คมู่ ือพลเมืองดจิ ทิ ลั วรพจน์ วงศ์กจิ รุ่งเรอื ง เผยแพรค่ รั้งแรก: มิถุนายน 2561 โครงการ: การพฒั นาทักษะและการเป็นพลเมอื งดจิ ิทัล (Digital Citizenship) คณะผู้จัดท�า: ดร.รฐั ศาสตร์ กรสูต (ประธานทป่ี รึกษา) นางสาวพรรณทมิ า สรรพศิรินนั ท์ นางสาวชณิกา อรณั ยกานนท์ นางสาวธัญวรรณ แกว้ ชะฎา นายจริ ะวัฒน์ ภูมศิ รีแก้ว นายปรญิ ญา สนิ เก้ือกูล บรรณาธิการ: วโิ รจน์ สขุ พิศาล กองบรรณาธกิ าร: บุญชยั แซเ่ ง้ยี ว ออกแบบปกและรูปเลม่ : เปมกิ า ตนั ตทิ วโี ชค
ดา� เนินการผลิต: บรษิ ทั ดิ วันโอวนั เปอรเ์ ซนต์ จ�ากดั จดั ทา� โดย: ส�านักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจทิ ัล กระทรวงดจิ ทิ ลั เพือ่ เศรษฐกจิ และสงั คม รว่ มกบั บริษัท กูเกลิ (ประเทศไทย) จา� กดั ข้อมลู ทางบรรณานุกรมของสา� นกั หอสมดุ แห่งชาติ วรพจน์ วงศ์กิจรงุ่ เรือง. คู่มือพลเมืองดิจิทัล.-- กรุงเทพฯ: ส�านกั งานสง่ เสริมเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั กระทรวงดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสังคม, 2561. 200 หน้า. 1. อนิ เทอรเ์ นต็ --แง่สังคม. 2. เทคโนโลยีกับอารยธรรม. 3. อินเทอร์เนต็ -- มาตรการความปลอดภยั . I. ชื่อเร่อื ง. 303.4833 ISBN 978-974-9765-78-4
สารบัญ 1 ความเปน็ พลเมืองดจิ ิทลั : พลเมอื งแห่งศตวรรษท่ี 21 8 2 ทักษะแหง่ ศตวรรษใหม่: ทกั ษะและความรู้ดจิ ทิ ลั 24 3 ความปลอดภัยแห่งศตวรรษท ี่ 21 52 4 สิทธิและความรบั ผิดชอบแหง่ ศตวรรษที่ 21 98 5 โอกาสแหง่ ศตวรรษท่ี 21 128 6 ความท้าทายแห่งศตวรรษท่ี 21 168
คำ� ถำมท่ีวำ่ อินเทอรเ์ น็ตจะสร้ำงสังคมทดี่ ขี ้ึน หรอื แยล่ งน้นั เป็นขอ้ ถกเถยี งสำ� คัญแหง่ ยคุ สมัย และเรำในฐำนะพลเมอื งตอ้ งเป็นผตู้ อบเอง
1 ความเปน็ พลเมอื งดจิ ทิ ัล: พลเมืองแห่งศตวรรษที่ 21
ด้วยพฒั นาการของอนิ เทอรเ์ น็ต และความแพร่หลายของการสอื่ สาร ผ่านเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ เราก�าลงั อยู่ในห้วงเวลาแห่งเทคโนโลยี ท่จี ะน�าพาไปส่กู ารเปลีย่ นแปลงครั้งส�าคญั ทสี่ ุดตัง้ แต่ที่เรารูจ้ ักการใชไ้ ฟ ผมเคยคดิ ว่าอนิ เทอรเ์ น็ตคือส่งิ ทีย่ งิ่ ใหญพ่ อๆ กบั แทน่ พิมพก์ ูเทนแบรก์ แต่ตอนน้ีผมคดิ วา่ เราคงต้องยอ้ นกลับไปไกลกวา่ นั้น จอหน์ แบร์โลว1์ อินเทอร์เน็ตปฏิวัติโลกแห่งการส่ือสารอย่างท่ีไม่เคยเป็นมาก่อน มันน�าพา ความสามารถทางเทคโนโลยีอันน่าต่ืนตาตื่นใจใหม่ๆ แบบที่สื่อก่อนหน้าอย่าง โทรเลข โทรศพั ท์ วิทยุ โทรทัศน์ ไมส่ ามารถทา� ได้ ตัวอยา่ งเช่น การสอ่ื สารกับคน ทอ่ี ยอู่ กี ซกี โลกเพยี งนว้ิ สมั ผสั ดว้ ยราคาทถ่ี กู มาก การใชแ้ พลตฟอรม์ อยา่ งอนิ สตา- แกรม (Instagram) เปดิ รา้ นขายของออนไลนโ์ ดยแทบไมม่ ตี น้ ทนุ ใดๆ การทา� งาน รว่ มกบั ผอู้ น่ื เพอื่ สรา้ งสารานกุ รมทใี่ หญท่ สี่ ดุ ในโลกอยา่ งวกิ พิ เี ดยี (Wikipedia) การ สรา้ งสรรคเ์ นอ้ื หาและเผยแพรใ่ หค้ นทว่ั โลกเหน็ ผา่ นยทู บู (YouTube) จนคณุ อาจ กลายเป็นคนโดง่ ดงั เหมอื นจัสตนิ บเี บอร์ หรอื กระทงั่ การใชเ้ ฟสบ๊คุ (Facebook) ของประชาชนชาวอยี ิปต์เพื่อโค่นล้มระบอบเผด็จการ 11
จัสตนิ บเี บอร์ แจง้ เกดิ ผ่านยทู ูบ จัสติน บีเบอร์ นักร้องหนุ่มชาวแคนาดา แจ้งเกิดจากการท่ีเขา โพสต์วิดีโอที่ตนร้องเพลง With You ของคริส บราวน์ ลงในยูทูบ ตอนอายุ 12 ขวบ โดยมีคนเข้าชมวิดีโอมากมายจนคนในวงการ บันเทิงสนใจตัวเขา และได้เซ็นสัญญาท�าเพลงกับอัชเชอร์ พูดได้ว่า ถ้าไม่มีอินเทอร์เน็ตและยูทูบ โลกอาจจะไม่มีนักร้องหนุ่มนามว่า จสั ตนิ บเี บอร์ กเ็ ปน็ ได้
คนไทยเองก็เข้าถึงและใช้อินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหน่ึงของชีวิตประจ�าวัน มากขึ้นเรือ่ ยๆ สถิติปี 2560 แสดงให้เหน็ ว่า คนไทยเข้าถึงอนิ เทอร์เน็ตได้ถึง 57 ลา้ นคนจากประชากรทง้ั หมดราว 68 ลา้ นคน หรอื 83.5 เปอรเ์ ซน็ ต์2 และใชเ้ วลา กบั อนิ เทอรเ์ น็ตโดยเฉล่ียต่อวันที่ 6 ชัว่ โมง 24 นาที หรอื คิดเป็น 1 ใน 4 ของ เวลาแต่ละวันเลยทีเดียว3 นอกจากนั้นกิจกรรมต่างๆ ท่ีเราท�าล้วนเก่ียวพันกับ อนิ เทอร์เนต็ ไมว่ ่าจะเปน็ การแบง่ ปนั หว้ งเวลาดีๆ กับเพื่อนในโซเชยี ลมเี ดยี การ ตดิ ตามขา่ วสารบา้ นเมอื ง การคน้ หาขอ้ มลู สขุ ภาพ การดทู วี แี ละฟงั เพลงออนไลน์ การซอื้ สินค้าออนไลน์ รวมถงึ การมีส่วนร่วมทางการเมืองในฐานะพลเมือง โลกยุคดจิ ทิ ลั สรา้ งโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ ใหก้ ับพลเมอื งในศตวรรษ ท่ี 21 ไมว่ ่าจะเป็นโอกาสดา้ นเศรษฐกจิ การเมือง และการเรียนรู้ ทวา่ แม้เราอาจ จะใช้อินเทอร์เน็ตราวกับมันเป็นส่วนหน่ึงของชีวิตไปแล้ว แต่ดูเหมือนคนจ�านวน มากยังขาดทักษะและความรู้ที่จ�าเป็นต่อการใช้ประโยชน์จากโอกาสดังกล่าว ยงั ไมร่ วู้ ธิ ลี ดผลกระทบจากความเสยี่ งในโลกออนไลน์ รวมถงึ ขาดความเขา้ ใจเรอ่ื ง สทิ ธแิ ละความรบั ผดิ ชอบในโลกยุคดิจิทัล ความเป็นพลเมืองดิจิทัล (digital citizenship) คือแนวคิดและแนวปฏิบัติ ท่ีส�าคัญซ่ึงจะช่วยให้พลเมืองเรียนรู้ว่าจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลและ ปกป้องตนเองจากความเสี่ยงต่างๆ อย่างไร รวมทั้งรู้จักเคารพสิทธิของตนเอง และมีความรับผิดชอบต่อสังคมในโลกสมัยใหม่ ไปจนถึงเข้าใจผลกระทบของ เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีต่อสังคม และใช้มันเพ่ือสร้างการเปล่ียนแปลงทางสังคมใน เชงิ บวก แต่ก่อนจะไปถงึ จุดนน้ั เราลองมารู้จกั กบั อินเทอร์เน็ตกนั กอ่ น 13
อินเทอร์เนต็ : เทคโนโลยีแหง่ ศตวรรษที่ 21 อินเทอร์เน็ตท่ีบางคนบอกว่าเป็นเทคโนโลยีปฏิวัติโลกคืออะไรกันแน่? ถ้า พูดกันอย่างเป็นทางการ อินเทอร์เน็ต (internet) ซึ่งเป็นค�าผสมระหว่าง inter- connected (ทเี่ ชอื่ มตอ่ ) กบั network (เครอื ขา่ ย) คอื ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ทเี่ ชอื่ มตอ่ กนั ทวั่ โลกจนเกดิ เปน็ “เครอื ขา่ ยของเครอื ขา่ ย” (network of networks) ซึ่งท�าให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์เคร่ืองใดในโลก ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลจากเคร่ืองคอมพิวเตอร์อื่นๆ รวมถึงสามารถส่ือสารกับ ผใู้ ชค้ อมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งอน่ื ๆ ไดโ้ ดยอาศยั ภาษาคอมพวิ เตอรท์ เ่ี ปน็ มาตรฐานกลาง รว่ มกัน ทว่าถ้าพูดกันในระดับการใช้งาน อินเทอร์เน็ตก็คือส่ือท่ีเก่ียวข้องกับ เทคโนโลยกี ารสอื่ สารหลากหลายรปู แบบ ไมว่ า่ จะเปน็ เวบ็ ไซต์ อเี มล โซเชยี ลมเี ดยี บล็อก วดิ โี อสตรีมม่ิง ระบบการสง่ ขอ้ ความทันที (instant messaging) บรกิ าร โทรศพั ทผ์ ่านอินเทอรเ์ นต็ (Voice over Internet Protocol หรอื VOIP) กระดาน ข่าวออนไลน์ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างช่องทางการสื่อสาร และการเข้าถึงข้อมูลในราคาที่ถูกมาก แต่ยังเป็นเคร่ืองมือในการปฏิสัมพันธ์ การมสี ่วนรว่ ม และการสร้างความร่วมมือระหวา่ งกนั ในระดับโลกอีกดว้ ย 14
ประวตั ิศาสตร์อนิ เทอร์เนต็ แบบยน่ ยอ่ จุดเร่ิมต้นของอินเทอร์เน็ตเกิดข้ึนในช่วงศตวรรษ 1960 เม่ือ ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาต้องการสร้างเครือข่ายเช่ือมโยง คอมพิวเตอร์ท่ีอยู่ในต�าแหน่งห่างไกลกัน และมีความคงทนแม้ เครอื ขา่ ยบางสว่ นจะเสยี หายเมอื่ ถกู โจมตใี นชว่ งสงครามเยน็ โครงการ ที่สนับสนุนความพยายามดังกล่าวชื่อว่าอาร์พาเน็ต (Advanced Research Projects Agency Network หรอื ARPANET) โดยขอ้ ความ แรกท่ีส่งผ่านเครือข่ายถูกส่งจากเคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย แคลิฟอรเ์ นยี ลอสแอนเจลิส ไปยังมหาวิทยาลยั สแตนฟอรด์ ในวันท่ี 29 ตุลาคม 1969 ซง่ึ นบั เป็นวนั เกดิ ของอินเทอรเ์ นต็ ก็ว่าได้ ในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 อินเทอร์เน็ตถูกใช้มากข้ึน ในมหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจยั ก่อนทจี่ ะขยายไปยงั หน่วยงานรัฐ และภาคเอกชนทั่วโลก ท�าให้อินเทอร์เน็ตหลุดพ้นจากการเป็น โครงการปิดของหน่วยงานรัฐ และกลายเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พอเข้าสู่ช่วงต้นศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยี เว็บ 2.0 ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาท�าให้อินเทอร์เน็ตมีลักษณะของการ ปฏสิ ัมพนั ธ์ (interactive) มากขึน้ ส่งผลใหเ้ กิดเคร่อื งมือสอ่ื สารทใ่ี ช้ แลกเปลี่ยนและร่วมมอื กันอย่างโซเชียลมเี ดยี จากเครือข่ายท่ีสามารถส่งข้อมูลได้เพียงน้อยนิดระหว่างจุด สองจุดและใช้กันเฉพาะในหมู่ผู้เช่ียวชาญด้านคอมพิวเตอร์ ทุกวันนี้ อินเทอร์เน็ตกลายเป็นเครื่องมือส่ือสารของคนท่ัวไปที่มีข้อมูล ไหลเวียนท่ัวโลกจ�านวนมหาศาล ช่วยให้เราเข้าถึงชุมชนออนไลน์ที่ มีความสนใจร่วมกันโดยไม่ติดกับข้อจ�ากัดเชิงภูมิศาสตร์ และช่วยให้ เราแลกเปลี่ยนความเหน็ กบั ผอู้ ่ืนและสร้างสรรค์เนอื้ หาดว้ ยตนเอง4
อนิ เทอรเ์ นต็ กับการปฏิวัตทิ างเทคโนโลยี เราอาจมองอนิ เทอรเ์ นต็ กบั การเปลย่ี นแปลงไดใ้ น 2 มติ ิ ไดแ้ ก่ 1) อนิ เทอรเ์ นต็ ในฐานะการปฏวิ ตั ดิ า้ น “เทคโนโลย”ี การสอ่ื สาร นั่นคอื ความสามารถเฉพาะตัว ในทางเทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตนั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และ 2) อนิ เทอร์เน็ตในฐานะการปฏวิ ัตทิ ่ีนา� ไปสู่ “ผลลพั ธท์ างสงั คม” ใหมๆ่ ทั้งในมติ ิ เศรษฐกจิ สงั คม การเมอื ง ไปจนถงึ ระดับชวี ิตประจา� วันของผคู้ น เราอาจสรุปคุณสมบัติด้านการสื่อสารของอินเทอร์เน็ตท่ีแตกต่างจาก เทคโนโลยีการส่ือสารก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นส่ือสิ่งพิมพ์ โทรเลข ภาพยนตร์ โทรศัพท์ วทิ ยุ โทรทัศน์ ได้ดงั นี้ อินเทอร์เน็ตท�าให้ทรัพยากรส่ือสารนั้นมีราคาถูกลงและไม่ได้เป็น ทรพั ยากรทจ่ี า� กดั แตใ่ นมอื ผมู้ อี า� นาจเพยี งไมก่ คี่ นอกี ตอ่ ไป ยกตวั อยา่ งเชน่ ในสมยั กอ่ นหากตอ้ งการเปน็ เจา้ ของสถานโี ทรทศั นส์ กั แหง่ เราตอ้ งมที นุ จา� นวนมหาศาล รวมถึงอาจตอ้ งมีเสน้ สายทางการเมือง เราถึงจะไดส้ ิทธิในการใช้คลืน่ ความถี่ที่มี อยจู่ า� กดั แตท่ กุ วนั น้ี แคเ่ ขา้ ถงึ อนิ เทอรเ์ นต็ เรากส็ ามารถสรา้ งชอ่ งของตนเองผา่ น ทางยูทูบได้ คณุ สมบตั นิ ีท้ า� ให้บางครัง้ อินเทอรเ์ นต็ ถกู เรยี กว่า เทคโนโลยีท่ีสร้าง ประชาธปิ ไตยในการสอื่ สาร เพราะแทบทกุ คนสามารถเขา้ ถงึ ทรพั ยากรสอ่ื สารได้ อนิ เทอรเ์ นต็ ทา� ใหก้ ารสอ่ื สารไรพ้ รมแดนและกา้ วขา้ มขอ้ จา� กดั เชงิ พนื้ ที่ ส่งผลให้เกิดการไหลเวียนของสารสนเทศไปท่ัวโลก เกิดการเรียนรู้ข้อมูลและ แนวคิดที่หลากหลาย รวมถึงชว่ ยสรา้ งความรว่ มมอื ในระดับโลก เทคโนโลยเี วบ็ 2.0 ทา� ใหอ้ นิ เทอรเ์ นต็ เปน็ สอ่ื ทเี่ ปดิ ใหผ้ ใู้ ชป้ ฏสิ มั พนั ธก์ บั เครือข่ายข้อมลู บุคคล สถาบันตา่ งๆ ในระดบั ทไี่ มเ่ คยเกิดขึ้นมาก่อน 16
อินเทอร์เน็ตเปิดโอกาสให้ผู้ใช้กลายเป็นผู้สร้างสรรค์เน้ือหาได้ด้วย ตนเอง แทนทจ่ี ะเปน็ ผรู้ บั ขอ้ มลู ดา้ นเดยี วเหมอื นสอื่ โทรทศั นห์ รอื วทิ ยุ (สอื่ มวลชน แบบเดิมมีรูปแบบการส่ือสารแบบ one-to-many หรือการส่งข้อมูลจากจุดหนึ่ง ไปยงั มวลชน) อกี ทง้ั ยงั สามารถเผยแพรเ่ นอื้ หาดงั กลา่ วไปยงั กลมุ่ คนในวงกวา้ งได้ (เรียกคุณสมบัติน้ีว่า mass self-communication หรือการสื่อสารโดยคน ธรรมดาไปยังมวลชน) ความสามารถทางเทคโนโลยีเช่นน้ีสนับสนุนวัฒนธรรม การมีส่วนรว่ มใหง้ อกงามย่งิ ขึ้น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนท่ีอย่างสมาร์ตโฟนท�าให้เรา สามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอุปกรณ์ ส่งผลให้อินเทอร์เน็ตแทรกซึม เข้าไปในทกุ กิจกรรมของชวี ิตเรา อินเทอร์เน็ตเปิดให้ผู้ใช้สามารถปรับการส่ือสารให้สอดคล้องกับความ ต้องการส่วนบุคคล (personalization) บางคร้ังโดยการเลือกของผู้ใช้เอง และ บางคร้ังก็ผ่านการคัดกรองโดยอัลกอริธึม เช่น อินเทอร์เน็ตจะเลือกให้ว่าเรา ชอบอา่ นหนงั สอื หรอื ฟงั เพลงแบบไหนโดยคาดเดาจากพฤตกิ รรมในโลกออนไลน์ ของเรา อินเทอร์เน็ตเป็นส่ือผสมที่หลอมรวมทั้งภาพ ตัวหนังสือ เสียง ภาพ เคลอื่ นไหว เขา้ ดว้ ยกนั รวมถงึ สรา้ งการหลอมรวมระหวา่ งสอ่ื เกา่ กบั สอ่ื ใหม่ ทา� ให้ การแพร่กระจายขา้ มสอื่ เป็นไปได้งา่ ยข้ึน 17
อินเทอร์เน็ตกับการปฏวิ ัตสิ ังคม อินเทอร์เน็ตส่งผลกระทบทางสังคมในหลายแง่มุม บางคนจินตนาการว่า อินเทอรเ์ นต็ จะน�าพาการเปล่ยี นแปลงเชิงอดุ มคติ ตัวอยา่ งเช่น ประชาชนเข้าถงึ การศึกษาได้มากข้ึน สร้างการแข่งขันท่ีเท่าเทียม เพ่ิมเสรีภาพในการแสดงออก และการก�ากับดูแลตนเองของพลเมือง ท�าให้ประชาธิปไตยท่ีประชาชนมีส่วน ร่วมโดยตรงงอกงามย่ิงขึ้น ลดความยากจนและความเหลื่อมล้�าในสังคม ขณะท่ี บางคนไม่เช่ือว่าอินเทอร์เน็ตจะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น ซ้�าร้ายยังอาจน�าพา อนั ตรายใหมๆ่ มาดว้ ย อาทเิ ชน่ เดก็ และเยาวชนสมุ่ เสยี่ งตอ่ การถกู ลอ่ ลวงทางเพศ และการกล่ันแกล้งทางออนไลน์ การหลอกลวงเชิงพาณิชย์ในโลกออนไลน์ การ สอดแนมความเป็นส่วนตัวและเก็บข้อมูลส่วนบุคคล และความเหล่ือมล�้าท่ีถูก ผลติ ซา�้ ผ่านช่องว่างในการเขา้ ถึงอินเทอร์เนต็ ค�าถามที่ว่าอินเทอร์เน็ตจะสร้างสังคมที่ดีข้ึนหรือแย่ลงนั้นเป็นข้อถกเถียง ส�าคัญแห่งยุคสมัย และเราในฐานะพลเมืองต้องเป็นผู้ตอบเอง แม้เทคโนโลยี จะนา� พาความเปน็ ไปไดใ้ หมๆ่ มาใหเ้ รา แตเ่ ทคโนโลยไี มไ่ ดเ้ ปน็ ตวั กา� หนดผลลพั ธ์ ทางสังคม พลเมืองดิจทิ ัลอยา่ งเราตา่ งหากทเี่ ปน็ ผู้กา� หนด 18
พลเมอื งดจิ ทิ ัล: พลเมอื งแห่งศตวรรษท ่ี 21 สา� นกั งานราชบณั ฑติ ยสภาใหน้ ยิ าม “พลเมอื ง” วา่ คอื คนทม่ี สี ทิ ธแิ ละหนา้ ท่ี ในฐานะประชาชนของประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือประชาชนท่ีอยู่ภายใต้การ ปกครองเดียวกันและมักมีวัฒนธรรมเดียวกัน ส่วนในความเข้าใจของคนท่ัวไป พลเมืองคือบคุ คลทเี่ กิดในประเทศนน้ั ๆ หรอื ได้รับสัญชาตแิ ละมีความจงรกั ภักดี ตอ่ รฐั รวมทงั้ หมายถงึ กลมุ่ คนทมี่ สี ทิ ธแิ ละความรบั ผดิ ชอบรว่ มกนั ในฐานะสมาชกิ ของสังคม อย่างไรก็ดี ทุกวนั น้ีเราด�ารงชวี ิต ทา� งาน และเรยี นร้อู ยใู่ นสงั คมทเ่ี ชอ่ื ม ตอ่ กนั ในระดับโลก อกี ท้ังเรายังทา� กิจกรรมต่างๆ ในโลกออนไลน์มากขน้ึ เร่ือยๆ จนโลกเสมือนและโลกจริงแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน การนิยามความ เป็นพลเมืองโดยยึดติดกับ “ประเทศใดประเทศหนึ่ง” และละเลยข้อเท็จจริงท่ีว่า ชีวติ ของเราส่วนหน่งึ ได้เข้าไปอยู่ในโลกดิจทิ ัล อาจไมส่ อดคล้องกบั ความเปน็ จริง ในโลกสมัยใหม่อีกต่อไป การเป็นพลเมืองในศตวรรษที่ 21 น้ันแตกต่างจากการเป็นพลเมืองใน ศตวรรษก่อนหน้า การใช้ชีวิตในสังคมโลกและในสังคมออนไลน์ได้ขยับขยาย แนวคิดความเป็นพลเมืองออกไป ความเป็นพลเมืองทุกวันน้ีจึงไม่ได้ถูกตีกรอบ แคบๆ วา่ หมายถงึ การไปเลอื กตง้ั หรือการมีสว่ นร่วมกับรัฐบาลชาตเิ ทา่ นั้น แต่ยงั หมายถึงการท�าความเข้าใจปรากฏการณ์ท้ังในระดับท้องถ่ิน ระดับชาติ และ ระดบั โลกไปพรอ้ มๆ กนั ไปจนถงึ การใชช้ วี ติ ในโลกออนไลนอ์ ยา่ งมคี วามรบั ผดิ ชอบ มีจริยธรรม และปลอดภยั เราอาจแบ่งแนวคิดเก่ียวกับความเป็นพลเมืองออกเป็น 3 แนวคิดหลัก ซง่ึ ความเปน็ พลเมอื งทง้ั สามแบบนที้ า� งานรว่ มกนั มากกวา่ แยกขาดจากกนั นนั่ คอื 20
1. ความเป็นพลเมอื งชาติตามขนบ (traditional citizenship) แนวคิดความ เปน็ พลเมอื งแบบเดมิ นัน้ ใหค้ วามสา� คญั กับ “การเปน็ สมาชกิ ภายใตก้ ฎหมายของ รัฐชาติท่ีตนสังกัด” หรือท่ีเรียกว่า “ความเป็นพลเมืองภายใต้กฎหมาย” (legal citizenship) ส่งิ สา� คญั สา� หรับการเป็นพลเมืองท่ีดีตามแนวคิดนี้คอื การมคี วามรู้ เกยี่ วกบั รฐั บาลและหนา้ ทพี่ ลเมอื งตามกฎหมาย เชน่ การไปเลอื กตง้ั และจา่ ยภาษี 2. ความเปน็ พลเมอื งโลก (global citizenship) แนวคดิ ความเป็นพลเมอื ง โลกวิพากษ์ความเชื่อท่ีว่าพลเมืองจะต้องผูกติดกับความเป็นชาติและวัฒนธรรม ชาติที่ตนสงั กัดเพยี งหนง่ึ เดยี ว ซึง่ ตกี รอบความเปน็ พลเมอื งไว้คับแคบและกดี กัน กลุ่มคนที่มีเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรมอันแตกต่างหลากหลาย ออกจากความเปน็ พลเมอื ง แนวคดิ ความเปน็ พลเมอื งโลกตระหนกั ถงึ ความเชอ่ื มโยง และการพ่ึงพาอาศัยกันในระดับโลก และมีจิตส�านึกร่วมถึงปัญหาในระดับโลก เช่น ปัญหาโลกร้อน พลเมืองท่ีอาศัยในสังคมโลกจึงต้องมีความสามารถและ ความเขา้ ใจในระดบั โลก ตวั อยา่ งเชน่ ความสามารถในการเชอ่ื มโยงปรากฏการณ์ ระหวา่ งทอ้ งถน่ิ กบั โลก และทกั ษะการทา� งานรว่ มกบั ผคู้ นทมี่ คี วามแตกตา่ งทงั้ ใน เชงิ ภาษา วฒั นธรรม และเช้ือชาติ 3. ความเปน็ พลเมอื งดจิ ทิ ลั (digital citizenship) แนวคดิ ความเปน็ พลเมอื ง ดจิ ทิ ลั พดู ถงึ ความสามารถในการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ เพอื่ มสี ว่ นรว่ มในสงั คมเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ มคี วามรบั ผดิ ชอบ และปลอดภยั การปฏวิ ตั เิ ทคโนโลยี การสอื่ สารไดเ้ ปดิ โอกาสและหยบิ ยนื่ ความทา้ ทายใหมๆ่ ใหก้ บั พลเมอื งดจิ ทิ ลั เรา สามารถเข้าถึงข้อมูลโดยไร้ข้อจ�ากัดเชิงภูมิศาสตร์ เข้าร่วมชุมชนที่มีความสนใจ รว่ มกนั สร้างสรรคแ์ นวคดิ ใหม่ๆ ในการแกไ้ ขปญั หา และทา� ให้เสียงของพลเมือง ดงั ขนึ้ ในสงั คม แตเ่ รากต็ อ้ งเผชญิ กบั ความเสย่ี งใหมๆ่ เชน่ การสอดแนมความเปน็ ส่วนตัว อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ดังนั้นเราในฐานะพลเมืองดิจิทัลจึงต้อง ตระหนกั ถงึ โอกาสและความเส่ียงในโลกดจิ ทิ ัล พัฒนาทกั ษะและความรทู้ ี่จา� เป็น ในโลกใหม่ และเข้าใจถึงสทิ ธแิ ละความรบั ผดิ ชอบในโลกออนไลน์ 21
นอกจากนนั้ เราอาจนิยามความเป็นพลเมอื งดิจทิ ลั ออกเป็น 3 มติ ิ คือ 1. มิติด้านความรู้เกี่ยวกับส่ือและสารสนเทศ พลเมืองดิจิทัลต้องมีความรู้ ความสามารถในการเขา้ ถงึ ใช้ สร้างสรรค์ ประเมิน สงั เคราะห์ และสื่อสารขอ้ มลู ข่าวสารผ่านเคร่ืองมือดิจิทัล ดังน้ันพลเมืองยุคใหม่จึงต้องมีความรู้ด้านเทคนิค ในการเขา้ ถงึ และใชเ้ ครอ่ื งมอื ดจิ ทิ ลั เชน่ คอมพวิ เตอร์ สมารต์ โฟน แทบ็ เลต็ ไดอ้ ยา่ ง เช่ียวชาญ รวมถงึ ทกั ษะในการรูค้ ิดขัน้ สูง เชน่ ทกั ษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ ซ่ึงจ�าเปน็ ต่อการเลือก จดั ประเภท วิเคราะห์ ตีความ และเข้าใจข้อมูลข่าวสาร 2. มิติด้านจริยธรรม พลเมืองดิจิทัลจะใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และมีจริยธรรมอย่างไร พลเมืองท่ีดีจะต้องรู้จักคุณค่าและ จริยธรรมจากการใช้เทคโนโลยี ต้องตระหนักถึงผลพวงทางสังคม การเมือง เศรษฐกจิ และวฒั นธรรมทเ่ี กดิ จากการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ รวมถงึ รจู้ กั สทิ ธแิ ละความ รับผดิ ชอบออนไลน์ อาทิ เสรภี าพในการพดู การเคารพทรัพย์สนิ ทางปัญญาของ ผอู้ น่ื และการปกปอ้ งตนเองและชมุ ชนจากความเสยี่ งออนไลน์ เชน่ การกลน่ั แกลง้ ออนไลน์ ภาพลามกอนาจารเดก็ สแปม เปน็ ตน้ 3. มิติด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองและสังคม พลเมืองดิจิทัลต้องรู้จัก ใชศ้ ักยภาพของอินเทอร์เนต็ ในการมีสว่ นร่วมทางการเมือง เศรษฐกจิ และสังคม อินเทอร์เน็ตเป็นได้ท้ังเครื่องมือเพิ่มการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบบ เช่น รฐั บาลใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ในการรบั ฟงั ความเหน็ ของประชาชนกอ่ นออกกฎหมาย การ ลงคะแนนเสียงอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voting) หรือการยื่นค�าร้องออนไลน์ (online petition) นอกจากนั้น อินเทอร์เน็ตยังใช้ส่งเสริมการเมืองภาคพลเมืองผ่าน วธิ กี ารใหม่ๆ ซึ่งทา้ ทายให้เกิดการเปล่ียนแปลงการเมอื งในระดบั โครงสรา้ ง5 22
กล่าวโดยสรุป การจะเป็นพลเมืองดิจิทัลท่ีดีนั้น เราจะต้องมีชุดทักษะและ ความรทู้ งั้ ในเชงิ เทคโนโลยแี ละการคดิ ขนั้ สงู หรอื ทเี่ รยี กวา่ “ความรดู้ จิ ทิ ลั ” (digital literacy) เพอื่ ใชป้ ระโยชนจ์ ากขอ้ มลู ขา่ วสารในโลกไซเบอร์ รจู้ กั ปอ้ งกนั ตนเองจาก ความเส่ยี งต่างๆ ในโลกออนไลน์ เข้าใจถึงสทิ ธิ ความรบั ผิดชอบ และจรยิ ธรรม ท่ีส�าคัญในยุคดิจิทัล และใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตในการมีส่วนร่วมทาง การเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คม-วฒั นธรรม ทงั้ เพอื่ ตนเอง ชมุ ชน ประเทศ และโลก 23
ค่มู ือสร้างพลเมอื งดจิ ิทลั คมู่ อื พลเมอื งดจิ ทิ ลั เลม่ นพี้ ดู ถงึ ชดุ ทกั ษะและความรู้ การรกั ษาความปลอดภยั สิทธิและความรับผิดชอบ รวมถึงโอกาสและความท้าทายแห่งยุคสมัย ซึ่งล้วนมี ความสา� คัญต่อการเปน็ พลเมอื งดจิ ิทลั ทีส่ มบรู ณ์ ในโลกดิจิทัลท่ีเราเวียนว่ายอยู่ในข้อมูลที่ท่วมท้น ทักษะกับความรู้ดิจิทัล ท่ีจ�าเป็นส�าหรับการเข้าถึง ประเมิน ใช้ และสรรค์สร้างข้อมูล มีความส�าคัญต่อ การเปน็ พลเมอื งทีป่ ระสบความสา� เร็จ (บทที่ 2) นอกจากน้นั การพฒั นาความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั แนวคดิ เรอื่ งความเปน็ สว่ นตวั และความปลอดภยั จะชว่ ยใหเ้ รา ใช้ชวี ติ ในสังคมเศรษฐกจิ ยคุ ใหม่โดยหา่ งไกลจากภัยออนไลน์ (บทที่ 3) ในฐานะพลเมืองท่ใี ช้ชีวิตอยู่ในสังคม การเรียนรู้และเขา้ ใจถึงสิทธแิ ละความ รับผิดชอบออนไลน์ย่อมเป็นพื้นฐานส�าคัญส�าหรับการเป็นพลเมืองดิจิทัลท่ีดี (บทที่ 4) นอกจากนน้ั การเรยี นรเู้ กยี่ วกบั โอกาสแหง่ ศตวรรษใหมท่ เ่ี ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั สร้างข้ึน ไม่ว่าจะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ การเมือง และการเรียนรู้ ผ่านกรณี ศึกษาที่ประสบความส�าเร็จ จะช่วยให้เราจินตนาการถึงสังคมเศรษฐกิจดิจิทัล ทพี่ งึ ปรารถนาและรว่ มสรา้ งสรรคม์ นั ขนึ้ มาไดจ้ รงิ (บทที่ 5) สดุ ทา้ ย พลเมอื งดจิ ทิ ลั จะตอ้ งเข้าใจและเตรียมรับมอื กบั ความทา้ ทายในยุคดจิ ิทัล อาทิ ความเป็นกลาง ของเครอื ขา่ ย (net neutrality) ชอ่ งวา่ งดจิ ทิ ลั (digital divide) เพอ่ื ใหอ้ นิ เทอรเ์ นต็ เป็นพลงั ทีส่ ร้างสรรค์ทัง้ กบั ตัวเราเองและสงั คมในศตวรรษที่ 21 (บทที่ 6) 24
อ้างอิง 1 John P. Barlow, “Is There a There in Cyberspace?” Utne Reader (March-April 1995): 50-56, Quote in Barry Wellman, “Studying the Internet Through the Ages,” in The Handbook of Internet Studies, edited by Robert Burnett, Mia Consalvo and Charles Ess (UK: Wiley-Blackwell, 2010). 2 Internet World Stats, “Asia Marketing Research, Internet Usage, Population Statistics and Facebook Subscribers,” last modified April 16, 2018, http://www.internetworldstats.com/asia.htm#th. 3 สา� นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส,์ “คนไทยใชเ้ นต็ อยา่ งไร? ในปี 60,” กันยายน 29, 2560, แก้ไขเม่อื เมษายน 30, 2561, https://www.etda.or.th/ content/thailand-internet-user-profile-2017.html. 4 Brian W. Kernighan, Understanding the Digital World: What you need to know about computers, the internet, privacy and security (Princeton and Oxford: Princeton University Press, 2017). และ พริ งรอง รามสูตร, การก�ากบั ดแู ลเนื้อหาอินเทอร์เนต็ (กรุงเทพฯ: ศูนย์ศึกษานโยบายสอื่ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , 2556). 5 Moonsun Choi, “A Concept Analysis of Digital Citizenship for Democratic Citizenship Education in the Internet Age,” Theory & Research in Social Education 44, 4 (2016): 565-607.
2 ทกั ษะแหง่ ศตวรรษใหม:่ ทักษะและความรู้ดิจทิ ัล
การเปน็ พลเมอื งทดี่ ใี นศตวรรษใหมเ่ รยี กรอ้ งทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ซง่ึ รวม ถงึ ทกั ษะและความรดู้ จิ ทิ ลั (digital literacies) เพอ่ื ใหพ้ ลเมอื งประสบความสา� เรจ็ ในการทา� งาน การใชช้ วี ิต และการมีสว่ นรว่ มในสังคมการเมอื ง งานวิจัยดา้ นการศึกษาร่วมสมยั ชีไ้ ปในทศิ ทางเดยี วกันวา่ ทกั ษะและความรู้ ท่ีจ�าเป็นต่อการเป็นพลเมืองและการท�างานในศตวรรษท่ี 21 นั้นค่อนข้าง แตกต่างจากศตวรรษท่ี 20 บางทักษะแม้จะมีลักษณะถาวร (perennial skills) มคี วามสา� คญั มาตลอดทกุ ยคุ ทกุ สมยั ไมใ่ ชเ่ ฉพาะแตใ่ นศตวรรษท่ี 21 เชน่ ทกั ษะ 4C ได้แก่ การคดิ เชงิ สรา้ งสรรค์ (creativity) การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ (critical thinking) การสอื่ สาร (communication) และการทา� งานเปน็ ทมี (collaboration) แตท่ กั ษะเหลา่ นม้ี ลี กั ษณะเปลย่ี นไปในยคุ ดจิ ทิ ลั รวมถงึ ทวคี วามสา� คญั มากยงิ่ ขนึ้ จนกลายเป็นสิ่งท่ี “ต้อง” มีมากกว่า “น่าจะ” มี ขณะที่บางทักษะถือเป็นทักษะ ชุดใหม่ท่ีจ�าเป็นในบริบทของศตวรรษใหม่ เช่น ทักษะการเรียนรู้ข้ามวัฒนธรรม และทักษะและความรู้ดา้ นสารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยีไอซีที ทักษะและความรู้ดิจิทัลไม่ใช่ส่ิงที่แยกขาดจากชุดทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 แตเ่ ปน็ สว่ นหนงึ่ และทา� งานรว่ มกบั ทกั ษะอน่ื ๆ เชน่ ทกั ษะในการคดิ เชงิ สรา้ งสรรค์ และวิพากษ์ ซึ่งมีความส�าคัญต่อการพัฒนาความรู้ด้านสารสนเทศและส่ือ ดงั นน้ั การทา� ความเขา้ ใจทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 จงึ มคี วามสา� คญั ตอ่ การพฒั นา ความรดู้ ิจิทลั 27
ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท ่ี 21 คืออะไร? ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 กลายเป็น “ค�ายอดฮิต” ทั้งในและนอกแวดวง การศึกษา มีสถาบันและหน่วยงานมากมายพยายามน�าเสนอกรอบคิดเพ่ือ นยิ ามทักษะแห่งศตวรรษใหมน่ ้ี เช่น องคก์ ารเพ่ือความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ และ การพฒั นา (OECD) สมาคมเทคโนโลยีการศึกษานานาชาติ (ISTE) ศนู ย์บรกิ าร ทดสอบทางการศึกษา (ETS) รวมถึงรัฐบาลต่างๆ อย่างสิงคโปร์หรือฮ่องกง แต่กรอบคิดท่ีโดดเด่นในการอธิบายทักษะแห่งศตวรรษใหม่น้ีเป็นของภาคีเพ่ือ การเรียนรศู้ ตวรรษท่ี 21 (Partnership for 21st Century Learning) หรอื ทเ่ี รียก อย่างย่อว่า P21 ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของผู้มีส่วนได้เสียอันหลากหลาย อาทิ ผู้น�าดา้ นการศึกษา ผกู้ า� หนดนโยบาย นกั วิชาการ ภาคธุรกิจ ภาพที่ 1 แสดงให้เห็นวสิ ัยทศั นส์ า� หรับการเรยี นรูใ้ นศตวรรษท่ี 21 ของกลมุ่ P21 ซ่งึ อธบิ ายชุดผลลัพธส์ า� คญั ส�าหรบั การเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ทผี่ สมผสาน ทงั้ เนอื้ หาความรู้ (สาระวชิ าหลกั และความรสู้ า� คญั ในการดา� รงชวี ติ ในศตวรรษท่ี 21) และชุดทักษะต่างๆ ซึ่งรวมถึงทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะด้าน สารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยี และทักษะชีวิตและการทา� งาน เขา้ ด้วยกัน โดย ผลลพั ธเ์ หลา่ นเ้ี ชอื่ มโยงกบั ระบบสง่ เสรมิ การเรยี นรรู้ อบดา้ น ไดแ้ ก่ มาตรฐานและ การประเมนิ หลกั สตู รและวธิ กี ารสอน การพฒั นาวชิ าชพี และสภาพแวดลอ้ มในการ เรยี นรู้ ซง่ึ ควรไดร้ บั การปรบั เปลย่ี นใหส้ อดคลอ้ งกบั การพฒั นาทกั ษะศตวรรษที่ 21 28
ภาพท่ี 1: กรอบคิดเพื่อการเรยี นรใู้ นศตวรรษท ่ี 21 โดยภาคีเพอื่ การเรยี นร้ศู ตวรรษท ่ี 21 29
สาระวิชาหลัก (Core Subjects) ได้แก่ ภาษาองั กฤษ การอ่าน หรือศิลปะการใช้ภาษา ภาษาต่างประเทศ ศิลปะ คณิตศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภูมศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ การปกครอง และหน้าทพี่ ลเมือง ความรู้ส�าคญั ในการด�ารงชีวิตในศตวรรษที่ 21 (21st Century Themes) ไดแ้ ก่ ความรเู้ รอื่ งโลก ความรดู้ า้ นการเงนิ เศรษฐกจิ ธรุ กจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ ความรดู้ ้านพลเมอื ง ความร้ดู ้านสุขภาพ และความรดู้ า้ นสิ่งแวดล้อม ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills) ได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม การคิดอย่างมี วจิ ารณญาณและการแกไ้ ขปญั หา การสอื่ สารและการร่วมมือทา� งาน ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ สอื่ และเทคโนโลยี (Information, Media and Technology Skills) ไดแ้ ก่ ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ ทกั ษะดา้ นสอื่ และทกั ษะด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ทกั ษะชวี ิตและอาชีพ (Life and Career Skills) ได้แก่ ความ ยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว ความคิดริเร่ิมและการช้ีน�า ตนเอง ทักษะทางสังคมและทักษะข้ามวฒั นธรรม การเพม่ิ ผลิตภาพ และความร้รู บั ผดิ และความเป็นผนู้ า� และความรบั ผดิ ชอบ ระบบส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ได้แก่ มาตรฐาน และการประเมิน หลักสูตรและวิธีการสอน การพัฒนาวิชาชีพ และ สภาพแวดล้อมในการเรียนร1ู้
ทกั ษะและความรู้ดิจิทัล เทคโนโลยีดิจิทัลท�าให้ภูมิทัศน์ด้านการสื่อสารและบรรทัดฐานทางสังคม เปล่ียนไป ไม่ว่าจะเป็นการเสพส่ือ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร หรือการส่ือสารกับ ผอู้ ื่น ทกุ วนั นี้เราอยใู่ นโลกที่สามารถเข้าถงึ สารสนเทศจา� นวนมหาศาล อยู่ในโลก ที่การเปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยเี กดิ ขน้ึ อยา่ งรวดเร็ว และอยใู่ นโลกท่ีเปิดโอกาส ให้เราสามารถใช้เคร่ืองมือดิจิทัลในการสรรค์สร้างและเผยแพร่แนวคิดได้อย่างที่ ไม่เคยเกิดขน้ึ มากอ่ น การจะเป็นพลเมืองท่ีสมบูรณ์ในยุคดิจิทัลนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจะต้อง มีทักษะและความรู้ดิจิทัล ล�าพังแค่เพียงการเข้าถึงเทคโนโลยีนั้นไม่เพียงพอ ตัวอย่างเช่น ถ้าจะหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เราต้องรู้ว่าจะแยกความแตกต่าง ระหว่างกลลวงการตลาดท่ีหลอกขายอาหารเสริมกับข้อมูลน่าเช่ือถือที่มาจาก ฐานงานวจิ ัยอยา่ งไร ถ้าจะหางานในโลกออนไลน์ เรากต็ ้องมีทกั ษะในการคน้ หา ข้อมูลท่ีตรงกับงานท่ีเราต้องการ ถ้าจะหาโอกาสด้านการศึกษาในโลกออนไลน์ เพอื่ พัฒนาตัวเอง เรากต็ ้องรวู้ ่าจะค้นหาแหล่งการศกึ ษาท่นี า่ เชอ่ื ถอื ได้ท่ีไหนและ ร้จู ักเคร่ืองมือการเรียนรอู้ อนไลน์ แลว้ ถ้าอยากลุกขน้ึ มาทา� กจิ กรรมพัฒนาชมุ ชน เราก็ต้องรู้ว่าจะใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตในการสื่อสารและท�างานร่วมกับ คนในชมุ ชนอย่างไร 31
ชุดทักษะและความร้ดู จิ ทิ ัลจะชว่ ยใหเ้ ราใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื ตอบโจทย์การเปน็ พลเมอื งในยคุ ดจิ ทิ ลั ไดอ้ ยา่ งรอบดา้ น นน่ั คอื ใชเ้ ครอื่ งมอื ดจิ ทิ ลั ในการเขา้ ถงึ แหลง่ ขอ้ มลู (access) วเิ คราะหพ์ รอ้ มทงั้ ประเมนิ คณุ ภาพและความนา่ เชอื่ ถอื ของขอ้ มลู (analyze and evaluate) สร้างสรรคเ์ นอื้ หาในรปู แบบของส่ือผสมผา่ นเครือ่ งมอื ดิจิทัล (create) ตรวจสอบพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตและการสื่อสารกับ ผู้อ่ืนโดยค�านึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและหลักจริยธรรม (reflect) รวมถึง ใช้เครอ่ื งมอื ดิจทิ ลั แบง่ ปนั ความร้แู ละแก้ไขปญั หาตา่ งๆ ในสังคมผา่ นการทา� งาน รว่ มกบั ผู้อ่นื (act) ภาพที ่ 2: องคป์ ระกอบส�าคัญของทักษะและความรดู้ ิจิทลั 2 ชุดทักษะและความรู้ด้านดิจิทัลนั้นมีหลากหลายมิติ ทั้งความรู้ด้าน สารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยไี อซที ี รวมถงึ ความรดู้ า้ นอน่ื ๆ เชน่ การสอื่ สารและ ท�างานร่วมกับผู้อ่ืน ความคิดสร้างสรรค์และการคิดเชิงวิพากษ์ ซ่ึงมีส่วนส�าคัญ ท่ีช่วยให้พลเมืองใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ทั้งต่อตนเองและสังคม หัวข้อถัดจากนี้เป็นทักษะความรู้ที่จ�าเป็นในยุคดิจิทัล พร้อมท้ังตวั อย่างประกอบ 32
1. ความรู้ด้านสารสนเทศ โลกดจิ ทิ ลั เปน็ โลกทที่ ว่ มทน้ ดว้ ยสารสนเทศจา� นวนมหาศาล จนบางทเี ราไม่ สามารถจดั การและอาจเผลอเชอื่ ขอ้ มลู บางอยา่ งโดยไมพ่ นิ จิ พจิ ารณาใหร้ อบคอบ ความรดู้ า้ นสารสนเทศ (information literacy) ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ความสามารถในการ จดั การและใชป้ ระโยชนจ์ ากสารสนเทศออนไลนไ์ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพนนั้ มดี งั น้ี ความสามารถในการเขา้ ถงึ ขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งทันท่วงที เข้าใจวิธีการเลือกใช้ คา� คน้ หรือใชก้ ลยุทธก์ ารค้นหาอนั หลากหลาย และรูจ้ กั แหลง่ ข้อมูลทด่ี ี รู้เท่าทันว่าเน้ือหาท่ีพบในโลกออนไลน์ไม่สามารถเช่ือถือได้ทั้งหมด เพราะใครก็เผยแพร่เน้ือหาได้ และสามารถประเมินความถูกต้องและความ น่าเชื่อถือของข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ เช่น รู้จักวิธีตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ของเวบ็ ไซต์ หรอื เปรียบเทยี บขอ้ มลู จากหลายแหลง่ ก่อนเชอ่ื และนา� ไปใช้ จัดการกับข้อมูลได้อย่างเป็นระบบเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการท�างาน เชน่ ใช้เครือ่ งมือดิจิทลั ในการจัดเก็บขอ้ มูลอยา่ งเปน็ ระบบ สามารถประยกุ ต์ใชข้ อ้ มูลไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ในการแกไ้ ขปัญหาต่างๆ เข้าใจประเด็นทางจริยธรรมและกฎหมายที่เก่ียวข้องกับการเข้าถึงและ การใช้ขอ้ มลู ตัวอยา่ งเช่น การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หลกั การใชอ้ ยา่ งเปน็ ธรรม (fair use) การอา้ งองิ แหลง่ ข้อมลู ในการทา� วจิ ัยอยา่ งถกู ต้อง 33
เคล็บลับการใชเ้ ครื่องมอื คน้ หา เสริ ช์ เอ็นจ้นิ (search engine) คอื โปรแกรมค้นหาขอ้ มลู ในโลก ออนไลน์ เช่น Google, Yahoo หรือ Bing ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ต กลายเป็นแหล่งข้อมูลท่ีมีขนาดใหญ่กว่าหนังสือท่ีหนา 300 หน้า ถงึ 9 ลา้ นเทา่ เสริ ช์ เอน็ จน้ิ จงึ ทา� หนา้ ทป่ี ระหนงึ่ ดชั นคี น้ คา� ทชี่ ว่ ยสบื คน้ ขอ้ มูลท่ีคณุ ต้องการ Google ซงึ่ เปน็ เสริ ช์ เอน็ จนิ้ ทมี่ ผี ใู้ ชเ้ ยอะทสี่ ดุ ในโลก สรปุ เคลด็ ลบั และเทคนคิ การคน้ หาขอ้ มลู ไว้ดังนี้ เร่ิมด้วยเร่ืองพ้ืนฐาน: ไม่ว่าคุณต้องการหาอะไร ลอง เร่ิมต้นด้วยการค้นหาแบบง่ายๆ เช่น สนามบินที่ใกล้ที่สุดอยู่ ท่ีไหน นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มค�าอธิบายได้อีกสองสามค�า หากจา� เปน็ หากคณุ กา� ลงั หาสถานทห่ี รอื ผลติ ภณั ฑใ์ นสถานทบ่ี างแหง่ ให้เพิ่มสถานที่ เช่น เบเกอรี่ กรงุ เทพ เลือกค�าอย่างระมัดระวัง: เมื่อคุณก�าลังตัดสินใจว่าจะใส่ ค�าใดลงไปในช่องค้นหา ให้ลองเลือกค�าที่มีแนวโน้มว่าจะปรากฏบน เว็บไซต์ท่ีคุณก�าลังหาอยู่ เช่น ถ้าต้องการหาข้อมูลจากเว็บไซต์ทาง การแพทย์ แทนท่ีจะใช้ว่า ฉันปวดหัว ให้ใช้ว่า ปวดศีรษะ ซึ่งเป็น ค�าศพั ท์ทางการแพทยม์ ากกว่า
อยา่ กงั วลกบั ขอ้ ผดิ พลาดเลก็ ๆ นอ้ ยๆ: เครอ่ื งมอื ตรวจสอบ ตัวสะกดของกูเกิลจะเลือกตัวสะกดที่ใช้กันท่ัวไปโดยอัตโนมัติ ไม่ว่า คณุ จะสะกดคา� ถกู หรอื ผดิ สว่ นการใชต้ วั พมิ พใ์ หญจ่ ะใหผ้ ลการคน้ หา ไม่ต่างจากตัวพิมพ์เลก็ เช่น ฺBangkok Post กบั bangkok post การคน้ หาคา� ตอบอยา่ งรวดเรว็ : เมอื่ คณุ หาขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ เรอื่ ง ท่ัวไปที่ถูกสืบค้นบ่อย กูเกิลจะช่วยหาคา� ตอบให้คุณแล้วแสดงในผล การค้นหาโดยอตั โนมตั ิ เชน่ สภาพอากาศ: ค้นหาสภาพอากาศเพ่ือดูสภาพอากาศ ในทท่ี คี่ ณุ อยู่ หรอื เพม่ิ ชอื่ เมอื ง เชน่ สภาพอากาศ กรงุ เทพ เพอื่ คน้ หา สภาพอากาศในเมืองนน้ั ๆ พจนานกุ รม:ใส่defineหนา้ คา� เพอื่ ดคู วามหมายของคา� นนั้ การค�านวณ: ใสส่ มการทางคณิตศาสตร์ เช่น 3*9123 หรือแก้สมการกราฟท่ีซบั ซอ้ น แปลงหนว่ ย: ปอ้ นหนว่ ยทต่ี อ้ งการ เชน่ 1 ยโู ร เทา่ กบั กบ่ี าท กีฬา: ค้นหาชื่อทีมกีฬาเพ่ือดูตารางการแข่งขัน ผลการ แขง่ ขัน และอ่นื ๆ ข้อมลู ย่อ: คน้ หาชอื่ คนดงั สถานที่ ภาพยนตร์ หรือเพลง เพ่อื หาขอ้ มลู ท่ีเก่ยี วขอ้ ง3
เคลบ็ ลบั การตรวจสอบ ความนา่ เชื่อถอื ของแหล่งข้อมลู อินเทอร์เน็ตอนุญาตให้ทุกคนสามารถเผยแพร่เน้ือหาของตน ในวงกว้าง แต่ละวันมีเว็บไซต์เกิดใหม่หลายพันแห่งในโลกออนไลน์ และหลายเวบ็ ไซตใ์ นนนั้ กถ็ กู สรา้ งขน้ึ มาเพอื่ หวงั ผลทางเศรษฐกจิ หรอื การเมืองเท่านั้น เช่น เพื่อเผยแพร่ข่าวลวงหรือเพ่ือหลอกเอาข้อมูล สว่ นบุคคลของเรา ก่อนตัดสินใจว่าแหล่งข้อมูลน้ันน่าเชื่อถือหรือไม่ เราควรถาม ตวั เองกอ่ น 4 คา� ถาม ได้แก่ ท่ีไหน: ข่าวสาร ข้อมูล และความคิดเห็น ถูกเผยแพร่ผ่าน แหลง่ ขอ้ มลู ประเภทใด เปน็ เวบ็ ไซตธ์ รุ กจิ สถาบนั ขา่ ว หรอื บลอ็ กสว่ นตวั แล้ววัตถุประสงค์ของเว็บนั้นคืออะไร เพ่ือขายสินค้า เพื่อโน้มน้าว เพื่อใหข้ ้อมลู เพื่อความบนั เทงิ เพอ่ื ประโยชนส์ าธารณะ เราสามารถ เชค็ โดเมนเนมเพือ่ ตรวจสอบความน่าเชอื่ ถอื ของสถาบันได้ เช่น .edu กับ .gov จะเป็นโดเมนเนมท่ีกันไว้ส�าหรับสถาบันการศึกษาและ หน่วยงานรฐั เท่าน้ัน สว่ น .com หรอื .net น้นั ใครก็สามารถใชไ้ ด้
ใคร: ใครทเี่ ขา้ ถงึ อนิ เทอรเ์ นต็ กส็ ามารถผลติ เนอ้ื หาลงในโลก ออนไลนไ์ ดห้ มด แตไ่ มใ่ ชท่ กุ คนจะเชยี่ วชาญในเรอื่ งนน้ั ๆ เราควรตรวจ ดูว่าใครเป็นผู้ผลิตเนื้อหานั้นๆ แล้วลองสืบค้นดูคุณสมบัติและ บริบทแวดล้อมตัวผู้ผลิตว่ามีแรงจูงใจอะไร นอกจากน้ันเราสามารถ ตรวจสอบได้ที่หัวข้อ “เก่ียวกับเรา” (about us) ลองอ่านประวัติ ขององคก์ รผจู้ ดั ทา� เปา้ หมาย ผลงานทผี่ า่ นมา ทอี่ ยทู่ ตี่ ดิ ตอ่ ทง้ั หมดนี้ จะช่วยเราตัดสนิ ใจว่าเว็บไซต์นีน้ ่าเชือ่ ถอื มากเพยี งใด อะไร: เนอ้ื หาทถี่ ูกนา� เสนอน้ันมีข้อมลู แนวคิด และมมุ มอง อยา่ งไร ถกู นา� เสนออยา่ งรอบดา้ นหรอื ไม่ ถา้ ไม่ เราควรใชก้ ฎเลขสาม คอื เปรยี บเทยี บแหลง่ ขอ้ มลู อยา่ งนอ้ ยสามแหลง่ โดยเลอื กแหลง่ ขอ้ มลู ที่น�าเสนอข้อมูลอีกด้านด้วย นอกจากนั้นเว็บไซต์ท่ีออกแบบดี เป็น ระบบ ให้ความส�าคัญกับการใช้งานจริงของผู้ใช้ รวมถึงใส่ใจกับการ สะกดคา� ยอ่ มนา่ เชือ่ ถือมากกวา่ เพราะเป็นตัวบง่ ชี้ว่าผจู้ ดั ทา� ใส่ใจกับ เนอ้ื หาและการนา� เสนอจริงๆ ไม่ใชท่ า� ขนึ้ มาเพือ่ หวงั ผลระยะส้นั เม่ือใด: ควรตรวจสอบว่าเน้ือหาน้ันเผยแพร่ออกมาเมื่อใด เพอ่ื ดวู า่ เนอ้ื หานน้ั ทนั สมยั หรอื เปลา่ และเพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจบรบิ ทดา้ นเวลา ทเี่ น้ือหาน้นั ถูกสร้างขน้ึ 4
2. ความรู้ด้านสอื่ ทักษะและความรู้ด้านส่ือ (media literacy) มีความคล้ายคลึงกับการอ่าน ออกเขยี นได้ นน่ั คอื เราตอ้ งเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ตวั อกั ษรกอ่ น จากนน้ั กร็ จู้ กั คา� เขา้ ใจวา่ คา� นน้ั หมายถึงอะไร และเม่อื มาประกอบเปน็ ประโยค เป็นยอ่ หน้า เปน็ บทความ มนั มคี วามหมายอยา่ งไร มวี ธิ กี ารเลา่ เรอ่ื งอยา่ งไร หลงั จากอา่ นออกเรากจ็ ะเขยี นได้ สรา้ งสรรค์เน้ือหาดว้ ยตัวเองได้ จนกระทง่ั มีทักษะการอ่านออกเขยี นได้ท่แี ข็งแรง ความร้ดู า้ นส่ือกเ็ ชน่ กนั มันคือชุดความรู้ความสามารถในการเขา้ ใจ ตคี วาม วิเคราะห์ ประเมิน สร้างสรรค์เนื้อหาส่ือ ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกท่ีมีข้อมูล ท่วมท้นจากส่ือมากมาย ไม่เพียงแต่สื่อเก่าที่คุ้นเคยกันดีอย่างโทรทัศน์ วิทยุ หนังสอื พิมพ์ แต่รวมถงึ สอ่ื ดจิ ทิ ัล ท้งั โซเชยี ลมีเดยี วิดีโอไวรัล โฆษณาในรปู แบบ ใหม่ๆ ซ่ึงถูกส่งต่อและแพร่กระจายไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่าส่ือเก่าหรือสื่อ ใหม่ ส่ิงที่เหมือนกันคือ มีคนสร้างมันข้ึนมาและสร้างขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ บางอยา่ ง ชดุ ทกั ษะและความรดู้ า้ นสอ่ื จะชว่ ยใหเ้ ราตงั้ คา� ถามวา่ ใครเปน็ คนสรา้ ง เน้ือหาข้ึนมา วัตถุประสงค์ของเน้ือหาน้ันคืออะไร และเนื้อหาดังกล่าวถูกสร้าง ขนึ้ มาได้อย่างไร ภาคีเพื่อการเรียนรู้ศตวรรษที่ 21 สรุปแก่นใจความส�าคัญของความรู้ด้าน ส่ือไว้ดงั นี้ เขา้ ใจวา่ เนอื้ หาในสอ่ื ถกู สรา้ งขน้ึ ดว้ ยวธิ กี ารใดและเพอ่ื วตั ถปุ ระสงคอ์ ะไร รวมถงึ สามารถประเมินความนา่ เช่ือถอื ของข้อมลู โดยเฉพาะการแยกขอ้ เทจ็ จรงิ ออกจากความเห็น อคติ โฆษณา และวาระซอ่ นเรน้ ตรวจสอบได้ว่าคนเราตคี วามสือ่ แตกต่างกันอย่างไร ร้วู ่าอะไรคอื คณุ คา่ และมุมมองที่ถูกเลือกใส่หรือไม่ใส่เข้ามาในการผลิตสร้างเน้ือหา รวมถึงเข้าใจ ผลกระทบของสอ่ื ทม่ี ีต่อความเช่ือและพฤตกิ รรมของสังคมโดยรวม 38
เข้าใจประเด็นทางจริยธรรมและทางกฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับการเข้าถึง และการใช้สอ่ื เข้าใจและเลือกใช้เคร่ืองมือในการสร้างสรรค์ส่ือได้อย่างเหมาะสมตาม กลุ่มเป้าหมายและสถานการณ์ นอกจากน้ันคอมมอนเซนส์มีเดีย (Common Sense Media) องค์กร ไมแ่ สวงกา� ไรทต่ี อ้ งการพฒั นาความรคู้ วามเขา้ ใจดา้ นสอ่ื และเทคโนโลยแี กเ่ ดก็ และ ผ้ปู กครอง ไดส้ รุปประโยชนข์ องความร้ดู ้านสื่อไว้ดงั น5ี้ คิดเชิงวิพากษ์: เราสามารถประเมินได้ว่าเนื้อหาในสื่อน้ันมีเหตุมีผล หรอื ไม่ เหตุใดขอ้ มูลนีจ้ ึงถูกใสเ่ ขา้ ไป แนวคิดหลกั คอื อะไร เปน็ ผบู้ รโิ ภคทฉ่ี ลาด: เราสามารถประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถอื ของขอ้ มลู หรอื สินคา้ ได้ และเขา้ ใจเทคนคิ การตลาดที่ใชใ้ นการขายของ เข้าใจมุมมองในสื่อ: ผู้สร้างสรรค์ส่ือทุกคนมีมุมมองท่ีต้องการส่ือสาร เราจะเข้าใจมุมมองท่ีแตกต่างหลากหลายได้เม่ือเราพยายามเข้าใจมุมมองของ ผู้ผลิตส่อื สรา้ งสรรคส์ อื่ ดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ: ตระหนกั ถงึ มมุ มองทต่ี อ้ งการสอ่ื สาร และวิธีการส่ือสาร และเข้าใจถงึ ผลกระทบท่ีอาจเกดิ ขึ้นจากการสื่อสารของเรา เข้าใจบทบาทของสื่อในสังคม: ตระหนักว่าสื่อมีบทบาทส�าคัญในการ กา� หนดความเขา้ ใจของผคู้ นทม่ี ตี อ่ ปรากฏการณต์ า่ งๆ ในโลก ไมว่ า่ จะเปน็ ขา่ วดารา ปกนติ ยสาร ไปจนถงึ โฆษณาไวรัลในโซเชยี ลมเี ดีย เข้าใจเป้าหมายของผู้สร้างสื่อ: อะไรคือส่ิงที่ผู้สร้างสรรค์ส่ือต้องการ บอกเรา เนอ้ื หาน้ันเน้นให้ขอ้ มูล โน้มน้าวใจ หรอื ว่าเพอื่ เสนอแนะแนวคิดใหม่ๆ ถา้ เข้าใจเป้าหมายดังกล่าว เราจะตดั สนิ ใจเรอ่ื งต่างๆ ไดด้ ีข้นึ 39
Fake News ปรากฏการณ์ใหม่ในโลกออนไลน์ ทมิ เบอรเ์ นริ ส์ -ลี ผคู้ ดิ คน้ เวลิ ด์ ไวดเ์ วบ็ บอกวา่ ขา่ วลวง (fake news) เปน็ หนงึ่ ในสามปรากฏการณด์ า้ นลบท่สี า� คญั มากทสี่ ดุ ในโลกไซเบอร์ ณ เวลาน้ี (อกี สองอย่างคอื การทร่ี ัฐบาลใชอ้ นิ เทอร์เน็ตเพอื่ สอดส่อง ประชาชนและการประกาศสงครามไซเบอร์) ข่าวลวงหมายถึงข่าวที่ถูกเขียนข้ึนโดยมุ่งหวังให้เกิดความเข้าใจ ผิดและทา� ลายช่อื เสยี งของบคุ คล องค์กร หรือหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่า จะเพ่ือผลประโยชน์ทางการเมืองหรือทางเศรษฐกิจก็ตาม เช่น การ พาดหัวข่าวทป่ี ้ันแต่งเกนิ จริงเพื่อดึงดดู ให้คนกดเข้ามาดขู ่าว (หวังผล จากค่าโฆษณา) หรือการเผยแพร่ข่าวปลอมเพื่อท�าลายคู่แข่ง ทางการเมืองในชว่ งเลือกต้งั (หวงั ผลทางการเมือง) แมข้ ่าวลวงไมใ่ ช่ ปรากฏการณ์ใหม่ แต่อินเทอร์เน็ตท�าให้การแพร่กระจายข่าวลวง เป็นไปอย่างรวดเร็ว และผู้ท่ีท�าให้ค�าน้ีเป็นท่ีติดหูก็คือประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรมั ป์ บทวิเคราะห์ข่าวลวงในช่วงสามเดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปี 2016 ของสื่อออนไลน์ บัซฟีด
(Buzzfeed) แสดงให้เห็นว่า ข่าวลวงเก่ียวกับการเลือกตั้งในเฟสบุ๊ค (ซงึ่ ถกู แชรม์ าจากบลอ็ กหรอื เวบ็ ไซตท์ ห่ี ลอกลวงหรอื เลอื กขา้ ง) ไดร้ บั การแชร์ แสดงความเห็น หรือมีส่วนร่วมในทางอ่ืนๆ (เช่น กดไลก์ หรือแองกรี้) มากกว่าข่าวจากสื่อมืออาชีพอย่าง นิวยอร์กไทมส์ วอชงิ ตนั โพสต์ และ ฮฟั ฟงิ ตนั โพสต์ ดว้ ยซา�้ ขา่ วลวงทไี่ ดร้ บั ความสนใจ ในโลกออนไลนส์ งู สดุ ในการเลอื กตง้ั ครงั้ นน้ั คอื พระสนั ตปาปาฟรานซสิ สนบั สนนุ ทรมั ป์ และฮลิ ลารี คลนิ ตนั ผสู้ มคั รชงิ ชยั เกา้ อป้ี ระธานาธบิ ดี สหรัฐฯ ขายอาวุธให้กลุ่มก่อการร้ายไอซิส ประเทศไทยเองก็เผชิญ กับปัญหาข่าวลวงในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเช่นกัน เช่น ข่าวสนธิ ลมิ้ ทองกุล เส้นเลอื ดในสมองแตกเสยี ชวี ติ หรือขา่ วสรยุทธ์ สุทศั นะ- จนิ ดา ถูกยิงเสยี ชวี ติ ในปี 2559 นอกเหนอื จากการสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ สอ่ื อสิ ระทม่ี คี วามเปน็ มอื อาชพี ในการผลิตข่าวจริงมาสยบข่าวลวง และการสร้างอัลกอริธึมที่ค้นหา และจดั การกบั ขา่ วลวงแลว้ การสรา้ งความรเู้ ทา่ ทนั ขา่ ว (news literacy) ให้ประชาชนสามารถประเมินความนา่ เชื่อถือของแหล่งข่าว แยกแยะ ความลวงออกจากข้อเท็จจริง และไม่เช่ือทุกอย่างที่เห็นในโลก ออนไลน์ ถอื เปน็ มาตรการสา� คัญในการจัดการกับขา่ วลวง6
โฆษณาออนไลน์ทา� งานอย่างไร การโฆษณาทางออนไลน์น้ันสามารถมุ่งเป้าไปยังกลุ่มเฉพาะ ได้มากกว่าส่ือประเภทอื่นๆ เช่น ผู้หญิงที่ก�าลังต้ังครรภ์หรือผู้ชาย ท่ีชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง เพราะมีการเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้ เอาไว้อย่างเป็นระบบ ผ้ใู หบ้ ริการออนไลน์ใชเ้ ทคโนโลยีตดิ ตามวา่ เรา ทา� กิจกรรมอะไรบ้างในโลกออนไลน์ (เช่น เว็บไซต์ที่คุณเลือกซอื้ ของ บล็อกที่เข้าไปอ่าน ค�าท่ีคุณใช้สืบค้น) และเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเราจาก รอ่ งรอยดจิ ทิ ลั (digital footprint) ทที่ ง้ิ เอาไว้ จากนนั้ กใ็ ชข้ อ้ มลู ดงั กลา่ ว เลือกโฆษณาที่สอดคล้องกับความสนใจของเรา หรือท่ีเรียกกันว่า การโฆษณาจากพฤตกิ รรมออนไลน์ (online behavioral advertising) หรอื การโฆษณาตามความสนใจ (interest-based advertising) ผู้ใช้ไม่จ�าเป็นต้องบอกข้อมูลเกี่ยวกับความชอบหรือตัวตนของ ตวั เองโดยตรง ระบบจะคาดเดาจากสงิ่ ทเี่ ราทา� ในโลกออนไลน์ ตวั อยา่ ง เช่น ถา้ คุณกา� ลงั หาข้อมูลเกี่ยวกับท่อี ยู่แห่งใหม่ คณุ กจ็ ะเหน็ โฆษณา จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ หรือถ้าคุณค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคภัย บางอย่าง คุณก็อาจจะเห็นโฆษณาจากโรงพยาบาลหรืออาหารเสริม นอกจากน้ัน ระบบยังเก็บข้อมูลผู้ใช้และคาดเดาฐานะการเงินของ ผู้ใช้เพื่อใช้ปรับโฆษณาสินค้าและบริการ รวมถึงราคา ให้เหมาะกับ ผู้ใช้แตล่ ะคนดว้ ย
3. ความรดู้ า้ นไอซีที ทกั ษะและความรพู้ นื้ ฐานดา้ นไอซที ี (ICT literacy) มคี วามสา� คญั ตอ่ การเลอื ก และการใช้เทคโนโลยีเพ่ือตอบสนองเป้าหมายของเราในฐานะพลเมือง ความรู้ สา� คญั ดา้ นเทคโนโลยที ี่พลเมอื งดิจิทลั ควรรมู้ ดี งั นี้ เขา้ ใจแนวคดิ และการทา� งานพน้ื ฐานของเครอื่ งมอื ดจิ ทิ ลั เชน่ เขา้ ใจคา� ศพั ท์ ส�าคัญของระบบคอมพิวเตอร์ เข้าใจการท�างานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ คุ้นเคยกับสัญลักษณ์และอินเทอร์เฟซของเคร่ืองมือดิจิทัล รู้จักระบบปฏิบัติการ ทห่ี ลากหลายและสามารถเปรยี บเทยี บขอ้ ดีขอ้ เสยี ได้ ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยใี นกจิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจา� วนั เชน่ ทา� ธรุ กรรม ออนไลน์ ตดิ ตอ่ ประสานงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ สรา้ งสรรคผ์ ลงานและถา่ ยทอดความคดิ ของตน เลือกใช้เทคโนโลยีได้เหมาะกับวัตถุประสงค์ เข้าใจข้อดีข้อเสียของ เทคโนโลยีที่มีอยู่ในตลาด เช่น เลือกใช้แอปพลิเคช่ันท่ีช่วยให้การท�างานเกิด สัมฤทธิผลสงู สุด หรือชว่ ยในการจัดการขอ้ มูลไดอ้ ย่างเหมาะสม เท่าทันการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีและรู้จักวิธีใช้เพื่อการเรียนรู้ ตลอดชวี ิต เข้าใจประเด็นทางจริยธรรมและกฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับการเข้าถึง และการใชไ้ อซีที 43
ตัวอย่างเคร่อื งมือดิจิทัลทีช่ ว่ ยจดั การข้อมลู เครอ่ื งมอื ชว่ ยบนั ทกึ ข้อความ Evernote: เว็บไซต์และแอปพลิเคช่ันส�าหรับการบันทึก ข้อความและจัดการกับข้อมูล เราสามารถจดบันทึกข้อความ อัด เสียง หรือกระทั่งถ่ายภาพเก็บไว้ในบัญชีของเรา โดยข้อมูลท้ังหมด จะซิงก์เช่ือมกันหมดไม่ว่าเราจะใช้เอเวอร์โน้ตผ่านอุปกรณ์ไหน อกี ทงั้ ยงั แชรบ์ นั ทกึ ของเรากบั ผอู้ นื่ ไดด้ ว้ ย เอเวอรโ์ นต้ ยงั มสี ว่ นตอ่ ขยาย (extension) ของบราวเซอร์กูเกิลโครม (เรียกว่า Evernote Web Clipper) ซึ่งช่วยให้เราสามารถบันทึกข้อความ ลิงก์ และภาพ ไว้ใน บญั ชไี ดโ้ ดยการกดปมุ่ เพยี งคร้งั เดียว Google Keep: เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่ใช้จดบันทึก จัดการ และแชร์ข้อมูลได้อย่างสะดวก เม่ือเห็นหรือคิดอะไรออกข้ึน มา เราสามารถจดบนั ทึก เพ่มิ รายการส่ิงทตี่ ้องทา� เกบ็ ภาพถ่าย รวม ถึงบันทึกเสียงลงในกูเกิลคีป นอกจากนั้นเรายังสามารถแชร์ข้อมูล หรือแนวคิดกับเพ่ือนหรือครอบครัว ซ่ึงช่วยให้การท�างานร่วมกัน ง่ายย่งิ ขึ้น อีกท้งั ยังมเี ครอื่ งมือทีช่ ว่ ยในการจดั การกับข้อมูล เช่น การ ตดิ ปา้ ยหรอื ใชโ้ คด้ สตี า่ งๆ ในการจดั หมวดหมขู่ อ้ มลู ผใู้ ชส้ ามารถเขา้ ถงึ ข้อมูลที่บันทึกไว้ผ่านช่องทางไหนก็ได้ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรอื โทรศพั ท์มอื ถอื โดยข้อมลู จะเชอื่ มตอ่ กันท้งั หมด เคร่อื งมือจดั ระเบยี บความคิดและขอ้ มลู เป็นภาพ Trello: เว็บไซตแ์ ละแอปพลิเคช่นั ที่ช่วยในการตดิ ตามความ ก้าวหน้าของงานและความคิดให้ออกมาเป็นภาพ คุณสามารถสร้าง
การ์ดส�าหรับไอเดียใหม่ๆ จดบันทึกข้อความ จัดประเภทงานหรือ ความคิด ลิสตร์ ายการงานท่ตี ้องทา� แนบไฟล์ และยังมฟี ังกช์ ั่นอื่นๆ อกี มากมาย MindMeister: เวบ็ ไซตท์ ใ่ี ชส้ รา้ งแผนทคี่ วามคดิ (mind-map- ping) ในการวางแผนหรอื ระดมความเหน็ เราสามารถสรา้ งแผนภาพ ความคิดได้หลายรูปแบบ อีกท้ังยังสามารถแชร์แผนท่ีความคิดให้กับ ผอู้ นื่ ได้ดว้ ย เคร่ืองมอื ในการทา� งานรว่ มกบั ผู้อน่ื Google Docs: นอกจากจะเป็นเคร่ืองมือในการจดบันทึก และจัดเก็บเอกสารแล้ว ยังเป็นเคร่ืองมือที่ใช้ท�างานร่วมกับผู้อื่นได้ เป็นอย่างดี เราสามารถแชร์ไฟล์ให้กับคนอื่นได้ รวมถึงเลือกได้ว่า จะใหค้ นคนนน้ั ทา� อะไรกบั ไฟลไ์ ดบ้ า้ ง (เชน่ แกไ้ ขได้ แสดงความเหน็ ได้ หรือดูได้อย่างเดียว) หากเราเลือกแก้ไขได้ คนคนนั้นจะสามารถ ร่วมสร้างและแก้ไขเอกสารกับเรา รวมถึงแสดงความเห็นตอบโต้กัน ไปมาได้ นอกจากนัน้ ยงั สามารถดปู ระวัติการแกไ้ ขได้อกี ดว้ ย Basecamp: หนึ่งในเครื่องมือจัดการโครงการและท�างาน ร่วมกับผู้อ่นื ทด่ี ีทสี่ ดุ อินเทอรเ์ ฟซของเบสแคมปถ์ ูกออกแบบมาใหใ้ ช้ งานได้ง่าย เราสามารถพูดคุยเก่ียวกับโครงงานหรือแชร์ไฟล์ผ่าน หอ้ งแชต็ มปี ฏทิ นิ สา� หรบั นดั หมาย จดั กจิ กรรม และตง้ั เปา้ การทา� งาน รวมถงึ มี “รายการทต่ี อ้ งทา� ” (to-do list) ของงานแตล่ ะอยา่ ง โดยสามารถ แจกจ่ายงานไปให้กบั สมาชิกของทมี แต่ละคนรบั ผดิ ชอบได7้
4. ทักษะและความรอู้ ื่นๆ ในการเปน็ พลเมอื งดจิ ทิ ัล นอกเหนอื จากชดุ ความรดู้ า้ นสารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยไี อซที ี ซงึ่ มคี วาม ส�าคัญต่อการสร้างพลเมืองดิจทิ ลั โดยตรง ทกั ษะการคิดข้นั สงู ก็มีความสา� คญั ตอ่ การเป็นพลเมอื งดจิ ิทลั ทีป่ ระสบความสา� เรจ็ เชน่ กัน อาทิเช่น ทกั ษะด้านการสือ่ สารและการทา� งานร่วมกับผ้อู นื่ : การใช้ไอซีทีเพื่อการ ส่ือสารและท�างานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิผลและเหมาะสมกับกาลเทศะ เช่น ใช้อินเทอร์เน็ตในการส่ือสารและแลกเปลี่ยนความคิดกับกลุ่มคนท่ีมาจาก พ้ืนเพหลากหลาย รู้จักเครื่องมือที่เหมาะสมในการท�างานร่วมกับผู้อ่ืน ใช้ส่ือ เครือข่ายสังคมเผยแพร่ผลงานของตนหรือกลุ่มได้ดี มีส่วนร่วมสร้างความรู้ สาธารณะ ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม: การใช้เคร่ืองมือดิจิทัลเพ่ือส่งเสริม ความคิดสร้างสรรค์ สร้างองค์ความรู้ และพัฒนานวัตกรรมในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น ใช้สื่อดิจิทัลในการแปลงแนวคิดให้ออกมาเป็นผลงานรูปธรรม ผสมผสาน สื่อดิจิทลั ทมี่ อี ยู่เพือ่ สรา้ งสรรคส์ งิ่ ใหมข่ ้นึ มา การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ไขปัญหา: การใช้ไอซีทีเพื่อประเมินความ ถูกต้องของข้อมูลได้อย่างมีวิจารณญาณ รวมถึงสามารถค้นหาและประยุกต์ใช้ ความรูใ้ นการแก้ไขปญั หา 46
5. ตวั อยา่ งโมเดลทกั ษะและความรดู้ จิ ทิ ลั นอกเหนือจากทักษะและความรู้ท่ีจ�าเป็นส�าหรับพลเมืองในยุคดิจิทัลท่ีได้ กล่าวถงึ มาแลว้ มีบุคคล สถาบนั และองค์กรเป็นจา� นวนมากทีน่ า� เสนอรายการ ทกั ษะและความรู้ดจิ ทิ ลั ไว้อยา่ งนา่ สนใจ หน่ึงในกรอบคิดที่น่าสนใจนั้นมาจากลี เรนีย์ จากส�านักวิจัยพิว และแบร์รี เวลล์แมน จากศูนย์วิจัยเน็ตแล็บในมหาวิทยาลัยโตรอนโต พวกเขาเสนอทักษะ และความรู้ชุดใหม่ในโลกเครือข่าย โดยเน้นย�้าถึงชุดความสามารถที่จ�าเป็นต่อ การอาศัยอยูใ่ นโลกท่ีทนุ ทางสงั คมและความร้นู ัน้ ฝงั อยู่ในเครอื ขา่ ยดจิ ิทัล ดงั น8ี้ ความรู้ด้านกราฟิก (graphic literacy): ความสามารถในการตีความ เนอื้ หาทเี่ ปน็ ภาพกราฟกิ และมสี ว่ นรว่ มแลกเปลย่ี นและสรรคส์ รา้ งสง่ิ ใหมๆ่ ผา่ น หนา้ จอ ความรใู้ นการนา� ทาง (navigation literacy): ความสามารถในการจดั การ กบั แหลง่ ขอ้ มลู จา� นวนมากทไี่ มไ่ ดม้ ลี กั ษณะเปน็ เสน้ ตรง (ขอ้ มลู ถกู สง่ จากจดุ หนงึ่ ไปยังจุดหน่ึงเหมือนส่ือส่ิงพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์) แต่มีลักษณะเป็นเครือข่ายท่ี เชอ่ื มโยงกันจ�านวนมาก 48
ความรู้ในการเชื่อมต่อและเข้าใจบริบท (context and connections literacy): ข้อมลู ในโลกออนไลนไ์ หลผ่านไปอยา่ งรวดเร็ว มีจา� นวนมหาศาล และ แยกขาดจากบริบทมากขึ้น เราต้องมีทักษะในการเช่ือมโยงข้อมูลและสร้าง ความหมายใหก้ บั ขอ้ มลู ทักษะการโฟกัส (focus literacy): ความสามารถในการลดสิ่งรบกวน จากโลกที่มกี ารเชอ่ื มตอ่ ทกุ ทท่ี กุ เวลา และทา� งานให้เสรจ็ ลลุ ่วงได้ตามกา� หนด ทักษะการทา� งานพรอ้ มกนั หลายอยา่ ง (multitasking literacy): ความ สามารถในการจัดการงานหลายอยา่ งพรอ้ มกัน ความระแวงสงสัย (skepticism literacy): ในโลกท่ีขอ้ มลู ท่วมท้น น่ีคอื ความสามารถในการ “ตรวจหาส่ิงไร้สาระ” หรือความสามารถในการแยกแยะ แหลง่ ขอ้ มูลท่ตี กยุค อคติ มีวาระซ่อนเร้น และหลอกลวง ความรู้ด้านจริยธรรม (ethical literacy): ความสามารถในการสร้าง ความไวใ้ จและเพม่ิ คณุ คา่ ในสายตาคนอนื่ ดว้ ยการสรา้ งสรรคแ์ ละเผยแพรข่ อ้ มลู ท่ี ถกู ตอ้ งเหมาะสม ทักษะในการสร้างเครือข่าย (networking literacy): ความสามารถ ในการจดั การเครอื ขา่ ยอนั หลากหลาย รวมถงึ การคน้ หาและเชอื่ มตอ่ กบั เครอื ขา่ ย ใหมๆ่ 49
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202