51 ตารางกำหนดเปา้ หมายในการออม เปา้ หมายในการออมเรียบร้อยแล้ว กต็ ้องกำหนดจำนวนเงนิ ทจ่ี ะออม ซ่งึ มวี ธิ ีคำนวณแบบงา่ ยๆ คือ นำรายจ่ายหัก ออกจากรายรบั
52 ตารางแสดงรายรับ-รายจ่ายตามตารางดงั นี้ ปัจจัยสำคัญในการออม ซึ่งโดยทัว่ ไปการออมจะเกิดขึ้นกต็ อ่ เมื่อบคุ คลนัน้ มรี ายได้มากกวา่ การจา่ ย และตอ้ งอาศยั ปัจจยั สำคญั ในการออม ดังน้ี 12.1 ผลตอบแทนที่ได้รบั ถ้าผลตอบแทนในการออมเพ่มิ ขึ้นกจ็ ะจูงใจให้บุคคลมีการออมเพิ่มมากข้ึน 12.2 มูลค่าของอำนาจซือ้ ของเงินในปจั จุบัน ผอู้ อมจะตัดสินใจออมเงินมากขึน้ หลังจากพจิ ารณา ถึงอำนาจซ้อื ของเงินทมี่ อี ยใู่ นปัจจบุ นั วา่ จะมคี วามแตกตา่ งจากมลู ค่าของเงินในอนาคต 12.3 รายได้สว่ นบุคคลสทุ ธิ ผู้ทีม่ รี ายได้แนน่ อนทุกเดือนในจำนวนทีไ่ ม่สูงมาก จำนวนเงนิ ออมทีก่ นั ไว้ อาจเป็นเพยี งจำนวนนอ้ ยตามอตั ราสว่ นของรายไดท้ ม่ี ีอยู่ 12.4 ความแนน่ อนของจำนวนรายได้ในอนาคตหลงั เกษยี ณอายุ ถ้าทุกคนทราบว่าเมื่อใดก็ตาม ทแี่ ต่ละบุคคลไมม่ ีความสามารถหารายไดต้ ่อไป ก็จะไม่มีปญั หาการเงินเกิดข้นึ เน่อื งจากหน่วยงานที่ ทำงานอยอู่ าจมนี โยบายช่วยเหลือในวัยชราหลังเกษยี ณอายุ หรือภายหลังออกจากงานก่อนกำหนด ปัญหาในการออมเปน็ ปญั หาท่สี ำคญั อยา่ งหนงึ่ ของประเทศ เน่อื งจากชาวไทยจำนวนมากจะมี อายยุ ืนประมาณ 80-90 ปี แตส่ ่วนมากกย็ งั ไม่มกี ารออมอยา่ งเพียงพอเพราะแต่ละคนกจ็ ะมปี ัญหาเร่อื ง การออม และทอ้ แท้ที่จะพยายามออมตอ่ ไป ปัญหาในการออมเงินทีเ่ หน็ ได้ชัดเจนก็คอื การไม่ต้ังใจ หรอื ไม่มี ความอดทนเพียงพอของแต่ละบคุ คล จึงทำให้ไมส่ ำเร็จตามเป้าหมายท่ีกำหนดไว้ ซึ่งสามารถสรปุ ได้ดงั นี้
53 วางแผนในการออม ซงึ่ การวางแผนการออม (Saving Plan) เป็นกลยทุ ธ์ที่ชว่ ยใหบ้ ุคคลประสบความสำเร็จตาม เปา้ หมายในชวี ิต ซึง่ แตล่ ะบคุ คลควรจดั สรรรายได้ของตนเองเพ่ือเป็นค่าใช้จา่ ยปจั จุบัน และเป็นเงนิ ออมในอนาคต เป็นจำนวนเท่าใด ส่งิ ทสี่ ำคญั ในการวางแผนการออมคอื การประมาณรายไดแ้ ละรายจ่าย เช่น บคุ คลต้องการซอ้ื บ้านจะต้องวางแผนการออมโดยกำหนดจำนวนเงินและระยะเวลาท่สี ะสมเงนิ ออมเพือ่ ให้ไดต้ าม จำนวนที่ตอ้ งการ เงนิ ออมยังช่วยบรรเทาความเดือดรอ้ นทางการเงินในยามฉุกเฉิน แสดงใหเ้ ห็นว่าการออมเปน็ รูปแบบของการลงทุนอยา่ งหนง่ึ ทกุ คนจึงควรบรหิ ารเงนิ ออมอย่างรอบคอบ รปู แบบของการวางแผนการออม ดังน้ี 1. การฝากเงินกบั ธนาคาร (Deposit) 2. การประกนั ชีวติ (Life Insurance) 3. การออมทรัพย์กับสหกรณ์ 4. การซอ้ื พันธบัตรรัฐบาล 5. กองทนุ สำรองเลย้ี งชพี (Provident Fund: PVD) แสดงการคำนวณเงินออมเพอ่ื เกษียณอายุ ซึง่ ทกุ คนควรเตรยี มความพรอ้ มในอนาคตด้วยตนเอง จงึ ต้องมเี งนิ ออมไว้ จำนวนหนงึ่ เพอ่ื ใชจ้ า่ ย จงึ ตอ้ งสำรวจตนเองวา่ ปจั จบุ นั อายุเท่าไร สุขภาพเปน็ อย่างไร พฤติกรรมการใช้จ่ายเปน็ อย่างไร มีรายได้ตอ่ เดือนเท่าไหร่ ซ่งึ จะเปน็ ปัจจยั ท่ีจะนำมาพิจารณาวางแผนว่าในอนาคตตอ้ งมีเงนิ ออมจำนวน เทา่ ใดจงึ จะพอใช้ ซง่ึ ไมม่ ีสูตรท่แี นน่ อน แต่กพ็ อประมาณได้ดังน้ี วิธที ี่ 1 พิจารณาจากเงนิ ออมทีม่ อี ย่ใู นมอื ปัจจุบัน ซึง่ จะมจี ำนวนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 10 ของเงนิ ไดท้ งั้ ปี คณู ดว้ ยอายุ ในปจั จุบันของตนเอง
54 วธิ ที ี่ 2 พิจารณาจากเงนิ ออมท่ีมี ณ วนั ท่เี กษยี ณอายุ โดยให้นำจำนวนปีทมี่ ชี วี ิตอยหู่ ลงั เกษียณคูณด้วยคา่ ใช้จ่ายต่อ เดอื น หลกั วางแผนเกษียณอายุ ดงั น้ี 1) การหาระยะเวลาแหง่ ช่วงชวี ิต ในปจั จุบนั ชว่ งชีวิตโดยเฉลยี่ ของผู้ชายคอื 72 ปี และของผู้หญงิ คอื 75 ปี แตด่ ว้ ยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่กา้ วหน้าขึน้ สามารถยืดอายุของคนไปไดอ้ กี 20 ปี จากค่าเฉล่ยี น้นั 2) ระดบั เงินเฟอ้ ท่ีมีแนวโน้ม หรือคาดว่าน่าจะเป็นไปในชว่ งเวลาของการเกษียณอายุ ซ่งึ ทำให้ เงนิ ออมท่หี ามาไดใ้ นแต่ละปดี ้อยค่าไป 3) ค่าใชจ้ ่ายเกีย่ วกับสขุ ภาพท่เี พิ่มมากขึ้นเมือ่ เรม่ิ อายมุ าก โดยท่ัวไปทกุ คนต้องการเงนิ ประมาณ 70–75% ของรายได้กอ่ นการเกษียณอายุ เพอ่ื เอาไวใ้ ชจ้ ่ายเม่อื ยามเกษียณอายุ ซงึ่ อาจแตกตา่ งกนั ไปขึ้นอยกู่ บั วิถี ชีวติ ของแต่ละคนท่ีวางแผนเอาไว้ ปญั หาในการวางแผนเกษยี ณอายดุ งั น้ี 1) เริม่ ตน้ วางแผนเกษียณอายุช้าเกนิ ไป 2) จำนวนเงนิ ท่สี ะสมแต่ละปีก่อนเกษียณน้อยเกินไปไม่พอกับค่าใชจ้ ่ายทเี่ กิดขนึ้ หลงั เกษยี ณ 3) นำเงินทุนท่ไี ด้สะสมไว้นี้ไปลงทุนทไี่ ม่กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุด การประมาณรายไดแ้ ละรายจา่ ยเพอ่ื เกษยี ณอายุ ซึง่ บุคคลที่มีการวางแผนเงินไวล้ ่วงหนา้ เพอ่ื เป็นทุนสำรอง ไวใ้ ช้จา่ ยในวัยชราเกษียณ ยอ่ มจะได้รบั ความสะดวกสบาย จงึ ควรวางแผนการเงินไว้อยา่ งรอบคอบเพอ่ื เกษียณอายุ ประกอบดว้ ย 1) การกำหนดความต้องการใช้เงนิ หลังเกษียณ 2) การประมาณรายไดห้ ลังวัยเกษยี ณอายุ 3) การจดั หาเงินสำรองไว้สำหรับสว่ นท่ขี าด 4) แหล่งที่มาของรายได้หลงั เกษยี ณอายุ
55 24.ผูเ้ รียนแนวทางในการแกป้ ัญหาหลังการเกษยี ณอายุ 1) รายไดแ้ ละรายจา่ ย เมอ่ื เกษียณแลว้ รายไดต้ า่ งๆ ก็ลดน้อยลง มีแต่รายได้ที่เกดิ จากเงนิ ออม เงนิ ประกันสงั คมและ อื่น ๆ หากไม่วางแผนการใชจ้ ่ายให้ดี หรอื ยังติดยึดอยู่กับตำแหน่งฐานะเดิม แมเ้ กษยี ณแลว้ กพ็ ยายามทำตนให้ เหมือนเดมิ อยู่ ก็ย่อมจะกอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหาเศรษฐกิจได้ ดงั นน้ั ผู้เกษยี ณจงึ ตอ้ งทำใจ อย่ายอมให้สงั คมมาเปน็ ผู้กำหนด หรืออยา่ นำตัวไปเปรียบเทยี บกับผอู้ น่ื แนวทางในการแกป้ ญั หา ต้องมกี ารวางแผนการเงนิ ไวล้ ่วงหน้า ดูรายรบั รายจ่ายใหส้ มดุลกัน รู้จักทำบญั ชีหรอื ควบคมุ ค่าใช้จ่ายใหร้ ัดกมุ รจู้ กั ประหยัด ไม่ฟุ่มเฟอื ยใช้จา่ ยในสงิ่ ท่ีจำเป็น เช่น เสือ้ ผ้าเคร่อื งสำอาง อาหารบางชนิด เหล้า บหุ ร่ี หรอื การเทีย่ ว เปน็ ต้น หากตอ้ งสง่ เสียลูกเรยี น ตอ้ งผอ่ นบา้ นหรือผอ่ นรถ เป็นต้น กค็ วรมกี ารวางแผน ตั้งแต่ก่อนเกษียณ เพ่ือมใิ หเ้ กดิ ความเครยี ดจนกลายเปน็ ปญั หาครอบครวั ควรปรกึ ษาสมาชกิ ในครอบครวั ตัง้ แต่ เริม่ ตน้ ว่าจะทำอะไรตอ่ ไปหลงั เกษียณแล้ว 2) เวลา เม่ือออกจากงานจะทำให้มเี วลาวา่ งมากขึ้น จึงเป็นโอกาสท่ีจะใช้เวลาทำในสง่ิ ท่ีตนเองอยากทำ อยา่ ปล่อย ให้วา่ งเพราะอาจจะกอ่ ใหเ้ กิดความสูญเสยี หลายอย่าง ทง้ั จติ ใจและรายได้ แนวทางในการแก้ปญั หา ต้องรู้จักเลือกใชเ้ วลาให้เกดิ ประโยชน์ 3).สภาพจิตใจ การเกษียณอายุจะทำใหบ้ ุคคลไดร้ ับความกระทบกระเทอื นด้านจติ ใน เนอ่ื งจากรายได้ลดลงอย่าง รวดเร็ว เงนิ บำเหน็จบำนาญ เงินสะสม เงินเลยี้ งชีพ จะชว่ ยใหส้ ภาพจิตใจดีขึน้ ได้ การเปล่ียนแปลงด้านจติ ใจ อารมณข์ องผสู้ งู อายุ อาจเกิดจากมเี วลาว่างมากเกนิ ไป เพราะเกษียณอายจุ ากการทำงานแลว้ จงึ รู้สึกวา่ ตัวเองถกู ลด คุณค่าลง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคนในครอบครวั เรม่ิ มนี ้อยลง ทำให้รูส้ ึกโดดเด่ยี วและเศรา้ ซึม อาจเป็นผลมาจาก ความเจบ็ ปว่ ยและการเสื่อมของระบบตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย ทำให้มีอารมณแ์ ปรปรวนง่าย หงดุ หงิด ใจน้อย โกรธงา่ ย เปน็ ต้น แนวทางในการแกป้ ัญหา ไมค่ วรแยกตวั ออกจากสังคม หรือเก็บตวั เงยี บอยแู่ ต่ในบา้ น ควรใชเ้ วลาวา่ งไปทำงาน อดิเรกทีช่ อบ หดั เต้นรำ ฝึกใช้คอมพิวเตอร์ เปน็ อาจารย์สอนพิเศษ เป็นตน้ อาจนำไปส่กู ารเปล่ยี นแปลงวิถชี ีวติ อาชพี และใหป้ ระสบการณ์ใหมอ่ ย่างทไ่ี มเ่ คยทำมากอ่ น 4) สภาพรา่ งกาย เมอื่ เข้าสูว่ ัยเกษียณสุขภาพยอ่ มทรุดโทรมลง ควรรกั ษาสุขภาพใหด้ ีอาจทำประกนั สุขภาพไวก้ ็ได้ แนวทางในการแกป้ ญั หา ผ้เู กษยี ณอายุควรหมน่ั ออกกำลงั กายสมำ่ เสมอ โดยอาจจะไปตามฟิตเนต ศนู ยก์ ารคา้ หรือ สวนสาธารณะ การไปออกกำลังกายจะทำใหร้ ่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยเจบ็ ปว่ ย จิตใจแจม่ ใส รูส้ ึกดี และทำให้ได้ เพ่อื นใหมๆ่ หากเป็นวยั เดยี วกนั กพ็ ดู คยุ ปรึกษาปัญหาท่คี ล้ายกันได้ เพยี งแต่ต้องยอมรบั ซ่งึ กันและกนั เพราะเพอื่ น แตล่ ะสถานที่ ก็จะมีบคุ ลกิ ลกั ษณะแตกต่างกนั ไป แตถ่ ้าชอบสมาคมก็จะมคี วามสนุกสนาน เพลดิ เพลิน ซึ่งเพอ่ื น กลุ่มออกกำลงั กาย หลายคนกก็ ลายมาเปน็ เพ่ือนเทย่ี วได้ ผูเ้ กษยี ณอายุควรดูแลความสะอาดและควรแต่งตัวให้ สวยงามและเหมาะสม จะทำใหไ้ ดร้ ับการยอมรบั ทำให้จิตใจสดช่ืน สบายใจ เป็นการสรา้ งขวญั และกำลังใจให้ ตนเองได้ รปู แบบการออมเพ่อื การเกษียณของประเทศไทย โดยธนาคารโลก (World Bank) ไดน้ ำเสนอแนวคิด เก่ียวกับระบบการออมเพอ่ื เกษยี ณอายหุ รอื ระบบบำเหนจ็ บำนาญ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความมัน่ คงทางสังคมของประเทศที่ เรยี กวา่ “สามเสาหลักของระบบเงนิ ออมเพ่ือวยั เกษียณ” (Three Pillars หรือ The Multi Pillar of Old Age Security) โดยยึดหลักการสร้างระบบบำนาญสมดุลและรองรบั ภาระในอนาคตที่จะต้องเล้ยี งดูผู้เกษียณอายไุ ดใ้ น
56 ระดบั ทเ่ี หมาะสมและไมเ่ พิม่ ภาระภาษีให้กบั ประชาชนของประเทศ ขณะเดยี วกนั ช่วยสร้างรายไดข้ องประเทศโดย ใชเ้ งินออมของคนในประเทศเปน็ ตัวขบั เคลอ่ื นการขยายตวั ทางเศรษฐกิจและการลงทุน รปู แบบการออมเพ่ือการเกษยี ณของประเทศไทยปัจจบุ นั ได้ขยายขอบเขตความคมุ้ ครองครอบคลุมประชากร โดยทว่ั ไปนอกเหนอื จากขา้ ราชการ เพอื่ สรา้ งความสามารถในการพึ่งพอตนเองในวัยเกษยี ณให้แก่ประชาชน ตาม ทฤษฎีระบบเงนิ ออมของธนาคารโลก โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการซึง่ สามารถเขา้ ถงึ ระบบบำนาญที่เป็นหลกั ประกันได้ ท้งั 3 เสาหลักได้แก่ เสาหลกั ที่ 1 รัฐจดั ให้ เป็นระบบบำนาญภาคบังคับทีร่ ฐั บาลของแต่ละประเทศจดั ให้แก่ประชาชน เรียกว่า Pay-as- you-go (PAYG) ซ่งึ จะกำหนดผลประโยชน์ท่ีจะจ่ายใหแ้ กส่ มาชกิ แนน่ อน (Defined Benefit) จนกระทงั่ เสยี ชวี ิต โดยจ่ายจากเงนิ ภาษีทีเ่ กบ็ จากประชาชนมาจัดสรรเป็นงบประมาณ เพ่ือสร้างหลกั ประกนั เพ่ือการชราภาพข้ัน พน้ื ฐานของประเทศ ซึ่งกำหนดผลประโยชน์ข้นั ตำ่ ของรายได้ให้เพียงพอแก่การยังชีพ ท่ีควรจะต้องไมต่ ่ำกวา่ เส้น ความยากจน (Poverty Line) เสาหลกั ท่ี 2 ภาคบังคับ เป็นระบบเงนิ ออมภาคบังคบั (Mandatory System) ทร่ี ัฐบาลบังคับใหป้ ระชาชนออม ขณะทำงาน อาจบรหิ ารโดยเอกชนหรอื หนว่ ยงานอสิ ระของรัฐ มเี งินกองทนุ และมีการส่งเงนิ สะสมของสมาชิก และ มีการสมทบจากนายจา้ งเขา้ กองทนุ ในบัญชขี องสมาชกิ แต่ละคน สว่ นใหญจ่ ะกำหนดใหม้ กี ารนำสง่ เงินสะสมเขา้ กองทนุ ในอตั ราทแี่ นน่ อน ซง่ึ มวี ัตถุประสงค์ทีจ่ ะยกระดับรายได้ของผเู้ กษยี ณให้สูงกว่าเส้นความยากจนเพอ่ื ให้มี รายไดท้ ด่ี ขี ้ึนตามมาตรฐานการดำรงชวี ติ อย่างปกติ เสาหลักที่ 3 ภาคสมคั รใจ เป็นระบบการออมภาคสมคั รใจ (Voluntary System) และรฐั บาลใหก้ ารส่งเสริม ซง่ึ มี การบริหารโดยภาคเอกชน มเี งนิ กองทนุ และมีการสง่ เงนิ สะสมของสมาชิกในจำนวนที่แน่นอน ในบางกรณอี าจมีเงิน สมทบจากนายจ้างเขา้ กองทนุ ในบัญชขี องแต่ละคน โดยมีวัตถปุ ระสงค์ให้ผูอ้ อมมีทางเลอื กในการออมเงินไว้ใช้ใน ยามเกษยี ณมากข้นึ มีความเพียงพอของเงนิ ออมในการดำรงชวี ติ ในอนาคต ในการเข้าถงึ ความสะดวกสบายและการ ดแู ลรกั ษาพยาบาลท่ีสูงกว่ามาตรฐาน ระบบการออมเพอ่ื การเกษยี ณ หรือระบบบำนาญ คือ ระบบการจัดการเพือ่ จ่ายเงินสำหรับวัยเกษยี ณให้แก่ ผู้มสี ิทธริ บั เงนิ เมอื่ ครบอายุเกษยี ณ และมีวตั ถุประสงคอ์ ยา่ งชัดเจนเพอ่ื สรา้ งความมนั่ คงด้าน รายไดใ้ หแ้ กผ่ ูส้ งู อายุหลงั เกษียณ มิใหม้ ีมาตรฐานการดำรงชีพท่ตี กตำ่ เม่ือเขา้ สู่ภาวะท่ีไม่มรี ายได้ นอกจากน้ี ยงั อาจรวมถงึ การจดั สทิ ธปิ ระโยชน์อืน่ เพ่ิมเติมดว้ ย เช่น เงนิ ชว่ ยเหลือกรณีทุพพลภาพ เจ็บปว่ ย และเงิน ชว่ ยเหลอื ทายาทในกรณีผมู้ ีสิทธริ บั บำนาญเสียชีวติ เป็นต้น ทงั้ น้กี องทุนการออมเพอ่ื การเกษยี ณของ ประเทศไทย มีดังน้ี 1) กองทุนประกนั สงั คม (Social Security Fund 2) กองทนุ บำเหน็จบำนาญขา้ ราชการ (Government Pension Fund) 3) กองทนุ สำรองเลยี้ งชีพ (Provident Fund) 4) กองทนุ เพ่ือการเล้ยี งชพี (Retirement Mutual Fund) 5) กองทุนการออมแห่งชาติ (National Savings Fund) เอกสารอ้างองิ ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ, เอมพนั ธ์: 2560
57 ใบงานท่ี 1 หนว่ ยที่ 2 รหัสวิชา 20200-1001 ชอ่ื วชิ า ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ สอนครัง้ ที่ 3 ช่ือหน่วย การออม เวลารวม 51 ชั่วโมง ชื่องาน การออม จำนวน 3 ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์ทั่วไป 1.เพื่อให้นักเรียนบอกความหมาย ความสำคญั และประโยชนข์ องการออมได้ 2.เพือ่ ให้นกั เรยี นบอกเป้าหมายในการออมได้ 3.ให้นักเรียนบอกปัจจยั สำคญั ในการออมได้ 4.ให้นกั เรียนสามารถการวางแผนการออมได้ 5.ให้นักเรยี นบอกการออมเพอื่ เกษียณอายุในประเทศไทยได้ 6.เพ่ือใหน้ กั เรียนบอกรูปแบบการออมเพือ่ การเกษยี ณของประเทศไทยได้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผูส้ ำเรจ็ การศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่คี รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเร่ือง 1.1 ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 1.6 การประหยัด 1.2 ความมีวนิ ัย 1.7 ความรบั ผิดชอบ 1.3 การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนัน 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซื่อสัตย์สุจริต 1.9 ความรกั สามัคคี 1.5 ความเช่ือมน่ั ในตนเอง 1.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกับหลักการวางแผนเป้าหมายชวี ติ ด้วยวงจรควบคุมคุณภาพ ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ หลักการจัดการทางการเงิน หลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลติ เบ้ืองต้น และกฎหมายทเ่ี กีย่ วข้อง 2.จัดทำแผนธรุ กจิ อย่างง่าย 3.ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยกุ ต์ใช้หลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ ในการวางแผนและดำเนินงาน เครือ่ งมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์ 1.หนังสอื แบบเรียน 2. สอ่ื การเรียนการสอน power point 3. คน้ คว้าขอ้ มลู จากสอ่ื ออนไลน์
58 ลำดับขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 1. แบง่ กลุม่ นักเรียนออกเป็น 3 กลมุ่ เพือ่ ทำการศกึ ษาหาขอ้ มูลเพ่ือนำเสนอหนา้ ชัน้ เรียน กลุ่มที่ 1 ศึกษาขอ้ มูลเก่ยี วกับความหมายของ การออม กลมุ่ ท่ี 2 ศกึ ษาการวางแผนเรือ่ งการออม กลุ่มที่ 3 ศกึ ษาประโยชนข์ องการออม ภาพประกอบ - ขอ้ ควรระวัง - ข้อเสนอแนะ (ถา้ ม)ี - การประเมินผล (ต้องระบเุ กณฑ์การประเมนิ ให้ชัดเจน) - เกณฑ์การวัดผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานรายบุคคล ตอ้ งไม่มีช่องปรับปรงุ 2. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้กอ่ นเรียนไม่มเี กณฑ์ผ่าน เก็บคะแนนไวเ้ ปรียบเทยี บกับคะแนนทีไ่ ดจ้ ากการ ทดสอบหลงั เรียน 3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอย่กู ับ การ ประเมินตามสภาพจริง เอกสารอา้ งองิ ธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ, เอมพันธ์: 2560
59 ใบมอบหมายงานที่ 1 หนว่ ยที่ 2 รหัสวชิ า 20200-1001 ช่อื วชิ า ธุรกิจและการเป็นผ้ปู ระกอบการ สอนครั้งที่ 3 ชอ่ื หนว่ ย การออม ช่อื งาน การออม จุดประสงคท์ ่ัวไป 1.เพ่อื ให้นกั เรยี นเขา้ ใจการวางแผนดว้ ยวงจรการควบคุมคุณภาพ 2.เพ่อื ใหน้ ักเรยี นบอกการนำ PDCA ไปใช้ได้ 3.เพ่อื ให้นักเรียนเข้าใจการวางแผนเปา้ หมายชีวติ 4.เพอ่ื ให้นกั เรียนสามารถการวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ด้วยวงจรควบคุมคณุ ภาพ จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทคี่ รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเรื่อง 1.1 ความมีมนุษยสัมพันธ์ 1.6 การประหยัด 1.2 ความมีวินัย 1.7 ความรับผิดชอบ 1.3 การละเวน้ สง่ิ เสพติดและการพนนั 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซ่อื สตั ย์สุจริต 1.9 ความรกั สามัคคี 1.5 ความเชอ่ื มั่นในตนเอง 1.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความรเู้ กี่ยวกับหลกั การวางแผนเป้าหมายชวี ติ ดว้ ยวงจรควบคุมคุณภาพ ธุรกิจและการเป็น ผปู้ ระกอบการ หลักการจัดการทางการเงิน หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิตเบื้องตน้ และกฎหมายที่เกยี่ วข้อง 2.จดั ทำแผนธรุ กจิ อยา่ งง่าย 3.ประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนนิ งาน แนวทางการปฏิบัตงิ าน แบ่งกลุ่มเพื่อค้นคว้าหาขอ้ มูลและนำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น โดยแบ่งนกั เรียนออกเปน็ กลุม่ ๆ กลมุ่ ละเท่า ๆ กัน
60 แหลง่ ค้นคว้า 1. หอ้ งสมดุ 2. ส่อื ออนไลน์/Internet 3. นิตยสาร/วารสาร คำถาม/ปัญหา เม่อื นักเรียนคน้ คว้าแล้วมีปัญหาหรือไม่เสามารถหาเน้ือหาท่ีจะศึกษาหาข้อมูลไดจ้ ะทำอย่างไร คำตอบ สามารถปรึกษาจาก ครผู ู้สอน หรอื ครทู ่มี ีความรู้ในรายวิชา กำหนดเวลาส่งงาน นำเสนอหนา้ ชั้นเรียนในคาบเรยี นถดั ไป เอกสารอ้างอิง สือ่ ออนไลน/์ Internet หนงั สอื ตำราเรยี น วชิ าธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ
61 แบบประเมนิ ผลงาน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ชอื่ กลุ่ม.........................................................................ชนั้ ................................................................ รายช่อื สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 บุคลกิ การแต่งกาย 2 มารยาทในการพูด 3 การใชภ้ าษา 4 วธิ ีการนำเสนอ 5 เนอ้ื หาท่ีนำเสนอ รวม ผู้ประเมิน.............................................. วนั ที่..............เดอื น...............................พ.ศ...................
62 เกณฑก์ ารประเมนิ บคุ ลกิ การแตง่ กาย : มคี วามเชอ่ื มนั่ ในตนเอง แต่งกายสะอาด ถกู ระเบยี บ เสอ้ื ไมห่ ลดุ ลุ่ย ลอยชาย มารยาทในการพดู : มองหน้าและสบตาผูฟ้ ัง ไม่เหนบ็ แนม เสยี ดสผี ูอ้ น่ื การใชภ้ าษา : ชดั เจน ตามหลกั ภาษา ตวั ร ล คาควบกลา้ ถ้อยคาขอ้ ความสภุ าพ วธิ กี ารนาเสนอ : น่าสนใจหลากหลาย เชน่ ใชแ้ ผ่นใส รปู ภาพ ตงั้ คาถาม เลน่ เกม ไม่เยนิ่ เยอ้ เน้อื หาทนี่ าเสนอ : มสี าระสาคญั ตรงกบั หวั ขอ้ เรอ่ื ง ใชเ้ วลาตามทก่ี าหนด 1..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 3..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 4..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 5..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = ……………………………………………………………………………………………………………
63 แบบประเมนิ ผลงาน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ช่ือกลมุ่ .........................................................................ชั้น ปวช......................................................... รายชื่อสมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 เน้ือหาถกู ตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 2 ความสามัคคี ร่วมมือกันทำงาน 3 ความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอท่นี ่าสนใจ รวม ผปู้ ระเมิน.............................................. วนั ที.่ .............เดือน...............................พ.ศ...................
64 เกณฑ์การประเมนิ 1.เนอื้ หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคัญครบถ้วน สอ่ื ความหมายชัดเจนและมรี ูปภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเนอื้ หาสาระสำคัญครบถว้ น สอื่ ความหมายและมีรปู ภาพไมต่ รงเนื้อหา 1 คะแนน = มเี นื้อหาสาระสำคญั ไม่ชัดเจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมอื กันทำงาน 3 คะแนน = มีความสามัคครี ่วมมือกนั ทำงานทกุ คน 2 คะแนน = ร่วมมือกันทำงานเปน็ บางคน 1 คะแนน =ไม่ค่อยร่วมมอื กันทำงาน 3. ความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยุกตใ์ ช้วสั ดุอปุ กรณใ์ นทอ้ งถิน่ และประหยดั 2 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยุกตใ์ ช้วัสดอุ ปุ กรณ์ในท้องถ่นิ แตไ่ ม่ประหยดั 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไม่นา่ สนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเก่ยี วกับองคป์ ระกอบ ครอบคลมุ และชดั เจน 2 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเก่ยี วกบั องค์ประกอบ ไม่ครอบคลุมแต่ชดั เจน 1 คะแนน = ให้ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลุมและไม่ชัดเจน 5. การนำเสนอน่าสนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลมุ และชัดเจน 2 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจปานกลาง ชัดเจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไม่ค่อยชัดเจน
65 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน หน่วยการเรียนรู้ที่............................................................................................................................. ช่อื กล่มุ .........................................................................ชนั้ ................................................................ รายชอื่ สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 เน้อื หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมือกนั ทำงาน 3 ความคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทน่ี า่ สนใจ รวม ผ้ปู ระเมิน.............................................. วันท.ี่ .............เดือน...............................พ.ศ...................
66 เกณฑ์การประเมนิ 1.เนอื้ หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคัญครบถ้วน ส่ือความหมายชดั เจนและมรี ูปภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเนอื้ หาสาระสำคัญครบถว้ น ส่อื ความหมายและมีรปู ภาพไมต่ รงเนื้อหา 1 คะแนน = มเี นื้อหาสาระสำคญั ไม่ชัดเจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมอื กันทำงาน 3 คะแนน = มีความสามัคครี ่วมมือกนั ทำงานทกุ คน 2 คะแนน = ร่วมมือกันทำงานเปน็ บางคน 1 คะแนน =ไม่ค่อยร่วมมอื กนั ทำงาน 3. ความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยุกตใ์ ช้วสั ดุอปุ กรณใ์ นทอ้ งถิน่ และประหยดั 2 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยุกตใ์ ช้วัสดอุ ปุ กรณ์ในท้องถ่นิ แตไ่ ม่ประหยดั 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ า่ สนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเก่ยี วกับองค์ประกอบ ครอบคลมุ และชดั เจน 2 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเก่ยี วกบั องคป์ ระกอบ ไม่ครอบคลุมแต่ชดั เจน 1 คะแนน = ให้ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลุมและไม่ชัดเจน 5. การนำเสนอน่าสนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจปานกลาง ชัดเจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไม่ค่อยชดั เจน
67 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ช่อื กลุม่ .........................................................................ชั้น................................................................ รายชอ่ื สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 การเตรียมความพรอ้ ม 2 เนอ้ื หาสาระ 3 รูปแบบการนำเสนอ 4 การมีสว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลุ่ม 5 การรักษาเวลา 6 ความสนใจของผูฟ้ ัง รวม ผู้ประเมิน.............................................. วันท่ี..............เดอื น...............................พ.ศ...................
68 เกณฑ์การประเมนิ 1. การเตรยี มความพรอ้ ม 3 คะแนน = มีการจดั เตรยี มสถานที่ สือ่ /อุปกรณ์ไวอ้ ย่างพรอ้ มเพรยี ง 2 คะแนน = มสี ่อื /อปุ กรณพ์ รอ้ ม ขาดการจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน = สื่อ/อปุ กรณไ์ ม่เพยี งพอ ขาดการจัดเตรยี มสถานที่ 2. เน้อื หาสาระ 3 คะแนน = สาระสำคัญครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบ ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบ ไมต่ รงตามจุดประสงค์ 3. รปู แบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม ใชเ้ ทคนิคแปลกใหม่ มีสื่อและ ใช้เทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ นำวัสดุในท้องถนิ่ มาประยุกตใ์ ช้ อย่างคุ้มค่าและประหยัด 2 คะแนน = ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มสี ื่อและใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ ขาดการประยกุ ต์ใชว้ สั ดใุ นท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนคิ การนำเสนอไมเ่ หมาะสม ไม่นา่ สนใจ 4. การมสี ่วนร่วมของสมาชิก 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมีบทบาทและมสี ่วนร่วมในกิจกรรมกลุม่ 2 คะแนน = สมาชกิ สว่ นใหญ่มบี ทบาทและมีสว่ นร่วมในกิจกรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชกิ ส่วนนอ้ ยมบี ทบาทและมีส่วนร่วมในกจิ กรรมกลุ่ม 5. การรกั ษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมได้ตามเวลาที่กำหนด 2 คะแนน = ดำเนนิ กจิ กรรมเร็วกวา่ เวลาทีก่ ำหนด 1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กวา่ เวลาทีก่ ำหนด 6. ความสนใจของผฟู้ ัง 3 คะแนน = ผู้ฟงั มากกวา่ ร้อยละ 80 สนใจ และให้ความรว่ มมือ 2 คะแนน = ผ้ฟู ังร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลให้ความรว่ มมอื 1 คะแนน = ผฟู้ งั นอ้ ยกว่า ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ
69 แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ 3 จำนวน 3 ชว่ั โมง สปั ดาห์ท่ี 4 ชอ่ื วิชา ธรุ กิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ สอนครงั้ ที่ 4 ช่อื หนว่ ย/เรือ่ ง การลงทุน จำนวน 3 ช.ม. 1. แนวคดิ การลงทุน เป็นการใช้ทรัพยากรในลักษณะต่างๆ โดยหวังจะได้รับผลตอบแทนกลับคืนมา มากกว่าที่ ลงทนุ ไปในอตั ราทพ่ี อใจภายใตค้ วามเสย่ี งที่เหมาะสม โดยทวั่ ไปหมายถึงการใช้เงินลงทุน เชน่ การลงทุนในการ ประกอบอาชีพ การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ การลงทุนในบ้านและที่ดิน การลงทุนทองคำ ฯลฯ โดยมี วัตถปุ ระสงคข์ องการลงทุน เพ่ือจะได้รบั ผลตอบแทนจากการลงทนุ ในรปู แบบต่าง ๆ โดยเงินท่ีนำมาลงทุนน้ัน อาจจะได้มาจากสถาบนั การเงินหรอื แหล่งเงินทุนอนื่ ๆ ทผี่ ปู้ ระกอบการมคี วามสามารถจะหามาได้ 2. ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวัง 1.แสดงความรเู้ กยี่ วกับความหมายและลักษณะการลงทนุ 2.แสดงความรู้เก่ียวกบั การลงทุนทางการเงนิ 3.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ผลตอบแทนจากการลงทนุ 4.แสดงความรเู้ กี่ยวกับหลกั การลงทุน 5.แสดงความรเู้ กี่ยวกับการลงทุนโดยฝากเงนิ กับธนาคารพาณชิ ย์ 6.แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั การลงทนุ โดยทำประกนั ชีวติ 7.แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั การลงทุนในกองทุน 8.แสดงความรู้เกย่ี วกับการลงทนุ ประกอบธรุ กจิ 3. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผ้สู ำเร็จการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทค่ี รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเร่อื ง 1. ความมีมนุษยสมั พันธ์ 2. ความมีวินัย 3. ความรับผิดชอบ 4. ความซื่อสตั ย์สจุ ริต
70 5. ความเชือ่ ม่นั ในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝ่รู้ 8. การละเว้นสิ่งเสพตดิ และการพนนั 9.ความรักสามัคคี 10. ความกตัญญูกตเวที 4. สมรรถนะรายวชิ า 1.แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการวางแผนเป้าหมายชวี ติ ด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธุรกิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ หลักการจดั การทางการเงนิ หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลิตเบอ้ื งตน้ และกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง 2.จัดทำแผนธุรกิจอยา่ งง่าย 3.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยุกตใ์ ช้หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ ในการวางแผนและดำเนินงาน 5. สาระการเรยี นรู้ 1.ความหมายและลกั ษณะการลงทุน 2.การลงทนุ ทางการเงนิ 3.ผลตอบแทนจากการลงทนุ 4.หลกั การลงทุน 5.การลงทุนโดยฝากเงนิ กบั ธนาคารพาณชิ ย์ 6.การลงทุนโดยทำประกันชวี ติ 7.การลงทุนในกองทนุ 8.การลงทุนประกอบธรุ กจิ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.ครูกล่าวถึงการลงทุนคือ การใช้สอยทรัพยากรในลักษณะต่างๆ โดยหวังจะได้รับ ผลตอบแทนกลบั มา มากกวา่ ทล่ี งไปในอัตราทพี่ อใจภายใต้ความเส่ยี งที่เหมาะสม โดยทั่วไปหมายถึงการใช้เงิน ลงทนุ
71 2.ผเู้ รยี นยกตวั อย่างการลงทนุ เชน่ การลงทุนในตลาดหลักทรพั ย์ การลงทนุ ในบ้านและที่ดิน การลงทุนทองคำ ฯลฯ ซึ่งการลงทุนก็มีความเสี่ยงยิ่งเสี่ยงมากยิ่งได้ผลตอบแทนมาก ยิ่งเสียงน้อยยิ่งได้ ผลตอบแทนนอ้ ย ขั้นสอน 3.ครูสอนโดยใชร้ ปู แบบการเรียนแบบ TAI (Team Assisted Individualization) เพอ่ื เนน้ การเรียนแต่ละ บคุ คล ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจและนำทกั ษะการเรียนรู้ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ความหมายและลักษณะการ ลงทนุ 4.ครูอธบิ ายการลงทุน และเช่ือมโยงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกัน เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจใหม้ ากขึน้ 5.ครบู อกลักษณะของการลงทุนโดยทว่ั ไปรายไดท้ ่ีบุคคลจะได้รบั จะแบ่งออกเปน็ 2 ด้าน คอื เพอื่ ใช้ จา่ ยในชวี ติ ประจำวนั และเกบ็ ไวเ้ ปน็ เงนิ ออมสำหรับใชจ้ า่ ยในอนาคต การทีจ่ ะใหเ้ งินออมท่ีสะสมไวม้ มี ลู ค่าเพิ่ม มากข้นึ กว่าเดิมและกอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสดุ แกผ่ ู้ออม ก็คอื ผู้ออมต้องรูจ้ ัก “การลงทุน (Investments)” การ ลงทนุ เปน็ การนำเอาทรัพย์สินทีบ่ คุ คลมอี ยู่ไปดำเนนิ การในทางท่ีกอ่ ให้เกิดประโยชน์ ซงึ่ จะให้ผลตอบแทน กลับคืนมาในชว่ งเวลานั้น ซ่ึงการลงทนุ แบง่ ไดเ้ ปน็ 2 ลักษณะ คอื 1) การลงทุนในสนิ ทรพั ย์ที่มีตัวตน (Tangible Investment) 2) การลงทนุ ในสนิ ทรัพย์ท่ไี ม่มีตวั ตน (Intangible Investments) 5.ครอู ธบิ ายการลงทุนทางการเงิน ซ่ึงเปน็ การลงทนุ ทางการเงนิ (Financial Investments) หมายถึง การท่ผี ้ลู งทนุ นำเงนิ ทม่ี ีอยู่ไปซอื้ หลักทรพั ย์ตา่ งๆ ซงึ่ กอ่ ให้เกิดรายได้กับผ้ลู งทุน โดยจะทำผ่านตลาดการเงิน มี วตั ถุประสงคเ์ พือ่ จะไดร้ บั ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย (Interest) เงินปนั ผล (Dividend) กำไรจากการซอ้ื ขาย หุ้น (Capital Gain) และสิทธิพเิ ศษอ่นื ๆ
72 6.ผู้เรียนบอกแหลง่ ที่มาของการลงทุน ซึง่ การตัดสินใจลงทนุ จำเปน็ ต้องคน้ คว้าหาข้อมูลเพอ่ื ศึกษาถึง ความเป็นไปได้ แมว้ า่ ผู้ลงทนุ ตดั สนิ ใจไปแลว้ ก็ตาม การประเมินการลงทนุ เปน็ สงิ่ สำคัญสำหรับผ้ลู งทนุ เพราะมี ทางเลอื กให้ตดั สินใจหลายวธิ ีสามารถหาขอ้ มูลการลงทุนได้ดงั นี้ 6.1 แหลง่ ขอ้ มลู ภายในกิจการ เชน่ งบการเงนิ รายงานทางการเงิน โครงการตา่ งๆ รวมทั้งการ วเิ คราะหข์ ้อมลู ทางการเงนิ เปน็ ต้น 6.2 การให้คำปรึกษาดา้ นการลงทนุ จากหน่วยงานอนื่ เชน่ ปรึกษาผูเ้ ชยี่ วชาญ การสมั มนา เป็นตน้ 6.3 หน่วยงานทเี่ สนอบรกิ ารข่าวสารทางการเงนิ และขอ้ มูลการลงทุน เชน่ ตลาดหลกั ทรพั ยฯ์ เปน็ ตน้ 6.4 ขอ้ มูลเก่ยี วกบั การลงทนุ ที่เสนอลงในสง่ิ ตีพิมพต์ า่ งๆ เช่น หนังสือพมิ พ์ เปน็ ต้น 6.5 เอกสารและข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากนายหน้า และตัวแทน เป็นต้น 7.ครอู ธิบายผลตอบแทนจากการลงทุนโดยยกตวั อย่างประกอบพรอ้ มแสดงส่อื เพ่อื เช่ือมโยงใหผ้ ูเ้ รยี น ไดเ้ ข้าใจงา่ ยยิ่งข้ึน การลงทนุ มีความสมั พันธก์ บั ผลตอบแทน (Returns) และความเส่ยี ง (Risks) สาเหตขุ องการ ลงทนุ เนอื่ งจากคาดหวังว่าจะได้รบั ผลตอบแทนตามเงือ่ นไขที่ตกลงกันไว้ แต่บางคร้ังไม่เป็นไปตามท่ีคาดหมาย จึงต้องอยภู่ ายใตค้ วามเส่ียงท่ีอาจเกิดขน้ึ ได้ ผลตอบแทนจากการลงทนุ มีหลายรปู แบบ ได้แก่ 7.1.รายได้ตามปกติ (Current Income) ไดแ้ ก่ ดอกเบี้ย เงนิ ปนั ผลในกรณีท่บี ุคคลซื้อพันธบตั รหรือ ลงทนุ ในหุน้ ตา่ งๆ ซง่ึ กำหนดเวลาก็จะได้รับดอกเบี้ยหรอื เงนิ ปันผลตามที่ระบไุ ว้ 7.2 กำไรจากการซ้ือขายห้นุ (Capital Gains) ในกรณีหุ้นสามญั ทบ่ี ุคคลลงทนุ ซ้อื ไวม้ รี าคาสูงขึน้ เมอื่ ขายออกไปแล้วจะไดก้ ำไร 7.3 คา่ เชา่ (Rent) ในการลงทุนซื้อทรัพยส์ นิ เช่น ที่ดิน บา้ น คอนโดมิเนียม ทอี่ ยอู่ าศยั อืน่ ๆ เมอื่ นำไป ใหผ้ อู้ นื่ เชา่ ก็จะมีรายได้คา่ เช่า ซึง่ เปน็ รายได้ท่กี ลบั คืนมาสู่เจ้าของ 7.4 ผลตอบแทนอน่ื ๆ (Others) เชน่ ซอ้ื หุน้ สามัญจะมีสทิ ธิออกเสยี งเลอื กคณะกรรมการบรษิ ัทและ ถา้ ถอื หุ้นไวม้ ากจะมโี อกาสได้รับเลือกเป็นผู้บริหารซงึ่ สามารถกำหนดนโยบายบริษทั ได้ หรอื สิทธใิ นการซือ้ ขาย หุน้ ใหมใ่ นราคาพเิ ศษ เปน็ ตน้ ผู้ลงทนุ ควรนึกถึงผลตอบแทนท่จี ะได้รับเป็นอัตรากเี่ ปอร์เซน็ ต์โดยคำนงึ ถึงอัตรา เงินเฟ้อไว้ด้วย เพราะมผี ลกระทบต่อผลตอบแทนในการลงทุน ดงั นั้น ผลู้ งทนุ ควรใหค้ วามสนใจกบั อตั ราตอบ แทนทแี่ ท้จรงิ (Real rate of return) มากกวา่ อัตราผลตอบแทนปกติ (Nominal rate of return) เชน่ การ ลงทนุ เสนอให้ผลตอบแทน (Nominal rate of return) 10% ซง่ึ คาดคะเนว่าอัตราเงนิ เฟ้อจะเกิดข้ึนปีละ 6% ดงั นั้นผลตอบแทนแท้จรงิ ทไ่ี ดร้ ับจะเปน็ 4% เท่าน้นั 8.ครอู ธิบายหลกั การลงทุน เพ่ือให้เกิดความเสีย่ งนอ้ ยทสี่ ดุ ก็ควรจะมหี ลกั ในการลงทุน ดังนี้ 1) ความปลอดภยั ของเงนิ ลงทนุ
73 2) เสถยี รภาพของรายได้ 3) ความเจรญิ เติบโตของเงนิ ลงทนุ 4) ความคลอ่ งตวั ในการซือ้ ขาย 5) การกระจายเงินลงทนุ 6) หลักเกี่ยวกับภาษี 9.ครูอธิบายและผู้เรียนยกตัวอย่างการลงทุนโดยฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ ธนาคารพาณิชย์ หมายถงึ การประกอบธรุ กจิ ประเภทรับฝากเงนิ ทีต่ ้องจ่ายคืนเม่ือทวงถาม หรอื เมือ่ สิน้ ระยะเวลาอันได้กำหนด ไว้ และใช้ประโยชน์จากเงินนั้น เช่น การให้กู้ยืม ซื้อขายหรือเก็บเงินตามตั๋วหรอื ตราสารเปลี่ยนมืออืน่ ใด ซื้อ หรอื ขายเงินตราต่างประเทศ ทั้งนจ้ี ะประกอบธรุ กจิ ประเภทอื่นๆ อนั เปน็ ประเพณีของธนาคารพาณชิ ย์ด้วยกไ็ ด้ สำหรบั ธนาคารพาณิชย์เปน็ ธนาคารทไ่ี ด้รับอนญุ าตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ รวมถงึ สาขาของธนาคาร ต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ดว้ ยการฝากเงินเปน็ การลงทุนทีมี่ความเสี่ยงต่ำ เพราะมรี ฐั บาลรบั ประกนั หากรัฐบาลไมร่ ับประกันเงินฝากความเสี่ยงก็จะมากขนึ้ ทั้งน้ขี ้นึ อย่กู บั การเลอื กว่าจะ ฝากเงนิ กบั ธนาคารใด 10.ผเู้ รยี นบอกหน้าทีข่ องธนาคารพาณชิ ยม์ หี น้าที่ใหบ้ ริการดา้ นการเงนิ ต่างๆ ดงั นี้ 1) การรับฝากเงิน อาจจะแบง่ การรับฝากเงินของธนาคารพาณชิ ยไ์ ดด้ ังน้ี 1.1 เงินฝากกระแสรายวัน (Current Account หรือ Ahecking Account) หรอื เงินฝากเผ่ือ เรยี ก (Demand Deposit) 1.2 เงนิ ฝากออมทรพั ย์ (Savings Deposit) 1.3 เงนิ ฝากประจำ (Time Deposit) 2) การให้กยู้ มื อาจแบ่งได้ 3 ลักษณะ 2.1 การให้ก้ยู มื โดยตรง (Loan) 2.2 การให้เบกิ เงนิ เกนิ บัญชี หรอื O.D. (Overdraft) 2.3 การซื้อลดตว๋ั เงนิ (Discounting Bill) 3) การโอนเงิน มหี ลายลักษณะ ไดแ้ ก่ การโอนเงินภายในท้องถิ่นเดียวกนั และการโอนเงินจากท้องถ่ิน หนึ่งมายังอกี ทอ้ งถ่ินหนงึ่ หรือการโอนเงินจากประเทศหนงึ่ มายงั อีกประเทศหน่ึง ไม่ว่าจะเป็นการโอนไปเพอ่ื ตัวเองหรือโอนไปให้บุคคลอนื่ กต็ าม ธนาคารสามารถใหบ้ รกิ ารไดห้ ลายรูปแบบดว้ ยกัน เช่นแบบธรรมดา เปน็ การโอนผา่ นด้วยเช็คหรือดราฟตธ์ นาคาร และการโอนเงนิ แบบเร็วทนั ใจเป็นการโอนเงนิ ทางโทรศพั ท์ทางไกล และการโอนโดยผา่ นศนู ยค์ อมพวิ เตอร์แบบออนไลน์ 4) การเรียกเก็บเงิน เป็นหนา้ ที่เก่ียวเนอื่ งกับการโอนเงนิ ธนาคารจะเรยี กเกบ็ เงนิ ตามเช็ค ตวั๋ เงนิ หรือ ดราฟตท์ ีค่ รบกำหนด ซ่ึงเป็นการอำนวยความสะดวกใหแ้ ก่ลกู คา้ เพือ่ ทล่ี ูกค้าจะได้ไมต่ ้องเสียเวลาไปเกบ็ เงิน
74 ดว้ ยตนเอง เพราะธนาคารสว่ นมากมตี วั แทนหรือสาขาอยู่ในจังหวัดต่างๆ รวมท้งั ในตา่ งประเทศดว้ ย ทำให้ สามารถเรียกเก็บเงนิ ไดโ้ ดยสะดวกรวดเรว็ และประหยดั 5) การใหเ้ ชา่ ตนู้ ริ ภัย ปกติธนาคารจะมหี ้องมน่ั คงไว้ เพ่อื เก็บรกั ษาของมีค่าของธนาคาร และเพ่อื ให้ ลูกค้าเชา่ สำหรบั เก็บของมคี ่าหรือของสำคัญๆ โดยลูกคา้ สามารถทำสญั ญาเช่าตู้นริ ภัยเพื่อเกบ็ ทรัพย์สินอนั มีคา่ เช่น เครอื่ งเพชร ทองรูปพรรณ โฉนด สัญญาต่างๆ 6) การซ้ือขายเงนิ ตราตา่ งประเทศ หมายถึง การที่ธนาคารทำหนา้ ทซี่ อ้ื ขายแลกเปล่ยี นเงนิ ตรา ตา่ งประเทศ เม่ือประชาชนต้องการเงนิ ตราต่างประเทศก็ซ้ือไดจ้ ากธนาคารพาณิชยต์ ามเง่อื นไขทรี่ ะบไุ ว้ ถา้ ผู้ใดตอ้ งการขายเงินตราตา่ งประเทศท่ตี นมีในครอบครอง กส็ ามารถนำไปขายใหแ้ ก่ธนาคารพาณิชย์ได้ 7) การบรกิ ารอื่นๆ ธนาคารพาณิชยย์ งั ใหบ้ รกิ ารอื่นๆ แกล่ กู คา้ อีก เช่น บริการบัตรเครดิต บรกิ าร หนังสือค้ำประกนั บริการใหค้ ำปรึกษาด้านธรุ กิจและการลงทนุ บรกิ ารรับชำระค่าสาธารณปู โภค เป็นตน้ 11.ครอู ธบิ ายการลงทนุ โดยทำประกันชวี ิตและยกตัวอย่างประกอบ โดยการประกันชีวิต เป็นสัญญา ระหวา่ งผ้ใู ห้ประกัน ซ่งึ มักเปน็ บรษิ ทั ประกนั ชวี ติ กบั ผูเ้ อาประกนั โดยผู้เอาประกนั ตอ้ งจา่ ยเบีย้ ประกนั ใหผ้ ู้รับ ประกัน หากผูเ้ อาประกนั เกิดเสียชีวติ ขณะที่กรมธรรม์มีผลบงั คบั ภายในเงอ่ื นไขในกรมธรรม์ บริษัทประกันจะ จ่ายเงินจำนวนหนึ่งใหก้ ับผรู้ ับผลประโยชนเ์ รยี กวา่ เงนิ สินไหมการประกนั ชวี ิตเป็นการลงทนุ อยา่ งหนึง่ ทผ่ี ลู้ งทุน จะตอ้ งสง่ เบีย้ ประกนั ใหก้ ับบรษิ ทั ประกนั ชวี ติ ตามสัญญาหรอื เงื่อนไขทต่ี กลงกันไว้ ผู้ลงทนุ หรอื ผู้เอาประกนั สามารถเลอื กรูปแบบท่ใี ห้ความคมุ้ ครองหรือความมั่นคงใหก้ บั ตนเองมากที่สดุ 12.ผเู้ รียนบอกชนิดของการประกนั ชวี ติ แบบพืน้ ฐาน 1) ประกนั ชีวติ แบบช่วงระยะเวลา (Term)
75 2) ประกนั ชีวติ แบบออมทรัพย์ (Endowment) 3) ประกันชวี ิตแบบตลอดชพี (Who Life)
76 4) ประกันชวี ติ แบบบำนาญ (Annuity) 5) ประกนั ชวี ติ ควบการลงทุน (Unit Linked)
77 15.ครอู ธิบายการลงทุนในกองทุน โดยใช้ส่อื ประกอบเรอ่ื งดงั ตอ่ ไปนี้ 1) กองทนุ รวม (Mutual Fund หรอื Unit Trust) 2.) กองทุนเพอื่ การเลย้ี งชีพ 16.ครอู ธิบายการลงทนุ ประกอบธุรกิจ ซง่ึ หมายถงึ การนำเงินมาลงทนุ เพ่ือประกอบการใหเ้ กดิ ผลผลิต เปน็ สนิ ค้าหรือบรกิ ารและอยู่ภายใตข้ อบเขตของกฎหมาย ผู้ท่ีลงทุนกจ็ ะไดร้ บั รายไดค้ ือกำไรจากการขายสินค้า หรือบรกิ าร 17.ครแู ละผเู้ รียนแสดงความสมั พันธข์ องรปู แบบการประกอบธรุ กิจอาจดำเนินการได้หลายรปู แบบ โดยบคุ คลคนเดียวหรอื ดำเนนิ การโดยร่วมลงทนุ กับบุคคลอื่นเป็นกลมุ่ คณะก็ได้ การทจ่ี ะตดั สินใจเลือกดำเนนิ
78 ธรุ กิจการคา้ ในรูปแบบใดนนั้ ผู้ประกอบการตอ้ งคำนึงถงึ องค์ประกอบหลายประการ เชน่ ลักษณะกจิ การคา้ เงินทุน ความรคู้ วามสามารถในการดำเนนิ ธุรกจิ เปน็ ตน้ เพอื่ ใหก้ ารประกอบธรุ กจิ นน้ั ประสบผลสำเร็จนำมาซ่งึ ผลประโยชนแ์ ละกำไรสูงสดุ 1) ธุรกจิ เจ้าของคนเดยี ว 2) ห้างหุ้นสว่ น 3) บรษิ ทั จำกัด 18.ผู้เรียนกำหนดเป้าหมายการลงทุนตามแบบฟอรม์ ทคี่ รกู ำหนดให้ 19.ผูเ้ รยี นอา่ นกรณีศึกษาเกย่ี วกับการลงทุนทคี่ รกู ำหนดใหแ้ ล้วแสดงความคิดเห็น 20.ใหผ้ ู้เรียนวางแผนการลงทนุ ประกอบธุรกจิ ของตนเองในอนาคตเมื่อจบการศกึ ษาแล้ววา่ ควรปฏบิ ัติ อยา่ งไร 21.ผ้เู รียนวางแผนการลงทนุ ของครอบครวั ในอนาคตดว้ ยเศรษฐกิจพอเพียง และกำหนดเป้าหมายให้ ชดั เจนว่าจะทำอย่างไร 22.ถา้ ผ้เู รยี นลงทนุ ไปก็ตอ้ งคาดหวงั ไวว้ ่าจะไดร้ ับผลตอบแทนกลบั คนื มาตามจำนวนท่ีอาจกำหนดไว้ แต่บางคร้งั ก็ไม่เป็นไปตามทีก่ ำหนดไว้ เนื่องจากความเสยี่ งตา่ งๆ อาจเกิดข้นึ ได้ ดงั น้นั ควรจะปฏิบตั อิ ย่างไร เกีย่ วกบั การลงทนุ เพอื่ ให้ได้ผลตอบแทนตามเปา้ หมาย ทา่ มกลางความเสย่ี งต่างๆ ในปจั จุบัน 23.ผ้เู รยี นคน้ คว้าหากองทนุ รวมประเภทต่างๆ จากแหล่งความรู้ เชน่ ตลาดหลกั ทรัพย์แหง่ ประเทศ ไทย นติ ยสารการเงิน หนงั สอื พมิ พ์ หรอื แหล่งความรอู้ ื่นๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง และสามารถอา้ งองิ ได้
79 7. สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียนรายวชิ า “ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ” ของบรษิ ัท สำนักพมิ พ์เอมพนั ธ์ จำกัด 2. หนังสืออนื่ ๆ ในห้องสมดุ 3. เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง 4. นิตยสาร, วารสารด้านการบรหิ าร ฯลฯ 8. หลักฐานการเรียนรู้ 8.1 หลกั ฐานความรู้ 1.การส่งงานของนกั เรียนมคี วามสมบูรณ์ครบถว้ น 2. รปู เล่มรายงานกลมุ่ และรายงานเด่ียวสามารถทำไดด้ ี 8.2 หลักฐานการปฏบิ ตั งิ าน 1.บันทึกการสอน 2.ใบเช็ครายชอ่ื 3.แผนจดั การเรียนรู้ 4.การตรวจประเมินผลงาน 9. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 9.1 เคร่ืองมือประเมนิ 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2.แบบประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3.แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครแู ละนกั เรียน รว่ มกนั ประเมนิ 4.แบบทดสอบท้ายบท 9.2 เกณฑ์การประเมนิ 1.เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรับปรงุ 2.เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขึ้นไป) 3.แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขนึ้ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ 10. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย (ถ้าม)ี 1. ผเู้ รียนตอ้ งมกี ารทบทวนบทเรยี นตลอด เพอื่ เสริมสรา้ งความเขา้ ใจอย่างแทจ้ ริง
80 2. ผู้เรียนหมนั่ ทำใบงาน แบบฝกึ หดั 3. ศึกษาข้อมูลเพ่มิ เตมิ จาก Internet 11. เอกสารอา้ งอิง ธรุ กิจและการเป็นผ้ปู ระกอบการ, เอมพันธ์: 2562
81 ใบความรู้ท่ี 1 หนว่ ยท่ี 3 รหัสวชิ า 20200-1001 ช่อื วชิ า ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ สอนครงั้ ที่ 4 ชอ่ื หน่วย การลงทนุ เวลารวม 51 ชัว่ โมง ชือ่ งาน การลงทนุ จำนวน 3 ช่วั โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงคท์ ่ัวไป 1.เพอ่ื ให้นกั เรียนบอกความหมายและลกั ษณะการลงทนุ 2. เพ่อื ให้นกั เรียนบอกการลงทุนทางการเงิน 3.เพื่อให้นกั เรยี นบอกผลตอบแทนจากการลงทนุ 4.เพอื่ ใหน้ ักเรียนอธบิ ายหลักการลงทนุ 5.เพอ่ื ใหน้ ักเรียนอธบิ ายการลงทุนโดยฝากเงนิ กบั ธนาคารพาณิชย์ 6.เพอ่ื ใหน้ กั เรียนบอกการลงทุนโดยทำประกนั ชวี ติ 7.เพอื่ ให้นกั เรยี นอธิบายการลงทุนในกองทนุ 8.เพือ่ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจการลงทนุ ประกอบธุรกจิ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทค่ี รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเรือ่ ง 1.1 ความมีมนุษยสัมพนั ธ์ 1.6 การประหยัด 1.2 ความมีวนิ ัย 1.7 ความรับผิดชอบ 1.3 การละเว้นส่งิ เสพตดิ และการพนนั 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซอ่ื สัตย์สจุ รติ 1.9 ความรกั สามคั คี 1.5 ความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง 1.10 ความกตัญญูกตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความรู้เกีย่ วกับหลักการวางแผนเปา้ หมายชีวิตด้วยวงจรควบคุมคุณภาพ ธุรกิจและการเป็น ผูป้ ระกอบการ หลกั การจดั การทางการเงนิ หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลติ เบ้ืองต้น และกฎหมายท่เี กยี่ วขอ้ ง 2.จดั ทำแผนธุรกิจอยา่ งงา่ ย 3.ประยกุ ตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยุกตใ์ ช้หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลติ ในการวางแผนและดำเนนิ งาน เน้ือหาสาระ 1. ความหมายของการลงทุน
82 การลงทุนคอื การใช้สอยทรพั ยากรในลักษณะตา่ งๆ โดยหวังจะได้รับผลตอบแทนกลับมา มากกวา่ ท่ีลงไปในอัตราทพ่ี อใจภายใต้ความเส่ียงท่ีเหมาะสม โดยทว่ั ไปหมายถงึ การใชเ้ งินลงทุน การลงทนุ เช่น การลงทนุ ในตลาดหลกั ทรพั ย์ การลงทุนในบา้ นและทด่ี นิ การลงทนุ ทองคำ ฯลฯ ซึง่ การลงทุนก็มีความเสย่ี งย่ิงเสี่ยงมากย่ิงได้ผลตอบแทนมาก ยิง่ เสียงนอ้ ยยงิ่ ได้ผลตอบแทนนอ้ ย ลักษณะของการลงทนุ โดยทั่วไปรายไดท้ ่ีบคุ คลจะไดร้ ับจะแบ่งออกเป็น 2 ดา้ น คอื เพอื่ ใช้จ่ายใน ชวี ิตประจำวนั และเกบ็ ไวเ้ ป็นเงนิ ออมสำหรบั ใช้จ่ายในอนาคต การที่จะให้เงนิ ออมที่สะสมไว้มีมูลค่าเพ่ิมมากข้นึ กว่าเดมิ และกอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์สงู สดุ แกผ่ ู้ออม ก็คือ ผอู้ อมต้องรู้จกั “การลงทุน (Investments)” การลงทุนเป็น การนำเอาทรพั ย์สนิ ที่บคุ คลมีอยู่ไปดำเนินการในทางทกี่ อ่ ให้เกิดประโยชน์ ซ่ึงจะใหผ้ ลตอบแทนกลับคนื มาใน ชว่ งเวลานน้ั ซง่ึ การลงทนุ แบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คอื 1) การลงทุนในสินทรพั ย์ทมี่ ตี ัวตน (Tangible Investment) 2) การลงทนุ ในสินทรพั ยท์ ไี่ ม่มีตวั ตน (Intangible Investments) การลงทุนทางการเงนิ ซึ่งเป็นการลงทนุ ทางการเงนิ (Financial Investments) หมายถึง การที่ผู้ลงทนุ นำ เงินท่ีมอี ย่ไู ปซอ้ื หลกั ทรัพยต์ ่างๆ ซึ่งก่อใหเ้ กิดรายได้กับผู้ลงทุน โดยจะทำผ่านตลาดการเงนิ มีวตั ถุประสงค์เพือ่ จะ ไดร้ ับผลตอบแทนในรูปดอกเบีย้ (Interest) เงนิ ปนั ผล (Dividend) กำไรจากการซือ้ ขายหุ้น (Capital Gain) และ สทิ ธิพิเศษอน่ื ๆ แหล่งที่มาของการลงทนุ ซง่ึ การตดั สินใจลงทนุ จำเปน็ ตอ้ งค้นควา้ หาขอ้ มูลเพ่อื ศกึ ษาถงึ ความเป็นไปได้ แม้ว่าผ้ลู งทนุ ตดั สนิ ใจไปแล้วก็ตาม การประเมนิ การลงทนุ เปน็ สง่ิ สำคัญสำหรบั ผู้ลงทุน เพราะมีทางเลอื กใหต้ ดั สินใจ หลายวธิ ีสามารถหาขอ้ มูลการลงทนุ ไดด้ งั น้ี 6.1 แหล่งขอ้ มูลภายในกจิ การ เช่น งบการเงิน รายงานทางการเงนิ โครงการตา่ งๆ รวมทั้งการ วิเคราะห์ขอ้ มูลทางการเงิน เปน็ ตน้ 6.2 การใหค้ ำปรึกษาด้านการลงทนุ จากหน่วยงานอ่นื เชน่ ปรึกษาผู้เช่ียวชาญ การสมั มนา เป็นตน้ 6.3 หนว่ ยงานทีเ่ สนอบรกิ ารข่าวสารทางการเงนิ และขอ้ มูลการลงทนุ เชน่ ตลาดหลกั ทรพั ย์ฯ เปน็ ตน้ 6.4 ข้อมลู เก่ียวกบั การลงทุนทเี่ สนอลงในสงิ่ ตพี มิ พต์ า่ งๆ เช่น หนงั สือพิมพ์ เปน็ ต้น
83 6.5 เอกสารและข้อมูลทีไ่ ดจ้ ากนายหนา้ และตัวแทน เปน็ ตน้ 7.ผลตอบแทนจากการลงทุนโดยยกตวั อยา่ งประกอบพร้อมแสดงสือ่ เพือ่ เชอ่ื มโยงให้ผเู้ รียนได้เขา้ ใจง่ายยิง่ ขึ้น การ ลงทุนมีความสัมพันธ์กับผลตอบแทน (Returns) และความเส่ียง (Risks) สาเหตขุ องการลงทุนเน่ืองจากคาดหวังว่า จะได้รับผลตอบแทนตามเงื่อนไขทตี่ กลงกนั ไว้ แตบ่ างครงั้ ไมเ่ ปน็ ไปตามท่คี าดหมาย จึงตอ้ งอยูภ่ ายใตค้ วามเสีย่ งทอ่ี าจเกิดข้นึ ได้ ผลตอบแทนจากการลงทนุ มีหลายรปู แบบ ได้แก่ 7.1.รายได้ตามปกติ (Current Income) ได้แก่ ดอกเบยี้ เงินปนั ผลในกรณที ่ีบุคคลซ้อื พนั ธบัตรหรอื ลงทนุ ในหนุ้ ตา่ งๆ ซึ่งกำหนดเวลาก็จะได้รบั ดอกเบี้ยหรือเงนิ ปันผลตามทรี่ ะบุไว้ 7.2 กำไรจากการซอื้ ขายหุ้น (Capital Gains) ในกรณีหุ้นสามญั ทบี่ คุ คลลงทนุ ซ้อื ไวม้ รี าคาสงู ข้นึ เม่ือขายออกไปแล้ว จะได้กำไร 7.3 ค่าเชา่ (Rent) ในการลงทุนซือ้ ทรพั ย์สนิ เชน่ ท่ีดนิ บา้ น คอนโดมิเนยี ม ที่อย่อู าศยั อืน่ ๆ เมือ่ นำไปใหผ้ อู้ ่นื เช่าก็ จะมรี ายได้ค่าเชา่ ซึ่งเป็นรายไดท้ ก่ี ลับคืนมาสูเ่ จ้าของ 7.4 ผลตอบแทนอ่นื ๆ (Others) เชน่ ซือ้ หนุ้ สามญั จะมีสทิ ธอิ อกเสยี งเลอื กคณะกรรมการบรษิ ัทและถา้ ถอื หุ้นไว้มาก จะมีโอกาสได้รบั เลือกเปน็ ผู้บรหิ ารซึ่งสามารถกำหนดนโยบายบรษิ ทั ได้ หรือสทิ ธใิ นการซือ้ ขายหนุ้ ใหมใ่ นราคาพเิ ศษ เปน็ ตน้ ผลู้ งทนุ ควรนกึ ถงึ ผลตอบแทนทจ่ี ะได้รบั เป็นอตั รากเ่ี ปอร์เซ็นต์โดยคำนงึ ถงึ อตั ราเงนิ เฟอ้ ไวด้ ว้ ย เพราะมี ผลกระทบต่อผลตอบแทนในการลงทนุ ดังนน้ั ผลู้ งทนุ ควรให้ความสนใจกบั อัตราตอบแทนทแ่ี ท้จริง (Real rate of return) มากกวา่ อัตราผลตอบแทนปกติ (Nominal rate of return) เช่น การลงทุนเสนอให้ผลตอบแทน (Nominal rate of return) 10% ซ่งึ คาดคะเนวา่ อัตราเงินเฟอ้ จะเกดิ ขึน้ ปลี ะ 6% ดงั น้ันผลตอบแทนแท้จรงิ ที่ ได้รับจะเป็น 4% เท่านน้ั หลักการลงทุน เพอ่ื ใหเ้ กิดความเสยี่ งน้อยทส่ี ุด ก็ควรจะมหี ลักในการลงทนุ ดังน้ี 1) ความปลอดภยั ของเงินลงทุน 2) เสถยี รภาพของรายได้ 3) ความเจรญิ เตบิ โตของเงินลงทุน 4) ความคลอ่ งตวั ในการซ้อื ขาย 5) การกระจายเงินลงทนุ 6) หลกั เกี่ยวกับภาษี การลงทนุ โดยฝากเงนิ กบั ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารพาณชิ ย์ หมายถงึ การประกอบธรุ กิจประเภทรับฝาก เงินท่ตี ้องจา่ ยคนื เม่ือทวงถาม หรอื เมือ่ ส้นิ ระยะเวลาอันไดก้ ำหนดไว้ และใช้ประโยชน์จากเงนิ นนั้ เชน่ การใหก้ ยู้ ืม ซอื้ ขายหรือเกบ็ เงินตามตวั๋ หรือตราสารเปลย่ี นมืออน่ื ใด ซอื้ หรือขายเงินตราต่างประเทศ ทั้งนจ้ี ะประกอบธุรกิจ ประเภทอื่นๆ อันเป็นประเพณขี องธนาคารพาณชิ ย์ด้วยก็ได้ สำหรบั ธนาคารพาณิชย์เปน็ ธนาคารทีไ่ ด้รบั อนญุ าตให้ ประกอบการธนาคารพาณิชย์ รวมถึงสาขาของธนาคารต่างประเทศทีไ่ ด้รบั อนุญาตใหป้ ระกอบการธนาคารพาณิชย์ ดว้ ยการฝากเงนิ เปน็ การลงทนุ ทมี ี่ความเสยี่ งต่ำเพราะมีรฐั บาลรับประกัน หากรฐั บาลไม่รับประกนั เงนิ ฝากความ เสี่ยงกจ็ ะมากขึ้น ทง้ั นข้ี ้นึ อยกู่ บั การเลอื กวา่ จะฝากเงินกับธนาคารใด หนา้ ท่ีของธนาคารพาณิชยม์ ีหนา้ ที่ใหบ้ รกิ ารด้านการเงินต่างๆ ดงั น้ี 1) การรับฝากเงนิ อาจจะแบ่งการรบั ฝากเงนิ ของธนาคารพาณชิ ย์ได้ดงั น้ี
84 1.1 เงินฝากกระแสรายวัน (Current Account หรือ Ahecking Account) หรอื เงินฝากเผ่ือเรยี ก (Demand Deposit) 1.2 เงินฝากออมทรพั ย์ (Savings Deposit) 1.3 เงนิ ฝากประจำ (Time Deposit) 2) การใหก้ ู้ยืม อาจแบ่งได้ 3 ลกั ษณะ 2.1 การให้ก้ยู มื โดยตรง (Loan) 2.2 การใหเ้ บิกเงินเกนิ บญั ชี หรอื O.D. (Overdraft) 2.3 การซอื้ ลดตวั๋ เงนิ (Discounting Bill) 3) การโอนเงนิ มหี ลายลักษณะ ไดแ้ ก่ การโอนเงนิ ภายในทอ้ งถิน่ เดยี วกัน และการโอนเงนิ จากทอ้ งถิ่นหน่ึงมายงั อกี ทอ้ งถิ่นหนึง่ หรอื การโอนเงนิ จากประเทศหนึ่งมายงั อกี ประเทศหน่งึ ไม่วา่ จะเป็นการโอนไปเพ่อื ตัวเองหรอื โอนไปให้ บุคคลอน่ื กต็ าม ธนาคารสามารถใหบ้ ริการไดห้ ลายรปู แบบด้วยกนั เช่นแบบธรรมดา เป็นการโอนผ่านด้วยเช็คหรอื ดราฟต์ธนาคาร และการโอนเงนิ แบบเร็วทนั ใจเป็นการโอนเงนิ ทางโทรศัพท์ทางไกล และการโอนโดยผา่ นศนู ย์ คอมพวิ เตอร์แบบออนไลน์ 4) การเรยี กเก็บเงนิ เป็นหน้าทีเ่ กีย่ วเน่อื งกับการโอนเงนิ ธนาคารจะเรียกเกบ็ เงินตามเช็ค ตั๋วเงนิ หรอื ดราฟต์ทีค่ รบ กำหนด ซง่ึ เปน็ การอำนวยความสะดวกใหแ้ ก่ลูกค้าเพ่อื ที่ลกู ค้าจะไดไ้ ม่ตอ้ งเสยี เวลาไปเกบ็ เงินด้วยตนเอง เพราะ ธนาคารส่วนมากมีตัวแทนหรือสาขาอยใู่ นจังหวัดตา่ งๆ รวมทัง้ ในตา่ งประเทศด้วย ทำให้สามารถเรียกเก็บเงินได้ โดยสะดวกรวดเร็วและประหยดั 5) การให้เชา่ ตนู้ ริ ภยั ปกตธิ นาคารจะมหี อ้ งมนั่ คงไว้ เพือ่ เก็บรกั ษาของมคี า่ ของธนาคาร และเพ่อื ให้ลกู คา้ เช่า สำหรับเก็บของมีคา่ หรอื ของสำคัญๆ โดยลูกค้าสามารถทำสญั ญาเช่าตนู้ ิรภัยเพอื่ เกบ็ ทรัพยส์ นิ อนั มีค่า เช่น เคร่ือง เพชร ทองรูปพรรณ โฉนด สญั ญาตา่ งๆ 6) การซอ้ื ขายเงินตราตา่ งประเทศ หมายถงึ การที่ธนาคารทำหนา้ ที่ซอ้ื ขายแลกเปลยี่ นเงินตราตา่ งประเทศ เมอ่ื ประชาชนตอ้ งการเงนิ ตราต่างประเทศก็ซือ้ ได้จากธนาคารพาณชิ ย์ตามเง่อื นไขทรี่ ะบุไว้ ถ้าผูใ้ ดตอ้ งการขายเงนิ ตรา ต่างประเทศท่ีตนมใี นครอบครอง กส็ ามารถนำไปขายใหแ้ กธ่ นาคารพาณิชยไ์ ด้ 7) การบรกิ ารอน่ื ๆ ธนาคารพาณชิ ยย์ ังให้บริการอื่นๆ แก่ลกู ค้าอกี เชน่ บริการบัตรเครดิต บริการหนังสือคำ้ ประกัน บริการให้คำปรกึ ษาด้านธุรกิจและการลงทุน บริการรบั ชำระค่าสาธารณปู โภค เป็นต้น การลงทนุ โดยทำประกันชีวิตและยกตวั อย่างประกอบ โดยการประกันชวี ติ เปน็ สญั ญาระหวา่ งผ้ใู หป้ ระกัน ซ่ึงมักเปน็ บรษิ ัทประกนั ชวี ติ กบั ผูเ้ อาประกนั โดยผู้เอาประกนั ตอ้ งจ่ายเบีย้ ประกันให้ผรู้ ับประกัน หากผเู้ อาประกัน เกิดเสียชวี ติ ขณะท่ีกรมธรรมม์ ผี ลบงั คับภายในเงอื่ นไขในกรมธรรม์ บริษทั ประกันจะจ่ายเงินจำนวนหน่งึ ใหก้ ับผู้รบั ผลประโยชนเ์ รียกวา่ เงนิ สินไหมการประกันชีวิตเปน็ การลงทนุ อยา่ งหนึง่ ทผ่ี ้ลู งทุนจะตอ้ งส่งเบี้ยประกนั ให้กับบรษิ ัท ประกันชีวติ ตามสญั ญาหรอื เง่อื นไขทตี่ กลงกนั ไว้ ผลู้ งทุนหรอื ผ้เู อาประกันสามารถเลอื กรูปแบบท่ใี ห้ความค้มุ ครอง หรือความมั่นคงใหก้ ับตนเองมากที่สุด ชนดิ ของการประกันชวี ิตแบบพืน้ ฐาน 1) ประกนั ชีวติ แบบชว่ งระยะเวลา (Term)
85 2) ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ (Endowment)
86 3) ประกนั ชวี ิตแบบตลอดชีพ (Who Life) 4) ประกนั ชีวติ แบบบำนาญ (Annuity) 5) ประกันชวี ิตควบการลงทุน (Unit Linked)
87 การลงทุนในกองทุน โดยใชส้ ่ือประกอบเรอื่ งดังต่อไปน้ี 1) กองทนุ รวม (Mutual Fund หรือ Unit Trust) 2.) กองทนุ เพอ่ื การเลี้ยงชีพ การลงทนุ ประกอบธุรกิจ ซ่ึงหมายถึง การนำเงนิ มาลงทุนเพ่ือประกอบการให้เกิดผลผลิตเปน็ สินคา้ หรอื บรกิ ารและ อยูภ่ ายใตข้ อบเขตของกฎหมาย ผ้ทู ่ีลงทุนกจ็ ะได้รบั รายได้คือกำไรจากการขายสนิ ค้าหรอื บรกิ าร แสดงความสัมพันธ์ของรปู แบบการประกอบธรุ กิจอาจดำเนนิ การได้หลายรูปแบบ โดยบุคคลคนเดียวหรือ ดำเนินการโดยร่วมลงทุนกับบุคคลอ่นื เป็นกลุม่ คณะกไ็ ด้ การทจ่ี ะตัดสินใจเลอื กดำเนนิ ธุรกจิ การค้าในรูปแบบใดนั้น ผปู้ ระกอบการตอ้ งคำนึงถงึ องค์ประกอบหลายประการ เช่น ลักษณะกิจการค้า เงนิ ทุน ความรคู้ วามสามารถในการ ดำเนินธรุ กจิ เป็นต้น เพอ่ื ให้การประกอบธุรกิจนั้นประสบผลสำเรจ็ นำมาซ่ึงผลประโยชนแ์ ละกำไรสูงสุด 1) ธุรกจิ เจา้ ของคนเดยี ว
88 2) ห้างหุ้นส่วน 3) บริษัทจำกัด เอกสารอา้ งองิ ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ, เอมพันธ์: 2560
89 ใบงานท่ี 1 หนว่ ยท่ี 3 รหัสวิชา 20200-1001 ชอ่ื วชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ สอนคร้งั ที่ 4 ชอ่ื หนว่ ย การลงทนุ เวลารวม 51 ชวั่ โมง ชือ่ งาน การลงทุน จำนวน 3 ช่วั โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงคท์ ั่วไป 1.เพอ่ื ใหน้ ักเรียนบอกความหมายและลักษณะการลงทุน 2. เพ่อื ใหน้ ักเรยี นบอกการลงทุนทางการเงนิ 3.เพ่ือใหน้ กั เรยี นบอกผลตอบแทนจากการลงทนุ 4.เพอ่ื ใหน้ ักเรียนอธิบายหลักการลงทุน 5.เพอ่ื ใหน้ ักเรียนอธบิ ายการลงทุนโดยฝากเงนิ กับธนาคารพาณิชย์ 6.เพ่อื ใหน้ ักเรยี นบอกการลงทุนโดยทำประกันชวี ิต 7.เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นอธบิ ายการลงทนุ ในกองทนุ 8.เพื่อให้นักเรยี นเขา้ ใจการลงทนุ ประกอบธุรกจิ จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผูส้ ำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่คี รูสามารถสงั เกตได้ขณะทำการสอนในเร่ือง 1.1 ความมมี นษุ ยสมั พันธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมีวินัย 1.7 ความรบั ผิดชอบ 1.3 การละเว้นส่งิ เสพติดและการพนัน 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซอ่ื สัตย์สจุ ริต 1.9 ความรักสามคั คี 1.5 ความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง 1.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรเู้ ก่ียวกบั หลกั การวางแผนเป้าหมายชวี ิตด้วยวงจรควบคุมคุณภาพ ธุรกิจและการเปน็ ผูป้ ระกอบการ หลกั การจัดการทางการเงิน หลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลติ เบ้ืองตน้ และกฎหมายทเ่ี กยี่ วข้อง 2.จัดทำแผนธุรกิจอยา่ งงา่ ย 3.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยุกต์ใช้หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพมิ่ ผลผลติ ในการวางแผนและดำเนินงาน เคร่อื งมือ วัสดุ – อุปกรณ์
90 1.หนังสือแบบเรยี น 2. ส่ือการเรยี นการสอน power point 3. คน้ คว้าขอ้ มลู จากส่อื ออนไลน์ ลำดบั ข้นั ตอนการปฏิบัตงิ าน 1. แบง่ กล่มุ นักเรียนออกเปน็ 3 กลุ่ม เพื่อทำการศกึ ษาหาขอ้ มูลเพอื่ นำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน กลุ่มท่ี 1 ศึกษาขอ้ มูลเก่ยี วกับความหมายของ การลงทนุ กลุม่ ที่ 2 ศึกษาการวางแผนการลงทนุ จากนิตยสาร ตลาดหลกั ทรัพย์ สือ่ ออนไลน์ กลุ่มท่ี 3 ศึกษาประโยชน์และวธิ ีการลงทุน ภาพประกอบ - ข้อควรระวัง - ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี) - การประเมนิ ผล (ตอ้ งระบเุ กณฑ์การประเมินใหช้ ัดเจน) - เกณฑ์การวัดผล 1. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง 2. แบบประเมนิ ผลการเรียนรูก้ อ่ นเรียนไมม่ เี กณฑ์ผ่าน เกบ็ คะแนนไวเ้ ปรียบเทยี บกบั คะแนนทีไ่ ดจ้ ากการ ทดสอบหลังเรยี น 3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับ การ ประเมินตามสภาพจรงิ เอกสารอา้ งองิ ธรุ กจิ และการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ, เอมพนั ธ์: 2560
91 ใบมอบหมายงานท่ี 1 หน่วยที่ 3 รหัสวชิ า 20200-1001 ชอ่ื วชิ า ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ สอนครัง้ ท่ี 4 ชื่อหนว่ ย การลงทนุ ช่อื งาน การลงทุน จดุ ประสงคท์ ั่วไป 1.เพอื่ ใหน้ กั เรยี นบอกความหมายและลักษณะการลงทุน 2. เพอื่ ให้นกั เรยี นบอกการลงทนุ ทางการเงนิ 3.เพ่ือใหน้ ักเรยี นบอกผลตอบแทนจากการลงทนุ 4.เพอ่ื ใหน้ ักเรียนอธบิ ายหลักการลงทนุ 5.เพื่อใหน้ กั เรียนอธิบายการลงทนุ โดยฝากเงนิ กับธนาคารพาณิชย์ 6.เพ่ือให้นกั เรยี นบอกการลงทนุ โดยทำประกนั ชวี ิต 7.เพื่อให้นักเรียนอธบิ ายการลงทุนในกองทุน 8.เพื่อให้นักเรียนเข้าใจการลงทนุ ประกอบธุรกจิ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องผสู้ ำเร็จการศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทคี่ รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเร่อื ง 1.1 ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมีวินยั 1.7 ความรับผดิ ชอบ 1.3 การละเวน้ ส่ิงเสพตดิ และการพนัน 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซอื่ สัตย์สจุ ริต 1.9 ความรกั สามัคคี 1.5 ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง 1.10 ความกตัญญกู ตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความรู้เกีย่ วกบั หลักการวางแผนเป้าหมายชีวติ ด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ หลักการจัดการทางการเงนิ หลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลติ เบ้ืองตน้ และกฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 2.จัดทำแผนธรุ กิจอย่างง่าย 3.ประยกุ ตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยุกต์ใชห้ ลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลติ ในการวางแผนและดำเนินงาน แนวทางการปฏบิ ัติงาน
92 แบง่ กล่มุ เพอื่ คน้ คว้าหาขอ้ มูลและนำเสนอหน้าชัน้ เรยี น โดยแบง่ นักเรียนออกเปน็ กลมุ่ ๆ กลุม่ ละเทา่ ๆ กนั แหลง่ คน้ ควา้ 1. หอ้ งสมดุ 2. ส่ือออนไลน/์ Internet 3. นิตยสาร/วารสาร คำถาม/ปัญหา เมือ่ นักเรยี นค้นคว้าแลว้ มปี ญั หาหรือไมเ่ สามารถหาเนื้อหาที่จะศกึ ษาหาข้อมลู ได้จะทำอย่างไร คำตอบ สามารถปรกึ ษาจาก ครูผู้สอน หรอื ครทู ี่มีความรใู้ นรายวิชา กำหนดเวลาส่งงาน นำเสนอหนา้ ช้นั เรยี นในคาบเรยี นถัดไป เอกสารอา้ งอิง สอื่ ออนไลน/์ Internet หนงั สอื ตำราเรียน วิชาธรุ กจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ
93 แบบประเมนิ ผลงาน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ชอื่ กลุ่ม.........................................................................ชนั้ ................................................................ รายช่อื สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 บุคลกิ การแต่งกาย 2 มารยาทในการพูด 3 การใชภ้ าษา 4 วธิ ีการนำเสนอ 5 เนอ้ื หาท่ีนำเสนอ รวม ผู้ประเมิน.............................................. วนั ที่..............เดอื น...............................พ.ศ...................
94 เกณฑ์การประเมนิ บุคลกิ การแต่งกาย : มคี วามเชือ่ มั่นในตนเอง แตง่ กายสะอาด ถูกระเบยี บ เส้อื ไมห่ ลดุ ลุย่ ลอยชาย มารยาทในการพูด : มองหน้าและสบตาผฟู้ งั ไมเ่ หน็บแนม เสยี ดสผี ู้อ่นื การใช้ภาษา : ชัดเจน ตามหลักภาษา ตัว ร ล คำควบกล้ำ ถอ้ ยคำขอ้ ความสภุ าพ วธิ ีการนำเสนอ : น่าสนใจหลากหลาย เชน่ ใชแ้ ผน่ ใส รปู ภาพ ตั้งคำถาม เลน่ เกม ไม่เยนิ่ เย้อ เน้ือหาท่ีนำเสนอ : มสี าระสำคญั ตรงกบั หัวข้อเรอ่ื ง ใชเ้ วลาตามทก่ี ำหนด 1..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 3..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 4..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 5..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = ……………………………………………………………………………………………………………
95 แบบประเมนิ ผลงาน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 ชอ่ื กลมุ่ .........................................................................ช้ัน ปวช......................................................... รายชอื่ สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อที่ รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 เนอ้ื หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 ความคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอที่นา่ สนใจ รวม ผ้ปู ระเมิน.............................................. วนั ท.ี่ .............เดือน...............................พ.ศ...................
96 เกณฑ์การประเมนิ 1.เนอื้ หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคัญครบถ้วน ส่ือความหมายชดั เจนและมีรปู ภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเนอื้ หาสาระสำคัญครบถว้ น ส่อื ความหมายและมรี ูปภาพไม่ตรงเนื้อหา 1 คะแนน = มเี นื้อหาสาระสำคญั ไม่ชัดเจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมอื กันทำงาน 3 คะแนน = มีความสามัคครี ่วมมือกนั ทำงานทกุ คน 2 คะแนน = ร่วมมือกันทำงานเปน็ บางคน 1 คะแนน =ไม่ค่อยร่วมมอื กนั ทำงาน 3. ความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณใ์ นทอ้ งถิน่ และประหยดั 2 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยุกต์ใช้วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นท้องถน่ิ แตไ่ ม่ประหยดั 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไม่น่าสนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเก่ยี วกับองค์ประกอบ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเก่ยี วกบั องคป์ ระกอบ ไม่ครอบคลมุ แต่ชัดเจน 1 คะแนน = ให้ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลมุ และไมช่ ดั เจน 5. การนำเสนอน่าสนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจปานกลาง ชัดเจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไม่ค่อยชดั เจน
97 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน หน่วยการเรียนรู้ที่............................................................................................................................. ช่อื กล่มุ .........................................................................ชั้น................................................................ รายชอื่ สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 เน้อื หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมือกนั ทำงาน 3 ความคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทน่ี า่ สนใจ รวม ผู้ประเมนิ .............................................. วันท่.ี .............เดือน...............................พ.ศ...................
98 เกณฑ์การประเมนิ 1.เนอื้ หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคัญครบถ้วน สอ่ื ความหมายชัดเจนและมรี ูปภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเนอื้ หาสาระสำคัญครบถว้ น สอื่ ความหมายและมีรปู ภาพไมต่ รงเนื้อหา 1 คะแนน = มเี นื้อหาสาระสำคญั ไม่ชัดเจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมอื กันทำงาน 3 คะแนน = มีความสามัคครี ่วมมือกนั ทำงานทกุ คน 2 คะแนน = ร่วมมือกันทำงานเปน็ บางคน 1 คะแนน =ไม่ค่อยร่วมมอื กันทำงาน 3. ความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยุกตใ์ ช้วสั ดุอปุ กรณใ์ นทอ้ งถิน่ และประหยดั 2 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยุกตใ์ ช้วัสดอุ ปุ กรณ์ในท้องถ่นิ แตไ่ ม่ประหยดั 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไม่นา่ สนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเก่ยี วกับองคป์ ระกอบ ครอบคลมุ และชดั เจน 2 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเก่ยี วกบั องค์ประกอบ ไม่ครอบคลุมแต่ชดั เจน 1 คะแนน = ให้ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลุมและไม่ชัดเจน 5. การนำเสนอน่าสนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลมุ และชัดเจน 2 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจปานกลาง ชัดเจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไม่ค่อยชัดเจน
99 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ชื่อกลุ่ม.........................................................................ชนั้ ................................................................ รายช่อื สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 การเตรียมความพรอ้ ม 2 เนือ้ หาสาระ 3 รปู แบบการนำเสนอ 4 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลุ่ม 5 การรกั ษาเวลา 6 ความสนใจของผู้ฟัง รวม ผปู้ ระเมิน.............................................. วันที่..............เดือน...............................พ.ศ...................
100 เกณฑก์ ารประเมิน 1. การเตรียมความพรอ้ ม 3 คะแนน = มีการจดั เตรียมสถานท่ี สื่อ/อปุ กรณ์ไว้อยา่ งพรอ้ มเพรยี ง 2 คะแนน = มีสือ่ /อปุ กรณพ์ ร้อม ขาดการจัดเตรียมสถานท่ี 1 คะแนน = สอื่ /อุปกรณไ์ ม่เพียงพอ ขาดการจดั เตรียมสถานที่ 2. เนอื้ หาสาระ 3 คะแนน = สาระสำคัญครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 3. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มีสือ่ และ ใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ นำวสั ดุในท้องถิ่นมาประยกุ ต์ใช้ อยา่ งคุ้มค่าและประหยดั 2 คะแนน = ใชเ้ ทคนคิ แปลกใหม่ มีสื่อและใช้เทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ ขาดการประยุกตใ์ ช้วสั ดุในทอ้ งถ่ิน 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม ไม่น่าสนใจ 4. การมสี ว่ นร่วมของสมาชิก 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมบี ทบาทและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญม่ ีบทบาทและมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 5. การรกั ษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมไดต้ ามเวลาทก่ี ำหนด 2 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมเรว็ กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กว่าเวลาทกี่ ำหนด 6. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ รอ้ ยละ 80 สนใจ และให้ความรว่ มมือ 2 คะแนน = ผ้ฟู งั ร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วามร่วมมือ 1 คะแนน = ผฟู้ ังน้อยกว่า รอ้ ยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259