Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

แผนการสอนวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Published by Sarida Bunprakhong, 2021-11-09 15:09:43

Description: แผนการสอนวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Search

Read the Text Version

41 5. ความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง 6. การประหยดั 7. ความสนใจใฝร่ ู้ 8. การละเวน้ ส่ิงเสพติดและการพนนั 9.ความรักสามัคคี 10. ความกตญั ญูกตเวที 4. สมรรถนะรายวชิ า 1.แสดงความรเู้ กี่ยวกับหลกั การวางแผนเป้าหมายชวี ติ ด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธุรกิจและการเป็น ผปู้ ระกอบการ หลักการจัดการทางการเงนิ หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลติ เบื้องตน้ และกฎหมายที่เก่ียวขอ้ ง 2.จัดทำแผนธรุ กจิ อย่างง่าย 3.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพมิ่ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนินงาน 5. สาระการเรยี นรู้ 1.การจดทะเบยี นจดั ตั้งธรุ กจิ 2.กฎหมายภาษตี ามประมวลรัษฎากร 3.กฎหมายอนื่ ๆ ทเี่ กย่ี วข้อง 4.การจดทะเบยี นสิทธบิ ัตร 5.แสดงความรเู้ กี่ยวกับเครอื่ งหมายการค้า 6.แสดงความรเู้ กยี่ วกับกฎหมายประกันสังคม 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน 1.ครกู ล่าวถงึ การประกอบกจิ การของรา้ นคา้ ปลกี ทัว่ ไปทีด่ ำเนินโดยกิจการเจ้าของคนเดยี วทีม่ อี ย่ทู ั่วไป ของประเทศไทย จำเปน็ ตอ้ งจดทะเบยี นพาณิชย์ตามกฎหมายทก่ี รมพฒั นาธรุ กิจการค้ากำหนด 2.ครกู ล่าวถึงผู้มหี น้าที่จดทะเบยี นพาณิชย์ คอื บุคคลธรรมดาคนเดียวหรือหลายคน (ห้างหนุ้ สว่ น สามญั ) หรอื นติ บิ ุคคล รวมท้ังนิตบิ ุคคลท่ีตั้งข้นึ ตามกฎหมายตา่ งประเทศทม่ี าตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทย ซงึ่ ประกอบกจิ การอนั เปน็ พาณชิ ยกิจตามทก่ี ระทรวงพาณิชย์กำหนด

42 ข้นั สอน 3.ครูอธิบายการจดทะเบยี นพาณิชยข์ องผปู้ ระกอบการโดยใช้ส่ือ PowerPoint ประกอบ 4.ครบู อกขัน้ ตอนการจดทะเบยี นจดั ตงั้ ธรุ กิจ ดงั น้ี 5.ครูอธิบายถึงผูป้ ระกอบการดังต่อไปนี้ ตอ้ งจดทะเบยี นพาณิชย์ดังนี้ 1) ผปู้ ระกอบกจิ การโรงสีขา้ วและโรงเลือ่ ยที่ใช้เครื่องจกั ร 2) ผูป้ ระกอบกิจการขายสนิ คา้ ไมว่ า่ อยา่ งใดๆ อย่างเดยี วหรอื หลายอย่าง คิดรวมท้งั สนิ้ ในวนั หนึง่ ขาย ไดเ้ ป็นเงนิ ตง้ั แต่ 20 บาทข้ึนไป หรอื มีสนิ ค้าไวเ้ พอ่ื ขายมีคา่ รวมท้งั ส้นิ เป็นเงนิ ตงั้ แต่ 500 บาทขน้ึ ไป 3) นายหน้าหรอื ตัวแทนค้าต่างซ่ึงทำการเกีย่ วกบั สินค้าไมว่ า่ อยา่ งใดๆ อย่างเดยี วหรือ หลายอย่างก็ตาม และสินค้านน้ั มีค่ารวมทัง้ สิน้ ในวันหน่งึ วนั ใดเป็นเงนิ ตง้ั แต่ 20 บาทขน้ึ ไป 4) ผู้ประกอบกจิ การหัตถกรรมหรืออุตสาหกรรมไมว่ ่าอยา่ งใดๆ อยา่ งเดยี วหรอื หลายอยา่ งก็ตาม และขายสนิ ค้าทผี่ ลิตได้ คิดราคารวมท้งั สิน้ ในวันหน่ึงวนั ใดเปน็ เงนิ ตง้ั แต่ 20 บาทขน้ึ ไป หรอื ในวนั หนึง่ วนั ใดมี สนิ ค้าที่ผลติ ไดม้ ีราคารวมท้งั สิน้ ต้ังแต่ 500 บาทข้ึนไป 5) ผ้ปู ระกอบกิจการขนสง่ ทางทะเล การขนส่งโดยเรือกลไฟหรือเรือยนต์ประจำทาง การขนส่ง โดยรถไฟ การขนสง่ โดยรถราง การขนสง่ โดยรถยนตป์ ระจำทาง การขายทอดตลาด การรบั ซื้อขายท่ดี นิ การใหก้ ยู้ ืมเงนิ การรบั แลกเปลยี่ น หรือซ้ือขายเงนิ ตราตา่ งประเทศ การซ้ือหรือขายตวั๋ เงนิ การธนาคาร การโพยก๊วน การทำโรงรับจำนำ และการทำโรงแรม 6) ขาย ใหเ้ ช่า ผลติ หรอื รบั จา้ งผลิต แผน่ ซีดี แถบบนั ทึก วีดทิ ัศน์ แผ่นวีดทิ ัศน์ ดีวีดี หรอื แผ่นวีดิ ทศั น์ระบบดิจิทัล เฉพาะที่เกีย่ วกบั การบันเทิง 7) ขายอัญมณี หรือเครือ่ งประดับซ่ึงประดับด้วยอญั มณี 8) ซอื้ ขายสินค้าหรอื บรกิ ารโดยวธิ ีใชส้ อ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ผา่ นระบบเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ น็ต บริการ อนิ เทอร์เน็ต ใหเ้ ช่าพ้นื ทขี่ องเครือ่ งคอมพิวเตอร์แมข่ า่ ยบรกิ ารเปน็ ตลาดกลางในการซอ้ื ขายสนิ คา้ หรอื บรกิ าร โดยวธิ ีการใชส้ อื่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ผ่านระบบเครอื ข่ายอินเทอร์เน็ต 9) การใหบ้ ริการเครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือใช้อินเทอรเ์ น็ต

43 10) การให้บรกิ ารฟงั เพลงและรอ้ งเพลงโดยคาราโอเกะ 11) การใหบ้ ริการเครือ่ งเลน่ เกม 12) การให้บริการตูเ้ พลง 13) โรงงานแปรสภาพ แกะสลักและหัตถกรรมจากงาชา้ ง การค้าปลกี การคา้ ส่งงาช้างและผลิตภณั ฑ์ จากงาชา้ ง 6.ครอู ธิบายกฎหมายภาษตี ามประมวลรษั ฎากร ได้แก่ 6.1 ภาษีเงนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา คือ ภาษีทจ่ี ดั เก็บจากบุคคลท่ัวไป หรือจากหน่วยภาษีที่มีลกั ษณะ พิเศษตามท่ีกฎหมายกำหนดและมรี ายได้เกิดขนึ้ ตามเกณฑท์ ี่กำหนด โดยปกติจัดเก็บเปน็ รายปี รายไดท้ ่เี กดิ ข้ึน ในปใี ดๆ ผมู้ ีรายได้มีหน้าทีต่ อ้ งนำไปแสดงรายการตนเองตามแบบแสดงรายการภาษที ก่ี ำหนดภายในเดือน มกราคมถึงมนี าคมของปีถดั ไป สำหรับผู้มีเงนิ ไดบ้ างกรณกี ฎหมายยงั กำหนดใหย้ น่ื แบบฯ เสียภาษีตอนครึ่งปี สำหรบั รายได้ ท่ีเกดิ ข้ึนจริงในช่วงคร่ึงปีแรก เพื่อเปน็ การบรรเทาภาระภาษที ี่ตอ้ งชำระและเงินไดบ้ างกรณี กฎหมายกำหนดให้ ผจู้ ่ายทำหน้าทห่ี ักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงนิ ได้ทจ่ี า่ ยบางสว่ น เพอ่ื ใหม้ ีการทยอยชำระภาษี ขณะทีม่ เี งินไดเ้ กิดข้นึ อกี ด้วย 6.2 ภาษีเงินไดน้ ติ ิบคุ คล โดยผมู้ หี นา้ ท่เี สียภาษเี งนิ ได้นติ บิ คุ คล ได้แก่ บรษิ ัทหรือหา้ งหุ้นส่วนนติ บิ คุ คล ที่จดทะเบยี นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์รวมถงึ นิตบิ ุคคลอ่นื ๆ ท่ีไม่ได้จดทะเบยี นตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 6.3 ภาษีมูลค่าเพ่ิม ผู้ประกอบการทีข่ ายสนิ ค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวชิ าชีพเป็นปกตธิ รุ ะ ไม่ วา่ จะประกอบกิจการในรูปของบุคคลธรรมดา คณะบุคคลหรือหา้ งหุ้นสว่ นสามัญท่มี ิใช่นติ ิบุคคล หรือนิตบิ ุคคล ใดๆ หากมีรายรับจากการขายสนิ คา้ หรอื ให้บรกิ ารเกนิ กวา่ 1.8 ลา้ นบาทต่อปี ตอ้ งยืน่ คำขอจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพ่ิม โดยคำนวณภาษีที่ตอ้ งเสียจากภาษีขายหกั ดว้ ยภาษีซือ้ 6.4 ภาษีธรุ กจิ เฉพาะ เป็นภาษีตามประมวลรษั ฎากร ทจ่ี ัดเก็บจากการประกอบกิจการเฉพาะอยา่ ง

44 แทนภาษกี ารคา้ ทถ่ี ูกยกเลิก ภาษธี ุรกิจเฉพาะเรมิ่ ใชบ้ ังคับใน พ.ศ. 2535 พร้อมกันกับภาษมี ูลคา่ เพิ่ม 7.ครูและผู้เรยี นร่วมกนั อธบิ าย วิเคราะห์ภาษากฎหมายอ่นื ๆ ที่เก่ยี วขอ้ ง นอกจากการจดทะเบยี น จดั ตัง้ ธรุ กิจ และกฎหมายภาษีตามประมวลรษั ฎากรแล้ว ผูป้ ระกอบการจำเป็นตอ้ งศกึ ษากฎหมายอ่นื ๆ ท่ีเกยี่ วข้อง เชน่ ภาษีเงินได้ ณ ท่ีจา่ ย ภาษีปา้ ย อากรแสตมป์ รวมท้ังการคุม้ ครองทรัพย์สินทางปญั ญาตา่ งๆ อีกด้วย 8.ครอู ธิบายการจดทะเบียนสิทธิบตั ร โดยสทิ ธบิ ัตร คอื หนงั สอื สำคญั ท่ีออกให้เพือ่ ค้มุ ครองการ ประดษิ ฐ์ หรอื การออกแบบผลติ ภัณฑก์ ารประดษิ ฐ์ คอื ผลงานสร้างสรรค์ เกยี่ วกบั การผลิตผลิตภณั ฑ์ ซงึ่ มี 2 ลกั ษณะ ดงั น้ี 8.1 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สว่ นประกอบกันเป็นส่งิ ของเครอ่ื งใชต้ ่างๆ และส่วนผสมทางเคมี 8.2 กรรมวิธี ไดแ้ ก่ วธิ กี ารผลิต การเก็บรักษา หรือการใชผ้ ลิตภัณฑ์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ คอื ผลงานสร้างสรรคเ์ กย่ี วกับลกั ษณะของผลติ ภัณฑ์ เชน่ รปู รา่ ง ลวดลาย หรือสี โดยสิทธิบัตรการประดิษฐ์ มอี ายุ 20 ปี นับแตว่ ันยื่นขอรบั สทิ ธิบัตรและสทิ ธิบัตรการออกแบบผลิตภณั ฑ์ มี อายุ 10 ปี นบั แต่วันยืน่ ขอ ผู้ทรงสิทธบิ ัตรต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปตี ้งั แต่ปีท่ี 5 เปน็ ต้นไปโดยใหช้ ำระภายใน 60 วัน หลังจากสิ้นปีท่ี 4 หากการออกสิทธิบัตรใชร้ ะยะเวลาเกนิ กว่า 4 ปี ใหช้ ำระค่าธรรมเนยี มรายปภี ายใน 60 วัน นับแตว่ นั ทม่ี ีการออกสทิ ธิบัตรให้ สถานที่ย่ืนคำขอ ส่วนบริหารงานจดทะเบยี น สำนักสทิ ธบิ ตั ร กรมทรัพยส์ ินทางปัญญาหรอื สำนกั งานพาณิชย์ จังหวัด 9.ผู้เรียน Download แบบพมิ พ์ (ทพ.) ท่ี www.dbd.go.th แล้วนำมากรอกขอ้ มลู เพอ่ื ฝกึ ทักษะใน การจดทะเบียนพาณิชย์ของผู้ประกอบการ ตามคำแนะนำของเอกสาร

45 10.ผเู้ รยี นอ่านกรณี “แพนด้าพาโชค” แลว้ แสดงความคดิ เห็นวา่ เหตุการณ์น้เี หมาะสมหรอื ไม่ อยา่ งไร บา้ ง ขั้นสรุปและการประยุกต์ 11.ครูและผู้เรยี นสรปุ กฎหมายทเี่ กย่ี วกับการเปน็ ผปู้ ระกอบการ 12.ผู้เรียนแสดงตวั อย่างการคำนวณกฎหมายเกยี่ วกับภาษอี ากร และแสดงตวั อย่างเก่ียวกับกฎหมาย แรงงานและประกันสังคม การสอนครั้งท่ี 10 ขัน้ นำเข้าสูบ่ ทเรยี น 1.ครูกล่าวถึงเคร่อื งหมายการค้า ซง่ึ ใชห้ รือจะใชเ้ ป็นทห่ี มายหรือเก่ยี วข้องกบั สนิ คา้ เพ่ือแสดงว่าสินคา้ ทีใ่ ช้เครื่องหมายของเจ้าของเคร่ืองหมายนนั้ แตกตา่ งกบั สินคา้ ทใ่ี ช้เครอ่ื งหมายการคา้ ของบุคคลอื่น ซึ่ง เครอ่ื งหมายการคา้ อาจจะเป็นภาพถ่าย ภาพวาด ภาพประดิษฐ์ ตรา ชื่อ คำ ขอ้ ความ ตัวหนังสือ ตัวเลข ลายมอื ชือ่ กล่มุ ของสี รปู รา่ ง หรือรูปทรงของวตั ถุ หรือสิง่ เหล่าน้อี ย่างใดอย่างหนง่ึ หรือหลายอยา่ งรวมกัน 2.ผเู้ รยี นยกตัวอยา่ งเครื่องหมายการค้า ขัน้ สอน 3.ครูอธิบายและแสดงตัวอย่างรูปภาพเครอ่ื งหมายการค้าให้ผู้เรยี นดู โดยเคร่ืองหมายการค้า หมายถึง เครอื่ งหมายท่ีใชห้ รอื จะใชเ้ ป็นทหี่ มายหรอื เก่ยี วข้องกับสินคา้ เพื่อแสดงวา่ สินค้าท่ีใชเ้ คร่ืองหมายของเจ้าของ เครอ่ื งหมายนัน้ แตกต่างกบั สนิ คา้ ที่ใชเ้ ครือ่ งหมายการคา้ ของบคุ คลอ่ืนซึ่งเครือ่ งหมายการคา้ อาจจะเปน็ ภาพถา่ ย ภาพวาด ภาพประดษิ ฐ์ ตรา ช่ือ คำ ข้อความตัวหนงั สอื ตัวเลข ลายมอื ชื่อ กลมุ่ ของสี รูปร่าง หรอื รูปทรงของวัตถุ หรือสง่ิ เหล่านอ้ี ย่างใดหนงึ่ หรือหลายอย่างรวมกัน 4.ครบู อกประเภทเครื่องหมายการคา้ มี 3 ประเภท ไดแ้ ก่ 1) เครือ่ งหมายบริการ หมายถึง เครอ่ื งหมายที่ใช้หรอื จะใชเ้ ป็นที่หมายหรือเก่ยี วข้องกับบรกิ ารเพอื่ แสดงว่าบรกิ ารท่ใี ช้เครอื่ งหมายของเจ้าของบรกิ ารนัน้ แตกตา่ งกับบริการท่ใี ชเ้ คร่อื งหมายบริการของบคุ คลอ่ืน 2) เครอ่ื งหมายรับรอง หมายถึง เคร่ืองหมายท่ีเจ้าของเครอื่ งหมายรบั รองใช้หรอื จะใชเ้ ปน็ ท่ีหมายหรือ เกย่ี วขอ้ งกบั สินคา้ หรือบริการของบุคคลอ่นื เพือ่ เปน็ การรับรอง แหลง่ กำเนดิ สว่ นประกอบ/วิธกี ารผลติ คณุ ภาพหรอื คุณลักษณะสินค้าน้ัน หรือเพ่ือรับรองภาพ คุณภาพ ชนดิ หรอื คุณลักษณะอ่นื ใดของบรกิ ารน้ัน

46 3) เครอื่ งหมายรว่ ม หมายถงึ เครอื่ งหมายการคา้ หรือเครอ่ื งหมายบริการท่ใี ช้หรอื จะใชโ้ ดยบริษัทหรอื วิสาหกจิ ในกลุ่มเดียวกนั หรอื โดยสมาชกิ ของสมาคม สหกรณ์ สหภาพ สมาพันธ์ กลมุ่ บุคคลหรือองค์กรอน่ื ใด ของรฐั หรอื เอกชน 5.ครอู ธิบายกฎหมายประกนั สังคม คอื การสรา้ งหลกั ประกันสงั คมในการดำรงชีวิตในกลุ่มของสมาชิก ท่ีมีรายได้และจา่ ยเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพ่ือรับผิดชอบในการเฉลี่ยความเสีย่ งท่อี าจจะเกิดขึน้ จาก การเจบ็ ป่วยคลอดบตุ ร ทพุ พลภาพ ตาย สงเคราะห์บตุ ร ชราภาพและการว่างงานเพื่อให้ไดร้ ับการ รักษาพยาบาล และมีการทดแทนรายไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่ือง 6.ครูอธบิ ายผปู้ ระกันตน หมายถึง ลูกจ้างทมี่ อี ายุไมต่ ่ำกวา่ 15 ปีบรบิ รู ณ์ และไมเ่ กนิ 60 ปบี รบิ ูรณ์ ในวนั เข้าทำงานและทำงานอยู่ในสถานประกอบการทมี่ ลี กู จ้างตั้งแต่ 1 คนขึน้ ไป นายจ้างต้องแจ้งข้ึนทะเบียน ลกู จ้างเป็นผปู้ ระกนั ตนภายใน 30 วนั นับแตว่ นั ทีร่ ับลกู จ้างเขา้ ทำงาน มฉิ ะนน้ั จะมคี วามผิดตอ้ งระวางโทษ จำคุกไม่เกนิ 6 เดือน หรือปรบั ไม่เกนิ 20,000 บาท หรือท้งั จำทงั้ ปรบั 7.ครอู ธบิ ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม หมายถงึ เงินท่ีนายจ้าง ลกู จา้ ง จะตอ้ งนำสง่ เขา้ กองทุน ประกันสงั คมทุกเดือน โดยคำนวณจากค่าจ้างจริงที่ลกู จา้ งไดร้ บั ตามบญั ชีดงั นี้

47 8.ครูบอกสทิ ธิประโยชน์ ผู้ทที่ ำงานเป็นลกู จ้างจะจา่ ยเงินสมทบในกองทนุ ประกนั สงั คมทุกเดือน ใน กรณที นี่ ายจ้างมีลกู จ้างตัง้ แต่ 1 คนขน้ึ ไป ต้องมหี น้าท่ีขึ้นทะเบยี นผู้ประกันตนให้ครบทกุ คนภายใน 30 วนั และส่งเงินสมทบให้ครบทงั้ สว่ นของนายจ้างและลูกจ้าง ทำใหล้ ูกจ้างไดร้ บั สิทธปิ ระโยชนจ์ ากกองทุน ประกนั สังคมทตี่ นไดร้ ว่ มจ่ายเงนิ สมทบ ซึง่ ในทน่ี ้ีจะเป็นผปู้ ระกันตนตามมาตรา 33 (ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หมายถึงให้ลูกจา้ งอายุไม่ตำ่ กวา่ 50 ปีบริบูรณ์ และไมเ่ กนิ 60 ปบี รบิ ูรณ์ เป็นผ้ปู ระกันตน ถ้าอายคุ รบ 60 ปีบริบูรณ์แลว้ เป็นลกู จ้างอยใู่ ห้ถือว่าเปน็ ผูป้ ระกันตนตอ่ ไป ซงึ่ ความสน้ิ สุดของผู้ประกันตนคอื (1) ตาย (2) ส้ิน สภาพการเป็นลูกจ้าง) 9.ผเู้ รยี นบอกหลกั เกณฑแ์ ละสทิ ธิประโยชน์ในการรกั ษาพยาบาล

48 10.ผู้เรยี น Download แบบพิมพ์ (ทพ.) ท่ี www.dbd.go.th แลว้ นำมากรอกข้อมูล เพือ่ ฝึกทกั ษะใน การจดทะเบียนพาณิชย์ของผู้ประกอบการ ตามคำแนะนำของเอกสาร 11.ผเู้ รียนบอกสทิ ธปิ ระโยชนท์ ไี่ ด้รับจากกองทนุ ประกันสังคม โดยยกตวั อย่างคำนวณจากฐานค่าจ้าง ที่ลูกจา้ งไดร้ บั เชน่ การคำนวณเงินสมทบสำหรบั ผ้ปู ระกนั สงั คมทม่ี รี ายได้ 15,000 บาทต่อเดือนข้ึนไป (อ้างอิง อตั ราเงินสมทบปี 2556 ตามประกาศกฎกระทรวง) 12.ผเู้ รยี นอา่ นกรณี “แพนดา้ พาโชค” แล้วแสดงความคดิ เหน็ วา่ เหตุการณ์น้ีเหมาะสมหรือไม่ อยา่ งไร บา้ ง ข้ันสรปุ และการประยุกต์ 13.ครูและผู้เรียนสรปุ เครือ่ งหมายการค้า และกฎหมายประกนั สงั คม โดยการถามตอบ 14.ผเู้ รียนแสดงตวั อยา่ งเคร่ืองหมายการค้า และการประกันสงั คม 7. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนรายวิชา “ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ” ของบริษัท สำนักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จำกัด 2. หนังสอื อน่ื ๆ ในห้องสมดุ 3. เวบ็ ไซต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 4. นิตยสาร, วารสารดา้ นการบรหิ าร ฯลฯ 8. หลกั ฐานการเรียนรู้ 8.1 หลกั ฐานความรู้ 1.การสง่ งานของนกั เรยี นมคี วามสมบูรณค์ รบถว้ น 2. รปู เล่มรายงานกลมุ่ และรายงานเดี่ยวสามารถทำไดด้ ี 8.2 หลักฐานการปฏิบตั งิ าน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเช็ครายชื่อ 3.แผนจัดการเรียนรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน 9. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 9.1 เครื่องมือประเมนิ 1.แบบสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2.แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่

49 3.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครแู ละ นักเรียนรว่ มกนั ประเมิน 4.แบบทดสอบท้ายบท 9.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 1.เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ต้องไม่มชี อ่ งปรับปรงุ 2.เกณฑ์ผ่านการประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อย่กู บั การประเมินตามสภาพจริง 10. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย (ถา้ ม)ี 1. ผูเ้ รียนตอ้ งมกี ารทบทวนบทเรยี นตลอด เพ่ือเสริมสร้างความเข้าใจอย่างแทจ้ รงิ 2. ผเู้ รียนหมนั่ ทำใบงาน แบบฝึกหัด 3. ศึกษาขอ้ มูลเพิม่ เติมจาก Internet 11. เอกสารอา้ งองิ ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ, เอมพนั ธ์: 2562

50 ใบความรู้ท่ี 1 หนว่ ยที่ 6 รหสั วิชา 20200-1001 ชอื่ วิชา ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ สอนครง้ั ที่ 9-10 ชือ่ หนว่ ย กฎหมายทเี่ กี่ยวกบั ธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ เวลารวม 51 ชั่วโมง ช่อื งาน กฎหมายที่เกย่ี วกับธุรกิจและการเป็นผ้ปู ระกอบการ จำนวน 3 ชว่ั โมง จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์ท่ัวไป 1.เพื่อให้นักเรยี นเข้าใจเก่ยี วกับการจดทะเบยี นจัดตง้ั ธุรกจิ ได้ 2.เพื่อใหน้ ักเรียนเขา้ ใจกฎหมายภาษีตามประมวลรษั ฎากรได้ 3.เพ่อื ใหน้ กั เรียนเข้าใจกฎหมายอน่ื ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งได้ 4.เพื่อให้นักเรยี นอธิบายการจดทะเบียนสิทธิบตั รได้ 5.เพือ่ ให้นกั เรยี นบอกเครอื่ งหมายการค้าได้ 6.เพอ่ื ให้นกั เรียนเข้าใจกฎหมายประกนั สงั คม จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. มีการพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ที่ครูสามารถสังเกตไดข้ ณะทำการสอนในเรื่อง 1.1 ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมวี ินยั 1.7 ความรบั ผดิ ชอบ 1.3 การละเว้นสิง่ เสพตดิ และการพนัน 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซื่อสตั ย์สุจรติ 1.9 ความรกั สามคั คี 1.5 ความเช่อื มน่ั ในตนเอง 1.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรู้เก่ยี วกับหลักการวางแผนเป้าหมายชวี ติ ดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กิจและการเป็น ผปู้ ระกอบการ หลักการจัดการทางการเงนิ หลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลิตเบอ้ื งตน้ และกฎหมายทเ่ี กีย่ วขอ้ ง 2.จดั ทำแผนธรุ กิจอยา่ งง่าย 3.ประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยุกต์ใช้หลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพิม่ ผลผลติ ในการวางแผนและดำเนนิ งาน เน้ือหาสาระ 1. การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ ขน้ั ตอนการจดทะเบียนจดั ตง้ั ธุรกจิ ดังนี้

51 ผปู้ ระกอบการดังต่อไปน้ี ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ดังนี้ 1) ผปู้ ระกอบกจิ การโรงสขี า้ วและโรงเลือ่ ยท่ีใชเ้ ครื่องจักร 2) ผู้ประกอบกิจการขายสินคา้ ไม่ว่าอยา่ งใดๆ อย่างเดียวหรือหลายอยา่ ง คิดรวมท้ังสิ้นในวนั หน่งึ ขายได้เป็นเงนิ ตัง้ แต่ 20 บาทขนึ้ ไป หรือมีสินค้าไวเ้ พอ่ื ขายมคี ่ารวมทงั้ สิน้ เปน็ เงนิ ตง้ั แต่ 500 บาทขึ้นไป 3) นายหนา้ หรือตัวแทนค้าต่างซึ่งทำการเก่ยี วกบั สินคา้ ไมว่ ่าอยา่ งใดๆ อย่างเดยี วหรือ หลายอยา่ งกต็ าม และสินค้านั้นมคี า่ รวมท้งั สิ้นในวันหน่ึงวนั ใดเปน็ เงินตั้งแต่ 20 บาทข้นึ ไป 4) ผปู้ ระกอบกจิ การหัตถกรรมหรอื อุตสาหกรรมไมว่ ่าอยา่ งใดๆ อย่างเดียวหรือหลายอย่างกต็ าม และขายสนิ ค้าที่ผลิตได้ คิดราคารวมทัง้ สนิ้ ในวันหน่งึ วันใดเปน็ เงินตงั้ แต่ 20 บาทข้นึ ไป หรือในวนั หนึ่งวนั ใดมี สินคา้ ที่ผลิตได้มีราคารวมทง้ั สนิ้ ต้ังแต่ 500 บาทขึ้นไป 5) ผูป้ ระกอบกจิ การขนส่งทางทะเล การขนส่งโดยเรือกลไฟหรอื เรือยนตป์ ระจำทาง การขนส่ง โดยรถไฟ การขนสง่ โดยรถราง การขนสง่ โดยรถยนต์ประจำทาง การขายทอดตลาด การรับซ้ือขายทด่ี ิน การให้กูย้ ืมเงิน การรบั แลกเปลย่ี น หรอื ซื้อขายเงินตราตา่ งประเทศ การซ้อื หรอื ขายต๋วั เงนิ การธนาคาร การโพยก๊วน การทำโรงรับจำนำ และการทำโรงแรม 6) ขาย ใหเ้ ช่า ผลติ หรือรบั จา้ งผลิต แผ่นซีดี แถบบนั ทึก วีดทิ ศั น์ แผน่ วดี ทิ ศั น์ ดีวีดี หรอื แผน่ วีดิ ทศั นร์ ะบบดจิ ทิ ัล เฉพาะที่เก่ยี วกบั การบันเทิง 7) ขายอญั มณี หรือเครื่องประดบั ซึ่งประดบั ด้วยอญั มณี 8) ซอ้ื ขายสินคา้ หรือบริการโดยวิธีใชส้ ่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ผ่านระบบเครือขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ บรกิ าร อนิ เทอร์เนต็ ใหเ้ ช่าพนื้ ท่ีของเคร่อื งคอมพิวเตอร์แมข่ ่ายบรกิ ารเป็นตลาดกลางในการซ้ือขายสนิ ค้าหรือบรกิ าร โดย วิธกี ารใช้สือ่ อิเลก็ ทรอนกิ สผ์ ่านระบบเครอื ข่ายอินเทอร์เนต็ 9) การใหบ้ รกิ ารเคร่อื งคอมพิวเตอร์เพอื่ ใช้อินเทอรเ์ น็ต 10) การให้บริการฟงั เพลงและร้องเพลงโดยคาราโอเกะ 11) การให้บริการเครือ่ งเลน่ เกม 12) การใหบ้ รกิ ารตเู้ พลง 13) โรงงานแปรสภาพ แกะสลักและหัตถกรรมจากงาช้าง การค้าปลกี การค้าสง่ งาช้างและผลิตภณั ฑจ์ ากงาช้าง กฎหมายภาษตี ามประมวลรษั ฎากร ได้แก่ 1 ภาษเี งินได้บคุ คลธรรมดา คือ ภาษีทจี่ ดั เกบ็ จากบุคคลทั่วไป หรือจากหนว่ ยภาษีทม่ี ลี กั ษณะ

52 พิเศษตามท่กี ฎหมายกำหนดและมรี ายได้เกิดขนึ้ ตามเกณฑท์ ่กี ำหนด โดยปกติจัดเก็บเป็นรายปี รายได้ทเี่ กิดข้นึ ในปี ใดๆ ผู้มีรายไดม้ หี น้าทตี่ ้องนำไปแสดงรายการตนเองตามแบบแสดงรายการภาษที ีก่ ำหนดภายในเดือนมกราคมถึง มนี าคมของปถี ัดไป สำหรับผ้มู ีเงินได้บางกรณีกฎหมายยังกำหนดให้ย่ืนแบบฯ เสียภาษีตอนครึง่ ปี สำหรบั รายได้ ที่ เกิดข้ึนจรงิ ในช่วงคร่งึ ปแี รก เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษที ต่ี อ้ งชำระและเงินได้บางกรณี กฎหมายกำหนดให้ ผู้ จา่ ยทำหนา้ ทห่ี กั ภาษี ณ ทจี่ ่ายจากเงนิ ไดท้ จี่ า่ ยบางสว่ น เพือ่ ใหม้ ีการทยอยชำระภาษขี ณะท่มี ีเงินได้เกิดขนึ้ อีกดว้ ย 2 ภาษีเงินได้นิตบิ คุ คล โดยผู้มหี นา้ ทีเ่ สียภาษีเงินได้นติ ิบุคคล ไดแ้ ก่ บริษัทหรือห้างหุ้นสว่ นนิติบคุ คลทจ่ี ด ทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชยร์ วมถึงนติ บิ ุคคลอ่ืนๆ ท่ีไมไ่ ด้จดทะเบยี นตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ 3 ภาษมี ลู ค่าเพิม่ ผ้ปู ระกอบการที่ขายสนิ ค้าหรอื ใหบ้ ริการในทางธรุ กจิ หรือวิชาชพี เป็นปกติธรุ ะ ไม่วา่ จะ ประกอบกิจการในรูปของบุคคลธรรมดา คณะบคุ คลหรอื ห้างหนุ้ สว่ นสามญั ทม่ี ิใชน่ ติ ิบุคคล หรือนติ บิ ุคคลใดๆ หาก มรี ายรับจากการขายสนิ คา้ หรอื ใหบ้ ริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องยน่ื คำขอจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพม่ิ โดยคำนวณภาษีทต่ี อ้ งเสียจากภาษขี ายหักดว้ ยภาษซี ือ้ 4 ภาษธี ุรกจิ เฉพาะ เปน็ ภาษีตามประมวลรษั ฎากร ทจ่ี ัดเก็บจากการประกอบกิจการเฉพาะอย่าง แทนภาษีการคา้ ทีถ่ ูกยกเลกิ ภาษีธรุ กิจเฉพาะเริ่มใชบ้ งั คับใน พ.ศ. 2535 พรอ้ มกันกบั ภาษมี ลู ค่าเพิม่ การผลติ ผลิตภัณฑ์ ซง่ึ มี 2 ลักษณะ ดังน้ี 1. ผลิตภัณฑ์ ไดแ้ ก่ สว่ นประกอบกนั เป็นสิ่งของเคร่ืองใช้ต่างๆ และส่วนผสมทางเคมี 2. กรรมวธิ ี ไดแ้ ก่ วธิ ีการผลิต การเกบ็ รกั ษา หรือการใช้ผลติ ภณั ฑ์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ คือผลงานสร้างสรรค์ เกย่ี วกับลักษณะของผลิตภัณฑ์ เชน่ รปู รา่ ง ลวดลาย หรือสี โดยสทิ ธิบัตรการประดษิ ฐ์ มอี ายุ 20 ปี นบั แต่วันย่นื ขอรบั สิทธิบตั รและสิทธบิ ัตรการออกแบบผลิตภณั ฑ์ มอี ายุ 10 ปี นบั แตว่ ันย่ืนขอ ผทู้ รงสิทธิบัตรตอ้ งชำระคา่ ธรรมเนยี มรายปีตัง้ แตป่ ีท่ี 5 เป็นตน้ ไปโดยใหช้ ำระภายใน 60 วนั หลงั จากส้ินปีท่ี 4 หากการออกสิทธิบตั รใช้ระยะเวลาเกนิ กวา่ 4 ปี ใหช้ ำระค่าธรรมเนียมรายปีภายใน 60 วนั นบั แตว่ นั ทีม่ ีการออกสทิ ธิบตั รให้ สถานทย่ี ืน่ คำขอ สว่ นบรหิ ารงานจดทะเบยี น สำนกั สทิ ธิบัตร กรมทรัพย์สินทางปัญญาหรือสำนกั งานพาณิชย์ จงั หวัด

53 ประเภทเครอ่ื งหมายการค้า มี 3 ประเภท ไดแ้ ก่ 1) เครอ่ื งหมายบริการ หมายถงึ เครื่องหมายที่ใช้หรอื จะใชเ้ ป็นท่ีหมายหรอื เกย่ี วข้องกบั บรกิ ารเพ่อื แสดงวา่ บริการที่ ใช้เครื่องหมายของเจ้าของบรกิ ารนัน้ แตกตา่ งกบั บรกิ ารที่ใช้เครอ่ื งหมายบริการของบุคคลอน่ื 2) เครอื่ งหมายรับรอง หมายถึง เคร่อื งหมายทีเ่ จา้ ของเครอ่ื งหมายรับรองใชห้ รอื จะใช้เปน็ ท่หี มายหรอื เกยี่ วขอ้ งกบั สนิ คา้ หรือบริการของบุคคลอน่ื เพือ่ เป็นการรับรอง แหล่งกำเนดิ สว่ นประกอบ/วิธีการผลติ คุณภาพหรอื คุณลักษณะสนิ ค้านนั้ หรอื เพื่อรบั รองภาพ คุณภาพ ชนดิ หรอื คุณลกั ษณะอ่นื ใดของบรกิ ารน้ัน 3) เครอ่ื งหมายร่วม หมายถงึ เคร่อื งหมายการคา้ หรอื เครื่องหมายบริการท่ีใชห้ รือจะใช้โดยบรษิ ัทหรือวสิ าหกจิ ใน กลุม่ เดียวกนั หรอื โดยสมาชิกของสมาคม สหกรณ์ สหภาพ สมาพนั ธ์ กลุ่มบุคคลหรอื องค์กรอืน่ ใดของรฐั หรือ เอกชน กฎหมายประกนั สังคม คอื การสร้างหลกั ประกันสงั คมในการดำรงชวี ติ ในกลมุ่ ของสมาชกิ ทม่ี รี ายได้และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทนุ ประกันสงั คมเพ่ือรบั ผิดชอบในการเฉลีย่ ความเสย่ี งทอี่ าจจะเกิดขึน้ จากการ เจ็บป่วยคลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะหบ์ ุตร ชราภาพและการว่างงานเพือ่ ใหไ้ ด้รบั การรักษาพยาบาล และมี การทดแทนรายไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่ือง ผูป้ ระกันตน หมายถึง ลูกจา้ งท่มี อี ายุไม่ต่ำกวา่ 15 ปบี ริบรู ณ์ และไมเ่ กนิ 60 ปบี ริบรู ณ์ ในวันเขา้ ทำงานและทำงาน อยูใ่ นสถานประกอบการทีม่ ีลกู จา้ งตง้ั แต่ 1 คนข้นึ ไป นายจา้ งต้องแจง้ ขน้ึ ทะเบยี นลกู จ้างเป็นผ้ปู ระกนั ตนภายใน 30 วัน นับแตว่ นั ท่ีรบั ลูกจ้างเข้าทำงาน มฉิ ะนั้นจะมคี วามผิดต้องระวางโทษจำคกุ ไม่เกิน 6 เดอื น หรอื ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือท้ังจำท้งั ปรบั เงนิ สมทบกองทนุ ประกันสังคม หมายถึง เงนิ ทนี่ ายจา้ ง ลกู จ้าง จะตอ้ งนำสง่ เขา้ กองทุนประกนั สังคมทุกเดือน โดย คำนวณจากคา่ จ้างจริงท่ลี กู จ้างได้รับ ตามบัญชีดังนี้

54 สทิ ธิประโยชน์ ผูท้ ่ีทำงานเปน็ ลกู จ้างจะจา่ ยเงนิ สมทบในกองทุนประกันสังคมทุกเดือน ในกรณที ่ีนายจา้ งมีลกู จ้าง ตัง้ แต่ 1 คนขึน้ ไป ต้องมหี นา้ ที่ขน้ึ ทะเบยี นผ้ปู ระกันตนใหค้ รบทุกคนภายใน 30 วนั และส่งเงินสมทบใหค้ รบทัง้ ส่วน ของนายจ้างและลูกจ้าง ทำใหล้ ูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกนั สังคมท่ตี น ไดร้ ว่ มจา่ ยเงนิ สมทบ ซ่งึ ในทน่ี ี้จะเปน็ ผู้ประกนั ตนตามมาตรา 33 (ผู้ประกนั ตนตามมาตรา 33 หมายถงึ ใหล้ ูกจ้าง อายไุ ม่ตำ่ กวา่ 50 ปีบริบูรณ์ และไมเ่ กิน 60 ปบี ริบูรณ์ เปน็ ผู้ประกันตน ถ้าอายุครบ 60 ปีบรบิ ูรณ์แล้วเปน็ ลูกจ้าง อยใู่ หถ้ อื ว่าเปน็ ผู้ประกนั ตนต่อไป ซงึ่ ความสนิ้ สดุ ของผปู้ ระกนั ตนคือ (1) ตาย (2) สิ้นสภาพการเปน็ ลกู จา้ ง)

55 หลกั เกณฑแ์ ละสทิ ธปิ ระโยชนใ์ นการรกั ษาพยาบาล เอกสารอา้ งองิ ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ, เอมพันธ์: 2560

56 ใบงานท่ี 1 หนว่ ยที่ 6 รหสั วิชา 20200-1001 ช่ือวชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผูป้ ระกอบการ สอนคร้งั ท่ี 9-10 ช่อื หน่วย กฎหมายทเี่ กีย่ วกบั ธุรกิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ เวลารวม 51 ชัว่ โมง ช่ืองาน กฎหมายทีเ่ กย่ี วกบั ธรุ กจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ จำนวน 3 ชว่ั โมง จุดประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงคท์ ั่วไป 1.เพ่ือให้นกั เรยี นเข้าใจเกย่ี วกับการจดทะเบยี นจดั ตั้งธุรกิจได้ 2.เพอื่ ใหน้ ักเรียนเข้าใจกฎหมายภาษีตามประมวลรัษฎากรได้ 3.เพ่อื ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจกฎหมายอ่นื ๆ ท่ีเกี่ยวข้องได้ 4.เพ่ือใหน้ กั เรียนอธิบายการจดทะเบยี นสิทธบิ ัตรได้ 5.เพ่อื ให้นกั เรยี นบอกเครอ่ื งหมายการคา้ ได้ 6.เพอ่ื ให้นกั เรียนเข้าใจกฎหมายประกนั สงั คม จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ที่ครูสามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเรอ่ื ง 1.1 ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ 1.6 การประหยัด 1.2 ความมวี ินัย 1.7 ความรบั ผดิ ชอบ 1.3 การละเว้นสง่ิ เสพตดิ และการพนัน 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซอ่ื สตั ย์สุจริต 1.9 ความรักสามัคคี 1.5 ความเชื่อมนั่ ในตนเอง 1.10 ความกตัญญกู ตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการวางแผนเป้าหมายชีวิตด้วยวงจรควบคุมคุณภาพ ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ หลักการจดั การทางการเงนิ หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพมิ่ ผลผลิตเบอื้ งตน้ และกฎหมายทเ่ี กยี่ วข้อง 2.จัดทำแผนธุรกิจอยา่ งง่าย 3.ประยุกตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยุกตใ์ ช้หลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนินงาน เครอ่ื งมือ วัสดุ – อปุ กรณ์ 1.หนังสอื แบบเรยี น 2. สอ่ื การเรยี นการสอน power point

57 3. ค้นคว้าข้อมลู จากสื่อออนไลน์ ลำดับข้ันตอนการปฏิบัตงิ าน ใบงานท่ี 1 บทที่ 6 เรือ่ ง สิทธิประโยชนท์ ีไ่ ดร้ บั จากกองทนุ ประกนั สงั คม ชอื่ -สกลุ ............................................................................................เลขท.ี่ ........ชั้น.......................... คำชี้แจง ใหบ้ อกสิทธิประโยชน์ท่ไี ด้รับจากกองทนุ ประกันสงั คม โดยยกตวั อย่างคำนวณจากฐาน ค่าจ้างที่ลกู จ้างไดร้ บั เช่น การคำนวณเงินสมทบสำหรับผปู้ ระกนั สังคมทีม่ รี ายได้ 15,000 บาทต่อเดือน ขน้ึ ไป (อ้างอิงอัตราเงินสมทบปี 2556 ตามประกาศกฎกระทรวง) สทิ ธิประโยชน์ เงินสมทบ สทิ ธจิ ะได้รบั ลกู จา้ ง นายจา้ ง รัฐบาล 1.ประสบอันตราย เจ็บป่วย 2.ทุพพลภาพ  3.ตาย 4.คลอดบตุ ร 5.สงเคราะหบ์ ตุ รชรา ภาพ 6.การวา่ งงาน รวม ภาพประกอบ - ข้อควรระวัง - ข้อเสนอแนะ (ถา้ ม)ี - การประเมินผล (ตอ้ งระบุเกณฑ์การประเมินใหช้ ัดเจน) - เกณฑก์ ารวัดผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล ต้องไม่มีช่องปรบั ปรุง

58 2. แบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรียนไม่มเี กณฑผ์ า่ น เกบ็ คะแนนไวเ้ ปรียบเทยี บกบั คะแนนท่ไี ดจ้ ากการ ทดสอบหลงั เรยี น 3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กบั การ ประเมนิ ตามสภาพจริง เอกสารอ้างองิ ธุรกจิ และการเปน็ ผูป้ ระกอบการ, เอมพนั ธ์: 2560

59 ใบมอบหมายงานที่ 1 หนว่ ยท่ี 6 สอนครัง้ ที่ 9-10 รหัสวิชา 20200-1001 ชอ่ื วิชา ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ ชอ่ื หน่วย กฎหมายทเ่ี กยี่ วกบั ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ ช่ืองาน กฎหมายที่เกีย่ วกับธุรกจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ จดุ ประสงคท์ ั่วไป 1.เพือ่ ให้นักเรียนเข้าใจเก่ยี วกับการจดทะเบยี นจดั ต้ังธรุ กิจได้ 2.เพือ่ ใหน้ กั เรียนเข้าใจกฎหมายภาษีตามประมวลรษั ฎากรได้ 3.เพอ่ื ให้นกั เรยี นเขา้ ใจกฎหมายอน่ื ๆ ทเ่ี กี่ยวข้องได้ 4.เพือ่ ให้นักเรียนอธบิ ายการจดทะเบียนสิทธบิ ัตรได้ 5.เพอ่ื ให้นักเรยี นบอกเคร่ืองหมายการคา้ ได้ 6.เพ่อื ใหน้ กั เรียนเข้าใจกฎหมายประกนั สังคม จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ ำเร็จการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ทีค่ รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเรื่อง 1.1 ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมีวนิ ยั 1.7 ความรับผิดชอบ 1.3 การละเวน้ สงิ่ เสพติดและการพนนั 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซอื่ สัตย์สุจรติ 1.9 ความรักสามคั คี 1.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 1.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั หลกั การวางแผนเป้าหมายชีวติ ดว้ ยวงจรควบคุมคุณภาพ ธุรกิจและการเป็น ผปู้ ระกอบการ หลักการจดั การทางการเงิน หลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิตเบ้อื งตน้ และกฎหมายท่เี ก่ียวขอ้ ง 2.จัดทำแผนธุรกจิ อยา่ งงา่ ย 3.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยุกต์ใช้หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ ในการวางแผนและดำเนินงาน แนวทางการปฏิบัติงาน แบ่งกล่มุ เพอื่ ค้นคว้าหาข้อมูลและนำเสนอหนา้ ช้นั เรียน โดยแบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลมุ่ ๆ กลมุ่ ละเท่า ๆ กัน

60 แหลง่ ค้นคว้า 1. หอ้ งสมดุ 2. ส่อื ออนไลน์/Internet 3. นิตยสาร/วารสาร คำถาม/ปัญหา เม่อื นักเรียนคน้ คว้าแล้วมีปัญหาหรือไม่เสามารถหาเน้ือหาท่ีจะศึกษาหาข้อมูลไดจ้ ะทำอย่างไร คำตอบ สามารถปรึกษาจาก ครผู ู้สอน หรอื ครทู ่มี ีความรู้ในรายวิชา กำหนดเวลาส่งงาน นำเสนอหนา้ ชั้นเรียนในคาบเรยี นถดั ไป เอกสารอ้างอิง สือ่ ออนไลน/์ Internet หนงั สอื ตำราเรยี น วชิ าธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ

61 แบบประเมนิ ผลงาน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 ชอื่ กลุ่ม.........................................................................ชนั้ ................................................................ รายช่อื สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 บุคลกิ การแต่งกาย 2 มารยาทในการพูด 3 การใชภ้ าษา 4 วธิ ีการนำเสนอ 5 เนอ้ื หาท่ีนำเสนอ รวม ผู้ประเมิน.............................................. วนั ที่..............เดอื น...............................พ.ศ...................

62 เกณฑก์ ารประเมนิ บคุ ลกิ การแต่งกาย : มคี วามเช่อื มนั่ ในตนเอง แต่งกายสะอาด ถกู ระเบยี บ เสอ้ื ไม่หลุดลุ่ย ลอยชาย มารยาทในการพูด : มองหนา้ และสบตาผูฟ้ ัง ไม่เหนบ็ แนม เสยี ดสผี ูอ้ ่นื การใชภ้ าษา : ชดั เจน ตามหลกั ภาษา ตวั ร ล คาควบกล้า ถ้อยคาขอ้ ความสุภาพ วธิ กี ารนาเสนอ : น่าสนใจหลากหลาย เชน่ ใชแ้ ผน่ ใส รปู ภาพ ตงั้ คาถาม เลน่ เกม ไมเ่ ยนิ่ เยอ้ เน้อื หาทน่ี าเสนอ : มสี าระสาคญั ตรงกบั หวั ขอ้ เร่อื ง ใชเ้ วลาตามทกี่ าหนด 1..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 3..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 4..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 5..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = ……………………………………………………………………………………………………………

63 แบบประเมนิ ผลงาน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 ชอ่ื กลมุ่ .........................................................................ช้ัน ปวช......................................................... รายชอื่ สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อที่ รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 เนอ้ื หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 ความคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอที่นา่ สนใจ รวม ผ้ปู ระเมิน.............................................. วนั ท.ี่ .............เดือน...............................พ.ศ...................

64 เกณฑ์การประเมนิ 1.เนอื้ หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคัญครบถ้วน ส่ือความหมายชดั เจนและมีรปู ภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเนอื้ หาสาระสำคัญครบถว้ น ส่อื ความหมายและมรี ูปภาพไม่ตรงเนื้อหา 1 คะแนน = มเี นื้อหาสาระสำคญั ไม่ชัดเจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมอื กันทำงาน 3 คะแนน = มีความสามัคครี ่วมมือกนั ทำงานทกุ คน 2 คะแนน = ร่วมมือกันทำงานเปน็ บางคน 1 คะแนน =ไม่ค่อยร่วมมอื กนั ทำงาน 3. ความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณใ์ นทอ้ งถิน่ และประหยดั 2 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยุกต์ใช้วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นท้องถน่ิ แตไ่ ม่ประหยดั 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไม่น่าสนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเก่ยี วกับองค์ประกอบ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเก่ยี วกบั องคป์ ระกอบ ไม่ครอบคลมุ แต่ชัดเจน 1 คะแนน = ให้ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลมุ และไมช่ ดั เจน 5. การนำเสนอน่าสนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจปานกลาง ชัดเจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไม่ค่อยชดั เจน

65 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน หน่วยการเรียนรู้ที่............................................................................................................................. ช่อื กล่มุ .........................................................................ชนั้ ................................................................ รายชอื่ สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 เน้อื หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมือกนั ทำงาน 3 ความคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทน่ี า่ สนใจ รวม ผ้ปู ระเมิน.............................................. วันท.ี่ .............เดือน...............................พ.ศ...................

66 เกณฑ์การประเมนิ 1.เนอื้ หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคัญครบถ้วน สอื่ ความหมายชดั เจนและมรี ูปภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเนอื้ หาสาระสำคัญครบถว้ น สอื่ ความหมายและมีรปู ภาพไมต่ รงเนื้อหา 1 คะแนน = มเี นื้อหาสาระสำคญั ไม่ชัดเจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมอื กันทำงาน 3 คะแนน = มีความสามัคครี ่วมมือกนั ทำงานทกุ คน 2 คะแนน = ร่วมมือกันทำงานเปน็ บางคน 1 คะแนน =ไม่ค่อยร่วมมอื กนั ทำงาน 3. ความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยุกตใ์ ช้วสั ดุอปุ กรณใ์ นทอ้ งถิน่ และประหยดั 2 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยุกตใ์ ช้วัสดอุ ปุ กรณ์ในท้องถ่นิ แตไ่ ม่ประหยดั 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไม่นา่ สนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเก่ยี วกับองคป์ ระกอบ ครอบคลมุ และชดั เจน 2 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเก่ยี วกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลุมแต่ชดั เจน 1 คะแนน = ให้ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไม่ครอบคลุมและไม่ชัดเจน 5. การนำเสนอน่าสนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลมุ และชัดเจน 2 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจปานกลาง ชัดเจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไม่ค่อยชดั เจน

67 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ช่อื กลุม่ .........................................................................ชน้ั ................................................................ รายชอ่ื สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 การเตรียมความพรอ้ ม 2 เนอ้ื หาสาระ 3 รูปแบบการนำเสนอ 4 การมีสว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลุ่ม 5 การรักษาเวลา 6 ความสนใจของผูฟ้ ัง รวม ผู้ประเมิน.............................................. วนั ท.ี่ .............เดือน...............................พ.ศ...................

68 เกณฑ์การประเมิน 1. การเตรยี มความพร้อม 3 คะแนน = มีการจดั เตรยี มสถานที่ สือ่ /อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ งพรอ้ มเพรยี ง 2 คะแนน = มสี ่อื /อปุ กรณพ์ รอ้ ม ขาดการจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน = สื่อ/อปุ กรณไ์ ม่เพยี งพอ ขาดการจัดเตรยี มสถานที่ 2. เนอ้ื หาสาระ 3 คะแนน = สาระสำคัญครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบ ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบ ไมต่ รงตามจุดประสงค์ 3. รปู แบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม ใชเ้ ทคนิคแปลกใหม่ มีส่อื และ ใช้เทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ นำวัสดุในท้องถ่นิ มาประยกุ ตใ์ ช้ อย่างคุ้มค่าและประหยัด 2 คะแนน = ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มสี ื่อและใชเ้ ทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ ขาดการประยกุ ต์ใชว้ สั ดใุ นท้องถนิ่ 1 คะแนน = เทคนคิ การนำเสนอไมเ่ หมาะสม ไม่นา่ สนใจ 4. การมสี ่วนรว่ มของสมาชิก 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมีบทบาทและมสี ่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชกิ สว่ นใหญ่มบี ทบาทและมีสว่ นร่วมในกิจกรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชกิ ส่วนนอ้ ยมบี ทบาทและมีส่วนร่วมในกจิ กรรมกลุ่ม 5. การรกั ษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมได้ตามเวลาที่กำหนด 2 คะแนน = ดำเนนิ กจิ กรรมเร็วกวา่ เวลาทีก่ ำหนด 1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กวา่ เวลาทีก่ ำหนด 6. ความสนใจของผฟู้ ัง 3 คะแนน = ผู้ฟงั มากกวา่ ร้อยละ 80 สนใจ และให้ความรว่ มมือ 2 คะแนน = ผ้ฟู ังร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลให้ความรว่ มมอื 1 คะแนน = ผฟู้ งั นอ้ ยกว่า ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ

179 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 7 จำนวน 3 ชั่วโมง สปั ดาหท์ ี่ 11-14 สอนครง้ั ท่ี 11-14 ช่อื วิชา ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ จำนวน 3 ช.ม. ชื่อหน่วย/เรอ่ื ง รูปแบบและการจัดทำแผนธุรกิจ 1. แนวคิด แผนธุรกิจเปน็ เครอ่ื งมอื ของธรุ กิจท่ีผูป้ ระกอบการสามารถใช้ในการกำหนดข้ันตอน และวางแผนการ ดำเนินธุรกจิ อย่างมีระบบ และมปี ระสทิ ธภิ าพ เพือ่ ให้บรรลุวิสยั ทัศน์ พันธกจิ และเป้าหมายตามท่ีกำหนดไว้ โดยแผนธุรกจิ ทด่ี ีนน้ั ควรจะมคี วามถูกต้อง ชดั เจนและกระชบั ครอบคลมุ เนือ้ หาท่ีสำคญั ง่ายต่อการเขา้ ใจ และตอ้ งมคี วามเปน็ ไปได้ในการนำไปใช้ในการดำเนนิ ธรุ กจิ 2. ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง 1.อธบิ ายความหมายและความสำคญั ของแผนธุรกิจ 2.แสดงความรูเ้ กยี่ วกับองคป์ ระกอบของแผนธรุ กิจ 3.จดั ทำปกหนา้ สารบญั และคำนำ 4.จัดทำบทสรุปผบู้ รหิ าร 5.จัดทำประวตั กิ จิ การ หรือภาพรวมของกจิ การ 6.วิเคราะหส์ ถานการณ์ 7.จัดทำแผนการตลาด 3. จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้สำเรจ็ การศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่ีครูสามารถสังเกตไดข้ ณะทำการสอนในเรอื่ ง 1. ความมมี นษุ ยสัมพนั ธ์ 2. ความมีวินัย 3. ความรบั ผดิ ชอบ 4. ความซอื่ สัตย์สุจริต 5. ความเช่อื มัน่ ในตนเอง 6. การประหยัด

180 7. ความสนใจใฝ่รู้ 8. การละเว้นสงิ่ เสพตดิ และการพนนั 9.ความรกั สามคั คี 10. ความกตญั ญูกตเวที 4. สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กีย่ วกบั หลกั การวางแผนเป้าหมายชีวติ ด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธุรกจิ และการเป็น ผปู้ ระกอบการ หลักการจดั การทางการเงนิ หลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลิตเบ้ืองตน้ และกฎหมายทเ่ี กีย่ วข้อง 2.จัดทำแผนธุรกิจอย่างง่าย 3.ประยกุ ตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยุกตใ์ ชห้ ลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ ในการวางแผนและดำเนินงาน 5. สาระการเรยี นรู้ 1.ความหมายและความสำคัญของแผนธุรกิจ 2.องค์ประกอบของแผนธุรกิจ 3.ปกหน้า สารบญั และคำนำ 4.บทสรปุ ผบู้ รหิ าร 5.ประวตั ิกิจการ หรอื ภาพรวมของกจิ การ 6.การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ 7.แผนการตลาด 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเขา้ สู่บทเรยี น 1.ครกู ลา่ วถึงแผนธุรกิจเปน็ แผนทีม่ ีความสำคัญมากจะให้รายละเอยี ดเก่ียวกบั การเร่มิ ต้นธรุ กจิ ทำให้ ผู้ประกอบการมเี ปา้ หมายชัดเจน กำหนดแนวทางของความคดิ และชว่ ยใหผ้ ู้ประกอบการมีความม่นั คงตอ่ การ ใชท้ รัพยากร และนำไปสู่เป้าหมาย 2.ครูอภปิ รายแผนธุรกจิ วา่ เป็นเครือ่ งมือท่ีแสวงหาเงินทนุ จากผรู้ ่วมลงทนุ จากกองทนุ รว่ มลงทนุ จาก สถาบนั การเงนิ ตา่ งๆ 3.ผู้เรยี นยกตวั อยา่ งใหร้ ายละเอยี ดของกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การจดั หาเงนิ ทนุ การพฒั นาผลติ ภัณฑ์

181 การตลาดและอน่ื ๆ ในการบริหารกจิ การ และใชเ้ พอื่ กำหนดการปฏบิ ตั ิงานทตี่ ่อเนอ่ื งในอนาคตของกิจการ ข้นั สอน 4.ครูอธบิ ายความหมายและความสำคญั ของแผนธุรกจิ โดยแผนธรุ กิจ (Business Plan) หมายถึง เครื่องมือที่ผู้ประกอบการใช้กำหนดขัน้ ตอน และวางแผนการดำเนินธุรกจิ อย่างมรี ะบบ และมปี ระสิทธภิ าพ เพือ่ ให้บรรลวุ ตั ถุประสงค์ตามท่กี ำหนดไว้ ไดแ้ ก่ กำไรหรืออื่นๆ ที่คาดหวังเอาไว้ สามารถใช้เป็นเครอ่ื งมือใน การนำเสนอตอ่ หุ้นส่วน หรือสถาบันการเงนิ ต่างๆ เพอื่ ประโยชนใ์ นการพิจารณาร่วมลงทุน หรอื การพจิ ารณา เงินกู้ 5.ผูเ้ รยี นบอกลักษณะของแผนธรุ กจิ ท่ดี คี วรมลี กั ษณะดงั นี้ 1) มคี วามถกู ตอ้ ง ชัดเจนและกระชับ 2) ครอบคลมุ เนอ้ื หาท่ีสำคัญ 3) เนอื้ หางา่ ยตอ่ การเขา้ ใจ 4) มคี วามเป็นไปได้จริงต่อการปฏบิ ตั ิตามแผน 6.ครูบอกองคป์ ระกอบของแผนธรุ กิจ ผู้ประกอบการจะต้องคำนงึ ถงึ “แผนธรุ กิจ” เปน็ อันดบั แรกซง่ึ จะเปน็ ประโยชนต์ ่อการดำเนนิ งานในอนาคตของตนเอง สถาบนั การเงิน และผ้ลู งทุนภายนอกทีจ่ ะเปน็ แหลง่ เงินทนุ ใหแ้ ก่กิจการได้ โดยแผนธุรกิจจะบอกใหท้ ราบวา่ ปัจจบุ นั ธุรกิจอยู่ตรงไหน และในอนาคตจะเปน็ อยา่ งไร บา้ ง ตามองค์ประกอบดังน้ี 1) ปกหน้า สารบญั และคำนำ 2) บทสรุปผบู้ ริหาร 3) ประวัติกิจการ หรือภาพรวมของกิจการ 4) การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ 5) แผนการตลาด 6) แผนการบริหารจัดการและแผนการดำเนินงาน 7) แผนการผลติ 8) แผนการเงิน 9) แผนฉุกเฉนิ 10) ภาคผนวก 7.ครอู ธบิ ายและแสดงตวั อย่างของปกหน้า สารบัญ และคำนำ ปกหนา้ เป็นสิ่งแรกที่ผอู้ า่ นแผนธรุ กิจจะเหน็ จงึ ควรมีชอื่ ของธรุ กจิ รวมทง้ั ทอี่ ยู่ หมายเลขโทรศัพท์

182 หมายเลขโทรสาร สัญลกั ษณ์ของธรุ กจิ นอกจากนน้ั อาจจะมชี ื่อท่ีอยแู่ ละหมายเลขโทรศัพทข์ องผู้ประกอบการ อย่ดู ้วย เพื่อความสะดวกในการติดตอ่ กลบั สารบัญ มไี วเ้ พือ่ ความสะดวกในการค้นหารายละเอียดของแผนธรุ กจิ ไดเ้ รว็ ขนึ้ ซงึ่ จะมีประโยชน์ ในการเจรจาต่อรองกับบคุ คลภายนอก เพราะยนื ยันข้อมลู โดยอา้ งอิงเอกสารซงึ่ กนั และกันได้งา่ ยข้นึ คำนำ เป็นสว่ นทีอ่ ยู่ถดั จากหน้าปกใน ผู้เขยี นรายงานแผนธุรกิจจะเปน็ ผ้เู ขียนเอง โดยกล่าวถึง วตั ถุประสงค์และขอบเขต รวมถงึ ปัญหาอปุ สรรคในการจดั ทำแผนธรุ กิจตลอดจนคำขอบคุณผู้ที่ให้ความ ชว่ ยเหลอื ในการรวบรวมข้อมูลหรือการเขียนแผนธุรกจิ (ถ้ามี) โดยให้ลงทา้ ยด้วยชื่อผจู้ ดั ทำแผนธุรกิจและวันที่ กำกับ 8.ผเู้ รยี นฝกึ เขยี นปกหนา้ สารบัญและคำนำ 9.ครูอธิบายและยกตัวอย่างของบทสรปุ ผู้บริหาร ซ่ึงเป็นส่วนทมี่ ีความสำคญั ที่สุด เพราะเป็นการสรปุ รายละเอียดสัน้ ๆ ของแผนธุรกจิ ท้งั หมดทีไ่ ด้ดำเนินการ และเปน็ เอกสารท่ีสมบรู ณ์ ซึ่งชีใ้ ห้เห็นว่ามโี อกาส เกดิ ข้ึนจริงได้ สามารถใช้โอกาสในตลาดให้เปน็ ประโยชน์ได้อย่างไร ดังน้ัน จึงมคี วามจำเป็นต้องเขยี นใหเ้ กดิ ความน่าเชอ่ื มีความเปน็ ไปได้ “บทสรปุ ผู้บรหิ าร” ควรเขียนให้สนั้ และกะทัดรัด ถึงแม้วา่ บทสรปุ ผู้บริหารจะ จัดไวอ้ ันดบั แรก แต่ใหเ้ ขียนเป็นอันดบั สุดท้ายในการเขยี นแผนท้งั หมด ดังนี้ 1) แนวคดิ และขอบเขตของธุรกจิ 2) โอกาสของธุรกจิ 3) กลมุ่ ตลาดเปา้ หมาย 4) สภาวะการแขง่ ขัน 5) ความคุม้ คา่ เชงิ ธรุ กิจ (ผลกำไร) 6) ทีมผู้บรหิ าร

183 7) ขอ้ เสนอแนะ 10.ผูเ้ รียนฝกึ เขยี นบทสรุปผูบ้ ริหาร 11.ครอู ธิบายการเขียนประวัตกิ ิจการ หรอื ภาพรวมของกิจการ โดยประวตั กิ ิจการ หรือภาพรวมของ กจิ การ (Company Profile) ให้ระบุขอ้ มูลเบือ้ งต้นเกยี่ วกับประวัติความเป็นมาของการก่อต้ัง ในดา้ นรูปแบบ การจัดตั้งหรอื จดทะเบียน ตลอดจนแนวคิดและที่มาของการมองเห็นโอกาสทางการตลาด การคดิ ค้นและ พัฒนาสินคา้ /บริการท่ีต้องการนำเสนอใหก้ บั ลูกค้ากลมุ่ เปา้ หมายควรให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เป้าหมายทีต่ ้องการให้ เปน็ ประโยชนใ์ นอนาคตและอน่ื ๆ ทเี่ กยี่ วข้อง เชน่ ผกู้ ่อต้ังปที ี่กอ่ ต้งั ทุนจดทะเบยี น ทุนท่ีชำระแลว้ และ ประวัตคิ วามเป็นมาของการดำเนนิ งานตั้งแตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จุบนั และกิจกรรมทเ่ี กิดขึน้ เช่น เพ่ิมทุน ลงทุน ขยายธุรกิจ เปน็ ตน้ 12.ผู้เรียนฝกึ เขียนประวตั ิกจิ การ หรอื ภาพรวมของกจิ การ 3.ครูอธิบายความหมายการวิเคราะหส์ ถานการณ์ โดยการวเิ คราะห์สถานการณ์ (Current Situation Analysis) หรือ “SWOT ANALYSIS” คอื การวเิ คราะหค์ วามเป็นไปได้ของธรุ กิจ แบ่งออก 2 สว่ น ได้แก่ 3.1 การวเิ คราะห์สถานการณ์ภายใน (Internal Situation Analysis) เป็นการตรวจสอบ ความสามารถ ความพร้อมของกจิ การด้านต่างๆ ท่ีเป็นจดุ แขง็ (Strengths) และจดุ อ่อน (Weaknesses) เปน็ การศึกษาวิเคราะห์ปัจจยั ทเ่ี กิดขน้ึ จากการกระทำกจิ การเอง ซ่งึ กอ่ ให้เกดิ ผลกระทบตอ่ การดำเนินงาน ท้ังด้านบวกเรยี กวา่ “จุดแขง็ ” หรือดา้ นลบเรยี กว่า “จดุ อ่อน” เปน็ ปจั จัยท่ีสามารถควบคุมได้ เนื่องจาก ทราบปญั หาท่ีเกดิ ขึน้ อยา่ งดี หากมีการวางแผนบรหิ ารจดั การท่ีเปน็ ระบบและมปี ระสทิ ธิภาพ กส็ ามารถ เสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งของธรุ กิจได้ 3.2 การวเิ คราะหส์ ถานการณภ์ ายนอก เปน็ การประเมินสภาพแวดล้อมทผี่ ปู้ ระกอบการไมส่ ามารถ ควบคมุ หรือเปลีย่ นแปลงได้ ในลกั ษณะท่เี ปน็ โอกาส (Opportunities) หรืออปุ สรรค (Threats) ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการควรจะเริม่ วิเคราะหป์ ัจจัยภายนอกซึ่งเป็นปจั จยั ทไ่ี ม่สามารถควบคุมได้ ได้แก่ 3.2.1 กล่มุ ลกู ค้าเปา้ หมายหรือตลาดเป้าหมาย (Target Group หรือ Market Group) 3.2.2 การแข่งขนั (Competition)

184 3.2.3 ค่านยิ มทางวฒั นธรรมของสังคม เช่น การใชส้ นิ คา้ ที่มียห่ี ้อ 3.2.4 เทคโนโลยี (Technology) 3.2.5 เศรษฐกจิ (Economic) 3.2.6 กฎหมาย กฎ และระเบียบต่างๆ (Political & Legal) 3.2.7 กลุ่มผ้จู ำหน่ายวัตถดุ บิ กลุ่มผผู้ ลติ (Suppliers) เปน็ การวเิ คราะห์ปจั จัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อธรุ กิจที่กำลังดำเนินงานอยใู่ นดา้ นบวก เรยี กว่า “โอกาส” และด้านลบเรยี กวา่ “อปุ สรรค” กิจการสามารถกำหนดกลยทุ ธ์เพ่ือให้ปรบั ตวั เข้ากบั สถานการณค์ วามเปล่ยี นแปลงภายนอกทเี่ กิดข้นึ ได้ เพื่อใหก้ ิจการสามารถดำรงอยไู่ ดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพไดแ้ ก่ 13.ผ้เู รยี นฝกึ วเิ คราะห์ SWOT ดังน้ี 14.ครแู ละผูเ้ รยี นสรปุ โดยการฝกึ เขยี นการวเิ คราะห์สถานการณ์ ขัน้ สรุปและการประยุกต์

185 15.ครใู ช้คำถามหรือกำหนดปัญหาโดยให้ผู้เรยี นระดมสมองชว่ ยกันคิดหาคำตอบแล้วอธิบายคำตอบให้ เพ่ือนทุกคนในกลุ่มของตนเองเขา้ ใจ 16.ครูและผเู้ รียนสรุปโดยการฝกึ เขียน 1) ความหมายและความสำคัญของแผนธุรกิจ 2) องค์ประกอบของแผนธุรกจิ 3) ปกหนา้ สารบัญ และคำนำ 4) บทสรุปผู้บริหาร 5) ประวตั ิกิจการ หรือภาพรวมของกจิ การ 6) การวเิ คราะห์สถานการณ์ 17.ครูใชว้ ิธสี ุ่มผู้เรียนทกุ กลมุ่ ตอบคำถามและอธบิ ายใหเ้ พอ่ื นฟงั ท้งั ชัน้ เรียน การสอนครัง้ ท่ี 13-14 ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรยี น 1.ครแู ละผ้เู รยี นทบทวนการเขยี นแผนธุรกิจในเรอ่ื งต่อไปนี้ 1) ความหมายและความสำคัญของแผนธรุ กิจ 2) องค์ประกอบของแผนธรุ กิจ 3) ปกหน้า สารบญั และคำนำ 4) บทสรปุ ผู้บริหาร 5) ประวัติกิจการ หรอื ภาพรวมของกจิ การ 6) การวเิ คราะห์สถานการณ์ 2.สุ่มผเู้ รียนบางคน ให้ออกมาเขียนหรืออธิบายองคป์ ระกอบของแผนธรุ กจิ บางส่วน เช่น บทสรปุ ผบู้ รหิ าร ประวัตกิ จิ การ หรอื ภาพรวมของกิจการ และการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ขน้ั สอน 3.ครอู ธิบายการเขียนแผนการตลาด โดยแผนการตลาด (Marketing Plan) คือ การกำหนด แนวทางและทศิ ทางในการดำเนินงานทางการตลาดใหเ้ ปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์ และสมั พันธก์ ับกล ยทุ ธ์ทางการตลาดทก่ี ำหนดไว้ โดยตรวจสอบและประเมินผลกจิ กรรมทางการตลาดไวล้ ่วงหน้าได้ สิ่ง สำคัญท่ีสุดในการทำธรุ กจิ คือการมองด้านการตลาด ผปู้ ระกอบการต้องมองใหอ้ อกว่าผ้บู ริโภค ตอ้ งการอะไร แลว้ ผลติ สินค้าหรือบรกิ ารเพ่อื สนองความตอ้ งการน้ัน กำไรทเ่ี กิดขนึ้ นน้ั คอื ผลงานจาก การทำให้ผู้บรโิ ภคได้รับความพึงพอใจสูงสุด

186 4.ผเู้ รียนเขียนวสิ ยั ทศั น์ (Vision) ซ่งึ หมายถงึ ภาพรวมของกจิ การท่ีต้องการจะเป็นในอนาคต โดยมพี ้นื ฐานอยู่บนความเปน็ จริงในปจั จบุ ัน โดยจะนำเสนอจดุ มุ่งหมายของผปู้ ระกอบการเกย่ี วกบั การทำธุรกิจ ซง่ึ ประกอบด้วยจดุ มุง่ หมายท่เี ฉพาะเจาะจง สามารถวัดค่าได้ ดำเนินการใหบ้ รรลผุ ลได้ เปน็ เหตุเปน็ ผลและต้งั อย่บู นพืน้ ฐานของความเป็นจริงและมกี รอบระยะเวลาเปน็ เครอื่ งกำหนด ดงั คำ สภุ าษิตท่วี ่า “ฝนั ให้ไกล แล้วไปใหถ้ ึง” 5.ครอู ธิบายและให้ผเู้ รียนเขียนพันธกิจ (Mission) หมายถงึ งานท่ีตอ้ งทำเพื่อให้บรรลุ วสิ ยั ทัศน์ของกิจการ โดยจะอธบิ ายความเปน็ ไปไดข้ องธุรกิจ/โครงการ ซง่ึ ครอบคลมุ 5 ประการ คอื 1) สินค้าและบรกิ ารของกจิ การคืออะไร 2) ลูกค้าของกิจการเปน็ ใคร 3) คุณคา่ ท่กี ิจการมอบให้แก่ลกู ค้าเปน็ อยา่ งไร 4) ขณะนก้ี ิจการเป็นอย่างไร 5) ต่อไปกิจการควรจะเป็นอย่างไร 6.ครอู ธบิ ายและให้ผู้เรียนเขยี นเป้าหมาย (Goal) คือ การกำหนดผลลพั ธท์ ต่ี อ้ งการจากพันธ กจิ ของกิจการ โดยเขยี นเปน็ ข้อๆ แบ่งเป็นเปา้ หมายระยะสั้น (1 ป)ี ระยะปานกลาง (3-5 ป)ี และ

187 ระยะยาว (5 ปขี ึ้นไป) ซ่งึ เปา้ หมายแต่ละระยะเวลาควรสอดคล้องกนั สามารถวัดผลไดแ้ ละระบเุ วลาที่ แล้วเสรจ็ อย่างชัดเจน 7.ผเู้ รียนเขียนแผนการตลาด โดยผู้ประกอบการต้องทราบและเขา้ ใจเรือ่ งดังต่อไปนี้ 1) เป้าหมายทางการตลาดที่ต้องการคอื เรอื่ งอะไรบา้ ง 2) ใครคอื ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย 3) จะนำเสนอสินค้า/บริการอะไรให้กลมุ่ เป้าหมาย ในราคาเท่าใด และวิธกี ารใด 4) จะสร้างและรักษาความพงึ พอใจใหก้ บั กลุ่มเป้าหมายได้ดว้ ยวิธีการใดบา้ ง 5) ถ้าสถานการณ์ไมเ่ ป็นไปตามท่ีคาดหวังไว้ จะแกไ้ ขอยา่ งไร 8.ผู้เรยี นวางแผนด้านการตลาด “STP&4P’s” โดยมขี ้นั ตอนดงั นี้ 1) การแบ่งสว่ นตลาด (Segmentation) 2) การกำหนดลูกค้าเปา้ หมายวา่ กล่มุ ไหนทจี่ ะเลือก (Targeting) 3) การสร้างภาพพจน์ในใจของลกู ค้า (Positioning) 4) ส่วนประสมทางการตลาด (4 P’s) ไดแ้ ก่ สนิ ค้าหรอื บริการ (Product) ราคา (Price)ช่องทางการจำหนา่ ย (Place) และการส่งเสริมทางการตลาด (Promotion) 5) ส่วนประสมทางการตลาดยคุ ใหม่ (4 C’s) เปน็ การมองด้านความต้องการของ ผู้บรโิ ภคและควรนำมาใช้ในแผนปฏิบัตกิ ารทางการตลาดด้วย ดังนี้ 5.1 Consumer Need คือ ขายสินค้าตามความต้องการของลูกคา้ 5.2 Customer Benefits คอื ประโยชนท์ ีล่ กู ค้าจะได้รบั 5.3 Convenience คือ เป็นสนิ คา้ ท่ีสะดวก 5.4 Communication คือ การรับร้ขู า่ วสารสนิ ค้า 7. ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนรายวชิ า “ธุรกิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ” ของบริษทั สำนักพมิ พ์เอมพันธ์ จำกดั 2. หนังสืออ่ืน ๆ ในหอ้ งสมดุ 3. เว็บไซตต์ า่ ง ๆ ที่เกีย่ วข้อง 4. นิตยสาร, วารสารดา้ นการบรหิ าร ฯลฯ 8. หลกั ฐานการเรียนรู้ 8.1 หลักฐานความรู้ 1.การสง่ งานของนกั เรยี นมีความสมบรู ณค์ รบถว้ น

188 2. รูปเลม่ รายงานกลุ่มและรายงานเด่ยี วสามารถทำไดด้ ี 8.2 หลักฐานการปฏบิ ตั ิงาน 1.บนั ทึกการสอน 2.ใบเช็ครายช่ือ 3.แผนจดั การเรียนรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน 9. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 9.1 เครือ่ งมือประเมิน 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2.แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3.แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและ นักเรยี นรว่ มกนั ประเมนิ 4.แบบทดสอบท้ายบท 9.2 เกณฑ์การประเมิน 1.เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มีชอ่ งปรับปรงุ 2.เกณฑ์ผ่านการประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ คือ ปานกลาง (50 % ขนึ้ ไป) 3.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อย่กู บั การประเมินตามสภาพจริง 10. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย (ถา้ ม)ี 1. ผเู้ รียนตอ้ งมีการทบทวนบทเรียนตลอด เพอ่ื เสริมสรา้ งความเข้าใจอยา่ งแทจ้ ริง 2. ผูเ้ รียนหมน่ั ทำใบงาน แบบฝึกหดั 3. ศึกษาขอ้ มูลเพม่ิ เติมจาก Internet 11. เอกสารอ้างอิง ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ, เอมพนั ธ์: 2562

189 ใบความรู้ท่ี 1 หนว่ ยที่ 7 รหัสวิชา 20200-1001 ชอ่ื วชิ า ธรุ กิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ สอนครง้ั ที่ 11-14 ชอื่ หน่วย รูปแบบและการจัดทำแผนธรุ กิจ เวลารวม 51 ช่ัวโมง ชอ่ื งาน รปู แบบและการจัดทำแผนธุรกิจ จำนวน 3 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงค์ท่ัวไป 1.เพ่อื ใหน้ ักเรียนอธบิ ายความหมายและความสำคัญของแผนธรุ กจิ 2.เพ่อื ให้นกั เรยี นเขา้ ใจองค์ประกอบของแผนธุรกิจ 3.เพื่อใหน้ กั เรียนจัดทำปกหน้า สารบัญ และคำนำ 4.เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นจดั ทำบทสรปุ ผบู้ รหิ าร 5.เพ่ือใหน้ ักเรยี นจดั ทำประวตั กิ จิ การ หรือภาพรวมของกิจการ 6.เพือ่ ให้นักเรียนวิเคราะห์สถานการณ์ 7.เพื่อใหน้ กั เรียนจัดทำแผนการตลาด จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ ำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่ีครูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเร่อื ง 1.1 ความมมี นษุ ยสมั พนั ธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมวี นิ ัย 1.7 ความรับผิดชอบ 1.3 การละเวน้ สิ่งเสพตดิ และการพนนั 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซอื่ สัตย์สจุ รติ 1.9 ความรักสามัคคี 1.5 ความเชื่อมน่ั ในตนเอง 1.10 ความกตัญญกู ตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรเู้ ก่ยี วกับหลักการวางแผนเป้าหมายชวี ติ ดว้ ยวงจรควบคุมคุณภาพ ธรุ กิจและการเป็น ผู้ประกอบการ หลกั การจัดการทางการเงิน หลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพมิ่ ผลผลิตเบอื้ งต้น และกฎหมายท่เี ก่ียวขอ้ ง 2.จดั ทำแผนธรุ กิจอยา่ งงา่ ย 3.ประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยุกตใ์ ช้หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพมิ่ ผลผลติ ในการวางแผนและดำเนนิ งาน เน้ือหาสาระ 1. แผนการบรหิ ารจัดการและแผนการดำเนินงาน ประกอบดว้ ย 1) ทีมงานบริหาร ประกอบดว้ ยผู้จดั การ พนักงาน ทม่ี ีสำคญั ต่อการดำเนินงาน และความสามารถ

190 ในด้านการบรหิ ารที่นำธรุ กิจไปส่คู วามสำเร็จ ทมี งานท่ีดีควรมีผู้บริหารครบในแต่ละด้าน สำหรับธุรกิจท่ีเริ่มตน้ ทีมงานผู้บริหารอาจประกอบไปดว้ ยคนจำนวนนอ้ ย หรอื เพียงคนเดยี วทำงานเกอื บทุกหนา้ ที่การเรม่ิ ตน้ ธรุ กิจ ผ้บู รหิ ารจะเน้นดา้ นการตลาดในชว่ งกำลังก่อต้ัง ทีมงานผู้บริหารแบบหา้ งหุน้ ส่วน จะมีผทู้ ม่ี ีความแตกตา่ งกนั แตล่ ะ ด้าน จะเปน็ การสรา้ งทีมงานทีด่ ไี ดเ้ ช่นเดียวกันหลายคน เชน่ พนักงานบญั ชีและการเงิน กค็ วรจะเป็นคนละคนกนั เพ่ือปอ้ งกนั การทจุ รติ รายละเอียดทีมงานควรจะระบถุ งึ 1.1 โครงสร้างองค์กรและตำแหนง่ บริหารหลกั โดยระบผุ ้รู บั ผิดชอบงานแต่ละด้าน 1.2 ผลตอบแทนที่ให้แกผ่ บู้ ริหารทัง้ ในรปู ของเงินเดอื น สว่ นแบ่งกำไร และสวัสดิการ 1.3 ผรู้ ว่ มลงทนุ ทไ่ี ม่ใชผ่ ู้บรหิ ารและผลตอบแทนท่ีให้ 1.4 ที่ปรึกษาและบรกิ ารดา้ นวิชาชีพที่ตอ้ งการใช้ 3.2 แผนผงั องค์กร (Organization Chart) อาจจะรวมอยู่ในประวัติกิจการ หรอื ภาพรวมของกิจการที่กลา่ วมาแล้ว ขา้ งตน้ กไ็ ด้ 3.3 กำหนดหน้าที่ต่างๆ ของกรรมการตำแหนง่ ตา่ งๆ 3.4 แผนดำเนนิ งานขององค์กร เช่น การประชุม การอบรมพนักงาน การศกึ ษาดูงาน เป็นตน้ 3.5 สรปุ ค่าใชจ้ ่ายในการบริหารจัดการ 2. องค์ประกอบของแผนการเงนิ ไดแ้ ก่ แสดงการเขียนแผนการเงิน โดยเงนิ ลงทนุ และตน้ ทุนในการผลติ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารนั้นจะแตกต่างกนั ไปตามขนาด และรปู แบบของการลงทุน ซึ่งสว่ นใหญ่จะอยใู่ นลกั ษณะใกลเ้ คยี งกนั ไดแ้ ก่ 1) ลงทนุ ในสินทรัพยถ์ าวรประมาณ 90% ไดแ้ ก่ 1.1 ค่าก่อสรา้ ง ค่าออกแบบและตกแตง่ สถานที่ 1.2 คา่ วางระบบตา่ งๆ (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศพั ท์ ระบบเก็บเงนิ )

191 1.3 ค่าอปุ กรณ์ 2) เงนิ ทุนหมนุ เวยี นเพื่อเปน็ ค่าใชจ้ า่ ยเร่มิ ตน้ ประมาณ 10% ได้แก่ 2.1 ค่าวัตถุดิบสนิ ค้า 2.2 ค่าบรรจุภณั ฑ์ 2.3 ค่าจ้างพนกั งาน 2.4 ค่าเช่าพื้นที่ 2.5 ค่าน้ำ ค่าไฟฟา้ 2.6 คา่ ใชจ้ ่ายในการขายและการบรหิ าร โดยมีรายละเอียดที่จะต้องกำหนดขึ้น เพอ่ื การคำนวณดงั น้ี 1) ยอดขายสนิ คา้ หรือบรกิ ารท่ีคาดว่าจะจำหน่ายได้ 2) การก่อสรา้ งและตกแตง่ รา้ นใหม้ อี ายใุ ช้งานได้ 10 ปี (คิดคา่ เสือ่ มแบบคงท่ี) 3) อปุ กรณ์ให้มอี ายุใช้งานได้ 5 ปี (วิธีคงที่) 4) คา่ วางระบบต่างๆ ตดั เปน็ ค่าใชจ้ ่ายในระยะยาวเวลา 5 ปี แสดงการทำงบประมาณการลงทนุ การกำหนดราคาขายสนิ ค้าและบริการ จะถกู กำหนดขึ้นจากตน้ ทนุ บวกดว้ ยกำไรที่ผปู้ ระกอบการตอ้ งการ แต่สว่ น ใหญแ่ ลว้ การตงั้ ราคาของผู้ประกอบการจะต้องคำนงึ ถึงราคาขายของผู้ประกอบการรายอืน่ ๆ ในกล่มุ ลูกคา้ เปา้ หมายเดยี วกนั ท่ีมีในตลาดดว้ ย ในการจัดทำแผนธุรกิจนน้ั กิจการตอ้ งทราบว่าต้องใชเ้ งนิ ลงทนุ จำนวนเท่าไร จะ ไดแ้ หลง่ เงินทุนมาจากไหน เพอื่ ใชใ้ นการดำเนินกจิ การให้สำเร็จตามวัตถุประสงคท์ ่ีกำหนดไว้ งบการเงนิ โดยรายงานทางการเงนิ อาจสรปุ เป็นงบการเงินท่คี รอบคลุมการดำเนินกจิ กรรมของกจิ การใน รอบระยะเวลาหนึ่ง เพ่ือใหท้ ราบวา่ ทผ่ี ่านมาน้นั กจิ การมีฐานะทางการเงนิ และมีผลการดำเนินงานอยา่ งไรบ้าง ซ่ึง ผู้ประกอบการควรมคี วามรู้ และความเขา้ ใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงนิ ประกอบด้วย 1) งบแสดงฐานะการเงนิ เปน็ รายงานทแ่ี สดงถงึ ฐานะของกจิ การ ณ วันใดวันหน่งึ วา่ มสี ินทรัพย์ หนสี้ นิ และส่วนของ เจา้ ของ (ทนุ ) อยู่ในขณะนัน้ จำนวนเท่าใด ดังตวั อยา่ งต่อไปนี้

192 2) งบกำไรขาดทุน เป็นงบท่ีแสดงถึงผลการดำเนนิ งานของกจิ การโดยแสดงรายได้ ค่าใชจ้ ่ายและกำไรสุทธิหรือ ขาดทนุ สุทธิ ในชว่ งระยะเวลาหนึง่ ดังตัวอยา่ งแบบฟอร์มดังนี้ เขยี นแผนฉกุ เฉิน หมายถึง สว่ นท่ีแสดงให้เห็นถึงแผนสำรองของกิจการ หากแผนท่วี างไว้ไม่ประสบ ความสำเรจ็ หรือเกิดเหตุการณ์ทไี่ มค่ าดฝนั เกดิ ขน้ึ เชน่ เกดิ ภยั ธรรมชาติ การประท้วงหยุดงาน การถูกปฏเิ สธการ รับสินคา้ จากตลาด ฯลฯ ซึง่ ทำให้เกิดผลเสียตอ่ กจิ การ ในแผนฉุกเฉนิ จงึ ควรระบุไว้ลว่ งหนา้ วา่ จะมีแผนสำรองเม่อื เกดิ สิ่งทไ่ี ม่คาดฝันตอ่ ธุรกิจอย่างไร เพ่อื เรยี กความเช่ือมัน่ ให้กบั ผรู้ ่วมทุนและสถาบนั การเงินได้ เชน่

193 ยอดขาย/เก็บเงินจากลกู หน้ีไม่ได้ ทำใหข้ าดสภาพคล่อง และธนาคารไมป่ ล่อยเงนิ กู้ ค่แู ข่งตดั ราคาหรอื จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ การขายอยา่ งตอ่ เน่อื งระยะยาว มีคูแ่ ข่งรายใหม่ท่ใี หญก่ ว่า ทนั สมยั กว่า ราคาถกู กว่า เขา้ สอู่ ุตสาหกรรม สนิ ค้าถกู ลอกเลียนแบบและขายในราคาที่ถูกตอ้ ง สินคา้ ผลิตไมท่ ันตามคำส่ังซอ้ื เนื่องจากขาดแคลนวัตถดุ บิ สินค้าผลติ มากจนเกนิ ไป ทำใหม้ ีสินค้าในคลังเหลือมาก ตน้ ทนุ การผลติ /การจัดการสงู กวา่ ท่คี าดไว้ เกิดการชะงกั การเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม เอกสารอา้ งอิง ธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ, เอมพันธ์: 2560

194 ใบงานท่ี 1 หน่วยท่ี 7 รหัสวชิ า 20200-1001 ชอ่ื วิชา ธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ สอนครงั้ ที่ 11-14 ช่ือหนว่ ย รปู แบบและการจดั ทำแผนธุรกิจ เวลารวม 51 ชัว่ โมง ชอื่ งาน รปู แบบและการจดั ทำแผนธรุ กจิ จำนวน 3 ช่วั โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ทั่วไป 1.เพ่ือให้นกั เรยี นอธบิ ายความหมายและความสำคญั ของแผนธรุ กจิ 2.เพอื่ ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจองค์ประกอบของแผนธรุ กจิ 3.เพ่ือให้นกั เรยี นจัดทำปกหน้า สารบัญ และคำนำ 4.เพื่อให้นักเรยี นจัดทำบทสรุปผู้บริหาร 5.เพื่อใหน้ ักเรยี นจดั ทำประวัติกิจการ หรอื ภาพรวมของกิจการ 6.เพอ่ื ให้นกั เรียนวเิ คราะหส์ ถานการณ์ 7.เพื่อให้นักเรียนจัดทำแผนการตลาด จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผสู้ ำเรจ็ การศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่คี รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทำการสอนในเรอ่ื ง 1.1 ความมีมนษุ ยสมั พันธ์ 1.6 การประหยัด 1.2 ความมีวนิ ัย 1.7 ความรับผิดชอบ 1.3 การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนนั 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซือ่ สัตย์สจุ รติ 1.9 ความรกั สามัคคี 1.5 ความเช่อื มน่ั ในตนเอง 1.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั หลกั การวางแผนเปา้ หมายชวี ิตด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธุรกิจและการเป็น ผูป้ ระกอบการ หลกั การจัดการทางการเงิน หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลติ เบ้ืองต้น และกฎหมายท่ีเกี่ยวขอ้ ง 2.จัดทำแผนธุรกิจอย่างง่าย 3.ประยกุ ตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยกุ ต์ใชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนนิ งาน เครื่องมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์

195 1.หนังสอื แบบเรียน 2. ส่ือการเรยี นการสอน power point 3. คน้ คว้าข้อมลู จากสื่อออนไลน์ ลำดับขั้นตอนการปฏบิ ัติงาน ใบงานที่ 1 บทที่ 7 เร่ือง ขอ้ ได้เปรียบและข้อเสยี เปรียบในการแขง่ ขันของธุรกจิ ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขท่.ี ........ช้นั .......................... คำชี้แจง ใหเ้ ขยี นข้อได้เปรยี บและข้อเสยี เปรยี บของธุรกจิ โดยเลอื กธรุ กิจทตี่ นเองรักและชอบมา 1 ธรุ กิจ ขอ้ ได้เปรียบ: ลองพิจารณาดวู า่ ธรุ กิจมีจุดเด่น (เมื่อเปรยี บเทียบกับคูแ่ ขง่ ) ในดา้ นใด เชน่ สินค้า หรือบรกิ ารมอี ะไรพิเศษ สามารถดึงดดู ใจลูกค้า ความสามารถและความชำนาญของลกู จ้าง เทคนิคใน ขบวนการขาย ที่ตัง้ ของธรุ กิจอยู่ในจดุ ได้เปรียบอย่างไร เปน็ ต้น ……………………………………………..…………………………………………………………………………… ……………………………………………..…………………………………………………………………………… ……………………………………………..…………………………………………………………………………… ……………………………………………..…………………………………………………………………………… ขอ้ เสยี เปรยี บ: ลองค้นหาวา่ ธรุ กจิ มขี ้อเสียใดบา้ ง เชน่ ขอ้ เสยี ดา้ นการเงิน ตำแหนง่ ทต่ี ้ัง คุณภาพ สนิ คา้ การบรกิ าร การสง่ มอบไม่ตรงเวลา สนิ คา้ ทน่ี ำมาจำหน่ายไมม่ ีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เปน็ ต้น ……………………………………………..…………………………………………………………………………… ……………………………………………..…………………………………………………………………………… ……………………………………………..…………………………………………………………………………… ……………………………………………..…………………………………………………………………………… ใบงานท่ี 2 บทที่ 7 เรื่อง แผนธรุ กิจ ชอ่ื -สกุล............................................................................................เลขท.่ี ........ชน้ั .......................... คำช้ีแจง ใหจ้ ดั ทำแผนธรุ กิจ ดังรายละเอยี ดตอ่ ไปน้ี 1.แบง่ กลุ่มประมาณ 5-6 คน เพื่อระดมความคิดเห็นและแลกเปล่ียนความรูร้ ะหวา่ งกันเพือ่ จดั ทำแผนธุรกิจของกิจการ 2.แต่ละกลุ่มตัดสนิ ใจเลือกจัดทำแผนธุรกิจกลุ่มละ 1 กจิ การ โดยเปน็ ธุรกิจทีส่ นใจ มคี วามรกั และชอบ ในอาชพี น้ัน แลว้ ศกึ ษาองค์ประกอบต่อไปนเ้ี พือ่ จัดทำแผนธุรกจิ 1) ปกหน้า สารบัญ และคำนำ 2) บทสรุปผบู้ ริหาร 3) ประวัติกจิ การ หรือภาพรวมของกิจการ 4) การวิเคราะหส์ ถานการณ์ 5) แผนการตลาด 6) แผนการบริหารจัดการและแผนการดำเนนิ งาน

196 7) แผนการผลิต 8) แผนการเงนิ 9) แผนฉุกเฉนิ 10) ภาคผนวก 3.จดั ทำเอกสารประกอบการนำเสนอและพร้อมสง่ เพ่ือประเมนิ ผล โดยจัดทำให้เหมาะสมกบั สภาพการเรียนการ สอนทีแ่ ทจ้ ริง 4.เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รียนคนอืน่ ๆ ได้เสนอแนะแนวทาง/ขอ้ คิดเหน็ เพื่อนำไปสู่การเรียนรูโ้ ดยมุ่งเน้นการนำไป ประยุกต์ใชอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ ในธุรกิจในปัจจุบัน ภาพประกอบ - ข้อควรระวัง - ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี) - การประเมนิ ผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมินให้ชัดเจน) - เกณฑก์ ารวัดผล 1. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านรายบคุ คล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรับปรงุ 2. แบบประเมินผลการเรยี นรู้กอ่ นเรียนไม่มเี กณฑผ์ ่าน เกบ็ คะแนนไว้เปรียบเทยี บกับคะแนนท่ไี ดจ้ ากการ ทดสอบหลังเรียน 3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั การ ประเมินตามสภาพจรงิ เอกสารอ้างองิ ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ, เอมพันธ์: 2560

197 ใบมอบหมายงานที่ 1 หนว่ ยท่ี 7 สอนครง้ั ที่ 11-14 รหสั วชิ า 20200-1001 ช่อื วิชา ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ ชอ่ื หนว่ ย รปู แบบและการจดั ทำแผนธรุ กิจ ชอื่ งาน รูปแบบและการจดั ทำแผนธรุ กิจ จดุ ประสงคท์ ่ัวไป 1.เพอื่ ใหน้ กั เรยี นอธิบายความหมายและความสำคัญของแผนธุรกจิ 2.เพ่อื ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจองค์ประกอบของแผนธุรกิจ 3.เพ่อื ให้นกั เรียนจัดทำปกหนา้ สารบญั และคำนำ 4.เพอื่ ให้นักเรียนจดั ทำบทสรุปผู้บริหาร 5.เพื่อใหน้ ักเรยี นจดั ทำประวัตกิ ิจการ หรอื ภาพรวมของกิจการ 6.เพือ่ ใหน้ กั เรียนวิเคราะหส์ ถานการณ์ 7.เพือ่ ใหน้ กั เรียนจัดทำแผนการตลาด จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องผู้สำเรจ็ การศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่ีครสู ามารถสงั เกตได้ขณะทำการสอนในเร่อื ง 1.1 ความมีมนุษยสมั พันธ์ 1.6 การประหยัด 1.2 ความมีวนิ ัย 1.7 ความรับผิดชอบ 1.3 การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนัน 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซ่ือสตั ย์สุจริต 1.9 ความรักสามคั คี 1.5 ความเชื่อม่ันในตนเอง 1.10 ความกตัญญกู ตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรูเ้ ก่ียวกับหลกั การวางแผนเปา้ หมายชีวติ ด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ หลกั การจดั การทางการเงนิ หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลติ เบอื้ งตน้ และกฎหมายท่ีเกย่ี วข้อง 2.จดั ทำแผนธุรกจิ อย่างง่าย 3.ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยุกตใ์ ชห้ ลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลติ ในการวางแผนและดำเนนิ งาน แนวทางการปฏิบตั ิงาน แบ่งกลมุ่ เพือ่ ค้นคว้าหาขอ้ มูลและนำเสนอหน้าชนั้ เรียน โดยแบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลุ่มๆ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน

198 แหล่งค้นควา้ 1. ห้องสมุด 2. ส่ือออนไลน์/Internet 3. นติ ยสาร/วารสาร คำถาม/ปัญหา เมือ่ นกั เรยี นคน้ ควา้ แล้วมีปญั หาหรือไม่เสามารถหาเนื้อหาท่ีจะศึกษาหาข้อมูลไดจ้ ะทำอย่างไร คำตอบ สามารถปรกึ ษาจาก ครผู ู้สอน หรือครทู ่มี ีความรใู้ นรายวิชา กำหนดเวลาสง่ งาน นำเสนอหน้าชน้ั เรยี นในคาบเรียนถัดไป เอกสารอ้างอิง สื่อออนไลน/์ Internet หนังสอื ตำราเรยี น วิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

199 แบบประเมินผลงาน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 ช่อื กลมุ่ .........................................................................ช้นั ................................................................ รายชื่อสมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 บคุ ลกิ การแตง่ กาย 2 มารยาทในการพูด 3 การใช้ภาษา 4 วธิ กี ารนำเสนอ 5 เนื้อหาทนี่ ำเสนอ รวม ผู้ประเมิน.............................................. วนั ท่.ี .............เดือน...............................พ.ศ...................

200 เกณฑก์ ารประเมนิ บุคลกิ การแตง่ กาย : มคี วามเชอ่ื มนั่ ในตนเอง แต่งกายสะอาด ถกู ระเบยี บ เสอ้ื ไมห่ ลุดล่ยุ ลอยชาย มารยาทในการพูด : มองหนา้ และสบตาผูฟ้ ัง ไมเ่ หนบ็ แนม เสยี ดสผี ูอ้ น่ื การใชภ้ าษา : ชดั เจน ตามหลกั ภาษา ตวั ร ล คาควบกลา้ ถอ้ ยคาขอ้ ความสภุ าพ วธิ กี ารนาเสนอ : น่าสนใจหลากหลาย เชน่ ใชแ้ ผ่นใส รปู ภาพ ตงั้ คาถาม เลน่ เกม ไมเ่ ยนิ่ เยอ้ เน้อื หาทนี่ าเสนอ : มสี าระสาคญั ตรงกบั หวั ขอ้ เรอ่ื ง ใชเ้ วลาตามทก่ี าหนด 1..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 3..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 4..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 5..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = ……………………………………………………………………………………………………………


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook