Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คำศัพท์ไทย-อังกฤษ สำหรับติดต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ

คำศัพท์ไทย-อังกฤษ สำหรับติดต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ

Description: คำศัพท์ไทย-อังกฤษ สำหรับติดต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ

Search

Read the Text Version

โครงการสอื่ การเรียนรู้ “อาเซียน กูร”ู (Learning Package) 1

2 คำ�ศัพท์ไทย-อังกฤษ สำ�หรับติดตอ่ ราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ คำ�ศพั ทไ์ ทย-องั กฤษ สำ�หรับตดิ ตอ่ ราชการและการประชุมระหว่างประเทศ จดั ทำ�โดย : ส�ำ นกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น (ก.พ.) 47/111 ถนนตวิ านนท์ ตำ�บลตลาดขวญั อำ�เภอเมือง นนทบรุ ี 11000 โทรศัพท์ 0 2547 1000 โทรสาร 0 2547 1108 หัวหนา้ โครงการและบรรณาธกิ าร : รศ.ดร.จริ ประภา อัครบวร หัวหน้าทมี วิจยั : นายวัลลภ ใหญ่ย่ิง นกั วจิ ยั : ดร.บรรจบ ปยิ มาตย์ ทป่ี รึกษาโครงการ : นายประดาป พิบูลสงคราม ผู้เชีย่ วชาญดา้ นระบบราชการใน ASEAN ผ้ปู ระสานงานและตรวจทานคำ�ผิด : นางสาวเยาวนชุ สุมน เลขมาตรฐานประจำ�หนงั สอื : 978-616-548-145-8 จ�ำ นวนพิมพ์ : 5,400 เล่ม จำ�นวนหนา้ : 200 หนา้ พิมพ์ท่ี : กรกนกการพมิ พ์

โครงการสอ่ื การเรียนรู้ “อาเซยี น กรู ”ู (Learning Package) 3 ค�ำ นำ� สำ�นักงาน ก.พ. ในฐานะองค์การกลางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐ และได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรม อาเซียน ในการเพ่ิมขีดความสามารถของทรัพยากรบคุ คลในระบบราชการ จากการด�ำ เนนิ การทผี่ า่ นมา แมว้ า่ ส�ำ นกั งาน ก.พ. ไดด้ �ำ เนนิ การจดั อบรมหลกั สตู ร ความรู้เกี่ยวกับอาเซียนให้แก่ข้าราชการหลายคร้ัง แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมบุคลากรภาครัฐ ซึง่ มจี ำ�นวนมากกวา่ 2 ลา้ นคน สำ�นักงาน ก.พ. จงึ เห็นควรพฒั นาชุดการเรียนรู้ “อาเซยี น กูรู” เพื่อเผยแพร่ความรู้เก่ียวกับอาเซียนและคำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษากลาง ในกลุ่มประเทศอาเซยี นให้บคุ ลากรภาครัฐ ทง้ั นท้ี างส�ำ นกั งาน ก.พ. จงึ ท�ำ ความรว่ มมอื กบั สถาบนั บณั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร์ (นิด้า) จัดทำ�หนังสือเรื่อง “คำ�ศัพท์ไทย-อังกฤษ สำ�หรับติดต่อราชการและ การประชุมระหว่างประเทศ” เพ่ือเสริมทักษะความรู้ภาษาอังกฤษให้แก่บุคลากรภาครัฐ ทกุ ระดับ หวงั ว่าทา่ นผู้อ่านคงไดร้ บั ความรู้และเพลิดเพลนิ ไปกบั หนังสือชดุ น้ี สำ�นกั งาน ก.พ.

4 คำ�ศัพทไ์ ทย-องั กฤษ ส�ำ หรบั ติดตอ่ ราชการและการประชุมระหวา่ งประเทศ ขอ้ คดิ จากบรรณาธิการ หนงั สอื เรอื่ ง “ค�ำ ศพั ทไ์ ทย-องั กฤษ ส�ำ หรบั ตดิ ตอ่ ราชการและการประชมุ ระหวา่ ง ประเทศ” เป็นหนังสือที่จัดทำ�ข้ึนเพื่อเสริมทักษะความรู้ภาษาอังกฤษให้แก่บุคลากร ภาครัฐทุกระดับ โดยรวบรวมคำ�ศัพท์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษไว้เป็นหมวดหมู่ ได้แก่ หมวดบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ หมวดการจดั ท�ำ งบประมาณ หมวดการเขยี นหนงั สอื ราชการ และหมวดการประชุมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ภายในหนังสือเล่มน้ีท่านผู้อ่านสามารถเรียนรู้ตัวย่อที่ใช้กันใน ประชาคมอาเซียนและองค์การระหว่างประเทศ รวมถึงบทสนทนาที่ท่านสามารถนำ�ไป ใช้ได้ต้ังแต่การสนทนาทั่วไป การแนะนำ�ตัวเอง การให้ข้อมูลส่วนตัว การกล่าวขอบคุณ ขอโทษ และกล่าวลา ในตอนท้ายของหนังสือผู้เขียนได้นำ�ตัวอย่างบทสนทนาท่ีอาจนำ�ไปใช้ในการ ประชมุ มารวบรวมไวเ้ ปน็ ตวั อยา่ ง เพอ่ื ใหท้ า่ นผอู้ า่ นสามารถเรยี นรแู้ ละดดั แปลงเนอื้ หาให้ เหมาะสมกับบริบททท่ี ่านต้องการสือ่ สาร ทางคณะผู้จัดทำ�หนังสือหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะมีส่วนเสริมทักษะ ด้านภาษาใหก้ บั ขา้ ราชการไทย และผู้อา่ นทกุ ท่านไมม่ ากก็น้อย รศ.ดร.จิรประภา อคั รบวร บรรณาธิการ

โครงการส่อื การเรยี นรู้ “อาเซยี น กูรู” (Learning Package) 5 สารบัญ ช่วงที่ 1 ค�ำ ศพั ท์ไทย-องั กฤษ 4 หมวด 7 1. หมวดบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ 8 1.1 ค�ำ ศพั ท์เกี่ยวกบั การบริหารราชการ 9 1.2 คำ�ศัพทเ์ กยี่ วกับกฎหมายและระเบียบปฏิบตั ิระบบราชการ 32 1.3 คำ�ศพั ท์เกีย่ วกบั ต�ำ แหน่งทางราชการ 40 1.4 ค�ำ ศพั ทเ์ ก่ยี วกบั สถานทีร่ าชการ 45 2. หมวดการจดั ทำ�งบประมาณ 47 2.1 ค�ำ ศัพท์เกย่ี วกบั วิธกี ารทางงบประมาณ 48 2.2 ค�ำ ศพั ท์เกยี่ วกับระบบบญั ชแี ละการเงินการคลงั 57 2.3 ค�ำ ศพั ทเ์ กย่ี วกบั ระบบเศรษฐกจิ 70 2.4 คำ�ศัพทเ์ กย่ี วกบั กฎหมายและระเบยี บว่าดว้ ยการ 79 จดั ท�ำ งบประมาณ 3. หมวดการเขียนหนังสอื ราชการ 82 3.1 ค�ำ ศพั ท์เกยี่ วกับประเภทและแบบฟอรม์ ของหนังสอื ราชการ 83 3.2 คำ�ศัพท์เกีย่ วกับขั้นตอนการเขยี นหนงั สือราชการภาษาอังกฤษ 86 3.3 ศัพท์และส�ำ นวนท่ใี ชก้ บั หนังสือราชการภาษาอังกฤษ 89 3.4 คำ�ศพั ท์ทีม่ กั จะใช้ในพธิ ีการต่างๆ ทางราชการ 100 4. หมวดการประชุมระหว่างประเทศ 106 4.1 ค�ำ ศพั ท์เกย่ี วกับรปู แบบของการประชมุ ระหวา่ งประเทศ 106 4.2 ค�ำ ศพั ท์เกย่ี วกับบุคคล ตำ�แหน่ง ผู้เกยี่ วข้องกบั 109 การประชุมระหวา่ งประเทศ 4.3 ค�ำ ศพั ท์และสำ�นวนส�ำ หรับการประชุมระหว่างประเทศ 111 4.4 คำ�ศพั ท์เกี่ยวกบั ตวั ย่อทางการทตู และการเมอื งระหว่างประเทศ 114

6 ค�ำ ศพั ท์ไทย-อังกฤษ ส�ำ หรับตดิ ตอ่ ราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ สารบญั ช่วงที่ 2 ตัวยอ่ ท่เี กย่ี วกับประชาคมอาเซียน 123 124 1. ตวั ย่อเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนทว่ั ไป (ASEAN Community) 128 2. ตัวย่อเกยี่ วกับประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 131 (ASEAN Socio-Cultural Community: ASCC) 139 3. ตวั ยอ่ เกี่ยวกบั ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น 140 (ASEAN Economic Community: AEC) 4. ตัวย่อเกีย่ วกับประชาคมการเมืองและความม่นั คง (ASEAN Political Security Community: APSC) 5. ตวั ยอ่ เกย่ี วกบั องคก์ ารระหว่างประเทศท่คี วรรู้ (International Organizations: IO) ช่วงท่ี 3 ตัวอย่างบทสนทนาทจ่ี ำ�เปน็ ในการประชมุ ในบรบิ ทอาเซียน 145 1. การทกั ทาย (Greetings) 146 2. การแนะนำ�ตวั เอง (Self-Introduction) 147 3. การใหแ้ ละขอข้อมูลส่วนตัว 150 (Giving and Asking for Personal Information) 4. การกล่าวขอบคุณ (Thanking) 153 5. การกลา่ วขอโทษ (Apologizing) 154 6. การกล่าวลา (Leave Taking) 156 7. ตวั อยา่ งบทสนทนาในการประชมุ ในบริบทอาเซียน 158 (Dialogues in ASEAN Meeting’s Context) บรรณานุกรม 168 ดชั นคี �ำ ศัพทภ์ าษาองั กฤษ 174 ภาคผนวก 198

โครงการสือ่ การเรียนรู้ “อาเซียน กูร”ู (Learning Package) 7 ชว่ งท่ี 1 ค�ำ ศพั ท์ ไทย-องั กฤษ หมวดบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ หมวดการจัดทำ�งบประมาณ หมวดการเขยี นหนังสอื ราชการ หมวดการประชมุ ระหวา่ งประเทศ

8 คำ�ศัพทไ์ ทย-องั กฤษ ส�ำ หรบั ติดต่อราชการและการประชุมระหวา่ งประเทศ 1. หมวดบรหิ ารราชการแผน่ ดิน 1.1 ค�ำ ศพั ทเ์ กี่ยวกบั การบริหารราชการ 1.1.1 คำ�ศพั ท์เกี่ยวกบั การบรหิ ารราชการแผน่ ดิน (Public Administration) 1.1.2 คำ�ศพั ท์เกย่ี วกบั ระบบการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Planning) 1.1.3 ค�ำ ศพั ทเ์ กย่ี วกับการบรหิ ารเชงิ ยทุ ธศาสตร์ (Strategic Management) 1.1.4 ค�ำ ศพั ท์เก่ียวกบั การบรหิ ารราชการแบบธรรมาภิบาล (Good Governance) 1.1.5 ค�ำ ศัพทก์ ารบรหิ ารราชการแบบบูรณาการ (Integrated Public Administration / CEO) 1.1.6 ค�ำ ศพั ทเ์ กี่ยวกับการบรหิ ารราชการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Governance) 1.2 คำ�ศพั ทเ์ กยี่ วกบั กฎหมายและระเบยี บปฏบิ ตั ริ ะบบราชการ 1.3 ค�ำ ศพั ทเ์ ก่ยี วกบั ตำ�แหนง่ ทางราชการ 1.3.1 คำ�ศัพท์ต�ำ แหน่งผู้บรหิ ารส่วนกลาง 1.3.2 ค�ำ ศัพท์ตำ�แหนง่ ผบู้ ริหารราชการสว่ นภมู ิภาค 1.3.3 ค�ำ ศัพท์ต�ำ แหนง่ การบริหารราชการส่วนทอ้ งถิ่น 1.3.4 คำ�ศพั ทเ์ กีย่ วกับยศ ต�ำ แหนง่ ในกองทพั ไทยและ สำ�นักงานต�ำ รวจแห่งชาติ 1.4 ค�ำ ศัพท์เกย่ี วกับสถานทรี่ าชการ 1.4.1 ค�ำ ศัพทเ์ ก่ยี วกบั สถานทร่ี าชการและหนว่ ยงาน-สว่ นกลาง 1.4.2 คำ�ศัพท์เกี่ยวกบั สถานทบี่ รหิ ารราชการส่วนภมู ิภาค 1.4.3 คำ�ศัพทเ์ กีย่ วกบั สถานทบี่ ริหารราชการส่วนทอ้ งถน่ิ

โครงการส่ือการเรยี นรู้ “อาเซยี น กรู ”ู (Learning Package) 9 1.1 คำ�ศัพท์หมวดบริหารราชการ 1.1.1 คำ�ศัพท์เกยี่ วกับการบริหารราชการแผ่นดนิ (Public Administration) การบริหารราชการแผน่ ดิน Public Administration (9) การกำ�หนดนโยบายและทิศทางว่าจะจัดการปกครองประเทศในด้านต่างๆ ไปในแนวทางใดและใช้วิธีการใด จึงจะเป็นไปเพ่ือประโยชน์สุขของประชาชน เกดิ ผลสมั ฤทธิ์ต่อภารกิจของรฐั มีประสิทธิภาพ คุ้มคา่ ในเชิงภารกจิ แหง่ รฐั การบริหารราชการส่วนกลาง Central Administration (11) การใช้หลักการรวมอำ�นาจโดยให้อำ�นาจการบังคับบัญชาและการวินิจฉัย ส่ังการสูงสุดอยู่ในส่วนกลาง คือ กรุงเทพมหานครอันเป็นเมืองหลวง และศูนย์กลาง การบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น (1) สำ�นักนายกรฐั มนตรี (2) กระทรวง ซึ่งมฐี านะเทยี บเท่ากระทรวง (3) กรม หรือสว่ นราชการที่เรียกชอื่ อยา่ งอน่ื และมีฐานะเป็นกรม การบริหารราชการสว่ นภมู ิภาค Provincial Administration (31) การท่ีใช้หลักการแบ่งอำ�นาจโดยราชการส่วนกลางเป็นเจ้าของอำ�นาจ แล้วแบ่งอำ�นาจการบังคับบัญชาและการวินิจฉัยส่ังการให้แก่ภูมิภาคนำ�ไปปฏิบัติให้เกิด ประโยชน์สูงสุดแกป่ ระชาชนในภมู ิภาคนน้ั ๆ การบรหิ ารราชการส่วนทอ้ งถ่ิน Local Administration (12) การบรหิ ารทีใ่ ช้หลกั การกระจายอ�ำ นาจ ทีส่ ่วนกลางไดม้ อบอ�ำ นาจระดับหนึง่ ให้ ประชาชนในทอ้ งถน่ิ ไปด�ำ เนนิ การปกครองตนเองอยา่ งอสิ ระ โดยทต่ี อ้ งไมข่ ดั ตอ่ กฎหมาย ของประเทศหรอื ความสงบเรยี บร้อยของประชาชน

10 คำ�ศพั ทไ์ ทย-อังกฤษ ส�ำ หรบั ติดต่อราชการและการประชมุ ระหว่างประเทศ การจัดการภาครฐั แนวใหม่ New Public Management: NPM (23) การจัดการภาครัฐท่ีมุ่งบริหารให้เกิดผลสัมฤทธ์ิด้วยความคุ้มค่า มีคุณภาพ เกิด ความพงึ พอใจของผรู้ บั บรกิ ารโดยบรู ณาการแนวคดิ เศรษฐศาสตรแ์ นวคดิ การจดั การนยิ ม แนวคิดประชารฐั และแนวคดิ นติ ิรัฐเข้าด้วยกนั กระบวนทัศน์ใหมใ่ นการบรหิ าร New Paradigm กระบวนทัศน์ในการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ที่เน้นแนวคิดและความ ทันสมัย (Modernization) ได้แก่ การมอบอำ�นาจ (Delegation) การกระจายอำ�นาจ (Decentralization) การเปน็ ประชาธปิ ไตย (Democratization) การลดกฎระเบยี บและ การควบคุมของภาคราชการ (Deregulation) และการลดหนว่ ยงานและก�ำ ลงั ข้าราชการ (Downsizing) เป็นตน้ การมสี ว่ นร่วมของประชาชน Public Participation (21) การกระจายโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง การปกครอง และการบริหารเกี่ยวกับการตัดสินใจ การจัดสรรทรัพยากรของชุมชนและของชาติ โดยการให้ข้อมูล แสดงความคิดเห็น ให้คำ�แนะนำ�ปรึกษา ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ ตลอดจนการควบคมุ โดยตรงจากประชาชน การรวมอำ�นาจปกครอง Centralization หลักการจัดวางระเบียบบริหารราชการแผ่นดินโดยรวมอำ�นาจในการปกครอง ไว้ให้แก่การบริหารราชการส่วนกลาง อันได้แก่ กระทรวง ทบวง กรม ของรัฐ และมี เจา้ หนา้ ท่ี ของหนว่ ยการบรหิ ารราชการสว่ นกลาง โดยใหข้ น้ึ ตอ่ กนั ตามล�ำ ดบั ชนั้ การบงั คบั บัญชา การกระจายอำ�นาจ Decentralization (31) การจัดสรรหรือแบ่งปันอำ�นาจการตัดสินใจอันเกี่ยวข้องกับกิจการสาธารณะ (Public Affairs) ของรัฐส่วนกลางไปยังหน่วยงานหรือองค์การอื่นๆ โดยท่ีองค์การภาย ใตห้ ลกั การแบง่ อ�ำ นาจนจ้ี ะมอี สิ ระตามสมควรในการตดั สนิ ใจตา่ งๆ ภายในพน้ื ทท่ี ต่ี นดแู ล แต่ทั้งน้ีอำ�นาจการตัดสินใจและการกำ�หนดนโยบายต่างๆ ยังคงอยู่ที่ส่วนกลาง บางครั้ง จึงเรียกการกระจายอำ�นาจในลักษณะนี้ว่า “การกระจายอำ�นาจทางการบริหาร” (Administrative Decentralization)

โครงการสอื่ การเรียนรู้ “อาเซยี น กรู ู” (Learning Package) 11 การมอบอำ�นาจ Delegation (31) ระดับของการกระจายอำ�นาจที่ให้อิสระสูงกว่าการแบ่งอำ�นาจ การกระจาย อำ�นาจเน้นในเชิง “ภารกิจหน้าที่” มีการกำ�หนดภารกิจเฉพาะที่ชัดเจนให้องค์การ เหล่าน้ันสามารถตัดสินใจและใช้อำ�นาจหน้าที่ภายในขอบเขตของตนได้โดยอิสระ แต่รัฐ ส่วนกลางกย็ ังคงมีอ�ำ นาจอยเู่ หนอื องคก์ ารเหลา่ นี้ การโอนอำ�นาจในทางการปกครอง Administrative Devolution รูปแบบการปกครองท้องถ่ินตามหลัก “การปกครองตนเอง” (Local-self Government) เปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถ่ินมีการจัดตั้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นของตนเอง สามารถจัดทำ�กิจการต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อปัญหาและความจำ�เป็น ภายในชมุ ชนของตนไดอ้ ย่างกว้างขวาง อกี ทั้งยังมีความเปน็ อสิ ระท้ังในด้านการคลังและ บุคลากร การเลือกต้ัง Election (7) การเลือกบุคคลเข้าด�ำ รงตำ�แหนง่ ทางการเมอื งโดยการออกเสยี งลงคะแนน ซึ่งมี 2 ประเภท คอื (1) การเลือกต้งั ทางตรง (Direct Election) โดยท่ัวไปมกั ใช้ระบบคะแนนสูงสดุ (Plurality System) และระบบลงคะแนนสองรอบ (Two-Round System) นอกจากน้ี ยงั มีการใชร้ ะบบบัญชรี ายชอ่ื (Party List) ในการเลอื กตัง้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (2) การเลือกตั้งทางอ้อม (Indirect Election) ประชาชนผู้มีสิทธิการเลือก ตั้งเลือกตัวแทนหรือคณะบุคคล จากน้ันตัวแทนหรือคณะบุคคลท่ีได้รับการเลือกต้ัง จะไปด�ำ เนินการเลอื กผูด้ ำ�รงต�ำ แหน่งทางการเมืองต่อไป เชน่ การเลือกตงั้ ประธานาธิบดี ของสหรัฐอเมริกา การออกเสียงประชามติ Referendum การนำ�รา่ งกฎหมาย ร่างรัฐธรรมนูญ และนโยบายทส่ี �ำ คญั ของประเทศ ไปผ่าน การตัดสินเพื่อแสดงความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบโดยประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำ�นาจ อธิปไตย

12 ค�ำ ศพั ทไ์ ทย-องั กฤษ สำ�หรับติดตอ่ ราชการและการประชุมระหว่างประเทศ การดุลอ�ำ นาจซ่ึงกันและกนั Check and Balance ดลุ อ�ำ นาจหรอื การตรวจสอบการปฏบิ ตั หิ นา้ ทซี่ ง่ึ กนั และกนั ระหวา่ งฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิ ที่มีอำ�นาจหน้าที่ในการตรากฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และการให้ ความเห็นชอบ กับฝ่ายบริหารท่ีมีอำ�นาจหน้าท่ีในการบริหารราชการแผ่นดิน และ ฝ่ายตุลาการมอี ำ�นาจหน้าท่ใี นการพพิ ากษาคดี การให้สัตยาบัน Confirmation (12) การใหค้ ำ�รับรองโมฆยี ะกรรมให้เปน็ นติ กิ รรมที่มีผลสมบรู ณเ์ ตม็ รอ้ ย เป็นการให้ ประชาชนออกเสยี งลงคะแนนในปญั หาทเี่ กย่ี วกบั การรา่ งกฎหมาย และการแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ รัฐธรรมนญู ทไี่ ดผ้ ่านสภานติ บิ ญั ญัติแลว้ กระบวนการตรากฎหมาย Enactment, Legislation กระบวนการหรอื วธิ ีการในการออกกฎหมาย ซง่ึ ได้แก่ พระราชบัญญตั ปิ ระกอบ รัฐธรรมนูญ พระราชบญั ญตั ิ และพระราชก�ำ หนด กฎหมายว่าดว้ ยองคก์ ารปกครองทอ้ งถิน่ Law on Local Administration กฎหมายในลำ�ดับรองซ่ึงรัฐมอบอำ�นาจให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ออกใชบ้ งั คบั ในทอ้ งถน่ิ ได้ ไดแ้ ก่ ขอ้ บญั ญตั จิ งั หวดั เทศบญั ญตั ิ ขอ้ บญั ญตั กิ รงุ เทพมหานคร และขอ้ บญั ญตั เิ มืองพทั ยา คณะกรรมการการเลือกต้ัง (กกต.) Election Commission: EC องคก์ ารอสิ ระตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย มหี นา้ ทหี่ ลกั ในการควบคมุ และจัดให้มีการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถ่ิน และผู้บริหารท้องถิ่น ทำ�หน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงความสำ�คัญของ การเลอื กต้ัง และตรวจสอบการเลอื กตั้งใหบ้ รสิ ทุ ธย์ิ ุตธิ รรม

โครงการส่อื การเรียนรู้ “อาเซียน กรู ู” (Learning Package) 13 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ (ป.ป.ช.) The National Anti-corruption Commission องค์การอิสระที่มีอำ�นาจหน้าท่ีเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ถือเป็นองค์การสำ�คัญในการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามบรรทัดฐาน เพอื่ สร้างระบบการตรวจสอบทไ่ี ด้ผล คณะรัฐมนตรี Cabinet (4) คณะบุคคลซง่ึ พระมหากษตั ริยท์ รงแตง่ ตัง้ ประกอบดว้ ย นายกรฐั มนตรหี นึ่งคน และรัฐมนตรีอ่ืนอีกไม่เกินจำ�นวนที่กำ�หนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เพ่ือทําหน้าที่บริหาร ราชการแผน่ ดิน นายกรฐั มนตรี Prime Minister (12) ตําแหนง่ หวั หนา้ คณะรฐั มนตรี หมายถงึ บคุ คลซง่ึ พระมหากษตั รยิ ท์ รงแตง่ ตงั้ เปน็ หวั หนา้ ฝา่ ยบรหิ าร หรอื คณะรฐั มนตรซี ง่ึ มอี �ำ นาจหนา้ ทใ่ี นการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ และ เปน็ ประธานของทป่ี ระชุมคณะรัฐมนตรี ผตู้ รวจการแผน่ ดิน Ombudsman (31) องค์การที่จัดต้ังข้ึนครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ภายใต้ช่ือ “ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา” มีเจตนารมณ์มุ่งหวังให้มีกลไก ในการคุ้มครองสทิ ธิ เสรีภาพของประชาชน และตรวจสอบการใช้อำ�นาจรัฐ ประธานรฐั สภา Speaker of Parliament (4) เป็นตำ�แหน่งประมุขของอำ�นาจฝ่ายนิติบัญญัติของไทย ซึ่งพระมหากษัตริย์ ทรงแต่งต้ังตามมติของสภาผู้แทนราษฎร มีอำ�นาจหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และดำ�เนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติน้ัน ถือเป็นตำ�แหน่งสูงสุดของฝ่ายนิติบัญญัติ มีฐานะและศักดิ์ศรีเทียบได้กับนายกรัฐมนตรีซ่ึงเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และประธาน ศาลฎีกาซง่ึ เป็นหัวหนา้ ฝ่ายตลุ าการ

14 ค�ำ ศัพท์ไทย-อังกฤษ ส�ำ หรบั ตดิ ต่อราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ ระบบบรหิ ารคณุ ภาพ Quality Management System   ระบบบรหิ ารจดั การเพอ่ื มงุ่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาคณุ ภาพการด�ำ เนนิ งานอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง และมงุ่ ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลในการด�ำ เนนิ งานตามภารกจิ และวตั ถปุ ระสงค์ ขององค์การ รฐั มนตรี Ministers สมาชิกของคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐบาลรับผิดชอบร่วมกับคณะรัฐมนตรี ในนโยบายทวั่ ไปของรฐั บาลในการบริหารราชการแผน่ ดิน รัฐธรรมนูญ Constitution (4) กฎหมายสูงสุดในการจัดการปกครองรัฐ ซึ่งกล่าวถึงกฎเกณฑ์ท่ีจัดวางระเบียบ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งผูป้ กครองกับผ้อู ยู่ใตก้ ารปกครอง เปน็ กฎหมายทอ่ี ยใู่ นฐานะสูงกว่า กฎหมายอ่ืนๆ ทั้งปวง ซึ่งกฎหมายอ่ืนๆ จะมีวิธีการจัดทำ�หรือมีข้อความที่ขัดหรือแย้ง กับรัฐธรรมนูญไมไ่ ด้ รฐั ประศาสนศาสตรแ์ นวใหม่ New Public Administration: NPA (23) เป็นแนวคิดท่ีนักวิชาการร่วมกันคิดเพ่ือหาเอกลักษณ์ของรัฐประศาสนศาสตร์ แนวใหม่ โดยใหม้ งุ่ ไปสนใจทป่ี ญั หาสาธารณะ ผเู้ สียเปรียบในสังคม การสร้างความเสมอ ภาค การสร้างความเปน็ ธรรม และเนน้ ผรู้ บั บรกิ ารเป็นส�ำ คญั ราชกิจจานุเบกษา Royal Thai Government Gazette หนงั สอื รวบรวมค�ำ ประกาศของทางราชการ นบั เปน็ เอกสารหลกั ในการแจง้ ประกาศ กฎหมาย และค�ำ สัง่ ของทางราชการ เพ่อื เผยแพร่ใหป้ ระชาชนไดท้ ราบอยา่ งเป็นทางการ ส่วนราชการ Public Sector หน่วยงานภายในกระทรวงท่ีได้รับมอบหมาย/รับผิดชอบในการดำ�เนินการ ตามภารกจิ ตามแผนปฏบิ ัตริ าชการท่ีสอดคลอ้ งกบั แผนการบริหารราชการแผ่นดนิ

โครงการสอื่ การเรียนรู้ “อาเซยี น กรู ”ู (Learning Package) 15 สภารา่ งรฐั ธรรมนญู /คณะกรรมาธกิ ารยกร่างรฐั ธรรมนญู Constitution Drafting Committee: CDC สภาแห่งชาติซึ่งทำ�หน้าท่ีจัดทำ�ร่างรัฐธรรมนูญท้ังฉบับ เพื่อเสนอต่อรัฐสภา ใหค้ วามเห็นชอบ และประกาศใชเ้ ปน็ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ศาลปกครอง The Administrative Court ศาลท่ีมีอำ�นาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครองโดยเฉพาะ อันไม่อยู่ในอำ�นาจ ของศาลยตุ ธิ รรมหรอื ศาลอ่นื อ�ำ นาจอธิปไตย Sovereignty (9) อ�ำ นาจที่แสดงความเปน็ ใหญ่ ความเปน็ อิสระไม่ขึน้ ต่อใคร หรือต้องเชอ่ื ฟงั ค�ำ สงั่ ค�ำ บัญชาของผทู้ เ่ี หนอื ตนโดยปราศจากความยนิ ยอมของตน 1.1.2 ค�ำ ศพั ทเ์ ก่ยี วกับระบบการวางแผนเชงิ ยุทธศาสตร์ (22) (Strategic Planning) การประเมนิ คณุ ภาพ Quality Assessment   กระบวนการวิเคราะห์และเปรียบเทียบผลการดำ�เนินงานขององค์การหรือ หนว่ ยงานตามรายการตรวจสอบและตวั บง่ ชี้คณุ ภาพที่กำ�หนดวา่ อยูใ่ นระดับใด การประกันคณุ ภาพ Quality Assurance   การมีระบบและกลไกในการควบคุมตรวจสอบและประเมินการดำ�เนินงาน ในแต่ละองค์ประกอบคุณภาพตามรายการตรวจสอบ (Audit Checklist) การประกัน คุณภาพภายนอก (External Quality Assurance) และการประกันคุณภาพภายใน (Internal Quality Assurance) การวจิ ัยเชงิ นโยบาย Policy Research   การวจิ ยั เพอื่ หาแนวทางและนโยบายการด�ำ เนนิ การทจี่ ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ชมุ ชน และประเทศชาติ โดยอาจนำ�ผลการวิจัยเสนอแนะต่อรัฐบาลหรือแหล่งทุนวิจัยอื่นๆ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสในการขอความสนับสนุนการวิจัยต่อเน่ืองท่ีจะเป็นการสร้าง องคค์ วามรใู้ หมห่ รือนวัตกรรมตา่ งๆ ต่อไป

16 ค�ำ ศัพทไ์ ทย-อังกฤษ ส�ำ หรบั ติดตอ่ ราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ การควบคมุ คุณภาพ Quality Control   การมีระบบและกลไกในแต่ละองค์ประกอบคุณภาพ เพื่อกำ�กับการดำ�เนินงาน ของสถานศกึ ษาให้ไดผ้ ลตามรายการตรวจสอบและตวั บง่ ชีค้ ณุ ภาพทกี่ �ำ หนด การตรวจสอบคุณภาพ Quality Audit   กระบวนการในการศกึ ษาวเิ คราะหว์ า่ สถาบนั มรี ะบบและกลไกก�ำ กบั และควบคมุ คณุ ภาพ และมกี ารปฏบิ ตั ติ ามระบบและกลไกดงั กลา่ ว การวเิ คราะหส์ ภาพองค์การหรอื หน่วยงาน SWOT Analysis การวิเคราะห์เพ่ือค้นหาจุดแข็งหรือข้อได้เปรียบ Strengths (S) จุดอ่อน หรือข้อเสียเปรียบ Weaknesses (W) โอกาสที่จะดำ�เนินการได้ Opportunities (O) อปุ สรรค ขอ้ จ�ำ กดั หรอื ปจั จยั ทค่ี กุ คามการด�ำ เนนิ งานขององคก์ ารในอนาคต Threats (T) การจดั การความรู้ Knowledge Management: KM การประเมิน การเลือก รวบรวม วิเคราะห์ จัดการ และปรับปรุงข้อมูลและ สารสนเทศ และการจดั การความรู้ เพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชนใ์ นการปรบั ปรงุ ผลการด�ำ เนนิ การ ขององคก์ าร การน�ำ แผนยุทธศาสตรไ์ ปสู่การปฏิบัติ Strategy Implementation การนำ�แผนยุทธศาสตร์ถา่ ยทอดออกมาเปน็ แผนปฏิบตั กิ าร รวมถงึ การปรับแต่ง องคาพยพทางด้านการบรหิ ารจัดการ ไดแ้ ก่ กระบวนการ โครงสรา้ ง เทคโนโลยี และคน การประเมนิ ผล Evaluation องค์ประกอบท่ีแสดงถึงการตรวจสอบการควบคุมและการวัดผลการปฏิบัติ ตามแผนเพ่ือให้ทราบถึงความก้าวหน้า ข้อบกพร่อง หรือข้อจำ�กัดของแผนน้ันๆ เพื่อจะ ไดป้ รับปรุงใหส้ ามารถนำ�ไปปฏบิ ัติได้บรรลตุ ามเป้าหมายและวัตถปุ ระสงค์ทก่ี �ำ หนดไว้

โครงการสอ่ื การเรยี นรู้ “อาเซยี น กูร”ู (Learning Package) 17 การวางแผนระดบั นโยบาย Policy Planning แผนระดับสูงสุดขององค์การมักจะระบุแนวทางอย่างกว้างๆ ซึ่งเป็นพ้ืนฐาน ที่จะก่อให้เกิดแผนชนิดอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นแผนระยะยาว (Long-Range Plan) เช่น แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 11 การวเิ คราะห์ผ้มู ีสว่ นไดเ้ สยี Stakeholder Analysis (22) การประเมินการกำ�หนดความต้องการ ความคาดหวัง และความนิยมชมชอบ การสร้างความสัมพันธ์ และการกำ�หนดปัจจัยสำ�คัญท่ีทำ�ให้ผู้รับบริการและผู้มี สว่ นไดส้ ว่ นเสยี มคี วามพึงพอใจไดแ้ ก่ (1) ผู้มีส่วนไดเ้ สียภายในองคก์ าร (Internal Stakeholders) (2) ผู้มสี ่วนไดเ้ สยี โดยตรงในการรับบรกิ าร (Marketplace Stakeholders) (3) ผ้มู ีส่วนได้เสียในสงั คมแตอ่ ย่นู อกองค์การ (External Stakeholders) กระบวนการ Process กิจกรรม (Activity) หรือชุดของกิจกรรมที่สัมพันธ์กัน ที่ทำ�การเปลี่ยนปัจจัย นำ�เข้า (Input) ให้เปน็ ผลผลิต (Output) ท่มี มี ลู คา่ เพ่ิม (Value-Added) กระบวนการการวางแผนยทุ ธศาสตร์ Strategic Planning Processes (22) มขี น้ั ตอนดังน้ี (1) ก�ำ หนดวิสัยทัศน์ (Vision) (2) ก�ำ หนดภารกจิ หรอื พนั ธกจิ (Mission) (3) กำ�หนดเปา้ ประสงค์หรอื จดุ มุ่งหมายเพื่อการพัฒนา (Goal) (4) ก�ำ หนดประเด็นยทุ ธศาสตร์หรือยทุ ธศาสตร์ (Strategy) (5) กำ�หนดกลยทุ ธ์หรือแนวทางการพฒั นา

18 คำ�ศัพท์ไทย-องั กฤษ ส�ำ หรบั ติดต่อราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ เกณฑค์ ุณภาพการบรหิ ารจัดการภาครัฐระดับกา้ วหน้า Progressive Level เพือ่ มงุ่ เนน้ ใหส้ ่วนราชการบรหิ ารจัดการองค์การอยา่ งเปน็ ระบบ (Systematic) มีการนำ�กระบวนการตามที่กำ�หนดไว้อย่างเป็นระบบไปสู่การปฏิบัติอย่างสมํ่าเสมอและ ทั่วถึง เพ่ือนำ�ไปสู่ความยั่งยืน (Sustainable) ของส่วนราชการ รวมทั้งมีการกำ�หนด ตัวช้ีวัด (Measurable) เพ่ือใช้ควบคุม ติดตาม และประเมินผลการดำ�เนินการและใช้ เทียบเคยี ง เพ่ือใหเ้ กิดการปรบั ปรงุ อยา่ งต่อเน่ือง การวดั เชงิ คุณภาพ Quality Measurement การวัดระดับของผลประโยชน์มีความแตกต่างกัน โดยขึ้นกับมาตรวัด (Scale) การวดั เชงิ ปรมิ าณ (Quantity) ใชต้ วั เลขทเ่ี ปน็ อตั ราสว่ นมาตรา (Ratio Scale) ชว่ งมาตรา (Interval Scale) และล�ำ ดบั มาตรา (Ordinal Scale) การวดั เชงิ คณุ ลกั ษณะ (Quality) ใชต้ ัวเลขที่เปน็ นามมาตรา (Nominal Scale) ดัชนีชี้วัดผลการปฏิบัติงาน Key Performance Indicator: KPI (22) เครอ่ื งมอื ทใี่ ชว้ ดั และประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านในดา้ นตา่ งๆ ทส่ี �ำ คญั ซงึ่ สามารถ แสดงผลเป็นข้อมูลในรูปของตัวเลข เพ่ือสะท้อนประสิทธิภาพและประสิทธิผล ในการทำ�งาน หรอื อาจแปลง่ายๆ วา่ ตวั วัดความสำ�เร็จทสี่ ำ�คัญ เชน่ ตัวชีว้ ดั ผลการปฏิบัติ งานในระดับทรพั ยากรหรือปัจจัยน�ำ เขา้ (KPIs at Inputs Level) ได้แก่ ตัวชีว้ ัดผล การปฏิบัติงานในระดับกิจกรรม (KPIs at Process Level) ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน ในระดับผลผลิต (KPIs at Outputs Level) ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานในระดับผลลัพธ์ (KPIs at Outcome Level) และตัวชว้ี ดั ผลการปฏบิ ตั ิงานในระดบั ผลสัมฤทธิ์ (KPIs at Result Level) เปน็ ต้น ตัวบง่ ชคี้ ณุ ภาพ Quality Indicators    ตัวบ่งช้ีว่าการดำ�เนินงานในแต่ละองค์ประกอบคุณภาพเป็นไปตามเกณฑ์หรือ มาตรฐานทพี่ งึ ประสงคท์ กี่ �ำ หนดเพอื่ เปน็ หลกั ประกนั แกผ่ มู้ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งและสาธารณชน ไดม้ นั่ ใจวา่ หนว่ ยงานหรอื องคก์ ารแหง่ นนั้ สามารถบรหิ ารจดั การและปฏบิ ตั งิ านทม่ี คี ณุ ภาพ ตัวชี้วัด Indicators การกำ�หนดความสำ�เร็จของผลผลิตโดยมีเกณฑ์วัดและหน่วยวัดชัดเจนที่ใช้ได้ ในเวลาท่ีเหมาะสม สามารถวดั ปริมาณ คณุ ภาพ เวลา และค่าใช้จา่ ย เพอ่ื ประเมินผลได้

โครงการสือ่ การเรยี นรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 19 นโยบาย Policy  แนวทางกว้างๆ ท่ีกำ�หนดข้ึนสำ�หรับการปฏิบัติและการควบคุมท่ีจะทำ�ให้ บรรลุวัตถุประสงค์ขององคก์ าร  นโยบายยุทธศาสตร์ Strategic Policy (22) เป็นนโยบายท่ีกำ�หนดไว้ในแผนบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2555 - 2558 ซง่ึ มที งั้ หมด 8 นโยบาย ทีก่ ระทรวง/หน่วยงานได้รบั มอบหมายให้ดำ�เนนิ การ โดยน�ำ มา ก�ำ หนดเปน็ ประเดน็ ยุทธศาสตรก์ ระทรวงรวมถึงเปา้ หมายการใหบ้ ริการ แนวปฏิบตั ทิ ีด่ ี ที่เปน็ เลิศ Best Practice องค์ประกอบสำ�คัญประการหนึ่งของการจัดการความรู้ คือ การมีฐานข้อมูล เกย่ี วกบั วธิ ปี ฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ เลศิ ของหนว่ ยงานตา่ งๆ ทม่ี ผี ลงานดเี ดน่ เปน็ ทย่ี อมรบั ในดา้ นตา่ งๆ โดยมกี ารเผยแพรว่ ธิ ปี ฏิบตั งิ านท่เี ปน็ เลศิ เพอื่ ให้หนว่ ยงานอนื่ ไดน้ ำ�ไปปรบั ใช้ ปัจจัยหลักแห่งความส�ำ เรจ็ Key Success Factors   ปัจจัยท่ีเก่ียวข้องกับวิธีการรู้จักใช้ความสามารถอันโดดเด่นหรือความสามารถ หลัก (Core Competencies)  ขององค์การให้ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อประโยชน์ ในการสรา้ งความสำ�เรจ็ ใหเ้ กดิ ข้ึนภายใต้สภาวะการแข่งขนั ขององค์การต่างๆ แผนด�ำ เนนิ การ/แผนปฏบิ ัติการ Operation Plan/Action Plan   ความคิดหรือวิธีการท่ีได้ผ่านการคิดและวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ หรือ SWOT Analysis  อย่างละเอียดมาแล้ว สำ�หรับชี้นำ�การดำ�เนินการตามกลยุทธ์ท่ีจะนำ�ไปสู่การ บรรลวุ สิ ยั ทศั นข์ ององคก์ าร การจดั ท�ำ แผนปฏบิ ตั กิ ารจะมกี ารระบวุ ตั ถปุ ระสงค์ เปา้ หมาย การจัดสรรทรพั ยากร และกรอบเวลาของแผนอย่างชดั เจน แผนการบริหารราชการแผ่นดิน Strategy Formulation แผนซึ่งรัฐบาลได้จัดทำ�ข้ึนตามนัยแห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และ วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการบริหาร ราชการแผน่ ดินตลอดระยะเวลา 4 ปขี ้างหนา้ และทุกส่วนราชการจะไปด�ำ เนนิ การจัดทำ� แผนปฏบิ ัตริ าชการ 4 ปี และแผนปฏบิ ัติราชการประจ�ำ ปีต่อไป

20 ค�ำ ศัพท์ไทย-องั กฤษ สำ�หรบั ติดต่อราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ แผนงานเชิงบูรณาการ Integrated Plan การใช้จ่ายงบประมาณในภาพรวม ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงอย่างบูรณาการที่จะ สามารถสะทอ้ นภารกิจของรฐั บาล ตลอดจนสอดคลอ้ งตอ่ แนวนโยบายของรฐั บาลในการ จัดทำ�งบประมาณ เพื่อให้เกิดประโยชน์โดยคำ�นึงถึงหลักความประหยัด มีประสิทธิภาพ ประสทิ ธผิ ล และค้มุ ค่าต่อระบบเศรษฐกจิ ของประเทศเปน็ สำ�คัญ ผลผลิต Outputs การให้บริการท่ีดำ�เนินงานโดยส่วนราชการทั้งในรูปแบบการให้บริการโดยตรง หรอื การใชว้ ัตถุ ส่งิ ของ และ/หรือการกอ่ สร้าง เพ่อื นำ�ไปใช้ในการใหบ้ ริการแก่ประชาชน และองคก์ ารภายนอกสว่ นราชการนนั้ โดยมตี วั ช้วี ดั ผลส�ำ เรจ็ ในเชงิ ปริมาณ คณุ ภาพ เวลา รวมทั้งค่าใช้จ่ายตามท่ีกำ�หนดไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำ�ปี ผลลัพธ์ Outcomes การกำ�หนดผลสำ�เร็จ หรือเป้าหมายการให้บริการท้ังในเชิงปริมาณ คุณภาพ ระยะเวลา และสถานที่ โดยผลลัพธ์จะต้องมีความสัมพันธ์อย่างสมเหตุสมผลกับผลผลิต และส่งผลไปสู่ความสำ�เรจ็ ตามจุดมงุ่ หมายท่ีได้กำ�หนดไว้ องค์ประกอบคุณภาพ Quality Factors   ปัจจัยหลักในการดำ�เนินงานขององค์การหรือหน่วยงานที่มีผลต่อคุณภาพ การปฏบิ ตั ิงาน ไดแ้ ก่ ปรัชญา ปณธิ าน ภารกจิ และวัตถุประสงค์ รวมถงึ ภารกิจส�ำ คัญ ท่ีต้องปฏิบัติตามเพ่ือให้สอดคล้องและบรรลุตามปัจจัยและเปา้ ประสงค์หลักขององค์การ ที่ได้กำ�หนดไว้ 1.1.3 ค�ำ ศัพทเ์ กยี่ วกบั การบรหิ ารเชงิ ยทุ ธศาตร์ (Strategic Management) การบรหิ ารเชงิ ยทุ ธศาสตร์ Strategic Management (22) ศาสตร์และศลิ ป์ในการดำ�เนินการในสามกิจกรรมท่ีเกย่ี วข้องกัน คือ (1) การวางแผนยทุ ธศาสตร ์ (Strategic Planning)  (2) การปฏบิ ัติตามแผนยุทธศาสตร์ (Strategic Implementation) (3) การควบคมุ และประเมนิ ผลยทุ ธศาสตร์ (Strategic Control and Evaluation)

โครงการส่ือการเรยี นรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 21 การวางแผนยทุ ธศาสตร์ Strategic Planning การกำ�หนดวิสัยทัศน์ ประเด็นยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด/ค่าเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ และการจดั ทำ�แผนทย่ี ุทธศาสตร์ (Strategy Map) การควบคุมยทุ ธศาสตร์ Strategic Control การกำ�กับ ตดิ ตามและประเมินผลการด�ำ เนนิ งาน และการทบทวนสถานการณ์ เพื่อปรบั แต่งยทุ ธศาสตร์ แผนยทุ ธศาสตร์ Strategic Plan เอกสารทก่ี ระทรวง ทบวง กรม จดั ท�ำ ขน้ึ จากการวเิ คราะหส์ ภาพการณท์ ง้ั ภายใน และภายนอกของหนว่ ยงาน เพอื่ คาดคะเนแนวโนม้ ของสถานการณ์ และก�ำ หนดวสิ ยั ทศั น์ พันธกิจ และยุทธศาสตร์ต่างๆ ท่ีแสดงถึงทิศทางในการดำ�เนินงานของหน่วยงาน ท้ังในระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว แผนทย่ี ุทธศาสตร์ Strategy Map การนำ�เอาแนวความคิดเรื่อง Balanced Scorecard หรอื การบรหิ ารงานเพื่อให้ เกิดผลสำ�เร็จอย่างรอบด้าน และเป็นเหตุเป็นผลต่อกัน มาเขียนเป็นแผนภาพ แสดงความสมั พนั ธข์ องมติ ติ า่ งๆ อยา่ งเปน็ ขนั้ เปน็ ตอน เพอื่ ใหห้ นว่ ยงานสามารถปฏบิ ตั งิ าน จนบรรลเุ ป้าหมายยทุ ธศาสตร์ท่วี างไว้ได้ พนั ธมติ รเชงิ ยุทธศาสตร์ Strategic partners หุ้นส่วนระยะยาว และการตกลงความร่วมมือขององค์การหรือบริษัทต้ังแต่ สององคก์ ารขน้ึ ไปเพอ่ื ก�ำ หนดเปา้ หมายทสี่ �ำ คญั รว่ มกนั โดยทอ่ี งคก์ ารยงั มคี วามเปน็ อสิ ระ ตามตัวบทกฎหมาย ความร่วมมอื นั้นปรากฏในรูปของขนาดรูปร่าง รวมทง้ั รูปแบบความ ร่วมมืออยา่ งเท่าเทียมกันและเป็นไปตามสัญญาข้อตกลง ยุทธศาสตร์ Strategy “จุดหมายปลายทาง” (Ends) และ “วิธีการสจู่ ดุ หมายปลายทาง” (Means) เชิง นโยบาย ซงึ่ ใชใ้ นการก�ำ หนดนโยบายจากการวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอก องคก์ าร (SWOT Analysis) ตามหลกั วิชาการ

22 ค�ำ ศัพท์ไทย-องั กฤษ สำ�หรับติดต่อราชการและการประชุมระหวา่ งประเทศ ยุทธศาสตร์ระดับหน่วยงาน Sector Policy แนวทางหรือวิธีการดำ�เนินงานของหน่วยงานตามพันธกิจและภารกิจที่ได้รับ มอบหมาย เพ่ือใหไ้ ด้มาซ่ึงผลผลิตและบรรลุผลตามเปา้ หมายการใหบ้ ริการหนว่ ยงาน ยทุ ธศาสตรช์ าติ Grand National Strategy วิถีทางหรือแนวทางที่บ่งชี้ทิศทางของประเทศตามแนวทางการพัฒนาประเทศ ของรฐั บาล อนั แสดงให้เหน็ ถงึ เปา้ หมายหรอื ต�ำ แหนง่ ของประเทศท่ีรฐั บาลคาดหวงั ไว้ มติ ทิ างด้านประสิทธผิ ล/การเงนิ Effective/Financial Perspective เทียบไดก้ ับมิติทางด้านการเงนิ ของภาคเอกชนใน Balanced Scorecard โดย ก�ำ หนดใหอ้ งคก์ ารแสดงผลงานทบ่ี รรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายตามทไ่ี ดร้ บั งบประมาณ มาดำ�เนนิ การ โดยเนน้ ว่าตอ้ งการท่ีจะบรรลุวตั ถปุ ระสงค์อะไร มติ ทิ างด้านคณุ ภาพการบรกิ าร/ลกู ค้า Customer Perspective เทียบได้กับมิติทางด้านลูกค้าของภาคเอกชนใน Balanced Scorecard โดย กำ�หนดให้องค์การแสดงการให้ความสำ�คัญกับผู้รับบริการในการให้บริการท่ีมีคุณภาพ สร้างความพึงพอใจแกผ่ รู้ บั บริการ รวมท้ังเร่ืองของความโปรง่ ใสในการท�ำ งานดว้ ย มิตทิ างด้านประสทิ ธภิ าพ/กระบวนการภายใน Internal Work Process Perspective เทยี บไดก้ บั มติ ดิ า้ นกระบวนการด�ำ เนนิ งานภายในของภาคเอกชนใน Balanced Scorecard โดยกำ�หนดให้องค์การแสดงความสามารถในการปฏิบัติราชการ เช่น การลดคา่ ใช้จา่ ย และการลดระยะเวลาการใหบ้ ริการ เป็นต้น มิตทิ างดา้ นการพัฒนาองค์การ/การเรยี นรแู้ ละการเตบิ โต Learning & Growth Perspective เทยี บไดก้ บั มติ ดิ า้ นการเรยี นรแู้ ละการเตบิ โตขององคก์ ารภาคเอกชนใน Balanced Scorecard โดยกำ�หนดให้ส่วนราชการแสดงความสามารถในการเตรียมพร้อม กับการเปล่ียนแปลงขององค์การ เช่น การพัฒนาระบบฐานข้อมูล การบริหารคนและ องคค์ วามรูใ้ นองคก์ าร เป็นตน้

โครงการส่ือการเรียนรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 23 ยุทธศาสตรเ์ พือ่ การฟน้ื ฟแู ละสรา้ งอนาคตประเทศ Strategy for Reconstruction and Future Development การกำ�หนดยุทธศาสตร์ฯ บนพื้นฐานแนวคิดการบริหารจัดการความเส่ียงและ ภาวะวกิ ฤต (Risk and Crisis Management) และการบริหารจดั การเพือ่ ความต่อเนื่อง ในการด�ำ เนนิ ธรุ กจิ (Business Continuity Management: BCM) ซง่ึ ครอบคลมุ ประเดน็ การพัฒนาทั้งการจัดการปัญหานํ้าและอุทกภัย การจัดการภัยพิบัติจากธรรมชาติ และ สถานการณ์วิกฤตอื่นๆ ที่ไม่ไดเ้ กิดจากธรรมชาติ วัตถปุ ระสงคเ์ ชิงยุทธศาสตร์ Strategic Goals จุดมุ่งหมายในระดับรองลงมาจากพันธกิจ (Mission) เป็นการนำ�พันธกิจ แต่ละดา้ นมาก�ำ หนดเปา้ หมายให้ชัดเจน เพ่อื เปน็ ตัวช้ีนำ�ทิศทางของการด�ำ เนินงาน 1.1.4 ค�ำ ศพั ทเ์ กยี่ วกบั การบรหิ ารราชการแบบธรรมาภบิ าล(14)(Good Governance) กลไกประชารัฐ Governance การกำ�หนดกลไกอำ�นาจของภาครัฐในการบริหารจัดการทรัพยากรทั้งด้าน เศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศเพอ่ื ใหเ้ กดิ การพฒั นา กลไกประชารฐั เปน็ สว่ นทเี่ ชอ่ื มโยง องคป์ ระกอบของสงั คมท้งั 3 สว่ นเขา้ ด้วยกนั คอื (1) ประชาสังคม (Civil Society) (2) ภาคธรุ กจิ เอกชน (Private Sector) และ (3) ภาครฐั (State หรอื Public Sector) กลไกประชารัฐด้านเศรษฐกจิ Economic Governance กระบวนการการตดั สนิ ใจและการก�ำ หนดนโยบายทมี่ ผี ลกระทบตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ภายในของประเทศ และกระทบถึงความสมั พนั ธก์ บั ระบบเศรษฐกิจอน่ื ๆ กลไกประชารฐั ด้านการเมือง Political Governance กระบวนการการก�ำ หนดนโยบายทม่ี ผี ลตอ่ ปวงชนในประเทศ ไดแ้ ก่ รฐั สภา หรอื ฝ่ายการเมืองไมว่ ่าจะเป็นผู้แทนจากการเลอื กตง้ั หรือแต่งต้งั

24 คำ�ศพั ทไ์ ทย-องั กฤษ สำ�หรบั ติดตอ่ ราชการและการประชุมระหว่างประเทศ กลไกบรหิ ารรฐั กิจหรือภาคราชการ Administrative Governance กลไกและกระบวนการในการแปลงนโยบาย และทรัพยากรไปสู่การปฏิบัติ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล และเทย่ี งธรรม ซงึ่ จะผา่ นทางกลไกการก�ำ หนดนโยบาย และหน่วยงานปฏบิ ัติ กลไกการเมืองทช่ี อบธรรม Political Legitimacy กระบวนการเข้าสู่อำ�นาจทางการเมืองมีความชอบธรรมและเป็นท่ียอมรับ ของคนในสังคม การได้มาซ่ึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีที่มีคุณภาพ โดยถกู ตอ้ งตามระบบประชาธปิ ไตย และการมรี ะบบราชการทส่ี จุ รติ โปรง่ ใส และสามารถ ตรวจสอบได้ หลักประสิทธผิ ล Effectiveness ผลการปฏบิ ตั ริ าชการทบี่ รรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายของแผนการปฏบิ ตั ริ าชการ ตามท่ไี ดร้ ับงบประมาณ การปฏบิ ตั ิราชการจะตอ้ งมีทิศทางยทุ ธศาสตร์ และเป้าประสงค์ ที่ชัดเจน มีกระบวนการปฏิบัติงาน และระบบงานท่ีเป็นมาตรฐาน รวมถึงมีการติดตาม ประเมนิ ผลและพัฒนา ปรับปรงุ อย่างตอ่ เน่อื งและเปน็ ระบบ หลกั ประสิทธิภาพ Efficiency มีการออกแบบกระบวนการปฏิบัติงานโดยใช้เทคนิคและเคร่ืองมือการบริหาร จดั การทเี่ หมาะสมใหอ้ งค์การสามารถใช้ทรพั ยากรทง้ั ดา้ นตน้ ทนุ แรงงาน และระยะเวลา ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติราชการตามภารกิจ เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนและผ้มู ีสว่ นได้ส่วนเสยี ทกุ กลมุ่ หลกั การตอบสนอง Responsiveness การให้บริการท่ีสามารถดำ�เนินการได้ภายในระยะเวลาท่ีกำ�หนด และสร้าง ความเชอื่ มนั่ ความไวว้ างใจ รวมถงึ ตอบสนองความคาดหวงั หรอื ความตอ้ งการของประชาชน ผรู้ บั บริการ และผูม้ สี ่วนได้ส่วนเสียท่ีมคี วามหลากหลายและแตกตา่ ง

โครงการสือ่ การเรียนรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 25 หลักภาระรบั ผิดชอบ Accountability การแสดงความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าท่ีและผลงานต่อเป้าหมายที่ ก�ำ หนดไว้ โดยความรบั ผดิ ชอบนนั้ ควรอยใู่ นระดบั ทส่ี นองตอ่ ความคาดหวงั ของสาธารณะ รวมทง้ั การแสดงถงึ ความส�ำ นึกในการรับผิดชอบตอ่ ปญั หาสาธารณะ หลกั ความโปร่งใส Transparency  กระบวนการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา ชี้แจงได้เม่ือมีข้อสงสัยและสามารถ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารอันไม่ต้องห้ามตามกฎหมายได้อย่างเสรี โดยประชาชนสามารถรู้ทุก ขนั้ ตอนในการดำ�เนินกิจกรรมหรอื กระบวนการตา่ งๆ และสามารถตรวจสอบได้ หลกั การมีสว่ นรว่ ม Participation กระบวนการที่ข้าราชการ ประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม มีโอกาส ไดเ้ ขา้ รว่ มในการรบั รู้ เรยี นรู้ ท�ำ ความเขา้ ใจ รว่ มแสดงทศั นะ รว่ มเสนอปญั หาหรอื ประเดน็ สำ�คัญทเ่ี กี่ยวขอ้ ง รว่ มคดิ แนวทาง รว่ มการแก้ไขปญั หา ร่วมในกระบวนการตัดสนิ ใจ และ ร่วมกระบวนการพฒั นาในฐานะห้นุ ส่วนการพฒั นา หลกั การกระจายอำ�นาจ  Decentralization การถา่ ยโอนอ�ำ นาจการตดั สนิ ใจ ทรพั ยากร และภารกจิ จากสว่ นราชการสว่ นกลาง ให้แก่หน่วยการปกครองอน่ื ๆ และภาคประชาชนด�ำ เนนิ การแทนโดยมอี สิ ระตามสมควร หลักนิติธรรม Rule of Law  การใชอ้ �ำ นาจของกฎหมาย กฎระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ในการบรหิ ารราชการดว้ ยความ เป็นธรรม ไมเ่ ลือกปฏบิ ัติ และคำ�นึงถึงสิทธเิ สรีภาพของผู้มสี ่วนได้ส่วนเสยี หลักความเสมอภาค Equity  การไดร้ บั การปฏบิ ตั แิ ละไดร้ บั บรกิ ารอยา่ งเทา่ เทยี มกนั โดยไมม่ กี ารแบง่ แยกดา้ น สถานะของบคุ คล ชายหรอื หญงิ ถนิ่ ก�ำ เนดิ เชอ้ื ชาติ ศาสนา ฐานะทางเศรษฐกจิ และสงั คม และอ่ืนๆ

26 ค�ำ ศพั ท์ไทย-องั กฤษ ส�ำ หรบั ติดต่อราชการและการประชุมระหวา่ งประเทศ หลกั มงุ่ เนน้ ฉนั ทามติ Consensus Oriented การหาข้อตกลงทั่วไปภายในกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท่ีเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อตกลง ที่เกิดจากการใช้กระบวนการเพื่อหาข้อคิดเห็นจากกลุ่มบุคคลท่ีได้รับประโยชน์และ เสียประโยชน์ โดยฉันทามติไม่จำ�เป็นต้องหมายความว่าเป็นความเห็นพ้องโดยเอกฉันท์ อาจใชม้ ติ 2 ใน 3 หรือเกินกว่าครง่ึ กไ็ ด้ 1.1.5 คำ�ศัพท์การบรหิ ารราชการแบบบูรณาการ (25) (Integrated Public Aministration/CEO) การบรหิ ารราชการแบบบูรณาการ Integrated Public Administration/CEO การบรหิ ารราชการในเชงิ การแสวงความรว่ มมอื และสรา้ งเครอื ขา่ ยกบั ฝา่ ยตา่ งๆ รวมทงั้ เปดิ ใหป้ ระชาชนเขา้ มามสี ว่ นรว่ มเพอ่ื ใหส้ ามารถบรหิ ารงาน แกไ้ ขปญั หาและพฒั นา ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนใหไ้ ดร้ บั ประโยชนส์ งู สดุ การบริหารราชการแบบองคร์ วม Holistic Management การบริหารท่ีเป็นการสร้างความชัดเจน ทำ�ให้เกิดปัจจัยแวดล้อมที่เอ้ือต่อ ความสำ�เร็จด้านเป้าหมายที่ต้องการ ประกอบด้วยการวางแผน การตรวจสอบติดตาม การตัดสินใจ และการแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรค เน้นการตระหนักในวิสัยทัศน์ พันธกิจ และคา่ นยิ มองคก์ ารร่วมกนั การบริหารแนวราบ Horizontal Management/Flat Management กลไกการบริหารท่ีเน้นการประสานงาน การมอบหมายงาน และความร่วม มือในแนวราบเป็นหลัก มากกว่าการบริหารจัดการโครงสร้างแบบบังคับบัญชา อาศัย ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งองคก์ ารทเี่ ปน็ แกนน�ำ ใหค้ วามส�ำ คญั กบั การมฉี นั ทามตขิ องประชาชน ชุมชน ทอ้ งถิน่ และเน้นภาวะผู้น�ำ การบริหารแบบมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ Result Based Management: RBM วิธีการท่ีมุ่งเน้นสัมฤทธิผลขององค์การเป็นหลักการปฏิบัติงานขององค์การ มผี ลสัมฤทธ์ิเพยี งใด พิจารณาไดจ้ ากการเปรยี บเทยี บผลผลิตและผลลพั ธท์ ี่เกดิ ขึน้ จริงกบั ทก่ี �ำ หนดไว้

โครงการสอ่ื การเรยี นรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 27 การบริการเบ็ดเสร็จ ณ จดุ เดยี ว One Stop Service แนวคิดที่ต้องการอำ�นวยความสะดวกให้แก่ผู้มาติดต่อราชการ ให้สามารถ รบั บริการจากหนว่ ยงานต่างๆ ได้ ณ ท่แี ห่งเดียว การจดั หาพสั ดใุ นรปู แบบการประมลู ด้วยระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ E - Auction การจัดหาพัสดุซึ่งเกิดจากการรวมความต้องการจัดซื้อพัสดุในปริมาณมาก (Demand Aggregation) ทำ�ให้ค�ำ สั่งซ้อื มีมูลค่าสูงจนสามารถจัดการประมูลได้ การขยายผลระบบบรหิ ารยุทธศาสตร์องค์การภาครฐั Government Strategic Management System: GSMS (23) ระบบท่ีมีการติดตั้งเคร่ืองคอมพิวเตอร์ลูกข่าย (Terminal) เพื่อเสริมสร้างขีด สมรรถนะการบรหิ ารงานแบบบูรณาการของจงั หวดั ฝ่ายบรหิ าร รวมทั้งผ้เู ก่ยี วข้อง และ เพ่ือให้ระบบ GSMS ติดตามการทำ�งานตามแผนงาน/โครงการ และการใช้งบประมาณ ของจังหวัดและกลมุ่ จังหวดั ไดอ้ ย่างใกลช้ ิดตลอดเวลา การพัฒนาท่ยี ัง่ ยืน Sustainable Development คอื ปรชั ญาและอดุ มการณใ์ นการพฒั นาทจี่ ะตอ้ งอยบู่ นพน้ื ฐานหลกั การทเ่ี รยี กวา่ ใหเ้ กดิ ความยตุ ธิ รรมแกค่ นทงั้ 2 ยคุ คอื ตอ้ งตอบสนองความตอ้ งการของคนในยคุ ปจั จบุ นั โดยไมม่ ผี ลกระทบทางลบตอ่ ความตอ้ งการของคนยุคต่อไปในอนาคต บรรษทั ภบิ าล Good Corporate ระบบที่จัดให้มีกระบวนการและโครงสร้างทางภาวะผู้นำ�และการควบคุม ของกิจการให้มีความรับผิดชอบตามหน้าท่ีด้วยความโปร่งใส และสร้างความสามารถ ในการแขง่ ขนั เพอ่ื รกั ษาเงนิ ลงทนุ และเพม่ิ คณุ คา่ ใหก้ บั ผถู้ อื หนุ้ ในระยะยาว ภายในกรอบ การมจี ริยธรรมทีด่ ีโดยค�ำ นงึ ถึงผ้มู สี ว่ นได้เสยี และสงั คมโดยรวม

28 คำ�ศัพท์ไทย-องั กฤษ ส�ำ หรับติดต่อราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ ระบบสารสนเทศที่สนับสนุนการให้บริการเก่ียวกับการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ Electronic Procurement: E-Procurement การตกลงราคา การสอบราคา การประกวดราคา และการจดั ซอ้ื รวมแบบออนไลน์ รวมถงึ การลงทะเบยี นบรษิ ทั ผขู้ าย การท�ำ E-Catalogue รวมถงึ การท�ำ งานอนื่ ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ในกระบวนการจดั ซ้ือทเ่ี ปน็ Web-Based Application เพอ่ื ทำ�ใหร้ ะบบการจดั ซ้อื จดั จ้าง ของภาครัฐมปี ระสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ขน้ึ ผลสัมฤทธ์ิ Result คือ ผลสำ�เร็จของวัตถุประสงค์ทั้งในระดับโครงการและ/หรือผลสำ�เร็จในระดับ แผนงาน (Program) สำ�หรบั ในการบรหิ ารแบบมุง่ ผลสัมฤทธ์ิ คำ�วา่ ผลสัมฤทธ์ิ (Result) หมายถงึ ความสำ�เร็จในระดับงาน ผลติ ภาพ Productivity มีความหมายได้ 3 มิติ ดังน้ี (1) ความสามารถในการผลติ สนิ คา้ และบริการทีต่ รงกับความตอ้ งการของตลาด ได้มากกวา่ เม่ือเปรยี บเทยี บกบั คู่แข่ง (2) สดั ส่วนของผลผลติ (สนิ คา้ และบรกิ าร) ตอ่ ปัจจัยการผลติ (แรงงาน วัตถดุ บิ ทนุ และความสามารถในการจัดการ ฯลฯ) ทีใ่ ช้ (3) เปน็ การปรับปรุงผลงานในเชงิ คณุ ภาพ เทคนคิ การทบทวนและการประเมินผลโครงการ Program Evaluation and Review Technique: PERT เทคนิคท่ีช่วยให้ผู้บริหารสามารถกำ�หนดลำ�ดับข้ัน และควบคุมโครงการท่ีมี ขนาดใหญ่และความซับซ้อน โดยการใช้เวลาท่ีประมาณขึ้นสำ�หรับแต่ละกิจกรรมเป็น เครอื่ งมอื ในการควบคมุ หรอื เปน็ วธิ กี ารก�ำ หนด และการควบคมุ เหตกุ ารณห์ ลายเหตกุ ารณ์ ซ่ึงเกีย่ วข้องกัน โดยก�ำ หนดล�ำ ดบั ขนั้ ตอนของกิจกรรมให้เหมาะสม

โครงการสอ่ื การเรยี นรู้ “อาเซียน กรู ู” (Learning Package) 29 1.1.6 ค�ำ ศพั ท์เกยี่ วกบั การบรหิ ารราชการแบบมีสว่ นร่วม (Participatory Governance) การบริหารราชการแบบมสี ว่ นร่วม Participatory Governance (31) คือ ระบบบริหารราชการที่เปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เป็นไปตามหลัก ธรรมาภิบาลทีใ่ หค้ วามส�ำ คัญกบั การมสี ว่ นรว่ มของประชาชาชน (Public Participation) เปิดเผย โปร่งใส เท่าเทียมเป็นประชาธิปไตย และเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง (People Oriented) เนน้ การการสรา้ งระบบเครอื ขา่ ย (Networking) และการมสี ว่ นรว่ ม (Participating) ของภาคประชาชน การปฏสิ มั พนั ธ์กนั Interactive คือ การกระทำ� หรอื ประกอบกจิ กรรมระหวา่ งบคุ คล กลุ่ม หรือหนว่ ยงานเพือ่ ให้ ได้ผลลัพธ์และบรรลุเป้าประสงค์ร่วมกัน ในการปฏิบัติงานราชการต้องมีการปฏิสัมพันธ์ กันระหว่างเจ้าหน้าที่ ผู้บริหาร และประชาชน เพื่อสร้างความไว้วางใจ สร้างเครือข่าย ความสมั พนั ธ์ และความร่วมมอื ระหว่างกนั การแลกเปลย่ี นประสบการณ์ และสรา้ งความรู้ Interchangeable การแลกเปล่ียนเรียนรู้กับหน่วยงานอื่นๆ การเสริมกำ�ลังช่วยเหลือกันอย่าง ต่อเน่ือง ตลอดจนให้เวลาท่ีพอเพียงเพ่ือแน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ ผู้มีส่วนร่วมและประชาชน รบั ผิดชอบร่วมกัน การร่วมชน่ื ชมยนิ ดี Impression การสร้างความประทับใจในผลงานท่ีเกิดข้ึน เคารพซ่ึงกันและกันเพ่ือแน่ใจว่า ทกุ คนรับผิดชอบร่วมกันและยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผูอ้ ่นื การสรา้ งแรงจูงใจ Incentive/Motivation การสรา้ งแรงจงู ใจในการท�ำ ความดรี ว่ มกนั ยกยอ่ งชมเชย ใหร้ างวลั กบั ผมู้ ผี ลงาน เปน็ ท่ีประจกั ษ์

30 ค�ำ ศัพทไ์ ทย-อังกฤษ ส�ำ หรบั ตดิ ต่อราชการและการประชมุ ระหว่างประเทศ

โครงการส่อื การเรยี นรู้ “อาเซียน กูรู” (Learning Package) 31 การสรา้ งแรงบนั ดาลใจ Inspiration ผู้บริหารและเจ้าหน้าท่ีในหน่วยงานต้องมีแรงบันดาลใจที่จะสร้างการบริหาร ราชการแบบมีส่วนร่วม หากผู้นำ�มีภาวะผู้นำ�สูงจะเกิดแรงบันดาลใจในการทำ�งานนี้ ไดส้ �ำ เรจ็ มากกวา่ ผู้นำ�ที่ไม่กระตอื รอื รน้ การสร้างนวตั กรรม Innovation การมีส่วนร่วมของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานหรือข้ามหน่วยงาน เพ่ือสร้างสรรค์ ปรับปรุงงานให้เกิดคุณค่า ความพึงพอใจต่อผู้รับบริการและ/หรือ ผมู้ สี ่วนได้ส่วนเสยี คา่ นิยมรว่ ม Shared Value ความเชื่อและความยึดมั่นในวิธีการใช้ชีวิตในท่ีทำ�งาน วิธีการวางตัว วิธีการพูด วิธกี ารคิดที่สมาชิกขององค์การยดึ มน่ั รว่ มกันวา่ ควรมแี ละควรปฏบิ ัติ ปรชั ญา Philosophy ระบบความเชอ่ื ทเี่ ปน็ ผลจากการแสวงหาความรแู้ ละความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ธรรมชาติ และการแสวงหาความหมายของชวี ิตและสรรพสงิ่ ต่างๆ พนั ธกจิ Mission การก�ำ หนดขอบเขตของงาน หรอื บทบาทหนา้ ทท่ี อ่ี งคก์ ารตอ้ งท�ำ เพอ่ื ใหอ้ งคก์ าร บรรลุวิสยั ทศั น์ที่ก�ำ หนดไว้ หรอื บรรลพุ ันธกจิ ตามยทุ ธศาสตร์ วสิ ยั ทัศน์ Vision (9) เปา้ หมายขององคก์ ารในชว่ งเวลาระยะกลางถงึ ระยะยาว วสิ ยั ทศั นค์ วรจะประกอบ ดว้ ย (1) เปา้ หมายระยะยาว (Stretch Goal) เปา้ หมายขององคก์ ารควรเปน็ ต�ำ แหนง่ ขององค์การท่ีแตกต่างจากปัจจุบัน แสดงถึงความทะเยอทะยานของ องค์การทจี่ ะทำ�ใหส้ �ำ เรจ็

32 ค�ำ ศพั ทไ์ ทย-องั กฤษ สำ�หรับตดิ ต่อราชการและการประชมุ ระหว่างประเทศ (2) ตำ�แหน่งขององค์การในตลาด (Definition of Niche) ตำ�แหน่ง ขององค์การเชิงธุรกิจในตลาด หรือขอบเขตงานท่ีองค์การรับผิดชอบ (3) ช่วงเวลา (Time Horizon) ช่วงเวลาท่ีเป้าหมายตามวิสัยทัศน์บรรลุ ผลส�ำ เรจ็ วฒั นธรรมองคก์ าร Organization Culture วิถีชีวิตของกลุ่มคนในองค์การท่ีประพฤติปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็น ลักษณะเฉพาะของกลุ่มคนนั้นๆ วัฒนธรรมองค์การที่ดีจะเป็นพ้ืนฐานสำ�คัญท่ีจะทำ�ให้ องค์การสามารถดำ�เนินไปได้อย่างราบรื่นและยั่งยนื องคก์ ารแหง่ การเรียนรู้ Learning Organization: LO (23) องค์การท่ีสามารถเปล่ียนพฤติกรรมขององค์การโดยกระบวนการการเรียนรู้ รว่ มกนั ของบคุ ลากรทง้ั หมด โดยมีปัจจัยพื้นฐาน 5 ประการ ในการพัฒนาองคก์ ารแหง่ การเรียนรู้ ได้แก่ (1) การม่งุ สู่ความเป็นเลิศ (Personal Mastery) (2) การมีรูปแบบวธิ ีคิดทเ่ี ปดิ กว้าง (Mental Models) (3) การรว่ มสร้างวิสัยทศั น์ (Shared Vision) (4) การเรียนรรู้ ว่ มกันเป็นทีม (Team Learning) (5) การคดิ อยา่ งเป็นระบบ (Systems Thinking) 1.2 คำ�ศพั ทเ์ กยี่ วกับกฎหมายและระเบยี บปฏบิ ตั ิระบบราชการ การบรหิ ารทรพั ยากรบคุ คลแนวใหม่ Modern Human Resource Management (30) ระบบการก�ำ หนดลกั ษณะงาน ต�ำ แหนง่ และกรอบอตั รากำ�ลัง ค่าตอบแทนและ สิทธิประโยชน์ การสรรหาและเลือกสรร และการประเมินผลการปฏิบัติงานภายใต้หลัก สมรรถนะ (Competency Based) หลักผลงาน (Performance Based) หลักคุณธรรม (Merit Based) เนน้ การพฒั นาสงิ่ จงู ใจ (Motivation) การพฒั นาขดี ความสามารถ (Com- petency) และการก�ำ หนดกลยทุ ธ์การดำ�เนนิ งาน (Direction Strategy)

โครงการส่ือการเรยี นรู้ “อาเซยี น กรู ู” (Learning Package) 33 การกระท�ำ ทางปกครอง Administrative Act การที่เจ้าหน้าท่ีของรัฐหรือองค์การของรัฐใช้อำ�นาจตามกฎหมาย เช่น การท่ี ผู้บังคับบัญชาออกคำ�สั่งแต่งต้ังบุคคล หรือการออกใบอนุญาตให้บุคคลก่อสร้างอาคาร เปน็ ตน้ อาจแยกไดเ้ ปน็ สองลกั ษณะ คอื นติ กิ รรมทางปกครอง และปฏบิ ตั กิ ารทางปกครอง การจัดทำ�ระบบสารสนเทศพนกั งานราชการ Government Employee Information System: GEIS การจัดทำ�ระบบสารสนเทศพนักงานราชการเพ่ือประโยชน์ในการบริหาร จัดการ และเป็นฐานข้อมูลสนับสนุนการบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการและ จงั หวัดต่างๆ การสน้ิ สุดสญั ญาจา้ ง Termination of Employment Contract การยตุ สิ ญั ญาจา้ งงานทที่ �ำ ไวต้ อ่ พนกั งานราชการ อาจเกดิ ขน้ึ ไดใ้ นกรณที พี่ นกั งาน ผู้น้ันไม่ได้ทำ�ตามเงื่อนไขสัญญาท่ีได้ทำ�ไว้ในขณะท่ีมีการจ้างงาน หรือองค์การหมด ภาระงานท่ีไดม้ อบหมายไว้ในเวลาที่กำ�หนด การวนิ ิจฉยั สง่ั การในทางปกครองหรือ การด�ำ เนินการทางวินยั Administrative Adjudication or Disciplinary Procedures (30) กระบวนการและขั้นตอนการดำ�เนินการในการลงโทษข้าราชการ ซ่ึงเป็น กระบวนการตามกฎหมายท่ีจะต้องกระทำ� เมื่อข้าราชการมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำ� ผดิ วนิ ัย ไดแ้ ก่ การตัง้ เรื่องกลา่ วหา การสืบสวนหรอื การสอบสวน การพิจารณาความผดิ และกำ�หนดโทษ การลงโทษหรืองดโทษ การจัดท�ำ ระบบสารสนเทศส�ำ หรบั ผบู้ ริหาร Executive Information System: EIS ระบบสารสนเทศท่ีใช้เป็นเครือ่ งมอื ในการตัดสินใจ และการวางแผนของรฐั บาล ผู้บริหารระดับกระทรวงตา่ งๆ

34 คำ�ศพั ท์ไทย-อังกฤษ สำ�หรบั ตดิ ตอ่ ราชการและการประชุมระหวา่ งประเทศ การฟืน้ ฟูระบบราชการ/การเน้นระบบราชการทนั สมยั Public Service Renewal / Modernization(31) การฟน้ื ฟรู ะบบราชการใหท้ นั สมัย โดย (1) การนำ�เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ เช่น ระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ซึ่งเน้นการทำ�งานและให้บริการประชาชนผ่านระบบ ออนไลน์ รวมถึงการปรับเปล่ียนกระบวนทัศน์ในการปฏิบัติงาน (Paradigm Shift) (2) การให้ความสำ�คัญต่อการเพ่ิมผลผลิตและผลสำ�เร็จของงาน (Result Based Management) การจัดทำ�ข้อตกลงผลการปฏิบัติงาน (Performance Agreement) การเทยี บวัดผลงาน (Benchmarking) (3) การปรับปรุงมาตรฐานการให้บริการสาธารณะ (PSO: Thailand International Public Sector Standard Management System and Outcomes) (4) การจัดการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Management) ด้วยการจดั ทำ�การวิเคราะห์ปจั จัยภายในและภายนอก (SWOT Analysis) และระบบ Balanced Scorecard การปฏิรูประบบราชการและข้าราชการ Public Administration Reform: PAR (11) การยกระดับผลการปฏิบัติงานของภาครัฐ โดยการปรับปรุงการบริหารงาน บุคคล การบริหารการเงินและงบประมาณ และเทคโนโลยีการบริหาร โดยใช้หลักการ กระจายอำ�นาจให้ผูป้ ฏิบตั ิ การผ่อนคลายกฎระเบยี บ การรบั ฟงั ความต้องการของลูกค้า การนำ�วิธกี ารจัดการของเอกชนมาใช้เพื่อเพ่มิ ประสทิ ธิภาพ ส่งเสริมใหม้ ีการแขง่ ขนั และ ลดการผูกขาดในการจัดทำ�บริการสาธารณะ การจัดหาพัสดุ การจ้างเหมาเอกชน การ แปรรปู รฐั วสิ าหกจิ เปา้ หมายการปฏริ ปู ระบบราชการ คอื มงุ่ ปรบั ปรงุ และออกแบบในสว่ น ท่ีเป็นโครงสร้าง กลไก และระบบการทำ�งานเพื่อแก้ปัญหาการทำ�งานในระบบราชการ ท่มี ีอยู่เดมิ

โครงการส่อื การเรยี นรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 35 การปรับโครงสร้างระบบราชการ Reinventing Government (23) David Osborne และ Ted Gaebler (1992) ไดก้ �ำ หนดกรอบความตอ้ งการของ การปรบั โครงสร้างระบบราชการไว้ ดังนี้ (1) ต้องการให้ระบบราชการทำ�หน้าท่ีเป็นพี่เลี้ยงมากกว่าให้ระบบราชการ ลงมอื ทำ�งานเอง (A Catalytic Government) (2) ต้องการให้ระบบราชการเป็นระบบท่ีชุมชนเป็นเจ้าของ มอบอำ�นาจให้กับ ประชาชนไปด�ำ เนนิ การเอง (A Community-owned Government) (3) ต้องการให้ระบบราชการมีลักษณะของการแข่งขันการให้บริการสาธารณะ (A Competitive Government) (4) ตอ้ งการใหร้ ะบบราชการเปน็ ระบบทขี่ บั เคลอ่ื นดว้ ยภารกจิ มากกวา่ ขบั เคลอ่ื น ด้วยกฎระเบยี บ (A Mission-driven Government) (5) ตอ้ งการใหร้ ะบบราชการเปน็ ระบบทใี่ หค้ วามส�ำ คญั ตอ่ ผลของการปฏบิ ตั งิ าน (A Results-oriented Government) มากกวา่ สนใจถงึ ปัจจยั นำ�เขา้ และ ขั้นตอนการท�ำ งาน (6) ตอ้ งการใหร้ ะบบราชการเปน็ ระบบทมี่ งุ่ สนองตอบตอ่ การเรยี กรอ้ งของลกู คา้ (A Customer-driven Government) (7) ตอ้ งการใหร้ ะบบราชการด�ำ เนนิ งานในลกั ษณะทเี่ ปน็ แบบรฐั วสิ าหกจิ มงุ่ การ แสวงหารายได้มากกว่าการใชจ้ า่ ย (An Enterprising Government) (8) ต้องการให้ระบบราชการเป็นระบบที่มีการเฝ้าระวังล่วงหน้า (An Anticipatory Government) (9) ต้องการให้ระบบราชการเป็นระบบท่ีมีการกระจายอำ�นาจ โดยเน้นให้ ข้าราชการระดับปฏิบัติการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (A Decentralized Government) (10) ต้องการให้ระบบราชการเป็นระบบที่ปรับเปลี่ยนไปตามกลไกของตลาด (A market-oriented Government)

36 ค�ำ ศพั ท์ไทย-องั กฤษ ส�ำ หรับติดต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ แนวทางการปฏิรปู ทใ่ี ห้ความส�ำ คัญต่อการลดบทบาทรัฐ State Disengagement แนวทางการลดบทบาทรัฐ ได้แก่ (1) การลดกฎระเบียบ (Deregulation) ราชการชอบสร้างกฎระเบียบใหม่ ขนึ้ มาเพือ่ แก้ไขกฎระเบยี บเดมิ ท่ีไมถ่ กู ปฏิบัติตาม (2) การลดจำ�นวนข้าราชการ (Civil Service Cutbacks) มุ่งไปสู่การเป็น หน่วยงานขนาดเล็กลง (Small Government) เช่น นโยบายการ เกษียณอายุก่อนกำ�หนด (Early Retirement) การไม่ให้เพิ่มจำ�นวน ข้าราชการ (Zero Growth) การจ้างลูกจ้างภายนอก (Contract-out) และการปรบั ระดบั ต�ำ แหนง่ และโครงสรา้ งงานใหม้ นี อ้ ยลง (Broad Banding) (3) การแปรรูปรฐั วิสาหกจิ (Privatization) กฎกระทรวง Ministerial regulation กฎกระทรวง เป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษรประเภทหนึ่งของประเทศไทย ซ่ึง รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงตราขนึ้ โดยอาศยั อ�ำ นาจตามบทบญั ญตั แิ หง่ พระราชบญั ญตั หิ รอื แห่งกฎหมายทมี่ ฐี านะเสมอกนั เชน่ ประมวลกฎหมาย พระราชก�ำ หนด กฎกระทรวงน้ัน เดมิ เรยี กว่า กฎเสนาบดี ระบบมาตรฐานสากลของประเทศไทยด้านการจัดการและสัมฤทธิผลของงานภาครัฐ หรอื ท่เี รียกว่า ระบบมาตรฐาน Thailand International Public Sector Standard Management System and Outcomes: P.S.O. ระบบมาตรฐานคณุ ภาพหรอื การประกนั คณุ ภาพทไ่ี ดร้ บั การออกแบบใหเ้ หมาะสม กบั ระบบราชการไทยโดยเฉพาะ มงุ่ เนน้ ผลสมั ฤทธโ์ิ ดยรวมของภาคราชการทงั้ ระบบ และ เน้นให้หนว่ ยงานภาครฐั พัฒนามาตรฐานใน 2 ดา้ น คอื ด้านการจัดการ (Management System) และดา้ นสมั ฤทธผิ ลของการปฏบิ ตั งิ าน (Outcomes) โดยมเี ปา้ หมายเปน็ ผลลพั ธ์ เชิงสมั ฤทธิบ์ นั้ ปลาย (Ultimate Outcomes) เพ่อื ใหร้ าชการมรี ะบบบริหารและจัดการ ท่ีดี อำ�นวยประโยชน์แก่ประชาชนและสังคมส่วนรวมสมเจตนารมณ์ และบทบัญญัติ

โครงการสือ่ การเรียนรู้ “อาเซียน กูรู” (Learning Package) 37 ของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบด้วย ระบบหรืออนกุ รมย่อย คือ (1) มาตรฐานด้านการจดั การ ประกอบดว้ ย 10 ระบบยอ่ ย คอื 1) ระบบข้อมูล 2) ระบบการส่ือสาร 3) ระบบการตัดสนิ ใจ 4) ระบบการ พัฒนาบุคลากร 5) ระบบการตรวจสอบถ่วงดุล 6) ระบบการมีส่วนร่วม 7) ระบบการบริการภาคเอกชนและประชาชน 8) ระบบประเมินผล 9) ระบบการคาดคะเนและแก้ไข วกิ ฤต และ 10) ระบบวฒั นธรรมและ จรรยาบรรณวิชาชพี (2) มาตรฐานด้านสัมฤทธิผลของการปฏิบัติงาน ประกอบด้วย ผลงาน/ ผลผลิต ผลลัพธ์ ผลลัพธ์บั้นปลาย และระบบป้องกันผลลัพธ์บั้นปลาย ท่ีไมพ่ งึ ปรารถนา คา่ ตอบแทน Compensation (30) คำ�น้ีมีความหมายกว้างกว่าเงินเดือนโดยปกติ คือ รายได้ท่ีเป็นเงินเดือนหลัก (Basic Salary) บวกดว้ ยเงนิ รายได้อื่น (Other Cash) โดยเน้นคา่ ตอบแทนท่เี ป็นตัวเงิน เช่น โบนัส คา่ ต�ำ แหน่ง ค่าวิชาชีพ คา่ เบี้ยกนั ดารต่างๆ ดงั น้ัน Total Compensation หมายถึง เงนิ เดือนรวมกับเงนิ ได้อืน่ ๆ ทกี่ ล่าวมา ภารกิจหลกั Core Function งานตามกฎหมาย หรือนโยบาย หรืองานที่ทำ� เพ่ือความคงอยู่ขององค์การ ตามบทบาทภารกจิ ของหนว่ ยงานทจี่ �ำ เปน็ ตอ้ งด�ำ เนนิ การ เพอื่ ใหส้ มั ฤทธผ์ิ ลตามเปา้ หมาย ที่กำ�หนด ภารกิจสนับสนุนทางวชิ าการ Technical Support Function งานทที่ �ำ เพอ่ื สนบั สนนุ ใหก้ ารด�ำ เนนิ การตามภารกจิ หลกั สมั ฤทธผ์ิ ลตามเปา้ หมาย ทก่ี �ำ หนด หรอื การน�ำ นโยบายไปปฏบิ ตั ิ เปน็ งานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั งานวชิ าการ งานสนบั สนนุ การบรหิ ารและการตดั สนิ ใจ

38 คำ�ศัพทไ์ ทย-อังกฤษ สำ�หรบั ตดิ ต่อราชการและการประชุมระหวา่ งประเทศ ภารกิจสนับสนนุ ทางการบรหิ ารจัดการ Administrative Support Function งานด้านอำ�นวยการ งานธุรการ และงานด้านบริการ เพื่อให้การดำ�เนินการ ตามภารกิจหลกั สมั ฤทธิผ์ ลตามเป้าหมายท่กี �ำ หนด ผูป้ ฏิบัติควรเปน็ ขา้ ราชการ พนกั งานราชการ Government Employee (30) บุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้แก่หน่วยงานของรัฐตามสัญญาจ้าง โดยได้รับ ค่าตอบแทนจากงบประมาณของสว่ นราชการ มี 2 ประเภท คือ พนักงานราชการทัว่ ไป และพนักงานราชการพิเศษ บทเฉพาะกาล Transitory Provisions (4) บทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติให้ใช้เฉพาะในช่วงเวลาหนึ่ง หรือกับเร่ืองใด เร่อื งหน่งึ ที่เกิดขน้ึ กอ่ นวนั ใชบ้ งั คับกฎหมายนัน้ พระราชบญั ญตั ิ Act, Act of legislation บทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมายทพี่ ระมหากษตั รยิ ท์ รงตราขน้ึ โดยค�ำ แนะน�ำ และยนิ ยอม ของรัฐสภา ถือว่าเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษรท่ีรัฐได้ตราข้ึนไว้เป็นข้อบังคับกำ�หนด ความประพฤตบิ ุคคล ซ่งึ ตราข้ึนโดยฝ่ายนติ บิ ญั ญัต ิ อนั ไดแ้ ก่ รัฐสภา พระราชก�ำ หนด Royal Act กฎหมายรูปแบบหนึ่งท่ีพระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้น โดยคำ�แนะนำ�และยินยอม ของคณะรัฐมนตรี ซ่ึงอาศัยอำ�นาจตามที่รัฐธรรมนูญวางไว้ว่าเป็นกรณีฉุกเฉินท่ีมี ความจำ�เปน็ รบี ด่วนอันมอิ าจหลกี เลย่ี งได้ เพือ่ ประโยชนใ์ นการรกั ษาความปลอดภัยหรอื ความมัน่ คงของประเทศ หรือปอ้ งปัดภัยพิบัติสาธารณะ

โครงการส่อื การเรยี นรู้ “อาเซยี น กรู ”ู (Learning Package) 39 พระราชกฤษฎกี า Royal decree บญั ญตั แิ หง่ กฎหมายทพี่ ระมหากษตั รยิ ท์ รงตราขนึ้ โดยอาศยั อ�ำ นาจตามรฐั ธรรมนญู พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติหรือพระราชกำ�หนดเพ่ือใช้ในการ บริหารราชการแผน่ ดินตามค�ำ แนะน�ำ ของคณะรฐั มนตรี ระบบพนักงานราชการ Government Employee System ระบบบริหารงานบุคคลแนวใหม่ในส่วนราชการท่ีใช้ “ระบบสัญญาจ้าง” เป็นกลไกรองรับในการจ้างงาน ซึ่งทำ�ให้ผู้บริหารสามารถบริหารรูปแบบการจ้างงานให้ เหมาะสมกบั ลักษณะงานและภารกจิ สมรรถนะหลกั Core Competency ความสามารถของบุคลากรในองค์การท่ีพึงประสงค์ อันเป็นผลจากวัฒนธรรม และคา่ นยิ มขององคก์ าร ส�ำ นกั งาน ก.พ. ไดก้ �ำ หนด 5 สมรรถนะหลกั ของขา้ ราชการ ไดแ้ ก่ 1) การมุ่งผลสัมฤทธ์ิ 2) การบริการท่ีดี 3) การสั่งสมความเช่ียวชาญในงานอาชีพ 4) การยึดมน่ั ในความถูกต้องชอบธรรมและจรยิ ธรรม และ 5) การทำ�งานเปน็ ทมี

40 คำ�ศพั ท์ไทย-องั กฤษ ส�ำ หรบั ตดิ ต่อราชการและการประชุมระหวา่ งประเทศ 1.3 คำ�ศพั ท์เกยี่ วกบั ตำ�แหนง่ ทางราชการ (2) 1.3.1 ค�ำ ศพั ทต์ �ำ แหน่งผ้บู ริหารสว่ นกลาง 1.3.2 คำ�ศัพท์ตำ�แหน่งผู้บรหิ ารราชการส่วนภมู ภิ าค 1.3.3 คำ�ศพั ท์ตำ�แหน่งการบริหารราชการสว่ นท้องถิ่น 1.3.4 คำ�ศพั ท์เกีย่ วกบั ยศ ต�ำ แหน่งในกองทัพไทย และส�ำ นกั งานต�ำ รวจแหง่ ชาติ 1.3.1 คำ�ศัพทต์ �ำ แหน่งผู้บริหารส่วนกลาง (17) นายกรฐั มนตร ี Prime Minister รองนายกรฐั มนตร ี Deputy Prime Minister รัฐมนตรี Ministers รฐั มนตรีประจำ�ส�ำ นักนายกรัฐมนตร ี Minister Attached to the Prime Minister’s Office ปลัดกระทรวง Permanent Secretary รองปลดั กระทรวง Deputy Permanent Secretaries ผอู้ �ำ นวยการ Director รองผู้อำ�นวยการ Deputy Director ทปี่ รกึ ษา Senior Advisor ผ้ตู รวจราชการกระทรวง Inspector-General อธิบดี Director General รองอธบิ ดี Deputy Director-General ผเู้ ชย่ี วชาญ Senior Specialist เลขาธิการคณะรัฐมนตรี Secretary-General to the Cabinet เลขาธิการนายกรัฐมนตรี Secretary-General to the Prime Minister ทปี่ รึกษานายกรฐั มนตรี Advisor to the Prime Minister

โครงการสอ่ื การเรียนรู้ “อาเซยี น กูรู” (Learning Package) 41 ผ้อู ำ�นวยการสำ�นักงบประมาณ Budget Director Bureau of the Budget รองผอู้ �ำ นวยการ สำ�นกั งบประมาณ Deputy Director Bureau of the Budget เลขาธกิ าร สำ�นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา Secretary-General Office of the Council of State 1.3.2 ค�ำ ศพั ทต์ ำ�แหนง่ ผบู้ ริหารราชการสว่ นภูมิภาค ผู้ว่าราชการจังหวัด Governor, Provincial Governor รองผ้วู ่าราชการจงั หวัด Vice Governor ปลัดจังหวดั Deputy Governor นายอำ�เภอ District Chief Officer ปลดั อำ�เภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจำ�ก่งิ อ�ำ เภอ Minor District Chief Officer ปลัดอำ�เภอ Assistant District Chief Officer หัวหน้าส�ำ นักงานจังหวัด Chief of (ชื่อจังหวัด) Governor’s Office หัวหนา้ กลุม่ งาน Chief of the .....Group หวั หนา้ งาน Chief of the......Section หวั หนา้ ฝา่ ย Chief of the......Subdivision หวั หน้าฝ่ายอ�ำ นวยการ Chief of the Directing Division 1.3.3 คำ�ศัพทต์ �ำ แหน่งการบริหารราชการสว่ นทอ้ งถิ่น นายกองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั Chief Executive of the Provincial Administrative Organization (PAO)

42 ค�ำ ศพั ทไ์ ทย-อังกฤษ ส�ำ หรบั ติดตอ่ ราชการและการประชุมระหวา่ งประเทศ รองนายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั Deputy Chief Executive of the Provincial Administrative Organization (PAO) ปลัดองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัด Chief Administrator of the PAO รองปลดั องคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัด Deputy Chief Administrator of the PAO นายกเทศมนตรี Mayor รองนายกเทศมนตรี Deputy Mayor ปลดั เทศบาล Municipal Clerk รองปลดั เทศบาล Deputy Municipal Clerk นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำ บล Chief Executive of the Sub district Administrative Organization (SAO) รองนายกองค์การบรหิ ารส่วนตำ�บล Deputy Chief Executive of the SAO ปลัดองคก์ ารบริหารส่วนตำ�บล Chief Administrator of the SAO 1.3.4 คำ�ศพั ทเ์ กย่ี วกบั ยศตำ�แหน่งในกองทพั ไทยและสำ�นักงาน ต�ำ รวจแห่งชาติ (20) ค�ำ ศพั ทเ์ กีย่ วกับยศทหาร 3 เหลา่ ทพั The Thai Armed Forces’ Ranks คำ�ศัพทเ์ กี่ยวกยั ยศในกองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force’s Ranks พลอากาศเอก (พล.อ.อ.) Air Chief Marshal (ACM) พลอากาศโท (พล.อ.ท.) Air Marshal (AM) พลอากาศตรี (พล.อ.ต.) Air Vice Marshal (AVM) นาวาอากาศเอก (น.อ.) Group Captain (Gp. Capt.) นาวาอากาศโท (น.ท.) Wing Commander (Wg. Cdr.)

นาวาอากาศตรี (น.ต.) โครงการส่ือการเรียนรู้ “อาเซียน กรู ู” (Learning Package) 43 เรอื อากาศเอก (ร.อ.) เรอื อากาศโท (ร.ท.) Squadron Leader (Sqn. Ldr.) เรืออากาศตรี (ร.ต.) Flight Lieutenant (Flt. Lt.) Flying Officer (Flg. Off.) Pilot Officer (Plt. Off.) ค�ำ ศัพท์เก่ียวกับยศในกองทพั บกไทย Royal Thai Army (20) พลเอก (พล.อ.) General (Gen.) พลโท (พล.ท.) Lieutenant General (Lt. Gen.) พลตรี พล.ต. Major General (Maj. Gen.) พันเอก (พ.อ.) Colonel (Col.) พนั โท (พ.ท) Lieutenant Colonel (Lt. Col.) พันตรี (พ.ต.) Major (Maj.) ร้อยเอก (ร.อ.) Captain (Capt.) รอ้ ยโท (ร.ท.) Lieutenant (Lt.) รอ้ ยตรี (ร.ต.) Sub Lieutenant (Sub Lt.) คำ�ศพั ทเ์ กย่ี วกบั ยศในองทพั เรอื ไทย Royal Thai Navy’s Ranks (20) พลเรอื เอก (พล.ร.อ.) Admiral (Adm.) พลเรือโท (พล.ร.ท.) Vice Admiral (V.Adm.) พลเรือตรี (พล.ร.ต.) Rear Admiral (R.Adm.) นาวาเอก (น.อ. ร.น.) Captain (Capt.) นาวาโท (น.ท. ร.น.) Commander (Cdr.) นาวาตรี (น.ต. ร.น.) Lieutenant Commander (Lt. Cdr.) เรอื เอก (ร.อ. ร.น.) Lieutenant (Lt.)

44 คำ�ศัพท์ไทย-อังกฤษ สำ�หรบั ตดิ ตอ่ ราชการและการประชุมระหว่างประเทศ เรือโท (ร.ท. ร.น.) Lieutenant Junior Grade (Lt.JG.) เรอื ตรี (ร.ต. ร.น.) Sub Lieutenant (Sub Lt.) คำ�ศัพทเ์ กย่ี วกับยศ ต�ำ แหน่งในสำ�นกั งานต�ำ รวจแหง่ ชาติ Royal Thai Police’s Ranks (20) ชั้นสญั ญาบัตร Commissioned Officer พลต�ำ รวจเอก (พล.ต.อ.) Police General (Pol. Gen.) ผู้บัญชาการตำ�รวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) Commissioner General จเรต�ำ รวจแห่งชาติ (จตช.) Inspector General รองผู้บญั ชาการตำ�รวจแหง่ ชาติ Deputy Commissioner (รอง ผบ.ตร.) General พลตำ�รวจโท (พล.ต.ท.) Police Lieutenant General (Pol. Lt. Gen.) ผูช้ ว่ ยผบู้ ญั ชาการต�ำ รวจแห่งชาติ Assistant Commissioner General (ผชู้ ว่ ย ผบ.ตร.) ผ้บู ญั ชาการ (ผบช.) – Commissioner ผบช.น., ผบช.ภ 1-9 พลตำ�รวจตรี (พล.ต.ต.) Police Major General รองผ้บู ญั ชาการ (รอง ผบช.) Deputy Commissioner ผู้บังคับการ (ผบก.) – Commander ผบก.น. 1-9, ผบก.จว. พนั ต�ำ รวจเอก (พ.ต.อ.) Police Colonel (Pol. Col.) รองผู้บังคบั การ (รอง ผบก.) Deputy Commander ผกู้ ำ�กบั การ (ผกก.) – ผกก.สน., ผกก.สภ. Superintendent

โครงการสือ่ การเรยี นรู้ “อาเซียน กูรู” (Learning Package) 45 พันต�ำ รวจโท(พ.ต.ท.) Police Lieutenant Colonel Pol. Lt. Col.) รองผ้กู ำ�กับการ (รอง ผกก.) Deputy Superintendent พันตำ�รวจตรี (พ.ต.ต.) Police Major (Pol. Maj.) สารวตั ร (สว.) – สวป., สวส., สว.จร. Inspector ร้อยต�ำ รวจเอก (ร.ต.อ.) Police Captain (Pol. Capt.) ร้อยตำ�รวจโท (ร.ต.ท.) Police Lieutenant (Pol. Lt.) รอ้ ยตำ�รวจตรี (ร.ต.ต.) Police Sub-Lieutenant (Pol. Sub. Lt.) รองสารวัตร (รอง สว.) Deputy Inspector 1.4 ค�ำ ศัพทเ์ กย่ี วกบั สถานทร่ี าชการ (2) 1.4.1 ค�ำ ศพั ทเ์ ก่ียวกบั สถานท่รี าชการและหนว่ ยงาน-สว่ นกลาง 1.4.2 คำ�ศพั ท์เกีย่ วกับสถานทบ่ี ริหารราชการส่วนภมู ภิ าค 1.4.3 ค�ำ ศัพท์เก่ียวกับสถานที่บรหิ ารราชการสว่ นทอ้ งถน่ิ 1.4.1 คำ�ศัพท์เกยี่ วกับสถานทรี่ าชการและหนว่ ยงาน สว่ นกลาง (29) สำ�นักนายกรัฐมนตร ี Office of the Prime Minister กระทรวงกลาโหม Ministry of Defense กระทรวงการคลัง Ministry of Finance กระทรวงการตา่ งประเทศ Ministry of Foreign Affairs กระทรวงทอ่ งกระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกฬี า Ministry of Tourism and Sports กระทรวงพัฒนาสังคม Ministry of Social และความมนั่ คงของมนุษย์ Development and Human Security

46 ค�ำ ศัพทไ์ ทย-อังกฤษ ส�ำ หรบั ติดตอ่ ราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ Ministry of Agriculture and Cooperatives กระทรวงคมนาคม Ministry of Transport กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม Ministry of Natural Resources and Environment กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร Ministry of Information and Communication Technology กระทรวงพลังงาน Ministry of Energy กระทรวงพาณชิ ย์ Ministry of Commerce กระทรวงมหาดไทย Ministry of Interior กระทรวงยุติธรรม Ministry of Justice กระทรวงแรงงาน Ministry of Labour กระทรวงวฒั นธรรม Ministry of Culture กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี Ministry of Science and Technology กระทรวงศึกษาธิการ Ministry of Education กระทรวงสาธารณสุข Ministry of Public Health กระทรวงอตุ สาหกรรม Ministry of Industry 1.4.2 คำ�ศัพทเ์ ก่ียวกบั สถานทบ่ี รหิ ารราชการส่วนภูมิภาค สำ�นักงานจังหวัด Governor’s Office ศาลากลาง Provincial Hall ทีว่ ่าการอำ�เภอ District Office ทว่ี า่ การก่ิงอำ�เภอ Minor District Office

โครงการสื่อการเรยี นรู้ “อาเซยี น กรู ู” (Learning Package) 47 1.4.3 คำ�ศัพท์เกย่ี วกบั สถานทีบ่ รหิ ารราชการสว่ นท้องถ่นิ องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัด Provincial Administrative Organization (PAO) เทศบาล Municipality เทศบาลนคร City Municipality เทศบาลเมือง Town Municipality เทศบาลต�ำ บล Sub district Municipality สำ�นักงานเทศบาล Office of the....Municipality องคก์ ารบริหารส่วนต�ำ บล Sub district Administrative Organization (SAO) ที่ทำ�การองคก์ ารบริหารสว่ นต�ำ บล Office of the SAO / SAO Office 2 . หมวดการจดั ทำ�งบประมาณ 2.1 คำ�ศัพท์เก่ยี วกบั วิธีการทำ�งบประมาณ 2.1.1 ค�ำ ศพั ทเ์ กีย่ วกับวธิ ีการทำ�งบประมาณ 2.1.2 คำ�ศัพท์เกย่ี วกับระบบการจดั ทำ�งบประมาณ 2.2 ค�ำ ศพั ท์เกย่ี วกบั ระบบบญั ชแี ละการเงนิ การคลัง 2.2.1 คำ�ศพั ทเ์ กี่ยวกบั ระบบการเงิน การคลัง 2.2.2 ค�ำ ศพั ท์เกี่ยวกบั ระบบบญั ชีและภาษี 2.3 คำ�ศัพท์ที่เกี่ยวขอ้ งระบบเศรษฐกจิ 2.4 คำ�ศพั ทเ์ กีย่ วกบั กฎหมายและระเบยี บวา่ ดว้ ยการจัดทำ�งบประมาณ 2.4.1 คำ�ศพั ท์เก่ียวกบั กฎหมายเศรษฐกิจและการคา้ 2.4.2. ค�ำ ศพั ท์เกีย่ วกบั กฎ ระเบียบการเงนิ การคลัง

48 ค�ำ ศพั ทไ์ ทย-อังกฤษ ส�ำ หรับตดิ ต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ 2.1 คำ�ศัพทเ์ ก่ยี วกับวิธกี ารทำ�งบประมาณ 2.1.1 ค�ำ ศพั ทเ์ ก่ยี วกบั วธิ ีการทำ�งบประมาณ 2.1.2 คำ�ศพั ทเ์ กย่ี วกับระบบการจัดท�ำ งบประมาณ 2.1.1 คำ�ศพั ท์เก่ียวกับวธิ ีการทำ�งบประมาณ การอนมุ ตั งิ บประมาณ Budget Adoption (6) เป็นอำ�นาจหน้าท่ีรัฐสภา โดยฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบัญชีและการเงิน จะมี การจัดตั้งคณะทำ�งานข้ึนทำ�หน้าท่ีพิจารณากล่ันกรองงบประมาณรายจ่ายประจำ�ปี กอ่ นน�ำ เสนอเพ่อื พิจารณาก่อนประกาศใช้เป็นงบประมาณประจำ�ปตี อ่ ไป การควบคุมงบประมาณ Budget Control เป็นอำ�นาจหน้าที่สำ�นักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และสำ�นักงาน ตรวจเงินแผ่นดิน ท่ีจะดำ�เนินการเพ่ือควบคุมให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ ประหยัด และคุ้มคา่ การบริหารงบประมาณ Budget Execution การน�ำ งบประมาณทไี่ ดร้ บั อนมุ ตั แิ ลว้ ไปใชจ้ า่ ยใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธติ์ ามทไี่ ดร้ บั อนมุ ตั ิ (ส่วนราชการ/รัฐวิสหกิจ) ถือเป็นข้ันตอนสำ�คัญท่ีสุดที่จะแปลงแผนงานให้เกิดขึ้นเป็น รปู ธรรม การจัดเตรยี มงบประมาณ Budget Preparation เป็นอำ�นาจหน้าท่ีฝ่ายบริหาร คือ คณะรัฐมนตรี ในการจัดเตรียมงบประมาณ ประจ�ำ ปี การวางแผนการงบประมาณ Budgeting การจัดตั้งคณะทำ�งานท่ีประกอบด้วยหน่วยงานต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องดำ�เนินการ วางแผนงบประมาณที่คาดวา่ จะต้องจ่าย โดยการคดิ ล่วงหนา้ และแสดงข้อมลู ออกมาเปน็ ตวั เลข และอาจแสดงออกมาในรปู ของตวั เงนิ จ�ำ นวนชว่ั โมงในการท�ำ งาน จ�ำ นวนผลติ ภณั ฑ์ เปน็ ต้น

โครงการสอ่ื การเรียนรู้ “อาเซยี น กูร”ู (Learning Package) 49 กระบวนการงบประมาณหรอื วงจรงบประมาณ Budgeting Process or Budgeting Cycle (32) ประกอบด้วยข้นั ตอนส�ำ คญั 4 ขั้นตอน คอื (1) การจัดทำ�งบประมาณ (2) การอนุมตั ิงบประมาณ (3) การบริหารงบประมาณ (4) การตดิ ตามประเมนิ ผล การจัดสรรการใชท้ รพั ยากรของสงั คม Allocation Function รัฐบาลจะตอ้ งจดั สรรทรพั ยากรให้ใช้ประโยชนไ์ ดเ้ ตม็ ท่ี อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ใน ทางปฏิบัติรัฐบาลจะต้องจัดสรรการใช้ทรัพยากรของสังคม เพื่อผลิตสินค้าและบริการให้ สงั คม การจ�ำ แนกรายจา่ ยภาครัฐตามส่วนราชการ กระทรวง กรม Administrative Classification เป็นวิธีท่ีเหมาะสมท่ีสุดในการควบคุม และการจำ�แนกงบประมาณรายจ่ายตาม ส่วนราชการ ได้แก่ (1) การจำ�แนกรายจ่ายภาครัฐตามโครงสร้างแผนงาน Classification by Programmes (2) การจำ�แนกรายจ่ายภาครัฐตามลักษณะงาน Functional Classification (3) การจ�ำ แนกรายจา่ ยภาครฐั ตามลกั ษณะเศรษฐกจิ Economic Classification (4) การจ�ำ แนกรายจา่ ยภาครัฐตามหมวดรายจา่ ย Classification by Object of Expenditures (5) การจำ�แนกรายจ่ายภาครัฐตามภูมิศาสตร์ Geographic Classification การกระจายรายได้ของสงั คม Distribution Function รฐั บาลจะวางนโยบายกระจายรายได้ เพอ่ื ใหส้ นิ คา้ และบรกิ ารตา่ งๆ ทผี่ ลติ ขน้ึ มา ได้รบั การจดั สรร จำ�แนก แจกจา่ ยได้ท่วั ถงึ และเปน็ ธรรม โดยการใชม้ าตรการด้านภาษี เป็นเคร่ืองมือส�ำ คญั ในการดำ�เนินการ