Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

แผนการสอนวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Published by Sarida Bunprakhong, 2021-11-09 15:09:43

Description: แผนการสอนวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Search

Read the Text Version

101 แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 4 จำนวน 3 ชั่วโมง สปั ดาห์ที่ 5-6 ช่อื วิชา ธุรกจิ และการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ สอนครัง้ ท่ี 5-6 ชื่อหนว่ ย/เรอ่ื ง ธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ จำนวน 3 ช.ม. 1. แนวคดิ การประกอบธุรกิจใด ๆ ก็ตามต้องมีจุดมุ่งหมายด้วยกันทั้งนั้น ธุรกิจจึงมีความสำคัญต่อการดำเนิน ชีวิตมาก เพราะเป็นที่ผลิตสินค้าหรือบริการที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินชีวิต และผลิตสิ่งอำนวยความ สะดวกอีกด้วย การผลิตของธุรกิจถือเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ และมีผลต่อระบบเศรษฐกิจของ ประเทศ ผู้ประกอบการเป็นผู้ท่ีคิดริเริ่มจัดตั้งธุรกิจข้ึนมาเป็นของตนเอง มีการวางแผนการดำเนินงาน และ ดำเนินธรุ กิจด้วยตนเอง โดยมองเหน็ โอกาสทางธุรกจิ และยอมรบั ความเส่ียงทีอ่ าจเกดิ ขนึ้ ได้ เพื่อหวังผลกำไรที่ เกิดจากผลการดำเนินงานธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเป็น ผปู้ ระกอบการเพ่มิ เตมิ เพ่อื ใหธ้ ุรกจิ ดำเนนิ ไปตามจดุ มุ่งหมายท่ีตนเองไดก้ ำหนดไว้ 2. ผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวัง 1.อธิบายความหมายและความสำคญั ของธุรกจิ ได้ 2.บอกวัตถปุ ระสงค์และประโยชนใ์ นการประกอบธุรกจิ ได้ 3.บอกปจั จัยในการประกอบธรุ กจิ ได้ 4.อธบิ ายโครงสร้างระบบธรุ กจิ ได้ 5.บอกประเภทธรุ กจิ และรปู แบบการดำเนินธรุ กจิ ได้ 3. จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่คี รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทำการสอนในเรื่อง 1. ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2. ความมวี ินยั 3. ความรบั ผิดชอบ 4. ความซอื่ สัตย์สุจรติ

102 5. ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝ่รู้ 8. การละเวน้ ส่งิ เสพติดและการพนนั 9.ความรกั สามคั คี 10. ความกตญั ญูกตเวที 4. สมรรถนะรายวชิ า 1.แสดงความรเู้ กีย่ วกับหลกั การวางแผนเป้าหมายชวี ติ ด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กิจและการเป็น ผูป้ ระกอบการ หลกั การจดั การทางการเงิน หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ เบอ้ื งตน้ และกฎหมายท่เี ก่ียวข้อง 2.จัดทำแผนธุรกิจอยา่ งง่าย 3.ประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพมิ่ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนินงาน 5. สาระการเรียนรู้ 1.ความหมายและความสำคัญของธรุ กิจ 2.วัตถุประสงค์และประโยชนใ์ นการประกอบธุรกจิ 3.ปัจจยั ในการประกอบธุรกจิ 4.โครงสร้างระบบธุรกจิ 5.ประเภทธรุ กจิ และรูปแบบการดำเนินธุรกจิ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน 1.ครูและผู้เรียนสนทนากันว่าธุรกิจ (Business) เป็นกิจกรรมต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการผลิตสินค้าและ บริการโดยมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน และมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการประโยชน์ หรือกำไรจากการกระทำ กิจกรรมน้ัน 2.ครูเล่าเรื่องผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพในลักษณะต่าง ๆ และให้ ผูเ้ รียนแสดงความคดิ เห็น เพื่อเชือ่ มโยงเข้าสเู่ นือ้ หา 3.ครูแสดงรปู ภาพเกย่ี วกบั ธรุ กจิ

103 ขั้นสอน 4.ครูผู้สอนใช้เทคนิคโดยการอธิบายความหมายและความสำคัญของธุรกิจ พร้อมแสดงรูปภาพ ประกอบ เพื่อสื่อความรู้ ความเข้าใจ และสามารถฝึกทักษะการเรียนรู้ในเรื่องต่อไปนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ โดย ความตอ้ งการ ขัน้ พนื้ ฐานของ Maslow’s Hierarchy of Needs 5.ครูและผู้เรียนอธิบายวัตถุประสงค์และประโยชน์ในการประกอบธุรกิจ พร้อมใช้สื่อ Power Point ประกอบการเรียน โดยการประกอบธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทใดก็ตาม สิ่งที่ผู้ประกอบธุรกิจ ต้องการ คือ กำไรและยงั มีส่ิงอื่นอีกที่ธุรกจิ จะต้องคำนึงถึงเช่น ความรับผิดชอบต่อผูบ้ ริโภค ความรับผิดชอบ ต่อสงั คม ความรับผดิ ชอบต่อลกู จ้างพนกั งาน ฯลฯ 6.ครูและผู้เรียนร่วมกันอธิบายปัจจัยในการประกอบธุรกิจ โดยใช้สื่อ Power Point ประกอบการ เรยี น

104 7.ครูและผู้เรียนใช้สื่อ Power Point ประกอบเพื่อเรียนเรื่องโครงสร้างระบบธุรกิจ โดยการจัดการ ธรุ กจิ เพอ่ื ใชป้ ัจจัยการผลิตตา่ งๆ ผลติ สินค้าและบริการเพ่ือท่จี ะจดั จำหน่ายให้กบั ผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายจะได้ รายได้ เข้ามาในองค์การธรุ กิจธุรกจิ จะทำรายไดน้ ั้นมาจัดสรรให้กับเจ้าของปัจจัยการผลิตตา่ ง ๆ และอีกส่วน หนึง่ จะนำไปลงทุนตอ่ เพ่ือการขยายกิจการภายใต้ส่งิ แวดล้อมภายในและภายนอกองค์กร ซ่ึงจะครบวงจรของ ธุรกจิ อยา่ งงา่ ย ๆ การจดั การ เพอ่ื ขยาย ธุรกจิ ธุรกิจ ปัจจัยในการประกอบธรุ กจิ เข้าสู่ระบบธรุ กจิ (คน เงนิ วสั ดุ การจัดการ ฯลฯ) แบง่ เป็ นกาไรให้แก่เจา้ ของ เพือ่ นำมำผลิตสินค้ำ/บริกำร /ห้นุ ส่วนหรือผถู้ ือหนุ้ goods and services เพอื่ นาไปจาหน่าย รายได้ จัดสรรรายได้ (การตลาด วิธีการ) Income สง่ิ แวดลอ้ มภายใน (Internal Environment) ส่งิ แวดลอ้ มภายนอก (External Environment)

105 8.ครูและผู้เรียนร่วมกันอธิบายประเภทธุรกิจ และรูปแบบการดำเนนิ ธุรกิจ โดยใช้สื่อ Power Point และรปู ภาพประกอบ โดยการแบง่ ประเภทของธุรกิจแบ่งได้หลายลักษณะ เชน่ แบ่งตามลักษณะการดำเนนิ งาน แบ่งตามลักษณะความเป็นเจ้าของ แบ่งตามลักษณะของการประกอบการ หรือแบ่งตามลักษณะการจัด จำหนา่ ย ฯลฯ ซ่งึ แต่ละประเภทตา่ งก็มแี นวคดิ เหน็ ทแี่ ตกต่างกันออกไป 7. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนรายวิชา “ธรุ กจิ และการเป็นผูป้ ระกอบการ” ของบรษิ ัท สำนกั พมิ พ์เอมพนั ธ์ จำกดั 2. หนังสืออ่ืน ๆ ในหอ้ งสมดุ 3. เว็บไซต์ต่าง ๆ ท่เี ก่ียวขอ้ ง 4. นติ ยสาร, วารสารดา้ นการบริหาร ฯลฯ 8. หลกั ฐานการเรียนรู้ 8.1 หลักฐานความรู้ 1.การส่งงานของนกั เรียนมคี วามสมบรู ณค์ รบถ้วน 2. รูปเล่มรายงานกลมุ่ และรายงานเดีย่ วสามารถทำได้ดี 8.2 หลักฐานการปฏบิ ัติงาน 1.บันทึกการสอน 2.ใบเช็ครายชอื่ 3.แผนจัดการเรยี นรู้ 4.การตรวจประเมินผลงาน 9. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 9.1 เคร่อื งมือประเมิน 1.แบบสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2.แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3.แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและนกั เรียน รว่ มกนั ประเมนิ 4.แบบทดสอบท้ายบท 9.2 เกณฑก์ ารประเมิน 1.เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรบั ปรุง 2.เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)

106 3.แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ 10. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย (ถ้าม)ี 1. ผู้เรียนต้องมกี ารทบทวนบทเรยี นตลอด เพอ่ื เสริมสร้างความเขา้ ใจอยา่ งแท้จริง 2. ผเู้ รียนหมัน่ ทำใบงาน แบบฝกึ หดั 3. ศกึ ษาข้อมูลเพมิ่ เติมจาก Internet 11. เอกสารอ้างอิง ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ, เอมพันธ์: 2562

107 ใบความรู้ท่ี 1 หนว่ ยที่ 4 รหสั วิชา 20200-1001 ชือ่ วิชา ธุรกิจและการเป็นผ้ปู ระกอบการ สอนครั้งที่ 5-6 ชอ่ื หนว่ ย ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ เวลารวม 51 ชวั่ โมง ช่อื งาน ธรุ กจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ จำนวน 3 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงคท์ ั่วไป 1.เพื่อให้นกั เรียนอธบิ ายความหมายและความสำคัญของธรุ กจิ ได้ 2.เพือ่ ให้นักเรยี นบอกวัตถปุ ระสงค์และประโยชนใ์ นการประกอบธรุ กิจได้ 3.เพอื่ ให้นกั เรยี นบอกปจั จยั ในการประกอบธรุ กจิ ได้ 4.เพอื่ ให้นักเรยี นอธบิ ายโครงสรา้ งระบบธรุ กิจได้ 5.เพื่อใหน้ กั เรยี นบอกประเภทธรุ กิจ และรูปแบบการดำเนินธุรกิจได้ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ของผูส้ ำเร็จการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทคี่ รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเร่อื ง 1.1 ความมีมนษุ ยสมั พันธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมีวนิ ัย 1.7 ความรับผิดชอบ 1.3 การละเว้นสงิ่ เสพติดและการพนัน 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซื่อสตั ย์สจุ ริต 1.9 ความรักสามัคคี 1.5 ความเชื่อมนั่ ในตนเอง 1.10 ความกตัญญูกตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรู้เก่ยี วกบั หลกั การวางแผนเป้าหมายชีวิตด้วยวงจรควบคุมคุณภาพ ธุรกิจและการเป็น ผู้ประกอบการ หลักการจดั การทางการเงนิ หลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพมิ่ ผลผลิตเบอื้ งต้น และกฎหมายทเี่ ก่ียวข้อง 2.จดั ทำแผนธรุ กิจอย่างง่าย 3.ประยุกตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพิม่ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนนิ งาน เนื้อหาสาระ 1. ความหมายและความสำคัญของธรุ กจิ เทคนคิ และความหมายและความสำคญั ของธรุ กิจ แสดงรูปภาพประกอบ เพื่อสอื่ ความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถฝึก ทกั ษะการเรยี นรูใ้ นเรอ่ื งต่อไปนไ้ี ปใชป้ ระโยชน์ได้ โดยความตอ้ งการ ขัน้ พื้นฐานของ Maslow’s Hierarchy of Needs

108 วัตถุประสงค์และประโยชน์ในการประกอบธรุ กิจ โดยการประกอบธุรกจิ ตา่ ง ๆ ไมว่ ่าจะเปน็ ธรุ กจิ ประเภทใดกต็ าม สิง่ ท่ผี ู้ประกอบ ธรุ กิจต้องการ คอื กำไรและยังมสี ง่ิ อน่ื อีกทธ่ี ุรกิจจะต้องคำนงึ ถงึ เช่น ความรับผดิ ชอบต่อผบู้ ริโภค ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม ความ รบั ผิดชอบตอ่ ลกู จา้ งพนกั งาน ฯลฯ ปจั จยั ในการประกอบธุรกิจ โครงสร้างระบบธุรกจิ โดยการจัดการธุรกจิ เพ่ือใช้ปจั จัยการผลติ ตา่ งๆ ผลิตสินค้าและบรกิ ารเพื่อทีจ่ ะจัดจำหน่ายให้กบั ผู้บรโิ ภคท่ี เป็นเปา้ หมายจะไดร้ ายได้ เข้ามาในองค์การธรุ กิจธุรกจิ จะทำรายไดน้ น้ั มาจัดสรรใหก้ ับเจา้ ของปจั จัยการผลติ ต่าง ๆ และอีกสว่ นหน่ึง จะนำไปลงทุนต่อเพื่อการขยายกิจการภายใตส้ ิง่ แวดล้อมภายในและภายนอกองคก์ ร ซงึ่ จะครบวงจรของธุรกิจอยา่ งง่าย ๆ

109 การจัดการ เพื่อขยาย ธุรกิจ ธุรกิจ เข้าสู่ระบบธรุ กิจ ปัจจัยในการประกอบธุรกจิ (คน เงิน วสั ดุ การจดั การ ฯลฯ) แบ่งเป็ นกาไรให้แก่เจ้าของ /หุน้ ส่วนหรือผ้ถู อื ห้นุ เพือ่ นำมำผลิตสินค้ำ/บริกำร goods and services เพ่อื นาไปจาหน่าย รายได้ จดั สรรรายได้ (สกง่ิ แาวรดตลล้อมาภดายวในธิ กี(Inาtรe)rnal Environment)Income สิ่งแวดลอ้ มภายนอก (External Environment)

110 ใบงานที่ 1 หน่วยท่ี 4 รหัสวิชา 20200-1001 ช่อื วชิ า ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ สอนครงั้ ท่ี 5-6 ช่ือหนว่ ย ธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ เวลารวม 51 ชวั่ โมง ช่อื งาน ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ จำนวน 3 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงคท์ ่ัวไป 1.เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นอธิบายความหมายและความสำคัญของธุรกจิ ได้ 2.เพอ่ื ให้นักเรียนบอกวัตถปุ ระสงค์และประโยชน์ในการประกอบธรุ กิจได้ 3.เพอื่ ให้นักเรียนบอกปัจจัยในการประกอบธรุ กิจได้ 4.เพื่อใหน้ ักเรียนอธิบายโครงสรา้ งระบบธรุ กจิ ได้ 5.เพื่อใหน้ กั เรียนบอกประเภทธุรกจิ และรปู แบบการดำเนนิ ธรุ กิจได้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเรจ็ การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ที่ครูสามารถสังเกตไดข้ ณะทำการสอนในเร่อื ง 1.1 ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมีวินยั 1.7 ความรบั ผดิ ชอบ 1.3 การละเวน้ สิง่ เสพตดิ และการพนัน 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซื่อสัตย์สจุ ริต 1.9 ความรักสามัคคี 1.5 ความเชือ่ มน่ั ในตนเอง 1.10 ความกตัญญกู ตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความรู้เก่ียวกบั หลักการวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กจิ และการเป็น ผู้ประกอบการ หลกั การจัดการทางการเงิน หลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลติ เบ้ืองตน้ และกฎหมายทีเ่ กยี่ วข้อง 2.จัดทำแผนธุรกจิ อย่างงา่ ย 3.ประยุกต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ ในการวางแผนและดำเนนิ งาน เคร่อื งมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์ 1.หนังสอื แบบเรียน 2. ส่อื การเรียนการสอน power point 3. คน้ คว้าข้อมลู จากส่อื ออนไลน์

111 ลำดบั ข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน 1. แบง่ กลมุ่ นกั เรียนออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อทำการศกึ ษาหาขอ้ มลู เพ่ือนำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน กลุม่ ที่ 1 ศึกษาขอ้ มูลเกยี่ วกบั ความหมายของธรุ กจิ กลมุ่ ท่ี 2 ศึกษาวตั ถปุ ระสงคแ์ ละประโยชนข์ องธรุ กจิ และการประกอบการ กลุ่มท่ี 3 ศกึ ษาปัจจัยและระบบโครงสร้างของธรุ กจิ รูปแบบธุรกิจ ภาพประกอบ - ข้อควรระวัง - ขอ้ เสนอแนะ (ถา้ ม)ี - การประเมินผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ัดเจน) - เกณฑ์การวัดผล 1. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล ต้องไมม่ ีช่องปรับปรงุ 2. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้กอ่ นเรยี นไมม่ ีเกณฑผ์ า่ น เกบ็ คะแนนไวเ้ ปรยี บเทียบกับคะแนนทไ่ี ดจ้ ากการ ทดสอบหลงั เรยี น 3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยกู่ ับ การประเมิน ตามสภาพจริง เอกสารอ้างอิง ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ, เอมพนั ธ์: 2560

112 ใบมอบหมายงานท่ี 1 หนว่ ยท่ี 4 รหัสวิชา 20200-1001 ชือ่ วิชา ธรุ กจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ สอนคร้ังท่ี 5-6 ช่ือหนว่ ย ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ ชือ่ งาน ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ จุดประสงค์ท่ัวไป 1.เพ่ือให้นักเรียนอธบิ ายความหมายและความสำคัญของธุรกิจได้ 2.เพื่อใหน้ กั เรียนบอกวัตถปุ ระสงค์และประโยชน์ในการประกอบธรุ กจิ ได้ 3.เพ่อื ใหน้ ักเรยี นบอกปัจจยั ในการประกอบธรุ กจิ ได้ 4.เพือ่ ใหน้ ักเรียนอธิบายโครงสร้างระบบธรุ กจิ ได้ 5.เพ่ือให้นักเรยี นบอกประเภทธรุ กจิ และรปู แบบการดำเนนิ ธรุ กิจได้ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผ้สู ำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ทค่ี รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเรื่อง 1.1 ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 1.6 การประหยัด 1.2 ความมีวินัย 1.7 ความรบั ผิดชอบ 1.3 การละเวน้ สิ่งเสพตดิ และการพนนั 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซ่อื สัตย์สจุ ริต 1.9 ความรักสามัคคี 1.5 ความเชือ่ มนั่ ในตนเอง 1.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรู้เก่ียวกับหลักการวางแผนเป้าหมายชวี ติ ด้วยวงจรควบคุมคุณภาพ ธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ หลักการจดั การทางการเงนิ หลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิตเบอ้ื งต้น และกฎหมายที่เกย่ี วขอ้ ง 2.จดั ทำแผนธุรกิจอย่างงา่ ย 3.ประยุกต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยกุ ต์ใช้หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลติ ในการวางแผนและดำเนินงาน แนวทางการปฏิบตั งิ าน แบง่ กลมุ่ เพ่อื ค้นคว้าหาข้อมูลและนำเสนอหน้าช้นั เรยี น โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นกลมุ่ ๆ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั แหล่งค้นคว้า

113 1. ห้องสมดุ 2. ส่ือออนไลน์/Internet 3. นติ ยสาร/วารสาร คำถาม/ปญั หา เม่อื นักเรยี นคน้ คว้าแลว้ มปี ญั หาหรอื ไมเ่ สามารถหาเนอ้ื หาท่ีจะศึกษาหาข้อมูลไดจ้ ะทำอย่างไร คำตอบ สามารถปรกึ ษาจาก ครูผู้สอน หรือครทู ่มี ีความรูใ้ นรายวิชา กำหนดเวลาสง่ งาน นำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี นในคาบเรียนถัดไป เอกสารอ้างอิง สื่อออนไลน/์ Internet หนังสือตำราเรยี น วิชาธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ

114 แบบประเมินผลงาน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 ช่อื กลมุ่ .........................................................................ช้นั ................................................................ รายชื่อสมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 บคุ ลกิ การแตง่ กาย 2 มารยาทในการพูด 3 การใช้ภาษา 4 วธิ กี ารนำเสนอ 5 เนื้อหาทนี่ ำเสนอ รวม ผู้ประเมนิ .............................................. วนั ท่.ี .............เดือน...............................พ.ศ...................

115 เกณฑ์การประเมิน บุคลิก การแต่งกาย : มคี วามเชือ่ มั่นในตนเอง แต่งกายสะอาด ถูกระเบียบ เสอ้ื ไม่หลดุ ลยุ่ ลอยชาย มารยาทในการพดู : มองหน้าและสบตาผฟู้ งั ไมเ่ หนบ็ แนม เสียดสีผู้อ่นื การใชภ้ าษา : ชดั เจน ตามหลักภาษา ตวั ร ล คำควบกล้ำ ถ้อยคำขอ้ ความสุภาพ วิธีการนำเสนอ : นา่ สนใจหลากหลาย เช่น ใช้แผน่ ใส รูปภาพ ตั้งคำถาม เลน่ เกม ไมเ่ ยิ่นเยอ้ เน้ือหาทนี่ ำเสนอ : มีสาระสำคญั ตรงกบั หวั ข้อเรื่อง ใชเ้ วลาตามท่ีกำหนด 1..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 3..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 4..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 5..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = ……………………………………………………………………………………………………………

116 แบบประเมนิ ผลงาน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 ชอ่ื กลมุ่ .........................................................................ชน้ั ปวช......................................................... รายชือ่ สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ที่ รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 เน้ือหาถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมอื กนั ทำงาน 3 ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทนี่ ่าสนใจ รวม ผปู้ ระเมิน.............................................. วนั ที.่ .............เดอื น...............................พ.ศ...................

117 เกณฑก์ ารประเมนิ 1.เน้ือหาถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคญั ครบถ้วน ส่อื ความหมายชดั เจนและมีรปู ภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคญั ครบถว้ น สอื่ ความหมายและมีรปู ภาพไม่ตรงเนื้อหา 1 คะแนน = มเี นือ้ หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถ้วน 2. ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 คะแนน = มคี วามสามัคครี ่วมมอื กนั ทำงานทุกคน 2 คะแนน = รว่ มมือกันทำงานเป็นบางคน 1 คะแนน =ไม่คอ่ ยรว่ มมอื กันทำงาน 3. ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณใ์ นท้องถิ่น และประหยัด 2 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยกุ ตใ์ ช้วสั ดอุ ุปกรณใ์ นทอ้ งถนิ่ แตไ่ มป่ ระหยัด 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ ่าสนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเก่ียวกับองค์ประกอบ ครอบคลมุ และชัดเจน 2 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบ ไมค่ รอบคลุมแต่ชัดเจน 1 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลุมและไมช่ ดั เจน 5. การนำเสนอนา่ สนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจปานกลาง ชดั เจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไมค่ ่อยชัดเจน

118 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน หน่วยการเรียนรู้ที่............................................................................................................................. ชื่อกล่มุ .........................................................................ชนั้ ................................................................ รายชื่อสมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 เนอ้ื หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมอื กันทำงาน 3 ความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทนี่ ่าสนใจ รวม ผปู้ ระเมนิ .............................................. วนั ท.่ี .............เดอื น...............................พ.ศ...................

119 เกณฑ์การประเมิน 1.เน้ือหาถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคญั ครบถ้วน สอื่ ความหมายชดั เจนและมีรปู ภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคญั ครบถว้ น สื่อความหมายและมรี ูปภาพไมต่ รงเน้อื หา 1 คะแนน = มเี นือ้ หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 คะแนน = มคี วามสามัคครี ่วมมอื กนั ทำงานทุกคน 2 คะแนน = รว่ มมือกันทำงานเป็นบางคน 1 คะแนน =ไม่คอ่ ยรว่ มมอื กันทำงาน 3. ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยกุ ต์ใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ในท้องถนิ่ และประหยัด 2 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยุกตใ์ ช้วัสดุอปุ กรณใ์ นท้องถิน่ แตไ่ มป่ ระหยัด 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไม่น่าสนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเก่ียวกับองคป์ ระกอบ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลมุ แต่ชดั เจน 1 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบ ไม่ครอบคลมุ และไมช่ ัดเจน 5. การนำเสนอนา่ สนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชดั เจน 2 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจปานกลาง ชดั เจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไม่ค่อยชดั เจน

120 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ชอ่ื กลมุ่ .........................................................................ชั้น................................................................ รายช่อื สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 การเตรยี มความพรอ้ ม 2 เน้อื หาสาระ 3 รูปแบบการนำเสนอ 4 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลมุ่ 5 การรกั ษาเวลา 6 ความสนใจของผ้ฟู งั รวม ผ้ปู ระเมิน.............................................. วันท.่ี .............เดอื น...............................พ.ศ...................

121 เกณฑก์ ารประเมิน 1. การเตรียมความพรอ้ ม 3 คะแนน = มีการจดั เตรียมสถานท่ี สื่อ/อปุ กรณ์ไว้อยา่ งพรอ้ มเพรยี ง 2 คะแนน = มีสือ่ /อปุ กรณพ์ ร้อม ขาดการจัดเตรียมสถานท่ี 1 คะแนน = สอื่ /อุปกรณไ์ ม่เพียงพอ ขาดการจดั เตรียมสถานที่ 2. เนอื้ หาสาระ 3 คะแนน = สาระสำคัญครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 3. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มีสือ่ และ ใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ นำวสั ดุในท้องถิ่นมาประยกุ ต์ใช้ อยา่ งคุ้มค่าและประหยดั 2 คะแนน = ใชเ้ ทคนคิ แปลกใหม่ มีสื่อและใช้เทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ ขาดการประยุกตใ์ ช้วสั ดุในทอ้ งถ่ิน 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม ไม่น่าสนใจ 4. การมสี ว่ นร่วมของสมาชิก 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมบี ทบาทและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญม่ ีบทบาทและมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 5. การรกั ษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมไดต้ ามเวลาทก่ี ำหนด 2 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมเรว็ กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กว่าเวลาทกี่ ำหนด 6. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ รอ้ ยละ 80 สนใจ และให้ความรว่ มมือ 2 คะแนน = ผ้ฟู งั ร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วามร่วมมือ 1 คะแนน = ผฟู้ ังน้อยกว่า รอ้ ยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื

122 แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ 5 จำนวน 3 ชัว่ โมง สัปดาห์ที่ 7-8 สอนครัง้ ที่ 7-8 ชือ่ วิชา ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ จำนวน 3 ช.ม. ช่ือหนว่ ย/เรอื่ ง การจัดหาและวางแผนทางการเงนิ 1. แนวคิด บุคคลแตล่ ะคนย่อมมเี ปา้ หมายในชีวิตแตกต่างกัน ดงั น้ัน จึงมีการวางแผนและการจดั การทางการเงิน ที่แตกต่างกันไปด้วย โดยตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับตนเองและสิ่งแวดล้อมท่ีเหมาะสม ซึ่งการวางแผนทาง การเงินเป็นการจัดเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ด้านการเงินที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต แล้วนำมากำหนดเพื่อเป็น แนวทางในการดำเนินงาน ประสานขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ใหส้ มั พนั ธก์ ันและมปี ระสทิ ธิผลมากท่สี ุด 2. ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง 1.แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การวางแผนทางการเงนิ 2.แสดงความรู้เกย่ี วกับหลกั การวางแผนทางการเงิน 3.แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การจดั การทางการเงิน 4.แสดงความรู้เกี่ยวกับการจัดการเงินสดและสนิ ทรพั ยส์ ภาพคล่อง 3. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผู้สำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่คี รูสามารถสงั เกตได้ขณะทำการสอนในเรือ่ ง 1. ความมมี นษุ ยสมั พันธ์ 2. ความมีวินัย 3. ความรบั ผิดชอบ 4. ความซอื่ สตั ย์สจุ รติ 5. ความเชื่อมน่ั ในตนเอง 6. การประหยดั 7. ความสนใจใฝ่รู้ 8. การละเว้นสิ่งเสพตดิ และการพนนั

123 9.ความรกั สามคั คี 10. ความกตญั ญกู ตเวที 4. สมรรถนะรายวชิ า 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การวางแผนเป้าหมายชีวติ ด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ หลักการจัดการทางการเงิน หลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลติ เบอ้ื งต้น และกฎหมายท่เี ก่ยี วข้อง 2.จัดทำแผนธรุ กิจอย่างง่าย 3.ประยกุ ต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยุกต์ใช้หลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนินงาน 5. สาระการเรยี นรู้ 1.การวางแผนทางการเงนิ 2.หลักการวางแผนทางการเงิน 3.การจดั การทางการเงิน 4.การจัดการเงนิ สดและสินทรัพยส์ ภาพคล่อง 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเขา้ สู่บทเรียน 1.ครูกลา่ วถึงการวางแผนทางการเงินเป็นการจดั เตรยี มขอ้ มูลตา่ งๆ ทางด้านการเงินทีค่ าดว่าจะเกดิ ข้ึน ในอนาคตนำมากำหนดเพือ่ เป็นแนวทางในการดำเนินงาน การประสานขอ้ มูลต่างๆ ใหม้ ีความสัมพันธ์กันอย่าง ต่อเนื่องและคาดวา่ สิง่ ที่ไดร้ ับจะมปี ระสิทธผิ ลมากทสี่ ดุ 2.ผเู้ รยี นบอกวตั ถุประสงคใ์ นการวางแผนการเงนิ ของแต่ละคน ขนั้ สอน 3.ครูอธิบายการวางแผนทางการเงิน พร้อมสื่อ PowerPiont ซึ่งหมายถึง การกำหนดการใช้จ่ายเงนิ ตา่ งๆ ใหส้ อดคล้องกับแผนงานทจ่ี ดั ทำขน้ึ และระบุถงึ แหล่งทม่ี าของเงินและการใชไ้ ปของเงินในกจิ กรรมต่างๆ การวางแผนทางการเงนิ สามารถแบ่งออกได้ 2 ลกั ษณะ ได้แก่ 1) การวางแผนการเงนิ สว่ นบุคคล 2) การวางแผนการเงนิ สำหรับธรุ กิจ

124 4.ครบู อกหลกั การวางแผนทางการเงนิ โดยการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม วัฒนธรรมและวถิ ีชีวติ ทำให้มี ความจำเปน็ ต้องวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ และไมป่ ระมาทในการใช้ชวี ิต ดังน้ัน หลกั ในการวางแผนทาง การเงนิ ทีม่ ีประสทิ ธิภาพมดี ังน้ี 1) การประเมนิ สถานการณ์ เปน็ การเก็บข้อมลู ต่างๆ เก่ยี วกับตนเองและสิง่ แวดล้อม เพราะจะช่วยให้ สามารถประเมินรายรบั -รายจา่ ยได้ นอกจากนี้ยังสามารถประเมินสินทรัพย์ทีม่ ี เช่น เงินสด อาคารหรือที่ดนิ รวมถึงหนี้สนิ ต่างๆ เพ่อื นำไปประมาณการและวางแผนทางการเงินตอ่ ไป 2) กำหนดเป้าหมาย คือการวางแผนการเงิน โดยกำหนดให้อยูใ่ นรูปของตัวเงิน ระยะเวลาเท่าไรและ เปา้ หมายทเ่ี ปน็ ไปได้ โดยใหส้ อดคล้องกบั รายรบั -รายจา่ ย และหน้สี ินทีม่ อี ยู่ ท้งั นีก้ ารวางแผนการเงิน ควรแยกเป็นเปา้ หมายระยะส้นั ระยะกลางและระยะยาว เพ่อื ใหป้ ฏบิ ัติตามเปา้ หมายท่กี ำหนดไวอ้ ย่างชดั เจน 3) การจัดทำแผนทางการเงิน การวางแผนทางการเงินนั้นควรจัดทำแผนด้วยความละเอียดและ รอบคอบ โดยคำนึงถึงบคุ คลและทรัพยากรที่เก่ียวขอ้ ง และจัดลำดับความสำคัญว่าอะไรควรทำกอ่ นหรือหลงั เพ่อื ใหป้ ฏบิ ตั ไิ ด้จรงิ และถกู ตอ้ งตามแผนทกี่ ำหนดไว้ 4) การนำแผนไปปฏิบัติ เป็นการทำตามแผนทีก่ ำหนดไว้ โดยต้องมีวนิ ยั ในการปฏิบัตอิ ย่างเคร่งครดั 5) การวดั ผลและการปรับปรุงแกไ้ ข เปน็ ส่ิงทีจ่ ะทำให้ทราบว่า แผนนนั้ สามารถปฏิบัติได้จริงตรงตาม เป้าหมายหรือไม่ และสามารถนำผลท่ีไดไ้ ปพฒั นาและปรับปรงุ ผลการปฏิบตั ิในอนาคตได้ 5.ครูอธิบายการจัดการทางการเงิน หมายถึง การวางแผนการจัดระเบียบและการควบคุมกำกับ กิจกรรมทางการเงิน เช่น การจดั ซ้อื และการใช้ประโยชน์จากเงินทนุ ซึง่ ใชห้ ลกั ท่วั ไปของทรัพยากรทางการเงิน ของธรุ กจิ 6.ครบู อกขอบเขตของการดำเนินธรุ กจิ มีดงั น้ี 1) การตดั สินใจลงทุน เปน็ สว่ นหนงึ่ ของการทำงานด้านการตัดสนิ ใจลงทุน และจะมคี วาม สำคญั มากสำหรับธุรกจิ ทม่ี ีเงนิ สดจำนวนมากในแตล่ ะเดือนหรอื ไตรมาส แต่เป็นเงินสดแบบหมุนเวียนเร็ว การจดั การงานลงทนุ ระยะสนั้ จะมคี วามสำคญั อยา่ งมาก 2) การตัดสนิ ใจทางการเงิน จะเปน็ การดำเนินงานเกยี่ วกับการระดมเงนิ ทนุ จากแหล่งต่างๆ ซ่งึ จะ ข้นึ อยกู่ บั การตัดสนิ ใจเกย่ี วกบั ชนิดของแหล่งเงนิ ทนุ ทมี่ ีอยู่ และค่าใชจ้ ่ายท่ีเปน็ ตน้ ทนุ ของเงินทุนทใ่ี ชใ้ นการ

125 บรหิ าร เช่น เงินกู้ระยะยาวหรอื ระยะสน้ั หรือ ผลตอบแทนจากการลงทุนท่คี าดหวังที่จะไดร้ บั เป็นตน้ 3) การตดั สินใจเกยี่ วกับผลตอบแทน ฝา่ ยการเงินมหี น้าท่ีตดั สนิ ใจเกี่ยวกบั วธิ กี ารกระจายการ ลงทนุ และการบริหารผลกำไรทีเ่ กิดขึ้นจากเงนิ ลงทุนเหล่านั้น ซง่ึ กำไรสทุ ธแิ บง่ ออกได้ 2 ลักษณะ 3.1 เงินปนั ผลทีจ่ ่ายใหผ้ ูถ้ ือหุ้น และอตั ราการจา่ ยเงนิ ปนั ผลต้องพจิ ารณาอย่างรอบคอบ และเป็นธรรม 3.2 กำไรสะสม จะต้องพจิ ารณาให้มปี รมิ าณท่เี หมาะสม และเพียงพอสำหรบั การวางแผนการขยาย งานในอนาคตของธรุ กิจ โดยตอ้ งมกี ารพจิ ารณารว่ มกับฝา่ ยการตลาด ฝา่ ยการผลิตและผ้บู ริหารระดบั สงู 7.ครอู ธบิ ายรายไดบ้ คุ คล หมายถงึ รายได้ทัง้ หมดท่ีครวั เรือนได้รับจากแหลง่ ตา่ งๆ ในรอบปี ซึ่งอาจจะได้มาจากเงินเดอื น ค่าจ้างแรงงาน รายไดจ้ ากงานสว่ นตวั โบนัส คา่ นายหนา้ ดอกเบีย้ เงนิ ปนั ผล ผลท่ไี ดจ้ ากเงนิ ออมและการลงทนุ การจำหนา่ ยสินทรพั ย์ และรายได้อน่ื ๆ ซง่ึ รวมทัง้ หมดแล้วจะเปน็ รายได้จริงที่จะได้ ไม่ใช่รายได้ที่คาดว่าจะได้ และเป็นรายได้ก่อนหักภาษีเงินได้ ปัจจัยที่กำหนดรายได้ของ บคุ คล 1) อายุ มีความสัมพนั ธต์ ่อการหารายได้ของบุคคล บคุ คลท่ีสูงวัยและหนุ่มสาวเมือ่ เร่มิ ทำงานก็จะมรี ายได้ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกบั ผูท้ ีอ่ ยูใ่ นวัยกลางคน ซึ่งมีอายุระหว่าง 35- 55 ปี โดยทั่วไปในวัยน้ี จะมคี วามสามารถในการหารายไดส้ งู เน่ืองจากอยใู่ นวยั ทม่ี ีร่างกายแข็งแรงในการทำงาน 2) การศึกษา จะเปน็ เครื่องกำหนดรายได้ของบุคคล ผทู้ ี่สำเร็จการศึกษาสงู ยอ่ มมรี ายไดส้ ูง กวา่ ผ้มู กี ารศึกษาตำ่ หรอื ไมไ่ ดร้ บั การศกึ ษา 3) อาชีพ การเลือกอาชีพมีความสัมพนั ธก์ บั การศึกษาของบคุ คล อาชพี บางอย่างจะต้องผา่ น การศกึ ษาเฉพาะดา้ น เชน่ แพทย์ นักกฎหมาย สถาปนิก วศิ วกร เป็นต้น แต่บางอาชพี ถงึ แม้จะไมเ่ รียนมา โดยตรง ก็นำความรูม้ าประยกุ ต์ใชท้ ำงานได้ เช่น ผูท้ ่ีเรยี นสงั คมศาสตร์ อาจจะประกอบอาชีพไดห้ ลายอย่าง ได้แก่ อาจารย์ พนักงาน พนกั งานของรัฐบาล รฐั วสิ าหกิจ ตลอดจนธุรกิจเอกชนต่างๆ 4) คณุ สมบตั เิ ฉพาะตัว บคุ คลแตล่ ะคนจะแตกต่างกนั โดยเฉพาะในสว่ นท่ีเปน็ คณุ สมบัติ เฉพาะตัวเช่น ความสามารถ (Abilities) ความชำนาญ (Skills) บุคลิกภาพ (Personality) แรงกระตุ้น (Drive)ทัศนคติ (Aptitudes) ขวัญและกำลังใจ (Motivation) และค่านิยมต่างๆ (Value) ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อ การกำหนดระดบั รายไดข้ องบคุ คลท้งั ส้ิน 5) แหลง่ รายไดต้ ่างๆ ของบุคคล การทำงานแตล่ ะอาชีพย่อมมผี ลตอบแทน ได้แก่ เงนิ เดือน คา่ จ้างและสวสั ดกิ ารต่างๆ ในการพจิ ารณารายได้ของบุคคล นอกจากจะคำนงึ ถงึ รายไดท้ ี่เปน็ ตวั เงนิ แลว้ ยังต้อง คำนงึ ถงึ สวัสดิการหรือผลประโยชนอ์ ่นื ๆ ทค่ี วรจะไดร้ ับดว้ ย 8.ครแู สดงการวดั รายไดส้ ว่ นบคุ คล สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้ 1) วิธกี ารปรบั รายได้ประชาชาตใิ หเ้ ป็นรายได้สว่ นบุคคล

126 2) วิธกี ารวัดรายได้สว่ นบคุ คลโดยตรง เป็นการวดั ผลรวมของรายไดเ้ ฉพาะทค่ี รวั เรอื นไดร้ ับ รวมกบั เงินโอนทค่ี รวั เรอื นไดร้ บั ในรอบปนี น้ั ๆ 9.ครูสาธิตการจดั ทำงบการเงนิ ส่วนบุคคล เปน็ งบสรปุ ผลการใช้จ่ายเงิน และชว่ ยวางแผนทางการเงิน ในอนาคตซึ่งประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบรายได้รายจ่ายและบันทกึ ตา่ งๆ เป็นรูปแบบที่ประชาชน ทัว่ ไปสามารถจดั ทำเองได้ง่าย โดยจะไมก่ ลา่ วถงึ รายละเอยี ดทสี่ มบูรณข์ องงบการเงินตามมาตรฐานการบัญชี ฉบบั ท่ี 1 (ฉบบั ปรับปรุง 2552) งบการเงินสว่ นบคุ คลทีน่ ำมาใชบ้ ันทกึ รายการ มดี งั น้ี 1) งบรายไดแ้ ละรายจ่ายส่วนบุคคล (Income Statement) 2) งบแสดงฐานะการเงนิ สว่ นบคุ คล 3. การบนั ทกึ รายการทรพั ย์สินสว่ นบุคคล

127 4.บนั ทึกรายการเสยี ภาษี 5) บันทึกหลักฐานกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินไมห่ มนุ เวยี น 6) บันทึกหลกั ฐานการประกนั ภัย 7) บันทกึ หลกั ฐานการลงทนุ 8) บนั ทกึ หลกั ฐานสำคัญอื่นๆ 10.ครูอธิบายและสาธิตการทำงบประมาณ (Budgeting) คือ การวางแผนการที่คาดว่าจะต้องจ่าย โดยการคดิ ล่วงหน้าและแสดงขอ้ มลู ออกมาเปน็ ตวั เลขและอาจแสดงออกมาในรูปของตัวเงิน จำนวนช่ัวโมงใน การทำงาน จำนวนผลิตภณั ฑ์จำนวนชั่วโมงเคร่ืองจกั ร คา่ สึกหรอ ค่าโสหุ้ย เปน็ ตน้ 11.ครูสาธิตการทำงบประมาณส่วนบุคคล (Personal Budgets) หมายถึง การวางแผนประมาณ รายได้รายจ่ายล่วงหน้า เพื่อจัดสรรเงินที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยจัดทำ งบประมาณรายได้และค่าใช้จ่ายตามที่ได้คาดการณ์ไว้ แล้วจึงนำมาประกอบเป็นงบประมาณรายได้และ งบประมาณรายจ่ายรายเดอื นหรอื รายปี เพอ่ื ควบคุมคา่ ใช้จ่ายให้อยู่ในกรอบของงบประมาณท่ไี ด้กำหนดก็จะมี เงินเหลอื ใชเ้ งนิ ส่วนนก้ี จ็ ะเป็นเงนิ ออมในวนั ข้างหน้า

128 12.ครสู าธติ การทำงบประมาณรายจ่ายสว่ นบคุ คล ขนั้ สรุปและการประยกุ ต์ 13.ครูและผู้เรียนสรุปการวางแผนทางการเงิน หลักการวางแผนทางการเงิน และการจัดการทาง การเงิน การสอนครงั้ ที่ 8 ขนั้ นำเข้าสู่บทเรยี น 1.ครอู ภปิ รายว่าอย่างท่ีทราบแล้ววา่ การจัดการทางการเงนิ เป็นการบริหารทรัพยากรทางการเงินท่ีมี อยหู่ รอื ไดม้ าให้บรรลุจุดมงุ่ หมายท่วี างไวไ้ ด้อย่างดีที่สดุ คือใหไ้ ดร้ ับความม่งั คงั่ สูงสุด จะนำมาซึ่งความสุขและ ความมีเสถยี รภาพทางการเงินของบคุ คล 2.ครกู ล่าวถงึ กลยุทธก์ ารบริหารการเงนิ บคุ คล หมายถึง การบริหารการเงินของบคุ คลอย่างฉลาด ด้วย การนำหลกั และวิธกี ารบรหิ ารการเงนิ ทม่ี ีประสิทธิภาพมาใชใ้ นการตัดสนิ ใจจนทำให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องการบริหารการเงินโดยทั่วไป รายได้และการบริหารรายได้ของบุคคลการ

129 บริหารรายจ่ายตา่ งๆ ของบุคคล การบริหารความเสี่ยงและการประกันความมั่นคงของบุคคลการบริหารด้าน การลงทุนของบคุ คล ตลอดจนการวางแผนเพื่อเกษยี ณอายุ ขั้นสอน 3.ครูอธิบายการจัดการทางการเงิน ด้วยสื่อ PowerPoint โดยการจัดการเงินสด (Cash Management) คือการบรหิ ารที่เกย่ี วกบั ประสทิ ธิภาพในการเก็บรวบรวมเงินสด การจ่ายเงนิ สดและการลงทุน การจัดทำงบประมาณเงนิ สดเป็นเคร่อื งมือในการจัดการเงินสด เพอ่ื ใชพ้ ยากรณค์ วามต้องการเงินสดในอนาคต และการควบคุมการดำเนนิ การตา่ งๆ ใหเ้ ป็นไปตามงบประมาณ 4.ครูอธิบายสินทรัพย์สภาพคล่อง (Liquid Asset) คือ สินทรัพย์ในรูปของเงินสดและ สินทรัพย์อื่นที่มีสภาพใกล้เคียงเงินสด แต่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่ายภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เช่น เงนิ ฝากกระแสรายวนั เงินฝากออมทรัพย์ และเงินลงทนุ ระยะสนั้ อ่นื ๆ บคุ คลจำเป็นตอ้ งมีสินทรัพย์สภาพคล่อง ใหเ้ พยี งพอต่อการใช้จ่ายประจำวัน เพ่ือจะไดไ้ มเ่ กิดปญั หาเงินขาดมอื สว่ นปัญหาทางการเงินมักจะเกิดขึ้นกับ ทุกครอบครัวถ้าไม่มกี ารเตรยี มพร้อมไว้ย่อมนำความเดือดรอ้ นมาสู่สมาชกิ ภายในครอบครัวได้ จึงจำเป็นที่ทุก ครอบครัวต้องมีเงินสดสำรองไว้จำนวนหนึ่ง เพราะจะทำให้ทุกครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดี และสุขสบายใน อนาคต 5.ครูบอกประโยชน์ของการจดั การทางการเงิน มดี ังน้ี 1) เพอื่ ให้บคุ คลมีแนวทางในการวางแผนทางการเงนิ ของตนเองและครอบครัวได้ถูกต้อง เช่น การหา รายได้ การจัดหาแหลง่ เงนิ สด การใชจ้ ่ายเงินสด และการเก็บรกั ษาเงินสด การลงทนุ การรจู้ ักวางแผนป้องกัน ชีวิตและทรัพยส์ ินของตนจะนำมาซงึ่ ความมั่งค่ัง มั่นคงและความสุขของบคุ คลและครอบครัวนน้ั 2) ส่งเสริมให้บุคคลได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้จ่ายเงินอย่างถูกต้อง เช่น การใช้เงินเพื่อ สุขภาพ การใช้จ่ายเพ่ือพักผ่อนหรอื ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้มีความสุขสบายอยา่ ง สมบรู ณ์แบบและมโี อกาสใชเ้ งินที่ตนหามาได้ตลอดชวี ิต ใหเ้ กิดผลคมุ้ ค่าอย่างแทจ้ ริง 3) จะก่อใหเ้ กิดบคุ ลากรท่ีมคี วามรูด้ า้ นการวางแผนการเงิน ซึ่งจะเป็นผมู้ ีความรคู้ วามสามารถใน การวางแผนการเงินและการลงทุน โดยเฉพาะสามารถให้คำแนะนำและช่วยวางแผนให้ลูกค้าที่ ตอ้ งการลงทนุ ในสถาบนั การเงินต่างๆ เช่น ธนาคาร บรษิ ทั ประกนั ชีวิต บรษิ ัทเงินทนุ หลักทรัพย์ บริษัทจัดการ ลงทนุ ตลอดจนกจิ การท่ดี แู ลรักษาผลประโยชนข์ องลูกค้า 4) เป็นพน้ื ฐานความม่ันคงใหก้ บั เศรษฐกิจและสงั คมของประเทศ เมื่อการจัดการการเงินของครวั เรือน ได้ผลดีมีประสิทธิภาพ ประชาชนมีเงินเหลือใช้ก็จะส่งผลให้เกิดการออมและการลงทุนได้มากเมื่อประชาชน ส่วนใหญม่ ีความเปน็ อย่ทู ีด่ ขี ้นึ ก็จะชว่ ยประหยดั ค่าใชจ้ ่ายดา้ นสวัสดกิ ารสงั คมได้ 6.ผ้เู รยี นแสดงงบรายได้-รายจา่ ยส่วนบุคคล ตามโจทยท์ ่ีครกู ำหนด 7.ผู้เรยี นเขยี นข้อมูลส่วนตวั ในรปู ของงบแสดงฐานะการเงนิ สว่ นบุคคล

130 8.ผเู้ รยี นวางแผนด้านการเงนิ ของตนเองและครอบครัว ขนั้ สรุปและการประยุกต์ 9.ครูถามคำถามหรือกำหนดปัญหาโดยให้ผู้เรียนระดมสมองช่วยกันคิดหาคำตอบแล้วอธิบายคำตอบ ให้เพ่อื นทุกคนในกล่มุ ของตนเองเขา้ ใจ 10.ครูใชว้ ิธีสมุ่ ผเู้ รยี นทกุ กลมุ่ ตอบคำถามและอธบิ ายให้เพื่อนฟังทงั้ ช้ันเรยี น 7. สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนรายวชิ า “ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ” ของบรษิ ัท สำนกั พิมพ์เอมพันธ์ จำกดั 2. หนังสืออน่ื ๆ ในห้องสมุด 3. เวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ ง 4. นติ ยสาร, วารสารด้านการบรหิ าร ฯลฯ 8. หลักฐานการเรยี นรู้ 8.1 หลกั ฐานความรู้ 1.การสง่ งานของนกั เรยี นมคี วามสมบรู ณ์ครบถ้วน 2. รูปเลม่ รายงานกล่มุ และรายงานเด่ียวสามารถทำไดด้ ี 8.2 หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน 1.บนั ทึกการสอน 2.ใบเช็ครายชอื่ 3.แผนจัดการเรยี นรู้

131 4.การตรวจประเมินผลงาน 9. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 9.1 เคร่ืองมอื ประเมิน 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2.แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 3.แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและนกั เรยี น ร่วมกนั ประเมนิ 4.แบบทดสอบท้ายบท 9.2 เกณฑก์ ารประเมิน 1.เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ีชอ่ งปรับปรุง 2.เกณฑผ์ ่านการประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50 % ขึ้นไป) 3.แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กบั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ 10. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถ้าม)ี 1. ผู้เรยี นตอ้ งมกี ารทบทวนบทเรียนตลอด เพอื่ เสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอย่างแท้จรงิ 2. ผเู้ รียนหมัน่ ทำใบงาน แบบฝึกหัด 3. ศกึ ษาข้อมูลเพ่มิ เติมจาก Internet 11. เอกสารอ้างองิ ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ, เอมพันธ์: 2562

132 ใบความรู้ท่ี 1 หนว่ ยท่ี 5 รหัสวิชา 20200-1001 ชื่อวชิ า ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ สอนครัง้ ท่ี 7-8 ชื่อหน่วย การจดั หาและการวางแผนทางการเงิน เวลารวม 51 ชว่ั โมง ช่อื งาน การจัดหาและการวางแผนทางการเงิน จำนวน 3 ชวั่ โมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ท่ัวไป 1.เพอ่ื ใหน้ ักเรียนบอกการวางแผนทางการเงนิ ได้ 2.เพอื่ ให้นกั เรียนอธบิ ายหลกั การวางแผนทางการเงินได้ 3.เพ่อื ใหน้ กั เรียนบอกการจัดการทางการเงนิ ได้ 4.เพ่อื ใหน้ ักเรยี นอธบิ ายการจัดการเงินสดและสินทรพั ย์สภาพคลอ่ งได้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทค่ี รูสามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเรื่อง 1.1 ความมีมนษุ ยสัมพนั ธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมีวนิ ยั 1.7 ความรับผดิ ชอบ 1.3 การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนนั 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซ่อื สตั ย์สุจริต 1.9 ความรกั สามัคคี 1.5 ความเชื่อม่ันในตนเอง 1.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความร้เู กย่ี วกบั หลักการวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ หลกั การจดั การทางการเงิน หลักการบริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตเบอื้ งต้น และกฎหมายท่ีเก่ยี วขอ้ ง 2.จัดทำแผนธรุ กิจอย่างง่าย 3.ประยกุ ต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยกุ ต์ใช้หลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนินงาน เน้ือหาสาระ 1. การวางแผนทางการเงนิ 1. การวางแผนทางการเงนิ สามารถแบ่งออกได้ 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ 1) การวางแผนการเงินสว่ นบคุ คล 2) การวางแผนการเงนิ สำหรับธุรกิจ หลักการวางแผนทางการเงิน โดยการเปล่ียนแปลงทางสังคม วัฒนธรรมและวถิ ีชีวิต ทำใหม้ คี วามจำเปน็ ต้องวางแผน การเงนิ อย่างรอบคอบ และไมป่ ระมาทในการใชช้ ีวิต ดังนั้น หลกั ในการวางแผนทางการเงนิ ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพมดี งั นี้

133 1) การประเมนิ สถานการณ์ เป็นการเก็บขอ้ มลู ตา่ งๆ เก่ยี วกับตนเองและสิ่งแวดล้อม เพราะจะชว่ ยใหส้ ามารถประเมินรายรบั - รายจ่ายได้ นอกจากน้ียงั สามารถประเมนิ สินทรัพยท์ ีม่ ี เชน่ เงนิ สด อาคารหรอื ท่ดี นิ รวมถึงหนี้สินต่างๆ เพือ่ นำไปประมาณการและ วางแผนทางการเงนิ ตอ่ ไป 2) กำหนดเป้าหมาย คือการวางแผนการเงนิ โดยกำหนดใหอ้ ยู่ในรปู ของตัวเงิน ระยะเวลาเทา่ ไรและเป้าหมายท่ีเป็นไปได้ โดยให้ สอดคล้องกบั รายรบั -รายจ่าย และหน้สี ินทม่ี ีอยู่ ทัง้ นี้การวางแผนการเงิน ควรแยกเป็นเปา้ หมายระยะสน้ั ระยะกลางและระยะยาว เพือ่ ให้ปฏิบัตติ ามเปา้ หมายทีก่ ำหนดไว้อยา่ งชดั เจน 3) การจัดทำแผนทางการเงิน การวางแผนทางการเงนิ น้ันควรจัดทำแผนดว้ ยความละเอียดและรอบคอบ โดยคำนึงถงึ บคุ คลและ ทรัพยากรท่เี ก่ยี วข้อง และจัดลำดับความสำคัญวา่ อะไรควรทำก่อนหรอื หลงั เพอื่ ให้ปฏิบัติไดจ้ ริงและถูกตอ้ งตามแผนที่กำหนดไว้ 4) การนำแผนไปปฏบิ ตั ิ เป็นการทำตามแผนท่ีกำหนดไว้ โดยต้องมีวนิ ยั ในการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 5) การวัดผลและการปรับปรุงแกไ้ ข เปน็ สงิ่ ท่จี ะทำใหท้ ราบว่า แผนนั้นสามารถปฏบิ ตั ิไดจ้ ริงตรงตามเป้าหมายหรือไม่ และสามารถ นำผลทไี่ ด้ไปพฒั นาและปรับปรุงผลการปฏิบตั ิในอนาคตได้ การจัดการทางการเงิน หมายถงึ การวางแผนการจดั ระเบียบและการควบคุมกำกบั กจิ กรรมทางการเงนิ เชน่ การจัดซ้ือและการใช้ ประโยชนจ์ ากเงินทุน ซง่ึ ใช้หลักทวั่ ไปของทรัพยากรทางการเงินของธรุ กจิ ขอบเขตของการดำเนินธรุ กจิ มีดังนี้ 1) การตัดสนิ ใจลงทนุ เปน็ ส่วนหน่งึ ของการทำงานด้านการตัดสนิ ใจลงทุน และจะมีความสำคญั มากสำหรบั ธรุ กิจทม่ี ีเงนิ สด จำนวนมากในแต่ละเดือนหรือไตรมาส แต่เป็นเงินสดแบบหมนุ เวยี นเร็วการจัดการงานลงทนุ ระยะสัน้ จะมคี วามสำคัญอยา่ งมาก 2) การตัดสินใจทางการเงนิ จะเป็นการดำเนนิ งานเก่ียวกบั การระดมเงินทุนจากแหล่งต่างๆ ซ่งึ จะขน้ึ อยกู่ ับการตัดสนิ ใจ เก่ียวกับชนดิ ของแหลง่ เงินทุนทม่ี อี ยู่ และค่าใชจ้ ่ายที่เป็นตน้ ทนุ ของเงนิ ทุนท่ีใช้ในการบริหาร เชน่ เงนิ กู้ระยะยาวหรอื ระยะสัน้ หรือ ผลตอบแทนจากการลงทุนทีค่ าดหวงั ทจ่ี ะไดร้ ับ เปน็ ต้น 3) การตดั สนิ ใจเก่ียวกบั ผลตอบแทน ฝา่ ยการเงนิ มีหนา้ ทตี่ ัดสนิ ใจเกี่ยวกบั วิธกี ารกระจายการลงทนุ และการบรหิ ารผลกำไรท่ี เกดิ ขึน้ จากเงินลงทนุ เหล่านนั้ ซ่งึ กำไรสุทธแิ บง่ ออกได้ 2 ลกั ษณะ 3.1 เงินปันผลท่ีจา่ ยให้ผถู้ ือหุ้น และอัตราการจ่ายเงินปันผลตอ้ งพิจารณาอยา่ งรอบคอบและเป็นธรรม 3.2 กำไรสะสม จะต้องพจิ ารณาใหม้ ีปรมิ าณทีเ่ หมาะสม และเพียงพอสำหรบั การวางแผนการขยายงานในอนาคตของธรุ กจิ โดยต้องมีการพิจารณาร่วมกบั ฝ่ายการตลาด ฝ่ายการผลติ และผูบ้ รหิ ารระดบั สงู รายไดบ้ ุคคล หมายถึง รายไดท้ งั้ หมดที่ครัวเรือนได้รบั จากแหล่งต่างๆ ในรอบปซี ง่ึ อาจจะได้มาจากเงินเดอื น ค่าจา้ ง แรงงาน รายได้จากงานส่วนตวั โบนัส คา่ นายหนา้ ดอกเบ้ีย เงินปันผลผลทไี่ ด้จากเงินออมและการลงทนุ การจำหนา่ ยสนิ ทรพั ย์ และรายไดอ้ น่ื ๆ ซงึ่ รวมท้ังหมดแลว้ จะเปน็ รายไดจ้ ริงทจี่ ะได้ ไมใ่ ช่รายไดท้ คี่ าดว่าจะได้ และเป็นรายไดก้ ่อนหกั ภาษเี งินได้ ปัจจัยท่ี กำหนดรายได้ของบคุ คล 1) อายุ มคี วามสมั พันธ์ต่อการหารายไดข้ องบคุ คล บคุ คลที่สงู วัยและหนุ่มสาวเม่อื เร่ิมทำงานกจ็ ะมรี ายได้ไมส่ ูงมาก เมอ่ื เทียบกับผูท้ ี่ อยู่ในวัยกลางคน ซ่ึงมอี ายรุ ะหวา่ ง 35- 55 ปี โดยทัว่ ไปในวัยนีจ้ ะมคี วามสามารถในการหารายไดส้ งู เนอ่ื งจากอยู่ในวัยทีม่ ีรา่ งกาย แขง็ แรงในการทำงาน

134 2) การศกึ ษา จะเปน็ เคร่ืองกำหนดรายไดข้ องบคุ คล ผ้ทู ี่สำเร็จการศกึ ษาสงู ยอ่ มมีรายไดส้ งู กวา่ ผู้มกี ารศกึ ษาตำ่ หรือไมไ่ ดร้ ับ การศึกษา 3) อาชพี การเลือกอาชพี มคี วามสมั พันธ์กบั การศกึ ษาของบุคคล อาชพี บางอย่างจะตอ้ งผ่านการศกึ ษาเฉพาะดา้ น เชน่ แพทย์ นกั กฎหมาย สถาปนกิ วศิ วกร เป็นต้น แตบ่ างอาชพี ถงึ แม้จะไมเ่ รยี นมาโดยตรง ก็นำความรู้มาประยุกต์ใชท้ ำงานได้ เช่น ผทู้ ีเ่ รียน สงั คมศาสตร์ อาจจะประกอบอาชีพไดห้ ลายอย่างได้แก่ อาจารย์ พนักงาน พนกั งานของรฐั บาล รฐั วสิ าหกิจ ตลอดจนธุรกิจเอกชน ตา่ งๆ 4) คุณสมบัตเิ ฉพาะตวั บุคคลแตล่ ะคนจะแตกต่างกันโดยเฉพาะในส่วนท่เี ป็นคณุ สมบัตเิ ฉพาะตัวเชน่ ความสามารถ (Abilities) ความชำนาญ (Skills) บคุ ลิกภาพ (Personality) แรงกระตุ้น (Drive)ทัศนคติ (Aptitudes) ขวัญและกำลังใจ (Motivation) และ คา่ นิยมต่างๆ (Value) ซึง่ จะมอี ทิ ธพิ ลต่อการกำหนดระดับรายได้ของบคุ คลท้ังสิน้ 5) แหล่งรายไดต้ ่างๆ ของบุคคล การทำงานแตล่ ะอาชีพย่อมมีผลตอบแทน ได้แก่ เงินเดอื น คา่ จา้ งและสวสั ดิการตา่ งๆ ในการ พจิ ารณารายไดข้ องบคุ คล นอกจากจะคำนงึ ถึงรายไดท้ ่ีเปน็ ตัวเงนิ แล้วยงั ต้องคำนึงถงึ สวัสดิการหรือผลประโยชน์อื่นๆ ทคี่ วรจะไดร้ บั ดว้ ย การวดั รายได้ส่วนบคุ คล สามารถทำได้ 2 วธิ ี ดังน้ี 1) วิธกี ารปรับรายไดป้ ระชาชาตใิ ห้เป็นรายได้สว่ นบุคคล 2) วิธีการวัดรายไดส้ ว่ นบคุ คลโดยตรง เปน็ การวัดผลรวมของรายได้เฉพาะทคี่ รวั เรือนได้รับรวม กับเงนิ โอนท่ีครัวเรอื นไดร้ ับในรอบปีนั้น ๆ การจัดทำงบการเงินส่วนบคุ คล เปน็ งบสรปุ ผลการใช้จา่ ยเงนิ และช่วยวางแผนทางการเงนิ ในอนาคตซงึ่ ประกอบด้วย งบ แสดงฐานะการเงิน งบรายไดร้ ายจา่ ยและบันทึกต่างๆ เป็นรูปแบบทปี่ ระชาชนท่ัวไปสามารถจัดทำเองไดง้ ่าย โดยจะไมก่ ลา่ วถงึ รายละเอยี ดที่สมบรู ณ์ของงบการเงินตามมาตรฐานการบัญชฉี บบั ท่ี 1 (ฉบับปรบั ปรุง 2552) งบการเงนิ ส่วนบคุ คลทน่ี ำมาใช้บันทึก รายการ มดี งั น้ี 1) งบรายได้และรายจ่ายสว่ นบคุ คล (Income Statement)

135 2) งบแสดงฐานะการเงินส่วนบคุ คล 3) การบนั ทกึ รายการทรัพยส์ ินสว่ นบคุ คล 4)บันทึกรายการเสียภาษี 5) บนั ทกึ หลักฐานกรรมสิทธิ์ในทรพั ย์สนิ ไมห่ มุนเวียน 6) บันทกึ หลักฐานการประกันภยั 7) บันทกึ หลกั ฐานการลงทุน 8) บันทกึ หลักฐานสำคัญอน่ื ๆ การทำงบประมาณ (Budgeting) คือ การวางแผนการทคี่ าดว่าจะตอ้ งจ่าย โดยการคดิ ลว่ งหน้าและแสดงข้อมลู ออกมาเปน็ ตัวเลข และอาจแสดงออกมาในรปู ของตวั เงนิ จำนวนช่วั โมงในการทำงาน จำนวนผลิตภัณฑ์จำนวนชั่วโมงเครอ่ื งจกั ร ค่าสกึ หรอ ค่าโสหุ้ย เป็นต้น

136 การทำงบประมาณส่วนบคุ คล (Personal Budgets) หมายถึง การวางแผนประมาณรายไดร้ ายจ่ายล่วงหนา้ เพื่อจดั สรรเงนิ ที่มีอยู่ อย่างจำกดั ให้ประสบความสำเรจ็ ตามเป้าหมาย โดยจัดทำงบประมาณรายไดแ้ ละคา่ ใช้จ่ายตามท่ีไดค้ าดการณไ์ ว้ แลว้ จงึ นำมา ประกอบเป็นงบประมาณรายไดแ้ ละงบประมาณรายจ่ายรายเดือนหรอื รายปี เพ่อื ควบคุมคา่ ใช้จ่ายใหอ้ ยู่ในกรอบของงบประมาณที่ ได้กำหนดก็จะมเี งนิ เหลือใช้เงินส่วนน้ีก็จะเปน็ เงนิ ออมในวันข้างหน้า 12.ครูสาธติ การทำงบประมาณรายจา่ ยส่วนบคุ คล สนิ ทรัพยส์ ภาพคลอ่ ง (Liquid Asset) คอื สินทรัพย์ในรูปของเงินสดและสนิ ทรัพยอ์ นื่ ท่มี สี ภาพใกล้เคยี งเงนิ สด แต่สามารถ เปลี่ยนเป็นเงินสดได้งา่ ยภายในระยะเวลาไมเ่ กิน 1 ปี เช่น เงินฝากกระแสรายวันเงินฝากออมทรัพย์ และเงินลงทุนระยะสน้ั อื่นๆ บุคคลจำเป็นตอ้ งมสี ินทรัพย์สภาพคลอ่ งใหเ้ พยี งพอต่อการใช้จ่ายประจำวัน เพ่ือจะได้ไม่เกิดปัญหาเงนิ ขาดมือ ส่วนปัญหาทางการ เงนิ มกั จะเกิดขึ้นกบั ทกุ ครอบครวั ถ้าไมม่ ีการเตรียมพรอ้ มไวย้ ่อมนำความเดือดร้อนมาสสู่ มาชิกภายในครอบครวั ได้ จงึ จำเปน็ ทที่ กุ ครอบครัวต้องมเี งนิ สดสำรองไว้จำนวนหนึ่ง เพราะจะทำให้ทุกครอบครัวมคี วามเป็นอยู่ทดี่ ี และสขุ สบายในอนาคต ประโยชนข์ องการจดั การทางการเงนิ มดี ังนี้ 1) เพ่ือให้บุคคลมแี นวทางในการวางแผนทางการเงนิ ของตนเองและครอบครวั ไดถ้ ูกตอ้ ง เช่น การหารายได้ การจัดหาแหล่งเงนิ สด การใช้จา่ ยเงินสด และการเก็บรักษาเงินสด การลงทนุ การรจู้ กั วางแผนปอ้ งกนั ชวี ิตและทรพั ยส์ ินของตนจะนำมาซึ่งความม่งั คง่ั มน่ั คงและความสุขของบุคคลและครอบครัวน้นั 2) สง่ เสริมให้บคุ คลไดต้ ระหนักถงึ ความสำคญั ของการใชจ้ า่ ยเงนิ อย่างถูกต้อง เช่น การใช้เงนิ เพื่อสุขภาพ การใชจ้ ่ายเพอื่ พกั ผอ่ น หรอื ทอ่ งเทย่ี ว ซ่งึ เป็นการช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวติ ใหม้ คี วามสุขสบายอยา่ งสมบรู ณแ์ บบและมีโอกาสใช้เงินทต่ี นหามาไดต้ ลอด ชวี ิต ใหเ้ กดิ ผลคมุ้ คา่ อย่างแท้จรงิ

137 3) จะกอ่ ให้เกดิ บุคลากรทมี่ คี วามรดู้ ้านการวางแผนการเงนิ ซ่งึ จะเปน็ ผมู้ คี วามรคู้ วามสามารถในการวางแผนการเงินและการลงทุน โดยเฉพาะสามารถใหค้ ำแนะนำและชว่ ยวางแผนใหล้ ูกคา้ ทตี่ อ้ งการลงทนุ ในสถาบันการเงินตา่ งๆ เชน่ ธนาคาร บรษิ ัทประกนั ชวี ิต บริษทั เงินทนุ หลกั ทรัพย์ บริษทั จดั การลงทุนตลอดจนกจิ การทดี่ แู ลรกั ษาผลประโยชนข์ องลกู ค้า 4) เปน็ พนื้ ฐานความมั่นคงใหก้ บั เศรษฐกิจและสงั คมของประเทศ เมือ่ การจัดการการเงินของครวั เรือนไดผ้ ลดมี ีประสิทธิภาพ ประชาชนมีเงนิ เหลอื ใชก้ จ็ ะส่งผลให้เกิดการออมและการลงทุนได้มากเมอื่ ประชาชนสว่ นใหญ่มคี วามเป็นอยู่ทด่ี ขี ้ึน กจ็ ะช่วย ประหยัดค่าใช้จา่ ยด้านสวสั ดกิ ารสงั คมได้

138 ใบงานที่ 1 หนว่ ยที่ 5 รหสั วิชา 20200-1001 ชือ่ วิชา ธรุ กิจและการเป็นผูป้ ระกอบการ สอนครั้งที่ 7-8 ชอ่ื หน่วย การจดั หาและการวางแผนทางการเงิน เวลารวม 51 ชั่วโมง ช่อื งาน การจัดหาและการวางแผนทางการเงิน จำนวน 3 ช่วั โมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงค์ท่ัวไป 1.เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นบอกการวางแผนทางการเงินได้ 2.เพ่ือใหน้ กั เรยี นอธิบายหลกั การวางแผนทางการเงินได้ 3.เพือ่ ใหน้ กั เรยี นบอกการจดั การทางการเงนิ ได้ 4.เพื่อใหน้ กั เรียนอธิบายการจดั การเงนิ สดและสินทรัพยส์ ภาพคลอ่ งได้ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผู้สำเร็จการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทีค่ รูสามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเร่อื ง 1.1 ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมวี นิ ยั 1.7 ความรบั ผดิ ชอบ 1.3 การละเวน้ สิง่ เสพติดและการพนัน 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซ่อื สัตย์สุจรติ 1.9 ความรกั สามัคคี 1.5 ความเชอื่ มัน่ ในตนเอง 1.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรเู้ ก่ียวกบั หลกั การวางแผนเป้าหมายชวี ิตด้วยวงจรควบคุมคุณภาพ ธุรกิจและการเป็น ผปู้ ระกอบการ หลักการจดั การทางการเงิน หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลติ เบอ้ื งตน้ และกฎหมายท่เี กย่ี วข้อง 2.จัดทำแผนธรุ กจิ อย่างงา่ ย 3.ประยุกต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยกุ ต์ใช้หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพมิ่ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนินงาน เครื่องมือ วสั ดุ – อปุ กรณ์ 1.หนังสือแบบเรยี น 2. สื่อการเรยี นการสอน power point 3. คน้ คว้าข้อมูลจากส่ือออนไลน์

139 ลำดบั ข้ันตอนการปฏบิ ัตงิ าน 1. แบง่ กลมุ่ นกั เรียนออกเปน็ 3 กลุ่ม เพอื่ ทำการศกึ ษาหาขอ้ มูลเพื่อนำเสนอหน้าชั้นเรียน กล่มุ ที่ 1 ศกึ ษาข้อมูลเกยี่ วกบั การวางแผนทางการเงิน กลุม่ ท่ี 2 ศึกษาหลักการวางแผนทางและการเงนิ การจดั การทางการเงนิ กล่มุ ท่ี 3 ศกึ ษาการจดั การเงินสดและสนิ ทรัพย์สภาพคล่องภาพประกอบ - ขอ้ ควรระวัง - ข้อเสนอแนะ (ถา้ ม)ี - การประเมินผล (ต้องระบเุ กณฑ์การประเมินใหช้ ัดเจน) - เกณฑ์การวัดผล 1. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล ต้องไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง 2. แบบประเมินผลการเรียนร้กู ่อนเรยี นไม่มีเกณฑ์ผา่ น เก็บคะแนนไวเ้ ปรียบเทยี บกับคะแนนทไ่ี ดจ้ ากการ ทดสอบหลงั เรยี น 3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยูก่ ับ การประเมิน ตามสภาพจริง เอกสารอา้ งองิ ธรุ กิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ, เอมพันธ์: 2560

140 ใบมอบหมายงานท่ี 1 หนว่ ยท่ี 5 รหัสวชิ า 20200-1001 ชือ่ วิชา ธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ สอนครัง้ ท่ี 7-8 ชอื่ หนว่ ย การจัดหาและการวางแผนทางการเงิน ชอ่ื งาน การจัดหาและการวางแผนทางการเงนิ จดุ ประสงคท์ ั่วไป 1.เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นบอกการวางแผนทางการเงินได้ 2.เพอื่ ใหน้ กั เรียนอธบิ ายหลักการวางแผนทางการเงนิ ได้ 3.เพอ่ื ให้นักเรียนบอกการจดั การทางการเงินได้ 4.เพ่ือใหน้ ักเรียนอธิบายการจดั การเงนิ สดและสนิ ทรพั ย์สภาพคล่องได้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. มีการพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้สำเรจ็ การศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ทค่ี รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทำการสอนในเรอ่ื ง 1.1 ความมมี นุษยสัมพันธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมีวินยั 1.7 ความรบั ผดิ ชอบ 1.3 การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนัน 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซ่อื สัตย์สุจริต 1.9 ความรกั สามคั คี 1.5 ความเชือ่ ม่นั ในตนเอง 1.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลกั การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ดว้ ยวงจรควบคมุ คณุ ภาพ ธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ หลักการจัดการทางการเงิน หลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลิตเบ้ืองต้น และกฎหมายท่เี กีย่ วขอ้ ง 2.จัดทำแผนธุรกจิ อยา่ งง่าย 3.ประยุกต์ใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยกุ ต์ใช้หลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนนิ งาน แนวทางการปฏิบตั ิงาน แบ่งกลมุ่ เพื่อคน้ คว้าหาข้อมูลและนำเสนอหน้าชั้นเรยี น โดยแบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ กลุ่มละเท่า ๆ กนั แหลง่ ค้นคว้า 1. หอ้ งสมดุ

141 2. สื่อออนไลน์/Internet 3. นิตยสาร/วารสาร คำถาม/ปัญหา เม่ือนกั เรยี นคน้ คว้าแล้วมปี ัญหาหรอื ไม่เสามารถหาเนอ้ื หาท่ีจะศึกษาหาข้อมูลไดจ้ ะทำอย่างไร คำตอบ สามารถปรกึ ษาจาก ครูผู้สอน หรือครูท่มี ีความรูใ้ นรายวิชา กำหนดเวลาส่งงาน นำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี นในคาบเรยี นถดั ไป เอกสารอา้ งอิง สอื่ ออนไลน/์ Internet หนงั สือตำราเรยี น วชิ าธรุ กจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ

142 แบบประเมินผลงาน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 ช่อื กลมุ่ .........................................................................ช้นั ................................................................ รายชื่อสมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 บคุ ลกิ การแตง่ กาย 2 มารยาทในการพูด 3 การใช้ภาษา 4 วธิ กี ารนำเสนอ 5 เนื้อหาทนี่ ำเสนอ รวม ผู้ประเมิน.............................................. วนั ท่.ี .............เดือน...............................พ.ศ...................

143 เกณฑ์การประเมิน บคุ ลิก การแต่งกาย : มีความเชือ่ มน่ั ในตนเอง แตง่ กายสะอาด ถูกระเบยี บ เสือ้ ไมห่ ลุดล่ยุ ลอยชาย มารยาทในการพูด : มองหน้าและสบตาผ้ฟู งั ไมเ่ หน็บแนม เสียดสผี อู้ ่นื การใช้ภาษา : ชดั เจน ตามหลกั ภาษา ตัว ร ล คำควบกล้ำ ถ้อยคำขอ้ ความสุภาพ วิธีการนำเสนอ : นา่ สนใจหลากหลาย เชน่ ใช้แผน่ ใส รปู ภาพ ต้ังคำถาม เล่นเกม ไมเ่ ยนิ่ เย้อ เนื้อหาท่นี ำเสนอ : มีสาระสำคัญ ตรงกบั หัวข้อเรอื่ ง ใช้เวลาตามท่ีกำหนด 1..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 3..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 4..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 5..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = ……………………………………………………………………………………………………………

144 แบบประเมินผลงาน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 ชอื่ กลมุ่ .........................................................................ชัน้ ปวช......................................................... รายช่ือสมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 เน้อื หาถกู ตอ้ งครบถ้วนสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 ความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทนี่ า่ สนใจ รวม ผู้ประเมนิ .............................................. วันท่ี..............เดอื น...............................พ.ศ...................

145 เกณฑก์ ารประเมนิ 1.เน้ือหาถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคญั ครบถ้วน ส่อื ความหมายชดั เจนและมีรปู ภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคญั ครบถว้ น สอื่ ความหมายและมีรปู ภาพไม่ตรงเนื้อหา 1 คะแนน = มเี นือ้ หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถ้วน 2. ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 คะแนน = มคี วามสามัคครี ่วมมอื กนั ทำงานทุกคน 2 คะแนน = รว่ มมือกันทำงานเป็นบางคน 1 คะแนน =ไม่คอ่ ยรว่ มมอื กันทำงาน 3. ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณใ์ นท้องถิ่น และประหยัด 2 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยกุ ตใ์ ช้วสั ดอุ ุปกรณใ์ นทอ้ งถนิ่ แตไ่ มป่ ระหยัด 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ ่าสนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเก่ียวกับองค์ประกอบ ครอบคลมุ และชัดเจน 2 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบ ไมค่ รอบคลุมแต่ชัดเจน 1 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลุมและไมช่ ดั เจน 5. การนำเสนอนา่ สนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจปานกลาง ชดั เจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไมค่ ่อยชัดเจน

146 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน หน่วยการเรียนรู้ที่............................................................................................................................. ชื่อกล่มุ .........................................................................ชน้ั ................................................................ รายชื่อสมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 เนอ้ื หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมอื กันทำงาน 3 ความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทนี่ ่าสนใจ รวม ผูป้ ระเมิน.............................................. วนั ที.่ .............เดือน...............................พ.ศ...................

147 เกณฑก์ ารประเมนิ 1.เน้ือหาถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคญั ครบถ้วน ส่อื ความหมายชดั เจนและมีรปู ภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคญั ครบถว้ น สอื่ ความหมายและมรี ูปภาพไมต่ รงเน้อื หา 1 คะแนน = มเี นือ้ หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 คะแนน = มคี วามสามัคครี ่วมมอื กนั ทำงานทุกคน 2 คะแนน = รว่ มมือกันทำงานเป็นบางคน 1 คะแนน =ไม่คอ่ ยรว่ มมอื กันทำงาน 3. ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยุกต์ใชว้ สั ดุอุปกรณ์ในท้องถนิ่ และประหยัด 2 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยุกตใ์ ช้วัสดุอปุ กรณใ์ นทอ้ งถิน่ แตไ่ มป่ ระหยัด 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ า่ สนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเก่ียวกับองค์ประกอบ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบ ไม่ครอบคลุมแต่ชดั เจน 1 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไม่ครอบคลมุ และไมช่ ัดเจน 5. การนำเสนอนา่ สนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชดั เจน 2 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจปานกลาง ชดั เจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไมค่ ่อยชัดเจน

148 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ชอ่ื กลมุ่ .........................................................................ชน้ั ................................................................ รายช่อื สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 การเตรยี มความพร้อม 2 เน้อื หาสาระ 3 รูปแบบการนำเสนอ 4 การมีส่วนร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่ 5 การรกั ษาเวลา 6 ความสนใจของผ้ฟู งั รวม ผู้ประเมิน.............................................. วันท.ี่ .............เดือน...............................พ.ศ...................

149 เกณฑก์ ารประเมิน 1. การเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = มกี ารจดั เตรียมสถานท่ี สื่อ/อปุ กรณ์ไว้อยา่ งพรอ้ มเพรยี ง 2 คะแนน = มสี ือ่ /อปุ กรณพ์ ร้อม ขาดการจัดเตรียมสถานท่ี 1 คะแนน = สอ่ื /อุปกรณไ์ ม่เพียงพอ ขาดการจดั เตรียมสถานที่ 2. เนื้อหาสาระ 3 คะแนน = สาระสำคัญครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 3. รปู แบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มีรปู แบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มีสือ่ และ ใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ นำวสั ดุในท้องถิ่นมาประยกุ ต์ใช้ อยา่ งคุ้มค่าและประหยดั 2 คะแนน = ใช้เทคนคิ แปลกใหม่ มีสื่อและใช้เทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ ขาดการประยุกตใ์ ช้วสั ดุในทอ้ งถ่ิน 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม ไม่น่าสนใจ 4. การมสี ่วนร่วมของสมาชิก 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมบี ทบาทและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญม่ ีบทบาทและมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 5. การรกั ษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมไดต้ ามเวลาทก่ี ำหนด 2 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมเรว็ กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กว่าเวลาทกี่ ำหนด 6. ความสนใจของผู้ฟงั 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกวา่ รอ้ ยละ 80 สนใจ และให้ความรว่ มมือ 2 คะแนน = ผูฟ้ งั ร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วามร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่า รอ้ ยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื

40 แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 6 จำนวน 3 ช่ัวโมง สปั ดาห์ท่ี 9-10 สอนครัง้ ที่ 9-10 ชื่อวชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ จำนวน 3 ช.ม. ชือ่ หน่วย/เรื่อง กฎหมายท่เี ก่ยี วกับธรุ กจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ 1. แนวคิด การประกอบธรุ กจิ นั้นส่งิ ทีม่ คี วามสำคัญมากต่อผู้ประกอบการอีกอยา่ งหนงึ่ กค็ อื ผู้ประกอบการควรจะ มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั กฎหมายท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั ผ้ปู ระกอบการ เน่ืองจากตอ้ งปฏิบัติตามขอ้ บังคับทาง กฎหมายท่รี ะบไุ ว้ให้ปฏบิ ตั ิตาม ซ่งึ กฎหมายทีม่ คี วามเกี่ยวขอ้ งโดยตรงนน้ั มหี ลายฉบบั ด้วยกนั เชน่ กฎหมาย แรงงาน เพราะเปน็ กฎหมายท่ีบัญญัติถงึ สิทธแิ ละหน้าท่ขี องนายจ้าง ลกู จา้ ง องคก์ ารของนายจา้ ง และองคก์ ร ของลูกจ้าง รวมทัง้ มาตรการท่ีกำหนดให้นายจ้าง ลกู จ้างและองค์กรดังกล่าวปฏบิ ัติต่อกันและรฐั ทงั้ นี้เพือ่ ให้ การจา้ งงาน และการใช้งาน การประกอบกจิ การและความสัมพันธ์ระหว่างนายจา้ งและลูกจา้ งเปน็ ไปโดย เหมาะสม นอกจากนย้ี ังมีกฎหมายฉบับอ่นื ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งอีก 2. ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวัง 1.แสดงความรเู้ กีย่ วกับการจดทะเบียนจัดต้งั ธรุ กจิ ได้ 2.แสดงความรเู้ กยี่ วกบั กฎหมายภาษีตามประมวลรัษฎากรได้ 3.แสดงความรู้เกยี่ วกบั กฎหมายอ่ืนๆ ทีเ่ กยี่ วขอ้ งได้ 4.แสดงความรเู้ ก่ียวกบั การจดทะเบียนสทิ ธบิ ัตรได้ 5.เครื่องหมายการค้า 6.กฎหมายประกนั สงั คม 3. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม มีการพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผสู้ ำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทีค่ รูสามารถสงั เกตได้ขณะทำการสอนในเรื่อง 1. ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2. ความมีวินยั 3. ความรับผิดชอบ 4. ความซื่อสัตย์สจุ ริต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook