Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทดลองทำE-book คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ป.6 เล่ม 2

ทดลองทำE-book คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ป.6 เล่ม 2

Published by Kannika Thongthangyai, 2019-04-10 04:01:04

Description: ทดลองทำE-book คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ป.6 เล่ม 2

Search

Read the Text Version

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 192 ช้ัน ตวั ชีว้ ดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง ของทรงส่ีเหล่ียมมุมฉาก ของทรงสี่เหลี่ยมมมุ ฉาก  การเขียนแผนผงั แสดงส่ิงต่าง ๆ 3. เขียนแผนผงั แสดงตาแหน่งของสิ่ง  การเขียนแผนผงั แสดงเสน้ ทางการ เดินทาง ต่าง ๆ และแผนผงั แสดงเสน้ ทางการ  การเขียนแผนผงั โดยสงั เขป เดินทาง สาระท่ี 3 เรขาคณิต มาตรฐาน ค 3.1 อธิบายและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ช้ัน ตวั ชีว้ ดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 6 1. บอกชนิดของรูปเรขาคณิตสองมิติที่  ส่วนประกอบของรูปเรขาคณิตสามมิติ เป็ นส่วนประกอบของรูปเรขาคณิต (ทรงส่ีเหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม สามมิติ ทรงกระบอก กรวย ปริซึม พีระมิด) 2. บอกสมบตั ิของเส้นทแยงมุมของรูป  สมบตั ิของเส้นทแยงมมุ ของรูปส่ีเหลี่ยม สี่เหลี่ยมชนิดต่าง ๆ 3. บอกไดว้ า่ เสน้ ตรงค่ใู ดขนานกนั  การพิจารณาเสน้ ขนานโดยอาศยั มุมแยง้  การพิจารณาเสน้ ขนานโดยอาศยั ผลบวก ของขนาดของมุมภายในท่ีอยบู่ นขา้ ง เดียวกนั ของเสน้ ตดั เป็น 180 องศา มาตรฐาน ค 3.2 ใชก้ ารนึกภาพ (visualization) ใชเ้ หตุผลเกี่ยวกบั ปริภูมิ (spatial reasoning) และใชแ้ บบจาลองทางเรขาคณิต (geometric model) ในการแกป้ ัญหา ช้ัน ตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 6 1. ประดิษฐท์ รงสี่เหล่ียมมุมฉาก  รูปคลี่ของรูปเรขาคณิตสามมิติ ทรงกระบอก กรวย ปริซึม และ (ทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม พีระมิดจากรูปคลี่หรือรูป ทรงกระบอก กรวย ปริซึม พีระมิด) เรขาคณิตสองมิติที่กาหนดให้  การประดิษฐร์ ูปเรขาคณิตสามมิติ 2. สร้างรูปสี่เหล่ียมชนิดต่าง ๆ  การสร้างรูปสี่เหลี่ยมเม่ือกาหนดความยาว ของดา้ นและขนาดของมุม หรือเมื่อ กาหนดความยาวของเสน้ ทแยงมุม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 193 สาระที่ 4 พชี คณิต มาตรฐาน ค 4.1 เขา้ ใจและวิเคราะหแ์ บบรูป (pattern) ความสมั พนั ธ์ และฟังกช์ นั ช้ัน ตวั ชีว้ ดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 6 1. แกป้ ัญหาเก่ียวกบั แบบรูป  ปัญหาเกี่ยวกบั แบบรูป มาตรฐาน ค 4.2 ใชน้ ิพจน์ สมการ อสมการ กราฟ และตวั แบบเชิงคณิตศาสตร์ (mathematical model) อ่ืน ๆ แทน สถานการณ์ต่าง ๆ ตลอดจนแปลความหมายและนาไปใชแ้ กป้ ัญหา ช้ัน ตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 6 1. เขียนสมการจากสถานการณ์หรือ  สมการเชิงเสน้ ที่มีตวั ไม่ทราบค่าหน่ึงตวั ปัญหา และแกส้ มการพร้อมท้งั ตรวจ  การแกส้ มการโดยใชส้ มบตั ิของการ คาตอบ เท่ากนั เกี่ยวกบั การบวก การลบ การคณู หรือการหาร  การแกโ้ จทยป์ ัญหาดว้ ยสมการ สาระท่ี 5 การวเิ คราะห์ข้อมลู และความน่าจะเป็ น มาตรฐาน ค 5.1 เขา้ ใจและใชว้ ิธีการทางสถิติในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ช้ัน ตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 6 1. อา่ นขอ้ มลู จากกราฟเสน้ และแผนภมู ิ  การอา่ นกราฟเสน้ และแผนภูมิรูปวงกลม รูปวงกลม 2. เขียนแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบและ  การเขียนแผนภมู ิแท่งเปรียบเทียบ กราฟเสน้ และกราฟเสน้ มาตรฐาน ค 5.2 ใชว้ ธิ ีการทางสถิติและความรู้เกี่ยวกบั ความน่าจะเป็นในการคาดการณ์ได้ อยา่ งสมเหตุสมผล ช้ัน ตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 6 1. อธิบายเหตุการณ์โดยใชค้ าท่ีมี  การคาดคะเนเกี่ยวกบั การเกิดข้ึนของ ความหมายเช่นเดียวกบั คาวา่ เหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดข้ึนอยา่ งแน่นอน อาจจะเกิดข้ึนหรือไม่กไ็ ด้ ไม่เกิดข้ึนอยา่ งแน่นอน

ค่มู ือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 194 สาระท่ี 6 ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ มาตรฐาน ค 6.1 มีความสามารถในการแกป้ ัญหา การใหเ้ หตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมาย ทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเช่ือมโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์และเช่ือมโยงคณิตศาสตร์กบั ศาสตร์ อ่ืน ๆ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ช้ัน ตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 4–6 1. ใชว้ ธิ ีการท่ีหลากหลายแกป้ ัญหา - 2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการ แกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และ สรุปผลไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4. ใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ใน การสื่อสาร การส่ือความหมาย และการ นาเสนอไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม 5. เช่ือมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์และ เชื่อมโยงคณิตศาสตร์กบั ศาสตร์อื่น ๆ 6. มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์

คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 195 ตอนท่ี 3.2 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน

คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 196 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 8 คะแนน ทิศและแผนผงั ก่อนเรียน หลงั เรียน คาชีแ้ จง เขยี นเครื่องหมาย  ทับตวั อกั ษรหน้าคาตอบที่ถูกต้อง (15 คะแนน) 1. ทิศเหนือกบั ทศิ ใต้ทามมุ กนั กอ่ี งศา 4. ทิศตะวนั ตกเฉียงใต้อยู่ตรงข้ามกบั ทิศใด ก 45 องศา ค 135 องศา ก ทิศตะวนั ออก ข 90 องศา ง 180 องศา ข ทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือ ค ทิศตะวนั ตกเฉียงเหนือ 2. ทิศทีอ่ ย่รู ะหว่างทิศตะวนั ตกเฉียงเหนอื และ ง ทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ ทิศตะวนั ออกเฉียงเหนอื คอื ทิศใด 5. ทศิ ใดทามมุ 135 องศา กบั ทศิ เหนอื ก ทิศเหนือ ข ทิศตะวนั ออก ก ทิศตะวนั ตก ค ทิศตะวนั ตก ข ทิศตะวนั ออก ง ทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ ค ทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ ง ทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือ 3. ทิศทีอ่ ยู่ระหว่างทิศตะวนั ตกเฉียงใต้และทศิ ตะวนั ออกเฉียงใต้คอื ทิศใด ก ทิศใต้ ข ทิศเหนือ ค ทิศตะวนั ออก ง ทิศตะวนั ตก ใช้แผนผงั นตี้ อบคาถามข้อ 6–9

ค่มู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 197 6. สวนดอกไม้อย่ทู างทศิ ใดของสระนา้ 8. สถานท่ี ใดทีอ่ ย่ทู างทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ของ ก ทิศใต้ ข ทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือ หอประชุม ค ทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ ก สนามฟุตบอล ง ทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ ข ตึกอานวยการ ค หอ้ งสมุด 7. ความยาวรอบรูปของอาคารเรียน 1 ง อาคารเรียน 1 ยาวกว่าความยาวรอบรูปของตกึ อานวยการ 9. สถานที่ ในข้อ ใดมพี นื้ ทเ่ี ท่ากบั ห้องสมุด อยู่เท่าไร ก ตึกอานวยการ ก 150 เมตร ข สวนดอกไม้ ข 200 เมตร ค หอประชุม ค 280 เมตร ง สระน้า ง 350 เมตร ใช้แผนผงั นตี้ อบคาถามข้อ 10–15 มาตราส่วน 1 ซม. : 50 ม. 10. คณิตเดนิ ทางจากบ้านไปสถานอี นามยั เป็ น 11. ระยะทางจากบ้านของนุชถึงวดั ใกล้กว่า ระยะทางจากร้านสหกรณ์ถึงโรงเรียนก่ีเมตร ระยะทางกเ่ี มตร ก 125 เมตร ก 250 เมตร ข 200 เมตร ข 400 เมตร ค 250 เมตร ค 750 เมตร ง 300 เมตร ง 850 เมตร

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 198 12. ตลาดอย่ทู างทิศใดของสถานอี นามยั 14. ถ้านุชเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนจะต้อง ก ทิศใต้ ข ทิศตะวนั ออก เดนิ ไป–กลบั วนั ละกเี่ มตร ค ทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ ง ทิศตะวนั ตกเฉียงเหนือ ก 550 เมตร 13. ระยะทางในข้อใดไกลทส่ี ุด ข 725 เมตร ก วดั ถึงร้านสหกรณ์ ข บา้ นของนุชถึงตลาด ค 800 เมตร ค สถานีอนามยั ถึงโรงเรียน ง ร้านสหกรณ์ถึงตลาด ง 1,100 เมตร 15. สถานที่ ในข้อใดท่ีอยู่ทางทิศใต้ของร้าน สหกรณ์ ก ตลาด ข บา้ นของนุช ค สถานีอนามยั ง โรงเรียน

ค่มู ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 199 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 คะแนน รูปสี่เหลย่ี ม ก่อนเรียน หลงั เรียน คาชีแ้ จง เขียนเคร่ืองหมาย  ทบั ตวั อกั ษรหน้าคาตอบที่ถูกต้อง (6 คะแนน) 1. รูปส่ีเหลยี่ มชนดิ ใดทีม่ ดี ้านขนานกนั เพยี งคู่ 4. จากรูปข้างต้น เดยี ว มพี นื้ ท่ีคิดเป็ นก่ี ก รูปส่ีเหล่ียมผืนผา้ ตารางเซนตเิ มตร ข รูปสี่เหลี่ยมคางหมู ก 2,250 ตร.ซม. ค 2,580 ตร.ซม. ค รูปส่ีเหล่ียมดา้ นขนาน ข 2,400 ตร.ซม. ง 2,800 ตร.ซม. ง รูปส่ีเหล่ียมขนมเปี ยกปูน 5. รูปสี่เหลยี่ ม จฉชซ 2. รูปสี่เหลย่ี มชนิดใดทเ่ี ส้นทแยงมุมตดั กนั เป็ น มพี นื้ ท่ีกต่ี าราง เซนตเิ มตร มมุ ฉากและแบ่งคร่ึงซ่ึงกันและกนั ก รูปสี่เหลี่ยมรูปวา่ ว ก 7.8 ตร.ซม.ค 11.2 ตร.ซม. ข รูปส่ีเหล่ียมจตั ุรัส ข 9.4 ตร.ซม. ง 12.8 ตร.ซม. ค รูปส่ีเหล่ียมดา้ นขนาน 6. ห้องครัวมขี นาดกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร ง รูปส่ีเหล่ียมคางหมู ต้องการปูพนื้ ด้วยกระเบือ้ งรูปสี่เหลยี่ มจตั รุ ัส ซ่ึงมดี ้านยาว ด้านละ 20 เซนตเิ มตร จะต้อง 3. รูปสี่เหลยี่ มชนิดใดที่มดี ้านท้ัง 4 ด้านยาว ใช้กระเบอื้ งท้ังหมดกแ่ี ผ่น เท่ากนั และมมุ ภายในทุกมมุ ไม่เป็นมุมฉาก ก 200 แผน่ ค 600 แผน่ ก รูปสี่เหลี่ยมจตั ุรัส ข 400 แผน่ ง 800 แผน่ ข รูปสี่เหล่ียมรูปวา่ ว ค รูปส่ีเหล่ียมดา้ นขนาน ง รูปส่ีเหลี่ยมขนมเปี ยกปูน คาชีแ้ จง จงเตมิ คาตอบลง ในช่องว่างให้ถูกต้อง (ข้อละ 2 คะแนน) 7. รูปสี่เหลยี่ มรูปหน่ึงมเี ส้นทแยงมุม 2 เส้น ตดั กนั เป็ นมมุ ฉากยาว 4.8 และ 7.5 เซนตเิ มตร รูปส่ีเหลยี่ มนีม้ พี นื้ ที่เท่าไร 18 ตารางเซนติเมตร 8. วริ ิยะวง่ิ รอบสนามรูปสี่เหลยี่ มผนื ผ้ากว้าง 45 เมตร ยาว 60 เมตร จานวน 3 รอบ จะวง่ิ ได้ ระยะทางเท่าไร 630 เมตร

คู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 200 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 คะแนน รูปวงกลม ก่อนเรียน หลงั เรียน คาชี้แจง เขียนเคร่ืองหมาย  ทับตวั อกั ษรหน้าคาตอบที่ถูกต้อง (7 คะแนน) 1. รูปวงกลมรูปหนงึ่ มรี ัศมยี าว 7 เซนตเิ มตร จะ 5. ถงั นา้ ใบหน่งึ มฝี าปิ ดและก้นถงั เป็ นรูปวงกลม มคี วามยาวรอบวงเท่าไร ซึ่งฝาปิ ดมรี ัศมี 35 เซนตเิ มตร ก้นถังมรี ัศมี ก 22 เซนติเมตร 28 เซนตเิ มตร พนื้ ที่ก้นถังกบั พนื้ ทีฝ่ าปิ ดต่างกนั ข 44 เซนติเมตร ประมาณเท่าไร ค 77 เซนติเมตร ก 220 ตารางเซนติเมตร ง 88 เซนติเมตร ข 1,386 ตารางเซนติเมตร ค 2,464 ตารางเซนติเมตร 2. รูปวงกลมรูปหน่ึงมเี ส้นผ่านศูนย์กลางยาว ง 3,850 ตารางเซนติเมตร 2.8 เซนตเิ มตร จะมคี วามยาวรอบวงเท่าไร ก 12.8 เซนติเมตร 6. กระดาษแข็งรูปส่ีเหลย่ี มมุมฉากกว้าง ข 10.8 เซนติเมตร 30 เซนตเิ มตร ยาว 40 เซนตเิ มตร นาไปตดั ค 8.8 เซนติเมตร เป็ นรูปวงกลมมเี ส้นผ่านศูนย์กลาง ง 4.8 เซนติเมตร 28 เซนตเิ มตร จะเหลอื เศษกระดาษมพี นื้ ที่ ประมาณเท่าไร 3. ท่อนา้ เป็ นรูปวงกลมวดั เส้นผ่านศูนย์กลางยาว ก 584 ตารางเซนติเมตร 0.7 เมตร วดั รอบปากท่อนา้ นยี้ าวประมาณ ข 616 ตารางเซนติเมตร เท่าไร ค 1,200 ตารางเซนติเมตร ก 1.4 เมตร ค 2.4 เมตร ง 2,564 ตารางเซนติเมตร ข 2.2 เมตร ง 4.4 เมตร 4. สระนา้ รูปคร่ึงวงกลมแห่งหน่งึ มรี ัศมยี าว 4.2 เมตร ถ้าเดนิ รอบสระน้า 3 รอบ จะได้ ระยะทางประมาณเท่าใด ก 39.6 เมตร ค 79.2 เมตร ข 64.8 เมตร ง 81.4 เมตร

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 201 7. แผ่นป้ ายวงกลมแผ่นหนง่ึ มคี วามยาว รอบวง 176 เซนตเิ มตร แผ่นป้ ายนมี้ พี นื้ ท่ี ประมาณเท่าไร ก 188 ตารางเซนติเมตร ข 616 ตารางเซนติเมตร ค 1,232 ตารางเซนติเมตร ง 2,464 ตารางเซนติเมตร

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 202 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 11 คะแนน บทประยุกต์ ก่อนเรียน หลงั เรียน คาชีแ้ จง เขียนเครื่องหมาย  ทบั ตวั อกั ษรหน้าคาตอบที่ถูกต้อง (10 คะแนน) 1. ปากกา 3 ด้าม ราคา 10 บาท ปากกา 15 ด้าม 6. แว่นตาอนั หน่งึ ตดิ ราคาไว้ 490 บาท ถ้าซื้อ ราคาเท่าไร เงนิ สดลดให้ 10% ราคาขายเงนิ สดต้องจ่าย ก 40 บาท ค 60 บาท เงนิ เท่าไร ข 50 บาท ง 90 บาท ก 411 บาท ค 451 บาท 2. ขนมปัง 4 ชิ้น 15 บาท ขนมปัง 30 ชิ้น ราคา ข 441 บาท ง 461 บาท เท่าไร 7. นาฬิกาเรือนหน่ึงตดิ ราคาขายไว้ 360 บาท ก 150 บาท ค 112.50 บาท ทางร้านประกาศลดราคาจากป้ าย 15% ขาย ข 120 บาท ง 104.50 บาท นาฬิกาเรือนนใี้ นราคาลดแล้วราคาเท่าไร 3. ผ้าตดั เสื้อ 5 เมตร ราคา 175 บาท ถ้าต้องการ ก 306 บาท ค 312 บาท ซื้อผ้าตดั เสื้อ 8 เมตร จะต้องจ่ายเงนิ เท่าไร ข 309 บาท ง 315 บาท ก 240 บาท ค 270 บาท 8. ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึง่ ตดิ ป้ ายลดราคา ข 250 บาท ง 280 บาท สินค้าในเคาน์เตอร์ปกติ 20% เสื้อตวั หนึ่งใน เคาน์เตอร์ปกตริ าคา 520 บาท จะซื้อได้ใน 4. ริบบนิ้ 1 เมตร ราคา 1.50 บาท ราคาตวั ละเท่าไร 2 ก 404 บาท ค 414 บาท ข 408 บาท ง 416 บาท ริบบนิ้ 5 เมตร ราคาเท่าไร 9. สมชายฝากเงนิ ธนาคารไว้ 30,000 บาท ได้ ก 15.00 บาท ค 11.50 บาท ดอกเบยี้ 10% ต่อปี เมอ่ื ฝากครบ 219 วนั ข 12.50 บาท ง 10.50 บาท สมชายถอนเงนิ ท้ังหมด เขาจะได้เงนิ รวม 5. ซื้อไข่มา 150 ฟอง แตกเสีย 8% ของไข่ เท่าไร ท้งั หมดทซ่ี ื้อมา จะมี ไข่ดที ้งั หมดกฟี่ อง ก 28,800 บาท ก 100 ฟอง ค 138 ฟอง ข 30,800 บาท ข 120 ฟอง ง 140 ฟอง ค 30,800 บาท ง 31,800 บาท

คู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 203 10. คุณพ่อเกบ็ เงนิ ออมไว้เดอื นละ 1,800 บาท คดิ เป็ นร้อยละ 15 ของเงนิ เดอื นท้งั หมด คุณพ่อได้รับเงนิ เดอื นละเท่าไร ก 12,000 บาท ข 14,000 บาท ค 13,000 บาท ง 15,000 บาท

คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 204 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน คะแนน ก่อนเรียน หลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 12 รูปเรขาคณิตสามมติ ิ คาชีแ้ จง เขียนเคร่ืองหมาย  ทบั ตวั อกั ษรหน้าคาตอบท่ีถูกต้อง (8 คะแนน) 1. ภาพใดเป็ นรูปพรี ะมดิ ฐานส่ีเหลยี่ ม 5. ห้องนอนใหญ่มขี นาดกว้าง 6 เมตร ยาว กค 8 เมตร ห้องนอนเลก็ มขี นาดกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร ถ้า ใช้ไม้ปูพนื้ ห้องหนา ข ง 2 เซนตเิ มตร ห้องนอนใหญ่ใช้ไม้ปูพนื้ ห้อง 2. รูปเรขาคณติ สามมติ ิ ในข้อ ใดทมี่ รี ูปคล่ี มากกว่าห้องนอนเลก็ กล่ี ูกบาศก์เมตร ประกอบด้วยรูปส่ีเหลย่ี ม ก 0.24 ลบ.ม. ค 0.64 ลบ.ม. ก พีระมิดฐานสามเหลี่ยม ข 0.48 ลบ.ม. ง 0.94 ลบ.ม. ข ทรงกระบอก 6. ถังนา้ ทรงส่ีเหลย่ี มมดี ้านยาว 2 เมตร เท่ากนั ค ทรงกลม ง กรวย ทุกด้าน ถ้าใส่นา้ เตม็ ถังจะจุนา้ ได้กลี่ ติ ร 3. จากรูปมปี ริมาตร ก 800 ลิตร ค 4,000 ลิตร ข 2,000 ลิตร ง 8,000 ลิตร กลี่ กู บาศก์หน่วย 7. รถขนทรายคนั หนง่ึ บรรทุกทรายขนาดกว้าง 2.5 เมตร ยาว 3.2 เมตร และสูง 180 เซนตเิ มตร คิดค่าขนส่งราคาลกู บาศก์เมตรละ ก 40 ค 50 240 บาท จะเสียค่าขนส่งเท่าไร ข 45 ก 3,324 บาท ค 3,456 บาท 4. ง 60 ข 3,342 บาท ง 3,468 บาท จากรูปมปี ริมาตร กล่ี กู บาศก์หน่วย ก 1,150 ค 1,250 ข 1,152 ง 1,252

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 205 8. เอากระบอกตกั แป้ งมนั เตม็ กระบอกตวงใส่ กล่องทรงสี่เหลยี่ มมมุ ฉากจนเตม็ ได้ 6 กระบอก กระบอกใบนจี้ เุ ท่าไร ก 10 ลบ.ซม. ค 30 ลบ.ซม. ข 20 ลบ.ซม. ง 40 ลบ.ซม.

คู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 206 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 13 คะแนน สถติ แิ ละความน่าจะเป็ น ก่อนเรียน หลงั เรียน คาชีแ้ จง พจิ ารณาแผนภูมแิ ล้วตอบคาถามข้อ 1–4 (4 คะแนน) แผนภูมแิ ท่งแสดงจานวนนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึง่ 1. ช้ัน ป. 6 มนี ักเรียนท้งั หมดกคี่ น 65 คน 2. ช้ัน ป. 5 มนี ักเรียนชายและนักเรียนหญงิ ต่างกันกค่ี น 5 คน 3. ช้ัน ป. 2 มนี กั เรียนหญงิ กค่ี น 35 คน 4. ช้ัน ใดมนี ักเรียนชายมากกว่านกั เรียนหญงิ ป. 2 และ ป. 4

ค่มู ือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 207 คาชีแ้ จง พจิ ารณากราฟเส้นแล้วตอบคาถามข้อ 5–8 (4 คะแนน) กราฟเส้ นแสดง คะแนนทดสอบย่อยวชิ าภาษาไทย 8 คร้ังของวชิ ิต 5. การทดสอบย่อยวชิ าภาษาไทยคร้ังท่ี 2 วชิ ิตสอบได้กค่ี ะแนน 20 คะแนน 6. การทดสอบย่อยวชิ าภาษาไทยในคร้ังใดสอบได้คะแนนมากที่สุด คร้ังที่ 5 7. การทดสอบย่อยคร้ังใดทีส่ อบวชิ าภาษาไทยได้คะแนนเท่ากันและได้กค่ี ะแนน คร้ังท่ี 4 กบั คร้ังท่ี 8 สอบได้ 25 คะแนนเท่ากนั 8. การทดสอบย่อยคร้ังที่ 3 สอบได้คะแนนมากกว่าหรือน้อยกว่าคร้ังท่ี 5 อย่กู คี่ ะแนน นอ้ ยกวา่ อยู่ 25 คะแนน

ค่มู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 208 คาชีแ้ จง เขยี นเครื่องหมาย  ทบั ตวั อกั ษรหน้าคาตอบที่ถูกต้อง (7 คะแนน) ใช้แผนภูมริ ูปวงกลมต่อไปนตี้ อบคาถาม 12. จ่ายค่าผ่อนบ้าน ค่าอาหาร และค่าเสื้อผ้า ข้อ 9–12 แผนภูมริ ูปวงกลมแสดงค่าใช้จ่ายประจาเดอื น รวมกนั เดอื นละกบี่ าท ของนางสาวนันทพรซ่ึงมรี ายได้เดอื นละ ก 3,500 บาท 6,000 บาท ข 3,900 บาท ค 4,500 บาท 9. ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็ นอะไร ง 4,800 บาท ก ค่าอาหาร ข ค่าเส้ือผา้ 13. เหตุการณ์ใดมโี อกาสเกดิ ขึน้ อย่างแน่นอน ค ค่าผอ่ นส่งบา้ น ก พรุ่งน้ีฝนจะตก ง ค่าใชจ้ ่ายทว่ั ไป ข ปี หนา้ ตอ้ มจะสูงกวา่ อว้ น ค แม่ไม่ใหเ้ งินไปโรงเรียน 10. ค่าผ่อนส่งบ้านเดอื นละกเี่ ปอร์เซ็นต์ ง ประเทศจีนอยใู่ นทวีปเอเชีย ก 15% ค 35% ข 25% ง 45% 14. เหตุการณ์ ใด ไม่มี โอกาสเกดิ ขนึ้ อย่าง 11. จ่ายค่าอาหารมากกว่าค่าเสื้อผ้าเดอื นละกี่ แน่นอน บาท ก ปลาอาศยั อยใู่ นน้า ก 300 บาท ค 1,200 บาท ข พยญั ชนะไทยมี 44 ตวั ข 600 บาท ง 1,500 บาท ค น้าคลองเคม็ กวา่ น้าทะเล ง เพศหญิงแขง็ แรงกวา่ เพศชาย 15. ถ้าสุ่มหยบิ ไพ่ 1 ใบ จากสารับแล้วได้ ไพ่โพธ์ิดา เหตกุ ารณ์นจี้ ะเป็ นอย่างไร ก เกิดข้ึนไดน้ อ้ ย ข เกิดข้ึนอยา่ งแน่นอน ค เกิดข้ึนหรือไมเ่ กิดข้ึนกไ็ ด้ ง ไม่เกิดข้ึนอยา่ งแน่นอน

คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 209 ตวั อย่างตารางบันทึกการพฒั นาการเรียนรู้ ก่อน–หลงั เรียน โรงเรียน . ตารางคะแนนพฒั นานกั เรียนก่อน–หลงั การจดั การเรียนรู้วชิ าคณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ...... แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี .................. ช้ัน................................ ห้อง ........ ครูผู้สอน .............................. ท่ี ชื่อ-นามสกลุ ก่อน หลงั ผลต่าง ส่ วน หมายเหตุ พฒั นาฯ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 หมายเหตุ การคานวณหาการพฒั นาการเรียนรู้ของนกั เรียนก่อน–หลงั การจดั การเรียนรู้ Y-X N - X  100 = (ร้อยละของการพฒั นาการเรียนรู้ของนกั เรียน) X = ผลการทดสอบก่อนเรียน Y = ผลการทดสอบหลงั เรียน N = คะแนนเตม็

คู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 210 ตอนท่ี 3.3 ตวั อย่างแบบทดสอบปลายปี คาชี้แจง เขยี นเครื่องหมาย  ทับตวั อกั ษรหน้าคาตอบท่ีถูกต้อง (20 คะแนน) 1. ทศิ ตรงข้ามกบั ทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนือคือทศิ อะไร 5. เส้นทแยงมมุ ของรูปสี่เหลย่ี มชนิดใดที่ ก ทิศใต้ ไม่แบ่งคร่ึง ซ่ึงกนั และกนั ข ทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ ก รูปสี่เหล่ียมผืนผา้ ค ทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ ข รูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัส ง ทิศตะวนั ตกเฉียงเหนือ ค รูปสี่เหล่ียมรูปวา่ ว ใช้รูปต่อไปนตี้ อบคาถามข้อ 2–4 ง รูปสี่เหล่ียมดา้ นขนาน 6. ห้องครัวมขี นาดกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร ต้องการ ปูพนื้ กระเบอื้ งรูปส่ีเหลย่ี มจตั ุรัสยาวด้านละ 20 เซนตเิ มตร จะใช้กระเบอื้ งกแี่ ผ่น ก 200 แผน่ ข 400 แผน่ ค 600 แผน่ ง 700 แผน่ 7. วดั ความกว้างและความยาวของว่าวปักเป้ าได้ 25 เซนตเิ มตร และ 60 เซนตเิ มตร กระดาษท่ี 2. ตลาดอย่ทู างทิศใดของวัด ใช้ทาว่าวนมี้ พี นื้ ทเี่ ท่าไร ก ทิศเหนือ ก 600 ตารางเซนติเมตร ข ทิศใต้ ข 750 ตารางเซนติเมตร ค ทิศตะวนั ออก ค 1,200 ตารางเซนติเมตร ง ทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ ง 1,500 ตารางเซนติเมตร 8. ท่อรูปทรงกระบอกมเี ส้นผ่านศูนย์กลาง 3. สถานท่ี ใดอยู่ทศิ ตะวนั ตกของวดั 4.2 เซนตเิ มตร นามากลงิ้ บนพนื้ ราบ 1 รอบ ก ตลาด จะได้ระยะทางกเี่ ซนตเิ มตร ข บา้ น ก 12.5 เซนติเมตร ค โรงเรียน ข 13.2 เซนติเมตร ง โรงพยาบาล ค 15.6 เซนติเมตร ง 18.4 เซนติเมตร 4. ตลาดอย่หู ่างจากโรงเรียนกกี่ ิโลเมตร ก 4 กิโลเมตร ค 8 กิโลเมตร ข 6 กิโลเมตร ง 10 กิโลเมตร

คู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 211 9. สนามหญ้ารูปวงกลมมเี ส้นผ่านศูนย์กลาง 35 เมตร 13. วชิ าภาษาไทยมคี ะแนนเตม็ 120 คะแนน ถ้ามาลี ตรงกลางสนามหญ้าเป็ นสวนกหุ ลาบรูปคร่ึง สอบได้ 82 คะแนน คิดเป็ นร้อยละเท่าไรของ วงกลมรัศมี 7 เมตร จะมพี นื้ ท่ีท่เี ป็ นสนามหญ้า คะแนนเตม็ กต่ี ารางเมตร ก 484.50 ตารางเมตร ก 120 × 82 ข 754.50 ตารางเมตร 100 ค 885.50 ตารางเมตร ง 962.50 ตารางเมตร ข 120 × 100 82 10. วงกลม 2 วง มจี ดุ ศูนย์กลางร่วมกนั วงกลมแรกมี รัศมี 7 เซนตเิ มตร และวงกลมทส่ี องมรี ัศมี ค 82 × 120 14 เซนตเิ มตร จะมพี นื้ ท่ีวงแหวนกตี่ าราง 100 เซนตเิ มตร ก 248 ตร.ซม. ง 82 × 100 ข 462 ตร.ซม. 120 ค 624 ตร.ซม. ง 782 ตร.ซม. 14. ซื้อแจกนั มาราคา 240 บาท ต้องการขายให้ได้ กาไร 15% จะต้องขายในราคาเท่าไร 11. ริบบนิ้ 10 เมตร ราคา 15 บาท ถ้าซื้อริบบนิ้ ก 168 บาท 18 เมตร คิดเป็ นเงนิ กบ่ี าท ข 265 บาท ค 276 บาท ก 15 × 10 ง 314 บาท 18 15. ต้องการซื้อแผ่นไม้ขนาดกว้าง 15 เซนตเิ มตร ข 15 × 18 ยาว 3.5 เมตร หนา 2.5 เซนตเิ มตร จานวน 18 80 แผ่น จะมเี นือ้ ไม้คิดเป็ นกล่ี ูกบาศก์เมตร ก 10.5 ลบ.ม. ค 1.05 ลบ.ม. ค 18 ข 1.5 ลบ.ม. ง 0.15 ลบ.ม. 15  10 16. ปี บใบหนึ่งมกี ้นเป็ นรูปส่ีเหลยี่ มจตั ุรัสซ่ึงมพี นื้ ท่ี ง 18 × 10 625 ตารางเซนตเิ มตร บรรจนุ า้ มปี ริมาตร 7,500 15 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร นา้ ในปี บสูงกเี่ ซนตเิ มตร ก 12 ซม. ค 36 ซม. 12. ซื้อไข่ไก่มา 120 ฟอง แตกเสีย 5% ของไข่ ข 24 ซม. ง 48 ซม. ท้งั หมด จะเหลอื ไข่ไก่อยู่กฟ่ี อง ก 6 ฟอง ข 24 ฟอง ค 82 ฟอง ง 114 ฟอง

ค่มู ือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 212 17. ต้องการขดุ สระน้าทรงส่ีเหลย่ี มมมุ ฉากกว้าง 19. นกั เรียนช้ัน ป. 4 เข้าชุมชนมากกว่าหรือน้อยกว่า 5 เมตร ยาว 8 เมตร ลกึ 3.5 เมตร เสียค่าจ้างขดุ นักเรียนช้ัน ป. 6 กคี่ น ดนิ ลกู บาศก์เมตรละ 12.50 บาท จะต้องจ่ายเงนิ ก มากกวา่ 5 คน กบ่ี าท ข มากกวา่ 10 คน ก 1,580 บาท ค 1,750 บาท ค นอ้ ยกวา่ 5 คน ข 1,620 บาท ง 1,840 บาท ง นอ้ ยกวา่ 10 คน ใช้แผนภูมขิ ้างต้นตอบคาถามข้อ 18–19 20. แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบแสดงนกั เรียนท่ี เป็ นสมาชิกชุมชนสิ่งแวดล้อม จากแผนภูมขิ ้างต้น แสดงอาชีพของประชาชน ในอาเภอหนงึ่ ซ่ึงมีจานวน 1,200 คน จะมี จานวนชาวนามากกว่าพ่อค้ากค่ี น ก 84 คน ค 128 คน ข 96 คน ง 240 คน 18. นักเรียนช้ัน ป. 5 เพศใดเข้าชุมชนมากกว่า และมากกว่ากคี่ น ก เพศชาย และมากกวา่ 5 คน ข เพศชาย และมากกวา่ 15 คน ค เพศหญิง และมากกวา่ 5 คน ง เพศหญิง และมากกวา่ 15 คน คาชีแ้ จง แสดงวธิ ีทา (3 คะแนน) 21. สมภพฝากเงนิ ไว้กบั ธนาคาร 35,000 บาท ถ้าธนาคารคิดดอกเบยี้ ให้ 1.5% ต่อปี เมอื่ ครบ 250 วนั สมภพจะได้ รับดอกเบยี้ เท่าไร และมเี งนิ รวมท้ังหมดกบ่ี าท วธิ ีทา อตั ราดอกเบ้ีย 15% ต่อปี หมายความวา่ ฝากเงิน 100 บาท ในเวลา 1 ปี ไดร้ ับดอกเบ้ีย 1.5 บาท ถา้ ฝากเงิน 35,000 บาท ในเวลา 1 ปี 1ว10น.ั 50จ×ะ3ไ5ด0ด้ ,0อ0ก0เบ=้ีย552255บบาทาท จะไดร้ ับดอกเบ้ีย ฝากเงินในเวลา 365 ฝากเงินในเวลา 250 วนั จะไดด้ อกเบ้ีย 53255,336×5592.5509 = 359.59 บาท และมีเงินรวมท้งั หมด 35,000 + 359.59 บาท = ตอบ 35,359.59 บาท

ค่มู ือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 213 ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม สาหรับครู สังเกตพฤตกิ รรม/ผลการทางาน/อปุ นิสัย รายการประเมนิ ความสามารถของผู้เรียน ระดบั คุณภาพ 4321 1. การทางานเป็นระบบ มีลาดบั และข้นั ตอนในการทางาน รอบคอบ . ทางานสะอาด 2. มีระเบียบวินยั ส่งงานตามกาหนดเวลา 3. มีความรับผิดชอบ ตรวจสอบการทางานของตนเอง และคน้ หากิจกรรมคณิตศาสตร์อ่ืน ๆ 4. มีวจิ ารณญาณ ร่วมคาตอบและทากิจกรรมคณิตศาสตร์ดว้ ยตนเอง 5. มีความเชื่อมน่ั ใน สนใจเรียน เตม็ ใจร่วมทากิจกรรม และเรียนอยา่ งมีความสุข ตนเอง 6. ตระหนกั ในคุณค่า 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง คะแนนทีไ่ ด้ และเจตคติที่ดีต่อ คะแนนเฉลย่ี คณิตศาสตร์ ระดบั คุณภาพ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ สาหรับครู สังเกตพฤตกิ รรม/ผลงานตามใบกิจกรรมประกอบพจิ ารณา รายการประเมิน ความสามารถของผ้เู รียน ระดบั คุณภาพ 4321 1. การแกป้ ัญหา ใชว้ ธิ ีการที่เหมาะสมในการแกป้ ัญหาและคานวณคาตอบ 2. การใชเ้ หตุผล สรุปผลและบอกเหตผุ ลการสรุปได้ 3. การสื่อความหมายและ ใชภ้ าษาสญั ลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์แสดงความหมายและนาเสนอได้ ถูกตอ้ ง การนาเสนอ นาความรู้ไปใชใ้ นการเรียนวิชาอื่นและในชีวติ จริง 4. การเช่ือมโยง มีแนวความคิดใหม่ ๆ ในการทากิจกรรมคณิตศาสตร์ 5. การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง คะแนนที่ได้ ระดบั คุณภาพ คะแนนเฉลย่ี . ด้านความรู้ ด้านทกั ษะ/ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ คะแนนรวม กระบวนการ สรุปคะแนน ค่านยิ ม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 214 ตอนที่ 3.4 ตัวอย่างแบบประเมนิ ต่าง ๆ พร้อมเกณฑ์ (Rubrics)

คู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 215 แบบบนั ทกึ ความรู้ โรงเรียน . . หน่วยการเรียนรู้ เร่ือง . ช่ือ–นามสกุล (ผบู้ นั ทึก) ช้นั เลขที่ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ เกณฑ์การประเมนิ ผลการบันทกึ ความรู้ กาหนดเกณฑก์ ารประเมินผลการบนั ทึกความรู้โดยใชม้ าตราส่วนประเมินค่า 4 ระดบั ดงั น้ี ระดบั คุณภาพ 4 รายการประเมนิ – บนั ทึกความรู้ไดถ้ กู ตอ้ งตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกไดช้ ดั เจน แนวคิดหลกั 3 ถกู ตอ้ ง มีประเดน็ สาคญั ครบถว้ น ใชภ้ าษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม คาศพั ทถ์ กู ตอ้ ง – บนั ทึกความรู้ไดต้ รงตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกท่ีมีบางส่วนยงั ไมช่ ดั เจน 2 แนวคิดหลกั ถกู ตอ้ ง มีประเด็นสาคญั ครบถว้ น ใชภ้ าษา คาศพั ทไ์ มถ่ ูกตอ้ งใน 1 บางส่วน – บนั ทึกความรู้ยดึ ตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกไมช่ ดั เจน แนวคิดหลกั บางส่วนไม่ ถกู ตอ้ ง ส่วนท่ีเป็นประเดน็ สาคญั มีไมค่ รบถว้ น ใชภ้ าษา คาศพั ทไ์ ม่ถกู ตอ้ งในบางส่วน – บนั ทึกความรู้ไมส่ อดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ เขียนบนั ทึกไมช่ ดั เจน และแนวคิด หลกั ส่วนใหญไ่ ม่ถกู ตอ้ ง ใชภ้ าษา คาศพั ทไ์ ม่ถกู ตอ้ ง

ค่มู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 216 ตวั อย่างแบบบันทกึ ผลการอภิปราย แบบบนั ทึกผลการอภปิ ราย โรงเรียน เร่ือง . หน่วยการเรียนรู้ . ชื่อ–นามสกุล (ผบู้ นั ทึก) . ช้นั เลขที่ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ เกณฑ์การประเมนิ ผลการบันทึกผลการอภปิ ราย กาหนดเกณฑก์ ารประเมินผลการบนั ทึกการอภิปรายโดยใชม้ าตราส่วนประเมินค่า 4 ระดบั ดงั น้ี รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ – บนั ทึกการอภิปรายไดถ้ กู ตอ้ งตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกไดช้ ดั เจน แนวคิดหลกั 4 ถกู ตอ้ ง มีประเดน็ สาคญั ครบถว้ น ใชภ้ าษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม คาศพั ทถ์ กู ตอ้ ง – บนั ทึกการอภิปรายไดต้ รงตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกที่มีบางส่วนยงั ไม่ชดั เจน 3 แนวคิดหลกั ถกู ตอ้ ง มีประเดน็ สาคญั ครบถว้ น ใชภ้ าษา คาศพั ทไ์ ม่ถกู ตอ้ งในบางส่วน – บนั ทึกการอภิปรายยดึ ตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกไมช่ ดั เจน แนวคิดหลกั บางส่วน ไมถ่ กู ตอ้ ง ส่วนที่เป็นประเดน็ สาคญั มีไม่ครบถว้ น ใชภ้ าษา คาศพั ทไ์ มถ่ กู ตอ้ งใน 2 บางส่วน – บนั ทึกการอภิปรายไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ เขียนบนั ทึกไมช่ ดั เจน และแนวคิด 1 หลกั ส่วนใหญไ่ ม่ถกู ตอ้ ง ใชภ้ าษา คาศพั ทไ์ มถ่ กู ตอ้ ง

ค่มู ือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 217 ตวั อย่างแบบประเมนิ โครงงานท่ัวไป เรื่อง..........................................................................................กล่มุ ท่ี........... ช้ัน........................ภาคเรียนท.่ี ...........................ปี การศึกษา.............................. รายการประเมนิ สรุปผล เลขท่ี ความสาคัญของช่ือ-นามสกลุ การจัดทาโครงงาน เ ้ืนอหาของโครงงาน กระบวนการทางาน การนาเสนอโครงงาน รวมจานวนรายการ ี่ทผ่าน เกณฑ์ ้ขัน ่ตา ผ่าน ไ ่มผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การประเมนิ รายการท่ี 1 ความสาคัญของการจดั ทาโครงงาน รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ - มีการทางานเป็นกระบวนการกลมุ่ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สอดคลอ้ งกบั เน้ือหา 4 และมีประโยชนใ์ นชีวติ จริง - มีการทางานเป็นกระบวนการกลุม่ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ บางส่วนไม่ 3 สอดคลอ้ งกบั เน้ือหา แต่มีประโยชนใ์ นชีวิตจริง - มีการทางานเป็นกระบวนการกลมุ่ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ไมส่ อดคลอ้ งกบั 2 เน้ือหา และไมม่ ีประโยชนใ์ นชีวติ จริง - มีการทางานเป็นกระบวนการกลมุ่ แต่ขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ไมส่ อดคลอ้ งกบั 1 เน้ือหา และไมม่ ีประโยชนใ์ นชีวติ จริง

ค่มู ือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 218 รายการท่ี 2 เนอื้ หาของโครงงาน ระดบั คุณภาพ 4 รายการประเมนิ 3 - เน้ือหาถกู ตอ้ งครบถว้ น ใชแ้ นวคิดและขอ้ มลู ข่าวสารที่เหมาะสม และมีการสรุปไดด้ ี - เน้ือหาเกือบท้งั หมดถกู ตอ้ ง ใชแ้ นวคิดท่ีเหมาะสม มีขอ้ มลู ข่าวสารบางเรื่อง 2 ไม่เหมาะสม และการสรุปตอ้ งแกไ้ ข - เน้ือหาบางส่วนถูกตอ้ ง แนวคิดและขอ้ มลู ข่าวสารบางส่วนตอ้ งแกไ้ ข และการสรุป 1 ตอ้ งแกไ้ ข - เน้ือหาส่วนใหญ่ไม่ถูกตอ้ ง แนวคิดและขอ้ มลู ข่าวสารส่วนใหญ่ตอ้ งแกไ้ ข และการ สรุปตอ้ งแกไ้ ขท้งั หมด รายการที่ 3 กระบวนการทางาน ระดบั คุณภาพ 4 รายการประเมนิ - มีการวางแผนอยา่ งเป็นระบบ มีการดาเนินงานตามแผน ลงมือปฏิบตั ิจนประสบ 3 ความสาเร็จ และมีการประเมินและปรับปรุงการดาเนินงาน - มีการวางแผนอยา่ งเป็นระบบ มีการดาเนินงานตามแผน ลงมือปฏิบตั ิจนประสบ 2 ความสาเร็จ แต่ขาดการประเมินและปรับปรุงการดาเนินงาน 1 - มีการวางแผนอยา่ งเป็นระบบ แต่ไม่ไดด้ าเนินงานตามแผน แมจ้ ะปฏิบตั ิจนประสบ ความสาเร็จ และมีการประเมินและปรับปรุงการดาเนินงานกต็ าม - มีการวางแผนไมเ่ ป็นระบบ การดาเนินงานไมป่ ระสบความสาเร็จ รายการท่ี 4 การนาเสนอโครงงาน รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ - ส่ือความหมายไดช้ ดั เจน ขอ้ มูลครบถว้ นสมบรู ณ์ ใชร้ ูปแบบที่เหมาะสม และ 4 ขอ้ สรุปของโครงงานบรรลวุ ตั ถุประสงคท์ ี่ต้งั ไว้ - สื่อความหมายไดช้ ดั เจน ขอ้ มลู ครบถว้ นสมบรู ณ์ ใชร้ ูปแบบท่ีไมค่ ่อยเหมาะสม 3 แต่ขอ้ สรุปของโครงงานบรรลุวตั ถุประสงคท์ ่ีต้งั ไว้ - สื่อความหมายไมค่ ่อยชดั เจน ขอ้ มลู บางส่วนขาดความสมบรู ณ์ ใชร้ ูปแบบ 2 ท่ีไม่เหมาะสม ขอ้ สรุปของโครงงานไมบ่ รรลุวตั ถุประสงคท์ ่ีต้งั ไวท้ ้งั หมด - ส่ือความหมายไมช่ ดั เจน ขอ้ มลู ส่วนใหญไ่ มส่ มบรู ณ์ ใชร้ ูปแบบที่ไม่เหมาะสมและ 1 ขอ้ สรุปของโครงงานไมบ่ รรลุวตั ถปุ ระสงคท์ ่ีต้งั ไว้ เกณฑ์การประเมนิ นกั เรียนตอ้ งมีพฤติกรรมอยา่ งนอ้ ยระดบั 3 ข้ึนไป ในแต่ละรายการ จานวน 3 ใน 4 รายการ

ค่มู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 219 ตอนท่ี 3.5 แฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) แฟ้ มสะสมผลงาน หมายถึง แหลง่ รวบรวมเอกสาร ผลงาน หรือหลกั ฐาน เพื่อใชส้ ะทอ้ นถึงผลสมั ฤทธ์ิ ความสามารถ ทกั ษะ และพฒั นาการของนกั เรียน มีการจดั เรียบเรียงผลงานไวอ้ ยา่ งมีระบบ โดยนาความรู้ ความคิด และการนาเสนอมาผสมผสานกนั ซ่ึงนกั เรียนเป็นผคู้ ดั เลือกผลงานและมีส่วนร่วมในการประเมิน แฟ้ มสะสมงานจึง เป็นหลกั ฐานสาคญั ที่จะทาใหน้ กั เรียนสามารถมองเห็นพฒั นาการของตนเองไดต้ ามสภาพจริง รวมท้งั เห็น ขอ้ บกพร่อง และแนวทางในการปรับปรุงแกไ้ ขใหด้ ีข้ึนต่อไป ลกั ษณะสาคญั ของการประเมนิ ผลโดยใช้แฟ้ มสะสมผลงาน 1. ครูสามารถใชเ้ ป็นเครื่องมือในการติดตามความกา้ วหนา้ ของนกั เรียนเป็นรายบุคคลไดเ้ ป็นอยา่ งดี เน่ืองจากมีผลงานสะสมไว้ ครูจะทราบจุดเด่น จุดดอ้ ยของนกั เรียนแต่ละคนจากแฟ้ มสะสมผลงาน และสามารถ ติดตามพฒั นาการไดอ้ ยา่ งต่อเน่ือง 2. มงุ่ วดั ศกั ยภาพของผเู้ รียนในการผลิตหรือสร้างผลงาน มากกวา่ การวดั ความจาจากการทาแบบทดสอบ 3. วดั และประเมินโดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นศนู ยก์ ลาง คือ ผเู้ รียนเป็นผวู้ างแผน ลงมือปฏิบตั ิงาน รวมท้งั ประเมิน และปรับปรุงตนเอง ซ่ึงมีผสู้ อนเป็นผชู้ ้ีแนะ เนน้ การประเมินผลยอ่ ยมากกวา่ การประเมินผลรวม 4. ฝึ กใหผ้ เู้ รียนรู้จกั การประเมินตนเอง และหาแนวทางปรับปรุงพฒั นาตนเอง 5. ผเู้ รียนเกิดความมน่ั ใจและภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง รู้วา่ ตนเองมีจุดเด่นในเรื่องใด 6. ช่วยในการส่ือความหมายเก่ียวกบั ความรู้ ความสามารถ ตลอดจนพฒั นาการของผเู้ รียนใหผ้ ทู้ ี่เกี่ยวขอ้ ง ทราบ เช่น ผปู้ กครอง ฝ่ ายแนะแนว ตลอดจนผบู้ ริหารของโรงเรียน ข้นั ตอนการประเมนิ ผลโดยใช้แฟ้ มสะสมผลงาน การจดั ทาแฟ้ มสะสมผลงานมี 10 ข้นั ตอน ซ่ึงแต่ละข้นั ตอนมีรายละเอียด ดงั น้ี 1. การวางแผนจดั ทาแฟ้ มสะสมผลงาน การจดั ทาแฟ้ มสะสมผลงานตอ้ งมีส่วนร่วมระหวา่ งครู นกั เรียน และผปู้ กครอง ครู การเตรียมตวั ของครูตอ้ งเร่ิมจากการศึกษา และวิเคราะห์หลกั สูตร ค่มู ือครู คาอธิบายรายวชิ า วิธีการวดั และประเมินผลในหลกั สูตร รวมท้งั ครูตอ้ งมีความรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั การประเมินโดยใชแ้ ฟ้ มสะสมผลงาน จึงสามารถวางแผนกาหนดชิ้นงานได้ นกั เรียน ตอ้ งมีความเขา้ ใจเกี่ยวกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหาสาระ การประเมินผลโดยใชแ้ ฟ้ มสะสม ผลงาน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ การกาหนดชิ้นงาน และบทบาทในการทางานกลมุ่ โดยครูตอ้ งแจง้ ให้ นกั เรียนทราบล่วงหนา้ ผ้ปู กครอง ตอ้ งเขา้ มามีส่วนร่วมในการคดั เลือกผลงาน การแสดงความคิดเห็น และรับรู้พฒั นาการของ นกั เรียนอยา่ งต่อเนื่อง ดงั น้นั ก่อนทาแฟ้ มสะสมผลงาน ครูตอ้ งแจง้ ใหผ้ ปู้ กครองทราบหรือขอความร่วมมือ รวมท้งั ใหค้ วามรู้ในเร่ืองการประเมินผลโดยใชแ้ ฟ้ มสะสมผลงานแก่ผปู้ กครองเม่ือมีโอกาส

ค่มู ือครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 220 2. การรวบรวมผลงานและจดั ระบบแฟ้ ม ในการรวบรวมผลงานตอ้ งออกแบบการจดั เกบ็ หรือแยก หมวดหมขู่ องผลงานใหด้ ี เพ่ือสะดวกและง่ายต่อการนาขอ้ มูลออกมาใช้ แนวทางการจดั หมวดหม่ขู องผลงาน เช่น - จดั แยกตามลาดบั วนั เวลา ที่สร้างผลงานข้ึนมา - จดั แยกตามความซบั ซอ้ นของผลงาน เป็นการแสดงถึงทกั ษะหรือพฒั นาการของผเู้ รียนที่มากข้ึน - จดั แยกตามวตั ถุประสงค์ เน้ือหา หรือประเภทของผลงาน ผลงานท่ีอยใู่ นแฟ้ มสะสมงานอาจมีหลายเรื่อง หลายวชิ า ดงั น้นั ผเู้ รียนจะตอ้ งทาเครื่องมือในการช่วยคน้ หา เช่น สารบญั ดชั นีเรื่อง จุดสี แถบสีติดไวท้ ี่ผลงานโดยมีรหสั ที่แตกต่างกนั เป็นตน้ 3. การคดั เลอื กผลงาน ในการคดั เลือกผลงานน้นั ควรใหส้ อดคลอ้ งกบั เกณฑห์ รือมาตรฐานท่ีโรงเรียน ครูหรือนกั เรียนร่วมกนั กาหนดข้ึนมา และผคู้ ดั เลือกผลงานควรเป็นนกั เรียนเจา้ ของแฟ้ มสะสมผลงาน หรือมี ส่วนร่วมกบั ครู เพ่ือน และผปู้ กครอง ผลงานท่ีเลือกเขา้ แฟ้ มสะสมผลงานควรมีลกั ษณะดงั น้ี – สอดคลอ้ งกบั เน้ือหา และวตั ถุประสงคข์ องการเรียนรู้ – เป็นผลงานชิ้นท่ีดีที่สุด มีความหมายต่อนกั เรียนมากท่ีสุด – สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงพฒั นาการของนกั เรียนในทุกดา้ น – เป็นส่ือท่ีจะช่วยใหน้ กั เรียนมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกบั ครู ผปู้ กครอง และเพ่ือน ๆ ส่วนจานวนชิ้นงานน้นั ใหก้ าหนดตามความเหมาะสม ไม่ควรมีมากเกินไป เพราะอาจจะทาใหผ้ ลงาน บางชิ้นไมม่ ีความหมาย แต่ถา้ มีนอ้ ยเกินไปจะทาใหก้ ารประเมินไมม่ ีประสิทธิภาพ 4. สร้างสรรค์แฟ้ มสะสมผลงานให้มเี อกลกั ษณ์ของตนเอง โครงสร้างหลกั ของแฟ้ มสะสมผลงานอาจ เหมือนกนั แต่นกั เรียนสามารถตกแต่งรายละเอียดยอ่ ยใหแ้ ตกต่างกนั ตามความคิดสร้างสรรคข์ องแต่ละบุคคล โดย อาจใชภ้ าพ สี สติกเกอร์ ตกแต่งใหส้ วยงาม เนน้ เอกลกั ษณ์ของเจา้ ของแฟ้ มสะสมผลงาน 5. การแสดงความคดิ เห็นหรือความรู้สึกต่อผลงาน ในข้นั ตอนน้ีนกั เรียนจะไดร้ ู้จกั การวิพากษว์ ิจารณ์ หรือ สะทอ้ นความคิดเก่ียวกบั ผลงานของตนเอง ตวั อยา่ งขอ้ ความที่ใชแ้ สดงความรู้สึกต่อผลงาน เช่น – ไดแ้ นวคิดจากการทาผลงานชิ้นน้ีมาจากไหน – เหตุผลท่ีเลือกผลงานชิ้นน้ีคืออะไร – จุดเด่น จุดดอ้ ยของผลงานชิ้นน้ีคืออะไร – รู้สึกพอใจกบั ผลงานชิ้นน้ีมากนอ้ ยเพียงใด – ไดข้ อ้ คิดอะไรจากการทาผลงานชิ้นน้ี 6. ตรวจสอบความสามารถของตนเอง เป็นการเปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียนไดป้ ระเมินความสามารถของตนเอง โดยพิจารณาตามเกณฑย์ อ่ ย ๆ ท่ีครูและนกั เรียนช่วยกนั กาหนดข้ึน เช่น นิสยั การทางาน ทกั ษะทางสงั คม การทางาน เสร็จตามระยะเวลาที่กาหนด การขอความช่วยเหลือเมื่อมีความจาเป็น เป็นตน้ นอกจากน้ีการตรวจสอบ ความสามารถตนเองอีกวิธีหน่ึง คือ การใหน้ กั เรียนเขียนวเิ คราะห์จุดเด่น จุดดอ้ ยของตนเอง และสิ่งท่ีตอ้ งปรับปรุง แกไ้ ข

ค่มู ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 221 7. การประเมนิ ผลงาน เป็นข้นั ตอนท่ีสาคญั เนื่องจากเป็นการสรุปคุณภาพของงานและความสามารถหรือ พฒั นาการของนกั เรียน การประเมินแบ่งออกเป็น 2 ลกั ษณะ คือ การประเมินโดยไมใ่ หร้ ะดบั คะแนน และการ ประเมินโดยใหร้ ะดบั คะแนน การประเมินโดยไม่ให้ระดบั คะแนน ครูกลุ่มน้ีมีความเช่ือวา่ แฟ้ มสะสมผลงานมีไวเ้ พื่อศึกษากระบวนการ ทางาน ศึกษาความคิดเห็น ความรู้สึกของนกั เรียนที่มีต่อผลงานของตนเอง ตลอดจนดูพฒั นาการหรือความกา้ วหนา้ ของนกั เรียนอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ ครู ผปู้ กครอง และเพ่ือนสามารถใหค้ าช้ีแนะแก่นกั เรียนได้ ซ่ึงวธิ ีการน้ีจะทาให้ นกั เรียนไดเ้ รียนรู้และปฏิบตั ิงานอยา่ งเตม็ ที่ โดยไม่ตอ้ งกงั วลวา่ จะไดค้ ะแนนมากนอ้ ยเท่าไร การประเมินโดยให้ระดับคะแนน มีท้งั การประเมินตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การประเมินระหวา่ งภาค เรียน และการประเมินปลายภาค ซ่ึงจะช่วยในวตั ถปุ ระสงคด์ า้ นการปฏิบตั ิเป็นหลกั การประเมินแฟ้ มสะสมผลงาน ตอ้ งกาหนดมิติการใหค้ ะแนน (Scoring rubrics) ตามเกณฑท์ ่ีครูและนกั เรียนร่วมกนั กาหนดข้ึน การใหร้ ะดบั คะแนนมีท้งั การใหค้ ะแนนเป็นรายชิ้นก่อนเกบ็ เขา้ แฟ้ มสะสมผลงาน และการใหค้ ะแนนแฟ้ มสะสมผลงานท้งั แฟ้ ม ซ่ึงมาตรฐานคะแนนน้นั ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคก์ ารจดั ทาแฟ้ มสะสมผลงาน และมุ่งเนน้ พฒั นาการของ นกั เรียนแต่ละคนมากกวา่ การนาไปเปรียบเทียบกบั บุคคลอ่ืน 8. การแลกเปลยี่ นประสบการณ์กบั ผู้อนื่ มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดร้ ับฟังความคิดเห็น จากผทู้ ่ีมีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ไดแ้ ก่ เพ่ือน ครู และผปู้ กครอง อาจทาไดห้ ลายรูปแบบ เช่น การจดั ประชุมในโรงเรียนโดย เชิญผทู้ ่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ งมาร่วมกนั พิจารณาผลงาน การสนทนาแลกเปลี่ยนระหวา่ งนกั เรียนกบั เพื่อน การส่ง แฟ้ มสะสมผลงานไปใหผ้ ทู้ ี่มีส่วนเก่ียวขอ้ งช่วยใหข้ อ้ เสนอแนะหรือคาแนะนา ในการแลกเปล่ียนประสบการณ์น้นั ผเู้ รียนจะตอ้ งเตรียมคาถามเพื่อถามผทู้ ี่มีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ซ่ึงจะเป็น ประโยชนใ์ นการปรับปรุงงานของตนเอง ตวั อยา่ งคาถาม เช่น - ท่านคิดอยา่ งไรกบั ผลงานชิ้นน้ี - ท่านคิดวา่ ควรปรับปรุงแกไ้ ขส่วนใดอีกบา้ ง - ผลงานชิ้นใดท่ีท่านชอบมากที่สุดเพราะอะไร ฯลฯ 9. การปรับเปลย่ี นผลงาน หลงั จากท่ีผเู้ รียนไดแ้ ลกเปลี่ยนความคิดเห็น และไดร้ ับคาแนะนาจากผทู้ ี่มีส่วน เก่ียวขอ้ งแลว้ จะนามาปรับปรุงผลงานใหด้ ีข้ึน ผเู้ รียนสามารถนาผลงานท่ีดีกวา่ เกบ็ เขา้ แฟ้ มสะสมงานแทนผลงาน เดิม ทาใหแ้ ฟ้ มสะสมงานมีผลงานที่ดี ทนั สมยั และตรงตามจุดประสงคใ์ นการประเมิน 10. การประชาสัมพนั ธ์ผลงานของนกั เรียน เป็นการแสดงนิทรรศการผลงานของนกั เรียน โดยนา แฟ้ มสะสมผลงานของนกั เรียนทุกคนมาจดั แสดงร่วมกนั และเปิ ดโอกาสใหผ้ ปู้ กครอง ครู และนกั เรียนทวั่ ไปได้ เขา้ ชมผลงาน ทาใหน้ กั เรียนเกิดความภาคภมู ิใจในผลงานของตนเอง ผทู้ ่ีเริ่มตน้ ทาแฟ้ มสะสมงานอาจไมต่ อ้ งดาเนินการท้งั 10 ข้นั ตอนน้ี อาจใชข้ ้นั ตอนหลกั ๆ คือ การรวบรวม ผลงานและการจดั ระบบแฟ้ ม การคดั เลือกผลงาน และการแสดงความคิดเห็นหรือความรู้สึกต่อผลงาน องค์ประกอบสาคัญของแฟ้ มสะสมผลงาน มีดงั น้ี 1. ส่วนนา ประกอบดว้ ย ปก คานา สารบญั ประวตั ิส่วนตวั จุดมงุ่ หมายของการทาแฟ้ มสะสมผลงาน 2. ส่วนเนือ้ หาแฟ้ ม ประกอบดว้ ย ผลงาน ความคิดเห็นที่มีต่อผลงาน และ Rubrics ประเมินผลงาน

คู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 222 3. ส่วนข้อมลู เพิ่มเติม ประกอบดว้ ย ผลการประเมินการเรียนรู้ การรายงานความกา้ วหนา้ โดยครู และความ คิดเห็นของผทู้ ี่มีส่วนเกี่ยวขอ้ ง เช่น เพ่ือน ผปู้ กครอง แฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) เป็นแหลง่ รวบรวมผลงานของนกั เรียนอยา่ งเป็นระบบ ที่นามาใชป้ ระเมิน สมรรถภาพของนกั เรียน เพื่อช่วยใหน้ กั เรียน ครู ผปู้ กครองหรือผทู้ ี่เก่ียวขอ้ งเกิดความเขา้ ใจและมองเห็นอยา่ งเป็น รูปธรรมไดว้ า่ การปฏิบตั ิงานและผลงานของนกั เรียนมีคุณภาพมาตรฐานอยใู่ นระดบั ใด แฟ้ มสะสมงานเป็นเครื่องมือประเมินผลตามภาพจริงที่ใหโ้ อกาสนกั เรียนไดใ้ ชผ้ ลงานจากท่ีไดป้ ฏิบตั ิจริง สื่อสารใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจถึงความสามารถท่ีแทจ้ ริงของตน ซ่ึงผลงานท่ีเกบ็ สะสมในแฟ้ มสะสมงานมีหลายลกั ษณะ เช่น การเขียนรายงาน บทความ การศึกษาคน้ ควา้ ส่ิงประดิษฐ์ การทาโครงงาน บนั ทึกการบรรยาย บนั ทึกการทดลอง บนั ทึกการอภิปราย บนั ทึกประจาวนั แบบทดสอบ

คู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 223 ตอนท่ี 3.6 ตวั อย่าง แบบประเมนิ แฟ้ มสะสมผลงาน เร่ือง...............................................................................................กล่มุ ท.่ี .......... ภาคเรียนท.ี่ ......................ช้ัน................................................... รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 4 123 1. โครงสร้างและองคป์ ระกอบ 2. แนวความคิดหลกั 3. การประเมินผล 4. การนาเสนอ เกณฑ์การประเมนิ แยกตามองค์ประกอบย่อย 4 ด้าน รายการโครงสร้างและองค์ประกอบ รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ ผลงานมีองคป์ ระกอบที่สาคญั ครบถว้ นและจดั เกบ็ ไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ 4 ผลงานมีองคป์ ระกอบท่ีสาคญั เกือบครบถว้ นและส่วนใหญจ่ ดั เกบ็ อยา่ งเป็นระบบ 3 ผลงานมีองคป์ ระกอบที่สาคญั เป็นส่วนนอ้ ย แต่บางชิ้นงานมีการจดั เกบ็ ที่เป็นระบบ 2 ผลงานขาดองคป์ ระกอบที่สาคญั และการจดั เกบ็ ไมเ่ ป็นระบบ 1 รายการแนวความคิดหลกั ระดบั คุณภาพ 4 รายการประเมนิ ผลงานสะทอ้ นแนวความคิดหลกั ของนกั เรียนที่ไดค้ วามรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ มีหลกั ฐาน 3 แสดงวา่ มีการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดม้ าก ผลงานสะทอ้ นแนวความคิดหลกั ของนกั เรียนที่ไดค้ วามรู้ทางวิทยาศาสตร์ มีหลกั ฐาน 2 แสดงวา่ สามารถนาความรู้ไปใชใ้ นสถานการณ์ตวั อยา่ งได้ 1 ผลงานสะทอ้ นแนวความคิดหลกั ของนกั เรียนวา่ ไดค้ วามรู้ทางวทิ ยาศาสตร์บา้ ง มี หลกั ฐานแสดงถึงความพยายามท่ีจะนาไปใชป้ ระโยชน์ ผลงานจดั ไมเ่ ป็นระบบ มีหลกั ฐานแสดงวา่ มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์นอ้ ยมาก

คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2 224 รายการแนวการประเมนิ ผล รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ มีการประเมินความสามารถและประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงาน รวมท้งั มีการ 4 เสนอแนะโครงการที่เป็นไปไดท้ ี่จะจดั ทาต่อไปไวอ้ ยา่ งชดั เจนหลายโครงการ มีการประเมินความสามารถและประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงาน รวมท้งั การ 3 เสนอแนะโครงการที่ควรจดั ทาต่อไป มีการประเมินความสามารถและประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงานบา้ ง รวมท้งั มี 2 การเสนอแนะโครงการที่จะทาต่อไปแต่ไม่ชดั เจน มีการประเมินประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานและผลงานนอ้ ยมากและไม่มีขอ้ เสนอแนะใดๆ 1 รายการการนาเสนอ รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ เขียนบทสรุปและรายงานท่ีมีระบบดี มีข้นั ตอน มีขอ้ มลู ครบถว้ น มีการประเมินผลครบถว้ น แสดงออกถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 4 เขียนบทสรุปและรายงานแสดงใหเ้ ห็นวา่ มีข้นั ตอนการจดั เกบ็ ผลงาน มีการประเมินผลงาน เป็ นส่วนมาก 3 เขียนบทสรุปและรายงานแสดงใหเ้ ห็นวา่ มีข้นั ตอนการจดั เกบ็ ผลงาน มีการประเมินผลเป็น บางส่วน 2 เขียนบทสรุปและรายงานแสดงใหเ้ ห็นวา่ มีข้นั ตอนการจดั เกบ็ ผลงาน แต่ไม่มีการประเมินผล 1 เกณฑ์การประเมนิ โดยภาพรวม ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ 4 ผลงานมีรายละเอียดมากเพียงพอ ไมม่ ีขอ้ ผดิ พลาดหรือแสดงถึงความไมเ่ ขา้ ใจ มีความ เขา้ ใจในเร่ืองที่ศึกษาโดยมีการบรู ณาการหรือเชื่อมโยงแนวความคิดหลกั ต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั 3 ผลงานมีรายละเอียดมากเพียงพอและไม่มีขอ้ ผดิ พลาดหรือแสดงถึงความไมเ่ ขา้ ใจ แต่ขอ้ มลู ต่าง ๆ เป็นลกั ษณะของการนาเสนอที่ไมไ่ ดบ้ รู ณาการระหวา่ งขอ้ มลู กบั แนวความคิดหลกั 2 ของเร่ืองท่ีศึกษา 1 ผลงานมีรายละเอียดที่บนั ทึกไว้ แต่พบวา่ บางส่วนมีความผดิ พลาดหรือไมช่ ดั เจน หรือ แสดงถึงความไม่เขา้ ใจเร่ืองท่ีศึกษา ผลงานมีขอ้ มลู นอ้ ย ไมม่ ีรายละเอียดบนั ทึกไว้