201 แบบประเมนิ ผลงาน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 ชอ่ื กลมุ่ .........................................................................ชน้ั ปวช......................................................... รายชือ่ สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ที่ รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 เน้ือหาถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมอื กนั ทำงาน 3 ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทนี่ ่าสนใจ รวม ผปู้ ระเมิน.............................................. วนั ที.่ .............เดอื น...............................พ.ศ...................
202 เกณฑก์ ารประเมนิ 1.เน้ือหาถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคญั ครบถ้วน ส่อื ความหมายชดั เจนและมีรปู ภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคญั ครบถว้ น สอื่ ความหมายและมีรปู ภาพไม่ตรงเนื้อหา 1 คะแนน = มเี นือ้ หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถ้วน 2. ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 คะแนน = มคี วามสามัคครี ่วมมอื กนั ทำงานทุกคน 2 คะแนน = รว่ มมือกันทำงานเป็นบางคน 1 คะแนน =ไม่คอ่ ยรว่ มมอื กันทำงาน 3. ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณใ์ นท้องถิ่น และประหยัด 2 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยกุ ตใ์ ช้วสั ดอุ ุปกรณใ์ นทอ้ งถนิ่ แตไ่ มป่ ระหยัด 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ ่าสนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเก่ียวกับองค์ประกอบ ครอบคลมุ และชัดเจน 2 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบ ไมค่ รอบคลุมแต่ชัดเจน 1 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลุมและไมช่ ดั เจน 5. การนำเสนอนา่ สนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจปานกลาง ชดั เจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไมค่ ่อยชัดเจน
203 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน หน่วยการเรียนรู้ที่............................................................................................................................. ชื่อกล่มุ .........................................................................ชน้ั ................................................................ รายชื่อสมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 เนอ้ื หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมอื กันทำงาน 3 ความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทนี่ ่าสนใจ รวม ผูป้ ระเมิน.............................................. วันท.ี่ .............เดอื น...............................พ.ศ...................
204 เกณฑก์ ารประเมิน 1.เน้ือหาถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคญั ครบถ้วน ส่อื ความหมายชดั เจนและมีรปู ภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคญั ครบถว้ น สอื่ ความหมายและมรี ูปภาพไมต่ รงเน้อื หา 1 คะแนน = มเี นือ้ หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 คะแนน = มคี วามสามัคครี ่วมมอื กนั ทำงานทุกคน 2 คะแนน = รว่ มมือกันทำงานเป็นบางคน 1 คะแนน =ไม่คอ่ ยรว่ มมอื กันทำงาน 3. ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ในท้องถนิ่ และประหยัด 2 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยุกตใ์ ช้วัสดุอปุ กรณใ์ นทอ้ งถิน่ แตไ่ มป่ ระหยัด 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ ่าสนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเก่ียวกับองค์ประกอบ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลมุ แต่ชดั เจน 1 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไม่ครอบคลมุ และไมช่ ัดเจน 5. การนำเสนอนา่ สนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชดั เจน 2 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจปานกลาง ชดั เจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไมค่ ่อยชัดเจน
205 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 7 ช่อื กลมุ่ .........................................................................ชน้ั ................................................................ รายชือ่ สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 การเตรียมความพรอ้ ม 2 เนือ้ หาสาระ 3 รปู แบบการนำเสนอ 4 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุม่ 5 การรกั ษาเวลา 6 ความสนใจของผฟู้ งั รวม ผูป้ ระเมนิ .............................................. วันท.่ี .............เดือน...............................พ.ศ...................
206 เกณฑก์ ารประเมิน 1. การเตรียมความพรอ้ ม 3 คะแนน = มีการจดั เตรียมสถานที่ สื่อ/อปุ กรณ์ไว้อยา่ งพร้อมเพรยี ง 2 คะแนน = มีสือ่ /อปุ กรณพ์ ร้อม ขาดการจัดเตรียมสถานท่ี 1 คะแนน = สอื่ /อุปกรณไ์ ม่เพียงพอ ขาดการจดั เตรียมสถานที่ 2. เนอื้ หาสาระ 3 คะแนน = สาระสำคัญครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ไมต่ รงตามจุดประสงค์ 3. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอที่เหมาะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มีสือ่ และ ใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ นำวสั ดุในท้องถิ่นมาประยกุ ต์ใช้ อยา่ งคุ้มค่าและประหยดั 2 คะแนน = ใชเ้ ทคนคิ แปลกใหม่ มีสื่อและใช้เทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ ขาดการประยุกตใ์ ช้วสั ดุในทอ้ งถ่ิน 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม ไม่น่าสนใจ 4. การมสี ว่ นร่วมของสมาชิก 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมบี ทบาทและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญม่ ีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมบี ทบาทและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 5. การรักษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมไดต้ ามเวลาทก่ี ำหนด 2 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมเรว็ กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กว่าเวลาทกี่ ำหนด 6. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ รอ้ ยละ 80 สนใจ และให้ความรว่ มมือ 2 คะแนน = ผ้ฟู งั ร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วามร่วมมือ 1 คะแนน = ผฟู้ ังน้อยกว่า รอ้ ยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื
207 แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 8 จำนวน 3 ช่วั โมง สปั ดาหท์ ่ี 15-16 ช่อื วชิ า ธรุ กิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ สอนคร้ังท่ี 15-16 ช่ือหนว่ ย/เรื่อง หลักเบอ้ื งต้นในการบรหิ ารงาน คณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ ในองคก์ ร จำนวน 3 ช.ม. 1. แนวคดิ การบริหารงานคุณภาพในองค์กรเป็นกระบวนการบริหารงานที่ประกอบด้วยนโยบาย วัตถุประสงค์ การวาแผนงาน ระบบการบริหารจัดการ ระบบการตรวจสอบหรือการประเมินผล และการปรับปรุงอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พนักงานและของสังคม ทำให้เข้าใจเกี่ยวกับหลักการ บริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิตเบ้ืองต้น และประยุกตใ์ ชห้ ลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพิม่ ผลผลิต 2. ผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวัง 1.แสดงความรู้เก่ียวกบั การบริหารงานคุณภาพเบ้ืองต้น 2.แสดงความรู้เก่ียวกบั การเพม่ิ ผลผลิตเบอื้ งต้น 3.ประยุกต์ใช้หลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลติ ในการวางแผนและดำเนนิ งาน 3. จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม มีการพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทคี่ รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทำการสอนในเรอื่ ง 1. ความมมี นุษยสัมพันธ์ 2. ความมวี ินยั 3. ความรับผดิ ชอบ 4. ความซอื่ สตั ย์สจุ ริต 5. ความเช่อื มน่ั ในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝร่ ู้ 8. การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนัน 9.ความรักสามัคคี 10. ความกตัญญูกตเวที
208 4. สมรรถนะรายวชิ า 1.แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการวางแผนเป้าหมายชีวิตดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ หลักการจัดการทางการเงนิ หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลติ เบอื้ งต้น และกฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 2.จัดทำแผนธรุ กจิ อย่างงา่ ย 3.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยกุ ตใ์ ช้หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ ในการวางแผนและดำเนินงาน 5. สาระการเรยี นรู้ 1.การบริหารงานคณุ ภาพเบ้อื งต้น 2.การเพ่ิมผลผลติ เบ้ืองตน้ 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรยี น 1.ครูกล่าวถึง “คุณภาพ” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง ลักษณะเด่น ของบุคคลหรือสิ่งของ จากความหมายนี้สรุปได้ว่า คุณภาพ (Quality) หมายถึง การดำเนินงานที่มี ประสิทธิภาพเป็นไปตามข้อกำหนดที่ต้องการ โดยสินคา้ หรือบริการนั้นตอ้ งสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าและมี ตน้ ทนุ การผลิตที่เหมาะสม เชน่ คุณภาพของสนิ ค้า ไดแ้ ก่ รูปร่างสวยงาม เชอ่ื ถือได้ ทนทาน เหมาะสมกับการ ใช้งานและช่ือเสียงของสนิ ค้า ส่วนคุณภาพการบรกิ าร ได้แก่ การสร้างความประทบั ใจให้ลูกคา้ ทีม่ าใช้บรกิ าร เปน็ ต้น แบง่ ได้ดงั นี้ 1) เหมาะสมกับมาตรฐาน 2) เหมาะสมกบั ประโยชน์ใช้สอย 3) เหมาะสมกบั ต้นทุน 4) เหมาะสมกบั ความต้องการท่ีแฝงเร้น 2.ผูเ้ รียนยกตวั อยา่ งธรุ กจิ ทีไ่ ด้รับคุณภาพ ขนั้ สอน 3.ครูอธบิ ายการบริหารงานคุณภาพเบ้ืองตน้ โดยคณุ สมบัติของคุณภาพ สามารถพจิ ารณาไดด้ งั นี้ 3.1 คุณภาพของผลติ ภัณฑ์ สามารถพจิ ารณาไดด้ ังน้ี a สมรรถนะ a ลักษณะเฉพาะ a ความเชอ่ื ถือได้ a ความสอดคล้องตามที่กำหนด a ความทนทาน a ความสามารถในการใหบ้ รกิ าร
209 a ความสวยงาม a การรับรู้คุณภาพ หรือช่ือเสยี งของสนิ ค้า 3.2 คุณภาพของงานบรกิ าร สามารถพิจารณาไดด้ ังนี้ a ความเชอ่ื ถือได้ a การตอบสนองความต้องการ a ความสามารถ a การเขา้ ถงึ ได้ a ความสภุ าพ a การตดิ ตอ่ ส่ือสาร a ความน่าเชือ่ ถอื a ความปลอดภัย a ความเข้าใจลกู ค้า a สามารถรสู้ ึกไดใ้ นบรกิ าร 4.ครูอธบิ ายเพิม่ เตมิ การบริหารคุณภาพ (Quality Management) หมายถึง การบรหิ ารงานท่ี เกย่ี วกับ การจัดการทกุ อยา่ งในองค์กรใหม้ คี ุณภาพตามนโยบายคุณภาพขององค์กร รวมถงึ โครงสรา้ งองค์กร ความรับผดิ ชอบ วิธกี าร กระบวนการ กิจกรรม แผนงานและทรัพยากรทีจ่ ะนำมาใช้ในองค์กร เพื่อสรา้ งความ มั่นใจว่าสินค้า หรือบรกิ ารท่ผี ลติ ออกมาจะมีคุณภาพสอดคล้องกบั ขอ้ กำหนดและความตอ้ งการของลกู คา้ และ ใหม้ ี ผลตอบแทนตามเปา้ หมายการลงทนุ ขององคก์ ร 5.ผู้เรียนแสดงสญั ลักษณ์คณุ ภาพ เช่น 6.ครูบอกหลักการพน้ื ฐานของการบรหิ ารงานคณุ ภาพที่สำคัญ ไดแ้ ก่ 6.1 การให้ความสำคัญกบั ลูกค้า ธรุ กจิ ทุกประเภทจำเปน็ ตอ้ งทำความเข้าใจกับความตอ้ งการของ ลกู คา้ และดำเนนิ การใหบ้ รรลุความตอ้ งการของลูกคา้ รวมทงั้ พยายามทำให้เหนอื ความคาดหวงั ของลกู ค้า โดยมีหลักการว่าอะไรคอื ส่งิ ท่ีลูกค้าต้องการและคาดหวัง ซ่ึงตอ้ งตอบสนองส่ิงทีล่ ูกคา้ ต้องการใหด้ ีที่สดุ เช่น การประกนั สนิ ค้า การรอ้ งเรียน เปน็ ต้น
210 6.2 ความเปน็ ผูน้ ำ ผนู้ ำจะตอ้ งแสดงความมงุ่ มนั่ ที่จะพฒั นาองคก์ รอยา่ งชัดเจน ตอ้ งมีภาวะผู้นำและ สร้างบรรยากาศในการทำงานท่ีจะเอ้อื อำนวยใหบ้ ุคลากรมีสว่ นร่วมในการดำเนินงาน เพ่ือให้บรรลุผลตาม เปา้ หมาย โดยภาวะผ้นู ำกค็ ือ ความสามารถในการชักนำ โนม้ นา้ วใหค้ นคล้อยตาม มีเป้าหมายที่ชัดเจนและ สามารถนำคนให้ปฏบิ ตั ิกิจกรรมให้ลลุ ว่ งไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ล โดยมีหลกั การเนน้ ใหผ้ นู้ ำ องค์กรมภี าวะผูน้ ำ แสดงการเป็นผูน้ ำในการทำงาน 6.3 การมสี ว่ นร่วมของบุคลากร การท่ีบุคลากรมีส่วนรว่ มในองค์กร จะทำให้ทุกคนไดใ้ ช้ความสามารถ ให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ส่วนรวมมากทสี่ ุด บคุ ลากรต้องเอาใจใสใ่ นงานทีต่ นไดร้ ับมอบหมายไว้ โดยมีหลักการคือ เนน้ ทีพ่ นักงานทุกฝา่ ยจะต้องอาศยั ความรว่ มมอื ทุกระดบั และตอ้ งมกี ารพัฒนาความสามารถอย่างสม่ำเสมอ 6.4 กระบวนการดำเนินงาน หมายถงึ การนำเอาทรัพยากรหรอื ปจั จัยการผลติ ป้อนเข้าสู่ระบบการ ทำงานเพอ่ื ใหบ้ รรลเุ ป้าหมาย โดยมีหลกั การที่เนน้ ให้มองงาน กระบวนการและกิจกรรมตา่ งๆ ทีก่ อ่ ให้เกดิ มูลค่าเพม่ิ แก่สนิ คา้ หรือเปน็ กระบวนการสนับสนนุ จะอยใู่ นรปู ของกระบวนการที่มีท้งั ปัจจัยนำเขา้ (Input) และปจั จัยนำออก (ผลผลิต = Output)
211 6.5 การบริหารท่ีเปน็ ระบบ การจัดการกระบวนการต่างๆ อยา่ งเปน็ ระบบ จะชว่ ยให้องค์กรบรรลุ เปา้ หมายอยา่ งมปี ระสทิ ธิผลและประสิทธิภาพ โดยนำกระบวนการตา่ งๆ มาเรยี งลำดับและสมั พันธ์กนั ซึ่งจะ ก่อใหเ้ กิดเป็นระบบ โดยหลกั การคอื การกำหนดระบบความสัมพันธข์ องปัจจยั และกระบวนการดำเนนิ งาน เพ่อื ใหอ้ งค์กตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ 6.6 การปรับปรุงอยา่ งต่อเนือ่ ง เปน็ กระบวนการท่เี กิดวงจรบรหิ ารงานระบบคณุ ภาพ PDCA ได้แก่ การวางแผนการดำเนินงาน การดำเนินงาน การปรับปรงุ แกไ้ ข และการปรับปรุงอยา่ งต่อเน่อื ง ทำใหเ้ พม่ิ ประสทิ ธิภาพขนึ้ ซึ่งควรถอื เป็นเปา้ หมายถาวรขององคก์ ร
212 6.7 การตัดสินใจบนพื้นฐานของความเป็นจริง การตัดสินใจที่ถูกต้อง และเกิดประสิทธิภาพต่อการ บริหารงานต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริงที่ถูกต้องและการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นระบบต้องมีข้อมลู หรอื ขอ้ เทจ็ จริงสนบั สนนุ ซ่งึ ข้อมลู ไดจ้ ากการเก็บและนำมาวิเคราะหท์ างสถติ ิ เพ่ือใช้เปน็ เครื่องมอื การตัดสนิ ใจบน พน้ื ฐานของความเป็นจริง การตัดสนิ ใจที่ถูกต้อง และเกิดประสทิ ธภิ าพตอ่ การบริหารงานต้องต้ังอยู่บนพ้ืนฐาน ของความจริงที่ถูกตอ้ งและการวิเคราะห์ข้อมูลที่เปน็ ระบบต้องมีข้อมูลหรือขอ้ เท็จจริงสนับสนุน ซึ่งข้อมูลได้ จากการเกบ็ และนำมาวิเคราะหท์ างสถิติ เพ่ือใชเ้ ปน็ เคร่ืองมอื 6.8 ความสมั พนั ธก์ ับผู้ขายเพ่ือประโยชนร์ ่วมกนั การสรา้ งสัมพันธภาพกับผู้สง่ มอบควรอยู่บนพืน้ ฐาน ของความเสมอภาคดา้ นผลประโยชน์ เพราะต่างต้องพึ่งพาซง่ึ กันและกนั ถา้ องคก์ รและผูส้ ่งมอบมีความเขา้ ใจ และมีความสมั พันธอ์ นั ดีต่อกนั ยอ่ มสง่ ผลใหเ้ กดิ ประโยชน์รว่ มกนั และจะชว่ ยเพม่ิ ความสามารถในการสรา้ ง คณุ ค่ารว่ มกนั ของทงั้ สองฝา่ ย โดยมีหลักการท่ีเนน้ การไดร้ บั ผลประโยชนร์ ่วมกันทกุ ฝ่าย 7.ครูอธบิ ายการเพม่ิ ผลผลิตเบ้ืองตน้ โดยการเพ่มิ ผลผลิต (Productivity) หมายถึง กระบวนการใน การปฏิบตั ิงานใหไ้ ดผ้ ลผลิตซ่ึงอาจเป็นสินค้าหรือบริการ หรืองานทีม่ ีคุณภาพตรงตามความตอ้ งการของลูกค้า ดว้ ยวิธกี ารในการลดตน้ ทนุ ลดการสญู เสยี ทุกรปู แบบ การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มคา่ การใชเ้ ทคโนโลยีท่ีเหมาะสม การพัฒนาศักยภาพของคนและการใช้เทคนิควธิ กี ารทำงานตา่ งๆ เขา้ มาชว่ ยประสิทธผิ ล (Efficiency) หมายถึง ความสามารถการบรรลุจดุ ม่งุ หมายโดยใช้ทรัพยากรตำ่ สุด คือ ใช้วิธกี ารใหเ้ กิดการจัดสรรทรัพยากรที่ สิน้ เปลืองนอ้ ยท่สี ุด โดยมีเป้าหมายคือ ประสิทธผิ ล ขนั้ สรุปและการประยุกต์ 8.ครูและผู้เรียนสรุปการบรหิ ารงานคุณภาพเบ้ืองตน้ และการเพ่ิมผลผลิตเบ้ืองตน้ 9.ครสู ังเกตพฤติกรรมกลุม่ และร่วมกันสรุปเนื้อหาอกี ครง้ั จากแผ่นใส 10.ทำแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และประเมนิ ตนเองจากแบบประเมินตนเอง พร้อมทำกิจกรรมการ จดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ การสอนคร้งั ที่ 16
213 ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น 1.ครกู ล่าวถึงการประยุกตใ์ ช้หลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลติ ในการวางแผนและ ดำเนนิ งานควรจะอาศัยเทคนคิ และเครอ่ื งมอื พื้นฐานเพื่อช่วยในการเพิ่มผลผลิตในองคก์ ร 2.ผูเ้ รียนบอกกิจกรรมท่ีมีการประยกุ ตใ์ ชห้ ลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลิต ไดแ้ ก่ 2.1 กิจกรรมเพือ่ ความปลอดภยั หมายถงึ กิจกรรมเสริมสร้างความรแู้ ละทัศนคตเิ ก่ียวกบั ความปลอดภัยในการทำงานใหก้ ับพนักงาน 2.2 กิจกรรม 5 ส หมายถึง กิจกรรมเพ่อื สรา้ งความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยในสถานทที่ ำงาน 2.3 วงจร PDCA คอื วงจรเพ่อื การบริหารและการปรบั ปรงุ งานอย่างตอ่ เน่ือง 2.4 กจิ กรรมข้อเสนอแนะ คอื กิจกรรมที่เปดิ โอกาสใหพ้ นักงานมสี ว่ นร่วมในการเสนอ ความคดิ ใหม่ๆ ซงึ่ สามารถปฏิบตั ไิ ด้ และเป็นประโยชน์ต่อการปรบั ปรงุ งานที่ปฏิบัติอย่แู ล้วให้ดีข้นึ 2.5 กิจกรรมกลมุ่ ยอ่ ย (QCC = Quality Control Cycle) คอื กิจกรรมเพ่อื การแกป้ ญั หา และปรบั ปรงุ งานอย่างเปน็ ระบบ โดยการรวมกลุ่มของผปู้ ฏบิ ัตงิ านประมาณ 3-10 คน ขนั้ สอน 3.ครผู สู้ อนอธบิ ายการประยุกตใ์ ช้หลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลิต 4.ครูอธิบายกิจกรรมเพ่อื ความปลอดภัย (Safety Control Circles=SCC) หมายถึง การร่วมกนั ทำ กจิ กรรมเพ่อื การค้นหาภยั อันตรายและแก้ไขปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตุ และการสร้างเสรมิ ความปลอดภยั ในการ ทำงาน 5.ผู้เรยี นวางแผนและดำเนนิ งานโดยใชก้ จิ กรรม 5 ส 6.ครูและผเู้ รียนวางแผนและดำเนินงานโดยใชเ้ ทคนคิ PDCA คอื วงจรคุณภาพท่ีใช้ในการบรหิ าร การ วางแผน และการปฏิบตั ิเพอื่ ให้เกิดการปรับปรงุ การทำงานอยา่ งตอ่ เน่อื ง ทำให้ทุกคนรจู้ กั การวางแผนกอ่ นที่จะ นำไปปฏิบตั ิ เมือ่ ปฏบิ ัตแิ ล้ว ต้องมกี ารตรวจสอบหาขอ้ บกพรอ่ งเพือ่ นำไปปรับปรุงแก้ไขตอ่ ไป
214 7.ครูและผเู้ รียนวางแผนและดำเนนิ งานกจิ กรรมขอ้ เสนอแนะ (Suggest System) คอื การเปดิ โอกาส ให้พนักงานทกุ ระดบั มาร่วมกนั ในการบรหิ าร โดยนำเสนอความคิดเห็นของตนเองต่อฝ่ายบริหาร ซึ่งมี 2 ลักษณะ คือ 1. แนวคิดหรือวิธกี ารแกไ้ ขปญั หา และ 2. ชี้ให้เห็นปญั หาหรือจุดออ่ นของการทำงาน 8.ครูและผเู้ รยี นวางแผนและดำเนินงานโดยใช้เทคนิค QCC (Quality Control Cycle) หมายถงึ การ ควบคุมคุณภาพด้วยกิจกรรมกลมุ่ โดยการควบคุมคณุ ภาพ คอื การบริหารงานดา้ นวตั ถดุ บิ กระบวนการผลิต และผลผลติ ใหไ้ ด้คุณภาพตามความต้องการของลูกคา้ ผู้เกีย่ วข้องหรอื ข้อกำหนดตามมาตรฐานท่ีตง้ั ไว้ เพ่ือ ป้องกันและลดปญั หาการสญู เสยี วัตถุดิบ ตน้ ทนุ ผลิต เวลาการทำงาน และผลผลิต 9.ครูอธิบาย และผู้เรยี นวางแผนและดำเนนิ งานกจิ กรรมการบริหารงานโดยยึดวตั ถุประสงค์ Management by Objective (MBO) เทคนิคการบริหารงานทใี่ หโ้ อกาสสมาชิกทุกคนมสี ว่ นร่วมในการ กำหนดวัตถปุ ระสงคข์ อง องค์กรและให้ทุกคนปฏิบัติงานโดยยดึ วัตถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายขององคก์ รเปน็ หลัก
215 ข้ันสรปุ และการประยุกต์ 10.ครูสรปุ บทเรียน โดยใช้ VDO และ PowerPoint และอภิปรายซกั ถามข้อสงสัย 11.ครูและผเู้ รยี นสรปุ การประยุกตใ์ ชห้ ลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลิต 12.ทำกิจกรรมต่อเนื่อง ตอบคำถามจากบทความในกจิ กรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ และทำประสบการณ์ การเรียนรู้ ซ่งึ ครผู สู้ อนพิจารณาตามความเหมาะสม 7. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นรายวชิ า “ธุรกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ” ของบรษิ ทั สำนักพิมพ์เอมพนั ธ์ จำกดั 2. หนังสืออ่ืน ๆ ในหอ้ งสมดุ 3. เวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง 4. นติ ยสาร, วารสารดา้ นการบริหาร ฯลฯ 8. หลักฐานการเรยี นรู้ 8.1 หลักฐานความรู้ 1.การสง่ งานของนกั เรียนมคี วามสมบูรณ์ครบถ้วน 2. รูปเล่มรายงานกลุ่มและรายงานเดี่ยวสามารถทำไดด้ ี 8.2 หลักฐานการปฏบิ ัติงาน 1.บันทึกการสอน 2.ใบเช็ครายช่อื 3.แผนจดั การเรียนรู้ 4.การตรวจประเมินผลงาน 9. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 9.1 เคร่อื งมอื ประเมนิ 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2.แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 3.แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครแู ละ นกั เรียนร่วมกนั ประเมิน 4.แบบทดสอบท้ายบท 9.2 เกณฑก์ ารประเมิน
216 1.เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไม่มีช่องปรับปรุง 2.เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ขึน้ ไป) 3.แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมินตามสภาพจริง 10. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถ้าม)ี 1. ผ้เู รยี นตอ้ งมกี ารทบทวนบทเรียนตลอด เพอื่ เสริมสร้างความเข้าใจอยา่ งแท้จรงิ 2. ผู้เรียนหมน่ั ทำใบงาน แบบฝกึ หัด 3. ศึกษาขอ้ มูลเพิ่มเติมจาก Internet 11. เอกสารอ้างองิ ธรุ กิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ, เอมพนั ธ์: 2562
217 ใบความรู้ท่ี 1 หนว่ ยท่ี 8 รหสั วิชา 20200-1001 ชอื่ วิชา ธุรกจิ และการเป็นผูป้ ระกอบการ สอนครั้งท่ี 15-16 ชื่อหน่วย หลักเบอ้ื งตน้ ในการบริหารงาน คุณภาพและเพม่ิ เวลารวม 51 ชั่วโมง ผลผลิตในองค์กร ชอ่ื งาน หลกั เบอ้ื งต้นในการบรหิ ารงาน คุณภาพและเพิม่ ผลผลติ ในองคก์ ร จำนวน 3 ชัว่ โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงคท์ ั่วไป 1.เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นอธิบายการบรหิ ารงานคุณภาพเบื้องต้นได้ 2.เพอื่ ให้นกั เรยี นบอกการเพ่ิมผลผลติ เบือ้ งตน้ ได้ 3.ประยุกต์ใชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนนิ งาน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผูส้ ำเรจ็ การศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทคี่ รูสามารถสงั เกตได้ขณะทำการสอนในเรอ่ื ง 1.1 ความมีมนษุ ยสมั พันธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมีวินยั 1.7 ความรับผดิ ชอบ 1.3 การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนนั 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซ่ือสตั ย์สจุ ริต 1.9 ความรักสามัคคี 1.5 ความเช่อื มั่นในตนเอง 1.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความรเู้ กีย่ วกบั หลักการวางแผนเปา้ หมายชีวิตด้วยวงจรควบคุมคุณภาพ ธรุ กจิ และการเป็น ผปู้ ระกอบการ หลักการจดั การทางการเงิน หลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลิตเบื้องต้น และกฎหมายที่เกีย่ วข้อง 2.จัดทำแผนธรุ กจิ อยา่ งง่าย 3.ประยุกต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยุกต์ใชห้ ลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพมิ่ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนนิ งาน เน้อื หาสาระ 1. การบรหิ ารงานคุณภาพเบื้องต้น โดยคุณสมบัตขิ องคณุ ภาพ สามารถพจิ ารณาไดด้ งั น้ี 1) คุณภาพของผลิตภณั ฑ์ สามารถพจิ ารณาไดด้ ังนี้ a สมรรถนะ a ลักษณะเฉพาะ a ความเชื่อถือได้ a ความสอดคล้องตามท่กี ำหนด a ความทนทาน a ความสามารถในการให้บรกิ าร a ความสวยงาม a การรบั รูค้ ุณภาพ หรือชอื่ เสียงของสินค้า
218 2) คณุ ภาพของงานบริการ สามารถพิจารณาได้ดงั นี้ a ความเช่ือถอื ได้ a การตอบสนองความต้องการ a ความสามารถ a การเขา้ ถึงได้ a ความสภุ าพ a การติดตอ่ สอ่ื สาร a ความนา่ เช่ือถอื a ความปลอดภัย a ความเขา้ ใจลกู ค้า a สามารถรู้สกึ ไดใ้ นบริการ การบริหารคณุ ภาพ (Quality Management) หมายถงึ การบริหารงานท่ีเกยี่ วกบั การจัดการทกุ อยา่ งใน องคก์ รให้มคี ุณภาพตามนโยบายคุณภาพขององค์กร รวมถึงโครงสร้างองค์กร ความรบั ผิดชอบ วิธีการ กระบวนการ กิจกรรม แผนงานและทรัพยากรทจี่ ะนำมาใชใ้ นองคก์ ร เพอ่ื สร้างความม่นั ใจว่าสินค้า หรือบรกิ ารที่ผลติ ออกมาจะมี คณุ ภาพสอดคล้องกบั ขอ้ กำหนดและความตอ้ งการของลกู ค้า และใหม้ ี ผลตอบแทนตามเป้าหมายการลงทุนขององคก์ ร แสดงสญั ลักษณ์คณุ ภาพ เช่น หลักการพื้นฐานของการบรหิ ารงานคุณภาพท่ีสำคัญ ได้แก่ 1. การให้ความสำคัญกับลูกค้า ธรุ กิจทกุ ประเภทจำเป็นต้องทำความเขา้ ใจกับความต้องการของลูกค้า และ ดำเนนิ การให้บรรลคุ วามตอ้ งการของลกู ค้า รวมทั้งพยายามทำให้เหนอื ความคาดหวังของลูกคา้ โดยมีหลกั การวา่ อะไรคอื สงิ่ ทีล่ กู ค้าตอ้ งการและคาดหวัง ซง่ึ ตอ้ งตอบสนองสิ่งที่ลูกคา้ ตอ้ งการให้ดีที่สดุ เชน่ การประกันสนิ คา้ การ รอ้ งเรียน เปน็ ตน้ 2. ความเป็นผ้นู ำ ผนู้ ำจะตอ้ งแสดงความมงุ่ มั่นท่ีจะพัฒนาองคก์ รอยา่ งชดั เจน ต้องมภี าวะผู้นำและสร้างบรรยากาศ ในการทำงานท่ีจะเอ้ืออำนวยใหบ้ ุคลากรมีสว่ นรว่ มในการดำเนนิ งาน เพ่ือให้บรรลุผลตามเป้าหมาย โดยภาวะผู้นำ
219 ก็คอื ความสามารถในการชกั นำ โนม้ นา้ วให้คนคล้อยตาม มเี ป้าหมายที่ชดั เจนและสามารถนำคนให้ปฏิบตั ิกจิ กรรม ใหล้ ุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยมหี ลกั การเนน้ ใหผ้ ้นู ำองค์กรมภี าวะผู้นำ แสดงการเปน็ ผู้นำใน การทำงาน 3. การมสี ว่ นร่วมของบคุ ลากร การท่บี ุคลากรมสี ว่ นร่วมในองคก์ ร จะทำให้ทกุ คนได้ใช้ความสามารถใหเ้ กิด ประโยชนต์ อ่ ส่วนรวมมากทีส่ ุด บุคลากรต้องเอาใจใส่ในงานท่ีตนไดร้ บั มอบหมายไว้ โดยมีหลกั การคอื เน้นท่ี พนกั งานทุกฝา่ ยจะต้องอาศัยความร่วมมือทกุ ระดบั และต้องมกี ารพฒั นาความสามารถอยา่ งสม่ำเสมอ 4. กระบวนการดำเนินงาน หมายถงึ การนำเอาทรัพยากรหรือปัจจัยการผลติ ปอ้ นเข้าส่รู ะบบการทำงานเพอ่ื ให้ บรรลุเป้าหมาย โดยมหี ลกั การท่เี น้นให้มองงาน กระบวนการและกิจกรรมต่างๆ ทก่ี ่อใหเ้ กดิ มูลค่าเพ่ิมแก่สินค้าหรอื เป็นกระบวนการสนับสนุน จะอยูใ่ นรปู ของกระบวนการท่ีมที ั้งปัจจัยนำเขา้ (Input) และปจั จัยนำออก (ผลผลิต = Output) 5. การบริหารที่เปน็ ระบบ การจดั การกระบวนการตา่ งๆ อย่างเปน็ ระบบ จะช่วยให้องค์กรบรรลเุ ป้าหมายอยา่ งมี ประสิทธิผลและประสทิ ธภิ าพ โดยนำกระบวนการตา่ งๆ มาเรียงลำดบั และสัมพันธก์ ันซ่งึ จะก่อให้เกดิ เป็นระบบ โดย หลักการคือการกำหนดระบบความสัมพันธ์ของปจั จยั และกระบวนการดำเนนิ งานเพ่อื ใหอ้ งค์กตอบสนองความ ต้องการของลูกค้าไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
220 6. การปรบั ปรุงอย่างต่อเนอื่ ง เปน็ กระบวนการทเี่ กดิ วงจรบริหารงานระบบคณุ ภาพ PDCA ไดแ้ ก่ การวางแผนการ ดำเนนิ งาน การดำเนนิ งาน การปรับปรงุ แก้ไข และการปรับปรงุ อย่างตอ่ เน่อื ง ทำใหเ้ พิม่ ประสิทธภิ าพขนึ้ ซงึ่ ควรถอื เปน็ เปา้ หมายถาวรขององคก์ ร 7. การตดั สนิ ใจบนพ้นื ฐานของความเป็นจริง การตัดสินใจท่ถี ูกต้อง และเกดิ ประสิทธิภาพต่อการบริหารงานต้อง ต้งั อยบู่ นพ้นื ฐานของความจริงทถ่ี ูกตอ้ งและการวเิ คราะหข์ ้อมลู ที่เปน็ ระบบตอ้ งมขี ้อมูลหรือขอ้ เท็จจรงิ สนับสนนุ ซง่ึ ขอ้ มูลได้จากการเกบ็ และนำมาวเิ คราะห์ทางสถิติ เพอ่ื ใช้เป็นเครอ่ื งมอื การตัดสนิ ใจบนพน้ื ฐานของความเป็นจรงิ การตดั สินใจทถ่ี ูกต้อง และเกิดประสิทธิภาพต่อการบริหารงานตอ้ งต้ังอยบู่ นพ้นื ฐานของความจรงิ ท่ีถูกตอ้ งและการ
221 วิเคราะห์ขอ้ มลู ท่ีเปน็ ระบบตอ้ งมีข้อมูลหรอื ขอ้ เท็จจริงสนับสนุน ซงึ่ ข้อมลู ได้จากการเก็บและนำมาวิเคราะห์ทาง สถติ ิ เพ่อื ใช้เปน็ เครอื่ งมือ 8. ความสัมพนั ธ์กับผขู้ ายเพอื่ ประโยชน์ร่วมกนั การสรา้ งสมั พนั ธภาพกับผสู้ ่งมอบควรอยบู่ นพนื้ ฐานของความเสมอ ภาคดา้ นผลประโยชน์ เพราะตา่ งตอ้ งพง่ึ พาซ่งึ กนั และกัน ถา้ องค์กรและผสู้ ่งมอบมคี วามเขา้ ใจ และมีความสมั พนั ธ์ อันดตี อ่ กนั ยอ่ มส่งผลให้เกิดประโยชน์รว่ มกนั และจะชว่ ยเพ่มิ ความสามารถในการสร้างคุณค่ารว่ มกันของทงั้ สอง ฝ่าย โดยมหี ลกั การท่ีเนน้ การได้รบั ผลประโยชนร์ ่วมกันทุกฝา่ ย การเพิ่มผลผลิตเบอ้ื งตน้ โดยการเพม่ิ ผลผลิต (Productivity) หมายถงึ กระบวนการในการปฏบิ ัติงานให้ ได้ผลผลติ ซงึ่ อาจเป็นสินค้าหรือบริการ หรืองานท่มี ีคุณภาพตรงตามความตอ้ งการของลกู คา้ ด้วยวิธกี ารในการลด ตน้ ทุนลดการสญู เสียทกุ รปู แบบ การใช้ทรัพยากรอย่างคมุ้ ค่า การใชเ้ ทคโนโลยที ี่เหมาะสม การพัฒนาศกั ยภาพของ คนและการใชเ้ ทคนคิ วิธีการทำงานตา่ งๆ เข้ามาช่วยประสทิ ธิผล (Efficiency) หมายถงึ ความสามารถการบรรลุ จดุ มุ่งหมายโดยใช้ทรพั ยากรต่ำสุด คอื ใช้วิธกี ารใหเ้ กดิ การจัดสรรทรพั ยากรท่สี ิน้ เปลืองนอ้ ยทีส่ ุด โดยมีเปา้ หมาย คอื ประสทิ ธิผล การประยกุ ต์ใช้หลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิตในการวางแผนและดำเนินงาน ควรจะอาศัยเทคนคิ และเคร่อื งมือพน้ื ฐานเพื่อชว่ ยในการเพิ่มผลผลติ ในองค์กร กิจกรรมทม่ี กี ารประยุกต์ใชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิต ได้แก่ 2.1 กิจกรรมเพือ่ ความปลอดภัย หมายถึง กิจกรรมเสรมิ สรา้ งความรูแ้ ละทัศนคติเก่ียวกบั ความ ปลอดภยั ในการทำงานให้กับพนักงาน 2.2 กิจกรรม 5 ส หมายถึง กิจกรรมเพอื่ สร้างความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยในสถานท่ีทำงาน 2.3 วงจร PDCA คอื วงจรเพ่ือการบริหารและการปรบั ปรุงงานอยา่ งตอ่ เน่ือง 2.4 กิจกรรมข้อเสนอแนะ คอื กิจกรรมที่เปดิ โอกาสให้พนกั งานมีส่วนรว่ มในการเสนอความคดิ ใหมๆ่ ซ่งึ สามารถปฏบิ ัติได้ และเปน็ ประโยชน์ตอ่ การปรับปรุงงานท่ปี ฏบิ ัตอิ ยู่แลว้ ให้ดีข้ึน 2.5 กจิ กรรมกลุม่ ยอ่ ย (QCC = Quality Control Cycle) คือ กิจกรรมเพือ่ การแก้ปญั หาและ ปรับปรุงงานอย่างเป็นระบบ โดยการรวมกลุ่มของผปู้ ฏบิ ตั งิ านประมาณ 3-10 คน การประยุกตใ์ ช้หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลิต กจิ กรรมเพ่อื ความปลอดภัย (Safety Control Circles=SCC) หมายถงึ การรว่ มกนั ทำกิจกรรมเพื่อการค้นหาภัย อันตรายและแกไ้ ขปอ้ งกันอุบตั ิเหตุ และการสร้างเสรมิ ความปลอดภัยในการทำงาน
222 วางแผนและดำเนนิ งานโดยใชก้ ิจกรรม 5 ส วางแผนและดำเนินงานโดยใช้เทคนคิ PDCA คือ วงจรคุณภาพทใี่ ชใ้ นการบริหาร การวางแผน และการปฏบิ ัติ เพ่ือใหเ้ กิดการปรบั ปรงุ การทำงานอย่างต่อเนือ่ ง ทำให้ทุกคนรู้จกั การวางแผนก่อนท่ีจะนำไปปฏบิ ตั ิ เมอื่ ปฏบิ ตั แิ ลว้ ต้องมีการตรวจสอบหาข้อบกพรอ่ งเพื่อนำไปปรบั ปรงุ แกไ้ ขต่อไป วางแผนและดำเนนิ งานกจิ กรรมขอ้ เสนอแนะ (Suggest System) คือ การเปดิ โอกาสใหพ้ นักงานทุกระดบั มารว่ ม กนั ในการบรหิ าร โดยนำเสนอความคิดเหน็ ของตนเองตอ่ ฝ่ายบริหาร ซึ่งมี 2 ลกั ษณะ คือ 1. แนวคิดหรอื วธิ ีการ แก้ไขปญั หา และ 2. ชี้ใหเ้ หน็ ปัญหาหรอื จุดอ่อนของการทำงาน วางแผนและดำเนินงานโดยใช้เทคนิค QCC (Quality Control Cycle) หมายถงึ การควบคุมคณุ ภาพด้วยกจิ กรรม กลมุ่ โดยการควบคุมคุณภาพ คือ การบริหารงานดา้ นวตั ถุดบิ กระบวนการผลิตและผลผลิต ใหไ้ ด้คุณภาพตาม ความตอ้ งการของลูกคา้ ผู้เกยี่ วข้องหรือข้อกำหนดตามมาตรฐานทีต่ ัง้ ไว้ เพ่ือปอ้ งกนั และลดปญั หาการสญู เสีย วตั ถุดบิ ต้นทนุ ผลิต เวลาการทำงาน และผลผลติ วางแผนและดำเนนิ งานกจิ กรรมการบริหารงานโดยยึดวัตถุประสงค์ Management by Objective (MBO) เทคนิค การบรหิ ารงานที่ให้โอกาสสมาชิกทุกคนมสี ่วนรว่ มในการกำหนดวตั ถปุ ระสงคข์ อง องคก์ รและให้ทุกคนปฏบิ ัตงิ านโดยยดึ วัตถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายขององค์กรเปน็ หลัก
223 เอกสารอา้ งอิง ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ, เอมพนั ธ์: 2560
224 ใบงานท่ี 1 หนว่ ยที่ 8 รหัสวชิ า 20200-1001 ชื่อวชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ สอนคร้งั ท่ี 15-16 ช่อื หน่วย หลักเบือ้ งตน้ ในการบริหารงาน คุณภาพและเพม่ิ เวลารวม 51 ชัว่ โมง ผลผลติ ในองค์กร ชือ่ งาน หลักเบ้อื งตน้ ในการบริหารงาน คณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ ในองคก์ ร จำนวน 3 ช่วั โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงคท์ ่ัวไป 1.เพื่อใหน้ ักเรียนอธบิ ายการบรหิ ารงานคณุ ภาพเบอ้ื งต้นได้ 2.เพ่ือให้นักเรียนบอกการเพิม่ ผลผลิตเบ้อื งตน้ ได้ 3.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลิตในการวางแผนและดำเนินงาน จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่คี รูสามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเรือ่ ง 1.1 ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมวี ินยั 1.7 ความรบั ผิดชอบ 1.3 การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนัน 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซื่อสตั ย์สุจริต 1.9 ความรกั สามัคคี 1.5 ความเชื่อมนั่ ในตนเอง 1.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายหนว่ ย 1.แสดงความร้เู ก่ียวกบั หลกั การวางแผนเป้าหมายชวี ิตดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กจิ และการเป็น ผ้ปู ระกอบการ หลกั การจดั การทางการเงนิ หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลติ เบอื้ งต้น และกฎหมายทีเ่ กี่ยวข้อง 2.จดั ทำแผนธุรกิจอย่างง่าย 3.ประยกุ ตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยกุ ต์ใชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนินงาน เครื่องมือ วสั ดุ – อุปกรณ์ 1.หนงั สอื แบบเรยี น 2. ส่ือการเรยี นการสอน power point 3. ค้นคว้าขอ้ มลู จากส่อื ออนไลน์ ลำดับข้นั ตอนการปฏิบตั ิงาน
225 ใบงานท่ี 1 บทท่ี 8 เรื่อง การให้บรกิ ารอยา่ งมีคุณภาพ ชอ่ื -สกุล............................................................................................เลขท.่ี ........ชัน้ .......................... คำช้แี จง ใหผ้ ้เู รียนอา่ นกรณีศกึ ษาเรื่องนโยบายของกิจการไมช่ ัดเจน การทำหนา้ ท่ีให้บรกิ ารลูกค้าตามนโยบายของบรษิ ัทตามเปา้ หมายทก่ี ำหนดไว้ ถอื เป็นแรงกดดันให้กบั พนกั งานที่ใหบ้ ริการลูกคา้ มาก เพราะอาจจะขดั แยง้ กับการให้บริการ ถ้าใหบ้ ริการมากจนเกินไปก็จะทำให้ตน้ ทุน สงู ขน้ึ แตถ่ า้ ให้บรกิ ารน้อยจนเกินไปกจ็ ะทำให้ลูกค้าไมพ่ อใจ เช่น นโยบายของบริษัทมกี ารเปลยี่ นของภายใน 7 วัน ถา้ ลูกค้าจะเปลี่ยนเปน็ 8 หรอื 9 วัน จะได้หรอื ไม่ ลูกค้าตอ้ งมใี บเสร็จมาด้วยเท่าน้ันจึงจะเปลย่ี นได้ ถ้าลกู ค้าจะสง่ ใบเสรจ็ ให้ภายหลังไดห้ รอื ไม่ ลกู ค้าไม่สะดวกรับของตอนเยน็ ขอเปน็ 3 ทุ่ม พนกั งานควรจะรอส่งหรอื ไม่ ลกู ค้าคิดว่าของมตี ำหนแิ ต่ไมร่ เู้ กิดตอนไหน พนักงานจะตัดสินใจอยา่ งไรดี คุณสรอ้ ยฟา้ ทำงานเป็นพนักงานให้บริการทด่ี ขี องบรษิ ทั แหง่ หน่งึ และลูกคา้ กช็ อบมาก เพราะเหน็ ความสำคัญในความตอ้ งการของลกู คา้ เปน็ ท่ีสุด แตก่ ไ็ ด้รบั คำเตอื นจากหัวหนา้ งานบอ่ ยคร้งั วา่ อยา่ ใจดกี ับลกู ค้า จนเกนิ ไป จึงทำใหน้ อ้ ยใจอยเู่ สมอ ผ้เู รียนคิดวา่ คุณสรอ้ ยฟ้าควรจะทำอยา่ งไรเพอื่ ให้เกิดความเหมาะสมและ ความพอดี แนวทางท่ีคุณสร้อยฟ้าควรจะปฏบิ ตั ติ อ่ ไป ได้แก่ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ภาพประกอบ - ขอ้ ควรระวัง - ขอ้ เสนอแนะ (ถ้าม)ี - การประเมนิ ผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมินใหช้ ัดเจน) - เกณฑก์ ารวัดผล
226 1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรงุ 2. แบบประเมนิ ผลการเรียนรูก้ อ่ นเรียนไม่มเี กณฑ์ผา่ น เกบ็ คะแนนไว้เปรียบเทยี บกับคะแนนท่ไี ดจ้ ากการ ทดสอบหลังเรยี น 3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยูก่ บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ เอกสารอา้ งอิง ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ, เอมพนั ธ์: 2560
227 ใบมอบหมายงานท่ี 1 หนว่ ยที่ 8 รหัสวิชา 20200-1001 ช่ือวิชา ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ สอนคร้งั ท่ี 15-16 ชือ่ หน่วย หลกั เบอ้ื งตน้ ในการบริหารงาน คณุ ภาพและเพิม่ ผลผลติ ในองคก์ ร ช่ืองาน หลกั เบอ้ื งต้นในการบรหิ ารงาน คุณภาพและเพมิ่ ผลผลิตในองคก์ ร จุดประสงค์ท่ัวไป 1.เพ่ือให้นักเรียนอธบิ ายการบริหารงานคณุ ภาพเบอ้ื งตน้ ได้ 2.เพือ่ ใหน้ ักเรียนบอกการเพิม่ ผลผลติ เบ้อื งตน้ ได้ 3.ประยุกต์ใช้หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ ในการวางแผนและดำเนินงาน จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องผสู้ ำเร็จการศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่ีครูสามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเร่ือง 1.1 ความมีมนุษยสมั พันธ์ 1.6 การประหยัด 1.2 ความมวี ินัย 1.7 ความรบั ผดิ ชอบ 1.3 การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนัน 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต 1.9 ความรกั สามัคคี 1.5 ความเชื่อมน่ั ในตนเอง 1.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลกั การวางแผนเปา้ หมายชวี ิตด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธุรกจิ และการเป็น ผ้ปู ระกอบการ หลักการจัดการทางการเงิน หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพมิ่ ผลผลติ เบ้อื งต้น และกฎหมายทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง 2.จดั ทำแผนธรุ กิจอย่างงา่ ย 3.ประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยกุ ต์ใช้หลักการบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลิตในการวางแผนและดำเนนิ งาน แนวทางการปฏบิ ตั ิงาน แบ่งกล่มุ เพอ่ื ค้นควา้ หาข้อมลู และนำเสนอหนา้ ชนั้ เรียน โดยแบง่ นักเรียนออกเปน็ กลุ่มๆ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั แหล่งค้นคว้า 1. ห้องสมุด 2. สอ่ื ออนไลน์/Internet 3. นิตยสาร/วารสาร
228 คำถาม/ปัญหา เมอ่ื นักเรียนคน้ คว้าแล้วมปี ญั หาหรอื ไมเ่ สามารถหาเนือ้ หาท่ีจะศึกษาหาข้อมูลไดจ้ ะทำอย่างไร คำตอบ สามารถปรกึ ษาจาก ครูผู้สอน หรือครทู ี่มีความรใู้ นรายวิชา กำหนดเวลาส่งงาน นำเสนอหนา้ ชนั้ เรียนในคาบเรยี นถดั ไป เอกสารอ้างอิง สอ่ื ออนไลน์/Internet หนงั สือตำราเรยี น วิชาธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ
229 แบบประเมินผลงาน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 8 ช่อื กลมุ่ .........................................................................ช้นั ................................................................ รายชื่อสมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 บคุ ลกิ การแตง่ กาย 2 มารยาทในการพูด 3 การใช้ภาษา 4 วธิ กี ารนำเสนอ 5 เนื้อหาทนี่ ำเสนอ รวม ผู้ประเมนิ .............................................. วนั ท่.ี .............เดือน...............................พ.ศ...................
230 เกณฑ์การประเมิน บคุ ลกิ การแต่งกาย : มคี วามเชอ่ื มนั่ ในตนเอง แต่งกายสะอาด ถูกระเบยี บ เสอ้ื ไมห่ ลดุ ล่ยุ ลอยชาย มารยาทในการพูด : มองหน้าและสบตาผูฟ้ ัง ไม่เหนบ็ แนม เสยี ดสผี ูอ้ ่นื การใชภ้ าษา : ชดั เจน ตามหลกั ภาษา ตวั ร ล คาควบกลา้ ถอ้ ยคาขอ้ ความสภุ าพ วธิ กี ารนาเสนอ : น่าสนใจหลากหลาย เชน่ ใชแ้ ผ่นใส รปู ภาพ ตงั้ คาถาม เลน่ เกม ไมเ่ ยน่ิ เยอ้ เน้อื หาทน่ี าเสนอ : มสี าระสาคญั ตรงกบั หวั ขอ้ เร่อื ง ใชเ้ วลาตามทกี่ าหนด 1..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 3..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 4..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 5..................................................................................................................... 3 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 2 คะแนน = …………………………………………………………………………………………………………… 1 คะแนน = ……………………………………………………………………………………………………………
231 แบบประเมนิ ผลงาน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 8 ชอ่ื กลมุ่ .........................................................................ชนั้ ปวช......................................................... รายชือ่ สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 เนอ้ื หาถกู ตอ้ งครบถ้วนสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมือกนั ทำงาน 3 ความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทนี่ ่าสนใจ รวม ผ้ปู ระเมนิ .............................................. วันท.ี่ .............เดอื น...............................พ.ศ...................
232 เกณฑ์การประเมิน 1.เน้ือหาถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคญั ครบถ้วน สอื่ ความหมายชดั เจนและมีรปู ภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคญั ครบถว้ น สื่อความหมายและมรี ูปภาพไมต่ รงเน้อื หา 1 คะแนน = มเี นือ้ หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 คะแนน = มคี วามสามัคครี ่วมมอื กนั ทำงานทุกคน 2 คะแนน = รว่ มมือกันทำงานเป็นบางคน 1 คะแนน =ไม่คอ่ ยรว่ มมอื กันทำงาน 3. ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยกุ ต์ใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ในท้องถนิ่ และประหยัด 2 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยุกตใ์ ช้วัสดุอปุ กรณใ์ นท้องถิน่ แตไ่ มป่ ระหยัด 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไม่น่าสนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเก่ียวกับองคป์ ระกอบ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลมุ แต่ชดั เจน 1 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบ ไม่ครอบคลมุ และไมช่ ัดเจน 5. การนำเสนอนา่ สนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชดั เจน 2 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจปานกลาง ชดั เจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไม่ค่อยชดั เจน
233 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน หน่วยการเรียนรู้ที่............................................................................................................................. ชื่อกล่มุ .........................................................................ชน้ั ................................................................ รายชื่อสมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 เนอ้ื หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์ 2 ความสามัคคี รว่ มมอื กันทำงาน 3 ความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ 4 สาระประโยชน์ 5 การนำเสนอทนี่ ่าสนใจ รวม ผูป้ ระเมิน.............................................. วันท.ี่ .............เดอื น...............................พ.ศ...................
234 เกณฑก์ ารประเมิน 1.เน้ือหาถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ 3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคญั ครบถ้วน ส่อื ความหมายชดั เจนและมีรปู ภาพประกอบ 2 คะแนน = มีเน้อื หาสาระสำคญั ครบถว้ น สอื่ ความหมายและมรี ูปภาพไมต่ รงเน้อื หา 1 คะแนน = มเี นือ้ หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถว้ น 2. ความสามัคคี รว่ มมือกันทำงาน 3 คะแนน = มคี วามสามัคครี ่วมมอื กนั ทำงานทุกคน 2 คะแนน = รว่ มมือกันทำงานเป็นบางคน 1 คะแนน =ไม่คอ่ ยรว่ มมอื กันทำงาน 3. ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ 3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ในท้องถนิ่ และประหยัด 2 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยุกตใ์ ช้วัสดุอปุ กรณใ์ นทอ้ งถิน่ แตไ่ มป่ ระหยัด 1 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ ่าสนใจ 4. สาระประโยชน์ 3 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเก่ียวกับองค์ประกอบ ครอบคลุมและชัดเจน 2 คะแนน = ให้ความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั องค์ประกอบ ไมค่ รอบคลมุ แต่ชดั เจน 1 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเกย่ี วกบั องค์ประกอบ ไม่ครอบคลมุ และไมช่ ัดเจน 5. การนำเสนอนา่ สนใจ 3 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจ ครอบคลุมและชดั เจน 2 คะแนน = การนำเสนอน่าสนใจปานกลาง ชดั เจน 1 คะแนน = การนำเสนอนา่ สนใจน้อยไมค่ ่อยชัดเจน
235 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 8 ช่อื กลมุ่ .........................................................................ชน้ั ................................................................ รายชือ่ สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ข้อท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 การเตรียมความพรอ้ ม 2 เนือ้ หาสาระ 3 รปู แบบการนำเสนอ 4 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุม่ 5 การรกั ษาเวลา 6 ความสนใจของผฟู้ งั รวม ผูป้ ระเมนิ .............................................. วันท.่ี .............เดือน...............................พ.ศ...................
236 เกณฑก์ ารประเมิน 1. การเตรียมความพรอ้ ม 3 คะแนน = มีการจดั เตรียมสถานที่ สื่อ/อปุ กรณ์ไว้อยา่ งพร้อมเพรยี ง 2 คะแนน = มีสือ่ /อปุ กรณพ์ ร้อม ขาดการจัดเตรียมสถานท่ี 1 คะแนน = สอื่ /อุปกรณไ์ ม่เพียงพอ ขาดการจดั เตรียมสถานที่ 2. เนอื้ หาสาระ 3 คะแนน = สาระสำคัญครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ไมต่ รงตามจุดประสงค์ 3. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอที่เหมาะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มีสือ่ และ ใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ นำวสั ดุในท้องถิ่นมาประยกุ ต์ใช้ อยา่ งคุ้มค่าและประหยดั 2 คะแนน = ใชเ้ ทคนคิ แปลกใหม่ มีสื่อและใช้เทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ ขาดการประยุกตใ์ ช้วสั ดุในทอ้ งถ่ิน 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม ไม่น่าสนใจ 4. การมสี ว่ นร่วมของสมาชิก 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมบี ทบาทและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญม่ ีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมบี ทบาทและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 5. การรักษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมไดต้ ามเวลาทก่ี ำหนด 2 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมเรว็ กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กว่าเวลาทกี่ ำหนด 6. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ รอ้ ยละ 80 สนใจ และให้ความรว่ มมือ 2 คะแนน = ผ้ฟู งั ร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วามร่วมมือ 1 คะแนน = ผฟู้ ังน้อยกว่า รอ้ ยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื
237 แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 9 จำนวน 3 ช่วั โมง สปั ดาห์ที่ 17 ชื่อวิชา ธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ สอนครั้งท่ี 17 ช่ือหน่วย/เรือ่ ง การประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการเปน็ ผูป้ ระกอบการ จำนวน 3 ช.ม. 1. แนวคดิ ผู้ประกอบการท่ีพอเพียงจะคำนึงถงึ ความม่ันคงและยั่งยนื ของการดำเนนิ ธรุ กจิ มากกวา่ การแสวงหา ผลประโยชน์ ดงั นัน้ จึงตอ้ งมีความรอบรูใ้ นธรุ กิจทต่ี นดำเนนิ งานอยแู่ ละมีการศกึ ษาขอ้ มูลข่าวสารตลอดเวลา เพอ่ื ให้สามารถทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงตา่ งๆ มีความรอบคอบในการตดั สนิ ใจแต่ละครัง้ เพอ่ื ป้องกันข้อบกพร่อง เสยี หายไม่ให้เกิดข้ึน และมีความรอบคอบในการตัดสินใจแตล่ ะครั้งเพ่อื ปอ้ งกนั ข้อบกพร่องไมใ่ ห้เกิดขนึ้ และ ตอ้ งมีคณุ ธรรม คือ มีความซื่อสัตยส์ ุจรติ ในการประกอบอาชีพ ไมผ่ ลิตหรอื ซ้ือขายสินคา้ ท่กี ่อโทษหรอื สร้าง ปญั หาใหก้ ับคนในสงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม มีความขยันหมน่ั เพียร อดทนในการพัฒนาธุรกจิ ไม่ใหบ้ กพรอ่ งและ ก้าวหน้าไปอยา่ งตอ่ เนือ่ ง โดยมีการพฒั นาประสิทธภิ าพ การผลิตปรับปรุงสินค้าและคุณภาพให้ทันกับความ ตอ้ งการของตลาดและการเปลย่ี นแปลงในเทคโนโลยี ขณะเดยี วกันต้องมีความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คมและ สิ่งแวดลอ้ มทกุ ข้นั ตอนของการดำเนนิ ธรุ กิจ 2. ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง 1.ประยุกตใ์ ช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดำเนนิ ธุรกิจได้ 2.เสนอแนะแนวทางการนำปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใชใ้ นการดำเนนิ ชีวิตได้ 3.แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั การทำบัญชีครัวเรอื นได้ 4.แสดงความรเู้ ก่ียวกบั ภมู ิปัญญาท้องถิ่นไทยได้ 3. จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม มีการพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผ้สู ำเรจ็ การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทค่ี รูสามารถสงั เกตได้ขณะทำการสอนในเรอ่ื ง 1. ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 2. ความมวี นิ ยั 3. ความรบั ผดิ ชอบ 4. ความซอ่ื สัตย์สจุ ริต
238 5. ความเชือ่ มั่นในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝร่ ู้ 8. การละเว้นสิง่ เสพติดและการพนนั 9.ความรักสามัคคี 10. ความกตัญญกู ตเวที 4. สมรรถนะรายวชิ า 1.แสดงความร้เู กีย่ วกับหลกั การวางแผนเป้าหมายชีวติ ด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กจิ และการเป็น ผู้ประกอบการ หลกั การจดั การทางการเงนิ หลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลติ เบ้ืองต้น และกฎหมายทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 2.จัดทำแผนธุรกจิ อยา่ งงา่ ย 3.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยุกต์ใช้หลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลติ ในการวางแผนและดำเนินงาน 5. สาระการเรยี นรู้ 1.การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินธุรกจิ 2.แนวทางการนำปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวติ 3.การทำบัญชีครัวเรือน 4.ภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ ไทย 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรียน 1.ครูกล่าวถึงเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่ชีถ้ ึงการดำรงและปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดบั ตั้งแต่ระดับบุคคล ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและการบริหารประเทศให้ ดำเนินไปบนทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งเป็น เศรษฐกิจของทกุ คนและทุกอาชีพ ซง่ึ การนำไปปฏบิ ตั กิ ็ตอ้ งเหมาะสมกับอาชีพของตนเองด้วย 2.ครูแนะนำให้ผู้เรียนที่เป็นผู้ประกอบการจึงควรจะดำเนินธุรกิจแบบเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็น แนวความคิดท่ีมากกว่าการมุ่งเน้นธุรกิจและสงั คม เพราะเปน็ แนวความคิดที่คำนึงถงึ ความมีสำนึกในคุณธรรม
239 ความซื่อสัตย์สุจริตความรอบคอบ ให้เกิดความสมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดลอ้ มและวฒั นธรรมจากโลกภายนอก ข้นั สอน 3.ครูอธิบายการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินธุรกิจสามารถพิจารณาได้ ดังต่อไปนี้ 1) พิจารณาจากความสามารถในการพ่งึ ตนเอง ทเ่ี น้นความสมดุลทง้ั 3 คณุ ลกั ษณะ คอื พอประมาณ มี เหตุมีผลและมีภูมิคุ้มกัน มาประกอบการตัดสินใจเรื่องต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบ ระมัดระวัง พิจารณาถึงความพอดี พอเหมาะ พอควรและพรอ้ มรบั การเปล่ยี นแปลงทีค่ รอบคลมุ ทง้ั 5 ประการ คอื 1.1 ด้านจิตใจ มีจิตใจเข้มแข็ง ฝึกฝนตนเองได้ มีจิตสำนึกที่ดี เอื้ออาทร ประนีประนอมและนึกถึง ประโยชน์สว่ นรวมเปน็ หลกั 1.2 ด้านสังคม มีความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รู้รักสามัคคี สร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวและชุมชน รจู้ กั ผนึกกำลัง มกี ระบวนการเรียนรูท้ เ่ี กิดจากรากฐานท่ีมนั่ คงแขง็ แรง 1.3 ด้านเศรษฐกิจ ดำรงชีวิตอยู่อย่างพอดี พอมี พอกิน สมควรตามอัตภาพ และฐานะของตน ประกอบอาชพี สุจรติ (สัมมาอาชวี ะ) ดว้ ยความขยนั หมั่นเพียร อดทนใช้ชีวติ เรียบง่าย โดยไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น มีรายได้สมดุลกับรายจ่าย รู้จักการใช้จ่ายของตนเองและครอบครัวอย่างมีเหตุผลเท่าที่จำเป็น ประหยัด รจู้ ักการเก็บออมเงินและแบง่ ปนั ผอู้ ื่น 1.4 ด้านเทคโนโลยี รู้จักใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการและภูมินิเวศ พัฒนา เทคโนโลยีจากภมู ิปัญญาท้องถน่ิ มาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและสงั คม 1.5 ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบสามารถ เลือกใช้ทรพั ยากรท่มี อี ยใู่ ห้เกดิ ความย่งั ยืนสงู สุด 2) พิจารณาความรู้คู่คุณธรรม มีการศึกษาเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เนื่อง (ทั้งทฤษฎแี ละการ ปฏิบัติจริง) ในวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดำรงชีวิต โดยใช้สติปัญญาในการตัดสินใจต่างๆ อย่างรอบรู้ รอบคอบ และมีเหตุผลที่จะนำความรู้ต่างๆ มาปรับใช้อย่างมีขั้นตอนและระมัดระวัง ในการปฏิบัติ มีความ ตระหนักในคณุ ธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความเพียรความอดทน และใช้สติปัญญาอย่างชาญฉลาดในการ ดำเนินชวี ติ บนทางสายกลาง 4.ครูอธิบายการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดำเนินงาน พอประมาณ มเี หตผุ ล สรา้ งภมู คิ ุ้มกันและมีบทบาทในการช่วยเหลอื กนั ภายในประเทศ การบริหารจัดการด้วย ความพอเพยี งน้นั จะต้องเริ่มท่เี ปา้ หมาย ได้แก่
240 1) ความสามารถในการบรหิ ารงาน โดยต้องสอดคล้องกบั โลกภายนอกโดยไมข่ ยายตัวเกินกวา่ กำลงั ที่มี อยู่ หรอื ตอ้ งมีประสิทธผิ ลในทางการตลาดหรอื การตามทนั กับการเปลยี่ นแปลงทีเ่ กดิ ข้นึ ซง่ึ ต้องมีสติและความรู้ 2) ต้องแสวงหาความรู้กับสรา้ งความเขม้ แขง็ หรือเพม่ิ ความขยันขนั แข็งในการทำงานโดยมีการติดตาม เทคนิควิทยาการ แลว้ รู้จกั เลือกใช้เทคโนโลยีและเอามาประยกุ ต์ใช้เพอ่ื ประโยชน์ในการผลิตและการทำงานให้ มีประสิทธภิ าพดีขน้ึ หรอื ก็คอื การเพ่ิมผลผลติ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 3) การมเี ปา้ หมายด้านคุณภาพชีวิต คอื การรู้จกั ใช้จ่ายบรโิ ภคตามความจำเปน็ และอย่างมีเหตุผลเพื่อ ชีวิตที่อยู่ดมี ีสุข ใช้ชีวติ อย่างมีคุณค่า มีการเรียนรู้ โดยมีความสุขสมดุลทั้งกายและใจพร้อมกับมกี ารออมเพอ่ื ความปลอดภยั ดว้ ย 5.ครูและผ้เู รยี นบอกแนวทางการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ในการดำเนินชวี ิต โดยการดำเนิน ชีวิตของแต่ละบุคคลยอ่ มต้องอาศัยหลกั และแนวคิดเพื่อใหก้ ารดำเนินชวี ิตเป็นไปอย่างราบร่นื ซ่ึงอาจจะได้รับ การปลกู ฝงั มาจากสถาบนั ครอบครวั (ปู่ ย่า ตา ยาย พอ่ แม)่ สถาบันการศึกษา สถาบันทางสังคม เปน็ ต้น 6.ครูอธิบายและแสดงการทำบัญชีครัวเรือน โดยการทำบัญชีครัวเรือน คือ การจดบันทึกข้อมูล เกี่ยวกบั เงือ่ นไขปัจจัยในการดำรงชีวิตของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ ขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากการบันทึกจะ เป็นตัวบ่งช้อี ดตี ปัจจุบัน และอนาคตของชีวิต สามารถนำข้อมลู อดีตมาบอกปัจจุบันและอนาคตได้ ข้อมูลท่ีได้ ทบ่ี นั ทกึ ไว้ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การวางแผนชีวิตและกจิ กรรมต่างๆ ในชีวิต ครอบครัว ชุมชน และประเทศได้ 7.ครูอธิบายรูปแบบการบันทึกการทำงานหรือทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กบั สภาพความเป็นอยู่ของแต่ละบุคคล ทัง้ นไ้ี มไ่ ด้กำหนดรูปแบบท่ีตายตวั ใหย้ ืดหยุ่นไดต้ ามสภาพความเป็นอยู่ท่ี เหมาะสมและการใช้งานนน้ั ซ่ึงอาจบันทึกในรปู แบบและหัวข้อต่อไปน้ี 1) การบันทึกเก่ยี วกับการใช้เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ เพื่อจะไดท้ ราบว่าในการทำงานจำเป็นต้องใช้ เครอ่ื งมืออะไรบา้ ง จำนวนเทา่ ใด ถา้ จำเปน็ จะตอ้ งซื้อจะเสยี ค่าใชจ้ ่ายมากนอ้ ยเพยี งใด 2) การบันทกึ การปฏบิ ตั งิ าน เปน็ การบันทกึ ข้อมูลในการปฏิบัตงิ าน เพอ่ื จะได้ทราบว่าการปฏิบัติงาน ในแต่ละวันหรือแต่ละสัปดาห์มีงานอะไรบ้าง มีปัญหาในการดำเนินงานอย่างไร และได้แก้ปัญหานั้นอย่างไร ควรมกี ารลงช่ือผปู้ ฏิบตั ิงานด้วย
241 3) การบนั ทกึ บญั ชีรายรบั -รายจา่ ย มีความสำคญั มาก เนื่องจากเปน็ แหล่งข้อมลู ที่ต้องการใช้ ในการกำหนดรายได้-รายจา่ ย การจัดทำแผนงบประมาณและอ่ืนๆ ท่ีเก่ียวข้อง 8.ครูอธิบายภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย โดยภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย (Wisdom) คือ ความรู้ความชำนาญ วิธกี ารหรือเทคโนโลยที ีม่ ีการสืบทอดตอ่ กนั มาจากอดีตสู่ปัจจุบนั รวมทัง้ งานสรา้ งสรรค์ของกล่มุ คนในชมุ ชนบน พื้นฐานวัฒนธรรม และสรา้ งสรรคข์ นึ้ เพ่ือประโยชนข์ องกลมุ่ โดยสะทอ้ นความคดิ และความคาดหวังของชุมชน
242 นั้น ด้วยเปน็ การแสดงออกซงึ่ เอกลกั ษณ์ทางสงั คมและวัฒนธรรม มาตรฐานและคณุ คา่ ของชมุ ชน อาจใช้ภาษา หรือไมใ่ ชภ้ าษาหรอื ผสมผสานระหว่างใช้ภาษาและไมใ่ ชภ้ าษาเปน็ สือ่ 9.ครูบอกประเภทของภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย เป็นองค์ความรู้ของกลุ่มบุคคลในท้องถิ่น รวมถึงงาน ศิลปวฒั นธรรมพืน้ บ้านท่มี อี ยู่ในทุกภาคของประเทศ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ สามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท 1) ภูมิปัญญาประเภทองค์ความรู้ของกลุ่มบคุ คลท้องถิน่ เช่น การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม การผลิต ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร การผลิตผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ และการผลิตผลิตภัณฑ์จากไม้ หิน โลหะ แก้ว เซรามกิ ดินเผา เครอ่ื งหนัง เป็นตน้ 2) ภูมิปัญญาประเภทงานศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่น เรื่องเล่าพื้นบ้าน กวีนิพนธ์พื้นบ้าน ปริศนา พื้นบ้าน เพลงพื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้าน ละครพื้นบ้าน จิตรกรรมพื้นบ้าน ประติมากรรมพื้นบ้าน หัตถกรรม พ้นื บา้ น เครอ่ื งแตง่ กายพน้ื บ้าน เป็นต้น ขนั้ สรปุ และการประเมนิ ผล 10.ครแู ละผเู้ รยี นสรปุ การประยกุ ตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการเป็นผู้ประกอบการ 11.สรุปเนื้อหาในหน่วยการเรียนอีกครั้ง โดยวิธีถาม–ตอบและซักถามข้อสงสัย ผู้เรียนทำแบบ ประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบประเมนิ ตนเอง 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นรายวิชา “ธรุ กิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ” ของบรษิ ทั สำนกั พมิ พ์เอมพนั ธ์ จำกัด 2. หนงั สอื อ่นื ๆ ในหอ้ งสมุด 3. เวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ ทเี่ กีย่ วข้อง 4. นิตยสาร, วารสารด้านการบริหาร ฯลฯ 8. หลักฐานการเรยี นรู้ 8.1 หลักฐานความรู้ 1.การส่งงานของนกั เรียนมคี วามสมบูรณ์ครบถว้ น 2. รูปเลม่ รายงานกลุ่มและรายงานเดยี่ วสามารถทำได้ดี 8.2 หลักฐานการปฏิบตั งิ าน 1.บันทกึ การสอน 2.ใบเช็ครายชือ่ 3.แผนจดั การเรยี นรู้
243 4.การตรวจประเมินผลงาน 9. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 9.1 เครอ่ื งมือประเมนิ 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 2.แบบประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ 3.แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและ นกั เรียนรว่ มกนั ประเมนิ 4.แบบทดสอบท้ายบท 9.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 1.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ีชอ่ งปรบั ปรงุ 2.เกณฑผ์ ่านการประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ข้ึนไป) 3.แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อย่กู บั การประเมินตามสภาพจรงิ 10. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถา้ ม)ี 1. ผู้เรียนตอ้ งมกี ารทบทวนบทเรียนตลอด เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความเข้าใจอย่างแท้จรงิ 2. ผเู้ รยี นหมั่นทำใบงาน แบบฝึกหดั 3. ศกึ ษาขอ้ มูลเพ่ิมเตมิ จาก Internet 11. เอกสารอา้ งอิง ธรุ กิจและการเป็นผู้ประกอบการ, เอมพนั ธ์: 2562
244 ใบความรู้ท่ี 1 หน่วยที่ 9 รหสั วชิ า 20200-1001 ชือ่ วิชา ธรุ กจิ และการเป็นผูป้ ระกอบการ สอนคร้งั ท่ี 17 ชอ่ื หนว่ ย การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการ เวลารวม 51 ชัว่ โมง เป็นผปู้ ระกอบการ ชื่องาน การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการเป็นผปู้ ระกอบการ จำนวน 3 ชวั่ โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงคท์ ่ัวไป 1.เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถประยุกต์ใช้ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในการดำเนินธุรกจิ ได้ 2.เพ่อื ใหน้ กั เรยี นสามารถเสนอแนะแนวทางการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ้ นการดำเนินชีวติ ได้ 3.เพ่อื ให้นักเรยี นบอกเก่ียวกบั การทำบัญชีครัวเรือนได้ 4.เพ่อื ให้นักเรียนอธิบายภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ไทยได้ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผสู้ ำเร็จการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ทคี่ รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทำการสอนในเรือ่ ง 1.1 ความมมี นุษยสัมพันธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมีวินยั 1.7 ความรบั ผดิ ชอบ 1.3 การละเวน้ สิ่งเสพตดิ และการพนนั 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซ่ือสัตย์สจุ ริต 1.9 ความรักสามัคคี 1.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 1.10 ความกตัญญกู ตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรู้เกี่ยวกบั หลักการวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กจิ และการเป็น ผปู้ ระกอบการ หลกั การจดั การทางการเงิน หลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ เบอ้ื งต้น และกฎหมายทีเ่ ก่ยี วข้อง 2.จดั ทำแผนธุรกิจอย่างงา่ ย 3.ประยกุ ต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดำเนนิ งาน 4.ประยกุ ต์ใช้หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลิตในการวางแผนและดำเนนิ งาน เนอื้ หาสาระ 1. การประยกุ ตใ์ ชป้ รชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในการดำเนินธุรกิจสามารถพจิ ารณาได้ดังตอ่ ไปน้ี 1) พจิ ารณาจากความสามารถในการพ่งึ ตนเอง ที่เน้นความสมดุลทงั้ 3 คุณลกั ษณะ คือพอประมาณ มีเหตุมีผล และมีภมู คิ ุ้มกัน มาประกอบการตดั สินใจเรือ่ งต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน รอบคอบ ระมัดระวงั พจิ ารณาถึงความ พอดี พอเหมาะ พอควรและพรอ้ มรบั การเปลีย่ นแปลงที่ครอบคลุมท้งั 5 ประการ คือ
245 1.1 ด้านจติ ใจ มีจิตใจเข้มแข็ง ฝึกฝนตนเองได้ มีจิตสำนกึ ที่ดี เออื้ อาทร ประนปี ระนอมและนกึ ถึงประโยชน์ ส่วนรวมเป็นหลกั 1.2 ด้านสังคม มีความชว่ ยเหลือเก้ือกูลกนั รรู้ ักสามคั คี สรา้ งความเขม้ แข็งให้ครอบครวั และชุมชน รจู้ กั ผนึก กำลัง มกี ระบวนการเรียนรทู้ ี่เกดิ จากรากฐานท่ีมนั่ คงแข็งแรง 1.3 ดา้ นเศรษฐกิจ ดำรงชีวติ อยู่อยา่ งพอดี พอมี พอกนิ สมควรตามอตั ภาพ และฐานะของตนประกอบอาชพี สจุ ริต (สัมมาอาชวี ะ) ด้วยความขยันหม่นั เพยี ร อดทนใช้ชวี ิตเรียบง่าย โดยไม่เบียดเบยี นตนเองและผอู้ ืน่ มรี ายได้ สมดลุ กบั รายจ่าย ร้จู ักการใช้จ่ายของตนเองและครอบครัวอย่างมีเหตผุ ลเทา่ ทจ่ี ำเป็น ประหยัด รจู้ กั การเก็บออม เงินและแบง่ ปันผูอ้ นื่ 1.4 ด้านเทคโนโลยี รู้จักใช้เทคโนโลยีทีเ่ หมาะสม สอดคล้องกบั ความต้องการและภมู นิ ิเวศ พัฒนาเทคโนโลยีจาก ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและสังคม 1.5 ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบสามารถเลือกใช้ ทรัพยากรทม่ี อี ยใู่ หเ้ กดิ ความยงั่ ยนื สงู สุด 2) พิจารณาความรู้คู่คุณธรรม มีการศกึ ษาเรียนร้แู ละพฒั นาตนเองอย่างต่อเนื่อง (ทั้งทฤษฎแี ละการปฏบิ ตั จิ ริง) ในวชิ าการต่างๆ ทเี่ ก่ยี วกับการดำรงชีวิต โดยใชส้ ติปญั ญาในการตดั สินใจต่างๆ อย่างรอบรู้ รอบคอบ และมีเหตุผล ทจ่ี ะนำความรู้ต่างๆ มาปรบั ใช้อย่างมีขั้นตอนและระมัดระวงั ในการปฏบิ ตั ิ มีความตระหนักในคุณธรรม มคี วาม ซือ่ สตั ย์สุจริต มีความเพยี รความอดทน และใชส้ ติปัญญาอย่างชาญฉลาดในการดำเนนิ ชีวิตบนทางสายกลาง การประยกุ ต์ใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดำเนนิ งานพอประมาณ มเี หตผุ ล สร้าง ภูมคิ มุ้ กันและมีบทบาทในการชว่ ยเหลือกนั ภายในประเทศ การบรหิ ารจัดการด้วยความพอเพยี งน้ัน จะต้องเรม่ิ ท่ี เป้าหมาย ได้แก่ 1) ความสามารถในการบรหิ ารงาน โดยตอ้ งสอดคลอ้ งกบั โลกภายนอกโดยไม่ขยายตัวเกนิ กว่ากำลังท่ีมีอยู่ หรือ ต้องมีประสทิ ธผิ ลในทางการตลาดหรือการตามทันกบั การเปล่ียนแปลงทีเ่ กดิ ขน้ึ ซึง่ ตอ้ งมีสติและความรู้ 2) ตอ้ งแสวงหาความรู้กับสร้างความเขม้ แข็งหรอื เพมิ่ ความขยนั ขันแข็งในการทำงานโดยมีการตดิ ตามเทคนิค วทิ ยาการ แลว้ รู้จักเลอื กใช้เทคโนโลยีและเอามาประยุกตใ์ ช้เพ่อื ประโยชนใ์ นการผลิตและการทำงานให้มี ประสทิ ธิภาพดขี ้นึ หรอื ก็คอื การเพ่มิ ผลผลิตอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 3) การมีเป้าหมายดา้ นคณุ ภาพชีวติ คือการรจู้ ักใช้จา่ ยบริโภคตามความจำเปน็ และอย่างมเี หตุผลเพอ่ื ชีวติ ท่อี ย่ดู มี ี สขุ ใชช้ ีวิตอยา่ งมคี ุณค่า มกี ารเรยี นรู้ โดยมคี วามสุขสมดุลท้งั กายและใจพร้อมกบั มกี ารออมเพือ่ ความปลอดภยั ดว้ ย แนวทางการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ในการดำเนินชีวิต โดยการดำเนินชีวิตของแตล่ ะบคุ คลย่อมตอ้ ง อาศยั หลักและแนวคดิ เพือ่ ให้การดำเนนิ ชีวติ เป็นไปอย่างราบรน่ื ซง่ึ อาจจะไดร้ ับการปลูกฝงั มาจากสถาบนั ครอบครวั (ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม)่ สถาบันการศกึ ษา สถาบันทางสังคม เปน็ ตน้ แสดงการทำบัญชีครัวเรือน โดยการทำบญั ชีครวั เรือน คอื การจดบนั ทึกข้อมูลเกยี่ วกบั เงื่อนไขปจั จยั ในการ ดำรงชวี ติ ของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ ขอ้ มูลท่ไี ด้จากการบันทึกจะเปน็ ตัวบ่งชอี้ ดีต ปจั จุบัน และ อนาคตของชวี ติ สามารถนำข้อมูลอดีตมาบอกปจั จุบันและอนาคตได้ ขอ้ มูลที่ได้ที่บันทึกไว้ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การ วางแผนชีวิตและกจิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ครอบครวั ชุมชน และประเทศได้
246 รปู แบบการบนั ทกึ การทำงานหรือทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย อาจแตกต่างกนั ไปข้นึ อยู่กับสภาพ ความเป็นอยขู่ องแตล่ ะบคุ คล ท้งั นไี้ มไ่ ด้กำหนดรปู แบบทต่ี ายตัว ใหย้ ืดหยุ่นได้ตามสภาพความเป็นอยู่ทเ่ี หมาะสม และการใชง้ านนัน้ ซ่งึ อาจบนั ทกึ ในรูปแบบและหัวขอ้ ต่อไปน้ี 1) การบนั ทกึ เกยี่ วกับการใชเ้ ครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ เพ่อื จะได้ทราบวา่ ในการทำงานจำเป็นต้องใช้ เครือ่ งมอื อะไรบา้ ง จำนวนเท่าใด ถ้าจำเปน็ จะตอ้ งซ้ือจะเสียคา่ ใช้จา่ ยมากนอ้ ยเพยี งใด 2) การบนั ทกึ การปฏบิ ัตงิ าน เป็นการบันทึกข้อมูลในการปฏิบัติงาน เพอื่ จะได้ทราบว่าการปฏิบตั ิงานในแต่ ละวันหรือแตล่ ะสัปดาหม์ งี านอะไรบ้าง มปี ญั หาในการดำเนินงานอยา่ งไร และไดแ้ ก้ปัญหาน้นั อย่างไรควรมกี ารลง ชื่อผปู้ ฏบิ ัติงานด้วย 3) การบนั ทึกบัญชีรายรับ-รายจ่าย มคี วามสำคญั มาก เน่ืองจากเปน็ แหลง่ ข้อมูลท่ีตอ้ งการใช้ ในการกำหนดรายได้-รายจา่ ย การจัดทำแผนงบประมาณและอ่นื ๆ ท่เี ก่ียวข้อง
247 ภูมิปญั ญาทอ้ งถิน่ ไทย โดยภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่นไทย (Wisdom) คือ ความรู้ความชำนาญ วิธกี ารหรือ เทคโนโลยีทมี่ ีการสืบทอดต่อกนั มาจากอดีตสู่ปจั จุบัน รวมทั้งงานสร้างสรรคข์ องกลมุ่ คนในชมุ ชนบนพืน้ ฐาน วฒั นธรรม และสรา้ งสรรคข์ ึน้ เพ่ือประโยชน์ของกลมุ่ โดยสะท้อนความคดิ และความคาดหวังของชุมชนนน้ั ดว้ ยเปน็ การแสดงออกซ่งึ เอกลักษณ์ทางสงั คมและวัฒนธรรม มาตรฐานและคุณคา่ ของชุมชน อาจใช้ภาษาหรอื ไม่ใช้ภาษา หรือผสมผสานระหวา่ งใชภ้ าษาและไมใ่ ชภ้ าษาเป็นสอ่ื ประเภทของภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ ไทย เปน็ องคค์ วามร้ขู องกลุ่มบคุ คลในทอ้ งถ่ิน รวมถึงงานศลิ ปวฒั นธรรม พ้ืนบา้ นท่ีมีอย่ใู นทกุ ภาคของประเทศ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น สามารถแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท 1) ภมู ปิ ญั ญาประเภทองค์ความร้ขู องกลุ่มบคุ คลทอ้ งถ่ิน เช่น การผลติ อาหารและเคร่อื งดม่ื การผลิต ผลติ ภัณฑ์จากสมุนไพร การผลิตผลิตภณั ฑ์จากวสั ดเุ หลือใช้ และการผลิตผลิตภัณฑจ์ ากไม้ หนิ โลหะ แกว้ เซรามกิ ดนิ เผา เครอ่ื งหนงั เป็นต้น 2) ภูมปิ ัญญาประเภทงานศลิ ปวฒั นธรรมพน้ื บา้ น เชน่ เรอ่ื งเลา่ พ้ืนบา้ น กวีนิพนธพ์ น้ื บ้าน ปริศนาพน้ื บา้ น เพลงพนื้ บา้ น ดนตรพี ื้นบ้าน ละครพ้นื บ้าน จติ รกรรมพ้นื บา้ น ประติมากรรมพนื้ บ้าน หัตถกรรมพืน้ บ้าน เครอ่ื งแตง่ กายพน้ื บ้าน เปน็ ต้น เอกสารอ้างองิ ธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ, เอมพันธ์: 2560
248 ใบงานท่ี 1 หนว่ ยท่ี 9 รหัสวชิ า 20200-1001 ชอื่ วิชา ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ สอนคร้งั ท่ี 17 ชื่อหนว่ ย การประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการ เวลารวม 51 ชัว่ โมง เป็นผปู้ ระกอบการ ชอ่ื งาน การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการเป็นผปู้ ระกอบการ จำนวน 3 ชั่วโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงคท์ ่ัวไป 1.เพอื่ ใหน้ กั เรียนสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการดำเนินธุรกิจได้ 2.เพื่อใหน้ ักเรยี นสามารถเสนอแนะแนวทางการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ในการดำเนนิ ชีวิตได้ 3.เพอื่ ให้นกั เรยี นบอกเกย่ี วกับการทำบญั ชีครัวเรือนได้ 4.เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นอธบิ ายภมู ิปญั ญาท้องถ่ินไทยได้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผู้สำเรจ็ การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่ีครูสามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเร่ือง 1.1 ความมีมนษุ ยสมั พันธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมีวนิ ยั 1.7 ความรับผดิ ชอบ 1.3 การละเวน้ สงิ่ เสพติดและการพนัน 1.8 ความสนใจใฝ่รู้ 1.4 ความซ่ือสัตย์สจุ ริต 1.9 ความรกั สามัคคี 1.5 ความเช่อื มั่นในตนเอง 1.10 ความกตัญญกู ตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรู้เก่ียวกบั หลกั การวางแผนเป้าหมายชีวิตดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธุรกิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ หลกั การจดั การทางการเงิน หลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลิตเบอ้ื งต้น และกฎหมายทีเ่ กี่ยวข้อง 2.จัดทำแผนธุรกจิ อยา่ งงา่ ย 3.ประยุกตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยกุ ตใ์ ช้หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ ในการวางแผนและดำเนนิ งาน เครือ่ งมือ วัสดุ – อุปกรณ์ 1.หนงั สือแบบเรยี น 2. ส่อื การเรียนการสอน power point 3. ค้นคว้าข้อมลู จากสือ่ ออนไลน์ ลำดบั ขัน้ ตอนการปฏิบัติงาน
249 ใบงานท่ี 1 บทท่ี 9 เร่ือง การวางแผนและการดำเนินงานท่ีสอดคลอ้ งกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขที่.........ชั้น.......................... คำชีแ้ จงใหเ้ ลือกประกอบธุรกิจมา 1 ชนดิ โดยใหว้ างแผนและดำเนินงานใหส้ อดคล้องกับปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง ตามตารางข้างนี้ การวางแผนและการดำเนนิ งานที่สอดคลอ้ งกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ความ พอประมาณ ความมีเหตุผล การมภี ูมิคุ้มกัน ในตวั ทดี่ ี เงอื่ นไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม ภาพประกอบ - ข้อควรระวัง - ขอ้ เสนอแนะ (ถา้ ม)ี - การประเมินผล (ตอ้ งระบเุ กณฑ์การประเมนิ ให้ชัดเจน) - เกณฑก์ ารวัดผล 1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานรายบคุ คล ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรับปรุง 2. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ก่อนเรียนไม่มีเกณฑ์ผ่าน เกบ็ คะแนนไวเ้ ปรียบเทยี บกับคะแนนที่ได้จากการ ทดสอบหลงั เรยี น 3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้ึนอย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ เอกสารอ้างอิง ธุรกจิ และการเปน็ ผูป้ ระกอบการ, เอมพันธ์: 2560
250 ใบมอบหมายงานที่ 1 หนว่ ยท่ี 9 รหัสวชิ า 20200-1001 ชือ่ วชิ า ธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ สอนครัง้ ที่ 17 ชื่อหนว่ ย การประยกุ ต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการเปน็ ผู้ประกอบการ ช่อื งาน การประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการเป็นผปู้ ระกอบการ จุดประสงคท์ ั่วไป 1.เพอ่ื ให้นกั เรยี นสามารถประยกุ ตใ์ ช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนนิ ธรุ กิจได้ 2.เพื่อให้นกั เรยี นสามารถเสนอแนะแนวทางการนำปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในการดำเนินชีวติ ได้ 3.เพอื่ ใหน้ กั เรยี นบอกเกยี่ วกับการทำบญั ชีครวั เรือนได้ 4.เพ่ือใหน้ กั เรยี นอธบิ ายภูมิปญั ญาท้องถ่นิ ไทยได้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่คี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเร่อื ง 1.1 ความมมี นุษยสัมพันธ์ 1.6 การประหยดั 1.2 ความมวี ินัย 1.7 ความรบั ผิดชอบ 1.3 การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนนั 1.8 ความสนใจใฝร่ ู้ 1.4 ความซอื่ สตั ย์สจุ รติ 1.9 ความรกั สามัคคี 1.5 ความเชอ่ื มั่นในตนเอง 1.10 ความกตัญญูกตเวที สมรรถนะรายหน่วย 1.แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั หลกั การวางแผนเป้าหมายชวี ิตดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธุรกจิ และการเป็น ผู้ประกอบการ หลกั การจดั การทางการเงนิ หลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิตเบ้อื งตน้ และกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง 2.จดั ทำแผนธุรกจิ อย่างงา่ ย 3.ประยุกตใ์ ชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดำเนินงาน 4.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ ในการวางแผนและดำเนนิ งาน แนวทางการปฏิบตั ิงาน ใหน้ ักเรยี นออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรียน แหล่งคน้ ควา้ 1. หอ้ งสมุด 2. สอ่ื ออนไลน์/Internet 3. นติ ยสาร/วารสาร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259