Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรทุจริต ป.2

หลักสูตรทุจริต ป.2

Published by charunwarin.321, 2023-06-04 00:50:26

Description: หลักสูตรทุจริต ป.2

Search

Read the Text Version

95 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี ๒ ชือ่ หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ เรือ่ ง กิจกรรมนกั เรยี น (วนิ ัยและความรับผดิ ชอบต่อตนเอง) เวลา ๒ ช่วั โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับความไมท่ นและความละอายต่อการทุจริต ๑.๒ ปฏิบัติตนเปน็ ผไู้ ม่ทนและละอายต่อการทุจรติ ทุกรูปแบบ ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี ินัยและความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ลักษณะของผู้มวี นิ ยั ในตนเอง คือ เปน็ ผมู้ คี วามซอื่ สตั ยส์ ุจรติ ขยนั หมนั่ เพียร อดทน เป็นตน้ ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกิด) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร ๑.๑ การฟงั ๑.๒ การดูบตั รภาพ ๑.๓ การตอบคาถาม ๒) ความสามารถในการคิด ๒.๑ ทักษะการคิดวเิ คราะห์ ๒.๒ ทกั ษะการเปรียบเทียบ ๒.๓ ทกั ษะการปฏิบัติ ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ / ค่านิยม ๑) ซื่อสัตย์ สจุ รติ ๒) มวี นิ ัย ๓) ใฝ่เรยี นรู้ ๔) มุ่งม่นั ในการทำงาน ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชว่ั โมงท่ี ๑ ๑. ครูเล่านิทานเกยี่ วกับความซ่ือสตั ย์ เรอื่ ง เทพารักษก์ ับคนตดั ไม้ ใหน้ ักเรยี นฟงั แล้วให้ นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ตามประเดน็ ต่อไปน้ี ๑.๑ นิทานเรื่องนี้ เปน็ เรื่องราวเกย่ี วกับอะไร ๑.๒ การกระทำของคนตดั ไม้ แสดงให้เหน็ ถึงวินัยในด้านใด ๑.๓ การทำตนใหเ้ ป็นผมู้ ีวินัย มีผลดีตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื อย่างไรบ้าง ๒. ครอู ธิบายใหน้ กั เรียนฟงั เกี่ยวกับความสำคัญของการมีวินัยในตนเอง ซึง่ การมีวนิ ัยใน ตนเอง จะสง่ ผลต่อการพัฒนาตนเองในด้านตา่ ง และส่งผลต่อการอย่รู ว่ มกบั ผู้อน่ื ในสงั คมอีกด้วย

96 ๓. ครใู ห้นักเรียนยกตัวอยา่ งคน หรือกลมุ่ คน ทีเ่ ป็นผมู้ วี นิ ัยในตนเอง เกี่ยวกบั ความซื่อสัตย์ แลว้ ร่วมกนั วิเคราะห์และตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ๓.๑ การกระทำของคน หรือกลุม่ คนดงั กลา่ ว แสดงให้เห็นถึงความสุจริตอยา่ งไร ๓.๒ การกระทำของคน หรือกลมุ่ คนดังกลา่ ว ก่อให้เกิดผลดีกับตนเอง และผู้อื่นอยา่ งไร บ้าง ๓.๓ นักเรยี นจะสามารถนำแบบอย่างการปฏิบัตติ นดงั กลา่ ว ไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างไร พร้อมยกตัวอยา่ ง ๔. ครูให้นกั เรยี นผลัดกนั ยกตัวอยา่ งการปฏบิ ัติตนเป็นผ้มู ีวินัยในตนเอง เกีย่ วกบั ความ ซื่อสัตย์สุจรติ เช่น ๔.๑ ไมพ่ ดู จาโกหกหลอกลวงผู้อ่นื ๔.๒ ไม่ลอกข้อสอบหรอื ลอกการบ้านเพ่อื น ๔.๓ ไมห่ ยบิ ของของผูอ้ ื่นมาเป็นของตนเองโดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต เปน็ ตน้ ๕. ครใู หน้ กั เรียนทาใบงานท่ี ๑ เรอ่ื งการปฏิบัตติ นเปน็ ผู้มีวินัยในตนเอง เก่ยี วกบั ความ ซือ่ สตั ย์ สจุ ริตทตี่ นเองสามารถปฏบิ ัติได้ และนำเสนอหน้าช้ันเรียน ๒) ชัว่ โมงท่ี ๒ ๑. ครูให้นักเรยี นดบู ัตรภาพ การปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผ้มู ีวนิ ัยในตนเองเกี่ยวกับความขยนั หม่ันเพียร อดทน และการใฝ่หาความรู้ ๒. ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกนั ยกตัวอย่างการปฏิบตั ิตนเปน็ ผูม้ ีวนิ ยั ในตนเองเก่ียวกับความ ขยันหม่นั เพียร อดทน และการใฝห่ าความรู้ เช่น ๒.๑ ขยันอ่านหนงั สือและทบทวนบทเรยี นอยา่ งสมำ่ เสมอ ๒.๒ มีความขยันหมนั่ เพยี ร ต้งั ใจทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย ๒.๓ อดทนต่อการเรยี นและการทำงาน ๒.๔ อดทนต่อสภาพอากาศท่ีร้อน เมือ่ ต้องปฏิบัติกจิ กรรมกลางแจ้ง ๒.๕ อา่ นหนังสือพิมพ์หรอื ดูขา่ วเปน็ ประจำ ๒.๕ หมน่ั สบื คน้ ขอ้ มลู ความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรู้ต่าง อย่างสมำ่ เสมอ

97 ๓. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความสำคัญและผลดขี องการปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้มวี นิ ัยในตนเอง เก่ียวกบั ความขยนั หมัน่ เพียร อดทน และใฝห่ าความรู้ ๔. ครูถามคาถามเพ่ือกระตนุ้ ความคิด ๔.๑ ถา้ ทกุ คนในสังคมมีความอดทนและขยนั หม่ันเพยี รอยู่เสมอจะทาให้เกดิ ผลดีตอ่ สงั คมอยา่ งไร ๔.๒ ถ้านักเรียนหมน่ั ศกึ ษาหาความรู้ และตดิ ตามข่าวสารต่าง อย่างสม่ำเสมอ จะชว่ ยให้ นักเรยี นมีผลการเรยี นดีข้ึนหรือไม่ อธบิ ายเหตุผล ๔.๒ ส่อื การเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑) นิทานเร่อื ง เทพารักษ์กับคนตัดไม้ ๒) ใบงานที่ ๑ เรอื่ งการปฏิบตั ิตนเปน็ ผ้มู วี ินัยในตนเอง เกี่ยวกับความซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ๓) บตั รภาพการปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มวี ินัยในตนเอง เกี่ยวกบั ความขยนั หมั่นเพียรอดทน และใฝ่หา ความรู้ ๕. การประเมินการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ ๑) ตรวจใบงาน ๒) การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน ๕.๒ เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นการประเมิน ๑) แบบตรวจให้คะแนนใบงาน ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น ๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป ถือว่า ผ่าน ๖. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................... ................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ............................... ลงช่อื ........................................ครผู ู้สอน (..................................................) ๗. ความคิดเห็นผูบ้ รหิ าร ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................................................ ลงชื่อ.....................................ผู้บริหาร (นายจรญั วารนิ ทร์) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านบวั ถนน

98 ๘. ภาคผนวก นิทาน เรื่องเทพารักษ์กับคนตัดไม้ มชี ายตัดไม้คนหน่ึง ตดั ไมอ้ ย่รู ิมลาธาร เขาได้พลดั ทาขวานตกลงไปในในลาธาร เขารอ้ งไห้เสยี ใจ อย่างมาก ได้มีเทพารกั ษม์ าเห็นเข้า จึงลงไปช่วยชายผนู้ นั้ หาขวานให้ เทพารกั ษ์ขึ้นมาจากน้ำ พรอ้ มขวานทองคา และถามชายตัดไมว้ ่า เทพารักษ์ : “ขวานนี้ใช่ของเจา้ หรือไม่” ชายตดั ไม้ : “ไมใ่ ช่ ไม่ใช่ขวานของขา้ ” เทพารกั ษ์ จึงดาลงหาขวานอีกครั้ง เเล้วข้นึ มาพรอ้ มกบั ขวานเงิน เเลว้ ถามเขาอีกครง้ั ว่า เทพารักษ์ : “นใ้ี ชข่ วานของเจา้ หรือไม่” ชายตดั ไม้ : “นี้ไม่ใช่ขวานของขา้ ขวานของขา้ เป็นขวานไม้เหลก็ ธรรมดา” เทพารักษ์ จงึ ดาลงไปหาขวานอกี ครั้ง เเลว้ ข้นึ มาพร้อมกับขวานเหล็กธรรมดา ชายตดั ไม้ : “นแี่ หละขวานของขา้ ” เทพารกั ษ์ประทับใจในความซอ่ื สตั ยข์ องเขา จงึ ไดใ้ ห้ขวานเงนิ กับขวานทองคาไป จากนั้น ชายตัดไม้ไดเ้ ล่าเรอื่ งน้ีให้กับเพื่อนของเขาฟงั เพื่อนของเขาอยากได้บ้าง เลยมาตัดไมต้ รงลาธาร เหมือนกันแลว้ เขาก็แกล้งทำขวานตกลงไป เทวดาเหน็ ดังนนั้ เลยไปชว่ ยงมหาขวานของคนตดั ไม้ เทพารักษโ์ ผล่ข้ึนมาจากนำ้ พร้อมกับขวานทอง แลว้ ถามคนตดั ต้นไม้วา่ เทพารกั ษ์ : “ขวานนใี้ ชข่ องเจา้ หรือไม่” ชายตัดไม้ : “น่ีแหละ ขวานของข้า” เทพารักษ์ : “เจ้าเป็นคนไม่ซื่อสตั ย์ เจา้ จะไม่ไดข้ วานของเจา้ คนื ” แล้วทิ้งให้คนตัดตน้ ไมน้ ัง่ เสยี ใจอยูท่ ่ีลาธารตอ่ ไป นทิ านเรื่องนี้สอนใหร้ ู้วา่ ความซ่ือสตั ยย์ ่อมนำความเจริญใหไ้ ดด้ กี ว่าความโลภ

99 ใบงานที่ ๑ เรอ่ื งการปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มีวินัยในตนเอง เก่ียวกับความซือ่ สตั ย์สจุ ริต ช้แี จง ใหน้ ักเรียนวาดภาพการปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ ีวินัยในตนเอง เกยี่ วกับความซื่อสตั ยส์ จุ รติ พร้อมทงั้ ระบายสี จากนัน้ ออกมานาเสนอผลงานทหี่ นา้ ชัน้ เรยี น กจิ กรรม.................................................................................... ภาพ

100 แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน เลขท่ี ชือ่ -สกลุ คะแนนทไี่ ด้ สรปุ ผล (๑๐ คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น สรปุ เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นได้คะแนนรอ้ ยละ ๘ ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน

101 แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น ชื่อนักเรียน......................................................... ชน้ั ..............ภาคเรยี นที่...........ปีการศกึ ษา.............. คำชแ้ี จง การบันทึกใหก้ าเครื่องหมาย ลงในช่องท่ตี รงกบั พฤติกรรมท่ีเกดิ ขึน้ จรงิ ท่ี พฤติกรรม ระดบั การปฏบิ ัติ บางครั้ง น้อยครั้ง ไมท่ ำเลย/ เป็นประจำ (๒) (๑) ไมช่ ัดเจน (๐) (๓) ๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหน้าทก่ี ารงาน ๒ ตง้ั ใจและเอาใจใส่ต่อการปฏิบัติ หน้าท่ีทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ๓ ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายาม ๔ รู้จกั แก้ปญั หาในการทำงานเม่ือมี อุปสรรค ๕ อดทนเพือ่ ใหง้ านสำเรจ็ ตาม เป้าหมาย ๖ ปรบั ปรุงและพฒั นาการทำงานให้ ดขี น้ึ ดว้ ยตนเอง รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ ผูป้ ระเมิน ครู พอ่ แม่/ผู้ปกครอง ตนเอง เพ่อื น ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ (.................................................)

เกณฑ์การประเมิน 102 ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมิน ดเี ยีย่ ม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดข้อหนึ่งตำ่ กว่า ๒ คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อ ใดข้อหน่ึงต่ำกว่า ๐ คะแนน พอใช้ ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกว่า ๐ คะแนน ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

103 แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชแี้ จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงใน ช่องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะอนั พึง รายการประเมิน ระดบั คะแนน ประสงค์ด้าน ๓๒๑ มวี ินยั ปฎิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั มีความตรงต่อเวลาใน การปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆในชวี ิตประจำวนั ใฝเ่ รียนรู้ ๑.รู้จักใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ และนำไป ปฏบิ ัติได้ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยครงั้ พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัติบางครง้ั ๒.รู้จกั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม ๓.เช่ือฟังคาสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่ โต้แยง้ ๔. ต้ังใจเรยี น ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ ๑. ใหข้ ้อมลู ท่ถี ูกต้อง และเป็นจรงิ ๒. ปฏบิ ัติในสง่ิ ทถี่ ูกตอ้ ง มุ่งม่ันในการ ๑. มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานท่ี ทำงาน ไดร้ ับมอบหมาย ๒. มคี วามอดทนและไมย่ ่อทอ้ ตอ่ อุปสรรค เพอื่ ให้งานสำเร็จ ให้ ๓ คะแนน ให้ ๒ คะแนน ให้ ๑ คะแนน ลงช่ือ..............................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................)

104 แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๕ เรอ่ื ง กิจกรรมนักเรียน (การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี) ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความไม่ทนและความละอายต่อการทจุ ริต ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผ้ไู มท่ นและละอายต่อการทุจริตทกุ รูปแบบ ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์ผลของการปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผ้มู ีวนิ ยั ในตนเองเกยี่ วกับความตัง้ ใจปฏิบัติ หนา้ ท่ไี ด้ ๒.๒ นกั เรียนสามารถปฏิบัติตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเองเก่ียวกับความตัง้ ใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ีได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ คณุ ลักษณะของผู้มีวินยั ในตนเอง คือ ต้ังใจปฏิบตั ิหน้าที่ ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกดิ ) ๑) ความสามารถในการส่อื สาร ๑.๑ การฟงั ๑.๒ การดบู ตั รภาพ ๑.๓ การตอบคาถาม ๒) ความสามารถในการคิด ๒.๑ ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ๒.๒ ทักษะการเปรยี บเทียบ ๒.๓ ทักษะการปฏบิ ัติ ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ / ค่านยิ ม ๑) มวี นิ ยั ๒) ใฝเ่ รียนรู้ ๓) มงุ่ มนั่ ในการทำงาน ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรยี นรู้ ๑) ชั่วโมงท่ี ๑ ๑. ครูเลา่ นทิ านเรื่อง ลาใจดำใหน้ กั เรียนฟัง จากนั้นให้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั นทิ านดังนี้ ๑.๑ นทิ านเร่อื งนแี้ สดงถงึ อะไรบ้าง ๑.๒ การกระทำของลาดหี รือไม่ และสง่ ผลต่อตนเองอย่างไร ๑.๓ ถ้านกั เรียนเป็นลาตัวน้ี นกั เรยี นจะปฏิบตั ิตนอย่างไร ๒. ครอู ธิบายใหน้ กั เรยี นฟงั ว่า ถ้านกั เรยี นตัง้ ใจปฏิบัติหนา้ ทข่ี องตนเอง มีความเห็นอกเห็นใจ ตอ่ ผ้อู ่ืน ไมเ่ อาเปรียบผู้อืน่ จะก่อให้เกดิ ผลดตี ่อตนเองและผู้อนื่ การตัง้ ใจเรียน การตง้ั ใจทำงานที่

105 ไดร้ บั มอบหมายซึ่งนอกจากจะชว่ ยพัฒนาความสามารถของตนเอง ในการเรียนและการทำงานต่าง แล้ว ยังชว่ ยให้ทกุ คนในสงั คมอยรู่ ว่ มกันได้อยา่ งสงบสขุ อกี ด้วย ดังนน้ั การปฏบิ ัติตนทน่ี ักเรียน สามารถปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมกับวยั เชน่ ๒.๑ ตั้งใจเรยี นหนงั สือ ไม่พูดคยุ กันขณะท่คี ณุ ครูกาลังสอน ๒.๒ ชว่ ยกนั ดแู ลรักษาความสะอาดในห้องเรียน และโรงเรยี น ๒.๓ เกบ็ ของเล่นเข้าทใ่ี ห้เรยี บร้อย เม่ือเลน่ เสรจ็ แล้ว ๒.๔ ชว่ ยคณุ พอ่ คุณแมท่ าความสะอาดบ้าน หรอื ดูแลสวน ๒.๕ ชว่ ยเพอื่ นทาความสะอาดบรเิ วณเขตพ้ืนท่ี ทีต่ นเองรับผดิ ชอบ ภายในโรงเรยี น ๓. ครูแบง่ นักเรียนออกเปน็ ๔ กล่มุ กลุ่มละ ๖ คน โดยครูมอบหมายใหแ้ ต่ละกลุ่มรบั ผดิ ชอบ ทำความสะอาดบรเิ วณรอบ อาคารเรยี น ๔. ครสู ังเกตพฤติกรรมการทำงานและบันทกึ ผล ๒) ช่วั โมงที่ ๒ ๑. ครูเล่านทิ านเรือ่ ง ลูกชาวนากับมรดกใหน้ ักเรียนฟงั ๒. ครูตัง้ คาถาม จากนิทานเรอ่ื งลูกชาวนากบั มรดก แล้วให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น ๒.๑ นทิ านเร่อื งนี้ เป็นเร่ืองราวเกยี่ วกับอะไร ๒.๒ นักเรียนได้ข้อคิดอะไรจากเร่ืองน้ี ๒.๓ นักเรยี นสามารถนาขอ้ คดิ ที่ไดน้ ้ี ไปปรับใช้ในชวี ิตประจำวนั ของนักเรยี นไดอ้ ยา่ งไร บ้าง ๓. ครอู ธิบายเพิ่มว่า ถ้าเราได้รับมอบหมายใหป้ ฏบิ ัติหนา้ ทใี่ ด เราต้องตง้ั ใจปฏบิ ัติงานนัน้ ด้วยความตงั้ ใจ เพื่อให้งานสำเรจ็ และบรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ทีต่ ้งั ไว้ ๔. ครูให้นกั เรยี นทำใบงานท่ี ๒ เรอื่ ง หนา้ ท่ีของตนเอง ครตู รวจความถูกต้อง ๔.๒ สอ่ื การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) นทิ านเร่ืองลาใจดา ๒) นิทานเรอ่ื งลูกชาวนากับมรดก ๓) ใบงานที่ ๒ เร่อื ง หน้าท่ขี องตนเอง ๕. การประเมินการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ ๑) ตรวจใบงาน ๒) การสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น ๕.๒ เครื่องมอื ทใี่ ช้ในการประเมนิ ๑) แบบตรวจให้คะแนนใบงาน ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน ๖. บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ลงช่อื ........................................ครผู สู้ อน (..................................................)

106 ๗. ความคดิ เห็นผูบ้ รหิ าร ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ............................... ลงชอ่ื .....................................ผบู้ รหิ าร (นายจรัญ วารนิ ทร์) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นบวั ถนน

107 ๘. ภาคผนวก นิทานเร่อื ง ลาใจดำ มีพอ่ คา้ อยู่คนหนึ่งไดน้ ำสัมภาระบรรทกุ มาในเกวียน เเล้วใหว้ วั กบั ลาชว่ ยกนั ลากเกวยี นไป ยงั อีกหมูบ่ ้านหน่งึ เเมจ้ ะเทียมเเอกคกู่ ัน เเตล่ าน้ันไม่ค่อยยอมท่ีจะออกเเรงช่วยลากซกั เทา่ ไหร่ ววั ตอ้ ง ใช้เเรงอยู่เพยี งฝา่ ยเดยี วจนววั เหนื่อยหอบ จงึ เอย่ ปากขอรอ้ งให้ลาชว่ ยออกเเรงลากเกวียนดว้ ยกนั กบั ตน เเต่ลาก็กลับตอบไปว่า ตนนน้ั ชว่ ยออกเเรงอย่างเต็มที่อยู่เเล้ว วัวจงึ ออกแรงลากเกวียนตามลำพงั จนขาหกั เเล้วขาดใจตายไปในท่ีสุด พ่อค้าจงึ เเลเ่ อาเน้อื ววั ใส่เกวียนบรรทุกให้ลาลากไป ในขณะนนั้ เกวยี นมนี ำ้ หนกั มากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวเม่ือถงึ เวลาที่ลาหมดเเรงจวนเจียนใกล้จะสิ้นใจ มนี กฝงู หนึ่งบนิ ตามมาจิกกินเน้ือวัวก็กล่าวข้ึนกบั ลาว่า ถา้ ชว่ ยววั ออกเเรงตั้งแตต่ น้ แลว้ ลากเกวยี นเเตเ่ เรกเจา้ ก็ไมต่ ้องมาตายกลางทางเยย่ี งน้ีดอกเจ้าลาใจดำ นิทานเรือ่ งน้สี อนใหร้ วู้ า่ ผู้ทไ่ี มค่ ิดช่วยเหลือเกือ้ กลู เเตค่ ิดจะเอาเปรียบผู้อื่นร่ำไป ย่อมได้ภัยเเก่ตนในทส่ี ดุ

108 ลูกชาวนากับมรดก นานมาแลว้ มคี รอบครวั ชาวนาอยคู่ รอบครวั หนง่ึ เมือ่ ผู้ท่ีเป็นพ่อตายไปเเลว้ ลกู ชาวนา ทั้งสองก็ชวนกันออกไปขดุ หาสมบตั ใิ นสวนองนุ่ เพราะพ่อได้สั่งเสยี เอาไวก้ ่อนท่จี ะตายว่าทรพั ย์ สมบัติของพ่ออยู่ในสวนองุ่น“นอ้ งไปขดุ ตรงนัน้ นะ สว่ นพจ่ี ะขดุ ตรงนี้เอง” ลกู ชาวนาทง้ั สองชว่ ยกนั ขดุ ดินเพ่ือหาสมบัตติ ามทตี่ ่าง ในสวนองุ่นไปจนท่วั ท้ังสวนกย็ งั ไม่สามารถหา สมบตั ิท่คี ดิ วา่ พ่อจะฝงั ไวใ้ ห้เจอได้ เเต่สวนองุ่นท่ีถูกขดุ ถกู พรวนดินจนท่วั นน้ั กลับยงิ่ เจริญงอกงามดี จนลกู ชาวนาสองพน่ี ้องสามารถท่จี ะขายอง่นุ จนได้ทรัพยส์ ินเงนิ ทองมากมาย ท้ังสองจงึ เพง่ิ รู้วา่ ทรัพย์สมบตั ิท่ีพ่อทิ้งไว้ให้เปน็ มรดกนั้นแท้จริงไมใ่ ชส่ มบตั ิท่ถี กู ฝังเอาไว้ แตจ่ ริง แลว้ คืออะไร นิทานเรื่องนี้สอนให้รูว้ ่า ความขยันพากเพยี รสามารถก่อใหเ้ กดิ ทรัพย์

109 ใบงานท่ี ๒ เร่อื งหน้าที่ของตนเอง คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นทำเคร่อื งหมาย √ หนา้ ข้อความที่ควรปฏบิ ัตแิ ละทำเคร่ืองหมาย X หนา้ ขอ้ ความทไี่ ม่ควรปฏิบัติ …………๑. วง่ิ เลน่ ในโรงเรียน …………๒. คุยกับเพอ่ื นเสียงดังในห้องประชมุ …………๓. ท้ิงเศษกระดาษในถังขยะ …………๔. แอบกินขนมในห้องเรยี น …………๕. บอกการบา้ นเพ่ือน …………๖. ทำความเคารพครู …………๗. มาโรงเรียนสาย …………๘. เชือ่ ฟังครปู ระจำช้ัน …………๙. ชว่ ยกันทำความสะอาดห้องเรยี น …………๑๐. แต่งตวั เรียบร้อยถูกต้องตามระเบยี บของโรงเรียน

110 แบบตรวจให้คะแนนใบงาน เลขที่ ช่ือ-สกุล คะแนนท่ไี ด้ สรปุ ผล (๑๐ คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น สรุป เกณฑก์ ารประเมนิ - นักเรยี นได้คะแนนรอ้ ยละ ๘ ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน

111 แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น ช่ือนักเรยี น......................................................... ช้ัน..............ภาคเรียนท่ี...........ปีการศึกษา .............. คำชี้แจง การบนั ทึกให้กาเคร่ืองหมาย ลงในช่องที่ตรงกบั พฤติกรรมทเ่ี กิดข้นึ จริง ที่ พฤติกรรม ระดับการปฏิบตั ิ บางครง้ั น้อยครั้ง ไมท่ ำเลย/ เป็นประจำ (๒) (๑) ไมช่ ดั เจน (๐) (๓) ๑ มีความรบั ผดิ ชอบในหน้าท่ีการ งาน ๒ ต้งั ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏิบตั ิ หนา้ ท่ีที่ไดร้ บั มอบหมาย ๓ ทำงานด้วยความเพียรพยายาม ๔ ร้จู กั แกป้ ญั หาในการทำงานเมื่อมี อุปสรรค ๕ อดทนเพ่อื ใหง้ านสำเรจ็ ตาม เป้าหมาย ๖ ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานให้ ดขี น้ึ ด้วยตนเอง รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ ผปู้ ระเมิน ครู พ่อแม่/ผปู้ กครอง ตนเอง เพื่อน ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน (.................................................)

112 เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อ ใดข้อหน่ึงต่ำกวา่ ๒ คะแนน ดเี ย่ียม ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดข้อหน่ึงตำ่ กวา่ ๐ คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ ๐ คะแนน พอใช้ ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน ปรับปรงุ

113 แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คำช้แี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงใน ชอ่ งทีต่ รงกับระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะอันพึง รายการประเมิน ระดบั คะแนน ประสงคด์ ้าน ๓๒๑ มวี ินัย ปฎบิ ตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว มีความตรงต่อเวลาใน การปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ งๆในชีวติ ประจำวัน ใฝเ่ รยี นรู้ ๑.รจู้ ักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไป ปฏิบตั ิได้ มงุ่ มน่ั ในการ ทำงาน ๒.รูจ้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม ๓.เชอื่ ฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่ โตแ้ ย้ง ๔. ต้งั ใจเรียน ๑. มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ี ไดร้ ับมอบหมาย ๒. มคี วามอดทนและไม่ย่อทอ้ ต่ออุปสรรค เพื่อให้งานสำเร็จ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั บิ างครง้ั ลงช่ือ..............................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................)

114 หน่วยที่ ๓ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ รติ

115 แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี ๓ ชื่อหน่วย STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจริต แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอื่ ง ความพอเพยี ง (ทรพั ยากรนำ้ และไฟฟา้ ) ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๑ ชวั่ โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับ STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ตา้ นการทุจรติ ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผ้ทู ี่ STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจรติ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกประโยชน์ของทรัพยากรนำ้ และไฟฟา้ ได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถบอกวิธกี ารใชท้ รัพยากรน้ำและไฟฟา้ อย่างประหยัดและคุ้มคา่ ได้ ๒.๓ นกั เรยี นเหน็ คุณคา่ การใช้ทรพั ยากรนำ้ และไฟฟ้า ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ การใชท้ รัพยากรนำ้ และไฟฟ้าไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม เหน็ คณุ คา่ ใช้อย่างประหยัดและ คุ้มคา่ เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) ๑) ความสามารถในการสือ่ สาร ๑.๑ การตอบคำถาม ๑.๒ การฟงั นิทาน ๑.๓ การทำใบงาน ๒) ความสามารถในการคิด ๒.๑ บอกประโยชนแ์ ละวิธกี ารใช้ทรพั ยากรนำ้ และไฟฟ้าอย่างประหยัดและคุม้ ค่า ๓) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ๓.๑ การใชท้ รัพยากรน้ำและไฟฟ้าอยา่ งประหยัดและคุม้ คา่ ๓.๓ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ / คา่ นิยม ๑) อยู่อย่างพอเพยี ง ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรียนรู้ ๑. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันร้องเพลง “ปดิ นำ้ ปิดไฟ” ๒. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกับเพลงทีร่ อ้ ง โดยตงั้ คำถาม ดังน้ี ๒.๑ เนอื้ เพลงท่ีร้องกล่าวถึงทรัพยากรอะไรบ้าง (ทรัพยากรน้ำ และไฟฟ้า) ๒.๒ ทรพั ยากรนำ้ ให้ประโยชน์อะไรกบั เราบ้าง (ใช้ดื่มกนิ ,ทำอาหาร,ชำระลา้ งรา่ งกาย) ๒.๓ ทรัพยากรไฟฟ้าใหป้ ระโยชน์อะไรกบั เราบา้ ง (ให้แสงสวา่ ง,อำนวยความสะดวกใน ชวี ิตประจำวัน) ๓. ครูเล่านิทานเรื่อง “นอ้ งเจนชว่ ยโลก” ให้นกั เรยี นฟัง จากน้ันสนทนารว่ มกนั โดยใช้ ประเด็นคำถามดังนี้ ๓.๑ น้องเจนใชเ้ คร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ชนิดต่าง อย่างไรบ้าง ๓.๒ คุณแม่แนะนานอ้ งเจนให้ชว่ ยประหยัดพลังงานอย่างไร ๓.๓ นักเรยี นเคยทาแบบนอ้ งเจนหรือไม่

116 ๓.๔ ถ้าเราไม่มีไฟฟ้าใช้ จะเกิดผลอย่างไร ๓.๕ นกั เรยี นมวี ิธีการดแู ลรักษาทรัพยากรทม่ี ีอยา่ งไร ๔. ครูนำนักเรยี นไปสำรวจการใช้ทรัพยากรน้ำและไฟฟ้าภายในโรงเรยี น เชน่ หอ้ งน้ำ อ่าง ลา้ งมือตเู้ ย็น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ และไฟฟา้ ตามห้องต่าง ๕. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายเก่ียวกับการใช้ทรัพยากรภายในโรงเรยี น เช่น การใชน้ ้ำ ใช้ ไฟฟ้าเป็นอย่างไร เกดิ ประโยชน์ค้มุ ค่าหรอื ไม่ จากนั้นบนั ทึกประโยชนแ์ ละวธิ ใี ชท้ รพั ยากรน้ำและ ไฟฟา้ อย่างประหยัดและคมุ้ ค่าลงในใบงานที่ ๑ เร่ือง นำ้ ไหล...ไฟสว่าง จากนนั้ นักเรยี นออกมานา เสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น ๖. ครใู หน้ กั เรียนดคู ลิปวดิ โี อปังปอนดล์ ดโลกร้อน ตอน “นำ้ ใชแ้ ลว้ ใชไ้ ดอ้ ีก” จากนั้นร่วมกนั สรปุ องค์ความรเู้ กยี่ วกับการเห็นคณุ คา่ ในการใช้ทรัพยากรนำ้ และไฟฟา้ อยา่ งประหยดั และคมุ้ ค่า เพอ่ื ให้มใี ชไ้ ด้นานข้นึ (การใช้ไฟฟา้ ใหป้ ระหยัด โดยปิดไฟทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ การใชน้ ้ำควรปิดกอ๊ กน้ำ ทุกครงั้ เมอ่ื ใชเ้ สรจ็ และใช้น้ำพอประมาณ ไมเ่ ปิดนำ้ แรงจนเกินไป เปน็ การปลกู ฝังนิสัยในการใช้ ทรพั ยากรน้ำและไฟฟา้ อยา่ งคุ้มค่า เพ่ือใหม้ ีไว้ใชไ้ ดย้ าวนานขนึ้ ) ๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) เพลง “ปิดนำ้ ปิดไฟ” ๒) นทิ านเรือ่ ง “น้องเจนชว่ ยโลก” ๓) คลปิ วดี ีโอ เรอื่ งปังปอนดล์ ดโลกร้อน ตอน นำ้ ใชแ้ ลว้ ใชไ้ ด้อีก จาก https://www.youtube.com/watch?v=bMMYYGJaXcs ๔) ใบงานท่ี ๑ เรื่อง น้ำไหล...ไฟสว่าง ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ ๑) ตรวจใบงาน ๒) การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น ๕.๒ เครอื่ งมือทใี่ ชใ้ นการประเมิน ๑) แบบตรวจผลงานการทาใบงาน ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สิน นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถือว่า ผา่ น ๖. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ลงช่ือ........................................ครูผ้สู อน (..................................................)

117 ๗. ความคดิ เหน็ ผบู้ รหิ าร ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ................................................................................. ........................................................................... ลงชอื่ .....................................ผู้บรหิ าร (นายจรัญ วารนิ ทร์) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นบวั ถนน

118 ๘. ภาคผนวก เพลงปิดน้ำปิดไฟ ศลิ ปิน ทีมงาน Right Edutainment อลั บ้ัม : ใบตองสอนนอ้ งรอ้ งเพลง ชดุ ท่ี ๓ : รักษโ์ ลกของเรา ปิดนำ้ ปิดไฟ ปิดนำ้ ปิดไฟ เด็กดที ั้งหลาย ช่วยกนั ปดิ เมอื่ เลิกใช้ กว่าจะเปน็ นำ้ ต้องใช้เงนิ มากมาย เรามไี ฟใช้ ต้องแลกดว้ ยเงินทนุ ปดิ นำ้ ปดิ ไฟ ปิดน้ำ ปดิ ไฟ เด็กดที ุกคนทำเพื่อสงั คม ให้เราทกุ คนได้มีน้ำใจ ชว่ ยชาติดว้ ยการ ประหยัดนำ้ ไฟ ใหน้ าน ใชไ้ ด้นาน ไฟฟา้ ผลิตแรงดว้ ยนำ้ มัน ขบั เคลอ่ื นให้ไปถงึ บา้ นทุกวัน ได้มีไฟใชป้ ระโยชนร์ ว่ มกัน ให้นาน ใชไ้ ด้นาน นำ้ ที่เราใชต้ อ้ งผา่ นระบบ กลั่นกรองฆ่าเช้ือ ทาความสะอาด ดมื่ นำ้ ใส รา่ งกายต้องการ ด่ืมทกุ วนั ดมื่ ได้นาน ทุกวันธรรมชาติ ต้องหมดส้นิ ไป คงเหลือพอใช้ ใหเ้ ราไมน่ าน สำนึกกันไว้ เราตอ้ งประหยัด ให้นาน ใชไ้ ดน้ านทุกวันตลอดไป ปิดน้ำ ปดิ ไฟ ปิดนำ้ ปดิ ไฟ เดก็ ดที งั้ หลาย ช่วยกันปดิ เม่ือเลกิ ใช้ กวา่ จะเปน็ นำ้ ตอ้ งใช้เงนิ มากมาย เรามีไฟใช้ ตอ้ งแลกดว้ ยเงนิ ทุน ปดิ นำ้ ปิดไฟ ปิดน้ำ ปิดไฟ เดก็ ดีทั้งหลาย ชว่ ยกันปดิ เมื่อเลิกใช้ กวา่ จะเป็นนำ้ ตอ้ งใชเ้ งินมากมาย แหล่งขอ้ มูล https://www.youtube.com/watch?v=SLard๕hro๖g

119 นทิ านเร่ือง น้องเจนชว่ ยโลก (ไม่ทราบนามผู้แต่ง) วนั น้ี เปน็ วนั หยุดปิดเทอมวนั แรกของน้องเจน นอ้ งเจนดใี จและชอบชว่ งเวลาปิดเทอม เพราะจะได้หยดุ พักผอ่ น อยกู่ ับบ้าน นอ้ งเจนชื่นชอบการเลน่ และทากิจกรรมในห้องนอน และ มกั จะเปิดโทรทัศน์ท้ิงไว้ ไม่วา่ จะทาอะไรกม็ ักจะเปดิ เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าทงิ้ ไว้เสมอ อยา่ งเชน่ วนั นี้นอ้ ง เจนนั่งอา่ นหนังสือนิทานแล้วฟงั เพลงจากวิทยุไปดว้ ย โดยท่ีเปดิ โทรทัศน์ท้ิงไวโ้ ดยไมไ่ ด้ดู แลว้ นอ้ งเจนกเ็ ผลอหลับไปจนกระท่ังชว่ งบ่าย คุณแมม่ าเรยี กน้องเจนให้ไปทานอาหารกลางวัน เม่ือ คุณแม่เปดิ ประตูเข้าไปในห้องของน้องเจน คุณแมต่ กใจทนี่ ้องเจนเปดิ โทรทัศน์ทง้ิ ไว้ตั้งแตเ่ ชา้ และยงั เปดิ แอร์อณุ หภูมเิ ย็นจนเกินไป จนน้องเจนตอ้ งนอนขดตัวเพราะความหนาว คุณแม่จงึ ปลกุ น้องเจนให้ต่ืนและบอกน้องเจนวา่ การเปดิ แอร์ เปิดโทรทัศน์ทิง้ ไว้โดยไมจ่ ำเป็นจะทำให้ สน้ิ เปลอื งพลังงานท่ีเป็นสาเหตทุ าให้ โลกรอ้ น จะทำใหเ้ กดิ ภัยธรรมชาตติ ่าง มากมายบนโลก ของเรา น้องเจนได้ ยนิ ดงั นั้น ก็ เกิดความกลวั แล้ว ถามคุณแม่ว่า มวี ธิ ไี หนบา้ งที่สามารถช่วย ประหยัดพลังงานไฟฟ้าและช่วยไม่ใหโ้ ลกรอ้ น แมจ่ งึ บอกน้องเจนวา่ เมื่อน้องเจนไม่ได้ดโู ทรทศั น์ แล้ว ควรปดิ ไมค่ วรเปดิ ทิง้ ไว้จนเผลอหลบั ไป ไม่มีใครดูทาให้ส้ินเปลืองพลังงานอย่างมาก และ การเปดิ เคร่ืองปรับอากาศไว้ท้ังวนั ก็ควรจะเปลี่ยนเป็นเปิดหน้าตา่ งรบั ลมเย็น จากธรรมชาตบิ ้าง สว่ นไฟในหอ้ งทเี่ ปดิ ท้ิงไว้ทั้งวนั คณุ แม่ก็บอกน้องเจนวา่ เมื่อไม่ใชใ้ ห้ปิดอยา่ เปดิ ทง้ิ ไวท้ ้ังกลางวัน กลางคนื ตงั้ แต่น้นั มาน้องเจนกป็ ฏบิ ัติตามที่แมแ่ นะนาและทาให้คา่ ใช้จา่ ยเร่ืองค่าไฟฟา้ ที่บ้าน ลดลง ทาใหไ้ ด้ช่วยลดโลกร้อน ช่วยประหยดั พลงั งาน และประหยัดเงนิ ด้วย

120 ใบงานท่ี ๑ เร่ือง น้ำไหล...ไฟสวา่ ง คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนบอกประโยชน์และวิธใี ชข้ องทรัพยากรนำ้ และไฟฟา้ อยา่ งประหยัดและคุ้มคา่ ประโยชน์ของนำ้ ............................................................................................................................. ............................. ...................................................................................................... .................................................... ............................................................................................................................. ............................. การใช้อยา่ งประหยดั และคุ้มค่า ................................................................................................................................................ .......... ......................................................................................................................... ................................. ............................................................................................................................. ............................. ประโยชน์ของไฟฟา้ .......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................. ............................................................................................................................. ............................. การใชอ้ ย่างประหยดั และคุ้มค่า .......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................. ................................................................................................................................................ ..........

121 แบบตรวจให้คะแนนใบงาน เลขท่ี ชื่อ-สกุล รายการประเมนิ คะแนน สรุปผล บอกประโยชน์ บอกวิธกี ารใช้ ทไี่ ด้ ผ่าน ไม่ผา่ น ของทรัพยากร ทรัพยากรน้ำ รวม(๑๐ นำ้ (๕ คะแนน) และไฟฟ้าอยา่ ง คะแนน) ประหยัดและ คุ้มคา่ (๕ คะแนน) สรุป เกณฑ์การประเมนิ - นักเรยี นได้คะแนนรอ้ ยละ ๘ ข้ึนไป ถือว่า ผา่ น

122 แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น เลขที่ ช่อื -สกลุ พฤติกรรมการใช้ทรัพยากร คะแนน สรุปผล น้ำและไฟฟ้า ทไี่ ด้ ปดิ กอ๊ กนำ้ ปดิ สวติ ซ์ไฟฟา้ รวม(๑๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ขณะแปรงฟัน ทุกครงั้ เมอื่ ไมใ่ ช้ คะแนน) (๕ คะแนน) งาน(๕ คะแนน) สรปุ

123 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คำช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงใน ช่องท่ตี รงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะอนั พึง รายการประเมิน ระดบั คะแนน ประสงค์ดา้ น ๓๒๑ อย่อู ยา่ งพอเพียง ๑.ใช้ทรัพยส์ นิ และส่งิ ของของนักเรียนอย่าง ประหยดั ๒.ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้ คุณคา่ ๓.ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเก็บออม เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ชิ ดั เจนและบ่อยครัง้ ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิบางคร้ัง ลงชือ่ ..............................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................) เกณฑ์การประเมนิ ได้คะแนน ๕ คะแนน - ปฏบิ ัตเิ ปน็ ประจำ ได้คะแนน ๔ คะแนน - ปฏบิ ตั ิเปน็ บางคร้ัง ไดค้ ะแนน ๓ คะแนน - ปฏิบัตินาน คร้งั ได้คะแนน ๒ คะแนน - ปฏบิ ัตนิ ้อย ได้คะแนน ๑ คะแนน - ปฏบิ ัติน้อยท่ีสดุ ได้คะแนน ๐ คะแนน - ไมเ่ คยปฏบิ ัติ - นกั เรยี นได้คะแนน ๘คะแนนขึน้ ไป ถอื ว่าผ่าน

124 แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี ๓ ชอื่ หนว่ ย STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจรติ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง ความโปรง่ ใส (ประชาธิปไตยในห้องเรยี น) ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ เวลา ๑ ช่ัวโมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทุจริต ๑.๒ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผทู้ ี่ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถบอกคณุ สมบัติท่ีตอ้ งการในการเลือกเป็นผูน้ ำช้ันเรียนได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารถบอกวิธกี ารเลือกผู้นาช้ันเรียนอยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ๒.๓ นกั เรยี นรจู้ ักเลอื กผู้นำชั้นเรยี นอยา่ งเหมาะสม ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ การออกเสียงเลือกต้งั ผู้นำช้ันเรียนเปน็ สว่ นหนงึ่ ของกระบวนการประชาธปิ ไตยทแ่ี สดงออกถึง ความโปรง่ ใส ซึ่งสมาชิกทุกคนจะต้องรู้จักการเลือกผู้นำชน้ั เรยี นอย่างเหมาะสม คุณสมบัติควรเปน็ คน น่าเช่ือถือตรงไปตรงมา กลา้ เปดิ เผยความจริง และไว้ใจได้ ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) ๑) ความสามารถในการส่อื สาร ๑.๑ การแสดงความคิดเหน็ ๑.๒ การรอ้ งเพลง ๑.๓ การทำใบงาน ๒) ความสามารถในการคิด ๒.๑ การบอกคุณสมบตั ิท่ีตอ้ งการในการเลอื กเป็นผูน้ ำชัน้ เรียน ๓) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ๓.๑ การเลอื กผ้นู าชั้นเรยี นอย่างเหมาะสม ๓.๓ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ / คา่ นิยม ๑) ความซ่ือสัตย์ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ ๑. ครูและนกั เรียนร่วมกันร้องเพลง “ความซ่ือสัตย์” และสนทนาเก่ียวกบั เนอ้ื หาของเพลง โดย ใชค้ ำถาม ดงั น้ี ๑.๑ เพลงนม้ี คี วามหมายเกี่ยวกับอะไร (ความซอ่ื สัตย)์ ๑.๒ การปฏิบตั ติ นอยา่ งไรท่ีแสดงว่าเปน็ คนซื่อสัตย์ (ไม่พดู โกหก , ไมล่ อกการบ้าน , ทำตาม คำพูด) ๒. ครใู ห้นกั เรยี นดคู ลิปวดี โี อเร่ือง “หัวหนา้ ห้องของเรา” จากน้ันใหน้ ักเรยี นออกมาเลา่ ประสบการณ์เกี่ยวกบั วิธีการเลือกหัวหนา้ หอ้ ง หรือการเลือกประธานนกั เรยี น แลว้ ตอบคำถาม ต่อไปนี้ ๒.๑ ทำไมจงึ ต้องมีการเลอื กหัวหน้าหอ้ ง

125 ๒.๒ การเลอื กหัวหน้าห้องมีผลดอี ย่างไร ๓. ครแู ละนักเรยี นช่วยกันบอกคุณสมบัติของการเปน็ ผู้นาช้ันเรยี นท่เี หมาะสม (ตง้ั ใจเรยี น , มี ความซอ่ื สตั ย์ , ไมโ่ กหก) ๔. ให้นักเรียนบอกความต้องการของตนเองและสำรวจคุณสมบัตขิ องผู้นำช้นั เรยี นที่เหมาะสม โดยการสอบถามจากเพื่อน ในชน้ั เรยี น จำนวน ๕ คน จากน้นั ใหจ้ ดบันทกึ ลงใบงานท่ี ๑ เร่ือง ผู้นำ ของหนูและนำผลงานมาเสนอหนำ้ ชน้ั เรียนใหเ้ พอื่ น ไดฟ้ ัง ๕. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปคุณสมบตั ขิ องผู้นำช้นั เรียนท่ีนกั เรียนต้องการ ๖. นักเรยี นและครูรว่ มกันสรปุ องคค์ วามรู้เกย่ี วกบั การเลอื กผ้นู ำชั้นเรยี นความโปรง่ ใส (คณุ สมบตั ิท่ีเหมาะสมของการเป็นผนู้ ำชั้นเรียนควรเปน็ คนน่าเช่อื ถือ ตรงไปตรงมา กลา้ เปิดเผยความ จริง และไวใ้ จได)้ ๔.๒ ส่อื การเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้ ๑) เพลง “ความซื่อสตั ย์” ๒) คลิปวีดโี อ เรือ่ ง “หวั หน้าห้องของเรา” จาก https://www.youtube.com/watch?v=f๔Tk๒bNTuO๘ ๓) ใบงานท่ี ๑ เร่อื ง ผนู้ ำของหนู ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) ตรวจใบงาน ๒) การสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น ๕.๒ เครือ่ งมอื ที่ใชใ้ นการประเมิน ๑) แบบตรวจผลงานการทาใบงานท่ี ๑ เรอ่ื งผนู้ ำของหนู ๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ติ นในเลอื กผ้นู ำชัน้ เรียน ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ข้ึนไปถือวา่ ผ่าน ๖. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ................................................................................................. ........................................................... ลงช่ือ........................................ครูผสู้ อน (..................................................) ๗. ความคิดเหน็ ผบู้ ริหาร ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................................................................. ........ ............................................................................................................................. ............................... ลงช่ือ.....................................ผู้บรหิ าร (นายจรญั วารินทร)์ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นบัวถนน

126 ๘. ภาคผนวก ความซื่อสัตย์ เป็นสมบัตขิ องผู้ดี หากว่าใครไมม่ ี ชาตนิ ้ีเอาดีไม่ได้ มีความรู้ท่วมหัว เอาตวั ไม่รอดถมไป คดโกงแล้วใคร จะรับไวใ้ ห้ร่วมการงาน

127 ผนู้ ำของหนู คำชแ้ี จง ให้นักเรียนบอกความต้องการของตนเองและสำรวจคุณสมบัติของผนู้ ำชน้ั เรียนทเี่ หมาะสม โดยการ สอบถามจากเพอื่ น ในชน้ั เรียน จำนวน ๕ คน จากนั้นให้จดบันทึก และออกมานำเสนอหนา้ ชั้นเรียน ชือ่ เพ่ือน คุณสมบัติของผู้นำช้นั เรยี นท่ตี ้องการ ตนเอง................................................................. ............................................................................ คนที่ ๑................................................................ ........................................................................... คนท่ี ๒................................................................ ........................................................................... คนท่ี ๓............................................................... ........................................................................... คนที่ ๔............................................................... ........................................................................... คนท่ี ๕............................................................... ...........................................................................

128 แบบตรวจให้คะแนนใบงาน เลขที่ ชื่อ-สกลุ รายการประเมนิ คะแนน สรุปผล บอกคณุ สมบัติ บอกวธิ กี าร ท่ไี ด้ ผ่าน ไมผ่ า่ น ของผูน้ ำชัน้ เลือกผนู้ ำชั้น รวม(๑๐ เรียนได้ (๕ เรียนได้อย่าง คะแนน) คะแนน) ถูกต้อง เหมาะสม (๕ คะแนน) สรปุ เกณฑ์การประเมิน - นักเรียนไดค้ ะแนนร้อยละ ๘ ขนึ้ ไป ถือว่า ผา่ น

129 แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบตั ติ น แผนการจดั การเรยี นรู้ ในเลอื กผู้นำช้ันเรียน เลขที่ ชอื่ -สกุล พฤตกิ รรมการปฏิบัติตนใน คะแนน สรุปผล เลือกผูน้ ำชัน้ เรยี น ทไ่ี ด้ การใช้ขอ้ มลู ที่ การรจู้ ักเลือก รวม(๑๐ ผา่ น ไมผ่ า่ น ถกู ต้องและ ผนู้ ำชน้ั เรยี น คะแนน) เป็นจรงิ อย่างเหมาะสม (๕ คะแนน) (๕ คะแนน) สรุป ไดค้ ะแนน ๕ คะแนน ได้คะแนน ๔ คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนน ๓ คะแนน - ปฏิบตั ิเป็นประจำ ไดค้ ะแนน ๒ คะแนน - ปฏิบัตเิ ปน็ บางคร้ัง ไดค้ ะแนน ๑ คะแนน - ปฏิบัตินาน ครั้ง ไดค้ ะแนน ๐ คะแนน - ปฏบิ ัตนิ ้อย - ปฏิบตั นิ อ้ ยทสี่ ุด - ไม่เคยปฏิบัติ - นักเรียนได้คะแนน ๘คะแนนขนึ้ ไปถือว่าผ่าน

130 แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คำชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงใน ชอ่ งทีต่ รงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะอันพงึ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ประสงคด์ ้าน ๓๒๑ มวี ินยั ปฎบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครวั มีความตรงต่อเวลาใน การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆในชีวิตประจำวนั เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยคร้งั ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิบางครั้ง ลงชอื่ ..............................................ผู้ประเมิน (.....................................................)

131 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ ๓ ช่อื หน่วย STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ตา้ นการทุจรติ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓เรือ่ ง ต้านการทุจริต (การกระทำความผดิ ) ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา ๑ ชัว่ โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับ STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทจุ รติ ๑.๒ ปฏิบตั ติ นเป็นผูท้ ่ี STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทจุ ริต ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถบอกพฤติกรรมการกระทาความผิดได้ ๒.๒ นักเรยี นสามารถบอกวิธกี ารแก้ไขพฤตกิ รรมการกระทาผิดได้ ๒.๓ นักเรยี นร้จู ักการปฏบิ ัตติ นต่อต้านการทจุ ริต ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ การบอกพฤติกรรมท่ีแสดงถงึ การกระทาความผดิ เช่น การลอกการบา้ น กาวธิ ีการแกไ้ ข พฤติกรรมการกระทำผิด และปฏบิ ัติตนต่อตา้ นการทุจริต ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกิด) ๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร ๑.๑ การแสดงความคดิ เหน็ ๑.๒ การฟังนทิ าน ๑.๓ การทาใบงาน ๒) ความสามารถในการคดิ ๒.๑ บอกพฤติกรรมการกระทำความผิด และวิธีการแกไ้ ขพฤติกรรมการกระทำผิด ๓) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ ๓.๑ การปฏบิ ตั ติ นต้านการทุจริต ๓.๓ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ / ค่านิยม ๑) ความซอื่ สัตย์ ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ ๑. ครเู ล่านทิ านเร่ือง “กระทิงนอ้ ยจอมขี้เกียจ” ให้นักเรยี นฟงั แล้วรว่ มกันสนทนา โดยใช้ ประเดน็ คำถาม ดงั น้ี ๑.๑ จากนทิ านท่ีเล่ามตี วั ละครอะไรบา้ ง (ครนู กฮูก , กระทิงน้อย , หมนี อ้ ย , ลิงน้อย และ ช้างนอ้ ย) ๑.๒ กระทิงนอ้ ยมนี ิสยั อย่างไร (ชวนเพื่อนไปเลน่ กอ่ นแลว้ คอ่ ยกลบั มาทาการบา้ น , ชอบ ลอกการบ้าน) ๑.๓ ผลเสยี ทเี่ กดิ ขนึ้ ในการลอกการบา้ นของกระทิงน้อยเปน็ อย่างไร (สอบตก,ไดเ้ ลือ่ นชนั้ อยา่ งเพื่อน ) ๑.๔ ถ้านักเรยี นเป็นกระทงิ น้อยจะทาพฤตกิ รรมแบบนหี้ รอื ไม่ เพราะอะไร (ถกู ทุก คำตอบเพราะเปน็ ความคิดของนกั เรียน)

132 ๒. ครูให้นกั เรียนดกู าร์ตนู นิทาน ทักษะชีวติ ตอนท่ี ๑๒ “ขอลอกหน่อยนะ” ๓. ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกพฤติกรรมทเี่ กิดข้ึนจากการตวั อย่างการต์ ูนนิทานทักษะชีวติ ทีไ่ ดร้ ับ ชมไปจากนั้นจดบันทกึ ไวล้ งใบงานท่ี ๑ เรื่อง แค่นิดเดยี วเอง แล้วนำมาส่งครู ๔. นักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปองค์ความรเู้ กย่ี วกับพฤตกิ รรมการกระทำความผดิ วิธีการแก้ไข พฤติกรรมการกระทำผดิ และปฏิบตั ิตนต้านการทจุ รติ (การลอกการบ้านเพื่อน ถือเป็นการกระทำ ความผดิ ทุจรติ ต่อตนเอง ไม่ควรเอาเป็นแบบอยา่ ง วธิ ีการแก้ไขพฤติกรรรม คือ ต้องตั้งใจเรียน เหลือ ให้เพอ่ื นช่วยสอน) ๔.๒ สอื่ การเรยี นรู้ / แหลง่ การเรียนรู้ ๑) นทิ านเร่ือง “กระทิงนอ้ ยจอมขี้เกยี จ” ๒) การ์ตนู นิทาน ทกั ษะชีวิต ตอนที่ ๑๒ “ขอลอกหนอ่ ยนะ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=๕qsTmUTyEG๐ ๓) ใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง แคน่ ดิ เดยี วเอง ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) ตรวจใบงาน ๒) การสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น ๕.๒ เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการประเมิน ๑) แบบตรวจผลงานการทำใบงานท่ี ๑ เรือ่ งแค่นิดเดียวเอง ๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตติ นตา้ นการทจุ รติ ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ข้ึนไปถือวา่ ผ่าน ๖. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ลงช่อื ........................................ครูผสู้ อน (..................................................)

133 ๗. ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ............................... ลงชื่อ.....................................ผู้บรหิ าร (นายจรัญ วารนิ ทร์) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านบัวถนน

134 ๘. ภาคผนวก นทิ าน กระทงิ นอ้ ยจอมขี้เกียจ ในปา่ แห่ง หนง่ึ มี โรงเรียนสำหรบั เด็ก ท่ีจะเติบ โตเป็น ผู้ ใหญท่ ี่ดใี นอนาคต โดย ห้องเรียนแหง่ นีเ้ ปน็ เปน็ ศูนย์กลางการเรยี นรู้การใชช้ ีวติ อย่รู ่วมกนั ในปา่ มสี มาชิกในห้องเรยี นได้แก่ กระทิงนอ้ ย หมีน้อย ลิงนอ้ ย และชา้ งนอ้ ย ทุก วนั ครนู กฮกู จะใหก้ ารบ้านเดก็ กลับไปทำเพื่อ ทบทวนบทเรียนและสามารถทำขอ้ สอบไดต้ อนปลายภาค พอหลังเลิกเรยี น กระทิงน้อยมักจะชวน เพือ่ น ทุกคนไปเล่นก่อนแลว้ ค่อยกลบั มาทำการบา้ น ส่วนเพ่ือน จะทำการบ้านให้เสร็จก่อนแลว้ จึงออกไปเลน่ วันหน่งึ กระทิงนอ้ ยเลน่ จนค่ำมดื และรู้สึกออ่ นเพลียมาก พอกลบั มาถึงก็ เผลอหลับ ทนั ที พอเช้ามากระทิงนอ้ ยนึกไดว้ า่ ยงั ไม่ไดท้ ำการบา้ น ไม่รจู้ ะทำอย่างไรดี ถา้ นง่ั ทำกจ็ ะไมท่ ันเขา้ เรยี น กระทงิ น้อยจงึ ขอลอกการบ้านจากเพ่ือน หลังจากนั้นกระทิงนอ้ ยก็ตดิ นิสัยลอกการบ้านจาก เพื่อน เพราะงา่ ยและสบาย ไมต่ อ้ งมานง่ั คดิ เอง และยังมีเวลาไปเลน่ มากข้ึนดว้ ย จนกระท่งั เวลาสอบปลายภาคมาถึง เพ่ือน ออกจากหอ้ งสอบกันหมดแลว้ กระทิง น้อย ยงั น่งั หนา้ เครียดอยู่ท่ีโต๊ะ จนครูนกฮกู เดนิ เข้ามาเกบ็ กระดาษข้อสอบ วา่ หมดเวลาแล้ว กระทงิ น้อยออกจากห้องสอบดว้ ยหน้าตาสลด กระทิงนอ้ ยทำข้อสอบไม่ได้เลยสกั ข้อ เพราะท่ีผ่านมาเขา ไมไ่ ด้ตัง้ ใจเรยี นและไมเ่ คยทำการบ้านเองเลย สุดท้ายในปนี ั้นเพอื่ น ทุกคนได้เล่ือนชนั้ แต่กระทิง น้อยยังต้องซ้ำชน้ั อยู่ กระทงิ น้อยเสยี ใจมาก เขาคิดวา่ ถ้าเขาตงั้ ใจเรยี นและทำการบา้ นดว้ ยตนเอง ไม่เอาเวลาไปเล่นอย่างเดยี ว เขากค็ งไม่ต้องน่ังซ้ำชน้ั อยู่อย่างน้ี เขาคงจะได้เลื่อนชนั้ อย่างเพอื่ น แลว้ ก่อนหนา้ วันประกาศผลในห้องเรียนครูนกฮูกสงสยั วา่ ทำไมกระทิงน้อยถงึ ทำข้อสอบ ไม่ไดเ้ ลย ครูนกฮกู ซักถามนักเรียนทกุ คน จนทราบวา่ ที่กระทงิ นอ้ ยทำข้อสอบไม่ได้เพราะเขาไม่ต้ังใจ เรยี น ไมย่ อมทำการบา้ น และยงั มาลอกการบา้ นเพื่อนอีก ครนู กฮูกจึงสอนเด็ก ว่า “พวกเธอรู้ ไหมว่าที่กระทิงน้อยสอบตกเป็นเพราะใคร” พวกเธอเองก็มสี ว่ นผดิ ท่ยี อมให้เพื่อนลอกการบ้าน เพราะเพ่ือนก็จะไมร่ ูเ้ รอ่ื งและทำข้อสอบไม่ได้ เมือ่ เธอเห็นเพือ่ นทำผิดพวกเธอจะต้องเตือนเขา อธบิ ายใหเ้ พื่อนฟัง ถ้าไมเ่ ข้าใจกม็ าถามครูเขา้ ใจไหมจะ๊ เด็ก เดก็ ตา่ งสญั ญากับคุณครูนกฮูกว่าจะ ชว่ ยกนั ตกั เตอื นกระทิงนอ้ ยและจะไมใ่ ห้กระทิงนอ้ ยลอกการบ้านเหมือนท่ีผ่านมา แหล่งขอ้ มลู http://www.kamsonbkk.com/en/clip/๑๔๒๗-๐๐๗๘๑๑

135 ใบงานท่ี ๓ แคน่ ิดเดยี วเอง คำช้แี จง ให้นักเรียนตอบคาถามเกีย่ วกับพฤตกิ รรมที่เกดิ ขึ้น จากการดตู ัวอยา่ งการ์ตูน นทิ าน ทกั ษะชีวิต เรอื่ ง “กระทงิ น้อยจอมขเี้ กยี จ” ๑. นักเรียนคิดวา่ พฤติกรรมของใครที่ไม่ควรเอาเป็นแบบอยา่ ง เพราะอะไร ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ๒. ถ้านักเรยี นเป็นจอมแก่น จะมวี ธิ กี ารตักเตือนหรือช่วยเหลือเมฆอยา่ งไร ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ๓. ถ้าเพอ่ื นขอลอกการบา้ นนักเรยี นจะทำอย่างไร ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................................

136 แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน เลขท่ี ชอื่ -สกลุ รายการประเมิน คะแนน สรปุ ผล บอก บอกวิธีการ ทไ่ี ด้ ผา่ น ไมผ่ า่ น พฤติกรรมที่ แกไ้ ขพฤตกิ รรม รวม(๑๐ แสดงออกถึง ทีแ่ สดงออกถงึ คะแนน) การกระทำ การกระทำ ความผิด ความผดิ (๕ คะแนน) (๕ คะแนน) สรุป เกณฑ์การประเมนิ - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถอื ว่า ผ่าน (ไดค้ ะแนน ๘ คะแนน)

137 แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ติ น คะแนน สรปุ ผล ตั้งใจเรยี น ไม่ให้เพ่ือนลอก ที่ได้ ผา่ น ไมผ่ ่าน (๕ คะแนน) การบ้าน รวม(๑๐ (๕ คะแนน) คะแนน) สรปุ เกณฑ์การประเมิน - ปฏบิ ัติเปน็ ประจำ ได้คะแนน ๕ คะแนน - ปฏิบตั เิ ป็นบางคร้งั ได้คะแนน ๔ คะแนน - ปฏิบตั ินาน คร้งั ไดค้ ะแนน ๓ คะแนน - ปฏิบัตนิ ้อย ไดค้ ะแนน ๒ คะแนน - ปฏิบตั ินอ้ ยทสี่ ดุ ได้คะแนน ๑ คะแนน - ไม่เคยปฏบิ ตั ิ ได้คะแนน ๐ คะแนน - นกั เรยี นไดค้ ะแนน ๘คะแนนขึ้นไปถือวา่ ผ่าน

138 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คำชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ลงใน ช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน คุณลกั ษณะอนั พงึ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ประสงคด์ า้ น ๓๒๑ ซือ่ สัตย์ สุจริต ๑. ใหข้ ้อมูลท่ีถูกต้องและเป็นจริง ๒. ปฏบิ ัติในส่งิ ที่ถูกตอ้ ง เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัติชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติบางครัง้ ลงช่ือ..............................................ผ้ปู ระเมิน (.....................................................)

139 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ ๓ ชือ่ หน่วย STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔ เรอ่ื ง ความเอื้ออาทร (ร่วมคิด ร่วมทำ) ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ เวลา ๑ ช่วั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทจุ รติ ๑.๒ ปฏบิ ัติตนเป็นผทู้ ่ี STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจรติ ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถบอกพฤติกรรมการให้ การช่วยเหลอื และการแบ่งปนั ได้ ๒.๒ นกั เรียนแสดงออกถึงการให้ การช่วยเหลอื และการแบ่งปนั ตอ่ ผู้อนื่ ๒.๓ นกั เรยี นรู้จกั การให้ การช่วยเหลือ และการแบ่งปันผู้อนื่ ตามความเหมาะสม ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ มีความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับการให้ การช่วยเหลอื และการแบ่งปนั ตลอดจนสามารถให้การ ชว่ ยเหลอื แบง่ ปนั แก่เพอ่ื นและผู้อ่นื ไดต้ ามความเหมาะสมกับสถานะของตนเอง ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) ๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร ๑.๑ การแสดงความคิดเห็น ๑.๒ การอ่านบทกลอน ๑.๓ การทำใบงาน ๒) ความสามารถในการคดิ ๒.๑ บอกพฤติกรรมการให้ การชว่ ยเหลอื และการแบ่งปนั ๓) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ๓.๑ ร้จู กั การให้ การชว่ ยเหลอื และการแบง่ ปันผู้อื่น ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ / คา่ นยิ ม ๑) จิตสาธารณะ ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรียนรู้ ๑. ครใู หน้ กั เรียนอา่ นบทกลอน “ชว่ ยเหลอื แบ่งปนั ” แล้วรว่ มแสดงความคิดเห็นว่าบทกลอนน้ี เกยี่ วกบั เรอ่ื งใด ๒. ครูนำภาพเด็กทส่ี มคั รเปน็ จิตอาสาเฉพาะกจิ งานพระบรมศพพระสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมพิ ลอดุลยเดชมาใหน้ ักเรยี นดู แล้วถามนกั เรียนวา่ ร้สู ึกอย่างไรเมื่อเหน็ ภาพน้ี ๓. ครนู ำนักเรียนไปชว่ ยกันทำความสะอาดบรเิ วณโรงเรยี น จากนน้ั ใหก้ ลับมาบันทกึ ความรู้สึกในการทำความดคี รั้งนี้ลงในใบงานท่ี ๑ เร่ือง รว่ มคิด...รว่ มทำ พร้อมกับวาดภาพประกอบ แลว้ นำมาสง่ ครู ๔. นักเรียนและครูร่วมกัน สรุปองคค์ วามรเู้ กย่ี วกับการให้ การชว่ ยเหลอื และการแบง่ ปัน (การ ช่วยเหลือแบ่งปนั กนั เปน็ สง่ิ ท่ีดี นักเรียนตอ้ งรตู้ นเองว่าตนเองมีความสามารถในการแบ่งปนั ใหผ้ อู้ ื่นได้ แค่ไหนและอย่างไร การชว่ ยเหลอื แบง่ ปนั ทำใหส้ รา้ งความสมั พนั ธท์ ่ีดีกับเพ่ือนและทกุ คนอยูร่ ว่ มกนั ได้ อย่างมีความสขุ )

140 ๔.๒ สื่อการเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) บทกลอน “ชว่ ยเหลือแบ่งปนั ” ๒) ภาพเดก็ ทสี่ มัครเป็นจติ อาสาเฉพาะกจิ ๓) ใบงานที่ ๑ เรื่อง ร่วมคิด...ร่วมทา ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ ๑) ตรวจใบงาน ๒) การสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียน ๕.๒ เครอ่ื งมอื ที่ใชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบตรวจผลงานการทำใบงานที่ ๑ เรื่องร่วมคดิ ...รว่ มทำ ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการทำความดี ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสนิ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่าน ๖. บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................... ............................................................. ลงชื่อ........................................ครผู สู้ อน (..................................................) ๗. ความคดิ เหน็ ผู้บริหาร ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ............................... ลงชื่อ.....................................ผบู้ ริหาร (นายจรญั วารนิ ทร์) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นบ้านบวั ถนน

๘. ภาคผนวก 141 มใี ครไหนเคยบ้าง บทกลอนชว่ ยเหลือแบ่งปนั เพอ่ื นฝูงก็เห็นใจ นน่ั แหละเขาเอื้อเฟื้อ โดย ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.แกว้ เวยี ง นานาผล และคณะ เราต้องถือเปน็ ส่ิง ชว่ ยเหลอื กันและกัน ลมื นำยางลบมาใช้ มคี า่ เหลอื เม่ือยาม ใหข้ อยืมเพราะลืมจริง ของกินและของใช้ เผอื่ แผ่ใหเ้ ตม็ ใจยง่ิ ทุกคนกจ็ ะเห็น ควรจดจำและทาตาม เป็นน้ำใจอนั งดงาม ทข่ี าดแคลนแสนสำคัญ แบง่ ให้เพื่อนยามจำเป็น ว่าเราดีมคี ุณธรรม

142 ใบงานที่ ๑ เร่ือง ร่วมคิด...รว่ มทำ คำชี้แจง ให้นักเรยี นบนั ทึกความรสู้ กึ ในการทำความดี พร้อมกับวาดภาพประกอบ

143 แบบตรวจให้คะแนนใบงาน เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมนิ คะแนน สรปุ ผล บันทกึ วาด ที่ได้ ผา่ น ไมผ่ า่ น ความรสู้ ึกใน ภาพประกอบ รวม(๑๐ การทำความดี การทำความดี คะแนน) (๕ คะแนน) (๕ คะแนน) สรุป เกณฑ์การประเมนิ - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป ถอื ว่า ผ่าน (ไดค้ ะแนน ๘ คะแนน)

144 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำความดี เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ พฤตกิ รรมการทำความดี คะแนน สรปุ ผล ช่วยรักษา รจู้ ักการใหแ้ ละ ท่ีได้ ผ่าน ไมผ่ ่าน ความสะอาด ช่วยเหลอื ผู้อื่น รวม(๑๐ โรงเรียน (๕ คะแนน) คะแนน) (๕ คะแนน) สรุป เกณฑ์การประเมนิ - ปฏิบัตเิ ปน็ ประจำ ไดค้ ะแนน ๕ คะแนน - ปฏิบัติเป็นบางครงั้ ไดค้ ะแนน ๔ คะแนน - ปฏิบัตินาน ครัง้ ได้คะแนน ๓ คะแนน - ปฏบิ ตั นิ ้อย ได้คะแนน ๒ คะแนน - ปฏบิ ตั นิ อ้ ยทส่ี ุด ไดค้ ะแนน ๑ คะแนน - ไม่เคยปฏิบตั ิ ได้คะแนน ๐ คะแนน - นักเรยี นไดค้ ะแนน ๘คะแนนขึ้นไปถือว่าผา่ น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook