กนั โดยท่มี ที รี่ องรบั และคลุมไมใ่ ห้ เปอ้ื นดนิ โคลน และฝน ถา้ ใหด้ ีควรมีหลังคาคลุมหรือสรา้ งโรงเก็บไว้เฉพาะ 4) อาคารท่พี ักคนงาน สรา้ งไว้ช่วั คราวใหค้ นงานพักอาศัยระหว่างการดาเนินงานก่อสรา้ ง 5) อาคารท่พี ักหัวหนา้ คนงาน ใชเ้ กบ็ แบบก่อสร้าง หลักฐาน หนังสอื เอกสารตดิ ต่อตา่ ง ๆ เพอื่ ความสะดวกเวลาท่ีงานล่าชา้ ต้องทาลว่ งเวลาหวั หน้าคนงานตอ้ งค้างคืน จงึ ควรมีท่ีพักในบรเิ วณก่อสรา้ ง 1.5 ระบบสาธารณูปโภค ระบบสาธารณูปโภคเป็นส่วนประกอบในการดาเนินงานก่อสร้าง เพ่ือความสะดวกในการทางาน ควรจัดการขอใช้ระบบสาธารณูปโภคให้แล้วเสร็จ ซ่ึงในระบบสาธารณูปโภคประกอบด้วยงานวิศวกรรม ตา่ ง ๆ เชน่ ระบบน้า ระบบไฟฟาู และถนน เป็นตน้ การขอใช้ระบบสาธารณูปโภคควรทาดงั ตอ่ ไปน้ี 1) การขอใชน้ ้าประปาผ่านที่ หากบริเวณทีท่ าการก่อสรา้ งมีท่อน้าประปาผา่ นที่ ควรจะไดไ้ ป ติดต่อทีห่ น่วยควบคมุ การจา่ ยน้าประปาของเขตน้ัน ๆ เพ่ือใหท้ างหน่วยต่อประปาให้ใช้ชัว่ คราว 2) การขอต่อกระแสไฟฟาู ควรตดิ ต่อไฟฟูาเขตเพื่อขอติดตัง้ หม้อแปลงชวั่ คราว ซึง่ จะได้ มเิ ตอร์ขนาด 15 (45) A 220 V 1 เฟส มาใช้ในพนื้ ท่ีดาเนนิ งานก่อสรา้ ง ระหว่างท่รี อเจ้าหนา้ ทีไ่ ฟฟูาต่อ สายไฟให้อาจขอต่อไฟฟูามาใชก้ อ่ นจากบ้านข้างเคียง โดยตกลงจา่ ยคา่ ไฟฟาู ให้เจ้าของบา้ น การตอ่ ไฟฟูา ตอ้ งคานึงถึงโหลดของเครื่องใชไ้ ฟฟูา เน่ืองจากอุปกรณ์ไฟฟูาทีใ่ ชใ้ นงานก่อสรา้ งส่วนใหญจ่ ะมวี ัตตส์ งู 3) ทางเขา้ ออกในสถานทกี่ ่อสรา้ ง ในการเขา้ ออกสถานทกี่ ่อสร้างต้องมคี วามสะดวกในการ ขนถ่ายวัสดุ เช่น การขนย้ายเสาเขม็ ขนาดยาว ถ้าเปน็ ซอยแคบ และรถสวนกนั ไม่ได้ต้องจดั เจา้ หน้าทีอ่ านวย ความสะดวก หากการก่อสร้างอาคารตดิ จะต้องย่ืนหนังสือเพื่อขออนุญาตสร้างถนนเชื่อมทางเสยี ก่อน 2 การวางผัง การวางผงั หรือตีผงั เป็นส่งิ สาคัญในการปลูกสร้างอาคาร เพ่ือใหช้ ่างหรอื วิศวกรทางานไดถ้ ูกต้องตาม แบบ สามารถกาหนดตาแหน่งวางผงั ของอาคารที่จะสรา้ งให้อยู่ ซ้าย ขวา หนา้ หลังของทีด่ ิน ตาแหน่งของ ศูนยก์ ลางของเสาเข็มในแต่ละแนวของตัวอาคาร และเปน็ ระดับอ้างอิงของตวั อาคาร เพื่อความสะดวกใน การก่อสรา้ ง และไดต้ ามแบบทก่ี าหนดระยะต่าง ๆ ของอาคารเปน็ ไปตามแบบ 2.1 การศกึ ษาแบบแปลน การศึกษาแบบแปลน ผู้รับเหมาก่อสร้างต้องศึกษาดูรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะในแบบแปลนจะ เป็นแนวทางในการกอ่ สร้างตั้งแต่เริ่มต้นจนสรา้ งบา้ นเสร็จเรยี บรอ้ ย ซง่ึ แบบในงานกอ่ สรา้ งจะประกอบด้วย 1) แปลนพื้น 2) แบบผังโครงสร้าง 3) แบบรปู ตัด 4) รูปดา้ น 5) รูปขยายรายละเอียดทางด้านสถาปตั ยกรรม
6) แบบขยายรายละเอยี ดทางวิศวกรรม 7) ผงั ระบบท่อ 8) ผังไฟฟูา 9) ผงั บรเิ วณก่อสร้าง และแผนผังท่ตี ัง้ 10) รายการประกอบแบบ 2.2 การกาหนดเขตผังอาคาร การกาหนดระยะการวางผงั ตอ้ งศึกษาระยะในแบบใหช้ ดั เจน กาหนดตาแหน่งฐานรากตวั ริม ของอาคาร ชายคา หรือส่วนทย่ี ืน่ ออกจากตัวอาคาร เมอ่ื รู้ความกวา้ งของฐานราก และส่วนท่ยี ื่นออกนอก ตวั อาคาร พิจารณาความลึกของฐานราก โดยการขดุ ดินควรขุดให้มีความลาดเอียง (Slope) เพื่อปูองกนั ดินพงั หากเปน็ ดนิ อ่อน หรือดนิ เหลวควรให้มีความลาด 45 - 60 องศา สว่ นดนิ แข็ง ดนิ ลกู รงั หรือหนิ ควร ใหม้ คี วามลาด 60 - 75 องศา เผอื่ ระยะจากรมิ ฐานรากถงึ แนวดนิ ขดุ เพอื่ ตดิ ต้งั แบบหลอ่ และค้ายันแบบ หลอ่ ฐานรากดา้ นละประมาณ 20-30 เซนติเมตร ขน้ึ อยู่กับขนาดฐานราก เม่อื ไดร้ ะยะที่จะวางผังแลว้ สร้างแนวอาคารให้สอดคล้องตามแบบก่อสร้าง และพื้นทโี่ ดยการกาหนดด้านเร่ิมของผงั อาคาร ใช้กล้อง Theodolites หรอื ใชก้ ฎ 3 : 4 : 5 สร้างมุมฉาก 3 เครื่องมอื และอปุ กรณก์ ารวางผัง 3.1 สายยางวดั ระดับ 3.2 ลูกดง่ิ 3.3 ค้อนหงอน 3.4 ตลับเมตร 3.5 ค้อนปอนด์ 3.6 เล่ือยลนั ดา 3.7 เชือก 3.8 ฉากไมห้ รือฉากเหลก็ 3.9 ตะปู 4. การหาตาแหนง่ ศูนย์กลางเสาและเสาเขม็ การหาตาแหน่งศูนย์กลางเสาและเสาเข็ม ผู้รับเหมาควรตรวจดูตาแหน่งของระยะเสาในรูปแบบ รายการก่อสร้าง กาหนดตาแหน่งลงบนคอกผังใช้ตะปูตอกตาแหน่งพร้อมใช้สีสเปรย์พ่นลงที่ตาแหน่ง ศูนย์กลางเสา และตาแหน่งขยายหน้าตัดเสาออกสองข้าง ในการถ่ายขนาดของหลุมจากคอกผังลงสู่พ้ืนดิน สาหรบั กรณที ่ีตอกเข็มฐานราก ผู้รบั เหมาจะต้องตรวจตาแหนง่ เสาเข็มให้ถูกตอ้ ง 4.1 การหาตาแหน่งศนู ย์กลางเสา เม่อื ทาการตผี ังเรยี บร้อยแลว้ จะต้องทาการหาศูนย์กลางของเสา หรือศนู ย์กลางของฐานราก ซ่ึงมีขนั้ ตอนการหาตาแหน่งศูนยก์ ลางเสาดังนี้ - กาหนดแนวเร่มิ ตน้ โดย Off set จากแนวผังตามระยะทีค่ านวณได้ ในท่ีนี้สมมุติให้แนวผัง ห่างจากศนู ยก์ ลางฐานราก หรอื ศนู ยก์ ลางของตอมอ่ 1.00 เมตร จะไดแ้ นว AB - ตอกตะปู และขึงเอ็นให้ตงึ จากนน้ั หาแนว CD โดยวัดระยะออกมา 1.00 เมตร และตอก ตะปู กาหนดให้เป็นเป็นจดุ C - สร้างฉากโดยใชก้ ฎ 3 : 4 : 5 หรอื ใชก้ ล้อง Theodolites สรา้ งมุมฉากดงั รปู ท่ี 2.27 จะไดจ้ ดุ D จากนัน้ ตอกตะปแู ละขงึ เอ็นใหต้ งึ
- จุดตัดระหว่างเส้น AB และ CD คือ จุดศูนย์กลางของฐานรากหรือจุดศูนย์กลางของ ตอมอ่ น่ันเอง - ทาการทิ้งดิ่งตรงจดุ ตัดของเสน้ เอน็ และตอกหมุดลงบนพืน้ ดินใช้สีทาที่หวั หมุด อาจตอก ตะปูลงบนหมุด เพ่อื แสดงตาแหนง่ ของศูนย์กลางของฐานราก หรอื ตอม่อ ส่วนจุดศูนย์กลางของฐานรากตัว อนื่ ๆ สามารถทาในลักษณะเช่นเดียวกัน 4.2 การหาตาแหน่งศูนย์ของเสาเขม็ ในการกอ่ สร้างอาคารพกั อาศยั ท่ัวๆ ไป ฐานรากจะทาเป็นฐานรากแผ่ แต่อาจจะมีการใช้ฐานราก ท่ีมีเสาเข็มรับน้าหนักบรรทุกก่อนที่จะถ่ายน้าหนักลงดิน เพื่อให้ฐานรากนั้นสามารถรับน้าหนักบรรทุกท่ี กระทาได้ตามที่วิศวกรออกแบบไว้ ดังนั้นการวางตาแหน่งของเสาเข็มจึงจาเป็นต้องวางให้ถูกต้องตามแบบ กอ่ สรา้ ง การหาตาแหนง่ ศนู ย์ของเสาเข็มสามารถทาได้ดังน้ี 1. ต้องตรวจสอบแบบฐานรากว่ามีขนาดเทา่ ใด เสาเข็มห่างจากศนู ยก์ ลางของฐานราก หรอื หา่ งจากรมิ ฐานรากเทา่ ใด 2. เมื่อทราบตาแหนง่ ของเสาเข็มแล้ว สมมุตวิ ่าฐานรากมีขนาด 1.20 x 1.20 เมตร ระยะหา่ งจากศนู ย์กลางเสาของสิ่งก่อสรา้ ง 0.40 เมตร 3. จากแนวศูนย์กลางของเสาทง้ั 4 ดา้ น วัดระยะออกมาด้านละ 0.40 เมตร ตอกตะปูบนผัง นอนและขึงเอน็ ตามแนวที่ตอกตะปู 4. ทิ้งลกู ดิง่ ตรงท่ีเสน้ เอน็ ตดั กนั จากนนั้ ใช้หมุดปกั จะได้ตาแหน่งเสาเข็ม 5. การทาระดับ การทาระดับควรเปรียบเทียบกับระดับดินเดิม ปกติในแบบก่อสร้าง หรือรายการประกอบแบบ เจ้าของ สถาปนกิ หรือวิศวกร เป็นผกู้ าหนดระดับดนิ เดิม กาหนดค่าระดับ ± 0.00 มาให้ โดยให้ระดับถนน ใหญ่เป็นระดับมาตรฐานแล้วให้ระดับดินเดิมต่ากว่า 10 – 20 เซนติเมตรหรือ เปรียบเทียบกับระดับพ้ืนท่ี ข้างเคยี ง หรือถนนบริเวณทจ่ี ะก่อสรา้ งโดยอาจกาหนดให้สงู กว่าระดับทเี่ ปรยี บเทยี บ 20 - 30 เซนติเมตร 5.1 ขน้ั ตอนการหาค่าระดบั การทาระดบั จะทาการถา่ ยระดบั ดินเดิมเขา้ ไปยังผังในบริเวณปลูกสร้าง เครื่องมือทีใ่ ชถ้ ่ายระดับ สาหรับระยะทางไม่เกิน 20 เมตร ใช้ท่อพลาสติกใสใส่น้าถ่ายระดับมายังหลกั ทรี่ ับระดับ แลว้ ตอกหลักถา่ ย ตอ่ เป็นลาดับ หากระดับที่กาหนดอยไู่ กลจะใช้กล้องระดับถา่ ยมายังหลักท่ีรบั ระดับใกล้อาคารปลูกสร้าง 5.2 หลกั การถา่ ยระดับด้วยกลอ้ ง หลกั การถา่ ยระดับดว้ ยกล้องมวี ธิ ีการดังนี้ 1) ตง้ั กลอ้ งให้ห่างจากจุดระดับประมาณ 20 เมตร ซ่งึ อยู่ในเส้นทางตรงกบั จุดท่ีถ่ายระดับ 2) ให้ระดบั ทห่ี มุด A มคี า่ ระดบั ± 0.00 จะหาระดบั ท่หี มุด B ให้ตั้งกล้องระดับระหวา่ ง หมดุ A และ หมดุ B 3) นาไม้ Staff ไปตงั้ บนหมุด A อา่ นคา่ ระดับ B.S. สมมติอา่ นจากกล้องไดเ้ ทา่ กบั 1.546 เมตร บันทกึ ค่าไว้ 4) นาไม้ Staff ไปต้ังบนหมดุ B อ่านค่าระดบั F.S. สมมติอ่านจากกล้องไดเ้ ท่ากบั 1.037 เมตร บันทกึ คา่ ไว้ 5) คานวณหาค่าระดบั ท่หี มุด B = ความสูงกลอ้ งระดบั – F.S.
= 1.546 – 1.03 = 0.509 เมตร ระดบั ที่ถ่ายมาจากระดับถนน หรอื ระดับดินเดิม จะนาไปใช้เปน็ ระดบั อ้างองิ ในการก่อสรา้ ง ตอ่ ไป ระดบั ที่ถา่ ยไปฝากไว้ควรเปน็ สิ่งท่ีถาวร และมั่นคง
แผนการสอน หนว่ ยที่ 2 แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 2 สอนครง้ั ท่ี 4-5 เวลา 4 ชว่ั โมง ชื่อวิชา วัสดแุ ละวิธกี ารก่อสรา้ งงานโครงสรา้ ง ชอื่ งาน การเตรยี มสถานท่กี ่อสรา้ ง และการวางผงั คาสั่ง จงตอบคาถามต่อไปน้ี 2. การเตรยี มสถานที่ก่อสร้าง ผู้รับจา้ งต้องขอรายละเอยี ดท่สี าคญั จากผู้วา่ จา้ งอะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ระบบสาธารณปู โภคในสถานที่ก่อสร้างมีอะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แปลน ในแบบกอ่ สรา้ งคือ อะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การทาระดบั คืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ในกรณีท่ีไมร่ ะบุความสูงของอาคารช้นั ลา่ งมา การกาหนดระดับในแบบอาคารจะใชร้ ะดับใดเปน็ หลกั ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. การวางผังสาหรับบ้าน หรืออาคารท่ีพกั อาศัย นยิ มทากัน 2 แบบ คอื ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. การวางผงั หรือตีผงั ในการปลกู สร้างอาคาร มวี ัตถุประสงคเ์ พ่ืออะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. การสรา้ งผงั อาคารต้องสร้างเปน็ มมุ ฉาก วิธกี ารสร้างฉากมกี ่ีวิธี อะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. หลักการถ่ายระดับด้วยกล้องมีลาดบั ขน้ั ตอนวธิ กี ารอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. การหาตาแหน่งศนู ย์กลางเสามีลาดบั ขั้นตอนวธิ ีการอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการสอน หน่วยท่ี 2 แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยท่ี 2 สอนคร้งั ที่ 4-5 เวลา 4 ช่วั โมง ช่อื วิชา วสั ดแุ ละวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง ช่ืองาน การเตรียมสถานท่กี ่อสรา้ ง และการวางผัง จงเลือกคาตอบทีถ่ ูกที่สดุ เพยี งข้อเดียวจากคาถามต่อไปน้ี 1. สิ่งสาคัญทผ่ี รู้ ับจา้ งตอ้ งขอรายละเอยี ดจากผวู้ ่าจ้างในการเตรยี มสถานท่ีก่อสรา้ ง คือข้อใด ก. โฉนดทดี่ ิน ข. บัญชีธนาคาร ค. ชอื่ ผ้ปู ระสานงาน ง. สาเนาบัตรประชาชน 2. การแสดงขอบเขตท่ีดนิ ตอ้ งตรวจสอบจากอะไร ก. หมุดอา้ งอิง ข. หมดุ ระดบั ค. อาคารข้างเคยี ง ง. หมดุ หลกั เขต 3. ในกรณีการกอ่ สร้างอาคารตดิ ถนนทางหลวง และมคี วามจาเปน็ ตอ้ งขอเชื่อมทาง จะต้อง ดาเนินการอยา่ งไร ก. ยน่ื หนังสอื ขออนุญาตเชื่อมทางกับ อบต. ข. ยนื่ หนงั สอื ขออนุญาตกับทางหลวงจงั หวัดน้นั ๆ ค. ยนื่ หนังสอื ขออนุญาตกับทางหลวงทอ้ งถนิ่ ง. ทาหนังสอื แจ้งต่อเทศบาล 4. การวางผังอาคารกอ่ นลงมอื ทางานต้องศึกษาในขอ้ ใด ก. แปลนฐานราก ข. พนื้ ทีก่ ่อสร้าง ค. วสั ดุ ง. ทศิ ทางลม 5. ขอ้ ใด คือ กฎสามเหล่ียมมุมฉาก ที่ใชใ้ นการวางผังในงานกอ่ สรา้ ง ก. 1 : 2 : 4 ข. 2 : 3 : 5 ค. 3 : 4 : 5 ง. 4 : 5 : 6
แผนการสอน หน่วยท่ี 2 แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 2 สอนครั้งท่ี 4-5 เวลา 4 ชวั่ โมง ชอ่ื วิชา วัสดุและวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง ช่อื งาน การเตรียมสถานที่ก่อสร้าง และการวางผงั 6. การถา่ ยระดับผงั ควรใช้วิธีการใดจงึ จะสะดวกและรวดเรว็ ท่ีสดุ ก. ใชต้ ลบั เมตร ข. ใชก้ ล้องระดับ ค. ใชส้ ายยางระดับน้า ง. ใช้เอ็นถ่ายระดับ 7. ข้อใด คือเคร่ืองมือการให้ระดบั ของหลักผงั ก. ฉากใหญ่ ข. ฉากเปน็ ค. ระดับนา้ บรรทัด ง. สายยางระดบั นา้ 8. การหาตาแหน่งของฐานรากควรใชเ้ ครอ่ื งมือในข้อใด ก. ลกู ดิง่ ข. ไมร้ ะดับ ค. สายยาง ง. ตลับเมตร 9. การหาศนู ย์เสา ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ งที่สดุ ก. ใช้ด่ิงที่แนวยาวของผงั เพยี งแนวเดยี ว ข. ใช้ด่งิ ทีแ่ นวกว้างของผังเพยี งแนวเดียว ค. ใช้ด่ิงทีแ่ นวกวา้ ง และแนวยาวตัดกัน ง. ใชด้ ่ิงที่แนวกวา้ งส้ันกวา่ แนวยาว 10. ระดบั ผงั โดยท่ัวไป จะใช้ระดับอ้างอิงจากท่ีใด ก. ระดับดนิ ถมบรเิ วณกอ่ สร้าง ข. ระดับรางระบายน้าขา้ งถนน ค. ระดับถนนใกลเ้ คียง ง. ระดบั ทด่ี นิ ข้างเคยี ง
แผนการสอน หน่วยที่ 2 กจิ กรรมทา้ ยหน่วยเรียนที่ 2 สอนครั้งที่ 4-5 ชือ่ วิชา วัสดุและวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง เวลา 4 ชั่วโมง ช่อื งาน การเตรยี มสถานทก่ี ่อสร้าง และการวางผงั 1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม โดยให้แต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการ เตรียมสถานทก่ี อ่ นการดาเนินงานกอ่ สรา้ ง และการวางผงั บรเิ วณ ดังน้ี กลมุ่ ที่ 1 การสารวจบริเวณพื้นที่ก่อสรา้ ง กลุม่ ท่ี 2 การปรับพืน้ ท่ี กลุ่มท่ี 3 การวางผังบรเิ วณ กลุ่มท่ี 4 การหาศูนยก์ ลางของเสา กลุ่มท่ี 5 อาคารช่ัวคราว และระบบสาธารณูปโภค 2. ให้นักเรียนนาประสบการณ์เกี่ยวกับการดาเนินงานก่อสร้างท่ีพบเห็นในชีวิตประจาวันมาเล่า ใหเ้ พื่อนฟังหน้าชน้ั เรียน เพื่อแลกเปลย่ี นการเรยี นร้กู ัน พร้อมชว่ ยระดมความคดิ เพ่อื นาเทคโนโลยีใหม่ มาพัฒนาใหง้ านกอ่ สร้างอาคารมคี วามกา้ วหนา้ ทันสมัย
แผนการสอน หน่วยท่ี 2 แบบประเมินผลกิจกรรมสังเกตพฤตกิ รรมการทางาน รายบุคคลและรายกลุ่ม ช่ือวิชา วสั ดแุ ละวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง สอนครัง้ ท่ี 4-5 ชื่องาน การเตรยี มสถานท่ีก่อสร้าง และการวางผัง เวลา 4 ช่ัวโมง ชอื่ เรื่อง ................................................................................................................................... หวั ข้ออภปิ ราย ......................................................................................................................... ชื่อกลุ่ม ..................................................................................................................................... สมาชิกกลุ่ม 1. ................................................ 2. ................................................ 3. ............................................... 4. ................................................ 5. ................................................ 6. ................................................ รายการประเมิน คะแนนเต็ม ผลคะแนน หมายเหตุ 11. การเตรยี มความพร้อมในการนาเสนอ 10 ………….. ผล/คะแนน 12. การมอบหมายหน้าที่กลุ่ม 10 ………….. ดีมาก = 80 – 100 13. ความรบั ผิดชอบ 10 ………….. ดี = 70 – 79 14. การทางานเปน็ ทมี 10 ………….. ปานกลาง = 60 – 69 15. การแตง่ กาย/บุคลิกภาพ 10 ………….. พอใช้ = 50 – 59 16. ความชดั เจนในการนาเสนอ 10 ………….. ปรบปรงุ = 0 – 49 17. การอภิปรายกลุ่ม 10 ………….. คะแนนเตม็ 18. ความชัดเจนในการนาเสนอ 10 ………….. รวม 100 คะแนน 19. การตอบขอ้ ซกั ถาม 10 ………….. 20. การจัดเก็บเครือ่ งมอื อปุ กรณ์ 10 ………….. รวมคะแนนท่ีได้ ลงชือ่ ………………………………ผู้ประเมนิ (……………………………………..) ………../…………………/………………
แผนการสอน หนว่ ยที่ 2 ชอ่ื วิชา วัสดุและวิธีการก่อสรา้ งงานโครงสร้าง สอนครง้ั ท่ี 4 - 5 จานวน 4 ช่ัวโมง ช่อื หน่วย การเตรยี มสถานที่ก่อสร้าง และการวางผงั 3. กิจกรรมการเรยี นการสอน ขนั้ ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขน้ั ตอนการเรียนรู้หรอื กิจกรรมของนักเรียน ข้ันเตรียม (20 นาท)ี ขนั้ เตรยี ม (20 นาท)ี 1. จัดเตรยี มเอกสาร สื่อการเรยี นการสอน 1. จัดเตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนตามที่ ตัวอย่าง การเตรียมสถานที่ก่อสร้าง การมอบหมายงาน ครูผู้สอนและบทเรียนกาหนด เตรียมตัวทดสอบก่อน และวธิ ีวัดผลประเมนิ ผล เรยี นเร่อื ง การเตรียมสถานทก่ี ่อสร้าง และการวางผงั 2. ทดสอบก่อนเรียนเร่ือง การเตรียมสถานท่ีก่อสร้าง 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนเร่ือง การเตรียมสถานที่ และการวางผัง แล้วให้นักศึกษาสลับกันตรวจคาตอบ กอ่ สรา้ ง และการวางผงั แลว้ สลับกันตรวจคาตอบ และให้คะแนน 3. ทาความเข้าใจเก่ียวกับจุดประสงค์การเรียนของ 3. แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนของหนว่ ยที่ 2 และการให้ หน่วยท่ี 2 และการให้ความร่วมมือในการทากจิ กรรม ความรว่ มมือของนักศึกษาในการทากิจกรรม ข้นั การเรียนการสอน (200 นาที) ข้ันการเรียนการสอน (200 นาที) 1. ครูอธิบาย และยกตัวอย่างถึง การเตรียมพื้นท่ี 1. นกั ศึกษาฟัง และคิดตามพร้อมทัง้ จดบนั ทกึ เก่ียวกบั บริเวณก่อสร้าง หลักการวางผังอาคาร เคร่ืองมือและ การเตรยี มพืน้ ที่บริเวณกอ่ สรา้ ง หลกั การวางผังอาคาร อุปกรณ์ในการวางผังอาคาร หลักการหาตาแหน่ง เคร่อื งมือและอุปกรณ์ในการวางผงั อาคาร หลักการหา ศนู ย์กลางเสาและเสาเข็ม หลักการทาระดับ พร้อมกับ ตาแหน่งศูนย์กลางเสาและเสาเขม็ หลกั การทาระดับ แจกใบความรู้ประกอบการเรียนการสอน โดยใช้ใบ พร้อมกับศึกษาใบความรูป้ ระกอบการเรยี นการสอน โดยใช้ ความรู้ที่ 2 เร่ือง การเตรียมสถานที่ก่อสร้าง และการ ใบความรู้ ที่ 2 เรื่อง การเตรยี มสถานทก่ี ่อสร้าง และการ วางผงั วางผัง 2. ครใู ห้นกั ศึกษาแบ่งกลุ่มนักศึกษา กลุ่มละ 5 คนแล้ว 2. นักศึกษาเข้ากลุ่มตามที่ครูจัดแบ่ง แล้วปฏิบัติ มอบหมายใหน้ ักศึกษาปฏบิ ัตกิ ิจกรรมท้ายหนว่ ยที่ 2 กจิ กรรมทา้ ยหนว่ ยท่ี 2 เรอ่ื ง การเตรียมสถานที่ก่อสร้าง เรอื่ ง การเตรียมสถานที่กอ่ สร้าง และการวางผัง โดยให้ และการวางผัง โดยนักศึกษาแต่ละกลุ่มอภิปรายแนวคิด นกั ศึกษาแตล่ ะกลุม่ อภิปราย แนวคิดเกยี่ วกบั การเตรียม เก่ียวกับการเตรียมสถานที่ก่อนการดาเนินงานก่อสร้าง สถานที่ก่อนการดาเนินงานก่อสร้าง และการวางผัง และการวางผังบริเวณ โดยดูตัวอย่างจาก ใบความรู้ท่ี 2 บริเวณ โดยดูตัวอย่างจาก ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง การ เร่ือง การเตรยี มสถานท่ีกอ่ สรา้ ง และการวางผงั เตรยี มสถานท่ีก่อสร้าง และการวางผัง
แผนการสอน หนว่ ยท่ี 2 ชอื่ วิชา วัสดุและวธิ ีการก่อสรา้ งงานโครงสร้าง สอนครั้งท่ี 4-5 จานวน 4 ชวั่ โมง ช่ือหน่วย การเตรยี มสถานท่ีกอ่ สร้าง และการวางผงั 2. กิจกรรมการเรียนการสอน (ตอ่ ) ข้นั ตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรยี นรู้หรอื กิจกรรมของนกั เรยี น จากน้นั ให้นักศึกษาร่วมกนั สรุป “การเตรียมสถานที่ จากน้ันนักศึกษาร่วมกันสรุป “การเตรียมสถานท่ี ก่อนการดาเนินงานก่อสร้าง และการวางผังบริเวณ” ก่อนการดาเนินงานก่อสร้าง และการวางผังบริเวณ ” ให้บันทึกผลและรายงานหน้าช้ันเรียนได้อย่างอิสระ ให้บันทึกผลและรายงานหน้าชั้นเรียนได้อย่างอิสระ โดยจัดทาสื่อประกอบการรายงานด้วย เมื่อรายงาน ให้จัดทาสื่อประกอบการรายงานด้วย เมอ่ื รายงานหน้า หน้าชั้นเรียนแล้วให้ผู้ฟังซักถามปัญหา ข้อสงสัย ช้ันเรียนแล้วให้ผู้ฟังซักถามปัญหา ข้อสงสัยเกี่ยวกับ เก่ียวกับ “การเตรียมสถานที่ก่อนการดาเนินงาน “การเตรียมสถานท่ีก่อนการดาเนินงานก่อสร้าง และ ก่อสร้าง และการวางผังบริเวณ” จากนั้นให้ผู้รายงาน การวางผังบริเวณ ” จากนั้นให้ผู้รายงานตั้งคาถาม ต้ังคาถาม เพ่ือถามผู้ฟังอย่างน้อย 2 คาถาม โดยให้ เพื่อถามผู้ฟังอย่างน้อย 2 คาถาม โดยให้ผู้ฟังแสดง ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นภายในชั้นเรียนได้อย่างอิสระ ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ภ า ย ใ น ช้ั น เ รี ย น ไ ด้ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ (Democracy ด้านประชาธปิ ไตย:3D) (Democracy ดา้ นประชาธปิ ไตย:3D) ขั้นสรปุ (20 นาที) ขนั้ สรปุ (20 นาที) 1. ครูสรุปจากท่ีนักศึกษานาเสนอข้อมูลพร้อม 1. นักศึกษารับฟังคาสรุปและข้อแนะนาจากครู ท้ังอธิบายเพ่ิมเตมิ และสรุปเนื้อหาตามจุดประสงค์เชิง พร้อมทั้งจดบันทึกข้อมูล และซักถามหรือตอบคาถาม พฤตกิ รรม ตามหวั ขอ้ สาระสาคญั พรอ้ มทง้ั ปลูกฝงั ให้ หรอื แสดงความคิดเห็น ในหวั ข้อที่ยังไม่เข้าใจพร้อมทั้ง นักศึกษาเอาใจใส่ในการเรียนรู้ ดูหนังสืออย่าง รับฟงั การปลกู ฝังจากครผู ูส้ อนเรื่องการเอาใจใส่ในการ สม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่นกีฬาอยู่เสมอเพื่อให้ เรียนรู้ ดูหนังสืออย่างสม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่น ร่างกายแข็งแรงความจาดี เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็น กีฬาอยู่เสมอเพอ่ื ใหร้ ่างกายแข็งแรงความจาดี เป็นการ ประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจากยาเสพติดอย่าง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจาก แทจ้ ริง Drug-Free ด้านภูมิคุ้มกันภยั จากยาเสพติด : ยาเสพติดอย่างแท้จริง Drug-Free ด้านภูมิคุ้มกันภัย 3D ) จากยาเสพติด : 3D )
แผนการสอน หน่วยท่ี 2 ชื่อวิชา วัสดุและวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง สอนคร้ังท่ี 4 - 5 ชือ่ หน่วย การเตรยี มสถานท่ีก่อสร้าง และการวางผงั จานวน 4 ช่วั โมง 1. กจิ กรรมการเรยี นการสอน (ต่อ) ข้ันสรุป (20 นาที) (ตอ่ ) 2. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ขั้นสรุป (20 นาที) (ตอ่ ) 3. นกั ศึกษานาคะแนนจากแบบทดสอบกอ่ น 2. แจกแบบทดสอบหลงั เรียน เรยี นและหลงั เรียนมาเปรยี บเทียบกันว่าเป็น 3. ครตู รวจแบบทดสอบพรอ้ มกับบนั ทึก อย่างไรมผี ลตา่ งกนั อย่างไร เพือ่ ดูความกา้ วหนา้ ของตนเอง คะแนน 4. นักศึกษาทาแบบฝึกหดั ท้ายบทเรียน 4. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบฝกึ หดั ท้ายบทเรียน (รวม 240 นาที หรอื 4 คาบเรยี น) (รวม 240 นาที หรอื 4 คาบเรยี น)
บันทึกหลงั การสอน/การเรียนรู้ ผลการใช้แผนการสอน/การเรียนรู้ 4. คาบสอนเหมาะสม 5. เนื้อหาสอดคล้องกับจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมเหมาะสม 6. กจิ กรรมการสอนหรือวิธีสอนในข้ันตอนการสอน กิจกรรมของผ้เู รยี นเหมาะสม ผลการเรยี นของนกั เรยี น 4. นักเรียนส่วนใหญใ่ ห้ความสนใจเรยี น เมือ่ จดั การเรยี นการสอนโดยมีการแข่งขนั และ กลา่ วชมเชยเม่อื สามารถทางานด้วยตนเองอย่างซ่ือสตั ย์ ต้ังใจเรยี นมากข้นึ ดไู ด้จากการตอบ คาถามได้ถูกต้องชัดเจน กล้าแสดงออกมากขึน้ 5. ผลคะแนนเฉลี่ยการสอบหลงั เรยี นสงู กว่ากอ่ นเรียน นักเรยี นทาแบบฝึกหัด กิจกรรม ส่งเสรมิ การเรียนรู้ และใบงาน ดว้ ยตนเองได้ถกู ต้อง 6. นักเรียนมกี จิ นิสัยท่ีดี มีความสามัคคี ยอมรับเหตุผลผู้อน่ื ผลการสอนของครู 3. สอนเนอ้ื หาได้รวดเร็ว โดยใช้สอื่ พาวเวอร์พอยต์ และเอกสารประกอบการสอนหนว่ ยท่ี 2 4. สอนได้ ตามเวลาทีก่ าหนด จากผลของการคละกล่มุ ผู้เรียน ลดการใชเ้ วลาสอนเสรมิ โดย ครูผู้สอน ด้วยการเรียนรู้แบบเพ่อื นชว่ ยเพ่ือน ลงชอ่ื ....................................................ผูส้ อน () ลงชอ่ื ........................................ผู้ช่วยฝุายวชิ าการ ()
แผนการสอน หนว่ ยที่ 3 สอนครัง้ ที่ 6-7 ชอ่ื วิชา วัสดแุ ละวธิ ีการก่อสร้างงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ช่ัวโมง ชื่อหน่วย งานฐานราก หวั ขอ้ เร่อื ง 1. ด้านความรู้ 11. ประเภท และชนิดของเสาเข็ม 12. หลกั การ และวิธกี ารตอกเสาเข็ม 13. หลกั การเคลื่อนย้ายปนั้ จน่ั 14. ประเภทของฐานราก 15. หลักการประกอบแบบ และติดตงั้ และการยดึ แบบหล่อคอนกรตี ฐานราก 16. หลกั การผสม และเทคอนกรตี ฐานราก 2. ด้านทกั ษะ 5. การใช้วัสดุ เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ในงานฐานราก 3. ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณลกั ษณะ 3D 1. เตรียมความพร้อมดา้ นวัสดุ อปุ กรณส์ อดคลอ้ งกับงานได้อย่างถูกต้องและใชว้ สั ดุอปุ กรณ์อย่าง คมุ้ คา่ ประหยัด ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและคุณลกั ษณะ 3D (ความรบั ผดิ ชอบ ความ ประหยัด ความขยนั ความอดทน แบง่ ปนั ) 2. ปฏิบัติงานได้อยา่ งถกู ต้อง และสาเรจ็ ภายในเวลาท่ีกาหนดอย่างมีเหตุและผลตามหลกั ปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณลกั ษณะ3D สาระสาคญั /แนวคิดสาคัญ การก่อสร้างโครงสร้างงานฐานรากสาคัญมากในการก่อสร้างอาคาร ก่อนการทาฐานราก ควร สารวจช้ันดนิ ก่อนจะทาให้ทราบถึงลักษณะของดินช้ันต่างๆ และทราบถึงพฤติกรรมการรับแรงของช้ัน ดิน ผู้ออกแบบสามารถออกแบบประเภท ขนาด ความยาวของเสาเข็ม และฐานราก เพ่ือให้เหมาะสม กับสภาพของดินท่ีรองรับฐานรากตามหลักวิศวกรรม และรับน้าหนักทั้งหมดของอาคารได้อย่าง ปลอดภัย
แผนการสอน หน่วยที่ 3 สอนครั้งที่ 6-7 ชอื่ วิชา วัสดแุ ละวิธีการก่อสรา้ งงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ชว่ั โมง ชอื่ หน่วย งานฐานราก สมรรถนะอาชีพประจาหน่วย (สิ่งทตี่ อ้ งการให้เกดิ การประยุกตใ์ ช้ความรู้ ทักษะ คุณธรรม เข้าดว้ ยกัน) 1. แสดงความรู้การก่อสร้างงานฐานราก 2. เลือกใช้วสั ดุและอุปกรณก์ ่อสร้างในงานฐานราก จุดประสงคท์ ่ัวไป เพอื่ ให้ผเู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ เกีย่ วกบั การก่อสร้างงานฐานราก และเลือกใช้วัสดแุ ละอปุ กรณ์ ก่อสรา้ งในงานฐานรากได้ จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. บอกประเภท และชนิดของเสาเข็มได้ 2. อธบิ ายหลกั การ และวธิ กี ารตอกเสาเขม็ ได้ 3. อธบิ ายหลกั การเคลอ่ื นย้ายป้ันจน่ั ได้ 4. บอกประเภทของฐานรากได้ 5. อธบิ ายหลักการประกอบแบบ และตดิ ตงั้ และการยดึ แบบหล่อคอนกรีต ฐานรากได้ 6. เลอื กใช้วัสดุ เคร่ืองมือและอุปกรณ์ในงานฐานรากได้ 7. อธบิ ายหลักการผสม และเทคอนกรตี ฐานรากได้
แผนการสอน หนว่ ยท่ี 3 สอนครง้ั ท่ี 6 - 7 ชื่อวิชา วัสดุและวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ชว่ั โมง ชอื่ หน่วย งานฐานราก การบรู ณาการกับปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และคณุ ลักษณะ 3D • หลักความพอประมาณ 1. ผู้เรยี นจัดสรรเวลาในการฝกึ ปฏบิ ตั ิทากจิ กรรมและแบบฝกึ หัดทา้ ยหน่วยเรยี นได้อยา่ งเหมาะสม 2. กาหนดเนือ้ หาเหมาะสมกับเกณฑ์การประเมิน การใช้เครอื่ งมืออย่างถูกต้องและเหมาะสมกับ งาน 3. ผเู้ รียนรู้จักใช้และจดั การวัสดอุ ุปกรณ์ตา่ ง ๆ อย่างประหยัดและคุ้มค่า 4. ผู้เรยี นปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้นาและผตู้ ามที่ดี 5. ผู้เรียนเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องกลุ่มเพื่อนและสังคม • หลกั ความมเี หตุผล 1. เห็นคุณคา่ ของการใช้วสั ดุและอปุ กรณใ์ นงานฐานราก 2. จดั แสดงเน้ือหาของงานฐานราก ได้อย่างถูกต้อง มีเหตุผล และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการ ดาเนินธรุ กิจ และในชีวติ ประจาวันได้ กลา้ แสดงความคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล 3. กลา้ ทักทว้ งในส่งิ ท่ีไมถ่ ูกตอ้ งอยา่ งถูกกาลเทศะ 4. กลา้ ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน 5. ใชว้ สั ดุถกู ตอ้ งและเหมาะสมกับงาน 6. ไม่มีเร่อื งทะเลาะวิวาทกับผู้อน่ื 7. คดิ สง่ิ ใหม่ ๆ ทเ่ี กิดประโยชนต์ ่อตนเอง และสังคม 8. มีความคิดวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ • หลกั ความมภี มู คิ มุ้ กนั 1. มีทกั ษะทางหลกั ความปลอดภยั อีกท้งั สื่อความหมายได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 2. ผู้เรยี นไดร้ ับความรู้ท่ีถกู ตอ้ ง พรอ้ มทัง้ กาหนดเนอ้ื หาไดค้ รบถว้ นถกู ตอ้ ง ตามหลกั ความปลอดภัย ทีด่ ีและมีสาระสาคัญทสี่ มบรู ณ์ 3. มีการเตรียมความพร้อมในการเรียนและการปฏิบัติงาน 4. กลา้ ซักถามปญั หาหรือขอ้ สงสัยตา่ ง ๆ อย่างถูกกาลเทศะ 5. แกป้ ญั หาเฉพาะหน้าได้ดว้ ยตนเองอย่างเป็นเหตุเปน็ ผล 6. ควบคมุ อารมณ์ของตนเองได้ 7. ควบคมุ กิรยิ าอาการในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
แผนการสอน หน่วยที่ 3 สอนคร้ังที่ 6 - 7 ช่อื วิชา วัสดแุ ละวธิ กี ารก่อสรา้ งงานโครงสร้าง เวลา 4 ชว่ั โมง ชื่อหน่วย งานฐานราก การตัดสนิ ใจและการดาเนินกิจกรรมต่างๆ ใหอ้ ยใู่ นระดบั พอเพยี งหรือตามปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งน้นั ตอ้ งอาศยั ทั้งความรแู้ ละคุณธรรมเป็นพ้นื ฐาน ดังน้ี • เง่อื นไขความรู้ 1. ผ้เู รยี นไดใ้ ช้กระบวนการคดิ ในงานฐานราก (ความสนใจใฝรุ ู้ ความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง) 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจในงานฐานราก 3. ใชว้ สั ดุอยา่ งประหยัดและคุม้ คา่ 4. ปฏบิ ัติงานด้วยความละเอียดรอบคอบ 5. มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง • เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. ปฏบิ ตั งิ านท่ีได้รบั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด (ความรบั ผิดชอบ) 2. ใช้วัสดุอุปกรณ์อยา่ งคุ้มค่า ประหยัด (ความประหยัด) 3. มคี วามเพยี รพยายาม และกระตอื รือรน้ ในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน (ความขยัน ความอดทน) 4. ใหค้ วามร่วมมอื กบั การทากจิ กรรมของส่วนรวม อาสาชว่ ยเหลอื งานครูและผู้อน่ื (แบง่ ปัน)
เน้อื หาสาระ ดา้ นความรู้ 1. งานเสาเข็ม การทาฐานรากอาคารที่พักอาศัย ควรสารวจชั้นดินต่าง ๆ เพราะจะทาให้ทราบถึงพฤติกรรมการรับ แรงของชั้นดิน ผู้ออกแบบสามารถออกแบบประเภท ขนาด ความยาวของเสาเข็ม เพ่ือให้เหมาะสมกับ สภาพของดินทจ่ี ะรบั น้าหนกั ทัง้ หมดของอาคารไดอ้ ย่างปลอดภัย และถูกต้องตามหลักวศิ วกรรม 1.1 ประเภทของเสาเข็ม เสาเข็มที่ใช้กับอาคารบ้านเรือนท่ัวไป ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลกั ษณะของการผลิต และการใช้งาน ดงั นี้ 1) เสาเข็มตอก (Driven pile) 2) เสาเขม็ เจาะ (Bored pile) 1.2 ชนดิ ของเสาเข็ม เสาเขม็ อาจจาแนกตามวัสดุ ดังน้ี 1) เสาเขม็ ไม้ (Timber pile) 2) เสาเขม็ คอนกรตี (Concrete pile) 3) เสาเข็มเหล็ก (Steel pile) 4) เสาเขม็ คอนกรตี อดั แรง 1.3 การหาตาแหน่งศูนย์ของเสาเขม็ ในการหาตาแหน่งศูนย์เสาที่ตอกเข็มด้วยแรงคนให้ขุดดินข้ึนมาก่อน แต่หากเป็นการตอกเข็ม โดยใช้ป้ันจ่ันตอกด้วยลูกตุ้มที่มีน้าหนัก 500 – 600 กิโลกรัม หรือใช้ลูกตุ้มท่ีมีน้าหนัก 1 – 2 ตัน สาหรับ ตอกเขม็ ทม่ี คี วามยาว 18 – 21 เมตร เม่อื ตอกเขม็ เสรจ็ เรยี บรอ้ ยจะขุดดินทาฐานรากภายหลัง 2. การตอกเสาเข็ม การตอกเสาเข็มจะเรม่ิ งานได้เม่ือตีผังเสรจ็ เรยี บร้อย งานตอกเขม็ โดยทว่ั ไปผ้ทู าการก่อสรา้ งอาจตอก เอง หรือใหผ้ ูร้ ับเหมาตอกเข็มทาการตอก การตอกเข็มมี 2 วิธี คือ 2.1 การตอกเข็มด้วยแรงคน 2.2 การตอกเขม็ ด้วยปน้ั จัน่ 3. การเคลื่อนย้ายป้นั จั่น การเคล่ือนย้ายป้ันจ่ัน ผู้ควบคุมงานตอกต้องอ่านแบบแปลนฐานราก และวางแผนการตอก เพ่ือลด ค่าใช้จ่าย การตอกใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน สาหรับอาคารพักอาศัย การเคล่ือนป้ันจ่ันจะเดินไปตามลูกศรจาก การตอก และแต่ละคร้ังต้องเสียเวลาเอาสลิงไปยึดหลักดึงตัวให้เล่ือนไปบนรางท่ีทาจาระบี เพื่อให้การ เคล่ือนที่ได้ดี การเคล่ือนปั่นจ่ัน จะเดินไปตามลูกศรจากการตอก ฐานรากตัวที่ 1 ในแบบมีเสาเข็ม 2 ต้น และฐานราก 2 – 3 เป็นลาดับ การเคล่ือนป่ันจ่ันแต่ละครั้ง จะต้องเสียเวลาเอาสลิงไปยึดหลักแล้วดึงตัวให้ เลือนไปบนรางทบ่ี นจาระบใี ห้ลื่น จะมีผลตอ่ การเคลอื่ นทไ่ี ด้ 4. ประเภทของฐานราก ฐานราก คือ ส่วนประกอบในการก่อสร้างที่เป็นส่วนรองรับน้าหนักของอาคารบ้านเรือนทั้งหมด เร่ิม จากถ่ายน้าหนักจากคานลงท่ีเสาก่อนจะลงสู่ดิน หรือหิน มีการกาหนดฐานรากในการก่อสร้างให้มีหลาย ประเภทเพ่ือความเหมาะสม และความสะดวกในการใช้งานท่ีถูกต้อง ซ่ึงอาจจะแบ่งฐานรากเป็นประเภท
ใหญ่ ๆ ได้ดงั นี้ 4.1 ฐานใตก้ าแพง หรือฐานแบบต่อเน่ือง (Strip footing) 4.2 ฐานเด่ียว (Isolated footing) 4.3 ฐานร่วม (Common footing) 4.4 ฐานตนี เป็ด หรือฐานชดิ เขต (Strap footing) 4.5 ฐานแพ (Raft or Mat foundation) 5. การประกอบแบบ การตดิ ต้ัง และการยดึ แบบหล่อคอนกรีตฐานราก ในการประกอบแบบ การติดต้ัง และการยึดแบบหล่อคอนกรีตฐานราก มีขัน้ ตอนดังตอ่ ไปน้ี 5.1 การขุดหลมุ ฐานราก ขุดดนิ ให้มคี วามลึก ขนาด และตาแหนง่ ถูกตอ้ งตามแบบก่อสรา้ ง อาจใชค้ นขุด หรือเครอ่ื งจกั รกล และหาระดบั ความลึกของฐานราก ในการขดุ ดินควรเผื่อการบดอัดทราย หรือกรวด เทคอนกรีตหยาบ (lean concrete) เผื่อการเข้าแบบด้านข้าง ถา้ ดนิ มีลักษณะดนิ อ่อนการขดุ ดินควรใหม้ ีความลาด เพอื่ ปูองกันดินพงั ทลายขณะก่อสร้างฐานราก และระวงั อยา่ ใหโ้ ดนเสาเข็ม เพราะจะทาใหเ้ สาเข็มหัก และ เสยี หายได้ เม่ือขุดไดร้ ะดับที่ต้องการ ทาระดบั ตัดหวั เขม็ ให้สามารถวางฐานรากได้ตามแบบกาหนด 5.2 การตรวจสอบผงั และตาแหน่งศนู ยเ์ สาเข็ม ชา่ งต้องตรวจสอบผังทีว่ างเอาไวต้ งั้ แต่ตอนตอกเข็มก่อนทาการเช็คศูนย์เสา โดยเช็คจากหมุด อา้ งอิงทที่ าไว้ตอนวางผงั ตรวจสอบศูนยเ์ สาเข็ม เพื่อไม่ให้เสาเขม็ หนศี ูนย์เกินกว่าค่าทว่ี ศิ วกรผู้ออกแบบได้ ออกแบบไว้ หากหนีศนู ย์เกินกวา่ ค่าที่กาหนดควรทาการแก้ไข โดยตอกเสาเข็มแซม ซงึ่ ขนึ้ อย่กู ับดลุ พินิจ ของวศิ วกรผู้ออกแบบ 5.3 การตดิ ต้งั แบบหล่อฐานราก การประกอบแบบหล่อฐานราก ควรทาความสะอาดหลุมฐานรากก่อนประกอบแบบหล่อ โดยที่ แบบหลอ่ อาจเปน็ ไม้ เหลก็ หรือก่ออิฐบลอ็ กทาเป็นแบบหล่อ การใช้อิฐบล็อกเป็นแบบหล่อ จะรวดเร็ว และ สะดวกกว่าไม้แบบ เพราะไม่ต้องเสียเวลาถอดแบบหล่อ ขนาดของไม้แบบส่วนใหญ่ใช้ขนาด น้ิว และไมข้ นาด น้ิว แบบท่ีดีควรจะไม่มีน้าปูนไหลออกมา การตีโครงยึดใช้ไม้เคร่าขนาด นิ้ว ตียดึ เปน็ โครงสามเหลย่ี มจะมีความแขง็ แรงรับกาลงั ไดด้ ี 5.4 การเสริมเหล็กงานฐานราก การเสริมเหลก็ ฐานราก ต้องเป็นตามแบบก่อสร้าง ทั้งขนาด จานวนเส้น ระยะห่างการวางเหล็ก การงอเหลก็ รวมท้งั ระยะหุ้มคอนกรตี ฐานรากอย่างต่า 5 - 7.5 เซนติเมตร 6. วสั ดุ เคร่อื งมือและอปุ กรณ์งานฐานราก 6.1 วสั ดคุ อนกรตี 1) ปนู ซเี มนต์ ( Cement) คือ มวลรวมละเอยี ดท่มี สี ารประกอบของแคลเซยี มเป็นหลัก เมอ่ื ผสม กับนา้ จะทาหนา้ ทีเ่ ชอื่ มประสานกับหิน ทรายและวัสดุอนื่ ๆ ให้แข็งติดกัน สามารถกอ่ ตวั ไดท้ ้งั ในนา้ อากาศ และสามารถรบั แรงอัดได้ 2) หิน ( Rock) หินท่ีเหมาะในการทาคอนกรีตมากท่ีสุดจะต้องเป็นเหล่ียมมีความแข็งมีผิวขรุขระ และทนตอ่ การสึกหรอได้ดี 3) ทราย ( Sand) ทรายที่เหมาะสมในการผสมคอนกรีต จะเป็นทรายจากแม่น้าลาครอง เพราะ สะอาด มีความแข็งแกร่งมีเหลี่ยมคม ทรายหยาบใช้ในการผสมคอนกรีต และคนงานจะต้องใช้ขนาด
ประมาณ 2 – 3 มิลลิเมตร 4) นา้ (Water) นา้ เป็นปจั จัยสาคัญที่ชว่ ยหนิ และทรายผสมกันเปน็ คอนกรีต น้าทผ่ี สมคอนกรีต จะตอ้ งไม่เปน็ กรดหรือด่าง ไม่มีรส ไมม่ สี ี ไม่มกี ลนิ่ อัตราส่วนของนา้ ที่ใช้ผสมคอนกรตี จะเปน็ ตวั กาหนด ความแข็งของคอนกรีต 5) สารเคมีผสมเพิ่ม หมายถงึ สารเคมที ี่ใช้ผสมคอนกรตี นอกเหนือจากข้อที่กล่าวมา เพ่ือเพ่มิ หรือ ปรบั ปรุงคุณสมบตั ิบางประการของคอนกรีต 6.2 วัสดุงานไม้ 1) งานไมแ้ บบหล่อคอนกรตี จะใช้ไม้กะบากในการทาแบบหล่อไม้ มคี วามหนาที่ 1- 1 ½ นิว้ มี หน้ากวา้ งตัง้ แต่ 6 8 หรอื 10 นิ้ว 2) ไม้เคร่ายึดไม้แบบ ไม้ที่ใช้ส่วนมากนิยมใช้ ไม้ยาง จะใช้ไม้มีความหนาท่ี 1 ½ นิ้ว มีหน้า กวา้ ง 3 นิ้ว 6.3 วสั ดุงานโลหะ 1) เหล็กเสน้ กลม (Round Bars ; RB) ตามมาตรฐาน มอก. 20 – 2543 ไดก้ าหนดให้ เหลก็ เส้นกลมมชี ้ันคุณภาพเดียว ใชส้ ัญลักษณ SR24 2) เหลก็ ขอ้ อ้อย (Deformed Bars ; DB) โดยผิวของเหล็กมีลักษณะเปน็ ปล้องๆ คลา้ ยอ้อย จึงเรียกว่าเหล็กข้ออ้อย ตามมาตรฐาน มอก. 24 – 2548 3) ลวดผูกเหล็ก (Binding Wire) เปน็ ลวดที่ใช้ในการผูกเหลก็ เส้นในงานคอนกรตี เหลก็ เพ่ือให้ อยใู่ นรปู ของเสาหรือคาน หรืออยู่ในรูปของตะแกรงพืน้ อยไู่ ด้ โดยตามมาตรฐาน มอก. 138 - 2518 ได้ กาหนดใหเ้ ปน็ ลวดเบอร์ 18 6.4 เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ในงานฐานราก 1) ถงั เปลผสมปนู ใช้ผสมปูนกบั ทรายและอ่างเปลกย็ ังใชง้ านได้สารพัดประโยชน์ เช่น ผสมปนู ฉาบ คอนกรตี 2) จอบและพล่ัว ใช้ขดุ ดินและผสมคลกุ เคล้าส่วนผสม ซ่งึ ไดแ้ ก่ ปูน ทราย ให้เขา้ กันการเกบ็ รักษา หลังจากเลิกใช้งานแล้ว ตอ้ งล้างใหส้ ะอาดทกุ ครงั้ 3) ถงั น้าหรือถังใส่ปูน ใชส้ าหรบั ใสป่ นู ที่ผสมแลว้ นอกจากน้นั ยงั ใช้หิ้วปนู และตวงส่วนผสมอีก ด้วย เลกิ ใช้แล้วตอ้ งลา้ งใหส้ ะอาด 4) ค้อนหงอน สว่ นประกอบของคอ้ นแบ่งออกเป็น 2 สว่ นคือ ส่วนหัวและสว่ นด้ามใชส้ าหรับ ตอกและถอนตะปู ตอกสวิ่ ตอกไม้ 5) คีมผกู เหล็ก ใช้สาหรับตัดลวดหรือผูกเหล็กใหแ้ ข็งแรงก่อนทจ่ี ะเทปนู 6) ฉากเหลก็ คอื เคร่อื งมือทีใ่ ช้เพื่อวดั ขนาดการสร้างมุมฉาก ตรวจสอบการได้ฉาก ซ่งึ ฉาก สามารถนาไปตรวจหาแนวมุมฉากของการทาแบบหลอ่ ฐานราก 7) ระดบั นา้ เป็นเคร่อื งมือสาคัญอีกอย่างหนึ่ง พอๆ กับลูกด่ิง เพราะระดบั น้าใช้จบั ระดับใน การประกอบแบบฐานราก 8) ตลบั เมตร ใชส้ าหรับวัดระยะ มลี กั ษณะเป็นตลบั สเี่ หล่ียมขนาดพอจับมือ ตวั ตลบั ทาด้วย โลหะหรือพลาสตกิ ส่วนแถบวัดทาดว้ ยเหล็กบางเคลือบสี มมี าตราวดั ทั้งระบบอังกฤษและระบบเมตรกิ 9) ตะปู เปน็ เหลก็ แทง่ ทรงยาวใชส้ าหรับยึดตดิ ชิน้ งาน ใหไ้ ด้รูปทรงตามต้องการ เพ่ือทาให้ ชน้ิ งานสามารถรับแรงเสียดทานไดม้ าก
7. การผสมคอนกรตี และการเทคอนกรีตฐานราก ก่อนเทคอนกรตี จะต้องทาความสะอาด หาระดับการเทคอนกรีตโดยการวัดจากระดับหัวเสาเป็นความ หนาของฐานรากแลว้ ทาเครอื่ งหมายไว้ และราดน้าปูนในแบบหล่อกอ่ น 7.1 การเตรยี มวสั ดผุ สมคอนกรีต การเตรยี มวัสดผุ สมคอนกรีต คอนกรตี ประกอบดว้ ย ปูน หิน ทราย น้า และน้ายาผสมคอนกรีต (ถา้ มี) 7.2 การผสมคอนกรตี การผสมคอนกรีตผสมได้หลายวิธี เช่น ผสมด้วยแรงคน โดยใช้พลั่วหรือจอบผสมปูน ผสมด้วย เคร่ืองผสมคอนกรีตขนาดเล็กสาหรับผสมคอนกรีต โดยใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนหม้อผสม หรือเป็นเครื่อง ผสมคอนกรตี ขนาดใหญ่จากโรงงาน และบรรทุกมาสง่ ยงั ทก่ี อ่ สร้าง 7.3 การเทคอนกรตี การเทคอนกรีตลงไปในแบบหล่อ ไม่ควรเทคอนกรีตใหก้ ระทบโดยตรงกับเหล็กเสรมิ หรอื ข้างแบบ ควรเทคอนกรตี ลงมาตรงๆ และไม่ควรใหค้ อนกรีตไหลไปในแนวราบเป็นระยะทางไกล ตอ้ งระวงั อยา่ ให้ คอนกรีตส่วนแยกออกจากกนั เพราะจะทาให้คอนกรีตเสียกาลัง เชน่ ในกรณีท่เี ทคอนกรีตในระยะท่สี ูง มาก ๆ อาจทาให้วสั ดผุ สมแยกตัวกนั จะใช้ทอ่ ลาเลียงลงไป เพ่อื ให้คอนกรตี แทรกตัวเข้าไปในแบบหลอ่ ได้ ท่ัวถงึ และแน่นขณะเทจะต้องใชเ้ ครอ่ื งเขย่าคอนกรีต เรียกว่า เครอ่ื งสนั่ (Vibrator) 7.4 การถอดแบบฐานราก และการบม่ คอนกรีต การถอดแบบด้านขา้ งของฐานรากสามารถถอกแบบไดภ้ ายในเวลา 1-2 วนั เม่ือถอดแบบให้ทาการ บม่ คอนกรตี เพ่ือให้คอนกรตี มีกาลงั อัด ทนทาน ไมส่ ึกกร่อน และลดการหดตวั ในการบ่มคอนกรีตอาจใช้ วิธกี ารขงั นา้ ฉดี นา้ ใช้วัสดเุ ปยี กช้นื คลมุ ใชแ้ ผน่ พลาสตกิ คลมุ ใชไ้ ม้แบบหล่อบ่ม หรอื ใช้สารเคมีเคลือบผิว คอนกรีต
แผนการสอน หน่วยท่ี 3 แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 3 สอนคร้ังท่ี 6-7 เวลา 4 ชวั่ โมง ชือ่ วิชา วัสดุและวธิ กี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง ช่ืองาน งานฐานราก คาสั่ง จงตอบคาถามต่อไปน้ี 3. เสาเขม็ แบ่งตามลกั ษณะของการผลติ และการใชง้ านมกี ่ปี ระเภท อะไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ชนิดของเสาเข็มจาแนกตามวัสดุได้กีช่ นดิ อะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การตอกเข็มท่ีมคี วามยาว 18 – 21 เมตร ควรใช้ลกู ตุ้มหนกั ก่ตี นั ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การผสมคอนกรีต ทาได้กี่วิธี อะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. การหยุดการตอกเสาเข็มแบง่ เป็น 2 ลักษณะคือ ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. ระยะการยกลกู ตุ้มโดยทั่วไปมรี ะยะสงู เทา่ ไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. ฐานราก คือ ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………
8. ฐานรากแบง่ ออกไดก้ ่ปี ระเภท อะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. ขนาดของไม้แบบฐานรากส่วนใหญ่ใช้ขนาดกน่ี ว้ิ ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. ลวดผกู เหลก็ นิยมใชเ้ บอรอ์ ะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการสอน หน่วยที่ 3 แบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยท่ี 3 สอนครัง้ ท่ี 6-7 เวลา 4 ชว่ั โมง ชอ่ื วิชา วสั ดแุ ละวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง ช่อื งาน งานฐานราก จงเลอื กคาตอบทีถ่ ูกที่สุดเพยี งขอ้ เดยี วจากคาถามต่อไปนี้ 1. เสาเข็มแบ่งได้ก่ีประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 2. เสาเขม็ เจาะระบบแห้ง สามารถเจาะลึกได้เท่าใด ก. 20 เมตร ข. 30 เมตร ค. 40 เมตร ง. 50 เมตร 3. ข้อใดคือ สารเคมีทใี่ ชใ้ นการเคลือบผิวหลมุ ดนิ ท่เี จาะ ก. Asphalt ข. Bentonite ค. Benzene ง. Calcaium 4. การเช็คค่า การนบั จานวนคร้ังในการตอกเสาเขม็ (Blow Count) ทาเพ่ืออะไร ก. เพ่ือตอ้ งการทราบความยาวของเสาเขม็ ข. เพ่อื กาหนดขนาดของเสาเข็ม ค. เพือ่ ตรวจสอบความผิดปกติของเสาเข็ม ง. เพ่อื ให้ปน้ั จน่ั ตอกได้ตามข้อกาหนด 5. การตอกเสาเขม็ ไมค่ วรตอกเกินก่ีครัง้ ต่อ ชว่ ง 1 ฟตุ ก. 25 ครงั้ ข. 50 ครัง้ ค. 75 ครง้ั ง. 100 ครั้ง
แผนการสอน หนว่ ยท่ี 3 แบบทดสอบหลังเรียนหนว่ ยที่ 3 สอนครง้ั ท่ี 6-7 เวลา 4 ชว่ั โมง ชื่อวิชา วัสดแุ ละวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง ชอื่ งาน งานฐานราก 6. การนับจานวนคร้ังในการตอกเสาเข็ม (Blow Count) ควรนบั ค่าจานวนกีค่ รง้ั ก. 1 ครัง้ ข. 2 คร้ัง ค. 3 คร้ัง ง. 4 ครั้ง 7. การเคล่ือนยา้ ยป้ันจนั่ ตอ้ งศกึ ษาข้อมูลที่สาคัญในข้อใด ก. สถานทีก่ ่อสรา้ ง ข. แบบแปลนฐานราก ค. ความเสยี หายจากการเคลือ่ นย้าย ง. ลวดสลงิ 8. ระยะเวลาที่เหมาะสมในการเคล่อื นย้ายปั้นจ่ันออกจากพ้ืนทกี่ ่อสร้าง คือข้อใด ก. 7 วัน ข. 8 วนั ค. 9 วนั ง. 10 วัน 9. ฐานรากอาคารมีก่ปี ระเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 10. ฐานรากเด่ยี วท่มี เี สาตอม่อหลายตน้ หมายถึง ฐานรากชนดิ ใด ก. ฐานรากคานร่วม ข. ฐานรากกลมุ่ ค. ฐานรากแผ่ ง. ฐานรากลกึ
แผนการสอน หน่วยที่ 3 แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยท่ี 3 สอนครงั้ ที่ 6-7 เวลา 4 ชัว่ โมง ชื่อวิชา วสั ดแุ ละวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง ชอ่ื งาน งานฐานราก 11. ขอ้ ใดคอื ฐานรากท่ใี ชร้ บั น้าหนกกาแพง ก. ฐานรากตนี เป็ด ข. ฐานรากแบบต่อเน่ือง ค. ฐานรากรว่ ม ง. ฐานรากเดยี่ ว 12. การประกอบแบบหล่อฐานราก ตามข้อใดถูกต้องที่สดุ ก. แบบประกอบง่าย ข. แบบมีความสวยงาม ค. แบบใช้ไดห้ ลายคร้ัง ง. แบบได้ขนาดตามแบบ 13. ฐานรากหนา 0.25 เมตร จะตอ้ งใช้ไมแ้ บบขนาดใดจงึ จะเหมาะสมท่ีสุด ก. ข. ค. ง. 14. การขุดดินอ่อนทาฐานราก ควรขุดให้มีความลาดเอยี ง (Slope) กอ่ี งศา ก. 15 - 30 องศา ข. 45 - 60 องศา ค. 70 - 80 องศา ง. 90 - 100 องศา 15. ขอ้ ใดคือ ขนาดของไม้เครา่ ยึดแบบ ก. ข. ค. ง.
แผนการสอน หนว่ ยที่ 3 แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยท่ี 3 สอนคร้งั ที่ 6-7 เวลา 4 ชว่ั โมง ช่ือวิชา วัสดุและวธิ ีการก่อสร้างงานโครงสร้าง ชือ่ งาน งานฐานราก 16. ไมท้ นี่ ยิ มมนามาทาแบบหลอ่ คือข้อใด ก. ไมย้ าง ข. ไมแ้ ดง ค. ไม้กะบาก ง. ไมต้ ะแบก 17. ข้อใดคอื ปูนซเี มนตท์ ใ่ี ชใ้ นงานฐานราก ก. ปนู ซเี มนตป์ อรต์ แลนด์ประเภทที่ 1 ข. ปูนซีเมนต์ปอรต์ แลนดป์ ระเภทที่ 2 ค. ปูนซเี มนตป์ อรต์ แลนด์ประเภทท่ี 3 ง. ปูนซเี มนต์ปอรต์ แลนด์ประเภทที่ 4 18. คอนกรีต 1 : 3 : 5 ใช้ในสว่ นใดในงานฐานราก ก. ปรบั ระดับกน้ หลุมฐานราก ข. ฐานรากอาคารขนาดเลก็ ค. เทเปน็ แบบหล่อฐานราก ง. ใช้เทถมฐานราก 19. การถอดแบบดา้ นขา้ งฐานรากควรถอดแบบอยา่ งน้อยก่วี ันหลงั เทคอนกรีต ก. 2 วนั ข. 3 วัน ค. 4 วัน ง. 5 วัน 20. ระยะหมุ้ (Covering) ที่นอ้ ยทสี่ ุด ระหวา่ งคอนกรตี และเหล็กเสริมฐานรากในสว่ นทส่ี ัมผสั กบั ดนิ ควรเป็นเทา่ ใด ก. 1 เซนติเมตร ข. 2 เซนติเมตร ค. 3 เซนติเมตร ง. 5 เซนติเมตร
แผนการสอน หน่วยที่ 3 กิจกรรมทา้ ยหน่วยเรยี นที่ 3 สอนครั้งท่ี 6-7 ชอื่ วิชา วัสดแุ ละวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสรา้ ง เวลา 4 ช่วั โมง ชื่องาน งานฐานราก 1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่มศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิควิธีการทางาน โครงสร้างฐานราก แล้วสง่ ตวั แทนกลุม่ ออกมานาเสนอ พร้อมการแสดงรูปภาพประกอบ ตามกลุ่มดังน้ี กลุ่มที่ 1 การตอกเสาเขม็ และการเคล่ือนยา้ ยเสาเข็ม กลุม่ ที่ 2 การประกอบแบบ การตดิ ต้ัง และการยดึ แบบหล่อคอนกรีตฐานราก 2. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย สรุปข้ันตอนเทคนิควิธีการทางานโครงสร้างฐานรากอาคาร พรอ้ มทั้งยกตวั อย่าง งานกอ่ สร้างอาคารที่นักเรียนพบเหน็ ในชีวิตประจาวัน
แผนการสอน หน่วยท่ี 3 แบบประเมนิ ผลกจิ กรรมสังเกตพฤตกิ รรมการทางาน รายบุคคลและรายกลมุ่ ชือ่ วิชา วัสดแุ ละวิธีการก่อสร้างงานโครงสร้าง สอนคร้ังที่ 6-7 ชื่องาน งานฐานราก เวลา 4 ชว่ั โมง ชื่อเรอ่ื ง ................................................................................................................................... หวั ข้ออภิปราย ......................................................................................................................... ชอ่ื กลุ่ม ..................................................................................................................................... สมาชกิ กลุ่ม 1. ................................................ 2. ................................................ 3. ............................................... 4. ................................................ 5. ................................................ 6. ................................................ รายการประเมิน คะแนนเตม็ ผลคะแนน หมายเหตุ 21. การเตรยี มความพร้อมในการนาเสนอ 10 ………….. ผล/คะแนน 22. การมอบหมายหน้าท่ีกลุม่ 10 ………….. ดมี าก = 80 – 100 23. ความรับผิดชอบ 10 ………….. ดี = 70 – 79 24. การทางานเป็นทมี 10 ………….. ปานกลาง = 60 – 69 25. การแต่งกาย/บคุ ลิกภาพ 10 ………….. พอใช้ = 50 – 59 26. ความชดั เจนในการนาเสนอ 10 ………….. ปรบปรุง = 0 – 49 27. การอภปิ รายกลุ่ม 10 ………….. คะแนนเต็ม 28. ความชดั เจนในการนาเสนอ 10 ………….. รวม 100 คะแนน 29. การตอบข้อซกั ถาม 10 ………….. 30. การจดั เก็บเคร่อื งมอื อุปกรณ์ 10 ………….. รวมคะแนนที่ได้ ลงช่ือ………………………………ผู้ประเมนิ (……………………………………..) ………../…………………/………………
แผนการสอน หน่วยท่ี 3 ช่ือวิชา วัสดุและวิธีการก่อสรา้ งงานโครงสรา้ ง สอนครงั้ ท่ี 6 - 7 จานวน 4 ชว่ั โมง ชอ่ื หน่วย งานฐานราก 4. กิจกรรมการเรียนการสอน ขนั้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขน้ั ตอนการเรียนร้หู รอื กิจกรรมของนกั เรยี น ขนั้ เตรียม (20 นาท)ี ขนั้ เตรียม (20 นาท)ี 1. จดั เตรียมเอกสาร สอ่ื การเรยี นการสอน 1. จัดเตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนตามที่ ตัวอย่าง งานฐานราก การมอบหมายงาน และวิธีวัดผล ครูผู้สอนและบทเรียนกาหนด เตรียมตัวทดสอบก่อน ประเมินผล เรยี นเร่ือง งานฐานราก 2. ทดสอบก่อนเรียนเรื่อง งานฐานราก แล้วให้ 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนเร่ือง งานฐานราก แล้ว นกั ศกึ ษาสลับกันตรวจคาตอบ และใหค้ ะแนน สลับกนั ตรวจคาตอบ 3. แจง้ จุดประสงค์การเรียนของหน่วยที่ 3 และการให้ 3. ทาความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนของ ความรว่ มมือของนกั ศกึ ษาในการทากิจกรรม หนว่ ยท่ี 3 และการให้ความร่วมมือในการทากิจกรรม ขน้ั การเรียนการสอน (200 นาที) ขั้นการเรยี นการสอน (200 นาที) 1. ครูอธิบาย และยกตัวอย่างถึง ประเภท และชนิด 1. นักศกึ ษาฟัง และคิดตามพรอ้ มทงั้ จดบนั ทึกเกย่ี วกบั ของเสาเข็ม หลักการ และวิธีการตอกเสาเข็ม ประเภท และชนิดของเสาเขม็ หลักการ และวธิ ีการ หลักการเคลื่อนย้ายปั้นจั่น ประเภทของฐานราก ตอกเสาเขม็ หลกั การเคลื่อนย้ายปัน้ จัน่ ประเภทของ หลกั การประกอบแบบ และติดต้ัง และการยึดแบบหล่อ ฐานราก หลักการประกอบแบบ และตดิ ตั้ง และการยึด คอนกรีต ฐานราก การเลือกใช้วัสดุ เคร่ืองมือและ แบบหลอ่ คอนกรตี ฐานราก การเลอื กใช้วสั ดุ เครอื่ งมือ อุปกรณ์ในงานฐานราก และหลักการผสม และเท และอปุ กรณ์ในงานฐานราก และหลกั การผสม และเท คอนกรีตฐานราก พร้อมกับแจกใบความรู้ประกอบการ คอนกรีตฐานราก พรอ้ มกับศึกษาใบความรปู้ ระกอบการ เรยี นการสอน โดยใช้ใบความรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง งานฐานราก เรยี นการสอน โดยใชใ้ บความรู้ที่ 3 เรอื่ ง งานฐานราก 2. ครใู ห้นักศกึ ษาแบ่งกลมุ่ นักศกึ ษา กลุ่มออกเป็น 2 2. นักศึกษาเข้ากลุ่มตามท่ีครูจัดแบ่ง แล้วปฏิบัติ กล่มุ แลว้ มอบหมายให้นกั ศึกษาปฏิบัติกิจกรรมท้าย กิจกรรมทา้ ยหนว่ ยท่ี 3 เร่อื ง งานฐานราก โดยนักศึกษา หนว่ ยท่ี 3 เรอื่ ง งานฐานราก โดยให้นักศึกษาแตล่ ะ แตล่ ะกลมุ่ อภิปรายแนวคดิ เกี่ยวกับเทคนิควิธีการทางาน กลุม่ อภปิ ราย แนวคิดเก่ียวกบั เทคนคิ วิธีการทางาน โครงสร้างฐานราก โดยดูตัวอย่างจาก ใบความรู้ที่ 3 โครงสร้างฐานราก โดยดูตัวอย่างจาก ใบความรู้ที่ 3 เร่อื ง งานฐานราก เรอื่ ง งานฐานราก
แผนการสอน หน่วยที่ 3 ช่อื วิชา วัสดแุ ละวิธกี ารก่อสร้างงานโครงสร้าง สอนครง้ั ท่ี 6-7 จานวน 4 ชว่ั โมง ช่ือหน่วย งานฐานราก 3. กิจกรรมการเรียนการสอน (ตอ่ ) ข้นั ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ข้ันตอนการเรียนรู้หรอื กิจกรรมของนกั เรยี น จากนั้นให้นักศึกษาร่วมกันสรุป “เทคนิควิธีการ จากน้ันนักศึกษาร่วมกันสรุป “เทคนิควิธีการทางาน ทางานโครงสร้างฐานราก” ให้บันทึกผลและรายงาน โครงสร้างฐานราก” ให้บันทึกผลและรายงานหน้าชั้น หน้าชั้นเรียนได้อย่างอิสระ โดยจัดทาสื่อประกอบการ เรียนได้อย่างอิสระ ให้จัดทาสื่อประกอบการรายงาน รายงานด้วย เม่ือรายงานหน้าชั้นเรียนแล้วให้ผู้ฟัง ด้วย เม่ือรายงานหน้าชั้นเรียนแล้วให้ผู้ฟังซักถาม ซักถามปัญหา ข้อสงสัยเกี่ยวกับ “เทคนิควิธีการ ปัญหา ข้อสงสัยเก่ียวกับ “เทคนิควิธีการทางาน ทางานโครงสร้างฐานราก ” จากน้ันให้ผู้รายงานต้ัง โครงสร้างฐานราก ” จากนั้นให้ผู้รายงานต้ังคาถาม คาถาม เพ่ือถามผู้ฟังอย่างน้อย 2 คาถาม โดยให้ผู้ฟัง เพื่อถามผู้ฟังอย่างน้อย 2 คาถาม โดยให้ผู้ฟังแสดง แสดงความคิดเห็นภายในช้ันเรียนได้อย่างอิสระ ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ภ า ย ใ น ชั้ น เ รี ย น ไ ด้ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ (Democracy ดา้ นประชาธิปไตย:3D) (Democracy ดา้ นประชาธปิ ไตย:3D) ข้นั สรปุ (20 นาที) ข้นั สรปุ (20 นาที) 1. ครูสรุปจากที่นักศึกษานาเสนอข้อมูลพร้อม 1. นักศึกษารับฟังคาสรุปและข้อแนะนาจากครู ทั้งอธิบายเพิ่มเตมิ และสรุปเน้ือหาตามจุดประสงค์เชิง พร้อมท้ังจดบันทึกข้อมูล และซักถามหรือตอบคาถาม พฤตกิ รรม ตามหัวข้อสาระสาคัญพร้อมท้งั ปลูกฝังให้ หรือแสดงความคิดเห็น ในหวั ขอ้ ที่ยังไม่เข้าใจพร้อมท้ัง นักศึกษาเอาใจใส่ในการเรียนรู้ ดูหนังสืออย่าง รับฟงั การปลูกฝังจากครผู ู้สอนเร่ืองการเอาใจใส่ในการ สม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่นกีฬาอยู่เสมอเพ่ือให้ เรียนรู้ ดูหนังสืออย่างสม่าเสมอ และส่งเสริมให้เล่น ร่างกายแข็งแรงความจาดี เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็น กฬี าอยเู่ สมอเพอื่ ให้ร่างกายแข็งแรงความจาดี เป็นการ ประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจากยาเสพติดอย่าง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ (ส่งผลทาให้ห่างไกลจาก แท้จริง Drug-Free ด้านภูมิค้มุ กันภยั จากยาเสพติด : ยาเสพติดอย่างแท้จริง Drug-Free ด้านภูมิคุ้มกันภัย 3D ) จากยาเสพติด : 3D )
แผนการสอน หน่วยท่ี 3 ช่ือวิชา วัสดแุ ละวธิ ีการก่อสร้างงานโครงสร้าง สอนคร้ังท่ี 6 - 7 ชื่อหน่วย งานฐานราก จานวน 4 ช่วั โมง 1. กจิ กรรมการเรียนการสอน (ต่อ) ขั้นสรปุ (20 นาที) (ตอ่ ) 2. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ข้ันสรุป (20 นาที) (ต่อ) 3. นกั ศึกษานาคะแนนจากแบบทดสอบกอ่ น 2. แจกแบบทดสอบหลังเรียน เรียนและหลังเรียนมาเปรยี บเทียบกนั ว่าเปน็ 3. ครตู รวจแบบทดสอบพรอ้ มกบั บนั ทึก อยา่ งไรมผี ลตา่ งกันอยา่ งไร เพอ่ื ดูความกา้ วหนา้ ของตนเอง คะแนน 4. นกั ศึกษาทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียน 4. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรียน (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรียน) (รวม 240 นาที หรอื 4 คาบเรียน)
2. งานท่มี อบหมายหรอื กจิ กรรมการวดั ผลและประเมินผล กอ่ นเรียน 1. จัดเตรยี มเอกสาร สอ่ื การเรยี นการสอนตามท่ีอาจารยผ์ ู้สอนและบทเรยี นกาหนด 2. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนเร่ือง งานฐานราก แล้วสลับกนั ตรวจคาตอบ 3. ทาความเข้าใจเกย่ี วกับจุดประสงคก์ ารเรยี นของหน่วยท่ี 3 และการใหค้ วามร่วมมอื ใน การทากิจกรรมในหนว่ ยที่ 3 ขณะเรยี น 1. ปฏิบตั ิตามกิจกรรมทา้ ยหน่วยท่ี 3 เรื่อง งานฐานราก 6. ดูตวั อย่างใบความร้ทู ี่ 3 เรื่อง งานฐานราก 7. ร่วมกันสรปุ “เทคนิควิธีการทางานโครงสร้างฐานราก” เป็นแผนภาพแสดง โครงสร้างฐานราก 8. จดั ทาสอ่ื ประกอบการรายงาน 9. รายงาน หน้าช้ันเรยี นเรือ่ ง “เทคนิควิธกี ารทางานโครงสร้างฐานราก” หลงั เรยี น 1. ทาแบบทดสอบหลังเรยี น 2. ทาแบบฝกึ หดั ท้ายบทเรียน 3. ทากจิ กรรมทา้ ยหน่วยเรยี น 3. ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสาเร็จของผเู้ รียน 1. ผลสาเรจ็ จากการปฎิบัตงิ านกจิ กรรมท้ายหน่วยเรียนตามทไี่ ดม้ อบหมายในหน่วยที่ 3 เรื่อง งานฐานราก 2. ผลสาเร็จจากการปฎบิ ตั งิ านจากแบบฝึกหัดท้ายหน่วยเรยี นตามทไ่ี ด้มอบหมายในหน่วย ที่ 3 เรือ่ ง งานฐานราก 4. สอื่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้ สื่อสิ่งพมิ พ์ 3. หนังสอื เรียนวชิ า วสั ดุกอ่ สรา้ ง ของ พงศพนั วรสุนทโรสถและวรพงศ์ วรสนุ ทโรสถ 4. หนงั สอื เรยี นวิชา เทคนิคก่อสรา้ ง ของ พิภพ สนุ ทรสมัย 3. แบบทดสอบก่อนเรียน 4. ใบความรู้ท่ี 3 เรอื่ ง งานฐานราก 5. กิจกรรมทา้ ยหนว่ ยที่ 3 เรื่อง งานฐานราก 6. แบบทดสอบหลังเรยี น 7. แบบฝกึ หัดท้ายบทเรยี น 8. แบบเฉลยทดสอบกอ่ นเรียน - หลังเรยี น และแบบฝึกหัดท้ายบทเรยี น ใชป้ ระกอบใน ข้นั เตรยี มและขนั้ สรปุ 9. แบบประเมนิ ผลกิจกรรมสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคลและรายกลุ่ม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227