~ 201 ~ มสุ ลิมผ้ดู ํารงตนในศาสนาประสงค์ท่ีจะมภี รรยา 4 คน แตท่ วา่ สงั คมกลบั ประณามดา่ วา่ เขาวา่ เป็ น คนมกั มากในกามคณุ ทงั้ ท่ีมนษุ ย์กาลปัจจบุ นั นตี ้ า่ งดาํ รงอยใู่ นระบอบ 100 ผวั พนั เมียดงั ท่ีได้กลา่ ว ไปแล้วในตอนต้นหนงั สือ เป็ นเรื่องที่น่าสมเพทเวทนาจับใจดีนักท่ีผ้อู ้างตนวา่ กําลงั ฟื ้นฟูอิสลาม กลบั หาเหตุผลร้ อยแปดพันเก้าเพื่อกีดกันการแต่งงานของหนุ่มสาวมสุ ลิมในวัยเรียนแต่กลบั ยอมรับที่จะเหน็ พวกเขาแตง่ งาน(กนั เอง)ตามโรงแรม,โมเตลส์หรือซ่องโสเภณี เช่นเดยี วกบั ในขณะ ที่เขากําลงั หาเหตผุ ลนานบั ประการเพ่ือกีดกันระบอบภรรยา 4 ในอิสลามแตค่ นอบุ าทว์กาลีโลก เหลา่ นีก้ ลบั นิ่งเงียบทนดสู งั คมดาํ รงตนอยใู่ นวถิ ีทางเพศแบบร้อยผวั พันเมียได้! และถ้าหากวา่ คน เหล่านีม้ ีชีวิตอยู่ในยุคสมยั ท่ีระบอบทาสยังคงดํารงอยู่ในโลกนีพ้ วกเขาก็จะต้องก้าวออกมา ประกาศด้วยเหตผุ ลในแบบเดียวกนั เพื่อกีดกนั เพศวิถีของอสิ ลามในเรื่องทาสอกี จนได้ ขณะที่ปรากฏการณ์ทาสท่ีถกู ขบั เคล่ือนด้วยอดุ มการณ์อิสลามได้สะท้อนภาพของความ เสมอภาคในศาสนาอสิ ลาม ดงั พบวา่ เสรีชนมสุ ลิมสามารถแตง่ งานกบั ทาสของเขาได้อย่างไมถ่ ือ ชัน้ ชน ความตกต่ําของมวลมุสลิมในทางจริยธรรมและจิตสํานึกในความเป็ นมนุษย์ ช่วงกาล ปัจจบุ นั ได้สะท้อนออกมาในภาพของการแบง่ ชนั้ แบ่งชนหรือบรรไดทางสงั คม เราจะพบวา่ พวกเจ้า ในสงั คมมสุ ลิมจะไมแ่ ตง่ งานกบั สามญั ชน พวกซยั ยิดหรือพวกที่สืบสายเลอื ดจากทา่ นนบี ศอ็ ลฯ ก็ ยงั คงงมโขง่ ด้วยการแตง่ งานเฉพาะในหมสู่ ายพนั ธ์ตุ นเองอยา่ งถือลาภยศ โดยไมพ่ ิจารณาด้วยซํา้ วา่ ทา่ นนบีซ่งึ เป็นซยั ยิดของซยั ยิดทงั้ หลายยงั ต้องยกบตุ รสาวของท่านให้แต่งงานกบั ท่านอษุ มาน จากตระกลู อมุ ยั ยะฮฺท่ีเป็นศตั รูคอู่ าฆาตด้วยซาํ ้ ทงั้ หมดกเ็ พื่อทลายความถือพรรคพวกในสายโลหติ การเกิดขึน้ ของระบอบทุนนิยมได้ก่อให้ เกิดการแต่งงานกันเป็ นชนชัน้ ทางสังคมกันเอง พวก ข้าราชการก็นิยมแตง่ งานกบั ข้าราชการ พวกนกั การศาสนาก็มีโลกของการสืบเผ่าพนั ธ์วงศ์ตระกลู ในอาณาจกั รทางสงั คมเป็ นของตวั เอง พวกชนชนั้ กลางก็เต็มไปด้วยการแต่งงานในแวดวงของผู้ รากมากดีมีอนั จะกิน ความโหดร้ายของสงั คมคือการละทิง้ ศรัทธาชนท่ีมีสถานภาพตํ่าต้อยทาง สงั คมเพราะการขาดกําลงั สนบั สนนุ ทางเศรษฐกิจ เราจึงพบเห็นกนั มากตอ่ มากแล้ววา่ คนที่แสดง ตนวา่ เคร่งครดั ในศาสนาก็มกั เลือกท่ีจะแตง่ งานกบั คนที่มีศาสนาจากในหมชู่ นชนั้ กลางกนั ก่อนอยู่ ดีแม้เขาจะรู้วา่ ยงั มศี รัทธาชนท่ีดีกว่านนั้ อย่เู พียงแต่เขาไม่เลือกเพราะศรัทธาชนผ้นู นั้ มีฐานะทาง สงั คมที่ต้อยตํา่ ไมม่ ีโอกาศเรียนหนงั สือทางสามญั เพราะฐานะทางเศรษฐกิจและโอกาสไมเ่ อือ้ ต่อ การศกึ ษาจึงถกู ปัดทิง้ ไปจากตวั เลือกอย่างไมเ่ ป็ นธรรม การพร่ําสอนแบบงมงายแต่ปฏิบตั ิไมไ่ ด้ เช่นว่าแต่งนารีให้ดศู รัทธาจึงเป็ นเพียงสโลแกนโง่งมของมสุ ลิมในยุคสมยั ของเราเท่านัน้ ไม่มี ประโยชน์อนั ใดที่จะมาซาบซงึ ้ กบั ข้อเขียนของข้าฯเมือ่ เราพบเหน็ การแตง่ งานกนั ระหวา่ งเสรีชนกบั ทาสในสงั คมมสุ ลิมยคุ ซอฮาบะฮฺแตท่ วา่ เราเองกย็ งั ถือชนั้ ชนด้วยการแตง่ งานในหมโู่ ครตเหง้าสาย พันธ์ทางสงั คมและชนชนั้ ในหม่พู วกตนกันเองอยู่ ส่ิงที่คนประเภทนีค้ วรจะกระทําคือการขว้าง หนงั สอื ของข้าฯทิง้ ไปเสียเพราะมนั ไมม่ จี ิตใจของข้าฯอยใู่ นข้อเขียนสาํ หรับคนจําพวกนี ้
~ 202 ~ ทาส : ปรัชญาการเมอื งและสงั คม โลกมสุ ลมิ ได้ตกเป็นหนีบ้ ญุ คณุ ทางวิชาการอิสลามกลมุ่ บคุ คลที่มารากเหง้ามาจากสงั คม ทาส ดงั ที่ได้กล่าวไปแล้วในช่วงต้นหนังสือว่าแม้กระทั่งปราชญ์นามอุโฆษอย่างท่านอิมาม มาลิกเองกย็ งั ได้รบั การสงั่ สอนในวิชาการจากคณาจารผ้เู ป็นทาสของทา่ น ภาพอนั นา่ ตรึงใจเหลา่ นี ้ จะไม่มีวันย้ อนหวนกลับมาอีกหากปรัชญาของการศึกษาคือการแบ่งชนชัน้ ทางสังคม ข้าฯ หมายความวา่ ทงั้ ที่การสกึ ษาเป็นอาณาจกั รแหง่ ความรู้ที่กว้างขวางแดช่ นทกุ กลมุ่ ทว่าการศึกษา ในยคุ ปัจจบุ นั กลบั เป็นแคเ่ คร่ืองมอื ทางเศรษฐกิจที่นําไปสกู่ ารแบ่งชนชนั้ ในสงั คม เรามกั จะได้ยิน คําวา่ “พวกไร้การศกึ ษา” โดยพิจารณาการเรียกคนกลมุ่ นีแ้ คว่ า่ พวกเขาไมผ่ า่ นการศึกษาในระบบ ผลสะท้อนออกมากค็ ือการศกึ ษาเป็นอาณาจกั รทางสงั คมของชนชนั้ กลางเทา่ นนั้ เราจึงไมส่ ามารถ พบเหน็ ระดบั ศาสตราจารย์ผ้มู ชี ่ือเสียงนกั หาความรู้กบั พ่อค้าหาบเร่ได้อีกเพราะระบอบการศึกษา และสงั คมไม่เอือ้ ให้ชนชนั้ ล่างเป็ นปราชญ์อีกต่อไปแล้ว กล่าวคือการศึกษาเป็ นเร่ืองของคนมี สตางค์ ตําแหน่งแห่งความเป็ นปราชญ์เป็ นเรื่องของคนมีทรัพย์สิน บคุ คลผ้เู ป็ นปราชญ์ต้องอยู่ ภายใต้กฎกติกาทางสงั คมอนั งมงายเช่นการต้องอย่ใู นระบบราชการที่ซํา้ ซ้อนจนกระดิกตวั ไมไ่ ด้ ปราชญ์ท่ีมจี ิตเสรีเพื่ออทุ ิสตนแก่สงั คมจึงหาได้น้อยมาก การตดั สินความเป็ นปราชญ์ของคนใน สงั คมจึงขนึ ้ อยกู่ บั ฐานะทางเศรษฐกิจและสงั คมของเขาท่ีจะผลกั ดนั ให้เขาจบจากสถาบนั สงู ๆมีชื่อ เท่านนั้ พวกดงั กลา่ วนีม้ ใิ ช่ปราชญ์และปัญญาชนหากแตเ่ ป็นชนชนั้ กลางที่เกียจคร้านม่งุ หาความ สบายในสวสั ดิการที่รัฐมีต่อเขา หนําซํา้ สมองอนั ชาญฉลาดของพวกเขากลบั ไม่เยียวยาหรือเป็ น กระบอกเสียงแกส่ งั คมเลย คําถามประเภทวา่ ท่านผ้นู ีจ้ บจากอะไร จบระดบั อะไร ยงั ไง คือคําถาม ในการเลือกเฟ้ นคนเข้าทํางานเพราะคณุ วฒุ ิที่ถกู ประทบั ตราในเศษกระดาษของมหาวิทยาลยั ท่ี สาํ เร็จการศกึ ษา ส่งิ ที่ยงั คงเป็นความหวงั แก่เราก็คอื โลกมสุ ลิมยงั คงเหลือปราชญ์ที่มรี ากเหง้าจาก ชาวบ้านอย่บู ้างแม้จะน้อยมากก็ตาม ดงั กรณีของทา่ นอมิ ามมฮุ มั มดั อลั -อลั บานีย์ ที่เป็ นเพียวคน ซ่อมนาฬิกาคนหน่ึงเท่านนั้ หรือ กรณีของท่านอิมามอบิ นบุ าซ ท่ีวฒุ ิการศกึ ษาไมอ่ าจเทียบเคียงกบั ระดบั ใดๆได้เลย ทา่ นทงั้ สองนีค้ ือภาพอนั นา่ ประทบั ใจที่ยงั คงหลงเหลอื อย่แู ม้นน้อยมากของความ เป็ นปราชญ์ที่ก่อผลมาจากความอสุ าหะ โดยไม่มีทุนทรัพย์ทางเศรษฐกิจและชัน้ ชนในสังคม เกือ้ หนุนใดๆเลย เม่ือท่านอิมามมาลิกยังเคยเป็ นศิษย์ของทาสได้ เราก็สามารถพบเห็นเหล่า ศาสตราจารย์นบั ร้อยเป็นสานศุ ิษย์ของชายชราลกู ครึ่งฝร่ังถืออาชีพซ่อมนาฬิกาอย่างต๊อกต๋อยได้ เชน่ กนั การหลงไหลกบั สถานะภาพของนักวิชาการคนหน่ึงเพียงเพราะความเป็ นดอ็ กเตอร์หรือ ศาสตราจารย์ทงั้ ท่ีคนผ้นู นั้ ไมเ่ คยอทุ ิศตนรับใช้วิชาการให้สมกบั ฐานะหรือให้เทียบเท่าท่ีปราชญ์ ชาวบ้านได้อทุ ิศไว้เลยจงึ เป็นการพิจารณาคณุ คา่ คนทางสงั คมที่งมงายที่สดุ ประการหนึ่ง มนั เป็ น
~ 203 ~ เรื่องท่ีนา่ เศร้าใจย่ิงนกั หากเราจะชื่นชมอิสลามท่ีได้สร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ทาสยคุ แรกทวา่ ระบบการศกึ าในสงั คมมสุ ลมิ ตอนนีก้ ลบั เป็นเพียงอาวธุ ของการแบ่งชนชนั้ คนทางสงั คมทงั้ ยงั สร้าง ระบบการศกึ ษาที่รวมศนู ย์ยึดติดกับฐานะทางวิชาการตลอดจนไมส่ ร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ เสรีชนผ้ดู ้อยโอกาสรวมถงึ การมองการศกึ ษาวา่ เป็ นเพียงเคร่ืองมือท่ีต้องแสวงหาเพื่อทํามาหากิน และกบั ผลลพั ธ์ทางวตั ถธุ รรมเท่านนั้ ในแง่ของปรัชญาการเมือง ระบอบประชาธิปไตยหรือการปกครองท่ีถูกใฝ่ หาในกาล ปัจจบุ นั ล้วนมีรากเหง้ามาจากแก่นปรชั ญาของอริสโตเติลไมม่ ากกน็ ้อยผา่ นการถกั ทอร้อยเรียงทาง ความคดิ ที่ตอ่ ยอดมาอกี ขนั้ ทงั้ สนิ ้ อริสโตเติลมที ศั นะที่หยาบคายตอ่ การคงอยขู่ องระบอบทาสมาก เขาพิจารณาวา่ การมีอย่ขู องสงั คมทาสคือปัจจยั หลกั ท่ีก่อให้เกิดอารยธรรมศรีวิไลขนึ ้ มาแก่มวล มนษุ ยชาติพดู อีกทางหน่งึ แล้วเขาพิจารณาวา่ ท่ีใดไมม่ ที าสท่ีนน่ั ยอมขาดความเจริญงอกงามจาก สาเหตทุ ่ีวา่ สงั คมในยคุ อดตี เป็นสงั คมท่ีไมอ่ ย่ใู นระบอบการผลิตแบบอตุ สาหกรรม หนําซํา้ ตวั ของ อริสโตเติลยงั เช่ือวา่ มนษุ ย์บางประเภทเป็นทาสโดยธรรมชาตหิ รือเกิดมาเป็ นทาสและท้ายที่สดุ เขา กโ็ ยนเผือกร้อนให้แก่ชนชาตบิ างกลมุ่ ที่เขามองวา่ ป่ าเถื่อนด้วยการสอนสง่ั อย่างงมงายว่าชนชาติ ป่ าเถื่อนทงั้ หลายล้วนเป็นชนชาติที่เกิดมาเพ่ือเป็นทาส!! ไมต่ ้องสงสยั เลยวา่ ข้ออ้างเพ่ือสนบั สนนุ การมที าสของอริสโตเตลิ นนั้ เป็นแคเ่ พียงการสร้าง เหตผุ ลที่ไมใ่ ช่เง่ือนไขขนึ ้ มารองรับตรรกะของเขาเทา่ นนั้ ความเจริญของมวลมนุษย์มิได้ขนึ ้ ตรงกบั การเป็นทาสแตอ่ ย่างใดเลย มนษุ ย์ ในสงั คมศกั ดนิ าซ่งึ พฒั นาการตอ่ มาจากสงั คมทาสและการคง อย่ซู ง่ึ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งมนษุ ย์แบบใหมท่ ่ีเข้ามาแทนท่ีสงั คมทาสกส็ ามารถสร้างความเจริญแก่ อารยธรรมของมวลมนษุ ย์ได้ ดงั นนั้ ข้ออ้างของอริสโตเติลที่วา่ มนษุ ย์เกิดมาเป็ นทาสโดยธรรมชาติ เช่นพวกชนชาติป่ าเถ่ือนเป็นต้นนนั้ นอกจากจะเป็นข้ออ้างท่ีไมม่ มี ลู ความจริงสนบั สนนุ แล้วยงั เป็ น การกอ่ ตวั ขนึ ้ ของคําสอนในแบบลทั ธิชาตินิยมถือเผ่าพันธ์อย่างงมงายอีกด้วย ย่อมเป็ นที่ชัดเจน แล้ววา่ พวกคริสต์เตยี นยโุ รปซงึ่ ยดึ ถือการปกครองท่ีมีรากเหง้าของปรัชญาอริสโตเติลได้ใช้ปรัชญา ที่สนบั สนนุ การกดขีเ่ พ่ือนมนษุ ย์เหลา่ นีก้ ระทําทารุณกรรมกบั ทาสผิวดาํ อย่างไร ปรัชญาการเมืองของอิสลามชา่ งแตกตา่ งกบั อริสโตเตลิ ราวฟ้ ากบั เหว อสิ ลามปฏเิ สธความ เช่ือโงง่ มท่ีวา่ มนษุ ย์เกิดมาเป็นทาสโดยธรรมชาตเิ พราะมนษุ ย์ถกู พระเจ้าสร้างมาในสทิ ธิสภาพของ เสรีชน สงั คมนษุ ย์ตา่ งหากท่ีทํามนษุ ย์ด้วยกันให้เป็ นทาส หนําซํา้ ปรัชญาการเมืองของอิสลามมิ เคยพิจารณาว่าการมีอย่ขู องทาสจะเป็ นตวั คํา้ จนุ ความเจริญของมนษุ ยชาติใดๆเลยไม่ กลบั กนั ความเจริญก้าวหน้าของมนษุ ยชาติเกิดขนึ ้ มาจากการเช่ือฟังและปฏิบัติตามทางนําแห่งระบอบ อิสลามที่สมบรู ณ์ พิจารณาในจุดนีอ้ ิสลามจึงมิได้พิจารณาวา่ ทาสคือแรงงานแต่เพียงถ่ายเดียว กลบั กนั ปรัชญาการเมอื งของอสิ ลามได้เปิ ดโอกาสหรือเวทีทางการเมอื งแก่พวกทาสไว้ดงั วจนะของ ทา่ นรอซลู ความวา่
~ 204 ~ ألم اساممل لتيمم لبد نقمدتم بمااب الله فاسممما ل أأطيمما لن شمبة بهذا الإسكاد أقال لبدا حبشيا “และแม้นวา่ ทาสได้ถกู แตง่ ตงั้ มาให้มีอาํ นาจเหนือท่านและเขาบริหารจดั การบรรดาการงานตา่ งๆ ของพวกท่านด้วยกบั คมั ภีร์ของอลั ลอฮฺดงั นนั้ จงเชื่อฟังและภกั ดีตอ่ เขา รายงานจากชอุ บ์ ะฮจฺ ากสายรายงานกระแสเดียวกนั ระบเุ พ่ิมคําวา่ แม้วา่ เขาเป็นทาสชาวเอธิโอเปี ย ก็ตาม”186 لن يحٍن بن حصٌن لن جدت أم اْلصٌن قال سمماها تقمل حجج مع رسمل الله صتى الله لتي أستم حجة المداع قال فقال رسمل الله صتى الله لتي أستم قملاتثًنا ٍب سمما نقمل إن أمر لتيمم لبد مجدع حسباها قال أسمد نقمدتم بمااب الله فاسممما ل أأطيمما “รายงานจากยะฮยฺ าบินฮศุ อ็ ยนจฺ ากยายของเขาชื่ออมุ มลุ ฮศุ อ็ ยนฺ เขากลา่ ววา่ ฉนั ได้ยินยายของฉนั กลา่ ววา่ นางได้ทําฮจั ตลุ วะดาอ์พร้อมกบั ท่านรอซูล ศอ็ ลฯ ซึ่งรอซูล ศอ็ ลฯ กลา่ วอะไรหลายอย่าง ในการทําฮจั ญ์ครงั้ นี ้และท่านรอซูลกลา่ วด้วยวา่ แม้นวา่ ทาสทพุ ลภาพจะถกู เลือกให้มาเป็นผ้นู ํา ของพวกท่าน ซง่ึ นางเข้าใจวา่ ทา่ นรอซูลหมายถึงทาสผิวดาํ หากทาสนนั้ ได้ปกครองพวกทา่ นด้วย คมั ภรี ์ของอลั ลอฮฺ ดงั นนั้ จงเชื่อฟังและภกั ดีตอ่ เขาเถิด”187 หะดษี ทงั้ 2 สาํ นวนนี ้ในมิติแรกมนั ได้ทลายปรัชญาการเมืองผิดๆที่มวลมนษุ ย์มีมาก่อน ยคุ สมยั ของอสิ ลาม นนั่ คือการเมืองเป็นเร่ืองของปราชญ์ชนชนั้ สงู ดงั ทพ่ี ลาโตบอกวา่ ผ้ปู กครองต้อง เป็นเพียงกษัตริย์นกั ปรชั ญาเทา่ นนั้ อย่างไรก็ตามในอสิ ลามการเมอื งเป็นเรื่องของชนชนั้ สงู พอๆกบั เป็ นเรื่องของชนชัน้ รากหญ้ าเช่นทาส หะดีษบทนีไ้ ด้ขยายพืน้ ท่ีกิจกรรมทางสังคมแก่ทาสไว้ กว้างขวางมาก สาํ นวนท่ีระบวุ า่ จงเช่ือฟังพวกเขาตราบใดท่ีพวกเขายงั แนะนําให้ปฏิบตั ิตามทางนํา ของอลั กุรอานและซุนนะฮฺ เท่ากับเปิ ดพืน้ ที่ทางกิจกรรมแก่พวกทาสไว้ในทุกกิจการของอิสลาม เพราะอิสลามนนั้ คอื ระบอบอนั สมั บรู ณ์ซ่ึงในทกุ กิจกรรมของมนั จะต้องถกู ชกั นําด้วยทางนําทงั้ สอง นี ้สํานวนอีกต้นหนึ่งที่ระบุให้เช่ือฟังผ้นู ําแม้นว่าจะเป็ นทาสทุพลภาพ หะดีษสํานวนนีบ้ ่งชีอ้ ย่าง ชดั เจนถงึ การเปิ ดพืน้ ท่ีทางการเมืองแก่พวกทาสไว้ ทงั้ ยงั ทําลายความสมั พนั ธ์เดิมของทาสกบั เสรี ชนนนั่ คือการเช่ือฟังมิได้ถกู ผกู ขาดโดยเสรีชนหากแตท่ าสกเ็ ป็นหนง่ึ ในผ้ทู ี่อาจได้รับการจงรักภกั ดี ได้เชน่ กนั ยิ่งไปกวา่ นนั้ หะดีษทงั้ 2 สาํ นวนนีย้ งั ได้ทลายมมุ มองโงง่ มของอริสโตเตลิ ท่ีวา่ ชนชาติบาง พวกเกิดมาเป็นทาสโดยธรรมชาตกิ ลา่ วคือหะดีษได้สอนสงั่ มสุ ลิมให้ตระหนักรู้ในการเชื่อฟังผ้นู ํา ของพวกเขาแม้วา่ พวกเขาจะเป็ นชนชาตทิ ่ีมาจากพวกเอธิโอเปี ยที่ตา่ํ ต้อยมากในยุคสมยั นนั้ ก็ตาม การเมอื งในอสิ ลามจึงมใิ ช่การเมืองในเชิงชาติพนั ธ์นิยมท่ีพิจารณาวา่ ชนชาติตนคือผ้ทู ่ีเหมาะมนั่ 186 ศอฮฮี ฺมสุ ลมิ . หมายเลขหะดษี : 1838. 187 ศอฮฮี ฺมสุ ลมิ . หมายเลขหะดษี : 1838.
~ 205 ~ กบั ความเป็นผ้นู ําแต่ชนชาติพวกป่ าเถ่ือนเหมาะสมที่จะเป็ นทาส! หะดีษยงั สะท้อนมมุ มองใหม่ เพิ่มเตมิ วา่ คนพิการหรือคนทพุ ลภาพนนั้ จะไมถ่ กู กีดกนั ไปจากเวทีทางการเมือง พวกเขาจะมีสว่ น ร่วมทางการเมืองได้เสมอตราบใดที่ส่วนร่วมของพวกเขายังคงเป็ นไปตามอดุ มการณ์ของอิสลาม ผลสะท้อนท่ีเป็ นรูปธรรมท่ีสดุ ในเรื่องนีซ้ ึ่งอยากจะยกเป็ นตวั อยากทิง้ ท้ายไว้ก็คือสภาชรู อหรือ เทียบเทา่ สภานิติบญั ญัติซึ่งปรากฏในประเทศซาอดุ ิอารเบีย สภานีไ้ ด้รับการจัดตงั้ ขนึ ้ ในรัชสมยั ของกษัตริย์อบั ดลุ อะซีส อลั สอุ ๊ดู โดยพระองคไ์ ด้มอบอํานาจแกเ่ หลา่ ผ้รู ู้อิสลามในการร่างกฎหมาย ชะรีอะฮฺขนึ ้ เป็นกฎระเบียบภายในรัฐด้วยคําสญั ญาของพระองค์วา่ พระองค์จะไม่แทรกแซงสภา ดงั กลา่ วนีพ้ ร้อมทงั้ พระองคจ์ ะไมอ่ อกกฎหมายใดๆก่อนหากพระองค์ไมผ่ ่านการอนุมตั ิของสภาชู รอนี ้แน่นอนหะดีษของท่านนบีท่ีระบุถึงการเชื่อฟังผ้นู ําแม้นวา่ เขาจะเป็ นคนพิการก็ตามได้ฉาย ภาพลกั ษณ์ท่ีใกล้เคียงมากในการเมืองของรัฐซาอดุ ิอารเบีย กลา่ วคือแม้นวา่ รัฐนีจ้ ะยงั คงอย่ใู น ปลกั ของสมบรู ณาญาสทิ ธิราชก็ตามแตอ่ าํ นาจของการตรากฎหมายเพื่อจดั ระเบยี บรฐั นนั้ กลบั เป็น หน้าที่ของอลุ ามาอ์ท่ีพิการเกือบทงั้ สิน้ เหล่ามฟุ ตีของรัฐซาอลุ ้วนแล้วแต่เป็ นบุคคลที่พิการทาง สายตา อาทิ ท่านหะซนั อลั อาลชุ ชยั คฺ ท่านอิบรอฮีมอลั อาลชุ ชัยคฺ ท่านอบั ดลุ อะซีสอิบนบุ าซ ฯลฯ คนเหลา่ นีล้ ้วนเป็นคนพิการทางสายตาแตก่ ลบั มีเกียรติภมู สิ งู มากในประเทศน่นั คือพวกเขาเป็ นผู้ ทรงสทิ ธิในการออกกฎหมายบ้านเมืองให้สอดคล้องกบั หลกั การอิสลาม พดู อกี ทางแล้วก็คือแม้แต่ ผ้เู ป็ นกษัตริย์และเชือ้ พระวงศ์เองก็ยังคงต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เหล่าอลุ ามาอ์ซึ่งทุพลภาพ เหลา่ นีไ้ ด้ตราไว้ การเมอื งในลกั ษณะดงั กลา่ วนีไ้ มอ่ าจจะพบเจอในรัฐประชาธิปไตยปัจจบุ นั ใดๆได้ เลย การท่ีคนพิการกล่มุ หน่ึงซ่ึงเป่ี ยมไปด้วยคณุ วฒุ ิทางความรู้สามารถก้าวขนึ ้ ส่กู ารเป็ นสมาชิก ของสภาร่างกฎหมายแห่งชาตไิ ด้นนั้ ยอ่ มไมอ่ าจเกิดขนึ ้ ในการเมืองท่ีมีแตค่ วามใจแคบและถือชนั้ ชน การเมืองของโลกมสุ ลิมจึงถูกคํา้ จนุ ด้วยความศรัทธาและแก่นปรัชญาการเมืองของอิสลาม เชน่ เดยี วกบั หะดีษท่ีระบวุ า่ จงเชื่อฟังผ้นู ําของพวกทา่ นแม้วา่ เขาจะเป็ นทาสก็ตาม ผลจากคําสอน ดงั กลา่ วนีไ้ ด้เกิดขนึ ้ จริงแล้วเมอื่ คราวที่พวกมมั ลกู ได้ขนึ ้ ปกครองอียิปต์ทงั้ ท่ีราชวงศ์นีค้ ือพวกทาส เช่นเดยี วกบั ราชวงศท์ าสในกรุงเดลฮีท่ีครองราชย์ปกครองบ้านเมืองอย่ชู วั่ ระยะหนง่ึ แน่นอนว่าเรา จะไมพ่ บการขนึ ้ เป็นผ้นู ําของพวกทาสในหมชู่ นชาตอิ ่ืนๆเลยนอกจากการปกครองของร่มธงอสิ ลาม เท่านนั้ ระบอบแห่งอตั ลกั ษณ์นีเ้ ทา่ นนั้ ที่จะยงั ความผาสกุ แก่มวลมนษุ ยชาติได้ในทุกสถานการณ์ การมงุ่ หลงไหลในโครงสร้ างของสงั คมและการปกครองตอ่ ระบอบอ่ืนไปจากนีล้ ้วนแล้วแต่เป็ น หนทางแหง่ ความหายนะไมจ่ บสนิ ้ ของประชาชาติอสิ ลาม เช่นเดยี วกบั เมอ่ื ครงั้ ท่ีประชาชาติอิสลาม ได้ละทิง้ นโยบายการเลิกทาสที่ถูกกระทําขนึ ้ โดยเหล่าคอลีฟะฮฺผ้ทู รงธรรมทงั้ 4 และได้กระโจน ตวั เองเข้าไปหมอบคลานอยา่ งจํานนตอ่ ปรัชญากรีกของอริสโตเติล การเลิกทาสท่ีควรจะกระทําขนึ ้ เพื่อเจตนารมณ์ขององคพ์ ระผ้อู ภบิ าลแห่งสากลโลกกถ็ กู แทนที่ด้วยหลกั ความเชื่อในเรื่องธรรมชาติ ของทาสตอ่ ไปพร้อมๆกบั ปรัชญาเทววิทยาท่ีเข้าไปถกเถียงอาตมนั ของพระเจ้าอย่างมืดบอด ชาว
~ 206 ~ อาหรับจึงงมโขง่ อยกู่ บั ปรัชญาของอริสโตเติลไปอกี นานในขณะท่ีชาวยโุ รปได้สลดั ตนเองออกจาก ความเพ้อฝันทางปรัชญาสกู่ ารแสวงหาทางวทิ ยาศาสตร์ไปแล้ว ทาสในสงั คมอาหรับจึงมีอย่อู ย่าง ดกั ดานรากเลือดต่อไปจนกลายมาเป็ นหน่ึงในด่างพร้อยของโลกมสุ ลิมท่ีพ่ึงจะถูกยกเลิกเม่ือ ศตวรรษท่ี 20 นีด้ ้วยซํา้ หลงั การเข้ามาของอาณานิคมทงั้ ที่บรรพบุรุษทางศาสนาของพวกเขาอนั ทรงธรรมได้กระทําให้ดเู ป็นแบบอย่างไว้สมบรู ณ์แบบทกุ อย่างแล้ว! บรรณานุกรม จิตราภรณ์ ตนั รัตนกลุ . ละตนิ อเมริกา. กรุงเทพมหานคร : ตรสั วิน, 2545.
~ 207 ~ เฉลิม จนั ปฐมพงศ์, ประวัตศิ าสตร์สังคมไทย. นนทบรุ ี : สํานกั พิมพ์เสถียรไทย, 2520. ซยั ยิด อบลุ อะอลฺ า เมาดดู ีย์. การคลุมหน้ากับสถานภาพสตรีในอสิ ลาม. กหุ ลาบเขยี ว,แปล. พิมพ์ครงั้ ที่ 2. กรุงเทพฯ : ศนู ย์หนงั สอื อสิ ลาม, 2553. บศุ ศกั ดิ์ แสงระว.ี โลกทัศน์...ปรัชญาวตั ถนุ ยิ มวภิ าษ. กรุงเทพฯ : สขุ ภาพใจ, 2547. เมาลานา ซยั ยิด อบลุ อลา เมาดดู ี. ตัฟฮีมุลกุรอาน ความหมายคมั ภรี ์อัลกุรอาน เล่ม 1. ; แปลโดยบรรจง บินกาซนั . กรุงเทพมหานคร : ศนู ย์หนงั สืออิสลาม, 2539. เมาลานา ซยั ยิด อบลุ อลา เมาดดู ี. ตัฟฮีมุลกุรอาน ความหมายคัมภรี ์อลั กุรอาน เล่ม 5. ; แปลโดยบรรจง บินกาซนั . กรุงเทพมหานคร : ศนู ย์หนงั สืออิสลาม, 2540. รอฟลี แวหะมะ. เอกสารประกอบ รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์อสิ ลาม 1 (761-208 Islamic History 1). เมาลานา วาฮิดดุ ดนี คาน. ใครว่าพระเจ้าไม่มี. บรรจง บินกาซนั ,แปล. กรุงเทพฯ : อลั ฟาริซี, ม.ป.ป. ศอลิห หสุ ยั น์ อลั อายิด, อษุ มาน อดิ รีส. สทิ ธขิ องชนต่างศาสนกิ ในประเทศอสิ ลาม. กรุงเทพมหานคร : เอดสิ นั เพรสโพรดกั ส์, 2548. สพุ จน์ ดา่ นตระกลู . คอมมวิ นิสต์สอนอะไร ?. นนทบรุ ี : สถาบนั วิทยาศาสตร์สงั คม (ประเทศไทย), 2551. ฮารูน ยะหยา; ญะอฟัร ชยั ค อดิ ริส; ฟัตฮีย อษุ มาน. พระเจ้ามีจริงหรือ : ความจริงท่มี อิ าจ ปฏเิ สธ. อบลุ ลยั ษ, แปลและเรียบเรียง. กรุงเทพมหานคร : ศนู ย์บริการวิชาการมสุ ลิม, 2546. อบลุ หะซนั อาลี อลั -นดั วยี ์. โลกสูญเสียอะไรจากความตกต่าของประชาชาติมุสลมิ ภาคท่1ี . นัศรุลลอฮ์ หมัดตะพงศ์,แปล. ปัตตานี : โคงการส่งเสริมการวิจัยและเขียนตํารา มหาวทิ ยาลยั อสิ ลามยะลา. อลั เบิร์ต ฮรู านี. ประวตั ศิ าสตร์ของชนชาตอิ าหรับ. จรัญ มะลลู ีม, แปล. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, 2550. อสี มาแอ กาเต๊ะ. เอกสารประกอบการสอนรายวชิ า 761-323 Islamic History 2. วิทยาลยั อิสลามศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี, 2/2553. อลั ฮจั ย์มลุ วีมริ ซากลุ ามอบั บาสอะลีซาฮิบ. ฮูเซนวีรชนแห่งอสิ ลาม. เทวการานี, แปล. กรุงทพฯ : สาํ นกั พิมพ์ 14 พบั ลเิ คชนั่ , 2546. Phillip K. Hitti, Macmillan. ประวัติศาสตร์อาหรับและกาเนิดอสิ ลาม. ทรงยศ แววหงส,์ บรรณาธิการแปล. สมทุ รปราการ : มลู นิธิโตโยต้าประเทศไทย, ม.ป.ป. Abdur Rahman I. Doi. Shariah : the Islamic Law. Jeddah : Abul Qasim Bookstore, 1984.
~ 208 ~ Abul A’la Mawdudi. Human Right in Islam. Lahore(Pakistan) : Islamic Publications LTD. 13-E,Shah Alam Market. Ali Dashti. Twenty three years : a study of the prophetic career of Mohammad. London : Routledge, 2008. Allan G. B. Fisher and Humphrey J. Fisher. Slavery and Muslim Society in Africa. The Institution in Saharan and Sudanic Africa and the Trans-Saharan Trade. Garden City, N.J : Doubleday, 1971. A.J. Arberry. Aspects of Islamic civilization : as depicted in the original texts. London : Routledge, 2008. Annemarie Schimmel. Islam: An Introduction. New York : State University of New York Press, 1992. Arnold J. Toynbee. Civilization on Trial. New York : Oxford University Press,1948. Athalya Brenner. Feminist Companion to the Latter Prophets . Continuum International Publishing Group, 2004. David Noel Freedman, Allen Myers and.Astrid.B..Beck . Eerdmans Dictionary of the Bible..Wm..B..Eerdmans.Publishing,.2000.. Fazlur Rahman. Islam. Chicago : University of Chicago, 1979. Imam Imaduddin Abul-Fida Ismail Ibn Kathir. Stories of The Prophets. Translated by Muhammad Mustapha Geme’ah, Al-Azhar. Riyadh, Saudi Arabia : Darussalam. John McClintock, James Strong. Encyclopdia of Biblical, Theological, and Ecclesiastical Literature. Harper & Brothers, 1894. Jurji Zaydan. Umayyads and Abbasids : being the fouth part of Jurji Zaydan's history of Islamic civilization / D. S. Margoliouth. New Delhi : Kibav Bhavan, 1978. Léonie J. Archer. Slavery and Other Forms of Unfree Labour: And Other Forms of Unfree Labour. Oxford, England : Routledge, 1988. Lewis, Bernard. Race and slavery in the Middle East: An historical enquiry. New York : Oxford University Press, 1990. Majid Ali Khan. Muhammad The Final Messenger (P.B.U.H.). New Delhi : Kutub Khana Ishayat-ul-Islam, 2007. Matthew B. Schwartz, Kalman J. Kaplan. The Fruit of Her Hands: The Psychology of Biblical Women. Wm. B. Eerdmans Publishing, 2007.
~ 209 ~ Maurice Gaudefroy-Demombynes. Muslim Institutions. London : Routledge, 2008 Mawlana Wahiduddin Khan. Woman Between Islam And Western Society. New Delhi : The Islamic Centre, 2010. Muhammad ‘Abdus Salam Faraj. Jihad The Absent Obligation. Edited and Annotated By Abu Umamah. Birmingham : Matabah Al Ansaar Publications, 2000. Nicholson, Reynold A. A literary history of the arabs. Surrey : Curzon Press, 1993. Patrick Manning. Slavery and African Life Occidental, Oriental and African Slave Trades. Cambridge: Cambridge University Press, 1990. Safiur-Rahman Al-Mubarakpuri. The Sealed Nectar (Ar-Raheeq Al-Makhtum) Biography of the Noble Prophet. Revised Edition. Al-Madinah Al-Munawwarah : Darussalam, 1399/1979. Saul M.Olyan. Rites and Rank: Hierarchy in Biblical Representations of Cult. Princeton University Press, 2000. Shams-ul-Ulama 'Allama Shibli Nu'mani; Translated by Maulana Zafar 'Ali Khan. Omar the Great : the second caliph of Islam. Lahore : Sh. Muhammad Ashraf, 1943. W. V. Harris: The Journal of Roman Studies, 1999. Demography, Geography and the Sources of Roman Slaves, دار الممرفة.كتاب السنن الكبرى.أبم بمر أْحد بن اْلسٌن بن لتي البيهقي سكة أْحد بن ُممد بن حكبل بن هلال بن أسد. دار إحياء التراث المربي. مسند الإمام أحمد. م4991 / هـ4141 :سكة الكشر أْحد بن لتي بن حجر المسقلاِن. دارالرنان لتتراث. فتح الباري شرح صحيح البخاري. م4991 / هـ4141 :سكة الكشر هـ1422 : سكة الكشر. دار طيبة. تفسير ابنكثير. إسماليل بن لمر بنتثًن القرشي الدمشقي م2002 / الممابة المصرنة. سنن أبي داود.ستيمان بن الأشمث السجسااِن الأزدي مُممد بن إسماليل البخاري اْلمفي4991 / هـ4141 : سكة الكشر. دار ابنتثًن. صحيح البخاري. دار إحياء الماب المربية. صحيح مسلم. مستم بن اْلجاج القشًني الكيسابمري أضواء البيان في إيضاح القرآن بالقرآن. ُممد الأمٌن بن ُممد بن المخاار اْلكمي الشكقيطي الرسالةُممد بن جرنر الطِبي. تفسير الطبري.
~ 210 ~ 1409 . دار البشائر الإسلامية – بًنأت. الأدب المفرد.ُممد بن إسماليل أبم لبدالله البخاري اْلمفي ُممد فؤاد لبدالباقي: تحقيق.1989 – دار إحياء التراث. مصر. ُممد فؤاد لبدالباقي: تحقيق. موطأ مالك. مالك بن أعس بن م ممفق الدنن لبد الله بن أْحد بن قدامة4991 / هـ4141 : سكة الكشر. دار إحيار التراث المربي. المغني. هـُممد بن إدرنس الشافمي4141 : سكة الكشر. دار الفمر- بًنأت. الأم. . الملخص الفقهي.صالح بن فمزان الفمزان م1444 / هـ4111 : سكة الكشر. دار المؤند.سنن الدارقطني. لتي بن لمر الدارقطني يحيي بن شرف أبم زترنا الكمأي1322 . دار إحياء التراث. بًنأت. شرح النووي على مسلم. Website Abolition Movement - EARLY ANTISLAVERY EFFORTS, EARLY EFFORTS OF BLACKS, REVOLUTIONARY ERA ABOLITIONISM, NORTHERN ABOLITIONISM (Online). Available: http://encyclopedia.jrank.org/articles/pages/5913/Abolition- Movement.html [ 10 January 2011] A medical service for slaves in Malta during the rule of the Order of St. John of Jerusalem (Online). Available: http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC1033829 [ 24 January 2011] Cecil Adeams. The Straight Dope: Was there really such a thing as white slavery? (Online). Available: http://www.straightdope.com/columns/read/1302/was-there-really- such-a-thing-as-white-slavery [ 23 January 2011] Convictions in China slave trial (Online). AVailable: http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia- pacific/6902459.stm [ 6 January 2011] Does Slavery Still Exist? (Online). Available: http://www.anti- slaverysociety.org/slavery.htm [2January 2011]
~ 211 ~ E. Benjamin Skinner. Sex trafficking in South Africa: World Cup slavery fear (Online). Available: http://www.time.com/time/magazine/article/0,9171,1952335,00.html [5 January 2011] Encyclopædia Britannica – Slavery (Online). Available: http://www.britannica.com/blackhistory/article-24156 [ 23 January 2011] Florida Modern-Day Slavery Museum An examination of the history and Evolution of slavery in Florida’s !elds (Online). Available: http://www.ciw- online.org/freedom_march/MuseumBookletWeb.pdf [ 7 January 2011] Freedom is a good thing but it means a dearth of slaves: Twentieth Century Solutions to the Abolition of Slavery (PDF) (Online). Available: http://www.yale.edu/glc/events/cbss/Miers.pdf [ 18 January 2011] Forced labour (Online). Available: http://www.ilo.org/global/Themes/Forced_Labour/lang--en/index.htm [ 4 January 2011] Historical survey - Slave-owning societies (Online). Available: http://www.britannica.com/blackhistory/article-24156 [ 18 January 2011] India: The current situation of Dalits, especially in Punjab; and any protest rallies held by dalits in Punjab in 1997 and 1998 and subsequent reaction by the authorities (Online). Available: http://www.unhcr.org/refworld/docid/3ae6ad3914.html [22 January 2011] Islam and slavery (Online). Available: http://www.bbc.co.uk/religion/religions/islam/history/slavery_8.shtml. [ 4 January 2011] John Eibner. My Career Redeeming Slaves (Online). Available: http://www.meforum.org/449/my-career-redeeming-slaves [3January 2011] Keith Bradley. Resisting Slavery in Ancient Rome (Online). Available: http://www.bbc.co.uk/history/ancient/romans/slavery_01.shtml [ 13 January 2011]
~ 212 ~ Muhammad S. Al-Munajjid. Islam and slavery (Online). Available: http://www.islam- qa.com/en/ref/94840 [ 6 January 2011] Mesopotamia: The Code of Hammurabi (Online). Available: http://www.wsu.edu/~dee/MESO/CODE.HTM [24 January 2011] Nepal abolishes slave labour system (Online). Available: http://www.abc.net.au/news/stories/2008/09/08/2357789.htm?section=justin [20 January 2011] Philosophers justifying slavery (Online). Available: http://www.bbc.co.uk/ethics/slavery/ethics/philosophers_1.shtml [ 19 January 2011] Religion & Ethics – Modern slavery: Modern forms of slavery (Online). Available: http://www.bbc.co.uk/ethics/slavery/modern/modern_2.shtml [ 6 January 2011] Silas. MUHAMMAD AND THE FEMALE CAPTIVES (Online). Available: http://www.answering-islam.org/Silas/femalecaptives.htm [ 27 January 2011] Slavery (Online). Available: http://www.britannica.com/EBchecked/topic/548305/slavery [ 14 January 2011] Slavery in the 21st century (Online). Available: http://www.newint.org/issue337/facts.htm [ 4 January 2011] The East African. Mauritania made slavery illegal last month (Online). Available: http://www.saiia.org.za/governance-and-aprm-opinion/mauritania-made-slavery-illegal- last-month.html [3January 2011]
~ 213 ~ The Heresies of Sayyid Qutb in Light of the Statements of the Ulamaa (Part 2) (Online). Available: http://www.allaahuakbar.net/jamaat-e- islaami/qutb/heresies_of_sayyid_qutb2.htm [ 3 January 2011] Vladimir Hernandez. Forced labour clouds boom in Brazil's Amazon (Online). Available: http://www.bbc.co.uk/news/10230766 [15 January 2011] Was slavery the engine of economic growth? (Online). Available: http://www.digitalhistory.uh.edu/historyonline/con_economic.cfm [ 4 January 2011] Welcome to Encyclopidia Britannica's Guide to Black History (Online). Available: http://www.britannica.com/blackhistory/article-24164 [ 23 January 2011] Zhe, Zhu. More than 460 rescued from brick kiln slavery (Online). Available: http://www.chinadaily.com.cn/china/2007-06/15/content_894802.htm [ 22 January 2011] :elnelO). .ienilnO) . هـ( مصكف أ مدقق664 المحتي أ السيمطي )ت المحتي/تفسير تفسير الجلالين http://www.altafsir.com/Tafasir.asp?tMadhNo=1&tTafsirNo=8&tSoraNo=4&tAyahNo=23& tDisplay=yes&UserProfile=0&LanguageId=1 [ 28 January 2011]
~ 214 ~
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214